📜
๘. วตฺตกฺขนฺธกํ
อาคนฺตุกวตฺตกถา
๓๕๗. วตฺตกฺขนฺธเก ¶ ¶ อิทานิ อารามํ ปวิสิสฺสามีติ อิมินา อุปจารสีมสมีปํ ทสฺเสติ; ตสฺมา อุปจารสีมํ ปตฺวา อุปาหนาโอมฺุจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพํ. คเหตฺวาติ อุปาหนทณฺฑเกน ¶ คเหตฺวา. ปฏิกฺกมนฺตีติ สนฺนิปตนฺติ. วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ ปตฺถริตพฺพํ. โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘โคจรคาโม อาสนฺเน อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ อุทาหุ ทิวา’’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ. อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม; ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทิยฺยติ, โสปิ ปุจฺฉิตพฺโพ. ปานียํ ปุจฺฉิตพฺพนฺติ ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียํเยว ปิวนฺติ, นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ เอวํ ปานียฺเจว ปริโภชนียฺจ ปุจฺฉิตพฺพํ. เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพํ.
พหิ ิเตนาติ พหิ นิกฺขมนฺตสฺส อหิโน วา อมนุสฺสสฺส วา มคฺคํ ทตฺวา ิเตน นิลฺโลเกตพฺโพ. สเจ อุสฺสหติ โสเธตพฺโพติ ยทิ สกฺโกติ, สพฺโพ วิหาโร โสเธตพฺโพ. อสกฺโกนฺเตน อตฺตโน วสโนกาโส ชคฺคิตพฺโพ. สพฺพํ โสเธตุํ สกฺโกนฺตสฺส ปน ทสฺสิเต วิหารโสธนวตฺเต วินิจฺฉโย มหาขนฺธเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อาคนฺตุกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
อาวาสิกวตฺตกถา
๓๕๙. อาวาสิกวตฺเต ¶ – อาสนํ ปฺเปตพฺพนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ วุฑฺฒตเร อาคเต จีวรกมฺมํ วา นวกมฺมํ วา เปตฺวาปิ กาตพฺพํ. เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชนฺเตน สมฺมชฺชนึ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วตฺตํ กาตุํ อารภิตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ ¶ อาคนฺตุโก ‘‘สมฺมชฺชาหิ ตาว เจติยงฺคณ’’นฺติ วกฺขติ. คิลานเภสชฺชํ กโรนฺเตน ปน สเจ นาติอาตุโร คิลาโน โหติ, เภสชฺชํ อกตฺวา วตฺตเมว กาตพฺพํ. มหาคิลานสฺส ปน เภสชฺชเมว กาตพฺพํ. ปณฺฑิโต หิ อาคนฺตุโก ‘‘กโรหิ ตาว เภสชฺช’’นฺติ วกฺขติ. ปานีเยน ปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ ¶ , ‘‘ปุน อาเนมี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยว. อปิจ พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ สกึ สีเส พีชิตพฺพํ, ‘‘อลํ โหตู’’ติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ปุน ‘‘อล’’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา. ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, โธวิตฺวา สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา. อุปาหนาปฺุฉนํ ปน อตฺตโน รุจิวเสน กาตพฺพํ. เตเนว เหตฺถ ‘‘สเจ อุสฺสหตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา อุปาหนา อปฺุฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปปฺโผเฏตฺวา หิ ปตฺถริตุํ ปน วฏฺฏติเยว.
นวกสฺส วตฺเต – ปานียํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ ‘‘เอตํ ปานียํ คเหตฺวา ปิวาหี’’ติ อาจิกฺขิตพฺพํ. ปริโภชนีเยปิ เอเสว นโย. เสสํ ปุริมสทิสเมว. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลภติ.
อาวาสิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
คมิกวตฺตกถา
๓๖๐. คมิกวตฺเตสุ ทารุภณฺฑนฺติ เสนาสนกฺขนฺธเก วุตฺตํ มฺจปีาทิ. มตฺติกาภณฺฑมฺปิ รชนภาชนาทิ สพฺพํ ตตฺถ วุตฺตปฺปเภทเมว. ตํ สพฺพํ อคฺคิสาลาย วา อฺตรสฺมึ วา คุตฺตฏฺาเน ¶ ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพํ. อโนวสฺสเก ปพฺภาเรปิ เปตุํ วฏฺฏติ. เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ, ยตฺถ อุปจิกา นาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. จตูสุ ปาสาณเกสูติอาทิ อุปจิกานํ อุปฺปตฺติฏฺาเน ปณฺณสาลาทิเสนาสเน กตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อปฺเปว นาม องฺคานิปิ เสเสยฺยุนฺติ อยํ อชฺโฌกาเส ปิตมฺหิ อานิสํโส. โอวสฺสกเคเห ปน ติเณสุ จ ¶ มตฺติกาปิณฺเฑสุ จ อุปริ ปตนฺเตสุ มฺจปีานํ องฺคานิปิ วินสฺสนฺติ.
คมิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
อนุโมทนวตฺตกถา
๓๖๒. อนุโมทนวตฺถุสฺมึ ¶ อิทฺธํ อโหสีติ สมฺปนฺนํ อโหสิ. จตูหิ ปฺจหีติ สงฺฆตฺเถเรน อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ. ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘พหิคาเม อาคเมสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเกน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ มหาเถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ, มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ. วจฺจิโตติ สฺชาตวจฺโจ; วจฺจปีฬิโตติ อธิปฺปาโย.
อนุโมทนวตฺตกถา นิฏฺิตา.
ภตฺตคฺควตฺตกถา
๓๖๔. ภตฺตคฺควตฺเต ¶ ‘‘อนฺโตคาโม วา โหตุ วิหาโร วา, มนุสฺสานํ ปริเวสนฏฺานํ คจฺฉนฺเตน จีวรํ ปารุปิตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธนเมว วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถเร ภิกฺขู อติอลฺลียิตฺวา น นิสีทิตพฺพํ. สเจ มหาเถรสฺส นิสินฺนาสเนน สมกํ อาสนํ โหติ, พหูสุ อาสเนสุ สติ เอกํ ทฺเว อาสนานิ เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. ภิกฺขู คเณตฺวา ปฺตฺตาสเนสุ อนิสีทิตฺวา มหาเถเรน นิสีทาติ วุตฺเตน นิสีทิตพฺพํ. โน เจ มหาเถโร วทติ, ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อาสนํ อุจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสีทา’’ติ ¶ วุตฺเต นิสีทิตพฺพํ. สเจ ปน เอวํ อาปุจฺฉิเตปิ น วทติ, นิสีทนฺตสฺส อนาปตฺติ; มหาเถรสฺเสว อาปตฺติ. นวโก หิ เอวรูเป อาสเน อนาปุจฺฉา นิสีทนฺโต อาปชฺชติ, เถโร อาปุจฺฉิเต อนนุชานนฺโต. น สงฺฆาฏึ โอตฺถริตฺวาติ น สงฺฆาฏึ อวตฺถริตฺวา นิสีทิตพฺพํ.
อุโภหิ ¶ หตฺเถหีติ ปตฺตโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทกฺขิโณทกํ ปน ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา คเหตพฺพํ. สาธุกนฺติ อุทกสทฺทํ อกโรนฺเตน.
สูปสฺส โอกาโสติ ยถา สูปสฺส โอกาโส โหติ; เอวํ มตฺตาย โอทโน คณฺหิตพฺโพติ อตฺโถ. สมกํ สมฺปาเทหีติ อิทํ น เกวลํ สปฺปิอาทีสุเยว โอทเนปิ วตฺตพฺพํ. สปฺปิอาทีสุ ปน ยํ อปฺปํ โหติ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา อนุรูปกํ, ตํ สพฺเพสํ สมกํ สมฺปาเทหีติ วุตฺเต มนุสฺสานํ วิหสา โหติ, ตสฺมา ตาทิสํ สกึ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา คเหตฺวา เสสํ น คเหตพฺพํ.
น ตาว เถเรน ภฺุชิตพฺพนฺติ อิทํ ยํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ ภตฺตคฺคํ, ยตฺถ มนุสฺสา สพฺเพสํ ปาเปตฺวา ทาตุกามา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน มหาภตฺตคฺคํ โหติ, ยตฺถ เอกสฺมึ ปเทเส ภฺุชนฺติ, เอกสฺมึ ปเทเส อุทกํ ทิยฺยติ, ตตฺถ ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺพํ.
น ตาว อุทกนฺติ อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนฺตรา ปิปาสิเตน ปน คเล วิลคฺคามิเสน วา ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา น โธวิตพฺพา. สเจ มนุสฺสา ‘‘โธวถ ภนฺเต ปตฺตฺจ หตฺเถ จา’’ติ วทนฺติ, ภิกฺขู วา ‘‘ตุมฺเห อุทกํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ.
นิวตฺตนฺเตนาติ ¶ ภตฺตคฺคโต อุฏฺาย นิวตฺตนฺเตน สงฺเฆน เอวํ นิวตฺติตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กถํ? ‘‘นวเกหี’’ติ สพฺพํ ทฏฺพฺพํ. สมฺพาเธสุ หิ ฆเรสุ มหาเถรานํ นิกฺขมโนกาโส น โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. เอวํ นิวตฺตนฺเตหิ ปน นวเกหิ เคหทฺวาเร ตฺวา เถเรสุ นิกฺขนฺเตสุ ปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. สเจ ปน มหาเถรา ธุเร นิสินฺนา โหนฺติ, นวกา อนฺโตเคเห ¶ , เถราสนโต ปฏฺาย ปฏิปาฏิยา เอว นิกฺขมิตพฺพํ. กาเยน กายํ อฆฏฺเฏนฺเตน ยถา อนฺตเรน มนุสฺสา คนฺตุํ สกฺโกนฺติ, เอวํ วิรฬาย ปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ.
ภตฺตคฺควตฺตกถา นิฏฺิตา.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถา
๓๖๖. ปิณฺฑจาริกวตฺเต – กมฺมํ วา นิกฺขิปตีติ กปฺปาสํ วา สุปฺปํ วา มุสลํ วา ยํ คเหตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ, ิตา วา นิสินฺนา วา โหนฺติ, ตํ นิกฺขิปติ ¶ . น จ ภิกฺขาทายิกายาติ อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น อุลฺโลเกตพฺพํ.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
อารฺิกวตฺตกถา
๓๖๘. อารฺิกวตฺเต – เสนาสนา โอตริตพฺพนฺติ วสนฏฺานโต นิกฺขมิตพฺพํ.
ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวาติ เอตฺถ สเจ พหิคาเม อุทกํ นตฺถิ, อนฺโตคาเมเยว ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อถ พหิคาเม อตฺถิ, พหิคาเม ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ปตฺโต โธวิตฺวา โวทโก กตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตพฺโพ.
ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพนฺติ สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป อุทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อรณิสหิเต สติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ วฏฺฏติ ¶ . ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏติ. นกฺขตฺตาเนว นกฺขตฺตปทานิ.
อารฺิกวตฺตกถา นิฏฺิตา.
เสนาสนวตฺตกถา
๓๖๙. เสนาสนวตฺเต – ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, เสสานิ ปน อุทฺเทสทานาทีนิ อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺพานิ. เทวสิกมฺปิ อาปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ภนฺเต อาปุจฺฉิตเมว โหตู’’ติ วุตฺเต วุฑฺฒตโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, สยเมว วา ‘‘ตฺวํ ยถาสุขํ วิหราหี’’ติ วทติ; เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สภาคสฺส วิสฺสาเสนาปิ วฏฺฏติเยว. เยน วุฑฺโฒ เตน ปริวตฺติตพฺพนฺติ วุฑฺฒาภิมุเขน ปริวตฺติตพฺพํ. โภชนสาลาทีสุปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
เสนาสนวตฺตกถา นิฏฺิตา.
ชนฺตาฆรวตฺตาทิกถา
๓๗๑. ชนฺตาฆรวตฺเต ¶ – ปริภณฺฑนฺติ พหิชคติ.
๓๗๓. อาจมนวตฺถุสฺมึ ¶ – สติ อุทเกติ เอตฺถ สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ. ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘‘อิทํ อติวิวฏํ ปุรโต อฺํ อุทกํ ภวิสฺสตี’’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปฺุฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภฺุชิตุมฺปิ อนุโมทนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. อาคตปฏิปาฏิยาติ วจฺจกุฏิยํ ปสฺสาวฏฺาเน นฺหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณํ.
๓๗๔. วจฺจกุฏิวตฺเต – น ทนฺตกฏฺํ ขาทนฺเตนาติ อยํ วจฺจกุฏิยาปิ อวจฺจกุฏิยาปิ ¶ สพฺพตฺเถว ปฏิกฺเขโป. น ผรุเสน กฏฺเนาติ ผาลิตกฏฺเน วา ขเรน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา น อวเลขิตพฺพํ. อวเลขนกฏฺํ ปน อคฺคเหตฺวา ปวิฏฺสฺส อาปตฺติ นตฺถิ.
น อาจมนสราวเกติ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสาปิ วฏฺฏติเยว.
อูหตาติ อูหทิตา; พหิ วจฺจมกฺขิตาติ อตฺโถ. โธวิตพฺพาติ อุทกํ อาหริตฺวา โธวิตพฺพา. อุทกํ อตฺถิ, ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ. ภาชนํ อตฺถิ, อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ. อุภเย ปน อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปฺุฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ชนฺตาฆรวตฺตาทิกถา นิฏฺิตา.
วตฺตกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.