📜

๓. อนิยตกณฺฑํ

๑. ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๔๓. ปุตฺตสทฺเทน สามฺนิทฺเทสโต เอกเสสนเยน วา ปุตฺตีปิ คหิตาติ อาห ‘‘พหู ธีตโร จา’’ติ. ทานปฺปทาเนสูติ ขุทฺทเกสุ เจว มหนฺเตสุ จ ทาเนสุ. ฉณํ นาม อตฺตโน เคเห กตฺตพฺพมงฺคลนฺติ อาห ‘‘อาวาหวิวาหมงฺคลาทีสู’’ติ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ผคฺคุณมาสาทีสุ อุตฺตรผคฺคุณาทิอภิลกฺขิตทิวเสสุ สปริชนานํ มนุสฺสานํ มงฺคลกรณมฺปิ สงฺคณฺหาติ. อนฺตรุสฺสเวสูติ มหุสฺสวสฺส อนฺตรนฺตรา ปวตฺติตอุสฺสเวสุ. อาสาฬฺหีปวารณนกฺขตฺตาทีสูติ เอตฺถ นกฺขตฺตสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ อาสาฬฺหีนกฺขตฺตนฺติ วสฺสูปคมนปูชาทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปวารณนกฺขตฺตนฺติ ปวารณปูชาทิวสํ สนฺธาย. อาทิ-สทฺเทน ยสฺมึ นกฺขตฺเต คามนิคมวาสิโน ตโย สตฺต วา ทิวเส นกฺขตฺตโฆสนํ กตฺวา ยถาวิภวํ อลงฺกตปฏิยตฺตา โภเค ปริภุฺชนฺตา นกฺขตฺตกีฬํ กีฬนฺติ, ตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. อิเมปิ ทารกาติ อตฺตโน ทารเก สนฺธาย วทนฺติ. ตทนนฺตรนฺติ ภิกฺขูนํ โภชนานนฺตรํ.

๔๔๔-๔๔๕. ตํ กมฺมนฺติ ตํ อชฺฌาจารกมฺมํ. ภิกฺขุ นิสินฺเนติ เอตฺถ ภิกฺขูติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ภุมฺมวจนสฺส วา โลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ภิกฺขุมฺหิ นิสินฺเน’’ติ. ปาฬิยํ ‘‘โสตสฺส รโห’’ติ อิทํ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ, ‘‘ปฏิจฺฉนฺเน อาสเน’’ติ ปน วจนโต ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา จกฺขุสฺส รโห อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพติ รโห นิสชฺชาปตฺติยา ปริจฺเฉโท ววตฺถานํ เวทิตพฺพํ. อิทานิ จกฺขุสฺส รเหเนว อาปตฺตึ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจปิ หี’’ติอาทิมาห. ปิหิตกวาฏสฺสาติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนภาวโต จกฺขุสฺส รโหสพฺภาวํ ทสฺเสติ. อปิหิตกวาฏสฺสาติ อิมินา อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสติ. อปฺปฏิจฺฉนฺเน จ ทุติยสิกฺขาปเท อาคตนเยน โสตสฺส รหวเสนปิ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถปิ โอกาเส’’ติ . ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ หิ อิทํ โสตสฺส รหาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยทิ หิ จกฺขุสฺเสว รหาภาวํ สนฺธาย วเทยฺย , ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ’’ติ น วเทยฺย อปฺปฏิจฺฉนฺเน ตโต ทูรตเร นิสินฺเนปิ จกฺขุสฺส รหาสมฺภวโต. ยสฺมา นิสีทิตฺวา นิทฺทายนฺโต กปิมิทฺธปเรโต กฺจิ กาลํ จกฺขูนิ อุมฺมีเลติ, กฺจิ กาลํ นิมีเลติ, น จ มหานิทฺทํ โอกฺกมติ, ตสฺมา ‘‘นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต ปน ตาทิโส น โหตีติ อาห ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต น กโรตี’’ติ, อนาปตฺตึ น กโรตีติ อตฺโถ.

ปฏิลทฺธโสตาปตฺติผลาติ อนฺติมปริจฺเฉทโต อริยสาวิกํ ทสฺเสติ. ปฏิวิทฺธจตุสจฺจาติ โสตาปตฺติมคฺเคน ปฏิวิทฺธจตุสจฺจา. ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตเรน กาเรตพฺโพติ นิสชฺชํ ปฏิชานมานสฺส ติณฺณํ ธมฺมานํ อฺตรสมาโยโค โหติเยวาติ วุตฺตํ. ปาราชิเกน ปน สงฺฆาทิเสเสน จ ปาจิตฺติเยน จ เตนากาเรน นิสชฺชํ ปฏิชานมาโนว กาเรตพฺโพ. น อปฺปฏิชานมาโนติ อลชฺชีปิ อปฺปฏิชานมาโน อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ อวิเสเสน วุตฺตํ. โส หิ ยาว น ปฏิชานาติ, ตาว เนว สุทฺโธ, น อสุทฺโธติ วา วตฺตพฺโพ, วตฺตานุสนฺธินา ปน กาเรตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฏิฺา ลชฺชีสุ กตา, อลชฺชีสุ เอวํ น วิชฺชติ;

พหุมฺปิ อลชฺชี ภาเสยฺย, วตฺตานุสนฺธิเตน การเย’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);

เยน วา สา สทฺเธยฺยวจสา อุปาสิกา วเทยฺย, เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ปฏิชานมาโน’’ติ อวุตฺเตปิ อธิการตฺตา ‘‘ปฏิชานมาโนว เตน โส ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ตถารูปาย อุปาสิกาย วจเนน อฺถตฺตาภาวโต ทิฏฺํ นาม ตถาปิ โหติ, อฺถาปิ โหตีติ ทสฺสเนน อฺถตฺตสมฺภวํ ทสฺเสติ. เอวํ มหิทฺธิกา นาม…เป… วทาเปถาติ อิทํ ‘‘เอวํ มหิทฺธิกาปิ ตุมฺเห เอวรูเป อาสงฺกนีเย าเน กสฺมา อนุปปริกฺขิตฺวา นิสินฺนตฺถ, ตุมฺหาทิเสหิ นาม อนฺตรฆเร นิสีทนฺเตหิ อุปปริกฺขิตฺวา ปติรูเป าเน นิสีทิตพฺพ’’นฺติ เถรํ โอวทนฺโต อาห, น ปน อสทฺทหนฺโต. เถโร อตฺตโน อนุปปริกฺขิตฺวา อนิสินฺนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนฺตรฆรสฺเสเวโส อาวุโส โทโส’’ติ อาห. เอวมกาสินฺติ อตฺตโน นิคูหิตพฺพมฺปิ คุณํ ปกาเสนฺโต เอวํ วิย อิทฺธิปาฏิหาริยํ อกาสึ. รกฺเขยฺยาสิ มนฺติ ‘‘มา มํ อฺเปิ เอวํ ชานนฺตู’’ติ อตฺตโน คุณํ อชานาเปตุกาโม วทติ.

๔๔๖-๔๕๑. มาตุคามสฺส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโตติ เอตฺถ ‘‘มคฺเค’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพติ อาห ‘‘มาตุคามสฺส มคฺเค’’ติ. รโห นิสชฺชสฺสาทสฺส อสติปิ เมถุนราคภาเว ตปฺปฏิพทฺธกิเลสตฺตา วุตฺตํ ‘‘เมถุนธมฺมสนฺนิสฺสิตกิเลโส วุจฺจตี’’ติ, เตเนว สนฺนิสฺสิตคฺคหณํ กตํ. ตํ สนฺธาย อคเตปิ อสุทฺธจิตฺเตน คตตฺตา ‘‘อสฺสาเท อุปฺปนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. รหสฺสาโท อุปฺปชฺชติ อนาปตฺตีติ สุทฺธจิตฺเตน คนฺตฺวา นิสินฺนตฺตา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนตฺถ อาปตฺติ น โหตีติ วุตฺตํ. อยํ ธมฺโม อนิยโตติ เอตฺถ ติณฺณํ อาปตฺตีนํ ยํ อาปตฺตึ วา วตฺถุํ วา ปฏิชานาติ, ตสฺส วเสน กาเรตพฺพตาย อนิยโตติ อยมตฺโถ ปากโฏเยวาติ น วุตฺโต. ยํ อาปตฺตึ ปฏิชานาติ, ตสฺสา วเสเนตฺถ องฺคเภโท เวทิตพฺโพ.

ปมอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๒. ‘‘เอโก’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นิสชฺชํ กปฺเปตุํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ น ฆฏตีติ อาห ‘‘ยํ เอโก…เป… สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ’’ติ. เอตํ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ‘‘เอโก’’ติ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ.

๔๕๓. พหิ ปริกฺขิตฺตนฺติ พหิ ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตํ. ปริเวณงฺคณนฺติ ปริเวณมาฬกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิตฺถีปิ ปุริโสปีติ เอตฺถ ปเม กสฺมา อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรติ, อิธ เอกาปิ กสฺมา อนาปตฺตึ กโรตีติ? วุจฺจเต – ปมสิกฺขาปทํ ‘‘สกฺกา โหติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา เมถุนธมฺมวเสน อาคตํ, น จ เมถุนสฺส มาตุคาโม ทุติโย โหติ. อิตฺถิโย หิ อฺมฺิสฺสา วชฺชํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ, เตเนว เวสาลิยํ มหาวเน ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺเน ภิกฺขุมฺหิ สมฺพหุลา อิตฺถิโย ยาวทตฺถํ กตฺวา ปกฺกมึสุ, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปน สิกฺขาปทํ ทุฏฺุลฺลวาจาวเสน อาคตํ ‘‘อลฺจ โข โหติ มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ทุฏฺุลฺลวาจฺจ สุตฺวา มาตุคาโมปิ น ปฏิจฺฉาเทติ. เตเนว ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปเท ยา ตา อิตฺถิโย หิริมนา, ตา นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขู อุชฺฌาเปสุํ, ตสฺมา อิธ ‘‘อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. อิธ อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิตฺถีปิ อนาปตฺตึ กโรติ, ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อิตฺถิสตมฺปิ อนาปตฺตึ น กโรตีติ จ วทนฺติ.

กายสํสคฺควเสน อนนฺโธ วุตฺโต, ทุฏฺุลฺลวาจาวเสน อพธิโร. อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเสติ โสตสฺส รหาภาโว วุตฺโต, เอเตน ‘‘โสตสฺส รโห ทฺวาทสหตฺเถน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสติ . ตสฺมา ทฺวาทสหตฺถโต พหิ นิสินฺโน อนาปตฺตึ น กโรติ สติปิ จกฺขุสฺส รหาภาเว โสตสฺส รหสพฺภาวโต. อิมสฺมิฺหิ สิกฺขาปเท อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา โสตสฺส รโหเยว อธิปฺเปโต. ปาฬิยํ ปน ‘‘จกฺขุสฺส รโห’’ติ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘ทฺเวปิ รหา อิธ อธิปฺเปตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ อปฺปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส จกฺขุสฺส รโห สมฺภวติ ทฺวาทสหตฺถโต พหิ ทสฺสนวิสเย ทูรตเร นิสินฺนสฺสปิ ทฏฺุํ สกฺกุเณยฺยภาวโต. นิทฺทายนฺโตปีติ อิมินา ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ คหิโตเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเตปิ สติปิ จกฺขุสฺส รเห อพธิรตฺตา โสตสฺส รโห นตฺถี’’ติ คณฺิปทการานํ อธิปฺปาโย. ยถา ปน นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโต อนฺโธ วิย กิฺจิ น ปสฺสตีติ จกฺขุสฺส รโห สมฺภวติ, ตถา พธิโร วิย กิฺจิ สทฺทํ น สุณาตีติ โสตสฺส รโหปิ สมฺภวตีติ สกฺกา วตฺตุํ. อฏฺกถายฺจ ิโต วา นิสินฺโน วาติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ปมสิกฺขาปเท วิย ‘‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ อนาปตฺตึ น กโรตี’’ติ อิทํ ปน น วุตฺตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา คเหตพฺพํ.

โสตสฺส รหสฺเสว อิธาธิปฺเปตตฺตา ‘‘พธิโร ปน จกฺขุมาปี’’ติ วุตฺตํ. อนฺธสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนปกฺขํ ภชตีติ ปมสิกฺขาปทสฺส วิสยตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนฺโธ วา อพธิโรปิ น กโรตี’’ติ. ยเถว หิ ตตฺถ อปิหิตกวาฏสฺส คพฺภสฺส อนฺโต สมีเปปิ ิโต อนฺโธ อนาปตฺตึ น กโรติ, เอวมยมฺปีติ ทฏฺพฺพํ. อุภยตฺถาปีติ ทฺวีสุปิ อนิยเตสุ. ยสฺมา ทฺวีหิ สิกฺขาปเทหิ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ วิสุํ ปฺตฺตา กาจิ อาปตฺติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส อาทิกมฺมิเก สนฺธาย อาทิกมฺมิกานํ อนาปตฺติ วุตฺตา. อุปนนฺทตฺเถราทโย หิ รโห นิสชฺชาทีนํ อาทิกมฺมิกา. ภควตา ปน ปมํ ปฺตฺตสิกฺขาปทานิเยว คเหตฺวา อุปนนฺทวตฺถุสฺมึ อนิยตกฺกโม ทสฺสิโต. ยทิ อิเมหิ สิกฺขาปเทหิ วิสุํ ปฺตฺตา อาปตฺติ นาม นตฺถิ, อถ กสฺมา ภควตา อนิยตทฺวยํ ปฺตฺตนฺติ? เอวรูปายปิ อุปาสิกาย วุจฺจมาโน ปฏิชานมาโนเยว อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ, น อปฺปฏิชานมาโนติ ทสฺเสนฺเตน ภควตา ยาย กายจิ อาปตฺติยา เยน เกนจิ โจทิเต ปฏิฺาตกรณํเยว ทฬฺหํ กตฺวา วินยวินิจฺฉยลกฺขณํ ปิตํ. อถ ภิกฺขุนีนํ อนิยตํ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อิทเมว ลกฺขณํ สพฺพตฺถ อนุคตนฺติ น วุตฺตํ.

ทุติยอนิยตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

อนิยตวณฺณนา นิฏฺิตา.