📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

จูฬวคฺค-อฏฺกถา

๑. กมฺมกฺขนฺธกํ

ตชฺชนียกมฺมกถา

. จูฬวคฺคสฺส ปเม กมฺมกฺขนฺธเก ตาว ปณฺฑุกโลหิตกาติ ปณฺฑุโก เจว โลหิตโก จาติ ฉพฺพคฺคิเยสุ ทฺเว ชนา; เตสํ นิสฺสิตกาปิ ปณฺฑุกโลหิตกาตฺเวว ปฺายนฺติ. พลวาพลวํ ปฏิมนฺเตถาติ สุฏฺุพลวํ ปฏิวทถ. อลมตฺถตราติ สมตฺถตรา.

ตชฺชนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถา

. อสมฺมุขากตนฺติอาทีสุ สงฺฆธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขานํ วินา กตํ, จุทิตกํ อปฺปฏิปุจฺฉิตฺวา กตํ, ตสฺเสว อปฺปฏิฺาย กตํ. อเทสนาคามินิยาติ ปาราชิกาปตฺติยา วา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา วา. เอตฺถ ปุริมเกสุ ตีสุ ติเกสุ นว ปทา อธมฺเมนกตํ วคฺเคนกตนฺติ อิเมหิ สทฺธึ เอเกกํ คเหตฺวา นว ติกา วุตฺตา. เอวํ สพฺเพปิ ทฺวาทส ติกา โหนฺติ. ปฏิปกฺขวเสน สุกฺกปกฺเขสุปิ เอเตเยว ทฺวาทส ติกา วุตฺตา.

. อนนุโลมิเกหิคิหิสํสคฺเคหีติ ปพฺพชิตานํ อนนุจฺฉวิเกหิ สหโสกิตาทีหิ คิหิสํสคฺเคหิ.

ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนนฺติอาทิ เอเกเกนาปิ องฺเคน ตชฺชนียกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตชฺชนียสฺส หิ วิเสเสน ภณฺฑนการกตฺตํ องฺคํ, นิยสฺสสฺส อภิณฺหาปตฺติกตฺตํ, ปพฺพาชนียสฺส กุลทูสกตฺตํ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน ตีสุ องฺเคสุ เยน เกนจิ สพฺพานิปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ยทิ เอวํ ยํ จมฺเปยฺยกฺขนฺธเก วุตฺตํ – ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรติ…เป… อุปสมฺปทารหํ อพฺเภติ; เอวํ โข อุปาลิ อธมฺมกมฺมํ โหติ อวินยกมฺมํ, เอวฺจ ปน สงฺโฆ สาติสาโร โหตี’’ติ อิทํ วิรุชฺฌตีติ. อิทฺจ น วิรุชฺฌติ. กสฺมา? วจนตฺถนานตฺตโต, ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺสา’’ติ อิมสฺส หิ วจนสฺส กมฺมสนฺนิฏฺานํ อตฺโถ. ‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนสฺส องฺคสมฺภโว, ตสฺมา ยทา สงฺเฆน สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิทํ นาม อิมสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กโรมา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตํ โหติ, ตทา กมฺมารโห นาม โหติ. ตสฺส อิมินา ลกฺขเณน ตชฺชนียาทิกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมาทิกรณํ อธมฺมกมฺมฺเจว อวินยกมฺมฺจาติ เวทิตพฺพํ. ยสฺส ปน ภณฺฑนการกาทีสุ องฺเคสุ อฺตรํ องฺคํ อตฺถิ, ตสฺส อากงฺขมาโน สงฺโฆ ยถานุฺาเตสุ องฺเคสุ จ กมฺเมสุ จ เยน เกนจิ องฺเคน ยํกิฺจิ กมฺมํ ววตฺถเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ กมฺมารหํ กตฺวา กมฺมํ กเรยฺย. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เอวํ ปุพฺเพนาปรํ สเมติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ ตชฺชนียกมฺเม ภณฺฑนการกวเสน กมฺมวาจา วุตฺตา, อถ โข พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส อาปตฺติพหุลสฺส ตชฺชนียกมฺมํ กโรนฺเตน พาลอพฺยตฺตวเสเนว กมฺมวาจา กาตพฺพา . เอวฺหิ ภูเตน วตฺถุนา กตํ กมฺมํ โหติ, น จ อฺสฺส กมฺมสฺส วตฺถุนา. กสฺมา? ยสฺมา อิทมฺปิ อนุฺาตนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺารส สมฺมาวตฺตนวตฺถูนิ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม.

อธมฺมกมฺมทฺวาทสกกถา นิฏฺิตา.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพอฏฺารสกาทิกถา

. โลมํปาเตนฺตีติ ปนฺนโลมา โหนฺติ; ภิกฺขู อนุวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. เนตฺถารํ วตฺตนฺตีติ นิตฺถรนฺตานํ เอตนฺติ เนตฺถารํ; เยน สกฺกา นิสฺสารณา นิตฺถริตุํ, ตํ อฏฺารสวิธํ สมฺมาวตฺตนํ วตฺตนฺตีติ อตฺโถ. กิตฺตกํ กาลํ วตฺตํ ปูเรตพฺพนฺติ? ทส วา ปฺจ วา ทิวสานิ. อิมสฺมิฺหิ กมฺมกฺขนฺธเก เอตฺตเกน วตฺตํ ปูริตเมว โหติ.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพอฏฺารสกาทิกถา นิฏฺิตา.

นิยสฺสกมฺมกถา

๑๑. เสยฺยสกวตฺถุสฺมึ – อปิสฺสุ ภิกฺขู ปกตาติ อปิสฺสุ ภิกฺขู นิจฺจํ พฺยาวฏา โหนฺติ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตสทิสเมว.

นิยสฺสกมฺมกถา นิฏฺิตา.

ปพฺพาชนียกมฺมกถา

๒๑. อสฺสชิปุนพฺพสุกวตฺถุ สงฺฆาทิเสสวณฺณนายํ วุตฺตํ.

๒๗. กายิเกน ทเวนาติอาทีสุ ปเนตฺถ กายิโก ทโว นาม กายกีฬา วุจฺจติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิโก อนาจาโร นาม กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกโม วุจฺจติ . เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิกํ อุปฆาติกํ นาม กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส อสิกฺขนภาเวน อุปหนนํ วุจฺจติ; นาสนํ วินาสนนฺติ อตฺโถ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. กายิโก มิจฺฉาชีโว นาม ปฏิกฺขิตฺตเวชฺชกมฺมาทิวเสน เตลปจนอริฏฺปจนาทีนิ. วาจสิโก มิจฺฉาชีโว นาม คิหีนํ สาสนสมฺปฏิจฺฉนาโรจนาทีนิ. กายิกวาจสิโก นาม ตทุภยํ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว.

ปพฺพาชนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

ปฏิสารณียกมฺมกถา

๓๓. สุธมฺมวตฺถุสฺมึ ปน – อนปโลเกตฺวาติ น อาปุจฺฉิตฺวา. เอตทโวจาติ กึ เต คหปติ เถรานํ ปฏิยตฺตนฺติ สพฺพํ วิวราเปตฺวา ทิสฺวา เอตํ อโวจ. เอกา จ โข อิธ นตฺถิ ยทิทํ ติลสํคุฬิกาติ ยา อยํ ติลสกฺขลิกา นาม วุจฺจติ, สา นตฺถีติ อตฺโถ. ตสฺส กิร คหปติโน วํเส อาทิมฺหิ เอโก ปูวิโย อโหสิ. เตน นํ เถโร ชาติยา ขุํเสตุกาโม เอวมาห. ยเทว กิฺจีติ เอวํ พหุํ พุทฺธวจนํ รตนํ ปหาย กิฺจิเทว ติลสํคุฬิกาวจนํ ภาสิตํ. กุกฺกุฏโปตกอุทาหรเณน อิทํ ทสฺเสติ ‘‘ยถา โส เนว กากวสฺสิตํ น กุกฺกุฏวสฺสิตํ อกาสิ, เอวํ ตยาปิ เนว ภิกฺขุวจนํ น คิหิวจนํ วุตฺต’’นฺติ.

ปฏิสารณียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

อธมฺมกมฺมาทิทฺวาทสกกถา

๓๗. อสมฺมุขา กตนฺติอาทโย ติกา วุตฺตปฺปการา เอว.

๓๙. องฺคสมนฺนาคโม ปุริเมหิ อสทิโส. ตตฺถ ยถา ลาภํ น ลภนฺติ; เอวํ ปริสกฺกนฺโต ปรกฺกมนฺโต อลาภาย ปริสกฺกติ นาม. เอส นโย อนตฺถาทีสุ. ตตฺถ อนตฺโถติ อตฺถภงฺโค. อนาวาโสติ ตสฺมึ าเน อวสนํ. คิหีนํ พุทฺธสฺส อวณฺณนฺติ คิหีนํ สนฺติเก พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ. ธมฺมิกํ ปฏิสฺสวํ น สจฺจาเปตีติ ยถา สจฺโจ โหติ, เอวํ น กโรติ; วสฺสาวาสํ ปฏิสฺสุณิตฺวา น คจฺฉติ, อฺํ วา เอวรูปํ กโรติ. ปฺจนฺนํ ภิกฺขเวติอาทิ เอกงฺเคนปิ กมฺมารหภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถฺเจว, ตชฺชนีเย จ วุตฺตนยเมว.

อธมฺมกมฺมาทิทฺวาทสกกถา นิฏฺิตา.

อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกถา

๔๖. ฉนฺนวตฺถุสฺมึ อาวาสปรมฺปรฺจ ภิกฺขเว สํสถาติ สพฺพาวาเสสุ อาโรเจถ.

๕๐. ภณฺฑนการโกติอาทีสุ ภณฺฑนาทิปจฺจยา อาปนฺนํ อาปตฺตึ โรเปตฺวา ตสฺสา อทสฺสเนเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. ติกา วุตฺตปฺปการา เอว.

๕๑. สมฺมาวตฺตนายํ ปเนตฺถ เตจตฺตาลีส วตฺตานิ. ตตฺถ น อนุทฺธํเสตพฺโพติ น โจเทตพฺโพ. น ภิกฺขุ ภิกฺขูหีติ อฺโ ภิกฺขุ อฺเหิ ภิกฺขูหิ น ภินฺทิตพฺโพ. น คิหิทฺธโชติ โอทาตวตฺถานิ อจฺฉินฺนทสปุปฺผทสานิ จ น ธาเรตพฺพานิ. น ติตฺถิยทฺธโชติ กุสจีราทีนิ น ธาเรตพฺพานิ. น อาสาเทตพฺโพติ น อปสาเทตพฺโพ. อนฺโต วา พหิ วาติ วิหารสฺส อนฺโต วา พหิ วา. น ติตฺถิยาทิปทตฺตยํ อุตฺตานเมว . เสสํ สพฺพํ ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสาม. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว. อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺเขปนียกมฺมํ อิมินา สทิสเมว.

๖๕. อริฏฺวตฺถุ ขุทฺทกวณฺณนายํ วุตฺตํ. ‘‘ภณฺฑนการโก’’ติอาทีสุ ยํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ภณฺฑนาทีนิ กโรติ, ตสฺสา อปฺปฏินิสฺสคฺเคเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. เสสํ ตชฺชนีเย วุตฺตนยเมว. สมฺมาวตฺตนายมฺปิ หิ อิธ เตจตฺตาลีสํเยว วตฺตานีติ.

อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺเขปนียกมฺมกถา นิฏฺิตา.

กมฺมกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.