📜
๖. เสนาสนกฺขนฺธกํ
วิหารานุชานนกถา
๒๙๔. เสนาสนกฺขนฺธเก ¶ ¶ – อปฺตฺตํ โหตีติ อนนฺุาตํ โหติ. วิหาโร นาม อฑฺฒโยคาทิมุตฺตโก อวเสสาวาโส. อฑฺฒโยโคติ สุปณฺณวงฺกเคหํ. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ อุปริอากาสตเล ปติฏฺิตกูฏาคาโร ปาสาโทเยว. คุหาติ อิฏฺกาคุหา สิลาคุหา ทารุคุหา ปํสุคุหา. อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺสาติ อาคตสฺส จ อนาคตสฺส จ จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตจารสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส.
๒๙๕. อนุโมทนคาถาสุ – สีตํ อุณฺหนฺติ อุตุวิสภาควเสน วุตฺตํ. สิสิเร จาปิ วุฏฺิโยติ เอตฺถ สิสิโรติ สมฺผุสิตกวาโต วุจฺจติ. วุฏฺิโยติ อุชุกเมฆวุฏฺิโย เอว. เอตานิ สพฺพานิ ปฏิหนฺตีติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพานิ.
ปฏิหฺตีติ วิหาเรน ปฏิหฺติ. เลณตฺถนฺติ นิลียนตฺถํ. สุขตฺถนฺติ สีตาทิปริสฺสยาภาเวน สุขวิหารตฺถํ. ฌายิตฺุจ วิปสฺสิตุนฺติ อิทมฺปิ ปททฺวยํ ‘‘สุขตฺถฺจา’’ติ อิมินาว ปเทน โยเชตพฺพํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – สุขตฺถฺจ วิหารทานํ, กตมํ สุขตฺถํ? ฌายิตุํ วิปสฺสิตฺุจ ยํ สุขํ, ตทตฺถํ. อถ วา ปรปเทนปิ โยเชตพฺพํ – ฌายิตฺุจ วิปสฺสิตฺุจ วิหารทานํ; อิธ ฌายิสฺสนฺติ วิปสฺสิสฺสนฺตีติ ททโต วิหารทานํ สงฺฆสฺส อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โส จ สพฺพทโท โหติ, โย ททาติ อุปสฺสย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๔๒).
ยสฺมา ¶ จ อคฺคํ วณฺณิตํ ¶ , ‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส’’ติ คาถา. วาสเยตฺถ พหุสฺสุเตติ เอตฺถ วิหาเร ปริยตฺติพหุสฺสุเต จ ปฏิเวธพหุสฺสุเต จ วาเสยฺย. เตสํ อนฺนฺจาติ ยํ เตสํ อนุจฺฉวิกํ อนฺนฺจ ปานฺจ วตฺถานิ จ มฺจปีาทิเสนาสนานิ จ, ตํ สพฺพํ เตสุ อุชุภูเตสุ อกุฏิลจิตฺเตสุ. ทเทยฺยาติ นิทเหยฺย. ตฺจ โข วิปฺปสนฺเนน เจตสา น ¶ จิตฺตปฺปสาทํ วิราเธตฺวา, เอวํ วิปฺปสนฺนจิตฺตสฺส หิ เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ…เป… ปรินิพฺพาติ อนาสโวติ.
๒๙๖. อาวิฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิฺฉนรชฺชุนฺติ เอตฺถ รชฺชุ นาม สเจปิ ทีปินงฺคุฏฺเน กตา โหติ, วฏฺฏติเยว; น กาจิ น วฏฺฏติ. ตีณิ ตาฬานีติ ติสฺโส กฺุจิกาโย. ยนฺตกํ สูจิกนฺติ เอตฺถ ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ ยนฺตกํ, ตสฺส วิวรณสูจิกฺจ กาตุํ วฏฺฏติ. เวทิกาวาตปานํ นาม เจติเย เวทิกาสทิสํ. ชาลวาตปานํ นาม ชาลกพทฺธํ. สลากวาตปานํ นาม ถมฺภกวาตปานํ. จกฺกลิกนฺติ เอตฺถ โจฬกปาทปฺุฉนํ พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. วาตปานภิสีติ วาตปานปฺปมาเณน ภิสึ กตฺวา พนฺธิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. มิฑฺฒินฺติ มิฑฺฒกํ. พิทลมฺจกนฺติ เวตฺตมฺจํ; เวฬุวิลีเวหิ วา วีตํ.
๒๙๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ วุจฺจติ. อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลปาทกํ วฏฺฏติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺโพ. สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต วฏฺฏติ. ภทฺทปีนฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีเมว. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนผลกํ ¶ วิย กตปีํ วุจฺจติ. อามลกวฏฺฏิกปีํ นาม อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตปีานิ. ทารุมยํ ปน สพฺพํ ปีํ วฏฺฏตีติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. โกจฺฉนฺติ อุสิรมยํ วา มฺุชปพฺพชมยํ วา.
อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกนฺติ เอตฺถ มนุสฺสานํ ปมาณงฺคุลเมว อฏฺงฺคุลํ. จิมิลิกา นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิสํรกฺขณตฺถาย อตฺถรณํ วุจฺจติ. รุกฺขตูลนฺติ สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลนฺติ ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกิตูลนฺติ โปฏกิติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส ¶ อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. เอเตหิ ตีหิ สพฺพภูตคามา สงฺคหิตา โหนฺติ. รุกฺขวลฺลิติณชาติโย หิ มฺุจิตฺวา อฺโ ภูตคาโม นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ ภูตคามสฺส ตูลํ พิมฺโพหเน ¶ วฏฺฏติ, ภิสึ ปน ปาปุณิตฺวา สพฺพมฺเปตํ อกปฺปิยตูลนฺติ วุจฺจติ. น เกวลฺจ พิมฺโพหเน เอตํ ตูลเมว, หํสโมราทีนํ สพฺพสกุณานํ สีหาทีนํ สพฺพจตุปฺปทานฺจ โลมมฺปิ วฏฺฏติ. ปิยงฺคุปุปฺผพกุฬปุปฺผาทิ ปน ยํกิฺจิ ปุปฺผํ น วฏฺฏติ. ตมาลปตฺตํ สุทฺธเมว น วฏฺฏติ, มิสฺสกํ ปน วฏฺฏติ. ภิสีนํ อนฺุาตํ ปฺจวิธํ อุณฺณาทิตูลมฺปิ วฏฺฏติ.
อทฺธกายิกานีติ อุปฑฺฒกายปฺปมาณานิ, เยสุ กฏิโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุปทหนฺติ. สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินียมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท. อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏติ. อคิลานสฺส สีสุปธานฺจ ปาทุปธานฺจาติ ทฺวยเมว วฏฺฏติ ¶ . คิลานสฺส พิมฺโพหนานิ สนฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ กตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘ยานิ ปน ภิสีนํ อนฺุาตานิ ปฺจ กปฺปิยตูลานิ, เตหิ พิมฺโพหนํ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. วินยธรอุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘พิมฺโพหนํ กริสฺสามี’ติ กปฺปิยตูลํ วา อกปฺปิยตูลํ วา ปกฺขิปิตฺวา กโรนฺตสฺส ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ อาห.
ปฺจ ภิสิโยติ ปฺจหิ อุณฺณาทีหิ ปูริตภิสิโย. ตูลคณนาย หิ เอตาสํ คณนา วุตฺตา. ตตฺถ อุณฺณคฺคหเณน น เกวลํ เอฬกโลมเมว คหิตํ, เปตฺวา มนุสฺสโลมํ ยํกิฺจิ กปฺปิยากปฺปิยมํสชาตีนํ ปกฺขิจตุปฺปทานํ โลมํ, สพฺพํ อิธ อุณฺณคฺคหเณเนว คหิตํ. ตสฺมา ฉนฺนํ จีวรานํ ฉนฺนํ อนุโลมจีวรานฺจ อฺตเรน ภิสิจฺฉวึ กตฺวา ตํ สพฺพํ ปกฺขิปิตฺวา ภิสึ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกโลมานิ ปน อปกฺขิปิตฺวา กมฺพลเมว จตุคฺคุณํ วา ปฺจคุณํ วา ปกฺขิปิตฺวา กตาปิ อุณฺณภิสิสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.
โจฬภิสิอาทีสุ ยํกิฺจิ นวโจฬํ วา ปุราณโจฬํ วา สํหริตฺวา วา อนฺโต ปกฺขิปิตฺวา วา กตา โจฬภิสิ, ยํกิฺจิ วากํ ปกฺขิปิตฺวา กตา วากภิสิ, ยํกิฺจิ ติณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ติณภิสิ, อฺตฺร สุทฺธตมาลปตฺตํ ยํกิฺจิ ปณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา กตา ¶ ปณฺณภิสีติ เวทิตพฺพา. ตมาลปตฺตํ ปน อฺเน มิสฺสเมว วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. ภิสิยา ปมาณนิยโม ¶ นตฺถิ, มฺจภิสิ ปีภิสิ ภูมตฺถรณภิสิ จงฺกมนภิสิ ปาทปฺุฉนภิสีติ เอตาสํ อนุรูปโต สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน ปมาณํ กาตพฺพํ. ยํ ปเนตํ อุณฺณาทิปฺจวิธตูลมฺปิ ภิสิยํ วฏฺฏติ, ตํ ‘‘มสูรเกปิ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอเตน มสูรกํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํ โหติ.
มฺจภิสึ ปีเ สนฺถรนฺตีติ มฺจภิสึ ปีเ อตฺถรนฺติ; อตฺถรณตฺถาย หรนฺตีติ ยุชฺชติ. อุลฺโลกํ อกริตฺวาติ เหฏฺา จิมิลิกํ อทตฺวา. โผสิตุนฺติ รชเนน วา ¶ หลิทฺทิยา วา อุปริ ผุสิตานิ ทาตุํ. ภตฺติกมฺมนฺติ ภิสิจฺฉวิยา อุปริ ภตฺติกมฺมํ. หตฺถภตฺตินฺติ ปฺจงฺคุลิภตฺตึ.
๒๙๘. อิกฺกาสนฺติ รุกฺขนิยฺยาสํ วา สิเลสํ วา. ปิฏฺมทฺทนฺติ ปิฏฺขลึ. กุณฺฑกมตฺติกนฺติ กุณฺฑกมิสฺสกมตฺติกํ. สาสปกุฏฺฏนฺติ สาสปปิฏฺํ. สิตฺถเตลกนฺติ วิลีนมธุสิตฺถกํ. อจฺจุสฺสนฺนํ โหตีติ พินฺทุ พินฺทุ หุตฺวา ติฏฺติ. ปจฺจุทฺธริตุนฺติ ปฺุฉิตุํ. คณฺฑุมตฺติกนฺติ คณฺฑุปฺปาทคูถมตฺติกํ. กสาวนฺติ อามลกหรีตกานํ กสาวํ.
๒๙๙. น ภิกฺขเว ปฏิภานจิตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ อิตฺถิปุริสรูปเมว, ติรจฺฉานรูปมฺปิ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทรูปมฺปิ ภิกฺขุโน สยํ กาตุํ วา ‘‘กโรหี’’ติ วตฺตุํ วา น วฏฺฏติ, ‘‘อุปาสก ทฺวารปาลํ กโรหี’’ติ วตฺตุมฺปิ น ลพฺภติ. ชาตกปกรณอสทิสทานาทีนิ ปน ปสาทนียานิ นิพฺพิทาปฏิสํยุตฺตานิ วา วตฺถูนิ ปเรหิ การาเปตุํ ลพฺภติ. มาลากมฺมาทีนิ สยมฺปิ กาตุํ ลพฺภติ.
๓๐๐. อฬกมนฺทาติ เอกงฺคณา มนุสฺสาภิกิณฺณา. ตโย คพฺเภติ เอตฺถ สิวิกาคพฺโภติ จตุรสฺสคพฺโภ. นาฬิกาคพฺโภติ วิตฺถารโต ทิคุณติคุณายาโม ทีฆคพฺโภ. หมฺมิยคพฺโภติ อากาสตเล กูฏาคารคพฺโภ วา มุณฺฑจฺฉทนคพฺโภ วา.
กลงฺกปาทกนฺติ รุกฺขํ วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ ขาณุเก อาโกเฏตฺวา กตํ, ตํ อาหริมํ ภิตฺติปาทํ ชิณฺณกุฏฺฏปาทสฺส อุปตฺถมฺภนตฺถํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตุํ อนุชานามีติ ¶ อตฺโถ. ปริตฺตาณกิฏิกนฺติ ¶ วสฺสปริตฺตาณตฺถํ กิฏิกํ. อุทฺทสุธนฺติ วจฺฉกโคมเยน เจว ฉาริกาย จ สทฺธึ มทฺทิตมตฺติกํ.
อาฬินฺโท นาม ปมุขํ วุจฺจติ. ปฆนํ นาม ยํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ปาเทหิ หนนฺติ, ตสฺส วิหารทฺวาเร ¶ อุภโต กุฏฺฏํ นีหริตฺวา กตปเทสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘ปฆาน’’นฺติปิ วุจฺจติ. ปกุฏฺฏนฺติ มชฺเฌ คพฺภสฺส สมนฺตา ปริยาคาโร วุจฺจติ. ‘‘ปกุฏ’’นฺติปิ ปาโ. โอสารกนฺติ อนาฬินฺทเก วิหาเร วํสํ ทตฺวา ตโต ทณฺฑเก โอสาเรตฺวา กตฉทนปมุขํ. สํสารณกิฏิโก นาม จกฺกลยุตฺโต กิฏิโก.
๓๐๑. ปานียภาชนนฺติ ปิวนฺตานํ ปานียทานภาชนํ. อุฬุงฺโก จ ถาลกฺจ ปานียสงฺขสฺส อนุโลมานิ.
๓๐๓. อเปสีติ ทีฆทารุมฺหิ ขาณุเก ปเวเสตฺวา กณฺฏกสาขาหิ วินนฺธิตฺวา กตํ ทฺวารถกนกํ. ปลิโฆติ คามทฺวาเรสุ วิย จกฺกยุตฺตํ ทฺวารถกนกํ.
๓๐๕. อสฺสตรีหิ ยุตฺตา รถา อสฺสตรีรถา. อามุตฺตมณิกุณฺฑลาติ อามุตฺตมณิกุณฺฑลานิ.
ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. สีติภูโตติ กิเลสาตปาภาเวน สีติภูโต. นิรูปธีติ กิเลสุปธิอภาเวน นิรูปธีติ วุจฺจติ.
สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวาติ รูปาทีสุ วา วิสเยสุ สพฺพภเวสุ วา ปตฺถนาโย ฉินฺทิตฺวา. หทเย ทรนฺติ จิตฺเต กิเลสทรถํ วิเนตฺวา. เวยฺยายิกนฺติ วยกรณํ วุจฺจติ.
๓๐๗. อาเทยฺยวาโจติ ตสฺส วจนํ พหู ชนา อาทิยิตพฺพํ โสตพฺพํ มฺนฺตีติ อตฺโถ. อาราเม อกํสูติ เย สธนา, เต อตฺตโน ธเนน อกํสุ. เย มนฺทธนา เจว อธนา จ, เตสํ ธนํ อทาสิ. อิติ โส สตสหสฺสกหาปเณ สตสหสฺสคฺฆนกฺจ ภณฺฑํ ทตฺวา ปฺจจตฺตาลีสโยชนิเก อทฺธาเน โยชเน โยชเน วิหารปติฏฺานํ กตฺวา สาวตฺถึ อคมาสิ.
โกฏิสนฺถรํ ¶ ¶ สนฺถราเปสีติ กหาปณโกฏิยา กหาปณโกฏึ ปฏิปาเทตฺวา สนฺถริ. เย ตตฺถ รุกฺขา วา โปกฺขรณิโย วา เตสํ ปริกฺเขปปฺปมาณํ คเหตฺวา อฺสฺมึ าเน สนฺถริตฺวา อทาสิ. เอวมสฺส อฏฺารสโกฏิกํ นิธานํ ปริกฺขยํ อคมาสิ.
กุมารสฺส ¶ เอตทโหสีติ คหปติโน เอวํ พหุธนํ จชนฺตสฺสาปิ มุขสฺส วิปฺปสนฺนาการํ ทิสฺวา เอตํ อโหสิ. โกฏฺกํ มาเปสีติ สตฺตภูมิกํ ทฺวารโกฏฺกปาสาทํ มาเปสิ.
อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เชตวเน วิหาเร การาเปสิ…เป… มณฺฑเป การาเปสีติ อปราหิปิ อฏฺารสหิ โกฏีหิ เอเต วิหาราทโย การาเปสิ อฏฺกรีสปฺปมาณาย ภูมิยา. วิปสฺสิสฺส หิ ภควโต ปุนพฺพสุมิตฺโต คหปติ โยชนปฺปมาณํ ภูมึ สุวณฺณิฏฺกาสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสิ. สิขิสฺส ปน สิริวฑฺโฒ คหปติ ติคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณยฏฺิสนฺถเรน, เวสฺสภุสฺส โสตฺถิโช คหปติ อฑฺฒโยชนปฺปมาณํ สุวณฺณผาลสนฺถเรน, กกุสนฺธสฺส ปน อจฺจุโต คหปติ คาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณหตฺถิปทสนฺถเรน, โกณาคมนสฺส อุคฺโค คหปติ อฑฺฒคาวุตปฺปมาณํ สุวณฺณิฏฺกาสนฺถเรน, กสฺสปสฺส สุมงฺคโล คหปติ วีสติอุสภปฺปมาณํ สุวณฺณกจฺฉปสนฺถเรน, อมฺหากํ ภควโต สุทตฺโต คหปติ อฏฺกรีสปฺปมาณํ ภูมึ กหาปณสนฺถเรน กิณิตฺวา วิหารํ การาเปสีติ; เอวํ อนุปุพฺเพน ปริหายนฺติ สมฺปตฺติโยติ อลเมว สพฺพสมฺปตฺตีสุ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุนฺติ.
๓๐๘. ขณฺฑนฺติ ภินฺโนกาโส. ผุลฺลนฺติ ผลิโตกาโส. ปฏิสงฺขริสฺสตีติ ปากติกํ กริสฺสติ. ลทฺธนวกมฺเมน ปน ภิกฺขุนา วาสิผรสุนิขาทนาทีนิ คเหตฺวา สยํ น กาตพฺพํ, กตากตํ ชานิตพฺพํ.
๓๑๐. ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวาติ เถโร กิร คิลาเน ปฏิชคฺคนฺโต ชิณฺเณ วุฑฺเฒ สงฺคณฺหนฺโต สพฺพปจฺฉโต อาคจฺฉติ. อิทมสฺส จาริตฺตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา’’ติ. อคฺคาสนนฺติ เถราสนํ. อคฺโคทกนฺติ ทกฺขิโณทกํ. อคฺคปิณฺฑนฺติ สงฺฆตฺเถรปิณฺฑํ. อนฺตรา สตฺถีนํ กริตฺวาติ จตุนฺนํ ปาทานํ อนฺตเร กริตฺวา.
๓๑๕. ปติฏฺาเปสีติ ¶ ¶ อฏฺารสโกฏิปริจฺจาคํ กตฺวา ปติฏฺาเปสิ. เอวํ สพฺพาปิ จตุปณฺณาสโกฏิโย ปริจฺจชิ.
วิหารานุชานนกถา นิฏฺิตา.
อาสนปฺปฏิพาหนาทิกถา
๓๑๖. วิปฺปกตโภชโนติ ¶ อนฺตรฆเร วา วิหาเร วา อรฺเ วา ยตฺถ กตฺถจิ ภฺุชมาโน ภิกฺขุ อนิฏฺิเต โภชเน น วุฏฺาเปตพฺโพ. อนฺตรฆเร ปจฺฉา อาคเตน ภิกฺขํ คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา วา ภิกฺขู วา ‘‘ปวิสถา’’ติ วทนฺติ, ‘‘มยิ ปวิสนฺเต ภิกฺขู อุฏฺหิสฺสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘เอถ, ภนฺเต, อาสนํ อตฺถี’’ติ วุตฺเตน ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ โกจิ กิฺจิ น วทติ, อาสนสาลํ คนฺตฺวา อติสมีปํ อคนฺตฺวา สภาคฏฺาเน าตพฺพํ. โอกาเส กเต ‘‘ปวิสถา’’ติ วุตฺเตน ปน ปวิสิตพฺพํ. สเจ ปน ยํ อาสนํ ตสฺส ปาปุณาติ, ตตฺถ อภฺุชนฺโต ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, ตํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. ยาคุขชฺชกาทีสุ ปน ยํกิฺจิ ปิวิตฺวา วา ขาทิตฺวา วา ยาว อฺโ อาคจฺฉติ, ตาว นิสินฺนํ ริตฺตหตฺถมฺปิ วุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏติ. วิปฺปกตโภชโนเยว หิ โส โหติ.
สเจ วุฏฺาเปตีติ สเจ อาปตฺตึ อติกฺกมิตฺวาปิ วุฏฺาเปติเยว. ปวาริโต จ โหตีติ ยํ โส วุฏฺาเปติ, อยฺจ ภิกฺขุ ปวาริโต จ โหติ, เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘คจฺฉ อุทกํ อาหราหี’’ติ. วุฑฺฒตรฺหิ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ อิทเมว เอกํ านนฺติ. สเจ โส อุทกมฺปิ น อาหรติ, ตโต ยฺจ นวกตเรน กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สาธุกํ สิตฺถานี’’ติอาทิมาห.
คิลานสฺส ปติรูปํ เสยฺยนฺติ เอตฺถ โย กาสภคนฺทราติสาราทีหิ คิลาโน โหติ, เขฬมลฺลกวจฺจกปาลาทีนิ เปตพฺพานิ โหนฺติ. กุฏฺิ วา โหติ, เสนาสนํ ทูเสติ; เอวรูปสฺส เหฏฺาปาสาทปณฺณสาลาทีสุ อฺตรํ เอกมนฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ. ยสฺมึ วสนฺเต เสนาสนํ น ทุสฺสติ, ตสฺส วรเสยฺยาปิ ทาตพฺพาว. โยปิ สิเนหปานวิเรจนนตฺถุกมฺมาทีสุ ยํกิฺจิ เภสชฺชํ กโรติ, สพฺโพ โส คิลาโนเยว, ตสฺสาปิ สลฺลกฺเขตฺวา ปติรูปํ เสนาสนํ ทาตพฺพํ ¶ . เลสกปฺเปนาติ อปฺปเกน สีสาพาธาทิมตฺเตน. ภิกฺขู ¶ คเณตฺวาติ ‘‘เอตฺตกา นาม ภิกฺขู’’ติ วิหาเร ภิกฺขูนํ ปริจฺเฉทํ ตฺวา.
อาสนปฺปฏิพาหนาทิกถา นิฏฺิตา.
เสนาสนคฺคาหกถา
๓๑๘. เสยฺยาติ ¶ มฺจฏฺานานิ วุจฺจนฺติ. เสยฺยคฺเคนาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน, วสฺสูปนายิกทิวเส กาลํ โฆเสตฺวา เอกมฺจฏฺานํ เอกสฺส ภิกฺขุโน คาเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. เสยฺยคฺเคน คาเหนฺตาติ เสยฺยาปริจฺเฉเทน คาหิยมานา. เสยฺยา อุสฺสารยึสูติ มฺจฏฺานานิ อติเรกานิ อเหสุํ. วิหารคฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. อนุภาคนฺติ ปุน อปรมฺปิ ภาคํ ทาตุํ. อติมนฺเทสุ หิ ภิกฺขูสุ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ปริเวณานิ ทาตพฺพานิ. น อกามา ทาตพฺโพติ อนิจฺฉาย น ทาตพฺโพ. ตตฺถ วสฺสูปนายิกทิวเส คหิเต อนุภาเค ปจฺฉา อาคตานํ น อตฺตโน อรุจิยา โส อนุภาโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน เยน คหิโต, โส จ อตฺตโน รุจิยา ตํ อนุภาคํ วา ปมภาคํ วา เทติ, วฏฺฏติ.
นิสฺสีเม ิตสฺสาติ อุปจารสีมโต พหิ ิตสฺส. อนฺโต อุปจารสีมาย ปน ทูเร ิตสฺสาปิ ลพฺภติเยว. เสนาสนํ คเหตฺวาติ วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตฺวา. สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺตีติ จตุมาสจฺจเยน อุตุกาเลปิ ปฏิพาหนฺติ. ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวรา.
อนฺตรามุตฺตเก อยํ วินิจฺฉโย – เอกสฺมึ วิหาเร มหาลาภเสนาสนํ โหติ. เสนาสนสามิกา วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ สพฺพปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหิตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ. มหาเถรา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส ตํ คเหตฺวา ผาสุํ วสิตฺวา วุตฺถวสฺสา ลาภํ คณฺหิตฺวา ปกฺกมนฺติ. อาวาสิกา ‘‘มยํ เอตฺถุปฺปนฺนํ ลาภํ น ลภาม, นิจฺจํ อาคนฺตุกมหาเถราว ลภนฺติ, เตเยว นํ อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ ปลุชฺชนฺตมฺปิ น โอโลเกนฺติ. ภควา ตสฺส ปฏิชคฺคนตฺถํ ‘‘อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ ¶ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ อาห.
ตํ ¶ คาเหนฺเตน สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘ภนฺเต อนฺตรามุตฺตกเสนาสนํ คณฺหถา’’ติ. สเจ คณฺหาติ, ทาตพฺพํ; โน เจ เอเตเนว อุปาเยน อนุเถรํ อาทึ กตฺวา โย คณฺหาติ, ตสฺส อนฺตมโส สามเณรสฺสาปิ ทาตพฺพํ. เตน ตํ เสนาสนํ อฏฺมาเส ปฏิชคฺคิตพฺพํ. ฉทนภิตฺติภูมีสุ ¶ ยํ กิฺจิ ขณฺฑํ วา ผุลฺลํ วา โหติ, ตํ สพฺพํ ปฏิสงฺขริตพฺพํ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ ทิวสํ เขเปตฺวา รตฺตึ ตตฺถ วสิตุมฺปิ วฏฺฏติ. รตฺตึ ปริเวเณ วสิตฺวา ตตฺถ ทิวสํ เขเปตุมฺปิ วฏฺฏติ. รตฺตินฺทิวํ ตตฺเถว วสิตุมฺปิ วฏฺฏติ. อุตุกาเล อาคตานํ วุฑฺฒานํ น ปฏิพาหิตพฺพํ. วสฺสูปนายิกทิวเส ปน สมฺปตฺเต สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘มยฺหํ อิทํ เสนาสนํ เทถา’’ติ วทติ, น ลภติ. ‘‘ภนฺเต, อิทํ อนฺตรามุตฺตกํ คเหตฺวา อฏฺมาเส เอเกน ภิกฺขุนา ปฏิชคฺคิต’’นฺติ วตฺวา น ทาตพฺพํ. อฏฺมาเส ปฏิชคฺคกภิกฺขุสฺเสว คหิตํ โหติ.
ยสฺมึ ปน เสนาสเน เอกสํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจเย เทนฺติ ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ยสฺมึ วา ติกฺขตฺตุํ เทนฺติ จตุมาสจฺจเยน จตุมาสจฺจเยน, ยสฺมึ วา จตุกฺขตฺตุํ เทนฺติ เตมาสจฺจเยน เตมาสจฺจเยน, ตํ อนฺตรามุตฺตกํ น คาเหตพฺพํ. ปจฺจเยเนว หิ ตํ ปฏิชคฺคนํ ลภิสฺสติ. ยสฺมึ ปน เอกสํวจฺฉเร สกิเทว พหุปจฺจเย เทนฺติ, เอตํ อนฺตรามุตฺตกํ คาเหตพฺพนฺติ. อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกทิวเสน ปาฬิยํ อาคตเสนาสนคฺคาหกถา.
อยํ ปน เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ – อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จ. ตตฺถ อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปมยามํ วา มชฺฌิมยามํ วา ปจฺฉิมยามํ วา เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ. อกาโล นาม นตฺถิ. เสนาสนปฺาปเกน ปน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เอกํ วา ทฺเว วา มฺจฏฺานานิ เปตพฺพานิ. สเจ ¶ วิกาเล เอโก วา ทฺเว วา เถรา อาคจฺฉนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ‘‘ภนฺเต, อาทิโต ปฏฺาย วุฏฺาปิยมาเน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุพฺภณฺฑิกา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห อมฺหากํ วสนฏฺาเนเยว วสถา’’ติ.
พหูสุ ปน อาคเตสุ วุฏฺาเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ทาตพฺพํ. สเจ เอเกกํ ปริเวณํ ปโหติ, เอเกกํ ปริเวณํ ทาตพฺพํ. ตตฺถ อคฺคิสาลทีฆสาลมณฺฑลมาลาทโย สพฺเพปิ ตสฺเสว ปาปุณนฺติ ¶ . เอวํ อปฺปโหนฺเต ปาสาทคฺเคน ทาตพฺพํ. ปาสาเทสุ อปฺปโหนฺเตสุ โอวรกคฺเคน ทาตพฺพํ. โอวรเกสุ ¶ อปฺปโหนฺเตสุ เสยฺยคฺเคน ทาตพฺพํ. เสยฺยคฺเคสุ อปฺปโหนฺเตสุ มฺจฏฺาเนน ทาตพฺพํ. มฺจฏฺาเน อปฺปโหนฺเต เอกปีกฏฺานวเสน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุโน ปน ิโตกาสมตฺตํ น คาเหตพฺพํ. เอตฺหิ เสนาสนํ นาม น โหติ. ปีกฏฺาเน ปน อปฺปโหนฺเต เอกํ มฺจฏฺานํ วา ปีกฏฺานํ วา วาเรน วาเรน คเหตฺวา ‘‘ภนฺเต, วิสฺสมถา’’ติ ติณฺณํ ชนานํ ทาตพฺพํ, น หิ สกฺกา สีตสมเย สพฺพรตฺตึ อชฺโฌกาเส วสิตุํ. มหาเถเรน ปมยามํ วิสฺสมิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทุติยตฺเถรสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘อาวุโส, อิธ ปวิสาหี’’ติ. สเจ มหาเถโร นิทฺทาครุโก โหติ, กาลํ น ชานาติ, อุกฺกาสิตฺวา ทฺวารํ อาโกเฏตฺวา ‘‘ภนฺเต, กาโล ชาโต, สีตํ อนุทหตี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน นิกฺขมิตฺวา โอกาโส ทาตพฺโพ, อทาตุํ น ลภติ. ทุติยตฺเถเรนปิ มชฺฌิมยามํ วิสฺสมิตฺวา ปุริมนเยเนว อิตรสฺส ทาตพฺพํ. นิทฺทาครุโก วุตฺตนเยเนว วุฏฺาเปตพฺโพ. เอวํ เอกรตฺตึ เอกมฺจฏฺานํ ติณฺณํ ทาตพฺพํ. ชมฺพุทีเป ปน เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘เสนาสนํ นาม มฺจฏฺานํ วา ปีฏฺานํ วา กิฺจิเทว กสฺสจิ สปฺปายํ โหติ, กสฺสจิ อสปฺปาย’’นฺติ อาคนฺตุกา โหนฺตุ วา มา วา, เทวสิกํ เสนาสนํ คาเหนฺติ. อยํ อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห นาม.
วสฺสาวาเส ¶ ปน อตฺถิ อาคนฺตุกวตฺตํ, อตฺถิ อาวาสิกวตฺตํ, อาคนฺตุเกน ตาว สกฏฺานํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ คนฺตฺวา วสิตุกาเมน วสฺสูปนายิกทิวสเมว ตตฺถ น คนฺตพฺพํ. วสนฏฺานํ วา หิ ตตฺร สมฺพาธํ ภเวยฺย, ภิกฺขาจาโร วา น สมฺปชฺเชยฺย, เตน น ผาสุํ วิหเรยฺย. ตสฺมา ‘‘อิทานิ มาสมตฺเตน วสฺสูปนายิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปวิสิตพฺพํ. ตตฺถ มาสมตฺตํ วสนฺโต สเจ อุทฺเทสตฺถิโก อุทฺเทสสมฺปตฺตึ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ กมฺมฏฺานิโก กมฺมฏฺานสปฺปายตํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ ปจฺจยตฺถิโก ปจฺจยลาภํ สลฺลกฺเขตฺวา อนฺโตวสฺเส สุขํ วสิสฺสติ.
สกฏฺานโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺเตน น โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพ, น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา – ‘‘ตุมฺเห นิสฺสาย สลากภตฺตาทีนิ วา ยาคุขชฺชกาทีนิ วา วสฺสาวาสิกํ วา นตฺถิ, อยํ เจติยสฺส ปริกฺขาโร, อยํ อุโปสถาคารสฺส, อิทํ ตาฬฺเจว สูจิ จ สมฺปฏิจฺฉถ ตุมฺหากํ วิหาร’’นฺติ. เสนาสนํ ปน ชคฺคิตฺวา ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ. เอวํ คจฺฉนฺเตนาปิ ทหเรหิ ปตฺตจีวรภณฺฑิกาโย อุกฺขิปาเปตฺวา ¶ เตลนาฬิกตฺตรทณฺฑาทีนิ ¶ คาหาเปตฺวา ฉตฺตํ ปคฺคยฺห อตฺตานํ ทสฺเสนฺเตน คามทฺวาเรเนว น คนฺตพฺพํ, ปฏิจฺฉนฺเนน อฏวิมคฺเคน คนฺตพฺพํ. อฏวิมคฺเค อสติ คุมฺพาทีนิ มทฺทนฺเตน น คนฺตพฺพํ, คมิยวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิตฺเตน คมนวตฺเตเนว คนฺตพฺพํ. สเจ ปน คามทฺวาเรน มคฺโค โหติ, คจฺฉนฺตฺจ นํ สปริวารํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อมฺหากํ เถโร วิยา’’ติ อุปธาวิตฺวา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สพฺพปริกฺขาเร คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ วทนฺติ, เตสุ เจ เอโก เอวํ วทติ – ‘‘วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ, ยตฺถ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธภิกฺขาจาโร ภณฺฑปฏิจฺฉาทนฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ภิกฺขู คจฺฉนฺตี’’ติ. ตสฺส เจ สุตฺวา เต มนุสฺสา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิมฺปิ ¶ คาเม ชโน ภฺุชติ เจว นิวาเสติ จ, มา อฺตฺถ คจฺฉถา’’ติ วตฺวา มิตฺตามจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา สพฺเพ สมฺมนฺตยิตฺวา วิหาเร นิพทฺธวตฺตฺจ สลากภตฺตาทีนิ จ วสฺสาวาสิกฺจ ปฏฺเปตฺวา ‘‘อิเธว ภนฺเต วสถา’’ติ ยาจนฺติ, สพฺพํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สพฺพฺเหตํ กปฺปิยฺเจว อนวชฺชฺจ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘‘กุหึ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘อสุกฏฺาน’นฺติ วตฺวา, ‘กสฺมา ตตฺถ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘การณํ อาจิกฺขิตพฺพ’’’นฺติ วุตฺตํ. อุภยมฺปิ ปเนตฺถ สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺชํ. อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นาม.
อิทํ ปน อาวาสิกวตฺตํ – ปฏิกจฺเจว หิ อาวาสิเกหิ วิหาโร ชคฺคิตพฺโพ. ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณปริภณฺฑานิ กาตพฺพานิ. รตฺติฏฺานทิวาฏฺานวจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺานานิ ปธานฆรวิหารมคฺโคติ อิมานิ สพฺพานิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิ, เจติเย สุธากมฺมํ มุทฺทเวทิกาย เตลมกฺขนํ มฺจปีปฏิชคฺคนนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ กาตพฺพํ – ‘‘วสฺสํ วสิตุกามา อาคนฺตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยคาทีนิ กโรนฺตา สุขํ วสิสฺสนฺตี’’ติ. กตปริกมฺเมหิ อาสาฬฺหีชุณฺหปฺจมิโต ปฏฺาย วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํ. กตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ? ยโต ปกติยา ลพฺภติ. เยหิ ปน น ทินฺนปุพฺพํ, เต ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพํ? กทาจิ หิ มนุสฺสา เทนฺติ, กทาจิ ทุพฺภิกฺขาทีหิ อุปทฺทุตา น เทนฺติ. ตตฺถ เย น ทสฺสนฺติ, เต อปุจฺฉิตฺวา วสฺสาวาสิเก คาหิเต คาหิตภิกฺขูนํ ลาภนฺตราโย โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวาว คาเหตพฺพํ, ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกคฺคาหกกาโล อุปกฏฺโ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, อิมํ สํวจฺฉรํ ฉาตกาทีหิ อุปทฺทุตมฺห, น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ วา ‘‘ยํ มยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต อูนตรํ ทสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิทานิ กปฺปาโส สุลโภ, ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต พหุตรํ ทสฺสามา’’ติ ¶ วา ¶ วทนฺติ, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน เตสํ เตสํ เสนาสเน ภิกฺขูนํ วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ.
สเจ ¶ มนุสฺสา วทนฺติ – ‘‘ยสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตุ, วิหารมคฺคํ ชคฺคตุ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคตุ, โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจตู’’ติ, ยสฺส ตํ ปาปุณาติ, ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. โย ปน คาโม ปฏิกฺกมฺม โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหติ, ตตฺร เจ กุลานิ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา วิหาเร วสฺสาวาสิกํ เทนฺติเยว, ตานิ กุลานิ อปุจฺฉิตฺวาปิ เตสํ เสนาสเน วตฺตํ กตฺวา วสนฺตสฺส วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํ. สเจ ปน เตสํ เสนาสเน ปํสุกูลิโก วสติ, อาคตฺจ ตํ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วทนฺติ, เตน สงฺฆสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ ตานิ กุลานิ สงฺฆสฺส ทาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ, สภาโค ภิกฺขุ ‘‘วตฺตํ กตฺวา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ปํสุกูลิกสฺส ปเนตํ น วฏฺฏติ, อิติ สทฺธาเทยฺเย ทายกมนุสฺสา ปุจฺฉิตพฺพา.
ตตฺรุปฺปาเท ปน กปฺปิยการกา ปุจฺฉิตพฺพา. กถํ ปุจฺฉิตพฺพา? ‘‘กึ, อาวุโส, สงฺฆสฺส ภณฺฑปฏิจฺฉาทนํ ภวิสฺสตี’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘ภวิสฺสติ, ภนฺเต, เอเกกสฺส นวหตฺถํ สาฏกํ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ คาเหถา’’ติ, คาเหตพฺพํ. สเจปิ วทนฺติ – ‘‘สาฏกํ นตฺถิ; วตฺถุ ปน อตฺถิ, คาเหถ, ภนฺเต’’ติ, วตฺถุมฺหิ สนฺเตปิ คาเหตุํ วฏฺฏติเยว. กปฺปิยการกานฺหิ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภฺุชถา’’ติ ทินฺนวตฺถุโต ยํ ยํ กปฺปํ, ตํ ตํ สพฺพํ ปริภฺุชิตุํ อนฺุาตํ.
ยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย วา อุทฺทิสฺส ทินฺนํ, ตํ จีวเร อุปนาเมนฺเตหิ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา อุปนาเมตพฺพํ. เสนาสนตฺถาย อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ, จีวรวเสเนว จตุปจฺจยวเสน วา ทินฺนํ จีวเร อุปนาเมนฺตานํ อปโลกนกมฺมกิจฺจํ นตฺถิ, อปโลกนกมฺมํ กโรนฺเตหิ จ ปุคฺคลวเสเนว ¶ กาตพฺพํ, สงฺฆวเสน น กาตพฺพํ. ชาตรูปรชตวเสนาปิ อามกธฺวเสน วา อปโลกนกมฺมํ น วฏฺฏติ. กปฺปิยภณฺฑวเสน จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จ วฏฺฏติ. ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพํ – ‘‘อิทานิ สุภิกฺขํ สุลภปิณฺฑํ, ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺติ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ. ‘‘คิลานปจฺจโย สุลโภ ¶ คิลาโน วา นตฺถิ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ.
เอวํ ¶ จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา เสนาสนสฺส กาเล โฆสิเต สนฺนิปติเต สงฺเฆ เสนาสนคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. สมฺมนฺนนฺเตน จ ทฺเว สมฺมนฺนิตพฺพาติ วุตฺตํ. เอวฺหิ นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุฑฺโฒ จ นวกสฺส คาเหสฺสติ. มหนฺเต ปน มหาวิหารสทิเส วิหาเร ตโย จตฺตาโร ชนา สมฺมนฺนิตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เตสํ สมฺมุติ กมฺมวาจายปิ อปโลกเนนปิ วฏฺฏติเยว.
เตหิ สมฺมเตหิ ภิกฺขูหิ เสนาสนํ สลฺลกฺเขตพฺพํ, เจติยฆรํ โพธิฆรํ อาสนฆรํ สมฺมฺุชนิอฏฺโฏ ทารุอฏฺโฏ วจฺจกุฏิ อิฏฺกสาลา วฑฺฒกิสาลา ทฺวารโกฏฺโก ปานียมาโฬ มคฺโค โปกฺขรณีติ เอตานิ หิ อเสนาสนานิ, วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา มณฺฑโป รุกฺขมูลํ เวฬุคุมฺโพติ อิมานิ เสนาสนานิ, ตานิ คาเหตพฺพานิ. คาเหนฺเตน จ ‘‘ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน คาเหตพฺพานิ. สเจ สงฺฆิโก จ สทฺธาเทยฺโย จาติ ทฺเว จีวรปจฺจยา โหนฺติ, เตสุ ยํ ภิกฺขู ปมํ คณฺหิตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ คาเหตฺวา ตสฺส ิติกโต ปฏฺาย อิตโร คาเหตพฺโพ.
สเจ ปน ภิกฺขูนํ อปฺปตาย ปริเวณคฺเคน เสนาสเน คาหิยมาเน เอกํ ปริเวณํ มหาลาภํ โหติ, ทส วา ทฺวาทส วา จีวรานิ ลภนฺติ, ตํ วิชเฏตฺวา อฺเสุ ¶ อลาภเกสุ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา อฺเสมฺปิ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เอวํ กาตพฺพํ, มนุสฺสา หิ อตฺตโน อาวาสชคฺคนตฺถาย ปจฺจยํ เทนฺติ, ตสฺมา อฺเหิ ภิกฺขูหิ ตตฺถ ปวิสิตพฺพ’’นฺติ. สเจ ปเนตฺถ มหาเถโร ปฏิกฺโกสติ – ‘‘มาวุโส, เอวํ คาเหถ, ภควโต อนุสิฏฺึ กโรถ, วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริเวณคฺเคน คาเหตุ’’’นฺติ ตสฺส ปฏิกฺโกสนาย อฏฺตฺวา ‘‘ภนฺเต ภิกฺขู พหู, ปจฺจโย มนฺโท, สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตํ สฺาเปตฺวา คาเหตพฺพเมว.
คาเหนฺเตน ¶ จ สมฺมเตน ภิกฺขุนา มหาเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, คณฺหถ ปจฺจยํ ธาเรถา’’ติ. ‘‘อสุกกุลสฺส ปจฺจโย อสุกเสนาสนฺจ มยฺหํ ปาปุณาติ, อาวุโส’’ติ, ‘‘ปาปุณาติ, ภนฺเต, คณฺหถ น’’นฺติ, ‘‘คณฺหามิ, อาวุโส’’ติ, คหิตํ โหติ. สเจ ปน ‘‘คหิตํ โว, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ เม’’ติ วา ‘‘คณฺหิสฺสถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ วา วทติ, ‘‘อคหิตํ โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร ¶ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘อตีตานาคตวจนํ วา โหตุ, วตฺตมานวจนํ วา, สตุปฺปาทมตฺตอาลยกรณมตฺตเมว เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา คหิตเมว โหตี’’ติ.
โยปิ ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ เสนาสนํ คเหตฺวา ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ, อยมฺปิ น อฺสฺมึ อาวาเส ปกฺขิปิตพฺโพ. ตสฺมึเยว ปริเวเณ อคฺคิสาลาย วา ทีฆสาลาย วา รุกฺขมูเล วา อฺสฺส คาเหตุํ วฏฺฏติ. ปํสุกูลิโก ‘‘วสามี’’ติ เสนาสนํ ชคฺคิสฺสติ, อิตโร ‘‘ปจฺจยํ คณฺหามี’’ติ, เอวํ ทฺวีหิ การเณหิ เสนาสนํ สุชคฺคิตตรํ ภวิสฺสติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘ปํสุกูลิเก วาสตฺถาย เสนาสนํ คณฺหนฺเต เสนาสนคฺคาหาปเกน วตฺตพฺพํ – ‘ภนฺเต, อิธ ปจฺจโย อตฺถิ, โส กึ กาตพฺโพ’ติ. เตน ‘เหฏฺา อฺํ คาหาเปหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ปน กิฺจิ อวตฺวาว ¶ วสติ, วุตฺถวสฺสสฺส จ ปาทมูเล เปตฺวา สาฏกํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺติ, ตสฺมึ เสนาสเน วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาตี’’ติ. เยสํ ปน เสนาสนํ นตฺถิ; เกวลํ ปจฺจยเมว เทนฺติ, เตสํ ปจฺจยํ อวสฺสาวาสิเก เสนาสเน คาเหตุํ วฏฺฏติ.
มนุสฺสา ถูปํ กตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาหาเปนฺติ, ถูโป นาม อเสนาสนํ, ตสฺส สมีเป รุกฺเข วา มณฺฑเป วา อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา เจติยํ ปฏิชคฺคิตพฺพํ. โพธิรุกฺขโพธิฆรอาสนฆรสมฺมฺุชนิอฏฺฏทารุอฏฺฏวจฺจกุฏิทฺวารโกฏฺกปานียมาฬกทนฺตกฏฺมาฬเกสุปิ เอเสว นโย. โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตํ เอกสฺส วา พหูนํ วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ วิตฺถาเรน มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
เสนาสนคฺคาหาปเกน ปน ปาฏิปทอรุณโต ปฏฺาย ยาว ปุน อรุณํ น ภิชฺชติ ตาว คาเหตพฺพํ, อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺตํ. สเจ ¶ ปาโตว คาหิเต เสนาสเน อฺโ วิตกฺกจาริโก ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา เสนาสนํ ยาจติ, ‘‘คหิตํ, ภนฺเต, เสนาสนํ, วสฺสูปคโต สงฺโฆ, รมณีโย วิหาโร, รุกฺขมูลาทีสุ ยตฺถ อิจฺฉถ ตตฺถ วสถา’’ติ วตฺตพฺโพ. วสฺสูปคเตหิ อนฺโตวสฺเส นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวา วสฺสูปคตา ภิกฺขู ‘‘สมฺมฺุชนิโย พนฺธถา’’ติ วตฺตพฺพา. สุลภา เจ ทณฺฑกา เจว สลากาโย จ โหนฺติ, เอเกเกน ฉ ปฺจ มุฏฺิสมฺมฺุชนิโย, ทฺเว ติสฺโส ยฏฺิสมฺมฺุชนิโย วา พนฺธิตพฺพา. ทุลฺลภา เจ โหนฺติ, ทฺเว ติสฺโส มุฏฺิสมฺมฺุชนิโย เอกา ¶ ยฏฺิสมฺมฺุชนี พนฺธิตพฺพา. สามเณเรหิ ปฺจ ปฺจ อุกฺกา โกฏฺเฏตพฺพา. วสนฏฺาเน กสาวปริภณฺฑํ กาตพฺพํ.
วตฺตํ กโรนฺเตหิ ปน ‘‘น อุทฺทิสิตพฺพํ, น อุทฺทิสาเปตพฺพํ, น ¶ สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น ธมฺมสวนํ กาตพฺพํ, สพฺเพว หิ เอเต ปปฺจา. นิปฺปปฺจา หุตฺวา สมณธมฺมเมว กริสฺสามา’’ติ วา ‘‘สพฺเพ เตรส ธุตงฺคานิ สมาทิยนฺตุ, เสยฺยํ อกปฺเปตฺวา านจงฺกเมหิ วีตินาเมนฺตุ, มูคพฺพตํ คณฺหนฺตุ, สตฺตาหกรณีเยน คตาปิ ภาชนียภณฺฑํ ลภนฺตู’’ติ วา เอวรูปํ อธมฺมิกวตฺตํ น กาตพฺพํ. เอวํ ปน กาตพฺพํ – ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปติ; ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ, อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ, เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา สกลสาสนํ ปติฏฺาเปติ, อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถ. อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปมปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํ. โปราณกมหาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจาริกวตฺตํ ปูรยึสุ, ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺตึสารมฺมณกถฺจ กาตุํ วฏฺฏติ, อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูปํ วตฺตํ กาตพฺพํ.
อปิจ ¶ ภิกฺขู โอวทิตพฺพา – ‘‘วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา ¶ วิหรถา’’ติ. ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, เจติยํ วา โพธึ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจยสฺุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตฺจ เสขิยวตฺตฺจ ปูเรตพฺพ’’นฺติ เอวรูปา พหุกาปิ นิยฺยานิกกถา อาจิกฺขิตพฺพาติ.
ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปน สเจ กาลํ โฆเสตฺวา สนฺนิปติเต สงฺเฆ โกจิ ทสหตฺถํ วตฺถํ ¶ อาหริตฺวา วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขุ สงฺฆตฺเถโร โหติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. นวโก เจ โหติ, สมฺมเตน ภิกฺขุนา สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ – ‘‘สเจ ภนฺเต อิจฺฉถ, ปมภาคํ มฺุจิตฺวา อิทํ วตฺถํ คณฺหถา’’ติ, อมฺุจนฺตสฺส น ทาตพฺพํ. สเจ ปน ปุพฺเพ คาหิตํ มฺุจิตฺวา คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. เอเตเนวุปาเยน ทุติยตฺเถรโต ปฏฺาย ปริวตฺเตตฺวา ปตฺตฏฺาเน อาคนฺตุกสฺส ทาตพฺพํ. สเจ ปมวสฺสูปคตา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ วา วตฺถานิ อลตฺถุํ, ลทฺธํ ลทฺธํ เอเตเนวุปาเยน วิสฺสชฺชาเปตฺวา ยาว อาคนฺตุกสฺส สมกํ โหติ, ตาว ทาตพฺพํ. เตน ปน สมเก ลทฺเธ อวสิฏฺโ อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. ปจฺจุปฺปนฺเน ลาเภ สติ ิติกาย คาเหตุํ กติกํ กาตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ทฺวีสุปิ วสฺสูปนายิกาสุ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ภิกฺขาย กิลมนฺตา ‘‘อาวุโส, อิธ วสนฺตา สพฺเพว กิลมาม, สาธุ วต ทฺเวภาคา โหม, เยสํ าติปวาริตฏฺานานิ อตฺถิ, เต ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, เตสุ เย ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ อปโลเกตฺวา วสฺสาวาสิกํ ทาตพฺพํ. สาทิยนฺตาปิ หิ เต เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโน, ขียนฺตาปิ จ อาวาสิกา เนว อทาตุํ ลภนฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ¶ วุตฺตํ – ‘‘กติกวตฺตํ กาตพฺพํ – ‘สพฺเพสํ โน อิธ ยาคุภตฺตํ นปฺปโหติ, สภาคฏฺาเน วสิตฺวา อาคจฺฉถ, ตุมฺหากํ ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ ลภิสฺสถา’ติ. ตฺเจ เอโก ปฏิพาหติ, สุปฏิพาหิตํ; โน เจ ¶ ปฏิพาหติ, กติกา สุกตา. ปจฺฉา เตสํ ตตฺถ วสิตฺวา อาคตานํ อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ, อปโลกนกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลพฺภตี’’ติ. ปุนปิ วุตฺตํ – ‘‘สเจ วสฺสูปคเตสุ เอกจฺจานํ วสฺสาวาสิเก อปาปุณนฺเต ภิกฺขู กติกํ กโรนฺติ – ‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’ติ เอวํ กติกาย กตาย คาหิตสทิสเมว โหติ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺนํ เตสเมว ทาตพฺพ’’นฺติ.
เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺาเปตฺวา วิหารมคฺคเจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคิตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ สิฺจิตฺวา ปกฺกนฺโตปิ วิพฺภนฺโตปิ วสฺสาวาสิกํ ลภติเยว. ภตินิวิฏฺฺหิ เตน กตํ. สงฺฆิกํ ปน อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตํ อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตว. ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺติ.
สเจ ¶ วุตฺถวสฺโส ทิสํคมิโก ภิกฺขุ อาวาสิกสฺส หตฺถโต กิฺจิเทว กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อสุกกุเล มยฺหํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คตฏฺาเน วิพฺภมติ, วสฺสาวาสิกํ สงฺฆิกํ โหติ. สเจ ปน มนุสฺเส สมฺมุขา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา คจฺฉติ, ลภติ. ‘‘อิทํ วสฺสาวาสิกํ อมฺหากํ เสนาสเน วุตฺถภิกฺขุโน เทมา’’ติ วุตฺเต, ยสฺส คาหิตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน เสนาสนสามิกสฺส ปิยกมฺยตาย ปุตฺตธีตาทโย พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสเน เทมา’’ติ เทนฺติ, ตตฺถ วสฺสูปคตสฺส เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพํ, เสสานิ สงฺฆิกานิ โหนฺติ, วสฺสาวาสิกฏฺิติกาย คาเหตพฺพานิ. ิติกาย อสติ เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพานิ. เสนาสเน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน ¶ จิตฺตปฺปสาเทน พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘เสนาสนสฺส เทมา’’ติ ทินฺเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘เอตสฺส ภิกฺขุโน เทมา’’ติ วทนฺติ, ตสฺเสว โหนฺติ.
เอกสฺส เคเห ทฺเว วสฺสาวาสิกานิ – ปมภาโค สามเณรสฺส คาหิโต โหติ, ทุติโย เถราสเน. โส เอกํ ทสหตฺถํ, เอกํ อฏฺหตฺถํ สาฏกํ เปเสติ ‘‘วสฺสาวาสิกํ ปตฺตภิกฺขูนํ เทถา’’ติ วิจินิตฺวา วรภาคํ สามเณรสฺส ทตฺวา อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ. สเจ ปน อุโภปิ ฆรํ เนตฺวา โภเชตฺวา สยเมว ปาทมูเล เปติ, ยํ ยสฺส ทินฺนํ, ตเทว ตสฺส โหติ.
อิโต ¶ ปรํ มหาปจฺจริยํ อาคตนโย โหติ – ‘‘เอกสฺส ฆเร ทหรสามเณรสฺส วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เจ ปุจฺฉติ – ‘อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ กสฺส ปตฺต’นฺติ, ‘สามเณรสฺสา’ติ อวตฺวา ‘ทานกาเล ชานิสฺสสี’ติ วตฺวา ทานทิวเส เอกํ มหาเถรํ เปเสตฺวา นีหราเปตพฺพํ. สเจ ยสฺส วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, โส วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มนุสฺสา เจ ปุจฺฉนฺติ – ‘กสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺต’นฺติ, เตสํ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เต วทนฺติ – ‘ตุมฺหากํ เทมา’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาปุณาติ. อถ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา เทนฺติ, สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปาปุณาติ. สเจ วสฺสูปคตา สุทฺธปํสุกูลิกาเยว โหนฺติ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วสฺสาวาสิกํ เสนาสนปริกฺขารํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, พิมฺโพหนาทีนิ วา กาตพฺพานี’’ติ. อิทํ เนวาสิกวตฺตํ.
เสนาสนคฺคาหกถา นิฏฺิตา.
อุปนนฺทวตฺถุกถา
๓๑๙. อุปนนฺทวตฺถุสฺมึ ¶ – ตตฺถ ตยา โมฆปุริส คหิตํ อิธ มุตฺตํ, อิธ ตยา คหิตํ ตตฺร มุตฺตนฺติ เอตฺถ อยมตฺโถ – ยํ ตยา ตตฺถ เสนาสนํ คหิตํ, ตํ เต คณฺหนฺเตเนว อิธ มุตฺตํ โหติ. ‘‘อิธ ทานาหํ, อาวุโส, มฺุจามี’’ติ วทนฺเตน ปน ตํ ตตฺราปิ มุตฺตํ. เอวํ ตฺวํ อุภยตฺถ ปริพาหิโรติ.
อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – คหเณน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, คหเณน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน อาลโย ¶ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. กถํ? อิเธกจฺโจ วสฺสูปนายิกทิวเส เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺราปิ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริมํ คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อปโร ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลยมตฺตํ กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ เสนาสนํ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริโม อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เอโก ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนํ วา คเหตฺวา อาลยํ วา กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ‘‘อิเธว ทานิ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรติ, อิจฺจสฺส อาลเยน วา คหณํ อาลเยน วา อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, สพฺพตฺถ ปจฺฉิเม ¶ คหเณ วา อาลเย วา ติฏฺติ. โย ปน ‘‘เอกสฺมึ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา อฺสฺมึ วิหาเร วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส อุปจารสีมาติกฺกเม เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ยทิ ปน ‘‘ตตฺถ ผาสุ ภวิสฺสติ, วสิสฺสามิ; โน เจ, อาคมิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา อผาสุภาวํ ตฺวา ปจฺจาคจฺฉติ, วฏฺฏติ.
๓๒๐. ติวสฺสนฺตเรนาติ เอตฺถ ติวสฺสนฺตโร นาม โย ทฺวีหิ วสฺเสหิ มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ. โย ปน เอเกน วสฺเสน มหนฺตตโร วา ทหรตโร วา โหติ, โย วา สมานวสฺโส, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อิเม สพฺเพ เอกสฺมึ มฺเจ วา ปีเ วา ทฺเว ทฺเว หุตฺวา นิสีทิตุํ ลภนฺติ. ยํ ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนาปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ.
หตฺถินขกนฺติ หตฺถิกุมฺเภ ปติฏฺิตํ; เอวํ กตสฺส กิเรตํ นามํ. สพฺพํ ปาสาทปริโภคนฺติ สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรานิ กวาฏานิ มฺจปีานิ ตาลวณฺฏานิ สุวณฺณรชตมยปานียฆฏปานียสราวานิ ¶ ยํกิฺจิ จิตฺตกมฺมกตํ, สพฺพํ วฏฺฏติ. ‘‘ปาสาทสฺส ทาสิทาสํ เขตฺตวตฺถุํ โคมหึสํ เทมา’’ติ วทนฺติ, ปาเฏกฺกํ คหณกิจฺจํ นตฺถิ, ปาสาเท ปฏิคฺคหิเต ปฏิคฺคหิตเมว ¶ โหติ. โคนกาทีนิ สงฺฆิกวิหาเร วา ปุคฺคลิกวิหาเร วา มฺจปีเกสุ อตฺถริตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺติ. ธมฺมาสเน ปน คิหิวิกฏนิหาเรน ลพฺภนฺติ, ตตฺราปิ นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ.
อุปนนฺทวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถา
๓๒๑. ปฺจิมานีติ ราสิวเสน ปฺจ, สรูปวเสน ปเนตานิ พหูนิ โหนฺติ. ตตฺถ อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส; เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหาโร นาม ยํกิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. มฺโจ นาม – มสารโก, พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตโร ¶ . ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม วุตฺตปฺปการานํ พิมฺโพหนานํ อฺตรํ. โลหกุมฺภี นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. โลหภาณกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน ภาณกนฺติ อรฺชโร วุจฺจติ. วารโกติ ฆโฏ. กฏาหํ กฏาหเมว. วาสิอาทีสุ วลฺลิอาทีสุ จ ทุวิฺเยฺยํ นาม นตฺถิ. เอวํ –
ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;
จตุตฺถํ นวโกฏฺาสํ, ปฺจมํ อฏฺเภทนํ.
อิติ ปฺจหิ ราสีหิ, ปฺจนิมฺมลโลจโน;
ปฺจวีสวิธํ นาโถ, ครุภณฺฑํ ปกาสยิ.
ตตฺรายํ ¶ วินิจฺฉยกถา – อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ อิธ อวิสฺสชฺชิยํ, กีฏาคิริวตฺถุสฺมึ ‘‘อเวภงฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ. ปริวาเร ปน –
‘‘อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;
วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ,
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙) –
อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยฺจ ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภฺุชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา ¶ – อิทํ ตาว ปฺจวิธมฺปิ จีวรปิณฺฑปาตเภสชฺชตฺถาย อุปเนตุํ น วฏฺฏติ. ถาวเรน จ ถาวรํ ครุภณฺเฑน จ ครุภณฺฑํ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ. ถาวเร ปน เขตฺตํ วตฺถุ ตฬากํ มาติกาติ เอวรูปํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วิจาเรตุํ วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วา อธิวาเสตุํ วา น วฏฺฏติ, กปฺปิยการเกเหว วิจาริตโต กปฺปิยภณฺฑํ วฏฺฏติ. อาราเมน ปน อารามํ อารามวตฺถุํ วิหารํ วิหารวตฺถุนฺติ อิมานิ จตฺตาริ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ.
ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา วา พหุตรํ ขาทนฺติ. ยมฺปิ น ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา ¶ อปฺปเมว หรนฺติ. อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูรคามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจ สตานิ, ‘‘ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ; เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภฺุชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว. สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปฺุํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น จิเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ ¶ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสตี’’ติ เทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ; เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุ วิหารวิหารวตฺถูนิ ¶ .
กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ, ปพฺพชิตานํ อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ; เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.
ครุภณฺเฑน ¶ ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ วา คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ. พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ; ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน วา สหสฺสคฺฆนเกน วา สตสหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ¶ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ. เอเตสุ หิ กปฺปิยากปฺยิยํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถ อกปฺปิยํ น ปริภฺุชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ¶ ปริภฺุชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ. อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถิ.
โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยว. โลหวารโก ปน กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ. ปาโท จ นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตํ คณฺหาติ, ตโต อธิกคณฺหนโก ครุภณฺฑํ. อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตานิ โลหภาชนานิ.
ปาฬิยํ ปน อนาคตานิปิ ภิงฺคารปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา สพฺพานิ ครุภณฺฑานิ. ปตฺโต, อยถาลกํ, ตมฺพโลหถาลกนฺติ อิมานิ ปน ภาชนียานิ. กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏติ. กํสโลหาทิภาชนํ ¶ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ หิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ. ‘‘คิหิวิกฏนิหาเรเนว ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ – อฺชนี, อฺชนิสลากา, กณฺณมลหรณี, สูจิ, ปณฺณสูจิ, ขุทฺทโก, ปิปฺผลโก, ขุทฺทกํ, อารกณฺฏกํ, กฺุจิกา, ตาฬํ, กตฺตรยฏฺิ เวธโก, นตฺถุทานํ, ภินฺทิวาโล, โลหกูโฏ, โลหกุฏฺฏิ, โลหคุโฬ, โลหปิณฺฑิ, โลหจกฺกลิกํ, อฺมฺปิ วิปฺปกตโลหภณฺฑํ ภาชนียํ. ธูมเนตฺตผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ¶ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ, อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺติ, อตฺตนา ลทฺธานิปิ ปริหริตฺวา ปุคฺคลิกปริโภเคน น ปริภฺุชิตพฺพานิ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ. ติปุภณฺเฑปิ เอเสว นโย. ขีรปาสาณมยานิ ตฏฺฏกสรกาทีนิ ครุภณฺฑานิเยว.
ฆฏโก ปน เตลภาชนํ วา ปาทคณฺหนกโต อติเรกเมว ครุภณฺฑํ. สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ ¶ คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.
วาสิอาทีสุ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทณฺฑกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, อยํ ภาชนียา. ตโต มหตฺตรี เยน เกนจิ อากาเรน กตา วาสิ ครุภณฺฑเมว. ผรสุ ปน อนฺตมโส เวชฺชานํ สิราเวธนผรสุปิ ครุภณฺฑเมว. กุาริยํ ผรสุสทิโส เอว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ ครุภณฺฑเมว. นิขาทนํ จตุรสฺสมุขํ วา โหตุ โทณิมุขํ วา วงฺกํ วา อุชุกํ วา, อนฺตมโส สมฺมฺุชนิทณฺฑกเวธนมฺปิ ทณฺฑพทฺธํ เจ, ครุภณฺฑเมว. สมฺมฺุชนิทณฺฑขณนกํ ปน อทณฺฑกํ ผลมตฺตเมว, ยํ สกฺกา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ, ตํ ภาชนียํ. สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิตํ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต จ ฆเร ทฑฺเฒ วา ¶ โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ, ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ ¶ , น วาเรตพฺพา; อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.
กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมฉิทฺทนกํ ขุทฺทกสตฺถกนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานิ. นหาปิตตุนฺนการอุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ มหาสณฺฑาสํ มหาปิปฺผลกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานิ.
วลฺลิอาทีสุ เวตฺตวลฺลิอาทิกา ยา กาจิ อฑฺฒพาหุปฺปมาณา วลฺลิ สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถชาตกา วา รกฺขิตโคปิตา ครุภณฺฑํ โหติ, สา สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต สเจ อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ; อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ. สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ¶ ทินฺนํ มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.
โย โกจิ อนฺตมโส อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปิ เวฬุ สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ, โสปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ปาทคณฺหนกเตลนาฬิ ปน กตฺตรยฏฺิ, อุปาหนทณฺฑโก, ฉตฺตทณฺโฑ, ฉตฺตสลากาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกมฺปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ ¶ . ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ ¶ , คมนกาเล สงฺฆิกาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรํ คเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ.
ติณนฺติ มฺุชํ ปพฺพชฺจ เปตฺวา อวเสสํ ยํกิฺจิ ติณํ. ยตฺถ ปน ติณํ นตฺถิ, ตตฺถ ปณฺเณหิ ฉาเทนฺติ; ตสฺมา ปณฺณมฺปิ ติเณเนว สงฺคหิตํ. อิติ มฺุชาทีสุ ยํกิฺจิ มุฏฺิปฺปมาณมฺปิ ติณํ ตาลปณฺณาทีสุ จ เอกํ ปณฺณมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถชาตกํ วา พหาราเม สงฺฆสฺส ติณวตฺถุโต ชาตติณํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ โหติ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตโปตฺถโก ครุภณฺฑเมว.
มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํกิฺจิ, ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหติ. ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. หิงฺคุหิงฺคุลกหริตาลมโนสิลฺชนานิ ปน ภาชนียภณฺฑานิ.
ทารุภณฺเฑ โย โกจิ อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑมตฺโตปิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต, อยํ ครุภณฺฑํ โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน สพฺพมฺปิ ทารุเวฬุจมฺมปาสาณาทิวิกตึ ทารุภณฺเฑน สงฺคณฺหิตฺวา ‘‘เตน โข ¶ ปน สมเยน สงฺฆสฺส อาสนฺทิโก อุปฺปนฺโน โหตี’’ติ อิโต ปฏฺาย ทารุภณฺฑวินิจฺฉโย วุตฺโต.
ตตฺรายํ อตฺถุทฺธาโร, อาสนฺทิโก, สตฺตงฺโค, ภทฺทปีํ, ปีิกา, เอฬกปาทกปีํ, อามลกวฏฺฏกปีํ, ผลกํ, โกจฺฉํ, ปลาลปีกนฺติ อิเมสุ ¶ ตาว ยํกิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ ¶ โหติ. ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานิ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ, รตนปริสิพฺพิตํ, โกจฺฉกํ ครุภณฺฑเมว.
วงฺกผลกํ, ทีฆผลกํ, จีวรโธวนผลกํ, ฆฏฺฏนผลกํ, ฆฏฺฏนมุคฺคโร, ทนฺตกฏฺจฺเฉทนคณฺิกา, ทณฺฑมุคฺคโร, อมฺพณํ, รชนโทณิ, อุทกปฏิจฺฉโก, ทารุมโย วา ทนฺตมโย วา เวฬุมโย วา สปาทโกปิ อปาทโกปิ สมุคฺโค, มฺชูสา, ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ กรณฺโฑ, อุทกโทณิ, อุทกกฏาหํ, อุฬุงฺโก, กฏจฺฉุ, ปานียสราวํ, ปานียสงฺโขติ เอเตสุปิ ยํกิฺจิ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ. สงฺขถาลกํ ปน ภาชนียํ, ตถา ทารุมโย อุทกตุมฺโพ.
ปาทกถลิกมณฺฑลํ ทารุมยํ วา โหตุ โจฬปณฺณาทิมยํ วา สพฺพํ ครุภณฺฑํ. อาธารโก ปตฺตปิธานํ, ตาลวณฺฏํ, พีชนี, จงฺโกฏกํ, ปจฺฉิ, ยฏฺิสมฺมฺุชนี มุฏฺิสมฺมฺุชนีติ เอเตสุปิ ยํกิฺจิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา ทารุเวฬุปณฺณจมฺมาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ครุภณฺฑเมว.
ถมฺภตุลาโสปานผลกาทีสุ ทารุมยํ วา ปาสาณมยํ วา ยํกิฺจิ เคหสมฺภารรูปํ, โย โกจิ กฏสารโก, ยํกิฺจิ ภูมตฺถรณํ, ยํกิฺจิ อกปฺปิยจมฺมํ, สพฺพํ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ, ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกํ โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมว. กปฺปิยจมฺมานิ ภาชนียานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ.
อุทุกฺขลํ, มุสลํ, สุปฺปํ, นิสทํ, นิสทโปโต, ปาสาณโทณิ, ปาสาณกฏาหํ, ตุริเวมภสฺตาทิ ¶ สพฺพํ เปสการาทิภณฺฑํ, สพฺพํ กสิภณฺฑํ, สพฺพํ จกฺกยุตฺตกยานํ ครุภณฺฑเมว. มฺจปาโท ¶ , มฺจอฏนี, ปีปาโท, ปีอฏนี, วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺฑาติ เอเตสุ ยํกิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ. อนฺุาตวาสิยา ปน ทณฺโฑ ฉตฺตมุฏฺิปณฺณํ กตฺตรยฏฺิ อุปาหนา อรณิสหิตํ ธมฺมกรโณ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตํ อามลกตุมฺพํ อามลกฆโฏ ลาพุกตุมฺพํ ลาพุฆโฏ วิสาณกตุมฺพนฺติ สพฺพเมตํ ภาชนียํ, ตโต มหนฺตตรํ ครุภณฺฑํ.
หตฺถิทนฺโต ¶ วา ยํกิฺจิ วิสาณํ วา อตจฺฉิตํ ยถาชาตเมว ภาชนียํ, เตหิ กตมฺจปาทาทีสุ ปุริมสทิโสเยว วินิจฺฉโย. ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ หิงฺคุกรณฺฑโก อฺชนกรณฺฑโก คณฺิกา วิโธ อฺชนี อฺชนิสลากา อุทกปฺุฉนีติ อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.
มตฺติกาภณฺเฑ สพฺพํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ ฆฏปิราทิกุลาลภาชนํ ปตฺตกฏาหํ องฺคารกฏาหํ ธูมทานกํ ทีปรุกฺขโก ทีปกปลฺลิกา จยนิฏฺกา ฉทนิฏฺกา ถูปิกาติ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ, ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ปน ฆฏโก ปตฺตํ ถาลกํ กฺจนโก กุณฺฑิกาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ. ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ; เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตีติ อยเมตฺถ อนุปุพฺพิกถา.
อวิสฺสชฺชิยวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
นวกมฺมทานกถา
๓๒๓. ภณฺฑิกาฏฺปนมตฺเตนาติ ทฺวารพาหานํ อุปริ กโปตภณฺฑิกโยชนมตฺเตน. ปริภณฺฑกรณมตฺเตนาติ โคมยปริภณฺฑกสาวปริภณฺฑกรณมตฺเตน. ธูมกาลิกนฺติ อิทํ ยาวสฺส จิตกธูโม น ปฺายติ, ตาว อยํ วิหาโร เอตสฺเสวาติ เอวํ ธูมกาเล อปโลเกตฺวา กตปริโยสิตํ วิหารํ เทนฺติ. วิปฺปกตนฺติ เอตฺถ วิปฺปกโต ¶ นาม ยาว โคปานสิโย น อาโรหนฺติ. โคปานสีสุ ปน อารุฬฺหาสุ พหุกโต นาม โหติ, ตสฺมา ตโต ปฏฺาย น ทาตพฺโพ, กิฺจิเทว สมาทเปตฺวา กาเรสฺสติ. ขุทฺทเก วิหาเร กมฺมํ โอโลเกตฺวา ฉปฺปฺจวสฺสิกนฺติ ¶ กมฺมํ โอโลเกตฺวา จตุหตฺถวิหาเร จตุวสฺสิกํ, ปฺจหตฺเถ ปฺจวสฺสิกํ, ฉหตฺเถ ฉวสฺสิกํ ทาตพฺพํ. อฑฺฒโยโค ปน ยสฺมา สตฺตฏฺหตฺโถ โหติ, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘สตฺตฏฺวสฺสิก’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน โส นวหตฺโถ โหติ นววสฺสิกมฺปิ ทาตพฺพํ. มหลฺลเก ปน ทสหตฺเถ เอกาทสหตฺเถ วิหาเร วา ปาสาเท วา ทสวสฺสิกํ วา เอกาทสวสฺสิกํ วา ทาตพฺพํ. ทฺวาทสหตฺเถ ปน ตโต อธิเก วา โลหปาสาทสทิเสปิ ทฺวาทสวสฺสิกเมว ทาตพฺพํ, น ตโต อุตฺตริ.
นวกมฺมิโก ¶ ภิกฺขุ อนฺโตวสฺเส ตํ อาวาสํ ลภติ, อุตุกาเล ปฏิพาหิตุํ น ลภติ. สเจ โส อาวาโส ชีรติ, อาวาสสามิกสฺส วา ตสฺส วํเส อุปฺปนฺนสฺส วา กสฺสจิ กเถตพฺพํ – ‘‘อาวาโส เต นสฺสติ, ชคฺคถ เอตํ อาวาส’’นฺติ. สเจ โส น สกฺโกติ, ภิกฺขูหิ าตี วา อุปฏฺาเก วา สมาทเปตฺวา ชคฺคิตพฺโพ. สเจ เตปิ น สกฺโกนฺติ, สงฺฆิเกน ปจฺจเยน ชคฺคิตพฺโพ. ตสฺมิมฺปิ อสติ เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา อวเสสา ชคฺคิตพฺพา. พหู วิสฺสชฺเชตฺวา เอกํ สณฺาเปตุมฺปิ วฏฺฏติเยว.
ทุพฺภิกฺเข ภิกฺขูสุ ปกฺกนฺเตสุ สพฺเพ อาวาสา นสฺสนฺติ, ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา อาวาเส วิสฺสชฺเชตฺวา ตโต ยาคุภตฺตจีวราทีนิ ปริภฺุชนฺเตหิ เสสาวาสา ชคฺคิตพฺพาเยว. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆิเก ปจฺจเย อสติ เอโก ภิกฺขุ ‘ตุยฺหํ เอกํ มฺจฏฺานํ คเหตฺวา ชคฺคาหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ พหุตรํ อิจฺฉติ, ติภาคํ วา อุปฑฺฒภาคํ วา ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํ. อถ ‘ถมฺภมตฺตเมเวตฺถ อวสิฏฺํ, พหุกมฺมํ กาตพฺพ’นฺติ น อิจฺฉติ, ‘ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺค; เอวมฺปิ หิ สงฺฆสฺส ภณฺฑกฏฺปนฏฺานํ นวกานฺจ วสนฏฺานํ ลภิสฺสตี’ติ ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวํ ชคฺคิโต ปน ตสฺมึ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก โหติ, มเต สงฺฆิโกเยว ¶ . สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหติ, กมฺมํ โอโลเกตฺวา ติภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา ปุคฺคลิกํ กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ. เอวฺหิ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุํ ลภติ. เอวํ ชคฺคนเก ปน อสติ ‘เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวา’ติอาทินา นเยน ชคฺคาเปตพฺโพ’’ติ.
อิทมฺปิ จ อฺํ ตตฺเถว วุตฺตํ – ทฺเว ภิกฺขู สงฺฆิกํ ภูมึ คเหตฺวา โสเธตฺวา สงฺฆิกํ เสนาสนํ กโรนฺติ. เยน สา ภูมิ ปมํ คหิตา, โส สามี. อุโภปิ ปุคฺคลิกํ กโรนฺติ, โสเยว สามี. โส สงฺฆิกํ กโรติ, อิตโร ปุคฺคลิกํ กโรติ, อฺํ เจ พหุํ เสนาสนฏฺานํ อตฺถิ ¶ , ปุคฺคลิกํ กโรนฺโตปิ น วาเรตพฺโพ. อฺสฺมึ ปน ตาทิเส ปฏิรูเป าเน อสติ ตํ ปฏิพาหิตฺวา สงฺฆิกํ กโรนฺเตเนว กาตพฺพํ. ยํ ปน ตสฺส ตตฺถ วยกมฺมํ กตํ, ตํ ทาตพฺพํ. สเจ ปน กตาวาเส วา อาวาสกรณฏฺาเน วา ฉายูปคผลูปครุกฺขา โหนฺติ, อปโลเกตฺวา ¶ หาเรตพฺพา. ปุคฺคลิกา เจ โหนฺติ, สามิกา อาปุจฺฉิตพฺพา; โน เจ เทนฺติ, ยาวตติยํ อาปุจฺฉิตฺวา ‘‘รุกฺขอคฺฆนกมูลํ ทสฺสามา’’ติ หาเรตพฺพา.
โย ปน สงฺฆิกวลฺลิมตฺตมฺปิ อคฺคเหตฺวา อาหริเมน อุปกรเณน สงฺฆิกาย ภูมิยา ปุคฺคลิกวิหารํ กาเรติ, อุปฑฺฒํ สงฺฆิกํ โหติ; อุปฑฺฒํ ปุคฺคลิกํ. ปาสาโท เจ โหติ, เหฏฺาปาสาโท สงฺฆิโก; อุปริ ปุคฺคลิโก. สเจ โส เหฏฺาปาสาทํ อิจฺฉติ, ตสฺส โหติ. อถ เหฏฺา จ อุปริ จ อิจฺฉติ, อุภยตฺถ อุปฑฺฒํ ลภติ. ทฺเว เสนาสนานิ กาเรติ – เอกํ สงฺฆิกํ, เอกํ ปุคฺคลิกํ. สเจ วิหาเร อุฏฺิเตน ทพฺพสมฺภาเรน กาเรติ, ตติยภาคํ ลภติ. สเจ อกตฏฺาเน จยํ วา ปมุขํ วา กโรติ, พหิกุฏฺเฏ อุปฑฺฒํ สงฺฆสฺส, อุปฑฺฒํ ตสฺส. อถ มหนฺตํ วิสมํ ปูเรตฺวา อปเท ปทํ ทสฺเสตฺวา กตํ โหติ, อนิสฺสโร ตตฺถ สงฺโฆ.
เอกํ ¶ วรเสยฺยนฺติ เอตฺถ นวกมฺมทานฏฺาเน วา วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ เอกํ วรเสยฺยํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
ปริโยสิเต ปกฺกมติ ตสฺเสเวตนฺติ ปุน อาคนฺตฺวา วสนฺตสฺส อนฺโตวสฺสํ ตสฺเสว ตํ; อนาคจฺฉนฺตสฺส ปน สทฺธิวิหาริกาทโย คเหตุํ น ลภนฺติ.
นวกมฺมทานกถา นิฏฺิตา.
อฺตฺรปฏิโภคปฏิกฺเขปาทิกถา
๓๒๔. นาติหรนฺตีติ อฺตฺร หริตฺวา น ปริภฺุชนฺติ. คุตฺตตฺถายาติ ยํ ตตฺถ มฺจปีาทิ, ตสฺส คุตฺตตฺถาย, ตํ อฺตฺร หริตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตสฺมา ตํ อฺตฺร หริตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. สเจ อโรคํ ตสฺมึ วิหาเร ปฏิสงฺขเต ปุน ปากติกํ กาตพฺพํ. ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชโต นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา ¶ คีวา โหติ, ตสฺมึ ปฏิสงฺขเต ทาตพฺพเมว. สเจ ตโต โคปานสิอาทีนิ คเหตฺวา อฺสฺมึ สงฺฆิกาวาเส โยเชนฺติ, สุโยชิตานิ. ปุคฺคลิกาวาเส โยเชนฺเตหิ ปน มูลํ วา ทาตพฺพํ, ปฏิปากติกํ วา กาตพฺพํ ฉฑฺฑิตวิหารโต มฺจปีาทีนิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต อุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ปุน อาวาสิกกาเล ทสฺสามีติ คเหตฺวา สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชนฺตสฺส นฏฺํ สุนฏฺํ, ชิณฺณํ สุชิณฺณํ. อโรคฺเจ ปากติกํ กาตพฺพํ ¶ . ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชนฺตสฺส นฏฺํ คีวา โหติ. ตโต ทฺวารวาตปานาทีนิ สงฺฆิกาวาเส วา ปุคฺคลิกาวาเส วา โยชิตานิ ปฏิทาตพฺพานิเยว.
ผาติกมฺมตฺถายาติ วฑฺฒิกมฺมตฺถาย. ผาติกมฺมฺเจตฺถ สมกํ วา อติเรกํ วา อคฺฆนกํ มฺจปีาทิเสนาสนเมว วฏฺฏติ.
จกฺกลิกนฺติ กมฺพลาทีหิ เวเตฺวา กตจกฺกลิกํ. อลฺเลหิ ปาเทหีติ เยหิ อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ ปาเทหิ ปริภณฺฑกตภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ ¶ . สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏติ. ปาทปฺุฉนึ ปน อลฺลปาเทหิปิ อกฺกมิตุํ วฏฺฏติเยว. สอุปาหเนน โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺาเนเยว น วฏฺฏติ.
โจฬเกน ปลิเวเตุนฺติ สุธาภูมิยํ วา ปริภณฺฑภูมิยํ วา สเจ ตฏฺฏิกา วา กฏสารโก วา นตฺถิ, โจฬเกน ปาทา เวเตพฺพา, ตสฺมึ อสติ ปณฺณมฺปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏติ. กิฺจิ อนตฺถริตฺวา เปนฺตสฺส ปน ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ตตฺถ เนวาสิกา อนตฺถตายปิ ภูมิยา เปนฺติ, อโธตปาเทหิปิ วฬฺเชนฺติ, ตเถว วฬฺเชตุํ วฏฺฏติ.
น ภิกฺขเว ปริกมฺมกตา ภิตฺตีติ เสตภิตฺติ วา จิตฺตกมฺมกตา วา. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เกนจิ วา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสยิตุํ น ลพฺภติเยว.
โธตปาทกาติ โธตปาทกา หุตฺวา โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺาเน นิปชฺชิตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติ. ‘‘โธตปาทเก’’ติปิ ปาโ. โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ ¶ . ปจฺจตฺถริตฺวาติ ปริภณฺฑกตํ ภูมึ วา ภูมตฺถรณเสนาสนํ วา สงฺฆิกมฺจปีํ วา อตฺตโน สนฺตเกน ปจฺจตฺถรเณน ปจฺจตฺถริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิทฺทายโตปิ ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต โกจิ สรีราวยโว มฺจํ วา ปีํ วา ผุสติ, อาปตฺติเยว. โลเมสุ ปน โลมคณนาย อาปตฺติเยว. ปริโภคสีเสน อปสฺสยนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. หตฺถตลปาทตเลหิ ปน ผุสิตุํ วา อกฺกมิตุํ วา วฏฺฏติ. มฺจปีํ นีหรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.
อฺตฺรปริโภคปฏิกฺเขปาทิกถา นิฏฺิตา.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถา
๓๒๕. น ¶ สกฺโกนฺติ สงฺฆภตฺตํ กาตุนฺติ สกลสฺส สงฺฆสฺส ภตฺตํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. อุทฺเทสภตฺตนฺติอาทีสุ ‘‘เอกํ วา ทฺเว วา…เป… ทส วา ภิกฺขู สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา เทถา’’ติ เอวํ อุทฺเทเสน ลทฺธภิกฺขูนํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อปเร ตเถว ภิกฺขู ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ นิมนฺเตตฺวา เตสํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อปเร สลากาโย ฉินฺทิตฺวา, อปเร ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกนฺติ เอวํ นิยาเมตฺวา, เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา…เป… ทสนฺนํ วา ภิกฺขูนํ ภตฺตํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ. อิติ เอตานิ ภตฺตานิ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนนฺติ อิมํ โวหารํ ปตฺตานิ. ยสฺมา ปน เต สเจปิ ทุพฺภิกฺเข น สกฺโกนฺติ, สุภิกฺเข ชาเต ปน ปุน สงฺฆภตฺตํ กาตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ตสฺมา ภควา ตมฺปิ อนฺโต กตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺต’’นฺติอาทิมาห.
ตตฺถ สงฺฆภตฺเต ิติกา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อมฺหากํ อชฺช ทส ทฺวาทส ทิวสา ภฺุชนฺตานํ อิทานิ อฺโต ภิกฺขู อาเนถา’’ติ น เอวํ ตตฺถ วตฺตพฺพํ. ‘‘ปุริมทิวเสสุ อมฺเหหิ น ลทฺธํ, อิทานิ ตํ อมฺหากํ คาเหถา’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. ตฺหิ อาคตาคตานํ ปาปุณาติเยว.
สงฺฆภตฺตาทิอนุชานนกถา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสภตฺตกถา
อุทฺเทสภตฺตาทีสุ ¶ ปน อยํ นโย – รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เอตฺตเก ภิกฺขู อาเนถา’’ติ ปหิเต กาลํ โฆเสตฺวา ิติกา ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ อตฺถิ, ตโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ; โน เจ, เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. อุทฺเทสเกน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ น อติกฺกาเมตพฺพํ. เต ปน ธุตงฺคํ รกฺขนฺตา สยเมว อติกฺกมิสฺสนฺติ; เอวํ คาหิยมาเน อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ คาหิยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ คาเหตฺวา ปจฺฉา ิติกาย คาเหตพฺพํ. ‘‘อสุกวิหาเร พหุํ อุทฺเทสภตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ¶ คาเหตพฺพเมว. พหิอุปจารสีมาย ิตานํ คาเหถาติ วทนฺติ, น คาเหตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสาวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา คาเหตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ คาเหตพฺพเมว ¶ . ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ปุน อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน คาเหตพฺพํ.
เอกสฺมึ วิหาเร เอกํ ภตฺตุทฺเทสฏฺานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาวุตปฺปมาณายปิ อุปจารสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ อาโรจิตํ อุทฺเทสภตฺตํ, ตสฺมึเยว ภตฺตุทฺเทสฏฺาเน คาเหตพฺพํ. เอโก เอกสฺส ภิกฺขุโน ปหิณาติ ‘‘สฺเวปิ สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ทส ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ, เตน โส อตฺโถ ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาโรเจตพฺโพ. สเจ ตํ ทิวสํ ปมุสฺสติ, ทุติยทิวเส ปาโตว อาโรเจตพฺโพ. อถ ปมุสฺสิตฺวาว ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต สรติ, ยาว อุปจารสีมํ นาติกฺกมติ, ตาว ยา โภชนสาลาย ปกติฏฺิติกา, ตสฺสาเยว วเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ อุปจารสีมํ อติกฺกนฺตา ภิกฺขู จ อุปจารสีมฏฺเกหิ เอกาพทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา คจฺฉนฺติ, ปกติฏฺิติกาย วเสน คาเหตพฺพํ. ภิกฺขูนํ ปน ตาทิเส เอกาพทฺเธ อสติ พหิอุปจารสีมาย ยสฺมึ าเน สรติ, ตตฺถ นวํ ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อนฺโตคาเม อาสนสาลาย สรนฺเตน อาสนสาลาย ิติกาย คาเหตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจิ สริตฺวา คาเหตพฺพเมว, อคาเหตุํ น วฏฺฏติ. น หิ เอตํ ทุติยทิวเส ลพฺภตีติ.
สเจ ¶ สกวิหารโต อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา โกจิ อุทฺเทสภตฺตํ อุทฺทิสาเปติ, ยาว อนฺโตอุปจาเร วา อุปจารสีมฏฺเกหิ สทฺธึ วุตฺตนเยน เอกาพทฺธา วา โหนฺติ, ตาว สกวิหาเร ิติกาวเสเนว คาเหตพฺพํ. พหิอุปจาเร ิตานํ ทินฺนํ ปน ‘‘สงฺฆโต ภนฺเต เอตฺตเก นาม ภิกฺขู อุทฺทิสถา’’ติ วุตฺเต สมฺปตฺตานํ คาเหตพฺพํ. ตตฺถ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา เอกาพทฺธนเยน ทูเร ิตาปิ สมฺปตฺตาเยวาติ เวทิตพฺพํ. สเจ ยํ วิหารํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปวิฏฺานํ อาโรเจนฺติ, ตสฺส วิหารสฺส ิติกาวเสน คาเหตพฺพํ. สเจปิ คามทฺวาเร วา วีถิยํ วา จตุกฺเก ¶ วา อนฺตรฆเร วา ภิกฺขู ¶ ทิสฺวา โกจิ สงฺฆุทฺเทสํ อาโรเจติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน อนฺโตอุปจารคตานํ คาเหตพฺพํ.
ฆรูปจาโร เจตฺถ ‘‘เอกํ ฆรํ เอกูปจารํ, เอกํ ฆรํ นานูปจารํ, นานาฆรํ เอกูปจารํ, นานาฆรํ นานูปจาร’’นฺติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ เอกกุลสฺส ฆรํ เอกวฬฺชํ โหติ, ตํ สุปฺปปาตปริจฺเฉทสฺส อนฺโต เอกูปจารํ นาม. ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ตสฺมึ อุปจาเร ภิกฺขาจารวตฺเตนปิ ิตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘เอกํ ฆรํ เอกูปจารํ’’ นาม.
ยํ ปน เอกํ ฆรํ ทฺวินฺนํ ภริยานํ สุขวิหารตฺถาย มชฺเฌ ภิตฺตึ อุฏฺาเปตฺวา นานาทฺวารวฬฺชํ กตํ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ภิตฺติอนฺตริกสฺส น ปาปุณาติ, ตสฺมึ ตสฺมึ าเน นิสินฺนสฺเสว ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘เอกํ ฆรํ นานูปจารํ’’ นาม.
ยสฺมึ ปน ฆเร พหู ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา อนฺโตเคหโต ปฏฺาย เอกาพทฺเธ กตฺวา ปฏิวิสฺสกฆรานิปิ ปูเรตฺวา นิสีทาเปนฺติ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. ยมฺปิ นานากุลสฺส นิเวสนํ มชฺเฌ ภิตฺตึ อกตฺวา เอกทฺวาเรเนว วฬฺชนฺติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. เอตํ ‘‘นานาฆรํ เอกูปจารํ’’ นาม.
โย ปน นานานิเวสเนสุ นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสลาโภ อุปฺปชฺชติ, กิฺจาปิ ภิตฺติจฺฉิทฺเทน ภิกฺขู ทิสฺสนฺติ, ตสฺมึ ตสฺมึ นิเวสเน นิสินฺนานํเยว ปาปุณาติ, เอตํ ‘‘นานาฆรํ นานูปจารํ’’ นาม.
โย ปน คามทฺวารวีถิจตุกฺเกสุ อฺตรสฺมึ าเน อุทฺเทสภตฺตํ ลภิตฺวา อฺสฺมึ ภิกฺขุสฺมึ ¶ อสติ อตฺตโนว ปาปุณาเปตฺวา ทุติยทิวเสปิ ตสฺมึเยว าเน อฺํ ลภติ, เตน ยํ อฺํ นวกํ วา วุฑฺฒํ วา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺส คาเหตพฺพํ. สเจ โกจิ นตฺถิ, อตฺตโนว ปาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ.
สเจ อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา กาลํ ปฏิมาเนนฺเตสุ ภิกฺขูสุ โกจิ อาคนฺตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ ¶ เทถ, อุทฺเทสปตฺตํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ปตฺตํ เทถ, สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วา วทติ, อุทฺเทสปตฺตํ ิติกาย คาเหตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘สงฺฆุทฺเทสภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆิกํ ภิกฺขุํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย.
อุทฺเทสโก ¶ ปเนตฺถ เปสโล ลชฺชี เมธาวี อิจฺฉิตพฺโพ, เตน ติกฺขตฺตุํ ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา สเจ โกจิ ิติกํ ชานนฺโต นตฺถิ, เถราสนโต คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ชานามิ, ทสวสฺเสน ลทฺธ’’นฺติ โกจิ ภณติ, ‘‘อตฺถาวุโส, ทสวสฺสา ภิกฺขู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพํ. สเจ ตสฺส สุตฺวา ‘‘ทสวสฺสมฺห ทสวสฺสมฺหา’’ติ พหู อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺเพ อปฺปสทฺทา โหถา’’ติ วตฺวา ปฏิปาฏิยา เปตพฺพา. เปตฺวา ‘‘กติ อิจฺฉถา’’ติ อุปาสโก ปุจฺฉิตพฺโพ. ‘‘เอตฺตเก นาม, ภนฺเต, ภิกฺขู’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาติ, ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อวตฺวา สพฺพนวกสฺส วสฺสคฺคฺจ อุตุ จ ทิวสภาโค จ ฉายา จ ปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ฉายายปิ ปุจฺฉิยมานาย อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อถ ฉายํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ลภติ. กถาปปฺเจน หิ นิสินฺนสฺสาปิ นิทฺทายนฺตสฺสาปิ คาหิตํ สุคฺคาหิตํ, อติกฺกนฺตํ สุอติกฺกนฺตํ, ภาชนียภณฺฑฺหิ นาเมตํ สมฺปตฺตสฺเสว ปาปุณาติ, ตตฺถ สมฺปตฺตภาโว อุปจาเรน ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. อาสนสาลาย จ อนฺโตปริกฺเขโป อุปจาโร, ตสฺมึ ิตสฺส ลาโภ ปาปุณาตีติ.
โกจิ อาสนสาลโต อฏฺ อุทฺเทสปตฺเต อาหราเปตฺวา สตฺต ปตฺเต ปณีตโภชนานํ เอกํ อุทกสฺส ปูเรตฺวา อาสนสาลายํ ปหิณาติ, คเหตฺวา อาคตา กิฺจิ อวตฺวา ภิกฺขูนํ หตฺเถสุ ปติฏฺาเปตฺวา ปกฺกมนฺติ. เยน ยํ ลทฺธํ, ตสฺเสว ตํ โหติ. เยน ปน อุทกํ ลทฺธํ, ตสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ คาเหตพฺพํ. ตฺจ ลูขํ วา ลภตุ ปณีตํ วา ¶ ติจีวรปริวารํ วา, ตสฺเสเวตํ. อีทิโส หิสฺส ¶ ปฺุวิเสโส. อุทกํ ปน ยสฺมา อามิสํ น โหติ, ตสฺมา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ลพฺภติ.
สเจ ปน เต คเหตฺวา อาคตา ‘‘อิทํ กิร ภนฺเต สพฺพํ ภาเชตฺวา ภฺุชถา’’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ภฺุชิตฺวา อุทกํ ปาตพฺพํ. สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อฏฺ มหาเถเร เทถ, มชฺฌิเม เทถ, นวเก เทถ, ปริปุณฺณวสฺสสามเณเร เทถ, มชฺฌิมภาณกาทโย เทถ, มยฺหํ าติภิกฺขู เทถา’’ติ วทนฺตสฺส ปน ‘‘อุปาสก, ตฺวํ เอวํ วทสิ, ิติกาย ปน เตสํ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ิติกาวเสเนว ทาตพฺพา. ทหรสามเณเรหิ ¶ ปน อุทฺเทสภตฺเตสุ ลทฺเธสุ สเจ ทายกานํ ฆเร มงฺคลํ โหติ, ‘‘ตุมฺหากํ อาจริยุปชฺฌาเย เปเสถา’’ติ วตฺตพฺพํ.
ยสฺมึ ปน อุทฺเทสภตฺเต ปมภาโค สามเณรานํ ปาปุณาติ, อนุภาโค มหาเถรานํ, น ตตฺถ สามเณรา ‘‘มยํ ปมภาคํ ลภิมฺหา’’ติ ปุรโต คนฺตุํ ลภนฺติ, ยถาปฏิปาฏิยา เอว คนฺตพฺพํ. ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘ตุมฺเห เอถา’ติ วุตฺเต ‘มยฺหํ อฺทาปิ ชานิสฺสสิ, ิติกา ปน เอวํ คจฺฉตี’’’ติ ิติกาวเสเนว คาเหตพฺพํ. อถ ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, อาหฏมฺปิ ิติกาย เอว คาเหตพฺพํ.
เอโก ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต ‘‘ภนฺเต, เอกํ ปตฺตํ เทถ, นิมนฺตนภตฺตํ อาหริสฺสามี’’ติ วทติ, โส เจ อุทฺเทสภตฺตฆรโต อยํ อาคโตติ ตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘นนุ ตฺวํ อสุกฆรโต อาคโต’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม, ภนฺเต, น นิมนฺตนภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺต’’นฺติ ภณติ, ิติกาย คเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘เอกํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ วุตฺโต ‘‘‘กิ’นฺติ วตฺวา อาหรามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยถา เต รุจฺจตี’’ติ วุตฺโต อาคจฺฉติ, อยํ วิสฺสฏฺทูโต นาม. อุทฺเทสปตฺตํ วา ปฏิปาฏิปตฺตํ วา ปุคฺคลิกปตฺตํ วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตสฺส ทาตพฺพํ. เอโก พาโล อพฺยตฺโต ‘‘อุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต วตฺตุํ น ชานาติ, ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส ¶ สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. เอวฺหิ วุตฺโต ปุจฺฉาสภาเคน ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโตมฺหี’’ติ ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วา วเทยฺย, ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา น โอโลเกยฺยุํ. ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วตฺตพฺโพ. ตสฺส ‘‘อุทฺเทสปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ.
เอกา ¶ กูฏฏฺิติกา นาม โหติ. รฺโ วา หิ ราชมหามตฺตสฺส วา เคเห อติปณีตานิ อฏฺ อุทฺเทสภตฺตานิ นิจฺจํ ทิยฺยนฺติ, ตานิ เอกจาริกภตฺตานิ กตฺวา ภิกฺขู วิสุํ ิติกาย ปริภฺุชนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘สฺเว ทานิ อมฺหากํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ิติกํ สลฺลกฺเขตฺวา คตา, เตสุ อนาคเตสุเยว อฺเ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา อาสนสาลาย ¶ นิสีทนฺติ; ตงฺขณฺเว ราชปุริสา อาคนฺตฺวา ‘‘ปณีตภตฺตปตฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ. อาคนฺตุกา ิติกํ อชานนฺตา คาเหนฺติ. ตงฺขณฺเว จ ิติกํ ชานนกภิกฺขู อาคนฺตฺวา ‘‘กึ คาเหถา’’ติ วทนฺติ. ‘‘ราชเคเห ปณีตภตฺต’’นฺติ. ‘‘กติวสฺสโต ปฏฺายา’’ติ? ‘‘เอตฺตกวสฺสโต นามา’’ติ. ‘‘มา คาเหถา’’ติ นิวาเรตฺวา ิติกาย คาเหตพฺพํ. คาหิเต อาคเตหิปิ ปตฺตทานกาเล อาคเตหิปิ ทินฺนกาเล อาคเตหิปิ ราชเคหโต ปตฺเต ปูเรตฺวา อาหฏกาเล อาคเตหิปิ ราชา ‘‘อชฺช ภิกฺขูเยว อาคจฺฉนฺตู’’ติ เปเสตฺวา ภิกฺขูนํเยว หตฺเถ ปิณฺฑปาตํ เทติ; เอวํ ทินฺนปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อาคตกาเล อาคเตหิปิ ิติกํ ชานนกภิกฺขูหิ ‘‘มา ภฺุชิตฺถา’’ติ วาเรตฺวา ิติกายเมว คาเหตพฺพํ.
อถ เน ราชา โภเชตฺวา ปตฺเตปิ เนสํ ปูเรตฺวา เทติ, ยํ อาหฏํ ตํ ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘มา ตุจฺฉหตฺถา คจฺฉนฺตู’’ติ โถกเมว ปตฺเตสุ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตํ น คาเหตพฺพํ. อถ ภฺุชิตฺวา ตุจฺฉปตฺตาว อาคจฺฉนฺติ, ยํ เตหิ ภุตฺตํ, ตํ เนสํ คีวา โหตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ¶ – ‘‘คีวากิจฺจํ เอตฺถ นตฺถิ, ิติกํ ปน อชานนฺเตหิ ยาว ชานนกา อาคจฺฉนฺติ, ตาว นิสีทิตพฺพํ สิยา; เอวํ สนฺเตปิ ภุตฺตํ สุภุตฺตํ, อิทานิ ปตฺตฏฺาเนน คาเหตพฺพ’’นฺติ.
เอโก ติจีวรปริวาโร สตคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺโต, วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา เปสุํ. อถ สฏฺิวสฺสจฺจเยน อฺโ ตถารูโป ปิณฺฑปาโต อุปฺปนฺโน, อยํ กึ อวสฺสิกฏฺิติกาย คาเหตพฺโพ, อุทาหุ สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกายาติ. สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกายาติ วุตฺตํ, อยฺหิ ภิกฺขุ ิติกํ คเหตฺวาเยว วฑฺฒิโตติ.
เอโก อุทฺเทสภตฺตํ ภฺุชิตฺวา สามเณโร ชาโต, ปุน ตํ ภตฺตํ สามเณรฏฺิติกาย ปตฺตํ คณฺหิตุํ ลภติ. อยํ กิร อนฺตราภฏฺโก นาม. โย ปน ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร ‘‘สฺเว อุทฺเทสภตฺตํ ¶ ลภิสฺสตี’’ติ อชฺเชว อุปสมฺปชฺชติ, อติกฺกนฺตา ตสฺส ิติกา. เอกสฺส ภิกฺขุโน อุทฺเทสภตฺตํ ปตฺตํ, ปตฺโต จสฺส น ตุจฺโฉ โหติ, โส อฺสฺส สมีเป นิสินฺนสฺส ปตฺตํ ทาเปติ, ตฺเจ เถยฺยาย หรนฺติ, คีวา โหติ ¶ . สเจ ปน โส ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ ปตฺตํ ทมฺมี’’ติ สยเมว เทติ, อสฺส คีวา น โหติ. อถาปิ เตน ภตฺเตน อนตฺถิโก หุตฺวา ‘‘อลํ มยฺหํ, ตเวตํ ภตฺตํ ทมฺมิ, ปตฺตํ เปเสตฺวา อาหราเปหี’’ติ อฺํ วทติ, ยํ ตโต อาหรียติ สพฺพํ ปตฺตสามิกสฺส โหติ. ปตฺตฺเจ เถยฺยาย หรนฺติ, สุหโฏ; ภตฺตสฺส ทินฺนตฺตา คีวา น โหติ.
วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, เตสุ นว ปิณฺฑปาติกา, เอโก สาทิยนโก. ‘‘ทส อุทฺเทสปตฺเต เทถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกา คเหตุํ น อิจฺฉนฺติ. อิตโร ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา น โหติ. เอเกกํ เจ ปาเปตฺวา คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. เอวํ คาเหตฺวา ทสหิปิ ปตฺเตหิ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สงฺคหํ กโรถา’’ติ นว ปตฺเต ¶ ปิณฺฑปาติกานํ เทติ, ภิกฺขุทตฺติยํ นาเมตํ, คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
สเจ โส อุปาสโก ‘‘ภนฺเต, ฆรํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส จ ภิกฺขุ เต ภิกฺขู ‘‘เอถ, ภนฺเต, มยฺหํ สหายา โหถา’’ติ ตสฺส ฆรํ คจฺฉติ. ยํ ตตฺถ ลภติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ. อิตเร เตน ทินฺนํ ลภนฺติ. อถ เนสํ ฆเรเยว นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ เทนฺติ, ‘‘ภนฺเต, ยํ มนุสฺสา เทนฺติ, ตํ คณฺหถา’’ติ ตสฺส ภิกฺขุโน วจเนเนว อิตเรสํ วฏฺฏติ. ภุตฺตาวีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา คณฺหิตฺวา คมนตฺถาย เทนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ, เตน ทินฺนํ อิตเรสํ วฏฺฏติ.
ยทิ ปน เต วิหาเรเยว เตน ภิกฺขุนา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถ, มนุสฺสานฺจ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตา คจฺฉนฺติ, ยํ ตตฺถ ภฺุชนฺติ เจว นีหรนฺติ จ, สพฺพํ ตํ ตสฺเสว สนฺตกํ. อถาปิ ‘‘มยฺหํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ อวุตฺตา ‘‘มนุสฺสานํ วจนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ เอกสฺส มธุเรน สเรน อนุโมทนํ กโรนฺตสฺส สุตฺวา เถรานฺจ อุปสเม ปสีทิตฺวา พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ, อยํ เถเรสุ ปสาเทน อุปฺปนฺโน ‘‘อกตภาโค’’ นาม, ตสฺมา สพฺเพสํ ปาปุณาติ.
เอโก ¶ สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา ิติกาย คาหิตํ ปตฺตํ หริตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา อาหริตฺวา ‘‘อิมํ, ภนฺเต, สพฺโพ สงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ เทติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส ปน อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ อุทฺเทสภตฺตํ ทาตพฺพํ. อถ ¶ ‘‘ปมํเยว สพฺพํ สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วทติ, เอกสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน สนฺตโก ปตฺโต ทาตพฺโพ. อาหริตฺวา จ ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ วุตฺเต ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
เอโก ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, เอเกกํ อาโลปํ อทตฺวา ิติกาย เอกสฺส ยาปนมตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อถ โส ภตฺตํ อาหริตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ อชานนฺโต ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อานีตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺพํ. ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ อานีตํ, ตุมฺหากํ ทาตุกาโมมฺหี’’ติ ¶ วเทยฺย, ตโต ตํ ภิกฺขุํ อฺเ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกตพฺพมฺปิ น มฺเยฺยุํ. สเจ ปน ‘‘กุหึ ยาสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุทฺเทสภตฺตํ คเหตฺวา อาคโตมฺหี’’ติ วทติ, เอเกน ลชฺชิภิกฺขุนา ิติกาย คาเหตพฺพํ. สเจ อาภตํ พหุ โหติ, สพฺเพสํ ปโหติ, ิติกากิจฺจํ นตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.
‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ อาหริสฺสสี’’ติ อวตฺวา ปกติฏฺิติกาย เอว คาเหตพฺพํ. โย ปน ปายาโส วา รสปิณฺฑปาโต วา นิจฺจํ ลพฺภติ; เอวรูปานํ ปณีตโภชนานํ อาเวณิกา ิติกา กาตพฺพา, ตถา สปริวาราย ยาคุยา มหคฺฆานํ ผลานํ ปณีตานฺจ ขชฺชกานํ. ปกติภตฺตยาคุผลขชฺชกานํ ปน เอกาว ิติกา กาตพฺพา. ‘‘สปฺปึ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต สพฺพสปฺปีนํ เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา สพฺพเตลานํ. ‘‘มธุํ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน มธุโน เอกาว ิติกา วฏฺฏติ, ตถา ผาณิตสฺส ลฏฺิมธุกาทีนฺจ เภสชฺชานํ. สเจ ปน คนฺธมาลํ สงฺฆุทฺเทสํ เทนฺติ, ปิณฺฑปาติกสฺส วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ. อามิสสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา วฏฺฏติ, สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทินฺนตฺตา ปน น คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ.
อุทฺเทสภตฺตกถา นิฏฺิตา.
นิมนฺตนภตฺตกถา
นิมนฺตนํ ¶ ปุคฺคลิกฺเจ, สยเมว อิสฺสโร. สงฺฆิกํ ปน อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ ทูโต พฺยตฺโต โหติ, ‘‘ภนฺเต ¶ , ราชเคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อถ ทูโต อพฺยตฺโต ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตุทฺเทสโก พฺยตฺโต ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ยาถา’’ติ วทติ; เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ตุมฺหากํ ปฏิปาฏิยา ‘‘ภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺเต ปน น วฏฺฏติ. สเจ นิมนฺเตตุํ อาคตมนุสฺโส ¶ อาสนสาลํ ปวิสิตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วา ‘‘อฏฺ ปตฺเต เทถา’’ติ วา วทติ; เอวมฺปิ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ, ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถ; ภตฺตํ คณฺหถ, อฏฺ ปตฺเต เทถ; ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปฏิปาฏิยา คาเหตพฺพํ. คาเหนฺเตน ปน วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวทนฺเตน ‘‘ตุมฺเห จ ตุมฺเห จ คจฺฉถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทถ, ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ, อุปาสกา’’ติ คนฺตพฺพํ. สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ตุมฺเห เอถา’’ติ วุตฺเตปิ ยถาิติกาย คาเหตพฺพํ.
นิมนฺตนภตฺตฆรโต ปน ปตฺตตฺถาย อาคตสฺส อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ิติกาย ปตฺโต ทาตพฺโพ. เอโก ‘‘สงฺฆโต ปฏิปาฏิยา ปตฺต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘เอกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, ตํ ปตฺตสามิกสฺเสว โหติ, อุทฺเทสภตฺเต วิย ิติกาย น คาเหตพฺพํ. อิธาปิ โย อาคนฺตฺวา ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพ.
ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วเทยฺย, ตโต โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ชิคุจฺฉนีโย อสฺส. ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส ปฏิปาฏิยา ภตฺตฏฺิติกาย คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพ. ‘‘ภตฺตาหรณกปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ปฏิปาฏิยา ภตฺตฏฺิติกาย เอว ทาตพฺโพ. สเจ อาหริตฺวา ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ภฺุชตู’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. ปตฺตสามิกสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ิติกํ เปตฺวา อฺํ ปฏิปาฏิภตฺตํ คาเหตพฺพํ.
เอโก ¶ ¶ ปาติยา ภตฺตํ อาหริตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, อาโลปภตฺตฏฺิติกโต ปฏฺาย อาโลปสงฺเขเปน ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน ตุณฺหีภูโต อจฺฉติ, ‘‘กสฺส เต อาภตํ, กสฺส ทาตุกาโมสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘กุหึ คจฺฉสิ, กึ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘สงฺฆสฺส เม ภตฺตํ อาภตํ, เถรานํ เม ภตฺตํ อาภต’’นฺติ วทติ, คเหตฺวา อาโลปภตฺตฏฺิติกาย ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาภตํ พหุํ โหติ, สกลสฺส สงฺฆสฺส พหุ โหติ, อภิหฏภิกฺขา นาม ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ิติกาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺาย ปตฺตํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ.
อุปาสโก สงฺฆตฺเถรสฺส วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาตสฺส วา ภตฺตุทฺเทสกสฺส วา ปหิณาติ ‘‘อมฺหากํ ภตฺตคหณตฺถาย อฏฺ ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ, สเจปิ าติอุปฏฺาเกหิ เปสิตํ โหติ, อิเม ตโย ชนา ปุจฺฉิตุํ น ลภนฺติ, อารุฬฺหาเยว มาติกํ, สงฺฆโต อฏฺ ภิกฺขู อุทฺทิสาเปตฺวา อตฺตนวเมหิ คนฺตพฺพํ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เอเต ภิกฺขู นิสฺสาย ลาโภ อุปฺปชฺชตีติ. คนฺถธุตงฺคาทีหิ ปน อนภิฺาโต อาวาสิกภิกฺขุ ปุจฺฉิตุํ ลภติ, ตสฺมา เตน ‘‘กึ สงฺฆโต คณฺหามิ, อุทาหุ เย ชานามิ, เตหิ สทฺธึ อาคจฺฉามี’’ติ มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ‘‘ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วา เย วา ชานาถ, เต คเหตฺวา เอถา’’ติ วุตฺเต ปน เย อิจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธึ คนฺตุํ ลภติ. สเจ ‘‘อฏฺ ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ เปเสนฺติ, สงฺฆโตว เปเสตพฺพา. อตฺตนา สเจ อฺสฺมึ คาเม สกฺกา โหติ ภิกฺขา ลภิตุํ, อฺโ คาโม คนฺตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ ลภิตุํ, โสเยว คาโม ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺโพ.
นิมนฺติตภิกฺขู อาสนสาลาย นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺร เจ มนุสฺสา ‘‘ปตฺเต เทถา’’ติ อาคจฺฉนฺติ, อนิมนฺติเตหิ น ทาตพฺพา. ‘‘เอเต นิมนฺติตภิกฺขู’’ติ วตฺตพฺพํ. ‘‘ตุมฺเหปิ เทถา’’ติ วุตฺเต ปน ทาตุํ วฏฺฏติ. อุสฺสวาทีสุ มนุสฺสา สยเมว ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ จ คนฺตฺวา ติปิฏเก จ ธมฺมกถิเก จ ภิกฺขุสเตนปิ สทฺธึ นิมนฺเตนฺติ. ตทา เยปิ ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? น หิ มหาภิกฺขุสงฺเฆน อตฺถิกา มนุสฺสา ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ คจฺฉนฺติ, สนฺนิปาตฏฺานโตว ยถาสตฺติ ยถาพลํ ภิกฺขู ¶ คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตีติ.
สเจ ¶ ¶ ปน สงฺฆตฺเถโร วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิฺาตโก วา ภตฺตุทฺเทสโก วา อฺตฺร วา วสฺสํ วสิตฺวา กตฺถจิ วา คนฺตฺวา ปุน สกฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, มนุสฺสา จ อาคนฺตุกสฺส สกฺการํ กโรนฺติ, เอกวารํ เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. ปฏิพทฺธกาลโต ปน ปฏฺาย ทุติยวาเร อารทฺเธ สงฺฆโตเยว คเหตฺวา คนฺตพฺพํ. อภินวอาคนฺตุกาว หุตฺวา าตี วา อุปฏฺาเก วา ปสฺสิสฺสามาติ คจฺฉนฺติ, ตตฺร เตสํ าตี จ อุปฏฺากา จ สกฺการํ กโรนฺติ. เอตฺถ ปน เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ.
โย ปน อติลาภี โหติ, สกฏฺานฺจ อาคนฺตุกฏฺานฺจ เอกสทิสํ, สพฺพตฺถ มนุสฺสา สงฺฆภตฺตํ สชฺเชตฺวาว นิสีทนฺติ, เตน สงฺฆโตว คเหตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อยํ นิมนฺตเน วิเสโส. อวเสโส สพฺพปฺโห อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺ มหาเถเร เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อฏฺ มหาเถราว ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย มชฺฌิมาทีสุ. สเจ ปน อวิเสเสตฺวา ‘‘อฏฺ ภิกฺขู เทถา’’ติ วทติ, สงฺฆโต ทาตพฺพา.
นิมนฺตนภตฺตกถา นิฏฺิตา.
สลากภตฺตกถา
สลากภตฺเต ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากาย วา ปฏฺฏิกาย วา อุปนิพนฺธิตฺวา โอปฺุชิตฺวา อุทฺทิสิตุ’’นฺติ วจนโต รุกฺขสารมยาย สลากาย วา เวฬุวิลีวตาลปณฺณาทิมยาย ปฏฺฏิกาย วา ‘‘อสุกสฺส นาม สลากภตฺต’’นฺติ เอวํ อกฺขรานิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา กตฺวา สพฺพา สลากาโย โอปฺุชิตฺวา ปุนปฺปุนํ เหฏฺุปริวเสเนว อาโลเฬตฺวา ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภตฺตุทฺเทสเกน สเจ ิติกา อตฺถิ, ิติกโต ปฏฺาย; โน เจ อตฺถิ, เถราสนโต ¶ ปฏฺาย สลากา ทาตพฺพา. ปจฺฉา อาคตานมฺปิ เอกาพทฺธวเสน ทูเร ิตานมฺปิ อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพา.
สเจ ¶ วิหารสฺส สมนฺตโต พหู โคจรคามา, ภิกฺขู ปน น พหุกา, คามวเสนปิ สลากาโย ปาปุณนฺติ, ‘‘ตุมฺหากํ อสุกคาเม สลากภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ คามวเสเนว คาเหตพฺพา. เอวํ คาเหนฺเตน สเจปิ เอเกกสฺมึ คาเม นานปฺปการานิ สฏฺิสลากภตฺตานิ, สพฺพานิ ¶ คาหิตาเนว โหนฺติ, ตสฺส ปตฺตคามสมีเป อฺานิปิ ทฺเว ตีณิ สลากภตฺตานิ โหนฺติ, ตานิปิ ตสฺเสว ทาตพฺพานิ. น หิ สกฺกา เตสํ การณา อฺํ ภิกฺขุํ ปหิณิตุนฺติ.
สเจ เอกจฺเจสุ คาเมสุ พหูนิ สลากภตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺนฺนมฺปิ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพานิ. ททนฺเตน ปน จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ ภตฺตานํ สลากาโย เอกโต พนฺธิตฺวา ทาตพฺพา. สเจ ตํ คามํ อติกฺกมิตฺวา อฺโ คาโม โหติ, ตสฺมิฺจ เอกเมว สลากภตฺตํ, ตํ ปน ปาโตว เทนฺติ, ตมฺปิ เอเตสุ ภิกฺขูสุ เอกสฺส นิคฺคเหน ทตฺวา ‘‘ปาโตว ตํ คเหตฺวา ปจฺฉา โอริมคาเม อิตรานิ ภตฺตานิ คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ โอริมคาเม สลากภตฺเตสุ อคาหิเตสฺเวว คาหิตสฺาย คจฺฉติ, ปรภาคคาเม สลากภตฺตํ คาเหตฺวา ปุน วิหารํ อาคนฺตฺวา อิตรานิ คาเหตฺวา โอริมคาโม คนฺตพฺโพ. ‘‘น หิ พหิสีมาย สงฺฆลาโภ คาเหตุํ ลพฺภตี’’ติ อยํ นโย กุรุนฺทิยํ วุตฺโต.
สเจ ปน ภิกฺขู พหู โหนฺติ, คามวเสน สลากา น ปาปุณนฺติ, วีถิวเสน วา วีถิยํ เอกเคหวเสน วา กุลวเสน วา คาเหตพฺพา. วีถิอาทีสุ จ ยตฺถ พหูนิ ภตฺตานิ, ตตฺถ คาเม วุตฺตนเยเนว พหูนํ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพานิ. สลากาสุ อสติ อุทฺทิสิตฺวาปิ คาเหตพฺพานิ.
สลากทายเกน ปน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. เตน หิ กาลสฺเสว วุฏฺาย ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โภชนสาลํ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ภิกฺขูหิ วตฺตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภิกฺขูสุ สนฺนิปติเตสุ ปมเมว วารคาเม ¶ สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ. ‘‘ตุยฺหํ อสุกสฺมึ นาม วารคาเม สลากา ปาปุณาติ ตตฺร คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺพํ.
สเจ อติเรกคาวุเต คาโม โหติ, ตํ ทิวสํ คจฺฉนฺตา กิลมนฺติ, ‘‘สฺเว ตุยฺหํ วารคาเม ปาปุณาตี’’ติ อชฺเชว คาเหตพฺพํ. โย วารคามํ เปสิยมาโน ¶ น คจฺฉติ, อฺํ สลากํ มคฺคติ, น ทาตพฺพา. สทฺธานฺหิ มนุสฺสานํ ปฺุหานิ สงฺฆสฺส จ ลาภจฺเฉโท โหติ, ตสฺมา ตสฺส ทุติเยปิ ตติเยปิ ทิวเส อฺา สลากา น ทาตพฺพา, ‘‘อตฺตโน ปตฺตฏฺานํ คนฺตฺวา ¶ ภฺุชาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ตีณิ ปน ทิวสานิ อคจฺฉนฺตสฺส วารคามโต โอริมวารคาเม สลากา คาเหตพฺพา. ตฺเจ น คณฺหาติ, ตโต ปฏฺาย ตสฺส อฺํ สลากํ ทาตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺมํ ปน คาฬฺหํ กาตพฺพํ, สฏฺิโต วา ปณฺณาสโต วา น ปริหาเปตพฺพํ. วารคาเม คาเหตฺวา วิหารวาโร คาเหตพฺโพ, ‘‘ตุยฺหํ วิหารวาโร ปาปุณาตี’’ติ วตฺตพฺพํ. วิหารวาริกสฺส ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากาโย ติสฺโส จตสฺโส วา ภตฺตสลากาโย จ ทาตพฺพา, นิพทฺธํ กตฺวา ปน น ทาตพฺพา. ยาคุภตฺตทายกา หิ ‘‘อมฺหากํ ยาคุภตฺตํ วิหารโคปกาว ภฺุชนฺตี’’ติ อฺถตฺตํ อาปชฺเชยฺยุํ, ตสฺมา อฺเสุ กุเลสุ ทาตพฺพา.
สเจ วิหารวาริกานํ สภาคา อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, วารํ คาเหตฺวา เตสํ ยาคุภตฺตํ อาหราเปตพฺพํ. ตาว เนสํ สลากา ผาติกมฺมเมว ภวนฺติ, วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺาเน ปน อฺมฺปิ ปณีตภตฺตสลากํ คณฺหิตุํ ลภนฺติเยว. อติเรกอุตฺตริภงฺคสฺส เอกจาริกภตฺตสฺส วิสุํ ิติกํ กตฺวา สลากา ทาตพฺพา.
สเจ เยน สลากา ลทฺธา, โส ตํทิวสํ ตํ ภตฺตํ น ลภติ, ปุนทิวเส คาเหตพฺพํ. ภตฺตเมว ลภติ, น อุตฺตริภงฺคํ; เอวมฺปิ ปุน คาเหตพฺพํ. ขีรภตฺตสฺส สลากายปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ขีรเมว ลภติ, น ภตฺตํ; ขีรลาภโต ปฏฺาย ปุน น คาเหตพฺพํ. ทฺเว ตีณิ เอกจาริกภตฺตานิ เอกสฺเสว ¶ ปาปุณนฺติ, ทุพฺภิกฺขสมเย สงฺฆนวเกน ลทฺธกาเล วิชเฏตฺวา วิสุํ คาเหตพฺพานิ, ปากติกสลากภตฺตํ อลทฺธสฺสาปิ ปุนทิวเส คาเหตพฺพํ.
สเจ ขุทฺทโก วิหาโร โหติ, สพฺเพ ภิกฺขู เอกสมฺโภคา, อุจฺฉุสลากํ คาเหนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ สมฺมุขีภูตสฺส ปาเปตฺวา มหาเถราทีนํ ทิวา ตจฺเฉตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. รสสลากํ ปาเปตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาเวตฺวา วา ผาณิตํ วา กาเรตฺวา ปิณฺฑปาติกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ ¶ . อาคนฺตุกานํ อาคตานาคตภาวํ ตฺวา คาเหตพฺพา, มหาอาวาเส ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพา.
ตกฺกสลากมฺปิ สภาคฏฺาเน ปาเปตฺวา วา ปจาเปตฺวา วา ธูมาเปตฺวา วา เถรานํ ทาตุํ วฏฺฏติ. มหาอาวาเส วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ ผลสลากปูวสลากเภสชฺชคนฺธมาลสลากาโยปิ วิสุํ ิติกาย คาเหตพฺพา. เภสชฺชาทิสลากาโย เจตฺถ กิฺจาปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏนฺติ, สลากวเสน คาหิตตฺตา ปน น สาทิตพฺพา. อคฺคภิกฺขามตฺตํ สลากภตฺตํ ¶ เทนฺติ, ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา คาเหตพฺพํ. อสติยา ิติกาย เถราสนโต ปฏฺาย คาเหตพฺพํ. สเจ ตาทิสานิ ภตฺตานิ พหูนิ โหนฺติ, เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว ตีณิ ทาตพฺพานิ; โน เจ, เอเกกเมว ทตฺวา ปฏิปาฏิยา คตาย ปุน เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. สเจ อนฺตราว อุปจฺฉิชฺชติ, ิติกา สลฺลกฺเขตพฺพา. ยทิ ปน ตาทิสํ ภตฺตํ นิพทฺธเมว โหติ, ยสฺส ปาปุณาติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘ลทฺธา วา อลทฺธา วา สฺเวปิ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. เอกํ อนิพทฺธํ โหติ, ลภนทิวเส ปน ยาวทตฺถํ ลภติ, อลภนทิวสา พหุตรา โหนฺติ, ตํ ยสฺส ปาปุณาติ, โส อลภิตฺวา ‘‘สฺเว คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺโพ.
โย สลากาสุ คาหิตาสุ ปจฺฉา อาคจฺฉติ, ตสฺส อติกฺกนฺตาว สลากา น อุปฏฺาเปตฺวา ทาตพฺพา. สลากํ นาม ฆณฺฏิปฺปหรณโต ปฏฺาย อาคนฺตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺโตว ลภติ. อฺสฺส อาคนฺตฺวา ¶ สมีเป ิตสฺสาปิ อติกฺกนฺตา อติกฺกนฺตาว โหติ. สเจ ปนสฺส อฺโ คณฺหนฺโต อตฺถิ, สยํ อนาคโตปิ ลภติ. สภาคฏฺาเน อสุโก อนาคโตติ ตฺวา ‘‘อยํ ตสฺส สลากา’’ติ เปตุํ วฏฺฏติ. สเจ ‘‘อนาคตสฺส น ทาตพฺพา’’ติ กติกํ กโรนฺติ, อธมฺมิกา โหติ. อนฺโตอุปจาเร ิตสฺส หิ ภาชนียภณฺฑํ ปาปุณาติ. สเจ ปน ‘‘อนาคตสฺส เทถา’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ, ทณฺฑกมฺมํ เปตพฺพํ, ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํ.
ฉปฺปฺจสลากา นฏฺา โหนฺติ, ภตฺตุทฺเทสโก ทายกานํ นามํ นสฺสรติ, โส เจ นฏฺสลากา มหาเถรสฺส วา อตฺตโน วา ปาเปตฺวา ภิกฺขู วเทยฺย, ‘‘มยา อสุกคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปิตํ, ตุมฺเห ตตฺถ ลทฺธํ สลากภตฺตํ ภฺุเชยฺยาถา’’ติ, วฏฺฏติ. วิหาเร อปาปิตํ ปน อาสนสาลาย ตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ตตฺเถว ปาเปตฺวา ภฺุชิตุํ ¶ น วฏฺฏติ. ‘‘อชฺช ปฏฺาย มยฺหํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ตตฺร อาสนสาลาย คาเหตุํ น วฏฺฏติ, วิหารํ อาเนตฺวา คาเหตพฺพํ. ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘สฺเว ปฏฺาย อสุกกุลํ นาม สลากภตฺตํ เทติ, สลากคฺคาหณกาเล สเรยฺยาสี’’ติ. ทุพฺภิกฺเข สลากภตฺตํ ปจฺฉินฺทิตฺวา สุภิกฺเข ชาเต กิฺจิ ทิสฺวา ‘‘อชฺช ปฏฺาย อมฺหากํ สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ ปุน ปฏฺเปนฺติ, อนฺโตคาเม อคาเหตฺวา วิหารํ อาเนตฺวาว คาเหตพฺพํ. อิทฺหิ ‘‘สลากภตฺตํ’’ นาม. อุทฺเทสภตฺตสทิสํ น โหติ, วิหารเมว สนฺธาย ทิยฺยติ, ตสฺมา พหิอุปจาเร คาเหตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘สฺเว ปฏฺายา’’ติ วุตฺเต ปน วิหาเร คาเหตพฺพเมว.
คมิโก ¶ ภิกฺขุ ยํ ทิสาภาคํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ อฺเน วารคามสลากา ลทฺธา โหติ, ตํ คเหตฺวา อิตรํ ภิกฺขุํ ‘‘มยฺหํ ปตฺตสลากํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. เตน ปน อุปจารสีมํ อนติกฺกนฺเตเยว ตสฺมึ ตสฺส สลากา คาเหตพฺพา.
ฉฑฺฑิตวิหาเร มนุสฺสา โพธิเจติยาทีนิ ชคฺคิตฺวา ภฺุชนฺตูติ ¶ สลากภตฺตํ ปฏฺเปนฺติ, ภิกฺขู สกฏฺาเนสุ วสิตฺวา กาลสฺเสว คนฺตฺวา ตตฺถ วตฺตํ กริตฺวา ตํ ภตฺตํ ภฺุชนฺติ, วฏฺฏติ. สเจ เตสุ สฺวาตนาย อตฺตโน ปาเปตฺวา คเตสุ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา กาลสฺเสว วตฺตํ กตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา สลากภตฺตํ อตฺตโน ปาเปตฺวา อาสนสาลํ คจฺฉติ, โสว ตสฺส ภตฺตสฺส อิสฺสโร. โย ปน ภิกฺขูสุ วตฺตํ กโรนฺเตสุเยว ภูมิยํ ทฺเว ตโย สมฺมฺุชนิปฺปหาเร ทตฺวา ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘ธุรคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส ตํ โจริกาย คหิตตฺตา น ปาปุณาติ, วตฺตํ กตฺวา ปาเปตฺวา ปจฺฉา คตภิกฺขูนํเยว โหติ.
เอโก คาโม อติทูเร โหติ, ภิกฺขู นิจฺจํ คนฺตุํ น อิจฺฉนฺติ, มนุสฺสา ‘‘มยํ ปฺุเน ปริพาหิรา โหมา’’ติ วทนฺติ, เย ตสฺส คามสฺส อาสนฺนวิหาเร สภาคภิกฺขู, เต วตฺตพฺพา ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ อนาคตทิวเส ตุมฺเห ภฺุชถา’’ติ. สลากา ปน เทวสิกํ ปาเปตพฺพา, ตา จ โข ปน ฆณฺฏิปฺปหรณมตฺเตน วา ปจฺฉิจาลนมตฺเตน วา ปาปิตา น โหนฺติ, ปจฺฉึ ปน คเหตฺวา ¶ สลากา ปีเก อากิริตพฺพา, ปจฺฉิ ปน มุขวฏฺฏิยํ น คเหตพฺพา. สเจ หิ ตตฺถ อหิ วา วิจฺฉิโก วา ภเวยฺย, ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย; ตสฺมา เหฏฺา คเหตฺวา ปจฺฉึ ปรมฺมุขํ กตฺวา สลากา อากิริตพฺพา ‘‘สเจปิ สปฺโป ภวิสฺสติ, เอตฺโตว ปลายิสฺสตี’’ติ. เอวํ สลากา อากิริตฺวา คามาทิวเสน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพา. อปิจ เอกํ มหาเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘อวเสสา มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ อตฺตโน ปาเปตฺวา วตฺตํ กตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วิตกฺกมาฬเก ิเตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘ปาปิตา, อาวุโส, สลากา’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต, ตุมฺเห คตคตคาเม สลากภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตพฺพํ; เอวํ ปาปิตาปิ หิ สุปาปิตาว โหนฺติ.
ภิกฺขู สพฺพรตฺตึ ธมฺมสวนตฺถํ ¶ อฺํ วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘‘มยํ ตตฺถ ทานํ อคฺคเหตฺวาว อมฺหากํ โคจรคาเมว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาคมิสฺสามา’’ติ สลากา อคฺคเหตฺวาว คตา, วิหาเร เถรสฺส ปตฺตสลากภตฺตํ ภฺุชิตุํ อาคจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มหาเถโรปิ ‘‘อหํ อิธ กึ กโรมี’’ติ ¶ เตหิเยว สทฺธึ คจฺฉติ, เตหิ คตวิหาเร อภฺุชิตฺวาว โคจรคามํ อนุปฺปตฺเตหิ ‘‘เทถ, ภนฺเต, ปตฺเต สลากยาคุอาทีนิ อาหริสฺสามา’’ติ วุตฺเต ปตฺตา น ทาตพฺพา. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น เทถา’’ติ ‘‘วิหารฏฺกํ ภตฺตํ วิหาเร วุตฺถานํ ปาปุณาติ, มยํ อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถา’’ติ. ‘‘เทถ, ภนฺเต, น มยํ วิหาเร ปาลิกาย เทม, ตุมฺหากํ เทม, คณฺหถ อมฺหากํ ภิกฺข’’นฺติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.
สลากภตฺตกถา นิฏฺิตา.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถา
ปกฺขิกาทีสุ ปน ยํ อภิลกฺขิเตสุ จาตุทฺทสี ปฺจทสี ปฺจมี อฏฺมีติ อิเมสุ ปกฺเขสุ กมฺมปฺปสุเตหิ อุโปสถํ กาตุํ สติกรณตฺถาย ทิยฺยติ, ตํ ปกฺขิกํ นาม. ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. สเจ สลากภตฺตมฺปิ ปกฺขิกภตฺตมฺปิ พหุ สพฺเพสํ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, ทฺเวปิ ภตฺตานิ วิสุํ วิสุํ คาเหตพฺพานิ. สเจ ภิกฺขุสงฺโฆ มหา, ปกฺขิกํ คาเหตฺวา ตสฺส ิติกาย สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ ¶ , สลากภตฺตํ วา คาหาเปตฺวา ตสฺส ิติกาย ปกฺขิกํ คาเหตพฺพํ. เยสํ น ปาปุณาติ, เต ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ. สเจ ทฺเวปิ ภตฺตานิ พหูนิ, ภิกฺขู มนฺทา; สลากภตฺตํ นาม เทวสิกํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตํ เปตฺวา ‘‘ปกฺขิกํ อาวุโส ภฺุชถา’’ติ ปกฺขิกเมว คาเหตพฺพํ. ปกฺขิกํ ปณีตํ เทนฺติ, วิสุํ ิติกา กาตพฺพา. ‘‘สฺเว ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ¶ ทายกา วทนฺติ ‘‘สฺเว อมฺหากํ ฆเร ลูขภตฺตํ ภวิสฺสติ, อชฺเชว ปกฺขิกภตฺตํ อุทฺทิสถา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติ.
อุโปสถิกํ นาม อนฺวฑฺฒมาเส อุโปสถงฺคานิ สมาทิยิตฺวา ยํ อตฺตนา ภฺุชติ, ตเทว ทิยฺยติ. ปาฏิปทิกํ นาม ‘‘อุโปสเถ พหู สทฺธา ปสนฺนา ภิกฺขูนํ สกฺการํ กโรนฺติ, ปาฏิปเท ปน ภิกฺขู กิลมนฺติ, ปาฏิปเท ทินฺนํ ทุพฺภิกฺขทานสทิสํ มหปฺผลํ โหติ, อุโปสถกมฺเมน วา ปริสุทฺธสีลานํ ทุติยทิวเส ทินฺนํ มหปฺผลํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปาฏิปเท ทิยฺยนกทานํ, ตมฺปิ อุภยํ สลากภตฺตคติกเมว. อิติ อิมานิ สตฺตปิ ภตฺตานิ ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏนฺติ, ธุตงฺคเภทํ กโรนฺติเยว.
อปรานิปิ ¶ จีวรกฺขนฺธเก วิสาขาย วรํ ยาจิตฺวา ทินฺนานิ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิยภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ จตฺตาริ ภตฺตานิ ปาฬิยํ อาคตาเนว, ตตฺถ อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ ‘‘อาคนฺตุกภตฺตํ’’. เอส นโย เสเสสุ. สเจ ปเนตฺถ อาคนฺตุกภตฺตานิปิ อาคนฺตุกาปิ พหู โหนฺติ, สพฺเพสํ เอเกกํ คาเหตพฺพํ, ภตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ ิติกาย คาเหตพฺพํ. เอโก อาคนฺตุโก ปมเมว อาคนฺตฺวา สพฺพํ อาคนฺตุกภตฺตํ อตฺตโน คาเหตฺวา นิสีทติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ, ปจฺฉา อาคเตหิ อาคนฺตุเกหิ เตน ทินฺนานิ ปริภฺุชิตพฺพานิ. เตนปิ เอกํ อตฺตโน คเหตฺวา เสสานิ ทาตพฺพานิ. อยํ อุฬาโร.
สเจ ปน โย ปมํ อาคนฺตฺวาปิ อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ตุณฺหีภูโต นิสีทติ, ปจฺฉา อาคเตหิ สทฺธึ ปฏิปาฏิยา คณฺหิตพฺพํ. สเจ นิจฺจํ อาคนฺตุกา อาคจฺฉนฺติ, อาคตทิวเสเยว ภฺุชิตพฺพํ, อนฺตรนฺตรา เจ อาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ ภฺุชิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สตฺต ทิวสานิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
อาวาสิโก ¶ กตฺถจิ คนฺตฺวา อาคโต, เตนาปิ อาคนฺตุกภตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพํ. สเจ ปน ตํ วิหาเร นิพนฺธาปิตํ โหติ, วิหาเร คาเหตพฺพํ. อถ วิหาโร ¶ ทูเร โหติ, อาสนสาลาย นิพนฺธาปิตํ อาสนสาลาย คาเหตพฺพํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘อาคนฺตุเกสุ อสติ อาวาสิกาปิ ปริภฺุชนฺตู’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ.
คมิยภตฺเตปิ อยเมว กถามคฺโค. อยํ ปน วิเสโส – อาคนฺตุโก อาคนฺตุกภตฺตเมว ลภติ, คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปิ คมิยภตฺตมฺปิ. อาวาสิโกปิ ปกฺกมิตุกาโม คมิโก โหติ; คมิยภตฺตํ ลภติ. ยถา ปน อาคนฺตุกภตฺตํ; เอวมิทํ ทฺเว วา ตีณิ วา สตฺต วา ทิวสานิ น ลพฺภติ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺโต ตํทิวสํ เกนจิเทว การเณน น คโต, ปุนทิวเสปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, สอุสฺสาหตฺตา. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ภุตฺตสฺส โจรา วา ปนฺถํ รุนฺธนฺติ อุทกํ วา, เทโว วา วสฺสติ, สตฺโถ วา น คจฺฉติ, สอุสฺสาเหน ภฺุชิตพฺพํ. เอเต อุปทฺทเว โอโลเกนฺเตน ‘‘ทฺเว ตโย ทิวเส ภฺุชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ปน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา ภฺุชิตุํ น ลภติ.
คิลานภตฺตมฺปิ สเจ สพฺเพสํ คิลานานํ ปโหติ, สพฺเพสํ ทาตพฺพํ; โน เจ, ิติกํ กตฺวา ¶ คาเหตพฺพํ. เอโก คิลาโน อโรครูโป สกฺโกติ อนฺโตคามํ คนฺตุํ, เอโก น สกฺโกติ, อยํ ‘‘มหาคิลาโน’’ นาม. เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. ทฺเว มหาคิลานา – เอโก ลาภี อภิฺาโต พหุํ ขาทนียํ โภชนียํ ลภติ, เอโก อนาโถ อปฺปลาภตาย อนฺโตคามํ ปวิสติ – เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํ. คิลานภตฺเต ปน ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ. ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, สปฺปายโภชนํ อภฺุชนฺโต น ยาเปติ, ตาว ภฺุชิตพฺพํ. ยทา ปน มิสฺสกยาคุํ วา มิสฺสกภตฺตํ วา ภุตฺตสฺสาปิ โรโค น กุปฺปติ, ตโต ปฏฺาย น ภฺุชิตพฺพํ.
คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ ยํ สพฺเพสํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํ; โน เจ ปโหติ, ิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํ. อิทมฺปิ ทฺวีสุ คิลาเนสุ ¶ มหาคิลานุปฏฺากสฺส คาเหตพฺพํ, ทฺวีสุ มหาคิลาเนสุ อนาถคิลานุปฏฺากสฺส. ยํ กุลํ คิลานภตฺตมฺปิ เทติ คิลานุปฏฺากภตฺตมฺปิ, ตตฺถ ¶ ยสฺส คิลานสฺส ภตฺตํ ปาปุณาติ ตทุปฏฺากสฺสาปิ ตตฺเถว คาเหตพฺพํ. คิลานุปฏฺากภตฺเตปิ ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว คิลาโน ลภติ, ตาวสฺส อุปฏฺาโกปิ ลภตีติ. อิมานิ จตฺตาริ ภตฺตานิ สเจ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ ‘‘อาคนฺตุกคมิกคิลานุปฏฺากา มม ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาคนฺตุกาทีนํ ภตฺตํ นิพนฺธาเปมิ, ‘‘มม ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ, ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏติ.
อปรานิปิ ‘‘ธุรภตฺตํ, กุฏิภตฺตํ, วารภตฺต’’นฺติ ตีณิ ภตฺตานิ. ตตฺถ ธุรภตฺตนฺติ นิจฺจภตฺตํ วุจฺจติ, ตํ ทุวิธํ – สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกฺจ. ตตฺถ ยํ ‘‘สงฺฆสฺส ธุรภตฺตํ เทมา’’ติ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกํ. ‘‘มม นิพทฺธํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วตฺวา ทินฺนํ ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ปุคฺคลิเกปิ ‘‘ตุมฺหากํ ธุรภตฺตํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติโก เจ, น วฏฺฏติ. ‘‘มม นิพทฺธํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ, สาทิตพฺพํ. สเจปิ ปจฺฉา กติปาเห วีติวตฺเต ‘‘ธุรภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, มูเล สุฏฺุ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา วฏฺฏติ.
กุฏิภตฺตํ นาม ยํ สงฺฆสฺส อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คเหตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺเต ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ ¶ . ยํ ปน ปุคฺคเล ปสีทิตฺวา ตสฺส วา อาวาสํ กตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เทมา’’ติ ทินฺนํ, ตํ ตสฺเสว โหติ, ตสฺมึ กตฺถจิ คเต นิสฺสิตเกหิ ภฺุชิตพฺพํ.
วารภตฺตํ นาม ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ¶ ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. ‘‘วารภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปน สลากภตฺตคติกํ โหติ. สเจ ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ, ‘‘สามเณรา ปจิตฺวา เทนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ อาคนฺตุกภตฺตาทีนิ จ จตฺตารีติ สตฺต, ตานิ สงฺฆภตฺตาทีหิ สห จุทฺทส ภตฺตานิ โหนฺติ.
อฏฺกถายํ ปน วิหารภตฺตํ, อฏฺกภตฺตํ, จตุกฺกภตฺตํ, คุฬฺหกภตฺตนฺติ อฺานิปิ จตฺตาริ ภตฺตานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ วิหารภตฺตํ นาม วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตํ, ตํ สงฺฆภตฺเตน คหิตํ. ตํ ปน ติสฺสมหาวิหารจิตฺตลปพฺพตาทีสุ ปฏิสมฺภิทาปตฺเตหิ ขีณาสเวหิ ยถา ปิณฺฑปาติกานมฺปิ สกฺกา ¶ โหติ ปริภฺุชิตุํ, ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตา ตาทิเสสุ าเนสุ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อฏฺนฺนํ ภิกฺขูนํ เทม, จตุนฺนํ เทมา’’ติ เอวํ ทินฺนํ ปน อฏฺกภตฺตฺเจว จตุกฺกภตฺตฺจ; ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ. มหาภิสงฺขาริเกน อติรสกปูเวน ปตฺตํ ปูเรตฺวา ถเกตฺวา ทินฺนํ คุฬฺหกภตฺตํ นาม. อิมานิ ตีณิ สลากภตฺตคติกาเนว.
อปรมฺปิ คุฬกภตฺตํ นาม อตฺถิ, อิเธกจฺเจ มนุสฺสา มหาธมฺมสวนฺจ วิหารปูชฺจ กาเรตฺวา สกลสงฺฆสฺส ทาตุํ น สกฺโกมาติ, ‘‘ทฺเว ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ ภิกฺขุปริจฺเฉทชานนตฺถํ คุฬเก เทนฺติ, อิทํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. อิติ จีวรกฺขนฺธเก จีวรภาชนียํ, อิมสฺมึ ปน เสนาสนกฺขนฺธเก เสนาสนภาชนียฺเจว ปิณฺฑปาตภาชนียฺจ วุตฺตํ.
คิลานปจฺจยภาชนียํ ปน เอวํ เวทิตพฺพํ – สปฺปิอาทีสุ เภสชฺเชสุ ราชราชมหามตฺตา สปฺปิสฺส ตาว กุมฺภสตมฺปิ กุมฺภสหสฺสมฺปิ วิหารํ เปเสนฺติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา เถราสนโต ปฏฺาย คหิตภาชนํ ปูเรตฺวา ทาตพฺพํ ¶ , ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ อลสชาติกา มหาเถรา ¶ ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.
‘‘อสุกวิหาเร พหุ สปฺปิ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตรวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิอุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสาวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห ปจฺฉา อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ. อุปจารสีมํ ปวิสิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ทินฺนํ โหติ, สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเนเยว ภาเชตพฺพํ.
ยสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู, ทเสว จ สปฺปิกุมฺภา ทิยฺยนฺติ, เอเกกกุมฺภวเสเนว ภาเชตพฺพํ. เอโก สปฺปิกุมฺโภ โหติ, ทส ภิกฺขูหิ ภาเชตฺวา ¶ คเหตพฺพํ. สเจ ยถาิตํเยว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุคฺคหิตํ; คตคตฏฺาเน สงฺฆิกเมว โหติ. กุมฺภํ ปน อาวชฺเชตฺวา ถาลเก โถกํ สปฺปึ กตฺวา ‘‘อิทํ มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ตมฺปิ กุมฺเภเยว อากิริตฺวา ยถิจฺฉิตํ คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ถินํ สปฺปิ โหติ, เลขํ กตฺวา ‘‘เลขโต ปรภาโค มหาเถรสฺส ปาปุณาติ, อวเสสํ อมฺหาก’’นฺติ คหิตมฺปิ สุคฺคหิตํ, วุตฺตปริจฺเฉทโต อูนาธิเกสุปิ ภิกฺขูสุ จ สปฺปิกุมฺเภสุ จ เอเตเนวุปาเยน ภาเชตพฺพํ.
สเจ ปเนโก ภิกฺขุ, เอโกปิ กุมฺโภ โหติ, ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ ¶ ปาปุณาตี’’ติปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อยํ ปมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ โถกํ โถกมฺปิ ปาเปตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย นวนีตาทีสุปิ. ยสฺมึ ปน วิปฺปสนฺเน ติลเตลาทิมฺหิ เลขา น สนฺติฏฺติ, ตํ อุทฺธริตฺวา ภาเชตพฺพํ. สิงฺคิเวรมริจาทิเภสชฺชมฺปิ อวเสสปตฺตถาลกาทิสมณปริกฺขาโรปิ สพฺโพ วุตฺตานุรูเปเนว นเยน สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา ภาเชตพฺโพติ.
ปาฬึ ¶ อฏฺกถฺเจว, โอโลเกตฺวา วิจกฺขโณ;
สงฺฆิเก ปจฺจเย เอวํ, อปฺปมตฺโตว ภาชเยติ.
อิติ สพฺพากาเรน ปจฺจยภาชนียกถา นิฏฺิตา.
สมฺมนฺนิตฺวา ปิตยาคุภาชกาทีหิ ภาชนียฏฺานํ อาคตมนุสฺสานํ อนาปุจฺฉิตฺวาว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตหิ ปน อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพ. สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนเกน ภิกฺขุนา จีวรกมฺมํ กโรนฺตสฺส ‘‘สูจึ เทหี’’ติ วทโต เอกา ทีฆา, เอกา รสฺสาติ ทฺเว สูจิโย ทาตพฺพา. ‘‘อวิภตฺตํ สงฺฆิกํ ภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ. ปิปฺผลกตฺถิกสฺส เอโก ปิปฺผลโก, อทฺธานกนฺตารํ ปฏิปชฺชิตุกามสฺส อุปาหนยุคฬํ, กายพนฺธนตฺถิกสฺส กายพนฺธนํ, ‘‘อํสพทฺธโก เม ชิณฺโณ’’ติ อาคตสฺส อํสพทฺธโก, ปริสฺสาวนตฺถิกสฺส ปริสฺสาวนํ ทาตพฺพํ. ธมฺมกรณตฺถิกสฺส ธมฺมกรโณ. สเจ ปฏโก น โหติ, ธมฺมกรโณ ปฏเกน สทฺธึ ทาตพฺโพ. ‘‘อาคนฺตุกปฏฺฏํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ยาจนฺตสฺส ¶ กุสิยา จ อฑฺฒกุสิยา จ ปโหนกํ ทาตพฺพํ. ‘‘มณฺฑลํ นปฺปโหตี’’ติ อาคตสฺส มณฺฑลํ เอกํ ทาตพฺพํ, อฑฺฒมณฺฑลานิ ทฺเว ทาตพฺพานิ. ทฺเว มณฺฑลานิ ยาจนฺตสฺส น ทาตพฺพานิ. อนุวาตปริภณฺฑตฺถิกสฺส ¶ เอกสฺส จีวรสฺส ปโหนกํ ทาตพฺพํ. สปฺปินวนีตาทิอตฺถิกสฺส คิลานสฺส เอกํ เภสชฺชํ นาฬิมตฺตํ กตฺวา ตโต ตติยโกฏฺาโส ทาตพฺโพ. เอวํ ตีณิ ทิวสานิ ทตฺวา นาฬิยา ปริปุณฺณาย จตุตฺถทิวสโต ปฏฺาย สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. คุฬปิณฺเฑปิ เอกทิวสํ ตติยภาโค ทาตพฺโพ. เอวํ ตีหิ ทิวเสหิ นิฏฺิเต ปิณฺเฑ ตโต ปรํ สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ปกฺขิกภตฺตาทิกถา นิฏฺิตา.
เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.