📜

อุปาลิปฺจกํ

อนิสฺสิตวคฺควณฺณนา

๔๑๗. อุปาลิปฺเหสุ กติหิ นุ โข ภนฺเตติ ปุจฺฉาย อยํ สมฺพนฺโธ. เถโร กิร รโหคโต สพฺพานิ อิมานิ ปฺจกานิ อาวชฺเชตฺวา ‘‘ภควนฺตํ ทานิ ปุจฺฉิตฺวา อิเมสํ นิสฺสาย วสนกาทีนํ อตฺถาย ตนฺตึ เปสฺสามี’’ติ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กติหิ นุ โข ภนฺเต’’ติอาทินา นเยน ปฺเห ปุจฺฉิ. เตสํ วิสฺสชฺชเน อุโปสถํ น ชานาตีติ นววิธํ อุโปสถํ น ชานาติ. อุโปสถกมฺมํ น ชานาตีติ อธมฺเมนวคฺคาทิเภทํ จตุพฺพิธํ อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ. ปาติโมกฺขํ น ชานาตีติ ทฺเว มาติกา น ชานาติ. ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาตีติ ภิกฺขูนํ ปฺจวิธํ ภิกฺขุนีนํ จตุพฺพิธนฺติ นววิธํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ.

ปวารณํ น ชานาตีติ นววิธํ ปวารณํ น ชานาติ. ปวารณากมฺมํ น ชานาตีติ อธมฺเมนวคฺคาทิเภทํ จตุพฺพิธํ ปวารณากมฺมํ น ชานาติ.

อาปตฺตานาปตฺตึ น ชานาตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ น ชานาติ.

อาปนฺโน กมฺมกโตติ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตปฺปจฺจยาว สงฺเฆน กมฺมํ กตํ โหติ.

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺควณฺณนา

๔๒๐. กมฺมํนปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพนฺติ อยํ ยสฺมา อนุโลมวตฺเต น วตฺตติ, ตสฺมา นาสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ; สรชฺชุโกว วิสฺสชฺเชตพฺโพติ อตฺโถ.

๔๒๑. สเจ อุปาลิ สงฺโฆ สมคฺคกรณียานิ กมฺมานิ กโรตีติ สเจ สมคฺเคหิ กรณียานิ อุโปสถาทีนิ กมฺมานิ กโรติ, อุโปสถปวารณาทีสุ หิ ิตาสุ อุปตฺถมฺโภ น ทาตพฺโพ. สเจ หิ สงฺโฆ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา สงฺฆสามคฺคึ กโรติ, ติณวตฺถารกสมถํ วา กตฺวา อุโปสถปวารณํ กโรติ , เอวรูปํ สมคฺคกรณียํ นาม กมฺมํ โหติ. ตตฺร เจติ สเจ ตาทิเส กมฺเม ภิกฺขุโน นกฺขมติ, ทิฏฺาวิกมฺมมฺปิ กตฺวา ตถารูปา สามคฺคี อุเปตพฺพา, เอวํ วิโลมคฺคาโห น คณฺหิตพฺโพ. ยตฺร ปน อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ ทีเปนฺติ, ตตฺถ ทิฏฺาวิกมฺมํ น วฏฺฏติ, ปฏิพาหิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ.

อุสฺสิตมนฺตี จาติ โลภโทสโมหมานุสฺสนฺนํ วาจํ ภาสิตา กณฺหวาโจ อนตฺถกทีปโน. นิสฺสิตชปฺปีติ อตฺตโน ธมฺมตาย อุสฺสทยุตฺตํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ; อถ โข ‘‘มยา สทฺธึ ราชา เอวํ กเถสิ, อสุกมหามตฺโต เอวํ กเถสิ, อสุโก นาม มยฺหํ อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา เตปิฏโก มยา สทฺธึ เอวํ กเถสี’’ติ เอวํ อฺํ นิสฺสาย ชปฺปติ. น จ ภาสานุสนฺธิกุสโลติ กถานุสนฺธิวจเน จ วินิจฺฉยานุสนฺธิวจเน จ อกุสโล โหติ. น ยถาธมฺเม ยถาวินเยติ น ภูเตน วตฺถุนา อาปตฺตึ สาเรตฺวา โจเทตา โหติ.

อุสฺสาเทตา โหตีติ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย มหาเตปิฏโก ปรมธมฺมกถิโก’’ติอาทินา นเยน เอกจฺจํ อุสฺสาเทติ. ทุติยปเท ‘‘อาปตฺตึ กึ โส น ชานาตี’’ติอาทินา เอกจฺจํ อปสาเทติ. อธมฺมํ คณฺหาตีติ อนิยฺยานิกปกฺขํ คณฺหาติ. ธมฺมํ ปฏิพาหตีติ นิยฺยานิกปกฺขํ ปฏิพาหติ. สมฺผฺจ พหุํ ภาสตีติ พหุํ นิรตฺถกกถํ กเถติ.

ปสยฺห ปวตฺตา โหตีติ อนชฺฌิฏฺโ ภาเร อนาโรปิเต เกวลํ มานํ นิสฺสาย อชฺโฌตฺถริตฺวา อนธิกาเร กเถตา โหติ. อโนกาสกมฺมํ กาเรตฺวาติ โอกาสกมฺมํ อกาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ. น ยถาทิฏฺิยา พฺยากตา โหตีติ ยสฺส อตฺตโน ทิฏฺิ ตํ ปุรกฺขตฺวา น พฺยากตา ; ลทฺธึ นิกฺขิปิตฺวา อยถาภุจฺจํ อธมฺมาทีสุ ธมฺมาทิลทฺธิโก หุตฺวา กเถตา โหตีติ อตฺโถ.

โวหารวคฺควณฺณนา

๔๒๔. อาปตฺติยา ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ กายปฺปโยคา, อยํ วจีปโยคา’’ติ น ชานาติ. อาปตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ เทสนาย วูปสมติ, อยํ วุฏฺาเนน, อยํ เนว เทสนาย น วุฏฺาเนนา’’ติ น ชานาติ. อาปตฺติยา น วินิจฺฉยกุสโลโหตีติ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อยํ อาปตฺตี’’ติ น ชานาติ, โทสานุรูปํ อาปตฺตึ อุทฺธริตฺวา ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกติ.

อธิกรณสมุฏฺานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย สมุฏฺาติ, อิทํ จตสฺโส วิปตฺติโย, อิทํ ปฺจ วา สตฺต วา อาปตฺติกฺขนฺเธ, อิทํ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสาย สมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวาทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ จุทฺทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ ฉมูลปโยคํ, อิทํ เอกมูลปโยค’’นฺติ น ชานาติ. อธิกรณานฺหิ ยถาสกํมูลเมว ปโยคา นาม โหนฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ น ชานาตีติ อตฺโถ. วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ วูปสมติ, อิทํ ตีหิ, อิทํ จตูหิ, อิทํ เอเกน สมเถน วูปสมตี’’ติ น ชานาติ. น วินิจฺฉยกุสโล โหตีติ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตฺวา สมถํ ปาเปตุํ น ชานาติ.

กมฺมํ น ชานาตีติ ตชฺชนียาทิ สตฺตวิธํ กมฺมํ น ชานาติ. กมฺมสฺส กรณํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ กมฺมํ อิมินา นีหาเรน กาตพฺพ’’นฺติ น ชานาติ. กมฺมสฺส วตฺถุํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ ตชฺชนียสฺส วตฺถุ, อิทํ นิยสฺสาทีน’’นฺติ น ชานาติ. วตฺตนฺติ สตฺตสุ กมฺเมสุ เหฏฺา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฏฺารสวิธํ ติวิธสฺส จ อุกฺเขปนียกมฺมสฺส เตจตฺตาลีสวิธํ วตฺตํ น ชานาติ. กมฺมสฺส วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘โย ภิกฺขุ วตฺเต วตฺติตฺวา ยาจติ, ตสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ, อจฺจโย เทสาเปตพฺโพ’’ติ น ชานาติ.

วตฺถุํ น ชานาตีติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วตฺถุํ น ชานาติ. นิทานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ อิมสฺมึ นคเร ปฺตฺตํ, อิทํ อิมสฺมิ’’นฺติ น ชานาติ. ปฺตฺตึ น ชานาตีติ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอนุปฺปนฺนปฺตฺติวเสน ติวิธํ ปฺตฺตึ น ชานาติ. ปทปจฺจาภฏฺํ น ชานาตีติ สมฺมุขา กาตพฺพํ ปทํ น ชานาติ. ‘‘พุทฺโธ ภควา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา พุทฺโธ’’ติ เหฏฺุปริยํ กตฺวา ปทํ โยเชติ.

อกุสโล จ โหติ วินเยติ วินยปาฬิยฺจ อฏฺกถายฺจ อกุสโล โหติ.

ตฺตึ น ชานาตีติ สงฺเขปโต หิ ทุวิธา ตฺติ – ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ เอวํ นิทฺทิฏฺา จ อนิทฺทิฏฺา จ. ตตฺถ ยา เอวํ อนิทฺทิฏฺา, สา ‘‘กมฺมตฺติ’’ นาม โหติ. ยา นิทฺทิฏฺา, สา ‘‘กมฺมปาทตฺติ’’ นาม, ตํ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ชานาติ. ตฺติยากรณํ น ชานาตีติ นวสุ าเนสุ กมฺมตฺติยา กรณํ น ชานาติ, ทฺวีสุ าเนสุ กมฺมปาทตฺติยา. ตฺติยา อนุสฺสาวนนฺติ ‘‘อิมิสฺสา ตฺติยา เอกา อนุสฺสาวนา, อิมิสฺสา ติสฺโส’’ติ น ชานาติ. ตฺติยา สมถํ น ชานาตีติ ยฺวายํ สติวินโย, อมูฬฺหวินโย, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโกติ จตุพฺพิโธ สมโถ ตฺติยา วินา น โหติ, ตํ ตฺติยา สมโถติ น ชานาติ. ตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ยํ อธิกรณํ อิมินา จตุพฺพิเธน ตฺติสมเถน วูปสมติ, ตสฺส ตํ วูปสมํ ‘‘อยํ ตฺติยา วูปสโม กโต’’ติ น ชานาติ.

สุตฺตํ น ชานาตีติ อุภโตวิภงฺคํ น ชานาติ. สุตฺตานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารํ น ชานาติ. วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเสเยว น ชานาติ. น จ านาานกุสโลติ การณาการณกุสโล น โหติ.

ธมฺมํ น ชานาตีติ เปตฺวา วินยปิฏกํ อวเสสํ ปิฏกทฺวยํ น ชานาติ. ธมฺมานุโลมํ น ชานาตีติ สุตฺตนฺติเก จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารเมว น ชานาติ. วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติ. อุภโตวิภงฺคา ปเนตฺถ อสงฺคหิตา โหนฺติ, ตสฺมายํ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ – ‘‘วินยนฺติ สกลํ วินยปิฏกํ น ชานาตี’’ติ ตํ น คเหตพฺพํ. น จ ปุพฺพาปรกุสโล โหตีติ ปุเรกถาย จ ปจฺฉากถาย จ อกุสโล โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เยฺยตฺตา ปุพฺเพ ปกาสิตตฺตา จ อุตฺตานเมวาติ.

อนิสฺสิตวคฺคนปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺคโวหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทิฏฺาวิกมฺมวคฺควณฺณนา

๔๒๕. ทิฏฺาวิกมฺมวคฺเค – ทิฏฺาวิกมฺมาติ ทิฏฺีนํ อาวิกมฺมานิ; ลทฺธิปฺปกาสนานิ อาปตฺติเทสนาสงฺขาตานํ วินยกมฺมานเมตํ อธิวจนํ. อนาปตฺติยา ทิฏฺึ อาวิ กโรตีติ อนาปตฺติเมว อาปตฺตีติ เทเสตีติ อตฺโถ . อเทสนาคามินิยาติ ครุกาปตฺติยา ทิฏฺึ อาวิกโรติ; สงฺฆาทิเสสฺจ ปาราชิกฺจ เทเสตีติ อตฺโถ. เทสิตายาติ ลหุกาปตฺติยาปิ เทสิตาย ทิฏฺึ อาวิกโรติ; เทสิตํ ปุน เทเสตีติ อตฺโถ.

จตูหิ ปฺจหิ ทิฏฺินฺติ ยถา จตูหิ ปฺจหิ ทิฏฺิ อาวิกตา โหติ, เอวํ อาวิกโรติ; จตฺตาโร ปฺจ ชนา เอกโต อาปตฺตึ เทเสนฺตีติ อตฺโถ. มโนมานเสนาติ มนสงฺขาเตน มานเสน ทิฏฺึ อาวิกโรติ; วจีเภทํ อกตฺวา จิตฺเตเนว อาปตฺตึ เทเสตีติ อตฺโถ.

นานาสํวาสกสฺสาติ ลทฺธินานาสํวาสกสฺส วา กมฺมนานาสํวาสกสฺส วา สนฺติเก ทิฏฺึ อาวิกโรติ; อาปตฺตึ เทเสตีติ อตฺโถ. นานาสีมายาติ สมานสํวาสกสฺสาปิ นานาสีมาย ิตสฺส สนฺติเก อาวิกโรติ. มาฬกสีมาย หิ ิเตน สีมนฺตริกาย ิตสฺส สีมนฺตริกาย วา ิเตน อวิปฺปวาสสีมาย ิตสฺสาปิ อาปตฺตึ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. อปกตตฺตสฺสาติ อุกฺขิตฺตกสฺส วา, ยสฺส วา อุโปสถปวารณา ปิตา โหนฺติ, ตสฺส สนฺติเก เทเสตีติ อตฺโถ.

๔๓๐. นาลํ โอกาสกมฺมํ กาตุนฺติ น ปริยตฺตํ กาตุํ; น กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิธาปิ อปกตตฺโต อุกฺขิตฺตโก จ ปิตอุโปสถปวารโณ จ. จาวนาธิปฺปาโยติ สาสนโต จาเวตุกาโม.

๔๓๒. มนฺทตฺตาโมมูหตฺตาติ มนฺทภาเวน โมมูหภาเวน วิสฺสชฺชิตมฺปิ ชานิตุํ อสมตฺโถ, เกวลํ อตฺตโน โมมูหภาวํ ปกาเสนฺโตเยว ปุจฺฉติ อุมฺมตฺตโก วิย. ปาปิจฺโฉติ ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ ปาปิกาย อิจฺฉาย ปุจฺฉติ. ปริภวาติ ปริภวํ อาโรเปตุกาโม หุตฺวา ปุจฺฉติ. อฺพฺยากรเณสุปิ เอเสว นโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ. อตฺตาทานวคฺเค จ ธุตงฺควคฺเค จ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ทิฏฺาวิกมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มุสาวาทวคฺควณฺณนา

๔๔๔. มุสาวาทวคฺเค – ปาราชิกํ คจฺฉตีติ ปาราชิกคามี; ปาราชิกาปตฺติภาวํ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อสนฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนมุสาวาโท ปาราชิกคามี, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนมุสาวาโท สงฺฆาทิเสสคามี, ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทินา ปริยาเยน ชานนฺตสฺส วุตฺตมุสาวาโท ถุลฺลจฺจยคามี, อชานนฺตสฺส ทุกฺกฏคามี, ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ อาคโต ปาจิตฺติยคามีติ เวทิตพฺโพ.

อทสฺสเนนาติ วินยธรสฺส อทสฺสเนน. กปฺปิยากปฺปิเยสุ หิ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ทิสฺวา กปฺปิยากปฺปิยภาวํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา อกปฺปิยํ ปหาย กปฺปิยํ กเรยฺย, ตํ อปสฺสนฺโต ปน อกปฺปิยมฺปิ กปฺปิยนฺติ กโรนฺโต อาปชฺชติ. เอวํ อาปชฺชิตพฺพํ อาปตฺตึ วินยธรสฺส ทสฺสเนน นาปชฺชติ, อทสฺสเนเนว อาปชฺชติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อทสฺสเนนา’’ติ. อสฺสวเนนาติ เอกวิหาเรปิ วสนฺโต ปน วินยธรสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ อปุจฺฉิตฺวา วา อฺเสฺจ วุจฺจมานํ อสุณนฺโต อาปชฺชติเยว, เตน วุตฺตํ ‘‘อสฺสวเนนา’’ติ. ปสุตฺตกตาติ ปสุตฺตกตาย. สหคารเสยฺยฺหิ ปสุตฺตกภาเวนปิ อาปชฺชติ. อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาย อาปชฺชนฺโต ปน ตถาสฺี อาปชฺชติ. สติสมฺโมสา เอกรตฺตาติกฺกมาทิวเสน อาปชฺชิตพฺพํ อาปชฺชติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

มุสาวาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุโนวาทวคฺควณฺณนา

๔๕๐. ภิกฺขุนิวคฺเค อลาภายาติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อลาภตฺถาย; ยถา ปจฺจเย น ลภนฺติ, ตถา ปริสกฺกติ วายมตีติ อตฺโถ. อนตฺถายาติ อนตฺถํ กลิสาสนํ อาโรเปนฺโต ปริสกฺกติ. อวาสายาติ อวาสตฺถาย; ยสฺมึ คามเขตฺเต วสนฺติ, ตโต นีหรณตฺถาย. สมฺปโยเชตีติ อสทฺธมฺมปฏิเสวนตฺถาย สมฺปโยเชติ.

๔๕๑. ‘‘กติหิ นุ โข ภนฺเต องฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ อฺตรํ สนฺธาย ปุจฺฉติ.

๔๕๔. น สากจฺฉาตพฺโพติ กปฺปิยากปฺปิยนามรูปปริจฺเฉทสมถวิปสฺสนาทิเภโท กถามคฺโค น กเถตพฺโพ. ยสฺมา ปน ขีณาสโว ภิกฺขุ น วิสํวาเทติ, ตถารูปสฺส กถามคฺคสฺส สามี หุตฺวา กเถติ, น อิตโร; ตสฺมา ปมปฺจเก ‘‘น อเสกฺเขนา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทุติยปฺจเก ‘‘อเสกฺเขนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

น อตฺถปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ อฏฺกถาย ปฏิสมฺภิทาปตฺโต ปเภทคตาณปฺปตฺโต น โหติ. น ธมฺมปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ ปาฬิธมฺเม ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. น นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ โวหารนิรุตฺติยํ ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. น ปฏิภานปฏิสมฺภิทาปตฺโตติ ยานิ ตานิ ปฏิภานสงฺขาตานิ อตฺถปฏิสมฺภิทาทีนิ าณานิ, เตสุ ปฏิสมฺภิทาปตฺโต น โหติ. ยถาวิมุตฺตํจิตฺตํ น ปจฺจเวกฺขิตาติ จตุนฺนํ ผลวิมุตฺตีนํ วเสน ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ เอกูนวีสติเภทาย ปจฺจเวกฺขณาย น ปจฺจเวกฺขิตา โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ภิกฺขุโนวาทวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา

๔๕๕. อุพฺพาหิกวคฺเค – น อตฺถกุสโลติ น อฏฺกถากุสโล; อตฺถุทฺธาเร เฉโก น โหติ. น ธมฺมกุสโลติ อาจริยมุขโต อนุคฺคหิตตฺตา ปาฬิยํ น กุสโล, น ปาฬิสูโร. นิรุตฺติกุสโลติ ภาสนฺตรโวหาเร น กุสโล. น พฺยฺชนกุสโลติ สิถิลธนิตาทิวเสน ปริมณฺฑลพฺยฺชนาโรปเน กุสโล น โหติ; น อกฺขรปริจฺเฉเท นิปุโณติ อตฺโถ. น ปุพฺพาปรกุสโลติ อตฺถปุพฺพาปเร ธมฺมปุพฺพาปเร นิรุตฺติปุพฺพาปเร พฺยฺชนปุพฺพาปเร ปุเรกถาปจฺฉากถาสุ จ น กุสโล โหติ.

โกธโนติอาทีนิ ยสฺมา โกธาทีหิ อภิภูโต การณาการณํ น ชานาติ, วินิจฺฉิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา วุตฺตานิ. ปสาเรตา โหติโน สาเรตาติ โมเหตา โหติ, น สติอุปฺปาเทตา; โจทกจุทิตกานํ กถํ โมเหติ ปิทหติ น สาเรตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุพฺพาหิกวคฺเค อุตฺตานเมวาติ.

อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อธิกรณวูปสมวคฺควณฺณนา

๔๕๗. อธิกรณวูปสมวคฺเค – ปุคฺคลครุ โหตีติ ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย, อยํ เม อาจริโย’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา ตสฺส ชยํ อากงฺขมาโน ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติ ทีเปติ. สงฺฆครุ โหตีติ ธมฺมฺจ วินยฺจ อมุฺจิตฺวา วินิจฺฉินนฺโต สงฺฆครุโก นาม โหติ. จีวราทีนิ คเหตฺวา วินิจฺฉินนฺโต อามิสครุโก นาม โหติ, ตานิ อคฺคเหตฺวา ยถาธมฺมํ วินิจฺฉินนฺโต สทฺธมฺมครุโก นาม โหติ.

๔๕๘. ปฺจหุปาลิ อากาเรหีติ ปฺจหิ การเณหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ – กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนาติ. เอตฺถ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อฺตเรน อุทฺเทเสน. โวหรนฺโตติ กถยนฺโต; ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต . อนุสฺสาวเนนาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวฺจ, มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ ยุตฺตํ, กึ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนมิว สีตโล, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.

เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. อฏฺารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเต ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรเก วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. อิติ ยํ สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนายํ อโวจุมฺหา ‘‘เอวํ อฏฺารสสุ วตฺถูสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ วตฺถุํ ทีเปตฺวา เตน เตน การเณน ‘อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ สฺาเปตฺวา สลากํ คาเหตฺวา วิสุํ สงฺฆกมฺเม กเต สงฺโฆ ภินฺโน โหติ. ปริวาเร ปน ‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชตี’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺส อิมินา อิธ วุตฺเตน สงฺฆเภทลกฺขเณน อตฺถโต นานากรณํ นตฺถิ. ตํ ปนสฺส นานากรณาภาวํ ตตฺเถว ปกาสยิสฺสามา’’ติ, สฺวายํ ปกาสิโต โหติ.

ปฺตฺเตตนฺติ ปฺตฺตํ เอตํ. กฺว ปฺตฺตํ? วตฺตกฺขนฺธเก. ตตฺร หิ จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ปฺตฺตานิ. เตนาห – ‘‘ปฺตฺเตตํ, อุปาลิ, มยา อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนํ อาคนฺตุกวตฺต’’นฺติอาทิ. เอวมฺปิ โข อุปาลิ สงฺฆราชิ โหติ, โน จ สงฺฆเภโทติ เอตฺตาวตา หิ สงฺฆราชิมตฺตเมว โหติ, น ตาว สงฺฆเภโท; อนุปุพฺเพน ปน อยํ สงฺฆราชิ วฑฺฒมานา สงฺฆเภทาย สํวตฺตตีติ อตฺโถ. ยถารตฺตนฺติ รตฺติปริมาณานุรูปํ; ยถาเถรนฺติ อตฺโถ. อาเวนิภาวํ กริตฺวาติ วิสุํ ววตฺถานํ กริตฺวา. กมฺมากมฺมานิ กโรนฺตีติ อปราปรํ สงฺฆกมฺมํ อุปาทาย ขุทฺทกานิ เจว มหนฺตานิ จ กมฺมานิ กโรนฺติ. เสสเมตฺถาปิ อธิกรณวูปสมวคฺเค อุตฺตานเมว.

สงฺฆเภทกวคฺคทฺวยวณฺณนา

๔๕๙. สงฺฆเภทวคฺคทฺวเย วินิธาย ทิฏฺึ กมฺเมนาติ เตสุ อธมฺมาทีสุ อธมฺมาทโย เอเตติ เอวํทิฏฺิโกว หุตฺวา ตํ ทิฏฺึ วินิธาย เต ธมฺมาทิวเสน ทีเปตฺวา วิสุํ กมฺมํ กโรติ. อิติ ยํ วินิธาย ทิฏฺึ กมฺมํ กโรติ, เตน เอวํ กเตน วินิธาย ทิฏฺึ กมฺเมน สทฺธึ ปฺจงฺคานิ โหนฺติ, ‘‘อิเมหิ โข อุปาลิ ปฺจหงฺเคหี’’ติ อยเมกสฺมึ ปฺจเก อตฺถโยชนา . เอเตน นเยน สพฺพปฺจกานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถาปิ จ โวหาราทิ องฺคตฺตยํ ปุพฺพภาควเสเนว วุตฺตํ. กมฺมุทฺเทสวเสน ปน อเตกิจฺฉตา เวทิตพฺพา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. น เหตฺถ กิฺจิ อตฺถิ ยํ ปุพฺเพ อวุตฺตนยํ.

อาวาสิกวคฺควณฺณนา

๔๖๑. อาวาสิกวคฺเค ยถาภตํ นิกฺขิตฺโตติ ยถา อาหริตฺวา ปิโต.

๔๖๒. วินยพฺยากรณาติ วินยปฺเห วิสฺสชฺชนา. ปริณาเมตีติ นิยาเมติ ทีเปติ กเถติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

กถินตฺถารวคฺควณฺณนา

๔๖๗. กถินตฺถารวคฺเค – โอตมสิโกติ อนฺธการคโต; ตฺหิ วนฺทนฺตสฺส มฺจปาทาทีสุปิ นลาฏํ ปฏิหฺเยฺย. อสมนฺนาหรนฺโตติ กิจฺจยปสุตตฺตา วนฺทนํ อสมนฺนาหรนฺโต. สุตฺโตติ นิทฺทํ โอกฺกนฺโต. เอกาวตฺโตติ เอกโต อาวตฺโต สปตฺตปกฺเข ิโต เวรี วิสภาคปุคฺคโล วุจฺจติ; อยํ อวนฺทิโย. อยฺหิ วนฺทิยมาโน ปาเทนปิ ปหเรยฺย. อฺวิหิโตติ อฺํ จินฺตยมาโน.

ขาทนฺโตติ ปิฏฺขชฺชกาทีนิ ขาทนฺโต. อุจฺจารฺจ ปสฺสาวฺจ กโรนฺโต อโนกาสคตตฺตา อวนฺทิโย. อุกฺขิตฺตโกติ ติวิเธนปิ อุกฺเขปนียกมฺเมน อุกฺขิตฺตโก อวนฺทิโย. ตชฺชนียาทิกมฺมกตา ปน จตฺตาโร วนฺทิตพฺพา. อุโปสถปวารณาปิ เตหิ สทฺธึ ลพฺภนฺติ. อาทิโต ปฏฺาย จ วุตฺเตสุ อวนฺทิเยสุ นคฺคฺจ อุกฺขิตฺตกฺจ วนฺทนฺตสฺเสว อาปตฺติ. อิตเรสํ ปน อสารุปฺปฏฺเน จ อนฺตรา วุตฺตการเณน จ วนฺทนา ปฏิกฺขิตฺตา. อิโต ปรํ ปจฺฉาอุปสมฺปนฺนาทโย ทสปิ อาปตฺติวตฺถุภาเวเนว อวนฺทิยา. เต วนฺทนฺตสฺส หิ นิยเมเนว อาปตฺติ. อิติ อิเมสุ ปฺจสุ ปฺจเกสุ เตรส ชเน วนฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ทฺวาทสนฺนํ วนฺทนาย อาปตฺติ.

๔๖๘. อาจริโยวนฺทิโยติ ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย นิสฺสยาจริโย อุทฺเทสาจริโย โอวาทาจริโยติ อยํ ปฺจวิโธปิ อาจริโย วนฺทิโย. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

กถินตฺถารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ อุปาลิปฺจกวณฺณนา.