📜
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ
๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา
อิทานิ ¶ ¶ ปาราชิกสํวณฺณนาสมนนฺตรา ยา เตรสกาทิสํวณฺณนา สมารทฺธา, ตสฺสาปิ –
อนากุลา อสนฺเทหา, ปริปุณฺณวินิจฺฉยา;
อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนา, โหติ สารตฺถทีปนี.
เตรสกสฺสาติ เตรส สิกฺขาปทานิ ปริมาณานิ อสฺส กณฺฑสฺสาติ เตรสกํ, ตสฺส เตรสกสฺส กณฺฑสฺสาติ อตฺโถ.
๒๓๔. อนภิรโตติ อฺตฺถ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน วุจฺจติ, อิธ ปน กามราควเสน อุกฺกณฺิตตาย วิกฺขิตฺตจิตฺตตาย สมนฺนาคโต อธิปฺเปโตติ อาห วิกฺขิตฺตจิตฺโตติอาทิ.
๒๓๖-๒๓๗. สฺเจตนิกาติ เอตฺถ สํ-สทฺโท วิชฺชมานตฺถตาย สาตฺถโกติ ทสฺเสนฺโต อาห สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ. ตตฺถ เจตนาติ วีติกฺกมวสปฺปวตฺตา ปุพฺพภาคเจตนา. อสฺสาติ สุกฺกวิสฺสฏฺิยา. อิมสฺมึ วิกปฺเป อิก-สทฺทสฺส วิสุํ อตฺโถ นตฺถีติ อาห สฺเจตนาว สฺเจตนิกาติ. อิทานิ สํ-สทฺทสฺส อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา อิก-สทฺโทว อสฺสตฺถิอตฺถํ ปกาเสตีติ ทสฺเสนฺโต สฺเจตนา วา อสฺสา อตฺถีติ สฺเจตนิกาติ ทุติยวิกปฺปมาห. สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ ปทภาชเน วตฺตพฺเพ พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา ชานนฺโตติอาทิ วุตฺตํ. อุปกฺกมามีติ ชานนฺโตติ โมจนตฺถํ อุปกฺกมามีติ ชานนฺโต.
อาสยเภทโตติ ปิตฺตาทิอาสยเภทโต. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ หิ รฺโปิ จกฺกวตฺติสฺส ปิตฺตเสมฺหปุพฺพโลหิตาสเยสุ ¶ จตูสุ อฺตโร อาสโย โหติเยว, มนฺทปฺานํ ปน จตฺตาโรปิ อาสยา โหนฺติ. ธาตุนานตฺตโตติ ปถวีธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ ธาตูนํ, จกฺขาทีนํ วา อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ, รสโสณิตาทีนํ วา ธาตูนํ นานตฺตโต.
วตฺถิสีสนฺติ ¶ วตฺถิปุฏสฺส อพฺภนฺตเร มตฺถกปสฺสํ. ‘‘ราค…เป… อสกฺโกนฺโต’’ติ ราคปริยุฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ราชา ปน ‘‘สมฺภวสฺส สกลกาโย าน’’นฺติ สุตปุพฺพตฺตา วีมํสนตฺถํ เอวมกาสีติ วทนฺติ. ทกโสตนฺติ มุตฺตมคฺคํ, องฺคชาตปฺปเทสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทกโสโตโรหณโต ปฏฺาย ปน อุปาทินฺนโต วินิมุตฺตตาย สมฺภเว อุตุสมุฏฺานเมว รูปํ อวสิสฺสติ, เสสํ ติสมุฏฺานํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํ. อาโปธาตุยา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานาย อวตฺถาวิเสโส สมฺภโว, โส จตุสมุฏฺานิโก อฏฺกถายํ จตุสมุฏฺานิเกสุ สมฺภวสฺส วุตฺตตฺตา. โส ปน โสฬสวสฺสกาเล อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ราควเสน านาจาวนํ โหตีติ วทนฺติ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ กถาวตฺถุอฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม ราคสมุฏฺานา โหตี’’ติ, ตํ สมฺภวสฺส านาจาวนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, น ปน สมฺภโว จิตฺตสมุฏฺาโนเยวาติ ทีเปตุํ, เตเนว ตตฺถ วิสฺสฏฺิคฺคหณํ กตํ. ‘‘ขีณาสวานํ ปน พฺรหฺมานฺจ สมฺภโว นตฺถี’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ กถาวตฺถุอฏฺกถายํ (กถา. อฏฺ. ๓๐๗) ‘‘ตาสํ เทวตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ นาม นตฺถี’’ติ, ตมฺปิ านาจาวนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน เทวตานํ สพฺพโส สมฺภวสฺส อภาวํ สนฺธาย. ฉนฺนมฺปิ ปน กามาวจรเทวตานํ กามา ปากติกาเยว. มนุสฺสา วิย หิ เต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติวเสเนว เมถุนํ ปฏิเสวนฺติ, เกวลํ ปน นิสฺสนฺทาภาโว เตสํ วตฺตพฺโพ. ตงฺขณิกปริฬาหวูปสมาวหํ สมฺผสฺสสุขเมว หิ เตสํ กามกิจฺจํ. เกจิ ปน ‘‘จาตุมหาราชิกตาวตึสานํเยว ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยา กามกิจฺจํ อิชฺฌติ, ยามานํ อฺมฺํ อาลิงฺคนมตฺเตน, ตุสิตานํ หตฺถามสนมตฺเตน, นิมฺมานรตีนํ หสิตมตฺเตน, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ โอโลกิตมตฺเตน กามกิจฺจํ อิชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ปฏิกฺขิตฺตํ ตาทิสสฺส กาเมสุ วิรชฺชนสฺส เตสุ อภาวโต กามานฺจ อุตฺตรุตฺตริ ปณีตตรปณีตตมภาวโต.
ตเถวาติ ‘‘โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต’’ติอาทึ อติทิสติ. ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเตติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ทกโสโตโรหณฺเจตฺถาติอาทิ. เอตฺถาติ ตีสุปิ วาเทสุ. อธิวาเสตฺวาติ นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา ¶ ปุน วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อธิวาเสตฺวา. อนฺตรา นิวาเรตุนฺติ านโต จุตํ ทกโสตํ โอตริตุํ อทตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ. เตนาห – านา จุตฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรตีติ ¶ . านาจาวนมตฺเตเนวาติ ทกโสตํ อโนติณฺเณปีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ ‘‘สกโล กาโย าน’’นฺติ วาเท านาจาวนํ วทนฺเตน สกลสรีรโต จุตสฺสปิ ทกโสโตโรหณโต ปุพฺเพ อปฺปมตฺตกสฺส อนฺตราฬสฺส สมฺภวโต วุตฺตํ. สกลสรีเร วา ตสฺมึ ตสฺมึ ปเทเส ิตสฺส านา จุตํ สนฺธาย ‘‘านาจาวนมตฺเตเนวา’’ติ วุตฺตํ. นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺเสวาติ โมจนสฺสาเทน อุปกฺกมนฺตสฺส. หตฺถปริกมฺมาทีสุ สติปิ โมจนสฺสาเท นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต นตฺถิ อาปตฺตีติ อาห ‘‘หตฺตปริกมฺม…เป… อนาปตฺตี’’ติ. อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโยติ ‘‘ทกโสโตโรหณฺเจตฺถา’’ติอาทินา วุตฺโต ติณฺณมฺปิ อาจริยานํ สาธารโณ วินิจฺฉโย.
โขภกรณปจฺจโย นาม วิสภาคเภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโย. อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วาติ ปสนฺนา อตฺถกามตาย, กุทฺธา อนตฺถกามตาย. อตฺถาย วา อนตฺถาย วาติ สภาวโต ภวิตพฺพาย อตฺถาย วา อนตฺถาย วา. อุปสํหรนฺตีติ อตฺตโน เทวานุภาเวน อุปเนนฺติ. โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตนฺติ ตทา กิร ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธาทิวิภูติสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา โพธิสตฺตมาตา สตฺตเม ทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา วรโภชนํ ภฺุชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สิริสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิมํ สุปินํ อทฺทส – จตฺตาโร กิร นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา นฺหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา ทิพฺพคนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ. อิมํ สุปินํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺต’’นฺติ.
ปฺจ ¶ มหาสุปิเนติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๙๖) มหนฺเตหิ ปุริเสหิ ปสฺสิตพฺพโต มหนฺตานฺจ อตฺถานํ นิมิตฺตภาวโต มหาสุปิเน. เต ปน ปฺจ มหาสุปิเน เนว โลกิยมหาชโน ปสฺสติ, น มหาราชาโน, น จกฺกวตฺติราชาโน, น อคฺคสาวกา, น ปจฺเจกพุทฺธา, น สมฺมาสมฺพุทฺธา, เอโก สพฺพฺุโพธิสตฺโตเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน’’ติ. อมฺหากฺจ ปน โพธิสตฺโต กทา เต สุปิเน ปสฺสีติ? ‘‘สฺเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ จาตุทฺทสิยํ ปกฺขสฺส รตฺติวิภายนกาเล ปสฺสิ. กาลวเสน หิ ทิวา ทิฏฺโ ¶ สุปิโน น สเมติ, ตถา ปมยาเม มชฺฌิมยาเม จ. ปจฺฉิมยาเม พลวปจฺจูเส ปน อสิตปีตสายิเต สมฺมาปริณามคเต กายสฺมึ โอชาย ปติฏฺิตาย อรุเณ อุคฺคจฺฉมาเน ทิฏฺสุปิโน สเมติ. อิฏฺนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อิฏฺํ ปฏิลภติ, อนิฏฺนิมิตฺตํ ปสฺสนฺโต อนิฏฺํ, ตสฺมา โพธิสตฺโตปิ สุปินํ ปสฺสนฺโต รตฺติวิภายนกาเล ปสฺสิ.
เก ปน เต ปฺจ มหาสุปินาติ? ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต ปฺจ มหาสุปินา ปาตุรเหสุํ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) – อยํ มหาปถวี มหาสยนํ อโหสิ, หิมวา ปพฺพตราชา พิมฺโพหนํ อโหสิ, ปุรตฺถิเม สมุทฺเท วามหตฺโถ โอหิโต อโหสิ, ปจฺฉิเม สมุทฺเท ทกฺขิณหตฺโถ โอหิโต อโหสิ, ทกฺขิณสมุทฺเท อุโภ ปาทา โอหิตา อเหสุํ, อยํ ปโม มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.
ปุน จปรํ ทพฺพติณสงฺขาตา ติริยา นาม ติณชาติ นงฺคลมตฺเตน รตฺตทณฺเฑน นาภิโต อุคฺคนฺตฺวา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว วิทตฺถิมตฺตํ รตนมตฺตํ พฺยามมตฺตํ ยฏฺิมตฺตํ คาวุตมตฺตํ อฑฺฒโยชนมตฺตํ โยชนมตฺตนฺติ เอวํ อุคฺคนฺตฺวา อเนกโยชนสหสฺสํ นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสิ, อยํ ทุติโย มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.
ปุน จปรํ เสตา กิมี กณฺหสีสา ปาเทหิ อุสฺสกฺกิตฺวา ยาว ชาณุมณฺฑลา ปฏิจฺฉาเทสุํ, อยํ ตติโย มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.
ปุน จปรํ จตฺตาโร สกุณา นานาวณฺณา จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา ปาทมูเล นิปติตฺวา สพฺพเสตา สมฺปชฺชึสุ, อยํ จตุตฺโถ มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ.
ปุน ¶ จปรํ โพธิสตฺโต มหโต มีฬฺหปพฺพตสฺส อุปรูปริ จงฺกมติ อลิปฺปมาโน มีฬฺเหน, อยํ ปฺจโม มหาสุปิโน ปาตุรโหสิ. อิเม ปฺจ มหาสุปินา.
ตตฺถ ปโม อนุตฺตราย สมฺมาสมฺโพธิยา ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทุติโย อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส เทวมนุสฺเสสุ สุปฺปกาสิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ตติโย พหูนํ โอทาตวสนานํ คิหีนํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สรณคมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จตุตฺโถ ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนํ วณฺณานํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา อนุตฺตรวิมุตฺติสจฺฉิกิริยาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปฺจโม จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาภิตาย เตสุ จ อนุปลิตฺตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.
อปิจ ¶ ยํ โส จกฺกวาฬมหาปถวึ สิริสยนภูตํ อทฺทส, ตํ พุทฺธภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ พิมฺโพหนํ อทฺทส, ตํ สพฺพฺุตฺาณพิมฺโพหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ จตฺตาโร หตฺถปาเท สมุทฺทสฺส อุปรูปริภาเคน คนฺตฺวา จกฺกวาฬมตฺถเก ิเต อทฺทส, ตํ ธมฺมจกฺกสฺส อปฺปฏิวตฺติยภาเว ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อตฺตานํ อุตฺตานกํ นิปนฺนํ อทฺทส, ตํ ตีสุ ภเวสุ อวกุชฺชานํ สตฺตานํ อุตฺตานมุขภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ปสฺสนฺโต วิย อโหสิ, ตํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ยํ ยาว ภวคฺคา เอกาโลกํ อโหสิ, ตํ อนาวรณาณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิติ ตํตํวิเสสาธิคมนิมิตฺตภูเต ปฺจ มหาสุปิเน ปสฺสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน’’ติ.
โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเนติ –
‘‘อุสภา รุกฺขา คาวิโย ควา จ,
อสฺโส กํโส สิงฺคาลี จ กุมฺโภ;
โปกฺขรณี จ อปากจนฺทนํ,
ลาพูนิ สีทนฺติ สิลา ปฺลวนฺติ.
‘‘มณฺฑูกิโย กณฺหสปฺเป คิลนฺติ,
กากํ สุวณฺณา ปริวารยนฺติ;
ตสา วกา เอฬกานํ ภยา หี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๗๗) –
อิเม โสฬส สุปิเน ปสฺสนฺโต โกสลราชา วิย.
๑. เอกทิวสํ ¶ กิร โกสลราชา รตฺตึ นิทฺทูปคโต ปจฺฉิมยาเม โสฬส สุปิเน ปสฺสิ (ชา. อฏฺ. ๑.๑.มหาสุปินชาตกวณฺณนา). ตตฺถ จตฺตาโร อฺชนวณฺณา กาฬอุสภา ‘‘ยุชฺฌิสฺสามา’’ติ จตูหิ ทิสาหิ ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา ‘‘อุสภยุทฺธํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มหาชเน สนฺนิปติเต ยุชฺฌนาการํ ทสฺเสตฺวา นทิตฺวา คชฺชิตฺวา อยุชฺฌิตฺวาว ปฏิกฺกนฺตา. อิมํ ปมํ สุปินํ อทฺทส.
๒. ขุทฺทกา ¶ รุกฺขา เจว คจฺฉา จ ปถวึ ภินฺทิตฺวา วิทตฺถิมตฺตมฺปิ รตนมตฺตมฺปิ อนุคฺคนฺตฺวาว ปุปฺผนฺติ เจว ผลนฺติ จ. อิมํ ทุติยํ อทฺทส.
๓. คาวิโย ตทหุชาตานํ วจฺฉานํ ขีรํ ปิวนฺติโย อทฺทส. อยํ ตติโย สุปิโน.
๔. ธุรวาเห อาโรหปริณาหสมฺปนฺเน มหาโคเณ ยุคปรมฺปราย อโยเชตฺวา ตรุเณ โคทมฺเม ธุเร โยเชนฺเต อทฺทส, เต ธุรํ วหิตุํ อสกฺโกนฺตา ฉฑฺเฑตฺวา อฏฺํสุ, สกฏานิ นปฺปวตฺตึสุ. อยํ จตุตฺโถ สุปิโน.
๕. เอกํ อุภโตมุขํ อสฺสํ อทฺทส, ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ยวสีสํ เทนฺติ, โส ทฺวีหิปิ มุเขหิ ขาทติ. อยํ ปฺจโม สุปิโน.
๖. มหาชโน สตสหสฺสคฺฆนกํ สุวณฺณปาตึ สมฺมชฺชิตฺวา ‘‘อิธ ปสฺสาวํ กโรหี’’ติ เอกสฺส ชรสิงฺคาลสฺส อุปนาเมสิ, ตํ ตตฺถ ปสฺสาวํ กโรนฺตํ อทฺทส. อยํ ฉฏฺโ สุปิโน.
๗. เอโก ปุริโส รชฺชุํ วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิปติ, เตน นิสินฺนปีสฺส เหฏฺา สยิตา ฉาตสิงฺคาลี ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ตํ ขาทติ. อิมํ สตฺตมํ สุปินํ อทฺทส.
๘. ราชทฺวาเร พหูหิ ตุจฺฉกุมฺเภหิ ปริวาเรตฺวา ปิตํ เอกํ มหนฺตํ ปูริตกุมฺภํ อทฺทส, จตฺตาโรปิ ปน วณฺณา จตูหิ ทิสาหิ จตูหิ อนุทิสาหิ จ ฆเฏหิ อุทกํ อาหริตฺวา ปูริตกุมฺภเมว ปูเรนฺติ, ปูริตปูริตํ อุทกํ อุตฺตริตฺวา ปลายติ, เตปิ ปุนปฺปุนํ ตตฺเถว อุทกํ อาสิฺจนฺติ, ตุจฺฉกุมฺเภ โอโลเกนฺตาปิ นตฺถิ. อยํ อฏฺโม สุปิโน.
๙. เอกํ ¶ ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ คมฺภีรํ สพฺพโตติตฺถํ โปกฺขรณึ อทฺทส, สมนฺตโต ทฺวิปทจตุปฺปทา โอตริตฺวา ตตฺถ ปานียํ ปิวนฺติ, ตสฺสา มชฺเฌ คมฺภีรฏฺาเน อุทกํ อาวิลํ, ตีรปฺปเทเส ทฺวิปทจตุปฺปทานํ อกฺกมนฏฺาเน อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. อยํ นวโม สุปิโน.
๑๐. เอกิสฺสาเยว จ กุมฺภิยา ปจฺจมานํ โอทนํ อปากํ อทฺทส, ‘‘อปาก’’นฺติ วิจาเรตฺวา วิภชิตฺวา ปิตํ วิย ตีหากาเรหิ ปจฺจมานํ เอกสฺมึ ปสฺเส อติกิลินฺโน โหติ, เอกสฺมึ อุตฺตณฺฑุโล, เอกสฺมึ สุปกฺโกติ. อยํ ทสโม สุปิโน.
๑๑. สตสหสฺสคฺฆนกํ ¶ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺเต อทฺทส. อยํ เอกาทสโม สุปิโน.
๑๒. ตุจฺฉลาพูนิ อุทเก สีทนฺตานิ อทฺทส. อยํ ทฺวาทสโม สุปิโน.
๑๓. มหนฺตมหนฺตา กูฏาคารปฺปมาณา ฆนสิลา นาวา วิย อุทเก ปฺลวมานา อทฺทส. อยํ เตรสโม สุปิโน.
๑๔. ขุทฺทกมธุกปุปฺผปฺปมาณา มณฺฑูกิโย มหนฺเต กณฺหสปฺเป เวเคน อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปลนาเฬ วิย ฉินฺทิตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา คิลนฺติโย อทฺทส. อยํ จุทฺทสโม สุปิโน.
๑๕. ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ คามโคจรํ กากํ กฺจนวณฺณวณฺณตาย ‘‘สุวณฺณา’’ติ ลทฺธนาเม สุวณฺณราชหํเส ปริวาเรนฺเต อทฺทส. อยํ ปนฺนรสโม สุปิโน.
๑๖. ปุพฺเพ ทีปิโน เอฬเก ขาทนฺติ, เต ปน เอฬเก ทีปิโน อนุพนฺธิตฺวา มุรามุราติ ขาทนฺเต อทฺทส, อถฺเ ตสา วกา เอฬเก ทูรโตว ทิสฺวา ตสิตา ตาสปฺปตฺตา หุตฺวา เอฬกานํ ภยา ปลายิตฺวา คุมฺพคหนานิ ปวิสิตฺวา นิลียึสุ. อยํ โสฬสโม สุปิโน.
๑. ตตฺถ อธมฺมิกานํ ราชูนํ อธมฺมิกานฺจ มนุสฺสานํ กาเล โลเก วิปริวตฺตมาเน กุสเล โอสนฺเน อกุสเล อุสฺสนฺเน โลกสฺส ปริหีนกาเล ¶ เทโว น สมฺมา วสฺสิสฺสติ, เมฆปาทา ฉิชฺชิสฺสนฺติ, สสฺสานิ มิลายิสฺสนฺติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, วสฺสิตุกามา วิย จตูหิ ทิสาหิ เมฆา อุฏฺหิตฺวา อิตฺถิกาหิ อาตเป ปตฺถฏานํ วีหิอาทีนํ เตมนภเยน อนฺโต ปเวสิตกาเล ปุริเสสุ กุทาลปิฏเก อาทาย อาฬิพนฺธนตฺถาย นิกฺขนฺเตสุ วสฺสนาการํ ทสฺเสตฺวา คชฺชิตฺวา วิชฺชุลตา นิจฺฉาเรตฺวา อุสภา วิย อยุชฺฌิตฺวา อวสฺสิตฺวาว ปลายิสฺสนฺติ. อยํ ปมสฺส วิปาโก.
๒. โลกสฺส ปริหีนกาเล มนุสฺสานํ ปริตฺตายุกกาเล สตฺตา ติพฺพราคา ภวิสฺสนฺติ, อสมฺปตฺตวยาว กุมาริโย ปุริสนฺตรํ คนฺตฺวา อุตุนิโย เจว คพฺภินิโย จ หุตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสนฺติ. ขุทฺทกรุกฺขานํ ปุปฺผํ วิย หิ ตาสํ อุตุนิภาโว, ผลํ วิย จ ปุตฺตธีตโร ภวิสฺสนฺติ. อยํ ทุติยสฺส วิปาโก.
๓. มนุสฺสานํ ¶ เชฏฺาปจายิกกมฺมสฺส นฏฺกาเล สตฺตา มาตาปิตูสุ วา สสฺสุสสุเรสุ วา ลชฺชํ อนุปฏฺเปตฺวา สยเมว กุฏุมฺพํ สํวิทหนฺตาว ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ มหลฺลกานํ ทาตุกามา ทสฺสนฺติ, อทาตุกามา น ทสฺสนฺติ, มหลฺลกา อนาถา หุตฺวา อสยํวสี ทารเก อาราเธตฺวา ชีวิสฺสนฺติ ตทหุชาตานํ วจฺฉานํ ขีรํ ปิวนฺติโย มหาคาวิโย วิย. อยํ ตติยสฺส วิปาโก.
๔. อธมฺมิกราชูนํ กาเล อธมฺมิกราชาโน ปณฺฑิตานํ ปเวณิกุสลานํ กมฺมนิตฺถรณสมตฺถานํ มหามตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, ธมฺมสภายํ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ปณฺฑิเต โวหารกุสเล มหลฺลเก อมจฺเจ น เปสฺสนฺติ. ตพฺพิปรีตานํ ปน ตรุณตรุณานํ ยสํ ทสฺสนฺติ, ตถารูเป เอว จ วินิจฺฉยฏฺาเน เปสฺสนฺติ, เต ราชกมฺมานิ เจว ยุตฺตายุตฺตฺจ อชานนฺตา เนว ตํ ยสํ อุกฺขิปิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, น ราชกมฺมานิ นิตฺถริตุํ, เต อสกฺโกนฺตา กมฺมธุรํ ฉฑฺเฑสฺสนฺติ, มหลฺลกาปิ ปณฺฑิตา อมจฺจา ยสํ อลภนฺตา กิจฺจานิ นิตฺถริตุํ สมตฺถาปิ ‘‘กึ อมฺหากํ เอเตหิ, มยํ พาหิรกา ชาตา, อพฺภนฺตริกา ตรุณทารกา ชานิสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปนฺนานิ กมฺมานิ น กริสฺสนฺติ, เอวํ สพฺพถาปิ เตสํ ราชูนํ หานิเยว ภวิสฺสติ, ธุรํ วหิตุํ อสมตฺถานํ วจฺฉทมฺมานํ ธุเร โยชิตกาโล วิย, ธุรวาหานฺจ ¶ มหาโคณานํ ยุคปรมฺปราย อโยชิตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จตุตฺถสฺส วิปาโก.
๕. อธมฺมิกราชกาเลเยว อธมฺมิกพาลราชาโน อธมฺมิเก โลลมนุสฺเส วินิจฺฉเย เปสฺสนฺติ, เต ปาปปฺุเสุ อนาทรา พาลา สภายํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉยํ เทนฺตา อุภินฺนมฺปิ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา ขาทิสฺสนฺติ อสฺโส วิย ทฺวีหิ มุเขหิ ยวสีสํ. อยํ ปฺจมสฺส วิปาโก.
๖. อธมฺมิกาเยว วิชาติราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ อาสงฺกาย ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีเน วฑฺเฒสฺสนฺติ, เอวํ มหากุลานิ ทุคฺคตานิ ภวิสฺสนฺติ, ลามกกุลานิ อิสฺสรานิ. เต จ กุลีนา ปุริสา ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘อิเม นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ อกุลีนานํ ธีตโร ทสฺสนฺติ, อิติ ตาสํ กุลธีตานํ อกุลีเนหิ สทฺธึ สํวาโส ชรสิงฺคาลสฺส สุวณฺณปาติยํ ปสฺสาวกรณสทิโส ภวิสฺสติ. อยํ ฉฏฺสฺส วิปาโก.
๗. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อิตฺถิโย ปุริสโลลา สุราโลลา อลงฺการโลลา วิสิขาโลลา อามิสโลลา ภวิสฺสนฺติ ทุสฺสีลา ทุราจารา. ตา สามิเกหิ กสิโครกฺขาทีนิ กมฺมานิ กตฺวา ¶ กิจฺเฉน กสิเรน สมฺภตํ ธนํ ชาเรหิ สทฺธึ สุรํ ปิวนฺติโย มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยมานา อนฺโตเคเห อจฺจายิกมฺปิ กิจฺจํ อโนโลเกตฺวา เคหปริกฺเขปสฺส อุปริภาเคนปิ ฉิทฺทฏฺาเนหิปิ ชาเร อุปธารยมานา สฺเว วปิตพฺพยุตฺตกํ พีชมฺปิ โกฏฺเฏตฺวา ยาคุภตฺตขชฺชกานิ สชฺเชตฺวา ขาทมานา วิลุมฺปิสฺสนฺติ เหฏฺาปีกนิปนฺนกฉาตกสิงฺคาลี วิย วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิตฺตรชฺชุํ. อยํ สตฺตมสฺส วิปาโก.
๘. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล โลโก ปริหายิสฺสติ, รฏฺํ นิโรชํ ภวิสฺสติ, ราชาโน ทุคฺคตา กปณา ภวิสฺสนฺติ. โย อิสฺสโร ภวิสฺสติ, ตสฺส ภณฺฑาคาเร สตสหสฺสมตฺตา กหาปณา ภวิสฺสนฺติ, เต เอวํ ทุคฺคตา สพฺเพ ชนปเท อตฺตโน กมฺมํ การยิสฺสนฺติ, อุปทฺทุตา มนุสฺสา สเก กมฺมนฺเต ฉฑฺเฑตฺวา ราชูนํเยว อตฺถาย ปุพฺพณฺณาปรณฺณานิ วปนฺตา ¶ รกฺขนฺตา ลายนฺตา มทฺทนฺตา ปเวเสนฺตา อุจฺฉุเขตฺตานิ กโรนฺตา ยนฺตานิ วาเหนฺตา ผาณิตาทีนิ ปจนฺตา ปุปฺผาราเม ผลาราเม จ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ นิปฺผนฺนานิ ปุปฺผผลาทีนิ อาหริตฺวา รฺโ โกฏฺาคารเมว ปูเรสฺสนฺติ, อตฺตโน เคเหสุ ตุจฺฉโกฏฺเ โอโลเกนฺตาปิ น ภวิสฺสนฺติ, ตุจฺฉตุจฺฉกุมฺเภ อโนโลเกตฺวา ปูริตกุมฺภปูรณสทิสเมว ภวิสฺสติ. อยํ อฏฺมสฺส วิปาโก.
๙. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, ฉนฺทาทิวเสน อคตึ คจฺฉนฺตา รชฺชํ กาเรสฺสนฺติ, ธมฺเมน วินิจฺฉยํ นาม น ทสฺสนฺติ, ลฺชวิตฺตกา ภวิสฺสนฺติ ธนโลลา, รฏฺวาสิเกสุ เตสํ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยํ นาม น ภวิสฺสติ, กกฺขฬา ผรุสา อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุคณฺิกา วิย มนุสฺเส ปีเฬนฺตา นานปฺปการํ พลึ อุปฺปาเทตฺวา ธนํ คณฺหิสฺสนฺติ, มนุสฺสา พลิปีฬิตา กิฺจิ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา คามนิคมาทโย ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ, มชฺฌิมชนปโท สฺุโ ภวิสฺสติ, ปจฺจนฺโต ฆนวาโส เสยฺยถาปิ โปกฺขรณิยา มชฺเฌ อุทกํ อาวิลํ ปริยนฺเต วิปฺปสนฺนํ. อยํ นวมสฺส วิปาโก.
๑๐. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, เตสุ อธมฺมิเกสุ ราชยุตฺตาปิ พฺราหฺมณคหปติกาปิ เนคมชานปทาปีติ สมณพฺราหฺมเณ อุปาทาย สพฺเพ มนุสฺสา อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, ตโต เตสํ อารกฺขเทวตา พลิปฏิคฺคาหิกเทวตา รุกฺขเทวตา อากาสฏฺกเทวตาติ เอวํ เทวตาปิ อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, อธมฺมิกราชูนํ รชฺเช วาตา วิสมา ขรา วายิสฺสนฺติ, เต อากาสฏฺกวิมานานิ กมฺเปสฺสนฺติ, เตสุ กมฺปิเตสุ เทวตา กุปิตา เทวํ วสฺสิตุํ น ทสฺสนฺติ, วสฺสมาโนปิ สกลรฏฺเ เอกปฺปหาเรเนว น วสฺสิสฺสติ, วสฺสมาโนปิ สพฺพตฺถ กสิกมฺมสฺส วา วปฺปกมฺมสฺส วา อุปกาโร หุตฺวา น วสฺสิสฺสติ. ยถา ¶ จ รฏฺเ, เอวํ ชนปเทปิ คาเมปิ เอกตฬากสฺสเรปิ เอกปฺปหาเรเนว น วสฺสิสฺสติ, ตฬากสฺส อุปริภาเค วสฺสนฺโต เหฏฺาภาเค น วสฺสิสฺสติ, เหฏฺา วสฺสนฺโต อุปริ น วสฺสิสฺสติ, เอกสฺมึ ภาเค สสฺสํ อติวสฺเสน นสฺสิสฺสติ, เอกสฺมึ อวสฺสนฺโต มิลายิสฺสติ, เอกสฺมึ สมฺมา วสฺสมาโน สมฺปาเทสฺสติ, เอวํ เอกสฺส รฺโ รชฺเช วุตฺตา ¶ สสฺสา ติปฺปการา ภวิสฺสนฺติ เอกกุมฺภิยา โอทโน วิย. อยํ ทสมสฺส วิปาโก.
๑๑. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล สาสเน ปริหายนฺเต ปจฺจยโลลา อลชฺชิกา พหู ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ, เต ภควตา ปจฺจยโลลุปฺปํ นิมฺมเถตฺวา กถิตธมฺมเทสนํ จีวราทิจตุปจฺจยเหตุ ปเรสํ เทเสสฺสนฺติ, ปจฺจเยหิ มุจฺฉิตฺวา นิรตฺถกปกฺเข ิตา นิพฺพานาภิมุขํ กตฺวา เทเสตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เกวลํ ‘‘ปทพฺยฺชนสมฺปตฺติฺเจว มธุรสทฺทฺจ สุตฺวา มหคฺฆานิ จีวรานิ ทสฺสนฺติ’’อิจฺเจวํ เทเสสฺสนฺติ. อปเร อนฺตรวีถิจตุกฺกราชทฺวาราทีสุ นิสีทิตฺวา กหาปณอฑฺฒกหาปณปาทมาสกรูปาทีนิปิ นิสฺสาย เทเสสฺสนฺติ. อิติ ภควตา นิพฺพานคฺฆนกํ กตฺวา เทสิตํ ธมฺมํ จตุปจฺจยตฺถาย เจว กหาปณอฑฺฒกหาปณาทิอตฺถาย จ วิกฺกิณิตฺวา เทเสนฺตา สตสหสฺสคฺฆนกํ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺตา วิย ภวิสฺสนฺติ. อยํ เอกาทสมสฺส วิปาโก.
๑๒. อธมฺมิกราชกาเล โลเก วิปริวตฺตนฺเตเยว ราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีนานฺเว ทสฺสนฺติ, เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, อิตเร ทลิทฺทา. ราชสมฺมุเขปิ ราชทฺวาเรปิ อมจฺจสมฺมุเขปิ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ตุจฺฉลาพุสทิสานํ อกุลีนานํเยว กถา โอสีทิตฺวา ิตา วิย นิจฺจลา สุปฺปติฏฺิตา ภวิสฺสติ, สงฺฆสนฺนิปาเตปิ สงฺฆกมฺมคณกมฺมฏฺาเนสุ เจว ปตฺตจีวรปริเวณาทิวินิจฺฉยฏฺาเนสุ จ ทุสฺสีลานํ ปาปปุคฺคลานํเยว กถา นิยฺยานิกา ภวิสฺสติ, น ลชฺชิภิกฺขูนนฺติ เอวํ สพฺพถาปิ ตุจฺฉลาพูนํ สีทนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ทฺวาทสมสฺส วิปาโก.
๑๓. ตาทิเสเยว กาเล อธมฺมิกราชาโน อกุลีนานํ ยสํ ทสฺสนฺติ, เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา ทุคฺคตา. เตสุ น เกจิ คารวํ กริสฺสนฺติ, อิตเรสุเยว กริสฺสนฺติ, ราชสมฺมุเข วา อมจฺจสมฺมุเข วา วินิจฺฉยฏฺาเน วา วินิจฺฉยกุสลานํ ฆนสิลาสทิสานํ กุลปุตฺตานํ กถา น โอคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ. เตสุ กเถนฺเตสุ ‘‘กึ อิเม กเถนฺตี’’ติ อิตเร ปริหาสเมว กริสฺสนฺติ, ภิกฺขุสนฺนิปาเตปิ วุตฺตปฺปกาเรสุ าเนสุ เนว เปสเล ภิกฺขู ครุกาตพฺเพ มฺิสฺสนฺติ, นาปิ เนสํ ¶ ¶ กถา ปริโยคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ, สิลานํ ปฺลวกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ เตรสมสฺส วิปาโก.
๑๔. โลเก ปริหายนฺเตเยว มนุสฺสา ติพฺพราคาทิชาติกา กิเลสานุวตฺตกา หุตฺวา ตรุณตรุณานํ อตฺตโน ภริยานํ วเส วตฺติสฺสนฺติ, เคเห ทาสกมฺมกราทโยปิ โคมหึสาทโยปิ หิรฺสุวณฺณมฺปิ สพฺพํ ตาสํเยว อายตฺตํ ภวิสฺสติ, ‘‘อสุกหิรฺสุวณฺณํ วา ปริจฺเฉทาทิชาตํ วา กห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา โหตุ, กึ ตุยฺหิมินา พฺยาปาเรน, ตฺวํ มยฺหํ ฆเร สนฺตํ วา อสนฺตํ วา ชานิตุกาโม ชาโต’’ติ วตฺวา นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสิตฺวา มุขสตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ทาสเจฏกํ วิย วเส กตฺวา อตฺตโน อิสฺสริยํ ปวตฺเตสฺสนฺติ, เอวํ มธุกปุปฺผปฺปมาณมณฺฑูกโปติกานํ อาสีวิเส กณฺหสปฺเป คิลนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จุทฺทสมสฺส วิปาโก.
๑๕. ทุพฺพลราชกาเล ราชาโน หตฺถิสิปฺปาทีสุ อกุสลา ยุทฺเธสุ อวิสารทา ภวิสฺสนฺติ, เต อตฺตโน ราชาธิปจฺจํ อาสงฺกมานา สมานชาติกานํ กุลปุตฺตานํ อิสฺสริยํ อทตฺวา อตฺตโน ปาทมูลิกนฺหาปกกปฺปกาทีนํ ทสฺสนฺติ, ชาติโคตฺตสมฺปนฺนา กุลปุตฺตา ราชกุเล ปติฏฺํ อลภมานา ชีวิกํ กปฺเปตุํ อสมตฺถา หุตฺวา อิสฺสริยฏฺาเน ชาติโคตฺตหีเน อกุลีเน อุปฏฺหนฺตา วิจริสฺสนฺติ, สุวณฺณราชหํเสหิ กากสฺส ปริวาริตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ปนฺนรสมสฺส วิปาโก.
๑๖. อธมฺมิกราชกาเลเยว จ อกุลีนาว ราชวลฺลภา อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา อปฺปฺาตา ทุคฺคตา. เต ราชวลฺลภา ราชานํ อตฺตโน กถํ คาหาเปตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ พลวนฺโต หุตฺวา ทุพฺพลานํ ปเวณิอาคตานิ เขตฺตวตฺถุอาทีนิ ‘‘อมฺหากํ สนฺตกานิ เอตานี’’ติ อภิยฺุชิตฺวา เต ‘‘น ตุมฺหากํ, อมฺหาก’’นฺติ อาคนฺตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ วิวทนฺเต เวตฺตลตาทีหิ ปหาราเปตฺวา คีวายํ คเหตฺวา อปกฑฺฒาเปตฺวา ‘‘อตฺตโน ปมาณํ น ชานาถ, อมฺเหหิ สทฺธึ วิวทถ, อิทานิ โว รฺโ กเถตฺวา หตฺถปาทจฺเฉทาทีนิ กาเรสฺสามา’’ติ สนฺตชฺเชสฺสนฺติ, เต เตสํ ภเยน อตฺตโน สนฺตกานิ เขตฺตวตฺถูนิ ‘‘ตุมฺหากํเยว ¶ ตานิ, คณฺหถา’’ติ นิยฺยาเตตฺวา อตฺตโน เคหานิ ปวิสิตฺวา ภีตา นิปชฺชิสฺสนฺติ. ปาปภิกฺขูปิ เปสเล ภิกฺขู ยถารุจิ วิเหเสฺสนฺติ, เปสลา ภิกฺขู ปฏิสรณํ อลภมานา อรฺํ ปวิสิตฺวา คหนฏฺาเนสุ นิลียิสฺสนฺติ, เอวํ หีนชจฺเจหิ เจว ปาปภิกฺขูหิ จ อุปทฺทุตานํ ชาติมนฺตกุลปุตฺตานฺเจว เปสลภิกฺขูนฺจ เอฬกานํ ภเยน ตสวกานํ ปลายนกาโล วิย ภวิสฺสติ ¶ . อยํ โสฬสมสฺส วิปาโก. เอวํ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปุพฺพนิมิตฺตภูเต โสฬส สุปิเน ปสฺสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเน’’ติ. เอตฺถ จ ปุพฺพนิมิตฺตโต อตฺตโน อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อตฺตโน กมฺมานุภาเวน ปสฺสติ, โกสลราชา วิย โลกสฺส อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต ปน สพฺพสตฺตสาธารณกมฺมานุภาเวน ปสฺสตีติ เวทิตพฺพํ.
กุทฺธา หิ เทวตาติ นาคมหาวิหาเร มหาเถรสฺส กุทฺธา เทวตา วิย. โรหเณ กิร นาคมหาวิหาเร มหาเถโร ภิกฺขุสงฺฆํ อนปโลเกตฺวาว เอกํ นาครุกฺขํ ฉินฺทาเปสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา เถรสฺส กุทฺธา ปมเมว นํ สจฺจสุปิเนน ปโลเภตฺวา ปจฺฉา ‘‘อิโต เต สตฺตทิวสมตฺถเก อุปฏฺาโก ราชา มริสฺสตี’’ติ สุปิเน อาโรเจสิ. เถโร ตํ กถํ อาหริตฺวา ราโชโรธานํ อาจิกฺขิ. ตา เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ วิรวึสุ. ราชา ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ‘เอวํ เถเรน วุตฺต’’นฺติ อาโรจยึสุ. ราชา ทิวเส คณาเปตฺวา สตฺตาเห วีติวตฺเต เถรสฺส หตฺถปาเท ฉินฺทาเปสิ. เอกนฺตสจฺจเมว โหตีติ ผลสฺส สจฺจภาวโต วุตฺตํ, ทสฺสนํ ปน วิปลฺลตฺถเมว. เตเนว ปหีนวิปลฺลาสา ปุพฺพนิมิตฺตภูตมฺปิ สุปินํ น ปสฺสนฺติ, ทฺวีหิ ตีหิ วา การเณหิ กทาจิ สุปินํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘สํสคฺคเภทโต’’ติ. ‘‘อเสกฺขา น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา’’ติ วจนโต จตุนฺนมฺปิ การณานํ วิปลฺลาโส เอว มูลการณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตนฺติ สุปินกาเล ปวตฺตํ ภวงฺคจิตฺตํ. รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณนฺติ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตโต อฺํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ น โหติ. อีทิสานีติ ปจฺจกฺขโต อนุภูตปุพฺพปริกปฺปิตรูปาทิอารมฺมณานิ เจว ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จ. สพฺโพหาริกจิตฺเตนาติ ปกติจิตฺเตน. ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโตติ ¶ กุสลากุสลสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต. อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณติ อิทํ ยาว ตทารมฺมณุปฺปตฺติ, ตาว ปวตฺตํ จิตฺตวารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สุปิเนเนว ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เมติ กถนกาเล ปน อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ ปฺจทฺวาเร ทุติยโมฆวาเร วิย มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยํ ‘‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’’ติ กปฺปนาย อสมฺภวโต.
เอตฺถ จ ‘‘สุปินนฺเตปิ ตทารมฺมณวจนโต ปจฺจุปฺปนฺนวเสน วา อตีตวเสน วา สภาวธมฺมาปิ สุปินนฺเต อารมฺมณํ โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ยทิปิ สุปินนฺเต วิภูตํ หุตฺวา อุปฏฺิเต ¶ รูปาทิวตฺถุมฺหิ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ, ตถาปิ สุปินนฺเต อุปฏฺิตนิมิตฺตสฺส ปริกปฺปวเสน คเหตพฺพตาย ทุพฺพลภาวโต ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตภาวปฺปตฺติโต ตนฺนิสฺสิตํ หทยวตฺถุ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตโต ตนฺนิสฺสิตาปิ จิตฺตุปฺปตฺติ น สุปฺปสนฺนา อสุปฺปสนฺนวฏฺฏินิสฺสิตทีปปฺปภา วิย, ตสฺมา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ เอตฺถ ทุพฺพลหทยวตฺถุกตฺตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.
สุปินนฺตเจตนาติ มโนทฺวาริกชวนวเสน ปวตฺตา สุปินนฺเต เจตนา. สุปินฺหิ ปสฺสนฺโต มโนทฺวาริเกเนว ชวเนน ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน. ปฏิพุชฺฌนฺโต จ มโนทฺวาริเกเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. นิทฺทายนฺตสฺส หิ มหาวฏฺฏึ ชาเลตฺวา ทีเป จกฺขุสมีปํ อุปนีเต ปมํ จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ, อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, ตโต จกฺขุวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ, เตน จิตฺเตน ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน อาโลโก’’ติ ชานาติ. ตถา นิทฺทายนฺตสฺส กณฺณสมีเป ตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ ฆานสมีเป สุคนฺเธสุ วา ทุคฺคนฺเธสุ วา ปุปฺเผสุ อุปนีเตสุ มุเข สปฺปิมฺหิ วา ผาณิเต วา ปกฺขิตฺเต ปิฏฺิยํ ปาณินา ปหาเร ทินฺเน ปมํ โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏนฺติ ¶ , มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ, อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺติ, ตโต โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ, เตน จิตฺเตน ตฺวา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน สทฺโท, สงฺขสทฺโท เภริสทฺโท’’ติ วา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน คนฺโธ, มูลคนฺโธ สารคนฺโธ’’ติ วา ‘‘กึ อิทํ มยฺหํ มุเข ปกฺขิตฺตํ, สปฺปิ ผาณิต’’นฺติ วา ‘‘เกนมฺหิ ปิฏฺิยํ ปหโฏ, อติถทฺโธ เม ปหาโร’’ติ วา วตฺตา โหติ, เอวํ มโนทฺวาริกชวเนเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. สุปินมฺปิ เตเนว ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน.
อสฺสาติ อสฺส อาปตฺตินิกายสฺส. นนุ จ อยุตฺโตยํ นิทฺเทโส ‘‘สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสา’’ติ. น หิ อาปตฺตินิกายสฺส อาทิมฺหิ เจว เสเส จ สงฺโฆ อิจฺฉิโต, กิฺจรหิ วุฏฺานสฺสาติ อิมํ โจทนํ มนสิ สนฺนิธาย ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา อธิปฺปายํ วิวรนฺโต ‘‘กึ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทิมาห. อาปตฺติโต วุฏฺานสฺส อาทิมฺหิ เจว เสเส ¶ จ อิจฺฉิโต สงฺโฆ อาปตฺติยาว อิจฺฉิโต นาม โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อาปตฺติวุฏฺานนฺติ อาปตฺติโต วุฏฺานํ, อนาปตฺติกภาวูปคมนนฺติ อตฺโถ. วจนการณนฺติ ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ เอวํ วจเน การณํ. สมุทาเย นิรุฬฺโห นิกาย-สทฺโท ตเทกเทเส ปวตฺตมาโนปิ ตาย เอว รุฬฺหิยา ปวตฺตตีติ อาห รุฬีสทฺเทนาติ. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตํนิมิตฺตยุตฺเต กิสฺมิฺจิเทว วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาวเสน นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺตนิรุฬฺโห รุฬฺหี นาม. ยถา มหิยํ เสตีติ มหึโส, คจฺฉตีติ โคติ, เอวํ นิกาย-สทฺทสฺสปิ รุฬฺหิภาโว เวทิตพฺโพ. เอกสฺมิมฺปิ วิสิฏฺเ สติปิ สามฺา วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหาโร อวยเวปิ ปวตฺตตีติ อาห อวยเว สมูหโวหาเรน วาติ. นวมสฺส อธิปฺปายสฺสาติ วีมํสาธิปฺปายสฺส.
๒๓๘-๒๓๙. โลมา เอเตสํ สนฺตีติ โลมสา, พหุโลมาติ วุตฺตํ โหติ. อโรโค ภวิสฺสามีติ ราคปริฬาหวูปสมโต นิโรโค ภวิสฺสามิ. โมจเนนาติ โมจนตฺถาย อุปกฺกมกรเณน. อุปกฺกมกรณฺเหตฺถ โมจนนฺติ อธิปฺเปตํ โมเจติ เอเตนาติ กตฺวา. พีชํ ภวิสฺสตีติ โจฬคฺคหณาทิกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๔๐. ทฺเว ¶ อาปตฺติสหสฺสานีติ ขณฺฑจกฺกาทิเภทํ อนามสิตฺวา วุตฺตํ, อิจฺฉนฺเตน ปน ขณฺฑจกฺกาทิเภเทนปิ อาปตฺติคณนา กาตพฺพา. มิสฺสกจกฺกนฺติ อุภโตวฑฺฒนกํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอตฺถ จ นีลฺจ ปีตกฺจาติอาทินา เอกกฺขเณ อเนกวณฺณานํ โมจนาธิปฺปายวจนํ ยถาธิปฺปาเยน โมจนํ ภวตุ วา มา วา, อิมินาปิ อธิปฺปาเยน อุปกฺกมิตฺวา โมเจนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ ทสฺสนตฺถํ. น หิ เอกสฺมึ ขเณ นีลาทีนํ สพฺเพสมฺปิ มุตฺติ สมฺภวติ. อฺํ วทตีติ อตฺตโน โทสํ อุชุํ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน ปุฏฺโ อฺํ ภณติ.
โมจนสฺสาโทติ โมจนสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตอสฺสาโท. เตเนว ‘‘โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ. เคหสฺสิตเปมนฺติ เอตฺถ เคห-สทฺเทน เคเห ิตา มาตุภคินีอาทโย อชฺฌตฺติกาตกา คหิตา. เตสุ มาตุเปมาทิวเสน อุปฺปนฺโน สิเนโห เคหสฺสิตเปมํ, อฺตฺถ ปน เคหสฺสิตเปมนฺติ ปฺจกามคุณิกราโค วุจฺจติ. สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสนาติ ราคสมฺปยุตฺตสุขเวทนามุเขน. เอเกน ปเทนาติ เคหสฺสิตเปม-ปเทน.
ตเถวาติ โมจนสฺสาทเจตนาย เอว. ปุพฺพภาเค โมจนสฺสาทวเสน กตปฺปโยคํ อวิชหิตฺวาว สยิตตฺตา ‘‘สเจ ปน…เป… สงฺฆาทิเสโส’’ติ วุตฺตํ. ปุน สุทฺธจิตฺเต อุปฺปนฺเน ตสฺส ¶ ปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ‘‘สุทฺธจิตฺโต…เป… อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชคฺคนตฺถายาติ โธวนตฺถาย. อโนกาสนฺติ องฺคชาตปฺปเทสํ.
๒๖๓-๒๖๔. เคหสฺสิตกามวิตกฺกนฺติ ปฺจกามคุณสนฺนิสฺสิตํ กามวิตกฺกํ. วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวาติ องฺคชาตสฺส อคฺเค ปสฺสาวนิคฺคมนฏฺาเน จมฺมํ ทฬฺหํ คเหตฺวา. นิมิตฺเต อุปกฺกมาภาวโต ‘‘โมจนสฺสาทาธิปฺปายสฺสปิ มุตฺเต อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.
๒๖๕. ‘‘เอหิ เม ตฺวํ, อาวุโส, สามเณราติ อาณตฺติยา อฺเน กโตปิ ปโยโค อตฺตนาว กโต นาม โหตีติ กตฺวา อาปตฺติ วุตฺตา. ยทิ ปน อนาณตฺโต สยเมว กโรติ, องฺคปาริปูริยา อภาวโต อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. สุตฺตสามเณรวตฺถุสฺมึ อสุจิมฺหิ มุตฺเตปิ องฺคชาตสฺส คหณปจฺจยา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น ปน มุตฺตปจฺจยา.
๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ ¶ จลนวเสน ยถา องฺคชาเตปิ อุปกฺกโม สมฺภวติ, ตถาปิ วิชมฺภิตตฺตา อาปตฺติ วุตฺตา. ‘‘ปจฺฉโต วา’’ติ วจนโต อุโภสุ ปสฺเสสุ กฏิยํ อูรุปฺปเทโสปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ, ตสฺมา อุโภสุปิ ปสฺเสสุ ตฺวา อิมสฺมึ โอกาเส นิมิตฺตนฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ วจนโต นิมิตฺตนฺติ ปสฺสาวมคฺโคว วุตฺโต. อุมฺมีลนนิมีลนวเสน ปน น กาเรตพฺโพติ อุมฺมีลนนิมีลนปฺปโยควสเอน อาปตฺติเภโท น กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อเนกกฺขตฺตุมฺปิ อุมฺมีเลตฺวา นิมีเลตฺวา อุปนิชฺฌายนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตํ โหติ. อกฺขีนิ อวิปฺผนฺเทตฺวา อภิมุขํ สมฺปตฺตสฺส มาตุคามสฺส นิมิตฺโตโลกเนปิ อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ทารุธีตลิกเลปจิตฺตานํ องฺคชาตุปนิชฺฌาเนปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ.
๒๖๗. ปุปฺผาวลีติ กีฬาวิเสสสฺสาธิวจนํ. ตํ กีฬนฺตา นทีอาทีสุ ฉินฺนตฏํ อุทเกน จิกฺขลฺลํ กตฺวา ตตฺถ อุโภ ปาเท ปสาเรตฺวา นิสินฺนา ปปตนฺติ. ‘‘ปุปฺผาวลิย’’นฺติปิ ปาโ. ปเวเสนฺตสฺสาติ ทฺวิกมฺมกตฺตา วาลิกํ องฺคชาตนฺติ อุภยตฺถาปิ อุปโยควจนํ กตํ. วาลิกนฺติ วาลิกายาติ อตฺโถ. เจตนา, อุปกฺกโม, มุจฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๖๙. ทุติเย ¶ เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหติ, ตานิ วิวรนฺโตติ พฺราหฺมณิยา สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุกาโม เอวมกาสิ. เตน กตสฺสปิ วิปฺปการสฺส อตฺตนิ กตตฺตา ‘‘อตฺตโน วิปฺปการ’’นฺติ วุตฺตํ. อุฬารตฺตตาติ อุฬารจิตฺตตา, ปณีตาธิมุตฺตตาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๗๐. โอติณฺโณติ อิทํ กมฺมสาธนํ กตฺตุสาธนํ วา โหตีติ ตทุภยวเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา’’ติอาทิมาห. อสมเปกฺขิตฺวาติ ยถาสภาวํ อนุปปริกฺขิตฺวา, ยถา เต รติชนกา รูปาทโย ¶ วิสยา อนิจฺจทุกฺขาสุภานตฺตากาเรน อวตฺถิตา, ตถา อปสฺสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
๒๗๑. สฺมเวลนฺติ สีลมริยาทํ. อาจาโรติ อาจรณํ หตฺถคหณาทิกิริยา. อสฺสาติ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ ปทสฺส.
๒๗๓. เอเตสํ ปทานํ วเสนาติ อามสนาทิปทานํ วเสน. อิโต จิโต จ…เป… สฺโจเปตีติ อตฺตโน หตฺถํ วา กายํ วา ติริยํ อิโต จิโต จ สฺจาเรติ. ‘‘กายโต อโมเจตฺวาวาติ วจนโต มตฺถกโต ปฏฺาย หตฺถํ โอตาเรนฺตสฺส กายโต โมเจตฺวา นิวตฺถสาฏกูปริ โอมสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, สาฏกโต โอตาเรตฺวา ชงฺฆโต ปฏฺาย กายํ โอมสนฺตสฺส ปุน สงฺฆาทิเสโส’’ติ วทนฺติ.
ทฺวาทสสุปิ อามสนาทิปฺปโยเคสุ เอเกกสฺมึ ปโยเค กายโต อโมจิเต เอเกกาว อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘มูลคฺคหณเมว ปมาณ’’นฺติ. อิทฺจ เอเกน หตฺเถน กายํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน กายปรามสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เอเกน ปน หตฺเถน กายปฏิพทฺธํ คเหตฺวา อิตเรน ตตฺถ ตตฺถ กายํ ปรามสโต ปโยคคณนาย อาปตฺติ. อยํ ปน สงฺฆาทิเสโส น เกวลํ วตฺถุวเสเนว, อปิจ สฺาวเสนปีติ อาห ‘‘อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส สงฺฆาทิเสโส’’ติ. ปาฬิยํ ติรจฺฉานคโต จ โหตีติ เอตฺถ ติรจฺฉานคติตฺถิยา ติรจฺฉานคตปุริสสฺส จ คหณํ เวทิตพฺพํ.
สมสาราโคติ กายสํสคฺคราเคน เอกสทิสราโค. ปุริมนเยเนวาติ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คหเณ วุตฺตนเยน. ปุน ปุริมนเยเนวาติ สมสาราโค วุตฺโต. อนนฺตรนเยเนวาติ กายปฏิพทฺธอามสนนเยน ¶ . เวณิคฺคหเณน โลมานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา โลมานํ ผุสเนปิ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปกาเสตุกาโม ‘‘อุปาทินฺนเกน หี’’ติอาทิมาห.
ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเสติ ยถาวุตฺตกายสํสคฺคนิทฺเทเส. เตนาติ เตน ยถาวุตฺตการเณน. สฺาย วิราคิตมฺหีติ สฺาย วิรทฺธาย. ลิงฺคพฺยตฺตเยน ‘‘วิราคิตมฺหี’’ติ วุตฺตํ. อิมํ นาม วตฺถุนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคตํ ¶ สนฺธาย วทติ. อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ วตฺถุํ สนฺธาย วทตีติปิ เกจิ. สารตฺตนฺติ กายสํสคฺคราเคน สารตฺตํ. วิรตฺตนฺติ กายสํสคฺคราครหิตํ มาตุภคินีอาทึ สนฺธาย วทติ. ‘‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ, ทุกฺกฏนฺติ มาตุเปมาทิวเสน คหเณ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
อิมาย ปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ สเมตีติ เจ? ยทิ หิ ‘‘อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน อิตฺถิสฺา วิราคิตา ภเวยฺย, กายปฏิพทฺธคฺคหเณ ถุลฺลจฺจยํ วทนฺเตน ภควตา ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี จา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยา, วุตฺตฺจ, ตสฺมา ‘‘อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’’ติ กายํ คณฺหนฺตสฺส อิตฺถิสฺา วิราคิตา นาม น โหตีติ ‘‘กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามีติ กายํ คณฺหนฺโต ยถาวตฺถุกเมว อาปชฺชตี’’ติ มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตวาโท อิมาย ปาฬิยา สเมติ. โย ปเนตฺถ ‘‘สติปิ อิตฺถิสฺาย กายปฏิพทฺธํ คณฺหนฺตสฺส คหณสมเย ‘กายปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’ติ สฺํ เปตฺวา ‘อิตฺถึ คณฺหามี’ติ สฺาย อภาวโต วตฺถุสฺานํ ภินฺนตฺตา อยุตฺต’’นฺติ วเทยฺย, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘กึ กายปฏิพทฺธํ วตฺถาทึ คณฺหนฺโต อิตฺถิยา ราเคน คณฺหาติ, อุทาหุ วตฺถาทีสุ ราเคนา’’ติ. ยทิ ‘‘วตฺถาทีสุ ราเคน คณฺหาตี’’ติ วเทยฺย, อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ อหุตฺวา อฺตฺถ ิตํ วตฺถาทึ คณฺหนฺตสฺสปิ ถุลฺลจฺจยํ สิยา, ตสฺมา อิตฺถี อิตฺถิสฺา สารตฺตภาโว คหณฺจาติ องฺคปาริปูริสพฺภาวโต มหาสุมตฺเถรวาโทว ยุตฺตวาโท. อฏฺกถาวินิจฺฉเยหิ จ สเมตีติ เอตฺถาปิ อยมธิปฺปาโย – ยทิ สฺาวิราเคน วิราคิตํ นาม สิยา, ‘‘สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหามี’’ติ เอวํสฺิสฺส ‘‘มชฺฌคติตฺถิโย กายปฏิพทฺเธน คณฺหามี’’ติ เอวรูปาย สฺาย อภาวโต มชฺฌคตานํ วเสน ถุลฺลจฺจยํ น สิยา, เอวํ สนฺเตปิ อฏฺกถาย ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตา สฺาวิราเคน วิราคิตํ นาม น โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธเยวาติ. นีเลน ทุวิฺเยฺยสภาวโต กาฬิตฺถี วุตฺตา.
๒๗๙. เสวนาธิปฺปาโยติ ผสฺสสุขเสวนาธิปฺปาโย. อิตฺถิยา กาเยน ภิกฺขุสฺส กายปฏิพทฺธามสนวาเรปิ ¶ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ อิทํ อตฺตโน กายปฏิพทฺธามสเนปิ กายสมฺพนฺธสภาวโต วุตฺตํ. เอตฺถาติ นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยวาเร. โมกฺขาธิปฺปาโยติ เอตฺถ ปมํ กายสํสคฺคราเค สติปิ ปจฺฉา โมกฺขาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ.
๒๘๑. ปาริปนฺถิกาติ ¶ วิลุมฺปนิกา, อนฺตรายิกาติ วุตฺตํ โหติ. นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรนฺติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺาสุปิ ปน อิตฺถีสุ การฺุาธิปฺปาเยน มาตริ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชนฺตสฺส เนวตฺถิ โทโสติ วทนฺติ. ‘‘มาตร’’นฺติ วุตฺตตฺตา อฺาสํ น วฏฺฏตีติ วทนฺตาปิ อตฺถิ. ติณณฺฑุปกนฺติ หิรีเวราทิมูเลหิ กตจุมฺพฏกํ. ตาลปณฺณมุทฺทิกนฺติ ตาลปณฺเณหิ กตองฺคุลิมุทฺทิกํ. ปริวตฺเตตฺวาติ อตฺตโน นิวาสนปารุปนภาวโต อปเนตฺวา, จีวรตฺถาย อปนาเมตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ, วฏฺฏตีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ปจฺจตฺถรณวิตานาทิอตฺถมฺปิ วฏฺฏติเยว, ปูชาทิอตฺถํ ตาวกาลิกมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ.
อิตฺถิสณฺาเนน กตนฺติ เอตฺถ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต ปาราชิกวตฺถุภูตติรจฺฉานคติตฺถีนมฺปิ อนามาสภาวโต ตาทิสํ อิตฺถิสณฺาเนน กตํ ติรจฺฉานคตรูปมฺปิ อนามาสนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุนีหิ ปฏิมารูปํ อามสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ อาจริยา. อิตฺถิรูปานิ ทสฺเสตฺวา กตํ วตฺถฺจ ปจฺจตฺถรณฺจ ภิตฺติฺจ อิตฺถิรูปํ อนามสิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ภินฺทิตฺวาติ เอตฺถ หตฺเถน อคฺคเหตฺวาว เกนจิเทว ทณฺฑาทินา ภินฺทิตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อนามาสมฺปิ หตฺเถน อปรามสิตฺวา ทณฺฑาทินา เกนจิ ภินฺทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิธ วุตฺตตฺตา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหนฺเตน มาตุคามสรีเรปิ สตฺถาทีหิ วณํ กตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา จ คหิตมณฺฑูกสปฺปินึ ทณฺฑาทีหิ นิปฺปีเฬตฺวา มณฺฑูกํ วิสฺสชฺชาเปตุํ วฏฺฏติ.
มคฺคํ อธิฏฺายาติ มคฺเค คจฺฉามีติ เอวํ มคฺคสฺี หุตฺวาติ อตฺโถ. กีฬนฺเตนาติ อิทํ คิหิสนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ, ภิกฺขุสนฺตกํ ปน เยน เกนจิ อธิปฺปาเยน อนามสิตพฺพเมว ทุรุปจิณฺณภาวโต. ตาลปนสาทีนีติ เจตฺถ อาทิ-สทฺเทน นาฬิเกรลพุชติปุสอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลเอฬาลุกผลานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ‘‘ยถาวุตฺตผลานํเยว เจตฺถ กีฬาธิปฺปาเยน อามสนํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปาสาณสกฺขราทีนิ กีฬาธิปฺปาเยนปิ อามสิตุํ วฏฺฏติ.
มุตฺตาติ หตฺถิกุมฺภชาทิกา อฏฺวิธา มุตฺตา. ตถา หิ หตฺถิกุมฺภํ, วราหทาํ, ภุชงฺคสีสํ, วลาหกํ, เวฬุ, มจฺฉสิโร, สงฺโข, สิปฺปีติ อฏฺ มุตฺตาโยนิโย. ตตฺถ หตฺถิกุมฺภชา ¶ ปีตวณฺณา ปภาวิหีนา. วราหทาชา ¶ วราหทาวณฺณาว. ภุชงฺคสีสชา นีลาทิวณฺณา สุวิสุทฺธา วฏฺฏลา. วลาหกชา อาภาสูรา ทุพฺพิภาครูปา รตฺติภาเค อนฺธการํ วิทฺธมนฺติโย ติฏฺนฺติ, เทวูปโภคา เอว จ โหนฺติ. เวฬุชา กรกผลสมานวณฺณา น อาภาสูรา, เต จ เวฬู อมนุสฺสโคจเร เอว ปเทเส ชายนฺติ. มจฺฉสิรชา ปาีนปิฏฺิสมอานวณฺณา วฏฺฏลา ลฆโว จ โหนฺติ ปภาวิหีนา จ, เต จ มจฺฉา สมุทฺทมชฺเฌเยว ชายนฺติ. สงฺขชา สงฺขอุทรจฺฉวิวณฺณา โกลผลปฺปมาณาปิ โหนฺติ ปภาวิหีนาว. สิปฺปิชา ปภาวิเสสยุตฺตา โหนฺติ นานาสณฺานา. เอวํ ชาติโต อฏฺวิธาสุ มุตฺตาสุ ยา มจฺฉสงฺขสิปฺปิชา, ตา สามุทฺทิกา. ภุชงฺคชาปิ กาจิ สามุทฺทิกา โหนฺติ, อิตรา อสามุทฺทิกา. ยสฺมา พหุลํ สามุทฺทิกาว มุตฺตา โลเก ทิสฺสนฺติ, ตตฺถาปิ สปฺปิชาว, อิตรา กทาจิ กาจิ, ตสฺมา สมฺโมหวิโนทนิยํ ‘‘มุตฺตาติ สามุทฺทิกา มุตฺตา’’ติ วุตฺตํ.
มณีติ เปตฺวา เวฬุริยาทิเก เสโส โชติรสาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ. เวฬุริโยติ วํสวณฺณมณิ. สงฺโขติ สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลาปณฺฑุสิลาเสตสิลาทิเภทา สพฺพาปิ สิลา. รชตนฺติ กหาปณาทิกํ วุตฺตาวเสสํ รตนสมฺมตํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. โลหิตงฺโกติ รตฺตมณิ. มสารคลฺลนฺติ กพรมณิ. ภณฺฑมูลตฺถายาติ ปตฺตจีวราทิภณฺฑมูลตฺถาย. กุฏฺโรคสฺสาติ นิทสฺสนมตฺตํ, ตาย วูปสเมตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ โรคสฺสตฺถายปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘เภสชฺชตฺถฺจ อธิฏฺาเยว มุตฺตา วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อากรมุตฺโตติ อากรโต มุตฺตมตฺโต. ‘‘ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา จ อามสิตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ปจิตฺวา กโตติ กาจกาเรหิ ปจิตฺวา กโต.
โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโสติ อลงฺการตฺถํ กฺจนลตาทึ ทสฺเสตฺวา กโต รตนขจิโต โธตวิทฺโธ อนามาโส. โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส จาติ วิสุํ วา ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปานียสงฺโขติ อิมินา จ สงฺเขน กตปานียภาชนปิธานาทิสมณปริกฺขาโรปิ อามสิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. เสสนฺติ รตนมิสฺสํ เปตฺวา อวเสสํ. มุคฺควณฺณํเยว รตนสมฺมิสฺสํ ¶ กโรนฺติ, น อฺนฺติ อาห ‘‘มุคฺควณฺณาวา’’ติ, มุคฺควณฺณา รตนมิสฺสาว น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสาติ รตนสมฺมิสฺสํ เปตฺวา อวเสสา มุคฺควณฺณา นีลสิลา.
พีชโต ปฏฺายาติ ธาตุปาสาณโต ปฏฺาย. สุวณฺณเจติยนฺติ ธาตุกรณฺฑกํ. ปฏิกฺขิปีติ ‘‘ธาตุฏฺปนตฺถาย คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ เปสิตตฺตา ปฏิกฺขิปิ. สุวณฺณพุพฺพุฬกนฺติ สุวณฺณตารกํ. ‘‘เกฬาปยิตุนฺติ อิโต จิโต จ สฺจารนฺเตหิ อามสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เจติยโคปกา วา ภิกฺขู โหนฺตุ อฺเ วา, หตฺเถนปิ ปฺุฉิตฺวา กจวรํ อปเนตุํ วฏฺฏติ, มลมฺปิ ปมชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว.
อารกูฏโลหนฺติ กิตฺติมโลหํ. ตีณิ หิ กิตฺติมโลหานิ กํสโลหํ, วฏฺฏโลหํ, อารกูฏนฺติ. ตตฺถ ติปุตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ กํสโลหํ, สีสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ วฏฺฏโลหํ, ปกติรสตมฺเพ มิสฺเสตฺวา กตํ อารกูฏํ. เตเนว ตํกรเณน นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘กิตฺติมโลห’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘ชาตรูปคติกเมวาติ วุตฺตตฺตา อารกูฏํ สุวณฺณสทิสเมว อามสิตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อารกูฏํ อนามสิตพฺพโต ชาตรูปคติกเมวาติ วุตฺตํ, ตสฺมา อุภยมฺปิ ชาตรูปํ วิย อามสิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปมํ วุตฺโตเยว จ อตฺโถ คณฺิปทกาเรหิ อธิปฺเปโต. ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏตีติ เสนาสนปฏิพทฺธตฺตา วุตฺตํ.
สามิกานํ เปเสตพฺพนฺติ สามิกานํ สาสนํ เปเสตพฺพํ. ภินฺทิตฺวาติ หตฺเถน อคฺคเหตฺวา อฺเน เยน เกนจิ ภินฺทิตฺวา. เภริสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมเภรี. วีณาสงฺฆาโฏติ สงฺฆฏิตจมฺมวีณา. จมฺมวินทฺธานํ เภริวีณานเมตํ อธิวจนํ. ตุจฺฉโปกฺขรนฺติ อวินทฺธจมฺมํ เภริโปกฺขรํ วีณาโปกฺขรฺจ. อาโรปิตจมฺมนฺติ เภริอาทีนํ วินทฺธนตฺถาย มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมํ ตโต อุทฺธริตฺวา วิสุํ ปิตจมฺมฺจ. โอนหิตุํ วาติ เภริโปกฺขราทีนิ จมฺมํ อาโรเปตฺวา วินนฺธิตุํ. โอนหาเปตุํ วาติ ตเถว อฺเหิ วินนฺธาเปตุํ. ปาราชิกปฺปโหนกกาเลติ อกุถิตกาเล.
๒๘๒. สงฺกมาทิ ¶ ภูมิคติกตฺตา น กายปฏิพทฺธฏฺานิยนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เอกปทิกสงฺกโมติ ขุทฺทกเสตุ. สกฏมคฺคสงฺกโมติ สกฏมคฺคภูโต มหาเสตุ. านา จาเลตุนฺติ รชฺชุํ านา จาเลตุํ. ปฏิจฺฉาเทตพฺพาติ อปเนตพฺพา. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, กายสํสคฺคราโค, เตน ราเคน วายาโม, หตฺถคฺคาหาทิสมาปชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๘๓. ตติเย ¶ อุตฺตรปทโลเปน ฉินฺนโอตฺตปฺปา ‘‘ฉินฺนิกา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ฉินฺนิกาติ ฉินฺนโอตปฺปา’’ติ.
๒๘๕. ยถา ยุวา ยุวตินฺติ เอเตน โอภาสเน นิราสงฺกภาวํ ทสฺเสติ. เมถุนุปสฺหิตาหีติ อิทํ ทุฏฺุลฺลวาจาย สิขาปฺปตฺตลกฺขณทสฺสนํ. อิตฺถิลกฺขเณนาติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘สุภลกฺขเณนา’’ติ วุตฺตํ. น ตาว สีสํ เอตีติ ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติอาทินา วณฺณภณนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺติชนกํ หุตฺวา มตฺถกํ น ปาปุณาติ. วณฺณภณนฺหิ เยนากาเรน ภณนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส โหติ, เตนากาเรน ภณนฺตสฺส สิขาปฺปตฺตํ นาม โหติ. ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคตาสีติอาทิกํ ปน ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต สีสํ น เอตีติ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต อวณฺณภณนํ สีสํ น เอติ, อวณฺณภณนํ นาม น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ฆฏิเตปีติ เอกาทสหิ ปเทหิ อวณฺณภณเน ฆฏิเตปิ. อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโสติ ‘‘สิขรณี’’ติอาทีหิ ตีหิเยว ปเทหิ อวณฺณภณเน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส ปสฺสาวมคฺคสฺส นิยตวจนตฺตา อจฺโจฬาริกตฺตา จ. อนิมิตฺตาสีติอาทีหิ ปน อฏฺหิ ปเทหิ ฆฏิเต เกวลํ อวณฺณภณนเมว ¶ สมฺปชฺชติ, น สงฺฆาทิเสโส, ตสฺมา ตานิ ถุลฺลจฺจยวตฺถูนีติ เกจิ. อกฺโกสนมตฺตตฺตา ทุกฺกฏวตฺถูนีติ อปเร. ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ วิย ถุลฺลจฺจยเมเวตฺถ ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. กฺุจิกปณาลิมตฺตนฺติ กฺุจิกาฉิทฺทมตฺตํ.
๒๘๖-๒๘๗. ครุกาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค ปาราชิกาปตฺตึ สนฺธาย วทติ. หสนฺโต หสนฺโตติ สภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อหสนฺโตปิ วาจสฺสาทราเคน ปุนปฺปุนํ วทติ, อาปตฺติเยว. กายจิตฺตโตติ หตฺถมุทฺทาย โอภาสนฺตสฺส กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ.
๒๘๘. ตสฺมา ทุกฺกฏนฺติ อปฺปฏิวิชานนเหตุ ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานนฺติยา ปน อเขตฺตปทตฺตา ถุลฺลจฺจเยน ภวิตพฺพํ. เตเนว ปริพฺพาชิกาวตฺถุสฺมึ ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ วกฺขติ.
๒๘๙. อสทฺธมฺมํ ¶ สนฺธายาหาติ ‘‘วาปิต’’นฺติ อิมสฺส พีชนิกฺเขปวจนตฺตา วุตฺตํ. สํสีทตีติ วหติ ปวตฺตติ. อถ วา สํสีทตีติ สํสีทิสฺสติ. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราโค, เตน ราเคน โอภาสนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๐. จตุตฺเถ จีวรนฺติ นิวาสนาทิ ยํ กิฺจิ จีวรํ. ปิณฺฑปาตนฺติ โย โกจิ อาหาโร. โส หิ ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขุโน ปตฺเต ปตนโต ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธภิกฺขานํ ปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ วา ปิณฺฑปาโตติ วุจฺจติ. เสนาสนนฺติ สยนฺจ อาสนฺจ. ยตฺถ หิ วิหาราทิเก เสติ นิปชฺชติ อาสติ นิสีทติ, ตํ เสนาสนํ. ปติ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโยติ อาห ‘‘ปติกรณฏฺเน ปจฺจโย’’ติ. โรคสฺส ปติอยนฏฺเน วา ปจฺจโย, ปจฺจนีกคมนฏฺเนาติ อตฺโถ, วูปสมนตฺเถนาติ วุตฺตํ โหติ. ธาตุกฺโขภลกฺขณสฺส หิ ตํเหตุกทุกฺขเวทนาลกฺขณสฺส วา โรคสฺส ปฏิปกฺขภาโว ปติอยนฏฺโ. ยสฺส กสฺสจีติ สปฺปิอาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ. สปฺปายสฺสาติ หิตสฺส วิการวูปสเมนาติ ¶ อธิปฺปาโย. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน วิธาตพฺพโต, เตนาห ‘‘อนฺุาตตฺตา’’ติ. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. อาวาฏปริกฺเขโป ปริขา อุทฺทาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ ปาการมตฺถกมณฺฑลนฺติ สตฺต นครปริกฺขาราติ วทนฺติ. เสตปริกฺขาโรติ สุวิสุทฺธสีลาลงฺกาโร. อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตา. จกฺกวีริโยติ วีริยจกฺโก. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา. ปริวาโรปิ โหติ อนฺตรายานํ ปริโต วารณโต, เตนาห – ‘‘ชีวิต…เป… รกฺขณโต’’ติ. ตตฺถ อนฺตรนฺติ วิวรํ, โอกาโสติ อตฺโถ. รกฺขณโตติ เวริกานํ อนฺตรํ อทตฺวา อตฺตโน สามีนํ ปริวาเรตฺวา ิตเสวกา วิย รกฺขณโต. อสฺสาติ ชีวิตสฺส. การณภาวโตติ จิรปฺปวตฺติยา การณภาวโต. รสายนภูตฺหิ เภสชฺชํ สุจิรมฺปิ กาลํ ชีวิตํ ปวตฺเตติเยว.
๒๙๑. อุปจาเรติ ยตฺถ ิโต วิฺาเปตุํ สกฺโกติ, ตาทิเส. กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ. เสสํ พฺยฺชนนฺติอาทีสุ ปาฬิยํ ‘‘อตฺตกาม’’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา อตฺตโน ¶ กามํ, อตฺตโน เหตุํ, อตฺตโน อธิปฺปายํ, อตฺตโน ปาริจริยนฺติ จตฺตาโร อตฺถา ปทภาชเน วุตฺตา. เตสุ ปเม อตฺถวิกปฺเป กาโม จ เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, เสสํ อธิปฺปายปทเมกํ พฺยฺชนํ ปมวิคฺคเห ตทตฺถสฺส อสมฺภวภาวโต นิรตฺถกตฺตา. ทุติเย ปน อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, กาโม จ เหตุ จาติ เสสํ ปททฺวยํ พฺยฺชนํ เตสํ ตตฺถ อตฺถาภาวโตติ เอวํ จตฺตาริ ปทานิ ทฺวินฺนํ วิคฺคหานํ วเสน โยชิตานีติ เกจิ วทนฺติ. คณฺิปเท จ อยเมวตฺโถ วุตฺโต. จูฬมชฺฌิมมหาคณฺิปเทสุ ปน ‘‘ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป กาโม จ เหตุ จ ปาริจริยา จ อธิปฺปายตฺโถ, เสสํ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมนาติอาทิ วิคฺคหวากฺยํ อกฺขรวิวรณมตฺตโต พฺยฺชนมตฺตํ. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย จ ปาริจริยา จ อธิปฺปายตฺโถ, เสสํ อตฺตนา กามิตา อิจฺฉิตาติอาทิ วิคฺคหวากฺยํ อกฺขรวิวรณมตฺตโต พฺยฺชนมตฺต’’นฺติ เอวมตฺโถ วุตฺโต ¶ . ‘‘พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา’’ติ วจนโต อยเมวตฺโถ อิธ ยุตฺตตโรติ วิฺายติ. พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ อิมินา หิ อฏฺกถายํ วุตฺตวิคฺคหวเสน พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวาติ อยมตฺโถ ทีปิโต.
อิทานิ ยถาวุตฺตเมวตฺถํ ปทภาชเนน สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺตโน เหตุ’’นฺติ วุตฺเต อตฺตโน อตฺถายาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ จ วุตฺเต กาเมน ปาริจริยาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ตสฺมา อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริยนฺติ อิเมหิ ตีหิ ปเทหิ อตฺตโน อตฺถาย กาเมน ปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยาติ อยมตฺถวิกปฺโป วุตฺโตติ วิฺู ชานิสฺสนฺติ. ‘‘อตฺตโน อธิปฺปาย’’นฺติ วุตฺเต ปน อธิปฺปายสทฺทสฺส กามิตสทฺเทน สมานตฺถภาวโต อตฺตโน ปาริจริยนฺติ อิมสฺส จ อุภยวิคฺคหสามฺโต อตฺตโน อิจฺฉิตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยาติ อยมตฺถวิกปฺโป ทฺวีหิ ปเทหิ ทสฺสิโตติ วิฺู ชานิสฺสนฺตีติ.
เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคา. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท กิฺจาปิ เมถุนยาจนํ อาคตํ, ตถาปิ ตํ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติ อยํ วิเสโส. วินีตวตฺถูสุ ‘‘เตน หิ ภคินิ อคฺคทานํ เทหี’’ติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโค, เตน ราเคน วณฺณภณนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๒๙๖. ปฺจเม ¶ ปณฺฑิตสฺส ภาโว ปณฺฑิจฺจํ, าณสฺเสตํ อธิวจนํ. คติมนฺตาติ าณคติยา สมนฺนาคตา. ปณฺฑิตาติ อิมินา สภาวาเณน สมนฺนาคตตา วุตฺตา, พฺยตฺตาติ อิมินา อิตฺถิกตฺตพฺเพสุ วิสารทปฺาย. เตนาห ‘‘อุปายฺู วิสารทา’’ติ. เมธาวินีติ านุปฺปตฺติปฺาสงฺขาตาย ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺถกิจฺเจ อุปฏฺิเต านโส ตงฺขเณ เอว ¶ อุปฺปชฺชนปฺาย สมนฺนาคตา. เตนาห ‘‘ทิฏฺํ ทิฏฺํ กโรตี’’ติ. เฉกาติ ยาคุภตฺตสมฺปาทนาทีสุ นิปุณา. อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนาติ กายิเกน วีริเยน สมนฺนาคตา, ยถา อฺา กุสีตา นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺนาว โหนฺติ, ิตฏฺาเน ิตาว, เอวํ อหุตฺวา วิปฺผาริเกน จิตฺเตน สพฺพกิจฺจํ นิปฺผาเทตีติ วุตฺตํ โหติ. กุมาริกายาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, เหตุมฺหิ วา กรณวจนํ. เตนาห ‘‘กุมาริกาย การณา’’ติ. อาวหนํ อาวาโห, ปริคฺคหภาเวน ทาริกาย คณฺหาปนํ, ตถา ทาปนํ วิวาโห. เตนาห ‘‘ทารกสฺสา’’ติอาทิ.
๒๙๗-๒๙๘. ภตฺตปาจนํ สนฺธาย รนฺธาปนํ วุตฺตํ, ยสฺส กสฺสจิ ปาจนํ สนฺธาย ปจาปนํ วุตฺตํ. ทุฏฺุํ กุลํ คตา ทุคฺคตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺถ วา คตา’’ติอาทิมาห. อาหรณํ อาหาโร. น อุปาหฏนฺติ น ทินฺนํ. กโย คหณํ, วิกฺกโย ทานํ. ตทุภยํ สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘โวหาโร’’ติ วุตฺตํ. มณฺฑิตปสาธิโตติ เอตฺถ พาหิรุปกรเณน อลงฺกรณํ มณฺฑนํ, อชฺฌตฺติกานํ เกสาทีนํเยว สณฺปนํ ปสาธนํ.
๓๐๐. ‘‘อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา ทุกฺกฏํ โหตีติ ทีเปติ. ‘‘ปราชิเตน ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเปน กาเรตพฺโพ. อจิรกาเล อธิกาโร เอตสฺส อตฺถีติ อจิรกาลาธิการิกํ, สฺจริตฺตํ. ‘‘อจิรกาลาจาริก’’นฺติ วา ปาโ, อจิรกาเล อาจาโร อชฺฌาจาโร เอตสฺสาติ อจิรกาลาจาริกํ.
กิฺจาปิ เอหิภิกฺขูปสมฺปนฺนา เจว สรณคมนูปสมฺปนฺนา จ สฺจริตฺตาทิปณฺณตฺติวชฺชํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ปน น สพฺพกาลิกตฺตา เต วชฺเชตฺวา สพฺพกาลานุรูปํ ตนฺตึ เปนฺโต ภควา อิธาปิ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺนํ ภิกฺขุํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺร ยฺวายํ ภิกฺขุ…เป… อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขู’’ติ ปทภาชนํ อาห, น ปน เนสํ สฺจริตฺตาทิอาปชฺชเน อภพฺพภาวโต. ขีณาสวาปิ หิ อปฺปสฺสุตา กิฺจาปิ โลกวชฺชํ นาปชฺชนฺติ, ปณฺณตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา วิหารการํ กุฏิการํ สหาคารํ สหเสยฺยนฺติ เอวรูปา ¶ กายทฺวาเร อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, สฺจริตฺตํ ปทโสธมฺมํ อุตฺตริฉปฺปฺจวาจํ ภูตาโรจนนฺติ เอวรูปา วจีทฺวาเร ¶ อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนวเสน มโนทฺวาเร รูปิยปฏิคฺคหณาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ.
๓๐๑. สฺจรณํ สฺจโร, โส เอตสฺส อตฺถีติ สฺจรี, ตสฺส ภาโว สฺจริตฺตํ. เตนาห ‘‘สฺจรณภาว’’นฺติ, อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สฺจรณภาวนฺติ อตฺโถ. ชายตฺตเน ชารตฺตเนติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ชายภาวตฺถํ ชารภาวตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ชายภาเวติ ภริยภาวาย. ชารภาเวติ สามิกภาวาย. กิฺจาปิ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘ชารี ภวิสฺสสี’’ติ อิตฺถิลิงฺควเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ชารตฺตเนติ ปน นิทฺเทสสฺส อุภยลิงฺคสาธารณตฺตา ปุริสลิงฺควเสนปิ โยเชตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ หิ ‘‘ชาโร ภวิสฺสสี’’ติ อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ นาม. ปาฬิยํ ปน อิตฺถิลิงฺควเสเนว โยชนา กตา, ตทนุสาเรน ปุริสลิงฺควเสนปิ สกฺกา โยเชตุนฺติ.
อิทานิ ปาฬิยํ วุตฺตนเยนปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ปติ ภวิสฺสสีติ วุตฺตเมวตฺถํ ‘‘สามิโก ภวิสฺสสี’’ติ ปริยายวจเนน วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. อิทฺจ ชารตฺตเนติ นิทฺเทสสฺส อุภยลิงฺคสาธารณตฺตา วุตฺตํ. มุหุตฺติกา ภวิสฺสสีติ อสามิกํ สนฺธาย วุตฺตํ, ชารี ภวิสฺสสีติ สสามิกํ สนฺธาย. อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตเนวุปาเยนา’’ติอาทิ.
๓๐๓. เสริวิหารนฺติ สจฺฉนฺทจารํ. อตฺตโน วสนฺติ อตฺตโน อาณํ. โคตฺตนฺติ โคตมโคตฺตาทิกํ โคตฺตํ. ธมฺโมติ ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทีนํ, เตสํ เตสํ วา กุลานํ ธมฺโม. โคตฺตวนฺเตสุ โคตฺตสทฺโท, ธมฺมจารีสุ จ ธมฺมสทฺโท วตฺตตีติ อาห ‘‘สโคตฺเตหี’’ติอาทิ. ตตฺถ สโคตฺเตหีติ สมานโคตฺเตหิ, เอกวํสชาเตหีติ อตฺโถ. สหธมฺมิเกหีติ เอกสฺส สตฺถุสาสเน สหจริตพฺพธมฺเมหิ, สมานกุลธมฺเมหิ วา. เตเนวาห ‘‘เอกํ สตฺถาร’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหี’’ติ อิมินา ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทโย วุตฺตา, เอกคณปริยาปนฺเนหีติ มาลาการาทิเอกคณปริยาปนฺเนหิ.
สสามิกา ¶ สารกฺขา. ยสฺสา คมเน รฺา ทณฺโฑ ปิโต, สา สปริทณฺฑา. ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนนฺติ สารกฺขสปริทณฺฑานํ มิจฺฉาจาโร โหติ ตาสํ สสามิกภาวโต. น อิตราสนฺติ อิตราสํ ¶ มาตุรกฺขิตาทีนํ อฏฺนฺนํ ปุริสนฺตรคมเน นตฺถิ มิจฺฉาจาโร ตาสํ อสามิกภาวโต. ยา หิ สามิกสฺส สนฺตกํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ปเรสํ อภิรตึ อุปฺปาเทนฺติ, ตาสํ มิจฺฉาจาโร, น จ มาตาทโย ตาสํ ผสฺเส อิสฺสรา. มาตาทโย หิ น อตฺตนา ผสฺสานุภวนตฺถํ ตา รกฺขนฺติ, เกวลํ อนาจารํ นิเสเธนฺตา ปุริสนฺตรคมนํ ตาสํ วาเรนฺติ. ปุริสสฺส ปน เอตาสุ อฏฺสุปิ โหติเยว มิจฺฉาจาโร มาตาทีหิ ยถา ปุริเสน สทฺธึ สํวาสํ น กปฺเปติ, ตถา รกฺขิตตฺตา ปเรสํ รกฺขิตโคปิตํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ผุฏฺภาวโต.
ธเนน กีตาติ ภริยภาวตฺถํ ธเนน กีตา. เตนาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. โภเคนาติ โภคเหตุ. โภคตฺถฺหิ วสนฺตี ‘‘โภควาสินี’’ติ วุจฺจติ. ลภิตฺวาติ โย นํ วาเสติ, ตสฺส หตฺถโต ลภิตฺวา. อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา คหิตา โอทปตฺตกินี. เตนาห ‘‘อุภินฺน’’นฺติอาทิ. ธเชน อาหฏาติ เอตฺถ ธชโยคโต เสนาว ธชสทฺเทน วุตฺตา, อุสฺสิตทฺธชาย เสนาย อาหฏาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘อุสฺสิตทฺธชายา’’ติอาทิ.
๓๐๕. พหิทฺธา วิมฏฺํ นาม โหตีติ อฺตฺถ อาโรจิตํ นาม โหติ. ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสตีติ ตสฺสา อาโรเจตฺวา ตํ กิจฺจํ สมฺปาเทตุ วา มา วา, ตํกิริยาสมฺปาทเน โยคฺยตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทารกํ ทาริกฺจ อชานาเปตฺวา เตสํ มาตาปิตุอาทีหิ มาตาปิตุอาทีนํเยว สนฺติกํ สาสเน เปสิเตปิ หรณวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ยํ อุทฺทิสฺส สาสนํ เปสิตํ, ตํเยว สนฺธาย ตสฺสา มาตุอาทีนํ อาโรจิเต วตฺถุโน เอกตฺตา มาตุอาทโยปิ เขตฺตเมวาติ เขตฺตเมว โอติณฺณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทิ อุทาหฏํ. อิมินา สเมตีติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยถา สยํ อนาโรเจตฺวา อฺเน อนฺเตวาสิอาทินา อาโรจาเปนฺตสฺส วิสงฺเกโต นตฺถิ, เอวํ ตสฺสา สยํ ¶ อนาโรเจตฺวา อาโรจนตฺถํ มาตุอาทีนํ วทนฺตสฺสปิ นตฺถิ วิสงฺเกโตติ. ฆรํ นยตีติ ฆรณี. มูลฏฺานฺจ วเสนาติ เอตฺถ ปุริสสฺส มาตุอาทโย สาสนเปสเน มูลภูตตฺตา ‘‘มูลฏฺา’’ติ วุจฺจนฺติ. มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตีติ เอตฺถ อตฺตโน วา ธีตุ สนฺติกํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ภิกฺขุํ ปหิณติ, ปุริสสฺส วา สนฺติกํ ‘‘มม ธีตา อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา โหตู’’ติ ปหิณตีติ คเหตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตาติ ปมสงฺฆาทิเสเส วุตฺตนยตฺตา.
๓๓๘. เอตฺโตว ปกฺกมตีติ ปุน อาคนฺตฺวา อาณาปกสฺส อนาโรเจตฺวา ตโตเยว ปกฺกมติ. อฺเน กรณีเยนาติ คมนเหตุวิสุทฺธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนว ปน กรณีเยน คนฺตฺวาปิ ¶ กิฺจิ อนาโรเจนฺโต น วีมํสติ นาม. อนภินนฺทิตฺวาติ อิทํ ตถา ปฏิปชฺชมานํ สนฺธาย วุตฺตํ, สติปิ อภินนฺทเน สาสนํ อนาโรเจนฺโต ปน น วีมํสติ นาม. ตติยปเท วุตฺตนเยนาติ ‘‘โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. วตฺถุคณนายาติ สมฺพหุลานํ อิตฺถิปุริสานํ สมภาเว สติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อิตฺถิปุริสวตฺถูนํ คณนาย. สเจ ปน เอกโต อธิกา โหนฺติ, อธิกานํ คณนาย อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.
๓๓๙-๓๔๐. ปาฬิยํ จตุตฺถวาเร อสติปิ ‘‘คจฺฉนฺโต น สมฺปาเทติ, อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทติ, อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถ อนาปตฺตี’’ติ. การุกานนฺติ วฑฺฒกีอาทีนํ. ตจฺฉกอโยการตนฺตวายรชกนฺหาปิตกา ปฺจ การโว ‘‘การุกา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวรูเปน…เป… อนาปตฺตีติ ตาทิสํ คิหิเวยฺยาวจฺจมฺปิ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
กายโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ วา อลํวจนียภาวํ วา อชานนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. วาจโต สมุฏฺาตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กายวาจโต สมุฏฺาตีติ ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวา อลํวจนียภาวํ อชานนฺตสฺสปิ กายวาจโต สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อลํวจนียา โหนฺตีติ เทสจาริตฺตวเสน ปณฺณทานาทินา ปริจฺจตฺตา โหนฺติ. ปณฺณตฺตึ ¶ ปน ชานิตฺวาติ เอตฺถ อลํวจนียภาวํ วาติ จ ทฏฺพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตทุภยํ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สมาปชฺชนฺตสฺส ตาเนว ตีณิ ตทุภยชานนจิตฺเตน สจิตฺตกานิ โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตนาติ เอตฺถาปิ ตทุภยชานนํ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุํ อชานาเปตฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ ปณฺเณ ลิขิตฺวา ทินฺนํ หรนฺตสฺสปิ อาปตฺติ โหติ, อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตฺตาติ น คเหตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘อาโรเจตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ตตฺถ ตตฺถ อาโรจนสฺเสว ทสฺสิตตฺตา กาเยน วา วาจาย วา อาโรเจนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๓๔๑. ทุฏฺุลฺลาทีสุปีติ อาทิ-สทฺเทน สฺจริตฺตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อิตฺถี นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, ปุริโส นาม มนุสฺสปุริโส, น ยกฺโขติอาทิ น วุตฺตํ, ตถาปิ มนุสฺสชาติกาว อิตฺถิปุริสา อิธ อธิปฺเปตา. ตสฺมา เยสุ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, เตสํ มนุสฺสชาติกตา, น นาลํวจนียตา, ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณานีติ อิมาเนตฺถ ปฺจงฺคานิ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๔๒. ฉฏฺเ ¶ เอตฺตเกนาติ เอตฺตเกน ทารุอาทินา. อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโยติ อปริจฺฉินฺนทารุอาทิปฺปมาณาโย. มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏตีติ ปรสนฺตกภาวโต โมเจตฺวา อตฺตโนเยว สนฺตกํ กตฺวา ยาจิตุํ น วฏฺฏติ. เอวํ มูลจฺเฉชฺชาย อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต ยาจนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ. ทาสํ อตฺตโน อตฺถาย สาทิยนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว ‘‘ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วจนโต. าตกปวาริตฏฺานโต ปน ทาสํ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจนฺตสฺส สาทิยนวเสน ทุกฺกฏํ. สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพาติ ปาณาติปาตสิกฺขาปทรกฺขณตฺถํ วุตฺตํ. อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพาติ มนุสฺสานํ อฺถา คาหสฺสปิ สมฺภวโต วุตฺตํ, สุทฺธจิตฺเตน ปน หตฺถกมฺมํ ยาจนฺตสฺส อาปตฺติ นาม นตฺถิ.
สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถนฺติ ¶ สพฺพโส กปฺปิยภาวทีปนตฺถํ. มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ยสฺมา มูลํ ทสฺสามาติ เตหิ ปมํ วุตฺตตฺตา วิฺตฺติ น โหติ, ยสฺมา จ มูลนฺติ ภณิตํ สามฺวจนโต อกปฺปิยวจนํ น โหติ, ตสฺมา มูลํ เทถาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตํ. อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพนฺติ กิฺจาปิ อกปฺปิยกหาปณาทึ อสาทิยนฺเตน กปฺปิยโวหารโต ทาตุํ วฏฺฏติ, ตถาปิ สารุปฺปํ น โหติ. มนุสฺสา จ เอตสฺส สนฺตกํ กิฺจิ อตฺถีติ วิเหเตพฺพํ มฺนฺตีติ อกปฺปิยกหาปณาทิทานํ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตเถว ปาเจตฺวาติ หตฺถกมฺมวเสเนว ปาเจตฺวา. ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ เอตฺตเกปิ ปุจฺฉิเต ยทตฺถาย ปวิฏฺโ, ตํ กเถตุํ วฏฺฏติ ปุจฺฉิตปฺหตฺตา.
วตฺตนฺติ จาริตฺตํ, อาปตฺติ ปน น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานีติ สาขาย ลคฺครชสฺมึ ปตฺเต ปติเตปิ สาขํ ฉินฺทิตฺวา ขาทิตุกามตายปิ สติ สุขปริโภคตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘นทึ วา…เป… อาหรา’’ติ วตฺถุํ วฏฺฏตีติ อปริคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ. เคหโต…เป… ปริภฺุชิตพฺพนฺติ ปริคฺคหิตอุทกตฺตา วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อลชฺชีหิ…เป… น กาเรตพฺพนฺติ อิทํ อุตฺตริภงฺคาธิการตฺตา อชฺโฌหรณียํ สนฺธาย วุตฺตํ. พาหิรปริโภเคสุ ปน อลชฺชีหิปิ หตฺถกมฺมํ กาเรตุํ วฏฺฏตีติ.
โคณํ ปน…เป… อาหราเปตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺตโน อตฺถาย มูลจฺเฉชฺชวเสน อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ. อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อฺาตกวิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ. อตฺตโน อตฺถาย สาทิยเนปิ ¶ ทุกฺกฏเมว ‘‘หตฺถิควาสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วุตฺตตฺตา. เตเนวาห ‘‘าตกปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. รกฺขิตฺวาติ ยถา โจรา น หรนฺติ, เอวํ รกฺขิตฺวา. ชคฺคิตฺวาติ ติณทานาทีหิ ชคฺคิตฺวา. น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ อตฺตโน อตฺถาย โคเณ สาทิยนสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วุตฺตํ.
สกฏํ เทถาติ…เป… วฏฺฏตีติ มูลจฺเฉชฺชวเสน สกฏํ เทถาติ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ วฏฺฏตีติ ตาวกาลิกํ กตฺวา สพฺพตฺถ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ เอเสว นโยติ โยเชตพฺพํ ¶ . ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว จ วลฺลิอาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน เวฬุมฺุชปพฺพชติณมตฺติกานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ยํ ปน วตฺถุวเสน อปฺปํ หุตฺวา อคฺฆวเสน มหนฺตํ หริตาลหิงฺคุลกาทิ, ตํ ครุภณฺฑํ อปฺปโหนฺตมฺปิ ยาจิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
สาติ วิฺตฺตึ ปรามสติ. สา จ อิธ ปริกถาทินา เยน เกนจิ อธิปฺปายวิฺาปนํ วิฺตฺตีติ คเหตพฺพา. เตนาห ‘‘สพฺเพน สพฺพ’’นฺติ, สพฺพปฺปกาเรนาติ อตฺโถ. เตน ‘‘ปริกถาทิวเสนปิ วิฺาปนํ น วฏฺฏตี’’ติ ทีเปติ. ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมมฺปิ หิ จีวรปิณฺฑปาเตสุ ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ น วฏฺฏติ. อิทานิ เสนาสนปจฺจเย อธิปฺเปตํ วิฺตฺตึ ปริกถาทีหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อาหร เทหีติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏตี’’ติ อาห. ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺตีติ เอตฺถ ปริกถา นาม ปริยาเยน กถนํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เสนาสนํ สมฺพาธนฺติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม อุชุกเมว อกเถตฺวา ยถา อธิปฺปาโย วิภูโต โหติ, เอวํ โอภาสนํ, อุปาสกา, ตุมฺเห กุหึ วสถาติ? ปาสาเท, ภนฺเตติ. ภิกฺขูนํ ปน, อุปาสกา, ปาสาโท น วฏฺฏตีติอาทิวจนํ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม ปจฺจเย อุทฺทิสฺส ยถา อธิปฺปาโย วิฺายติ, เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ, เสนาสนตฺถํ ภูมิปริกมฺมาทีนิ กโรนฺตสฺส ‘‘กึ, ภนฺเต, กโรสิ, โก การาเปตี’’ติ วุตฺเต ‘‘น โกจี’’ติอาทิวจนํ.
อิทานิ คิลานปจฺจเย วิฺตฺติอาทิกํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘คิลานปจฺจเย ปนา’’ติอาทิ. ตถา อุปฺปนฺนํ ปน เภสชฺชํ โรเค วูปสนฺเต ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? ตตฺถ วินยธรา ‘‘ภควตา โรคสีเสน ปริโภคสฺส ทฺวารํ ทินฺนํ, ตสฺมา อโรคกาเลปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตี’’ติ วทนฺติ. สุตฺตนฺติกา ปน ‘‘กิฺจาปิ ¶ อาปตฺติ น โหติ, อาชีวํ ปน โกเปติ, ตสฺมา สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส น วฏฺฏติ, สลฺเลขํ โกเปตี’’ติ วทนฺติ. อุกฺกมนฺตีติ อปคจฺฉนฺติ.
๓๔๔. มณิ กณฺเ อสฺสาติ มณิกณฺโ, มณินา อุปลกฺขิโต วา กณฺโ อสฺสาติ มณิกณฺโติ มชฺฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. เทววณฺณนฺติ เทวตฺตภาวํ. ปสนฺนาการนฺติ ปสนฺเนหิ กาตพฺพกิจฺจํ, กายเวยฺยาวจฺจสงฺขาตํ อุปฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. มณิยาจนาย ตสฺส อนาคมเนน ¶ อตฺตโน วฑฺฒิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘มณินา เม อตฺโถ’’ติ, มนฺตปทนีหาเรน วา ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๓๔๕. วตฺตมานสมีเปติ วตฺตมานสฺส สมีเป อตีเต. เอวํ วตฺตุํ ลพฺภตีติ ‘‘อาคโตสี’’ติ วตฺตพฺเพ วตฺตมานสมีปตฺตา ‘‘อาคจฺฉสี’’ติ เอวํ วตฺตมานโวหาเรน วตฺตุํ ลพฺภติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสารโต เวทิตพฺพํ. โส เอว นโยติ ‘‘อาคโตมฺหี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อาคจฺฉามี’’ติ อยมฺปิ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานโวหาโรติ ทสฺเสติ.
๓๔๘-๓๔๙. ยสฺมา ปน น สกฺกา เกวลํ ยาจนาย กิฺจิ กาตุํ, ตสฺมา ‘‘สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหี’’ติ อธิปฺปายตฺโถ วุตฺโต. อุทฺธํมุขํ ลิตฺตา อุลฺลิตฺตา, อโธมุขํ ลิตฺตา อวลิตฺตา. ยสฺมา ปน อุทฺธํมุขํ ลิมฺปนฺตา เยภุยฺเยน อนฺโต ลิมฺปนฺติ, อโธมุขํ ลิมฺปนฺตา จ พหิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุลฺลิตฺตาติ อนฺโตลิตฺตา, อวลิตฺตาติ พหิลิตฺตา’’ติ. ตตฺถ อุลฺลิตฺตา นาม เปตฺวา ตุลาปิฏฺสงฺฆาตวาตปานธูมฉิทฺทาทิเภทํ อเลโปกาสํ อวเสเส เลโปกาเส กุฏฺเฏหิ สทฺธึ ฆเฏตฺวา ฉทนสฺส อนฺโต สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิตฺตา. อวลิตฺตา นาม วุตฺตนเยเนว ฉทนสฺส พหิ ลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา นาม ตเถว ฉทนสฺส อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตา.
พฺยฺชนํ สเมตีติ ‘‘การยมาเนนา’’ติ เหตุกตฺตุวเสน อุทฺทิฏฺปทสฺส ‘‘การาเปนฺเตนา’’ติ เหตุกตฺตุวเสเนว นิทฺเทสสฺส กตตฺตา พฺยฺชนํ สเมติ. ยทิ เอวํ ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ กสฺมา ตสฺส ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ‘‘อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปตี’’ติอาทิวจนโต ‘‘กโรนฺเตนปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิธ วุตฺตนเยเนวาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว. อุโภเปเตติ การกการาปกา. การยมาเนนาติ อิมินาว ปเทน สงฺคหิตาติ กถํ สงฺคหิตา. น หิ การยมาโน กโรนฺโต นาม โหติ, เอวํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – ยสฺมา กโรนฺเตนปิ การยมาเนนปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา การยมาเนน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ วุตฺเต ปเคว กโรนฺเตนาติ อิทํ อตฺถโต ¶ อาคตเมวาติ ‘‘การยมาเนนา’’ติ ภควตา วุตฺตํ. ตโต ‘‘การยมาเนนา’’ติ วุตฺเต สามตฺถิยโต ลพฺภมาโนปิ อตฺโถ เตเนว สงฺคหิโต นาม โหตีติ. พฺยฺชนํ ¶ วิโลมิตํ ภเวยฺยาติ ยสฺมา ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมสฺส ‘‘กโรนฺเตนา’’ติ อิทํ ปริยายวจนํ น โหติ, ตสฺมา กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วาติ ปทตฺถวเสน นิทฺเทเส กเต พฺยฺชนํ วิรุทฺธํ ภเวยฺยาติ อธิปฺปาโย. อตฺถมตฺตเมวาติ ปทตฺถโต สามตฺถิยโต จ ลพฺภมานํ อตฺถมตฺตเมว.
อุทฺเทโสติ อุทฺทิสิตพฺโพ. อพฺโพหาริกนฺติ อปฺปมาณํ. ‘‘อายามโต จ วิตฺถารโต จา’’ติ อวตฺวา วิกปฺปตฺถสฺส วา-สทฺทสฺส วุตฺตตฺตา เอกโตภาเคน วฑฺฒิเตปิ อาปตฺติเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปนา’’ติอาทิมาห. ติหตฺถาติ วฑฺฒกีหตฺเถน ติหตฺถา. ปมาณยุตฺโต มฺโจติ ปกติวิทตฺถิยา นววิทตฺถิปฺปมาโณ มฺโจ. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ อุกฺกฏฺปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา อุกฺกฏฺปฺปมาณยุตฺตาว กุฏิ อเทสิตวตฺถุกา น วฏฺฏติ, ปมาณโต ปน อูนตรา อเทสิตวตฺถุกาปิ วฏฺฏตีติ กสฺสจิ สนฺเทโห สิยาติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปมาณโต อูนตรมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปมาณโต อูนตรนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตปฺปมาณโต อูนตรํ. ปจฺฉิเมน ปมาเณน จตุหตฺถโต อูนตรา กุฏิ นาม น โหตีติ จตุหตฺถโต ปฏฺาย กุฏิลกฺขณปฺปตฺตํ กุฏึ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุหตฺถํ ปฺจหตฺถมฺปี’’ติ วุตฺตํ. กลลเลโปติ เกนจิ สิเลเสน กตเลโป, ตมฺพมตฺติกาทิกลลเลโป วา. อเลโป เอวาติ อพฺโพหาริกาเยวาติ อธิปฺปาโย. ปิฏฺสงฺฆาโฏ ทฺวารพาหา. โอโลเกตฺวาปีติ อปโลเกตฺวาปิ, อปโลกนกมฺมวเสนปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.
๓๕๓. ยถา สีหาทีนํ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ นิพทฺธคมนมคฺโค น วฏฺฏติ, เอวํ หตฺถีนมฺปิ นิพทฺธคมนมคฺโค น วฏฺฏติ. เอเตสนฺติ สีหาทีนํ. จาริภูมีติ โคจรภูมิ. น คหิตาติ น วาริตาติ อธิปฺปาโย. อาโรคฺยตฺถายาติ นิรุปทฺทวตฺถาย. เสสานีติ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตาทีนิ. ปุพฺพณฺณนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ ปุพฺพณฺณวิรุหนฏฺานํ ปุพฺพณฺณ-สทฺเทน คหิตํ. เตนาห – ‘‘สตฺตนฺนํ ธฺานํ…เป… ิต’’นฺติ. อภิหนนฺติ เอตฺถาติ อพฺภาฆาตํ. ‘‘เวริฆร’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘โจรานํ มารณตฺถาย กต’’นฺติ วุตฺตํ. ธมฺมคนฺธิกาติ หตฺถปาทาทิฉินฺทนคนฺธิกา.
อาวิชฺชิตุํ ¶ น สกฺกา โหตีติ ฉินฺทตฏาทิสมฺภวโต น สกฺกา โหติ อาวิชฺชิตุํ. ปาจินนฺติ กุฏิวตฺถุสามนฺตา จินิตพฺพอธิฏฺานํ. กิฺจาปิ อิธ ปุพฺพปโยคสหปโยคานํ อทินฺนาทาเน วิย วิเสโส นตฺถิ, ตถาปิ เตสํ วิภาเคน ทสฺสนํ ฉินฺทิตฺวา ปุน กาตพฺพาติ เอตฺถ ¶ กุฏิยา เภทนปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ กตํ. ตทตฺถายาติ ตจฺฉนตฺถาย. เอวํ กตนฺติ อเทสิตวตฺถุํ ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กตํ. ทารุนา กตํ กุฏฺฏํ เอตฺถาติ ทารุกุฏฺฏิกา, กุฏิ. สิลากุฏฺฏิกนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปณฺณสาลนฺติ พหิ ปณฺเณหิ ฉาเทตพฺพํ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กุฏิเมว วทติ. เตเนวาห ‘‘สภิตฺติจฺฉทนํ ลิมฺปิสฺสามี’’ติ.
อนฺโตเลเปเนว นิฏฺาเปตุกามํ สนฺธาย ‘‘อนฺโตเลเป วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พหิเลเป วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺมึ ทฺวารพทฺเธ วา วาตปาเน วา ปิเตติ โยเชตพฺพํ. ตสฺโสกาสนฺติ ตสฺส ทฺวารพทฺธสฺส วา วาตปานสฺส วา โอกาสํ. ปุน วฑฺเฒตฺวา วาติ ปุพฺเพว ปิโตกาสํ ขุทฺทกํ เจ, เภทเนน ปุน วฑฺเฒตฺวา. เลโป น ฆฏิยตีติ ปุพฺเพ ทินฺนเลโป ทฺวารพทฺเธน วา วาตปาเนน วา สทฺธึ น ฆฏิยติ, เอกาพทฺธํ หุตฺวา น ติฏฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตนฺติ ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา. ปมเมว สงฺฆาทิเสโสติ เลปกิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา ปนโต ปุพฺเพเยว สงฺฆาทิเสโส. อฏฺงฺคุลมตฺเตน อปฺปตฺตจฺฉทนํ กตฺวาติ เอตฺถ เอวํ เม อาปตฺติ น สิยาติ ภิตฺติยํ วา ฉทเน วา เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ โอกาสํ เลเปน อฆเฏตฺวา เปติ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. มตฺติกากุฏฺฏเมว มตฺติกาเลปสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อาห – ‘‘สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺตี’’ติ. อุภินฺนํ อนาปตฺตีติ ปุริมสฺส เลปสฺส อฆฏิตตฺตา ทุติยสฺส อตฺตุทฺเทสิกตาสมฺภวโต อุภินฺนํ อนาปตฺติ, ตสฺมา วินาปิ วตฺตสีเสน เตน อนาณตฺโต ตสฺส กโรมีติ กโรติ, อุภินฺนํ อนาปตฺติเยว. สเจ เตน อาณตฺโต กโรติ, มูลฏฺสฺเสว อาปตฺติ.
๓๕๔. ฉตฺตึส จตุกฺกานิ นาม ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรตี’’ติอาทิมฺหิ ปมวาเร อเทสิตวตฺถุกจตุกฺกํ เทสิตวตฺถุกจตุกฺกํ ปมาณาติกฺกนฺตจตุกฺกํ ปมาณิกจตุกฺกํ อเทสิตวตฺถุกปฺปมาณาติกฺกนฺตจตุกฺกํ เทสิตวตฺถุกปฺปมาณิกจตุกฺกนฺติ ¶ ฉ จตุกฺกานิ, เอวํ สมาทิสติวาราทีสุปิ ปฺจสูติ ฉตฺตึส. อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานีติ ‘‘สารมฺเภ เจ ภิกฺขุ วตฺถุสฺมึ อปริกฺกมเน’’ติ อวิเสเสน มาติกาย วุตฺตตฺตา สารมฺภอปริกฺกมเนสุปิ สงฺฆาทิเสโสว สิยาติ มิจฺฉาคาหนิวตฺตนตฺถํ สารมฺเภ อปริกฺกมเน จ ทุกฺกฏํ, อเทสิตวตฺถุกตาย ปมาณาติกฺกนฺตตาย จ สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ.
๓๕๕-๓๖๑. ‘‘ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหี’’ติ วตฺตพฺเพ วิภตฺติพฺยตฺตเยน จ วจนพฺยตฺตเยน จ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสเสนาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหิ…เป… อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ. ‘‘อฺสฺส วา ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตตฺตา วิปฺปกตํ กุฏึ ลภิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ อาทิโต ¶ ปฏฺาย อกตตฺตา อนาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อปจินิตพฺพาติ วิทฺธํเสตพฺพา. ภูมิสมํ กตฺวาติ กุฏิวตฺถุสมํ กตฺวา.
๓๖๔. น เหตฺถ เลโป ฆฏิยตีติ ฉทนเลปสฺส อภาวโต วุตฺตํ, วิสุํเยว อนฺุาตตฺตา ปน สเจปิ เลณสฺส อนฺโต อุปริภาเค จิตฺตกมฺมาทิกรณตฺถํ เลปํ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว. เลปทานวเสน อกตา อิฏฺกาทิคุหา คุหา นามาติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ฉาทิตกุฏิกาว วุตฺตาติ ‘‘กุกฺกุฏจฺฉิกเคหํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ‘‘ฉทนํ ทณฺฑเกหี’’ติอาทินา ปุน ตํ ทสฺเสนฺเตหิ ติณปณฺณจฺฉทนา กุฏิกาว วุตฺตา. ฉทนํ ทณฺฑเกหิ ชาลพนฺธํ กตฺวาติ ฉทนํ ทีฆโต ติริยโต จ ปิตทณฺฑเกหิ ชาลํ วิย พนฺธิตฺวา. โอคุมฺเผตฺวาติ ติณาทึ วิทฺธํเสตฺวา. ภิตฺติเลเปน สทฺธึ เลเป ฆฏิเตติ เอตฺถ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตภาวสฺส ฉทนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา สเจปิ ภิตฺติเลเปน อนตฺถิโก โหติ, ฉทนเลเป สมนฺตโต ภิตฺติยา อปฺปมตฺตเกนปิ ฆฏิเต ภิตฺติเลเปน วินาปิ อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏิยติ นาม, อนาปตฺติเยวาติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน ตํ น สเมติ. ตตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘ภิตฺตึ อลิมฺปิตุกามตาย อภาวโต ฉทนเลเป ปาสาณกุฏฺเฏน สทฺธึ ฆฏิเตปิ ตตฺถ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ, ตมฺปิ น ยุตฺตํ. ‘‘อุปจิกาโมจนตฺถเมวา’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ปาสาณกุฏฺเฏ ปุน ลิมฺปิตุกามตาย อภาโวเยว วิฺายติ, เตเนว ‘‘ตํ อลิมฺปิตฺวา’’ติ ¶ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อุลฺลิตฺตาทิภาโว…เป… ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโต’’ติ อิทํ สติปิ ภิตฺติเลเป ฉทนเลเปน วินา อาปตฺติ น โหตีติ ฉทนเลปสฺส ปธานภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ภิตฺติเลเปน วินาปิ อาปตฺติ โหตีติ ทสฺสนตฺถนฺติ วทนฺติ, อิทเมว เจตฺถ ยุตฺตตรนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. เอตฺถาติ ติณกุฏิกาย.
เอตฺถ จ ติณกุฏิกาย เอว สพฺพถา อนาปตฺติภาวสฺส ทสฺสนํ ปริวารปาฬึ อาเนตฺวา ติณกุฏิกาย สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว สุเขน สกฺกา สาเธตุนฺติ กตํ. ติณกุฏิกาย จ สพฺพถา อนาปตฺติภาเว สาธิเต เตเนว นเยน เลณคุหาทีสุปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว สกฺกา วิฺาตุนฺติ. เตเนว ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ ติณกุฏิกาย สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาเว สาธิเต เตเนว นเยน อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติภาโว อตฺถโต ทสฺสิโตเยว โหติ. เอวฺจ สติ ภิกฺขุ สมาทิสิตฺวา ปกฺกมติ ‘‘กุฏึ เม กโรถา’’ติ, สมาทิสติ จ เทสิตวตฺถุกา จ โหตุ อนารมฺภา จ สปริกฺกมนา จาติ, ตสฺส กุฏึ กโรนฺติ อเทสิตวตฺถุกํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ. ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ ปาฬิยํ อฺสฺสตฺถาย ¶ กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ ทุกฺกฏํ กสฺมา วุตฺตนฺติ อิมํ โจทนํ มนสิ นิธาย ‘‘ยํ ปน…เป… อกรณปจฺจยา วุตฺต’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺสปิ สารมฺภาทิปจฺจยาปิ อนาปตฺติเยว. ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ อิทํ ปน อฺสฺสตฺถาย กโรนฺตสฺส น สารมฺภาทิปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, กิฺจรหิ ยถาสมาทิฏฺาย อกรณปจฺจยา อาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ. ยสฺมา พหูสุ โปตฺถเกสุ สตโสธิตสมฺมเต จ ปุราณโปตฺถเก อยเมว ปากฺกโม ทิสฺสติ, ตสฺมา ยถาทิฏฺปาานุกฺกเมเนเวตฺถ อตฺโถ ปกาสิโต. กตฺถจิ โปตฺถเก ปน ‘‘กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ…เป… อนาปตฺตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิปาํ ลิขนฺติ, เอวฺจ สติ ตตฺถ อธิปฺปาโย ปากโฏเยว. อนาปตฺตีติ วตฺวาติ อุโปสถาคารฺจ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามีติอาทีสุ วาสาคารตฺถาย เอว อนิยมิตตฺตา อนาปตฺตีติ วตฺวา.
ปมาณาติกฺกนฺตกุฏิกรณลกฺขณา ¶ กิริยาเยว, อเทสิตวตฺถุมูลิกายปิ อาปตฺติยา องฺคํ โหติ ปมาณาติกฺกนฺตมูลิกายปิ, ตทุภยํ เอกโต กตฺวา ‘‘กิริยากิริยโต’’ติ วุตฺตํ. วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา ปมาณยุตฺตํ กุฏึ กโรนฺตสฺสปิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา อกิริยาย กุฏิกรณกิริยาย จ สมุฏฺานโต กิริยากิริยโตว สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติอชานนจิตฺเตน อจิตฺตกํ. อุลฺลิตฺตาทีนํ อฺตรตา, เหฏฺิมปฺปมาณสมฺภโว, อเทสิตวตฺถุตา, ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, วาสาคารตา, เลปฆฏฺฏนาติ อิมาเนตฺถ ฉ วา สตฺต วา องฺคานิ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๖๕. สตฺตเม เอวํนามเก นคเรติ โกสมฺพีนามเก. ตสฺส กิร นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขาว อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา โกสมฺพีติ สงฺขฺยํ อคมาสิ. กุสุมฺพสฺส นาม อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตาติ เอเก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กุสุมฺพสฺส อิสิโน นิวาสภูมิ โกสมฺพี, ตสฺส จ อวิทูเร ภวตฺตา นครํ โกสมฺพีติ สงฺขฺยํ คตนฺติ. โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโตติ เอตฺถ โก โฆสิตเสฏฺิ, กถฺจาเนน โส อาราโม การิโตติ? ปุพฺเพ กิร อทฺทิลรฏฺํ นาม อโหสิ. ตโต โกตูหลโก นาม ทลิทฺโท ฉาตกภเยน สปุตฺตทาโร สุภิกฺขํ รฏฺํ คจฺฉนฺโต ปุตฺตํ ¶ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต ฉฑฺเฑตฺวา อคมาสิ. มาตา นิวตฺติตฺวา ตํ คเหตฺวา คตา. เต เอกํ โคปาลกคามํ ปวิสึสุ. โคปาลกานฺจ ตทา พหุปายาโส ปฏิยตฺโต โหติ, ตโต ปายาสํ ลภิตฺวา ภฺุชึสุ. อถ โส ปุริโส พหุตรํ ปายาสํ ภุตฺโต ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต รตฺติภาเค กาลํ กตฺวา ตตฺเถว สุนขิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา กุกฺกุโร ชาโต, โส โคปาลกสฺส ปิโย อโหสิ. โคปาลโก จ ปจฺเจกพุทฺธํ อุปฏฺาติ. ปจฺเจกพุทฺโธปิ ภตฺตกิจฺจกาเล กุกฺกุรสฺส เอกํ ปิณฺฑํ เทติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา โคปาลเกน สทฺธึ ปณฺณสาลมฺปิ คจฺฉติ, โคปาลเก ¶ อสนฺนิหิเต ภตฺตเวลายํ สยเมว คนฺตฺวา กาลาโรจนตฺถํ ปณฺณสาลทฺวาเร ภุสฺสติ, อนฺตรามคฺเคปิ จณฺฑมิเค ทิสฺวา ภุสฺสิตฺวา ปลาเปติ. โส ปจฺเจกพุทฺเธ มุทุเกน จิตฺเตน กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. ตตฺราสฺส ‘‘โฆสกเทวปุตฺโต’’ตฺเวว นามํ อโหสิ.
โส เทวโลกโต จวิตฺวา โกสมฺพิยํ เอกสฺมึ กุลฆเร นิพฺพตฺติ. ตํ อปุตฺตโก กิร เสฏฺิ ตสฺส มาตาปิตูนํ ธนํ ทตฺวา ปุตฺตํ กตฺวา อคฺคเหสิ. อถ อตฺตโน ปุตฺเต ชาเต สตฺตกฺขตฺตุํ ฆาตาเปตุํ อุปกฺกมิ. โส ปฺุวนฺตตาย สตฺตสุปิ าเนสุ มรณํ อปฺปตฺวา อวสาเน เอกาย เสฏฺิธีตาย เวยฺยตฺติเยน ลทฺธชีวิโก อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน เสฏฺิฏฺานํ ปตฺวา โฆสิตเสฏฺิ นาม ชาโต. อฺเปิ โกสมฺพิยํ กุกฺกุฏเสฏฺิ, ปาวาริยเสฏฺีติ ทฺเว เสฏฺิโน อตฺถิ, อิมินา สทฺธึ ตโย อเหสุํ.
เตน จ สมเยน เตสํ สหายกานํ เสฏฺีนํ กุลูปกา ปฺจสตา อิสโย ปพฺพตปาเท วสึสุ. เต กาเลน กาลํ โลณมฺพิลเสวนตฺถํ มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ วาเร คิมฺหสมเย มนุสฺสปถํ อาคจฺฉนฺตา นิรุทกํ มหากนฺตารํ อติกฺกมิตฺวา กนฺตารปริโยสาเน มหนฺตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา จินฺเตสุํ ‘‘ยาทิโส อยํ รุกฺโข, อทฺธา เอตฺถ มเหสกฺขาย เทวตาย ภวิตพฺพํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน ปานียํ วา ปริโภชนียํ วา ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘อิเมสํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ อตฺตโน อานุภาเวน วิฏปนฺตรโต นงฺคลสีสมตฺตํ อุทกธารํ ปวตฺเตสิ. อิสิคโณ รชตกฺขนฺธสทิสํ อุทกวฏฺฏึ ทิสฺวา อตฺตโน ภาชเนหิ อุทกํ คเหตฺวา ปริโภคํ กตฺวา จินฺเตสิ ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคุทกํ ทินฺนํ, อิทํ ปน อคามกํ มหารฺํ, สาธุ วตสฺส, สเจ โน อาหารมฺปิ ทเทยฺยา’’ติ. เทวตา อิสีนํ อุปกปฺปนวเสน ทิพฺพานิ ยาคุขชฺชกาทีนิ ทตฺวา สนฺตปฺเปสิ.
อิสโย จินฺตยึสุ ‘‘เทวตาย อมฺหากํ ปริโภคุทกมฺปิ โภชนมฺปิ สพฺพํ ทินฺนํ, สาธุ วตสฺส ¶ , สเจ โน อตฺตานํ ทสฺเสยฺยา’’ติ. เทวตา เตสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสสิ. เทวเต มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคตาสีติ. นาติมหนฺตํ ปริตฺตกํ กมฺมํ กตฺวาติ. อุปฑฺฒุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย หิ เทวตาย สมฺปตฺติ ลทฺธา. อนาถปิณฺฑิกสฺส ¶ กิร เคเห อยํ เทวปุตฺโต กมฺมกาโร อโหสิ. เสฏฺิสฺส หิ เคเห อุโปสถทิวเสสุ อนฺตมโส ทาสกมฺมกาเร อุปาทาย สพฺโพ ชโน อุโปสถิโก โหติ. เอกทิวสํ อยํ กมฺมกาโร เอกโกว ปาโต อุฏฺาย กมฺมนฺตํ คโต. มหาเสฏฺิ นิวาปํ ลภมานมนุสฺเส สลฺลกฺเขนฺโต เอตสฺเสเวกสฺส อรฺํ คตภาวํ ตฺวา อสฺส สายมาสตฺถาย นิวาปํ อทาสิ. ภตฺตการทาสี เอกสฺเสว ภตฺตํ ปจิตฺวา อรฺโต อาคตสฺส ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา อทาสิ. กมฺมกาโร จินฺตยิ ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ อิมสฺมึ กาเล เคหํ เอกสทฺทํ อโหสิ, อชฺช อติวิย สนฺนิสินฺนํ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ. ตสฺส สา อาจิกฺขิ ‘‘อชฺช อิมสฺมึ เคเห สพฺเพ มนุสฺสา อุโปสถิกา, มหาเสฏฺิ ตุยฺเหเวกสฺส นิวาปํ อทาสี’’ติ. เอวํ อมฺมาติ. อาม สามีติ. ‘‘อิมสฺมึ กาเล อุโปสถํ สมาทินฺนสฺส อุโปสถกมฺมํ โหติ, น โหตี’’ติ มหาเสฏฺึ ปุจฺฉ อมฺมาติ. ตาย คนฺตฺวา ปุจฺฉิโต มหาเสฏฺิ อาห – ‘‘สกลอุโปสถกมฺมํ น โหติ, อุปฑฺฒกมฺมํ ปน โหติ, อุโปสถิโก โหตี’’ติ. กมฺมกาโร ภตฺตํ อภฺุชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิโก หุตฺวา วสนฏฺานํ คเหตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อาหารปริกฺขีณกายสฺส รตฺตึ วาโต กุปฺปิ. โส ปจฺจูสสมเย กาลํ กตฺวา อุปฑฺฒุโปสถกมฺมนิสฺสนฺเทน มหาวตฺตนิอฏวิทฺวาเร นิคฺโรธรุกฺขเทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
โส ตํ ปวตฺตึ อิสีนํ อาโรเจสิ. อิสโย ปุจฺฉึสุ ‘‘ตุมฺเหหิ มยํ ‘พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ’ติ อสฺสุตปุพฺพํ สาวิตา, อุปฺปนฺโน นุ โข โลเก พุทฺโธ’’ติ. อาม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโนติ. อิทานิ กุหึ วสตีติ. สาวตฺถิยํ นิสฺสาย เชตวเน, ภนฺเตติ. อิสโย ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ สตฺถารํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ หฏฺตุฏฺา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพีนครํ สมฺปาปุณึสุ. มหาเสฏฺิโน ‘‘อิสโย อาคตา’’ติ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส อิสิคณสฺส มหาทานํ อทํสุ. อิสโย ‘‘ภุตฺวาว คจฺฉามา’’ติ อาปุจฺฉึสุ. ภนฺเต, ตุมฺเห อฺสฺมึ กาเล เอกมฺปิ มาสํ ทฺเวปิ ตโยปิ จตฺตาโรปิ มาเส วสิตฺวา คจฺฉถ, อิมสฺมึ ปน วาเร หิยฺโย อาคนฺตฺวา ‘‘อชฺเชว คจฺฉามา’’ติ วทถ, กึ อิทนฺติ. อาม คหปตโย พุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน, น โข ปน สกฺกา ชีวิตนฺตราโย ชานิตุํ, เตน มยํ ตุริตา คจฺฉามาติ ¶ . เตน หิ, ภนฺเต, มยมฺปิ อาคจฺฉาม, อมฺเหหิ สทฺธึเยว คจฺฉถาติ. ‘‘ตุมฺเห อคาริยา นาม มหาชฏา, ติฏฺถ ตุมฺเห, มยํ ปุเรตรํ คมิสฺสามา’’ติ นิกฺขมิตฺวา ¶ เอกฏฺาเน ทฺเว ทิวสานิ อวสิตฺวา ตุริตคมเนน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนวิหาเร สตฺถุ สนฺติกเมว อคมํสุ. ตตฺถ มธุรธมฺมกถํ สุตฺวา สพฺเพว ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.
เตปิ ตโย เสฏฺิโน ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ เจว ปฏฺฏุณฺณทุกูลาทีนิ จ อาทาย โกสมฺพิโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ ปตฺวา เชตวนสามนฺเต ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สตฺถา ติณฺณมฺปิ สหายานํ มธุรธมฺมกถํ กเถสิ. เต พลวโสมนสฺสชาตา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ อทํสุ, ปุน นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเสติ เอวํ อฑฺฒมาสํ ทานํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ ชนปทํ อาคมนาย ปฏิฺํ เทถา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชึสุ. ภควา ‘‘สฺุาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ อาห. ‘‘เอตฺตาวตา ปฏิฺา ทินฺนา นาม โหตี’’ติ คหปตโย สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺา’’ติ ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน วิหารํ กาเรตฺวา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ กถยึสุ. ตโย ชนา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร การาเปสุํ. ตตฺถ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม อโหสิ. ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นาม. โฆสิเตน การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโต’’ติ.
โย อภินิกฺขมนกาเล สทฺธึ นิกฺขนฺโต, ยสฺส จ สตฺถารา ปรินิพฺพานกาเล พฺรหฺมทณฺโฑ อาณตฺโต, ตํ สนฺธายาห ‘‘โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺากฉนฺนสฺสา’’ติ. อิมินา จ โย มชฺฌิมนิกาเย ฉนฺโนวาทสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๓๘๙ อาทโย) คิลาโน หุตฺวา ธมฺมเสนาปตินา โอวทิยมาโนปิ มารณนฺติกเวทนํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ติณฺเหน สตฺเถน กณฺนาฬึ ฉินฺทิตฺวา มรณภเย อุปฺปนฺเน คตินิมิตฺเต จ อุปฏฺิเต อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ตฺวา สํวิคฺโค วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต อรหตฺตํ ¶ ปตฺวา สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ, อยํ โส น โหตีติ ทสฺเสติ. ปูชาวจนปฺปโยเค กตฺตริ สามิวจนสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา อาห ‘‘คามสฺส วา ปูชิต’’นฺติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสารโต เวทิตพฺพํ. เอเกโก โกฏฺาโสติ เอเกโก ภาโค.
๓๖๖. กิริยโต สมุฏฺานภาโวติ เกวลํ กิริยามตฺตโต สมุฏฺานภาวํ ปฏิกฺขิปติ, วตฺถุโน ปน อเทสนาย กุฏิกรณกิริยาย จ สมุฏฺานโต กิริยากิริยโต สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ ¶ . อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขู วา อนภิเนยฺยาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ‘‘อยํ วา โส มหานาโค’’ติอาทีสุ วิย อวธารณตฺโถติ ทฏฺพฺโพ.
วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๘๐. อฏฺเม ปากาเรน ปริกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตนฺติ ทฺวารปาสาเทน จ ตตฺถ ตตฺถ ปาการมตฺถเก ปติฏฺาปิตอฏฺฏาลเกหิ จ ยุตฺตํ. เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตตฺตา อพฺภนฺตเร ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขสฺฉนฺนตฺตา จ นีโลภาสํ. ฉายูทกสมฺปตฺติยา ภูมิภาคสมฺปตฺติยา จ มโนรมํ. กาฬกเวเสนาติ กลนฺทกรูเปน. นิวาปนฺติ โภชนํ. ตนฺติ อุยฺยานํ. ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามนฺติ ทพฺพตฺถมฺเภ ปติตตฺตา ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ อโหสิ.
กสฺสปทสพลสฺส สาสโนสกฺกนกาเล กิร สตฺต ภิกฺขู เอกจิตฺตา หุตฺวา อฺเ สาสเน อคารวํ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิธ กึ กโรม, เอกมนฺเต สมณธมฺมํ กตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามา’’ติ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อุจฺจํ ปพฺพตสิขรํ อภิรุหิตฺวา อตฺตโน จิตฺตพลํ ชานนฺตา ‘‘นิสฺเสณึ ปาเตนฺตุ, ชีวิเต สาลยา โอตรนฺตุ, มา ปจฺฉานุตปฺปิโน อหุวตฺถา’’ติ วตฺวา สพฺเพ เอกจิตฺตา หุตฺวา นิสฺเสณึ ปาเตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถ, อาวุโส’’ติ อฺมฺํ โอวทิตฺวา จิตฺตรุจิเยสุ าเนสุ นิสีทิตฺวา สมณธมฺมํ กาตุํ อารภึสุ.
ตตฺเรโก ¶ เถโร ปฺจเม ทิวเส อรหตฺตํ ปตฺวา ‘‘มม กิจฺจํ นิปฺผนฺนํ, อหํ อิมสฺมึ าเน กึ กริสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา อุตฺตรกุรุโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อาห – ‘‘อาวุโส, อิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชถ, ภิกฺขาจารกิจฺจํ มมายตฺตํ โหตุ, ตุมฺเห อตฺตโน กมฺมํ กโรถา’’ติ. กึ นุ มยํ, อาวุโส, นิสฺเสณึ ปาเตนฺตา เอวํ อวจุมฺห ‘‘โย ปมํ ธมฺมํ สจฺฉิกโรติ, โส ภิกฺขํ อาหรตุ, เตนาภตํ เสสา ปริภฺุชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ. นตฺถิ, อาวุโสติ. ตุมฺเห อตฺตโน ปุพฺพเหตุนาว ลภิตฺถ, มยมฺปิ สกฺโกนฺตา วฏฺฏสฺสนฺตํ กริสฺสาม, คจฺฉถ ตุมฺเหติ. เถโร เต สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ผาสุกฏฺาเน ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา คโต. อปโรปิ เถโร สตฺตเม ทิวเส อนาคามิผลํ ปตฺวา ตโต จุโต สุทฺธาวาสพฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต, อิตเร เถรา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา เตสุ เตสุ กุเลสุ นิพฺพตฺตา. เอโก คนฺธารรฏฺเ ตกฺกสิลนคเร ราชเคเห นิพฺพตฺโต, เอโก ปจฺจนฺติมรฏฺเ ¶ ปริพฺพาชิกาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต, เอโก พาหิยรฏฺเ กุฏุมฺพิยเคเห นิพฺพตฺโต, เอโก ราชคเห กุฏุมฺพิยเคเห นิพฺพตฺโต.
อยํ ปน ทพฺพตฺเถโร มลฺลรฏฺเ อนุปิยนคเร เอกสฺส มลฺลรฺโ เคเห ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ตสฺส มาตา อุปวิชฺา กาลมกาสิ. มตสรีรํ สุสานํ เนตฺวา ทารุจิตกํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ อทํสุ. อคฺคิเวคสนฺตตฺตํ อุทรปฏลํ ทฺเวธา อโหสิ. ทารโก อตฺตโน ปฺุพเลน อุปฺปติตฺวา เอกสฺมึ ทพฺพตฺถมฺเภ นิปติ, ตํ ทารกํ คเหตฺวา อยฺยิกาย อทํสุ. สา ตสฺส นามํ คณฺหนฺตี ทพฺพตฺถมฺเภ ปติตฺวา ลทฺธชีวิกตฺตา ‘‘ทพฺโพ’’ติ ตสฺส นามํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นาม’’นฺติ.
ตสฺส สตฺตวสฺสิกกาเล สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มลฺลรฏฺเ จาริกํ จรมาโน อนุปิยนิคมํ ปตฺวา อนุปิยมฺพวเน วิหรติ. ทพฺพกุมาโร สตฺถารํ ทิสฺวา สห ทสฺสเนเนว ปสีทิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ ทสพลสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อยฺยิกํ อาปุจฺฉิ. สา ‘‘สาธุ ตาตา’’ติ ทพฺพกุมารํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ กุมารํ ปพฺพาเชถา’’ติ อาห. สตฺถา อฺตรสฺส ภิกฺขุโน สฺํ อทาสิ ‘‘ภิกฺขุ อิมํ ทารกํ ปพฺพาเชหี’’ติ. โส เถโร สตฺถุ วจนํ สุตฺวา ทพฺพกุมารํ ปพฺพาเชนฺโต ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิ. ปุพฺพเหตุสมฺปนฺโน กตาภินีหาโร ¶ ปมเกสวฏฺฏิยา โวโรปนกฺขเณเยว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, ทุติยาย เกสวฏฺฏิยา โอโรปิยมานาย สกทาคามิผเล, ตติยาย อนาคามิผเล, สพฺพเกสานํ ปน โอโรปนฺจ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยา จ อปจฺฉา อปุเร อโหสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพ’’ติ.
สาวเกน ปตฺตพฺพนฺติ ยถุปนิสฺสยํ เตน เตน สาวเกน ปตฺตพฺพํ. ติสฺโส วิชฺชาติอาทิ ยถาสมฺภววเสน วุตฺตํ. คุณชาตนฺติ ‘‘ยฺจ กิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพ’’นฺติ นปุํสกลิงฺคสมฺพนฺธทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตาติ ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคสงฺขาเตสุ จตูสุ สจฺเจสุ ทุกฺขปริฺา สมุทยปฺปหานํ นิโรธสจฺฉิกิริยา มคฺคภาวนาติ เอเกกสฺส มคฺคสฺส จตุนฺนํ จตุนฺนํ กิจฺจานํ วเสน โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา. ตโต ตโต ปฏิกฺกมิตฺวาติ ตโต ตโต กิจฺจโต อารมฺมณโต จ ปฏิวตฺติตฺวา. สิลาปฏฺฏเกติ ปาสาณผลเก. เตรสาปีติ ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชนกยาคุภาชนกผลภาชนกขชฺชภาชนกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหาปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีนํ ¶ วเสน เตรสาปิ สมฺมุติโย ทาตุํ วฏฺฏนฺติ.
๓๘๒. อปิสูติ เอตฺถ สูติ นิปาตมตฺตํ, อปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต ‘‘วิกาเล’’ติ อิมสฺส อนนฺตรํ ทฏฺพฺโพ, วิกาเลปิ อาคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ชานนฺตาติ ทูรภาวํ ชานนฺตา. เอวํ สพฺพปเทสูติ เอตฺถ กติกสณฺานาทีนํ นานปฺปการตฺตา ตสฺมึ ตสฺมึ วิหาเร กติกวตฺตาทีนิ วิสุํ วิสุํ กถาเปตีติ เวทิตพฺพํ. สพฺพวิหาเรสุ จ คมนมคฺเค สมปฺปมาเณ กตฺวา อธิฏฺาตีติ วทนฺติ. อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตาติ อนิยเมตฺวา นิมฺมิตานํ อยํ ‘‘เอกสฺมึ ภาสมานสฺมิ’’นฺติอาทิ ธมฺมตา. ตถา หิ เย วณฺณวยสรีราวยวปริกฺขารกิริยาวิเสสาทีหิ นิยมํ อกตฺวา นิมฺมิตา โหนฺติ, เต อนิยเมตฺวา นิมฺมิตตฺตา อิทฺธิมตา สทิสาว โหนฺติ. านนิสชฺชาทีสุ ภาสิตตุณฺหีภาวาทีสุ วา ยํ ยํ อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว กโรนฺติ. สเจ ปน นานปฺปกาเร กาตุกาโม โหติ, เกจิ ปมวเย, เกจิ มชฺฌิมวเย, เกจิ ปจฺฉิมวเย, ตถา ทีฆเกเส, อุปฑฺฒมุณฺเฑ ¶ , มิสฺสกเกเส, อุปฑฺฒรตฺตจีวเร, ปณฺฑุกจีวเร, ปทภาณธมฺมกถาสรภฺปฺหปุจฺฉนปฺหวิสฺสชฺชนจีวรสิพฺพนโธวนาทีนิ กโรนฺเต, อปเรปิ วา นานปฺปการเก กาตุกาโม โหติ, เตน ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘เอตฺตกา ภิกฺขู ปมวยา โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน ปริกมฺมํ กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺิเต อธิฏฺานจิตฺเตน สทฺธึ อิจฺฉิติจฺฉิตปฺปการาเยว โหนฺติ. อวตฺถุกวจนํ น โหตีติ นิมฺมิตานํ ‘‘อยํ มฺโจ’’ติอาทิวจนํ อวตฺถุกํ น โหติ สพฺพตฺถ มฺจปีานํ สมฺภวโต.
๓๘๓. เอกจาริกภตฺตนฺติ อติมนาปตฺตา วิสุํ ิติกาย ปาเปตพฺพํ ภตฺตํ. ตทฺธิตโวหาเรนาติ จตฺตาริ ปริมาณมสฺส จตุกฺกนฺติ เอวํ ตทฺธิตโวหาเรน. โอทนสฺส ปุจฺฉาย สาธกตมตฺตา อาห – ‘‘กรณตฺเถเยว กรณวจน’’นฺติ, โอทเนน กรณภูเตน ปุจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เย จ โอทเนน กรณภูเตน ปุจฺฉนฺติ, เตสํ ปุจฺฉนาการทสฺสนตฺถํ ‘‘กึ, ภนฺเต, โอทนํ เทมาติ ปุจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
ภโวติ ภวิตพฺโพ. อสมนฺนาหริตฺวาติ อาโภคํ อกตฺวา. รตฺตึ สมฺมนฺตยมานาติ กฺจิ กาลํ สุปิตฺวา วุฏฺาย สมฺมนฺตยมานา. รตฺติยฺหิ ปมยามมชฺฌิมยาเมสุ สุปิตฺวา ปพุทฺธานํ อชฺชตนกาเลปิ อนชฺชตนาภิมาโน โหติ, ตสฺมา เต ‘‘หิยฺโย’’ติ อาหํสุ. เย ปน รตฺติยํ กมฺมปฺปสุตา ชาคริยมนุยุตฺตา โหนฺติ, เตสํ อชฺชตนาภิมาโนเยว, ตสฺมา เต ‘‘อชฺช’’อิจฺเจว โวหรนฺติ, น ‘‘หิยฺโย’’ติ. ปธูปายนฺตาติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนกโกธวเสน ปธูปายนฺตา.
๓๘๔. ทพฺพ ¶ ทพฺพาติ ทุติโย ทพฺพ-สทฺโท ปณฺฑิตาธิวจโนติ อาห ‘‘ทพฺพา ปณฺฑิตา’’ติ. เอวํ น นิพฺเพเนฺตีติ สมฺพนฺโธ. นิพฺเพเนฺตีติ อตฺตานํ โทสโต โมเจนฺติ. วุฏฺานลกฺขณํ มฺมานาติ วุฏฺานลกฺขณนฺติ มฺมานา. น ฆฏิยตีติ เถรสฺส สุสีลปฏิฺาย ตสฺสา ทุสฺสีลปฏิฺาวจนํ น ฆฏิยตีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. นาเสถาติ เสตกํ ทตฺวา คิหิภาวํ ปาเปถาติ อตฺโถ. ลิงฺคนาสนา เหตฺถ อธิปฺเปตา. อิมเมว จ ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส นาสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกกมฺมาทิสํวาสสฺส อกรณํ สํวาสนาสนา. ทณฺฑกมฺมนาสนา นาม วาลุกาทีนิ โอกิริตฺวา ยาว ขมาเปติ, ตาว ทณฺฑกมฺมวเสน ¶ นิกฺกฑฺฒนํ. จร ปิเร วินสฺสาติ นิกฺกฑฺฒนาการทสฺสนํ. ตตฺถ จราติ คจฺฉ, อเปหีติ วุตฺตํ โหติ. ปิเรติ ปร อมามก, อมฺหากํ อนชฺฌตฺติกภูตาติ อตฺโถ. ปิเรติ หิ ปร-สทฺเทน สมานตฺถํ สมฺโพธนวจนํ. อถ วา ปิเรติ ‘‘ปรโต’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ, ตสฺมา จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺาติ อตฺโถ. วินสฺสาติ อทสฺสนํ คจฺฉ.
ยสฺมา เต ภิกฺขู อตฺตานํ อปฺปกาเสตฺวา ิตา, ตสฺมา อนุยฺุชถาติ อิมสฺส คเวสถ ชานาถาติ อตฺโถ วุตฺโต. การโก โหตีติ ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ ปฏิฺาตตฺตา ตาย ปฏิฺาย ยทิ นาสิตา, เถโร การโก โหติ, สโทโสติ อตฺโถ. อการโก โหตีติ ตาย กตปฏิฺํ อนเปกฺขิตฺวา ยทิ ภควตา ปกติทุสฺสีลภาวํเยว สนฺธาย สา นาสิตา, เถโร อการโก โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘สกาย ปฏิฺาย นาเสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยฺเยนมฺหิ ทูสิตา’’ติ ตาย กตปฏิฺาย ภูตตา อาปชฺชตีติ อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ สโทโส’’ติ. ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏนฺติ อิมินา มหาอฏฺกถาวาโท ทสฺสิโต. มุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตนฺติ ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส มุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ.
ตตฺราติ เตสุ ทุกฺกฏปาจิตฺติเยสุ. อิโต ปฏฺาย ‘‘ตสฺมา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตี’’ติ วจนปริยนฺตํ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาสุ อธิปฺปายวิภาวนํ. ตตฺถ ปุริมนเยติ ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตอฏฺกถานเย. ทุกฺกฏเมว ยุชฺชตีติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ภิกฺขุโน ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโสติ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโสติ อตฺโถ. ปจฺฉิมนเยปิ ‘‘ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสนฺตสฺส มุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทีนเยปิ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตีติ วิสํวาทปุเรกฺขตาย ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ภิกฺขุํ อมูลเกน ¶ อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสนฺตสฺส อกฺโกสนฺตสฺส จ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพนฺติ เจ? ตตฺถ สติปิ มุสาวาเท วจนปฺปมาณโต สงฺฆาทิเสสโอมสวาทปาจิตฺติเยเหว ภวิตพฺพํ, น สมฺปชานมุสาวาทปาจิตฺติเยนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘วจนปฺปมาณโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วจนปฺปมาณโตติ ¶ ภควตา วุตฺตปาฬิวจนปฺปมาณโต. อิทานิ ตํ วจนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติ วจนํ นตฺถีติ ภิกฺขุนิยา อนุทฺธํสเน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ วจนํ นตฺถิ ตถา ปาฬิยํ อนาคตตฺตา. สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วจนมตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ สมฺปชานมุสาวาทสิกฺขาปทํ ทสฺเสติ.
อิทานิ ทฺวีสุปิ อฏฺกถาวาเทสุ อธิปฺปายํ วิภาเวตฺวา เตสุ ปจฺฉิมวาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา ปุริมวาทํ ปติฏฺเปตุกาโม อาจริโย ‘‘ตตฺร ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺราติ ‘‘ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตวาเท. อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย อสติ ปาจิตฺติยนฺติ อิมินา สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺส โอกาสํ ทสฺเสติ. วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยโต วิสุํ อฺเมว ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เอเตหิ นาสนา นตฺถีติ สามฺโต วุตฺตํ, อิมิสฺสา ปน ทุกฺกเฏน นาสนา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ กสฺมา นํ ภควา นาเสตีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ.
๓๘๕-๓๘๖. ทูสิโตติ ทุฏฺสทฺทสฺส กมฺมสาธนตํ ทสฺเสติ. ทูสยติ ปรํ วินาเสตีติ ทูสโก. อิมินา ‘‘ทูสยตีติ โทโส’’ติ โทสสทฺทสฺส กตฺตุสาธนตา วุตฺตา. ปกติภาวํ ชหาปิโตติ ทุสสทฺทสฺส วิกติยํ ปิตตฺตา วุตฺตํ, ปกติยา โสมฺมภาวํ ชหาปิโตติ อตฺโถ, วิการมาปาทิโตติ วุตฺตํ โหติ. อาการนานตฺเตนาติ ทูสิตาการสฺส ทูสกาการสฺส จ นานตฺเตน. อนภิรทฺโธติ อตุฏฺโ. โย ปน อตุฏฺโ, โส สุขิโต นาม น โหตีติ อาห ‘‘น สุขิโต’’ติ. ‘‘อาราธิโต ราชา’’ติอาทีสุ ปสาทิโตติ อตฺถสมฺภวโต ‘‘น วา ปสาทิโต’’ติ วุตฺตํ. ขีลสทฺโท ถทฺธภาววจโน กจวรปริยาโย จ โหตีติ อาห – ‘‘จิตฺตถทฺธภาวจิตฺตกจวรสงฺขาตํ ปฏิฆขีล’’นฺติ. ขีลยติ เตน จิตฺตํ ถทฺธภาวํ อาปชฺชตีติ ขีลํ, จิตฺตสฺส ถทฺธภาโว. โส จ อตฺถโต ปฏิโฆเยว. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวลกฺขโณ หิ ปฏิโฆ, ตสฺมิฺจ อุปฺปนฺเน จิตฺตํ อุกฺลาปชาตฏฺานํ วิย อมนฺุํ โหติ, ตสฺมา กจวรสทิสตฺตาปิ ปฏิโฆว ‘‘ขีล’’นฺติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ปฏิฆขีล’’นฺติ. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวตฺตา กจวรสทิสตฺตา จ ปฏิโฆเยว ขีลํ ปฏิฆขีลํ. นปฺปตีโตติ ปีติสุขาทีหิ น อภิคโต น อนุคโต, น อุเปโตติ อตฺโถ. โย จ ปีติสุขาทีหิ อนุปคโต, โส เตหิ ¶ วชฺชิโต ¶ นาม โหตีติ อาห ‘‘ปีติสุขาทีหิ วชฺชิโต’’ติ. โย จ เตหิ วชฺชิโต, น โส เตน อภิสโฏ นาม โหตีติ อาห ‘‘น อภิสโฏ’’ติ, ปีติสุขาทีหิ น ปตฺถโฏติ อตฺโถ.
เยนาติ เยน โกเปน. ทุฏฺโติ มาติกาย อาคตปทํ ทสฺเสติ, กุปิโตติ ปทภาชเน อาคตปทํ. อตฺถโต เอกตฺเตปิ อุภินฺนํ ปทานํ วเสน ‘‘อุภยมฺปี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ‘‘เตน จ โกเปน เตน จ โทเสนา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน โทโสเยว. โส จ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโนติ อาห ‘‘อิเมหิ ทฺวีหิ สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสตี’’ติ. ‘‘อนตฺตมนตา อนภิรทฺธี’’ติ วจเนหิ โทมนสฺสเวทนาว วุตฺตาติ อาห ‘‘อิเมหิ ทฺวีหิ เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสตี’’ติ.
ยทา ปน โจทเกน อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิตํ วา โหติ, ตทา อมูลกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘ตํ ปนสฺส…เป… โจทกวเสน อธิปฺเปต’’นฺติ. ยทิ จุทิตกวเสน อธิปฺเปตํ สิยา, อมูลกํ นาม อนชฺฌาปนฺนนฺติ ปทภาชนํ วเทยฺยาติ อธิปฺปาโย. ยํ ปาราชิกนฺติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา ปาราชิเกสุ อฺตรํ. ปทภาชเน ปน ปาฬิยํ อาคตาเนว คเหตฺวา ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. เอตนฺติ จุทิตกสฺส อาปนฺนานาปนฺนตฺตํ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
ตเถวาติ ปสาทโสเตน ทิพฺพโสเตน วาติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. สุตฺวาว ชานิตพฺพโต ‘‘สุตฏฺาเนเยว ติฏฺตี’’ติ วุตฺตํ. ปริสงฺกนํ ปริสงฺกิตํ, ทิฏฺานุคตํ ปริสงฺกิตํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ. เอวํ เสเสสุปิ. อิเมสนฺติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนํ, อิเมหีติ อตฺโถ. กริสฺสนฺติ วาติ เอตฺถ วิภตฺติปริณามํ กตฺวา อิเมติ โยเชตพฺพํ. ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกนฺติ อิทํ อชฺฌาจารสฺส สพฺภาวาสพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกนฺติ อิทํ ปน ทิฏฺสฺาย สพฺภาวาสพฺภาวํ สนฺธาย.
สมีเป ตฺวาติ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร สมีเป ตฺวาติ วทนฺตีติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปรโต ปน ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ เปเสตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอตี’’ติ ปรมฺมุขาโจทนาย เอว อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา ‘‘สมีเป ตฺวา’’ติ อิทํ สมฺมุขภาวมตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ ¶ . เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา) องฺคํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขาโจทนา’’ติ วุตฺตํ, น จ สมฺมุขภาโว ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรเยวาติ ¶ นิยโม สกฺกา วตฺถุํ. วินยวินิจฺฉยฺจ ปตฺวา ครุเกเยว าตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. โจทาปกสฺเสว วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโสติ อาณตฺตสฺส วาจาย วาจาย โจทาปกสฺส สงฺฆาทิเสโส. มยาปิ ทิฏฺํ สุตํ อตฺถีติ อิทํ อาณตฺตสฺสปิ โจทกภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เอวํ ปน อวตฺวาปิ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติ อิทเมว วจนํ ปรสฺส วจนํ วิย อกตฺวา อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. สติปิ ปน อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย ‘‘อสุเกน เอวํ วุตฺต’’นฺติ ทสฺเสตฺวา วทนฺตสฺส นตฺถิ สงฺฆาทิเสโสติ วทนฺติ.
สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทนฺตีติ เอตฺถ สมฺพหุเลติ พหุตฺตนิทฺเทเส การณํ น ทิสฺสติ. วตฺถุโจทกานํเยว หิ เอกาเนกวเสน อิทํ จตุกฺกมาคตํ, น จุทิตกสฺสปิ เอกาเนกวเสน. ตถา หิ เอกสฺเสว จุทิตกสฺส วเสน เอกวตฺถุเอกโจทกเอกวตฺถุนานาโจทกนานาวตฺถุเอกโจทกนานาวตฺถุนานาโจทกปฺปเภทํ อิทํ จตุกฺกมาคตํ, เตเนว จตุตฺถโจทนํ ทสฺเสนฺเตนปิ ‘‘อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ นานาโจทกา’’ติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘นานาจุทิตกา’’ติ, ตสฺมา ‘‘สมฺพหุเล’’ติ พหุตฺตนิทฺเทเส การณํ น ทิสฺสติ. อถ วา ปมํ ตีสุปิ โจทนาสุ เอกตฺเตน จุทิตกํ นิทฺทิสิตฺวาปิ อิธ พหุตฺเตน นิทฺเทโส ‘‘น เกวลํ เอกสฺมึเยว จุทิตเก โจทนา สมฺภวติ, อถ โข สมฺพหุเลสุปี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ กโต.
โจเทตุํ ปน โก ลภติ, โก น ลภตีติอาทิ อนุทฺธํสนาธิปฺปายํ วินาปิ โจทนาลกฺขณํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สีลสมฺปนฺโนติ อิทํ ทุสฺสีลสฺส วจนํ อปฺปมาณนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ปน ภิกฺขุํ โจเทตุํ อนิสฺสรตฺตา ‘‘ภิกฺขุนิเมวา’’ติ วุตฺตํ. สติปิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ อนิสฺสรภาเว ตาหิ กตโจทนาปิ โจทนารุหตฺตา โจทนาเยวาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทตีติอาทินา โจทโก เยสํ สุตฺวา โจเทติ, เตสมฺปิ วจนํ ปมาณเมวาติ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา เตสํ โจทนาปิ รุหเตวาติ ทสฺเสตุํ เถโร สุตฺตํ นิทสฺเสสิ.
ทูตํ ¶ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวาติ ‘‘ตฺวํเยว คนฺตฺวา โจเทหี’’ติ ทูตํ วา เปเสตฺวา โย ตํ โจเทตุํ สกฺโกติ, ตสฺส มุขสาสนํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา. สีสํ น เอตีติ สงฺฆาทิเสโส น โหตีติ อธิปฺปาโย. กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ทูตสาสนาทีหิ โจทาเปนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยวาติ ปฺายติ, ‘‘สีสํ น เอตี’’ติ ¶ อิทํ ปน อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. สมเยนาติ ปกติยา สทฺทํ สุตฺวา อตฺถวิชานนสมเยน.
ครุกานํ ทฺวินฺนนฺติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสานํ. อวเสสานํ วเสนาติ ปฺจลหุกาปตฺตีนํ วเสน. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ. ‘‘อนฺตวา โลโก, อนนฺตวา โลโก’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ทิฏฺิ สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตํ อนฺตํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา. อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสนาติ อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหาติ ภณติ, ปฏิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อคิลานา อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส, อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, อาชีววิปตฺติปจฺจยา อิมา ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ เอวํ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. ๒๘๗) ทสฺสิตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน. ทิฏฺิวิปตฺติอาชีววิปตฺตีหิ โจเทนฺโตปิ ตมฺมูลิกาย อาปตฺติยา เอว โจเทติ.
‘‘กสฺมา มํ น วนฺทสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อวนฺทนการณสฺส วุตฺตตฺตา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน น วนฺทิตพฺโพติ วทนฺติ. โจเทตุกามตาย เอว อวนฺทิตฺวา อตฺตนา วตฺตพฺพสฺส วุตฺตมตฺถํ เปตฺวา อวนฺทิยภาเว ตํ การณํ น โหตีติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท ¶ จ วุตฺตํ. อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส อวนฺทนีเยสุ อวุตฺตตฺตา เตน สทฺธึ สยนฺตสฺส สหเสยฺยาปตฺติยา อภาวโต ตสฺส จ ปฏิคฺคหณสฺส รุหนโต ตเทว ยุตฺตตรนฺติ วิฺายติ. กิฺจาปิ ยาว โส ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานาติ, ตาว วนฺทิตพฺโพ. ยทา ปน ‘‘อสฺสมโณมฺหี’’ติ ปฏิชานาติ, ตทา น วนฺทิตพฺโพติ อยเมตฺถ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส หิ ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานนฺตสฺเสว ภิกฺขุภาโว, น ตโต ปรํ. ภิกฺขุภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต หิ อนุปสมฺปนฺนปกฺขํ ภชติ. ยสฺมา อามิสํ เทนฺโต อตฺตโน อิจฺฉิตฏฺาเนเยว เทติ, ตสฺมา ปฏิปาฏิยา นิสินฺนานํ ยาคุภตฺตาทีนิ เทนฺเตน เอกสฺส โจเทตุกามตาย อทินฺเนปิ โจทนา นาม น โหตีติ อาห ‘‘น ตาวตา โจทนา โหตี’’ติ.
ตึสานีติ ¶ ตึส เอเตสมตฺถีติ ตึสานิ, ตึสวนฺตานีติ อตฺโถ, ตึสาธิกานีติ วุตฺตํ โหติ. คุณวจนตฺตา ตทฺธิตโลปํ กตฺวา ‘‘ตึสานี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ตึส โจทนา อธิกา เอเตสูติ ตึสานิ. ตสฺมึ อธิกมิติ ฑการปจฺจเย สติ รูปมิทํ ทฏฺพฺพํ. นวุตานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพนฺติ อุพฺพาหิกาย สมฺมเตหิ ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. อลชฺชุสฺสนฺนาย หิ ปริสาย ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ. ‘‘สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติอาทินา สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๑) วุตฺตทสงฺคสมฺปตฺติยา สมนฺนาคตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา ตตฺเถว วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมเตหิ ปน เตหิ ภิกฺขูหิ วิสุํ วา นิสีทิตฺวา ตสฺสาเยว วา ปริสาย ‘‘อฺเหิ น กิฺจิ กเถตพฺพ’’นฺติ สาเวตฺวา ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. ตุมฺหากนฺติ จุทิตกโจทเก สนฺธาย วุตฺตํ.
กิมฺหีติ กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ. กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสีติ กิมฺหิ นนฺติ วจนมฺปิ น ชานาสิ. นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพติ นาสฺส ปุจฺฉา ปฏิปุจฺฉา ทาตพฺพา. ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติอาทิวจนโต ‘‘อลชฺชีนิคฺคหตฺถาย…เป… ปฺตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอหิตีติ อาคมิสฺสติ. ทิฏฺสนฺตาเนนาติ ทิฏฺสมฺพนฺเธน, ทิฏฺนิยาเมนาติ วุตฺตํ โหติ. วิวาทวตฺถุสงฺขาเต อตฺเถ ¶ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปฺปจฺจตฺถิกา. สฺํ ทตฺวาติ เตสํ กถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน วจนํ สาเธตุํ สฺํ กตฺวา. อสุทฺธสฺาย อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘อนนุจฺฉวิโก’’ติ อาห. เอกสมฺโภคปริโภคาติ อิทํ อตฺตโน สนฺติกา เตสํ โมจนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน เตสํ อฺมฺสมฺโภเค โยชนตฺถํ. วินิจฺฉโย น กาตพฺโพติ ‘‘อมฺหากํ วจเน อฏฺาตพฺพสภาวา เอเต อลชฺชิโน’’ติ ชานนฺเตน วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ.
วิรทฺธํ โหตีติ อตฺตนา กตโทสปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ กฺจิ มุสาวาทํ กตฺวา วิรทฺธํ โหติ. ปฏิฺํ น เทตีติ สเจ มยา กตโทสํ วกฺขามิ, มยฺหํ อนุวตฺตกา ภิชฺชิสฺสนฺตีติ ‘‘กตํ มยา’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. สุทฺโธ โหตูติ เตสํ วจเนน สุทฺโธ นาม โหตุ, เตสํ วจเนน เอกทฺเววารมสฺส วินิจฺฉโย ทาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. าเน น ติฏฺตีติ ลชฺชิฏฺาเน น ติฏฺติ. วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพติ อลชฺชิภาวมาปนฺนตฺตา น ทาตพฺโพ.
อมูลกมฺปิ สมูลกมฺปิ มูลํ คเหตฺวา วทนฺตีติ อาห ‘‘ทฺเว มูลานี’’ติ. กาเลน วกฺขามีติอาทีสุ ¶ เอโก เอกํ โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺโต กาเลน วทติ นาม. สงฺฆมชฺเฌ คณมชฺเฌ สลากคฺคยาคุอคฺควิตกฺกมาฬกภิกฺขาจารมคฺคอาสนสาลาทีสุ อุปฏฺาเกหิ ปริวาริตกฺขเณ วา โจเทนฺโต อกาเลน วทติ นาม. ตจฺเฉน วทนฺโต ภูเตน วทติ นาม. ‘‘อมฺโภ มหลฺลก-ปริสาวจร-ปํสุกูลิก-ธมฺมกถิก-ปติรูปํ ตว อิท’’นฺติ วทนฺโต ผรุเสน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ ปน กตฺวา ‘‘ภนฺเต มหลฺลกาตฺถ, ปริสาวจรา ปํสุกูลิกา ธมฺมกถิกาตฺถ, ปติรูปํ ตุมฺหากํ อิท’’นฺติ วทนฺโต สณฺเหน วทติ นาม. การณนิสฺสิตํ กตฺวา วทนฺโต อตฺถสฺหิเตน วทติ นาม. เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา วกฺขามิ, น ทุฏฺจิตฺโต หุตฺวา. ปนฺนรสสุ ธมฺเมสูติ ปริสุทฺธกายสมาจารตา, ปริสุทฺธวจีสมาจารตา, สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตจิตฺตตา, พหุสฺสุตตา, อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานํ วิตฺถาเรน สฺวาคตสุวิภตฺตสุปฺปวตฺตสุวินิจฺฉิตตา, ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา วุตฺตปฺจธมฺมา, การฺุตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปตา, อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ อิเมสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ. ตตฺถ การฺุตาติ การุณิกภาโว. อิมินา กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ ทสฺสิโต. หิเตสิตาติ หิตคเวสนตา. อนุกมฺปตาติ เตน ¶ หิเตน สํโยชนา. ทฺวีหิปิ เมตฺตา จ เมตฺตาปุพฺพภาโค จ ทสฺสิโต. อาปตฺติวุฏฺานตาติ อาปตฺติโต วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาปนา. วตฺถุํ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาปฏิฺาย กมฺมกรณํ วินยปุเรกฺขารตา นาม. สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ วจีสจฺเจ จ อกุปฺปตาย จ. จุทิตเกน หิ สจฺจฺจ วตฺตพฺพํ, โกโป จ น กาตพฺโพ, เนว อตฺตนา กุชฺฌิตพฺโพ, น ปโร ฆฏฺเฏตพฺโพติ อตฺโถ.
ภุมฺมปฺปตฺติยาติ ภุมฺมวจเน สมฺปตฺเต, ภุมฺมตฺเถ อิทํ อุปโยควจนนฺติ วุตฺตํ โหติ. อธิกรียนฺติ เอตฺถาติ อธิกรณานิ. เก อธิกรียนฺติ? สมถา. กถํ อธิกรียนฺติ? สมนวเสน. อธิกรณํ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ หิ สมถา. อถ วา สมนตฺถาย ปวตฺตมาเนหิ สมเถหิ อธิกาตพฺพานีติ อธิกรณานิ. ยถา หิ สมนวเสน สมถานํ วิวาทาทีสุ อธิกตฺตุภาโว, เอวํ วิวาทาทีนํ เตหิ อธิกตฺตพฺพตาปิ. เตนาห ‘‘สมเถหิ อธิกรณียตา’’ติ. อิมินา อธิกรณสทฺทสฺส กมฺมสาธนตา วุตฺตา. คาหนฺติ ‘‘อสุกํ โจเทสฺสามี’’ติ มนสา โจทนาย คหณํ. เจตนนฺติ ‘‘โจเทสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนเจตนํ. อกฺขนฺตินฺติ จุทิตเก อุปฺปนฺนํ อกฺขนฺตึ. โวหารนฺติ โจทนาวสปฺปตฺตวจนํ. ปณฺณตฺตินฺติ โจทนาวสปฺปวตฺตนามปณฺณตฺตึ. อตฺตาทานํ คเหตฺวาติ โจทนํ มนสา คเหตฺวา. ตํ อธิกรณนฺติ ตํ คาหลกฺขณํ อธิกรณํ.
ตสฺมา ¶ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ อฏฺกถาสุ กตสนฺนิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตมฺปิ น ยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. เตติ อฏฺกถาจริยา. ปาราชิกธมฺโมติ ปาราชิกาปตฺติ. อจฺจนฺตอกุสลตฺตาติ โลกวชฺชภาวโต ปาราชิกาปตฺติยา เอกนฺตอกุสลตฺตา. ยาย ปณฺณตฺติยาติ นามปณฺณตฺตึ สนฺธาย วทติ. อภิลาเปนาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปฺตฺโตติ โวหารวเสน กถิโต. อธิกรเณ ปวตฺตตฺตา จ อธิกรณนฺติ มฺจฏฺเสุ มฺจโวหาโร วิย. ยสฺมา อมูลเกน โจเทนฺโต จุทิตเก ปุคฺคเล ตํ อธิกรณํ นตฺถีติ สลฺลกฺเขติ, ตสฺมา ตสฺส วจนํ อภิเธยฺยสฺุนฺติ อาห ‘‘สภาวโต นตฺถี’’ติ. ตฺจ โข อิเธวาติ ตฺจ ยถาวุตฺตปริยาเยน ปณฺณตฺติยา อธิกรณภาโว อิเธว อิมสฺมึเยว สิกฺขาปเท. ‘‘มาตาปิ ปุตฺเตน วิวทตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตสฺส ¶ วิวาทสฺส อธิกรณภาโว น สมฺภวติ สมเถหิ อนธิกรณียตฺตาติ อาห ‘‘อิเธกจฺโจ วิวาโท’’ติ.
อฏฺารสเภทกรวตฺถูนีติ ลกฺขณวจนเมตํ ยถา ‘‘ยทิ เม พฺยาธิตา ทเหยฺยุํ, ทาตพฺพมิทโมสธ’’นฺติ, ตสฺมา เตสุ อฺตรฺตรํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโท ‘‘อฏฺารสเภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน’’ติ วุจฺจติ. อนุวาโทติ อุปวทนา เจว โจทนา จ. ตตฺถ อุปวทนา นาม อกฺโกโส. ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธาติ มาติกาย อาคตา ปฺจ อาปตฺติกฺขนฺธา. สตฺตาติ เตเยว ปฺจ, วิภงฺเค อาคตา ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺติโย ทฺเวติ สตฺต. กิจฺจยตาติ กตฺตพฺพตา. กรณียตาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุภเยนปิ อปโลกนาทิสงฺฆกมฺมํเยว ทสฺเสติ, เตนาห ‘‘อปโลกนกมฺม’’นฺติอาทิ.
อาปตฺตาธิกรณํ เปตฺวา เสสาธิกรเณหิ โจทนาเยว นตฺถีติ อาห ‘‘อิมสฺมึ ปนตฺเถ…เป… อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปต’’นฺติ. สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺสาติ ปทานํ อนุกฺกเมน นิทฺเทโส ปทานุกฺกมนิทฺเทโส, ปทภาชนสฺเสตํ อธิวจนํ. เตน สห วตฺตมานํ สปทานุกฺกมนิทฺเทสํ, สิกฺขาปทํ, ตสฺส ปทานุกฺกมนิทฺเทสสหิตสฺส สิกฺขาปทสฺสาติ อตฺโถ, ปทภาชนสหิตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
อสฺสาติ กตฺตุอตฺเถ สามิวจนํ, อเนนาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอเตน โจทเกนา’’ติอาทิ. อิธาคเตสูติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาคเตสุ. อฺตฺร อาคเตสูติ อิโต อฺตฺร โอมสวาทาทิสิกฺขาปทปาฬิยํ อาคเตสุ. ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล สีลวิรหิโต. ปาปธมฺโมติ ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ลามกสภาโว. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโรติ อปริสุทฺธกายกมฺมาทิตาย อสุจิ หุตฺวา สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ทุสฺสีโล หิ กิฺจิเทว ¶ อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรสํ อาสงฺกนีโย โหติ, เกนจิเทว วา กรณีเยน มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข อิเม มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ อตฺตโนเยว สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโร. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโตติ ลชฺชิตพฺพตาย ปฏิจฺฉาเทตพฺพกมฺมนฺโต. อสฺสมโณติ ¶ น สมโณ. สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘อหมฺปิ สมโณ’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย สมณปฏิฺโ. อเสฏฺจาริตาย อพฺรหฺมจารี. อุโปสถาทีสุ ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย พฺรหฺมจาริปฏิฺโ. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต อนุปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ. ฉทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุวสฺสเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา สีลวนฺเตหิ ฉฑฺเฑตพฺพตฺตา จ กสมฺพุชาโต.
อิธ ปาฬิยนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาฬิยํ. เชฏฺพฺพติโกติ กลิเทวีวตนิยุตฺโต. กลิเทวี กิร สิรีเทวิยา เชฏฺา, ตสฺมา ตสฺสา วตธโร ‘‘เชฏฺพฺพติโก’’ติ วุจฺจติ. ตํ ปน วตํ สมาทิยิตฺวา ปูเรนฺโต สกลสรีเร มสึ มกฺเขตฺวา กากปตฺตานิ มุฏฺิยํ กตฺวา กลิเทวึ ผลเก ลิขาเปตฺวา ตํ กาชโกฏิยํ พนฺธิตฺวา โถเมนฺโต วิจรติ. ยทคฺเคนาติ ยตฺตเกน. ตทคฺเคนาติ ตตฺตเกน. โน กปฺเปตีติอาทิ เวมติกภาวทีปนตฺถเมว วุตฺตนฺติ มหาปทุมตฺเถรสฺส อธิปฺปาโย. ทุติยตฺเถโร ปน ‘‘โน กปฺเปติ, นสฺสรติ, ปมุฏฺโ’’ติ เอเตหิ เวมติกภาวาวตฺถาย อทีปนโต อฺโ เวมติกภาโว, อฺานิ โน กปฺปนาทีนีติ จตุนฺนมฺปิ วิภาเคน อตฺถํ ทสฺเสติ, ตสฺมา ตสฺส วาโท ยุตฺตตโรติ ปจฺฉา วุตฺโต. ทสฺสเน เวมติโก โหตีติ ปุคฺคเล าเตปิ ตสฺส กิริยาย สมฺมา อทิฏฺภาวโต จิรกาลาติกฺกมโต วา ตํ กิริยํ กโรนฺโต ‘‘เอส มยา ทิฏฺโ วา, น วา’’ติ ทสฺสเน เวมติโก โหติ. ปุคฺคเล เวมติโก โหตีติ เตน กตกมฺเม าเตปิ ตํ กมฺมํ กโรนฺตสฺส สมฺมา อทิฏฺภาวโต กาลนฺตรภาวโต วา ‘‘ตสฺส กมฺมสฺส การโก อยํ วา, โน’’ติ ปุคฺคเล เวมติโก โหติ.
๓๘๙. ‘‘ตชฺชนียกมฺมาทิสตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ อาปตฺติยา โจเทนฺตสฺส อธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย. ‘‘อาปตฺติโต วุฏฺาเปสฺสามี’’ติ อธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย. อนุทฺธํเสนฺตสฺสาติ อิมินา จาวนาธิปฺปายํ ทสฺเสติ. อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สมฺมุขา วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ทุกฺกฏนฺติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
‘‘เอวํ สํวทฺธา หิ ตสฺส ภควโต ปริสา ยทิทํ อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนนา’’ติ วจนโต กุรุนฺทฏฺกถานยํ ปติฏฺเปนฺโต ‘‘กุรุนฺทิยํ ¶ ปนา’’ติอาทิมาห ¶ . สพฺพตฺเถวาติ สพฺพอฏฺกถาสุ. ยฺย-กาเร สมฺปตฺเต เร-กาโร อติกฺกนฺโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เร-กาเร อนติกฺกนฺเต’’ติ. อุโปสถสฺส ตฺติกมฺมภาวโต ตฺติยา สมตฺตาย อุโปสโถ กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘ยฺย-กาเร สมฺปตฺเต น ลพฺภตี’’ติ.
อิทฺจิทฺจาติ ‘‘ปาณาติปาตํ อทินฺนาทาน’’นฺติอาทึ. ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ อกฺโกสาธิปฺปาเยน ปรมฺมุขา วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, สมฺมุขา วทนฺตสฺส ปน ปาจิตฺติยเมว. ยถา ‘‘อสูริยํ ปสฺสติ กฺา’’ติ เอตฺถ ‘‘สูริยํ น ปสฺสติ กฺา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, เอวํ ‘‘อโนกาสํ การาเปตฺวา’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘โอกาสํ อการาเปตฺวา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ. ยํ โจเทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺโนติ สงฺขฺยูปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขา โจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
๓๙๑. นวเม ทิสฺวาติ อชิกาย วิปฺปฏิปชฺชนฺตํ ฉคลกํ ทิสฺวา. เมตฺติยํ ภิกฺขุนินฺติ ตสฺสา ภิกฺขุนิกาลํ คเหตฺวา ภูตปุพฺพโวหาเรน โวหรนฺติ. เวฬุวเนเยวาติ เถรสฺส ภิกฺขาจารเวลํ อคฺคเหตฺวา เตหิ วุตฺตภตฺตุทฺเทสเวลํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. กจฺจิ โนติ กจฺจิ นุ. เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํสิตภาวํ อาโรเจสุํ.
อฺภาคสฺสาติ อฺโกฏฺาสสฺส, เถรสฺส มนุสฺสชาติภิกฺขุภาวโต อฺสฺส ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาตสฺส โกฏฺาสสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิทนฺติ สามฺโต นปุํสกนิทฺเทเสน ฉคลกํ นิทฺทิสติ, อิทํ ฉคลกชาตนฺติ อตฺโถ, อยํ ฉคลโกติ วุตฺตํ โหติ. อธิกรณสทฺทาเปกฺโข วา นปุํสกนิทฺเทโส, อิทํ ฉคลกสงฺขาตํ ¶ อธิกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺภาโค, อฺโกฏฺาโสติ อตฺโถ. อสฺสาติ ฉคลกสฺส. ‘‘อฺภาคสมฺพนฺธี อฺภาคิย’’นฺติ ปมวิคฺคหสฺส อตฺโถ, ‘‘อฺภาควนฺตํ อฺภาคิย’’นฺติ ทุติยวิคฺคหสฺส. ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ อฺภาคิยนฺติ ฉคลโกว ¶ วุตฺโต. ติรจฺฉานชาติฉคลกภาวฺจ เปตฺวา ปรมตฺถโต วิสุํ ฉคลเก อสติปิ ‘‘ปฏิมาย สรีร’’นฺติอาทีสุ วิย อเภเทปิ เภทกปฺปนาย ปวตฺตโลกโวหารวเสน ‘‘อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถี’’ติ วุตฺตํ.
อิทานิ ทฺวีหิปิ วิคฺคเหหิ วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โส’’ติอาทิมาห. โสติ โส ฉคลโก. ตสฺส ‘‘โหตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตโตติ ตโต มนุสฺสชาติโต ภิกฺขุภาวโต จ. โส วา อฺภาโคติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานชาติฉคลกภาวสงฺขาโต อฺภาโค. อสฺสาติ ฉคลกสฺส. โส ฉคลโก อฺภาคิยสงฺขาตํ ลภตีติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อธิกรณนฺติ อาธาโร, วตฺถุ อธิฏฺาน’’นฺติ เหฏฺา วุตฺตมตฺถํ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา จา’’ติอาทิมาห. เตสนฺติ เมตฺติยภูมชกานํ. อิมนฺติ ฉคลกํ. นามกรณสฺายาติ นามกรณสงฺขาตาย สฺาย โส ฉคลโก อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพติ โยเชตพฺพํ. ตฺหิ สนฺธายาติ ‘‘อวสฺสํ ตุมฺเหหิ เลโส โอฑฺฑิโต, กึ วทถ, กึ ปสฺสิตฺถา’’ติ อนุยุตฺเตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ฉคลกสฺส วิปฺปฏิปตฺตึ ทิสฺวา ทพฺพสฺส นามํ ตสฺส กริมฺหา’’ติ วุตฺตตฺตา ตสฺส นามกรณสฺาย อธิฏฺานภูตํ ตํ ฉคลกํ สนฺธาย. เต ภิกฺขูติ เต อนุยฺุชกา ภิกฺขู. อาปตฺติเลสมฺปิ ปุคฺคลสฺมึเยว อาโรเปตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ปุคฺคลานํเยว เลสา’’ติ วุตฺตํ. ปทภาชเน ปน…เป… เวทิตพฺพนฺติ อิมินา นามกรณสฺาย อาธารภูตสฺส ฉคลกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อวจเน การณํ วุตฺตํ.
๓๙๓. ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ เอตฺถ ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปกํ อฺํ อธิกรณสทฺทํ ปาฬิอาคตตทฺสาธารณตาย อุภยปทตฺถํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติ วุตฺตํ. อตฺถุทฺธารวเสน หิ อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ปาฬิยํ อาคตสทฺทปติรูปโก อฺโ สทฺโท อุภยปทตฺโถ อุทฺธริตพฺโพ, น จ อฺํ อุทฺธริตฺวา ¶ อฺสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา ปาฬิอาคตอธิกรณสทฺทปติรูปโก อฺโเยว อุภยปทตฺถสาธารโณ อธิกรณสทฺโท อุทฺธโฏติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อธิกรณนฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติ. ยา จ สา อวสาเน…เป… โจทนา วุตฺตาติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหติ, สงฺฆาทิเสเส สงฺฆาทิเสสทิฏฺี โหติ, ตฺเจ ปาราชิเกน โจเทตีติอาทิโจทนํ สนฺธาย วทติ.
เมถุนวีติกฺกมาปตฺติโย วตฺถุโต สภาคา, อิตราสํ ปน อทินฺนาทานาทิอาปตฺตีนํ สมาเนปิ ปาราชิกาปตฺติภาเว วตฺถุโต วิสภาคาติ อาห ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติ. สภาวสริกฺขาสริกฺขโตติ ¶ สภาเวน สทิสาสทิสภาวโต. ปมปาราชิกฺหิ ปมปาราชิกาปตฺติยา เมถุนราเคน สภาวโต สทิสํ, โทสสมฺปยุตฺตมนุสฺสวิคฺคเหน อสทิสํ. นนุ จ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ, สิยา อฺภาคิย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อุทฺเทสานุกฺกเมน ตพฺภาคิยตํ อนิทฺทิสิตฺวา อฺภาคิยตา ปมํ กสฺมา นิทฺทิฏฺาติ อาห ‘‘อาทิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘สภาควิสภาควตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺตนเยน.
‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สงฺฆกมฺมโต กิจฺจาธิกรณํ วิสุํ วิย ทิสฺสตีติ อาห ‘‘กึ ปนา’’ติอาทิ. ‘‘กิจฺจเมว กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิ. ตสฺส ตสฺส สงฺฆกมฺมสฺส ภควตา วุตฺตํ อิติกตฺตพฺพตาลกฺขณํเยว ตโต สงฺฆกมฺมสฺส นิปฺผชฺชนโต ผลูปจาเรน สงฺฆกมฺมนฺติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิ กโรติ, ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ปริวาสาทิสงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย มานตฺตาทีนํ อุปฺปชฺชนโต อุกฺเขปนียกมฺมสีมาสมฺมุติกมฺมาทีนิ อิสฺสาย โอสารณสีมาสมูหนนาทิกมฺมานํ อุปฺปชฺชนโต จ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๓๙๕-๔๐๐. สวตฺถุกํ กตฺวาติ ปุคฺคลาธิฏฺานํ กตฺวา. ทีฆาทิโนติ ทีฆรสฺสกาฬโอทาตาทิโน. ทิฏฺาทิโนติ ทิฏฺสุตาทิโน. โลหปตฺตสทิโสติ ¶ อโยปตฺตสทิโส. องฺคานิ ปมทุฏฺโทเส วุตฺตสทิสานิ, อิธ ปน กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนา อธิกา.
ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๐. ทสเม เย ทุพฺพลา โหนฺติ อปฺปถามา, น สกฺโกนฺติ อรฺกาทีนิ เสวนฺตา ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, เต สนฺธายาห ‘‘พหูนํ กุลปุตฺตานํ มคฺคนฺตรายาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโนติ ‘‘ขโม โหติ สีตสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตสีตุณฺหาทิสหนลกฺขณาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต. พฺยฺชนปทเมว ปรมํ อสฺสาติ ปทปรโม. ยสฺส หิ ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ ¶ , อยํ ‘‘ปทปรโม’’ติ วุจฺจติ. อภิสมฺภุณิตฺวาติ นิปฺผาเทตฺวา. นาภิสมฺภุณาตีติ น สมฺปาเทติ, อรฺวาสํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกตีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมโต อเปตํ อุทฺธมฺมํ. อสพฺพฺู อสฺสาติ เตสํ อนุรูปสฺส อชานนโต อสพฺพฺู ภเวยฺย. ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต ‘‘จตฺตาโร ปน…เป… ปฏิกฺขิตฺตเมวา’’ติ วุตฺตํ. อิทเมว วจนํ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘อฏฺ มาเส โข มยา เทวทตฺต รุกฺขมูลเสนาสนํ อนฺุาต’’นฺติ วุตฺตํ.
ตีหิ โกฏีหีติ ตีหิ อากาเรหิ, ตีหิ การเณหีติ อตฺโถ. ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตนฺติ ทิฏฺํ สุตนฺติ อิทํ อุภยํ อนิสฺสาย ‘‘กึ นุ โข อิทํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วธิตฺวา สมฺปาทิต’’นฺติ เกวลเมว ปริสงฺกิตํ. มจฺฉพนฺธนํ ชาลํ, วาคุรา มิคพนฺธนี. กปฺปตีติ ยทิ เตสํ วจเนน อาสงฺกา อุปจฺฉินฺนา โหติ, วฏฺฏติ. ปวตฺตมํสนฺติ วิกฺกายิกมํสํ. มงฺคลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อาหุนปาหุนาทิเก สงฺคณฺหาติ. ภิกฺขูนํเยว อตฺถายาติ เอตฺถ อฏฺานปฺปยุตฺโต เอว-สทฺโท, ภิกฺขูนํ อตฺถาย อกตเมวาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘ภิกฺขูนฺจ ทสฺสาม, มงฺคลาทีนฺจ อตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ มิสฺเสตฺวา กตมฺปิ น วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘ภิกฺขูนํเยวาติ ¶ อวธารเณน ภิกฺขูนฺจ อฺเสฺจ อตฺถาย กตํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหตีติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย กเตปิ สพฺเพน สพฺพํ ปริสงฺกิตาภาวมาห. ตเมวตฺถํ อาวิกาตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิตเรสํ วฏฺฏตีติ อชานนฺตานํ วฏฺฏติ, ชานโต เอเวตฺถ อาปตฺติ โหตีติ. เตเยวาติ เย อุทฺทิสฺส กตํ, เตเยว. อุทฺทิสกตมํสปริโภคโต อกปฺปิยมํสปริโภคสฺส วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อกปฺปิยมํสํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุริมสฺมึ สจิตฺตกา อาปตฺติ, อิตรสฺมึ อจิตฺตกา. เตนาห ‘‘อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภฺุชนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยวา’’ติ. ‘‘ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภฺุชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณน อนาปตฺติ สิยา. อชานิตฺวาปิ ภฺุชนฺตสฺเสว หิ อาปตฺติ วุตฺตา. วตฺตนฺติ วทนฺตีติ อิมินา อาปตฺติ นตฺถีติ ทสฺเสติ.
สลฺเลขา วุตฺติ เอเตสนฺติ สลฺเลขวุตฺติโน. พาหุลิโกติ เอกสฺส ล-การสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตํ. กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ. สงฺฆเภทโก หิ เอกํ กปฺปํ อสีติภาเค กตฺวา ตโต เอกภาคมตฺตํ กาลํ นิรเย ติฏฺเยฺยาติ อายุกปฺปํ สนฺธาย ‘‘กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กปฺปฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๘๐๙) ปน ‘‘สณฺหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติ. สเจปิ หิ สฺเว กปฺโป วินสฺสิสฺสตีติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวว ¶ มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ กปฺปวินาเสเยวาติ อายุกปฺปวินาเสเยวาติ อตฺเถ สติ นตฺถิ วิโรโธ. สณฺหนฺเตติ อิทมฺปิ ‘‘สฺเว วินสฺสิสฺสตี’’ติ วิย อภูตปริกปฺปนวเสน วุตฺตํ. ‘‘เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจตี’’ติ เอตฺถาปิ ตโต ปรํ กปฺปาภาเว อายุกปฺปสฺสปิ อภาวโตติ อวิโรธโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา. พฺรหฺมํ ปฺุนฺติ เสฏฺํ ปฺุํ. กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตีติ เอตฺถาปิ อายุกปฺปเมว.
๔๑๑. ลทฺธินานาสํวาสเกนาติ ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส, ลทฺธินานาสํวาสกภาเวนาติ อตฺโถ. กมฺมนานาสํวาสเกนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺถา นานาสํวาสเกน สหิตสฺส สมานสํวาสกสฺสปิ ¶ สงฺฆสฺส อสมานสํวาสกตฺตํ อาปชฺเชยฺย. ตตฺถ ลทฺธินานาสํวาสโก นาม อุกฺขิตฺตานุวตฺตโก. โส หิ อตฺตโน ลทฺธิยา นานาสํวาสโก ชาโตติ ‘‘ลทฺธินานาสํวาสโก’’ติ วุจฺจติ. กมฺมนานาสํวาสโก นาม อุกฺเขปนียกมฺมกโต. โส หิ อุกฺเขปนียกมฺมวเสน นานาสํวาสโก โหตีติ ‘‘กมฺมนานาสํวาสโก’’ติ วุจฺจติ. วิรหิโตติ วิมุตฺโต. กายสามคฺคีทานํ เตสุ เตสุ สงฺฆกมฺเมสุ หตฺถปาสูปคมนวเสน เวทิตพฺพํ.
‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา เภทนสํวตฺตนิกสฺส อธิกรณสฺส สมาทาย ปคฺคณฺหโต ปุพฺเพปิ ปกฺขปริเยสนาทิวเสน สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมานิ วตฺถูนีติ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ. กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหาเรนาติ ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทิอฏฺารสเภทกรวตฺถุทีปเกน โวหาเรน. อนุสฺสาวนายาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน. ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆเภโท โหตีติ เอตฺถ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา สงฺฆเภเท ปธานการณนฺติ เวทิตพฺพํ. โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวสเอน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คเหตฺวา อาเวณิกกมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. อพฺภุสฺสิตนฺติ อพฺภุคฺคตํ. อจฺเฉยฺยาติ วิหเรยฺย, ปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ.
‘‘ลชฺชี ¶ รกฺขิสฺสตี’’ติ วจนโต อาปตฺติภเยน อาโรจนํ ลชฺชีนํเยว ภาโรติ อาห ‘‘ลชฺชีหิ ภิกฺขูหี’’ติ. อลชฺชิสฺสปิ อนาโรเจนฺตสฺส อาปตฺติเยว ‘‘เย ปสฺสนฺติ, เย สุณนฺตี’’ติ วจนโต. สมาคจฺฉตูติ เอกี ¶ ภวตุ. เอกีภาโว จ สมานลทฺธิวเสน โหตีติ อาห ‘‘เอกลทฺธิโก โหตู’’ติ. สมฺปตฺติยาติ สีลาทิสมฺปตฺติยา. ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส อนาปตฺติภาวโต ‘‘โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ วุตฺตํ. อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏนฺติ วิสุํ วิสุํ วทนฺตานํ คณนาย ทุกฺกฏํ. ปโหนฺเตนาติ คนฺตุํ สมตฺเถน อคิลาเนน. สงฺฆเภทสฺส ครุกภาวโต อวสฺสํ กตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ ‘‘ทูเรปิ ภาโรเยวา’’ติ วุตฺตํ, อาปตฺติ ปน อทฺธโยชนพฺภนฺตเร คนฺตุํ สมตฺถสฺส อคิลานสฺเสว เวทิตพฺพา.
๔๑๖. อสมนุภาสนฺตสฺสาติ กมฺมการเก กตฺตุนิทฺเทโสติ อาห ‘‘อสมนุภาสิยมานสฺสา’’ติ. ตติยกมฺมวาจาย ปฏินิสฺสชฺชนฺโต ตฺติยา ทุกฺกฏํ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ อาปชฺชติเยวาติ อาห ‘‘ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺตี’’ติ. อสฺสาติ เทวทตฺตสฺส. กเตน ภวิตพฺพนฺติ สมนุภาสนกมฺเมน กเตน ภวิตพฺพํ. อตฺตโน รุจิมตฺเตน วเทยฺยาติอาทิกมฺมิกตฺตา อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาเยน วเทยฺย. อปฺตฺเต สิกฺขาปเท สมนุภาสนกมฺมสฺเสว อภาวโต ‘‘น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺเตเนว หิ สมนุภาสนกมฺมํ อนฺุาตํ. อุทฺทิสฺส อนฺุาตโตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถน’’นฺติอาทึ (จูฬว. ๒๗๓) อุทฺทิสฺส อนฺุาตํ สนฺธาย วทนฺติ. อนาปตฺติยนฺติ อนาปตฺติวาเร. อาปตฺตึ โรเปตพฺโพติ อนิสฺสชฺชนปจฺจยา อาปนฺนปาจิตฺติยาปตฺตึ อุกฺเขปนียกมฺมกรณตฺถํ อาโรเปตพฺโพติ อตฺโถ.
อาปตฺติเยว น ชาตาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ น ชาตาเยวาติ อตฺโถ. สา ปเนสาติ สา ปน เอสา อนาปตฺติ. ติวงฺคิกนฺติ กายวาจาจิตฺตวเสน ติวงฺคิกํ, กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. สจิตฺตกนฺติ ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ ชานนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. เภทาย ปรกฺกมนํ, ธมฺมกมฺเมน สมนุภาสนํ, กมฺมวาจาปริโยสานํ, อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๑๗-๔๑๘. เอกาทสเม ¶ ¶ ยํ วจนํ สมคฺเคปิ วคฺเค อวยวภูเต กโรติ ภินฺทติ, ตํ กลหการกวจนํ อิธ วคฺคนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตี’’ติ. อสามคฺคิปกฺเข ภวา อสามคฺคิปกฺขิยา, กลหกา. เตสํ วจนํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ, อสามคฺคิปกฺเข วา ภวํ วจนํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ. ยสฺมา อุพฺพาหิกาทิกมฺมํ พหูนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรตี’’ติ อิทํ นิคฺคหวเสน กตฺตพฺพกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. องฺคานิ ปเนตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ ปหาย อนุวตฺตนํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตสทิสาเนว.
ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๒๔. ทฺวาทสเม วมฺภนวจนนฺติ ครหวจนํ. อปสาเทตุกาโมติ ขิปิตุกาโม, ตชฺเชตุกาโม วา, ฆฏฺเฏตุกาโมติ วุตฺตํ โหติ. สฏสทฺโท ปติตสทฺเทน สมานตฺโถ. วิเสสนสฺส จ ปรนิปาตํ กตฺวา ติณกฏฺปณฺณสฏนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณ’’นฺติ. เกนาปีติ วาตสทิเสน นทีสทิเสน จ เกนาปิ.
๔๒๕-๔๒๖. วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ กิสฺมิฺจิ วุจฺจมาเน อสหนโต โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโย. ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปฺปฏิกูลคฺคาเห วิปจฺจนีกวาเท อนาทเร ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ. เตนาห ‘‘ทุกฺเขน กิจฺเฉน วทิตพฺโพ’’ติอาทิ. ทุพฺพจภาวกรณีเยหีติ ทุพฺพจภาวการเกหิ. กตฺตุอตฺเถ อนียสทฺโท ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห ‘‘เย ธมฺมา ทุพฺพจํ ปุคฺคลํ กโรนฺตี’’ติอาทิ. ปาปิกา อิจฺฉา เอตสฺสาติ ปาปิจฺโฉ, ตสฺส ภาโว ปาปิจฺฉตา, อสนฺตคุณสมฺภาวนตา ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตา ปาปิจฺฉตาติ เวทิตพฺพา. อตฺตุกฺกํสกา จ เต ปรวมฺภกา จาติ อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกา. เย อตฺตานํ อุกฺกํสนฺติ อุกฺขิปนฺติ อุจฺเจ าเน เปนฺติ, ปรฺจ วมฺเภนฺติ ครหนฺติ นีเจ าเน เปนฺติ, เตสเมตํ อธิวจนํ. เตสํ ภาโว อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกตา. กุชฺฌนสีโล โกธโน, ตสฺส ภาโว โกธนตา. กุชฺฌนลกฺขณสฺส โกธสฺเสตํ อธิวจนํ.
ปุพฺพกาเล ¶ ¶ โกโธ, อปรกาเล อุปนาโหติ อาห ‘‘โกธเหตุ อุปนาหิตา’’ติ. ตตฺถ อุปนหนสีโล, อุปนาโห วา เอตสฺส อตฺถีติ อุปนาหี, ตสฺส ภาโว อุปนาหิตา. ปุนปฺปุนํ จิตฺตปริโยนทฺธลกฺขณสฺส โกธสฺเสเวตํ อธิวจนํ. สกิฺหิ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว, ตตุตฺตริ อุปนาโห. อภิสงฺโคติ ทุมฺโมจนีโย พลวอุปนาโห. โส อสฺส อตฺถีติ อภิสงฺคี, ตสฺส ภาโว อภิสงฺคิตา. ทุมฺโมจนียสฺส พลวอุปนาหสฺเสตํ อธิวจนํ. โจทกํ ปฏิปฺผรณตาติ โจทกสฺส ปฏิวิรุทฺเธน ปจฺจนีเกน หุตฺวา อวฏฺานํ. โจทกํ อปสาทนตาติ ‘‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺิสฺสสี’’ติ เอวํ โจทกสฺส ฆฏฺฏนา. โจทกสฺส ปจฺจาโรปนตาติ ‘‘ตฺวมฺปิ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ตาว ปฏิกโรหี’’ติ เอวํ โจทกสฺส อุปริ ปฏิอาโรปนตา.
อฺเน อฺํ ปฏิจรณตาติ อฺเน การเณน, วจเนน วา อฺสฺส การณสฺส, วจนสฺส วา ปฏิจฺฉาทนวเสน จรณตา. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรสทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ ปฏิจฺฉาทนตาติ อตฺโถ. ตาย สมนฺนาคโต หิ ปุคฺคโล ยํ โจทเกน โทสวิภาวนการณํ, วจนํ วา วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเเนว โจทนาย อมูลิกภาวทีปเนน การเณน, ตทตฺถโพธเกน วจเนน วา ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน, กํ ภณถ, กึ ภณถา’’ติ วา วตฺวา ‘‘เอวรูปํ กิฺจิ ตยา ทิฏฺ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปนาเมตฺวา วิกฺเขปํ กโรนฺโตปิ อฺเนฺํ ปฏิจฺฉาเทติ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺเ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ตโต ‘‘ราชคหํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วตฺวา พหิทฺธา กถาวิกฺขิปนมฺปิ อตฺถโต อฺเนฺํ ปฏิจรณเมวาติ วิสุํ น คหิตํ.
อปทาเนนาติ อตฺตโน จริยาย. อปทียนฺติ หิ โทสา เอเตน ทกฺขียนฺติ, ลุยนฺติ ฉิชฺชนฺตีติ วา อปทานํ, สตฺตานํ สมฺมา มิจฺฉา วา วตฺตปฺปโยโค. น สมฺปายนตาติ ‘‘อาวุโส, ตฺวํ กุหึ วสสิ, กํ นิสฺสาย วสสี’’ติ วา ‘‘ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘มยา เอส อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ’ติ, ตฺวํ ¶ ตสฺมึ สมเย กึ กโรสิ, อยํ กึ กโรติ, กตฺถ จ ตฺวํ อโหสิ, กตฺถ อย’’นฺติ วา อาทินา นเยน จริยํ ปุฏฺเน สมฺปาเทตฺวา อกถนํ.
มกฺขิปฬาสิตาติ เอตฺถ ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข, โส เอตสฺส อตฺถีติ มกฺขี. ตาทิโส ¶ ปุคฺคโล อคาริโย อนคาริโย วา สมาโน ปเรสํ สุกตกรณํ วินาเสติ. อคาริโยปิ หิ เกนจิ อนุกมฺปเกน ทลิทฺโท สมาโน อุจฺจฏฺาเน ปิโต, อปเรน สมเยน ‘‘กึ ตยา มยฺหํ กต’’นฺติ ตสฺส สุกตกรณํ วินาเสติ. อนคาริโยปิ สามเณรกาลโต ปภุติ อาจริเยน วา อุปชฺฌาเยน วา จตูหิ ปจฺจเยหิ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ จ อนุคฺคเหตฺวา ธมฺมกถานยปกรณโกสลฺลาทีนิ สิกฺขาปิโต, อปเรน สมเยน ราชราชมหามตฺตาทีหิ สกฺกโต ครุกโต อาจริยุปชฺฌาเยสุ อจิตฺตีกโต จรมาโน ‘‘อยํ อมฺเหหิ ทหรกาเล เอว อนุคฺคหิโต สํวทฺธิโต จ, อถ จ ปนิทานิ นิสฺสิเนโห ชาโต’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘กึ มยฺหํ ตุมฺเหหิ กต’’นฺติ เตสํ สุกตกรณํ วินาเสติ.
‘‘พหุสฺสุเตปิ ปุคฺคเล อชฺโฌตฺถริตฺวา อีทิสสฺส เจว พหุสฺสุตสฺส อนิยตา คติ, ตว วา มม วา โก วิเสโส’’ติอาทินา นเยน อุปฺปชฺชมาโน ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. โส ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมกรณรโส. ตถา เหส ปเรสํ คุเณ ฑํสิตฺวา วิย อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ ปฬาโสติ วุจฺจติ, โส เอตสฺส อตฺถีติ ปฬาสี. มกฺขี จ ปฬาสี จ มกฺขิปฬาสิโน, เตสํ ภาโว มกฺขิปฬาสิตา. อตฺถโต ปน มกฺโข เจว ปฬาโส จ.
อิสฺสติ ปรสมฺปตฺตึ น สหตีติ อิสฺสุกี. มจฺฉรายติ อตฺตโน สมฺปตฺตึ นิคูหติ, ปเรสํ สาธารณภาวํ น สหติ, มจฺเฉรํ วา เอตสฺส อตฺถีติ มจฺฉรี. สยติ น สมฺมา ภาสตีติ สโ, อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขเณน สาเยฺเยน สมนฺนาคโต เกราฏิกปุคฺคโล. เกราฏิโก จ อานนฺทมจฺโฉ วิย โหติ. อานนฺทมจฺโฉ นาม กิร มจฺฉานํ นงฺคุฏฺํ ทสฺเสติ, สปฺปานํ สีสํ ‘‘ตุมฺเหหิ สทิโส อห’’นฺติ ชานาเปตุํ, เอวเมว เกราฏิโก ปุคฺคโล ยํ ยํ สุตฺตนฺติกํ วา อาภิธมฺมิกํ ¶ วา อุปสงฺกมติ, ตํ ตํ เอวํ วทติ ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสี, ตุมฺเห มยฺหํ อนุกมฺปกา, นาหํ ตุมฺเห มฺุจามี’’ติ ‘‘เอวเมเต ‘สคารโว อยํ อมฺเหสุ สปฺปติสฺโส’ติ มฺิสฺสนฺตี’’ติ. สาเยฺเยน หิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส อสนฺตคุณสมฺภาวเนน จิตฺตานุรูปกิริยาวิหรโต ‘‘เอวํจิตฺโต เอวํกิริโย’’ติ ทุวิฺเยฺยตฺตา กุจฺฉึ วา ปิฏฺึ วา ชานิตุํ น สกฺกา. ยโต โส –
‘‘วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;
สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๖; วิภ. อฏฺ. ๘๙๔; มหานิ. อฏฺ. ๑๖๖) –
เอวํ ¶ วุตฺตยกฺขสูกรสทิโส โหติ. กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, สา อสฺส อตฺถีติ มายาวี.
ถมฺภสมงฺคิตาย ถทฺโธ. วาตภริตภสฺตาสทิสถทฺธภาวปคฺคหิตสิรอนิวาตวุตฺติการกโรติ ถมฺโภ. เยน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล คิลิตนงฺคลสทิโส วิย อชคโร, วาตภริตภสฺตา วิย จ ถทฺโธ หุตฺวา ครุฏฺานิเย ทิสฺวา โอนมิตุมฺปิ น อิจฺฉติ, ปริยนฺเตเนว จรติ. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน, โส เอตสฺส อตฺถีติ อติมานี.
สํ อตฺตโน ทิฏฺึ ปรามสติ สภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสี. อาธานํ คณฺหาตีติ อาธานคฺคาหี. ‘‘อาธาน’’นฺติ ทฬฺหํ วุจฺจติ, ทฬฺหคฺคาหีติ อตฺโถ. ยุตฺตํ การณํ ทิสฺวาว ลทฺธึ ปฏินิสฺสชฺชตีติ ปฏินิสฺสคฺคี, ทุกฺเขน กิจฺเฉน กสิเรน พหุมฺปิ การณํ ทสฺเสตฺวา น สกฺกา ปฏินิสฺสคฺคึ กาตุนฺติ ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี, โย อตฺตโน ทิฏฺึ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหิตฺวา อปิ พุทฺธาทีหิ การณํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตาทิโส หิ ปุคฺคโล ยํ ยเทว ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา สุณาติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริเยหิ กถิตํ, เอวํ อมฺเหหิ สุต’’นฺติ กุมฺโมว องฺคานิ สเก กปาเล อนฺโตเยว สโมทหติ. ยถา หิ กจฺฉโป อตฺตโน ปาทาทิเก องฺเค เกนจิ ฆฏฺฏิเต สพฺพานิ องฺคานิ อตฺตโน กปาเลเยว สโมทหติ, น พหิ นีหรติ, เอวมยมฺปิ ‘‘น สุนฺทโร ตว คาโห, ฉฑฺเฑหิ น’’นฺติ วุตฺโต ตํ น วิสฺสชฺเชติ, อนฺโตเยว อตฺตโน หทเย เอว เปตฺวา วิจรติ. ยถา กุมฺภีลา คหิตํ น ปฏินิสฺสชฺชนฺติ, เอวํ กุมฺภีลคฺคาหํ คณฺหาติ, น วิสฺสชฺเชติ. มกฺขิปฬาสิตาทิยุคฬตฺตเยน ¶ ทสฺสิเต มกฺขปฬาสาทโย ฉ ธมฺเม วิสุํ วิสุํ คเหตฺวา ‘‘เอกูนวีสติ ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อนุมานสุตฺตฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๘๑) ปน มกฺขปฬาสาทโยปิ ยุคฬวเสน เอกํ กตฺวา ‘‘โสฬส ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ.
ปกาเรหิ อาวหนํ ปทกฺขิณํ, ตโต ปทกฺขิณโต คหณสีโล ปทกฺขิณคฺคาหี, น ปทกฺขิณคฺคาหี อปฺปทกฺขิณคฺคาหี. โย วุจฺจมาโน ‘‘ตุมฺเห มํ กสฺมา วทถ, อหํ อตฺตโน กปฺปิยากปฺปิยํ สาวชฺชานวชฺชํ อตฺถานตฺถํ ชานามี’’ติ วทติ, อยํ อนุสาสนึ ปทกฺขิณโต น คณฺหาติ, วามโตว คณฺหาติ, ตสฺมา ‘‘อปฺปทกฺขิณคฺคาหี’’ติ วุจฺจติ, เตนาห ‘‘ยถานุสิฏฺ’’นฺติอาทิ.
อุทฺเทเสติ ¶ ปาติโมกฺขุทฺเทเส. อถ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ กถํ ปาติโมกฺขุทฺเทสปริยาปนฺนานีติ อาห ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยาติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา’’ติ. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติ หิ อิมินา สพฺพาปิ อาปตฺติโย นิทานุทฺเทเส สงฺคหิตาเยว โหนฺติ. ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตาติ ลพฺภมานวเสน วุตฺตํ. สหธมฺมิเกน สหการเณนาติปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘วจนายา’’ติ นิสฺสกฺเก สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘ตโต มม วจนโต’’ติ. องฺคานิ เจตฺถ ปมสงฺฆเภทสทิสานิ. อยํ ปน วิเสโส – ยถา ตตฺถ เภทาย ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ อวจนียกรณตา ทฏฺพฺพา.
ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๓๑. เตรสเม กีฏาคิรีติ ตสฺส นิคมสฺส นามํ. ตฺหิ สนฺธาย ปรโต ‘‘น อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ ภิกฺขูหิ กีฏาคิริสฺมึ วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตน ปน โยคโต โส ชนปโทปิ ‘‘กีฏาคิริ’’อิจฺเจว สงฺขฺยํ คโตติ อาห ‘‘เอวํนามเก ชนปเท’’ติ. อาวาเส นิยุตฺตา อาวาสิกา, นิพทฺธวาสิโน. เต อกตํ เสนาสนํ กโรนฺติ, ชิณฺณํ ปฏิสงฺขโรนฺติ, กเต อิสฺสรา โหนฺติ. เตนาห ‘‘โส เยสํ อายตฺโต…เป… เต อาวาสิกา’’ติ ¶ . นิวาโส นิวาสมตฺตํ เอเตสํ อตฺถีติ เนวาสิกาติ อาห ‘‘เย ปน เกวล’’นฺติอาทิ. เตติ อสฺสชิปุนพฺพสุกา. ฉ ชนาติ ปณฺฑุโก โลหิตโก เมตฺติโย ภูมชโก อสฺสชิ ปุนพฺพสุโกติ อิเม ฉ ชนา. สมฺมาติ อาลปนวจนเมตํ. อายมุขภูตาติ อายสฺส มุขภูตา. ธุรฏฺาเนติ สาวตฺถิยา อวิทูเร าเน. วสฺสาเน เหมนฺเต จาติ ทฺวีสุ อุตูสุ วสฺสนโต ‘‘ทฺวีหิ เมเฆหี’’ติ วุตฺตํ. ทิยฑฺฒภิกฺขุสหสฺสโต คณาจริยานํ ฉนฺนํ ชนานํ อธิกตฺตา ‘‘สมธิก’’นฺติ วุตฺตํ, สาธิกนฺติ อตฺโถ. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน อาคโต. อกตวตฺถุนฺติ อกตปุพฺพํ อภินววตฺถุํ.
กณิการาทโย ปุปฺผรุกฺขา, ชาติสุมนาทโย ปุปฺผคจฺฉา. โกฏฺฏนนฺติ สยํ ฉินฺทนํ. โกฏฺฏาปนนฺติ ‘‘อิมํ ฉินฺท ภินฺทา’’ติ อฺเหิ เฉทาปนํ. อาฬิยา พนฺธนนฺติ ยถา คจฺฉมูเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, ตถา สมนฺตโต พนฺธนํ. อุทกสฺสาติ อกปฺปิยอุทกสฺส. กปฺปิยอุทกสิฺจนนฺติ อิมินาว สิฺจาปนมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นนุ ‘‘อุทกสฺส เสจนํ เสจาปน’’นฺติ อิมินาว สามฺโต กปฺปิยากปฺปิยอุทกสิฺจนาทึ สกฺกา สงฺคเหตุํ, ตสฺมา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ ¶ กสฺมา วิสุํ วุตฺตนฺติ? ‘‘อารามาทิอตฺถํ โรปิเต อกปฺปิยโวหาเรสุปิ กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วฏฺฏตี’’ติ วกฺขมานตฺตา อิธาปิ วิภาคํ กตฺวา กปฺปิยอุทกสิฺจนาทิ วิสุํ ทสฺสิตํ. หตฺถมุขปาทโธวนนฺหาโนทกสิฺจนนฺติ อิมินาปิ ปการนฺตเรน กปฺปิยอุทกสิฺจนเมว ทสฺเสติ. ‘‘อกปฺปิยโวหาโร’’ติ โกฏฺฏนขณนาทิวเสน สยํ กรณสฺสปิ กถํ สงฺคโหติ? อกปฺปิยนฺติ โวหรียตีติ อกปฺปิยโวหาโรติ อกปฺปิยภูตํ กรณการาปนาทิ สพฺพเมว สงฺคหิตํ, น ปน อกปฺปิยวจนมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กปฺปิยโวหาเรปิ เอเสว นโย. สุกฺขมาติกาย อุชุกรณนฺติ อิมินา ปุราณปณฺณาทิหรณมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กุทาลาทีนิ ภูมิยํ เปตฺวา านโต หตฺเถน คเหตฺวา านเมว ปากฏตรนฺติ ‘‘โอภาโส’’ติ วุตฺตํ.
มหาปจฺจริวาทมฺหิ ปติฏฺเปตุกาโม ปจฺฉา วทติ. วนตฺถายาติ อิทํ เกจิ ‘‘วตตฺถายา’’ติ ปนฺติ, เตสํ วติอตฺถายาติ อตฺโถ. อกปฺปิยโวหาเรปิ เอกจฺจํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวลฺจ เสส’’นฺติอาทิมาห. ยํ กิฺจิ มาติกนฺติ สุกฺขมาติกํ วา อสุกฺขมาติกํ วา. ‘‘กปฺปิยอุทกํ ¶ สิฺจิตุ’’นฺติ อิมินา ‘‘กปฺปิยอุทกํ สิฺจถาติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ทสฺเสติ. สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ อิมินา ‘‘โรเปหีติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติปิ สิทฺธํ. อฺตฺถาย วา กโรนฺตสฺสาติ วตฺถุปูชาทิอตฺถํ กโรนฺตสฺส. กสฺมา น อนาปตฺตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย คนฺถนาทีสุ กสฺมา น อนาปตฺติ. อนาปตฺติเยวาติ ปฏิวจนํ ทตฺวา อิทานิ ตเมว อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน. ตถา วตฺถุปูชนตฺถายปิ อนาปตฺติเยวาติ รตนตฺตยปูชนตฺถายปิ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จ คนฺถาปเน อนาปตฺติเยวาติ อตฺโถ.
‘‘ตถา วตฺถุปูชนตฺถายา’’ติ หิ สามฺโต วุตฺเตปิ ‘‘ยถา หิ ตตฺถ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จา’’ติ วุตฺตตฺตา กปฺปิยโวหาราทีหิ คนฺถาปเน เอว อนาปตฺติ วิฺายติ, น สยํ คนฺถเน, เตเนว ปโร สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจเทนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ยถา อารามาทิอตฺถํ กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถเนปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. วุตฺตนฺติอาทิ อาจริยสฺส ปริหาโร. อถ ‘‘น ปน มหาอฏฺกถาย’’นฺติ กสฺมา วทติ. มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตมฺปิ หิ ปมาณเมวาติ นายํ วิโรโธ, มหาอฏฺกถายํ อวุตฺตมฺปิ ตตฺเถว วุตฺเตน สํสนฺทิตฺวา ปมาณเมวาติ ปติฏฺาเปตุํ วุตฺตตฺตา. ตํ กถนฺติ มฺเยฺยาสีติ สมฺพนฺโธ. มหาอฏฺกถายฺจ กปฺปิยอุทกเสจนํ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ เอตฺถายมธิปฺปาโย. กิฺจาปิ มหาอฏฺกถายํ อารามาทิอตฺถาย ¶ กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรปนํ น วุตฺตํ, กปฺปิยอุทกสฺส ปน สยํ สิฺจนํ วุตฺตเมว, ตสฺมา ยถา อารามาทิอตฺถาย กปฺปิยอุทกํ สยํ สิฺจิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตถา วตฺถุปูชนตฺถาย สยํ คนฺถนมฺปิ กสฺมา น วฏฺฏตีติ. ตมฺปิ น วิรุชฺฌตีติ ยเทตํ อารามาทิอตฺถาย สยํ โรปนํ กปฺปิยอุทกสิฺจนฺจ วุตฺตํ, ตมฺปิ น วิรุชฺฌติ. กถํ ตํ น วิรุชฺฌตีติ อาห ‘‘ตตฺรหี’’ติอาทิ. เอตํ วุตฺตนฺติ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปีติ เอตํ วุตฺตํ. อฺตฺร ปน ปริยาโย อตฺถีติ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ กุลสงฺคหตฺถาย โรปนสิฺจนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา ตโต อฺตฺร อารามาทิอตฺถาย มาลาวจฺฉโรปเน ปริยาโย อตฺถิ. ตตฺถ ปริยายํ อิธ ¶ จ ปริยายาภาวํ ตฺวาติ ตตฺถ ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตี’’ติอาทีสุ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วิเสสวจนสพฺภาวโต ปริยายํ, อิธ ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติอาทีสุ ตถาวิธวิเสสวจนาภาวโต ปริยายาภาวฺจ ตฺวา.
นนุ จ ยถา ‘‘คนฺเถนฺตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปริยาโย น ลพฺภตีติ ยสฺส กสฺสจิ อตฺถาย สยํ คนฺถนํ น วฏฺฏติ, เอวํ ‘‘คนฺถาเปนฺตี’’ติ สามฺโต วุตฺตตฺตา ปริยาเยน คนฺถาปนมฺปิ น วฏฺฏตีติ อาปชฺชติ. เอวฺจ สติ ปรโต ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหีติอาทินา กปฺปิยวจเนน กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ, ปริยาเยน หิ การาปนํ คนฺถาปนเมว น โหติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยน ปริยายโต การาปนํ วฏฺฏติ. สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ วินิจฺฉยเมว สงฺเขปโต นิคเมติ. หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺตีติ วตฺถุปูชนตฺถาย หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺติ. กุลิตฺถิอาทีนํ อตฺถาย หรณโตติ กุลิตฺถิอาทีนํ หรณสฺส ตตฺถ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘หรณาธิกาเร หี’’ติอาทิ. มาลนฺติ ปุปฺผทามํ. มฺชรี วิยาติ กุสุมมฺชรี วิย. หารสทิสนฺติ มุตฺตาหารสทิสํ.
ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจาติ ปถวีขณนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ, กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ. อกปฺปิยโวหาเรนาติ ‘‘อิทํ ขณ, อิทํ โรเปหี’’ติอาทิอกปฺปิยโวหาเรน. ทุกฺกฏเมวาติ กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ. อุภยตฺถาติ กปฺปิยากปฺปิยปถวิยํ. สพฺพตฺถาติ กุลสงฺคหปริโภคอารามาทิอตฺถาย โรปิเต. ทุกฺกฏมฺปีติ น เกวลํ ปาจิตฺติยเมว. กปฺปิเยนาติ กปฺปิเยน อุทเกน. เตสํเยว ทฺวินฺนนฺติ กุลทูสนปริโภคานํ. ทุกฺกฏนฺติ กุลสงฺคหตฺถาย สยํ สิฺจเน กปฺปิยโวหาเรน อกปฺปิยโวหาเรน วา สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ, ปริโภคตฺถาย ปน สยํ สิฺจเน อกปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน จ ทุกฺกฏํ. อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพาติ เอตฺถ สยํ สิฺจเน ¶ ธาราปจฺเฉทคณนาย อาปตฺติคณนา เวทิตพฺพา. สิฺจาปเน ปน ปุนปฺปุนํ อาณาเปนฺตสฺส วาจาย วาจาย อาปตฺติ, สกึ อาณตฺตสฺส พหูนํ สิฺจเนปิ เอกาว.
ทุกฺกฏปาจิตฺติยานีติ กุลสงฺคหปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ. อฺตฺถาติ วตฺถุปูชาทิอตฺถาย โอจินเน. สกึ อาณตฺโตติ อกปฺปิยโวหาเรน อาณตฺโต. ปาจิตฺติยเมวาติ อกปฺปิยวจเนน ¶ อาณตฺตตฺตา ปาจิตฺติยํ. กปฺปิยวจเนน ปน วตฺถุปูชาทิอตฺถาย โอจินาเปนฺตสฺส อนาปตฺติเยว.
คนฺถเนน นิพฺพตฺตํ คนฺติมํ. เอส นโย เสเสสุปิ. น วฏฺฏตีติ กุลสงฺคหตฺถาย วตฺถุปูชาทิอตฺถาย วา วุตฺตนเยน กโรนฺตสฺส จ การาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภิกฺขุสฺส วา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ ปุปฺผานิ วิชฺฌิตฺวา เปนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุปรูปริ วิชฺฌิตฺวา ฉตฺตสทิสํ กตฺวา อาวุณนโต ‘‘ฉตฺตาติฉตฺตํ วิยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กทลิกฺขนฺธมฺหี’’ติอาทินา วุตฺตํ สพฺพเมว สนฺธาย ‘‘ตํ อติโอฬาริกเมวา’’ติ วุตฺตํ, สยํ กโรนฺตสฺส อกปฺปิยวจเนเนว การาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏเมวาติ อตฺโถ. ปุปฺผวิชฺฌนตฺถนฺติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผานิ วิชฺฌิตุํเยว กณฺฏกํ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ, ปุปฺผทามาทิพนฺธนตฺถํ ปน วฏฺฏติ. กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ จ อิทํ อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํ. ปเวเสตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผจฺฉิทฺเท อปเวเสตฺวา อุปรูปริ เปตุํ วฏฺฏติ. ชาลมยํ วิตานํ ชาลวิตานํ. นาคทนฺตกมฺปิ สจฺฉิทฺทกํเยว คเหตพฺพํ. ปุปฺผปฏิจฺฉกํ ทณฺฑาทีหิ กตปุปฺผาธารณํ, ตมฺปิ สจฺฉิทฺทเมว อิธ วุตฺตํ. อโสกปิณฺฑิยาติ อโสกปุปฺผมฺชริกาย. ‘‘ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยํ วา โพธึ วา ปุปฺผปเวสนตฺถํ อาวิชฺฌิตฺวา พทฺธรชฺชู’’ติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตสฺมา ตถาพทฺธาย รชฺชุยา เจติยสฺส จ อนฺตเร ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ. คณฺิปเท ปน ‘‘ธมฺมรชฺชุนฺติ สิถิลํ วฏฺฏิกํ รชฺชุํ กตฺวา โพธึ วา เจติยํ วา ปริกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสเน วา ลมฺพิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปเวเสนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สิถิลวฏฺฏิกาย รชฺชุยา อนฺตเรปิ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อุภยตฺถาปิ ปเนตฺถ เนวตฺถิ วิโรโธติ อมฺหากํ ขนฺติ.
มตฺถกทามนฺติ ธมฺมาสนาทิมตฺถเก ลมฺพกทามํ. ปุปฺเผหิ เวเนฺตีติ ปุปฺผทาเมน เวเนฺติ. เตสํเยวาติ อุปฺปลาทีนํเยว. วาเกน วา ทณฺฑเกน วาติ วิสุํ อจฺฉินฺเนน ปุปฺผสหิเตเนว วาเกน วา ทณฺฑเกน วา. ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺสาติ ขนฺเธ ปิตสงฺฆาฏึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ ตถา พนฺธิตุํ ¶ สกฺกา ภเวยฺย. อิมินาว อฺมฺปิ ตาทิสํ กาสาวํ วา วตฺถํ วา วุตฺตนเยน พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. อํสภณฺฑิกํ ปสิพฺพเก ปกฺขิตฺตสทิสตฺตา เวิมํ นาม น ชาตํ, ตสฺมา สิถิลพนฺธสฺส อนฺตรนฺตรา ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
ปุปฺผปเฏ ¶ จ ทฏฺพฺพนฺติ ปุปฺผปฏํ กโรนฺตสฺส ทีฆโต ปุปฺผทามสฺส หรณปจฺจาหรณวเสน ปูรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ติริยโต หรณํ ปน วายิมํ นาม โหติ, น ปูริมํ. ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ‘‘อผุสาเปตฺวาปิ อติกฺกาเมนฺตสฺส อาปตฺติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘ปุริมฏฺานํ อติกฺกาเมตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ตํ ยุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อฺมฺํ อผุสาเปตฺวา อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺตีติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตโกฏิยา วากโกฏิยา วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วาติ อิทํ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยาทิปริกฺเขปํ ปุปฺผปฏกรณฺจ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา เจติยํ วา โพธึ วา ปริกฺขิปนฺเตน เอกวารํ ปริกฺขิปิตฺวา ปุริมฏฺานํ สมฺปตฺเต อฺสฺส ทาตพฺพํ, เตนปิ เอกวารํ ปริกฺขิปิตฺวา ตเถว กาตพฺพํ. ปุปฺผปฏํ กโรนฺเตน จ เอกวารํ หริตฺวา อฺสฺส ทาตพฺพํ, เตนปิ ตเถว กาตพฺพํ. สเจปิ ทฺเวเยว ภิกฺขู อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ปริยาเยน หรนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ.
ปูริตนฺติ ทีฆโต ปสารณวเสน ปูริตํ. วายิตุํ น ลภตีติ ทีฆโต ปสาริเต ติริยโต หรณํ วายนํ นาม โหตีติ เอกวารมฺปิ ปุปฺผคุณํ ติริยโต หริตุํ น วฏฺฏติ. ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตานิ ปากติกปุปฺผานิ เปนฺเตน. ปุปฺผทามํ ปน ปูชนตฺถาย ภูมิยํ เปนฺเตน ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ทิคุณํ กตฺวา เปตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ฆฏิกทามโอลมฺพโกติ อนฺเต ฆฏิกาการยุตฺโต ยมกทามโอลมฺพโก. เอเกกํ ปน ทามํ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วฏฺฏติ, ปุปฺผทามทฺวยํ สงฺฆฏิตุกาเมนปิ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว สุตฺตโกฏึ สงฺฆฏิตุํ วฏฺฏติ. อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโปติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณสฺส ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูเรตฺวา ปริกฺขิปนํ. เตเนว ตํ ปูริเม ปวิฏฺํ, ตสฺมา เอตมฺปิ อฑฺฒจนฺทาการํ ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูริตํ น วฏฺฏติ. เอกวารํ ปน อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปุปฺผทามกรณนฺติ เอตฺถ สุตฺตโกฏิยํ คเหตฺวาปิ เอกโต กาตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. เคณฺฑุกขรปตฺตทามานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฏฺฏติ อกปฺปิยานุโลมตฺตาติ วทนฺติ.
‘‘ลาสิยนาฏกํ ¶ ¶ นาเฏนฺตี’’ติ วตฺวา ตเมว ปริยายนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘เรจกํ เทนฺตี’’ติ วุตฺตํ, อภินยํ ทสฺเสนฺตีติ อตฺโถ, อตฺตโน อธิปฺปายํ ปกาเสตฺวา ‘‘เอวํ นจฺจิตพฺพ’’นฺติ ปมํ อุฏฺหิตฺวา นจฺจนาการํ ทสฺเสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เกจิ ปน ‘‘มุเข องฺคุลิโย ปกฺขิปิตฺวา สทฺทํ กโรนฺตา จกฺกมิว อตฺตานํ ภมยมานา เรจกํ เทนฺติ นามา’’ติ วทนฺติ. เอเกกาย ปนฺติยา อฏฺ อฏฺ ปทานิ อสฺสาติ อฏฺปทํ. ‘‘อฏฺาปท’’นฺติปิ ปนฺติ. ทสปเทปิ เอเสว นโย. ปทานีติ จ สาริอาทีนํ ปติฏฺานฏฺานานิ. ทสปทํ นาม ทฺวีหิ ปนฺตีหิ วีสติยา ปเทหิ กีฬนชูตํ. อากาเสเยว กีฬนฺตีติ ‘‘อยํ สารี อสุกปทํ มยา นีตา, อยํ อสุกปท’’นฺติ เกวลํ มุเขเนว วทนฺตา อากาเสเยว ชูตํ กีฬนฺติ. ชูตผลเกติ ชูตมณฺฑเล. ปาสกกีฬาย กีฬนฺตีติ ปาสกํ วุจฺจติ ฉสุ ปสฺเสสุ เอเกกํ ยาว ฉกฺกํ ทสฺเสตฺวา กตกีฬนํ, ตํ วฑฺเฒตฺวา ยถาลทฺธเอกกาทิวเสน สาริโย อปเนนฺตา อุปเนนฺตา จ กีฬนฺติ. ฆเฏน กีฬา ฆฏิกาติ เอเก.
มฺชฏฺิยา วาติ มฺชฏฺิรุกฺขสารํ คเหตฺวา ปกฺกกสาวํ สนฺธาย วทติ. สลากหตฺถนฺติ ตาลหีราทีนํ กลาปสฺเสตํ อธิวจนํ. พหูสุ สลากาสุ วิเสสรหิตํ เอกํ สลากํ คเหตฺวา ตาสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ตํเยว อุทฺธรนฺตา สลากหตฺเถน กีฬนฺตีติ เกจิ. ปณฺเณน วํสากาเรน กตา นาฬิกา ปณฺณนาฬิกา. เตเนวาห ‘‘ตํ ธมนฺตา’’ติ. ปุจฺฉนฺตสฺส มุขาคตํ อกฺขรํ คเหตฺวา นฏฺมุฏฺิลาภาลาภาทิชานนกีฬา อกฺขริกาติปิ วทนฺติ. หตฺถิสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, หตฺถินิมิตฺตสิปฺเปติ อตฺโถ. อสฺสสฺมินฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อุสฺเสเฬนฺติ อปฺโผเฏนฺตี’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ตตฺถ อุสฺเสเฬนฺตีติ มุเขน อุสฺเสฬนสทฺทํ ปมฺุจนฺติ, มหนฺตํ กตฺวา อพฺยตฺตสทฺทํ ปวตฺเตนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อชานํ สฺํ เทนฺตา อชปาลกา วิย มุเขน วาตํ นิจฺฉาเรนฺตา สุขุมํ อพฺยตฺตนาทํ ปวตฺเตนฺตี’’ติปิ วทนฺติ. อปฺโผเฏนฺตีติ ภุชหตฺถสงฺฆฏฺฏนสทฺทํ ปวตฺเตนฺติ, วามหตฺถํ อุเร เปตฺวา ทกฺขิเณน ปาณินา ตตฺถ ตาฬเนน สทฺทํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. มุขฑิณฺฑิมนฺติ มุขเภริยา เอตํ อธิวจนํ.
๔๓๒. ปสาทาวเหนาติ ¶ ปสาทชนนเกน. อภิกฺกมนํ อภิกฺกนฺตนฺติ อาห ‘‘คมเนนา’’ติ. ปฏิกฺกมนํ ปฏิกฺกนฺตํ. นิวตฺตเนนาติ นิวตฺติมตฺตํ ทสฺเสติ. นิวตฺเตตฺวา ปน คมนํ คมนเมว. อภิมุขํ โลกิตํ อาโลกิตนฺติ อาห ‘‘ปุรโต ทสฺสเนนา’’ติ. อิโต จิโต จ ทสฺสเนนาติ อนุทิสาเปกฺขนํ ทสฺเสติ. ยํทิสาภิมุโข คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ, ตทภิมุขํ เปกฺขนํ อาโลกิตํ, ตทนุคตทิสาโลกนํ ‘‘วิโลกิต’’นฺติ หิ วุจฺจติ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขนวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตาปโลกิตานิ นาม โหนฺติ. ตานิ ¶ ปน น สมณสารุปฺปานิ อปฺปสาทาวหานิ, เตเนเวตฺถ อาโลกิตวิโลกิตาเนว คหิตานิ. เตสนฺติ สมาเส คุณีภูตานิปิ ปพฺพานิ ปรามสติ. ‘‘ปพฺพสงฺโกจเนนา’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ปพฺพานิ ตตฺถ คุณีภูตานิ สงฺโกจนสฺส ปธานตฺตา. สติสมฺปชฺเหีติ สาตฺถกตาทิปริคฺคาหิกาย สติยา ตถาปวตฺตสมฺปชฺเน จ สมนฺตโต ปกาเรหิ, ปกฏฺํ วา สวิเสสํ ชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชฺํ. ตถาปวตฺตาณสฺเสตํ อธิวจนํ. อภิสงฺขตตฺตาติ สมฺมา ปวตฺติตตฺตา. เหฏฺาขิตฺตจกฺขูติ ขนฺธํ อนาเมตฺวาว อโธขิตฺตจกฺขุ. ขนฺธํ นาเมตฺวา หิ เหฏฺาวโลกนํ น สมณสารุปฺปํ. ‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขู’’ติ จ อิมินา ยุคมตฺตทสฺสิตา วุตฺตา.
โพนฺโทติ โลโล มนฺทธาตุโกติ อตฺโถ. ภกุฏึ กตฺวาติ ภมุกเภทํ กตฺวา. สาขลฺเยน ยุตฺตาติ ‘‘ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๕๐) นเยน วุตฺตสาขลฺเยน สมนฺนาคตา, มุทุวจนาติ อตฺโถ. เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจินา วิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. ทานนิพทฺธานีติ นิพทฺธทานานิ.
‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อามนฺเตสี’’ติ วตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห สาริปุตฺตา’’ติ วจนโต ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ อิทํ เอกเสสนเยน วุตฺตนฺติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ‘‘สาริปุตฺตา’’ติ หิ อิทํ เอกเสสนเยน วุตฺตํ วิรูเปกเสสสฺสปิ อิจฺฉิตตฺตา, เตเนเวตฺถ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ. สทฺธสฺส ปสนฺนสฺสาติ รตนตฺตยสฺส สทฺธาย ¶ สมนฺนาคตสฺส ตโตเยว จ ปสนฺนสฺส, กมฺมผลสทฺธาย วา สมนฺนาคตตฺตา สทฺธสฺส รตนตฺตยปฺปสาทพหุลตาย ปสนฺนสฺส.
๔๓๓. อาปตฺตึ โรเปตพฺพาติ กุลทูสกกมฺเมน อาปนฺนาปตฺตึ โรเปตพฺพา. ตสฺมึ วิหาเรติ พหิคาเม วิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺโตคาเม วิหาโร ปน ‘‘ตสฺมึ คาเม น วสิตพฺพ’’นฺติ อิมินาว สงฺคหิโต คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. ‘‘ตสฺมึ วิหาเร’’ติ วจนโต ตสฺส คามสฺส สามนฺตา อฺสฺมึ วิหาเร วสิตุํ วฏฺฏติ. สามนฺตคาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ ตสฺมึ วิหาเร วาสสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ยทิ ตตฺถ วสติ, เตน สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพนฺติ ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตสฺมึ คาเม น จริตพฺพํ. ยสฺมิฺหิ คาเม วา นิคเม วา กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ยสฺมิฺจ วิหาเร วสติ, เนว ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา จริตุํ ลพฺภติ, น วิหาเร วสิตุํ. สามนฺตวิหาเร วสนฺเตน ปน สามนฺตคาเม จริตุํ วฏฺฏติ ตตฺถ วาสสฺส อปฺปฏิกฺขิตฺตตฺตา.
๔๓๕. อฏฺารส ¶ วตฺตานีติ ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ, น ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ สาทิตพฺพา, สมฺมเตน ภิกฺขุนิโย น โอวทิตพฺพา, ยาย อาปตฺติยา สงฺเฆน ปพฺพาชนียกมฺมํ กตํ โหติ, น สา อาปตฺติ อาปชฺชิตพฺพา อฺา วา ตาทิสิกา ตโต วา ปาปิฏฺตรา, กมฺมํ น ครหิตพฺพํ, กมฺมิกา น ครหิตพฺพา, น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อุโปสโถ เปตพฺโพ, น ปวารณา เปตพฺพา, น สวจนียํ กาตพฺพํ, น อนุวาโท เปตพฺโพ, น โอกาโส กาเรตพฺโพ, น โจเทตพฺโพ, น สาเรตพฺโพ, น ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชตพฺพ’’นฺติ เอวมาคตานิ อฏฺารส วตฺตานิ.
อสฺสชิปุนพฺพสุกปฺปธานา อสฺสชิปุนพฺพสุกาติ วุตฺตา สหจรณาเยน. อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตายาติ ยถาปฺตฺตสมฺมาวตฺตสงฺขาตํ อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตาย, เยน วตฺเตน จิณฺเณน สงฺโฆ อนุโลมิโก โหติ, ตสฺมึ อวตฺตนโตติ วุตฺตํ โหติ. น ปนฺนโลมา โหนฺตีติ ปติตโลมา น โหนฺติ, อนุกูลวุตฺติโน น โหนฺตีติ ¶ อตฺโถ. นิตฺถรณมคฺคํ น ปฏิปชฺชนฺตีติ อนุโลมวตฺตสงฺขาตํ นิตฺถรณูปายํ น ปฏิปชฺชนฺติ, เยน วตฺเตน จิณฺเณน สาปตฺติกภาวโต นิตฺติณฺณา โหนฺติ, ตสฺมึ นิตฺถรณกวตฺตสฺมึ น วตฺตนฺติ, อาปตฺติวุฏฺานตฺถํ ตุริตตุริตา ฉนฺทชาตา น โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหีติ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติหีนสงฺขาเตหิทสหิ อกฺโกสการเณหิ. ฉนฺทคามิตา ปาเปนฺตีติอาทีสุ ย-กาโร ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ วิย ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘ฉนฺทคามิตายปิ ปาเปนฺตี’’ติอาทิ. เตสนฺติ อสฺสชิปุนพฺพสุกานํ คณปาโมกฺขานํ.
๔๓๖-๔๓๗. นิคมสฺส อปากฏตฺตา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมวาติ วิสฺสาสคฺคาเหน ปรสนฺตกํ คเหตฺวา เทนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถายาติ มาตาปิตูนมฺปิ เทนฺเตน วตฺถุปูชนตฺถาย เอว ทาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถายาติ เอตฺตกเมว วุตฺตตฺตา อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกมฺปิ กปฺเปสฺสนฺตีติ มาตุอาทีนํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กสฺสจิปีติ าตกสฺส อฺาตกสฺส วา กสฺสจิปิ. าติสามเณเรเหวาติ อนุจฺฉวิกตฺตา วุตฺตํ. สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ สงฺฆิกสฺส ลาภสฺส อุปจารสีมคตานํ สามเณรานมฺปิ สนฺตกตฺตา เตสมฺปิ อุปฑฺฒภาโค ลพฺภเตวาติ กตฺวา วุตฺตํ. จูฬกนฺติ อุปฑฺฒภาคโตปิ อุปฑฺฒํ. จตุตฺถภาคสฺเสตํ อธิวจนํ.
‘‘สามเณรา…เป… เปนฺตี’’ติ อิทํ วสฺสคฺเคน อภาชิยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ มคฺเค ¶ วา เจติยงฺคเณ วา. ทาเปตุํ น ลภนฺตีติ สามเณเรหิ ทาเปตุํ อนนุจฺฉวิกตฺตา วุตฺตํ. น หิ ตํ ปุปฺผทานํ นาม สิยา. ยทิ หิ ตถา อาคตานํ เตสํ ทานํ ปุปฺผทานํ ภเวยฺย, สามเณเรหิปิ ทาตุํ น ลพฺเภยฺย. สยเมวาติ สามเณรา สยเมว. ยาคุภตฺตาทีนิ อาทายาติ อิทํ ภิกฺขูนํ อตฺถาย ยาคุภตฺตาทิสมฺปาทนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.
วุตฺตนเยเนวาติ มาตาปิตูนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ, อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏตีติ อิมํ ปุปฺเผ วุตฺตนยํ ผเลปิ ¶ อติทิสติ, ตสฺมา ผลมฺปิ มาตาปิตูนํ หรณหราปนาทินา ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตีนํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. อิทานิ ‘‘โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา…เป… อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ อิมํ ปุปฺเผ วุตฺตนยํ ผเลปิ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘กุลสงฺคหตฺถาย ปนา’’ติอาทิมาห. ขีณปริพฺพยานนฺติ อาคนฺตุเก สนฺธาย วุตฺตํ. ผลปริจฺเฉเทน วาติ ‘‘เอตฺตกานิ ผลานิ ทาตพฺพานี’’ติ เอวํ ผลปริจฺเฉเทน วา. รุกฺขปริจฺเฉเทน วาติ ‘‘อิเมหิ รุกฺเขหิ ทาตพฺพานี’’ติ เอวํ รุกฺขปริจฺเฉเทน วา. ปริจฺฉินฺเนสุปิ รุกฺเขสุ ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ วทนฺเตน กุลสงฺคโห กโต นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ.
รุกฺขจฺฉลฺลีติ รุกฺขตฺตโจ. เตสํ เตสํ คิหีนํ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ สาสนปฏิสาสนหรณํ ชงฺฆเปสนิกํ. เตนาห ‘‘คิหีนํ ทูเตยฺยํ สาสนหรณกมฺม’’นฺติ. ทูตสฺส กมฺมํ ทูเตยฺยํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ…เป… ปเท ปเท ทุกฺกฏนฺติ อิทํ ตสฺส สาสนํ อาโรเจสฺสามีติ อิมินา อธิปฺปาเยน คมนํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺส ปน สาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สยเมว การฺุเ ิโต คนฺตฺวา อตฺตโน ปติรูปํ สาสนํ อาโรเจติ, อนาปตฺติ. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการนฺติ ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการํ สิกฺขาปเท ปมํ วุตฺตํ. ปกฺกมตายสฺมาติ อิทํ ปพฺพาชนียกมฺมวเสน วุตฺตํ. ปุน ปกฺกมตายสฺมาติ อิทํ ปน ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส วตฺตวเสน วุตฺตํ. ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ เอตฺถ องฺเคสุปิ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ ฉนฺทาทีหิ ปาปนํ ทฏฺพฺพํ. เสสํ ตาทิสเมวาติ.
กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
๔๔๒. ปมํ ¶ อาปตฺติ อาปชฺชนํ เอเตสนฺติ ปมาปตฺติกา. ตตฺตกานิ อหานีติ ปฏิจฺฉาทิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อาโรจิตทิวโส, ตาว ทิวสปกฺขมาสสํวจฺฉรวเสน ยตฺตโก กาโล อติกฺกนฺโต, ตตฺตกํ กาลนฺติ อตฺโถ. อกาเมน อวเสนาติ เอตฺถ อปฺปฏิกมฺมกตาย อาปตฺติยา สคฺคโมกฺขาวรณภาวโต อนิจฺฉนฺเตนปิ ปริวสิตพฺพนฺติ ¶ อธิปฺปาโย. อวฺหาตพฺโพติ อพฺภานกมฺมวเสน ปกฺโกสิตพฺโพ. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ เอตฺถ เย อูนภาวํ ตฺวา อพฺเภนฺติ, เต ภิกฺขู จ ครหิตพฺพา สาติสารา สโทสา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. สามีจีติ วตฺตํ.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ
เตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.