📜

๑๐. โกสมฺพกกฺขนฺธกํ

โกสมฺพกวิวาทกถา

๔๕๑. โกสมฺพกกฺขนฺธเก ตํ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปึสูติ เอตฺถ อยมนุปุพฺพิกถา – ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกสฺมึ อาวาเส วสนฺติ วินยธโร จ สุตฺตนฺติโก จ. เตสุ สุตฺตนฺติโก ภิกฺขุ เอกทิวสํ วจฺจกุฏึ ปวิฏฺโ อาจมนอุทกาวเสสํ ภาชเน เปตฺวาว นิกฺขมิ. วินยธโร ปจฺฉา ปวิฏฺโ ตํ อุทกํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, ตยา อิทํ อุทกํ ปิต’’นฺติ? ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘กึ ตฺวํ เอตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, น ชานามี’’ติ. ‘‘โหติ, อาวุโส เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ? ‘‘สเจ โหติ, เทสิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสิ.

วินยธโรปิ อตฺตโน นิสฺสิตกานํ ‘‘อยํ สุตฺตนฺติโก อาปตฺตึ อาปชฺชมาโนปิ น ชานาตี’’ติ อาโรเจสิ. เต ตสฺส นิสฺสิตเก ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ อาปตฺติภาวํ น ชานาตี’’ติ อาหํสุ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อาโรเจสุํ. โส เอวมาห – ‘‘อยํ วินยธโร ปุพฺเพ อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อิทานิ อาปตฺตี’’ติ วทติ. มุสาวาที เอโสติ. เต คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย มุสาวาที’’ติ เอวํ อฺมฺํ กลหํ วฑฺฒยึสุ. ตโต วินยธโร โอกาสํ ลภิตฺวา ตสฺส อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมํ อกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปึสู’’ติ.

๔๕๓. ภินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ ภินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆติ เอตฺถ น ตาว ภินฺโน; อปิจ โข ยถา เทเว วุฏฺเ ‘‘อิทานิ สสฺสํ นิปฺผนฺน’’นฺติ วุจฺจติ, อวสฺสฺหิ ตํ นิปฺผชฺชิสฺสติ, เอวเมว อิมินา การเณน อายตึ อวสฺสํ ภิชฺชิสฺสติ, โส จ โข กลหวเสน น สงฺฆเภทวเสน, ตสฺมา ‘‘ภินฺโน’’ติ วุตฺตํ. สมฺภมอตฺถวเสน เจตฺถ อาเมฑิตํ เวทิตพฺพํ.

๔๕๔. เอตมตฺถํภาสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ กสฺมา เอวํ ภาสิตฺวา ปกฺกามิ? สเจ หิ ภควา อุกฺเขปเก วา ‘‘อการเณ ตุมฺเหหิ โส ภิกฺขุ อุกฺขิตฺโต’’ติ วเทยฺย, อุกฺขิตฺตานุวตฺตเก วา ‘‘ตุมฺเห อาปตฺตึ อาปนฺนา’’ติ วเทยฺย, ‘‘เอเตสํ ภควา ปกฺโข, เอเตสํ ภควา ปกฺโข’’ติ วตฺวา อาฆาตํ พนฺเธยฺยุํ, ตสฺมา ตนฺติเมว เปตฺวา เอตมตฺถํ ภาสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๔๕๕. อตฺตนา วา อตฺตานนฺติ เอตฺถ โย สงฺเฆน อุกฺเขปนียกตานํ อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘ตุมฺเห กึ ภณถา’’ติ เตสฺจ อิตเรสฺจ ลทฺธึ สุตฺวา ‘‘อิเม อธมฺมวาทิโน, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ, อยํ เตสํ มชฺเฌ นิสินฺโนว เตสํ นานาสํวาสโก โหติ, กมฺมํ โกเปติ, อิตเรสมฺปิ หตฺถปาสํ อนาคตตฺตา โกเปติ. เอวํ อตฺตนา วา อตฺตานํ นานาสํวาสกํ กโรติ. สมานสํวาสกนฺติ เอตฺถาปิ โย อธมฺมวาทีนํ ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อธมฺมวาทิโน อิเม, อิตเร ธมฺมวาทิโน’’ติ เตสํ มชฺฌํ ปวิสติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา ปน ปกฺเข นิสินฺโน ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติ, อยํ อตฺตนา วา อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรตีติ เวทิตพฺโพ.

๔๕๖. กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ เอตฺถ กาเยน ปหรนฺตา กายกมฺมํ อุปทํเสนฺติ, ผรุสํ วทนฺตา วจีกมฺมํ อุปทํเสนฺตีติ เวทิตพฺพา. หตฺถปรามาสํ กโรนฺตีติ โกธวเสน หตฺเถหิ อฺมฺํ ปรามสนํ กโรนฺติ. อธมฺมิยายมาเนติ อธมฺมิยานิ กิจฺจานิ กุรุมาเน. อสมฺโมทิกาวตฺตมานายาติ อสมฺโมทิกาย วตฺตมานาย. อยเมว วา ปาโ. สมฺโมทนกถาย อวตฺตมานายาติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา น อฺมฺนฺติ เอตฺถ ทฺเว ปนฺติโย กตฺวา อุปจารํ มุฺจิตฺวา นิสีทิตพฺพํ, ธมฺมิยายมาเน ปน สมฺโมทิกาย วตฺตมานาย อาสนนฺตริกาย นิสีทิตพฺพํ, เอเกกํ อาสนํ อนฺตรํ กตฺวา นิสีทิตพฺพํ.

๔๕๗-๔๕๘. มา ภณฺฑนนฺติอาทีสุ ‘‘อกตฺถา’’ติ ปาเสสํ คเหตฺวา ‘‘มา ภณฺฑนํ อกตฺถา’’ติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อธมฺมวาทีติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตเกสุ อฺตโร. อยํ ปน ภิกฺขุ ภควโต อตฺถกาโม, อยํ กิรสฺส อธิปฺปาโย ‘‘อิเม ภิกฺขู โกธาภิภูตา สตฺถุ วจนํ น คณฺหนฺติ, มา ภควา เอเต โอวทนฺโต กิลมิตฺถา’’ติ ตสฺมา เอวมาห. ภควา ปน ‘‘ปจฺฉาปิ สฺํ ลภิตฺวา โอรมิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ อนุกมฺปาย อตีตวตฺถุํ อาหริตฺวา กเถสิ. ตตฺถ อนตฺถโตติ อนตฺโถ อโต; เอตสฺมา เม ปุริสา อนตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อนตฺถโตติ อนตฺถโท. เสสํ ปากฏเมว.

๔๖๔. ปุถุสทฺโทติอาทิคาถาสุ ปน ปุถุ มหา สทฺโท อสฺสาติ ปุถุสทฺโท. สมชโนติ สมาโน เอกสทิโส ชโน; สพฺโพ จายํ ภณฺฑนการโกชโน สมนฺตโต สทฺทนิจฺฉารเณน ปุถุสทฺโท เจว สทิโส จาติ วุตฺตํ โหติ. น พาโล โกจิ มฺถาติ ตตฺถ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ น มฺิตฺถ; สพฺเพปิ ปณฺฑิตมานิโนเยว. นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุนฺติ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ จ น มฺิตฺถ; ภิยฺโย จ สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมาเน อฺมฺปิ เอกํ ‘‘มยฺหํ การณา สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติ อิทํ การณํ น มฺิตฺถาติ อตฺโถ.

ปริมุฏฺาติ ปริมุฏฺสฺสติโน. วาจาโคจรภาณิโนติ ราการสฺส รสฺสาเทโส กโต , วาจาโคจรา น สติปฏฺานาทิโคจรา. ภาณิโน จ กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ ยาว มุขํ ปสาเรตุํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา ภาณิโน, เอโกปิ สงฺฆคารเวน มุขสงฺโกจํ น กโรตีติ อตฺโถ. เยน นีตาติ เยน กลเหน อิมํ นิลฺลชฺชภาวํ นีตา. น ตํ วิทูติ น ตํ ชานนฺติ, ‘‘เอวํ สาทีนโว อย’’นฺติ.

เย จ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ ตํ ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ, อวธิ ม’’นฺติอาทิกํ อาการํ เย จ อุปนยฺหนฺติ. สนนฺตโนติ โปราโณ.

ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ ภณฺฑนการกา ปเร นาม. เต เอตฺถ สงฺฆมชฺเฌ กลหํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปยมาม; สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโตสมฺมนฺติ เมธคาติ เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ.

อฏฺิจฺฉินฺนาติ อยํ คาถา พฺรหฺมทตฺตฺจ ทีฆาวุกุมารฺจ สนฺธาย วุตฺตา. เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ, กสฺมา ตุมฺหากํ น โหติ, เยสํ โว เนว มาตาปิตูนํ อฏฺีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หตา, น ควาสฺสธนานิ หฏานีติ.

สเจ ลเภถาติอาทิคาถา ปณฺฑิตสหายสฺส จ พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตา. อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ ปากฏปริสฺสเย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตมโน สติมา จเรยฺย.

ราชาวรฏฺํ วิชิตนฺติ ยถา อตฺตโน วิชิตํ รฏฺํ มหาชนกราชา จ อรินฺทมมหาราชา จ ปหาย เอกกา จรึสุ; เอวํ จเรยฺยาติ อตฺโถ. มาตงฺครฺเว นาโคติ มาตงฺโค อรฺเ นาโคว. มาตงฺโคติ หตฺถี วุจฺจติ; นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมตํ. ยถา หิ มาตุโปสโก มาตงฺคนาโค อรฺเ เอโก จริ, น จ ปาปานิ อกาสิ. ยถา จ ปาลิเลยฺยโก, เอวํ เอโก จเร, น จ ปาปานิ กยิราติ วุตฺตํ โหติ.

ปาลิเลยฺยกคมนกถา

๔๖๗. ปาลิเลยฺยเก วิหรติ รกฺขิตวนสณฺเฑติ ปาลิเลยฺยกํ อุปนิสฺสาย รกฺขิตวนสณฺเฑ วิหรติ. หตฺถินาโคติ มหาหตฺถี. หตฺถิกลเภหีติ หตฺถิโปตเกหิ. หตฺถิจฺฉาเปหีติ ขีรูปเกหิ ทหรโปตเกหิ. ฉินฺนคฺคานีติ เตหิ ปุรโต ปุรโต คจฺฉนฺเตหิ ฉินฺนคฺคานิ ขายิตาวเสสานิ ขาณุสทิสานิ ติณานิ ขาทติ. โอภคฺโคภคฺคนฺติ เตน หตฺถินาเคน อุจฺจฏฺานโต ภฺชิตฺวา ภฺชิตฺวา ปาติตํ. อสฺส สาขาภงฺคนฺติ เอตสฺส สนฺตกํ สาขาภงฺคํ เต ขาทนฺติ. อาวิลานีติ เตหิ ปมตรํ โอตริตฺวา ปิวนฺเตหิ อาลุลิตานิ กทฺทโมทกานิ ปิวติ. โอคาหาติ ติตฺถโต.

นาคสฺส นาเคนาติ หตฺถินาคสฺส พุทฺธนาเคน. อีสาทนฺตสฺสาติ รถอีสาสทิสทนฺตสฺส. ยเทโก รมตี วเนติ ยสฺมา พุทฺธนาโค วิย อยมฺปิ หตฺถินาโค เอโก ปวิวิตฺโต วเน รมติ; ตสฺมาสฺส นาคสฺส นาเคน จิตฺตํ สเมติ, เอกีภาวรติยา เอกสทิสํ โหตีติ อตฺโถ.

ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวาติ เอตฺถ เตมาสํ ภควา ตตฺถ วิหาสีติ เวทิตพฺโพ. เอตฺตาวตา โกสมฺพเกหิ กิร อุพฺพาฬฺโห ภควา เตมาสํ อรฺํ ปวิสิตฺวา วสีติ สพฺพตฺถ กถา ปตฺถฏา อโหสิ.

อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกาติ อถ โข อิมํ กถาสลฺลาปํ สุตฺวา โกสมฺพิวาสิโน อุปาสกา.

อฏฺารสวตฺถุกถา

๔๖๘. อธมฺมํ ธมฺโมติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม.

๔๗๕. ตํอุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ โอสาเรตฺวาติ ตํ คเหตฺวา สีมํ คนฺตฺวา อาปตฺตึ เทสาเปตฺวา กมฺมวาจาย โอสาเรตฺวา. ตาวเทว อุโปสโถติ ตํทิวสเมว อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว สามคฺคีอุโปสโถ กาตพฺโพ.

๔๗๖. อมูลา มูลํ คนฺตฺวาติ น มูลา มูลํ คนฺตฺวา; ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวาติ อตฺโถ. อยํ วุจฺจติ อุปาลิ สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยฺชนูเปตาติ อตฺถโต อปคตา, ‘‘สงฺฆสามคฺคี’’ติ อิมํ ปน พฺยฺชนมตฺตํ อุเปตา.

๔๗๗. สงฺฆสฺส กิจฺเจสูติ สงฺฆสฺส กรณีเยสุ อุปฺปนฺเนสุ. มนฺตนาสูติ วินยมนฺตนาสุ. อตฺเถสุ ชาเตสูติ วินยอตฺเถสุ อุปฺปนฺเนสุ. วินิจฺฉเยสูติ เตสํเยว อตฺถานํ วินิจฺฉเยสุ. มหตฺถิโกติ มหาอุปกาโร. ปคฺคหารโหติ ปคฺคณฺหิตุํ วุตฺโต.

อนานุวชฺโช ปเมน สีลโตติอาทิมฺหิเยว ตาว สีลโต น อุปวชฺโช. อเวกฺขิตาจาโรติ อเปกฺขิตาจาโร; อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการีติอาทินา นเยน อุปปริกฺขิตาจาโร. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนาจาโร’’ติ วุตฺตํ.

วิสยฺหาติ อภิภวิตฺวา. อนุยฺยุตํ ภณนฺติ อนุฺาตํ อนปคตํ ภณนฺโต. ยสฺมา หิ โส อนุยฺยุตํ ภณติ, อุสูยาย วา อคติคมนวเสน วา การณาปคตํ น ภณติ, ตสฺมา อตฺถํ น หาเปติ. อุสูยาย ปน อคติคมนวเสน วา ภณนฺโต อตฺถํ หาเปติ, การณํ น เทติ, ตสฺมา โส ปริสคโต ฉมฺภติ เจว เวธติ จ. โย อีทิโส น โหติ, อยํ ‘‘ปคฺคหารโห’’ติ ทสฺเสติ.

กิฺจ ภิยฺโย ‘‘ตเถว ปฺห’’นฺติ คาถา, ตสฺสตฺโถ – ยถา จ อนุยฺยุตํ ภณนฺโต อตฺถํ น หาเปติ, ตเถว ปริสาย มชฺเฌ ปฺหํ ปุจฺฉิโต สมาโน น เจว ปชฺฌายติ, น จ มงฺกุ โหติ. โย หิ อตฺถํ น ชานาติ, โส ปชฺฌายติ. โย วตฺตุํ น สกฺโกติ, โส มงฺกุ โหติ. โย ปน อตฺถฺจ ชานาติ, วตฺตุฺจ สกฺโกติ; โส น ปชฺฌายติ, น มงฺกุ โหติ. กาลาคตนฺติ กเถตพฺพยุตฺตกาเล อาคตํ. พฺยากรณารหนฺติ ปฺหสฺส อตฺถานุโลมตาย พฺยากรณานุจฺฉวิกํ. วโจติ วทนฺโต; เอวรูปํ วจนํ ภณนฺโตติ อตฺโถ. รฺเชตีติ โตเสติ. วิฺูปริสนฺติ วิฺูนํ ปริสํ.

อาเจรกมฺหิจ สเกติ อตฺตโน อาจริยวาเท. อลํ ปเมตุนฺติ วีมํสิตุํ ตํ ตํ การณํ ปฺาย ตุลยิตุํ สมตฺโถ. ปคุโณติ กตปริจโย ลทฺธาเสวโน. กเถตเวติ กเถตพฺเพ. วิรทฺธิโกวิโทติ วิรทฺธฏฺานกุสโล.

ปจฺจตฺถิกา เยน วชนฺตีติ อยํ คาถา ยาทิเส กเถตพฺเพ ปคุโณ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยาทิเสน กถิเตน ปจฺจตฺถิกา จ นิคฺคหํ คจฺฉนฺติ, มหาชโน จ สฺปนํ คจฺฉติ; สฺตฺตึ อวโพธนํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. ยฺจ กเถนฺโต สกํ อาทายํ อตฺตโน อาจริยวาทํ น หาเปติ, ยสฺมึ วตฺถุสฺมึ อธิกรณํ อุปฺปนฺนํ, ตทนุรูปํ อนุปฆาตกรํ ปฺหํ พฺยากรมาโน ตาทิเส กเถตพฺเพ ปคุโณ โหตีติ.

ทูเตยฺยกมฺเมสุ อลนฺติ อฏฺหิ ทูตงฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา สงฺฆสฺส ทูเตยฺยกมฺเมสุ สมตฺโถ. สุฏฺุ อุคฺคณฺหาตีติ สมุคฺคโห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม อาหุนํ อาหุติปิณฺฑํ สมุคฺคณฺหนฺติ, เอวํ ปีติโสมนสฺสชาเตเนว เจตสา สงฺฆสฺส กิจฺเจสุ สมุคฺคโห, สงฺฆสฺสกิจฺเจสุ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส ปฏิคฺคาหโกติ อตฺโถ. กรํ วโจติ วจนํ กโรนฺโต. น เตน มฺตีติ เตน วจนกรเณน ‘‘อหํ กโรมิ, สงฺฆภารํ นิตฺถรามี’’ติ น มานาติมานํ ชปฺเปติ.

อาปชฺชติ ยาวตเกสุ วตฺถูสูติ ยตฺตเกสุ วตฺถูสุ อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน อาปชฺชติ. โหติ ยถา จ วุฏฺิตีติ ตสฺสา จ อาปตฺติยา ยถา วุฏฺานํ โหติ. เอเต วิภงฺคาติ เยสุ วตฺถูสุ อาปชฺชติ, ยถา จ วุฏฺานํ โหติ, อิเมสํ อตฺถานํ โชตกา เอเต วิภงฺคา. อุภยสฺสาติ อุภเย อสฺส. สฺวาคตาติ สุฏฺุ อาคตา. อาปตฺติวุฏฺานปทสฺส โกวิโทติ อาปตฺติวุฏฺานการณกุสโล.

ยานิ จาจรนฺติ ยานิ จ ภณฺฑนการณาทีนิ อาจรนฺโต ตชฺชนียกมฺมาทิวเสน นิสฺสารณํ คจฺฉติ. โอสารณํ ตํวุสิตสฺส ชนฺตุโนติ ตํ วตฺตํ วุสิตสฺส ชนฺตุโน, ยา โอสารณา กาตพฺพา, เอตมฺปิ ชานาติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

โกสมฺพกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

มหาวคฺควณฺณนา สมตฺตา.

มหาวคฺค-อฏฺกถา นิฏฺิตา.