📜

๔. ปาจิตฺติยกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)

๑. ลสุณวคฺโค

๑. ปมลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา

ตึสกานนฺตรํ ธมฺมา, ฉสฏฺิสตสงฺคหา;

สงฺคีตา เย อยํ ทานิ, โหติ เตสมฺปิ วณฺณนา.

๗๙๓. ตตฺถ ลสุณวคฺคสฺส ตาว ปมสิกฺขาปเท – ทฺเว ตโย ภณฺฑิเกติ ทฺเว วา ตโย วา โปฏฺฏลิเก; สมฺปุณฺณมิฺชานเมตํ อธิวจนํ. น มตฺตํ ชานิตฺวาติ ปมาณํ อชานิตฺวา เขตฺตปาลสฺส วาเรนฺตสฺส พหุํ ลสุณํ หราเปสิ.

อฺตรํ หํสโยนินฺติ สุวณฺณหํสโยนึ. โส ตาสํ เอเกกนฺติ โส หํโส ชาติสฺสโร อโหสิ, อถ ปุพฺพสิเนเหน อาคนฺตฺวา ตาสํ เอเกกํ ปตฺตํ เทติ, ตํ ตาปนตาลนจฺเฉทนกฺขมํ สุวณฺณเมว โหติ.

๗๙๕. มาคธกนฺติ มคเธสุ ชาตํ. มคธรฏฺเ ชาตลสุณเมว หิ อิธ ลสุณนฺติ อธิปฺเปตํ, ตมฺปิ ภณฺฑิกลสุณเมว, น เอกทฺวิติมิฺชกํ. กุรุนฺทิยํ ปน ชาตเทสํ อวตฺวา ‘‘มาคธกํ นาม ภณฺฑิกลสุณ’’นฺติ วุตฺตํ. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเรติ เอตฺถ สเจ ทฺเว ตโย ภณฺฑิเก เอกโตเยว สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ. ภินฺทิตฺวา เอเกกํ มิฺชํ ขาทนฺติยา ปน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานีติ.

๗๙๗. ปลณฺฑุกาทีนํ วณฺเณน วา มิฺชาย วา นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – วณฺเณน ตาว ปลณฺฑุโก ปณฺฑุวณฺโณ โหติ. ภฺชนโก โลหิตวณฺโณ. หริตโก หริตปณฺณวณฺโณ. มิฺชาย ปน ปลณฺฑุกสฺส เอกา มิฺชา โหติ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส ติสฺโส. จาปลสุโณ อมิฺชโก, องฺกุรมตฺตเมว หิ ตสฺส โหติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘ปลณฺฑุกสฺส ตีณิ มิฺชานิ, ภฺชนกสฺส ทฺเว, หริตกสฺส เอก’’นฺติ วุตฺตํ . เอเต ปลณฺฑุกาทโย สภาเวเนว วฏฺฏนฺติ. สูปสมฺปากาทีสุ ปน มาคธกมฺปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ ปจฺจมาเนสุ มุคฺคสูปาทีสุ วา มจฺฉมํสวิกติยา วา เตลาทีสุ วา พทรสาฬวาทีสุ วา อมฺพิลสากาทีสุ วา อุตฺตริภงฺเคสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ อนฺตมโส ยาคุภตฺเตปิ ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ลสุณสิกฺขาปทํ ปมํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๙๙. ทุติเย – สมฺพาเธติ ปฏิจฺฉนฺโนกาเส. ตสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ ปน ‘‘อุโภ อุปกจฺฉกา มุตฺตกรณ’’นฺติ วุตฺตํ. เอกมฺปิโลมนฺติ กตฺตริยา วา สณฺฑาสเกน วา ขุเรน วา เยน เกนจิ เอกปโยเคน วา นานาปโยเคน วา เอกํ วา พหูนิ วา สํหราเปนฺติยา ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยานิ, น โลมคณนาย.

๘๐๑. อาพาธปจฺจยาติ กณฺฑุกจฺฉุอาทิอาพาธปจฺจยา สํหราเปนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๐๓-๔. ตติเย ตลฆาตเกติ มุตฺตกรณตลฆาตเน. อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปีติ เอตฺถ ปตฺตํ ตาว มหนฺตํ, เกสเรนาปิ ปหารํ เทนฺติยา อาปตฺติเยว.

๘๐๕. อาพาธปจฺจยาติ คณฺฑํ วา วณํ วา ปหริตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๐๖. จตุตฺเถ – ปุราณราโชโรธาติ ปุราเณ คิหิภาเว รฺโ โอโรธา. จิราจิรํ คจฺฉตีติ จิเรน จิเรน คจฺฉติ. ธาเรถาติ สกฺโกถ. กสฺสิทํ กมฺมนฺติ วุตฺเต อนาโรจิเตปิ เอตา มยิ อาสงฺกํ กริสฺสนฺตีติ มฺมานา เอวมาห – ‘‘มยฺหิทํ กมฺม’’นฺติ.

๘๐๗. ชตุมฏฺเกติ ชตุนา กเต มฏฺทณฺฑเก. วตฺถุวเสเนเวตํ วุตฺตํ, ยํกิฺจิ ปน ทณฺฑกํ ปเวเสนฺติยา อาปตฺติเยว. เตนาห – ‘‘อนฺตมโส อุปฺปลปตฺตมฺปิ มุตฺตกรณํ ปเวเสตี’’ติ. เอตมฺปิ จ อติมหนฺตํ, เกสรมตฺตมฺปิ ปน ปเวเสนฺติยา อาปตฺติ เอว. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตลฆาตเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๑๐. ปฺจเม อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนฺตีติ อติอนฺโต ปเวเสตฺวา อุทเกน โธวนํ กุรุมานา.

๘๑๒. เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกาเมตีติ วิตฺถารโต ตติยํ วา จตุตฺถํ วา องฺคุลํ คมฺภีรโต ทฺวินฺนํ ปพฺพานํ อุปริ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺติยา ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ มหาปจฺจริยํ – ‘‘เอกิสฺสา องฺคุลิยา ตีณิ ปพฺพานิ อาทาตุํ น ลภติ, ติณฺณํ วา จตุนฺนํ วา เอเกกมฺปิ ปพฺพํ อาทาตุํ น ลภตี’’ติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ตลฆาตเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๑๕. ฉฏฺเ – ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตกิจฺจํ. ปานีเยน จ วิธูปเนน จ อุปติฏฺิตฺวาติ เอเกน หตฺเถน ปานียถาลกํ เอเกน พีชนึ คเหตฺวา พีชมานา สมีเป ตฺวาติ อตฺโถ. อจฺจาวทตีติ ปุพฺเพปิ ตุมฺเห เอวํ ภุฺชถ, อหํ เอวํ อุปฏฺานํ กโรมี’’ติ ปพฺพชิตจาริตฺตํ อติกฺกมิตฺวา เคหสฺสิตกถํ กเถตีติ อตฺโถ.

๘๑๗. ยํกิฺจิ ปานียนฺติ สุทฺธอุทกํ วา โหตุ, ตกฺกทธิมตฺถุรสขีราทีนํ วา อฺตรํ. ยา กาจิ พีชนีติ อนฺตมโส จีวรกณฺโณปิ. หตฺถปาเส ติฏฺติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิธ านปจฺจยาว ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ปหารปจฺจยา ปน ขนฺธเก ทุกฺกฏํ ปฺตฺตํ.

๘๑๙. เทติ ทาเปตีติ ปานียํ วา สูปาทึ วา อิมํ ปิวถ, อิมินา ภุฺชถาติ เทติ; ตาลวณฺฏํ อิมินา พีชนฺตา ภุฺชถาติ เทติ; อฺเน วา อุภยมฺปิ ทาเปติ, อนาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺนํ อาณาเปตีติ อุปติฏฺนตฺถํ สามเณรึ อาณาเปติ, อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๒๒. สตฺตเม ภุฺชิสฺสามีติ ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิทํ ปโยคทุกฺกฏํ นาม, ตสฺมา น เกวลํ ปฏิคฺคหเณเยว โหติ, ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ปน อรฺโต อาหรเณปิ สุกฺขาปเนปิ วทฺทลิทิวเส ภชฺชนตฺถาย อุทฺธนสชฺชเนปิ กปลฺลสชฺชเนปิ ทพฺพิสชฺชเนปิ ทารูนิ อาทาย อคฺคิกรเณปิ กปลฺลมฺหิ ธฺปกฺขิปเนปิ ทพฺพิยา สงฺฆฏฺฏเนสุปิ โกฏฺฏนตฺถํ อุทุกฺขลมุสลาทิสชฺชเนสุปิ โกฏฺฏนปปฺโผฏนโธวนาทีสุปิ ยาว มุเข เปตฺวา อชฺโฌหรณตฺถํ ทนฺเตหิ สงฺขาทติ, ตาว สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏานิ, อชฺโฌหรณกาเล ปน อชฺโฌหรณคณนาย ปาจิตฺติยานิ. เอตฺถ จ วิฺตฺติ เจว โภชนฺจ ปมาณํ. ตสฺมา สยํ วิฺาเปตฺวา อฺาย ภชฺชนโกฏฺฏนปจนานิ การาเปตฺวา ภุฺชนฺติยาปิ อาปตฺติ. อฺาย วิฺาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ภุฺชนฺติยาปิ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘อิทํ อามกธฺํ นาม มาตรมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติยา ปาจิตฺติยเมว, อวิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา การาเปตฺวา วา ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏํ. อฺาย วิฺตฺติยา ลทฺธํ สยํ วา ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ตาย วา การาเปตฺวา อฺาย วา การาเปตฺวา ภุฺชนฺติยาปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘อฺาย วิฺตฺติยา ลทฺธํ, สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา ภุฺชนฺติยา ปาจิตฺติยเมว. ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา ภุฺชนฺติยา ปน ทุกฺกฏ’’นฺติ. ตํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํ โหติ, น หิ ภชฺชนาทีนํ กรเณ วา การาปเน วา วิเสโส อตฺถิ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อฺาย วิฺตฺตํ ภุฺชนฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

๘๒๓. อาพาธปจฺจยาติ เสทกมฺมาทีนํ อตฺถาย ธฺวิฺตฺติยา อนาปตฺติ. ‘‘อวิฺตฺติยา ลพฺภมานํ ปน นวกมฺมตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. อปรณฺณํ วิฺาเปตีติ เปตฺวา สตฺต ธฺานิ มุคฺคมาสาทึ วา ลาพุกุมฺภณฺฑาทึ วา อฺํ ยํกิฺจิ าตกปวาริตฏฺาเน วิฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ. อามกธฺํ ปน าตกปวาริตฏฺาเน น วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๒๔. อฏฺเม – นิพฺพิฏฺโ ราชภโฏ รฺโ ภติ เกณิ เอเตนาติ นิพฺพิฏฺราชภโฏ, เอกํ านนฺตรํ เกณิยา คเหตฺวา ตโต ลทฺธอุทโยติ อตฺโถ. ตฺเว ภฏปถํ ยาจิสฺสามีติ รฺโ เกณึ ทตฺวา ปุน ตํเยว านนฺตรํ ยาจิสฺสามีติ จินฺเตนฺโต. ปริภาสีติ ตา ภิกฺขุนิโย ‘‘มา ปุน เอวํ กริตฺถา’’ติ สนฺตชฺเชสิ.

๘๒๖. สยํ ฉฑฺเฑตีติ จตฺตาริปิ วตฺถูนิ เอกปโยเคน ฉฑฺเฑนฺติยา เอกาว อาปตฺติ, ปาเฏกฺกํ ฉฑฺเฑนฺติยา วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. อาณตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. ทนฺตกฏฺฉฑฺฑเนปิ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยเมว. ภิกฺขุสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ฉสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๐-๒. นวเม – ยํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ โรปิมนฺติ เขตฺตํ วา โหตุ นาฬิเกราทิอาราโม วา, ยตฺถ กตฺถจิ โรปิมหริตฏฺาเน เอตานิ วตฺถูนิ ฉฑฺเฑนฺติยา ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เขตฺเต วา อาราเม วา นิสีทิตฺวา ภุฺชมานา อุจฺฉุอาทีนิ วา ขาทนฺตี; คจฺฉมานา อุจฺฉิฏฺโทกจลกาทีนิ หริตฏฺาเน ฉฑฺเฑติ, อนฺตมโส อุทกํ ปิวิตฺวา มตฺถกจฺฉินฺนนาฬิเกรมฺปิ ฉฑฺเฑติ, ปาจิตฺติยเมว. ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. กสิตฏฺาเน ปน นิกฺขิตฺตพีเช ยาว องฺกุรํ น อุฏฺหติ, ตาว สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ . อนิกฺขิตฺตพีเชสุ เขตฺตโกณาทีสุ วา อสฺชาตโรปิเมสุ เขตฺตมริยาทาทีสุ วา ฉฑฺเฑตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสานํ กจวรฉฑฺฑนฏฺาเนปิ วฏฺฏติ. ฉฑฺฑิตเขตฺเตติ มนุสฺเสสุ สสฺสํ อุทฺธริตฺวา คเตสุ ฉฑฺฑิตเขตฺตํ นาม โหติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน ลายิตมฺปิ ปุพฺพณฺณาทิ ปุน อุฏฺหิสฺสตีติ รกฺขนฺติ, ตตฺถ ยถาวตฺถุกเมว. เสสํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ…เป… ติเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๕. ทสเม ยํกิฺจิ นจฺจนฺติ นฏาทโย วา นจฺจนฺตุ โสณฺฑา วา, อนฺตมโส โมรสุวมกฺกฏาทโยปิ, สพฺพมฺเปตํ นจฺจเมว. ยํกิฺจิ คีตนฺติ ยํกิฺจิ นฏาทีนํ วา คีตํ โหตุ, อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา อสํยตภิกฺขูนํ ธมฺมภาณกคีตํ วา, สพฺพมฺเปตํ คีตเมว. ยํกิฺจิ วาทิตนฺติ ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ, กุฏเภริวาทิตํ วา, อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพมฺเปตํ วาทิตเมว.

๘๓๖. ทสฺสนาย คจฺฉติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ปทวารคณนาย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ยตฺถ ิตา ปสฺสติ วา สุณาติ วาติ เอกปโยเคน โอโลเกนฺตี ปสฺสติ, เตสํเยว คีตวาทิตํ สุณาติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เอกํ ทิสํ โอโลเกตฺวา นจฺจํ ปสฺสติ, ปุน อฺโต โอโลเกตฺวา คายนฺเต ปสฺสติ อฺโต วาเทนฺเต, ปาเฏกฺกา อาปตฺติโย. ภิกฺขุนี สยมฺปิ นจฺจิตุํ วา คายิตุํ วา วาทิตุํ วา น ลภติ, อฺเ ‘‘นจฺจ, คาย, วาเทหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลภติ. ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ เทถ, อุปาสกา’’ติ วตฺตุมฺปิ ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ น ลภติ. สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยนฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฏฺานํ กโรมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อุปฏฺานกรณํ นาม สุนฺทร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

๘๓๗. อาราเม ิตาติ อาราเม ตฺวา อนฺตราราเม วา พหิอาราเม วา นจฺจาทีนิ ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ วา อตฺถาย อฺเน วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา คตฏฺาเน ปสฺสติ วา สุณาติ วา, อนาปตฺติ. อาปทาสูติ ตาทิเสน อุปทฺทเวน อุปทฺทุตา สมชฺชฏฺานํ ปวิสติ, เอวํ ปวิสิตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

ลสุณวคฺโค ปโม.

๒. อนฺธการวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๓๙. อนฺธการวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – อปฺปทีเปติ ปทีปจนฺทสูริยอคฺคีสุ เอเกนาปิ อโนภาสิเต. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘อนาโลเก’’ติ วุตฺตํ. สลฺลเปยฺย วาติ เคหสฺสิตกถํ กเถยฺย.

๘๔๑. อรโหเปกฺขา อฺวิหิตาติ น รโหอสฺสาทาเปกฺขา รโหอสฺสาทโต อฺวิหิตาว หุตฺวา าตึ วา ปุจฺฉติ, ทาเน วา ปูชาย วา มนฺเตติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๔๒. ทุติเย – ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเสติ อิทเมว นานํ. เสสํ สพฺพํ ปุริมสทิสเมวาติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๔๖. ตติเย อชฺโฌกาเสติ นานํ, เสสํ สพฺพํ ตาทิสเมวาติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๕๐-๓. จตุตฺเถ นิกณฺณิกนฺติ กณฺณมูลํ วุจฺจติ; กณฺณมูเล ชปฺเปยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. สติ กรณีเยติ สลากภตฺตาทีนํ อาหรณตฺถาย วิหาเร วา ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ปฏิสามนตฺถาย. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ปุริมสทิสาเนวาติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๕๔. ปฺจเม ฆรํ โสเธนฺตาติ เตสํ กิร เอตทโหสิ – ‘‘เถริยา โกจิ กายิกวาจสิโก วีติกฺกโม น ทิสฺสติ, ฆรมฺปิ ตาว โสเธมา’’ติ, ตโต ฆรํ โสเธนฺตา นํ อทฺทสํสุ.

๘๕๖. อโนวสฺสกํ อติกฺกาเมนฺติยาติ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยา ทุกฺกฏํ, ทุติยํ อติกฺกาเมนฺติยา ปาจิตฺติยํ, อุปจาราติกฺกเม เอเสว นโย.

๘๕๘. คิลานายาติ ยา ตาทิเสน เคลฺเน อาปุจฺฉิตุํ น สกฺโกติ. อาปทาสูติ ฆเร อคฺคิ วา อุฏฺิโต โหติ, โจรา วา; เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปุจฺฉา ปกฺกมติ, อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๐. ฉฏฺเ – อภินิสีเทยฺยาติ นิสีเทยฺย. นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา อาปตฺติ, อนิสีทิตฺวา นิปชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติยา เอกา, นิสีทิตฺวา นิปชฺชิตฺวา คจฺฉนฺติยา ทฺเว.

๘๖๓. ธุวปฺตฺเตติ ภิกฺขุนีนํ อตฺถาย นิจฺจปฺตฺเต. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ…เป… ติเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๔. สตฺตเมปิ – สพฺพํ ฉฏฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๖๙. อฏฺเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๗๕. นวเม – อภิสเปยฺยาติ สปถํ กเรยฺย. นิรเยน อภิสปติ นาม ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตามิ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตามิ, นิรเย นิพฺพตฺตตุ, อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺตตู’’ติ เอวมาทินา นเยน อกฺโกสติ. พฺรหฺมจริเยน อภิสปติ นาม ‘‘คิหินี โหมิ, โอทาตวตฺถา โหมิ, ปริพฺพาชิกา โหมิ, อิตรา วา เอทิสา โหตู’’ติ เอวมาทินา นเยน อกฺโกสติ; วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ. เปตฺวา ปน นิรยฺจ พฺรหฺมจริยฺจ ‘‘สุนขี สูกรี กาณา กุณี’’ติอาทินา นเยน อกฺโกสนฺติยา วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ.

๘๗๘. อตฺถปุเรกฺขารายาติ อฏฺกถํ กเถนฺติยา. ธมฺมปุเรกฺขารายาติ ปาฬึ วาเจนฺติยา. อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ ‘‘อิทานิปิ ตฺวํ เอทิสา, สาธุ วิรมสฺสุ, โน เจ วิรมสิ, อทฺธา ปุน เอวรูปานิ กมฺมานิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชิสฺสสิ, ติรจฺฉานโยนิยา อุปฺปชฺชิสฺสสี’’ติ เอวํ อนุสาสนิยํ ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๗๙. ทสเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลกมฺมํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

อนฺธการวคฺโค ทุติโย.

๓. นคฺควคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๘๓-๖. นคฺควคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – พฺรหฺมจริยํ จิณฺเณนาติ พฺรหฺมจริเยน จิณฺเณน; อถ วา พฺรหฺมจริยสฺส จรเณนาติ; เอวํ กรณตฺเถ วา สามิอตฺเถ วา อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. อจฺฉินฺนจีวริกายาติ อิทํ อุทกสาฏิกํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อฺํ จีวรํ. ตสฺมา อุทกสาฏิกาย อจฺฉินฺนาย วา นฏฺาย วา นคฺคาย นฺหายนฺติยา อนาปตฺติ. สเจปิ อุทกสาฏิกจีวรํ มหคฺฆํ โหติ, น สกฺกา นิวาเสตฺวา พหิ คนฺตุํ, เอวมฺปิ นคฺคาย นฺหายิตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๘๗. ทุติเย – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙๓-๔. ตติเย – อนนฺตรายิกินีติ ทสสุ อนฺตราเยสุ เอเกนปิ อนฺตราเยน อนนฺตรายา. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา สเจปิ ปจฺฉา สิพฺพติ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙๘-๙. จตุตฺเถ – ปฺจ อหานิ ปฺจาหํ, ปฺจาหเมว ปฺจาหิกํ. สงฺฆาฏีนํ จาโร สงฺฆาฏิจาโร; ปริโภควเสน วา โอตาปนวเสน วา สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏีติ ลทฺธนามานํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ปริวตฺตนนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาเยว ปทภาชเน ‘‘ปฺจมํ ทิวสํ ปฺจ จีวรานี’’ติอาทิมาห. อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ จ เอกสฺมึ จีวเร เอกา อาปตฺติ; ปฺจสุ ปฺจ.

๙๐๐. อาปทาสูติ มหคฺฆํ จีวรํ, น สกฺกา โหติ โจรภยาทีสุ ปริภุฺชิตุํ; เอวรูเป อุปทฺทเว อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ – อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๐๓. ปฺจเม – จีวรสงฺกมนียนฺติ สงฺกเมตพฺพํ จีวรํ; อฺิสฺสา สนฺตกํ อนาปุจฺฉา คหิตํ ปุน ปฏิทาตพฺพจีวรนฺติ อตฺโถ.

๙๐๖. อาปทาสูติ สเจ อปารุตํ วา อนิวตฺถํ วา โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ธาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๐๙-๑๐. ฉฏฺเ – อฺํ ปริกฺขารนฺติ ยํกิฺจิ ถาลกาทีนํ วา สปฺปิเตลาทีนํ วา อฺตรํ. อานิสํสนฺติ ‘‘กิตฺตกํ อคฺฆนกํ ทาตุกามตฺถา’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘เอตฺตกํ นามา’’ติ วทนฺติ, ‘‘อาคเมถ ตาว, อิทานิ วตฺถํ มหคฺฆํ, กติปาเหน กปฺปาเส อาคเต สมคฺฆํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ วตฺวา นิวาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๑๑. สตฺตเม ปกฺกมึสูติ อฺาสมฺปิ อาคมนํ อาคเมนฺตี ‘‘อทฺธา อมฺหากมฺปิ อาคเมสฺสตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อคมํสุ. ปฏิพาเหยฺยาติ ปฏิเสเธยฺย.

๙๑๕. อานิสํสนฺติ ‘‘เอกิสฺสา เอกํ สาฏกํ นปฺปโหติ, อาคเมถ ตาว, กติปาเหน อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตโต ภาเชสฺสามี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๑๖-๘. อฏฺเม นฏา นาม เย นาฏกํ นาเฏนฺติ. นฏกา นาม เย นจฺจนฺติ. ลงฺฆกา นาม เย วํสวรตฺตาทีสุ ลงฺฆนกมฺมํ กโรนฺติ. โสกชฺฌายิกา นาม มายาการา. กุมฺภถูณิกา นาม ฆฏเกน กีฬนกา; พิมฺพิสกวาทกาติปิ วทนฺติ. เทติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ จีวรคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว.

ฉสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๒๑-๔. นวเม ทุพฺพลจีวรปจฺจาสายาติ ทุพฺพลาย จีวรปจฺจาสาย. อานิสํสนฺติ กิฺจาปิ ‘‘น มยํ อยฺเย สกฺโกมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘อิทานิ ปน เตสํ กปฺปาโส อาคมิสฺสติ , สทฺโธ ปสนฺโน ปุริโส อาคมิสฺสติ, อทฺธา ทสฺสตี’’ติ เอวํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๒๗. ทสเม – กถินุทฺธารํ น ทสฺสนฺตีติ กีทิโส กถินุทฺธาโร ทาตพฺโพ, กีทิโส น ทาตพฺโพติ? ยสฺส อตฺถารมูลโก อานิสํโส มหา, อุพฺภารมูลโก อปฺโป, เอวรูโป น ทาตพฺโพ. ยสฺส ปน อตฺถารมูลโก อานิสํโส อปฺโป, อุพฺภารมูลโก มหา, เอวรูโป ทาตพฺโพ. สมานิสํโสปิ สทฺธาปริปาลนตฺถํ ทาตพฺโพว.

๙๓๑. อานิสํสนฺติ ภิกฺขุนิสงฺโฆ ชิณฺณจีวโร, กถินานิสํสมูลโก มหาลาโภติ เอวรูปํ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปฏิพาหนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

นคฺควคฺโค ตติโย.

๔. ตุวฏฺฏวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๓๓. ตุวฏฺฏวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – ตุวฏฺเฏยฺยุนฺติ นิปชฺเชยฺยุํ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๓๗. ทุติเย – เอกํ อตฺถรณฺเจว ปาวุรณฺจ เอตาสนฺติ เอกตฺถรณปาวุรณา; สํหาริมานํ ปาวารตฺถรณกฏสารกาทีนํ เอกํ อนฺตํ อตฺถริตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา ตุวฏฺเฏนฺตีนเมตํ อธิวจนํ.

๙๔๐. ววตฺถานํ ทสฺเสตฺวาติ มชฺเฌ กาสาวํ วา กตฺตรยฏฺึ วา อนฺตมโส กายพนฺธนมฺปิ เปตฺวา นิปชฺชนฺตีนํ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๔๑. ตติเย – อุฬารสมฺภาวิตาติ อุฬารกุลา ปพฺพชิตตฺตา คุเณหิ จ อุฬารตฺตา อุฬาราติ สมฺภาวิตา. อิสฺสาปกตาติ อิสฺสาย อปกตา; อภิภูตาติ อตฺโถ. สฺตฺติ พหุลา เอตาสนฺติ สฺตฺติพหุลา; ทิวสํ มหาชนํ สฺาปยมานาติ อตฺโถ. วิฺตฺติ พหุลา เอตาสนฺติ วิฺตฺติพหุลา. วิฺตฺตีติ เหตูทาหรณาทีหิ วิวิเธหิ นเยหิ าปนา เวทิตพฺพา, น ยาจนา.

๙๔๓. จงฺกมเน นิวตฺตนคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. ติฏฺติ วาติอาทีสุ ปโยคคณนาย. อุทฺทิสติ วาติอาทีสุ ปทาทิคณนาย. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ , สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๔๙. จตุตฺเถ – สติ อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย สติ. ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ อฺํ อุปฏฺายิกํ น ลภติ. คิลานายาติ สยํ คิลานาย. อาปทาสูติ ตถารูเป อุปทฺทเว สติ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๕๒. ปฺจเม – อฺํ อาณาเปตีติ เอตฺถ สเจ นิกฺกฑฺฒาติ อาณตฺตา เอกปโยเคน พหูนิปิ ทฺวารานิ อติกฺกาเมติ, เอกา อาปตฺติ. อถ อิมฺจิมฺจ ทฺวารํ อติกฺกาเมหีติ เอวํ อาณตฺตา อติกฺกาเมติ, ทฺวารคณนาย อาปตฺติโย. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๕๕. ฉฏฺเ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. สมนุภาสนสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗-๘-๙. สตฺตมอฏฺมนวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๖๑. สตฺตมอฏฺมนวเมสุ สพฺพํ อุตฺตานเมว. สพฺพานิ เอฬกโลมสมุฏฺานานิ, กิริยานิ, โนสฺาวิโมกฺขานิ, อจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชานิ, กายกมฺมานิ, ติจิตฺตานิ ติเวทนานีติ.

สตฺตมอฏฺมนวมสิกฺขาปทานิ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๗๓. ทสเม – อาหุนฺทริกาติ สมฺพาธา.

๙๗๕. ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตติ สเจปิ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา ปกฺกมติ, อาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. ปวาเรตฺวา ปฺจ โยชนานิ คจฺฉนฺติยาปิ อนาปตฺติ. ฉสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สเจ ปน ตีณิ คนฺตฺวา เตเนว มคฺเคน ปจฺจาคจฺฉติ, น วฏฺฏติ. อฺเน มคฺเคน อาคนฺตุํ วฏฺฏติ.

๙๗๖. อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย – ปรํ คจฺฉิสฺสามีติ นิกฺขนฺตา, นทีปูโร ปน อาคโต, โจรา วา มคฺเค โหนฺติ, เมโฆ วา อุฏฺาติ, นิวตฺติตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

ตุวฏฺฏวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. จิตฺตาคารวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๗๘. จิตฺตาคารวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – ราชาคารนฺติ รฺโ กีฬนฆรํ. จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํ. อารามนฺติ กีฬนอุปวนํ. อุยฺยานนฺติ กีฬนุยฺยานํ. โปกฺขรณีนฺติ กีฬนโปกฺขรณึ. ตสฺมาเยว ปทภาชเน ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ รฺโ กีฬิตุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทสฺสนาย คจฺฉติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ปทวารคณนาย ทุกฺกฏํ. ยตฺถ ิตา ปสฺสตีติ เอตฺถ ปน สเจ เอกสฺมึเยว าเน ิตา ปทํ อนุทฺธรมานา ปฺจปิ ปสฺสติ, เอกเมว ปาจิตฺติยํ. ตํ ตํ ทิสาภาคํ โอโลเกตฺวา ปสฺสนฺติยา ปน ปาเฏกฺกา อาปตฺติโย. ภิกฺขุสฺส ปน สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ.

๙๘๑. อาราเม ิตาติ อชฺฌาราเม ราชาคาราทีนิ กโรนฺติ, ตานิ ปสฺสนฺติยา อนาปตฺติ. คจฺฉนฺตี วา อาคจฺฉนฺตี วาติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺติยา มคฺโค โหติ, ตานิ ปสฺสติ, อนาปตฺติ. สติ กรณีเย คนฺตฺวาติ รฺโ สนฺติกํ เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. อาปทาสูติ เกนจิ อุปทฺทุตา ปวิสิตฺวา ปสฺสติ, อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๘๒. ทุติเย – อภินิสีทนาภินิปชฺชเนสุ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๘๘. ตติเย อุชฺชวุชฺชเวติ ยตฺตกํ หตฺเถน อฺฉิตํ โหติ, ตสฺมึ ตกฺกมฺหิ เวิเต เอกา อาปตฺติ. กนฺตนโต ปน ปุพฺเพ กปฺปาสวิจินนํ อาทึ กตฺวา สพฺพปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฏํ.

๙๘๙. กนฺติตสุตฺตนฺติ ทสิกสุตฺตาทึ สงฺฆาเฏตฺวา กนฺตติ, ทุกฺกนฺติตํ วา ปฏิกนฺตติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๙๒. จตุตฺเถ – ยาคุํ วาติอาทีสุ ตณฺฑุลโกฏฺฏนํ อาทึ กตฺวา สพฺเพสุ ปุพฺพปโยเคสุ ปโยคคณนาย ทุกฺกฏํ. ยาคุภตฺเตสุ ภาชนคณนาย, ขาทนียาทีสุ รูปคณนาย ปาจิตฺติยานิ.

๙๙๓. ยาคุปาเนติ มนุสฺเสหิ สงฺฆสฺสตฺถาย กริยมาเน ยาคุปาเน วา สงฺฆภตฺเต วา เตสํ สหายิกภาเวน ยํกิฺจิ ปจนฺติยา อนาปตฺติ. เจติยปูชาย สหายิกา หุตฺวา คนฺธาทีนิ ปูเชติ, วฏฺฏติ. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺสาติ สเจปิ มาตาปิตโร อาคจฺฉนฺติ, ยํกิฺจิ พีชนึ วา สมฺมุฺชนิทณฺฑกํ วา การาเปตฺวา เวยฺยาวจฺจกรฏฺาเน เปตฺวาว ยํกิฺจิ ปจิตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตติยสทิสาเนวาติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๙๖. ปฺจเม อสติ อนฺตราเยติ ทสวิเธ อนฺตราเย อสติ. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา วินิจฺฉินนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว วินิจฺฉินาติ.

๙๙๘. ปริเยสิตฺวาน ลภตีติ สหายิกา ภิกฺขุนิโย น ลภติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๙๙. ฉฏฺเ – สพฺพํ นคฺควคฺเค อาคาริกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ตํ ฉสมุฏฺานํ. อิทํ ‘‘สหตฺถา’’ติ วุตฺตตฺตา เอฬกโลมสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๐๗. สตฺตเม – ปุน ปริยาเยนาติ ปุนวาเร. อาปทาสูติ มหคฺฆจีวรํ สรีรโต โมเจตฺวา สุปฏิสามิตมฺปิ โจรา หรนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนิสฺสชฺชิตฺวา นิวาเสนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.

กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๐๘. อฏฺเม อนิสฺสชฺชิตฺวาติ รกฺขณตฺถาย อทตฺวา; ‘‘อิมํ ชคฺเคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวาติ อตฺโถ.

๑๐๑๒. ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ ปฏิชคฺคิกํ น ลภติ. คิลานายาติ วจีเภทํ กาตุํ อสมตฺถาย. อาปทาสูติ รฏฺเ ภิชฺชนฺเต อาวาเส ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๑๕-๖. นวเม – พาหิรกํ อนตฺถสํหิตนฺติ หตฺถิอสฺสรถธนุถรุสิปฺปอาถพฺพณขีลนวสีกรณโสสาปนมนฺตาคทปฺปโยคาทิเภทํ ปรูปฆาตกรํ. ปริตฺตนฺติ ยกฺขปริตฺตนาคมณฺฑลาทิเภทํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๑๘. ทสเม วาเจยฺยาติ ปทํ วิเสโส, เสสํ นวเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

จิตฺตาคารวคฺโค ปฺจโม.

๖. อารามวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๒๕. อารามวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยา, อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติ เอตฺถ ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ.

๑๐๒๗. สีสานุโลกิกาติ ปมํ ปวิสนฺตีนํ ภิกฺขุนีนํ สีสํ อนุโลเกนฺตี ปวิสติ, อนาปตฺติ. ยตฺถ ภิกฺขุนิโยติ ยตฺถ ภิกฺขุนิโย ปมตรํ ปวิสิตฺวา สชฺฌายเจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺติ, ตตฺถ ตาสํ สนฺติกํ คจฺฉามีติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ เกนจิ อุปทฺทุตา โหติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๒๘. ทุติเย – อายสฺมา กปฺปิตโกติ อยํ ชฏิลสหสฺสพฺภนฺตโร เถโร. สํหรีติ สงฺกาเมสิ. สํหโฏติ สงฺกามิโต. กาสาวโฏติ นฺหาปิตา กาสาวํ นิวาเสตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ, ตํ สนฺธายาหํสุ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓๖. ตติเย อนุสาสนิปุเรกฺขารายาติ อิทานิปิ ตฺวํ พาลา อพฺยตฺตาติอาทินา นเยน อนุสาสนิปกฺเข ตฺวา วทนฺติยา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓๗. จตุตฺเถ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. จตุสมุฏฺานํ – กายโต กายวาจโต กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. นิมนฺติตาย อนาปุจฺฉา ภุฺชนฺติยา อาปตฺติสมฺภวโต สิยา กิริยากิริยํ, ปวาริตาย กปฺปิยํ กาเรตฺวาปิ อกาเรตฺวาปิ ภุฺชนฺติยา อาปตฺติสมฺภวโต สิยา กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๔๓. ปฺจเม – กุเล มจฺฉโร กุลมจฺฉโร, กุลมจฺฉโร เอติสฺสา อตฺถีติ กุลมจฺฉรินี กุลํ วา มจฺฉรายตีติ กุลมจฺฉรินี. กุลสฺส อวณฺณนฺติ ตํ กุลํ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนนฺติ. ภิกฺขุนีนํ อวณฺณนฺติ ภิกฺขุนิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมาติ.

๑๐๔๕. สนฺตํเยว อาทีนวนฺติ กุลสฺส วา ภิกฺขุนีนํ วา สนฺตํ อคุณํ. เสสํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๔๘. ฉฏฺเ โอวาทายาติ ครุธมฺมตฺถาย. สํวาสายาติ อุโปสถปวารณาปุจฺฉนตฺถาย. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน ภิกฺขุโนวาทกสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺโตเยว.

เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๕๓. สตฺตเม ปริเยสิตฺวา น ลภตีติ ภิกฺขุนึ น ลภติ. เสสํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.

ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๕๖. อฏฺเม – เอกกมฺมนฺติอาทีหิ อุโปสถปวารณาเยว วุตฺตา. เสสํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.

ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๕๘. นวเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. อิมสฺสาปิ วิตฺถาโร ภิกฺขุโนวาทเก วุตฺโตเยว.

ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๖๒. ทสเม – ปสาเขติ อโธกาเย. อโธกาโย หิ ยสฺมา ตโต รุกฺขสฺส สาขา วิย อุโภ อูรู ปภิชฺชิตฺวา คตา, ตสฺมา ปสาโขติ วุจฺจติ.

๑๐๖๕. ภินฺทาติอาทีสุ สเจ ‘‘ภินฺท, ผาเลหี’’ติ สพฺพานิ อาณาเปติ, โส จ ตเถว กโรติ, ฉ อาณตฺติทุกฺกฏานิ ฉ จ ปาจิตฺติยานิ อาปชฺชติ. อถาปิ เอวํ อาณาเปติ – ‘‘อุปาสก, ยํกิฺจิ เอตฺถ กาตพฺพํ, ตํ สพฺพํ กโรหี’’ติ, โส จ สพฺพานิปิ เภทนาทีนิ กโรติ; เอกวาจาย ฉ ทุกฺกฏานิ ฉ ปาจิตฺติยานีติ ทฺวาทส อาปตฺติโย. สเจ ปน เภทนาทีสุปิ เอกํเยว วตฺวา ‘‘อิทํ กโรหี’’ติ อาณาเปติ, โส จ สพฺพานิ กโรติ, ยํ อาณตฺตํ, ตสฺเสว กรเณ ปาจิตฺติยํ. เสเสสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

กถินสมุฏฺานํ – กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ , อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

อารามวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. คพฺภินิวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๖๙. คพฺภินิวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – อาปนฺนสตฺตาติ กุจฺฉิปวิฏฺสตฺตา.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๗๓-๔. ทุติเย – ปายนฺตินฺติ ถฺํ ปายมานํ. มาตา วา โหตีติ ยํ ทารกํ ปาเยติ, ตสฺส มาตา วา โหติ ธาติ วา. เสสํ อุตฺตานเมว. อุภยมฺปิ ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๗๗. ตติเย – สิกฺขาสมฺมุตึ ทาตุนฺติ กสฺมา ทาเปสิ? ‘‘มาตุคาโม นาม โลโล โหติ ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตฺวา สีลานิ ปูรยมาโน กิลมติ, สิกฺขิตฺวา ปน ปจฺฉา น กิลมิสฺสติ, นิตฺถริสฺสตี’’ติ ทาเปสิ.

๑๐๗๙. ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามีติ ยํ ตํ ปาณาติปาตา เวรมณีติ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ, ตํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมิตพฺพสมาทานํ กตฺวา สมาทิยามีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิมา ฉ สิกฺขาโย สฏฺิวสฺสายปิ ปพฺพชิตาย ทาตพฺพาเยว, น เอตาสุ อสิกฺขิตา อุปสมฺปาเทตพฺพา.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๘๔. จตุตฺเถ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. สเจ ปน ปมํ วุฏฺานสมฺมุติ น ทินฺนา โหติ, อุปสมฺปทมาฬเกปิ ทาตพฺพาเยว. อิมา ทฺเวปิ มหาสิกฺขมานา นาม.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๙๐. ปฺจเม – กิฺจาปิ อูนทฺวาทสวสฺสํ ปริปุณฺณสฺาย วุฏฺาเปนฺติยา อนาปตฺติ, สา ปน อนุปสมฺปนฺนาว โหติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๙๕. ฉฏฺเ – ทสวสฺสาย คิหิคตาย สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ปริปุณฺณทฺวาทสวสฺสํ อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๐๑. สตฺตเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ สพฺเพสุ ทุติเย วุตฺตสทิสาเนว. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ สมฺมุติ อตฺถิ, ตตฺถ กิริยากิริยํ โหตีติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๐๘. อฏฺเม น อนุคฺคณฺหาเปยฺยาติ ‘‘อิมิสฺสา อยฺเย อุทฺเทสาทีนิ เทหี’’ติ เอวํ อุทฺเทสาทีหิ น อนุคฺคณฺหาเปยฺย.

๑๑๑๐. ปริเยสิตฺวาติ อฺํ ปริเยสิตฺวา น ลภติ, สยํ คิลานา โหติ, น สกฺโกติ อุทฺเทสาทีนิ ทาตุํ, ตสฺสา อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๑๓. นวเม – น อุปฏฺเหยฺยาติ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเน มุโขทเกนาติ เอวํ เตน เตน กรณีเยน น อุปฏฺเหยฺย. เสสํ อุตฺตานเมว. ปมปาราชิกสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๑๖. ทสเม – เนว วูปกาเสยฺยาติ น คเหตฺวา คจฺเฉยฺย. น วูปกาสาเปยฺยาติ ‘‘อิมํ อยฺเย คเหตฺวา คจฺฉา’’ติ อฺํ น อาณาเปยฺย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ , สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

คพฺภินิวคฺโค สตฺตโม.

๘. กุมาริภูตวคฺโค

๑-๒-๓. ปมทุติยตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๑๙. กุมาริภูตวคฺคสฺส ปมทุติยตติยสิกฺขาปทานิ ตีณิ ตีหิ คิหิคตสิกฺขาปเทหิ สทิสานิ. ยา ปน ตา สพฺพปมา ทฺเว มหาสิกฺขมานา, ตา อติกฺกนฺตวีสติวสฺสาติ เวทิตพฺพา. ตา คิหิคตา วา โหนฺตุ อคิหิคตา วา, สิกฺขมานา อิจฺเจว วตฺตพฺพา, คิหิคตาติ วา กุมาริภูตาติ วา น วตฺตพฺพา. คิหิคตาย ทสวสฺสกาเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ทฺวาทสวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา. เอกาทสวสฺสกาเล ทตฺวา เตรสวสฺสกาเล กาตพฺพา, ทฺวาทสเตรสจุทฺทสปนฺนรสโสฬสสตฺตรสอฏฺารสวสฺสกาเล สมฺมุตึ ทตฺวา วีสติวสฺสกาเล อุปสมฺปทา กาตพฺพา. อฏฺารสวสฺสกาลโต ปฏฺาย จ ปนายํ คิหิคตาติปิ กุมาริภูตาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, กุมาริภูตา ปน คิหิคตาติ น วตฺตพฺพา, กุมาริภูตา อิจฺเจว วตฺตพฺพา. มหาสิกฺขมานา ปน คิหิคตาติปิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ, กุมาริภูตาติปิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สิกฺขาสมฺมุติทานวเสน ปน ติสฺโสปิ สิกฺขมานาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

ปมทุติยตติยานิ.

๔-๕-๖. จตุตฺถปฺจมฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๓๖. จตุตฺถปฺจมฉฏฺเสุ สพฺพํ อุตฺตานเมว. สพฺพานิ ติสมุฏฺานานิ จตุตฺถํ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ. ปฺจมํ กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ , กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ. ยฺเจตฺถ สงฺเฆน ปริจฺฉินฺทิตพฺพาติ วุตฺตํ, ตสฺส อุปปริกฺขิตพฺพาติ อตฺโถ. ฉฏฺํ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ ทุกฺขเวทนนฺติ. ยํ ปเนตฺถ ‘‘ปริจฺฉินฺทิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส อุปปริกฺขิตฺวาติ อตฺโถ.

จตุตฺถปฺจมฉฏฺสิกฺขาปทานิ

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๕๐. สตฺตเม – สพฺพํ อุตฺตานเมว. ธุรนิกฺเขปสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘. อฏฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๕๔. อฏฺเมปิ – สพฺพํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ อนนฺตรสทิสาเนวาติ.

อฏฺมสิกฺขาปทํ.

๙. นวมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๕๘. นวเม – โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา อคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโต โสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํ. เตเนวาห – ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตี’’ติ. อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา, อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ. อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสา. เตนาห – ‘‘โสกํ อาวิสตี’’ติ. อชานนฺตีติ เอทิสา อยนฺติ อชานมานา. เสสํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

นวมสิกฺขาปทํ.

๑๐. ทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๖๔. ทสเม – อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ภิกฺขุนีหิ ทฺวิกฺขตฺตุํ อาปุจฺฉิตพฺพํ – ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกึ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏติ.

๑๑๖๕. อชานนฺตีติ มาตาทีนํ อตฺถิภาวํ อชานนฺตี. เสสํ อุตฺตานเมว. อิทํ อปุพฺพสมุฏฺานสีสํ. จตุสมุฏฺานํ – วาจโต กายวาจโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กถํ? อพฺภานกมฺมาทีสุ เกนจิเทว กรณีเยน ขณฺฑสีมายํ นิสินฺนา ‘‘ปกฺโกสถ สิกฺขมานํ, อิเธว นํ อุปสมฺปาเทสฺสามา’’ติ อุปสมฺปาเทติ; เอวํ วาจโต สมุฏฺาติ. อุปสฺสยโต ปฏฺาย อุปสมฺปาเทสฺสามีติ วตฺวา ขณฺฑสีมํ คจฺฉนฺติยา กายวาจโต สมุฏฺาติ. ทฺวีสุปิ าเนสุ ปณฺณตฺติภาวํ ชานิตฺวาว วีติกฺกมํ กโรนฺติยา วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อนนุชานาเปตฺวา อุปสมฺปาทนโต กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทสมสิกฺขาปทํ.

๑๑. เอกาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๖๗-๘. เอกาทสเม – ปาริวาสิกฉนฺททาเนนาติ ปาริวาสิเยน ฉนฺททาเนน. ตตฺถ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ – ปริสปาริวาสิยํ , รตฺติปาริวาสิยํ, ฉนฺทปาริวาสิยํ, อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติ. ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺาติ, อุสฺสารณา วา กริยติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาสา มยํ อฺตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺหนฺติ. อิทํ ปริสปาริวาสิยํ. กิฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺตึ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมึ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ. สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อฺํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นาม.

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ – ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิมํ กมฺมํ กโรถา’’ติ. เต ตสฺส วจเนน ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา ตตฺเถว นิสินฺนา โหนฺติ. อถฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา’’ติ (ชา. ๑.๑.๔๙) วตฺวา ‘‘กึ นกฺขตฺเตน กโรถา’’ติ วทติ. อิทํ ฉนฺทปาริวาสิยฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยฺจ. เอตสฺมึ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธึ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

วุฏฺิตาย ปริสายาติ ฉนฺทํ วิสฺสชฺเชตฺวา กาเยน วา วาจาย วา ฉนฺทวิสฺสชฺชนมตฺเตเนว วา อุฏฺิตาย ปริสาย.

๑๑๖๙. อนาปตฺติ อวุฏฺิตาย ปริสายาติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวา อวุฏฺิตาย อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. ติสมุฏฺานํ – กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ , กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เอกาทสมสิกฺขาปทํ.

๑๒. ทฺวาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๗๐. ทฺวาทสเม – อุปสฺสโย น สมฺมตีติ วสโนกาโส นปฺปโหติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสทิสาเนวาติ.

ทฺวาทสมสิกฺขาปทํ.

๑๓. เตรสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๗๕. เตรสเม เอกํ วสฺสํ ทฺเวติ เอกนฺตริเก เอกสฺมึ สํวจฺฉเร ทฺเว วุฏฺาเปติ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ วุตฺตสทิสาเนวาติ.

เตรสมสิกฺขาปทํ.

กุมาริภูตวคฺโค อฏฺโม.

๙. ฉตฺตุปาหนวคฺโค

๑. ปมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๘๑. ฉตฺตวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท – สกิมฺปิ ธาเรติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ มคฺคคมเน เอกปโยเคเนว ทิวสมฺปิ ธาเรติ, เอกาว อาปตฺติ. สเจ กทฺทมาทีนิ ปตฺวา อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา ฉตฺตเมว ธาเรนฺตี คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. อถาปิ คจฺฉาทีนิ ทิสฺวา ฉตฺตํ อปนาเมตฺวา อุปาหนารุฬฺหาว คจฺฉติ, ทุกฺกฏเมว. สเจ ฉตฺตมฺปิ อปนาเมตฺวา อุปาหนาปิ โอมุฺจิตฺวา ปุน ธาเรติ, ปุน ปาจิตฺติยํ. เอวํ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปมสิกฺขาปทํ.

๒. ทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๘๔. ทุติเย – ยาเนน ยายนฺตีติ เอตฺถาปิ โอโรหิตฺวา ปุนปฺปุนํ อภิรุหนฺติยา ปโยคคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ ปเม วุตฺตนยเมวาติ.

ทุติยสิกฺขาปทํ.

๓. ตติยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๙๐. ตติเย วิปฺปกิริยึสูติ มณโย วิปฺปกิณฺณา. อิธาปิ โอมุฺจิตฺวา ธาเรนฺติยา ปโยคคณนาย อาปตฺติโย. สมุฏฺานาทีนิ วุตฺตนยาเนว. เกวลํ อิธ อกุสลจิตฺตํ โหตีติ.

ตติยสิกฺขาปทํ.

๔. จตุตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๙๔. จตุตฺเถ – สีสูปคาทีสุ ยํ ยํ ธาเรติ, ตสฺส ตสฺส วเสน วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. เสสํ ตติเย วุตฺตนยเมวาติ.

จตุตฺถสิกฺขาปทํ.

๕. ปฺจมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๙๙. ปฺจเม – คนฺธวณฺณเกนาติ คนฺเธน จ วณฺณเกน จ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตติยสทิสาเนวาติ.

ปฺจมสิกฺขาปทํ.

๖. ฉฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๐๒. ฉฏฺเ – สพฺพํ ปฺจเม วุตฺตสทิสเมวาติ.

ฉฏฺสิกฺขาปทํ.

๗. สตฺตมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๐๘-๙. สตฺตเม – อุมฺมทฺทาเปติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ หตฺถํ อโมเจตฺวา อุมฺมทฺทเน เอกาว อาปตฺติ, โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุมฺมทฺทเน ปโยคคณนาย อาปตฺติโย. สมฺพาหเนปิ เอเสว นโย. คิลานายาติ อนฺตมโส มคฺคคมนปริสฺสเมนาปิ สาพาธาย. อาปทาสูติ โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทีสุ. เสสํ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิ ตติยสทิสาเนวาติ.

สตฺตมสิกฺขาปทํ.

๘-๙-๑๐. อฏฺมนวมทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๑๐. อฏฺมาทีสุ ตีสุ สิกฺขมานาย สามเณริยา, คิหินิยาติ อิทเมว นานากรณํ, เสสํ สตฺตเม วุตฺตสทิสเมวาติ.

อฏฺมนวมทสมสิกฺขาปทานิ.

๑๑. เอกาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๑๔. เอกาทสเม – ภิกฺขุสฺส ปุรโตติ อภิมุขเมวาติ อตฺโถ. อิทํ ปน อุปจารํ สนฺธาย กถิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานเมว. กถินสมุฏฺานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เอกาทสมสิกฺขาปทํ.

๑๒. ทฺวาทสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๑๙-๒๓. ทฺวาทสเม – อโนกาสกตนฺติ อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามีติ เอวํ อกตโอกาสํ. เตเนวาห – ‘‘อโนกาสกตนฺติ อนาปุจฺฉา’’ติ . อโนทิสฺสาติ อสุกสฺมึ นาม าเน ปุจฺฉามีติ เอวํ อนิยเมตฺวา เกวลํ ‘‘ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, ปุจฺฉามิ อยฺยา’’ติ เอวํ วตฺวา. เสสํ อุตฺตานเมว. ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ – วาจโต วาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทฺวาทสมสิกฺขาปทํ.

๑๓. เตรสมสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๒๖. เตรสเม ปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺติยาติ เอเกน ปาเทน อติกฺกนฺเต ทุกฺกฏํ, ทุติเยน ปาจิตฺติยํ. อุปจาเรปิ เอเสว นโย.

๑๒๒๗. อจฺฉินฺนจีวริกายาติอาทีสุ สงฺกจฺจิกจีวรเมว จีวรนฺติ เวทิตพฺพํ. อาปทาสูติ มหคฺฆํ โหติ สงฺกจฺจิกํ, ปารุปิตฺวา คจฺฉนฺติยาว อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว. เอฬกโลมสมุฏฺานํ – กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เตรสมสิกฺขาปทํ.

ฉตฺตุปาหนวคฺโค นวโม.

อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย ฉสฏฺิสตํ ปาจิตฺติยา ธมฺมาติ เอตฺถ สพฺพาเนว ภิกฺขุนีนํ ขุทฺทเกสุ ฉนฺนวุติ, ภิกฺขูนํ ทฺเวนวุตีติ อฏฺาสีติสตํ สิกฺขาปทานิ, ตโต สกลํ ภิกฺขุนีวคฺคํ, ปรมฺปรโภชนํ, อนติริตฺตโภชนํ, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณํ, ปณีตโภชนวิฺตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, ทุฏฺุลฺลปฏิจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสุปสมฺปาทนํ, มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชนฺเตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ วสฺสิกสาฏิกนฺติ อิมานิ ทฺวาวีสติ สิกฺขาปทานิ อปเนตฺวา เสสานิ สตฺจ ฉสฏฺิ จ สิกฺขาปทานิ ปาติโมกฺขุทฺเทสมคฺเคน อุทฺทิฏฺานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ. เตนาห – ‘‘อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย ฉสฏฺิสตํ ปาจิตฺติยา ธมฺมา…เป… เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

ตตฺรายํ สงฺเขปโต สมุฏฺานวินิจฺฉโย – คิรคฺคสมชฺชํ, จิตฺตาคารสิกฺขาปทํ, สงฺฆาณิ, อิตฺถาลงฺกาโร, คนฺธวณฺณโก, วาสิตกปิฺาโก, ภิกฺขุนีอาทีหิ อุมฺมทฺทนปริมทฺทนานีติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานิ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา อจิตฺตกานิ, จิตฺเต ปน สติ อกุสเลเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา โลกวชฺชานิ. อวเสสานิ อจิตฺตกานิ, ปณฺณตฺติวชฺชาเนว. โจรีวุฏฺาปนํ, คามนฺตรํ, อารามสิกฺขาปทํ คพฺภินิวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย สตฺต, กุมาริภูตวคฺเค อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ, ปุริสสํสฏฺํ ปาริวาสิยฉนฺททานํ, อนุวสฺสวุฏฺาปนํ, เอกนฺตริกวุฏฺาปนนฺติ อิมานิ เอกูนวีสติ สิกฺขาปทานิ สจิตฺตกานิ ปณฺณตฺติวชฺชานิ, อวเสสานิ สจิตฺตกานิ โลกวชฺชาเนวาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย ภิกฺขุนีวิภงฺเค

ขุทฺทกวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาจิตฺติยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.