📜
ปฺจวคฺโค
กมฺมวคฺควณฺณนา
๔๘๒. กมฺมวคฺเค ¶ ¶ จตุนฺนํ กมฺมานํ นานากรณํ สมถกฺขนฺธเก วุตฺตเมว. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข อยํ กมฺมวินิจฺฉโย นาม อาทิโต ปฏฺาย วุจฺจมาโน ปากโฏ โหติ, ตสฺมา อาทิโต ปฏฺาเยเวตฺถ วตฺตพฺพํ วทิสฺสาม. จตฺตารีติ กมฺมานํ คณนปริจฺเฉทวจนเมตํ. กมฺมานีติ ปริจฺฉินฺนกมฺมนิทสฺสนํ. อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพํ กมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ.
ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน ¶ น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา กาตพฺพมฺปิ อตฺถิ, อกาตพฺพมฺปิ อตฺถิ.
ตตฺถ สีมาสมฺมุติ, สีมาสมูหนนํ, กถินทานํ, กถินุทฺธาโร, กุฏิวตฺถุเทสนา, วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหกมตกจีวรทานาทิสมฺมุติโย ¶ จาติ เอตานิ ลหุกกมฺมานิ อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ, ตฺติกมฺม-ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน ปน น กาตพฺพเมว. ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน กยิรมานํ ทฬฺหตรํ โหติ, ตสฺมา กาตพฺพนฺติ เอกจฺเจ วทนฺติ. เอวํ ปน สติ กมฺมสงฺกโร โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตเมว. สเจ ปน อกฺขรปริหีนํ วา ปทปริหีนํ วา ทุรุตฺตปทํ วา โหติ ¶ , ตสฺส โสธนตฺถํ ปุนปฺปุนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทํ อกุปฺปกมฺมสฺส ทฬฺหีกมฺมํ โหติ, กุปฺปกมฺเม กมฺมํ หุตฺวา ติฏฺติ.
ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ตฺติฺจ ติสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ปฺจหากาเรหิ วิปชฺชนฺตีติ ปฺจหิ การเณหิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๓. สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมนฺติ เอตฺถ อตฺถิ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ; อตฺถิ อสมฺมุขากรณียํ; ตตฺถ อสมฺมุขากรณียํ นาม ทูเตนุปสมฺปทา, ปตฺตนิกฺกุชฺชนํ, ปตฺตุกฺกุชฺชนํ, อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน อุมฺมตฺตกสมฺมุติ, เสกฺขานํ กุลานํ เสกฺขสมฺมุติ, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺโฑ, เทวทตฺตสฺส ปกาสนียกมฺมํ, อปฺปสาทนียํ ทสฺเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺพํ อวนฺทนียกมฺมนฺติ อฏฺวิธํ โหติ, ตํ สพฺพํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ อฏฺวิธมฺปิ กมฺมํ อสมฺมุขา กตํ สุกตํ โหติ อกุปฺปํ.
เสสานิ สพฺพกมฺมานิ สมฺมุขา เอว กาตพฺพานิ – สงฺฆสมฺมุขตา, ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวาว กาตพฺพานิ. เอวํ กตานิ หิ สุกตานิ โหนฺติ. เอวํ อกตานิ ปเนตานิ อิมํ สมฺมุขาวินยสงฺขาตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา วตฺถุวิปนฺนานิ นาม โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺมุขากรณียํ ¶ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺม’’นฺติ.
ปฏิปุจฺฉากรณียาทีสุปิ ปฏิปุจฺฉาทิกรณเมว วตฺถุ, ตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา เตสมฺปิ วตฺถุวิปนฺนตา เวทิตพฺพา. อิทํ ปเนตฺถ วจนตฺถมตฺตํ. ปฏิปุจฺฉา กรณียํ อปฺปฏิปุจฺฉา กโรตีติ ปุจฺฉิตฺวา โจเทตฺวา สาเรตฺวา กาตพฺพํ อปุจฺฉิตฺวา อโจเทตฺวา อสาเรตฺวา กโรติ. ปฏิฺาย กรณียํ ¶ อปฺปฏิฺาย กโรตีติ ปฏิฺํ อาโรเปตฺวา ยถาทินฺนาย ปฏิฺาย กาตพฺพํ อปฺปฏิฺาย กโรนฺตสฺส วิปฺปลปนฺตสฺส พลกฺกาเรน กโรติ. สติวินยารหสฺสาติ ทพฺพมลฺลปุตฺตตฺเถรสทิสสฺส ขีณาสวสฺส. อมูฬฺหวินยารหสฺสาติ คคฺคภิกฺขุสทิสสฺส อุมฺมตฺตกสฺส. ตสฺสปาปิยสิกกมฺมารหสฺสาติ อุปวาฬภิกฺขุสทิสสฺส อุสฺสนฺนปาปสฺส. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อนุโปสเถ ¶ อุโปสถํ กโรตีติ อนุโปสถทิวเส อุโปสถํ กโรติ. อุโปสถทิวโส นาม เปตฺวา กตฺติกมาสํ อวเสเสสุ เอกาทสสุ มาเสสุ ภินฺนสฺส สงฺฆสฺส สามคฺคิทิวโส จ ยถาวุตฺตจาตุทฺทสปนฺนรสา จ. เอตํ ติปฺปการมฺปิ อุโปสถทิวสํ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส อุโปสถํ กโรนฺโต อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรติ นาม. ยตฺร หิ ปตฺตจีวราทีนํ อตฺถาย อปฺปมตฺตเกน การเณน วิวทนฺตา อุโปสถํ วา ปวารณํ วา เปนฺติ, ตตฺถ ตสฺมึ อธิกรเณ วินิจฺฉิเต ‘‘สมคฺคา ชาตามฺหา’’ติ อนฺตรา สามคฺคิอุโปสถํ กาตุํ น ลภนฺติ, กโรนฺเตหิ อนุโปสเถ อุโปสโถ กโต นาม โหติ.
อปวารณาย ปวาเรตีติ อปวารณาทิวเส ปวาเรติ; ปวารณาทิวโส นาม เอกสฺมึ กตฺติกมาเส ภินฺนสฺส สงฺฆสฺส สามคฺคิทิวโส จ ปจฺจุกฺกฑฺฒิตฺวา ปิตทิวโส จ ทฺเว จ ปุณฺณมาสิโย. เอวํ จตุพฺพิธมฺปิ ปวารณาทิวสํ เปตฺวา อฺสฺมึ ทิวเส ปวาเรนฺโต อปวารณาย ปวาเรติ นาม. อิธาปิ อปฺปมตฺตกสฺส วิวาทสฺส วูปสเม สามคฺคิปวารณํ กาตุํ น ลภนฺติ, กโรนฺเตหิ อปวารณาย ปวารณา กตา โหติ. อปิจ อูนวีสติวสฺสํ วา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนปุพฺพํ วา เอกาทสสุ วา อภพฺพปุคฺคเลสุ อฺตรํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺสปิ วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ โหติ. เอวํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๔. ตฺติโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ ¶ กโรติ, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ; เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.
สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ ¶ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ; เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.
ปุคฺคลํ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ¶ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ; เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.
ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ. ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ; เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.
ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส ตสฺมา ตุณฺหี เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ; เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๕. อนุสฺสาวนโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ – ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวเน ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวนาสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต ¶ อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.
สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ; เอวํ อนุสฺสาวนํ หาเปติ ¶ . โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ¶ ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.
ทุรุตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย – โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –
‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;
สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ.
วุตฺโต, อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘สิถิลํ’’ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ‘‘ธนิตํ’’ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ‘‘ทีฆ’’นฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพํ อาการาทิ. ‘‘รสฺส’’นฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพํ อการาทิ. ‘‘ครุก’’นฺติ ทีฆเมว. ยํ วา อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส นกฺขมตีติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ‘‘ลหุก’’นฺติ รสฺสเมว. ยํ วา อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺส ยสฺส น ขมตีติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ‘‘นิคฺคหิต’’นฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ‘‘สมฺพนฺธ’’นฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ‘‘ววตฺถิต’’นฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ‘‘วิมุตฺต’’นฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา ¶ วุจฺจติ.
ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม. ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ, เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ, เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนฺจ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภ-การ ฆ-การานํ พ-การ ค-กาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สงฺโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน ¶ มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม.
อิติ ¶ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน จ รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ; ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ; สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ; เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.
ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ; ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.
อกาเล วา สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อโนกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ¶ ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.
๔๘๖. สีมโต วิปตฺติยํ ปน อติขุทฺทกสีมา นาม ยา เอกวีสติ ภิกฺขู น คณฺหาติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยา เอวรูปา สีมา, อยํ สมฺมตาปิ อสมฺมตา, คามเขตฺตสทิสาว โหติ, ตตฺถ กตํ กมฺมํ ¶ กุปฺปติ. เอส นโย เสสสีมาสุปิ. เอตฺถ ปน อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนาปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมตฺวา สมฺมตา โหติ. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ นิมิตฺตํ ปฏิกิตฺเตตฺวาว เปตุํ วฏฺฏติ; เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ¶ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปฺุชวาลิกาปฺุชานํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. ฉายานิมิตฺตา นาม ยา ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํกิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. อนิมิตฺตา นาม ยา สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา โหติ.
พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิโต สมฺมนฺนติ. นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนตีติ เอเตสุ นทิอาทีสุ ยํ สมฺมนฺนติ, สา เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทติ. อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. ตตฺถ ยถา สมฺเภโท จ อชฺโฌตฺถรณฺจ โหติ, ตํ สพฺพํ อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตเมว. อิติ อิมา เอกาทสปิ สีมา อสีมา คามเขตฺตสทิสา เอว, ตาสุ นิสีทิตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ.
๔๘๗-๔๘๘. ปริสโต กมฺมวิปตฺติยํ ปน กิฺจิ อนุตฺตานํ นาม นตฺถิ. ยมฺปิ ตตฺถ กมฺมปฺปตฺตฉนฺทารหลกฺขณํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตมฺปิ ปรโต ‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู ¶ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตเมว. ตตฺถ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตาติ จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ปกตตฺตา อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กยิรติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ. อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา, สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ. ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺติ. ยสฺส ¶ ปน สงฺโฆ ปริวาสาทิกมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต, นาปิ ฉนฺทารโห. อปิจ ยสฺมา ตํ ปุคฺคลํ วตฺถุํ กตฺวา สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘กมฺมารโห’’ติ วุจฺจติ. เสสกมฺเมสุปิ เอเสว นโย.
๔๘๙. ปุน ¶ จตฺตาริ กมฺมานีติอาทิโก นโย ปณฺฑกาทีนํ อวตฺถุภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
อปโลกนกมฺมกถา
๔๙๕-๔๙๖. อิทานิ เตสํ กมฺมานํ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อปโลกนกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อปโลกนกมฺมํ ปฺจ านานิ คจฺฉติ – โอสารณํ, นิสฺสารณํ, ภณฺฑุกมฺมํ, พฺรหฺมทณฺฑํ, กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจม’’นฺติ เอตฺถ ‘‘โอสารณํ นิสฺสารณ’’นฺติ ปทสิลิฏฺตาเยตํ วุตฺตํ. ปมํ ปน นิสฺสารณา โหติ, ปจฺฉา โอสารณา. ตตฺถ ยา กณฺฏกสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมนาสนา, สา ‘‘นิสฺสารณา’’ติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา เอตรหิ สเจปิ สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภณติ, ‘‘อกปฺปิยํ กปฺปิย’’นฺติ ทีเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, โส ยาวตติยํ นิวาเรตฺวา ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชาเปตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชหี’’ติ วตฺตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา นิสฺสาเรตพฺโพ. เอวฺจ ปน กมฺมํ กาตพฺพํ –
‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ, ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺส อลาภาย นิสฺสารณา รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ ปุจฺฉามิ – ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ จร ปิเร วินสฺสา’’ติ.
โส อปเรน สมเยน ‘‘อหํ, ภนฺเต, พาลตาย อฺาณตาย อลกฺขิกตาย ¶ เอวํ อกาสึ, สฺวาหํ สงฺฆํ ขมาเปมี’’ติ ขมาเปนฺโต ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว โอสาเรตพฺโพ ¶ . เอวํ ปน โอสาเรตพฺโพ, สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, ตสฺส ¶ อลาภาย นิสฺสาริโต, สฺวายํ อิทานิ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต กตทณฺฑกมฺโม อจฺจยํ เทเสติ, อิมสฺส สามเณรสฺส ยถา ปุเร กายสมฺโภคสามคฺคิทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ.
เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺมํ โอสารณฺจ นิสฺสารณฺจ คจฺฉติ. ภณฺฑุกมฺมํ มหาขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตเมว. พฺรหฺมทณฺโฑ ปฺจสติกกฺขนฺธเก วุตฺโตเยว. น เกวลํ ปเนส ฉนฺนสฺเสว ปฺตฺโต, โย อฺโปิ ภิกฺขุ มุขโร โหติ, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, ตสฺสปิ ทาตพฺโพ. เอวฺจ ปน ทาตพฺโพ, สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต วิหรติ. โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ. สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.
ตสฺส อปเรน สมเยน สมฺมา วตฺติตฺวา ขมาเปนฺตสฺส พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ. เอวฺจ ปน ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆมชฺเฌ สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ อสุกสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อทาสิ, โส ภิกฺขุ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต, ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺติ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ.
เอวํ ¶ ยาวตติยํ วตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว ¶ พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพติ.
กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมนฺติ ยํ ตํ ภควตา ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย กทฺทโมทเกน โอสิฺจนฺติ, ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ, กายํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ ¶ , อูรุํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, องฺคชาตํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, ภิกฺขุนิโย โอภาเสนฺติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ, ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ. อิเมสุ วตฺถูสุ เตสํ ภิกฺขูนํ ทุกฺกฏํ ปฺเปตฺวา ‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ตสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑกมฺมํ กาตุ’นฺติ. อถ โข ภิกฺขุนีนํ เอตทโหสิ – ‘กึ นุ โข ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพ’นฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘อวนฺทิโย โส ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ’’’ติ เอวํ อวนฺทิยกมฺมํ อนฺุาตํ, ตํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหติ. ตสฺส หิ กมฺมฺเว ลกฺขณํ, น โอสารณาทีนิ; ตสฺมา ‘‘กมฺมลกฺขณ’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺส กรณํ ตตฺเถว วุตฺตํ. อปิจ นํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา สทฺธึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ อิธาปิ วทาม, ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –
‘‘อยฺเย อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ… ตติยมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ.
เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺเมน อวนฺทิยกมฺมํ กาตพฺพํ.
ตโต ปฏฺาย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนีหิ น วนฺทิตพฺโพ. สเจ อวนฺทิยมาโน หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมา วตฺตติ, เตน ภิกฺขุนิโย ขมาเปตพฺพา. ขมาเปนฺเตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกํ ภิกฺขุํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺามิ, น ปุน อปาสาทิกํ ทสฺเสสฺสามิ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน สงฺเฆน ¶ วา คเณน วา เอกํ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา เอกภิกฺขุนา วา สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – ‘‘อยํ ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา ¶ อายตึ สํวเร ิโต, อิมินา อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺโฆ ขมาปิโต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ อิมํ วนฺทิยํ กโรตู’’ติ. โส วนฺทิโย กาตพฺโพ. เอวฺจ ปน กาตพฺโพ, ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –
‘‘อยํ อยฺเย อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสตีติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน อวนฺทิโย กโต, โส ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆํ ¶ ขมาเปสิ, ตสฺส อยฺยสฺส วนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –
ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ เอวํ อปโลกนกมฺเมเนว วนฺทิโย กาตพฺโพ.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตโกปิ กมฺมลกฺขณวินิจฺฉโย. อิทฺหิ กมฺมลกฺขณํ นาม ภิกฺขุนิสงฺฆมูลกํ ปฺตฺตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺสาปิ ปเนตํ ลพฺภติเยว. ยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอุโปสถคฺเคสุ อปโลกนกมฺมํ กโรติ, เอตมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว. อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวรานฺหิ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา จีวรํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ปน จีวรํ กโรนฺตสฺส เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนายํ วุตฺตปฺปเภทานิ สูจิอาทีนิ อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺพานิ. เตสํ ทาเน โสเยว อิสฺสโร, ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ตโต หิ อติเรกทาเน สงฺโฆ สามี. คิลานเภสชฺชมฺปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ สยเมว ทาตพฺพํ. อติเรกํ อิจฺฉนฺตสฺส อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. โยปิ จ ทุพฺพโล วา ฉินฺนิริยาปโถ วา ปจฺฉินฺนภิกฺขาจารปโถ วา มหาคิลาโน, ตสฺส มหาวาเสสุ ตตฺรุปฺปาทโต เทวสิกํ นาฬิ วา อุปฑฺฒนาฬิ วา เอกทิวสํเยว วา ปฺจ วา ทส วา ตณฺฑุลนาฬิโย เทนฺเตน อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพา. เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺรุปฺปาทโต อิณปลิโพธมฺปิ พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺาปนียเสนาสนมฺปิ สงฺฆกิจฺจํ กโรนฺตานํ กปฺปิยการกาทีนํ ภตฺตเวตนมฺปิ อปโลกนกมฺเมน ¶ ทาตุํ วฏฺฏติ.
จตุปจฺจยวเสน ทินฺนตตฺรุปฺปาทโต สงฺฆิกํ อาวาสํ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิสฺสรวตาย วิจาเรตี’’ติ กถาปจฺฉินฺทนตฺถํ ปน สลากคฺคาทีสุ วา อนฺตรสนฺนิปาเต วา สงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวาว ¶ ชคฺคาเปตพฺโพ. จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺสทินฺนตตฺรุปฺปาทโตปิ อปโลเกตฺวา อาวาโส ชคฺคาเปตพฺโพ. อนปโลเกตฺวาปิ วฏฺฏติ. ‘‘สูโร วตายํ ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย ทินฺนโต อาวาสํ ชคฺคาเปตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนกถาปจฺเฉทนตฺถํ ปน อปโลกนกมฺมเมว กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ.
เจติเย ¶ ฉตฺตํ วา เวทิกํ วา โพธิฆรํ วา อาสนฆรํ วา อกตํ วา กโรนฺเตน ชิณฺณํ วา ปฏิสงฺขโรนฺเตน สุธากมฺมํ วา กโรนฺเตน มนุสฺเส สมาทเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ การโก นตฺถิ, เจติยสฺส อุปนิกฺเขปโต กาเรตพฺพํ. อุปนิกฺเขเปปิ อสติ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตตฺรุปฺปาทโต กาเรตพฺพํ, สงฺฆิเกนปิ. สงฺฆิเกน หิ อปโลเกตฺวา เจติยกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน อปโลเกตฺวาปิ สงฺฆิกกิจฺจํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตาวกาลิกํ ปน คเหตฺวา ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ.
เจติเย สุธากมฺมาทีนิ กโรนฺเตหิ ปน ภิกฺขาจารโต วา สงฺฆโต วา ยาปนมตฺตํ อลภนฺเตหิ เจติยสนฺตกโต ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา ปริภฺุชนฺเตหิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ, ‘‘วตฺตํ กโรมา’’ติ มจฺฉมํสาทีหิ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. เย วิหาเร โรปิตา ผลรุกฺขา สงฺเฆน ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ชคฺคนกมฺมํ ลภนฺติ, เยสํ ผลานิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺติ, เตสุ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เย ปน อปริคฺคหิตา, เตสุ อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ. ตํ ปน สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอนฺตรสนฺนิปาเตสุปิ กาตุํ วฏฺฏติ, อุโปสถคฺเค ปน วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ อนาคตานมฺปิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาหริยติ, ตสฺมา ตํ สุวิโสธิตํ โหติ.
เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘ภนฺเต, ยํ อิมสฺมึ วิหาเร อนฺโตสีมาย สงฺฆสนฺตกํ มูลตจปตฺตองฺกุรปุปฺผผลขาทนียาทิ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ ยถาสุขํ ปริภฺุชิตุํ รุจฺจตีติ ¶ สงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิตพฺพํ.
จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ กตํ สุกตเมว. ยสฺมึ วิหาเร ทฺเว ตโย ชนา วสนฺติ, เตหิ ¶ นิสีทิตฺวา กตมฺปิ สงฺเฆน กตสทิสเมว. ยสฺมึ ปน วิหาเร เอโก ภิกฺขุ โหติ, เตน ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส ปุพฺพกรณปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน กตมฺปิ กติกวตฺตํ สงฺเฆน กตสทิสเมว โหติ.
กโรนฺเตน ¶ ปน ผลวาเรน กาตุมฺปิ จตฺตาโร มาเส ฉ มาเส เอกสํวจฺฉรนฺติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ อปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปริจฺฉินฺเน ยถาปริจฺเฉทํ ปริภฺุชิตฺวา ปุน กาตพฺพํ. อปริจฺฉินฺเน ยาว รุกฺขา ธรนฺติ ตาว วฏฺฏติเยว. เยปิ เตสํ รุกฺขานํ พีเชหิ อฺเ รุกฺขา โรปิตา โหนฺติ, เตสมฺปิ สา เอว กติกา.
สเจ ปน อฺสฺมึ วิหาเร โรปิตา โหนฺติ, เตสํ ยตฺถ โรปิตา, ตสฺมึเยว วิหาเร สงฺโฆ สามี. เยปิ อฺโต พีชานิ อาหริตฺวา ปุริมวิหาเร ปจฺฉา โรปิตา, เตสุ อฺา กติกา กาตพฺพา. กติกาย กตาย ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, ยถาสุขํ ผลาทีนิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ ตํ ตํ โอกาสํ ปริกฺขิปิตฺวา ปริเวณานิ กตฺวา ชคฺคนฺติ, เตสํ ภิกฺขูนํ ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ. อฺเ ปริภฺุชิตุํ น ลภนฺติ, เตหิ ปน สงฺฆสฺส ทสภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานิ. โยปิ มชฺเฌวิหาเร รุกฺขํ สาขาหิ ปริวาเรตฺวา รกฺขติ, ตสฺสาปิ เอเสว นโย.
โปราณวิหารํ คตสฺส สมฺภาวนียภิกฺขุโน ‘‘เถโร อาคโต’’ติ ผลาผลํ อาหรนฺติ, สเจ ตตฺถ มูเล สพฺพปริยตฺติธโร พหุสฺสุตภิกฺขุ วิหาสิ, ‘‘อทฺธา เอตฺถ ทีฆา กติกา กตา ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺกุกฺกุจฺเจน ปริภฺุชิตพฺพํ. วิหาเร ผลาผลํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ธุตงฺคํ น โกเปติ. สามเณรา อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ พหูนิ ผลานิ เทนฺติ, อฺเ ภิกฺขู อลภนฺตา ขิยฺยนฺติ, ขิยฺยนมตฺตเมว เจตํ โหติ.
สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, เอกํ ปนสรุกฺขํ นิสฺสาย สฏฺิปิ ชนา ชีวนฺติ, ตาทิเส กาเล สพฺเพสํ สงฺคหกรณตฺถาย ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพํ, อยํ สามีจิ. ยาว ปน กติกวตฺตํ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ตาว เตหิ ขายิตํ สุขายิตเมว. กทา ปน กติกวตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ? ยทา สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ภาเชตฺวา ขาทนฺตู’’ติ สาเวติ. เอกภิกฺขุเก ปน ¶ วิหาเร เอเกน สาวิเตปิ ปุริมกติกา ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว. สเจ ¶ ปฏิปฺปสฺสทฺธาย กติกาย สามเณรา เนว รุกฺขโต ปาเตนฺติ, น ภูมิโต คเหตฺวา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, ปติตผลานิ ปาเทหิ ปหรนฺตา วิจรนฺติ, เตสํ ทสภาคโต ปฏฺาย ยาว อุปฑฺฒผลภาเคน ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. อทฺธา ผาติกมฺมโลเภน อาหริตฺวา ¶ ทสฺสนฺติ. ปุน สุภิกฺเข ชาเต กปฺปิยการเกสุ อาคนฺตฺวา สาขาปริวาราทีนิ กตฺวา รุกฺเข รกฺขนฺเตสุ สามเณรานํ ผาติกมฺมํ น ทาตพฺพํ, ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
‘‘วิหาเร ผลาผลํ อตฺถี’’ติ สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา คิลานานํ วา คพฺภินีนํ วา อตฺถาย อาคนฺตฺวา ‘‘เอกํ นาฬิเกรํ เทถ, อมฺพํ เทถ, ลพุชํ เทถา’’ติ ยาจนฺติ, ทาตพฺพํ น ทาตพฺพนฺติ? ทาตพฺพํ. อทียมาเน หิ เต โทมนสฺสิกา โหนฺติ, เทนฺเตน ปน สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพํ, กติกวตฺตํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –
‘‘สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา คิลานาทีนํ อตฺถาย ผลาผลํ ยาจนฺติ, ทฺเว นาฬิเกรานิ, ทฺเว ตาลผลานิ, ทฺเว ปนสานิ, ปฺจ อมฺพานิ, ปฺจ กทลิผลานิ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ, อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ รุจฺจติ ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ.
ตโต ปฏฺาย คิลานาทีนํ นามํ คเหตฺวา ยาจนฺตา ‘‘คณฺหถา’’ติ น วตฺตพฺพา, วตฺตํ ปน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘นาฬิเกราทีนิ อิมินา นาม ปริจฺเฉเทน คณฺหนฺตานํ อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ กต’’นฺติ. อนุวิจริตฺวา ปน ‘‘อยํ มธุรผโล อมฺโพ, อิโต คณฺหถา’’ติปิ น วตฺตพฺพา. ผลภาชนกาเล ปน อาคตานํ สมฺมเตน อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ.
ขีณปริพฺพโย วา มคฺคคมิยสตฺถวาโห วา อฺโ วา อิสฺสโร อาคนฺตฺวา ยาจติ, อปโลเกตฺวาว ทาตพฺพํ. พลกฺกาเรน คเหตฺวา ขาทนฺโต น วาเรตพฺโพ. กุทฺโธ หิ โส รุกฺเขปิ ฉินฺเทยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺย. ปุคฺคลิกปริเวณํ อาคนฺตฺวา คิลานสฺส คาเมน ยาจนฺโต ‘‘อมฺเหหิ ฉายาทีนํ อตฺถาย โรปิตํ, สเจ อตฺถิ, ตุมฺเห ชานาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. ยทิ ¶ ปน ผลภริตาว ¶ รุกฺขา โหนฺติ, กณฺฏเก พนฺธิตฺวา ผลวาเรน ขาทนฺติ, อปจฺจาสีสนฺเตน หุตฺวา ทาตพฺพํ. พลกฺกาเรน คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ, ปุพฺเพ วุตฺตเมเวตฺถ การณํ.
สงฺฆสฺส ¶ ผลาราโม โหติ, ปฏิชคฺคนํ น ลภติ, สเจ ตํ โกจิ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. อถาปิ กสฺสจิ ปฏิพลสฺส ภิกฺขุโน ‘‘อิมํ สปฺปุริส ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ สงฺโฆ ภารํ กโรติ, โส เจ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, เอวมฺปิ สงฺฆสฺเสว โหติ. ผาติกมฺมํ ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปน ตติยภาเคน วา อุปฑฺฒภาเคน วา ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. ‘‘ภาริยํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา เอตฺตเกน อนิจฺฉนฺโต ปน สพฺพํ ตเวว สนฺตกํ กตฺวา ‘‘มูลภาคํ ทสภาคมตฺตํ ทตฺวา ชคฺคาหี’’ติปิ วตฺตพฺโพ. ครุภณฺฑตฺตา ปน มูลจฺเฉชฺชวเสน น ทาตพฺพํ. โส มูลภาคํ ทตฺวา ขาทนฺโต อกตาวาสํ วา กตฺวา กตาวาสํ วา ชคฺคิตฺวา นิสฺสิตกานํ อารามํ นิยฺยาเทติ, เตหิปิ มูลภาโค ทาตพฺโพว. ยทา ปน ภิกฺขู สยํ ชคฺคิตุํ ปโหนฺติ, อถ เตสํ ชคฺคิตฺุจ น ทาตพฺพํ, ชคฺคิตกาเล จ น วาเรตพฺพา, ชคฺคนกาเลเยว วาเรตพฺพา. ‘‘พหุํ ตุมฺเหหิ ขายิตํ, อิทานิ มา ชคฺคิตฺถ, ภิกฺขุสงฺโฆเยว ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพํ.
สเจ ปน เนว วตฺตสีเสน ชคฺคนฺโต อตฺถิ, น ผาติกมฺเมน, น สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, เอโก อนาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคิตฺวา ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺจาสีสติ, อปโลกนกมฺเมน ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ทาตพฺพํ. อิติ อิมํ สพฺพมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว โหติ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.
ตฺติกมฺมฏฺานเภเท ปน ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺยาติ, อาคจฺฉาหีติ วตฺตพฺโพ’’ติ เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม.
‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ เอวํ อุพฺพาหิกาวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต ¶ สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม.
‘‘สุณาตุ ¶ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ เอวํ ปวารณากมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม.
‘‘สุณาตุ ¶ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ. ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ. ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม.
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ, วิวรติ, อุตฺตานึ กโรติ, เทเสติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺยนฺติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ. อายตึ สํวเรยฺยาสีติ เอวํ อาปตฺติปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม.
‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ. เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ¶ ภณฺฑนการกา ¶ กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา ตํ กาฬํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยตฺเตน ปฏิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู าเปตพฺพา – ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมนฺตา อาวาสิกา. ยทายสฺมนฺตานํ ¶ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ เอวํ กตา ปวารณาปจฺจุกฺกฑฺฒนา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม.
สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพํ, สนฺนิปติตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ. สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺเตยฺย. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ อธิกรณํ ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺย เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ, เปตฺวา คิหิปฏิสยุตฺต’’นฺติ เอวํ ติณวตฺถารกสมเถน กตฺวา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ กมฺมลกฺขณํ นาม.
ตถา ตโต ปรา เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ กตฺวา ทฺเว ตฺติโย อิติ ยถาวุตฺตปฺปเภทํ โอสารณํ นิสฺสารณํ…เป… กมฺมลกฺขณฺเว นวมนฺติ ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.
ตฺติทุติยกมฺมฏฺานเภเท ปน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา นิสฺสารณา. ตสฺเสว ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน วุตฺตา โอสารณา จ เวทิตพฺพา.
สีมาสมฺมุติ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติ, สนฺถตสมฺมุติ, ภตฺตุทฺเทสก-เสนาสนคฺคาหาปก-ภณฺฑาคาริก-จีวรปฏิคฺคาหก-จีวรภาชก-ยาคุภาชกผลภาชก-ขชฺชภาชก-อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชก-สาฏิยคฺคาหาปก-ปตฺตคฺคาหาปก-อารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กถินจีวรทานมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ.
กถินุทฺธารวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ¶ ปน ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติฺจ เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ ตฺติฺจาติ ติสฺโส ตฺติโย เปตฺวา ปุน เอกสฺมึ ปกฺเข เอกา, เอกสฺมึ ปกฺเข เอกาติ ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา, ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ ¶ . อิติ ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
ตฺติจตุตฺถกมฺมฏฺานเภเท ¶ ปน ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว จ กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา เวทิตพฺพา. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. ปริวาสทานมานตฺตทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนกมฺมวเสน นิคฺคโห เวทิตพฺโพ. ‘‘อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา อฏฺ, ยาวตติยกา อริฏฺโ จณฺฑกาฬี จ อิเม เต ยาวตติยกา’’ติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา เวทิตพฺพา. อุปสมฺปทากมฺมอพฺภานกมฺมวเสน ปน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
๔๙๗. อิติ กมฺมานิ จ กมฺมวิปตฺติฺจ วิปตฺติวิรหิตานํ กมฺมานํ านปเภทคมนฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสํ กมฺมานํ การกสฺส สงฺฆสฺส ปริจฺเฉทํ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘จตุวคฺคกรเณ กมฺเม’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปริสโต กมฺมวิปตฺติวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
กมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
อตฺถวสวคฺคาทิวณฺณนา
๔๙๘. อิทานิ ยานิ ตานิ เตสํ กมฺมานํ วตฺถุภูตานิ สิกฺขาปทานิ, เตสํ ปฺตฺติยํ อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกานํ เวรานํ สํวรายาติ ปาณาติปาตาทีนํ ปฺจนฺนํ ทิฏฺธมฺมิกเวรานํ สํวรตฺถาย ปิทหนตฺถาย. สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฏิฆาตายาติ วิปากทุกฺขสงฺขาตานํ สมฺปรายิกเวรานํ ปฏิฆาตตฺถาย, สมุจฺเฉทนตฺถาย อนุปฺปชฺชนตฺถาย. ทิฏฺธมฺมิกานํ วชฺชานํ สํวรายาติ เตสํเยว ปฺจนฺนํ เวรานํ สํวรตฺถาย. สมฺปรายิกานํ วชฺชานนฺติ เตสํเยว วิปากทุกฺขานํ. วิปากทุกฺขาเนว หิ อิธ วชฺชนียภาวโต ¶ วชฺชานีติ วุตฺตานิ. ทิฏฺธมฺมิกานํ ภยานนฺติ ครหา อุปวาโท ตชฺชนียาทีนิ กมฺมานิ อุโปสถปวารณานํ ปนํ อกิตฺติปกาสนียกมฺมนฺติ เอตานิ ทิฏฺธมฺมิกภยานิ นาม, เอเตสํ สํวรตฺถาย. สมฺปรายิกภยานิ ปน วิปากทุกฺขานิเยว ¶ , เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย. ทิฏฺธมฺมิกานํ อกุสลานนฺติ ปฺจเวรทสอกุสลกมฺมปถปฺปเภทานํ ¶ อกุสลานํ สํวรตฺถาย. วิปากทุกฺขาเนว ปน อกฺขมฏฺเน สมฺปรายิกอกุสลานีติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย. คิหีนํ อนุกมฺปายาติ อคาริกานํ สทฺธารกฺขณวเสน อนุกมฺปนตฺถาย. ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปจฺเฉทายาติ ปาปิจฺฉปุคฺคลานํ คณพนฺธเภทนตฺถาย คณโภชนสิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ ปมปาราชิกวณฺณนายเมว วุตฺตนฺติ.
สิกฺขาปเทสุ อตฺถวเสน วณฺณนา นิฏฺิตา.
๔๙๙. ปาติโมกฺขาทีสุ ปาติโมกฺขุทฺเทโสติ ภิกฺขูนํ ปฺจวิโธ ภิกฺขุนีนํ จตุพฺพิโธ. ปริวาสทานาทีสุ โอสารณียํ ปฺตฺตนฺติ อฏฺารสสุ วา เตจตฺตาลีสาย วา วตฺเตสุ วตฺตมานสฺส โอสารณียํ ปฺตฺตํ. เยน กมฺเมน โอสารียติ, ตํ กมฺมํ ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ. นิสฺสารณียํ ปฺตฺตนฺติ ภณฺฑนการกาทโย เยน กมฺเมน นิสฺสารียนฺติ, ตํ กมฺมํ ปฺตฺตนฺติ อตฺโถ.
๕๐๐. อปฺตฺเตติอาทีสุ อปฺตฺเต ปฺตฺตนฺติ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา กกุสนฺธฺจ สมฺมาสมฺพุทฺธํ โกณาคมนฺจ กสฺสปฺจ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เปตฺวา อนฺตรา เกนจิ อปฺตฺเต สิกฺขาปเท ปฺตฺตํ นาม. มกฺกฏิวตฺถุอาทิวินีตกถา สิกฺขาปเท ปฺตฺเต อนุปฺตฺตํ นาม. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อานิสํสวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐๑. อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานํ เอเกเกน อากาเรน นวธา สงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘นว สงฺคหา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วตฺถุสงฺคโหติ วตฺถุนา สงฺคโห. เอวํ เสเสสุปิ ปทตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถโยชนา – ยสฺมา หิ เอกสิกฺขาปทมฺปิ อวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ วตฺถุนา สงฺคหิตานีติ เอวํ ตาว วตฺถุสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ¶ ¶ ปน ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา สีลวิปตฺติยา สงฺคหิตา, ปฺจาปตฺติกฺขนฺธา อาจารวิปตฺติยา, ฉ สิกฺขาปทานิ ¶ อาชีววิปตฺติยา สงฺคหิตานิ, ตสฺมา สพฺพานิปิ วิปตฺติยา สงฺคหิตานีติ เอวํ วิปตฺติสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน สตฺตหาปตฺตีหิ มุตฺตํ เอกสิกฺขาปทมฺปิ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ อาปตฺติยา สงฺคหิตานีติ เอวํ อาปตฺติสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
สพฺพานิ จ สตฺตสุ นคเรสุ ปฺตฺตานีติ นิทาเนน สงฺคหิตานีติ เอวํ นิทานสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน เอกสิกฺขาปทมฺปิ อชฺฌาจาริกปุคฺคเล อสติ ปฺตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพานิ ปุคฺคเลน สงฺคหิตานีติ เอวํ ปุคฺคลสงฺคโห เวทิตพฺโพ.
สพฺพานิ ปน ปฺจหิ เจว สตฺตหิ จ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ, สพฺพานิ น วินา ฉหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺนฺตีติ สมุฏฺาเนน สงฺคหิตานิ. สพฺพานิ จ จตูสุ อธิกรเณสุ อาปตฺตาธิกรเณน สงฺคหิตานิ. สพฺพานิ สตฺตหิ สมเถหิ สมถํ คจฺฉนฺตีติ สมเถหิ สงฺคหิตานิ. เอวเมตฺถ ขนฺธสมุฏฺานอธิกรณสมถสงฺคหาปิ เวทิตพฺพา. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
นวสงฺคหิตวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ ปริวารสฺส อนุตฺตานตฺถปทวณฺณนาติ.
นิคมนกถา
เอตฺตาวตา ¶ จ –
อุภโต วิภงฺคขนฺธก-ปริวารวิภตฺติเทสนํ นาโถ;
วินยปิฏกํ วิเนนฺโต, เวเนยฺยํ ยํ ชิโน อาห.
สมธิกสตฺตวีสติ-สหสฺสมตฺเตน ¶ ตสฺส คนฺเถน;
สํวณฺณนา สมตฺตา, สมนฺตปาสาทิกา นาม.
ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ –
อาจริยปรมฺปรโต, นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโต;
ปรสมยวิวชฺชนโต, สกสมยวิสุทฺธิโต เจว.
พฺยฺชนปริโสธนโต, ปทตฺถโต ปาฬิโยชนกฺกมโต;
สิกฺขาปทนิจฺฉยโต, วิภงฺคนยเภททสฺสนโต.
สมฺปสฺสตํ น ทิสฺสติ, กิฺจิ อปาสาทิกํ ยโต เอตฺถ;
วิฺูนมยํ ตสฺมา, สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว.
สํวณฺณนา ปวตฺตา, วินยสฺส วิเนยฺยทมนกุสเลน;
วุตฺตสฺส โลกนาเถน, โลกมนุกมฺปมาเนนาติ.
มหาอฏฺกถฺเจว ¶ , มหาปจฺจริเมวจ;
กุรุนฺทิฺจาติ ติสฺโสปิ, สีหฬฏฺกถา อิมา.
พุทฺธมิตฺโตติ นาเมน, วิสฺสุตสฺส ยสสฺสิโน;
วินยฺุสฺส ธีรสฺส, สุตฺวา เถรสฺส สนฺติเก.
มหาเมฆวนุยฺยาเน, ภูมิภาเค ปติฏฺิโต;
มหาวิหาโร โย สตฺถุ, มหาโพธิวิภูสิโต.
ยํ ตสฺส ทกฺขิเณ ภาเค, ปธานฆรมุตฺตมํ;
สุจิจาริตฺตสีเลน, ภิกฺขุสงฺเฆน เสวิตํ.
อุฬารกุลสมฺภูโต ¶ , สงฺฆุปฏฺายโก สทา;
อนากุลาย สทฺธาย, ปสนฺโน รตนตฺตเย.
มหานิคมสามีติ ¶ , วิสฺสุโต ตตฺถ การยิ;
จารุปาการสฺจิตํ, ยํ ปาสาทํ มโนรมํ.
สีตจฺฉายตรูเปตํ, สมฺปนฺนสลิลาสยํ;
วสตา ตตฺร ปาสาเท, มหานิคมสามิโน.
สุจิสีลสมาจารํ, เถรํ พุทฺธสิริวฺหยํ;
ยา อุทฺทิสิตฺวา อารทฺธา, อิทฺธา วินยวณฺณนา.
ปาลยนฺตสฺส สกลํ, ลงฺกาทีปํ นิรพฺพุทํ;
รฺโ สิรินิวาสสฺส, สิริปาลยสสฺสิโน.
สมวีสติเม เขเม, ชยสํวจฺฉเร อยํ;
อารทฺธา เอกวีสมฺหิ, สมฺปตฺเต ปรินิฏฺิตา.
อุปทฺทวา กุเล โลเก, นิรุปทฺทวโต อยํ;
เอกสํวจฺฉเรเนว, ยถา นิฏฺํ อุปาคตา.
เอวํ สพฺพสฺส โลกสฺส, นิฏฺํ ธมฺมูปสํหิตา;
สีฆํ คจฺฉนฺตุ อารมฺภา, สพฺเพปิ นิรุปทฺทวา.
จิรฏฺิตตฺถํ ธมฺมสฺส, กโรนฺเตน มยา อิมํ;
สทฺธมฺมพหุมาเนน, ยฺจ ปฺุํ สมาจิตํ.
สพฺพสฺส ¶ อานุภาเวน, ตสฺส สพฺเพปิ ปาณิโน;
ภวนฺตุ ธมฺมราชสฺส, สทฺธมฺมรสเสวิโน.
จิรํ ติฏฺตุ สทฺธมฺโม, กาเล วสฺสํ จิรํ ปชํ;
ตปฺเปตุ เทโว ธมฺเมน, ราชา รกฺขตุ เมทินินฺติ.
ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฏิมณฺฑิเตน ¶ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตฺาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทิวเรน มหากวินา ปภินฺนปอสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปเภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ¶ สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ สมนฺตปาสาทิกา นาม วินยสํวณฺณนา –
ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลวิสุทฺธิยา.
ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
สมนฺตปาสาทิกา นาม
วินย-อฏฺกถา นิฏฺิตา.