📜

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา

. เสยฺยถิทนฺติ ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ. อนิยมนิทฺเทสวจนนฺติ นตฺถิ เอตสฺส นิยโมติ อนิยโม, นิทฺทิสียติ อตฺโถ เอเตนาติ นิทฺเทโส, วุจฺจติ เอเตนาติ วจนํ, นิทฺเทโสเยว วจนํ นิทฺเทสวจนํ, อนิยมสฺส นิทฺเทสวจนํ อนิยมนิทฺเทสวจนํ, ปมํ อนิยมิตสฺส สมยสฺส นิทฺเทสวจนนฺติ อตฺโถ. ‘‘เยนาติ อวตฺวา เตนาติ วุตฺตตฺตา อนิยมํ กตฺวา นิทฺทิฏฺวจนํ อนิยมนิทฺเทสวจน’’นฺติปิ วทนฺติ. ยํตํสทฺทานํ นิจฺจสมฺพนฺธภาวโต อาห ‘‘ตสฺส สรูเปน อวุตฺเตนปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ตสฺสาติ ‘‘เตนา’’ติ เอตสฺส. สรูเปน อวุตฺเตนปีติ ‘‘เยนา’’ติ เอวํ สรูปโต ปาฬิยํ อวุตฺเตนปิ. อตฺถโต สิทฺเธนาติ ปรภาเค สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อุปฺปชฺชนกปริวิตกฺกสงฺขาตอตฺถโต สิทฺเธน. ปริวิตกฺเก หิ สิทฺเธ เยน สมเยน ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ อิทํ อตฺถโต สิทฺธเมว โหติ. เตเนวาห ‘‘อปรภาเค หิ วินยปฺตฺติยาจนเหตุภูโต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปริวิตกฺโก สิทฺโธ’’ติอาทิ. ‘‘เตนา’’ติ วตฺวา ตโต ตทตฺถเมว ‘‘เยนา’’ติ อตฺถโต วุจฺจมานตฺตา ‘‘เยนา’’ติ อยํ ‘‘เตนา’’ติ เอตสฺส ปฏินิทฺเทโส นาม ชาโต. ปฏินิทฺเทโสติ จ วิตฺถารนิทฺเทโสติ อตฺโถ.

อปรภาเค หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ, ยสฺมาติ อตฺโถ. วินยปฺตฺติยาจนเหตุภูโตติ ‘‘เอตสฺส ภควา กาโล, เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย, อุทฺทิเสยฺย ปาติโมกฺขํ. ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติก’’นฺติ เอวํ ปวตฺตสฺส วินยปฺตฺติยาจนสฺส การณภูโตติ อตฺโถ. ปริวิตกฺโกติ ‘‘กตเมสานํ โข พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกํ อโหสิ, กตเมสานํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ จิรฏฺิติกํ อโหสี’’ติ เอวํ ปวตฺโต ปริวิตกฺโก. ยํตํสทฺทานํ นิจฺจสมฺพนฺโธติ อาห ‘‘ตสฺมา เยน สมเยนา’’ติอาทิ. ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อตฺถโต สิทฺเธนาติ ปุพฺเพ วา ปจฺฉา วา อุปฺปนฺนอตฺถโต สิทฺเธน. ปฏินิทฺเทโส กตฺตพฺโพติ เอตสฺส ‘‘ยทิท’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ปฏินิทฺเทโส กตฺตพฺโพ’’ติ ยทิทํ ยํ อิทํ วิธานํ, อยํ สพฺพสฺมึ วินเย ยุตฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘ปฏินิทฺเทโส กตฺตพฺโพ’’ติ ยทิทํ ยา อยํ ยุตฺติ, อยํ สพฺพสฺมึ วินเย ยุตฺตีติ อตฺโถ.

ตตฺริทํมุขมตฺตนิทสฺสนนฺติ ตสฺสา ยถาวุตฺตยุตฺติยา ปริทีปเน อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ, อุปายมตฺตนิทสฺสนนฺติ อตฺโถ. มุขํ ทฺวารํ อุปาโยติ หิ อตฺถโต เอกํ. ‘‘เตน หิ ภิกฺขเว ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ ปาฬึ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปฏินิทฺเทสมาห ‘‘เยน สุทินฺโน’’ติอาทินา. เตนาติ เหตุอตฺเถ กรณวจนตฺตา ตสฺส ปฏินิทฺเทโสปิ ตาทิโสเยวาติ อาห ‘‘ยสฺมา ปฏิเสวี’’ติ. ปุพฺเพ อตฺถโต สิทฺเธนาติ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนเมถุนธมฺมปฏิเสวนสงฺขาตอตฺถโต สิทฺเธน. ปจฺฉา อตฺถโต สิทฺเธนาติ รฺา อทินฺนํ ทารูนํ อาทิยนสงฺขาตปจฺฉาอุปฺปนฺนอตฺถโต สิทฺเธน. สมยสทฺโทติ เอตสฺส ‘‘ทิสฺสตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.

สมวาเยติ ปจฺจยสามคฺคิยํ, การณสมวาเยติ อตฺโถ. ขเณติ โอกาเส. อสฺสาติ อสฺส สมยสทฺทสฺส สมวาโย อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. อปฺเปว นาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายาติ เอตฺถ กาโล นาม อุปสงฺกมนสฺส ยุตฺตปยุตฺตกาโล. สมโย นาม ตสฺเสว ปจฺจยสามคฺคี, อตฺถโต ตทนุรูปํ สรีรพลฺเจว ตปฺปจฺจยปริสฺสยาภาโว จ. อุปาทานํ นาม าเณน เตสํ คหณํ สลฺลกฺขณํ, ตสฺมา กาลฺจ สมยฺจ ปฺาย คเหตฺวา อุปธาเรตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ อมฺหากํ สฺเว คมนสฺส ยุตฺตกาโล ภวิสฺสติ, กาเย พลมตฺตา เจว ผริสฺสติ, คมนปจฺจยา จ อฺโ อผาสุวิหาโร น ภวิสฺสติ, อเถตํ กาลฺจ คมนการณสมวายสงฺขาตํ สมยฺจ อุปธาเรตฺวา อปิ เอว นาม สฺเว อาคจฺเฉยฺยามาติ.

ขโณติ โอกาโส. ตถาคตุปฺปาทาทิโก หิ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส โอกาโส ตปฺปจฺจยปฏิลาภเหตุตฺตา, ขโณ เอว จ สมโย. โย ขโณติ จ สมโยติ จ วุจฺจติ, โส เอโกวาติ หิ อตฺโถ. มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวุทฺธํ วนํ ปวนํ, ตสฺมึ ปวนสฺมึ, วนสณฺเฑติ อตฺโถ. สมโยปิ โข เต ภทฺทาลิ อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสีติ เอตฺถ สมโยติ สิกฺขาปทปูรณสฺส เหตุ. ภทฺทาลีติ ตสฺส ภิกฺขุโน นามํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภทฺทาลิ ตยา ปฏิวิชฺฌิตพฺพยุตฺตกํ เอตํ การณํ อตฺถิ, ตมฺปิ เต น ปฏิวิทฺธํ น สลฺลกฺขิตนฺติ. กึ ตํ การณนฺติ อาห ‘‘ภควา โข’’ติอาทิ.

อุคฺคาหมาโน ติอาทีสุ มาโนติ ตสฺส ปริพฺพาชกสฺส ปกตินามํ, กิฺจิ กิฺจิ ปน อุคฺคเหตุํ สมตฺถตาย ‘‘อุคฺคาหมาโน’’ติ นํ สฺชานนฺติ, ตสฺมา ‘‘อุคฺคาหมาโน’’ติ วุจฺจติ . สมณมุณฺฑิกาย ปุตฺโต สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต. โส กิร เทวทตฺตสฺส อุปฏฺาโก. สมยํ ทิฏฺึ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทโก, ตสฺมึ สมยปฺปวาทเก, ทิฏฺิปฺปวาทเกติ อตฺโถ. ตสฺมึ กิร าเน จงฺกีตารุกฺขโปกฺขรสาติปภุตโย พฺราหฺมณา นิคณฺาเจลกปริพฺพาชกาทโย จ ปริพฺพาชกา สนฺนิปติตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ ทิฏฺึ ปวทนฺติ กเถนฺติ ทีเปนฺติ, ตสฺมา โส อาราโม ‘‘สมยปฺปวาทโก’’ติ วุจฺจติ, สฺเวว ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรุรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ‘‘ตินฺทุกาจีร’’นฺติ วุจฺจติ. เอกา สาลา เอตฺถาติ เอกสาลโก. ยสฺมา ปเนตฺถ ปมํ เอกา สาลา กตา อโหสิ, ปจฺฉา มหาปุฺํ โปฏฺปาทปริพฺพาชกํ นิสฺสาย พหู สาลา กตา, ตสฺมา ตเมว เอกํ สาลมุปาทาย ลทฺธนามวเสน ‘‘เอกสาลโก’’ติ วุจฺจติ. มลฺลิกาย ปน ปเสนทิรฺโ เทวิยา อุยฺยานภูโต โส ปุปฺผผลสฺฉนฺโน อาราโมติ กตฺวา ‘‘มลฺลิกาย อาราโม’’ติ สงฺขฺยํ คโต. ตสฺมึ สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม. ปฏิวสตีติ ตสฺมึ วาสผาสุตาย วสติ.

ทิฏฺเ ธมฺเมติ ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว. อตฺโถติ วุฑฺฒิ. สมฺปรายิโกติ กมฺมกิเลสวเสน สมฺปเรตพฺพโต สมฺปาปุณิตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโก. ตตฺถ นิยุตฺโต สมฺปรายิโก, ปรโลกตฺโถ. อตฺถาภิสมยาติ ยถาวุตฺตอุภยตฺถสงฺขาตหิตปฏิลาภา. สมฺปรายิโกปิ หิ อตฺโถ การณสฺส นิปฺผนฺนตฺตา ปฏิลทฺโธ นาม โหตีติ ตมตฺถทฺวยํ เอกโต กตฺวา ‘‘อตฺถาภิสมยา’’ติ วุตฺตํ. ธิยา ปฺาย ราติ คณฺหาตีติ ธีโร. อถ วา ธี ปฺา เอตสฺส อตฺถีติ ธีโร.

สมฺมา มานาภิสมยาติ มานสฺส สมฺมา ปหาเนน. สมฺมาติ อิมินา มานสฺส อคฺคมคฺคาเณน สมุจฺเฉทปฺปหานํ วุตฺตํ. ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโติอาทีสุ ทุกฺขสจฺจสฺส ปีฬนํ ตํสมงฺคิโน หึสนํ อวิปฺผาริกตากรณํ, ปีฬนเมว อตฺโถ ปีฬนฏฺโ, ตฺถการสฺส ฏฺการํ กตฺวา วุตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ. สเมจฺจ ปจฺจเยหิ กตภาโว สงฺขตฏฺโ. สนฺตาโป ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน สนฺตาปนํ ปริทหนํ. วิปริณาโม ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา วิปริณาเมตพฺพตา. อภิสเมตพฺโพ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพติ อภิสมโย, อภิสมโยว อตฺโถ อภิสมยฏฺโ, ปีฬนาทีนิ. ตานิ หิ อภิสเมตพฺพภาเวน เอกีภาวํ อุปเนตฺวา ‘‘อภิสมยฏฺโ’’ติ วุตฺตานิ, อภิสมยสฺส วา ปฏิเวธสฺส วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโติ ตาเนว ปีฬนาทีนิ อภิสมยสฺส วิสยภาวูปคมนสามฺโต เอกตฺเตน วุตฺตานิ.

เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจโก สมยสทฺโท เอวาติ สมยสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเรปิ สอุปสคฺโค อภิสมยสทฺโท วุตฺโต. ตตฺถ สหการีการณสนฺนิชฺฌํ สเมติ สมเวตีติ สมโย, สมวาโย. สเมติ สมาคจฺฉติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ เอตฺถ ตทาธารปุคฺคเลหีติ สมโย, ขโณ. สเมนฺติ เอตฺถ, เอเตน วา สํคจฺฉนฺติ ธมฺมา สหชาตธมฺเมหิ อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ การณํ วิย จ ปริกปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียติ. สมํ, สห วา อวยวานํ อยนํ ปวตฺติ อวฏฺานนฺติ สมโย, สมูโห ยถา ‘‘สมุทาโย’’ติ. อวยเวน สหาวฏฺานเมว หิ สมูโห. ปจฺจยนฺตรสมาคเม เอติ ผลํ เอตสฺมา อุปฺปชฺชติ ปวตฺตติ จาติ สมโย, เหตุ ยถา ‘‘สมุทโย’’ติ. สเมติ สํโยชนภาวโต สมฺพนฺโธ เอติ อตฺตโน วิสเย ปวตฺตติ, ทฬฺหคฺคหณภาวโต วา ตํสํยุตฺตา อยนฺติ ปวตฺตนฺติ สตฺตา ยถาภินิเวสํ เอเตนาติ สมโย, ทิฏฺิ. ทิฏฺิสํโยชเนน หิ สตฺตา อติวิย พชฺฌนฺติ. สมิติ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมสฺส นิโรธสฺส ยานํ, สมฺมา วา ยานํ อปคโม อปฺปวตฺตีติ สมโย, ปหานํ. าเณน อภิมุขํ สมฺมา เอตพฺโพ อธิคนฺตพฺโพติ อภิสมโย, ธมฺมานํ อวิปรีโต สภาโว. อภิมุขภาเวน สมฺมา เอติ คจฺฉติ พุชฺฌตีติ อภิสมโย, ธมฺมานํ ยถาภูตสภาวาวโพโธ. เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ สมยสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพา.

นนุ จ อตฺถมตฺตํ ปฏิจฺจ สทฺทา อภินิวิสนฺติ, น เอเกน สทฺเทน อเนเก อตฺถา อภิธียนฺตีติ? สจฺจเมตํ สทฺทวิเสเส อเปกฺขิเต. สทฺทวิเสเส หิ อเปกฺขิยมาเน เอเกน สทฺเทน อเนกตฺถาภิธานํ น สมฺภวติ. น หิ โย กาลตฺโถ สมยสทฺโท, โสเยว สมูหาทิอตฺถํ วทติ. เอตฺถ ปน เตสํ เตสํ อตฺถานํ สมยสทฺทวจนียตาสามฺมุปาทาย อเนกตฺถตา สมยสทฺทสฺส วุตฺตา. เอวํ สพฺพตฺถ อตฺถุทฺธาเร อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อิธ ปนสฺส กาโล อตฺโถติ อสฺส สมยสทฺทสฺส อิธ กาโล อตฺโถ สมวายาทีนํ อตฺถานํ อิธ อสมฺภวโต เทสเทสกาทีนํ วิย นิทานภาเวน กาลสฺส อปทิสิตพฺพโต จ.

อุปโยควจเนน ภุมฺมวจเนน จ นิทฺเทสมกตฺวา อิธ กรณวจเนน นิทฺเทเส ปโยชนํ นิทฺธาเรตุกาโม ปรมฺมุเขน โจทนํ สมุฏฺาเปติ ‘‘เอตฺถาหา’’ติอาทิ. เอตฺถ ‘‘เตน สมเยนา’’ติ อิมสฺมึ าเน วิตณฺฑวาที อาหาติ อตฺโถ. อถาติ โจทนาย กตฺตุกามตํ ทีเปติ, นนูติ อิมินา สมานตฺโถ. กสฺมา กรณวจเนน นิทฺเทโส กโตติ สมฺพนฺโธ. ภุมฺมวจเนน นิทฺเทโส กโตติ โยเชตพฺพํ. เอตฺถาปิ ‘‘ยถา’’ติ อิทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถาติ เตสุ สุตฺตาภิธมฺเมสุ. ตถาติ อุปโยคภุมฺมวจเนหิ. อิธาติ อิมสฺมึ วินเย. อฺถาติ กรณวจเนน. อจฺจนฺตเมวาติ อารมฺภโต ปฏฺาย ยาว เทสนานิฏฺานํ, ตาว อจฺจนฺตเมว, นิรนฺตรเมวาติ อตฺโถ. กรุณาวิหาเรนาติ ปรหิตปฏิปตฺติสงฺขาเตน กรุณาวิหาเรน. ตถา หิ กรุณานิทานตฺตา เทสนาย อิธ ปรหิตปฏิปตฺติ ‘‘กรุณาวิหาโร’’ติ วุตฺตา, น ปน กรุณาสมอาปตฺติวิหาโร. น หิ เทสนากาเล เทเสตพฺพธมฺมวิสยสฺส เทสนาาณสฺส สตฺตวิสยาย มหากรุณาย สหุปฺปตฺติ สมฺภวติ ภินฺนวิสยตฺตา, ตสฺมา กรุณาวเสน ปวตฺโต ปรหิตปอปตฺติสงฺขาโต วิหาโร อิธ กรุณาวิหาโรติ เวทิตพฺโพ. ตทตฺถโชตนตฺถนฺติ อจฺจนฺตสํโยคตฺถทีปนตฺถํ อุปโยคนิทฺเทโส กโต ยถา ‘‘มาสํ อชฺเฌตี’’ติ.

อธิกรณตฺโถติ อาธารตฺโถ. ภาโว นาม กิริยา, กิริยาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, โสเยวตฺโถ ภาเวนภาวลกฺขณตฺโถ. กถํ ปน อภิธมฺเม ยถาวุตฺตอตฺถทฺวยสมฺภโวติ อาห ‘‘อธิกรณฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ กาลสงฺขาโต อตฺโถ กาลตฺโถ, สมูหสงฺขาโต อตฺโถ สมูหตฺโถ. อถ วา กาลสทฺทสฺส อตฺโถ กาลตฺโถ, สมูหสทฺทสฺส อตฺโถ สมูหตฺโถ. โก โส? สมโย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กาลตฺโถ สมูหตฺโถ จ สมโย ตตฺถ อภิธมฺเม วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ อธิกรณํ อาธาโรติ ยสฺมึ กาเล ธมฺมปุฺเช วา กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว กาเล ปุฺเช จ ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ อยฺหิ ตตฺถ อตฺโถ.

นนุ จายํ อุปาทาย ปฺตฺโต กาโล สมูโห จ โวหารมตฺตโก, โส กถํ อาธาโร ตตฺถ วุตฺตธมฺมานนฺติ? นายํ โทโส. ยถา หิ กาโล สภาวธมฺมปริจฺฉินฺโน สยํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ อาธารภาเวน ปฺตฺโต ตงฺขณปฺปวตฺตานํ ตโต ปุพฺเพ ปรโต จ อภาวโต ‘‘ปุพฺพณฺเห ชาโต สายนฺเห คจฺฉตี’’ติอาทีสุ, สมูโห จ อวยววินิมุตฺโต อวิชฺชมาโนปิ กปฺปนามตฺตสิทฺโธ อวยวานํ อาธารภาเวน ปฺปียติ ‘‘รุกฺเข สาขา, ยวราสิมฺหิ สมฺภูโต’’ติอาทีสุ, เอวมิธาปีติ ทฏฺพฺพํ.

อภิธมฺเม อาธารตฺถสมฺภวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ภาเวนภาวลกฺขณตฺถสมฺภวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถ ขโณ นาม อฏฺกฺขณวินิมุตฺโต นวโม พุทฺธุปฺปาทสงฺขาโต ขโณ, ยานิ วา ปเนตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสานํ จตุจกฺกํ ปวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๑) เอตฺถ ปติรูปเทสวาโส, สปฺปุริสูปนิสฺสโย, อตฺตสมฺมาปณิธิ, ปุพฺเพ จ กตปุฺตาติ จตฺตาริ จกฺกานิ วุตฺตานิ, ตานิ เอกชฺฌํ กตฺวา โอกาสฏฺเน ขโณติ เวทิตพฺโพ. ตานิ หิ กุสลุปฺปตฺติยา โอกาสภูตานิ. สมวาโย นาม ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๑; สํ. นิ. ๔.๖๐) เอวมาทินา นิทฺทิฏฺา จกฺขุวิฺาณาทิสงฺขาตสาธารณผลนิปฺผาทกตฺเตน สณฺิตา จกฺขุรูปาทิปจฺจยสามคฺคี. จกฺขุรูปาทีนฺหิ จกฺขุวิฺาณาทิสาธารณผลํ. เหตูติ ชนกเหตุ. ยถาวุตฺตขณสงฺขอาตสฺส สมวายสงฺขาตสฺส เหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน สตฺตาย เตสํ ผสฺสาทิธมฺมานํ ภาโว สตฺตา ลกฺขียติ วิฺายตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ‘‘คาวีสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโต’’ติ โทหนกิริยาย คมนกิริยา ลกฺขียติ, เอวมิธาปิ ‘‘ยสฺมึ สมเย, ตสฺมึ สมเย’’ติ จ วุตฺเต ‘‘สตี’’ติ อยมตฺโถ วิฺายมาโน เอว โหติ อฺกิริยาย สมฺพนฺธาภาเว ปทตฺถสฺส สตฺตาวิรหาภาวโตติ สมยสฺส สตฺตากิริยาย จิตฺตสฺส อุปฺปาทกิริยา ผสฺสาทิภวนกิริยา จ ลกฺขียตีติ. อยฺหิ ตตฺถ อตฺโถ ยสฺมึ ยถาวุตฺเต ขเณ ปจฺจยสมวาเย เหตุมฺหิ จ สติ กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมึเยว ขเณ ปจฺจยสมวาเย เหตุมฺหิ จ สติ ผสฺสาทโยปิ โหนฺตีติ . ตทตฺถโชตนตฺถนฺติ อธิกรณตฺถสฺส ภาเวนภาวลกฺขณตฺถสฺส จ ทีปนตฺถํ.

อิธ ปนาติ อิมสฺมึ วินเย. เหตุอตฺโถ กรณตฺโถ จ สมฺภวตีติ ‘‘อนฺเนน วสติ, วิชฺชาย วสตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุอตฺโถ ‘‘ผรสุนา ฉินฺทติ, กุทาเลน ขณตี’’ติอาทีสุ วิย กรณตฺโถ จ สมฺภวติ. กถํ สมฺภวตีติ อาห ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิ. เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตนาติ เอตฺถ ปน ตํตํวตฺถุวีติกฺกโมว สิกฺขาปทปฺตฺติยา เหตุ เจว กรณฺจ. ตถา หิ ยทา ภควา สิกฺขาปทปฺตฺติยา ปมเมว เตสํ เตสํ ตตฺถ ตตฺถ ตํตํสิกฺขาปทปฺตฺติเหตุภูตํ วีติกฺกมํ อเปกฺขมาโน วิหรติ, ตทา ตํ ตํ วีติกฺกมํ อเปกฺขิตฺวา ตทตฺถํ วสตีติ สิทฺโธ วตฺถุวีติกฺกมสฺส เหตุภาโว ‘‘อนฺเนน วสติ, อนฺนํ อเปกฺขิตฺวา ตทตฺถาย วสตี’’ติอาทีสุ วิย. สิกฺขาปทปฺตฺติกาเล ปน เตเนว ปุพฺพสิทฺเธน วีติกฺกเมน สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา สาธกตมตฺตา กรณภาโวปิ วีติกฺกมสฺเสว สิทฺโธ ‘‘อสินา ฉินฺทตี’’ติอาทีสุ วิย. วีติกฺกมํ ปน อเปกฺขมาโน เตเนว สทฺธึ ตนฺนิสฺสยกาลมฺปิ อเปกฺขิตฺวา วิหรตีติ กาลสฺสปิ อิธ เหตุภาโว วุตฺโต, สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต จ ตํ ตํ วีติกฺกมกาลํ อนติกฺกมิตฺวา เตเนว กาเลน สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ วีติกฺกมนิสฺสยสฺส กาลสฺสปิ กรณภาโว วุตฺโต, ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน กาลสฺสปิ เหตุภาโว กรณภาโว จ ลพฺภตีติ วุตฺตํ ‘‘เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตนา’’ติ. นิปฺปริยายโต ปน วีติกฺกโมเยว เหตุภูโต กรณภูโต จ. โส หิ วีติกฺกมกฺขเณ เหตุ หุตฺวา ปจฺฉา สิกฺขาปทปฺาปเน กรณมฺปิ โหตีติ.

สิกฺขาปทานิปฺาปยนฺโตติ วีติกฺกมํ ปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา โอติณฺณวตฺถุกํ ปุคฺคลํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ตํ ตํ วตฺถุํ โอติณฺณกาลํ อนติกฺกมิตฺวา เตเนว กาเลน กรณภูเตน สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต. สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโนติ ตติยปาราชิกาทีสุ วิย สิกฺขาปทปฺตฺติยา เหตุภูตํ ตํ ตํ วตฺถุํ วีติกฺกมสมยํ อเปกฺขมาโน เตน สมเยน เหตุภูเตน ภควา ตตฺถ ตตฺถ วิหาสีติ อตฺโถ. ‘‘สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน’’ติ วจนโต ‘‘เตน สมเยน กรณภูเตน เหตุภูเตนา’’ติ เอวํ วตฺตพฺเพปิ ปมํ ‘‘เหตุภูเตนา’’ติ วจนํ อิธ เหตุอตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ. ภควา หิ เวรฺชายํ วิหรนฺโต เถรสฺส สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนเหตุภูตํ ปริวิตกฺกสมยํ อเปกฺขมาโน เตน สมเยน เหตุภูเตน วิหาสีติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. กึ ปเนตฺถ ยุตฺติจินฺตาย, อาจริยสฺส อิธ กมวจนิจฺฉา นตฺถีติ เอวเมตํ คเหตพฺพํ. เตเนว ทีฆนิกายฏฺกถายมฺปิ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปริพฺพาชกกถาวณฺณนา) ‘‘เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตนา’’ติอาทินา อยเมว อนุกฺกโม วุตฺโต. น หิ ตตฺถ ปมํ ‘‘เหตุภูเตนา’’ติ วจนํ อิธ ‘‘เตน สมเยน เวรฺชายํ วิหรตี’’ติ เอตฺถ เหตุอตฺถสฺส อธิปฺเปตภาวทีปนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต เหตุภูเตน กรณภูเตน สมเยน วิหาสิ, สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน เหตุภูเตน สมเยน วิหาสีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ’’ติปิ วทนฺติ. ตทตฺถโชตนตฺถนฺติ เหตุอตฺถสฺส กรณตฺถสฺส วา ทีปนตฺถํ. อิธาติ อิมสฺมึ วินเย. โหติ เจตฺถาติ เอตฺถ อิมสฺมึ ปเทเส ยถาวุตฺตตฺถสงฺคหวเสน อยํ คาถา โหติ. อฺตฺราติ สุตฺตาภิธมฺเมสุ.

โปราณาติ อฏฺกถาจริยา. อภิลาปมตฺตเภโทติ วจนมตฺเตน วิเสโส. เตน สุตฺตวินเยสุ วิภตฺติวิปริณาโม กโตติ ทสฺเสติ. ปรโต อตฺถํ วณฺณยิสฺสามาติ ปรโต ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา อาคตฏฺาเน วณฺณยิสฺสาม. เวรฺชายนฺติ เอตฺถ ‘‘พลิกรคฺคหเณน ชนสฺส ปีฬาภาวโต นิทฺโทสตฺตา วิคโต รโช อสฺสาติ เวรฺชา, เสริวาณิชชาตเก เทวทตฺตสฺส เวรุปฺปนฺนปเทเส กตตฺตา เวรํ เอตฺถ ชาตนฺติ เวรฺชา, ปวิฏฺปวิฏฺเ นฏสมชฺชาทีหิ ขาทนียโภชนียาลงฺการาทีหิ จ วิวิเธหิ อุปกรเณหิ รฺชนโต วิวิเธหิ รฺชยตีติ เวรฺชา, ปฏิปกฺเข อภิภวิตฺวา กตภาวโต เวรํ อภิภวิตฺวา ชาตาติ เวรฺชา, เวรฺชสฺส นาม อิสิโน อสฺสมฏฺาเน กตตฺตา เวรฺชา’’ติ เอวมาทินา เกจิ วณฺณยนฺติ. กึ อิมินา, นามมตฺตเมตํ ตสฺส นครสฺสาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เวรฺชาติ อฺตรสฺส นครสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนนฺติ ‘‘คงฺคายํ คาโว จรนฺติ, กูเป คคฺคกุล’’นฺติอาทีสุ วิย. อวิเสเสนาติ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ. ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ. สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ สมาปชฺชิตฺวา วิหรตี’’ติอาทีสุ วิย สทฺทนฺตรสนฺนิธานสิทฺเธน วิเสสปรามสเนน วินา. อถ วา อวิเสเสนาติ น วิเสเสน, วิหารภาวสามฺเนาติ อตฺโถ.

อิริยาปถ…เป… วิหาเรสูติ อิริยาปถวิหาโร ทิพฺพวิหาโร พฺรหฺมวิหาโร อริยวิหาโรติ เอเตสุ จตูสุ วิหาเรสุ. ตตฺถ อิริยนํ ปวตฺตนํ อิริยา, กายปฺปโยโค กายิกกิริยา. ตสฺสา ปวตฺตนุปายภาวโต อิริยาย ปโถติ อิริยาปโถ, านนิสชฺชาทิ. น หิ านนิสชฺชาทีหิ อวตฺถาหิ วินา กฺจิ กายิกกิริยํ ปวตฺเตตุํ สกฺกา. านสมงฺคี วา หิ กาเยน กิฺจิ กเรยฺย คมนาทีสุ อฺตรสมงฺคี วาติ. วิหรณํ, วิหรติ เอเตนาติ วา วิหาโร, อิริยาปโถว วิหาโร อิริยาปถวิหาโร, โส จ อตฺถโต านนิสชฺชาทิอาการปฺปวตฺโต จตุสนฺตติรูปปฺปพนฺโธว. ทิวิ ภโว ทิพฺโพ, ตตฺถ พหุลปฺปวตฺติยา พฺรหฺมปาริสชฺชาทิเทวโลกภโวติ อตฺโถ. ตตฺถ โย ทิพฺพานุภาโว ตทตฺถาย สํวตฺตตีติ วา ทิพฺโพ, อภิฺาภินีหารวเสน มหาคติกตฺตา วา ทิพฺโพ, ทิพฺโพ จ โส วิหาโร จาติ ทิพฺพวิหาโร, ทิพฺพภาวาวโห วา วิหาโร ทิพฺพวิหาโร, มหคฺคตชฺฌานานิ. อารุปฺปสมาปตฺติโยปิ หิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. เนตฺติยํ ปน ‘‘จตสฺโส อารุปฺปสมาปตฺติโย อาเนฺชวิหาโร’’ติ วุตฺตํ, ตํ เมตฺตาฌานาทีนํ พฺรหฺมวิหารตา วิย ตาสํ ภาวนาวิเสสภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺกถาสุ ปน ทิพฺพภาวาวหสามฺโต ตาปิ ‘‘ทิพฺพวิหารา’’ตฺเวว วุตฺตา. พฺรหฺมานํ วิหารา พฺรหฺมวิหารา, พฺรหฺมาโน วา วิหารา พฺรหฺมวิหารา, หิตูปสํหราทิวเสน ปวตฺติยา พฺรหฺมภูตา เสฏฺภูตา วิหาราติ อตฺโถ, เมตฺตาฌานาทิกา จตสฺโส อปฺปมฺาโย. อริยา อุตฺตมา วิหาราติ อริยวิหารา, อนฺสาธารณตฺตา อริยานํ วา วิหารา อริยวิหารา, จตสฺโส ผลสมาปตฺติโย. วิเสสโต ปน รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ จตสฺโส อปฺปมฺาโย จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติ จ ภควโต ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหารา.

อฺตรวิหารสมงฺคีปริทีปนนฺติ ยถาวุตฺตวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมงฺคีภาวปริทีปนํ. ภควา หิ โลภโทสโมหุสฺสนฺนกาเล โลเก ตสฺส สกาย ปฏิปตฺติยา วินยนตฺถํ ทิพฺพพฺรหฺมออยวิหาเร อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตถา หิ ยทา สตฺตา กาเมสุ วิปฺปฏิปชฺชนฺติ, ตทา กิร ภควา ทิพฺเพน วิหาเรน วิหรติ เตสํ อโลภกุสลมูลุปฺปาทนตฺถํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมํ ปฏิปตฺตึ ทิสฺวา เอตฺถ รุจึ อุปฺปาเทนฺตา กาเมสุ วิรชฺเชยฺยุ’’นฺติ. ยทา ปน อิสฺสริยตฺถํ สตฺเตสุ วิปฺปฏิปชฺชนฺติ, ตทา ปน พฺรหฺมวิหาเรน วิหรติ เตสํ อโทสกุสลมูลุปฺปาทนตฺถํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมํ ปฏิปตฺตึ ทิสฺวา เอตฺถ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อโทเสน โทสํ วูปสเมยฺยุ’’นฺติ. ยทา ปน ปพฺพชิตา ธมฺมาธิกรณํ วิวทนฺติ, ตทา อริยวิหาเรน วิหรติ เตสํ อโมหกุสลมูลุปฺปาทนตฺถํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมํ ปฏิปตฺตึ ทิสฺวา ตตฺถ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อโมเหน โมหํ วูปสเมยฺยุ’’นฺติ. เอวฺจ กตฺวา อิเมหิ ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรหิ สตฺตานํ วิวิธํ หิตสุขํ หรติ อุปหรติ อุปเนติ ชเนติ อุปฺปาเทตีติ ‘‘วิหรตี’’ติ วุจฺจติ.

อิริยาปถวิหาเรน ปน น กทาจิ น วิหรติ ตํ วินา อตฺตภาวปริหรณาภาวโต, ตโตเยว จ ทิพฺพวิหาราทีนมฺปิ สาธารโณ อิริยาปถวิหาโรติ อาห ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ. อิริยาปถสมาโยคปริทีปนนฺติ อิตรวิหารสมาโยคปริทีปนสฺส วิเสสวจนสฺส อภาวโต อิริยาปถสมาโยคปริทีปนสฺส จ อตฺถสิทฺธตฺตา วุตฺตํ. อสฺมึ ปน ปกฺเข วิหรตีติ เอตฺถ วิ-สทฺโท วิจฺเฉทตฺถโชตโน, หรตีติ เนติ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ, วิจฺฉินฺทิตฺวา หรตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กสฺส เกน วิจฺฉินฺทนํ, กถํ กสฺส ปวตฺตนนฺติ อนฺโตลีนโจทนํ สนฺธายาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. โสติ ภควา. ยทิปิ ภควา เอเกนปิ อิริยาปเถน จิรตรํ กาลํ อตฺตภาวํ ปวตฺเตตุํ สกฺโกติ, ตถาปิ อุปาทินฺนกสรีรสฺส นาม อยํ สภาโวติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ อิริยาปถพาธน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อปริปตนฺตนฺติ อปตนฺตํ. ยสฺมา ปน ภควา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโต วิเนยฺยานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต นานาสมาปตฺตีหิ จ กาลํ วีตินาเมนฺโต วสตีติ สตฺตานํ อตฺตโน จ วิวิธํ หิตสุขํ หรติ อุปเนติ, ตสฺมา วิวิธํ หรตีติ วิหรตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

นเฬรุปุจิมนฺทมูเลติ เอตฺถ วณฺณยนฺติ – นเฬรูติ ตสฺมึ รุกฺเข อธิวตฺถยกฺขสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺมา เตน อธิวตฺโถ ปุจิมนฺโท ‘‘นเฬรุสฺส ปุจิมนฺโท นเฬรุปุจิมนฺโท’’ติ วุจฺจติ. อถ วา นเฬ รุหตฺตา ชาตตฺตา นเฬรุ. สุสิรเมตฺถ นฬสทฺเทน วุจฺจติ, ตสฺมา รุกฺขสุสิเร ชาตตฺตา นเฬรุ จ โส ปุจิมนฺโท จาติ นเฬรุปุจิมนฺโทติ วุจฺจติ. นฬวเน รุหตฺตา ชาตตฺตา วา นเฬรุ. นฬวเน กิร โส ปุจิมนฺทรุกฺโข ชาโต. อุรุนโฬ ปุจิมนฺโท นเฬรุปุจิมนฺโท. อุรุสทฺโท เจตฺถ มหนฺตปริยาโย, นฬสทฺโท สุสิรปริยาโย, ตสฺมา มหนฺเตน สุสิเรน สมนฺนาคโต ปุจิมนฺโท นเฬรุปุจิมนฺโทติ วุจฺจตีติ. อาจริโย ปน กิเมตฺถ พหุภาสิเตนาติ เอกเมวตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นเฬรุ นาม ยกฺโข’’ติอาทิมาห.

มูล-สทฺโท เอตฺถ สมีปวจโน อธิปฺเปโต, น มูลมูลาทีสุ วตฺตมาโนติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มูลนฺติ สมีป’’นฺติอาทิ. นิปฺปริยาเยน สาขาทิมโต สงฺฆาตสฺส สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเน อวยววิเสเส ปวตฺตมาโน มูลสทฺโท ยสฺมา ตํสทิเสสุ ตนฺนิสฺสเย ปเทเส จ รุฬฺหีวเสน ปริยายโต ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘มูลานิ อุทฺธเรยฺยา’’ติ เอตฺถ นิปฺปริยายโต มูลํ อธิปฺเปตนฺติ เอเกน มูลสทฺเทน วิเสเสตฺวา อาห ‘‘มูลมูเล ทิสฺสตี’’ติ ยถา ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ, รูปรูป’’นฺติ จ. อสาธารณเหตุมฺหีติ อสาธารณการเณ. โลโภ หิ โลภสหคตอกุสลจิตฺตุปฺปาทสฺเสว เหตุตฺตา อสาธารโณ, ตสฺมา โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทานเมว อาเวณิเก เนสํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนโต มูลฏฺเน อุปการเก ปจฺจยธมฺมวิเสเสติ อตฺโถ. อถ วา ยถา อโลภาทโย กุสลาพฺยากตสาธารณา, โลภาทโย ปน ตถา น โหนฺติ อกุสลสฺเสว สาธารณตฺตาติ อสาธารณการณํ. อถ วา อาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อโลภาทีนมฺปิ กุสลาพฺยากตมูลานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตสุปิ หิ อโลภาทิกุสลมูลํ อกุสลาพฺยากเตหิ อสาธารณตฺตา อสาธารณการณํ, ตถา อโลภาทิอพฺยากตมูลมฺปิ อิตรทฺวเยหิ อสาธารณตฺตาติ. นิวาเตติ วาตรหิเต ปเทเส, วาตสฺส อภาเว วา. ปตนฺตีติ นิปตนฺติ, อยเมว วา ปาโ. รมณีโยติ มนุฺโ. ปาสาทิโกติ ปสาทาวโห, ปสาทชนโกติ อตฺโถ. อาธิปจฺจํ กุรุมาโน วิยาติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถาติ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ. สิยาติ กสฺสจิ เอวํ ปริวิตกฺโก สิยา, วกฺขมานากาเรน กทาจิ โจเทยฺย วาติ อตฺโถ. ยทิ ตาว ภควาติอาทีสุ โจทกสฺสายมธิปฺปาโย – ‘‘ปาฏลิปุตฺเต ปาสาเท วสตี’’ติอาทีสุ วิย อธิกรณาธิกรณํ ยทิ ภเวยฺย, ตทา ‘‘เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ อธิกรณทฺวยนิทฺเทโส ยุตฺโต สิยา, อิเมสํ ปน ภินฺนเทสตฺตา น ยุตฺโต อุภยนิทฺเทโสติ. อถ ตตฺถ วิหรตีติ ยทิ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล วิหรติ. น วตฺตพฺพนฺติ นานาานภูตตฺตา เวรฺชานเฬรุปุจิมนฺทมูลานํ ‘‘เตน สมเยนา’’ติ จ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ โจทโก ตเมว อตฺตโน อธิปฺปายํ ‘‘น หิ สกฺกา’’ติอาทินา วิวรติ. เวรฺชานเฬรุปุจิมนฺทมูลานํ ภูมิภาควเสน ภินฺนตฺตาเยว หิ น สกฺกา อุภยตฺถ เตเนว สมเยน วิหริตุํ, ‘‘อุภยตฺถ เตเนว สมเยนา’’ติ จ วุตฺตตฺตา นานาสมเย วิหาโร อวาริโตติ เวทิตพฺโพ.

อิตโร สพฺพเมตํ อวิปรีตมตฺถํ อชานนฺเตน ตยา วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอตนฺติ ‘‘เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล’’ติ เอตํ วจนํ. เอวนฺติ ‘‘ยทิ ตาว ภควา’’ติอาทินา ยํ ตํ ภวตา โจทิตํ, ตํ อตฺถโต เอวํ น โข ปน ทฏฺพฺพํ, น อุภยตฺถ อปุพฺพํ อจริมํ วิหารทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ. อิทานิ อตฺตนา ยถาธิปฺเปตํ อวิปรีตมตฺถํ ตสฺส จ ปฏิกจฺเจว วุตฺตภาวํ เตน จ อปฺปฏิวิทฺธตํ ปกาเสนฺโต ‘‘นนุ อโวจุมฺห สมีปตฺเถ ภุมฺมวจน’’นฺติอาทิมาห. โคยูถานีติ โคมณฺฑลานิ. เอวมฺปิ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล วิหรติจฺเจว วตฺตพฺพํ, น เวรฺชายนฺติ, ตสฺมา สมีปาธิกรณตฺถวเสน อุภยถา นิทานกิตฺตเน กึ ปโยชนนฺติ โจทนํ มนสิ นิธายาห ‘‘โคจรคามนิทสฺสนตฺถ’’นฺติอาทิ. อสฺสาติ ภควโต.

อวสฺสฺเจตฺถ โคจรคามกิตฺตนํ กตฺตพฺพํ. ยถา หิ นเฬรุปุจิมนฺทมูลกิตฺตนํ ปพฺพชิตานุคฺคหกรณาทิอเนกปฺปโยชนํ, เอวํ โคจรคามกิตฺตนมฺปิ คหฏฺานุคฺคหกรณาทิวิวิธปฺปโยชนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เวรฺชากิตฺตเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คหฏฺานุคฺคหกรณนฺติ เตสํ ตตฺถ ปจฺจยคฺคหเณน อุปสงฺกมนปยิรุปาสนาทีนํ โอกาสทาเนน ธมฺมเทสนาย สรเณสุ สีเลสุ จ ปติฏฺาปเนน ยถูปนิสฺสยํ อุปริวิเสสาธิคมาวหเนน จ คหฏฺานํ อนุคฺคหกรณํ. ปพฺพชิตานุคฺคหกรณนฺติ อุคฺคหปริปุจฺฉานํ กมฺมฏฺานานุโยคสฺส จ อนุรูปวสนฏฺานปริคฺคเหเนตฺถ ปพฺพชิตานํ อนุคฺคหกรณํ.

ปจฺจยคฺคหเณเนว ปจฺจยปริโภคสิทฺธิโต อาห ‘‘ตถา ปุริเมน…เป… วิวชฺชนนฺติ. ตตฺถ ปุริเมนาติ เวรฺชาวจเนน. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. ตสฺส กิลมโถ กิลนฺตภาโว อตฺตกิลมโถ, อตฺตปีฬา อตฺตทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺส อนุโยโค กรณํ อตฺตกิลมถานุโยโค, อุปวาสกณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทินา อตฺตโน ทุกฺขุปฺปาทนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส วิวชฺชนํ อตฺตกิลมถานุโยควิวชฺชนํ. อนฺโตคาเม วสนฺตานํ อนิจฺฉนฺตานมฺปิ วิสภาครูปาทิอารมฺมณทสฺสนาทิสมฺภวโต พหิคาเม ปติรูปฏฺาเน วสนฺตานํ ตทภาวโต อาห ‘‘ปจฺฉิเมน วตฺถุกามปฺปหานโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ปจฺฉิเมนาติ นเฬรุปุจิมนฺทมูลวจเนน. กิเลสกามสฺส วตฺถุภูตตฺตา รูปาทโย ปฺจ กามคุณา วตฺถุกาโม, ตสฺส ปหานํ วตฺถุกามปฺปหานํ. กามสุขลฺลิกานุโยควิวชฺชนุปายทสฺสนนฺติ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสํยุตฺตสฺส สุขสฺส โยโค อนุโยโค อนุภโว, ตสฺส ปริวชฺชเน อุปายทสฺสนํ.

สยเมว โคจรคามํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน ธมฺมสฺสวนานุรูปภพฺพปุคฺคลานํ ทสฺสนโต ธมฺมเทสนาย กาโล สมฺปตฺโต นาม โหตีติ ธมฺมเทสนาย อภิโยโค วิฺายตีติ อาห ‘‘ปุริเมน จ ธมฺมเทสนาภิโยค’’นฺติ. ธมฺมเทสนาย สอุสฺสาหภาโว ธมฺมเทสนาภิโยโค. พหิคาเม วิวิตฺโตกาเส วสนฺตสฺส อากิณฺณวิหาราภาวโต กายวิเวกาทีสุ อธิมุตฺติ ตปฺโปณตา วิฺายตีติ อาห ‘‘ปจฺฉิเมน วิเวกาธิมุตฺติ’’นฺติ.

ธมฺมเทสนาภิโยควิเวกาธิมุตฺตีนํ เหตุภูตา เอว กรุณาปฺา ธมฺมเทสนาย อุปคมนสฺส ตโต อปคมนสฺส การณภูตา โหนฺตีติ อาห ‘‘ปุริเมน กรุณาย อุปคมน’’นฺติอาทิ. กรุณาปฺาเยว หิ อนนฺตรทุกสฺส เหตู โหนฺติ. เอเตน จ กรุณาย อุปคมนํ น ลาภาทินิมิตฺตํ , ปฺาย อปคมนํ น วิโรธาทินิมิตฺตนฺติ อุปคมนาปคมนานํ นิรุปกฺกิเลสตํ วิภาวิภนฺติ ทฏฺพฺพํ. อธิมุตฺตตนฺติ ตนฺนินฺนภาวํ. นิรุปเลปนนฺติ อนุปเลปนํ อนลฺลียนํ.

ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคนิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ธมฺมิกสุขํ นาม อนวชฺชสุขํ. ตฺหิ ธมฺมิกํ ลาภํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘ธมฺมิกสุข’’นฺติ วุจฺจติ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาภิโยคนิมิตฺตํ ผาสุวิหารนฺติ สมฺพนฺโธ. มนุสฺสานํ อุปการพหุลตนฺติ ปจฺจยปฏิคฺคหณธมฺมเทสนาทิวเสน อุปการพหุลตํ. เทวตานํ อุปการพหุลตํ ชนวิวิตฺตตาย. ปจุรชนวิวิตฺตฺหิ านํ เทวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺนฺติ. โลเก สํวฑฺฒภาวนฺติ อามิโสปโภเคน สํวฑฺฒิตภาวํ.

เอกปุคฺคโลติ เอตฺถ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐) เอโกติ ทุติยาทิปฏิกฺเขปตฺโถ คณนปริจฺเฉโท. ปุคฺคโลติ สมฺมุติกถา, น ปรมตฺถกถา. พุทฺธสฺส หิ ภควโต ทุวิธา เทสนา สมฺมุติเทสนา ปรมตฺถเทสนา จาติ. อยมตฺโถ ปน เหฏฺา วิตฺถาริโตวาติ อิธ น วุจฺจติ. เอโก จ โส ปุคฺคโล จาติ เอกปุคฺคโล. เกนฏฺเน เอกปุคฺคโล? อสทิสฏฺเน คุณวิสิฏฺฏฺเน อสมสมฏฺเน. โส หิ ทสนฺนํ ปารมีนํ ปฏิปาฏิยา อาวชฺชนํ อาทึ กตฺวา โพธิสมฺภารคุเณหิ เจว พุทฺธคุเณหิ จ เสสมหาชเนน อสทิโสติ อสทิสฏฺเนปิ เอกปุคฺคโล. เย จสฺส เต คุณา, เตปิ อฺสตฺตานํ คุเณหิ วิสิฏฺาติ คุณวิสิฏฺฏฺเนปิ เอกปุคฺคโล. ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา สพฺพสตฺเตหิ อสมา, เตหิ สทฺธึ อยเมว เอโก รูปกายคุเณหิ เจว นามกายคุเณหิ จ สโมติ อสมสมฏฺเนปิ เอกปุคฺคโล. โลเกติ สตฺตโลเก.

อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชตีติ อิทํ ปน อุภยมฺปิ วิปฺปกตวจนเมว. อุปฺปชฺชนฺโต พหุชนหิตตฺถาย อุปฺปชฺชติ, น อฺเน การเณนาติ เอวํ ปเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวรูปฺเจตฺถ ลกฺขณํ น สกฺกา เอตํ อฺเน สทฺทลกฺขเณน ปฏิพาหิตุํ. อปิจ อุปฺปชฺชมาโน นาม, อุปฺปชฺชติ นาม, อุปฺปนฺโน นามาติ อยเมตฺถ เภโท เวทิตพฺโพ. เอส หิ ทีปงฺกรปาทมูลโต ลทฺธพฺยากรโณ พุทฺธการกธมฺเม ปริเยสนฺโต ทส ปารมิโย ทิสฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา มยา ปูเรตพฺพา’’ติ กตสนฺนิฏฺาโน ทานปารมึ ปูเรนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. สีลปารมึ…เป… อุเปกฺขาปารมินฺติ อิมา ทส ปารมิโย ปูเรนฺโตปิ, ทส อุปปารมิโย ปูเรนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. ทส ปรมตฺถปารมิโย ปูเรนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. าตตฺถจริยํ โลกตฺถจริยํ พุทฺธตฺถจริยํ ปูรยมาโนปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ พุทฺธการเก ธมฺเม มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. เวสฺสนฺตรตฺตภาวํ ปหาย ตุสิตปุเร ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา สฏฺิวสฺสสตสหสฺสาธิกา สตฺตปณฺณาส วสฺสโกฏิโย ติฏฺนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. เทวตาหิ ยาจิโต ปฺจ มหาวิโลกนานิ วิโลเกตฺวา มายาเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺโตปิ, อนูนาธิเก ทส มาเส คพฺภวาสํ วสนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. เอกูนตึส วสฺสานิ อคารมชฺเฌ ติฏฺนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. กาเมสุ อาทีนวํ เนกฺขมฺเม จ อานิสํสํ ทิสฺวา ราหุลภทฺทสฺส ชาตทิวเส ฉนฺนสหาโย กณฺฑกํ อสฺสวรมารุยฺห นิกฺขมนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. ตีณิ รชฺชานิ อติกฺกมนฺโต อโนมนทิตีเร ปพฺพชนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. ฉพฺพสฺสานิ มหาปธานํ กโรนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. ปริปากคเต าเณ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. สายนฺหสมเย วิสาขปุณฺณมายํ มหาโพธิมณฺฑํ อารุยฺห มารพลํ วิธเมตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ ปริโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามสมนนฺตเร ทฺวาทสงฺคํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมโต สมฺมสิตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. โสตาปตฺติผลกฺขเณปิ สกทาคามิผลกฺขเณปิ อนาคามิผลกฺขเณปิ อุปฺปชฺชมาโน นาม. อรหตฺตมคฺคกฺขเณ ปน อุปฺปชฺชติ นาม. อรหตฺตผลกฺขเณ อุปฺปนฺโน นาม. พุทฺธานฺหิ สาวกานํ วิย น ปฏิปาฏิยา อิทฺธิวิธาณาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ, สเหว ปน อรหตฺตมคฺเคน สกโลปิ สพฺพฺุตฺาณาทิ คุณราสิ อาคโตว นาม โหติ, ตสฺมา นิพฺพตฺตสพฺพกิจฺจตฺตา อรหตฺตผลกฺขเณ อุปฺปนฺโน นาม โหติ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต อรหตฺตผลกฺขณํเยว สนฺธาย ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปนฺโน โหตีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ.

พหุชนหิตายาติ มหาชนสฺส หิตตฺถาย อุปฺปชฺชติ. พหุชนสุขายาติ มหาชนสฺส สุขตฺถาย อุปฺปชฺชติ. โลกานุกมฺปายาติ สตฺตโลกสฺส อนุกมฺปํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ. กตรสตฺตโลกสฺสาติ? โย ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อมตปานํ ปิวิ, ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิ, ตสฺส. ภควตา หิ มหาโพธิมณฺเฑ สตฺตสตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา โพธิมณฺฑา อิสิปตนํ อาคมฺม ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺเต (สํ. นิ. ๓.๕; มหาว. ๑๓) เทสิเต อายสฺมตา อฺาสิโกณฺฑฺตฺเถเรน สทฺธึ อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน อมตปานํ ปิวึสุ, เอตสฺส สตฺตโลกสฺส อนุกมฺปาย อุปฺปนฺโน. ปฺจมทิวเส อนตฺตลกฺขณสุตฺตนฺตปริโยสาเน ปฺจวคฺคิยตฺเถรา อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ, เอตสฺสปิ สตฺตโลกสฺส อนุกมฺปาย อุปฺปนฺโน. ตโต ยสทารกปฺปมุเข ปฺจปณฺณาส ปุริเส อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ, ตโต กปฺปาสิกวนสณฺเฑ ตึส ภทฺทวคฺคิเย ตโย มคฺเค จ ผลานิ จ สมฺปาเปสิ, เอตสฺสปิ สตฺตโลกสฺส อนุกมฺปาย อุปฺปนฺโน. คยาสีเส อาทิตฺตปริยายปริโยสาเน (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) ชฏิลสหสฺสํ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ, ตโต ลฏฺิวเน พิมฺพิสารปฺปมุขา เอกาทส นหุตา พฺราหฺมณคหปติกา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, เอกํ นหุตํ สรเณสุ ปติฏฺิตํ. ติโรกุฏฺฏอนุโมทนาวสาเน (ขุ. ปา. ๗. ๑ อาทโย) จตุราสีติยา ปาณสหสฺเสหิ อมตปานํ ปีตํ. สุมนมาลาการสมาคเม จตุราสีติยา, ธนปาลสมาคเม ทสหิ ปาณสหสฺเสหิ, ขทิรงฺคารชาตกสมาคเม จตุราสีติยา ปาณสหสฺเสหิ, ชมฺพุกอาชีวกสมาคเม จตุราสีติยาว, อานนฺทเสฏฺิสมาคเม จตุราสีติยาว ปาณสหสฺเสหิ อมตปานํ ปีตํ. ปาสาณกเจติเย ปารายนสุตฺตกถาทิวเส (สุ. นิ. ๙๘๒ อาทโย) จุทฺทส โกฏิโย อมตปานํ ปิวึสุ. ยมกปาฏิหาริยทิวเส วีสติ ปาณโกฏิโย, ตาวตึสภวเน ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ นิสีทิตฺวา มาตรํ กายสกฺขึ กตฺวา สตฺตปฺปกรณํ อภิธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อสีติ ปาณโกฏิโย, เทโวโรหเณ ตึส ปาณโกฏิโย, สกฺกปฺหสุตฺตนฺเต (ที. นิ. ๒.๓๔๔ อาทโย) อสีติ เทวสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวึสุ. มหาสมยสุตฺตนฺเต (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) มงฺคลสุตฺเต (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) จูฬราหุโลวาเท (ม. นิ. ๓.๔๑๖ อาทโย) สมจิตฺตปฏิปทายาติ (อ. นิ. ๒.๓๓) อิเมสุ จตูสุ าเนสุ อภิสมยปฺปตฺตสตฺตานํ ปริจฺเฉโท นตฺถิ, เอตสฺสปิ สตฺตโลกสฺส อนุกมฺปาย อุปฺปนฺโนติ. ยาวชฺชทิวสา อิโต ปรมฺปิ อนาคเต อิมํ สาสนํ นิสฺสาย สคฺคโมกฺขมคฺเค ปติฏฺหนฺตานํ วเสนปิ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เทวมนุสฺสานนฺติ น เกวลํ เทวมนุสฺสานํเยว, อวเสสานํ นาคสุปณฺณาทีนมฺปิ อตฺถาย หิตาย สุขาเยว อุปฺปนฺโน. สเหตุกปฏิสนฺธิเก ปน มคฺคผลสจฺฉิกิริยาย ภพฺเพ ปุคฺคเล ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺตํ. ตสฺมา เอเตสมฺปิ อตฺถตฺถาย หิตตฺถาย สุขตฺถาเยว อุปฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ.

กตโม เอกปุคฺคโลติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. อิทานิ ตาย ปุจฺฉาย ปุฏฺํ เอกปุคฺคลํ วิภาเวนฺโต ‘‘ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อาห. ตทตฺถปรินิปฺผาทนนฺติ โลกตฺถนิปฺผาทนํ, พุทฺธกิจฺจสมฺปาทนนฺติ อตฺโถ. ปมํ ลุมฺพินีวเน ทุติยํ โพธิมณฺเฑติ ลุมฺพินีวเน รูปกาเยน ชาโต, โพธิมณฺเฑ ธมฺมกาเยน. เอวมาทินาติ อาทิ-สทฺเทน เวรฺชากิตฺตนโต รูปกายสฺส อนุคฺคณฺหนํ ทสฺเสติ, นเฬรุปุจิมนฺทมูลกิตฺตนโต ธมฺมกายสฺส. ตถา ปุริเมน ปราธีนกิริยากรณํ, ทุติเยน อตฺตาธีนกิริยากรณํ. ปุริเมน วา กรุณากิจฺจํ, อิตเรน ปฺากิจฺจํ , ปุริเมน จสฺส ปรมาย อนุกมฺปาย สมนฺนาคมํ, ปจฺฉิเมน ปรมาย อุเปกฺขาย สมนฺนาคมนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ.

ปจฺฉิมโกติ คุเณน ปจฺฉิมโก. อานนฺทตฺเถรํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. สงฺขฺยายปีติ คณนโตปิ. ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ทิฏฺิสีลสามฺสงฺขาตสงฺฆาเตน สมณคเณนา’’ติ. เอตฺถ ปน ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖, ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา, ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔; ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔) เอวํ วุตฺตานฺจ สีลานํ สามฺสงฺขาเตน สงฺฆโต สงฺฆฏิโต สเมโตติ ทิฏฺิสีลสามฺสงฺขาตสงฺฆาโต, สมณคโณ. ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหโตติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ อาทิวจนโต ทิฏฺิสีลานํ นิยตสภาวตฺตา โสตาปนฺนาปิ อฺมฺํ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตา, ปเคว สกทาคามิอาทโย. อริยปุคฺคลา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ทูเร ิตาปิ อตฺตโน คุณสามคฺคิยา สํหตาเยว. ‘‘ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔), ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔) วจนโต ปุถุชฺชนานมฺปิ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาโว ลพฺภติเยว, อิธ ปน อริยสงฺโฆเยว อธิปฺเปโต ‘‘โย ตตฺถ ปจฺฉิมโก, โส โสตาปนฺโน’’ติ วจนโต. เอเตนาติ ‘‘ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหี’’ติ เอเตน วจเนน. อสฺสาติ ปฺจมตฺตสฺส ภิกฺขุสตสฺส. นิรพฺพุโทติอาทีนํ วจนตฺโถ ปรโต เอว อาวิ ภวิสฺสติ.

อสฺโสสีติ เอตฺถ สวนมุปลพฺโภติ อาห ‘‘อสฺโสสีติ สุณิ อุปลภี’’ติ, อฺาสีติ อตฺโถ. โส จายมุปลพฺโภ สวนวเสเนวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน อฺาสี’’ติ. อวธารณผลตฺตา สทฺทปฺปโยคสฺส สพฺพมฺปิ วากฺยํ อนฺโตคธาวธารณนฺติ อาห ‘‘โขติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต’’ติ. อวธารณตฺเถติ ปน อิมินา อนฺโตคธาวธารเณปิ สพฺพสฺมึ วากฺเย อิฏฺโตวธารณตฺถํ โขสทฺทคฺคหณนฺติ ทสฺเสติ. ตเมว อิฏฺโตวธารณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ อวธารณตฺเถนา’’ติอาทิ. อถ ปทปูรณตฺเถน โขสทฺเทน กึปโยชนนฺติ อาห ‘‘ปทปูรเณน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมวา’’ติ. ‘‘อสฺโสสี’’ติ หิ ปทํ โขสทฺเท คหิเต เตน ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ วิย โหนฺตํ ปูริตํ นาม โหติ, เตน จ ปุริมปจฺฉิมปทานิ สิลิฏฺานิ โหนฺติ, น ตสฺมึ อคฺคหิเต, ตสฺมา ปทปูรเณน พฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว ปโยชนํ. มตฺต-สทฺโท เจตฺถ วิเสสนิวตฺติอตฺโถ, เตนสฺส อนตฺถนฺตรทีปนตํ ทสฺเสติ, เอว-สทฺเทน ปน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เอกนฺติกตํ.

เวรฺโชติ เอตฺถ สทฺทลกฺขณานุสาเรน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เวรฺชายํ ชาโต’’ติอาทิ. พฺรหฺมํ อณตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เวโท วุจฺจติ, โส ปน มนฺตพฺรหฺมกปฺปวเสน ติวิโธ. ตตฺถ มนฺตา ปธานมูลภาวโตเยว อฏฺกาทีหิ ปวุตฺตา, อิตเร ปน ตนฺนิสฺสเยน ชาตา, เตน ปธานสฺเสว คหณํ. มนฺเต สชฺฌายตีติ อิรุเวทาทิเก มนฺตสตฺเถ สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิรุเวทาทโย หิ คุตฺตภาสิตพฺพตาย ‘‘มนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิทเมว หีติ อวธารเณน พฺรหฺมโต ชาโตติอาทิกํ นิรุตฺตึ ปฏิกฺขิปติ. ชาติพฺราหฺมณานนฺติ อิมินา อฺเปิ พฺราหฺมณา อตฺถีติ ทสฺเสติ. ทุวิธา หิ พฺราหฺมณา ชาติพฺราหฺมณา วิสุทฺธิพฺราหฺมณา จาติ. อิทานิ ตตฺถ วิสุทฺธิพฺราหฺมณานํ นิรุตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อริยา ปนา’’ติอาทิ.

สมิตปาปตฺตาติ อจฺจนฺตํ อนวเสสโต สวาสนํ สมิตปาปตฺตา. เอวฺหิ พาหิรกอวีตราคเสกฺขาเสกฺขปาปสมณโต ภควโต ปาปสมณํ วิเสสิตํ โหติ. วุตฺตเมวตฺถํ อุทาหรเณน วิภาเวนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. เอตฺถ ปน ‘‘พาหิตปาโปติ พฺราหฺมโณ, สมิตปาปตฺตา สมโณติ วุจฺจตีติ อิทํ ภินฺนคาถาสนฺนิสฺสิตปททฺวยํ เอกโต คเหตฺวา วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ, สมโณติ ปวุจฺจตีติ อิทํ วจนํ คเหตฺวา ‘สมิตตฺตา สมโณติ วุจฺจตี’ติ วุตฺตํ. พาหิตปาโปติ พฺราหฺมโณติ อิทํ ปน อฺสฺมึ คาถาพนฺเธ วุตฺตวจน’’นฺติ. อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ อิธ อนุสฺสวนตฺเถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต’’ติ. ชาติสมุทาคตนฺติ ชาติยา อาคตํ, ชาติสิทฺธนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาลปนมตฺตนฺติ ปิยาลาปวจนมตฺตํ. ปิยสมุทาหารา เหเต โภติ วา อาวุโสติ วา เทวานมฺปิยาติ วา. โภวาที นาม โส โหตีติ โย อามนฺตนาทีสุ ‘‘โภ โภ’’ติ วทนฺโต วิจรติ, โส โภวาที นาม โหตีติ อตฺโถ. สกิฺจโนติ ราคาทีหิ กิฺจเนหิ สกิฺจโน. ราคาทโย หิ สตฺเต กิฺเจนฺติ มทฺทนฺติ ปลิพุนฺธนฺตีติ ‘‘กิฺจนานี’’ติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺสา กิร โคเณหิ ขลํ มทฺทาเปนฺตา ‘‘กิฺเจหิ กปิล, กิฺเจหิ กาฬกา’’ติ วทนฺติ, ตสฺมา มทฺทนฏฺโ กิฺจนฏฺโติ เวทิตพฺโพ.

โคตฺตวเสนาติ เอตฺถ คํ ตายตีติ โคตฺตํ. โคสทฺเทน เจตฺถ อภิธานํ พุทฺธิ จ วุจฺจติ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โคตโมติ ปวตฺตมานํ อภิธานํ พุทฺธิฺจ เอกํสิกวิสยตาย ตายติ รกฺขตีติ โคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น วตฺตติ, เอวํ อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน, ตสฺมา โส โคตฺตสงฺขาโต อตฺโถ ตานิ พุทฺธิอภิธานานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. โส ปน อฺกุลปรมฺปราย อสาธารณํ ตสฺส กุลสฺส อาทิปุริสสมุทาคตํ ตํกุลปริยาปนฺนสาธารณํ สามฺรูปนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ สมโณติ อิมินา สริกฺขกชเนหิ ภควโต พหุมตภาโว ทสฺสิโต สมิตปาปตากิตฺตนโต, โคตโมติ อิมินา โลกิยชเนหิ อุฬารกุลสมฺภูตตาทีปนโต. สกฺยสฺส สุทฺโธทนมหาราชสฺส ปุตฺโต สกฺยปุตฺโต. อิมินา จ อุทิโตทิตวิปุลขตฺติยกุลวิภาวนโต วุตฺตํ ‘‘อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปอทีปน’’นฺติ. สพฺพขตฺติยานฺหิ อาทิภูตมหาสมฺมตมหาราชโต ปฏฺาย อสมฺภินฺนํ อุฬารตมํ สกฺยราชกุลํ. เกนจิ ปาริชุฺเน อนภิภูโตติ าติปาริชุฺโภคปาริชุฺาทินา เกนจิ ปาริชุฺเน ปริหานิยา อนภิภูโต อนชฺโฌตฺถโฏ. ตถา หิ โลกนาถสฺส อภิชาติยํ ตสฺส กุลสฺส น กิฺจิ ปาริชุฺํ, อถ โข วฑฺฒิเยว. อภินิกฺขมเน จ ตโต สมิทฺธตมภาโว โลเก ปากโฏ ปฺาโต. เตน ‘‘สกฺยกุลา ปพฺพชิโต’’ติ อิทํ วจนํ ภควโต สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนตฺถํ วุตฺตํ มหนฺตํ าติปริวฏฺฏํ มหนฺตฺจ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ปพฺพชิตภาวสิทฺธิโต. ตโต ปรนฺติ ‘‘เวรฺชายํ วิหรตี’’ติอาทิ.

อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อิตฺถํ อิมํ ปการํ ภูโต อาปนฺโนติ อิตฺตมฺภูโต, ตสฺส อาขฺยานํ อิตฺถมฺภูตาขฺยานํ, โสเยว อตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ. อถ วา อิตฺถํ เอวํ ปกาโร ภูโต ชาโตติ เอวํ กถนตฺโถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺโถ, ตสฺมึ อุปโยควจนนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อพฺภุคฺคโตติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตโก อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปฺปการสฺส ทีปนโต. เตน โยคโต ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ อิทํ อุปโยควจนํ สามิอตฺเถปิ สมานํ อิตฺถมฺภูตาขฺยานทีปนโต ‘‘อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ตสฺส โข ปน โภโต โคตมสฺสาติ อตฺโถ’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ‘‘สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภี’’ติ เอตฺถ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนํ กตํ, เอวมิธาปิ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ อภิ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อุคฺคโตติ อภิสทฺทโยคโต อิตฺถมฺภูตาขฺยาเน อุปโยควจนนฺติ. ‘‘สาธุ เทวทตฺโต มาตรมภี’’ติ เอตฺถ หิ ‘‘เทวทตฺโต มาตรมภิ มาตริ วิสเย มาตุยา วา สาธู’’ติ เอวํ อธิกรณตฺเถ สามิอตฺเถ วา ภุมฺมวจนสฺส วา สามิวจนสฺส วา ปสงฺเค อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถโชตเกน อภิสทฺเทน โยเค อุปโยควจนํ กตํ. ยถา เจตฺถ ‘‘เทวทตฺโต มาตุ วิสเย มาตุสมฺพนฺธี วา สาธุตฺตปฺปการปฺปตฺโต’’ติ อยมตฺโถ วิฺายติ , เอวมิธาปิ ‘‘โภโต โคตมสฺส สมฺพนฺธี กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต อภิภวิตฺวา อุคฺคมนปฺปการปฺปตฺโต’’ติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตตฺถ หิ เทวทตฺตคฺคหณํ วิย อิธ กิตฺติสทฺทคฺคหณํ, ตถา ตตฺถ ‘‘มาตร’’นฺติ วจนํ วิย อิธ ‘‘ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตม’’นฺติ วจนํ, ตตฺถ สาธุสทฺทคฺคหณํ วิย อิธ อุคฺคตสทฺทคฺคหณํ เวทิตพฺพํ.

กลฺยาโณติ ภทฺทโก. กลฺยาณภาโว จสฺส กลฺยาณคุณวิสยตายาติ อาห ‘‘กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต’’ติ, กลฺยาเณหิ คุเณหิ สมนฺนาคโต ตํวิสยตาย ยุตฺโตติ อตฺโถ. ตํวิสยตา เหตฺถ สมนฺนาคโม กลฺยาณคุณวิสยตาย ตนฺนิสฺสิโตติ อธิปฺปาโย. เสฏฺโติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เสฏฺคุณวิสยตาย เอว หิ กิตฺติสทฺทสฺส เสฏฺตา ‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺ’’นฺติอาทีสุ วิย. ‘‘ภควา อรห’’นฺติอาทินา คุณานํ สํกิตฺตนโต สทฺทนียโต จ กิตฺติสทฺโท วณฺโณติ อาห ‘‘กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติ เอวา’’ติ. วณฺโณเยว หิ กิตฺเตตพฺพโต กิตฺติสทฺทนียโต สทฺโทติ จ วุจฺจติ. กิตฺติปริยาโย หิ สทฺทสทฺโท ยถา ‘‘อุฬารสทฺทา อิสโย, คุณวนฺโต ตปสฺสิโน’’ติ. อภิตฺถวนวเสน ปวตฺโต สทฺโท ถุติโฆโส, อภิตฺถวุทาหาโร.

‘‘อพฺภุคฺคโต’’ติ ปน เอตสฺส อตฺโถ อฏฺกถายํ น ทสฺสิโต, ตสฺมา ตสฺสตฺโถ เอวํ เวทิตพฺโพ – อพฺภุคฺคโตติ อภิภวิตฺวา อุคฺคโต, อนฺสาธารณคุเณ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ปวตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. กินฺติ สทฺโท อพฺภุคฺคโตติ อาห ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทิ. อิโต ปรํ ปน อีทิเสสุ าเนสุ ยตฺถ ยตฺถ ปาฬิปาสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ สิยา, ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ปาฬิยํ ปนา’’ติ วตฺวา อตฺถํ ทสฺสยิสฺสาม, อิทานิ ตตฺถ ปทโยชนาปุพฺพกํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิติปิ โส ภควาติอาทีสุ ปนอยํ ตาว โยชนา’’ติอาทิ. โส ภควาติ โย โส สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา โลกนาโถ ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ ภควาติ ลทฺธนาโม, โส ภควา. ภควาติ หิ อิทํ สตฺถุ นามกิตฺตนํ. เตนาห อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กต’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๘๔). ปรโต ปน ภควาติ คุณกิตฺตนเมว. ยถา กมฺมฏฺานิเกน ‘‘อรห’’นฺติอาทีสุ นวสุ าเนสุ ปจฺเจกํ อิติปิสทฺทํ โยเชตฺวา พุทฺธคุณา อนุสฺสรียนฺติ, เอวํ พุทฺธคุณสํกิตฺตเกนปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติปิ อรหํ อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควา’’ติ อาห. เอวฺหิ สติ ‘‘อรห’’นฺติอาทีหิ นวหิ ปเทหิ เย สเทวเก โลเก อติวิย ปากฏา ปฺาตา พุทฺธคุณา, เต นานปฺปการโต วิภาวิตา โหนฺติ. ‘‘อิติเปตํ ภูตํ, อิติเปตํ ตจฺฉ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๖) วิย หิ อิธ อิติ-สทฺโท อาสนฺนปจฺจกฺขการณตฺโถ , ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน จ เตสํ คุณานํ พหุภาโว ทีปิโต, ตานิ จ คุณสลฺลกฺขณการณานิ สทฺธาสมฺปนฺนานํ วิฺุชาติกานํ ปจฺจกฺขานิ โหนฺตีติ ตานิ สํกิตฺเตนฺเตน วิฺุนา จิตฺตสฺส สมฺมุขีภูตาเนว กตฺวา สํกิตฺเตตพฺพานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห.

‘‘สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ, สุตฺตานุรูปํ ปริทีปยนฺตี’’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕-๑๒๘) สพฺพาการโต สํวณฺณิตมฺปิ อตฺถํ อิธาปิ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุกาโม ตตฺถ ปโยชนมาห ‘‘อิทานิ วินยธราน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ จิตฺตสมฺปหํสนตฺถนฺติ จิตฺตสนฺโตสนตฺถํ, จิตฺตปฺปสาทชนนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อารกตฺตา’’ติอาทีสุ อารกตฺตาติ สุวิทูรตฺตา. อรีนนฺติ กิเลสารีนํ. อรานนฺติ สํสารจกฺกสฺส อรานํ. หตตฺตาติ วิทฺธํสิตตฺตา. ปจฺจยาทีนนฺติ จีวราทิปจฺจยานฺเจว ปูชาวิเสสานฺจ.

อิทานิ ยถาวุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘อารกา หิ โส’’ติอาทิ. ทูรตา นาม อาสนฺนตา วิย อุปาทายุปาทาย วุจฺจตีติ ปรมุกฺกํสคตํ ทูรภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุวิทูรวิทูเร ิโต’’ติ อาห, สุฏฺุ วิทูรภาเวเนว วิทูเร ิโตติ อตฺโถ. โส ปนสฺส กิเลเสหิ ทูเร ิตภาโว, น ปเทสวเสน, อถ โข เตสํ สพฺพโส ปหีนตฺตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มคฺเคน กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตา’’ติ. นนุ อฺเสมฺปิ ขีณาสวานํ เต ปหีนา เอวาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สวาสนาน’’นฺติ. น หิ เปตฺวา ภควนฺตํ อฺเ สห วาสนาย กิเลเส ปหาตุํ สกฺโกนฺติ. เอเตน อฺเหิ อสาธารณํ ภควโต อรหตฺตนฺติ ทสฺสิตํ โหติ. กา ปนายํ วาสนา นาม? ปหีนกิเลสสฺสปิ อปฺปหีนกิเลสสฺส ปโยคสทิสปโยคเหตุภูโต กิเลสนิสฺสิโต สามตฺถิยวิเสโส อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วสลสมุทาจารนิมิตฺตํ วิย. กถํ ปน ‘‘อารกา’’ติ วุตฺเต ‘‘กิเลเสหี’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ สามฺโจทนาย วิเสเส อวฏฺานโต วิเสสตฺถินา จ วิเสสสฺส อนุปยุชฺชิตพฺพโต ‘‘อารกาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๑.๔๓๔) สุตฺตปทาเนตฺถ อุทาหริตพฺพานิ. อารกาติ เจตฺถ อา-การสฺส รสฺสตฺตํ, -การสฺส จ หการํ สานุสารํ กตฺวา นิรุตฺตินเยน ‘‘อรห’’นฺติ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ยถาวุตฺตสฺเสวตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ อิทเมตฺถ วุจฺจติ –

‘‘โส ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;

อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๕);

อนตฺถจรเณน กิเลสา เอว อรโยติ กิเลสารโย. อรีนํ หตตฺตา อริหาติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘อรห’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถาปิ ยถาวุตฺตสฺสตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ อิทํ เวทิตพฺพํ –

‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;

ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๖);

ยฺเจตํ สํสารจกฺกนฺติ สมฺพนฺโธ. รถจกฺกสฺส นาภิ วิย มูลาวยวภูตํ อนฺโต พหิ จ สมวฏฺิตํ อวิชฺชาภวตณฺหาทฺวยนฺติ วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภี’’ติ. นาภิยา เนมิยา จ สมฺพทฺธอรสทิสา ปจฺจยผลภูเตหิ อวิชฺชาตณฺหาชรามรเณหิ สมฺพทฺธา ปุฺาภิสงฺขารอปุฺาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขาราติ วุตฺตํ ‘‘ปุฺาทิอภิสงฺขาราร’’นฺติ. ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปริยนฺตภาเวน ปากฏํ ชรามรณนฺติ ตํ เนมิฏฺานิยํ กตฺวา อาห ‘‘ชรามรณเนมี’’ติ. ยถา รถจกฺกปฺปวตฺติยา ปธานการณํ อกฺโข, เอวํ สํสารจกฺกปฺปวตฺติยา อาสวสมุทโยติ อาห ‘‘อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา’’ติ. อาสวา เอว อวิชฺชาทีนํ การณตฺตา อาสวสมุทโย. ยถาห ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓). วิปากกฏตฺตารูปปฺปเภโท กามภวาทิโก ติภโว เอว รโถ, ตสฺมึ ติภวรเถ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ สมํ, สพฺพโส วา อาทิโต ปฏฺาย โยชิตนฺติ สมาโยชิตํ. อาทิรหิตํ กาลํ ปวตฺตตีติ กตฺวา อนาทิกาลปฺปวตฺตํ.

‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๙; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙) –

เอวํ วุตฺตสํสาโรว สํสารจกฺกํ. อเนนาติ ภควตา. โพธิมณฺเฑติ โพธิสงฺขาตสฺส าณสฺส มณฺฑภาวปฺปตฺเต าเน กาเล วา. โพธีติ ปฺา, สา เอตฺถ มณฺฑา ปสนฺนา ชาตาติ โพธิมณฺโฑ. วีริยปาเทหีติ สํกิเลสโวทานปกฺขิเยสุ สนฺนิรุมฺภนสนฺนิกฺขิปนกิจฺจตาย ทฺวิธา ปวตฺเตติ อตฺตโน วีริยสงฺขาเตหิ ปาเทหิ. สีลปถวิยนฺติ ปติฏฺานฏฺเน สีลเมว ปถวี, ตสฺสํ. ปติฏฺายาติ สมฺปาทนวเสน ปติฏฺหิตฺวา. สทฺธาหตฺเถนาติ อนวชฺชธมฺมาทานสาธนโต สทฺธาว หตฺโถ, เตน. กมฺมกฺขยกรนฺติ กายกมฺมาทิเภทสฺส สพฺพสฺสปิ กมฺมสฺส ขยกรณโต กมฺมกฺขยกรํ. าณผรสุนฺติ สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ มคฺคาณผรสุํ คเหตฺวา.

เอวํ ‘‘อรานํ หตตฺตา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ อรสงฺขาตํ สํสารํ จกฺกํ วิย จกฺกนฺติ คเหตฺวา อตฺถโยชนํ กตฺวา อิทานิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนากฺกเมนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนมตคฺคสํสารวฏฺฏนฺติ อนุ อนุ อมตคฺคํ อวิฺาตปุพฺพโกฏิกํ สํสารมณฺฑลํ. เสสา ทส ธมฺมาติ สงฺขาราทโย ชาติปริโยสานา ทส ธมฺมา. กถํ เตสํ สงฺขาราทีนํ อรภาโวติ อาห ‘‘อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริยนฺตตฺตา จา’’ติ. ตตฺถ อวิชฺชา มูลํ ปธานการณํ เยสํ สงฺขาราทีนํ เต อวิชฺชามูลกา, เตสํ ภาโว อวิชฺชามูลกตฺตํ. ชรามรณํ ปริยนฺตํ ปริโยสานภูตํ เอเตสนฺติ ชรามรณปริยนฺตา, สงฺขาราทโย ทส ธมฺมา. เตสํ ภาโว ชรามรณปริยนฺตตฺตํ. สงฺขาราทิชาติปริโยสานานํ ทสธมฺมานํ อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริโยสานตฺตา จาติ อตฺโถ, นาภิภูตาย อวิชฺชาย มูลโต เนมิภูเตน ชรามรเณน อนฺตโต สงฺขาราทีนํ สมฺพนฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ทุกฺขาทีสูติ ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺเคสุ. อฺาณนฺติ าณปฺปฏิปกฺขตฺตา โมโห อฺาณํ, น ปน าณโต อฺํ, นปิ าณสฺส อภาวมตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ ยถาสภาวปฺปฏิเวธาปฺปทานโต ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสเนว. เอตฺถ หิ กิฺจาปิ เปตฺวา โลกุตฺตรสจฺจทฺวยํ เสสฏฺาเนสุ อารมฺมณวเสนปิ อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิจฺฉาทนวเสเนว อิธ อธิปฺเปตา. สา หิ อุปฺปนฺนา ทุกฺขสจฺจํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ติฏฺติ, ยาถาวสรสลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ตถา สมุทยํ นิโรธํ มคฺคนฺติ.

ทุกฺขนฺติ เจตฺถ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ อธิปฺเปตนฺติ ตํ กามภวาทิวเสน ติธา ภินฺทิตฺวา ตถา ตปฺปฏิจฺฉาทิกฺจ อวิชฺชํ ติธา กตฺวา อวิชฺชาทิปจฺจเย ตีสุ ภเวสุ สงฺขาราทิเก ปฏิปาฏิยา ทสฺเสนฺโต ‘‘กามภเว จ อวิชฺชา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามภเว จ อวิชฺชาติ กามภเว อาทีนวปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา. รูปภเว อวิชฺชา อรูปภเว อวิชฺชาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กามภเว สงฺขารานนฺติ กามภูมิปริยาปนฺนานํ ปุฺาปุฺสงฺขารานํ, กามภเว วา นิปฺผาเทตพฺพา เย ปุฺาปุฺสงฺขารา, เตสํ กามภวูปปตฺตินิพฺพตฺตกสงฺขารานนฺติ อตฺโถ. สงฺขาราติ เจตฺถ โลกิยกุสลากุสลเจตนา เวทิตพฺพา. ปจฺจโย โหตีติ ปุฺาภิสงฺขารานํ ตาว อารมฺมณปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย โหติ, อปุฺาภิสงฺขาเรสุ สหชาตสฺส สหชาตาทิวเสน, อสหชาตสฺส อนนฺตรสมนนฺตราทิวเสน, อนานนฺตรสฺส ปน อารมฺมณวเสน เจว อุปนิสฺสยวเสน จ ปจฺจโย โหติ. อรูปภเว สงฺขารานนฺติ อาเนฺชาภิสงฺขารานํ. ปจฺจโย โหตีติ อุปนิสฺสยปจฺจยวเสเนว. อิมสฺมิฺจ ปนตฺเถ เอตฺถ วิตฺถาริยมาเน อติปฺปปฺโจ โหติ, ตสฺมา ตํ นยิธ วิตฺถารยิสฺสาม. อิตเรสูติ รูปารูปภเวสุ.

ติณฺณํอายตนานนฺติ จกฺขุโสตมนายตนานํ ฆานาทิตฺตยสฺส ตตฺถ อสมฺภวโต. เอกสฺสาติ มนายตนสฺส อิตเรสํ ตตฺถ อสมฺภวโต. อิมินา นเยน ติณฺณํ ผสฺสานนฺติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺสาติ จกฺขุสมฺผสฺสโสตสมฺผสฺสฆานสมฺผสฺสชิวฺหาสมฺผสฺสกายสมฺผสฺสมโนสมฺผสฺสานํ วเสน ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺส. ฉนฺนํ เวทนานนฺติ จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา, ตถา โสตสมฺผสฺสชา ฆานสมฺผสฺสชา ชิวฺหาสมฺผสฺสชา กายสมฺผสฺสชา มโนสมฺผสฺสชา เวทนาติ อิมาสํ ฉนฺนํ เวทนานํ. ฉนฺนํ ตณฺหากายานนฺติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ. ตตฺถ ตตฺถ สา สา ตณฺหาติ รูปตณฺหาทิเภทา ตตฺถ ตตฺถ กามภวาทีสุ อุปฺปชฺชนกตณฺหา.

สา ตณฺหาทิมูลิกา กถา อติสํขิตฺตาติ ตํ อุปาทานภเว จ วิภชิตฺวา วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กาเม ปริภุฺชิสฺสามีติ อิมินา กามตณฺหาปวตฺติมาห, ตถา สคฺคสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามีติอาทีหิ. สา ปน ตณฺหา ยสฺมา ภุสมาทานวเสน ปวตฺตมานา กามุปาทานํ นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กามุปาทานปจฺจยา’’ติ. ตเถวาติ กามุปาทานปจฺจยา เอว. พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตินฺติ รูปีพฺรหฺมโลเก สมฺปตฺตึ. ‘‘สพฺเพปิ เตภูมกา ธมฺมา กามนียฏฺเน กามา’’ติ วจนโต ภวราโคปิ กามุปาทานเมวาติ กตฺวา ‘‘กามุปาทานปจฺจยา เอว เมตฺตํ ภาเวตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เมตฺตํ ภาเวตีติ มิชฺชติ สินิยฺหตีติ เมตฺตา, ตํ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อตฺโถ. อถ วา เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, จิตฺตํ, ตํสมฺปยุตฺตํ ฌานํ วา, ตํ ภาเวติ วฑฺเฒติ อุปฺปาเทติ วาติ อตฺโถ. กรุณํ ภาเวตีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เสสุปาทานมูลิกาสุปีติ ทิฏฺุปาทานสีลพฺพตุปาทานอตฺตวาทุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ เอเสว นโยติ อตฺโถ. ตตฺถายํ โยชนา – อิเธกจฺโจ ‘‘นตฺถิ ปรโลโก’’ติ นตฺถิกทิฏฺึ คณฺหาติ, โส ทิฏฺุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทิ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. อปโร ‘‘อสุกสฺมึ สมฺปตฺติภเว อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ, โส ตตฺรูปปตฺติยา กาเยน สุจริตํ จรตีติอาทิ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. อปโร ‘‘รูปี มโนมโย หุตฺวา อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ภาวนาปาริปูริยาติ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อปโรปิ ‘‘อรูปภเว อุปฺปชฺชิตฺวา อตฺตา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อรูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ภาวนาปาริปูริยาติ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอตาหิเยว อตฺตวาทุปาทานมูลิกาปิ โยชนา สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทวเสนปิ โยชนา เวทิตพฺพา. อปโร ‘‘สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธี’’ติ อสุทฺธิมคฺคํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปรามสนฺโต สีลพฺพตุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรตีติอาทิ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ.

อิทานิ ยฺวายํ สํสารจกฺกํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘กามภเว อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหตี’’ติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยภาโว สงฺขาราทีนํ ปจฺจยุปฺปนฺนภาโว จ ทสฺสิโต, ตเมว ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ อาเนตฺวา นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวมย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา สงฺขารา เหตุนิพฺพตฺตา, เอวํ อวิชฺชาปิ กามาสวาทินา สเหตุกา เอวาติ อาห ‘‘อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติ. ปจฺจยปริคฺคเหติ นามรูปสฺส ปจฺจยานํ อวิชฺชาทีนํ ปริจฺฉิชฺช คหเณ. นิปฺผาเทตพฺเพ ภุมฺมํ. ปฺาติ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิสงฺขาตา ปการโต ชานนา. ธมฺมฏฺิติาณนฺติ ติฏฺนฺติ เอตฺถ ผลธมฺมา ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ิติ, การณํ, ธมฺมานํ ิติ ธมฺมฏฺิติ, ธมฺมฏฺิติยา าณํ ธมฺมฏฺิติาณํ, ปจฺจยาณนฺติ อตฺโถ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทาวโพโธติ วุตฺตํ โหติ. กามฺเจตฺถ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺาเยว ธมฺมฏฺิติาณํ, สงฺขาเรสุ ปน อทิฏฺเสุ อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยภาโว น สกฺกา ทฏฺุนฺติ ‘‘สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา’’ติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานมฺปิ คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนาติ อิทํ ปน อุภินฺนมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวํ ทสฺเสตุกามตาย วุตฺตํ. อิทฺจ ธมฺมฏฺิติาณํ ยสฺมา อทฺธตฺตเย กงฺขามลวิตรณวเสน ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘อตีตมฺปิ อทฺธาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอเตน นเยน สพฺพปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานีติ เอเตน นเยน ‘‘อวิชฺชา เหตู’’ติอาทินา อวิชฺชายํ วุตฺตนเยน ‘‘สงฺขารา เหตุ, วิฺาณํ เหตุสมุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา สพฺพปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ.

สํขิปฺปนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขโป, เหตุ วิปาโก จ. อถ วา เหตุวิปาโกติ สํขิปฺปตีติ สงฺเขโป, อวิชฺชาทโย วิฺาณาทโย จ. สงฺเขปภาวสามฺเน ปน เอกวจนํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ . เต ปน สงฺเขปา อตีเต เหตุ, เอตรหิ วิปาโก, เอตรหิ เหตุ, อายตึ วิปาโกติ เอวํ กาลวิภาเคน จตฺตาโร ชาตา, เตนาห ‘‘ปุริมสงฺเขโป เจตฺถ อตีโต อทฺธา’’ติอาทิ. ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธาติ สมฺพนฺโธ. ตณฺหุปาทานภวา คหิตาว โหนฺตีติ เอตฺถ อวิชฺชาคหเณน กิเลสภาวสามฺโต ตณฺหุปาทานา คหิตา, สงฺขารคฺคหเณน กมฺมภาวสามฺโต ภโว คหิโต, อวิชฺชาสงฺขารานํ เตหิ วินา สกิจฺจากรณโต จ ตณฺหุปาทานภวา คหิตาว โหนฺติ. อถ วา อวิทฺวา ปริตสฺสติ, ปริตสิโต อุปาทิยติ, ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ตสฺมา ตณฺหุปาทานภวาปิ คหิตา โหนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา. นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว, อิติ อิเม ปฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗).

ตตฺถ (วิภ. อฏฺ. ๒๔๒; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๔๗) ปุริมกมฺมภวสฺมินฺติ ปุริเม กมฺมภเว, อตีตชาติยํ กมฺมภเว กริยมาเนติ อตฺโถ. โมโห อวิชฺชาติ โย ตทา ทุกฺขาทีสุ โมโห เยน มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชา. อายูหนา สงฺขาราติ ตํ กมฺมํ กโรโต ยา ปุริมเจตนาโย, ยถา ‘‘ทานํ ทสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ ทานูปกรณานิ สชฺเชนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ปุริมเจตนาโย, ปฏิคฺคาหกานํ ปน หตฺเถ ทกฺขิณํ ปติฏฺาปยโต เจตนา ภโวติ วุจฺจติ. เอกาวชฺชเนสุ วา ฉสุ ชวเนสุ เจตนา อายูหนสงฺขารา นาม, สตฺตมา ภโว. ยา กาจิ วา ปน เจตนา ภโว, สมฺปยุตฺตา อายูหนสงฺขารา นาม. นิกนฺติ ตณฺหาติ ยา กมฺมํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ผเล อุปปตฺติภเว นิกามนา ปตฺถนา, สา ตณฺหา นาม. อุปคมนํ อุปาทานนฺติ ยํ กมฺมภวสฺส ปจฺจยภูตํ ‘‘อิทํ กตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน กาเม เสวิสฺสามิ อุจฺฉิชฺชิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตํ อุปคมนํ คหณํ ปรามสนํ, อิทํ อุปาทานํ นาม. เจตนา ภโวติ ‘‘ตํ กมฺมํ กโรโต ยา ปุริมา เจตนาโย’’ติอาทินา เหฏฺา วุตฺเตสุ ตีสุ อตฺถวิกปฺเปสุ ยา เจตนา ภโวติ วุตฺตา, สา เจตนา ภโวติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อิทานิ สพฺเพเปเต อวิชฺชาทโย ธมฺเม ทฺวีหิ วฏฺเฏหิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘อิเม ปฺจ ธมฺมา อตีเต กมฺมวฏฺฏ’’นฺติ. เอตฺถ จ นิปฺปริยายโต สงฺขารา ภโว จ กมฺมํ, อวิชฺชาทโย ปน กมฺมสหายตาย กมฺมสริกฺขกา ตทุปการกา จาติ กมฺมนฺติ วุตฺตา. อวิชฺชาทโย หิ วิปากธมฺมธมฺมตาย กมฺมสริกฺขกา สหชาตโกฏิยา อุปนิสฺสยโกฏิยา จ กมฺมสฺส จ อุปการกา. กมฺมเมว จ อฺมฺสมฺพนฺธํ หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺตนฏฺเน กมฺมวฏฺฏํ. วิฺาณาทโย ปฺจาติ วิฺาณาทโย เวทนาปริยนฺตา ปฺจ เอตรหิ อิทานิ อิมสฺมึ อตฺตภาเวติ วุตฺตํ โหติ. อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาว โหนฺตีติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วิย กิเลสกมฺมภาวสามฺโต ตณฺหุปาทานคฺคหเณน อวิชฺชา คหิตา, ภวคฺคหเณน สงฺขารา คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา ภเว คหิเต ตสฺส ปุพฺพภาคา ตํสมฺปยุตฺตา วา สงฺขารา คหิตาว โหนฺติ , ตณฺหุปาทานคฺคหเณน จ ตํสมฺปยุตฺตา ยาย วา มูฬฺโห กมฺมํ กโรติ, สา อวิชฺชาว โหตีติ ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาว โหนฺติ. เตเนว วุตฺตํ –

‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโว, อิติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อิธ กมฺมภวสฺมึ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๗).

ตตฺถ อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานนฺติ ปริปกฺกายตนสฺส กมฺมกรณกาเล สมฺโมโห ทสฺสิโต. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนานํ ชาติชราภงฺคาวตฺถา ชาติชรามรณนฺติ วุตฺตาติ อวตฺถานํ คหเณน อวตฺถาวนฺตา คหิตาว โหนฺติ ตทวินาภาวโตติ อาห ‘‘ชาติชรามรณาปเทเสน วิฺาณาทีนํ นิทฺทิฏฺตฺตา’’ติ. อปเทเสนาติ ชาติชรามรณานํ กถเนน. อิเมติ วิฺาณาทโย. อายตึ วิปากวฏฺฏนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนเหตุโต ภาวีนํ อนาคตานํ คหิตตฺตา. เตติ อวิชฺชาทโย. อาการโตติ สรูปโต อวุตฺตาปิ ตสฺมึ ตสฺมึ สงฺคเห อากิรียนฺติ อวิชฺชาสงฺขาราทิคฺคหเณหิ ปกาสียนฺตีติ อาการา, อตีตเหตุอาทีนํ วา ปการา อาการา . ตโต อาการโต. วีสติวิธา โหนฺตีติ อตีเต เหตุปฺจกาทิเภทโต วีสติวิธา โหนฺติ.

สงฺขารวิฺาณานฺเจตฺถ อนฺตรา เอโก สนฺธีติ เหตุโต ผลสฺส อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต เหตุผลสฺส สมฺพนฺธภูโต เอโก สนฺธิ, ตถา ภวชาตีนมนฺตรา. เวทนาตณฺหานมนฺตรา ปน ผลโต เหตุโน อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต ผลเหตุสมฺพนฺธภูโต เอโก สนฺธิ. ผลภูโตปิ หิ ธมฺโม อฺสฺส เหตุสภาวสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโย โหตีติ.

อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. เตนาห ‘‘จตุสงฺเขป’’นฺติอาทิ. สพฺพาการโตติ อิธ วุตฺเตหิ จ อวุตฺเตหิ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานาทีสุ จ อาคเตหิ สพฺเพหิ อากาเรหิ. ชานาตีติ อวพุชฺฌติ. ปสฺสตีติ ทสฺสนภูเตน าณจกฺขุนา ปจฺจกฺขโต ปสฺสติ. อฺาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เตสํเยว เววจนํ. นฺติ ตํ ชานนํ. าตฏฺเนาติ ยถาสภาวโต ชานนฏฺเน. ปชานนฏฺเนาติ อนิจฺจาทีหิ ปกาเรหิ ปฏิวิชฺฌนฏฺเน.

อิทานิ ยทตฺถมิทํ ภวจกฺกํ อิธานีตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมินา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เต ธมฺเมติ เต อวิชฺชาทิเก ธมฺเม. ยถาภูตํ ตฺวาติ มหาวชิราเณน ยาถาวโต ชานิตฺวา. นิพฺพินฺทนฺโตติ พลววิปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต. วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโตติ อริยมคฺเคหิ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต. อเร หนีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ยทา ภควา วิรชฺชติ วิมุจฺจติ, ตทา อเร หนติ นาม. ตโต ปรํ ปน อภิสมฺพุทฺธกฺขณํ คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘หนิ วิหนิ วิทฺธํเสสี’’ติ. เอวมฺปิ อรานํ หตตฺตา อรหนฺติ เอวํ อิมินาปิ ปกาเรน ยถาวุตฺตสํสารจกฺกสฺส สงฺขาราทิอรานํ หตตฺตา อรหํ. เอตฺเถทํ วุจฺจติ –

‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;

โลกนาเถน เตเนส, อรหนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๘);

อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตาติ อุตฺตมทกฺขิเณยฺยภาวโต. จกฺกวตฺติโน อเจตเน จกฺกรตเน อุปฺปนฺเน ตตฺเถว โลโก ปูชํ กโรติ, อฺตฺถ ปูชาวิเสสา ปจฺฉิชฺชนฺติ, กิมงฺคํ ปน สมฺมาสมฺพุทฺเธ อุปฺปนฺเนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปนฺเนตถาคเต’’ติอาทิมาห. ‘‘เอเกกํ ธมฺมกฺขนฺธํ เอเกกวิหาเรน ปูเชสฺสามี’’ติ วุตฺเตปิ สตฺถารํเยว อุทฺทิสฺส กตตฺตา ‘‘ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ยถาวุตฺตโต อฺเสํ อมเหสกฺเขหิ เทวมนุสฺเสหิ กริยมานานํ นาติอุฬารานํ ปูชาวิเสสานํ อรหภาเว กา นาม กถา. ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหนฺติ ยถาวุตฺตจีวราทิปจฺจยานํ ปูชาวิเสสสฺส จ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวน อนุจฺฉวิกตฺตาปิ อรหํ. อิมสฺสปิ อตฺถสฺส สุขคฺคหณตฺถํ อิทํ วุจฺจติ –

‘‘ปูชาวิเสสํ สห ปจฺจเยหิ,

ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;

อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก,

ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมต’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๙);

อสิโลกภเยนาติ อกิตฺติภเยน, อยสภเยน ครหาภเยนาติ วุตฺตํ โหติ. รโห ปาปํ กโรนฺตีติ ‘‘มา นํ โกจิ ชฺา’’ติ รหสิ ปาปํ กโรนฺติ. เอวเมส น กทาจิ กโรตีติ เอส ภควา ปาปเหตูนํ โพธิมณฺเฑเยว สุปฺปหีนตฺตา กทาจิปิ เอวํ น กโรติ. โหติ เจตฺถ –

‘‘ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;

รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๐);

อิทานิ สุขคฺคหณตฺถํ ยถาวุตฺตมตฺถํ สพฺพมฺปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โหติ เจตฺถา’’ติอาทิ. กิเลสารีน โส มุนีติ เอตฺถ คาถาพนฺธสุขตฺถํ นิคฺคหีตโลโป ทฏฺพฺโพ, กิเลสารีนํ หตตฺตาติ อตฺโถ. ปจฺจยาทีน จารโหติ เอตฺถาปิ นิคฺคหีตโลโป วุตฺตนเยเนว ทฏฺพฺโพ.

อรหนฺติ เอตฺถ อยมปโรปิ นโย ทฏฺพฺโพ – อารกาติ อรหํ, สุวิทูรภาวโต อิจฺเจว อตฺโถ. กุโต ปน สุวิทูรภาวโตติ? เย อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปฺา, ตโต เอว อปฺปหีนราคโทสโมหา อริยธมฺมสฺส อโกวิทา อริยธมฺเม อวินีตา อริยธมฺมสฺส อทสฺสาวิโน อปฺปฏิปนฺนา มิจฺฉาปฏิปนฺนา จ, ตโต สุวิทูรภาวโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ เจปิ เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย, อถ โข โส อารกาว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปสฺสติ, ธมฺมํ อปสฺสนฺโต น มํ ปสฺสตี’’ติ (อิติวุ. ๙๒).

ยถาวุตฺตปุคฺคลา หิ สเจปิ สายํปาตํ สตฺถุ สนฺติกาวจราว สิยุํ, น เต ตาวตา ‘‘สตฺถุ สนฺติกา’’ติ วตฺตพฺพา, ตถา สตฺถาปิ เนสํ. อิติ อสปฺปุริสานํ อารกา ทูเรติ อรหํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘สมฺมา น ปฏิปชฺชนฺติ, เย นิหีนาสยา นรา;

อารกา เตหิ ภควา, ทูเร เตนารหํ มโต’’ติ.

ตถา อารกาติ อรหํ, อาสนฺนภาวโตติ อตฺโถ. กุโต ปน อาสนฺนภาวโตติ? เย ภาวิตกายา ภาวิตสีลา ภาวิตจิตฺตา ภาวิตปฺา, ตโต เอว ปหีนราคโทสโมหา อริยธมฺมสฺส โกวิทา อริยธมฺเม สุวินีตา อริยธมฺมสฺส ทสฺสาวิโน สมฺมาปฏิปนฺนา, ตโต อาสนฺนภาวโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –

‘‘โยชนสเต เจปิ เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย, โส จ โหติ อนภิชฺฌาลุ กาเมสุ น ติพฺพสาราโค อพฺยาปนฺนจิตฺโต อปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย, อถ โข โส สนฺติเกว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสติ, ธมฺมํ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสตี’’ติ (อิติวุ. ๙๒).

ตถารูปา หิ ปุคฺคลา สตฺถุ โยชนสตนฺตริกาปิ โหนฺติ, น ตาวตา เต ‘‘สตฺถุ ทูรจาริโน’’ติ วตฺตพฺพา, ตถา สตฺถาปิ เนสํ. อิติ สปฺปุริสานํ อารกา อาสนฺเนติ อรหํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘เย สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ, สุปฺปณีตาธิมุตฺติกา;

อารกา เตหิ อาสนฺเน, เตนาปิ อรหํ ชิโน’’ติ.

เย อิเม ราคาทโย ปาปธมฺมา ยสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ อนตฺถํ อาวหนฺติ, นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย เอกํเสเนว อุชุวิปจฺจนีกภูตา จ, เต อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ ปริปูเรตุํ สมฺมา ปฏิปชฺชนฺเตหิ สาธูหิ ทูรโต รหิตพฺพา ปริจฺจชิตพฺพา ปหาตพฺพาติ รหา นาม, เต จ ยสฺมา ภควโต โพธิมูเลเยว อริยมคฺเคน สพฺพโส ปหีนา สุสมุจฺฉินฺนา. ยถาห –

‘‘ตถาคตสฺส โข, พฺราหฺมณ, ราโค ปหีโน โทโส โมโห, สพฺเพปิ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา’’ติ (ปารา. ๙).

ตสฺมา สพฺพโส น สนฺติ เอตสฺส รหาติ อรโหติ วตฺตพฺเพ โอการสฺส สานุสารํ อการาเทสํ กตฺวา ‘‘อรห’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘ปาปธมฺมา รหา นาม, สาธูหิ รหิตพฺพโต;

เตสํ สุฏฺุ ปหีนตฺตา, ภควา อรหํ มโต’’ติ.

เย เต สพฺพโส ปริฺาตกฺขนฺธา ปหีนกิเลสา ภาวิตมคฺคา สจฺฉิกตนิโรธา อรหนฺโต ขีณาสวา, เย จ เสขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, เย จ ปริสุทฺธปฺปโยคา กลฺยาณชฺฌาสยา สทฺธาสีลสุตาทิคุณสมฺปนฺนา ปุคฺคลา, เตหิ น รหิตพฺโพ น ปริจฺจชิตพฺโพ, เต จ ภควตาติ อรหํ. ตถา หิ อริยปุคฺคลา สตฺถารา ทิฏฺธมฺมสฺส ปจฺจกฺขกรณโต สตฺถุ ธมฺมสรีเรน อวิรหิตาว โหนฺติ. ยถาห อายสฺมา ปิงฺคิโย –

‘‘ปสฺสามิ นํ มนสา จกฺขุนาว,

รตฺตินฺทิวํ พฺราหฺมณ อปฺปมตฺโต;

นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตึ,

เตเนว มฺามิ อวิปฺปวาสํ.

‘‘สทฺธา จ ปีติ จ มโน สติ จ,

นาเปนฺติเม โคตมสาสนมฺหา;

ยํ ยํ ทิสํ วชติ ภูริปฺโ,

ส เตน เตเนว นโตหมสฺมี’’ติ. (สุ. นิ. ๑๑๔๘-๑๑๔๙);

เตเนว จ เต อฺํ สตฺถารํ น อุทฺทิสนฺติ. ยถาห –

‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๘; อ. นิ. ๑.๒๗๖).

กลฺยาณปุถุชฺชนาปิ เยภุยฺเยน สตฺถริ นิจฺจลสทฺธา เอว โหนฺติ. อิติ สุปฺปฏิปนฺเนหิ ปุริสวิเสเสหิ อวิรหิตพฺพโต เตสฺจ อวิรหนโต น สนฺติ เอตสฺส รหา ปริจฺจชนกา, นตฺถิ วา เอตสฺส รหา สาธูหิ ปริจฺจชิตพฺพตาติ อรหํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘เย สจฺฉิกตสทฺธมฺมา, อริยา สุทฺธโคจรา;

น เตหิ รหิโต โหติ, นาโถ เตนารหํ มโต’’ติ.

รโหติ จ คมนํ วุจฺจติ, ภควโต จ นานาคตีสุ ปริพฺภมนสงฺขาตํ สํสาเร คมนํ นตฺถิ กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน โพธิมูเลเยว สพฺพโส สสมฺภารสฺส กมฺมวฏฺฏสฺส วิทฺธํสิตตฺตา. ยถาห –

‘‘เยน เทวูปปตฺยสฺส, คนฺธพฺโพ วา วิหงฺคโม;

ยกฺขตฺตํ เยน คจฺเฉยฺยํ, มนุสฺสตฺตฺจ อพฺพเช;

เต มยฺหํ อาสวา ขีณา, วิทฺธสฺตา วินฬีกตา’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๖);

เอวํ นตฺถิ เอตสฺส รโห คมนํ คตีสุ ปจฺจาชาตีติปิ อรหํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘รโห วา คมนํ ยสฺส, สํสาเร นตฺถิ สพฺพโส;

ปหีนชาติมรโณ, อรหํ สุคโต มโต’’ติ.

ปาสํสตฺตา วา ภควา อรหํ. อกฺขรจินฺตกา หิ ปสํสายํ อรหสทฺทํ วณฺเณนฺติ. ปาสํสภาโว จ ภควโต อนฺสาธารณโต ยถาภุจฺจคุณาธิคโต สเทวเก โลเก สุปฺปติฏฺิโต. ตถา เหส อนุตฺตเรน สีเลน อนุตฺตเรน สมาธินา อนุตฺตราย ปฺาย อนุตฺตราย วิมุตฺติยา อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโลติ เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ คุเณ วิภชิตฺวา วุจฺจมาเน ปณฺฑิตปุริเสหิ เทเวหิ พฺรหฺเมหิ ภควตา วา ปน ปริโยสาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยรูโป. อิติ ปาสํสตฺตาปิ ภควา อรหํ. เตเนทํ วุจฺจติ –

‘‘คุเณหิ สทิโส นตฺถิ, ยสฺมา โลเก สเทวเก;

ตสฺมา ปาสํสิยตฺตาปิ, อรหํ ทฺวิปทุตฺตโม’’ติ.

สพฺพสงฺคหวเสน ปน –

อารกา มนฺทพุทฺธีนํ, อารกา จ วิชานตํ;

รหานํ สุปฺปหีนตฺตา, วิทูนมรเหยฺยโต;

ภเวสุ จ รหาภาวา, ปาสํสา อรหํ ชิโนติ.

เอตฺตาวตา จ ‘‘อรห’’นฺติ ปทสฺส สพฺพโส อตฺโถ วิภตฺโต โหติ.

อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ อิมสฺส อตฺถํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺมา สามฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ สมฺมาติ อวิปรีตํ. สามนฺติ สยเมว, อปรเนยฺโย หุตฺวาติ อตฺโถ. สมฺพุทฺโธติ หิ เอตฺถ สํ-สทฺโท สยนฺติ เอตสฺส อตฺถสฺส โพธโกติ ทฏฺพฺโพ. สพฺพธมฺมานนฺติ อนวเสสานํ เนยฺยธมฺมานํ. กถํ ปเนตฺถ สพฺพธมฺมานนฺติ อยํ วิเสโส ลพฺภตีติ? เอกเทสสฺส อคฺคหณโต. ปเทสคฺคหเณ หิ อสติ คเหตพฺพสฺส นิปฺปเทสตาว วิฺายติ ยถา ‘‘ทิกฺขิโต น ททาตี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา อตฺถวิเสสนเปกฺขา กตฺตริ เอว พุทฺธสทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา กมฺมวจนิจฺฉาย อภาวโต. ‘‘สมฺมา สามฺจ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ เอตฺตกเมว หิ อิธ สทฺทโต ลพฺภติ, ‘‘สพฺพธมฺมาน’’นฺติ อิทํ ปน อตฺถโต ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํ. น หิ พุชฺฌนกิริยา อวิสยา ยุชฺชติ.

อิทานิ ตสฺสา วิสยํ ‘‘สพฺพธมฺเม’’ติ สามฺโต วุตฺตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อภิฺเยฺเย ธมฺเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิฺเยฺเยติ อนิจฺจาทิโต ลกฺขณรสาทิโต จ อภิวิสิฏฺเน าเณน ชานิตพฺเพ จตุสจฺจธมฺเม. อภิฺเยฺยโต พุทฺโธติ อภิฺเยฺยภาวโต พุชฺฌิ, ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาปฺาทีหิ อธิคมกฺขเณ มคฺคปฺาย อปรภาเค สพฺพฺุตฺาณาทีหิ อฺาสีติ อตฺโถ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย . ปริฺเยฺเย ธมฺเมติ อนิจฺจาทิวเสน ปริชานิตพฺพํ ทุกฺขํ อริยสจฺจมาห. ปหาตพฺเพติ สมุทยปกฺขิเย. สจฺฉิกาตพฺเพติ นิพฺพานํ สนฺธายาห. พหุวจนนิทฺเทโส ปเนตฺถ โสปาทิเสสาทิกํ ปริยายสิทฺธํ เภทมเปกฺขิตฺวา กโต, อุทฺเทโส วา อยํ จตุสจฺจธมฺมานมฺปิ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘จกฺขุ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ. อุทฺเทโส จ อวินิจฺฉิตตฺถปริจฺเฉทสฺส ธมฺมสฺส วเสน กรียติ. อุทฺเทเสน หิ อุทฺทิสิยมานานํ อตฺถิตามตฺตํ วุจฺจติ, น ปริจฺเฉโทติ อปริจฺเฉเทน พหุวจเนน วุตฺตํ ยถา ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา, อสงฺขตา ธมฺมา’’ติ. สจฺฉิกาตพฺเพติ วา ผลวิมุตฺตีนมฺปิ คหณํ, น นิพฺพานสฺเสวาติ พหุวจนนิทฺเทโส กโต. เอวฺจ ภาเวตพฺเพติ เอตฺถ ฌานานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เตเนว จาหาติ เสลพฺราหฺมณสฺส อตฺตโน พุทฺธภาวํ สาเธนฺโต เอวมาห.

กึ ปน ภควา สยเมว อตฺตโน สมฺมาสมฺพุทฺธภาวํ สาเธตีติ? สาเธติ มหากรุณาย อฺเสํ อวิสยโต. ตตฺถ ‘‘เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมี’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑) สุตฺตปทานิ, อิทเมว จ ‘‘อภิฺเยฺย’’นฺติอาทิ สุตฺตปทํ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ. ตตฺถ อภิฺเยฺยนฺติ อิมินา ทุกฺขสจฺจมาห, ภาเวตพฺพนฺติ มคฺคสจฺจํ. -สทฺโท ปเนตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ, เตน สจฺฉิกาตพฺพสฺส คหณํ เวทิตพฺพํ. อถ วา อภิฺเยฺยนฺติ อิมินาว ปาริเสสาเยน ปริฺเยฺยธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพธมฺเม จ ทสฺเสติ. ตสฺมา พุทฺโธสฺมีติ ยสฺมา จตฺตาริ สจฺจานิ มยา พุทฺธานิ, สจฺจวินิมุตฺตฺจ กิฺจิ เยฺยํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ เยฺยํ พุทฺโธสฺมิ, อพฺภฺาสินฺติ อตฺโถ. เสลสุตฺตฏฺกถายํ ปน อิทํ วุตฺตํ –

‘‘อภิฺเยฺยนฺติ วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ. ภาเวตพฺพํ มคฺคสจฺจํ. ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ. เหตุวจเนน ปน ผลสิทฺธิโต เตสํ ผลานิ นิโรธสจฺจทุกฺขสจฺจานิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ. เอวํ สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตํ, ปริฺาตพฺพํ ปริฺาตนฺติ อิทมฺเปตฺถ สงฺคหิตเมวาติ จตุสจฺจภาวนํ จตุสจฺจภาวนาผลฺจ วิมุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘พุชฺฌิตพฺพํ พุชฺฌิตฺวา พุทฺโธ ชาโตสฺมี’ติ ยุตฺตเหตุนา พุทฺธภาวํ สาเธตี’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๙๙).

ตตฺถ วิชฺชาติ มคฺควิชฺชา วุตฺตา อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน. วิมุตฺตีติ ผลวิมุตฺติ. กามฺเจตฺถ มคฺควิชฺชาปิ ภาเวตพฺพภาเวน คหิตา, สพฺเพปิ ปน สภาวธมฺมา อภิฺเยฺยาติ วิชฺชาย อภิฺเยฺยภาโว วุตฺโต. อิมินาว นเยน สพฺเพสมฺปิ อภิฺเยฺยภาโว วุตฺโต เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ผเลน วินา เหตุภาวสฺเสว อภาวโต เหตุวจเนน ผลสิทฺธิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. นิโรธสฺส หิ สมฺปาปเนน มคฺคสฺส เหตุภาโว, ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตเนน ตณฺหาย สมุทยภาโวติ.

เอวํ สจฺจวเสน สามฺโต วุตฺตมตฺถํ ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺเมหิ เจว ขนฺธาทีหิ จ สจฺจวเสเนว วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. มูลการณภาเวนาติ สนฺเตสุปิ อวิชฺชาทีสุ อฺเสุ การเณสุ เตสมฺปิ มูลภูตการณภาเวน. ตณฺหา หิ กมฺมสฺส วิจิตฺตภาวเหตุโต สหายภาวูปคมนโต จ ทุกฺขวิจิตฺตตาย ปธานการณํ. สมุฏฺาปิกาติ อุปฺปาทิกา. ปุริมตณฺหาติ ปุริมภวสิทฺธา ตณฺหา. อุภินฺนนฺติ จกฺขุสฺส ตํสมุทยสฺส จ. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ. นิโรธปฺปชานนาติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน นิโรธสฺส ปฏิวิชฺฌนา. เอเกกปทุทฺธาเรนาติ ‘‘จกฺขุํ จกฺขุสมุทโย จกฺขุนิโรโธ’’ติอาทินา เอเกกโกฏฺาสนิทฺธารเณน. ตณฺหายปิ ปริฺเยฺยภาวสพฺภาวโต อุปาทานกฺขนฺโธคธตฺตา สงฺขารทุกฺขภาวโต จ ทุกฺขสจฺจสงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา วตฺตมานภเว ตณฺหา ขนฺธปริยาปนฺนตฺตา สงฺขารทุกฺขภาวโต จ ทุกฺขสจฺจํ. ยสฺมึ ปน อตฺตภาเว สา อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อตฺตภาวสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมภวสิทฺธา ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ คเหตพฺพา.

กสิณานีติ กสิณารมฺมณิกชฺฌานานิ. ทฺวตฺตึสาการาติ ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา ตทารมฺมณชฺฌานานิ จ. นว ภวาติ กามภโว รูปภโว อรูปภโว สฺีภโว อสฺีภโว เนวสฺีนาสฺีภโว เอกโวการภโว จตุโวการภโว ปฺจโวการภโวติ นว ภวา. ตตฺถ ภวตีติ ภโว, กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺโต ภโว, กามสงฺขาโต วา ภโว กามภโว, เอกาทส กามาวจรภูมิโย. กาเม ปหาย รูปราคสงฺขาเตน รูเปน ยุตฺโต ภโว, รูปสงฺขาโต วา ภโว รูปภโว, โสฬส รูปาวจรภูมิโย. กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูปราคสงฺขาเตน อรูเปน ยุตฺโต ภโว, อรูปสงฺขาโต วา ภโว อรูปภโว, จตสฺโส อารุปฺปภูมิโย. สฺาวตํ ภโว สฺีภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺีภโว, โส กามภโว จ อสฺีภวมุตฺโต รูปภโว จ เนวสฺีนาสฺีภวมุตฺโต อรูปภโว จ โหติ. น สฺีภโว อสฺีภโว, โส รูปภเวกเทโส. โอฬาริกตฺตาภาวโต เนวสฺา, สุขุมตฺตสฺส สพฺภาวโต นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, ตาย ยุตฺโต ภโว เนวสฺานาสฺาภโว. อถ วา โอฬาริกาย สฺาย อภาวา สุขุมาย จ ภาวา เนวสฺา นาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว, โส อรูปภเวกเทโส. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว, เอเกน วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสฺีภโว. จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, จตูหิ วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว, โส อรูปภโว เอว. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, ปฺจหิ วา โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ ปฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติ. โวกาโรติ วา ขนฺธานเมตมธิวจนํ, ตสฺมา เอโก โวกาโร อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโวติ เอวมาทินาเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. จตฺตาริ ฌานานีติ อคฺคหิตารมฺมณวิเสสานิ จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ. วิปากชฺฌานานํ วา เอตํ คหณํ. เอตฺถ จ กุสลธมฺมานํ อุปนิสฺสยภูตา ตณฺหาสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหาติ เวทิตพฺพา. กิริยธมฺมานํ ปน ยตฺถ เต กิริยธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส อตฺตภาวสฺส การณภูตา ตณฺหา. อนุโลมโตติ เอตฺถ ‘‘สงฺขารา ทุกฺขสจฺจํ, อวิชฺชา สมุทยสจฺจ’’นฺติ อิมินา อนุกฺกเมน โยเชตพฺพํ.

อนุพุทฺโธติ พุชฺฌิตพฺพธมฺมสฺส อนุรูปโต พุทฺโธ. เตนาติ ยสฺมา สามฺโต วิเสสโต จ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม พุทฺโธ, ตสฺมา วุตฺตํ. กึ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา’’ติ, สพฺพสฺสปิ เยฺยสฺส สพฺพาการโต อวิปรีตํ สยเมว อภิสมฺพุทฺธตฺตาติ อตฺโถ. อิมินาสฺส ปโรปเทสรหิตสฺส สพฺพากาเรน สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถสฺส อากงฺขปฺปฏิพทฺธวุตฺติโน อนาวรณาณสงฺขาตสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส อธิคโม ทสฺสิโต.

นนุ จ สพฺพฺุตฺาณโต อฺํ อนาวรณาณํ, อฺถา ‘‘ฉ อสาธารณาณานิ พุทฺธาณานี’’ติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ? น วิรุชฺฌติ วิสยปฺปวตฺติเภทวเสน อฺเหิ อสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ เอกสฺเสว าณสฺส ทฺวิธา วุตฺตตฺตา. เอกเมว หิ ตํ าณํ อนวเสสสงฺขตาสงฺขตสมฺมุติธมฺมวิสยตาย สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถ จ อาวรณาภาวโต นิสฺสงฺคจารมุปาทาย อนาวรณาณนฺติ วุตฺตํ. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๙) ‘‘สพฺพํ สงฺขตมสงฺขตํ อนวเสสํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถ อาวรณํ นตฺถีติ อนาวรณาณ’’นฺติอาทิ. ตสฺมา นตฺถิ เนสํ อตฺถโต เภโท, เอกนฺเตน เจตํ เอวมิจฺฉิตพฺพํ. อฺถา สพฺพฺุตานาวรณาณานํ สาธารณตา อสพฺพธมฺมารมฺมณตา จ อาปชฺเชยฺย. น หิ ภควโต าณสฺส อณุมตฺตมฺปิ อาวรณํ อตฺถิ, อนาวรณาณสฺส อสพฺพธมฺมารมฺมณภาเว ยตฺถ ตํ น ปวตฺตติ, ตตฺถาวรณสพฺภาวโต อนาวรณภาโวเยว น สิยา. อถ วา ปน โหตุ อฺเมว อนาวรณาณํ สพฺพฺุตฺาณโต, อิธ ปน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตวุตฺติตาย อนาวรณาณนฺติ สพฺพฺุตฺาณเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺส จาธิคมเนน ภควา สพฺพฺู สพฺพวิทู สมฺมาสมฺพุทฺโธติ จ วุจฺจติ น สกึเยว สพฺพธมฺมาวโพธนโต. ตถา จ วุตฺตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ พุทฺโธ’’ติ. สพฺพธมฺมาวโพธนสมตฺถาณสมธิคเมน หิ ภควโต สนฺตาเน อนวเสสธมฺเม ปฏิวิชฺฌิตุํ สมตฺถตา อโหสีติ.

เอตฺถาห – กึ ปนิทํ าณํ ปวตฺตมานํ สกึเยว สพฺพสฺมึ วิสเย ปวตฺตติ, อุทาหุ กเมนาติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว สกึเยว สพฺพสฺมึ วิสเย ปวตฺตติ, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภทภินฺนานํ สงฺขตธมฺมานํ อสงฺขตสมฺมุติธมฺมานฺจ เอกชฺฌํ อุปฏฺาเน ทูรโต จิตฺตปฏํ เปกฺขนฺตสฺส วิย ปฏิวิภาเคนาวโพโธ น สิยา, ตถา สติ ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ วิปสฺสนฺตานํ อนตฺตากาเรน วิย สพฺพธมฺมา อนิรูปิตรูเปน ภควโต าณสฺส วิสยา โหนฺตีติ อาปชฺชติ. เยปิ ‘‘สพฺพเยฺยธมฺมานํ ิตลกฺขณวิสยํ วิกปฺปรหิตํ สพฺพกาลํ พุทฺธานํ าณํ ปวตฺตติ, เตน เต สพฺพวิทูติ วุจฺจนฺติ, เอวฺจ กตฺวา ‘จรํ สมาหิโต นาโค, ติฏฺนฺโตปิ สมาหิโต’ติ อิทมฺปิ วจนํ สุวุตฺตํ โหตี’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ วุตฺตโทสา นาติวตฺติ, ิตลกฺขณารมฺมณตาย จ อตีตานาคตสมฺมุติธมฺมานํ ตทภาวโต เอกเทสวิสยเมว ภควโต าณํ สิยา, ตสฺมา สกึเยว าณํ ปวตฺตตีติ น ยุชฺชติ.

อถ กเมน สพฺพสฺมึ วิสเย าณํ ปวตฺตตีติ. เอวมฺปิ น ยุชฺชติ. น หิ ชาติภูมิสภาวาทิวเสน ทิสาเทสกาลาทิวเสน จ อเนกเภทภินฺเน เยฺเย กเมน คยฺหมาเน ตสฺส อนวเสสปฺปฏิเวโธ สมฺภวติ อปริยนฺตภาวโต เยฺยสฺส. เย ปน ‘‘อตฺถสฺส อวิสํวาทนโต เยฺยสฺส เอกเทสํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา เสเสปิ เอวนฺติ อธิมุจฺจิตฺวา ววตฺถาปเนน สพฺพฺู ภควา, ตฺจ าณํ น อนุมานาณํ สํสยาภาวโต. สํสยานุพทฺธฺหิ โลเก อนุมานาณ’’นฺติ วทนฺติ, เตสมฺปิ ตํ น ยุตฺตํ. สพฺพสฺส หิ อปฺปจฺจกฺขภาเว อตฺถาวิสํวาทเนน เยฺยสฺส เอกเทสํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา เสเสปิ เอวนฺติ อธิมุจฺจิตฺวา ววตฺถาปนสฺส อสมฺภวโต. ยฺหิ ตํ เสสํ, ตํ อปฺปจฺจกฺขนฺติ.

อถ ตมฺปิ ปจฺจกฺขํ ตสฺส เสสภาโว เอว น สิยาติ? สพฺพเมตํ อการณํ. กสฺมา? อวิสยวิจารณภาวโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘พุทฺธวิสโย, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ, โย จินฺเตยฺย, อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗). อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ – ยํ กิฺจิ ภควตา าตุํ อิจฺฉิตํ สกลํ เอกเทโส วา, ตตฺถ ตตฺถ อปฺปฏิหตวุตฺติตาย ปจฺจกฺขโต าณํ ปวตฺตติ นิจฺจสมาธานฺจ วิกฺเขปาภาวโต. าตุํ อิจฺฉิตสฺส จ สกลสฺส อวิสยภาเว ตสฺส อากงฺขปฺปฏิพทฺธวุตฺติตา น สิยา, เอกนฺเตเนวสฺสา อิจฺฉิตพฺพา ‘‘สพฺเพ ธมฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อาวชฺชนปฺปฏิพทฺธา อากงฺขปฺปฏิพทฺธา มนสิการปฺปฏิพทฺธา จิตฺตุปฺปาทปฺปฏิพทฺธา’’ติ (มหานิ. ๖๙; ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต. อตีตานาคตวิสยมฺปิ ภควโต าณํ อนุมานาคมตกฺกคหณวิรหิตตฺตา ปจฺจกฺขเมว.

นนุ จ เอตสฺมิมฺปิ ปกฺเข ยทา สกลํ าตุํ อิจฺฉิตํ, ตทา สกึเยว สกลวิสยตาย อนิรูปิตรูเปน ภควโต าณํ ปวตฺเตยฺยาติ วุตฺตโทสา นาติวตฺติเยวาติ? น, ตสฺส วิโสธิตตฺตา. วิโสธิโต หิ โส พุทฺธวิสโย อจินฺเตยฺโยติ. อฺถา ปจุรชนาณสมานวุตฺติตาย พุทฺธานํ ภควนฺตานํ าณสฺส อจินฺเตยฺยตา น สิยา, ตสฺมา สกลธมฺมารมฺมณมฺปิ ตํ เอกธมฺมารมฺมณํ วิย สุววตฺถาปิเตเยว เต ธมฺเม กตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมตฺถ อจินฺเตยฺยํ, ‘‘ยาวตกํ เยฺยํ, ตาวตกํ าณํ. ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เยฺยํ. เยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เยฺย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) เอวเมกชฺฌํ วิสุํ สกึ กเมน วา อิจฺฉานุรูปํ สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ.

วิชฺชาหีติ เอตฺถ วินฺทิยํ วินฺทตีติ วิชฺชา, ยาถาวโต อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. อตฺตโน วา ปฏิปกฺขสฺส วิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา, ตโมกฺขนฺธาทิกสฺส ปทาลนฏฺเนาติ อตฺโถ. ตโต เอว อตฺตโน วิสยสฺส วิทิตกรณฏฺเนปิ วิชฺชา. สมฺปนฺนตฺตาติ สมนฺนาคตตฺตา ปริปุณฺณตฺตา วา, อวิกลตฺตาติ อตฺโถ. ตตฺราติ อมฺพฏฺสุตฺเต. มโนมยิทฺธิยาติ เอตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปึ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคํ อหีนินฺทฺริย’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๖) อิมินา นเยน อาคตา อิทฺธิ สรีรพฺภนฺตเร อฺสฺเสว ฌานมเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมยสฺส สรีรสฺส นิพฺพตฺติวเสน ปวตฺตา มโนมยิทฺธิ นาม. ฉ อภิฺาติ อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ อิทฺธิวิธาทิกา ปฺจาภิฺาโย. ติสฺสนฺนํ อฏฺนฺนฺจ วิชฺชานํ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต คหณํ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. สตฺต สทฺธมฺมา นาม สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ วีริยํ สติ ปฺา จ. เย สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิธ ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, หิริมา, โอตฺตปฺปี, พหุสฺสุโต, อารทฺธวีริโย, อุปฏฺิตสฺสติ, ปฺวา โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๐). จตฺตาริ ฌานานีติ ยานิ กานิจิ จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ.

กสฺมา ปเนตฺถ สีลาทโยเยว ปนฺนรส ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘อิเมเยว หี’’ติอาทิ. เตน เตสํ สิกฺขตฺตยสงฺคหโต นิพฺพานุปคมเน เอกํสโต สาธนภาวมาห. อิทานิ ตทตฺถสาธนาย อาคมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหา’’ติอาทิมาห. ภควาติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺตํ. นนุ จายํ วิชฺชาจรณสมฺปทา สาวเกสุปิ ลพฺภตีติ? กิฺจาปิ ลพฺภติ, น ปน ตถา, ยถา ภควโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ วิชฺชาสมฺปทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาสวกฺขยวิชฺชาย สพฺพฺุภาวสิทฺธิโต อาห ‘‘วิชฺชาสมฺปทา ภควโต สพฺพฺุตํ ปูเรตฺวา ิตา’’ติ. จตูสุ ฌาเนสุ อนฺโตคธภาเวน จรณธมฺมปริยาปนฺนตฺตา กรุณาพฺรหฺมวิหารสฺส ยถารหํ ตสฺส จ มหากรุณาสมาปตฺติวเสน อสาธารณสภาวสฺส ภควติ อุปลพฺภนโต อาห ‘‘จรณสมฺปทา มหาการุณิกตํ ปูเรตฺวา ิตา’’ติ. ยถา สตฺตานํ อนตฺถํ ปริวชฺเชตฺวา อตฺเถ นิโยชนํ ปฺาย วินา น โหติ, เอวํ เนสํ อตฺถานตฺถชานนํ สตฺถุ กรุณาย วินา น โหตีติ อุภยมฺปิ อุภยตฺถ สกิจฺจกเมว สิยา. ยตฺถ ปน ยสฺสา ปธานภาโว, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส สพฺพฺุตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา ตํ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา อฺโปิ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน นิโยเชติ, ตถา อยนฺติ อตฺโถ. เตน วิชฺชาจรณสมฺปนฺนสฺเสวายํ อาเวณิกา ปฏิปตฺตีติ ทสฺเสติ. สา ปนายํ สตฺถุ วิชฺชาจรณสมฺปทา สาสนสฺส นิยฺยานิกตาย สาวกานํ สมฺมาปฏิปตฺติยา เอกนฺตการณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อตฺตนฺตปาทโยติ อาทิ-สทฺเทน ปรนฺตปอุภยนฺตปา คหิตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอตฺถ จ วิชฺชาสมฺปทาย สตฺถุ ปฺามหตฺตํ ปกาสิตํ โหติ, จรณสมฺปทาย กรุณามหตฺตํ. เตสุ ปฺาย ภควโต ธมฺมรชฺชปฺปตฺติ, กรุณาย ธมฺมสํวิภาโค. ปฺาย สํสารทุกฺขนิพฺพิทา, กรุณาย สํสารทุกฺขสหนํ. ปฺาย ปรทุกฺขปริชานนํ, กรุณาย ปรทุกฺขปติการารมฺโภ. ปฺาย ปรินิพฺพานาภิมุขภาโว, กรุณาย ตทธิคโม. ปฺาย สยํ ตรณํ, กรุณาย ปเรสํ ตารณํ. ปฺาย พุทฺธภาวสิทฺธิ, กรุณาย พุทฺธกิจฺจสิทฺธิ. กรุณาย วา โพธิสตฺตภูมิยํ สํสาราภิมุขภาโว, ปฺาย ตตฺถ อนภิรติ, ตถา กรุณาย ปเรสํ อภึสาปนํ, ปฺาย สยํ ปเรหิ อภายนํ. กรุณาย ปรํ รกฺขนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ, ปฺาย อตฺตานํ รกฺขนฺโต ปรํ รกฺขติ. ตถา กรุณาย อปรนฺตโป, ปฺาย อนตฺตนฺตโป, เตน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ จตุตฺถปุคฺคลภาโว สิทฺโธ โหติ. ตถา กรุณาย โลกนาถตา, ปฺาย อตฺตนาถตา. กรุณาย จสฺส นินฺนตาภาโว, ปฺาย อุนฺนมาภาโว. ตถา กรุณาย สพฺพสตฺเตสุ ชนิตานุคฺคโห, ปฺานุคตตฺตา น จ น สพฺพตฺถ วิรตฺตจิตฺโต, ปฺาย สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺโต, กรุณานุคตตฺตา น จ น สพฺพสตฺตานุคฺคหาย ปวตฺโต. ยถา หิ กรุณา ภควโต สิเนหโสกวิรหิตา, เอวํ ปฺา อหํการมมํการวินิมุตฺตาติ อฺมฺวิโสธิตา ปรมวิสุทฺธา คุณวิเสสา วิชฺชาจรณสมฺปทาหิ ปกาสิตาติ ทฏฺพฺพํ.

อิทานิ สุคโตติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โสภนคมนตฺตา’’ติอาทิ. ‘‘คเต ิเต’’ติอาทีสุ คมนมฺปิ คตนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘คมนมฺปิ หิ คตนฺติ วุจฺจตี’’ติ. โสภนนฺติ สุภํ, สุภภาโว วิสุทฺธตาย, วิสุทฺธตา โทสวิคเมนาติ อาห ‘‘ปริสุทฺธมนวชฺช’’นฺติ. คมนฺจ นาม พหุวิธนฺติ อิธาธิปฺเปตํ คมนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อริยมคฺโค’’ติ อาห. โส หิ นิพฺพานสฺส คติ อธิคโมติ จ กตฺวา คตํ คมนนฺติ จ วุจฺจติ. อิทานิ ตสฺเสว คมเน การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน เหสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เขมํ ทิสนฺติ นิพฺพานํ. อสชฺชมาโนติ ปริปนฺถาภาเวน สุคติคมเนปิ อสชฺชนฺโต สงฺคํ อกโรนฺโต, ปเคว อิตรตฺถ. อถ วา เอกาสเน นิสีทิตฺวา ขิปฺปาภิฺาวเสเนว จตุนฺนมฺปิ มคฺคานํ ปฏิลทฺธภาวโต อสชฺชมาโน อพชฺฌนฺโต คโต. ยํ คมนํ คจฺฉนฺโต สพฺพคมนตฺถํ อาวหติ, สพฺพฺจ อนุตฺตรํ สมฺปตฺตึ อาวหติ, ตเทว โสภนํ นาม, เตน จ ภควา คโตติ อาห ‘‘อิติ โสภนคมนตฺตา สุคโต’’ติ โสภนตฺโถ สุสทฺโทติ กตฺวา.

อสุนฺทรานํ ทุกฺขานํ สงฺขารปฺปวตฺตีนํ อภาวโต อจฺจนฺตสุขตฺตา เอกนฺตโต สุนฺทรํ นาม อสงฺขตา ธาตูติ อาห ‘‘สุนฺทรฺเจส านํ คโต อมตํ นิพฺพาน’’นฺติ. เตนาห ภควา ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๑๕; ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔). สมฺมาติ สุฏฺุ. สุฏฺุ คมนฺจ นาม ปฏิปกฺเขน อนภิภูตสฺส คมนนฺติ อาห ‘‘ปหีเน กิเลเส ปุน อปจฺจาคจฺฉนฺโต’’ติ, ปหีนานํ ปุน อสมุทาจารวเสน อปจฺจาคจฺฉนฺโต. วุตฺตเมวตฺถํ อาคมํ ทสฺเสตฺวา วิภาเวนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเจต’’นฺติอาทิ. เอตนฺติ เตน เตน มคฺเคน ปหีนกิเลสานํ ปุน อปจฺจาคมนํ, อิทฺจ สิขาปฺปตฺตํ สมฺมาคมนํ, ยาย อาคมนียปฏิปทาย สิทฺธํ, สาปิ สมฺมาคมนเมวาติ เอวมฺปิ ภควา สุคโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมา วา อาคโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมฺมาปฏิปตฺติยาติ สมฺมาสมฺโพธิยา สมฺปาปเน อวิปรีตปฏิปตฺติยา. สพฺพโลกสฺส หิตสุขเมว กโรนฺตาติ เอเตน มหาโพธิยา ปฏิปทา อวิภาเคน สพฺพสตฺตานํ สพฺพทา หิตสุขาวหภาเวเนว ปวตฺตตีติ ทสฺเสติ. สสฺสตํ อุจฺเฉทนฺติ อิเม อนฺเต อนุปคจฺฉนฺโต คโตติ เอเตน ปฏิจฺจสมุปฺปาทคตึ ทสฺเสติ. กามสุขํ อตฺตกิลมถนฺติ อิเม อนุปคจฺฉนฺโต คโตติ เอเตน อริยมคฺคคตึ ทสฺเสติ.

ตตฺราติ ยุตฺตฏฺาเน ยุตฺตสฺเสว ภาสเน. นิปฺผาเทตพฺเพ สาเธตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อภูตนฺติ อภูตตฺถํ. อตฺถมุเขน หิ วาจาย อภูตตา ภูตตา วา. อตจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ทิฏฺธมฺมิเกน สมฺปรายิเกน วา อนตฺเถน สํหิตํ อนตฺถสํหิตํ, อนตฺถาวหํ. น อตฺโถติ อนตฺโถ, อตฺถสฺส ปฏิปกฺโข อภาโว จ, เตน สํหิตํ, ปิสุณวาจํ สมฺผปฺปลาปฺจาติ อตฺโถ. เอวเมตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ วจีทุจฺจริตสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ปมา วาจา สีลวนฺตํ ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ, อจณฺฑาลาทึ ‘‘จณฺฑาโล’’ติอาทินา ภาสมานสฺส ทฏฺพฺพา. ทุติยา ทุสฺสีลํ ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ, จณฺฑาลาทิเมว ‘‘จณฺฑาโล’’ติอาทินา อวินเยน ภาสมานสฺส. ตติยา เนรยิกาทิกสฺส เนรยิกาทิภาววิภาวนีกถา ยถา ‘‘อาปายิโก เทวทตฺโต เนรยิโก’’ติอาทิกา. จตุตฺถี ‘‘เวทวิหิเตน ยฺวิธินา ปาณาติปาตาทิกตํ สุคตึ อาวหตี’’ติ โลกสฺส พฺยาโมหนกถา. ปฺจมี ภูเตน เปสุฺุปสํหารา กถา. ฉฏฺา ยุตฺตปตฺตฏฺาเน ปวตฺติตา ทานสีลาทิกถา เวทิตพฺพา. เอวํ สมฺมา คทตฺตาติ ยถาวุตฺตํ อภูตาทึ วชฺเชตฺวา ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสํหิตํ ปิยํ มนาปํ ตโต เอว สมฺมา สุฏฺุ คทนโต สุคโต. อาปาถคมนมตฺเตน กสฺสจิ อปฺปิยมฺปิ หิ ภควโต วจนํ ปิยํ มนาปเมว อตฺถสิทฺธิยา โลกสฺส หิตสุขาวหตฺตา. เอตฺถ ปน ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ‘‘สุคโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อปโร นโย – โสภนํ คตํ คมนํ เอตสฺสาติ สุคโต. ภควโต หิ เวเนยฺยชนุปสงฺกมนํ เอกนฺเตน เตสํ หิตสุขนิปฺผาทนโต โสภนํ ภทฺทกํ. ตถา ลกฺขณานุพฺยฺชนปฺปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ทุตวิลมฺพิตขลิตานุกฑฺฒนนิปฺปีฬนุกฺกุฏิกกุฏิลากุลตาทิโทสวิรหิตํ วิลาสิตราชหํสวสภวารณมิคราชคมนํ กายคมนํ าณคมนฺจ วิปุลนิมฺมลกรุณาสติวีริยาทิคุณวิเสสหิตมภินีหารโต ยาว มหาโพธิ อนวชฺชตาย สตฺตานํ หิตสุขาวหตาย จ โสภนเมว. อถ วา สยมฺภูาเณน สกลมฺปิ โลกํ ปริฺาภิสมยวเสน ปริชานนฺโต สมฺมา คโต อวคโตติ สุคโต. ตถา โลกสมุทยํ ปหานาภิสมยวเสน ปชหนฺโต อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺโต สมฺมา คโต อตีโตติ สุคโต. โลกนิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน สมฺมา คโต อธิคโตติ สุคโต. โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ภาวนาภิสมยวเสน สมฺมา คโต ปฏิปนฺโนติ สุคโต. ตถา ยํ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ าตํ อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ หตฺถตเล อามลกํ วิย สมฺมา ปจฺจกฺขโต คโต อพฺภฺาสีติ สุคโต.

อิทานิ โลกวิทูติ อิมสฺส อตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห ‘‘สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ สพฺพถาติ สพฺพปฺปกาเรน, โย โย โลโก เยน เยน ปกาเรน เวทิตพฺโพ, เตน เตน ปกาเรนาติ อตฺโถ. เต ปน ปกาเร ทสฺเสตุํ ‘‘สภาวโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สภาวโตติ ทุกฺขสภาวโต. สพฺโพ หิ โลโก ทุกฺขสภาโว. ยถาห ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ. สมุทยโตติ ยโต สมุเทติ, ตโต ตณฺหาทิโต. นิโรธโตติ ยตฺถ โส นิรุชฺฌติ, ตโต วิสงฺขารโต. นิโรธูปายโตติ เยน วิธินา โส นิโรโธ ปตฺตพฺโพ, ตโต อริยมคฺคโต อิโต อฺสฺส ปการสฺส อภาวา. อิติ ‘‘สพฺพถา โลกํ อเวที’’ติ วตฺวา ตทตฺถสาธกํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส’’ติอาทิมาห. อิทฺจ สุตฺตํ ‘‘ยตฺถ โข, ภนฺเต, น ชายติ…เป… น อุปปชฺชติ, สกฺกา นุ โข โส, ภนฺเต, คมเนน โลกสฺส อนฺโต าตุํ วา ทฏฺุํ วา ปาปุณิตุํ วา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕) โอกาสโลกสฺส คตึ สนฺธาย โรหิตเทวปุตฺเตน ปุฏฺโ ภควา อภาสิ. ตตฺถ น ชายตีติอาทินา อุชุกํ ชาติอาทีนิ ปฏิกฺขิปิตฺวา น จวติ น อุปปชฺชตีติ ปททฺวเยน อปราปรํ จวนุปปตนานิ ปฏิกฺขิปติ. เกจิ ปน ‘‘น ชายตีติอาทิ คพฺภเสยฺยกาทิวเสน วุตฺตํ, อิตรํ โอปปาติกวเสนา’’ติ วทนฺติ. นฺติ ชาติอาทิรหิตํ. คมเนนาติ ปทสา คมเนน. โลกสฺสนฺตนฺติ สงฺขารโลกสฺส อนฺตภูตํ นิพฺพานํ. าเตยฺยนฺติ ชานิตพฺพํ. ทฏฺเยฺยนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปตฺเตยฺยนฺติ ปตฺตพฺพํ. ‘‘าตายํ ทิฏฺายํ ปตฺตาย’’นฺติ วา ปาโ, ตตฺถ คมเนน โลกสฺสนฺตํ าตา อยํ ทิฏฺา อยํ ปตฺตา อยนฺติ น วทามีติ อตฺโถ. อยนฺติ นิพฺพานตฺถิโก.

กามํ ปทสา คมเนน คนฺตฺวา โลกสฺสนฺตํ าตุํ ทฏฺุํ ปตฺตุํ วา น สกฺกา, อปิ จ ปริมิตปริจฺฉินฺนฏฺาเน ตํ ปฺาเปตฺวา ทสฺเสมีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พฺยามมตฺเต กเฬวเรติ พฺยามปฺปมาเณ อตฺตภาเว. อิมินา รูปกฺขนฺธํ ทสฺเสติ. สสฺิมฺหีติ สฺาย สหิเต. อิมินา สฺาสีเสน เวทนาทโย ตโย ขนฺเธ ทสฺเสติ สฺาสหิตตฺตา เอว. สมนเกติ สวิฺาณเกติ อตฺโถ. อิมินา วิฺาณกฺขนฺธํ ทสฺเสติ, อวิฺาณเก ปน อุตุสมุฏฺานรูปสมุทายมตฺเต ปฺาเปตุํ น สกฺกาติ อธิปฺปาโย. โลกนฺติ ขนฺธาทิโลกํ. โลกนิโรธนฺติ ตสฺส โลกสฺส นิรุชฺฌนํ นิพฺพานเมว วา. นิพฺพานมฺปิ หิ ขนฺเธ ปฏิจฺจ ปฺาปนโต สรีรสฺมึเยว ปฺาเปติ. อเทสมฺปิ หิ ตํ เยสํ นิโรโธ, เตสํ วเสน เทสโตปิ อุปจารวเสน นิทฺทิสียติ ยถา ‘‘จกฺขุํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา ปหียมานา ปหียติ, เอตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๑; ม. นิ. ๑.๑๓๔; วิภ. ๒๐๔).

คมเนนาติ ปากติกคมเนน. โลกสฺสนฺโตติ สงฺขารโลกสฺส อนฺโต อนฺตกิริยาย เหตุภูตํ นิพฺพานํ. กุทาจนนฺติ กทาจิปิ. อปฺปตฺวาติ อคฺคมคฺเคน อนธิคนฺตฺวา. ปโมจนนฺติ ปมุตฺติ นิสฺสรณํ. ตสฺมาติ ยสฺมา โลกนฺตํ อปฺปตฺวา วฏฺฏทุกฺขโต มุตฺติ นตฺถิ, ตสฺมา. หเวติ นิปาตมตฺตํ. โลกวิทูติ สภาวาทิโต สพฺพํ โลกํ วิชานนฺโต. สุเมโธติ สุนฺทรปฺโ. โลกนฺตคูติ ปริฺาภิสมเยน โลกํ วิทิตฺวา ปหานาภิสมเยน โลกนฺตคู. มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปรินิฏฺิตตฺตา วุสิตพฺรหฺมจริโย. สพฺเพสํ กิเลสานํ สมิตตฺตา จตุสจฺจธมฺมานํ วา อภิสมิตตฺตา สมิตาวี. นาสีสตีติ น ปตฺเถติ, ยถา อิมํ โลกํ, เอวํ ปรฺจ โลกํ นาสีสติ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา.

เอวํ ยทิปิ โลกวิทุตา อนวเสสโต ทสฺสิตา สภาวาทิโต ทสฺสิตตฺตา, โลโก ปน เอกเทเสเนว วุตฺโตติ ตํ อนวเสสโต ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จ ตโย โลกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อินฺทฺริยพทฺธานํ ขนฺธานํ สมูโห สนฺตาโน จ สตฺตโลโก. รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย สตฺโต, โลกียติ เอตฺถ กุสลากุสลํ ตพฺพิปาโก จาติ โลโก. อนินฺทฺริยพทฺธานํ รูปาทีนํ สมูโห สนฺตาโน จ โอกาสโลโก โลกียนฺติ เอตฺถ ชงฺคมา ถาวรา จ เตสฺจ โอกาสภูโตติ กตฺวา. ตทาธารตาย เหส ‘‘ภาชนโลโก’’ติปิ วุจฺจติ. อุภเยปิ ขนฺธา สงฺขารโลโก ปจฺจเยหิ สงฺขรียนฺติ ลุชฺชนฺติ ปลุชฺชนฺติ จาติ. อาหารฏฺิติกาติ ปจฺจยฏฺิติกา, ปจฺจยายตฺตวุตฺติกาติ อตฺโถ. ปจฺจยตฺโถ เหตฺถ อาหารสทฺโท ‘‘อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาทายา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒) วิย. เอวฺหิ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติ อิมินา อสฺสตฺตาปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ. สา ปนายํ อาหารฏฺิติกตา นิปฺปริยายโต สงฺขารธมฺโม, น สตฺตธมฺโมติ อาห ‘‘อาหารฏฺิติกาติ อาคตฏฺาเน สงฺขารโลโก เวทิตพฺโพ’’ติ.

ยทิ เอวํ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติ อิทํ กถนฺติ? ปุคฺคลาธิฏฺานเทสนาติ นายํ โทโส. กสฺมา ปน ภควา กตฺถจิ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, กตฺถจิ ธมฺมาธิฏฺานํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสตีติ? เทสนาวิลาสโต เวเนยฺยชฺฌาสยโต จ. เทสนาวิลาสปฺปตฺตา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เต ยถารุจิ กตฺถจิ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา กตฺถจิ ธมฺมาธิฏฺานํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺติ. เย วา ปน เวเนยฺยา สาสนกฺกมํ อโนติณฺณา, เตสํ ปุคฺคลาธิฏฺานํ เทสนํ เทเสนฺติ. เย จ โอติณฺณา, เตสํ ธมฺมาธิฏฺานํ. สมฺมุติสจฺจวิสยา ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา, อิตรา ปรมตฺถสจฺจวิสยา. ปุริมา กรุณานุกูลา, อิตรา ปฺานุกูลา. สทฺธานุสารีโคตฺตานํ วา ปุริมา. เต หิ ปุคฺคลปฺปมาณิกา, ปจฺฉิมา ธมฺมานุสารีโคตฺตานํ. สทฺธาจริตตาย วา โลกาธิปตีนํ วเสน ปุคฺคลาธิฏฺานา, ปฺาจริตตาย ธมฺมาธิปตีนํ วเสน ธมฺมาธิฏฺานา. ปุริมา จ เนยฺยตฺถา, ปจฺฉิมา นีตตฺถา. อิติ ภควา ตํ ตํ วิเสสํ อเปกฺขิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ทุวิธํ เทสนํ เทเสตีติ เวทิตพฺพํ.

ทิฏฺิคติกานํ สสฺสตาทิวเสน ‘‘อตฺตา โลโก’’ติ ปริกปฺปนา เยภุยฺเยน สตฺตวิสยา, น สงฺขารวิสยาติ อาห ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา อสสฺสโต โลโกติ วาติ อาคตฏฺาเน สตฺตโลโก เวทิตพฺโพ’’ติ. ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตีติ ยตฺตเก าเน จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ ปริพฺภมนฺติ. ทิสา ภนฺติ วิโรจมานาติ เตสํ ปริพฺภมเนเนว ตา ตา ทิสา ปภสฺสรา หุตฺวา วิโรจนฺติ. อถ วา ทิสาติ อุปโยคพหุวจนํ, ตสฺมา สยํ วิโรจมานา จนฺทิมสูริยา ยตฺตกา ทิสา ภนฺติ โสเภนฺติ โอภาสยนฺตีติ อตฺโถ. ตาว สหสฺสธา โลโกติ ตตฺตเกน ปมาเณน สหสฺสปฺปกาโร โอกาสโลโก, สหสฺสโลกธาตุโยติ อตฺโถ. ‘‘ตาวสหสฺสวา’’ติ วา ปาโ, ตาว ตตฺตกํ สหสฺสํ อสฺส อตฺถีติ ตาวสหสฺสวา. เอตฺถาติ สหสฺสโลกธาตุสงฺขาเต โลเก.

ตมฺปีติ ติวิธมฺปิ โลกํ. สพฺพถา อเวทีติ สพฺพปฺปการโต ปฏิวิชฺฌิ. กถํ ปฏิวิชฺฌีติ อาห ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ. ตถา หิสฺสาติ อิมสฺส ‘‘สพฺพถา วิทิโต’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. อสฺสาติ อเนน ภควตา. เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ ยาย ปุคฺคลาธิฏฺานาย กถาย สพฺเพสํ สงฺขารานํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตา วุตฺตา, ตาย สพฺโพ สงฺขารโลโก เอกวิโธ ปการนฺตรสฺส อภาวโต. ทฺเว โลกาติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นามคฺคหเณน เจตฺถ นิพฺพานสฺส อคฺคหณํ ตสฺส อโลกสภาวตฺตา. นนุ จ ‘‘อาหารฏฺิติกา’’ติ เอตฺถ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย มคฺคผลธมฺมานมฺปิ โลกตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ปริฺเยฺยานํ ทุกฺขสจฺจธมฺมานํ อิธ โลโกติ อธิปฺเปตตฺตา. อถ วา น ลุชฺชติ น ปลุชฺชตีติ โย คหิโต ตถา น โหติ, โส โลโกติ ตํคหณรหิตานํ โลกุตฺตรานํ นตฺถิ โลกตา.

ติสฺโส เวทนาติ สุขทุกฺขอุเปกฺขาวเสน. จตฺตาโร อาหาราติ กพฬีการาหาโร ผสฺสาหาโร มโนสฺเจตนาหาโร วิฺาณาหาโรติ จตฺตาโร อาหารา. ตตฺถ กพฬีการาหาโร โอชฏฺมกํ รูปํ อาหรตีติ อาหาโร. ผสฺโส ติสฺโส เวทนา อาหรตีติ อาหาโร. มโนสฺเจตนา ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ อาหรตีติ อาหาโร. วิฺาณํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ นามรูปํ อาหรตีติ อาหาโร. อุปาทานานํ อารมฺมณภูตา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา. ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานีติ จกฺขายตนาทิมนายตนปริยนฺตานิ. สตฺต วิฺาณฏฺิติโยติ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, เหฏฺิมา จ ตโย อารุปฺปาติ อิมา สตฺต ‘‘วิฺาณํ ติฏฺติ เอตฺถาติ วิฺาณฏฺิติโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ นานตฺตํ กาโย เอเตสํ, นานตฺโต วา กาโย เอเตสนฺติ นานตฺตกายา, นานตฺตสฺา เอเตสํ อตฺถีติ นานตฺตสฺิโน. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สพฺเพ มนุสฺสา (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๒๗; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๗.๔๔-๔๕) ฉกามาวจรา จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา ‘‘นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. อปริมาเณสุ หิ จกฺกวาเฬสุ อปริมาณานํ มนุสฺสานํ วณฺณสณฺานาทิวเสน ทฺเวปิ เอกสทิสา นตฺถิ. เยปิ กตฺถจิ ยมกภาตโร วณฺเณน วา สณฺาเนน วา เอกสทิสา โหนฺติ, เตสมฺปิ อาโลกิตวิโลกิตกถิตหสิตคมนานาทีหิ วิเสโส โหติเยว, ปฏิสนฺธิสฺา จ เนสํ ติเหตุกาปิ ทุเหตุกาปิ อเหตุกาปิ โหติ, ตสฺมา สพฺเพปิ มนุสฺสา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน. ฉกามาวจรเทเวสุ จ เกสฺจิ กาโย นีโล โหติ, เกสฺจิ ปีตาทิวณฺโณ, ปฏิสนฺธิสฺา จ เนสํ ทุเหตุกาปิ ติเหตุกาปิ โหติ, ตสฺมา เตปิ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน. เอกจฺเจ วินิปาติกา ปน จตุอปายวินิมุตฺตกา อุตฺตรมาตา ยกฺขินี, ปิยงฺกรมาตา, ธมฺมคุตฺตาติ เอวมาทโย ทฏฺพฺพา. เอเตสฺหิ โอทาตกอาฬมงฺคุรจฺฉวิสามวณฺณาทิวเสน เจว กิสถูลรสฺสทีฆาทิวเสน จ กาโย นานา โหติ, มนุสฺสานํ วิย ติเหตุกทุเหตุกาเหตุกวเสน ปฏิสนฺธิสฺาปิ, เต ปน เทวา วิย น มเหสกฺขา , กปณมนุสฺสา วิย อปฺเปสกฺขา ทุลฺลภฆาสจฺฉาทนา ทุกฺขปีฬิตา วิหรนฺติ, เอกจฺเจ กาฬปกฺเข ทุกฺขิตา ชุณฺหปกฺเข สุขิตา โหนฺติ, ตสฺมา สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา สุขสมุสฺสยโต วินิปาโต เอเตสํ อตฺถีติ วินิปาติกาติ วุตฺตา สติปิ เทวภาเว ทิพฺพสมฺปตฺติยา อภาวโต. เย ปเนตฺถ ติเหตุกา, เตสํ ธมฺมาภิสมโยปิ โหติ. ปิยงฺกรมาตา หิ ยกฺขินี ปจฺจูสสมเย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ธมฺมํ สชฺฌายโต สุตฺวา –

‘‘มา สทฺทํ กริ ปิยงฺกร, ภิกฺขุ ธมฺมปทานิ ภาสติ;

อปิจ ธมฺมปทํ วิชานิย, ปฏิปชฺเชม หิตาย โน สิยา.

‘‘ปาเณสุ จ สํยมามเส, สมฺปชานมุสา น ภณามเส;

สิกฺเขม สุสีลฺยมตฺตโน, อปิ มุจฺเจม ปิสาจโยนิยา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๔๐) –

เอวํ ปุตฺตกํ สฺาเปตฺวา ตํ ทิวสํ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา. อุตฺตรมาตา ปน ภควโต ธมฺมํ สุตฺวาว โสตาปนฺนา ชาตา. เอวมิเมปิ กายสฺส เจว ปฏิสนฺธิสฺาย จ นานตฺตา ‘‘นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน’’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ.

พฺรหฺมปาริสชฺชพฺรหฺมปุโรหิตมหาพฺรหฺมสงฺขาตา ปน หีนมชฺฌิมปณีตเภทภินฺเนน ปมชฺฌาเนน นิพฺพตฺตา พฺรหฺมกายิกา เจว จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา จ ‘‘นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. เอเตสุ หิ พฺรหฺมกายิเกสุ พฺรหฺมปุโรหิตานํ กาโย พฺรหฺมปาริสชฺเชหิ ปมาณโต วิปุลตโร โหติ, มหาพฺรหฺมานํ กาโย ปน พฺรหฺมปุโรหิเตหิปิ ปมาณโต วิปุลตโร โหติ. กามฺจ เนสํ ปภาวเสนปิ กาโย เหฏฺิมเหฏฺิเมหิ อุฬารตโร โหติ, ตํ ปน อิธ อปฺปมาณํ. ตถา หิ ปริตฺตาภาทีนํ ปริตฺตสุภาทีนฺจ กาเย สติปิ ปภาเวมตฺเต เอกตฺตวเสเนว ววตฺถปียตีติ ‘‘เอกตฺตกายา’’ตฺเวว เต วุจฺจนฺติ. เอวมิเม พฺรหฺมกายิกา กายสฺส นานตฺตา ปมชฺฌานวิปากวเสน ปน ปฏิสนฺธิสฺาย จ เอกตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. ยถา จ เต, เอวํ จตูสุ อปาเยสุ สตฺตา. นิรเยสุ หิ เกสฺจิ คาวุตํ, เกสฺจิ อฑฺฒโยชนํ, เกสฺจิ โยชนํ อตฺตภาโว โหติ, เทวทตฺตสฺส ปน โยชนสติโก ชาโต. ติรจฺฉาเนสุปิ เกจิ ขุทฺทกา, เกจิ มหนฺตา, เปตฺติวิสเยปิ เกจิ สฏฺิหตฺถา, เกจิ อสีติหตฺถา โหนฺติ, เกจิ สุวณฺณา, เกจิ ทุพฺพณฺณา, ตถา กาลกฺจิกา อสุรา. อปิ เจตฺถ ทีฆปิฏฺิกเปตา นาม สฏฺิโยชนิกาปิ โหนฺติ, ปฏิสนฺธิสฺา ปน สพฺเพสมฺปิ อกุสลวิปากาเหตุกาว โหติ. อิติ อาปายิกาปิ ‘‘นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน’’ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ.

ทุติยชฺฌานภูมิกา ปน ปริตฺตาภา อปฺปมาณาภา อาภสฺสรา ‘‘เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน’’ติ วุจฺจนฺติ. เนสฺหิ สพฺเพสํ กาโย เอกปฺปมาโณว โหติ, ปฏิสนฺธิสฺา ปน ทุติยตติยชฺฌานวิปากวเสน นานา โหติ.

ปริตฺตสุภา อปฺปมาณสุภา สุภกิณฺหา ปน ตติยชฺฌานภูมิกา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. เตสํ วุตฺตนเยน กายสฺส เจว จตุตฺถชฺฌานวิปากวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย จ เอกตฺตา. ‘‘เวหปฺผลาปิ อิมํเยว จตุตฺถวิฺาณฏฺิตึ ภชนฺติ กายสฺส เจว ปฺจมชฺฌานวิปากวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย จ เอกรูปตฺตา. สุทฺธาวาสา ปน อปุนราวตฺตนโต วิวฏฺฏปกฺเข ิตา, น สพฺพกาลิกา. กปฺปสตสหสฺสมฺปิ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ พุทฺธสุฺเ โลเก นุปฺปชฺชนฺติ, โสฬสกปฺปสหสฺสพฺภนฺตเร พุทฺเธสุ อุปฺปชฺชนฺเตสุเยว อุปฺปชฺชนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺติสฺส ภควโต ขนฺธาวารฏฺานสทิสา โหนฺติ, ตสฺมา เนว วิฺาณฏฺิตึ, น สตฺตาวาสํ ภชนฺตี’’ติ วทนฺติ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘น โข ปน โส สาริปุตฺต อาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุฏฺปุพฺโพ อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๐) อิมินา สุตฺเตน ‘‘สุทฺธาวาสาปิ จตุตฺถวิฺาณฏฺิตึ จตุตฺถสตฺตาวาสํ ภชนฺตี’’ติ วทติ, ตํ อปฺปฏิพาหิยตฺตา สุตฺตสฺส อนุฺาตํ. ตสฺมา อสฺสตฺตํ อปเนตฺวา ปริตฺตสุภาทีสุ อกนิฏฺปริโยสานาสุ นวสุ ภูมีสุ สตฺตา ‘‘เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน’’ติ คเหตพฺพา.

อสฺสตฺตา ปน วิฺาณาภาวา เอตฺถ สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. ตถา หิ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘ธี จิตฺตํ, ธี จิตฺตํ, จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ. จิตฺตฺหิ นิสฺสาย วธพนฺธาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, จิตฺเต อสติ นตฺเถต’’นฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา รูปปฏิสนฺธิวเสน อสฺภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ิโต วา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วา โหติ. เอวํ จิตฺตวิราคภาวนาวเสน เตสํ ตตฺถ วิฺาณุปฺปตฺติ น โหตีติ วิฺาณาภาวโต วิฺาณฏฺิตึ เต น ภชนฺติ. เนวสฺานาสฺายตนํ ปน ยเถว สฺาย, เอวํ วิฺาณสฺสปิ สุขุมตฺตา วิฺาณฏฺิตีสุ สงฺคหํ น คจฺฉติ. ตฺหิ สฺาย วิย วิฺาณสฺสปิ สงฺขาราวเสสสุขุมภาวปฺปตฺตตฺตา ปริพฺยตฺตวิฺาณกิจฺจาภาวโต เนว วิฺาณํ , น จ สพฺพโส อวิฺาณํ โหตีติ เนววิฺาณา นาวิฺาณํ, ตสฺมา ปริปฺผุฏวิฺาณกิจฺจวนฺตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ สงฺคหํ น คจฺฉติ. ตสฺมา วินิปาติเกหิ สทฺธึ ฉกามาวจรเทวา มนุสฺสา จ นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, ปมชฺฌานภูมิกา อปายสตฺตา จ นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน, ทุติยชฺฌานภูมิกา เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน, ตติยชฺฌานภูมิกา อสฺสตฺตํ วชฺเชตฺวา เสสา จตุตฺถชฺฌานภูมิกา จ เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโนติ อิมา จตสฺโส วิฺาณฏฺิติโย เนวสฺานาสฺายตนํ วชฺเชตฺวา อากาสานฺจายตนาทิเหฏฺิมารุปฺปตฺตเยน สทฺธึ ‘‘สตฺต วิฺาณฏฺิติโย’’ติ เวทิตพฺพา.

อฏฺ โลกธมฺมาติ ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส นินฺทา ปสํสา สุขํ ทุกฺขนฺติ อิเม อฏฺ โลกสฺส ธมฺมตฺตา โลกธมฺมา. อิเม หิ สตฺตโลกสฺส อวสฺสํภาวิโน ธมฺมา, ตสฺมา เอเตหิ วินิมุตฺโต นาม โกจิ สตฺโต นตฺถิ. เต หิ อปราปรํ กทาจิ โลกํ อนุปตนฺติ, กทาจิ เต โลโก จ อนุปตติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา โลกํ อนุปริวตฺตนฺติ, โลโก จ อฏฺ โลกธมฺเม อนุปริวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖). ฆาสจฺฉาทนาทีนํ ลทฺธิ, ตานิ เอว วา ลทฺธพฺพโต ลาโภ. ตทภาโว อลาโภ. ลาภคฺคหเณน เจตฺถ ตพฺพิสโย อนุโรโธ คหิโต, อลาภคฺคหเณน วิโรโธ. เอวํ ยสาทีสุปิ ตพฺพิสยอนุโรธวิโรธานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ลาเภ ปน อาคเต อลาโภ อาคโตเยว โหตีติ ลาโภ จ อลาโภ จ วุตฺโต. ยสาทีสุปิ เอเสว นโย. ตถา จ โลหิเต สติ ตทุปฆาตวเสน ปุพฺโพ วิย ลาภาทีสุ อนุโรเธ สติ อลาภาทีสุ วิโรโธ ลทฺธาวสโร เอว โหติ.

นว สตฺตาวาสาติ เหฏฺา วุตฺตสตฺตวิฺาณฏฺิติโย เอว อสฺสตฺตจตุตฺถารุปฺเปหิ สทฺธึ ‘‘นว สตฺตาวาสา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺตา อาวสนฺติ เอเตสูติ สตฺตาวาสา, นานตฺตกายนานตฺตสฺีอาทิเภทา สตฺตนิกายา. เต หิ สตฺตนิกายา ตปฺปริยาปนฺนานํ สตฺตานํ ตาย เอว ตปฺปริยาปนฺนตาย อาธาโร วิย วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ สมุทายาธารตาย อวยวสฺส ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ. สุทฺธาวาสานมฺปิ สตฺตาวาสคฺคหเณ การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ทสายตนานีติ อรูปสภาวํ มนายตนํ รูปารูปาทิมิสฺสกํ ธมฺมายตนฺจ เปตฺวา เกวลํ รูปธมฺมานํเยว วเสน จกฺขายตนาทโย ปฺจ, รูปายตนาทโย ปฺจาติ ทสายตนานิ วุตฺตานิ, มนายตนธมฺมายตเนหิ ปน สทฺธึ ตานิเยว ‘‘ทฺวาทสายตนานี’’ติ วุตฺตานิ.

กสฺมา ปเนตฺถ จกฺขาทโย ‘‘อายตนานี’’ติ วุจฺจนฺติ? อายตนโต (วิภ. อฏฺ. ๑๕๔) อายานํ วา ตนนโต อายตสฺส จ นยนโต อายตนานิ. จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิจฺเจน อายตนฺติ อุฏฺหนฺติ ฆฏนฺติ วายมนฺติ, เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, อิทฺจ อนมตคฺเค สํสาเร ปวตฺตํ อติวิย อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ, ตาว นยนฺติ ปวตฺตยนฺติ, ตสฺมา ‘‘อายตนานี’’ติ วุจฺจนฺติ. อปิ จ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนานิ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๕๘; อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓) การณํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. จกฺขุอาทีสุ จ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย เตสํ นิวาสฏฺานํ. จกฺขาทีสุ จ เต อากิณฺณา ตนฺนิสฺสิตตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโยว เนสํ อากโร. ตตฺถ ตตฺถ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต จกฺขาทโยว เนสํ สโมสรณฏฺานํ. ตนฺนิสฺสยารมฺมณภาเวน ตตฺเถว อุปฺปตฺติโต จกฺขาทโยว เนสํ สฺชาติเทโส. จกฺขาทีนํ อภาเว อภาวโต จกฺขาทโยว เนสํ การณนฺติ ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. เอวํ เสสานิปิ.

อิมาเนว ปน ทฺวาทสายตนานิ จกฺขุวิฺาณาทิฉวิฺาเณหิ สทฺธึ อฏฺารส วิทหนาทิโต ‘‘ธาตุโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตถา หิ จกฺขาทีสุ เอเกโก ธมฺโม ยถาสมฺภวํ วิทหติ, ธียเต, วิธานํ, วิธียเต เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตูติ วุจฺจติ. โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตาว หุตฺวา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิย สุวณฺณรชตาทึ, อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ, ภารหาเรหิ จ ภาโร วิย สตฺเตหิ ธียนฺติ ธารียนฺติ, ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา อวสวตฺตนโต. เอตาหิ จ การณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สตฺเตหิ อนุวิธียติ, ตถาวิหิตฺจ ตํ เอตาสฺเวว ธียติ ปียติ, ตสฺมา ‘‘ธาตุโย’’ติ วุจฺจนฺติ. อปิ จ ยถา ติตฺถิยานํ อตฺตา นาม สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตา, เอตา ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. ยถา จ โลเก วิจิตฺตา หริตาลมโนสิลาทโย เสลาวยวา ‘‘ธาตุโย’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวเมตาปิ ธาตุโย วิย ธาตุโย. วิจิตฺตา เหตา าณเยฺยาวยวาติ. ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺเนสุ ธาตุสมฺา, เอวเมเตสุปิ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส อวยเวสุ ธาตุสมฺา เวทิตพฺพา. อฺมฺวิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺนา เหเต จกฺขาทโยติ. อปิ จ ธาตูติ นิชฺชีวมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตถา หิ ภควา ‘‘ฉธาตุโร อยํ ภิกฺขุ ปุริโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๔๓) ชีวสฺาสมูหนนตฺถํ ธาตุเทสนมกาสิ. ตสฺมา นิชฺชีวฏฺเนปิ ธาตุโยติ วุจฺจนฺติ.

เอตฺถ จ ‘‘อาหารฏฺิติกา’’ติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาวจเนน สงฺขารานํ อนิจฺจตา, ตาย จ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต ทุกฺขานตฺตตา จ ปกาสิตา โหนฺตีติ ตีณิปิ สามฺลกฺขณานิ คหิตานิ. นามนฺติ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, เต จ อตฺถโต ผสฺสาทโย. รูปนฺติ ภูตุปาทายรูปานิ, ตานิ จ อตฺถโต ปถวีอาทโยติ อวิเสเสเนว สลกฺขณโต สงฺขารา คหิตา. ตคฺคหเณเนว เย เต สวิเสสา กุสลาทโย เหตุอาทโย จ, เตปิ คหิตา เอว โหนฺตีติ อาห ‘‘อิติ อยํ สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต’’ติ.

เอวํ สงฺขารโลกสฺส สพฺพถา วิทิตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สตฺตโลกสฺสปิ สพฺพถา วิทิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยสฺมา ปเนสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาสยํ ชานาตีติ อาคมฺม จิตฺตํ เสติ เอตฺถาติ อาสโย มิคาสโย วิย. ยถา มิโค โคจราย คนฺตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ตตฺเถว วนคหเน สยตีติ โส ตสฺส อาสโย, เอวํ อฺถา ปวตฺติตฺวาปิ จิตฺตํ อาคมฺม ยตฺถ เสติ, โส ตสฺส อาสโยติ วุจฺจติ. โส ปน สสฺสตทิฏฺิอาทิวเสน จตุพฺพิโธ. วุตฺตฺจ –

‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกา;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิต’’นฺติ.

ตตฺถ สพฺพทิฏฺีนํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีหิ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพปิ ทิฏฺิคติกา สตฺตา อิมา เอว ทฺเว ทิฏฺิโย สนฺนิสฺสิตา. ยถาห ‘‘ทฺวยนิสฺสิโต ขฺวายํ กจฺจาน โลโก เยภุยฺเยน อตฺถิตฺเจว นตฺถิตฺจา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕). อตฺถิตาติ หิ สสฺสตคฺคาโห อธิปฺเปโต, นตฺถิตาติ อุจฺเฉทคฺคาโห. อยํ ตาว วฏฺฏนิสฺสิตานํ ปุถุชฺชนานํ อาสโย, วิวฏฺฏนิสฺสิตานํ ปน สุทฺธสตฺตานํ อนุโลมิกา ขนฺติ ยถาภูตาณนฺติ ทุวิโธ อาสโย. ตตฺถ ‘‘อนุโลมิกา ขนฺติ วิปสฺสนาาณํ, ยถาภูตาณํ ปน มคฺคาณ’’นฺติ สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๘๑๕) วุตฺตํ . ตํ จตุพฺพิธมฺปิ สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, ชานนฺโต จ เตสํ ทิฏฺิคตานํ เตสฺจ าณานํ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘กามํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล กามครุโก กามาสโย กามาธิมุตฺโต’ติ, กามํ เสวนฺตฺเว ชานาติ ‘อยํ ปุคฺคโล เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาสโย เนกฺขมฺมาธิมุตฺโต’’’ติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓).

อนุสยํ ชานาตีติ อนุ อนุ สยนฺตีติ อนุสยา, อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ การณลาเภ อุปฺปชฺชนารหตํ ทสฺเสติ. อปฺปหีนา หิ กิเลสา การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชนฺติ. เก ปน เต? กามราคาทโย สตฺต อนาคตา กิเลสา, อตีตา ปจฺจุปฺปนฺนา จ ตํสภาวตฺตา ตถา วุจฺจนฺติ. น หิ ธมฺมานํ กาลเภเทน สภาวเภโท อตฺถิ, ตํ สตฺตวิธํ อนุสยํ ตสฺส ตสฺส สตฺตสฺส สนฺตาเน ปโรปรภาเวน ปวตฺตมานํ ชานาติ.

จริตํ ชานาตีติ เอตฺถ จริตนฺติ สุจริตทุจฺจริตํ. ตฺหิ วิภงฺเค (วิภ. ๘๑๔ อาทโย) จริตนิทฺเทเส นิทฺทิฏฺํ. อถ วา จริตนฺติ จริยา เวทิตพฺพา. ตา ปน ราคโทสโมหสทฺธาพุทฺธิวิตกฺกวเสน ฉ มูลจริยา, ตาสํ อปริยนฺโต อนฺตรเภโท, สํสคฺคเภโท ปน เตสฏฺิวิโธ. ตํ จริตํ สภาวโต สํกิเลสโต โวทานโต สมุฏฺานโต ผลโต นิสฺสนฺทโตติ เอวมาทินา ปกาเรน ชานาติ.

อธิมุตฺตึ ชานาตีติ เอตฺถ อธิมุตฺตีติ อชฺฌาสยธาตุ. สา ทุวิธา หีนาธิมุตฺติ ปณีตาธิมุตฺตีติ. ยาย หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเกเยว เสวนฺติ, ปณีตาธิมุตฺติกา จ ปณีตาธิมุตฺติเก เอว. สเจ หิ อาจริยุปชฺฌายา น สีลวนฺโต โหนฺติ, สทฺธิวิหาริกา สีลวนฺโต โหนฺติ, เต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตนา สทิเส สารุปฺปภิกฺขูเยว อุปสงฺกมนฺติ. สเจ อาจริยุปชฺฌายา สารุปฺปภิกฺขู, อิตเร อสารุปฺปา, เตปิ น อาจริยุปชฺฌาเย อุปสงฺกมนฺติ, อตฺตนา สทิเส หีนาธิมุตฺติเก เอว อุปสงฺกมนฺติ. ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร นาคทีเป เจติยวนฺทนาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺโต เอกสฺมึ คาเม มนุสฺเสหิ นิมนฺติโต เถเรน จ สทฺธึ เอโก อสารุปฺปภิกฺขุ อตฺถิ, ธุรวิหาเรปิ เอโก อสารุปฺปภิกฺขุ อตฺถิ, ภิกฺขุสงฺเฆสุ คามํ โอสรนฺเตสุ เต อุโภ ชนา กิฺจาปิ อาคนฺตุเกน เนวาสิโก, เนวาสิเกน วา อาคนฺตุโก น ทิฏฺปุพฺโพ, เอวํ สนฺเตปิ เอกโต หุตฺวา หสิตฺวา หสิตฺวา กถยมานา อฏฺํสุ. เถโร ทิสฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน ชานิตฺวา ธาตุสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๘๕ อาทโย) กถิต’’นฺติ อาห. เอวมยํ หีนาธิมุตฺติกาทีนํ อฺมฺโปเสวนาทินิยามิกา อชฺฌาสยธาตุ อชฺฌาสยภาโว อธิมุตฺตีติ วุจฺจติ, ตํ อธิมุตฺตึ ชานาติ. ‘‘อิมสฺส อธิมุตฺติ หีนา, อิมสฺส ปณีตา. ตตฺถาปิ อิมสฺส มุทุ, อิมสฺส มุทุตรา, อิมสฺส มุทุตมา’’ติอาทินา ปฏิวิชฺฌติ. อธิมุตฺติยา ปน ติกฺขมุทุภาวาทิโก อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวาทินา เวทิตพฺโพ.

อปฺปรชกฺเขติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อปฺปํ วา ราคาทิรชํ เอเตสนฺติ อปฺปรชกฺขา, อนุสฺสทราคาทิรชา สตฺตา. เต อปฺปรชกฺเข. มหารชกฺเขติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, อุสฺสทราคาทิรชา มหารชกฺขา. ชานาตีติ ‘‘อิมสฺส ราครโช อปฺโป, อิมสฺส โทสรโช อปฺโป’’ติอาทินา อปฺปรชกฺขาทิเก ชานาติ.

ติกฺขินฺทฺริเยติ ติขิเณหิ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคเต. มุทินฺทฺริเยติ มุทุเกหิ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ สมนฺนาคเต. อุภยตฺถาปิ อุปนิสฺสยภูตินฺทฺริยานิ อธิปฺเปตานิ. สฺวากาเรติ สุนฺทรากาเร, กลฺยาณปกติเก วิวฏฺฏชฺฌาสเยติ อตฺโถ. เยสํ วา อาสยาทโย อาการา โกฏฺาสา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. วิปรีตา ทฺวาการา. สุวิฺาปเยติ สมฺมตฺตนิยามํ วิฺาเปตุํ สุกเร สทฺเธ ปฺวนฺเต จ, เย วา กถิตํ การณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. วิปรีตา ทุวิฺาปยา. ภพฺเพ อภพฺเพติ เอตฺถ เย อริยมคฺคปฺปฏิเวธสฺส อนุจฺฉวิกา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา กมฺมาวรณกิเลสาวรณวิปากาวรณรหิตา, เต ภพฺพา. วิปรีตา อภพฺพา. ตสฺมาติ ยสฺมา ภควา อปริมาเณ สตฺเต อาสยาทิโต อนวเสเสตฺวา ชานาติ, ตสฺมา อสฺส ภควโต สตฺตโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต.

นนุ จ สตฺเตสุ ปมาณาทิปิ ชานิตพฺโพ อตฺถีติ? อตฺถิ, ตสฺส ปน ชานนํ น นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธายาติ อิธ น คหิตํ, ภควโต ปน ตมฺปิ สุวิทิตํ สุววตฺถาปิตเมว, ปโยชนาภาวา เทสนํ นารุฬฺหํ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อถ โข ภควา ปริตฺตํ นขสิขายํ ปํสุํ อาโรเปตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข พหุตรํ โย วายํ มยา ปริตฺโต นขสิขายํ ปํสุ อาโรปิโต, อยํ วา มหาปถวี’’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๑๒๑).

เอวํ สตฺตโลกสฺสปิ สพฺพถา วิทิตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โอกาสโลกสฺสปิ ตเถว วิทิตภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา จสตฺตโลโก’’ติอาทิ . โอกาสโลโกปิ สพฺพถา วิทิโตติ สมฺพนฺโธ. จกฺกวาฬนฺติ โลกธาตุ. สา หิ เนมิมณฺฑลสทิเสน จกฺกวาฬปพฺพเตน สมนฺตโต ปริกฺขิตฺตตฺตา ‘‘จกฺกวาฬ’’นฺติ วุจฺจติ. อฑฺฒุฑฺฒานีติ อุปฑฺฒจตุตฺถานิ, ตีณิ สตานิ ปฺาสฺจาติ อตฺโถ. นหุตานีติ ทสสหสฺสานิ. สงฺขาตาติ กถิตา. ยสฺมา ปถวี นามายํ ติริยํ อปริจฺฉินฺนา, ตสฺมา ‘‘เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา’’ติ พหลโตเยว ปริจฺเฉโท วุตฺโต. นนุ จกฺกวาฬปพฺพเตหิ ตํตํจกฺกวาฬปถวี ปริจฺฉินฺนาติ? น ตทฺจกฺกวาฬปถวิยา เอกาพทฺธภาวโต. ติณฺณํ ติณฺณฺหิ ปตฺตานํ อนฺตราฬสทิเส ติณฺณํ ติณฺณํ โลกธาตูนํ อนฺตเรเยว ปถวี นตฺถิ โลกนฺตรนิรยภาวโต, จกฺกวาฬปพฺพตานํ ปน จกฺกวาฬปพฺพตนฺตเรหิ สมฺพทฺธฏฺาเน ปถวี เอกาพทฺธาว, วิวฏฺฏกาเล สณฺหมานาปิ ปถวี ยถาสณฺิตปถวิยา เอกาพทฺธาว สณฺหติ.

สณฺิตีติ เหฏฺา อุปริโต จาติ สพฺพโส ิติ. เอวํ สณฺิเตติ เอวํ อวฏฺิเต. เอตฺถาติ จกฺกวาเฬ. อชฺโฌคาฬฺโหติ โอคาหิตฺวา อนุปวิสิตฺวา ิโต. อจฺจุคฺคโต ตาวเทวาติ ตตฺตกเมว จตุราสีติ โยชนสตสหสฺสานิเยว อุคฺคโต. น เกวลฺเจตฺถ อุพฺเพโธว, อถ โข อายามวิตฺถาราปิสฺส ตตฺตกาเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สิเนรุ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชา จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ อายาเมน, จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ วิตฺถาเรนา’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๖).

สิเนรุปพฺพตุตฺตโมติ ปพฺพเตสุ อุตฺตโม, ปพฺพโตเยว วา อุตฺตโม ปพฺพตุตฺตโม, สิเนรุสงฺขาโต ปพฺพตุตฺตโม สิเนรุปพฺพตุตฺตโม, สิเนรุปพฺพตราชาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส จ ปาจีนปสฺสํ รชตมยํ, ตสฺมา ตสฺส ปภาย อชฺโฌตฺถรนฺติยา ปาจีนทิสาย สมุทฺโททกํ ขีรํ วิย ปฺายติ. ทกฺขิณปสฺสํ ปน อินฺทนีลมณิมยํ, ตสฺมา ทกฺขิณทิสาย สมุทฺโททกํ เยภุยฺเยน นีลวณฺณํ หุตฺวา ปฺายติ, ตถา อากาสํ. ปจฺฉิมปสฺสํ ผลิกมยํ. อุตฺตรปสฺสํ สุวณฺณมยํ. จตฺตาโร สมุทฺทาปิ สิเนรุรสฺมีหิ เอว ปริจฺฉินฺนา. ตถา หิ ปุพฺพทกฺขิณปสฺเสหิ นิกฺขนฺตา รชตมณิรสฺมิโย เอกโต หุตฺวา มหาสมุทฺทปิฏฺเน คนฺตฺวา จกฺกวาฬปพฺพตํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, ทกฺขิณปจฺฉิมปสฺเสหิ นิกฺขนฺตา มณิผลิกรสฺมิโย, ปจฺฉิมุตฺตรปสฺเสหิ นิกฺขนฺตา ผลิกสุวณฺณรสฺมิโย, อุตฺตรปาจีนปสฺเสหิ นิกฺขนฺตา สุวณฺณรชตรสฺมิโย เอกโต หุตฺวา มหาสมุทฺทปิฏฺเน คนฺตฺวา จกฺกวาฬปพฺพตํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, ตาสํ รสฺมีนํ อนฺตเรสุ จตฺตาโร มหาสมุทฺทา โหนฺติ.

ตโตติ สิเนรุสฺส เหฏฺา อุปริ จ วุตฺตปฺปมาณโต. อุปฑฺฒุปฑฺเฒนาติ อุปฑฺเฒน อุปฑฺเฒน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ทฺวาจตฺตาลีส โยชนสหสฺสานิ สมุทฺเท อชฺโฌคาฬฺโห ตตฺตกเมว อุปริ อุคฺคโต ยุคนฺธรปพฺพโต, เอกวีสติ โยชนสหสฺสานิ มหาสมุทฺเท อชฺโฌคาฬฺโห ตตฺตกเมว จ อุปริ อุคฺคโต อีสธโร ปพฺพโตติ อิมินา นเยน เสเสสุปิ อุปฑฺฒุปฑฺฒปฺปมาณตา เวทิตพฺพา. ยถา มหาสมุทฺโท ยาว จกฺกวาฬปาทมูลา อนุปุพฺพนินฺโน, เอวํ ยาว สิเนรุปาทมูลาติ เหฏฺา สิเนรุปฺปมาณโต อุปฑฺฒปฺปมาโณปิ ยุคนฺธรปพฺพโต ปถวิยํ สุปฺปติฏฺิโต, เอวํ อีสธราทโยปีติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร’’ติ (จูฬว. ๑๘๔; อุทา. ๔๕). สิเนรุยุคนฺธราทีนํ อนฺตเร สีทนฺตรสมุทฺทา นาม โหนฺติ. ตตฺถ กิร อุทกํ สุขุมํ โมรปตฺตมตฺตมฺปิ ปกฺขิตฺตํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ สีทเตว, ตสฺมา เต สีทสมุทฺทา นาม วุจฺจนฺติ. เต ปน วิตฺถารโต ยถากฺกมํ สิเนรุอาทีนํ อจฺจุคฺคมสมานปอมาณาติ วทนฺติ. อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตาติ อชฺโฌคาฬฺหา จ อุคฺคตา จ. พฺรหาติ มหนฺตา.

สิเนรุสฺส สมนฺตโตติ ปริกฺขิปนวเสน สิเนรุสฺส สมนฺตโต ิตา. สิเนรุํ ตาว ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ยุคนฺธโร, ตํ ปริกฺขิปิตฺวา อีสธโร. เอวํ ตํ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตา ‘‘สิเนรุสฺส สมนฺตโต’’ติ วุตฺตา. กตฺถจิ ปน ‘‘สิเนรุํ ปริกฺขิปิตฺวา อสฺสกณฺโณ นาม ปพฺพโต ปติฏฺิโต, ตํ ปริกฺขิปิตฺวา วินตโก นาม ปพฺพโต’’ติ เอวํ อฺโเยว อนุกฺกโม อาคโต. ตถา หิ นิมิชาตเก

‘‘สหสฺสยุตฺตํ หยวาหึ, ทิพฺพยานมธิฏฺิโต;

ยายมาโน มหาราชา, อทฺทา สีทนฺตเร นเค;

ทิสฺวานามนฺตยี สูตํ, อิเม เก นาม ปพฺพตา’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๕๖๖)

เอวํ นิมิมหาราเชน ปุฏฺเน มาตลิเทวปุตฺเตน –

‘‘สุทสฺสโน กรวีโก, อีสธโร ยุคนฺธโร;

เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิรี พฺรหา.

‘‘เอเต สีทนฺตเร นคา, อนุปุพฺพสมุคฺคตา;

มหาราชานมาวาสา, ยานิ ตฺวํ ราช ปสฺสสี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๕๖๘-๕๖๙)

วุตฺตํ.

ตตฺถ อฏฺกถายํ อิทํ วุตฺตํ –

‘‘อยํ, มหาราช, เอเตสํ สพฺพพาหิโร สุทสฺสโน ปพฺพโต นาม, ตทนนฺตเร กรวีโก นาม, โส สุทสฺสนโต อุจฺจตโร. อุภินฺนมฺปิ ปน เตสํ อนฺตเร เอโกปิ สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. กรวีกสฺส อนนฺตเร อีสธโร นาม, โส กรวีกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. อีสธรสฺส อนนฺตเร ยุคนฺธโร นาม, โส อีสธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. ยุคนฺธรสฺส อนนฺตเร เนมินฺธโร นาม, โส ยุคนฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. เนมินฺธรสฺส อนนฺตเร วินตโก นาม, โส เนมินฺธรโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. วินตกสฺส อนนฺตเร อสฺสกณฺโณ นาม, โส วินตกโต อุจฺจตโร. เตสมฺปิ อนฺตเร เอโก สีทนฺตรมหาสมุทฺโท. เอเต สีทนฺตรมหาสมุทฺเท สตฺต ปพฺพตา อนุปฏิปาฏิยา สมุคฺคตา โสปานสทิสา หุตฺวา ิตา’’ติ (ชา. อฏฺ. ๖.๒๒.๕๖๙).

โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโตติ หิมวา ปพฺพโต ปฺจ โยชนสตานิ อุจฺโจ, อุพฺเพโธติ อตฺโถ. ตตฺถ หิมวาติ หิมปาตสมเย หิมยุตฺตตาย หิมํ อสฺส อตฺถีติ หิมวา, คิมฺหกาเล หิมํ วมตีติ หิมวา. ปพฺพโตติ เสโล. เสโล หิ สนฺธิสงฺขาเตหิ ปพฺเพหิ สหิตตฺตา ‘‘ปพฺพโต’’ติ วุจฺจติ, ปสวนาทิวเสน ชลสฺส สารภูตานํ เภสชฺชาทีนํ วตฺถูนฺจ คิรณโต ‘‘คิรี’’ติ จ วุจฺจติ. โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโตติ โยชนานํ ตีณิ สหสฺสานิ อายามโต จ วิตฺถารโต จาติ อตฺโถ, อายามโต จ วิตฺถารโต จ ตีณิ โยชนสหสฺสานีติ วุตฺตํ โหติ.

จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโตติ สุทสฺสนกูฏจิตฺรกูฏาทีหิ จตุราสีติกูฏสหสฺเสหิ ปฏิมณฺฑิโต, โสภิโตติ อตฺโถ. อปิเจตฺถ อวุตฺโตปิ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๑; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๑๙; สุ. นิ. อฏฺ. เสลสุตฺตวณฺณนา) – อยํ หิมวา นาม ปพฺพโต สมนฺตโต สนฺทมานปฺจสตนทีวิจิตฺโต, ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน เจว คมฺภีรตาย จ ปณฺณาส ปณฺณาส โยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินีทโห สีหปฺปปาตทโหติ สตฺต มหาสรา ปติฏฺิตา. เตสุ อโนตตฺโต สุทสฺสนกูฏํ จิตฺรกูฏํ กาฬกูฏํ คนฺธมาทนกูฏํ เกลาสกูฏนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิตฺโต. ตตฺถ สุทสฺสนกูฏํ โสวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุพฺเพธํ อนฺโตวงฺกํ กากมุขสณฺานํ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ. จิตฺรกูฏํ สพฺพรตนมยํ. กาฬกูฏํ อฺชนมยํ. คนฺธมาทนกูฏํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ กาฬานุสาริยาทิมูลคนฺโธ จนฺทนาทิสารคนฺโธ สรลาทิเผคฺคุคนฺโธ ลวงฺคาทิตจคนฺโธ กปิฏฺาทิปปฏิกคนฺโธ สชฺชาทิรสคนฺโธ ตมาลาทิปตฺตคนฺโธ นาคกุงฺกุมาทิปุปฺผคนฺโธ ชาติผลาทิผลคนฺโธ สพฺพถา คนฺธภาวโต คนฺธคนฺโธติ อิเมหิ ทสหิ คนฺเธหิ อุสฺสนฺนํ นานปฺปการโอสธสฺฉนฺนํ กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฏฺติ.

ตตฺเถว นนฺทมูลกํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕) นาม ปพฺภารํ ปจฺเจกพุทฺธานํ วสโนกาโส. ติสฺโส คุหาโย สุวณฺณคุหา มณิคุหา รชตคุหาติ. ตตฺถ มณิคุหาทฺวาเร มฺชูสโก นาม รุกฺโข โยชนํ อุพฺเพเธน, โยชนํ วิตฺถาเรน, โส ยตฺตกานิ อุทเก วา ถเล วา ปุปฺผานิ, สพฺพานิ ปุปฺผติ วิเสเสน ปจฺเจกพุทฺธาคมนทิวเส, ตสฺสูปริโต สพฺพรตนมาโฬ โหติ. ตตฺถ สมฺมชฺชนกวาโต กจวรํ ฉฑฺเฑติ, สมกรณวาโต สพฺพรตนมยํ วาลิกํ สมํ กโรติ, สิฺจนกวาโต อโนตตฺตทหโต อาเนตฺวา อุทกํ สิฺจติ, สุคนฺธกรณวาโต สพฺเพสํ คนฺธรุกฺขานํ คนฺเธ อาเนติ, โอจินกวาโต ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปาเตติ, สนฺถรณกวาโต สพฺพตฺถ สนฺถรติ, สทา ปฺตฺตาเนว เจตฺถ อาสนานิ โหนฺติ. เยสุ ปจฺเจกพุทฺธุปฺปาททิวเส อุโปสถทิวเส จ สพฺพปจฺเจกพุทฺธา สนฺนิปติตฺวา นิสีทนฺติ, อยํ ตตฺถ ปกติ. อภิสมฺพุทฺธปจฺเจกพุทฺโธ ตตฺถ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทติ. ตโต สเจ ตสฺมึ กาเล อฺเปิ ปจฺเจกพุทฺธา สํวิชฺชนฺติ, เตปิ ตงฺขณํ สนฺนิปติตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ นิสีทนฺติ, นิสีทิตฺวา กิฺจิเทว สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหนฺติ. ตโต สงฺฆตฺเถโร อธุนาคตํ ปจฺเจกพุทฺธํ สพฺเพสํ อนุโมทนตฺถาย ‘‘กถมธิคต’’นฺติ กมฺมฏฺานํ ปุจฺฉติ, ตทา โส อตฺตโน อุทานพฺยากรณคาถํ ภาสติ. เอวมิทํ คนฺธมาทนกูฏํ ปจฺเจกพุทฺธานํ อาวาสฏฺานํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

เกลาสกูฏํ ปน รชตมยํ. สพฺพานิ เจตานิ จิตฺรกูฏาทีนิ สุทสฺสเนน สมานุพฺเพธสณฺานานิ ตเมว สรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตานิ. สพฺพานิ ปน ปุถุลโต ปฺาสโยชนานิ, อายามโต ปน อุพฺเพธโต วิย ทฺวิโยชนสตาเนวาติ วทนฺติ. ตานิ สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ สฺสนฺติ, นทิโย จ เตสุ สนฺทนฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติ, จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตตฺถ โอภาสํ กโรนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น กโรนฺติ, เตเนวสฺส ‘‘อโนตตฺต’’นฺติ สงฺขา อุทปาทิ. ตตฺถ รตนมยมนุฺโสปานสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมลูทกานิ นฺหานติตฺถานิ ตทุปโภคีสตฺตานํ สาธารณกมฺมุนาว สุปฺปฏิยตฺตานิ สุสณฺิตานิ โหนฺติ, เยสุ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา จ อิทฺธิมนฺโต จ อิสโย นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย อุยฺยานกีฬํ กีฬนฺติ.

ตสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ สีหมุขํ หตฺถิมุขํ อสฺสมุขํ อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตสฺโส นทิโย สนฺทนฺติ. สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ, หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภา. ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติสฺโส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวนฺเตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ. ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวนฺเตเนว อุตฺตรหิมวนฺเตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. ทกฺขิณทิสโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิเณน อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเเนว สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา วุฏฺาย ปริกฺเขเปน ติคาวุตปฺปมาณา อุทกธารา หุตฺวา อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภินฺโน. ตตฺถ ปฺาสโยชนปฺปมาณา ติยคฺคฬา นาม มหาโปกฺขรณี ชาตา, มหาโปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิ โยชนานิ คตา, ตโต ฆนปถวึ ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คนฺตฺวา วิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปฺจงฺคุลิสทิสา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตติ. สา ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฏฺาเน ‘‘อาวฏฺฏคงฺคา’’ติ วุจฺจติ, อุชุกํ ปาสาณปิฏฺเน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘กณฺหคงฺคา’’ติ, อากาเสน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘อากาสคงฺคา’’ติ, ติยคฺคฬปาสาเณ ปฺาสโยชโนกาเส ิตา ‘‘ติยคฺคฬโปกฺขรณี’’ติ, กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘พหลคงฺคา’’ติ, อุมงฺเคน สฏฺิ โยชนานิ คตฏฺาเน ‘‘อุมงฺคคงฺคา’’ติ วุจฺจติ. วิฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตฏฺาเน ปน คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหีติ ปฺจธา สงฺขฺยํ คตา. เอวเมตา ปฺจ มหานทิโย หิมวนฺตโต ปภวนฺติ.

ฉทฺทนฺตทหสฺส ปน (ชา. อฏฺ. ๕.๑๖.ฉทฺทนฺตชาตกวณฺณนา) มชฺเฌ ทฺวาทสโยชนปฺปมาเณ าเน เสวาโล วา ปณกํ วา นตฺถิ, มณิกฺขนฺธวณฺณํ อุทกเมว สนฺติฏฺติ, ตทนนฺตรํ โยชนวิตฺถตํ สุทฺธกลฺลหารวนํ ตํ อุทกํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ, ตทนนฺตรํ โยชนวิตฺถตเมว สุทฺธนีลุปฺปลวนํ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ, โยชนโยชนวิตฺถตาเนว รตฺตุปฺปลเสตุปฺปลรตฺตปทุมเสตปทุมกุมุทวนานิ ปุริมํ ปุริมํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตานิ, อิเมสํ ปน สตฺตนฺนํ วนานํ อนนฺตรํ สพฺเพสมฺปิ กลฺลหาราทีนํ วเสน โวมิสฺสกวนํ โยชนวิตฺถตเมว ตานิ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ, ตทนนฺตรํ นาคานํ กฏิปฺปมาเณ อุทเก โยชนวิตฺถตเมว รตฺตสาลิวนํ, ตทนนฺตรํ อุทกปริยนฺเต นีลปีตโลหิโตทาตสุรภิสุขุมกุสุมสมากิณฺณํ ขุทฺทกคจฺฉวนนฺติ อิมานิ ทส วนานิ โยชนโยชนวิตฺถตาเนว. ตโต ขุทฺทกราชมาสมหาราชมาสมุคฺควนํ, ตทนนฺตรํ ติปุสเอฬาลุกอลาพุกุมฺภณฺฑวลฺลิวนานิ, ตโต ปูครุกฺขปฺปมาณํ อุจฺฉุวนํ, ตโต หตฺถิทนฺตปฺปมาณผลํ กทลิวนํ, ตโต สาลวนํ, ตทนนฺตรํ จาฏิปฺปมาณผลํ ปนสวนํ, ตโต มธุรผลํ อมฺพวนํ, ตโต จิฺจวนํ, ตโต กปิฏฺวนํ, ตโต โวมิสฺสโก มหาวนสณฺโฑ, ตโต เวณุวนํ, เวณุวนํ ปน ปริกฺขิปิตฺวา สตฺต ปพฺพตา ิตา, เตสํ พาหิรนฺตโต ปฏฺาย ปโม จูฬกาฬปพฺพโต นาม, ทุติโย มหากาฬปพฺพโต นาม, ตโต อุทกปสฺสปพฺพโต นาม, ตโต จนฺทปสฺสปพฺพโต นาม, ตโต สูริยปสฺสปพฺพโต นาม, ตโต มณิปสฺสปพฺพโต นาม, สตฺตโม สุวณฺณปสฺสปพฺพโต นาม. โส อุพฺเพธโต สตฺตโยชนิโก ฉทฺทนฺตทหํ ปริกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิ วิย ิโต. ตสฺส อพฺภนฺตริมปสฺสํ สุวณฺณวณฺณํ, ตโต นิกฺขนฺเตน โอภาเสน ฉทฺทนฺตทโห สมุคฺคตพาลสูริโย วิย โหติ. พาหิริมปพฺพเตสุ ปน เอโก อุพฺเพธโต ฉ โยชนานิ, เอโก ปฺจ, เอโก จตฺตาริ, เอโก ตีณิ, เอโก ทฺเว, เอโก โยชนํ.

เอวํ สตฺตปพฺพตปริกฺขิตฺตสฺส ปน ตสฺส ทหสฺส ปุพฺพุตฺตรกณฺเณ อุทกวาตปฺปหรโณกาเส มหานิคฺโรธรุกฺโข, ตสฺส ขนฺโธ ปริกฺเขปโต ปฺจโยชนิโก, อุพฺเพธโต สตฺตโยชนิโก. จตูสุ ทิสาสุ จตสฺโส สาขาโย ฉฉโยชนิกา, อุทฺธํ อุคฺคตสาขาปิ ฉโยชนิกาว. อิติ โส มูลโต ปฏฺาย อุพฺเพเธน เตรสโยชนิโก สาขานํ โอริมนฺตโต ยาว ปาริมนฺตา ทฺวาทสโยชนิโก อฏฺหิ ปาโรหสหสฺเสหิ ปฏิมณฺฑิโต มุณฺฑมณิปพฺพโต วิย วิลาสมาโน ติฏฺติ. ฉทฺทนฺตทหสฺส ปน ปจฺฉิมทิสาภาเค สุวณฺณปพฺพเต ทฺวาทสโยชนิกา กฺจนคุหา. ฉทฺทนฺโต นาคราชา วสฺสารตฺเต อฏฺสหสฺสนาคปริวุโต กฺจนคุหายํ วสติ, คิมฺหกาเล อุทกวาตํ สมฺปฏิจฺฉมาโน มหานิคฺโรธมูเล ปาโรหนฺตเร ติฏฺติ.

มนฺทากินิยา ปน มชฺเฌ ปฺจวีสติโยชนมตฺเต าเน เสวาโล วา ปณกํ วา นตฺถิ, ผลิกวณฺณํ อุทกเมว โหติ, ตโต ปรํ ปน นาคานํ กฏิปฺปมาเณ อุทเก อฑฺฒโยชนวิตฺถตํ เสตปทุมวนํ ตํ อุทกํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ตตฺถ มุฬาลํ นงฺคลสีสมตฺตํ โหติ, ภิสํ มหาเภริโปกฺขรปฺปมาณํ โหติ. ตสฺส เอเกกสฺมึ ปพฺพนฺตเร อาฬฺหกปฺปมาณํ ขีรํ โหติ. ปทุมานํ ปุปฺผสมเย วาโต เรณุวฏฺฏึ อุฏฺาเปตฺวา ปทุมินีปตฺเตสุ เปติ, ตตฺถ อุทกผุสิตานิ ปตนฺติ, ตโต อาทิจฺจปาเกน ปจฺจิตฺวา ปกฺกอโยฆฏิกา วิย โปกฺขรมธุ ติฏฺติ, ตทนนฺตรํ ตาวมหนฺตเมว รตฺตปทุมวนํ, ตทนนฺตรํ รตฺตกุมุทวนํ, ตทนนฺตรํ เสตกุมุทวนํ , ตทนนฺตรํ นีลุปฺปลวนํ, ตทนนฺตรํ รตฺตุปฺปลวนํ, ตทนนฺตรํ สุคนฺธสาลิวนํ, ตทนนฺตรํ เอฬาลุกอลาพุกุมฺภณฺฑาทีนิ มธุรรสานิ วลฺลิผลานิ, ตทนนฺตรํ อฑฺฒโยชนวิตฺถตเมว อุจฺฉุวนํ, ตตฺถ ปูครุกฺขกฺขนฺธปฺปมาณํ อุจฺฉุ. ตทนนฺตรํ กทลิวนํ, ยโต ทุเว ปกฺกานิ ขาทนฺตา กิลมนฺติ. ตทนนฺตรํ จาฏิปฺปมาณผลํ ปนสวนํ, ตทนนฺตรํ อมฺพวนํ, ชมฺพุวนํ, กปิฏฺวนนฺติ สงฺเขปโต ตสฺมึ ทเห ขาทิตพฺพยุตฺตกํ ผลํ นาม นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ. อิติ อิมสฺมึ หิมวติ วิชฺชมานกสตฺตมหาสรปฺปภุตีนํ ปมาณสณฺานาทิเภทํ สพฺพเมว วิเสสํ ภควา สพฺพถา อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิเยวาติ ทฏฺพฺพํ.

ติปฺจโยชนกฺขนฺธปริกฺเขปาติ ปนฺนรสโยชนปฺปมาณกฺขนฺธปริกฺเขปา, ขนฺธสฺส ปริณาโห ปนฺนรสโยชนปฺปมาโณติ วุตฺตํ โหติ. นควฺหยาติ นคสทฺเทน อวฺหาตพฺพา, รุกฺขาภิธานาติ อตฺโถ. รุกฺโข หิ น คจฺฉตีติ นโคติ วุจฺจติ. นควฺหยา ชมฺพูติ โยเชตพฺพํ. ปฺาสโยชนกฺขนฺธสาขายามาติ อุพฺเพธโต ปฺาสโยชนปฺปมาณกฺขนฺธายามา อุพฺเพธโต สมนฺตโต จ ปฺาสโยชนสาขายามา จ. ตโต เอว สตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา. ชมฺพุรุกฺขสฺส หิ มูลโต ปฏฺาย ยาว สาขาวิฏปา, ตาว ปณฺณาส โยชนานิ, ตโต ปรมฺปิ อุชุกํ อุคฺคตสาขา ปณฺณาส โยชนานิ, สมนฺตโต จ เอเกกา สาขา ปณฺณาส ปณฺณาส โยชนานิ วฑฺฒิตานิ. ตาสุ ปน มหนฺตา มหนฺตา นทิโย สนฺทนฺติ, ตาสํ นทีนํ อุภยตีเร ชมฺพุปกฺกานํ ปติตฏฺาเน สุวณฺณงฺกุรา อุฏฺหนฺติ, เต นทีชเลน วุยฺหมานา อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ, ตโตเยว ชมฺพุนทิยํ นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘ชมฺพุนท’’นฺติ ตํ สุวณฺณํ วุจฺจติ.

ยสฺสานุภาเวนาติ ยสฺสา มหนฺตตา กปฺปฏฺายิกาทิปฺปกาเรน ปภาเวน. ยฺเจตํ ชมฺพุยา ปมาณํ, เอตเทว อสุรานํ จิตฺตปาฏลิยา, ครุฬานํ สิมฺพลิรุกฺขสฺส, อปรโคยาเน กทมฺพสฺส, อุตฺตรกุรูสุ กปฺปรุกฺขสฺส, ปุพฺพวิเทเห สิรีสสฺส, ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกสฺสาติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘ปาฏลี สิมฺพลี ชมฺพู, เทวานํ ปาริฉตฺตโก;

กทมฺโพ กปฺปรุกฺโข จ, สิรีเสน ภวติ สตฺตม’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๗; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๓๒๒);

เอตฺถ สิรีเสน ภวติ สตฺตมนฺติ เอตฺถ สิรีเสนาติ ปจฺจตฺเต กรณวจนํ. สตฺตมนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, สิรีโส ภวติ สตฺตโมติ อตฺโถ.

จกฺกวาฬสิลุจฺจโยติ จกฺกวาฬปพฺพโต. ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโตติ เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ตํ ปริกฺขิปิตฺวา จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ปติฏฺิโต, อยํ เอกา โลกธาตุ นามาติ อตฺโถ. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน อาคโต. ‘‘ตํ สพฺพํ โลกธาตุํ ปริกฺขิปิตฺวา อยํ จกฺกวาฬสิลุจฺจโย ิโต’’ติ เอวมฺเปตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ, เอวํ วุตฺเตปิ จกฺกวาฬปพฺพโตปิ โลกธาตุเยวาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถาติ ติสฺสํ โลกธาตุยํ. จนฺทมณฺฑลํ เอกูนปฺาสโยชนนฺติ อุชุกํ อายามโต วิตฺถารโต อุพฺเพธโต จ เอกูนปฺาสโยชนํ, ปริมณฺฑลโต ปน ตีหิ โยชเนหิ อูนทิยฑฺฒสตโยชนํ. สูริยมณฺฑลํ ปฺาสโยชนนฺติ เอตฺถาปิ จนฺทมณฺฑเล วุตฺตนเยเนว อุชุกํ ปฺาสโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ, ปริมณฺฑลโต ปน ทิยฑฺฒสตโยชนํ.

เตสุ ปน จนฺทมณฺฑลํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๒๑) เหฏฺา, สูริยมณฺฑลํ อุปริ, อนฺตรา เนสํ โยชนํ โหติ. จนฺทสฺส เหฏฺิมนฺตโต สูริยสฺส อุปริมนฺตํ โยชนสตํ โหติ, จนฺทวิมานํ อนฺโต มณิมยํ, พหิ รชเตน ปริกฺขิตฺตํ, อนฺโต จ พหิ จ สีตลเมว โหติ. สูริยวิมานํ อนฺโต กนกมยํ, พาหิรํ ผลิกปริกฺขิตฺตํ โหติ, อนฺโต จ พหิ จ อุณฺหเมว. จนฺโท อุชุกํ สณิกํ คจฺฉติ. โส หิ อมาวาสิยํ สูริเยน สทฺธึ คจฺฉนฺโต ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ โอหียนฺโต ปุณฺณมาสิยํ อุปฑฺฒมคฺคโต โอหียติ, ติริยํ ปน สีฆํ คจฺฉติ. ตถา เหส เอกสฺมึ มาเส กทาจิ ทกฺขิณโต, กทาจิ อุตฺตรโต ทิสฺสติ, จนฺทสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ นกฺขตฺตตารกา คจฺฉนฺติ, จนฺโท เธนุ วิย วจฺฉํ ตํ ตํ นกฺขตฺตํ อุปสงฺกมติ, นกฺขตฺตานิ ปน อตฺตโน คมนฏฺานํ น วิชหนฺติ, อตฺตโน วีถิยาว คจฺฉนฺติ. สูริยสฺส ปน อุชุกํ คมนํ สีฆํ, ติริยํ คมนํ ทนฺธํ. ติริยํ คมนํ นาม ทกฺขิณทิสโต อุตฺตรทิสาย, อุตฺตรทิสโต ทกฺขิณทิสาย คมนํ, ตํ ทนฺธํ ฉหิ ฉหิ มาเสหิ อิชฺฌนโต.

สูริโย กาฬปกฺขอุโปสเถ จนฺเทน สเหว คนฺตฺวา ตโต ปรํ ปาฏิปททิวเส โยชนานํ สตสหสฺสํ จนฺทมณฺฑลํ โอหาย คจฺฉติ อตฺตโน สีฆคามิตาย ตสฺส จ ทนฺธคามิตาย, อถ จนฺโท เลขา วิย ปฺายติ. ตโต ปรมฺปิ ปกฺขสฺส ทุติยาย โยชนานํ สตสหสฺสํ จนฺทมณฺฑลํ โอหาย คจฺฉติ. เอวํ ทิวเส ทิวเส ยาว สุกฺกปกฺขอุโปสถทิวสา สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ โอหาย คจฺฉติ, อถ จนฺโท อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อุโปสถทิวเส ปริปุณฺโณ โหติ. อนุกฺกเมน วฑฺฒนฺเจตฺถ อุปริภาคโต ปติตสูริยาโลกตาย เหฏฺโต ปวตฺตาย สูริยสฺส ทูรภาเวน ทิวเส ทิวเส อนุกฺกเมน ปริหายมานาย อตฺตโน ฉายาย วเสน อนุกฺกเมน จณฺฑมณฺฑลปฺปเทสสฺส วฑฺฒมานสฺส วิย ทิสฺสมานตายาติ เวทิตพฺพํ, ตสฺมา อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา วิย อุโปสถทิวเส ปุณฺณมายํ ปริปุณฺณมณฺฑโล หุตฺวา ทิสฺสติ. อถ สูริโย ปาฏิปททิวเส โยชนานํ สตสหสฺสํ ธาวิตฺวา ปุน จนฺทมณฺฑลํ คณฺหาติ จนฺทสฺส ทนฺธคติตาย อตฺตโน จ สีฆคติตาย, ตถา ทุติยาย สตสหสฺสนฺติ เอวํ ยาว อุโปสถทิวสา สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ ธาวิตฺวา คณฺหาติ. อถ จนฺโท อนุกฺกเมน หายิตฺวา กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส สพฺพโส น ปฺายติ, อนุกฺกเมน หายมานตา เจตฺถ อนุกฺกเมน วฑฺฒมานตาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. ตตฺถ ปน ฉายาย หายมานตาย มณฺฑลํ วฑฺฒมานํ วิย ทิสฺสติ, อิธ จ ฉายาย วฑฺฒมานตาย มณฺฑลํ หายมานํ วิย ทิสฺสติ, ตสฺมา อนุกฺกเมน หายิตฺวา วิย อุโปสถทิวเส สพฺพโส น ปฺายติ. จนฺทํ เหฏฺา กตฺวา สูริโย อุปริ โหติ, มหติยา ปาติยา ขุทฺทกภาชนํ วิย จนฺทมณฺฑลํ ปิธียติ, มชฺฌนฺหิเก เคหจฺฉายา วิย จนฺทสฺส ฉายา น ปฺายติ. โส ฉายาย อปฺายมานาย ทูเร ิตานํ ทิวา ปทีโป วิย สยมฺปิ น ปฺายติ.

อิเมสํ ปน อชวีถิ นาควีถิ โควีถีติ ติสฺโส คมนวีถิโย โหนฺติ. ตตฺถ อชานํ อุทกํ ปฏิกูลํ โหติ, หตฺถินาคานํ มนาปํ, คุนฺนํ สีตุณฺหสมตาย ผาสุ โหติ. ตถา จ ยาย วีถิยา สูริเย คจฺฉนฺเต วสฺสวลาหกเทวปุตฺตา สูริยาภิตาปสนฺตตฺตา อตฺตโน วิมานโต น นิกฺขมนฺติ, กีฬาปสุตา หุตฺวา น วิจรนฺติ, ตทา กิร สูริยวิมานํ ปกติมคฺคโต อโธ โอตริตฺวา วิจรติ, ตสฺส โอรุยฺห จรเณเนว จนฺทวิมานมฺปิ อโธ โอรุยฺห จรติ ตคฺคติกตฺตา, ตสฺมา สา วีถิ อุทกาภาเวน อชานุรูปตาย ‘‘อชวีถี’’ติ สมฺา คตา. ยาย ปน วีถิยา สูริเย คจฺฉนฺเต วสฺสวลาหกเทวปุตฺตา สูริยาภิตาปาภาวโต อภิณฺหํ อตฺตโน วิมานโต พหิ นิกฺขมิตฺวา กีฬาปสุตา หุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺติ, ตทา กิร สูริยวิมานํ ปกติมคฺคโต อุทฺธํ อารุหิตฺวา วิจรติ, ตสฺส อุทฺธํ อารุยฺห จรเณเนว จนฺทวิมานมฺปิ อุทฺธํ อารุยฺห จรติ ตคฺคติกตฺตา, ตคฺคติกตา จ สมานคติ นาม วาตมณฺฑเลน วิมานสฺส เผลฺลิตพฺพตฺตา, ตสฺมา สา วีถิ อุทกพหุภาเวน นาคานุรูปตาย ‘‘นาควีถี’’ติ สมฺา คตา. ยทา สูริโย อุทฺธํ อนาโรหนฺโต อโธ จ อโนตรนฺโต ปกติมคฺเคเนว คจฺฉติ, ตทา วสฺสวลาหกา ยถากาลํ ยถารุจิฺจ วิมานโต นิกฺขมิตฺวา สุเขน วิจรนฺติ, เตน กาเลน กาลํ วสฺสนโต โลเก อุตุสมตา โหติ, ตาย อุตุสมตาย เหตุภูตาย สา จนฺทิมสูริยานํ คติ ควานุรูปตาย ‘‘โควีถี’’ติ สมฺา คตา. ตสฺมา ยํ กาลํ จนฺทิมสูริยา อชวีถึ อารุหนฺติ, ตทา เทโว เอกพินฺทุมฺปิ น วสฺสติ. ยทา นาควีถึ อาโรหนฺติ, ตทา ภินฺนํ วิย นภํ ปคฺฆรติ. ยทา โควีถึ อาโรหนฺติ, ตทา อุตุสมตา สมฺปชฺชติ.

ยทา ปน ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, เตสํ อธมฺมิกตาย อุปราชเสนาปติปฺปภุตโย สพฺเพ เทวา พฺรหฺมาโน จ อธมฺมิกา โหนฺติ, ตทา เตสํ อธมฺมิกตาย วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺติ. ตทา หิ พหฺวาพาธตาทิอนิฏฺผลูปนิสฺสยภูตสฺส ยถาวุตฺตสฺส อธมฺมิกตาสฺิตสฺส สาธารณสฺส ปาปกมฺมสฺส พเลน วิสมํ วายนฺเตน วายุนา เผลฺลิยมานา จนฺทิมสูริยา สิเนรุํ ปริกฺขิปนฺตา วิสมํ ปริวตฺตนฺติ, ยถามคฺเคน น ปวตฺตนฺติ. วาโต ยถามคฺเคน น วายติ, อยถามคฺเคน วายติ, อยถามคฺเคน วายนฺโต อากาสฏฺวิมานานิ โขเภติ, วิมาเนสุ โขภิเตสุ เทวตานํ กีฬนตฺถาย จิตฺตานิ น นมนฺติ, จิตฺเตสุ อนมนฺเตสุ สีตุณฺหเภโท อุตุ ยถากาเลน น สมฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสมฺปชฺชนฺเต น สมฺมา เทโว วสฺสติ, กทาจิ วสฺสติ, กทาจิ น วสฺสติ, กตฺถจิ วสฺสติ, กตฺถจิ น วสฺสติ. วสฺสนฺโตปิ วปฺปกาเล องฺกุรกาเล นาฬกาเล ปุปฺผกาเล ขีรคฺคหณาทิกาเลสุ ยถา ยถา สสฺสานํ อุปกาโร น โหติ, ตถา ตถา วสฺสติ จ วิคจฺฉติ จ. เตน สสฺสานิ วิสมปากานิ โหนฺติ วิคตคนฺธรสาทิสมฺปทานิ, เอกภาชเน ปกฺขิตฺตตณฺฑุเลสุปิ เอกสฺมึ ปเทเส ภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลํ โหติ, เอกสฺมึ อติกิลินฺนํ, เอกสฺมึ สมปากํ. ตํ ปริภุตฺตํ กุจฺฉิยมฺปิ สพฺพโส อปริณตํ, เอกเทเสน ปริณตํ, สุปริณตนฺติ เอวํ ตีหิเยว ปกาเรหิ ปจฺจติ, ปกฺกาสยํ น สมฺมา อุปคจฺฉติ. เตน สตฺตา พหฺวาพาธา เจว โหนฺติ อปฺปายุกา จ.

ธมฺมิกานํ ปน ราชูนํ กาเล วุตฺตวิปริยาเยน จนฺทิมสูริยา สมํ ปริวตฺตนฺติ, ยถามคฺเคน ปวตฺตนฺติ, อุตุสมตา จ สมฺปชฺชติ, จนฺทิมสูริยา ฉ มาเส สิเนรุโต พหิ นิกฺขมนฺติ, ฉ มาเส อนฺโต วิจรนฺติ. ตถา หิ สิเนรุสมีเปน ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คจฺฉนฺตา ฉ มาเส ตโต คมนวีถิโต พหิ อตฺตโน ติริยํ คมเนน จกฺกวาฬาภิมุขา นิกฺขมนฺติ . เอวํ ฉ มาเส ขเณ ขเณ สิเนรุโต อปสกฺกนวเสน ตโต นิกฺขมิตฺวา จกฺกวาฬสมีปํ ปตฺตา. ตโตปิ ฉ มาเส ขเณ ขเณ อปสกฺกนวเสน นิกฺขมิตฺวา สิเนรุสมีปํ ปาปุณนฺตา อนฺโต วิจรนฺติ. เต หิ อาสาฬฺหีมาเส สิเนรุสมีเปน จรนฺติ, ตโต ทฺเว มาเส นิกฺขมิตฺวา พหิ จรนฺติ. ปมกตฺติกมาเส มชฺเฌน คจฺฉนฺติ, ตโต จกฺกวาฬาภิมุขา คนฺตฺวา ตโย มาเส จกฺกวาฬสมีเปน วิจริตฺวา ปุน นิกฺขมิตฺวา จิตฺรมาเส มชฺเฌน คนฺตฺวา ตโต ปเร ทฺเว มาเส สิเนรุอภิมุขา ปกฺขนฺทิตฺวา ปุน อาสาฬฺเห สิเนรุสมีเปน จรนฺติ. เอตฺถ จ สิเนรุสฺส จกฺกวาฬสฺส จ ยํ านํ เวมชฺฌํ, ตสฺส สิเนรุสฺส จ ยํ านํ เวมชฺฌํ, เตน คจฺฉนฺตา สิเนรุสมีเปน จรนฺตีติ เวทิตพฺพา, น สิเนรุสฺส อคฺคาลินฺทํ อลฺลีนา, จกฺกวาฬสมีเปน จรณมฺปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพํ. ยทา ปน สิเนรุสฺส จกฺกวาฬสฺส อุชุกํ เวมชฺเฌน คจฺฉนฺติ, ตทา เวมชฺเฌน วิจรนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ วิจรนฺตา จ เอกปฺปหาเรน ตีสุปิ ทีเปสุ อาโลกํ กโรนฺติ. เอเกกาย ทิสาย นว นว โยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสนฺติ. กถํ? อิมสฺมิฺหิ ทีเป สูริยุคฺคมนกาโล ปุพฺพวิเทเห มชฺฌนฺหิโก โหติ, อุตฺตรกุรูสุ อตฺถงฺคมนกาโล, อปรโคยาเน มชฺฌิมยาโม, ปุพฺพวิเทหมฺหิ อุคฺคมนกาโล อุตฺตรกุรูสุ มชฺฌนฺหิโก, อปรโคยาเน อตฺถงฺคมนกาโล, อิธ มชฺฌิมยาโม, อุตฺตรกุรูสุ อุคฺคมนกาโล อปรโคยาเน มชฺฌนฺหิโก, อิธ อตฺถงฺคมนกาโล, ปุพฺพวิเทเห มชฺฌิมยาโม, อปรโคยานทีเป อุคฺคมนกาโล อิธ มชฺฌนฺหิโก, ปุพฺพวิเทหทีเป อตฺถงฺคมนกาโล, อุตฺตรกุรูสุ มชฺฌิมยาโม. อิมสฺมิฺหิ ทีเป ิตมชฺฌนฺหิกเวลายํ ปุพฺพวิเทหวาสีนํ อตฺถงฺคมนวเสน อุปฑฺฒํ สูริยมณฺฑลํ ปฺายติ, อปรโคยานวาสีนํ อุคฺคมนวเสน อุปฑฺฒํ ปฺายติ. เอวํ เสสทีเปสุปิ. อิติ อิมินาว ปกาเรน ตีสุ ทีเปสุ เอกปฺปหาเรเนว จนฺทิมสูริยา อาโลกํ ทสฺเสนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

อิโต อฺถา ปน ทฺวีสุ เอว ทีเปสุ เอกปฺปหาเรเนว อาโลกํ ทสฺเสนฺติ. ยสฺมิฺหิ ทีเป อตฺถงฺคมนวเสน อุปฑฺฒํ สูริยมณฺฑลํ ปฺายติ, อตฺถงฺคมิเต ตตฺถ น ปฺายติ, อาโลกํ น ทสฺเสติ, ทฺวีสุ เอว ทีเปสุ เอกปฺปหาเรน อุภยํ. เอเกกาย ทิสาย นว นว โยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการวิธมนมฺปิ อิมินาว นเยน ทฏฺพฺพํ. อิมสฺมิฺหิ ทีเป ิตมชฺฌนฺหิกเวลายํ ปุพฺพวิเทหวาสีนํ อตฺถงฺคมนวเสน อุปฑฺฒํ สูริยมณฺฑลํ ปฺายตีติ ปุพฺพวิเทเห นวโยชนสตสหสฺสปฺปมาเณ าเน อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสติ, ตถา อปรโคยาเน อุคฺคมนวเสน ตตฺถาปิ อุปฑฺฒสฺเสว ปฺายมานตฺตา. ปุพฺพวิเทหานํ ปน อตฺถงฺคมิเต น ปฺายตีติ ทฺวีสุ ทีเปสุ สพฺพตฺถ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสติ อปรโคยาเนปิ อุคฺคเต สูริเย สพฺพตฺถ อนฺธการวิธมนโต.

ปาตุภวนฺตา จ จนฺทิมสูริยา เอกโตว โลเก ปาตุภวนฺติ, เตสุ สูริโย ปมตรํ ปฺายติ. ปมกปฺปิกานฺหิ สตฺตานํ สยํปภาย อนฺตรหิตาย อนฺธกาโร อโหสิ. เต ภีตตสิตา ‘‘ภทฺทกํ วตสฺส, สเจ อฺโ อาโลโก ภเวยฺยา’’ติ จินฺตยึสุ. ตโต มหาชนสฺส สูรภาวํ ชนยมานํ สูริยมณฺฑลํ อุฏฺหิ, เตเนวสฺส ‘‘สูริโย’’ติ นามํ อโหสิ. ตสฺมึ ทิวสํ อาโลกํ กตฺวา อตฺถงฺคมิเต ปุน อนฺธกาโร อโหสิ. เต ภีตตสิตา ‘‘ภทฺทกํ วตสฺส, สเจ อฺโ อาโลโก อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ จินฺตยึสุ. อถ เนสํ ฉนฺทํ ตฺวา วิย จนฺทมณฺฑลํ อุฏฺหิ, เตเนวสฺส ‘‘จนฺโท’’ติ นามํ อโหสิ. เอวํ จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุภวนฺติ , ตโต ปภุติ รตฺตินฺทิวา ปฺายนฺติ. อนุกฺกเมน จ มาสฑฺฒมาสอุตุสํวจฺฉรา ชายนฺติ. จนฺทิมสูริยานํ ปน ปาตุภูตทิวเสเยว สิเนรุจกฺกวาฬหิมวนฺตปพฺพตา จตฺตาโร จ ทีปา ปาตุภวนฺติ, เต จ โข อปุพฺพํ อจริมํ ผคฺคุณปุณฺณมทิวเสเยว ปาตุภวนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมา เจตฺถ ‘‘เอกํ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทส สตสหสฺสานิ ตีณิ สหสฺสานิ จตฺตาริ สตานิ ปฺาสฺจ โยชนานี’’ติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา วุตฺตปฺปมาณโต อิมสฺส จกฺกวาฬสฺส สิเนรุปติฏฺิโตกาเส จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ ปรโต ยาว จกฺกวาฬปพฺพตา อุตฺตรทิสาภาคปฺปมาณฺจ ปหาย อิมิสฺสา ทกฺขิณทิสาย –

สิเนรุจกฺกวาฬานํ, อนฺตรํ ปริมาณโต;

ปฺจ สตสหสฺสานิ, สหสฺสานูนสฏฺิ จ.

สตานิ สตฺต เยฺยานิ, ปฺจวีสุตฺตรานิ จ;

มชฺฌวีถิคโต นาม, ตตฺถ เวมชฺฌโค รวิ.

มชฺฌโต ยาว เมรุมฺหา, จกฺกวาฬานมนฺตเร;

เวมชฺฌโค ยทา โหติ, อุภยนฺตคโต ตทา.

มชฺฌโต ยาว เมรุมฺหา, จกฺกวาฬา จ ปพฺพตา;

ทุเว สตสหสฺสานิ, สหสฺสานูนสีติ จ.

อฏฺสตํ ทุเว สฏฺิ, โยชนานิ ทฺวิคาวุตํ;

อุภโต อนฺตโต เมรุ-จกฺกวาฬานมนฺตเร.

เอกํ สตสหสฺสฺจ, สหสฺสานูนตาลีสํ;

นวสตาเนกตึส, โยชนานิ จ คาวุตํ.

ปมาณโต สมนฺตา จ, มณฺฑลํ มชฺฌวีถิยา;

สตสหสฺสานูนวีส, สหสฺสาเนกตึส จ.

สตเมกฺจ วิฺเยฺยํ, ปฺจสตฺตติ อุตฺตรํ;

ทกฺขิณํ อุตฺตรฺจาปิ, คจฺฉนฺโต ปน ภาณุมา.

มชฺฌวีถิปฺปมาเณน , มณฺฑเลเนว คจฺฉติ;

คจฺฉนฺโต จ ปเนวํ โส, โอรุยฺโหรุยฺห เหฏฺโต.

อารุยฺหารุยฺห อุทฺธฺจ, ยโต คจฺฉติ สพฺพทา;

ตโต คติวเสนสฺส, ทูรมทฺธานมาสิ ตํ.

ตึส สตสหสฺสานิ, โยชนานิ ปมาณโต;

ตสฺมา โส ปริโต ยาติ, ตตฺตกํว ทิเน ทิเน.

สหสฺสเมกํ ปฺจสตํ, จตุปฺาสโยชนํ;

ติคาวุตํ เตรสูสภํ, เตตฺตึส รตนานิ จ.

อฏฺงฺคุลานิ จ ติริยํ, คจฺฉเตกทิเน รวิ;

ฉตาลีสสหสฺสานิ, ฉ สตานิ ติคาวุตํ.

โยชนานํ ติตาลีสํ, มาเสเนเกน คจฺฉติ;

เตนวุติสหสฺสานิ, ทฺวิสตํ สตฺตสีติ จ.

คาวุตานิ ทุเว จาปิ, ทฺวีหิ มาเสหิ คจฺฉติ;

อิมาย คติยา อนฺต-วีถิโต วีถิอนฺติมํ.

คจฺฉติ ฉหิ มาเสหิ, ติมาเสหิ จ มชฺฌิมํ;

สิเนรุสนฺติเก อนฺต-วีถิโต ปน ภาณุมา;

อาคจฺฉนฺโต ทฺวิมาเสหิ, อสฺส ทีปสฺส มชฺฌโค.

ตสฺมา สีหฬทีปสฺส, มชฺฌโต เมรุอนฺตรํ;

ทุเว สตสหสฺสานิ, ทฺวิสเตนาธิกานิ ตุ.

เตตฺตึสฺจ สหสฺสานิ, อฏฺารส ติคาวุตํ;

จกฺกวาฬนฺตรฺจสฺส, ทีปสฺเสว จ มชฺฌโต.

ตีณิ สตสหสฺสานิ, สหสฺสานิ ฉวีสติ;

ฉ อุตฺตรานิ ปฺเจว, สตาเนกฺจ คาวุตนฺติ.

เอวเมตฺถ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

ตาวตึสภวนํ ทสสหสฺสโยชนนฺติ เอตฺถ เตตฺตึส สหปุฺการิโน เอตฺถ นิพฺพตฺตาติ ตํสหจริตฏฺานํ เตตฺตึสํ, ตเทว ตาวตึสํ , ตํ นิวาโส เอเตสนฺติ ตาวตึสา, เทวา, เตสํ ภวนํ ตาวตึสภวนํ. ตถา หิ มเฆน มาณเวน สทฺธึ มจลคามเก กาลํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปนฺเน เตตฺตึส เทวปุตฺเต อุปาทาย อสฺส เทวโลกสฺส อยํ ปณฺณตฺติ ชาตาติ วทนฺติ. อถ วา ยสฺมา เสสจกฺกวาเฬสุปิ ฉ กามาวจรเทวโลกา อตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ สหสฺสํ ตาวตึสาน’’นฺติ. ตสฺมา นามปณฺณตฺติเยเวสา ตสฺส เทวโลกสฺสาติ เวทิตพฺพา. ทสสหสฺสโยชนนฺติ อิทํ ปน สกฺกปุรํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ ตาวตึสกายิกา เทวา อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา จาตุมหาราชิกานํ ยามาทีนฺจ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. อิทํ ปน ตาวตึสภวนํ สิเนรุสฺส อุปริมตเล ทสสหสฺสโยชนิเก าเน ปติฏฺิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส ปาจีนปจฺฉิมทฺวารานํ อนฺตรา ทสโยชนสหสฺสํ โหติ, ตถา ทกฺขิณุตฺตรทฺวารานํ. ตํ โข ปน นครํ ทฺวารสหสฺสยุตฺตํ อโหสิ อารามโปกฺขรณีปฏิมณฺฑิตํ.

ตสฺส มชฺเฌ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๒๙ มฆวตฺถุ) ติโยชนสตุพฺเพเธหิ, ธเชหิ ปฏิมณฺฑิโต สตฺตรตนมโย สตฺตโยชนสตุพฺเพโธ สกฺกสฺส เวชยนฺโต นาม ปาสาโท. ตตฺถ สุวณฺณยฏฺีสุ มณิธชา อเหสุํ, มณิยฏฺีสุ สุวณฺณธชา, ปวาฬยฏฺีสุ มุตฺตธชา, มุตฺตยฏฺีสุ ปวาฬธชา, สตฺตรตนมยาสุ ยฏฺีสุ สตฺตรตนมยา ธชา.

ทิยฑฺฒโยชนสตายาโม เวชยนฺตรโถ (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๔๙ อาทโย). ตสฺส หิ ปจฺฉิมนฺโต ปณฺณาสโยชโน, มชฺเฌ รถปฺชโร ปณฺณาสโยชโน, รถสนฺธิโต ยาว รถสีสา ปณฺณาเสว โยชนานิ. ตเทว ปมาณํ ทิคุณํ กตฺวา ‘‘ติโยชนสตายาโม’’ติปิ วทนฺติเยว. ตสฺมึ โยชนิกปลฺลงฺโก อตฺถโต ติฏฺติ. ตตฺถ ติโยชนิกํ เสตจฺฉตฺตํ, เอกสฺมึเยว ยุเค สหสฺสอาชฺยุตฺตํ. เสสาลงฺการสฺส ปมาณํ นตฺถิ. ธโช ปนสฺส อฑฺฒติยานิ โยชนสตานิ อุคฺคโต, ยสฺส วาตาหตสฺส ปฺจงฺคิกตูริยสฺเสว สทฺโท นิจฺฉรติ.

สกฺกสฺส ปน เอราวโณ นาม หตฺถี ทิยฑฺฒโยชนสติโก, โสปิ เทวปุตฺโตเยว. น หิ เทวโลกสฺมึ ติรจฺฉานคตา โหนฺติ, ตสฺมา โส อุยฺยานกีฬาย นิกฺขมนกาเล อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติโก เอราวโณ นาม หตฺถี โหติ. โส เตตฺตึสกุมฺเภ มาเปติ อาวฏฺเฏน คาวุตอฑฺฒโยชนปฺปมาเณ, สพฺเพสํ มชฺเฌ สกฺกสฺส อตฺถาย สุทสฺสนํ นาม ตึสโยชนิกํ กุมฺภํ มาเปติ. ตสฺส อุปริ ทฺวาทสโยชนิโก รตนมณฺฑโป โหติ. ตตฺถ อนฺตรนฺตรา สตฺตรตนมยา โยชนุพฺเพธา ธชา อุฏฺหนฺติ. ปริยนฺเต กิงฺกิณิกชาลา โอลมฺพนฺติ, ยสฺส มนฺทวาเตริตสฺส ปฺจงฺคิกตูริยสทฺทสทิโส ทิพฺพคีตสทฺโท วิย รโว นิจฺฉรติ. มณฺฑปมชฺเฌ สกฺกสฺส โยชนิโก มณิปลฺลงฺโก ปฺตฺโต โหติ, ตตฺถ สกฺโก นิสีทติ. เตตฺตึสาย กุมฺภานํ เอเกกสฺมึ กุมฺเภ สตฺต สตฺต ทนฺเต มาเปติ, เตสุ เอเกโก ปณฺณาสโยชนายาโม. เอเกกสฺมิฺเจตฺถ ทนฺเต สตฺต สตฺต โปกฺขรณิโย โหนฺติ, เอเกกาย โปกฺขรณิยา สตฺต สตฺต ปทุมินีคจฺฉา, เอเกกสฺมึ คจฺเฉ สตฺต สตฺต ปุปฺผานิ โหนฺติ, เอเกกสฺส ปุปฺผสฺส สตฺต สตฺต ปตฺตานิ, เอเกกสฺมึ ปตฺเต สตฺต สตฺต เทวธีตโร นจฺจนฺติ. เอวํ สมนฺตา ปณฺณาสโยชนฏฺาเน หตฺถิทนฺเตสุเยว นจฺจนฏสมชฺโช โหติ.

นนฺทา นาม ปน โปกฺขรณี ปฺาสโยชนา. ‘‘ปฺจสตโยชนิกา’’ติปิ วทนฺติ.

จิตฺตลตาวนํ ปน สฏฺิโยชนิกํ. ‘‘ปฺจโยชนสติก’’นฺติปิ วทนฺติ. ตํ ปน ทิพฺพรุกฺขสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ, ตถา นนฺทนวนํ ผารุสกวนฺจ. สกฺโก ปเนตฺถ อจฺฉราสงฺฆปริวุโต สฏฺิโยชนิกํ สุวณฺณมหาวีถึ โอตริตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬนฺโต นนฺทนวนาทีสุ วิจรติ.

ปาริจฺฉตฺตโก ปน โกวิฬาโร สมนฺตา ติโยชนสตปริมณฺฑโล ปฺจทสโยชนปริณาหกฺขนฺโธ โยชนสตุพฺเพโธ. ตสฺส มูเล สฏฺิโยชนายามา ปฺาสโยชนวิตฺถารา ปฺจทสโยชนุพฺเพธา ชยสุมนปุปฺผกวณฺณา ปณฺฑุกมฺพลสิลา, ยสฺสา มุทุตาย สกฺกสฺส นิสีทโต อุปฑฺฒกาโย อนุปวิสติ, อุฏฺิตกาเล อูนํ ปริปูรติ.

สุธมฺมา นาม เทวสภา อายามโต จ วิตฺถารโต จ ติโยชนสติกา, ปริกฺเขปโต นวโยชนสติกา, อุพฺเพธโต ปฺจโยชนสติกา, ตสฺสา ผลิกมยา ภูมิ, ถมฺภตุลาสงฺฆาฏาทีสุ วาฬรูปาทิสงฺฆฏฺฏนกอาณิโย มณิมยา, สุวณฺณมยา ถมฺภา, รชตมยา ถมฺภฆฏกา จ สงฺฆาฏฺจ, ปวาฬมยานิ วาฬรูปานิ, สตฺตรตนมยา โคปานสิโย จ ปกฺขปาสา จ มุขวฏฺฏิ จ, อินฺทนีลอิฏฺกาหิ ฉทนํ, โสวณฺณมยํ ฉทนวิธํ, รชตมยา ถุปิกา.

อาสาวตี นาม เอกา ลตา อตฺถิ, ‘‘สา ปุปฺผิสฺสตี’’ติ เทวา วสฺสสหสฺสํ อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ, ปาริจฺฉตฺตเก ปุปฺผมาเน เอกํ วสฺสํ อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ. เต ตสฺส ปณฺฑุปลาสาทิภาวโต ปฏฺาย อตฺตมนา โหนฺติ. ยถาห –

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ปณฺฑุปลาโส โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ ‘ปณฺฑุปลาโส ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร, น จิรสฺเสว ทานิ ปนฺนปลาโส ภวิสฺสตี’’’ติอาทิ (อ. นิ. ๗.๖๙).

สพฺพปาลิผุลฺลสฺส ปน ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺส สมนฺตา ปฺจ โยชนสตานิ อาภา ผรติ, อนุวาตํ โยชนสตํ คนฺโธ คจฺฉติ. ปุปฺผิเต ปาริจฺฉตฺตเก อาโรหณกิจฺจํ วา องฺกุสํ คเหตฺวา นามนกิจฺจํ วา ปุปฺผาหรณตฺถํ จงฺโกฏกกิจฺจํ วา นตฺถิ. กนฺตนกวาโต อุฏฺหิตฺวา ปุปฺผานิ วณฺฏโต กนฺตติ, สมฺปฏิจฺฉนกวาโต สมฺปฏิจฺฉติ, ปเวสนกวาโต สุธมฺมเทวสภํ ปเวเสติ, สมฺมชฺชนกวาโต ปุราณปุปฺผานิ นีหรติ, สนฺถรณกวาโต ปตฺตกณฺณิกเกสรานิ รเจนฺโต สนฺถรติ, มชฺฌฏฺาเน ธมฺมาสนํ โหติ โยชนปฺปมาโณ รตนปลฺลงฺโก, ตสฺส อุปริ ธาริยมานํ ติโยชนิกํ เสตจฺฉตฺตํ, ตทนนฺตรํ สกฺกสฺส เทวรฺโ อาสนํ อตฺถรียติ, ตโต พาตฺตึสาย เทวปุตฺตานํ, ตโต อฺเสํ มเหสกฺขเทวตานํ. อฺเสํ เทวตานํ ปน ปุปฺผกณฺณิกาว อาสนํ โหติ. เทวา เทวสภํ ปวิสิตฺวา นิสีทนฺติ. ตโต ปุปฺเผหิ เรณุวฏฺฏิ อุคฺคนฺตฺวา อุปริ กณฺณิกํ อาหจฺจ นิปตมานา เทวตานํ ติคาวุตปฺปมาณํ อตฺตภาวํ ลาขาปริกมฺมสชฺชิตํ วิย กโรติ, เตสํ สา กีฬา จตูหิ มาเสหิ ปริโยสานํ คจฺฉติ. อิติ อิมาหิ สมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตํ ตาวตึสภวนํ ภควา สพฺพถา อเวทีติ เวทิตพฺพํ.

ตถา อสุรภวนนฺติ เอตฺถ เทวา วิย น สุรนฺติ น อีสรนฺติ น วิโรจนฺตีติ อสุรา. สุรา นาม เทวา, เตสํ ปฏิปกฺขาติ วา อสุรา. สกฺโก กิร มจลคามเก มโฆ นาม มาณโว หุตฺวา เตตฺตึส ปุริเส คเหตฺวา กลฺยาณกมฺมํ กโรนฺโต สตฺต วตฺตปทานิ ปูเรตฺวา ตตฺถ กาลกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติ สทฺธึ ปริสาย. ตโต ปุพฺพเทวา ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตา, สกฺการํ เนสํ กโรมา’’ติ วตฺวา ทิพฺพปทุมานิ อุปนาเมสุํ, อุปฑฺฒรชฺเชน จ นิมนฺเตสุํ. สกฺโก อุปฑฺฒรชฺเชน อสนฺตุฏฺโ อโหสิ, อถ เนวาสิกา ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตานํ สกฺการํ กโรมา’’ติ คนฺธปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก สกปริสาย สฺํ อทาสิ ‘‘มาริสา มา คนฺธปานํ ปิวิตฺถ, ปิวมานาการมตฺตเมว ทสฺเสถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. เนวาสิกเทวตา สุวณฺณสรเกหิ อุปนีตํ คนฺธปานํ ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา มตฺตา ตตฺถ ตตฺถ สุวณฺณปถวิยํ ปติตฺวา สยึสุ. สกฺโก ‘‘คณฺหถ ธุตฺเต, หรถ ธุตฺเต’’ติ เต ปาเทสุ คาหาเปตฺวา สิเนรุปาเท ขิปาเปสิ. สกฺกสฺส ปุฺเตเชน ตทนุวตฺตกาปิ สพฺเพ ตตฺเถว ปตึสุ. อถ เนสํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ สิเนรุสฺส เหฏฺิมตเล ทสโยชนสหสฺสํ อสุรภวนํ นิพฺพตฺติ ปาริจฺฉตฺตกปฏิจฺฉนฺนภูตาย จิตฺรปาฏลิยา อุปโสภิตํ. สกฺโก เตสํ นิวตฺติตฺวา อนาคมนตฺถาย อารกฺขํ เปสิ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘อนฺตรา ทฺวินฺนํ อยุชฺฌปุรานํ, ปฺจวิธา ปิตา อภิรกฺขา;

อุรคกโรฏิปยสฺส จ หารี, มทนยุตา จตุโร จ มหตฺถา’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๔๗; ชา. อฏฺ. ๑.๑.๓๑);

ตตฺถ ทฺวินฺนํ อยุชฺฌปุรานนฺติ ทฺวินฺนํ เทวาสุรนครานํ อนฺตราติ อตฺโถ. ทฺเว กิร นครานิ ยุทฺเธน คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อยุชฺฌปุรานิ นาม ชาตานิ. ยทา หิ อสุรา พลวนฺโต โหนฺติ, อถ เทเวหิ ปลายิตฺวา เทวนครํ ปวิสิตฺวา ทฺวาเร ปิหิเต อสุรานํ สตสหสฺสมฺปิ กิฺจิ กาตุํ น สกฺโกติ. ยทา เทวา พลวนฺโต โหนฺติ, อถ อสุเรหิ ปลายิตฺวา อสุรนครํ ปวิสิตฺวา ทฺวาเร ปิหิเต สกฺกานํ สตสหสฺสมฺปิ กิฺจิ กาตุํ น สกฺโกติ. อิติ อิมานิ ทฺเว นครานิ อยุชฺฌปุรานิ นาม. เตสํ อนฺตรา เอเตสุ อุรคาทีสุ ปฺจสุ าเนสุ สกฺเกน อารกฺขา ปิตา. ตตฺถ อุรคสทฺเทน นาคา คหิตา. เต อุทเก มหพฺพลา โหนฺติ, ตสฺมา สิเนรุสฺส ปมาลินฺเท เอเตสํ อารกฺขา. สิเนรุสฺส กิร สมนฺตโต พหลโต ปุถุลโต จ ปฺจโยชนสหสฺสปริมาณานิ จตฺตาริ ปริภณฺฑานิ ตาวตึสภวนสฺส อารกฺขาย นาเคหิ ครุเฬหิ กุมฺภณฺเฑหิ ยกฺเขหิ จ อธิฏฺิตานิ. เตหิ กิร สิเนรุสฺส อุปฑฺฒํ ปริยาทินฺนํ, เอตานิเยว จ สิเนรุสฺส อาลินฺทานิ เมขลานิ จ วุจฺจนฺติ. กโรฏิสทฺเทน สุปณฺณา คหิตา. เตสํ กิร กโรฏิ นาม ปานโภชนํ, เตน นามํ ลภึสุ, ทุติยาลินฺเท เตสํ อารกฺขา. ปยสฺสหารีสทฺเทน กุมฺภณฺฑา คหิตา. ทานวรกฺขสา กิร เต, ตติยาลินฺเท เตสํ อารกฺขา. มทนยุตสทฺเทน ยกฺขา คหิตา. วิสมจาริโน กิร เต ยุทฺธโสณฺฑา, จตุตฺถาลินฺเท เตสํ อารกฺขา. จตุโร จ มหตฺถาติ จตฺตาโร มหาราชาโน วุตฺตา. เต หิ สิเนรุสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ปสฺเส ยุคนฺธราทีสุ ปฺจสตปริตฺตทีปปริวาเร มหาทีเป จ สาสิตพฺพสฺส มหโต อตฺถสฺส วเสน ‘‘มหตฺถา’’ติ วุจฺจนฺติ, ปฺจมาลินฺเท เตสํ อารกฺขา.

เต ปน อสุรา อายุวณฺณยสอิสฺสริยสมฺปตฺตีหิ ตาวตึสสทิสาว. ตสฺมา อนฺตรา อตฺตานํ อชานิตฺวา ปาฏลิยา ปุปฺผิตาย ‘‘นยิทํ เทวนครํ, ตตฺถ ปาริจฺฉตฺตโก ปุปฺผติ, อิธ ปน จิตฺตปาฏลี, ชรสกฺเกน มยํ สุรํ ปาเยตฺวา วฺจิตา, เทวนครฺจ โน คหิตํ, คจฺฉาม เตน สทฺธึ ยุชฺฌิสฺสามา’’ติ หตฺถิอสฺสรเถ อารุยฺห สุวณฺณรชตมณิผลกานิ คเหตฺวา ยุทฺธสชฺชา หุตฺวา อสุรเภริโย วาเทนฺตา มหาสมุทฺเท อุทกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา อุฏฺหนฺติ. เต เทเว วุฏฺเ วมฺมิกมกฺขิกา วมฺมิกํ วิย สิเนรุํ อภิรุหิตุํ อารภนฺติ. อถ เนสํ ปมํ นาเคหิ สทฺธึ ยุทฺธํ โหติ. ตสฺมึ โข ปน ยุทฺเธ น กสฺสจิ ฉวิ วา จมฺมํ วา ฉิชฺชติ, น โลหิตํ อุปฺปชฺชติ, เกวลํ กุมารกานํ ทารุเมณฺฑกยุทฺธํ วิย อฺมฺํ สนฺตาสนมตฺตเมว โหติ. โกฏิสตาปิ โกฏิสหสฺสาปิ นาคา เตหิ สทฺธึ ยุชฺฌิตฺวา อสุรปุรํเยว ปเวเสตฺวา นิวตฺตนฺติ. สเจ ปน อสุรา พลวนฺโต โหนฺติ, อถ นาคา โอสกฺกิตฺวา ทุติเย อาลินฺเท สุปณฺเณหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ยุชฺฌนฺติ. เอส นโย สุปณฺณาทีสุปิ. ยทา ปน ตานิ ปฺจปิ านานิ อสุรา มทฺทนฺติ, ตทา เอกโต สมฺปิณฺฑิตานิปิ ตานิ ปฺจ พลานิ โอสกฺกนฺติ . อถ จตฺตาโร มหาราชาโน คนฺตฺวา สกฺกสฺส ปวตฺตึ อาโรเจนฺติ. สกฺโก เตสํ วจนํ สุตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติกํ เวชยนฺตรถํ อารุยฺห สยํ วา นิกฺขมติ, เอกํ วา ปุตฺตํ เปเสติ. เอกสฺมึ ปน ทิวเส เอวํ นิกฺขมิตฺวา อสุเร ยุทฺเธน อพฺภุคฺคนฺตฺวา สมุทฺเท ปกฺขิปิตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ อตฺตนา สทิสา ปฏิมา มาเปตฺวา เปติ, ตสฺมา อสุรา นาคาทโย ชินิตฺวา อาคตาปิ อินฺทปฏิมา ทิสฺวา ‘‘สกฺโก นิกฺขนฺโต’’ติ ปลายนฺติ. อิติ สุรานํ ปฏิปกฺขาติ อสุรา, เวปจิตฺติปหาราทาทโย, เตสํ ภวนํ อสุรภวนํ. ตํ ปน อายามโต จ วิตฺถารโต จ ทสสหสฺสโยชนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา อสุรภวน’’นฺติ วุตฺตํ.

อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีโป จาติ เอตฺถาปิ ตถา-สทฺโท โยเชตพฺโพ, อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีโป จ ตถา ทสสหสฺสโยชนเมวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อวีจิมหานิรยสฺส อพฺภนฺตรํ อายาเมน จ วิตฺถาเรน จ โยชนสตํ โหติ, โลหปถวี โลหฉทนํ เอเกกา จ ภิตฺติ นวนวโยชนิกา โหติ. ปุรตฺถิมาย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺหิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ คเหตฺวา ตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย. อิติ ชาลปริยนฺตวเสน อายามวิตฺถารโต อฏฺารสโยชนาธิกานิ ตีณิ โยชนสตานิ โหนฺติ, ปริกฺเขเปน นว โยชนสตานิ จตุปณฺณาสฺจ โยชนานิ. สมนฺตา ปน อุสฺสเทหิ สทฺธึ ทสโยชนสหสฺสํ โหติ. กสฺมา ปเนส นรโก ‘‘อวีจี’’ติ สงฺขฺยํ คโตติ? วีจิ นาม อนฺตรํ วุจฺจติ, ตตฺถ จ อคฺคิชาลานํ วา สตฺตานํ วา ทุกฺขสฺส วา อนฺตรํ นตฺถิ, ตสฺมา โส ‘‘อวีจี’’ติ สงฺขฺยํ คโต. ตสฺส หิ ปุรตฺถิมภิตฺติโต ชาลา อุฏฺหิตฺวา สํสิพฺพมานโยชนสตํ คนฺตฺวา ภิตฺตึ วินิวิชฺฌิตฺวา ปรโต โยชนสตํ คจฺฉติ. เสสทิสาสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ชาลานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ. อพฺภนฺตเร ปนสฺส โยชนสติเก าเน นาฬิยํ โกฏฺเฏตฺวา ปูริตติปุปิฏฺํ วิย สตฺตา นิรนฺตรา, ‘‘อิมสฺมึ าเน สตฺโต อตฺถิ, อิมสฺมึ าเน นตฺถี’’ติ น วตฺตพฺพํ, คจฺฉนฺตานํ ิตานํ นิสินฺนานํ นิปนฺนานฺจ ปจฺจมานานํ อนฺโต นตฺถิ, คจฺฉนฺตา ิเต วา นิสินฺเน วา นิปนฺเน วา น พาเธนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นิรนฺตรตาย อวีจิ. กายทฺวาเร ปน ฉ อุเปกฺขาสหคตานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เอกํ ทุกฺขสหคตํ. เอวํ สนฺเตปิ ยถา ชิวฺหาคฺเค ฉ มธุพินฺทูนิ เปตฺวา เอกสฺมึ ตมฺพโลหพินฺทุมฺหิ ปิเต อนุทหนพลวตาย ตเทว ปฺายติ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานิ โหนฺติ, เอวํ อนุทหนพลวตาย ทุกฺขเมเวตฺถ นิรนฺตรํ, อิตรานิ อพฺโพหาริกานีติ เอวํ ทุกฺขสฺส นิรนฺตรตาย อวีจีติ วุจฺจติ. ‘‘อยฺจ อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีปสฺส เหฏฺา ปติฏฺิโต’’ติ วทนฺติ.

ชมฺพุทีโป ปน อายามโต จ วิตฺถารโต จ ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ. ตตฺถ จ จตุสหสฺสโยชนปฺปมาโณ ปเทโส ตทุปโภคีสตฺตานํ ปุฺกฺขยา อุทเกน อชฺโฌตฺถโฏ ‘‘สมุทฺโท’’ติ สงฺขฺยํ คโต. ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ, ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ หิมวา ปติฏฺิโตติ เวทิตพฺโพ.

อปรโคยานํ สตฺตสหสฺสโยชนนฺติอาทีสุ อายามโต จ วิตฺถารโต จ ปมาณํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ชมฺพุทีโป สกฏสณฺาโน, ฉนฺนวุติยา ปฏฺฏนโกฏิสตสหสฺเสหิ ฉปณฺณาสรตนาคาเรหิ นวนวุติยา โทณมุขสตสหสฺเสหิ ติกฺขตฺตุํ เตสฏฺิยา นครสหสฺเสหิ จ สมนฺนาคโต. ชมฺพุทีเป กิร อาทิโต เตสฏฺิมตฺตานิ นครสหสฺสานิ อุปฺปนฺนานิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ. ตานิ ปน สมฺปิณฺเฑตฺวา สตสหสฺสํ, ตโต ปรํ อสีติ สหสฺสานิ จ นว สหสฺสานิ จ โหนฺติ. โทณมุขนฺติ จ มหานครสฺส อายุปฺปตฺติฏฺานภูตํ ปธานฆรํ วุจฺจติ. อปรโคยาโน อาทาสสณฺาโน, ปุพฺพวิเทโห อฑฺฒจนฺทสณฺาโน, อุตฺตรกุรุ ปีสณฺาโน. ‘‘ตํตํนิวาสีนํ ตํตํปริวารทีปวาสีนฺจ มนุสฺสานํ มุขมฺปิ ตํตํสณฺาน’’นฺติ วทนฺติ.

อปิ เจตฺถ อุตฺตรกุรุกานํ ปุฺานุภาวสิทฺโธ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ตตฺถ กิร เตสุ เตสุ ปเทเสสุ ฆนนิจิตปตฺตสฺฉนฺนสาขาปสาขา กูฏาคารุปมา มโนรมา รุกฺขา เตสํ มนุสฺสานํ นิเวสนกิจฺจํ สาเธนฺติ. ยตฺถ สุขํ นิวสนฺติ, อฺเปิ ตตฺถ รุกฺขา สุชาตา สพฺพทาปิ ปุปฺผิตคฺคา ติฏฺนฺติ. ชลาสยาปิ วิกสิตปทุมปุณฺฑรีกโสคนฺธิกาทิปุปฺผสฺฉนฺนา สพฺพกาลํ ปรมสุคนฺธา สมนฺตโต ปวายนฺตา ติฏฺนฺติ.

สรีรมฺปิ เตสํ อติทีฆตาทิโทสรหิตํ อาโรหปริณาหสมฺปนฺนํ ชราย อนภิภูตตฺตา วลิตปลิตาทิโทสวิรหิตํ ยาวตายุกํ อปริกฺขีณชวพลปรกฺกมโสภเมว หุตฺวา ติฏฺติ. อนุฏฺานผลูปชีวิตาย น จ เตสํ กสิวณิชฺชาทิวเสน อาหารปริเยฏฺิวเสน ทุกฺขํ อตฺถิ, ตโต เอว น ทาสทาสีกมฺมกราทิปริคฺคโห อตฺถิ. น จ ตตฺถ สีตุณฺหฑํสมกสวาตาตปสรีสปวาฬาทิปริสฺสโย อตฺถิ. ยถา นาเมตฺถ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ปจฺจูสเวลายํ สมสีตุณฺโห อุตุ โหติ, เอวเมว สพฺพกาลํ ตตฺถ สมสีตุณฺโหว อุตุ โหติ, น จ เนสํ โกจิ อุปฆาโต วิเหสา วา อุปฺปชฺชติ.

อกฏฺปากิมเมว สาลึ อกณํ อถุสํ สุทฺธํ สุคนฺธํ ตณฺฑุลผลํ นิทฺธูมงฺคาเรน อคฺคินา ปจิตฺวา ปริภุฺชนฺติ. ตตฺถ กิร โชติกปาสาณา นาม โหนฺติ, อถ เต ตโย ปาสาเณ เปตฺวา ตตฺถ อุกฺขลึ อาโรเปนฺติ, ปาสาเณหิ เตโช สมุฏฺหิตฺวา ตํ ปาเจติ, อฺโ สูโป วา พฺยฺชโน วา น โหติ, ภุฺชนฺตานํ จิตฺตานุกูโลเยวสฺส รโส โหติ. ตํ ปน ภุฺชนฺตานํ เนสํ กุฏฺํ คณฺโฑ กิลาโส โสโส กาโส อปมาโร ชโรติ เอวมาทิโก น โกจิ โรโค อุปฺปชฺชติ. เต ตํ านํ สมฺปตฺตานํ เทนฺติเยว, มจฺฉริยจิตฺตํ นาม เนว โหติ, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทโยปิ มหิทฺธิกา ตตฺถ คนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ คณฺหนฺติ. น จ เต ขุชฺชา วา วามนา วา กาณา วา กุณี วา ขฺชา วา ปกฺขหตา วา วิกลงฺคา วา วิกลินฺทฺริยา วา โหนฺติ.

อิตฺถิโยปิ ตตฺถ นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกิสา นาติถูลา นาติกาฬิกา นาจฺโจทาตา โสภคฺคปฺปตฺตรูปา โหนฺติ. ตถา หิ ทีฆงฺคุลี ตมฺพนขา อลมฺพถนา ตนุมชฺฌา ปุณฺณจนฺทมุขี วิสาลกฺขี มุทุคตฺตา สหิโภรู โอทาตทนฺตา คมฺภีรนาภี ตนุชงฺฆา ทีฆนีลเวลฺลิตเกสี ปุถุลสุสฺโสณี นาติโลมา นาโลมา สุภคา อุตุสุขสมฺผสฺสา สณฺหา สขิลสมฺภาสา นานาภรณวิภูสิตา วิจรนฺติ, สพฺพทาปิ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย โหนฺติ.

ปุริสาปิ ปฺจวีสติวสฺสุทฺเทสิกา วิย, น ปุตฺตา มาตาทีสุ รชฺชนฺติ, อยํ ตตฺถ ธมฺมตา. สตฺตาหิกเมว จ ตตฺถ อิตฺถิปุริสา กามรติยา วิหรนฺติ , ตโต วีตราคา วิย ยถาสุขํ คจฺฉนฺติ, น ตตฺถ อิธ วิย คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ คพฺภปริหรณมูลกํ วา ทุกฺขํ วิชายนมูลกํ วา ทุกฺขํ โหติ, รตฺตกฺจุกโต กฺจนปฏิมา วิย ทารกา มาตุกุจฺฉิโต อมกฺขิตา เอว เสมฺหาทินา สุเขเนว นิกฺขมนฺติ, อยํ ตตฺถ ธมฺมตา. มาตา ปน ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา วิชายิตฺวา เตสํ วิจรณกปฺปเทเส เปตฺวา อนเปกฺขา ยถารุจิ คจฺฉติ. เตสํ ตตฺถ สยิตานํ เย ปสฺสนฺติ ปุริสา วา อิตฺถิโย วา, เต อตฺตโน องฺคุลิโย อุปนาเมนฺติ, เตสํ กมฺมพเลน ตโต ขีรํ ปวตฺตติ, เตน เต ทารกา ยาเปนฺติ. เอวํ ปน วฑฺฒนฺตา กติปยทิวเสเยว ลทฺธพลา หุตฺวา ทาริกา อิตฺถิโย อุปคจฺฉนฺติ, ทารกา ปุริเส.

กปฺปรุกฺขโต เอว จ เตสํ ตตฺถ วตฺถาภรณานิ นิปฺผชฺชนฺติ. นานาวิราควณฺณวิจิตฺตานิ หิ วตฺถานิ สุขุมานิ มุทุสุขสมฺผสฺสานิ ตตฺถ ตตฺถ กปฺปรุกฺเขสุ โอลมฺพนฺตานิ ติฏฺนฺติ. นานาวิธรํสิชาลสมุชฺชลวิวิธวณฺณรตนวินทฺธานิ อเนกวิธมาลากมฺมลตากมฺมภิตฺติกมฺมวิจิตฺตานิ สีสูปคคีวูปคกฏูปคหตฺถูปคปาทูปคานิ โสวณฺณมยานิ อาภรณานิ จ กปฺปรุกฺขโต โอลมฺพนฺติ. ตถา วีณามุทิงฺคปณวสมฺมตาฬสงฺขวํสเวตาฬปริวาราทีนิ วลฺลกีปภอุติกานิ ตูริยภณฺฑานิปิ ตโต โอลมฺพนฺติ. ตตฺถ จ พหู ผลรุกฺขา กุมฺภมตฺตานิ ผลานิ ผลนฺติ, มธุรรสานิ ยานิ ปริภุฺชิตฺวา เต สตฺตาหมฺปิ ขุปฺปิปาสาหิ น พาธียนฺติ.

นชฺโชปิ ตตฺถ สุวิสุทฺธชลา สุปติตฺถา รมณียา อกทฺทมา วาลุกตลา นาติสีตา นาติอุณฺหา สุรภิคนฺธีหิ ชลชปุปฺเผหิ สฺฉนฺนา สพฺพกาลํ สุรภี วายนฺติโย สนฺทนฺติ, น ตตฺถ กณฺฏกินา กกฺขฬคจฺฉลตา โหนฺติ, อกณฺฏกา ปุปฺผผลสจฺฉนฺนา เอว โหนฺติ, จนฺทนนาครุกฺขา สยเมว รสํ ปคฺฆรนฺติ. นหายิตุกามา จ นทีติตฺเถ เอกชฺฌํ วตฺถาภรณานิ เปตฺวา นทึ โอตริตฺวา นหายิตฺวา อุตฺติณฺณา อุตฺติณฺณา อุปริฏฺิมํ อุปริฏฺิมํ วตฺถาภรณํ คณฺหนฺติ, น เตสํ เอวํ โหติ ‘‘อิทํ มม, อิทํ ปรสฺสา’’ติ. ตโต เอว น เตสํ โกจิ วิคฺคโห วา วิวาโท วา, สตฺตาหิกา เอว จ เนสํ กามรติกีฬา โหติ, ตโต วีตราคา วิย วิจรนฺติ. ยตฺถ จ รุกฺเข สยิตุกามา โหนฺติ, ตตฺเถว สยนํ อุปลพฺภติ.

มเต จ สตฺเต น โรทนฺติ น โสจนฺติ, ตฺจ มณฺฑยิตฺวา นิกฺขิปนฺติ. ตาวเทว จ ตถารูปา สกุณา อุปคนฺตฺวา มตํ ทีปนฺตรํ เนนฺติ, ตสฺมา สุสานํ วา อสุจิฏฺานํ วา ตตฺถ นตฺถิ, น จ ตโต มตา นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา เปตฺติวิสยํ วา อุปปชฺชนฺติ. ‘‘ธมฺมตาสิทฺธสฺส ปฺจสีลสฺส อานุภาเวน เต เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ วทนฺติ. วสฺสสหสฺสเมว จ เนสํ สพฺพกาลํ อายุปฺปมาณํ, สพฺพเมตํ เนสํ ปฺจสีลํ วิย ธมฺมตาสิทฺธเมวาติ เวทิตพฺพํ.

ตทนฺตเรสูติ เตสํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ. โลกนฺตริกนิรยาติ โลกานํ โลกธาตูนํ อนฺตโร วิวโร โลกนฺตโร, ตตฺถ ภวา โลกนฺตริกา, นิรยา. ติณฺณฺหิ สกฏจกฺกานํ ปตฺตานํ วา อฺมฺํ อาสนฺนภาเวน ปิตานํ อนฺตรสทิเสสุ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตเรสุ เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย. โส ปน ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาโณ โหติ นิจฺจวิวโฏ เหฏฺา อุปริ จ เกนจิ น ปิหิโต. ยถา หิ เหฏฺา อุทกสฺส ปิธายิกา ปถวี นตฺถีติ อสํวุตา โลกนฺตริกนิรยา, เอวํ อุปริปิ จกฺกวาเฬสุ วิย เทววิมานานํ อภาวโต อสํวุตา อปิหิตา จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารณสมตฺเถน จ อนฺธกาเรน สมนฺนาคตา. ตตฺถ กิร จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ อาโลกสฺส อภาวโต. ตีสุ ทีเปสุ เอกปฺปหาเรน อาโลกกรณสมตฺถาปิ จนฺทิมสูริยา ตตฺถ อาโลกํ น ทสฺเสนฺติ. เต หิ ยุคนฺธรสมปฺปมาเณ อากาสปฺปเทเส วิจรณโต จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน วิจรนฺติ, จกฺกวาฬปพฺพตฺจ อติกฺกมฺม โลกนฺตริกนิรยา, ตสฺมา เต ตตฺถ อาโลกํ น ทสฺเสนฺตีติ จกฺขุวิฺาณํ นุปฺปชฺชติ. ยทา ปน สพฺพฺุโพธิสตฺตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณาทีสุ โอภาโส อุปฺปชฺชติ, ตทา จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ. ‘‘อฺเปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’’ติ ตํ ทิวสํ อฺมฺํ ปสฺสนฺติ. อยํ ปน โอภาโส เอกํ ยาคุปานมตฺตมฺปิ น ติฏฺติ, อจฺฉราสงฺฆาฏมตฺตเมว วิชฺโชภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายติ.

กึ ปน กมฺมํ กตฺวา ตตฺถ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺตีติ? ภาริยํ ทารุณํ ครุกํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺจ อุปริ อปราธํ อฺฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทึ สาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิย. เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติ. เต รุกฺเข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปาเท ลคฺคนฺติ, ยทา สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ มฺมานา ขาทนตฺถํ คณฺหิตุํ อุปกฺกมนฺตา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, วาเต ปหรนฺเตปิ มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ, ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑํ วิย วิลียนฺติ อติสีตลภาวโต อาตปสนฺตาปาภาเวน. อติสีตลภาวเมว หิ สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา. น หิ ตํ กปฺปสณฺหนอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฏฺํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสกอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ. ตถา หิ สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺย, เตสํ วา ปาปกมฺมพเลน เปตานํ ปกติอุทกสฺส ปุพฺพเขฬภาวาปตฺติ วิย ตสฺส อุทกสฺส ตทา ขารภาวปฺปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑํ วิย วิลียนฺตี’’ติ.

อนนฺตานีติ อปริมาณานิ, ‘‘เอตฺตกานี’’ติ อฺเหิ มินิตุํ อสกฺกุเณยฺยานิ. ตานิ จ ภควา อนนฺเตน พุทฺธาเณน อเวทิ ‘‘อนนฺโต อากาโส, อนนฺโต สตฺตนิกาโย, อนนฺตานิ จกฺกวาฬานี’’ติ. ติวิธมฺปิ หิ อนนฺตํ พุทฺธาเณน ปริจฺฉินฺทติ สยมฺปิ อนนฺตตฺตา. ยาวตกฺหิ เยฺยํ, ตาวตกํ าณํ. ยาวตกํ าณํ, ตาวตกเมว เยฺยํ. เยฺยปริยนฺติกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เยฺยนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนนฺเตน พุทฺธาเณน อเวที’’ติอาทิ. อนนฺตตา จสฺส อนนฺตเยฺยปฺปฏิวิชฺฌเนเนว เวทิตพฺพา ตตฺถ อปฺปฏิหตจารตฺตา. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘เอวมสฺส โอกาสโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต’’ติ.

อปิ เจตฺถ วิวฏฺฏาทีนมฺปิ วิทิตตา วตฺตพฺพา, ตสฺมา วิวฏฺฏาทโยปิ อาทิโต ปภุติ เอวํ เวทิตพฺพา – สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏฏฺายี วิวฏฺโฏ วิวฏฺฏฏฺายีติ กปฺปสฺส จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ. ตตฺถ สํวฏฺฏนํ วินสฺสนํ สํวฏฺโฏ, วินสฺสมาโน อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. โส ปน อตฺถโต กาโลเยว, ตทา ปวตฺตมานสงฺขารวเสนสฺส วินาโส เวทิตพฺโพ. สํวฏฺฏโต อุทฺธํ ตถาายีกาโล สํวฏฺฏฏฺายี. วิวฏฺฏนํ นิพฺพตฺตนํ วฑฺฒนํ วา วิวฏฺโฏ, วฑฺฒมาโน อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. โสปิ อตฺถโต กาโลเยว, ตทา ปวตฺตมานสงฺขารวเสนสฺส วฑฺฒิ เวทิตพฺพา. วิวฏฺฏโต อุทฺธํ ตถาายีกาโล วิวฏฺฏฏฺายี. ตตฺถ ตโย สํวฏฺฏา เตโชสํวฏฺโฏ อาโปสํวฏฺโฏ วาโยสํวฏฺโฏติ. ติสฺโส สํวฏฺฏสีมา อาภสฺสรา สุภกิณฺหา เวหปฺผลาติ. ยทา กปฺโป เตเชน สํวฏฺฏติ, ตทา อาภสฺสรโต เหฏฺา อคฺคินา ฑยฺหติ. ยทา อาเปน สํวฏฺฏติ, ตทา สุภกิณฺหโต เหฏฺา อุทเกน วิลียติ. ยทา วายุนา สํวฏฺฏติ, ตทา เวหปฺผลโต เหฏฺา วาเตน วิทฺธํสติ.

วิตฺถารโต ปน ตีสุปิ สํวฏฺฏกาเลสุ เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตํ วินสฺสติ. พุทฺธกฺเขตฺตํ นาม ติวิธํ โหติ ชาติกฺเขตฺตํ อาณากฺเขตฺตํ วิสยกฺเขตฺตฺจ. ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ, ยํ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณาทีสุ กมฺปติ. ยตฺตเก หิ าเน ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิาณาทิาณานุภาโว ปุฺผลสมุตฺเตชิโต สรเสเนว ปฏิวิชมฺภติ, ตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธงฺกุรสฺส นิพฺพตฺตนกฺเขตฺตํ นามาติ พุทฺธกฺเขตฺตนฺติ วุจฺจติ. อาณากฺเขตฺตํ ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ, ยตฺถ รตนสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๒๔ อาทโย) ขนฺธปริตฺตํ (อ. นิ. ๔.๖๗; ชา. ๑.๒.๑๐๕-๑๐๖; จูฬว. ๒๕๑ อาทโย) ธชคฺคปริตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) อาฏานาฏิยปริตฺตํ (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) โมรปริตฺตนฺติ (ชา. ๑.๒.๑๗-๑๘) อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว วตฺตติ. อิทฺธิมา หิ เจโตวสิปฺปตฺโต อาณากฺเขตฺตปริยาปนฺเน ยตฺถ กตฺถจิ จกฺกวาเฬ ตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปริตฺตํ กตฺวา ตตฺเถว อฺํ จกฺกวาฬํ คโตปิ กตปริตฺโต เอว โหติ. เอกจกฺกวาเฬ ตฺวา สพฺพสตฺตานํ อตฺถาย ปริตฺเต กเต อาณากฺเขตฺเต สพฺพสตฺตานมฺปิ อภิสมฺภุณาเตว ปริตฺตานุภาโว ตตฺถ เทวตาหิ ปริตฺตานํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพโต, ตสฺมา ตํ อาณากฺเขตฺตนฺติ วุจฺจติ. วิสยกฺเขตฺตํ ปน อนนฺตํ อปริมาณํ. อนนฺตาปริมาเณสุ หิ จกฺกวาเฬสุ ยํ ยํ ตถาคโต อากงฺขติ, ตํ ตํ ชานาติ อากงฺขปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย พุทฺธาณสฺส. เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธกฺเขตฺเตสุ เอกํ อาณากฺเขตฺตํ วินสฺสติ, ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติกฺเขตฺตํ วินฏฺเมว โหติ. วินสฺสนฺตมฺปิ เอกโตว วินสฺสติ, สณฺหนฺตมฺปิ เอกโตว สณฺหติ, ตสฺเสวํ วินาโส สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมึ สมเย กปฺโป อคฺคินา นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬ เอกํ มหาวสฺสํ วสฺสติ , มนุสฺสา ตุฏฺา สพฺพพีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ, สสฺเสสุ ปน โคขายิตมตฺเตสุ ชาเตสุ คทฺรภรวํ รวนฺโต เอกพินฺทุมฺปิ น วสฺสติ, ตทา ปจฺฉินฺนปจฺฉินฺนเมว โหติ วสฺสํ. อิทํ สนฺธาย หิ ภควตา ‘‘โหติ โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ เทโว น วสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๖) วุตฺตํ. วสฺสูปชีวิโนปิ สตฺตา กาลํ กตฺวา ปริตฺตาภาทิพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปุปฺผผลูปชีวินิโย จ เทวตา. เอวํ ทีเฆ อทฺธาเน วีติวตฺเต ตตฺถ ตตฺถ อุทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถานุปุพฺเพน มจฺฉกจฺฉปาปิ กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ เนรยิกสตฺตาปิ. ตตฺถ เนรยิกา สตฺตมสูริยปาตุภาเว วินสฺสนฺตีติ เอเก.

ฌานํ ปน วินา นตฺถิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, เอเตสฺจ เกจิ ทุพฺภิกฺขปีฬิตา, เกจิ อภพฺพา ฌานาธิคมาย, เต กถํ ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺตีติ? เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน. ตทา หิ ‘‘วสฺสสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน กปฺปวุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ โลกพฺยูหา นาม กามาวจรเทวา มุตฺตสิรา วิกิณฺณเกสา รุทมฺมุขา อสฺสูนิ หตฺเถหิ ปุฺฉมานา รตฺตวตฺถนิวตฺถา อติวิย วิรูปเวสธาริโน หุตฺวา มนุสฺสปเถ วิจรนฺตา เอวํ อาโรเจนฺติ ‘‘มาริสา มาริสา อิโต วสฺสสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน กปฺปวุฏฺานํ ภวิสฺสติ, อยํ โลโก วินสฺสิสฺสติ, มหาสมุทฺโทปิ อุสฺสุสฺสิสฺสติ, อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา ฑยฺหิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ, ยาว พฺรหฺมโลกา โลกวินาโส ภวิสฺสติ, เมตฺตํ มาริสา ภาเวถ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺขํ มาริสา ภาเวถ, มาตรํ อุปฏฺหถ, ปิตรํ อุปฏฺหถ, กุเล เชฏฺาปจายิโน โหถา’’ติ. เต ปน เทวา โลกํ พฺยูเหนฺติ สมฺปิณฺเฑนฺตีติ ‘‘โลกพฺยูหา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต กิร ทิสฺวา มนุสฺสา ยตฺถ กตฺถจิ ิตาปิ นิสินฺนาปิ สํเวคชาตา สมฺภมปฺปตฺตาว หุตฺวา เตสํ อาสนฺเน าเน สนฺนิปตนฺติ.

กถํ ปเนเต กปฺปวุฏฺานํ ชานนฺตีติ? ‘‘ธมฺมตาย สฺโจทิตา’’ติ อาจริยา. ‘‘ตาทิสนิมิตฺตทสฺสเนนา’’ติ เอเก. ‘‘พฺรหฺมเทวตาหิ อุยฺโยชิตา’’ติ อปเร. เตสํ ปน วจนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน มนุสฺสา จ ภุมฺมเทวตา จ สํเวคชาตา อฺมฺํ มุทุจิตฺตา หุตฺวา เมตฺตาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ ทิพฺพสุธาโภชนํ ภุฺชิตฺวา ตโต วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ ปฏิลภนฺติ. เทวานํ กิร สุขสมฺผสฺสวาตคฺคหณปอจเยน วาโยกสิเณ ฌานานิ สุเขเนว อิชฺฌนฺติ. ตทฺเ ปน อาปายิกา สตฺตา อปราปริยเวทนีเยน กมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. อปราปริยเวทนียกมฺมรหิโต หิ สํสาเร สํสรนฺโต นาม สตฺโต นตฺถิ. เตปิ ตตฺถ ตเถว ฌานํ ปฏิลภนฺติ. เอวํ เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน สพฺเพปิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. อิทฺจ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ.

เกจิ ปน ‘‘อปายสตฺตา สํวฏฺฏมานโลกธาตูหิ อฺเสุ โลกธาตูสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ. น หิ สพฺเพ อปายสตฺตา ตทา รูปารูปภเวสุ อุปฺปชฺชนฺตีติ สกฺกา วิฺาตุํ อปาเยสุ ทีฆายุกานํ เทวโลกูปปตฺติยา อสมฺภวโต. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโก ปน วินสฺสมาเนปิ กปฺเป นิรยโต น มุจฺจติเยว, ตสฺมา โส ตตฺถ อนิพฺพตฺติตฺวา ปิฏฺิจกฺกวาเฬ นิพฺพตฺตติ. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิยา หิ สมนฺนาคตสฺส ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถิ. ตาย หิ สมนฺนาคตสฺส เนว สคฺโค อตฺถิ, น มคฺโค, ตสฺมา โส สํวฏฺฏมานจกฺกวาฬโต อฺตฺถ นิรเย นิพฺพตฺติตฺวา ปจฺจติ. กึ ปน ปิฏฺิจกฺกวาฬํ น ฌายตีติ? ฌายติ. ตสฺมึ ฌายมาเนปิ เอส อากาเส เอกสฺมึ ปเทเส ปจฺจตี’’ติ วทนฺติ.

วสฺสูปจฺเฉทโต ปน อุทฺธํ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทุติโย สูริโย ปาตุภวติ, ปาตุภูเต ปน ตสฺมึ เนว รตฺติปริจฺเฉโท, น ทิวาปริจฺเฉโท ปฺายติ. เอโก สูริโย อุฏฺเติ, เอโก อตฺถํ คจฺฉติ, อวิจฺฉินฺนสูริยสนฺตาโปว โลโก โหติ. ยถา จ กปฺปวุฏฺานกาลโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนสูริยวิมาเน สูริยเทวปุตฺโต โหติ, เอวํ กปฺปวินาสกสูริเย นตฺถิ. กปฺปวุฏฺานกาเล ปน ยถา อฺเ กามาวจรเทวา, เอวํ สูริยเทวปุตฺโตปิ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชติ. สูริยมณฺฑลํ ปน ปภสฺสรตรฺเจว เตชวนฺตตรฺจ หุตฺวา ปวตฺตติ. ตํ อนฺตรธายิตฺวา อฺเมว อุปฺปชฺชตีติ อปเร. ตตฺถ ปกติสูริเย วตฺตมาเน อากาเส วลาหกาปิ ธูมสิขาปิ วตฺตนฺติ, กปฺปวินาสกสูริเย วตฺตมาเน วิคตธูมวลาหกํ อาทาสมณฺฑลํ วิย นิมฺมลํ นภํ โหติ. เปตฺวา ปฺจ มหานทิโย เสสกุนฺนทิอาทีสุ อุทกํ สุสฺสติ.

ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตติโย สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา มหานทิโยปิ สุสฺสนฺติ.

ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน จตุตฺโถ สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา หิมวติ มหานทีนํ ปภวา สีหปฺปปาตทโห มนฺทากินีทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห อโนตตฺตทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโหติ อิเม สตฺต มหาสรา สุสฺสนฺติ.

ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ปฺจโม สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺเท องฺคุลิปพฺพเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ น สณฺาติ.

ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ฉฏฺโ สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกธูมํ โหติ ปริยาทินฺนสิเนหํ ธูเมน. ยาย หิ อาโปธาตุยา ตตฺถ ตตฺถ ปถวีธาตุ อาพนฺธตฺตา สมฺปิณฺฑิตา หุตฺวา ติฏฺติ, สา ฉฏฺสูริยปาตุภาเวน ปริกฺขยํ คจฺฉติ. ยถา จิทํ, เอวํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิปิ.

ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สตฺตโม สูริโย ปาตุภวติ, ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกชาลํ โหติ สทฺธึ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬหิ, โยชนสติกาทิเภทานิ สิเนรุกูฏานิ ปลุชฺชิตฺวา อากาเสเยว อนฺตรธายนฺติ. สา อคฺคิชาลา อุฏฺหิตฺวา จาตุมหาราชิเก คณฺหาติ. ตตฺถ กนกวิมานรตนวิมานมณิวิมานานิ ฌาเปตฺวา ตาวตึสภวนํ คณฺหาติ. เอเตเนวูปาเยน ยาว ปมชฺฌานภูมึ คณฺหาติ, ตตฺถ ตโยปิ พฺรหฺมโลเก ฌาเปตฺวา อาภสฺสเร อาหจฺจ ติฏฺติ. สา ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น นิพฺพายติ. สพฺพสงฺขารปริกฺขยา ปน สปฺปิเตลชฺฌาปนคฺคิสิขา วิย ฉาริกมฺปิ อนวเสเสตฺวา นิพฺพายติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโร.

เอวํ เอกมสงฺขฺเยยฺยํ เอกงฺคณํ หุตฺวา ิเต โลกสนฺนิวาเส โลกสฺส สณฺานตฺถาย เทโว วสฺสิตุํ อารภติ, อาทิโตว อนฺตรฏฺเก หิมปาโต วิย โหติ. ตโต กณมตฺตา ตณฺฑุลมตฺตา มุคฺคมาสพทรอามลกเอฬาลุกกุมฺภณฺฑอลาพุมตฺตา อุทกธารา หุตฺวา อนุกฺกเมน อุสภทฺเวอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนโยชนทฺวิโยชน…เป… โยชนสตโยชนสหสฺสมตฺตา หุตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬคพฺภนฺตรํ ยาว อวินฏฺพฺรหฺมโลกา ปูเรตฺวา อนฺตรธายติ. ตํ อุทกํ เหฏฺา จ ติริยฺจ วาโต สมุฏฺหิตฺวา ฆนํ กโรติ ปริวฏุมํ ปทุมินีปตฺเต อุทกพินฺทุสทิสํ.

กถํ ตาวมหนฺตํ อุทกราสึ ฆนํ กโรตีติ เจ? วิวรสมฺปทานโต วาตสฺสาติ. ตฺหิสฺส ตหึ ตหึ วิวรํ เทติ. ตํ เอวํ วาเตน สมฺปิณฺฑิยมานํ ฆนํ กริยมานํ ปริกฺขยมานํ อนุปุพฺเพน เหฏฺา โอตรติ. โอติณฺเณ โอติณฺเณ อุทเก พฺรหฺมโลกฏฺาเน พฺรหฺมโลโก, อุปริจตุกามาวจรเทวโลกฏฺาเน จ เทวโลกา ปาตุภวนฺติ. จาตุมหาราชิกตาวตึสภวนานิ ปน ปถวีสมฺพนฺธตาย น ตาว ปาตุภวนฺติ. ปุริมปถวิฏฺานํ โอติณฺเณ ปน พลววาตา อุปฺปชฺชนฺติ, เต ตํ ปิหิตทฺวาเร ธมฺมกรเณ ิตอุทกมิว นิรุสฺสาสํ กตฺวา รุมฺภนฺติ . มธุโรทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉมานํ อุปริ รสปถวึ สมุฏฺาเปติ, อุทกปิฏฺเ อุปฺปลินีปตฺตํ วิย ปถวี สณฺาติ. สา วณฺณสมฺปนฺนา เจว โหติ คนฺธรสสมฺปนฺนา จ นิรุทกปายาสสฺส อุปริ ปฏลํ วิย. เอตฺถ ปน มหาโพธิปลฺลงฺกฏฺานํ วินสฺสมาเน โลเก ปจฺฉา วินสฺสติ, สณฺหมาเน ปมํ สณฺหตีติ เวทิตพฺพํ.

ตทา จ อาภสฺสรพฺรหฺมโลเก ปมตราภินิพฺพตฺตา สตฺตา อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วา ตโต จวิตฺวา โอปปาติกา หุตฺวา อิธูปปชฺชนฺติ, เต โหนฺติ สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา, เต ตํ รสปถวึ สายิตฺวา ตณฺหาภิภูตา อาลุปฺปการกํ ปริภุฺชิตุํ อุปกฺกมนฺติ. อถ เตสํ สยํปภา อนฺตรธายติ, อนฺธกาโร โหติ. เต อนฺธการํ ทิสฺวา ภายนฺติ. ตโต เตสํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺตํ ปริปุณฺณปฺาสโยชนํ สูริยมณฺฑลํ ปาตุภวติ. เต ตํ ทิสฺวา ‘‘อาโลกํ ปฏิลภิมฺหา’’ติ หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ภีตานํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺโต อุฏฺิโต, ตสฺมา สูริโย โหตู’’ติ สูริโยตฺเววสฺส นามํ กโรนฺติ.

อถ สูริเย ทิวสํ อาโลกํ กตฺวา อตฺถงฺคเต ‘‘ยมฺปิ อาโลกํ ลภิมฺห, โสปิ โน นฏฺโ’’ติ ปุน ภีตา โหนฺติ. เตสํ เอวํ โหติ ‘‘สาธุ วตสฺส, สเจ อฺํ อาโลกํ ลเภยฺยามา’’ติ. เตสํ จิตฺตํ ตฺวา วิย เอกูนปฺาสโยชนํ จนฺทมณฺฑลํ ปาตุภวติ. เต ตํ ทิสฺวา ภิยฺโยโส มตฺตาย หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ฉนฺทํ ตฺวา วิย อุฏฺิโต, ตสฺมา จนฺโท โหตู’’ติ จนฺโทตฺเววสฺส นามํ กโรนฺติ.

เอวํ จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุภวนฺติ, ตโต ปภุติ รตฺตินฺทิวา ปฺายนฺติ, อนุกฺกเมน จ มาสฑฺฒมาสอุตุสํวจฺฉรา, จนฺทิมสูริยานํ ปาตุภูตทิวเสเยว สิเนรุจกฺกวาฬหิมวนฺตปพฺพตา ทีปสมุทฺทา จ ปาตุภวนฺติ. เต จ โข อปุพฺพํ อจริมํ ผคฺคุณปุณฺณมทิวเสเยว ปาตุภวนฺติ. กถํ? ยถา นาม กงฺคุภตฺเต ปจฺจมาเน เอกปฺปหาเรเนว ปุพฺพุฬกา อุฏฺหนฺติ, เอเก ปเทสา ถูปถูปา โหนฺติ, เอเก นินฺนนินฺนา, เอเก สมสมา, เอวเมว ถูปถูปฏฺาเน ปพฺพตา โหนฺติ, นินฺนนินฺนฏฺาเน สมุทฺทา, สมสมฏฺาเน ทีปาติ.

อถ เตสํ สตฺตานํ รสปถวึ ปริภุฺชนฺตานํ กมฺเมน เอกจฺเจ วณฺณวนฺโต โหนฺติ, เอกจฺเจ ทุพฺพณฺณา โหนฺติ. ตตฺถ วณฺณวนฺโต ทุพฺพณฺเณ อติมฺนฺติ, เตสํ อติมานปจฺจยา สาปิ รสปถวี อนฺตรธายติ, ภูมิปปฺปฏโก ปาตุภวติ. อถ เนสํ เตเนว นเยน โสปิ อนฺตรธายติ, อถ ปทาลตา ปาตุภวติ. เตเนว นเยน สาปิ อนฺตรธายติ, อกฏฺปาโก สาลิ ปาตุภวติ อกโณ อถุโส สุคนฺโธ ตณฺฑุลผโล. ตโต เนสํ ภาชนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เต สาลึ ภาชเน เปตฺวา ปาสาณปิฏฺิยํ เปนฺติ, สยเมว ชาลสิขา อุฏฺหิตฺวา ตํ ปจติ. โส โหติ โอทโน สุมนชาติปุปฺผสทิโส, น ตสฺส สูเปน วา พฺยฺชเนน วา กรณียํ อตฺถิ, ยํ ยํ รสํ ภุฺชิตุกามา โหนฺติ, ตํตํรโสว โหติ. เตสํ ตํ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรยตํ ตโต ปภุติ มุตฺตกรีสํ สฺชายติ. ตถา หิ รสปถวี ภูมิปปฺปฏโก ปทาลตาติ อิเม ตาว ปริภุตฺตา สุธาหาโร วิย ขุทํ วิโนเทตฺวา รสหรณีหิ รสเมว ปริพฺยูเหนฺตา ติฏฺนฺติ วตฺถุโน สุขุมภาเวน, น นิสฺสนฺทา, สุขุมภาเวเนว คหณินฺธนเมว จ โหติ. โอทโน ปน ปริภุตฺโต รสํ วฑฺเฒนฺโตปิ วตฺถุโน โอฬาริกภาเวเนว นิสฺสนฺทํ วิสฺสชฺเชนฺโต ปสฺสาวํ กรีสฺจ อุปฺปาเทติ.

อถ เตสํ นิกฺขมนตฺถาย วณมุขานิ ปภิชฺชนฺติ. ปุริสสฺส ปุริสภาโว, อิตฺถิยา อิตฺถิภาโว ปาตุภวติ. ปุริมตฺตภาเวสุ หิ ปวตฺตอุปจารชฺฌานานุภาเวน ยาว สตฺตสนฺตาเนสุ กามราโค วิกฺขมฺภนเวเคน สมิโต , น ตาว พหลกามราคูปนิสฺสยานิ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ ปาตุรเหสุํ. ยทา ปนสฺส วิจฺฉินฺนตาย พหลกามราโค ลทฺธาวสโร อโหสิ, ตทา ตทุปนิสฺสยานิ ตานิ สตฺตานํ อตฺตภาเวสุ สฺชายึสุ, ตทา อิตฺถี ปุริสํ, ปุริโส จ อิตฺถึ อติเวลํ อุปนิชฺฌายติ. เตสํ อติเวลํ อุปนิชฺฌายนปจฺจยา กามปริฬาโห อุปฺปชฺชติ, ตโต เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺติ. เต อสทฺธมฺมปฏิเสวนปจฺจยา วิฺูหิ ครหิยมานา วิเหิยมานา ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ อคารานิ กโรนฺติ. เต อคารํ อชฺฌาวสมานา อนุกฺกเมน อฺตรสฺส อลสชาติกสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตา สนฺนิธึ กโรนฺติ. ตโต ปภุติ กโณปิ ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธนฺติ, ลายิตฏฺานมฺปิ น ปฏิวิรุหติ.

เต สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนนฺติ ‘‘ปาปกา วต โภ ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา, มยฺหิ ปุพฺเพ มโนมยา อหุมฺหา’’ติ, อคฺคฺสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๒๘) วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. ตโต มริยาทํ เปนฺติ, อถฺตโร สตฺโต อฺสฺส ภาคํ อทินฺนํ อาทิยติ, ตํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปริภาเสตฺวา ตติยวาเร ปาณิเลฑฺฑุทณฺเฑหิ ปหรนฺติ. เต เอวํ อทินฺนาทาเน กลหมุสาวาททณฺฑาทาเนสุ อุปฺปนฺเนสุ จ สนฺนิปติตฺวา จินฺตยนฺติ ‘‘ยนฺนูน มยํ เอกํ สตฺตํ สมฺมนฺเนยฺยาม, โย โน สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีเยยฺย, ครหิตพฺพํ ครเหยฺย, ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชยฺย, มยํ ปนสฺส สาลีนํ ภาคมนุปฺปทสฺสามา’’ติ. เอวํ กตสนฺนิฏฺาเนสุ ปน สตฺเตสุ อิมสฺมึ ตาว กปฺเป อยเมว ภควา โพธิสตฺตภูโต เตน สมเยน เตสุ สตฺเตสุ อภิรูปตโร จ ทสฺสนียตโร จ มเหสกฺขตโร จ พุทฺธิสมฺปนฺโน ปฏิพโล นิคฺคหปคฺคหํ กาตุํ. เต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา สมฺมนฺนึสุ. โส เตน มหาชเนน สมฺมโตติ มหาสมฺมโต, เขตฺตานํ อธิปตีติ ขตฺติโย, ธมฺเมน สเมน ปเรสํ รฺเชตีติ ราชาติ ตีหิ นาเมหิ ปฺายิตฺถ. ยฺหิ โลเก อจฺฉริยฏฺานํ, โพธิสตฺโตว ตตฺถ อาทิปุริโสติ เอวํ โพธิสตฺตํ อาทึ กตฺวา ขตฺติยมณฺฑเล สณฺิเต อนุปุพฺเพน พฺราหฺมณาทโยปิ วณฺณา สณฺหึสุ.

ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว ชาโลปจฺเฉโท, อิทเมกมสงฺขฺเยยฺยํ สํวฏฺโฏติ วุจฺจติ. กปฺปวินาสกชาโลปจฺเฉทโต ยาว โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริปูรโก สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺขฺเยยฺยํ สํวฏฺฏฏฺายีติ วุจฺจติ. สมฺปตฺติมหาเมฆโต ยาว จนฺทิมสูริยปาตุภาโว, อิทํ ตติยมสงฺขฺเยยฺยํ วิวฏฺโฏติ วุจฺจติ. จนฺทิมสูริยปาตุภาวโต ยาว ปุน กปฺปวินาสกมหาเมโฆ, อิทํ จตุตฺถมสงฺขฺเยยฺยํ วิวฏฺฏฏฺายีติ วุจฺจติ. วิวฏฺฏฏฺายีอสงฺขฺเยยฺยํ จตุสฏฺิอนฺตรกปฺปสงฺคหํ. ‘‘วีสติอนฺตรกปฺปสงฺคห’’นฺติ เกจิ. เสสาสงฺขฺเยยฺยานิ กาลโต เตน สมปฺปมาณาเนว. อิมานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ ตาว อคฺคินา วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมึ ปน สมเย กปฺโป อุทเกน นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ทุติยสูริโย, เอวมิธ กปฺปวินาสโก ขารุทกมหาเมโฆ วุฏฺาติ. โส อาทิโต สุขุมํ สุขุมํ วสฺสนฺโต อนุกฺกเมน มหาธาราหิ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานํ ปูเรนฺโต วสฺสติ. ขารุทเกน ผุฏฺผุฏฺา ปถวีปพฺพตาทโย วิลียนฺติ, อุทกํ สมนฺตโต วาเตหิ ธารียติ. ปถวิยา เหฏฺิมนฺตโต ปภุติ ยาว ทุติยชฺฌานภูมึ อุทกํ คณฺหาติ. เตน หิ ขารุทเกน ผุฏฺผุฏฺา ปถวีปพฺพตาทโย อุทเก ปกฺขิตฺตโลณสกฺขรา วิย วิลียนฺเตว, ตสฺมา ปถวีสนฺธารกอุทเกน สทฺธึ เอกูทกเมว ตํ โหตีติ เกจิ. อปเร ปน ‘‘ปถวีสนฺธารกอุทกํ ตํ สนฺธารกวายุกฺขนฺธฺจ อนวเสสโต วินาเสตฺวา สพฺพตฺถ สยเมว เอโก ฆนภูโต ติฏฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ. อุปริ ปน ฉปิ พฺรหฺมโลเก วิลียาเปตฺวา สุภกิณฺเห อาหจฺจ ติฏฺติ, ตํ ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น วูปสมฺมติ, อุทกานุคตํ ปน สพฺพํ สงฺขารคตํ อภิภวิตฺวา สหสา วูปสมฺมติ, อนฺตรธานํ คจฺฉติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. เกวลํ ปนิธ อาภสฺสรพฺรหฺมโลกํ อาทึ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. สุภกิณฺหโต จวิตฺวา อาภสฺสรฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกขารุทโกปจฺเฉโท, อิทเมกมสงฺขฺเยยฺยํ . อุทกุปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺขฺเยยฺยํ. สมฺปตฺติมหาเมฆโต ยาว จนฺทิมสูริยปาตุภาโว, อิทํ ตติยมสงฺขฺเยยฺยํ. จนฺทิมสูริยปาตุภาวโต ยาว กปฺปวินาสกมหอาเมโฆ, อิทํ จตุตฺถมสงฺขฺเยยฺยํ. อิมานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ อุทเกน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.

ยสฺมึ สมเย กปฺโป วาเตน นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ ทุติยสูริโย, เอวมิธ กปฺปวินาสนตฺถํ วาโต สมุฏฺาติ. โส ปมํ ถูลรชํ อุฏฺาเปติ, ตโต สณฺหรชํ สุขุมวาลิกํ ถูลวาลิกํ สกฺขรปาสาณาทโยติ ยาวกูฏาคารมตฺเต ปาสาเณ วิสมฏฺาเน ิตมหารุกฺเข จ อุฏฺาเปติ. เต ปถวิโต นภมุคฺคตา น ปุน ปตนฺติ, ตตฺเถว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ. อถานุกฺกเมน เหฏฺา มหาปถวิยา วาโต สมุฏฺหิตฺวา ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํ มูลํ กตฺวา อากาเส ขิปติ. โยชนสตปฺปมาณาปิ ปถวิปฺปเทสา ทฺวิโยชนติโยชนจตุโยชนปฺจโยชนฉโยชนสตฺตโยชนปฺปมาณาปิ ปภิชฺชิตฺวา วาตเวคุกฺขิตฺตา อากาเสเยว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ. จกฺกวาฬปพฺพตมฺปิ สิเนรุปพฺพตมฺปิ วาโต อุกฺขิปิตฺวา อากาเส ขิปติ. เต อฺมฺํ อภิหนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. เอเตเนวูปาเยน ภูมฏฺกวิมานานิ จ อากาสฏฺกวิมานานิ จ วินาเสนฺโต ฉกามาวจรเทวโลเก วินาเสตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิ วินาเสติ. ตตฺถ จกฺกวาฬา จกฺกวาเฬหิ, หิมวนฺตา หิมวนฺเตหิ, สิเนรู สิเนรูหิ อฺมฺํ สมาคนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. ปถวิโต ยาว ตติยชฺฌานภูมิ วาโต คณฺหาติ, นวปิ พฺรหฺมโลเก วินาเสตฺวา เวหปฺผเล อาหจฺจ ติฏฺติ. เอวํ ปถวีสนฺธารกอุทเกน ตํสนฺธารกวาเตน จ สทฺธึ สพฺพสงฺขารคตํ วินาเสตฺวา สยมฺปิ วินสฺสติ อวฏฺานสฺส การณาภาวโต. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. อิธ ปน สุภกิณฺหพฺรหฺมโลกํ อาทึ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. เวหปฺผลโต จวิตฺวา สุภกิณฺหฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกวาตุปจฺเฉโท, อิทเมกมสงฺขฺเยยฺยํ. วาตุปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยมสงฺขฺเยยฺยนฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. เอวํ วาเตน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.

อถ กึการณา เอวํ โลโก วินสฺสติ. ยทิปิ หิ สงฺขารานํ อเหตุโก สรสนิโรโธ วินาสกาภาวโต, สนฺตานนิโรโธ ปน เหตุวิรหิโต นตฺถิ. ยถา ตํ สตฺตนิกาเยสูติ ภาชนโลกสฺสปิ สเหตุเกน วินาเสน ภวิตพฺพํ, ตสฺมา กิเมวํ โลกวินาเส การณนฺติ? อกุสลมูลํ การณํ. ยถา หิ ตตฺถ นิพฺพตฺตนกสตฺตานํ ปุฺพเลน ปมํ โลโก วิวฏฺฏติ, เอวํ เตสํ ปาปกมฺมพเลน สํวฏฺฏติ, ตสฺมา อกุสลมูเลสุ อุสฺสนฺเนสุ เอวํ โลโก วินสฺสติ. ยถา หิ ราคโทสโมหานํ อธิกภาเวน ยถากฺกมํ โรคนฺตรกปฺโป สตฺถนฺตรกปฺโป ทุพฺภิกฺขนฺตรกปฺโปติ อิเม ติวิธา อนฺตรกปฺปา วิวฏฺฏฏฺายิมฺหิ อสงฺขฺเยยฺยกปฺเป ชายนฺติ. เอวเมเต ยถาวุตฺตา ตโย สํวฏฺฏา ราคาทีนํ อธิกภาเวเนว โหนฺติ.

ตตฺถ ราเค อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา วินสฺสติ, โทเส อุสฺสนฺนตเร อุทเกน วินสฺสติ. โทเส หิ อุสฺสนฺนตเร อธิกตเรน โทเสน วิย ติกฺขตเรน ขารุทเกน วินาโส ยุตฺโตติ. เกจิ ปน ‘‘โทเส อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา, ราเค อุทเกนา’’ติ วทนฺติ, เตสํ กิร อยมธิปฺปาโย – ปากฏสตฺตุสทิสสฺส โทสสฺส อคฺคิสทิสตา, อปากฏสตฺตุสทิสสฺส ราคสฺส ขารุทกสทิสตา จ ยุตฺตาติ. โมเห ปน อุสฺสนฺนตเร วาเตน วินสฺสติ. เอวํ วินสฺสนฺโตปิ จ นิรนฺตรเมว สตฺต วาเร อคฺคินา นสฺสติ, อฏฺเม วาเร อุทเกน, ปุน สตฺต วาเร อคฺคินา, อฏฺเม อุทเกนาติ เอวํ อฏฺเม อฏฺเม วาเร วินสฺสนฺโต สตฺตกฺขตฺตุํ อุทเกน วินสฺสิตฺวา ปุน สตฺต วาเร อคฺคินา นสฺสติ. เอตฺตาวตา เตสฏฺิ กปฺปา อตีตา โหนฺติ. เอตฺถนฺตเร อุทเกน นสฺสนวารํ สมฺปตฺตมฺปิ ปฏิพาหิตฺวา ลทฺโธกาโส วาโต ปริปุณฺณจตุสฏฺิกปฺปายุเก สุภกิณฺเห วิทฺธํเสนฺโต โลกํ วินาเสติ. เอตฺถ ปน ราโค สตฺตานํ พหุลํ ปวตฺตตีติ อคฺคิวเสน พหุโส โลกวินาโส เวทิตพฺโพ. อิติ เอวํ อิเมหิ การเณหิ วินสฺสิตฺวา สณฺหนฺตํ สณฺหิตฺวา ิตฺจ โอกาสโลกํ ภควา ยาถาวโต อเวทีติ เอวมฺปิสฺส สพฺพถา โอกาสโลโก วิทิโตติ ทฏฺพฺพํ.

ยํ ปน เหฏฺา วุตฺตํ ‘‘สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู’’ติ, อิทานิ ตํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘เอวํ สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู’’ติ. ตตฺถ สพฺพถาติ ลกฺขณาทิปฺปเภทโต สงฺขารโลกสฺส, อาสยาทิปฺปเภทโต สตฺตโลกสฺส, ปริมาณสณฺานาทิปฺปเภทโต โอกาสโลกสฺสาติ เอวํ สพฺพปฺปกาเรน วิทิตโลกตฺตาติ อตฺโถ.

อิทานิ อนุตฺตโรติ ปทสฺส อตฺถํ สํวณฺเณนฺโต อาห ‘‘อตฺตโน ปน คุเณหี’’ติอาทิ. ตตฺถ อตฺตโนติ นิสฺสกฺกตฺเถ สามิวจนเมตํ, อตฺตโตติ อตฺโถ. คุเณหิ อตฺตโน วิสิฏฺตรสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ตรคฺคหณฺเจตฺถ ‘‘อนุตฺตโร’’ติ ปทสฺส อตฺถนิทฺเทสตาย กตํ, น วิสิฏฺสฺส กสฺสจิ อตฺถิตาย. สเทวเก หิ โลเก สทิสกปฺโปปิ นาม โกจิ ตถาคตสฺส นตฺถิ, กุโต สทิโส, วิสิฏฺเ ปน กา กถา. กสฺสจีติ กสฺสจิปิ. อภิภวตีติ สีลสมฺปทาย อุปนิสฺสยภูตานํ หิโรตฺตปฺปเมตฺตากรุณานํ วิเสสปจฺจยานํ สทฺธาสติวีริยปฺานฺจ อุกฺกํสปฺปตฺติยา สมุทาคมโต ปฏฺาย น อฺสาธารโณ สวาสนปฏิปกฺขสฺส ปหีนตฺตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺโต สตฺถุ สีลคุโณ, เตน ภควา สเทวกํ โลกํ อฺทตฺถุ อภิภุยฺย ปวตฺตติ, น สยํ เกนจิ อภิภุยฺยตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ สมาธิคุณาทีสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. สีลาทโย เจเต โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา เวทิตพฺพา, วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปน โลกิยํ กามาวจรเมว.

ยทิ เอวํ กถํ เตน สเทวกํ โลกํ อภิภวตีติ? ตสฺสปิ อานุภาวโต อสทิสตฺตา. ตมฺปิ หิ วิสยโต ปวตฺติโต ปวตฺติอาการโต จ อุตฺตริตรเมว. ตฺหิ อนฺสาธารณํ สตฺถุ วิมุตฺติคุณํ อารพฺภ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานฺจ อตกฺกาวจรํ ปรมคมฺภีรํ สณฺหํ สุขุมํ สาติสยํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ สุปฺปหีนตฺตา สุฏฺุ ปากฏํ วิภูตตรํ กตฺวา ปวตฺตติ, สมฺมเทว จ วสีภาวสฺส ปาปกตฺตา ภวงฺคปริวาสสฺส จ อติปริตฺตกตฺตา ลหุ ลหุ ปวตฺตตีติ.

เอวํ สีลาทิคุเณหิ ภควโต อุตฺตริตรสฺส อภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สทิสสฺสปิ อภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีลคุเณนปิ อสโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อสโมติ เอกสฺมึ กาเล นตฺถิ เอตสฺส สีลาทิคุเณน สโม สทิโสติ อสโม. ตถา อสเมหิ สโม อสมสโม. อสมา วา สมา เอตสฺสาติ อสมสโม. สีลาทิคุเณน นตฺถิ เอตสฺส ปฏิมาติ อปฺปฏิโม. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อุปมามตฺตํ ปฏิมา, สทิสูปมา ปฏิภาโค, ยุคคฺคาหวเสน ิโต ปฏิปุคฺคโลติ เวทิตพฺโพ.

น โข ปนาหํ ภิกฺขเว สมนุปสฺสามีติอาทีสุ มม สมนฺตจกฺขุนา หตฺถตเล อามลกํ วิย สพฺพํ โลกํ ปสฺสนฺโตปิ ตตฺถ สเทวเก…เป… ปชาย อตฺตโน อตฺตโต สีลสมฺปนฺนตรํ สมฺปนฺนตรสีลํ กฺจิปิ ปุคฺคลํ น โข ปน ปสฺสามิ ตาทิสสฺส อภาวโตติ อธิปฺปาโย.

อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีนีติ เอตฺถ –

‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สฺิโน วา อสฺิโน วา เนวสฺีนาสฺิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา. อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) –

อิทํ อคฺคปฺปสาทสุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน –

‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุ ทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓; ที. นิ. ๓.๑๘๘) –

เอวมาทีนิ สุตฺตปทานิ เวทิตพฺพานิ. อาทิกา คาถาโยติ –

‘‘อหฺหิ อรหา โลเก, อหํ สตฺถา อนุตฺตโร;

เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต. (มหาว. ๑๑; ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑);

‘‘ทนฺโต ทมยตํ เสฏฺโ, สนฺโต สมยตํ อิสิ;

มุตฺโต โมจยตํ อคฺโค, ติณฺโณ ตารยตํ วโร. (อิติวุ. ๑๑๒)

‘‘นยิมสฺมึ โลเก ปรสฺมึ วา ปน,

พุทฺเธน เสฏฺโ สทิโส จ วิชฺชติ;

อาหุเนยฺยานํ ปรมาหุตึ คโต,

ปุฺตฺถิกานํ วิปุลปฺผเลสิน’’นฺติ. (วิ. ว. ๑๐๔๗; กถา. ๗๙๙) –

เอวมาทิกา คาถา วิตฺถาเรตพฺพา.

ปุริสทมฺมสารถีติอาทีสุ ทมิตพฺพาติ ทมฺมา, ทมิตุํ อรหรูปา. ปุริสา จ เต ทมฺมา จาติ ปุริสทมฺมา. วิเสสนสฺส เจตฺถ ปรนิปาตํ กตฺวา นิทฺเทโส, ทมฺมปุริสาติ อตฺโถ. ‘‘สติปิ มาตุคามสฺสปิ ทมฺมภาเว ปุริสคฺคหณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสนา’’ติ วทนฺติ. สาเรตีติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทเมตี’’ติอาทิ. ตตฺถ ทเมตีติ สเมติ, กายสมาทีหิ โยเชตีติ อตฺโถ. ตํ ปน กายสมาทีหิ โยชนํ ยถารหํ ตทงฺควินยาทีสุ ปติฏฺาปนํ โหตีติ อาห ‘‘วิเนตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. อทนฺตาติ อิทํ สพฺเพน สพฺพํ ทมตํ อนุปคตา ปุริสทมฺมาติ วุตฺตาติ กตฺวา วุตฺตํ. เย ปน วิปฺปกตทมฺมภาวา สพฺพถา ทเมตพฺพตํ นาติวตฺตา, เตปิ ปุริสทมฺมา เอว, ยโต เต สตฺถา ทเมติ. ภควา หิ วิสุทฺธสีลสฺส ปมชฺฌานํ อาจิกฺขติ, ปมชฺฌานลาภิโน ทุติยชฺฌานนฺติอาทินา ตสฺส ตสฺส อุปรูปริ วิเสสํ อาจิกฺขนฺโต เอกเทเสน ทนฺเตปิ สเมติ. เตเนว วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๓๙) ‘‘อปิ จ โส ภควา วิสุทฺธสีลาทีนํ ปมชฺฌานาทีนิ โสตาปนฺนาทีนฺจ อุตฺตริมคฺคปฺปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ทนฺเตปิ ทเมติเยวา’’ติ. อถ วา สพฺเพน สพฺพํ อทนฺตา เอกเทเสน ทนฺตา จ อิธ อทนฺตคฺคหเณเนว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพํ. ทเมตุํ ยุตฺตาติ ทมนารหา.

ติรจฺฉานปุริสาติอาทีสุ อุทฺธํ อนุคฺคนฺตฺวา ติริยํ อฺจิตา คตา วฑฺฒิตาติ ติรจฺฉานา, เทวมนุสฺสาทโย วิย อุทฺธํ ทีฆํ อหุตฺวา ติริยํ ทีฆาติ อตฺโถ. ติรจฺฉานาเยว ปุริสา ติรจฺฉานปุริสา. มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา. สติสูรภาวพฺรหฺมจริยโยคฺยตาทิคุณวเสน อุปจิตมานสา อุกฺกฏฺคุณจิตฺตา. เก ปน เต? ชมฺพุทีปวาสิโน สตฺตวิเสสา. เตนาห ภควา –

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส. กตเมหิ ตีหิ? สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑).

ตถา หิ พุทฺธา ภควนฺโต ปจฺเจกพุทฺธา อคฺคสาวกา มหาสาวกา จกฺกวตฺติโน อฺเ จ มหานุภาวา สตฺตา ตตฺเถว อุปฺปชฺชนฺติ. เตหิ สมานรูปาทิตาย ปน สทฺธึ ปริตฺตทีปวาสีหิ อิตรมหาทีปวาสิโนปิ มนุสฺสาตฺเวว ปฺายึสูติ เอเก. อปเร ปน ภณนฺติ – โลภาทีหิ จ อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย มนุสฺสา. เย หิ สตฺตา มนุสฺสชาติกา, เตสุ วิเสสโต โลภาทโย อโลภาทโย จ อุสฺสนฺนา, เต โลภาทิอุสฺสนฺนตาย อปายมคฺคํ, อโลภาทิอุสฺสนฺนตาย สุคติมคฺคํ นิพฺพานคามิมคฺคฺจ ปูเรนฺติ, ตสฺมา โลภาทีหิ อโลภาทีหิ จ สหิตสฺส มนสฺส อุสฺสนฺนตาย ปริตฺตทีปวาสีหิ สทฺธึ จตุมหาทีปวาสิโน สตฺตวิเสสา มนุสฺสาติ วุจฺจนฺติ. โลกิยา ปน ‘‘มนุโน อปจฺจภาเวน มนุสฺสา’’ติ วทนฺติ. มนุ นาม ปมกปฺปิโก โลกมริยาทาย อาทิภูโต หิตาหิตวิธายโก สตฺตานํ ปิตุฏฺานิโย, โย สาสเน มหาสมฺมโตติ วุจฺจติ, ปจฺจกฺขโต ปรมฺปราย จ ตสฺส โอวาทานุสาสนิยํ ิตา ตสฺส ปุตฺตสทิสตาย มนุสฺสา มานุสาติ จ วุจฺจนฺติ. ตโต เอว หิ เต มาณวา ‘‘มนุชา’’ติ จ โวหรียนฺติ, มนุสฺสา จ เต ปุริสา จาติ มนุสฺสปุริสา.

อมนุสฺสปุริสาติ เอตฺถ น มนุสฺสาติ อมนุสฺสา. ตํสทิสตา เอตฺถ โชตียติ. เตน มนุสฺสตฺตมตฺตํ นตฺถิ, อฺํ สมานนฺติ ยกฺขาทโย อมนุสฺสาติ อธิปฺเปตา. น เย เกจิ มนุสฺเสหิ อฺเ, ตถา ติรจฺฉานปุริสานํ วิสุํ คหณํ กตํ. ยกฺขาทโย เอว จ นิทฺทิฏฺา. อปลาโล หิมวนฺตวาสี, จูโฬทรมโหทรา นาคทีปวาสิโน, อคฺคิสิขธูมสิขา สีหฬทีปวาสิโน นิพฺพิสา กตา โทสวิสสฺส วิโนทเนน. เตนาห ‘‘สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาปิตา’’ติ. กูฏทนฺตาทโยติ อาทิ-สทฺเทน โฆรมุขอุปาลิคหปติอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สกฺกาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อชกลาปยกฺขพกพฺรหฺมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เอเตสํ ปน ทมนํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ อติปฺปปฺจภาวโต อิธ น วุจฺจติ. อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพนฺติ อิทํ เกสีสุตฺตํ ‘‘วินีตา วิจิตฺเรหิ วินยนูปาเยหี’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถ วิตฺถาเรตพฺพํ ยถารหํ สณฺหาทีหิ อุปาเยหิ วินยนสฺส ทีปนโต.

อตฺถปทนฺติ อตฺถาภิพฺยฺชนกํ ปทํ, วากฺยนฺติ อตฺโถ. วากฺเยน หิ อตฺถาภิพฺยตฺติ, น นามาทิปทมตฺเตน, เอกปทภาเวน จ อนฺสาธารโณ สตฺถุ ปุริสทมฺมสารถิภาโว ทสฺสิโต โหติ. เตนาห ‘‘ภควา หี’’ติอาทิ. อฏฺ ทิสาติ อฏฺ สมาปตฺติโย. ตา หิ อฺมฺํ สมฺพนฺธาปิ อสํกิณฺณภาเวน ทิสฺสนฺติ อปทิสฺสนฺติ, ทิสา วิยาติ วา ทิสา. อสชฺชมานาติ น สชฺชมานา วสีภาวปฺปตฺติยา นิสฺสงฺคจารา. ธาวนฺตีติ ชวนวุตฺติโยคโต ธาวนฺติ. เอกํเยว ทิสํ ธาวตีติ อตฺตโน กายํ อปริวตฺตนฺโตติ อธิปฺปาโย, สตฺถารา ปน ทมิตา ปุริสทมฺมา เอกิริยาปเถเนว อฏฺ ทิสา ธาวนฺติ. เตนาห ‘‘เอกปลฺลงฺเกเนว นิสินฺนา’’ติ. อฏฺ ทิสาติ จ นิทสฺสนมตฺตเมตํ โลกิเยหิ อคตปุพฺพํ นิโรธสมาปตฺติทิสํ อมตทิสฺจ ปกฺขนฺทนโต.

ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหีติอาทีสุ ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว, ตตฺถ นิยุตฺโตติ ทิฏฺธมฺมิโก, อิธโลกตฺโถ. กมฺมกิเลสวเสน สมฺปเรตพฺพโต สมฺมา คนฺตพฺพโต สมฺปราโย, ปรโลโก. ตตฺถ นิยุตฺโตติ สมฺปรายิโก, ปรโลกตฺโถ. ปรโม อุตฺตโม อตฺโถ ปรมตฺโถ, นิพฺพานํ. เตหิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ. ยถารหนฺติ ยถานุรูปํ, เตสุ เตสุ อตฺเถสุ โย โย ปุคฺคโล ยํ ยํ อรหติ, ตทนุรูปํ. อนุสาสตีติ วิเนติ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ ปติฏฺาเปติ. สห อตฺเถน วตฺตตีติ สตฺโถ, ภณฺฑมูเลน วณิชฺชาย เทสนฺตรํ คจฺฉนฺโต ชนสมูโห. หิตุปเทสาทิวเสน ปริปาเลตพฺโพ สาสิตพฺโพ โส เอตสฺส อตฺถีติ สตฺถา สตฺถวาโห นิรุตฺตินเยน. โส วิย ภควาติ อาห ‘‘สตฺถา วิยาติ สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห’’ติ.

อิทานิ ตมตฺถํ นิทฺเทสปาฬินเยน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา สตฺถวาโห’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สตฺเถติ สตฺถิเก ชเน. กํ อุทกํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตาโร, นิรุทโก อรฺปฺปเทโส. รุฬฺหีวเสน ปน อิตโรปิ อรฺปฺปเทโส ตถา วุจฺจติ. โจรกนฺตารนฺติ โจเรหิ อธิฏฺิตกนฺตารํ, ตถา วาฬกนฺตารํ. ทุพฺภิกฺขกนฺตารนฺติ ทุลฺลภภิกฺขํ กนฺตารํ. ตาเรตีติ อเขมนฺตฏฺานํ อติกฺกาเมติ. อุตฺตาเรตีติอาทิ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตํ. อถ วา อุตฺตาเรตีติ เขมนฺตภูมึ อุปเนนฺโต ตาเรติ. นิตฺตาเรตีติ อเขมนฺตฏฺานโต นิกฺขาเมนฺโต ตาเรติ. ปตาเรตีติ ปริคฺคเหตฺวา ตาเรติ, หตฺเถน ปริคฺคเหตฺวา ตาเรติ วิย ตาเรตีติ อตฺโถ. สพฺพมฺเปตํ ตารณุตฺตารณาทิ เขมฏฺาเน ปนเมวาติ อาห ‘‘เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปตี’’ติ. สตฺเตติ เวเนยฺยสตฺเต. มหาคหนตาย มหานตฺถตาย ทุนฺนิตฺถรตาย จ ชาติเยว กนฺตาโร ชาติกนฺตาโร, ตํ ชาติกนฺตารํ.

อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสนาติ อุกฺกฏฺสตฺตปริจฺเฉทวเสน. เทวมนุสฺสา เอว หิ อุกฺกฏฺสตฺตา, น ติรจฺฉานาทโย. เอตนฺติ ‘‘เทวมนุสฺสาน’’นฺติ เอตํ วจนํ. ภพฺพปุคฺคลปริจฺเฉทวเสนาติ สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนสฺส โยคฺยปุคฺคลสฺส ปริจฺฉินฺทนวเสน. ภควโตติ นิสฺสกฺเก สามิวจนํ ยถา ‘‘อุปชฺฌายโต อชฺเฌตี’’ติ. ภควโต สนฺติเก วาติ อตฺโถ. อุปนิสฺสยสมฺปตฺตินฺติ ติเหตุกปฏิสนฺธิอาทิกํ มคฺคผลาธิคมสฺส พลวการณํ. คคฺครายาติ คคฺคราย นาม รฺโ เทวิยา, ตาย วา การิตตฺตา ‘‘คคฺครา’’ติ ลทฺธนามาย. สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ ธมฺมสฺาย สเร นิมิตฺตํ คณฺหิ, คณฺหนฺโต จ ปสนฺนจิตฺโต ปริสปริยนฺเต นิปชฺชิ. สนฺนิรุมฺภิตฺวา อฏฺาสีติ ตสฺส สีเส ทณฺฑสฺส ปิตภาวํ อปสฺสนฺโต ตตฺถ ทณฺฑํ อุปฺปีเฬตฺวา อฏฺาสิ. มณฺฑูโกปิ ทณฺเฑ ปิเตปิ อุปฺปีฬิเตปิ ธมฺมคเตน ปสาเทน วิสฺสรมกโรนฺโตว กาลมกาสิ. เทวโลเก นิพฺพตฺตสตฺตานํ อยํ ธมฺมตา, ยา ‘‘กุโตหํ อิธ นิพฺพตฺโต, ตตฺถ กินฺนุ โข กมฺมมกาสิ’’นฺติ อาวชฺชนา. ตสฺมา อตฺตโน ปุริมภวสฺส ทิฏฺตฺตา อาห ‘‘อเร อหมฺปิ นาม อิธ นิพฺพตฺโต’’ติ. ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทีติ กตฺุตาสํวฑฺฒิเตน เปมคารวพหุมาเนน วนฺทิ.

ชานนฺโตวปุจฺฉีติ มหาชนสฺส กมฺมผลํ พุทฺธานุภาวฺจ ปจฺจกฺขํ กาตุกาโม ภควา ‘‘โก เม วนฺทตี’’ติ คาถาย ปุจฺฉิ. ตตฺถ (วิ. ว. อฏฺ. ๘๕๗) โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก, กตโมติ อตฺโถ. เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ยเสน จ ปริวาเรน จ. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กามนีเยน สุนฺทเรน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ สพฺพา ทสปิ ทิสา ปภาเสนฺโต, จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ อตฺโถ.

เอวํ ปน ภควตา ปุจฺฉิโต เทวปุตฺโต อตฺตานํ ปเวเทนฺโต ‘‘มณฺฑูโกหํ ปุเร อาสิ’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ ปุเรติ ปุริมชาติยํ. อุทเกติ อิทํ ตทา อตฺตโน อุปฺปตฺติฏฺานทสฺสนํ. อุทเก มณฺฑูโกติ เตน อุทฺธุมายิกาทิกสฺส ถเล มณฺฑูกสฺส นิวตฺตนํ กตํ โหติ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, คุนฺนํ ฆาเสสนฏฺานํ. อิธ ปน โคจโร วิยาติ โคจโร, วาริ อุทกํ โคจโร เอตสฺสาติ วาริโคจโร. อุทกจารีปิ หิ โกจิ กจฺฉปาทิ อวาริโคจโรปิ โหตีติ ‘‘วาริโคจโร’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺสาติ พฺรหฺมสฺสเรน กรวีกรุตมฺชุนา เทเสนฺตสฺส ตว ธมฺมํ ‘‘ธมฺโม เอโส วุจฺจตี’’ติ สเร นิมิตฺตคฺคาหวเสน สุณนฺตสฺส. อนาทเร เจตํ สามิวจนํ. อวธี วจฺฉปาลโกติ วจฺเฉ รกฺขนฺโต โคปาลกทารโก มม สมีปํ อาคนฺตฺวา ทณฺฑโมลุพฺภ ติฏฺนฺโต มม สีเส ทณฺฑํ สนฺนิรุมฺภิตฺวา มํ มาเรสีติ อตฺโถ.

สิตํ กตฺวาติ ‘‘ตถา ปริตฺตตเรนปิ ปุฺานุภาเวน เอวํ อติวิย อุฬารา โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติโย ลพฺภนฺตี’’ติ ปีติโสมนสฺสชาโต ภาสุรตรธวฬวิปฺผุรนฺตทสนขกิรณาวฬีหิ ภิยฺโยโส มตฺตาย ตํ ปเทสํ โอภาเสนฺโต สิตํ กตฺวา. ปีติโสมนสฺสวเสน หิ โส –

‘‘มุหุตฺตํ จิตฺตปสาทสฺส, อิทฺธึ ปสฺส ยสฺจ เม;

อานุภาวฺจ เม ปสฺส, วณฺณํ ปสฺส ชุติฺจ เม.

‘‘เย จ เต ทีฆมทฺธานํ, ธมฺมํ อสฺโสสุํ โคตม;

ปตฺตา เต อจลฏฺานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๙-๘๖๐) –

อิมา ทฺเว คาถา วตฺวา ปกฺกามิ.

ยํ ปน กิฺจีติ เอตฺถ นฺติ อนิยมิตวจนํ, ตถา กิฺจีติ. ปนาติ วจนาลงฺการมตฺตํ. ตสฺมา ยํ กิฺจีติ เยฺยสฺส อนวเสสปริยาทานํ กตํ โหติ. ปนาติ วา วิเสสตฺถทีปโก นิปาโต. เตน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ สตฺถุ จตุสจฺจาภิสมฺโพโธ วุตฺโต. พุทฺโธติ ปน อิมินา ตทฺสฺสปิ เยฺยสฺส อวโพโธ. ปุริเมน วา สตฺถุ ปฏิเวธาณานุภาโว, ปจฺฉิเมน เทสนาาณานุภาโว. ปี-ติ อุปริ วุจฺจมาโน วิเสโส โชตียติ. วิโมกฺขนฺติกาณวเสนาติ เอตฺถ สพฺพโส ปฏิปกฺเขหิ วิมุจฺจตีติ วิโมกฺโข, อคฺคมคฺโค, ตสฺส อนฺโต, อคฺคผลํ, ตสฺมึ ลทฺเธ ลทฺธพฺพโต ตตฺถ ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ, าณํ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สพฺพมฺปิ พุทฺธาณํ.

เอวํ ปวตฺโตติ เอตฺถ –

‘‘สพฺพฺุตาย พุทฺโธ, สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธ, อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธ, วิสวิตาย พุทฺโธ, ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธ, นิรุปเลปสงฺขาเตน พุทฺโธ, เอกนฺตวีตราโคติ พุทฺโธ, เอกนฺตวีตโทโสติ พุทฺโธ, เอกนฺตวีตโมโหติ พุทฺโธ, เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ พุทฺโธ, เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธ, เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธ, อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธ. พุทฺโธติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ, น ปิตรา กตํ, น ภาตรา กตํ, น ภคินิยา กตํ, น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ, น าติสาโลหิเตหิ กตํ, น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ, น เทวตาหิ กตํ, วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ พุทฺโธ’’ติ (มหานิ. ๑๙๒) –

อยํ นิทฺเทสปาฬินโย. ยสฺมา เจตฺถ ตสฺสา ปฏิสมฺภิทาปาฬิยา (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) เภโท นตฺถิ, ตสฺมา ทฺวีสุ เอเกนปิ อตฺถสิทฺธีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏิสมฺภิทานโย วา’’ติ อนิยมตฺโถ วาสทฺโท วุตฺโต.

ตตฺถ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๒; มหานิ. อฏฺ. ๑๙๒) ยถา โลเก อวคนฺตา ‘‘อวคโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ สุทฺธกตฺตุวเสน. ยถา ปณฺณโสสา วาตา ‘‘ปณฺณสุสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ เหตุกตฺตุวเสน. เหตุอตฺโถ เจตฺถ อนฺโตนีโต . สพฺพฺุตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมพุชฺฌนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ อตฺโถ. สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมโพธนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ อตฺโถ. อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธติ อฺเน อโพธิโต สยเมว พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ อตฺโถ. วิสวิตาย พุทฺโธติ นานาคุณวิสวนโต ปทุมมิว วิกสนฏฺเน พุทฺโธติ อตฺโถ. ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธติ เอวมาทีหิ ฉหิ ปเทหิ จิตฺตสงฺโกจกรธมฺมปฺปหาเนน นิทฺทากฺขยวิพุทฺโธ ปุริโส วิย สพฺพกิเลสนิทฺทากฺขยวิพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกตฺตา สงฺขาเตนาติ วจนสฺส โกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. ตณฺหาเลปทิฏฺิเลปาภาเวน นิรุปเลปสงฺขาเตน. สวาสนานํ สพฺพกิเลสานํ ปหีนตฺตา เอกนฺตวจเนเนว วิเสเสตฺวา ‘‘เอกนฺตวีตราโค’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ ราคโทสโมหาวเสเสหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺกิเลโส. เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธติ คมนตฺถานํ พุทฺธิอตฺถตา วิย พุทฺธิอตฺถานมฺปิ คมนตฺถตา ลพฺภตีติ เอกายนมคฺคํ คตตฺตา พุทฺโธติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธติ น ปเรหิ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ, อถ โข สยเมว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ อตฺโถ. อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธติ พุทฺธิ พุทฺธํ โพโธติ อนตฺถนฺตรํ. ตตฺถ ยถา รตฺตคุณโยคโต รตฺโต ปโฏ, เอวํ พุทฺธคุณโยคโต พุทฺโธติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตโต ปรํ พุทฺโธติ เนตํ นามนฺติอาทิ อตฺถานุคตายํ ปฺตฺตีติ โพธนตฺถํ วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ อิมินาปิ การเณน ภควา พุทฺโธติ เวทิตพฺโพ.

อิทานิ ภควาติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควาติ อิทํ ปนสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถ อสฺสาติ ภควโต. คุณวิสิฏฺสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนนฺติ สพฺเพหิ สีลาทิคุเณหิ วิสิฏฺสฺส ตโต เอว สพฺพสตฺเตหิ อุตฺตมสฺส ครุโน คารววเสน วุจฺจมานวจนเมตํ ภควาติ. ตถา หิ โลกนาโถ อปริมิตนิรุปมปฺปภาวสีลาทิคุณวิเสสสมงฺคิตาย สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย จ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อุตฺตมํ คารวฏฺานนฺติ.

ภควาติ วจนํ เสฏฺนฺติ เสฏฺวาจกํ วจนํ เสฏฺคุณสหจรณโต ‘‘เสฏฺ’’นฺติ วุตฺตํ. อถ วา วุจฺจตีติ วจนํ, อตฺโถ, ตสฺมา โย ‘‘ภควา’’ติ วจเนน วจนีโย อตฺโถ, โส เสฏฺโติ อตฺโถ. ภควาติ วจนมุตฺตมนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. คารวยุตฺโตติ ครุภาวยุตฺโต ครุคุณโยคโต. ครุกรณํ วา สาติสยํ อรหตีติ คารวยุตฺโต, คารวารโหติ อตฺโถ. ‘‘สิปฺปาทิสิกฺขาปกา ครู โหนฺติ, น จ คารวยุตฺตา, อยํ ปน ตาทิโส น โหติ, ตสฺมา ‘ครู’ติ วตฺวา ‘คารวยุตฺโต’ติ วุตฺต’’นฺติ เกจิ.

คุณวิเสสเหตุกํ ‘‘ภควา’’ติ อิทํ ภควโต นามนฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต วิภชิตุกาโม นามํเยว ตาว อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุพฺพิธฺหิ นาม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อาวตฺถิกนฺติ อวตฺถาย วิทิตํ ตํ ตํ อวตฺถํ อุปาทาย ปฺตฺตํ โวหริตํ. ตถา ลิงฺคิกํ เตน เตน ลิงฺเคน โวหริตํ. เนมิตฺติกนฺติ นิมิตฺตโต อาคตํ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ ยทิจฺฉาย ปวตฺตํ, ยทิจฺฉาย อาคตํ ยทิจฺฉกํ. อิทานิ อาวตฺถิกาทีนิ นามานิ สรูปโต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ วจฺโฉ ทมฺโม พลิพทฺโท’’ติอาทิ. ตตฺถ ปเมน อาทิ-สทฺเทน พาโล ยุวา วุฑฺโฒติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ, ทุติเยน มุณฺฑี ชฏีติ เอวมาทึ, ตติเยน พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก ฌายีติ เอวมาทึ, จตุตฺเถน อฆปทีปนํ ปาวจนนฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. เนมิตฺติกนฺติ วุตฺตมตฺถํ พฺยติเรกวเสน ปติฏฺาเปตุํ ‘‘น มหามายายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ อิมินา ปน อิทํ นามํ อริยาย ชาติยา ชาตกฺขเณเยว ชาตนฺติ ทสฺเสติ. ยทิ วิโมกฺขนฺติกํ, อถ กสฺมา อฺเหิ ขีณาสเวหิ อสาธารณนฺติ อาห ‘‘สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา’’ติ. พุทฺธานฺหิ อรหตฺตผลํ นิปฺผชฺชมานํ สพฺพฺุตฺาณาทีหิ สพฺเพหิ พุทฺธคุเณหิ สทฺธึเยว นิปฺผชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิโมกฺขนฺติก’’นฺติ. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ สพฺพธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย นิมิตฺตา ปฺตฺติ. อถ วา สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ ปจฺจกฺขสิทฺธา ปฺตฺติ. ยํคุณนิมิตฺตา หิ สา, เต สตฺถุ ปจฺจกฺขภูตา, ตํคุณา วิย สาปิ สจฺฉิกตา เอว นาม โหติ, น ปเรสํ โวหารมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย.

วทนฺตีติ มหาเถรสฺส ครุภาวโต พหุวจเนนาห, สงฺคีติกาเรหิ วา กตมนุวาทํ สนฺธาย. อิสฺสริยาทิเภโท ภโค อสฺส อตฺถีติ ภคี. มคฺคผลาทิอริยธมฺมรตนํ อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ อปฺปสทฺทาทิคุณยุตฺตานิ ภชิ เสวิ สีเลนาติ ภชี, ภชนสีโลติ อตฺโถ. ภาคีติ จีวรปิณฺฑปาตาทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานฺเจว อตฺถธมฺมวิมุตฺติรสสฺส จ อธิสีลาทีนฺจ ภาคีติ อตฺโถ. วิภชิ ปวิภชิ ธมฺมรตนนฺติ วิภตฺตวา. อกาสิ ภคฺคนฺติ ราคาทิปาปธมฺมํ ภคฺคํ อกาสีติ ภควาติ อตฺโถ. ครุปิ โลเก ภควาติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครู’’ติ. ยสฺมา ครุ, ตสฺมาปิ ภควาติ วุตฺตํ โหติ. เหตุอตฺโถ หิ อิติ-สทฺโท. โส จ ยตฺถ อิติ-สทฺโท นตฺถิ ภคีติอาทีสุ, ตตฺถ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ภาคฺยมสฺส อตฺถีติ ภาคฺยวา. พหูหิ าเยหีติ กายภาวนาทิเกหิ อเนเกหิ ภาวนากฺกเมหิ. สุภาวิตตฺตโนติ สมฺมเทว ภาวิตสภาวสฺส. ปจฺจตฺเต เจตํ สามิวจนํ, เตน สุภาวิตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ, สุภาวิตสภาโวติ อตฺโถ. มหาคณฺิปเท ปน ‘‘สุภาวิตตฺตโน สุภาวิตกาโย’’ติ วุตฺตํ. ภวานํ อนฺตํ นิพฺพานํ คโตติ ภวนฺตโค.

นิทฺเทเสวุตฺตนเยนาติ เอตฺถายํ นิทฺเทสนโย –

‘‘ภควาติ คารวาธิวจนเมตํ. อปิจ ภคฺคราโคติ ภควา, ภคฺคโทโสติ ภควา, ภคฺคโมโหติ ภควา, ภคฺคมาโนติ ภควา, ภคฺคทิฏฺีติ ภควา, ภคฺคตณฺโหติ ภควา, ภคฺคกิเลโสติ ภควา, ภชิ วิภชิ ปวิภชิ ธมฺมรตนนฺติ ภควา, ภวานํ อนฺตกโรติ ภควา, ภาวิตกาโย ภาวิตสีโล ภาวิตจิตฺโต ภาวิตปฺโติ ภควา, ภชิ วา ภควา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิคฺโฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานิ ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ ภควา. ภาคี วา ภควา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ ภควา. ภาคี วา ภควา อตฺถรสสฺส ธมฺมรสสฺส วิมุตฺติรสสฺส อธิสีลสฺส อธิจิตฺตสฺส อธิปฺายาติ ภควา. ภาคี วา ภควา จตุนฺนํ ฌานานํ จตุนฺนํ อปฺปมฺานํ จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนนฺติ ภควา. ภาคี วา ภควา อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ อฏฺนฺนํ อภิภายตนานํ นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนนฺติ ภควา. ภาคี วา ภควา ทสนฺนํ สฺาภาวนานํ ทสนฺนํ กสิณสมาปตฺตีนํ อานาปานสฺสติสมาธิสฺส อสุภสมาปตฺติยาติ ภควา. ภาคี วา ภควา จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปฺจนฺนํ พลานํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺสาติ ภควา. ภาคี วา ภควา ทสนฺนํ ตถาคตพลานํ จตุนฺนํ เวสารชฺชานํ จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานํ ฉนฺนํ อภิฺานํ ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานนฺติ ภควา. ภควาติ เนตํ นามํ…เป… สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ ภควา’’ติ (มหานิ. ๘๔).

เอตฺถ จ ‘‘คารวาธิวจน’’นฺติอาทีนิ ยทิปิ คาถายํ อาคตปทานุกฺกเมน น นิทฺทิฏฺานิ, ยถารหํ ปน เตสํ สพฺเพสมฺปิ นิทฺเทสภาเวน เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ คารวาธิวจนนฺติ ครูนํ ครุภาววาจกํ วจนํ. ภชีติ ภาคโส กเถสิ. เตนาห ‘‘วิภชิ ปวิภชิ ธมฺมรตน’’นฺติ. มคฺคผลาทิ อริยธมฺโมเยว ธมฺมรตนํ. ปุน ภชีติ อิมสฺส เสวีติ อตฺโถ. ภาคีติ ภาคาภิเธยฺยวา. ปุน ภาคีติ เอตฺถ ภชนสีโลติ อตฺโถ. อตฺถรสสฺสาติ อตฺถสนฺนิสฺสยสฺส รสสฺส. วิมุตฺตายตนสีเส หิ ตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส สุณนฺตสฺส จ ตทตฺถํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนกปีติโสมนสฺสํ อตฺถรโส. ธมฺมํ อารพฺภ ธมฺมรโส. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวท’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๑๐). วิมุตฺติรสสฺสาติ วิมุตฺติภูตสฺส วิมุตฺติสนฺนิสฺสยสฺส วา รสสฺส. สฺาภาวนานนฺติ อนิจฺจสฺาทีนํ ทสนฺนํ สฺาภาวนานํ . ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานนฺติ ฉ อสาธารณาณานิ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ ภควาติสทฺทสิทฺธิ นิรุตฺตินเยเนว เวทิตพฺพา.

ยทิปิ ‘‘ภาคฺยวา’’ติอาทีหิ ปเทหิ วุจฺจมาโน อตฺโถ ‘‘ภคี ภชี’’ติ (มหานิ. ๘๔) นิทฺเทสคาถาย สงฺคหิโต เอว, ตถาปิ ปทสิทฺธิอตฺถวิภาคอตฺถโยชนาทิสหิโต สํวณฺณนานโย ตโต อฺากาโรติ วุตฺตํ ‘‘อยํ ปน อปโร นโย’’ติ. วณฺณวิปริยาโยติ เอตนฺติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน วณฺณวิกาโร วณฺณโลโป ธาตุอตฺเถน นิโยชนฺจาติ อิมํ ติวิธํ ลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ. สทฺทนเยนาติ สทฺทลกฺขณนเยน. ปิโสทราทีนํ สทฺทานํ อากติคณภาวโต วุตฺตํ ‘‘ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา’’ติ. ปกฺขิปนเมว ลกฺขณํ. ตปฺปริยาปนฺนตากรณฺหิ ปกฺขิปนํ. ปารปฺปตฺตนฺติ ปรมุกฺกํสคตํ ปารมีภาวปฺปตฺตํ. ภาคฺยนฺติ กุสลํ. ตตฺถ มคฺคกุสลํ โลกุตฺตรสุขนิพฺพตฺตกํ, อิตรํ โลกิยสุขนิพฺพตฺตกํ, อิตรมฺปิ วา วิวฏฺฏุปนิสฺสยํ ปริยายโต โลกุตฺตรสุขนิพฺพตฺตกํ สิยา.

อิทานิ ภควาติ อิมสฺส อตฺถํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ โลภาทโย เอกกวเสน คหิตา, ตถา วิปรีตมนสิกาโร วิปลฺลาสภาวสามฺเน, อหิริกาทโย ทุกวเสน. ตตฺถ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ, โส นววิธอาฆาตวตฺถุสมฺภโว. ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ ม’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๓-๔) ปุนปฺปุนํ กุชฺฌนวเสน จิตฺตปริโยนนฺธโน อุปนาโห. อุภยมฺปิ ปฏิโฆเยว, โส ปวตฺตินานตฺตโต ภินฺทิตฺวา วุตฺโต. สกึ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว, ตทุตฺตริ อุปนาโห. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปุพฺพกาเล โกโธ, อปรกาเล อุปนาโห’’ติ (วิภ. ๘๙๑). อคาริยสฺส (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๗๑) อนคาริยสฺส วา สุกตกรณวินาสโน มกฺโข. อคาริโยปิ หิ เกนจิ อนุกมฺปเกน ทลิทฺโท สมาโน อุจฺเจ าเน ปิโต อปเรน สมเยน ‘‘กึ ตยา มยฺหํ กต’’นฺติ ตสฺส สุกตกรณํ วินาเสติ. อนคาริโยปิ สามเณรกาลโต ปภุติ อาจริเยน วา อุปชฺฌาเยน วา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ จ อนุคฺคเหตฺวา ธมฺมกถานยปฺปกรณโกสลฺลาทีนิ สิกฺขาปิโต อปเรน สมเยน ราชราชมหามตฺตาทีหิ สกฺกโต ครุกโต อาจริยุปชฺฌาเยสุ อจิตฺตีกโต จรมาโน ‘‘อยํ อมฺเหหิ ทหรกาเล เอวํ อนุคฺคหิโต สํวฑฺฒิโต จ, อถ จ ปนิทานิ นิสฺสิเนโห ชาโต’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘กึ มยฺหํ ตุมฺเหหิ กต’’นฺติ เตสํ สุกตกรณํ วินาเสติ, ตสฺเสโส ปุพฺพการิตาลกฺขณสฺส คุณสฺส วินาสโน อุทกปุฺฉนิยา วิย สรีรานุคตํ อุทกํ นิปุฺฉนฺโต มกฺโข. ตถา หิ โส ปเรสํ คุณานํ มกฺขนฏฺเน ‘‘มกฺโข’’ติ วุจฺจติ. ปฬาสตีติ ปฬาโส, ปรสฺส คุเณ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ อตฺโถ. โส ปน พหุสฺสุเตปิ ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถริตฺวา ‘‘อีทิสสฺส จ พหุสฺสุตสฺส อนิยตา คติ, ตว วา มม วา โก วิเสโส’’ติ, รตฺตฺู จิรปพฺพชิเต ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถริตฺวา ‘‘ตฺวมฺปิ อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิโต, อหมฺปิ ปพฺพชิโต, ตฺวมฺปิ สีลมตฺเต ิโต, อหมฺปี’’ติอาทินา นเยน อุปฺปชฺชมาโน ยุคคฺคาโห. ยุคคฺคาหลกฺขโณ หิ ปฬาโส.

ปเรสํ สกฺการาทีนิ ขียมานา อุสูยมานา อิสฺสา. อตฺตโน สมฺปตฺติยา นิคูหนํ ปเรหิ สาธารณภาวํ อสหมานํ มจฺฉริยํ. วฺจนิกจริยภูตา มายา, สา สกโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา. ตถา หิ สา อตฺตโน วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ ‘‘มายา’’ติ วุจฺจติ. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ เกราฏิกภาเวน อุปฺปชฺชมานํ สาเยฺยํ. อสนฺตคุณทีปนฺหิ ‘‘เกราฏิย’’นฺติ วุจฺจติ. เกราฏิโก หิ ปุคฺคโล อายนมจฺโฉ วิย โหติ. อายนมจฺโฉ นาม สปฺปมุขมจฺฉวาลา เอกา มจฺฉชาติ. โส กิร มจฺฉานํ นงฺคุฏฺํ ทสฺเสติ, สปฺปานํ สีสํ ‘‘ตุมฺหากํ สทิโส อห’’นฺติ ชานาเปตุํ, เอวเมว เกราฏิโก ปุคฺคโล ยํ ยํ สุตฺตนฺติกํ วา อาภิธมฺมิกํ วา อุปสงฺกมติ, ตํ ตํ เอวํ วทติ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสี, ตุมฺเห มยฺหํ อนุกมฺปกา, นาหํ ตุมฺเห มุฺจามี’’ติ. เอวเมเต ‘‘สคารโว อยํ อมฺเหสุ สปฺปติสฺโส’’ติ มฺิสฺสนฺติ, ตสฺเสวํ เกราฏิกภาเวน อุปฺปชฺชมานํ สาเยฺยํ.

สพฺพโส มทฺทวาภาเวน วาตภริตภสฺตสทิสสฺส ถทฺธภาวสฺส อโนนมิตทณฺฑสทิสตาย ปคฺคหิตสิรอนิวาตวุตฺติกายสฺส จ การโก ถมฺโภ. ตทุตฺตริกรโณ สารมฺโภ. โส ทุวิเธน ลพฺภติ อกุสลวเสน เจว กุสลวเสน จ. ตตฺถ อคาริยสฺส ปเรน กตํ อลงฺการาทึ ทิสฺวา ตทฺทิคุณตทฺทิคุณกรเณน อุปฺปชฺชมาโน, อนคาริยสฺส จ ยตฺตกํ ยตฺตกํ ปโร ปริยาปุณาติ วา กเถติ วา, มานวเสน ตทฺทิคุณตทฺทิคุณกรเณน อุปฺปชฺชมาโน อกุสโล. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณํ กโรติ. อคาริโย สมาโน เอเกเนกสฺมึ ฆรวตฺถุสฺมึ สชฺชิเต อปโร ทฺเว วตฺถูนิ สชฺเชติ, อปโร จตฺตาโร, อปโร อฏฺ, อปโร โสฬส. อนคาริโย สมาโน เอเกเนกสฺมึ นิกาเย คหิเต ‘‘นาหํ เอตสฺส เหฏฺา ภวิสฺสามี’’ติ อปโร ทฺเว คณฺหาติ, อปโร ตโย, อปโร จตฺตาโร, อปโร ปฺจ. สารมฺภวเสน หิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ. อกุสลปกฺโข เหส นิรยคามิมคฺโค. อคาริยสฺส ปน ปรํ เอกํ สลากภตฺตํ เทนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน ทฺเว วา ตีณิ วา ทาตุกามตาย อุปฺปชฺชมาโน, อนคาริยสฺส จ ปเรน เอกนิกาเย คหิเต มานํ อนิสฺสาย เกวลํ ตํ ทิสฺวา อตฺตโน อาลสิยํ อภิภุยฺย ทฺเว นิกาเย คเหตุกามตาย อุปฺปชฺชมาโน กุสโล. กุสลปกฺขวเสน หิ เอกสฺมึ เอกํ สลากภตฺตํ เทนฺเต ทฺเว, ทฺเว เทนฺเต จตฺตาริ ทาตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนาปิ ปเรน เอกสฺมึ นิกาเย คหิเต ‘‘ทฺเว นิกาเย คเหตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส เม ผาสุ โหตี’’ติ วิวฏฺฏปกฺเข ตฺวา ตทุตฺตริ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อิธ ปน อกุสลปกฺขิโย ตทุตฺตริกรโณ ‘‘สารมฺโภ’’ติ วุตฺโต.

ชาติอาทีนิ นิสฺสาย เสยฺยสฺส ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทินา อุนฺนติวเสน ปคฺคณฺหนวเสน ปวตฺโต มาโน. อพฺภุนฺนติวเสน ปวตฺโต อติมาโน. ปุพฺเพ เกนจิ อตฺตานํ สทิสํ กตฺวา ปจฺฉา ตโต อธิกโต ทหโต อุปฺปชฺชมานโก อติมาโนติ เวทิตพฺโพ. ชาติอาทึ ปฏิจฺจ มชฺชนากาโร มโท, โสปิ อตฺถโต มาโน เอว. โส ปน ชาติมโท โคตฺตมโท อาโรคฺยมโท โยพฺพนมโท ชีวิตมโท ลาภมโท สกฺการมโท ครุการมโท ปุเรกฺขารมโท ปริวารมโท โภคมโท วณฺณมโท สุตมโท ปฏิภานมโท รตฺตฺุมโท ปิณฺฑปาติกมโท อนวฺตฺติมโท อิริยาปถมโท อิทฺธิมโท ยสมโท สีลมโท ฌานมโท สิปฺปมโท อาโรหมโท ปริณาหมโท สณฺานมโท ปาริปูริมโทติ อเนกวิโธ.

ตตฺถ (วิภ. อฏฺ. ๘๔๓-๘๔๔) ชาตึ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน มชฺชนาการปฺปวตฺโต มาโน ชาติมโท, โส ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ อุปฺปชฺชติ. ชาติสมฺปนฺโน หิ ขตฺติโย ‘‘มาทิโส อฺโ นตฺถิ, อวเสสา อนฺตรา อุฏฺาย ขตฺติยา ชาตา, อหํ ปน วํสาคตขตฺติโย’’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. โคตฺตํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน มชฺชนาการปฺปวตฺโต มาโน โคตฺตมโท, โสปิ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ อุปฺปชฺชติ. ขตฺติโยปิ หิ ‘‘อหํ โกณฺฑฺโคตฺโต, อหํ อาทิจฺจโคตฺโต’’ติ มานํ กโรติ. พฺราหฺมโณปิ ‘‘อหํ กสฺสปโคตฺโต, อหํ ภารทฺวาชโคตฺโต’’ติ มานํ กโรติ. เวสฺโสปิ สุทฺโทปิ อตฺตโน อตฺตโน กุลโคตฺตํ นิสฺสาย มานํ กโรติ. อาโรคฺยมทาทีสุปิ ‘‘อหํ อโรโค, เสสา โรคพหุลา, กณฺฑุวนมตฺตมฺปิ มยฺหํ พฺยาธิ นาม นตฺถี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรคฺยมโท นาม. ‘‘อหํ ตรุโณ, อวเสสสตฺตานํ อตฺตภาโว ปปาเต ิตรุกฺขสทิโส, อหํ ปน ปมวเย ิโต’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โยพฺพนมโท. ‘‘อหํ จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ, สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ชีวิตมโท นาม. ‘‘อหํ ลาภี, อวเสสา สตฺตา อปฺปลาภา, มยฺหํ ปน ลาภสฺส ปมาณํ นตฺถี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ลาภมโท นาม.

‘‘อวเสสา สตฺตา ยํ วา ตํ วา ลภนฺติ, อหํ ปน สุกตํ ปณีตํ จีวราทิปจฺจยํ ลภามี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สกฺการมโท นาม. ‘‘อวเสสภิกฺขูนํ ปาทปิฏฺิยํ อกฺกมิตฺวา คจฺฉนฺตา มนุสฺสา ‘อยํ สมโณ’ติปิ น วนฺทนฺติ, มํ ปน ทิสฺวา วนฺทนฺติ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุกํ กตฺวา อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ ทุราสทํ กตฺวา มฺนฺตี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ครุการมโท นาม. ‘‘อุปฺปนฺโน ปฺโห มยฺหเมว มุเขน ฉิชฺชติ, ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตาปิ อาคจฺฉนฺตาปิ มเมว ปุรโต กตฺวา ปริวาเรตฺวา คจฺฉนฺตี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปุเรกฺขารมโท นาม. อคาริยสฺส ตาว มหาปริวารสฺส ‘‘ปุริสสตมฺปิ ปุริสสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรตี’’ติ, อนคาริยสฺส ‘‘สมณสตมฺปิ สมณสหสฺสมฺปิ มํ ปริวาเรติ, เสสา อปฺปปริวารา, อหํ มหาปริวาโร เจว สุจิปริวาโร จา’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริวารมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา อตฺตโน ปริโภคมตฺตกมฺปิ น ลภนฺติ, มยฺหํ ปน นิธานคตสฺเสว ธนสฺส ปมาณํ นตฺถี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน โภคมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา ทุพฺพณฺณา ทุรูปา, อหํ อภิรูโป ปาสาทิโก’’ติปิ ‘‘อวเสสสตฺตา นิคฺคุณา ปตฺถฏอกิตฺติโน, มยฺหํ ปน กิตฺติสทฺโท เทวมนุสฺเสสุ ปากโฏ ‘อิติปิ เถโร พหุสฺสุโต, อิติปิ สีลวา, อิติปิ ธุตคุณยุตฺโต’’’ติ, เอวํ สรีรวณฺณํ คุณวณฺณฺจ ปฏิจฺจ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน วณฺณมโท นาม.

‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปสฺสุตา, อหํ ปน พหุสฺสุโต’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สุตมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา อปฺปฏิภานา, มยฺหํ ปน ปฏิภานสฺส ปมาณํ นตฺถี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปฏิภานมโท นาม. ‘‘อหํ รตฺตฺู อสุกํ พุทฺธวํสํ ราชวํสํ ชนปทวํสํ คามวํสํ รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ นกฺขตฺตมุหุตฺตโยคํ ชานามี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน รตฺตฺุมโท นาม. ‘‘อวเสสา ภิกฺขู อนฺตรา ปิณฺฑปาติกา ชาตา, อหํ ปน ชาติปิณฺฑปาติโก’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปิณฺฑปาติกมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา อุฺาตา อวฺาตา, อหํ ปน อนวฺาโต’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อนวฺตฺติมโท นาม. ‘‘อวเสสานํ สตฺตานํ อิริยาปโถ อปาสาทิโก, มยฺหํ ปน ปาสาทิโก’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิริยาปถมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา ฉินฺนปกฺขกากสทิสา, อหํ ปน มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ วา ‘‘อหํ ยํ ยํ กมฺมํ กโรมิ, ตํ ตํ อิชฺฌตี’’ติ วา มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อิทฺธิมโท นาม.

ยสมโท ปน อคาริเกนปิ อนคาริเกนปิ ทีเปตพฺโพ. อคาริโกปิ หิ เอกจฺโจ อฏฺารสสุ เสณีสุ เอกิสฺสา เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘‘อวเสเส ปุริเส อหํ ปฏฺเปมิ, อหํ วิจาเรมี’’ติ, อนคาริโกปิ เอกจฺโจ กตฺถจิ เชฏฺโก โหติ, ตสฺส ‘‘อวเสสา ภิกฺขู มยฺหํ โอวาเท วตฺตนฺติ, อหํ เชฏฺโก’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ยสมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา ทุสฺสีลา, อหํ ปน สีลวา’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สีลมโท นาม. ‘‘อวเสสานํ สตฺตานํ กุกฺกุฏสฺส อุทกปานมตฺเตปิ กาเล จิตฺเตกคฺคตา นตฺถิ, อหํ ปน อุปจารปฺปนานํ ลาภี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ฌานมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา นิสฺสิปฺปา, อหํ สิปฺปวา’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สิปฺปมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา, อหํ ทีโฆ’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน อาโรหมโท นาม. ‘‘อวเสสา สตฺตา รสฺสา วา โหนฺติ ทีฆา วา, อหํ นิคฺโรธปริมณฺฑโล’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปริณาหมโท นาม. ‘‘อวเสสานํ สตฺตานํ สรีรสณฺานํ วิรูปํ พีภจฺฉํ, มยฺหํ ปน มนาปํ ปาสาทิก’’นฺติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน สณฺานมโท นาม. ‘‘อวเสสานํ สตฺตานํ สรีเร พหู โทสา, มยฺหํ ปน สรีเร เกสคฺคมตฺตมฺปิ วชฺชํ นตฺถี’’ติ มชฺชนวเสน อุปฺปนฺโน มาโน ปาริปูริมโท นาม. เอวมยํ สพฺโพปิ ชาติอาทึ นิสฺสาย มชฺชนาการวสปฺปวตฺโต มาโน อิธ ‘‘มโท’’ติ วุตฺโต. กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺโค ปมาโท, ปฺจสุ กามคุเณสุ สติยา อนิคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตสฺส โวสฺสชฺชนํ, สติวิรโหติ วุตฺตํ โหติ. ตณฺหาวิชฺชา ปากฏาเยว.

โลภาทโย จ ปุน ติวิธากุสลมูลนฺติ ติกวเสน คหิตา. ทุจฺจริตาทีสุปิ ติวิธ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ กายทุจฺจริตาทีนิ ติวิธทุจฺจริตานิ. ตณฺหาสํกิเลสาทโย ติวิธสํกิเลสา. ราคมลาทโย มลีนภาวกรตฺตา ติวิธมลานิ. ราคาทโย หิ จิตฺตํ มลีนํ กโรนฺติ, มลํ คาหาเปนฺติ, ตสฺมา ‘‘มลานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘ราโค วิสมํ, โทโส วิสมํ, โมโห วิสม’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) เอวํ วุตฺตา ราคาทโย ‘‘กายวิสมํ วจีวิสมํ มโนวิสม’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) เอวมาคตา กายทุจฺจริตาทโย จ ติวิธวิสมานิ. ตานิ ปน ยสฺมา ราคาทีสุ เจว กายทุจฺจริตาทีสุ จ สตฺตา ปกฺขลนฺติ, ปกฺขลิตา จ สาสนโตปิ สุคติโตปิ ปตนฺติ, ตสฺมา ปกฺขลนปาตเหตุภาวโต ‘‘วิสมานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘กามสฺา พฺยาปาทสฺา วิหึสาสฺา’’ติ (วิภ. ๙๑๑) เอวมาคตา กามาทิปฏิสํยุตฺตา สฺา ติวิธสฺา. ตถา ‘‘กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก’’ติ เอวมาคตา ติวิธวิตกฺกา. ตณฺหาปปฺโจ ทิฏฺิปปฺโจ มานปปฺโจติ อิเม ติวิธปปฺจา. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ปปฺเจนฺตีติ ตณฺหาทโย ‘‘ปปฺจา’’ติ วุจฺจนฺติ.

จตุพฺพิธวิปริเยสาติอาทีสุ จตุพฺพิธ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปรีตโต เอสนฺตีติ วิปริเยสา. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจนฺติ สฺาวิปริเยโส จิตฺตวิปริเยโส ทิฏฺิวิปริเยโส , ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาวิปริเยโส จิตฺตวิปริเยโส ทิฏฺิวิปริเยโส, อสุเภ สุภนฺติ สฺาวิปริเยโส จิตฺตวิปริเยโส ทิฏฺิวิปริเยโส , อนตฺตนิ อตฺตาติ สฺาวิปริเยโส จิตฺตวิปริเยโส ทิฏฺิวิปริเยโส’’ติ เอวมาคตา ทฺวาทส วิปลฺลาสา จตุนฺนํ อนิจฺจาทิวตฺถูนํ วเสน ‘‘จตุพฺพิธวิปริเยสา’’ติ วุตฺตา. เอตฺถ ปน จิตฺตกิจฺจสฺส ทุพฺพลฏฺาเน ทิฏฺิวิรหิตาย อกุสลสฺาย สกกิจฺจสฺส พลวกาเล สฺาวิปลฺลาโส เวทิตพฺโพ, ทิฏฺิวิรหิตสฺเสว อกุสลจิตฺตสฺส สกกิจฺจสฺส พลวกาเล จิตฺตวิปลฺลาโส, ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺเต ทิฏฺิวิปลฺลาโส. ตสฺมา สพฺพทุพฺพโล สฺาวิปลฺลาโส, ตโต พลวตโร จิตฺตวิปลฺลาโส, สพฺพพลวตโร ทิฏฺิวิปลฺลาโส. อชาตพุทฺธิทารกสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย สฺา อารมฺมณสฺส อุปฏฺานาการมตฺตคหณโต. คามิกปุริสสฺส กหาปณทสฺสนํ วิย จิตฺตํ ลกฺขณปฺปฏิเวธสฺสปิ สมฺปาทนโต. กมฺมารสฺส มหาสณฺฑาเสน อโยคหณํ วิย ทิฏฺิ อภินิเวสปรามสนโต. ตตฺถ จตฺตาโร ทิฏฺิวิปลฺลาสา, อนิจฺจานตฺเตสุ นิจฺจนฺติอาทิวสปฺปวตฺตา จตฺตาโร สฺาจิตฺตวิปลฺลาสาติ อิเม อฏฺ วิปลฺลาสา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมคฺเคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ. ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมคฺเคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพา.

‘‘กามาสโว ภวาสโว ทิฏฺาสโว อวิชฺชาสโว’’ติ (จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๙) เอวมาคตา กามตณฺหาทโย จตฺตาโร อาสวนฺติ จกฺขุอาทิโต สนฺทนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อาสวา. กิฺจาปิ จกฺขุอาทิโต กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว ปน วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ หิ ปคฺฆรณกอสุจิมฺหิ นิรุฬฺโห อาสวสทฺโทติ. อถ วา ธมฺมโต ยาว โคตฺรภุํ, โอกาสโต ยาว ภวคฺคํ สวนฺติ คจฺฉนฺติ อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตนฺตีติ อาสวา, เอเต ธมฺเม เอตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อวธิอตฺโถ หิ อา-กาโร. อวธิ จ มริยาทาภิวิธิเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ มริยาทํ กิริยํ พหิกตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาปาฏลิปุตฺตํ วุฏฺโ เทโว’’ติ, อภิวิธิ ปน กิริยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตติ ยถา ‘‘อาภวคฺคํ ภควโต ยโส ปวตฺตตี’’ติ, อภิวิธิอตฺโถ จายํ อา-กาโร อิธ คหิโต, ตสฺมา เต ธมฺเม ตฺจ โอกาสํ อนฺโตกริตฺวา อารมฺมณกรณวเสน สวนฺตีติ ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. จิรปาริวาสิยฏฺเน มทิราทโย อาสวา วิยาติปิ อาสวา. โลกสฺมิฺหิ จิรปาริวาสิกา มทิราทโย ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติ. ยทิ จ จิรปาริวาสิยฏฺเน อาสวา, เอเตเยว ภวิตุมรหนฺติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อฺเสุ ปน ยถาวุตฺเต ธมฺเม โอกาสฺจ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมาเนสุ มานาทีสุ จ วิชฺชมาเนสุ อตฺตตฺตนิยาทิคฺคาหวเสน อภิพฺยาปนํ มทนกรณวเสน อาสวสทิสตา จ เอเตสํเยว, น อฺเสนฺติ ทฺวีสุปิ อตฺถวิกปฺเปสุ เอเตสุเยว อาสวสทฺโท นิรุฬฺโหติ ทฏฺพฺโพ. อายตํ วา สํสารทุกฺขํ สวนฺติ ปสวนฺตีติปิ อาสวา. น หิ ตํ กิฺจิ สํสารทุกฺขํ อตฺถิ, ยํ อาสเวหิ วินา อุปฺปชฺเชยฺย.

‘‘อภิชฺฌา กายคนฺโถ พฺยาปาโท กายคนฺโถ สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๗๕; มหานิ. ๒๙, ๑๔๗) เอวมาคตา อภิชฺฌาทโย จตฺตาโร ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. ‘‘กาโมโฆ ภโวโฆ ทิฏฺโโฆ อวิชฺโชโฆ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๗๒; มหานิ. ๑๔; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๑) เอวมาคตา จตฺตาโร กามตณฺหาทโย ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ วฏฺฏสฺมึ โอหนนฺติ โอสีทาเปนฺตีติ โอฆา. เตเยว ‘‘กามโยโค ภวโยโค ทิฏฺิโยโค อวิชฺชาโยโค’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๗๓; อ. นิ. ๔.๑๐) เอวมาคตา วฏฺฏสฺมึ โยเชนฺตีติ โยคา. อริยา เอตาย น คจฺฉนฺตีติ อคติ, สา ฉนฺทาทิวเสน จตุพฺพิธา. ‘‘จีวรเหตุ วา ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, ปิณฺฑปาต, เสนาสน, อิติภวาภวเหตุ วา ภิกฺขุโน ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๙) เอวมาคตา จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา. ตตฺถ อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสเน นิปาโต, ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตุปีติ อตฺโถ. ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิปฺเปตานิ. กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ อุปาทานานิ.

ปฺจ เจโตขิลาติอาทีสุ ‘‘พุทฺเธ กงฺขติ, ธมฺเม, สงฺเฆ, สิกฺขาย กงฺขติ, สพฺรหฺมจารีสุ กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อาหตจิตฺโต ขิลชาโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๕; ที. นิ. ๓.๓๑๙) เอวมาคตานิ ปฺจ เจโตขิลานิ, เจโต ขิลยติ ถทฺธภาวํ อาปชฺชติ เอเตหีติ เจโตขิลานิ. วินิพนฺธาทีสุปิ ปฺจ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘กาเม อวีตราโค โหติ, กาเย อวีตราโค, รูเป อวีตราโค, ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๖; ที. นิ. ๓.๓๒๐) อาคตา ปฺจ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจโตวินิพนฺธา. เอเต หิ ตณฺหาปฺปวตฺติภาวโต กุสลปฺปวตฺติยา อวสราปฺปทานวเสน จิตฺตํ พนฺธํ วิย สโมโรเธตฺวา คณฺหนฺติ. สทฺทตฺถโต ปน เจโต วิรูปํ นิพนฺธียติ สํยมียติ เอเตหีติ เจโตวินิพนฺธา. กามจฺฉนฺทาทีนิ ปฺจ กุสลธมฺเม นีวาเรนฺติ อาวรนฺตีติ นีวรณานิ. รูปาภินนฺทนาทโย ปฺจาภินนฺทนา.

วิวาทมูลาติอาทีสุ โกโธ มกฺโข อิสฺสา สาเยฺยํ ปาปิจฺฉตา สนฺทิฏฺิปรามาโสติ อิมานิ ฉ วิวาทมูลานิ. ยสฺมา กุทฺโธ วา โกธวเสน…เป… สนฺทิฏฺิปรามาสี วา สนฺทิฏฺิปรามสิตาย กลหํ วิคฺคหํ วิวาทํ อาปชฺชติ, ตสฺมา โกธาทโย ‘‘ฉ วิวาทมูลานี’’ติ วุจฺจนฺติ. รูปตณฺหาสทฺทตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา. กามราคปฏิฆทิฏฺิวิจิกิจฺฉาภวราคมานาวิชฺชา สตฺตานุสยา. ถามคตฏฺเน อปฺปหีนฏฺเน จ อนุเสนฺตีติ อนุสยา. มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปมิจฺฉาวาจามิจฺฉากมฺมนฺตมิจฺฉาอาชีวมิจฺฉาวายามมิจฺฉาสติมิจฺฉาสมาธี อฏฺ มิจฺฉตฺตา.

‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, วินิจฺฉยํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ฉนฺทราคํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, อชฺโฌสานํ ปฏิจฺจ ปริคฺคโห, ปริคฺคหํ ปฏิจฺจ มจฺฉริยํ, มจฺฉริยํ ปฏิจฺจ อารกฺโข, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺมุสาวาทา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๐๓; ๓.๓๕๙) เอวมาคตา ปริเยสนาทโย นว ตณฺหามูลกา. ตตฺถ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓) ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ ตณฺหํ นิสฺสาย. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ ตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ. วินิจฺฉโยติ อิธ วิตกฺโก อธิปฺเปโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรฺจ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ. ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. ฉนฺโทติ หิ อิธ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ. อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชุสโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขณํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ, การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ, อารกฺขเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโตธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม ปุริโม วิโรโธ วิคฺคโห. ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม วิวาโท. ตุวํ ตุวนฺติ อคารววจนํ, ตฺวํ ตฺวนฺติ อตฺโถ.

ปาณาติปาตอทินฺนาทานกาเมสุมิจฺฉาจารมุสาวาทปิสุณวาจาผรุสวาจาสมฺผปฺปลาปอภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺี ทส อกุสลกมฺมปถา. จตฺตาโร สสฺสตวาทา จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา โสฬส สฺีวาทา อฏฺ อสฺีวาทา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา สตฺต อุจฺเฉทวาทา ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอตานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ. รูปตณฺหาทิฉตณฺหาเยว ปจฺเจกํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาวเสน อฏฺารส โหนฺติ. ตถา หิ รูปารมฺมณา ตณฺหา, รูเป วา ตณฺหาติ รูปตณฺหา, สา กามราคภาเวน รูปํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา กามตณฺหา, สสฺสตทิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา ภวตณฺหา, อุจฺเฉททิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ เปจฺจ น ภวตี’’ติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา โหติ. ยถา จ รูปตณฺหา, เอวํ สทฺทตณฺหาทโยปีติ เอตานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ, ตานิ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธารูปาทีสุ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส, อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ, อฏฺุตฺตรสตตณฺหาวิจริตานีติ อตฺโถ. ปเภท-สทฺโท ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตพฺโพ. ตตฺถายํ โยชนา ‘‘โลภปฺปเภโท โทสปฺปเภโท ยาว อฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภโท’’ติ. สพฺพทรถปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานีติ สพฺพานิ สตฺตานํ ทรถปริฬาหกรานิ กิเลสานํ อเนกานิ สตสหสฺสานิ. อารมฺมณาทิวิภาคโต หิ ปวตฺติอาการวิภาคโต จ อนนฺตปฺปเภทา กิเลสา.

สงฺเขปโต วาติอาทีสุ สมฺปติ อายติฺจ สตฺตานํ อนตฺถาวหตฺตา มารณฏฺเน วิพาธนฏฺเน กิเลสาว มาโรติ กิเลสมาโร. วธกฏฺเน ขนฺธาว มาโรติ ขนฺธมาโร. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘วธกํ รูปํ, วธกํ รูปนฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติอาทิ. ชาติชราทิมหาพฺยสนนิพฺพตฺตเนน อภิสงฺขาโรว มาโร อภิสงฺขารมาโร. สํกิเลสนิมิตฺตํ หุตฺวา คุณมารณฏฺเน เทวปุตฺโตว มาโรติ เทวปุตฺตมาโร. สตฺตานํ ชีวิตสฺส ชีวิตปริกฺขารานฺจ ชานิกรเณน มหาพาธรูปตฺตา มจฺจุ เอว มาโรติ มจฺจุมาโร. ตตฺถ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน สพฺพโส อปฺปวตฺติกรเณน กิเลสมารํ, สมุทยปฺปหานปริฺาวเสน ขนฺธมารํ, สหายเวกลฺลกรณวเสน สพฺพโส อปฺปวตฺติกรเณน อภิสงฺขารมารํ, พลวิธมนวิสยาติกฺกมนวเสน เทวปุตฺตมจฺจุมารฺจ อภฺชิ, ภคฺเค อกาสีติ อตฺโถ. ปริสฺสยานนฺติ อุปทฺทวานํ.

สตปุฺชลกฺขณธรสฺสาติ อเนก สต ปุฺ นิพฺพตฺตมหา ปุริสลกฺขณธรสฺส. เอตฺถ หิ ‘‘เกวลํ สตมตฺเตน ปุฺกมฺเมน เอเกกลกฺขณํ นิพฺพตฺต’’นฺติ อิมมตฺถํ น โรจยึสุ อฏฺกถาจริยา ‘‘เอวํ สนฺเต โย โกจิ พุทฺโธ ภเวยฺยา’’ติ, อนนฺตาสุ ปน โลกธาตูสุ ยตฺตกา สตฺตา, เตหิ สพฺเพหิ ปจฺเจกํ สตกฺขตฺตุํ กตานิ ทานาทีนิ ปุฺกมฺมานิ ยตฺตกานิ, ตโต เอเกกํ ปุฺกมฺมํ มหาสตฺเตน สตคุณํ กตํ สตนฺติ อธิปฺเปตนฺติ อิมมตฺถํ โรจยึสุ. ตสฺมา อิธ สต-สทฺโท พหุภาวปริยาโย, น สงฺขฺยาวิเสสวจโนติ ทฏฺพฺโพ ‘‘สตคฺฆํ สตํ เทวมนุสฺสา’’ติอาทีสุ วิย. รูปกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ อิตราสํ ผลสมฺปทานํ มูลภาวโต อธิฏฺานภาวโต จ. ทีปิตา โหตีติ อิทํ ธมฺมกายสมฺปตฺตีติอาทีสุปิ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปหานสมฺปทาปุพฺพกตฺตา าณสมฺปทาทีนํ ธมฺมกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหตีติ เวทิตพฺพํ. โลกิยสริกฺขกานํ พหุมตภาโวติ เอตฺถ ภาคฺยวนฺตตาย โลกิยานํ พหุมตภาโว, ภคฺคโทสตาย สริกฺขกานํ พหุมตภาโวติ โยเชตพฺพํ. เอวํ อิโต ปเรสุปิ ยถากฺกมํ โยชนา เวทิตพฺพา.

ปุฺวนฺตํ คหฏฺา ขตฺติยาทโย อภิคจฺฉนฺติ, ปหีนโทสํ โทสวินยาย ธมฺมํ เทเสตีติ ปพฺพชิตา ตาปสปริพฺพาชกาทโย อภิคจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา’’ติ. อภิคตานฺจ เตสํ กายจิตฺตทุกฺขาปนยเน ปฏิพลภาโว อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการสพฺภาวโต รูปกายํ ตสฺส ปสาทจกฺขุนา, ธมฺมกายํ ปฺาจกฺขุนา ทิสฺวา ทุกฺขทฺวยสฺส ปฏิปฺปสฺสมฺภนโตติ เวทิตพฺโพ. ภาคฺยวนฺตตาย อุปคตานํ อามิสทานํ เทติ, ภคฺคโทสตาย ธมฺมทานํ เทตีติ อาห ‘‘อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา’’ติ. โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ จ สํโยชนสมตฺถตา ทีปิตา โหตีติ ‘‘ปุพฺเพ อามิสทานธมฺมทาเนหิ มยา อยํ โลกคฺคภาโว อธิคโต, ตสฺมา ตุมฺเหหิปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ เอวํ สมฺมาปฏิปตฺติยํ นิโยชเนน อภิคตานํ โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ สํโยชนสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ.

สกจิตฺเต อิสฺสริยํ นาม อตฺตโน จิตฺตสฺส วสีภาวาปาทนํเยว, ปฏิกูลาทีสุ อปฺปฏิกูลสฺิตาทิวิหารสิทฺธิ, อธิฏฺานิทฺธิอาทิโก อิทฺธิวิโธปิ จิตฺติสฺสริยเมว จิตฺตภาวนาย วสีภาวปฺปตฺติยา อิชฺฌนโต. อณิมาลฆิมาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน มหิมา ปตฺติ ปากมฺมํ อีสิตา วสิตา ยตฺถกามาวสายิตาติ อิเม ฉปิ สงฺคหิตา. ตตฺถ กายสฺส อณุภาวกรณํ อณิมา. อากาเส ปทสา คมนาทีนํ อรหภาเวน ลหุภาโว ลฆิมา. มหตฺตํ มหิมา กายสฺส มหนฺตตาปาทนํ. อิฏฺเทสสฺส ปาปุณนํ ปตฺติ. อธิฏฺานาทิวเสน อิจฺฉิตนิปฺผาทนํ ปากมฺมํ. สยํวสิตา อิสฺสรภาโว อีสิตา. อิทฺธิวิเธ วสีภาโว วสิตา. อากาเสน วา คจฺฉโต อฺํ วา กิฺจิ กโรโต ยตฺถ กตฺถจิ โวสานปฺปตฺติ ยตฺถกามาวสายิตา. ‘‘กุมารกรูปาทิทสฺสน’’นฺติปิ วทนฺติ. เอวมิทํ อฏฺวิธํ โลกิยสมฺมตํ อิสฺสริยํ. ตํ ปน ภควโต อิทฺธิวิธนฺโตคธํ อนฺสาธารณฺจาติ อาห ‘‘สพฺพการปริปูรํ อตฺถี’’ติ. ตถา โลกุตฺตโร ธมฺโม อตฺถีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ยสาทีสุปิ อตฺถิ-สทฺโท โยเชตพฺโพ.

เกสฺจิ ยโส ปเทสวุตฺติ อยถาภูตคุณสนฺนิสฺสยตฺตา อปริสุทฺโธ จ โหติ, น เอวํ ตถาคตสฺสาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โลกตฺตยพฺยาปโก’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิธ อธิคตสตฺถุคุณานํ อารุปฺเป อุปฺปนฺนานํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ภควโต ยโส ปากโฏ โหตีติ อาห ‘‘โลกตฺตยพฺยาปโก’’ติ. ยถาภุจฺจคุณาธิคโตติ ยถาภูตคุเณหิ อธิคโต. อติวิย ปริสุทฺโธติ ยถาภูตคุณาธิคตตฺตา เอว อจฺจนฺตปริสุทฺโธ. สพฺพาการปริปูราติ อนวเสสลกฺขณานุพฺยฺชนาทิสมฺปตฺติยา สพฺพากาเรหิ ปริปุณฺณา. สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรีติ สพฺเพสํ องฺคปจฺจงฺคานํ โสภา. ยํ ยํ เอเตน อิจฺฉิตํ ปตฺถิตนฺติ ‘‘ติณฺโณ ตาเรยฺย’’นฺติอาทินา ยํ ยํ เอเตน โลกนาเถน มโนวจีปณิธานวเสน อิจฺฉิตํ กายปณิธานวเสน ปตฺถิตํ. ตเถวาติ ปณิธานานุรูปเมว. สมฺมาวายามสงฺขาโต ปยตฺโตติ วีริยปารมิภาวปฺปตฺโต อริยมคฺคปริยาปนฺโน จ สมฺมาวายามสงฺขาโต อุสฺสาโห.

กุสลาทีหิ เภเทหีติ สพฺพตฺติกทุกปทสงฺคหิเตหิ กุสลาทิปฺปเภเทหิ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ วิภงฺคปาฬิยํ อาคตา สติปฏฺานาทโยว สงฺคหิตา, อถ โข สงฺคหาทโย สมยวิมุตฺตาทโย ปนาทโย ติกปฏฺานาทโย จ สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพํ. ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเน วา ทุกฺขมริยสจฺจนฺติอาทีสุ ปีฬนฏฺโ ตํสมงฺคิโน สตฺตสฺส หึสนํ อวิปฺผาริกตากรณํ. สงฺขตฏฺโ สเมจฺจ สงฺคมฺม สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตภาโว. สนฺตาปฏฺโ ทุกฺขทุกฺขตาทีหิ สนฺตาปนํ ปริทหนํ. วิปริณามฏฺโ ชราย มรเณน จาติ ทฺวิธา วิปริณาเมตพฺพตา. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตนวเสน สมฺปิณฺฑนํ. นิทานฏฺโ ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ นิทสฺเสนฺตสฺส วิย สมุฏฺาปนํ. สํโยคฏฺโ สํสารทุกฺเขน สํโยชนํ. ปลิโพธฏฺโ มคฺคาธิคมสฺส นิวารณํ. นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ สพฺพูปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคสภาวตฺตา ตโต วินิสฺสฏตา, ตํนิสฺสรณนิมิตฺตตา วา. วิเวกฏฺโ สพฺพสงฺขารวิสํยุตฺตตา. อสงฺขตฏฺโ เกนจิปิ ปจฺจเยน อนภิสงฺขตตา. อมตฏฺโ นิจฺจสภาวตฺตา มรณาภาโว, สตฺตานํ มรณาภาวเหตุตา วา. มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ วฏฺฏทุกฺขโต นิกฺกมนฏฺโ. เหตุอตฺโถ นิพฺพานสฺส สมฺปาปกภาโว. ทสฺสนฏฺโ อจฺจนฺตสุขุมสฺส นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณํ. อาธิปเตยฺยฏฺโ จตุสจฺจทสฺสเน สมฺปยุตฺตานํ อาธิปจฺจกรณํ, อารมฺมณาธิปติภาโว วา วิเสสโต มคฺคาธิปติวจนโต . สติปิ หิ ฌานาทีนํ อารมฺมณาธิปติภาเว ‘‘ฌานาธิปติโน ธมฺมา’’ติ เอวมาทึ อวตฺวา ‘‘มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, ตสฺมา วิฺายติ ‘‘อตฺถิ มคฺคสฺส อารมฺมณาธิปติภาเว วิเสโส’’ติ. เอเตเยว จ ปีฬนาทโย โสฬสาการาติ วุจฺจนฺติ.

ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรติอาทีสุ กสิณาทิอารมฺมณานิ รูปาวจรชฺฌานานิ ทิพฺพวิหาโร. เมตฺตาทิชฺฌานานิ พฺรหฺมวิหาโร. ผลสมาปตฺติ อริยวิหาโร. กาเมหิ วิเวกฏฺกายตาวเสน เอกีภาโว กายวิเวโก. ปมชฺฌานาทินา นีวรณาทีหิ วิวิตฺตจิตฺตตา จิตฺตวิเวโก. อุปธิวิเวโก นิพฺพานํ. อุปธีติ เจตฺถ จตฺตาโร อุปธี กามุปธิ ขนฺธุปธิ กิเลสุปธิ อภิสงฺขารุปธีติ. กามาปิ หิ ‘‘ยํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖) เอวํ วุตฺตสฺส สุขสฺส อธิฏฺานภาวโต อุปธียติ เอตฺถ สุขนฺติ อิมินา วจนตฺเถน ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจนฺติ, ขนฺธาปิ ขนฺธมูลกสฺส ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, กิเลสาปิ อปายทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, อภิสงฺขาราปิ ภวทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต วุตฺตนเยน ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจนฺติ. อิเมหิ ปน จตูหิ อุปธีหิ วิวิตฺตตาย นิพฺพานํ ‘‘อุปธิวิเวโก’’ติ วุจฺจติ.

สุฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค สุฺตวิโมกฺโข. โส หิ สุฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา สุฺโต, กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิตวิโมกฺโข. อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อนิมิตฺตวิโมกฺโข. อถ วา สุฺตานุปสฺสนาสงฺขาตาย อนตฺตานุปสฺสนาย วเสน ปฏิลทฺโธ อริยมคฺโค อาคมนวเสน ‘‘สุฺตวิโมกฺโข’’ติ วุจฺจติ. ตถา อปฺปณิหิตานุปสฺสนาสงฺขาตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน ปฏิลทฺโธ อปฺปณิหิตวิโมกฺโข. อนิมิตฺตานุปสฺสนาสงฺขาตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย วเสน ปฏิลทฺโธ ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺโข’’ติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตวิโมกฺขํ ปฏิลภติ, ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ ปฏิลภติ, อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล สุฺตวิโมกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๓).

อฺเติ โลกิยอภิฺาทิเก.

กิเลสาภิสงฺขารวเสน ภเวสุ ปริพฺภมนํ, ตฺจ ตณฺหาปธานนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาสงฺขาตํ คมน’’นฺติ. วนฺตนฺติ อริยมคฺคมุเขน อุคฺคิริตํ ปุน อปจฺจาคมนวเสน ฉฑฺฑิตํ. ภควาติ วุจฺจติ นิรุตฺตินเยนาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา โลเก’’ติอาทิ. ยถา โลเก นิรุตฺตินเยน เอเกกปทโต เอเกกมกฺขรํ คเหตฺวา ‘‘เมขลา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปีติ อตฺโถ. เมหนสฺสาติ คุยฺหปฺปเทสสฺส. ขสฺสาติ โอกาสสฺส.

อปโร นโย (อิติวุ. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) – ภาควาติ ภควา. ภตวาติ ภควา. ภาเค วนีติ ภควา. ภเค วนีติ ภควา. ภตฺตวาติ ภควา. ภเค วมีติ ภควา. ภาเค วมีติ ภควา.

ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;

ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน.

ตตฺถ กถํ ภาควาติ ภควา? เย เต สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา คุณโกฏฺาสา, เต อนฺสาธารณา นิรติสยา ตถาคตสฺส อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. ตถา หิสฺส สีลํ สมาธิ ปฺา วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ, หิรี โอตฺตปฺปํ, สทฺธา วีริยํ, สติ สมฺปชฺํ, สีลวิสุทฺธิ ทิฏฺิวิสุทฺธิ, สมโถ วิปสฺสนา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ สุจริตานิ, ตโย สมฺมาวิตกฺกา, ติสฺโส อนวชฺชสฺา, ติสฺโส ธาตุโย, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ อริยผลานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณานิ, จตฺตาโร อริยวํสา, จตฺตาริ เวสารชฺชาณานิ, ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธิ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนาณานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนียา สฺา, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารวา, ฉ นิสฺสารณียา ธาตุโย, ฉ สตตวิหารา, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉนิพฺเพธภาคิยา สฺา, ฉ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานียา ธมฺมา, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคานิ, สตฺต สปฺปุริสธมฺมา, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต สฺา, สตฺตทกฺขิเณยฺยปุคฺคลเทสนา, สตฺตขีณาสวพลเทสนา, อฏฺปฺาปฏิลาภเหตุเทสนา, อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อฏฺโลกธมฺมาติกฺกโม, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺอกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา, อฏฺอภิภายตนเทสนา, อฏฺ วิโมกฺขา, นว โยนิโสมนสิการมูลกา ธมฺมา, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นวสตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฺปฏิวินยา, นว สฺา, นว นานตฺตา, นว อนุปุพฺพวิหารา, ทส นาถกรณา ธมฺมา, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปถา, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาสา, ทส อเสกฺขธมฺมา, ทส ตถาคตพลานิ, เอกาทส เมตฺตานิสํสา, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกาการา, เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา, โสฬสวิธา อานาปานสฺสติ, โสฬส อปรนฺตปนียา ธมฺมา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปฺาส อุทยพฺพยาณานิ, ปโรปณฺณาส กุสลธมฺมา, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานปวิจยปจฺจเวกฺขณเทสนาาณานิ, ตถา อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตานํ สตฺตานํ อาสยาทิวิภาวนาณานิ จาติ เอวมาทโย อนนฺตาปริมาณเภทา อนฺสาธารณา นิรติสยา คุณภาคา คุณโกฏฺาสา สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตวิภาคา คุณภาคา อสฺส อตฺถีติ ภาควาติ วตฺตพฺเพ อาการสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘ภควา’’ติ วุตฺโต. เอวํ ตาว ภาควาติ ภควา.

ยสฺมา สีลาทโย สพฺเพ, คุณภาคา อเสสโต;

วิชฺชนฺติ สุคเต ตสฺมา, ภควาติ ปวุจฺจติ.

กถํ ภตวาติ ภควา? เย เต สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺเนหิ มนุสฺสตฺตาทิเก อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา สมฺมาสมฺโพธิยา กตมหาภินีหาเรหิ มหาโพธิสตฺเตหิ ปริปูเรตพฺพา ทานปารมี สีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจอธิฏฺานเมตฺตาอุเปกฺขาปารมีติ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ปารมิโย, ทานาทีนิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, จตฺตาริ อธิฏฺานานิ, อตฺตปริจฺจาโค นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาโคติ ปฺจ มหาปริจฺจาคา, ปุพฺพโยโค, ปุพฺพจริยา, ธมฺมกฺขานํ, าตตฺถจริยา, โลกตฺถจริยา, พุทฺธตฺถจริยาติ เอวมาทโย สงฺเขปโต วา ปุฺสมฺภาราณสมฺภารา พุทฺธกรา ธมฺมา, เต มหาภินีหารโต ปฏฺาย กปฺปานํ สตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ยถา หานภาคิยา สํกิเลสภาคิยา ิติภาคิยา วา น โหนฺติ, อถ โข อุตฺตรุตฺตริ วิเสสภาคิยาว โหนฺติ, เอวํ สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ อนวเสสโต ภตา สมฺภตา อสฺส อตฺถีติ ภตวาติ ภควา นิรุตฺตินเยน ต-การสฺส ค-การํ กตฺวา. อถ วา ภตวาติ เตเยว ยถาวุตฺเต พุทฺธกเร ธมฺเม วุตฺตนเยน ภริ สมฺภริ, ปริปูเรสีติ อตฺโถ. เอวมฺปิ ภตวาติ ภควา.

ยสฺมา สมฺโพธิยา สพฺเพ, ทานปารมิอาทิเก;

สมฺภาเร ภตวา นาโถ, ตสฺมาปิ ภควา มโต.

กถํ ภาเค วนีติ ภควา? เย เต จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺติภาคา, เต อนวเสสโต โลกหิตตฺถํ อตฺตโน จ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ นิจฺจกปฺปํ วนิ ภชิ เสวิ พหุลมกาสีติ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา อภิฺเยฺยธมฺเมสุ กุสลาทีสุ ขนฺธาทีสุ จ เย เต ปริฺเยฺยาทิวเสน สงฺเขปโต วา จตุพฺพิธา อภิสมยภาคา, วิตฺถารโต ปน ‘‘จกฺขุ ปริฺเยฺยํ, โสตํ ปริฺเยฺยํ…เป… ชรามรณํ ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑) อเนเก ปริฺเยฺยภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ…เป… ชรามรณสฺส สมุทโย ปหาตพฺโพ’’ติอาทินา นเยน ปหาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรโธ…เป… ชรามรณสฺส นิโรโธ สจฺฉิกาตพฺโพ’’ติอาทินา สจฺฉิกาตพฺพภาคา, ‘‘จกฺขุสฺส นิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติอาทินา ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทินา จ อเนกเภทา ภาเวตพฺพภาคา จ ธมฺมา วุตฺตา, เต สพฺเพ วนิ ภชิ ยถารหํ โคจรภาวนาเสวนานํ วเสน เสวิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา. อถ วา เย อิเม สีลาทโย ธมฺมกฺขนฺธา สาวเกหิ สาธารณา คุณโกฏฺาสา คุณภาคา, กินฺติ นุ โข เต วิเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺเปยฺยนฺติ มหากรุณาย วนิ อภิปตฺถยิ, สา จสฺส อภิปตฺถนา ยถาธิปฺเปตผลาวหา อโหสิ. เอวมฺปิ ภาเค วนีติ ภควา.

ยสฺมา เยฺยสมาปตฺติ-คุณภาเค ตถาคโต;

ภชิ ปตฺถยิ สตฺตานํ, หิตาย ภควา ตโต.

กถํ ภเค วนีติ ภควา? สมาสโต ตาว กตปุฺเหิ ปโยคสมฺปนฺเนหิ ยถาวิภวํ ภชียนฺตีติ ภคา, โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติโย. ตตฺถ โลกิเย ตาว ตถาคโต สมฺโพธิโต ปุพฺเพ โพธิสตฺตภูโต ปรมุกฺกํสคเต วนิ ภชิ เสวิ, ยตฺถ ปติฏฺาย นิรวเสสโต พุทฺธกรธมฺเม สมนฺนาเนนฺโต พุทฺธธมฺเม ปริปาเจสิ. พุทฺธภูโต ปน เต นิรวชฺชสุขูปสํหิเต อนฺสาธารเณ โลกุตฺตเรปิ วนิ ภชิ เสวิ. วิตฺตารโต ปน ปเทสรชฺชอิสฺสริยจกฺกวตฺติสมฺปตฺติเทวรชฺชสมฺปตฺติอาทิวเสน ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติาณทสฺสนมคฺคภาวนาผลสจฺฉิกิริยาทิอุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน จ อเนกวิหิเต อนฺสาธารเณ ภเค วนิ ภชิ เสวิ. เอวํ ภเค วนีติ ภควา.

ยา ตา สมฺปตฺติโย โลเก, ยา จ โลกุตฺตรา ปุถุ;

สพฺพา ตา ภชิ สมฺพุทฺโธ, ตสฺมาปิ ภควา มโต.

กถํ ภตฺตวาติ ภควา? ภตฺตา ทฬฺหภตฺติกา อสฺส พหู อตฺถีติ ภตฺตวา. ตถาคโต หิ มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิอปริมิตนิรุปมปฺปภาวคุณวิเสสสมงฺคีภาวโต สพฺพสตฺตาอุตฺตโม, สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย ทฺวตฺตึส มหาปุริสลกฺขณาสีติ อนุพฺยฺชน พฺยามปฺปภาทิ อนฺสาธารณวิเสสปฏิมณฺฑิตรูปกายตาย ยถาภุจฺจคุณาธิคเตน ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน โลกตฺตยพฺยาปินา สุวิปุเลน สุวิสุทฺเธน จ ถุติโฆเสน สมนฺนาคตตฺตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตาสุ อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตาอาทีสุ สุปฺปติฏฺิตภาวโต ทสพลจตุเวสารชฺชาทินิรติสยคุณวิเสสสมงฺคีภาวโต จ รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน, ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโนติ เอวํ จตุปฺปมาณิเก โลกสนฺนิวาเส สพฺพถาปิ ปสาทาวหภาเวน สมนฺตปาสาทิกตฺตา อปริมาณานํ สตฺตานํ สเทวมนุสฺสานํ อาทรพหุมานคารวายตนตาย ปรมเปมสมฺภตฺติฏฺานํ. เย จสฺส โอวาเท ปติฏฺิตา อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา โหนฺติ, เกนจิ อสํหาริยา เตสํ สมฺภตฺติ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วาติ. ตถา หิ เต อตฺตโน ชีวิตปอจฺจาเคปิ ตตฺถ ปสาทํ น ปริจฺจชนฺติ ตสฺส วา อาณํ ทฬฺหภตฺติภาวโต. เตเนวาห –

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร,

กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๗๘);

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’’ติ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๕) จ.

เอวํ ภตฺตวาติ ภควา นิรุตฺตินเยน เอกสฺส ต-การสฺส โลปํ กตฺวา อิตรสฺส ต-การสฺส ค-การํ กตฺวา.

คุณาติสยยุตฺตสฺส, ยสฺมา โลกหิเตสิโน;

สมฺภตฺตา พหโว สตฺถุ, ภควา เตน วุจฺจติ.

กถํ ภเค วมีติ ภควา? ยสฺมา ตถาคโต โพธิสตฺตภูโตปิ ปุริมาสุ ชาตีสุ ปารมิโย ปูเรนฺโต ภคสงฺขาตํ สิรึ อิสฺสริยํ ยสฺจ วมิ อุคฺคิริ, เขฬปิณฺฑํ วิย อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ. ตถา หิสฺส โสมนสฺสกุมารกาเล(ชา. ๑.๑๕.๒๑๑ อาทโย) หตฺถิปาลกุมารกาเล (ชา. ๑.๑๕.๓๓๗ อาทโย) อโยฆรปณฺฑิตกาเล(ชา. ๑.๑๕.๓๖๓ อาทโย) มูคปกฺขปณฺฑิตกาเล (ชา. ๒.๒๒.๑ อาทโย) จูฬสุตโสมกาเลติ (ชา. ๒.๑๗.๑๙๕ อาทโย) เอวมาทีสุ เนกฺขมฺมปารมีปูรณวเสน เทวรชฺชสทิสาย รชฺชสิริยา ปริจฺจตฺตตฺตภาวานํ ปมาณํ นตฺถิ, จริมตฺตภาเวปิ หตฺถคตํ จกฺกวตฺติสิรึ เทวโลกาธิปจฺจสอสํ จตุทีปิสฺสริยํ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยํ สตฺตรตนสมุชฺชลํ ยสฺจ ติณายปิ อมฺมาโน นิรเปกฺโข ปหาย อภินิกฺขมิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา อิเม สิริอาทิเก ภเค วมีติ ภควา. อถ วา ภานิ นาม นกฺขตฺตานิ, เตหิ สมํ คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ภคา, สิเนรุยุคนฺธรอุตฺตรกุรุหิมวนฺตาทิภาชนโลกวิเสสสนฺนิสฺสยา โสภา กปฺปฏฺายิภาวโต, เตปิ ภควา วมิ ตํนิวาสิสตฺตาวาสสมติกฺกมนโต ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหีติ. เอวมฺปิ ภเค วมีติ ภควา.

จกฺกวตฺติสิรึ ยสฺมา, ยสํ อิสฺสริยํ สุขํ;

ปหาสิ โลกจิตฺตฺจ, สุคโต ภควา ตโต.

กถํ ภาเค วมีติ ภควา? ภาคา นาม สภาคธมฺมโกฏฺาสา, เต ขนฺธายตนธาตาทิวเสน, ตตฺถาปิ รูปเวทนาทิวเสน อตีตาทิวเสน จ อเนกวิธา, เต จ ภควา สพฺพํ ปปฺจํ สพฺพํ โยคํ สพฺพํ คนฺถํ สพฺพํ สํโยชนํ สมุจฺฉินฺทิตฺวา อมตธาตุํ สมธิคจฺฉนฺโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺโข ฉฑฺฑยิ น ปจฺจาคมิ. ตถา เหส สพฺพตฺถกเมว ปถวึ อาปํ เตชํ วายํ, จกฺขุํ โสตํ ฆานํ ชิวฺหํ กายํ มนํ, รูเป สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺพฺเพ ธมฺเม, จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ, จกฺขุสมฺผสฺสํ…เป… มโนสมฺผสฺสํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ สฺํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ สฺํ, จกฺขุสมฺผสฺสชํ เจตนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เจตนํ, รูปตณฺหํ…เป… ธมฺมตณฺหํ, รูปวิตกฺกํ…เป… ธมฺมวิตกฺกํ, รูปวิจารํ…เป… ธมฺมวิจารนฺติอาทินา อนุปทธมฺมวิภาควเสนปิ สพฺเพว ธมฺมโกฏฺาเส อนวเสสโต วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺขปริจฺจาเคน ฉฑฺฑยิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ ตํ, อานนฺท, จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ, ตํ ตถาคโต ปุน ปจฺจาคมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๓). เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา. อถ วา ภาเค วมีติ สพฺเพปิ กุสลากุสเล สาวชฺชานวชฺเช หีนปณีเต กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาเค ธมฺเม อริยมคฺคาณมุเขน วมิ อุคฺคิริ, อนเปกฺโข ปริจฺจชิ ปชหิ, ปเรสฺจ ตถตฺตาย ธมฺมํ เทเสสิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ธมฺมาปิ โว, ภิกฺขเว , ปหาตพฺพา ปเคว อธมฺมา (ม. นิ. ๒๔๐). กุลฺลูปมํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ นิตฺถรณตฺถาย, โน คหณตฺถายา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๔๐). เอวมฺปิ ภาเค วมีติ ภควา.

ขนฺธายตนธาตาทิ ธมฺมเภทา มเหสินา;

กณฺหา สุกฺกา ยโต วนฺตา, ตโตปิ ภควา มโต.

เตน วุตฺตํ –

‘‘ภาควา ภตวา ภาเค, ภเค จ วนิ ภตฺตวา;

ภเค วมิ ตถา ภาเค, วมีติ ภควา ชิโน’’ติ.

เอตฺถ จ ยสฺมา สงฺเขปโต อตฺตหิตสมฺปตฺติปรหิตปฏิปตฺติวเสน ทุวิธา พุทฺธคุณา, ตาสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปหานสมฺปทาาณสมฺปทาเภทโต ทุวิธา อานุภาวสมฺปทาทีนํ ตทวินาภาเวน ตทนฺโตคธตฺตา. ปรหิตปฏิปตฺติ ปโยคาสยเภทโต ทุวิธา. ตตฺถ ปโยคโต ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมูปเทโส, อาสยโต ปฏิวิรุทฺเธสุปิ นิจฺจํ หิเตสิตา าณปริปากกาลาคมนาทิปรหิตปฺปฏิปตฺติ. อามิสปฏิคฺคหณาทินาปิ อตฺถจริยา ปรหิตปอปตฺติ โหติเยว, ตสฺมา เตสมฺปิ วิภาวนวเสน ปาฬิยํ ‘‘อรห’’นฺติอาทีนํ ปทานํ คหณํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ อรหนฺติ อิมินา ปเทน ปหานสมฺปทาวเสน ภควโต อตฺตหิตสมฺปตฺติ วิภาวิตา, สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลกวิทูติ จ อิเมหิ ปเทหิ าณสมฺปทาวเสน. นนุ จ ‘‘โลกวิทู’’ติ อิมินาปิ สมฺมาสมฺพุทฺธตา วิภาวียตีติ? สจฺจํ วิภาวียติ, อตฺถิ ปน วิเสโส ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ อิมินา สพฺพฺุตฺาณานุภาโว วิภาวิโต, ‘‘โลกวิทู’’ติ ปน อิมินา อาสยานุสยาณาทีนมฺปิ อานุภาโว วิภาวิโตติ. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ อิมินา สพฺพาปิ ภควโต อตฺตหิตสมฺปตฺติ วิภาวิตา. สุคโตติ ปน อิมินา สมุทาคมโต ปฏฺาย ภควโต อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรหิตปฏิปตฺติ จ วิภาวิตา. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานนฺติ อิเมหิ ปเทหิ ภควโต ปรหิตปฏิปตฺติ วิภาวิตา. พุทฺโธติ อิมินา ภควโต อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรหิตปฏิปตฺติ จ วิภาวิตา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วตฺวา ‘‘พุทฺโธ’’ติ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘อตฺตนาปิ พุชฺฌิ, อฺเปิ สตฺเต โพเธสี’’ติอาทิ . ภควาติ จ อิมินาปิ สมุทาคมโต ปฏฺาย ภควโต สพฺพา อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรหิตปฏิปตฺติ จ วิภาวิตา.

อปโร นโย – เหตุผลสตฺตุปการวเสน สงฺเขปโต ติวิธา พุทฺธคุณา. ตตฺถ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โลกวิทูติ อิเมหิ ปเทหิ ผลสมฺปตฺติวเสน พุทฺธคุณา วิภาวิตา. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานนฺติ อิเมหิ สตฺตุปการวเสน พุทฺธคุณา ปกาสิตา. พุทฺโธติ อิมินา ผลวเสน สตฺตุปการวเสน จ พุทฺธคุณา วิภาวิตา. สุคโต ภควาติ ปน อิเมหิ ปเทหิ เหตุผลสตฺตุปการวเสน พุทฺธคุณา วิภาวิตาติ เวทิตพฺพํ.

โส อิมํ โลกนฺติอาทีสุ โส ภควาติ โย ‘‘อรห’’นฺติอาทินา กิตฺติตคุโณ, โส ภควา. อิมํ โลกนฺติ นยิทํ มหาชนสฺส สมฺมุขามตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข อนวเสสํ ปริยาทายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสตี’’ติ. ปชาตตฺตาติ ยถาสกํ กมฺมกิเลเสหิ นิพฺพตฺตตฺตา. สเทวกวจเนน ปฺจกามาวจรเทวคฺคหณํ ปาริเสสาเยนาติ เวทิตพฺพํ อิตเรสํ ปทนฺตเรหิ สงฺคหิตตฺตา. สเทวกนฺติ จ อวยเวน วิคฺคโห สมุทาโย สมาสตฺโถ. สมารกวจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ ปจฺจาสตฺติาเยนาติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ หิ โส ชาโต ตํนิวาสี จ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปจฺจตฺถิกา…เป… สมณพฺราหฺมณคฺคหณนฺติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ อปจฺจตฺถิกานํ อสมิตาพาหิตปาปานฺจ สมณพฺราหฺมณานํ สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน คหิตตฺตา. กามํ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทิวิเสสนานํ วเสน สตฺตวิสโย โลกสทฺโทติ วิฺายติ ตุลฺยโยควิสยตฺตา เตสํ, ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ติอาทีสุ ปน อตุลฺยโยเคปิ อยํ สมาโส ลพฺภตีติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปชาคหณนฺติ อาห ‘‘ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณ’’นฺติ. สเทวกาทิวจเนน อุปปตฺติเทวานํ, สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน วิสุทฺธิเทวานฺจ คหิตตฺตา อาห ‘‘สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณ’’นฺติ. ตตฺถ สมฺมุติเทวา ราชาโน. อวเสสมนุสฺสคฺคหณนฺติ สมณพฺราหฺมเณหิ อวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. ตีหิ ปเทหีติ สเทวกสมารกสพรฺหฺมกวจเนหิ. ทฺวีหีติ สสฺสมณพฺราหฺมณึ สเทวมนุสฺสนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ.

อรูปี สตฺตา อตฺตโน อาเนฺชวิหาเรน วิหรนฺตา ทิพฺพนฺตีติ เทวาติ อิมํ นิพฺพจนํ ลภนฺตีติ อาห ‘‘สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรโลโก คหิโต’’ติ. เตเนวาห ภควา ‘‘อากาสานฺจายตนูปคานํ เทวานํ สหพฺยต’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๓.๑๑๗). ฉกามาวจรเทวโลกสฺส สวิเสสํ มารสฺส วเส วตฺตนโต อาห ‘‘สมารกคฺคหเณน ฉกามาวจรเทวโลโก’’ติ . อรูปีพฺรหฺมโลกสฺส วิสุํ คหิตตฺตา อาห ‘‘รูปี พฺรหฺมโลโก’’ติ. จตุปริสวเสนาติ ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสุ อฏฺสุ ปริสาสุ ขตฺติยาทิจตุปริสวเสน. อิตรา ปน จตสฺโส ปริสา สมารกคฺคหเณน คหิตา เอวาติ.

กถํ ปเนตฺถ จตุปริสวเสน มนุสฺสโลโก คหิโต? ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิ’’นฺติ อิมินา สมณปริสา พฺราหฺมณปริสา จ คหิตา โหนฺติ, ‘‘สเทวมนุสฺส’’นฺติ อิมินา ขตฺติยปริสา คหปติปริสา จ คหิตา, ‘‘ปช’’นฺติ อิมินา ปน อิมาเยว จตสฺโส ปริสา วุตฺตา, จตุปริสสงฺขาตํ ปชนฺติ วุตฺตํ โหติ, กถํ ปน สมฺมุติเทเวหิ สห มนุสฺสโลโก คหิโต? เอตฺถาปิ ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณิ’’นฺติ อิมินา สมณพฺราหฺมณา คหิตา, ‘‘สเทวมนุสฺส’’นฺติ อิมินา สมฺมุติเทวสงฺขาตา ขตฺติยา, คหปติสุทฺทสงฺขาตา อวเสสมนุสฺสา จ คหิตา โหนฺติ. อิโต ปน อฺเสํ มนุสฺสสตฺตานํ อภาวโต ‘‘ปช’’นฺติ อิมินา จตูหิ ปกาเรหิ ิตา เอเตเยว มนุสฺสสตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ วิกปฺปทฺวเยปิ ปชาคฺคหเณน จตุปริสาทิวเสน ิตานํ มนุสฺสานํเยว คหิตตฺตา อิทานิ ‘‘ปช’’นฺติ อิมินา อวเสสสตฺเต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา’’ติ. ตตฺถ นาคครุฬาทิวเสน อวเสสสตฺตโลโก เวทิตพฺโพ. เอตฺถาปิ จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ วา สห อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วาติ โยเชตพฺพํ. จตุปริสสหิโต อวเสสสุทฺธนาคสุปณฺณเนรยิกาทิสตฺตโลโก, จตุธา ิตมนุสฺสสหิโต วา อวเสสนาคสุปณฺณเนรยิกาทิสตฺตโลโก คหิโตติ วุตฺตํ โหติ.

เอตฺตาวตา ภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตน เตน วิเสเสน อภาคโส โลกํ คเหตฺวา โยชนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโตติ อุกฺกํสคติวิชานเนน. ปฺจสุ หิ คตีสุ เทวคติปริยาปนฺนาว เสฏฺา, ตตฺถาปิ อรูปิโน ทูรสมุสฺสาริตกิเลสทุกฺขตาย สนฺตปณีตอาเนฺชวิหารสมงฺคิตาย อติวิย ทีฆายุกตายาติ เอวมาทีหิ วิเสเสหิ อติวิย อุกฺกฏฺา. พฺรหฺมา มหานุภาโวติ ทสสหสฺสิยํ มหาพฺรหฺมุโน วเสน วทติ. ‘‘อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต’’ติ หิ วุตฺตํ. อนุตฺตรนฺติ เสฏฺํ นวโลกุตฺตรํ. อนุสนฺธิกฺกโมติ อตฺถานฺเจว ปทานฺจ อนุสนฺธานุกฺกโม. โปราณา ปเนตฺถ เอวํ วณฺณยนฺติ – สเทวกนฺติ เทวตาหิ สทฺธึ อวเสสํ โลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสํ โลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสํ โลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต เทวมารพฺรหฺมสหิตตาสงฺขาเตหิ ตีหิ ปกาเรหิ ‘‘สเทวก’’นฺติอาทีสุ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทิยนฺโต ‘‘สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺส’’นฺติ อาห. เอวํ ปฺจหิปิ ปเทหิ สเทวกตฺตาทินา เตน เตน ปกาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.

อภิฺาติ ยการโลเปนายํ นิทฺเทโส, อภิชานิตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อภิฺาย อธิเกน าเณน ตฺวา’’ติ. อนุมานาทิปฏิกฺเขโปติ อนุมานอุปมานอตฺถาปตฺติอาทิปฏิกฺเขโป เอกปฺปมาณตฺตา. สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณจารตาย หิ สพฺพปจฺจกฺขา พุทฺธา ภควนฺโต. อนุตฺตรํ วิเวกสุขนฺติ ผลสมาปตฺติสุขํ. เตน วีถิมิสฺสาปิ กทาจิ ภควโต ธมฺมเทสนา โหตีติ หิตฺวาปีติ ปิสทฺทคฺคหณํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต ยสฺมึ ขเณ ปริสา สาธุการํ วา เทติ, ยถาสุตํ วา ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ขณํ ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทฺจ สมาปตฺติโต วุฏฺาย ิตฏฺานโต ปฏฺาย ธมฺมํ เทเสติ. อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโตติ อุคฺฆฏิตฺุสฺส วเสน อปฺปํ วา, วิปฺจิตฺุสฺส เนยฺยสฺส วา วเสน พหุํ วา เทเสนฺโต. อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสตีติ อาทิมฺหิปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสติ. มชฺเฌปิ ปริโยสาเนปิ กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมสฺส หิ กลฺยาณตา นิยฺยานิกตาย นิยฺยานิกตา จ สพฺพโส อนวชฺชภาเวน.

สมนฺตภทฺทกตฺตาติ สพฺพภาเคหิ สุนฺทรตฺตา. ธมฺมสฺสาติ ปริยตฺติธมฺมสฺส. กิฺจาปิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม ปรมตฺถโต โกจิ นตฺถิ, เยสุ ปน อวยเวสุ สมุทายรูเปน อเปกฺขิเตสุ คาถาติ สมฺา, ตํ ตโต ภินฺนํ วิย กตฺวา สํสามิโวหารํ อาโรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมปาเทน อาทิกลฺยาณา’’ติอาทิมาห. เอกานุสนฺธิกนฺติ อิทํ นาติพหุวิภาคํ ยถานุสนฺธินา เอกานุสนฺธิกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตรสฺส ปน เตเนว เทเสตพฺพธมฺมวิภาเคน อาทิมชฺฌปริโยสานภาคา ลพฺภนฺตีติ. นิทาเนนาติ อานนฺทตฺเถเรน ปิตกาลเทสเทสกปริสาทิอปทิสนลกฺขเณน นิทานคนฺเถน. นิคเมนาติ ‘‘อิทมโวจา’’ติอาทิเกน ‘‘อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ วา ยถาวุตฺตตฺถนิคมเนน. สงฺคีติการเกหิ ปิตานิปิ หิ นิทานนิคมนานิ ทสฺเสตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ สตฺถุ เทสนาย อนุวิธานโต ตทนฺโตคธาเนว. เตเนว ทีฆนิกายฏฺกถายํ ‘‘เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนมนฺตรา มชฺฌ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐) วุตฺตํ.

เอวํ สุตฺตนฺตปิฏกวเสน ธมฺมสฺส อาทิกลฺยาณาทิตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตีณิ ปิฏกานิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สกโลปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สาสนธมฺโมติ –

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐) –

เอวํ วุตฺตสฺส สตฺถุสาสนสฺส ปกาสโก ปริยตฺติธมฺโม. สีลมูลกตฺตา สาสนสฺส ‘‘สีเลน อาทิกลฺยาโณ’’ติ วุตฺตํ. สมถาทีนํ สาสนสมฺปตฺติยา เวมชฺฌภาวโต อาห ‘‘สมถวิปสฺสนามคฺคผเลหิ มชฺเฌกลฺยาโณ’’ติ. นิพฺพานาธิคมโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต วุตฺตํ ‘‘นิพฺพาเนน ปริโยสานกลฺยาโณ’’ติ. สาสเน สมฺมาปฏิปตฺติ นาม ปฺาย โหติ, ตสฺสา จ สีลํ สมาธิ จ มูลนฺติ อาห ‘‘สีลสมาธีหิวา อาทิกลฺยาโณ’’ติ. ปฺา ปน อนุโพธปอเวธวเสน ทุวิธาติ ตทุภยมฺปิ คณฺหนฺโต ‘‘วิปสฺสนามคฺเคหิ มชฺเฌกลฺยาโณ’’ติ อาห. ตสฺสา นิปฺผตฺติผลกิจฺจํ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา, ตโต ปรํ กตฺตพฺพํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ’’ติ. ผลคฺคหเณน วา สอุปาทิเสสํ นิพฺพานมาห, อิตเรน อิตรํ ตทุภยฺจ สาสนสมฺปตฺติยา โอสานนฺติ อาห ‘‘ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ’’ติ.

พุทฺธสุโพธิตาย วา อาทิกลฺยาโณติ พุทฺธสฺส สุโพธิตา สมฺมาสมฺพุทฺธตา, ตาย อาทิกลฺยาโณ ตปฺปภวตฺตา. สพฺพโส สํกิเลสปฺปหานํ โวทานปาริปูรี จ ธมฺมสุธมฺมตา, ตาย มชฺเฌกลฺยาโณ ตํสรีรตฺตา. สตฺถารา ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปตฺติ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติ, ตาย ปริโยสานกลฺยาโณ ตาย สาสนสฺส โลเก สุปฺปติฏฺิตภาวโต. นฺติ สาสนธมฺมํ. ตถตฺตายาติ ยถตฺตาย ภควตา ธมฺโม เทสิโต, ตถตฺตาย ตถภาวาย. โส ปน อภิสมฺโพธิ ปจฺเจกโพธิ สาวกโพธีติ ติวิโธ อิโต อฺถา นิพฺพานาธิคมสฺส อภาวโต. ตตฺถ สพฺพคุเณหิ อคฺคภาวโต อิตรโพธิทฺวยมูลตาย จ ปมาย โพธิยา อาทิกลฺยาณตา, คุเณหิ เวมชฺฌภาวโต ทุติยาย มชฺเฌกลฺยาณตา, ตทุภยตาย วา โวสานตาย จ สาสนธมฺมสฺส ตติยาย ปริโยสานกลฺยาณตา วุตฺตา.

เอโสติ สาสนธมฺโม. นีวรณวิกฺขมฺภนโตติ วิมุตฺตายตนสีเส ตฺวา สทฺธมฺมํ สุณนฺตสฺส นีวรณานํ วิกฺขมฺภนสพฺภาวโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยถา ยถาวุโส, ภิกฺขุโน สตฺถา วา ธมฺมํ เทเสติ, อฺตโร วา ครุฏฺานีโย สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส ตตฺถ ลภติ อตฺถเวทํ ลภติ ธมฺมเวท’’นฺติ.

‘‘ยสฺมึ , ภิกฺขเว, สมเย อริยสาวโก โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ, ปฺจสฺส นีวรณานิ ตสฺมึ สมเย ปหีนานิ โหนฺตี’’ติ –

จ อาทิ. สมถวิปสฺสนาสุขาวหนโตติ สมถสุขสฺส วิปสฺสนาสุขสฺส จ สมฺปาปนโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘โส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติอาทิ, ตถา –

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานตํ.

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ จ. (ธ. ป. ๓๗๔-๓๗๓);

ตถา ปฏิปนฺโนติ ยถา สมถวิปสฺสนาสุขํ อาวหติ, ยถา วา สตฺถารา อนุสิฏฺํ, ตถา ปฏิปนฺโน สาสนธมฺโม. ตาทิภาวาวหนโตติ ฉฬงฺคุเปกฺขาวเสน อิฏฺาทีสุ ตาทิภาวสฺส โลกธมฺเมหิ อนุปเลปสฺส อาวหนโต. นาถปฺปภวตฺตาติ ปภวติ เอตสฺมาติ ปภโว, อุปฺปตฺติฏฺานํ, นาโถว ปภโว เอตสฺสาติ นาถปฺปภโว, ตสฺส ภาโว นาถปฺปภวตฺตํ, ตสฺมา สาสนธมฺมสฺส นาถเหตุกตฺตาติ อตฺโถ. อตฺถสุทฺธิยา มชฺเฌกลฺยาโณติ นิรุปกฺกิเลสตาย นิยฺยานิกตา อตฺถสุทฺธิ, ตาย มชฺเฌกลฺยาโณ. กิจฺจสุทฺธิยา ปริโยสานกลฺยาโณติ สุปฺปฏิปตฺติสงฺขาตกิจฺจสฺส สุทฺธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ สุปฺปฏิปตฺติปริโยสานตฺตา สาสนธมฺมสฺส. ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ.

สาสนพฺรหฺมจริยนฺติอาทีสุ อวิเสเสน ติสฺโส สิกฺขา สกโล จ ตนฺติธมฺโม สาสนพฺรหฺมจริยํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กตเมสานํ โข, ภนฺเต, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยํ น จิรฏฺิติกมโหสี’’ติอาทิ (ปารา. ๑๘). อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณีย’’นฺติ (ปารา. ๑๔). ยถานุรูปนฺติ ยถารหํ. สิกฺขตฺตยสงฺคหฺหิ สาสนพฺรหฺมจริยํ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, ตถา มคฺคพฺรหฺมจริยํ. อิตรํ ปน ตนฺติธมฺมสงฺขาตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ ยถาวุตฺเตนตฺเถน สาตฺถํ สพฺยฺชนฺจ. อตฺถสมฺปตฺติยาติ สมฺปนฺนตฺถตาย. สมฺปตฺติอตฺโถ หิ อิธ สหสทฺโท. พฺยฺชนสมฺปตฺติยาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยสฺส หิ ยาคุภตฺตาทิอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนานิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ นิยฺยานตฺถวิรหโต ตสฺสา เทสนาย. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ, ตสฺมา ‘‘อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ . ยสฺส ปน เทสนา สิถิลธนิตาทิเภเทสุ พฺยฺชเนสุ เอกปฺปกาเรเนว ทฺวิปฺปกาเรเนว วา พฺยฺชเนน ยุตฺตตาย เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา ทมิฬภาสา วิย, วิวฏกรณตาย โอฏฺเ อผุสาเปตฺวา อุจฺจาเรตพฺพโต สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา กิราตภาสา วิย, สพฺพตฺเถว วิสฺสชฺชนียยุตฺตตาย สพฺพวิสฺสฏฺพฺยฺชนา วา ยวนภาสา วิย, สพฺพตฺเถว สานุสารตาย สพฺพนิคฺคหีตพฺยฺชนา วา ปาทสิกาทิ มิลกฺขุภาสา วิย, ตสฺส พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. สพฺพาปิ หิ เอสา พฺยฺชเนกเทสวเสเนว ปวตฺติยา อปริปุณฺณพฺยฺชนาติ กตฺวา ‘‘อพฺยฺชนา’’ติ วุจฺจติ. ภควา ปน –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหีตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑; ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) –

เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา ‘‘พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ เทเสตี’’ติ วุจฺจติ.

อิทานิ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ เอตฺถ เนตฺตินเยนปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺกาสนํ…เป… สพฺยฺชน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิปิ เนตฺติยํ ‘‘พฺยฺชนมุเขน พฺยฺชนตฺถคฺคหณํ โหตีติ อกฺขรํ ปท’’นฺติอาทินา พฺยฺชนปทานิ ปมํ อุทฺทิฏฺานิ, อิธ ปน ปาฬิยํ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติ อาคตตฺตา อตฺถปทานิเยว ปมํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺกาสนปกาสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺเขปโต กาสนํ ทีปนํ สงฺกาสนํ. กาสนนฺติ จ กาสียติ ทีปียติ วิภาวียตีติ อตฺโถ. ‘‘มฺมาโน โข ภิกฺขุ พทฺโธ มารสฺส อมฺมาโน มุตฺโต’’ติอาทีสุ วิย สงฺเขเปน ทีปนํ สงฺกาสนํ นาม. ตตฺตเกน หิ เตน ภิกฺขุนา ปฏิวิทฺธํ. เตนาห ‘‘อฺาตํ ภควา’’ติอาทิ. ปมํ กาสนํ ปกาสนํ. ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทีสุ ปจฺฉา กถิตพฺพมตฺถํ ปมํ วจเนน ทีปนํ ปกาสนํ นาม. อาทิกมฺมสฺมิฺหิ อยํ ป-สทฺโท ‘‘ปฺเปติ ปฏฺเปตี’’ติอาทีสุ วิย. ติกฺขินฺทฺริยาเปกฺขฺเจตํ ปททฺวยํ อุทฺเทสภาวโต. ติกฺขินฺทฺริโย หิ สงฺเขปโต ปมฺจ วุตฺตมตฺถํ ปฏิปชฺชติ. สํขิตฺตสฺส วิตฺถารวจนํ สกึ วุตฺตสฺส ปุน วจนฺจ วิวรณวิภชนานิ, ยถา ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ สงฺเขปโต สกึเยว จ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺต’’นฺติอาทินา วิตฺถารโต วิวรณวเสน วิภชนวเสน จ ปุน วจนํ. มชฺฌิมินฺทฺริยาเปกฺขเมตํ ปททฺวยํ นิทฺเทสภาวโต. วิวฏสฺส วิตฺถารตราภิธานํ วิภตฺตสฺส จ ปกาเรหิ าปนํ วิเนยฺยานํ จิตฺตปริโตสนํ อุตฺตานีกรณปฺาปนานิ, ยถา ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทินา วิวฏวิภตฺตสฺส อตฺถสฺส ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ? โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส ผุสนา สํผุสนา’’ติอาทินา อุตฺตานีกิริยา ปฺาปนา จ. มุทินฺทฺริยาเปกฺขเมตํ ปททฺวยํ ปฏินิทฺเทสภาวโต.

อถ วา ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวํ ปมํ ทีปิตมตฺถํ ปุน ปากฏํ กตฺวา ทีปเนน ‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ? จกฺขุ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา’’ติ เอวมาทินา สํขิตฺตสฺส วิตฺถาราภิธาเนน สกึ วุตฺตสฺส ปุนปิ อภิธาเนน วิตฺถาเรตฺวา เทสนํ วิวรณํ นาม. ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ สงฺเขเปน นิกฺขิตฺตสฺส ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ นิทฺเทสวเสน วิวริเต กุสเล ธมฺเม ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ เวทนา โหตี’’ติ วิภาคกรณํ วิภชนํ นาม. วิวฏสฺส วิตฺถาราภิธาเนน วิภตฺตสฺส จ อุปมาภิธาเนน อุตฺตานึ กโรตีติ วิวรเณน วิวริตตฺถสฺส ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ? โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส ผุสนา สํผุสนา’’ติ อติวิวริตฺวา กถนํ, วิภชเนน วิภตฺตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี นิจฺจมฺมา, เอวเมว ขฺวายํ ภิกฺขเว ผสฺสาหาโร ทฏฺพฺโพติ วทามี’’ติ เอวมาทิอุปมากถนฺจ อุตฺตานีกรณํ นาม. ธมฺมํ สุณนฺตานํ ธมฺมเทสเนน วิจิตฺเตน อเนกวิเธน โสมนสฺสสฺส อุปฺปาทนํ อติขิณพุทฺธีนํ อเนกวิเธน าณติขิณกรณฺจ ปฺตฺติ นาม โสตูนํ จิตฺตโตสเนน จิตฺตนิสาเนน จ ปฺาปนํ ปฺตฺตีติ กตฺวา. อตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถนฺติ ปริยตฺติอตฺถสฺส สงฺกาสนาทิอตฺถปทรูปตฺตา ยถาวุตฺตฉอตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถํ. สงฺกาสนปกาสนาทโย หิ อตฺถาการตฺตา ‘‘อตฺถปทานี’’ติ วุจฺจนฺติ. อตฺโถเยว หิ พฺยฺชนปเทหิ สงฺกาสียติ ปกาสียติ วิวรียติ วิภชียติ อุตฺตานี กรียติ ปฺาปียติ.

อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสสมฺปตฺติยาติ เอตฺถ ‘‘สฏฺิ วสฺสสหสฺสานี’’ติ เอวมาทีสุ ส-การ ทุ-การ โส-การาทิ วิย อุจฺจารณเวลาย อปริโยสิเต ปเท วณฺโณ อกฺขรํ ปริยายวเสน อกฺขรณโต อเววจนโต. น หิ วณฺณสฺส ปริยาโย วิชฺชติ. ยถา หิ ปทํ สเววจนตาย อตฺถวเสน ปริยายํ จรนฺตํ สฺจรนฺตํ วิย โหติ, น เอวํ วณฺโณ อเววจนตฺตา. เอกกฺขรํ วา ปทํ อกฺขรํ ‘‘มา เอวํ กิร ต’’นฺติอาทีสุ มา-การาทโย วิย. เกจิ ปน ‘‘ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธปโยคภาเวน วิสุทฺธกรณฏฺานานํ จิตฺเตน ปวตฺติตเทสนาวาจาหิ อกฺขรณโต อเววจนโต อกถิตตฺตา อกฺขรนฺติ สฺิตา. ตํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ มนสา ปุจฺฉิตปฺหานํ วเสน ภควตา รตนฆเร นิสีทิตฺวา สมฺมสิตปฏฺานมหาปกรณวเสน จ คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. วิภตฺติยนฺตํ อตฺถสฺส าปนโต ปทํ. ปชฺชติ อตฺโถ เอเตนาติ หิ ปทํ. ตํ นามปทํ อาขฺยาตปทํ อุปสคฺคปทํ นิปาตปทนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ ผสฺโส เวทนา จิตฺตนฺติ เอวมาทิกํ ทพฺพปธานํ นามปทํ. นามปเทหิ ทพฺพมาวิภูตรูปํ, กิริยา อนาวิภูตรูปา. ผุสติ เวทยติ วิชานาตีติ เอวมาทิกํ กิริยาปธานํ อาขฺยาตปทํ. อาขฺยาตปเทหิ กิริยา อาวิภูตรูปา, ทพฺพมนาวิภูตรูปํ. ยถา ‘‘จิรปฺปวาสิ’’นฺติ เอตฺถ ป-สทฺโท วสนกิริยาย วิโยควิสิฏฺตํ ทีเปติ, เอวํ กิริยาวิเสสทีปนโต กิริยาวิเสสาวโพธนิมิตฺตํ. ป-อิติ เอวมาทิกํ อุปสคฺคปทํ. กิริยาย ทพฺพสฺส จ สรูปวิเสสปฺปกาสนเหตุภูตํ เอวนฺติ เอวมาทิกํ นิปาตปทํ. ‘‘เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถา’’ติอาทีสุ หิ กิริยาวิเสสทีปนโต กิริยาวิเสสสฺส โชตโก เอวํสทฺโท, ‘‘เอวํสีลา เอวํธมฺมา’’ติอาทีสุ ทพฺพวิเสสสฺส. สงฺเขปโต วุตฺตํ ปทาภิหิตํ อตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ สงฺเขเปน กถิตมตฺถํ ‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริย, จิตฺต, วีมํสสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทินา ปากฏํ กโรตีติ วากฺยเมว พฺยฺชนํ, ตํ ปน อตฺถโต ปทสมุทาโยติ ทฏฺพฺพํ. สอาขฺยาตํ สนิปาตํ สการกํ สวิเสสนํ วากฺยนฺติ หิ วทนฺติ. นนุ จ ปเทนปิ อตฺโถ พฺยฺชียตีติ ปทมฺปิ พฺยฺชนนฺติ อาปชฺชตีติ? ตํ น. ปทมตฺตสวเนปิ หิ อธิการาทิวเสน ลพฺภมาเนหิ ปทนฺตเรหิ อนุสนฺธานํ กตฺวาว อตฺถสมฺปฏิปตฺติ โหตีติ วากฺยเมว อตฺถํ พฺยฺชยตีติ.

ปการโต วากฺยวิภาโค อากาโร. ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท? โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา’’ติ เอวมาทีสุ กถิตสฺเสว วากฺยสฺส อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตํ นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. ‘‘ผสฺโส เวทนา’’ติ เอวมาทีสุ อากาเรน กถิตํ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส, เวทยตีติ เวทนา’’ติ นีหริตฺวา วิตฺถารวจนํ นิรุตฺติ นาม. ‘‘นิพฺพานํ มคฺคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค’’ติอาทินา นิพฺพจนวิตฺถาโร นิรวเสสเทสนตฺตา นิทฺเทโส. อถ วา เวทยตีติ เวทนาติ นิพฺพจนลทฺธปเทสุ สุขทุกฺขอทุกฺขมสุขาสุ สุขยตีติ สุขา, ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, เนว ทุกฺขยติ น สุขยตีติ อทุกฺขมสุขาติ อตฺถวิตฺถาโร นิรวเสเสน กถิตตฺตา นิทฺเทโส นาม. เอเตสํ อกฺขราทีนํ พฺยฺชนปทานํ สมฺปตฺติยา สมฺปนฺนตาย สพฺยฺชนํ.

เอวํ ปนสฺส อตฺถปทสมาโยโค พฺยฺชนปทสมฺปตฺติ จ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺเปติ. ตถา หิ ปทาวยวคฺคหณมุเขน ปทคฺคหณํ, คหิเตน จ ปเทน ปทตฺถาวโพโธ คหิตปุพฺพสงฺเกตสฺส โหตีติ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ. ยสฺมา ปน อกฺขเรหิ สํขิตฺเตน ทีปิยมาโน อตฺโถ ปทปริโยสาเน วากฺยสฺส อปริโยสิตตฺตา ปเทน ปมํ ปกาสิโต ทีปิโต โหติ, ตสฺมา ปเทหิ ปกาเสติ. วากฺยปริโยสาเน ปน โส อตฺโถ วิวริโต วิวโฏ กโต โหตีติ พฺยฺชเนหิ วิวรติ. ยสฺมา จ ปกาเรหิ วากฺยเภเท กเต ตทตฺโถ วิภตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อากาเรหิ วิภชติ. ตถา วากฺยาวยวานํ ปจฺเจกํ นิพฺพจนวิภาเค กเต โส อตฺโถ ปากโฏ โหตีติ นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ. กตนิพฺพจเนหิ ปน วากฺยาวยเวหิ วิตฺถารวเสน นิรวเสสโต เทสิเตหิ เวเนยฺยานํ จิตฺตปริโตสนํ พุทฺธินิสานฺจ กตํ โหตีติ นิทฺเทเสหิ ปฺเปติ. อปิจ ภควา อกฺขเรหิ อุคฺฆเฏตฺวา ปเทหิ วิเนติ อุคฺฆฏิตฺุํ, พฺยฺชเนหิ วิปฺเจตฺวา อากาเรหิ วิเนติ วิปฺจิตฺุํ, นิรุตฺตีหิ เนตฺวา นิทฺเทเสหิ วิเนติ เนยฺยํ. เอวฺจายํ ธมฺโม อุคฺฆฏิยมาโน อุคฺฆฏิตฺุํ วิเนติ, วิปฺจิยมาโน วิปฺจิตฺุํ, นียมาโน เนยฺยํ. ตตฺถ อุคฺฆฏนา อาทิ, วิปฺจนา มชฺเฌ, นยนํ อนฺเต. เอวํ ตีสุ กาเลสุ ติธา เทสิโต โทสตฺตยวิธมโน คุณตฺตยาวโห ติวิธวิเนยฺยวินยโนติ เอวมฺปิ ติวิธกลฺยาโณยํ ธมฺโม อตฺถพฺยฺชนปาริปูริยา สาตฺโถ สพฺยฺชโนติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ เนตฺติปกรเณ (เนตฺติ. ๙) –

‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานึ กโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺเปติ. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏติ, พฺยฺชเนหิ จ อากาเรหิ จ วิปฺเจติ, นิรุตฺตีหิ จ นิทฺเทเสหิ จ วิตฺถาเรติ. ตตฺถ อุคฺฆฏนา อาทิ, วิปฺจนา มชฺเฌ, วิตฺถารนา ปริโยสานํ. โสยํ ธมฺมวินโย อุคฺฆฏิยนฺโต อุคฺฆฏิตฺุํ ปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ อาทิกลฺยาโณติ. วิปฺจิยนฺโต วิปฺจิตฺุํ ปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ มชฺเฌกลฺยาโณติ. วิตฺถาริยนฺโต เนยฺยํ ปุคฺคลํ วิเนติ, เตน นํ อาหุ ปริโยสานกลฺยาโณตี’’ติ.

อตฺถคมฺภีรตาติอาทีสุ อตฺโถ นาม ตนฺติอตฺโถ. ธมฺโม ตนฺติ. ปฏิเวโธ ตนฺติยา ตนฺติอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ. เทสนา นาม มนสา ววตฺถาปิตาย ตนฺติยา เทสนา. เต ปเนเต อตฺถาทโย ยสฺมา สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท มนฺทพุทฺธีหิ ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. อถ วา อตฺโถ นาม เหตุผลํ. ธมฺโม เหตุ. เทสนา ปฺตฺติ, ยถาธมฺมํ ธมฺมาภิลาโป. อนุโลมปฏิโลมสงฺเขปวิตฺถาราทิวเสน วา กถนํ. ปฏิเวโธ อภิสมโย, อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสุ, ธมฺมานุรูปํ อตฺเถสุ, ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสุ อวโพโธ. เตสํ เตสํ วา ธมฺมานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ ลกฺขณสงฺขาโต อวิปรีตสภาโว. เตปิ เจเต อตฺถาทโย ยสฺมา อนุปจิตกุสลสมฺภาเรหิ ทุปฺปฺเหิ สสาทีหิ วิย มหาสมุทฺโท ทุกฺโขคาหา อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จ, ตสฺมา คมฺภีรา. เตสุ ปฏิเวธสฺสปิ อตฺถสนฺนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถ’’นฺติ อตฺถคุณทีปนโต. ตาสํ ธมฺมเทสนานํ พฺยฺชนสนฺนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ สพฺยฺชน’’นฺติ ตาสํ พฺยฺชนสมฺปตฺติทีปนโต. อตฺเถสุ ปเภทคตํ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาสุ ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ อิมิสฺสาปิ ปฏิสมฺภิทาย อตฺถวิสยตฺตา อาห ‘‘อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยโต สาตฺถ’’นฺติ อตฺถสมฺปตฺติยา อสติ ตทภาวโต. ธมฺโมติ ตนฺติ. นิรุตฺตีติ ตนฺติปทานํ นิทฺธาเรตฺวา วจนํ. ตตฺถ ปเภทคตานิ าณานิ ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติ อาห ‘‘ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาวิสยโต สพฺยฺชน’’นฺติ อสติ พฺยฺชนสมฺปตฺติยา ตทภาวโต.

ปริกฺขกชนปฺปสาทกนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ปริกฺขกชนานํ กึกุสลคเวสีนํ ปสาทาวหํ, ตสฺมา สาตฺถํ. อตฺถสมฺปนฺนนฺติ ผเลน เหตุโน อนุมานํ นทีปูเรน วิย อุปริ วุฏฺิปวตฺติยา. สาตฺถกตา ปนสฺส ปณฺฑิตเวทนียตาย, สา ปรมคมฺภีรสณฺหสุขุมภาวโต เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘คมฺภีโร ทุทฺทโส’’ติอาทิ. โลกิยชนปฺปสาทกนฺติ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺมา โลกิยชนสฺส ปสาทาวหํ, ตสฺมา สพฺยฺชนํ. โลกิยชโน หิ พฺยฺชนสมฺปตฺติยา ตุสฺสติ. อิธาปิ ผเลน เหตุโน อนุมานํ. สพฺยฺชนตา ปนสฺส สทฺเธยฺยตาย, สา อาทิกลฺยาณาทิภาวโต เวทิตพฺพา. อถ วา ปณฺฑิตเวทนียโต สาตฺถนฺติ ปฺาปทฏฺานตาย อตฺถสมฺปนฺนตํ อาห, ตโต ปริกฺขกชนปฺปสาทกํ สทฺเธยฺยโต สพฺยฺชนนฺติ สทฺธาปทฏฺานตาย พฺยฺชนสมฺปนฺนตํ, ตโต โลกิยชนปฺปสาทตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. คมฺภีราธิปฺปายโต สาตฺถนฺติ อธิปฺปายโต อคาธาปารตาย อตฺถสมฺปนฺนํ อฺถา ตทภาวโต. อุตฺตานปทโต สพฺยฺชนนฺติ สุโพธสทฺทกตาย พฺยฺชนสมฺปนฺนํ ปรมคมฺภีรสฺสปิ อตฺถสฺส วิเนยฺยานํ สุวิฺเยฺยภาวาปาทนโต. สพฺโพเปส อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนนฺติ สพฺพปมํ วุตฺตสฺเสว อตฺถทฺวยสฺส ปปฺโจติ ทฏฺพฺโพ. ตถา เจว ตตฺถ ตตฺถ สํวณฺณิตํ. ตถา เหตฺถ วิกปฺปสฺส สมุจฺจยสฺส วา อคฺคหณํ. อุปเนตพฺพสฺส อภาวโตติ ปกฺขิปิตพฺพสฺส โวทานตฺถสฺส อวุตฺตสฺส อภาวโต. เกวลสทฺโท สกลาธิวจนนฺติ อาห ‘‘สกลปริปุณฺณภาเวนา’’ติ , สพฺพภาเคหิ ปริปุณฺณตายาติ อตฺโถ. อปเนตพฺพสฺสาติ สํกิเลสธมฺมสฺส.

พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ ปน อยํ พฺรหฺมจริย-สทฺโท ทาเน เวยฺยาวจฺเจ ปฺจสิกฺขาปทสีเล อปฺปมฺาสุ เมถุนวิรติยํ สทารสนฺโตเส วีริเย อุโปสถงฺเคสุ อริยมคฺเค สาสเนติ อิเมสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ,

กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เต นาคมหาวิมานํ.

‘‘อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก,

สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ,

สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ,

ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เม ธีร มหาวิมาน’’นฺติ. –

อิมสฺมิฺหิ ปุณฺณกชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๑๕๙๒-๑๕๙๓, ๑๕๙๕) ทานํ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตํ.

‘‘เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.

‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ. –

อิมสฺมึ องฺกุรเปตวตฺถุมฺหิ (เป. ว. ๒๗๕, ๒๗๗) เวยฺยาวจฺจํ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ โข ตํ ภิกฺขเว ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสี’’ติ (จูฬว. ๓๑๑) อิมสฺมึ ติตฺติรชาตเก ปฺจสิกฺขาปทสีลํ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตํ โข ปน เม ปฺจสิข พฺรหฺมจริยํ เนว นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา’’ติ อิมสฺมึ มหาโควินฺทสุตฺเต (ที. นิ. ๒.๓๒๙) จตสฺโส อปฺปมฺาโย ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตา. ‘‘ปเร อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’’ติ อิมสฺมึ สลฺเลขสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๘๓) เมถุนวิรติ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตา.

‘‘มยฺจ ภริยา นาติกฺกมาม,

อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;

อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,

ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. –

มหาธมฺมปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๙๗) สทารสนฺโตโส ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺโต. ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, จตุรงฺคสมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ จริตา, ตปสฺสี สุทํ โหมี’’ติ โลมหํสนสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๕๕) วีริยํ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตํ.

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. –

เอวํ (ชา. ๒.๒๒.๔๒๙) นิมิชาตเก อตฺตทมนวเสน กโต อฏฺงฺคิโก อุโปสโถ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺโต. ‘‘อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย…เป… อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ มหาโควินฺทสุตฺตสฺมึเยว (ที. นิ. ๒.๓๒๙) อริยมคฺโค ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺโต. ‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาวเทว มนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ ปาสาทิกสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๗๔) สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สกลสาสนํ ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิมฺปิ าเน อิทเมว ‘‘พฺรหฺมจริย’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สิกฺขตฺตยปริคฺคหิตตฺตา’’ติอาทิ. เสฏฺเหีติ พุทฺธาทีหิ เสฏฺเหิ. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ วา จริยํ พฺรหฺมจริยํ.

สนิทานนฺติ เหฏฺา วุตฺตลกฺขเณน นิทาเนน สนิทานํ. สอุปฺปตฺติกนฺติ สอฏฺุปฺปตฺติกํ. เวเนยฺยานํอนุรูปโตติ เวเนยฺยานํ จริยาทิอนุรูปโต. อตฺถสฺสาติ เทสิยมานสฺส สีลาทิอตฺถสฺส. เหตุทาหรณยุตฺตโตติ ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว’’ติ จ อาทินา ตตฺถ ตตฺถ เหตุปมคฺคหเณน เหตุทาหรเณหิ ยุตฺตโต. สทฺธาปฏิลาเภนาติ ‘‘เต ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภนฺตี’’ติอาทินา วุตฺตสทฺธาปฏิลาเภน. ปฏิปตฺติยาติ สีลวิสุทฺธิยาทิสมฺมาปฏิปตฺติยา, ปฏิปตฺตินิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. อธิคมพฺยตฺติโตติ สจฺจปฺปฏิเวเธน อธิคมเวยฺยตฺติยสพฺภาวโต สาตฺถํ กปิลมตาทิ วิย ตุจฺฉํ นิรตฺถกํ อหุตฺวา อตฺถสมฺปนฺนนฺติ กตฺวา. ปริยตฺติยาติ ปริยตฺติธมฺมปริจเยน. อาคมพฺยตฺติโตติ ทุรกฺขาตธมฺเมสุ ปริจยํ กโรนฺตสฺส วิย สมฺโมหํ อชเนตฺวา พาหุสจฺจเวยฺยตฺติยสพฺภาวโต สพฺยฺชนํ. พฺยฺชนสมฺปตฺติยา หิ สติ อาคมพฺยตฺตีติ. สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธยุตฺตโตติ สีลาทีหิ ปฺจหิ ธมฺมโกฏฺาเสหิ อวิรหิตตฺตา. เกวลปริปุณฺณนฺติ อนวเสเสน สมนฺตโต ปุณฺณํ ปูริตํ. นิรุปกฺกิเลสโตติ ทิฏฺิมานาทิอุปกฺกิเลสาภาวโต. นิตฺถรณตฺถายาติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณาย. โลกามิสนิรเปกฺขโตติ กถฺจิปิ ตณฺหาสนฺนิสฺสยสฺส อนิสฺสยโต ปริสุทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย ‘‘อิมํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามี’’ติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข หิตผรเณน เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ, ตสฺมา ตสฺส เทสนา ปริสุทฺธาติ.

สาธูติ อยํ สทฺโท ‘‘สาธุ เม ภนฺเต ภควา สํขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๙๕) อายาจเน ทิสฺสติ. ‘‘สาธุ ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) สมฺปฏิจฺฉเน. ‘‘สาธุ สาธุ สาริปุตฺตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๔๙) สมฺปหํสเน. ‘‘เตน หิ พฺราหฺมณ สาธุกํ สุโณหี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๕.๑๙๒) ทฬฺหีกมฺเม อาณตฺติยฺจ ทิสฺสติ.

‘‘สาธุ ธมฺมรุจิ ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;

สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุข’’นฺติ. –

อาทีสุ (ชา. ๒.๑๘.๑๐๑) สุนฺทเร. อิธาปิ สุนฺทเรเยว ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปนา’’ติ. ตตฺถ สุนฺทรนฺติ ภทฺทกํ. ภทฺทกตา จ ปสฺสนฺตสฺส หิตสุขาวหภาเวนาติ อาห ‘‘อตฺถาวหํ สุขาวห’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถาวหนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถสฺิตหิตาวหํ. สุขาวหนฺติ ยถาวุตฺตติวิธสุขาวหํ. ตถารูปานนฺติ ตาทิสานํ . ยาทิเสหิ ปน คุเณหิ ภควา สมนฺนาคโต, เตหิ จตุปฺปมาณิกสฺส โลกสฺส สพฺพกาเลปิ อจฺจนฺตาย ปสาทนีโย เตสํ ยถาภูตสภาวตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถารูโป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภุจฺจ…เป… อรหตนฺติ อิมินา ธมฺมปฺปมาณานํ ลูขปฺปมาณานฺจ สตฺตานํ ภควโต ปสาทาวหตํ ทสฺเสติ, ตํทสฺสเนน จ อิตเรสมฺปิ รูปปฺปมาณโฆสปฺปมาณานํ ปสาทาวหตา ทสฺสิตา โหตีติ ทฏฺพฺพํ ตทวินาภาวโต. พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโตติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธติ อาห ‘‘ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอวมชฺฌาสยํ กตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ เอตฺถ โกสิยสกุณวตฺถุ กเถตพฺพํ.

. เยน วา การเณนาติ เหตุมฺหิ อิทํ กรณวจนํ. เหตุอตฺโถ หิ กิริยาการณํ, น กรณํ วิย กิริยตฺโถ, ตสฺมา นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมตฺถา อิธ อุปสงฺกมนกิริยาติ ‘‘อนฺเนน วสตี’’ติอาทีสุ วิย เหตุอตฺถเมเวตํ กรณวจนํ ยุตฺตํ, น กรณตฺถํ ตสฺส อยุชฺชมานตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘เยน วา การเณนา’’ติ. อวิภาคโต หิ สตตปฺปวตฺตนิรติสยสาทุวิปุลามตรสสทฺธมฺมผลตายสฺส สาทุผลนิจฺจผลิตมหารุกฺเขน ภควา อุปมิโต. สาทุผลูปโภคาธิปฺปายคฺคหเณเนว หิ มหารุกฺขสฺส สาทุผลตา คหิตาติ. อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกมนฺโต. สมฺปตฺตกามตาย หิ กิฺจิ านํ คจฺฉนฺโต ตํตํปเทสาติกฺกมเนน อุปสงฺกมิ อุปสงฺกมนฺโตติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. เตนาห ‘‘คโตติ วุตฺตํ โหตี’’ติ, อุปคโตติ อตฺโถ. อุปสงฺกมิตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโสติ อาห ‘‘อุปสงฺกมนปริโยสานทีปน’’นฺติ. ตโตติ ยํ านํ ปตฺโต อุปสงฺกมีติ วุตฺโต, ตโต อุปคตฏฺานโต. อาสนฺนตรํ านนฺติ ปฺหํ วา ปุจฺฉิตุํ ธมฺมํ วา โสตุํ สกฺกุเณยฺยฏฺานํ.

ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโตติ ยถา ภควา ‘‘กจฺจิ เต พฺราหฺมณ ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต เตน พฺราหฺมเณน สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสิ. ปุพฺพภาสิตาย ตทนุกรเณน เอวํ โสปิ พฺราหฺมโณ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมโท อโหสีติ โยชนา. ตํ ปน สมปฺปวตฺตโมทตํ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘สีโตทกํ วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมฺโมทิตนฺติ สํสนฺทิตํ. เอกีภาวนฺติ สมฺโมทนกิริยาย สมานตํ เอกรูปตํ. ขมนียนฺติ ‘‘อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ทุกฺขพหุลตาย สภาวโต ทุสฺสหํ, กจฺจิ ขมิตุํ สกฺกุเณยฺยนฺติ ปุจฺฉติ. ยาปนียนฺติ ปจฺจยายตฺตวุตฺติกํ จิรปฺปพนฺธสงฺขาตาย ยาปนาย กจฺจิ ยาเปตุํ สกฺกุเณยฺยํ. สีสโรคาทิอาพาธาภาเวน กจฺจิ อปฺปาพาธํ. ทุกฺขชีวิกาภาเวน กจฺจิ อปฺปาตงฺกํ. ตํตํกิจฺจกรเณ อุฏฺานสุขตาย กจฺจิ ลหุฏฺานํ. ตทนุรูปพลโยคโต กจฺจิ พลํ. สุขวิหารสมฺภเวน กจฺจิ ผาสุวิหาโร อตฺถีติ ตตฺถ ตตฺถ กจฺจิสทฺทํ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ . พลปฺปตฺตา ปีติ ปีติเยว. ตรุณปีติ ปาโมชฺชํ. สมฺโมทํ ชเนติ กโรตีติ สมฺโมทนิกํ, ตเทว สมฺโมทนียนฺติ อาห ‘‘สมฺโมทชนนโต’’ติ. สมฺโมทิตพฺพโต สมฺโมทนียนฺติ อิทํ ปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต’’ติ อาห. สริตพฺพภาวโตติ อนุสฺสริตพฺพภาวโต. ‘‘สรณีย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา ‘‘สารณีย’’นฺติ วุตฺตํ. สุยฺยมานสุขโตติ อาปาถมธุรตมาห. อนุสฺสริยมานสุขโตติ วิมทฺทรมณียตํ. พฺยฺชนปริสุทฺธตายาติ สภาวนิรุตฺติภาเวน ตสฺสา กถาย วจนจาตุริยมาห. อตฺถปริสุทฺธตายาติ อตฺถสฺส นิรุปกฺกิเลสตํ. อเนเกหิ ปริยาเยหีติ อเนเกหิ การเณหิ.

อติทูรอจฺจาสนฺนปฏิกฺเขเปน นาติทูรนาจฺจาสนฺนํ นาม คหิตํ, ตํ ปน อวกํสโต อุภินฺนํ ปสาริตหตฺถาสงฺฆฏฺฏเนน ทฏฺพฺพํ. คีวํ ปสาเรตฺวาติ คีวํ ปริวตฺตนวเสน ปสาเรตฺวา. เมติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘มยา สุต’’นฺติ. ชาติพฺราหฺมเณติ ชาติยา พฺราหฺมเณ, น พาหิตปาปตายาติ วุตฺตํ โหติ. ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อาปาทิเตติ ขณฺฑิตทนฺตปลิตเกสาทิภาวํ สมฺปาปิเต. วุฑฺฒิมริยาทปฺปตฺเตติ วุฑฺฒิปริจฺเฉทํ สมฺปตฺเต, วุฑฺฒิปริยนฺตปฺปตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. ชาติมหลฺลกตายาติ อุปฺปตฺติยา มหลฺลกภาเวน. มหตฺตํ ลาติ คณฺหาตีติ มหลฺลโก, ชาติยา มหลฺลโก, น วิภวาทินาติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธานนฺติ ทีฆกาลํ. กิตฺตโก ปน โสติ อาห ‘‘ทฺเว ตโย ราชปริวฏฺเฏ’’ติ, ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ราชูนํ รชฺชปสาสนปฏิปาฏิโยติ อตฺโถ. ‘‘อทฺธคเต’’ติ วตฺวา กถํ วโยคหณํ โอสานวยาเปกฺขนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺเต’’ติ. ปจฺฉิโม ตติยภาโคติ สตฺตสฏฺิโต ปฏฺาย ปจฺฉิมวโย โกฏฺาโส.

ทุติเย อตฺถวิกปฺเป ชิณฺเณติ นายํ ชิณฺณตา วโยมตฺเตน, อถ โข กุลปริวฏฺเฏน ปุราณตายาติ อาห ‘‘ชิณฺเณติ โปราเณ’’ติอาทิ. เตน เตสํ พฺราหฺมณานํ กุลวเสน อุทิโตทิตภาวมาห. ‘‘วโยอนุปฺปตฺเต’’ติ อิมินา ชาติวุฑฺฒิยา วกฺขมานตฺตา คุณวุฑฺฒิยา ตโต สาติสยตฺตา จ ‘‘วุฑฺเฒติ สีลาจาราทิคุณวุฑฺฒิยุตฺเต’’ติ อาห. ตถา ชาติมหลฺลกตายปิ เตเนว วกฺขมานตฺตา มหลฺลเกติ ปเทน วิภวมหตฺตตา โยชิตา. มคฺคปฏิปนฺเนติ พฺราหฺมณานํ ปฏิปตฺติวิธึ อุปคเต ตํ อโวกฺกมฺม จรณโต. อนฺติมวยนฺติ ปจฺฉิมวยํ.

ปจฺจุฏฺานํ นาม อาสนา วุฏฺานนฺติ อาห ‘‘นาสนา วุฏฺหตี’’ติ, นิสินฺนาสนโต น วุฏฺาตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ชิณฺเณ…เป… วโยอนุปฺปตฺเตติ อุปโยควจนํ อาสนา วุฏฺานกิริยาเปกฺขํ น โหติ, ตสฺมา ชิณฺเณ…เป… วโยอนุปฺปตฺเต ทิสฺวาติ อชฺฌาหารํ กตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อถ วา ปจฺจุคฺคมนกิริยาเปกฺขํ อุปโยควจนํ, ตสฺมา น ปจฺจุฏฺเตีติ อุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนํ น กโรตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺจุคฺคมนมฺปิ หิ ปจฺจุฏฺานนฺติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อาจริยํ ปน ทูรโตว ทิสฺวา ปจฺจุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนกรณํ ปจฺจุฏฺานํ นามา’’ติ. นาสนา วุฏฺาตีติ อิมินา ปน ปจฺจุคฺคมนาภาวสฺส อุปลกฺขณมตฺตํ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิภาวเน นาม อตฺเถติ ปกติวิภาวนสงฺขาเต อตฺเถ, น อภิวาเทติ วาติ น อภิวาเทตพฺพนฺติ สลฺลกฺเขตีติ วุตฺตํ โหติ.

ตํ อฺาณนฺติ ‘‘อยํ มม อภิวาทนาทีนิ กาตุํ อรหรูโป น โหตี’’ติ อชานนวเสน ปวตฺตํ อฺาณํ. โอโลเกนฺโตติ ‘‘ทุกฺขํ โข อคารโว วิหรติ อปฺปติสฺโส, กึ นุ โข อหํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา สกฺกเรยฺยํ, ครุํ กเรยฺย’’นฺติอาทิสุตฺตวเสน (อ. นิ. ๔.๒๑) าณจกฺขุนา โอโลเกนฺโต. นิปจฺจการารหนฺติ ปณิปาตารหํ. สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต, ชาตสมนนฺตรเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตเรน มุโขติ อุตฺตราภิมุโข, อุตฺตรทิสาภิมุโขติ วุตฺตํ โหติ. สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา สกลํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกสินฺติ อิทํ ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, สมฺปติชาโต โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน สพฺพา ทิสา วิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสตี’’ติ เอวํ ปาฬิยํ (ที. นิ. ๒.๓๑) สตฺตปทวีติหารูปริฏฺิตสฺส วิย สพฺพทิสานุวิโลกนสฺส กถิตตฺตา วุตฺตํ, น ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, สตฺตปทวีติหารโต ปเคว ทิสาวิโลกนสฺส กตตฺตา. มหาสตฺโต หิ มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปุรตฺถิมทิสํ โอโลเกสิ, อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุํ. ตตฺถ เทวมนุสฺสา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา ‘‘มหาปุริส อิธ ตุมฺเหหิ สทิโสปิ นตฺถิ, กุโต อุตฺตริตโร’’ติ อาหํสุ. เอวํ จตสฺโส ทิสา จตสฺโส อนุทิสา เหฏฺา อุปรีติ ทสปิ ทิสา อนุวิโลเกตฺวา อตฺตโน สทิสํ อทิสฺวา ‘‘อยํ อุตฺตรา ทิสา’’ติ สตฺตปทวีติหาเรน อคมาสีติ เวทิตพฺโพ. โอโลเกสินฺติ มม ปุฺานุภาเวน โลกวิวรณปาฏิหาริเย ชาเต ปฺายมานํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ มํสจกฺขุนาว โอโลเกสินฺติ อตฺโถ.

มหาปุริโสติ ชาติโคตฺตกุลปฺปเทสาทิวเสน มหนฺตปุริโส. อคฺโคติ คุเณหิ สพฺพปธาโน. เชฏฺโติ คุณวเสเนว สพฺเพสํ วุฑฺฒตโม, คุเณหิ มหลฺลกตโมติ วุตฺตํ โหติ. เสฏฺโติ คุณวเสเนว สพฺเพสํ ปสตฺถตโม. อตฺถโต ปน ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปุริมสฺเสว เววจนานีติ เวทิตพฺพํ. ตยาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ. อุตฺตริตโรติ อธิกตโร. ปติมาเนสีติ ปูเชสิ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ. มยฺหํ อภิวาทนาทิรโห ปุคฺคโลติ มยฺหํ อภิวาทนาทิกิริยาย อรโห อนุจฺฉวิโก ปุคฺคโล. นิจฺจสาเปกฺขตาย ปเนตฺถ สมาโส ทฏฺพฺโพ. ตถาคตาติ ตถาคตโต, ตถาคตสฺส สนฺติกาติ วุตฺตํ โหติ. เอวรูปนฺติ อภิวาทนาทิสภาวํ. ปริปากสิถิลพนฺธนนฺติ ปริปาเกน สิถิลพนฺธนํ.

. ตํ วจนนฺติ ‘‘นาหํ ตํ พฺราหฺมณา’’ติอาทิวจนํ. ‘‘นาหํ อรสรูโป, มาทิสา วา อรสรูปา’’ติ วุตฺเต พฺราหฺมโณ ถทฺโธ ภเวยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตมุทุภาวชนนตฺถ’’นฺติ. อยฺหิ ปริยายสทฺโท เทสนาวารการเณสุ วตฺตตีติ เอตฺถ ปริยาเยติ เทเสตพฺพมตฺถํ อวคเมติ โพเธตีติ ปริยาโย, เทสนา. ปริยายติ อปราปรํ ปริวตฺเตตีติ ปริยาโย, วาโร. ปริยายติ อตฺตโน ผลํ ปริคฺคเหตฺวา วตฺตติ, ตสฺส วา การณภาวํ คจฺฉตีติ ปริยาโย, การณนฺติ เอวํ ปริยายสทฺทสฺส เทสนาวารการเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. อฺาย สณฺเหยฺยาติ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย. กตโม ปน โสติ ปริยายาเปกฺโข ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส, กตโม โส ปริยาโยติ อตฺโถ. ชาติวเสนาติ ขตฺติยาทิชาติวเสน. อุปปตฺติวเสนาติ เทเวสุ อุปปตฺติวเสน. เสฏฺสมฺมตานมฺปีติ อปิ-สทฺเทน ปเคว อเสฏฺสมฺมตานนฺติ ทสฺเสติ. อภินนฺทนฺตานนฺติ สปฺปีติกตณฺหาวเสน ปโมทมานานํ. รชฺชนฺตานนฺติ พลวราควเสน รชฺชนฺตานํ. รูปาทิปริโภเคน อุปฺปนฺนตณฺหายุตฺตโสมนสฺสเวทนา รูปโต นิพฺพตฺติตฺวา หทยตปฺปนโต อมฺพรสาทโย วิย ‘‘รูปรสา’’ติ วุจฺจนฺติ. อาวิฺฉนฺตีติ อากฑฺฒนฺติ. วตฺถารมฺมณาทิสามคฺคิยนฺติ วตฺถุอารมฺมณาทิการณสามคฺคิยํ. อนุกฺขิปนฺโตติ อตฺตุกฺกํสนวเสน กถิเต พฺราหฺมณสฺส อสปฺปายภาวโต อตฺตานํ อนุกฺขิปนฺโต อนุกฺกํเสนฺโต.

เอตสฺมึ ปนตฺเถ กรเณ สามิวจนนฺติ ‘‘ชหิตา’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถ. ตถาคตสฺสาติ กรเณ สามิวจนํ, ตถาคเตน ชหิตาติ อตฺโถ. มูลนฺติ ภวมูลํ. ‘‘ตาลวตฺถุวตฺถุกตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โอฏฺมุโข’’ติอาทีสุ วิย มชฺเฌปทโลปํ กตฺวา อการฺจ ทีฆํ กตฺวา ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา’’ติ. ตตฺถ ตาลสฺส วตฺถุ ตาลวตฺถุ. ยถา อารามสฺส วตฺถุภูตปุพฺโพ ปเทโส อารามสฺส อภาเว ‘‘อารามวตฺถู’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ตาลสฺส ปติฏฺิโตกาโส สมูลํ อุทฺธริเต ตาเล ปเทสมตฺเต ิเต ตาลสฺส วตฺถุภูตปุพฺพตฺตา ‘‘ตาลวตฺถู’’ติ วุจฺจติ. เนสนฺติ รูปรสาทีนํ. กถํ ปน ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. รูปาทิปริโภเคน อุปฺปนฺนตณฺหายุตฺตโสมนสฺสเวทนาสงฺขาตรูปรสาทีนํ จิตฺตสนฺตานสฺส อธิฏฺานภาวโต วุตฺตํ ‘‘เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต’’ติ. ตตฺถ ปุพฺเพติ ปุเร, สราคกาเลติ วุตฺตํ โหติ. ตาลาวตฺถุกตาติ วุจฺจนฺตีติ ตาลวตฺถุ วิย อตฺตโน วตฺถุสฺส กตตฺตา รูปรสาทโย ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอเตน ปหีนกิเลสานํ ปุน อุปฺปตฺติยา อภาโว ทสฺสิโต.

อวิรุฬฺหิธมฺมตฺตาติ อวิรุฬฺหิสภาวตาย. มตฺถกจฺฉินฺโน ตาโล ปตฺตผลาทีนํ อวตฺถุภูโต ตาลาวตฺถูติ อาห ‘‘มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย กตา’’ติ. เอเตน ‘‘ตาลาวตฺถุ วิย กตาติ ตาลาวตฺถุกตา’’ติ อยํ วิคฺคโห ทสฺสิโต. เอตฺถ ปน อวตฺถุภูโต ตาโล วิย กตาติ อวตฺถุตาลากตาติ วตฺตพฺเพ วิเสสนสฺส ปทสฺส ปรนิปาตํ กตฺวา ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิมินา ปนตฺเถน อิทํ ทสฺเสติ – รูปรสาทิวจเนน วิปากธมฺมธมฺมา หุตฺวา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนา กุสลากุสลธมฺมา คหิตา, เต อุปฺปนฺนาปิ มตฺถกสทิสานํ ตณฺหาวิชฺชานํ มคฺคสตฺเถน ฉินฺนตฺตา อายตึ ตาลปตฺตสทิเส วิปากกฺขนฺเธ นิพฺพตฺเตตุํ อสมตฺถา ชาตา, ตสฺมา ตาลาวตฺถุ วิย กตาติ ตาลาวตฺถุกตา รูปรสาทโยติ. อิมสฺมิฺหิ อตฺเถ ‘‘อภินนฺทนฺตาน’’นฺติ อิมินา ปเทน กุสลโสมนสฺสมฺปิ สงฺคหิตนฺติ วทนฺติ.

อนภาวํกตาติ เอตฺถ อนุ-สทฺโท ปจฺฉา-สทฺเทน สมานตฺโถติ อาห ‘‘ยถา เนสํ ปจฺฉาภาโว น โหตี’’ติอาทิ. อนุอภาวํ คตาติ ปจฺฉา อนุปฺปตฺติธมฺมตาวเสน อภาวํ คตา วินาสมุปคตา, ปหีนาติ อตฺโถ. ‘‘อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสู’’ติ (มหาว. ๗, ๘) เอตฺถ อนจฺฉริยสทฺทํ อุทาหรณวเสน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา อนุอจฺฉริยา อนจฺฉริยา’’ติ. ตตฺถ อนุอจฺฉริยาติ สวนกาเล อุปรูปริ วิมฺหยกราติ อตฺโถ.

ยฺจ โข ตฺวํ วเทสิ, โส ปริยาโย น โหตีติ ยํ วนฺทนาทิสามคฺคิรสาภาวสงฺขาตํ การณํ อรสรูปตาย วเทสิ, ตํ การณํ น โหติ, น วิชฺชตีติ อตฺโถ. นนุ จ พฺราหฺมโณ ยํ วนฺทนาทิสามคฺคิรสาภาวสงฺขาตํ ปริยายํ สนฺธาย ‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ อาห, โส ปริยาโย นตฺถีติ วุตฺเต วนฺทนาทีนิ ภควา กโรตีติ อาปชฺชตีติ อิมํ อนิฏฺปฺปสงฺคํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กสฺมา ปน ภควา เอวมาหา’’ติอาทิ.

. สพฺพปริยาเยสูติ สพฺพวาเรสุ. สนฺธาย ภาสิตมตฺตนฺติ ยํ สนฺธาย พฺราหฺมโณ ‘‘นิพฺโภโค ภวํ โคตโม’’ติอาทิมาห, ภควา จ ยํ สนฺธาย นิพฺโภคตาทึ อตฺตนิ อนุชานาติ, ตํ สนฺธาย ภาสิตมตฺตํ . ฉนฺทราคปริโภโคติ ฉนฺทราควเสน ปริโภโค. อปรํ ปริยายนฺติ อฺํ การณํ.

. กุลสมุทาจารกมฺมนฺติ กุลาจารสงฺขาตํ กมฺมํ, กุลจาริตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อกิริยนฺติ อกรณภาวํ. ทุฏฺุ จริตํ ทุจฺจริตํ, กายทฺวาเร พาหุลฺลวุตฺติโต กายโต ปวตฺตํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. ตํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารเจตนาเวทิตพฺพาติ เอตฺถ (อิติวุ. อฏฺ. ๗๔) ปาโณติ ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ, โวหารโต สตฺโต. ชีวิตินฺทฺริยฺเจตฺถ รูปารูปวเสน เวทิตพฺพํ. รูปชีวิตินฺทฺริเย หิ วิโกปิเต อิตรมฺปิ ตํสมฺพนฺธตาย วินสฺสติ. สตฺโตติ จ ขนฺธสนฺตาโน คเหตพฺโพ. ตตฺถ หิ สตฺตปฺตฺติ. สรเสเนว ปตนสภาวสฺส อนฺตรา เอว อตีว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ. อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต, ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถโต ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปโยคสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานมฺตรปฺปวตฺตา วธกเจตนา. ยาย หิ เจตนาย วตฺตมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส นิสฺสยภูเตสุ มหาภูเตสุ อุปกฺกมกรณเหตุกมหาภูตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกมหาภูตา นุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สา ตาทิสปฺปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปาณาติปาโต. ลทฺธุปกฺกมานิ หิ ภูตานิ อิตรภูตานิ วิย น วิสทานีติ สมานชาติยานํ การณานิ น โหนฺติ.

เอตฺถาห – ขเณ ขเณ นิรุชฺฌนสภาเวสุ สงฺขาเรสุ โก หนฺตา, โก วา หฺติ, ยทิ จิตฺตเจตสิกสนฺตาโน, โส อรูปตาย น เฉทนเภทนาทิวเสน วิโกปนสมตฺโถ, นปิ วิโกปนีโย. อถ รูปสนฺตาโน, โส อเจตนตาย กฏฺกลิงฺครูปโมติ น ตตฺถ เฉทนาทินา ปาณาติปาโต ลพฺภติ ยถา มตสรีเร. ปโยโคปิ ปาณาติปาตสฺส ปหรณปฺปหาราทิ อตีเตสุ วา สงฺขาเรสุ ภเวยฺย อนาคเตสุ วา ปจฺจุปฺปนฺเนสุ วา, ตตฺถ น ตาว อตีตานาคเตสุ สมฺภวติ เตสํ อภาวโต, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ จ สงฺขารานํ ขณิกตฺตา สรเสเนว นิรุชฺฌนสภาวตาย วินาสาภิมุเขสุ นิปฺปโยชโน ปโยโค สิยา, วินาสสฺส จ การณรหิตตฺตา น ปหรณปฺปหาราทิปฺปโยคเหตุกํ มรณํ, นิรีหกตาย จ สงฺขารานํ กสฺส โส ปโยโค, ขณิกตฺตา วธาธิปฺปายสมกาลภิชฺชนโต กสฺส กิริยา, ปริโยสานกาลานวฏฺานโต กสฺส วา ปาณาติปาตกมฺมพทฺโธติ?

วุจฺจเต – ยถาวุตฺตวธกเจตนาสหิโต สงฺขารานํ ปุฺโช สตฺตสงฺขาโต หนฺตา. เตน ปวตฺติตวธปฺปโยคนิมิตฺตํ อปคตุสฺมาวิฺาณชีวิตินฺทฺริโย มตโวหารปฺปวตฺตินิพนฺธโน ยถาวุตฺตวธปฺปโยคกรเณ อุปฺปชฺชนารโห รูปารูปธมฺมสมูโห หฺติ, เกวโล วา จิตฺตเจตสิกสนฺตาโน. วธปฺปโยคาวิสยภาเวปิ ตสฺส ปฺจโวการภเว รูปสนฺตานาธีนวุตฺติตาย รูปสนฺตาเน ปเรน ปโยชิตชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปโยควเสน ตนฺนิพฺพตฺติวินิพนฺธกวิสทิสรูปุปฺปตฺติยา วิหเต วิจฺเฉโท โหตีติ น ปาณาติปาตสฺส อสมฺภโว, นปิ อเหตุโก ปาณาติปาโต, น จ ปโยโค นิปฺปโยชโน. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ สงฺขาเรสุ กตปโยควเสน ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชนารหสฺส สงฺขารกลาปสฺส ตถา อนุปฺปตฺติโต ขณิกานํ สงฺขารานํ ขณิกมรณสฺส อิธ มรณภาเวน อนธิปฺเปตตฺตา สนฺตติมรณสฺส จ ยถาวุตฺตนเยน สเหตุกภาวโต น อเหตุกํ มรณํ, น จ กตฺตุรหิโต ปาณาติปาตปโยโค นิรีหเกสุปิ สงฺขาเรสุ สนฺนิหิตตามตฺเตน อุปการเกสุ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปผลุปฺปาทนิยเตสุ การเณสุ กตฺตุโวหารสิทฺธิโต ยถา ‘‘ปทีโป ปกาเสติ, นิสากโรว จนฺทิมา’’ติ. น จ เกวลสฺส วธาธิปฺปายสหภุโน จิตฺตเจตสิกกลาปสฺส ปาณาติปาโต อิจฺฉิตพฺโพ สนฺตานวเสน อวฏฺิตสฺเสว ปฏิชานนโต. สนฺตานวเสน วตฺตมานานฺจ ปทีปาทีนํ อตฺถกิริยา ทิสฺสตีติ อตฺเถว ปาณาติปาเตน กมฺมพทฺโธ. อยฺจ วิจาโร อทินฺนาทานาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ วิภาเวตพฺโพ.

โส (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๘๙; ธ. ส. อฏฺ. อกุสลกมฺมปถกถา) จ ปาณาติปาโต คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหนฺเต มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย, ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติปิ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.

กายวาจาหิ น ทินฺนนฺติ อทินฺนํ, ปรสนฺตกํ, ตสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ. ปรสฺสหรณํ เถยฺยํ, โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถโต ปน ปรปริคฺคเห ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานมฺตรทฺวารปฺปวตฺตา เถยฺยเจตนา. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ, ตํตํคุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.

มิจฺฉา จรณํ มิจฺฉาจาโร, เมถุนสมาจาเรสุ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. โส ปน ลกฺขณโต อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา. โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณวิรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา – อคมนียวตฺถุ, ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ, เสวนปโยโค, มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.

วจีทฺวาเร พาหุลฺลวุตฺติโต วาจโต ปวตฺตํ ทุจฺจริตนฺติ วจีทุจฺจริตํ. ตํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มุสาวาทปิสุณวาจาผรุสวาจาสมฺผปฺปลาปเจตนา เวทิตพฺพา’’ติ. ตตฺถ มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. มุสา วทียติ วุจฺจติ เอตายาติ มุสาวาโท, อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิจ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย นตฺถีติ อาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิฺาปนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยาสมุฏฺาปิกเจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ. ยสฺมา ปน ยถา กายกายปฏิพทฺธวาจาหิ ปรํ วิสํวาเทติ, ตถา ‘‘อิทมสฺส ภณาหี’’ติ อาณาเปนฺโตปิ, ปณฺณํ ลิขิตฺวา ปุรโต นิสฺสชฺชนฺโตปิ, ‘‘อยํ อตฺโถ เอวํ เวทิตพฺโพ’’ติ กุฏฺฏาทีสุ ลิขิตฺวา เปนฺโตปิ, ตสฺมา เอตฺถ อาณตฺติกนิสฺสคฺคิยถาวราปิ ปโยคา ยุชฺชนฺติ. อฏฺกถาสุ ปน อนาคตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา.

ปิสตีติ ปิสุณา, สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรตีติ อตฺโถ. นิรุตฺตินเยน วา ปิยสุฺกรณโต ปิสุณา. ยาย หิ วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ, ปรสฺส จ ปิยสุฺภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ลกฺขณโต ปน สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา ปิสุณํ วทติ เอตายาติ กตฺวา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา – ภินฺทิตพฺโพ ปโร, ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. ปเร ปน อภินฺเน กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ภินฺเน เอว โหติ.

ผรุสยตีติ ผรุสา, วาจา. ยาย หิ วาจาย อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ สิเนหาภาเวน ลูขํ กโรติ, สา ผรุสวาจา. อถ วา สยมฺปิ ผรุสา โทมนสฺสสมุฏฺิตตฺตา สภาเวนปิ กกฺกสา เนว กณฺณสุขา น หทยสุขาติ ผรุสวาจา. เอตฺถ ปน ปเรสํ มมฺมจฺเฉทนวเสน ปวตฺติยา เอกนฺตนิฏฺุรตาย สภาเวน การณโวหาเรน จ วาจาย ผรุสสทฺทปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา. ตํ ผรุสํ วทติ เอตายาติ ผรุสวาจา, ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสา เจตนา. ตสฺสา อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทารโก มาตุ วจนํ อนาทิยิตฺวา อรฺํ คจฺฉติ, ตํ มาตา นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘จณฺฑา ตํ มหึสี อนุพนฺธตู’’ติ อกฺโกสิ. อถสฺส ตเถว อรฺเ มหึสี อุฏฺาสิ. ทารโก ‘‘ยํ มม มาตา มุเขน กเถสิ, ตํ มา โหตุ. ยํ จิตฺเตน จินฺเตสิ, ตํ โหตู’’ติ สจฺจกิริยมกาสิ. มหึสี ตตฺเถว พทฺธา วิย อฏฺาสิ . เอวํ มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ, ยถา จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปน เอสา ผรุสวาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนาติ.

สํ สุขํ หิตฺจ ผลติ วิสรติ วินาเสตีติ สมฺผํ, อตฺตโน ปเรสฺจ อนุปการกํ ยํ กิฺจิ, สมฺผํ ปลปติ เอตายาติ สมฺผปฺปลาโป, อนตฺถวิฺาปิกกายวจีปโยคสมอุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา, ตถารูปีกถากถนฺจ. ปเร ปน ตํ กถํ อคณฺหนฺเต กมฺมปถเภโท นตฺถิ, ปเรน ปน สมฺผปฺปลาเป คหิเตเยว โหติ.

อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโยติ เอตฺถ ปรสมฺปตฺตึ อภิมุขํ ฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรสมฺปตฺตีสุ โลโภ. สา ปน ‘‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา – ปรภณฺฑํ, อตฺตโน ปริณามนฺจ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วต อิทํ มมสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.

หิตสุขํ พฺยาปาเทติ วินาเสตีติ พฺยาปาโท, ปฏิโฆ. โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ . โส ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ปรสตฺโต, ตสฺส จ วินาสนจินฺตา. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสนํ น จินฺเตติ.

ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. อปิจ อนิยตา อปฺปสาวชฺชา, นิยตา มหาสาวชฺชา. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – วตฺถุโน คหิตาการวิปรีตตา, ยถา จ ตํ คณฺหาติ, ตถาภาเวน ตสฺสุปฏฺานนฺติ. ตตฺถ นตฺถิกาเหตุกออริยทิฏฺีหิ เอว กมฺมปถเภโท โหติ.

‘‘อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติ สามฺวจเนปิ ปาริเสสายโต วุตฺตาวเสสา อกุสลา ธมฺมา คเหตพฺพาติ อาห ‘‘เปตฺวา เต ธมฺเม’’ติอาทิ. เต ยถาวุตฺตกายทุจฺจริตาทิเก อกุสลธมฺเม เปตฺวาติ อตฺโถ. อเนกวิหิตาติ อเนกปฺปการา.

. อยํ โลกตนฺตีติ อยํ วุฑฺฒานํ อภิวาทนาทิกิริยาลกฺขณา โลกปฺปเวณี. อนาคามิพฺรหฺมานํ อลงฺการาทีสุ อนาคามิภิกฺขูนฺจ จีวราทีสุ นิกนฺติวเสน ราคุปฺปตฺติ โหตีติ อนาคามิมคฺเคน ปฺจกามคุณิกราคสฺเสว ปหานํ เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณิกราคสฺสา’’ติ. รูปาทีสุ ปฺจสุ กามคุเณสุ วตฺถุกามโกฏฺาเสสุ อุปฺปชฺชมาโน ราโค ‘‘ปฺจกามคุณิกราโค’’ติ เวทิตพฺโพ. โกฏฺาสวจโน เหตฺถ คุณสทฺโท ‘‘วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๔) วิย. ทฺวีสุ อกุสลจิตฺเตสูติ โทมนสฺสสหคเตสุ ทฺวีสุ อกุสลจิตฺเตสุ. โมหสฺส สพฺพากุสลสาธารณตฺตา อาห ‘‘สพฺพากุสลสมฺภวสฺสา’’ติ. อวเสสานนฺติ สกฺกายทิฏฺิอาทีนํ.

. ชิคุจฺฉติ มฺเติ ‘‘อหมภิชาโต รูปวา ปฺวา, กถํ นาม อฺเสํ อภิวาทนาทึ กเรยฺย’’นฺติ ชิคุจฺฉติ วิย ชิคุจฺฉตีติ วา สลฺลกฺเขมิ. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเนาติ อฺาณสมฺภูตฏฺเน. อกุสเล ธมฺเม ชิคุจฺฉมาโน เตสํ สมงฺคีภาวมฺปิ ชิคุจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺตี’’ติ. สมาปตฺตีติ เอตสฺเสว เววจนํ สมาปชฺชนา สมงฺคิภาโวติ. มณฺฑนกชาติโยติ มณฺฑนสภาโว, มณฺฑนสีโลติ อตฺโถ. เชคุจฺฉิตนฺติ ชิคุจฺฉนสีลตํ.

. โลกเชฏฺกกมฺมนฺติ โลเก เชฏฺกานํ กตฺตพฺพกมฺมํ, โลเก วา เสฏฺสมฺมตํ กมฺมํ. ตตฺราติ ยถาวุตฺเตสุ ทฺวีสุปิ อตฺถวิกปฺเปสุ. ปทาภิหิโต อตฺโถ ปทตฺโถ, พฺยฺชนตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. วินยํ วา อรหตีติ เอตฺถ วินยนํ วินโย, นิคฺคณฺหนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นิคฺคหํ อรหตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. นนุ จ ปมํ วุตฺเตสุ ทฺวีสุปิ อตฺถวิกปฺเปสุ สกตฺเถ อรหตฺเถ จ ภทฺธิตปจฺจโย สทฺทลกฺขณโต ทิสฺสติ, น ปน ‘‘วินยาย ธมฺมํ เทเสตี’’ติ อิมสฺมึ อตฺเถ, ตสฺมา กถเมตฺถ ตทฺธิตปจฺจโยติ อาห ‘‘วิจิตฺรา หิ ตทฺธิตวุตฺตี’’ติ. วิจิตฺรตา เจตฺถ โลกปฺปมาณโต เวทิตพฺพา. ตถา หิ ยสฺมึ ยสฺมึ อตฺเถ ตทฺธิตปฺปโยโค โลกสฺส, ตตฺถ ตตฺถ ตทฺธิตวุตฺติ โลกโต สิทฺธาติ วิจิตฺรา ตทฺธิตวุตฺติ. ตสฺมา ยถา ‘‘มา สทฺทมกาสี’’ติ วทนฺโต ‘‘มาสทฺทิโก’’ติ วุจฺจติ, เอวํ วินยาย ธมฺมํ เทเสตีติ เวนยิโกติ วุจฺจตีติ อธิปฺปาโย.

. กปณปุริโสติ คุณวิรหิตตาย ทีนมนุสฺโส. พฺยฺชนานิ อวิจาเรตฺวาติ ติสฺสทตฺตาทิสทฺเทสุ วิย ‘‘อิมสฺมึ อตฺเถ อยํ นาม ปจฺจโย’’ติ เอวํ พฺยฺชนํ วิจารํ อกตฺวา, อนิปฺผนฺนปาฏิปทิกวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐. เทวโลกคพฺภสมฺปตฺติยาติ วตฺวา เปตฺวา ภุมฺมเทเว เสเสสุ เทเวสุ คพฺภคฺคหณสฺส อภาวโต ปฏิสนฺธิเยเวตฺถ คพฺภสมฺปตฺตีติ เวทิตพฺพาติ วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เทวโลกปฏิสนฺธิปฏิลาภาย สํวตฺตตี’’ติ. อสฺสาติ อภิวาทนาทิสามีจิกมฺมสฺส. มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ โทสํ ทสฺเสนฺโตติ มาติโต อปริสุทฺธภาวํ ทสฺเสนฺโต, อกฺโกสิตุกามสฺส ทาสิยา ปุตฺโตติ ทาสิกุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตภาเว โทสํ ทสฺเสตฺวา อกฺโกสนํ วิย ภควโต มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ โทสํ ทสฺเสตฺวา อกฺโกสนฺโตปิ เอวมาหาติ อธิปฺปาโย. คพฺภโตติ เทวโลกปฏิสนฺธิโต. เตเนวาห ‘‘อภพฺโพ เทวโลกูปปตฺตึ ปาปุณิตุนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ. หีโน วา คพฺโภ อสฺสาติ อปคพฺโภติ อิมสฺส วิคฺคหสฺส เอเกน ปริยาเยน อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เทวโลกคพฺภปริพาหิรตฺตา อายตึ หีนคพฺภปฏิลาภภาคีตี’’ติ. อิติ-สทฺทาเอ เหตุอตฺโถ, ยสฺมา อายติมฺปิ หีนคพฺภปฏิลาภภาคี, ตสฺมา หีโน วา คพฺโภ อสฺสาติ อปคพฺโภติ อธิปฺปาโย.

ปุน ตสฺเสว วิคฺคหสฺส โกธวเสน…เป… ทสฺเสนฺโตติ เหฏฺา วุตฺตนยสฺส อนุรูปํ กตฺวา อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หีโน วาสฺส มาตุกุจฺฉิสฺมึ คพฺภวาโส อโหสีติ อธิปฺปาโย’’ติ. คพฺภ-สทฺโท อตฺถิ มาตุกุจฺฉิปริยาโย ‘‘คพฺเภ วสติ มาณโว’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓) วิย . อตฺถิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตสตฺตปริยาโย ‘‘อนฺตมโส คพฺภปาตนํ อุปาทายา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๒๙) วิย. ตตฺถ มาตุกุจฺฉิปริยายํ คเหตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนาคเต คพฺภเสยฺยา’’ติ. คพฺเภ เสยฺยา คพฺภเสยฺยา. อนุตฺตเรน มคฺเคนาติ อคฺคมคฺเคน. กมฺมกิเลสานํ มคฺเคน วิหตตฺตา อาห ‘‘วิหตการณตฺตา’’ติ. อิตรา ติสฺโสปีติ อณฺฑชสํเสทชโอปปาติกา. เอตฺถ จ ยทิปิ ‘‘อปคพฺโภ’’ติ อิมสฺส อนุรูปโต คพฺภเสยฺยา เอว วตฺตพฺพา, ปสงฺคโต ปน ลพฺภมานํ สพฺพมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติปิ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

อิทานิ สตฺตปริยายสฺส คพฺภสทฺทสฺส วเสน วิคฺคหนานตฺตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ. อิมสฺมึ ปน วิกปฺเป คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ อุภยมฺปิ คพฺภเสยฺยวเสเนว วุตฺตนฺติปิ วทนฺติ. นนุ จ ‘‘อายตึ คพฺภเสยฺยา ปหีนา’’ติ (ปารา. ๑๐) วุตฺตตฺตา คพฺภสฺส เสยฺยา เอว ปหีนา, น ปน คพฺโภติ อาปชฺชตีติ อาห ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ. อถ ‘‘อภินิพฺพตฺตี’’ติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ปุนพฺภวคฺคหณํ กิมตฺถนฺติ อาห ‘‘อภินิพฺพตฺติ จ นามา’’ติอาทิ. อปุนพฺภวภูตาติ ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ธมฺมานํ อภินิพฺพตฺติ.

๑๑. ธมฺมธาตุนฺติ เอตฺถ ธมฺเม อนวเสเส ธาเรติ ยาถาวโต อุปธาเรตีติ ธมฺมธาตุ, ธมฺมานํ ยถาสภาวโต อวพุชฺฌนสภาโว, สพฺพฺุตฺาณสฺเสตํ อธิวจนํ. ปฏิวิชฺฌิตฺวาติ สจฺฉิกตฺวา, ปฏิลภิตฺวาติ อตฺโถ, ปฏิลาภเหตูติ วุตฺตํ โหติ. เทสนาวิลาสปฺปตฺโต โหตีติ รุจิวเสน ปริวตฺเตตฺวา เทเสตุํ สมตฺถตา เทสนาวิลาโส, ตํ ปตฺโต อธิคโตติ อตฺโถ. กรุณาวิปฺผารนฺติ สพฺพสตฺเตสุ มหากรุณาย ผรณํ. ตาทิคุณลกฺขณเมว ปุน อุปมาย วิภาเวตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปถวีสมจิตฺตต’’นฺติ. ยถา ปถวี สุจิอสุจินิกฺเขปเฉทนเภทนาทีสุ น วิกมฺปติ, อนุโรธวิโรธํ น ปาปุณาติ, เอวํ อิฏฺานิฏฺเสุ ลาภาลาภาทีสุ อนุโรธวิโรธปฺปหานโต อวิกมฺปิตจิตฺตตาย ปถวีสมจิตฺตตนฺติ อตฺโถ. อกุปฺปธมฺมตนฺติ เอตฺถ ‘‘อกุปฺปธมฺโม นาม ผลสมาปตฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘ปเรสุ ปน อกฺโกสนฺเตสุปิ อตฺตโน ปถวีสมจิตฺตตาลกฺขณํ อกุชฺฌนสภาวตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ’’ติ อมฺหากํ ขนฺติ. ชราย อนุสฏนฺติ ชราย ปลิเวิตํ. วฏฺฏขาณุภูตนฺติ อเนเกสํ อนยพฺยสนานํ นิปาตลกฺขณตฺถมฺภภูตตาย สํสารขาณุภูตํ. พฺราหฺมณสฺส วุฑฺฒตาย อาสนฺนวุตฺติมรณนฺติ สมฺภาวนวเสน ‘‘อชฺช มริตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มหนฺเตน โข ปน อุสฺสาเหนาติ ‘‘สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ เอวํ สฺชาตมหุสฺสาเหน. อปฺปฏิสมํ ปุเรชาตภาวนฺติ อนฺสาธารณํ ปุเรชาตภาวํ. นตฺถิ เอตสฺส ปฏิสโมติ อปฺปฏิสโม, ปุเรชาตภาโว.

‘‘อปี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปี’’ติ วทนฺโต ปิ-สทฺโทปิ วิสุํ อตฺถิ นิปาโตติ ทสฺเสติ. สมฺภาวนตฺเถติ ‘‘อปิ นาเมวํ สิยา’’ติ วิกปฺปนตฺโถ สมฺภาวนตฺโถ, ตสฺมึ โชตกตาย ปิสทฺโท วตฺตติ. วจนสิลิฏฺตายาติ วจนสฺส มธุรภาวตฺถํ, มุทุภาวตฺถนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ โลเก สิลิฏฺวจนํ โหตีติ เอวํ เอกเมว คณนํ อวตฺวา อปราย คณนาย สทฺธึ วจนํ โลเก สิลิฏฺวจนํ โหติ ยถา ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานี’’ติ. สมฺมา อธิสยิตานีติ ปาทาทีหิ อตฺตนา เนสํ กิฺจิ อุปฆาตํ อกโรนฺติยา พหิวาตาทิปริสฺสยปริหารตฺถํ สมฺมเทว อุปริ สยิตานิ. อุปริอตฺโถ เหตฺถ อธิ-สทฺโท. อุตุํ คณฺหาเปนฺติยาติ เตสํ อลฺลสิเนหปริยาทานตฺถํ อตฺตโน กายุสฺมาวเสน อุตุํ คณฺหาเปนฺติยา. เตนาห ‘‘อุสฺมีกตานี’’ติ. สมฺมา ปริภาวิตานีติ สมฺมเทว สพฺพโส กุกฺกุฏวาสนาย วาสิตานิ. เตนาห ‘‘กุกฺกุฏคนฺธํ คาหาปิตานี’’ติ.

เอตฺถ จ สมฺมา ปริเสทนํ กุกฺกุฏคนฺธปริภาวนฺจ สมฺมา อธิสยนนิปฺผตฺติยา อานุภาวนิปฺผาทิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมฺมา อธิสยเนเนว หิ อิตรทฺวยํ อิชฺฌติ . น หิ สมฺมา อธิสยนโต วิสุํ สมฺมา ปริเสทนสฺส สมฺมา ปริภาวนสฺส จ กรณํ อตฺถิ, เตน ปน สทฺธึเยว อิตเรสํ ทฺวินฺนมฺปิ อิชฺฌนโต วุตฺตํ ‘‘เอวํ ตีหิ ปกาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลิยมานานี’’ติ. นขสิขาติ นขคฺคานิ. มุขตุณฺฑกนฺติ มุขคฺคํ. กปาลสฺส ตนุกตฺตาติ เอตฺถ ยถา กปาลสฺส ตนุตา อาโลกสฺส อนฺโต ปฺายมานสฺส การณํ, ตถา กปาลสฺส ตนุตาย นขสิขามุขตุณฺฑกานํ ขรตาย จ อลฺลสิเนหปริยาทานํ การณวจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. สงฺกุฏิตหตฺถปาทาติ เอตฺถ หตฺถาติ ปกฺขา. น หิ กุกฺกุฏานํ ปกฺขโต อฺโ หตฺโถ นาม อตฺถิ. เอตฺถาติ อาโลกฏฺาเน. ปกฺเข วิธุนนฺตาติ ปกฺเข จาเลนฺตา. นิกฺขมนฺตานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, นิกฺขมนฺเตสูติ อตฺโถ.

โส เชฏฺโ อิติ อสฺส วจนีโยติ โย ปมตรํ อณฺฑโกสโต นิกฺขนฺโต กุกฺกุฏโปตโก, โสเยว เชฏฺโติ วจนีโย อสฺส, ภเวยฺยาติ อตฺโถ. สมฺปฏิปาเทนฺโตติ สํสนฺเทนฺโต. ติภูมกปริยาปนฺนาปิ สตฺตา อวิชฺชาโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺา ตตฺถ ตตฺถ อปฺปหีนาย อวิชฺชาย เวิตตฺตาติ อาห ‘‘อวิชฺชาโกสสฺส อนฺโต ปวิฏฺเสุ สตฺเตสู’’ติ. อณฺฑโกสนฺติ พีชกปาลํ. โลกสนฺนิวาเสติ โลโก เอว โลกสนฺนิวาโส. สมฺมาสมฺโพธินฺติ เอตฺถ สมฺมาติ อวิปรีตตฺโถ, สํ-สทฺโท สามนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ, ตสฺมา สมฺมา อวิปรีเตนากาเรน สยเมว จตฺตาริ สจฺจานิ พุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌตีติ สมฺมาสมฺโพธีติ มคฺโค วุจฺจติ. เตนาห ‘‘สมฺมา สามฺจ โพธิ’’นฺติ, สมฺมา สยเมว จ พุชฺฌนกนฺติ อตฺโถ. สมฺมาติ วา ปสตฺถวจโน, สํ-สทฺโท สุนฺทรวจโนติ อาห ‘‘อถ วา ปสตฺถํ สุนฺทรฺจ โพธิ’’นฺติ. โพธิสทฺทสฺส อเนกตฺถตํ ทสฺเสตฺวา อิธาธิปฺเปตมตฺถํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสตุกาโม อาห ‘‘โพธีติ รุกฺโขปิ มคฺโคปี’’ติอาทิ. ตตฺถ อพุชฺฌิ เอตฺถาติ รุกฺโข โพธิ. สยํ พุชฺฌติ, พุชฺฌนฺติ วา เตน อริยาติ มคฺโค โพธิ. สพฺพธมฺเม สพฺพาการโต พุชฺฌติ ปฏิวิชฺฌตีติ สพฺพฺุตฺาณํ โพธิ. พุชฺฌียติ สจฺฉิกรียตีติ นิพฺพานํ โพธิ. อนฺตรา จ โพธินฺติ ทุติยมุทาหรณํ วินาปิ รุกฺขสทฺเทน โพธิสทฺทสฺส รุกฺเข ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วรภูริเมธโสติ มหาปถวี วิย ปตฺถฏวรปฺโติ อตฺโถ. อสพฺพคุณทายกตฺตาติ สพฺพคุณานํ อทายกตฺตา. สพฺพคุเณ น ททาตีติ หิ อสพฺพคุณทายโก, อยุตฺตสมาโสยํ คมกตฺตา ยถา ‘‘อสูริยํปสฺสานิ มุขานี’’ติ.

ติสฺโส วิชฺชาติ อุปนิสฺสยวโต สเหว อรหตฺตผเลน ติสฺโส วิชฺชา เทติ. นนุ เจตฺถ ตีสุ วิชฺชาสุ อาสวกฺขยาณสฺส มคฺคปริยาปนฺนตฺตา กถเมตํ ยุชฺชติ ‘‘มคฺโค ติสฺโส วิชฺชา เทตี’’ติ? นายํ โทโส. สติปิ อาสวกฺขยาณสฺส มคฺคปริยาปนฺนภาเว อฏฺงฺคิเก มคฺเค สติ มคฺคาเณน สทฺธึ ติสฺโส วิชฺชา ปริปุณฺณา โหนฺตีติ ‘‘มคฺโค ติสฺโส วิชฺชา เทตี’’ติ วุจฺจติ. ฉ อภิฺาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สาวกปารมิาณนฺติ อคฺคสาวเกหิ ปฏิลภิตพฺพํ สพฺพเมว โลกิยโลกุตฺตราณํ. ปจฺเจกโพธิาณนฺติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อพฺภฺาสินฺติ ชานึ. ชานนฺจ น อนุสฺสวาทิวเสนาติ อาห ‘‘ปฏิวิชฺฌิ’’นฺติ, ปจฺจกฺขมกาสินฺติ อตฺโถ. ปฏิเวโธปิ น ทูเร ิตสฺส ลกฺขณปฺปฏิเวโธ วิยาติ อาห ‘‘ปตฺโตมฺหี’’ติ, ปาปุณินฺติ อตฺโถ. ปาปุณนฺจ น สยํ คนฺตฺวาติ อาห ‘‘อธิคโตมฺหี’’ติ, สกสนฺตาเน อุปฺปาทนวเสน ปฏิลภินฺติ อตฺโถ.

โอปมฺมสมฺปฏิปาทนนฺติ โอปมฺมตฺถสฺส อุปเมยฺเยน สมฺมเทว ปฏิปาทนํ. อตฺเถนาติ อุปเมยฺยตฺเถน. ยถา กุกฺกุฏิยา อณฺเฑสุ ติวิธกิริยากรณํ กุกฺกุฏจฺฉาปกานํ อณฺฑโกสโต นิกฺขมนสฺส มูลการณํ, เอวํ โพธิสตฺตภูตสฺส ภควโต ติวิธานุปสฺสนากรณํ อวิชฺชณฺฑโกสโต นิกฺขมนสฺส มูลการณนฺติ อาห ‘‘ยถา หิ ตสฺสา กุกฺกุฏิยา…เป… ติวิธานุปสฺสนากรณ’’นฺติ. ‘‘สนฺตาเน’’ติ วุตฺตตฺตา อณฺฑสทิสตา สนฺตานสฺส พหิ นิกฺขนฺตกุกฺกุฏจฺฉาปกสทิสตา พุทฺธคุณานํ, พุทฺธคุณาติ จ อตฺถโต พุทฺโธเยว ‘‘ตถาคตสฺส โข เอตํ, วาเสฏฺ, อธิวจนํ ธมฺมกาโย อิติปี’’ติ วจนโต. อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโวติ พลววิปสฺสนาวเสน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว, ปฏิจฺฉาทนสามฺเน จ อวิชฺชาย อณฺฑโกสสทิสตา. มุทุภูตสฺสปิ ขรภาวาปตฺติ โหตีติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ถทฺธขรภาโว’’ติ วุตฺตํ. ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโวติ เอตฺถ ปริคฺคยฺหมาเนสุ สงฺขาเรสุ วิปสฺสนาาณสฺส สมาธินฺทฺริยวเสน สุขานุปฺปเวโส ติกฺขตา, อนุปวิสิตฺวาปิ สตินฺทฺริยวเสน อนติกฺกมนโต อกุณฺตา ขรภาโว. ติกฺโขปิ หิ เอกจฺโจ สโร ลกฺขํ ปตฺวา กุณฺโ โหติ, น ตถา อิทํ. สติปิ ขรภาเว สุขุมปฺปวตฺติวเสน กิเลสสมุทาจารสงฺโขภรหิตตาย สทฺธินฺทฺริยวเสน ปสนฺนภาโว, สติปิ จ ปสนฺนภาเว อนฺตรา อโนสกฺกิตฺวา กิเลสปจฺจตฺถิกานํ สุฏฺุ อภิภวนโต วีริยินฺทฺริยวเสน สูรภาโว เวทิตพฺโพ. เอวมิเมหิ ปกาเรหิ สงฺขารุเปกฺขาาณเมว คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วิปสฺสนาาณสฺส ปริณามกาโลติ วิปสฺสนาย วุฏฺานคามินิภาวปฺปตฺติ, ตทา จ สา มคฺคาณคพฺภํ ธาเรนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘คพฺภคฺคหณกาโล’’ติ. คพฺภํ คณฺหาเปตฺวาติ สงฺขารุเปกฺขาย อนนฺตรํ สิขาปฺปตฺตอนุโลมวิปสฺสนาวเสน มคฺควิชายนตฺถํ คพฺภํ คณฺหาเปตฺวา. อนุปุพฺพาธิคเตนาติ ปมมคฺคปฏิปาฏิยา อธิคเตน. อภิฺาปกฺเขติ โลกิยาภิฺาปกฺเข. โลกุตฺตราภิฺา หิ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาลิตา. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘ฉอภิฺาปกฺเข’’ติ ลิขนฺติ, โส อปาโติ เวทิตพฺโพ. เชฏฺโ เสฏฺโติ วุทฺธตมตฺตา เชฏฺโ, สพฺพคุเณหิ อุตฺตมตฺตา ปสตฺถตโมติ เสฏฺโ.

อิทานิ ‘‘อารทฺธํ โข ปน เม พฺราหฺมณ วีริย’’นฺติอาทิกาย เทสนาย อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํ ภควา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปุพฺพภาคโต ปภุตีติ ภาวนาย ปุพฺพภาคิยวีริยารมฺภาทิโต ปฏฺาย. จิตฺตเมวมุปฺปนฺนนฺติ เอวํ อุปริ วกฺขมานปริวิตกฺกวเสน จิตฺตมุปฺปนฺนนฺติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺตเมว อุปฺปนฺน’’นฺติปิ ปาโ, ตตฺถ จิตฺตเมว อุปฺปนฺนํ, น ตาว ภควติ ปสาโทติ อตฺโถ. มุฏฺสฺสตินาติ วินฏฺสฺสตินา, สติวิรหิเตนาติ อตฺโถ. สารทฺธกาเยนาติ สทรถกาเยน. โพธิมณฺเฑติ โพธิสงฺขาตสฺส าณสฺส มณฺฑภาวปฺปตฺเต าเน. โพธีติ หิ ปฺา วุจฺจติ, สา เอตฺถ มณฺฑา ปสนฺนา ชาตาติ โส ปเทโส ‘‘โพธิมณฺโฑ’’ติ ปฺาโต. จตุรงฺคสมนฺนาคตนฺติ ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖) เอวํ วุตฺตจตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ. ตตฺถ ตโจติ เอกํ องฺคํ นฺหารุ เอกํ องฺคํ อฏฺิ เอกํ องฺคํ มํสโลหิตํ เอกํ องฺคนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโจ เอกํ องฺคนฺติ จ ตเจ นิรเปกฺขภาโว เอกํ องฺคนฺติ คเหตพฺพํ. ปธานํ อนุยุฺชนฺตสฺส หิ ตเจ ปลุชฺชมาเนปิ ตํนิมิตฺตํ อโวสานาปชฺชนํ ตสฺส วีริยสฺส เอกํ องฺคํ เอกํ การณํ. เอวํ เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปคฺคหิตนฺติ อารมฺภํ สิถิลํ อกตฺวา ทฬฺหปรกฺกมสงฺขาตุสฺสาหนภาเวน คหิตํ. เตนาห ‘‘อสิถิลปฺปวตฺติตนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

อสลฺลีนนฺติ อสงฺกุจิตํ โกสชฺชวเสน สงฺโกจํ อนาปนฺนํ. อุปฏฺิตาติ โอคาหนสงฺขาเตน อปิลาปภาเวน อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา ิตา. เตนาห ‘‘อารมฺมณาภิมุขีภาเวนา’’ติ. สมฺโมสสฺส วิทฺธํสนวเสน ปวตฺติยา น สมฺมุฏฺาติ อสมฺมุฏฺา. กิฺจาปิ จิตฺตปสฺสทฺธิวเสเนว จิตฺตเมว ปสฺสทฺธํ, กายปสฺสทฺธิวเสเนว จ กาโย ปสฺสทฺโธ โหติ, ตถาปิ ยสฺมา กายปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชมานา จิตฺตปสฺสทฺธิยา สเหว อุปฺปชฺชติ, น วินา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กายจิตฺตปสฺสทฺธิวเสนา’’ติ. กายปสฺสทฺธิยา อุภเยสมฺปิ กายานํ ปสฺสมฺภนาวหตฺตา วุตฺตํ ‘‘รูปกาโยปิ ปสฺสทฺโธเยว โหตี’’ติ. โส จ โขติ โส จ โข กาโย. วิคตทรโถติ วิคตกิเลสทรโถ. นามกาเย หิ วิคตทรเถ รูปกาโยปิ วูปสนฺตทรถปริฬาโห โหติ. สมฺมา อาหิตนฺติ นานารมฺมเณสุ วิธาวนสงฺขาตํ วิกฺเขปํ วิจฺฉินฺทิตฺวา เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ อวิกฺขิตฺตภาวาปาทเนน สมฺมเทว อาหิตํ ปิตํ. เตนาห ‘‘สุฏฺุ ปิต’’นฺติอาทิ. จิตฺตสฺส อเนกคฺคภาโว วิกฺเขปวเสน จฺจลตา, สา สติ เอกคฺคตาย น โหตีติ อาห ‘‘เอกคฺคํ อจลํ นิปฺผนฺทน’’นฺติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘อารทฺธํ โข ปนา’’ติอาทินา วีริยสติปสฺสทฺธิสมาธีนํ กิจฺจสิทฺธิทสฺสเนน.

นนุ จ สทฺธาปฺานมฺปิ กิจฺจสิทฺธิ ฌานสฺส ปุพฺพปฏิปทาย อิจฺฉิตพฺพาติ? สจฺจํ อิจฺฉิตพฺพา, สา ปน นานนฺตริกภาเวน อวุตฺตสิทฺธาติ น คหิตา. อสติ หิ สทฺธาย วีริยารมฺภาทีนํ อสมฺภโวเยว, ปฺาปริคฺคเห จ เนสํ อสติ ายารมฺภาทิภาโว น สิยา, ตถา อสลฺลีนาสมฺโมสตาทโย วีริยาทีนนฺติ อสลฺลีนตาทิคฺคหเณเนเวตฺถ ปฺากิจฺจสิทฺธิ คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ฌานภาวนายํ วา สมาธิกิจฺจํ อธิกํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ สมาธิปริโยสานาว ฌานสฺส ปุพฺพปฏิปทา กถิตาติ ทฏฺพฺพํ.

ปมชฺฌานกถา

อิทานิ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย ปาฬิยา ฌานวิภงฺเค (วิภ. ๕๐๘) วุตฺตมฺปิ อตฺถํ อฏฺกถานเยเนว สํวณฺเณตุกาโม วิภงฺคปาฬิยํ วุตฺตนเยน อวจเน การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปิ ตตฺถ กตเม กามา’’ติอาทิมาห . ตตฺถ ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท, ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, ตโตปิ พลวตโร พหลราโค ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนานิ สงฺกปฺเปติ เอเตนาติ สงฺกปฺโป, ตถาปวตฺโต โลโภ. ตตฺถ นิมิตฺตสงฺกปฺปนา นาม อวยเว สโมธาเนตฺวา ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติอาทินา เอกชฺฌํ กตฺวา อุปรูปริ กิเลสุปฺปตฺติยา นิมิตฺตสฺส กปฺปนา. อนุพฺยฺชนสงฺกปฺปนา ปน ‘‘หตฺถา โสภนา, ปาทา โสภนา’’ติ เอวํ อนุพฺยฺชนวเสน วิภชิตฺวา กปฺปนาติ. กิเลสานฺหิ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ปริพฺยฺชนโต ปริพฺยตฺติวเสน อุปฺปตฺติยา ปจฺจยภาวโต อนุพฺยฺชนํ หตฺถปาทาทิอวยวา วุจฺจนฺติ. ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, สงฺกปฺปวเสเนว ปวตฺโต ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโค. สฺวายํ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการวเสน อวตฺถาเภทวเสน จ เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘วจฺโฉ ทมฺโม พลีพทฺโท’’ติ. กามาติ กิเลสกามา, กาเมนฺตีติ กามา, กาเมนฺติ เอเตหีติ วา.

เสยฺยถิทนฺติ อิมสฺส ตํ กตมํ, ตํ กถนฺติ วา อตฺโถ. วิวิจฺจิตฺวาติ วิสุํ หุตฺวา. เตนาห ‘‘วินา หุตฺวา อปสกฺกิตฺวา’’ติ, ปชหนวเสน อปกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. วิวิจฺเจว กาเมหีติ เอตฺถ วิวิจฺจาติ อิมินา วิเวจนํ ฌานกฺขเณ กามานํ อภาวมตฺตํ วุตฺตํ. วิวิจฺเจวาติ ปน อิมินา เอกํสโต กามานํ วิเวเจตพฺพตาทีปเนน ตปฺปฏิปกฺขตา ฌานสฺส กามวิเวกปฺปหานสฺส จ ฌานาธิคมูปายตา ทสฺสิตา โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺติอาทึ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อนฺธกาเร สติ ปทีโป วิยาติ เอเตน ยถา ปทีปาภาเวน รตฺติยํ อนฺธการาภิภโว, เอวํ ฌานาภาเวน จิตฺตสนฺตติยํ กามาภิภโวติ ทสฺเสติ.

เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณวจนํ, น โข ปน เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘กาเมหิ เอวา’’ติ อวธารณสฺส อกตตฺตา. ตนฺนิสฺสรณโตติ นิสฺสรนฺติ นิคฺคจฺฉนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ นิสฺสรณํ. เก นิคฺคจฺฉนฺติ? กามา. เตสํ กามานํ นิสฺสรณํ ปหานํ ตนฺนิสฺสรณํ, ตโต กามนิสฺสรณโตติ อตฺโถ. กถํ ปน สมาเน วิกฺขมฺภเน กามานเมเวตํ นิสฺสรณํ, น พฺยาปาทาทีนนฺติ โจทนํ ยุตฺติโต อาคมโต จ สาเธตุํ ‘‘กามธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กามธาตุสมติกฺกมนโตติ สกลสฺสปิ กามภวสฺส สมติกฺกมปฏิปทาภาวโต. เตน อิมสฺส ฌานสฺส กามปริฺาภาวมาห . กามราคปฏิปกฺขโตติ ‘‘ฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) วุตฺตวิภาคสฺส กิเลสกามสฺส ปจฺจตฺถิกภาวโต. เตน ยถา เมตฺตา พฺยาปาทสฺส, กรุณา วิหึสาย, เอวมิทํ ฌานํ กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภูตนฺติ ทสฺเสติ. วิปาเกน เจตฺถ กามธาตุสมติกฺกโม อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ กามราคปฏิปกฺขตา จ เวทิตพฺพา. เอวมตฺตโน ปวตฺติยา วิปากปฺปวตฺติยา จ กามราคโต กามธาตุโต จ วินิวตฺตสภาวตฺตา อิทํ ฌานํ วิเสสโต กามานเมว นิสฺสรณํ, สฺวายมตฺโถ ปาาคโต เอวาติ อาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. เนกฺขมฺมนฺติ ปมชฺฌานํ.

กามฺเจตฺถ ตมตฺถํ ทีเปตุํ ปุริมปเทเยว อวธารณํ คหิตํ, อุตฺตรปเทปิ ปน ตํ คเหตพฺพเมว ตถา อตฺถสมฺภวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุตฺตรปเทปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิโตติ กามจฺฉนฺทโต. เอส ทฏฺพฺโพติ เอส นิยโม ทฏฺพฺโพ. สาธารณวจเนนาติ สพฺพวิเวกสาธารณวจเนน. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ตทงฺควิเวกาทโย. กายจิตฺตอุปธิวิเวกา กายวิเวกาทโย. ตโย เอว อิธ ทฏฺพฺพาติ ตโย เอว อิธ ฌานกถายํ ทฏฺพฺพา สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวโต. นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๑). ตตฺถ หิ ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา วตฺถุกามา กิเลสกามา จา’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ตตฺถ ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิยา รูปา…เป… มนาปิยา โผฏฺพฺพา’’ติอาทินา วตฺถุกามา นิทฺทิฏฺา. เต ปน กามียนฺตีติ กามาติ เวทิตพฺพา. ตตฺเถวาติ นิทฺเทเสเยว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. เอวฺหิ สตีติ เอวํ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ. วตฺถุกาเมหิปีติ วตฺถุกาเมหิ วิวิจฺเจวาติปิ อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวํ ยุชฺชมานตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺโถ ปิ-สทฺโท, น กิเลสกามสมุจฺจยตฺโถ. กสฺมา? อิมสฺมึ อตฺเถ กิเลสกาเมหิ วิเวกสฺส ทุติยปเทน วุตฺตตฺตา. เตนาติ วตฺถุกามวิเวเกน. กายวิเวโก วุตฺโต โหตีติ ปุตฺตทาราทิปริคฺคหวิเวกทีปนโต กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.

ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย. อิโต วา นิทฺธาริเต วิเวกทฺวเย, อกุสลสทฺเทน ยทิ กิเลสกามา, สพฺพากุสลาปิ วา คหิตา, สพฺพถา กิเลสกาเมหิ วิเวโก วุตฺโตติ อาห ‘‘ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต’’ติ. ทุติเยนาติ จ จิตฺตวิเวเกนาติ อตฺโถ. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตานํ ทฺวินฺนํ ปทานํ. นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. ตณฺหาทิสํกิเลสานํ วตฺถุโน ปหานํ สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ. โลลภาโว นาม ตตฺถ ตตฺถ รูปาทีสุ ตณฺหุปฺปาโท, ตสฺส เหตู วตฺถุกามา เอว เวทิตพฺพา. พาลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโคติ สมฺพนฺโธ. พาลภาโว นาม อวิชฺชา, ทุจินฺติตจินฺติตาทิ วา, ตสฺส อโยนิโสมนสิกาโร, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา เหตู. กามคุณาธิคมเหตุ ปาณาติปาตาทิอสุทฺธปฺปโยโค โหตีติ ตพฺพิเวเกน ปโยคสุทฺธิ วิภาวิตา. ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน วิวฏฺฏูปนิสฺสยสํวฑฺฒเนน จ อชฺฌาสยวิโสธนํ อาสยโปสนํ. อาสยโปสนนฺติ จ ฌานภาวนาย ปจฺจยภูตา ปุพฺพโยคาทิวเสน สิทฺธา อชฺฌาสยสมฺปทา , สา ปน ตณฺหุปตาปวิคเมน โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาสํกิเลสวิโสธเนนา’’ติ. กาเมสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.

อเนกเภโทติ กามาสวกามราคสํโยชนาทิวเสน รูปตณฺหาทิวเสน จ อเนกปฺปเภโท. กามจฺฉนฺโทเยวาติ กามสภาโวเยว ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท นปิ กุสลจฺฉนฺโทติ อธิปฺปาโย. อกุสลปริยาปนฺโนปีติ ‘‘วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตอกุสเลสุ อนฺโตคโธปิ. ฌานปฏิปกฺขโตติ ฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวโต ตํเหตุ ตํนิมิตฺตํ วิสุํ วุตฺโต, อกุสลภาวสามฺเน อคฺคเหตฺวา วิสุํ สรูเปน คหิโต. ยทิ กิเลสกาโมว ปุริมปเท วุตฺโต, ตํ กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘อเนกเภทโต’’ติอาทิ. อฺเสมฺปีติ ทิฏฺิมานอหิริกาโนตฺตปฺปาทีนํ ตํสหิตผสฺสาทีนฺจ. อุปริฌานงฺคปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทินา อุปริ วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ อุปริฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต ตปฺปจฺจนีกนีวรณวจนํ. ‘‘อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ อุปริ วุจฺจมานฌานงฺคานํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโตติ อตฺถํ วทนฺติ. ฌานงฺคปจฺจนีกานีติ ฌานงฺคานํ ปวตฺตินิวารณโต ฌานงฺคปจฺจนีกานิ. วิทฺธํสกานีติ วิฆาตกานิ. สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺสปฏิปกฺโขติ ราคปณิธิยา อุชุวิปจฺจนีกภาวโต นานารมฺมเณหิ ปโลภิตสฺส ปริพฺภมนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาธานโต กามจฺฉนฺทสฺส สมาธิ ปฏิปกฺโข. ปีติ พฺยาปาทสฺสาติ ปาโมชฺเชน สมานโยคกฺเขมตฺตา พฺยาปาทสฺส ปีติ ปฏิปกฺขา. วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺสาติ โยนิโส สงฺกปฺปนวเสน สวิปฺผารปฺปวตฺติโต วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส ปฏิปกฺโข. สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺสาติ สุขํ วูปสนฺตสีตลสภาวตฺตา อวูปสมานุตาปสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปฏิปกฺขํ. วิจาโร วิจิกิจฺฉายาติ วิจาโร อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปติรูปสภาวตฺตา วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข. มหากจฺจานตฺเถเรน เทสิตา ปิฏกานํ สํวณฺณนา เปฏกํ, ตสฺมึ เปฏเก.

ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺสาติ รูปาทิปฺจกามคุณวิเสสวิสยสฺส. อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานนฺติ พฺยาปาทวิเวกวจเนน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิอาฆาตวตฺถุเภทวิสยสฺส โทสสฺส, โมหาธิเกหิ ถินมิทฺธาทีหิ วิเวกวจเนน ปฏิจฺฉาทนวเสน ทุกฺขาทิปุพฺพนฺตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต. กามราคพฺยาปาทตเทกฏฺถินมิทฺธาทิวิกฺขมฺภกฺเจตํ สพฺพากุสลปฏิปกฺขสภาวตฺตา สพฺพกุสลานํ, เตน สภาเวน สพฺพากุสลปฺปหายกํ โหนฺตมฺปิ กามราคาทิวิกฺขมฺภนสภาวเมว โหติ ตํสภาวตฺตาติ อวิเสเสตฺวา นีวรณากุสลมูลาทีนํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ อาห.

ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานานํ สภาวธมฺมานํ นตฺถิ กาจิ วสวตฺติตาติ วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘วิตกฺกนํ วิตกฺโก’’ติ วุตฺตํ. วิตกฺกนนฺติ หิ วิตกฺกนกิริยา, สา จ วิตกฺกสฺส อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺติมตฺตเมวาติ ภาวนิทฺเทโส วสวตฺติภาวนิวารณาย โหติ. ตยิทํ วิตกฺกนํ ‘‘อีทิสมิท’’นฺติ อารมฺมณปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหนนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ยสฺมา จิตฺตํ วิตกฺกพเลน อารมฺมณํ อภินิรุฬฺหํ วิย โหติ, ตสฺมา โส อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขโณ วุตฺโต. ยถา หิ โกจิ ราชวลฺลภํ าตึ วา มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อาโรหติ อนุปวิสติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ยทิ เอวํ กถํ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหตีติ? วิตกฺกพเลเนว. ยถา หิ โส ปุริโส ปริจเยน เตน วินาปิ นิราสงฺโก ราชเคหํ ปวิสติ, เอวํ ปริจเยน วิตกฺเกน วินาปิ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ปริจเยนาติ จ สนฺตาเน ปวตฺตวิตกฺกภาวนาสงฺขาเตน ปริจเยน. วิตกฺกสฺส หิ สนฺตาเน อภิณฺหํ ปวตฺตสฺส วเสน จิตฺตสฺส อารมฺมณาภิรุหนํ จิรปริจิตํ, เตน ตํ กทาจิ วิตกฺเกน วินาปิ ตตฺถ ปวตฺตเตว. ยถา ตํ าณสหิตํ หุตฺวา สมฺมสนวเสน จิรปริจิตํ กทาจิ าณรหิตมฺปิ สมฺมสนวเสน ปวตฺตติ, ยถา วา กิเลสสหิตํ หุตฺวา ปวตฺตํ สพฺพโส กิเลสรหิตมฺปิ ปริจเยน กิเลสวาสนาวเสน ปวตฺตติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

อาหนนปริยาหนนรโสติ อาทิโต, อภิมุขํ วา หนนํ อาหนนํ. ปริโต, ปริวตฺติตฺวา วา อาหนนํ ปริยาหนนํ. ‘‘รูปํ รูปํ, ปถวี ปถวี’’ติ อาโกเฏนฺตสฺส วิย ปวตฺติ อาหนนํ ปริยาหนนนฺติ จ เวทิตพฺพํ. ยสฺมิฺหิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, ตํ ตสฺส คหณโยคฺยํ กโรนฺโต วิตกฺโก อาโกเฏนฺโต วิย โหติ. ยทิ เอวํ นาคเสนตฺเถเรน ‘‘อาโกฏนลกฺขโณ วิตกฺโก. ยถา, มหาราช, เภรี อาโกฏิตา อถ ปจฺฉา อนุรวติ อนุสทฺทายติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยถา อาโกฏนา, เอวํ วิตกฺโก ทฏฺพฺโพ. อถ ปจฺฉา อนุรวนา อนุสทฺทนา, เอวํ วิจาโร ทฏฺพฺโพ’’ติ อาโกฏนลกฺขณตา วิตกฺกสฺส กสฺมา วุตฺตา? นายํ วิโรโธ. เถเรน หิ กิจฺจสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา ลกฺขณํ วุตฺตํ. ธมฺมานฺหิ สภาววินิมุตฺตา กาจิ กิริยา นาม นตฺถิ ตถา คเหตพฺพากาโร จ. โพธเนยฺยชนานุโรเธน ปน ปรมตฺถโต เอกีภาโวปิ สภาวธมฺโม ปริยายวจเนหิ วิย สมาโรปิตรูเปหิ พหูหิ ปกาเรหิ ปกาสียติ. เอวฺหิ โส สุฏฺุ ปกาสิโต โหติ. อานยนปจฺจุปฏฺาโนติ เอตฺถ อานยนํ จิตฺเต อารมฺมณสฺส อุปนยนํ, อากฑฺฒนํ วา.

อนุสฺจรณํ อนุปริพฺภมนํ. สฺวายํ วิเสโส สนฺตานมฺหิ ลพฺภมาโน เอว สนฺตาเน ปากโฏ โหตีติ ทฏฺพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อนุมชฺชนนฺติ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อนุมสนํ, ปริมชฺชนนฺติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘วิจาโร ปริมชฺชนหตฺโถ วิย สฺจรณหตฺโถ วิยา’’ติ จ วุตฺโต. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานํ อนุโยชนํ อารมฺมเณ อนุวิจรณสงฺขาตอนุมชฺชนวเสเนว เวทิตพฺพํ. อนุปฺปพนฺธนํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อวิจฺฉินฺนสฺส วิย ปวตฺติ. ตถา หิ โส ‘‘อนุปฺปพนฺธนตา’’ติ นิทฺทิฏฺโ. เตเนว จ ‘‘ฆณฺฏานุรโว วิย, ปริพฺภมนํ วิยา’’ติ จ วุตฺโต. กตฺถจีติ ปมชฺฌาเน ปริตฺตจิตฺตุปฺปาเทสุ จ. โอฬาริกฏฺเนาติ วิจารโต โอฬาริกฏฺเน. ยถา ฆณฺฏาภิฆาตสทฺโท ปมาภินิปาโต โหติ, เอวํ อารมฺมณาภิมุขนิโรปนฏฺเน วิตกฺโก เจตโส ปมาภินิปาโต วิย โหตีติ อาห ‘‘ฆณฺฏาภิฆาตสทฺโท วิยา’’ติอาทิ. วิปฺผารวาติ เอตฺถ วิปฺผาโร นาม วิตกฺกสฺส ถินมิทฺธปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อโนลีนตา อสงฺโกโจ, โส ปน อภินิโรปนภาเวน จลนํ วิย โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺสา’’ติ. ปริพฺภมนํ วิยาติ เอตฺถ ปริสฺสยาภาววีมํสนตฺถํ ปริพฺภมนนฺติ เวทิตพฺพํ. ทุกนิปาตฏฺกถายํ ปน –

‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก, วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ –

วุตฺตํ, ตํ อนุปฺปพนฺธเนน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. ตถา หิ อุปจาเร วา อปฺปนายํ วา สนฺตาเนน ปวตฺติยํ วิตกฺโก นิจฺจโล หุตฺวา อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย ปวตฺตติ, น ปมาภินิปาเต ปากโฏ โหติ. ยถา หิ อปุพฺพารมฺมเณ ปมาภินิปาตภูโต วิตกฺโก วิปฺผารวา โหติ, น ตถา เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ นิรนฺตรํ อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺติยํ, นาติวิปฺผารวา ปน ตตฺถ โหติ สนฺนิสินฺนภาวโต. ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหตีติ วิตกฺกสฺส วิเสโส อภินิโรปนากาโร โอฬาริกตฺตา ปมชฺฌาเน ปากโฏ โหติ, ตทภาวโต ปฺจกนเย ทุติยชฺฌาเน วิจารสฺส วิเสโส อนุมชฺชนากาโร ปากโฏ โหติ.

อยํ ปเนตฺถ อปโร นโย – มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลเอฬกโลมาทิกตจุมฺพฏเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหํ คหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส ปิณฺฑสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ตสฺเสว อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กํสภาชนาทีสุ กิฺจิ มณฺฑลํ วฏฺฏเลขํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก, พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชโน วิจาโรติ เวทิตพฺพํ.

ยถา ปุปฺผผลสาขาทิอวยววินิมุตฺโต อวิชฺชมาโนปิ รุกฺโข ‘‘สปุปฺโผ สผโล’’ติ โวหรียติ, เอวํ วิตกฺกาทิองฺควินิมุตฺตํ อวิชฺชมานมฺปิ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ โวหรียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘รุกฺโข วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิภงฺเค ปนาติอาทีสุ ฌานภาวนาย ปุคฺคลวเสน เทเสตพฺพตฺตา ‘‘อิธ ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘) ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ฌานานิ อุทฺทิฏฺานีติ. ยทิปิ วิภงฺเค ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา, อตฺโถ ปน ตตฺราปิ วิภงฺเคปิ ยถา อิธ ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกนา’’ติอาทินา ธมฺมวเสน วุตฺโต, เอวเมว ทฏฺพฺโพ, ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺเสว อภาวโตติ อธิปฺปาโย. อถ วา ฌานสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารสมงฺคิตาทสฺสเนน ฌานสฺเสว สวิตกฺกสวิจารตา วุตฺตาติ อาห ‘‘อตฺโถ ปน ตตฺราปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ’’ติ.

วิเวกสทฺทสฺส ภาวสาธนตํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺมา วิเวกา’’ติ. เหตุอตฺเถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํ, ตสฺมา วิเวกา เหตุภูตาติ อตฺโถ. วิเวกสทฺทสฺส กตฺตุสาธนตํ กมฺมสาธนตํ วา สนฺธายาห ‘‘ตสฺมึ วา วิเวเก’’ติ. ‘‘วิวิตฺโต’’ติ หิ อิมินา นีวรเณหิ วินาภูโต เตหิ วิเวจิโตติ จ สาธนทฺวยมฺปิ สงฺคหิตเมวาติ. ปินยตีติ ตปฺเปติ วฑฺเฒติ วา. สมฺปิยายนลกฺขณาติ ปริตุสฺสนลกฺขณา. ปีนนรสาติ ปริพฺรูหนรสา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนรสา. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ. สุขยตีติ สุขํ, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม ลทฺธสฺสาเท กโรตีติ อตฺโถ. สฺวายํ กตฺตุนิทฺเทโส ปริยายลทฺโธ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุนิวตฺตนตฺโถ, นิปฺปริยาเยน ปน ภาวสาธนเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขนํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. สาตลกฺขณนฺติ อิฏฺสภาวตฺตา ตํสมงฺคีปุคฺคลํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม วา อตฺตนิ สาทยตีติ สาตํ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. สาตํ มธุรนฺติ วทนฺติ, สาตํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ สาตลกฺขณํ. อุปพฺรูหนรสนฺติอาทีสุ อุปพฺรูหนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สํวทฺธนํ, ทุกฺขํ วิย อวิสฺสชฺเชตฺวา อทุกฺขมสุขา วิย อนชฺฌุเปกฺขิตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ อุปการิตา วา อนุคฺคโห. กตฺถจีติ ปมชฺฌานาทิเก. ปฏิลาภตุฏฺีติ ปฏิลาภวเสน อุปฺปชฺชนกตุฏฺิ. ปฏิลทฺธรสานุภวนนฺติ ปฏิลทฺธสฺส อารมฺมณรสสฺส อนุภวนํ. เอเตน ปีติสุขานิ สภาวโต วิภชิตฺวา ทสฺสิตานิ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขนฺติ วิตกฺกสฺส วิย วิจาเรน ปีติยา สุเขน อจฺจนฺตสํโยคมาห. ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีตีติ วิจารสฺส วิย วิตกฺเกน, สุขสฺส ปีติยา อนจฺจนฺตสํโยคํ. เตน อจฺจนฺตานจฺจนฺตสํโยคิตาย ปีติสุขานํ วิเสสํ ทสฺเสติ.

กํ อุทกํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตารํ, นิรุทกมรุฏฺานํ. วนเมว วนนฺตํ. วนจฺฉายปฺปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขนฺติ ยถา หิ ปุริโส มหากนฺตารมคฺคํ ปฏิปนฺโน ฆมฺมปเรโต ตสิโต ปิปาสิโต ปฏิปเถ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘กตฺถ ปานียํ อตฺถี’’ติ ปุจฺเฉยฺย, โส ‘‘อฏวึ อุตฺตริตฺวาว ชาตสฺสรวนสณฺโฑ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา ลภิสฺสสี’’ติ วเทยฺย, โส ตสฺส กถํ สุตฺวาว หฏฺปหฏฺโ ภเวยฺย, ตโต คจฺฉนฺโต ภูมิยํ ปติตานิ อุปฺปลทลนาฬปตฺตาทีนิ ทิสฺวา สุฏฺุตรํ หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา คจฺฉนฺโต อลฺลวตฺเถ อลฺลเกเส ปุริเส ปสฺเสยฺย, วนกุกฺกุฏวนโมราทีนํ สทฺทํ สุเณยฺย, ชาตสฺสรปริยนฺเต ชาตมณิชาลสทิสํ นีลวนสณฺฑํ ปสฺเสยฺย, สเร ชาตานิ อุปฺปลปทุมกุมุทานิ ปสฺเสยฺย, อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อุทกมฺปิ ปสฺเสยฺย, โส ภิยฺโย ภิยฺโย หฏฺปหฏฺโ หุตฺวา ชาตสฺสรํ โอตริตฺวา ยถารุจิ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปสฺสทฺธทรโถ ภิสมุฬาลโปกฺขราทีนิ ขาทิตฺวา นีลุปฺปลาทีนิ ปิฬนฺธิตฺวา มนฺทาลวมูลานิ ขนฺเธ ขิปิตฺวา อุตฺตริตฺวา สาฏกํ นิวาเสตฺวา อุทกสาฏกํ อาตเป กตฺวา สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต นิปนฺโนว ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ วเทยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส หิ ปุริสสฺส ชาตสฺสรวนสณฺฑสวนโต ปฏฺาย ยาว อุทกทสฺสนา หฏฺปหฏฺกาโล วิย ปุพฺพภาคารมฺมเณ หฏฺปหฏฺาการา ปีติ, นฺหายิตฺวา จ ปิวิตฺวา จ สีตจฺฉายาย มนฺทมนฺเท วาเต ปหรนฺเต ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ วทนฺโต นิปนฺนกาโล วิย พลปฺปตฺตํ อารมฺมณรสานุภวนาการสณฺิตํ สุขํ.

ตสฺมึ ตสฺมึ สมเยติ อิฏฺารมฺมณสฺส ปฏิลาภสมเย ปฏิลทฺธสฺส รสานุภวนสมเย วนจฺฉายาทีนํ สวนทสฺสนสมเย ปริโภคสมเย จ. ปากฏภาวโตติ ยถากฺกมํ ปีติสุขานํ วิภูตภาวโต. วิเวกชํปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปุริมสฺมึ อตฺเถ วิเวกชนฺติ ฌานํ วุตฺตํ. ปีติสุขสทฺทโต จ อตฺถิอตฺถวิเสสวโต อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเนติ เอตฺถ อกาโร ทฏฺพฺโพ ยถา อริสโสติ. ทุติเย ปีติสุขเมว วิเวกชํ, วิเวกชํปีติสุขนฺติ จ อฺปทตฺถสมาโส ปจฺจตฺตนิทฺเทสสฺส จ อโลโป กโต, โลเป วา สติ ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ ปาโติ อยํ วิเสโส.

คณนานุปุพฺพโต ปมนฺติ อิมินา เทสนากฺกมํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘คณนานุปุพฺพตา ปม’’นฺติปิ ปาโ, ตตฺถาปิ คณนานุปุพฺพตายาติ อตฺโถ, คณนานุปุพฺพตามตฺตํ วา ปมนฺติ อิทํ วจนนฺติ อตฺโถ. ปมํ สมาปชฺชตีติ ปมนฺติ อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณํ. จิณฺณวสีภาโว หิ อฏฺสมาปตฺติลาภี อาทิโต ปฏฺาย มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, มตฺถกโต ปฏฺาย อาทึ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, อนฺตรนฺตรา โอกฺกมนฺโตปิ สกฺโกติ. เอวํ ปุพฺพุปฺปตฺติยฏฺเน ปน ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. เตเนว วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๗๕) ‘‘คณนานุปุพฺพตา ปมํ, ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปม’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ปจฺจนีกธมฺเม ฌาเปตีติ นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺเม ทหติ, วิกฺขมฺภนวเสน ปชหตีติ อตฺโถ. โคจรนฺติ กสิณาทิอาลมฺพนํ. นฺติ ตํ โคจรํ. อุปนิชฺฌายตีติ ปสฺสติ. สห อุปจาเรนาติ สทฺธึ อุปจารชฺฌาเนน. กสิณารมฺมณูปนิชฺฌายนโตติ ปถวีกสิณาทิโน อตฺตโน อารมฺมณสฺส รูปํ วิย จกฺขุนา อุปนิชฺฌายนโต. ลกฺขณูปนิชฺฌายนโตติ ยถาสมฺภวํ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยสฺส นิพฺพานธาตุยา ตถลกฺขณสฺส จ อุปนิชฺฌายนโต. เตเนวาห ‘‘เอตฺถ หี’’ติอาทิ. นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฺปหาเนน มคฺโค อสมฺโมหโต อนิจฺจาทิลกฺขณานิ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ อาห ‘‘วิปสฺสนาย อุปนิชฺฌายนกิจฺจ’’นฺติอาทิ. ตถลกฺขณนฺติ อวินาสธมฺมสฺส นิพฺพานสฺส อนฺถาภาวโต อวิปรีตสภาโว ตถลกฺขณํ, มคฺคสฺสปิ วา นิพฺพานารมฺมณโต ตถลกฺขณูปนิชฺฌานตา โยเชตพฺพา.

วิสทิโสทาหรณํ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา สธโน’’ติอาทิ. อฺโ อปเทสารโห โหตีติ ธนโต ปริชนโต จ อฺโ ธนวา ปริชนวา จ ปุริโส สห ธเนน วตฺตติ ปริชเนน จาติ สธโน สปริชโนติ อปเทสํ อรหตีติ อปเทสารโห โหติ , อปทิสิตพฺโพ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. เสนงฺเคสุ เอว เสนาสมฺมุตีติ รถาทิเสนงฺควินิมุตฺตาย เสนาย อภาเวปิ รเถหิ ปตฺตีหิ จ สห วตฺตนโต สรถา สปตฺติ เสนาติ รถาทิเสนงฺเคสุเยว เสนาโวหาโรติ อตฺโถ. กสฺมา ปเนตฺถ ฌานปาเ อคฺคหิตา จิตฺเตกคฺคตา คหิตาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘อวุตฺตตฺตา’’ติอาทิ. เอวํ วุตฺตาเยวาติ เอวํ สรูปโต วิภงฺเค วุตฺตาเยว. สจิตฺเตกคฺคตนฺติ อิธ อวุตฺเตปีติ ‘‘สจิตฺเตกคฺคต’’นฺติ เอวํ สรูปโต อิมสฺมึ ฌานปาเ อวุตฺเตปีติ อตฺโถ, สามฺโต ปน ฌานคฺคหเณน คหิตา เอว. เตเนวาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ . อิทํ วุตฺตํ โหติ – เยน วิตกฺกาทีหิ สห วตฺตพฺพํ, ตํ ธมฺมํ ทีเปตุํ ตสฺส ปกาสนาธิปฺปาเยน ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทินา อุทฺเทโส กโต, โส เอว อธิปฺปาโย เตน ภควตา วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๙) ‘‘จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ นิทฺทิสนฺเตน ปกาสิโต, ตสฺมา สา ฌานปาเ อคฺคหิตาติ น จินฺเตตพฺพนฺติ.

อุปสมฺปชฺชาติ เอตฺถ อุป-สํสทฺทา ‘‘อุปลพฺภตี’’ติอาทีสุ วิย นิรตฺถกาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปคนฺตฺวา’’ติอาทึ วตฺวา ปุน เตสํ สาตฺถกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปสมฺปาทยิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา อุปสมฺปชฺชาติ เอตฺถ ปตฺวา สาเธตฺวาติ วา อตฺโถ. อิริยนฺติ กิริยํ. วุตฺตินฺติอาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. เอกํ อิริยาปถพาธนํ อิริยาปถนฺตเรหิ รกฺขณํ ปาลนํ. สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณตฺตา อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานเมว วุตฺตํ. ตฺหิ สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณนฺติ วทนฺติ.

ปมชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ทุติยชฺฌานกถา

วูปสมาติ วูปสมเหตุ. วูปสโมติ เจตฺถ ปหานํ อธิปฺเปตํ, ตฺจ วิตกฺกวิจารานํ อติกฺกโม อตฺถโต ทุติยชฺฌานกฺขเณ อนุปฺปาโทติ อาห ‘‘สมติกฺกมา’’ติอาทิ. กตเมสํ ปเนตฺถ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อธิปฺเปโต, กึ ปมชฺฌานิกานํ, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกานนฺติ, กิฺเจตฺถ – ยทิ ปมชฺฌานิกานํ, นตฺถิ เตสํ วูปสโม. น หิ กทาจิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารรหิตํ อตฺถิ. อถ ทุติยชฺฌานิกานํ, เอวมฺปิ นตฺเถว วูปสโม สพฺเพน สพฺพํ เตสํ ตตฺถ อภาวโตติ อิมํ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. ยสฺมา ทิฏฺาทีนวสฺส ตํตํฌานกฺขเณ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ วูปสมนํ อธิปฺเปตํ, วิตกฺกาทโย เอว จ ฌานงฺคภูตา ตถา กรียนฺติ, น ตํสมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย, ตสฺมา วิตกฺกาทีนํเยว วูปสมาธิวจนํ ฌาเน อาคตํ. ยสฺมา ปน วิตกฺกาทีนํ วิย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ ‘‘เอเตน เอตํ โอฬาริก’’นฺติ อาทีนวทสฺสนํ สุตฺเต อาคตํ, ตสฺมา อวิเสเสน วิตกฺกาทีนํ ตํสหคตานฺจ วูปสมาทิเก วตฺตพฺเพ วิตกฺกาทีนํเยว วูปสโม วุจฺจมาโน อธิกวจนํ อฺมตฺถํ โพเธตีติ กตฺวา กฺจิ วิเสสํ ทีเปตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอฬาริกสฺส ปนา’’ติอาทิมาห. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – เยหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปมชฺฌานสฺส โอฬาริกตา, เตสํ สมติกฺกมา ทุติยชฺฌานสฺส สมธิคโม, น สภาวโต อโนฬาริกานํ ผสฺสาทีนํ สมติกฺกมาติ อยมตฺโถ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอเตน ทีปิโต , ตสฺมา ‘‘กึ ปมชฺฌานิกานํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อิธาธิปฺเปโต, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกาน’’นฺติ เอทิสี โจทนา อโนกาสาว. ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา วิตกฺกวิจารปีติสุขสมติกฺกมวจนานิ โอฬาริโกฬาริกงฺคสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมทีปกานีติ เตสํ เอกเทสภูตํ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนํ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณนเยน ตํ ทีปกํ วุตฺตํ. วิสุํ วิสุํ ิเตปิ หิ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนาทิเก ปเหยฺยงฺคนิทฺเทสตาสามฺเน จิตฺเตน สมูหโต คหิเต วิตกฺกวิจารวูปสมวจนสฺส ตเทกเทสตา โหตีติ. อถ วา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว ตํสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมทีปเกน ปีติวิราคาทิวจนานํ ปีติอาทิสมติกฺกมา ตติยาทิอธิคมทีปกตา ทีปิตา โหตีติ ตสฺส ตํทีปกตา วุตฺตา. เอวฺหิ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณํ วินา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน ปีติวิราคาทิวจนานํ สวิสเย สมานพฺยาปารตา ทสฺสิตา โหติ.

อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, น อชฺฌตฺตชฺฌตฺตาทีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปต’’นฺติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิภงฺเคปนา’’ติอาทิ. ปน-สทฺโทปิ อปิสทฺทตฺโถ, วิภงฺเคปีติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ.

นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิยาติ นีลโยคโต วตฺถํ นีลํ วิยาติ อธิปฺปาโย. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเปติ ‘‘เจโต สมฺปสาทยตี’’ติ เอตสฺมึ ปกฺเข. เจตโสติ จ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตปกฺเข. เจตโสติ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ‘‘ยาว น ปเร เอกคเต กโรมี’’ติอาทีสุ เสฏฺวจโนปิ เอกสทฺโท โลเก ทิสฺสตีติ อาห ‘‘เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘เอกากีหิ ขุทฺทเกหิ ชิต’’นฺติอาทีสุ อสหายตฺโถปิ เอกสทฺโท ทิฏฺโติ อาห ‘‘เอโก อสหาโย หุตฺวา’’ติ. สทฺธาทโยปิ กามํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สาธารณโต จ อสาธารณโต จ ปจฺจยา โหนฺติเยว, สมาธิ ปน ฌานกฺขเณ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อวิกฺเขปลกฺขเณ อินฺทฏฺกรเณน สาติสยํ ปจฺจโย โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺตธมฺเม…เป… อธิวจน’’นฺติ อาห.

‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วิเสสนทฺวยํ ฌานสฺส อติสยวจนิจฺฉาวเสน คหิตํ. สฺวายมติสโย ยถา อิมสฺมึ ฌาเน ลพฺภติ, น ตถา ปมชฺฌาเนติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมเณ อาหนนปริยาหนนวเสน อนุมชฺชนอนุยุชฺชนวเสน จ ปวตฺตมานา ธมฺมา สติปิ นีวรณปฺปหาเนน กิเลสกาลุสฺสิยาปคเม สมฺปยุตฺตานํ กิฺจิ โขภํ กโรนฺตา วิย เตหิ จ เต น สนฺนิสินฺนา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกวิจารกฺโขเภน…เป… น สุปฺปสนฺน’’นฺติ. ตตฺถ ขุทฺทิกา อูมิโย วีจิโย, มหติโย ตรงฺคา. สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏติ สติปิ อินฺทฺริยสมตฺเต วีริยสมตาย จ เตเนว โขเตน สมฺปสาทาภาเวน จ พหเล วิย ชเล มจฺโฉ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ. วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวนาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตโขโภ เอว ปลิโพโธ. เอวํ วุตฺเตนาติ ยสฺสา สทฺธาย วเสน สมฺปสาทนํ, ยสฺสา จ จิตฺเตกคฺคตาย วเสน เอโกทิภาวนฺติ จ ฌานํ วุตฺตํ, ตาสํ เอว ‘‘สทฺทหนา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๗๔) ปวตฺติอาการวิเสสวิภาวนวเสน วุตฺเตน เตน วิภงฺคปาเน. อยํ อตฺถวณฺณนาติ ‘‘สมฺปสาทนโยคโต, สมฺปสาทนโต วา สมฺปสาทนํ. เอโกทึ ภาเวตีติ เอโกทิภาวนฺติ ฌานํ วุตฺต’’นฺติ เอวํ ปวตฺตา อยํ อตฺถวณฺณนา. อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จ, เอวํ เวทิตพฺพาติ กถํ ปนายํ อตฺถวณฺณนา เตน วิภงฺคปาเน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ, นนุ ฌานวิภงฺเค ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘ยา สทฺธา สทฺทหนา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๗๔) สทฺธาเยว วุตฺตา, ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ จ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘ยา จิตฺตสฺส ิติ สณฺิติ อวฏฺิตี’’ติอาทินา สมาธิสฺเสว นิทฺเทโส กโต, อฏฺกถายํ ปน ‘‘สมฺปสาทนํ เอโกทิภาว’’นฺติ ฌานเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาย วิภงฺคปาเน สทฺธึ วิโรโธ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ วิภงฺเคปิ อิมินาว อธิปฺปาเยน นิทฺเทสสฺส กตตฺตา. ตถา หิ เยน สมฺปสาทเนน โยคา ฌานํ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ‘‘ยา สทฺธา สทฺทหนา’’ติอาทินา ทสฺสิเต สมฺปสาทนํ ฌานนฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ตํโยคา ฌาเน ตํสทฺทปฺปวตฺติ ทสฺสิตา โหติ. ‘‘เอโกทิภาว’’นฺติ จ ปทํ อุทฺธริตฺวา เอโกทิมฺหิ ทสฺสิเต เอโกทิภาวํ ฌานนฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ฌานสฺส เอโกทิวฑฺฒนตา วุตฺตาว โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน พฺยฺชนวิจารํ อกตฺวา ธมฺมมตฺตเมว นิทฺทิฏฺนฺติ อวิโรโธ ยุตฺโต.

ยํ ปน วุตฺตํ ฏีกากาเรหิ อาจริยธมฺมปาลตฺเถราทีหิ ‘‘ยทิ เอโกทีติ สมาธิสฺส คหณํ อธิปฺเปตํ, ตทา ‘เอโกทิภาว’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา สมาธิสฺส นิทฺเทโส น กตฺตพฺโพ สิยา. ตสฺมา เอโกทิภาวสทฺโท เอว สมาธิมฺหิ ปวตฺโต สมฺปสาทนสทฺโท วิย ฌาเน ปวตฺตตีติ ยุตฺต’’นฺติ, ตํ อฏฺกถาย วิรุชฺฌติ. ตสฺมา โส อฏฺกถานิรเปกฺโข วิสุํเยเวโก อตฺถวิกปฺโปติ คเหตพฺพํ. อยฺหิ เนสํ อธิปฺปาโย – วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา เอกํ อุเทตีติ เอโกทีติ ตถาวิธสมาธิยุตฺตํ ฌานจิตฺตเมว คเหตฺวา เอโกทิสฺส ภาโว เอโกทิภาโวติ สมาธิสฺส คหณํ สกฺกา วตฺตุนฺติ. โย ปนายํ เตสมภินิเวโส ‘‘เอโกทีติ สมาธิสฺส คหเณ สติ ‘เอโกทิภาว’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา สมาธิสฺส นิทฺเทโส น กตฺตพฺโพ สิยา’’ติ , โส อเนกนฺติกตฺตา อยุตฺโต. อฺตฺถปิ หิ พฺยฺชนวิจารํ อกตฺวา อตฺถมตฺตสฺเสว พาหุลฺเลน วิภงฺเค นิทฺเทโส ทิสฺสติ.

สนฺตาติ สมํ นิโรธํ คตา. สมิตาติ ภาวนาย สมํ คมิตา นิโรธิตา. วูปสนฺตาติ ตโต เอว สุฏฺุ อุปสนฺตา. อตฺถงฺคตาติ อตฺถํ วินาสํ คตา. อพฺภตฺถงฺคตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตํ. อปฺปิตาติ คมิตา วินาสํ คตา. โสสิตาติ ปวตฺติสงฺขาตสฺส สนฺตานสฺส อภาเวน โสสํ สุกฺขภาวํ คตา. พฺยนฺตีกตาติ วิคตนฺตา กตา.

อยมตฺโถติ ภาวนาย ปหีนตฺตา วิตกฺกวิจารานํ อภาวสงฺขาโต อตฺโถ. โจทเกน วุตฺตมตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปริหริตุํ ‘‘เอวเมตํ สิทฺโธวายมตฺโถ’’ติ วตฺวา ‘‘น ปเนต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตนฺติ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอตํ วจนํ. ตทตฺถทีปกนฺติ ตสฺส วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปกํ. น กิเลสกาลุสฺสิยสฺสาติ อุปจารกฺขเณ วิย นีวรณสงฺขาตสฺส กิเลสสงฺโขภสฺส วูปสมา น สมฺปสาทนนฺติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘ปุริมํ วตฺวาปิ วตฺตพฺพเมวา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. ตถา หิ ทุติยชฺฌานาทิอธิคมูปายทีปเกน อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนตาย เจตโส เอโกทิภาวตาย จ เหตุทีปเกน อวิตกฺกอวิจารภาวเหตุทีปเกน จ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว วิตกฺกวิจาราภาโว ทีปิโตติ, กึ ปุน อวิตกฺกอวิจารวจเนน กเตนาติ? น, อทีปิตตฺตา. น หิ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน วิตกฺกวิจารานํ อปฺปวตฺติ วุตฺตา โหติ. วิตกฺกวิจาเรสุ หิ ตณฺหาปฺปหานํ เอเตสํ วูปสมนํ. โอฬาริกงฺคมุเขน หิ ตํตํฌานนิกนฺติยา วิกฺขมฺภนํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนาทีหิ ปกาสิตํ. ยโต วิตกฺกวิจาเรสุ วิรตฺตภาวทีปกํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนํ, เย จ สงฺขาเรสุ ตณฺหาปฺปหานํ กโรนฺติ, เตสุ มคฺเคสุ ปหีนตณฺเหสุ จ ผเลสุ สงฺขารปฺปวตฺติ โหติ, เอวมิธาปิ วิกฺขมฺภิตวิตกฺกวิจารตณฺหสฺส ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารสมฺปโยโค ปุริเมน น นิวาริโต สิยาติ ตนฺนิวารณตฺถํ อาวชฺชิตุกามตาทิอติกฺกโม จ เตสํ วูปสโมติ ทสฺสนตฺถฺจ ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ วุตฺตํ. ปมชฺฌานํ ทุติยชฺฌานสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ อาห ‘‘ปมชฺฌานสมาธิโต’’ติ. ปมมฺปีติ ปมชฺฌานมฺปิ.

คณนานุปุพฺพโตติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เอตฺถาปิ ‘‘ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติย’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. วุตฺตเมวตฺถํ วิภงฺคปาเน สาเธนฺโต อาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. ยํ ปน วิภงฺเค (วิภ. ๕๘๐) ‘‘ฌานนฺติ สมฺปสาโท ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุํ ปริยาเยน วุตฺตํ. รถสฺส ปณฺฑุกมฺพลํ วิย หิ สมฺปสาโท ฌานสฺส ปริกฺขาโร, น ฌานงฺคนฺติ อาห ‘‘ปริยาโยเยว เจโส’’ติ. นิปฺปริยายโต ปน อุปนิชฺฌานลกฺขณปฺปตฺตานํ องฺคานํ วเสน ติวงฺคิกเมเวตํ โหตีติ อาห ‘‘สมฺปสาทนํ ปน เปตฺวา’’ติอาทิ.

ทุติยชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ตติยชฺฌานกถา

วิรชฺชนํ วิราโค. ตํ ปน วิรชฺชนํ นิพฺพินฺทนมุเขน หีฬนํ วา ตปฺปฏิพทฺธราคปฺปหานํ วาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺสา ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา’’ติ วุตฺตํ. อุภินฺนมนฺตราติ ปีติยา วิราคาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตรา, มชฺเฌติ อตฺโถ. สมฺปิณฺฑนํ สมุจฺจโย. มคฺโคติ อุปาโย. ทุติยชฺฌานสฺส หิ ปฏิลาภํ วินา ตติยชฺฌานสฺส อธิคโม น โหตีติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม ตติยชฺฌานาธิคมสฺส อุปาโย. ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย.

อุปปตฺติโตติ สมวาหิตภาเวน ปติรูปโต ฌานุเปกฺขาปิ สมวาหิตเมว อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สมํ ปสฺสตี’’ติ. วิสทายาติ สํกิเลสวิคเมน ปริพฺยตฺตาย. วิปุลายาติ สาติสยํ มหคฺคตภาวปฺปตฺติโต มหติยา. ถามคตายาติ ปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺตาย. นนุ เจตฺถ อุเปกฺขาเวทนาว น สมฺภวติ, ตสฺมา กถมยํ ตติยชฺฌานสมงฺคี อุเปกฺขาย สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจตีติ เจ? น เกวลํ เวทนุเปกฺขาว อุเปกฺขาติ วุจฺจติ, อถ โข อฺาปิ อุเปกฺขา วิชฺชนฺตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหตี’’ติอาทิ. ตตฺถ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖๓; วิสุทฺธิ. ๑.๘๔) ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๗; สํ. นิ. ๕.๑๘๒, ๑๙๐-๑๙๑) เอวมาคตา สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.

ยา –

‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ.

‘‘กตมา อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? ปมชฺฌานปฏิลาภตฺถาย นีวรเณ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, ทุติยชฺฌานปฏิลาภตฺถาย วิตกฺกวิจาเร ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, ตติยชฺฌานปฏิลาภตฺถาย ปีตึ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, จตุตฺถชฺฌานปฏิลาภตฺถาย สุขทุกฺเข ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย รูปสฺํ ปฏิฆสฺํ นานตฺตสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย อากาสานฺจายตนสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย วิฺาณฺจายตนสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, อิมา อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ.

‘‘กตมา ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, สกทาคามิมคฺคปอลาภตฺถาย…เป… สกทาคามิผลสมาปตฺตตฺถาย…เป… อนาคามิมคฺคปฏิลาภตฺถาย…เป… อนาคามิผลสมาปตฺตตฺถาย…เป… อรหตฺตมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย…เป… สุฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย…เป… อนิมิตฺตวิหารสมอาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ, อิมา ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) –

เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.

ตตฺถ นีวรเณ ปฏิสงฺขาติ ปฺจ นีวรณานิ ปหาตพฺพภาเวน ปฏิสงฺขาย, ปริคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. สนฺติฏฺนาติ นีวรณานํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตตาย สนฺติฏฺนา. สงฺขารุเปกฺขาสูติ นีวรณปฺปหาเน พฺยาปารากรเณน นีวรณสงฺขาตานํ สงฺขารานํ อุเปกฺขนาสูติ อตฺโถ. เอส นโย วิตกฺกวิจาราทีสุ อุปฺปาทาทีสุ จ. ตตฺถ อุปฺปาทนฺติ ปุริมกมฺมปจฺจยา ขนฺธานํ อิธ อุปฺปตฺติมาห. ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตึ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ เตภูมกํ สงฺขารคตํ นิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. อายูหนนฺติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธินฺติ อายตึ อุปปตฺตึ. คตินฺติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตินฺติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตินฺติ วิปากปฺปวตฺตึ. ชาตินฺติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตํ ภวปจฺจยา ชาตึ. ชรามรณาทโย ปากฏา เอว.

เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส วิสยวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. นิพฺพตฺติ ชาตีติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ. คติ อุปปตฺติ จาติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ เวทิตพฺพํ. นนุ เจตฺถ จตูสุ มคฺควาเรสุ ‘‘อุปฺปาท’’นฺติอาทีนิ ปฺจ มูลปทานิ, ‘‘คตี’’ติอาทีนิ ทส เววจนปทานีติ ปนฺนรส ปทานิ วุตฺตานิ, ฉสุ ปน ผลสมาปตฺติวาเรสุ ปฺจ มูลปทาเนว วุตฺตานิ, ตํ กสฺมาติ เจ? สงฺขารุเปกฺขาย ติกฺขภาเว สติ กิเลสปฺปหานสมตฺถสฺส มคฺคสฺส สพฺภาวโต ตสฺสา ติกฺขภาวทสฺสนตฺถํ เววจนปเทหิ สห ทฬฺหํ กตฺวา มูลปทานิ วุตฺตานิ, ผลสฺส นิรุสฺสาหภาเวน สนฺตสภาวตฺตา มคฺคายตฺตตฺตา จ มนฺทภูตาปิ สงฺขารุเปกฺขา ผลสฺส ปจฺจโย โหตีติ ทสฺสนตฺถํ มูลปทาเนว วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺถ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถายา’’ติอาทีสุ จตูสุ มคฺควาเรสุ สุฺตานิมิตฺตปฺปณิหิตมคฺคานํ อฺตโร วุตฺโต. ‘‘โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถายา’’ติอาทีสุ จตูสุ ผลวาเรสุ ปน อปฺปณิหิตผลสมาปตฺติ เวทิตพฺพา. กสฺมา? สุฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถายาติ อิตราสํ ทฺวินฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ วิสุํ วุตฺตตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนาวุฏฺานวเสน หิ อนิมิตฺตมคฺโค, ตเถว ผลสมาปตฺติกาเล อนิมิตฺตผลสมาปตฺติ, ทุกฺขานุปสฺสนาวุฏฺานวเสน อปฺปณิหิตมคฺคผลสมาปตฺติโย, อนตฺตานุปสฺสนาวุฏฺานวสเอน สุฺตมคฺคผลสมาปตฺติโย สุตฺตนฺตนเยน เวทิตพฺพา. เอวฺจ กตฺวา สุฺตาทิวิโมกฺขวเสน มคฺคุปฺปตฺติเหตุภูตา จตสฺโส, ตถา อปฺปณิหิตผลสมาปตฺติยา จตสฺโส, สุฺตวิหารอนิมิตฺตวิหารวเสน ทฺเวติ ทส สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนาปฺา วุตฺตา, สมถสงฺขารุเปกฺขา ปน อปฺปนาวีถิยา อาสนฺนปุพฺพภาเค พลปฺปตฺตํ ภาวนามยาณํ.

ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสฺิตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.

ตตฺถ ยทตฺถิ ยํ ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกํ, ตํ มุฺจิตุกมฺยตาาเณน ปชหติ. อุเปกฺขํ ปฏิลภตีติ ทิฏฺโสวตฺติกตฺตยสฺส สปฺปสฺส ลกฺขณวิจินเน วิย ทิฏฺลกฺขณตฺตยสฺส ขนฺธปฺจกสฺส สงฺขารลกฺขณวิจินเน อุเปกฺขํ ปฏิลภตีติ อตฺโถ.

ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมปฺปวตฺติเหตุภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๐; ธ. ส. ๑๖๓) เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๒; ธ. ส. ๑๖๕) เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.

ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท เอกสฺสปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย. ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ยถา เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ สา กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา. ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข, โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺติกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป, น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปเทน ทณฺเฑน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มุฺเจยฺย’’นฺติ มุฺจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคหเณสุ มชฺฌตฺตสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนา. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนา เอวาติ.

อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาโค ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวมยํ ทสวิธาปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ภูมิปุคฺคลจิตฺตารมฺมณโตติ ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา กามาวจรา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา รูปาวจรา’’ติ เอวมาทินา ภูมิโต. ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา ขีณาสวสฺเสว, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ติณฺณมฺปิ ปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺขาน’’นฺติ เอวมาทินา ปุคฺคลโต. ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา โสมนสฺสุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตา’’ติอาทินา จิตฺตโต. ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา ฉฬารมฺมณา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ธมฺมารมฺมณา’’ติอาทินา อารมฺมณโต. ขนฺธสงฺคหเอกกฺขณกุสลตฺติกสงฺเขปวเสนาติ ‘‘เวทนุเปกฺขา เวทนากฺขนฺเธน สงฺคหิตา, อิตรา นว สงฺขารกฺขนฺเธนา’’ติ ขนฺธสงฺคหวเสน. ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารโพชฺฌงฺคฌานปาริสุทฺธิตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตสฺมา เอกกฺขเณ ตาสุ เอกาย สติ น อิตรา, ตถา สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขาปิ เวทิตพฺพา, เวทนาวีริยุเปกฺขานํ เอกกฺขเณ สิยา อุปฺปตฺตีติ เอวํ เอกกฺขณวเสน. ฉฬงฺคุเปกฺขา อพฺยากตา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา กุสลาพฺยากตา, ตถา เสสา, เวทนุเปกฺขา ปน สิยา อกุสลาปีติ เอวํ กุสลตฺติกวเสน. ทสเปตา สงฺเขปโต จตฺตาโรว ธมฺมา วีริยเวทนาตตฺรมชฺฌตฺตตาาณวเสนาติ เอวํ สงฺเขปวเสน.

อิทานิ อิธาธิปฺเปตาย ฌานุเปกฺขาย ลกฺขณาทึ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ลกฺขณาทิโต ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ. อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานาติ สติปิ สุขปารมิปฺปตฺติยํ ตสฺมึ สุเข อพฺยาวฏา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, สมฺปยุตฺตานํ วา ตตฺถ อพฺยาปารํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ โขภํ อุปฺปิลวฺจ อาวหนฺเตหิ วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา อปริพฺยตฺตํ ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย กิจฺจํ, ตทภาวโต อิธ ปริพฺยตฺตนฺติ อาห ‘‘อปริพฺยตฺตกิจฺจโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘อปริพฺยตฺตํ หี’’ติอาทิ.

อิทานิสโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ ‘‘วุจฺจตี’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. สรตีติ อิมินา ‘‘สโต’’ติ ปทสฺส กตฺตุสาธนตมาห. สมฺปชานาตีติ สมฺมเทว ปชานาติ. ปุคฺคเลนาติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน. สรณํ จินฺตนํ อุปฏฺานํ ลกฺขณเมติสฺสาติ สรณลกฺขณา. สมฺมุสฺสนปฏิปกฺโข อสมฺมุสฺสนํ กิจฺจํ เอติสฺสาติ อสมฺมุสฺสนรสา. กิเลเสหิ อารกฺขา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, ตโต วา อารกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺมุยฺหนํ สมฺมเทว ปชานนํ, สมฺโมหปฏิปกฺโข วา อสมฺโมโห ลกฺขณเมตสฺสาติ อสมฺโมหลกฺขณํ. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา. กามํ อุปจารชฺฌานาทึ อุปาทาย ปมทุติยชฺฌานานิปิ สุขุมาเนว, อิมํ ปน อุปริมชฺฌานํ อุปาทาย ‘‘โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานาน’’นฺติ วุตฺตํ, สา จ โอฬาริกตา วิตกฺกาทิถูลงฺคตาย เวทิตพฺพา. เกจิ ‘‘พหุเจตสิกตายา’’ติ จ วทนฺติ. ภูมิยํ วิย ปุริสสฺสาติ ปุริสสฺส ภูมิยํ คติ วิยาติ วุตฺตํ โหติ. คติ สุขา โหตีติ เตสุ ฌาเนสุ คติ สุขา โหติ. อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจนฺติ ‘‘อิทํ นาม ทุกฺกรํ กรียตี’’ติ วตฺตพฺพสฺส อภาวโต วุตฺตํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตาติ อยมตฺโถ กามํ ทุติยชฺฌาเนปิ สมฺภวติ, ตถาปิ เยภุยฺเยน อวิปฺปโยคีภาเวน วตฺตมาเนสุ ปีติสุเขสุ ปีติสงฺขาตสฺส โอฬาริกงฺคสฺส ปหาเนน สุขุมตาย อิธ สาติสโย สติปฺาพฺยาปาโรติ วุตฺตํ ‘‘ปุริสสฺสา’’ติอาทิ. เธนุํ ปิวตีติ เธนุปโค, เธนุยา ขีรํ ปิวนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺยาติ หานภาคิยํ ฌานํ สิยา , ทุติยชฺฌานเมว สมฺปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา’’ติ. อิทฺจ อติมธุรํ สุขนฺติ ตติยชฺฌาเน สุขํ สนฺธายาห, อติมธุรตา จสฺส ปหาโสทคฺยสภาวาย ปีติยา อภาเวเนว เวทิตพฺพา. อิทนฺติ ‘‘สโต สมฺปชาโน’’ติ ปททฺวยํ.

สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสินฺติ เอตฺถ กถมาโภเคน วินา สุขปฏิสํเวทนาติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสิ’’นฺติ อาหาติ โยเชตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘สุขํ เวทยามี’’ติ เอวมาโภเค อสติปิ นามกาเยน เจตสิกสุขํ, กายิกสุขเหตุรูปสมุฏฺาปเนน กายิกสุขฺจ ฌานสมงฺคี ปฏิสํเวเทตีติ วุจฺจตีติ. ตสฺสาติ ฌานสมงฺคิโน. ยํ วา ตนฺติ ยํ วา ตํ ยถาวุตฺตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ. ตํสมุฏฺาเนนาติ ตโต สมุฏฺิเตน อติปณีเตน รูเปน อสฺส ฌานสมงฺคิโน รูปกาโย ยสฺมา ผุโฏ, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยสฺสาติ รูปกายสฺส. ผุฏตฺตาติ พฺยาปิตตฺตาติ อตฺโถ. ยถา หิ อุทเกน ผุฏฺสรีรสฺส ตาทิเส โผฏฺพฺเพ ผุฏฺเ สุขํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ เอเตหิ ฌานจิตฺตสมุฏฺิเตหิ รูเปหิ ผุฏฺสรีรสฺส. ฌานา วุฏฺิโตปีติ ฌานมฺหา วุฏฺิโตปิ. สุขํ ปฏิสํเวเทยฺยาติ จิตฺตสมุฏฺิตรูเปหิ อวเสสติสมุฏฺิตรูปสงฺฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺนกายวิฺาเณน กายิกํ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย. เอตมตฺถนฺติ วุตฺตนเยน เจตสิกกายิกสุขปฏิสํเวทนสงฺขาตํ อตฺถํ.

นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, ยสฺมาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. อาจิกฺขนฺตีติอาทีนิ ปทานิ กิตฺตนตฺถานีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. กินฺตีติ ปสํสนาการปุจฺฉา. สุขปารมิปฺปตฺเตติ สุขสฺส ปรมํ ปริยนฺตํ ปตฺเต. สุขาภิสงฺเคนาติ สุขสฺมึ อาลเยน. เอทิเสสุ าเนสุ สติคฺคหเณเนว สมฺปชฺมฺปิ คหิตํ โหตีติ อิธ ปาฬิยํ สติยา เอว คหิตตฺตา เอวํ อุปฏฺิตสฺสติตาย สติมา อิจฺเจว วุตฺตํ, สมฺปชาโนติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา วา. อสํกิลิฏฺนฺติ กิเลเสหิ อสมฺมิสฺสตฺตา อสํกิลิฏฺํ. ฌานกฺขเณ นิปฺปริยายโต เจตสิกสุขเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ วุตฺตํ. ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพโต ตติยนฺติอาทิ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ.

ตติยชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

จตุตฺถชฺฌานกถา

‘‘ปุพฺเพวา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘กทา ปน เนสํ ปหานํ โหตี’’ติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา อาห ‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ’’ติ. เอวํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ปหานกฺกเมน อวุตฺตานนฺติ เอตฺถ ปหานกฺกโม นาม ปหายกธมฺมานํ อุปฺปตฺติปฏิปาฏิ. เตน ปน วุจฺจมาเน ‘‘ทุกฺขํ โทมนสฺสํ สุขํ โสมนสฺส’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, กสฺมา อิโต อฺถา วจนนฺติ อาห ‘‘อินฺทฺริยวิภงฺเค’’ติอาทิ . อุทฺเทสกฺกเมนาติ ‘‘สุขินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตอุทฺเทสกฺกเมน.

อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยนฺติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ อวิกฺขมฺภิตํ ทุกฺขินฺทฺริยํ. กตฺถ จ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ นิโรธฏฺานํ นิโรธการณํ ปุจฺฉติ. เตน กตฺถาติ ปุจฺฉาย เอตฺถาติ วิสฺสชฺชเนปิ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ. ฌานานุภาวนิมิตฺตฺหิ อนุปฺปชฺชนฺตํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ วุตฺตํ. อติสยนิโรโธ สุฏฺุ ปหานํ อุชุปฏิปกฺเขน วูปสโม. นิโรโธ ปหานมตฺตํ. นานาวชฺชเนติ เยน อาวชฺชเนน อปฺปนาวีถิ, ตโต ภินฺนาวชฺชเน อเนกาวชฺชเน วา. อปฺปนาวีถิยฺหิ อุปจาโร เอกาวชฺชโน, อิตโร อเนกาวชฺชโน อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตนโต. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. ปีติผรเณนาติ ปีติยา ผรณรสตฺตา ปีติสมุฏฺานานํ วา ปณีตรูปานํ กายสฺส พฺยาปนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหตี’’ติ. ปณีตรูปผุฏฺสรีรสฺส สุโขกฺกนฺตกายตฺตา กุโต ทุกฺขุปฺปตฺติ วิสมาสนุปตาปาทินาติ อาห ‘‘ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา’’ติ. วิตกฺกวิจารปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ. ปหีนสฺสปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสาติ อิทฺจ ‘‘สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอตนฺติ โทมนสฺสินฺทฺริยํ. ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส มยฺหํ อติจิรํ วิตกฺกยโต วิจารยโต กาโยปิ กิลมิ, จิตฺตมฺปิ อูหฺี’’ติ วจนโต กายจิตฺตเขทานํ วิตกฺกวิจารปจฺจยตา เวทิตพฺพา. วิตกฺกวิจารภาเวติ เอตฺถ ‘‘อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ ตตฺถ ทุติยชฺฌานูปจาเร อสฺส ปหีนสฺสปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส อุปฺปตฺติ ภเวยฺย.

เอตฺถ จ ยเทเก วทนฺติ ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ วทนฺเตน ฌานลาภีนมฺปิ โทมนสฺสุปฺปตฺติ อตฺถีติ ทสฺสิตํ โหติ, เตน จ อนีวรณสภาโว โลโภ วิย โทโสปิ อตฺถีติ ทีเปติ. น หิ โทเสน วินา โทมนสฺสํ ปวตฺตติ, น เจตฺถ ปฏฺานปาฬิยา วิโรโธ จินฺเตตพฺโพ. ยสฺมา ตตฺถ ปริหีนชฺฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานํ โทมนสฺสํ ทสฺสิตํ, อปริหีนชฺฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานสฺส โทมนสฺสสฺส อสมฺภวโต ฌานลาภีนํ สพฺพโส โทมนสฺสํ นุปฺปชฺชตีติ จ น สกฺกา วตฺตุํ อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา, น เหว โข โส ปริหีนชฺฌาโน อโหสี’’ติ, ตํ อยุตฺตํ อนีวรณสภาวสฺส โทมนสฺสสฺส อภาวโต. ยทิ สิยา, รูปารูปาวจรสตฺตานมฺปิ อุปฺปชฺเชยฺย, น จ อุปฺปชฺชติ. ตถา หิ อารุปฺเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณนฺติอาทีสุ พฺยาปาทกุกฺกุจฺจนีวรณานิ อนุทฺธฏานิ, น เจตฺถ อนีวรณตาปริยาโย กามจฺฉนฺทาทีนมฺปิ อนีวรณานํเยว นีวรณสทิสตาย นีวรณปริยายสฺส วุตฺตตฺตา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ, ตมฺปิ อการณํ อุปฺปชฺชมาเนน จ โทมนสฺเสน ฌานโต ปริหายนโต. ลหุเกน ปน ปจฺจเยน ปริหีนํ ตาทิสา นํ อปฺปกสิเรเนว ปฏิปากติกํ กโรนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิทํ ปน ปริกปฺปนวจนํ อุปจารกฺขเณ โทมนสฺสสฺส อปฺปหีนภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนาย’’นฺติ. ยทิ ปน ตทา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺเชยฺย, ปมชฺฌานมฺปิสฺส ปริหีนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ปหีนมฺปิ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปีติ วิย น ทูเรติ กตฺวา ‘‘อาสนฺนตฺตา’’ติ วุตฺตํ. นานาวชฺชนูปจาเร ปหีนมฺปิ ปหานงฺคํ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺย วาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตายา’’ติอาทิมาห. ตาทิสาย อาเสวนาย อิจฺฉิตพฺพตฺตา ยถา มคฺควีถิโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา สทิสานุปสฺสนาว ปวตฺตนฺติ, เอวมิธาปิ อปฺปนาวารโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา อุเปกฺขาสหคตาว ปวตฺตนฺตีติ วทนฺติ.

สมาหรีติ สมาเนสิ, สงฺคเหตฺวา อภาสีติ อตฺโถ. สุขุมาติ สุขทุกฺขานิ วิย อโนฬาริกตฺตา อวิภูตตาย สุขุมา, ตโต เอว อนุมินิตพฺพสภาวตฺตา ทุพฺพิฺเยฺยา. ทุฏฺสฺสาติ ทุฏฺปโยคสฺส, ทุทฺทมสฺสาติ อตฺโถ. สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุนฺติ อฺาโปหนนเยน สกฺกา คาหยิตุนฺติ อธิปฺปาโย. อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยาติ อิทเมว จตุตฺถํ ฌานํ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยทสฺสนตฺถนฺติ อธิคมสฺส อุปายภูตปจฺจยทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา’’ติ. ทุกฺขปฺปหานาทโยติ จ โสปจารา ปมชฺฌานาทโยเวตฺถ อธิปฺเปตา. ปหีนาติ วุตฺตาติ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๗; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๑) วุตฺตตฺตา. เอตาติ สุขาทโย เวทนา. สุขํโสมนสฺสสฺส ปจฺจโยติ วสนคนฺธาเลปนปุปฺผาภรณสมาเลปนาทินิพฺพตฺตํ กายิกสุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย. ‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข เวทนาย, ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) วจนโต อาห ‘‘โสมนสฺสํ ราคสฺส ปจฺจโย’’ติ. ‘‘ทุกฺขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ วจนโต วุตฺตํ ‘‘โทมนสฺสํ โทสสฺส ปจฺจโย’’ติ. สุขาทิฆาเตนาติ สุขาทีนํ ปหาเนน.

อทุกฺขมสุขนฺติ เอตฺถ น ทุกฺขนฺติ อทุกฺขํ, ทุกฺขวิทูรํ. ยสฺมา ตตฺถ ทุกฺขํ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขาภาเวนา’’ติ. อสุขนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. ปฏิปกฺขภูตนฺติ อิทํ อิธ ตติยเวทนาย ทุกฺขาทีนํ สมติกฺกมวเสน ปตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ, น กุสลากุสลานํ วิย อุชุวิปจฺจนีกตาย. อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณาติ อิฏฺานิฏฺวิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส, อิฏฺานิฏฺวิปรีตํ วา มชฺฌตฺตากาเรน อนุภวนลกฺขณา. ตโต เอว มชฺฌตฺตรสา. อวิภูตปจฺจุปฏฺานาติ สุขทุกฺขานิ วิย น วิภูตาการา ปิฏฺิปาสาเณ มิคคตมคฺโค วิย เตหิ อนุมาตพฺพาวิภูตากาโรปฏฺานา. สุขนิโรโธ นาม อิธ จตุตฺถชฺฌานูปจาโร, โส ปทฏฺานํ เอติสฺสาติ สุขนิโรธปทฏฺานา. อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปเนตํ สมาสปทนฺติ อาห ‘‘อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ. สพฺพปจฺจนีกธมฺมปริสุทฺธาย ปจฺจนีกสมเนปิ อพฺยาวฏาย ปาริสุทฺธุเปกฺขาย วตฺตมานาย จตุตฺถชฺฌาเน สติ สมฺปหํสนปฺา วิย สุปริสุทฺธา สุวิสทา จ โหตีติ อาห ‘‘สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา น อฺเนา’’ติ. ยทิ ตตฺรมชฺฌตฺตตา อิธ ‘‘อุเปกฺขา’’ติ อธิปฺเปตา, กถํ สติเยว ปาริสุทฺธาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ. สติสีเสนาติ สตึ อุตฺตมงฺคํ กตฺวา, ปธานํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

เอวมปิ กสฺมา อิเธว สติ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ วุตฺตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชมานายปิ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย ปจฺจนีกาภิภวนโต สหายปจฺจยเวกลฺลโต จ อปาริสุทฺธิ, ตถา ตํสมฺปยุตฺตานํ ตทภาวโต อิธ ปาริสุทฺธีติ อิมมตฺถํ อุปมาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สูริยปฺปภาภิภวาติ สูริยปฺปภาย อภิภุยฺยมานตฺตา. อติกฺขตาย จนฺทเลขา วิย รตฺติปิ โสมฺมสภาวา สภาคาย รตฺติยเมว จ จนฺทเลขา สมุชฺชลตีติ สา ตสฺสา สงฺคยฺหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา’’ติ อาห. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

จตุตฺถชฺฌานกถา นิฏฺิตา.

ปุพฺเพนิวาสกถา

๑๒. รูปวิราคภาวนาวเสน ปวตฺตํ จตุพฺพิธมฺปิ อรูปชฺฌานํ จตุตฺถชฺฌานสงฺคหเมวาติ อาห ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ. ยุตฺตํ ตาว จิตฺเตกคฺคตา ภโวกฺกมนตฺถตา วิย วิปสฺสนาปาทกตาปิ จตุนฺนํ ฌานานํ สาธารณาติ เตสํ วเสน ‘‘จตฺตาริ ฌานานี’’ติ วจนํ, อภิฺาปาทกตา ปน นิโรธปาทกตา จ จตุตฺถสฺเสว ฌานสฺส อาเวณิกา, สา กถํ จตุนฺนํ ฌานานํ สาธารณา วุตฺตาติ? ปรมฺปราธิฏฺานภาวโต. ปทฏฺานปทฏฺานมฺปิ หิ ปทฏฺานนฺตฺเวว วุจฺจติ, การณการณมฺปิ การณนฺติ ยถา ‘‘ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธ’’นฺติ. เอวฺจ กตฺวา ปโยชนนิทฺเทเส อฏฺสมาปตฺติคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. จิตฺเตกคฺคตตฺถานีติ อิตฺตสมาธตฺถานิ, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถานีติ อตฺโถ. จิตฺเตกคฺคตาสีเสน หิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร วุตฺโต, สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน เจตํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เอกคฺคจิตฺตา สุขํ ทิวสํ วิหริสฺสามา’’ติ. ภโวกฺกมนตฺถานีติ ภเวสุ นิพฺพตฺติอตฺถานิ. สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺติยา สมาปชฺชนโต อาห ‘‘สตฺตาหํ อจิตฺตกา หุตฺวา’’ติ. กสฺมา ปน สตฺตาหเมว นิโรธํ สมาปชฺชนฺตีติ? ตถากาลปริจฺเฉทกรณโต, ตฺจ เยภุยฺเยน อาหารูปชีวีนํ สตฺตานํ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตสฺส เอกทิวสํ ภุตฺตาหารสฺส สตฺตาหเมว ยาปนโต.

กา (วิสุทฺธิ. ๒.๘๖๗-๘๖๘) ปนายํ นิโรธสมาปตฺติ นาม, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กตฺถ สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหตีติ? วุจฺจเต – ตตฺถ กา ปนายํ นิโรธสมาปตฺติ นามาติ ยา อนุปุพฺพนิโรธวเสน จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อปฺปวตฺติ. เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ สพฺเพปิ ปุถุชฺชนโสตาปนฺนสกทาคามิโน สุกฺขวิปสฺสกา จ อนาคามิอรหนฺโต น สมาปชฺชนฺติ, อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปน อนาคามิโน ขีณาสวา จ สมาปชฺชนฺติ. กตฺถ สมาปชฺชนฺตีติ ปฺจโวการภเว. กสฺมา? อนุปุพฺพสมาปตฺติสพฺภาวโต. จตุโวการภเว ปน ปมชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติเยว นตฺถิ, ตสฺมา น สกฺกา ตตฺถ สมาปชฺชิตุํ. กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ สงฺขารานํ ปวตฺติเภเท อุกฺกณฺิตฺวา ‘‘ทิฏฺธมฺเม อจิตฺตกา หุตฺวา นิโรธํ นิพฺพานํ ปตฺวา สุขํ วิหริสฺสามา’’ติ. กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน อุสฺสกฺกิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรธยโต เอวมสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ. โย หิ สมถวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โยปิ วิปสฺสนาวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส ผลสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โย ปน อุภยวเสเนว อุสฺสกฺกิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรเธติ, โส ตํ สมาปชฺชตีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.

อยํ ปน วิตฺถาโร – อิธ ภิกฺขุ นิโรธํ สมาปชฺชิตุกาโม ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. วิปสฺสนา จ ปเนสา ติวิธา สงฺขารปริคฺคณฺหนกวิปสฺสนา ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนาติ. ตตฺถ สงฺขารปริคฺคณฺหนกวิปสฺสนา มนฺทา วา ติกฺขา วา มคฺคสฺส ปทฏฺานํ โหติเยว. ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา ติกฺขาว วฏฺฏติ มคฺคภาวนาสทิสา. นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนา ปน นาติมนฺทนาติติกฺขา วฏฺฏติ, ตสฺมา เอส นาติมนฺทาย นาติติกฺขาย วิปสฺสนาย เต สงฺขาเร วิปสฺสติ. ตโต ทุติยชฺฌานํ…เป… ตโต วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร ตเถว วิปสฺสติ. อถ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย จตุพฺพิธํ ปุพฺพกิจฺจํ กโรติ นานาพทฺธอวิโกปนํ สงฺฆปติมานนํ สตฺถุปกฺโกสนํ อทฺธานปริจฺเฉทนฺติ.

ตตฺถ นานาพทฺธอวิโกปนนฺติ ยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาพทฺธํ น โหติ, นานาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ ปตฺตจีวรํ วา มฺจปีํ วา นิวาสเคหํ วา อฺํ วา ปน ยํ กิฺจิ ปริกฺขารชาตํ, ตํ ยถา น วิกุปฺปติ, อคฺคิอุทกวาตโจรอุนฺทูราทีนํ วเสน น วินสฺสติ, เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ. ตตฺริทํ อธิฏฺานวิธานํ ‘‘อิทฺจิทฺจ อิมสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร มา อคฺคินา ฌายตุ, มา อุทเกน วุยฺหตุ, มา วาเตน วิทฺธํสตุ, มา โจเรหิ หรียตุ, มา อุนฺทูราทีหิ ขชฺชตู’’ติ. เอวํ อธิฏฺิเต ตํ สตฺตาหํ ตสฺส น โกจิ ปริสฺสโย โหติ, อนธิฏฺหโต ปน อคฺคิอาทีหิ นสฺสติ, อิทํ นานาพทฺธอวิโกปนํ นาม. ยํ ปน เอกาพทฺธํ โหติ นิวาสนปารุปนํ วา นิสินฺนาสนํ วา, ตตฺถ วิสุํ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ, สมาปตฺติเยว นํ รกฺขติ.

สงฺฆปติมานนนฺติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปติมานนํ อุทิกฺขนํ, ยาว โส ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, ตาว สงฺฆกมฺมสฺส อกรณนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปติมานนํ เอตสฺส น ปุพฺพกิจฺจํ, ปติมานนาวชฺชนํ ปน ปุพฺพกิจฺจํ. ตสฺมา เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ ‘‘สเจ มยิ สตฺตาหํ นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน สงฺโฆ อปโลกนกมฺมาทีสุ กิฺจิเทว กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ยาว มํ โกจิ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา น ปกฺโกสติ, ตาวเทว วุฏฺหิสฺสามี’’ติ. เอวํ กตฺวา สมาปนฺโน หิ ตสฺมึ สมเย วุฏฺหติเยว. โย ปน เอวํ น กโรติ, สงฺโฆ เจ สนฺนิปติตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก ภิกฺขุ กุหิ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสติ ‘‘ตํ ปกฺโกสาหี’’ติ, อถสฺส เตน ภิกฺขุนา สวนูปจาเร ตฺวา ‘‘สงฺโฆ ตํ อาวุโส ปติมาเนตี’’ติ วุตฺตมตฺเตเยว วุฏฺานํ โหติ. เอวํ ครุกา หิ สงฺฆสฺส อาณา นาม, ตสฺมา ตํ อาวชฺชิตฺวา ยถา ปมเมว วุฏฺาติ, เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ.

สตฺถุปกฺโกสนนฺติ อิธาปิ สตฺถุปกฺโกสนาวชฺชนเมว อิมสฺส ปุพฺพกิจฺจํ, ตสฺมา ตมฺปิ เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อทฺธานปริจฺเฉโทติ ชีวิตทฺธานสฺส ปริจฺเฉโท. อิมินา ภิกฺขุนา อทฺธานปริจฺเฉเทสุ กุสเลน ภวิตพฺพํ, ‘‘อตฺตโน อายุสงฺขารา สตฺตาหํ ปวตฺติสฺสนฺติ น ปวตฺติสฺสนฺตี’’ติ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. สเจ หิ สตฺตาหพฺภนฺตเร นิรุชฺฌนเก อายุสงฺขาเร อนาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชติ, ตสฺส นิโรธสมาปตฺติ มรณํ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกติ, อนฺโตนิโรเธ มรณสฺส นตฺถิตาย อนฺตราว สมาปตฺติโต วุฏฺาติ, ตสฺมา เอตํ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. อวเสสฺหิ อนาวชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, อิทํ ปน อาวชฺชิตพฺพเมวาติ วุตฺตํ. โส เอวํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อิทํ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ, อเถกํ วา ทฺเว วา จิตฺตวาเร อติกฺกมิตฺวา อจิตฺตโก โหติ, นิโรธํ ผุสติ . กสฺมา ปนสฺส ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริ จิตฺตานิ น ปวตฺตนฺตีติ? นิโรธสฺส ปโยคตฺตา. อิทฺหิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว สมถวิปสฺสนาธมฺเม ยุคนทฺเธ กตฺวา อฏฺสมาปตฺติอาโรหนํ อนุปุพฺพนิโรธสฺส ปโยโค, น เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยาติ นิโรธสฺส ปโยคตฺตา ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริ จิตฺตานิ น ปวตฺตนฺตีติ.

ยสฺมา โพธิสตฺเตน โพธิมณฺฑุปสงฺกมนโต ปุพฺเพปิ จริมภเว จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺติตปุพฺพํ, ตทา ปน ตํ นิพฺพตฺติตมตฺตเมว อโหสิ, น วิปสฺสนาทิปาทกํ. ตสฺมา ‘‘โพธิรุกฺขมูเล นิพฺพตฺติต’’นฺติ ตโต วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. วิปสฺสนาปาทกนฺติ วิปสฺสนารมฺเภ วิปสฺสนาย ปาทกํ. อภิฺาปาทกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. พุทฺธานฺหิ ปมารมฺเภ เอว ปาทกชฺฌาเนน ปโยชนํ อโหสิ, น ตโต ปรํ อุปริมคฺคาธิคมผลสมาปตฺติอภิฺาวฬฺชนาทิอตฺถํ. อภิสมฺโพธิสมธิคมโต ปฏฺาย หิ สพฺพํ าณสมาธิกิจฺจํ อากงฺขามตฺตปฏิพทฺธเมวาติ. สพฺพกิจฺจสาธกนฺติ อนุปุพฺพวิหาราทิสพฺพกิจฺจสาธกํ. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกนฺติ เอตฺถ วิปสฺสนาภิฺาปาทกตฺตา เอว จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ภควโต สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณทายกตา เวทิตพฺพา. สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ ตํปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ อภิสมฺโพธิ, ตทธิคมสมกาลเมว จ ภควโต สพฺเพ พุทฺธคุณา หตฺถคตา อเหสุํ, จตุตฺถชฺฌานสนฺนิสฺสโย จ มคฺคาธิคโมติ.

‘‘จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘โส’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘โส อห’’นฺติ. เอวํ สมาหิเตติ เอตฺถ เอวํ-สทฺโท เหฏฺา ฌานตฺตยาธิคมปฏิปาฏิสิทฺธสฺส จตุตฺถชฺฌานสมาธานสฺส นิทสฺสนตฺโถติ อาห ‘‘เอวนฺติ จตุตฺถชฺฌานกฺกมนิทสฺสนเมต’’นฺติ. จตุตฺถชฺฌานสฺส ตสฺส จ อธิคมมคฺคสฺส นิทสฺสนํ, เยน สมาธานานุกฺกเมน จตุตฺถชฺฌานสมาธิ ลทฺโธ, ตทุภยนิทสฺสนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อิมินา…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ. ตตฺถ อิมินา กเมนาติ อิมินา ปมชฺฌานาธิคมาทินา กเมน. ยทิปิ ‘‘เอว’’นฺติ อิทํ อาคมนสมาธินา สทฺธึ จตุตฺถชฺฌานสมาธานํ ทีเปติ, สติปาริสุทฺธิสมาธิ เอว ปน อิทฺธิยา อธิฏฺานภาวโต ปธานนฺติ อาห ‘‘จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต’’ติ. สพฺพปจฺจนีกธมฺมุปกฺกิเลสปริสุทฺธาย ปจฺจนีกสมเนปิ อพฺยาวฏาย ปาริสุทฺธุเปกฺขาย วตฺตมานาย จตุตฺถชฺฌานํ ตํสมฺปยุตฺตา จ ธมฺมา สุปริสุทฺธา สุวิสทา จ โหนฺติ, สติสีเสน ปน ตตฺถ เทสนา กตาติ อาห ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวน ปริสุทฺเธ’’ติ, อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธิสมฺภเวนาติ อตฺโถ. ปริสุทฺธิยา เอว ปจฺจยวิเสเสน ปวตฺติวิเสโส ปริโยทาตตา สุธนฺตสุวณฺณสฺส นิฆํสเนน ปภสฺสรตา วิยาติ อาห ‘‘ปริสุทฺธตฺตาเยว ปริโยทาเต, ปภสฺสเรติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

สุขาทีนํ ปจฺจยานํ ฆาเตนาติ สุขโสมนสฺสานํ ทุกฺขโทมนสฺสานฺจ ยถากฺกมํ ราคโทสปจฺจยานํ วิกฺขมฺภเนน. ‘‘สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โทมนสฺสํ โทสสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยถา ราคาทโย เจตโส มลาสุจิภาเวน ‘‘องฺคณานี’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ อุปคนฺตฺวา กิเลสนฏฺเน อุปกฺกิเลสาติ อาห ‘‘อนงฺคณตฺตา เอว จ วิคตุปกฺกิเลเส’’ติ. เตนาห ‘‘องฺคเณน หิ จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสตี’’ติ, วิพาธียติ อุปตาปียตีติ อตฺโถ. สุภาวิตตฺตาติ ปคุณภาวาปาทเนน สุฏฺุ ภาวิตตฺตา. เตนาห ‘‘วสีภาวปฺปตฺเต’’ติ, อาวชฺชนาทินา ปฺจธา จุทฺทสวิเธน วา ปริทมเนน วสํ วตฺติตุํ อุปคเตติ อตฺโถ. วเส วตฺตมานฺหิ จิตฺตํ มุทูติ วุจฺจตีติ วเส วตฺตมานํ จิตฺตํ ปคุณภาวาปตฺติยา สุปริมทฺทิตํ วิย จมฺมํ สุปริกมฺมกตา วิย จ ลาขา มุทูติ วุจฺจติ. กมฺมกฺขเมติ วิกุพฺพนาทิอิทฺธิกมฺมกฺขเม. ตทุภยนฺติ มุทุตากมฺมนิยทฺวยํ.

นาหนฺติอาทีสุ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑) -กาโร ปฏิเสธตฺโถ. อหนฺติ สตฺถา อตฺตานํ นิทฺทิสติ. ภิกฺขเวติ ภิกฺขู อาลปติ. อฺนฺติ อิทานิ วุจฺจมานจิตฺตโต อฺํ. เอกธมฺมมฺปีติ เอกมฺปิ สภาวธมฺมํ. น สมนุปสฺสามีติ สมฺพนฺโธ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อหํ, ภิกฺขเว, สพฺพฺุตฺาเณน โอโลเกนฺโตปิ อฺํ เอกธมฺมมฺปิ น สมนุปสฺสามิ, ยํ วสีภาวาปาทเนน ภาวิตํ ตถา ปุนปฺปุนํ กรเณน พหุลีกตํ เอวํ สวิเสสมุทุภาวปฺปตฺติยา มุทุ กมฺมกฺขมตาย กมฺมนิยฺจ โหติ ยถา อิทํ จิตฺตนฺติ. อิทํ จิตฺตนฺติ จ อตฺตโน เตสฺจ ปจฺจกฺขตาย เอวมาห.

ยถา ยถาวุตฺตา ปริสุทฺธตาทโย น วิคจฺฉนฺติ, เอวํ สุภาวิตํ จิตฺตํ ตตฺถ อวฏฺิตํ อิธ ‘‘ิตํ อาเนฺชปฺปตฺต’’นฺติ จ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตสุ ปริสุทฺธภาวาทีสุิตตฺตา ิเต, ิตตฺตาเยว อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ. ยถา มุทุกมฺมฺตา วสีภาวปฺปตฺติยา ลกฺขียติ, เอวํ วสีภาวปฺปตฺติปิ มุทุกมฺมฺตาหิ ลกฺขียตีติ ‘‘มุทุกมฺมฺภาเวน วา อตฺตโน วเส ิตตฺตา ิเต’’ติ วุตฺตํ. ยถา หิ การเณน ผลํ นิทฺธารียติ, เอวํ ผเลนปิ การณํ นิทฺธารียตีติ นิจฺจลภาเวน อวฏฺานํ อาเนฺชปฺปตฺติยา จ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวน ปฏิปกฺเขหิ อกมฺมนิยตาย จ สมฺภวตํ สทฺธาทิพลานํ อานุภาเวน โหตีติ อาห ‘‘สทฺธาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ.

อิทานิ สงฺเขปโต วุตฺตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘สทฺธาปริคฺคหิตํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สทฺธาปริคฺคหิตนฺติ เอวํ สุภาวิตํ วสีภาวปฺปตฺตํ จิตฺตํ เอกํเสน อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย สํวตฺตตีติ เอวํ ปวตฺตาย สทฺธาย ปริคฺคหิตํ ยถาวุตฺตสทฺธาพเลน อุปตฺถมฺภิตํ. อสฺสทฺธิเยนาติ ตปฺปฏิปกฺเขน อสฺสทฺธิเยน เหตุนา. น อิฺชตีติ น จลติ น กมฺปติ, อฺทตฺถุ อุปริวิเสสาวหภาเวเนว ติฏฺติ. วีริยปริคฺคหิตนฺติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – วีริยปริคฺคหิตนฺติ วสีภาวาปาทนปริทมนสาธเนน วีริเยน อุปตฺถมฺภิตํ. สติปริคฺคหิตนฺติ ยถาวุตฺเต ภาวนาพหุลีกาเร อสมฺโมสาทิกาย กุสลานฺจ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวสมานาย สติยา อุปตฺถมฺภิตํ. สมาธิปริคฺคหิตนฺติ ตตฺเถว อวิกฺเขปสาธเนน สมาธาเนน อุปตฺถมฺภิตํ. ปฺาปริคฺคหิตนฺติ ตสฺสา เอว ภาวนาย อุปการานุปการธมฺมานํ ปชานนลกฺขณาย ปฺาย อุปตฺถมฺภิตํ. โอภาสคตนฺติ าโณภาสสหคตํ. โอภาสภูเตน หิ ยถาวุตฺตสมาธานสํวทฺธิเตน าเณน สํกิเลสปกฺขํ ยาถาวโต ปสฺสนฺโต ตโต อุตฺราสนฺโต โอตฺตปฺปนฺโต ตํ อภิภวติ, น เตน อภิภุยฺยติ. เตนาห ‘‘กิเลสนฺธกาเรน น อิฺชตี’’ติ. เอเตน าณปริคฺคหิตํ หิโรตฺตปฺปพลํ ทสฺเสติ. อฏฺงฺคสมนฺนาคตนฺติ จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิตตา ปริสุทฺธตา ปริโยทาตตา อนงฺคณตา วิคตุปกฺกิเลสตา มุทุภาโว กมฺมนิยตา อาเนฺชปฺปตฺติยา ิตตาติ อิเมหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ. อถ วา สมาหิตสฺส จิตฺตสฺส อิมานิ องฺคานีติ ‘‘สมาหิเต’’ติ อิมํ องฺคภาเวน อคฺคเหตฺวา ิติอาเนฺชปฺปตฺติโย วิสุํ คเหตฺวา ยถาวุตฺเตหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อภินีหารกฺขมนฺติ อิทฺธิวิธาทิอตฺถํ อภินีหารกฺขมํ ตทภิมุขกรณโยคฺคํ. เตนาห ‘‘อภิฺาสจฺฉิกรณียานํ ธมฺมานํ อภิฺาสจฺฉิกิริยายา’’ติ.

กามํ นีวรณานิ วิกฺขมฺเภตฺวา เอว ปมชฺฌานสมธิคโม, วิตกฺกาทิวูปสมา เอว จ ทุติยชฺฌานาทิสมธิคโม, ตถาปิ น ตถา เต เตหิ ทูรีภูตา, อเปตา วา ยถา จตุตฺถชฺฌานโต, ตสฺมา เจตโส มลีนภาวสงฺโขภอุปฺปิลาภาวกเรหิ นีวรณาทีหิ สุฏฺุ วิมุตฺติยา ตสฺส ปริสุทฺธิปริโยทาตตา จ วุตฺตาติ อาห ‘‘นีวรณ…เป… ปริโยทาเต’’ติ. ฌานปฏิลาภปจฺจนีกานนฺติ เอตฺถ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจยาน’’นฺติ ปาํ คเหตฺวา ‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจนีกาน’’นฺติ อยํ ปาโ ปฏิกฺขิตฺโต. วุตฺตฺหิ เตน –

‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจยานนฺติ ฌานปฏิลาภเหตุกานํ ฌานปฏิลาภํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ‘อโห วต มเมว สตฺถา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสยฺยา’ติอาทินยปฺปวตฺตานํ มานมายาสาเยฺยาทีนํ. อภิชฺฌาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทนปิ เตสํเยว สงฺคโห. อภิชฺฌา เจตฺถ ปมชฺฌาเนน อวิกฺขมฺภเนยฺยา มานาทโย จ ตเทกฏฺา ทฏฺพฺพา ฌานปฏิลาภปจฺจยานนฺติ อนุวตฺตมานตฺตา. วิกฺขมฺภเนยฺยา ปน นีวรณคฺคหเณน คหิตา. กถํ ปน ปมชฺฌาเนน อวิกฺขมฺภเนยฺยา อิธ วิคจฺฉนฺตีติ? ‘สพฺเพ กุสลา ธมฺมา สพฺพากุสลานํ ปฏิปกฺขา’ติ สลฺเลขปฏิปตฺติวเสน เอวํ วุตฺตํ ฌานสฺส อปรามฏฺภาวทสฺสนโต. เย ปเนตฺถ ‘อิจฺฉาวจรานํ อภิชฺฌาทีน’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ โกปอปฺปจฺจยกามราคพฺยาปาทาทโย คหิตาติ อธิปฺปาเยน ‘ฌานปฏิลาภปจฺจยาน’นฺติ ปาํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘ฌานปฏิลาภปจฺจนีกาน’นฺติ ปาโติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ตถา ปาสฺเสว อภาวโต, ฌานปฏิลาภปจฺจนีกา จ นีวรณา เจว ตเทกฏฺา จ, เตสํ ทูรีภาวํ วตฺวา ปุน เตสํเยว อภาววิคมโจทนาย อยุชฺชมานตฺตา. นนุ จ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺเตสุ อยมตฺโถ ลพฺภติ โอฬาริกานํเยว ปาปธมฺมานํ ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตาติ. สจฺจเมตํ, อิธ ปน อธิคตจตุตฺถชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตตฺตา สุขุมาเยว เต คหิตา, องฺคณุปกฺกิเลสตาสามฺเน ปเนตฺถ สุตฺตานํ อปทิสนํ. ตถา หิ ‘สุตฺตานุสาเรนา’ติ วุตฺตํ, น ปน สุตฺตวเสนา’’ติ.

อวสฺสฺเจตเมวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ อธิคตชฺฌานานมฺปิ เกสฺจิ อิจฺฉาวจรานํ ปวตฺติสพฺภาวโตติ . เตเนว อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจยาน’’นฺติ ปาํ คเหตฺวา ‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจนีกาน’’นฺติ อยํ ปาโ ปฏิกฺขิตฺโต. มหาคณฺิปเท วิสุทฺธิมคฺคสฺส สีหฬคณฺิปเทปิ จ ‘‘ฌานปฏิลาภปจฺจยาน’’นฺติ อิมสฺเสว ปาสฺส อตฺโถ วุตฺโต, ตสฺมา อยเมว ปาโ คเหตพฺโพ, อตฺโถปิ เจตฺถ ยถาวุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เตน ‘‘อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกปอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถ’’ติ อยมฺปิ ปาโ อยุตฺโตเยวาติ คเหตพฺพํ, ตโตเยว จ วิสุทฺธิมคฺเค อยํ ปาโ สพฺเพน สพฺพํ น ทสฺสิโตติ.

อิทฺธิปาทกภาวูปคมเนนาติ อิทฺธิยา ปาทกภาวสฺส ปทฏฺานภาวสฺส อุปคมเนน. ภาวนาปาริปูริยาติ อิโต ปรํ กตฺตพฺพสฺส อภาววเสน อภินีหารกฺขมภาวนาย ปริปุณฺณตฺตา. ปณีตภาวูปคมเนนาติ ตโต เอว ปธานภาวํ นีตตาย อุตฺตมฏฺเน อติตฺติกรฏฺเน จ ปณีตภาวสฺส อุปคมเนน. อุภยฺเจตํ ภาวนาย ิติยา การณวจนํ, ปริปุณฺณาย ภาวนาย ปณีตภาวปฺปตฺติยา ิเตติ. อาเนฺชปฺปตฺเตติ อิทํ ิติยา วิเสสนํ. เตนาห ‘‘ยถา อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ, เอวํ ิเต’’ติ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ อุภยเมกํ องฺคํ, ‘‘สมาหิเต’’ติ ปน อิทมฺปิ เอกมงฺคํ. เตเนวสฺส ปมวิกปฺปโต วิเสสํ สนฺธายาห ‘‘เอวมฺปิ อฏฺงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ.

ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตสฺส วา อนุสฺสรณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ ตํนิสฺสยาทิปจฺจยภูตํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนโต. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหิ ยํ าณํตทตฺถายาติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ปุพฺเพนิวาสํ ตาว ทสฺเสตฺวา ตตฺถ สติาณานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพนิวาโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ปุพฺเพ’’ติ อิทํ ปทํ ‘‘เอกมฺปิ ชาติ’’นฺติอาทิวจนโต อตีตภววิสยํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อตีตชาตีสู’’ติ. นิวาสสทฺโท กมฺมสาธโน, ขนฺธวินิมุตฺโต จ นิวสิตธมฺโม นตฺถีติ อาห ‘‘นิวุตฺถกฺขนฺธา’’ติ. นิวุตฺถตา เจตฺถ สนฺตาเน ปวตฺตตา, ตถาภูตา จ เต อนุ อนุ ภูตา ชาตา ปวตฺตา, ตตฺถ อุปฺปชฺชิตฺวา วิคตา จ โหนฺตีติ อาห ‘‘นิวุตฺถาติ อชฺฌาวุตฺถา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา’’ติ. เอวํ สสนฺตติปริยาปนฺนธมฺมวเสน นิวาสสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ อวิเสเสน วตฺตุํ ‘‘นิวุตฺถธมฺมา วา นิวุตฺถา’’ติ วตฺวา ตํ วิวริตุํ ‘‘โคจรนิวาเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โคจรภูตาปิ หิ โคจราเสวนาย อาเสวิตา อารมฺมณกรณวเสน อนุภูตา นิวุตฺถา นาม โหนฺติ. เต ปน ทุวิธา สปรวิฺาณโคจรตายาติ อุภเยปิ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อตฺตโน วิฺาเณน วิฺาตา’’ติ วตฺวา ‘‘ปริจฺฉินฺนา’’ติ วจนํ เย เต โคจรนิวาเสน นิวุตฺถธมฺมา, น เต เกวลํ วิฺาเณน วิฺาตมตฺตา, อถ โข ยถา ปุพฺเพ นามโคตฺตวณฺณลิงฺคาหาราทีหิ วิเสเสหิ ปริจฺเฉทการิกาย ปฺาย ปริจฺฉิชฺช คหิตา, ตเถเวตํ าณํ ปริจฺฉิชฺช คณฺหาตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทีปนตฺถํ วุตฺตํ. ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา นิวุตฺถาติ สมฺพนฺโธ. น เกวลํ อตฺตโนว วิฺาเณน, อถ โข ปเรสํ วิฺาเณน วิฺาตาปีติ อตฺโถ. อิธาปิ ‘‘ปริจฺฉินฺนา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ปเรสมฺปิ วา วิฺาเณน วิฺาตา ปริจฺฉินฺนาติ. ตสฺส จ คหเณ ปโยชนํ วุตฺตนเยเนว วตฺตพฺพํ.

เต จ โข ยสฺมา อตีตาสุ เอว ชาตีสุ อฺเหิ วิฺาตา ปริจฺฉินฺนา, เต จ ปรินิพฺพุตาปิ โหนฺติ, เยหิ เต วิฺาตา, เตสํ ตทา วตฺตมานสนฺตานานุสาเรน เตสมฺปิ อตีเต ปวตฺติ วิฺายตีติ สิขาปฺปตฺตํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส วิสยภูตํ ปุพฺเพนิวาสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสู’’ติ วุตฺตํ. ฉินฺนวฏุมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสํ อนุสฺสรณํ ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณํ. ‘‘อาทิสทฺเทน ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานุสฺสรณานิ คยฺหนฺตี’’ติ เกจิ วทนฺติ. ฉินฺนวฏุมกา ปน สพฺเพว อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตา ฉินฺนสํสารมคฺคตฺตา, เตสํ อนุสฺสรณํ นาม เตสํ ปฏิปตฺติยา อนุสฺสรณํ. สา ปน ปฏิปตฺติ สงฺเขปโต ฉฬารมฺมณคฺคหณลกฺขณาติ ตานิ อิธ ปรวิฺาณวิฺาตคฺคหเณน คหิตานิ. ตสฺมา ปุริมาสุ ชาตีสุ อตฺตโน วิฺาเณน อวิฺาตานํ ปรินิพฺพุตานํ สพฺเพสมฺปิ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อนุสฺสรณํ ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณนฺติ เวทิตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ปเนตฺถ ปุริมาสุ ชาตีสุ อตฺตโน วิฺาเณน อวิฺาตานํ อปรินิพฺพุตานมฺปิ วตฺตมานกฺขนฺธปฏิปาฏิยา อคนฺตฺวา สีโหกฺกนฺติกวเสน อนุสฺสรณํ คหิตํ, อิเม ปน ยถาวุตฺตฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทโย พุทฺธานํเยว ลพฺภนฺติ. น หิ อตีเต พุทฺธา ภควนฺโต เอวํ วิปสฺสึสุ, เอวํ มคฺคํ ภาเวสุํ, ผลนิพฺพานานิ สจฺฉากํสุ, เอวํ เวเนยฺเย วิเนสุนฺติ เอตฺถ สพฺพถา อฺเสํ าณสฺส คติ อตฺถีติ. เย ปน ปุริมาสุ ชาตีสุ อตฺตโนว วิฺาเณน วิฺาตา, เต ปรินิพฺพุเตปิ ขนฺธปฏิพทฺธตฺตา สาวกา อนุสฺสรนฺติเยว. ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อภินีหรินฺติ จิตฺตํ ฌานารมฺมณโต อปเนตฺวา ปุพฺเพนิวาสาภิมุขํ เปเสสึ, ปุพฺเพนิวาสนินฺนํ ปุพฺเพนิวาสโปณํ ปุพฺเพนิวาสปพฺภารํ อกาสินฺติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ ‘‘อภินินฺนาเมสิ’’นฺติ อุตฺตมปุริสปฺปโยคตฺตา ‘‘โส’’ติ เอตฺถ อหํสทฺโท อาเนตฺวา วุจฺจมาโน ตทตฺโถ ปากโฏ โหตีติ ‘‘โส อห’’นฺติ วุตฺตํ. อเนกวิธนฺติ นานาภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสาทิวเสน พหุวิธํ. ปกาเรหีติ นามโคตฺตาทิอากาเรหิ สทฺธึ. สหโยเค เจตํ กรณวจนํ. ปวตฺติตนฺติ เทสนาวเสน ปวตฺติตํ. เตนาห ‘‘สํวณฺณิต’’นฺติ, วิตฺถาริตนฺติ อตฺโถ. นิวาสนฺติ อนฺโตคธเภทสามฺวจนเมตนฺติ เต เภเท พฺยาปนิจฺฉาวเสน สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตาน’’นฺติ อาห. อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวาติ าณคติยา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา. อนุเทวาติ อนุ เอว, ท-กาโร ปทสนฺธิวเสน อาคโต. ‘‘อภินินฺนาเมสิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘อนุสฺสรามี’’ติ วุตฺตตฺตา จิตฺตสฺส อภินีหารสมนนฺตรภาวสรณํ อนุสทฺโท ทีเปตีติ อาห ‘‘จิตฺเต อภินินฺนามิตมตฺเต เอว สรามีติ ทสฺเสตี’’ติ. ปริกมฺมํ วตฺตพฺพํ สิยาติ ‘‘ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน ภิกฺขุนา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ปฏิปาฏิยา จตฺตาริ ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย สพฺพปจฺฉิมา นิสชฺชา อาวชฺชิตพฺพา’’ติ เอวมาทินา ปุพฺเพนิวาสาณสฺส ปริกมฺมภูตํ ปุพฺพกรณํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย.

อารทฺธปฺปการทสฺสนตฺเถติ อนุสฺสริตุํ อารทฺธสฺส ปุพฺเพนิวาสสฺส ปเภททสฺสนตฺเถ. เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ภวํ. โส หิ เอกกมฺมนิพฺพตฺโต อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺโน อนฺโตคธธมฺมปฺปเภโท ขนฺธปฺปพนฺโธ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโต ชายตีติ ชาตีติ กตฺวา. เตนาห ‘‘เอกมฺปิ…เป… ขนฺธสนฺตาน’’นฺติ. ปริหายมาโนติ ขียมาโน วินสฺสมาโน. กปฺโปติ อสงฺขฺเยยฺยกปฺโป. โส ปน อตฺถโต กาโล, ตทา ปวตฺตมานสงฺขารวเสนสฺส ปริหานิ เวทิตพฺพา. วฑฺฒมาโน วิวฏฺฏกปฺโปติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. โย ปน ‘‘กาลํ เขเปติ, กาโล ฆสติ ภูตานิ, สพฺพาเนว สหตฺตนา’’ติ (ชา. ๑.๒.๑๙๐) อาทีสุ กาลสฺสปิ ขโย วุจฺจติ, โส อิธ นาธิปฺเปโต อนิฏฺปฺปสงฺคโต. สํวฏฺฏนํ วินสฺสนํ สํวฏฺโฏ, สํวฏฺฏโต อุทฺธํ ตถาายี สํวฏฺฏฏฺายี. ตมฺมูลกตฺตาติ ตํปุพฺพกตฺตา. วิวฏฺฏนํ นิพฺพตฺตนํ, วฑฺฒนํ วา วิวฏฺโฏ.

เตเชน สํวฏฺโฏ เตโชสํวฏฺโฏ. สํวฏฺฏสีมาติ สํวฏฺฏนมริยาทา. สํวฏฺฏตีติ วินสฺสติ. สทาติ สพฺพกาลํ, ตีสุปิ สํวฏฺฏกาเลสูติ อตฺโถ. เอกํ พุทฺธกฺเขตฺตนฺติ อิธ ยํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธกฺเขตฺตํ นาม ติวิธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺตเก าเน ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิาณาทิาณานุภาโว ปุฺผลสมุตฺเตชิโต สรเสเนว ปริชมฺภติ, ตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธงฺกุรสฺส นิพฺพตฺตนกฺเขตฺตํ นามาติ อาห ‘‘ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺต’’นฺติ. อานุภาโว ปวตฺตตีติ อิธ อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อาณากฺเขตฺตปริยาปนฺเน ยตฺถ กตฺถจิ จกฺกวาเฬ ตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปริตฺตํ กตฺวา ตตฺเถว อฺํ จกฺกวาฬํ คโตปิ กตปริตฺโต เอว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อถ วา ตตฺถ เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ตฺวา สพฺพสตฺตานํ อตฺถาย ปริตฺเต กเต อาณากฺเขตฺเต สพฺพสตฺตานํ อภิสมฺภุณาตฺเวว ปริตฺตานุภาโว ตตฺถ เทวตาหิ ปริตฺตานํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพโตติ วุตฺตํ ‘‘อานุภาโว ปวตฺตตี’’ติ. ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยาติ วุตฺตนฺติ ยํ วิสยกฺเขตฺตํ สนฺธาย เอกสฺมึเยว ขเณ สเรน อภิวิฺาปนํ อตฺตโน รูปทสฺสนฺจ ปฏิชานนฺเตน ภควตา ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถาติ ยสฺมึ ปเทเส อนนฺตาปริมาเณ วิสยกฺเขตฺเต. ยํ ยํ อากงฺขติ, ตํ ตํ อนุสฺสรตีติ อากงฺขมตฺตปฏิพทฺธวุตฺติตาย พุทฺธาณสฺส ยํ ยํ อนุสฺสริตุํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ อนุสฺสรติ. เอกํ อาณากฺเขตฺตํ วินสฺสตีติ อิมินา ติริยโต สํวฏฺฏมานปริจฺเฉโท วุตฺโต. สณฺหนฺตนฺติ วิวฏฺฏมานํ ชายมานํ. ตสฺส วินาโส จ สณฺหนฺจ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนฺติ อมฺเหหิปิ เหฏฺา ‘‘โลกวิทู’’ติ อิมสฺส อตฺถสํวณฺณนาธิกาเร ปสงฺคโต วุตฺตตฺตา อิธ น วุจฺจติ.

เอวํ ปสงฺเคน สํวฏฺฏาทิเก ปกาเสตฺวา อิทานิ ยถาธิคตํ เตสํ อนุสฺสรณาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย ปเนเต สํวฏฺฏวิวฏฺฏา วุตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอเตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺปสมุทายโต อเนเกสํ สํวฏฺฏกปฺปาทีนํ นิทฺธาริยมานตฺตา. อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเปติ เอตฺถ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ทฏฺพฺโพ. เตน จ อนิยมตฺเถน อิตราสํ อสงฺขฺเยยฺยานมฺปิ สงฺคโห สิทฺโธติ. อถ วา อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเปติ อิทํ สํวฏฺฏกปฺปสฺส อาทิโต ปาฬิยํ คหิตตฺตา วุตฺตํ. ตตฺถาปิ หิ อิมสฺส กติปยกาลํ ภวาทีสุ สํสรณํ อุปลพฺภตีติ. สํวฏฺฏกปฺเป วา วตฺตมาเน เยสุ ภวาทีสุ อิมสฺส อุปปตฺติ อโหสิ, ตํทสฺสนเมตํ ทฏฺพฺพํ. ภเว วาติอาทีสุ กามาทิภเว วา อณฺฑชาทิโยนิยา วา เทวาทิคติยา วา นานตฺตกายนานตฺตสฺีอาทิวิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา ขตฺติยาทิสตฺตนิกาเย วา. ยสฺมา อิทํ ภควโต วเสน ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อาคตํ, ตสฺมา ตสฺเสว นามาทิวเสน อตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํนาโมติ เวสฺสนฺตโร วา โชติปาโล วา’’ติอาทิ. สาลิมํโสทนาหาโร วาติ คิหิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปวตฺตผลโภชโน วาติ ตาปสาทิกาลํ สนฺธาย. ปวตฺตผลโภชโนติ สยมฺปติตผลาหาโร. สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานนฺติ เอตฺถ สามิสา เคหสฺสิตโสมนสฺสาทโย, นิรามิสา เนกฺขมฺมสฺสิตโสมนสฺสาทโย. อาทิ-สทฺเทน วิเวกชสมาธิชสุขาทีนํ สงฺคโห.

เหฏฺา สามฺโต วุตฺตเมวตฺถํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุกาโม ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ สามฺนิทฺเทโสยํ, พฺยาปนิจฺฉาโลโป วา, อมุตฺร อมุตฺร อาสินฺติ วุตฺตํ โหติ. อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวทิจฺฉกํ อนุสฺสรณนฺติ เอตฺถ อาโรหนฺตสฺสาติ ปฏิโลมโต าเณน ปุพฺเพนิวาสํ อาโรหนฺตสฺส. ปฏินิวตฺตนฺตสฺสาติ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรณวเสน ยาวทิจฺฉกํ คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺตสฺส. ปจฺจเวกฺขณนฺติ อนุสฺสริตานุสฺสริตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ. ตสฺมาติ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส การณภาเวน ปจฺจามสนํ, ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณภาวโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธูปปตฺติยาติ อิธ จริมภเว อุปปตฺติยา. อนนฺตรนฺติ อตีตานนฺตรมาห. อมุตฺราติ อมุกสฺมึ ภเวติ อตฺโถ. อุทปาทินฺติ อุปฺปชฺชึ. ตาหิ เทวตาหีติ ตุสิตเทวตาหิ. เอกโคตฺโตติ ตุสิตโคตฺเตน เอกโคตฺโต. มหาโพธิสตฺตานํ สนฺตานสฺส ปริโยสานาวตฺถายํ เทวโลกูปปตฺติชนกํ นาม อกุสเลน กมฺมุนา อนุปทฺทุตเมว โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทุกฺขํ ปน สงฺขารทุกฺขมตฺตเมวา’’ติ วุตฺตํ. มหาปุฺานมฺปิ ปน เทวปุตฺตานํ ปุพฺพนิมิตฺตุปฺปตฺติกาลาทีสุ อนิฏฺารมฺมณสมาโยโค โหติเยวาติ ‘‘กทาจิ ทุกฺขทุกฺขสฺสปิ สมฺภโว นตฺถี’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, ธมฺมานํ อุปฺปาทนิโรธสงฺขารทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํ. สตฺตปฺาส…เป… ปริยนฺโตติ อิทํ มนุสฺสวสฺสคณนาวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ เทวานํ วสฺสคณนาย ปน จตุสหสฺสเมว.

อิตีติ วุตฺตตฺถนิทสฺสนเมตํ, ตฺจ โข ยถารหโต, น ยถานุปุพฺพโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นามโคตฺตวเสนา’’ติอาทิมาห. อุทฺทิสียตีติ ทิสฺวาว อวิฺเยฺยตฺตา ‘‘อยํ โก นาโม’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘ติสฺโส โคตโม’’ติ นามโคตฺเตน อุทฺทิสียติ. วณฺณาทีหีติ วณฺณาหารเวทยิตายุปริจฺเฉเทหิ. สาโมตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน เอวมาทิเอวํปการนานตฺตโตติ ทสฺสิตํ โหติ. นามโคตฺตํ อุทฺเทโสติ อุทฺทิสียติ สตฺโต เอเตนาติ อุทฺเทโส นามโคตฺตํ. อิตเร อาการาติ อากรียติ ทิสฺวาว สตฺโต วิฺายติ เอเตหีติ อิตเร วณฺณาทโย อาการา. ‘‘โน จ โข อวิเสเสนา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถาเรน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ติตฺถิยา หี’’ติอาทิ. ตตฺถ ติตฺถิยาติ อฺติตฺถิยา. เต ปน กมฺมวาทิโน กิริยวาทิโน ตาปสาทโย. ยสฺมา ติตฺถิยานํ พฺรหฺมชาลาทีสุ จตฺตาลีสาย เอว สํวฏฺฏวิวฏฺฏานํ อนุสฺสรณํ อาคตํ, ตสฺมา ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ การณํ วทนฺโต ‘‘ทุพฺพลปฺตฺตา’’ติอาทิมาห. เตน วิปสฺสนาภิโยโค ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส วิเสสการณนฺติ ทสฺเสติ. ตโตเยว จ พลวปฺตฺตา เปตฺวา อคฺคสาวกมหาสาวเก อิตเร ปกติสาวกา กปฺปสตมฺปิ กปฺปสหสฺสมฺปิ อนุสฺสรนฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เตเนว วุตฺตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๐๒) ‘‘ปกติสาวกา กปฺปสตมฺปิ กปฺปสหสฺสมฺปิ อนุสฺสรนฺติเยว พลวปฺตฺตา’’ติ. เอตฺตโก หิ เตสํ อภินีหาโรติ กปฺปานํ สตสหสฺสมฺปิ ตทธิกํ เอกํ ทฺเว จ อสงฺขฺเยยฺยานีติ กาลวเสน เอวํปริมาโณ ยถากฺกมํ เตสํ มหาสาวกอคฺคสาวกปจฺเจกพุทฺธานํ ปุฺาณาภินีหาโร, สาวกปจฺเจกโพธิปารมิตา สิทฺธา. ยทิ โพธิสมฺภารสมฺภรณกาลปริจฺฉินฺโน เตสํ เตสํ อริยานํ อภิฺาาณวิภโว, เอวํ สนฺเต พุทฺธานมฺปิสฺส ปริจฺเฉทตา อาปนฺนาติ อาห ‘‘พุทฺธานํ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถี’’ติ. ‘‘ยาวตกํ เยฺยํ, ตาวตกํ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๓.๕) วจนโต สพฺพฺุตฺาณสฺส วิย พุทฺธานํ อภิฺาาณานมฺปิ สวิสเย ปริจฺเฉโท นาม นตฺถีติ ตตฺถ ยํ ยํ าตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ ชานนฺติ เอว. อถ วา สติปิ กาลปริจฺเฉเท การณูปายโกสลฺลปริคฺคหาทินา สาติสยตฺตา มหาโพธิสมฺภารานํ ปฺาปารมิตาย ปวตฺติอานุภาวสฺส ปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ, กุโต ตํนิพฺพตฺตานํ อภิฺาาณานนฺติ อาห ‘‘พุทฺธานํ ปน ปริจฺเฉโท นตฺถี’’ติ. อตีเต ‘‘เอตฺตกานํ กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยานี’’ติ เอวํ กาลปริจฺเฉโท นตฺถิ อนาคเต อนาคตํสาณสฺส วิย. เตนาห ‘‘ยาว อิจฺฉนฺติ ตาว สรนฺตี’’ติ.

เอวํ ปฺจนฺนํ ชนานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ กาลวิภาคโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ อารมฺมณคฺคหณวเสนสฺส ปวตฺติวิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติตฺถิยา จา’’ติอาทิมาห. ขนฺธปฏิปาฏิเมว สรนฺตีติ เอตฺถ ขนฺธปฏิปาฏิ ขนฺธานํ อนุกฺกโม, สา จ โข จุติโต ปฏฺาย อุปฺปฏิปาฏิวเสน. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อิริยาปถปฏิปาฏิ ขนฺธปฏิปาฏี’’ติ วทนฺติ. วุตฺตเมวตฺถํ พฺยติเรกโต วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปฏิปาฏึ มุฺจิตฺวา’’ติอาทิ. ตตฺถ จุติปฏิสนฺธิวเสนาติ อตฺตโน ปรสฺส วา ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺตภาเว จุตึ ทิสฺวา อนฺตรา กิฺจิ อนามสิตฺวา ปฏิสนฺธิยา เอว คหณวเสน. ยถา ปน อนฺธา ยฏฺึ อมุฺจิตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวํ เต ขนฺธปฏิปาฏึ อมุฺจิตฺวาว สรนฺตีติ อาห ‘‘เตสฺหิ อนฺธานํ วิย อิจฺฉิตปฺปเทโสกฺกมนํ นตฺถี’’ติ. สาวกาติ ปกติสาวกาปิ มหาสาวกาปิ อคฺคสาวกาปิ สามฺโต วุตฺตา. ปกติสาวกาปิ หิ ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ อนุสฺสรนฺติ , จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ สงฺกมนฺติ พลวปฺตฺตา, ตถา อสีติมหาสาวกา. ทฺวินฺนํ ปน อคฺคสาวกานํ ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ นตฺถิ. เอกสฺส อตฺตภาวสฺส จุตึ ทิสฺวา ปฏิสนฺธึ ปสฺสนฺติ, ปุน อปรสฺส จุตึ ทิสฺวา ปฏิสนฺธินฺติ เอวํ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ สงฺกมนฺตา คจฺฉนฺติ. ยถา นาม สรทสมเย ิตมชฺฌนฺหิกเวลายํ จตุรตนิเก เคเห จกฺขุมโต ปุริสสฺส รูปคตํ สุปากฏเมว โหตีติ โลกสิทฺธเมตํ. สิยา ปน ตสฺส สุขุมตรติโรกุฏฺฏาทิเภทสฺส รูปคตสฺส อโคจรตา, น ตฺเวว พุทฺธานํ าตุํ อิจฺฉิตสฺส เยฺยสฺส อโคจรตา, อถ โข ตํ าณาโลเกน โอภาสิตํ หตฺถตเล อามลกํ วิย สุปากฏํ สุวิภูตเมว โหติ, ตถา เยฺยาวรณสฺส สุปฺปหีนตฺตาติ อาห ‘‘พุทฺธา ปนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ สีโหกฺกนฺตวเสนาติ สีหคติปตนวเสน. ยํ ยํ านํ อากงฺขนฺตีติ ยสฺมึ กปฺเป ยสฺมึ ภเว ยํ ยํ านํ ชานิตุํ อิจฺฉนฺติ. ตํ สพฺพํ สรนฺติเยวาติ าตุํ อิจฺฉิตํ ตํ สพฺพํ สรนฺติเยว, น น สรนฺติ. พุทฺธานฺหิ เนว ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ, น จ จุติปฏิสนฺธิวเสน สงฺกมนกิจฺจํ อตฺถิ. เตสฺหิ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ เหฏฺา วา อุปริ วา ยํ ยํ านํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ ปากฏเมว โหติ. ตสฺมา ยถา เปยฺยาลปาฬึ ปนฺตา ‘‘ปมํ ฌานํ…เป… ปฺจมํ ฌาน’’นฺติอาทิปริโยสานเมว คณฺหนฺตา สงฺขิปิตฺวา สชฺฌายนฺติ, น อนุปทํ, เอวํ อเนกาปิ กปฺปโกฏิโย เปยฺยาลปาฬึ วิย สงฺขิปิตฺวา ยํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว าเณน โอกฺกมนฺตา สีโหกฺกนฺตวเสน คจฺฉนฺติ. เอวํ คจฺฉนฺตานฺจ เตสํ าณํ ยถา นาม กตวาลเวธิปริจยสฺส สรภงฺคสทิสสฺส ธนุคฺคหสฺส ขิตฺโต สโร อนฺตรนฺตรา รุกฺขลตาทีสุ อสชฺชมาโน ลกฺเขเยว ปตติ น สชฺชติ น วิรชฺฌติ, เอวํ อนฺตรนฺตราสุ ชาตีสุ น สชฺชติ น วิรชฺฌติ, อสชฺชมานํ อวิรชฺฌมานํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํเยว คณฺหาติ.

อตีตภเว ขนฺธา ตปฺปฏิพทฺธนามโคตฺตานิ จ สพฺพํ ปุพฺเพนิวาสนฺตฺเวว สงฺคหิตานีติ อาห ‘‘กึ วิทิตํ กโรติ? ปุพฺเพนิวาส’’นฺติ. โมโห ปฏิจฺฉาทกฏฺเน ตโม วิย ตโมติ อาห ‘‘สฺเวว โมโห’’ติอาทิ. โอภาสกรณฏฺเนาติ กาตพฺพโต กรณํ, โอภาโสว กรณํ โอภาสกรณํ, อตฺตโน ปจฺจเยหิ โอภาสภาเวน นิพฺพตฺเตตพฺพฏฺเนาติ อตฺโถ. เสสํ ปสํสาวจนนฺติ ปฏิปกฺขวิธมนปวตฺติวิเสสานํ โพธนโต วุตฺตํ. อวิชฺชา วิหตาติ เอเตน วิชานนฏฺเน วิชฺชาติ อยมฺปิ อตฺโถ ทีปิโตติ ทฏฺพฺพํ. กสฺมา? ยสฺมา วิชฺชา อุปฺปนฺนาติ เอเตน วิชฺชาปฏิปกฺขา อวิชฺชา, ปฏิปกฺขตา จสฺสา ปหาตพฺพภาเวน วิชฺชาย จ ปหายกภาเวนาติ ทสฺเสติ. เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเยติ อิมินา ตโม วิหโต วินฏฺโ. กสฺมา? ยสฺมา อาโลโก อุปฺปนฺโนติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน วีริยํ อาตาโปติ อาห ‘‘วีริยาตาเปน อาตาปิโน’’ติ, วีริยวโตติ อตฺโถ. เปสิตจิตฺตสฺสาติ ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธึ ปติวิสฺสฏฺจิตฺตสฺส. ยถา อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโตติ อฺสฺสปิ กสฺสจิ มาทิสสฺสาติ อธิปฺปาโย. ปธานานุโยคสฺสาติ สมฺมปฺปธานมนุยุตฺตสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺตา วุตฺตนยตฺตา จ สุวิฺเยฺยเมว.

ปุพฺเพนิวาสกถา นิฏฺิตา.

ทิพฺพจกฺขุาณกถา

๑๓. จุติยาติ จวเน. อุปปาเตติ อุปปชฺชเน. สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ, จุติกฺขณสามนฺตา อุปปตฺติกฺขณสามนฺตา จาติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เย ปน อาสนฺนจุติกา’’ติอาทิ. เยน าเณนาติ เยน ทิพฺพจกฺขุาเณน. ทิพฺพจกฺขุาเณเนว หิ สตฺตานํ จุติ จ อุปปตฺติ จ ายติ. ปริกมฺมํ วตฺตพฺพํ สิยาติ ‘‘ทิพฺพจกฺขุาณํ อุปฺปาเทตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน กสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สพฺพากาเรน อภินีหารกฺขมํ กตฺวา เตโชกสิณํ โอทาตกสิณํ อาโลกกสิณนฺติ อิเมสุ ตีสุ กสิเณสุ อฺตรํ อาสนฺนํ กาตพฺพํ, อุปจารชฺฌานโคจรํ กตฺวา วฑฺเฒตฺวา เปตพฺพ’’นฺติอาทินา ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปริกมฺมํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย.

โส อหนฺติ โส กตจิตฺตาภินีหาโร อหํ. ทิพฺพสทิสตฺตาติ ทิวิ ภวนฺติ ทิพฺพํ, เทวานํ ปสาทจกฺขุ, เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา สทิสตฺตาติ อตฺโถ. ทิพฺพสทิสตฺตาติ จ หีนูปมาทสฺสนํ เทวตานํ ทิพฺพจกฺขุโตปิ อิมสฺส มหานุภาวตฺตา. อิทานิ ตํ ทิพฺพสทิสตฺตํ วิภาเวตุํ ‘‘เทวตานฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตนฺติ สทฺธาพหุลตาวิสุทฺธทิฏฺิตาอานิสํสทสฺสาวิตาทิสมฺปตฺติยา สุฏฺุ จริตตฺตา สุจริเตน เทวูปปตฺติชนเกน ปุฺกมฺเมน นิพฺพตฺตํ. ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหีติ อาทิ-สทฺเทน วาตโรคาทีนํ สงฺคโห. อปลิพุทฺธนฺติ อนุปทฺทุตํ. ปิตฺตาทีหิ อนุปทฺทุตตฺตา กมฺมสฺส จ อุฬารตาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺติ เวทิตพฺพา. อุปกฺกิเลสโทสรหิตฺหิ กมฺมํ ติณาทิโทสรหิตํ วิย สสฺสํ อุฬารผลํ อนุปกฺกิลิฏฺํ โหติ. การณูปจาเรน จสฺส ผลํ ตถา โวหรียติ ยถา ‘‘สุกฺกํ สุกฺกวิปาก’’นฺติ. ทูเรปีติ ปิ-สทฺเทน สุขุมสฺสปิ อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉนสมตฺถตํ สงฺคณฺหาติ. ปสาทจกฺขูติ จตุนฺนํ มหาภูตานํ ปสาทลกฺขณํ จกฺขุ. วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตนฺติ วีริยารมฺภวเสเนว อิชฺฌนโต สพฺพาปิ กุสลภาวนา วีริยภาวนา, ปธานสงฺขารสมนฺนาคตา วา อิทฺธิปาทภาวนา วิเสสโต วีริยภาวนา, ตสฺสา อานุภาเวน นิพฺพตฺตํ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ. าณมยํ จกฺขุ าณจกฺขุ. ตาทิสเมวาติ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ สุขุมสฺสปิ อารมฺมณสฺส สมฺปฏิจฺฉนสมตฺถตาย จ ตํสทิสเมว.

ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตาติ ทิพฺพวิหารสงฺขาตานํ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน ปฏิลทฺธตฺตา. อิมินา การณวเสนสฺส ทิพฺพภาวมาห. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ อฏฺงฺคสมนฺนาคเมน อุกฺกํสคตํ ปาทกชฺฌานสงฺขาตํ ทิพฺพวิหารํ สนฺนิสฺสาย ปวตฺตตฺตา, ทิพฺพวิหารปริยาปนฺนํ วา อตฺตนา สมฺปยุตฺตํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ นิสฺสาย ปจฺจยภูตํ สนฺนิสฺสิตตฺตาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพนฺติ กสิณาโลกานุคฺคเหน ปตฺตพฺพตฺตา สยํ าณาโลกผรณภาเวน จ มหาชุติกภาวโตปิ ทิพฺพนฺติ อตฺโถ. มหาชุติกมฺปิ หิ ทิพฺพนฺติ วุจฺจติ ‘‘ทิพฺพมิทํ พฺยมฺห’’นฺติอาทีสุ. มหาคติกตฺตาติ มหนียคมนตฺตา, วิมฺหยนียปฺปวตฺติกตฺตาติ อตฺโถ. วิมฺหยนียา หิสฺส ปวตฺติ ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสนโต. ตํ สพฺพนฺติ ‘‘เหฏฺา วุตฺตํ อตฺถปฺจกมเปกฺขิตฺวา วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ชุติคติอตฺเถสุปิ สทฺทวิทู ทิวุสทฺทํ อิจฺฉนฺตีติ มหาชุติกตฺตา มหาคติกตฺตาติ อิทเมว ทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา ‘สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพ’นฺติ อิทํ ทิพฺพติ โชตยตีติ ทิพฺพํ, ทิพฺพติ คจฺฉติ อสชฺชมานํ ปวตฺตตีติ ทิพฺพนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถโร ปน –

‘‘ทิพฺพจกฺขุลาภาย โยคิโน ปริกมฺมกรณํ ตปฺปฏิปกฺขาภิภวสฺส อตฺถโต ตสฺส วิชยิจฺฉา นาม โหติ, ทิพฺพจกฺขุลาภี จ อิทฺธิมา เทวตานํ วจนคหณกฺขมนธมฺมทานวเสน มหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทโย วิย ทานคฺคหณลกฺขเณ โวหาเร จ ปวตฺเตยฺยาติ เอวํ วิหารวิชยิจฺฉาโวหารชุติคติสงฺขาตานํ อตฺถานํ วเสน อิมสฺส อภิฺาาณสฺส ทิพฺพจกฺขุภาวสิทฺธิโต สทฺทวิทู จ เตสุ เอว อตฺเถสุ ทิวุสทฺทํ อิจฺฉนฺตีติ ‘ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพ’นฺติ วุตฺต’’นฺติ –

อาห.

ทสฺสนฏฺเนาติ รูปทสฺสนภาเวน. จกฺขุนา หิ สตฺตา รูปํ ปสฺสนฺติ. ยถา มํสจกฺขุ วิฺาณาธิฏฺิตํ สมวิสมํ อาจิกฺขนฺตํ วิย ปวตฺตติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน สยเมว ตโต สาติสยํ จกฺขุกิจฺจการีติ อาห ‘‘จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขู’’ติ. ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาตีติ ปรโต อุปฺปตฺติยา อทสฺสนโต ‘‘เอตฺเถ วายํ สตฺโต อุจฺฉินฺโน, เอวมิตเรปี’’ติ อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาตีติ ฌานลาภี อธิจฺจสมุปฺปนฺนิโก วิย คณฺหาติ. ยถา หิ โส อสฺสตฺตา จวิตฺวา อิธูปปนฺโน ปพฺพชิโต สมาโน อภิฺาลาภี หุตฺวา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺโต อิธูปปตฺติเมว ทิสฺวา ตโต ปรํ อสฺภเว อุปฺปตฺตึ อนุสฺสริตุมสกฺโกนฺโต ‘‘อหํ อธิจฺจสมุปฺปนฺโน ปุพฺเพ นาโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สตฺตตาย ปริณโต, เสสาปิ สตฺตา ตาทิสาเยวา’’ติ อภินวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ, เอวมยมฺปิ อุปปาตมตฺตเมว ทิสฺวา จุตึ อปสฺสนฺโต นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ.

อิทานิ อฺถาปิ วิสุทฺธิการณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอกาทสอุปกฺกิเลสวิรหโต วา’’ติอาทิ. ยถาหาติ อุปกฺกิเลสสุตฺเต อาคตปาฬึ นิทสฺเสติ. ตตฺถ หิ อนุรุทฺโธ นนฺทิโย กิมิโลติ อิเม ตโย กุลปุตฺเต อามนฺเตตฺวา ธมฺมํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อนุรุทฺธา ตุมฺเห กึ อิเมหิ น อาลุฬิสฺสนฺติ, อหมฺปิ อิเมหิ อุปาทาย เอกาทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ อาลุฬิตปุพฺโพ’’ติ ทสฺเสตุํ –

‘‘อหมฺปิ สุทํ อนุรุทฺธา ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺโธ โพธิสตฺโตว สมาโน โอภาสฺเจว สฺชานามิ ทสฺสนฺจ รูปานํ, โส โข ปน เม โอภาโส น จิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปาน’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘วิจิกิจฺฉา โข เม อุทปาทิ, วิจิกิจฺฉาธิกรณฺจ เม สมาธิ จวิ, สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ, โสหํ ตถา กริสฺสามิ, ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ.

‘‘โส โข อหํ อนุรุทฺธา อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสฺเจว สฺชานามิ ทสฺสนฺจ รูปานํ, โส โข ปน เม โอภาโส น จิรสฺเสว อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปาน’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘อมนสิกาโร โข เม อุทปาทิ, อมนสิการาธิกรณฺจ ปน เม สมาธิ จวิ, สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนฺจ รูปานํ, โสหํ ตถา กริสฺสามิ, ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ น อมนสิกาโร’’’ติ –

อาทินา (ม. นิ. ๓.๒๔๑) เทสนํ อารภิตฺวา อิทํ วุตฺตํ ‘‘โส โข อหํ อนุรุทฺธา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ อิติ วิทิตฺวา’’ติอาทิ.

ตตฺถ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๒๔๑) วิจิกิจฺฉาติ มหาสตฺตสฺส อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา นานาวิธานิ รูปานิ ปสฺสนฺตสฺส ‘‘อิทํ นุ โข กิ’’นฺติ อุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา. มนสิการวเสน ปน เม รูปานิ อุปฏฺหึสุ, รูปานิ ปสฺสโต วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อิทานิ กิฺจิ น มนสิ กริสฺสามีติ ตุณฺหี ภวติ, ตํ ตุณฺหีภาวปฺปตฺตึ สนฺธายาห ‘‘อมนสิกาโร’’ติ. ถินมิทฺธนฺติ กิฺจิ อมนสิกโรนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ ถินมิทฺธํ. ตถาภูตสฺส หิ สวิปฺผาริกมนสิการสฺส อภาวโต ถินมิทฺธํ อุปฺปชฺชติ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ถินมิทฺธํ วิโนเทตฺวา ยถารทฺธมนสิการวเสน หิมวนฺตาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทานวรกฺขสอชคราทโย ปสฺสนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ ฉมฺภิตตฺตํ. อุปฺปิลนฺติ ‘‘มยา ทิฏฺภยํ ปกติยา จกฺขุวิฺาเณน โอโลกิยมานํ น ปสฺสติ, อทิฏฺเ ปริกปฺปิตสทิเส กึนาม ภย’’นฺติ ภยสฺส วิโนทนวเสน จินฺเตนฺตสฺส อตฺตโน ปจฺจเวกฺขณาโกสลฺลํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อุปฺปิลาวิตตฺตํ. ทุฏฺุลฺลนฺติ กายาลสิยํ. ‘‘มยา ถินมิทฺธํ ฉมฺภิตตฺตานํ วูปสมนตฺถํ คาฬฺหํ วีริยํ ปคฺคหิตํ, เตน เม อุปฺปิลสงฺขาตา จิตฺตสมาธิทูสิตา เคหสฺสิตา พลวปีติ อุปฺปนฺนา’’ติ วีริยํ สิถิลํ กโรนฺตสฺส หิ กายทุฏฺุลฺลํ กายทรโถ กายาลสิยํ อุทปาทิ.

อจฺจารทฺธวีริยนฺติ ‘‘มม วีริยํ สิถิลํ กโรโต ทุฏฺุลฺลํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปุน วีริยํ ปคฺคณฺหโต อุปฺปนฺนํ อจฺจารทฺธวีริยํ. อติลีนวีริยนฺติ ‘‘มม วีริยํ ปคฺคณฺหโต เอวํ ชาต’’นฺติ ปุน วีริยํ สิถิลยโต อุปฺปนฺนํ อติลีนวีริยํ. อภิชปฺปาติ เทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เทวสงฺฆํ ปสฺสโต อุปฺปนฺนา ตณฺหา. ‘‘เอวํ เม โหตู’’ติ หิ อภินิวิสนวเสน ชปฺปตีติ อภิชปฺปา, ตณฺหา. นานตฺตสฺาติ ‘‘มยฺหํ เอกชาติกํ รูปํ มนสิกโรนฺตสฺส อภิชปฺปา อุปฺปนฺนา, นานาวิธํ รูปํ มนสิการํ กริสฺสามี’’ติ กาเลน เทวโลกาภิมุขํ กาเลน มนุสฺสโลกาภิมุขํ วฑฺเฒตฺวา นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรโต อุปฺปนฺนา นานตฺตสฺา, นานตฺเต นานาสภาเว สฺาติ นานตฺตสฺา. อตินิชฺฌายิตตฺตนฺติ ‘‘มยฺหํ นานาวิธานิ รูปานิ มนสิกโรนฺตสฺส นานตฺตสฺา อุทปาทิ, อิฏฺํ วา อนิฏฺํ วา เอกชาติกเมว รูปํ มนสิ กริสฺสามี’’ติ ตถา มนสิกโรโต อุปฺปนฺนํ รูปานํ อตินิชฺฌายิตตฺตํ, อติวิย อุตฺตริ กตฺวา นิชฺฌานํ เปกฺขนํ อตินิชฺฌายิตตฺตํ. โอภาสนฺติ ปริกมฺมสมุฏฺิตํ โอภาสํ. น จ รูปานิ ปสฺสามีติ ปริกมฺโมภาสมนสิการปฺปสุตตาย ทิพฺพจกฺขุนา รูปานิ น ปสฺสามิ. รูปานิ หิ โข ปสฺสามีติ เตน ปริกมฺโมภาเสน ผริตฺวา ิตฏฺาเน ทิพฺพจกฺขุโน วิสยภูตานิ รูปคตานิ ปสฺสามิ.

เอวมาทีติ อาทิ-สทฺเทน –

‘‘เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวํ เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, ยฺวาหํ โอภาสฺหิ โข สฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ, รูปานิ โข ปสฺสามิ, น จ โอภาสํ สฺชานามิ เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวํ เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ ‘ยสฺมิฺหิ โข อหํ สมเย รูปนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา โอภาสนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ. โอภาสฺหิ โข ตสฺมึ สมเย สฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ. ยสฺมึ ปนาหํ สมเย โอภาสนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา รูปนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ. รูปานิ หิ โข ตสฺมึ สมเย ปสฺสามิ, น จ โอภาสํ สฺชานามิ เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวํ เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิว’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๒๔๓) –

เอวมาทิปาฬึ สงฺคณฺหาติ.

มนุสฺสานํ อิทนฺติ มานุสกํ, มนุสฺสานํ โคจรภูตํ รูปารมฺมณํ. ตทฺสฺส ปน ทิพฺพติโรกุฏฺฏสุขุมาทิเภทสฺส รูปสฺส ทสฺสนโต อติกฺกนฺตมานุสกํ. เอวรูปํ ตฺจ มนุสฺสูปจารํ อติกฺกนฺตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนนา’’ติ. ตตฺถ มนุสฺสูปจารนฺติ มนุสฺเสหิ อุปจริตพฺพฏฺานํ, ปกติยา จกฺขุทฺวาเรน คเหตพฺพํ วิสยนฺติ อธิปฺปาโย. เอวํ วิสยมุเขน ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิสยิมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘มานุสกํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ มํสจกฺขาติกฺกโม ตสฺส กิจฺจาติกฺกเมเนว ทฏฺพฺโพ. ทิพฺเพน จกฺขุนาติ ทิพฺพจกฺขุาเณนปิ ทฏฺุํ น สกฺกา ขณสฺส อติอิตฺตรตาย อติสุขุมตาย เกสฺจิ รูปสฺส, อปิจ ทิพฺพจกฺขุสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปารมฺมณํ, ตฺจ ปุเรชาตปจฺจยภูตํ, น จ อาวชฺชนปริกมฺเมหิ วินา มหคฺคตสฺส ปวตฺติ อตฺถิ, นาปิ อุปฺปชฺชมานเมว รูปํ อารมฺมณปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, ภิชฺชมานํ วา, ตสฺมา จุตูปปาตกฺขเณ รูปํ ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกาติ สุวุตฺตเมตํ.

ยทิ ทิพฺพจกฺขุาณํ รูปารมฺมณเมว, อถ กสฺมา ‘‘สตฺเต ปสฺสามี’’ติ วุตฺตนฺติ? เยภุยฺเยน สตฺตสนฺตานคตรูปทสฺสนโต เอวํ วุตฺตํ. สตฺตคหณสฺส วา การณภาวโต โวหารวเสน วุตฺตนฺติปิ วทนฺติ. เต จวมานาติ อธิปฺเปตาติ สมฺพนฺโธ. เอวรูเปติ น จุตูปปาตกฺขณสมงฺคิโนติ อธิปฺปาโย. โมหูปนิสฺสยํ นาม กมฺมํ นิหีนํ นิหีนผลํ โหตีติ อาห ‘‘โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา’’ติ. โมหูปนิสฺสยตา จ กุสลกมฺมสฺส ปุพฺพภาเค โมหปฺปวตฺติพหุลตาย เวทิตพฺพา. ตาย ปน โมหปฺปวตฺติยา สํกิลิฏฺํ กุสลกมฺมํ นิหีนเมว ชาติอาทึ นิปฺผาเทตีติ นิหีนชาติอาทโย โมหสฺส นิสฺสนฺทผลานีติ อาห ‘‘หีนานํ ชาติกุลโภคาทีน’’นฺติอาทิ. หีฬิเตติ ครหิเต. โอหีฬิเตติ วิเสสโต ครหิเต. อุฺาเตติ ลามกภาเวน าเต. อวฺาเตติ วิเสสโต ลามกภาเวน วิทิเต. อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตาติ เอตฺถ อโมโห สมฺปยุตฺตวเสน ปุพฺพภาควเสน จ ปวตฺโต กถิโต, เตน จ ติเหตุกปฏิสนฺธิเก ทสฺเสติ. ตพฺพิปรีเตติ ตสฺส หีฬิตาทิภาวสฺส วิปรีเต, อหีฬิเต อโนหีฬิเต อนุฺาเต อนวฺาเต จิตฺตีกเตติ อตฺโถ.

สุวณฺเณติ สุนฺทรวณฺเณ. ทุพฺพณฺเณติ อสุนฺทรวณฺเณ. สา ปนายํ สุวณฺณทุพฺพณฺณตา ยถากฺกมํ กมฺมสฺส อโทสโทสูปนิสฺสยตาย โหตีติ อาห ‘‘อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา’’ติอาทิ. อโทสูปนิสฺสยตา จ กมฺมสฺส เมตฺตาทีหิ ปริภาวิตสนฺตานปฺปวตฺติยา เวทิตพฺพา. อภิรูเป วิรูเปติ อิทํ สณฺานวเสน วุตฺตํ. สณฺานวจโนปิ หิ วณฺณสทฺโท โหติ ‘‘มหนฺตํ หตฺถิวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) วิย. ปมํ วุตฺโต ปน อตฺโถ วณฺณวเสเนว วุตฺโต. สุนฺทรํ คตึ คตา สุคตาติ อาห ‘‘สุคติคเต’’ติ, สุคตึ อุปปนฺเนติ อตฺโถ. อโลภชฺฌาสยา สตฺตา วทฺู วิคตมจฺเฉรา อโลภูปนิสฺสเยน กมฺมุนา สุคตา สมิทฺธา โหนฺตีติ อาห ‘‘อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน’’ติ. ทุกฺขํ คตึ คตา ทุคฺคตาติ อาห ‘‘ทุคฺคติคเต’’ติ. โลภชฺฌาสยา สตฺตา ลุทฺธา มจฺฉริโน โลภูปนิสฺสเยน กมฺมุนา ทุคฺคตา ทุรูปา โหนฺตีติ อาห ‘‘โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน’’ติ. อุปจิตนฺติ ผลาวหภาเวน กตํ. ยถา กตฺหิ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตํ. จวมาเนติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตนฺติ วิสยมุเขน วิสยิพฺยาปารมาห. ปุริเมหีติ ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา’’ติอาทีนิ ปทานิ สนฺธาย วุตฺตํ. อาทีหีติ เอตฺถ -สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, ตสฺมา ‘‘ทิพฺเพน…เป… ปสฺสามี’’ติ อิเมหิ ‘‘จวมาเน’’ติอาทีหิ จ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. อิมินาปน ปเทนาติ ‘‘ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามี’’ติ อิมินา วากฺเยน. ปชฺชติ ายติ อตฺโถ อิมินาติ หิ ปทํ วากฺยํ.

มหนฺตํ ทุกฺขมนุภวมาเนติ เอตฺถ ทิพฺพจกฺขุาเณน รูปํ ทิสฺวา เตสํ ทุกฺขานุภวนํ กามาวจรจิตฺเตเนว ชานาตีติ เวทิตพฺพํ. โสติ เนรยิกสตฺเต ปจฺจกฺขโต ทิสฺวา ิโต ทิพฺพจกฺขุาณลาภี. เอวํ มนสิ กโรตีติ เตสํ เนรยิกานํ นิรยสํวตฺตนิกสฺส กมฺมสฺส าตุกามตาวเสน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมวเสน มนสิ กโรติ. กึ นุ โขติอาทิ มนสิการวิธิทสฺสนํ. เอวํ ปน ปริกมฺมํ กตฺวา ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตสฺส ตํ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา อาวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ นิรุทฺเธ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ. เยสํ ปุริมานิ ตีณิ จตฺตาริ วา ปริกมฺมอุปจารานุโลมโคตฺรภุนามกานิ กามาวจรานิ, จตุตฺถํ ปฺจมํ วา อปฺปนาจิตฺตํ รูปาวจรํ จตุตฺถชฺฌานิกํ, ตตฺถ ยํ เตน อปฺปนาจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปนฺนํ าณํ, ตํ ยถากมฺมูปคาณนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถี’’ติ อิทํ ปน ทิพฺพจกฺขุาเณน วินา ยถากมฺมูปคาณสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. เอวฺเจตํ อิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา ยถากมฺมูปคาณสฺส มหคฺคตภาโว เอว น สิยา. เทวานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย. เนรยิกเทวคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อากงฺขมาโน หิ ทิพฺพจกฺขุลาภี อฺคติเกสุปิ เอวํ ปฏิปชฺชติเยว. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปตี’’ติอาทิ, ‘‘สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหตี’’ติ จ. ตํ นิรยสํวตฺตนิยกมฺมํ อารมฺมณเมตสฺสาติ ตํกมฺมารมฺมณํ. ผารุสกวนาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตลตาวนาทีนํ สงฺคโห.

ยถาจิมสฺสาติ ยถา จ อิมสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นตฺถิ, เอวํ อนาคตํสาณสฺสปีติ วิสุํ ปริกมฺมาภาวฺจ นิทสฺเสติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว หิ อิมานี’’ติ. ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยถา ทิพฺพจกฺขุลาภี นิรยาทิอภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิกาทิเก สตฺเต ทิสฺวา เตหิ ปุพฺเพ อายูหิตํ นิรยสํวตฺตนิยาทิกํ กมฺมํ ตาทิเสน สมาทาเนน ตชฺเชน จ มนสิกาเรน ปริกฺขเต จิตฺเต ยาถาวโต ชานาติ, เอวํ ยสฺส ยสฺส สตฺตสฺส สมนนฺตรํ อนาคตํ อตฺตภาวํ าตุกาโม, ตํ ตํ โอทิสฺส อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เตน เตน อตีเต เอตรหิ วา อายูหิตํ ตสฺส นิพฺพตฺตกํ กมฺมํ ยถากมฺมูปคาเณน ทิสฺวา เตน เตน นิพฺพตฺเตตพฺพํ อนาคตํ อตฺตภาวํ าตุกาโม ตาทิเสน สมาทาเนน ตชฺเชน จ มนสิกาเรน ปริกฺขเต จิตฺเต ยาถาวโต ชานาติ. เอส นโย ตโต ปเรสุปิ อตฺตภาเวสุ. เอตํ อนาคตํสาณํ นาม. ยสฺมา เอตํ ทฺวยํ ทิพฺพจกฺขุาเณ สติ เอว สิชฺฌติ, นาสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตี’’ติ.

กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กาเยน ทุฏฺุ จริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ กิเลสปูติกตฺตา ทุฏฺุ จริตํ กายทุจฺจริตนฺติ เอวํ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. กาโยติ เจตฺถ โจปนกาโย อธิปฺเปโต. กายวิฺตฺติวเสน ปวตฺตํ อกุสลํ กายกมฺมํ กายทุจฺจริตํ. ยสฺมึ สนฺตาเน กมฺมํ กตุปจิตํ, อสติ อาหารุปจฺเฉเท วิปาการหสภาวสฺส อวิคจฺฉนโต โส เตน สหิโตเยวาติ วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา’’ติ. อนตฺถกามา หุตฺวาติ เอเตน มาตาปิตโร วิย ปุตฺตานํ, อาจริยุปชฺฌายา วิย จ นิสฺสิตกานํ อตฺถกามา หุตฺวา ครหกา อุปวาทกา น โหนฺตีติ ทสฺเสติ. คุณปริธํสเนนาติ วิชฺชมานานํ คุณานํ วิทฺธํสเนน, วินาสเนนาติ อตฺโถ. นนุ จ อนฺติมวตฺถุนาปิ อุปวาโท คุณปริธํสนเมวาติ? สจฺจเมตํ, คุณาติ ปเนตฺถ ฌานาทิวิเสสา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อธิปฺเปตาติ สีลปริธํสนํ วิสุํ คหิตํ. เตนาห ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม’’ติอาทิ. สมณธมฺโมติ จ สีลสํยมํ สนฺธาย วทติ. ชานํ วาติ ยํ อุปวทติ, ตสฺส อริยภาวํ ชานนฺโต วา. อชานํ วาติ อชานนฺโต วา. ชานนาชานนฺเจตฺถ อปฺปมาณํ, อริยภาโว เอว ปมาณํ. เตนาห ‘‘อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหตี’’ติ. ‘‘อริโยติ ปน อชานโต อทุฏฺจิตฺตสฺเสว ตตฺถ อริยคุณภาวํ ปเวเทนฺตสฺส คุณปริธํสนํ น โหตีติ ตสฺส อริยูปวาโท นตฺถี’’ติ วทนฺติ. ภาริยํ กมฺมนฺติ อานนฺตริยสทิสตฺตา ภาริยํ กมฺมํ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ ขมาปเนน, น อานนฺตริยํ วิย อเตกิจฺฉํ.

ตสฺสจ อาวิภาวตฺถนฺติ ภาริยาทิสภาวสฺส ปกาสนตฺถํ. ตํ ชิคุจฺฉีติ ตํ เถรํ, ตํ วา กิริยํ ชิคุจฺฉิ. อติจฺฉาโตติ อติวิย ขุทาภิภูโต. มหลฺลโกติ สมณานํ สารุปฺปมสารุปฺปํ, โลกสมุทาจารมตฺตํ วา น ชานาตีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตตฺตา คุณปริธํสเนน ครหตีติ เวทิตพฺพํ. อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพกํ อกาสีติ ‘‘สมเณน นาม เอวํ กต’’นฺติ วุตฺเต มยํ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกมาติ อธิปฺปาโย. ชานนฺโต เอว เถโร ‘‘อตฺถิ เต อาวุโส อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺา’’ติ ปุจฺฉิ. อิตโรปิ สจฺจาภิสมโย สาสเน ปติฏฺาติ อาห ‘‘โสตาปนฺโน อห’’นฺติ. เถโร ตํ กรุณายมาโน ‘‘ขีณาสโว ตยา อุปวทิโต’’ติ อตฺตานํ อาวิ อกาสิ. เตนสฺส ตํ ปากติกํ อโหสีติ เตน อสฺส ตํ กมฺมํ มคฺคาวรณํ นาโหสีติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพว ปน โสตาปนฺนตฺตา อปายคามีนํ สุปฺปหีนภาวโต สคฺคาวรณมสฺส กาตุมสมตฺถเมว ตํ กมฺมํ. อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหตีติ เอตฺถ ‘‘อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ขมาเปตพฺโพ’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. โสตาปนฺนสกทาคามิโน โทเสนปิ นกฺขมนฺติ, เสสอริยา วา ตสฺส อตฺถกามา หุตฺวา อายตึ สํวรณตฺถาย น ขมาเปยฺยุนฺติ อาห ‘‘สเจ โส นกฺขมตี’’ติ. อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ, ิตเกเนวาติ เอตฺถาปิ ‘‘อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๑) วุตฺตํ. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ –

‘‘สเจ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สยํ วา คนฺตฺวา สทฺธิวิหาริเก วา เปเสตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ นาปิ คนฺตุํ, น เปเสตุํ สกฺกา โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ, เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ นวกตรา โหนฺติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, สเจ วุฑฺฒตรา, วุฑฺเฒสุ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา ‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ขมตุ เม โส อายสฺมา’ติ วตฺวา ขมาเปตพฺพํ. สมฺมุขา อขมนฺเตปิ เอตเทว กาตพฺพ’’นฺติ.

อิทํ ปน ปรมฺปิ ตตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๑) วุตฺตํ –

‘‘สเจ เอกจาริกภิกฺขุ โหติ, เนวสฺส วสนฏฺานํ, น คตฏฺานํ ปฺายติ, เอกสฺส ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม อนุสฺสรโต อนุสฺสรโต วิปฺปฏิสาโร โหติ, กึ กโรมี’ติ วตฺตพฺพํ. โส วกฺขติ ‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, เถโร ตุมฺหากํ ขมติ, จิตฺตํ วูปสเมถา’ติ. เตนปิ อริยสฺส คตทิสาภิมุเขน อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘ขมตู’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ.

ปรินิพฺพุตมฺจฏฺานนฺติ ปูชากรณฏฺานํ สนฺธายาห. ปากติกเมว โหตีติ เอวํ กเต อตฺตโน จิตฺตํ ปสีทตีติ ตํ กมฺมํ สคฺคาวรณํ มคฺคาวรณฺจ น โหตีติ อธิปฺปาโยติ เกจิ วทนฺติ. จริยาปิฏเก มาตงฺคจริตสํวณฺณนายํ (จริยา. อฏฺ. ๒.๖๔) –

‘‘ปารมิตาปริภาวนสมิทฺธาหิ นานาสมาปตฺติวิหารปริปูริตาหิ สีลทิฏฺิสมฺปทาหิ สุสงฺขตสนฺตาเน มหากรุณาธิวาเส มหาสตฺเต อริยูปวาทกมฺมอภิสปสงฺขาตํ ผรุสวจนํ สํยุตฺตํ มหาสตฺตสฺส เขตฺตวิเสสภาวโต ตสฺส จ อชฺฌาสยผรุสตาย ทิฏฺธมฺมเวทนียํ หุตฺวา สเจ โส มหาสตฺตํ น ขมาเปติ, สตฺตเม ทิวเส วิปจฺจนสภาวํ ชาตํ. ขมาปิเต ปน มหาสตฺเต ปโยคสมฺปตฺติยา วิปากสฺส ปฏิพาหิตตฺตา อวิปากธมฺมตํ อาปชฺชิ อโหสิกมฺมภาวโต. อยฺหิ อริยูปวาทปาปสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียสฺส จ ธมฺมตา’’ติ –

อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตตฺตา เอวํ ขมาปิเต ตํ กมฺมํ ปโยคสมฺปตฺติยา วิปากสฺส ปฏิพาหิตตฺตา อโหสิกมฺมภาเวน อวิปากธมฺมตํ อาปนฺนนฺติ เนว สคฺคาวรณํ น โมกฺขาวรณฺจ โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ.

วิปรีตํ ทสฺสนเมเตสนฺติ วิปรีตทสฺสนา. สมาทาตพฺพฏฺเน สมาทานานิ, กมฺมานิ สมาทานานิ เยสํ เต กมฺมสมาทานา, มิจฺฉาทิฏฺิวเสน กมฺมสมาทานา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เหตุอตฺถํ วา อนฺโตคธํ กตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิวเสน ปเร กมฺเมสุ สมาทาปกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. ตยิมํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิวเสนา’’ติอาทิมาห. เย จ…เป… สมาทเปนฺติ, เตปิ มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ โยเชตพฺพํ. สีลสมฺปนฺโนติอาทิ ปริปกฺกินฺทฺริยสฺส มคฺคสมงฺคิโน วเสน วุตฺตํ, อคฺคมคฺคฏฺเ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อถ วา อคฺคมคฺคปริยาปนฺนา เอว สีลาทโย เวทิตพฺพา. อคฺคมคฺคฏฺสฺส หิ ทิฏฺเว ธมฺเม เอกํสิกา อฺาราธนา, อิตเรสํ อเนกํสิกา. อฺนฺติ อรหตฺตํ. เอวํสมฺปทมิทนฺติ เอตฺถ สมฺปชฺชนํ สมฺปทา, นิปฺผตฺติ, เอวํ อวิรชฺฌนกนิปฺผตฺติกนฺติ อตฺโถ, ยถา ตํ อวสฺสมฺภาวี, เอวมิทมฺปีติ วุตฺตํ โหติ . ยถา หิ มคฺคานนฺตรํ อวิรชฺฌิตฺวาว ผลํ นิพฺพตฺตํ, เอวเมตํ อิมสฺสปิ ปุคฺคลสฺส จุติอนนฺตรํ อวิรชฺฌิตฺวาว นิรเย ปฏิสนฺธิ โหตีติ ทสฺเสติ. สกลสฺมิฺหิ พุทฺธวจเน น อิมาย อุปมาย คาฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตอุปมา อตฺถิ. ตํ วาจํ อปฺปหายาติอาทีสุ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๙) อริยูปวาทํ สนฺธาย ‘‘ปุน เอวรูปึ วาจํ น วกฺขามี’’ติ วทนฺโต วาจํ ปชหติ นาม, ‘‘ปุน เอวรูปํ จิตฺตํ น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต จิตฺตํ ปชหติ นาม, ‘‘ปุน เอวรูปึ ทิฏฺึ น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปชหนฺโต ทิฏฺึ ปชหติ นาม. ตถา อกโรนฺโต เนว ปชหติ น ปฏินิสฺสชฺชติ. ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยติ ยถา นิรยปาเลหิ อาหริตฺวา นิรเย ปิโต, เอวํ นิรเย ปิโตเยว, นาสฺส นิรยูปปตฺติยา โกจิ วิพนฺโธ. ตตฺรายํ ยุตฺติ – นิรยูปโค อริยูปวาที ตทาทายกสฺส อวิชหนโต เสยฺยถาปิ มิจฺฉาทิฏฺีติ. เอตฺถ จ ‘‘ตํ วาจํ อปฺปหายา’’ติ เอวมาทิวจเนน ตทาทายกสฺส อปฺปหาเนเนว อริยูปวาโท อนฺตรายิโก อนตฺถาวโหว, ปหาเนน ปน อจฺจยํ เทเสตฺวา ขมาปเนน น อนฺตรายิโก อนตฺถาวโห ยถา ตํ วุฏฺิตา เทสิตา จ อาปตฺตีติ ทสฺเสติ. มิจฺฉาทิฏฺิวเสน อกตฺตพฺพํ นาม ปาปํ นตฺถิ, ยโต สํสารขาณุภาโวปิ นาม โหตีติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ.

‘‘อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ (ที. นิ. ๑. ๑๔๗), อยฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูป’’นฺติ จ เอวมาทีสุ วิย อิธ กาย-สทฺโท ขนฺธปฺจกวิสโยติ อาห ‘‘กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา’’ติ. อวีตราคสฺส มรณโต ปรํ นาม ภวนฺตรูปาทานเมวาติ อาห ‘‘ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ. เยน ติฏฺติ, ตสฺส อุปจฺเฉเทเนว กาโย ภิชฺชตีติ อาห ‘‘กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา’’ติ. เอติ อิมสฺมา สุขนฺติ อโย, ปุฺนฺติ อาห ‘‘ปุฺสมฺมตา อยา’’ติ. อายนฺติ เอตสฺมา สุขานีติ อาโย, ปุฺกมฺมาทีนํ สุขสาธนํ. เตนาห ‘‘สุขานํ วา อายสฺส อภาวา’’ติ. วิวสาติ กมฺมสฺส วเส วตฺตนโต อตฺตโน วเส วตฺติตุํ น สกฺโกนฺตีติ วิคโต วโส เอเตสนฺติ วิวสา, อวสวตฺติโนติ อตฺโถ. อิยติ อสฺสาทียตีติ อโย, อสฺสาโทติ อาห ‘‘อสฺสาทสฺิโต อโย’’ติ.

นาคราชาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สุปณฺณาทีนํ สงฺคโห. อสุรสทิสนฺติ เปตาสุรสทิสํ. โส หีติ โส อสุรกาโย. สพฺพสมุสฺสเยหีติ สพฺเพหิ สมฺปตฺติสมุสฺสเยหิ, สพฺพสมฺปตฺติราสิโตติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตวิปริยาเยนาติ ‘‘สุฏฺุ จริตํ, โสภนํ วา จริตํ อนวชฺชตฺตาติ สุจริต’’นฺติอาทินา กายทุจฺจริเตนาติอาทีนํ ปทานํ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส วิปริยาเยน. ‘‘อิโต โภ สุคตึ คจฺฉา’’ติ (อิติวุ. ๘๓) วจนโต มนุสฺสคติปิ สุคติเยวาติ อาห ‘‘สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหตี’’ติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถโต จ สุวิฺเยฺยเมว.

ทิพฺพจกฺขุาณกถา นิฏฺิตา.

อาสวกฺขยาณกถา

๑๔. วิปสฺสนาปาทกนฺติ วิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตํ. วิปสฺสนา จ ติวิธา วิปสฺสกปุคฺคลเภเทน. มหาโพธิสตฺตานฺหิ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ จินฺตามยาณสํวทฺธิตตฺตา สยมฺภูาณภูตา, อิตเรสํ สุตมยาณสํวทฺธิตตฺตา ปโรปเทสสมฺภูตา. สา ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติอาทินา อเนกธา อรูปมุขวเสน จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานํ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานํ อฺตรมุขวเสน อเนกธาว วิสุทฺธิมคฺเค นานานยโต วิภาวิตา. มหาโพธิสตฺตานํ ปน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสมุเขน ปเภทคมนโต นานานยํ สพฺพฺุตฺาณสนฺนิสฺสยสฺส อริยมคฺคาณสฺส อธิฏฺานภูตํ ปุพฺพภาคาณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ปรมคมฺภีรํ สณฺหสุขุมตรํ อนฺสาธารณํ วิปสฺสนาาณํ โหติ. ยํ อฏฺกถาสุ มหาวชิรฺาณนฺติ วุจฺจติ. ยสฺส จ ปวตฺติวิภาเคน จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสปเภทสฺส ปาทกภาเวน สมาปชฺชิยมานา จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยา เทวสิกํ สตฺถุ วฬฺชนกสมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ, สฺวายํ พุทฺธานํ วิปสฺสนาจาโร ปรมตฺถมฺชุสายํ วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ อุทฺเทสโต ทสฺสิโต, อตฺถิเกหิ ตโต คเหตพฺโพ.

อาสวานํ เขปนโต สมุจฺฉินฺทนโต อาสวกฺขโย อริยมคฺโค, อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน อรหตฺตมคฺคคฺคหณํ. อาสวานํ ขเย าณํ อาสวกฺขยาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺร เจตํ าณ’’นฺติ วตฺวา ขเยติ จ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตปฺปริยาปนฺนตฺตา’’ติ อาห. อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํ. เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช คหิตภาวทสฺสนํ. น อิโต ภิยฺโยติ อนวเสเสตฺวา คหิตภาวทสฺสนํ. เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิ. สรสลกฺขณปฏิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌเนน. อสมฺโมหปฏิเวโธติ จ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติ. เตนาห ‘‘ยถาภูตํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ. นิพฺพตฺติกนฺติ นิปฺผาเทนฺตํ. ยํ านํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยฏฺเน การณภูตํ อาคมฺม. ตทุภยวโต หิ ปุคฺคลสฺส ปตฺติ ตทุภยสฺส ปตฺตีติ วุตฺตํ. ปตฺวาติ วา ปาปุณนเหตุ. อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ. เต วา น ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ, นิพฺพานํ. ตสฺสาติ ทุกฺขนิโรธสฺส. สมฺปาปกนฺติ สจฺฉิกิริยาวเสน สมฺมเทว ปาปกํ.

กิเลสวเสนาติ อาสวสงฺขาตกิเลสวเสน. ยสฺมา อาสวานํ ทุกฺขสจฺจปริยาโย, ตปฺปริยาปนฺนตฺตา, เสสสจฺจานฺจ ตํสมุทยาทิปริยาโย อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริยายโต’’ติ. ทสฺเสนฺโต สจฺจานีติ โยชนา. อาสวานํเยว เจตฺถ คหณํ ‘‘อาสวานํ ขยาณายา’’ติ อารทฺธตฺตา. ตถา หิ อาสววิมุตฺติสีเสเนว สพฺพสํกิเลสวิมุตฺติ วุตฺตา. อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสินฺติอาทินา มิสฺสกมคฺโค อิธ กถิโตติ ‘‘สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ สจฺจปฺปฏิเวธสฺส ตทา อตีตกาลิกตฺตา ‘‘ยถาภูตํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิทฺเทโส กโต. โส จ กามํ มคฺคกฺขณโต ปรํ ยาวชฺชตนา อตีตกาลิโก เอว, สพฺพปมํ ปนสฺส อตีตกาลิกตฺตํ ผลกฺขเณเนว เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘วิมุจฺจิตฺถาติ อิมินา ผลกฺขณํ ทสฺเสตี’’ติ. ชานโต ปสฺสโตติ วา เหตุนิทฺเทโสยํ. ชานนเหตุ ทสฺสนเหตุ กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถาติ โยชนา. ภวาสวคฺคหเณเนว เจตฺถ ภวราคสฺส วิย ภวทิฏฺิยาปิ สมวโรโธติ ทิฏฺาสวสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ยสฺมา ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขเณน วิชฺชมานสฺสปิ กมฺมสฺส อายตึ อปฺปฏิสนฺธิกภาวโต ‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานาติ, ยสฺมา จ มคฺคปจฺจเวกฺขณาทีหิ วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติอาทึ ปชานาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ขีณา ชาตีติ อาทีหิ ตสฺส ภูมิ’’นฺติ. ตตฺถ ตสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณาณสฺส. ภูมินฺติ ปวตฺติฏฺานํ. เยนาธิปฺปาเยน ‘‘กตมา ปนา’’ติอาทินา โจทนา กตา, ตํ ปกาเสตฺวา ปริหารํ วตฺตุกาโม อาห ‘‘น ตาวสฺสา’’ติอาทิ. น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณาติ มคฺคภาวนาย น ขีณาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปุพฺเพว ขีณตฺตา’’ติ. น อนาคตา อสฺส ชาติ ขีณาติ โยชนา. น อนาคตาติ จ อนาคตตฺตสามฺํ คเหตฺวา เลเสน วทติ. เตนาห ‘‘อนาคเต วายามาภาวโต’’ติ. วิชฺชมาเนเยว หิ ปโยโค สมฺภวติ, นาวิชฺชมาเนติ อธิปฺปาโย. อนาคตวิเสโส ปเนตฺถ อธิปฺเปโต, ตสฺส จ เขปเน วายาโมปิ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ยา ปน มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ยา ปนา’’ติ หิ อาทินา มคฺคภาวนาย อนาคตชาติยา เอว เหตุวินาสนทฺวาเรน ขีณภาโว ปกาสียติ. เอกจตุปฺจโวการภเวสูติ ภวตฺตยคฺคหณํ วุตฺตนเยน อนวเสสโต ชาติยา ขีณภาวทสฺสนตฺถํ. นฺติ ยถาวุตฺตชาตึ. โสติ ภควา.

พฺรหฺมจริยวาโส นาม อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส นิพฺพตฺตนเมวาติ อาห ‘‘นิฏฺิต’’นฺติ. สมฺมาทิฏฺิยา จตูสุ สจฺเจสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตมานาย สมฺมาสงฺกปฺปาทีนมฺปิ ทุกฺขสจฺเจ ปริฺาภิสมยานุคุณา ปวตฺติ, อิตรสจฺเจสุ จ เนสํ ปหานาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติ ปากฏา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสนา’’ติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. เต ปน ปการา อริยมคฺคพฺยาปารภูตา ปริฺาทโย อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอวํโสฬสกิจฺจภาวายา’’ติ. เต หิ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขโต มคฺคานุภาเวน ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ , ปริฺาทีสุ จ ปหานเมว ปธานํ, ตทตฺถตฺตาย อิตเรสนฺติ อาห ‘‘กิเลสกฺขยาย วา’’ติ. ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อพฺภฺาสิ’’นฺติ เอตฺถายมปโร นโย – อิตฺถตฺตายาติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนํ. เตนายมตฺโถ – อิตฺถตฺตาย อิตฺถมฺภาวโต อิมสฺมา เอวํปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ อนาคตกฺขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ นตฺถิ, อิเม ปน จริมตฺตภาวสงฺขาตา ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา อปฺปติฏฺา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิย. อปริฺาตมูลกา หิ ปติฏฺา. ยถาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค อตฺถิ นนฺที อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖; มหานิ. ๗). เต ปน ปฺจกฺขนฺธา จริมกวิฺาณนิโรเธน อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท นิพฺพายิสฺสนฺตีติ อพฺภฺาสินฺติ.

ปจฺจเวกฺขณาณปริคฺคหิตนฺติ น ปมทุติยาณทฺวยาธิคมํ วิย เกวลนฺติ อธิปฺปาโย. ทสฺเสนฺโตติ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต. สรูปโต หิ ปุพฺเพ ทสฺสิตเมวาติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

ติกฺขตฺตุํ ชาโตติ อิมินา ปน อิทํ ทสฺเสติ ‘‘อหํ, พฺราหฺมณ, ปมวิชฺชาย ชาโตเยว ปุเรชาตสฺส สหชาตสฺส วา อภาวโต สพฺเพสํ วุฑฺโฒ มหลฺลโก, กิมงฺคํ ปน ตีหิ วิชฺชาหิ ติกฺขตฺตุํ ชาโตติ. ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตํสาณนฺติ อตีตารมฺมณสภาคตาย ตพฺภาวีภาวโต จ ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตํสาณํ ปกาเสตฺวาติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ อตีตํสาณนฺติ อตีตกฺขนฺธายตนธาตุสงฺขาเต อตีตโกฏฺาเส อปฺปฏิหตาณํ. ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส จ ทิพฺพจกฺขุวเสเนว อิชฺฌนโต ทิพฺพจกฺขุโน ปริภณฺฑาณตฺตา ทิพฺพจกฺขุมฺหิเยว จ ิตสฺส เจโตปริยาณสิทฺธิโต วุตฺตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสาณ’’นฺติ. ตตฺถ ทิพฺพจกฺขุนาติ สปริภณฺเฑน ทิพฺพจกฺขุาเณน. ปจฺจุปฺปนฺนํโส จ อนาคตํโส จ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสํ, ตตฺถ าณํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสาณํ. อาสวกฺขยาณาธิคเมเนว สพฺพฺุตฺาณสฺส วิย เสสาสาธารณาณทสพลาณอาเวณิกพุทฺธธมฺมาทีนมฺปิ อนฺสาธารณานํ พุทฺธคุณานํ อิชฺฌนโต วุตฺตํ ‘‘อาสวกฺขเยน สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณ’’นฺติ. เตนาห ‘‘สพฺเพปิ สพฺพฺุคุเณ ปกาเสตฺวา’’ติ.

อาสวกฺขยาณกถา นิฏฺิตา.

เทสนานุโมทนกถา

๑๕. ปีติวิปฺผารปริปุณฺณคตฺตจิตฺโตติ ปีติผรเณน ปริปุณฺณกายจิตฺโต. อฺาณนฺติ อฺาณสฺสาติ อตฺโถ. ธีสทฺทสฺส โยคโต หิ สามิอตฺเถ เอตํ อุปโยควจนํ. อภิกฺกนฺตาติ เอตฺถ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อตฺโถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติ. เตเนว หิ ‘‘นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม’’ติ วุตฺตํ. อภิกฺกนฺตตโร จาติ อติวิย กนฺตตโร มโนรโม, ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติ. โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม. เมติ มม. ปาทานีติ ปาเท. อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยา. ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริจฺเฉเทน. ชลนฺติ วิชฺโชตมาโน. อภิกฺกนฺเตนาติ อติวิย กนฺเตน กมนีเยน อภิรูเปน. วณฺเณนาติ ฉวิวณฺเณน สรีรวณฺณนิภาย. สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทสปิ ทิสา ปภาเสนฺโต จนฺโท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรนฺโตติ คาถาย อตฺโถ. อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเป.

อภิกฺกนฺตํ โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ โภ โคตมาติ วจนทฺวยสฺส ‘‘สาธุ สาธุ โภ โคตมา’’ติ อาเมฑิตวเสน อตฺถํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส วิสยํ นิทฺธาเรนฺโต อาห ‘‘ภเย โกเธ’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘โจโร โจโร, สปฺโป สปฺโป’’ติอาทีสุ ภเย อาเมฑิตํ. ‘‘วิชฺฌ วิชฺฌ, ปหร ปหรา’’ติอาทีสุ โกเธ. ‘‘สาธุ สาธู’’ติอาทีสุ ปสํสายํ. ‘‘คจฺฉ คจฺฉ, ลุนาหิ ลุนาหี’’ติอาทีสุ ตุริเต. ‘‘อาคจฺฉ อาคจฺฉา’’ติอาทีสุ โกตูหเล. ‘‘พุทฺโธ พุทฺโธติ จินฺเตนฺโต’’ติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๔๔) อจฺฉเร. ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๒๐; อ. นิ. ๙.๑๑) หาเส. ‘‘กหํ เอกปุตฺตก, กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทีสุ โสเก. ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๒๐; จูฬว. ๓๓๒) ปสาเท. -สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ . เตน ครหอสมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโป ปาโป’’ติอาทีสุ ครหายํ. ‘‘อภิรูปก อภิรูปกา’’ติอาทีสุ อสมฺมาเน ทฏฺพฺพํ.

นยิทํ อาเมฑิตวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺตํ, อถ โข อตฺถทฺวยวเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. อภิกฺกนฺตนฺติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา นปุํสกลิงฺควเสน วุตฺตํ. ตํ ปน ภควโต วจนํ ธมฺมสฺส เทสนาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ยทิทํ โภโต โคตมสฺส ธมฺมเทสนา’’ติ. อตฺถมตฺตทสฺสนํ วา เอตํ, ตสฺมา อตฺถวเสน ลิงฺควิภตฺติวิปริณาโม เวทิตพฺโพ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. โทสนาสนโตติ ราคาทิกิเลสวิทฺธํสนโต. คุณาธิคมนโตติ สีลาทิคุณานํ สมฺปาปนโต. เย คุเณ เทสนา อธิคเมติ, เตสุ ปธานภูตา คุณา ทสฺเสตพฺพาติ เต ปธานภูเต คุเณ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺธาชนนโต ปฺาชนนโต’’ติ วุตฺตํ. สทฺธาปมุขา หิ โลกิยา คุณา, ปฺาปมุขา โลกุตฺตรา. สาตฺถโตติอาทีสุ สีลาทิอตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถโต, สภาวนิรุตฺติสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนโต. สุวิฺเยฺยสทฺทปฺปโยคตาย อุตฺตานปทโต, สณฺหสุขุมภาเวน ทุวิฺเยฺยตฺถตาย คมฺภีรตฺถโต. สินิทฺธมุทุมธุรสทฺทปฺปโยคตาย กณฺณสุขโต, วิปุลวิสุทฺธเปมนียตฺถตาย หทยงฺคมโต. มานาติมานวิธมเนน อนตฺตุกฺกํสนโต, ถมฺภสารมฺภนิมฺมทฺทเนน อปรวมฺภนโต. หิตาธิปฺปายปฺปวตฺติยา ปเรสํ ราคปริฬาหาทิวูปสมเนน กรุณาสีตลโต, กิเลสนฺธการวิธมเนน ปฺาวทาตโต. กรวีกรุตมฺชุตาย อาปาถรมณียโต, ปุพฺพาปราวิรุทฺธสุวิสุทฺธตฺถตาย วิมทฺทกฺขมโต. อาปาถรมณียตาย เอว สุยฺยมานสุขโต, วิมทฺทกฺขมตาย หิตชฺฌาสยปฺปวตฺติตาย จ วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวมาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สํสารจกฺกนิวตฺตนโต, สทฺธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต, มิจฺฉาวาทวิธมนโต, สมฺมาวาทปติฏฺาปนโต, อกุสลมูลสมุทฺธรณโต, กุสลมูลสํโรปนโต, อปายทฺวารปิธานโต, สคฺคมคฺคทฺวารวิวรณโต, ปริยุฏฺานวูปสมนโต, อนุสยสมุคฺฆาตนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อโธมุขปิตนฺติ เกนจิ อโธมุขํ ปิตํ. เหฏฺามุขชาตนฺติ สภาเวเนว เหฏฺามุขํ ชาตํ. อุคฺฆาเฏยฺยาติ วิวฏํ กเรยฺย. หตฺเถคเหตฺวาติ ‘‘ปุรตฺถาภิมุโข อุตฺตราภิมุโข วา คจฺฉา’’ติอาทีนิ อวตฺวา หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘นิสฺสนฺเทหํ เอส มคฺโค, เอวํ คจฺฉา’’ติ ทสฺเสยฺย. กาฬปกฺขจาตุทฺทสีติ กาฬปกฺเข จาตุทฺทสี กาฬปกฺขจาตุทฺทสี. นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อาเธยฺยสฺส อนาธารภูตํ ภาชนํ อาธารภาวาปาทนวเสน อุกฺกุชฺเชยฺย. เหฏฺามุขชาตตาย สทฺธมฺมวิมุขํ อโธมุขปิตตาย อสทฺธมฺเม ปติฏฺิตนฺติ เอวํ ปททฺวยํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, น ยถาสงฺขฺยํ. กามํ กามจฺฉนฺทาทโยปิ ปฏิจฺฉาทกา นีวรณภาวโต, มิจฺฉาทิฏฺิ ปน สวิเสสํ ปฏิจฺฉาทิกา สตฺเต มิจฺฉาภินิเวสเนนาติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิปรมาหํ, ภิกฺขเว, วชฺชํ วทามี’’ติ. สพฺโพ อปายคามิมคฺโค กุมฺมคฺโค กุจฺฉิโต มคฺโคติ กตฺวา, สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ อุชุปฏิปกฺขตาย มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มิจฺฉตฺตธมฺมา มิจฺฉามคฺโค. เตเนว หิ ตทุภยปฏิปกฺขตํ สนฺธาย ‘‘สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาจิกฺขนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สปฺปิอาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป น ตถา, อุชฺชโล ยถา เตลสนฺนิสฺสโยติ เตลปชฺโชตคฺคหณํ. เอเตหิ ปริยาเยหีติ เอเตหิ นิกฺกุชฺชิตุกฺกุชฺชนปฏิจฺฉนฺนวิวรณาทิอุปโมปมิตพฺพปฺปกาเรหิ, เอเตหิ วา ยถาวุตฺเตหิ อรสรูปตาทีนํ อตฺตนิ อฺถา ปฏิปาทนปริยาเยหิ อตฺตโน ทิพฺพวิหารวิภาวนปริยาเยหิ วิชฺชตฺตยวิภาวนาปเทเสน อตฺตโน สพฺพฺุคุณวิภาวนปริยาเยหิ จ. เตนาห ‘‘อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต’’ติ.

เทสนานุโมทนกถา นิฏฺิตา.

ปสนฺนาการกถา

ปสนฺนาการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพํ สกฺการํ. สรณํ คจฺฉามีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ. เอตฺถ หิ นายํ คมิสทฺโท นีสทฺทาทโย วิย ทฺวิกมฺมโก, ตสฺมา ยถา อชํ คามํ เนตีติ วุจฺจติ, เอวํ ‘‘โคตมํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วตฺตุํ น สกฺกา, ‘‘สรณนฺติ คจฺฉามี’’ติ ปน วตฺตพฺพํ, ตสฺมา เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ. สรณนฺติ ปฏิสรณํ. เตนาห ‘‘ปรายณ’’นฺติ. ปรายณภาโว จ อนตฺถนิเสธเนน อตฺถสมฺปฏิปาทเนน จ โหตีติ อาห ‘‘อฆสฺส ตาตา หิตสฺส จ วิธาตา’’ติ. อฆสฺสาติ ทุกฺขโตติ วทนฺติ, ปาปโตติ ปน อตฺโถ ยุตฺโต, นิสฺสกฺเก เจตํ สามิวจนํ. สรณนฺติ คมนฺเจตฺถ ตทธิปฺปาเยน ภชนํ ตถา ชานนํ วาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คจฺฉามีติอาทีสุ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺถวจนํ. ภชนํ วา สรณาธิปฺปาเยน อุปสงฺกมนํ, เสวนา สนฺติกาวจรตา, ปยิรุปาสนํ วตฺตปฺปฏิวตฺตกรเณน อุปฏฺานนฺติ เอวํ สพฺพถาปิ อนฺสรณตํเยว ทีเปติ. คจฺฉามีติ ปทสฺส กถํ พุชฺฌามีติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เยสํ หี’’ติอาทิ.

อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธติ ปททฺวเยนปิ ผลฏฺา เอว ทสฺสิตา, น มคฺคฏฺาติ เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จา’’ติ อาห. นนุ จ กลฺยาณปุถุชฺชโนปิ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชตีติ วุจฺจตีติ? กิฺจาปิ วุจฺจติ, นิปฺปริยาเยน ปน มคฺคฏฺา เอว ตถา วตฺตพฺพา, น อิตเร นิยาโมกฺกมนาภาวโต. ตถา หิ เต เอว ‘‘อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตี’’ติ วุตฺตา. สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมเนน หิ อปายวินิมุตฺตสมฺภโว. อกฺขายตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) สุตฺตปทํ สงฺคณฺหาติ, ‘‘วิตฺถาโร’’ติ วา อิมินา. เอตฺถ จ อริยมคฺโค นิยฺยานิกตาย, นิพฺพานํ ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตายาติ อุภยเมว นิปฺปริยาเยน ธมฺโมติ วุตฺโต. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณปจฺจยภูตํ ลภิตฺวา อริยมคฺคสฺส ตทตฺถสิทฺธิ, ตถาปิ อริยผลานํ ‘‘ยสฺมา ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติอาทิวจนโต มคฺเคน สมุจฺฉินฺนานํ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจตาย นิยฺยานานุคุณตาย นิยฺยานปริโยสานตาย จ. ปริยตฺติธมฺมสฺส ปน นิยฺยานธมฺมสมธิคมเหตุตายาติ อิมินา ปริยาเยน วุตฺตนเยน ธมฺมภาโว ลพฺภติ เอว, สฺวายมตฺโถ ปาารุฬฺโห เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิมาห.

ราควิราโคติ มคฺโค กถิโตติ กามราโค ภวราโคติ เอวมาทิเภโท สพฺโพปิ ราโค วิรชฺชติ ปหียติ เอเตนาติ ราควิราโคติ มคฺโค กถิโต. อเนชมโสกนฺติ ผลนฺติ เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนฺโตนิชฺฌานลกฺขณสฺส โสกสฺส จ ตทุปฺปตฺติยํ สพฺพโส ปริกฺขีณตฺตา อเนชมโสกนฺติ ผลํ กถิตํ. อปฺปฏิกูลนฺติ อวิโรธทีปนโต เกนจิ อวิรุทฺธํ, อิฏฺํ ปณีตนฺติ วา อตฺโถ. ปคุณรูเปน ปวตฺติตตฺตา, ปกฏฺคุณวิภาวนโต วา ปคุณํ. ยถาห ‘‘วิหึสสฺี ปคุณํ นภาสึ, ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓; มหาว. ๙). สพฺพธมฺมกฺขนฺธา กถิตาติ โยชนา. ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตนาติ ‘‘ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔) เอวํ วุตฺตาย ทิฏฺิยา ‘‘ยานิ ตานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ, ตถารูเปหิ สีเลหิ สีลสามฺคโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๔, ๓๕๖; ม. นิ. ๑.๔๙๒; ๓.๕๔; อ. นิ. ๖.๑๒) เอวํ วุตฺตานํ สีลานฺจ สํหตภาเวน, ทิฏฺิสีลสามฺเนาติ อตฺโถ. สํหโตติ ฆฏิโต, สเมโตติ อตฺโถ. อริยปุคฺคลา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ทูเร ิตาปิ อตฺตโน คุณสามคฺคิยา สํหตา เอว. อฏฺ จ ปุคฺคลา ธมฺมทสา เตติ ปุริสยุคฬวเสน จตฺตาโรปิ ปุคฺคลวเสน อฏฺเว อริยธมฺมสฺส ปจฺจกฺขทสฺสาวิตาย ธมฺมทสา. ตีณิ วตฺถูนิ สรณนฺติ คมเนน ติกฺขตฺตุํ คมเนน จ ตีณิ สรณคมนานิ. ปฏิเวเทสีติ อตฺตโน หทยงฺคตํ วาจาย ปเวเทสิ.

ปสนฺนาการกถา นิฏฺิตา.

สรณคมนกถา

สรณคมนสฺส วิสยปฺปเภทผลสํกิเลสเภทานํ วิย กตฺตุ จ วิภาวนา ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ ‘‘สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ เตน วินา สรณคมนสฺเสว อสมฺภวโต. ตตฺถ สรณนฺติ ปทตฺถโต ตาว หึสตีติ สรณํ. หึสตฺถสฺส หิ สรสทฺทสฺส วเสเนตํ ปทํ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน วฏฺฏภยํ จิตฺตุตฺราสํ กายิกํ ทุกฺขํ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ หนติ, วินาเสตีติ อตฺโถ. รตนตฺตยสฺเสเวตํ อธิวจนํ . อถ วา หิเต ปวตฺตเนน ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๖๔) อตฺเถ นิโยชเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน ‘‘ปาณาติปาตสฺส โข ปน ปาปโก วิปาโก, ปาปกํ อภิสมฺปราย’’นฺติอาทินา อาทีนวทสฺสนาทิมุเขน อนตฺถโต นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสติ, หิตาหิเตสุ อปฺปวตฺติปวตฺติเหตุกํ พฺยสนํ อปวตฺติกรเณน วินาเสติ พุทฺโธ. ภวกนฺตารอุตฺตรเณน มคฺคสงฺขาโต ธมฺโม สตฺตานํ ภยํ หึสติ, อิตโร อสฺสาสทาเนน. อปฺปกานมฺปิ ทานวเสน ปูชาวเสน จ อุปนีตานํ สกฺการานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สตฺตานํ ภยํ หึสติ สงฺโฆ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวโต, ตสฺมา อิมินาปิ วิภชิตฺวา วุตฺตปริยาเยน รตนตฺตยํ สรณํ. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ เอวํ ปวตฺตรตนตฺตยปสอาทตคฺครุกตาหิ วิธุตทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสมฺโมหอสฺสทฺธิยาทิตาย วิหตกิเลโส ตเทว รตนตฺตยํ สรณํ ปรายณํ คติ ตาณํ เลณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ สรณนฺติ คจฺฉติ เอเตนาติ กตฺวา. เตน ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต สตฺโต สรณนฺติ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอตานิ เม ตีณิ รตนานิ สรณํ, เอตานิ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อุเปติ ภชติ เสวติ ปยิรุปาสติ, เอวํ วา ชานาติ, พุชฺฌตีติ อตฺโถ. เอวํ ตาว สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, อิทํ ตยํ เวทิตพฺพํ.

สรณคมนปฺปเภเท ปน ทุวิธํ สรณคมนํ โลกุตฺตรํ โลกิยฺจ. ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉทเนน อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติ. อตฺถโต จตุสจฺจาธิคโม เอว หิ โลกุตฺตรสรณคมนํ. ตตฺถ หิ นิพฺพานธมฺโม สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน, มคฺคธมฺโม ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌิยมาโนเยว สรณคมนตฺถํ สาเธติ, พุทฺธคุณา ปน สาวกโคจรภูตา ปริฺาภิสมยวเสน, ตถา อริยสงฺฆคุณา. เตน วุตฺตํ ‘‘กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌตี’’ติ . อิชฺฌนฺตฺจ สเหว อิชฺฌติ, น โลกิยํ วิย ปฏิปาฏิยา อสมฺโมหปฏิเวเธน ปฏิวิทฺธตฺตา. เย ปน วทนฺติ ‘‘น สรณคมนํ นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา ปวตฺตติ, มคฺคสฺส อธิคตตฺตา ปน อธิคตเมว โหติ เอกจฺจานํ เตวิชฺชาทีนํ โลกิยวิชฺชาทโย วิยา’’ติ, เตสํ โลกิยเมว สรณคมนํ สิยา, น โลกุตฺตรํ. ตฺจ อยุตฺตํ ทุวิธสฺสปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. โลกิยํ ปน สรณคมนํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสวิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติ. ตํ อตฺถโต พุทฺธาทีสุ วตฺถูสุ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทินา สทฺธาปฏิลาโภ ยถาวุตฺตสทฺธาปุพฺพงฺคมา จ สมฺมาทิฏฺิ, ทสสุ ปุฺกิริยวตฺถูสุ ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ ‘‘สทฺธาปฏิลาโภ’’ติ อิมินา มาตาทีหิ อุสฺสาหิตทารกาทีนํ วิย าณวิปฺปยุตฺตสรณคมนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติ อิมินา ปน าณสมฺปยุตฺตํ สรณคมนํ ทสฺสิตํ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ โลกิยาวโพธวเสเนว สมฺมา าเยน ทสฺสนโต.

ตยิทํ โลกิยสรณคมนํ จตุธา ปวตฺตติ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน ตปฺปรายณตาย สิสฺสภาวูปคมเนน ปณิปาเตนาติ. ตตฺถ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส นิยฺยาเตมิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีนํเยว สํสารทุกฺขนิตฺถรณตฺถํ อตฺตโน อตฺตภาวสฺส ปริจฺจชนํ. ตปฺปรายณตา นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา อหํ พุทฺธปรายโณ ธมฺมปรายโณ สงฺฆปรายโณติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ ตปฺปรายณภาโว. สิสฺสภาวูปคมนํ นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา ‘อหํ พุทฺธสฺส อนฺเตวาสิโก, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ สิสฺสภาวูปคโม. ปณิปาโต นาม ‘‘อชฺช อาทึ กตฺวา ‘อหํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ พุทฺธาทีนํเยว ติณฺณํ วตฺถูนํ กโรมี’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีสุ ปรมนิปจฺจกาโร. อิเมสฺหิ จตุนฺนํ อาการานํ อฺตรมฺปิ กโรนฺเตน คหิตํเยว โหติ สรณคมนํ.

อปิจ ‘‘ภควโต อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปริจฺจตฺโตเยว เม อตฺตา, ปริจฺจตฺตํเยว เม ชีวิตํ, ชีวิตปริยนฺติกํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, พุทฺโธ เม สรณํ เลณํ ตาณ’’นฺติ เอวมฺปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘สตฺถารฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามิ, สุคตฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามิ, สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) เอวํ มหากสฺสปตฺเถรสฺส สรณคมนํ วิย สิสฺสภาวูปคมนํ ทฏฺพฺพํ.

‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ. (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๔);

‘‘เต มยํ วิจริสฺสาม, คามา คามํ นคา นคํ…เป… สุธมฺมต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๘๒) –

เอวมฺปิ อาฬวกสาตาคิรเหมวตาทีนํ สรณคมนํ วิย ตปฺปรายณตา เวทิตพฺพา. นนุ เจเต อาฬวกาทโย มคฺเคเนว อาคตสรณคมนา, กถํ เตสํ ตปฺปรายณตาสรณคมนํ วุตฺตนฺติ? มคฺเคนาคตสรณคมเนหิปิ ‘‘โสหํ วิจริสฺสามิ คามา คาม’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๔) เตหิ ตปฺปรายณตาการสฺส ปเวทิตตฺตา ตถา วุตฺตํ. อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามฺจ สาเวติ ‘‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ, พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๔) เอวมฺปิ ปณิปาโต ทฏฺพฺโพ.

โส ปเนส าติภยาจริยทกฺขิเณยฺยตาวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยตาเหตุเกน ปณิปาเตน สรณคมนํ โหติ, น อิตเรหิ าติภยาทิวสปฺปวตฺเตหิ ตีหิ ปณิปาเตหิ. เสฏฺวเสเนว หิ สรณํ คยฺหติ, เสฏฺวเสน ภิชฺชติ, ตสฺมา โย สากิโย วา โกลิโย วา ‘‘พุทฺโธ อมฺหากํ าตโก’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา ‘‘สมโณ โคตโม ราชปูชิโต มหานุภาโว อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภเยน วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โยปิ โพธิสตฺตกาเล ภควโต สนฺติเก กิฺจิ อุคฺคหิตํ สรมาโน พุทฺธกาเล วา –

‘‘เอเกน โภคํ ภุฺเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;

จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๖๕) –

เอวรูปึ ทิฏฺธมฺมิกํ อนุสาสนึ อุคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ, สมฺปรายิกํ ปน นิยฺยานิกํ วา อนุสาสนึ ปจฺจาสีสนฺโต ทกฺขิเณยฺยปณิปาตเมว กโรติ. โย ปน ‘‘อยํ โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโย’’ติ วนฺทติ, เตเนว คหิตํ โหติ สรณํ.

เอวํ คหิตสรณสฺส จ อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อฺติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตมฺปิ าตึ ‘‘าตโก เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ สรณคมนํ น ภิชฺชติ, ปเคว อปพฺพชิตํ. ตถา ราชานํ ภยวเสน วนฺทโต. โส หิ รฏฺปูชิตตฺตา อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยาติ. ตถา ยํ กิฺจิ สิปฺปสิกฺขาปกํ ติตฺถิยมฺปิ ‘‘อาจริโย เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ น ภิชฺชติ. เอวํ สรณคมนสฺส ปเภโท เวทิตพฺโพ.

สรณคมนกถา นิฏฺิตา.

สรณคมนผลกถา

เอตฺถ จ โลกุตฺตรสฺส สรณคมนสฺส จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผลํ อริยมคฺคสฺเสว โลกุตฺตรสรณคมนนฺติ อธิปฺเปตตฺตา. สกลสฺส ปน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ อานิสํสผลํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘โย จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ.

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยฺจฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;

เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๐-๑๙๒);

อปิจ นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสน เปตสฺส อานิสํสผลํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปิตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๘; อ. นิ. ๑.๒๗๖).

โลกิยสฺส ปน สรณคมนสฺส ภวสมฺปทาปิ โภคสมฺปทาปิ ผลเมว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส,

น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ,

เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ.(ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗);

อปรมฺปิ วุตฺตํ –

‘‘อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ ิตํ โข สกฺกํ เทวานมินฺทํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ ‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, พุทฺธสรณคมนํ โหติ, พุทฺธสรณคมนเหตุ โข, เทวานมินฺท, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เต อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ ทิพฺเพน อายุนา ทิพฺเพน วณฺเณน สุเขน ยเสน อาธิปเตยฺเยน ทิพฺเพหิ รูเปหิ สทฺเทหิ คนฺเธหิ รเสหิ โผฏฺพฺเพหี’’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑).

เอส นโย ธมฺเม สงฺเฆ จ.

อปิจ เวลามสุตฺตาทิวเสนปิ สรณคมนสฺส ผลวิเสโส เวทิตพฺโพ. ตถา หิ เวลามสุตฺเต (อ. นิ. ๙.๒๐) ‘‘กรีสสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณานํ จตุราสีติสหสฺสสงฺขฺยานํ สุวณฺณปาติรูปิยปาติกํสปาตีนํ ยถากฺกมํ รูปิยสุวณฺณหิรฺปูรานํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตานํ จตุราสีติยา หตฺถิสหสฺสานํ จตุราสีติยา อสฺสสหสฺสานํ จตุราสีติยา รถสหสฺสานํ จตุราสีติยา เธนุสหสฺสานํ จตุราสีติยา กฺาสหสฺสานํ จตุราสีติยา ปลฺลงฺกสหสฺสานํ จตุราสีติยา วตฺถโกฏิสหสฺสานํ อปริมาณสฺส จ ขชฺชโภชฺชาทิเภทสฺส อาหารสฺส ปริจฺจชนวเสน สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ นิรนฺตรํ ปวตฺตเวลามมหาทานโต เอกสฺส โสตาปนฺนสฺส ทินฺนํ มหปฺผลตรํ, ตโต สตํ โสตาปนฺนานํ ทินฺนทานโต เอกสฺส สกทาคามิโน, ตโต เอกสฺส อนาคามิโน, ตโต เอกสฺส อรหโต, ตโต เอกสฺส ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส, ตโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, ตโต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ, ตโต จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารกรณํ, ตโต สรณคมนํ มหปฺผลตร’’นฺติ ปกาสิตํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยํ, คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เจกํ ทิฏฺิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตร’’นฺติ (อ. นิ. ๙.๒๐) –

อาทิ. เอวํ สรณคมนผลํ เวทิตพฺพํ.

สรณคมนผลกถา นิฏฺิตา.

สรณคมนสํกิเลสเภทกถา

ตตฺถ จ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อฺาณสํสยมิจฺฉาาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ, น อุชฺชลํ อปริสุทฺธํ อปริโยทาตํ โหติ, น มหาวิปฺผารํ อนุฬารํ. เอตฺถ จ อฺาณํ นาม วตฺถุตฺตยสฺส คุณานํ อชานนํ ตตฺถ สมฺโมโห. ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา วิจิกิจฺฉา สํสโย. มิจฺฉาาณํ นาม ตสฺส คุณานํ อคุณภาวปริกปฺปเนน วิปรีตคฺคาโหติ เวทิตพฺพํ. โลกุตฺตรสฺส ปน สรณคมนสฺส นตฺถิ สํกิเลโส. โลกิยสฺส จ สรณคมนสฺส ทุวิโธ เภโท สาวชฺโช อนวชฺโช จ. ตตฺถ สาวชฺโช อฺสตฺถาราทีสุ อตฺตนิยฺยาตนาทีหิ โหติ, โส อนิฏฺผโล. อนวชฺโช ปน กาลกิริยาย โหติ. โลกิยฺหิ สรณคมนํ สิกฺขาปทสมาทานํ วิย อคฺคหิตกาลปริจฺเฉทกํ ชีวิตปริยนฺตเมว โหติ, ตสฺมา ตสฺส ขนฺธเภเทน เภโท, โส อวิปากตฺตา อผโล. โลกุตฺตรสฺส ปน เนวตฺถิ เภโท. ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อฺํ สตฺถารํ น อุทฺทิสตีติ. เอวํ สรณคมนสฺส สํกิเลโสเภโท จ เวทิตพฺโพ.

กสฺมา ปเนตฺถ โวทานํ น คหิตํ, นนุ โวทานวิภาวนาปิ ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน สํกิเลสคฺคหเณน อตฺถโต ทีปิตํ โหตีติ น คหิตํ. ยานิ หิ เตสํ สํกิเลสการณานิ อฺาณาทีนิ , เตสํ สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปาทเนน อุปฺปนฺนานฺจ ปหาเนน โวทานํ โหตีติ. เอวเมตฺถ ‘‘สรณํ สรณคมน’’นฺติอาทีนํ ปปฺโจ เวทิตพฺโพ. อิมสฺส ปน ยถาวุตฺตปปฺจสฺส อิธ อวจเน การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส ปน อิธ วุจฺจมาโน’’ติอาทิ. ตตฺถ สรณวณฺณนโตติ สามฺผลสุตฺเต วุตฺตสรณวณฺณนโต.

สรณคมนสํกิเลสเภทกถา นิฏฺิตา.

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

เอวํธาเรตูติ เอวํ ชานาตูติ อตฺโถ. เอตฺถ โก อุปาสโกติ สรูปปุจฺฉา, ตสฺมา กึลกฺขโณ อุปาสโกติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมาติ เหตุปุจฺฉา. เตน เกน ปวตฺตินิมิตฺเตน อุปาสกสทฺโท ตสฺมึ ปุคฺคเล นิรุฬฺโหติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจตี’’ติ. สทฺทสฺส หิ อภิเธยฺยปวตฺตินิมิตฺตํ ตทตฺถสฺส ตพฺภาวการณํ. กิมสฺส สีลนฺติ กีทิสํ อสฺส อุปาสกสฺส สีลํ, กิตฺตเกน สีเลนายํ สีลสมฺปนฺโน นาม โหตีติ อตฺโถ. โก อาชีโวติ โก อสฺส สมฺมาอาชีโว. โส ปน มิจฺฉาชีวสฺส ปริวชฺชเนน โหตีติ โสปิ วิภชียติ. กา วิปตฺตีติ กสฺส สีลสฺส อาชีวสฺส วา วิปตฺติ. อนนฺตรสฺส หิ วิธิ วา ปฏิเสโธ วา. สมฺปตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพนฺติ กถํ เวทิตพฺพํ? วุจฺจเต – โก อุปาสโกติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ ติสรณํ คโต คหฏฺโ. สรณคมนเมว เหตฺถ การณํ, น ชาติอาทิวิเสโส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยโต โข, มหานาม, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

กสฺมา อุปาสโกติ รตนตฺตยอุปาสนโต. เตเนว สรณคมเนน ตตฺถ จ สกฺกจฺจกิริยาย อาทรคารวพหุมานาทิโยเคน ปยิรุปาสนโตติ วุตฺตํ โหติ. โส หิ พุทฺธํ อุปาสตีติ อุปาสโก. ธมฺมํ, สงฺฆํ อุปาสตีติ อุปาสโก.

กิมสฺสสีลนฺติ ปฺจ เวรมณิโย. เวรมณิโยติ เจตฺถ เวรํ วุจฺจติ ปาณาติปาตาทีสุ ทุสฺสีลฺยํ, ตสฺส มนนโต หนนโต วินาสนโต เวรมณิโย ปฺจ วิรติโย วิรติปฺปธานตฺตา ตสฺส สีลสฺส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา, กาเมสุมิจฺฉาจารา, มุสาวาทา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

โก อาชีโวติ ปฺจ มิจฺฉาวณิชฺชา ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิตกปฺปนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา. กตมา ปฺจ? สตฺถวณิชฺชา สตฺตวณิชฺชา มํสวณิชฺชา มชฺชวณิชฺชา วิสวณิชฺชา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๗).

เอตฺถ จ สตฺถวณิชฺชาติ อาวุธภณฺฑํ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ยถากตํ วา ปฏิลภิตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. สตฺตวณิชฺชาติ มนุสฺสวิกฺกโย. มํสวณิชฺชาติ สูนการาทโย วิย มิคสูกราทิเก โปเสตฺวา มํสํ สมฺปาเทตฺวา วิกฺกโย. มชฺชวณิชฺชาติ ยํ กิฺจิ มชฺชํ โยเชตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. วิสวณิชฺชาติ วิสํ โยเชตฺวา สงฺคเหตฺวา วา ตสฺส วิกฺกโย. ตตฺถ สตฺถวณิชฺชา ปโรปโรธนิมิตฺตตาย อกรณียา วุตฺตา, สตฺตวณิชฺชา อภุชิสฺสภาวกรณโต, มํสวิสวณิชฺชา วธเหตุโต, มชฺชวณิชฺชา ปมาทฏฺานโตติ เวทิตพฺพา.

กา วิปตฺตีติ ยา ตสฺเสว สีลสฺส จ อาชีวสฺส จ วิปตฺติ เภโท โกโป ปโกโป จ, อยมสฺส วิปตฺติ. อปิจ ยาย เอส จณฺฑาโล เจว โหติ มลฺจ ปฏิกุฏฺโ จ, สาปิสฺส วิปตฺตีติ เวทิตพฺพา. เต จ อตฺถโต อสฺสทฺธิยาทโย ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. ยถาห –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกจณฺฑาโล จ โหติ อุปาสกมลฺจ อุปาสกปฏิกุฏฺโ จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ โหติ, ทุสฺสีโล โหติ, โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, มงฺคลํ ปจฺเจติ, โน กมฺมํ , อิโต จ พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).

เอตฺถ จ อุปาสกปฏิกุฏฺโติ อุปาสกนิหีโน. พุทฺธาทีสุ กมฺมกมฺมผเลสุ จ สทฺธาวิปริยาโย อสฺสทฺธิยํ มิจฺฉาธิโมกฺโข, ยถาวุตฺเตน อสฺสทฺธิเยน สมนฺนาคโต อสฺสทฺโธ. ยถาวุตฺตสีลวิปตฺติอาชีววิปตฺติวเสน ทุสฺสีโล. ‘‘อิมินา ทิฏฺาทินา อิทํ นาม มงฺคลํ โหตี’’ติ เอวํ พาลชนปริกปฺปิตโกตูหลสงฺขาเตน ทิฏฺสุตมุตมงฺคเลน สมนฺนาคโต โกตูหลมงฺคลิโก. มงฺคลํ ปจฺเจตีติ ทิฏฺมงฺคลาทิเภทํ มงฺคลเมว ปตฺติยายติ. โน กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตํ โน ปตฺติยายติ. อิโตพหิทฺธาติ อิโต สพฺพฺุพุทฺธสาสนโต พหิทฺธา พาหิรกสมเย. ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสตีติ ทุปฺปฏิปนฺนํ ทกฺขิณารหสฺี คเวสติ. ปุพฺพการํ กโรตีติ ทานมานนาทิกํ กุสลกิริยํ ปมตรํ กโรติ. เอตฺถ จ ทกฺขิเณยฺยปอเยสนปุพฺพกาเร เอกํ กตฺวา ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพา.

กาสมฺปตฺตีติ สาว ตสฺส สีลสมฺปทา จ อาชีวสมฺปทา จ สมฺปตฺติ, เย จสฺส รตนภาวาทิกรา สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา. ยถาห –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกรตนฺจ โหติ อุปาสกปทุมฺจ อุปาสกปุณฺฑรีโก จ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, น โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, กมฺมํ ปจฺเจติ, โน มงฺคลํ, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ.

เอตฺถ จ จตุนฺนมฺปิ ปริสานํ รติชนนฏฺเน อุปาสโกว รตนํ อุปาสกรตนํ, คุณโสภากิตฺติสทฺทสุคนฺธตาหิ อุปาสโกว ปทุมํ อุปาสกปทุมํ, ตถา อุปาสกปุณฺฑรีโก จ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ วิปตฺติยํ วุตฺตวิปริยาเยน วิฺเยฺยํ. เอวมิทํ ‘‘โก อุปาสโก’’ติอาทิกํ ปกิณฺณกํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ. อิมสฺส ปน ปกิณฺณกสฺส อิธ วิตฺถาเรตฺวา อวจเน การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตํ อติภาริยกรณโต’’ติอาทิ.

อาทิมฺหีติ อาทิอตฺเถ. โกฏิยนฺติ ปริยนฺตโกฏิยํ. วิหารคฺเคนาติ โอวรกโกฏฺาเสน, ‘‘อิมสฺมึ คพฺเภ วสนฺตานํ อิทํ ปนสผลํ ปาปุณาตี’’ติอาทินา ตํตํวสนฏฺานโกฏฺาเสนาติ อตฺโถ. อชฺชตนฺติ อชฺช อิจฺเจว อตฺโถ. ปาเณหิ อุเปตนฺติ อิมินา ตสฺส สรณคมนสฺส อาปาณโกฏิกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปุน ชีวิเตนปหํ วตฺถุตฺตยํ ปฏิปูเชนฺโต สรณคมนฺจ รกฺขามีติ อุปฺปนฺนํ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘อหฺหี’’ติอาทิมาห. ปาเณหิ อุเปตนฺติ หิ ยาว เม ปาณา ธรนฺติ, ตาว สรณํ อุเปตํ, อุเปนฺโต น วาจามตฺเตน น เอกวารํ จิตฺตุปฺปาทนมตฺเตน, อถ โข ปาณานํ ปริจฺจชนวเสน ยาวชีวํ อุเปตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อธิวาเสตูติ สาทิยตุ, ตํ ปน สาทิยนํ มนสา สมฺปฏิคฺคโห โหตีติ อาห ‘‘สมฺปฏิจฺฉตู’’ติ. กายงฺคนฺติ กายเมว องฺคนฺติ วทนฺติ, กายสฺส วา องฺคํ สีสาทิ กายงฺคํ, สีสาทิ สรีราวยวนฺติ วุตฺตํ โหติ. วาจงฺคนฺติ ‘‘โหตุ สาธู’’ติ เอวมาทิวาจาย องฺคํ อวยวํ. วาจงฺคสฺส โจปนํ วาจาย ปวตฺตนเมวาติ เวทิตพฺพํ. อพฺภนฺตเรเยวาติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเนเยว. ขนฺตึ จาเรตฺวาติ ขนฺตึ ปวตฺเตตฺวา, รุจึ อุปฺปาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ขนฺตึ ธาเรตฺวา’’ติปิ ปาโ, อุปฺปนฺนํ รุจึ อพฺภนฺตเรเยว ธาเรตฺวา วจีเภเทน อปกาเสตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

กถํ ปน เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ อฺาสิ. น หิ เตน สกฺกา ภควโต จิตฺตปฺปวตฺติ ปจฺจกฺขโต วิฺาตุํ, ตสฺมา ‘‘ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? กิฺจาปิ เตน น สกฺกา จิตฺตปฺปวตฺติ ปจฺจกฺขโต วิฺาตุํ, ตถาปิ อาการสลฺลกฺขณกุสลตาย อนฺวยพฺยติเรกวเสน อนุมานโต อฺาสีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สเจ เม สมโณ โคตโม’’ติอาทิ. อาการสลฺลกฺขณกุสลตายาติ จิตฺตปฺปวตฺติอาการวิชานเน เฉกตาย, อธิปฺปายวิชานเน กุสลตายาติ วุตฺตํ โหติ. ทสนขสโมธานสมุชฺชลนฺติ ทฺวีสุ หตฺเถสุ ทสนฺนํ นขานํ สโมธาเนน เอกีภาเวน สมุชฺชลนฺตํ. อฺชลินฺติ หตฺถปุฏํ. ปฏิมุโขเยวาติ อภิมุโขเยว, น ภควโต ปิฏฺึ ทสฺเสตฺวาติ อตฺโถ. วนฺทิตฺวาติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา.

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา นิฏฺิตา.

ทุพฺภิกฺขกถา

๑๖. สุสสฺสกาเลปีติ สมฺปนฺนสสฺสกาเลปิ. อติสมคฺเฆปีติ อติสเยน อปฺปคฺเฆปิ, ยทา กิฺจิเทว ทตฺวา พหุํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณํ คณฺหนฺติ, ตาทิเส กาเลปีติ อตฺโถ. สาลิอาทิ ธฺํ ปุพฺพณฺณํ, มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณํ. ทฺวิธา ปวตฺตํ อีหิตํ เอตฺถาติ ทฺวีหิติกาติ มชฺฌปทโลปีพาหิรตฺถสมาโสยมีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกา’’ติ. อีหนํ อีหิตนฺติ อีหิตสทฺโทยํ ภาวสาธโนติ อาห ‘‘อีหิตํ นาม อิริยา’’ติ. ตตฺถ อิริยาติ กิริยา. กสฺส ปเนสา กิริยาติ อาห ‘‘จิตฺตอิริยา’’ติ, จิตฺตกิริยา จิตฺตปฺปโยโคติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘จิตฺตอีหา’’ติ. กถํ ปเนตฺถ อีหิตสฺส ทฺวิธา ปวตฺตีติ อาห ‘‘ลจฺฉาม นุ โข’’ติอาทิ. ตตฺถ ลจฺฉาม นุ โขติ อิทํ ทุคฺคตานํ วเสน วุตฺตํ. ชีวิตุํ วา สกฺขิสฺสาม นุ โข, โนติ อิทํ ปน อิสฺสรานํ วเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ภิกฺขมานาติ ยาจมานา. ‘‘ทุหิติกา’’ติปิ ปาโ. ตตฺถาปิ วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทฺวิ-สทฺทสฺส หิ ทุ-สทฺทาเทเสนายํ นิทฺเทโส โหติ. ทุกฺขํ วา อีหิตํ เอตฺถ น สกฺกา โกจิ ปโยโค สุเขน กาตุนฺติ ทุหิติกา, ทุกฺกรชีวิตปฺปโยคาติ อตฺโถ.

ทุ-สทฺเท วา อุการสฺส วการํ กตฺวา ทฺวีหิติกาติ อยํ นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. พฺยาธิ โรโคติ เอตานิ ‘‘อาตุรตา’’ติ อิมสฺส เววจนานิ. เตน เสตฏฺฏิกา นาม เอกา โรคชาตีติ ทสฺเสติ. โส ปน โรโค ปาณกโทเสน สมฺภวติ. เอโก กิร ปาณโก นาฬมชฺฌคตํ คณฺึ วิชฺฌติ, เยน วิทฺธตฺตา นิกฺขนฺตมฺปิ สาลิสีสํ ขีรํ คเหตุํ น สกฺโกติ. เตนาห ‘‘ปจฺฉินฺนขีร’’นฺติอาทิ.

วุตฺตสสฺสนฺติ วปิตสสฺสํ. ตตฺถาติ เวรฺชายํ. สลากามตฺตํ วุตฺตํ เอตฺถาติ สลากาวุตฺตา, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโส. เตนาห ‘‘สลากา เอว สมฺปชฺชตี’’ติ. ยํ ตตฺถ วุตฺตํ วาปิตํ, ตํ สลากามตฺตเมว อโหสิ, ผลํ น ชายตีติ อตฺโถ. สมฺปชฺชตีติ จ อิมินา ‘‘สลากาวุตฺตา’’ติ เอตฺถายํ วุตฺตสทฺโท นิปฺผตฺติอตฺโถติ ทสฺเสติ. สลากายาติ เวฬุวิลีวตาลปณฺณาทีหิ กตสลากาย. ธฺวิกฺกยกานํ สนฺติกนฺติ ธฺํ วิกฺกิณนฺตีติ ธฺวิกฺกยกา, เตสํ สมีปนฺติ อตฺโถ. กยเกสูติ ธฺคณฺหนเกสุ. กิณิตฺวาติ คเหตฺวา. ธฺกรณฏฺาเนติ โกฏฺาคารสฺส สมีปฏฺาเน, ธฺมินนฏฺาเนติ วุตฺตํ โหติ . วณฺณชฺฌกฺขนฺติ กหาปณปริกฺขกํ. นสุกรา อุฺเฉน ปคฺคเหน ยาเปตุนฺติ ปคฺคยฺหตีติ ปคฺคโห, ปตฺโต. เตน ปคฺคเหน ปตฺเตนาติ อตฺโถ, ปตฺตํ คเหตฺวา ภิกฺขาจริยาย ยาเปตุํ น สกฺกาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘ปคฺคเหน โย อุฺโฉ’’ติอาทิ. นสุกราติ สุกรภาโว เอตฺถ นตฺถีติ นสุกรา. ปิณฺฑาย จริตฺวาติ ปิณฺฑาย จรณเหตุ. เหตุอตฺเถปิ หิ ตฺวาสทฺทเมเก อิจฺฉนฺติ.

อุตฺตราปถโต อาคตา, อุตฺตราปโถ วา นิวาโส เอเตสนฺติ อุตฺตราปถกาติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘อุตฺตราหกา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อุตฺตราปถวาสิกา’’ติอาทิ. ‘‘อุตฺตราปถกา’’อิจฺเจว วา ปาฬิปาโ เวทิตพฺโพ. เกจิ ปน ‘‘อุตฺตรํ วิสิฏฺํ ภณฺฑํ อาหรนฺตีติ อุตฺตราหกา, อุตฺตรํ วา อธิกํ อคฺฆํ เนนฺตีติ อุตฺตราหกา’’ติอาทินา อฺเน ปกาเรน อตฺถํ วณฺณยนฺติ. อสฺสานํ อุฏฺานฏฺาเนติ อสฺสานํ อากรฏฺาเน. เวรฺชนฺติ เวรฺชายํ. ภุมฺมตฺเถ เหตํ อุปโยควจนํ. มนฺทิรนฺติ อสฺสสาลํ. อสฺสมณฺฑลิกาโยติ ปฺายึสูติ ปริมณฺฑลากาเรน กตตฺตา อสฺสมณฺฑลิกาโยติ ปากฏา อเหสุํ. เอวํ กตานฺจ อสฺสสาลานํ พหุตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส กโต. ทสนฺนํ ทสนฺนํ อสฺสานํ วสโนกาโส เอเกกา อสฺสมณฺฑลิกาติปิ วทนฺติ. อทฺธานกฺขมา น โหนฺตีติ ทีฆกาลํ ปวตฺเตตุํ ขมา น โหนฺติ, น จิรกาลปฺปวตฺติโนติ วุตฺตํ โหติ.

คงฺคาย ทกฺขิณา ทิสา อปฺปติรูปเทโส, อุตฺตรา ทิสา ปติรูปเทโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘น หิ เต’’ติอาทิ. คงฺคาย ทกฺขิณตีรชาตา ทกฺขิณาปถมนุสฺสา. ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ เอวํ พุทฺธํ มมายนฺตีติ พุทฺธมามกา. เอวํ เสเสสุปิ. ปฏิยาเทตุนฺติ สมฺปาเทตุํ. นิจฺจภตฺตสงฺเขเปนาติ นิจฺจภตฺตากาเรน. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ อิทํ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ปุพฺพณฺหสมเยติอตฺโถ’’ติ. อจฺจนฺตสํโยเค วา อิทํ อุปโยควจนนฺติ ทสฺเสตุํ ยถา อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ, ตถา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปุพฺพณฺเห วา สมย’’นฺติอาทิ. เอวนฺติ เอวํ ปจฺฉา วุตฺตนเยน อตฺเถ วุจฺจมาเน. นนุ จ วิหาเร นิสีทนฺตาปิ อนฺตรวาสกํ นิวาเสตฺวาว นิสีทนฺติ, ตสฺมา ‘‘นิวาเสตฺวา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วิหารนิวาสนปริวตฺตนวเสนา’’ติอาทิ. วิหารนิวาสนปริวตฺตนฺจ วิหาเร นิสินฺนกาเล นิวตฺถมฺปิ ปุน คามปฺปเวสนสมเย จาเลตฺวา อิโต จิโต จ สณฺเปตฺวา สกฺกจฺจํ นิวาสนเมวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘น หิ เต ตโต ปุพฺเพ อนิวตฺถา อเหสุ’’นฺติ. ปตฺตจีวรมาทายาติ ปตฺตฺจ จีวรฺจ คเหตฺวา. คหณฺเจตฺถ น เกวลํ หตฺเถเนว, อถ โข เยน เกนจิ อากาเรน ธารณเมวาติ ทสฺเสนฺโต ยถาสมฺภวมตฺถโยชนํ กโรติ ‘‘ปตฺตํ หตฺเถหี’’ติอาทินา.

คตคตฏฺาเนติ อสฺสมณฺฑลิกาสุ สมฺปตฺตสมฺปตฺตฏฺาเน. อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปริภุฺชนฺตีติ เอตฺถ กสฺมา ปน เต ภิกฺขู สยเมว เอวํ กตฺวา ปริภุฺชนฺติ, กิเมวํ ลทฺธํ กปฺปิยการเกหิ ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปจาเปตฺวา สยํ วา ปจิตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘เถรานํ โกจิ กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติอาทิ. กปฺปิยากปฺปิยภาวํ อนเปกฺขิตฺวา ภิกฺขูนํ เอวํ กาตุํ สารุปฺปํ น โหตีติ วตฺวา ปุน อกปฺปิยภาวมฺปิ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น จ วฏฺฏตี’’ติ. ภาชนาทิปริหรณวเสน พหุภณฺฑิกตาย อภาวโต วุตฺตํ ‘‘สลฺลหุกวุตฺติตา’’ติ. สกํ สกํ ปฏิวีสนฺติ อตฺตโน อตฺตโน โกฏฺาสํ. อปฺโปสฺสุกฺกาติ สมณธมฺมโต อฺตฺถ นิรุสฺสาหา. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ. ปิสตีติ จุณฺเณติ. ปุฺาณวิเสเสหิ กตฺตพฺพกมฺมสฺส มนาปตา โหตีติ อาห ‘‘ปุฺวตา’’ติอาทิ. นฺติ นํ ปตฺถปุลกํ. ‘‘น ตโต ปฏฺายา’’ติ วจนโต ตโต ปุพฺเพ ภควโต ปิณฺฑาย จรณมฺปิ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ลทฺธาติ ลภิตฺวา. ‘‘ลทฺโธ’’ติ วา ปาโ, อุปฏฺากฏฺานํ เนว ลทฺโธติ อตฺโถ. กทา ปน เถโร อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺโธติ? วุจฺจเต (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๑; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๙-๒๒๓) – เอกทา กิร ภควา นาคสมาลตฺเถเรน สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ทฺเวธาปถํ ปตฺโต. เถโร มคฺคา อุกฺกมฺม ‘‘ภควา อหํ อิมินา มคฺเคน คจฺฉามี’’ติ อาห. อถ นํ ภควา ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, อิมินา คจฺฉามา’’ติ อาห. โส ‘‘หนฺท ภควา ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ คณฺหถ, อหํ อิมินา คจฺฉามี’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ ฉมายํ เปตุํ อารทฺโธ. อถ ภควา ‘‘อาหร ภิกฺขู’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คโต. ตสฺสปิ ภิกฺขุโน อิตเรน มคฺเคน คจฺฉโต โจรา ปตฺตจีวรฺเจว หรึสุ, สีสฺจ ภินฺทึสุ. โส ‘‘ภควา ทานิ เม ปฏิสรณํ, น อฺโ’’ติ จินฺเตตฺวา โลหิเตน คฬนฺเตน ภควโต สนฺติกํ อาคมิ. ‘‘กิมิทํ ภิกฺขู’’ติ จ วุตฺเต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถ นํ ภควา ‘‘มา จินฺตยิ ภิกฺขุ, เอตํ การณํเยว เต นิวารยิมฺหา’’ติ วตฺวา สมสฺสาเสสิ.

เอกทา ปน ภควา เมฆิยตฺเถเรน สทฺธึ ปาจีนวํสมิคทาเย ชนฺตุคามํ อคมาสิ. ตตฺราปิ เมฆิโย ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา นทีตีเร ปาสาทิกํ อมฺพวนํ ทิสฺวา ‘‘ภควา ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ คณฺหถ, อหํ เอตสฺมึ อมฺพวเน สมณธมฺมํ กโรมี’’ติ วตฺวา ภควตา ติกฺขตฺตุํ นิวาริยมาโนปิ คนฺตฺวา อกุสลวิตกฺเกหิ อนฺวาสตฺโต ปจฺจาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตมฺปิ ภควา ‘‘อิทเมว เต การณํ สลฺลกฺขยิตฺวา นิวารยิมฺหา’’ติ วตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อคมาสิ. ตตฺถ คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, มยฺหํ นิพทฺธุปฏฺากํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ภิกฺขูนํ ธมฺมสํเวโค อุทปาทิ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺาย ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหเยว ปตฺถยมาโน สตสหสฺสกปฺปาธิกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูเรสึ, นนุ มาทิโส มหาปฺโ อุปฏฺาโก นาม วฏฺฏติ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ภควา ‘‘อลํ, สาริปุตฺต, ยสฺสํ ทิสายํ ตฺวํ วิหรสิ, อสุฺาเยว สา ทิสา, ตว โอวาโท พุทฺธานํ โอวาทสทิโส, น เม ตยา อุปฏฺากกิจฺจํ อตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เอเตเนวุปาเยน มหาโมคฺคลฺลานํ อาทึ กตฺวา อสีติมหาสาวกา อุฏฺหึสุ. สพฺเพ ภควา ปฏิกฺขิปิ.

อานนฺทตฺเถโร ปน ตุณฺหีเยว นิสีทิ. อถ นํ ภิกฺขู อาหํสุ ‘‘อาวุโส, ภิกฺขุสงฺโฆ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจติ, ตฺวมฺปิ ยาจาหี’’ติ. ยาจิตฺวา ลทฺธฏฺานํ นาม อาวุโส กีทิสํ โหติ, กึ มํ สตฺถา น ปสฺสติ, สเจ โรเจสฺสติ, ‘‘อานนฺโท มํ อุปฏฺาตู’’ติ วกฺขตีติ. อถ ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อานนฺโท อฺเน อุสฺสาเหตพฺโพ, สยเมว ชานิตฺวา มํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ตโต ภิกฺขู ‘‘อุฏฺเหิ อาวุโส อานนฺท, อุฏฺเหิ, อาวุโส อานนฺท, ทสพลํ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ. เถโร อุฏฺหิตฺวา จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป จ จตสฺโส จ อายาจนาติ อฏฺ วเร ยาจิ.

จตฺตาโรปฏิกฺเขปา นาม ‘‘สเจ เม, ภนฺเต ภควา, อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตํ จีวรํ น ทสฺสติ , ปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, นิมนฺตนํ คเหตฺวา น คมิสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กํ ปเนตฺถ, อานนฺท, อาทีนวํ อทฺทสา’’ติ วุตฺเต อาห ‘‘สจาหํ, ภนฺเต, อิมานิ วตฺถูนิ ลภิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร ‘อานนฺโท ทสพเลน ลทฺธํ ปณีตํ จีวรํ ปริภุฺชติ, ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสติ, เอกนิมนฺตนํ คจฺฉติ, เอตํ ลาภํ ลภนฺโต ตถาคตํ อุปฏฺาติ, โก เอวํ อุปฏฺหโต ภาโร’’’ติ. อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป ยาจิ.

จตสฺโส อายาจนา นาม ‘‘สเจ, ภนฺเต ภควา, มยา คหิตํ นิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สจาหํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคตปริสํ อาคตกฺขเณ เอว ภควนฺตํ ทสฺเสตุํ ลจฺฉามิ, ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึเยว ขเณ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลจฺฉามิ, ตถา ยํ ภควา มยฺหํ ปรมฺมุขํ ธมฺมํ เทเสติ, ตํ อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กํ ปเนตฺถ, อานนฺท, อานิสํสํ ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต อาห ‘‘อิธ, ภนฺเต, สทฺธา กุลปุตฺตา ภควโต โอกาสํ อลภนฺตา มํ เอวํ วทนฺติ ‘สฺเวว, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา สทฺธึ อมฺหากํ ฆเร ภิกฺขํ คณฺเหยฺยาถา’ติ. สเจ ภควา ตตฺถ น คมิสฺสติ, อิจฺฉิตกฺขเณเยว ปริสํ ทสฺเสตุํ กงฺขฺจ วิโนเทตุํ โอกาสํ น ลจฺฉามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร ‘กึ อานนฺโท ทสพลํ อุปฏฺาติ, เอตฺตกมฺปิสฺส อนุคฺคหํ ภควา น กโรตี’ติ. ภควโต จ ปรมฺมุขา มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ ‘อยํ, อาวุโส อานนฺท, คาถา อิทํ สุตฺตํ อิทํ ชาตกํ กตฺถ เทสิต’นฺติ. สจาหํ ตํ น สมฺปายิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร ‘เอตฺตกมฺปิ, อาวุโส, น ชานาสิ, กสฺมา ตฺวํ ฉายา วิย ภควนฺตํ น วิชหนฺโต ทีฆรตฺตํ จิรํ วิจรี’ติ. เตนาหํ ปรมฺมุขา เทสิตสฺสปิ ธมฺมสฺส ปุน กถนํ อิจฺฉามี’’ติ. อิมา จตสฺโส อายาจนา ยาจิ. ภควาปิสฺส อทาสิ. เอวํ อิเม อฏฺ วเร คเหตฺวา นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ.

ตสฺเสว านนฺตรสฺส อตฺถาย กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลํ ปาปุณิ, ปาปุณิตฺวา จ อุปฏฺากานํ อคฺโค หุตฺวา ภควนฺตํ อุปฏฺหิ. เถโร หิ อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺธกาลโต ปฏฺาย ภควนฺตํ ทุวิเธน อุทเกน ติวิเธน ทนฺตกฏฺเน ปาทปริกมฺเมน ปิฏฺิปริกมฺเมน คนฺธกุฏิปริเวณสมฺมชฺชเนนาติ เอวมาทีหิ กิจฺเจหิ อุปฏฺหนฺโต ‘‘อิมาย นาม เวลาย สตฺถุ อิทํ นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, อิทํ นาม กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ตํ นิปฺผาเทนฺโต มหตึ ทณฺฑทีปิกํ คเหตฺวา เอกรตฺตึ คนฺธกุฏิปริเวณํ นว วาเร อนุปริยายติ. เอวฺหิสฺส อโหสิ ‘‘สเจ เม ถินมิทฺธํ โอกฺกเมยฺย, ภควติ ปกฺโกสนฺเต ปฏิวจนํ ทาตุํ นาหํ สกฺกุเณยฺย’’นฺติ. ตสฺมา สพฺพรตฺตึ ทณฺฑทีปิกํ หตฺเถน น มุฺจติ, เอวเมตสฺส นิพทฺธุปฏฺากฏฺานสฺส อลทฺธภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โน จ โข อุปฏฺากฏฺานํ ลทฺธา’’ติ. นิพทฺธุปฏฺาโก นาม นตฺถีติ นิยตุปฏฺาโก นาม นตฺถิ. อนิยตุปฏฺากา ปน ภควโต ปมโพธิยํ พหู อเหสุํ, เต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กทาจิ นาคสมาลตฺเถโร’’ติอาทิ. าติ จ โส ปสตฺถตมคุณโยคโต เสฏฺโ จาติ าติเสฏฺโ. เอวรูเปสุ าเนสุ อยเมว ปติรูโปติ อาปทาสุ อามิสสฺส อภิสงฺขริตฺวา ทานํ นาม าตเกเนว กาตุํ ยุตฺตตรนฺติ อธิปฺปาโย.

มาราวฏฺฏนายาติ มาเรน กตจิตฺตาวฏฺฏนาย, มารานุภาเวน สฺชาตจิตฺตสมฺโมเหนาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘อาวฏฺเฏตฺวา โมเหตฺวา’’ติอาทิ. ติฏฺนฺตุ…เป… ตมฺปิ มาโร อาวฏฺเฏยฺยาติ ผุสฺสสฺส ภควโต กาเล กตุปจิตสฺส อกุสลกมฺมสฺส ตทา ลทฺโธกาสวเสน อุปฏฺิตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ อปทาเน

‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยึ;

ยวํ ขาทถ ภุฺชถ, มา จ ภุฺชถ สาลโย.

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เตมาสํ ขาทิตํ ยวํ;

นิมนฺติโต พฺราหฺมเณน, เวรฺชายํ วสึ ตทา’’ติ. (อป. เถร ๑.๓๙.๘๘-๘๙);

ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ ปริโยนทฺธจิตฺโต, อภิภูตจิตฺโตติ อตฺโถ. อาวฏฺฏิตปริโยสาเน อาคมึสูติ มาเรน อาวฏฺเฏตฺวา คเต ปจฺฉา อาคมึสุ. อวิสหตายาติ อสกฺกุเณยฺยตาย. อภิหฏภิกฺขายาติ ปจิตฺวา อภิหริยมานภิกฺขาย. นิพทฺธทานสฺสาติ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ภควโต ทสฺสามา’’ติ นิจฺจภตฺตวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิตทานสฺส. อปฺปิตวตฺถสฺสาติ ‘‘อิทํ พุทฺธสฺส จตุปจฺจยปริโภคตฺถ’’นฺติ วิหารํ เนตฺวา ทินฺนวตฺถุโน. น วิสหตีติ น สกฺโกติ. อภิหฏภิกฺขาสงฺเขเปนาติ อภิหฏภิกฺขานีหาเรน . พฺยามปฺปภายาติ สมนฺตโต พฺยามมตฺตาย ปภาย. เอตฺถ จ อนุพฺยฺชนานํ พฺยามปฺปภาย จ นิปฺปภากรณํ อนฺตราโยติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘จนฺทิมสูริยเทวพฺรหฺมานมฺปิ หี’’ติอาทิ. อนุพฺยฺชนานํ พฺยามปฺปภาย เอกาพทฺธตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาปฺปเทสํ ปตฺวา’’ติ. สพฺพฺุตฺาณสฺส อนฺตราโย นาม เยฺยธมฺเมสุ อาวรณํ.

อสฺโสสิ โข ภควา อุทุกฺขลสทฺทนฺติ กึ สยเมว อุปฺปนฺนํ อุทุกฺขลสทฺทํ อสฺโสสีติ เจติ อาห ‘‘ปตฺถปตฺถปุลกํ โกฏฺเฏนฺตาน’’นฺติอาทิ. อตฺถสฺหิตนฺติ ปโยชนสาธกํ. อนตฺถสฺหิเตติ อนตฺถนิสฺสิเต วจเน. ฆาตาเปกฺขํ ภุมฺมวจนํ. ยสฺมิฺจ เยน ฆาโต นิปฺผาทียติ, ตสฺเสว เตน ฆาโต กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘มคฺเคเนว ตาทิสสฺส วจนสฺส ฆาโต สมุจฺเฉโทติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. สามิอตฺเถ วา ภุมฺมวจนนฺติ มฺมาโน เอวมาหาติ ทฏฺพฺพํ. วจนสฺส จ สมุคฺฆาโต ตมฺมูลกิเลสานํ สมุคฺฆาเตนาติ เวทิตพฺพํ.

อากโรติ อตฺตโน อนุรูปตาย สมริยาทํ สปริจฺเฉทํ ผลํ นิปฺผตฺเตตีติ อากาโร การณนฺติ อาห ‘‘อากาเรหีติ การเณหี’’ติ. อฏฺุปฺปตฺติยุตฺตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตํ. ตาย ปุจฺฉาย วีติกฺกมํ ปากฏํ กตฺวาติ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทิปุจฺฉาย เตน ภิกฺขุนา กตวีติกฺกมํ ปกาเสตฺวา, วีติกฺกมปฺปกาสนฺจ กิมตฺถมิทํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตีติ อนุชานนตฺถํ.

นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา น กิฺจิ เอตฺถ อปุพฺพํ วตฺตพฺพมตฺถีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ วุตฺตเมว หี’’ติอาทิ. สาธุ สาธูติ อิทํ ปสํสายํ อาเมฑิตวจนนฺติ อาห ‘‘อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สมฺปหํเสนฺโต’’ติ. ทฺวีสุ อากาเรสูติ ธมฺมเทสนสิกฺขาปทปฺตฺติสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ การเณสุ. เอกํ คเหตฺวาติ ธมฺมํ วา เทเสสฺสามาติ เอวํ วุตฺตการณํ คเหตฺวา. เอวํทุพฺภิกฺเขติ เอวํ ทุกฺเขน ลภิตพฺพา ภิกฺขา เอตฺถาติ เอวํทุพฺภิกฺเข กาเล, เทเส วา. ทุลฺลภปิณฺเฑติ เอตสฺเสว อตฺถทีปนํ. ภาชนาทิปริหรณวเสน พหุภณฺฑิกตาย อภาวโต วุตฺตํ ‘‘อิมาย สลฺลหุกวุตฺติตายา’’ติ. เอตฺตกเมว อลํ ยาเปตุนฺติ อุตฺตริ ปตฺถนาภาวโต ปน ‘‘อิมินา จ สลฺเลเขนา’’ติ วุตฺตํ. ทุพฺภิกฺขํ วิชิตนฺติ เอตฺถ หิ ภิกฺขานํ อภาโว ทุพฺภิกฺขํ ‘‘นิมฺมกฺขิก’’นฺติอาทีสุ วิย. ภิกฺขาภาโวเยว หิ ตํนิมิตฺตจิตฺตวิฆาตานํ อภาวโต ภิกฺขูหิ วิชิโต วเส วตฺติโต. โลโภ วิชิโตติ อามิสเหตุ รตฺติจฺเฉทวสฺสจฺเฉทสมุฏฺาปโก โลลุปฺปาโทปิ เตสํ นาโหสีติ อามิสโลลตาสงฺขาโต โลโภ วิชิโต. อิจฺฉาจาโร วิชิโตติ ‘‘อามิสเหตุ อฺมฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปฺปกาสนวเสน คุณวณิชฺชํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสามา’’ติ เอวํ ปวตฺตอิจฺฉาจารสฺส อภาวโต ยถาวุตฺโต อิจฺฉาจาโร วิชิโต. จิตฺตุปฺปาทมตฺตสฺสปิ อนุปฺปนฺนภาวํ สนฺธาย ‘‘จินฺตา วา’’ติ วุตฺตํ. ปุนปฺปุนานุโสจนวเสน ปน จิตฺตปีฬาปิ นาโหสีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วิฆาโต วา’’ติ วุตฺตํ.

รตฺติจฺเฉโท วาติ สตฺตาหกรณียวเสน คนฺตฺวา พหิ อรุณุฏฺาปนวเสน รตฺติจฺเฉโท วา น กโต สตฺตาหกิจฺจวเสนปิ กตฺถจิ อคตตฺตา. สตฺตาหกิจฺจวเสน วิปฺปวาสฺหิ สนฺธาย รตฺติจฺเฉโทติ อฏฺกถาโวหาโร, ตโตเยว จ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกวณฺณนายํ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) ‘‘อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกรตฺติจฺเฉทวินิจฺฉโย’’ติ วตฺวา ‘‘ธมฺมสฺสวนตฺถาย อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติอาทินา สตฺตาหกรณียเมว วิภตฺตํ. มหาอฏฺกถายมฺปิ วุตฺตํ ‘‘สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตฺวา เอกภิกฺขุนาปิ รตฺติจฺเฉโท วา น กโต’’ติ. เอวฺจ กตฺวา รตฺติจฺเฉโท นาม สตฺตาหกรณียวเสน โหติ, น อฺถาติ รตฺติจฺเฉทลกฺขณฺจ กถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ปจฺจยเวกลฺลสงฺขาเต วสฺสจฺเฉทการเณ สติ รตฺติจฺเฉทสฺสปิ วุตฺตตฺตา ยตฺถ วสฺสจฺเฉทการณํ ลพฺภติ, ตตฺถ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ สิทฺธนฺติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตํ วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก วสฺสจฺเฉทาธิกาเร –

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺมึ อาวาเส วสฺสูปคตานํ ภิกฺขูนํ คาโม โจเรหิ วุฏฺาสิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เยน คาโม เตน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๑) –

เอตฺถ ‘‘สเจ คาโม อวิทูรคโต โหติ, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารเมว อาคนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ ทูรคโต, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ, ตตฺเถว สภาคฏฺาเน วสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๑) อิมินา อฏฺกถาวจเนนปิ สํสนฺทนโต. ตถา หิ คาเม วุฏฺิเต ภิกฺขาย อภาวโต วสฺสจฺเฉเทปิ อนาปตฺตึ วทนฺเตน ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เยน คาโม เตน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๑) วุตฺตตฺตา ภิกฺขาย อภาโว วสฺสจฺเฉทการณํ. ตตฺถ ‘‘สเจ ทูรคโต, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๒๐๑) อิทํ อฏฺกถาวจนํ วสฺสจฺเฉทการเณ สติ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อิมมตฺถํ สาเธติ.

ยํ ปน วุตฺตํ เกนจิ

‘‘รตฺติจฺเฉโทติ สตฺตาหกิจฺจํ สนฺธาย วุตฺโต, สตฺตาหกรณีเยน คนฺตฺวา รตฺติจฺเฉโท วา วสฺสจฺเฉโท วา เอกภิกฺขุนาปิ น กโตติ วุตฺตํ กิร มหาอฏฺกถายํ, ตสฺมา วสฺสจฺเฉทสฺส การเณ สติ สตฺตาหกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอเก. วินยธรา ปน น อิจฺฉนฺติ, ตสฺมา อฏฺกถาธิปฺปาโย วีมํสิตพฺโพ’’ติ.

ตํ ปน สยํ สมฺมูฬฺหสฺส ปเรสํ โมหุปฺปาทนมตฺตํ. น หิ วินยธรานํ อนิจฺฉาย การณํ ทิสฺสติ อฏฺกถาย วิรุชฺฌนโต ยุตฺติอภาวโต จ. ยฺหิ การณํ วสฺสจฺเฉเทปิ อนาปตฺตึ สาเธติ, ตสฺมึ สติ วินา วสฺสจฺเฉทํ สตฺตาหกิจฺเจน คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ กา นาม ยุตฺติ. ‘‘ปจฺฉิมิกาย ตตฺถ วสฺสํ อุปคจฺฉามา’’ติ อิทํ เตสํ ภิกฺขูนํ อนุรูปปริวิตกฺกนปอทีปนํ, น ปน วิเสสตฺถปริทีปนํ. ตถา หิ ทุพฺภิกฺขตาย วสฺสจฺเฉทกรณสพฺภาวโต ปุริมิกาย ตาว วสฺสจฺเฉเทปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉิมิกายํ อนุปคนฺตุกามตาย คมเนปิ นตฺถิ โทโส ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกทิวสสฺส อสมฺปตฺตภาวโต.

น กิสฺมิฺจิ มฺนฺตีติ กิสฺมิฺจิ คุเณ สมฺภาวนวเสน น มฺนฺติ. ปกาเสตฺวาติ ปฏิลทฺธชฺฌานาทิคุณวเสน ปกาเสตฺวา. ‘‘ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามา’’ติ วุตฺตนเยน กุจฺฉิปฏิชคฺคเน สติ ตถาปวตฺตอิจฺฉาจารสฺส อปริสุทฺธภาวโต อาชีวสุทฺธิยา จ อภาวโต ปุน วายมิตฺวา สํวเร ปติฏฺาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉา สีลํ อธิฏฺเหยฺยามา’’ติ.

กึ อิทนฺติ ครหณวเสน วุตฺตํ. สาลิตณฺฑุเลหิ สมฺปาทิตํ มํเสน อุปสิตฺตํ โอทนํ สาลิมํโสทนํ. อติมฺิสฺสตีติ อวฺาตกรณวเสน อติกฺกมิตฺวา มฺิสฺสติ, ลามกํ นิหีนํ กตฺวา มฺิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ . เตนาห ‘‘โอฺาตํ อวฺาตํ กริสฺสตี’’ติ. เหฏฺา กตฺวา นิหีนํ กตฺวา าตํ โอฺาตํ. อวฺาตนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. สฺวายนฺติ โส อยํ ชนปโท. อิมาย ปฏิปตฺติยาติ เวรฺชายํ ปูริตาย สุทุกฺกราย ปฏิปตฺติยา. ตุมฺเห นิสฺสายาติ ตุมฺหากํ อิมํ อปฺปิจฺฉปฏิปทํ นิสฺสาย. สพฺรหฺมจารีสงฺขาตาติ ฉพฺพคฺคิยาทโย วุตฺตา. ตุมฺหากํ อนฺตเร นิสีทิตฺวาติ ตุมฺหากํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา, ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. โอมานนฺติ อติมานํ. อติมาโนเยว เหตฺถ นิหีนตาย ‘‘โอมาน’’นฺติ วุตฺโต, น ปน หีเฬตฺวา มฺนํ. ตุมฺเหหิ, อานนฺท, สปฺปุริเสหิ วิชิตํ สาลิมํโสทนํ ปจฺฉิมา ชนตา อติมฺิสฺสตีติ เอวเมตฺถ ปาฬึ โยเชตฺวา อตฺถํ วณฺณยนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ลทฺธํ, เตเนว ตุสฺสิตฺวา สาลิมํโสทนปตฺถนาย ฉินฺนตฺตา จ ตุมฺเหหิ วิชิตํ อภิภูตํ สาลิมํโสทนํ ปจฺฉิมา ชนตา ตตฺถ ปตฺถนํ ฉินฺทิตุํ อสมตฺถตาย อติมฺิสฺสตีติ.

ทุพฺภิกฺขกถา นิฏฺิตา.

มหาโมคฺคลฺลานสฺส สีหนาทกถา

๑๗. อายสฺมาติ วา เทวานํปิยาติ วา ภทฺรภวนฺติ วา ปิยสมุทาจาโร เอโสติ อาห ‘‘อายสฺมาติปิยวจนเมต’’นฺติ. วิฺุชาติกา หิ ปรํ ปิเยน สมุทาจรนฺตา ‘‘ภว’’นฺติ วา ‘‘เทวานํปิยา’’ติ วา ‘‘อายสฺมา’’ติ วา สมุทาจรนฺติ, ตสฺมา สมฺมุขา สมฺโพธนวเสน อาวุโสติ, ติโรกฺขํ อายสฺมาติ อยมฺปิ สมุทาจาโร. ตยิทํ ปิยวจนํ ครุคารวสปฺปติสฺสวเสน วุจฺจตีติ อาห ‘‘ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจนเมต’’นฺติ. คุณมหตฺตตาย มหาโมคฺคลฺลาโน, น จูฬโมคฺคลฺลานสฺส อตฺถิตายาติ อาห ‘‘มหา จ โส คุณมหนฺตตายา’’ติ. ปปฺปฏโกชนฺติ ปถวีสนฺธารกํ อุทกํ อาหจฺจ ิเต มหาปถวิยา เหฏฺิมตเล สมุฏฺิตํ อุทโกเฆน อชฺโฌตฺถเฏ ภูมิปฺปเทเส สฺชาตกทฺทมปฏลสทิสํ อติมธุรปถวีมณฺฑํ. น เม ตํ อสฺส ปติรูปนฺติ ตํ อนาปุจฺฉา กรณํ น เม อนุจฺฉวิกํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อนาปุจฺฉา กโรนฺเตน จ ยถา ภควา อิจฺฉิติจฺฉิตํ กิฺจิ อนาปุจฺฉา กโรติ, เอวมหมฺปีติ ภควตา สมานํ กตฺวา อตฺตานํ มาเนน กตํ วิย ภวิสฺสตีติ อาห ‘‘ยุคคฺคาโห วิย ภควตา สทฺธึ กโต ภเวยฺยา’’ติ. ปเรน หิ สทฺธึ อตฺตานํ ยุคํ ยุคฬํ สมานํ กตฺวา คาโห, ตสฺส มม วา โก วิเสโสติ คหณํ ยุคคฺคาโห.

สมฺปนฺนนฺติ สมฺปตฺติยุตฺตํ. สา ปเนตฺถ รสสมฺปตฺติ อธิปฺเปตา สามฺโชตนาย วิเสเส อวฏฺานโต. เตนาห ‘‘สมฺปนฺนนฺติ มธุรํ สาทุรสนฺติ อตฺโถ’’ติ. ติวิธฺหิ สมฺปนฺนํ ปริปุณฺณสมงฺคีมธุรวเสน. ตตฺถ –

‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทารํ, สุวา ภุฺชนฺติ โกสิย;

ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น เน วาเรตุมุสฺสเห’’ติ. (ชา. ๑.๑๔.๑) –

อิทํ ปริปุณฺณสมฺปนฺนํ นาม. ปริปุณฺณมฺปิ หิ สมนฺตโต ปนฺนํ ปตฺตนฺติ สมฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ. ‘‘อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต’’ติ (วิภ. ๕๑๑) อิทํ สมงฺคีสมฺปนฺนํ นาม. สมงฺคีปิ หิ สมฺมเทว ปนฺโน คโต อุปคโตติ สมฺปนฺโนติ วุจฺจติ. ‘‘ตตฺรสฺส รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๘) อิทํ มธุรสมฺปนฺนํ นาม. ตตฺถ มธุรสมฺปนฺนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ เวทิตพฺพํ. อุปปนฺนผโลติ พหุผโล. อสฺสาติ ปถวิยา เหฏฺิมตลสฺส. โอปมฺมนิทสฺสนตฺถนฺติ อุปมาย นิทสฺสนตฺถํ. อนีฬกนฺติ นิทฺโทสํ. นิทฺโทสตา เจตฺถ มกฺขิกาทิรหิตตายาติ อาห ‘‘นิมฺมกฺขิก’’นฺติอาทิ. นตฺถิ เอตฺถ มกฺขิกาติ นิมฺมกฺขิกํ. มกฺขิกาสทฺเทน เจตฺถ มกฺขิกณฺฑกมฺปิ สามฺโต คหิตนฺติ วทนฺติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ ‘‘นิมฺมกฺขิกนฺติ อิมสฺเสวตฺถํ ปกาเสตุํ นิมฺมกฺขิกณฺฑกนฺติ วุตฺตํ, มกฺขิกาหิ ตาสํ อณฺฑเกหิ จ วิรหิตนฺติ อตฺโถ’’ติ. อยํ ปเนตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ ‘‘มกฺขิกานํ อณฺฑานิ มกฺขิกณฺฑานิ, นตฺถิ เอตฺถ มกฺขิกณฺฑานีติ นิมฺมกฺขิกณฺฑนฺติ. อิมินา มกฺขิกานํ อณฺเฑหิ รหิตตา วุตฺตา, ‘นิมฺมกฺขิก’นฺติ อิมินา ปน มกฺขิกานํเยว อภาโว วุตฺโต’’ติ. เอตํ กิร มธูติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตมธุ. สพฺพมธูหีติ มหามกฺขิกภมรมกฺขิกาทิกเตหิ. อคฺคนฺติ อุตฺตมํ. เสฏฺนฺติ ปสตฺถตมํ. สุรสนฺติ โสภนรสํ. โอชวนฺตนฺติ อจฺจนฺตโมชสมฺปนฺนํ.

อายาจนวจนเมตนฺติ อิมินา สมฺปฏิจฺฉนสมฺปหํสนาทิอตฺถํ นิวตฺเตติ. เอกํ หตฺถนฺติ เอกํ ปาณิตลํ. ‘‘อภินิมฺมินิสฺสามี’’ติ วุตฺตมตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘ปถวีสทิสํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺตํ. อยํ นุ โข ปถวี, อุทาหุ น อยนฺติ อิมินา นิมฺมิตปถวิยา ปกติปถวิยา จ สนฺทิสฺสมานตฺตา ‘‘เอสา นุ โข อมฺหากํ ปถวี, อุทาหุ อฺา’’ติ อุปฺปชฺชมานกุกฺกุจฺจํ ทสฺเสติ. นิพทฺธวิปุลาคโม คาโม นิคโม, ปวตฺติตมหาอาโย มหาคาโมติ วุตฺตํ โหติ. น วา เอส วิปลฺลาโสติ ปุพฺพปกฺขํ นิทสฺเสติ. กสฺมา ปเนส วิปลฺลาโส น โหตีติ อาห ‘‘อจินฺเตยฺโย หิ อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโย’’ติ. อิทฺธิพเลเนว เตสํ สตฺตานํ ตาทิโส วิปลฺลาโส น ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ อฺถา วิปลฺลาสปฺปฏิลาภํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวํ ปนา’’ติอาทิ. ครหนฺตาติ สมฺมุขา ครหนฺตา. อุปวทนฺตาติ ปรมฺมุขา อกฺโกสนฺตา.

นนุ จ อุตฺตรกุรุํ ปิณฺฑาย คมนํ ปฏิเสเธตฺวา วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุนฺติ การณํ น วุตฺตํ, ตสฺมา กิเมตฺถ การณนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ. ยทิปิ น วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติ ปุพฺเพ อธิกตตฺตา เตเนว การเณน ปิณฺฑาย อุตฺตรกุรุคมนมฺปิ ภควตา ปฏิสิทฺธนฺติ วิฺายติ, ตสฺมา ตเทว การณํ อิธาปิ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพ’’นฺติ. วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฏิลเภยฺยุนฺติ อิทํ อิธ อวุตฺตมฺปิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อตฺโถปิ จสฺส วุตฺตสทิสเมว เวทิตพฺโพติ. ‘‘เอวํ ปน วิปลฺลาสํ ปฏิลเภยฺยุ’’นฺติอาทินา ปจฺฉา วุตฺตเมว อตฺถวิกปฺปํ สนฺธาย วทติ. ยํ ปน ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘เต คุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุพฺภิกฺขกาเล ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปปฺปฏโกชํ ปริภุฺชึสู’’ติ, ตํ อปเนตฺวา เต คุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุพฺภิกฺขกาเล อุตฺตรกุรุํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริตฺวา ปริภุฺชึสูติ เอวเมตฺถ โยชนา กาตพฺพา. เอเกน ปทวีติหาเรนาติ เอตฺถ ปทสฺส วีติหรณํ นิกฺขิปนํ ปทวีติหาโร, ปทนิกฺเขโป, ตสฺมา เอเกน ปทนิกฺเขเปนาติ วุตฺตํ โหติ. เอเกน ปทวีติหาเรน อติกฺกมิตพฺพฏฺานฺจ สมคมเนน ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตเร มุฏฺิรตนมตฺตํ, ตสฺมา. มาติกามตฺตํ อธิฏฺหิตฺวาติ มุฏฺิรตนปฺปมาณํ มาติกามตฺตํ อธิฏฺายาติ อตฺโถ.

นิฏฺิตา มหาโมคฺคลฺลานสฺส สีหนาทกถา.

วินยปฺตฺติยาจนกถา

๑๘. วินยปฺตฺติยาติ ปุพฺเพ อปฺตฺตสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถโร หิ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิ เปตฺวา อิทานิ ปฺเปตพฺพสิกฺขาปทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทสฺจ สนฺธาย ‘‘เอตสฺส ภควา กาโล, เอตสฺส สุคต กาโล, ยํ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺย, อุทฺทิเสยฺย ปาติโมกฺข’’นฺติ (ปารา. ๒๑) อาห. ภควตาปิ –

‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน ปุพฺเพ อปฺปตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ อเหสุํ, พหุตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหึสุ. โก ปน, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน เอตรหิ พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ โหนฺติ, อปฺปตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหนฺตีติ. เอวเมตํ, ภทฺทาลิ, โหติ, สตฺเตสุ หายมาเนสุ สทฺธมฺเม อนฺตรธายมาเน พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ โหนฺติ, อปฺปตรา จ ภิกฺขู อฺาย สณฺหนฺตีติ. น ตาว, ภทฺทาลิ, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ, ยาว น อิเธกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา สงฺเฆ ปาตุภวนฺตี’’ติ –

อิมสฺมึ ภทฺทาลิสุตฺเต (ม. นิ. ๒.๑๔๕) วิย เอกจฺเจสุ ปฺตฺเตสุปิ ตโต ปรํ ปฺเปตพฺพานิ สนฺธาย ‘‘น ตาว, สาริปุตฺต, สตฺถา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปตี’’ติ วุตฺตํ. อิเธว จ อฏฺกถายํ ‘‘สามมฺปิ ปจนํ สมณสารุปฺปํ น โหติ, น จ วฏฺฏตี’’ติ วจนํ ‘‘รตฺติจฺเฉโท วา วสฺสจฺเฉโท วา น กโต’’ติ วจนฺจ ปุพฺเพ ปฺตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาเว ปมาณนฺติ ทฏฺพฺพํ. เสสสิกฺขาปทานฺเจว ปาติโมกฺขุทฺเทสสฺส จ เถรสฺส อายาจเนน ปฺตฺตตฺตา ‘‘มูลโต ปภุติ นิทานํ ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. รโหคตสฺสาติ รโห ชนวิวิตฺตํ านํ อุปคตสฺส. เตน คณสงฺคณิกาภาเวน เถรสฺส กายวิเวกมาห. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ นานารมฺมณจารโต จิตฺตสฺส นิวตฺติยา ปฏิ สมฺมเทว นิลีนสฺส ตตฺถ อวิสฏจิตฺตสฺส. เตน จิตฺตสงฺคณิกาภาเวนสฺส ปุพฺพภาคิยํ จิตฺตวิเวกมาห. จิรนฺติ กาลาเปกฺขํ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. จิราติ จิรกาลยุตฺตา ิติ อเภเทน วุตฺตา.

เอตํน สกฺโกตีติ เอตํ วินิจฺฉินิตุํ น สกฺโกติ. อฏฺกถายํ วุตฺตนยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เถรวาทํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มหาปทุมตฺเถโร ปนา’’ติอาทิ. อฏฺกถายมฺปิ ‘‘น สกฺโกตี’’ติ อิทํ ยสฺมา ชานมาโนปิ สมฺมเทว ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา วุตฺตนฺติ วทนฺติ. โสฬสวิธาย ปฺาย มตฺถกํ ปตฺตสฺสาติ มชฺฌิมนิกาเย อนุปทสุตฺตนฺตเทสนาย (ม. นิ. ๓.๙๓) –

‘‘มหาปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต, ปุถุปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต, หาสปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต, ชวนปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต, ติกฺขปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต, นิพฺเพธิกปฺโ ภิกฺขเว สาริปุตฺโต’’ติ –

เอวมาคตา มหาปฺาทิกา ฉ, ตสฺมึเยว สุตฺเต อาคตา นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปฺา, อรหตฺตมคฺคปฺาติ อิมาสํ โสฬสปฺปเภทานํ ปฺานํ สาวกวิสเย อุกฺกฏฺโกฏิปฺปตฺตสฺส.

กสฺมา ปเนตฺถ ภควา วิปสฺสีอาทีนํ สตฺตนฺนํเยว พุทฺธานํ พฺรหฺมจริยสฺส จิรฏฺิติกาจิรฏฺิติกภาวํ กเถสิ, น พุทฺธวํสเทสนายํ วิย ปฺจวีสติยา พุทฺธานํ, ตโต วา ปน ภิยฺโยติ? เยสํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ ปฏิเวธสาสนํ เอกํสโต นิจฺฉเยน อชฺชาปิ ธรติ, น อนฺตรหิตํ, เต เอว กิตฺเตนฺโต วิปสฺสีอาทีนํเยว ภควนฺตานํ พฺรหฺมจริยสฺส จิรฏฺิติกาจิรฏฺิติกภาวํ อิธ กเถสิ. เตสํเยว หิ สาวกา ตทา เจว เอตรหิ จ สุทฺธาวาสภูมิยํ ิตา, น อฺเสํ ปรินิพฺพุตตฺตา. สิทฺธตฺถติสฺสผุสฺสานํ กิร พุทฺธานํ สาวกา สุทฺธาวาเสสุ อุปฺปนฺนา อุปฺปตฺติสมนนฺตรเมว อิมสฺมึ สาสเน อุปกาทโย วิย อรหตฺตํ อธิคนฺตฺวา น จิรสฺเสว ปรินิพฺพายึสุ, น ตตฺถ ตตฺถ สาวกา ยาวตายุกํ อฏฺํสูติ วทนฺติ. อปุพฺพาจริมนิยโม ปน อปราปรํ สํสรณกสตฺตาวาสวเสน เอกิสฺสา โลกธาตุยา อิจฺฉิโตติ น เตเนตํ วิรุชฺฌตีติ ทฏฺพฺพํ.

๑๙. อสาธารโณ เหตุ, สาธารโณ ปจฺจโยติ เอวมาทิวิภาเคน อิธ ปโยชนํ นตฺถิ, วิปสฺสีอาทีนํ ปน พฺรหฺมจริยสฺส อจิรฏฺิติกตาย จิรฏฺิติกตาย จ การณปุจฺฉาปรตฺตา โจทนายาติ อาห ‘‘เหตุ ปจฺจโยติ อุภยเมตํ การณาธิวจน’’นฺติ. หิโนติ เตน ผลนฺติ เหตูติ กรณสาธโนยํ เหตุสทฺโทติ อาห ‘‘เตน ตสฺส ผล’’นฺติอาทิ. กตฺตุสาธโนปิ เหตุสทฺโท โน น ยุชฺชติ หิโนติ ผลสฺส เหตุภาวํ อุปคจฺฉตีติ เหตูติ. ตํ ปฏิจฺจ เอติ ปวตฺตตีติ ตํ การณํ ปฏิจฺจ ตสฺส ผลํ เอติ ปวตฺตติ นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ.

กิลาสุโนอเหสุนฺติ อปฺโปสฺสุกฺกา อเหสุํ, นิรุสฺสาหา อเหสุนฺติ อตฺโถ. สา ปน นิรุสฺสาหตา น อาลสิยวเสนาติ อาห ‘‘น อาลสิยกิลาสุโน’’ติ, อาลสิยวเสน กิลาสุโน นาเหสุนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ การณมาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. อาลสิยํ วาติ อิมินา ถินมิทฺธวสปฺปวตฺตานํ อกุสลานํ อภาวมาห. โอสนฺนวีริยตา วาติ อิมินา ปน ‘‘อาลสิยาภาเวปิ อนฺตมโส อนฺนภารเนสาทานมฺปิ สกฺกจฺจํเยว ธมฺมํ เทเสตี’’ติ วจนโต ยสฺส กสฺสจิปิ ธมฺมเทสนาย นิรุสฺสาหตา นตฺถีติ ทีเปติ สพฺเพสํ สมเกเนว อุสฺสาเหน ธมฺมเทสนาย ปวตฺตนโต. เตนาห ‘‘พุทฺธา หี’’ติอาทิ. โอสนฺนวีริยาติ โอหีนวีริยา, อปฺโปสฺสุกฺกาติ อตฺโถ. อุสฺสนฺนวีริยาติ อธิกวีริยา, มหุสฺสาหาติ อตฺโถ. เวเคนาติ ชเวน. ธมฺเม ครุ เอเตสนฺติ ธมฺมครุโน. ธมฺเม คารวเมเตสนฺติ ธมฺมคารวา. วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล อสีติ วสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ สิขิสฺส สตฺตติ วสฺสสหสฺสานิ, เวสฺสภุสฺส สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณนฺติ อาห ‘‘เตสํ กิร กาเล ทีฆายุกา สตฺตา’’ติ. อภิสเมนฺตีติ ปฏิวิชฺฌนฺติ.

นิทฺโทสตายาติ วีติกฺกมโทสสฺส อภาวโต. ‘‘อิมสฺมึ วีติกฺกเม อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ เอวํ อาปตฺติวเสน อปฺเปตฺวา ‘‘ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๘, ๑๙๔) ธมฺมเทสนาวเสน โอวาทสิกฺขาปทานํเยว ปฺตฺตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสน อาณาสิกฺขาปทํ อปฺตฺต’’นฺติ. ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยนาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ. อถ วา ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอสานทิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สกึ สกิ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตทเปกฺขมิทํ สามิวจนํ. สกลชมฺพุทีเป สพฺโพปิ ภิกฺขุสงฺโฆ เอกสฺมึเยว าเน อุโปสถํ อกาสีติ สมฺพนฺโธ. กตมํ ตํ านนฺติ อาห ‘‘พนฺธุมติยา ราชธานิยา’’ติอาทิ. อิสิปตนํ เตน สมเยน เขมํ นาม อุยฺยานํ โหติ, มิคานํ ปน อภยวาสตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เขเม มิคทาเย’’ติ.

อพฺโพกิณฺณานิ ทสปิ วีสติปิ ภิกฺขุสหสฺสานิ วสนฺตีติ วิสภาคปุคฺคเลหิ อสํสฏฺานิ ทสปิ วีสติปิ ภิกฺขูนํ สหสฺสานิ วสนฺติ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘เต สพฺเพปิ ทฺวาทสสหสฺสภิกฺขุคณฺหนกา มหาวิหารา อภยคิริเจติยปพฺพตจิตฺตลปพฺพตวิหารสทิสา จ อเหสุ’’นฺติ วุตฺตํ. อุโปสถาโรจิกาติ อุโปสถาโรจนกา. ตา กิร เทวตา เอกมฺหิ วสฺเส นิกฺขนฺเต ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจนฺติ ‘‘นิกฺขนฺตํ โข, มาริสา, เอกํ วสฺสํ, ปฺจ ทานิ วสฺสานิ เสสานิ, ปฺจนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’ติ. ตถา ทฺวีสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ ‘‘นิกฺขนฺตานิ โข, มาริสา, ทฺเว วสฺสานิ , จตฺตาริ วสฺสานิ เสสานิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’ติ อาโรเจนฺติ. อิมินาว นเยน ตีสุ จตูสุ ปฺจสุ วสฺเสสุ อติกฺกนฺเตสุ อาโรเจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มาริสา เอกํ วสฺสํ อติกฺกนฺต’’นฺติอาทิ. สานุภาวาติ อิทฺธานุภาเวน สานุภาวา. เต กิร ภิกฺขูติ เย เทวตานุภาเวน คจฺฉนฺติ, เต สนฺธาย วทติ. ปาจีนสมุทฺทนฺเตติ ปาจีนสมุทฺทสฺส สมีปเทเส. คมิยวตฺตนฺติ คมิเกหิ กาตพฺพํ เสนาสนปฏิชคฺคนาทิวตฺตํ. อุโปสถคฺคนฺติ อุโปสถกรณฏฺานํ. คตาว โหนฺตีติ เทวตานุภาเวน คตา เอว โหนฺติ. เตติ อตฺตโน อตฺตโน อานุภาเวน เทวตานุภาเวน จ คตา สพฺเพปิ.

ขนฺตี ปรมนฺติอาทีสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๐; ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๘๕) ปรูปวาทํ ปราปการํ สีตุณฺหาทิเภทฺจ คุโณปโรธํ ขมติ สหติ อธิวาเสตีติ ขนฺติ. สา ปน สีลาทีนํ ปฏิปกฺขธมฺเม สวิเสสํ ตปติ สนฺตปติ วิธมตีติ ปรมํ อุตฺตมํ ตโป. ติติกฺขนํ ขมนํ ติติกฺขา. ขนฺติยาเยเวตํ เววจนํ. อกฺขรจินฺตกา หิ ขมายํ ติติกฺขาสทฺทํ วณฺเณนฺติ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ ‘‘ติติกฺขาสงฺขาตา อธิวาสนขนฺติ นาม อุตฺตมํ ตโป’’ติ. นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธาติ ภเวน ภวนฺตรํ วินาติ ภวนิกนฺติภาเวน สํสิพฺพติ, สตณฺหสฺเสว วา อายตึ ปุนพฺภวภาวโต ผเลน สทฺธึ กมฺมํ วินาติ สํสิพฺพตีติ วานนฺติ สงฺขฺยํ คตาย ตณฺหาย นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ ตตฺถ ตสฺสา สพฺพโส อภาวโต. ตํ นิพฺพานํ ปน สนฺตปณีตนิปุณสิวเขมาทินา สพฺพากาเรน ปรมนฺติ วทนฺติ พุทฺธา.

น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตีติ โย อธิวาสนขนฺติรหิตตฺตา ปรํ อุปฆาเตติ พาธติ วิหึสติ, โส ปพฺพชิโต นาม น โหติ ปพฺพาเชตพฺพธมฺมสฺส อปพฺพาชนโต. จตุตฺถปาโท ปน ตติยปาทสฺเสว เววจนํ อนตฺถนฺตรตฺตา. ‘‘น หิ ปพฺพชิโต’’ติ เอตสฺส หิ ‘‘น สมโณ โหตี’’ติ เววจนํ. ‘‘ปรูปฆาตี’’ติ เอตสฺส ‘‘ปรํ วิเหยนฺโต’’ติ เววจนํ. อถ วา ปรูปฆาตีติ สีลูปฆาตี. สีลฺหิ อุตฺตมฏฺเน ‘‘ปร’’นฺติ วุจฺจติ ปรสทฺทสฺส เสฏฺวาจกตฺตา ‘‘ปุคฺคลปโรปรฺู’’ติอาทีสุ วิย. โย จ สมโณ ปรํ ยํ กฺจิ สตฺตํ วิเหยนฺโต ปรูปฆาตี โหติ อตฺตโน สีลวินาสโก, โส ปพฺพชิโต นาม น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา โย อธิวาสนขนฺติยา อภาวา ปรูปฆาตี โหติ, ปรํ อนฺตมโส ฑํสมกสมฺปิ ชีวิตา โวโรเปติ, โส น หิ ปพฺพชิโต. กึ การณา? ปาปมลสฺส อปพฺพาชิตตฺตา อนีหฏตฺตา. ‘‘ปพฺพาชยมตฺตโน มลํ, ตสฺมา ปพฺพชิโตติ วุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๓๘๘) อิทฺหิ ปพฺพชิตลกฺขณํ . โยปิ นเหว โข อุปฆาเตติ น มาเรติ, อปิจ ทณฺฑาทีหิ วิเหเติ, โสปิ ปรํ วิเหยนฺโต สมโณ น โหติ. กึการณา? วิเหสาย อสมิตตฺตา. สมิตตฺตา สมโณติ วุจฺจตีติ อิทฺหิ สมณลกฺขณํ. ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ, สมโณติ ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๒๖๕) หิ วุตฺตํ.

อปิจ ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺโต ปาติโมกฺขกถาย จ สีลปฺปธานตฺตา สีลสฺส จ วิเสสโต โทโส ปฏิปกฺโขติ ตสฺส นิคฺคณฺหนวิธึ ทสฺเสตุํ อาทิโต ‘‘ขนฺตี ปรมํ ตโป’’ติ อาห. เตน อนิฏฺสฺส ปฏิหนนูปาโย วุตฺโต, ติติกฺขาคฺคหเณน ปน อิฏฺสฺส, ตทุภเยนปิ อุปฺปนฺนํ อรตึ อุปฺปนฺนํ รตึ อภิภุยฺย วิหรตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ตณฺหาวานสฺส วูปสมนโต นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา. ตตฺถ ขนฺติคฺคหเณน ปโยควิปตฺติยา อภาโว ทสฺสิโต, ติติกฺขาคฺคหเณน อาสยวิปตฺติยา อภาโว. ตถา ขนฺติคฺคหเณน ปราปราธสหตา, ติติกฺขาคฺคหเณน ปเรสุ อนปรชฺฌนา ทสฺสิตา. เอวํ การณมุเขน อนฺวยโต ปาติโมกฺขํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พฺยติเรกโต ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ยถา สตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนํ ปรํ ปาณิเลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ วิเหนฺจ ‘‘ปรูปฆาโต ปรํ วิเหน’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ เตสํ สาปเตยฺยาวหรณํ ปรามสนํ วิสํวาทนํ อฺมฺเภทนํ ผรุสวจเนน มมฺมฆฏฺฏนํ นิรตฺถกวิปฺปลาโป ปรสนฺตกาภิชฺฌานํ อุจฺเฉทจินฺตนํ มิจฺฉาภินิเวสนฺจ อุปฆาโต ปรวิเหนฺจ โหตีติ ยสฺส กสฺสจิ อกุสลสฺส กมฺมปถสฺส กมฺมสฺส จ กรเณน ปพฺพชิโต สมโณ จ น โหตีติ ทสฺเสติ.

ทุติยคาถาย สพฺพปาปสฺสาติ สพฺพากุสลสฺส สพฺพสฺสปิ ทฺวาทสากุสลสฺส สพฺพจิตฺตุปฺปาทสงฺคหิตสฺส สาวชฺชธมฺมสฺส. อกรณนฺติ อนุปฺปาทนํ. กรณฺหิ นาม ตสฺส อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาทนนฺติ ตปฺปฏิกฺเขปโต อกรณํ อนุปฺปาทนํ. กุสลสฺสาติ จตุภูมิกกุสลสฺส. ‘‘กุสลสฺสา’’ติ หิ อิทํ ‘‘เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ วกฺขมานตฺตา อริยมคฺคธมฺเม เตสฺจ สมฺภารภูเต เตภูมิกกุสเล ธมฺเม โพเธติ. อุปสมฺปทาติ อุปสมฺปาทนํ. ตํ ปน อตฺถโต ตสฺส กุสลสฺส สมธิคโม ปฏิลาโภ. สจิตฺตปริโยทปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตสฺส โชตนํ จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณํ สพฺพโส ปริโสธนํ. ตํ ปน อรหตฺเตน โหติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคฺคมคฺคสมงฺคิโน จิตฺตํ สพฺพโส ปริโยทปียติ นาม, อคฺคผลกฺขเณ ปน ปริโยทปิตํ โหติ ปุน ปริโยทเปตพฺพตาย อภาวโต, ตสฺมา ปรินิฏฺิตปริโยทปนตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตํ ปน อรหตฺเตน โหตี’’ติ. อิติ สีลสํวเรน สพฺพปาปํ ปหาย โลกิยโลกุตฺตราหิ สมถวิปสฺสนาหิ กุสลํ สมฺปาเทตฺวา อรหตฺตผเลน จิตฺตํ ปริโยทเปตพฺพนฺติ เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺิ.

ตติยคาถาย อนุปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํ. อนุปฆาโตติ กาเยน มนสา จ กสฺสจิ อุปฆาตากรณํ มนสาปิ ปเรสํ อนตฺถจินฺตนาทิวเสน อุปฆาตกรณสฺส วชฺเชตพฺพตฺตา. ปาติโมกฺเขติ ยํ ตํ ปอติโมกฺขํ อติปโมกฺขํ อุตฺตมํ สีลํ, ปาติ วา สุคติภเยหิ โมกฺเขติ ทุคฺคติภเยหิ, โย วา นํ ปาติ, ตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมึ ปาติโมกฺเข จ. สํวโรติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกมลกฺขโณ สํวโร. มตฺตฺุตาติ โภชเน มตฺตฺุตา ปฏิคฺคหณปริโภควเสน ปมาณฺุตา. ปนฺตฺจ สยนาสนนฺติ ชนสงฺฆฏฺฏวิรหิตํ นิชฺชนสมฺพาธํ วิวิตฺตํ เสนาสนฺจ. เอตฺถ ทฺวีหิเยว ปจฺจเยหิ จตุปจฺจยสนฺโตโส ทีปิโตติ เวทิตพฺโพ ปจฺจยสนฺโตสสามฺเน อิตรทฺวยสฺสปิ ลกฺขณหารนเยน โชติตภาวโต. อธิจิตฺเต จ อาโยโคติ วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ อธิจิตฺตํ, ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ, ตสฺมึ ยถาวุตฺเต อธิจิตฺเต อาโยโค จ, อนุโยโคติ อตฺโถ. เอตํ พุทฺธาน สาสนนฺติ เอตํ ปรสฺส อนุปวทนํ อนุปฆาตนํ ปาติโมกฺเข สํวโร ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตฺุตา วิวิตฺตเสนาสนเสวนํ อธิจิตฺตานุโยโค จ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺิ.

อิมา ปน สพฺพพุทฺธานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘เอเตเนว อุปาเยนา’’ติอาทิ. ยาว สาสนปริยนฺตาติ ธรมานกพุทฺธานํ อนุสาสนปริยนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ยาว พุทฺธา ธรนฺติ, ตาว อุทฺทิสิตพฺพตํ อาคจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โอวาทปาติโมกฺขฺหิ พุทฺธาเยว อุทฺทิสนฺติ, น สาวกา. ปมโพธิยํเยว อุทฺเทสมาคจฺฉนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปมโพธิ เจตฺถ วีสติวสฺสปริจฺฉินฺนาติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. ตฺจ เหฏฺา อฏฺกถายเมว ‘‘ภควโต หิ ปมโพธิยํ วีสติวสฺสนฺตเร นิพทฺธุปฏฺาโก นาม นตฺถี’’ติ กถิตตฺตา ‘‘ปมโพธิ นาม วีสติวสฺสานี’’ติ คเหตฺวา วุตฺตํ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปฺจจตฺตาลีสาย วสฺเสสุ อาทิโต ปนฺนรส วสฺสานิ ปมโพธี’’ติ วุตฺตํ. เอวฺจ สติ มชฺเฌ ปนฺนรส วสฺสานิ มชฺฌิมโพธิ, อนฺเต ปนฺนรส วสฺสานิ ปจฺฉิมโพธีติ ติณฺณํ โพธีนํ สมปฺปมาณตา สิยาติ ตมฺปิ ยุตฺตํ. ปนฺนรสตฺติเกน หิ ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ปูเรนฺติ. อฏฺกถายํ ปน ปนฺนรสวสฺสปฺปมาณาย ปมโพธิยา วีสติวสฺเสสุเยว อนฺโตคธตฺตา ‘‘ปมโพธิยํ วีสติวสฺสนฺตเร’’ติ วุตฺตนฺติ เอวมฺปิ สกฺกา วิฺาตุํ.

นนุ จ กานิจิ สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวาปิ น ตาว อาณาปาติโมกฺขํ อนุฺาตํ ปจฺฉา เถรสฺส อายาจเนน อนุฺาตตฺตา, ตสฺมา กถเมตํ วุตฺตํ ‘‘สิกฺขาปทปฺตฺติกาลโต ปน ปภุติ อาณาปาติโมกฺขเมว อุทฺทิสียตี’’ติ, ยทิปิ กานิจิ สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวาว อาณาปาติโมกฺขํ น อนุฺาตํ, ตถาปิ อปฺตฺเต สิกฺขาปเท อาณาปาติโมกฺขํ นตฺถิ, กินฺตุ ปฺตฺเตเยวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สิกฺขาปทปฺตฺติกาลโต ปน ปภุตี’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพาราเมติ สาวตฺถิยา ปาจีนทิสาภาเค กตตฺตา เอวํลทฺธโวหาเร มหาวิหาเร. มิคารมาตุปาสาเทติ มิคารเสฏฺิโน มาตุฏฺานิยตฺตา มิคารมาตาติ สงฺขฺยํ คตาย วิสาขามหาอุปาสิกาย การิเต ปาสาเท. อฏฺานนฺติ เหตุปฏิกฺเขโป. อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโป. อุภเยนปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติ. นฺติ เยน การเณน.

เตสนฺติ ภิกฺขูนํ. สมฺมุขสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชิตาติ สพฺพนฺติมานํ สุภทฺทสทิสานํ สมฺมุขสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชิเต สนฺธาย วทติ. ขตฺติยกุลาทิวเสเนว วิวิธา กุลาติ สมฺพนฺโธ. อุจฺจนีจอุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วาติ อุจฺจนีจกุลวเสน อุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วาติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ขตฺติยพฺราหฺมณวเสน วา ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติกานํ วเสน วา อุจฺจกุลตา เวทิตพฺพา, เสสานํ วเสน นีจกุลตา. อุฬารุฬารโภคาทิกุลวเสน วาติ อุฬารตรตมอุปโภควนฺตาทิกุลวเสน. อุฬาราติสยโชตนตฺถฺหิ ปุน อุฬารคฺคหณํ ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติอาทีสุ วิย. อาทิ-สทฺเทน อุฬารานุฬารานํ คหณํ เวทิตพฺพํ.

พฺรหฺมจริยํ รกฺขนฺตีติ วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จิรํ ปริยตฺติธมฺมํ ปริหรนฺตี’’ติ. อปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ยทิ สมานชาติอาทิกา สิยุํ, อตฺตโน อตฺตโน กุลานุคตคนฺถํ วิย น นาเสยฺยุํ. ยสฺมา ปน สิกฺขาปทมฺปิ อปฺตฺตํ, อิเม จ ภิกฺขู น สมานชาติอาทิกา, ตสฺมา วินาเสสุนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา เอกนามา…เป… ตสฺมา อฺมฺํ วิเหเนฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ กสฺมา จิรฏฺิติกวาเรปิ ‘‘นานานามา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ? สติปิ เตสํ นานาชจฺจาทิภาเว สิกฺขาปทปฺตฺติยา เอว สาสนสฺส จิรปฺปวตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สิกฺขาปทปฺตฺติวเสเนว สาสนสฺส จิรปฺปวตฺติ. ยสฺมา พุทฺธา อตฺตโน ปรินิพฺพานโต อุทฺธมฺปิ วิเนตพฺพสตฺตสมฺภเว สติ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ, อสติ น ปฺเปนฺติ, ตสฺมาติ เวทิตพฺโพ. ยถา กายวจีทฺวารสงฺขาตํ วิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา ปวตฺตมานมฺปิ จิตฺตํ ตสฺสาเยว วิฺตฺติยา วเสน ปวตฺตนโต ‘‘กายวจีทฺวาเรหิ ปวตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. วคฺคสงฺคหปณฺณาสสงฺคหาทีหีติ สีลกฺขนฺธวคฺคมหาวคฺคาทิวคฺคสงฺคหวเสน มูลปณฺณาสมอฌมปณฺณาสาทิปณฺณาสสงฺคหวเสน. อาทิ-สทฺเทน สํยุตฺตาทิสงฺคโห เวทิตพฺโพ.

เอวํวิตกฺเกถ, มา เอวํ วิตกฺกยิตฺถาติ เอตฺถ เอวนฺติ ยถานุสิฏฺาย อนุสาสนิยา วิธิวเสน ปฏิเสธนวเสน จ ปวตฺติตาการปรามสนํ, สา จ สมฺมาวิตกฺกานํ มิจฺฉาวิตกฺกานฺจ ปวตฺติอาการทสฺสนวเสน ปวตฺตติ อตฺถอานิสํสสฺส อาทีนวสฺส จ วิภาวนตฺถํ. เตนาห ‘‘เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโย ตโย วิตกฺเก วิตกฺเกถา’’ติอาทิ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อพฺยาปาทวิตกฺกอวิหึสาวิตกฺกานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ เนกฺขมฺมํ วุจฺจติ โลภโต นิกฺขนฺตตฺตา อโลโภ, นีวรเณหิ นิกฺขนฺตตฺตา ปมชฺฌานํ, สพฺพากุสเลหิ นิกฺขนฺตตฺตา สพฺโพ กุสโล ธมฺโม, สพฺพสงฺขเตหิ นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานํ, อุปนิสฺสยโต สมฺปโยคโต อารมฺมณกรณโต จ เนกฺขมฺเมน ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก เนกฺขมฺมวิตกฺโก, สมฺมาสงฺกปฺโป. โส อสุภชฺฌานสฺส ปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ, อสุภชฺฌาเน รูปาวจโร, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. พฺยาปาทสฺส ปฏิปกฺโข อพฺยาปาโท, กฺจิปิ น พฺยาปาเทนฺติ เอเตนาติ วา อพฺยาปาโท, เมตฺตา. ยถาวุตฺเตน อพฺยาปาเทน ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อพฺยาปาทวิตกฺโก. โส เมตฺตาฌานสฺส ปุพฺพภาเค กามาวจโร โหติ, เมตฺตาภาวนาวเสน อธิคเต ปมชฺฌาเน รูปาวจโร, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร. วิหึสาย ปฏิปกฺขา, น วิหึสนฺติ วา เอตาย สตฺเตติ อวิหึสา, กรุณา. ตาย ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก อวิหึสาวิตกฺโก. โส กรุณาฌานสฺส ปุพฺพภาเค กามาวจโร, กรุณาภาวนาวเสน อธิคเต ปมชฺฌาเน รูปาวจโร, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตโร.

นนุ จ อโลภาโทสาโมหานํ อฺมฺาวิรหโต เนสํ วเสน อุปฺปชฺชนกานํ อิเมสํ เนกฺขมฺมวิตกฺกาทีนํ อฺมฺํ อสงฺกรโต ววตฺถานํ น โหตีติ? โน น โหติ. ยทา หิ อโลโภ ปธาโน โหติ นิยมิตปริณตสมุทาจาราทิวเสน, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ตถา หิ ยทา อโลภปฺปธาโน เนกฺขมฺมครุโก จิตฺตุปฺปาโท โหติ, ตทา ลทฺธาวสโร เนกฺขมฺมวิตกฺโก ปติฏฺหติ. ตํสมฺปยุตฺตสฺส ปน อโทสลกฺขณสฺส อพฺยาปาทสฺส วเสน โย ตสฺเสว อพฺยาปาทวิตกฺกภาโว สมฺภเวยฺย, สติ จ อพฺยาปาทวิตกฺกภาเว กสฺสจิปิ อวิเหนชาติกตาย อวิหึสาวิตกฺกภาโว จ สมฺภเวยฺย. เต อิตเร ทฺเว ตสฺเสว เนกฺขมฺมวิตกฺกสฺส อนุคามิโน สรูปโต อทิสฺสนโต ตสฺมึ สติ โหนฺติ, อสติ น โหนฺตีติ อนุมาเนยฺยา ภวนฺติ. เอวเมว ยทา เมตฺตาปธาโน จิตฺตุปฺปาโท โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณาปธาโน จิตฺตุปฺปาโท โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ.

กามวิตกฺกาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน พฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ กามปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก. เอตฺถ หิ ทฺเว กามา วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จ. ตตฺถ วตฺถุกามปกฺเข อารมฺมณวเสน กาเมหิ ปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก กามวิตกฺโก, กิเลสกามปกฺเข ปน สมฺปโยควเสน กาเมน ปฏิสํยุตฺโตติ โยเชตพฺพํ. พฺยาปาทปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก. วิหึสาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก. เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามวิตกฺโก หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, พฺยาปาทวิตกฺโก อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ, วิหึสาวิตกฺโก สงฺขาเรสุ นุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ, ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’’นฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ. อถ กสฺมา วุตฺตํ ‘‘สงฺขาโร ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถี’’ติ, นนุ เย ทุกฺขาเปตพฺพาติ อิจฺฉิตา สตฺตสฺิตา, เตปิ อตฺถโต สงฺขารา เอวาติ? สจฺจเมตํ, เต ปน อินฺทฺริยพทฺธา สวิฺาณกตาย ทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ, ตสฺมา เต วิหึสาวิตกฺกสฺส วิสยา อิจฺฉิตา สตฺตสฺิตา. เย ปน น ทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺติ วุตฺตลกฺขณาโยคโต, เต สนฺธาย ‘‘วิหึสาวิตกฺโก สงฺขาเรสุ นุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ.

อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสูติ เอตฺถ อาสเวหีติ กตฺถุอตฺเถ กรณนิทฺเทโส, จิตฺตานีติ ปจฺจตฺตพหุวจนํ, วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ, ตสฺมา อาสเวหิ กตฺตุภูเตหิ อนุปาทาย อารมฺมณวเสน อคฺคเหตฺวา จิตฺตานิ วิมุจฺจิตานีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘เตสฺหิ จิตฺตานี’’ติอาทิ. เยหิ อาสเวหีติ เอตฺถาปิ กตฺตุอตฺเถ เอว กรณนิทฺเทโส. วิมุจฺจึสูติ กมฺมสาธนํ. น เตตานิ คเหตฺวา วิมุจฺจึสูติ เต อาสวา ตานิ จิตฺตานิ อารมฺมณวเสน น คเหตฺวา วิมุจฺจึสุ วิโมเจสุํ. เอตฺถ หิ จิตฺตานีติ อุปโยคพหุวจนํ, วิมุจฺจึสูติ กตฺตุสาธนํ. อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌมานาติ อายตึ อนุปฺปตฺติสงฺขาเตน นิโรเธน นิรุชฺฌมานา อาสวา. อคฺคเหตฺวา วิมุจฺจึสูติ อารมฺมณกรณวเสน อคฺคเหตฺวา จิตฺตานิ วิโมเจสุํ. วิกสิตจิตฺตา อเหสุนฺติ สาติสยาณรสฺมิสมฺผสฺเสน สมฺผุลฺลจิตฺตา อเหสุํ. ปุริมวจนาเปกฺขนฺติ ‘‘อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑ’’ติ วุตฺตวจนาเปกฺขํ. เตนาห ‘‘ยํ วุตฺตํ อฺตรสฺมึ ภึสนเก วนสณฺเฑติ, ตตฺรา’’ติ. กตนฺติ ภาวสาธนวาจิ อิทํ ปทนฺติ อาห ‘‘ภึสนกตสฺมึโหติ, ภึสนกกิริยายา’’ติ. ภึสนสฺส กรณํ กิริยา ภึสนกตํ, ตสฺมึ ภึสนกตสฺมึ.

อิทานิ อฺถาปิ อตฺถโยชนํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ภึสยตีติ ภึสโน, ภึสโน เอว ภึสนโก, ตสฺส ภาโว ภึสนกตฺตนฺติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ภึสนกต’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภึสนกตสฺมินฺติ ภึสนกภาเวติ อตฺโถ’’ติอาทิ. เยภุยฺยคฺคหณํ โลมวนฺตวเสนปิ โยเชตพฺพํ, น โลมวเสเนวาติ อาห ‘‘พหุตรานํ วา’’ติอาทิ.

ปุริสยุควเสนาติ ปุริสกาลวเสน, ปุริสานํ อายุปฺปมาณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สพฺพปจฺฉิมโก สุภทฺทสทิโส’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ตสฺมึ กาเล วิชฺชมานานํ ทฺวินฺนํ ปุริสานํ อายุปริจฺเฉทํ สกลเมว คเหตฺวา ‘‘สตสหสฺสํ…เป… อฏฺาสี’’ติ วุตฺตํ. ทฺเวเยว ปุริสยุคานีติ เอตฺถ ปุริสานํ ยุคปฺปวตฺติกาโล ปุริสยุคํ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปุริโสว ปุริสยุคํ. ธรมาเน ภควติ เอกํ ปุริสยุคํ, ปรินิพฺพุเต เอกนฺติ กตฺวา ‘‘ทฺเวเยว ปุริสยุคานี’’ติ วุตฺตํ. ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ เอกเมว ปุริสยุคํ อสีติเยว วสฺสสหสฺสานิ พฺรหฺมจริยํ อฏฺาสีติ เวทิตพฺพํ.

๒๐. สาวกยุคานีติ สาวกา เอว สาวกยุคานิ. อสมฺภุณนฺเตนาติ อปาปุณนฺเตน. คพฺภํ คณฺหาเปนฺตสฺสาติ สพฺพฺุตฺาณสฺส วิชายนตฺถํ าณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตสฺส.

๒๑. โกอนุสนฺธีติ ปุพฺพาปรกถานํ กึ อนุสนฺธานํ, โก สมฺพนฺโธติ อตฺโถ. สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนาเปกฺขนฺติ ยาจียตีติ ยาจนา, สิกฺขาปทปฺตฺติเยว ยาจนา สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนา, ตํ อเปกฺขตีติ สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนาเปกฺขํ ภุมฺมวจนํ, ยาจิยมานสิกฺขาปทปฺตฺติอเปกฺขํ ภุมฺมวจนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยาจนวิสิฏฺา สิกฺขาปทปฺตฺติเยว หิ ‘‘ตตฺถา’’ติ อิมินา ปรามฏฺา, เตเนว วกฺขติ ‘‘ตตฺถ ตสฺสา สิกฺขาปทปฺตฺติยา’’ติ. ยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สิกฺขาปทํ ปฺเปยฺยา’’ติ อิมินา ยํ สิกฺขาปทปฺปนํ วุตฺตํ, ยาจิตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ตสฺสา สิกฺขาปทปฺตฺติยาติ ตสฺสํ ยาจิยมานสิกฺขาปทปฺตฺติยนฺติ อตฺโถ. อกาลนฺติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อกาลํ.

อาสวฏฺานียาติ เอตฺถ อธิกรเณ อนียสทฺโทติ อาห ‘‘อาสวา ติฏฺนฺติ เอเตสู’’ติอาทิ . เก ปน เต อาสวา, เก จ ธมฺมา ตทธิกรณภูตาติ อาห ‘‘เยสุ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา’’ติอาทิ. ทิฏฺธมฺมิกา ปรูปวาทาทโย, สมฺปรายิกา อาปายิกา อปายทุกฺขวิเสสา. เต อาสวนฺติ เตน เตน ปจฺจยวเสน ปวตฺตนฺตีติ อาสวา. เนสนฺติ ปรูปวาทาทิอาสวานํ. เตติ วีติกฺกมธมฺมา. อสติ อาสวฏฺานีเย ธมฺเม สิกฺขาปทปฺตฺติยํ โก โทโส, เยเนวํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยทิ หิ ปฺเปยฺยา’’ติอาทิ, วีติกฺกมโทสํ อทิสฺวา ยทิ ปฺเปยฺยาติ อธิปฺปาโย. ปรมฺมุขา อกฺโกสนํ ปรูปวาโท, ปเรหิ วจเนสุ โทสาโรปนํ ปรูปารมฺโภ, สมฺมุขา ครหนํ ครหโทโส.

กถฺหิ นาม ปลิเวเสฺสตีติ สมฺพนฺโธ, กถํ-สทฺทโยเค อนาคตปฺปโยโค ทฏฺพฺโพ. อนฺวายิโกติ อนุวตฺตโก. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. ‘‘อมฺหากเมเต’’ติ ายนฺตีติ าตี, ปิตามหปิตุปุตฺตาทิวเสน ปริวฏฺฏนฏฺเน ปริวฏฺโฏ, าตีเยว ปริวฏฺโฏ าติปริวฏฺโฏ. ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺาติ ฆาสจฺฉาทเน ปรมตาย อุตฺตมตาย สนฺตุฏฺา, ฆาสจฺฉาทนปริเยสเน สลฺเลขวเสน ปรมตาย อุกฺกฏฺภาเว สณฺิตาติ อตฺโถ. ฆาสจฺฉาทนเมว วา ปรมํ ปรมา โกฏิ เอเตสํ น ตโต ปรํ กิฺจิ อสามิสชาตํ ปริเยสนฺติ ปจฺจาสีสนฺติ จาติ ฆาสจฺฉาทนปรมา, เตสํ ภาโว ฆาสจฺฉาทนปรมตา, ตสฺสํ ฆาสจฺฉาทนปรมตาย สนฺตุฏฺา. เตสุ นาม โกติ ยถาวุตฺตคุณวิสิฏฺเสุ เตสุ ภิกฺขูสุ โก นาม. โลกามิสภูตนฺติ โลกปริยาปนฺนํ หุตฺวา กิเลเสหิ อามสิตพฺพตฺตา โลกามิสภูตํ. ปพฺพชฺชาสงฺเขเปเนวาติ ‘‘ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติอาทินา ปพฺพชฺชามุเขเนว. เอตนฺติ เมถุนาทีนํ อกรณํ. ถามนฺติ สิกฺขาปทานํ ปฺาปนกิริยาย สามตฺถิยํ. พลนฺติ ยาถาวโต สพฺพธมฺมานํ ปฏิเวธสมตฺถํ าณพลํ. กุปฺเปยฺยาติ กุปฺปํ ภเวยฺย. เอตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ น ยถาาเน ติฏฺเยฺยาติ, ปฺตฺติฏฺาเน น ติฏฺเยฺยาติ อตฺโถ. อกุสโลติ ติกิจฺฉิตุํ ยุตฺตกาลสฺส อปริชานนโต อกุสโล อเฉโก. อวุทฺธิ อนโย, พฺยสนํ ทุกฺขํ. ปฏิกจฺเจวาติ คณฺฑุปฺปาทนโต ปมเมว. สฺฉวึ กตฺวาติ โสภนจฺฉวึ กตฺวา. พาลเวชฺโชติ อปณฺฑิตเวชฺโช. โลหิตกฺขยฺจ มํ ปาเปตีติ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา โยเชตพฺพํ.

อกาลํ ทสฺเสตฺวาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อกาลํ ทสฺเสตฺวา. โรคํ วูปสเมตฺวาติ ผาสุํ กตฺวา. สเก อาจริยเกติ อาจริยสฺส ภาโว, กมฺมํ วา อาจริยกํ, ตสฺมึ อตฺตโน อาจริยภาเว, อาจริยกมฺเม วา. นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. วิทิตานุภาโวติ ปากฏานุภาโว.

วิปุลภาเวนาติ ปพฺพชิตานํ พหุภาเวน. สาสเน เอกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺตีติ ยสฺมา เสนาสนานิ ปโหนฺติ, ตสฺมา อาวาสมจฺฉริยาทิเหตุกา สาสเน เอกจฺเจ อาสวฏฺานียา ธมฺมา น อุปฺปชฺชนฺติ. อิมินา นเยนาติ เอเตน ปทโสธมฺมสิกฺขาปทาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ลาภคฺคมหตฺตนฺติ จีวราทิลภิตพฺพปจฺจโย ลาโภ, ตสฺส อคฺคํ มหตฺตํ ปณีตตา พหุภาโว วา. พหุสฺสุตสฺส ภาโว พาหุสจฺจํ. อโยนิโส อุมฺมุชฺชมานาติ อนุปาเยน อภินิวิสมานา, วิปรีตโต ชานมานาติ อตฺโถ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ สภาเวน สภาวํ สํสนฺทิตฺวา, อนุฺาตปจฺจตฺถรณาทีสุ สุขสมฺผสฺสสามฺโต อุปาทินฺนผสฺสรเสปิ อนวชฺชสฺิตาย อนุปาทินฺนผสฺสรเสน อุปาทินฺนผสฺสรสํ สํสนฺทิตฺวา, สมานภาวํ อุปเนตฺวาติ อตฺโถ. อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํสตฺถุสาสนํ ทีเปนฺตีติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๘) สตฺถุสาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา ทีเปนฺติ.

อิมสฺมึ อตฺเถติ ‘‘นิรพฺพุโท หิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ (ปารา. ๒๑) เอวํ วุตฺตภิกฺขุสงฺฆสฺิเต อตฺเถ. กถํ ปน ทุสฺสีลานํ โจรภาโวติ อาห ‘‘เต หิ อสฺสมณาว หุตฺวา’’ติอาทิ. กาฬกธมฺมโยคาติ ทุสฺสีลตาสงฺขาตปาปธมฺมโยคโต. ปภสฺสโรติ ปภสฺสรสีโล. สาโรติ วุจฺจนฺตีติ สาสนพฺรหฺมจริยสฺส สารภูตตฺตา สีลาทโย คุณา ‘‘สาโร’’ติ วุจฺจนฺติ.

สพฺพปริตฺตคุโณติ สพฺเพหิ นิหีนคุโณ, อปฺปคุโณ วา. โส โสตาปนฺโนติ อานนฺทตฺเถรํ สนฺธาย วทติ. โสตํ อาปนฺโนติ มคฺคโสตํ อาปนฺโน. ปฏิปกฺขธมฺมานํ อนวเสสโต สวนโต เปลฺลนโต โสโต อริยมคฺโคติ อาห ‘‘โสโตติ จ มคฺคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. โสตาปนฺโนติ เตน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อิมินา มคฺคสมงฺคี โสตาปนฺโนติ วตฺวา ตเมวตฺถํ อุทาหรเณน สาเธตฺวา อิทานิ อิธาธิปฺเปตปุคฺคลํ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ. อิธ อาปนฺนสทฺโท ‘‘ผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๘๘) วิย วตฺตมานกาลิโกติ อาห ‘‘มคฺเคน ผลสฺส นามํ ทินฺน’’นฺติ. มคฺเคน หิ อตฺตนา สทิสสฺส อฏฺงฺคิกสฺส วา สตฺตงฺคิกสฺส วา ผลสฺส โสโตติ นามํ ทินฺนํ, อตีตกาลิกตฺเต ปน สรสโตว นามลาโภ สิยา. มคฺคกฺขเณ หิ มคฺคโสตํ อาปชฺชติ นาม, ผลกฺขเณ อาปนฺโน.

วิรูปํ สทุกฺขํ สอุปายาสํ นิปาเตตีติ วินิปาโต, อปายทุกฺเข ขิปนโก. ธมฺโมติ สภาโว. เตนาห ‘‘น อตฺตานํ อปาเยสุ วินิปาตนสภาโว’’ติ. อถ วา ธมฺโมติ อปาเยสุ ขิปนโก สกฺกายทิฏฺิอาทิโก อกุสลธมฺโม. ยสฺส ปน โส อกุสลธมฺโม นตฺถิ สพฺพโส ปหีนตฺตา, โส ยสฺมา อปาเยสุ อตฺตานํ วินิปาตนสภาโว น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘น อตฺตานํ อปาเยสุ วินิปาตนสภาโวติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. กสฺมาติ อวินิปาตนธมฺมตาย การณํ ปุจฺฉติ. อปายํ คเมนฺตีติ อปายคมนียา. วินิปาตนสภาโวติ อุปฺปชฺชนสภาโว. สมฺมตฺตนิยาเมน มคฺเคนาติ สมฺมา ภวนิยามเกน ปฏิลทฺธมคฺเคน. นิยโตติ วา เหฏฺิมนฺตโต สตฺตมภวโต อุปริ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาย นิยโต. สมฺโพธีติ อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สมฺโพธิ. สมฺพุชฺฌตีติ หิ สมฺโพธิ, อริยมคฺโค. โส จ อิธ ปมมคฺคสฺส อธิคตตฺตา อวสิฏฺโ เอว อธิคนฺตพฺพภาเวน อิจฺฉิตพฺโพติ. เตนาห ‘‘อุปริมคฺคตฺตยํ อวสฺสํ สมฺปาปโก’’ติ. อุปริมคฺคตฺตยํ อวสฺสํ สมฺปาปุณาตีติ สมฺปาปโก, โสตาปนฺโน.

วินยปฺตฺติยาจนกถา นิฏฺิตา.

พุทฺธาจิณฺณกถา

๒๒. อนุธมฺมตาติ โลกุตฺตรธมฺมานุคโต ธมฺโม. อนปโลเกตฺวาติ ปทสฺส วิวรณํ ‘‘อนาปุจฺฉิตฺวา’’ติ. ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท คมฺยมานตาย น วุตฺโต, เอวํ อฺตฺถาปิ อีทิเสสุ าเนสุ. ตตฺถ ชนปทจาริกนฺติ ชนปเทสุ จรณํ, จรณํ วา จาโร, โส เอว จาริกา, ชนปเทสุ จาริกา ชนปทจาริกา. ตํ ปกฺกมนฺติ, ชนปทคมนํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ปกฺกมนฺติเยวาติ อวธารเณน โน น ปกฺกมนฺตีติ ทสฺเสติ. ‘‘ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺตี’’ติ เอตฺถ ตฺวา ภควโต จาริกาปกฺกมนวิธึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ชนปทจาริกํ จรนฺตา จา’’ติอาทิ. จาริกา จ นาเมสา (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๔) ทุวิธา ตุริตจาริกา เจว อตุริตจาริกา จ. ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม, สา มหากสฺสปตฺเถรปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ภควา หิ มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต มุหุตฺเตน ติคาวุตมคมาสิ, อาฬวกสฺสตฺถาย ตึสโยชนํ, ตถา องฺคุลิมาลสฺส, ปุกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ, มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ, ธนิยสฺสตฺถาย สตฺตโยชนสตานิ อคมาสิ, ธมฺมเสนาปติโน สทฺธิวิหาริกสฺส วนวาสีติสฺสสามเณรสฺส ติคาวุตาธิกํ วีสโยชนสตํ อคมาสิ, อยํ ตุริตจาริกา. ยํ ปน คามนิคมนครปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนอฑฺฒโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม. อิมํ ปน จาริกํ จรนฺโต ภควา มหามณฺฑลํ มชฺฌิมมณฺฑลํ อนฺติมมณฺฑลนฺติ อิเมสํ ติณฺณํ มณฺฑลานํ อฺตรสฺมึ จรติ. ตตฺถ ‘‘ชนปทจาริก’’นฺติ วุตฺตตฺตา อตุริตจาริกาว อิธาธิปฺเปตา. ตเมว วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มหามณฺฑลํ มชฺฌิมมณฺฑล’’นฺติอาทิ.

ตตฺถ อนฺติมมณฺฑลนฺติ ขุทฺทกมณฺฑลํ, อิตเรสํ วา มณฺฑลานํ อนฺโตคธตฺตา อนฺติมมณฺฑลํ, อพฺภนฺตริมมณฺฑลนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิเมสํ ปน มณฺฑลานํ กึ ปมาณนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ มหามณฺฑลํ นวโยชนสติก’’นฺติอาทิ. นวโยชนสติกมฺปิ านํ มชฺฌิมเทสปริยาปนฺนเมว, ตโต ปรํ นาธิปฺเปตํ ตุริตจาริกาวเสน อคมนโต. ยสฺมา นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย คตคตฏฺานสฺส จตูสุ ปสฺเสสุ สมนฺตโต โยชนสตํ เอกโกลาหลํ โหติ, ปุริมํ ปุริมํ อาคตา นิมนฺเตตุํ ลภนฺติ, อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร มหามณฺฑลํ โอสรติ, ตตฺถ พุทฺธา ภควนฺโต เตสุ เตสุ คามนิคเมสุ เอกาหํ ทฺวีหํ วสนฺตา มหาชนํ อามิสปฏิคฺคเหน อนุคฺคณฺหนฺติ, ธมฺมทาเนน จ วิวฏฺฏูปนิสฺสิตํ กุสลํ วฑฺเฒนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘คามนิคมาทีสุ มหาชนํ อามิสปฏิคฺคเหน อนุคฺคณฺหนฺตา’’ติอาทิ. สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหนฺตีติ เอตฺถ ตรุณา วิปสฺสนาติ สงฺขารปริจฺเฉทเน าณํ กงฺขาวิตรเณ าณํ สมฺมสเน าณํ มคฺคามคฺเค าณนฺติ จตุนฺนํ าณานํ อธิวจนํ. สมถสฺส ตรุณภาโว ปน อุปจารสมาธิวเสน เวทิตพฺโพ. ‘‘สเจ ปน อนฺโตวสฺเส ภิกฺขูนํ สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหนฺตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อฺเนปิ มชฺฌิมมณฺฑเล เวเนยฺยานํ าณปริปากาทิการเณน มชฺฌิมมณฺฑเล จาริกํ จริตุกามา จาตุมาสํ วสิตฺวาว นิกฺขมนฺติ.

ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวาติ อนุมติทานวเสน ทตฺวา. มาคสิรสฺส ปมทิวเสติ มาคสิรมาสสฺส ปมทิวเส. อิทฺเจตรหิ ปวตฺตโวหารวเสน กตฺติกมาสสฺส อปรปกฺขปาฏิปททิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ. เตสนฺติ เตสํ พุทฺธานํ. เตหิ วิเนตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ วิเนยฺยสตฺตา’’ติ วุตฺตํ. วิเนยฺยสตฺตาติ จ จาริกาย วิเนตพฺพสตฺตา. มาคสิรมาสมฺปิ ตตฺเถว วสิตฺวา ผุสฺสมาสสฺส ปมทิวเสติ อิทมฺปิ นิทสฺสนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. จตุมาสวุตฺถานมฺปิ พุทฺธานํ วิเนยฺยสตฺตา อปริปกฺกินฺทฺริยา โหนฺติ, เตสํ อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมานา อปรมฺปิ เอกมาสํ วา ทฺวิติจตุมาสํ วา ตตฺเถววสิตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวารา นิกฺขมิตฺวา ปุริมนเยเนว โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตา สตฺตหิ วา ฉหิ วา ปฺจหิ วา จตูหิ วา มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปนฺติ. เวเนยฺยวเสเนวาติ อวธารเณน น จีวราทิเหตุ จรนฺตีติ ทสฺเสติ. ตถา หิ อิเมสุ ตีสุ มณฺฑเลสุ ยตฺถ กตฺถจิ จาริกํ จรนฺตา น จีวราทิเหตุ จรนฺติ, อถ โข เย ทุคฺคตพาลชิณฺณพฺยาธิกา, เต ‘‘กทา ตถาคตํ อาคนฺตฺวา ปสฺสิสฺสนฺติ, มยิ ปน จาริกํ จรนฺเต มหาชโน ตถาคตทสฺสนํ ลภิสฺสติ, ตตฺถ เกจิ จิตฺตานิ ปสาเทสฺสนฺติ, เกจิ มาลาทีหิ ปูเชสฺสนฺติ, เกจิ กฏจฺฉุภิกฺขํ ทสฺสนฺติ, เกจิ มิจฺฉาทสฺสนํ ปหาย สมฺมาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ, ตํ เนสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ เอวํ โลกานุกมฺปาย จาริกํ จรนฺติ.

อปิจ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ ชงฺฆวิหารวเสน สรีรผาสุกตฺถาย, อฏฺุปฺปตฺติกาลาภิกงฺขนตฺถาย, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทปฺาปนตฺถาย, ตตฺถ ตตฺถ ปริปากคตินฺทฺริเย โพธเนยฺยสตฺเต โพธนตฺถายาติ. อปเรหิปิ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, ธมฺมํ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, มหตา ธมฺมวสฺเสน จตสฺโส ปริสา สนฺตปฺเปสฺสามาติ วา. อปเรหิปิ ปฺจหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ ปาณาติปาตา วิรมิสฺสนฺตีติ วา, อทินฺนาทานา, กาเมสุมิจฺฉาจารา, มุสาวาทา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา วิรมิสฺสนฺตีติ วา. อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ ปมํ ฌานํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วา, ทุติยํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วา. อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ โสตาปตฺติมคฺคํ อธิคมิสฺสนฺตีติ วา, โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตผลํ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ วาติ.

ปุปฺผานิ โอจินนฺตา วิย จรนฺตีติ อิมินา ยถา มาลากาโร พหุํ ปุปฺผคจฺฉํ ทิสฺวา ตตฺถ จิรมฺปิ ตฺวา ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปุปฺผสุฺํ คจฺฉํ ทิสฺวา ตตฺถ ปปฺจํ อกตฺวา ตํ ปหาย อฺตฺถ คนฺตฺวา ปุปฺผานิ โอจินนฺโต วิจรติ, เอวเมว พุทฺธาปิ ยตฺถ คามนิคมาทีสุ วิเนยฺยสตฺตา พหู โหนฺติ, ตตฺถ จิรมฺปิ วสนฺตา เต วิเนตฺวา วิเนยฺยสุฺคามาทีสุ ปปฺจํ อกตฺวา ตํ ปหาย อฺตฺถ พหุวิเนยฺยเกสุ คามาทีสุ วสนฺตา วิจรนฺตีติ ทสฺเสติ. ตโตเยว จ อติขุทฺทเกปิ อนฺติมมณฺฑเล อุปนิสฺสยวนฺตานํ พหุภาวโต ตาว พหุมฺปิ กาลํ สตฺตมาสปริยนฺตํ จาริกํ จรนฺติ.

สนฺตสภาวตฺตา กิเลสสมณเหตุตาย วา สนฺตํ นิพฺพานํ, สุขการณตาย จ สุขนฺติ อาห ‘‘สนฺตํ สุขํ นิพฺพานมารมฺมณํ กตฺวา’’ติ. ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ ชาติกฺเขตฺตภูตาย ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. อิทฺจ เทวพฺรหฺมานํ วเสน วุตฺตํ, มนุสฺสา ปน อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ โพธเนยฺยา โหนฺติ. โพธเนยฺยสตฺตสมวโลกนนฺติ ปมํ มหากรุณาย ผริตฺวา ปจฺฉา สพฺพฺุตฺาณชาลํ ปตฺถริตฺวา ตสฺส อนฺโต ปวิฏฺานํ โพธเนยฺยสตฺตานํ สโมโลกนํ. พุทฺธา กิร มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘เย สตฺตา ภพฺพา ปริปากาณา อชฺชเยว มยา วิเนตพฺพา, เต มยฺหํ าณสฺส อุปฏฺหนฺตู’’ติ จิตฺตํ อธิฏฺาย สมนฺนาหรนฺติ. เตสํ สห สมนฺนาหารา เอโก วา ทฺเว วา พหู วา ตทา วินยูปคา เวเนยฺยา สพฺพฺุตฺาณสฺส อาปาถมาคจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ พุทฺธานุภาโว. เอวํ อาปาถมาคตานํ ปน เนสํ อุปนิสฺสยํ ปุพฺพจริยํ ปุพฺพเหตุํ สมฺปติวตฺตมานฺจ ปฏิปตฺตึ โอโลเกนฺติ. เวเนยฺยสตฺตปริคฺคณฺหนตฺถฺหิ สมนฺนาหาเร กเต ปมํ เนสํ เวเนยฺยภาเวเนว อุปฏฺานํ โหติ. อถ ‘‘กึ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ สรณคมนาทิวเสน กฺจิ นิปฺผตฺตึ วีมํสมานา ปุพฺพุปนิสฺสยานิ โอโลเกนฺติ.

โอติณฺเณติ อาโรจิเต, ปริสมชฺฌํ วา โอติณฺเณ. ทฺวิกฺขตฺตุนฺติ เอกสฺมึ สํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ. พุทฺธกาเล กิร เอเกกสฺมึ สํวจฺฉเร ทฺเว วาเร ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ อุปกฏฺวสฺสูปนายิกกาเล จ ปวารณากาเล จ. อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ ภิกฺขู วคฺควคฺคา หุตฺวา กมฺมฏฺานตฺถาย อาคจฺฉนฺติ. ภควา เตหิ สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา ‘‘กสฺมา, ภิกฺขเว, อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย วิจรถา’’ติ ปุจฺฉติ. อถ เต ‘‘ภควา กมฺมฏฺานตฺถํ อาคตมฺห, กมฺมฏฺานํ โน เทถา’’ติ ยาจนฺติ. สตฺถา เตสํ จริยวเสน ราคจริตสฺส อสุภกมฺมฏฺานํ เทติ, โทสจริตสฺส เมตฺตากมฺมฏฺานํ, โมหจริตสฺส ‘‘อุทฺเทโส ปริปุจฺฉา กาเลน ธมฺมสฺสวนํ กาเลน ธมฺมสากจฺฉา อิทํ ตุยฺหํ สปฺปาย’’นฺติ อาจิกฺขติ. กิฺจาปิ หิ โมหจริตสฺส อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ สปฺปายํ, กมฺมฏฺานภาวนาย ปน ภาชนภูตํ กาตุํ สมฺโมหวิคมาย ปมํ อุทฺเทสปริปุจฺฉาธมฺมสฺสวนธมฺมสากจฺฉาสุ นิโยเชติ. วิตกฺกจริตสฺส อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ เทติ. สทฺธาจริตสฺส วิเสสโต ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย สปฺปายา, ตาสํ ปน อนุยุฺชเน อยํ ปุพฺพภาคปฏิปตฺตีติ ทสฺเสตุํ ปสาทนียสุตฺตนฺเตน พุทฺธสุโพธิตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติฺจ ปกาเสติ. าณจริตสฺส ปน มรณสฺสติ อุปสมานุสฺสติ จตุธาตุววตฺถานํ อาหาเรปฏิกูลสฺา วิเสสโต สปฺปายา, เตสํ อุปการธมฺมทสฺสนตฺถํ อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺเต คมฺภีเร สุตฺตนฺเต กเถติ. เต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สเจ สปฺปายํ โหติ, สตฺถุ สนฺติเก เอว วสนฺติ. โน เจ โหติ, สปฺปายํ เสนาสนํ ปุจฺฉนฺตา คจฺฉนฺติ. เตปิ ตตฺถ วสนฺตา เตมาสิกํ ปฏิปทํ คเหตฺวา ฆเฏนฺตา วายมนฺตา โสตาปนฺนาปิ โหนฺติ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ อรหนฺโตปิ. ตโต วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภควา อหํ ตุมฺหากํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต…เป… อหํ อคฺคผลํ อรหตฺต’’นฺติ ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจนฺติ, อุปริ อนธิคตสฺส อธิคมาย กมฺมฏฺานฺจ ยาจนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุเร วสฺสูปนายิกาย จ กมฺมฏฺานคฺคหณตฺถํ…เป… อุปริ กมฺมฏฺานคฺคหณตฺถฺจา’’ติ.

อายามาติ เอตฺถ อา-สทฺโท ‘‘อาคจฺฉา’’ติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘อายามาติ อาคจฺฉ ยามา’’ติ, เอหิ คจฺฉามาติ อตฺโถ. อานนฺทาติ ภควา สนฺติกาวจรตฺตา เถรํ อาลปติ, น ปน ตทา สตฺถุ สนฺติเก วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ อภาวโต. ปฺจสตปริมาโณ หิ ตทา ภควโต สนฺติเก ภิกฺขุสงฺโฆ. เถโร ปน ‘‘คณฺหถาวุโส ปตฺตจีวรานิ, ภควา อสุกฏฺานํ คนฺตุกาโม’’ติ ภิกฺขูนํ อาโรเจติ. ‘‘อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภควโต ปจฺจสฺโสสี’’ติ อิธ ภควโตติ สามิวจนํ อามนฺตนวจนเมว สมฺพนฺธีอนฺตรํ อเปกฺขตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ภควโต วจนํ ปฏิอสฺโสสี’’ติ วุตฺตํ. ภควโตติ ปน อิทํ ปติสฺสวสมฺพนฺเธน สมฺปทานวจนํ ยถา ‘‘เทวทตฺตสฺส ปฏิสฺสุโณตี’’ติ. ปจฺจสฺโสสีติ เอตฺถ ปฏิ-สทฺโท อภิมุขวจโนติ อาห ‘‘อภิมุโข หุตฺวา สุณี’’ติ. ภควโต มุขาภิมุโข หุตฺวา อธิวาเสตฺวา สุณิ, น อุทาสิโน หุตฺวาติ อธิปฺปาโย.

ตสฺส ปาฏิหาริยสฺส อาคนฺตุกวเสน กตตฺตา วุตฺตํ ‘‘นครทฺวารโต ปฏฺายา’’ติ. สุวณฺณรสปิฺชราหิ รสฺมีหีติ เอตฺถ รส-สทฺโท อุทกปริยาโย, ปิฺชร-สทฺโท เหมวณฺณปริยาโย, ตสฺมา สุวณฺณชลธารา วิย สุวณฺณวณฺณาหิ รสฺมีหีติ อตฺโถ. สมุชฺโชตยมาโนติ โอภาสยมาโน. อสฺสาติ เวรฺชสฺส พฺราหฺมณสฺส. ภควนฺตํ อุปนิสีทิตุกาโมติ ภควนฺตํ อุปคนฺตฺวา นิสีทิตุกาโม, ภควโต สมีเป นิสีทิตุกาโมติ วุตฺตํ โหติ.

พฺราหฺมณ ตยา นิมนฺติตา วสฺสํวุตฺถา อมฺหาติ ปาฬิยํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ทาตพฺโพ อสฺสาติ ทาตพฺโพ ภเวยฺย. โน อสนฺโตติ เนว อวิชฺชมาโน, กินฺตุ วิชฺชมาโนเยวาติ ทีเปติ. วินา วา ลิงฺควิปลฺลาเสเนตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. อิมินา สามฺวจนโต เอตฺถ นปุํสกลิงฺคนิทฺเทโสติ ทสฺเสติ. โน นตฺถีติ โน อมฺหากํ นตฺถิ. โนติ วา เอตสฺส วิวรณํ นตฺถีติ. เกสํ อทาตุกามตา วิยาติ อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. ปหูตวิตฺตูปกรณานนฺติ เอตฺถ วิตฺตีติ ตุฏฺิ, วิตฺติยา อุปกรณํ วิตฺตูปกรณํ, ตุฏฺิการณนฺติ อตฺโถ. ปหูตํ ธนธฺชาตรูปรชตนานาวิธาลงฺการสุวณฺณภาชนาทิเภทํ วิตฺตูปกรณเมเตสนฺติ ปหูตวิตฺตูปกรณา, เตสํ ปหูตวิตฺตูปกรณานํ มจฺฉรีนํ ยถา อทาตุกามตา, เอวํ โน อทาตุกามตาปิ นตฺถีติ สมฺพนฺโธ. ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ เอตฺถ นฺติ ตํ การณํ, ตํ กิจฺจํ วา. เอตฺถาติ ฆราวาเส. ทุติเย ปน อตฺถวิกปฺเป นฺติ เทยฺยธมฺมสฺส ปรามสนํ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเรติ อตฺโถ. นฺติ เยน การเณน, กิริยาปรามสนํ วา. ทุติเย ปน อตฺถวิกปฺเป นฺติ ยํ เทยฺยธมฺมนฺติ อตฺโถ.

อลํ ฆราวาสปลิโพธจินฺตายาติ สฺาเปตฺวาติ พฺราหฺมณ เนตํ ฆราวาสปลิโพเธน กตํ, อถ โข มาราวฏฺฏเนนาติ พฺราหฺมณํ สฺาเปตฺวา. ตงฺขณานุรูปายาติ ยาทิสี ตทา ตสฺส อชฺฌาสยปฺปวตฺติ, ตทนุรูปายาติ อตฺโถ. ตสฺส ตทา ตาทิสสฺส วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสฺส าณปริปากสฺส อภาวโต เกวลํ อพฺภนฺตรสนฺนิสฺสิโต เอว อตฺโถ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ สนฺทสฺเสตฺวา’’ติ, ปจฺจกฺขโต วิภาเวตฺวาติ อตฺโถ. กุสเล ธมฺเมติ เตภูมเก กุสเล ธมฺเม. ตตฺถาติ กุสลธมฺเม ยถาสมาทปิเต. นฺติ พฺราหฺมณํ. สมุตฺเตเชตฺวาติ สมฺมเทว อุปรูปริ นิเวเสตฺวา ปุฺกิริยาย ติกฺขวิสทภาวํ อาปาเทตฺวา. ตํ ปน อตฺถโต ตสฺส อุสฺสาหชนนํ โหตีติ อาห ‘‘สอุสฺสาหํ กตฺวา’’ติ. เอวํ ปุฺกิริยาย สอุสฺสาหโต เอวรูปคุณสมงฺคิตา จ นิยมโต ทิฏฺธมฺมิกาทิอตฺถสมฺปาทนนฺติ เอวํ สอุสฺสาหตาย อฺเหิ จ ตสฺมึ วิชฺชมานคุเณหิ สมฺปหํเสตฺวา สมฺมเทว หฏฺตุฏฺภาวํ อาปาเทตฺวา.

ยทิ ภควา ธมฺมรตนวสฺสํ วสฺสิ, อถ กสฺมา โส วิเสสํ นาธิคจฺฉิ? อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา อภาวโต. ยทิ เอวํ กสฺมา ภควา ตสฺส ตถา ธมฺมรตนวสฺสํ วสฺสีติ? วุจฺจเต – ยทิปิ ตสฺส วิเสสาธิคโม นตฺถิ, อายตึ ปน นิพฺพานาธิคมตฺถาย วาสนาภาคิยา จ สพฺพา ปุริมปจฺฉิมธมฺมกถา อโหสีติ ทฏฺพฺพา. น หิ ภควโต นิรตฺถกา ธมฺมเทสนา อตฺถิ. เตมาสิโกปิ เทยฺยธมฺโมติ เตมาสํ ทาตพฺโพปิ เทยฺยธมฺโม. ยํ ทิวสนฺติ ยสฺมึ ทิวเส.

๒๓. พุทฺธปริณายกนฺติ พุทฺโธ ปริณายโก เอตสฺสาติ พุทฺธปริณายโก, ภิกฺขุสงฺโฆ. ตํ พุทฺธปริณายกํ, พุทฺธเชฏฺกนฺติ อตฺโถ. ยาวทตฺถํ กตฺวาติ ยาว อตฺโถ, ตาว โภชเนน ตทา กตนฺติ อธิปฺปาโย. ทาตุํ อุปนีตภิกฺขาย ปฏิกฺเขโป นาม หตฺถสฺาย มุขวิกาเรน วจีเภเทน วา โหตีติ อาห ‘‘หตฺถสฺายา’’ติอาทิ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ เอตฺถ โอนีโต ปตฺตโต ปาณิ เอตสฺสาติ โอนีตปตฺตปาณีติ ภินฺนาธิกรณวิสโยยํ สทฺโท พาหิรตฺถสมาโสติ อาห ‘‘ปตฺตโต โอนีตปาณิ’’นฺติอาทิ. ‘‘โอนิตฺตปตฺตปาณิ’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ โอนิตฺตํ นานาภูตํ วินาภูตํ อามิสาปนยเนน วา สุจิกตํ ปตฺตํ ปาณิโต อสฺสาติ โอนิตฺตปตฺตปาณิ , ตํ โอนิตฺตปตฺตปาณึ, หตฺเถ จ ปตฺตฺจ โธวิตฺวา เอกมนฺเต ปตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนนฺติ อตฺโถ. ปตฺตุณฺณปฏฺฏปเฏ จาติ ปตฺตุณฺณปเฏ จ ปฏฺฏปเฏ จ. ตตฺถ ปตฺตุณฺณปเทเส ภวา ปตฺตุณฺณา, โกสิยวิเสสาติปิ วทนฺติ. ปฏฺฏานิ ปน จีนปฏานิ. อาโยคาทีสุ อาโยโคติ ปฏิอาโยโค, อํสพทฺธกํ ปตฺตตฺถวิกาทีสุ. เภสชฺชเตลานนฺติ เภสชฺชสมฺปาเกน สาธิตเตลานํ. ตุมฺพานีติ จมฺมมยเตลภาชนานิ. เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน สหสฺสคฺฆนกํ เตลมทาสีติ สมฺพนฺโธ.

มหายาคํ ยชิตฺวาติ มหาทานํ ทตฺวา. สปุตฺตทารํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนนฺติ ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ. เตมาสนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘เตมาสํ โสตพฺพธมฺมํ อชฺเชว สุณิสฺสามี’’ติ นิสินฺนสฺส ตํ อชฺฌาสยํ ปูเรตฺวา เทสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปริปุณฺณสงฺกปฺปํ กุรุมาโน’’ติ. อนุพนฺธิตฺวาติ อนุคนฺตฺวา.

พุทฺธานํ อนภิรติปริตสฺสิตา นาม นตฺถีติ อาห ‘‘ยถาชฺฌาสยํ ยถารุจิตํ วาสํ วสิตฺวา’’ติ. อภิรนฺตํ อภิรตีติ หิ อตฺถโต เอกํ. อภิรนฺตสทฺโท จายํ อภิรุจิปริยาโย, น อสฺสาทปริยาโย. อสฺสาทวเสน จ กตฺถจิ วสนฺตสฺส อสฺสาทวตฺถุวิคมเนน สิยา ตสฺส ตตฺถ อนภิรติ, ตยิทํ ขีณาสวานํ นตฺถิ, ปเคว พุทฺธานํ, ตสฺมา อภิรติวเสน กตฺถจิ วสิตฺวา ตทภาวโต อฺตฺถ คมนํ นาม พุทฺธานํ นตฺถิ, วิเนยฺยวินยนตฺถํ ปน กตฺถจิ วสิตฺวา ตสฺมึ สิทฺเธ วิเนยฺยวินยตฺถเมว ตโต อฺตฺถ คจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ ยถารุจิ. โสเรยฺยาทีนิ อนุปคมฺมาติ มหามณฺฑลจาริกาย วีถิภูตานิ โสเรยฺยนคราทีนิ อนุปคนฺตฺวา. ปยาคปติฏฺานนฺติ คามสฺสปิ อธิวจนํ ติตฺถสฺสปิ. คงฺคํ นทินฺติ คงฺคํ นาม นทึ. ตทวสรีติ เอตฺถ นฺติ กรณตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘เตน อวสริ ตทวสรี’’ติ.

พุทฺธาจิณฺณกถา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกายาติ สมนฺตโต สพฺพโส ปสาทํ ชเนตีติ สมนฺตปาสาทิกา, ตสฺสา สมนฺตปาสาทิกาย. ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมินฺติ เอตฺถ ตตฺราติ ปุริมวจนาเปกฺขํ, อิทนฺติ วกฺขมานการณวจนาเปกฺขํ. ตตฺรายํ โยชนา – ยํ วุตฺตํ ‘‘สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนายา’’ติ, ตตฺร ยา สา สมนฺตปาสาทิกาติ สํวณฺณนา วุตฺตา , ตสฺสา สมนฺตปาสาทิกาย สํวณฺณนาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ สมนฺตปาสาทิกภาเว สพฺพโส ปสาทชนกตฺเต อิทํ โหติ. กึ โหตีติ อาห ‘‘อาจริยปรมฺปรโต’’ติอาทิ.

อาจริยปรมฺปรโตติ ‘‘อุปาลิ ทาสโก’’ติอาทินา (ปริ. ๓). วุตฺตอาจริยปรมฺปรโต. นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโตติ นิทานปฺปเภททีปนโต วตฺถุปฺปเภททีปนโต จ. ตตฺถ พาหิรนิทานอพฺภนฺตรนิทานสิกฺขาปทนิทานทสฺสนวเสน นิทานปฺปเภททีปนํ เวทิตพฺพํ, เถรวาทปฺปกาสนํ ปน วตฺถุปฺปเภททีปนํ. ปรสมยวิวชฺชนโตติ ‘‘สกาย ปฏิฺาย เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) มิจฺฉาปฏิปนฺนานํ ปเรสํ ลทฺธินิรากรณโต, ตโตเยว จ อตฺตโน สมยปติฏฺาปเนน สกสมยวิสุทฺธิโต.

พฺยฺชนปริโสธนโตติ ปาโสธเนน พฺยฺชนปริโสธนํ เวทิตพฺพํ, สทฺทสตฺถานุสาเรน วา นิพฺพจนํ ทสฺเสตฺวา ปทนิปฺผตฺติทสฺสนํ พฺยฺชนปริโสธนํ. วิภงฺคนยเภททสฺสนโตติ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย’’ติอาทิปทภาชนสฺส อนุรูปวเสน นยเภททสฺสนโต. สมฺปสฺสตนฺติ าณจกฺขุนา สมฺมา ปสฺสนฺตานํ, อุปปริกฺขนฺตานนฺติ อตฺโถ. อปาสาทิกนฺติ อปฺปสาทาวหํ. เอตฺถาติ สมนฺตปาสาทิกาย. สมฺปสฺสตํ วิฺูนนฺติ สมฺพนฺโธ. ตสฺมา อยํ สํวณฺณนา สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว ปวตฺตาติ โยเชตพฺพํ. กสฺส เกน เทสิตสฺส สํวณฺณนาติ อาห ‘‘วินยสฺสา’’ติอาทิ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

เวรฺชกณฺฑวณฺณนา สมตฺตา.

ปโม ภาโค นิฏฺิโต.