📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
ปริวาร-อฏฺกถา
โสฬสมหาวาโร
ปฺตฺติวารวณฺณนา
วิสุทฺธปริวารสฺส ¶ ¶ ¶ , ปริวาโรติ สาสเน;
ธมฺมกฺขนฺธสรีรสฺส, ขนฺธกานํ อนนฺตรา.
สงฺคหํ โย สมารุฬฺโห, ตสฺส ปุพฺพาคตํ นยํ;
หิตฺวา ทานิ กริสฺสามิ, อนุตฺตานตฺถวณฺณนํ.
๑. ตตฺถ ¶ ยํ เตน ภควตา…เป… ปฺตฺตนฺติ อาทินยปฺปวตฺตาย ตาว ปุจฺฉาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย โส ภควา สาสนสฺส จิรฏฺิติกตฺถํ ธมฺมเสนาปตินา สทฺธมฺมคารวพหุมานเวคสมุสฺสิตํ อฺชลึ สิรสฺมึ ปติฏฺาเปตฺวา ยาจิโต ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจ วินยปฺตฺตึ ปฺเปสิ, เตน ภควตา ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺติกาลํ ชานตา, ตสฺสา ตสฺสา สิกฺขาปทปฺตฺติยา ทส อตฺถวเส ปสฺสตา; อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิ จาปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา จ ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย ¶ เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘ยํ ปมํ ปาราชิกํ ปฺตฺตํ, ตํ กตฺถ ปฺตฺตํ, กํ อารพฺภ ปฺตฺตํ, กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อตฺถิ ตตฺถ ปฺตฺติ…เป… เกนาภต’’นฺติ.
๒. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน ¶ ปน ‘‘ยํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปมํ ปาราชิก’’นฺติ อิทํ เกวลํ ปุจฺฉาย อาคตสฺส อาทิปทสฺส ปจฺจุทฺธรณมตฺตเมว, ‘‘กตฺถ ปฺตฺตนฺติ เวสาลิยา ปฺตฺตํ; กํ อารพฺภาติ สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ เอวมาทินา ปน นเยน ปุนปิ เอตฺถ เอเกกํ ปทํ ปุจฺฉิตฺวาว วิสฺสชฺชิตํ. เอกา ปฺตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อยํ เอกา ปฺตฺติ. ทฺเว อนุปฺตฺติโยติ ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’’ติ จ, ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขายา’’ติ จ มกฺกฏิวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนํ วเสน วุตฺตา – อิมา ทฺเว อนุปฺตฺติโย. เอตฺตาวตา ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ปฺตฺติ อนุปฺตฺติ อนุปฺปนฺนปฺตฺตี’’ติ อิมิสฺสา ปุจฺฉาย ทฺเว โกฏฺาสา วิสฺสชฺชิตา โหนฺติ. ตติยํ วิสฺสชฺเชตุํ ปน ‘‘อนุปฺปนฺนปฺตฺติ ตสฺมึ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. อยฺหิ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ นาม อนุปฺปนฺเน โทเส ปฺตฺตา; สา อฏฺครุธมฺมวเสน ภิกฺขุนีนํเยว อาคตา, อฺตฺร นตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนุปฺปนฺนปฺตฺติ ตสฺมึ นตฺถี’’ติ. สพฺพตฺถปฺตฺตีติ มชฺฌิมเทเส เจว ปจฺจนฺติมชนปเทสุ จ สพฺพตฺถปฺตฺติ. วินยธรปฺจเมน คเณน ‘‘อุปสมฺปทา, คุณงฺคุณูปาหนา, ธุวนหานํ, จมฺมตฺถรณ’’นฺติ อิมานิ หิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ มชฺฌิมเทเสเยว ปฺตฺติ. เอตฺเถว เอเตหิ อาปตฺติ โหติ, น ปจฺจนฺติมชนปเทสุ. เสสานิ สพฺพาเนว สพฺพตฺถปฺตฺติ นาม.
สาธารณปฺตฺตีติ ¶ ภิกฺขูนฺเจว ภิกฺขุนีนฺจ สาธารณปฺตฺติ; สุทฺธภิกฺขูนเมว หิ สุทฺธภิกฺขุนีนํ วา ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ อสาธารณปฺตฺติ นาม โหติ. อิทํ ปน ภิกฺขุํ อารพฺภ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา’’ติ ภิกฺขุนีนมฺปิ ¶ ปฺตฺตํ, วินีตกถามตฺตเมว หิ ตาสํ นตฺถิ, สิกฺขาปทํ ปน อตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘‘สาธารณปฺตฺตี’’ติ. อุภโตปฺตฺติยมฺปิ เอเสว นโย. พฺยฺชนมตฺตเมว หิ เอตฺถ นานํ, ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนมฺปิ สาธารณตฺตา สาธารณปฺตฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปฺตฺตตฺตา อุภโตปฺตฺตีติ. อตฺเถ ปน เภโท นตฺถิ.
นิทาโนคธนฺติ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอตฺถ สพฺพาปตฺตีนํ อนุปวิฏฺตฺตา นิทาโนคธํ; นิทาเน อนุปวิฏฺนฺติ อตฺโถ. ทุติเยน อุทฺเทเสนาติ นิทาโนคธํ นิทานปริยาปนฺนมฺปิ สมานํ ‘‘ตตฺริเม จตฺตาโร ¶ ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทินา ทุติเยเนว อุทฺเทเสน อุทฺเทสํ อาคจฺฉติ. จตุนฺนํ วิปตฺตีนนฺติ สีลวิปตฺติอาทีนํ. ปมา หิ ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา สีลวิปตฺติ นาม, อวเสสา ปฺจ อาจารวิปตฺติ นาม. มิจฺฉาทิฏฺิ จ อนฺตคฺคาหิกทิฏฺิ จ ทิฏฺิวิปตฺติ นาม, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานิ อาชีววิปตฺติ นาม. อิติ อิมาสํ จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ อิทํ ปาราชิกํ สีลวิปตฺติ นาม โหติ.
เอเกน สมุฏฺาเนนาติ ทฺวงฺคิเกน เอเกน สมุฏฺาเนน. เอตฺถ หิ จิตฺตํ องฺคํ โหติ, กาเยน ปน อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘กายโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาตี’’ติ. ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมตีติ ‘‘อาปนฺโนสี’’ติ สมฺมุขา ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม อาปนฺโนมฺหี’’ติ ปฏิชานาติ, ตาวเทว ภณฺฑนกลหวิคฺคหา วูปสนฺตา โหนฺติ, สกฺกา จ โหติ ตํ ปุคฺคลํ อปเนตฺวา อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตุํ. อิติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ, น จ ตปฺปจฺจยา โกจิ อุปทฺทโว โหติ. ยํ ปน อุปริ ปฺตฺติวคฺเค ‘‘น กตเมน สมเถน สมฺมตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมถํ โอตาเรตฺวา อนาปตฺติ กาตุํ น สกฺกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ปฺตฺติ วินโยติ ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วุตฺตมาติกา ปฺตฺติ วินโยติ อตฺโถ. วิภตฺตีติ ปทภาชนํ วุจฺจติ; วิภตฺตีติ หิ วิภงฺคสฺเสเวตํ นามํ. อสํวโรติ ¶ วีติกฺกโม. สํวโรติ อวีติกฺกโม. เยสํ วตฺตตีติ เยสํ วินยปิฏกฺจ อฏฺกถา จ สพฺพา ปคุณาติ อตฺโถ. เต ธาเรนฺตีติ เต เอตํ ปมปาราชิกํ ¶ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ ธาเรนฺติ; น หิ สกฺกา สพฺพํ วินยปิฏกํ อชานนฺเตน เอตสฺส อตฺโถ ชานิตุนฺติ. เกนาภตนฺติ อิทํ ปมปาราชิกํ ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ ยาว อชฺชตนกาลํ เกน อานีตนฺติ. ปรมฺปราภตนฺติ ปรมฺปราย อานีตํ.
๓. อิทานิ ยาย ปรมฺปราย อานีตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปาลิ ทาสโก เจวา’’ติอาทินา นเยน โปราณเกหิ มหาเถเรหิ คาถาโย ปิตา ¶ . ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ นิทานวณฺณนายเมว วุตฺตํ. อิมินา นเยน ทุติยปาราชิกาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
มหาวิภงฺเค ปฺตฺติวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กตาปตฺติวาราทิวณฺณนา
๑๕๗. อิโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติ อาทิปฺปเภโท กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ อาทิปฺปเภโท สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติ อาทิปฺปเภโท อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ อาทิปฺปเภโท สมถวาโร, ตทนนฺตโร สมุจฺจยวาโร จาติ อิเม สตฺต วารา อุตฺตานตฺถา เอว.
๑๘๘. ตโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา นเยน ปุน ปจฺจยวเสน เอโก ปฺตฺติวาโร, ตสฺส วเสน ปุริมสทิสา เอว กตาปตฺติวาราทโย สตฺต วาราติ เอวํ อปเรปิ อฏฺ วารา วุตฺตา, เตปิ อุตฺตานตฺถา เอว. อิติ อิเม อฏฺ, ปุริมา อฏฺาติ มหาวิภงฺเค โสฬส วารา ทสฺสิตา. ตโต ปรํ เตเนว นเยน ภิกฺขุนิวิภงฺเคปิ ¶ โสฬส วารา อาคตาติ เอวมิเม อุภโตวิภงฺเค ทฺวตฺตึส วารา ปาฬินเยเนว ¶ เวทิตพฺพา. น เหตฺถ กิฺจิ ปุพฺเพ อวินิจฺฉิตํ นาม อตฺถิ.
มหาวิภงฺเค จ ภิกฺขุนิวิภงฺเค จ
โสฬสมหาวารวณฺณนา นิฏฺิตา.