📜

อปรทุติยคาถาสงฺคณิกํ

(๑) กายิกาทิอาปตฺติวณฺณนา

๔๗๔. ‘‘กติ อาปตฺติโย กายิกา’’ติอาทิคาถานํ วิสฺสชฺชเน ฉ อาปตฺติโย กายิกาติ อนฺตรเปยฺยาเล จตุตฺเถน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาปตฺติโย. กายทฺวาเร สมุฏฺิตตฺตา หิ เอตา กายิกาติ วุจฺจนฺติ. ฉ วาจสิกาติ ตสฺมึเยว อนฺตรเปยฺยาเล ปฺจเมน อาปตฺติสมุฏฺาเนน ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชติ, ‘‘ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต’’ติอาทินา นเยน วุตฺตาปตฺติโย. ฉาเทนฺตสฺส ติสฺโสติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ภิกฺขุนิยา ปาราชิกํ, ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสสปฏิจฺฉาทเน ปาจิตฺติยํ, อตฺตโน ทุฏฺุลฺลาปตฺติปฏิจฺฉาทเน ทุกฺกฏํ. ปฺจ สํสคฺคปจฺจยาติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค ปาราชิกํ, ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสโส, กาเยน กายปฏิพทฺเธ ถุลฺลจฺจยํ, นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺเธ ทุกฺกฏํ, องฺคุลิปโตทเก ปาจิตฺติยนฺติ อิมา กายสํสคฺคปจฺจยา ปฺจาปตฺติโย.

อรุณุคฺเค ติสฺโสติ เอกรตฺตฉารตฺตสตฺตาหทสาหมาสาติกฺกมวเสน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนิยา รตฺติวิปฺปวาเส สงฺฆาทิเสโส, ‘‘ปมมฺปิ ยามํ ฉาเทติ, ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ยามํ ฉาเทติ, อุทฺธสฺเต อรุเณ ฉนฺนา โหติ อาปตฺติ, โย ฉาเทติ โส ทุกฺกฏํ เทสาเปตพฺโพ’’ติ อิมา อรุณุคฺเค ติสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชติ. ทฺเว ยาวตติยกาติ เอกาทส ยาวตติยกา นาม, ปฺตฺติวเสน ปน ทฺเว โหนฺติ ภิกฺขูนํ ยาวตติยกา ภิกฺขุนีนํ ยาวตติยกาติ. เอเกตฺถ อฏฺวตฺถุกาติ ภิกฺขุนีนํเยว เอกา เอตฺถ อิมสฺมึ สาสเน อฏฺวตฺถุกา นาม. เอเกน สพฺพสงฺคโหติ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ อิมินา เอเกน นิทานุทฺเทเสน สพฺพสิกฺขาปทานฺจ สพฺพปาติโมกฺขุทฺเทสานฺจ สงฺคโห โหติ.

วินยสฺส ทฺเว มูลานีติ กาโย เจว วาจา จ. ครุกา ทฺเว วุตฺตาติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสา . ทฺเว ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนาติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย ปาราชิกํ สงฺฆาทิเสสํ ปฏิจฺฉาทกสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อิมา ทฺเว ทุฏฺุลฺลจฺฉาทนาปตฺติโย นาม.

คามนฺตเร จตสฺโสติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหติ, ทุกฺกฏํ; อฺสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมติ, ปาจิตฺติยํ; ภิกฺขุนิยา คามนฺตรํ คจฺฉนฺติยา ปริกฺขิตฺเต คาเม ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส; อปริกฺขิตฺตสฺส ปมปาเท อุปจาโรกฺกมเน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิมา คามนฺตเร ทุกฺกฏปาจิตฺติยถุลฺลจฺจยสงฺฆอาทิเสสวเสน จตสฺโส อาปตฺติโย. จตสฺโส นทิปารปจฺจยาติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหติ, ทุกฺกฏํ; นาวํ อภิรุหติ, ปาจิตฺติยํ; ภิกฺขุนิยา นทิปารํ คจฺฉนฺติยา อุตฺตรณกาเล ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิมา จตสฺโส. เอกมํเส ถุลฺลจฺจยนฺติ มนุสฺสมํเส. นวมํเสสุ ทุกฺกฏนฺติ เสสอกปฺปิยมํเสสุ.

ทฺเว วาจสิกา รตฺตินฺติ ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร อปฺปทีเป ปุริเสน สทฺธึ หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ , ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิตา สลฺลปติ, ทุกฺกฏํ. ทฺเว วาจสิกา ทิวาติ ภิกฺขุนี ทิวา ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส ปุริเสน สทฺธึ หตฺถปาเส ิตา สลฺลปติ, ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา สลฺลปติ, ทุกฺกฏํ. ททมานสฺส ติสฺโสติ มรณาธิปฺปาโย มนุสฺสสฺส วิสํ เทติ, โส เจ เตน มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปตานํ เทติ, เต เจ มรนฺติ, ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคตสฺส เทติ, โส เจ มรติ, ปาจิตฺติยํ; อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรทาเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ททมานสฺส ติสฺโส อาปตฺติโย. จตฺตาโร จ ปฏิคฺคเหติ หตฺถคฺคาห-เวณิคฺคาเหสุ สงฺฆาทิเสโส, มุเขน องฺคชาตคฺคหเณ ปาราชิกํ, อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรปฏิคฺคหเณ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อวสฺสุตาย อวสฺสุตสฺส หตฺถโต ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิคฺคณฺหนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ; เอวํ ปฏิคฺคเห จตฺตาโร อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.

(๒) เทสนาคามินิยาทิวณฺณนา

๔๗๕. ปฺจ เทสนาคามินิโยติ ลหุกา ปฺจ. ฉ สปฺปฏิกมฺมาติ ปาราชิกํ เปตฺวา อวเสสา. เอเกตฺถ อปฺปฏิกมฺมาติ เอกา ปาราชิกาปตฺติ.

วินยครุกาทฺเว วุตฺตาติ ปาราชิกฺเจว สงฺฆาทิเสสฺจ. กายวาจสิกานิ จาติ สพฺพาเนว สิกฺขาปทานิ กายวาจสิกานิ, มโนทฺวาเร ปฺตฺตํ เอกสิกฺขาปทมฺปิ นตฺถิ. เอโก วิกาเล ธฺรโสติ โลณโสวีรกํ. อยเมว หิ เอโก ธฺรโส วิกาเล วฏฺฏติ. เอกา ตฺติจตุตฺเถน สมฺมุตีติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ. อยเมว หิ เอกา ตฺติจตุตฺถกมฺเมน สมฺมุติ อนุฺาตา.

ปาราชิกา กายิกา ทฺเวติ ภิกฺขูนํ เมถุนปาราชิกํ ภิกฺขุนีนฺจ กายสํสคฺคปาราชิกํ. ทฺเว สํวาสภูมิโยติ อตฺตนา วา อตฺตานํ สมานสํวาสกํ กโรติ, สมคฺโค วา สงฺโฆ อุกฺขิตฺตํ โอสาเรติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สมานสํวาสกภูมิ จ นานาสํวาสกภูมิ จา’’ติ เอวํ ทฺเว สํวาสภูมิโย วุตฺตา. ทฺวินฺนํ รตฺติจฺเฉโทติ ปาริวาสิกสฺส จ มานตฺตจาริกสฺส จ ปฺตฺตา. ทฺวงฺคุลา ทุเวติ ทฺเว ทฺวงฺคุลปฺตฺติโย, ‘‘ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพ’’นฺติ อยเมกา, ‘‘ทฺวงฺคุลํ วา ทฺเวมาสํ วา’’ติ อยเมกา.

ทฺเว อตฺตานํ วธิตฺวานาติ ภิกฺขุนี อตฺตานํ วธิตฺวา ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ; วธติ โรทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส; วธติ น โรทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทฺวีหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ กมฺเมน จ สลากคฺคาเหน จ. ทฺเวตฺถปมาปตฺติกาติ เอตฺถ สกเลปิ วินเย ทฺเว ปมาปตฺติกา อุภินฺนํ ปฺตฺติวเสน. อิตรถา ปน นว ภิกฺขูนํ นว ภิกฺขุนีนนฺติ อฏฺารส โหนฺติ. ตฺติยา กรณา ทุเวติ ทฺเว ตฺติกิจฺจานิ – กมฺมฺจ กมฺมปาทกา จ. นวสุ าเนสุ กมฺมํ โหติ, ทฺวีสุ กมฺมปาทภาเวน ติฏฺติ.

ปาณาติปาเต ติสฺโสติ ‘‘อโนทิสฺส โอปาตํ ขณติ, สเจ มนุสฺโส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปตานํ มรเณ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคตสฺส มรเณ ปาจิตฺติย’’นฺติ อิมา ติสฺโส โหนฺติ. วาจา ปาราชิกา ตโยติ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาย อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย อฏฺวตฺถุกายาติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อาณตฺติยา อทินฺนาทาเน, มนุสฺสมรเณ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมอุลฺลปเน จา’’ติ เอวํ ตโย วุตฺตา. โอภาสนา ตโยติ วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภาสเน สงฺฆาทิเสโส, วจฺจมคฺคํ ปสฺสาวมคฺคํ เปตฺวา อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ถุลฺลจฺจยํ, อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาวณฺณภณเน ทุกฺกฏํ. สฺจริตฺเตน วา ตโยติ ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ , อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส; ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส; ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อิเม สฺจริตฺเตน การณภูเตน ตโย อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.

ตโย ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพาติ อทฺธานหีโน องฺคหีโน วตฺถุวิปนฺโน จ เตสํ นานากรณํ วุตฺตเมว. อปิเจตฺถ โย ปตฺตจีวเรน อปริปูโร, ปริปูโร จ น ยาจติ, อิเมปิ องฺคหีเนเนว สงฺคหิตา. มาตุฆาตกาทโย จ กรณทุกฺกฏกา ปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกติรจฺฉานคตสงฺขาเตน วตฺถุวิปนฺเนเนว สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. เอส นโย กุรุนฺทิยํ วุตฺโต. ตโย กมฺมานํ สงฺคหาติ ตฺติกปฺปนา, วิปฺปกตปจฺจตฺตํ, อตีตกรณนฺติ. ตตฺถ ‘‘ทเทยฺย กเรยฺยา’’ติอาทิเภทา ตฺติกปฺปนา; ‘‘เทติ กโรตี’’ติอาทิเภทํ วิปฺปกตปจฺจตฺตํ; ‘‘ทินฺนํ กต’’นฺติอาทิเภทํ อตีตกรณํ นามาติ อิเมหิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติ. อปเรหิปิ ตีหิ กมฺมานิ สงฺคยฺหนฺติ – วตฺถุนา, ตฺติยา, อนุสฺสาวนายาติ. วตฺถุสมฺปนฺนฺหิ ตฺติสมฺปนฺนํ อนุสฺสาวนสมฺปนฺนฺจ กมฺมํ นาม โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตโย กมฺมานํ สงฺคหา’’ติ. นาสิตกา ตโย นาม เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถ, ทูสโก นาเสตพฺโพ, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สามเณโร นาเสตพฺโพ, กณฺฏกํ สมณุทฺเทสํ นาเสถาติ เอวํ ลิงฺคสํวาสทณฺฑกมฺมนาสนาวเสน ตโย นาสิตกา เวทิตพฺพา. ติณฺณนฺนํ เอกวาจิกาติ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุ’’นฺติ วจนโต ติณฺณํ ชนานํ เอกุปชฺฌาเยน นานาจริเยน เอกานุสฺสาวนา วฏฺฏติ.

อทินฺนาทาเน ติสฺโสติ ปาเท วา อติเรกปาเท วา ปาราชิกํ, อติเรกมาสเก ถุลฺลจฺจยํ, มาสเก วา อูนมาสเก วา ทุกฺกฏํ. จตสฺโส เมถุนปจฺจยาติ อกฺขยิเต ปาราชิกํ, เยภุยฺเยน ขยิเต ถุลฺลจฺจยํ, วิวฏกเต มุเข ทุกฺกฏํ, ชตุมฏฺเก ปาจิตฺติยํ. ฉินฺทนฺตสฺส ติสฺโสติ วนปฺปตึ ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ภูตคาเม ปาจิตฺติยํ, องฺคชาเต ถุลฺลจฺจยํ. ปฺจ ฉฑฺฑิตปจฺจยาติ อโนทิสฺส วิสํ ฉฑฺเฑติ, สเจ เตน มนุสฺโส มรติ, ปาราชิกํ; ยกฺขเปเตสุ ถุลฺลจฺจยํ; ติรจฺฉานคเต ปาจิตฺติยํ; วิสฺสฏฺิฉฑฺฑเน สงฺฆาทิเสโส; เสขิเยสุ หริเต อุจฺจารปสฺสาวฉฑฺฑเน ทุกฺกฏํ – อิมา ฉฑฺฑิตปจฺจยา ปฺจาปตฺติโย โหนฺติ.

ปาจิตฺติเยนทุกฺกฏา กตาติ ภิกฺขุโนวาทกวคฺคสฺมึ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏา กตา เอวาติ อตฺโถ. จตุเรตฺถ นวกา วุตฺตาติ ปมสิกฺขาปทมฺหิเยว อธมฺมกมฺเม ทฺเว, ธมฺมกมฺเม ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร นวกา วุตฺตาติ อตฺโถ. ทฺวินฺนํ จีวเรน จาติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ เทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย เทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ทฺวินฺนํ ภิกฺขุนีนํ จีวรํ เทนฺตสฺส จีวเรน การณภูเตน อาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ.

อฏฺ ปาฏิเทสนียาติ ปาฬิยํ อาคตา เอว. ภุฺชนฺตามกธฺเน ปาจิตฺติเยน ทุกฺกฏา กตาติ อามกธฺํ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติยา ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏา กตาเยว.

คจฺฉนฺตสฺส จตสฺโสติ ภิกฺขุนิยา วา มาตุคาเมน วา สทฺธึ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, คามูปจาโรกฺกมเน ปาจิตฺติยํ, ยา ภิกฺขุนี เอกา คามนฺตรํ คจฺฉติ, ตสฺสา คามูปจารํ โอกฺกมนฺติยา ปมปาเท ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยปาเท สงฺฆาทิเสโสติ คจฺฉนฺตสฺส อิมา จตสฺโส อาปตฺติโย โหนฺติ. ิตสฺส จาปิ ตตฺตกาติ ิตสฺสปิ จตสฺโส เอวาติ อตฺโถ. กถํ? ภิกฺขุนี อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส มิตฺตสนฺถววเสน ปุริสสฺส หตฺถปาเส ติฏฺติ, ปาจิตฺติยํ; หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ติฏฺติ, ทุกฺกฏํ; อรุณุคฺคมนกาเล ทุติยิกาย หตฺถปาสํ วิชหนฺตี ติฏฺติ, ถุลฺลจฺจยํ; วิชหิตฺวา ติฏฺติ, สงฺฆาทิเสโสติ นิสินฺนสฺส จตสฺโส อาปตฺติโย. นิปนฺนสฺสาปิ ตตฺตกาติ สเจปิ หิ สา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา, เอตาเยว จตสฺโส อาปตฺติโย อาปชฺชติ.

(๓) ปาจิตฺติยวณฺณนา

๔๗๖. ปฺจ ปาจิตฺติยานีติ ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา นานาภาชเนสุ วา เอกภาชเน วา อมิสฺเสตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, สตฺตาหาติกฺกเม โส ภิกฺขุ ปฺจ ปาจิตฺติยานิ สพฺพานิ นานาวตฺถุกานิ เอกกฺขเณ อาปชฺชติ, ‘‘อิมํ ปมํ อาปนฺโน, อิมํ ปจฺฉา’’ติ น วตฺตพฺโพ.

นว ปาจิตฺติยานีติ โย ภิกฺขุ นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา เตหิ สทฺธึ เอกโต เอกํ กพฬํ โอมทฺทิตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา ปรคฬํ อติกฺกาเมติ, อยํ นว ปาจิตฺติยานิ สพฺพานิ นานาวตฺถุกานิ เอกกฺขเณ อาปชฺชติ ‘‘อิมํ ปมํ อาปนฺโน, อิมํ ปจฺฉา’’ติ น วตฺตพฺโพ. เอกวาจาย เทเสยฺยาติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมตฺวา ปฺจ อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ เอกวาจาย เทเสยฺย, เทสิตาว โหนฺติ, ทฺวีหิ ตีหิ วาจาหิ กิจฺจํ นาม นตฺถิ. ทุติยวิสฺสชฺชเนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชิตฺวา นว อาปตฺติโย อาปนฺโน, ตา ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ.

วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา เทเสยฺยาติ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกาเมสึ, ยถาวตฺถุกํ ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา เทเสยฺย, เทสิตาว โหนฺติ อาปตฺติโย, อาปตฺติยา นามคฺคหเณน กิจฺจํ นตฺถิ. ทุติยวิสฺสชฺชเนปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, นว ปณีตโภชนานิ วิฺาเปตฺวา ภุตฺโต, ยถาวตฺถุกํ ตํ ตุมฺหมูเล ปฏิเทเสมี’’ติ วตฺตพฺพํ.

ยาวตติยเก ติสฺโสติ อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ปาราชิกํ เภทกานุวตฺตกานํ โกกาลิกาทีนํ สงฺฆาทิเสสํ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค จณฺฑกาฬิกาย จ ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยนฺติ อิมา ยาวตติยกา ติสฺโส อาปตฺติโย. ฉ โวหารปจฺจยาติ ปยุตฺตวาจาปจฺจยา ฉ อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ อตฺโถ. กถํ? อาชีวเหตุ อาชีวการณา ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา โย เต วิหาเร วสติ โส อรหาติ วทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุ ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา ภิกฺขุนี ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ปาฏิเทสนียสฺส. อาชีวเหตุ อาชีวการณา สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา ภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

ขาทนฺตสฺส ติสฺโสติ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, อวเสเสสุ อกปฺปิยมํเสสุ ทุกฺกฏํ, ภิกฺขุนิยา ลสุเณ ปาจิตฺติยํ. ปฺจ โภชนปจฺจยาติ อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต โภชนํ คเหตฺวา ตตฺเถว มนุสฺสมํสํ ลสุณํ อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวา คหิตปณีตโภชนานิ อวเสสฺจ อกปฺปิยมํสํ ปกฺขิปิตฺวา โวมิสฺสกํ โอมทฺทิตฺวา อชฺโฌหรมานา สงฺฆาทิเสสํ, ถุลฺลจฺจยํ, ปาจิตฺติยํ, ปาฏิเทสนียํ, ทุกฺกฏนฺติ อิมา ปฺจ อาปตฺติโย โภชนปจฺจยา อาปชฺชติ.

ปฺจ านานีติ ‘‘อุกฺขิตฺตานุวตฺติกาย ภิกฺขุนิยา ยาวตติยํ สมนุภาสนาย อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺติยา ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยํ, กมฺมวาจาปริโยสาเน อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนาทีสุ สงฺฆาทิเสโส, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํ สพฺพา ยาวตติยกา ปฺจ านานิ คจฺฉนฺติ. ปฺจนฺนฺเจว อาปตฺตีติ อาปตฺติ นาม ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ โหติ, ตตฺถ ทฺวินฺนํ นิปฺปริยาเยน อาปตฺติเยว, สิกฺขามานสามเณริสามเณรานํ ปน อกปฺปิยตฺตา น วฏฺฏติ. อิมินา ปริยาเยน เตสํ อาปตฺติ น เทสาเปตพฺพา, ทณฺฑกมฺมํ ปน เตสํ กาตพฺพํ. ปฺจนฺนํ อธิกรเณน จาติ อธิกรณฺจ ปฺจนฺนเมวาติ อตฺโถ. เอเตสํเยว หิ ปฺจนฺนํ ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย วินิจฺฉยโวหาโร อธิกรณนฺติ วุจฺจติ, คิหีนํ ปน อฑฺฑกมฺมํ นาม โหติ.

ปฺจนฺนํ วินิจฺฉโย โหตีติ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํเยว วินิจฺฉโย นาม โหติ. ปฺจนฺนํ วูปสเมน จาติ เอเตสํเยว ปฺจนฺนํ อธิกรณํ วินิจฺฉิตํ วูปสนฺตํ นาม โหตีติ อตฺโถ. ปฺจนฺนฺเจว อนาปตฺตีติ เอเตสํเยว ปฺจนฺนํ อนาปตฺติ นาม โหตีติ อตฺโถ. ตีหิ าเนหิ โสภตีติ สงฺฆาทีหิ ตีหิ การเณหิ โสภติ. กตวีติกฺกโม หิ ปุคฺคโล สปฺปฏิกมฺมํ อาปตฺตึ สงฺฆมชฺเฌ คณมชฺเฌ ปุคฺคลสนฺติเก วา ปฏิกริตฺวา อพฺภุณฺหสีโล ปากติโก โหติ, ตสฺมา ตีหิ าเนหิ โสภตีติ วุจฺจติ.

ทฺเว กายิกา รตฺตินฺติ ภิกฺขุนี รตฺตนฺธกาเร ปุริสสฺส หตฺถปาเส านนิสชฺชสยนานิ กปฺปยมานา ปาจิตฺติยํ, หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา านาทีนิ กปฺปยมานา ทุกฺกฏนฺติ ทฺเว กายทฺวารสมฺภวา อาปตฺติโย รตฺตึ อาปชฺชติ. ทฺเว กายิกา ทิวาติ เอเตเนว อุปาเยน ทิวา ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ. นิชฺฌายนฺตสฺส เอกา อาปตฺตีติ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สารตฺเตน มาตุคามสฺส องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายิตพฺพํ . โย อุปนิชฺฌาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) นิชฺฌายนฺตสฺส อยเมกา อาปตฺติ. เอกา ปิณฺฑปาตปจฺจยาติ ‘‘น จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขาทายิกาย มุขํ โอโลเกตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๖) เอตฺถ ทุกฺกฏาปตฺติ, อนฺตมโส ยาคุํ วา พฺยฺชนํ วา เทนฺตสฺส สามเณรสฺสาปิ หิ มุขํ อุลฺโลกยโต ทุกฺกฏเมว. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เอกา ปิณฺฑปาตปจฺจยาติ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.

อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสนฺติ โกสมฺพกกฺขนฺธเก วุตฺตานิสํเส. อุกฺขิตฺตกา ตโย วุตฺตาติ อาปตฺติยา อทสฺสเน อปฺปฏิกมฺเม ปาปิกาย จ ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเคติ. เตจตฺตาลีส สมฺมาวตฺตนาติ เตสํเยว อุกฺขิตฺตกานํ เอตฺตเกสุ วตฺเตสุ วตฺตนา.

ปฺจาเน มุสาวาโทติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏสงฺขาเต ปฺจฏฺาเน มุสาวาโท คจฺฉติ. จุทฺทส ปรมนฺติ วุจฺจตีติ ทสาหปรมาทินเยน เหฏฺา วุตฺตํ. ทฺวาทส ปาฏิเทสนียาติ ภิกฺขูนํ จตฺตาริ ภิกฺขุนีนํ อฏฺ. จตุนฺนํ เทสนาย จาติ จตุนฺนํ อจฺจยเทสนายาติ อตฺโถ. กตมา ปน สาติ? เทวทตฺเตน ปโยชิตานํ อภิมารานํ อจฺจยเทสนา, อนุรุทฺธตฺเถรสฺส อุปฏฺายิกาย อจฺจยเทสนา, วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน อจฺจยเทสนา, วาสภคามิยตฺเถรสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ ภิกฺขูนํ อจฺจยเทสนาติ อยํ จตุนฺนํ อจฺจยเทสนา นาม.

อฏฺงฺคิโก มุสาวาโทติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาทึ กตฺวา ‘‘วินิธาย สฺ’’นฺติ ปริโยสาเนหิ (ปาจิ. ๔-๕; ปริ. ๔๕๙) อฏฺหิ องฺเคหิ อฏฺงฺคิโก. อุโปสถงฺคานิปิ ปาณํ น หเนติอาทินา นเยน วุตฺตาเนว. อฏฺ ทูเตยฺยงฺคานีติ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ สาเวตา จา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๔๗) นเยน สงฺฆเภทเก วุตฺตานิ. อฏฺ ติตฺถิยวตฺตานิ มหาขนฺธเก วุตฺตานิ.

อฏฺวาจิกา อุปสมฺปทาติ ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ ปจฺจุฏฺาตพฺพนฺติ ภตฺตคฺเค อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ อิตราหิ ปจฺจุฏฺาย อาสนํ ทาตพฺพํ . ภิกฺขุโนวาทโก อฏฺหีติ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโก สมฺมนฺนิตพฺโพ.

เอกสฺส เฉชฺชนฺติ คาถาย นวสุ ชเนสุ โย สลากํ คาเหตฺวา สงฺฆํ ภินฺทติ, ตสฺเสว เฉชฺชํ โหติ, เทวทตฺโต วิย ปาราชิกํ อาปชฺชติ. เภทกานุวตฺตกานํ จตุนฺนํ ถุลฺลจฺจยํ โกกาลิกาทีนํ วิย, ธมฺมวาทีนํ จตุนฺนํ อนาปตฺติ. อิมา ปน อาปตฺติโย จ อนาปตฺติโย จ สพฺเพสํ เอกวตฺถุกา สงฺฆเภทวตฺถุกา เอว.

นว อาฆาตวตฺถูนีติ คาถาย นวหีติ นวหิ ภิกฺขูหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตฺติยา กรณา นวาติ ตฺติยา กาตพฺพานิ กมฺมานิ นวาติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานเมว.

(๔) อวนฺทนียปุคฺคลาทิวณฺณนา

๔๗๗. ทส ปุคฺคลา นาภิวาเทตพฺพาติ เสนาสนกฺขนฺธเก วุตฺตา ทส ชนา. อฺชลิ สามีเจน จาติ สามีจิกมฺเมน สทฺธึ อฺชลิ จ เตสํ น กาตพฺโพ, เนว ปานียาปุจฺฉนตาลวณฺฏคฺคหณาทิ ขนฺธกวตฺตํ เตสํ ทสฺเสตพฺพํ, น อฺชลิ ปคฺคณฺหิตพฺโพติ อตฺโถ. ทสนฺนํ ทุกฺกฏนฺติ เตสํเยว ทสนฺนํ เอวํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติ. ทส จีวรธารณาติ ทส ทิวสานิ อติเรกจีวรสฺส ธารณา อนุฺาตาติ อตฺโถ.

ปฺจนฺนํ วสฺสํวุฏฺานํ, ทาตพฺพํ อิธ จีวรนฺติ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สมฺมุขาว ทาตพฺพํ. สตฺตนฺนํ สนฺเตติ ทิสาปกฺกนฺตอุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ ติณฺณฺจ อุกฺขิตฺตกานนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ สนฺเต ปติรูเป คาหเก ปรมฺมุขาปิ ทาตพฺพํ. โสฬสนฺนํ น ทาตพฺพนฺติ เสสานํ จีวรกฺขนฺธเก วุตฺตานํ ปณฺฑกาทีนํ โสฬสนฺนํ น ทาตพฺพํ.

กติสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวานาติ กติสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวาน. ทสสตํ รตฺติสตํ, อาปตฺติโย ฉาทยิตฺวานาติ ทสสตํ อาปตฺติโย รตฺติสตํ ฉาทยิตฺวาน. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – โย ทิวเส สตํ สตํ สงฺฆาทิเสสาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ทส ทส ทิวเส ปฏิจฺฉาเทติ, เตน รตฺติสตํ อาปตฺติสหสฺสํ ปฏิจฺฉาทิตํ โหติ, โส สพฺพาว ตา อาปตฺติโย ทสาหปฏิจฺฉนฺนาติ ปริวาสํ ยาจิตฺวา ทส รตฺติโย วสิตฺวาน มุจฺเจยฺย ปาริวาสิโกติ.

ทฺวาทส กมฺมโทสา วุตฺตาติ อปโลกนกมฺมํ อธมฺเมนวคฺคํ, อธมฺเมนสมคฺคํ, ธมฺเมนวคฺคํ, ตถา ตฺติกมฺมตฺติทุติยกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมานิปีติ เอวํ เอเกกสฺมึ กมฺเม ตโย ตโย กตฺวา ทฺวาทส กมฺมโทสา วุตฺตา.

จตสฺโส กมฺมสมฺปตฺติโยติ อปโลกนกมฺมํ ธมฺเมนสมคฺคํ, ตถา เสสานิปีติ เอวํ จตสฺโส กมฺมสมฺปตฺติโย วุตฺตา.

ฉ กมฺมานีติ อธมฺเมนวคฺคกมฺมํ, อธมฺเมนสมคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกนวคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกนสมคฺคกมฺมํ, ธมฺเมนวคฺคกมฺมํ, ธมฺเมนสมคฺคกมฺมนฺติ เอวํ ฉ กมฺมานิ วุตฺตานิ. เอเกตฺถ ธมฺมิกา กตาติ เอกํ ธมฺเมน สมคฺคกมฺมเมเวตฺถ ธมฺมิกํ กตนฺติ อตฺโถ. ทุติยคาถาวิสฺสชฺชเนปิ เอตเทว ธมฺมิกํ.

ยํ เทสิตาติ ยานิ เทสิตานิ วุตฺตานิ ปกาสิตานิ. อนนฺตชิเนนาติอาทีสุ ปริยนฺตปริจฺเฉทภาวรหิตตฺตา อนนฺตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตํ ภควตา รฺา สปตฺตคณํ อภิมทฺทิตฺวา รชฺชํ วิย กิเลสคณํ อภิมทฺทิตฺวา ชิตํ วิชิตํ อธิคตํ สมฺปตฺตํ, ตสฺมา ภควา ‘‘อนนฺตชิโน’’ติ วุจฺจติ. สฺเวว อิฏฺานิฏฺเสุ นิพฺพิการตาย ตาทิ, วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกสงฺขาตํ วิเวกปฺจกํ อทฺทสาติ วิเวกทสฺสี; เตน อนนฺตชิเนน ตาทินา วิเวกทสฺสินา ยานิ อาปตฺติกฺขนฺธานิ เทสิตานิ วุตฺตานิ. เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหีติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺโธ, ยานิ สตฺถารา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธานิ เทสิตานิ, ตตฺถ เอกาปิ อาปตฺติ วินา สมเถหิ น สมฺมติ, อถ โข ฉ สมถา จตฺตาริ อธิกรณานีติ สพฺเพปิเม ธมฺมา สมฺมุขาวินเยน สมฺมนฺติ, สมาโยคํ คจฺฉนฺติ. เอตฺถ ปน เอโก สมฺมุขาวินโยว วินา สมเถหิ สมฺมติ, สมถภาวํ คจฺฉติ. น หิ ตสฺส อฺเน สมเถน วินา อนิปฺผตฺติ นาม อตฺถิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหี’’ติ. อิมินา ตาว อธิปฺปาเยน อฏฺกถาสุ อตฺโถ วุตฺโต. มยํ ปน ‘‘วินา’’ติ นิปาตสฺส ปฏิเสธนมตฺตมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘เอเกตฺถ สมฺมติ วินา สมเถหี’’ติ เอเตสุ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ เอโก ปาราชิกาปตฺติกฺขนฺโธ วินา สมเถหิ สมฺมตีติ เอตมตฺถํ โรเจยฺยาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยา สา อาปตฺติ อนวเสสา, สา อาปตฺติ น กตเมน อธิกรเณน กตมมฺหิ าเน น กตเมน สมเถน สมฺมตี’’ติ.

ฉอูนทิยฑฺฒสตาติ ‘‘อิธ, อุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท ธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ อธมฺมทิฏฺิ เภเท เวมติโก, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท เวมติโก, ตสฺมึ เวมติโก เภเท อธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ เวมติโก เภเท ธมฺมทิฏฺิ, ตสฺมึ เวมติโก เภเท เวมติโก’’ติ เอวํ ยานิ อฏฺารสนฺนํ เภทกรวตฺถูนํ วเสน อฏฺารส อฏฺกานิ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก วุตฺตานิ, เตสํ วเสน ฉอูนทิยฑฺฒสตํ อาปายิกา เวทิตพฺพา.

อฏฺารส อนาปายิกาติ ‘‘อิธ, อุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ตสฺมึ ธมฺมทิฏฺิ เภเท ธมฺมทิฏฺิ อวินิธาย ทิฏฺึ อวินิธาย ขนฺตึ อวินิธาย รุจึ อวินิธาย ภาวํ อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ, อยมฺปิ โข, อุปาลิ, สงฺฆเภทโก น อาปายิโก น เนรยิโก น กปฺปฏฺโ น อเตกิจฺโฉ’’ติ เอวํ เอเกกสฺมึ วตฺถุสฺมึ เอเกกํ กตฺวา สงฺฆเภทกกฺขนฺธกาวสาเน วุตฺตา อฏฺารส ชนา. อฏฺารส อฏฺกา ฉอูนทิยฑฺฒสตวิสฺสชฺชเน วุตฺตาเยว.

(๕) โสฬสกมฺมาทิวณฺณนา

๔๗๘. กติ กมฺมานีติอาทีนํ สพฺพคาถานํ วิสฺสชฺชนํ อุตฺตานเมวาติ.

อปรทุติยคาถาสงฺคณิกวณฺณนา นิฏฺิตา.