📜

๑๐. ภิกฺขุนิกฺขนฺธกํ

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถา

๔๐๒. ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก อลํ โคตมิ มา เต รุจฺจีติ กสฺมา ปฏิกฺขิปติ, นนุ สพฺเพสมฺปิ พุทฺธานํ จตสฺโส ปริสา โหนฺตีติ? กามํ โหนฺติ, กิลเมตฺวา ปน อเนกกฺขตฺตุํ ยาจิเตน อนุฺาตํ ปพฺพชฺชํ ‘‘ทุกฺเขน ลทฺธา อยํ อมฺเหหี’’ติ สมฺมา ปริปาเลสฺสนฺตีติ ภทฺทกํ กตฺวา อนุชานิตุกาโม ปฏิกฺขิปติ. อฏฺครุธมฺมกถา มหาวิภงฺเคเยว กถิตา.

๔๐๓. กุมฺภเถนเกหีติ กุมฺเภ ทีปํ ชาเลตฺวา เตน อาโลเกน ปรฆเร ภณฺฑํ วิจินิตฺวา เถนกโจเรหิ.

เสตฏฺิกา นาม โรคชาตีติ เอโก ปาณโก นาฬิมชฺฌคตํ กณฺฑํ วิชฺฌติ, เยน วิทฺธตฺตา นิกฺขนฺตมฺปิ สาลิสีสํ ขีรํ คเหตุํ น สกฺโกติ.

มฺชิฏฺิกา นาม โรคชาตีติ อุจฺฉูนํ อนฺโตรตฺตภาโว. มหโต ตฬากสฺส ปฏิกจฺเจว อาฬินฺติ อิมินา ปน เอตมตฺถํ ทสฺเสติ – ยถา มหโต ตฬากสฺส อาฬิยา อพทฺธายปิ กิฺจิ อุทกํ ติฏฺเยฺย, ปมเมว พทฺธาย ปน ยํ อพทฺธปจฺจยา น ติฏฺเยฺย, ตมฺปิ ติฏฺเยฺย; เอวเมว เย อิเม อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ปฏิกจฺเจว อวีติกฺกมนตฺถาย ครุธมฺมา ปฺตฺตา. เตสุ อปฺตฺเตสุปิ มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตา ปฺเจว วสฺสสตานิ สทฺธมฺโม ติฏฺเยฺย. ปฏิกจฺเจว ปฺตฺตตฺตา ปน อปรานิปิ ปฺจวสฺสสตานิ สฺสตีติ เอวํ ปมํ วุตฺตํ วสฺสสหสฺสเมว สฺสตีติ. วสฺสสหสฺสนฺติ เจตํ ปฏิสมฺภิทาปเภทปฺปตฺตขีณาสววเสเนว วุตฺตํ. ตโต ปน อุตฺตริมฺปิ สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสํ, อนาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, สกทาคามิวเสน วสฺสสหสฺสํ, โสตาปนฺนวเสน วสฺสสหสฺสนฺติ เอวํ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ ปฏิเวธสทฺธมฺโม สฺสติ. ปริยตฺติธมฺโมปิ ตานิเยว. น หิ ปริยตฺติยา อสติ ปฏิเวโธ อตฺถิ, นาปิ ปริยตฺติยา สติ ปฏิเวโธ น โหติ; ลิงฺคํ ปน ปริยตฺติยา อนฺตรหิตายปิ จิรํ ปวตฺติสฺสตีติ.

มหาปชาปติโคตมีวตฺถุกถา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา

๔๐๔. อนุชานามิ ภิกฺขเว ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนิโย อุปสมฺปาเทตุนฺติ อิมาย อนุปฺตฺติยา ภิกฺขู ปฺจสตา สากิยานิโย มหาปชาปติยา สทฺธิวิหารินิโย กตฺวา อุปสมฺปาเทสุํ. อิติ ตา สพฺพาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา นาม อเหสุํ. เย โข ตฺวํ โคตมีติ อิมินา โอวาเทน โคตมี อรหตฺตํ ปตฺตา.

๔๐๙. กมฺมํ น กรียตีติ ตชฺชนียาทิ สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ น กรียติ. ขมาเปนฺตีติ น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ ขมาเปนฺติ.

๔๑๐. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีนํ กมฺมํ โรเปตฺวา นิยฺยาเทตุนฺติ เอตฺถ ตชฺชนียาทีสุ ‘‘อิทํ นาม กมฺมํ เอติสฺสา กาตพฺพ’’นฺติ เอวํ โรเปตฺวา ‘‘ตํ ทานิ ตุมฺเหว กโรถา’’ติ นิยฺยาเทตพฺพํ. สเจ ปน อฺสฺมึ โรปิเต อฺํ กโรนฺติ, ‘‘ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน กาเรตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ.

๔๑๑. กทฺทโมทเกนาติ เอตฺถ น เกวลํ กทฺทโมทเกน, วิปฺปสนฺนอุทกรชนกทฺทมาทีสุปิ เยน เกนจิ โอสิฺจนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อวนฺทิโย โส ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพติ ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตฺวา ‘‘อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปสาทนียํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’’ติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา อวนฺทิโย กโต โหติ. ตโต ปฏฺาย ยถา สามเณเร ทิสฺวา น วนฺทนฺติ; เอวเมว ทิสฺวาปิ น วนฺทิตพฺโพ. เตน ภิกฺขุนา สมฺมา วตฺตนฺเตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อาคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกปุคฺคลํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ‘‘เอโส ภิกฺขุ ตุมฺเห ขมาเปตี’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย โส วนฺทิตพฺโพ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารํ ปน กมฺมวิภงฺเค วกฺขาม.

โอภาเสนฺตีติ อสทฺธมฺเมน โอภาเสนฺติ. ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺตีติ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ปุริเส อสทฺธมฺเมน สมฺปโยเชนฺติ. อวนฺทิยกรณํ วุตฺตนยเมว. อาวรณนฺติ วิหารปฺปเวสเน นิวารณํ . โอวาทํ เปตุนฺติ เอตฺถ น ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา เปตพฺโพ. โอวาทตฺถาย ปน อาคตา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา ‘‘อสุกา นาม ภิกฺขุนี สาปตฺติกา, ตสฺสา โอวาทํ เปมิ, มา ตาย สทฺธึ อุโปสถํ กริตฺถา’’ติ. กายวิวรณาทีสุปิ ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตนยเมว.

๔๑๓. น ภิกฺขเว ภิกฺขุนิยา โอวาโท น คนฺตพฺโพติอาทิ ภิกฺขุนิวิภงฺควณฺณนายํ วุตฺตเมว.

๔๑๖. ผาสุกา นเมนฺตีติ คิหิทาริกาโย วิย ฆนปฏฺฏเกน กายพนฺธเนน ผาสุกา นมนตฺถาย พนฺธนฺติ. เอกปริยากตนฺติ เอกวารํ ปริกฺขิปนกํ.

วิลีเวน ปฏฺเฏนาติ สณฺเหหิ เวฬุวิลีเวหิ กตปฏฺเฏน. ทุสฺสปฏฺเฏนาติ เสตวตฺถปฏฺเฏน. ทุสฺสเวณิยาติ ทุสฺเสน กตเวณิยา. ทุสฺสวฏฺฏิยาติ ทุสฺเสน กตวฏฺฏิยา. โจฬปฏฺฏาทีสุ โจฬกาสาวํ โจฬนฺติ เวทิตพฺพํ.

อฏฺิลฺเลนาติ โคชงฺฆฏฺิเกน. ชฆนนฺติ กฏิปฺปเทโส วุจฺจติ. หตฺถํ โกฏฺฏาเปนฺตีติ อคฺคพาหํ โกฏฺฏาเปตฺวา โมรปตฺตาทีหิ จิตฺตาลงฺการํ กโรนฺติ. หตฺถโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิหตฺถํ. ปาทนฺติ ชงฺฆํ. ปาทโกจฺฉนฺติ ปิฏฺิปาทํ.

๔๑๗. มุขลิมฺปนาทีนิ วุตฺตนยาเนว. อวงฺคํ กโรนฺตีติ อกฺขี อฺชนฺติโย อวงฺคเทเส อโธมุขํ เลขํ กโรนฺติ. วิเสสกนฺติ คณฺฑปฺปเทเส วิจิตฺรสณฺานํ วิเสสกํ กโรนฺติ. โอโลเกนฺตีติ วาตปานํ วิวริตฺวา วีถึ โอโลเกนฺติ. สาโลเก ติฏฺนฺตีติ ทฺวารํ วิวริตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทสฺเสนฺติโย ติฏฺนฺติ. นจฺจนฺติ นฏสมชฺชํ กาเรนฺติ. เวสึ วุฏฺาเปนฺตีติ คณิกํ วุฏฺาเปนฺติ. ปานาคารํ เปนฺตีติ สุรํ วิกฺกิณนฺติ. สูนํ เปนฺตีติ มํสํ วิกฺกิณนฺติ. อาปณนฺติ นานาภณฺฑานํ อเนกวิธํ อาปณํ ปสาเรนฺติ. ทาสํ อุปฏฺาเปนฺตีติ ทาสํ คเหตฺวา เตน อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ กาเรนฺติ. ทาสีอาทีสุปิ เอเสว นโย. หริตกปกฺกิกํปกิณนฺตีติ หริตกฺเจว ปกฺกฺจ ปกิณนฺติ; ปกิณฺณกาปณํ ปสาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๔๑๘. สพฺพนีลกาทิกถา กถิตาเยว.

๔๑๙. ภิกฺขุนี เจ, ภิกฺขเว, กาลํ กโรนฺตีติอาทีสุ อยํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – สเจ หิ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ โย โกจิ กาลํ กโรนฺโต ‘‘มมจฺจเยน มยฺหํ ปริกฺขาโร อุปชฺฌายสฺส โหตุ, อาจริยสฺส โหตุ, สทฺธิวิหาริกสฺส โหตุ, อนฺเตวาสิกสฺส โหตุ, มาตุ โหตุ, ปิตุ โหตุ, อฺสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ โหตู’’ติ วทติ เตสํ น โหติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. น หิ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อจฺจยทานํ รุหติ, คิหีนํ ปน รุหติ. ภิกฺขุ หิ ภิกฺขุนิวิหาเร กาลํ กโรติ, ตสฺส ปริกฺขาโร ภิกฺขูนํเยว โหติ. ภิกฺขุนี ภิกฺขุวิหาเร กาลํ กโรติ, ตสฺสา ปริกฺขาโร ภิกฺขุนีนํเยว โหติ.

๔๒๐. ปุราณมลฺลีติ ปุราเณ คิหิกาเล มลฺลกสฺส ภริยา. ปุริสพฺยฺชนนฺติ ปุริสนิมิตฺตํ, ฉินฺนํ วา โหตุ อจฺฉินฺนํ วา, ปฏิจฺฉนฺนํ วา อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วา. สเจ เอตสฺมึ าเน ปุริสพฺยฺชนนฺติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อุปนิชฺฌายติ, ทุกฺกฏํ.

๔๒๑. อตฺตโน ปริโภคตฺถาย ทินฺนํ นาม ยํ ‘‘ตุมฺเหเยว ปริภุฺชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนํ, ตํ อฺสฺส ททโต ทุกฺกฏํ. อคฺคํ คเหตฺวา ปน ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ อสปฺปายํ, สพฺพํ อปเนตุํ วฏฺฏติ. จีวรํ เอกาหํ วา ทฺวีหํ วา ปริภุฺชิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. ปตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.

ภิกฺขูนํสนฺนิธึ ภิกฺขุนีหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวาติ หิยฺโย ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตมํสํ อชฺช อฺสฺมึ อนุปสมฺปนฺเน อสติ ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ภิกฺขุนีหิ ปริภุฺชิตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปฏิคฺคหิตฺหิ ภิกฺขุนีนํ อปฺปฏิคฺคหิตกฏฺาเน ติฏฺติ, ภิกฺขุนีนํ ปฏิคฺคหิตมฺปิ ภิกฺขูสุ เอเสว นโย.

๔๒๖. อาสนํ สํกสายนฺติโย กาลํ วีตินาเมสุนฺติ อฺํ วุฏฺาเปตฺวา อฺํ นิสีทาเปนฺติโย โภชนกาลํ อติกฺกาเมสุํ.

อฏฺนฺนํภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒนฺติ เอตฺถ สเจ ปุเร อฏฺสุ นิสินฺนาสุ ตาสํ อพฺภนฺตริมา อฺา อาคจฺฉติ, สา อตฺตโน นวกํ อุฏฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ ลภติ. ยา ปน อฏฺหิปิ นวกตรา, สา สเจปิ สฏฺิวสฺสา โหติ, อาคตปฏิปาฏิยาว นิสีทิตุํ ลภติ. อฺตฺถ สพฺพตฺถ ยถาวุฑฺฒํ น ปฏิพาหิตพฺพนฺติ เปตฺวา ภตฺตคฺคํ อฺสฺมึ จตุปจฺจยภาชนียฏฺาเน ‘‘อหํ ปุพฺเพ อาคตา’’ติ วุฑฺฒํ ปฏิพาหิตฺวา กิฺจิ น คเหตพฺพํ; ยถาวุฑฺฒเมว วฏฺฏติ. ปวารณากถา กถิตาเยว.

๔๒๙. อิตฺถิยุตฺตนฺติอาทีหิ สพฺพยานานิ อนุฺาตานิ. ปาฏงฺกินฺติ ปฏโปฏฺฏลิกํ.

๔๓๐. ทูเตน อุปสมฺปทา ทสนฺนํ อนฺตรายานํ เยน เกนจิ วฏฺฏติ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนุปสฺสเย ิตา วา โหตุ นิปนฺนา วา ชาครา วา นิทฺทํ โอกฺกนฺตา วา, อุปสมฺปนฺนาว โหติ. ตาวเทว ฉายาทีนิ อาคตาย ทูตภิกฺขุนิยา อาจิกฺขิตพฺพานิ.

๔๓๑. อุโทสิโตติ ภณฺฑสาลา. น สมฺมตีติ นปฺปโหติ. อุปสฺสยนฺติ ฆรํ. นวกมฺมนฺติ สงฺฆสฺสตฺถาย ภิกฺขุนิยา นวกมฺมมฺปิ กาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.

๔๓๒. ตสฺสา ปพฺพชิตายาติ ตสฺสา ปพฺพชิตกาเล. ยาว โส ทารโก วิฺุตํ ปาปุณาตีติ ยาว ขาทิตุํ ภุฺชิตุํ นหายิตุฺจ มณฺฑิตุฺจ อตฺตโน ธมฺมตาย สกฺโกตีติ อตฺโถ.

เปตฺวาสาคารนฺติ สหคารเสยฺยมตฺตํ เปตฺวา. ยถา อฺสฺมึ ปุริเส; เอวํ ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา ตสฺมึ ทารเก ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. มาตา ปน นหาเปตุํ ปาเยตุํ โภเชตุํ มณฺเฑตุํ อุเร กตฺวา สยิตุฺจ ลภติ.

๔๓๔. ยเทว สา วิพฺภนฺตาติ ยสฺมา สา วิพฺภนฺตา อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา โอทาตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา, ตสฺมาเยว สา อภิกฺขุนี, น สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนาติ ทสฺเสติ. สา ปุน อุปสมฺปทํ น ลภติ.

สาอาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพาติ น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ. โอทาตานิ คเหตฺวา วิพฺภนฺตา ปน ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ.

อภิวาทนนฺติอาทีสุ ปุริสา ปาเท สมฺพาหนฺตา วนฺทนฺติ, เกเส ฉินฺทนฺติ, นเข ฉินฺทนฺติ, วณปฏิกมฺมํ กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ กุกฺกุจฺจายนฺตา น สาทิยนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺเรเก อาจริยา ‘‘สเจ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสุตา โหนฺติ สารตฺตา, ยถาวตฺถุกเมว’’. เอเก อาจริยา ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. เอวํ อาจริยวาทํ ทสฺเสตฺวา อิทํ โอทิสฺส อนุฺาตํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ ปมาณํ. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว สาทิตุ’’นฺติ หิ วจเนเนว ตํ กปฺปิยํ.

๔๓๕. ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺตีติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทนฺติ. อฑฺฒปลฺลงฺกนฺติ เอกํ ปาทํ อาภุชิตฺวา กตปลฺลงฺกํ. เหฏฺา วิวเฏ อุปริ ปฏิจฺฉนฺเนติ เอตฺถ สเจ กูโป ขโต โหติ, อุปริ ปน ปทรมตฺตเมว สพฺพทิสาสุ ปฺายติ, เอวรูเปปิ วฏฺฏติ.

๔๓๖. กุกฺกุสํ มตฺติกนฺติ กุณฺฑกฺเจว มตฺติกฺจ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนิกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.