📜
๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)
๑. ปมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
ปาราชิกานนฺตรสฺส ¶ ¶ , อยํ ทานิ ภวิสฺสติ;
สงฺฆาทิเสสกณฺฑสฺส, อนุตฺตานตฺถวณฺณนา.
๖๗๘. อุโทสิตนฺติ ภณฺฑสาลา. มายฺโย เอวํ อวจาติ อยฺโย มา เอวํ อวจ. อปินายฺยาติ อปินุ อยฺยา. อจฺจาวทถาติ อติกฺกมิตฺวา วทถ; อกฺโกสถาติ วุตฺตํ โหติ.
๖๗๙. อุสฺสยวาทิกาติ มานุสฺสยวเสน โกธุสฺสยวเสน วิวทมานา. ยสฺมา ปน สา อตฺถโต อฏฺฏการิกา โหติ, ตสฺมา ‘‘อุสฺสยวาทิกา นาม อฑฺฑการิกา วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตํ. เอตฺถ จ อฑฺโฑติ โวหาริกวินิจฺฉโย วุจฺจติ, ยํ ปพฺพชิตา ‘‘อธิกรณ’’นฺติปิ วทนฺติ. ทุติยํ วา ปริเยสตีติ สกฺขึ ¶ วา สหายํ วา ปริเยสติ, ทุกฺกฏํ. คจฺฉติ วาติ อุปสฺสโย วา โหตุ ภิกฺขาจารมคฺโค วา, ยตฺถ ิตาย ‘‘อฑฺฑํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตโต โวหาริกานํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติยา ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. เอกสฺส อาโรเจตีติ ทฺวีสุ ชเนสุ ยสฺส กสฺสจิ เอกสฺส กถํ โย โกจิ โวหาริกานํ อาโรเจติ. ทุติยสฺส อาโรเจตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อยํ ปเนตฺถ อสมฺโมหตฺถาย วิตฺถารกถา – ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ภิกฺขุนุปสฺสยํ อาคเตปิ โวหาริเก ทิสฺวา ภิกฺขุนี อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ. อุปาสโก อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ภิกฺขุนิยา ถุลฺลจฺจยํ. ปมํ อุปาสโก อตฺตโน กถํ อาโรเจติ ¶ , ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ. อถ สา อตฺตโน กถํ อาโรเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ภิกฺขุนี อุปาสกํ วทติ – ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวํเยว อาโรเจหี’’ติ, โส อตฺตโน วา กถํ ปมํ อาโรเจตุ ภิกฺขุนิยา วา, ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยํ. อุปาสโก ภิกฺขุนึ วทติ – ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวํเยว อาโรเจหี’’ติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
ภิกฺขุนี ¶ กปฺปิยการเกน กถาเปติ, ตตฺถ กปฺปิยการโก วา ภิกฺขุนิยา กถํ ปมํ อาโรเจตุ, อิตโร วา อตฺตโน กถํ, กปฺปิยการโก วา อุภินฺนมฺปิ กถํ, อิตโร วา อุภินฺนมฺปิ กถํ อาโรเจตุ, ยถา วา ตถา วา อาโรจิยมาเน ปเม อาโรจเน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏํ, ทุติเย ถุลฺลจฺจยํ. ยถา วา ตถา วา อาโรจิตํ ปน อุภินฺนมฺปิ กถํ สุตฺวา โวหาริเกหิ วินิจฺฉเย กเต อฑฺฑปริโยสานํ นาม โหติ, ตสฺมึ อฑฺฑปริโยสาเน ภิกฺขุนิยา ชเยปิ ปราชเยปิ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน คติคตํ อธิกรณํ โหติ, สุตปุพฺพํ โวหาริเกหิ. อถ เต ภิกฺขุนิฺจ อฑฺฑการกฺจ ทิสฺวาว ‘‘ตุมฺหากํ กถนกิจฺจํ นตฺถิ, ชานาม มยํ เอตฺถ ปวตฺติ’’นฺติ สยเมว วินิจฺฉินิตฺวา เทนฺติ, เอวรูเป อฑฺฑปริโยสาเนปิ ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติ.
ปมํ อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปมาปตฺติโก; วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ, ตํ ปมาปตฺติกํ. ปทภาชเน ปน อธิปฺปายมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สห วตฺถุชฺฌาจารา ¶ อาปชฺชติ อสมนุภาสนายา’’ติ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – สห วตฺถุชฺฌาจารา ยํ ภิกฺขุนี อาปชฺชติ, น ตติยาย สมนุภาสนาย, อยํ ปมเมว สห วตฺถุชฺฌาจาเรน อาปชฺชิตพฺพตฺตา ปมาปตฺติโกติ. ภิกฺขุนิสงฺฆโต นิสฺสาเรตีติ นิสฺสารณีโย; ตํ นิสฺสารณียํ. ปทภาชเน ปน อธิปฺปายมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ อาปนฺนา ภิกฺขุนี สงฺฆโต นิสฺสารียติ, โส นิสฺสารณีโยติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โส เอว ธมฺโม สงฺฆมฺหา เกนจิ นิสฺสารียติ. เตน ปน ธมฺเมน ภิกฺขุนี นิสฺสารียติ, ตสฺมา โส นิสฺสาเรตีติ นิสฺสารณีโย.
อากฑฺฒิยมานา คจฺฉตีติ อฑฺฑการกมนุสฺเสหิ สยํ วา อาคนฺตฺวา ทูตํ วา เปเสตฺวา เอหีติ วุจฺจมานา โวหาริกานํ สนฺติกํ คจฺฉติ, ตโต อฑฺฑการโก อตฺตโน วา กถํ ปมํ อาโรเจตุ ภิกฺขุนิยา วา, เนว ปมาโรจเน ทุกฺกฏํ, น ทุติยาโรจเน ถุลฺลจฺจยํ. อมจฺเจหิ วินิจฺฉินิตฺวา กเต อฑฺฑปริโยสาเนปิ อนาปตฺติเยว. สเจปิ อฑฺฑการโก ภิกฺขุนึ ¶ วทติ ‘‘มม จ ตว จ กถํ ตฺวเมว กเถหี’’ติ; กเถนฺติยาปิ กถํ สุตฺวา กเต อฑฺฑปริโยสาเนปิ อนาปตฺติเยว.
รกฺขํ ¶ ยาจตีติ ธมฺมิกํ รกฺขํ ยาจติ, อนาปตฺติ. อิทานิ ยถายาจิตา รกฺขา ธมฺมิกา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ อโนทิสฺส อาจิกฺขตีติ อาห. ตตฺถ อตีตํ อารพฺภ อตฺถิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺสอาจิกฺขนา, อนาคตํ อารพฺภาปิ อตฺถิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา, อตฺถิ อโนทิสฺสอาจิกฺขนา.
กถํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ? ภิกฺขุนุปสฺสเย คามทารกา ธุตฺตาทโย วา เย เกจิ อนาจารํ วา อาจรนฺติ, รุกฺขํ วา ฉินฺทนฺติ, ผลาผลํ วา หรนฺติ, ปริกฺขาเร วา อจฺฉินฺทนฺติ. ภิกฺขุนี โวหาริเก อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อุปสฺสเย อิทํ นาม กต’’นฺติ วทติ. ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติ อาจิกฺขติ. เอวํ อตีตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ, สา น วฏฺฏติ. ตฺเจ สุตฺวา เต โวหาริกา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ภิกฺขุนิยา คีวา โหติ. ทณฺฑํ คณฺหิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาเยปิ สติ คีวาเยว โหติ. สเจ ปน ตสฺส ทณฺฑํ คณฺหถาติ วทติ, ปฺจมาสกมตฺเต คหิเต ปาราชิกํ โหติ.
‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อสุเกนาติ วตฺตุํ อมฺหากํ น วฏฺฏติ, ตุมฺเหเยว ชานิสฺสถ. เกวลฺหิ มยํ รกฺขํ ยาจาม, ตํ โน เทถ, อวหฏภณฺฑฺจ อาหราเปถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อโนทิสฺส อาจิกฺขนา โหติ, สา วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเต สเจปิ เต โวหาริกา การเก คเวสิตฺวา เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ สาปเตยฺยมฺปิ คหิตํ ภิกฺขุนิยา, เนว คีวา น อาปตฺติ.
ปริกฺขารํ หรนฺเต ทิสฺวา เตสํ อนตฺถกามตาย โจโร โจโรติ วตฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ วุตฺเตปิ หิ ยํ เตสํ ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพมฺปิ ภิกฺขุนิยา คีวา โหติ. อตฺตโน วจนกรํ ปน ‘‘อิมินา เม ปริกฺขาโร คหิโต, ตํ อาหราเปหิ, มา จสฺส ทณฺฑํ กโรหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทาสทาสีวาปิอาทีนํ อตฺถาย อฑฺฑํ กโรนฺติ, อยํ อกปฺปิยอฑฺโฑ นาม, น วฏฺฏติ.
กถํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ? วุตฺตนเยเนว ปเรหิ อนาจาราทีสุ กเตสุ ภิกฺขุนี โวหาริเก เอวํ วทติ ‘‘อมฺหากํ อุปสฺสเย อิทฺจิทฺจ กโรนฺติ, รกฺขํ โน ¶ เทถ อายตึ อกรณตฺถายา’’ติ. ‘‘เกน เอวํ กต’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘อสุเกน อสุเกน จา’’ติ ¶ อาจิกฺขติ. เอวํ อนาคตํ อารพฺภ โอทิสฺสอาจิกฺขนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. เตสฺหิ ทณฺเฑ กเต ปุริมนเยเนว สพฺพํ ภิกฺขุนิยา คีวา. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
สเจ ปน โวหาริกา ‘‘ภิกฺขุนุปสฺสเย เอวรูปํ อนาจารํ กโรนฺตานํ อิมํ นาม ทณฺฑํ กโรมา’’ติ เภรึ จราเปตฺวา อาณาย อติฏฺมาเน ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติ, ภิกฺขุนิยา เนว คีวา น อาปตฺติ.
โย จายํ ภิกฺขุนีนํ วุตฺโต, ภิกฺขูนมฺปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุโนปิ หิ โอทิสฺสอาจิกฺขนา น วฏฺฏติ. ยํ ตถา อาจิกฺขิเต ทณฺฑํ กโรนฺติ, สพฺพํ ¶ คีวา โหติ. วุตฺตนเยเนว ทณฺฑํ คณฺหาเปนฺตสฺส ปาราชิกํ. โย ปน ‘‘ทณฺฑํ กริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺโตปิ อโนทิสฺส กเถติ, เต จ ปริเยสิตฺวา ทณฺฑํ กโรนฺติเยว, น โทโส. วิหารสีมาย รุกฺขาทีนิ ฉินฺทนฺตานํ วาสิผรสุอาทีนิ คเหตฺวา ปาสาเณหิ โกฏฺเฏนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ธารา ภิชฺชติ, การาเปตฺวา ทาตพฺพา. อุปธาวิตฺวา เตสํ ปริกฺขาเร คณฺหนฺติ, ตมฺปิ น กาตพฺพํ, ลหุปริวตฺตฺหิ จิตฺตํ, เถยฺยเจตนาย อุปฺปนฺนาย มูลจฺเฉชฺชมฺปิ คจฺเฉยฺย. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สตฺตรสเก ปมสิกฺขาปทํ.
๒. ทุติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๘๒. ทุติเย – วรภณฺฑนฺติ มุตฺตามณิเวฬุริยาทิ มหคฺฆภณฺฑํ.
๖๘๓. อนปโลเกตฺวาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. คณํ วาติ มลฺลคณภฏิปุตฺตคณาทิกํ. ปูคนฺติ ธมฺมคณํ. เสณินฺติ คนฺธิกเสณิทุสฺสิกเสณิอาทิกํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ ราชาโน คณาทีนํ คามนิคเม นิยฺยาเตนฺติ ‘‘ตุมฺเหว เอตฺถ อนุสาสถา’’ติ, ตตฺถ ตตฺถ เต เอว อิสฺสรา โหนฺติ. ตสฺมา เต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ราชานํ วา คณาทิเก วา อาปุจฺฉิตฺวาปิ ภิกฺขุนิสงฺโฆ ¶ อาปุจฺฉิตพฺโพว. เปตฺวา กปฺปนฺติ ติตฺถิเยสุ วา ¶ อฺภิกฺขุนีสุ วา ปพฺพชิตปุพฺพํ กปฺปคติกํ เปตฺวาติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
โจรีวุฏฺาปนสมุฏฺานํ – เกนจิ กรณีเยน ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ อคนฺตฺวา ขณฺฑสีมํ ยถานิสินฺนฏฺาเนเยว อตฺตโน นิสฺสิตกปริสาย สทฺธึ วุฏฺาเปนฺติยา วาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, ขณฺฑสีมํ วา นทึ วา คนฺตฺวา วุฏฺาเปนฺติยา กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อนาปุจฺฉา วุฏฺาปนวเสน กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ทุติยสิกฺขาปทํ.
๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๒. ตติเย ¶ – ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยาติ เอตฺถ เอกํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารนฺติ เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺานํ เอเกน ปาเทน อติกฺกมติ ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อปิเจตฺถ สกคามโต นิกฺขมนฺติยา คามนฺตรปจฺจยา อนาปตฺติ, นิกฺขมิตฺวา ปน คามนฺตรํ คจฺฉนฺติยา ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, เอเกน ปาเทน อิตรสฺส คามสฺส ปริกฺเขเป วา อุปจาเร วา อติกฺกนฺตมตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเยน อติกฺกนฺตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. ตโต นิกฺขมิตฺวา ปุน สกคามํ ปวิสนฺติยาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ขณฺฑปากาเรน วา วติฉิทฺเทน วา ภิกฺขุนิวิหารภูมิเยว สกฺกา โหติ ปวิสิตุํ, เอวํ ปวิสมานาย กปฺปิยภูมึ นาม ปวิฏฺา โหติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. สเจปิ หตฺถิปิฏฺิอาทีหิ วา อิทฺธิยา วา ปวิสติ, วฏฺฏติเยว. ปทสา คมนเมว หิ อิธาธิปฺเปตํ. เตเนว ‘‘ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติอาทิมาห.
ทฺเว คามา ภิกฺขุนิวิหาเรน สมฺพทฺธวติกา โหนฺติ, ยสฺมึ คาเม ภิกฺขุนิวิหาโร, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปุน วิหารํ ปวิสิตฺวา สเจ วิหารมชฺเฌน อิตรสฺส คามสฺส มคฺโค อตฺถิ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. ตโต ปน คามโต เตเนว มคฺเคน ปจฺจาคนฺตพฺพํ. สเจ คามทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา อาคจฺฉติ, ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. สกคามโต เกนจิ ¶ กรณีเยน ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ นิกฺขนฺตาย ปุน ปวิสนกาเล หตฺถิ วา มุจฺจติ, อุสฺสารณา วา โหติ, อิตรา ¶ ภิกฺขุนิโย สหสา คามํ ปวิสนฺติ, ยาว อฺา ภิกฺขุนี อาคจฺฉติ, ตาว พหิคามทฺวาเร าตพฺพํ. สเจ น อาคจฺฉติ, ทุติยิกา ภิกฺขุนี ปกฺกนฺตา นาม โหติ, ปวิสิตุํ วฏฺฏติ.
ปุพฺเพ มหาคาโม โหติ, มชฺเฌ ภิกฺขุนิวิหาโร. ปจฺฉา ตํ คามํ จตฺตาโร ชนา ลภิตฺวา วิสุํ วิสุํ วติปริกฺเขปํ กตฺวา วิภชิตฺวา ภฺุชนฺติ, วิหารโต เอกํ คามํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. ตโต อปรํ คามํ ทฺวาเรน วา วติฉิทฺเทน ¶ วา ปวิสิตุํ น วฏฺฏติ. ปุน วิหารเมว ปจฺจาคนฺตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? วิหารสฺส จตุคามสาธารณตฺตา.
อนฺตรวาสโก เตมิยตีติ ยตฺถ ยถา ติมณฺฑลปฏิจฺฉาทนํ โหติ; เอวํ นิวตฺถาย ภิกฺขุนิยา วสฺสกาเล ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา โอตริตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา เอกทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ. เสสํ นทีลกฺขณํ นทีนิมิตฺตกถาย อาวิ ภวิสฺสติ. เอวรูปํ นทึ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา โอตริตฺวา อุตฺตรณกาเล ปมํ ปาทํ อุทฺธริตฺวา ตีเร เปนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโส. เสตุนา คจฺฉติ, อนาปตฺติ. ปทสา โอตริตฺวา อุตฺตรณกาเล เสตุํ อาโรหิตฺวา อุตฺตรนฺติยาปิ อนาปตฺติ. เสตุนา ปน คนฺตฺวา อุตฺตรณกาเล ปทสา คจฺฉนฺติยา อาปตฺติเยว. ยานนาวาอากาสคมนาทีสุปิ เอเสว นโย. โอริมตีรโต ปน ปรตีรเมว อกฺกมนฺติยา อนาปตฺติ. รชนกมฺมตฺถํ คนฺตฺวา ทารุสงฺกฑฺฒนาทิกิจฺเจน ทฺเว ติสฺโส อุภยตีเรสุ วิจรนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ กาจิ กลหํ กตฺวา อิตรํ ตีรํ คจฺฉติ, อาปตฺติ. ทฺเว เอกโต อุตฺตรนฺติ, เอกา มชฺเฌ นทิยา กลหํ กตฺวา นิวตฺติตฺวา โอริมตีรเมว อาคจฺฉติ, อาปตฺติ. อิตริสฺสา ปน อยํ ปกฺกนฺตฏฺาเน ิตา โหติ, ตสฺมา ปรตีรํ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺติ. นฺหายิตุํ วา ปาตุํ วา โอติณฺณา ตเมว ตีรํ ปจฺจุตฺตรติ, อนาปตฺติ.
สห อรุณุคฺคมนาติ เอตฺถ สเจ สชฺฌายํ วา ปธานํ วา อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กุรุมานา ปุเรอรุเณเยว ทุติยิกาย สนฺติกํ คมิสฺสามีติ อาโภคํ กโรติ, อชานนฺติยา เอว จสฺสา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อนาปตฺติ. อถ ปน ‘‘ยาว อรุณุคฺคมนา อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ วา อนาโภเคน วา วิหารสฺส เอกเทเส อจฺฉติ, ทุติยิกาย หตฺถปาสํ น ¶ โอตรติ, อรุณุคฺคมเน สงฺฆาทิเสโส. หตฺถปาโสเยว หิ อิธ ปมาณํ, หตฺถปาสาติกฺกเม เอกคพฺโภปิ น รกฺขติ.
อคามเก ¶ อรฺเติ เอตฺถ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ เอวํ วุตฺตลกฺขณเมว อรฺํ. ตํ ปเนตํ เกวลํ คามาภาเวน ‘‘อคามก’’นฺติ วุตฺตํ, น วิฺฌาฏวิสทิสตาย. ตาทิเส ¶ อรฺเ โอกฺกนฺเต ทสฺสนูปจาเร วิชหิเต สเจปิ สวนูปจาโร อตฺถิ, อาปตฺติ. เตเนว วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ภิกฺขุนีสุ มหาโพธิองฺคณํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฏฺติ, ตสฺสาปิ อาปตฺติ. โลหปาสาทํ ปวิสนฺตีสุปิ ปริเวณํ ปวิสนฺตีสุปิ เอเสว นโย. มหาเจติยํ วนฺทมานาสุ เอกา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสาปิ อาปตฺติ. ถูปารามํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฏฺติ, ตสฺสาปิ อาปตฺตี’’ติ. เอตฺถ จ ทสฺสนูปจาโร นาม ยตฺถ ิตํ ทุติยิกา ปสฺสติ. สเจ ปน สาณิปาการนฺตริกาปิ โหติ, ทสฺสนูปจารํ วิชหติ นาม. สวนูปจาโร นาม ยตฺถ ิตา มคฺคมูฬฺหสทฺเทน วิย ธมฺมสวนาโรจนสทฺเทน วิย จ ‘‘อยฺเย’’ติ สทฺทายนฺติยา สทฺทํ สุณาติ. อชฺโฌกาเส ทูเรปิ ทสฺสนูปจาโร นาม โหติ. โส เอวรูเป สวนูปจาเร วิชหิเต น รกฺขติ, วิชหิตมตฺเตว อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส.
เอกา มคฺคํ คจฺฉนฺตี โอหียติ. สอุสฺสาหา เจ หุตฺวา อิทานิ ปาปุณิสฺสามีติ อนุพนฺธติ, อนาปตฺติ. สเจ ปุริมาโย อฺเน มคฺเคน คจฺฉนฺติ, ปกฺกนฺตา นาม โหนฺติ, อนาปตฺติเยว. ทฺวินฺนํ คจฺฉนฺตีนํ เอกา อนุพนฺธิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘คจฺฉตุ อย’’นฺติ โอหียติ, อิตราปิ ‘‘โอหียตุ อย’’นฺติ, คจฺฉติ, ทฺวินฺนมฺปิ อาปตฺติ. สเจ ปน คจฺฉนฺตีสุ ปุริมาปิ อฺํ มคฺคํ คณฺหาติ, ปจฺฉิมาปิ อฺํ, เอกา เอกิสฺสา ปกฺกนฺตฏฺาเน ติฏฺติ, ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.
๖๙๓. ปกฺขสงฺกนฺตา วาติ ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตติยสิกฺขาปทํ.
๔. จตุตฺถสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๙๔-๘. จตุตฺเถ ¶ – ปาทปีํ นาม โธตปาทฏฺปนกํ. ปาทกลิกา นาม อโธตปาทฏฺปนกํ ¶ . อนฺาย คณสฺส ฉนฺทนฺติ ตสฺเสว การกคณสฺส ฉนฺทํ อชานิตฺวา. วตฺเต วตฺตนฺตินฺติ เตจตฺตาลีสปฺปเภเท เนตฺถารวตฺเต วตฺตมานํ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ ¶ , โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
จตุตฺถสิกฺขาปทํ.
๕. ปฺจมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๑. ปฺจเม – เอกโต อวสฺสุเตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุนิยา อวสฺสุตภาโว ทฏฺพฺโพ’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปเนตํ น วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา สเมติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
ปฺจมสิกฺขาปทํ.
๖. ฉฏฺสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๕-๖. ฉฏฺเ – ยโต ตฺวนฺติ ยสฺมา ตฺวํ. อุยฺโยเชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติอาทิกา สงฺฆาทิเสสปริโยสานา อาปตฺติโย กสฺสา โหนฺตีติ? อุยฺโยชิกาย. วุตฺตฺเจตํ ปริวาเรปิ –
‘‘น เทติ น ปฏิคฺคณฺหาติ, ปฏิคฺคโห เตน น วิชฺชติ;
อาปชฺชติ ครุกํ น ลหุกํ, ตฺจ ปริโภคปจฺจยา;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ¶ คาถา อิมํ อุยฺโยชิกํ สนฺธาย วุตฺตา. อิตริสฺสา ปน อาปตฺติเภโท ปมสิกฺขาปเท วิภตฺโตติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ฉฏฺสิกฺขาปทํ.
๗. สตฺตมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๐๙. สตฺตเม – ยาวตติยกปทตฺโถ มหาวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.
สมนุภาสนสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
สตฺตมสิกฺขาปทํ.
๘. อฏฺมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๑๕. อฏฺเม – กิสฺมิฺจิเทว อธิกรเณติ จตุนฺนํ อฺตรสฺมึ. ปทภาชเน ปน เกวลํ อธิกรณวิภาคํ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
อฏฺมสิกฺขาปทํ.
๙. นวมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๒๓. นวเม – สํสฏฺาติ มิสฺสีภูตา. อนนุโลมิเกนาติ ปพฺพชิตานํ อนนุโลเมน กายิกวาจสิเกน. สํสฏฺาติ คิหีนํ โกฏฺฏนปจนคนฺธปิสนมาลาคนฺถนาทินา กายิเกน สาสนปฏิสาสนาหรณสฺจริตฺตาทินา วาจสิเกน จ สํสฏฺา. ปาโป กิตฺติสทฺโท เอตาสนฺติ ปาปสทฺทา ¶ . ปาโป อาชีวสงฺขาโต สิโลโก เอตาสนฺติ ปาปสิโลกา. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
นวมสิกฺขาปทํ.
๑๐. ทสมสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา
๗๒๗. ทสเม ¶ – เอวาจาราติ เอวํอาจารา. ยาทิโส ตุมฺหากํ อาจาโร, ตาทิสา อาจาราติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฺุายาติ อวฺาย นีจํ กตฺวา ชานนาย. ปริภเวนาติ กึ อิมา กริสฺสนฺตีติ เอวํ ปริภวิตฺวา ชานเนน. อกฺขนฺติยาติ อสหนตาย; โกเธนาติ อตฺโถ. เวภสฺสิยาติ พลวภสฺสภาเวน; อตฺตโน พลปฺปกาสเนน สมุตฺราสเนนาติ อตฺโถ. ทุพฺพลฺยาติ ตุมฺหากํ ทุพฺพลภาเวน. สพฺพตฺถ อฺุาย จ ปริภเวน จาติ เอวํ สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิวิจฺจถาติ วินา โหถ. เสสํ อุตฺตานเมว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ทสมสิกฺขาปทํ.
อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย สตฺตรส สงฺฆาทิเสสาติ เอตฺถ ฉนฺนํ ปมาปตฺติกานํ อนนฺตรา สฺจริตฺตํ, ทฺเว ทุฏฺโทสาติ อิมานิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ มหาวิภงฺคโต ปกฺขิปิตฺวา นว ปมาปตฺติกา, จตุนฺนํ ยาวตติยกานํ อนนฺตรา มหาวิภงฺคโตปิ จตฺตาโร ยาวตติยเก ปกฺขิปิตฺวา อฏฺ ยาวตติยกา เวทิตพฺพา. เอวํ สพฺเพปิ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน ¶ อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย สตฺตรส สงฺฆาทิเสสา ธมฺมาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว อฺตฺร ปกฺขมานตฺตา. ตํ ปน ขนฺธเก วิตฺถาเรน วณฺณยิสฺสามาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย ภิกฺขุนีวิภงฺเค
สตฺตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.
สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ นิฏฺิตํ.