📜
๒. อุโปสถกฺขนฺธกํ
สนฺนิปาตานุชานนาทิกถา
๑๓๒. อุโปสถกฺขนฺธเก ¶ ¶ – อฺติตฺถิยาติ เอตฺถ ติตฺถํ วุจฺจติ ลทฺธิ; อฺํ ติตฺถํ อฺติตฺถํ; อฺติตฺถํ เอเตสํ อตฺถีติ อฺติตฺถิยา; อิโต อฺลทฺธิกาติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมํ ภาสนฺตีติ ยํ เตสํ กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ, ตํ กเถนฺติ. เต ลภนฺตีติ เต มนุสฺสา ลภนฺติ. มูคสูกราติ ถูลสรีรสูกรา.
๑๓๕. อนชฺฌาปนฺโน วา โหติ อาปชฺชิตฺวา วา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ยํ อาปตฺตึ ภิกฺขุ อนชฺฌาปนฺโน วา โหติ, อาปชฺชิตฺวา วา วุฏฺิโต, อยํ อสนฺตี นาม อาปตฺตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺปชานมุสาวาเท กึ โหตีติ ยฺวายํ สมฺปชานมุสาวาโท อสฺส โหตีติ วุตฺโต, โส อาปตฺติโต กึ โหติ, กตรา อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏํ โหตีติ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ; สา จ โข น ¶ มุสาวาทลกฺขเณน; ภควโต ปน วจเนน วจีทฺวาเร อกิริยสมุฏฺานา อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพา. วกฺขติ หิ –
‘‘อนาลปนฺโต มนุเชน เกนจิ,
วาจาคิรํ โน จ ปเร ภเณยฺย;
อาปชฺเชยฺย วาจสิกํ น กายิกํ,
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);
อนฺตรายิโกติ อนฺตรายกโร. กิสฺส ผาสุ โหตีติ กิมตฺถาย ผาสุ โหติ. ปมสฺส ฌานสฺส อธิคมายาติ ปมสฺส ฌานสฺส อธิคมนตฺถาย ตสฺส ภิกฺขุโน ผาสุ โหติ สุขํ โหติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิติ ภควา อุทฺเทสโต จ นิทฺเทสโต จ ปมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ ทสฺเสสิ.
๑๓๖. เทวสิกนฺติ ¶ ทิวเส ทิวเส. จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วาติ เอกสฺส อุตุโน ตติเย จ สตฺตเม จ ปกฺเข ทฺวิกฺขตฺตุํ จาตุทฺทเส อวเสเส ฉกฺขตฺตุํ ปนฺนรเส; อยํ ตาว เอโก อตฺโถ. อยํ ปน ปกติจาริตฺตวเสน ¶ วุตฺโต ‘‘สกึ ปกฺขสฺส จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา’’ติ วจนโต ปน ตถารูเป ปจฺจเย สติ ยสฺมึ ตสฺมึ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏติ, อาวาสิกานํ ภิกฺขูนํ จาตุทฺทโส โหติ, อาคนฺตุกานํ ปนฺนรโส. สเจ อาวาสิกา พหุตรา โหนฺติ, อาคนฺตุเกหิ อาวาสิกานํ อนุวตฺติตพฺพ’’นฺติ วจนโตปิ เจตํ เวทิตพฺพํ.
สีมานุชานนกถา
๑๓๘. ปมํ นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ? ปพฺพโต ภนฺเตติ. ปุน วินยธเรน ‘‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ‘‘เอตํ ปพฺพตํ นิมิตฺตํ กโรม, กริสฺสาม, นิมิตฺตํ กโต, นิมิตฺตํ โหตุ, โหติ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสาย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย ทิสาย, ปจฺฉิมาย อนุทิสาย, อุตฺตราย ทิสาย, อุตฺตราย อนุทิสาย, กึ นิมิตฺตํ? อุทกํ ภนฺเต. เอตํ อุทกํ นิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ปน อฏฺตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ. ปพฺพโต ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺตนฺติ เอวํ ปมํ ¶ กิตฺติตนิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาว เปตพฺพํ. เอวฺหิ นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆฏิตํ โหติ. เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา อถานนฺตรํ วุตฺตาย กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเน นิมิตฺตานํ อนฺโต สีมา โหติ, นิมิตฺตานิ สีมโต พหิ โหนฺติ. ตตฺถ นิมิตฺตานิ สกึ กิตฺติตานิปิ กิตฺติตาเนว โหนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ติกฺขตฺตุํ สีมมณฺฑลํ สมฺพนฺธนฺเตน นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปพฺพโต ภนฺเตติ…เป… อุทกํ ภนฺเต’’ติ เอวํ ปน อุปสมฺปนฺโน วา อาจิกฺขตุ อนุปสมฺปนฺโน วา วฏฺฏติเยว.
อิทานิ ปพฺพตนิมิตฺตาทีสุ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ติวิโธ ปพฺพโต, สุทฺธปํสุปพฺพโต, สุทฺธปาสาณปพฺพโต, อุภยมิสฺสโกติ. โส ติวิโธปิ วฏฺฏติ. วาลิกราสิ ปน น วฏฺฏติ. อิตโรปิ หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตโร น วฏฺฏติ. หตฺถิปฺปมาณโต ปน ปฏฺาย สิเนรุปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. สเจ จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร ตีสุ วา ตโย ปพฺพตา โหนฺติ, จตูหิ วา ตีหิ วา ปพฺพตนิมิตฺเตหิ เอว สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ทฺวีหิ ปน นิมิตฺเตหิ เอเกน ¶ วา สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. อิโต ปเรสุ ปาสาณนิมิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ปพฺพตนิมิตฺตํ ¶ กโรนฺเตน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘เอกาพทฺโธ น เอกาพทฺโธ’’ติ. สเจ เอกาพทฺโธ โหติ, น กาตพฺโพ. ตฺหิ จตูสุ วา อฏฺสุ วา ทิสาสุ กิตฺเตนฺเตนาปิ เอกเมว นิมิตฺตํ กิตฺติตํ โหติ, ตสฺมา โย เอวํ จกฺกสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ปพฺพโต, ตํ เอกทิสาย กิตฺเตตฺวา อฺาสุ ทิสาสุ ตํ พหิทฺธา กตฺวา อนฺโต อฺานิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.
สเจ ปพฺพตสฺส ตติยภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตํ อกิตฺเตตฺวา ยตฺตกํ ปเทสํ อนฺโต กตฺตุกามา, ตสฺส ปรโต ตสฺมึเยว ปพฺพเต ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีสุ อฺตรํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. สเจ เอกโยชนทฺวิโยชนปฺปมาณํ สพฺพํ ปพฺพตํ อนฺโต กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตสฺส ปรโต ภูมิยํ ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีนิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.
ปาสาณนิมิตฺเต – อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย ¶ โกจิ ปาสาโณ วฏฺฏติ. ปมาณโต ปน หตฺถิปฺปมาโณ ปพฺพตสงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา โส น วฏฺฏติ. มหาโคณมหามหึสปฺปมาโณ ปน วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปริมาโณ วฏฺฏติ. ตโต ขุทฺทกตโร อิฏฺกา วา มหนฺตีปิ น วฏฺฏติ. อนิมิตฺตุปคปาสาณราสิปิ น วฏฺฏติ, ปเคว ปํสุวาลิกราสิ. ภูมิสโม ขลมณฺฑลสทิโส ปิฏฺิปาสาโณ วา ภูมิโต ขาณุโก วิย อุฏฺิตปาสาโณ วา โหติ, โสปิ ปมาณุปโค เจ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาโณ อติมหนฺโตปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา สเจ มหโต ปิฏฺิปาสาณสฺส เอกปฺปเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ตํ อกิตฺเตตฺวา ตสฺสุปริ อฺโ ปาสาโณ กิตฺเตตพฺโพ. สเจ ปิฏฺิปาสาณุปริ วิหารํ กโรนฺติ, วิหารมชฺเฌน วา ปิฏฺิปาสาโณ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, เอวรูโป ปิฏฺิปาสาโณ น วฏฺฏติ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ, นิมิตฺตฺจ นาม พหิสีมาย โหติ, วิหาโรปิ พหิสีมายํ อาปชฺชติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปิฏฺิปาสาโณ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺโพ.
วนนิมิตฺเต – ติณวนํ วา ตจสารตาลนาฬิเกราทิรุกฺขวนํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโตสารานํ ปน สากสาลาทีนํ อนฺโตสารมิสฺสกานํ วา รุกฺขานํ ¶ วนํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ โยชนสติกมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพํ. เอกเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกาเมหิปิ วนํ อกิตฺเตตฺวา ตตฺถ รุกฺขปาสาณาทโย กิตฺเตตพฺพา. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตวนํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺพํ.
รุกฺขนิมิตฺเต ¶ – ตจสาโร ตาลนาฬิเกราทิรุกฺโข น วฏฺฏติ, อนฺโตสาโร ชีวมานโก อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑกปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ทฺวาทสโยชโน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรโธปิ วฏฺฏติ. วํสนฬกสราวาทีสุ พีชํ โรเปตฺวา วฑฺฒาปิโต ปมาณุปโคปิ น วฏฺฏติ. ตโต อปเนตฺวา ปน ตงฺขณมฺปิ ¶ ภูมิยํ โรเปตฺวา โกฏฺกํ กตฺวา อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ อการณํ. ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. กิตฺเตนฺเตน จ ‘‘รุกฺโข’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘สากรุกฺโขติปิ สาลรุกฺโข’’ติปิ. เอกาพทฺธํ ปน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
มคฺคนิมิตฺเต – อรฺเขตฺตนทีตฬากมคฺคาทโย น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆมคฺโค วา สกฏมคฺโค วา วฏฺฏติ, โย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ. โย ปน ชงฺฆมคฺโค สกฏมคฺคโต โอกฺกมิตฺวา ปุน สกฏมคฺคเมว โอตรติ, เย วา ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคา อวฬฺชา, เต น วฏฺฏนฺติ. ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมานาเยว วฏฺฏนฺติ. สเจ ทฺเว มคฺคา นิกฺขมิตฺวา ปจฺฉา สกฏธุรมิว เอกีภวนฺติ, ทฺวิธา ภินฺนฏฺาเน วา สมฺพนฺธฏฺาเน วา สกึ กิตฺเตตฺวา ปุน น กิตฺเตตพฺพา, เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ.
สเจ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺติ, มชฺเฌ เอกํ กิตฺเตตฺวา อปรํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ. โกณํ นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺคํ ปน ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺโค ปน น กิตฺเตตพฺโพ. กิตฺติเต นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ. สเจ สกฏมคฺคสฺส อนฺติมจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, มคฺโค พหิสีมาย โหติ. สเจ พาหิรจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, พาหิรจกฺกมคฺโคว พหิสีมาย โหติ, เสสํ อนฺโตสีมํ ภชติ. มคฺคํ ¶ กิตฺเตนฺเตน ‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช’’ติ ทสสุ เยน เกนจิ นาเมน กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ปริขาสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตมคฺโค เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
วมฺมิกนิมิตฺเต – เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํ ทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณปฺปมาโณปิ วมฺมิโก วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ หิมวนฺตปพฺพตสทิโสปิ วฏฺฏติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปน เอกาพทฺธํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.
นทีนิมิตฺเต ¶ – ยสฺสา ธมฺมิกานํ ¶ ราชูนํ กาเล อนฺวทฺธมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหนฺติ เอวํ อนติกฺกมิตฺวา เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จาตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ คจฺฉติ, สีมํ พนฺธนฺตานํ นิมิตฺตํ โหติ. ภิกฺขุนิยา นทีปารคมเนปิ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณปิ นทีปารสีมสมฺมนฺนเนปิ อยเมว นที.
ยา ปน มคฺโค วิย สกฏธุรสณฺาเนน วา ปริขาสณฺาเนน วา วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตา, ตํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุ อฺมฺํ วินิพฺพิชฺฌิตฺวา คเต นทิจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อสมฺมิสฺสนทิโย ปน จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ วตึ กโรนฺโต วิย รุกฺขปาเท นิขณิตฺวา วลฺลิปลาลาทีหิ นทิโสตํ รุมฺภนฺติ, อุทกฺจ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาวรณํ ปวตฺตติเยว, นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อุทกํ นปฺปวตฺตติ, เอวํ เสตุมฺหิ กเต อปฺปวตฺตมานา นที นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปวตฺตนฏฺาเน นทินิมิตฺตํ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน อุทกนิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.
ยา ปน ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นิรุทกภาเวน นปฺปวตฺตติ, สา วฏฺฏติ. มหานทิโต อุทกมาติกํ นีหรนฺติ, สา กุนฺนทิสทิสา หุตฺวา ตีณิ สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตี นิจฺจํ ปวตฺตติ, กิฺจาปิ ปวตฺตติ, นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยา ปน มูเล มหานทิโต นิคฺคตาปิ กาลนฺตเรน เตเนว นิคฺคตมคฺเคน ¶ นทึ ภินฺทิตฺวา สยฺจ คจฺฉติ, คจฺฉนฺตี ปรโต สุสุมาราทิสมากิณฺณา นาวาทีหิ สฺจริตพฺพา นที โหติ, ตํ นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.
อุทกนิมิตฺเต – นิรุทเก าเน นาวาย วา จาฏิอาทีสุ วา อุทกํ ปูเรตฺวา อุทกนิมิตฺตํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ภูมิคตเมว วฏฺฏติ ¶ . ตฺจ โข อปฺปวตฺตนอุทกํ อาวาฏโปกฺขรณิตฬากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, อฏฺิตํ ปน โอฆนทิอุทกวาหกมาติกาทีสุ อุทกํ น วฏฺฏติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘คมฺภีเรสุ อาวาฏาทีสุ อุกฺเขปิมํ อุทกํ นิมิตฺตํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ อตฺตโนมติมตฺตเมว. ิตํ ปน อนฺตมโส สูกรขตายปิ คามทารกานํ กีฬนวาปิยมฺปิ ตงฺขณฺเว ปถวิยํ อาวาฏกํ กตฺวา กุเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตอุทกมฺปิ สเจ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา ติฏฺติ, อปฺปํ วา โหตุ พหุ วา, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน าเน นิมิตฺตสฺากรณตฺถํ ปาสาณวาลิกาปํสุอาทิราสิ วา ปาสาณตฺถมฺโภ วา ทารุตฺถมฺโภ วา กาตพฺโพ. ตํ กาตฺุจ กาเรตฺุจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ. ลาภสีมายํ ปน น วฏฺฏติ ¶ . สมานสํวาสกสีมา กสฺสจิ ปีฬนํ น กโรติ, เกวลํ ภิกฺขูนํ วินยกมฺมเมว สาเธติ, ตสฺมา เอตฺถ วฏฺฏติ.
อิเมหิ จ อฏฺหิ นิมิตฺเตหิ อสมฺมิสฺเสหิปิ อฺมฺํ สมฺมิสฺเสหิปิ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหติ, ตีณิ ปน อาทึ กตฺวา วุตฺตปฺปการานํ นิมิตฺตานํ สเตนาปิ พทฺธา โหติ. สา ตีหิ สิงฺฆาฏกสณฺานา โหติ, จตูหิ จตุรสฺสา วา สิงฺฆาฏกอฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺานา วา, ตโต อธิเกหิ นานาสณฺานา. ตํ พนฺธิตุกาเมหิ สามนฺตวิหาเรสุ ภิกฺขู ตสฺส ตสฺส วิหารสฺส สีมาปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา, พทฺธสีมวิหารานํ สีมาย สีมนฺตริกํ, อพทฺธสีมวิหารานํ สีมาย อุปจารํ เปตฺวา ทิสาจาริกภิกฺขูนํ นิสฺสฺจารสมเย สเจ เอกสฺมึ คามเขตฺเต สีมํ พนฺธิตุกามา, เย ตตฺถ พทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขูนํ ‘‘มยํ อชฺช สีมํ พนฺธิสฺสาม, ตุมฺเห สกสีมาปริจฺเฉทโต มา นิกฺขมิตฺถา’’ติ เปเสตพฺพํ. เย อพทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขู เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตตพฺพา, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหราเปตพฺโพ ¶ . สเจ อฺานิปิ คามกฺเขตฺตานิ อนฺโตกาตุกามา ¶ , เตสุ คาเมสุ เย ภิกฺขู วสนฺติ, เตหิปิ อาคนฺตพฺพํ. อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘นานาคามเขตฺตานิ นาม ปาเฏกฺกํ พทฺธสีมาสทิสานิ, น ตโต ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ. อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ ปน ภิกฺขูหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน อาห – ‘‘สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฏฺฏติ. อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล ปน อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ.
เอวํ สนฺนิปติเตสุ ปน ภิกฺขูสุ ฉนฺทารหานํ ฉนฺเท อาหเฏ เตสุ เตสุ มคฺเคสุ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ จ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ สีฆํ สีฆํ หตฺถปาสานยนตฺถฺจ พหิสีมากรณตฺถฺจ อารามิเก เจว สมณุทฺเทเส จ เปตฺวา เภริสฺํ วา สงฺขสฺํ วา กตฺวา นิมิตฺตกิตฺตนานนฺตรํ วุตฺตาย ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติอาทิกาย กมฺมวาจาย สีมา พนฺธิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเนเยว นิมิตฺตานิ พหิ กตฺวา เหฏฺา ปถวิสนฺธารกํ อุทกํ ปริยนฺตํ กตฺวา สีมา คตา โหติ.
อิมํ ปน สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนนฺเตหิ ปพฺพชฺชุปสมฺปทาทีนํ สงฺฆกมฺมานํ สุขกรณตฺถํ ปมํ ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา. ตํ ปน พนฺธนฺเตหิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. สเจ หิ โพธิเจติยภตฺตสาลาทีนิ สพฺพวตฺถูนิ ปติฏฺาเปตฺวา กตวิหาเร พนฺธนฺติ, วิหารมชฺเฌ พหูนํ สโมสรณฏฺาเน ¶ อพนฺธิตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส พนฺธิตพฺพา. อกตวิหาเร พนฺธนฺเตหิ โพธิเจติยาทีนํ สพฺพวตฺถูนํ านํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา ปติฏฺิเตสุ วตฺถูสุ วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส โหติ, เอวํ พนฺธิตพฺพา. สา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สเจ เอกวีสติ ภิกฺขู คณฺหาติ, วฏฺฏติ. ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ภิกฺขุสหสฺสํ คณฺหนฺตีปิ วฏฺฏติ. ตํ พนฺธนฺเตหิ สีมามาฬกสฺส สมนฺตา นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา, น ขณฺฑสีมาย ¶ ิเตหิ มหาสีมา พนฺธิตพฺพา, น มหาสีมาย ิเตหิ ขณฺฑสีมา, ขณฺฑสีมายเมว ปน ตฺวา ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา, มหาสีมายเมว ตฺวา มหาสีมา.
ตตฺรายํ พนฺธนวิธิ – สมนฺตา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. อถ ตสฺสา เอว ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ สีมํ สมูหนิสฺสามาติ อาคตา ¶ สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สีมํ สมฺมนฺนิตฺวา พหิสีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพา. สีมนฺตริกา ปจฺฉิมโกฏิยา เอกรตนปฺปมาณา วฏฺฏติ. วิทตฺถิปฺปมาณาปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ, จตุรงฺคุลปฺปมาณาปิ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ, ทฺเวปิ ติสฺโสปิ ตตุตฺตริปิ ขณฺฑสีมาโย พนฺธิตพฺพา.
เอวํ ขณฺฑสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา มหาสีมาสมฺมุติกาเล ขณฺฑสีมโต นิกฺขมิตฺวา มหาสีมาย ตฺวา สมนฺตา อนุปริยายนฺเตหิ สีมนฺตริกปาสาณา กิตฺเตตพฺพา. ตโต อวเสสนิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา หตฺถปาสํ อวิชหนฺเตหิ กมฺมวาจาย สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจาปิ กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจ ปน ขณฺฑสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ตโต สีมนฺตริกาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา มหาสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, เอวํ ตีสุ าเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ยํ สีมํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ปมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺเตนเยน ขณฺฑสีมโตว ปฏฺาย พนฺธิตพฺพา. เอวํ พทฺธาสุ ปน สีมาสุ ขณฺฑสีมาย ิตา ภิกฺขู มหาสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ น โกเปนฺติ, มหาสีมาย วา ิตา ขณฺฑสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ สีมนฺตริกาย ปน ิตา อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺติ. คามเขตฺเต ตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ ปน สีมนฺตริกาย ิตา โกเปนฺติ. สีมนฺตริกา หิ คามเขตฺตํ ภชติ.
สีมา จ นาเมสา น เกวลํ ปถวิตเลเยว พทฺธา พทฺธา นาม โหติ. อถ โข ปิฏฺิปาสาเณปิ กุฏิเคเหปิ เลเณปิ ปาสาเทปิ ¶ ปพฺพตมตฺถเกปิ พทฺธา พทฺธาเยว โหติ. ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ พนฺธนฺเตหิ ปาสาณปิฏฺิยํ ราชึ วา โกฏฺเฏตฺวา อุทุกฺขลํ วา ขณิตฺวา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ ¶ , นิมิตฺตุปคปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สีมา ปถวิสนฺธารกํ อุทกํ ปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. นิมิตฺตปาสาณา ยถาาเน น ติฏฺนฺติ, ตสฺมา สมนฺตโต ราชิ วา อุฏฺาเปตพฺพา, จตูสุ วา โกเณสุ ปาสาณา วิชฺฌิตพฺพา, ‘‘อยํ สีมาปริจฺเฉโท’’ติ วตฺวา อกฺขรานิ วา ฉินฺทิตพฺพานิ. เกจิ อุสูยกา สีมํ ฌาเปสฺสามาติ อคฺคึ เทนฺติ, ปาสาณาว ฌายนฺติ, น สีมา.
กุฏิเคเหปิ ¶ พนฺธนฺเตหิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสฏฺานํ อนฺโต กริตฺวา ปาสาณนิมิตฺตานิ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, อนฺโตกุฏฺฏเมว สีมา โหติ. สเจ อนฺโตกุฏฺเฏ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส นตฺถิ, ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ เอวมฺปิ นปฺปโหติ, พหินิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตานิ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตาย ปน สพฺพํ กุฏิเคหํ สีมฏฺเมว โหติ.
จตุภิตฺติยเลเณปิ พนฺธนฺเตหิ กุฏฺฏํ อกิตฺเตตฺวา ปาสาณาว กิตฺเตตพฺพา. สเจ อนฺโต โอกาโส นตฺถิ, ปมุเขปิ นิมิตฺตานิ เปตพฺพานิ. สเจ นปฺปโหติ, พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ เลณสฺส อนฺโต จ พหิ จ สีมา โหติ.
อุปริปาสาเทปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา อนฺโต ปาสาเณ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ นปฺปโหติ, ปมุเขปิ ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตา อุปริปาสาเทเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ปน พหูสุ ถมฺเภสุ ตุลานํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล ¶ กุฏฺโฏ ยถา นิมิตฺตานํ อนฺโต โหติ, เอวํ อุฏฺหิตฺวา ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพทฺโธ ิโต, เหฏฺาปิ โอตรติ. เอกถมฺภปาสาทสฺส ปน อุปริมตเล พทฺธา สีมา สเจ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส โหติ, เหฏฺา โอตรติ. สเจ ปาสาทภิตฺติโต นิคฺคเตสุ นิยฺยูหกาทีสุ ปาสาเณ เปตฺวา สีมํ พนฺธนฺติ, ปาสาทภิตฺติ อนฺโตสีมายํ โหติ. เหฏฺา ปนสฺสา โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เหฏฺาปาสาเท กิตฺเตนฺเตหิปิ ภิตฺติ จ รุกฺขตฺถมฺภา จ น กิตฺเตตพฺพา. ภิตฺติลคฺเค ปน ปาสาณตฺถมฺเภ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กิตฺติตา สีมา เหฏฺา ปาสาทสฺส ปริยนฺตถมฺภานํ อนฺโตเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺาปาสาทสฺส กุฑฺโฑ อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหติ, อุปริปาสาทมฺปิ อภิรุหติ. สเจ ปาสาทสฺส พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน นิมิตฺตานิ กโรนฺติ, สพฺโพ ปาสาโท สีมฏฺโ โหติ.
ปพฺพตมตฺถเก ¶ ¶ ตลํ โหติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสารหํ, ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ วิย สีมํ พนฺธนฺติ. เหฏฺาปพฺพเตปิ เตเนว ปริจฺเฉเทน สีมา โอตรติ. ตาลมูลกปพฺพเตปิ อุปริ สีมา พทฺธา เหฏฺา โอตรเตว. โย ปน วิตานสณฺาโน โหติ, อุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส อตฺถิ, เหฏฺา นตฺถิ, ตสฺส อุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. เอวํ มุทิงฺคสณฺาโน วา โหตุ ปณวสณฺาโน วา, ยสฺส เหฏฺา วา มชฺเฌ วา สีมปฺปมาณํ นตฺถิ, ตสฺสุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา เนว โอตรติ. ยสฺส ปน ทฺเว กูฏานิ อาสนฺเน ิตานิ, เอกสฺสปิ อุปริ สีมปฺปมาณํ นปฺปโหติ, ตสฺส กูฏนฺตรํ จินิตฺวา วา ปูเรตฺวา วา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุปริ สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา.
เอโก สปฺปผณสทิโส ปพฺพโต, ตสฺสุปริ สีมปฺปมาณสฺส อตฺถิตาย สีมํ พนฺธนฺติ, ตสฺส เจ เหฏฺา อากาสปพฺภารํ โหติ, สีมา น โอตรติ. สเจ ปนสฺส เวมชฺเฌ สีมปฺปมาโณ สุสิรปาสาโณ โหติ, โอตรติ. โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโเยว โหติ. อถาปิสฺส เหฏฺา เลณสฺส กุฏฺโฏ อคฺคโกฏึ อาหจฺจ ติฏฺติ ¶ , โอตรติ, เหฏฺา จ อุปริ จ สีมาเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺา อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต อนฺโต-เลณํ โหติ, พหิ สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต พหิเลณํ โหติ, อนฺโต สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริ สีมาย ปริจฺเฉโท ขุทฺทโก, เหฏฺา เลณํ มหนฺตํ สีมาปริจฺเฉทมติกฺกมิตฺวา ิตํ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. ยทิ ปน เลณํ ขุทฺทกํ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณํ, อุปริ สีมา มหตี ตํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา, สีมา โอตรติ. อถ เลณํ อติขุทฺทกํ สีมปฺปมาณํ น โหติ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ตโต อุปฑฺฒํ ภิชฺชิตฺวา ปตติ, สีมปฺปมาณํ เจปิ โหติ, พหิ ปติตํ อสีมา. อปติตํ ปน ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยว.
ขณฺฑสีมา นีจวตฺถุกา โหติ, ตํ ปูเรตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กโรนฺติ, สีมาเยว. สีมาย เคหํ กโรนฺติ, สีมฏฺกเมว โหติ. สีมาย โปกฺขรณึ ขณนฺติ, สีมาเยว. โอโฆ สีมามณฺฑลํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉติ, สีมามาฬเก อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สีมาย เหฏฺา อุมงฺคนที โหติ, อิทฺธิมา ภิกฺขุ ตตฺถ นิสีทติ, สเจ สา นที ปมํ คตา, สีมา ปจฺฉา พทฺธา ¶ , กมฺมํ น โกเปติ. อถ ปมํ สีมา พทฺธา, ปจฺฉา นที คตา, กมฺมํ โกเปติ. เหฏฺาปถวิตเล ิโต ปน โกเปติเยว.
สีมามาฬเก วฏรุกฺโข โหติ, ตสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา มหาสีมาย ปถวิตลํ ¶ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺติ, มหาสีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. อนาหจฺจ ิตสาขาทีสุ อารุฬฺหภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. เอวํ มหาสีมาย ชาตรุกฺขสฺส สาขา วา ปาโรโห วา วุตฺตนเยเนว สีมามาฬเก ปติฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว สีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา.
สเจ สีมามาฬเก กมฺเม กริยมาเน โกจิ ภิกฺขุ สีมามาฬกสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา เวหาสฏฺิตสาขาย นิสีทติ ¶ , ปาทา วาสฺส ภูมิคตา โหนฺติ, นิวาสนปารุปนํ วา ภูมึ ผุสติ, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปาเท ปน นิวาสนปารุปนฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อิทฺจ ลกฺขณํ ปุริมนเยปิ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺร อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ. สเจ อนฺโตสีมโต ปพฺพโต อพฺภุคจฺฉติ, ตตฺรฏฺโ ภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. อิทฺธิยา อนฺโตปพฺพตํ ปวิฏฺเปิ เอเสว นโย. พชฺฌมานา เอว หิ สีมา ปมาณรหิตํ ปเทสํ น โอตรติ. พทฺธสีมาย ชาตํ ยํกิฺจิ ยตฺถ กตฺถจิ เอกสมฺพทฺเธน คตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ.
๑๔๐. ติโยชนปรมนฺติ เอตฺถ ติโยชนํ ปรมํ ปมาณเมติสฺสาติ ติโยชนปรมา; ตํ ติโยชนปรมํ. สมฺมนฺนนฺเตน ปน มชฺเฌ ตฺวา ยถา จตูสุปิ ทิสาสุ ทิยฑฺฒทิยฑฺฒโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ ปน มชฺเฌ ตฺวา เอเกกทิสโต ติโยชนํ กโรนฺติ, ฉโยชนํ โหตีติ น วฏฺฏติ. จตุรสฺสํ วา ติโกณํ วา สมฺมนฺนนฺเตน ยถา โกณโต โกณํ ติโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ หิ เยน เกนจิ ปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ สีมา จ อสีมา โหติ.
นทีปารนฺติ เอตฺถ ปารยตีติ ปารา. กึ ปารยติ? นทึ. นทิยา ปารา นทีปารา, ตํ นทีปารํ; นทึ อชฺโฌตฺถรมานนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ นทิยา ลกฺขณํ ¶ นทีนิมิตฺเต วุตฺตนยเมว. ยตฺถสฺส ธุวนาวา วาติ ยตฺถ นทิยา สีมาพนฺธนฏฺานคเตสุ ติตฺเถสุ นิจฺจสฺจรณนาวา อสฺส, ยา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปาชนปุริเสน สทฺธึ ตโย ชเน วหติ. สเจ ปน สา นาวา อุทฺธํ วา อโธ วา เกนจิเทว กรณีเยน ปุน อาคมนตฺถาย นีตา, โจเรหิ วา หฏา, อวสฺสํ ลพฺภเนยฺยา, ยา ปน วาเตน วา ฉินฺนพนฺธนา วีจีหิ นทิมชฺฌํ นีตา อวสฺสํ อาหริตพฺพา, ปุน ธุวนาวาว ¶ โหติ. อุทเก โอคเต ถลํ อุสฺสาริตาปิ สุธากสฏาทีหิ ปูเรตฺวา ปิตาปิ ธุวนาวาว. สเจ ภินฺนา วา วิสงฺขตปทรา วา น วฏฺฏติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘สเจปิ ตาวกาลิกํ นาวํ อาเนตฺวา สีมาพนฺธนฏฺาเน ¶ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, ธุวนาวาว โหตี’’ติ. ตตฺร มหาสุมตฺเถโร อาห – ‘‘นิมิตฺตํ วา สีมา วา กมฺมวาจาย คจฺฉติ น นาวาย. ภควตา จ ธุวนาวา อนฺุาตา, ตสฺมา นิพทฺธนาวาเยว วฏฺฏตี’’ติ.
ธุวเสตุ วาติ ยตฺถ รุกฺขสงฺฆาฏมโย วา ปทรพทฺโธ วา ชงฺฆสตฺถเสตุ วา หตฺถิสฺสาทีนํ สฺจรณโยคฺโค มหาเสตุ วา อตฺถิ; อนฺตมโส ตงฺขณฺเว รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา มนุสฺสานํ สฺจรณโยคฺโค เอกปทิกเสตุปิ ธุวเสตุตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. สเจ ปน อุปริ พทฺธานิ เวตฺตลตาทีนิ หตฺเถน คเหตฺวาปิ น สกฺกา โหติ เตน สฺจริตุํ, น วฏฺฏติ.
เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุนฺติ ยตฺถายํ วุตฺตปฺปการา ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถเยว อตฺถิ, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. สเจ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถ นตฺถิ, อีสกํ อุทฺธํ อภิรุหิตฺวา อโธ วา โอโรหิตฺวา อตฺถิ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรปิ วฏฺฏตี’’ติ อาห.
อิมฺจ ปน นทีปารสีมํ สมฺมนฺนนฺเตน เอกสฺมึ ตีเร ตฺวา อุปริโสเต นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย อตฺตานํ ปริกฺขิปนฺเตน ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส ปริโยสาเน อโธโสเตปิ นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปรตีเร สมฺมุขฏฺาเน นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส วเสน ยาว อุปริโสเต ปมกิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นทีตีเร นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน ¶ สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยํ ิตา อนาคตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ปารตีเร จ โอริมตีเร จ เอกสีมา โหติ. นที ¶ ปน พทฺธสีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, วิสุํ นทิสีมา เอว หิ สา.
สเจ อนฺโตนทิยํ ทีปโก โหติ, ตํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมน ปุริมนเยเนว อตฺตนา ิตตีเร นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ทีปกสฺส โอริมนฺเต จ ปาริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. อถ ปรตีเร นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฏฺาเน นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ปุริมนเยเนว ยาว อุปริโสเต ปมกิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตพฺพํ. อถ ทีปกสฺส ปาริมนฺเต จ โอริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน ¶ สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ ทฺวีสุ ตีเรสุ ทีปเก จ ภิกฺขู สพฺเพว หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยํ ิตา อนาคจฺฉนฺตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ตีรทฺวยฺจ ทีปโก จ เอกสีมา โหติ, นที ปน นทิสีมาเยว.
สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธํ วา อโธ วา อธิกตโร โหติ, อถ วิหารสีมาปริจฺเฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว สมฺมุขิภูเต ทีปกสฺส โสริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ทีปกสิขรํ ปริกฺขิปนฺโตน ปุน ทีปกสฺส โสริมนฺเต นิมิตฺตสมฺมุเข ปาริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ปารตีเร สมฺมุขนิมีตฺตมาทึกตฺวา ปารตีรนิมิตฺตานิ จ ทีปกสฺส ปาริมนฺตโสริมนฺตนิมิตฺตานิ จ กิตฺเตตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปพฺพตสณฺฑานา โหติ.
สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธมฺปิ อโธปิ อธิกตโร โหติ. ปุริมนเยเนว ทีปกสฺส อุโภปิ สีขรานิ ปริกฺขิปิตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺเตน นิมิตฺตฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา มุทิงฺคสณฺานา โหติ.
สเจ ¶ ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต ขุทฺทโก โหติ, สพฺพปมนเยน ทีปเก นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปณวสณฺานา โหติ.
สีมานุชานนกถา นิฏฺิตา.
อุโปสถาคาราทิกถา
๑๔๑. อนุปริเวณิยนฺติ เอกสีมมหาวิหาเร ตสฺมึ ตสฺมึ ปริเวเณ. อสงฺเกเตนาติ ¶ สงฺเกตํ อกตฺวา. เอกํ สมูหนิตฺวาติ กมฺมวาจาย สมูหนิตฺวา.
๑๔๒. ยโต ปาติโมกฺขํ สุณาตีติ ยตฺถ กตฺถจิ ภิกฺขูนํ หตฺถปาเส นิสินฺโน ยสฺมา ปาติโมกฺขํ สุณาติ; กโตวสฺส อุโปสโถติ อตฺโถ. อิทฺจ วตฺถุวเสน วุตฺตํ, หตฺถปาเส นิสินฺนสฺส ปน อสุณนฺตสฺสาปิ กโตว โหติ อุโปสโถ. นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ อุโปสถปมุขสฺส ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา ปาสาณอิฏฺกทารุขณฺฑทณฺฑกาทีนิ ยานิ กานิจิ ¶ นิมิตฺตานิ อพฺโภกาเส วา มาฬกาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ สฺํ กตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. อถ วา นิมิตฺตา กิตฺเตตพฺพาติ นิมิตฺตุปคา วา อนิมิตฺตุปคา วา ปริจฺเฉทชานนตฺถํ กิตฺเตตพฺพา.
เถเรหิ ภิกฺขูหิ ปมตรํ สนฺนิปติตุนฺติ เอตฺถ สเจ มหาเถโร ปมตรํ น อาคจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ เอตฺถ สเจ โปราณโก อาวาโส มชฺเฌ วิหารสฺส โหติ, ปโหติ เจตฺถ ภิกฺขูนํ นิสชฺชฏฺานํ, ตตฺถ สนฺนิปติตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ โปราณโก ปริทุพฺพโล เจว สมฺพาโธ จ อฺโ ปจฺฉา อุฏฺิตาวาโส อสมฺพาโธ, ตตฺถ อุโปสโถ กาตพฺโพ.
ยตฺถ วา ปน เถโร ภิกฺขุ วิหรตีติ เอตฺถาปิ สเจ เถรสฺส วิหาโร สพฺเพสํ ปโหติ, ผาสุโก โหติ, ตตฺถ อุโปสโถ กาตพฺโพ. สเจ ปน โส ปจฺจนฺเต วิสมปฺปเทเส โหติ, เถรสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วิหาโร อผาสุกเทโส, นตฺถิ เอตฺถ สพฺเพสํ โอกาโส ¶ , อสุกสฺมึ นาม อาวาเส โอกาโส อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ เถโร นาคจฺฉติ, ตสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาเนตฺวา สพฺเพสํ ปโหนเก ผาสุกฏฺาเน อุโปสโถ กาตพฺโพ.
อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถา
๑๔๓. อนฺธกวินฺทาติ ราชคหโต คาวุตตฺตเย อนฺธกวินฺทํ นาม, ตํ อุปนิสฺสาย เถโร วสติ; ตโต ราชคหํ อุโปสถํ อาคจฺฉนฺโต. ราชคหฺหิ ปริกฺขิปิตฺวา อฏฺารส มหาวิหารา สพฺเพ เอกสีมา, ธมฺมเสนาปตินา เนสํ สีมา พทฺธา, ตสฺมา เวฬุวเน สงฺฆสฺส สามคฺคีทานตฺถํ อาคจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. นทึ ตรนฺโตติ สิปฺปินิยํ นาม นทึ อติกฺกมนฺโต. มนํ วุฬฺโห อโหสีติ อีสกํ อปฺปตฺตวุฬฺหภาโว อโหสิ. สา กิร นที คิชฺฌกูฏโต โอตริตฺวา ¶ จณฺเฑน โสเตน วหติ. ตตฺถ เวเคน อาคจฺฉนฺตํ อุทกํ อมนสิกโรนฺโต เถโร มนํ วุฬฺโห อโหสิ, น ปน วุฬฺโห, อุทกพฺภาหตานิสฺส จีวรานิ อลฺลานิ ชาตานิ.
๑๔๔. สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาสา เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจาติ อิมิสฺสา กมฺมวาจาย อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ ปุริมกมฺมวาจา น วฏฺฏติ. อยเมว หิ ถาวรา โหติ. ภิกฺขุนีนํ ปน อยํ น วฏฺฏติ, ปุริมาเยว วฏฺฏติ. กสฺมา? ภิกฺขุนิสงฺโฆ หิ อนฺโตคาเม วสติ. ยทิ เอวํ สิยา, โส เอตาย กมฺมวาจาย ติจีวรปริหารํ ¶ น ลเภยฺย, อตฺถิ จสฺส ปริหาโร, ตสฺมา ปุริมาเยว วฏฺฏติ. ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส หิ ทฺเวปิ สีมาโย ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขูนํ สีมํ อชฺโฌตฺถริตฺวาปิ ตสฺสา อนฺโตปิ ภิกฺขุนีนํ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนิสีมาย เอเสว นโย. น หิ เต อฺมฺสฺส กมฺเม คณปูรกา โหนฺติ, น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺติ. เอตฺถ จ นิคมนครานมฺปิ คาเมเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
คามูปจาโรติ ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปกาโส. เตสุ อธิฏฺิตเตจีวริโก ภิกฺขุ ปริหารํ น ลภติ. อิติ ¶ ภิกฺขูนํ อวิปฺปวาสสีมา คามฺจ คามูปจารฺจ น โอตฺถรติ, สมานสํวาสกสีมาว โอตฺถรติ. สมานสํวาสกสีมา เจตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย คจฺฉติ. อวิปฺปวาสสีมา ปน ยตฺถ สมานสํวาสกสีมา, ตตฺเถว คจฺฉติ. น หิ ตสฺสา วิสุํ นิมิตฺตกิตฺตนํ อตฺถิ, ตตฺถ สเจ อวิปฺปวาสาย สมฺมุติกาเล คาโม อตฺถิ, ตํ สา น โอตฺถรติ. สเจ ปน สมฺมตาย สีมาย ปจฺฉา คาโม นิวิสติ, โสปิ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. ยถา จ ปจฺฉา นิวิฏฺโ, เอวํ ปมํ นิวิฏฺสฺส ปจฺฉา วฑฺฒิตปฺปเทโสปิ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจปิ สีมาสมฺมุติกาเล เคหานิ กตานิ, ปวิสิสฺสามาติ อาลโยปิ อตฺถิ, มนุสฺสา ปน อปฺปวิฏฺา, โปราณกคามํ วา สเคหเมว ฉฑฺเฑตฺวา อฺตฺถ คตา, อคาโมเยว เอส, สีมา โอตฺถรติ ¶ . สเจ ปน เอกมฺปิ กุลํ ปวิฏฺํ วา อาคตํ วา อตฺถิ, คาโมเยว สีมา น โอตฺถรติ.
เอวฺจ ปน ภิกฺขเว ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมูหนฺตพฺโพติ เอตฺถ สมูหนนฺเตน ภิกฺขุนา วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – ขณฺฑสีมาย ตฺวา อวิปฺปวาสสีมา น สมูหนฺตพฺพา, ตถา อวิปฺปวาสสีมาย ตฺวา ขณฺฑสีมาปิ. ขณฺฑสีมายํ ปน ิเตน ขณฺฑสีมาว สมูหนิตพฺพา, ตถา อิตราย ิเตน อิตรา. สีมํ นาม ทฺวีหิ การเณหิ สมูหนนฺติ ปกติยา ขุทฺทกํ ปุน อาวาสวฑฺฒนตฺถาย มหตึ วา กาตุํ; ปกติยา มหตึ ปุน อฺเสํ วิหาโรกาสทานตฺถาย ขุทฺทกํ วา กาตุํ. ตตฺถ สเจ ขณฺฑสีมฺจ อวิปฺปวาสสีมฺจ ชานนฺติ, สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตฺุเจว พนฺธิตฺุจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ อชานนฺตา อวิปฺปวาสํเยว ชานนฺตา เจติยงฺคณโพธิยงฺคณอุโปสถาคาราทีสุ นิราสงฺกฏฺาเนสุ ตฺวา อปฺเปว นาม สมูหนิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตว. สเจ พนฺเธยฺยุํ, สีมาสมฺเภทํ กตฺวา วิหารํ อวิหารํ กเรยฺยุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. เย ปน อุโภปิ น ชานนฺติ, เตเนว สมูหนิตุํ น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ. อยฺหิ สีมา นาม กมฺมวาจาย วา อสีมา โหติ สาสนนฺตรธาเนน ¶ วา, น จ สกฺกา สีมํ อชานนฺเตหิ กมฺมวาจา กาตุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. สาธุกํ ปน ตฺวาเยว สมูหนิตพฺพา จ พนฺธิตพฺพา จาติ.
คามสีมาทิกถา
๑๔๗. เอวํ ¶ พทฺธสีมาวเสน สมานสํวาสฺจ เอกูโปสถภาวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อพทฺธสีเมสุปิ โอกาเสสุ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมฺมตาย, ภิกฺขเว, สีมาย อฏฺปิตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อฏฺปิตายาติ อปริจฺฉินฺนาย. คามคฺคหเณน เจตฺถ นครมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตตฺถ ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส คามสฺส โภชกา พลึ ลภนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, คามสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นครนิคมสีมาสุปิ เอเสว นโย. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว ¶ คามเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘‘อยํ วิสุํ คาโม โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยว. ตสฺมา สา จ อิตรา จ ปกติคามนครนิคมสีมา พทฺธสีมาสทิสาเยว โหนฺติ, เกวลํ ปน ติจีวรวิปฺปวาสปริหารํ น ลภนฺติ.
เอวํ คามนฺตวาสีนํ สีมาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อารฺกานํ สีมาปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อคามเก เจ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อคามเก เจติ คามนิคมนครสีมาหิ อปริจฺฉินฺเน อฏวิปฺปเทเส. อถ วา อคามเก เจติ วิชฺฌาฏวิสทิเส อรฺเ ภิกฺขุ วสติ, อถสฺส ิโตกาสโต สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา สมานสํวาสกสีมาติ อตฺโถ. อยํ สีมา ติจีวรวิปฺปวาสปริหารมฺปิ ลภติ. ตตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติ หตฺถปฺปมาณํ โหติ. มชฺเฌ ิตสฺส สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. สเจ ทฺเว สงฺฆา วิสุํ วินยกมฺมานิ กโรนฺติ, ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรานํ อนฺตเร อฺํ เอกํ สตฺตพฺภนฺตรํ อุปจารตฺถาย เปตพฺพํ. เสสา สตฺตพฺภนฺตรสีมกถา มหาวิภงฺเค อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตนเยน คเหตพฺพา.
สพฺพา ภิกฺขเว นที อสีมาติ ยา กาจิ นทีลกฺขณปฺปตฺตา นที นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ‘‘เอตํ พทฺธสีมํ กโรมา’’ติ กตาปิ อสีมาว โหติ, สา ปน อตฺตโน สภาเวเนว พทฺธสีมาสทิสา, สพฺพเมตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สมุทฺทชาตสฺสเรสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ชาตสฺสโร นาม เยน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาตโสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ.
เอวํ ¶ ¶ นทีสมุทฺทชาตสฺสรานํ พทฺธสีมาภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ตตฺถ อพทฺธสีมาปอจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นทิยา วา ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตา อุทกุกฺเขปาติ ยํ านํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตโต อุทกุกฺเขเปน ปริจฺฉินฺนํ. กถํ ปน อุทกํ อุกฺขิปิตพฺพํ? ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลิกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ. ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ปตติ, อยเมโก อุทกุกฺเขโป. ตสฺส อนฺโต หตฺถปาสํ ¶ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ โกเปติ. ยาว ปริสา วฑฺฒติ, ตาว สีมาปิ วฑฺฒติ. ปริสปริยนฺตโต อุทกุกฺเขโปเยว ปมาณํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทสุปิ เอเสว นโย.
เอตฺถ จ สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมากมฺมํ นตฺถิ, สกลาปิ นที เอเตสํเยว ภิกฺขูนํ ปโหติ. ยํ ปน มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘โยชนํ ปวตฺตมานาเยว นที, ตตฺราปิ อุปริ อทฺธโยชนํ ปหาย เหฏฺา อทฺธโยชเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ตํ มหาปทุมตฺเถเรเนว ปฏิกฺขิตฺตํ. ภควตา หิ ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ อิทํ นทิยา ปมาณํ วุตฺตํ, น โยชนํ วา อทฺธโยชนํ วา. ตสฺมา ยา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณา นที, ตสฺสา ปภวโต ปฏฺาย สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. สเจ ปเนตฺถ พหู ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺติ, สพฺเพหิ อตฺตโน จ อฺเสฺจ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส อนฺตรา อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺโพ. ตโต อธิกํ วฏฺฏติเยว, อูนกํ ปน น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทสุปิ เอเสว นโย.
นทิยา ปน กมฺมํ กริสฺสามาติ คเตหิ สเจ นที ปริปุณฺณา โหติ สมติตฺติกา, อุทกสาฏิกํ นิวาเสตฺวาปิ อนฺโตนทิยํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ น สกฺโกนฺติ, นาวายปิ ตฺวา กาตพฺพํ. คจฺฉนฺติยา ปน นาวาย กาตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา? อุทกุกฺเขปมตฺตเมว หิ สีมา, ตํ นาวา สีฆเมว อติกฺกาเมติ. เอวํ สติ อฺิสฺสา สีมาย ตฺติ อฺิสฺสา อนุสาวนา โหติ, ตสฺมา นาวํ อริตฺเตน วา เปตฺวา ปาสาเณ วา ลมฺพิตฺวา ¶ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วา พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. อนฺโตนทิยํ พทฺธอฏฺฏเกปิ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเขปิ ิเตหิ กาตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห ¶ วา พหินทีตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต, สีมํ วา โสเธตฺวา สาขํ วา ฉินฺทิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. พหินทีตีเร ¶ ชาตรุกฺขสฺส อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขาย วา ปาโรเห วา นาวํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. กโรนฺเตหิ สีมา วา โสเธตพฺพา, ฉินฺทิตฺวา วาสฺส พหิปติฏฺิตภาโว นาเสตพฺโพ. นทีตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏติเยว.
นทิยํ เสตุํ กโรนฺติ, สเจ อนฺโตนทิยํเยว เสตุ วา เสตุปาทา วา, เสตุมฺหิ ิเตหิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, สีมํ โสเธตฺวา กาตพฺพํ. อถ เสตุปาทา อนฺโต, เสตุ ปน อุภินฺนมฺปิ ตีรานํ อุปริอากาเส ิโต, วฏฺฏติ. อนฺโตนทิยํ ปาสาโณ วา ทีปโก วา โหติ, ตสฺส ยตฺตกํ ปเทสํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร ปกติวสฺสกาเล วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, โส นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. อติวุฏฺิกาเล ปน โอเฆน โอตฺถโฏกาโส น คเหตพฺโพ, โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
นทิโต มาติกํ นีหรนฺตา นทิยํ อาวรณํ กโรนฺติ, ตฺเจ โอตฺถริตฺวา วา วินิพฺพิชฺฌิตฺวา วา อุทกํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาวรเณน วา โกฏฺฏกพนฺธเนน วา โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อุทกํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อาวรณมตฺถเกปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ โกจิ อาวรณปฺปเทโส ปุพฺเพ วุตฺตปาสาณทีปกปฺปเทโส วิย อุทเกน อชฺโฌตฺถริยติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. โส หิ นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทึ วินาเสตฺวา ตฬากํ กโรนฺติ, เหฏฺา ปาฬิ พทฺธา, อุทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อุปริ ปวตฺตนฏฺาเน เหฏฺา จ ฉฑฺฑิตโมทกํ นทึ โอตฺถริตฺวา สนฺทนฏฺานโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. เทเว อวสฺสนฺเต เหมนฺตคิมฺเหสุ วา สุกฺขนทิยาปิ วฏฺฏติ. นทิโต นีหฏมาติกาย น วฏฺฏติ. สเจ ¶ สา กาลนฺตเรน ภิชฺชิตฺวา นที โหติ, วฏฺฏติ. กาจิ นที กาลนฺตเรน อุปฺปติตฺวา คามนิคมสีมํ โอตฺถริตฺวา ปวตฺตติ, นทีเยว โหติ, กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
สมุทฺเทปิ ¶ กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยํ ปเทสํ อุทฺธํ วฑฺฒนอุทกํ วา ปกติวีจิ วา เวเคน อาคนฺตฺวา โอตฺถรติ, ตตฺถ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ปกติวีจิโย โอตฺถริตฺวา สณฺหนฺติ, โส อุทกนฺตโต ปฏฺาย อนฺโตสมุทฺโท นาม, ตตฺถ ิเตหิ กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อูมิเวโค พาธติ, นาวาย วา อฏฺฏเก วา ตฺวา กาตพฺพํ. เตสุ วินิจฺฉโย นทิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมุทฺเท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ, ตํ กทาจิ อูมิโย อาคนฺตฺวา โอตฺถรนฺติ ¶ , กทาจิ น โอตฺถรนฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ ปน วีจีสุ อาคตาสุปิ อนาคตาสุปิ ปกติอุทเกเนว โอตฺถริยติ, วฏฺฏติ. ทีปโก วา ปพฺพโต วา โหติ, โส เจ ทูเร โหติ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ, อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เตสํ คมนปริยนฺตสฺส โอรโต ปน คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ คามสีมํ อโสเธตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโท คามสีมํ วา นิคมสีมํ วา โอตฺถริตฺวา ติฏฺติ, สมุทฺโทว โหติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
ชาตสฺสเร กมฺมํ กโรนฺเตหิปิ ยตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล วสฺเส ปจฺฉินฺนมตฺเต ปิวิตุํ วา หตฺถปาเท วา โธวิตุํ อุทกํ น โหติ, สุกฺขติ, อยํ น ชาตสฺสโร, คามเขตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยตฺถ ปน วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยเมว ชาตสฺสโร. ตสฺส ยตฺตเก ปเทเส วสฺสานํ จาตุมาเส อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ คมฺภีรํ อุทกํ, อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ิเตหิปิ ชาตสฺสรสฺส อนฺโต ชาตรุกฺขมฺหิ พทฺธอฏฺฏเกปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาณทีปเกสุ ปเนตฺถ นทิยํ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. สมวสฺสเทวกาเล ปโหนกชาตสฺสโร ปน สเจปิ ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺหเหมนฺเตสุ วา สุกฺขติ, นิรุทโก โหติ, ตตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺโพ ชาตสฺสโร สุกฺโข อโนทโก ¶ , คามเขตฺตํเยว ภชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ อุทกตฺถาย อาวาฏํ วา โปกฺขรณีอาทีนิ ¶ วา ขณนฺติ, ตํ านํ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ลาพุติปุสกาทิวปฺเป กเตปิ เอเสว นโย.
สเจ ปน ตํ ปูเรตฺวา ถลํ วา กโรนฺติ, เอกสฺมึ ทิสาภาเค ปาฬึ พนฺธิตฺวา สพฺพเมว ตํ มหาตฬากํ วา กโรนฺติ, สพฺโพปิ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. โลณีปิ ชาตสฺสรสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุทกฏฺาโนกาเส กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ.
๑๔๘. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ พทฺธสีมํ สมฺภินฺทนฺติ. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพู จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพู. วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโต กตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ, อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหารํ กตฺวา สีมํ พนฺธนฺตา ตํ อมฺพํ อนฺโต กตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ, สีมาย ¶ สีมา สมฺภินฺนา โหติ. เอวํ ฉพฺพคฺคิยา อกํสุ, เตนาห – ‘‘สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺตี’’ติ.
สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ พทฺธสีมํ อชฺโฌตฺถรนฺติ;
ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโต กตฺวา อตฺตโน สีมํ พนฺธนฺติ. สีมนฺตริกํ เปตฺวา สีมํ สมฺมนฺนิตุนฺติ เอตฺถ สเจ ปมตรํ กตสฺส วิหารสฺส สีมา อสมฺมตา โหติ, สีมาย อุปจาโร เปตพฺโพ. สเจ สมฺมตา โหติ, ปจฺฉิมโกฏิยา หตฺถมตฺตา สีมนฺตริกา เปตพฺพา. กุรุนฺทิยํ วิทตฺถิมตฺตมฺปิ, มหาปจฺจริยํ จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ, โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมาสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ.
อุโปสถเภทาทิกถา
๑๔๙. จาตุทฺทสิโก จ ปนฺนรสิโก จาติ เอตฺถ จาตุทฺทสิกสฺส ปุพฺพกิจฺเจ ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วตฺตพฺพํ.
อธมฺเมน วคฺคนฺติอาทีสุ ¶ สเจ เอกสฺมึ วิหาเร จตูสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ ¶ กโรนฺติ, ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺมํ โหติ. สเจ ปน จตฺตาโรปิ สนฺนิปติตฺวา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติ. สเจ จตูสุ ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ตโย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตีสุ วา ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธึ อาหริตฺวา ทฺเว ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน วคฺคํ นาม โหติ. สเจ ปน จตฺตาโร เอกตฺถ วสนฺตา สพฺเพว สนฺนิปติตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺเว อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหตีติ.
ปาติโมกฺขุทฺเทสกถา
๑๕๐. นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพนฺติ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ…เป… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ – กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… เอวเมตํ ¶ ธารยามีติ. สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา…เป… อวิวทมาเนหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ. เอเตน นเยน เสสาปิ จตฺตาโร ปาติโมกฺขุทฺเทสา เวทิตพฺพา.
สวรภยนฺติ อฏวิมนุสฺสภยํ. ราชนฺตราโยติอาทีสุ สเจ ภิกฺขูสุ ‘‘อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโย. โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโย. ทวทาโห วา อาคจฺฉติ, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺหติ, อยํ อคฺคนฺตราโย. เมโฆ วา อุฏฺเติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโย. พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโย. ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย. พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโย. ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโย. ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ ¶ ชีวิตนฺตราโย. มนุสฺสา เอกํ วา พหู วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย. เอวรูเปสุ อนฺตราเยสุ สํขิตฺเตน ปาติโมกฺโข อุทฺทิสิตพฺโพ ¶ , ปโม วา อุทฺเทโส อุทฺทิสิตพฺโพ, อาทิมฺหิ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วา. เอตฺถ จ ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสุ ยสฺมึ อปริโยสิเต อนฺตราโย โหติ, โสปิ สุเตเนว สาเวตพฺโพ.
อนชฺฌิฏฺาติ อนาณตฺตา อยาจิตา วา. อชฺเฌสนา เจตฺถ สงฺเฆน สมฺมตธมฺมชฺเฌสกายตฺตา วา สงฺฆตฺเถรายตฺตา วา, ตสฺมึ ธมฺมชฺเฌสเก อสติ สงฺฆตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวา วา เตน ยาจิโต วา ภาสิตุํ ลภติ. สงฺฆตฺเถเรนาปิ สเจ วิหาเร พหู ธมฺมกถิกา โหนฺติ, วารปฏิปาฏิยา วตฺตพฺพา – ‘‘ตฺวํ ธมฺมํ ภณ, ธมฺมํ กเถหิ, ธมฺมทานํ เทหี’’ติ วา วุตฺเตน ตีหิปิ วิธีหิ ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน โอสาเรตุเมว ลภติ, ‘‘กเถหี’’ติ วุตฺโต กเถตุเมว, ‘‘สรภฺํ ภณาหี’’ติ วุตฺโต สรภฺเมว. สงฺฆตฺเถโรปิ จ อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺโน ยาจิตุํ น ลภติ. สเจ อุปชฺฌาโย เจว สทฺธิวิหาริโก จ โหนฺติ, อุปชฺฌาโย จ นํ อุจฺจาสเน นิสินฺโน ‘‘ภณาหี’’ติ วทติ, สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวา ภณิตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทหรา ภิกฺขู โหนฺติ, เตสํ ‘‘ภณามี’’ติ ภณิตพฺพํ.
สเจ วิหาเร สงฺฆตฺเถโร อตฺตโนเยว นิสฺสิตเก ภณาเปติ, อฺเ มธุรภาณเกปิ นาชฺเฌสติ, โส อฺเหิ วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต อสุกํ นาม ภณาเปมา’’ติ. สเจ ‘‘ภณาเปถา’’ติ วา วทติ, ตุณฺหี วา โหติ, ภณาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปฏิพาหติ, น ภณาเปตพฺพํ. ยทิ อนาคเตเยว สงฺฆตฺเถเร ธมฺมสวนํ อารทฺธํ, ปุน อาคเต เปตฺวา อาปุจฺฉนกิจฺจํ ¶ นตฺถิ. โอสาเรตฺวา ปน กเถนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา วา อฏฺเปตฺวาเยว วา กเถตพฺพํ, กเถนฺตสฺส ปุน อาคเตปิ เอเสว นโย.
อุปนิสินฺนกถายปิ สงฺฆตฺเถโรว สามี, ตสฺมา เตน สยํ วา กเถตพฺพํ, อฺโ วา ภิกฺขุ ‘‘กเถหี’’ติ วตฺตพฺโพ, โน จ โข อุจฺจตเร อาสเน นิสินฺเนน. มนุสฺสานํ ปน ‘‘ภณาหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา อตฺตโน ชานนกภิกฺขุํ อาปุจฺฉนฺติ, เตน เถรํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถตพฺพํ. สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘ภนฺเต อิเม ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘กเถหี’’ติ ¶ วา ภณติ, ตุณฺหี วา โหติ, กเถตุํ วฏฺฏติ. อนฺตรฆเร อนุโมทนาทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ สงฺฆตฺเถโร วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ‘‘มํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ¶ กเถยฺยาสี’’ติ อนุชานาติ, ลทฺธกปฺปิยํ โหติ, สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
สชฺฌายํ กโรนฺเตนาปิ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพเยว. เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส อปโร อาคจฺฉติ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ วิสฺสมิสฺสามีติ ปิตสฺส อาคจฺฉติ, ปุน อารภนฺเตนาปิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเร อนาคเตเยว อารทฺธํ สชฺฌายนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เอเกน สงฺฆตฺเถเรน ‘‘มํ อนาปุจฺฉาปิ ยถาสุขํ สชฺฌายาหี’’ติ อนฺุาเต ยถาสุขํ สชฺฌายิตุํ วฏฺฏติ. อฺสฺมึ ปน อาคเต ตํ อาปุจฺฉิตฺวาว สชฺฌายิตพฺพํ.
๑๕๑. อตฺตนา วา อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํติ อตฺตนา วา อตฺตา สมฺมนฺนิตพฺโพ; ปุจฺฉนฺเตน ปน ปริสํ โอโลเกตฺวา สเจ อตฺตโน อุปทฺทโว นตฺถิ, วินโย ปุจฺฉิตพฺโพ.
๑๕๓. กเตปิ โอกาเส ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวาติ ‘‘อตฺถิ นุ โข เม อิโต อุปทฺทโว, นตฺถี’’ติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา. ปุรมฺหากนฺติ ปมํ อมฺหากํ. ปฏิกจฺเจวาติ ปมตรเมว. ปุคฺคลํ ตุลยิตฺวา โอกาสํ กาตุนฺติ ‘‘ภูตเมว นุ โข อาปตฺตึ วทติ, อภูต’’นฺติ เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอกาสํ กาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
อธมฺมกมฺมปฏิกฺโกสนาทิกถา
๑๕๔. อธมฺมกมฺมํ วุตฺตนยเมว. ปฏิกฺโกสิตุนฺติ วาเรตุํ. ทิฏฺิมฺปิ อาวิกาตุนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺมํ อิทํ น เม ขมตี’’ติ เอวํ อฺสฺส สนฺติเก อตฺตโน ทิฏฺึ ปกาเสตุํ. จตูหิ ปฺจหีติอาทิ ¶ เตสํ อนุปทฺทวตฺถาย วุตฺตํ. สฺจิจฺจ น สาเวนฺตีติ ยถา น สุณนฺติ เอวํ ภณิสฺสามาติ สฺจิจฺจ สณิกํ อุทฺทิสนฺติ.
๑๕๕. เถราธิกนฺติ เถราธีนํ; เถรายตฺตํ ภวิตุนฺติ อตฺโถ. ‘‘เถราเธยฺย’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺมา เถเรน สยํ วา อุทฺทิสิตพฺพํ, อฺโ วา อชฺเฌสิตพฺโพ. อชฺเฌสนวิธานฺเจตฺถ ธมฺมชฺเฌสเน วุตฺตนยเมว. โส น ¶ ชานาติ อุโปสถํ วาติอาทีสุ จาตุทฺทสิกปนฺนรสิกเภเทน ทุวิธํ, สงฺฆอุโปสถาทิเภเทน นววิธฺจ อุโปสถํ น ชานาติ, จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ, ทุวิธํ ปาติโมกฺขํ น ชานาติ, นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ. โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโลติ เอตฺถ กิฺจาปิ ทหรสฺสาปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺโข อนฺุาโต. อถ โข เอตฺถ ¶ อยมธิปฺปาโย. สเจ เถรสฺส ปฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ; ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺโตว ปาติโมกฺขา. สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺโต โหติ.
สามนฺตา อาวาสาติ สามนฺตํ อาวาสํ. สชฺชุกนฺติ ตทเหว อาคมนตฺถาย. นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถ โย สกฺโกติ อุคฺคเหตุํ, เอวรูโป อาณาเปตพฺโพ, น พาโล.
ปกฺขคณนาทิอุคฺคหณานุชานนกถา
๑๕๖. กติมี ภนฺเตติ เอตฺถ กตีนํ ปูรณีติ กติมี. กาลวโตติ กาลสฺเสว; ปเควาติ อตฺโถ.
๑๕๘. ยํ กาลํ สรตีติ เอตฺถ สายมฺปิ ‘‘อชฺชุโปสโถ สมนฺนาหรถา’’ติ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.
๑๕๙. เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุนฺติ เอตฺถาปิ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อฺตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพา. สเจ อาณตฺโต สมฺมฺุชนึ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
๑๖๐. อาสนปฺาปนาณตฺติยมฺปิ ¶ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโตปิ อาหริตฺวา ปฺเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ. อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปฺเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ ¶ กาเรตฺวา ปฺเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ.
๑๖๑. ปทีปกรเณปิ วุตฺตนเยเนว อาณาเปตพฺโพ. อาณาเปนฺเตน จ ‘‘อมุกสฺมึ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ปริเยสิตพฺพานิ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติ. อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพ.
ทิสํคมิกาทิวตฺถุกถา
๑๖๓. สงฺคเหตพฺโพติ ‘‘สาธุ ภนฺเต อาคตาตฺถ, อิธ ภิกฺขา สุลภา สูปพฺยฺชนํ อตฺถิ, วสถ อนุกฺกณฺมานา’’ติ เอวํ ปิยวจเนน สงฺคเหตพฺโพ. ปุนปฺปุนํ ตถากรณวเสน ¶ อนุคฺคเหตพฺโพ. ‘‘อาม วสิสฺสามี’’ติ ปฏิวจนทาปเนน อุปลาเปตพฺโพ. อถ วา จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคเหตพฺโพ เจว อนุคฺคเหตพฺโพ จ. ปิยวจเนน อุปลาเปตพฺโพ, กณฺณสุขํ อาลปิตพฺโพติ อตฺโถ. จุณฺณาทีหิ อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สเจ สกโลปิ สงฺโฆ น กโรติ, สพฺเพสํ ทุกฺกฏํ. อิธ เนว เถรา น ทหรา มุจฺจนฺติ, สพฺเพหิ วาเรน อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตโน วาเร อนุปฏฺหนฺตสฺส อาปตฺติ. เตน ปน มหาเถรานํ ปริเวณสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺทานาทีนิ น สาทิตพฺพานิ. เอวมฺปิ สติ มหาเถเรหิ สายํปาตํ อุปฏฺานํ อาคนฺตพฺพํ. เตน ปน เตสํ อาคมนํ ตฺวา ปมตรํ มหาเถรานํ อุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ. สจสฺส สทฺธึจรา ภิกฺขุอุปฏฺากา อตฺถิ, ‘‘มยฺหํ อุปฏฺากา อตฺถิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถาปิสฺส สทฺธึจรา นตฺถิ, ตสฺมึเยว ปน วิหาเร เอโก วา ทฺเว วา วตฺตสมฺปนฺนา วทนฺติ ‘‘มยํ เถรสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสาม, อวเสสา ผาสุ วิหรนฺตู’’ติ สพฺเพสํ อนาปตฺติ.
โส อาวาโส คนฺตพฺโพติ อุโปสถกรณตฺถาย อนฺวทฺธมาสํ คนฺตพฺโพ. โส จ โข อุตุวสฺเสเยว, วสฺสาเน ปน ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วสฺสํ วสนฺติ พาลา อพฺยตฺตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น ภิกฺขเว เตหิ ภิกฺขูหิ ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ ปุริมิกาย ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา น วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. สเจ โส วสฺสูปคตานํ ปกฺกมติ ¶ ¶ วา, วิพฺภมติ วา, กาลํ วา กโรติ, อฺสฺมึ สติเยว ปจฺฉิมิกาย วสิตุํ วฏฺฏติ, อสติ อฺตฺถ คนฺตพฺพํ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มาสทฺวยํ วสิตพฺพํ.
ปาริสุทฺธิทานกถา
๑๖๔. กาเยน วิฺาเปตีติ ปาริสุทฺธิทานํ เยน เกนจิ องฺคปจฺจงฺเคน วิฺาเปติ ชานาเปติ; วาจํ ปน นิจฺฉาเรตุํ สกฺโกนฺโต วาจาย วิฺาเปติ; อุภยถา สกฺโกนฺโต กายวาจาหิ. สงฺเฆน ตตฺถ คนฺตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ สเจ พหู ตาทิสา คิลานา โหนฺติ, สงฺเฆน ปฏิปาฏิยา ตฺวา สพฺเพ หตฺถปาเส กาตพฺพา. สเจ ทูเร ทูเร โหนฺติ, สงฺโฆ นปฺปโหติ, ตํ ¶ ทิวสํ อุโปสโถ น กาตพฺโพ, นตฺเวว วคฺเคน สงฺเฆน อุโปสโถ กาตพฺโพ.
ตตฺเถว ปกฺกมตีติ สงฺฆมชฺฌํ อนาคนฺตฺวา ตโตว กตฺถจิ คจฺฉติ. สามเณโร ปฏิชานาตีติ ‘‘สามเณโร อห’’นฺติ เอวํ ปฏิชานาติ; ภูตํเยว วา สามเณรภาวํ อาโรเจติ, ปจฺฉา วา สามเณรภูมิยํ ติฏฺตีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
สงฺฆปฺปตฺโต ปกฺกมตีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อุโปสถตฺถาย สนฺนิปติตานํ จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ หตฺถปาสํ ปตฺวา ปกฺกมติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ เอเกน พหูนมฺปิ อาหฏา ปาริสุทฺธิ อาหฏาว โหติ. สเจ ปน โส อนฺตรามคฺเค อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เยสํ อเนน ปาริสุทฺธิ คหิตา, เตสฺจ อตฺตโน จ ปาริสุทฺธึ เทติ, ตสฺเสว ปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ, อิตรา ปน พิลาฬสงฺขลิกปาริสุทฺธิ นาม โหติ. สา น อาคจฺฉติ.
สุตฺโต น อาโรเจตีติ อาคนฺตฺวา สุปติ, ‘‘อสุเกน ปาริสุทฺธิ ทินฺนา’’ติ น อาโรเจติ. ปาริสุทฺธิหารกสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ สเจ สฺจิจฺจ นาโรเจติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ปาริสุทฺธิ ปน อาหฏาว โหติ. อสฺจิจฺจ อนาโรจิตตฺตา ปนสฺส อนาปตฺติ, อุภินฺนมฺปิ จ อุโปสโถ กโตเยว โหติ.
ฉนฺททานกถา
๑๖๕. ฉนฺททาเนปิ ¶ ปาริสุทฺธิทาเน วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ปาริสุทฺธึ เทนฺเตน ฉนฺทมฺปิ ¶ ทาตุนฺติ เอตฺถ สเจ ปาริสุทฺธิเมว เทติ น ฉนฺทํ, อุโปสโถ กโต โหติ. ยํ ปน สงฺโฆ อฺํ กมฺมํ กโรติ, ตํ อกตํ โหติ. ฉนฺทเมว เทติ น ปาริสุทฺธึ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสโถปิ กมฺมมฺปิ กตเมว โหติ, ฉนฺททายกสฺส ปน อุโปสโถ อกโต โหติ. สเจปิ โกจิ ภิกฺขุ นทิยา วา สีมาย วา อุโปสถํ อธิฏฺหิตฺวา อาคจฺฉติ, ‘‘กโต มยา อุโปสโถ’’ติ อจฺฉิตุํ น ลภติ, สามคฺคี วา ฉนฺโท วา ทาตพฺโพ.
๑๖๗. สรติปิ อุโปสถํ นปิ สรตีติ เอกทา สรติ, เอกทา น สรติ. อตฺถิ เนว สรตีติ โย เอกนฺตํ เนว สรติ, ตสฺส สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถิ. อนาคจฺฉนฺโตปิ กมฺมํ น โกเปติ.
สงฺฆุโปสถาทิกถา
๑๖๘. โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวาติ ตํ เทสํ สมฺมชฺชิตฺวา, อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตํ. ปานียํ ปริโภชนียนฺติอาทิ ปน อุตฺตานตฺถเมว ¶ . กสฺมา ปเนตํ วุตฺตํ? อุโปสถสฺส ปุพฺพกรณาทิทสฺสนตฺถํ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –
‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจติ’’.
อิติ อิมานิ จตฺตาริ ‘‘ปุพฺพกรณ’’นฺติ อกฺขาตานิ.
‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจติ.
อิติ อิมานิ ปฺจ ปุพฺพกรณโต ปจฺฉา กตฺตพฺพานิ ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ อกฺขาตานิ.
‘‘อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมึ น โหนฺติ,
ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจติ’’.
อิติ ¶ อิมานิ จตฺตาริ ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อกฺขาตานีติ.
เตหิ ¶ สทฺธินฺติ เตหิ อาคเตหิ สทฺธึ เอตานิ ปุพฺพกรณาทีนิ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ. อชฺช เม อุโปสโถติ เอตฺถ สเจ ปนฺนรโส โหติ, ‘‘อชฺช เม อุโปสโถ ปนฺนรโส’’ติปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. จาตุทฺทสิเกปิ เอเสว นโย.
อาปตฺติปฏิกมฺมวิธิกถา
๑๖๙. ภควตา ปฺตฺตํ ‘‘น สาปตฺติเกน อุโปสโถ กาตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติอาทิวจเนเนว ปาริสุทฺธิทานปฺาปเนน จ ปาริสุทฺธิอุโปสถปฺาปเนน จ ปฺตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตินฺติ ถุลฺลจฺจยาทีสุ เอกิสฺสา นามํ คเหตฺวา ‘‘ถุลฺลจฺจยํ อาปตฺตึ ปาจิตฺติยํ อาปตฺติ’’นฺติ เอวํ วตฺตพฺพํ. ตํ ปฏิเทเสมีติ อิทํ ‘‘ตํ ตุมฺหมูเล, ตํ ตุยฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วุตฺเตปิ สุวุตฺตเมว โหติ. ปสฺสสีติ อิทฺจ ‘‘ปสฺสสิ อาวุโส ตํ อาปตฺตึ, ปสฺสถ ภนฺเต ตํ อาปตฺติ’’นฺติ เอวํ วตฺตพฺพํ. อาม ปสฺสามีติ อิทํ ปน ‘‘อาม ภนฺเต ปสฺสามิ, อาม อาวุโส ปสฺสามี’’ติ เอวํ วุตฺตมฺปิ สุวุตฺตเมว โหติ. อายตึ สํวเรยฺยาสีติ เอตฺถ ปน สเจ วุฑฺฒตโร ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวํ วุตฺเตน ปน ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ ¶ วตฺตพฺพเมว.
ยทา นิพฺเพมติโกติ เอตฺถ สเจ ปเนส นิพฺเพมติโก น โหติ, วตฺถุํ กิตฺเตตฺวาว เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ เทสนาวิธิ – สเจ เมฆจฺฉนฺเน สูริเย ‘‘กาโล นุ โข โน’’ติ เวมติโก ภฺุชติ, เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ภนฺเต เวมติโก ภฺุชึ’’, สเจ กาโล อตฺถิ, ‘‘สมฺพหุลา ทุกฺกฏา อาปตฺติโย อาปนฺโนมฺหิ, โน เจ อตฺถิ, ‘‘สมฺพหุลา ปาจิตฺติยา อาปนฺโนมฺหี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ยา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมฺพหุลา ทุกฺกฏา วา ปาจิตฺติยา วา อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอส นโย สพฺพาปตฺตีสุ.
น ภิกฺขเว สภาคา อาปตฺตีติ เอตฺถ ยํ ทฺเวปิ ชนา วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา ‘‘สภาคา’’ติ ¶ วุจฺจติ. วิกาลโภชนปฺปจฺจยา อาปนฺนํ ปน อนติริตฺตโภชนปจฺจยา อาปนฺนสฺส สนฺติเก เทเสตุํ วฏฺฏติ. ยาปิ จายํ วตฺถุสภาคา, สาปิ เทสิตา สุเทสิตาว. อฺํ ปน เทสนปจฺจยา เทสโก, ปฏิคฺคหณปฺปจฺจยา ¶ ปฏิคฺคหโก จาติ อุโภปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ, ตํ นานาวตฺถุกํ โหติ, ตสฺมา อฺมฺํ เทเสตุํ วฏฺฏติ.
๑๗๐. สามนฺโต ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโยติ เอตฺถ สภาโคเยว วตฺตพฺโพ. วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา ‘‘อิโต วุฏฺหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ.
อนาปตฺติปนฺนรสกาทิกถา
๑๗๒. อนาปตฺติปนฺนรสเก – เต น ชานึสูติ สีมํ โอกฺกนฺตาติ วา โอกฺกมนฺตีติ วาติ น ชานึสุ. อถฺเ อาวาสิกา ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตีติ คามํ วา อรฺํ วา เกนจิ กรณีเยน คนฺตฺวา เตสํ นิสินฺนฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. วคฺคา สมคฺคสฺิโนติ เตสํ สีมํ โอกฺกนฺตตฺตา วคฺคา; สีมํ โอกฺกนฺตภาวสฺส อชานนโต สมคฺคสฺิโน.
๑๗๓. วคฺคาวคฺคสฺิปนฺนรสเก – เต ชานนฺตีติ ปพฺพเต วา ถเล วา ิตา สีมํ โอกฺกนฺเต วา โอกฺกมนฺเต วา ปสฺสนฺติ. เวมติกปนฺนรสกํ ¶ อุตฺตานเมว.
๑๗๕. กุกฺกุจฺจปกตปนฺนรสเก – ยถา อิจฺฉาย อภิภูโต ‘‘อิจฺฉาปกโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ปุพฺพภาเค สนฺนิฏฺานํ กตฺวาปิ กรณกฺขเณ อกปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตาสงฺขาเตน กุกฺกุจฺเจน อภิภูตา ‘‘กุกฺกุจฺจปกตา’’ติ เวทิตพฺพา.
๑๗๖. เภทปุเรกฺขารปนฺนรสเก – อกุสลพลวตาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ.
สีโมกฺกนฺติกเปยฺยาลกถา
๑๗๗. อาวาสิเกนอาคนฺตุกเปยฺยาเล – ยถา ปุริเม อาวาสิเกนอาวาสิกเปยฺยาเล ‘‘เต น ชานนฺติ อถฺเ อาวาสิกา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘เต น ชานนฺติ อถฺเ อาคนฺตุกา’’ติอาทินา นเยน ¶ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. อาคนฺตุเกนอาวาสิกเปยฺยาเล ปน – ยถา ปุริมเปยฺยาเล ‘‘อาวาสิกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺตี’’ติ อาคตํ, เอวํ ‘‘อาคนฺตุกา ภิกฺขู สนฺนิปตนฺตี’’ติ อาเนตพฺพํ ¶ . อาคนฺตุเกนอาคนฺตุกเปยฺยาเล ปน – อุภยปเทสุ อาคนฺตุกวเสน โยเชตพฺโพติ.
๑๗๘. อาวาสิกานํ ภิกฺขูนํ จาตุทฺทโส โหติ, อาคนฺตุกานํ ปนฺนรโสติ เอตฺถ เยสํ ปนฺนรโส, เต ติโรรฏฺโต วา อาคตา, อตีตํ วา อุโปสถํ จาตุทฺทสิกํ อกํสูติ เวทิตพฺพา. อาวาสิกานํ อนุวตฺติตพฺพนฺติ อาวาสิเกหิ ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ ปุพฺพกิจฺเจ กริยมาเน อนุวตฺติตพฺพํ, น ปฏิกฺโกสิตพฺพํ. น อกามา ทาตพฺพาติ น อนิจฺฉาย ทาตพฺพา.
ลิงฺคาทิทสฺสนกถา
๑๗๙. อาวาสิกาการนฺติ อาวาสิกานํ อาการํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อากาโร นาม เยน เตสํ วตฺตสมฺปนฺนา วา น วาติ อาจารสณฺานํ คยฺหติ. ลิงฺคํ นาม ยํ เต ตตฺถ ตตฺถ ลีเน คมยติ; อทิสฺสมาเนปิ ชานาเปตีติ อตฺโถ. นิมิตฺตํ นาม ยํ ทิสฺวา เต อตฺถีติ ายนฺติ. อุทฺเทโส นาม เยน เต เอวรูปปริกฺขาราติ อุทฺทิสนฺติ; อปเทสํ ลภนฺตีติ อตฺโถ. สพฺพเมตํ สุปฺตฺตมฺจปีาทีนฺเจว ปทสทฺทาทีนฺจ อธิวจนํ, ยถาโยคํ ปน โยเชตพฺพํ. อาคนฺตุกาการาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อฺาตกนฺติ อฺเสํ สนฺตกํ. ปาทานํ โธตํ อุทกนิสฺเสกนฺติ ปาทานํ โธตานํ อุทกนิสฺเสกํ. พหุวจนสฺส เอกวจนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปาทานํ โธตอุทกนิสฺเสก’’นฺติ วา ปาโ; ปาทานํ โธวนอุทกนิสฺเสกนฺติ อตฺโถ.
๑๘๐. นานาสํวาสกาทิวตฺถูสุ – สมานสํวาสกทิฏฺินฺติ ‘‘สมานสํวาสกา เอเต’’ติ ทิฏฺึ. น ปุจฺฉนฺตีติ เตสํ ลทฺธึ ¶ น ปุจฺฉนฺติ; อปุจฺฉิตฺวาว วตฺตปฏิวตฺตึ กตฺวา เอกโต อุโปสถํ กโรนฺติ. นาภิวิตรนฺตีติ นานาสํวาสกภาวํ มทฺทิตุํ อภิภวิตุํ น สกฺโกนฺติ; ตํ ทิฏฺึ น นิสฺสชฺชาเปนฺตีติ อตฺโถ.
นคนฺตพฺพคนฺตพฺพวารกถา
๑๘๑. สภิกฺขุกา อาวาสาติ ยสฺมึ อาวาเส อุโปสถการกา ภิกฺขู อตฺถิ, ตมฺหา อาวาสา ยํ น สกฺโกติ ตทเหว อาคนฺตุํ ¶ , โส อาวาโส อุโปสถํ อกตฺวา น คนฺตพฺโพ. อฺตฺร สงฺเฆนาติ สงฺฆปฺปโหนเกหิ ภิกฺขูหิ วินา. อฺตฺร อนฺตรายาติ ปุพฺเพ วุตฺตํ ทสวิธํ อนฺตรายํ ¶ วินา. สพฺพนฺติเมน ปน ปริจฺเฉเทน อตฺตจตุตฺเถน อนฺตราเย วา สติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อนาวาโสติ นวกมฺมสาลาทิโก โย โกจิ ปเทโส. ยถา จ อาวาสาทโย น คนฺตพฺพา; เอวํ สเจ วิหาเร อุโปสถํ กโรนฺติ, อุโปสถาธิฏฺานตฺถํ สีมาปิ นทีปิ น คนฺตพฺพา. สเจ ปเนตฺถ โกจิ ภิกฺขุ โหติ, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. วิสฺสฏฺอุโปสถาปิ อาวาสา คนฺตุํ วฏฺฏติ; เอวํ คโต อธิฏฺาตุมฺปิ ลภติ. อารฺเกนาปิ ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา อตฺตโน วิหารเมว อาคนฺตพฺพํ. สเจ อฺํ วิหารํ โอกฺกมติ, ตตฺถ อุโปสถํ กตฺวาว อาคนฺตพฺพํ, อกตฺวา น วฏฺฏติ.
๑๘๒. ยํ ชฺา สกฺโกมิ อชฺเชว คนฺตุนฺติ ยํ ชาเนยฺย อชฺเชว ตตฺถ คนฺตุํ สกฺโกมีติ; เอวรูโป อาวาโส คนฺตพฺโพ. ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถํ กโรนฺเตนาปิ หิ อิมินา เนว อุโปสถนฺตราโย กโต ภวิสฺสตีติ.
วชฺชนียปุคฺคลสนฺทสฺสนกถา
๑๘๓. ภิกฺขุนิยา นิสินฺนปริสายาติอาทีสุ หตฺถปาสุปคมนเมว ปมาณํ. อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายาติ อิทฺหิ ปาริวาสิยปาริสุทฺธิทานํ นาม ปริสาย วุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ, อวุฏฺิตาย ปน วฏฺฏติ. เตนาห – ‘‘อฺตฺร อวุฏฺิตาย ปริสายา’’ติ. ตสฺส ลกฺขณํ ภิกฺขุนิวิภงฺเค ปริวาสิยฉนฺททานวณฺณนโต คเหตพฺพํ. อนุโปสเถติ จาตุทฺทสิโก จ ปนฺนรสิโก จาติ อิเม ทฺเว อุโปสเถ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส. อฺตฺร สงฺฆสามคฺคิยาติ ยา โกสมฺพกภิกฺขูนํ วิย ภินฺเน สงฺเฆ ปุน สงฺฆสามคฺคี กริยติ, ตถารูปึ สงฺฆสามคฺคึ เปตฺวา ¶ . ตทา จ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺชุโปสโถ สามคฺคี’’ติ วตฺวา กาตพฺโพ. เย ปน กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตเก อุโปสถํ เปตฺวา ปุน สมคฺคา โหนฺติ, เตหิ อุโปสเถเยว กาตพฺโพติ.
อุโปสถกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.