📜

๖. เภสชฺชกฺขนฺธกํ

ปฺจเภสชฺชาทิกถา

๒๖๐. เภสชฺชกฺขนฺธเก สารทิเกน อาพาเธนาติ สรทกาเล อุปฺปนฺเนน ปิตฺตาพาเธน, ตสฺมิฺหิ กาเล วสฺโสทเกนปิ เตเมนฺติ, กทฺทมมฺปิ มทฺทนฺติ, อนฺตรนฺตรา อาตโปปิ ขโร โหติ, เตน เตสํ ปิตฺตํ โกฏฺพฺภนฺตรคตํ โหติ. อาหารตฺถฺจ ผเรยฺยาติ อาหารตฺถํ สาเธยฺย.

๒๖๑. นจฺฉาเทนฺตีติ น ชิรนฺติ, น วาตโรคํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตุํ สกฺโกนฺติ. เสเนสิตานีติ สินิทฺธานิ. ภตฺตาจฺฉาทเกนาติ ภตฺตํ อโรจิเกน.

๒๖๒. อจฺฉวสนฺติอาทีสุ นิสฺสคฺคิยวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. กาเล ปฏิคฺคหิตนฺติอาทีสุ มชฺฌนฺหิเก อวีติวตฺเต ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา จาติ อตฺโถ. เตลปริโภเคนปริภุฺชิตุนฺติ สตฺตาหกาลิกเตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุํ.

๒๖๓. มูลเภสชฺชาทิ วินิจฺฉโยปิ ขุทฺทกวณฺณนายํ วุตฺโตเยว. ตสฺมา อิธ ยํ ยํ ปุพฺเพ อวุตฺตํ ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสาม. วจตฺตนฺติ เสตวจํ. นิสทํ นิสทโปตกนฺติ ปิสนสิลา จ ปิสนโปโต จ. ผคฺควนฺติ ลตาชาติ. นตฺตมาลนฺติ กรฺชํ. หิงฺคุหิงฺคุชตุหิงฺคุสิปาฏิกา หิงฺคุชาติโยเยว. ตกตกปตฺติตกปณฺณิโย ลาขาชาติโย.

สามุทฺทนฺติ สมุทฺทตีเร วาลุกา วิย สนฺติฏฺติ. กาฬโลณนฺติ ปกติโลณํ. สินฺธวนฺติ เสตวณฺณํ ปพฺพเต อุฏฺหติ. อุพฺภิทนฺติ ภูมิโต องฺกุรํ อุฏฺหติ. พิลนฺติ ทพฺพสมฺภาเรหิ สทฺธึ ปจิตํ, ตํ รตฺตวณฺณํ.

๒๖๔-๖. กาโย วา ทุคฺคนฺโธติ กสฺสจิ อสฺสาทีนํ วิย กายคนฺโธ โหติ, ตสฺสาปิ สิรีสโกสุมฺพาทิจุณฺณานิ วา คนฺธจุณฺณานิ วา สพฺพานิ วฏฺฏนฺติ. ฉกณนฺติ โคมยํ. รชนนิปฺปกฺกนฺติ รชนกสฏํ. ปากติกจุณฺณมฺปิ โกฏฺเฏตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา นฺหายิตุํ วฏฺฏติ; เอตมฺปิ รชนนิปฺปกฺกสงฺเขปเมว คจฺฉติ.

อามกมํสฺจขาทิ อามกโลหิตฺจ ปิวีติ น ตํ ภิกฺขุ ขาทิ น ปิวิ, อมนุสฺโส ขาทิตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปกฺกนฺโต, เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส โส อมนุสฺสิกาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภี’’ติ.

อฺชนนฺติ สพฺพสงฺคาหิกวจนเมตํ. กาฬฺชนนฺติ เอกา อฺชนชาติ. รสฺชนํ นานาสมฺภาเรหิ กตํ. โสตฺชนนฺติ นทีโสตาทีสุ อุปฺปชฺชนกํ อฺชนํ. เครุโก นาม สุวณฺณเครุโก. กปลฺลนฺติ ทีปสิขโต คหิตมสิ. อฺชนูปปึสเนหีติ อฺชเนน สทฺธึ เอกโต ปึสิตพฺเพหิ, น หิ กิฺจิ อฺนูปปึสนํ น วฏฺฏติ. จนฺทนนฺติ โลหิตจนฺทนาทิกํ ยํกิฺจิ. ตคราทีนิ ปากฏานิ, อฺานิปิ นีลุปฺปลาทีนิ วฏฺฏนฺติเยว.

อฏฺิมยนฺติ มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสสอฏฺิมยํ. ทนฺตมยนฺติ หตฺถิทนฺตาทิสพฺพทนฺตมยํ. วิสาณมเยปิ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, นฬมยาทโย เอกนฺตกปฺปิยาเยว. สลากฏฺานิยนฺติ ยตฺถ สลากํ โอทหนฺติ, ตํ สุสิรทณฺฑกํ วา ถวิกํ วา อนุชานามีติ อตฺโถ. อํสพทฺธโกติ อฺชนิตฺถวิกาย อํสพทฺธโก. ยมกนตฺถุกรณินฺติ สมโสตาหิ ทฺวีหิ ปนาฬิกาหิ เอกํ นตฺถุกรณึ.

๒๖๗. อนุชานามิ ภิกฺขเว เตลปากนฺติ ยํกิฺจิ เภสชฺชปกฺขิตฺตํ สพฺพํ อนุฺาตเมว โหติ. อติปกฺขิตฺตมชฺชานีติ อติวิย ขิตฺตมชฺชานิ; พหุํ มชฺชํ ปกฺขิปิตฺวา โยชิตานีติ อตฺโถ.

องฺควาโตติ หตฺถปาเท วาโต. สมฺภารเสทนฺติ นานาวิธปณฺณภงฺคเสทํ. มหาเสทนฺติ มหนฺตํ เสทํ; โปริสปฺปมาณํ อาวาฏํ องฺคารานํ ปูเรตฺวา ปํสุวาลิกาทีหิ ปิทหิตฺวา ตตฺถ นานาวิธานิ วาตหรณปณฺณานิ สนฺถริตฺวา เตลมกฺขิเตน คตฺเตน ตตฺถ นิปชฺชิตฺวา สมฺปริวตฺตนฺเตน สรีรํ เสเทตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ภงฺโคทกนฺติ นานาปณฺณภงฺคกุถิตํ อุทกํ; เตหิ ปณฺเณหิ จ อุทเกน จ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา เสเทตพฺโพ. อุทกโกฏฺกนฺติ อุทกโกฏฺเ จาฏึ วา โทณึ วา อุณฺโหทกสฺส ปูเรตฺวา ตตฺถ ปวิสิตฺวา เสทกมฺมกรณํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

ปพฺพวาโตโหตีติ ปพฺเพ ปพฺเพ วาโต วิชฺฌติ. โลหิตํ โมเจตุนฺติ สตฺถเกน โลหิตํ โมเจตุํ. ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติ เยน ผาลิตปาทา ปากติกา โหนฺติ; ตํ นาฬิเกราทีสุ นานาเภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา ปชฺชํ อภิสงฺขริตุํ; ปาทานํ สปฺปายเภสชฺชํ ปจิตุนฺติ อตฺโถ. ติลกกฺเกน อตฺโถติ ปิฏฺเหิ ติเลหิ อตฺโถ. กพฬิกนฺติ วณมุเข สตฺตุปิณฺฑํ ปกฺขิปิตุํ. สาสปกุฑฺเฑนาติ สาสปปิฏฺเน. วฑฺฒมํสนฺติ อธิกมํสํ อาณิ วิย อุฏฺหติ. โลณสกฺขริกาย ฉินฺทิตุนฺติ ขุเรน ฉินฺทิตุํ. วิกาสิกนฺติ เตลรุนฺธนปิโลติกํ. สพฺพํ วณปฏิกมฺมนฺติ ยํกิฺจิ วณปริกมฺมํ นาม อตฺถิ; สพฺพํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๒๖๘. สามํ คเหตฺวาติ อิทํ น เกวลํ สปฺปทฏฺสฺเสว, อฺสฺมิมฺปิ ทฏฺวิเส สติ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ; อฺเสุ ปน การเณสุ ปฏิคฺคหิตเมว วฏฺฏติ. กโต น ปุน ปฏิคฺคเหตพฺโพติ สเจ ภูมิปฺปตฺโต, ปฏิคฺคเหตพฺโพ; อปฺปตฺตํ ปน คเหตุํ วฏฺฏติ.

๒๖๙. ฆรทินฺนกาพาโธติ วสีกรณปานกสมุฏฺิตโรโค. สีตาโลฬินฺติ นงฺคเลน กสนฺตสฺส ผาเล ลคฺคมตฺติกํ อุทเกน อาโลเฬตฺวา ปาเยตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

ทุฏฺคหณิโกติ วิปนฺนคหณิโก; กิจฺเฉน อุจฺจาโร นิกฺขมตีติ อตฺโถ. อามิสขารนฺติ สุกฺโขทนํ ฌาเปตฺวา ตาย ฉาริกาย ปคฺฆริตํ ขาโรทกํ. มุตฺตหรีตกนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตํ หรีตกํ. อภิสนฺนกาโยติ อุสฺสนฺนโทสกาโย. อจฺฉกฺชิยนฺติ ตณฺฑุโลทกมณฺโฑ. อกฏยุสนฺติ อสินิทฺโธ มุคฺคปจิตปานีโย. กฏากฏนฺติ โสว โธตสินิทฺโธ. ปฏิจฺฉาทนีเยนาติ มํสรเสน.

คุฬาทิอนุชานนกถา

๒๗๒. สเจ ภิกฺขเว ปกฺกาปิ มุคฺคา ชายนฺตีติ ปกฺกา มุคฺคา สเจปิ ชายนฺติ, ยถาสุขํ ปริภุฺชิตพฺพา. ปกฺกตฺตา หิ เต กปฺปิยา เอว.

๒๗๔. อนฺโตวุตฺถนฺติ อกปฺปิยกุฏิยํ วุตฺถํ. สามํ ปกฺกนฺติ เอตฺถ ยํกิฺจิ อามิสํ ภิกฺขุโน ปจิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิสฺส อุณฺหยาคุยา สุลสิปณฺณานิ วา สิงฺคิเวรํ วา โลณํ วา ปกฺขิปนฺติ, ตมฺปิ จาเลตุํ น วฏฺฏติ, ‘‘ยาคุํ นิพฺพาเปมี’’ติ ปน จาเลตุํ วฏฺฏติ. อุตฺตณฺฑุลภตฺตํ ลภิตฺวาปิ ปิทหิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสา ปิทหิตฺวาว เทนฺติ, วฏฺฏติ; ‘‘ภตฺตํ วา มา นิพฺพายตู’’ติ ปิทหิตุํ วฏฺฏติ. ขีรตกฺกาทีสุ ปน สกึ กุถิเตสุ อคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, ปุนปากสฺส อนุฺาตตฺตา. อุกฺกปิณฺฑกาปิ ขาทนฺตีติ พิฬามูสิกโคธามงฺคุสา ขาทนฺติ. ทมกาติ วิฆาสาทา.

๒๗๖. ตโต นีหฏนฺติ ยตฺถ นิมนฺติตา ภุฺชนฺติ, ตโต นีหฏํ.

๒๗๘. วนฏฺํ โปกฺขรฏฺนฺติ วเน เจว ปทุมินิคจฺเฉ จ ชาตํ. อพีชนฺติ ตรุณผลํ, ยสฺส พีชํ น องฺกุรํ ชเนติ. นิพฺพฏฺฏพีชนฺติ พีชํ นิพฺพฏฺเฏตฺวา อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพกํ อมฺพปนสาทิ.

๒๗๙. ทุโรปโย วโณติ ทุกฺเขน รุหติ, ทุกฺเขน ปากติโก โหตีติ อตฺโถ. ทุปฺปริหารํ สตฺถนฺติ สมฺพาเธ ทุกฺเขน สตฺถํ ปริหเรยฺยํ. สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วาติ ยถาปริจฺฉินฺเน โอกาเส เยน เกนจิ สตฺเถน วา สูจิยา วา กณฺฏเกน วา สตฺติกาย วา ปาสาณสกฺขลิกาย วา นเขน วา ฉินฺทนํ วา ผาลนํ วา วิชฺฌนํ วา เลขนํ วา น กาตพฺพํ; สพฺพฺเหตํ สตฺถกมฺมเมว โหติ. เยน เกนจิ ปน จมฺเมน วา วตฺเถน วา วตฺถิปีฬนมฺปิ น กาตพฺพํ; สพฺพฺเหตํ วตฺถิกมฺมเมว โหติ. เอตฺถ จ สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลาติ อิทํ สตฺถกมฺมํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. วตฺถิกมฺมํ ปน สมฺพาเธเยว ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปน ขารํ อาทาตุํ เยน เกนจิ รชฺชุเกน วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ เตน ฉิชฺชติ, สุจฺฉินฺนํ. อณฺฑวุฑฺฒิโรเคปิ สตฺถกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา อณฺฑํ ผาเลตฺวา พีชานิ อุทฺธริตฺวา ‘‘อโรคํ กริสฺสามี’’ติ น กตฺตพฺพํ. อคฺคิตาปนเภสชฺชาลิมฺปเนสุ ปน ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. วจฺจมคฺเค เภสชฺชมกฺขิตา อาทานวฏฺฏิ วา เวฬุนาฬิกา วา วฏฺฏติ, ยาย ขารกมฺมํ วา กโรนฺติ, เตลํ วา ปเวเสนฺติ.

๒๘๐. ปวตฺตมํสนฺติ มตสฺส มํสํ. มาฆาโตติ ตํ ทิวสํ น ลพฺภา เกนจิ กิฺจิ ชีวิตา โวโรเปตุํ. โปตฺถนิกนฺติ มํสจฺเฉทนสตฺถกํ วุจฺจติ. กิมฺปิมายาติ กิมฺปิ อิมาย. น ภควา อุสฺสหตีติ น ภควา สกฺโกติ. ยตฺร หิ นามาติ ยสฺมา นาม. ปฏิเวกฺขีติ วีมํสิ; ปฏิปุจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา. สเจ ปน อสุกมํสนฺติ ชานาติ, ปฏิปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, อชานนฺเตน ปน ปุจฺฉิตฺวาว ขาทิตพฺพํ.

หตฺถิมํสาทิปฏิกฺเขปกถา

๒๘๑. สุนขมํสนฺติ เอตฺถ อรฺโกกา นาม สุนขสทิสา โหนฺติ, เตสํ มํสํ วฏฺฏติ. โย ปน คามสุนขิยา วา โกเกน โกกสุนขิยา วา คามสุนเขน สํโยคา อุปฺปนฺโน, ตสฺส มํสํ น วฏฺฏติ, โส หิ อุภยํ ภชตีติ. อหิมํสนฺติ กสฺสจิ อปาทกสฺส ทีฆชาติกสฺส มํสํ น วฏฺฏติ. สีหมํสาทีนิ ปากฏาเนว.

เอตฺถ จ มนุสฺสมํสํ สชาติตาย ปฏิกฺขิตฺตํ, หตฺถิอสฺสมํสํ ราชงฺคตาย, สุนขมํสฺจ อหิมํสฺจ ปฏิกูลตาย, สีหมํสาทีนิ ปฺจ อตฺตโน อนุปทฺทวตฺถายาติ. อิเมสํ มนุสฺสาทีนํ ทสนฺนํ มํสมฺปิ อฏฺิปิ โลหิตมฺปิ จมฺมมฺปิ โลมมฺปิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ยํกิฺจิ ตฺวา วา อตฺวา วา ขาทนฺตสฺส อาปตฺติเยว. ยทา ชานาติ, ตทา เทเสตพฺพา. ‘‘อปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ คณฺหโต อนาปตฺติ. อุทฺทิสฺส กตํ ปน ชานิตฺวา ขาทนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปจฺฉา ชานนฺโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ.

ยาคุมธุโคฬกาทิกถา

๒๘๒. เอกตฺตโกติ เอกโก, นตฺถิ เม ทุติโยติ อตฺโถ. ปหูตํ ยาคุฺจ มธุโคฬกฺจ ปฏิยาทาเปตฺวาติ โส กิร สตสหสฺสํ วยํ กตฺวา ปฏิยาทาเปสิ. อนุโมทนาคาถาปริโยสาเน ‘‘ปตฺถยตํ อิจฺฉต’’นฺติ ปทานํ ‘‘อลเมว ทาตุ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สเจ ปน ‘‘ปตฺถยตา อิจฺฉตา’’ติ ปาโ อตฺถิ, โสเยว คเหตพฺโพ.

๒๘๓. โภชฺชยาคุนฺติ ยา ปวารณํ ชเนติ. ยทคฺเคนาติ ยํ อาทึ กตฺวา. สคฺคา เต อารทฺธาติ สคฺคนิพฺพตฺตกปุฺํ อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ยถาธมฺโมกาเรตพฺโพติ ปรมฺปรโภชเนน กาเรตพฺโพ, โภชฺชยาคุยา หิ ปวารณา โหตีติ.

๒๘๔. นาหํ ตํ กจฺจานาติ ตสฺมึ กิร อวสิฏฺคุเฬ เทวตา สุขุโมชํ ปกฺขิปึสุ, สา อฺเสํ ปริณามํ น คจฺฉติ, ตสฺมา เอวมาห. คิลานสฺส คุฬนฺติ ตถารูเปน พฺยาธินา คิลานสฺส ปจฺฉาภตฺตํ คุฬํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

ปาฏลิคามวตฺถุกถา

๒๘๕. สพฺพสนฺถรินฺติ ยถา สพฺพํ สนฺถตํ โหติ, เอวํ.

๒๘๖. สุนิธวสฺสการาติ สุนิโธ จ วสฺสกาโร จ ทฺเว พฺราหฺมณา มคธรฺโ มหามตฺตา มหามจฺจา. วชฺชีนํ ปฏิพาหายาติ วชฺชิราชกุลานํ อายมุขปจฺฉินฺทนตฺถํ. วตฺถูนีติ ฆรวตฺถูนิ. จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุนฺติ ตา กิร เทวตา วตฺถุวิชฺชาปากานํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา เอวํ จิตฺตานิ นาเมนฺติ. กสฺมา? อมฺหากํ ยถานุรูปํ สกฺการํ กริสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ตาวตึเสหีติ โลเก กิร สกฺกํ เทวราชานํ วิสฺสกมฺมฺจ อุปาทาย ตาวตึสา ปณฺฑิตาติ สทฺโท อพฺภุคฺคโต, เตเนวาห ตาวตึเสหีติ, ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา วิย มาเปนฺตีติ อตฺโถ. ยาวตา อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ นาม อตฺถิ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ยตฺตกํ วาณิชานํ อาภตภณฺฑสฺส ราสิวเสเนว กยวิกฺกยฏฺานํ นาม อตฺถิ. อิทํ อคฺคนครนฺติ เตสํ อริยายตนวณิปฺปถานํ อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ. ปุฏเภทนนฺติ ปุฏเภทนฏฺานํ โมจนฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อคฺคิโต วาติอาทีสุ สมุจฺจยตฺโถ วา สทฺโท. ตตฺร หิ เอกสฺส โกฏฺาสสฺส อคฺคิโต, เอกสฺส อุทกโต, เอกสฺส อพฺภนฺตรโต, อฺมฺเภทา อนฺตราโย ภวิสฺสติ. อุฬุมฺปนฺติ ปารคมนตฺถาย อาณิโย อาโกเฏตฺวา กตํ. กุลฺลนฺติ วลฺลิอาทีหิ พนฺธิตฺวา กตํ.

อณฺณวนฺติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน โยชนมตฺตํ คมฺภีรสฺส จ ปุถุลฺลสฺส จ อุทกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย คมฺภีรํ วิตฺถตํ ตณฺหาสรํ ตรนฺติ, เต อริยมคฺคสงฺขาตํ เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ อนามสิตฺวาว อุทกภริตานิ นินฺนฏฺานานิ; อยํ ปน อิทํ อปฺปมตฺตกํ อุทกํ อุตฺตริตุกาโมปิ กุลฺลฺหิ ปริชโน พนฺธติ, พุทฺธา ปน พุทฺธสาวกา จ วินา เอว กุลฺเลน ติณฺณา เมธาวิโน ชนาติ.

๒๘๗. อนนุโพธาติ อพุชฺฌเนน. สนฺธาวิตนฺติ ภวโต ภวํ คมนวเสน สนฺธาวิตํ. สํสริตนฺติ ปุนปฺปุนํ คมนวเสน สํสริตํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ. อถ วา สนฺธาวิตํ สํสริตนฺติ สนฺธาวนํ สํสรณํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สํสิตนฺติ สํสริตํ. ภวเนตฺติ สมูหตาติ ภวโต ภวคมนา สนฺธาวนา ตณฺหารชฺชุ สุฏฺุ หตา ฉินฺนา อปฺปวตฺติกตา.

๒๘๙. นีลาติ อิทํ สพฺพสงฺคาหกํ. นีลวณฺณาติอาทิ ตสฺเสว วิภาคทสฺสนตฺถํ. ตตฺถ น เตสํ ปกติวณฺณา นีลา, นีลวิเลปนานํ วิจิตฺตตาวเสเนตํ วุตฺตํ. ปฏิวฏฺเฏสีติ ปหาเรสิ. สาหารํ ทชฺเชยฺยาถาติ สชนปทํ ทเทยฺยาถ. องฺคุลึ โผเฏสุนฺติ องฺคุลึ จาเลสุํ. อมฺพกายาติ อิตฺถิกาย. โอโลเกถาติ ปสฺสถ. อปโลเกถาติ ปุนปฺปุนํ ปสฺสถ. อุปสํหรถาติ อุปเนถ. อิมํ ลิจฺฉวิปริสํ ตุมฺหากํ จิตฺเตน ตาวตึสปริสํ หรถ, ตาวตึสสฺส สมกํ กตฺวา ปสฺสถาติ อตฺโถ.

สีหเสนาปติวตฺถุอาทิกถา

๒๙๐. ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ ภควตา วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ อปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วิฺุครหิตพฺพํ การณํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กึ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘กึ สพฺพกาเรนาปิ ตุมฺหากํ วาเท คารยฺหการณํ นตฺถี’’ติ. อนพฺภกฺขาตุกามาติ อภิภวิตฺวา น อาจิกฺขิตุกามา.

๒๙๓. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กาตพฺพํ กโรหีติ วุตฺตํ โหติ. าตมนุสฺสานนฺติ โลเก ปากฏานํ. สาธุ โหตีติ สุนฺทรํ โหติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆสนฺตา อาหิณฺเฑยฺยุํ. กสฺมา? ‘‘เอวํ โน อมฺหากํ มหนฺตภาโว ภวิสฺสตี’’ติ. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺถ, สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทติ. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สามุกฺกํสิกาติ อตฺตนาเยว อุทฺธริตฺวา คหิตา; อสาธารณํ อฺเสนฺติ อตฺโถ. อุทฺทิสฺส กตนฺติ อุทฺทิสิตฺวา กตํ.

๒๙๔. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ กตนฺติ อตฺโถ. อถ วา ปฏิจฺจกมฺมนฺติ นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ ปฏิจฺจกมฺมํ เอตฺถ อตฺถีติ มํสมฺปิ ปฏิจฺจกมฺมนฺติ วุตฺตํ. โย หิ เอวรูปํ มํสํ ปริภุฺชติ, โสปิ ตสฺส กมฺมสฺส ทายาโท โหติ, วธกสฺส วิย ตสฺสาปิ ปาณฆาตกมฺมํ โหตีติ อธิปฺปาโย . ชิริทนฺติติ ชิรนฺติ อพฺภาจิกฺขนฺตา น ชิรนฺติ, อพฺภกฺขานสฺส อนฺตํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. ติโกฏิปริสุทฺธกถา สงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตา.

กปฺปิยภูมิอนุชานนกถา

๒๙๕. สกฏปริวฏฺฏนฺติ สกเฏหิ ปริกฺเขปํ วิย กตฺวา อจฺฉนฺติ. ปจฺจนฺติมนฺติ อภิลาปมตฺตเมตํ ‘‘ยํ สงฺโฆ อากงฺขตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปน ธุรวิหาโรปิ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ, กมฺมวาจํ อวตฺวา อปโลกเนนาปิ วฏฺฏติเยว. กาโกรวสทฺทนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปวิฏฺานํ อามิสขาทนตฺถาย อนุปฺปเคเยว สนฺนิปติตานํ กากานํ โอรวสทฺทํ. ยโสโช นาม กปิลสุตฺตปริโยสาเน ปพฺพชิตานํ ปฺจนฺนํ สตานํ อคฺคปุริโส.

อุสฺสาวนนฺติกนฺติอาทีสุ อุสฺสาวนนฺติกา ตาว เอวํ กตฺตพฺพา. โย ถมฺภานํ วา อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขนิตฺวา วิหาโร กริยติ, ตสฺส เหฏฺา ถมฺภปฏิจฺฉกา ปาสาณา ภูมิคติกา เอว. ปมถมฺภํ ปน ปมภิตฺติปาทํ วา ปติฏฺาเปนฺเตหิ พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรม, กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วาจํ นิจฺฉาเรนฺเตหิ มนุสฺเสสุ อุกฺขิปิตฺวา ปติฏฺาเปนฺเตสุ อามสิตฺวา วา สยํ อุกฺขิปิตฺวา วา ถมฺเภ วา ภิตฺติปาโท วา ปติฏฺาเปตพฺโพ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘กปฺปิยกุฏิ กปฺปิยกุฏี’’ติ วตฺวา ปติฏฺาเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สงฺฆสฺส กปฺปิยกุฏึ อธิฏฺามี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปน อวตฺวาปิ อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน วุตฺเต โทโส นตฺถิ. อิทํ ปเนตฺถ สาธารณลกฺขณํ, ถมฺภปติฏฺานฺจ วจนปริโยสานฺจ สมกาลํ วฏฺฏติ. สเจ หิ อนิฏฺิเต วจเน ถมฺโภ ปติฏฺาติ, อปฺปติฏฺิเต วา ตสฺมึ วจนํ นิฏฺาติ, อกตา โหติ กปฺปิยกุฏิ. เตเนว มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ – ‘‘พหูหิ สมฺปริวาเรตฺวา วตฺตพฺพํ, อวสฺสฺหิ เอตฺถ เอกสฺสปิ วจนนิฏฺานฺจ ถมฺภปติฏฺานฺจ เอกโต ภวิสฺสตี’’ติ.

อิฏฺกสิลามตฺติกากุฏฺฏิกาสุ ปน กุฏีสุ เหฏฺา จยํ พนฺธิตฺวา วา อพนฺธิตฺวา วา กโรนฺตุ, ยโต ปฏฺาย ภิตฺตึ อุฏฺาเปตุกามา โหนฺติ, ตํ สพฺพปมํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว กปฺปิยกุฏิ กาตพฺพา. อิฏฺกาทโย หิ ภิตฺติยา ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา น วฏฺฏนฺติ, ถมฺภา ปน อุปริ อุคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘ถมฺเภหิ กริยมาเน จตูสุ โกเณสุ จตฺตาโร ถมฺภา อิฏฺกาทิกุฏฺเฏ จตูสุ โกเณสุ ทฺเว ติสฺโส อิฏฺกา อธิฏฺาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตถา ปน อกตายปิ โทโส นตฺถิ, อฏฺกถาสุ หิ วุตฺตเมว ปมาณํ.

โคนิสาทิกา ทุวิธา – อารามโคนิสาทิกา, วิหารโคนิสาทิกาติ. ตาสุ ยตฺถ เนว อาราโม น เสนาสนานิ ปริกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, อยํ ‘‘อารามโคนิสาทิกา’’ นาม. ยตฺถ เสนาสนานิ สพฺพานิ วา เอกจฺจานิ วา ปริกฺขิตฺตานิ, อาราโม อปริกฺขิตฺโต, อยํ ‘‘วิหารโคนิสาทิกา’’ นาม. อิติ อุภยตฺราปิ อารามสฺส อปริกฺขิตฺตภาโวเยว ปมาณํ. อาราโม ปน อุปฑฺฒปริกฺขิตฺโตปิ พหุตรํ ปริกฺขิตฺโตปิ ปริกฺขิตฺโตเยว นามาติ กุรุนฺทิมหอาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. เอตฺถ กปฺปิยกุฏึ ลทฺธุํ วฏฺฏติ.

คหปตีติ มนุสฺสา อาวาสํ กตฺวา ‘‘กปฺปิยกุฏึ เทม, ปริภุฺชถา’’ติ วทนฺติ, เอสา คหปติ นาม. ‘‘กปฺปิยกุฏึ กาตุํ เทมา’’ติ วุตฺเตปิ วฏฺฏติเยว. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ยสฺมา ภิกฺขุํ เปตฺวา เสสสหธมฺมิกานํ สพฺเพสฺจ เทวมนุสฺสานํ หตฺถโต ปฏิคฺคโห จ สนฺนิธิ จ อนฺโตวุตฺถฺจ เตสํ สนฺตกํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ตสฺมา เตสํ เคหานิ วา เตหิ ทินฺนา กปฺปิยกุฏิ วา คหปตีติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิหารํ เปตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสโย วา อารามิกานํ วา ติตฺถิยานํ วา เทวตานํ วา นาคานํ วา อปิ พฺรหฺมานํ วิมานํ กปฺปิยกุฏิ โหตี’’ติ, ตํ สุวุตฺตํ; สงฺฆสนฺตกเมว หิ ภิกฺขุสนฺตกํ วา เคหํ คหปติกุฏิกา น โหติ. สมฺมุติกา นาม กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตาติ.

ยํ อิมาสุ จตูสุ กปฺปิยภูมีสุ วุตฺถํ อามิสํ, ตํ สพฺพํ อนฺโตวุตฺถสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ อนฺโตวุตฺถอนฺโตปกฺกโมจนตฺถฺหิ กปฺปิยกุฏิโย อนุฺาตา. ยํ ปน อกปฺปิยภูมิยํ สหเสยฺยปฺปโหนเก เคเห วุตฺถํ สงฺฆิกํ วา ปุคฺคลิกํ วา ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ เอกรตฺตมฺปิ ปิตํ, ตํ อนฺโตวุตฺถํ; ตตฺถ ปกฺกฺจ อนฺโตปกฺกํ นาม โหติ, เอตํ น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ วฏฺฏติ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ ยํกิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณํ. ภิกฺขุ อกปฺปิยกุฏิยํ ปิตสปฺปิฺจ ยาวชีวิกปณฺณฺจ เอกโต ปจิตฺวา ปริภุฺชติ, สตฺตาหํ นิรามิสํ วฏฺฏติ. สเจ อามิสสํสฏฺํ กตฺวา ปริภุฺชติ, อนฺโตวุตฺถฺเจว สามํปากฺจ โหติ. เอเตนุปาเยน สพฺพสํสคฺคา เวทิตพฺพา.

อิมา ปน กปฺปิยกุฏิโย กทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ? อุสฺสาวนนฺติกา ตาว ยา ถมฺภานํ อุปริ ภิตฺติปาเท วา นิขณิตฺวา กตา, สา สพฺเพสุ ถมฺเภสุ จ ภิตฺติปาเทสุ จ อปนีเตสุ ชหิตวตฺถุกา โหติ. สเจ ปน ถมฺเภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวตฺเตนฺติ, โย โย ิโต ตตฺถ ตตฺถ ปติฏฺาติ, สพฺเพสุปิ ปริวตฺติเตสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ. อิฏฺกาทีหิ กตา จยสฺส อุปริ ภิตฺติอตฺถาย ปิตํ อิฏฺกํ วา สิลํ วา มตฺติกาปิณฺฑํ วา อาทึกตฺวา วินาสิตกาเล ชหิตวตฺถุกา โหติ. เยหิ ปน อิฏฺกาทีหิ อธิฏฺิตา, เตสุ อปนีเตสุปิ ตทฺาสุ ปติฏฺิตาสุ อชหิตวตฺถุกาว โหติ.

โคนิสาทิกา ปาการาทีหิ ปริกฺเขเป กเต ชหิตวตฺถุกา โหติ. ปุน ตสฺมึ อาราเม กปฺปิยกุฏิ ลทฺธุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ปุนปิ ปาการาทโย ตตฺถ ตตฺถ ขณฺฑา โหนฺติ, ตโต ตโต คาโว ปวิสนฺติ, ปุน กปฺปิยกุฏิ โหติ. อิตรา ปน ทฺเว โคปานสีมตฺตํ เปตฺวา สพฺพสฺมึ ฉทเน วินฏฺเ ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ. สเจ โคปานสีนํ อุปริ เอกมฺปิ ปกฺขปาสกมณฺฑลํ อตฺถิ, รกฺขติ.

ยตฺร ปนิมา จตสฺโสปิ กปฺปิยภูมิโย นตฺถิ, ตตฺถ กึ กาตพฺพํ? อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺถุ – กรวิกติสฺสตฺเถโร กิร วินยธรปาโมกฺโข มหาสีวตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส ทีปาโลเกน สปฺปิกุมฺภํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ภนฺเต กิเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. เถโร ‘‘อาวุโส คามโต สปฺปิกุมฺโภ อาภโต, ลูขทิวเส สปฺปินา ภุฺชนตฺถายา’’ติ อาห. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร ‘‘น วฏฺฏติ ภนฺเต’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส ปมุเข นิกฺขิปาเปสิ. ติสฺสตฺเถโร ปุน เอกทิวเส อาคโต ตํ ทิสฺวา ตเถว ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต สหเสยฺยปฺปโหนกฏฺาเน เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อาห. เถโร ปุนทิวเส พหิ นีหราเปตฺวา นิกฺขิปาเปสิ, ตํ โจรา หรึสุ. โส ปุน เอกทิวสํ อาคตํ ติสฺสตฺเถรํ อาห – ‘‘อาวุโส ตยา ‘น วฏฺฏตี’ติ วุตฺโต โส กุมฺโภ พหิ นิกฺขิตฺโต โจเรหิ อวหโต’’ติ. ตโต นํ ติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘นนุ ภนฺเต อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตพฺโพ อสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺส หิ ทตฺวา ตสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

๒๙๖-๙. เมณฺฑกวตฺถุ อุตฺตานเมว. อปิ เจตฺถ อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจ โครเสติ อิเม ปฺจ โครเส วิสุํ ปริโภเคน ปริภุฺชิตุมฺปิ อนุชานามีติ อตฺโถ. ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุนฺติ เอตฺถ สเจ เกจิ สยเมว ตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ เทนฺติ, าติปวาริตฏฺานโต วา ภิกฺขาจารวตฺเตน วา ปริเยสิตพฺพํ. ตถา อลภนฺเตน อฺาติกอปวาริตฏฺานโต ยาจิตฺวาปิ คเหตพฺพํ. เอกทิวเสน คมนีเย มคฺเค เอกภตฺตตฺถาย ปริเยสิตพฺพํ. ทีเฆ อทฺธาเน ยตฺตเกน กนฺตารํ นิตฺถรติ, ตตฺตกํ ปริเยสิตพฺพํ.

เกณิยชฏิลวตฺถุกถา

๓๐๐. กาเชหิ คาหาเปตฺวาติ ปฺจหิ กาชสเตหิ สุสงฺขตสฺส พทรปานสฺส กุฏสหสฺสํ คาหาเปตฺวา. เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ‘‘สาธุ ภิกฺขเว ปานํ อปิวนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา ปจฺจยพาหุลฺลิกาติ วาทํ น อุปฺปาทยิตฺถ, มยิ จ คารวํ อกตฺถ, มม จ ตุมฺเหสุ คารวํ ชนยิตฺถ, อิติ โว อหํ อิมินา การเณน สุฏฺุ ปสนฺโน’’ติอาทินา นเยน ธมฺมึ กถํ กตฺวา อนุชานามิ ภิกฺขเว อฏฺ ปานานีติอาทิมาห.

ตตฺถ อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิเตหิ มธุสกฺกรกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ. เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติเยว. เอส นโย สพฺพปาเนสุ.

เตสุ ปน ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ; ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ. ธฺผลรสนฺติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ผลรสํ. ฑากรสนฺติ ปกฺกฑากรสํ. ยาวกาลิกปตฺตานฺหิ ปุเรภตฺตํเยว รโส กปฺปติ. ยาวชีวิกานํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตสปฺปิอาทีหิ สทฺธึ ปกฺกานํ สตฺตาหํ กปฺปติ. สเจ ปน สุทฺธอุทเกน ปจติ, ยาวชีวมฺปิ วฏฺฏติ. ขีราทีหิ ปน สทฺธึ ปจิตุํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ ปกฺกมฺปิ ฑากรสสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เปตฺวา มธุกปุปฺผรสนฺติ เอตฺถ มธุกปุปฺผรโส อคฺคิปาโก วา โหตุ อาทิจฺจปาโก วา, ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตมฺปิ ยํ ปานํ คเหตฺวา มชฺชํ กโรนฺติ, โส อาทิโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ภชฺชิตํ วา เตน กตผาณิตํ วา ยโต ปฏฺาย มชฺชํ น กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ. อุจฺฉุรโส นิกสโฏ ปจฺฉาภตฺตํ วฏฺฏติ . อิติ ปานานิ อนุชานนฺเตน อิเมปิ จตฺตาโร รสา อนุฺาตาติ. อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺาติอาทีสุ อคฺคิหุตํ เสฏฺํ, อคฺคิหุตํ มุขนฺติ วุตฺตํ โหติ.

โรชมลฺลาทิวตฺถุกถา

๓๐๑-๒. โรชวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว. ตตฺถ สงฺกรํ อกํสูติ กติกํ อกํสุ. อุฬารํ โข เต อิทนฺติ สุนฺทรํ โข เต อิทํ. นาหํ ภนฺเต อานนฺท พหุกโตติ นาหํ พุทฺธาทิคตปสาทพหุมาเนน อิธาคโตติ ทสฺเสติ. สพฺพฺจ ฑากนฺติ สปฺปิอาทีหิ ปกฺกํ วา อปกฺกํ วา ยํกิฺจิ ฑากํ. ปิฏฺขาทนียนฺติ ปิฏฺมยํ ขาทนียํ; โรโช กิร อิทํ อุภยมฺปิ สตสหสฺสํ วยํ กตฺวา ปฏิยาทาเปสิ.

๓๐๓. มฺชุกาติ มธุรวจนา. ปฏิภาเนยฺยกาติ สเก สิปฺเป ปฏิภานสมฺปนฺนา. ทกฺขาติ เฉกา, อนลสา วา. ปริโยทาตสิปฺปาติ นิทฺโทสสิปฺปา. นาฬิยาวาปเกนาติ นาฬิยา จ อาวาปเกน จ. อาวาปโก นาม ยตฺถ ลทฺธํ ลทฺธํ อาวปนฺติ, ปกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. น จ ภิกฺขเว นหาปิตปุพฺเพน ขุรภณฺฑนฺติ เอตฺถ คเหตฺวา ปริหริตุเมว น วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺตเกน เกเส เฉเทตุํ วฏฺฏติ. สเจ เวตนํ คเหตฺวา ฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. โย อนหาปิตปุพฺโพ ตสฺส ปริหริตุมฺปิ วฏฺฏติ, ตํ วา อฺํ วา คเหตฺวา เกเส เฉเทตุมฺปิ วฏฺฏติ.

๓๐๔. ภาคํ ทตฺวาติ ทสมภาคํ ทตฺวา; อิทํ กิร ชมฺพุทีเป โปราณกจาริตฺตํ, ตสฺมา ทสโกฏฺาเส กตฺวา เอโก โกฏฺาโส ภูมิสามิกานํ ทาตพฺโพ.

จตุมหาปเทสกถา

๓๐๕. ยํ ภิกฺขเว มยา อิทํ น กปฺปตีติ อิเม จตฺตาโร มหาปเทเส ภควา ภิกฺขูนํ นยคฺคหณตฺถาย อาห. ตตฺถ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถรา สุตฺตํ คเหตฺวา ปริมทฺทนฺตา อิทํ อทฺทสํสุ. เปตฺวา ธฺผลรสนฺติ สตฺตธฺรสานิ ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปนฺตีติ ปฏิกฺขิตฺตานิ. ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสผลเอฬาลุกานิ , นว มหาผลานิ สพฺพฺจ อปรณฺณํ, ธฺคติกเมว. ตํ กิฺจาปิ น ปฏิกฺขิตฺตํ, อถ โข อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น กปฺปติ. อฏฺ ปานานิ อนุฺาตานิ. อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคติกาเนว, ตานิ กิฺจาปิ น อนุฺาตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. เปตฺวา หิ สานุโลมํ ธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกํเยวาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

ภควตา ฉ จีวรานิ อนุฺาตานิ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ เตสํ อนุโลมานิ ทุกูลํ, ปตฺตุณฺณํ, จีนปฏฺฏํ, โสมารปฏฺฏํ, อิทฺธิมยิกํ, เทวทตฺติยนฺติ อปรานิ ฉ อนุฺาตานิ. ตตฺถ ‘‘ปตฺตุณฺณ’’นฺติ ปตฺตุณฺณเทเส ปาณเกหิ สฺชาตวตฺถํ. ทฺเว ปฏา เทสนาเมเนว วุตฺตา. ตานิ ตีณิ โกเสยฺยสฺสานุโลมานิ. ทุกูลํ สาณสฺส, อิตรานิ ทฺเว กปฺปาสิกสฺส วา สพฺเพสํ วา.

ภควตา เอกาทส ปตฺเต ปฏิกฺขิปิตฺวา ทฺเว ปตฺตา อนุฺาตา – โลหปตฺโต เจว มตฺติกาปตฺโต จ. โลหถาลกํ, มตฺติกาถาลกํ, ตมฺพโลหถาลกนฺติ เตสํเยว อนุโลมานิ. ภควตา ตโย ตุมฺพา อนุฺาตา – โลหตุมฺโพ, กฏฺตุมฺโพ, ผลตุมฺโพติ. กุณฺฑิกา, กฺจนโก, อุทกตุมฺโพติ เตสํเยว อนุโลมานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปานียสงฺขปานียสราวกานิ เอเตสํ อนุโลมานี’’ติ วุตฺตํ. ปฏฺฏิกา, สูกรนฺตนฺติ ทฺเว กายพนฺธนานิ อนุฺาตานิ, ทุสฺสปฏฺเฏน รชฺชุเกน จ กตกายพนฺธนานิ เตสํ อนุโลมานิ. เสตจฺฉตฺตํ, กิลฺชจฺฉตฺตํ, ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตีณิ ฉตฺตานิ อนุฺาตานิ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ เตสํเยว อนุโลมนฺติ อิมินา นเยน ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อนุเปกฺขิตฺวา อฺานิปิ กปฺปิยากปฺปิยานํ อนุโลมานิ เวทิตพฺพานิ.

ตทหุปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปตีติอาทิ สพฺพํ สมฺภินฺนรสํ สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ หิ ฉลฺลิมฺปิ อนปเนตฺวา สกเลเนว นาฬิเกรผเลน สทฺธึ ปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ , นาฬิเกรํ อปเนตฺวา ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ. อุปริ สปฺปิปิณฺฑํ เปตฺวา สีตลปายาสํ เทนฺติ, ยํ ปายาเสน อสํสฏฺํ สปฺปิ, ตํ อปเนตฺวา สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. พทฺธมธุผาณิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตกฺโกลชาติผลาทีหิ อลงฺกริตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ตานิ อุทฺธริตฺวา โธวิตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิตพฺพานิ. ยาคุยํ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคิเวราทีสุปิ เตลาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนลฏฺิมธุกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ ยํ อสมฺภินฺนรสํ โหติ, ตํ ตํ เอกโต ปฏิคฺคหิตมฺปิ ยถา สุทฺธํ โหติ, ตถา โธวิตฺวา วา ตจฺเฉตฺวา วา ตสฺส ตสฺส กาลวเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

สเจ ปน สมฺภินฺนรสํ โหติ สํสฏฺํ, น วฏฺฏติ. ยาวกาลิกฺหิ อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกมฺปิ อตฺตนา สทฺธึ สํสฏฺํ ยาวชีวิกํ อตฺตโน สภาวฺเว อุปเนติ; ตสฺมา เตน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเรปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ ทฺวีหปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ, ตีหปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมาเยว หิ ‘‘สตฺตาหกาลิเกน ภิกฺขเว ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปตี’’ติ วุตฺตํ.

กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชนสนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. อิเมสุ จ ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกฺเจว สนฺนิธิการกฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

เภสชฺชกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.