📜
๔. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ
๑. จีวรวคฺโค
๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๕๙. สมิตาวินาติ ¶ ¶ สมิตปาเปน. โคตมเก เจติเยติ โคตมยกฺขสฺส เจติยฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ. ปริภฺุชิตุํ อนฺุาตํ โหตีติ ภควตา คหปติจีวเร อนฺุาเต พหูนิ จีวรานิ ลภิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา สีเสปิ ขนฺเธปิ กฏิยาปิ เปตฺวา อาคจฺฉนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา จีวเร สีมํ พนฺธนฺเตน ติจีวรํ ปริโภคตฺถาย อนฺุาตํ, น ปน อธิฏฺานวเสน. นหายนฺติ เอตฺถาติ นหานํ, นหานติตฺถํ.
๔๖๐. เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ นาม โหตี’’ติ. โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห ‘‘สเจปิ พฺราหฺมณ ธมฺมรตนํ ปูเชตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ. พหุสฺสุตํ ภนฺเต อาจิกฺขถาติ. ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉาติ. โส ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตํ ภนฺเต อาจิกฺขถา’’ติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนเกน จีวเรน ปูเชสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏิลาภวเสน อุปฺปนฺน’’นฺติ. อุปฺปนฺน-สทฺโท นิปฺผนฺนปริยาโยปิ โหตีติ ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘โน นิปฺผตฺติวเสนา’’ติ. ปมเมว หิ ตํ ตนฺตวายกมฺเมน นิปฺผนฺนํ.
เถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา สยํ อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรตีติ เอตฺถ สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว กโรตีติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ¶ ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อติวิย มมายตีติ อานนฺทตฺเถโร ตาว มมายตุ อขีณาสวภาวโต, สาริปุตฺตตฺเถโร กถนฺติ? น อิทํ มมายนํ เคหสฺสิตเปมวเสน, อถ โข คุณสมฺภาวนาวเสนาติ นายํ โทโส. นวมํ วา ทิวสํ ทสมํ วาติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ ¶ , นวเม วา ทสเม วา ทิวเสติ อตฺโถ. สเจ ภเวยฺยาติ สเจ กสฺสจิ เอวํ สิยา. วุตฺตสทิสเมวาติ เอตฺถ ‘‘วุตฺตทิวสเมวา’’ติปิ ปนฺติ. ธาเรตุนฺติ เอตฺถ ‘‘อาหา’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
๔๖๒-๔๖๓. นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ ภุมฺมวจนสฺส โลปํ กตฺวา นิทฺเทโสติ อาห ‘‘นิฏฺิเต จีวรสฺมิ’’นฺติ, จีวรสฺส กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ปาสปฏฺฏคณฺิกปฏฺฏปริโยสานํ ยํ กิฺจิ กาตพฺพํ, ตํ กตฺวาติ โยเชตพฺพํ. สูจิยา ปฏิสามนนฺติ อิทํ สูจิกมฺมสฺส สมฺมา ปรินิฏฺิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, สูจิกมฺมนิฏฺานเมเวตฺถ ปมาณํ. เอเตสมฺปีติ วินฏฺาทึ ปรามสติ.
กถิเน จ อุพฺภตสฺมินฺติ ยํ สงฺฆสฺส กถินํ อตฺถตํ, ตสฺมึ กถิเน จ อุพฺภเตติ อตฺโถ. ทุติยสฺส ปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสตีติ อาวาสปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ‘‘นิฏฺิตจีวรสฺมึ อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ทฺวินฺนํ ปลิโพธานํ อภาวทสฺสเนน อตฺถตกถินสฺส ปฺจมาสพฺภนฺตเร ยาว จีวรปลิโพโธ อาวาสปลิโพโธ จ น อุปจฺฉิชฺชติ, ตาว อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ อติเรกจีวรํ ทสาหโต ปรมฺปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. อตฺถตกถินสฺส หิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา อนามนฺตจาโร อสมาทานจาโร ยาวทตฺถจีวรํ คณโภชนํ โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ อิเม ปฺจานิสํสา ลพฺภนฺติ. ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา. วิตฺถาโร ปเนตฺถ อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.
โขมนฺติ โขมสุตฺเตหิ วายิตํ โขมปฏจีวรํ, ตถา เสสานิ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ กตจีวรํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. ภงฺคมฺปิ วากมยเมวาติ เกจิ. ทุกูลํ ปฏฺฏุณฺณํ โสมารปฏํ จีนปฏํ อิทฺธิชํ เทวทินฺนนฺติ อิมานิ ปน ฉ จีวรานิ เอเตสํเยว อนุโลมานีติ วิสุํ น วุตฺตานิ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา. ปฏฺฏุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ ปฏฺฏุณฺณํ. ‘‘ปฏฺฏุณฺณโกเสยฺยวิเสโส’’ติ หิ อภิธานโกเส วุตฺตํ. โสมารเทเส จีนเทเส จ ชาตวตฺถานิ โสมารจีนปฏานิ. ปฏฺฏุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิชํ เอหิภิกฺขูนํ ¶ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ, ตํ โขมาทีนํ ¶ อฺตรํ โหตีติ เตสํ เอว อนุโลมํ. เทวตาหิ ทินฺนํ จีวรํ เทวทินฺนํ, ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ, ตมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต.
มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส วิทตฺถึ สนฺธาย ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา ทีฆโต วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณํ วิตฺถารโต ตโต อุปฑฺฒปฺปมาณํ วิกปฺปนุปคนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย, วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ กุฏิการสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙) วุตฺตํ, ตสฺมา สุคตงฺคุเลน ทฺวาทสงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ สิทฺธํ. เอวฺจ กตฺวา สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลํ วฑฺฒกีหตฺถปฺปมาณนฺติ อิทํ อาคตเมวาติ.
ตํ อติกฺกามยโตติ เอตฺถ ตนฺติ จีวรํ กาลํ วา ปรามสติ. ตสฺส โย อรุโณติ ตสฺส จีวรุปฺปาททิวสสฺส โย อติกฺกนฺโต อรุโณ. จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธินฺติ จีวรุปฺปาททิวสสฺส อติกฺกนฺตอรุเณน สทฺธินฺติ อตฺโถ. ทิวสสทฺเทน หิ ตํทิวสนิสฺสิโต อรุโณ วุตฺโต. พนฺธิตฺวาติ รชฺชุอาทีหิ พนฺธิตฺวา. เวเตฺวาติ วตฺถาทีติ เวเตฺวา.
วจนีโยติ สงฺฆํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. อฺถาปิ วตฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ยาย กายจิ ภาสาย ปทปฏิปาฏิยา อวตฺวาปิ อตฺถมตฺเต วุตฺเต วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เตนาติ อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน. ปฏิคฺคาหเกน ‘‘ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต เทสเกน วตฺตพฺพวจนํ ทสฺเสติ ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. ปุน ปฏิคฺคาหเกน วตฺตพฺพวจนมาห ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปุน เทสเกน วตฺตพฺพวจนํ ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ. อิมินา อตฺตโน อายตึ สํวเร ปติฏฺิตภาวํ ทสฺเสติ. ทฺวีสุ ปน สมฺพหุลาสุ วาติ ทฺวีสุ สมฺพหุลาสุ วา อาปตฺตีสุ ปุริมนเยเนว วจนเภโท เวทิตพฺโพ. ตฺติยํ อาปตฺตึ สรติ วิวรตีติ เอตฺถ ทฺเว อาปตฺติโยติ วา สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ วา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. จีวรทาเนปีติ นิสฺสฏฺจีวรสฺส ทาเนปิ. วตฺถุวเสนาติ จีวรคณนาย. คณสฺส วุตฺตา ปาฬิเยเวตฺถ ปาฬีติ ทฺวีสุ อิมาหํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามีติ วจเน วิเสสาภาวโต วุตฺตํ. เอวํ…เป… วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘อิโต ¶ ครุกตรานี’’ติอาทิ. ตตฺถ อิโตติ อิโต นิสฺสฏฺจีวรทานโต. ตฺติกมฺมโต ตฺติทุติยกมฺมํ ครุกตรนฺติ อาห ‘‘อิโต ครุกตรานี’’ติ. อิมาหํ จีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติปิ ปนฺติ.
๔๖๘. น ¶ อิธ สฺา รกฺขตีติ อิทํ เวมติกํ อนติกฺกนฺตสฺฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. โยปิ เอวํสฺี, ตสฺสปีติ น เกวลํ อติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิสฺส, อถ โข เวมติกสฺส อนติกฺกนฺตสฺิสฺสปีติ อตฺโถ. ‘‘น อิธ สฺา รกฺขตี’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ เสสตฺติเกปิ อติทิสติ. เอส นโย สพฺพตฺถาติ เอส นโย อวินฏฺาทีสุปีติ อฺเสํ จีวเรสุ อุปจิกาทีหิ ขายิเตสุ ‘‘มยฺหมฺปิ จีวรํ ขายิต’’นฺติ เอวํสฺี โหตีติอาทินา โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อนฏฺโต อวิลุตฺตสฺส วิเสสมาห ‘‘ปสยฺหาวหารวเสนา’’ติ. เถยฺยาวหารวเสน คหิตฺหิ นฏฺนฺติ อธิปฺเปตํ, ปสยฺหาวหารวเสน คหิตํ วิลุตฺตนฺติ. อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตีติ อิทํ นิสีทนสนฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ เยน หิ ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทิยิตฺวา อฺํ นวํ นิสีทนสนฺถตํ กตํ, ตสฺส ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตสฺมา ‘‘อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ อิทํ ปรสฺส นิสฺสคฺคิยํ อปรสฺส ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ อิมมตฺถํ สาเธติ. ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อนติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิสฺส เวมติกสฺส จ ปริภฺุชนฺตสฺเสว ทุกฺกฏํ, น ปน อปริภฺุชิตฺวา เปนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย.
๔๖๙. ติจีวรํ อธิฏฺาตุนฺติ นามํ วตฺวา อธิฏฺาตุํ. น วิกปฺเปตุนฺติ นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตุํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ตสฺมา ติจีวราทีนิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวาว ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ, อติเรกจีวรฏฺาเนเยว ติฏฺติ. ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ ‘‘จตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ อนฺุาต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ยาว อาคามิสํวจฺฉเร วสฺสานํ จาตุมาสํ, ตาว เปตุํ อนฺุาต’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ อนุชานามีติ เอตฺตาวตา วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิฺจ ¶ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปตุํ อนฺุาตนฺติ เอวมตฺโถ น คเหตพฺโพ ตโต ปรํ วสฺสิกสาฏิกาทินามสฺเสว อภาวโต. ตสฺมา ตโต ปรํ วิกปฺเปนฺเตนปิ นามํ คเหตฺวา น วิกปฺเปตพฺพํ. อุภินฺนมฺปิ ตโต ปรํ วิกปฺเปตฺวา ปริโภคสฺส อนฺุาตตฺตา ตถา วิกปฺปิตํ อฺนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
ปจฺจุทฺธรามีติ เปมิ, ปริจฺจชามีติ วา อตฺโถ. อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามีติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวรํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามีติ เอวมฺปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘อิมํ จีวรํ ปริกฺขารโจฬํ ¶ อธิฏฺามี’’ติ อิมินา สเมติ. กายวิการํ กโรนฺเตนาติ หตฺเถน จีวรํ ปรามสนฺเตน วา จาเลนฺเตน วา. ทุวิธนฺติ สมฺมุขปรมฺมุขเภเทสุ ทุวิธํ. หตฺถปาเสติ อิทํ ทฺวาทสหตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ‘‘อิม’’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. ตโต ปรํ ‘‘เอต’’นฺติ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพนฺติ เกจิ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปเนตฺถ น กิฺจิ วุตฺตํ. ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ สพฺพตฺถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ วุจฺจติ, ตสฺมา อิธ วิเสสวิกปฺปนาย การณํ คเวสิตพฺพํ. สามนฺตวิหาโร นาม ยตฺถ ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺติตุํ สกฺกา. ‘‘สามนฺตวิหาเร’’ติ อิทํ เทสนาสีสมตฺตํ, ตสฺมา ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ จ อิทํ ปิตฏฺานสลฺลกฺขณํ อนุจฺฉวิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ, จีวรสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณํ.
อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหีติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ. อธิฏฺานโต ปุพฺเพ สงฺฆาฏิอาทิโวหารสฺส อภาวโต ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปริกฺขารโจฬสฺส วิสุํ ปจฺจุทฺธารวิธึ ทสฺเสติ. ปริกฺขารโจฬนาเมน ปน อธิฏฺิตตฺตา ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วุตฺเตปิ เนวตฺถิ โทโสติ วิฺายติ. ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานีติ อิทฺจ สงฺฆาฏิอาทิจีวรนาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุกามํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริกฺขารโจฬนาเมเนว อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ปน ปุพฺเพกตอธิฏฺานเมว อธิฏฺานํ. อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อิมินา กปฺปพินฺทุทานกิจฺจมฺปิ นตฺถีติ ทสฺเสติ. มุฏฺิปฺจกาทิติจีวรปฺปมาณยุตฺตํ สนฺธาย ‘‘ติจีวรํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ กตฺวา อธิฏฺาตุํ. พทฺธสีมายํ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติสพฺภาวโต จีวรวิปฺปวาเสปิ เนวตฺถิ โทโสติ น ตตฺถ ทุปฺปริหารตาติ อาห ‘‘อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหาร’’นฺติ.
อนติริตฺตปฺปมาณาติ ¶ สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย ติริยํ อฑฺฒเตยฺยวิทตฺถิฺจ อนติกฺกนฺตปฺปมาณาติ อตฺโถ. นนุ จ วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานาติกฺกเมน, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมน อธิฏฺานํ วิชหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. สติ หิ อธิฏฺาเน ปจฺจุทฺธาโร ยุตฺโตติ? เอตฺถ ตาว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวาติ อิทํ ปจฺจุทฺธรณํ สนฺธาย น วุตฺตํ, ปจฺจุทฺธริตฺวาติ ปน วสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ตสฺมา เหมนฺตสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย ¶ อนฺโตทสาเห วสฺสิกสาฏิกภาวโต อปเนตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’ติ วุตฺต’’นฺติ.
เกจิ ปน ‘‘ยถา กถินมาสพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนจีวรํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, เอวมยํ วสฺสิกสาฏิกาปิ วสฺสานมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยา โหติ, ตสฺมา กตฺติกปุณฺณมทิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ เหมนฺตสฺส ปมทิวเส วิกปฺเปตพฺพาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ปจฺจุทฺธริตฺวา ตโต ปรํ วิกปฺเปตพฺพาติ ปทโยชนา เวทิตพฺพา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ. กถินมาเส อุปฺปนฺนฺหิ จีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ิตตฺตา อวสานทิวเส อนธิฏฺิตํ กถินมาสาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อยํ ปน วสฺสิกสาฏิกา อธิฏฺหิตฺวา ปิตตฺตา น เตน สทิสาติ วสฺสานาติกฺกเม กถํ นิสฺสคฺคิยา โหติ. อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตเมว หิ ตํตํกาลาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตสฺมา เหมนฺเตปิ วสฺสิกสาฏิกา ทสาหํ ปริหารํ ลภติเยว. เอวํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิปิ อาพาธวูปสเมน อธิฏฺานํ วิชหติ, ตสฺมา ตโต ปรํ ทสาหํ ปริหารํ ลภติ, ทสาหํ ปน อนติกฺกมิตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ.
เกจิ ปน ‘‘อธิฏฺานเภทลกฺขเณ อวุตฺตตฺตา วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาเธ วูปสนฺเตปิ อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตสฺมา ‘ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา’ติ อิทํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ มาติกาฏฺกถาย น สเมติ, สมนฺตปาสาทิกาย ปน สเมติ. ตถา หิ ‘‘วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ¶ อาพาธวูปสเมนปิ อธิฏฺานํ วิชหตี’’ติ อิทํ สมนฺตปาสาทิกายํ นตฺถิ, ปริวารฏฺกถายฺจ ‘‘อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต อาปชฺชติ, โน คิมฺเห’’ติ เอตฺถ อิทํ วุตฺตํ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิเม ปาฏิปททิวเส วิกปฺเปตฺวา ปิตํ วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสนฺโต เหมนฺเต อาปชฺชติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตํ. จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุนฺติ หิ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓).
ตตฺถ มหาอฏฺกถายํ นิวาสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน อปจฺจุทฺธารปจฺจยา. ตสฺมา กุรุนฺทิยํ วุตฺตนเยเนว วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมปิ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ ปฺายติ. กุรุนฺทิยฺหิ ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ วจนโต ยทิ กตฺติกปุณฺณมายํ น ปจฺจุทฺธเรยฺย, อวิชหิตาธิฏฺานา วสฺสิกสาฏิกา เหมนฺตํ สมฺปตฺตา วิกปฺปนกฺเขตฺเต อธิฏฺานสพฺภาวโต ทุกฺกฏํ ชเนติ, ตสฺมา กตฺติกปุณฺณมายํ เอว ปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต วิกปฺเปตพฺพาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘กตฺติกปุณฺณมทิวเส ¶ อปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.
นหานตฺถาย อนฺุาตตฺตา ‘‘วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺตีติ ทฺวินฺนํ อธิฏฺานาภาวโต วุตฺตํ. ‘‘สเจ วสฺสาเน อปรา วสฺสิกสาฏิกา อุปฺปนฺนา โหติ, ปุริมวสฺสิกสาฏิกํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตฺวา จ อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วทนฺติ. ปมาณยุตฺตนฺติ ทีฆโส สุคตวิทตฺถิยา ทฺเว วิทตฺถิโย, วิตฺถารโต ทิยฑฺฒา, ทสา วิทตฺถีติ อิมินา ปมาเณน ยุตฺตํ. ปมาณิกาติ สุคตวิทตฺถิยา ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโยติ เอวํ วุตฺตปฺปมาณยุตฺตา. ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ‘‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหติ, ปุน น ปจฺจุทฺธรียติ กาลปริจฺเฉทาภาวโต’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘เอกวจเนนปิ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมวา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อุภยตฺถาปิ อสฺส วจนสฺส อิธ วจเน อปุพฺพํ ปโยชนํ น ทิสฺสติ, เตเนว มาติกาฏฺกถายํ อิมสฺมึ าเน ‘‘สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหตี’’ติ อิทํ ปทํ น วุตฺตํ.
‘‘อตฺตโน ¶ สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย มหาปจฺจริยํ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามีติ เปนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ, อิทํ เภสชฺชสฺส, อิทํ มาตุยาติ วิสฺสชฺเชตฺวา สกสนฺตกภาวโต โมจิเต อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณติ เอตฺถ ‘‘อนิวาเสตฺวา อปารุปิตฺวา จ เกวลํ มฺจปีเสุเยว อตฺถริตฺวา ปริภฺุชิยมานํ ปจฺจตฺถรณํ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อนธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เหฏฺา ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมวา’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อตฺตโน สนฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมวาติ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนนา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนนา’’ติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘ภิกฺขุ ปน วิพฺภมนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา. ภิกฺขุนิยา หิ คิหิภาวูปคมเน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณีภาวโต. สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ปน อิทํ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโตว สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ ¶ , ตสฺส กายลคฺคมฺปิ จีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. กนิฏฺงฺคุลินขวเสนาติ เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. ปมาณจีวรสฺสาติ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺสาติ อนฺตรฆรปฺปเวสนตฺถาย สุปฺปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคฺจ เอกโต กตฺวา ปารุปนฺตสฺส. สงฺฆริตฏฺาเนติ ทฺวีสุปิ อนฺเตสุ สงฺฆริตฏฺาเน. เอส นโยติ อิมินา ปมาณยุตฺเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหติ, มหนฺเตสุ ปน ตโต ปเรน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. สพฺเพสูติ ติจีวราทิเภเทสุ สพฺพจีวเรสุ.
อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ นาม นตฺถีติ สุตฺเต อาคตํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตเมว วิภาเวตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตํ อติกฺกมยโต เฉทนกํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ตโต อุตฺตริ ปฏิสิทฺธตฺตา’’ติ. ตํ น สเมตีติ ปริกฺขารโจฬสฺส วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ ปจฺฉิมปฺปมาณนฺติ คเหตฺวา อิตเรสํ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเภทํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย ‘‘เอส ¶ นโย’’ติอาทิวจนํ น สเมติ ตาทิสสฺส ปจฺฉิมปฺปมาณสฺส สุตฺเต อภาวโตติ อธิปฺปาโย. อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตวจนํ น สเมตีติ อิมินาว ปฏิกฺเขเปน วิกปฺปนุปคปจฺฉิมสฺส อนฺโต ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ อยมฺปิ นโย ปฏิกฺขิตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ติจีวรฺหิ เปตฺวา เสสจีวเรสุ ฉิทฺเทน อธิฏฺานวิชหนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อธิฏฺหิตฺวา ปิเตสุ เสสจีวเรสุ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ อปฺปโหนฺตํ กตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเนสุปิ อธิฏฺานวิชหนํ นตฺถิ. สเจ ปน อธิฏฺานโต ปุพฺเพเยว ตาทิสํ โหติ, อจีวรตฺตา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. ขุทฺทกํ จีวรนฺติ มุฏฺิปฺจกาทิเภทปฺปมาณโต อนูนเมว ขุทฺทกจีวรํ. มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรตีติ เอตฺถ ติณฺณํ จีวรานํ จตูสุ ปสฺเสสุ ยสฺมึ ปเทเส ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหติ, ตสฺมึ ปเทเส สมนฺตโต ฉินฺทิตฺวา ขุทฺทกํ กโรนฺตสฺส อธิฏฺานํ น วิชหตีติ อธิปฺปาโย.
สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนาติ เอตฺถ สมฺมุเขน วิกปฺปนา ปรมฺมุเขน วิกปฺปนาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวนฺติ อาสนฺนทูรภาวํ. อาสนฺนทูรภาโว จ อธิฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ เอตฺถ อธิฏฺานสฺสปิ อนฺโตคธตฺตา สเจ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุกาโม โหติ, อธิฏฺานํ กาตพฺพํ. โน เจ, น กาตพฺพํ, วิกปฺปนเมว ปมาณํ, ตสฺมา อติเรกจีวรํ นาม น โหติ. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต. สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมิตฺโต นาติทฬฺหมิตฺโต. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏตีติ อธิฏฺิตอธิฏฺานํ วิยาติ อธิปฺปาโย อวิเสเสน วุตฺตวจนนฺติ ติจีวราทึ อธิฏฺเติ, วสฺสิกสาฏิกํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิฺจ ¶ วิกปฺเปตีติ อวตฺวา สพฺพจีวรานํ อวิเสเสน วิกปฺเปตีติ วุตฺตวจนํ. ติจีวรสงฺเขเปนาติ ติจีวรนีหาเรน, สงฺฆาฏิอาทิอธิฏฺานวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
ตุยฺหํ เทมีติอาทีสุ ‘‘ตสฺมึ กาเล น คณฺหิตุกาโมปิ สเจ น ปฏิกฺขิปติ, ปุน คณฺหิตุกามตาย สติ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อิตฺถนฺนามสฺสาติ ปรมฺมุเข ิตํ สนฺธาย วทติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจาติ เอตฺถ ‘‘ยถา ปรโต ‘ตว สนฺตกํ กโรหี’ติ วุตฺเต ทุทฺทินฺนมฺปิ ‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’ติ วจเนน ‘สุคฺคหิตํ โหตี’ติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ ‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’ติ วุตฺเต สุทินฺนตฺตา ¶ ‘มยฺหํ คณฺหามี’ติ อวุตฺเตปิ ‘สุทินฺนเมวา’’’ติ วทนฺติ. ‘‘คณฺหาหีติ จ อาณตฺติยา คหณสฺส ตปฺปฏิพทฺธตากรณวเสน ปวตฺตตฺตา ตทา คณฺหามีติ จิตฺเต อนุปฺปาทิเต ปจฺฉา คเหตุํ น ลภตี’’ติ วทนฺติ.
ตํ น ยุชฺชตีติ วินยกมฺมสฺส กรณวเสน คเหตฺวา ทินฺนตฺตา วุตฺตํ. สเจ ปน ปโร สจฺจโตเยว วิสฺสาสํ คณฺหาติ, ปุน เกนจิ การเณน เตน ทินฺนํ ตสฺส น วฏฺฏตีติ นตฺถิ. นิสฺสคฺคิยํ ปน จีวรํ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา คณฺหนฺตํ ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ นิวารณตฺถํ วุตฺตํ. กายวาจาหิ กตฺตพฺพอธิฏฺานวิกปฺปนานํ อกตตฺตา โหตีติ อาห ‘‘กายวาจาโต สมุฏฺาตี’’ติ. จีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ชาติปฺปมาณยุตฺตตา, ฉินฺนปลิโพธภาโว, อติเรกจีวรตา, ทสาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๑-๔๗๓. ทุติเย อถานนฺทตฺเถโร กถํ โอกาสํ ปฏิลภติ, กึ กโรนฺโต จ อาหิณฺฑตีติ อาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิ. อวิปฺปวาเสติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, อวิปฺปวาสตฺถนฺติ อตฺโถ, วิปฺปวาสปจฺจยา ยา อาปตฺติ, ตทภาวตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔๗๕-๔๗๖. เอวํ ฉินฺนปลิโพโธติ เอวํ อิเมหิ จีวรนิฏฺานกถินุพฺภาเรหิ ฉินฺนปลิโพโธ. อธิฏฺิเตสูติ ติจีวราธิฏฺานนเยน อธิฏฺิเตสุ. ติจีวเรน วิปฺปวุตฺโถ โหตีติ ‘‘รุกฺโข ฉินฺโน, ปโฏ ทฑฺโฒ’’ติอาทีสุ วิย อวยเวปิ สมุทายโวหาโร ลพฺภตีติ วุตฺตํ.
๔๗๗-๔๗๘. ปริขาย ¶ วา ปริกฺขิตฺโตติ อิมินา จ สมนฺตา นทีตฬากาทิอุทเกน ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยวาติ ทสฺเสติ. เอตฺตาวตาติ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา วจเนน. อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปตีติ ฆรสฺส อุปริ อากาเส อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ ¶ อุฏฺาเปติ. ฆรํ นิเวสนุโทสิตาทิลกฺขณเมว, น ปน ปาฏิเยกฺกํ ฆรํ นาม อตฺถีติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ.
๔๗๙. ปาฬิยํ วุตฺตนเยน ‘‘สภาเย’’ติ อวตฺวา ‘‘สภาย’’นฺติ ปจฺจตฺตวจนํ สภาย-สทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตาวิภาวนตฺถํ วุตฺตํ. สภา-สทฺทปริยาโยปิ หิ สภาย-สทฺโท นปุํสกลิงฺคยุตฺโต อิธ วุตฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ อาห. จีวรหตฺถปาเส วสิตพฺพํ นตฺถีติ จีวรหตฺถปาเสเยว วสิตพฺพนฺติ นตฺถิ. ยํ ตสฺสา…เป… น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ ตสฺสา วีถิยา สมฺมุขฏฺาเน สภายทฺวารานํ คหเณเนว ตตฺถ สพฺพานิปิ เคหานิ สา จ อนฺตรวีถิ คหิตาเยว โหติ. อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปตีติ ตํ วีถึ มฺุจิตฺวา ิเต อฺสฺมึ ฆเร นิกฺขิปติ. ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสติ ฆรสฺส หตฺถปาสํ สนฺธาย วทติ.
นิเวสนาทีสุ ปริกฺขิตฺตตาย เอกูปจารตา, อปริกฺขิตฺตตาย นานูปจารตา จ เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเตเนวุปาเยนา’’ติอาทิมาห. นิเวสนาทีนิ คามโต พหิ สนฺนิวิฏฺานิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ิตานฺหิ คามคฺคหเณน คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติ. สพฺพตฺถาปีติ คามาทีสุ อชฺโฌกาสปริยนฺเตสุ ปนฺนรสสุ. ปริกฺเขปาทิวเสนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปริกฺเขปสฺเสว คหณํ เวทิตพฺพํ, น เอกกุลาทีนมฺปิ.
๔๘๐-๔๘๗. โอวรโก นาม คพฺภสฺส อพฺภนฺตเร อฺโ คพฺโภติปิ วทนฺติ. มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ จนฺทิกงฺคณยุตฺโต ปาสาโท.
๔๘๙. สตฺโถติ ชงฺฆสตฺโถ สกฏสตฺโถ วา. ปริยาทิยิตฺวาติ วินิวิชฺฌิตฺวา. วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘อนฺโตปวิฏฺเน…เป… ิโต โหตี’’ติ. ตตฺถ อนฺโตปวิฏฺเนาติ คามสฺส นทิยา วา อนฺโตปวิฏฺเน. นทีปริหาโร จ ลพฺภตีติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา คามาทีหิ อฺตฺถ วิย จีวรหตฺถปาโสเยว นทีปริหาโร’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ สนฺธายาห. วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพนฺติ อนฺโตสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํ. สตฺถสมีเปเยวาติ อิทํ ยถาวุตฺตอพฺภนฺตรปริจฺเฉทวเสน ¶ วุตฺตํ. ปาฬิยํ นานากุลสฺส ¶ สตฺโถ โหติ, สตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ หตฺถปาโส นาม สตฺถสฺส หตฺถปาโสติ เวทิตพฺพํ.
๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเตติ อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วทติ. ยสฺมา ‘‘นานากุลสฺส ปริกฺขิตฺเต เขตฺเต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวารมูลโต อฺตฺถ อนฺโตเขตฺเตปิ วสนฺเตน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาเยว วสิตพฺพํ.
๔๙๑-๔๙๔. ‘‘วิหาโร นาม สปริกฺขิตฺโต วา อปริกฺขิตฺโต วา สกโล อาวาโส’’ติ วทนฺติ. ยสฺมึ วิหาเรติ เอตฺถ ปน เอกํ เคหเมว วุตฺตํ. เอกกุลนานากุลสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน เวทิตพฺพา. ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโต เอวาติ ยทา มหาวีถิยํ อุชุกเมว คจฺฉนฺตํ สูริยมณฺฑลํ มชฺฌนฺหิกํ ปาปุณาติ, ตทา ยํ โอกาสํ ฉายา ผรติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อคมนปเถติ ยํ ตทเหว คนฺตฺวา ปุน อาคนฺตุํ สกฺกา น โหติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๙๕. นทึ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มฺุจิตฺวา โอตรติ. น อาปชฺชตีติ ปริโภคปจฺจยา ทุกฺกฏํ นาปชฺชติ. เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิ. อปริโภคารหตฺตาติ อิมินาว นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสชฺเชตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ อจิตฺตกนฺติ สิทฺธํ. เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อิทํ พหูนํ สฺจารฏฺาเน เอวํ อกตฺวา คมนํ น สารุปฺปนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. พหิคาเม เปตฺวา…เป… วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตตฺตา อธิฏฺาเน วิย ปรมฺมุขา ิตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตุํ นิสฺสฏฺจีวรฺจ ทาตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.
คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํ. มุหุตฺตํ สยิตฺวา…เป… นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ ‘‘อุสฺสาเห อปริจฺจตฺเตปิ คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ปุน อุฏฺาย สอุสฺสาหํ คจฺฉนฺตานมฺปิ อนฺตรา อรุเณ อุฏฺิเต นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยวา’’ติ วทนฺติ. ปรโต มุหุตฺตํ ตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตาติ เอตฺถ สเจ เอวํ คจฺฉนฺตา ‘‘ปุรารุณา อฺมฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อุสฺสาหํ วินาว คตา โหนฺติ, อรุณุคฺคมเน นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วตฺตพฺพา ปมตรํเยว ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต. อถ ‘‘ปุรารุณา ปสฺสิสฺสามา’’ติ สอุสฺสาหาว ¶ คจฺฉนฺติ, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิเยว น วตฺตพฺพา. เอวฺจ สติ ‘‘สห อรุณุคฺคมนา นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? วุจฺจเต – สอุสฺสหตฺตา ปมตรํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตา. สติปิ ¶ จ อุสฺสาหภาเว เอกโต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘มุหุตฺตํ ตฺวา’’ติ เอตฺถ วิย สห อรุณุคฺคมนา ปฏิปฺปสฺสทฺธิเยว วุตฺตา.
อนฺโตสีมายํ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา ปจฺฉา ปติฏฺาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามํ อนฺโต กตฺวา อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา อภาวโต. เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ อวิปฺปวาสสีมาภาวโต วุตฺตํ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหภาวโต. อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุณํ อุคฺคจฺฉตีติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ. อสฺสติยา คจฺฉตีติ อสฺสติยา อตฺตโน จีวรํ อปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ อปจฺจุทฺธราเปตฺวา คจฺฉติ. เอวํ คเต ตสฺมึ ปจฺฉา เถเรน สริตฺวา ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ ‘‘อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพ’’นฺติ. คนฺตฺวา วตฺตพฺโพติ อาคตกิจฺจํ นิฏฺเปตฺวา วิหารํ คเตน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสติ. อนธิฏฺิตจีวรตา, อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๗-๔๙๙. ตติเย ปาฬิยํ จีวรปจฺจาสา นิกฺขิปิตุนฺติ เอตฺถ จีวรปจฺจาสาย สติยา นิกฺขิปิตุนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ภณฺฑิกาพทฺธานิ ภณฺฑิกพทฺธานีติปิ ปนฺติ, ภณฺฑิกํ กตฺวา พทฺธานีติ อตฺโถ. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ปุริมสิกฺขาปเท วิย สามิวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๕๐๐. อนตฺถเต กถิเน จีวรมาเส ภิกฺขุโน อุปฺปนฺนจีวรํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ ตสฺมึ มาเส เปตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘เอกํ ปจฺฉิมกตฺติกมาสํ เปตฺวา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรนฺติ ¶ วจนโต อนตฺถเต กถิเน ปจฺฉิมกตฺติกมาสสงฺขาเต จีวรมาเส อุปฺปนฺนจีวรสฺสปิ ปจฺจาสาจีวเร อสติ ทสาหปริหาโรเยว, ตโต ปรํ เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถาย น สเมติ. ตถา หิ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙ อาทโย) ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ อุปฺปนฺนสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา ปริหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตเมว จ ปริหารํ สนฺธาย ¶ ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺาย ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๔๖-๖๔๙) วุตฺตํ. ตสฺมา จีวรมาเส ทสาหโต ปรมฺปิ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตมฺปิ เปตุํ วฏฺฏติ.
ยทิ เอวํ ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวร’’นฺติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อกาลจีวรสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ ปมานิยเต โสตสฺส รโห วิย. เอกาทสมาเส สตฺตมาเส จ อุปฺปนฺนฺหิ จีวรํ วุตฺถวสฺเสหิ เสเสหิ จ สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตุํ ลพฺภตีติ อกาลจีวรํ นาม ชาตํ. กาเล ปน ‘‘สงฺฆสฺส อิทํ อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ อนุทฺทิสิตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ วุตฺถวสฺเสหิเยว ภาเชตพฺพํ, น อฺเหีติ กาลจีวรนฺติ วุจฺจติ. อาทิสฺส ทินฺนํ ปน สมฺมุขีภูเตหิ สพฺเพหิเยว ภาเชตพฺพนฺติ อกาลจีวรํ, ตสฺมา กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนสฺส วุตฺถวสฺเสหิ เสเสหิ จ สมฺปตฺเตหิ ภาชนียตฺตา อกาลจีวรสามฺโต ‘‘กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวร’’นฺติ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘เอกปุคฺคลสฺส วา อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ ทินฺน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ปุคฺคลสฺส อาทิสฺส ทินฺนํ เกนจิ ภาชนียํ โหตีติ? นายํ วิโรโธ อาทิสฺส วจนสามฺโต ลพฺภมานมตฺถํ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตตฺตา.
เอวํ ปน อวตฺวาติ ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘มาสปรมโต อุตฺตริ’’นฺติ ปทภาชนํ อวตฺวา. ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘อตฺตโน คติกํ กโรตี’’ติ กรณกิริยาย กตฺตุภาวโต. อนฺตรา อุปฺปนฺนฺหิ ปจฺจาสาจีวรํ มาสปรมํ มูลจีวรํ เปตุํ อทตฺวา อตฺตโน ทสาหปรมตาย เอว ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ตโต อุทฺธํ มูลจีวรนฺติ เอตฺถ ปน มูลจีวรนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. วีสติมทิวสโต อุทฺธฺหิ อุปฺปนฺนํ ¶ ปจฺจาสาจีวรํ ทสาหปรมํ คนฺตุํ อทตฺวา มูลจีวรํ อตฺตนา สทฺธึ กรณสมฺพนฺธตามตฺเตน สกกาลวเสน ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ปจฺจาสาจีวเร ปน ลภิตฺวา วิสุํ เปนฺตสฺส ทสาหํ อนติกฺกนฺเต นตฺถิ ตปฺปจฺจยา อาปตฺติ. ปาฬิยํ ทสาหา กาเรตพฺพนฺติ เอตฺถ ทสาหาติ กรณตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ทสาเหนาติ อตฺโถ. ปฺจาหุปฺปนฺเนติอาทึ รสฺสํ กตฺวาปิ ปนฺติ. เอกวีเส อุปฺปนฺเน…เป… นวาหา กาเรตพฺพนฺติอาทิ ปจฺจาสาจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสํ เปตฺวา วุตฺตํ.
อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ…เป… กาเรตพฺพนฺติ อิทํ สติยา เอว ปจฺจาสาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อิโต ปฏฺาย จีวรํ น ลภิสฺสามี’’ติ ปจฺจาสา อุปจฺฉินฺนา, มูลจีวรมฺปิ ¶ ทสาหํ เจ สมฺปตฺตํ, ตทเหว อธิฏฺาตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพนฺติ ปมตรํ อุปฺปนฺนํ วิสภาคปจฺจาสาจีวรํ สนฺธาย วทติ. อฺมฺนฺติ อฺํ อฺํ, อยเมว วา ปาโ. องฺคํ ปเนตฺถ ปมกถิเน วุตฺตสทิสเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโส.
ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๓. จตุตฺเถ ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ปาฬิปทสฺส ภตฺตกิจฺจนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ภตฺตสํวิธาน’’นฺติปิ เกจิ. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ อิมสฺสปิ โส นาม ตฺวนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ตาย นาม ตฺว’’นฺติ เกจิ.
๕๐๕. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํเยว ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา ปิตามหทฺวนฺทาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณเนว มาตามโหปิ คหิโตติ. ‘‘ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา’’ติ วจนโต เหฏฺา จ อุทฺธฺจ อฏฺมยุโค าติ นาม น โหติ. เทสนามุขเมว เจตนฺติ ปิตามหยุคาติ ปิตามห-คฺคหณํ เทสนามุขํ ปิตามหีมาตามหีอาทีนมฺปิ อธิปฺเปตตฺตา. ปิตุ มาตา ปิตามหี. มาตุ ปิตา มาตามโห ¶ . มาตุ มาตา มาตามหี. เอตฺถ กิฺจาปิ ปฺจสตสากิยานีนํ วเสน ภิกฺขุภาเว ตฺวา ปริวตฺตลิงฺคาย ภิกฺขุนิยา จ วเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี ลพฺภติ, ตถาปิ ปกตินิยาเมเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กปฺปํ กตฺวาติ วจนโต ทินฺนกปฺปเมว ปาจิตฺติยํ ชเนตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ปุราณจีวรํ นาม สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อนฺตมโส ปริโภคสีเสนา’’ติอาทิ. ‘‘กาเยน ผุสิตฺวา ปริโภโคเยว ปริโภโค นามา’’ติ กุรุนฺทิยํ อธิปฺปาโย.
๕๐๖. กายวิการํ กตฺวาติ อิทํ ยาว ‘‘โอรโต เปตี’’ติ ปทํ, ตาว สพฺพปเทสุ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา สา ‘‘โธวาเปตุกาโม อย’’นฺติ ชานาติ, เอวํ กายวิการํ กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘กายวิการํ กตฺวา’’ติ วจนโต กายวาจาหิ กฺจิ วิการํ อกตฺวา หตฺเถน หตฺเถ เทนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเสติ อิทํ วิเสสนํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. ตถา ¶ หิ หตฺเถน หตฺเถ เทนฺตสฺส ปาทมูเล จ เปตฺวา เทนฺตสฺส ‘‘อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส’’ติ อิทํ วตฺตพฺพนฺติ นตฺถิ อฺถา อสมฺภวโต. สติ หิ สมฺภเว พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ โหติ. อุปริ ‘‘ขิปตี’’ติอาทีนิ ปน สนฺธาย อิทํ วิเสสนํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา อุปริ ขิปนฺตสฺส อฺสฺส หตฺเถ เปเสนฺตสฺส จ อาปตฺติ. อุปจารํ ปน มฺุจิตฺวา กายวาจาหิ วิการํ กตฺวา อาณาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. อุปจาเรติ อนฺโตทฺวาทสหตฺถเมว โอกาสํ วทติ. อุปจารํ มฺุจิตฺวาติ ทฺวาทสหตฺถูปจารํ มฺุจิตฺวา.
เอเกน วตฺถุนาติ ปมํ กตฺวา นิฏฺาปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. รชเน อนาปตฺตีติ รชนํ ปจฺจาสีสนฺตสฺสปิ ‘‘โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตตฺตา อนาปตฺติ อนาณตฺติยา กตตฺตา. ‘‘อวุตฺตา โธวตี’’ติ อิมินา ‘‘อวุตฺตา รชติ, อวุตฺตา อาโกเฏตี’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหตีติ อาห – ‘‘อวุตฺตา โธวตีติ อิมินา ลกฺขเณน อนาปตฺตี’’ติ. สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทฺเว ทุกฺกฏานิ อาปชฺชติ. ยถาวตฺถุกเมวาติ นิสฺสคฺคิยเมวาติ อตฺโถ. ปฺจ สตานิ ปริมาณเมตาสนฺติ ปฺจสตา.
๕๐๗. จีวรํ ¶ โธวาติ…เป… อาณาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ตาย โธวนํ ปจฺจาสีสนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ตฺวา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. ปฺจเม อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท อปฺตฺเต. วิหารวารนฺติ วิหารปฏิชคฺคนวารํ. โกฏฺาสสมฺปตฺตีติ สกลา องฺคปจฺจงฺคสมฺปตฺติ. สพฺพปริยนฺตนฺติ ฉฏฺสฺส อฺจีวรสฺส อภาวา ปฺจนฺนํ จีวรานํ เอกเมกํ สพฺเพสํ ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ. อนฺตรวาสกาทีสุ หิ ปฺจสุ เอกเมกํ อฺสฺส ฉฏฺสฺส อภาวา ปฺจนฺนํ อนฺตเมว โหติ. อถวา ปฺจสุ จีวเรสุ เอกเมกํ อตฺตโน อฺสฺส ทุติยสฺส อภาวา อนฺตเมว โหตีติ สพฺพเมว ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ, สพฺพโส วา ปริยนฺตนฺติ สพฺพปริยนฺตํ. เตนาห – ‘‘อฺํ…เป… นตฺถี’’ติ. ยถา ตสฺส มโนรโถ น ปูรตีติ ‘‘สรีรปาริปูรึ ¶ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ตสฺส อุปฺปนฺโน มโนรโถ ยถา น ปูรติ. เอวํ หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวาติ สรีรํ อทสฺเสตฺวาว ทาตพฺพจีวรํ หตฺถตเล ‘‘หนฺทา’’ติ ทสฺเสตฺวา.
๕๑๐. วิหตฺถตายาติ วิหตหตฺถตาย, อคณตาย อปฺปจฺจยตาย อปฺปฏิสรณตายาติ วุตฺตํ โหติ. สมภิตุนฺนตฺตาติ ปีฬิตตฺตา. ปริวตฺเตตพฺพํ ปริวตฺตํ, ปริวตฺตเมว ปาริวตฺตกํ, ปริวตฺเตตฺวา ทียมานนฺติ อตฺโถ.
๕๑๒. อุปจาเรติ ทฺวาทสหตฺถูปจารํ สนฺธาย วทติ. อุปจารํ วา มฺุจิตฺวา ขิปนฺตีติ ทฺวาทสหตฺถํ มฺุจิตฺวา โอรโต เปนฺติ, น ปุริมสิกฺขาปเท วิย ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรเยวาติ อธิปฺปาโย. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ยํ อนฺตมโส หรีตกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา วา ทสฺสามีติ อาโภคํ กตฺวา วา ปาริวตฺตกํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา. อจิตฺตกภาเวน น สเมตีติ ยถา อฺาติกาย าติกสฺิสฺส เวมติกสฺส จ คณฺหโต อจิตฺตกตฺตา อาปตฺติ ¶ , เอวมิธาปิ ‘‘ภิกฺขุนิยา สนฺตกํ อิท’’นฺติ อชานิตฺวา คณฺหโตปิ อาปตฺติเยวาติ อธิปฺปาโย. วสฺสาวาสิกํ เทตีติ ปุคฺคลิกํ กตฺวา เทติ. ปํสุกูลํ อตฺตโน อตฺถาย ปิตภาวํ ชานิตฺวา คณฺหนฺเตนปิ อฺสฺส สนฺตกํ คหิตํ นาม น โหตีติ อาห – ‘‘สเจ ปน สงฺการกูฏาทีสู’’ติอาทิ. อสามิกฺหิ ปํสุกูลนฺติ วุจฺจติ. ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวาติ ‘‘อสามิกํ อิท’’นฺติ สฺํ อุปฺปาเทตฺวา. เอวํ ปน ปํสุกูลสฺํ อนุปฺปาเทตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ.
๕๑๓. อฺาติกาย อฺาติกสฺีติ ติกปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. ตีณิ ปริมาณมสฺสาติ ติกํ, ติกฺจ ตํ ปาจิตฺติยฺจาติ ติกปาจิตฺติยํ, ตีณิ ปาจิตฺติยานีติ อตฺโถ.
๕๑๔. ปตฺตตฺถวิกาทึ ยํกิฺจีติ อนธิฏฺานุปคํ สนฺธาย วทติ. ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ หิ วุตฺตตฺตา อธิฏฺานุปคํ ยํกิฺจิ น วฏฺฏติ. เตเนวาห – ‘‘วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณ’’นฺติอาทิ. ยสฺมา ภิสิจฺฉวิ มหนฺตาปิ เสนาสนสงฺคหิตตฺตา จีวรสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ เนว อธิฏฺานุปคา น วิกปฺปนุปคา จ, ตสฺมา อนธิฏฺานุปคสามฺโต วุตฺตํ. สเจปิ มฺจปฺปมาณา ภิสิจฺฉวิ โหติ, วฏฺฏติเยวาติ. โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ มหติยาปิ ตาว ภิสิจฺฉวิยา อนธิฏฺานุปคตฺตา อนาปตฺติ, ตโต ขุทฺทกตเรสุ อนธิฏฺานุปเคสุ ปตฺตตฺถวิกาทีสุ กิเมว วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ปฏิคฺคหณํ กิริยา, ¶ อปริวตฺตนํ อกิริยา. วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อฺาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๑๕. ฉฏฺเ ปติกิฏฺโติ นิหีโน, ลามโกติ อตฺโถ. โลลชาติโกติ โลลสภาโว. ปฏุเยว ปฏฺโฏ. เตนาห ‘‘เฉโก’’ติอาทิ. กิสฺมึ วิยาติ เอตฺถ ‘‘กิสฺมึ วิยา’’ติ นิปาตวเสน สมานตฺถํ ‘‘กึสุ วิยา’’ติ นิปาตปทนฺติ อาห ‘‘กึสุ วิยา’’ติ, กึ วิยาติ ¶ อตฺโถ, ทุกฺขํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กิเลโส วิยา’’ติอาทิ. ธมฺมวเสน อุปจารวเสน นิมนฺตนา ธมฺมนิมนฺตนาติ ปาฬิปทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ อิทํ สจฺจเมว วุตฺตํ สิยา, ปวาริโตเยว โหติ. ยสฺมา ปน ปวาเรตฺวาปิ อทาตุกาโม อปฺปวาริตฏฺาเนเยว ติฏฺติ, ตสฺมา ภควา ปวาริตาปวาริตภาวํ อวิจาเรตฺวา ‘‘าตโก เต, อุปนนฺท, อฺาตโก’’ติ าตกอฺาตกภาวํเยว วิจาเรสิ. มุสึสูติ วิลุมฺปึสุ.
๕๑๗. อนุปุพฺพกถาติ อนุปุพฺเพน วินิจฺฉยกถา. เสสปริกฺขารานํ สทฺธิวิหาริเกหิ คหิตตฺตา นิวาสนปารุปนมตฺตเมว อวสิฏฺนฺติ อาห ‘‘นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา’’ติ. สทฺธิวิหาริกานํ ตาว อาคมนสฺส วา อนาคมนสฺส วา อชานนตาย วุตฺตํ ‘‘เถเรหิ เนว ตาว…เป… ภฺชิตพฺพ’’นฺติ. ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺตีติ อตฺตโน จีวรํ ททมานา สยํ สาขาภงฺเคน ปฏิจฺฉาเทนฺตีติ เตสํ อตฺถายปิ ภฺชิตุํ ลภนฺติ. ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต อีทิเสสุ ภูตคามปาตพฺยตาปิ อนฺุาตาเยว โหตีติ อาห – ‘‘เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหตี’’ติ. น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏนฺติ เตสํ ติตฺถิยทฺธชานํ ธารเณปิ ทุกฺกฏํ นตฺถิ.
ยานิ จ เนสํ วตฺถานิ เทนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เถรานํ สยเมว ทินฺนตฺตา วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ. ยทิ ลทฺธึ คณฺหาติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา’’ติ. ‘‘โน เจ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา…เป… อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมินา อนฺตรามคฺเค ปวิฏฺวิหารโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ อตฺตโน อภิรุจิตฏฺานํ ¶ คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อิมินา จ ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ อนฺตรามคฺเค ิตวิหารมฺปิ สเจ นคฺโค หุตฺวา คจฺฉติ, ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ. ยทิ เอวํ ตตฺถ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? อโนกาสตฺตา. ตตฺถ หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา…เป… จีวรํ วิฺาเปตุ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺเธน สงฺฆิกมฺปิ จีวรํ นิวาเสตุํ ปารุปิตฺุจ อนุชานนฺโต ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ…เป… คเหตฺวา ปารุปิตุ’’นฺติ อาห, ตสฺมา ตตฺถ อโนกาสตฺตา ทุกฺกฏํ น วุตฺตํ.
วิหารจีวรนฺติ ¶ เสนาสนจีวรํ. จิมิลิกาหีติ ปฏปิโลติกาหิ. ตสฺส อุปรีติ ภูมตฺถรณสฺส อุปริ. วิเทสคเตนาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา วิเทสคเตน. เอกสฺมึ…เป… เปตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘เลเสน คเหตฺวา อคตตฺตา เปนฺเตน จ สงฺฆิกปริโภเคเนว ปิตตฺตา อฺสฺมึ เสนาสเน นิยมิตมฺปิ อฺตฺถ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ปริโภเคเนวาติ อฺํ จีวรํ อลภิตฺวา ปริภฺุชเนน.
๕๑๙-๕๒๑. ปริโภคชิณฺณนฺติ ยถา เตน จีวเรน สรีรํ ปฏิจฺฉาเทตุํ น สกฺกา, เอวํ ชิณฺณํ. กปฺปิยโวหาเรนาติ กยวิกฺกยาปตฺติโต โมจนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ อิมสฺเสว อตฺถํ วิภาเวติ ‘‘เจตาเปนฺตสฺส ปริวตฺตาเปนฺตสฺสา’’ติ. อตฺตโน ธเนน หิ วิฺาปนํ นาม ปริวตฺตนเมวาติ อธิปฺปาโย. สงฺฆวเสน ปวาริตานํ วิฺาปเน วตฺตํ ทสฺเสติ ‘‘ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ. สงฺฆวเสน หิ ปวาริเต สพฺเพสํ สาธารณตฺตา อธิกํ วิฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ยํ ปวาเรตีติ ยํ ยํ จีวราทึ ทสฺสามีติ ปวาเรติ. วิฺาปนกิจฺจํ นตฺถีติ วินา วิฺตฺติยา ทียมานตฺตา วิฺาเปตฺวา กึ กริสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถาปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ อิทํ อนุวตฺตติเยวาติ อาห ‘‘อตฺตโน าตกปวาริเต’’ติอาทิ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๒. สตฺตเม ปาฬิยํ ปคฺคาหิกสาลนฺติ ทุสฺสวาณิชกานํ อาปณํ. ‘‘ปคฺคาหิตสาล’’นฺติปิ ปนฺติ.
๕๒๓-๕๒๔. อภีติ ¶ อุปสคฺโคติ ตสฺส วิเสสตฺถาภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘หริตุนฺติ อตฺโถ’’ติ. วร-สทฺทสฺส อิจฺฉายํ วตฺตมานตฺตา อาห ‘‘อิจฺฉาเปยฺยา’’ติ. ทฏฺุ เขมโตติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน อนุนาสิกโลโป ทฏฺพฺโพ. สอนฺตรนฺติ อนฺตรวาสกสหิตํ. อุตฺตรนฺติ อุตฺตราสงฺคํ. อสฺส จีวรสฺสาติ สาทิตพฺพจีวรสฺส. อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรนาติ อจฺฉินฺนานิ ¶ สพฺพานิ ตีณิ จีวรานิ อสฺสาติ อจฺฉินฺนสพฺพจีวโร, เตนาติ อตฺโถ. ยสฺส หิ อจฺฉินฺทนสมเย ตีณิ จีวรานิ สนฺนิหิตานิ โหนฺติ, ตานิ สพฺพานิ อจฺฉินฺนานีติ โส ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวโร’’ติ วุจฺจติ. เตเนว ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวรเกนา’’ติ วุตฺตํ. ติจีวรเกนาติ หิ อจฺฉินฺทนสมเย ติจีวรสฺส สนฺนิหิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน วินยเตจีวริกภาวํ ธุตงฺคเตจีวริกภาวํ วา สนฺธาย. เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตวิธินา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อฺเนาติ อจฺฉินฺนอสพฺพจีวเรน. ยสฺส ตีสุ จีวเรสุ เอกํ วา ทฺเว วา จีวรานิ อจฺฉินฺนานิ โหนฺติ, เตนาติ อตฺโถ. อฺถาปีติ ‘‘สนฺตรุตฺตรปรม’’นฺติ วุตฺตวิธานโต อฺถาปิ. ยสฺส หิ ตีสุ ทฺเว จีวรานิ อจฺฉินฺนานิ โหนฺติ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกสฺมึ อจฺฉินฺเน น สาทิตพฺพนฺติ น ตสฺส สนฺตรุตฺตรปรมสาทิยนํ สมฺภวติ, อยเมว จ อตฺโถ ปทภาชเนน วิภาวิโต. เตนาห ‘‘ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.
เกจิ ปน ‘‘ติจีวรเกนาติ วุตฺตตฺตา ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬวเสน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชโต ตสฺมึ นฏฺเ พหูนิปิ คเหตุํ ลภตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปทภาชนสฺส หิ อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺเตน ยสฺมา ปน ‘‘อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน…เป… ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ, ปทภาชเน จ น ตาทิโส อตฺโถ อุปลพฺภติ, ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพเมว. ยมฺปิ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘ยสฺส อธิฏฺิตจีวรสฺส ตีณิ นฏฺานี’’ติ, ตตฺถาปิ อธิฏฺิตคฺคหณํ สรูปกถนมตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตจีวรสฺเสวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ ตถา อตฺถสฺส อสมฺภวโต. น หิ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตจีวรสฺเสว อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ. ปุริมสิกฺขาปเทน หิ อจฺฉินฺนจีวรสฺส อฺาตกวิฺตฺติยา อนฺุาตตฺตา ปมาณํ อชานิตฺวา วิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปมาณโต สาทิยนํ อนุชานนฺเตน ภควตา อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ‘‘ปริกฺขารโจฬิกสฺส พหุมฺปิ สาทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อยมตฺโถ เนว ปาฬิยา สเมติ, น จ ภควโต อธิปฺปายํ อนุโลเมติ.
ยสฺส ตีณิ นฏฺานิ, เตน ทฺเว สาทิตพฺพานีติ เอตฺถ ยสฺส ติจีวรโต อธิกมฺปิ จีวรํ อฺตฺถ ¶ ิตํ อตฺถิ, ตทาตสฺส จีวรสฺส อลพฺภนียภาวโต เตนปิ ¶ สาทิตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรตีติ สาสงฺกสิกฺขาปทวเสน วา อวิปฺปวาสสมฺมุติวเสน วา ตติยสฺส อลาเภน วา จรติ. ‘‘ทฺเว นฏฺานี’’ติ อธิการตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว สาทิตพฺพานี’’ติ. เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสตีติ ติณฺณํ จีวรานํ ทฺวีสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิยนฺเตน สโม ภวิสฺสติ อุภินฺนมฺปิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย อวฏฺานโต. ยสฺส เอกํเยว โหตีติ อฺเน เกนจิ การเณน วินฏฺเสสจีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๕๒๖. ‘‘เสสกํ ตุยฺเหว โหตูติ เทนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปมาณยุตฺตํ คณฺหิสฺสาม, เสสกํ อาหริสฺสามา’’ติ วตฺวา คเหตฺวา คมนสมเยปิ ‘‘เสสกมฺปิ ตุมฺหากฺเว โหตู’’ติ วทนฺติ, ลทฺธกปฺปิยเมว. ปวาริตานนฺติ อจฺฉินฺนกาลโต ปุพฺเพเยว ปวาริตานํ. ปาฬิยา น สเมตีติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตริ สาทิยเน อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อนาปตฺติ าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ วุตฺตตฺตา น สเมติ. สนฺตรุตฺตรปรมํ สาทิยนฺตสฺส หิ อาปตฺติปฺปสงฺโคเยว นตฺถิ, สติ จ สิกฺขาปเทน อาปตฺติปฺปสงฺเค อนาปตฺติ ยุตฺตา ทสฺเสตุนฺติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘ปมาณเมว วฏฺฏตีติ อิทํ สลฺเลขทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ.
ยสฺมา ปนิทํ…เป… น วุตฺตนฺติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ วุจฺจมาเน อฺเสํ อตฺถาย ปมาณํ อติกฺกมิตฺวาปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ อาปชฺชติ, ตฺจ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา วตฺถุนา สํสนฺทิยมานํ น สเมติ. น หิ ยํ วตฺถุํ นิสฺสาย สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมึเยว อนาปตฺติวจนํ ยุตฺตนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ‘‘อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺตโน สาทิยนปฏิพทฺธตาวเสน ปวตฺตตฺตา ‘อฺสฺสตฺถายา’ติ วตฺตุํ โอกาโสเยว นตฺถิ, ตสฺมา น วุตฺต’’นฺติ กถิตํ. อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ อวุตฺตตฺตา อฺเสํ อตฺถาย าตกปวาริเตสุ อธิกํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺตีติ เจ? น, ตตฺถ ปุริมสิกฺขาปเทเนว อนาปตฺติสิทฺธิโต. ตตุตฺตริตา, อจฺฉินฺนาทิการณตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๗. อฏฺเม ¶ ¶ อปิ มยฺยาติ ปาเปิ โสเยวตฺโถ. อยฺยาติ ปน พหุวจเนน อามนฺตนํ กตํ.
๕๒๘-๕๒๙. อปทิสฺสาติ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ เอวํ อปทิสิตฺวา. ปจฺจยํ กตฺวาติ การณํ กตฺวา. อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ โย กตฺตาติ ‘‘อุทฺทิสฺสา’’ติ อิมินา วุตฺตอุทฺทิสนกิริยาย โย กตฺตา. จีวรํ เจตาเปนฺติ ปริวตฺเตนฺติ เอเตนาติ จีวรเจตาปนฺนํ. น-การาคมํ กตฺวา จีวรเจตาปนฺนนฺติ วุตฺตํ, ‘‘จีวรเจตาปน’’นฺติปิ ปนฺติ. ปจุรโวหารวเสนาติ เยภุยฺยโวหารวเสน. เยภุยฺยวเสน หิ ฆรสามิกํ ทฏฺุกามา ตสฺส ฆรํ คจฺฉนฺตีติ ตเถว พหุลํ โวหาโร. พฺยฺชนมตฺตเมวาติ อตฺโถ เนตพฺโพ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
๕๓๑. สมเกปิ ปน อนาปตฺตีติ ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม โหติ, ตทคฺฆนเก อนาปตฺติ มูลํ วฑฺเฒตฺวา อธิกวิธานํ อนาปนฺนตฺตา. เอตฺถ จ ‘‘ทาตุกาโมมฺหี’’ติ อตฺตโน สนฺติเก อวุตฺเตปิ ทาตุกามตํ สุตฺวา ยทคฺฆนกํ โส ทาตุกาโม โหติ, ตทคฺฆนกํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. อคฺฆวฑฺฒนกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทนฺติ เอตฺถ อคฺฆวฑฺฒนํ เอตสฺส อตฺถีติ อคฺฆวฑฺฒนกํ, อคฺฆวฑฺฒนํ สนฺธาย อิทํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. จีวรํ เทหีติ สงฺฆาฏิอาทีสุ ยํกิฺจิ จีวรํ สนฺธาย วทติ. จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๓๒. ทุติยอุปกฺขเฏ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๗-๕๓๙. ราชสิกฺขาปเท ปน ‘‘อชฺชณฺโห’’ติ ปาเ ‘‘อชฺชุณฺโห’’ติปิ ปนฺติ. โภโคติ ภฺุชิตพฺโพ. ยํ วุตฺตํ มาติกาฏฺกถายํ ‘‘อิมินา ¶ จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหีติ อิทํ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สเจ หิ ‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา ¶ กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺยา’’ติ, ตตฺถ อาคมนสฺส สุทฺธิยา วา อสุทฺธิยา วา วิเสสปฺปโยชนํ น ทิสฺสติ. สติปิ หิ อาคมนสฺส อสุทฺธภาเว ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหาเรน วทติ, ‘‘กปฺปิยการโก น นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ อิทํ นตฺถิ, น จ ทูเตน กปฺปิยโวหารวเสน วุตฺเต ทายเกน อิทํ กถํ เปสิตนฺติ อีทิสี วิจารณา อุปลพฺภติ, อวิจาเรตฺวา จ ตํ น สกฺกา ชานิตุํ, ยทิ ปน อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺย, จีวรานํ อตฺถาย ทูตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุสฺมึ เปสิเต สพฺพตฺถ ทายเกน กถํ เปสิตนฺติ ปุจฺฉิตฺวาว กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย. ตสฺมา อสติปิ อาคมนสุทฺธิยํ สเจ โส ทูโต อตฺตโน กุสลตาย กปฺปิยโวหารวเสน วทติ, ทูตสฺเสว วจนํ คเหตพฺพํ. ยทิ หิ อาคมนสุทฺธิเยเวตฺถ ปมาณํ, มูลสามิเกน กปฺปิยโวหารวเสน เปสิตสฺส ทูตสฺส อกปฺปิยโวหารวเสน วทโตปิ กปฺปิยการโก นิทฺทิสิตพฺโพ ภเวยฺย, ตสฺมา สพฺพตฺถ ทูตวจนเมว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ.
อิมินา จีวรเจตาปนฺเนนาติอาทินา ปน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – กปฺปิย วเสน อาคตมฺปิ จีวรมูลํ อีทิเสน ทูตวจเนน อกปฺปิยํ โหติ, ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ. เตเนวาห – ‘‘เตน ภิกฺขุนา โส ทูโต เอวมสฺส วจนีโย’’ติอาทิ. สุวณฺณํ, รชตํ, กหาปโณ, มาสโกติ อิมานิ หิ จตฺตาริ นิสฺสคฺคิยวตฺถูนิ, มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลํ, สตฺต ธฺานิ, ทาสิทาสํ, เขตฺตํ, วตฺถุ, ปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิมานิ ทุกฺกฏวตฺถูนิ จ อตฺตโน วา เจติยสงฺฆคณปุคฺคลานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ตํ สาทิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ อิทํ ปน อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อาภตตฺตา วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา วุตฺตํ. ‘‘เวยฺยาวจฺจกโร นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ กปฺปิยวจเนน วุตฺตตฺตา อนฺุาตํ. สเจ ปน ทูโต ‘‘โก อิมํ คณฺหาตี’’ติ วา ¶ ‘‘กสฺส เทมี’’ติ วา วทติ, น นิทฺทิสิตพฺโพ. ‘‘อารามิโก วา อุปาสโก วา’’ติ อิทํ สารุปฺปตาย วุตฺตํ, เปตฺวา ปน ปฺจ สหธมฺมิเก โย โกจิ กปฺปิยการโก วฏฺฏติ. ‘‘เอโส โข, อาวุโส, ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อิทํ ภิกฺขุสฺส กปฺปิยวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอวเมว หิ วตฺตพฺพํ, ‘‘เอตสฺส เทหี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ. โส วา เจตาเปสฺสติ วาติ เอตฺถ เอโก วา-สทฺโท ปทปูรโณ, ‘‘สฺตฺโต โส มยา’’ติอาทิ ปน ทูเตน เอวํ อาโรจิเตเยว ตํ โจเทตุํ วฏฺฏติ, เนวาสฺส หตฺเถ ทตฺวา คตมตฺตการเณนาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.
เอตานิ ¶ หิ วจนานิ…เป… น วตฺตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เอวํ วทนฺโต ปฏิกฺขิตฺตสฺส กตตฺตา วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, โจทนา ปน โหติเยวา’’ติ มหาคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. อุทฺทิฏฺโจทนาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวาติ ‘‘ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ’’ติอาทินา ทสฺเสตฺวา. ปุจฺฉิยมาโนติ เอตฺถ ปุจฺฉิยมาเนนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อาห ‘‘กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจน’’นฺติ. อาคตการณํ ภฺชตีติ อาคตการณํ วินาเสติ.
เอตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘อาคตการณํ นาม จีวรคฺคหณํ, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ปุน ตํ จีวรํ เยน เกนจิ อากาเรน คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อาคตการณํ นาม กายวาจาหิ โจทนา, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ปุน ตํ เยน เกนจิ อากาเรน โจเทตุํ น ลภติ. สเจ สยเมว เทติ, มูลสามิโก วา ทาเปติ, คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘อาคตการณํ นาม านํ, ตํ ภฺชตีติ วุตฺตตฺตา ยถา ‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’ติ เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ ภฺชติ, เอวมิธาปิ สเจ อาสเน นิสีทติ, เอกาย นิสชฺชาย ทฺเว านานิ ภฺชติ. อามิสํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, เอเกน ปฏิคฺคหเณน ทฺเว านานิ ภฺชติ. ธมฺมํ เจ ภาสติ, ธมฺมเทสนาสิกฺขาปเท วุตฺตปริจฺเฉทาย เอกาย วาจาย ทฺเว านานิ ภฺชตี’’ติ วทนฺติ. อิเมสํ ปน สพฺเพสมฺปิ วาทํ ‘‘อยุตฺต’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘อาคตการณํ นาม านเมว, ตสฺมา ‘น กตฺตพฺพ’นฺติ วาริตสฺส กตตฺตา นิสชฺชาทีสุ กเตสุ ฉสุ าเนสุ เอกํ านํ ภฺชตี’’ติ.
ตตฺร ¶ ตตฺร าเน ติฏฺตีติ อิทํ โจทกสฺส ิตฏฺานโต อปกฺกมฺม ตตฺร ตตฺร อุทฺทิสฺส านํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สามํ วา คนฺตพฺพํ, ทูโต วา ปาเหตพฺโพ’’ติ อิทํ สภาวโต โจเทตุํ อนิจฺฉนฺเตนปิ กาตพฺพเมวาติ วทนฺติ. มุขํ วิวริตฺวา สยเมว กปฺปิยการกตฺตํ อุปคโตติ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อวิจาเรตุกามตายาติ อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ อิทํ ‘‘ตาทิสํ กโรนฺโต กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
‘‘เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิทานิ ตํ เมณฺฑกสิกฺขาปทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห. อิทเมว หิ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทิวจนํ เภสชฺชกฺขนฺธเก เมณฺฑกวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๒๙๙) วุตฺตตฺตา ‘‘เมณฺฑกสิกฺขาปท’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ เมณฺฑเกน นาม เสฏฺินา –
‘‘สนฺติ ¶ , ภนฺเต, มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ, สาธุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาเถยฺยํ อนุชานาตู’’ติ –
ยาจิเตน ภควตา –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ. ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน, คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกนา’’ติ –
วตฺวา อิทํ วุตฺตํ –
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ, ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ, ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ ภิกฺขเว เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ.
หิรฺํ ¶ อุปนิกฺขิปนฺตีติ เอตฺถาปิ ภิกฺขุสฺส อาโรจนํ อตฺถิเยวาติ คเหตพฺพํ. อฺถา อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกตฺตํ ภชตีติ น โจเทตพฺโพ สิยา. ยทิ มูลํ สนฺธาย โจเทติ, ตํ สาทิตเมว สิยาติ อาห ‘‘มูลํ อสาทิยนฺเตนา’’ติ.
‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตนา โจทนาานฺจ น กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อฺํ ปน กปฺปิยการกํ เปเสตฺวา โลกจาริตฺตวเสน อนุยฺุชิตฺวาปิ กปฺปิยวตฺถุํ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส นิกฺขิตฺตสฺส อตฺตโน สนฺตกตฺตา’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, กิฺจิ น วตฺตพฺพา’’ติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น คเหตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. น หิ อฺาตกอปฺปวาริตํ สยํ อวิฺาเปตฺวา อฺเน วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ, น จ ยตฺถ อฺํ เปเสตฺวา อาหราเปตุํ วฏฺฏติ, ตตฺถ สยํ คนฺตฺวา น อาหราเปตพฺพนฺติ สกฺกา วตฺถุํ. ยทิ เจตฺถ อฺเน อาหราเปตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติอาทิวจนเมว นิรตฺถกํ สิยา. ‘‘ทูเตนา’’ติ อิมสฺส พฺยภิจารํ ทสฺเสติ ‘‘สยํ อาหริตฺวาปี’’ติ. ททนฺเตสูติ อิมินา สมฺพนฺโธ ¶ . ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถายาติ อิมินา ปน ‘‘จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ อิมสฺส พฺยภิจารํ ทสฺเสติ. ‘‘เอเสว นโย’’ติ วุตฺตตฺตา ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ทินฺเนปิ านโจทนาทิ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว กาตพฺพํ.
ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตีติ ปฏิคฺคหเณ ปาจิตฺติยํ, ปริโภเค ทุกฺกฏํ. สฺเวว สาปตฺติโกติ ทุกฺกฏาปตฺตึ สนฺธาย วทติ. อิทฺจ อฏฺกถาปมาเณเนว คเหตพฺพํ. ‘‘ปรสฺส นิทฺโทสภาวทสฺสนตฺถํ สฺเวว สาปตฺติโก สโทโสติ วุตฺตํ โหตี’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘โจเทตีติ วุตฺตตฺตา ปน อาปตฺติยา โจเทตีติ กตฺวา สฺเวว สาปตฺติโกติ อิทํ ทุกฺกฏํเยว สนฺธาย วตฺตุํ ยุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยวาติ ทุกฺกฏเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ตฬากสฺสปิ เขตฺตสงฺคหิตตฺตา ตสฺส ปฏิคฺคหเณปิ อาปตฺติ วุตฺตา. จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภฺุชตูติ เทตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุจตุ, ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถํ ตฬากํ ¶ ทมฺมี’’ติ วา วทติ, วฏฺฏติเยว. ‘‘อิโต ตฬากโต อุปฺปนฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถาติ วุตฺเตติ อิทํ อีทิสํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. กปฺปิยกฺกเมน สมฺปฏิจฺฉิเตสุ เขตฺตตฬากาทีสุ ปน อวุตฺเตปิ กปฺปิยการกํ เปตุํ ลพฺภติเยว. ยสฺมา ปรสนฺตกํ นาเสตุํ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘น สสฺสกาเล’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ชนปทสฺส สามิโกติ อิมินาว โย ตํ ชนปทํ วิจาเรติ, เตนปิ อจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ. อุทกวาหกนฺติ อุทกมาติกํ. กปฺปิยโวหาเรปีติ เอตฺถ ‘‘วิธานํ วกฺขามา’’ติ ปาเสโส. อุทกวเสนาติ อุทกปริโภคตฺถํ. สุทฺธจิตฺตานนฺติ เกวลํ อุทกปริโภคตฺถเมวาติ อธิปฺปาโย. อลชฺชินา การาปิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘ลชฺชีภิกฺขุนา’’ติ. ปกติภาโค นาม อิมสฺมึ รฏฺเ จตุอมฺพณมตฺตํ. อกฏฺปุพฺพํ นวสสฺสํ นาม. อปริจฺฉินฺนภาเคติ ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค เอตฺตโก ภาโค ทาตพฺโพ’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนภาเค.
รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วาติ เอตฺถ ‘‘ปาเทหิปิ มินิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ขเล วา ตฺวา รกฺขตีติ เอตฺถ ปน เถเนตฺวา คณฺหนฺเต ทิสฺวา ‘‘มา คณฺหถา’’ติ นิวาเรนฺโต รกฺขติ นาม. สเจ ปน อวิจาเรตฺวา เกวลํ ตุณฺหีภูโตว รกฺขณตฺถาย โอโลเกนฺโต ติฏฺติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ตสฺมึ ตุณฺหีภูเต โจริกาย หรนฺติ, ‘‘มยํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจสฺสามา’’ติ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. นีหราเปติ ปฏิสาเมตีติ เอตฺถาปิ ‘‘สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตี’’ติ ¶ วทนฺติ. อปุพฺพสฺส อนุปฺปาทิตตฺตา อฺเสํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตสฺเสว ตํ อกปฺปิย’’นฺติ.
นนุ จ ทุพฺพิจาริตมตฺเตน ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ, น สพฺเพสํ รูปิยสํโวหาเร จตุตฺถปตฺโต วิย. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๙) ‘‘โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ. ตสฺมา ¶ ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตาติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? เอตฺถ เกจิ วทนฺติ ‘‘กหาปเณ สาทิยิตฺวา วิจาริตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺต’’นฺติ. สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘อสาทิยิตฺวาปิ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา รูปิยสํโวหาโร กโต โหติ, สงฺฆิกตฺตา จ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ อิทํ วุตฺตํ ‘‘จตุตฺถปตฺโต คิหิสนฺตกานํเยว กหาปณานํ วิจาริตตฺตา อฺเสํ กปฺปติ, อิธ ปน สงฺฆิกานํ วิจาริตตฺตา สพฺเพสํ น กปฺปตี’’ติ. สพฺเพสมฺปิ วาโท เตน เตน ปริยาเยน ยุชฺชติเยว.
จตุสาลทฺวาเรติ โภชนสาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริยาเยน กถิตตฺตาติ ‘‘คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘สีมา คตา’’ติ ปริยาเยน กถิตตฺตา. ปกติภูมิกรณตฺถํ ‘‘เหฏฺา คหิตํ ปํสุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทาสํ ทมฺมีติ เอตฺถ ‘‘มนุสฺสํ ทมฺมีติ วุตฺเต วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กุกฺกุฏสูกรา…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ กุกฺกุฏสูกเรสุ ทียมาเนสุ ‘‘อิเมหิ อมฺหากํ อตฺโถ นตฺถิ, สุขํ ชีวนฺตุ, อรฺเ วิสฺสชฺเชถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) เขตฺตาทีนํ ปฏิคฺคหเณ อยํ สพฺโพ วินิจฺฉโย วุตฺโต. กปฺปิยการกสฺส ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺภาโว, ทูเตน อปฺปิตตา, ตตุตฺตริ วายาโม, เตน วายาเมน ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.
๒. โกสิยวคฺโค
๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๒. ปาฬิยํ ¶ ‘‘โกสิยการเก’’ติ เอตฺถ โกสํ กโรนฺตีติ โกสการกาติ ลทฺธโวหารานํ ปาณกานํ โกสโต นิพฺพตฺตํ โกสิยํ, ตํ กโรนฺตีติ โกสิยการกา, ตนฺตวายา. สํหนนํ สงฺฆาโต ¶ , วินาโสติ อตฺโถ. โกสิยมิสฺสกนฺติ โกสิยตนฺตุนา มิสฺสํ. ‘‘อวายิม’’นฺติ วุตฺตตฺตา วายิตฺวา เจ กโรนฺติ, อนาปตฺติ. อนาปตฺติ วิตานํ วาติอาทินา วิตานาทีนํ อตฺถาย กรเณปิ เตนากาเรน ปริโภเคปิ อนาปตฺติ วุตฺตา.
เอวมฺปิ มิสฺเสตฺวา กตเมว โหตีติ อิมินา วาเตน อาหริตฺวา ปาติเตปิ อจิตฺตกตฺตา อาปตฺติเยวาติ ทสฺเสติ. โกสิยมิสฺสกตา, อตฺตโน อตฺถาย สนฺถตสฺส กรณํ การาปนํ, ปฏิลาโภ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๔๗. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว.
๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๒. ทฺเวภาคสิกฺขาปเท ปน ทฺเว ภาคาติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท กาฬกานํ อธิกคฺคหณสฺส ปฏิกฺเขปวเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา. ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยานนฺติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท เตสํ อธิกคฺคหเณ ปฏิกฺเขปาภาวโต, ตสฺมา กาฬกานํ ภาคทฺวยโต อธิกํ น วฏฺฏติ, เสสานํ ปน วุตฺตปฺปมาณโต อธิกมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘กาฬกานํเยว จ อธิกคฺคหณสฺส ปฏิกฺขิตฺตตฺตา กาฬกานํ อุปฑฺฒํ โอทาตานํ วา โคจริยานํ วา อุปฑฺฒํ คเหตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ‘‘อนาปตฺติ พหุตรํ โอทาตานํ พหุตรํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กโรติ, สุทฺธํ โอทาตานํ สุทฺธํ โคจริยานํ อาทิยิตฺวา กโรตี’’ติ อิมินา ตํ สเมติ. ‘‘กาฬเก โอทาเต จ เปตฺวา เสสา โคจริเยสุเยว สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติ วทนฺติ. ทฺเว ¶ โกฏฺาสา กาฬกานนฺติ เอตฺถ ปน ‘‘เอกสฺสปิ กาฬกโลมสฺส อติเรกภาเว นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา) ตฺตํ, ตํ ‘‘ธารยิตฺวา ทฺเว ตุลา อาทาตพฺพา’’ติ วจนโต ตุลาธารณาย น สเมติ ¶ . น หิ โลเม คเณตฺวา ตุลาธารณา กรียติ, อถ คเณตฺวาว ธารยิตพฺพํ สิยา, กึ ตุลาธารณาย, ตสฺมา เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต สิยา – อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส ปุพฺเพ ตุลาย ธารยิตฺวา ปิเตสุ เอกมฺปิ โลมํ ตตฺถ ปเตยฺย, นิสฺสคฺคิยนฺติ. อฺถา ทุพฺพิฺเยฺยภาวโต ทฺเว ตุลา นาทาตพฺพา, อูนกตราว อาทาตพฺพา สิยุํ.
ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๗. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปเท ปน ‘‘เยสํ โน สนฺถเต ทารกา อุหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปิ, เยสํ โน สนฺถตา อุนฺทูเรหิปิ ขชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ปาฬิปทานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. หท กรีโสสฺสคฺเค, มิห เสจเนติ ปนิมสฺสตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตี’’ติ. ปวารณาอุโปสถปาฏิปททิวเสสุ สนฺถตํ กริตฺวา ปุน ฉฏฺเ วสฺเส ปริปุณฺเณ ปวารณาอุโปสถปาฏิปททิวเสสุ กโรนฺโต ‘‘ฉพฺพสฺสานิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. ทุติยทิวสโต ปฏฺาย กโรนฺโต ปน อติเรกฉพฺพสฺสานิ กโรติ นาม.
ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๖๕-๖. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปเท ปน ปฺายิสฺสตีติ สเจ สา กติกา มนาปา ภวิสฺสติ, มนาปตาย ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺทิสฺสิสฺสติ. สเจ อมนาปา, อมนาปตาย สนฺทิสฺสิสฺสตีติ อธิปฺปาโย, อารฺกงฺคาทีนิ ตีณิ ปาฬิยํ ปธานงฺควเสน วุตฺตานิ, เสสานิปิ เต สมาทิยึสุเยวาติ เวทิตพฺพํ. เตเนวาห ‘‘สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ. อุชฺฌิตฺวาติ วิสฺสชฺเชตฺวา.
๕๖๗. นิสีทนสนฺถตตฺตา ¶ นิวาสนปารุปนกิจฺจํ นตฺถีติ อาห ‘‘สกึ นิสินฺนฺเจว นิปนฺนฺจา’’ติ ¶ . วิทตฺถิมตฺตนฺติ สุคตวิทตฺถึ สนฺธาย วทติ. อิทฺจ เหฏฺิมปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘วิตานาทีนํเยว อตฺถาย กรเณ อนาปตฺติวจนโต สเจ นิปชฺชนตฺถาย กโรนฺติ, อาปตฺติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อกปฺปิยตฺตา ปน ‘‘ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ นิสีทนสนฺถตํ นาม นิสีทนจีวรเมว, นาฺนฺติ วทนฺติ. นิสีทนสิกฺขาปเทปิ นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตีติ จ อฏฺกถายฺจสฺส ‘‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺเต ปเทเส ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กรียนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓๑) วจนโต อิธาปิ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ จ ‘‘สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตายา’’ติ จ วจนโต ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. เกจิ ปน ‘‘นิสีทนสนฺถตํ เอฬกโลมานิ สนฺถริตฺวา สนฺถตํ วิย กโรนฺติ, ตํ อวายิมํ อนธิฏฺานุปคํ, นิสีทนจีวรํ ปน ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตเรน กโรติ อธิฏฺานุปคํ, ตํ กโรนฺตา จ นนฺตกานิ สนฺถริตฺวา สนฺถตสทิสํ กโรนฺตี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.
นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๑. เอฬโลมสิกฺขาปเท ปน อาสุมฺภีติ เอตฺถ ‘‘อสุมฺภี’’ติ ปนฺติ. กิลนฺตาติ อิมินา กิลนฺตตาย เต โอนมิตฺวา ปาเตตุํ น สกฺโกนฺตีติ ทสฺเสติ. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาติ อิทํ วตฺถุมตฺตทีปนวเสน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปน ธมฺเมน ลภิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติเยว. ติโยชนปรมนฺติ จ คหิตฏฺานโต ติโยชนปฺปมาณํ เทสนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.
๕๗๒. สหตฺถาติ กรณตฺเถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘สหตฺเถนา’’ติ. อสนฺเต หารเกติ ปาฬิยํ ภิกฺขุโน อนุรูปตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน หารเก วิชฺชมาเน ติโยชนพฺภนฺตเร สหตฺถา หรนฺตสฺส อาปตฺติทสฺสนตฺถํ. ติโยชนโต พหิ พหิติโยชนนฺติ อาห ‘‘ติโยชนโต พหิ ปาเตตี’’ติ. เตน หริเตปิ อาปตฺติเยวาติ สอุสฺสาหตฺตา อนาณตฺติยา หฏตฺตา จ. สติปิ หิ สอุสฺสาหภาเว อาณตฺติยา ¶ เจ หรติ, อนาปตฺติ ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต. อฺโ หริสฺสตีติ อธิปฺปายาภาวโต ‘‘สุทฺธจิตฺเตน ปิต’’นฺติ วุตฺตํ. สอุสฺสาหตฺตาติ ติโยชนาติกฺกมเน สอุสฺสาหตฺตา. อิทฺจ ‘‘อฺโ หริสฺสตี’’ติ อสุทฺธจิตฺเตน ปิตํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ, อจิตฺตกตฺตาติ อิทํ ปน สุทฺธจิตฺเตน ปิตํ สนฺธาย. อนาปตฺติ ปาฬิยา น สเมตีติ ‘‘ติโยชนํ หรตี’’ติอาทิปาฬิยา, วิเสสโต ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ ปาฬิยา จ น สเมติ.
สเจ สามิกํ ชานาเปตฺวา เปติ, อาณตฺติยา หราเปติ นามาติ อาห ‘‘สามิกสฺส อชานนฺตสฺเสวา’’ติ. อคจฺฉนฺเตปีติ คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ิตยาเนปิ. เหฏฺา วา คจฺฉนฺโตติ ภูมิยํ คจฺฉนฺโต. อฺํ หราเปตีติ เอตฺถ อฺ-คฺคหเณน สามฺโต ติรจฺฉานคตาปิ สงฺคหิตาติ อาห – ‘‘อฺํ หราเปตีติ วจนโต อนาปตฺตี’’ติ. สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหตีติ อฺํ หราเปนฺตสฺส อาปตฺติ. ตตฺถ อนาปตฺตีติ อฺวิหิตสฺส เถยฺยจิตฺตาภาวโต อนาปตฺติ.
๕๗๕. ‘‘ตํ หรนฺตสฺสาติ ปุน ติโยชนํ หรนฺตสฺสา’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. ตํ ปน มาติกาฏฺกถายํ องฺเคสุ ‘‘ปมปฺปฏิลาโภ สติ อิมินา วจเนน น สเมติ. ‘‘ปมปฺปฏิลาโภ’’ติ หิ อิทํ ทุติยปฺปฏิลาโภ อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ ทีเปติ, ตสฺมา ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ วิเสสาภาวโต อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวา หรนฺตสฺส ปุน ติโยชนาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ วุตฺตาติ อมฺหากํ ขนฺติ. อฺถา อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวา ปุน ติโยชนํ หรตีติ วเทยฺย. วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อนาปตฺติ กตภณฺฑนฺติ เอตฺถ ‘‘กมฺพลโกชวาทิกตภณฺฑมฺปิ. ปกติจีวเร ลคฺคโลมานิ อาปตฺตึ ชเนนฺติเยวา’’ติ วทนฺติ. ตนุกปตฺตตฺถวิกนฺตเร อฆฏฺฏนตฺถํ ปกฺขิปนฺติ. ปกฺขิตฺตนฺติ กณฺณจฺฉิทฺเท ปกฺขิตฺตํ. นิธานมุขํ นามาติ อิมินา กตภณฺฑสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. เอฬกโลมานํ อกตภณฺฑตา, ปมปฺปฏิลาโภ, อตฺตนา อาทาย วา อฺสฺส อชานนฺตสฺส ยาเน ปกฺขิปิตฺวา วา ติโยชนาติกฺกมนํ, อาหรณปจฺจาหรณํ, อวาสาธิปฺปายตาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๗๖. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทํ ¶ อุตฺตานตฺถเมว.
๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๓-๕๘๔. รูปิยสิกฺขาปเท ปน สตฺถุวณฺโณติ สตฺถุนา สมานวณฺโณ. สตฺถุโน วณฺโณ สตฺถุวณฺโณ, สตฺถุวณฺโณ วิย วณฺโณ อสฺสาติ สตฺถุวณฺโณติ มชฺฌปทโลปีสมาโส ทฏฺพฺโพ. ปากติโก ¶ นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ. รุกฺขผลพีชมโยติ ตินฺติณิกาทิรุกฺขานํ ผลพีเชน กโต. อิจฺเจตํ สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตเภทํ สพฺพมฺปิ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหตีติ สมฺพนฺโธ. ชาตรูปมาสโกติ สุวณฺณกหาปโณ.
คณฺเหยฺยาติ อตฺตโน อตฺถาย ทียมานํ วา กตฺถจิ ิตํ วา นิปฺปริคฺคหํ ทิสฺวา สยํ คณฺเหยฺย. ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน มม หิรฺสุวณฺณํ อตฺถิ, ตํ ตุยฺหํ โหตู’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา ิตํ วา เกวลํ วาจาย วา หตฺถมุทฺทาย วา ‘‘ตุยฺห’’นฺติ วตฺวา ปริจฺจตฺตสฺส กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน สาทิยนํ อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนํ นาม. ‘‘สาทิยตี’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘คณฺหิตุกาโม โหตี’’ติ. ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ปจฺจยปริโภคํเยว สนฺธาย อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุคฺคณฺหาเปยฺย วา’’ติ วุตฺตลกฺขเณน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห – ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติ. ปรโต ‘‘อิมํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหตีติ ยสฺมา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค กปฺปติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ิตํ. ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโคปิ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตนฺติ เอตฺถ เจตาปิตํ เจ, นตฺถิ ปริโภคุปาโย, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. อกปฺปิยฺหิ นิสฺสคฺคิยํ วตฺถุํ อุคฺคณฺหิตฺวา ตํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺมฺปิ สพฺเพสํ น กปฺปติ. เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยํ วตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ นิสฺสฏฺํ วินาว อุปายํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ¶ ‘น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิต’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘อารามิกานํ วา ปตฺตภาคนฺติ อิทํ คิหีนํ หตฺถคโตปิ โสเยว ภาโคติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปน เตน อฺํ ปริวตฺเตตฺวา อารามิกา เทนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มชฺฌิมคณฺิปเท จูฬคณฺิปเท จ วุตฺตํ. ตโต หริตฺวาติ อฺเสํ ปตฺตภาคโต หริตฺวา. กสิณปริกมฺมนฺติ อาโลกกสิณปริกมฺมํ. มฺจปีาทีนิ วาติ เอตฺถ ‘‘ตโต คหิตมฺจปีาทีนิ ปริวตฺเตตฺวา อฺํ เจ คหิตํ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ฉายาปีติ โภชนสาลาทีนํ ฉายาปิ. ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตาติ เคหปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตา, ฉายาย คตคตฏฺานํ เคหํ นาม น โหตีติ อธิปฺปาโย. มคฺเคนปีติ เอตฺถ ‘‘สเจ อฺโ มคฺโค นตฺถิ, มคฺคํ อธิฏฺหิตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. กีตายาติ เตน วตฺถุนา กีตาย. อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภฺุชตีติ สเจ อุปาสโก ‘‘อติพหุ เอตํ หิรฺํ, อิทํ, ภนฺเต, อชฺเชว น วินาเสตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สยํ ¶ อุปนิกฺเขปํ เปติ, อฺเน วา ปาเปติ, เอตํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา ตโต อุทยํ ปริภฺุชนฺโต สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภฺุชติ, เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ วุตฺตํ.
๕๘๕. ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตน ปาเตตพฺพนฺติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํ, ตสฺมา ปติตฏฺาเน าเตปิสฺส คูถํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส วิย นิรเปกฺขภาโวเยเวตฺถ ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. อสนฺตสมฺภาวนายาติ อตฺตนิ อวิชฺชมานอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํ. เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตา หิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนฺุาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนฺุาตตฺตา ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค, ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘สีลวโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. จีวรํ ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเค. ปุเรภตฺต…เป… ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ยถาวุตฺตกาลวิเสสวเสน เอกสฺมึ ทิวเส จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ ทฺวิกฺขตฺตุํ สกึเยว วา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ.
สจสฺส ¶ อปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตํ, ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย…เป… หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนตฺถํ, หิยฺโย โย มยา ปิณฺฑปาโต ปริภุตฺโต, โส เนว ทวายาติอาทินา สเจ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณํ น กเรยฺย, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเส. เอวํ ปน อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตาทีสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ อิธ วิสุํ น วุตฺตํ. สติปจฺจยตาติ สติยา ปจฺจยภาโว, ปฏิคฺคหณสฺส ปริโภคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยภาโว ยุชฺชติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพํ ปริภฺุชิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตปีติ ยทิปิ ทฺวีสุปิ าเนสุ ปจฺจเวกฺขณา ยุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ. อปเร ปนาหุ ‘‘สติปจฺจยตาติ สติเภสชฺชปริโภคสฺส ปจฺจยภาเว ปจฺจเยติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตปีติ ปจฺจเย สติปี’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตถา หิ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌติ, น ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน.
นนุ จ ‘‘ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วุตฺตํ, ตสฺมา ¶ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส จ โก วิเสโสติ? วุจฺจเต – ปุริเมสุ ตาว ตีสุ ปจฺจเยสุ วิเสโส ปากโฏเยว, คิลานปจฺจเย ปน ยถา วตึ กตฺวา รุกฺขมูเล โคปิเต ตสฺส ผลานิปิ รกฺขิตานิเยว โหนฺติ, เอวเมว ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีเล รกฺขิเต ตปฺปฏิพทฺธํ ปาติโมกฺขสํวรสีลมฺปิ นิปฺผนฺนํ นาม โหติ. คิลานปจฺจยํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส สีลํ ภิชฺชมานํ ปาติโมกฺขสํวรสีลเมว ภิชฺชติ, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปน ปจฺฉาภตฺตปุริมยามาทีสุ ยาว อรุณุคฺคมนา อปจฺจเวกฺขนฺตสฺเสว ภิชฺชติ. ปุเรภตฺตฺหิ อปจฺจเวกฺขิตฺวาปิ คิลานปจฺจยํ ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ, อิทเมเตสํ นานากรณํ.
เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ สุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ เอตายาติ สุทฺธิ, ยถาธมฺมํ เทสนาว สุทฺธิ เทสนาสุทฺธิ. วุฏฺานสฺสปิ เจตฺถ เทสนาย เอว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ฉินฺนมูลาปตฺตีนํ ปน อภิกฺขุตาปฏิฺาว เทสนา. อธิฏฺานวิสิฏฺโ สํวโรว สุทฺธิ สํวรสุทฺธิ. ธมฺเมน สเมน ¶ ปจฺจยานํ ปริเยฏฺิ เอว สุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ. จตูสุ ปจฺจเยสุ วุตฺตวิธินา ปจฺจเวกฺขณาว สุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ. เอส ตาว สุทฺธีสุ สมาสนโย. สุทฺธิมนฺเตสุ สีเลสุ เทสนา สุทฺธิ เอตสฺสาติ เทสนาสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ เอตฺถ เอวนฺติ สํวรเภทํ สนฺธายาห. ปหายาติ วชฺเชตฺวา, อกตฺวาติ อตฺโถ. ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา, อนนฺุาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต อนฺุาเตสุเยว จ ปริโภคสพฺภาวภาวโต ภิกฺขูหิ ปริภฺุชิตพฺพปจฺจยา ภควโต สนฺตกา. ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกนฺติ –
‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา, ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙) –
เอวํ ปวตฺตํ ธมฺมทายาทสุตฺตฺจ เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ สาธกํ.
อวีตราคานํ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิ ปริโภคสพฺภาวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปจฺจเย ¶ ปริภฺุชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เตนาห – ‘‘เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภฺุชนฺตี’’ติ. โย ปนายํ สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค, โส อิณปริโภคสฺส ปจฺจนีกตฺตา อาณณฺยปริโภโค นาม โหติ. ยถา หิ อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตเทสํ คนฺตุํ น ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อาณณฺยปริโภโคติ วุจฺจติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ เวทิตพฺโพ. โส อิธ วิสุํ น วุตฺโต, ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตีติ. สีลวาปิ หิ อิมาย สิกฺขาย สมนฺนาคตตฺตา เสกฺโขตฺเวว วุจฺจติ. สพฺเพสนฺติ อริยานํ ปุถุชฺชนานฺจ.
กถํ ¶ ปุถุชฺชนานํ อิเม ปริโภคา สมฺภวนฺตีติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ ทายกานํ มโนรถสฺส อวิราธนโต. เตเนว วุตฺตํ ‘‘ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺตฺเหตสฺส อตฺถสฺส สาธกํ.
ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค นาม ลชฺชิสฺส สนฺตกํ คเหตฺวา ปริโภโค. อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถีติ อิมินา ทิฏฺทิฏฺเสุเยว อาสงฺกา น กาตพฺพาติ ทสฺเสติ. อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโย. โสปิ นิวาเรตพฺโพติ โย ปสฺสติ, เตน นิวาเรตพฺโพ. ยสฺมา อลชฺชีปริโภโค นาม ลชฺชิโน วุจฺจติ, ตสฺมา อาปตฺติ นาม นตฺถิ อุภินฺนมฺปิ อลชฺชีภาวโต, ‘‘อลชฺชีปริโภโค’’ติ อิทํ นามมตฺตเมว น ลพฺภตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อาปตฺติ ปน อตฺถิเยวาติ วทนฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
อธมฺมิโยติ อเนสนาทีหิ อุปฺปนฺโน. ธมฺมิโยติ ภิกฺขาจริยาทีหิ อุปฺปนฺโน. สงฺฆสฺเสว เทตีติ ภตฺตํ อคฺคเหตฺวา อตฺตนา ลทฺธสลากํเยว เทติ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ…เป… อนฺตรธาเปตีติ เอตฺถ เกวลํ ปคฺคณฺหิตุกามตาย เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ธมฺมสฺส ปน สาสนสฺส โสตูนฺจ อนุคฺคหตฺถาย วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. ปุริมนเยน ‘‘โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา อิมสฺส อาปตฺติเยวาติ วทนฺติ. อุทฺเทสคฺคหณาทินา ธมฺมสฺส ปริโภโค ธมฺมปริโภโค. ธมฺมานุคฺคเหน คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติยา อภาเวปิ เถโร ตสฺส อลชฺชิภาวํเยว ¶ สนฺธาย ‘‘ปาโป กิราย’’นฺติอาทิมาห. ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเก.
๕๘๖. ราโชโรธาทโยติอาทิ ‘‘อิทํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เจตนามตฺตสมฺภวโต วุตฺตํ. อสฺสติยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ อสฺสติยา ทินฺนํ นาม อปริจฺจตฺตํ โหติ, ตสฺมา ทสนฺเต พทฺธกหาปณาทิ อสฺสติยา ทินฺนํ ภิกฺขุนา ¶ วตฺถสฺาย ปฏิคฺคหิตฺจ, ตโต เนว รูปิยํ ทินฺนํ, นาปิ ปฏิคฺคหิตฺจ โหตีติ เอตฺถ อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นตฺถิ, ตํ ปน ทายกานเมว ปฏิทาตพฺพํ. เตน อกปฺปิยวตฺถุนา เต เจ ทายกา สปฺปิอาทีนิ กิณิตฺวาน สงฺฆสฺส ตสฺส จ ภิกฺขุโน เทนฺติ, สพฺเพสํ กปฺปติ ทายกานํเยว สนฺตกตฺตา. อฏฺกถายํ ปน ปฺุกาเมหิ ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนเมว สนฺธาย ‘‘ปฺุกามา…เป… รูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ปริจฺจชิตฺวา ทินฺนํ วตฺถสฺาย คณฺหโตปิ นิสฺสคฺคิยเมว. เตน ยทิ เต ทายกา โน อาคนฺตฺวา คณฺหนฺติ, ทายเก ปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย เจ ปริจฺจตฺตํ, สงฺเฆ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพา. ตว โจฬกํ ปสฺสาหีหิ อิมินา คิหิสนฺตเกปิ ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติอาทิอกปฺปิยโวหาเรน วิธานํ ภิกฺขุโน น กปฺปตีติ ทีเปติ. เอกปริจฺเฉทานีติ กิริยากิริยภาวโต เอกปริจฺเฉทานิ. ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, กหาปณาทีสุ อฺตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๗. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท ชาตรูปาทิจตุพฺพิธมฺปิ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณเนว คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ. ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเนติ สาทิตรูปิยสฺส ปริวตฺตเน, อสาทิยิตฺวา วา กปฺปิเยน คาเหน ปฏิคฺคหิตรูปิยปริวตฺตเน.
๕๘๙. ค-การสฺส ก-การํ กตฺวา ‘‘สีสูปก’’นฺติ ลิขิตํ, ปทภาชเน ฆนกตนฺติ ปิณฺฑํ กตํ. สตฺถุวณฺโณติอาทีสุ ‘‘สตฺถุวณฺโณ จ กหาปโณ จ…เป… เย จ โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ เอวํ สพฺพตฺถ สมุจฺจโย เวทิตพฺโพ. รูปิเย รูปิยสฺีติ สกสนฺตกํ วทติ. รูปิยํ เจตาเปตีติ ปรสนฺตกํ วทติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺสปิ เอเสว นโย’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. น ¶ หิ ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปติ ¶ , นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิตฺติโก ปาฬิยํ วุตฺโตติ อาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ. ตสฺสานุโลมตฺตาติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – รูปิยสํโวหาโร นาม น เกวลํ รูปิเยน รูปิยปริวตฺตนเมว, อถ โข ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปตี’’ติ วุตฺตตฺตา อรูปิเยน รูปิยเจตาปนมฺปิ รูปิยสํโวหาโร นาม โหตีติ เอตสฺมึ ปกฺเขปิ รูปิเย สติ รูปิยสํโวหาโรเยว โหตีติ อยมตฺโถ อวุตฺโตปิ วิฺายตีติ. อรูปิยํ นาม ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูนิ. เอกนฺเตน รูปิยปกฺเขติ เอเกน อนฺเตน รูปิยปกฺเขติ อยํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘เอกโต รูปิยปกฺเข’’ติ วา ปาโ เวทิตพฺโพ. ‘‘เอกรูปิยปกฺเข’’ติปิ ปนฺติ, ตตฺถาปิ เอกโต รูปิยปกฺเขติ อยเมวตฺโถ คเหตพฺโพ.
กปฺปิยวตฺถุนา กปฺปิยวตฺถุโน กยวิกฺกเยปิ ตาว นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุโน กยวิกฺกเย กสฺมา น โหตีติ อนฺธกฏฺกถาย อธิปฺปาโย. อิทํ สิกฺขาปทํ…เป… อรูปิเยน จ รูปิยเจตาปนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธาติ อิมสฺมึ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเท. ตตฺถาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปเท. เตเนวาติ กปฺปิยวตฺถุนาเยว.
ปุน กปฺปิยภาวํ เนตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘มหาอกปฺปิโย นามา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุนฺติ อิทํ ปฺจนฺนํเยว สหธมฺมิกานํ อนฺตเร ปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ, คิหีหิ ปน คเหตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ สพฺเพสํ กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ ปน อิมินาว ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว เตน เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ.
เย ปน ‘‘ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวาปิ เตน ปริวตฺติตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, เตสํ ‘‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’’นฺติ อิทํ น ยุชฺชติ. เต ปเนตฺถ เอวํ วทนฺติ ‘‘ยสฺมา นิสฺสชฺชิตพฺพวตฺถุํ อนิสฺสชฺชิตฺวาว อุปรูปริ อฺํ อฺํเยว กตํ, ตสฺมา ปริจฺเฉทาภาวโต อิธ นิสฺสชฺชิตุํ อวตฺวา ‘น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุ’นฺติ วุตฺตํ, ปริจฺเฉทาภาวโตเยว ‘มูเล มูลสามิกานํ ¶ , ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’ติ จ น วุตฺต’’นฺติ. ยทิ ปฏิคฺคหิตรูปิยํ อนิสฺสชฺชิตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเต อิธาปิ อวสานวตฺถุํ คเหตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ กสฺมา น วฏฺฏติ, ‘‘โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา…เป… ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’’ติ อิมินาปิ ปฏิคฺคหิตรูปิยํ ¶ อนิสฺสชฺชิตฺวา เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ สิทฺธํ. ยทิ ตํ นิสฺสฏฺํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺเฏยฺย, ‘‘มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหตี’’ติ น วเทยฺย. อปเร ปเนตฺถ เอวํ วทนฺติ ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ โหติ, รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส น วฏฺฏติ, ตสฺมา ตสฺสปิ ยถา วฏฺฏติ, ตถา ทสฺสนตฺถํ ‘มูเล มูลสามิกาน’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ.
ทุติยปตฺตสทิโสเยวาติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตีติ ทสฺเสติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติ. อถ มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ตาว อกปฺปิโย โหตุ, เสสานํ ปน กสฺมา น กปฺปตีติ มฺมาโน ปุจฺฉติ ‘‘กสฺมา เสสานํ น กปฺปตี’’ติ. การณมาห ‘‘มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ. ปตฺตสฺส กปฺปิยภาเวปิ สมฺปฏิจฺฉิตมูลสฺส นิสฺสชฺชิตพฺพสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา เตน คหิตปตฺโต เสสานมฺปิ น กปฺปติ. ยทิ หิ เตน สมฺปฏิจฺฉิตมูลํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ สิยา, เตน กปฺปิเยน กมฺเมน อารามิกาทีหิ คเหตฺวา ทินฺนปตฺโต รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา เสสานํ วฏฺฏติ. อปเร ปน ‘‘มูลํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คหิตปตฺโตปิ ยทิ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺโ, เสสานํ กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. เอวํ สนฺเต ‘‘มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ น วตฺตพฺพํ, ‘‘สงฺฆสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา’’ติ เอวเมว วตฺตพฺพํ.
ทุพฺพิจาริตตฺตาติ อิมินา รูปิยสํโวหาโร อเนน กโตติ ทสฺเสติ. อฺเสํ ปน วฏฺฏตีติ ยสฺมาเนน รูปิยสํโวหารมตฺตเมว กตํ, น มูลํ สมฺปฏิจฺฉิตํ, ตสฺมา วินยกมฺมวเสน สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺกาลโต ปฏฺาย อฺเสํ วฏฺฏติ. อิมสฺมึเยว จ อตฺเถ ปมาณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหาสุมตฺเถรสฺส กิรา’’ติอาทิมาห. อปเร ปน ‘‘ทุพฺพิจาริตตฺตาติ อิมินา เกวลํ คิหิสนฺตกภาเวน ิเต ทุพฺพิจาริตมตฺตํ วุตฺตํ, น รูปิยสํโวหาราปชฺชนํ, ตสฺมา รูปิยสํโวหาราภาวโต โส ปตฺโต นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺกาติ ตสฺส น กปฺปติ, อนิสฺสฏฺโปิ อฺเสํ ¶ กปฺปติ. อนิสฺสฏฺสฺเสว จ อฺเสํ กปฺปิยภาวทสฺสนตฺถํ ‘มหาสุมตฺเถรสฺส กิรา’ติอาทิวตฺถูนิ อุทาหฏานิ. สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชีติ อิทฺจ อฺเสํ กปฺปิยตฺตา เกวลํ สงฺฆสฺส ปริจฺจตฺตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน วินยกมฺมวเสน สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺภาวํ. อิมสฺส จ อตฺถสฺส สปฺปิสฺส ปูเรตฺวาติ อิทํ วจนํ สาธก’’นฺติ วทนฺติ.
๕๙๑. รูปิยปฏิคฺคหณรูปิยสํโวหาเรสุ เยน เอเกกเมว กตํ, เตน ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. เยน ปน ปฏิคฺคหิตรูปิเยเนว สํโวหาโร กโต, เตน กถํ นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ? นยิทํ ทุกฺกรํ, ‘‘อหํ, ภนฺเต, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิ’’นฺติ เอวเมว ¶ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. ‘‘อิมสฺมึ สิกฺขาปเทปิ ‘อรูปิเย รูปิยสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติอาทิตฺติกสฺส อวสานปเท อนาปตฺติยา วุตฺตตฺตา กปฺปิยวตฺถุวเสเนว อิทํ ติกํ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อรูปิยคฺคหเณน กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถูนํ สงฺคโหติ ปุริมปททฺวยํ กปฺปิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถูนํ วเสน วุตฺตํ, อวสานปทเมว กปฺปิยวตฺถุวเสน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อนาปตฺติมิสฺสิเต อวสานตฺติเก สฺานานตฺตํ เปตฺวา วตฺถุนานตฺตสฺส อภาวโต. ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน ทุกฺกฏวตฺถุโน เจตาปนํ เนว อิธ, น ตตฺถ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ วจนเมตฺถ สาธกํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺตติ, ตสฺส วา ธนสฺส วา รูปิยภาโว เจว, ปริวตฺตนฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.
รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๓. กยวิกฺกยสิกฺขาปเท ปาฬิยํ ชานาหีติ เอตฺถ อุปธาเรหีติ อตฺโถ, สุฏฺุ อุปธาเรตฺวา คณฺห, อิทํ น มนาปนฺติ ปุน ทาตุํ น สกฺขิสฺสสีติ อธิปฺปาโย.
๕๙๔-๕๙๕. กยนฺติ ปรภณฺฑสฺส คหณํ. วิกฺกยนฺติ อตฺตโน ภณฺฑสฺส ทานํ. เตนาห ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทิ. ยสฺมา กยิตํ นาม ปรสฺส ¶ หตฺถโต คหิตํ วุจฺจติ, วิกฺกีตฺจ ปรสฺส หตฺเถ ทินฺนํ, ตสฺมา ‘‘กยิตฺจ โหติ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ กโรนฺเตน, วิกฺกีตฺจ อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ กโรนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ปาฬิยํ ปรโต ‘‘กยิตฺจ โหติ วิกฺกยิตฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิมินา อิมนฺติอาทิวจนานุรูปโต ปนา’’ติอาทิ. อิมินาติ หิ สกสนฺตกํ วุตฺตํ. ตทนุรูปโต ปาฬิยํ ปมํ อตฺตโน ภณฺฑํ ทสฺสิตํ, น กยวิกฺกยปทานุรูปโต. ตฺหิ วิปรีตโต ปรสนฺตกคฺคหณํ ปุรกฺขตฺวา ิตํ.
กามํ เสสาตเกปิ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนสฺสปิ ปน อภาวํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘มาตรํ ปน ปิตรํ วา’’ติ อาห. วิฺตฺติ น โหตีติ อิทํ วิสุํ วิฺาปนํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺํ กิฺจิ อวตฺวา เอวํ วทนฺโต อฺาตกํ วิฺาเปติ นามาติ อาห – ‘‘อฺาตกํ ‘อิมํ เทหี’ติ วทโต วิฺตฺตี’’ติ. ¶ อฺํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ทินฺนํ อฺาตกสฺส ทินฺนํ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตน’’นฺติ. ติสฺโส อาปตฺติโยติ อฺาตกวิฺตฺติสทฺธาเทยฺยวินิปาตนกยวิกฺกยาปตฺติสงฺขาตา ติสฺโส อาปตฺติโย.
อิมํ นาม กโรหีติ วทติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ภุตฺโตสิ, อิทานิ กสฺมา น กโรสีติ วตฺถุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ กิฺจาปิ สติเยว นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, อสติปิ ปน ตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ อิทํ อฏฺกถาปมาเณน คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริภุตฺเตติ สปฺปิอาทึ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, เยน จ ปริวตฺเตติ, เตสํ กปฺปิยวตฺถุตา, อสหธมฺมิกตา, กยวิกฺกยาปชฺชนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๓. ปตฺตวคฺโค
๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๘-๖๐๒. ปตฺตวคฺคสฺส ¶ ปเม ภณฺฑนฺติ วิกฺเกตพฺพภณฺฑํ. ยสฺมา วณฺณสทฺโท สณฺานชาติรูปายตนการณปมาณคุณปสํสาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘มหนฺตํ สปฺปราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๔๒) หิ สณฺานํ วุจฺจติ. ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีโน อฺโ วณฺโณ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๐๒) ชาติ. ‘‘ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) รูปายตนํ.
‘‘น หรามิ น ภฺชามิ, อารา สิงฺฆามิ วาริชํ;
อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธตฺเถโนติ วุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๔; ชา. ๑.๖.๑๑๖) –
อาทีสุ ¶ การณํ. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาณํ. ‘‘กทา สฺุฬฺหา ปน เต คหปติ อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) คุโณ. ‘‘วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓) ปสํสา. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานี’’ติ.
อฑฺฒเตรสปลา โหตีติ เอตฺถ ‘‘มาสานํ อฑฺฒเตรสปลานิ คณฺหาตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘มคธนาฬิ นาม ฉปสตา นาฬี’’ติ เกจิ. ‘‘อฏฺปสตา’’ติ อปเร. ตตฺถ ปุริมานํ มเตน ติปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ โหติ, ปจฺฉิมานํ จตุปสตาย นาฬิยา ทฺเว นาฬิโย เอกา มคธนาฬิ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘ปกติยา จตุมุฏฺิกํ กุฑุวํ, จตุกุฑุวํ นาฬิกํ, ตาย นาฬิยา โสฬส นาฬิโย โทณํ, ตํ ปน มคธนาฬิยา ทฺวาทส นาฬิโย โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา เตน นเยน ‘‘มคธนาฬิ นาม ปฺจ กุฑุวานิ เอกฺจ มุฏฺึ เอกาย มุฏฺิยา ตติยฺจ ภาคํ คณฺหาตี’’ติ เวทิตพฺพํ.
สพฺพสมฺภารสงฺขโตติ ชีรกาทิสพฺพสมฺภาเรหิ สงฺขโต. อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ เอตฺถ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺโถ ภาโค’’ติ พฺรหฺมายุสุตฺตสฺส อฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ คเหตพฺพํ. อิธ ปน สูปสฺเสว โอทนจตุตฺถภาคปฺปมาณตํ ¶ ทสฺเสตฺวา เอตสฺส ลกฺขเณ ทสฺสิเต อิตรสฺสปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ พฺยฺชนสฺส ตถา วิเสเสตฺวา ปมาณํ น ทสฺสิตํ.
มคธนาฬิยา อุปฑฺฒปฺปมาโณ อิธ ปตฺโถติ อาห ‘‘ปตฺโถทนนฺติ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทน’’นฺติ. อิมินา จ ‘‘ปตฺถทฺวยํ มคธนาฬี’’ติ ทสฺสิตํ โหติ. ปตฺโถ จ ‘‘จตุปโล กุฑุโว, จตุกุฑุโว ปตฺโถ’’ติ อิมินา โลกิยโวหาเรน เวทิตพฺโพ. ภาชนปริโภเคนาติ อุทกาหรณาทินา ภาชนปริโภเคน.
๖๐๗. โธเตติ ปริโภคาวสานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน โธเตเยว ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ตโต ปุเรตรํ ปริโภคกาเลเยว อาปชฺชนโต.
๖๐๘. ปฺจหิ ทฺวีหีติ อิทํ ‘‘เอตฺตาวตา กาฬวณฺณตา สมฺปชฺชตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘ยทิ ปน เอเกนปิ ปาเกน กาฬวณฺโณ โหติ, อธิฏฺานุปโคเยวา’’ติ วทนฺติ. หตฺถานาคตสฺสปิ อธิฏฺาตพฺพภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยทิหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมินา จ ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตุํ ¶ วิกปฺเปตฺุจ ลภติ, ปิตฏฺานสลฺลกฺขณฺจ น ปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. สุตฺวา วาติ ปตฺตการเกน เปสิตภิกฺขุนา อนาณตฺโต เกวลํ ตสฺส กเถนฺตสฺส วจนมตฺตํ สุตฺวา. น ปมาณนฺติ เตน อเปสิตตฺตา. สามนฺตวิหาเรติ อิทํ อุปจารมตฺตํ, ตโต ทูเร ิตมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติเยว. ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวาติ อิทมฺปิ อุปจารมตฺตํ, ปตฺตสลฺลกฺขณเมเวตฺถ ปมาณํ. ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหตีติ มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลมตฺโตกาสโต ปฏฺาย ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ. เสสเมตฺถ ปมกถิเน วุตฺตนยเมว.
ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๑๐. ทุติยสิกฺขาปเท หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรตีติ ปาฬิปทสฺส หตฺเถสุ ลภิตพฺพปิณฺฑตฺถาย จรตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖๑๒-๖๑๓. ‘‘ตสฺส ¶ โส อปตฺโตติ วจนโต โส ปตฺโต อธิฏฺานมฺปิ วิชหติ อปตฺตตฺตา. อปตฺตภาวโตเยว หิ ‘ปฺจพนฺธนํ ปตฺตํ เจตาเปตี’ติ ปาฬิยํ น วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อปตฺโตติ อิทํ ‘อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏตี’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, โส ปน ปตฺโต อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ ‘‘ยสฺส ปฺจ เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยวา’’ติ วกฺขมานตฺตา. น หิ มุขวฏฺฏิยา ปฺจสุ าเนสุ ทฺวงฺคุลมตฺตาหิ ราชีหิ อธิฏฺานํ วิชหตีติ สกฺกา วตฺตุํ, เอกาย ปน ราชิยา ทสงฺคุลาย สเจ ตตฺถ วุตฺตปฺปมาโณ ฉิทฺโท ปฺายติ, ฉิทฺเทเนว อธิฏฺานวิชหนํ สิยาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. พนฺธโนกาเส สติ อสติ วา พนฺธนวิรหิโต ปตฺโต อพนฺธโนติ วุตฺโต, พนฺธโนกาสวิรหิโตเยว ปน อพนฺธโนกาโสติ วุตฺโต.
ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘พนฺธิตพฺโพ’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. ปุราณโปตฺถเกปิ หิ อยเมว ปาโ ทิสฺสติ. สุทฺเธหิ…เป… น วฏฺฏตีติ อิทํ อุณฺหโภชเน ปกฺขิตฺเต วิลียมานตฺตา วุตฺตํ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏตีติ ปาสาณจุณฺเณน สทฺธึ ผาณิตํ ปจิตฺวา ตถาปกฺเกน ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ.
๖๑๕. อนุกมฺปาย น คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ วุตฺตตฺตา ยสฺส โส ปตฺโต น รุจฺจติ, ตสฺสปิ ¶ อคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. อูนปฺจพนฺธนสีกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สเจ เถรสฺส ปตฺโต น รุจฺจติ, อปฺปิจฺฉตาย วา น คณฺหาติ, วฏฺฏตี’’ติ. ปตฺตปริยนฺโตติ ปริยนฺตปตฺโต, อวสานปตฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สงฺฆมชฺเฌ ปตฺตํ คาหาเปนฺเตน อลชฺชึ อคาหาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อาธารกนฺติ วุตฺตตฺตา ปีาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ อาธารํ เปตฺวา ตตฺถ ปตฺตํ เปตุํ วฏฺฏติ อาธารปโนกาสสฺส อนิยมิตตฺตา’’ติ วทนฺติ. อปริโภเคนาติ อยุตฺตปริโภเคน.
๖๑๖. ปาฬิยํ ‘‘อพนฺธเนน ปตฺเตน อพนฺธนํ ปตฺตํ. เอกพนฺธนํ ปตฺตํ… ทฺวิพนฺธนํ ปตฺตํ… ติพนฺธนํ… จตุพนฺธนํ… อพนฺธโนกาสํ… เอก… ทฺวิ… ติ… จตุพนฺธโนกาสํ ปตฺตํ เจตาเปตี’’ติ เอวํ เอเกเกน ปตฺเตน ทสธา ทสวิธํ ปตฺตํ เจตาปนวเสน ¶ เอกนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสตํ วุตฺตํ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปมาณยุตฺตํ อคฺคหิตกาฬวณฺณมฺปิ ปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อูนปฺจพนฺธนตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกตวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๒๒. ตติยสิกฺขาปเท เยสํ มํสํ กปฺปตีติ อิทํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน เยสํ มํสํ น กปฺปติ, เตสํ สปฺปิอาทีนิ น กปฺปนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ. มนุสฺสขีราทีนิปิ หิ โน น กปฺปนฺติ, กุโต สสสฺส สปฺปีติ อาห ‘‘เยสฺหิ ขีรํ อตฺถิ, สปฺปิปิ เตสํ อตฺถิเยวา’’ติ. ‘‘อิทฺจ เยภุยฺเยน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตนฺติ อปฺปฏิคฺคหิตํ สยเมว คเหตฺวา นิกฺขิตฺตํ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏตีติ ตทหุปุเรภตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อถ สยํกตํ นิรามิสํ ภฺุชนฺตสฺส กสฺมา สามํปาโก น โหตีติ อาห – ‘‘นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหตี’’ติ. สวตฺถุกปฏิคฺคหิตสฺส วตฺถุคติกตฺตา อาห – ‘‘สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตหีติ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อุภเยสมฺปีติ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ จ ปุเรภตฺตํ อุคฺคหิตเกหิ จ กตานํ. เอเสว นโยติ นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อตฺโถ. อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหีติ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ ¶ สปฺปิมฺหิ. การณปติรูปกํ วตฺวาติ สชาติยานํ สปฺปิภาวโตติ การณปติรูปกํ วตฺวา.
สปฺปินเยเนว เวทิตพฺพนฺติ นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอตฺถาติ นวนีเต. โธตํ วฏฺฏตีติ อโธตํ เจ, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ โหติ, ตสฺมา โธตํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ เถรานํ อธิปฺปาโย. ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสูติ เอตฺถ ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตํ อโธตมฺปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนฺตา โธวิตฺวา ปจิตฺวา ¶ วา ปริภฺุชึสูติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. เถรสฺส หิ ทธิคุฬิกาทิสหิตมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ปจฺฉา โธวิตฺวา ปจิตฺวา วา ปริภฺุชนฺตสฺส สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถีติ อธิปฺปาโย, เตเนว เถรสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ตสฺมา นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน…เป… อยเมตฺถ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ วจนสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺตา ‘‘ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตํ อโธตมฺปิ ทธิคุฬิกาทิสหิตํ วิกาเลปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ ทธิคุฬิกาทิอามิเสน สํสฏฺรสํ นวนีตํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ สกฺกา วตฺตุํ. นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตนาติ อโธวิตฺวา ปฏิคฺคหิตนวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน. ทธิ เอว ทธิคตํ ยถา ‘‘คูถคตํ มุตฺตคต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๑๙). ขยํ คมิสฺสตีติ วจนโต ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกสปฺปิอาทิปิ วิกาเล กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกาติ อิมินา อตฺตนาปิ ตตฺถ กุกฺกุจฺจสพฺภาวํ ทีเปติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘นิพฺพฏฺฏิตสปฺปิ วา นวนีตํ วา ปจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวาติ ตานิ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา.
ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหีติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตยาวชีวิกเภสชฺเชหิ. วุตฺตนเยน ยถา ตณฺฑุลาทีนิ น ปจฺจนฺติ, ตถา ลชฺชีเยว สมฺปาเทตฺวา เทตีติ ลชฺชีสามเณรคฺคหณํ, อปิจ อลชฺชินา อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ อภิสงฺขราเปตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมาปิ เอวมาห. ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลนฺติ อตฺตนา ภชฺชนาทีนิ อกตฺวา คหิตเตลํ. เตเนว ‘‘สามิสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. นิพฺพฏฺฏิตตฺตาติ ยาวกาลิกวตฺถุโต วิเวจิตตฺตา. อุภยมฺปีติ อตฺตนา จ ปเรน จ กตํ. ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยนฺติ สตฺตมทิวเส กตเตลํ สเจ ยาว อรุณุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ.
๖๒๓. อจฺฉวสนฺติ ทุกฺกฏวตฺถุโน วสาย อนฺุาตตฺตา ตํสทิสานํ ทุกฺกฏวตฺถูนํเยว อกปฺปิยมํสสตฺตานํ วสา อนฺุาตา, น ถุลฺลจฺจยวตฺถูนํ มนุสฺสานํ วสาติ อาห ‘‘เปตฺวา มนุสฺสวส’’นฺติ ¶ . สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล อนุปสมฺปนฺเนนปิ นิปฺปกฺกํ สํสฏฺฺจ ปริภฺุชนฺตสฺส ทฺเวปิ ทุกฺกฏานิ โหนฺติเยวา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา ขีรทธิอาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา เตลํ ปจนฺติ, ตสฺมา กสฏํ น วฏฺฏติ, เตลเมว ¶ วฏฺฏติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายตี’’ติ. ‘‘สเจ วสาย สทฺธึ ปกฺกตฺตา น วฏฺฏติ, อิทํ กสฺมา วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘ภนฺเต’’ติอาทิมาหํสุ. เอตํ วฏฺฏตีติ นนุ เอตํ ทธิคุฬิกาทีหิ ปกฺกํ นวนีตํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
‘‘มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหีติ อยํ ขุทฺทกมกฺขิกานํ ภมรมกฺขิกานฺจ สามฺนิทฺเทโส’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ทณฺฑเกสุ มธุกรา มธุกรี มกฺขิกา นามา’’ติ วตฺวา ‘‘ตาหิ มธุกรีอาทีหิ ตีหิ มกฺขิกาหิ กตํ มธุ นามา’’ติ วทนฺติ. ภมรมกฺขิกาหีติ มหาภมรมกฺขิกาหิ. สิเลสสทิสนฺติ ฆนปกฺกํ วุตฺตํ. อิตรนฺติ ตนุกมธุ. มธุปฏลนฺติ มธุรหิตํ เกวลํ มธุปฏลํ. ‘‘สเจ มธุสหิตํ ปฏลํ ปฏิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปนฺติ, ปฏลสฺส ภาชนฏฺานิยตฺตา มธุโน วเสน สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ วทนฺติ, ‘‘มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมวา’’ติ อิมินา ตํ น สเมติ.
‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ ปาฬิยํ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ‘‘อุจฺฉุรสํ อุปาทาย…เป… อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ ‘ผาณิต’นฺติ เวทิตพฺพา’’ติ วจนโต อุจฺฉุรโสปิ นิกฺกสโฏ สตฺตาหกาลิโกติ เวทิตพฺโพ. เกนจิ ปน ‘‘มธุมฺหิ จตฺตาโร กาลิกา ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพา, อุจฺฉุมฺหิ จา’’ติ วตฺวา ‘‘สมกฺขิกณฺฑเสฬกํ ยาวกาลิกํ, อเนฬกํ อุทกสมฺภินฺนํ ยามกาลิกํ, อสมฺภินฺนํ สตฺตาหกาลิกํ, มธุสิตฺถํ ปริสุทฺธํ ยาวชีวิกํ, ตถา อุจฺฉุ วา รโส วา สกสโฏ ยาวกาลิโก, นิกฺกสโฏ อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก, อสมฺภินฺโน สตฺตาหกาลิโก, สุทฺธกสฏํ ยาวชีวิก’’นฺติ จ วตฺวา อุตฺตริปิ พหุธา ปปฺจิตํ. ตตฺถ ‘‘อุทกสมฺภินฺนํ มธุ วา อุจฺฉุรโส วา อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก’’ติ อิทํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ ทิสฺสติ. ‘‘ยาวกาลิกํ สมานํ ครุตรมฺปิ มุทฺทิกาชาติรสํ อตฺตนา สํสฏฺํ ลหุกํ ยามกาลิกภาวํ อุปเนนฺตํ อุทกํ ลหุตรํ สตฺตาหกาลิกํ อตฺตนา สํสฏฺํ ครุตรํ ยามกาลิกภาวํ อุปเนตี’’ติ เอตฺถ การณํ โสเยว ปุจฺฉิตพฺโพ, สพฺพตฺถ ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ อุทกสมฺเภเทน ครุตรสฺสปิ ลหุภาโวปคมนํเยว ทสฺสิตํ. ปาฬิยมฺปิ หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส คุฬํ, อคิลานสฺส คุโฬทก’’นฺติ (มหาว. ๒๘๔) วทนฺเตน ¶ อคิลาเนน ปริภฺุชิตุํ อยุตฺโตปิ คุโฬ อุทกสมฺภินฺโน อคิลานสฺสปิ วฏฺฏตีติ อนฺุาโต.
ยมฺปิ ¶ จ ‘‘อุจฺฉุ เจ ยาวกาลิโก, อุจฺฉุรโส เจ ยามกาลิโก, ผาณิตํ เจ สตฺตาหกาลิกํ, ตโจ เจ ยาวชีวิโก’’ติ อฏฺกถาวจนํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อุจฺฉุรโส อุทกสมฺภินฺโน ยามกาลิโก’’ติ อฺเน เกนจิ วุตฺตํ, ตมฺปิ ตถาวิธสฺส อฏฺกถาวจนสฺส อิมิสฺสา สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย อภาวโต น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ตโตเยว จ ‘‘อุจฺฉุรโส อุทเกน สมฺภินฺโนปิ อสมฺภินฺโนปิ สตฺตาหกาลิโกเยวา’’ติ เกจิ อาจริยา วทนฺติ. เภสชฺชกฺขนฺธเก จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺฉุรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) เอตฺถ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก’’ติ.
สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏตีติ เอตฺถ อปริสฺสาวิตํ ปฏิคฺคหิตมฺปิ กรณสมเย ปริสฺสาเวตฺวา กสฏํ อปเนตฺวาว อตฺตนา กตนฺติ คเหตพฺพํ. ฌามอุจฺฉุผาณิตนฺติ อคฺคินา ทฑฺเฒ อุจฺฉุเขตฺเต ฌามอุจฺฉุนา กตผาณิตํ. โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตนฺติ ขุทฺทานุขุทฺทกํ ฉินฺทิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา นิปฺปีเฬตฺวา ปกฺกํ เยภุยฺเยน จ สกสฏํ ผาณิตํ. ตาทิสสฺส จ กสฏสฺส อพฺโพหาริกตฺตา ‘‘ตํ ยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. สีตุทเกน กตนฺติ มธุกปุปฺผานิ สีโตทเก ปกฺขิปิตฺวา มทฺทิตฺวา ปุปฺผรเส อุทกคเต สติ ตํ อุทกํ คเหตฺวา ปจิตฺวา กตผาณิตํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกนฺติ เอตฺถ ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา ปกฺกเตลํ กสฺมา วิกาเล วฏฺฏตีติ เจ? เตเล ปกฺขิตฺตขีรํ เตลเมว โหติ, อฺํ ปน ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ ขีรภาวํ คณฺหาตีติ อิทเมตฺถ การณํ. ยทิ เอวํ ขณฺฑสกฺขรมฺปิ ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺติ, ตํ กสฺมา วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ขณฺฑสกฺขรํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ขีรชลฺลิกนฺติ ขีรเผณํ.
เภสชฺโชทิสฺสํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘สตฺตวิธฺหิ โอทิสฺสํ นามา’’ติอาทินา อิตรานิปิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานิ. วิกฏานีติ อปกติเภสชฺชตฺตา วิกฏานิ, วิรูปานีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏวตฺถูนมฺปิ อกปฺปิยมํสานํ วสาย อนฺุาตตฺตา ‘‘วโสทิสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. โอฬาริกานมฺปิ อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานํ สปฺปิอาทีนํ เภสชฺชนาเมน อนฺุาตตฺตา ‘‘เภสชฺโชทิสฺส’’นฺติ วุตฺตํ ¶ . ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเยติ วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหิตเภสชฺชานิ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย ปุเรภตฺตมฺปิ สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตพฺพานิ, น อาหารตฺถํ เภสชฺชตฺถาย ปฏิคฺคหิตตฺตา’’ติ วทนฺติ.
๖๒๔. ทฺวารวาตปานกวาเฏสูติ มหาทฺวารสฺส วาตปานานฺจ กวาฏผลเกสุ. กสาเว ปกฺขิตฺตานิ ตานิ อตฺตโน สภาวํ ปริจฺจชนฺติ, ตสฺมา ‘‘มกฺเขตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ, ฆุณปาณกาทิปริหารตฺถํ มกฺเขตพฺพานีติ อตฺโถ. อธิฏฺเตีติ ‘‘อิทานิ มยฺหํ อชฺโฌหรณียํ น ภวิสฺสติ ¶ , พาหิรปริโภคตฺถาย คมิสฺสตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา’’ติอาทิ. ‘‘เอวํ อธิฏฺิตฺจ ปฏิคฺคหณํ วิชหตี’’ติ วทนฺติ.
๖๒๕. สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ เอตฺถ มชฺเฌ ปาโ ปริหีโน, เอวํ ปเนตฺถ ปาโ เวทิตพฺโพ ‘‘สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ. อฺถา ปน สทฺทปฺปโยโคปิ น สงฺคจฺฉติ. คณฺิปเทปิ จ อยเมว ปาโ ทสฺสิโต. ตตฺถ ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺตีติ ยถา อฺสฺส สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหาติกฺกเมน นิสฺสคฺคิยํ น โหติ ปรสนฺตกภาวโต, เอวมิทมฺปิ อวิภตฺตตฺตา อุภยสาธารณมฺปิ อวินิพฺโภคภาวโต นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหิตตฺตา สตฺตาหาติกฺกเม ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ ปฏิคฺคหิตสปฺปิอาทีนํ ปริโภคสฺส สตฺตาเหเนว ปริจฺฉินฺนตฺตา. ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานี’’ติ หิ วุตฺตํ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ อิธ ปาสฺส ปริหีนภาวํ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏตีติ อิทํ อนฺโตสตฺตาเห ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ สฺาย วิสฺสาสคฺคาหาภาวโต ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ เอวมตฺโถ วุตฺโต, โส น คเหตพฺโพ.
อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภฺุช ตฺวนฺติ อิมินา เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน อนฺโตสตฺตาเหเยว ปรสฺส วิสฺสชฺชิตภาวํ ทสฺเสติ. กสฺส อาปตฺตีติ ปมํ ตาว อุภินฺนํ สาธารณตฺตา อนาปตฺติ วุตฺตา. อิทานิ ¶ ปน เอเกน อิตรสฺส วิสฺสฏฺภาวโต อุภยสาธารณตา นตฺถีติ วิภตฺตสทิสํ หุตฺวา ิตํ, ตสฺมา เอตฺถ ปฏิคฺคหิตสฺส สตฺตาหาติกฺกเม เอกสฺส อาปตฺติยา ภวิตพฺพนฺติ มฺมาโน ‘‘กึ ปฏิคฺคหณปจฺจยา ปฏิคฺคาหกสฺส อาปตฺติ, อุทาหุ ยสฺส สนฺตกํ ชาตํ, ตสฺสา’’ติ ปุจฺฉติ. นิสฺสฏฺภาวโตเยว จ อิธ ‘‘อวิภตฺตภาวโต’’ติ การณํ อวตฺวา ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อิทฺจ วิสฺสฏฺภาวโต อุภยสาธารณตํ ปหาย เอกสฺส สนฺตกํ โหนฺตมฺปิ เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตโต อฺสฺส สนฺตกํ ชาตํ, ตสฺมา ปรสนฺตกปฏิคฺคหเณ วิย ปฏิคฺคาหกสฺส ปฏิคฺคหณปจฺจยา นตฺถิ อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ‘‘เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา’’ติ วจนโต อวิสฺสชฺชิเต สติ อวิภตฺเตปิ สตฺตาหาติกฺกเม อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อวิสฺสชฺชิเต อวิภตฺตภาวโตเยว อนาปตฺติยา สิทฺธตฺตา. สเจ ปน อิตโร เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตสฺเสว อนฺโตสตฺตาเห อตฺตโน ภาคมฺปิ ¶ วิสฺสชฺเชติ, สตฺตาหาติกฺกเม สิยา อาปตฺติ เยน ปฏิคฺคหิตํ, ตสฺเสว สนฺตกภาวมาปนฺนตฺตา อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา. อิมินา ตสฺส สนฺตกภาเวปิ อฺเน ปฏิคฺคหิตสกสนฺตเก วิย เตน อปฺปฏิคฺคหิตภาวโต อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อิทํ ปน อธิปฺปายํ อชานิตฺวา อิโต อฺถา คณฺิปทการาทีหิ ปปฺจิตํ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
อปริโภคํ โหตีติ กสฺสจิ อมนฺุสฺส ปติตตฺตา ปริโภคารหํ น โหติ. เยน จิตฺเตนาติ เยน ปริจฺจชิตุกามตาจิตฺเตน. ‘‘อนฺโตสตฺตาเห’’ติ อธิการตฺตา ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ อิมํ สมฺพนฺธํ สนฺธาย มหาสุมตฺเถเรน ‘‘เอวํ อนฺโตสตฺตาเห ทตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ยทิ เอวํ ‘‘วิสฺสชฺเชตี’’ติ อิมินาว ตํ สิทฺธํ, สตฺตาหาติกฺกนฺตํ ปน นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา ตสฺส ปริโภคมุขทสฺสนมิทนฺติ อาห – ‘‘นยิทํ ยาจิตพฺพ’’นฺติอาทิ. อฺเน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ สุทฺธจิตฺเตน ทินฺนตฺตา สยมฺปิ อาหราเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติเยว. สปฺปิอาทีนํ ปฏิคฺคหิตภาโว, อตฺตโน สนฺตกตา, สตฺตาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๒๗. จตุตฺเถ ¶ สิพฺพนรชนกปฺปปริโยสาเนน นิฏฺาเปตฺวาติ สูจิกมฺมนิฏฺาเนน สกิมฺปิ วณฺณเภทมตฺตรชเนน กปฺปพินฺทุกรเณน จ นิฏฺาเปตฺวา. สมเยติ วสฺสานสมเย.
๖๒๘. กุจฺฉิสมโยติ อนฺโตสมโย. ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตฺเจว กรณกฺเขตฺตฺจ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตฺุจ วฏฺฏติ, นิวาเสตุํ อธิฏฺาตฺุจ น วฏฺฏตี’’ติ โปตฺถเกสุ ปาโ ทิสฺสติ, โส อปาโ. เอวํ ปเนตฺถ ปาเน ภวิตพฺพํ ‘‘อยเมโก อฑฺฒมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏติ, ลทฺธํ กาตุํ นิวาเสตุํ อธิฏฺาตฺุจ น วฏฺฏตี’’ติ. น หิ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปโม อฑฺฒมาโส กรณกฺเขตฺตํ โหติ. ‘‘อฑฺฒมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ กตฺวา นิวาเสตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปน คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส กรณกฺเขตฺตฺเจว นิวาสนกฺเขตฺตฺจ โหติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. วหิสกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ, ปจฺฉิโม อฑฺฒมาโส ¶ กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ปาฬิยา มาติกาฏฺกถาย จ อวิโรธํ อิจฺฉนฺเตน วุตฺตนเยเนว ปาโ คเหตพฺโพ.
‘‘วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตี’’ติ วทนฺเตน ‘‘ปิฏฺิสมยตฺตา อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ ทีปิตา โหติ. น หิ าตกปวาริตฏฺานโต ปิฏฺิสมเย สตุปฺปาทกรณมตฺเตนปิ สมฺภวนฺตี อาปตฺติ ตโต ครุกตราย วิฺตฺติยา น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ. เตเนว ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน วุตฺตํ –
‘‘กตฺวา ปน สตุปฺปาทํ, วสฺสิกสาฏิจีวรํ;
นิปฺผาเทนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส, สมเย ปิฏฺิสมฺมเต.
‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, าตกาาตกาทิโน;
เตสุเยว จ วิฺตฺตึ, กตฺวา นิปฺผาทเน ตถา’’ติ.
เกนสฺส ¶ โหติ อาปตฺตีติ อสฺส มาตรํ จีวรํ ยาจนฺตสฺส เกน สิกฺขาปเทน อาปตฺตีติ ปุจฺฉติ. ‘‘ปริณตํ วิฺาเปนฺตสฺส ปริณามนสิกฺขาปเทน อาปตฺตี’’ติ โจทนาภาวํ ทสฺเสติ โน จ สงฺเฆ ปริณตนฺติ. อถ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทนาติ เจ, เอตมฺปิ นตฺถีติ อาห ‘‘อนาปตฺติ จ าตเก’’ติ. ‘‘าตเก วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ ปาเสโส. อิมมตฺถํ สนฺธายาติ ปิฏฺิสมเย วสฺสิกสาฏิกตฺถํ าตกปวาริตฏฺาเน สตุปฺปาทกรเณน อาปตฺตึ, อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติฺจ สนฺธาย.
อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต…เป… ทุกฺกฏนฺติ อิทํ วสฺสิกสาฏิกํ อทินฺนปุพฺเพ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนเวตฺถ วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ทินฺนปุพฺเพสุ ปน วตฺตเภโท นตฺถิ. เตเนวาห – ‘‘เย มนุสฺสา…เป… วตฺตเภโท นตฺถี’’ติ. อิทนฺติ ยถาวุตฺตนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ. วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺสาติ อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส. ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายกา นาม สงฺฆวเสน วา ปุคฺคลวเสน วา อปวาเรตฺวา อนุสํวจฺฉรํ วสฺสิกสาฏิกานํ ทายกา. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เอตฺถ อิมินาปิ สิกฺขาปเทน อนาปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. กุจฺฉิสมเย หิ อตฺตโน าตกปวาริตฏฺานโต ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิก’’นฺติอาทินา วิฺาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. เตเนวาห – ‘‘น วตฺตพฺพา เทถ เมติ อิทฺหิ ปริเยสนกาเล อฺาตกอปฺปวาริเต เอว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. มาติกาฏฺกถายฺหิ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ¶ ‘‘อตฺตโน าตกปวาริตฏฺานโต ปน ‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’นฺติอาทิกาย วิฺตฺติยาปิ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ.
๖๒๙. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวาติ วจนโต ฉทนโกฏิยา ปติตอุทเกน นหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
๖๓๐. ฉ มาเส ปริหารํ ลภตีติ เอเตน อนฺโตวสฺเสปิ ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิมทิวสา อกตา ปริหารํ ลภตีติ ทีปิตํ โหติ. ยสฺมา มูลจีวรํ กโรนฺเตน เหมนฺตสฺส ปจฺฉิมุโปสถทิวเสเยว กาตพฺพํ, ตสฺมา คิมฺหานโต เอกูนตึสทิวเส ปริหารํ ลภติ, เอวํ สนฺเตปิ ¶ อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘ตโต ปรมฺปิ…เป… เอกมาส’’นฺติ วุตฺตํ. เอกาหทฺวีหาทิวเสน…เป… ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ อิมินา เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, ทฺวีหานาคตาย…เป… ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ตตฺถ อาสาฬฺหิมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ‘‘เอกาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. เอเตเนว นเยน ชุณฺหปกฺขสฺส ฉฏฺิยํ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ‘‘ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ยาว ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมี, ตาว อนฺโตเตมาเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จา’’ติ วุจฺจติ. ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปรฺหิ ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ ยาว จีวรกาโล นาติกฺกมติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวา เปตุํ วฏฺฏตีติ น ตตฺรายํ วิจารณา สมฺภวติ.
ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพาติ อวิเสเสน วุตฺเตปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ เอกาหทฺวีหาทิวเสน อนาคตาย วสฺสูปนายิกาย ลทฺธา เตหิ ทิวเสหิ สทฺธึ ทสาหํ อนติกฺกมนฺเตน วสฺสูปนายิกทิวสโต ปฏฺาย อธิฏฺานกฺเขตฺตํ สมฺปตฺตาเยว อธิฏฺาตพฺพา, น ตโต ปุพฺเพ อธิฏฺานสฺส อเขตฺตตฺตา. อนฺโตวสฺเส ปน ลทฺธา ตสฺมึเยว อนฺโตวสฺเส ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวา อธิฏฺาตพฺพา.
นนุ จ วสฺสานโต ปุพฺเพ อนธิฏฺหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฏฺฏติเยว, ตสฺมา อธิฏฺานสฺส อเขตฺตภูเตปิ ทิวเส คเหตฺวา ‘‘อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ? ยถา ‘‘อนฺโตวสฺเส ลทฺธาปิ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว อนธิฏฺหิตฺวา ทสาหํ อติกฺกาเมตุํ วฏฺฏตี’’ติ อกตาย ¶ อนธิฏฺานกฺเขตฺตสทิสาปิ อติกฺกนฺตทิวสา ทสาหํ อติกฺกาเมตฺวา นิฏฺิตาย คณนูปคา โหนฺตีติ นิฏฺิตทิวเสเยว อธิฏฺาตพฺพา, เอวมิธาปิ วสฺสานโต ปุพฺเพ อนธิฏฺานกฺเขตฺตภูตาปิ ทิวสา ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย คณนูปคา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ‘‘ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย ¶ ฉฏฺิยํ ลทฺธา ปุณฺณมิยํ อธิฏฺาตพฺพาติ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ ‘‘จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ วจเนเนว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. เอวํ สนฺเต ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ อิมินา กึ ปโยชนนฺติ เจ? วสฺสานโต ปุพฺเพเยว ทสาเห อติกฺกนฺเต วสฺสูปนายิกทิวเส นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อิทเมตฺถ ปโยชนํ. เตเนวาห – ‘‘ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา’’ติ.
ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ เตมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อปฺปโหนฺเต ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ปมกตฺติกเตมาสปุณฺณมิโต ปุพฺเพ สตฺตมิโต ปฏฺาย ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วสฺสิกสาฏิกา ทสาเห อนติกฺกนฺเตเยว จีวรกาลํ โอติณฺณตฺตา ตตฺถ อนธิฏฺหิตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อิมินา จ อิมํ ทีเปติ – อกตา เจ วสฺสิกสาฏิกา, วสฺสานํ จาตุมาสํ อกตตฺตาเยว ปริหารํ ลภติ, กตาย ปน ทสาหปรมสิกฺขาปทํ อวิโกเปตฺวา ปริหาโร วตฺตพฺโพติ.
ยทา วา ตทา วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ จาตุมาสพฺภนฺตเร ทสาเห อติกฺกนฺเตปิ นตฺถิ โทโสติ อธิปฺปาโย. ‘‘กทา อธิฏฺาตพฺพา…เป… ยทิ นปฺปโหติ, ยาว กตฺติกปุณฺณมา ปริหารํ ลภตี’’ติ อิมินาปิ กุรุนฺทิวจเนน อกตาย วสฺสิกสาฏิกาย จาตุมาสํ ปริหาโร, กตาย ทสาหเมว ปริหาโรติ อยมตฺโถ ทีปิโตเยวาติ อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ.
ปาฬิยํ อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฏฺจีวรสฺสาติอาทินา นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ วุตฺตา, อุทาหุ นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺติ วุตฺตาติ? กิเมตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ. สพฺพสิกฺขาปเทสุ หิ ยตฺถ ยตฺถ มูลสิกฺขาปเทน อาปตฺติปฺปสงฺโค, ตตฺถ ตตฺถ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติ อิธาปิ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. น หิ มูลาปตฺติยา อนาปตฺตึ อทสฺเสตฺวา อนฺตรา วุตฺตาย เอว อาปตฺติยา อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ อนาปตฺติวาโร อารภียตีติ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส นฏฺจีวรสฺส จาติ เอตฺถ อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส จ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ อนาปตฺติ ¶ . อาปทาสูติ เอตฺถ อนิวตฺถํ โจรา ¶ หรนฺตีติ อสมเย นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺตี’’ติ. อฏฺกถายํ ปน นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏเนว อนาปตฺตึ สนฺธาย ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติ. เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นามา’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ ปริเยสิตพฺพํ.
อถ อุภเยนปิ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธนฺติ เอวมธิปฺปาโย สิยา, เอวมฺปิ ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติอาทินา วิเสเสตฺวา น วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ วตฺตพฺพํ สิยา ‘‘อจฺฉินฺนเสสจีวรสฺส นฏฺเสสจีวรสฺส วา อสมเย นิวาเสนฺตสฺส ปริเยสนฺตสฺส จ นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, อจฺฉินฺนวสฺสิกสาฏิกสฺส นฏฺวสฺสิกสาฏิกสฺส วา นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺติ, อาปทาสุ อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตีติ อสมเย นิวาสยโต นิสฺสคฺคิเยน อนาปตฺติ, มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรา หรนฺติ, นคฺคสฺส นหายโต ทุกฺกเฏน อนาปตฺตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
องฺเคสุ ปน วสฺสิกสาฏิกาย อตฺตุทฺเทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมานิ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิ. สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฏิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ อิมานิ นิวาสนาปตฺติยา จตฺตาริ องฺคานิ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๑. ปฺจเม ยมฺปิ ตฺยาหนฺติ เอตฺถ ยนฺติ การณวจนํ, ตสฺมา เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – มยา สทฺธึ ชนปทจาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติ ยํ การณํ นิสฺสาย อหํ เต, อาวุโส, จีวรํ อทาสึ, ตํ น กโรสีติ กุปิโต ¶ อนตฺตมโน อจฺฉินฺทีติ. ยนฺติ วา จีวรํ ¶ ปรามสติ, ตตฺถ ‘‘มยา สทฺธึ ชนปทจาริกํ ปกฺกมิสฺสตีติ ยมฺปิ เต อหํ จีวรํ อทาสึ, ตํ จีวรํ คณฺหิสฺสามีติ กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺที’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.
๖๓๓. อาณตฺโต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติยนฺติ ‘‘จีวรํ คณฺหา’’ติ อาณตฺติยา เอกจีวรวิสยตฺตา เอกเมว ปาจิตฺติยํ. วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย ปาจิตฺติยานิ. เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโยติ อิทํ อจฺฉินฺเนสุ วตฺถุคณนาย อาปชฺชิตพฺพํ ปาจิตฺติยาปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. อาณตฺติยา อาปชฺชิตพฺพํ ปน ทุกฺกฏํ เอกเมว.
๖๓๔. เอวนฺติ อิมินา ‘‘วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานี’’ติ อิทํ ปรามสติ. เอเสว นโยติ สิถิลํ คาฬฺหฺจ ปกฺขิตฺตาสุ อาปตฺติยา พหุตฺตํ เอกตฺตฺจ อติทิสฺสติ.
๖๓๕. อาวุโส, มยนฺติอาทีสุ คณฺหิตุกามตาย เอวํ วุตฺเตปิ เตเนว ทินฺนตฺตา อนาปตฺติ. อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตีติ อิทํ สามเณรสฺสปิ ทานํ ทีเปติ. ตสฺมา กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ อนุปสมฺปนฺนกาเล ทตฺวาปิ อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมวาติ เวทิตพฺพํ. อจฺฉินฺทนสมเย อุปสมฺปนฺนภาโวเยว เหตฺถ ปมาณํ. เทตีติ ตุฏฺโ วา กุปิโต วา เทติ. รุนฺธถาติ นิวาเรถ. เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ เอวํ ทินฺนํ น ตาว ตสฺส สนฺตกนฺติ อนธิฏฺหิตฺวาว ปริภฺุชิตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏตีติ เอวํ ทินฺนํ ภติสทิสตฺตา อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. จชิตฺวา ทินฺนนฺติ วุตฺตนเยน อทตฺวา อนเปกฺเขน หุตฺวา ตสฺเสว ทินฺนํ. ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ สกสฺาย วินา คณฺหนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรตา, สามํ ทินฺนตา, สกสฺิตา, อุปสมฺปนฺนตา, โกธวเสน อจฺฉินฺทนํ อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.
จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๖. ฉฏฺเ ¶ ปาฬิยํ จีวรการสมเยติ อิมินา วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ จีวรกมฺมสมยตฺตา จีวรมาโส วุตฺโต, อถฺโปิ ปน จีวรกมฺมกาโล จีวรการสมโยติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
๖๓๘. ปฺจหิปิ ¶ มิสฺเสตฺวาติ โขมาทีหิ ปฺจหิ มิสฺเสตฺวา. วีตวีตฏฺานํ ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ, ตสฺส ตุรีติ อธิวจนํ. สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺตา ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ เวมนฺติ วุจฺจติ. ยํ ยนฺติ ยํ ยํ ปโยคํ. ตนฺตูนํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหตีติ อาห ‘‘ทีฆโต…เป… วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ปาฬิยมฺปิ หิ อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ.
เสโส กปฺปิโยติ เอตฺถ หตฺถกมฺมยาจนวเสน. ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยนฺติ ทีฆโส วิทตฺถิมตฺเต ติริยํ หตฺถมตฺเต จ วีเต นิสฺสคฺคิยํ. เตเนวาติ อกปฺปิยตนฺตวาเยน. ตเถว ทุกฺกฏนฺติ ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ. เกทารพทฺธาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อจฺฉิมณฺฑลพทฺธาทิ คหิตํ. ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉา วีตฏฺานํ อธิฏฺิตคติกเมว โหติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อนฺตรนฺตรา อวีตํ โหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. เอเสว นโยติ วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ. จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตํ, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน วายาเปยฺยาติ เอตฺถ ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถาติ อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ อตฺถํ วตฺวา องฺเคสุปิ ‘‘อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาปน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, ตถาวิธํ ปน วิเสสวจนํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ อุปลพฺภติ. ปาฬิยมฺปิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ เอตฺตกเมว อนาปตฺติวาเร วุตฺตํ, อฏฺกถายฺจ สุตฺตตนฺตวายานเมว กปฺปิยากปฺปิยภาเวน พหุธา นโย ทสฺสิโต ¶ , น กปฺปิยากปฺปิยวิฺตฺติวเสนาติ. ‘‘อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ จ วิเสเสตฺวา วทนฺเตน อยํ นาม กปฺปิยวิฺตฺตีติ วิสุํ น ทสฺสิตํ, ตสฺมา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๒. สตฺตเม กิฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยาติ อิทํ ตสฺส กตฺตพฺพาการมตฺตทสฺสนํ, ทานํ ปเนตฺถ ¶ องฺคํ น โหติ สุตฺตวฑฺฒนวเสเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา. เตเนว ปทภาชเนปิ ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ สุตฺตวฑฺฒนาการเมว ทสฺเสตฺวา อาปตฺติ วุตฺตา. มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘น ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาตทานมตฺเตน ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ ปน เต ตสฺส วจเนน จีวรสามิกานํ หตฺถโต สุตฺตํ คเหตฺวา อีสกมฺปิ อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรนฺติ, อถ เตสํ ปโยเค ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ. อายตาทีสุ สตฺตสุ อากาเรสุ อาทิมฺหิ ตโย อากาเร สุตฺตวฑฺฒเนน วินา น สกฺกา กาตุนฺติ อาห ‘‘สุตฺตวฑฺฒนอาการเมว ทสฺเสตี’’ติ. สุวีตาทโย หิ อากาเร วินาปิ สุตฺตวฑฺฒเนน สกฺกา กาตุํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรสฺส ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๖. อฏฺเม อสมฺโมหตฺถนฺติ ทสาหานาคตปเท อสมฺโมหตฺถํ. ปมปทสฺสาติ ทสาหานาคตปทสฺส. ตานิ ทิวสานีติ เตสุ ทิวเสสุ. อุปฺปชฺเชยฺยาติ สงฺฆโต วา คณโต วา อุชุกํ อตฺตโนเยว วา อุปฺปชฺเชยฺย. ปฺจมิโตติ เอตฺถ วสฺสํ วสนฺตสฺส สงฺฆสฺส ปฺจมิโต ปุพฺเพ อุปฺปนฺนํ ¶ อจฺเจกจีวรํ ปฺจมิยํ วิภชิตฺวา คหิตํ อจฺเจกจีวรปริหารเมว ลภติ. อุชุกํ อตฺตโนเยว อุปฺปนฺนํ เจ, ปฺจมิยํ อุปฺปนฺนเมว อจฺเจกจีวรปริหารํ ลภติ, น ตโต ปุพฺเพติ ทฏฺพฺพํ.
สทฺธามตฺตกนฺติ ธมฺมสฺสวนาทีหิ ตงฺขณุปฺปนฺนํ สทฺธามตฺตกํ. อาโรจิตํ จีวรนฺติ อาโรเจตฺวา ทินฺนจีวรํ. ฉฏฺิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสโม อรุโณ จีวรกาเล อุฏฺาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. ปิตจีวรมฺปีติ ปธานจีวรทสฺสนมุเขน สพฺพมฺปิ อติเรกจีวรํ วุตฺตํ. อถ ‘‘จีวรมาเสปิ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิทํ กุโต ลทฺธนฺติ เจ? ‘‘วิสุํ อนนฺุาเตปิ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’ติ วทนฺเตน ตติยกถินสิกฺขาปเท ‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺน’นฺติ ¶ วทนฺเตน จ อนฺุาตเมว โหตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘อฏฺกถาวจนปฺปมาเณน คเหตพฺพ’’นฺติ จ เกจิ.
๖๕๐. อิทานิ ปมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว อุปสํหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อติเรกจีวรสฺส ทสาหํ ปริหาโร’’ติอาทิมาห. ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโ คเหตพฺโพ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ ปาํ วตฺวา ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสาติ ปาเน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ตสฺส ปมาทปาตฺตา. น หิ ทสาเหน อสมฺปตฺตาย กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมาย จีวรกาลโต ปุพฺเพ ทส ทิวสา อธิกา โหนฺติ. เอวฺหิ สติ ‘‘นวาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ วตฺตพฺพํ.
มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘กามฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิต’’นฺติ ปาโ ¶ ทสฺสิโต, โสปิ ปมาทปาโเยว. ‘‘ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺายา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ตตฺเถว ปุพฺพาปรวิโรโธปิ สิยา, ฉฏฺิโต ปฏฺายาติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ‘‘ทสาหปรมสิกฺขาปเทเนว สิทฺธ’’นฺติ สกฺกา วตฺตุํ. อิมเมว จ ปมาทปาํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ –
‘‘ตสฺสาจฺจายิกวตฺถสฺส, กถิเน ตุ อนตฺถเต;
ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต.
‘‘อตฺถเต กถิเน ตสฺส, ปฺจ มาสา ปกาสิตา;
ปริหาโร มุนินฺเทน, ทสาหปรมา ปนา’’ติ. –
วุตฺตํ.
อจฺเจกจีวรกาเล อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘อจฺเจกจีวรสทิเส’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปฺจมิยํ อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรํ ¶ ทสาหํ อติกฺกามยโต จีวรกาลโต ปุพฺเพเยว อาปตฺติ โหติ, น จีวรกาลาติกฺกเม, ตสฺมา จีวรกาลาติกฺกเม ปุน อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา อภาวํ สนฺธาย ‘อนจฺเจกจีวเร อนจฺเจกจีวรสฺี อนาปตฺตี’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.
อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๒. นวเม อนฺตรฆเรติ อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อนฺตรฆรนฺติ ลทฺธโวหาเร โคจรคาเม. เตนาห ‘‘อนฺโตคาเม’’ติ. ปาฬิยํ วิปฺปวสนฺตีติ อิทํ ยสฺมึ วิหาเร วสนฺตา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปึสุ, ตโต อฺตฺถ วสนฺเต สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมิฺหิ วิหาเร อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา วสิตุํ อนฺุาตตฺตา ตตฺถ วาโส วิปฺปวาโส นาม น โหติ. ทุพฺพลโจฬา ทุจฺโจฬา วิรูปโจฬา วา, ทุจฺโจฬตฺตา เอว ลูขจีวรา.
๖๕๓. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺชา’’ติ อุทฺธริตพฺเพ ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ อุทฺธริตฺวา ‘‘โย ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ, ตํ สนฺธายาห ‘‘อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาปุจฺฉํ วา ปกฺกเมยฺยา’’ติอาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อุปคนฺตฺวาติ อุป-สทฺทสฺส อตฺถมาห. วสิตฺวาติ อขณฺฑํ วสิตฺวา. ‘‘เยน ยสฺส หิ สมฺพนฺโธ, ทูรฏฺมฺปิ จ ตสฺส ต’’นฺติ วจนโต ‘‘อิมสฺส…เป… อิมินา สมฺพนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมสฺสาติ ‘‘อุปวสฺส’’นฺติ ปทสฺส. นิกฺขิเปยฺยาติ เปยฺย.
เอตฺตาวตา จ ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา อขณฺฑํ กตฺวา วุตฺถวสฺเสน อารฺเกสุ เสนาสเนสุ วิหรนฺเตน สกลํ กตฺติกมาสํ ติจีวเรน วิปฺปวสิตุํ อนฺุาตํ โหติ. อนตฺถตกถินสฺส หิ จีวรมาเส วิปฺปวาโส น วฏฺฏติ อตฺถตกถินานํเยว อสมาทานจารสฺส อนฺุาตตฺตา. เกจิ ปน ‘‘อนตฺถตกถินานํ จีวรมาเสปิ อสมาทานจาโร ลพฺภตี’’ติ วตฺวา พหุธา ปปฺเจนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. พฺยฺชนวิจารณนฺติ ‘‘อุปวสฺส อุปวสฺสิตฺวา’’ติอาทิวิจารณํ ¶ . ตสฺสปีติ ‘‘วุตฺถวสฺสาน’’นฺติ วิภงฺคปทสฺส. วุตฺถวสฺสานนฺติ จ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. เตนาห – ‘‘เอวรูปานํ ภิกฺขูนํ อพฺภนฺตเร’’ติ. เสนาสเนสูติ เอตฺถ ตถารูเปสูติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.
ปริกฺเขปารหฏฺานโตติ เอตฺถ ‘‘ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม ทฺเว เลฑฺฑุปาตา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. อปริกฺขิตฺตสฺส ปน คามสฺส ปริยนฺเต ิตฆรูปจารโต ปฏฺาย เอโก เลฑฺฑุปาโต ปริกฺเขปารหฏฺานนฺติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ. เตเนว วิสุทฺธิมคฺเคปิ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตโต ปฏฺายา’’ติ. สพฺพปมนฺติ คามาภิมุขทิสาภาคโต สพฺพปมํ. ตํ ปริจฺเฉทํ กตฺวาติ ตํ ปมเสนาสนาทึ ปริจฺเฉทํ กตฺวา. อิทฺจ วินยธรานํ มเตน วุตฺตํ, มชฺฌิมภาณกานํ มเตน ปน ‘‘เสนาสนาทีนํ อุปจาเร ิตสฺส เอกเลฑฺฑุปาตํ มฺุจิตฺวา มินิตพฺพ’’นฺติ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติ. เตเนว มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ ‘‘วิหารสฺสปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปฺจธนุสติกนฺติ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปฺจธนุสตปฺปมาณํ. ตโต ตโต มคฺคํ ปิทหตีติ ตตฺถ ตตฺถ ขุทฺทกมคฺคํ ปิทหติ. ธุตงฺคโจโรติ อิมินา อิมสฺสปิ สิกฺขาปทสฺส องฺคสมฺปตฺติยา อภาวํ ทีเปติ.
‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานีติ โจรานํ นิวิฏฺโกาสาทิทสฺสเนน ‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานิ. สนฺนิหิตพลวภยานีติ โจเรหิ มนุสฺสานํ หตวิลุตฺตาโกฏิตภาวทสฺสนโต ¶ สนฺนิหิตพลวภยานีติ อตฺโถ. สเจ ปจฺฉิมิกายาติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ พฺยติเรกมุเขน วิภาเวติ. ยตฺร หิ ปิณฺฑายาติอาทินา วุตฺตปฺปมาณเมว วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมวาติ เอตฺถ สาสงฺกํ วา สปฺปฏิภยํ วา โหตุ, วฏฺฏติเยว.
ปาฬิยํ ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เตน จีวเรน วิปฺปวาสาย, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส อฺตฺถ คมนกิจฺเจ สติ วิหารโต พหิ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส อนฺุาโต. วสนฏฺานโต หิ อฺตฺถ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส วุตฺโต, น ตสฺมึ วิหาเร วสนฺตสฺส. เตน จ ‘‘ปุน คามสีมํ โอกฺกมิตฺวาติ เอตฺถ สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ, อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโตเยว จ มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยา’’ติ ¶ เอตฺถ ‘‘ฉารตฺตโต อุตฺตริ ตสฺมึ เสนาสเน สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปยฺยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน ปน ปากฏตรํ กตฺวา อยเมวตฺโถ วุตฺโต. วุตฺตฺหิ เตน –
‘‘ยํ คามํ โคจรํ กตฺวา, ภิกฺขุ อารฺเก วเส;
ตสฺมึ คาเม เปตุํ ตํ, มาสเมกนฺตุ วฏฺฏติ.
‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มตํ;
อยมสฺส อธิปฺปาโย, ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.
‘‘โกสมฺพิยํ อฺตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหตี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา’’ติ วุตฺตํ. โกสมฺพกสฺส ภิกฺขุโน สมฺมุติ โกสมฺพกสมฺมุติ. เสนาสนํ อาคนฺตฺวาติ วุสิตวิหารสฺเสว สนฺธาย วุตฺตตฺตา ตสฺมึ คามูปจาเรปิ อฺสฺมึ วิหาเร อรุณํ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา. คตฏฺานสฺส อติทูรตฺตา ‘‘เอวํ อสกฺโกนฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺเถวาติ ตสฺมึเยว คตฏฺาเน.
สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๗-๖๕๙. ทสเม ¶ อุทฺทิสฺส ปิตภาเคติ อตฺตโน ฆเรปิ อุทฺทิสิตฺวา วิสุํ ปิตโกฏฺาเส. ‘‘เอกํ มยฺหํ, เอกํ อิมสฺส เทหี’’ติ เอวํ เอกวาจาย อาปชฺชิตพฺพตฺตา ‘‘อาปชฺเชยฺย เอกโต’’ติ วุตฺตํ. ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภตานีติ ตุมฺหากํ อตฺถาย อาภตานิ สปฺปิอาทีนิ. ปริณตภาวํ ชานิตฺวาปิ วุตฺตวิธินา วิฺาเปนฺเตน เตสํ สนฺตกเมว วิฺาปิตํ นาม โหตีติ อาห – ‘‘มยฺหมฺปิ เทถาติ วทติ, วฏฺฏตี’’ติ.
๖๖๐. ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏตีติ อิทํ ปริณตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน เอกสฺมึ เจติเย ปูชิตํ ปุปฺผํ คเหตฺวา อฺสฺมึ เจติเย ปูเชติ, วฏฺฏติ. ิตํ ทิสฺวาติ เสสกํ คเหตฺวา ิตํ ทิสฺวา. อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหีติ อิทํ ปริณเตเยว. ติรจฺฉานคตสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน ปน ตํ ปลาเปตฺวา อฺํ ภฺุชาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กตฺถ เทมาติอาทินา เอเกนากาเรน ปาฬิยํ อนาปตฺติ ทสฺสิตา, เอวํ ปน อปุจฺฉิเตปิ อปริณตํ อิทนฺติ ¶ ชานนฺเตน อตฺตโน รุจิยา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘ตุมฺหากํ รุจิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ยตฺถ อิจฺฉติ, ตตฺถ ทาเปตุํ ลภติ. ปาฬิยํ อาคตนเยเนวาติ ‘‘ยตฺถ ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺโม’’ติอาทินา นเยน. สงฺฆปริณตภาโว, ตํ ตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.
ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ
นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติโย ภาโค นิฏฺิโต.