📜

๓. สมุจฺจยกฺขนฺธกํ

สุกฺกวิสฺสฏฺิกถา

๙๗. สมุจฺจยกฺขนฺธเก ฉารตฺตํ มานตฺตนฺติ เอตฺถ จตุพฺพิธํ มานตฺตํ – อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปกฺขมานตฺตํ, สโมธานมานตฺตนฺติ. ตตฺถ อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ อทตฺวา เกวลํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาเวเนว มานตฺตารหสฺส มานตฺตํ ทิยฺยติ. ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทิยฺยติ. ปกฺขมานตฺตํ นาม – ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย วา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย วา อาปตฺติยา อทฺธมาสํ ภิกฺขุนีนํ ทิยฺยติ. สโมธานมานตฺตํ นาม – ยํ โอธาย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติ. เตสุ อิทํ ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺต’’นฺติ วจนโต ‘‘อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ เทนฺเตน สเจ เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, อิธ วุตฺตนเยน ทาตพฺพํ. สเจ ทฺเว วา ติสฺโส วา ตตุตฺตรึ วา อาปนฺโน, ยเถว ‘‘เอกํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตํ; เอวํ ‘‘ทฺเว อาปตฺติโย, ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺพํ. ตตุตฺตริ ปน สเจปิ สตํ วา สหสฺสํ วา โหติ, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตพฺพํ. นานาวตฺถุกาโยปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺพา, ตาสํ ทานวิธึ ปริวาสทาเน กถยิสฺสาม.

เอวํ อาปตฺติวเสน กมฺมวาจํ กตฺวา ทินฺเน มานตฺเต ‘‘เอวเมตํ ธารยามี’’ติ กมฺมวาจาปริโยสาเน มาฬกสีมายเมว ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทาตพฺพํ. วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ, อาโรเจนฺเตน จ เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ , ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อปฺปฏิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิ. โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทยามหํ, ภนฺเต ‘เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

อิมฺจ ปน อตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม, วุตฺตนเยเนว สงฺฆมชฺเฌ นิกฺขิปิตพฺพํ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน ปน อวสาเน ‘‘เวทยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ.

สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา อนฺโตวิหาเรเยว รตฺติโย คเณตพฺพา. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย จตูหิ ปฺจหิ วา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุมฺเพน วา วติยา วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ. อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ.

อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติ เอว, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ. อาโรจิตกาลโต ปฏฺาย จ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา เสเสหิ สติ กรณีเย คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺส ภิกฺขุสฺส สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ เกนจิ กมฺเมน ปุเรอรุเณเยว คจฺฉติ, อฺํ วิหารโต นิกฺขนฺตํ วา อาคนฺตุกํ วา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อยฺจ ยสฺมา คณสฺส อาโรเจตฺวา ภิกฺขูนฺจ อตฺถิภาวํ สลฺลกฺเขตฺวาว วสิ, เตนสฺส อูเน คเณ จรณโทโส วา วิปฺปวาโส วา น โหติ. สเจ น กฺจิ ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตนา สทฺธึ คตภิกฺขูสุ เอกสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ; อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร’’ติ อาห.

เอวํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อขณฺฑํ จริตฺวา ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ, ตตฺถ โส ภิกฺขุ อพฺเภตพฺโพ. อพฺเภนฺเตหิ จ ปมํ อพฺภานารโห กาตพฺโพ. อยฺหิ นิกฺขิตฺตวตฺตตฺตา ปกตตฺตฏฺาเน ิโต, ปกตตฺตสฺส จ อพฺภานํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ตสฺมา วตฺตํ สมาทาเปตพฺโพ. วตฺเต สมาทินฺเน อพฺภานารโห โหติ. เตนาปิ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตฺวา อพฺภานํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปุน วตฺตสมาทานกิจฺจํ นตฺถิ. โส หิ ฉารตฺตาติกฺกเมเนว อพฺภานารโห โหติ, ตสฺมา โส อพฺเภตพฺโพ. ตตฺร ยฺวายํ ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อพฺเภตพฺโพ’’ติ ปาฬิยํเยว อพฺภานวิธิ วุตฺโต, อยฺจ เอกาปตฺติวเสน วุตฺโต. สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส สมฺพหุลา วา เอกวตฺถุกา วา นานาวตฺถุกา วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ตาสํ วเสน กมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวํ อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ทาตพฺพํ. ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปน ยสฺมา ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทาตพฺพํ โหติ, ตสฺมา นํ ปริวาสกถายํเยว กถยิสฺสาม.

ปริวาสกถา

๑๐๒. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ เทตู’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อเนเกหิ อากาเรหิ ปริวาโส จ มานตฺตฺจ วุตฺตํ. ตสฺส ยสฺมา อาคตาคตฏฺาเน วินิจฺฉโย วุจฺจมาโน ปาฬิ วิย อติวิตฺถารํ อาปชฺชติ, น จ สกฺกา โหติ สุเขน ปริคฺคเหตุํ, ตสฺมา นํ สโมธาเนตฺวา อิเธว ทสฺสยิสฺสาม.

อยฺหิ อิธ อธิปฺเปโต ปริวาโส นาม – ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, สุทฺธนฺตปริวาโส, สโมธานปริวาโสติ ติวิโธ โหติ. ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส ตาว ยถาปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ทาตพฺโพ . กสฺสจิ หิ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ ยถา อยํ อุทายิตฺเถรสฺส, กสฺสจิ ทฺวีหาทิปฏิจฺฉนฺนา ยถา ปรโต อาคตา อุทายิตฺเถรสฺเสว, กสฺสจิ เอกา อาปตฺติ โหติ ยถา อยํ, กสฺสจิ ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา ยถา ปรโต อาคตา, ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมํ ตาว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ.

อยฺหิ อาปตฺติ นาม ทสหากาเรหิ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ. ตตฺถายํ มาติกา – อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จ, ปกตตฺโต จ โหติ ปกตตฺตสฺี จ, อนนฺตรายิโก จ โหติ อนนฺตรายิกสฺี จ, ปหุ จ โหติ ปหุสฺี จ, ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ.

ตตฺถ อาปตฺติ จ โหติ อาปตฺติสฺี จาติ ยํ อาปนฺโน, สา อาปตฺติเยว โหติ. โสปิ จ ตตฺถ อาปตฺติสฺีเยว. อิติ ชานนฺโต ฉาเทติ, ฉนฺนาว โหติ. อถ ปนายํ ตตฺถ อนาปตฺติสฺี, อจฺฉนฺนา โหติ, อนาปตฺติ ปน อาปตฺติสฺายปิ อนาปตฺติสฺายปิ ฉาเทนฺเตนาปิ อจฺฉาทิตาว โหติ. ลหุกํ วา ครุกาติ ครุกํ วา ลหุกาติ ฉาเทติ, อลชฺชิปกฺเข ติฏฺติ, อาปตฺติ ปน อจฺฉนฺนา โหติ. ครุกํ ลหุกาติ มฺมาโน เทเสติ, เนว เทสิตา โหติ, น ฉนฺนา. ครุกํ ครุกาติ ตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. ครุกลหุกภาวํ น ชานาติ, อาปตฺตึ ฉาเทมีติ ฉาเทติ, ฉนฺนาว โหติ.

ปกตตฺโตติ ติวิธํ อุกฺเขปนียกมฺมํ อกโต – โส เจ ปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. อถ ‘‘มยฺหํ สงฺเฆน กมฺมํ กต’’นฺติ อปกตตฺตสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนา โหติ. อปกตตฺเตน ปกตตฺตสฺินา วา อปกตตฺตสฺินา วา ฉาทิตาปิ อจฺฉนฺนาว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘อาปชฺชติ ครุกํ สาวเสสํ,

ฉาเทติ อนาทริยํ ปฏิจฺจ;

น ภิกฺขุนี โน จ ผุเสยฺย วชฺชํ,

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);

อยฺหิ ปฺโห อุกฺขิตฺตเกน กถิโต.

อนนฺตรายิโกติ ยสฺส ทสสุ อนฺตราเยสุ เอโกปิ นตฺถิ, โส เจ อนนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สเจปิ โส ภีรุกชาติกตาย อนฺธกาเร อมนุสฺสจณฺฑมิคภเยน อนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. ยสฺส หิ ปพฺพตวิหาเร วสนฺตสฺส กนฺทรํ วา นทึ วา อติกฺกมิตฺวา อาโรเจตพฺพํ โหติ, อนฺตรามคฺเค จ จณฺฑวาฬอมนุสฺสาทิภยํ อตฺถิ, มคฺเค อชครา นิปชฺชนฺติ, นที ปูรา โหติ, เอกสฺมึ ปน สติเยว อนฺตราเย อนฺตรายิกสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, อจฺฉนฺนาว โหติ. อนฺตรายิกสฺส ปน อนฺตรายิกสฺาย วา อนนฺตรายิกสฺาย วา ฉาทยโต อจฺฉนฺนาว โหติ.

ปหูติ โย สกฺโกติ ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตุฺเจว อาโรเจตุฺจ; โส เจ ปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. สจสฺส มุเข อปฺปมตฺตโก คณฺโฑ วา โหติ, หนุกวาโต วา วิชฺฌติ, ทนฺโต วา รุชฺชติ, ภิกฺขา วา มนฺทา ลทฺธา โหติ, ตาวตเกน ปน เนว วตฺตุํ น สกฺโกติ น คนฺตุํ; อปิจ โข น สกฺโกมีติ สฺี โหติ, อยํ ปหุ หุตฺวา อปฺปหุสฺี นาม. อิมินา ฉาทิตาปิ อจฺฉาทิตา. อปฺปหุนา ปน วตฺตุํ วา คนฺตุํ วา อสมตฺเถน ปหุสฺินา วา อปฺปหุสฺินา วา ฉาทิตา โหตุ, อจฺฉาทิตาว.

ฉาเทตุกาโม จ โหติ ฉาเทติ จาติ อิทํ อุตฺตานตฺถเมว. สเจ ปน ฉาเทสฺสามีติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปุเรภตฺเต วา ปจฺฉาภตฺเต วา ปมยามาทีสุ วา ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว อาโรเจติ, อยํ ฉาเทตุกาโม น ฉาเทติ นาม.

ยสฺส ปน อภิกฺขุเก าเน วสนฺตสฺส อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สภาคสฺส ภิกฺขุโน อาคมนํ อาคเมนฺตสฺส สภาคสนฺติกํ วา คจฺฉนฺตสฺส อทฺธมาโสปิ มาโสปิ อติกฺกมติ, อยํ น ฉาเทตุกาโม ฉาเทติ นาม, อยมฺปิ อจฺฉนฺนาว โหติ.

โย ปน อาปนฺนมตฺโตว อคฺคึ อกฺกนฺตปุริโส วิย สหสา อปกฺกมิตฺวา สภาคฏฺานํ คนฺตฺวา อาวิ กโรติ, อยํ น ฉาเทตุกาโมว น ฉาเทติ นาม. สเจ ปน สภาคํ ทิสฺวาปิ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา’’ติ ลชฺชาย นาโรเจติ, ฉนฺนาว โหติ อาปตฺติ. อุปชฺฌายาทิภาโว หิ อิธ อปฺปมาณํ อเวริสภาคมตฺตเมว ปมาณํ, ตสฺมา อเวริสภาคสฺส สนฺติเก อาโรเจตพฺพา.

โย ปน วิสภาโค โหติ สุตฺวา ปกาเสตุกาโม, เอวรูปสฺส อุปชฺฌายสฺสาปิ สนฺติเก น อาโรเจตพฺพา. ตตฺถ ปุเรภตฺตํ วา อาปตฺตึ อาปนฺโน โหตุ ปจฺฉาภตฺตํ วา, ทิวา วา รตฺตึ วา ยาว อรุณํ น อุคฺคจฺฉติ ตาว อาโรเจตพฺพํ. อุทฺธสฺเต อรุเณ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สภาคสงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนสฺส ปน สนฺติเก อาวิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ อาวิ กโรติ, อาปตฺติ อาวิกตา โหติ, ทุกฺกฏา ปน น มุจฺจติ, ตสฺมา สุทฺธสฺส สนฺติเก อาวิกาตพฺพา. อาวิกโรนฺโต จ ‘‘ตุยฺหํ สนฺติเก เอกํ อาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติ วา ‘‘อาจิกฺขามี’’ติ วา ‘‘อาโรเจมี’’ติ วา ‘‘มม เอกํ อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ ชานาหี’’ติ วา วทตุ, ‘‘เอกํ ครุกาปตฺตึ อาวิกโรมี’’ติอาทินา วา นเยน วทตุ, สพฺเพหิปิ อากาเรหิ อปฺปฏิจฺฉนฺนาว โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ลหุกาปตฺตึ อาวิกโรมีติอาทินา นเยน วทติ, ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, วตฺถุํ อาโรเจติ, อาปตฺตึ อาโรเจติ, อุภยํ อาโรเจติ, ติวิเธนาปิ อาโรจิตาว โหติ. อิติ อิมานิ ทส การณานิ อุปลกฺเขตฺวา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมเมว ปฏิจฺฉนฺนภาโว ชานิตพฺโพ.

ตโต ปฏิจฺฉนฺนทิวเส จ อาปตฺติโย จ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา โหติ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ ยาจาเปตฺวา อิธ วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจํ วตฺวา ปริวาโส ทาตพฺโพ. อถ ทฺวีหตีหาทิปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ทฺวีหปฏิจฺฉนฺนํ ตีหปฏิจฺฉนฺนํ จตูหปฏิจฺฉนฺนํ ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนํ ฉาหปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตาหปฏิจฺฉนฺนํ อฏฺาหปฏิจฺฉนฺนํ นวาหปฏิจฺฉนฺนํ ทสาหปฏิจฺฉนฺนํ เอกาทสาหปฏิจฺฉนฺนํ ทฺวาทสาหปอจฺฉนฺนํ เตรสาหปฏิจฺฉนฺนํ จุทฺทสาหปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ ยาว จุทฺทส ทิวสานิ ทิวสวเสน โยชนา กาตพฺพา. ปฺจทส ทิวสานิ ปฏิจฺฉนฺนาย ปกฺขปฏิจฺฉนฺนนฺติ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา. ตโต ยาว เอกูนตึสติโม ทิวโส, ตาว อติเรกปกฺขปฏิจฺฉนฺนนฺติ.

ตโต มาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกมาสปฏิจฺฉนฺนํ ทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนํ เตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกเตมาสปฏิจฺฉนฺนํ จตุมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกจตุมาสปฏิจฺฉนฺนํ ปฺจมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกปฺจมาสปฏิจฺฉนฺนํ ฉมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกฉมาสปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกสตฺตมาสปฏิจฺฉนฺนํ อฏฺมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกอฏฺมาสปฏิจฺฉนฺนํ นวมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกนวมาสปฏิจฺฉนฺนํ ทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ เอกาทสมาสปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกเอกาทสมาสปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. สํวจฺฉเร ปริปุณฺเณ เอกสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ. ตโต ปรํ อติเรกเอกสํวจฺฉร… ทฺเวสํวจฺฉร… อติเรกทฺเวสํวจฺฉร… ติสํวจฺฉร… อติรเกติสํวจฺฉร… จตุสํวจฺฉร… อติเรกจตุสํวจฺฉร… ปฺจสํวจฺฉร… อติเรกปฺจสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ ยาว สฏฺิสํวจฺฉร… อติเรกสฏฺิสํวจฺฉรปฏิจฺฉนฺนนฺติ วา ตโต วา ภิยฺโยปิ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา.

สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส ตตุตฺตริ วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ยถา อิธ เอกํ อาปตฺตินฺติ วุตฺตํ; เอวํ ทฺเว อาปตฺติโย ติสฺโส อาปตฺติโยติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปรํ ปน สตํ วา โหตุ สหสฺสํ วา, สมฺพหุลาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นานาวตฺถุกาสุปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ – เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ คณนวเสน วา ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกาโย เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ วตฺถุกิตฺตนวเสน วา, ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา.

ตตฺถ นามํ ทุวิธํ – สชาติสาธารณฺจ สพฺพสาธารณฺจ. ตตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณํ; ตสฺมา ‘‘สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ สพฺพสาธารณนามวเสนปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ปริวาสาทิกํ วินยกมฺมํ วตฺถุวเสน โคตฺตวเสน นามวเสน อาปตฺติวเสน จ กาตุํ วฏฺฏติเยว.

ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺี’’ติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ นามฺเจว อาปตฺติ จ. ‘‘กายสํสคฺโค’’ติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ นามฺเจว อาปตฺติ จ, ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’’นฺติอาทินา วจเนนาปิ ‘‘นานาวตฺถุกาโย’’ติ วจเนนาปิ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ คหิตํ โหติ. ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ วจเนนาปิ ‘‘อาปตฺติโย’’ติ วจเนนาปิ นามฺเจว อาปตฺติ จ คหิตา โหติ. อิธ ปน เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ’’นฺติ นามมฺปิ วตฺถุโคตฺตานิปิ คหิตาเนว. ยถา จ อิธ ‘‘อยํ อุทายิ ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ; เอวํ โย โย อาปนฺโน โหติ, ตสฺส ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขู’’ติ กมฺมวาจา กาตพฺพา.

กมฺมวาจาปริโยสาเน จ เตน ภิกฺขุนา มาฬกสีมายเมว ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตนเยเนว วตฺตํ สมาทาตพฺพํ . สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ, อาโรเจนฺเตน จ เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ – ‘เวทยามหํ, ภนฺเต, เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

อิมฺจ ปนตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม, วุตฺตนเยเนว สงฺฆมชฺเฌ นิกฺขิปิตพฺพํ. มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขนฺเตสุ เอกสฺสาปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สตึ ปฏิลภนฺเตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โสปิ ปกฺกนฺโต, อฺสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. อาโรเจนฺเตน จ อวสาเน ‘‘เวทยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํ. ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ.

สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา วิหาเรเยว รตฺติปริคฺคโห กาตพฺโพ. อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย เอเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ มานตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว อุปจารสีมํ อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคา โอกฺกมฺม ปฏิจฺฉนฺเน าเน นิสีทิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว วุตฺตนเยเนว วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ปริวาโส อาโรเจตพฺโพ. อาโรเจนฺเตน สเจ นวกตโร โหติ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วุฑฺฒตโร, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํ; อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภโท จ. อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตสฺเสว คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโทเยว โหติ, วตฺตเภโท ปน นตฺถิ.

อุคฺคเต อรุเณ วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ โส ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกนฺโต โหติ, ยํ อฺํ สพฺพปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ ปน กฺจิ น ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตนา สทฺธึ คตภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ, อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร’’ติ อาห.

เอวํ ยตฺตกานิ ทิวสานิ อาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺตกานิ ตโต อธิกตรานิ วา กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถาย ปริวสิตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตํ สมาทิยิตฺวา มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อยฺหิ วตฺเต สมาทินฺเน เอว มานตฺตารโห โหติ นิกฺขิตฺตวตฺเตน ปริวุตฺถตฺตา. อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปน ปุน สมาทานกิจฺจํ นตฺถิ, โส หิ ปฏิจฺฉนฺนทิวสาติกฺกเมเนว มานตฺตารโห โหติ, ตสฺมา ตสฺส มานตฺตํ ทาตพฺพเมว. อิทํ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม. ตํ เทนฺเตน สเจ เอกาปตฺติ โหติ , ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพํ. อถ ทฺเว วา ติสฺโส วา ‘‘โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส สงฺฆํ ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ เอกาหปฏิจฺฉนฺนานํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ ปริวาเส วุตฺตนเยเนว อาปตฺติโย จ ทิวเส จ สลฺลกฺเขตฺวา โยชนา กาตพฺพา.

อปฺปฏิจฺฉนฺนาปตฺตึ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา สโมธาเนตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. กถํ? ปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ วสิตฺวา –

‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวุตฺถปริวาโส . อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ. โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สฺเจตนิกานํ สุกฺกวิสฺสฏฺีนํ ปฏิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย จ ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจามี’’ติ.

อถสฺส ตทนุรูปํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนา ทฺเว, อปฺปฏิจฺฉนฺนา เอกา ‘‘ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนาย จา’’ติ วตฺตพฺพํ. อถ ปฏิจฺฉนฺนา เอกา, อปฺปฏิจฺฉนฺนา ทฺเว, ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาย จ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนาปิ ทฺเว, อปฺปฏิจฺฉนฺนาปิ ทฺเว, ‘‘ปฏิจฺฉนฺนานฺจ อปฺปฏิจฺฉนฺนานฺจา’’ติ วตฺตพฺพํ. สพฺพตฺถ อนุรูปํ กมฺมวาจํ กตฺวา มานตฺตํ ทาตพฺพํ. จิณฺณมานตฺตสฺส จ ตทนุรูปเมว กมฺมวาจํ กตฺวา อพฺภานํ กาตพฺพํ. อิธ ปน เอกาปตฺติวเสน วุตฺตํ. อิติ ยํ ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสาวสาเน มานตฺตํ ทิยฺยติ, อิทํ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม. เอวเมตฺถ เอเกเนว โยชนามุเขน ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส จ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตฺจ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปกฺขมานตฺตํ สโมธานมานตฺตฺจ อวเสสปริวาสกถาวสาเน กถยิสฺสาม.

สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโสติ หิ ทฺเว ปริวาสา อวเสสา. ตตฺถ ‘‘สุทฺธนฺตปริวาโส’’ นาม ปรโต อธมฺมิกมานตฺตจาราวสาเน ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อนุฺาตปริวาโส. โส ทุวิโธ – จูฬสุทฺธนฺโต, มหาสุทฺธนฺโตติ. ทุวิโธปิ เจส รตฺติปริจฺเฉทํ สกลํ วา เอกจฺจํ วา อชานนฺตสฺส จ อสฺสรนฺตสฺส จ ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทาตพฺโพ. อาปตฺติปริยนฺตํ ปน เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโนติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมตํ.

ตตฺถ โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมกฺกเมน วา ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ ทิวสํ วา ปกฺขํ วา มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ตว สุทฺธภาวํ ชานาสี’’ติ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามิ, เอตฺตกํ นาม กาลํ อหํ สุทฺโธ’’ติ วทติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส ‘‘จูฬสุทฺธนฺโต’’ติ วุจฺจติ.

ตํ คเหตฺวา ปริวสนฺเตน ยตฺตกํ กาลํ อตฺตโน สุทฺธึ ชานาติ, ตตฺตกํ อปเนตฺวา อวเสสํ มาสํ วา ทฺเวมาสํ วา ปริวสิตพฺพํ. สเจ มาสมตฺตํ อสุทฺโธมฺหีติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ ปริวสนฺโต จ ปุน อฺํ มาสํ สรติ, ตมฺปิ มาสํ ปริวสิตพฺพเมว. ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อถ ทฺเวมาสํ อสุทฺโธมฺหีติ สลฺลกฺเขตฺวา อคฺคเหสิ, ปริวสนฺโต จ มาสมตฺตเมวาหํ อสุทฺโธมฺหีติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ, มาสเมว ปริวสิตพฺพํ. ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถิ. อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ, อิทมสฺส ลกฺขณํ. อฺสฺมึ ปน อาปตฺติวุฏฺาเน อิทํ ลกฺขณํ – โย อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉนฺนาติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ วุฏฺาติ. โย ปฏิจฺฉนฺนํ อปฺปฏิจฺฉนฺนาติ วินยกมฺมํ กโรติ, ตสฺส น วุฏฺาติ. อจิรปฏิจฺฉนฺนํ จิรปฏิจฺฉนฺนาติ กโรนฺตสฺสาปิ วุฏฺาติ. จิรปฏิจฺฉนฺนํ อจิรปฏิจฺฉนฺนาติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ. เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา สมฺพหุลาติ กโรนฺตสฺสาปิ วุฏฺาติ, เอกํ วินา สมฺพหุลานํ อภาวโต. สมฺพหุลา ปน อาปชฺชิตฺวา เอกํ อาปชฺชินฺติ กโรนฺตสฺส น วุฏฺาติ.

โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ เนว สรติ เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส ‘‘มหาสุทฺธนฺโต’’ติ วุจฺจติ. ตํ คเหตฺวา คหิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อุปสมฺปททิวโส, ตาว รตฺติโย คเณตฺวา ปริวสิตพฺพํ. อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหติ. ตสฺมา สเจ ปริวสนฺโต รตฺติปริจฺเฉเท สนฺนิฏฺานํ กโรติ, มาโส วา สํวจฺฉโร วา มยฺหํ อาปนฺนสฺสาติ มาสํ วา สํวจฺฉรํ วา ปริวสิตพฺพํ. ปริวาสยาจนทานลกฺขณํ ปเนตฺถ ปรโต ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ. กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตสมาทานมานตฺตอพฺภานานิ วุตฺตนยาเนว. อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม.

‘‘สโมธานปริวาโส’’ นาม ติวิโธ โหติ – โอธานสโมธาโน, อคฺฆสโมธาโน, มิสฺสกสโมธาโนติ. ตตฺถ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ นาม – อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา ทาตพฺพปริวาโส วุจฺจติ. โส ปรโต ‘‘เตน หิ ภิกฺขเว สงฺโฆ อุทายึ ภิกฺขุํ อนฺตรา เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สโมธานปริวาสํ เทตู’’ติ อิโต ปฏฺาย วิตฺถารโต ปาฬิยํเยว อาคโต.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – โย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ คเหตฺวา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สมา วา อูนตรา วา รตฺติโย ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา อทิวเส กตฺวา ปจฺฉา อาปนฺนาปตฺตึ มูลาปตฺติยํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ. เตน สเจ มูลาปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, อนฺตราปตฺติ อูนกปกฺขปฏิจฺฉนฺนา, ปุน ปกฺขเมว ปริวาโส ปริวสิตพฺโพ. อถาปิ อนฺตราปตฺติ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาว ปกฺขเมว ปริวสิตพฺพํ. เอเตนุปาเยน ยาว สฏฺิวสฺสปฏิจฺฉนฺนา มูลาปตฺติ, ตาว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปิ สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหติ.

สเจ ปน อนฺตราปตฺติ มูลาปตฺติโต อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตตฺถ ‘‘กึ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต มหาสุมตฺเถโร อาห – ‘‘อเตกิจฺโฉ อยํ ปุคฺคโล, อเตกิจฺโฉ นาม อาวิการาเปตฺวา วิสฺสชฺเชตพฺโพ’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กสฺมา อเตกิจฺโฉ นาม, นนุ อยํ สมุจฺจยกฺขนฺธโก นาม พุทฺธานํ ิตกาลสทิโส, อาปตฺติ นาม ปฏิจฺฉนฺนา วา โหตุ อปฺปฏิจฺฉนฺนา วา สมกอูนตรอติเรกปฏิจฺฉนฺนา วา วินยธรสฺส กมฺมวาจํ โยเชตุํ สมตฺถภาโวเยเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ยา อติเรกปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตํ มูลาปตฺตึ กตฺวา ตตฺถ อิตรํ สโมธาย ปริวาโส ทาตพฺโพ’’ติ. อยํ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ นาม.

‘‘อคฺฆสโมธาโน’’ นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทิยฺยติ. อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน. โสปิ ปรโต ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, เอกา อาปตฺติ เอกาหปฏิจฺฉนฺนา เอกา อาปตฺติ ทฺวีหปฏิจฺฉนฺนา’’ติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อาคโตเยว.

ยสฺส ปน สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนา, อปรมฺปิ สตํ อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนาติ เอวํ ทสกฺขตฺตุํ กตฺวา อาปตฺติสหสฺสํ ทิวสสตปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? สพฺพํ สโมทหิตฺวา ทส ทิวเส ปริวสิตพฺพํ. เอวํ เอเกเนว ทสาเหน ทิวสสตมฺปิ ปริวสิตเมว โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ทสสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวาน;

ทส รตฺติโย วสิตฺวาน, มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโก’’ติ. (ปริ. ๔๗๗);

อยํ อคฺฆสโมธาโน นาม.

‘‘มิสฺสกสโมธาโน’’ นาม – โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติ. ตตฺรายํ นโย –

‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ, เอกํ กายสํสคฺคํ, เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ, เอกํ อตฺตกามํ, เอกํ สฺจริตฺตํ, เอกํ กุฏิการํ, เอกํ วิหารการํ, เอกํ ทุฏฺโทสํ, เอกํ อฺภาคิยํ, เอกํ สงฺฆเภทํ, เอกํ เภทานุวตฺตกํ, เอกํ ทุพฺพจํ, เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา ตทนุรูปาย กมฺมวาจาย ปริวาโส ทาตพฺโพ.

เอตฺถ จ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกาโยติปิ สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชินฺติปิ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺถุวเสนปิ โคตฺตวเสนปิ นามวเสนปิ อาปตฺติวเสนปิ โยเชตฺวา กมฺมวาจํ กาตุํ วฏฺฏติเยวาติ อยํ มิสฺสกสโมธาโน. สพฺพปริวาสกมฺมวาจาวสาเน ปน นิกฺขิตฺตานิกฺขิตฺตวตฺตาทิกถา ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพาติ.

ปริวาสกถา นิฏฺิตา.

อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘ปกฺขมานตฺตฺจ สโมธานมานตฺตฺจ อวเสสปริวาสกถาวสาเน กถยิสฺสามา’’ติ, ตสฺโสกาโส สมฺปตฺโต, ตสฺมา วุจฺจติ – ‘‘ปกฺขมานตฺต’’นฺติ ภิกฺขุนิยา ทาตพฺพมานตฺตํ. ตํ ปน ปฏิจฺฉนฺนายปิ อปฺปฏิจฺฉนฺนายปิ อาปตฺติยา อฑฺฒมาสเมว ทาตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๔๐๓). ตํ ปน ภิกฺขุนีหิ อตฺตโน สีมํ โสเธตฺวา วิหารสีมาย วา วิหารสีมํ โสเธตุํ อสกฺโกนฺตีหิ ขณฺฑสีมาย วา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตุวคฺคคณํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ เอกา อาปตฺติ โหติ เอกิสฺสา วเสน, สเจ ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา เอกวตฺถุกา วา นานาวตฺถุกา วา ตาสํ ตาสํ วเสน วตฺถุโคตฺตนามอาปตฺตีสุ ยํ ยํ อิจฺฉติ ตํ ตํ อาทาย โยชนา กาตพฺพา.

ตตฺริทํ เอกาปตฺติวเสน มุขมตฺตทสฺสนํ, ตาย อาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขุนีนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, อยฺเย, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ คามนฺตรํ, สาหํ, อยฺเย, เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจามี’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจาเปตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฏิพลาย สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชิ คามนฺตรํ, สา สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ทเทยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ, อยํ…เป… ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ. สุณาตุ เม อยฺเย สงฺโฆ…เป… เทติ… ทินฺนํ สงฺเฆน อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี; เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

กมฺมวาจาปริโยสาเน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ภิกฺขุมานตฺตกถาย วุตฺตนเยเนว สงฺฆสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิตฺตวตฺตํ วสิตุกามาย ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ วา ปกฺกนฺตาสุ ภิกฺขุนีสุ เอกภิกฺขุนิยา วา ทุติยิกาย วา สนฺติเก วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตพฺพํ. อฺิสฺสา ปน อาคนฺตุกาย สนฺติเก อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ. ปุน สมาทิยิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปนฺติยา ปน ภิกฺขุนีนํเยว สนฺติเก วสิตุํ น ลภติ. ‘‘อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา อสฺสา อาจริยุปชฺฌายาหิ วิหารํ คนฺตฺวา สงฺคาหกปกฺเข ิโต เอโก มหาเถโร วา ธมฺมกถิโก วา ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ – ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา วินยกมฺมํ กตฺตพฺพมตฺถิ, ตตฺร โน อยฺยา, จตฺตาโร ภิกฺขู เปเสถา’’ติ. สงฺคหํ อกาตุํ น ลพฺภติ, เปเสสฺสามีติ วตฺตพฺพํ. จตูหิ ปกตตฺตภิกฺขุนีหิ มานตฺตจารินึ ภิกฺขุนึ คเหตฺวา อนฺโตอรุเณเยว นิกฺขมิตฺวา คามูปจารโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม คุมฺพวติอาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. วิหารูปจารโตปิ ทฺเว เลฑฺฑุปาตา อติกฺกมิตพฺพา จตูหิ ปกตตฺตภิกฺขูหิปิ ตตฺถ คนฺตพฺพํ. คนฺตฺวา ปน ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ น เอกฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ, ปฏิกฺกมิตฺวา อวิทูรฏฺาเน นิสีทิตพฺพํ. กุรุนฺทิมหาปจฺจรีสุ ปน ‘‘ภิกฺขุนีหิปิ พฺยตฺตํ เอกํ วา ทฺเว วา อุปาสิกาโย ภิกฺขูหิปิ เอกํ วา ทฺเว วา อุปาสเก อตฺตรกฺขณตฺถาย คเหตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํเยว จ ภิกฺขุนุปสฺสยสฺส จ วิหารสฺส จ อุปจารํ มุฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, คามสฺสาติ น วุตฺตํ.

เอวํ นิสินฺเนสุ ปน ภิกฺขูสุ จ ภิกฺขุนีสุ จ ตาย ภิกฺขุนิยา ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส ตาว เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

‘‘อหํ, อยฺเย, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ คามนฺตรํ, สาหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา คามนฺตราย ปกฺขมานตฺตํ อทาสิ, สาหํ ปกฺขมานตฺตํ จรามิ, ‘เวทยามหํ, อยฺเย, เวทยตี’ติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ.

ตโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ อาโรเจตพฺพํ – ‘‘อหํ, อยฺยา, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ …เป… เวทยามหํ, อยฺยา, เวทยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ. อิธาปิ ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.

อาโรเจตฺวา จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺเสว สนฺติเก นิสีทิตพฺพํ, อาโรจิตกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ สาสงฺกํ โหติ, ภิกฺขุนิโย ตตฺเถว านํ ปจฺจาสีสนฺติ, าตพฺพํ. สเจ อฺโ ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา ตํ านํ เอติ, ปสฺสนฺติยา อาโรเจตพฺพํ. โน เจ อาโรเจติ, รตฺติจฺเฉโท เจว วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. สเจ อชานนฺติยา เอว อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภททุกฺกฏํ. สเจ ภิกฺขุนิโย อุปชฺฌายาทีนํ วตฺตกรณตฺถํ ปเคว คนฺตุกามา โหนฺติ, รตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนคามนฺตราปตฺติรกฺขณตฺถํ เอกํ ภิกฺขุนึ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. ตาย อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺสา สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอเตนุปาเยน อขณฺฑา ปฺจทส รตฺติโย มานตฺตํ จริตพฺพํ.

อนิกฺขิตฺตวตฺตาย ปน ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว สมฺมา วตฺติตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘อาคนฺตุกสฺส อาโรเจตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ ยตฺตกา ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา ตํ คามํ ภิกฺขู วา ภิกฺขุนิโย วา อาคจฺฉนฺติ, สพฺเพสํ อาโรเจตพฺพํ. อนาโรเจนฺติยา รตฺติจฺเฉโท จ วตฺตเภททุกฺกฏฺจ. สเจปิ รตฺตึ โกจิ ภิกฺขุ ตํ คามูปจารํ โอกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, รตฺติจฺเฉโท โหติเยว, อชานนปจฺจยา ปน วตฺตเภทโต มุจฺจติ. กุรุนฺทิอาทีสุ ปน อนิกฺขิตฺตวตฺตภิกฺขูนํ วุตฺตนเยเนว กเถตพฺพนฺติ วุตฺตํ. ตํ ปาริวาสิกวตฺตาทีนํ อุปจารสีมาย ปริจฺฉินฺนตฺตา ยุตฺตตรํ ทิสฺสติ. อุโปสเถ อาโรเจตพฺพํ, ปวารณาย อาโรเจตพฺพํ, จตุนฺนํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ เทวสิกํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ ภิกฺขูนํ ตสฺมึ คาเม ภิกฺขาจาโร สมฺปชฺชติ, ตตฺเถว คนฺตพฺพํ. โน เจ สมฺปชฺชติ, อฺตฺร จริตฺวาปิ ตตฺร อาคนฺตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา คนฺตพฺพํ. พหิคาเม วา สงฺเกตฏฺานํ กาตพฺพํ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน อมฺเห ปสฺสิสฺสสี’’ติ. ตาย สงฺเกตฏฺานํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. สงฺเกตฏฺาเน อทิสฺวา วิหารํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ. วิหาเร สพฺพภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ สพฺเพสํ สกฺกา น โหติ อาโรเจตุํ, พหิอุปจารสีมาย ตฺวา ภิกฺขุนิโย เปเสตพฺพา. ตาหิ อานีตานํ จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ อาโรเจตพฺพํ. สเจ วิหาโร ทูโร โหติ สาสงฺโก, อุปาสเก จ อุปาสิกาโย จ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน อยํ เอกา วสติ, รตฺติวิปฺปวาสํ อาปชฺชติ, ตสฺมาสฺสา เอกา ปกตตฺตา ภิกฺขุนี สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพา เอกจฺฉนฺเน วสนตฺถาย.

เอวํ อขณฺฑํ มานตฺตํ จริตฺวา วีสติคเณ ภิกฺขุนิสงฺเฆ วุตฺตนเยเนว อพฺภานํ กาตพฺพํ. สเจ มานตฺตํ จรมานา อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชติ, มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ตสฺสา อาปตฺติยา มานตฺตํ ทาตพฺพนฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘ปกฺขมานตฺตํ’’ นาม.

‘‘สโมธานมานตฺตํ’’ ปน ติวิธํ โหติ – โอธานสโมธานํ, อคฺฆสโมธานํ, มิสฺสกสโมธานนฺติ. ตตฺถ ยเทตํ ปรโต อุทายิตฺเถรสฺส ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ ปริวสนฺตสฺส ปริวาเส จ มานตฺตารหฏฺาเน จ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา มูลายปฏิกสฺสิตสฺส ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน ติสฺสนฺนํ อาปตฺตีนํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ มานตฺตํ อนุฺาตํ, อิทํ ‘‘โอธานสโมธานํ’’ นาม. อิทฺหิ ปุนปฺปุนํ มูลายปฏิกสฺสเนน ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา ปุริมาปตฺตีหิ สทฺธึ สโมธาย ทินฺนํ, ตสฺมา โอธานสโมธานนฺติ วุจฺจติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สโมธานปริวาสํ วุตฺถสฺส ทาตพฺพํ มานตฺตํ สโมธานมานตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ เตน ปริยาเยน ยุชฺชติ.

อคฺฆสโมธานํ ปน มิสฺสกสโมธานฺจ อคฺฆสโมธานมิสฺสกสโมธานปริวาสาวสาเน ทาตพฺพมานตฺตเมว วุจฺจติ, ตํ ปริวาสกมฺมวาจานุสาเรน โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. เอตฺตาวตา ยํ วุตฺตํ ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สงฺโฆ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ เทตูติอาทินา นเยน ปาฬิยํ อเนเกหิ อากาเรหิ ปริวาโส จ มานตฺตฺจ วุตฺตํ, ตสฺส ยสฺมา อาคตาคตาเน วินิจฺฉโย วุจฺจมาโน ปาฬิ วิย อติวิตฺถารํ อาปชฺชติ, น จ สกฺกา โหติ สุเขน ปริคฺคเหตุํ, ตสฺมา นํ สโมธาเนตฺวา อิเธว ทสฺเสสฺสามา’’ติ, ตทิทํ อตฺถโต สมฺปาทิตํ โหติ.

ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถา

๑๐๒. อิทานิ ยา ตาว อยํ ปฏิจฺฉนฺนาย เอกิสฺสา อาปตฺติยา วเสน ปาฬิ วุตฺตา, สา อุตฺตานตฺถาว.

๑๐๘. ตโต ปรํ ทฺวีหตีหจตูหปฺจาหปฏิจฺฉนฺนานํ วเสน ปาฬึ วตฺวา ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย ปริวาสโต ปฏฺาย อนฺตราปตฺติ ทสฺสิตา. ยสฺมา ปน ตํ อาปตฺตึ อาปนฺโน มูลายปฏิกสฺสนารโห นาม โหติ, ตสฺมาสฺส ตตฺถ มูลายปฏิกสฺสนํ อนุฺาตํ. สเจ ปน นิกฺขิตฺตวตฺโต อาปชฺชติ, มูลายปฏิกสฺสนารโห น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา น โส ปริวสนฺโต อาปนฺโน, ปกตตฺตฏฺาเน ิโต อาปนฺโน, ตสฺมา ตสฺสา อาปตฺติยา วิสุํ มานตฺตํ จริตพฺพํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ ปริวาโสปิ วสิตพฺโพ. ยฺเจตํ มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ, ตสฺมิมฺปิ กเต ปริวุตฺถทิวสา มกฺขิตา โหนฺติ. อิติ ปริวาเส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ปุน มานตฺตารหสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ, ตสฺมิมฺปิ กเต ปริวุตฺถทิวสา มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต ปริวุตฺถปริวาสสฺส ตาสํ ติสฺสนฺนมฺปิ อาปตฺตีนํ สโมธานมานตฺตํ ทสฺสิตํ. ตโต มานตฺตจาริกสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ. ตสฺมึ ปน ปฏิกสฺสเน กเต มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวุตฺถทิวสาปิ มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต อพฺภานารหสฺส อนฺตราปตฺตึ ทสฺเสตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ วุตฺตํ. ตสฺมิมฺปิ กเต สพฺเพ เต มกฺขิตาว โหนฺติ. ตโต ปรํ สพฺพา อนฺตราปตฺติโย โยเชตฺวา อพฺภานกมฺมํ ทสฺสิตํ. เอวํ ปฏิจฺฉนฺนวาเร เอกาหปฏิจฺฉนฺนาทิวเสน ปฺจ, อนฺตราปตฺติวเสน จตสฺโสติ นว กมฺมวาจา ทสฺสิตา โหนฺติ.

ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สโมธานปริวาสกถา

๑๒๕. ตโต ปรํ ปกฺขปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา อนฺโตปริวาสโต ปฏฺาย ปฺจาหปฏิจฺฉนฺนาย อนฺตราปตฺติยา วเสน สโมธานปริวาโส จ, สโมธานมานตฺตฺจ ทสฺสิตํ. เอตฺถ จ มานตฺตจาริกมานตฺตารหกาเลปิ อาปนฺนาย อาปตฺติยา มูลายปฏิกสฺสเน กเต มานตฺตจิณฺณทิวสาปิ ปริวาสปริวุตฺถทิวสาปิ สพฺเพ มกฺขิตาว โหนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา ปฏิจฺฉนฺนา อนฺตราปตฺติ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘มูลาย ปฏิกสฺสิตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา สโมธานปริวาสํ ทตฺวา ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ. ตโต ปรํ สพฺพา อนฺตราปตฺติโย โยเชตฺวา อพฺภานกมฺมํ ทสฺเสตฺวา สุกฺกวิสฺสฏฺิวตฺถุ นิฏฺาปิตํ.

สโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สุกฺกวิสฺสฏฺิกถา จ นิฏฺิตา.

อคฺฆสโมธานปริวาสกถา

๑๓๔. ตโต เอกาปตฺติมูลกฺจ อาปตฺติวฑฺฒนกฺจาติ ทฺเว นเย ทสฺเสตฺวา อคฺฆสโมธานปริวาโส ทสฺสิโต.

ตโต สฺจิจฺจ อนาโรจิตาปตฺติวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา สฺจิจฺจ อชานนอสฺสรณเวมติกภาเวหิ อนาโรจิตาย อาปตฺติยา ปจฺฉา ลชฺชิธมฺเม วา าณสรณนิพฺเพมติกภาเวสุ วา อุปฺปนฺเนสุ ยํ กาตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิธ ปน ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน ปาฬิ ปิตา. ตโต อชานนอสฺสรณเวมติกปฏิจฺฉนฺนานํ อปฺปฏิจฺฉนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ ตเถว ปาฬิ ปิตา.

อคฺฆสโมธานปริวาสกถา นิฏฺิตา.

ทฺเวมาสปริวาสกถา

๑๓๘. ตโต ทฺวินฺนํ อาปตฺตีนํ ทฺเวมาสปฏิจฺฉนฺนานํ เอกมาสปริวาสยาจนวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อสฺจิจฺจ อชานนอสฺสรณเวมติกภาเวหิ อนาโรจิเต อิตรสฺมึ มาเส ปจฺฉา ลชฺชิธมฺมาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ยํ กาตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ อชานนอสฺสรณเวมติกปฏิจฺฉนฺนสฺส จ อาปนฺนภาวํ ทสฺเสตุํ ปุริมนเยเนว ปาฬิ ปิตา.

ทฺเวมาสปริวาสกถา นิฏฺิตา.

สุทฺธนฺตปริวาสาทิกถา

๑๕๖. ตโต ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติอาทินา นเยน สุทฺธนฺตปริวาโส ทสฺสิโต.

๑๖๐. ตโต ปรํ ปาริวาสิกํ อาทึ กตฺวา วิพฺภมิตฺวา ปุนอุปสมฺปนฺนาทีสุ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ปาฬิ ปิตา.

๑๖๕. ตตฺถ ‘‘อนฺตรา สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติอาทีสุ อาปตฺติปริจฺเฉทวเสน ปริมาณาโย เจว อปฺปฏิจฺฉนฺนาโย จาติ อตฺโถ.

๑๖๖. ปจฺฉิมสฺมึอาปตฺติกฺขนฺเธติ เอโกว โส อาปตฺติกฺขนฺโธ, ปจฺฉา ฉาทิตตฺตา ปน ‘‘ปจฺฉิมสฺมึ อาปตฺติกฺขนฺเธ’’ติ วุตฺตํ. ปุริมสฺมินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๘๐. ววตฺถิตา สมฺภินฺนาติ สภาควิสภาคานเมเวตํ ปริยายวจนํ.

สุทฺธนฺตปริวาสาทิกถา นิฏฺิตา.

ทฺเวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา

๑๘๑. ตโต ปรํ โย ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺมึ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘ทฺเว ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ มิสฺสกนฺติ ถุลฺลจฺจยาทีหิ มิสฺสกํ. สุทฺธกนฺติ สงฺฆาทิเสสํ วินา ลหุกาปตฺติกฺขนฺธเมว.

๑๘๔. ตโต ปรํ อวิสุทฺธวิสุทฺธภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺยฺชนโต วา อธิปฺปายโต วา อนุตฺตานํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, ตสฺมา ตฺจ อิโต ปุพฺเพ อวุตฺตฺจ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพนฺติ.

ทฺเวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา นิฏฺิตา.

สมุจฺจยกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.