📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

มหาวคฺค-อฏฺกถา

๑. มหาขนฺธกํ

โพธิกถา

อุภินฺนํ ปาติโมกฺขานํ, สงฺคีติสมนนฺตรํ;

สงฺคายึสุ มหาเถรา, ขนฺธกํ ขนฺธโกวิทา.

ยํ ตสฺส ทานิ สมฺปตฺโต, ยสฺมา สํวณฺณนากฺกโม;

ตสฺมา โหติ อยํ ตสฺส, อนุตฺตานตฺถวณฺณนา.

ปทภาชนิเย อตฺถา, เยหิ เยสํ ปกาสิตา;

เต เจ ปุน วเทยฺยาม, ปริโยสานํ กทา ภเว.

อุตฺตานา เจว เย อตฺถา, เตสํ สํวณฺณนาย กึ;

อธิปฺปายานุสนฺธีหิ, พฺยฺชเนน จ เย ปน.

อนุตฺตานา น เต ยสฺมา, สกฺกา าตุํ อวณฺณิตา;

เตสํเยว อยํ ตสฺมา, โหติ สํวณฺณนานโยติ.

. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชาย’’นฺติอาทีสุ วิย กรณวจเน วิเสสการณํ นตฺถิ, วินยํ ปตฺวา ปน กรณวจเนเนว อยมภิลาโป อาโรปิโตติ อาทิโต ปฏฺาย อารุฬฺหาภิลาปวเสเนเวตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอส นโย อฺเสุปิ อิโต ปเรสุ เอวรูเปสุ.

กึ ปเนตสฺส วจเน ปโยชนนฺติ? ปพฺพชฺชาทีนํ วินยกมฺมานํ อาทิโต ปฏฺาย นิทานทสฺสนํ. ยา หิ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปท’’นฺติ (มหาว. ๓๔) เอวํ ปพฺพชฺชา เจว อุปสมฺปทา จ อนุฺาตา, ยานิ จ ราชคหาทีสุ อุปชฺฌายอุปชฺฌายวตฺตอาจริยอาจริยวตฺตาทีนิ อนุฺาตานิ, ตานิ อภิสมฺโพธึ ปตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา พาราณสิยํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อิมินา อนุกฺกเมน อิทฺจิทฺจ านํ ปตฺวา อิมสฺมิฺจ อิมสฺมิฺจ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตานีติ เอวเมเตสํ ปพฺพชฺชาทีนํ วินยกมฺมานํ อาทิโต ปฏฺาย นิทานทสฺสนํ เอตสฺส วจเน ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ อุรุเวลายนฺติ มหาเวลายํ; มหนฺเต วาลิกราสิมฺหีติ อตฺโถ. อถ วา ‘‘อุรู’’ติ วาลิกา วุจฺจติ; ‘‘เวลา’’ติ มริยาทา; เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อตีเต กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ทสสหสฺสกุลปุตฺตา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมึ ปเทเส วิหรนฺตา เอกทิวสํ สนฺนิปติตฺวา กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘กายกมฺมวจีกมฺมานิ นาม ปเรสมฺปิ ปากฏานิ โหนฺติ, มโนกมฺมํ ปน อปากฏํ; ตสฺมา โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, ตสฺส อฺโ โจทโก นาม นตฺถิ, โส อตฺตนาว อตฺตานํ โจเทตฺวา ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อาหริตฺวา อิมสฺมึ าเน อากิรตุ, อิทมสฺส ทณฺฑกมฺม’’นฺติ. ตโต ปฏฺาย โย ตาทิสํ วิตกฺกํ วิตกฺเกติ, โส ตตฺถ ปตฺตปุเฏน วาลิกํ อากิรติ. เอวํ ตตฺถ อนุกฺกเมน มหาวาลิกราสิ ชาโต, ตโต นํ ปจฺฉิมา ชนตา ปริกฺขิปิตฺวา เจติยฏฺานมกาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุรุเวลายนฺติ มหาเวลายํ; มหนฺเต วาลิกราสิมฺหีติ อตฺโถ’’ติ. ตเมว สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ วา อุรูติ วาลิกา วุจฺจติ; เวลาติ มริยาทา; เวลาติกฺกมนเหตุ อาหฏา อุรุ อุรุเวลาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ.

โพธิรุกฺขมูเลติ โพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ; ตํ โพธึ ภควา เอตฺถ ปตฺโตติ รุกฺโขปิ ‘‘โพธิรุกฺโข’’ตฺเวว นามํ ลภิ, ตสฺส โพธิรุกฺขสฺส มูเล โพธิรุกฺขมูเล. ปมาภิสมฺพุทฺโธติ ปมํ อภิสมฺพุทฺโธ; อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา สพฺพปมํเยวาติ อตฺโถ. เอกปลฺลงฺเกนาติ สกิมฺปิ อนุฏฺหิตฺวา ยถาอาภุชิเตน เอเกเนว ปลฺลงฺเกน. วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีติ วิมุตฺติสุขํ ผลสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวทยมาโน.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทนฺติ ปจฺจยาการํ. ปจฺจยากาโร หิ อฺมฺํ ปฏิจฺจ สหิเต ธมฺเม อุปฺปาเทตีติ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วุจฺจติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สพฺพาการสมฺปนฺนํ วินิจฺฉยํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ. อนุโลมปฏิโลมนฺติ อนุโลมฺจ ปฏิโลมฺจ. ตตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต อวิชฺชาทิโก ปจฺจยากาโร อตฺตนา กตฺตพฺพกิจฺจกรณโต ‘‘อนุโลโม’’ติ วุจฺจติ. ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต สฺเวว อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌมาโน ตํ กิจฺจํ น กโรตีติ ตสฺส อกรณโต ‘‘ปฏิโลโม’’ติ วุจฺจติ. ปุริมนเยน วา วุตฺโต ปวตฺติยา อนุโลโม, อิตโร ตสฺสา ปฏิโลโมติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาทิโต ปน ปฏฺาย ยาว อนฺตํ, อนฺตโต จ ปฏฺาย ยาว อาทึ ปาเปตฺวา อวุตฺตตฺตา อิโต อฺเนตฺเถน อนุโลมปฏิโลมตา น ยุชฺชติ.

มนสากาสีติ มนสิ อกาสิ. ตตฺถ ยถา อนุโลมํ มนสิ อกาสิ, อิทํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย. ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สพฺพาการสมฺปนฺนํ วินิจฺฉยํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโตว คเหตพฺโพ.

ยถา ปน ปฏิโลมํ มนสิ อกาสิ, อิทํ ทสฺเสตุํ อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอว. อเสสวิราคนิโรธาติ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา . สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ นิรุทฺธานํ ปน สงฺขารานํ นิโรธา วิฺาณํ นิรุทฺธํ, วิฺาณาทีนฺจ นิโรธา นามรูปาทีนิ นิรุทฺธานิเยว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธติอาทีนิ วตฺวา เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ เกวลสฺสาติ สกลสฺส; สุทฺธสฺส วา สตฺตวิรหิตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขราสิสฺส. นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหติ.

เอตมตฺถํวิทิตฺวาติ ยฺวายํ ‘‘อวิชฺชาทิวเสน สงฺขาราทิกสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย จ อวิชฺชานิโรธาทิวเสน จ นิโรโธ โหตี’’ติ วุตฺโต, สพฺพากาเรน เอตมตฺถํ วิทิตฺวา. ตายํ เวลายนฺติ ตายํ ตสฺส อตฺถสฺส วิทิตเวลายํ. อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ ตสฺมึ วิทิเต อตฺเถ เหตุโน จ เหตุสมุปฺปนฺนธมฺมสฺส จ ปชานนาย อานุภาวทีปกํ ‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺตี’’ติอาทิกํ โสมนสฺสยุตฺตาณสมุฏฺานํ อุทานํ อุทาเนสิ, อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสีติ วุตฺตํ โหติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทา หเวติ ยสฺมึ ภเว กาเล. ปาตุภวนฺตีติ อุปฺปชฺชนฺติ. ธมฺมาติ อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสาธกา โพธิปกฺขิยธมฺมา. อถ วา ปาตุภวนฺตีติ ปกาสนฺติ; อภิสมยวเสน พฺยตฺตา ปากฏา โหนฺติ. ธมฺมาติ จตุอริยสจฺจธมฺมา. อาตาโป วุจฺจติ กิเลสสนฺตาปนฏฺเน วีริยํ; อาตาปิโนติ สมฺมปฺปธานวีริยวโต. ฌายโตติ อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขเณน จ ลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขเณน จ ฌาเนน ฌายนฺตสฺส. พฺราหฺมณสฺสาติ พาหิตปาปสฺส ขีณาสวสฺส. อถสฺส กงฺขา วปยนฺตีติ อถสฺส เอวํ ปาตุภูตธมฺมสฺส กงฺขา วปยนฺติ. สพฺพาติ ยา เอตา ‘‘โก นุ โข ภนฺเต ผุสตีติ; โน กลฺโล ปฺโหติ ภควา อโวจา’’ติอาทินา, ตถา ‘‘กตมํ นุ โข ภนฺเต ชรามรณํ; กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณนฺติ ; โน กลฺโล ปฺโหติ ภควา อโวจา’’ติอาทินา จ นเยน ปจฺจยากาเร กงฺขา วุตฺตา, ยา จ ปจฺจยาการสฺเสว อปฺปฏิวิทฺธตฺตา ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิกา โสฬส กงฺขา อาคตา, ตา สพฺพา วปยนฺติ อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺติ. กสฺมา? ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมนฺติ ยสฺมา อวิชฺชาทิเกน เหตุนา สเหตุกํ อิมํ สงฺขาราทึ เกวลํ ทุกฺขกฺขนฺธธมฺมํ ปชานาติ อฺาติ ปฏิวิชฺฌตีติ.

. ทุติยวาเร – อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ ตสฺมึ วิทิเต อตฺเถ ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติ เอวํ ปกาสิตสฺส นิพฺพานสงฺขาตสฺส ปจฺจยกฺขยสฺส อวโพธานุภาวทีปกํ วุตฺตปฺปการํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา ปจฺจยานํ ขยสงฺขาตํ นิพฺพานํ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ, ตสฺมา ยทาสฺส อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส วุตฺตปฺปการา ธมฺมา ปาตุภวนฺติ, อถสฺส ยา นิพฺพานสฺส อวิทิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา สพฺพาปิ กงฺขา วปยนฺตีติ.

. ตติยวาเร – อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมํ เยน มคฺเคน โส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทยนิโรธสงฺขาโต อตฺโถ กิจฺจวเสน จ อารมฺมณกิริยาย จ วิทิโต, ตสฺส อริยมคฺคสฺส อานุภาวทีปกํ วุตฺตปฺปการํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถ. ตตฺราปายํ สงฺเขปตฺโถ – ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส, ตทา โส พฺราหฺมโณ เตหิ วา อุปฺปนฺเนหิ โพธิปกฺขิยธมฺเมหิ, ยสฺส วา อริยมคฺคสฺส จตุสจฺจธมฺมา ปาตุภูตา, เตน อริยมคฺเคน วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ ‘‘กามา เต ปมา เสนา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตปฺปการํ มารเสนํ วิธูปยนฺโต วิธเมนฺโต วิทฺธํเสนฺโต ติฏฺติ. กถํ? สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺขํ, ยถา สูริโย อพฺภุคฺคโต อตฺตโน ปภาย อนฺตลิกฺขํ โอภาเสนฺโตว อนฺธการํ วิธเมนฺโต ติฏฺติ, เอวํ โสปิ พฺราหฺมโณ เตหิ ธมฺเมหิ เตน วา มคฺเคน สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺโตว มารเสนํ วิธูปยนฺโต ติฏฺตีติ.

เอวเมตฺถ ปมํ อุทานํ ปจฺจยาการปจฺจเวกฺขณวเสน, ทุติยํ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณวเสน , ตติยํ มคฺคปจฺจเวกฺขณวเสน อุปฺปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. อุทาเน ปน ‘‘รตฺติยา ปมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมํ, ทุติยํ ยามํ ปฏิโลมํ, ตติยํ ยามํ อนุโลมปฏิโลม’’นฺติ วุตฺตํ; ตํ สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ‘‘สฺเว อาสนา วุฏฺหิสฺสามี’’ติ รตฺตึ อุปฺปาทิตมนสิการํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ ภควา ยสฺส ปจฺจยาการปชานนสฺส จ ปจฺจยกฺขยาธิคมสฺส จ อานุภาวทีปิกา ปุริมา ทฺเว อุทานคาถา, ตสฺส วเสน เอเกกเมว โกฏฺาสํ ปมยามฺจ มชฺฌิมยามฺจ มนสากาสิ, อิธ ปน ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสากาสิ. ภควา หิ วิสาขปุณฺณมาย รตฺติยา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธสิ, ปจฺฉิมยาเม ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสิ กตฺวา ‘‘อิทานิ อรุโณ อุคฺคมิสฺสตี’’ติ สพฺพฺุตํ ปาปุณิ. สพฺพฺุตปฺปตฺติสมนนฺตรเมว จ อรุโณ อุคฺคจฺฉิ. ตโต ตํ ทิวสํ เตเนว ปลฺลงฺเกน วีตินาเมตฺวา สมฺปตฺตาย ปาฏิปทรตฺติยา ตีสุ ยาเมสุ เอวํ มนสิ กตฺวา อิมานิ อุทานานิ อุทาเนสิ. อิติ ปาฏิปทรตฺติยา เอวํ มนสิ กตฺวา ตํ ‘‘โพธิรุกฺขมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีที’’ติ เอวํ วุตฺตสตฺตาหํ ตตฺเถว วีตินาเมสิ.

โพธิกถา นิฏฺิตา.

อชปาลกถา

. อถโข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมีติ เอตฺถ น ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อนนฺตรเมว โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ยถา ปน ‘‘ภุตฺวา สยตี’’ติ วุตฺเต น ‘‘หตฺเถ อโธวิตฺวา มุขํ อวิกฺขาเลตฺวา สยนสมีปํ อคนฺตฺวา อฺํ กิฺจิ อาลาปสลฺลาปํ อกตฺวา สยติ’’จฺเจว วุตฺตํ โหติ, โภชนโต ปน ปจฺฉา สยติ, น นสยตีติ อิทเมวตฺถ ทีปิตํ โหติ. เอวมิธาปิ ‘‘น ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อนนฺตรเมว ปกฺกามี’’ติ วุตฺตํ โหติ, วุฏฺานโต จ ปน ปจฺฉา ปกฺกามิ, น นปกฺกามีติ อิทเมเวตฺถ ทีปิตํ โหติ.

อนนฺตรํ ปน อปกฺกมิตฺวา ภควา กึ อกาสีติ? อปรานิปิ ตีณิ สตฺตาหานิ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมสิ. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – ภควติ กิร พุทฺธตฺตํ ปตฺวา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺเน ‘‘น ภควา วุฏฺาติ; กึ นุ โข อฺเปิ พุทฺธตฺตกรา ธมฺมา อตฺถี’’ติ เอกจฺจานํ เทวตานํ กงฺขา อุทปาทิ. อถ ภควา อฏฺเม ทิวเส สมาปตฺติโต วุฏฺาย เทวตานํ กงฺขํ ตฺวา กงฺขาวิธมนตฺถํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสตฺวา ตาสํ กงฺขํ วิธมิตฺวา ปลฺลงฺกโต อีสกํ ปาจีนนิสฺสิเต อุตฺตรทิสาภาเค ตฺวา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ อุปจิตานํ ปารมีนํ พลาธิคมนฏฺานํ ปลฺลงฺกํ โพธิรุกฺขฺจ อนิมิเสหิ อกฺขีหิ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ อนิมิสเจติยํ นาม ชาตํ. อถ ปลฺลงฺกสฺส จ ิตฏฺานสฺส จ อนฺตรา ปุรตฺถิมโต จ ปจฺฉิมโต จ อายเต รตนจงฺกเม จงฺกมนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนจงฺกมเจติยํ นาม ชาตํ. ตโต ปจฺฉิมทิสาภาเค เทวตา รตนฆรํ มาปยึสุ. ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ วิเสสโต เจตฺถ อนนฺตนยํ สมนฺตปฏฺานํ วิจินนฺโต สตฺตาหํ วีตินาเมสิ, ตํ านํ รตนฆรเจติยํ นาม ชาตํ.

เอวํ โพธิสมีเปเยว จตฺตาริ สตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา ปฺจเม สตฺตาเห โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ตสฺส กิร นิคฺโรธสฺส ฉายาย อชปาลกา คนฺตฺวา นิสีทนฺติ; เตนสฺส อชปาลนิคฺโรโธตฺเวว นามํ อุทปาทิ. สตฺตาหํ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีติ ตตฺราปิ ธมฺมํ วิจินนฺโตเยว วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทนฺโต นิสีทิ. โพธิโต ปุรตฺถิมทิสาภาเค เอส รุกฺโข โหติ. เอวํ นิสินฺเน จ ปเนตฺถ ภควติ เอโก พฺราหฺมโณ คนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข อฺตโร’’ติอาทิ. ตตฺถ หุํหุงฺกชาติโกติ โส กิร ทิฏฺมงฺคลิโก นาม , มานวเสน โกธวเสน จ ‘‘หุํหุ’’นฺติ กโรนฺโต วิจรติ, ตสฺมา ‘‘หุํหุงฺกชาติโก’’ติ วุจฺจติ. ‘‘หุหุกฺกชาติโก’’ติปิ ปนฺติ.

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตน วุตฺตสฺส วจนสฺส สิขาปตฺตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ. ตสฺสตฺโถ – โย พาหิตปาปธมฺมตาย พฺราหฺมโณ น ทิฏฺมงฺคลิกตาย, หุํหุงฺการกภาวาทิปาปธมฺมยุตฺโต หุตฺวา เกวลํ ชาติมตฺตเกน พฺรหฺมฺํ ปฏิชานาติ, โส พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺมตฺตา หุํหุงฺการปฺปหาเนน นิหุํหุงฺโก, ราคาทิกสาวาภาเวน นิกฺกสาโว, ภาวนานุโยคยุตฺตจิตฺตตาย ยตตฺโต, สีลสํวเรน วา สฺตจิตฺตตาย ยตตฺโต, จตุมคฺคาณสงฺขาเตหิ เวเทหิ อนฺตํ, เวทานํ วา อนฺตํ คตตฺตา เวทนฺตคู, มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วุสิตตฺตา วุสิตพฺรหฺมจริโย. ธมฺเมน พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย, ‘‘พฺราหฺมโณ, อห’’นฺติ เอตํ วาทํ ธมฺเมน วเทยฺย, ยสฺส สกเล โลกสนฺนิวาเส กุหิฺจิ เอการมฺมเณปิ ราคุสฺสโท โทสุสฺสโท โมหุสฺสโท มานุสฺสโท ทิฏฺุสฺสโทติ อิเม อุสฺสทา นตฺถีติ.

อชปาลกถา นิฏฺิตา.

มุจลินฺทกถา

. อกาลเมโฆติ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนเมโฆ. อยํ ปน คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส อุทปาทิ. สตฺตาหวทฺทลิกาติ ตสฺมึ อุปฺปนฺเน สตฺตาหํ อวิจฺฉินฺนวุฏฺิกา อโหสิ. สีตวาตทุทฺทินีติ สา จ ปน สตฺตาหวทฺทลิกา อุทกผุสิตสมฺมิสฺเสน สีตวาเตน สมนฺตา ปริพฺภมนฺเตน ทูสิตทิวสตฺตา สีตวาตทุทฺทินี นาม อโหสิ. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชาติ ตสฺเสว มุจลินฺทรุกฺขสฺส สมีเป โปกฺขรณิยา นิพฺพตฺโต มหานุภาโว นาคราชา. สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวาติ เอวํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวาว ิเต; ตสฺมึ ตสฺส ปริกฺเขปพฺภนฺตรํ โลหปาสาเท ภณฺฑาคารคพฺภปฺปมาณํ อโหสิ, ตสฺมา ภควา นิวาเต ปิหิตทฺวารวาตปาเน กูฏาคาเร นิสินฺโน วิย ชาโต. มา ภควนฺตํ สีตนฺติอาทิ ตสฺส ตถา กริตฺวา านการณปริทีปนํ. โส หิ ‘‘มา ภควนฺตํ สีตํ พาธยิตฺถ, มา อุณฺหํ, มา ฑํสาทิสมฺผสฺโส พาธยิตฺถา’’ติ ตถา กริตฺวา อฏฺาสิ. ตตฺถ กิฺจาปิ สตฺตาหวทฺทลิกาย อุณฺหเมว นตฺถิ, สเจ ปน อนฺตรนฺตรา เมโฆ วิคจฺเฉยฺย อุณฺหํ ภเวยฺย , ตมฺปิ นํ มา พาธยิตฺถาติ เอวํ ตสฺส จินฺเตตุํ ยุตฺตํ. วิทฺธนฺติ อุพฺพิทฺธํ; เมฆวิคเมน ทูรีภูตนฺติ อตฺโถ. วิคตวลาหกนฺติ อปคตเมฆํ. เทวนฺติ อากาสํ. สกวณฺณนฺติ อตฺตโน รูปํ.

สุโข วิเวโกติ นิพฺพานสงฺขาโต อุปธิวิเวโก สุโข. ตุฏฺสฺสาติ จตุมคฺคาณสนฺโตเสน สนฺตุฏฺสฺส. สุตธมฺมสฺสาติ ปกาสิตธมฺมสฺส. ปสฺสโตติ ตํ วิเวกํ ยํ วา กิฺจิ ปสฺสิตพฺพํ นาม, ตํ สพฺพํ อตฺตโน วีริยพลาธิคเตน าณจกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺส. อพฺยาปชฺชนฺติ อกุปฺปนภาโว; เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาโค ทสฺสิโต. ปาณภูเตสุ สํยโมติ สตฺเตสุ จ สํยโม; อวิหึสนภาโว สุโขติ อตฺโถ. เอเตน กรุณาปุพฺพภาโค ทสฺสิโต. สุขา วิราคตา โลเกติ วีตราคตาปิ สุขาติ ทีเปติ. กามานํ สมติกฺกโมติ ยา ‘‘กามานํ สมติกฺกโม’’ติ วุจฺจติ; สา วิราคตาปิ สุขาติ อตฺโถ. เอเตน อนาคามิมคฺโค กถิโต. อสฺมิมานสฺส โย วินโยติ อิมินา ปน อรหตฺตํ กถิตํ; อรหตฺตฺหิ อสฺมิมานสฺส ‘‘ปสฺสทฺธิวินโย’’ติ วุจฺจติ. อิโต ปรฺจ สุขํ นาม นตฺถิ, เตนาห ‘‘เอตํ เว ปรมํ สุข’’นฺติ.

มุจลินฺทกถา นิฏฺิตา.

ราชายตนกถา

. มุจลินฺทมูลาติ มหาโพธิโต ปาจีนโกเณ ิตมุจลินฺทรุกฺขมูลา. ราชายตนนฺติ ทกฺขิณทิสาภาเค ิตํ ราชายตนรุกฺขํ อุปสงฺกมิ . เตน โข ปน สมเยนาติ กตเรน สมเยน. ภควโต กิร ราชายตนมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส สมาธิโต วุฏฺานทิวเส อรุณุคฺคมนเวลายเมว ‘‘โภชนกิจฺเจน ภวิตพฺพ’’นฺติ ตฺวา สกฺโก เทวราชา โอสธหรีตกํ อุปเนสิ. ภควา ตํ ปริภุฺชิ, ปริภุตฺตมตฺตสฺเสว สรีรกิจฺจํ อโหสิ. สกฺโก มุโขทกํ อทาสิ. ภควา มุขํ โธวิตฺวา ตสฺมึเยว รุกฺขมูเล นิสีทิ. เอวํ อุคฺคเต อรุณมฺหิ นิสินฺเน ภควติ.

เตน โข ปน สมเยน ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชาติ ตปุสฺโส จ ภลฺลิโก จาติ ทฺเว ภาตโร วาณิชา. อุกฺกลาติ อุกฺกลชนปทโต. ตํ เทสนฺติ ยสฺมึ เทเส ภควา วิหรติ. กตรสฺมิฺจ เทเส ภควา วิหรติ? มชฺฌิมเทเส. ตสฺมา มชฺฌิมเทสํ คนฺตุํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. าติสาโลหิตา เทวตาติ เตสํ าติภูตปุพฺพา เทวตา. เอตทโวจาติ สา กิร เนสํ สพฺพสกฏานิ อปฺปวตฺตีนิ อกาสิ. ตโต เต กึ อิทนฺติ มคฺคเทวตานํ พลึ อกํสุ. เตสํ พลิกมฺมกาเล สา เทวตา ทิสฺสมาเนเนว กาเยน เอตํ อโวจ. มนฺเถน จ มธุปิณฺฑิกาย จาติ อพทฺธสตฺตุนา จ สปฺปิมธุผาณิตาทีหิ โยเชตฺวา พทฺธสตฺตุนา จ. ปติมาเนถาติ อุปฏฺหถ. ตํ โวติ ตํ ปติมานนํ ตุมฺหากํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. ยํ อมฺหากนฺติ ยํ ปฏิคฺคหณํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. ภควโต เอตทโหสีติ โย กิรสฺส ปธานานุโยคกาเล ปตฺโต อโหสิ, โส สุชาตาย ปายาสํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺติยา เอว อนฺตรธายิ. เตนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปตฺโต เม นตฺถิ, ปุริมกาปิ จ น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคณฺเหยฺยํ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑกฺจา’’ติ.

ปริวิตกฺกมฺายาติ อิโต ปุพฺเพว ภควโต สุชาตาย ทินฺนโภชนํเยว โอชานุปฺปพนฺธนวเสน อฏฺาสิ, เอตฺตกํ กาลํ เนว ชิฆจฺฉา น ปิปาสา น กายทุพฺพลฺยํ อโหสิ. อิทานิ ปนสฺส อาหารํ ปฏิคฺคเหตุกามตาย ‘‘น โข ตถาคตา’’ติอาทินา นเยน ปริวิตกฺโก อุทปาทิ . ตํ เอวํ อุปฺปนฺนํ อตฺตโน เจตสา ภควโต เจโตปริวิตกฺกมฺาย. จตุทฺทิสาติ จตูหิ ทิสาหิ. เสลมเย ปตฺเตติ มุคฺควณฺณเสลมเย ปตฺเต. อิทํเยว ภควา ปฏิคฺคเหสิ, เตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. จตฺตาโร ปน มหาราชาโน ปมํ อินฺทนีลมณิมเย ปตฺเต อุปนาเมสุํ, น เต ภควา อคฺคเหสิ. ตโต อิเม จตฺตาโรปิ มุคฺควณฺณสิลามเย ปตฺเต อุปนาเมสุํ, ภควา จตฺตาโรปิ ปตฺเต อคฺคเหสิ เตสํ ปสาทานุรกฺขณตฺถาย, โน มหิจฺฉตาย. คเหตฺวา จ ปน จตฺตาโรปิ ยถา เอโกว ปตฺโต โหติ ตถา อธิฏฺหิ, จตุนฺนมฺปิ เอกสทิโส ปุฺวิปาโก อโหสิ. เอวํ เอกํ กตฺวา อธิฏฺิเต ปฏิคฺคเหสิ ภควา ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ. ปจฺจคฺเฆติ ปจฺจคฺฆสฺมึ; ปาเฏกฺกํ มหคฺฆสฺมินฺติ อตฺโถ. อถ วา ปจฺจคฺเฆติ อภินเว อพฺภุณฺเห; ตงฺขเณ นิพฺพตฺตสฺมินฺติ อตฺโถ. ทฺเว วาจา เอเตสํ อเหสุนฺติ ทฺเววาจิกา. อถ วา ทฺวีหิ วาจาหิ อุปาสกภาวํ ปตฺตาติ อตฺโถ . เต เอวํ อุปาสกภาวํ ปฏิเวเทตฺวา ภควนฺตํ อาหํสุ – ‘‘กสฺส ทานิ ภนฺเต อมฺเหหิ อชฺช ปฏฺาย อภิวาทนปจฺจุฏฺานํ กาตพฺพ’’นฺติ? อถ ภควา สีสํ ปรามสิ, เกสา หตฺเถ ลคฺคึสุ. เต เตสํ อทาสิ ‘‘อิเม ตุมฺเห ปริหรถา’’ติ. เต เกสธาตุโย ลภิตฺวา อมเตเนว อภิสิตฺตา หฏฺตุฏฺา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมึสุ.

ราชายตนกถา นิฏฺิตา.

พฺรหฺมยาจนกถา

. อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา วุตฺตปฺปการเมตํ สพฺพํ กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ราชายตนมูลา ปุนปิ เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ ตสฺมึ นิสินฺนมตฺตสฺเสว สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ อยํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ. กสฺมา ปนายํ สพฺพพุทฺธานํ อุปฺปชฺชตีติ? ธมฺมสฺส มหนฺตภาวํ ครุภาวํ ภาริยภาวํ ปจฺจเวกฺขณาย พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตาย จ. ชานนฺติ หิ พุทฺธา ‘‘เอวํ ปริวิตกฺกิเต พฺรหฺมา อาคนฺตฺวา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, ตโต สตฺตา ธมฺเม คารวํ อุปฺปาเทสฺสนฺติ, พฺรหฺมครุโก หิ โลกสนฺนิวาโส’’ติ. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ อยํ วิตกฺโก อุปฺปชฺชตีติ.

ตตฺถ อธิคโต โข มฺยายนฺติ อธิคโต โข เม อยํ. อาลยรามาติ สตฺตา ปฺจ กามคุเณ อลฺลียนฺติ, ตสฺมา เต ‘‘อาลยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุมุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยทิทนฺติ นิปาโต. ตสฺส านํ สนฺธาย ‘‘ยํ อิท’’นฺติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยาว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส; สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. ภควนฺตนฺติ ภควโต. อนจฺฉริยาติ อนุ อจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ, ปริวิตกฺกยิตพฺพภาวํ ปาปุณึสุ.

หลนฺติ เอตฺถ หกาโร นิปาตมตฺโต; อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทสิตุํ. อลํ ทานิ เม อิมํ กิจฺเฉน อธิคตํ ธมฺมํ เทเสตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิโสตคามินฺติ ปฏิโสตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ; นิพฺพานคามินฺติ อตฺโถ. ราครตฺตาติ กามราคภวราคทิฏฺิราเคน รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ น ปสฺสิสฺสนฺติ. ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถฏา. อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน; อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ.

. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมึ นาม โลเก. ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสีติ ธมฺมเทสนายาจนตฺถํ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ มหาพฺรหฺมาโน คเหตฺวา อาคมฺม ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิ . อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ เอวํสภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโรติ ปฏิวิชฺฌิตาโร.

ปาตุรโหสีติ ปาตุภวิ. สมเลหิ จินฺติโตติ ราคาทีหิ มเลหิ สมเลหิ ฉหิ สตฺถาเรหิ จินฺติโต. อปาปุเรตนฺติ วิวร เอตํ. อมตสฺส ทฺวารนฺติ อมตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารภูตํ อริยมคฺคํ. สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธนฺติ อิเม สตฺตา ราคาทิมลานํ อภาวโต วิมเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุพุทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ สุณนฺตุ.

เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว ยถา จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย, ตฺวมฺปิ สุเมธ สุนฺทรปฺ สพฺพฺุตฺาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปฺามยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตฺจ ชนตํ อเวกฺขสฺสุ อุปธารย.

อุฏฺเหีติ ภควโต ธมฺมเทสนตฺถํ จาริกจรณํ ยาจนฺโต ภณติ. วีราติอาทีสุ ภควา วีริยวนฺตตาย วีโร. เทวปุตฺตมจฺจุกิเลสาภิสงฺขารมารานํ วิชิตตฺตา วิชิตสงฺคาโม. ชาติกนฺตาราทินิตฺถรณสมตฺถตาย สตฺถวาโห. กามจฺฉนฺทอิณสฺส อภาวโต อณโณ.

. อชฺเฌสนนฺติ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ าณานํ พุทฺธจกฺขูติ นามํ. อปฺปรชกฺขาติ ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ เยสํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา เต สฺวาการา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา อสุนฺทรา เต ทฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺจ วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน. อุปฺปลินิยนฺติ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อุทกสฺส อนฺโต นิมุคฺคาเนว โปสยนฺติ. สโมทกํ ิตานีติ อุทเกน สมํ ิตานิ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานีติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ.

อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ. ปมุฺจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมุฺจนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ , อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติมฺปิ อิมํ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา มนุเชสุ เทวมนุสฺเสสุ น ภาสินฺติ.

พฺรหฺมยาจนกถา นิฏฺิตา.

ปฺจวคฺคิยกถา

๑๐. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยา ปฺาย สมนฺนาคโต. อปฺปรชกฺขชาติโกติ สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตตฺตา นิกฺกิเลสชาติโก วิสุทฺธสตฺโต. อาชานิสฺสตีติ สลฺลกฺเขสฺสติ ปฏิวิชฺฌิสฺสติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทีติ สพฺพฺุตฺาณํ อุปฺปชฺชิ ‘‘อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก กาลํกตฺวา อากิฺจฺายตเน นิพฺพตฺโต’’ติ. มหาชานิโยติ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ปตฺตพฺพมคฺคผลโต ปริหีนตฺตา มหตี ชานิ อสฺสาติ มหาชานิโย อกฺขเณ นิพฺพตฺตตฺตา. อภิโทสกาลํกโตติ หิยฺโย กาลํกโต, โสปิ เนวสฺานาสฺายตเน นิพฺพตฺโตติ อทฺทส. พหูการาติ พหูปการา. ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺหึสูติ ปธานตฺถาย เปสิตตฺตภาวํ มุโขทกทานาทินา อุปฏฺหึสุ.

๑๑. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ อุปโก โพธิมณฺฑสฺส จ คยาย จ อนฺตเร ภควนฺตํ อทฺทส. อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนนฺติ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺนํ.

สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ิโต. สพฺพวิทูติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อเวทึ อฺาสึ. สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโตติ สพฺเพสุ เตภูมกธมฺเมสุ กิเลสเลเปน อลิตฺโต. สพฺพฺชโหติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ ชหิตฺวา ิโต. ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุตฺโต. สยํ อภิฺายาติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อตฺตนาว ชานิตฺวา. กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อฺํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํ.

น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธมฺเม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิ. นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโลติ มยฺหํ ปฏิภาคปุคฺคโล นาม นตฺถิ. สีติภูโตติ สพฺพกิเลสคฺคินิพฺพาปเนน สีติภูโต. กิเลสานํเยว นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโต.

กาสีนํปุรนฺติ กาสิรฏฺเ นครํ. อาหฺฉํ อมตทุนฺทุภินฺติ ธมฺมจกฺกปฺปฏิลาภาย อมตเภรึ ปหริสฺสามีติ คจฺฉามิ.

อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโน ภวิตุํ ยุตฺโต. หุเปยฺยปาวุโสติ อาวุโส เอวมฺปิ นาม ภเวยฺย. สีสํ โอกมฺเปตฺวาติ สีสํ จาเลตฺวา.

๑๒. สณฺเปสุนฺติ กติกํ อกํสุ. พาหุลฺลิโกติ จีวรพาหุลฺลาทีนํ อตฺถาย ปฏิปนฺโน. ปธานวิพฺภนฺโตติ ปธานโต วิพฺภนฺโต ภฏฺโ ปริหีโน. อาวตฺโต พาหุลฺลายาติ จีวราทิพหุลภาวตฺถาย อาวตฺโต. โอทหถ ภิกฺขเว โสตนฺติ อุปเนถ ภิกฺขเว โสตํ; โสตินฺทฺริยํ ธมฺมสวนตฺถํ อภิมุขํ กโรถาติ อตฺโถ. อมตมธิคตนฺติ อมตํ นิพฺพานํ มยา อธิคตนฺติ ทสฺเสติ. อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยาย. ปฏิปทายาติ ทุกฺกรปฏิปทาย. อภิชานาถ เม โนติ อภิชานาถ นุ เม สมนุปสฺสถ. เอวรูปํ ภาสิตเมตนฺติ เอตํ เอวรูปํ วากฺยํ ภาสิตนฺติ อตฺโถ. อสกฺขิ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตุนฺติ ‘‘อหํ พุทฺโธ’’ติ ชานาเปตุํ อสกฺขิ.

๑๓. จกฺขุกรณีติ ปฺาจกฺขุํ สนฺธายาห. อิโต ปรํ สพฺพํ ปทตฺถโต อุตฺตานเมว. อธิปฺปายานุสนฺธิโยชนาทิเภทโต ปน ปปฺจสูทนิยา มชฺฌิมฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิโต ปฏฺาย หิ อติวิตฺถารภีรุกสฺส มหาชนสฺส จิตฺตํ อนุรกฺขนฺตา สุตฺตนฺตกถํ อวณฺณยิตฺวา วินยกถํเยว วณฺณยิสฺสาม.

๑๘. สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสีติ อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อฏฺารสหิ เทวตาโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตสฺส ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควโต วจเนน อภินิปฺผนฺนา สาว ตสฺส อายสฺมโต เอหิภิกฺขูปสมฺปทา อโหสิ.

๑๙. อถ โข อายสฺมโต จ วปฺปสฺสาติ อาทิมฺหิ วปฺปตฺเถรสฺส ปาฏิปททิวเส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ, ภทฺทิยตฺเถรสฺส ทุติยทิวเส, มหานามตฺเถรสฺส ตติยทิวเส, อสฺสชิตฺเถรสฺส จตุตฺถิยนฺติ. อิเมสฺจ ปน ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺาเนสุ อุปฺปนฺนมลวิโสธนตฺถํ ภควา อนฺโตวิหาเรเยว อโหสิ. อุปฺปนฺเน อุปฺปนฺเน กมฺมฏฺานมเล อากาเสน คนฺตฺวา มลํ วิโนเทสิ. ปกฺขสฺส ปน ปฺจมิยํ สพฺเพ เต เอกโต สนฺนิปาเตตฺวา อนตฺตสุตฺเตน โอวทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย’’ติอาทิ.

๒๔. เตนโข ปน สมเยน ฉ โลเก อรหนฺโต โหนฺตีติ ปฺจมิยา ปกฺขสฺส โลกสฺมึ ฉ มนุสฺสา อรหนฺโต โหนฺตีติ อตฺโถ.

ปฺจวคฺคิยกถา นิฏฺิตา.

ปพฺพชฺชากถา

๓๑. ปุพฺพานุปุพฺพกานนฺติ ปเวณิวเสน โปราณานุโปราณานนฺติ อตฺโถ. เตน โข ปน สมเยน เอกสฏฺิ โลเก อรหนฺโต โหนฺตีติ ปุริมา ฉ อิเม จ ปฺจปฺาสาติ อนฺโตวสฺสมฺหิเยว เอกสฏฺิ มนุสฺสา อรหนฺโต โหนฺตีติ อตฺโถ.

ตตฺร ยสอาทีนํ กุลปุตฺตานํ อยํ ปุพฺพโยโค – อตีเต กิร ปฺจปฺาสชนา สหายกา วคฺคพนฺเธน ปุฺานิ กโรนฺตา อนาถสรีรานิ ปฏิชคฺคนฺตา วิจรนฺติ, เต เอกทิวสํ คพฺภินึ อิตฺถึ กาลํกตํ ทิสฺวา ‘‘ฌาเปสฺสามา’’ติ สุสานํ นีหรึสุ. เตสุ ปฺจ ชเน ‘‘ตุมฺเห ฌาเปถา’’ติ สุสาเน เปตฺวา เสสา คามํ ปวิฏฺา. ยโส ทารโก ตํ สรีรํ วิชฺฌิตฺวา ปริวตฺเตตฺวา จ ฌาปยมาโน อสุภสฺํ ปฏิลภิ. โส อิตเรสมฺปิ จตุนฺนํ ชนานํ ‘‘ปสฺสถ โภ อิมํ อสุจึ ปฏิกูล’’นฺติ ทสฺเสสิ. เตปิ ตตฺถ อสุภสฺํ ปฏิลภึสุ. เต ปฺจปิ ชนา คามํ คนฺตฺวา เสสสหายกานํ กถยึสุ. ยโส ปน ทารโก เคหมฺปิ คนฺตฺวา มาตาปิตูนฺนฺจ ภริยาย จ กเถสิ. เต สพฺเพปิ อสุภํ ภาวยึสุ. อยเมเตสํ ปุพฺพโยโค. เตนายสฺมโต ยสสฺส นาฏกชเนสุ สุสานสฺาเยว อุปฺปชฺชิ, ตาเยว จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา สพฺเพสํ วิเสสาธิคโม นิพฺพตฺตีติ.

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ภควา ยาว ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา, ตาว พาราณสิยํ วิหรนฺโต เอกทิวสํ เต ขีณาสเว สฏฺิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ.

๓๒. ทิพฺพา นาม ทิพฺเพสุ วิสเยสุ โลภปาสา. มานุสา นาม มานุสเกสุ วิสเยสุ โลภปาสา. มา เอเกน ทฺเวติ เอเกน มคฺเคน ทฺเว มา อคมิตฺถ. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ปริหายนฺตีติ อนธิคตํ นาธิคจฺฉนฺตา วิเสสาธิคมโต ปริหายนฺติ.

๓๓. อนฺตกาติ ลามก หีนสตฺต. อนฺตลิกฺขจโรติ ราคปาสํ สนฺธายาห. ตฺหิ โส ‘‘อนฺตลิกฺขจโร’’ติ มนฺตฺวา อาห.

๓๔. นานาทิสา นานาชนปทาติ นานาทิสโต จ นานาชนปทโต จ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ตุมฺเหว ทานิ ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุปพฺพาเชถาติอาทิมฺหิ ปพฺพชฺชาเปกฺขํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺเตน เย ปรโต ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทึ กตฺวา ยาว ‘‘น อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ เอวํ ปฏิกฺขิตฺตา ปุคฺคลา, เต วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชาโทสวิรหิโต ปุคฺคโล ปพฺพาเชตพฺโพ. โสปิ จ มาตาปิตูหิ อนุฺาโตเยว. ตสฺส อนุชานนลกฺขณํ ‘‘น ภิกฺขเว อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอตสฺมึ สุตฺเต วณฺณยิสฺสาม.

เอวํ ปพฺพชฺชาโทสวิรหิตํ มาตาปิตูหิ อนุฺาตํ ปพฺพาเชนฺเตนาปิ จ สเจ อจฺฉินฺนเกโส โหติ, เอกสีมาย จ อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถิ, เกสจฺเฉทนตฺถาย ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตสฺส อาปุจฺฉนาการํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายา’’ติ เอตฺถ วณฺณยิสฺสาม. สเจ โอกาโส โหติ, สยํ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พฺยาวโฏ โหติ, โอกาสํ น ลภติ, เอโก ทหรภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อวุตฺโตปิ เจ ทหรภิกฺขุ อุปชฺฌายํ อุทฺทิสฺส ปพฺพาเชติ, วฏฺฏติ. สเจ ทหรภิกฺขุ นตฺถิ, สามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ขณฺฑสีมํ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา เอหี’’ติ. สรณานิ ปน สยํ ทาตพฺพานิ. เอวํ ภิกฺขุนาว ปพฺพชิโต โหติ. ปุริสฺหิ ภิกฺขุโต อฺโ ปพฺพาเชตุํ น ลภติ, มาตุคามํ ภิกฺขุนิโต อฺโ. สามเณโร ปน สามเณรี วา อาณตฺติยา กาสายานิ ทาตุํ ลภติ. เกโสโรปนํ เยน เกนจิ กตํ สุกตํ.

สเจ ปน ภพฺพรูโป โหติ สเหตุโก าโต ยสสฺสี กุลปุตฺโต, โอกาสํ กตฺวาปิ สยเมว ปพฺพาเชตพฺโพ. ‘‘มตฺติกามุฏฺึ คเหตฺวา นฺหายิตฺวา เกเส เตเมตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ จ ปน น วิสฺสชฺเชตพฺโพ. ปพฺพชิตุกามานฺหิ ปมํ พลวอุสฺสาโห โหติ, ปจฺฉา ปน กาสายานิ จ เกสหรณสตฺถกฺจ ทิสฺวา อุตฺรสนฺติ, เอตฺโตเยว ปลายนฺติ, ตสฺมา สยเมว นหานติตฺถํ เนตฺวา สเจ นาติทหโร โหติ, ‘‘นหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เกสา ปนสฺส สยเมว มตฺติกํ คเหตฺวา โธวิตพฺพา. ทหรกุมารโก ปน สยํ อุทกํ โอตริตฺวา โคมยมตฺติกาหิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. สเจปิสฺส กจฺฉุ วา ปิฬกา วา โหนฺติ, ยถา มาตา ปุตฺตํ น ชิคุจฺฉติ , เอวเมว อชิคุจฺฉนฺเตน สาธุกํ หตฺถปาทสีสานิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. กสฺมา? เอตฺตเกน หิ อุปกาเรน กุลปุตฺตา อาจริยุปชฺฌาเยสุ จ สาสเน จ พลวสิเนหา ติพฺพคารวา อนิวตฺติธมฺมา โหนฺติ, อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เถรภาวํ ปาปุณนฺติ, กตฺู กตเวทิโน โหนฺติ.

เอวํ นหาปนกาเล ปน เกสมสฺสุํ โอโรปนกาเล วา ‘‘ตฺวํ าโต ยสสฺสี, อิทานิ มยํ ตํ นิสฺสาย ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสามา’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฺาปิ อนิยฺยานิกกถา น กเถตพฺพา. อถ ขฺวสฺส ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ สตึ อุปฏฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกูลภาวํ นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หิ โส ปุพฺเพ มทฺทิตสงฺขาโร โหติ ภาวิตภาวโน, กณฺฏกเวธาเปกฺโข วิย ปริปกฺกคณฺโฑ, สูริยุคฺคมนาเปกฺขํ วิย จ ปริณตปทุมํ, อถสฺส อารทฺธมตฺเต กมฺมฏฺานมนสิกาเร อินฺทาสนิ วิย ปพฺพเต กิเลสปพฺพเต จุณฺณยมานํเยว าณํ ปวตฺตติ, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย โน อนิสฺสาย. ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพาติ.

เกเสสุ ปน โอโรปิเตสุ หลิทฺทิจุณฺเณน วา คนฺธจุณฺเณน วา สีสฺจ สรีรฺจ อุพฺพฏฺเฏตฺวา คิหิคนฺธํ อปเนตฺวา กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา ปฏิคฺคาเหตพฺโพ. อถาปิสฺส หตฺเถ อทตฺวา อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา สยเมว อจฺฉาเทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ อฺํ ทหรํ วา สามเณรํ วา อุปาสกํ วา อาณาเปติ ‘‘อาวุโส, เอตานิ กาสายานิ คเหตฺวา เอตํ อจฺฉาเทหี’’ติ ตํเยว วา อาณาเปติ ‘‘เอตานิ คเหตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ สพฺพํ วฏฺฏติ. สพฺพํ เตน ภิกฺขุนาว ทินฺนํ โหติ.

ยํ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา อนาณตฺติยา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ตํ อปเนตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุนา หิ สหตฺเถน วา อาณตฺติยา วา ทินฺนเมว กาสาวํ วฏฺฏติ, อทินฺนํ น วฏฺฏติ, สเจปิ ตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โก ปน วาโท อุปชฺฌายมูลเก! อยํ ‘‘ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉโย.

ภิกฺขูนํปาเท วนฺทาเปตฺวาติ เย ตตฺถ สนฺนิปติตา ภิกฺขู, เตสํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา; อถ สรณคฺคหณตฺถํ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ. ‘‘ยมหํ วทามิ, ตํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถสฺส อุปชฺฌาเยน วา อาจริเยน วา ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน สรณานิ ทาตพฺพานิ ยถาวุตฺตปฏิปาฏิยาว น อุปฺปฏิปาฏิยา. สเจ หิ เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา เทติ, พุทฺธํ สรณํเยว วา ติกฺขตฺตุํ ทตฺวา ปุน อิตเรสุ เอเกกํ ติกฺขตฺตุํ เทติ, อทินฺนานิ โหนฺติ สรณานิ.

อิมฺจ ปน สรณคมนูปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนุฺาตอุปสมฺปทา เอกโต สุทฺธิยา วฏฺฏติ. สามเณรปพฺพชฺชา ปน อุภโตสุทฺธิยาว วฏฺฏติ, โน เอกโต สุทฺธิยา. ตสฺมา อุปสมฺปทาย สเจ อาจริโย ตฺติโทสฺเจว กมฺมวาจาโทสฺจ วชฺเชตฺวา กมฺมํ กโรติ, สุกตํ โหติ. ปพฺพชฺชาย ปน อิมานิ ตีณิ สรณานิ พุการธการาทีนํ พฺยฺชนานํ านกรณสมฺปทํ อหาเปนฺเตเนว อาจริเยนปิ อนฺเตวาสิเกนปิ วตฺตพฺพานิ. สเจ อาจริโย วตฺตุํ สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก น สกฺโกติ; อนฺเตวาสิโก วา สกฺโกติ, อาจริโย น สกฺโกติ; อุโภปิ วา น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุโภปิ สกฺโกนฺติ, วฏฺฏติ.

อิมานิ จ ปน ททมาเนน ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ เอกสมฺพนฺธานิ อนุนาสิกนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ, ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มการนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ. อนฺธกฏฺกถายํ นามํ สาเวตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต พุทฺธรกฺขิโต ยาวชีวํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกอฏฺกถายมฺปิ นตฺถิ, ปาฬิยมฺปิ น วุตฺตํ, เตสํ รุจิมตฺตเมว, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. น หิ ตถา อวทนฺตสฺส สรณํ กุปฺปตีติ.

อนุชานามิ ภิกฺขเวอิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทนฺติ อิเมหิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามีติอาทีหิ เอวํ ติกฺขตฺตุํ อุภโตสุทฺธิยา วุตฺเตหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตตฺถ ยสฺมา อุปสมฺปทา ปรโต ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สา เอตรหิ สรณมตฺเตเนว น รุหติ. ปพฺพชฺชา ปน ยสฺมา ปรโต ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’’นฺติ อนุฺาตา เอว, ตสฺมา สา เอตรหิปิ สรณมตฺเตเนว รุหติ. เอตฺตาวตา หิ สามเณรภูมิยํ ปติฏฺิโต โหติ.

สเจ ปเนส มติมา โหติ ปณฺฑิตชาติโก, อถสฺส ตสฺมึเยว าเน สิกฺขาปทานิ อุทฺทิสิตพฺพานิ. กถํ? ยถา ภควตา อุทฺทิฏฺานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, อพฺรหฺมจริยา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณี, วิกาลโภชนา เวรมณี, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา เวรมณี, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา เวรมณี, อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี’’ติ (มหาว. ๑๐๖).

อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ยาวชีวํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ

สมาทิยามี’’ติ เอวํ สรณทานํ วิย สิกฺขาปททานมฺปิ วุตฺตํ, ตํ เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถาสุ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาปาฬิยาว อุทฺทิสิตพฺพานิ. ปพฺพชฺชา หิ สรณคมเนเหว สิทฺธา, สิกฺขาปทานิ ปน เกวลํ สิกฺขาปริปูรณตฺถํ ชานิตพฺพานิ. ตสฺมา ตานิ ปาฬิยํ อาคตนเยน อุคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ยาย กายจิ ภาสาย อตฺถวเสนปิ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ. ยาว ปน อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปทานิ น ชานาติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณฏฺานนิสชฺชาทีสุ ปานโภชนาทิวิธิมฺหิ จ น กุสโล โหติ, ตาว โภชนสาลํ วา สลากภาชนฏฺานํ วา อฺํ วา ตถารูปฏฺานํ น เปเสตพฺโพ, สนฺติกาวจโรเยว กาตพฺโพ, พาลทารโก วิย ปฏิชคฺคิตพฺโพ, สพฺพมสฺส กปฺปิยากปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ, นิวาสนปารุปนาทีสุ อาภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ. เตนาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๘) เอวํ ปรโต วุตฺตานิ ทส นาสนงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา อาภิสมาจาริกํ ปริปูเรนฺเตน ทสวิเธ สีเล สาธุกํ สิกฺขิตพฺพนฺติ.

ปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.

ทุติยมารกถา

๓๕. มยฺหํ โข ภิกฺขเวติ มยา โขติ อตฺโถ. อถ วา โย มยฺหํ โยนิโส มนสิกาโร, เตน เหตุนาติ อตฺโถ. ปุน อนุปฺปตฺตาติ เอตฺถ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา มยาติ วตฺตพฺพํ.

ทุติยมารกถา นิฏฺิตา.

ภทฺทวคฺคิยกถา

๓๖. ภทฺทวคฺคิยาติ เต กิร ราชกุมารา รูเปน จ จิตฺเตน จ ภทฺทกา วคฺคพนฺเธน จ วิจรนฺติ, ตสฺมา ‘‘ภทฺทวคฺคิยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตน หิ โวติ เอตฺถ โวกาโร นิปาตมตฺโต. ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ เกสฺจิ โสตาปตฺติมคฺโค, เกสฺจิ สกทาคามิมคฺโค, เกสฺจิ อนาคามิมคฺโค อุทปาทิ. ตโยปิ หิ เอเต มคฺคา ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ วุจฺจนฺติ. เต กิร ตุณฺฑิลชาตเก ตึสธุตฺตา อเหสุํ, อถ ตุณฺฑิโลวาทํ สุตฺวา ปฺจสีลานิ รกฺขึสุ; อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมํ.

ภทฺทวคฺคิยกถา นิฏฺิตา.

อุรุเวลปาฏิหาริยกถา

๓๗. ปมุโขติ ปุพฺพงฺคโม. ปาโมกฺโขติ อุตฺตโม วิสุทฺธปฺโ.

๓๘. อนุปหจฺจาติ อวินาเสตฺวา. เตชสา เตชนฺติ อตฺตโน เตเชน นาคสฺส เตชํ. ปริยาทิเยยฺยนฺติ อภิภเวยฺยํ, วินาเสยฺยํ วาติ. มกฺขนฺติ โกธํ. นตฺเวว จ โข อรหา ยถา อหนฺติ อตฺตานํ ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺมาโน วทติ.

๓๙. เนรฺชรายํ ภควาติอาทิกา คาถาโย ปจฺฉา ปกฺขิตฺตา.

๔๔-๙. วิสฺสชฺเชยฺยนฺติ สุกฺขาปนตฺถาย ปสาเรตฺวา เปยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘ภนฺเต อาหร หตฺถ’’นฺติ เอวํ วทนฺโต วิย โอณโตติ อาหรหตฺโถ. อุยฺโยเชตฺวาติ วิสฺสชฺเชตฺวา. มนฺทามุขิโยติ อคฺคิภาชนานิ วุจฺจนฺติ.

๕๑. จิรปฏิกาติ จิรกาลโต ปฏฺาย.

๕๒. เกสมิสฺสนฺติอาทีสุ เกสา เอว เกสมิสฺสํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ขาริกาชนฺติ ขาริภาโร.

อุรุเวลปาฏิหาริยกถา นิฏฺิตา.

พิมฺพิสารสมาคมกถา

๕๕. ลฏฺิวเนติ ตาลุยฺยาเน. สุปฺปติฏฺเ เจติเยติ อฺตรสฺมึ วฏรุกฺเข; ตสฺส กิเรตํ นามํ. ทฺวาทสนหุเตหีติ เอตฺถ เอกํ นหุตํ ทสสหสฺสานิ. อชฺฌภาสีติ เตสํ กงฺขาจฺเฉทนตฺถํ อภาสิ.

กิสโกวทาโนติ ตาปสจริยาย กิสสรีรตฺตา ‘‘กิสโก’’ติ ลทฺธนามานํ ตาปสานํ โอวาทโก อนุสาสโก สมาโนติ อตฺโถ. อถ วา สยํ กิสโก ตาปโส สมาโน วทาโน จ อฺเ โอวทนฺโต อนุสาสนฺโตติปิ อตฺโถ. กถํ ปหีนนฺติ เกน การเณน ปหีนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตฺวํ อุรุเวลวาสิอคฺคิปริจารกานํ ตาปสานํ สยํ โอวาทาจริโย สมาโน กึ ทิสฺวา ปหาสิ, ปุจฺฉามิ ตํ เอตมตฺถํ เกน การเณน ตว อคฺคิหุตฺตํ ปหีน’’นฺติ.

ทุติยคาถาย อยมตฺโถ – เอเต รูปาทิเก กาเม อิตฺถิโย จ ยฺา อภิวทนฺติ, สฺวาหํ เอตํ สพฺพมฺปิ รูปาทิกํ กามปฺปเภทํ ขนฺธุปธีสุ มลนฺติ ตฺวา ยสฺมา อิเม ยิฏฺหุตปฺปเภทา ยฺา มลเมว วทนฺติ, ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชึ; ยิฏฺเ วา หุเต วา นาภิรมินฺติ อตฺโถ.

ตติยคาถาย อถ โกจรหีติ อถ กฺวจรหิ. เสสํ อุตฺตานเมว.

จตุตฺถคาถาย – ปทนฺติ นิพฺพานปทํ. สนฺตสภาวตาย สนฺตํ. อุปธีนํ อภาเวน อนุปธิกํ. ราคกิฺจนาทีนํ อภาเวน อกิฺจนํ. ตีสุ ภเวสุ อลคฺคตาย ยํ กามภวํ ยฺา วทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ กามภเว อสตฺตํ. ชาติชรามรณานํ อภาเวน อนฺถาภาวึ. อตฺตนา ภาวิเตน มคฺเคเนว อธิคนฺตพฺพํ, น อฺเน เกนจิ อธิคเมตพฺพนฺติ อนฺเนยฺยํ. ยสฺมา อีทิสํ ปทมทฺทสํ, ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชึ. เตน กึ ทสฺเสติ? โย อหํ เทวมนุสฺสโลกสมฺปตฺติสาธเก น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชึ, โส กึ วกฺขามิ ‘‘เอตฺถ นาม เม เทวมนุสฺสโลเก รโต มโน’’ติ.

๕๖. เอวํ สพฺพโลเก อนภิรติภาวํ ปกาเสตฺวา อถ โข อายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป ‘‘สาวโกหมสฺมี’’ติ เอวํ ภควโต สาวกภาวํ ปกาเสสิ. ตฺจ โข อากาเส วิวิธานิ ปาฏิหาริยานิ ทสฺเสตฺวา. ธมฺมจกฺขุนฺติ โสตาปตฺติมคฺคาณํ.

๕๗. อสฺสาสกาติ อาสีสนา; ปตฺถนาติ อตฺโถ. เอสาหํ ภนฺเตติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ มคฺคปฺปฏิเวเธเนวสฺส สิทฺธํ สรณคมนํ, ตตฺถ ปน นิจฺฉยคมนเมว คโต, อิทานิ วาจาย อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ กโรติ. มคฺควเสเนวายํ นิยตสรณตํ ปตฺโต, ตํ ปเรสํ วาจาย ปากฏํ กโรนฺโต ปณิปาตคมนฺจ คจฺฉนฺโต เอวํ วทติ.

๕๘. สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณติ สิงฺคีสุวณฺณนิกฺเขน สมานวณฺโณ. ทสวาโสติ ทสสุ อริยวาเสสุ วุตฺถวาโส. ทสธมฺมวิทูติ ทสกมฺมปถวิทู. ทสภิ จุเปโตติ ทสหิ อเสกฺเขหิ องฺเคหิ อุเปโต. สพฺพธิทนฺโตติ สพฺเพสุ ทนฺโต; ภควโต หิ จกฺขุอาทีสุ กิฺจิ อทนฺตํ นาม นตฺถิ.

๕๙. ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทีติ ภควนฺตํ ภุตฺตวนฺตํ ปตฺตโต จ อปนีตปาณึ สลฺลกฺเขตฺวา เอกสฺมึ ปเทเส นิสีทีติ อตฺโถ. อตฺถิกานนฺติ พุทฺธาภิวาทนคมเนน จ ธมฺมสวเนน จ อตฺถิกานํ. อภิกฺกมนียนฺติ อภิคนฺตุํ สกฺกุเณยฺยํ. อปฺปากิณฺณนฺติ อนากิณฺณํ. อปฺปสทฺทนฺติ วจนสทฺเทน อปฺปสทฺทํ. อปฺปนิคฺโฆสนฺติ นครนิคฺโฆสสทฺเทน อปฺปนิคฺโฆสํ. วิชนวาตนฺติ อนุสฺจรณชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตํ. ‘‘วิชนวาท’’นฺติปิ ปาโ; อนฺโต ชนวาเทน รหิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘วิชนปาต’’นฺติปิ ปาโ; ชนสฺจารวิรหิตนฺติ อตฺโถ. มนุสฺสราหเสยฺยกนฺติ มนุสฺสานํ รหสฺสกิริยฏฺานิยํ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปนฺติ วิเวกานุรูปํ.

สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา

๖๐. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาติ สาริปุตฺโต จ โมคฺคลฺลาโน จ. เตหิ กติกา กตา โหติ‘‘โย ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อาโรเจตู’’ติ เต กิร อุโภปิ คิหิกาเล อุปติสฺโส โกลิโตติ เอวํ ปฺายมานนามา อฑฺฒเตยฺยสตมาณวกปริวารา คิรคฺคสมชฺชํ อคมํสุ. ตตฺร เนสํ มหาชนํ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘อยํ นาม เอวํ มหาสตฺตนิกาโย อปฺปตฺเต วสฺสสเต มรณมุเข ปติสฺสตี’’ติ. อถ อุโภปิ อุฏฺิตาย ปริสาย อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา เอกชฺฌาสยา ปจฺจุปฏฺิตมรณสฺา สมฺมนฺตยึสุ ‘‘สมฺม มรเณ สติ อมเตนาปิ ภวิตพฺพํ, หนฺท มยํ อมตํ ปริเยสามา’’ติ อมตปริเยสนตฺถํ สฺจยสฺส ฉนฺนปริพฺพาชกสฺส สนฺติเก สปริสา ปพฺพชิตฺวา กติปาเหเนว ตสฺส าณวิสเย ปารํ คนฺตฺวา อมตํ อปสฺสนฺตา ปุจฺฉึสุ ‘‘กึ นุ โข, อาจริย, อฺโเปตฺถ สาโร อตฺถี’’ติ? ‘‘นตฺถาวุโส, เอตฺตกเมว อิท’’นฺติ จ สุตฺวา ‘‘ตุจฺฉํ อิทํ อาวุโส นิสฺสารํ, โย ทานิ อมฺเหสุ ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อิตรสฺส อาโรเจตู’’ติ กติกํ อกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตหิ กติกา กตา โหตี’’ติอาทิ.

ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตนาติอาทีสุ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ เวทิตพฺพํ. อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ มคฺคนฺติ เอตํ อนุพนฺธนสฺส การณวจนํ; อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺเธยฺยํ, กสฺมา ? ยสฺมา อิทํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธนํ นาม อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ มคฺคํ าโต เจว อุปคโต จ มคฺโค’’ติ อตฺโถ. อถ วา อตฺถิเกหิ อมฺเหหิ ‘‘มรเณ สติ อมเตนาปิ ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวํ เกวลํ อตฺถีติ อุปฺาตํ นิพฺพานํ นาม, ตํ มคฺคนฺโต ปริเยสนฺโตติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ปิณฺฑปาตํ อาทาย ปฏิกฺกมีติ สุทินฺนกณฺเฑ วุตฺตปฺปการํ อฺตรํ กุฏฺฏมูลํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ. สาริปุตฺโตปิ โข ‘‘อกาโล โข ตาว ปฺหํ ปุจฺฉิตุ’’นฺติ กาลํ อาคมยมาโน เอกมนฺตํ ตฺวา วตฺตปฏิปตฺติปูรณตฺถํ กตภตฺตกิจฺจสฺส เถรสฺส อตฺตโน กมณฺฑลุโต อุทกํ ทตฺวา โธตหตฺถปาเทน เถเรน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก’’ติอาทิ. น ตาหํ สกฺโกมีติ น เต อหํ สกฺโกมิ. เอตฺถ จ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต เถโร น เอตฺตกํ น สกฺโกติ. อถ โข อิมสฺส ธมฺมคารวํ อุปฺปาเทสฺสามีติ สพฺพากาเรน พุทฺธวิสเย อวิสยภาวํ คเหตฺวา เอวมาห.

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวาติ เหตุปฺปภวา นาม ปฺจกฺขนฺธา; เตนสฺส ทุกฺขสจฺจํ ทสฺเสติ. เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาหาติ เตสํ เหตุ นาม สมุทยสจฺจํ; ตฺจ ตถาคโต อาหาติ ทสฺเสติ. เตสฺจ โย นิโรโธติ เตสํ อุภินฺนมฺปิ สจฺจานํ โย อปฺปวตฺตินิโรโธ; ตฺจ ตถาคโต อาหาติ อตฺโถ. เตนสฺส นิโรธสจฺจํ ทสฺเสติ. มคฺคสจฺจํ ปเนตฺถ สรูปโต อทสฺสิตมฺปิ นยโต ทสฺสิตํ โหติ, นิโรเธ หิ วุตฺเต ตสฺส สมฺปาปโก มคฺโค วุตฺโตว โหติ. อถ วา เตสฺจ โย นิโรโธติ เอตฺถ เตสํ โย นิโรโธ จ นิโรธุปาโย จาติ เอวํ ทฺเวปิ สจฺจานิ ทสฺสิตานิ โหนฺตีติ. อิทานิ ตเมวตฺถํ ปฏิปาเทนฺโต อาห – ‘‘เอวํวาที มหาสมโณ’’ติ.

เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทวาติ สเจปิ อิโต อุตฺตริ นตฺถิ, เอตฺตกเมว อิทํ โสตาปตฺติผลมตฺตเมว ปตฺตพฺพํ, ตถาปิ เอโส เอว ธมฺโมติ อตฺโถ. ปจฺจพฺยตฺถ ปทมโสกนฺติ ยํ มยํ ปริเยสมานา วิจราม, ตํ ปทมโสกํ ปฏิวิทฺธาตฺถ ตุมฺเห; ปตฺตํ ตํ ตุมฺเหหีติ อตฺโถ. อทิฏฺํ อพฺภตีตํ พหุเกหิ กปฺปนหุเตหีติ อมฺเหหิ นาม อิทํ ปทํ พหุเกหิ กปฺปนหุเตหิ อทิฏฺเมว อพฺภตีตํ; อิติ ตสฺส ปทสฺส อทิฏฺภาเวน ทีฆรตฺตํ อตฺตโน มหาชานิภาวํ ทีเปติ.

๖๒. คมฺภีเร าณวิสเยติ คมฺภีเร เจว คมฺภีรสฺส จ าณสฺส วิสยภูเต. อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเยติ นิพฺพาเน. วิมุตฺเตติ ตทารมฺมณาย วิมุตฺติยา วิมุตฺเต. พฺยากาสีติ ‘‘เอตํ เม สาวกยุคํ ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุค’’นฺติ วทนฺโต สาวกปารมิฺาเณ พฺยากาสิ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสีติ สา เอหิภิกฺขูปสมฺปทาเยว เตสํ อุปสมฺปทา อโหสิ. เอวํ อุปสมฺปนฺเนสุ จ เตสุ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร สตฺตหิ ทิวเสหิ อรหตฺเต ปติฏฺิโต, สาริปุตฺตตฺเถโร อฑฺฒมาเสน.

อตีเต กิร อโนมทสฺสี นาม พุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. ตสฺส สรโท นาม ตาปโส สเก อสฺสเม นานาปุปฺเผหิ มณฺฑปํ กตฺวา ปุปฺผาสเนเยว ภควนฺตํ นิสีทาเปตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ ตเถว มณฺฑปํ กตฺวา ปุปฺผาสนานิ ปฺเปตฺวา อคฺคสาวกภาวํ ปตฺเถสิ. ปตฺถยิตฺวา จ สิรีวฑฺฒสฺส นาม เสฏฺิโน เปเสสิ ‘‘มยา อคฺคสาวกฏฺานํ ปตฺถิตํ, ตฺวมฺปิ อาคนฺตฺวา เอกํ านํ ปตฺเถหี’’ติ. เสฏฺิ นีลุปฺปลมณฺฑปํ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ, ตตฺถ โภเชตฺวา ทุติยสาวกภาวํ ปตฺเถสิ. เตสุ สรทตาปโส สาริปุตฺตตฺเถโร ชาโต, สิรีวฑฺโฒ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโรติ อิทํ เนสํ ปุพฺพกมฺมํ.

๖๓. อปุตฺตกตายาติอาทีสุ เยสํ ปุตฺตา ปพฺพชนฺติ, เตสํ อปุตฺตกตาย. ยาสํ ปตี ปพฺพชนฺติ, ตาสํ เวธพฺยาย วิธวาภาวาย. อุภเยนาปิ กุลุปจฺเฉทาย. สฺจยานีติ สฺจยสฺส อนฺเตวาสิกานิ. มคธานํ คิริพฺพชนฺติ มคธานํ ชนปทสฺส คิริพฺพชํ นครํ. มหาวีราติ มหาวีริยวนฺโต. นยมานานนฺติ นยมาเนสุ. ภุมฺมตฺเถ สามิวจนํ, อุปโยคตฺเถ วา. กา อุสูยา วิชานตนฺติ ธมฺเมน นยนฺตีติ เอวํ วิชานนฺตานํ กา อิสฺสา.

สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.

อุปชฺฌายวตฺตกถา

๖๔-๕. อนุปชฺฌายกาติ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายเกน ครุนา วิรหิตา. อนากปฺปสมฺปนฺนาติ น อากปฺเปน สมฺปนฺนา; สมณสารุปฺปาจารวิรหิตาติ อตฺโถ . อุปริโภชเนติ โภชนสฺส อุปริ. อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ ปิณฺฑาย จรณกปตฺตํ. ตสฺมิฺหิ มนุสฺสา อุจฺฉิฏฺสฺิโน, ตสฺมา อุตฺติฏฺปตฺตนฺติ วุตฺตํ. อถ วา อุฏฺหิตฺวา ปตฺตํ อุปนาเมนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนุชานามิ ภิกฺขเว อุปชฺฌายนฺติ อุปชฺฌายํ คเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสตีติ ปุตฺโต เม อยนฺติ เอวํ เคหสฺสิตเปมวเสน จิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ. เอส นโย ทุติยปเทปิ. สคารวา สปฺปติสฺสาติ ครุภาวฺเจว เชฏฺกภาวฺจ อุปฏฺเปตฺวา. สภาควุตฺติโนติ สภาคชีวิกา. สาหูติ วาติอาทีนิ ปฺจ ปทานิ อุปชฺฌายภาวสมฺปฏิจฺฉนเววจนานิ. กาเยน วิฺาเปตีติ เอวํ สทฺธิวิหาริเกน ‘‘อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วเสน กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา ‘‘คหิโต ตยา อุปชฺฌาโย’’ติ อุปชฺฌายคฺคหณํ วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย. อิทเมว หิ เอตฺถ อุปชฺฌายคฺคหณํ, ยทิทํ อุปชฺฌายสฺส อิเมสุ ปฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วาจาย วา สาวนํ กาเยน วา อตฺถวิฺาปนนฺติ. เกจิ ปน สาธูติ สมฺปฏิจฺฉนํ สนฺธาย วทนฺติ. น ตํ ปมาณํ, อายาจนทานมตฺเตน หิ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย, น เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉนํ องฺคํ. สทฺธิวิหาริเกนาปิ น เกวลํ อิมินา เม ปเทน อุปชฺฌาโย คหิโตติ าตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อชฺชตคฺเค ทานิ เถโร มยฺหํ ภาโร, อหมฺปิ เถรสฺส ภาโร’’ติ อิทมฺปิ าตุํ วฏฺฏติ.

๖๖. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนาติ ยํ วุตฺตํ สมฺมา วตฺติตพฺพนฺติ, ตตฺร อยํ สมฺมาวตฺตนา. กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวาติ สจสฺส ปจฺจูสกาเล จงฺกมนตฺถาย วา โธตปาทปริหรณตฺถาย วา ปฏิมุกฺกา อุปาหนา ปาทคตา โหนฺติ, ตา กาลสฺเสว อุฏฺาย อปเนตฺวา. ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ มชฺฌิมํ ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํ.

มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ สีตฺจ อุณฺหฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬฺเชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํ. สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํ. สเจ ทุวิธมฺปิ วฬฺเชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํ. อุทกํ มุขโธวนฏฺาเน เปตฺวา วจฺจกุฏิโต ปฏฺาย สมฺมชฺชิตพฺพํ. เถเร วจฺจกุฏึ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ; เอวํ ปริเวณํ อสุฺํ โหติ. เถเร วจฺจกุฏิโต อนิกฺขนฺเตเยว อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมึ นิสินฺนสฺส ‘‘สเจ ยาคุ โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวตฺตํ กาตพฺพํ. อุกฺลาโปติ เกนจิ กจวเรน สงฺกิณฺโณ, สเจ ปน อฺโ กจวโร นตฺถิ, อุทกผุสิตาเนว โหนฺติ, หตฺเถนปิ ปมชฺชิตพฺโพ.

สคุณํ กตฺวาติ ทฺเว จีวรานิ เอกโต กตฺวา, ตา เอกโต กตา ทฺเวปิ สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา. สพฺพฺหิ จีวรํ สงฺฆฏิตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา’’ติ. นาติทูเร คนฺตพฺพํ นาจฺจาสนฺเนติ เอตฺถ สเจ อุปชฺฌายํ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตํ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ปทวีติหาเรหิ สมฺปาปุณาติ, เอตฺตาวตา นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน คโต โหตีติ เวทิตพฺพํ. ปตฺตปริยาปนฺนํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ สเจ อุปชฺฌาเยน ภิกฺขาจาเร ยาคุยา วา ภตฺเต วา ลทฺเธ ปตฺโต อุณฺโห วา ภาริโก วา โหติ, อตฺตโน ปตฺตํ ตสฺส ทตฺวา โส ปตฺโต คเหตพฺโพติ อตฺโถ. น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพาติ อนฺตรฆเร วา อฺตฺร วา ภณมานสฺส อนิฏฺิเต ตสฺส วจเน อฺา กถา น สมุฏฺาเปตพฺพา. อิโต ปฏฺาย จ ปน ยตฺถ ยตฺถ นกาเรน ปฏิเสโธ กริยติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ เวทิตพฺพา. อยฺหิ ขนฺธกธมฺมตา. อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโนติ ปทโสธมฺมทุฏฺุลฺลาทิวเสน อาปตฺติยา อาสนฺนวาจํ ภณมาโน. นิวาเรตพฺโพติ ‘‘กึ ภนฺเต อีทิสํ นาม วตฺตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉนฺเตน วิย วาเรตพฺโพ. วาเรสฺสามีติ ปน กตฺวา ‘‘มหลฺลก, มา เอวํ ภณา’’ติ น วตฺตพฺโพ.

ปมตรํ อาคนฺตฺวาติ สเจ อาสนฺเน คาโม โหติ, วิหาเร วา คิลาโน ภิกฺขุ โหติ, คามโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ. สเจ ทูเร คาโม โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต นตฺถิ, เตเนว สทฺธึ คามโต นิกฺขมิตฺวา จีวเรน ปตฺตํ เวเตฺวา อนฺตรามคฺคโต ปมตรํ อาคนฺตพฺพํ . เอวํ นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปฺาปนาทิ สพฺพํ กิจฺจํ กาตพฺพํ. สินฺนํ โหตีติ ตินฺตํ เสทคฺคหิตํ. จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวาติ กณฺณํ จตุรงฺคุลปฺปมาณํ อติเรกํ กตฺวา เอวํ จีวรํ สํหริตพฺพํ. กึ การณา? มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. สมํ กตฺวา สํหริตสฺส หิ มชฺเฌ ภงฺโค โหติ, ตโต นิจฺจํ ภิชฺชมานํ ทุพฺพลํ โหติ ตํ นิวารณตฺถเมตํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยถา อชฺช ภงฺคฏฺาเนเยว สฺเว น ภิชฺชติ, ตถา ทิวเส ทิวเส จตุรงฺคุลํ อุสฺสาเรตฺวา สํหริตพฺพํ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพนฺติ กายพนฺธนํ สํหริตฺวา จีวรโภเค ปกฺขิปิตฺวา เปตพฺพํ.

สเจปิณฺฑปาโต โหตีติ เอตฺถ โย คาเมเยว วา อนฺตรฆเร วา ปฏิกฺกมเน วา ภุฺชิตฺวา อาคจฺฉติ, ปิณฺฑํ วา น ลภติ, ตสฺส ปิณฺฑปาโต น โหติ, คาเม อภุตฺตสฺส ปน ลทฺธภิกฺขสฺส วา โหติ; ตสฺมา ‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สเจปิ ตสฺส น โหติ, ภุฺชิตุกาโม จ โหติ, อุทกํ ทตฺวา อตฺตนา ลทฺธโตปิ ปิณฺฑปาโต อุปเนตพฺโพ. ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพติ ภุฺชมาโน ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปานียํ ภนฺเต อาหริยตู’’ติ ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ กาโล อตฺถิ, อุปชฺฌาเย ภุตฺเต สยํ ภุฺชิตพฺพํ. สเจ อุปกฏฺโ กาโล, ปานียํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก เปตฺวา สยมฺปิ ภุฺชิตพฺพํ.

อนนฺตรหิตายาติ ตฏฺฏิกธมฺมขณฺฑาทีสุ เยน เกนจิ อนตฺถตาย ปํสุสกฺขรมิสฺสาย ภูมิยา ปตฺโถ น เปตพฺโพติ อตฺโถ. สเจ ปน กาฬวณฺณกตา วา สุธาพทฺธา วา โหติ นิรชมตฺติกา, ตถารูปาย ภูมิยา เปตุํ วฏฺฏติ. โธตวาลิกายปิ เปตุํ วฏฺฏติ. ปํสุรชสกฺขราทีสุ น วฏฺฏติ. ตตฺร ปน ปณฺณํ วา อาธารกํ วา เปตฺวา ตตฺร นิกฺขิปิตพฺโพ. ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคนฺติ อิทํ จีวรวํสาทีนํ เหฏฺา หตฺถํ ปเวเสตฺวา อภิมุเขน หตฺเถน สณิกํ นิกฺขิปนตฺถํ วุตฺตํ. อนฺเต ปน คเหตฺวา โภเคน จีวรวํสาทีนํ อุปริ นิกฺขิปนฺตสฺส ภิตฺติยํ โภโค ปฏิหฺติ, ตสฺมา ตถา น กาตพฺพํ.

จุณฺณํ สนฺเนตพฺพนฺติ นฺหานจุณฺณํ อุทเกน เตเมตฺวา ปิณฺฑิ กาตพฺพา. เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอกสฺมึ นิทฺธูเม าเน เปตพฺพํ. ชนฺตาฆเร ปริกมฺมํ นาม องฺคารมตฺติกอุณฺโหทกทานาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํ. อุทเกปิ ปริกมฺมนฺติ องฺคปจฺจงฺคฆํสนาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํ. ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพติ ชนฺตาฆเร อุณฺหสนฺตาเปน ปิปาสา โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตพฺโพ.

สเจ อุสฺสหตีติ สเจ ปโหติ; น เกนจิ เคลฺเน อภิภูโต โหติ; อคิลาเนน หิ สทฺธิวิหาริเกน สฏฺิวสฺเสนาปิ สพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ กาตพฺพํ, อนาทเรน อกโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. นการปฏิสํยุตฺเตสุ ปน ปเทสุ คิลานสฺสาปิ ปฏิกฺขิตฺตกิริยํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อปฺปฏิฆํสนฺเตนาติ ภูมิยํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน. กวาฏปิฏฺนฺติ กวาฏฺจ ปิฏฺสงฺฆาตฺจ อจฺฉุปนฺเตน. สนฺตานกนฺติ ยํกิฺจิ กีฏกุลาวกมกฺกฏกสุตฺตาทิ. อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพนฺติ อุลฺโลกโต ปมํ อุลฺโลกํ อาทึกตฺวา อวหริตพฺพนฺติ อตฺโถ. อาโลกสนฺธิกณฺณภาคาติ อาโลกสนฺธิภาคา จ กณฺณภาคา จ อนฺตรพาหิรวาตปานกวาฏกานิ จ คพฺภสฺส จ จตฺตาโร โกณา ปมชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.

ยถาปฺตฺตํปฺเปตพฺพนฺติ ยถา ปมํ ปฺตฺตํ อโหสิ, ตเถว ปฺเปตพฺพํ. เอตทตฺถเมว หิ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ ปุริมวตฺตํ ปฺตฺตํ. สเจ ปน ปมํ อชานนฺเตน เกนจิ ปฺตฺตํ อโหสิ, สมนฺตโต ภิตฺตึ ทฺวงฺคุลมตฺเตน วา ติวงฺคุลมตฺเตน วา โมเจตฺวา ปฺเปตพฺพํ. อิทฺหิ ปฺาปนวตฺตํ. สเจ กฏสารโก โหติ อติมหนฺโต จ, ฉินฺทิตฺวา โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตฺวา ปฺเปตพฺโพ. สเจ โกฏึ นิวตฺเตตฺวา พนฺธิตุํ น ชานาติ, น ฉินฺทิตพฺโพ. ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพาติ ปุรตฺถิมาย วาตปานา ถเกตพฺพา. เอวํ เสสาปิ วาตปานา ถเกตพฺพา.

วูปกาเสตพฺโพติ อฺตฺถ เนตพฺโพ. วูปกาสาเปตพฺโพติ อฺโ ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ คเหตฺวา อฺตฺถ คจฺฉา’’ติ วิเวเจตพฺพนฺติ วิสฺสชฺชาเปตพฺพํ. วิเวจาเปตพฺพนฺติ อฺโ วตฺตพฺโพ ‘‘เถรํ ทิฏฺิคตํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติ. อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพนฺติ ปริวาสทานตฺถํ โส โส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตพฺโพ. สเจ อตฺตนา ปฏิพโล โหติ, อตฺตนาว ทาตพฺโพ. โน เจ ปฏิพโล โหติ, อฺเน ทาเปตพฺโพ. กินฺติ นุ โขติ เกน นุ โข อุปาเยน. เอส นโย สพฺพตฺถ. ลหุกาย วาปริณาเมยฺยาติ อุกฺเขปนียํ อกตฺวา ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กเรยฺยาติ อตฺโถ. เตน หิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตฺตุกาโม สงฺโฆ’’ติ ตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา ภนฺเต อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กริตฺถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, ‘‘ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กโรถา’’ติ ยาจิตพฺพา. สเจ กโรนฺติเยว, อถ อุปชฺฌาโย ‘‘สมฺมา วตฺตถ ภนฺเต’’ติ ยาจิตพฺโพ. อิติ ตํ สมฺมา วตฺตาเปตฺวา ‘‘ปฏิปฺปสฺสมฺเภถ ภนฺเต กมฺม’’นฺติ ภิกฺขู ยาจิตพฺพา.

สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกนฺติ สมฺปริวตฺเตตฺวา สมฺปริวตฺเตตฺวา. น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพนฺติ ยทิ อปฺปมตฺตกมฺปิ รชนํ คฬติ, น ตาว ปกฺกมิตพฺพํ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส วิสภาคปุคฺคลวเสน กถิตํ. น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตพฺโพติ ปิณฺฑาย วา อฺเน วา กรณีเยน ปวิสิตุกาเมน อาปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย กาลสฺเสว วุฏฺาย ทูรํ ภิกฺขาจารํ คนฺตุกาโม โหติ, ‘‘ทหรา ปิณฺฑาย ปวิสนฺตู’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. อวตฺวา คเต ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ อปสฺสนฺเตน คามํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. สเจ คามํ ปวิสนฺโตปิ ปสฺสติ, ทิฏฺฏฺานโต ปฏฺาย อาปุจฺฉิตุํเยว วฏฺฏติ.

น สุสานํ คนฺตพฺพนฺติ วาสตฺถาย วา ทสฺสนตฺถาย วา น คนฺตพฺพํ. น ทิสา ปกฺกมิตพฺพาติ เอตฺถ ปกฺกมิตุกาเมน กมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ยาวตติยํ ยาจิตพฺโพ. สเจ อนุชานาติ, สาธุ; โน เจ อนุชานาติ, ตํ นิสฺสาย วสโต จสฺส อุทฺเทโส วา ปริปุจฺฉา วา กมฺมฏฺานํ วา น สมฺปชฺชติ, อุปชฺฌาโย พาโล โหติ อพฺยตฺโต, เกวลํ อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตุกามตาย เอว คนฺตุํ น เทติ, เอวรูเป นิวาเรนฺเตปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพนฺติ เคลฺโต วุฏฺานํ อสฺส อาคเมตพฺพํ; น กตฺถจิ คนฺตพฺพํ. สเจ อฺโ ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อตฺถิ, เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต อยํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ.

อุปชฺฌายวตฺตกถา นิฏฺิตา.

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถา

๖๗. อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกมฺหิ สมฺมาวตฺตนายํ – สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติ อุทฺเทสาทีหิสฺส สงฺคโห จ อนุคฺคโห จ กตฺตพฺโพ. ตตฺถ อุทฺเทโสติ ปาฬิวาจนํ. ปริปุจฺฉาติ ปาฬิยา อตฺถวณฺณนา. โอวาโทติ อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมึ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา กริตฺถา’’ติ วจนํ. อนุสาสนีติ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ. อปิ จ โอติณฺเณ วา อโนติณฺเณ วา ปมํ วจนํ โอวาโท; ปุนปฺปุนํ วจนํ อนุสาสนีติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหตีติ สเจ อติเรกปตฺโต โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปริกฺขาโรติ อฺโปิ สมณปริกฺขาโร. อิธ อุสฺสุกฺกํ นาม ธมฺมิเกน นเยน อุปฺปชฺชมานอุปายปริเยสนํ. อิโต ปรํ ทนฺตกฏฺทานํ อาทึ กตฺวา อาจมนกุมฺภิยา อุทกาสิฺจนปริโยสานํ วตฺตํ คิลานสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส กาตพฺพํ. อนภิรติวูปกาสนาทิ ปน อคิลานสฺสาปิ กตฺตพฺพเมว. จีวรํ รชนฺเตนาติ ‘‘เอวํ รเชยฺยาสี’’ติ อุปชฺฌายโต อุปายํ สุตฺวา รชนฺเตน. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถา นิฏฺิตา.

นสมฺมาวตฺตนาทิกถา

๖๘. น สมฺมา วตฺตนฺตีติ ยถาปฺตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ น ปูเรนฺติ. โย น สมฺมา วตฺเตยฺยาติ โย ยถาปฺตฺตํ วตฺตํ น ปูเรยฺย; โส ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. ปณาเมตพฺโพติ อปสาเทตพฺโพ. น อธิมตฺตํ เปมํ โหตีติ อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เคหสฺสิตเปมํ น โหติ. นาธิมตฺตาภาวนา โหตีติ อธิมตฺตา เมตฺตาภาวนา น โหติ; วุตฺตปฏิปกฺขนเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ. อลํ ปณาเมตุนฺติ ยุตฺโต ปณาเมตุํ.

อปฺปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหตีติ สโทโส โหติ, อาปตฺตึ อาปชฺชติ; ตสฺมา น สมฺมา วตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพว. น สมฺมาวตฺตนาย จ ยาว จีวรรชนํ ตาว วตฺเต อกริยมาเน อุปชฺฌายสฺส ปริหานิ โหติ. ตสฺมา ตํ อกโรนฺตสฺส นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติเยว. เอกจฺจสฺส ปตฺตทานโต ปฏฺาย อมุตฺตกนิสฺสยสฺเสว อาปตฺติ.

สทฺธิวิหาริกา สมฺมา วตฺตนฺติ, อุปชฺฌาโย สมฺมา น วตฺตติ, อุปชฺฌายสฺส อาปตฺติ. อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺตติ, สทฺธิวิหาริกา สมฺมา น วตฺตนฺติ, เตสํ อาปตฺติ. อุปชฺฌาเย วตฺตํ สาทิยนฺเต สทฺธิวิหาริกา พหุกาปิ โหนฺติ, สพฺเพสํ อาปตฺติ. สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘มยฺหํ อุปฏฺาโก อตฺถิ, ตุมฺเห อตฺตโน สชฺฌายมนสิการาทีสุ โยคํ กโรถา’’ติ วทติ, สทฺธิวิหาริกานํ อนาปตฺติ. สเจ อุปชฺฌาโย สาทิยนํ วา อสาทิยนํ วา น ชานาติ, พาโล โหติ, สทฺธิวิหาริกา พหุกา. เตสุ เอโก วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘อุปชฺฌายสฺส กิจฺจํ อหํ กริสฺสามิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ เอวฺเจ อตฺตโน ภารํ กตฺวา อิตเร วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ภารกรณโต ปฏฺาย เตสํ อนาปตฺติ.

นสมฺมาวตฺตนาทิกถา นิฏฺิตา.

ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถา

๖๙. ราธพฺราหฺมณวตฺถุสฺมึ – กิฺจาปิ อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควตา พาราณสิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ อนุฺาตํ ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ ชานาติ, ภควา ปน ตํ ลหุกํ อุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฺติจตุตฺถกมฺเมน ครุกํ กตฺวา อุปสมฺปทํ อนุฺาตุกาโม. อถสฺส เถโร อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘กถาหํ ภนฺเต ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชมิ อุปสมฺปาเทมี’’ติ อาห. พุทฺธานฺหิ ปริสา อชฺฌาสยกุสลา โหนฺติ, อยฺจ พุทฺธปริสาย อคฺโค.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลนาติ เอตฺถ พฺยตฺโต นาม ยสฺส สาฏฺกถํ วินยปิฏกํ วาจุคฺคตํ ปวตฺตติ, ตสฺมึ อสติ ยสฺส อนฺตมโส อิทํ ตฺติจตุตฺถกมฺมวาจามตฺตมฺปิ สุคฺคหิตํ โหติ, วาจุคฺคตํ ปวตฺตติ, อยมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ พฺยตฺโต. โย ปน กาสโสสเสมฺหาทินา วา เคลฺเน โอฏฺทนฺตชิวฺหาทีนํ วา อสมฺปตฺติยา ปริยตฺติยํ วา อกตปริจยตฺตา น สกฺโกติ ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยฺชเนหิ กมฺมวาจํ สาเวตุํ, พฺยฺชนํ วา ปทํ วา หาเปติ, อฺถา วา วตฺตพฺพํ อฺถา วทติ, อยํ อปฺปฏิพโล. ตพฺพิปรีโต อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ปฏิพโล’’ติ เวทิตพฺโพ. สงฺโฆ าเปตพฺโพติ สงฺโฆ ชานาเปตพฺโพ. ตโต ปรํ ยํ สงฺโฆ ชานาเปตพฺโพ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต’’ติอาทิมาห.

๗๑. อุปสมฺปนฺนสมนนฺตราติ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา สมนนฺตรา. อนาจารํ อาจรตีติ ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรติ. อุลฺลุมฺปตุ มนฺติ อุทฺธรตุ มํ, อกุสลา วุฏฺาเปตฺวา กุสเล ปติฏฺเปตุ; สามเณรภาวา วา อุทฺธริตฺวา ภิกฺขุภาเว ปติฏฺาเปตูติ. อนุกมฺปํ อุปาทายาติ อนุทฺทยํ ปฏิจฺจ; มยิ อนุกปฺปํ กตฺวาติ อตฺโถ.

๗๓. อฏฺิตา โหตีติ นิจฺจปฺปวตฺตินี โหติ. จตฺตาโร นิสฺสเยติ จตฺตาโร ปจฺจเย. ยสฺมา จตฺตาโร ปจฺจเย นิสฺสาย อตฺตภาโว ปวตฺตติ, ตสฺมา เต นิสฺสยาติ วุจฺจนฺติ.

ราธพฺราหฺมณวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อาจริยวตฺตกถา

๗๕. กินฺตายํ ภิกฺขุ โหตีติ กึ เต อยํ ภิกฺขุ โหติ. อฺเหิ โอวทิโย อนุสาสิโยติ อฺเหิ โอวทิตพฺโพ เจว อนุสาสิตพฺโพ จ. พาหุลฺลาย อาวตฺโต ยทิทํ คณพนฺธิกนฺติ คณพนฺโธ เอตสฺส พาหุลฺลสฺส อตฺถีติ คณพนฺธิกํ, พาหุลฺลํ. ยํ อิทํ คณพนฺธิกํ นาม พาหุลฺลํ, ตทตฺถาย อติลหุํ ตฺวํ อาปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ.

๗๖. อพฺยตฺตาติ ปฺาเวยฺยตฺติเยน วิรหิตา. อฺตฺตโรปิ อฺติตฺถิยปุพฺโพติ ปสูโร ปริพฺพาชโก. โส กิร ‘‘ธมฺมํ เถเนสฺสามี’’ติ อุทายิตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา เตน สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน ตสฺส วาทํ อาโรเปสิ. อนุชานามิ ภิกฺขเว พฺยตฺเตน ภิกฺขุนาติอาทิมฺหิ พฺยตฺโต ปุพฺเพ ภิกฺขุโนวาทกวณฺณนายํ วุตฺตลกฺขโณเยว. โย ปน อนฺเตวาสิโน วา สทฺธิวิหาริกสฺส วา คิลานสฺส สกฺโกติ อุปฏฺานาทีนิ กาตุํ, อยํ อิธ ปฏิพโลติ อธิปฺเปโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ปฺจหุปาลิ , องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปฺจหิ? ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตู’’นฺติ (ปริ. ๔๑๘).

๗๗. ปกฺขสงฺกนฺเตสูติ ติตฺถิยปกฺขสงฺกนฺเตสุ. อนุชานามิ ภิกฺขเว อาจริยนฺติ อาจารสมาจารสิกฺขาปนกํ อาจริยํ อนุชานามิ. อาจริโย ภิกฺขเว อนฺเตวาสิกมฺหีติอาทิ สพฺพํ ‘‘อุปชฺฌาโย ภิกฺขเว สทฺธิวิหาริกมฺหี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวเสเนว เวทิตพฺพํ. นามมตฺตเมว หิ เอตฺถ นานํ.

อาจริยวตฺตกถา นิฏฺิตา.

ปณามนาขมนากถา

๘๐. อนฺเตวาสิกา อาจริเยสุ น สมฺมา วตฺตนฺตีติ เอตฺถ ปน ยํ ปุพฺเพ ‘‘นสมฺมาวตฺตนาย จ ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺเต อกริยมาเน อุปชฺฌายสฺส ปริหานิ โหติ, ตสฺมา ตํ อกโรนฺตสฺส นิสฺสยมุตฺตกสฺสาปิ อมุตฺตกสฺสาปิ อาปตฺติเยวา’’ติ จ, ‘‘เอกจฺจสฺส ปตฺตทานโต ปฏฺาย อมุตฺตกนิสฺสยสฺเสว อาปตฺตี’’ติ จ ลกฺขณํ วุตฺตํ, น เตเนว ลกฺขเณน นิสฺสยนฺเตวาสิกสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา. นิสฺสยนฺเตวาสิเกน หิ ยาว อาจริยํ นิสฺสาย วสติ, ตาว สพฺพํ อาจริยวตฺตํ กาตพฺพํ. ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาธมฺมนฺเตวาสิเกหิ ปน นิสฺสยมุตฺตเกหิปิ อาทิโต ปฏฺาย ยาว จีวรรชนํ, ตาว วตฺตํ กาตพฺพํ; อนาปุจฺฉิตฺวา ปตฺตทานาทิมฺหิ ปน เอเตสํ อนาปตฺติ. เอเตสุ จ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภาโร. นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสนฺติ, ตาวเทว. ตสฺมา อาจริเยนาปิ เตสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อาจริยนฺเตวาสิเกสุ หิ โย โย น สมฺมา วตฺตติ, ตสฺส ตสฺส อาปตฺติ.

ปณามนาขมนากถา นิฏฺิตา.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา

๘๓. อุปชฺฌายมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ – อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วาติอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย – ปกฺกนฺโตติ ตมฺหา อาวาสา วิปฺปวสิตุกาโม ปกฺกนฺโต ทิสํ คโต. เอวํ คเต จ ปน ตสฺมึ สเจ วิหาเร นิสฺสยทายโก อตฺถิ, ยสฺส สนฺติเก อฺทาปิ นิสฺสโย วา คหิตปุพฺโพ โหติ, โย วา เอกสมฺโภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ตาทิโส นตฺถิ, อฺโ ลชฺชี เปสโล อตฺถิ, ตสฺส ลชฺชีเปสลภาวํ ชานนฺเตน ตทเหว นิสฺสโย ยาจิตพฺโพ. สเจ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย ลหุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาเยน จ ตถา วุตฺตํ, ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘เตน หิ อุปชฺฌายสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วฏฺฏติ. อถ ปนสฺส ปกติยา เปสลภาวํ น ชานาติ, จตฺตาริ ปฺจ ทิวสานิ ตสฺส ภิกฺขุโน สภาคตํ โอโลเกตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ.

สเจ ปน วิหาเร นิสฺสยทายโก นตฺถิ, อุปชฺฌาโย จ ‘‘อหํ กติปาเหน อาคมิสฺสามิ, มา อุกฺกณฺิตฺถา’’ติ วตฺวา คโต, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. อถาปิ นํ ตตฺถ มนุสฺสา ปริจฺฉินฺนกาลโต อุตฺตริปิ ปฺจ วา ทส วา ทิวสานิ วาเสนฺติเยว, เตน วิหารํ ปวตฺติ เปเสตพฺพา ‘‘ทหรา มา อุกฺกณฺนฺตุ, อหํ อสุกทิวสํ นาม อาคมิสฺสามี’’ติ. เอวมฺปิ ปริหาโร ลพฺภติ. อถ อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค นทีปูเรน วา โจราทีหิ วา อุปทฺทโว โหติ, เถโร อุทโกสกฺกนํ วา อาคเมติ, สหาเย วา ปริเยสติ, ตฺเจ ปวตฺตึ ทหรา สุณนฺติ, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติ. สเจ ปน โส ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามี’’ติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

วิพฺภนฺเต ปน กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกนฺเต วา เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. อาณตฺตีติ ปน นิสฺสยปณามนา วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา ‘‘มา อิธ ปฏิกฺกมี’’ติ วา ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา ‘‘นาหํ ตยา อุปฏฺาตพฺโพ’’ติ วาติ อิมินา ปาฬินเยน ‘‘มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉี’’ติอาทินา ปาฬิมุตฺตกนเยน วา โย นิสฺสยปณามนาย ปณามิโต โหติ, เตน อุปชฺฌาโย ขมาเปตพฺโพ.

สเจ อาทิโตว น ขมติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ตาว สยเมว ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, ตสฺมึ วิหาเร มหาเถเร คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, สามนฺตวิหาเร ภิกฺขู คเหตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, อฺตฺถ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส สภาคานํ สนฺติเก วสิตพฺพํ ‘‘อปฺเปว นาม สภาคานํ เม สนฺติเก วสตีติ ตฺวาปิ ขเมยฺยา’’ติ. สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, ตตฺเรว วสิตพฺพํ. ตตฺร เจ ทุพฺภิกฺขาทิโทเสน น สกฺกา โหติ วสิตุํ, ตํเยว วิหารํ อาคนฺตฺวา อฺสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตุํ วฏฺฏติ. อยมาณตฺติยํ วินิจฺฉโย.

อาจริยมฺหา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธีสุ อาจริโย ปกฺกนฺโต วาโหตีติ เอตฺถ โกจิ อาจริโย อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมติ, โกจิ อนาปุจฺฉิตฺวา. อนฺเตวาสิโกปิ เอวเมว. ตตฺร สเจ อนฺเตวาสิโก อาจริยํ อาปุจฺฉติ ‘‘อสุกํ นาม ภนฺเต านํ คนฺตุํ อิจฺฉามิ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ, อาจริเยน จ ‘‘กทา คมิสฺสสี’’ติ วุตฺโต ‘‘สายนฺเห วา รตฺตึ วา อุฏฺหิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อาจริโยปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตงฺขณฺเว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ ปน ‘‘ภนฺเต อสุกํ นาม านํ คนฺตุกาโมมฺหี’’ติ วุตฺเต อาจริโย ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉา ชานิสฺสสี’’ติ วทติ, โส จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตโต เจ คโต, สุคโต. สเจ ปน น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อาจริเยน ‘‘มา ตาว คจฺฉ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวา คจฺฉติ, สุคโต. โน เจ คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาจริยํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺตสฺส ปน อุปจารสีมาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อนฺโตอุปจารสีมโต ปฏินิวตฺตนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ ปน อาจริโย อนฺเตวาสิกํ อาปุจฺฉติ ‘‘อาวุโส อสุกํ นาม านํ คมิสฺสามี’’ติ, อนฺเตวาสิเกน จ ‘‘กทา’’ติ วุตฺเต ‘‘สายนฺเห วา รตฺติภาเค วา’’ติ วทติ, อนฺเตวาสิโกปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ตงฺขณฺเว นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ ปน อาจริโย ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย จริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, เอกทิวสํ ตาว นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุนทิวเส ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ชานิสฺสามิ มม คมนํ วา อคมนํ วา’’ติ วตฺวา สเจ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุตฺเต อนฺเตวาสิเกน ‘‘มา ตาว คจฺฉถ, รตฺตึ มนฺเตตฺวา ชานิสฺสถา’’ติ วุตฺโต มนฺเตตฺวาปิ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

สเจ อุโภปิ อาจริยนฺเตวาสิกา เกนจิ กรณีเยน พหิสีมํ คจฺฉนฺติ, ตโต เจ อาจริโย คมิยจิตฺเต อุปฺปนฺเน อนาปุจฺฉาว คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโตเยว นิวตฺตติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตติ, ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ. อาจริยุปชฺฌายา ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อฺสฺมึ วิหาเร วสนฺติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ.

อาจริเย วิพฺภนฺเต กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกนฺเต จ ตงฺขณฺเว ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อาณตฺติยํ ปน สเจปิ อาจริโย มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อนฺเตวาสิโก จ ‘‘กิฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจปิ อาจริโย สาลโย, อนฺเตวาสิโก นิราลโย, ‘‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปณามิเตน ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ขมาเปตพฺโพ. โน เจ ขมติ, อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโตติ เอตฺถ ทสฺสนสวนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ. สเจ หิ อาจริยํ นิสฺสาย วสนฺโต สทฺธิวิหาริโก เอกวิหาเร เจติยํ วา วนฺทนฺตํ เอกคาเม ปิณฺฑาย วา จรนฺตํ อุปชฺฌายํ ปสฺสติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปชฺฌาโย ปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก ปน น ปสฺสติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. มคฺคปฺปฏิปนฺนํ วา อากาเสน วา คจฺฉนฺตํ อุปชฺฌายํ ทิสฺวา ทูรตฺตา ภิกฺขูติ ชานาติ, อุปชฺฌาโยติ น ชานาติ, น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ชานาติ, ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อุปริปาสาเท อุปชฺฌาโย วสติ, เหฏฺา สทฺธิวิหาริโก, ตํ อทิสฺวาว ยาคุํ ปิวิตฺวา ปกฺกมติ, อาสนสาลาย วา นิสินฺนํ อทิสฺวาว เอกมนฺเต ภุฺชิตฺวา ปกฺกมติ, ธมฺมสฺสวนมณฺฑเป วา นิสินฺนมฺปิ ตํ อทิสฺวาว ธมฺมํ สุตฺวา ปกฺกมติ, นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอวํ ตาว ทสฺสนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํ.

สวนวเสน ปน สเจ อุปชฺฌายสฺส วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส อนุโมทนํ วา กโรนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อุปชฺฌายสฺส เม สทฺโท’’ติ สฺชานาติ, นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อสฺชานนฺตสฺส น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ อยํ สโมธาเน วินิจฺฉโย.

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา นิฏฺิตา.

อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถา

๘๔. อิทานิ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ สงฺเขปโต อุปชฺฌายาจริยานํ ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจหิ องฺเคหีติ ปฺจหิ อคุณงฺเคหิ. โส หิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคตตฺตาว อคุณงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ. น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติ อุปชฺฌาเยน หุตฺวา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ. น นิสฺสโย ทาตพฺโพติ อาจริเยน หุตฺวา นิสฺสโย น ทาตพฺโพ. เอตฺถ จ น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนาติ จ อตฺตนา น อเสกฺเขนาติ จ อสฺสทฺโธติ จ อาทีสุ ตีสุ ปฺจเกสุ อยุตฺตวเสน ปฏิกฺเขโป กโต, น อาปตฺติองฺควเสน. โย หิ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ อสมนฺนาคโต ปเร จ ตตฺถ สมาทเปตุํ อสกฺโกนฺโต อสฺสทฺธิยาทิโทสยุตฺโตว หุตฺวา ปริสํ ปริหรติ, ตสฺส ปริสา สีลาทีหิ ปริหายติเยว, น วฑฺฒติ. ตสฺมา เตน น อุปสมฺปาเทตพฺพนฺติอาทิ อยุตฺตวเสน วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺควเสน. น หิ ขีณาสวสฺเสว อุปชฺฌายาจริยภาโว ภควตา อนุฺาโต. ยทิ ตสฺเสว อนุฺาโต อภวิสฺส, ‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหตี’’ติอาทึ น วเทยฺย. ยสฺมา ปน ขีณาสวสฺส ปริสา สีลาทีหิ น ปริหายติ, ตสฺมา ‘‘ปฺจหิ ภิกฺขเว องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อธิสีเล สีลวิปนฺโนติอาทีสุ ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิเสสฺจ อาปนฺโน อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม. อิตเร ปฺจาปตฺติกฺขนฺเธ อาปนฺโน อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน นาม. สมฺมาทิฏฺึ ปหาย อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน นาม. ยตฺตกํ สุตํ ปริสํ ปริหรนฺตสฺส อิจฺฉิตพฺพํ, เตน วิรหิตตฺตา อปฺปสฺสุโต. ยํ เตน ชานิตพฺพํ อาปตฺตาทิ, ตสฺส อชานนโต ทุปฺปฺโ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ตีณิ ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว อาปตฺติองฺควเสน.

อาปตฺตึน ชานาตีติ ‘‘อิทํ นาม มยา กต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิมํ นาม อาปตฺตึ อยํ อาปนฺโน’’ติ น ชานาติ. วุฏฺานํ น ชานาตีติ วุฏฺานคามินิโต วา เทสนาคามินิโต วา อาปตฺติโต เอวํ นาม วุฏฺานํ โหตีติ น ชานาติ. อิมสฺมึ ปฺจเก ปุริมานิ ทฺเว ปทานิ อยุตฺตวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อาปตฺติองฺควเสน.

อาภิสมาจาริกาย สิกฺขายาติ ขนฺธกวตฺเต วิเนตุํ น ปฏิพโล โหตีติ อตฺโถ. อาทิพฺรหฺมจริยกายาติ เสกฺขปณฺณตฺติยํ วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิธมฺเมติ นามรูปปริจฺเฉเท วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. อภิวินเยติ สกเล วินยปิฏเก วิเนตุํ น ปฏิพโลติ อตฺโถ. วิเนตุํ น ปฏิพโลติ จ สพฺพตฺถ สิกฺขาเปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ. ธมฺมโต วิเวเจตุนฺติ ธมฺเมน การเณน วิสฺสชฺชาเปตุํ. อิมสฺมิ ปฺจเก สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อาปตฺตึ น ชานาตีติอาทิปฺจกสฺมิมฺปิ สพฺพปเทสุ อาปตฺติ. อูนทสวสฺสปริโยสานปฺจเกปิ เอเสว นโย. อิติ อาทิโต ตโย ปฺจกา, จตุตฺเถ ตีณิ ปทานิ, ปฺจเม ทฺเว ปทานีติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อยุตฺตวเสน วุตฺตา. จตุตฺถปฺจเก ทฺเว ปทานิ, ปฺจเม ตีณิ, ฉฏฺสตฺตมอฏฺมา ตโย ปฺจกาติ สพฺเพปิ จตฺตาโร ปฺจกา อาปตฺติองฺควเสน วุตฺตา; สุกฺกปกฺเข อฏฺสุ อนาปตฺติเยวาติ.

อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกกถา นิฏฺิตา.

อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกกถา

๘๕. ฉกฺเกสุ อูนทสวสฺสปทํ วิเสโส, ตํ สพฺพตฺถ อาปตฺติกรํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺตีติ อุภโตวิภงฺควเสน น สฺวาคตานิ. น สุวิภตฺตานีติ มาติกาวิภงฺควเสน. น สุปฺปวตฺตีนีติ วาจุคฺคตวเสน. น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโสติ มาติกาโต จ วิภงฺคโต จ น สุฏฺุ วินิจฺฉิตานิ.

อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกกถา นิฏฺิตา.

อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถา

๘๖. อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุสฺมึ – โย ตาว อยํ ปสูโร, โส ติตฺถิยปกฺกนฺตกตฺตา น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย ปน อฺโปิ นยิธ ปพฺพชิตปุพฺโพ อาคจฺฉติ, ตสฺมึ ยํ กตฺตพฺพํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย โส ภิกฺขเว อฺโปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาโส ทาตพฺโพติ อยํ ติตฺถิยปริวาโส นาม; อปฺปฏิจฺฉนฺนปริวาโสติปิ วุจฺจติ. อยํ ปน นคฺคปริพฺพาชกสฺเสว อาชีวกสฺส วา อเจลกสฺส วา ทาตพฺโพ . สเจ โสปิ สาฏกํ วา วาฬกมฺพลาทีนํ อฺตรํ ติตฺถิยทฺธชํ วา นิวาเสตฺวา อาคจฺฉติ, นาสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพ. อฺสฺส ปน ตาปสปณฺฑรงฺคาทิกสฺส น ทาตพฺโพว.

ปมํ เกสมสฺสุนฺติอาทินา ตสฺส อาทิโตว สามเณรปพฺพชฺชํ ทสฺเสติ. เอวํ ปพฺพาเชนฺเตหิ ปน ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺเนเยว ‘‘ตฺวํ ปพฺพาเชหิ, ตฺวํ อาจริโย โหหิ, ตฺวํ อุปชฺฌาโย โหหี’’ติ เถรา ภิกฺขู น วตฺตพฺพา. เอวํ วุตฺตา หิ สเจ ตสฺส อาจริยุปชฺฌายภาเวน ชิคุจฺฉนฺตา น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อถ โส ‘‘นยิเม มยฺหํ สทฺทหนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวาปิ คจฺเฉยฺย. ตสฺมา ตํ เอกมนฺตํ เนตฺวา ตสฺส อาจริยุปชฺฌายา ปริเยสิตพฺพา.

๘๗. เอวํ โข ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ, เอวํ อนาราธโกติ อยมสฺส ปริวาสวตฺตทสฺสนตฺถํ มาติกา. กถฺจ ภิกฺขเวติอาทิ ตสฺเสว วิภงฺโค. ตตฺถ อติกาเลน คามํ ปวิสตีติ ภิกฺขูนํ วตฺตกรณเวลายเมว คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ. อติทิวา ปฏิกฺกมตีติ กุลฆเรสุ อิตฺถิปุริสทารกทาริกาทีหิ สทฺธึ เคหสฺสิตกถํ กเถนฺโต ตตฺเถว ภุฺชิตฺวา ภิกฺขูสุ ปตฺตจีวรํ ปฏิสาเมตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ วา กโรนฺเตสุ ปฏิสลฺลีเนสุ วา อาคจฺฉติ; น อุปชฺฌายวตฺตํ นาจริยวตฺตํ กโรติ, อฺทตฺถุ วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา นิทฺทายติ. เอวมฺปิ ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหตีติ เอวมฺปิ กโรนฺโต ปริวาสวตฺตสฺส สมฺปาทโก ปูรโก น โหติ.

เวสิยาโคจโร วาติอาทีสุ เวสิยาติ อามิสกิฺจิกฺขสมฺปทานาทินา สุลภชฺฌาจารา รูปูปชีวิกา อิตฺถิโย. วิธวาติ มตปติกา วา ปวุตฺถปติกา วา อิตฺถิโย; ตา เยน เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ. ถุลฺลกุมาริกาติ โยพฺพนฺนปฺปตฺตา โยพฺพนฺนาตีตา วา กุมาริโย; ตา ปุริสาธิปฺปายาว วิจรนฺติ, เยน เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ. ปณฺฑกาติ อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา นปุํสกา; เต ปริฬาหเวคาภิภูตา เยน เกนจิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ ปตฺเถนฺติ . ภิกฺขุนิโยติ สมานปพฺพชฺชา อิตฺถิโย; ตาหิ สทฺธึ ขิปฺปเมว วิสฺสาโส โหติ, ตโต สีลํ ภิชฺชติ.

ตตฺถ เวสิยานํ กุเลสุ กุลุปโก หุตฺวา ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ วา อปทิสิตฺวา สิเนหสนฺถวชาเตน หทเยน อภิณฺหทสฺสนสลฺลาปกามตาย ตาสํ สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺโต ‘‘เวสิยาโคจโร’’ติ วุจฺจติ, โส นจิรสฺเสว ‘‘อสุกเวสิยา สทฺธึ คโต’’ติ วตฺตพฺพตํ ปาปุณาติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. สเจ ปน เวสิยาทโย สลากภตฺตาทีนิ เทนฺติ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ คนฺตฺวา สทฺธึเยว ภุฺชิตฺวา วา คเหตฺวา วา อาคนฺตุํ วฏฺฏติ. คิลานา ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ วา ธมฺมํ วา เทเสตุํ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ วา ทาตุํ คจฺฉนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คนฺตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ตถา อาคนฺตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน คจฺฉติ, อยํ อนาราธโก โหติ.

อุจฺจาวจานิ กรณียานีติ มหนฺตขุทฺทกานิ กมฺมานิ. ตตฺถ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา สมคฺเคน สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา กตฺตพฺพานิ เจติยมหาปาสาทปฏิสงฺขรณาทีนิ กมฺมานิ อุจฺจานิ นาม. จีวรโธวนรชนาทีนิ ขนฺธกปริยาปนฺนานิ จ อคฺคิสาลวตฺตาทีนิ อาภิสมาจาริกานิ อวจานิ นาม. ตตฺถ น ทกฺโข โหตีติ เตสุ กมฺเมสุ เฉโก สุสิกฺขิโต น โหติ. น อนลโสติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโน น โหติ; ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส กมฺมํ อตฺถี’’ติ สุตฺวา ปเคว ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา คพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา ยาวทตฺถํ สุปิตฺวา สายํ นิกฺขมติ. ตตฺรุปายายาติ เตสุ กมฺเมสุ อุปายภูตาย. วีมํสายาติ านุปฺปตฺติกวีมํสาย. ‘‘อิทเมวํ กตฺตพฺพํ, อิทเมวํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ ตสฺมึเยว ขเณ อุปฺปนฺนปฺาย สมนฺนาคโต น โหติ. น อลํ กาตุํ น อลํ สํวิธาตุนฺติ สหตฺถาปิ กาตุํ สมตฺโถ น โหติ; ‘‘คณฺหถ ภนฺเต, คณฺห ทหร, คณฺห สามเณร, สเจ ตุมฺเห วา น กริสฺสถ, อมฺเห วา น กริสฺสาม, โก ทานิ อิมํ กริสฺสตี’’ติ เอวํ อุสฺสาหํ ชเนตฺวา สํวิธาตุํ อฺมฺํ กาเรตุมฺปิ สมตฺโถ น โหติ. ภิกฺขูหิ ‘‘กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ วุตฺเต กิฺจิ โรคํ อปทิสติ, ภิกฺขูนํ กมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเปเนว วิจรติ, สีสเมว ทสฺเสติ, อยมฺปิ อนาราธโก โหติ.

น ติพฺพจฺฉนฺโท โหตีติ พลวจฺฉนฺโท น โหติ. อุทฺเทเสติ ปาฬิปริยาปุณเน. ปริปุจฺฉายาติ อตฺถสวเน. อธิสีเลติ ปาติโมกฺขสีเล. อธิจิตฺเตติ โลกิยสมาธิภาวนาย. อธิปฺายาติ โลกุตฺตรมคฺคภาวนาย.

สงฺกนฺโตโหตีติ อิธาคโต โหติ. ตสฺส สตฺถุโนติ ตสฺส ติตฺถายตนสามิกสฺส. ตสฺส ทิฏฺิยาติ ตสฺส สนฺตกาย ลทฺธิยา. อิทานิ สาเยว ลทฺธิ ยสฺมา ตสฺส ติตฺถกรสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ จ ทฬฺหคฺคาเหน คหิตา; ตสฺมา ตสฺส ขนฺติ รุจิ อาทาโยติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺสา’’ติ. อวณฺเณ ภฺมาเนติ ครหาย ภฺมานาย. อนภิรทฺโธติ อปริปุณฺณสงฺกปฺโป; โน ปคฺคหิตจิตฺโต. อุทคฺโคติ อพฺภุนฺนตกายจิตฺโต. อิทํ ภิกฺขเว สงฺฆาตนิกํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อนาราธนียสฺมินฺติ ภิกฺขเว ยมิทํ ตสฺส สตฺถุโน ตสฺเสว จ ลทฺธิยา อวณฺเณ ภฺมาเน ‘‘กึ อิเม ปรํ ครหนฺตี’’ติ กายวจีวิการนิพฺพตฺตกํ อนตฺตมนตฺตํ, พุทฺธาทีนฺจ อวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมนตฺตํ, ยฺจ ตสฺเสว สตฺถุโน ตสฺเสว จ ลทฺธิยา วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมนตฺตํ, พุทฺธาทีนฺจ วณฺณภณเน อนตฺตมนตฺตํ, อิทํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อนาราธนียสฺมึ สงฺฆาตนิกํ, อนาราธเก ปริวาสวตฺตํ อปูรเก กมฺเม อิทํ ลิงฺคํ, อิทํ ลกฺขณํ, อิทมจลปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อนาราธโก โข ภิกฺขเว อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพติ อิโต เอเกนปิ องฺเคน สมนฺนาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สุกฺกปกฺเข สพฺพํ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺพํ.

เอวํ อาราธโก โข ภิกฺขเวติ เอวํ นาติกาเลน คามปฺปเวสนา นาติทิวา ปฏิกฺกมนํ, น เวสิยาทิโคจรตา, สพฺรหฺมจารีนํ กิจฺเจสุ ทกฺขตาทิ, อุทฺเทสาทีสุ ติพฺพจฺฉนฺทตา, ติตฺถิยานํ อวณฺณภณเน อตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ อวณฺณภณเน อนตฺตมนตา, ติตฺถิยานํ วณฺณภณเน อนตฺตมนตา, พุทฺธาทีนํ วณฺณภณเน อตฺตมนตาติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ ติตฺถิยวตฺตานํ ปริปูรเณน อาราธโก ปริโตสโก ภิกฺขูนํ อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ.

สเจ ปน อุปสมฺปทมาฬเกปิ เอกํ วตฺตํ ภินฺทติ, ปุน จตฺตาโร มาเส ปริวสิตพฺพํ. ยถา ปน ภินฺนสิกฺขาย สิกฺขมานาย ปุน สิกฺขาปทานิ จ สิกฺขาสมฺมุติ จ ทิยฺยติ, เอวํ นยิมสฺส กิฺจิ ปุน ทาตพฺพมตฺถิ. ปุพฺเพ ทินฺนปริวาโสเยว หิ ตสฺส ปริวาโส. ตสฺมา ปุน จตฺตาโร มาเส ปริวสิตพฺพํ. สเจ ปริวสนฺโต อนฺตรา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตติ, โลกิยธมฺโม นาม กุปฺปนสภาโว, น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. จตฺตาโร มาเส ปูริตวตฺโตว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ปน ปริวสนฺโต จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคณฺหติ, อุปาทารูปานิ ปริจฺฉินฺทติ, นามรูปํ ววตฺถเปติ, ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ อารภติ, โลกิยธมฺโม นาม กุปฺปนสภาโว, เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ปน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภติ, ปริปุณฺณํเยว โหติ วตฺตํ. สมูหตานิ สพฺพทิฏฺิคตานิ อพฺพุฬฺหํ วิจิกิจฺฉาสลฺลํ ตํทิวสเมว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจปิ ติตฺถิยลิงฺเค ิโต โสตาปนฺโน โหติ, ปริวาสกิจฺจํ นตฺถิ, ตทเหว ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตพฺโพ.

อุปชฺฌายมูลกํ จีวรํ ปริเยสิตพฺพนฺติ อุปชฺฌายํ อิสฺสรํ กตฺวา ตสฺส จีวรํ ปริเยสิตพฺพํ. ปตฺตมฺปิ ตเถว. ตสฺมา ยทิ อุปชฺฌายสฺส ปตฺตจีวรํ อตฺถิ, ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ นตฺถิ, อฺเ ทาตุกามา โหนฺติ, เตหิปิ อุปชฺฌายสฺเสว ทาตพฺพํ ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ กตฺวา อิมสฺส เทถา’’ติ. กสฺมา? ติตฺถิยา นาม วิโลมา โหนฺติ ‘‘สงฺเฆน เม ปตฺตจีวรํ ทินฺนํ, กึ มยฺหํ ตุมฺเหสุ อายตฺต’’นฺติ วตฺวา โอวาทานุสาสนึ น กเรยฺยุํ, อุปชฺฌาเยน ปน อายตฺตชีวิกตฺตา ตสฺส วจนกโร ภวิสฺสติ. เตนสฺส ‘‘อุปชฺฌายมูลกํ จีวรํ ปริเยสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ภณฺฑุกมฺมายาติ เกโสโรปนตฺถํ. ภณฺฑุกมฺมกถา ปรโต อาคมิสฺสติ.

อคฺคิกาติ อคฺคิปริจรณกา. ชฏิลกาติ ตาปสา. เอเต ภิกฺขเว กิริยวาทิโนติ เอเต กิริยํ น ปฏิพาหนฺติ, ‘‘อตฺถิ กมฺมํ, อตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวํทิฏฺิกา. สพฺพพุทฺธา หิ เนกฺขมฺมปารมึ ปูรยมานา เอตเทว ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปูเรสุํ, มยาปิ ตเถว ปูริตา, น เอเตสํ สาสเน ปพฺพชฺชา วิโลมา, ตสฺมา อุปสมฺปาเทตพฺพา, น เตสํ ปริวาโส ทาตพฺโพติ. อิมาหํ ภิกฺขเว าตีนํ อาเวณิกํ ปริหารํ ทมฺมีติ อิมํ อหํ เตสํ ปาเฏกฺกํ โอทิสฺสกํ ปริหารํ ททามิ. กสฺมา เอวมาห? เต หิ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตาปิ สาสนสฺส อวณฺณกามา น โหนฺติ, อมฺหากํ าติเสฏฺสฺส สาสนนฺติ วณฺณวาทิโนว โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาหาติ.

อฺติตฺถิยปุพฺพวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ปฺจาพาธวตฺถุกถา

๘๘. มคเธสุปฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา โหนฺตีติ มคธนามเก ชนปเท มนุสฺสานฺจ อมนุสฺสานฺจ ปฺจ โรคา อุสฺสนฺนา วุฑฺฒิปฺปตฺตา ผาติปฺปตฺตา โหนฺติ. ชีวกโกมารภจฺจกถา จีวรกฺขนฺธเก อาวิภวิสฺสติ. น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพติ เย เต กุฏฺาทโย ปฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา, เตหิ ผุฏฺโ อภิภูโต น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ตตฺถ กุฏฺนฺติ รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํกิฺจิ กิฏิภททฺทุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปารุปเนหิ ปกติปฏิจฺฉนฺเน าเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. มุเข ปน หตฺถปาทปิฏฺเสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ นขปิฏฺิโต จ ขุทฺทกตรมฺปิ, น วฏฺฏติเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ. โคธาปิฏฺิสทิสจุณฺณโอกิรณกสรีรมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คณฺโฑติ เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปน โกลฏฺิมตฺเต อวฑฺฒนกปกฺเข ิโต วฏฺฏติ. มุขาทิเก อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกปกฺเข ิโตปิ น วฏฺฏติ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนาปิ สรีรํ สฺฉวึ กาเรตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อุณฺณิคณฺฑา นาม โหนฺติ โคถนา วิย องฺคุลิกา วิย จ ตตฺถ ตตฺถ ลมฺพนฺติ, เอเตปิ คณฺฑาเยว. เตสุ สติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทหรกาเล ขีรปิฬกา โยพฺพนฺนกาเล จ มุเข ขรปิฬกา นาม โหนฺติ, มหลฺลกกาเล นสฺสนฺติ, น ตา คณฺฑสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, ตาสุ สติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฺเ ปน สรีเร ขรปิฬกา นาม อปรา ปทุมกณฺณิกา นาม โหนฺติ, อฺา สาสปพีชกา นาม สาสปมตฺตา เอว สกลสรีรํ ผรนฺติ, ตา สพฺพา กุฏฺชาติกา เอว. ตาสุ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

กิลาโสติ น ภิชฺชนกํ น ปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ, เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหติ, ตสฺมึ กุฏฺเ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โสโสติ โสสพฺยาธิ; ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโร วา ยกฺขุมฺมาโร วา; ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ. อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปฺจาพาธวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ราชภฏวตฺถุกถา

๙๐. ราชภฏวตฺถุสฺมึ – ปจฺจนฺตํ อุจฺจินถาติ ปจฺจนฺตํ วฑฺเฒถ. โจเร ปลาเปตฺวา โจรภเยน วุฏฺิเต คาเม อาวาสาเปตฺวา อารกฺขํ ทตฺวา กสิกมฺมาทีนิ ปวตฺตาเปถาติ วุตฺตํ โหติ. ราชา ปน โสตาปนฺนตฺตา ‘‘โจเร ฆาเตถ, หนถา’’ติ น อาณาเปติ. อุปชฺฌายสฺส เทว สีสํฉินฺทิตพฺพนฺติอาทิ สพฺพํ ‘‘ปพฺพชฺชาย อุปชฺฌาโย เสฏฺโ, ตโต อาจริโย, ตโต คโณ’’ติ จินฺเตตฺวา อิทํ โวหาเร อฑฺฑวินิจฺฉเย อาคตนฺติ อาหํสุ. น ภิกฺขเว ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพติ เอตฺถ อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ, สพฺโพ ราชภโฏติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตสฺส ปน ปุตฺตนตฺตภาตุกา เย ราชโต ภตฺตเวตนํ น คณฺหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ราชโต ลทฺธํ นิพทฺธโภคํ วา มาสสํวจฺฉรปริพฺพยํ วา รฺโเยว นิยฺยาเตติ, ปุตฺตภาตุเก วา ตํ านํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ราชานํ ‘‘น ทานาหํ เทวสฺส ภโฏ’’ติ อาปุจฺฉติ, เยน วา ยํ กมฺมการณา เวตนํ คหิตํ, ตํ กมฺมํ กตํ โหติ, โย วา ปพฺพชสฺสูติ รฺา อนุฺาโต โหติ, ตมฺปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

ราชภฏวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

โจรวตฺถุกถา

๙๑. โจรวตฺถูสุ – มนุสฺสา ปสฺสิตฺวาติ เยหิ คิหิกาเล ทิฏฺปุพฺโพ เย จ ‘‘อยํ โส’’ติ อฺเสํ สุณนฺติ, เต ปสฺสิตฺวา อุพฺพิชฺชนฺติปิ…เป… ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ. เย ปน น ชานนฺติ, เตสํ ฆเรสุ ภิกฺขํ ลภติ. น ภิกฺขเวติ ภควา สยํ ธมฺมสฺสามี, ตสฺมา อายตึ อกรณตฺถาย ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ธชํ พนฺธิตฺวา วิย วิจรตีติ ธชพนฺโธ. มูลเทวาทโย วิย โลเก ปากโฏติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา โย คามฆาตํ วา ปนฺถทุหนํ วา นคเร สนฺธิจฺเฉทาทิกมฺมํ วา กโรนฺโต วิจรติ, ปฺายติ จ ‘‘อสุโก นาม อิทํ อิทํ กโรตี’’ติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน ราชปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถนฺโต คามฆาตาทีนิ กโรติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. ราชาโน หิ ตสฺมึ ปพฺพชิเต ตุสฺสนฺติ, สเจ ปน น ตุสฺสนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปุพฺเพ มหาชเน ปากโฏ โจโร ปจฺฉา โจรกมฺมํ ปหาย ปฺจสีลาทีนิ สมาทิยติ, ตฺเจ มนุสฺสา เอวํ ชานนฺติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. เย ปน อมฺพลพุชาทิโจรกา สนฺธิจฺเฉทาทิโจรา เอว วา อทิสฺสมานา เถยฺยํ กโรนฺติ, ปจฺฉาปิ อิมินา นาม อิทํ กตนฺติ น ปฺายนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๙๒. การํ ภินฺทิตฺวาติ อฏฺฏพนฺธนาทึ ภินฺทิตฺวา. อภยูวราติ เอตฺถ ภเยน อุปรมนฺตีติ ภยูวรา, เอเต ปน ลทฺธาภยตฺตา น ภยูวราติ อภยูวรา; ปการสฺส เจตฺถ วกาโร กโตติ เวทิตพฺโพ. น ภิกฺขเว การเภทโก ปพฺพาเชตพฺโพติ กาโร วุจฺจติ พนฺธนาคารํ. อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํกิฺจิ พนฺธนํ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา มุฺจิตฺวา วา วิวริตฺวา วา ปสฺสมานานํ วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส การเภทโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมา อีทิโส การเภทโก โจโร ทีปพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา ทีปนฺตรํ คโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน น โจโร, เกวลํ หตฺถกมฺมํ อกโรนฺโต ‘‘เอวํ โน อปลายนฺโต กริสฺสตี’’ติ ราชยุตฺตาทีหิ พทฺโธ, โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลาโตปิ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน คามนิคมปฏฺฏนาทีนิ เกณิยา คเหตฺวา ตํ อสมฺปาเทนฺโต พนฺธนาคารํ ปเวสิโต โหติ, โส ปลายิตฺวา อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. โยปิ กสิกมฺมาทีหิ ธนํ สมฺปาเทตฺวา ชีวนฺโต ‘‘นิธานํ อิมินา ลทฺธ’’นฺติ เปสุฺํ อุปสํหริตฺวา เกนจิ พนฺธาปิโต โหติ, ตํ ตตฺเถว ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ปลายิตฺวา คตํ ปน คตฏฺาเน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๙๓. ภิกฺขเว ลิขิตโกติ เอตฺถ ลิขิตโก นาม น เกวลํ ‘‘ยตฺถ ปสฺสติ ตตฺถ หนฺตพฺโพ’’ติ, อถ โข โย โกจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาโต, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทานิสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ อาหราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, อยํ ลิขิตโก นาม, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๙๔. กสาหโต กตทณฺฑกมฺโมติ เอตฺถ โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาหิ หฺติ, อยํ กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โส จ กสาหิ วา หโต โหตุ อทฺธทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. วเณ ปน ปากติเก กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ชาณูหิ วา กปฺปเรหิ วา นาฬิเกรปาสาณาทีหิ วา ฆาเตตฺวา มุตฺโต โหติ, สรีเร จสฺส คณฺิโย ปฺายนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ผาสุกํ กตฺวา เอว คณฺีสุ สนฺนิสินฺนาสุ ปพฺพาเชตพฺโพ.

๙๕. ลกฺขณาหโต กตทณฺฑกมฺโมติ เอตฺถ กตทณฺฑกมฺมภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺส ปน นลาเฏ วา อูรุอาทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส ยาว อลฺลวโณ โหติ, ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ, ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ น ปฺายติ, ติมณฺฑลวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ น วฏฺฏติ.

โจรวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อิณายิกวตฺถุกถา

๙๖. น ภิกฺขเว อิณายิโกติ เอตฺถ อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ, สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาถเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาถเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาถเปตุํ อิสฺสรา, ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อิตรํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส าติสาโลหิตา ‘‘มยํ ทสฺสาม, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อิณํ อตฺตโน ภารํ กโรนฺติ, อฺโ วา โกจิ ตสฺส อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ นํ, อหํ อิณํ ทสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. เตสุ อสติ ภิกฺขุนา ตถารูปสฺส อุปฏฺากสฺสาปิ อาโรเจตพฺพํ ‘‘สเหตุโก สตฺโต อิณปลิโพเธน น ปพฺพชตี’’ติ. สเจ โส ปฏิปชฺชติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ อตฺถิ, ‘‘เอตํ ทสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน เนว าตกาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, น อตฺตโน ธนํ อตฺถิ, ‘‘ปพฺพาเชตฺวา ภิกฺขาย จริตฺวา โมเจสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปพฺพาเชติ ทุกฺกฏํ. ปลาโตปิ อาเนตฺวา ทาตพฺโพ. โน เจ เทติ, สพฺพํ อิณํ คีวา โหติ. อชานิตฺวา ปพฺพาชยโต อนาปตฺติ. ปสฺสนฺเตน ปน อาเนตฺวา อิณสามิกานํ ทสฺเสตพฺโพ. อปสฺสนฺตสฺส คีวา น โหติ.

สเจ อิณายิโก อฺํ เทสํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิยมาโนปิ ‘‘นาหํ กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมี’’ติ วตฺวา ปพฺพชติ, อิณสามิโก จ ตํ ปริเยสนฺโต ตตฺถ คจฺฉติ, ทหโร ตํ ทิสฺวา ปลายติ, โส จ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ ภนฺเต เกน ปพฺพาชิโต, มม เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ปลาโต’’ติ วทติ, เถเรน วตฺตพฺพํ ‘‘มยา อุปาสก ‘อณโณ อห’นฺติ วทนฺโต ปพฺพาชิโต, กึ ทานิ กโรมิ, ปสฺส เม ปตฺตจีวรมตฺต’’นฺติ อยํ ตตฺถ สามีจิ. ปลาเต ปน คีวา น โหติ.

สเจ ปน นํ เถรสฺส สมฺมุขาว ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อิณายิโก’’ติ วทติ, ‘‘ตว อิณายิกํ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘ปพฺพชิโต อยํ อิทานิ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ วทติ, เถเรน ‘‘ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิสฺส ปลาเต คีวา น โหติ. สเจ ปน เถโร ‘‘กุหึ ทานิ อยํ คมิสฺสติ, อิเธว อจฺฉตู’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, คีวา โหติ. สเจ โส สเหตุกสตฺโต โหติ วตฺตสมฺปนฺโน, เถเรน ‘‘อีทิโส อย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิณสามิโก เจ ‘‘สาธู’’ติ วิสฺสชฺเชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. สเจ ปน ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒํ เทถา’’ติ วทติ, ทาตพฺพํ. อปเรน สมเยน อติอาราธโก โหติ, ‘‘สพฺพํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ทาตพฺพเมว. สเจ ปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ กุสโล โหติ พหูปกาโร ภิกฺขูนํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ปริเยสิตฺวาปิ อิณํ ทาตพฺพเมวาติ.

อิณายิกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ทาสวตฺถุกถา

๙๗. น ภิกฺขเว ทาโสติ เอตฺถ จตฺตาโร ทาสา – อนฺโตชาโต, ธนกฺกีโต, กรมรานีโต, สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติ. ตตฺถ อนฺโตชาโต นาม ชาติทาโส ฆรทาสิยา ปุตฺโต. ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุตฺโต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโต. เอเต ทฺเวปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ปพฺพาเชนฺเตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาสํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพา.

กรมรานีโต นาม ติโรรฏฺํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฏฺโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อนฺโตรฏฺเเยว วา กตาปราธํ กิฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติ. ตตฺถ สพฺเพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโย. เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสนฺโต วา พนฺธนาคาเร พทฺโธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปลายิตฺวา ปน คโต, คตฏฺาเน ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺา ตุฏฺเน ‘‘กรมรานีตเก มุฺจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนา โมกฺเข กเต ปพฺพาเชตพฺโพว.

สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโต. ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหึสโคปกาทโย วิย, ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺโ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ภุชิสฺสิตฺถิโย อสํยตา วณฺณทาสีหิ สทฺธึ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุตฺเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏติ. ภฏิปุตฺตกคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพา. วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ภุชิสฺเส ปน กตฺวา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺโตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามิเก เทมาติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทินฺโน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทุคฺคตมนุสฺสา สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามาติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา, มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสฺส าตกา วา อุปฏฺากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ อตฺตโนวาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตีติ อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. อชานนฺโต ปพฺพาเชตฺวา วา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฏฺฏติ.

อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธึ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ปุตฺตํ ปฏิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิ. อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กฺจิ าตกํ ปสฺสามี’’ติ. ‘‘ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธึ ปลายิตฺวา อิธ วสามี’’ติ. สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺาสิ. ‘‘อติจฺฉถ ภนฺเต’’ติ วุตฺเตปิ นาติกฺกมิ, เต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? อตฺถิ ภนฺเต. อหํ ตสฺสา ปุตฺโต, สเจ มํ ตุมฺเห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุมฺเห มยฺหํ สามิกาติ . เต หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา ภนฺเต ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฏิชคฺคนฺตา. เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

ทาสวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถา

๙๘-๙. กมฺมารภณฺฑูติ ตุลาธารมุณฺฑโก สุวณฺณการปุตฺโต, ปฺจสิโข ตรุณทารโกติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายาติ สงฺฆํ ภณฺฑุกมฺมตฺถาย อาปุจฺฉิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตตฺรายํ อาปุจฺฉนวิธิ – สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ ภนฺเต อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส ปพฺพาชนํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว.

สเจ สภาคฏฺานํ โหติ, ทส วา วีสํ วา ตึสํ วา ภิกฺขู วสนฺตีติ ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เตสํ ิโตกาสํ วา นิสินฺโนกาสํ วา คนฺตฺวาปิ ปุริมนเยเนว อาปุจฺฉิตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ วินาว ทหรภิกฺขู วา สามเณเร วา เปเสตฺวาปิ ‘‘เอโก ภนฺเต ปพฺพชฺชาเปกฺโข อตฺถิ ตสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามา’’ติอาทินา นเยน อาปุจฺฉาเปตุํ วฏฺฏติ.

สเจ เกจิ ภิกฺขู เสนาสนํ วา คุมฺพาทีนิ วา ปวิสิตฺวา นิทฺทายนฺติ วา สมณธมฺมํ วา กโรนฺติ, อาปุจฺฉกา จ ปริเยสนฺตาปิ อทิสฺวา ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหี’’ติ สฺิโน โหนฺติ, ปพฺพชฺชา นาม ลหุกํ กมฺมํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต สุปพฺพชิโตว ปพฺพาเชนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.

สเจ ปน มหาวิหาโร โหติ อเนกภิกฺขุสหสฺสาวาโส, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตุมฺปิ ทุกฺกรํ, ปเคว ปฏิปาฏิยา อาปุจฺฉิตุํ, ขณฺฑสีมายํ วา ตฺวา นทีสมุทฺทาทีนิ วา คนฺตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน นวมุณฺโฑ วา โหติ วิพฺภนฺตโก วา นิคณฺาทีสุ อฺตโร วา ทฺวงฺคุลเกโส วา อูนทฺวงฺคุลเกโส วา, ตสฺส เกสจฺเฉทนกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ภณฺฑุกมฺมํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาทิสํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ทฺวงฺคุลาติริตฺตเกโส ปน โย โหติ อนฺตมโส เอกสิขามตฺตธโรปิ, โส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อุปาลิวตฺถุ มหาวิภงฺเค วุตฺตนยเมว.

๑๐๐. อหิวาตกโรเคนาติ มาริพฺยาธินา; ยตฺร หิ โส โรโค อุปฺปชฺชติ, ตํ กุลํ ทฺวิปทจตุปฺปทํ สพฺพํ นสฺสติ, โย ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา ปลายติ, ติโรคามาทิคโต วา โหติ, โส มุจฺจติ. ตถา เจตฺถ ปิตาปุตฺตา มุจฺจึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปิตาปุตฺตกา เสสา โหนฺตี’’ติ.

กากุฑฺเฑปกนฺติ โย วามหตฺเถน เลฑฺฑุํ คเหตฺวา นิสินฺโน สกฺโกติ อาคตาคเต กาเก อุฑฺฑาเปตฺวา ปุรโต นิกฺขิตฺตํ ภตฺตํ ภุฺชิตุํ, อยํ กากุฑฺเฑปโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๐๒. อิตฺตโรติ อปฺปมตฺตโก; กติปาหเมว วาโส ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

๑๐๓. โอคเณนาติ ปริหีนคเณน; อปฺปมตฺตเกน ภิกฺขุสงฺเฆนาติ อตฺโถ. อพฺยตฺเตน ยาวชีวนฺติ เอตฺถ สจายํ วุฑฺฒตรํ อาจริยํ น ลภติ, อุปสมฺปทาย สฏฺิวสฺโส วา สตฺตติวสฺโส วา โหตุ, นวกตรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส สนฺติเก อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม อาวุโส โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพว. คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺเตนาปิ อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามิ อาจริยา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพอาปุจฺฉเนสุ. ปฺจกฉกฺเกสุ เจตฺถ ยตฺตกํ สุตํ นิสฺสยมุตฺตกสฺส อิจฺฉิตพฺพํ, ตํ ภิกฺขุโนวาทกวณฺณนายํ วุตฺตํ. ตสฺส นตฺถิตาย จ อปฺปสฺสุโต; อตฺถิตาย จ พหุสฺสุโตติ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนเยเนว.

กมฺมารภณฺฑุวตฺถาทิกถา นิฏฺิตา.

ราหุลวตฺถุกถา

๑๐๕. เยนกปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามีติ เอตฺถ อยํ อนุปุพฺพิกถา. สุทฺโธทนมหาราชา กิร โพธิสตฺตสฺส อภินิกฺขมนทิวสโต ปฏฺาย ‘‘มม ปุตฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสามีติ นิกฺขนฺโต, ชาโต นุ โข พุทฺโธ’’ติ ปวตฺติสวนตฺถํ โอหิตโสโตว วิหรติ. โส ภควโต ปธานจริยฺจ สมฺโพธิฺจ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนาทีนิ จ สุณนฺโต ‘‘อิทานิ กิร เม ปุตฺโต ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรตี’’ติ สุตฺวา เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘อหํ ตาต วุฑฺโฒ มหลฺลโก, สาธุ เม ชีวนฺตสฺเสว ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ปุริสสหสฺสปริวาโร ราชคหํ คนฺตฺวา ภควโต ปาเท วนฺทิตฺวา นิสีทิ. อถสฺส ภควา ธมฺมกถํ กเถสิ, โส ปสีทิตฺวา ปพฺพชฺชฺเจว อุปสมฺปทฺจ ยาจิ. ตโต นํ ภควา เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปาเทสิ , โส สปริโส อรหตฺตํ ปตฺวา ตตฺเถว ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน วิหาสิ. ราชา เตเนว อุปาเยน อปเรปิ อฏฺ ทูเต ปหิณิ, เตปิ สพฺเพ สปริสา ตเถว อรหตฺตํ ปตฺวา ตตฺเถว วิหรึสุ. ‘‘อิมินา นาม การเณน เต นาคจฺฉนฺตี’’ติ รฺโ โกจิ ปวตฺติมตฺตมฺปิ อาโรเจนฺโต นตฺถิ.

อถ ราชา โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกทิวสํชาตํ กาฬุทายึ นาม อมจฺจํ ปหิณิตุกาโม ปุริมนเยเนว ยาจิ, โส ‘‘สเจ อหํ ปพฺพชิตุํ ลภามิ, ทสฺเสสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ราชา ‘‘ปพฺพชิตฺวาปิ เม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ ปหิณิ; โสปิ ปุริสสหสฺสปริวาโร คนฺตฺวา ตเถว สปริวาโร อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส เอกทิวสํ สมฺภเตสุ สพฺพสสฺเสสุ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเตสุ ชนปทมนุสฺเสสุ ปุปฺผิเตสุ ถลชชลชปุปฺเผสุ ปฏิปชฺชนกฺขเม มคฺเค ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา สฏฺิมตฺตาหิ คาถาหิ คมนวณฺณํ วณฺเณสิ. ภควา ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภนฺเต ตุมฺหากํ ปิตา สุทฺโธทนมหาราชา มหลฺลโกมฺหิ, ชีวนฺตสฺเสว เม ปุตฺตํ ทสฺเสหี’’ติ มํ เปเสสิ, สาธุ ภนฺเต ภควา าตกานํ สงฺคหํ กโรตุ, กาโล จาริกํ ปกฺกมิตุนฺติ. เตน หิ สงฺฆสฺส อาโรเจหิ, ‘‘ภิกฺขู คมิยวตฺตํ ปูเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ ภนฺเต’’ติ เถโร ตถา อกาสิ. ภควา องฺคมคธวาสีนํ กุลปุตฺตานํ ทสหิ สหสฺเสหิ กปิลวตฺถุวาสีนํ ทสหีติ สพฺเพเหว วีสติสหสฺเสหิ ขีณาสเวหิ ปริวุโต ราชคหา นิกฺขมิตฺวา ราชคหโต สฏฺิโยชนิกํ กปิลวตฺถุํ ทิวเส ทิวเส โยชนํ คจฺฉนฺโต ทฺวีหิ มาเสหิ ปาปุณิสฺสามีติ อตุริตจาริกํ ปกฺกามิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยน กปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามี’’ติ.

เอวํ ปกฺกนฺเต จ ภควติ อุทายิตฺเถโร นิกฺขนฺตทิวสโต ปฏฺาย สุทฺโธทนมหาราชสฺส เคเห ภตฺตกิจฺจํ กโรติ. ราชา เถรํ ปริวิสิตฺวา ปตฺตํ คนฺธจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา อุตฺตมโภชนสฺส ปูเรตฺวา ‘‘ภควโต เทหี’’ติ เถรสฺส หตฺเถ เปติ. เถโรปิ ตเถว กโรติ. อิติ ภควา อนฺตรามคฺเค รฺโเยว ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ. เถโรปิ จ ภตฺตกิจฺจาวสาเน ทิวเส ทิวเส รฺโ อาโรเจติ ‘‘อชฺช ภควา เอตฺตกํ อาคโต’’ติ, พุทฺธคุณปฏิสํยุตฺตาย จ กถาย สากิยานํ ภควติ สทฺธํ อุปฺปาเทสิ. เตเนว นํ ภควา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ กุลปฺปสาทกานํ ยทิทํ กาฬุทายี’’ติ เอตทคฺเค เปสิ.

สากิยาปิ โข อนุปฺปตฺเต ภควติ ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สนฺนิปติตฺวา ภควโต วสนฏฺานํ วีมํสมานา นิคฺโรธสกฺกสฺส อาราโม รมณีโยติ สลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ สพฺพํ ปฏิชคฺคนวิธึ กาเรตฺวา คนฺธปุปฺผาทิหตฺถา ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺตา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต ทหรทหเร นาคริกทารเก จ ทาริกาโย จ ปมํ ปหิณึสุ, ตโต ราชกุมาเร จ ราชกุมาริกาโย จ เตสํ อนนฺตรา สามํ คนฺตฺวา คนฺธปุปฺผจุณฺณาทีหิ ปูชยมานา ภควนฺตํ คเหตฺวา นิคฺโรธารามเมว อคมํสุ. ตตฺร ภควา วีสติสหสฺสขีณาสวปริวุโต ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ. สากิยา มานชาติกา มานถทฺธา, เต ‘‘สิทฺธตฺถกุมาโร อมฺเหหิ ทหรตโรว อมฺหากํ กนิฏฺโ, ภาคิเนยฺโย, ปุตฺโต, นตฺตา’’ติ จินฺเตตฺวา ทหรทหเร ราชกุมาเร อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเห วนฺทถ, มยํ ตุมฺหากํ ปิฏฺิโต นิสีทิสฺสามา’’ติ.

เตสุ เอวํ นิสินฺเนสุ ภควา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ‘‘น มํ าตี วนฺทนฺติ, หนฺท เน วนฺทาปยิสฺสามี’’ติ อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อิทฺธิยา อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา เตสํ สีเส ปาทปํสุํ โอกิรมาโน วิย กณฺฑมฺพมูเล ยมกปาฏิหาริยสทิสํ ปาฏิหาริยมกาสิ. ราชา ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ภควา ตุมฺหากํ มงฺคลทิวเส พฺราหฺมณสฺส วนฺทนตฺถํ อุปนีตานํ ปาเท โว ปริวตฺติตฺวา พฺราหฺมณสฺส มตฺถเก ปติฏฺิเต ทิสฺวาปิ อหํ ตุมฺเห วนฺทึ, อยํ เม ปมวนฺทนา. วปฺปมงฺคลทิวเส ชมฺพุจฺฉายาย สิริสยเน นิปนฺนานํ โว ชมฺพุจฺฉายาย อปริวตฺตนํ ทิสฺวาปิ ปาเท วนฺทึ, อยํ เม ทุติยวนฺทนา. อิทานิ อิมํ อทิฏฺปุพฺพํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวาปิ ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทามิ, อยํ เม ตติยวนฺทนา’’ติ.

สุทฺโธทนมหาราเชน ปน วนฺทิเต ภควติ อวนฺทิตฺวา ิโต นาม เอกสากิโยปิ นาโหสิ, สพฺเพเยว วนฺทึสุ. อิติ ภควา าตโย วนฺทาเปตฺวา อากาสโต โอรุยฺห ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสินฺเน ภควติ สิขาปฺปตฺโต าติสมาคโม อโหสิ, สพฺเพ เอกคฺคา สนฺนิปตึสุ. ตโต มหาเมโฆ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิ, ตมฺพวณฺณมุทกํ เหฏฺา วิรวนฺตํ คจฺฉติ. กสฺสจิ สรีเร เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น ปตติ, ตํ ทิสฺวา สพฺเพ อจฺฉริยพฺภุตชาตา อเหสุํ. ภควา ‘‘น อิทาเนว มยฺหํ าติสมาคเม โปกฺขรวสฺสํ วสฺสติ, อตีเตปิ วสฺสี’’ติ อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา เวสฺสนฺตรชาตกํ กเถสิ. ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สพฺเพ อุฏฺาย วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. เอโกปิ ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คโต นาม นตฺถิ.

ภควา ทุติยทิวเส วีสติภิกฺขุสหสฺสปริวาโร กปิลวตฺถุํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ, น โกจิ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา นิมนฺเตสิ วา ปตฺตํ วา อคฺคเหสิ. ภควา อินฺทขีเล ิโต อาวชฺเชสิ – ‘‘กถํ นุ โข ปุพฺเพ พุทฺธา กุลนคเร ปิณฺฑาย จรึสุ, กึ อุปฺปฏิปาฏิยา อิสฺสรชนานํ ฆรานิ อคมํสุ, อุทาหุ สปทานจาริกํ จรึสู’’ติ. ตโต เอกพุทฺธสฺสปิ อุปฺปฏิปาฏิยา คมนํ อทิสฺวา ‘‘มยาปิ อิทานิ อยเมว วํโส อยํ ปเวณี ปคฺคเหตพฺพา, อายติฺจ เม สาวกาปิ มเมว อนุสิกฺขนฺตา ปิณฺฑจาริยวตฺตํ ปูเรสฺสนฺตี’’ติ โกฏิยํ นิวิฏฺเคหโต ปฏฺาย สปทานํ ปิณฺฑาย จรติ. ‘‘อยฺโย กิร สิทฺธตฺถกุมาโร ปิณฺฑาย จรตี’’ติ จตุภูมกาทีสุ ปาสาเทสุ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา มหาชโน ทสฺสนพฺยาวโฏ อโหสิ. ราหุลมาตาปิ เทวี ‘‘อยฺยปุตฺโต กิร อิมสฺมึเยว นคเร มหตา ราชานุภาเวน สุวณฺณสิวิกาทีหิ วิจริตฺวา อิทานิ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายวตฺถวสโน กปาลหตฺโถ ปิณฺฑาย จรติ, ‘‘โสภติ นุ โข โน วา’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลกยมานา ภควนฺตํ นานาวิราคสมุชฺชลาย สรีรปฺปภาย นครวีถิโย โอภาเสตฺวา พุทฺธสิริยา วิโรจมานํ ทิสฺวา อุณฺหีสโต ปฏฺาย ยาว ปาทตลา นรสีหคาถาหิ นาม อฏฺหิ คาถาหิ อภิตฺถวิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ปุตฺโต ปิณฺฑาย จรตี’’ติ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สํวิคฺคหทโย หตฺเถน สาฏกํ สณฺาปยมาโน ตุริตตุริตํ นิกฺขมิตฺวา เวเคน คนฺตฺวา ภควโต ปุรโต ตฺวา อาห – ‘‘กึ ภนฺเต อมฺเห ลชฺชาเปถ, กิมตฺถํ ปิณฺฑาย จรถ, กึ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ น สกฺกา ภตฺตํ ลทฺธุนฺติ เอวํสฺิโน อหุวตฺถา’’ติ. วํสจาริตฺตเมตํ มหาราช อมฺหากนฺติ. นนุ ภนฺเต อมฺหากํ มหาสมฺมตขตฺติยวํโส นาม วํโส, ตตฺถ จ เอกขตฺติโยปิ ภิกฺขาจาโร นาม นตฺถีติ. อยํ มหาราช วํโส นาม ตว วํโส, อมฺหากํ ปน พุทฺธวํโส วํโส นาม, สพฺพพุทฺธา จ ปิณฺฑจาริกา อเหสุนฺติ อนฺตรวีถิยํ ิโตว –

‘‘อุตฺติฏฺเ นปฺปมชฺเชยฺย, ธมฺมํ สุจริตํ จเร;

ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จา’’ติ.

อิมํ คาถมาห. คาถาปริโยสาเน ราชา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉากาสิ.

‘‘ธมฺมํ จเร สุจริตํ, น นํ ทุจฺจริตํ จเร;

ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จา’’ติ.

อิมํ ปน คาถํ สุตฺวา สกทาคามิผเล ปติฏฺาสิ, ธมฺมปาลชาตกํ สุตฺวา อนาคามิผเล ปติฏฺาสิ, มรณสมเย เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สิริสยเน นิปนฺโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณิ. อรฺวาเสน ปธานานุโยคกิจฺจํ รฺโ นาโหสิ.

โสตาปตฺติผลฺจ สจฺฉิกตฺวา เอว ปน ภควโต ปตฺตํ คเหตฺวา สปริสํ ภควนฺตํ มหาปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน สพฺพํ อิตฺถาคารํ อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิ เปตฺวา ราหุลมาตรํ. สา ปน ‘‘คจฺฉ อยฺยปุตฺตํ วนฺทาหี’’ติ ปริชเนน วุจฺจมานาปิ ‘‘สเจ มยฺหํ คุโณ อตฺถิ, สยเมว อยฺยปุตฺโต อาคมิสฺสติ , อาคตํ นํ วนฺทิสฺสามี’’ติ วตฺวา น อคมาสิ. อถ ภควา ราชานํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ราชธีตาย สิริคพฺภํ คนฺตฺวา ‘‘ราชธีตา ยถารุจิยา วนฺทมานา น กิฺจิ วตฺตพฺพา’’ติ วตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. สา เวเคน อาคนฺตฺวา โคปฺผเกสุ คเหตฺวา ปาทปิฏฺิยํ สีสํ ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ยถาชฺฌาสยํ วนฺทิ.

ราชา ราชธีตาย ภควติ สิเนหพหุมานาทิคุณสมฺปตฺตึ กเถสิ. ภควา ‘‘อนจฺฉริยํ มหาราช ยํ อิทานิ ปริปกฺเก าเณ ตยา รกฺขิยมานา ราชธีตา อตฺตานํ รกฺขิ, สา ปุพฺเพ อนารกฺขา ปพฺพตปาเท วิจรมานา อปริปกฺเก าเณ อตฺตานํ รกฺขี’’ติ วตฺวา จนฺทกินฺนรีชาตกํ กเถสิ.

ตํทิวสเมว จ นนฺทราชกุมารสฺส เกสวิสฺสชฺชนํ ปฏฺฏพนฺโธ ฆรมงฺคลํ อาวาหมงฺคลํ ฉตฺตมงฺคลนฺติ ปฺจ มหามงฺคลานิ โหนฺติ. ภควา นนฺทํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา มงฺคลํ วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ชนปทกลฺยาณี กุมารํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ตุวฏํ โข อยฺยปุตฺต อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา โอโลเกสิ. โสปิ ภควนฺตํ ‘‘ปตฺตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตุํ อวิสหมาโน วิหารํเยว อคมาสิ. ตํ อนิจฺฉมานํเยว ภควา ปพฺพาเชสิ. อิติ ภควา กปิลปุรํ อาคนฺตฺวา ทุติยทิวเส นนฺทํ ปพฺพาเชสิ.

สตฺตเม ทิวเส ราหุลมาตา กุมารํ อลงฺกริตฺวา ภควโต สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘ปสฺส ตาต เอตํ วีสติสหสฺสสมณปริวุตํ สุวณฺณวณฺณํ พฺรหฺมรูปวณฺณํ สมณํ, อยํ เต ปิตา, เอตสฺส มหนฺตา นิธโย อเหสุํ, ตฺยสฺส นิกฺขมนโต ปฏฺาย น ปสฺสาม, คจฺฉ นํ ทายชฺชํ ยาจ, อหํ ตาต กุมาโร ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา จกฺกวตฺตี ภวิสฺสามิ, ธเนน เม อตฺโถ, ธนํ เม เทหิ, สามิโก หิ ปุตฺโต ปิตุสนฺตกสฺสา’’ติ. ราหุลกุมาโร ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวาว ปิตุสิเนหํ ปฏิลภิตฺวา หฏฺจิตฺโต ‘‘สุขา เต สมณ ฉายา’’ติ วตฺวา อฺมฺปิ พหุํ อตฺตโน อนุรูปํ วทนฺโต อฏฺาสิ. ภควา กตภตฺตกิจฺโจ อนุโมทนํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. กุมาโรปิ ‘‘ทายชฺชํ เม สมณ เทหิ, ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ ภควนฺตํ อนุพนฺธิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน กปิลวตฺถุ…เป… ทายชฺชํ เม สมณ เทหี’’ติ.

อถโข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสีติ ภควา กุมารํ น นิวตฺตาเปสิ, ปริชโนปิ ภควตา สทฺธึ คจฺฉนฺตํ นิวตฺเตตุํ น วิสหติ. อถ อารามํ คนฺตฺวา ‘‘ยํ อยํ ปิตุสนฺตกํ ธนํ อิจฺฉติ, ตํ วฏฺฏานุคตํ สวิฆาตกํ, หนฺทสฺส โพธิมณฺเฑ ปฏิลทฺธํ สตฺตวิธํ อริยธนํ เทมิ, โลกุตฺตรทายชฺชสฺส นํ สามิกํ กโรมี’’ติ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ. อามนฺเตตฺวา จ ปนาห – ‘‘เตน หิ ตฺวํ สาริปุตฺต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติ. ยสฺมา อยํ ทายชฺชํ ยาจติ, ตสฺมา นํ โลกุตฺตรทายชฺชปฏิลาภาย ปพฺพาเชหีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยา สา ภควตา พาราณสิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ อนุฺาตา, ตโต ยสฺมา อุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ครุภาเว เปตฺวา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปทา อนุฺาตา, ปพฺพชฺชา ปน เนว ปฏิกฺขิตฺตา, น ปุน อนุฺาตา, ตสฺมา อนาคเต ภิกฺขูนํ วิมติ อุปฺปชฺชิสฺสติ – ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา นาม ปุพฺเพ อุปสมฺปทาสทิสา, กึ นุ โข อิทานิปิ อุปสมฺปทา วิย กมฺมวาจาย เอว กตฺตพฺพา, อุทาหุ สรณคมเนหี’’ติ. อิมฺจ ปนตฺถํ วิทิตฺวา ภควา ปุน ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺชํ อนุชานิตุกาโม, ตสฺมา ธมฺมเสนาปติ ตํ ภควโต อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ภควนฺตํ ปุน ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตุกาโม อาห – ‘‘กถาหํ ภนฺเต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชมี’’ติ.

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชสีติ กุมารสฺส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เกเส ฉินฺทิตฺวา กาสายานิ ทตฺวา สรณานิ อทาสิ. มหากสฺสปตฺเถโร โอวาทาจริโย อโหสิ. ยสฺมา ปน อุปชฺฌายมูลกา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ, อุปชฺฌาโยว ตตฺถ อิสฺสโร, น อาจริโย, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ราหุลกุมารํ ปพฺพาเชสี’’ติ.

เอวํ ‘‘กุมาโร ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา อุปฺปนฺนสํเวเคน หทเยน อถโข สุทฺโธทโน สกฺโกติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมา อุฺฉาจริยาย ชีวโต ปพฺพชิตสฺส อวิเสเสน ‘‘วรํ ยาจามี’’ติ วุตฺเต ‘‘ยาจสฺสู’’ติ วจนํ อปฺปติรูปํ, น จ พุทฺธานํ อาจิณฺณํ, ตสฺมา ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข โคตม ตถาคตา’’ติ วุตฺตํ. ยฺจ ภนฺเต กปฺปติ ยฺจ อนวชฺชนฺติ ยํ ตุมฺหากฺเจว ทาตุํ กปฺปติ, อนวชฺชฺจ โหติ, มม จ สมฺปฏิจฺฉนปจฺจยา วิฺูหิ น ครหิตพฺพํ , ตํ ยาจามีติ อตฺโถ. ตถา นนฺเท อธิมตฺตํ ราหุเลติ ยเถว กิร โพธิสตฺตํ เอวํ นนฺทมฺปิ ราหุลมฺปิ มงฺคลทิวเส เนมิตฺตกา ‘‘จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อถ ราชา ‘‘ปุตฺตสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต ภควโต ปพฺพชฺชาย มหนฺตํ อิจฺฉาวิฆาตํ ปาปุณิ. ตโต ‘‘นนฺทสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ชเนสิ, ตมฺปิ ภควา ปพฺพาเชสิ. อิติ ตมฺปิ ทุกฺขํ อธิวาเสตฺวา ‘‘อิทานิ ราหุลสฺส จกฺกวตฺติสิรึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ชเนสิ, ตมฺปิ ภควา ปพฺพาเชสิ. เตนสฺส ‘‘อิทานิ กุลวํโสปิ ปจฺฉินฺโน, กุโต จกฺกวตฺติสิรี’’ติ อธิกตรํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตถา นนฺเท อธิมตฺตํ ราหุเล’’ติ. รฺโ ปน อิโต ปจฺฉา อนาคามิผลปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

สาธุ ภนฺเต อยฺยาติ อิทํ กสฺมา อาห? โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘ยตฺร หิ นาม อหมฺปิ พุทฺธมามโก ธมฺมมามโก สงฺฆมามโก สมาโน อตฺตโน ปิยตรปุตฺเต ปพฺพาชิยมาเน าติวิโยคทุกฺขํ อธิวาเสตุํ น สกฺโกมิ, อฺเ ชนา ปุตฺตนตฺตเกสุ ปพฺพาชิเตสุ กถํ อธิวาเสสฺสนฺติ, ตสฺมา อฺเสมฺปิ ตาว เอวรูปํ ทุกฺขํ มา อโหสี’’ติ อาห. ภควา ‘‘สาสเน นิยฺยานิกการณํ ราชา วทตี’’ติ ธมฺมกถํ กตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ.

ตตฺถ มาตาปิตูหีติ ชนนิชนเก สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ทฺเว อตฺถิ, ทฺเวปิ อาปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ปิตา มโต มาตา วา, โย ชีวติ โส อาปุจฺฉิตพฺโพ. ปพฺพชิตาปิ อาปุจฺฉิตพฺพาว. อาปุจฺฉนฺเตน สยํ วา คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ, อฺโ วา เปเสตพฺโพ, โส เอว วา เปเสตพฺโพ ‘‘คจฺฉ มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ. สเจ ‘‘อนุฺาโตมฺหี’’ติ วทติ, สทฺทหนฺเตน ปพฺพาเชตพฺโพ. ปิตา สยํ ปพฺพชิโต ปุตฺตมฺปิ ปพฺพาเชตุกาโม โหติ, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. มาตา วา ธีตรํ ปพฺพาเชตุกามา, ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. ปิตา ปุตฺตทาเรน อนตฺถิโก ปลายิ, มาตา ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถา’’ติ ปุตฺตํ ภิกฺขูนํ เทติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘จิตฺตเกฬิยํ กีฬิตุํ ปลาโต’’ติ วทติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มาตา เกนจิ ปุริเสน สทฺธึ ปลาตา โหติ, ปิตา ปน ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ เทติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิตา วิปฺปวุตฺโถ โหติ, มาตา ปุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ อนุชานาติ, ‘‘ปิตา ตสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปิตรา, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

มาตาปิตโร มตา, ทารโก จูฬมาตาทีนํ สนฺติเก สํวทฺโธ, ตสฺมึ ปพฺพาชิยมาเน าตกา กลหํ วา กโรนฺติ, ขิยฺยนฺติ วา, ตสฺมา วิวาทุปจฺเฉทนตฺถํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชนฺตสฺส ปน อาปตฺติ นตฺถิ. ทหรกาเล คเหตฺวา โปสนกา มาตาปิตโร นาม โหนฺติ, เตสุปิ เอเสว นโย. ปุตฺโต อตฺตานํ นิสฺสาย ชีวติ, น มาตาปิตโร. สเจปิ ราชา โหติ, อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. มาตาปิตูหิ อนุฺาโต ปพฺพชิตฺวา ปุน วิพฺภมติ, สเจปิ สตกฺขตฺตุํ ปพฺพชิตฺวา วิพฺภมติ, อาคตาคตกาเล ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ วิพฺภมิตฺวา เคหํ อาคโต อมฺหากํ กมฺมํ น กโรติ, ปพฺพชิตฺวา ตุมฺหากํ วตฺตํ น ปูเรติ, นตฺถิ อิมสฺสาปุจฺฉนกิจฺจํ, อาคตาคตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ นิสฺสฏฺํ ปุน อนาปุจฺฉาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ ทหรกาเลเยว ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ทินฺโน, ยทา อิจฺฉถ, ตทา ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ ทินฺโน โหติ, โสปิ อาคตาคโต ปุน อนาปุจฺฉาว ปพฺพาเชตพฺโพ. ยํ ปน ทหรกาเลเยว ‘‘อิมํ ภนฺเต ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล นานุชานนฺติ, อยํ น อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชตพฺโพ. เอโก มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาคจฺฉติ, ‘‘อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘นาหํ คจฺฉามิ, สเจ มํ น ปพฺพาเชถ, วิหารํ วา ฌาเปมิ, สตฺเถน วา ตุมฺเห ปหรามิ, ตุมฺหากํ าตกอุปฏฺากานํ วา อารามจฺเฉทนาทีหิ อนตฺถํ อุปฺปาเทมิ, รุกฺขา วา ปติตฺวา มรามิ, โจรมชฺฌํ วา ปวิสามิ, เทสนฺตรํ วา คจฺฉามี’’ติ วทติ, ตํ ชีวสฺเสว รกฺขณตฺถาย ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺมา อมฺหากํ ปุตฺตํ ปพฺพาชยิตฺถา’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘รกฺขณตฺถาย นํ ปพฺพาชยิมฺห, ปฺายถ ตุมฺเห ปุตฺเตนา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘รุกฺขา ปติสฺสามี’’ติ อารุหิตฺวา ปน หตฺถปาเท มุฺจนฺตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติเยว.

เอโกปิ วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพ. โน เจ ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อติทูรฺเจ โหติ; ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘สเจ ทูรํ โหติ มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามา’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวฺจ วทนฺติ – ‘‘ภนฺเต เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ. ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนุฺาตํ โหติ ‘‘ภนฺเต อิมสฺมึ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ. ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติ.

ยาวตเกวา ปน อุสฺสหตีติ ยตฺตเก สกฺโกติ.

ราหุลวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา

๑๐๖. ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปุริมานํ ปฺจนฺนํ อติกฺกโม นาสนวตฺถุ , ปจฺฉิมานํ อติกฺกโม ทณฺฑกมฺมวตฺถุ.

๑๐๗. อปฺปติสฺสาติ ภิกฺขู เชฏฺกฏฺาเน อิสฺสริยฏฺาเน น เปนฺติ. อสภาควุตฺติกาติ สมานชีวิกา น ภวนฺติ, วิสภาคชีวิกาติ อตฺโถ. อลาภาย ปริสกฺกตีติ ยถา ลาภํ น ลภนฺติ; เอวํ ปรกฺกมติ. อนตฺถายาติ อุปทฺทวาย. อวาสายาติ ‘‘กินฺติ อิมสฺมึ อาวาเส น วเสยฺยุ’’นฺติ ปรกฺกมติ. อกฺโกสติ ปริภาสตีติ อกฺโกสติ เจว ภยทสฺสเนน จ ตชฺเชติ. เภเทตีติ เปสุฺํ อุปสํหริตฺวา เภเทติ. อาวรณํ กาตุนฺติ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ นิวารณํ กาตุํ. ยตฺถ วา วสติ ยตฺถ วา ปฏิกฺกมตีติ ยตฺถ วสติ วา ปวิสติ วา; อุภเยนาปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺตํ.

มุขทฺวาริกํ อาหารํ อาวรณํ กโรนฺตีติ ‘‘อชฺช มา ขาท, มา ภุฺชา’’ติ เอวํ นิวาเรนฺติ. น ภิกฺขเว มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘มา ขาท, มา ภุฺชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารํ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํ. ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ.

สิกฺขาปททณฺฑกมฺมวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถา

๑๐๘. ภิกฺขเว อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต, สเจ อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ อาทิโตว อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ กาตุํ วฏฺฏติเยว. ยถา จ สามเณรานํ เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อปลาเฬนฺตีติ ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ ทสฺสาม, จีวรํ ทสฺสามา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺานกรณตฺถํ สงฺคณฺหนฺติ. น ภิกฺขเว อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพาติ เอตฺถ สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสาปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นฺหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติ. สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติ.

อนุชานามิ ภิกฺขเว ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุนฺติ เอตฺถ กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตาสุ ตีสุ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาว อธิปฺเปตา, ตสฺมา โย ปาณาติปาตาทีสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ นานาอาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํ. สามเณโร หิ กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ มาเรตฺวา มงฺคุรณฺฑกมฺปิ ภินฺทิตฺวา นาเสตพฺพตํเยว ปาปุณาติ, ตาวเทวสฺส สรณคมนานิ จ อุปชฺฌายคฺคหณฺจ เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สงฺฆลาภํ น ลภติ, ลิงฺคมตฺตเมว เอกํ อวสิฏฺํ โหติ. โส สเจ อากิณฺณโทโสว โหติ, อายตึ สํวเร น ติฏฺติ, นิกฺกฑฺฒิตพฺโพ. อถ สหสา วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ ปุน สํวเร าตุกาโม โหติ, ลิงฺคนาสนกิจฺจํ นตฺถิ. ยถานิวตฺถปารุตสฺเสว สรณานิ ทาตพฺพานิ, อุปชฺฌาโย ทาตพฺโพ, สิกฺขาปทานิ ปน สรณคมเนเนว อิชฺฌนฺติ. สามเณรานฺหิ สรณคมนํ ภิกฺขูนํ อุปสมฺปทกมฺมวาจาสทิสํ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ, อิมินาปิ ทสสีลานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ อายตึ สํวเร ปติฏฺาปนตฺถํ ปุน ทาตพฺพานิ. สเจ ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานิ, ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานิ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ.

อทินฺนาทาเน ติณสลากมตฺเตนาปิ วตฺถุนา, อพฺรหฺมจริเย ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิปฺปฏิปตฺติยา, มุสาวาเท หสฺสาธิปฺปายตายปิ มุสา ภณิเต อสฺสมโณ โหติ, นาเสตพฺพตํ อาปชฺชติ. มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา. ยานิ ปนสฺส อิตรานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ, เตสุ ภินฺเนสุ น นาเสตพฺโพ, ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพํ. สิกฺขาปเท ปน ปุน ทินฺเนปิ อทินฺเนปิ วฏฺฏติ. ทณฺฑกมฺเมน ปน ปีเฬตฺวา อายตึ สํวเร ปนตฺถาย ทาตพฺพเมว. สามเณรานํ มชฺชปานํ สจิตฺตกํ ปาราชิกวตฺถุ, อยํ วิเสโส.

อวณฺณภาสเน ปน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน พุทฺธสฺส วา, สฺวากฺขาโตติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ธมฺมสฺส วา, สุปฺปฏิปนฺโนติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาสนฺโต รตนตฺตยํ นินฺทนฺโต ครหนฺโต อาจริยุปชฺฌายาทีหิ ‘‘มา เอวํ อวจา’’ติ อวณฺณภาสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรตพฺโพ. สเจ ยาวตติยํ วุจฺจมาโน น โอรมติ, กณฺฏกนาสนาย นาเสตพฺโพติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ เอวํ วุจฺจมาโน ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. สเจ น นิสฺสชฺชติ, ตเถว อาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺติ, ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อยเมว หิ นาสนา อิธ อธิปฺเปตาติ.

มิจฺฉาทิฏฺิเกปิ เอเสว นโย. สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก สเจ อาจริยาทีหิ โอวทิยมาโน นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโตว นาเสตพฺโพติ. ภิกฺขุนิทูสโก เจตฺถ กามํ อพฺรหฺมจาริคฺคหเณน คหิโตว อพฺรหฺมจารึ ปน อายตึ สํวเร าตุกามํ สรณานิ ทตฺวา อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิทูสโก อายตึ สํวเร าตุกาโมปิ ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ, ปเคว อุปสมฺปทนฺติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนิทูสโก’’ติ อิทํ วิสุํ ทสมํ องฺคํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุอาทิกถา นิฏฺิตา.

ปณฺฑกวตฺถุกถา

๑๐๙. ทหเร ทหเรติ ตรุเณ ตรุเณ. โมฬิคลฺเลติ ถูลสรีเร. หตฺถิภณฺเฑ อสฺสภณฺเฑติ หตฺถิโคปเก จ อสฺสโคปเก จ.

ปณฺฑโกภิกฺขเวติ เอตฺถ อาสิตฺตปณฺฑโก อุสูยปณฺฑโก โอปกฺกมิกปณฺฑโก ปกฺขปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโกติ ปฺจ ปณฺฑกา. ตตฺถ ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. เอกจฺโจ ปน อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก. โย ปน ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ นปุํสกปณฺฑโกติ. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกสฺส จ อุสูยปณฺฑกสฺส จ ปพฺพชฺชา น วาริตา, อิตเรสํ ติณฺณํ วาริตา. เตสุปิ ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึ ปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ยสฺส เจตฺถ ปพฺพชฺชา วาริตา, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ. โสปิ ลิงฺคนาสเนเนว นาเสตพฺโพ. อิโต ปรํ ‘‘นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺเตสุปิ เอเสว นโย.

ปณฺฑวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถา

๑๑๐. ปุราณกุลปุตฺโตติ ปุราณสฺส อนุกฺกเมน ปาริชุฺํ ปตฺตสฺส กุลสฺส ปุตฺโต. มาติปกฺขปิติปกฺขโต โกลฺา ขีณา วินฏฺา มตา อสฺสาติ ขีณโกลฺโ. อนธิคตนฺติ อปฺปตฺตํ. ผาตึกาตุนฺติ วฑฺเฒตุํ. อิงฺฆาติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. อนุยุฺชิยมาโนติ เอกมนฺตํ เนตฺวา เกสมสฺสุโอโรปนกาสายปฏิคฺคหณสรณคมนอุปชฺฌายคฺคหณกมฺมวาจานิสฺสยธมฺเม ปุจฺฉิยมาโน. เอตมตฺถํ อาโรเจสีติ เอตํ สยํ ปพฺพชิตภาวํ อาทิโต ปฏฺาย อาจิกฺขิ.

เถยฺยสํวาสโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ ตโย เถยฺยสํวาสกา – ลิงฺคตฺเถนโก, สํวาสตฺเถนโก, อุภยตฺเถนโกติ. ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม.

โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพาชิโต สามเณโร สมาโนปิ วิเทสํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ทสวสฺโส วา วีสติวสฺโส วา’’ติ มุสา วตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย.

โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

เอตฺถ จ อสมฺโมหตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ –

‘‘ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร-โรคเวริภเยหิ วา;

จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.

สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;

เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ.

ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – อิเธกจฺจสฺส ราชา กุทฺโธ โหติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ. ราชา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ, โส ‘‘วูปสนฺตํ เม ราชภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโต ปพฺพาเชตพฺโพ. อถาปิ ‘‘สาสนํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, หนฺท ทานิ อหํ ปพฺพชามี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เตเนว ลิงฺเคน อาคนฺตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ น สาทิยติ, ภิกฺขูหิ ปุฏฺโ วา อปุฏฺโ วา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, ลิงฺคํ อปเนตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน วตฺตํ สาทิยติ, ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสติ, สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อิธ ปเนกจฺโจ ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต ทุพฺภิกฺเข วีติวตฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว .

อปโร มหากนฺตารํ นิตฺถริตุกาโม โหติ, สตฺถวาโห จ ปพฺพชิเต คเหตฺวา คจฺฉติ. โส ‘‘เอวํ มํ สตฺถวาโห คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สตฺถวาเหน สทฺธึ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร โรคภเย อุปฺปนฺเน ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต โรคภเย วูปสนฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปรสฺส เอโก เวริโก กุทฺโธ โหติ, ฆาเตตุกาโม นํ วิจรติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. เวริโก ‘‘กุหึ โส’’ติ ปริเยสนฺโต ‘‘ปพฺพชิตฺวา ปลาโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม เวริภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร าติกุลํ คนฺตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย คิหิ หุตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ อิธ วินสฺสิสฺสนฺติ, สเจปิ อิมานิ คเหตฺวา วิหารํ คมิสฺสามิ, อนฺตรามคฺเค มํ ‘โจโร’ติ คเหสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ กายปริหาริยานิ กตฺวา คจฺเฉยฺย’’นฺติ จีวราหรณตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิหารํ คจฺฉติ. ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สามเณรา จ ทหรา จ อพฺภุคฺคจฺฉนฺติ, วตฺตํ ทสฺเสนฺติ. โส น สาทิยติ, ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรติ. สเจ ภิกฺขู ‘‘น ทานิ มยํ ตํ มุฺจิสฺสามา’’ติ พลกฺกาเรน ปพฺพาเชตุกามา โหนฺติ, กาสายานิ อปเนตฺวา ปุน ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘นยิเม มม หีนายาวตฺตภาวํ ชานนฺตี’’ติ ตํเยว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานิตฺวา สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อปโร มหาสามเณโร าติกุลํ คนฺตฺวา อุปฺปพฺพชิตฺวา กมฺมนฺตานุฏฺาเนน อุพฺพาฬฺโห หุตฺวา ปุน ‘‘ทานิ อหํ สมโณว ภวิสฺสามิ, เถโรปิ เม อุปฺปพฺพชิตภาวํ น ชานาตี’’ติ ตเทว ปตฺตจีวรํ อาทาย วิหารํ อาคจฺฉติ, นาปิ ตมตฺถํ ภิกฺขูนํ อาโรเจติ, สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ เถยฺยสํวาสโกเยว ปพฺพชฺชํ น ลภติ. สเจปิสฺส ลิงฺคคฺคหณกาเล เอวํ โหติ, ‘‘นาหํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ วิหารฺจ คโต อาโรเจติ, คหเณเนว เถยฺยสํวาสโก. อถาปิสฺส ‘‘คหณกาเล อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารฺจ คนฺตฺวา ‘‘กุหึ ตฺวํ อาวุโส คโต’’ติ วุตฺโต ‘‘น ทานิ มํ อิเม ชานนฺตี’’ติ วฺเจตฺวา นาจิกฺขติ, ‘‘นาจิกฺขิสฺสามี’’ติ สห ธุรนิกฺเขเปน อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโกว. สเจ ปนสฺส คหณกาเลปิ ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ อาจิกฺขติ, อยํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ.

อปโร ทหรสามเณโร มหนฺโต วา ปน อพฺยตฺโต, โส ปุริมนเยเนว อุปฺปพฺพชิตฺวา ฆเร วจฺฉกรกฺขณาทีนิ กมฺมานิ กาตุํ น อิจฺฉติ, ตเมนํ าตกา ตานิเยว กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา ถาลกํ วา ปตฺตํ วา หตฺเถ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ สมโณว โหหี’’ติ ฆรา นีหรนฺติ. โส วิหารํ คจฺฉติ, เนว นํ ภิกฺขู ชานนฺติ ‘‘อยํ อุปฺปพฺพชิตฺวา ปุน สยเมว ปพฺพชิโต’’ติ, นาปิ สยํ ชานาติ, ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. สเจ ตํ ปริปุณฺณวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺติ, สูปสมฺปนฺโน. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว วินยวินิจฺฉเย วตฺตมาเน สุณาติ, ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. เตน ‘‘มยา เอวํ กต’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เอวํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ. สเจ ‘‘น ทานิ มํ โกจิ ชานาตี’’ติ นาโรเจติ, ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต เถยฺยสํวาสโก.

ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ลิงฺคํ อนปเนตฺวา ทุสฺสีลกมฺมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ปุน สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย สลิงฺเค ิโต เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน เอโส เถยฺยสํวาสโกติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.

เอโก ภิกฺขุ กาสาเย สอุสฺสาโหว โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ สพฺพํ วิธึ อาปชฺชติ, อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ สพฺพํ วิธึ อาปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ.

สามเณโร สลิงฺเค ิโต เมถุนาทิอสฺสมณกรณธมฺมํ อาปชฺชิตฺวาปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ. สเจปิ กาสาเย สอุสฺสาโหว กาสายานิ อปเนตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสติ, เนว เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นคฺโค วา โอทาตนิวตฺโถ วา เมถุนเสวนาทีหิ อสฺสมโณ หุตฺวา กาสายํ นิวาเสติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจปิ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน กาสาวํ โอวฏฺฏิกํ วา กตฺวา อฺเน วา อากาเรน คิหินิวาสเนน นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปน ปุน ลิงฺคํ สาทิยนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย.

สเจ ปน นิวตฺถกาสายสฺส อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสติ วา สมฺปฏิจฺฉติ วา, รกฺขติเยว. ภิกฺขุนิยาปิ เอเสว นโย. สาปิ หิ คิหิภาวํ ปตฺถยมานา สเจ กาสายํ คิหินิวาสนํ นิวาเสติ, ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. สเจ ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, น รกฺขติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. นิวตฺถกาสายสฺส ปน อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสตุ วา สมฺปฏิจฺฉตุ วา, รกฺขติเยว.

สเจ โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโต วสฺสานิ อคเณตฺวา ปาฬิยมฺปิ อฏฺตฺวา เอกปสฺเสนาคนฺตฺวา มหาเปฬาทีสุ กฏจฺฉุนา อุกฺขิตฺเต ภตฺตปิณฺเฑ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา เสโน วิย มํสเปสึ คเหตฺวา คจฺฉติ, เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุวสฺสานิ ปน คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ.

สยํ สามเณโรว สามเณรปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ.

เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา

ติตฺถิยปกฺกนฺตโกภิกฺขเวติ เอตฺถ ปน ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺโต ปวิฏฺโติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก. โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อถ โข น ปพฺพาเชตพฺโพปิ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ติตฺถิโย ภวิสฺสามีติ สลิงฺเคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. โยปิ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยว. โย ปน นคฺโค นฺหายนฺโต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ กาสายานิ อนาทาย นคฺโคว อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อนฺตรามคฺเค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฏานิ เทเสตฺวา มุจฺจติ. เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ นิวตฺตนฺโตปิ มุจฺจติเยว.

สเจ ปน ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลุฺจนาทีนี’’ติ วุตฺโต เอกเกสมฺปิ ลุฺจาเปติ, อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺา’’ติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฏํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฏิจฺฉติ, ตาว นํ ลทฺธิ รกฺขติ, สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสนฺโต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหนฺโต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ.

อยฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺเนน กถิโต; ตสฺมา อุปสมฺปนฺโน กูฏวสฺสํ คเณนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ.

ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา นิฏฺิตา.

ติรจฺฉานคตวตฺถุกถา

๑๑๑. นาคโยนิยาอฏฺฏียตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ โส ปวตฺติยํ กุสลวิปาเกน เทวสมฺปตฺติสทิสํ อิสฺสริยสมฺปตฺตึ อนุโภติ, อกุสลวิปากปฏิสนฺธิกสฺส ปน ตสฺส สชาติยา เมถุนปฏิเสวเน จ วิสฺสฏฺนิทฺโทกฺกมเน จ นาคสรีรํ ปาตุภวติ อุทกสฺจาริกํ มณฺฑูกภกฺขํ, ตสฺมา โส ตาย นาคโยนิยา อฏฺฏียติ. หรายตีติ ลชฺชติ. ชิคุจฺฉตีติ อตฺตภาวํ ชิคุจฺฉติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิกฺขนฺเตติ ตสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ นิกฺขนฺเต. อถ วา ตสฺส ภิกฺขุโน นิกฺขมเนติ อตฺโถ. วิสฺสฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมีติ ตสฺมึ อนิกฺขนฺเต วิสฺสรภเยน สตึ อวิสฺสชฺชิตฺวา กปิมิทฺธวเสเนว นิทฺทายนฺโต นิกฺขนฺเต สตึ วิสฺสชฺชิตฺวา วิสฺสฏฺโ นิราสงฺโก มหานิทฺทํ ปฏิปชฺชิ. วิสฺสรมกาสีติ ภยวเสน สมณสฺํ ปหาย วิรูปํ มหาสทฺทมกาสิ.

ตุมฺเห โขตฺถาติ ตุมฺเห โข อตฺถ; อการสฺส โลปํ กตฺวา วุตฺตํ. ตุมฺเห โข นาคา ฌานวิปสฺสนามคฺคผลานํ อภพฺพตฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อวิรุฬฺหิธมฺมา อตฺถ, วิรุฬฺหิธมฺมา น ภวถาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. สชาติยาติ นาคิยา เอว. ยทา ปน มนุสฺสิตฺถิอาทิเภทาย อฺชาติยา ปฏิเสวติ, ตทา เทวปุตฺโต วิย โหติ. เอตฺถ จ ปวตฺติยํ อภิณฺหํ สภาวปาตุกมฺมทสฺสนวเสน ‘‘ทฺเว ปจฺจยา’’ติ วุตฺตํ. นาคสฺส ปน ปฺจสุ กาเลสุ สภาวปาตุกมฺมํ โหติ – ปฏิสนฺธิกาเล, ตจชหนกาเล, สชาติยา เมถุนกาเล, วิสฺสฏฺนิทฺโทกฺกมนกาเล, จุติกาเลติ.

ติรจฺฉานคโต ภิกฺขเวติ เอตฺถ นาโค วา โหตุ สุปณฺณมาณวกาทีนํ วา อฺตโร, อนฺตมโส สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย โย โกจิ อมนุสฺสชาติโย, สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ ติรจฺฉานคโตติ เวทิตพฺโพ. โส เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพติ.

ติรจฺฉานคตวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา

๑๑๒. มาตุฆาตกาทิวตฺถูสุ – นิกฺขนฺตึ กเรยฺยนฺติ นิกฺขมนํ นิคฺคมนํ อปวาหนํ กเรยฺยนฺติ อตฺโถ. มาตุฆาตโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สตา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก, เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกา มาตา วา มหามาตา วา จูฬมาตา วา ชนิกาปิ วา น มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโก โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโก น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา. เสสํ อุตฺตานเมว. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ปิตุฆาตโกตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

๑๑๔. อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโย น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เต วธาย โอนียนฺตีติ วธตฺถาย โอนียนฺติ, มาเรตุํ นียนฺตีติ อตฺโถ. ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘สจา จ มย’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺส สเจ มยนฺติ อยเมวตฺโถ. ‘‘สเจ’’ติ หิ วตฺตพฺเพ เอตฺถ ‘‘สจา จ’’ อิติ อยํ นิปาโต วุตฺโต. ‘‘สเจ จ’’ อิจฺเจว วา ปาโ. ตตฺถ สเจติ สมฺภาวนตฺเถ นิปาโต; จ อิติ ปทปูรณมตฺเต. ‘‘สจชฺช มย’’นฺติปิ ปาโ. ตสฺส สเจ อชฺช มยนฺติ อตฺโถ.

๑๑๕. ภิกฺขุนิทูสโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ โย ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนิทูสโกเยว. พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนิทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึ สีลวิปนฺนํ ปน ปจฺฉา ทูเสนฺโต สิกฺขมานาสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนิทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ.

สงฺฆเภทโกภิกฺขเวติ เอตฺถ โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา.

โลหิตุปฺปาทโก ภิกฺขเวติ เอตฺถาปิ โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนกมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมนตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสฺจ โลหิตฺจ นีหริตฺวา ผาสุํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวตีติ.

มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุกถา

๑๑๖. อุภโตพฺยฺชนโก ภิกฺขเวติ อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต พฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. กโรตีติ ปุริสนิมิตฺเตน อิตฺถีสุ เมถุนวีติกฺกมํ กโรติ. การาเปตีติ ปรํ สมาทเปตฺวา อตฺตโน อิตฺถินิมิตฺเต การาเปติ, โส ทุวิโธ โหติ – อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ.

ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คณฺหาเปติ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปน สยํ น คณฺหาติ, ปรํ คณฺหาเปตีติ, อิทเมเตสํ นานากรณํ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ยทิ ปฏิสนฺธิยํ ปุริสลิงฺคํ ปวตฺเต อิตฺถิลิงฺคํ นิพฺพตฺตติ, ยทิ ปฏิสนฺธิยํ อิตฺถิลิงฺคํ ปวตฺเต ปุริสลิงฺคํ นิพฺพตฺตตี’’ติ . ตตฺถ วิจารณกฺกโม วิตฺถารโต อฏฺสาลินิยา ธมฺมสงฺคหฏฺกถาย เวทิตพฺโพ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสาปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺส เนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทาติ อิทมิธ เวทิตพฺพํ.

อุภโตพฺยชฺชนกวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถา

๑๑๗. เตนโข ปน สมเยนาติ เยน สมเยน ภควตา สิกฺขาปทํ อปฺตฺตํ โหติ, เตน สมเยน. อนุปชฺฌายกนฺติ อุปชฺฌํ อคาหาเปตฺวา สพฺเพน สพฺพํ อุปชฺฌายวิรหิตํ. เอวํ อุปสมฺปนฺนา เนว ธมฺมโต น อามิสโต สงฺคหํ ลภนฺติ, เต ปริหายนฺติเยว, น วฑฺฒนฺติ. น ภิกฺขเว อนุปชฺฌายโกติ อุปชฺฌํ อคาหาเปตฺวา นิรุปชฺฌายโก น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปฏฺาย เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อาปตฺติ โหติ; กมฺมํ ปน น กุปฺปติ. เกจิ กุปฺปตีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สงฺเฆน อุปชฺฌาเยนาติอาทีสุปิ อุภโตพฺยฺชนกุปชฺฌายปริโยสาเนสุ เอเสว นโย.

อนุปชฺฌายกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อปตฺตกาทิวตฺถุกถา

๑๑๘. หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺตีติ โย หตฺเถสุ ปิณฺโฑ ลพฺภติ, ตทตฺถาย จรนฺติ. เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ ยถา อาชีวกนามกา ติตฺถิยา; สูปพฺยฺชเนหิ มิสฺเสตฺวา หตฺเถสุ ปิตปิณฺฑเมว หิ เต ภุฺชนฺติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ. อจีวรกาทิวตฺถูสุปิ เอเสว นโย.

ยาจิตเกนาติ ‘‘ยาว อุปสมฺปทํ กโรม, ตาว เทถา’’ติ ยาจิตฺวา คหิเตน; ตาวกาลิเกนาติ อตฺโถ. อีทิเสน หิ ปตฺเตน วา จีวเรน วา ปตฺตจีวเรน วา อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ, ตสฺมา ปริปุณฺณปตฺตจีวโรว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, อาจริยุปชฺฌายา จสฺส ทาตุกามา โหนฺติ, อฺเ วา ภิกฺขู นิรเปกฺเขหิ นิสฺสชฺชิตฺวา อธิฏฺานุปคํ ปตฺตจีวรํ ทาตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ปน ปณฺฑุปลาสํ ยาจิตเกนาปิ ปตฺตจีวเรน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, สภาคฏฺาเน วิสฺสาเสน คเหตฺวาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ปน อปกฺกํ ปตฺตํ จีวรูปคานิ จ วตฺถานิ คเหตฺวา อาคโต โหติ, ยาว ปตฺโต ปจฺจติ, จีวรานิ จ กริยนฺติ, ตาว วิหาเร วสนฺตสฺส อนามฏฺปิณฺฑปาตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, ถาลเก ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปุเรภตฺตํ สามเณรภาคสมโก อามิสภาโค ทาตุํ วฏฺฏติ. เสนาสนคฺคาโห ปน สลากภตฺตอุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนาทีนิ จ น วฏฺฏนฺติ. ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สามเณรภาคสโม เตลมธุผาณิตาทิเภสชฺชภาโค วฏฺฏติ. สเจ คิลาโน โหติ, เภสชฺชมสฺส กาตุํ วฏฺฏติ, สามเณรสฺส วิย จ สพฺพํ ปฏิชคฺคนกมฺมนฺติ.

อปตฺตกาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถา

๑๑๙. หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถูสุ – หตฺถจฺฉินฺโนติ ยสฺส หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา หตฺถา ฉินฺนา โหนฺติ. ปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส อคฺคปาเท วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส วุตฺตปฺปกาเรเนว จตูสุ หตฺถปาเทสุ ทฺเว วา ตโย วา สพฺเพ วา หตฺถปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺณจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวิทฺเธ ฉิชฺชนฺติ, สกฺกา จ โหติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺโนติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺโน อุภยวเสน เวทิตพฺโพ. องฺคุลิจฺฉินฺโนติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ องฺคุลิยํ วุตฺตนเยเนว เอโก วา พหู วา องฺคุฏฺกา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ; เยสุ เอกสฺสปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น วา ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

ผณหตฺถโกติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ; เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกองฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ.

ขุชฺโชติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชฺชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ.

วามโนติ ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา. ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ, เยสํ รสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ, ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คลคณฺฑีติ ยสฺส กุมฺภณฺฑํ วิย คเล คณฺโฑ โหติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ปน ปเทเส คณฺเฑ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ วินิจฺฉโย – ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาหตกสาหตลิขิตเกสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘น ภิกฺขเว ลกฺขณาหโต’’ติอาทีสุ วุตฺตเมว.

สีปทีติ ภารปาโท วุจฺจติ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปิฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหติ, เอวํ มิลาเปตุํ สกฺกา, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนาปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ.

ปาปโรคีติ อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป; อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปริสทูสโกติ โย อตฺตโน วิรูปตาย ปริสํ ทูเสติ; อติทีโฆ วา โหติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส, อติรสฺโส วา อุภยวามนภูตรูปํ วิย, อติกาโฬ วา ฌาปิตเขตฺเต ขาณุโก วิย, อจฺโจทาโต วา ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตมฏฺตมฺพโลหวณฺโณ, อติกิโส วา มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย, อติถูโล วา ภาริยมํโส, มโหทโร วา มหาภูตสทิโส, อติมหนฺตสีโส วา ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย, อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต, กูฏกูฏสีโส วา ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, สิขรสีโส วา อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, นาฬิสีโส วา มหาเวฬุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, กปฺปสีโส วา ปพฺภารสีโส วา จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอณเตน สีเสน สมนฺนาคโต, วณสีโส วา ปูติสีโส วา กณฺณิกเกโส วา ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, นิลฺโลมสีโส วา ถูลถทฺธเกโส วา ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, ชาติปลิเตหิ ปณฺฑรสีโส วา ปกติตมฺพเกโส วา อาทิตฺเตหิ วิย เกเสหิ สมนฺนาคโต, อาวฏฺฏสีโส วา คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต, สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธภมุกโลโม วา ชาลพทฺเธน วิย นลาเฏน สมนฺนาคโต.

สมฺพทฺธภมุโก วา นิลฺโลมภมุโก วา มกฺกฏภมุโก วา อติมหนฺตกฺขิ วา อติขุทฺทกกฺขิ วา มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโต, วิสมกฺขิ วา เอเกน มหนฺเตน เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต, วิสมจกฺกโล วา เอเกน อุทฺธํ เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺกเลหิ สมนฺนาคโต, เกกโร วา คมฺภีรกฺขิ วา ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ; นิกฺขนฺตกฺขิ วา ยสฺส กกฺกฏกสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ; หตฺถิกณฺโณ วา มหตีหิ กณฺณสกฺขลิกาหิ สมนฺนาคโต, มูสิกกณฺโณ วา ชฏุกกณฺโณ วา ขุทฺทิกาหิ กณฺณสกฺขลิกาหิ สมนฺนาคโต, ฉิทฺทมตฺตกณฺโณ วา ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลิกาหิ กณฺณฉิทฺทมตฺตเมว โหติ; อวิทฺธกณฺโณ วา โยนกชาติโก ปน ปริสทูสโก น โหติ; สภาโวเยว หิ โส ตสฺส กณฺณภคนฺทริโก วา นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต, คณฺฑกณฺโณ วา สทาปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต, ฏงฺกิตกณฺโณ วา โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, อติปิงฺคลกฺขิ วา มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วา อสฺสุปคฺฆรณกฺขิ วา ปุปฺผิตกฺขิ วา อกฺขิปาเกน สมนฺนาคตกฺขิ วา.

อติมหนฺตนาสิโก วา อติขุทฺทกนาสิโก วา จิปิฏนาสิโก วา มชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตวงฺกนาสิโก วา, ทีฆนาสิโก วา สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต, นิจฺจปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา.

มหามุโข วา ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑูกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ, ภินฺนมุโข วา วงฺกมุโข วา มหาโอฏฺโ วา อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ตนุกโอฏฺโ วา เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วา มหาอุตฺตโรฏฺโ วา โอฏฺฉินฺนโก วา เอฬมุโข วา อุปฺปกฺกมุโข วา สงฺขตุณฺฑโก วา พหิเสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ทุคฺคนฺธกุณปมุโข วา.

มหาทนฺโต วา อฏฺกทนฺตสทิเสหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต อสุรทนฺโต วา เหฏฺา วา อุปริ วา พหินิกฺขนฺตทนฺโต, ยสฺส ปน สกฺกา โหติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ปูติทนฺโต วา นิทฺทนฺโต วา ยสฺส ปน ทนฺตนฺตเร กลนฺทกทนฺโต วิย สุขุมทนฺโต โหติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

มหาหนุโก วา โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต, ทีฆหนุโก วา จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต, ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา นิมฺมสฺสุทาิโก วา ภิกฺขุนิสทิสมุโข ทีฆคโล วา พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต, รสฺสคโล วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต, ภินฺนคโล วา ภฏฺอํสกูโฏ วา อหตฺโถ วา เอกหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วา อติทีฆหตฺโถ วา ภินฺนอุโร วา ภินฺนปิฏฺิ วา กจฺฉุคตฺโต วา กณฺฑุคตฺโต วา ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา, ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ, สพฺพฺเจตํ วิรูปกรณํ สนฺธาย วิตฺถาริกวเสน วุตฺตํ. วินิจฺฉโย ปเนตฺถ ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ภฏฺกฏิโก วา มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต, มหาอูรุโก วา วาตณฺฑิโก วา มหาชาณุโก วา สงฺฆฏฺฏนชาณุโก วา ทีฆชงฺโฆ วา ยฏฺิสทิสชงฺโฆ วิกโฏ วา ปณฺโห วา อุพฺพทฺธปิณฺฑิโก วา, โส ทุวิโธ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต, มหาชงฺโฆ วา ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก วา มหาปาโท วา มหาปณฺหิ วา ปิฏฺิกปาโท วา ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ วงฺกปาโท วา โส ทุวิโธ – อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาโท คณฺิกงฺคุลิ วา สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต, อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต, สพฺโพปิ เอส ปริสทูสโก. เอวรูโป ปริสทูสโก น ปพฺพาเชตพฺโพ.

กาโณติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท. โย ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน เอกกฺขิกาโณ กาโณติ วุตฺโต, ทฺวิอกฺขิกาโณ อนฺเธน สงฺคหิโต. มหาอฏฺกถายํ ชจฺจนฺโธ อนฺโธติ วุตฺโต, ตสฺมา อุภยมฺปิ ปริยาเยน ยุชฺชติ. กุณีติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา; ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํกิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ, โส กุณี นาม. ขฺโชติ นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สงฺกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต อคฺเค สงฺกุฏิตปาทตฺตา กุณฺฑปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา; สพฺโพเปส ขฺโชเยว, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปกฺขหโตติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อฑฺฒสรีรํ วา สุขํ น วหติ. ฉินฺนิริยาปโถติ ปีสปฺปิ วุจฺจติ. ชราทุพฺพโลติ ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมํ กาตุมฺปิ อสมตฺโถ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ, อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺโธติ ชจฺจนฺโธ วุจฺจติ. มูโคติ ยสฺส วจีเภโท นปฺปวตฺตติ; ยสฺสาปิ ปวตฺตติ, สรณคมนํ ปน ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

พธิโรติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อนฺธมูคาทโย อุภยโทสวเสน วุตฺตา. เยสฺจ ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา, อุปสมฺปทาปิ เตสํ ปฏิกฺขิตฺตาว. สเจ ปน เต สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, สพฺเพปิ หตฺถจฺฉินฺนาทโย สูปสมฺปนฺนา, การกสงฺโฆ ปน อาจริยุปชฺฌายา จ อาปตฺติโต น มุจฺจนฺติ. วกฺขติ จ – ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว ปุคฺคโล อปฺปตฺโต โอสารณํ, ตฺเจ สงฺโฆ โอสาเรติ, เอกจฺโจ สุโอสาริโต, เอกจฺโจ ทุโอสาริโต’’ติ ตสฺสตฺโถ อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสตีติ.

หตฺถจฺฉินฺนาทิวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อลชฺชีนิสฺสยวตฺถุกถา

๑๒๐. อลชฺชีนํ นิสฺสาย วสนฺตีติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ; อลชฺชิปุคฺคเล นิสฺสาย วสนฺตีติ อตฺโถ. ยาว ภิกฺขุสภาคตํ ชานามีติ นิสฺสยทายกสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขูหิ สภาคตํ ลชฺชิภาวํ ยาว ชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา นวํ านํ คเตน ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, นิสฺสยํ คณฺหาหี’’ติ วุจฺจมาเนนาปิ จตูหปฺจาหํ นิสฺสยทายกสฺส ลชฺชิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสโย คเหตพฺโพ.

สเจ ‘‘เถโร ลชฺชี’’ติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก สุตฺวา อาคตทิวเสเยว คเหตุกาโม โหติ, เถโร ปน ‘‘อาคเมหิ ตาว, วสนฺโต ชานิสฺสสี’’ติ กติปาหํ อาจารํ อุปปริกฺขิตฺวา นิสฺสยํ เทติ, วฏฺฏติ. ปกติยา นิสฺสยคฺคหณฏฺานํ คเตน ตทเหว คเหตพฺโพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิ. สเจ ปมยาเม อาจริยสฺส โอกาโส นตฺถิ, โอกาสํ อลภนฺโต ‘‘ปจฺจูสสมเย คเหสฺสามี’’ติ สยติ, อรุณํ อุคฺคตมฺปิ น ชานาติ, อนาปตฺติ. สเจ ปน ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ อกตฺวา สยติ, อรุณุคฺคมเน ทุกฺกฏํ. อคตปุพฺพํ านํ คเตน ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา คนฺตุกาเมน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. ‘‘สตฺตาหํ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรนฺเตน ปน นิสฺสโย คเหตพฺโพ. สเจ เถโร ‘‘กึ สตฺตาหํ วสนฺตสฺส นิสฺสเยนา’’ติ วทติ, ปฏิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ลทฺธปริหาโร โหติ.

อลชฺชีนิสฺสยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา

๑๒๑. นิสฺสยกรณีโยติ กรณียนิสฺสโย, กรณีโย มยา นิสฺสโย; คเหตพฺโพติ อตฺโถ. นิสฺสยํ อลภมาเนนาติ อตฺตนา สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนสุ นิสฺสยทายเก อสติ นิสฺสยํ น ลภติ นาม. เอวํ อลภนฺเตน อนิสฺสิเตน พหูนิปิ ทิวสานิ คนฺตพฺพํ. สเจ ปุพฺเพปิ นิสฺสยํ คเหตฺวา วุตฺถปุพฺพํ กฺจิ อาวาสํ ปวิสติ, เอกรตฺตํ วสนฺเตนาปิ นิสฺสโย คเหตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค วิสฺสมนฺโต วา สตฺถํ ปริเยสนฺโต วา กติปาหํ วสติ, อนาปตฺติ. อนฺโตวสฺเส ปน นิพทฺธวาสํ วสิตพฺพํ, นิสฺสโย จ คเหตพฺโพ. นาวาย คจฺฉนฺตสฺส ปน วสฺสาเน อาคเตปิ นิสฺสยํ อลภนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ยาจิยมาเนนาติ เตน คิลาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วสิตพฺพํ. สเจ ‘‘ยาจาหิ ม’’นฺติ วุจฺจมาโนปิ คิลาโน มาเนน น ยาจติ, คนฺตพฺพํ.

ผาสุโหตีติ สมถวิปสฺสนานํ ปฏิลาภวเสน ผาสุ โหติ. อิมฺหิ ปริหารํ เนว โสตาปนฺโน น สกทาคามี อนาคามี อรหนฺโต ลภนฺติ; น ถามคตสฺส สมาธิโน วา วิปสฺสนาย วา ลาภี, วิสฺสฏฺกมฺมฏฺาเน ปน พาลปุถุชฺชเน กถาว นตฺถิ. ยสฺส โข ปน สมโถ วา วิปสฺสนา วา ตรุโณ โหติ, อยํ อิมํ ปริหารํ ลภติ, ปวารณสงฺคโหปิ เอตสฺเสว อนุฺาโต. ตสฺมา อิมินา ปุคฺคเลน อาจริเย ปวาเรตฺวา คเตปิ ‘‘ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา ปุน ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, ตาว อนิสฺสิเตน วตฺถุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาสาฬฺหีมาเส อาจริโย นาคจฺฉติ, ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ.

๑๒๒. โคตฺเตนปิ อนุสฺสาเวตุนฺติ มหากสฺสปสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโขติ เอวํ โคตฺตํ วตฺวา อนุสฺสาเวตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๑๒๓. ทฺเว เอกานุสฺสาวเนติ ทฺเว เอกโต อนุสฺสาวเน; เอเกน เอกสฺส อฺเน อิตรสฺสาติ เอวํ ทฺวีหิ วา อาจริเยหิ เอเกน วา เอกกฺขเณ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺเตหิ อุปสมฺปาเทตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยนาติ ทฺเว วา ตโย วา ชเน ปุริมนเยเนว เอกโต อนุสฺสาวเน กาตุํ อนุชานามิ; ตฺจ โข อนุสฺสาวนกิริยํ เอเกน อุปชฺฌาเยน อนุชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา เอเกน อาจริเยน ทฺเว วา ตโย วา อนุสฺสาเวตพฺพา. ทฺวีหิ วา ตีหิ วา อาจริเยหิ วิสุํ วิสุํ เอเกน เอกสฺสาติ เอวํ เอกปฺปหาเรเนว ทฺเว ติสฺโส วา กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน นานาจริยา นานุปชฺฌายา โหนฺติ, ติสฺสตฺเถโร สุมนตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ, สุมนตฺเถโร ติสฺสตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อนุสฺสาเวติ, อฺมฺฺจ คณปูรกา โหนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ ปน นานาอุปชฺฌายา โหนฺติ, เอโก อาจริโย โหติ, ‘‘นตฺเวว นานุปชฺฌาเยนา’’ติ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา น วฏฺฏติ. อิทํ สนฺธาย หิ เอส ปฏิกฺเขโป.

คมิกาทินิสฺสยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

อุปสมฺปทาวิธิกถา

๑๒๖. ปมํอุปชฺฌํ คาหาเปตพฺโพติ เอตฺถ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌา, ตํ อุปชฺฌํ; ‘‘อุปชฺฌาโย เม ภนฺเต โหหี’’ติ เอวํ วทาเปตฺวา คาหาเปตพฺโพ. วิตฺถายนฺตีติ วิตฺถทฺธคตฺตา โหนฺติ. ยํ ชาตนฺติ ยํ ตว สรีเร ชาตํ นิพฺพตฺตํ วิชฺชมานํ, ตํ สงฺฆมชฺเฌ ปุจฺฉนฺเต สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพนฺติอาทิ. อุลฺลุมฺปตุ มนฺติ อุทฺธรตุ มํ.

อุปสมฺปทาวิธิกถา นิฏฺิตา.

จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา

๑๒๘. ตาวเทวาติ อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรเมว. ฉายา เมตพฺพาติ เอกโปริสา วา ทฺวิโปริสา วาติ ฉายา เมตพฺพา. อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ‘‘วสฺสาโน เหมนฺโต คิมฺโห’’ติ เอวํ อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เอตฺถ จ อุตุเยว อุตุปฺปมาณํ. สเจ วสฺสานาทโย อปริปุณฺณา โหนฺติ, ยตฺตเกหิ ทิวเสหิ ยสฺส โย อุตุ อปริปุณฺโณ, เต ทิวเส สลฺลกฺเขตฺวา โส ทิวสภาโค อาจิกฺขิตพฺโพ. อถ วา ‘‘อยํ นาม อุตุ, โส จ โข ปริปุณฺโณ วา อปริปุณฺโณ วา’’ติ เอวํ อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘ปุพฺพณฺโห วา สายนฺโห วา’’ติ เอวํ ทิวสภาโค อาจิกฺขิตพฺโพ. สงฺคีตีติ อิทเมว สพฺพํ เอกโต กตฺวา ‘‘ตฺวํ กึ ลภสิ, กา เต ฉายา, กึ อุตุปฺปมาณํ, โก ทิวสภาโค’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อิทํ นาม ลภามิ – วสฺสํ วา เหมนฺตํ วา คิมฺหํ วา, อยํ เม ฉายา, อิทํ อุตุปฺปมาณํ, อยํ ทิวสภาโคติ วเทยฺยาสี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ.

๑๒๙. โอหายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ทุติยํ ทาตุนฺติ อุปสมฺปทมาฬกโต ปริเวณํ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยกํ ทาตุํ อนุชานามิ, จตฺตาริ จ อกรณียานิ อาจิกฺขิตุนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑุปลาโสติ ปณฺฑุวณฺโณ ปตฺโต. พนฺธนา ปวุตฺโตติ วณฺฏโต ปติโต. อภพฺโพ หริตตฺถายาติ ปุน หริโต ภวิตุํ อภพฺโพ. ปุถุสิลาติ มหาสิลา.

๑๓๐. อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเสติ ยาว ตสฺส อุกฺเขปนียกมฺมกรณตฺถาย สามคฺคี น ลพฺภติ, ตาว เตน สทฺธึ สมฺโภเค จ อุโปสถปวารณาทิกรณเภเท สํวาเส จ อนาปตฺตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ มหาวิภงฺเค วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยตฺตา ปากฏเมวาติ.

จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

ทฺวาสตฺตติอธิกวตฺถุสตปฏิมณฺฑิตสฺส มหาขนฺธกสฺส

อตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.