📜
๗. กถินกฺขนฺธกํ
กถินานุชานนกถา
๓๐๖. กถินกฺขนฺธเก ¶ ¶ – ปาเวยฺยกาติ ปาเวยฺยรฏฺวาสิโน. ปาเวยฺยํ นาม โกสเลสุ ปจฺฉิมทิสาภาเค รฏฺํ; ตตฺถ ¶ วาสิโนติ วุตฺตํ โหติ. โกสลรฺโ เอกปิตุกภาตูนํ ภทฺทวคฺคิยตฺเถรานํ เอตํ อธิวจนํ. เตสุ สพฺพเชฏฺโก อนาคามี, สพฺพปจฺฉิมโก โสตาปนฺโน, เอโกปิ อรหา วา ปุถุชฺชโน วา นตฺถิ. อารฺิกาติ ธุตงฺคสมาทานวเสน อารฺิกา; น อรฺวาสมตฺเตน. ปิณฺฑปาติกาทิภาเวปิ เตสํ เอเสว นโย. สีสวเสน เจตํ วุตฺตํ. อิเม ปน เตรสาปิ ธุตงฺคานิ สมาทาเยว วตฺตนฺติ. อุทกสงฺคเหติ อุทเกน สงฺคหิเต ฆฏิเต สํสฏฺเ; ถเล จ นินฺเน จ เอโกทกีภูเตติ อตฺโถ.
อุทกจิกฺขลฺเลติ อกฺกนฺตอกฺกนฺตฏฺาเน อุทกจิกฺขลฺโล อุฏฺหิตฺวา ยาว อานิสทา ปหรติ, อีทิเส จิกฺขลฺเลติ อตฺโถ. โอกปุณฺเณหีติ อุทกปุณฺเณหิ. เตสํ กิร จีวรานิ ฆนานิ, เตสุ ปติตํ อุทกํ น ปคฺฆรติ ฆนตฺตา ปุฏพทฺธํ วิย ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โอกปุณฺเณหิ จีวเรหี’’ติ. ‘‘โอฆปุณฺเณหี’’ติปิ ปาโ.
อวิวทมานา วสฺสํ วสิมฺหาติ เอตฺถ อาคนฺตุกฏฺาเน เสนาสนผาสุตาย อภาเวน จ ภควโต ทสฺสนาลาเภน อุกฺกณฺิตตาย จ เต ภิกฺขู ผาสุํ น วสึสุ, ตสฺมา ‘‘อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิมฺหา’’ติ นาโวจุํ. ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อนมตคฺคิยกถํ กเถสิ. เต สพฺเพปิ กถาปริโยสาเน อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา นิสินฺนฏฺานโตเยว อากาเส อุปฺปติตฺวา อคมํสุ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ธมฺมึ กถํ กตฺวา’’ติ. ตโต ภควา ‘‘สเจ กถินตฺถาโร ปฺตฺโต อภวิสฺส, เอเต ภิกฺขู เอกํ จีวรํ เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาคจฺฉนฺตา น เอวํ กิลนฺตา อสฺสุ, กถินตฺถาโร จ นาเมส สพฺพพุทฺเธหิ อนฺุาโต’’ติ จินฺเตตฺวา กถินตฺถารํ อนุชานิตุกาโม ภิกฺขู อามนฺเตสิ, อามนฺเตตฺวา จ ปน ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ ¶ อตฺถตกถินานํ โวติ นิปาตมตฺตํ โวกาโร; อตฺถตกถินานนฺติ อตฺโถ. เอวฺหิ สติ ปรโต ‘‘โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ ยุชฺชติ. อถ วา โวติ สามิวจนเมเวตํ. โส เนสนฺติ เอตฺถ ปน โส จีวรุปฺปาโท เย อตฺถตกถินา, เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ อนามนฺตจาโรติ ยาว กถินํ น อุทฺธริยติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ ¶ , จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ; จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ. คณโภชนนฺติ คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตฺตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตฺตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.
เอวฺจ ปน ภิกฺขเว กถินํ อตฺถริตพฺพนฺติ เอตฺถ กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺติ. วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ, อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ. ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา. กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภฺุชิตฺวา คมิสฺสนฺติ. อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหติ.
กถินํ ¶ เกน ทินฺนํ วฏฺฏติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ – ‘‘ภนฺเต กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ ¶ , ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ ¶ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโก น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุฏฺุ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺํ กถินสาฏกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.
กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริโส ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิจ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห ภนฺเต คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ. ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ, ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ ‘‘กถินํ อตฺถริตฺวา ปจฺฉา สิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ. ยสฺส ปน ทียติ, ตสฺส เยน วิธินา ทาตพฺพํ, ตํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว กถินํ อตฺถริตพฺพ’’นฺติ อารภิตฺวา สุณาตุ เม ภนฺเตติอาทิกา ทานกมฺมวาจา ตาว วุตฺตา.
เอวํ ทินฺเน ปน กถิเน สเจ ตํ กถินทุสฺสํ นิฏฺิตปริกมฺมเมว โหติ ¶ , อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ นิฏฺิตปริกมฺมํ โหติ, ‘‘อหํ เถโร’’ติ วา ‘‘พหุสฺสุโต’’ติ วา เอเกนาปิ อกาตุํ น ลพฺภติ, สพฺเพเหว สนฺนิปติตฺวา โธวนสิพฺพนรชนานิ นิฏฺาเปตพฺพานิ. อิทฺหิ กถินวตฺตํ นาม พุทฺธปฺปสตฺถํ. อตีเต ปทุมุตฺตโรปิ ภควา กถินวตฺตํ อกาสิ. ตสฺส กิร อคฺคสาวโก สุชาตตฺเถโร นาม กถินํ คณฺหิ, ตํ สตฺถา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวา อกาสิ.
กตปริโยสิตํ ¶ ปน กถินํ คเหตฺวา อตฺถารเกน ภิกฺขุนา ‘‘สเจ สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณิกา สงฺฆาฏิ ปจฺจุทฺธริตพฺพา, นวา สงฺฆาฏิ อธิฏฺาตพฺพา. ‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา’’ติอาทินา ปริวาเร วุตฺตวิธาเนน กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อตฺถริตฺวา จ ปน ‘‘เตน กถินตฺถารเกน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อตฺถตํ ภนฺเต สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถา’ติ เตหิ อนุโมทเกหิ ภิกฺขูหิ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อตฺถตํ อาวุโส สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ เอวมาทินา ปริวาเร วุตฺตวิธาเนเนว อนุโมทาเปตพฺพํ, อิตเรหิ จ อนุโมทิตพฺพํ. เอวํ สพฺเพสํ อตฺถตํ โหติ กถินํ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร ‘‘ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถตํ โหติ กถินํ – อตฺถารกสฺส จ อนุโมทกสฺส จา’’ติ (ปริ. ๔๐๓). ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘น สงฺโฆ กถินํ อตฺถรติ, น คโณ กถินํ อตฺถรติ, ปุคฺคโล กถินํ อตฺถรติ, สงฺฆสฺส อนุโมทนา คณสฺส อนุโมทนา ปุคฺคลสฺส อตฺถารา สงฺฆสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, คณสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปุคฺคลสฺส อตฺถตํ โหติ กถินํ’’ติ (ปริ. ๔๑๔).
เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว เทมา’’ติ เทนฺติ ¶ , ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ. กมฺมวาจา ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส กถินานิสํเส พลววตฺถานิ ¶ วสฺสาวาสิกฏฺิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.
๓๐๘. อิทานิ ยถา จ กถินํ อตฺถตํ โหติ, ยถา จ อนตฺถตํ, ตํ วิธึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ เอวฺจ ปน ภิกฺขเว อตฺถตํ โหติ กถินํ เอวํ อนตฺถตนฺติ วตฺวา อกรณียฺเจว มหาภูมิกฺจ อนตฺถตลกฺขณํ ตาว ทสฺเสนฺโต น อุลฺลิขิตมตฺเตนาติอาทิเก จตุวีสติ อากาเร ทสฺเสสิ. ตโต ปรํ อตฺถตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อหเตน อตฺถตนฺติอาทิเก สตฺตรส อากาเร ทสฺเสสิ. ปริวาเรปิ หิ ‘‘จตุวีสติยา อากาเรหิ อนตฺถตํ โหติ กถินํ, สตฺตรสหิ อากาเรหิ อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ อิทเมว ลกฺขณํ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ อุลฺลิขิตมตฺเตนาติ ทีฆโต จ ปุถุลโต จ ปมาณคฺคหณมตฺเตน. ปมาณฺหิ คณฺหนฺโต ตสฺส ตสฺส ปเทสสฺส สฺชานนตฺถํ นขาทีหิ วา ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต อุลฺลิขติ, นลาฏาทีสุ วา ฆํสติ, ตสฺมา ตํ ปมาณคฺคหณํ ‘‘อุลฺลิขิตมตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. โธวนมตฺเตนาติ กถินทุสฺสโธวนมตฺเตน. จีวรวิจารณมตฺเตนาติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ วา โหตู’’ติ เอวํ วิจาริตมตฺเตน. เฉทนมตฺเตนาติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนมตฺเตน. พนฺธนมตฺเตนาติ โมฆสุตฺตกาโรปนมตฺเตน. โอวฏฺฏิยกรณมตฺเตนาติ โมฆสุตฺตกานุสาเรน ทีฆสิพฺพิตมตฺเตน. กณฺฑุสกรณมตฺเตนาติ มุทฺธิยปตฺตพนฺธนมตฺเตน. ทฬฺหีกมฺมกรณมตฺเตนาติ ทฺเว จิมิลิกาโย เอกโต กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตน. อถ วา ปมจิมิลิกา ฆเฏตฺวา ปิตา โหติ, กถินสาฏกํ ตสฺสา กุจฺฉิจิมิลิกํ กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตนาติปิ อตฺโถ. มหาปจฺจริยํ ¶ ‘‘ปกติจีวรสฺส อุปสฺสยทาเนนา’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปกติปตฺตพทฺธจีวรํ ทุปฏฺฏํ กาตุํ กุจฺฉิจิมิลิกํ อลฺลิยาปนมตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. อนุวาตกรณมตฺเตนาติ ปิฏฺิอนุวาตาโรปนมตฺเตน. ปริภณฺฑกรณมตฺเตนาติ กุจฺฉิอนอุวาตาโรปนมตฺเตน. โอวทฺเธยฺยกรณมตฺเตนาติ อาคนฺตุกปตฺตาโรปนมตฺเตน ¶ . กถินจีวรโต วา ปตฺตํ คเหตฺวา อฺสฺมึ อกถินจีวเร ปตฺตาโรปนมตฺเตน.
กมฺพลมทฺทนมตฺเตนาติ เอกวารํเยว รชเน ปกฺขิตฺเตน ทนฺตวณฺเณน ปณฺฑุปลาสวณฺเณน วา. สเจ ปน สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา รตฺตมฺปิ สารุปฺปํ โหติ, วฏฺฏติ. นิมิตฺตกเตนาติ ‘‘อิมินา ทุสฺเสน กถินํ อตฺถริสฺสามี’’ติ เอวํ นิมิตฺตกเตน. เอตฺตกเมว หิ ปริวาเร วุตฺตํ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘อยํ สาฏโก สุนฺทโร, สกฺกา อิมินา กถินํ อตฺถริตุ’นฺติ เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ กตฺวา ลทฺเธนา’’ติ วุตฺตํ. ปริกถากเตนาติ ‘‘กถินํ นาม ทาตุํ วฏฺฏติ, กถินทายโก พหุํ ปฺุํ ปสวตี’’ติ เอวํ ปริกถาย อุปฺปาทิเตน. กถินํ นาม อติอุกฺกฏฺํ วฏฺฏติ, มาตรมฺปิ วิฺาเปตุํ น วฏฺฏติ, อากาสโต โอติณฺณสทิสเมว วฏฺฏตีติ. กุกฺกุกเตนาติ ตาวกาลิเกน. สนฺนิธิกเตนาติ เอตฺถ ทุวิโธ สนฺนิธิ กรณสนฺนิธิ จ นิจยสนฺนิธิ จ. ตตฺถ ตทเหว อกตฺวา เปตฺวา กรณํ กรณสนฺนิธิ. สงฺโฆ อชฺช กถินทุสฺสํ ลภิตฺวา ปุนทิวเส เทติ, อยํ นิจยสนฺนิธิ.
นิสฺสคฺคิเยนาติ รตฺตินิสฺสคฺคิเยน. ปริวาเรปิ วุตฺตํ – ‘‘นิสฺสคฺคิยํ นาม กริยมาเน อรุณํ อุฏฺหตี’’ติ. อกปฺปกเตนาติ อนาทินฺนกปฺปพินฺทุนา. อฺตฺร สงฺฆาฏิยาติอาทีสุ เปตฺวา สงฺฆาฏิอุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสเก อฺเน ปจฺจตฺถรณาทินา อตฺถตํ อนตฺถตํ โหตีติ. อฺตฺร ปฺจเกน วา อติเรกปฺจเกน วาติ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ขณฺฑานิ กตฺวา มหามณฺฑลอฑฺฒมณฺฑลานิ ¶ ทสฺเสตฺวา กเตเนว วฏฺฏติ. เอวฺหิ สมณฺฑลิกตํ โหติ, ตํ เปตฺวา อฺเน อจฺฉินฺนเกน วา ทฺวตฺติจตุขณฺเฑน วา น วฏฺฏติ. อฺตฺร ปุคฺคลสฺส อตฺถาราติ ปุคฺคลสฺส อตฺถารํ เปตฺวา น อฺเน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา อตฺถาเรน อตฺถตํ โหติ. นิสฺสีมฏฺโ อนุโมทตีติ พหิอุปจารสีมาย ิโต อนุโมทติ.
๓๐๙. อหเตนาติ ¶ อปริภุตฺเตน. อหตกปฺเปนาติ อหตสทิเสน เอกวารํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา โธเตน. ปิโลติกายาติ หตวตฺถกสาฏเกน ¶ . ปํสุกูเลนาติ เตวีสติยา เขตฺเตสุ อุปฺปนฺนปํสุกูเลน. ปํสุกูลิกภิกฺขุนา โจฬกภิกฺขํ อาหิณฺฑิตฺวา ลทฺธโจฬเกหิ กตจีวเรนาติปิ กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ วุตฺตํ. ปาปณิเกนาติ อาปณทฺวาเร ปติตปิโลติกํ คเหตฺวา กถินตฺถาย เทติ, เตนาปิ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตวิปลฺลาเสเนว เวทิตพฺพํ. อิมสฺมึ ปน าเน ‘‘สห กถินสฺส อตฺถารา กติ ธมฺมา ชายนฺตี’’ติอาทิ พหุอฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปริวาเร ปาฬิอารูฬฺหเมว, ตสฺมา ตตฺถ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. น หิ เตน อิธ อวุจฺจมาเนน กถินตฺถารกสฺส กิฺจิ ปริหายติ.
๓๑๐. เอวํ กถินตฺถารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุพฺภารํ ทสฺเสตุํ กถฺจ ภิกฺขเว อุพฺภตํ โหติ กถินนฺติอาทิมาห. ตตฺถ มาติกาติ มาตโร; ชเนตฺติโยติ อตฺโถ. กถินุพฺภารฺหิ เอตา อฏฺ ชเนตฺติโย. ตาสุ ปกฺกมนํ อนฺโต อสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกา. เอวํ เสสาปิ เวทิตพฺพา.
อาทายสตฺตกกถา
๓๑๑. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปุน อาคมิสฺสํ. เอตสฺมึ ปน ปกฺกมนนฺติเก กถินุทฺธาเร ปมํ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ, ปจฺฉา อาวาสปลิโพโธ. เอวํ ปกฺกมโต หิ จีวรปลิโพโธ อนฺโตสีมายเมว ฉิชฺชติ, อาวาสปลิโพโธ สีมาติกฺกเม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร –
‘‘ปกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ;
ปจฺฉา อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ. (ปริ. ๔๑๕);
จีวรํ อาทายาติ อกตจีวรํ อาทาย. พหิสีมคตสฺสาติ อฺํ สามนฺตวิหารํ คตสฺส. เอวํ โหตีติ ตสฺมึ วิหาเร เสนาสนผาสุกํ วา สหายสมฺปตฺตึ วา ทิสฺวา เอวํ โหติ ¶ . เอตสฺมึ ปน นิฏฺานนฺติเก กถินุทฺธาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, โส หิ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเตเยว ฉิชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘นิฏฺานนฺติโก ¶ กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ;
จีวเร นิฏฺิเต จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ.
เอเตน ¶ นเยน เสสมาติกาวิภชเนปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺติ จิตฺเต อุปฺปนฺนมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตีติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร, วุตฺโต อาทิจฺจพนฺธุนา;
เอตฺจ ตาหํ วิสฺสชฺชิสฺสํ, ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตี’’ติ.
เอวํ สพฺพกถินุทฺธาเรสุ ปลิโพธุปจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. โส ปน ยสฺมา อิมินา จ วุตฺตนเยน ปริวาเร จ อาคตภาเวน สกฺกา ชานิตุํ, ตสฺมา วิตฺถารโต น วุตฺโต. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – นาสนนฺติเก อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวเร นฏฺเ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ. ยสฺมา จีวเร นฏฺเ จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ, ตสฺมา ‘‘นาสนนฺติโก’’ติ วุตฺตํ.
สวนนฺติเก จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺมา ตสฺส สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.
อาสาวจฺเฉทิเก อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ. จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ. อยํ ปน ยสฺมา ‘‘อนาสาย ลภติ; อาสาย น ลภติ; ตสฺส เอวํ โหติ ‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’’นฺติอาทินา นเยน อิตเรหิ อุทฺธาเรหิ สทฺธึ โวมิสฺสกเทสโน อเนกปฺปเภโท โหติ, ตสฺมา ปรโต วิสุํ วิตฺถาเรตฺวา วุตฺโต, อิธ น วุตฺโต. อิธ ปน สวนนฺติกสฺส อนนฺตรํ สีมาติกฺกนฺติโก วุตฺโต. ตตฺถ จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตีติ.
๓๑๖-๓๒๕. เอวํ ¶ ¶ อาทายวาเร สตฺตกถินุทฺธาเร ทสฺเสตฺวา ปุน สมาทายวาเรปิ วิปฺปกตจีวรสฺส อาทายสมาทายวาเรสุปิ ยถาสมฺภวํ เตเยว ทสฺสิตา. ตโต ปรํ อนฺโตสีมายํ ‘‘ปจฺเจสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมํ วิธึ อนามสิตฺวาว ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมเมว อามสิตฺวา อนธิฏฺิเตนา’’ติอาทินา นเยน จ เย เย ยุชฺชนฺติ, เต เต ทสฺสิตา. ตโต ปรํ ‘‘จีวราสาย ปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน อิตเรหิ สทฺธึ โวมิสฺสกนเยน อเนกกฺขตฺตุํ อาสาวจฺเฉทิกํ ทสฺเสตฺวา ปุน ทิสํคมิยวเสน จ ผาสุวิหาริกวเสน จ นิฏฺานนฺติเกสุ ยุชฺชมานา กถินุทฺธารา ทสฺสิตา. เอวํ ¶ ปเภทโต กถินุทฺธารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เย เตน เตน กถินุทฺธาเรน ปลิโพธา ฉิชฺชนฺตีติ วุตฺตา, เตสํ ปฏิปกฺเข ทสฺเสนฺโต ทฺเวเม ภิกฺขเว กถินสฺส ปลิโพธาติอาทิมาห. ตตฺถ จตฺเตนาติ เยน จิตฺเตน โส อาวาโส จตฺโต โหติ, ตํ จตฺตํ นาม, เตน จตฺเตน. วนฺตมุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
กถินกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.