📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

มหาวคฺคปาฬิ

๑. มหาขนฺธโก

๑. โพธิกถา

. [อุทา. ๑ อาทโย] เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปมาภิสมฺพุทฺโธ. อถ โข ภควา โพธิรุกฺขมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที [วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวที (ก.)]. อถ โข ภควา รตฺติยา ปมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ – เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ , อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ – เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา;

ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ.

. [อุทา. ๒] อถ โข ภควา รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี…เป… นิโรโธ โหตี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา;

ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ.

. [อุทา. ๓] อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ…เป… นิโรโธ โหตี’’ติ.

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ;

สูริโยว [สุริโยว (สี. สฺยา. กํ.)] โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ.

โพธิกถา นิฏฺิตา.

๒. อชปาลกถา

. [อุทา. ๔] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อชปาลนิคฺโรธมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. อถ โข อฺตโร หุํหุงฺกชาติโก พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ โหติ, กตเม จ ปน พฺราหฺมณกรณา [พฺราหฺมณการกา (ก.) พฺราหฺมณกราณา (?)] ธมฺมา’’ติ? อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

[เนตฺติ. ๑๐๓] โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺโม;

นิหุํหุงฺโก นิกฺกสาโว ยตตฺโต;

เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;

ธมฺเมน โส พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย;

ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก’’ติ.

อชปาลกถา นิฏฺิตา.

๓. มุจลินฺทกถา

. [อุทา. ๑๑] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา อชปาลนิคฺโรธมูลา เยน มุจลินฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มุจลินฺทมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. เตน โข ปน สมเยน มหา อกาลเมโฆ อุทปาทิ, สตฺตาหวทฺทลิกา สีตวาตทุทฺทินี. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา สกภวนา นิกฺขมิตฺวา ภควโต กายํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสิ – ‘‘มา ภควนฺตํ สีตํ, มา ภควนฺตํ อุณฺหํ, มา ภควนฺตํ ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺโส’’ติ […สิรึ สป… (สี. สฺยา. กํ.)]. อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน วิทฺธํ วิคตวลาหกํ เทวํ วิทิตฺวา ภควโต กายา โภเค วินิเวเตฺวา สกวณฺณํ ปฏิสํหริตฺวา มาณวกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ภควโต ปุรโต อฏฺาสิ ปฺชลิโก ภควนฺตํ นมสฺสมาโน. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

[กถา. ๓๓๘ กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ]‘‘สุโข วิเวโก ตุฏฺสฺส, สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต;

อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลเก, ปาณภูเตสุ สํยโม.

[กถา. ๓๓๘ กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ]‘‘สุขา วิราคตา โลเก, กามานํ สมติกฺกโม;

อสฺมิมานสฺส โย วินโย, เอตํ เว ปรมํ สุข’’นฺติ.

มุจลินฺทกถา นิฏฺิตา.

๔. ราชายตนกถา

. อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา มุจลินฺทมูลา เยน ราชายตนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชายตนมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที. เตน โข ปน สมเยน ตปุสฺส [ตปสฺสุ (สี.)] ภลฺลิกา วาณิชา อุกฺกลา ตํ เทสํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกานํ วาณิชานํ าติสาโลหิตา เทวตา ตปุสฺสภลฺลิเก วาณิเช เอตทโวจ – ‘‘อยํ, มาริสา, ภควา ราชายตนมูเล วิหรติ ปมาภิสมฺพุทฺโธ; คจฺฉถ ตํ ภควนฺตํ มนฺเถน จ มธุปิณฺฑิกาย จ ปติมาเนถ; ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ โน, ภนฺเต, ภควา มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ, ยํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติ. กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคณฺเหยฺยํ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจา’’ติ? อถ โข จตฺตาโร มหาราชาโน ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย จตุทฺทิสา จตฺตาโร เสลมเย ปตฺเต ภควโต อุปนาเมสุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต มนฺถฺจ มธุปิณฺฑิกฺจ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิ. อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา ภควนฺตํ โอนีตปตฺตปาณึ วิทิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ (โอนีตปตฺตปาณึ วิทิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ) [( ) สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เอตทโวจุํ – ‘‘เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ, อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติ. เต จ โลเก ปมํ อุปาสกา อเหสุํ ทฺเววาจิกา.

ราชายตนกถา นิฏฺิตา.

๕. พฺรหฺมยาจนกถา

. [อยํ พฺรหฺมยาจนกถา ที. นิ. ๒.๖๔ อาทโย; ม. นิ. ๑.๒๘๑ อาทโย; ม. นิ. ๒.๓๓๖ อาทโย; สํ. นิ. ๑.๑๗๒ อาทโย] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวา ราชายตนมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา อชปาลนิคฺโรธมูเล วิหรติ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปอจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข านํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’’ติ. อปิสฺสุ ภควนฺตํ อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา [อาวฏา (สี.)]’’ติ.

อิติห ภควโต ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ, โน ธมฺมเทสนาย.

. อถ โข พฺรหฺมุโน สหมฺปติสฺส ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เอตทโหสิ – ‘‘นสฺสติ วต โภ โลโก, วินสฺสติ วต โภ โลโก, ยตฺร หิ นาม ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ [นมิสฺสติ (?)], โน ธมฺมเทสนายา’’ติ. อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย เอวเมว – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ , ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ [อวาปุเรตํ (สี.)] อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ.

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ.

‘‘อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ [อนณ (ก.)] วิจร โลเก;

เทสสฺสุ [เทเสตุ (ก.)] ภควา ธมฺมํ;

อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

[[ ] สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, มูลปณฺณาสเกสุ ปาสราสิสุตฺเถ พฺรหฺมยาจนา สกึ เยว อาคตา] [ เอวํ วุตฺเต ภควา พฺรหฺมานํ สหมฺปตึ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข านํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติ. อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม, อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติ.

อิติห เม, พฺรหฺเม, ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ โน ธมฺมเทสนายา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ; สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ.

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ.

‘‘อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก;

เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ;

อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข ภควา พฺรหฺมานํ สหมฺปตึ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข านํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติ. อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม, อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.

‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติ.

อิติห เม, พฺรหฺเม, ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ, โน ธมฺมเทสนายา’’ติ.

ตติยมฺปิ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํ.

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ.

‘‘อุฏฺเหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก;

เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ;

อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

. อถ โข ภควา พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา สตฺเตสุ จ การุฺตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย, อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ.)] วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต. เสยฺยถาปิ นาม อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิ , อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ สโมทกํ ิตานิ, อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ [ติฏฺนฺติ (สี. สฺยา.)] อนุปลิตฺตานิ อุทเกน, เอวเมวํ ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย, อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต; ทิสฺวาน พฺรหฺมานํ สหมฺปตึ คาถาย ปจฺจภาสิ –

‘‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา;

เย โสตวนฺโต ปมุฺจนฺตุ สทฺธํ;

วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ;

ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’ติ.

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ ภควตา ธมฺมเทสนายา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

พฺรหฺมยาจนกถา นิฏฺิตา.

๖. ปฺจวคฺคิยกถา

๑๐. [ม. นิ. ๑.๒๘๔ อาทโย; ม. นิ. ๒.๓๓๙ อาทโย] อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อาฬาโร กาลาโม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติโก; ยํนูนาหํ อาฬารสฺส กาลามสฺส ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โส อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ. อถ โข อนฺตรหิตา เทวตา ภควโต อาโรเจสิ – ‘‘สตฺตาหกาลงฺกโต, ภนฺเต, อาฬาโร กาลาโม’’ติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทิ – ‘‘สตฺตาหกาลงฺกโต อาฬาโร กาลาโม’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘มหาชานิโย โข อาฬาโร กาลาโม; สเจ หิ โส อิมํ ธมฺมํ สุเณยฺย, ขิปฺปเมว อาชาเนยฺยา’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อุทโก [อุทฺทโก (สี. สฺยา.)] รามปุตฺโต ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติโก; ยํนูนาหํ อุทกสฺส รามปุตฺตสฺส ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โส อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ. อถ โข อนฺตรหิตา เทวตา ภควโต อาโรเจสิ – ‘‘อภิโทสกาลงฺกโต, ภนฺเต, อุทโก รามปุตฺโต’’ติ. ภควโตปิ โข าณํ อุทปาทิ – ‘‘อภิโทสกาลงฺกโต อุทโก รามปุตฺโต’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘มหาชานิโย โข อุทโก รามปุตฺโต; สเจ หิ โส อิมํ ธมฺมํ สุเณยฺย, ขิปฺปเมว อาชาเนยฺยา’’ติ

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘พหุการา โข เม ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู, เย มํ ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺหึสุ; ยํนูนาหํ ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข เอตรหิ ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ? อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู พาราณสิยํ วิหรนฺเต อิสิปตเน มิคทาเย. อถ โข ภควา อุรุเวลายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิ.

๑๑. อทฺทสา โข อุปโก อาชีวโก ภควนฺตํ อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต? โก วา เต สตฺถา? กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ? เอวํ วุตฺเต ภควา อุปกํ อาชีวกํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

[ธ. ป. ๓๕๓; กถา. ๔๐๕] ‘‘สพฺพาภิภู สพฺพวิทูหมสฺมิ,

สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺโต;

สพฺพฺชโห ตณฺหากฺขเย วิมุตฺโต,

สยํ อภิฺาย กมุทฺทิเสยฺยํ.

[มิ. ป. ๔.๕.๑๑ มิลินฺทปฺเหปิ; กถา. ๔๐๕] ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล.

[กถา. ๔๐๕ กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ] ‘‘อหฺหิ อรหา โลเก, อหํ สตฺถา อนุตฺตโร;

เอโกมฺหิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต.

[กถา. ๔๐๕ กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ]‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ, คจฺฉามิ กาสินํ ปุรํ;

อนฺธีภูตสฺมึ โลกสฺมึ, อาหฺฉํ [อาหฺึ (ก.)] อมตทุนฺทุภิ’’นฺติ.

ยถา โข ตฺวํ, อาวุโส, ปฏิชานาสิ, อรหสิ อนนฺตชิโนติ.

[กถา. ๔๐๕ กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ] ‘‘มาทิสา เว ชินา โหนฺติ, เย ปตฺตา อาสวกฺขยํ;

ชิตา เม ปาปกา ธมฺมา, ตสฺมาหมุปก [ตสฺมาหมุปกา (สี.)] ชิโน’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อุปโก อาชีวโก หุเปยฺยปาวุโสติ [หุเวยฺยปาวุโส (สี.) หุเวยฺยาวุโส (สฺยา.)] วตฺวา สีสํ โอกมฺเปตฺวา อุมฺมคฺคํ คเหตฺวา ปกฺกามิ.

๑๒. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี อิสิปตนํ มิคทาโย, เยน ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสํสุ โข ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน อฺมฺํ กติกํ [อิทํ ปทํ เกสุจิ นตฺถิ] สณฺเปสุํ – ‘‘อยํ, อาวุโส, สมโณ โคตโม อาคจฺฉติ, พาหุลฺลิโก ปธานวิพฺภนฺโต อาวตฺโต พาหุลฺลาย. โส เนว อภิวาเทตพฺโพ, น ปจฺจุฏฺาตพฺโพ, นาสฺส ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ; อปิ จ โข อาสนํ เปตพฺพํ, สเจ โส อากงฺขิสฺสติ นิสีทิสฺสตี’’ติ. ยถา ยถา โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู อุปสงฺกมติ, ตถา ตถา [ตถา ตถา เต (สี. สฺยา.)] ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู นาสกฺขึสุ สกาย กติกาย สณฺาตุํ . อสณฺหนฺตา ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปฺเปสิ, เอโก ปาโททกํ, เอโก ปาทปีํ, เอโก ปาทกลิกํ อุปนิกฺขิปิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน; นิสชฺช โข ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิ. อปิสฺสุ [อปิ จ โข (ปาสราสิสุตฺถ)] ภควนฺตํ นาเมน จ อาวุโสวาเทน จ สมุทาจรนฺติ. เอวํ วุตฺเต ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘มา, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาเมน จ อาวุโสวาเทน จ สมุทาจรถ [สมุทาจริตฺถ (สี. สฺยา.)]. อรหํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ, โอทหถ, ภิกฺขเว, โสตํ, อมตมธิคตํ, อหมนุสาสามิ, อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมานา [ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมานา (สฺยา.)] นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตายปิ โข ตฺวํ, อาวุโส โคตม, อิริยาย [จริยาย (สฺยา.)], ตาย ปฏิปทาย, ตาย ทุกฺกรการิกาย เนวชฺฌคา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา [อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ (สฺยา. ก.)] อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, กึ ปน ตฺวํ เอตรหิ, พาหุลฺลิโก ปธานวิพฺภนฺโต อาวตฺโต พาหุลฺลาย, อธิคมิสฺสสิ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสส’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต พาหุลฺลิโก, น ปธานวิพฺภนฺโต, น อาวตฺโต พาหุลฺลาย; อรหํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ. โอทหถ, ภิกฺขเว, โสตํ, อมตมธิคตํ, อหมนุสาสามิ , อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมานา นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเวธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ…เป…. ทุติยมฺปิ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจ…เป…. ตติยมฺปิ โข ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ตายปิ โข ตฺวํ, อาวุโส โคตม, อิริยาย, ตาย ปฏิปทาย, ตาย ทุกฺกรการิกาย เนวชฺฌคา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, กึ ปน ตฺวํ เอตรหิ, พาหุลฺลิโก ปธานวิพฺภนฺโต อาวตฺโต พาหุลฺลาย, อธิคมิสฺสสิ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสส’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อภิชานาถ เม โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ ปภาวิตเมต’’นฺติ [ภาสิตเมตนฺติ (สี. สฺยา. ก.) ฏีกาโย โอโลเกตพฺพา]? ‘‘โนเหตํ, ภนฺเต’’. อรหํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ, โอทหถ, ภิกฺขเว, โสตํ, อมตมธิคตํ, อหมนุสาสามิ, อหํ ธมฺมํ เทเสมิ. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมานา นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํพฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเวธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถาติ. อสกฺขิ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตุํ. อถ โข ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควนฺตํ สุสฺสูสึสุ, โสตํ โอทหึสุ, อฺา จิตฺตํ อุปฏฺาเปสุํ.

๑๓. อถ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘[สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑ อาทโย] ทฺเวเม, ภิกฺขเว , อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา. กตเม ทฺเว [อิทํ ปททฺวยํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ]? โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโค หีโน คมฺโม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, โย จายํ อตฺตกิลมถานุโยโค ทุกฺโข อนริโย อนตฺถสํหิโต. เอเต โข, ภิกฺขเว, อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. กตมา จ สา, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ. อยํ โข สา, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, จกฺขุกรณี าณกรณี อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ.

๑๔. ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ. ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, พฺยาธิปิ ทุกฺโข, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ. สํขิตฺเตน, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา [ปฺจุปาทานขนฺธาปิ (ก)] ทุกฺขา. ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขสมุทยํ [เอตฺถ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาทีสุ ทุกฺขสมุทโย ทุกฺขนิโรโธติ วตฺตพฺเพ ทุกฺขสมุทยํ ทุกฺขนิโรธนฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส ตโต’’ติ ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถายํ วุตฺตํ. วิสุทฺธิมคฺคฏีกายํ ปน อุปฺปาโท ภยนฺติปาวณฺณนายํ ‘‘สติปิ ทฺวินฺนํ ปทานํ สมานาธิกรณภาเว ลิงฺคเภโท คหิโต, ยถา ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. เตสุ ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจ’’นฺติ สกลิงฺคิกปาโ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ ปาฬิยา สเมติ.] อริยสจฺจํ – ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา [โปโนภวิกา (ก.)] นนฺทีราคสหคตา [นนฺทิราคสหคตา (สี. สฺยา.)] ตตฺรตตฺราภินนฺทินี, เสยฺยถิทํ – กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา.

‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ – โย ตสฺสา เยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ, จาโค, ปฏินิสฺสคฺโค, มุตฺติ, อนาลโย. ‘‘อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ – อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ.

๑๕. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ , อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริฺเยฺยนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปริฺาตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

‘‘อิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ปหาตพฺพนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ปหีนนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ สจฺฉิกาตพฺพนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ สจฺฉิกตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

‘‘อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ ภาเวตพฺพนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ. ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ ภาวิตนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.

๑๖. ‘‘ยาวกีวฺจ เม, ภิกฺขเว, อิเมสุ จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอวํ ติปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ยถาภูตํ าณทสฺสนํ น สุวิสุทฺธํ อโหสิ, เนว ตาวาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจฺาสึ. ยโต จ โข เม, ภิกฺขเว, อิเมสุ จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอวํ ติปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ยถาภูตํ าณทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ อโหสิ, อถาหํ, ภิกฺขเว, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ [อภิสมฺพุทฺโธ (สี. สฺยา.)] ปจฺจฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา อตฺตมนา ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ [อิทมโวจ…เป… อภินนฺทุนฺติวากฺยํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ].

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน อายสฺมโต โกณฺฑฺสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

๑๗. ปวตฺติเต จ ปน ภควตา ธมฺมจกฺเก, ภุมฺมา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘เอตํ ภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ, อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติ. ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ…เป… จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา ตาวตึสา เทวา…เป… ยามา เทวา…เป… ตุสิตา เทวา…เป… นิมฺมานรตี เทวา…เป… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา…เป… พฺรหฺมกายิกา เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘‘เอตํ ภควตา พาราณสิยํ อิสิปตเน มิคทาเย อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติ. อิติห, เตน ขเณน, เตน ลเยน [เตน ลเยนาติ ปททฺวยํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เตน มุหุตฺเตน ยาว พฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ. อยฺจ ทสสหสฺสิโลกธาตุ สํกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ ; อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุรโหสิ, อติกฺกมฺม เทวานํ เทวานุภาวํ. อถ โข ภควา อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อฺาสิ วต, โภ โกณฺฑฺโ, อฺาสิ วต โภ โกณฺฑฺโ’’ติ. อิติ หิทํ อายสฺมโต โกณฺฑฺสฺส ‘อฺาสิโกณฺฑฺโ’ ตฺเวว นามํ อโหสิ.

๑๘. อถ โข อายสฺมา อฺาสิโกณฺฑฺโ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสิ.

๑๙. อถ โข ภควา ตทวเสเส ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย โอวทิ อนุสาสิ. อถ โข อายสฺมโต จ วปฺปสฺส อายสฺมโต จ ภทฺทิยสฺส ภควตา ธมฺมิยา กถาย โอวทิยมานานํ อนุสาสิยมานานํ วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ.

เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

อถ โข ภควา ตทวเสเส ภิกฺขู นีหารภตฺโต ธมฺมิยา กถาย โอวทิ อนุสาสิ. ยํ ตโย ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา อาหรนฺติ, เตน ฉพฺพคฺโค ยาเปติ. อถ โข อายสฺมโต จ มหานามสฺส อายสฺมโต จ อสฺสชิสฺส ภควตา ธมฺมิยา กถาย โอวทิยมานานํ อนุสาสิยมานานํ วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ . เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

๒๐. อถ โข ภควา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

[สํ. นิ. ๓.๕๙ อาทโย] ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนตฺตา. รูปฺจ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ รูปํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺย, ลพฺเภถ จ รูเป – ‘เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, รูปํ อนตฺตา, ตสฺมา รูปํ อาพาธาย สํวตฺตติ, น จ ลพฺภติ รูเป – ‘เอวํ เม รูปํ โหตุ, เอวํ เม รูปํ มา อโหสี’ติ. เวทนา, อนตฺตา. เวทนา จ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ เวทนา อาพาธาย สํวตฺเตยฺย, ลพฺเภถ จ เวทนาย – ‘เอวํ เม เวทนา โหตุ, เอวํ เม เวทนา มา อโหสี’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, เวทนา อนตฺตา, ตสฺมา เวทนา อาพาธาย สํวตฺตติ, น จ ลพฺภติ เวทนาย – ‘เอวํ เม เวทนา โหตุ, เอวํ เม เวทนา มา อโหสี’ติ. สฺา, อนตฺตา. สฺา จ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ สฺา อาพาธาย สํวตฺเตยฺย, ลพฺเภถ จ สฺาย – ‘เอวํ เม สฺา โหตุ, เอวํ เม สฺา มา อโหสี’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สฺา อนตฺตา, ตสฺมา สฺา อาพาธาย สํวตฺตติ, น จ ลพฺภติ สฺาย – ‘เอวํ เม สฺา โหตุ, เอวํ เม สฺา มา อโหสี’ติ. สงฺขารา, อนตฺตา. สงฺขารา จ หิทํ, ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺสํสุ, นยิทํ [นยิเม (ก.)] สงฺขารา อาพาธาย สํวตฺเตยฺยุํ, ลพฺเภถ จ สงฺขาเรสุ – ‘เอวํ เม สงฺขารา โหนฺตุ, เอวํ เม สงฺขารา มา อเหสุ’นฺติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สงฺขารา อนตฺตา, ตสฺมา สงฺขารา อาพาธาย สํวตฺตนฺติ, น จ ลพฺภติ สงฺขาเรสุ – ‘เอวํ เม สงฺขารา โหนฺตุ, เอวํ เม สงฺขารา มา อเหสุ’นฺติ. วิฺาณํ, อนตฺตา. วิฺาณฺจ หิทํ , ภิกฺขเว, อตฺตา อภวิสฺส, นยิทํ วิฺาณํ อาพาธาย สํวตฺเตยฺย , ลพฺเภถ จ วิฺาเณ – ‘เอวํ เม วิฺาณํ โหตุ, เอวํ เม วิฺาณํ มา อโหสี’ติ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, วิฺาณํ อนตฺตา, ตสฺมา วิฺาณํ อาพาธาย สํวตฺตติ, น จ ลพฺภติ วิฺาเณ – ‘เอวํ เม วิฺาณํ โหตุ, เอวํ เม วิฺาณํ มา อโหสี’ติ.

๒๑. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ? อนิจฺจํ, ภนฺเต . ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. เวทนา นิจฺจา วา อนิจฺจา วาติ? อนิจฺจา, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. สฺา นิจฺจา วา อนิจฺจา วาติ? อนิจฺจา, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. สงฺขารา นิจฺจา วา อนิจฺจา วาติ? อนิจฺจา, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ? โน เหตํ, ภนฺเต. วิฺาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วาติ? อนิจฺจํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ, ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, กลฺลํ นุ ตํ สมนุปสฺสิตุํ – เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตาติ? โน เหตํ, ภนฺเต.

๒๒. ‘‘ตสฺมาติห , ภิกฺขเว, ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร [ยํ ทูเร วา (สฺยา.)] สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ – เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยา กาจิ เวทนา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกา วา สุขุมา วา หีนา วา ปณีตา วา ยา ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพา เวทนา – เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยา กาจิ สฺา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกา วา สุขุมา วา หีนา วา ปณีตา วา ยา ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพา สฺา – เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. เย เกจิ สงฺขารา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกา วา สุขุมา วา หีนา วา ปณีตา วา เย ทูเร สนฺติเก วา, สพฺเพ สงฺขารา – เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ. ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ – เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทฏฺพฺพํ.

๒๓. ‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก รูปสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, เวทนายปิ นิพฺพินฺทติ, สฺายปิ นิพฺพินฺทติ, สงฺขาเรสุปิ นิพฺพินฺทติ, วิฺาณสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ; นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ; วิราคา วิมุจฺจติ; วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติ.

๒๔. อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา ปฺจวคฺคิยา ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ [อภินนฺทุํ (สฺยา.)]. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน ปฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ. เตน โข ปน สมเยน ฉ โลเก อรหนฺโต โหนฺติ.

ปฺจวคฺคิยกถา นิฏฺิตา.

ปมภาณวาโร.

๗. ปพฺพชฺชากถา

๒๕. เตน โข ปน สมเยน พาราณสิยํ ยโส นาม กุลปุตฺโต เสฏฺิปุตฺโต สุขุมาโล โหติ. ตสฺส ตโย ปาสาทา โหนฺติ – เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก, เอโก วสฺสิโก. โส วสฺสิเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส [วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส (สี.)] นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหติ. อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ปริจารยมานสฺส ปฏิกจฺเจว [ปฏิคจฺเจว (สี.)] นิทฺทา โอกฺกมิ, ปริชนสฺสปิ นิทฺทา โอกฺกมิ, สพฺพรตฺติโย จ เตลปทีโป ฌายติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ปฏิกจฺเจว ปพุชฺฌิตฺวา อทฺทส สกํ ปริชนํ สุปนฺตํ – อฺิสฺสา กจฺเฉ วีณํ, อฺิสฺสา กณฺเ มุทิงฺคํ, อฺิสฺสา กจฺเฉ อาฬมฺพรํ, อฺํ วิเกสิกํ, อฺํ วิกฺเขฬิกํ, อฺา วิปฺปลปนฺติโย, หตฺถปฺปตฺตํ สุสานํ มฺเ. ทิสฺวานสฺส อาทีนโว ปาตุรโหสิ, นิพฺพิทาย จิตฺตํ สณฺาสิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฏฺํ วต โภ’’ติ.

อถ โข ยโส กุลปุตฺโต สุวณฺณปาทุกาโย อาโรหิตฺวา เยน นิเวสนทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ. อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวรึสุ – มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายาติ . อถ โข ยโส กุลปุตฺโต เยน นครทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ. อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวรึสุ – มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายาติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิ.

๒๖. เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อชฺโฌกาเส จงฺกมติ. อทฺทสา โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ภควโต อวิทูเร อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฏฺํ วต โภ’’ติ. อถ โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ โข, ยส, อนุปทฺทุตํ, อิทํ อนุปสฺสฏฺํ. เอหิ ยส, นิสีท, ธมฺมํ เต เทเสสฺสามี’’ติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต – อิทํ กิร อนุปทฺทุตํ , อิทํ อนุปสฺสฏฺนฺติ หฏฺโ อุทคฺโค สุวณฺณปาทุกาหิ โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ ยสํ กุลปุตฺตํ กลฺลจิตฺตํ, มุทุจิตฺตํ, วินีวรณจิตฺตํ, อุทคฺคจิตฺตํ, ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ.

๒๗. อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ยสํ กุลปุตฺตํ อปสฺสนฺตี เยน เสฏฺิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺึ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ปุตฺโต เต, คหปติ, ยโส น ทิสฺสตี’’ติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ จตุทฺทิสา อสฺสทูเต อุยฺโยเชตฺวา สามํเยว เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข เสฏฺิ คหปติ สุวณฺณปาทุกานํ นิกฺเขปํ, ทิสฺวาน ตํเยว อนุคมาสิ [อนุคมา (สี. สฺยา.)]. อทฺทสา โข ภควา เสฏฺึ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรยฺยํ ยถา เสฏฺิ คหปติ อิธ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ น ปสฺเสยฺยา’’ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรสิ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ, ภนฺเต, ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺเสยฺยา’’ติ? เตน หิ, คหปติ, นิสีท, อปฺเปว นาม อิธ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺเสยฺยาสีติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ – อิเธว กิราหํ นิสินฺโน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺสิสฺสามีติ หฏฺโ อุทคฺโค ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข เสฏฺิสฺส คหปติสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ เสฏฺึ คหปตึ กลฺลจิตฺตํ, มุทุจิตฺตํ, วินีวรณจิตฺตํ, อุทคฺคจิตฺตํ, ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย เอวเมว เสฏฺิสฺส คหปติสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (ก.)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ . โสว โลเก ปมํ อุปาสโก อโหสิ เตวาจิโก .

๒๘. อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธมฺเม เทสิยมาเน ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยสสฺส โข กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธมฺเม เทสิยมาเน ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ. อภพฺโพ โข ยโส กุลปุตฺโต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต; ยํนูนาหํ ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภสิ. อทฺทสา โข เสฏฺิ คหปติ ยสํ กุลปุตฺตํ นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มาตา เต ตาต, ยส, ปริเทว [ปริเทวี (ก.)] โสกสมาปนฺนา, เทหิ มาตุยา ชีวิต’’นฺติ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต ภควนฺตํ อุลฺโลเกสิ. อถ โข ภควา เสฏฺึ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, ยสฺส เสกฺเขน าเณน เสกฺเขน ทสฺสเนน ธมฺโม ทิฏฺโ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา? ตสฺส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ. ภพฺโพ นุ โข โส, คหปติ, หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ยสสฺส โข, คหปติ, กุลปุตฺตสฺส เสกฺเขน าเณน เสกฺเขน ทสฺสเนน ธมฺโม ทิฏฺโ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา. ตสฺส ยถาทิฏฺํ ยถาวิทิตํ ภูมึ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ. อภพฺโพ โข, คหปติ, ยโส กุลปุตฺโต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโต’’ติ. ‘‘ลาภา, ภนฺเต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส, สุลทฺธํ, ภนฺเต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส, ยถา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ. อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา อชฺชตนาย ภตฺตํ ยเสน กุลปุตฺเตน ปจฺฉาสมเณนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เสฏฺิ คหปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ยโส กุลปุตฺโต อจิรปกฺกนฺเต เสฏฺิมฺหิ คหปติมฺหิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสิ. เตน โข ปน สมเยน สตฺต โลเก อรหนฺโต โหนฺติ.

ยสสฺส ปพฺพชฺชา นิฏฺิตา.

๒๙. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา ยเสน ปจฺฉาสมเณน เยน เสฏฺิสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมโต ยสสฺส มาตา จ ปุราณทุติยิกา จ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. ตาสํ ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ตา ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺตา, มุทุจิตฺตา, วินีวรณจิตฺตา, อุทคฺคจิตฺตา, ปสนฺนจิตฺตา, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ . เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว ตาสํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ. ตา ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… เอตา มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสิกาโย โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตา สรณํ คตา’’ติ. ตา จ โลเก ปมํ อุปาสิกา อเหสุํ เตวาจิกา.

อถ โข อายสฺมโต ยสสฺส มาตา จ ปิตา จ ปุราณทุติยิกา จ ภควนฺตฺจ อายสฺมนฺตฺจ ยสํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ, เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ โข ภควา อายสฺมโต ยสสฺส มาตรฺจ ปิตรฺจ ปุราณทุติยิกฺจ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๓๐. อสฺโสสุํ โข อายสฺมโต ยสสฺส จตฺตาโร คิหิสหายกา พาราณสิยํ เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุลานํ ปุตฺตา – วิมโล, สุพาหุ , ปุณฺณชิ, ควมฺปติ – ยโส กิร กุลปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโตติ. สุตฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา ปพฺพชฺชา, ยตฺถ ยโส กุลปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’’ติ. เต [เต จตฺตาโร ชนา (ก.)] เยนายสฺมา ยโส เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ยสํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ โข อายสฺมา ยโส เต จตฺตาโร คิหิสหายเก อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ยโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเม เม, ภนฺเต, จตฺตาโร คิหิสหายกา พาราณสิยํ เสฏฺานุเสฏฺีนํ กุลานํ ปุตฺตา – วิมโล, สุพาหุ, ปุณฺณชิ, ควมฺปติ. อิเม [อิเม จตฺตาโร (ก.)] ภควา โอวทตุ อนุสาสตู’’ติ . เตสํ ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ, ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ, เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย โอวทิ อนุสาสิ. เตสํ ภควตา ธมฺมิยา กถาย โอวทิยมานานํ อนุสาสิยมานานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ. เตน โข ปน สมเยน เอกาทส โลเก อรหนฺโต โหนฺติ.

จตุคิหิสหายกปพฺพชฺชา นิฏฺิตา.

๓๑. อสฺโสสุํ โข อายสฺมโต ยสสฺส ปฺาสมตฺตา คิหิสหายกา ชานปทา ปุพฺพานุปุพฺพกานํ กุลานํ ปุตฺตา – ยโส กิร กุลปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโตติ. สุตฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา ปพฺพชฺชา, ยตฺถ ยโส กุลปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’’ติ. เต เยนายสฺมา ยโส เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ยสํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. อถ โข อายสฺมา ยโส เต ปฺาสมตฺเต คิหิสหายเก อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ยโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเม เม, ภนฺเต, ปฺาสมตฺตา คิหิสหายกา ชานปทา ปุพฺพานุปุพฺพกานํ กุลานํ ปุตฺตา. อิเม ภควา โอวทตุ อนุสาสตู’’ติ. เตสํ ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ, เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ. เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย โอวทิ อนุสาสิ. เตสํ ภควตา ธมฺมิยา กถาย โอวทิยมานานํ อนุสาสิยมานานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ. เตน โข ปน สมเยน เอกสฏฺิ โลเก อรหนฺโต โหนฺติ.

ปฺาสคิหิสหายกปพฺพชฺชา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ ปพฺพชฺชากถา.

๘. มารกถา

๓๒. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู อามนฺเตสิ [สํ. นิ. ๑.๑๔๑ มารสํยุตฺเตปิ] – ‘‘มุตฺตาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา. ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว , มุตฺตา สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา. จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ. เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา , อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อหมฺปิ, ภิกฺขเว, เยน อุรุเวลา เสนานิคโม เตนุปสงฺกมิสฺสามิ ธมฺมเทสนายา’’ติ.

๓๓. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘พทฺโธสิ สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนพทฺโธสิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.

‘‘มุตฺตาหํ [มุตฺโตหํ (สี. สฺยา.)] สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนมุตฺโตมฺหิ, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกาติ.

[สํ. นิ. ๑.๑๕๑ มารสํยุตฺเตปิ] ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส;

เตน ตํ พาธยิสฺสามิ, น เม สมณ โมกฺขสีติ.

[สํ. นิ. ๑.๑๑๕๑ มารสํยุตฺเตปิ] ‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

เอตฺถ เม วิคโต ฉนฺโท, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา – ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโตติ ทุกฺขี ทุมฺมโน

ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

มารกถา นิฏฺิตา.

๙. ปพฺพชฺชูปสมฺปทากถา

๓๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ – ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติ. ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เอตรหิ โข ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ – ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติ. ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จ. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อนุชาเนยฺยํ – ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถา’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เอตรหิ โข ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติ, ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จ, ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อนุชาเนยฺยํ ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถา’’’ติ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตุมฺเหว ทานิ ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปพฺพาเชตพฺโพ อุปสมฺปาเทตพฺโพ –

ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา [โอหาเรตฺวา (ก.)], กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา, เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา, ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา, อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา, อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา, เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ – พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ทุติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ตติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปท’’นฺติ.

ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปทากถา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยมารกถา

๓๕. อถ โข ภควา วสฺสํวุฏฺโ [วสฺสํวุตฺโถ (สี.)] ภิกฺขู อามนฺเตสิ [สํ. นิ. ๑.๑๕๕] – ‘‘มยฺหํ โข, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา โยนิโส สมฺมปฺปธานา อนุตฺตรา วิมุตฺติ อนุปฺปตฺตา, อนุตฺตรา วิมุตฺติ สจฺฉิกตา . ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา โยนิโส สมฺมปฺปธานา อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ อนุปาปุณาถ, อนุตฺตรํ วิมุตฺตึ สจฺฉิกโรถา’’ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘พทฺโธสิ มารปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนพทฺโธสิ [มารพนฺธนพทฺโธสิ (สี. สฺยา.)], น เม สมณ โมกฺขสี’’ติ.

‘‘มุตฺตาหํ มารปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนมุตฺโตมฺหิ [มารพนฺธนมุตฺโตมฺหิ (สี. สฺยา.)], นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติ.

อถ โข มาโร ปาปิมา – ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโตติ ทุกฺขี ทุมฺมโน

ตตฺเถวนฺตรธายิ.

ทุติยมารกถา นิฏฺิตา.

๑๑. ภทฺทวคฺคิยวตฺถุ

๓๖. อถ โข ภควา พาราณสิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน อุรุเวลา เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน ตึสมตฺตา ภทฺทวคฺคิยา สหายกา สปชาปติกา ตสฺมึ วนสณฺเฑ ปริจาเรนฺติ. เอกสฺส ปชาปติ นาโหสิ; ตสฺส อตฺถาย เวสี อานีตา อโหสิ. อถ โข สา เวสี เตสุ ปมตฺเตสุ ปริจาเรนฺเตสุ ภณฺฑํ อาทาย ปลายิตฺถ. อถ โข เต สหายกา สหายกสฺส เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตา, ตํ อิตฺถึ คเวสนฺตา, ตํ วนสณฺฑํ อาหิณฺฑนฺตา อทฺทสํสุ ภควนฺตํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ. ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อปิ, ภนฺเต, ภควา เอกํ อิตฺถึ ปสฺเสยฺยา’’ติ? ‘‘กึ ปน โว, กุมารา, อิตฺถิยา’’ติ? ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ตึสมตฺตา ภทฺทวคฺคิยา สหายกา สปชาปติกา อิมสฺมึ วนสณฺเฑ ปริจาริมฺหา. เอกสฺส ปชาปติ นาโหสิ; ตสฺส อตฺถาย เวสี อานีตา อโหสิ. อถ โข สา, ภนฺเต , เวสี อมฺเหสุ ปมตฺเตสุ ปริจาเรนฺเตสุ ภณฺฑํ อาทาย ปลายิตฺถ. เต มยํ, ภนฺเต, สหายกา สหายกสฺส เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตา, ตํ อิตฺถึ คเวสนฺตา, อิมํ วนสณฺฑํ อาหิณฺฑามา’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺถ โว, กุมารา, กตมํ นุ โข ตุมฺหากํ วรํ – ยํ วา ตุมฺเห อิตฺถึ คเวเสยฺยาถ, ยํ วา อตฺตานํ คเวเสยฺยาถา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, อมฺหากํ วรํ ยํ มยํ อตฺตานํ คเวเสยฺยามา’’ติ. ‘‘เตน หิ โว, กุมารา, นิสีทถ, ธมฺมํ โว เทเสสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภทฺทวคฺคิยา สหายกา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เตสํ ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ, ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ, เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

ภทฺทวคฺคิยสหายกานํ วตฺถุ นิฏฺิตํ.

ทุติยภาณวาโร.

๑๒. อุรุเวลปาฏิหาริยกถา

๓๗. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน อุรุเวลา ตทวสริ. เตน โข ปน สมเยน อุรุเวลายํ ตโย ชฏิลา ปฏิวสนฺติ – อุรุเวลกสฺสโป, นทีกสฺสโป, คยากสฺสโปติ. เตสุ อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ปฺจนฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข. นทีกสฺสโป ชฏิโล ติณฺณํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข. คยากสฺสโป ชฏิโล ทฺวินฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข. อถ โข ภควา เยน อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป , อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเสี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเสี’’ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเสี’’ติ. ‘‘อปฺเปว มํ น วิเหเยฺย, อิงฺฆ ตฺวํ, กสฺสป, อนุชานาหิ อคฺยาคาร’’นฺติ. ‘‘วิหร, มหาสมณ, ยถาสุข’’นฺติ. อถ โข ภควา อคฺยาคารํ ปวิสิตฺวา ติณสนฺถารกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.

๓๘. อทฺทสา โข โส นาโค ภควนฺตํ ปวิฏฺํ, ทิสฺวาน ทุมฺมโน [ทุกฺขี ทุมฺมโน (สี. สฺยา.)] ปธูปายิ [ปขูปาสิ (ก.)]. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมสฺส นาคสฺส อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารุฺจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ เตชสา เตชํ ปริยาทิเยยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา ปธูปายิ. อถ โข โส นาโค มกฺขํ อสหมาโน ปชฺชลิ. ภควาปิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปชฺชลิ. อุภินฺนํ สโชติภูตานํ อคฺยาคารํ อาทิตฺตํ วิย โหติ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ. อถ โข เต ชฏิลา อคฺยาคารํ ปริวาเรตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อภิรูโป วต โภ มหาสมโณ นาเคน วิเหิยตี’’ติ. อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตสฺส นาคสฺส อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารุฺจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ เตชสา เตชํ ปริยาทิยิตฺวา ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ทสฺเสสิ – ‘‘อยํ เต, กสฺสป, นาโค ปริยาทินฺโน [ปริยาทิณฺโณ (ก.)] อสฺส เตชสา เตโช’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จณฺฑสฺส นาคราชสฺส อิทฺธิมโต อาสิวิสสฺส โฆรวิสสฺส เตชสา เตชํ ปริยาทิยิสฺสติ, นตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๓๙.

เนรฺชรายํ ภควา, อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อโวจ;

‘‘สเจ เต กสฺสป อครุ, วิหเรมุ อชฺชณฺโห อคฺคิสาลมฺหี’’ติ [อคฺคิสรณมฺหีติ (สี. สฺยา.)].

‘‘น โข เม มหาสมณ ครุ;

ผาสุกาโมว ตํ นิวาเรมิ;

จณฺเฑตฺถ นาคราชา;

อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส;

โส ตํ มา วิเหเสี’’ติ.

‘‘อปฺเปว มํ น วิเหเยฺย;

อิงฺฆ ตฺวํ กสฺสป อนุชานาหิ อคฺยาคาร’’นฺติ;

ทินฺนนฺติ นํ วิทิตฺวา;

อภีโต [อสมฺภีโต (สี.)] ปาวิสิ ภยมตีโต.

ทิสฺวา อิสึ ปวิฏฺํ, อหินาโค ทุมฺมโน ปธูปายิ;

สุมนมนโส อธิมโน [อวิมโน (กตฺถจิ), นวิมโน (สฺยา.)], มนุสฺสนาโคปิ ตตฺถ ปธูปายิ.

มกฺขฺจ อสหมาโน, อหินาโค ปาวโกว ปชฺชลิ;

เตโชธาตุสุ กุสโล, มนุสฺสนาโคปิ ตตฺถ ปชฺชลิ.

อุภินฺนํ สโชติภูตานํ;

อคฺยาคารํ อาทิตฺตํ โหติ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ;

อุทิจฺฉเร ชฏิลา;

‘‘อภิรูโป วต โภ มหาสมโณ;

นาเคน วิเหิยตี’’ติ ภณนฺติ.

อถ ตสฺสา รตฺติยา [อถ รตฺติยา (สี. สฺยา.)] อจฺจเยน;

หตา นาคสฺส อจฺจิโย โหนฺติ [อหินาคสฺส อจฺจิโย น โหนฺติ (สี. สฺยา.)];

อิทฺธิมโต ปน ิตา [อิทฺธิมโต ปนุฏฺิตา (สี.)];

อเนกวณฺณา อจฺจิโย โหนฺติ.

นีลา อถ โลหิติกา;

มฺชิฏฺา ปีตกา ผลิกวณฺณาโย;

องฺคีรสสฺส กาเย;

อเนกวณฺณา อจฺจิโย โหนฺติ.

ปตฺตมฺหิ โอทหิตฺวา;

อหินาคํ พฺราหฺมณสฺส ทสฺเสสิ;

‘‘อยํ เต กสฺสป นาโค;

ปริยาทินฺโน อสฺส เตชสา เตโช’’ติ.

อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควโต อิมินา อิทฺธิปาฏิหาริเยน อภิปฺปสนฺโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเธว, มหาสมณ, วิหร, อหํ เต [เต อุปฏฺามิ (อิติปิ)] ธุวภตฺเตนา’’ติ.

ปมํ ปาฏิหาริยํ.

๔๐. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส อสฺสมสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ วิหาสิ. อถ โข จตฺตาโร มหาราชาโน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา จตุทฺทิสา อฏฺํสุ เสยฺยถาปิ มหนฺตา อคฺคิกฺขนฺธา. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ. เก นุ โข เต, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมึสุ , อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา จตุทฺทิสา อฏฺํสุ ‘‘เสยฺยถาปิ มหนฺตา อคฺคิกฺขนฺธา’’ติ. ‘‘เอเต โข, กสฺสป, จตฺตาโร มหาราชาโน เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ ธมฺมสฺสวนายา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม จตฺตาโรปิ มหาราชาโน อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ทุติยํ ปาฏิหาริยํ.

๔๑. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ , อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ. โก นุ โข โส, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘เอโส โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ ธมฺมสฺสวนายา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม สกฺโกปิ เทวานมินฺโท อุปสงฺกมิสฺสติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ตติยํ ปาฏิหาริยํ.

๔๒. อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ. โก นุ โข โส, มหาสมณ, อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ วนสณฺฑํ โอภาเสตฺวา เยน ตฺวํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ เสยฺยถาปิ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ปุริมาหิ วณฺณนิภาหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘เอโส โข, กสฺสป, พฺรหฺมา สหมฺปติ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ ธมฺมสฺสวนายา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม พฺรหฺมาปิ สหมฺปติ อุปสงฺกมิสฺสติ ธมฺมสฺสวนาย, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

จตุตฺถํ ปาฏิหาริยํ.

๔๓. เตน โข ปน สมเยน อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิตุกามา โหนฺติ . อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต, เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิสฺสนฺติ. สเจ มหาสมโณ มหาชนกาเย อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ , มหาสมณสฺส ลาภสกฺกาโร อภิวฑฺฒิสฺสติ, มม ลาภสกฺกาโร ปริหายิสฺสติ. อโห นูน มหาสมโณ สฺวาตนาย นาคจฺเฉยฺยา’’ติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อุตฺตรกุรุํ คนฺตฺวา ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทเห ปริภุฺชิตฺวา ตตฺเถว ทิวาวิหารํ อกาสิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ. กึ นุ โข, มหาสมณ, หิยฺโย นาคมาสิ? อปิ จ มยํ ตํ สราม – กึ นุ โข มหาสมโณ นาคจฺฉตีติ? ขาทนียสฺส จ โภชนียสฺส จ เต ปฏิวีโส [ปฏิวึโส (สี.), ปฏิวิโส (สฺยา.)] ปิโต’’ติ. นนุ เต, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘‘เอตรหิ โข เม มหายฺโ ปจฺจุปฏฺิโต, เกวลกปฺปา จ องฺคมคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิสฺสนฺติ, สเจ มหาสมโณ มหาชนกาเย อิทฺธิปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, มหาสมณสฺส ลาภสกฺกาโร อภิวฑฺฒิสฺสติ, มม ลาภสกฺกาโร ปริหายิสฺสติ, อโห นูน มหาสมโณ สฺวาตนาย นาคจฺเฉยฺยา’ติ. โส โข อหํ, กสฺสป, ตว เจตสา เจโตปริวิตกฺกํ อฺาย อุตฺตรกุรุํ คนฺตฺวา ตโต ปิณฺฑปาตํ อาหริตฺวา อโนตตฺตทเห ปริภุฺชิตฺวา ตตฺเถว ทิวาวิหารํ อกาสิ’’นฺติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม เจตสาปิ จิตฺตํ ปชานิสฺสติ , น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

ปฺจมํ ปาฏิหาริยํ.

๔๔. เตน โข ปน สมเยน ภควโต ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ โธเวยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ โธวตู’’ติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ ปริมทฺเทยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ ปริมทฺทตูติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ [อหํ ปํสุกูลํ (ก.)] อาลมฺพิตฺวา อุตฺตเรยฺย’’นฺติ? อถ โข กกุเธ อธิวตฺถา เทวตา ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สาขํ โอนาเมสิ – อิธ, ภนฺเต, ภควา อาลมฺพิตฺวา อุตฺตรตูติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ? อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชตูติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กาโล , มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺตํ. กึ นุ โข, มหาสมณ, นายํ ปุพฺเพ อิธ โปกฺขรณี, สายํ อิธ โปกฺขรณี. นยิมา สิลา ปุพฺเพ อุปนิกฺขิตฺตา. เกนิมา สิลา อุปนิกฺขิตฺตา? นยิมสฺส กกุธสฺส ปุพฺเพ สาขา โอนตา, สายํ สาขา โอนตา’’ติ. อิธ เม, กสฺสป, ปํสุกูลํ อุปฺปนฺนํ อโหสิ. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ โธเวยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย ปาณินา โปกฺขรณึ ขณิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ โธวตู’’ติ. สายํ กสฺสป อมนุสฺเสน ปาณินา ขณิตา โปกฺขรณี. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ ปริมทฺเทยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ ปริมทฺทตู’’ติ. สายํ กสฺสป อมนุสฺเสน อุปนิกฺขิตฺตา สิลา. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ อาลมฺพิตฺวา อุตฺตเรยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, กกุเธ อธิวตฺถา เทวตา ช มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย สาขํ โอนาเมสิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา อาลมฺพิตฺวา อุตฺตรตู’’ติ. สฺวายํ อาหรหตฺโถ กกุโธ. ตสฺส มยฺหํ, กสฺสป, เอตทโหสิ – ‘‘กิมฺหิ นุ โข อหํ ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ? อถ โข, กสฺสป, สกฺโก เทวานมินฺโท มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย มหตึ สิลํ อุปนิกฺขิปิ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปํสุกูลํ วิสฺสชฺเชตู’’ติ . สายํ กสฺสป อมนุสฺเสน อุปนิกฺขิตฺตา สิลาติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม สกฺโกปิ เทวานมินฺโท เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, กสฺสป, อายามห’’นฺติ อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ‘ชมฺพุทีโป’ ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ อคฺยาคาเร นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตเมน ตฺวํ, มหาสมณ, มคฺเคน อาคโต? อหํ ตยา ปมตรํ ปกฺกนฺโต, โส ตฺวํ ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน’’ติ. ‘‘อิธาหํ, กสฺสป, ตํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ‘ชมฺพุทีโป’ ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน. อิทํ โข, กสฺสป, ชมฺพุผลํ วณฺณสมฺปนฺนํ คนฺธสมฺปนฺนํ รสสมฺปนฺนํ. สเจ อากงฺขสิ ปริภุฺชา’’ติ. ‘‘อลํ, มหาสมณ, ตฺวํเยว ตํ อรหสิ , ตฺวํเยว ตํ [ตฺวํเยเวตํ อาหรสิ, ตฺวํเยเวตํ (สี. สฺยา.)] ปริภุฺชาหี’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม มํ ปมตรํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ‘ชมฺพุทีโป’ ปฺายติ, ตโต ผลํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหาสิ.

๔๕. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, มหาสมณ, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. คจฺฉ ตฺวํ, กสฺสป, อายามหนฺติ อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ อุยฺโยเชตฺวา ยาย ชมฺพุยา ‘ชมฺพุทีโป’ ปฺายติ, ตสฺสา อวิทูเร อมฺโพ…เป… ตสฺสา อวิทูเร อามลกี…เป… ตสฺสา อวิทูเร หรีตกี…เป… ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ อคฺยาคาเร นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กตเมน ตฺวํ, มหาสมณ, มคฺเคน อาคโต? อหํ ตยา ปมตรํ ปกฺกนฺโต, โส ตฺวํ ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน’’ติ. ‘‘อิธาหํ , กสฺสป, ตํ อุยฺโยเชตฺวา ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสินฺโน. อิทํ โข, กสฺสป, ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ วณฺณสมฺปนฺนํ คนฺธสมฺปนฺนํ [สุคนฺธิกํ (ก.)]. (สเจ อากงฺขสิ คณฺหา’’ติ. ‘‘อลํ, มหาสมณ, ตฺวํเยว ตํ อรหสิ, ตฺวํเยว ตํ คณฺหา’’ติ) [( ) สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ]. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม มํ ปมตรํ อุยฺโยเชตฺวา ตาวตึสํ คนฺตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ คเหตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา อคฺยาคาเร นิสีทิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๔๖. เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตุกามา น สกฺโกนฺติ กฏฺานิ ผาเลตุํ . อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว, ยถา มยํ น สกฺโกม กฏฺานิ ผาเลตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘ผาลิยนฺตุ, กสฺสป, กฏฺานี’’ติ. ‘‘ผาลิยนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ กฏฺสตานิ ผาลิยึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม กฏฺานิปิ ผาลิยิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๔๗. เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตุกามา น สกฺโกนฺติ อคฺคึ อุชฺชเลตุํ [ชาเลตุํ (สี.), อุชฺชลิตุํ (ก.)]. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว, ยถา มยํ น สกฺโกม อคฺคึ อุชฺชเลตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘อุชฺชลิยนฺตุ, กสฺสป, อคฺคี’’ติ. ‘‘อุชฺชลิยนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ อคฺคิสตานิ อุชฺชลิยึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม อคฺคีปิ อุชฺชลิยิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๔๘. เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา อคฺคึ ปริจริตฺวา น สกฺโกนฺติ อคฺคึ วิชฺฌาเปตุํ. อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว, ยถา มยํ น สกฺโกม อคฺคึ วิชฺฌาเปตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘วิชฺฌายนฺตุ, กสฺสป, อคฺคี’’ติ. ‘‘วิชฺฌายนฺตุ, มหาสมณา’’ติ. สกิเทว ปฺจ อคฺคิสตานิ วิชฺฌายึสุ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม อคฺคีปิ วิชฺฌายิสฺสนฺติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๔๙. เตน โข ปน สมเยน เต ชฏิลา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺกาสุ หิมปาตสมเย นชฺชา เนรฺชราย อุมฺมุชฺชนฺติปิ, นิมุชฺชนฺติปิ, อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนมฺปิ กโรนฺติ. อถ โข ภควา ปฺจมตฺตานิ มนฺทามุขิสตานิ อภินิมฺมินิ, ยตฺถ เต ชฏิลา อุตฺตริตฺวา วิสิพฺเพสุํ . อถ โข เตสํ ชฏิลานํ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข มหาสมณสฺส อิทฺธานุภาโว, ยถยิมา มนฺทามุขิโย นิมฺมิตา’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม ตาว พหู มนฺทามุขิโยปิ อภินิมฺมินิสฺสติ, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๕๐. เตน โข ปน สมเยน มหา อกาลเมโฆ ปาวสฺสิ, มหา อุทกวาหโก สฺชายิ. ยสฺมึ ปเทเส ภควา วิหรติ, โส ปเทโส อุทเกน น โอตฺถโฏ [อุทเกน โอตฺถโฏ (สี. สฺยา.)] โหติ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกเมยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกมิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล – มาเหว โข มหาสมโณ อุทเกน วูฬฺโห อโหสีติ นาวาย สมฺพหุเลหิ ชฏิเลหิ สทฺธึ ยสฺมึ ปเทเส ภควา วิหรติ ตํ ปเทสํ อคมาสิ. อทฺทสา โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควนฺตํ สมนฺตา อุทกํ อุสฺสาเรตฺวา มชฺเฌ เรณุหตาย ภูมิยา จงฺกมนฺตํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ ตฺวํ, มหาสมณา’’ติ? ‘‘อยมหมสฺมิ [อาม อหมสฺมิ (สฺยา.)], กสฺสปา’’ติ ภควา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา นาวาย ปจฺจุฏฺาสิ. อถ โข อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, ยตฺร หิ นาม อุทกมฺปิ น ปวาหิสฺสติ [นปฺปสหิสฺสติ (สี.)], น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’’นฺติ.

๕๑. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘จิรมฺปิ โข อิมสฺส โมฆปุริสสฺส เอวํ ภวิสฺสติ – ‘มหิทฺธิโก โข มหาสมโณ มหานุภาโว, น ตฺเวว จ โข อรหา ยถา อห’นฺติ; ยํนูนาหํ อิมํ ชฏิลํ สํเวเชยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘เนว จ โข ตฺวํ, กสฺสป, อรหา, นาปิ อรหตฺตมคฺคสมาปนฺโน. สาปิ เต ปฏิปทา นตฺถิ, ยาย ตฺวํ อรหา วา อสฺสสิ, อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺโน’’ติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ตฺวํ โขสิ, กสฺสป, ปฺจนฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโข. เตปิ ตาว อปโลเกหิ, ยถา เต มฺิสฺสนฺติ ตถา เต กริสฺสนฺตีติ. อถ โข อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล เยน เต ชฏิลา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ชฏิเล เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ , โภ, มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, ยถา ภวนฺโต มฺนฺติ ตถา กโรนฺตู’’ติ. ‘‘จิรปฏิกา มยํ, โภ, มหาสมเณ อภิปฺปสนฺนา, สเจ ภวํ, มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสติ, สพฺเพว มยํ มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

๕๒. อทฺทสา โข นทีกสฺสโป ชฏิโล เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก วุยฺหมาเน, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มาเหว เม ภาตุโน อุปสคฺโค อโหสี’’ติ. ชฏิเล ปาเหสิ – คจฺฉถ เม ภาตรํ ชานาถาติ. สามฺจ ตีหิ ชฏิลสเตหิ สทฺธึ เยนายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุรุเวลกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ โข, กสฺสป, เสยฺโย’’ติ? ‘‘อามาวุโส, อิทํ เสยฺโย’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

๕๓. อทฺทสา โข คยากสฺสโป ชฏิโล เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก วุยฺหมาเน, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มาเหว เม ภาตูนํ อุปสคฺโค อโหสี’’ติ. ชฏิเล ปาเหสิ – คจฺฉถ เม ภาตโร ชานาถาติ. สามฺจ ทฺวีหิ ชฏิลสเตหิ สทฺธึ เยนายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุรุเวลกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ นุ โข, กสฺสป, เสยฺโย’’ติ? ‘‘อามาวุโส, อิทํ เสยฺโย’’ติ. อถ โข เต ชฏิลา เกสมิสฺสํ ชฏามิสฺสํ ขาริกาชมิสฺสํ อคฺคิหุตมิสฺสํ อุทเก ปวาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

ภควโต อธิฏฺาเนน ปฺจ กฏฺสตานิ น ผาลิยึสุ, ผาลิยึสุ; อคฺคี น อุชฺชลิยึสุ, อุชฺชลิยึสุ; น วิชฺฌายึสุ, วิชฺฌายึสุ; ปฺจมนฺทามุขิสตานิ อภินิมฺมินิ. เอเตน นเยน อฑฺฒุฑฺฒปาฏิหาริยสหสฺสานิ โหนฺติ.

๕๔. อถ โข ภควา อุรุเวลายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน คยาสีสํ เตน ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ภิกฺขุสหสฺเสน สพฺเพเหว ปุราณชฏิเลหิ. ตตฺร สุทํ ภควา คยายํ วิหรติ คยาสีเส สทฺธึ ภิกฺขุสหสฺเสน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

[สํ. นิ. ๔.๒๙] ‘‘สพฺพํ , ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ. กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ? จกฺขุ อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา, จกฺขุวิฺาณํ อาทิตฺตํ, จกฺขุสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ. โสตํ อาทิตฺตํ, สทฺทา อาทิตฺตา, โสตวิฺาณํ อาทิตฺตํ, โสตสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ โสตสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ. ฆานํ อาทิตฺตํ, คนฺธา อาทิตฺตา, ฆานวิฺาณํ อาทิตฺตํ, ฆานสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ ฆานสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ. ชิวฺหา อาทิตฺตา, รสา อาทิตฺตา, ชิวฺหาวิฺาณํ อาทิตฺตํ ชิวฺหาสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ ชิวฺหาสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ. กาโย อาทิตฺโต, โผฏฺพฺพา อาทิตฺตา, กายวิฺาณํ อาทิตฺตํ กายสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ กายสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ. มโน อาทิตฺโต, ธมฺมา อาทิตฺตา, มโนวิฺาณํ อาทิตฺตํ มโนสมฺผสฺโส อาทิตฺโต, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตมฺปิ อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา อาทิตฺตํ, ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ อาทิตฺตนฺติ วทามิ.

‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, รูเปสุปิ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุวิฺาเณปิ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุสมฺผสฺเสปิ นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ จกฺขุสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา, ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ. โสตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, สทฺเทสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… ฆานสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ , คนฺเธสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… ชิวฺหายปิ นิพฺพินฺทติ, รเสสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… กายสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, โผฏฺพฺเพสุปิ นิพฺพินฺทติ…เป… มนสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, ธมฺเมสุปิ นิพฺพินฺทติ, มโนวิฺาเณปิ นิพฺพินฺทติ, มโนสมฺผสฺเสปิ นิพฺพินฺทติ, ยมิทํ มโนสมฺผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ, วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหติ. ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตี’’ติ.

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน ตสฺส ภิกฺขุสหสฺสสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.

อาทิตฺตปริยายสุตฺตํ นิฏฺิตํ.

อุรุเวลปาฏิหาริยํ ตติยภาณวาโร นิฏฺิโต.

๑๓. พิมฺพิสารสมาคมกถา

๕๕. อถ โข ภควา คยาสีเส ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ, มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ภิกฺขุสหสฺเสน สพฺเพเหว ปุราณชฏิเลหิ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรติ ลฏฺิวเน [ลฏฺิวนุยฺยาเน (สฺยา.)] สุปฺปติฏฺเ เจติเย. อสฺโสสิ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร – สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต ราชคหํ อนุปฺปตฺโต ราชคเห วิหรติ ลฏฺิวเน สุปฺปติฏฺเ เจติเย. ตํ โข ปน ภควนฺตํ [ภวนฺตํ (ก.)] โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา [ภควาติ (ก.)]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตีติ.

อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ทฺวาทสนหุเตหิ [ทฺวาทสนิยุเตหิ (โยชนา)] มาคธิเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เตปิ โข ทฺวาทสนหุตา มาคธิกา พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ โข เตสํ ทฺวาทสนหุตานํ [ทฺวาทสนิยุตานํ (โยชนา)] มาคธิกานํ พฺราหฺมณคหปติกานํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข มหาสมโณ อุรุเวลกสฺสเป พฺรหฺมจริยํ จรติ, อุทาหุ อุรุเวลกสฺสโป มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ? อถ โข ภควา เตสํ ทฺวาทสนหุตานํ มาคธิกานํ พฺราหฺมณคหปติกานํ เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อายสฺมนฺตํ อุรุเวลกสฺสปํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘กิเมว ทิสฺวา อุรุเวลวาสิ, ปหาสิ อคฺคึ กิสโกวทาโน;

ปุจฺฉามิ ตํ กสฺสป, เอตมตฺถํ กถํ ปหีนํ ตว อคฺคิหุตฺตนฺติ.

‘‘รูเป จ สทฺเท จ อโถ รเส จ;

กามิตฺถิโย จาภิวทนฺติ ยฺา;

เอตํ มลนฺติ อุปธีสุ ตฺวา;

ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชินฺติ.

‘‘เอตฺเถว เต มโน น รมิตฺถ (กสฺสปาติ ภควา);

รูเปสุ สทฺเทสุ อโถ รเสสุ;

อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก;

รโต มโน กสฺสป, พฺรูหิ เมตนฺติ.

‘‘ทิสฺวา ปทํ สนฺตมนูปธีกํ;

อกิฺจนํ กามภเว อสตฺตํ;

อนฺถาภาวิมนฺเนยฺยํ;

ตสฺมา น ยิฏฺเ น หุเต อรฺชิ’’นฺติ.

๕๖. อถ โข อายสฺมา อุรุเวลกสฺสโป อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมิ; สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ. อถ โข เตสํ ทฺวาทสนหุตานํ มาคธิกานํ พฺราหฺมณคหปติกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อุรุเวลกสฺสโป มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติ. อถ โข ภควา เตสํ ทฺวาทสนหุตานํ มาคธิกานํ พฺราหฺมณคหปติกานํ เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เอกาทสนหุตานํ มาคธิกานํ พฺราหฺมณคหปติกานํ พิมฺพิสารปฺปมุขานํ ตสฺมึ เยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ. เอกนหุตํ อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสิ.

๕๗. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, กุมารสฺส สโต ปฺจ อสฺสาสกา อเหสุํ, เต เม เอตรหิ สมิทฺธา. ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, กุมารสฺส สโต เอตทโหสิ – ‘อโห วต มํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุ’นฺติ, อยํ โข เม, ภนฺเต, ปโม อสฺสาสโก อโหสิ, โส เม เอตรหิ สมิทฺโธ. ‘ตสฺส จ เม วิชิตํ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โอกฺกเมยฺยา’ติ, อยํ โข เม, ภนฺเต, ทุติโย อสฺสาสโก อโหสิ, โส เม เอตรหิ สมิทฺโธ. ‘ตฺจาหํ ภควนฺตํ ปยิรุปาเสยฺย’นฺติ, อยํ โข เม, ภนฺเต, ตติโย อสฺสาสโก อโหสิ, โส เม เอตรหิ สมิทฺโธ. ‘โส จ เม ภควา ธมฺมํ เทเสยฺยา’ติ, อยํ โข เม, ภนฺเต, จตุตฺโถ อสฺสาสโก อโหสิ, โส เม เอตรหิ สมิทฺโธ. ‘ตสฺส จาหํ ภควโต ธมฺมํ อาชาเนยฺย’นฺติ, อยํ โข เม, ภนฺเต, ปฺจโม อสฺสาสโก อโหสิ, โส เม เอตรหิ สมิทฺโธ. ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, กุมารสฺส สโต อิเม ปฺจ อสฺสาสกา อเหสุํ, เต เม เอตรหิ สมิทฺธา. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ [มํ ภนฺเต (ก.)], ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ, อธิวาเสตุ จ เม, ภนฺเต, ภควา , สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ . อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

๕๘. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปาวิสิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ภิกฺขุสหสฺเสน สพฺเพเหว ปุราณชฏิเลหิ. เตน โข ปน สมเยน สกฺโก เทวานมินฺโท มาณวกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปุรโต ปุรโต คจฺฉติ อิมา คาถาโย คายมาโน –

‘‘ทนฺโต ทนฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ, วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;

สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ, ราชคหํ ปาวิสิ ภควา.

‘‘มุตฺโต มุตฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ, วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;

สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ, ราชคหํ ปาวิสิ ภควา.

‘‘ติณฺโณ ติณฺเณหิ สห ปุราณชฏิเลหิ;

วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;

สิงฺคีนิกฺขสุวณฺโณ;

ราชคหํ ปาวิสิ ภควา.

‘‘สนฺโต สนฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ;

วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ;

สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ;

ราชคหํ ปาวิสิ ภควา.

‘‘ทสวาโส ทสพโล, ทสธมฺมวิทู ทสภิ จุเปโต;

โส ทสสตปริวาโร [ปริวารโก (ก.)] ราชคหํ, ปาวิสิ ภควา’’ติ.

มนุสฺสา สกฺกํ เทวานมินฺทํ ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อภิรูโป วตายํ มาณวโก, ทสฺสนีโย วตายํ มาณวโก, ปาสาทิโก วตายํ มาณวโก. กสฺส นุ โข อยํ มาณวโก’’ติ? เอวํ วุตฺเต สกฺโก เทวานมินฺโท เต มนุสฺเส คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘โย ธีโร สพฺพธิ ทนฺโต, สุทฺโธ อปฺปฏิปุคฺคโล;

อรหํ สุคโต โลเก, ตสฺสาหํ ปริจารโก’’ติ.

๕๙. อถ โข ภควา เยน รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตทโหสิ [จูฬว. ๓๐๗] – ‘‘กตฺถ นุ โข ภควา วิหเรยฺย? ยํ อสฺส คามโต เนว อวิทูเร น อจฺจาสนฺเน, คมนาคมนสมฺปนฺนํ, อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ อภิกฺกมนียํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ [อปฺปกิณฺณํ (สี. สฺยา.), อพฺโภกิณฺณํ (ก.)], รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ วิชนวาตํ, มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ, ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติ. อถ โข รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข อมฺหากํ เวฬุวนํ อุยฺยานํ คามโต เนว อวิทูเร น อจฺจาสนฺเน คมนาคมนสมฺปนฺนํ อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ อภิกฺกมนียํ ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ. ยํนูนาหํ เวฬุวนํ อุยฺยานํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทเทยฺย’’นฺติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โสวณฺณมยํ ภิงฺการํ คเหตฺวา ภควโต โอโณเชสิ – ‘‘เอตาหํ, ภนฺเต, เวฬุวนํ อุยฺยานํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อารามํ. อถ โข ภควา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาราม’’นฺติ.

พิมฺพิสารสมาคมกถา นิฏฺิตา.

๑๔. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา

๖๐. เตน โข ปน สมเยน สฺจโย [สฺชโย (สี. สฺยา.)] ปริพฺพาชโก ราชคเห ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธึ อฑฺฒเตยฺเยหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. เตน โข ปน สมเยน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา สฺจเย ปริพฺพาชเก พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. เตหิ กติกา กตา โหติ – โย ปมํ อมตํ อธิคจฺฉติ, โส อิตรสฺส อาโรเจตูติ. อถ โข อายสฺมา อสฺสชิ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิฺชิเตน ปสาริเตน, โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน. อทฺทสา โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อสฺสชึ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุํ อิริยาปถสมฺปนฺนํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เย วต โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา, อยํ เตสํ ภิกฺขุ อฺตโร. ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยํ – ‘กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’’ติ? อถ โข สาริปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข อิมํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิตุํ, อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ ปิณฺฑาย จรติ. ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺเธยฺยํ, อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ มคฺค’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา อสฺสชิ ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาทาย ปฏิกฺกมิ. อถ โข สาริปุตฺโตปิ ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา อสฺสชิ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อสฺสชินา สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อสฺสชึ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ? ‘‘อตฺถาวุโส, มหาสมโณ สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต, ตาหํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โส จ เม ภควา สตฺถา, ตสฺส จาหํ ภควโต ธมฺมํ โรเจมี’’ติ. ‘‘กึวาที ปนายสฺมโต สตฺถา, กิมกฺขายี’’ติ? ‘‘อหํ โข, อาวุโส, นโว อจิรปพฺพชิโต, อธุนาคโต อิมํ ธมฺมวินยํ, น ตาหํ สกฺโกมิ วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสตุํ, อปิ จ เต สํขิตฺเตน อตฺถํ วกฺขามี’’ติ. อถ โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อสฺสชึ เอตทโวจ – ‘‘โหตุ, อาวุโส –

‘‘อปฺปํ วา พหุํ วา ภาสสฺสุ, อตฺถํเยว เม พฺรูหิ;

อตฺเถเนว เม อตฺโถ, กึ กาหสิ พฺยฺชนํ พหุ’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อสฺสชิ สาริปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อิมํ ธมฺมปริยายํ อภาสิ –

[อป. ๑.๑.๒๘๖ เถราปทาเนปิ] ‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา, เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาห;

เตสฺจ โย นิโรโธ, เอวํวาที มหาสมโณ’’ติ.

อถ โข สาริปุตฺตสฺส ปริพฺพาชกสฺส อิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.

[อป. ๑.๑.๒๘๙ เถราปทาเนปิ] เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทว, ปจฺจพฺยตฺถ ปทมโสกํ;

อทิฏฺํ อพฺภตีตํ, พหุเกหิ กปฺปนหุเตหีติ.

๖๑. อถ โข สาริปุตฺโต ปริพฺพาชโก เยน โมคฺคลฺลาโน ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข โมคฺคลฺลาโน ปริพฺพาชโก สาริปุตฺตํ ปริพฺพาชกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน สาริปุตฺตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กจฺจิ นุ ตฺวํ, อาวุโส, อมตํ อธิคโต’’ติ? ‘‘อามาวุโส, อมตํ อธิคโต’’ติ. ‘‘ยถากถํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, อมตํ อธิคโต’’ติ? ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, อทฺทสํ อสฺสชึ ภิกฺขุํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุํ อิริยาปถสมฺปนฺนํ. ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘เย วต โลเก อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา, อยํ เตสํ ภิกฺขุ อฺตโร. ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยํ – กํสิ ตฺวํ, อาวุโส อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข อิมํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉิตุํ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ ปิณฺฑาย จรติ, ยํนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺเธยฺยํ อตฺถิเกหิ อุปฺาตํ มคฺค’’นฺติ. อถ โข, อาวุโส, อสฺสชิ ภิกฺขุ ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาทาย ปฏิกฺกมิ. อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, เยน อสฺสชิ ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมึ, อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสชินา ภิกฺขุนา สทฺธึ สมฺโมทึ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสึ. เอกมนฺตํ ิโต โข อหํ, อาวุโส, อสฺสชึ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. ‘กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โก วา เต สตฺถา, กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’’ติ? ‘อตฺถาวุโส, มหาสมโณ สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต, ตาหํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, โส จ เม ภควา สตฺถา, ตสฺส จาหํ ภควโต ธมฺมํ โรเจมี’ติ. ‘กึวาที ปนายสฺมโต สตฺถา กิมกฺขายี’ติ . ‘อหํ โข, อาวุโส, นโว อจิรปพฺพชิโต อธุนาคโต อิมํ ธมฺมวินยํ, น ตาหํ สกฺโกมิ วิตฺถาเรน ธมฺมํ เทเสตุํ, อปิ จ เต สํขิตฺเตน อตฺถํ วกฺขามี’’’ติ . อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, อสฺสชึ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘‘โหตุ, อาวุโส,

อปฺปํ วา พหุํ วา ภาสสฺสุ, อตฺถํเยว เม พฺรูหิ;

อตฺเถเนว เม อตฺโถ, กึ กาหสิ พฺยฺชนํ พหุ’’นฺติ.

อถ โข, อาวุโส, อสฺสชิ ภิกฺขุ อิมํ ธมฺมปริยายํ อภาสิ –

‘‘เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา, เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาห;

เตสฺจ โย นิโรโธ, เอวํวาที มหาสมโณ’’ติ.

อถ โข โมคฺคลฺลานสฺส ปริพฺพาชกสฺส อิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ.

เอเสว ธมฺโม ยทิ ตาวเทว, ปจฺจพฺยตฺถ ปทมโสกํ;

อทิฏฺํ อพฺภตีตํ, พหุเกหิ กปฺปนหุเตหีติ.

๖๒. อถ โข โมคฺคลฺลาโน ปริพฺพาชโก สาริปุตฺตํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส, ภควโต สนฺติเก, โส โน ภควา สตฺถา’’ติ. ‘‘อิมานิ โข, อาวุโส, อฑฺฒเตยฺยานิ ปริพฺพาชกสตานิ อมฺเห นิสฺสาย อมฺเห สมฺปสฺสนฺตา อิธ วิหรนฺติ, เตปิ ตาว อปโลเกม [อปโลกาม (ก)]. ยถา เต มฺิสฺสนฺติ, ตถา เต กริสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เยน เต ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจุํ – ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส, ภควโต สนฺติเก, โส โน ภควา สตฺถา’’ติ. ‘‘มยํ อายสฺมนฺเต นิสฺสาย อายสฺมนฺเต สมฺปสฺสนฺตา อิธ วิหราม, สเจ อายสฺมนฺตา มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสนฺติ, สพฺเพว มยํ มหาสมเณ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เยน สฺจโย ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา สฺจยํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส, ภควโต สนฺติเก, โส โน ภควา สตฺถา’’ติ. ‘‘อลํ, อาวุโส, มา อคมิตฺถ, สพฺเพว ตโย อิมํ คณํ ปริหริสฺสามา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข…เป… ตติยมฺปิ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา สฺจยํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส, ภควโต สนฺติเก, โส โน ภควา สตฺถา’’ติ. ‘‘อลํ, อาวุโส, มา อคมิตฺถ, สพฺเพว ตโย อิมํ คณํ ปริหริสฺสามา’’ติ. อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา ตานิ อฑฺฒเตยฺยานิ ปริพฺพาชกสตานิ อาทาย เยน เวฬุวนํ เตนุปสงฺกมึสุ. สฺจยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส ตตฺเถว อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคฺฉิ.

อทฺทสา โข ภควา [ภควาเต (ก)] สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอเต, ภิกฺขเว, ทฺเว สหายกา อาคจฺฉนฺติ, โกลิโต อุปติสฺโส จ. เอตํ เม สาวกยุคํ ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุค’’นฺติ.

คมฺภีเร าณวิสเย, อนุตฺตเร อุปธิสงฺขเย;

วิมุตฺเต อปฺปตฺเต เวฬุวนํ, อถ เน สตฺถา พฺยากาสิ.

เอเต ทฺเว สหายกา, อาคจฺฉนฺติ โกลิโต อุปติสฺโส จ;

เอตํ เม สาวกยุคํ, ภวิสฺสติ อคฺคํ ภทฺทยุคนฺติ.

อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ , อุปสงฺกมิตฺวา

ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิ.

อภิฺาตานํ ปพฺพชฺชา

๖๓. เตน โข ปน สมเยน อภิฺาตา อภิฺาตา มาคธิกา กุลปุตฺตา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – อปุตฺตกตาย ปฏิปนฺโน สมโณ โคตโม, เวธพฺยาย ปฏิปนฺโน สมโณ โคตโม, กุลุปจฺเฉทาย ปฏิปนฺโน สมโณ โคตโม, อิทานิ อเนน ชฏิลสหสฺสํ ปพฺพาชิตํ, อิมานิ จ อฑฺฒเตยฺยานิ ปริพฺพาชกสตานิ สฺจยานิ [สฺเชยฺยานิ (สี.), สฺชยานิ (สฺยา.)] ปพฺพาชิตานิ. อิเม จ อภิฺาตา อภิฺาตา มาคธิกา กุลปุตฺตา สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จรนฺตีติ. อปิสฺสุ ภิกฺขู ทิสฺวา อิมาย คาถาย โจเทนฺติ –

‘‘อาคโต โข มหาสมโณ, มาคธานํ คิริพฺพชํ;

สพฺเพ สฺจเย เนตฺวาน [สฺเชยฺยเก เนตฺวา (สี.)], กํสุ ทานิ นยิสฺสตี’’ติ.

อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… น, ภิกฺขเว, โส สทฺโท จิรํ ภวิสฺสติ, สตฺตาหเมว ภวิสฺสติ, สตฺตาหสฺส อจฺจเยน อนฺตรธายิสฺสติ. เตน หิ, ภิกฺขเว, เย ตุมฺเห อิมาย คาถาย โจเทนฺติ –

‘‘อาคโต โข มหาสมโณ, มาคธานํ คิริพฺพชํ;

สพฺเพ สฺจเย เนตฺวาน, กํสุ ทานิ นยิสฺสตี’’ติ.

เต ตุมฺเห อิมาย คาถาย ปฏิโจเทถ –

‘‘นยนฺติ เว มหาวีรา, สทฺธมฺเมน ตถาคตา;

ธมฺเมน นยมานานํ [นียมานานํ (ก.)], กา อุสูยา [อุสฺสุยา (ก.)] วิชานต’’นฺติ.

เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ภิกฺขู ทิสฺวา อิมาย คาถาย โจเทนฺติ –

‘‘อาคโต โข มหาสมโณ, มาคธานํ คิริพฺพชํ;

สพฺเพ สฺจเย เนตฺวาน, กํสุ ทานิ นยิสฺสตี’’ติ.

ภิกฺขู เต มนุสฺเส อิมาย คาถาย ปฏิโจเทนฺติ –

‘‘นยนฺติ เว มหาวีรา, สทฺธมฺเมน ตถาคตา;

ธมฺเมน นยมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ.

มนุสฺสา ธมฺเมน กิร สมณา สกฺยปุตฺติยา เนนฺติ โน อธมฺเมนาติ สตฺตาหเมว โส สทฺโท อโหสิ, สตฺตาหสฺส อจฺจเยน อนฺตรธายิ.

สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปพฺพชฺชากถา นิฏฺิตา.

จตุตฺถภาณวาโร นิฏฺิโต.

๑๕. อุปชฺฌายวตฺตกถา

๖๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อนุปชฺฌายกา อนาจริยกา [อิทํ ปทํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อโนวทิยมานา อนนุสาสิยมานา ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จรนฺติ; มนุสฺสานํ [เต มนุสฺสานํ (ก.)] ภุฺชมานานํ อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริสายนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ; สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติ; ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ; มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ, อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริสายนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ; สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ; ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหริสฺสนฺติ เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณโภชเน’’ติ.

อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา, เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภิกฺขู ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ; มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ, อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริสายนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ; สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ; ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหริสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู…เป… ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จรนฺติ, มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ อุปริ โภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริสายนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติ, ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภิกฺขเว, เตสํ โมฆปุริสานํ อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ, มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริสายนีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ, ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหริสฺสนฺติ. เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย, ปสนฺนานํ วา ภิยฺโยภาวาย. อถ ขฺเวตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานฺเจว อปฺปสาทาย, ปสนฺนานฺจ เอกจฺจานํ อฺถตฺตายา’’ติ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุปฺโปสตาย มหิจฺฉตาย อสนฺตุฏฺิตาย [อสนฺตุฏฺิยา (สี.), อสนฺตุฏฺตาย (สฺยา)] สงฺคณิกาย โกสชฺชสฺส อวณฺณํ ภาสิตฺวา อเนกปริยาเยน สุภรตาย สุโปสตาย อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฏฺสฺส สลฺเลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส [วิริยารมฺภสฺส (สี. สฺยา.)] วณฺณํ ภาสิตฺวา ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

๖๕. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายํ. อุปชฺฌาโย, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกมฺหิ ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ , สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายมฺหิ ปิตุจิตฺตํ อุปฏฺเปสฺสติ. เอวํ เต อฺมฺํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติโน วิหรนฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อุปชฺฌาโย คเหตพฺโพ – เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหิ; อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหิ; อุปชฺฌาโย เม, ภนฺเต, โหหี’ติ. สาหูติ วา ลหูติ วา โอปายิกนฺติ วา ปติรูปนฺติ วา ปาสาทิเกน สมฺปาเทหีติ วา กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย [น วาจาย (ก.)] วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย; น กาเยน วิฺาเปติ, น วาจาย วิฺาเปติ , น กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, น คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย.

๖๖. [จูฬว. ๓๗๖ อาทโย]‘‘สทฺธิวิหาริเกน, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา –

‘‘กาลสฺเสว วุฏฺาย อุปาหนา โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา. ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อุปชฺฌาโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต โสทโก [สอุทโก (ก.)] ทาตพฺโพ. สเจ อุปชฺฌาโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อุปชฺฌายสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ. นาติทูเร คนฺตพฺพํ, นาจฺจาสนฺเน คนฺตพฺพํ, ปตฺตปริยาปนฺนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพา. อุปชฺฌาโย อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโน นิวาเรตพฺโพ.

‘‘นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ทาตพฺพํ, นิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพํ; จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ, จีวรํ สงฺฆรนฺเตน จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ – มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพํ.

‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อุปชฺฌาโย จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาโต อุปนาเมตพฺโพ. อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ . ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺโพ, น จ อุณฺเห ปตฺโต นิทหิตพฺโพ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อุปชฺฌายมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อุปชฺฌาโย นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหํ ปฏิยาเทตพฺพํ.

‘‘สเจ อุปชฺฌาโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อุปชฺฌายสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, จุณฺณํ ทาตพฺพํ, มตฺติกา ทาตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ. น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา. ชนฺตาฆเร อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ.

‘‘อุทเกปิ อุปชฺฌายสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. นหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อุปชฺฌายสฺส คตฺตโต อุทกํ ปมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, อุปชฺฌาโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสิตพฺโพ. สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉิตพฺโพ.

‘‘ยสฺมึ วิหาเร อุปชฺฌาโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, โสเธตพฺโพ. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ภิสิพิพฺโพหนํ [ภิสิพิมฺโพหนํ (สี. สฺยา.)] นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ. ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน , อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา. เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ. อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา – มา วิหาโร รเชน อุหฺีติ. สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

‘‘ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. มฺจปฏิปาทกา โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา. มฺโจ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ. ปีํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. ภิสิพิพฺโพหนํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. เขฬมลฺลโก โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ. อปสฺเสนผลกํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

‘‘สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปจฺฉิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ อุตฺตรา สรชา วาตา วายนฺติ, อุตฺตรา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

‘‘สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วูปกาเสตพฺโพ, วูปกาสาเปตพฺโพ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อุปชฺฌายสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิโนเทตพฺพํ, วิโนทาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อุปชฺฌายสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน วิเวเจตพฺพํ, วิเวจาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา . สเจ อุปชฺฌาโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยาติ. สเจ อุปชฺฌาโย มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยาติ. สเจ อุปชฺฌาโย มานตฺตารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยาติ. สเจ อุปชฺฌาโย อพฺภานารโห โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายํ อพฺเภยฺยาติ. สเจ สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ [นิยสํ (ก.)] วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ น กเรยฺย ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยาติ. กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, สทฺธิวิหาริเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อุปชฺฌาโย สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ.

‘‘สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน โธวิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โธวิเยถาติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน กาตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ กริเยถาติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, สทฺธิวิหาริเกน ปจิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส รชนํ ปจิเยถาติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิตพฺพํ [รเชตพฺพํ (สี. สฺยา.)] โหติ, สทฺธิวิหาริเกน รชิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อุปชฺฌายสฺส จีวรํ รชิเยถาติ. จีวรํ รชนฺเตน [รเชนฺเตน (สี. สฺยา.)] สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชิตพฺพํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพํ.

‘‘น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส จีวรํ ทาตพฺพํ, น เอกจฺจสฺส จีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ; น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ปฏิคฺคเหตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส เกสา เฉเทตพฺพา [เฉตฺตพฺพา (สี.), เฉทิตพฺพา (ก.)], น เอกจฺเจน เกสา เฉทาเปตพฺพา; น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ, น เอกจฺเจน ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ; น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺโจ [เวยฺยาวจฺจํ (กตฺถจิ)] กาตพฺโพ , น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺโจ การาเปตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ, น เอกจฺโจ ปจฺฉาสมโณ อาทาตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาโต นีหริตพฺโพ, น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ; น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตพฺโพ; น สุสานํ คนฺตพฺพํ; น ทิสา ปกฺกมิตพฺพา. สเจ อุปชฺฌาโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพ’’นฺติ.

อุปชฺฌายวตฺตํ นิฏฺิตํ.

๑๖. สทฺธิวิหาริกวตฺตกถา

๖๗. [จูฬว. ๓๗๘ อาทโย] ‘‘อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา –

‘‘อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา. สเจ อุปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริกสฺส ปตฺโต น โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส ปตฺโต อุปฺปชฺชิเยถาติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส จีวรํ โหติ, สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ น โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ ทาตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ อุปฺปชฺชิเยถาติ. สเจ อุปชฺฌายสฺส ปริกฺขาโร โหติ, สทฺธิวิหาริกสฺส ปริกฺขาโร น โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธิวิหาริกสฺส ปริกฺขาโร ทาตพฺโพ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส ปริกฺขาโร อุปฺปชฺชิเยถาติ.

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริโก คิลาโน โหติ, กาลสฺเสว อุฏฺาย ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา. ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. สทฺธิวิหาริกมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริโก คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต โสทโก ทาตพฺโพ. เอตฺตาวตา นิวตฺติสฺสตีติ อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ทาตพฺพํ, นิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ . สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพํ; จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ, จีวรํ สงฺฆรนฺเตน จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ – มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพํ.

‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, สทฺธิวิหาริโก จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาโต อุปนาเมตพฺโพ. สทฺธิวิหาริโก ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺโพ, น จ อุณฺเห ปตฺโต นิทหิตพฺโพ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สทฺธิวิหาริกมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริโก นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหํ ปฏิยาเทตพฺพํ .

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริโก ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, จุณฺณํ ทาตพฺพํ, มตฺติกา ทาตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ. น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา. ชนฺตาฆเร สทฺธิวิหาริกสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ.

‘‘อุทเกปิ สทฺธิวิหาริกสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. นหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา สทฺธิวิหาริกสฺส คตฺตโต อุทกํ ปมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา. ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ. สทฺธิวิหาริโก ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ.

‘‘ยสฺมึ วิหาเร สทฺธิวิหาริโก วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, โสเธตพฺโพ. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภิสิพิพฺโพหนํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ; ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา; เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ; อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา – มา วิหาโร รเชน อุหฺีติ. สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

‘‘ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. มฺจปฏิปาทกา โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา. มฺโจ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ. ปีํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. ภิสิพิพฺโพหนํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. เขฬมลฺลโก โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ. อปสฺเสนผลกํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

‘‘สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปจฺฉิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ อุตฺตรา สรชา วาตา วายนฺติ, อุตฺตรา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

‘‘สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, อุปชฺฌาเยน วูปกาเสตพฺโพ, วูปกาสาเปตพฺโพ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อุปชฺฌาเยน วิโนเทตพฺพํ, วิโนทาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา . สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อุปชฺฌาเยน วิเวเจตพฺพํ, วิเวจาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ สทฺธิวิหาริโก ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยาติ. สเจ สทฺธิวิหาริโก มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยาติ. สเจ สทฺธิวิหาริโก มานตฺตารโห โหติ, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยาติ. สเจ สทฺธิวิหาริโก อพฺภานารโห โหติ, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกํ อพฺเภยฺยาติ. สเจ สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ สทฺธิวิหาริกสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยาติ. กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อุปชฺฌาเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริโก สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ.

‘‘สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, อุปชฺฌาเยน อาจิกฺขิตพฺพํ เอวํ โธเวยฺยาสีติ , อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ โธวิเยถาติ. สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, อุปชฺฌาเยน อาจิกฺขิตพฺพํ เอวํ กเรยฺยาสีติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ กริเยถาติ. สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, อุปชฺฌาเยน อาจิกฺขิตพฺพํ เอวํ ปเจยฺยาสีติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส รชนํ ปจิเยถาติ. สเจ สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ รชิตพฺพํ โหติ, อุปชฺฌาเยน อาจิกฺขิตพฺพํ, เอวํ รเชยฺยาสีติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สทฺธิวิหาริกสฺส จีวรํ รชิเยถาติ. จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชิตพฺพํ. น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ สทฺธิวิหาริโก คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพ’’นฺติ.

สทฺธิวิหาริกวตฺตํ นิฏฺิตํ.

๑๗. ปณามิตกถา

๖๘. เตน โข ปน สมเยน สทฺธิวิหาริกา อุปชฺฌาเยสุ น สมฺมา วตฺตนฺติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สทฺธิวิหาริกา อุปชฺฌาเยสุ น สมฺมา วตฺติสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกา อุปชฺฌาเยสุ น สมฺมา วตฺตนฺตีติ? สจฺจํ ภควาติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… กถฺหิ นาม, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริกา อุปชฺฌาเยสุ น สมฺมา วตฺติสฺสนฺตีติ…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายมฺหิ น สมฺมา วตฺติตพฺพํ. โย น สมฺมา วตฺเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ . เนว สมฺมา วตฺตนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺตํ ปณาเมตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปณาเมตพฺโพ – ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา, ‘‘มายิธ ปฏิกฺกมี’’ติ วา, ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา, ‘‘นาหํ ตยา อุปฏฺาตพฺโพ’’ติ วา, กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, ปณามิโต โหติ สทฺธิวิหาริโก; น กาเยน วิฺาเปติ, น วาจาย วิฺาเปติ, น กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, น ปณามิโต โหติ สทฺธิวิหาริโกติ.

เตน โข ปน สมเยน สทฺธิวิหาริกา ปณามิตา น ขมาเปนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขมาเปตุนฺติ. เนว ขมาเปนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ . น, ภิกฺขเว, ปณามิเตน น ขมาเปตพฺโพ. โย น ขมาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน อุปชฺฌายา ขมาปิยมานา น ขมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขมิตุนฺติ. เนว ขมนฺติ. สทฺธิวิหาริกา ปกฺกมนฺติปิ วิพฺภมนฺติปิ ติตฺถิเยสุปิ สงฺกมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ขมาปิยมาเนน น ขมิตพฺพํ. โย น ขเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน อุปชฺฌายา สมฺมาวตฺตนฺตํ ปณาเมนฺติ, อสมฺมาวตฺตนฺตํ น ปณาเมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สมฺมาวตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพ. โย ปณาเมยฺย , อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส . น จ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺโต น ปณาเมตพฺโพ. โย น ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก ปณาเมตพฺโพ. อุปชฺฌายมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก ปณาเมตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก น ปณาเมตพฺโพ. อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก น ปณาเมตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก อลํ ปณาเมตุํ. อุปชฺฌายมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺตา คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก อลํ ปณาเมตุํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก นาลํ ปณาเมตุํ. อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก นาลํ ปณาเมตุํ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปฺปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อุปชฺฌายมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ อปฺปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ ปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, อปฺปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อุปชฺฌายมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สทฺธิวิหาริกํ ปณาเมนฺโต อุปชฺฌาโย สาติสาโร โหติ, อปฺปณาเมนฺโต อนติสาโร โหตี’’ติ.

๖๙. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร พฺราหฺมโณ ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขู น อิจฺฉึสุ ปพฺพาเชตุํ. โส ภิกฺขูสุ ปพฺพชฺชํ อลภมาโน กิโส อโหสิ ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต. อทฺทสา โข ภควา ตํ พฺราหฺมณํ กิสํ ลูขํ ทุพฺพณฺณํ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตํ ธมนิสนฺถตคตฺตํ, ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข โส, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ กิโส ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต’’ติ? เอโส, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขู น อิจฺฉึสุ ปพฺพาเชตุํ. โส ภิกฺขูสุ ปพฺพชฺชํ อลภมาโน กิโส ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโตติ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรสี’’ติ? เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรามี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, สาริปุตฺต, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรสี’’ติ? ‘‘อิธ เม, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส กฏจฺฉุภิกฺขํ ทาเปสิ. อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรามี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต, กตฺุโน หิ, สาริปุตฺต, สปฺปุริสา กตเวทิโน. เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชหิ อุปสมฺปาเทหี’’ติ . ‘‘กถาหํ, ภนฺเต , ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชมิ อุปสมฺปาเทมี’’ติ? อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ยา สา, ภิกฺขเว, มยา ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปทา อนุฺาตา, ตํ อชฺชตคฺเค ปฏิกฺขิปามิ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปาเทตุํ [อุปสมฺปทํ (สี. สฺยา.)]. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อุปสมฺปาเทตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

๗๐. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย .

‘‘ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

๗๑. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรา อนาจารํ อาจรติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘มาวุโส, เอวรูปํ อกาสิ, เนตํ กปฺปตี’’ติ. โส เอวมาห – ‘‘เนวาหํ อายสฺมนฺเต ยาจึ อุปสมฺปาเทถ มนฺติ. กิสฺส มํ ตุมฺเห อยาจิตา อุปสมฺปาทิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ . น, ภิกฺขเว, อยาจิเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ . โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาจิเตน อุปสมฺปาเทตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ยาจิตพฺโพ. เตน อุปสมฺปทาเปกฺเขน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามิ, อุลฺลุมฺปตุ มํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

๗๒. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต , สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป….

‘‘อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

๗๓. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห ปณีตานํ ภตฺตานํ ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตา [อธิฏฺิตา (ก.)] โหติ. อถ โข อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติ. ยํนูนาหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ อุปสมฺปาเทสุํ. ตสฺมึ ปพฺพชิเต ภตฺตปฏิปาฏิ ขียิตฺถ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘เอหิ ทานิ, อาวุโส, ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ. โส เอวมาห – ‘‘นาหํ, อาวุโส, เอตํการณา ปพฺพชิโต ปิณฺฑาย จริสฺสามีติ. สเจ เม ทสฺสถ ภุฺชิสฺสามิ , โน เจ เม ทสฺสถ วิพฺภมิสฺสามี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, อาวุโส, อุทรสฺส การณา ปพฺพชิโต’’ติ ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – กถฺหิ นาม ภิกฺขุ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย อุทรสฺส การณา ปพฺพชิสฺสตีติ. เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุทรสฺส การณา ปพฺพชิโตติ? สจฺจํ ภควาติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… ‘‘กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย อุทรสฺส การณา ปพฺพชิสฺสสิ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิยฺโยภาวาย’’…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสมฺปาเทนฺเตน จตฺตาโร นิสฺสเย อาจิกฺขิตุํ – ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา, ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย; อติเรกลาโภ – สงฺฆภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺตํ, นิมนฺตนํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ. ปํสุกูลจีวรํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา, ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย; อติเรกลาโภ – โขมํ, กปฺปาสิกํ, โกเสยฺยํ, กมฺพลํ, สาณํ, ภงฺคํ. รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา, ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย; อติเรกลาโภ – วิหาโร , อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหา. ปูติมุตฺตเภสชฺชํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา, ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย; อติเรกลาโภ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิต’’นฺติ.

ปณามิตกถา นิฏฺิตา.

อุปชฺฌายวตฺตภาณวาโร นิฏฺิโต ปฺจโม.

ปฺจมภาณวาโร

๑๘. อาจริยวตฺตกถา

๗๔. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร มาณวโก ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตสฺส ภิกฺขู ปฏิกจฺเจว นิสฺสเย อาจิกฺขึสุ. โส เอวมาห – ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ปพฺพชิเต นิสฺสเย อาจิกฺเขยฺยาถ, อภิรเมยฺยามหํ [อภิรเมยฺยฺจาหํ (สี.), อภิรเมยฺยํ สฺวาหํ (ก.)]. น ทานาหํ, ภนฺเต, ปพฺพชิสฺสามิ; เชคุจฺฉา เม นิสฺสยา ปฏิกูลา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ปฏิกจฺเจว นิสฺสยา อาจิกฺขิตพฺพา. โย อาจิกฺเขยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรา นิสฺสเย อาจิกฺขิตุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุวคฺเคนปิ ติวคฺเคนปิ คเณน อุปสมฺปาเทนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อูนทสวคฺเคน คเณน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสวคฺเคน วา อติเรกทสวคฺเคน วา คเณน อุปสมฺปาเทตุนฺติ .

๗๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู เอกวสฺสาปิ ทุวสฺสาปิ สทฺธิวิหาริกํ อุปสมฺปาเทนฺติ. อายสฺมาปิ อุปเสโน วงฺคนฺตปุตฺโต เอกวสฺโส สทฺธิวิหาริกํ อุปสมฺปาเทสิ. โส วสฺสํวุฏฺโ ทุวสฺโส เอกวสฺสํ สทฺธิวิหาริกํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อาจิณฺณํ โข ปเนตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตุํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปเสนํ วงฺคนฺตปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ตฺวํ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคโต’’ติ? ‘‘ขมนียํ, ภควา, ยาปนียํ, ภควา. อปฺปกิลมเถน มยํ, ภนฺเต, อทฺธานํ อาคตา’’ติ. ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ชานนฺตาปิ น ปุจฺฉนฺติ, กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺติ, กาลํ วิทิตฺวา น ปุจฺฉนฺติ; อตฺถสํหิตํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ; โน อนตฺถสํหิตํ. อนตฺถสํหิเต เสตุฆาโต ตถาคตานํ. ทฺวีหิ อากาเรหิ พุทฺธา ภควนฺโต ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉนฺติ – ธมฺมํ วา เทเสสฺสาม, สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามาติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปเสนํ วงฺคนฺตปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติวสฺโสสิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ทุวสฺโสหํ, ภควา’’ติ. ‘‘อยํ ปน ภิกฺขุ กติวสฺโส’’ติ? ‘‘เอกวสฺโส, ภควา’’ติ. ‘‘กึ ตายํ ภิกฺขุ โหตี’’ติ? ‘‘สทฺธิวิหาริโก เม, ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อฺเหิ โอวทิโย อนุสาสิโย อฺํ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ มฺิสฺสสิ. อติลหุํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, พาหุลฺลาย อาวตฺโต, ยทิทํ คณพนฺธิกํ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิยฺโยภาวาย’’…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ.

๗๖. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู – ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ – พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทนฺติ. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา พาลา, สทฺธิวิหาริกา ปณฺฑิตา. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อพฺยตฺตา, สทฺธิวิหาริกา พฺยตฺตา. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อปฺปสฺสุตา, สทฺธิวิหาริกา พหุสฺสุตา. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา ทุปฺปฺา, สทฺธิวิหาริกา ปฺวนฺโต. อฺตโรปิ อฺติตฺถิยปุพฺโพ อุปชฺฌาเยน สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน อุปชฺฌายสฺส วาทํ อาโรเปตฺวา ตํเยว ติตฺถายตนํ สงฺกมิ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – กถฺหิ นาม ภิกฺขู – ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ – พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทสฺสนฺติ. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา พาลา สทฺธิวิหาริกา ปณฺฑิตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อพฺยตฺตา สทฺธิวิหาริกา พฺยตฺตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อปฺปสฺสุตา สทฺธิวิหาริกา พหุสฺสุตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา ทุปฺปฺา, สทฺธิวิหาริกา ปฺวนฺโตติ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู – ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ – พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทนฺติ. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา พาลา, สทฺธิวิหาริกา ปณฺฑิตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อพฺยตฺตา สทฺธิวิหาริกา พฺยตฺตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อปฺปสฺสุตา, สทฺธิวิหาริกา พหุสฺสุตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา ทุปฺปฺา, สทฺธิวิหาริกา ปฺวนฺโต’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… กถฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา – ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ – พาลา อพฺยตฺตา อุปสมฺปาเทสฺสนฺติ. ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา พาลา, สทฺธิวิหาริกา ปณฺฑิตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อพฺยตฺตา สทฺธิวิหาริกา พฺยตฺตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา อปฺปสฺสุตา, สทฺธิวิหาริกา พหุสฺสุตา, ทิสฺสนฺติ อุปชฺฌายา ทุปฺปฺา, สทฺธิวิหาริกา ปฺวนฺโต. เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ.

๗๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อุปชฺฌาเยสุ ปกฺกนฺเตสุปิ วิพฺภนฺเตสุปิ กาลงฺกเตสุปิ ปกฺขสงฺกนฺเตสุปิ อนาจริยกา อโนวทิยมานา อนนุสาสิยมานา ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จรนฺติ, มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ – อุปริสายนีเยปิ – อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมนฺติ; สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชนฺติ; ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทุนฺนิวตฺถา ทุปฺปารุตา อนากปฺปสมฺปนฺนา ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ; มนุสฺสานํ ภุฺชมานานํ อุปริโภชเนปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ, อุปริขาทนีเยปิ – อุปริสายนีเยปิ – อุปริปานีเยปิ อุตฺติฏฺปตฺตํ อุปนาเมสฺสนฺติ; สามํ สูปมฺปิ โอทนมฺปิ วิฺาเปตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ; ภตฺตคฺเคปิ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา วิหริสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณโภชเน’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ …เป… อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว…เป… สจฺจํ, ภควาติ…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาจริยํ. อาจริโย, ภิกฺขเว, อนฺเตวาสิกมฺหิ ปุตฺตจิตฺตํ อุปฏฺาเปสฺสติ, อนฺเตวาสิโก อาจริยมฺหิ ปิตุจิตฺตํ อุปฏฺาเปสฺสติ. เอวํ เต อฺมฺํ สคารวา สปฺปติสฺสา สภาควุตฺติโน วิหรนฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสวสฺสํ นิสฺสาย วตฺถุํ, ทสวสฺเสน นิสฺสยํ ทาตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อาจริโย คเหตพฺโพ. เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามิ; อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามิ; อาจริโย เม, ภนฺเต, โหหิ, อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามี’ติ. ‘สาหูติ’ วา ‘ลหูติ’ วา ‘โอปายิก’นฺติ วา ‘ปติรูป’นฺติ วา ‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทหี’ติ วา กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, คหิโต โหติ อาจริโย; น กาเยน วิฺาเปติ, น วาจาย วิฺาเปติ, น กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, น คหิโต โหติ อาจริโย.

๗๘. [จูฬว. ๓๘๐ อาทโย] ‘‘อนฺเตวาสิเกน , ภิกฺขเว, อาจริยมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา –

‘‘กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนํ โอมุฺจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา . ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. อาจริยมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อาจริโย คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต โสทโก ทาตพฺโพ. สเจ อาจริโย ปจฺฉาสมณํ อากงฺขติ, ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ปารุปิตฺวา คณฺิกํ ปฏิมุฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อาจริยสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ. นาติทูเร คนฺตพฺพํ, นาจฺจาสนฺเน คนฺตพฺพํ, ปตฺตปริยาปนฺนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. น อาจริยสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพา. อาจริโย อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโน นิวาเรตพฺโพ.

‘‘นิวตฺตนฺเตน ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ทาตพฺพํ, นิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพํ. จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ. จีวรํ สงฺฆรนฺเตน จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ – มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพํ.

‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ , อาจริโย จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาโต อุปนาเมตพฺโพ. อาจริโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺโพ, น จ อุณฺเห ปตฺโต นิทหิตพฺโพ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อาจริยมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อาจริโย นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหํ ปฏิยาเทตพฺพํ.

‘‘สเจ อาจริโย ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย อาจริยสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, จุณฺณํ ทาตพฺพํ, มตฺติกา ทาตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ. น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา. ชนฺตาฆเร อาจริยสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ.

‘‘อุทเกปิ อาจริยสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. นหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อาจริยสฺส คตฺตโต อุทกํ ปมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ. อาจริโย ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. สเจ อุทฺทิสาเปตุกาโม โหติ, อุทฺทิสาเปตพฺโพ. สเจ ปริปุจฺฉิตุกาโม โหติ, ปริปุจฺฉิตพฺโพ.

‘‘ยสฺมึ วิหาเร อาจริโย วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, โสเธตพฺโพ. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภิสิพิพฺโพหนํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ; ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา; เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ ; อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา – มา วิหาโร รเชน อุหฺีติ. สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

‘‘ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. มฺจปฏิปาทกา โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา. มฺโจ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ. ปีํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. ภิสิพิพฺโพหนํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. เขฬมลฺลโก โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ . อปสฺเสนผลกํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

‘‘สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปจฺฉิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ อุตฺตรา สรชา วาตา วายนฺติ, อุตฺตรา วาตปานา ถเกตพฺพา . สเจ ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

‘‘สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ . สเจ อาจมนกุมฺภิยํ อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

‘‘สเจ อาจริยสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, อนฺเตวาสิเกน วูปกาเสตพฺโพ, วูปกาสาเปตพฺโพ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อาจริยสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน วิโนเทตพฺพํ, วิโนทาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อาจริยสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน วิเวเจตพฺพํ, วิเวจาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อาจริโย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อาจริยสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยาติ. สเจ อาจริโย มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อาจริยํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยาติ. สเจ อาจริโย มานตฺตารโห โหติ, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อาจริยสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยาติ. สเจ อาจริโย อพฺภานารโห โหติ, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อาจริยํ อพฺเภยฺยาติ . สเจ สงฺโฆ อาจริยสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อาจริยสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยาติ. กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อนฺเตวาสิเกน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อาจริโย สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ.

‘‘สเจ อาจริยสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน โธวิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อาจริยสฺส จีวรํ โธวิเยถาติ. สเจ อาจริยสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน กาตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อาจริยสฺส จีวรํ กริเยถาติ. สเจ อาจริยสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน ปจิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อาจริยสฺส รชนํ ปจิเยถาติ. สเจ อาจริยสฺส จีวรํ รชิตพฺพํ โหติ, อนฺเตวาสิเกน รชิตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อาจริยสฺส จีวรํ รชิเยถาติ. จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชิตพฺพํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพํ.

‘‘น อาจริยํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพ, น เอกจฺจสฺส ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส จีวรํ ทาตพฺพํ; น เอกจฺจสฺส จีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ; น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ทาตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส ปริกฺขาโร ปฏิคฺคเหตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส เกสา เฉเทตพฺพา; น เอกจฺเจน เกสา เฉทาเปตพฺพา; น เอกจฺจสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ; น เอกจฺเจน ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ; น เอกจฺจสฺส เวยฺยาวจฺโจ กาตพฺโพ; น เอกจฺเจน เวยฺยาวจฺโจ การาเปตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส ปจฺฉาสมเณน โหตพฺพํ; น เอกจฺโจ ปจฺฉาสมโณ อาทาตพฺโพ; น เอกจฺจสฺส ปิณฺฑปาโต นีหริตพฺโพ; น เอกจฺเจน ปิณฺฑปาโต นีหราเปตพฺโพ. น อาจริยํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตพฺโพ, น สุสานํ คนฺตพฺพํ, น ทิสา ปกฺกมิตพฺพา. สเจ อาจริโย คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพ’’นฺติ.

อาจริยวตฺตํ นิฏฺิตํ.

๑๙. อนฺเตวาสิกวตฺตกถา

๗๙. [จูฬว. ๓๘๑-๓๘๒] ‘‘อาจริเยน , ภิกฺขเว, อนฺเตวาสิกมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนา –

‘‘อาจริเยน , ภิกฺขเว, อนฺเตวาสิโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา. สเจ อาจริยสฺส ปตฺโต โหติ, อนฺเตวาสิกสฺส ปตฺโต น โหติ, อาจริเยน อนฺเตวาสิกสฺส ปตฺโต ทาตพฺโพ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส ปตฺโต อุปฺปชฺชิเยถาติ. สเจ อาจริยสฺส จีวรํ โหติ, อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ น โหติ, อาจริเยน อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ ทาตพฺพํ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ อุปฺปชฺชิเยถาติ. สเจ อาจริยสฺส ปริกฺขาโร โหติ, อนฺเตวาสิกสฺส ปริกฺขาโร น โหติ, อาจริเยน อนฺเตวาสิกสฺส ปริกฺขาโร ทาตพฺโพ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส ปริกฺขาโร อุปฺปชฺชิเยถาติ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิโก คิลาโน โหติ, กาลสฺเสว อุฏฺาย ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา. ยาคุํ ปีตสฺส อุทกํ ทตฺวา ภาชนํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา ปฏิสาเมตพฺพํ. อนฺเตวาสิกมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิโก คามํ ปวิสิตุกาโม โหติ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, กายพนฺธนํ ทาตพฺพํ, สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, โธวิตฺวา ปตฺโต โสทโก ทาตพฺโพ.

‘‘เอตฺตาวตา นิวตฺติสฺสตีติ อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏินิวาสนํ ทาตพฺพํ, นิวาสนํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. สเจ จีวรํ สินฺนํ โหติ, มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺพํ, น จ อุณฺเห จีวรํ นิทหิตพฺพํ. จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ. จีวรํ สงฺฆรนฺเตน จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวา จีวรํ สงฺฆริตพฺพํ – มา มชฺเฌ ภงฺโค อโหสีติ. โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพํ.

‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหติ, อนฺเตวาสิโก จ ภุฺชิตุกาโม โหติ, อุทกํ ทตฺวา ปิณฺฑปาโต อุปนาเมตพฺโพ. อนฺเตวาสิโก ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. ภุตฺตาวิสฺส อุทกํ ทตฺวา ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน โธวิตฺวา โวทกํ กตฺวา มุหุตฺตํ อุณฺเห โอตาเปตพฺโพ, น จ อุณฺเห ปตฺโต นิทหิตพฺโพ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. อนฺเตวาสิกมฺหิ วุฏฺิเต อาสนํ อุทฺธริตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ โส เทโส อุกฺลาโป โหติ, โส เทโส สมฺมชฺชิตพฺโพ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิโก นหายิตุกาโม โหติ, นหานํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ สีเตน อตฺโถ โหติ, สีตํ ปฏิยาเทตพฺพํ. สเจ อุณฺเหน อตฺโถ โหติ, อุณฺหํ ปฏิยาเทตพฺพํ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิโก ชนฺตาฆรํ ปวิสิตุกาโม โหติ, จุณฺณํ สนฺเนตพฺพํ, มตฺติกา เตเมตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย คนฺตฺวา ชนฺตาฆรปีํ ทตฺวา จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ, จุณฺณํ ทาตพฺพํ, มตฺติกา ทาตพฺพา. สเจ อุสฺสหติ, ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. ชนฺตาฆรํ ปวิสนฺเตน มตฺติกาย มุขํ มกฺเขตฺวา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรํ ปวิสิตพฺพํ. น จ เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทิตพฺพํ, น นวา ภิกฺขู อาสเนน ปฏิพาหิตพฺพา. ชนฺตาฆเร อนฺเตวาสิกสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. ชนฺตาฆรา นิกฺขมนฺเตน ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปุรโต จ ปจฺฉโต จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชนฺตาฆรา นิกฺขมิตพฺพํ.

‘‘อุทเกปิ อนฺเตวาสิกสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ. นหาเตน ปมตรํ อุตฺตริตฺวา อตฺตโน คตฺตํ โวทกํ กตฺวา นิวาเสตฺวา อนฺเตวาสิกสฺส คตฺตโต อุทกํ ปมชฺชิตพฺพํ, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา, ชนฺตาฆรปีํ อาทาย ปมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ. อนฺเตวาสิโก ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ.

‘‘ยสฺมึ วิหาเร อนฺเตวาสิโก วิหรติ, สเจ โส วิหาโร อุกฺลาโป โหติ, สเจ อุสฺสหติ, โสเธตพฺโพ. วิหารํ โสเธนฺเตน ปมํ ปตฺตจีวรํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; นิสีทนปจฺจตฺถรณํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภิสิพิพฺโพหนํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ ; มฺโจ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ; ปีํ นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; มฺจปฏิปาทกา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพา; เขฬมลฺลโก นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺโพ; อปสฺเสนผลกํ นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ; ภูมตฺถรณํ ยถาปฺตฺตํ สลฺลกฺเขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ วิหาเร สนฺตานกํ โหติ, อุลฺโลกา ปมํ โอตาเรตพฺพํ, อาโลกสนฺธิกณฺณภาคา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ กาฬวณฺณกตา ภูมิ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา. สเจ อกตา โหติ ภูมิ, อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพา – มา วิหาโร รเชน อุหฺีติ. สงฺการํ วิจินิตฺวา เอกมนฺตํ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

‘‘ภูมตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. มฺจปฏิปาทกา โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพา. มฺโจ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺโพ. ปีํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา นีจํ กตฺวา สาธุกํ อปฺปฏิฆํสนฺเตน, อสงฺฆฏฺเฏนฺเตน กวาฏปิฏฺํ, อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. ภิสิพิพฺโพหนํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. นิสีทนปจฺจตฺถรณํ โอตาเปตฺวา โสเธตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา อติหริตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฺเปตพฺพํ. เขฬมลฺลโก โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺโพ. อปสฺเสนผลกํ โอตาเปตฺวา ปมชฺชิตฺวา อติหริตฺวา ยถาาเน เปตพฺพํ. ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ. ปตฺตํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน ปตฺตํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน เหฏฺามฺจํ วา เหฏฺาปีํ วา ปรามสิตฺวา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. น จ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา ปตฺโต นิกฺขิปิตพฺโพ. จีวรํ นิกฺขิปนฺเตน เอเกน หตฺเถน จีวรํ คเหตฺวา เอเกน หตฺเถน จีวรวํสํ วา จีวรรชฺชุํ วา ปมชฺชิตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ.

‘‘สเจ ปุรตฺถิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ปจฺฉิมา สรชา วาตา วายนฺติ, ปจฺฉิมา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ อุตฺตรา สรชา วาตา วายนฺติ, อุตฺตรา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ ทกฺขิณา สรชา วาตา วายนฺติ, ทกฺขิณา วาตปานา ถเกตพฺพา. สเจ สีตกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา วิวริตพฺพา, รตฺตึ ถเกตพฺพา. สเจ อุณฺหกาโล โหติ, ทิวา วาตปานา ถเกตพฺพา, รตฺตึ วิวริตพฺพา.

‘‘สเจ ปริเวณํ อุกฺลาปํ โหติ, ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. สเจ โกฏฺโก อุกฺลาโป โหติ, โกฏฺโก สมฺมชฺชิตพฺโพ. สเจ อุปฏฺานสาลา อุกฺลาปา โหติ, อุปฏฺานสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ อคฺคิสาลา อุกฺลาปา โหติ, อคฺคิสาลา สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ วจฺจกุฏิ อุกฺลาปา โหติ, วจฺจกุฏิ สมฺมชฺชิตพฺพา. สเจ ปานียํ น โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ ปริโภชนียํ น โหติ, ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. สเจ อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ น โหติ, อาจมนกุมฺภิยา อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิกสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, อาจริเยน วูปกาเสตพฺโพ, วูปกาสาเปตพฺโพ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อนฺเตวาสิกสฺส กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อาจริเยน วิโนเทตพฺพํ, วิโนทาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อนฺเตวาสิกสฺส ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, อาจริเยน วิเวเจตพฺพํ, วิเวจาเปตพฺพํ, ธมฺมกถา วาสฺส กาตพฺพา. สเจ อนฺเตวาสิโก ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ, อนฺเตวาสิกสฺส ปริวาสํ ทเทยฺยาติ. สเจ อนฺเตวาสิโก มูลาย ปฏิกสฺสนารโห โหติ, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อนฺเตวาสิกํ มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยาติ. สเจ อนฺเตวาสิโก มานตฺตารโห โหติ, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อนฺเตวาสิกสฺส มานตฺตํ ทเทยฺยาติ. สเจ อนฺเตวาสิโก อพฺภานารโห โหติ, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อนฺเตวาสิกํ อพฺเภยฺยาติ. สเจ สงฺโฆ อนฺเตวาสิกสฺส กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข สงฺโฆ อนฺเตวาสิกสฺส กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยาติ. กตํ วา ปนสฺส โหติ สงฺเฆน กมฺมํ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อาจริเยน อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิโก สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยาติ.

‘‘สเจ อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ โธวิตพฺพํ โหติ, อาจริเยน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘เอวํ โธเวยฺยาสี’ติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ โธวิเยถาติ. สเจ อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ กาตพฺพํ โหติ, อาจริเยน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘เอวํ กเรยฺยาสี’ติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ กริเยถาติ. สเจ อนฺเตวาสิกสฺส รชนํ ปจิตพฺพํ โหติ, อาจริเยน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘เอวํ ปเจยฺยาสี’ติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส รชนํ ปจิเยถาติ. สเจ อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ รชิตพฺพํ โหติ, อาจริเยน อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘เอวํ รเชยฺยาสี’ติ, อุสฺสุกฺกํ วา กาตพฺพํ – กินฺติ นุ โข อนฺเตวาสิกสฺส จีวรํ รชิเยถาติ. จีวรํ รชนฺเตน สาธุกํ สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รชิตพฺพํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ อนฺเตวาสิโก คิลาโน โหติ, ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ, วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพ’’นฺติ.

อนฺเตวาสิกวตฺตํ นิฏฺิตํ.

ฉฏฺภาณวาโร.

๒๐. ปณามนา ขมาปนา

๘๐. เตน โข ปน สมเยน อนฺเตวาสิกา อาจริเยสุ น สมฺมา วตฺตนฺติ…เป… ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… น, ภิกฺขเว, อนฺเตวาสิเกน อาจริยมฺหิ น สมฺมา วตฺติตพฺพํ. โย น สมฺมา วตฺเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ. เนว สมฺมา วตฺตนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺตํ ปณาเมตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปณาเมตพฺโพ – ปณาเมมิ ตนฺติ วา, มายิธ ปฏิกฺกมีติ วา, นีหร เต ปตฺตจีวรนฺติ วา, นาหํ ตยา อุปฏฺาตพฺโพติ วา. กาเยน วิฺาเปติ, วาจาย วิฺาเปติ, กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, ปณามิโต โหติ อนฺเตวาสิโก; น กาเยน วิฺาเปติ, น วาจาย วิฺาเปติ, น กาเยน วาจาย วิฺาเปติ, น ปณามิโต โหติ อนฺเตวาสิโกติ.

เตน โข ปน สมเยน อนฺเตวาสิกา ปณามิตา น ขมาเปนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขมาเปตุนฺติ. เนว ขมาเปนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ปณามิเตน น ขมาเปตพฺโพ. โย น ขมาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน อาจริยา ขมาปิยมานา น ขมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขมิตุนฺติ. เนว ขมนฺติ. อนฺเตวาสิกา ปกฺกมนฺติปิ วิพฺภมนฺติปิ ติตฺถิเยสุปิ สงฺกมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ขมาปิยมาเนน น ขมิตพฺพํ. โย น ขเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน อาจริยา สมฺมาวตฺตนฺตํ ปณาเมนฺติ, อสมฺมาวตฺตนฺตํ น ปณาเมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สมฺมาวตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพ. โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺโต น ปณาเมตพฺโพ. โย น ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส.

๘๑. ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก ปณาเมตพฺโพ. อาจริยมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก ปณาเมตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก น ปณาเมตพฺโพ. อาจริยมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก น ปณาเมตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก อลํ ปณาเมตุํ. อาจริยมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก อลํ ปณาเมตุํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก นาลํ ปณาเมตุํ. อาจริยมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต อนฺเตวาสิโก นาลํ ปณาเมตุํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปฺปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อาจริยมฺหิ นาธิมตฺตํ เปมํ โหติ, นาธิมตฺโต ปสาโท โหติ, นาธิมตฺตา หิรี โหติ, นาธิมตฺโต คารโว โหติ, นาธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ อปฺปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, ปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ ปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, อปฺปณาเมนฺโต อนติสาโร โหติ. อาจริยมฺหิ อธิมตฺตํ เปมํ โหติ, อธิมตฺโต ปสาโท โหติ, อธิมตฺตา หิรี โหติ, อธิมตฺโต คารโว โหติ, อธิมตฺตา ภาวนา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ อนฺเตวาสิกํ ปณาเมนฺโต อาจริโย สาติสาโร โหติ, อปฺปณาเมนฺโต อนติสาโร โหตี’’ติ.

ปณามนา ขมาปนา นิฏฺิตา.

๒๑. พาลอพฺยตฺตวตฺถุ

๘๒. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู, ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ, พาลา อพฺยตฺตา นิสฺสยํ เทนฺติ. ทิสฺสนฺติ อาจริยา พาลา, อนฺเตวาสิกา ปณฺฑิตา . ทิสฺสนฺติ อาจริยา อพฺยตฺตา, อนฺเตวาสิกา พฺยตฺตา. ทิสฺสนฺติ อาจริยา อปฺปสฺสุตา, อนฺเตวาสิกา พหุสฺสุตา. ทิสฺสนฺติ อาจริยา ทุปฺปฺา, อนฺเตวาสิกา ปฺวนฺโต. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภิกฺขู, ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ, พาลา อพฺยตฺตา นิสฺสยํ ทสฺสนฺติ. ทิสฺสนฺติ อาจริยา พาลา อนฺเตวาสิกา ปณฺฑิตา, ทิสฺสนฺติ อาจริยา อพฺยตฺตา อนฺเตวาสิกา พฺยตฺตา, ทิสฺสนฺติ อาจริยา อปฺปสฺสุตา อนฺเตวาสิกา พหุสฺสุตา, ทิสฺสนฺติ อาจริยา ทุปฺปฺา อนฺเตวาสิกา ปฺวนฺโต’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู, ทสวสฺสมฺหา ทสวสฺสมฺหาติ, พาลา อพฺยตฺตา นิสฺสยํ เทนฺติ…เป… สจฺจํ, ภควาติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน นิสฺสโย ทาตพฺโพ. โย ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติ.

พาลอพฺยตฺตวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๒๒. นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา

๘๓. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อาจริยุปชฺฌาเยสุ ปกฺกนฺเตสุปิ วิพฺภนฺเตสุปิ กาลงฺกเตสุปิ ปกฺขสงฺกนฺเตสุปิ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย น ชานนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา – อุปชฺฌาโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลงฺกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อุปชฺฌายมฺหา.

‘‘ฉยิมา, ภิกฺขเว, นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา – อาจริโย ปกฺกนฺโต วา โหติ, วิพฺภนฺโต วา, กาลงฺกโต วา, ปกฺขสงฺกนฺโต วา, อาณตฺติเยว ปฺจมี, อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโต โหติ. อิมา โข, ภิกฺขเว, ฉ นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย อาจริยมฺหา’’.

นิสฺสปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา นิฏฺิตา.

๒๓. อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกํ

๘๔. ‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น อเสกฺเขน [น อเสเขน (ก.)] สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ , สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ , ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ , นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, น อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, น อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, ปฺวา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ [อนภิรตึ (สฺยา.), อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ (ก.)] วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ [วิโนเทตุํ วา วิโนทาเปตุํ วา (สพฺพตฺถ, วิมติวิโนทนี ฏีกา โอโลเกตพฺพา)] อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ อาปตฺตึ ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ ชานาติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ – อิเมหิ โข , ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ.

อุปสมฺปาเทตพฺพปฺจกํ นิฏฺิตํ.

๒๔. อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกํ

๘๕. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ . น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อตฺตนา น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา; อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อตฺตนา อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข สีลกฺขนฺเธ สมาทเปตา อตฺตนา อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข สมาธิกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข ปฺากฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติกฺขนฺเธ สมาทเปตา. อตฺตนา อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปรํ อเสกฺเข วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ สมาทเปตา; ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ , นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, น อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, น อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, ปฺวา โหติ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ น ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ น ชานาติ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อาปตฺตึ ชานาติ, อาปตฺติยา วุฏฺานํ ชานาติ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ , ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ , อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสึ วา สทฺธิวิหารึ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ อาทิพฺรหฺมจริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ, อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, อูนทสวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ , สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. อาปตฺตึ ชานาติ , อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, ทสวสฺโส วา โหติ อติเรกทสวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ.

อุปสมฺปาเทตพฺพฉกฺกํ นิฏฺิตํ.

๒๕. อฺติตฺถิยปุพฺพกถา

๘๖. เตน โข ปน สมเยน โย โส อฺติตฺถิยปุพฺโพ [โย โส ปสุรปริพฺพาชโก อฺติตฺถิยปุพฺโพ (ก.)] ปชฺฌาเยน สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน อุปชฺฌายสฺส วาทํ อาโรเปตฺวา ตํเยว ติตฺถายตนํ สงฺกมิ. โส ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสมฺปทํ ยาจิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. โย โส, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อุปชฺฌาเยน สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโน อุปชฺฌายสฺส วาทํ อาโรเปตฺวา ตํเยว ติตฺถายตนํ สงฺกนฺโต, โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย โส, ภิกฺขเว, อฺโปิ อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, ตสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาโส ทาตพฺโพ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺโพ – ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ – ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ทุติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ตติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ.

เตน, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺเพน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขามิ อุปสมฺปทํ. โสหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจามี’’ติ. ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ อุปสมฺปทํ. โส สงฺฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ทเทยฺย. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ อุปสมฺปทํ. โส สงฺฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจติ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามสฺส อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ เทติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาสสฺส ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส จตฺตาโร มาเส ปริวาโส. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

๘๗. ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ, เอวํ อนาราธโก. กถฺจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อติกาเลน คามํ ปวิสติ, อติทิวา ปฏิกฺกมติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ เวสิยาโคจโร วา โหติ, วิธวาโคจโร วา โหติ, ถุลฺลกุมาริกาโคจโร วา โหติ, ปณฺฑกโคจโร วา โหติ, ภิกฺขุนิโคจโร วา โหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กรณียานิ, ตตฺถ น ทกฺโข โหติ, น อนลโส, น ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, น อลํ กาตุํ, น อลํ สํวิธาตุํ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ น ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อุทฺเทเส, ปริปุจฺฉาย, อธิสีเล, อธิจิตฺเต, อธิปฺาย. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ ยสฺส ติตฺถายตนา สงฺกนฺโต โหติ, ตสฺส สตฺถุโน ตสฺส ทิฏฺิยา ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺส อวณฺเณ ภฺมาเน กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อนภิรทฺโธ, พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมโน โหติ อุทคฺโค อภิรทฺโธ. ยสฺส วา ปน ติตฺถายตนา สงฺกนฺโต โหติ, ตสฺส สตฺถุโน ตสฺส ทิฏฺิยา ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺส วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมโน โหติ อุทคฺโค อภิรทฺโธ, พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺเณ ภฺมาเน กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อนภิรทฺโธ. อิทํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาตนิกํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อนาราธนียสฺมึ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อนาราธโก โหติ. เอวํ อนาราธโก โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ นาติกาเลน คามํ ปวิสติ นาติทิวา ปฏิกฺกมติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ น เวสิยาโคจโร โหติ, น วิธวาโคจโร โหติ, น ถุลฺลกุมาริกาโคจโร โหติ, น ปณฺฑกโคจโร โหติ, น ภิกฺขุนิโคจโร โหติ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กรณียานิ, ตตฺถ ทกฺโข โหติ, อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ, อลํ สํวิธาตุํ. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว , อฺติตฺถิยปุพฺโพ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อุทฺเทเส, ปริปุจฺฉาย, อธิสีเล, อธิจิตฺเต, อธิปฺาย. เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ ยสฺส ติตฺถายตนา สงฺกนฺโต โหติ, ตสฺส สตฺถุโน ตสฺส ทิฏฺิยา ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺส อวณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมโน โหติ อุทคฺโค อภิรทฺโธ, พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺเณ ภฺมาเน กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อนภิรทฺโธ. ยสฺส วา ปน ติตฺถายตนา สงฺกนฺโต โหติ, ตสฺส สตฺถุโน ตสฺส ทิฏฺิยา ตสฺส ขนฺติยา ตสฺส รุจิยา ตสฺส อาทายสฺส วณฺเณ ภฺมาเน กุปิโต โหติ อนตฺตมโน อนภิรทฺโธ, พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา วณฺเณ ภฺมาเน อตฺตมโน โหติ อุทคฺโค อภิรทฺโธ. อิทํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาตนิกํ อฺติตฺถิยปุพฺพสฺส อาราธนียสฺมึ. เอวมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาราธโก โหติ. เอวํ อาราธโก โข, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ.

‘‘สเจ, ภิกฺขเว, อฺติตฺถิยปุพฺโพ นคฺโค อาคจฺฉติ, อุปชฺฌายมูลกํ จีวรํ ปริเยสิตพฺพํ. สเจ อจฺฉินฺนเกโส อาคจฺฉติ, สงฺโฆ อปโลเกตพฺโพ ภณฺฑุกมฺมาย. เย เต, ภิกฺขเว, อคฺคิกา ชฏิลกา, เต อาคตา อุปสมฺปาเทตพฺพา, น เตสํ ปริวาโส ทาตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? กมฺมวาทิโน เอเต, ภิกฺขเว, กิริยวาทิโน. สเจ, ภิกฺขเว, ชาติยา สากิโย อฺติตฺถิยปุพฺโพ อาคจฺฉติ , โส อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพ, น ตสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพ. อิมาหํ, ภิกฺขเว, าตีนํ อาเวณิกํ ปริหารํ ทมฺมี’’ติ.

อฺติตฺถิยปุพฺพกถา นิฏฺิตา.

สตฺตมภาณวาโร.

๒๖. ปฺจาพาธวตฺถุ

๘๘. เตน โข ปน สมเยน มคเธสุ ปฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา โหนฺติ – กุฏฺํ, คณฺโฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโร. มนุสฺสา ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺา ชีวกํ โกมารภจฺจํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘สาธุ โน, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘อหํ ขฺวยฺโย, พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย; ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฏฺาตพฺโพ อิตฺถาคารฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสงฺโฆ; นาหํ สกฺโกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยฺจ เต, อาจริย, โหตุ; มยฺจ เต ทาสา; สาธุ, โน, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘อหํ ขฺวยฺโย, พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฏฺาตพฺโพ อิตฺถาคารฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสงฺโฆ; นาหํ สกฺโกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. อถ โข เตสํ มนุสฺสานํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติ. ยํนูน มยํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยาม. ตตฺถ ภิกฺขู เจว อุปฏฺหิสฺสนฺติ, ชีวโก จ โกมารภจฺโจ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติ . อถ โข เต มนุสฺสา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. เต ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํ. เต ภิกฺขู เจว อุปฏฺหึสุ ชีวโก จ โกมารภจฺโจ ติกิจฺฉิ. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู พหู คิลาเน ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา ยาจนพหุลา วิฺตฺติพหุลา วิหรนฺติ – คิลานภตฺตํ เทถ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ เทถ, คิลานเภสชฺชํ เทถาติ. ชีวโกปิ โกมารภจฺโจ พหู คิลาเน ภิกฺขู ติกิจฺฉนฺโต อฺตรํ ราชกิจฺจํ ปริหาเปสิ.

๘๙. อฺตโรปิ ปุริโส ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ชีวกํ โกมารภจฺจํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘สาธุ มํ, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘อหํ ขฺวยฺโย, พหุกิจฺโจ, พหุกรณีโย, ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฏฺาตพฺโพ อิตฺถาคารฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสงฺโฆ; นาหํ สกฺโกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยฺจ เต, อาจริย, โหตุ, อหฺจ เต ทาโส; สาธุ มํ, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘อหํ ขฺวยฺโย, พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย, ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฏฺาตพฺโพ อิตฺถาคารฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสงฺโฆ, นาหํ สกฺโกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. อถ โข ตสฺส ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติ. ยํนูนาหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยํ. ตตฺถ ภิกฺขู เจว อุปฏฺหิสฺสนฺติ, ชีวโก จ โกมารภจฺโจ ติกิจฺฉิสฺสติ. โสมฺหิ [โสหํ (พหูสุ, วิมติวิโนทนีฏีกา โอโลเกตพฺพา)] อโรโค วิพฺภมิสฺสามี’’ติ . อถ โข โส ปุริโส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํ. ตํ ภิกฺขู เจว อุปฏฺหึสุ, ชีวโก จ โกมารภจฺโจ ติกิจฺฉิ. โส อโรโค วิพฺภมิ. อทฺทสา โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ ปุริสํ วิพฺภนฺตํ, ทิสฺวาน ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘นนุ ตฺวํ, อยฺโย, ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต อโหสี’’ติ? ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, อยฺโย, เอวรูปมกาสี’’ติ? อถ โข โส ปุริโส ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ชีวโก โกมารภจฺโจ อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภทนฺตา [ภทฺทนฺตา (ก.)] ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อยฺยา ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺํ น ปพฺพาเชยฺยุ’’นฺติ. อถ โข ภควา ชีวกํ โกมารภจฺจํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.

ปฺจาพาธวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๒๗. ราชภฏวตฺถุ

๙๐. เตน โข ปน สมเยน รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปจฺจนฺโต กุปิโต โหติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เสนานายเก มหามตฺเต อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, ปจฺจนฺตํ อุจฺจินถา’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข เสนานายกา มหามตฺตา รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข อภิฺาตานํ อภิฺาตานํ โยธานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ยุทฺธาภินนฺทิโน คจฺฉนฺตา ปาปฺจ กโรม, พหุฺจ อปุฺํ ปสวาม. เกน นุ โข มยํ อุปาเยน ปาปา จ วิรเมยฺยาม กลฺยาณฺจ กเรยฺยามา’’ติ? อถ โข เตสํ โยธานํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. สเจ โข มยํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยาม, เอวํ มยํ ปาปา จ วิรเมยฺยาม กลฺยาณฺจ กเรยฺยามา’’ติ. อถ โข เต โยธา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. เต ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํ. เสนานายกา มหามตฺตา ราชภเฏ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ นุ โข, ภเณ, อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ โยธา น ทิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ, สามิ, โยธา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตา’’ติ. เสนานายกา มหามตฺตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ราชภฏํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. เสนานายกา มหามตฺตา รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โวหาริเก มหามตฺเต ปุจฺฉิ – ‘‘โย, ภเณ, ราชภฏํ ปพฺพาเชติ, กึ โส ปสวตี’’ติ? ‘‘อุปชฺฌายสฺส, เทว, สีสํ เฉตพฺพํ, อนุสฺสาวกสฺส [อนุสาวกสฺส (ก.)] ชิวฺหา อุทฺธริตพฺพา, คณสฺส อุปฑฺฒผาสุกา ภฺชิตพฺพา’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภนฺเต, ราชาโน อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา. เต อปฺปมตฺตเกนปิ ภิกฺขู วิเหเยฺยุํ. สาธุ, ภนฺเต, อยฺยา ราชภฏํ น ปพฺพาเชยฺยุ’’นฺติ. อถ โข ภควา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.

ราชภฏวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๒๘. องฺคุลิมาลโจรวตฺถุ

๙๑. เตน โข ปน สมเยน โจโร องฺคุลิมาโล ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. มนุสฺสา ปสฺสิตฺวา อุพฺพิชฺชนฺติปิ, อุตฺตสนฺติปิ, ปลายนฺติปิ , อฺเนปิ คจฺฉนฺติ, อฺเนปิ มุขํ กโรนฺติ, ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ธชพนฺธํ โจรํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… น, ภิกฺขเว, ธชพนฺโธ โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

องฺคุลิมาลโจรวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๒๙. การเภทกโจรวตฺถุ

๙๒. เตน โข ปน สมเยน รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน อนุฺาตํ โหติ – ‘‘เย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ; สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรนฺตุ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส โจริกํ กตฺวา การาย พทฺโธ โหติ. โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. มนุสฺสา ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยํ โส การเภทโก โจโร. หนฺท, นํ เนมา’’ติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มายฺโย, เอวํ อวจุตฺถ. อนุฺาตํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน – ‘‘เย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ; สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรนฺตุ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อภยูวรา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, นยิเม ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ. กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา การเภทกํ โจรํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, การเภทโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

การเภทกโจรวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๐. ลิขิตกโจรวตฺถุ

๙๓. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส โจริกํ กตฺวา ปลายิตฺวา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. โส จ รฺโ อนฺเตปุเร ลิขิโต โหติ – ยตฺถ ปสฺสติ, ตตฺถ หนฺตพฺโพติ. มนุสฺสา ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยํ โส ลิขิตโก โจโร. หนฺท, นํ หนามา’’ติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มายฺโย, เอวํ อวจุตฺถ. อนุฺาตํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ‘‘เย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรนฺตุ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อภยูวรา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, นยิเม ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ. กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ลิขิตกํ โจรํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ลิขิตโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

ลิขิตกโจรวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๑. กสาหตวตฺถุ

๙๔. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา กสาหตํ กตทณฺฑกมฺมํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น , ภิกฺขเว, กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

กสาหตวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๒. ลกฺขณาหตวตฺถุ

๙๕. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส ลกฺขณาหโต กตทณฺฑกมฺโม ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ลกฺขณาหตํ กตทณฺฑกมฺมํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ลกฺขณาหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

ลกฺขณาหตวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๓. อิณายิกวตฺถุ

๙๖. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส อิณายิโก ปลายิตฺวา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. ธนิยา ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยํ โส อมฺหากํ อิณายิโก. หนฺท, นํ เนมา’’ติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มายฺโย, เอวํ อวจุตฺถ. อนุฺาตํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน – ‘‘เย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ; สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรนฺตุ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อภยูวรา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา. นยิเม ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ. กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อิณายิกํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ . น, ภิกฺขเว, อิณายิโก ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

อิณายิกวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๔. ทาสวตฺถุ

๙๗. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ทาโส ปลายิตฺวา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. อยฺยกา [อยฺยิกา (ก.), อยิรกา (สี.)] ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อยํ โส อมฺหากํ ทาโส. หนฺท, นํ เนมา’’ติ. เอกจฺเจ เอวมาหํสุ – ‘‘มายฺโย, เอวํ อวจุตฺถ, อนุฺาตํ รฺา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ‘‘เย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชนฺติ, น เต ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรนฺตุ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อภยูวรา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, นยิเม ลพฺภา กิฺจิ กาตุํ. กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ทาสํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ทาโส ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

ทาสวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๕. กมฺมารภณฺฑุวตฺถุ

๙๘. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร กมฺมารภณฺฑุ มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. อถ โข ตสฺส กมฺมารภณฺฑุสฺส มาตาปิตโร ตํ กมฺมารภณฺฑุํ วิจินนฺตา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ – ‘‘อปิ, ภนฺเต, เอวรูปํ ทารกํ ปสฺเสยฺยาถา’’ติ? ภิกฺขู อชานํเยว อาหํสุ – ‘‘น ชานามา’’ติ, อปสฺสํเยว อาหํสุ – ‘‘น ปสฺสามา’’ติ. อถ โข ตสฺส กมฺมารภณฺฑุสฺส มาตาปิตโร ตํ กมฺมารภณฺฑุํ วิจินนฺตา ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตํ ทิสฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, ทุสฺสีลา มุสาวาทิโน. ชานํเยว อาหํสุ – ‘น ชานามา’ติ, ปสฺสํเยว อาหํสุ – ‘น ปสฺสามา’ติ. อยํ ทารโก ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส กมฺมารภณฺฑุสฺส มาตาปิตูนํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆํ อปโลเกตุํ ภณฺฑุกมฺมายาติ.

กมฺมารภณฺฑุวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๖. อุปาลิทารกวตฺถุ

๙๙. [อิทํ วตฺถุ ปาจิ. ๔๐๒ อาทโย] เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สตฺตรสวคฺคิยา ทารกา สหายกา โหนฺติ. อุปาลิทารโก เตสํ ปาโมกฺโข โหติ. อถ โข อุปาลิสฺส มาตาปิตูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน อุปาลิ อมฺหากํ อจฺจเยน สุขฺจ ชีเวยฺย, น จ กิลเมยฺยา’’ติ? อถ โข อุปาลิสฺส มาตาปิตูนํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อุปาลิ เลขํ สิกฺเขยฺย, เอวํ โข อุปาลิ อมฺหากํ อจฺจเยน สุขฺจ ชีเวยฺย, น จ กิลเมยฺยา’’ติ. อถ โข อุปาลิสฺส มาตาปิตูนํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อุปาลิ เลขํ สิกฺขิสฺสติ, องฺคุลิโย ทุกฺขา ภวิสฺสนฺติ. สเจ โข อุปาลิ คณนํ สิกฺเขยฺย, เอวํ โข อุปาลิ อมฺหากํ อจฺจเยน สุขฺจ ชีเวยฺย, น จ กิลเมยฺยา’’ติ. อถ โข อุปาลิสฺส มาตาปิตูนํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อุปาลิ คณนํ สิกฺขิสฺสติ, อุรสฺส ทุกฺโข ภวิสฺสติ. สเจ โข อุปาลิ รูปํ สิกฺเขยฺย, เอวํ โข อุปาลิ อมฺหากํ อจฺจเยน สุขฺจ ชีเวยฺย, น จ กิลเมยฺยา’’ติ. อถ โข อุปาลิสฺส มาตาปิตูนํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อุปาลิ รูปํ สิกฺขิสฺสติ, อกฺขีนิ ทุกฺขา ภวิสฺสนฺติ. อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติ . สเจ โข อุปาลิ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺย, เอวํ โข อุปาลิ อมฺหากํ อจฺจเยน สุขฺจ ชีเวยฺย, น จ กิลเมยฺยา’’ติ.

อสฺโสสิ โข อุปาลิทารโก มาตาปิตูนํ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข อุปาลิทารโก เยน เต ทารกา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ทารเก เอตทโวจ – ‘‘เอถ มยํ, อยฺยา, สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อยฺย, ปพฺพชิสฺสสิ, เอวํ มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. อถ โข เต ทารกา เอกเมกสฺส มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘‘อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ. อถ โข เตสํ ทารกานํ มาตาปิตโร – ‘‘สพฺเพปิเม ทารกา สมานจฺฉนฺทา กลฺยาณาธิปฺปายา’’ติ – อนุชานึสุ. เต ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจึสุ. เต ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ อุปสมฺปาเทสุํ . เต รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย โรทนฺติ – ‘‘ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถ, ขาทนียํ เทถา’’ติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘อาคเมถ, อาวุโส, ยาว รตฺติ วิภายติ. สเจ ยาคุ ภวิสฺสติ ปิวิสฺสถ, สเจ ภตฺตํ ภวิสฺสติ ภุฺชิสฺสถ, สเจ ขาทนียํ ภวิสฺสติ ขาทิสฺสถ; โน เจ ภวิสฺสติ ยาคุ วา ภตฺตํ วา ขาทนียํ วา, ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุฺชิสฺสถา’’ติ. เอวมฺปิ โข เต ภิกฺขู ภิกฺขูหิ วุจฺจมานา โรทนฺติเยว ‘‘ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถ, ขาทนียํ เทถา’’ติ; เสนาสนํ อุหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปิ.

อสฺโสสิ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ทารกสทฺทํ. สุตฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข โส, อานนฺท, ทารกสทฺโท’’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ…เป… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… ‘‘กถฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทสฺสนฺติ. อูนวีสติวสฺโส, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกฺขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหติ. วีสติวสฺโสว โข, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ. เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย, ปสนฺนานํ วา ภิยฺโยภาวาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ชานํ อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ.

อุปาลิทารกวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๗. อหิวาตกโรควตฺถุ

๑๐๐. เตน โข ปน สมเยน อฺตรํ กุลํ อหิวาตกโรเคน กาลงฺกตํ โหติ. ตสฺส ปิตาปุตฺตกา เสสา โหนฺติ. เต ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตฺวา เอกโตว ปิณฺฑาย จรนฺติ. อถ โข โส ทารโก ปิตุโน ภิกฺขาย ทินฺนาย อุปธาวิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ, ตาต, เทหิ; มยฺหมฺปิ , ตาต, เทหี’’ติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อพฺรหฺมจาริโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา. อยมฺปิ ทารโก ภิกฺขุนิยา ชาโต’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อูนปนฺนรสวสฺโส ทารโก ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปฏฺากกุลํ สทฺธํ ปสนฺนํ อหิวาตกโรเคน กาลงฺกตํ โหติ, ทฺเว จ ทารกา เสสา โหนฺติ. เต โปราณเกน อาจิณฺณกปฺเปน ภิกฺขู ปสฺสิตฺวา อุปธาวนฺติ. ภิกฺขู อปสาเทนฺติ. เต ภิกฺขูหิ อปสาทิยมานา โรทนฺติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อูนปนฺนรสวสฺโส ทารโก ปพฺพาเชตพฺโพ’ติ. อิเม จ ทารกา อูนปนฺนรสวสฺสา. เกน นุ โข อุปาเยน อิเม ทารกา น วินสฺเสยฺยุ’’นฺติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อุสฺสหนฺติ ปน เต, อานนฺท, ทารกา กาเก อุฑฺฑาเปตุนฺติ? อุสฺสหนฺติ, ภควาติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อูนปนฺนรสวสฺสํ ทารกํ กากุฑฺเฑปกํ ปพฺพาเชตุ’’นฺติ.

อหิวาตกโรควตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๘. กณฺฏกวตฺถุ

๑๐๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส ทฺเว สามเณรา โหนฺติ – กณฺฏโก จ มหโก จ. เต อฺมฺํ ทูเสสุํ. ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สามเณรา เอวรูปํ อนาจารํ อาจริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว สามเณรา อุปฏฺาเปตพฺพา. โย อุปฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

กณฺฏกวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๓๙. อาหุนฺทริกวตฺถุ

๑๐๒. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตตฺเถว ราชคเห วสฺสํ วสิ, ตตฺถ เหมนฺตํ, ตตฺถ คิมฺหํ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อาหุนฺทริกา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ทิสา อนฺธการา, น อิเมสํ ทิสา ปกฺขายนฺตี’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉานนฺท, อวาปุรณํ [อปาปุรณํ (ก.)] อาทาย อนุปริเวณิยํ ภิกฺขูนํ อาโรเจหิ – ‘‘อิจฺฉตาวุโส ภควา ทกฺขิณาคิรึ จาริกํ ปกฺกมิตุํ. ยสฺสายสฺมโต อตฺโถ, โส อาคจฺฉตู’’ติ. เอวํ, ภนฺเต, ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา อวาปุรณํ อาทาย อนุปริเวณิยํ ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ – ‘อิจฺฉตาวุโส ภควา ทกฺขิณาคิรึ จาริกํ ปกฺกมิตุํ. ยสฺสายสฺมโต อตฺโถ, โส อาคจฺฉตู’’’ติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘ภควตา, อาวุโส อานนฺท, ปฺตฺตํ ทสวสฺสานิ นิสฺสาย วตฺถุํ, ทสวสฺเสน นิสฺสยํ ทาตุํ. ตตฺถ จ โน คนฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, นิสฺสโย จ คเหตพฺโพ ภวิสฺสติ, อิตฺตโร จ วาโส ภวิสฺสติ, ปุน จ ปจฺจาคนฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, ปุน จ นิสฺสโย คเหตพฺโพ ภวิสฺสติ. สเจ อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายา คมิสฺสนฺติ, มยมฺปิ คมิสฺสาม; โน เจ อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายา คมิสฺสนฺติ, มยมฺปิ น คมิสฺสาม. ลหุจิตฺตกตา โน, อาวุโส อานนฺท, ปฺายิสฺสตี’’ติ. อถ โข ภควา โอคเณน ภิกฺขุสงฺเฆน ทกฺขิณาคิรึ จาริกํ ปกฺกามิ.

อาหุนฺทริกวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๔๐. นิสฺสยมุจฺจนกกถา

๑๐๓. อถ โข ภควา ทกฺขิณาคิริสฺมึ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคจฺฉิ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, อานนฺท, ตถาคโต โอคเณน ภิกฺขุสงฺเฆน ทกฺขิณาคิรึ จาริกํ ปกฺกนฺโต’’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ปฺจวสฺสานิ นิสฺสาย วตฺถุํ, อพฺยตฺเตน ยาวชีวํ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน. อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน… อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน… อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. สทฺโธ โหติ , หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, น อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, น อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, ปฺวา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ , ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ปฺจหิ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ปฺจวสฺโส วา โหติ อติเรก ปฺจวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

นิสฺสยมุจฺจนกกถา นิฏฺิตา.

ปฺจกทสวาโร นิฏฺิโต.

๑๐๔. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน, น อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน, น อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน, อเสกฺเขน ปฺากฺขนฺเธน, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน, อเสกฺเขน วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, ปฺจวสฺโส วา โหติ อติเรกปฺจวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ , ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อสฺสทฺโธ โหติ, อหิริโก โหติ, อโนตฺตปฺปี โหติ, กุสีโต โหติ, มุฏฺสฺสติ โหติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. สทฺโธ โหติ, หิริมา โหติ, โอตฺตปฺปี โหติ, อารทฺธวีริโย โหติ, อุปฏฺิตสฺสติ โหติ, ปฺจวสฺโส วา โหติ อติเรกปฺจวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, อปฺปสฺสุโต โหติ, ทุปฺปฺโ โหติ, อูนปฺจวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. น อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, น อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, น อติทิฏฺิยา ทิฏฺิวิปนฺโน โหติ, พหุสฺสุโต โหติ, ปฺวา โหติ, ปฺจวสฺโส วา โหติ อติเรกปฺจวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ น ชานาติ, อนาปตฺตึ น ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ น ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน น สฺวาคตานิ โหนฺติ น สุวิภตฺตานิ น สุปฺปวตฺตีนิ น สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, อูนปฺจวสฺโส โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ลหุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, ครุกํ อาปตฺตึ ชานาติ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, ปฺจวสฺโส วา โหติ อติเรกปฺจวสฺโส วา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’’นฺติ.

อภยูวรภาณวาโร นิฏฺิโต อฏฺโม.

อฏฺมภาณวาโร.

๔๑. ราหุลวตฺถุ

๑๐๕. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน กปิลวตฺถุ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน กปิลวตฺถุ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุทฺโธทนสฺส สกฺกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ราหุลมาตา เทวี ราหุลํ กุมารํ เอตทโวจ – ‘‘เอโส เต, ราหุล, ปิตา. คจฺฉสฺสุ [คจฺฉสฺส (สฺยา.)], ทายชฺชํ ยาจาหี’’ติ. อถ โข ราหุโล กุมาโร เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปุรโต, อฏฺาสิ – ‘‘สุขา เต, สมณ, ฉายา’’ติ. อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ราหุโล กุมาโร ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ – ‘‘ทายชฺชํ เม, สมณ, เทหิ; ทายชฺชํ เม, สมณ, เทหี’’ติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ราหุลํ กุมารํ ปพฺพาเชหี’’ติ. ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ราหุลํ กุมารํ ปพฺพาเชมี’’ติ? อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺชํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปพฺพาเชตพฺโพ – ปมํ เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ – พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ทุติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ตติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามีติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ สามเณรปพฺพชฺช’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ราหุลํ กุมารํ ปพฺพาเชสิ.

อถ โข สุทฺโธทโน สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุทฺโธทโน สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรํ ยาจามี’’ติ. ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, โคตม, ตถาคตา’’ติ. ‘‘ยฺจ, ภนฺเต, กปฺปติ, ยฺจ อนวชฺช’’นฺติ. ‘‘วเทหิ, โคตมา’’ติ. ‘‘ภควติ เม, ภนฺเต, ปพฺพชิเต อนปฺปกํ ทุกฺขํ อโหสิ, ตถา นนฺเท, อธิมตฺตํ ราหุเล. ปุตฺตเปมํ , ภนฺเต, ฉวึ ฉินฺทติ, ฉวึ เฉตฺวา จมฺมํ ฉินฺทติ, จมฺมํ เฉตฺวา มํสํ ฉินฺทติ, มํสํ เฉตฺวา นฺหารุํ ฉินฺทติ, นฺหารุํ เฉตฺวา อฏฺึ ฉินฺทติ, อฏฺึ เฉตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺติ. สาธุ, ภนฺเต, อยฺยา อนนุฺาตํ มาตาปิตูหิ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชยฺยุ’’นฺติ. อถ โข ภควา สุทฺโธทนํ สกฺกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข สุทฺโธทโน สกฺโก ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.

อถ โข ภควา กปิลวตฺถุสฺมึ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุปฏฺากกุลํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก ทารกํ ปาเหสิ – ‘‘อิมํ ทารกํ เถโร ปพฺพาเชตู’’ติ. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น เอเกน ทฺเว สามเณรา อุปฏฺาเปตพฺพา’ติ. อยฺจ เม ราหุโล สามเณโร. กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เอเกน ทฺเว สามเณเร อุปฏฺาเปตุํ, ยาวตเก วา ปน อุสฺสหติ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ ตาวตเก อุปฏฺาเปตุนฺติ.

ราหุลวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๔๒. สิกฺขาปทกถา

๑๐๖. อถ โข สามเณรานํ เอตทโหสิ – ‘‘กติ นุ โข อมฺหากํ สิกฺขาปทานิ, กตฺถ จ อมฺเหหิ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ – ปาณาติปาตา เวรมณี [เวรมณิ, เวรมณึ (ก.)], อทินฺนาทานา เวรมณี, อพฺรหฺมจริยา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณี, วิกาลโภชนา เวรมณี, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา เวรมณี, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา เวรมณี , อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ, อิเมสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุนฺติ.

สิกฺขาปทกถา นิฏฺิตา.

๔๓. ทณฺฑกมฺมวตฺถุ

๑๐๗. เตน โข ปน สมเยน สามเณรา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺติ. ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สามเณรา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กาตุนฺติ.

อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาวรณํ กาตุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สามเณรานํ สพฺพํ สงฺฆารามํ อาวรณํ กโรนฺติ. สามเณรา อารามํ ปวิสิตุํ อลภมานา ปกฺกมนฺติปิ , วิพฺภมนฺติปิ, ติตฺถิเยสุปิ สงฺกมนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ. โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สามเณรานํ มุขทฺวาริกํ อาหารํ อาวรณํ กโรนฺติ. มนุสฺสา ยาคุปานมฺปิ สงฺฆภตฺตมฺปิ กโรนฺตา สามเณเร เอวํ วเทนฺติ – ‘‘เอถ, ภนฺเต, ยาคุํ ปิวถ; เอถ, ภนฺเต, ภตฺตํ ภุฺชถา’’ติ. สามเณรา เอวํ วเทนฺติ – ‘‘นาวุโส, ลพฺภา. ภิกฺขูหิ อาวรณํ กต’’นฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภทนฺตา สามเณรานํ มุขทฺวาริกํ อาหารํ อาวรณํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ. โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

ทณฺฑกมฺมวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๔๔. อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุ

๑๐๘. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุปชฺฌาเย อนาปุจฺฉา สามเณรานํ อาวรณํ กโรนฺติ. อุปชฺฌายา คเวสนฺติ – กถํ [กหํ (ก.)] นุ โข อมฺหากํ สามเณรา น ทิสฺสนฺตีติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘ฉพฺพคฺคิเยหิ, อาวุโส, ภิกฺขูหิ อาวรณํ กต’’นฺติ. อุปชฺฌายา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อมฺเห อนาปุจฺฉา อมฺหากํ สามเณรานํ อาวรณํ กริสฺสนฺตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อุปชฺฌาเย อนาปุจฺฉา อาวรณํ กาตพฺพํ. โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

อนาปุจฺฉาวรณวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๔๕. อปลาฬนวตฺถุ

เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เถรานํ ภิกฺขูนํ สามเณเร อปลาเฬนฺติ. เถรา สามํ ทนฺตกฏฺมฺปิ มุโขทกมฺปิ คณฺหนฺตา กิลมนฺติ . ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพา. โย อปลาเฬยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา ติ.

อปลาฬนวตฺถุ นิฏฺิตํ.

๔๖. กณฺฏกสามเณรวตฺถุ

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส กณฺฏโก นาม สามเณโร กณฺฏกึ นาม ภิกฺขุนึ ทูเสสิ. ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สามเณโร เอวรูปํ อนาจารํ อาจริสฺสตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุํ. ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, อพฺรหฺมจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, มชฺชปายี โหติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ภิกฺขุนิทูสโก โหติ – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุนฺติ.

๔๗. ปณฺฑกวตฺถุ

๑๐๙. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปณฺฑโก ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. โส ทหเร ทหเร ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทติ – ‘‘เอถ, มํ อายสฺมนฺโต ทูเสถา’’ติ. ภิกฺขู อปสาเทนฺติ – ‘‘นสฺส, ปณฺฑก, วินสฺส, ปณฺฑก, โก ตยา อตฺโถ’’ติ. โส ภิกฺขูหิ อปสาทิโต มหนฺเต มหนฺเต โมฬิคลฺเล สามเณเร อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทติ – ‘‘เอถ, มํ อาวุโส ทูเสถา’’ติ. สามเณรา อปสาเทนฺติ – ‘‘นสฺส, ปณฺฑก, วินสฺส, ปณฺฑก, โก ตยา อตฺโถ’’ติ. โส สามเณเรหิ อปสาทิโต หตฺถิภณฺเฑ อสฺสภณฺเฑ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทติ – ‘‘เอถ, มํ, อาวุโส , ทูเสถา’’ติ. หตฺถิภณฺฑา อสฺสภณฺฑา ทูเสสุํ. เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ปณฺฑกา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา. เยปิ อิเมสํ น ปณฺฑกา, เตปิ อิเม ปณฺฑเก ทูเสนฺติ. เอวํ อิเม สพฺเพว อพฺรหฺมจาริโน’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ หตฺถิภณฺฑานํ อสฺสภณฺฑานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๔๘. เถยฺยสํวาสกวตฺถุ

๑๑๐. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุราณกุลปุตฺโต ขีณโกลฺโ สุขุมาโล โหติ. อถ โข ตสฺส ปุราณกุลปุตฺตสฺส ขีณโกลฺสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข สุขุมาโล, น ปฏิพโล อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนฺตุํ, อธิคตํ วา โภคํ ผาตึ กาตุํ. เกน นุ โข อหํ อุปาเยน สุขฺจ ชีเวยฺยํ, น จ กิลเมยฺย’’นฺติ? อถ โข ตสฺส ปุราณกุลปุตฺตสฺส ขีณโกลฺสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติ. ยํนูนาหํ สามํ ปตฺตจีวรํ ปฏิยาเทตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวเสยฺย’’นฺติ. อถ โข โส ปุราณกุลปุตฺโต ขีณโกลฺโ สามํ ปตฺตจีวรํ ปฏิยาเทตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู อภิวาเทติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กติวสฺโสสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? กึ เอตํ, อาวุโส, กติวสฺโส นามาติ? โก ปน เต, อาวุโส, อุปชฺฌาโยติ? กึ เอตํ , อาวุโส, อุปชฺฌาโย นามาติ? ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุปาลึ เอตทโวจุํ – ‘‘อิงฺฆาวุโส อุปาลิ, อิมํ ปพฺพชิตํ อนุยุฺชาหี’’ติ. อถ โข โส ปุราณกุลปุตฺโต ขีณโกลฺโ อายสฺมตา อุปาลินา อนุยุฺชิยมาโน เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อายสฺมา อุปาลิ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เถยฺยสํวาสโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ. ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๔๙. ติรจฺฉานคตวตฺถุ

๑๑๑. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร นาโค นาคโยนิยา อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. อถ โข ตสฺส นาคสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เกน นุ โข อหํ อุปาเยน นาคโยนิยา จ ปริมุจฺเจยฺยํ ขิปฺปฺจ มนุสฺสตฺตํ ปฏิลเภยฺย’’นฺติ. อถ โข ตสฺส นาคสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. สเจ โข อหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยํ, เอวาหํ นาคโยนิยา จ ปริมุจฺเจยฺยํ, ขิปฺปฺจ มนุสฺสตฺตํ ปฏิลเภยฺย’’นฺติ. อถ โข โส นาโค มาณวกวณฺเณน ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ตํ ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํ. เตน โข ปน สมเยน โส นาโค อฺตเรน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปจฺจนฺติเม วิหาเร ปฏิวสติ. อถ โข โส ภิกฺขุ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อชฺโฌกาเส จงฺกมติ. อถ โข โส นาโค ตสฺส ภิกฺขุโน นิกฺขนฺเต วิสฺสฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมิ. สพฺโพ วิหาโร อหินา ปุณฺโณ, วาตปาเนหิ โภคา นิกฺขนฺตา โหนฺติ. อถ โข โส ภิกฺขุ วิหารํ ปวิสิสฺสามีติ กวาฏํ ปณาเมนฺโต อทฺทส สพฺพํ วิหารํ อหินา ปุณฺณํ, วาตปาเนหิ โภเค นิกฺขนฺเต, ทิสฺวาน ภีโต วิสฺสรมกาสิ. ภิกฺขู อุปธาวิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, วิสฺสรมกาสี’’ติ? ‘‘อยํ, อาวุโส, สพฺโพ วิหาโร อหินา ปุณฺโณ, วาตปาเนหิ โภคา นิกฺขนฺตา’’ติ. อถ โข โส นาโค เตน สทฺเทน ปฏิพุชฺฌิตฺวา สเก อาสเน นิสีทิ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, นาโค’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, อาวุโส, เอวรูปํ อกาสี’’ติ? อถ โข โส นาโค ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตํ นาคํ เอตทโวจ – ‘‘ตุมฺเห โขตฺถ นาคา อวิรุฬฺหิธมฺมา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย. คจฺฉ ตฺวํ, นาค, ตตฺเถว จาตุทฺทเส ปนฺนรเส อฏฺมิยา จ ปกฺขสฺส อุโปสถํ อุปวส, เอวํ ตฺวํ นาคโยนิยา จ ปริมุจฺจิสฺสสิ, ขิปฺปฺจ มนุสฺสตฺตํ ปฏิลภิสฺสสี’’ติ. อถ โข โส นาโค อวิรุฬฺหิธมฺโม กิราหํ อิมสฺมึ ธมฺมวินเยติ ทุกฺขี ทุมฺมโน อสฺสูนิ ปวตฺตยมาโน วิสฺสรํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา นาคสฺส สภาวปาตุกมฺมาย. ยทา จ สชาติยา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, ยทา จ วิสฺสฏฺโ นิทฺทํ โอกฺกมติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ปจฺจยา นาคสฺส สภาวปาตุกมฺมาย . ติรจฺฉานคโต, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ.

๕๐. มาตุฆาตกวตฺถุ

๑๑๒. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร มาณวโก มาตรํ ชีวิตา โวโรเปสิ. โส เตน ปาปเกน กมฺเมน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ . อถ โข ตสฺส มาณวกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เกน นุ โข อหํ อุปาเยน อิมสฺส ปาปกสฺส กมฺมสฺส นิกฺขนฺตึ กเรยฺย’’นฺติ? อถ โข ตสฺส มาณวกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา. สเจ โข อหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยํ, เอวาหํ อิมสฺส ปาปกสฺส กมฺมสฺส นิกฺขนฺตึ กเรยฺย’’นฺติ. อถ โข โส มาณวโก ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุปาลึ เอตทโวจุํ – ‘‘ปุพฺเพปิ โข, อาวุโส อุปาลิ, นาโค มาณวกวณฺเณน ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต. อิงฺฆาวุโส อุปาลิ, อิมํ มาณวกํ อนุยุฺชาหี’’ติ. อถ โข โส มาณวโก อายสฺมตา อุปาลินา อนุยุฺชียมาโน เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อายสฺมา อุปาลิ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… มาตุฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๕๑. ปิตุฆาตกวตฺถุ

๑๑๓. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร มาณวโก ปิตรํ ชีวิตา โวโรเปสิ. โส เตน ปาปเกน กมฺเมน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. อถ โข ตสฺส มาณวกสฺส เอตทโหสิ ‘‘เกน นุ โข อหํ อุปาเยน อิมสฺส ปาปกสฺส กมฺมสฺส นิกฺขนฺตึ กเรยฺย’’นฺติ. อถ โข ตสฺส มาณวกสฺส เอตทโหสิ ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา ธมฺมจาริโน สมจาริโน พฺรหฺมจาริโน สจฺจวาทิโน สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา, สเจ โข อหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยํ, เอวาหํ อิมสฺส ปาปกสฺส กมฺมสฺส นิกฺขนฺตึ กเรยฺย’’นฺติ. อถ โข โส มาณวโก ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุปาลึ เอตทโวจุํ – ‘‘ปุพฺเพปิ โข, อาวุโส อุปาลิ, นาโค มาณวกวณฺเณน ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต, อิงฺฆาวุโส, อุปาลิ, อิมํ มาณวกํ อนุยุฺชาหี’’ติ. อถ โข โส มาณวโก อายสฺมตา อุปาลินา อนุยุฺชียมาโน เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อายสฺมา อุปาลิ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ปิตุฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๕๒. อรหนฺตฆาตกวตฺถุ

๑๑๔. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู สาเกตา สาวตฺถึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา เอกจฺเจ ภิกฺขู อจฺฉินฺทึสุ, เอกจฺเจ ภิกฺขู หนึสุ. สาวตฺถิยา ราชภฏา นิกฺขมิตฺวา เอกจฺเจ โจเร อคฺคเหสุํ, เอกจฺเจ โจรา ปลายึสุ. เย เต ปลายึสุ เต ภิกฺขูสุ ปพฺพชึสุ, เย เต คหิตา เต วธาย โอนิยฺยนฺติ . อทฺทสํสุ โข เต ปลายิตฺวา ปพฺพชิตา เต โจเร วธาย โอนิยฺยมาเน, ทิสฺวาน เอวมาหํสุ – ‘‘สาธุ โข มยํ ปลายิมฺหา, สจา จ [สเจ จ, สจชฺช (อฏฺกถายํ ปานฺตรา)] มยํ คยฺเหยฺยาม [คณฺเหยฺยาม (ก.)], มยมฺปิ เอวเมว หฺเยฺยามา’’ติ . ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, อกตฺถา’’ติ? อถ โข เต ปพฺพชิตา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อรหนฺโต เอเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู. อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๕๓. ภิกฺขุนีทูสกวตฺถุ

๑๑๕. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย สาเกตา สาวตฺถึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. อนฺตรามคฺเค โจรา นิกฺขมิตฺวา เอกจฺจา ภิกฺขุนิโย อจฺฉินฺทึสุ, เอกจฺจา ภิกฺขุนิโย ทูเสสุํ. สาวตฺถิยา ราชภฏา นิกฺขมิตฺวา เอกจฺเจ โจเร อคฺคเหสุํ, เอกจฺเจ โจรา ปลายึสุ. เย เต ปลายึสุ, เต ภิกฺขูสุ ปพฺพชึสุ. เย เต คหิตา, เต วธาย โอนิยฺยนฺติ. อทฺทสํสุ โข เต ปลายิตฺวา ปพฺพชิตา เต โจเร วธาย โอนิยฺยมาเน, ทิสฺวาน เอวมาหํสุ ‘‘สาธุ โข มยํ ปลายิมฺหา, สจา จ มยํ คยฺเหยฺยาม, มยมฺปิ เอวเมว หฺเยฺยามา’’ติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ ‘‘กึ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, อกตฺถา’’ติ. อถ โข เต ปพฺพชิตา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ภิกฺขุนิทูสโก, ภิกฺขเว , อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ. สงฺฆเภทโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ. โลหิตุปฺปาทโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๕๔. อุภโตพฺยฺชนกวตฺถุ

๑๑๖. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อุภโตพฺยฺชนโก ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต โหติ. โส กโรติปิ การาเปติปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อุภโตพฺยฺชนโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพติ.

๕๕. อนุปชฺฌายกาทิวตฺถูนิ

๑๑๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อนุปชฺฌายกํ อุปสมฺปาเทนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อนุปชฺฌายโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สงฺเฆน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สงฺเฆน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู คเณน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, คเณน อุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปณฺฑกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… เถยฺยสํวาสกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… ติตฺถิยปกฺกนฺตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ …เป… ติรจฺฉานคตุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… มาตุฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… ปิตุฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… อรหนฺตฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… ภิกฺขุนิทูสกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… สงฺฆเภทกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… โลหิตุปฺปาทกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป… อุภโตพฺยฺชนกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทนฺติ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ปณฺฑกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, เถยฺยสํวาสกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ติตฺถิยปกฺกนฺตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคตุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, มาตุฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ …เป… น, ภิกฺขเว, ปิตุฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อรหนฺตฆาตกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิทูสกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ …เป… น, ภิกฺขเว, สงฺฆเภทกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, โลหิตุปฺปาทกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อุภโตพฺยฺชนกุปชฺฌาเยน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

๕๖. อปตฺตกาทิวตฺถุ

๑๑๘. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อปตฺตกํ อุปสมฺปาเทนฺติ. หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อปตฺตโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อจีวรกํ อุปสมฺปาเทนฺติ . นคฺคา ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อจีวรโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อปตฺตจีวรกํ อุปสมฺปาเทนฺติ. นคฺคา หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อปตฺตจีวรโก อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ยาจิตเกน ปตฺเตน อุปสมฺปาเทนฺติ. อุปสมฺปนฺเน ปตฺตํ ปฏิหรนฺติ. หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน ปตฺเตน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ยาจิตเกน จีวเรน อุปสมฺปาเทนฺติ. อุปสมฺปนฺเน จีวรํ ปฏิหรนฺติ. นคฺคา ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน จีวเรน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทนฺติ. อุปสมฺปนฺเน ปตฺตจีวรํ ปฏิหรนฺติ. นคฺคา หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตพฺโพ. โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

นอุปสมฺปาเทตพฺเพกวีสติวาโร นิฏฺิโต.

๕๗. นปพฺพาเชตพฺพทฺวตฺตึสวาโร

๑๑๙. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู หตฺถจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ปาทจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… หตฺถปาทจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กณฺณจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… นาสจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กณฺณนาสจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… องฺคุลิจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… อฬจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กณฺฑรจฺฉินฺนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ผณหตฺถกํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ขุชฺชํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… วามนํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… คลคณฺฑึ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ลกฺขณาหตํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กสาหตํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ลิขิตกํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… สีปทึ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ปาปโรคึ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ปริสทูสกํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กาณํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… กุณึ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ขฺชํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ปกฺขหตํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ฉินฺนิริยาปถํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… ชราทุพฺพลํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… อนฺธํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… มูคํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… พธิรํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… อนฺธมูคํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… อนฺธพธิรํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… มูคพธิรํ ปพฺพาเชนฺติ…เป… อนฺธมูคพธิรํ ปพฺพาเชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… น, ภิกฺขเว, หตฺถจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ปาทจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, หตฺถปาทจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, กณฺณจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, นาสจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, กณฺณนาสจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, องฺคุลิจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อฬจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, กณฺฑรจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ผณหตฺถโก ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ขุชฺโช ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, วามโน ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, คลคณฺฑี ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ลกฺขณาหโต ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, กสาหโต ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ลิขิตโก ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, สีปที ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ปาปโรคี ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ปริสทูสโก ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, กาโณ ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น , ภิกฺขเว, กุณี ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ขฺโช ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ปกฺขหโต ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ฉินฺนิริยาปโถ ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, ชราทุพฺพโล ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อนฺโธ ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, มูโค ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, พธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อนฺธมูโค ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อนฺธพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, มูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ…เป… น, ภิกฺขเว, อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

นปพฺพาเชตพฺพทฺวตฺตึสวาโร นิฏฺิโต.

ทายชฺชภาณวาโร นิฏฺิโต นวโม.

๕๘. อลชฺชีนิสฺสยวตฺถูนิ

๑๒๐. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อลชฺชีนํ นิสฺสยํ เทนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสโย ทาตพฺโพ. โย ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อลชฺชีนํ นิสฺสาย วสนฺติ. เตปิ นจิรสฺเสว อลชฺชิโน โหนฺติ ปาปกาภิกฺขู. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อลชฺชีนํ นิสฺสาย วตฺถพฺพํ. โย วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.

อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อลชฺชีนํ นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น อลชฺชีนํ นิสฺสาย วตฺถพฺพ’นฺติ. กถํ นุ โข มยํ ชาเนยฺยาม ลชฺชึ วา อลชฺชึ วา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตูหปฺจาหํ อาคเมตุํ ยาว ภิกฺขุสภาคตํ ชานามีติ.

๕๙. คมิกาทินิสฺสยวตฺถูนิ

๑๒๑. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’นฺติ. อหฺจมฺหิ นิสฺสยกรณีโย อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เต อฺตรํ อาวาสํ อุปคจฺฉึสุ. ตตฺถ เอโก ภิกฺขุ คิลาโน โหติ. อถ โข ตสฺส คิลานสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’นฺติ. อหฺจมฺหิ นิสฺสยกรณีโย คิลาโน, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุนฺติ.

อถ โข ตสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’นฺติ. อหฺจมฺหิ นิสฺสยกรณีโย, อยฺจ ภิกฺขุ คิลาโน, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา นิสฺสยํ อลภมาเนน ยาจิยมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อรฺเ วิหรติ. ตสฺส จ ตสฺมึ เสนาสเน ผาสุ โหติ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพ’นฺติ. อหฺจมฺหิ นิสฺสยกรณีโย อรฺเ วิหรามิ, มยฺหฺจ อิมสฺมึ เสนาสเน ผาสุ โหติ, กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารฺิเกน ภิกฺขุนา ผาสุวิหารํ สลฺลกฺเขนฺเตน นิสฺสยํ อลภมาเนน อนิสฺสิเตน วตฺถุํ – ยทา ปติรูโป นิสฺสยทายโก อาคจฺฉิสฺสติ, ตทา ตสฺส นิสฺสาย วสิสฺสามีติ.

๖๐. โคตฺเตน อนุสฺสาวนานุชานนา

๑๒๒. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข โหติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมโต อานนฺทสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – อาคจฺฉตุ อานนฺโท อิมํ อนุสฺสาเวสฺสตูติ [อนุสฺสาเวสฺสตีติ (สฺยา.)]. อายสฺมา อานนฺโท เอวมาห – ‘‘นาหํ อุสฺสหามิ เถรสฺส นามํ คเหตุํ, ครุ เม เถโร’’ติ . ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โคตฺเตนปิ อนุสฺสาเวตุนฺติ.

๖๑. ทฺเวอุปสมฺปทาเปกฺขาทิวตฺถุ

๑๒๓. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ทฺเว อุปสมฺปทาเปกฺขา โหนฺติ. เต วิวทนฺติ – อหํ ปมํ อุปสมฺปชฺชิสฺสามิ, อหํ ปมํ อุปสมฺปชฺชิสฺสามีติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว เอกานุสฺสาวเน กาตุนฺติ.

เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ เถรานํ อุปสมฺปทาเปกฺขา โหนฺติ. เต วิวทนฺติ – อหํ ปมํ อุปสมฺปชฺชิสฺสามิ, อหํ ปมํ อุปสมฺปชฺชิสฺสามีติ. เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท, มยํ, อาวุโส, สพฺเพว เอกานุสฺสาวเน กโรมา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ตโย เอกานุสฺสาวเน กาตุํ, ตฺจ โข เอเกน อุปชฺฌาเยน, น ตฺเวว นานุปชฺฌาเยนาติ.

๖๒. คพฺภวีสูปสมฺปทานุชานนา

๑๒๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา กุมารกสฺสโป คพฺภวีโส อุปสมฺปนฺโน อโหสิ. อถ โข อายสฺมโต กุมารกสฺสปสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘น อูนวีสติวสฺโส ปุคฺคโล อุปสมฺปาเทตพฺโพ’ติ. อหฺจมฺหิ คพฺภวีโส อุปสมฺปนฺโน. อุปสมฺปนฺโน นุ โขมฺหิ, นนุ โข อุปสมฺปนฺโน’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ , ตทุปาทาย สาวสฺส ชาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คพฺภวีสํ อุปสมฺปาเทตุนฺติ.

๖๓. อุปสมฺปทาวิธิ

๑๒๕. เตน โข ปน สมเยน อุปสมฺปนฺนา ทิสฺสนฺติ กุฏฺิกาปิ คณฺฑิกาปิ กิลาสิกาปิ โสสิกาปิ อปมาริกาปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสมฺปาเทนฺเตน เตรส [ตสฺส (ก.)] อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺฉิตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘สนฺติ เต เอวรูปา อาพาธา – กุฏฺํ, คณฺโฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโร? มนุสฺโสสิ ? ปุริโสสิ? ภุชิสฺโสสิ? อณโณสิ? นสิ ราชภโฏ? อนุฺาโตสิ มาตาปิตูหิ? ปริปุณฺณวีสติวสฺโสสิ? ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวรํ? กึนาโมสิ? โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ?

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อนนุสิฏฺเ อุปสมฺปทาเปกฺเข อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺฉนฺติ. อุปสมฺปทาเปกฺขา วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สกฺโกนฺติ วิสฺสชฺเชตุํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ อนุสาสิตฺวา ปจฺฉา อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺฉิตุนฺติ.

ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ อนุสาสนฺติ. อุปสมฺปทาเปกฺขา ตเถว วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สกฺโกนฺติ วิสฺสชฺเชตุํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกมนฺตํ อนุสาสิตฺวา สงฺฆมชฺเฌ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺฉิตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อนุสาสิตพฺโพ –

๑๒๖. ปมํ อุปชฺฌํ คาหาเปตพฺโพ. อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ อาจิกฺขิตพฺพํ – อยํ เต ปตฺโต, อยํ สงฺฆาฏิ, อยํ อุตฺตราสงฺโค, อยํ อนฺตรวาสโก. คจฺฉ, อมุมฺหิ โอกาเส ติฏฺาหีติ.

พาลา อพฺยตฺตา อนุสาสนฺติ. ทุรนุสิฏฺา อุปสมฺปทาเปกฺขา วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สกฺโกนฺติ วิสฺสชฺเชตุํ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, พาเลน อพฺยตฺเตน อนุสาสิตพฺโพ. โย อนุสาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อนุสาสิตุนฺติ.

อสมฺมตา อนุสาสนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อสมฺมเตน อนุสาสิตพฺโพ. โย อนุสาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ , ภิกฺขเว, สมฺมเตน อนุสาสิตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ [สมฺมนิตพฺโพ (ก.)] – อตฺตนา วา [อตฺตนาว (สฺยา.)] อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํ, ปเรน วา ปโร สมฺมนฺนิตพฺโพ.

กถฺจ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ. เอวํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํ.

กถฺจ ปน ปเรน ปโร สมฺมนฺนิตพฺโพ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ . เอวํ ปเรน ปโร สมฺมนฺนิตพฺโพ.

เตน สมฺมเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปทาเปกฺโข อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘สุณสิ, อิตฺถนฺนาม, อยํ เต สจฺจกาโล ภูตกาโล. ยํ ชาตํ ตํ สงฺฆมชฺเฌ ปุจฺฉนฺเต สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพํ, อสนฺตํ นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. มา โข วิตฺถายิ, มา โข มงฺกุ อโหสิ. เอวํ ตํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ – ‘‘สนฺติ เต เอวรูปา อาพาธา – กุฏฺํ, คณฺโฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโร? มนุสฺโสสิ? ปุริโสสิ? ภุชิสฺโสสิ? อณโณสิ? นสิ ราชภโฏ? อนุฺาโตสิ มาตาปิตูหิ? ปริปุณฺณวีสติวสฺโสสิ? ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวรํ? กึนาโมสิ? โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ?

เอกโต อาคจฺฉนฺติ. น, ภิกฺขเว, เอกโต อาคนฺตพฺพํ. อนุสาสเกน ปมตรํ อาคนฺตฺวา สงฺโฆ าเปตพฺโพ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข . อนุสิฏฺโ โส มยา. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺยา’’ติ. อาคจฺฉาหีติ วตฺตพฺโพ.

เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา อุปสมฺปทํ ยาจาเปตพฺโพ – ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อุปสมฺปทํ ยาจามิ. อุลฺลุมฺปตุ มํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย. ทุติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิ. อุลฺลุมฺปตุ มํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย. ตติยมฺปิ, ภนฺเต, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิ. อุลฺลุมฺปตุ มํ , ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ? สุณสิ, อิตฺถนฺนาม, อยํ เต สจฺจกาโล ภูตกาโล. ยํ ชาตํ ตํ ปุจฺฉามิ. สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพํ, อสนฺตํ นตฺถีติ วตฺตพฺพํ. สนฺติ เต เอวรูปา อาพาธา – กุฏฺํ คณฺโฑ กิเลโส โสโส อปมาโร, มนุสฺโสสิ, ปุริโสสิ, ภุชิสฺโสสิ, อณโณสิ, นสิ ราชภโฏ, อนุฺาโตสิ มาตาปิตูหิ, ปริปุณฺณวีสติวสฺโสสิ, ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวรํ, กึนาโมสิ, โกนาโม เต อุปชฺฌาโยติ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

๑๒๗. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ, ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรํ. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ, ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรํ. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน . ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ, ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรํ. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อยํ อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ปริสุทฺโธ อนฺตรายิเกหิ ธมฺเมหิ, ปริปุณฺณสฺส ปตฺตจีวรํ. อิตฺถนฺนาโม สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน อุปชฺฌาเยน. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

อุปสมฺปทากมฺมํ นิฏฺิตํ.

๖๔. จตฺตาโร นิสฺสยา

๑๒๘. ตาวเทว ฉายา เมตพฺพา, อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ทิวสภาโค อาจิกฺขิตพฺโพ, สงฺคีติ อาจิกฺขิตพฺพา , จตฺตาโร นิสฺสยา อาจิกฺขิตพฺพา [อาจิกฺขิตพฺพา, จตฺตาริ อกรณียานิ อาจิกฺขิตพฺพานิ. (ก.)]

‘‘ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา. ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย. อติเรกลาโภ – สงฺฆภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺตํ, นิมนฺตนํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกํ.

‘‘ปํสุกูลจีวรํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา. ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย. อติเรกลาโภ – โขมํ, กปฺปาสิกํ, โกเสยฺยํ, กมฺพลํ, สาณํ, ภงฺคํ.

‘‘รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา. ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย. อติเรกลาโภ – วิหาโร, อฑฺฒโยโค, ปาสาโท, หมฺมิยํ, คุหา.

‘‘ปูติมุตฺตเภสชฺชํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา. ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย. อติเรกลาโภ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิต’’นฺติ.

จตฺตาโร นิสฺสยา นิฏฺิตา.

๖๕. จตฺตาริ อกรณียานิ

๑๒๙. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อฺตรํ ภิกฺขุํ อุปสมฺปาเทตฺวา เอกกํ โอหาย ปกฺกมึสุ. โส ปจฺฉา เอกโกว อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค ปุราณทุติยิกาย สมาคฺฉิ. สา เอวมาห – ‘‘กึทานิ ปพฺพชิโตสี’’ติ? ‘‘อาม, ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ. ‘‘ทุลฺลโภ โข ปพฺพชิตานํ เมถุโน ธมฺโม; เอหิ, เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวา’’ติ. โส ตสฺสา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา จิเรน อคมาสิ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, เอวํ จิรํ อกาสี’’ติ? อถ โข โส ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสมฺปาเทตฺวา ทุติยํ ทาตุํ, จตฺตาริ จ อกรณียานิ อาจิกฺขิตุํ –

‘‘อุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา เมถุโน ธมฺโม น ปฏิเสวิตพฺโพ, อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ. โย ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สีสจฺฉินฺโน อภพฺโพ เตน สรีรพนฺธเนน ชีวิตุํ, เอวเมว ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. ตํ เต ยาวชีวํ อกรณียํ.

‘‘อุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ น อาทาตพฺพํ, อนฺตมโส ติณสลากํ อุปาทาย. โย ภิกฺขุ ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยติ, อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. เสยฺยถาปิ นาม ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปมุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺถาย, เอวเมว ภิกฺขุ ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยิตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. ตํ เต ยาวชีวํ อกรณียํ.

‘‘อุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา สฺจิจฺจ ปาโณ ชีวิตา น โวโรเปตพฺโพ, อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกํ อุปาทาย. โย ภิกฺขุ สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปติ, อนฺตมโส คพฺภปาตนํ อุปาทาย, อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. เสยฺยถาปิ นาม ปุถุสิลา ทฺเวธา ภินฺนา อปฺปฏิสนฺธิกา โหติ, เอวเมว ภิกฺขุ สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย . ตํ เต ยาวชีวํ อกรณียํ.

‘‘อุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม น อุลฺลปิตพฺโพ, อนฺตมโส ‘สุฺาคาเร อภิรมามี’ติ. โย ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปติ ฌานํ วา วิโมกฺขํ วา สมาธึ วา สมาปตฺตึ วา มคฺคํ วา ผลํ วา, อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. เสยฺยถาปิ นาม ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรุฬฺหิยา, เอวเมว ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปิตฺวา อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย. ตํ เต ยาวชีวํ อกรณีย’’นฺติ.

จตฺตาริ อกรณียานิ นิฏฺิตานิ.

๖๖. อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตกวตฺถูนิ

๑๓๐. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก วิพฺภมิ. โส ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสมฺปทํ ยาจิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก วิพฺภมติ. โส ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสมฺปทํ ยาจติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ปสฺสิสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปสฺสิสฺสามีติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สจาหํ น ปสฺสิสฺสามีติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปพฺพาเชตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปสฺสิสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปสฺสิสฺสามีติ, อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สจาหํ น ปสฺสิสฺสามีติ, น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. อุปสมฺปาเทตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปสฺสิสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปสฺสิสฺสามีติ , โอสาเรตพฺโพ. สจาหํ น ปสฺสิสฺสามีติ, น โอสาเรตพฺโพ. โอสาเรตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปสฺสสิ [ปสฺสาหิ (สี.)] ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สเจ ปสฺสติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ปสฺสติ, ลพฺภมานาย สามคฺคิยา ปุน อุกฺขิปิตพฺโพ. อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเส.

อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก วิพฺภมติ. โส ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสมฺปทํ ยาจติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ปฏิกริสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปฏิกริสฺสามีติ, ปพฺพาเชตพฺโพ . สจาหํ น ปฏิกริสฺสามีติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปพฺพาเชตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏิกริสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปฏิกริสฺสามีติ, อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สจาหํ น ปฏิกริสฺสามีติ, น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. อุปสมฺปาเทตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏิกริสฺสสิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ? สจาหํ ปฏิกริสฺสามีติ, โอสาเรตพฺโพ. สจาหํ น ปฏิกริสฺสามีติ, น โอสาเรตพฺโพ. โอสาเรตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏิกโรหิ ตํ อาปตฺติ’’นฺติ. สเจ ปฏิกโรติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ปฏิกโรติ ลพฺภมานาย สามคฺคิยา ปุน อุกฺขิปิตพฺโพ. อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเส.

อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโก วิพฺภมติ. โส ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสมฺปทํ ยาจติ. โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘ปฏินิสฺสชฺชิสฺสสิ ตํ ปาปิกํ ทิฏฺิ’’นฺติ? สจาหํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สจาหํ น ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปพฺพาเชตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏินิสฺสชฺชิสฺสสิ ตํ ปาปิกํ ทิฏฺิ’’นฺติ? สจาหํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สจาหํ น ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, น อุปสมฺปาเทตพฺโพ. อุปสมฺปาเทตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏินิสฺสชฺชิสฺสสิ ตํ ปาปิกํ ทิฏฺิ’’นฺติ? สจาหํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, โอสาเรตพฺโพ. สจาหํ น ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามีติ, น โอสาเรตพฺโพ. โอสาเรตฺวา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปฏินิสฺสชฺเชหิ ตํ ปาปิกํ ทิฏฺิ’’นฺติ. สเจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, ลพฺภมานาย สามคฺคิยา ปุน อุกฺขิปิตพฺโพ. อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเสติ.

มหาขนฺธโก ปโม.

๖๗. ตสฺสุทฺทานํ

๑๓๑.

วินยมฺหิ มหตฺเถสุ, เปสลานํ สุขาวเห;

นิคฺคหานฺจ ปาปิจฺเฉ, ลชฺชีนํ ปคฺคเหสุ จ.

สาสนาธารเณ เจว, สพฺพฺุชินโคจเร;

อนฺวิสเย เขเม, สุปฺตฺเต อสํสเย.

ขนฺธเก วินเย เจว, ปริวาเร จ มาติเก;

ยถาตฺถการี กุสโล, ปฏิปชฺชติ โยนิโส.

โย ควํ น วิชานาติ, น โส รกฺขติ โคคณํ;

เอวํ สีลํ อชานนฺโต, กึ โส รกฺเขยฺย สํวรํ.

ปมุฏฺมฺหิ จ สุตฺตนฺเต, อภิธมฺเม จ ตาวเท;

วินเย อวินฏฺมฺหิ, ปุน ติฏฺติ สาสนํ.

ตสฺมา สงฺคาหณาเหตุํ [สงฺคาหนาเหตุํ (ก.)], อุทฺทานํ อนุปุพฺพโส;

ปวกฺขามิ ยถาายํ, สุณาถ มม ภาสโต.

วตฺถุ นิทานํ อาปตฺติ, นยา เปยฺยาลเมว จ;

ทุกฺกรํ ตํ อเสเสตุํ, นยโต ตํ วิชานถาติ.

โพธิ ราชายตนฺจ, อชปาโล สหมฺปติ;

พฺรหฺมา อาฬาโร อุทโก, ภิกฺขุ จ อุปโก อิสิ.

โกณฺฑฺโ วปฺโป ภทฺทิโย, มหานาโม จ อสฺสชิ;

ยโส จตฺตาโร ปฺาส, สพฺเพ เปเสสิ โส ทิสา.

วตฺถุ มาเรหิ ตึสา จ, อุรุเวลํ ตโย ชฏี;

อคฺยาคารํ มหาราชา, สกฺโก พฺรหฺมา จ เกวลา.

ปํสุกูลํ โปกฺขรณี, สิลา จ กกุโธ สิลา;

ชมฺพุ อมฺโพ จ อามโล, ปาริปุปฺผฺจ อาหริ.

ผาลิยนฺตุ อุชฺชลนฺตุ, วิชฺฌายนฺตุ จ กสฺสป;

นิมุชฺชนฺติ มุขี เมโฆ, คยา ลฏฺิ จ มาคโธ.

อุปติสฺโส โกลิโต จ, อภิฺาตา จ ปพฺพชุํ;

ทุนฺนิวตฺถา ปณามนา, กิโส ลูโข จ พฺราหฺมโณ.

อนาจารํ อาจรติ, อุทรํ มาณโว คโณ;

วสฺสํ พาเลหิ ปกฺกนฺโต, ทส วสฺสานิ นิสฺสโย.

น วตฺตนฺติ ปณาเมตุํ, พาลา ปสฺสทฺธิ ปฺจ ฉ;

โย โส อฺโ จ นคฺโค จ, อจฺฉินฺนชฏิลสากิโย.

มคเธสุ ปฺจาพาธา, เอโก ราชา [ภโฏ โจโร (สฺยา.)] จ องฺคุลิ;

มาคโธ จ อนุฺาสิ, การา ลิขิ กสาหโต.

ลกฺขณา อิณา ทาโส จ, ภณฺฑุโก อุปาลิ อหิ;

สทฺธํ กุลํ กณฺฏโก จ, อาหุนฺทริกเมว จ.

วตฺถุมฺหิ ทารโก สิกฺขา, วิหรนฺติ จ กึ นุ โข;

สพฺพํ มุขํ อุปชฺฌาเย, อปลาฬน กณฺฏโก.

ปณฺฑโก เถยฺยปกฺกนฺโต, อหิ จ มาตรี ปิตา;

อรหนฺตภิกฺขุนีเภทา, รุหิเรน จ พฺยฺชนํ.

อนุปชฺฌายสงฺเฆน, คณปณฺฑกปตฺตโก;

อจีวรํ ตทุภยํ, ยาจิเตนปิ เย ตโย.

หตฺถา ปาทา หตฺถปาทา, กณฺณา นาสา ตทูภยํ;

องฺคุลิอฬกณฺฑรํ, ผณํ ขุชฺชฺจ วามนํ.

คลคณฺฑี ลกฺขณา เจว, กสา ลิขิตสีปที;

ปาปปริสทูสี จ, กาณํ กุณิ ตเถว จ.

ขฺชํ ปกฺขหตฺเจว, สจฺฉินฺนอิริยาปถํ;

ชรานฺธมูคพธิรํ, อนฺธมูคฺจ ยํ ตหึ.

อนฺธพธิรํ ยํ วุตฺตํ, มูคพธิรเมว จ;

อนฺธมูคพธิรฺจ, อลชฺชีนฺจ นิสฺสยํ.

วตฺถพฺพฺจ ตถาทฺธานํ, ยาจมาเนน ลกฺขณา [เปกฺขนา (สพฺพตฺถ)];

อาคจฺฉตุ วิวทนฺติ, เอกุปชฺฌาเยน กสฺสโป.

ทิสฺสนฺติ อุปสมฺปนฺนา, อาพาเธหิ จ ปีฬิตา;

อนนุสิฏฺา วิตฺเถนฺติ, ตตฺเถว อนุสาสนา.

สงฺเฆปิ จ อโถ พาลา, อสมฺมตา จ เอกโต;

อุลฺลุมฺปตุปสมฺปทา, นิสฺสโย เอกโก ตโยติ.

อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถูนิ เอกสตฺจ ทฺวาสตฺตติ.

มหาขนฺธโก นิฏฺิโต.