📜
๖. เภสชฺชกฺขนฺธโก
๑๖๐. ปฺจเภสชฺชกถา
๒๖๐. เตน ¶ ¶ ¶ ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติ. เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา. อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู กิเส ลูเข ทุพฺพณฺเณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาเต ธมนิสนฺถตคตฺเต, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, อานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติ. เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เอตรหิ โข ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติ. เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา. กึ นุ โข อหํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ อนุชาเนยฺยํ, ยํ เภสชฺชฺเจว อสฺส เภสชฺชสมฺมตฺจ โลกสฺส, อาหารตฺถฺจ ผเรยฺย, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปฺาเยยฺยา’’ติ? อถ โข ภควโต ¶ เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ โข ปฺจ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ; เภสชฺชานิ เจว เภสชฺชสมฺมตานิ จ โลกสฺส, อาหารตฺถฺจ ผรนฺติ, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปฺายติ. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อิมานิ ปฺจ เภสชฺชานิ อนุชาเนยฺยํ, กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภฺุชิตุ’’นฺติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เอตรหิ โข ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ¶ ผุฏฺานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติ. เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา. กึ นุ โข อหํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ อนุชาเนยฺยํ, ยํ เภสชฺชฺเจว อสฺส เภสชฺชสมฺมตฺจ โลกสฺส, อาหารตฺถฺจ ¶ ผเรยฺย, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปฺาเยยฺยา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ ‘อิมานิ โข ปฺจ เภสชฺชานิ ¶ , เสยฺยถิทํ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ; เภสชฺชานิ เจว เภสชฺชสมฺมตานิ จ โลกสฺส, อาหารตฺถฺจ ผรนฺติ, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปฺายติ. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อิมานิ ปฺจ เภสชฺชานิ อนุชาเนยฺยํ, กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภฺุชิตุ’นฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตานิ ปฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภฺุชิตุ’’นฺติ.
๒๖๑. เตน ¶ โข ปน สมเยน ภิกฺขู ตานิ ปฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภฺุชนฺติ. เตสํ ยานิปิ ตานิ ปากติกานิ ลูขานิ โภชนานิ ตานิปิ นจฺฉาเทนฺติ, ปเคว เสเนสิตานิ [เสเนสิกานิ (สี. สฺยา.), เสเนหิกานิ (โยชนา)]. เต เตน เจว สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺา, อิมินา จ ภตฺตาจฺฉาทเกน [ภตฺตาจฺฉนฺนเกน (ก.)], ตทุภเยน ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา. อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู ภิยฺโยโสมตฺตาย กิเส ลูเข ทุพฺพณฺเณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาเต ธมนิสนฺถตคตฺเต, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข, อานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขู ตานิ จ ปฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภฺุชนฺติ. เตสํ ยานิปิ ตานิ ปากติกานิ ลูขานิ โภชนานิ ตานิปิ นจฺฉาเทนฺติ, ปเคว เสเนสิกานิ. เต เตน เจว สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺา, อิมินา จ ภตฺตาจฺฉาทเกน, ตทุภเยน ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตานิ ปฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กาเลปิ วิกาเลปิ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ.
๒๖๒. เตน ¶ โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ วเสหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ – อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ ¶ , สูกรวสํ, คทฺรภวสํ – กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ [นิปกฺกํ (ก.)] กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ. วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ ¶ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อนาปตฺตีติ.
ปฺจเภสชฺชกถา นิฏฺิตา.
๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา
๒๖๓. เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ มูเลหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ – หลิทฺทึ, สิงฺคิเวรํ, วจํ, วจตฺถํ [วจตฺถํ (สี. สฺยา.)], อติวิสํ, กฏุกโรหิณึ, อุสีรํ, ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ. อสติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน ¶ สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ มูเลหิ เภสชฺเชหิ ปิฏฺเหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นิสทํ นิสทโปตกนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ กสาเวหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ [กสาวเภสชฺชานิ (ก.)] เภสชฺชานิ – นิมฺพกสาวํ, กุฏชกสาวํ, ปโฏลกสาวํ, ผคฺควกสาวํ, นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ. อสติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปณฺเณหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , ปณฺณานิ เภสชฺชานิ – นิมฺพปณฺณํ, กุฏชปณฺณํ, ปโฏลปณฺณํ, สุลสิปณฺณํ, กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ…เป….
เตน ¶ โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ผเลหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ ¶ เภสชฺชานิ – พิลงฺคํ, ปิปฺปลึ, มริจํ, หรีตกํ, วิภีตกํ, อามลกํ, โคฏฺผลํ [โคผลํ (สฺยา.), โกฏฺผลํ (ก.)], ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ…เป….
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ชตูหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ – หิงฺคุํ, หิงฺคุชตุํ, หิงฺคุสิปาฏิกํ, ตกํ, ตกปตฺตึ, ตกปณฺณึ ¶ , สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ…เป….
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ โลเณหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณานิ เภสชฺชานิ – สามุทฺทํ, กาฬโลณํ, สินฺธวํ, อุพฺภิทํ [อุพฺภิรํ (ก.)], พิลํ [พิฬาลํ (สี.)], ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ โลณานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฏิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ. อสติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
๒๖๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปชฺฌายสฺส ¶ อายสฺมโต เพลฏฺสีสสฺส ถุลฺลกจฺฉาพาโธ โหติ. ตสฺส ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ, ตานิ ภิกฺขู อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺติ. อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต เต ภิกฺขู ตานิ จีวรานิ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺเต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กึ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, อายสฺมโต ถุลฺลกจฺฉาพาโธ, ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ, ตานิ มยํ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒามา’’ติ ¶ . อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กณฺฑุ วา, ปิฬกา วา, อสฺสาโว วา, ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, กาโย วา ทุคฺคนฺโธ, จุณฺณานิ เภสชฺชานิ; อคิลานสฺส ฉกณํ มตฺติกํ รชนนิปฺปกฺกํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทุกฺขลํ มุสล’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ จุณฺเณหิ เภสชฺเชหิ จาลิเตหิ อตฺโถ โหติ ¶ . ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จุณฺณจาลินินฺติ. สณฺเหหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุสฺสจาลินินฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อมนุสฺสิกาพาโธ โหติ. ตํ อาจริยุปชฺฌายา อุปฏฺหนฺตา นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. โส สูกรสูนํ คนฺตฺวา อามกมํสํ ขาทิ, อามกโลหิตํ ปิวิ ¶ . ตสฺส โส อมนุสฺสิกาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิตนฺติ.
๒๖๕. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน จกฺขุโรคาพาโธ โหติ. ตํ ภิกฺขู ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมนฺติ. อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต เต ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมนฺเต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กึ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, อายสฺมโต จกฺขุโรคาพาโธ. อิมํ มยํ ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมมา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฺชนํ – กาฬฺชนํ, รสฺชนํ, โสตฺชนํ, เครุกํ, กปลฺล’’นฺติ. อฺชนูปปิสเนหิ อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จนฺทนํ, ตครํ, กาฬานุสาริยํ, ตาลีสํ, ภทฺทมุตฺตกนฺติ. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปิฏฺานิ อฺชนานิ จรุเกสุปิ [ถาลเกสุปิ (สี. สฺยา.)] สราวเกสุปิ นิกฺขิปนฺติ; ติณจุณฺเณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฺชนินฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา อฺชนิโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ, รูปิยมยํ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ¶ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา อฺชนี ธาเรตพฺพา. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺิมยํ, ทนฺตมยํ, วิสาณมยํ, นฬมยํ, เวฬุมยํ, กฏฺมยํ, ชตุมยํ, ผลมยํ, โลหมยํ, สงฺขนาภิมยนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺชนิโย อปารุตา โหนฺติ, ติณจุณฺเณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธานนฺติ. อปิธานํ นิปตติ ¶ . ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สุตฺตเกน พนฺธิตฺวา อฺชนิยา พนฺธิตุนฺติ. อฺชนี ผลติ [นิปตติ (ก.)]. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สุตฺตเกน สิพฺเพตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู องฺคุลิยา อฺชนฺติ, อกฺขีนิ ทุกฺขานิ โหนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฺชนิสลากนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา อฺชนิสลากาโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํ. มนุสฺสา ¶ อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา อฺชนิสลากา ธาเรตพฺพา. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺิมยํ…เป… สงฺขนาภิมยนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺชนิสลากา ภูมิยํ ปติตา ผรุสา โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากานิยนฺติ [สลาโกธานิยนฺติ (สี. สฺยา.)].
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อฺชนิมฺปิ อฺชนิสลากมฺปิ หตฺเถน ปริหรนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฺชนิตฺถวิกนฺติ. อํสพทฺธโก น โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตกนฺติ.
๒๖๖. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส สีสาภิตาโป โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุทฺธนิ เตลกนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นตฺถุกมฺมนฺติ. นตฺถุ คลติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นตฺถุกรณินฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา นตฺถุกรณิโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา นตฺถุกรณี ธาเรตพฺพา. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺิมยํ…เป… สงฺขนาภิมยนฺติ. นตฺถุํ วิสมํ อาสิฺจนฺติ [นตฺถุ วิสมํ อาสิฺจิยติ (สี. สฺยา.)]. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , ยมกนตฺถุกรณินฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมํ ปาตุนฺติ. ตฺเว วฏฺฏึ อาลิมฺเปตฺวา ปิวนฺติ ¶ , กณฺโ ทหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมเนตฺตนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจานิ ธูมเนตฺตานิ ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ ธูมเนตฺตานิ ธาเรตพฺพานิ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺิมยํ…เป… สงฺขนาภิมยนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ธูมเนตฺตานิ อปารุตานิ โหนฺติ, ปาณกา ปวิสนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธานนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ธูมเนตฺตานิ หตฺเถน ปริหรนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมเนตฺตถวิกนฺติ. เอกโต ฆํสิยนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยมกถวิกนฺติ. อํสพทฺธโก น โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตกนฺติ.
๒๖๗. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วาตาพาโธ ¶ โหติ. เวชฺชา เอวมาหํสุ – ‘‘เตลํ ปจิตพฺพ’’นฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตลปากนฺติ. ตสฺมึ โข ปน เตลปาเก มชฺชํ ปกฺขิปิตพฺพํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตลปาเก มชฺชํ ปกฺขิปิตุนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติปกฺขิตฺตมชฺชานิ [อติขิตฺตมชฺชานิ (ก.)] เตลานิ ปจนฺติ, ตานิ ปิวิตฺวา มชฺชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อติปกฺขิตฺตมชฺชํ เตลํ ปาตพฺพํ. โย ปิเวยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺมึ เตลปาเก มชฺชสฺส น วณฺโณ น คนฺโธ น รโส ปฺายติ, เอวรูปํ มชฺชปกฺขิตฺตํ เตลํ ปาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ พหุํ อติปกฺขิตฺตมชฺชํ เตลํ ปกฺกํ โหติ. อถ โข ภิกฺขูนํ ¶ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อติปกฺขิตฺตมชฺเช เตเล ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อพฺภฺชนํ อธิฏฺาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส พหุตรํ เตลํ ปกฺกํ โหติ, เตลภาชนํ น วิชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตุมฺพานิ – โลหตุมฺพํ, กฏฺตุมฺพํ, ผลตุมฺพนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส องฺควาโต โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เสทกมฺมนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมฺภารเสทนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหาเสทนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภงฺโคทกนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกโกฏฺกนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปพฺพวาโต โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลหิตํ ¶ โมเจตุนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลหิตํ โมเจตฺวา วิสาเณน คาเหตุนฺติ [คเหตุนฺติ (สี. สฺยา.)].
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปาทา ผลิตา [ผาลิตา (ก.)] โหนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาทพฺภฺชนนฺติ. นกฺขมนิโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน คณฺฑาพาโธ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺถกมฺมนฺติ. กสาโวทเกน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาโวทกนฺติ. ติลกกฺเกน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติลกกฺกนฺติ. กพฬิกาย อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กพฬิกนฺติ. วณพนฺธนโจเฬน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วณพนฺธนโจฬนฺติ. วโณ กณฺฑุวติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาสปกุฏฺเฏน [สาสปกุฑฺเฑน (สี. สฺยา.)] โผสิตุนฺติ. วโณ กิลิชฺชิตฺถ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, ธูมํ ¶ กาตุนฺติ. วฑฺฒมํสํ วุฏฺาติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณสกฺขริกาย ฉินฺทิตุนฺติ. วโณ น รุหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วณเตลนฺติ. เตลํ คลติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, วิกาสิกํ สพฺพํ วณปฏิกมฺมนฺติ.
๒๖๘. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อหินา ทฏฺโ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ มหาวิกฏานิ ทาตุํ – คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกํ, มตฺติกนฺติ. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตานิ นุ โข อุทาหุ ปฏิคฺคเหตพฺพานี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กปฺปิยการเก ปฏิคฺคหาเปตุํ, อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชิตุนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตเรน ภิกฺขุนา วิสํ ปีตํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว คูถํ ปาเยตุนฺติ. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตํ นุ โข อุทาหุ ปฏิคฺคเหตพฺโพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ กโรนฺโต ปฏิคฺคณฺหาติ, สฺเวว ปฏิคฺคโห กโต, น ปุน [กโต ปน (?)] ปฏิคฺคเหตพฺโพติ.
๒๖๙. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ฆรทินฺนกาพาโธ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีตาโลฬึ ปาเยตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ ทุฏฺคหณิโก โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อามิสขารํ ปาเยตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ปณฺฑุโรคาพาโธ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุตฺตหรีตกํ ปาเยตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ฉวิโทสาพาโธ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คนฺธาเลปํ กาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อภิสนฺนกาโย โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิเรจนํ ปาตุนฺติ. อจฺฉกฺชิยา อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉกฺชินฺติ. อกฏยูเสน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อกฏยูสนฺติ. กฏากเฏน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กฏากฏนฺติ. ปฏิจฺฉาทนีเยน อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺฉาทนียนฺติ.
มูลาทิเภสชฺชกถา นิฏฺิตา.
๑๖๒. ปิลินฺทวจฺฉวตฺถุ
๒๗๐. [อิทํ วตฺถุ ปารา. ๖๑๘ อาทโย] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ราชคเห ปพฺภารํ โสธาเปติ เลณํ กตฺตุกาโม. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย ¶ พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘กึ, ภนฺเต, เถโร การาเปตี’’ติ? ‘‘ปพฺภารํ, มหาราช, โสธาเปมิ, เลณํ กตฺตุกาโม’’ติ. ‘‘อตฺโถ, ภนฺเต, อยฺยสฺส ¶ อารามิเกนา’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, ภควตา อารามิโก อนฺุาโต’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา มม อาโรเจยฺยาถา’’ติ. ‘เอวํ, มหาราชา’ติ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ, สมาทเปสิ, สมุตฺเตเชสิ, สมฺปหํเสสิ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมตา ปิลินฺทวจฺเฉน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ภควโต สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อารามิกํ ทาตุกาโม. กถํ นุ โข, ภนฺเต, มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘อนฺุาโต, ภนฺเต, ภควตา อารามิโก’’ติ? ‘‘เอวํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อยฺยสฺส อารามิกํ ทมฺมี’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ¶ อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส อารามิกํ ปฏิสฺสุตฺวา, วิสฺสริตฺวา, จิเรน สตึ ปฏิลภิตฺวา, อฺตรํ สพฺพตฺถกํ มหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘โย มยา, ภเณ, อยฺยสฺส อารามิโก ปฏิสฺสุโต, ทินฺโน โส อารามิโก’’ติ? ‘‘น โข, เทว, อยฺยสฺส อารามิโก ทินฺโน’’ติ. ‘‘กีว จิรํ นุ โข, ภเณ, อิโต [อิโต รตฺติ (สฺยา.)] หิ ตํ โหตี’’ติ? อถ โข โส ¶ มหามตฺโต รตฺติโย คเณตฺวา [วิคเณตฺวา (สี.)] ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘ปฺจ, เทว, รตฺติสตานี’’ติ. เตน หิ, ภเณ, อยฺยสฺส ปฺจ อารามิกสตานิ เทหีติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข โส มหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปฺจ อารามิกสตานิ ปาทาสิ, ปาฏิเยกฺโก คาโม นิวิสิ. ‘อารามิกคามโกติ’ปิ นํ อาหํสุ ¶ , ‘ปิลินฺทคามโก’ติปิ นํ อาหํสุ.
๒๗๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ตสฺมึ คามเก กุลูปโก โหติ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ปิลินฺทคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน ตสฺมึ คามเก อุสฺสโว โหติ. ทารกา อลงฺกตา มาลากิตา กีฬนฺติ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ปิลินฺทคามเก ¶ สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน อฺตรสฺส อารามิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน ตสฺสา อารามิกินิยา ธีตา อฺเ ทารเก อลงฺกเต มาลากิเต ปสฺสิตฺวา โรทติ – ‘มาลํ เม เทถ, อลงฺการํ เม เทถา’ติ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ตํ อารามิกินึ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺสายํ ทาริกา โรทตี’’ติ? ‘‘อยํ, ภนฺเต, ทาริกา อฺเ ทารเก อลงฺกเต มาลากิเต ปสฺสิตฺวา โรทติ – ‘มาลํ เม เทถ, อลงฺการํ เม เทถา’ติ. กุโต อมฺหากํ ทุคฺคตานํ มาลา, กุโต อลงฺกาโร’’ติ? อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ อฺตรํ ติณณฺฑุปกํ คเหตฺวา ตํ อารามิกินึ เอตทโวจ – ‘‘หนฺทิมํ ติณณฺฑุปกํ ตสฺสา ทาริกาย สีเส ปฏิมฺุจา’’ติ. อถ โข สา อารามิกินี ตํ ติณณฺฑุปกํ คเหตฺวา ตสฺสา ทาริกาย สีเส ปฏิมฺุจิ. สา อโหสิ สุวณฺณมาลา อภิรูปา, ทสฺสนียา, ปาสาทิกา; นตฺถิ ตาทิสา รฺโปิ อนฺเตปุเร สุวณฺณมาลา. มนุสฺสา รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘อมุกสฺส, เทว, อารามิกสฺส ฆเร สุวณฺณมาลา อภิรูปา, ทสฺสนียา, ปาสาทิกา; นตฺถิ ตาทิสา เทวสฺสปิ ¶ อนฺเตปุเร สุวณฺณมาลา; กุโต ตสฺส ทุคฺคตสฺส? นิสฺสํสยํ โจริกาย อาภตา’’ติ.
อถ ¶ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ตํ อารามิกกุลํ พนฺธาเปสิ. ทุติยมฺปิ ¶ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ปิลินฺทคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ปิลินฺทคามเก สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน ตสฺส อารามิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ อิมํ อารามิกกุลํ คต’’นฺติ? ‘‘เอติสฺสา, ภนฺเต, สุวณฺณมาลาย การณา รฺา พนฺธาปิต’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เยน รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ¶ ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส, มหาราช, อารามิกกุลํ พนฺธาปิต’’นฺติ? ‘‘ตสฺส, ภนฺเต, อารามิกสฺส ฆเร สุวณฺณมาลา อภิรูปา, ทสฺสนียา, ปาสาทิกา; นตฺถิ ตาทิสา อมฺหากมฺปิ อนฺเตปุเร สุวณฺณมาลา; กุโต ตสฺส ทุคฺคตสฺส? นิสฺสํสยํ โจริกาย อาภตา’’ติ. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปาสาทํ สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจิ; โส อโหสิ สพฺพโสวณฺณมโย. ‘‘อิทํ ปน เต, มหาราช, ตาว พหุํ สุวณฺณํ กุโต’’ติ? ‘อฺาตํ, ภนฺเต, อยฺยสฺเสเวโส ¶ อิทฺธานุภาโว’ติ ตํ อารามิกกุลํ มฺุจาเปสิ.
มนุสฺสา ‘‘อยฺเยน กิร ปิลินฺทวจฺเฉน สราชิกาย ปริสาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺสิต’’นฺติ อตฺตมนา อภิปฺปสนฺนา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปฺจ เภสชฺชานิ อภิหรึสุ, เสยฺยถิทํ – สปฺปึ, นวนีตํ, เตลํ, มธุํ [สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ (ก.)], ผาณิตํ. ปกติยาปิ จ อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ลาภี โหติ ปฺจนฺนํ เภสชฺชานํ; ลทฺธํ ลทฺธํ ปริสาย วิสฺสชฺเชติ. ปริสา จสฺส โหติ พาหุลฺลิกา; ลทฺธํ ลทฺธํ โกลมฺเพปิ [โกฬุมฺเพปิ (ก.)], ฆเฏปิ, ปูเรตฺวา ปฏิสาเมติ; ปริสฺสาวนานิปิ, ถวิกาโยปิ, ปูเรตฺวา วาตปาเนสุ ลคฺเคติ. ตานิ โอลีนวิลีนานิ ติฏฺนฺติ. อุนฺทูเรหิปิ วิหารา โอกิณฺณวิกิณฺณา โหนฺติ. มนุสฺสา วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสฺสิตฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อนฺโตโกฏฺาคาริกา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ¶ , เสยฺยถาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร’’ติ. อสฺโสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา, เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ ¶ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภิกฺขู เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู เต อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควาติ…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ¶ ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานิ. ตํ อติกฺกามยโต ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ.
ปิลินฺทวจฺฉวตฺถุ นิฏฺิตํ.
เภสชฺชานฺุาตภาณวาโร นิฏฺิโต ปโม.
๑๖๓. คุฬาทิอนุชานนา
๒๗๒. อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ¶ เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อทฺทสา โข อายสฺมา กงฺขาเรวโต อนฺตรามคฺเค คุฬกรณํ, โอกฺกมิตฺวา คุเฬ ปิฏฺมฺปิ ฉาริกมฺปิ ปกฺขิปนฺเต, ทิสฺวาน ‘‘อกปฺปิโย คุโฬ สามิโส, น กปฺปติ คุโฬ วิกาเล ปริภฺุชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายนฺโต สปริโส คุฬํ น ปริภฺุชติ. เยปิสฺส โสตพฺพํ มฺนฺติ, เตปิ คุฬํ น ปริภฺุชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. กิมตฺถาย [กิมตฺถิยา (ก.)], ภิกฺขเว, คุเฬ ปิฏฺมฺปิ ฉาริกมฺปิ ปกฺขิปนฺตีติ? ถทฺธตฺถาย [พนฺธนตฺถาย (สี. สฺยา.)] ภควาติ. สเจ, ภิกฺขเว, ถทฺธตฺถาย คุเฬ ปิฏฺมฺปิ ฉาริกมฺปิ ปกฺขิปนฺติ, โส จ คุโฬตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยถาสุขํ คุฬํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
อทฺทสา โข อายสฺมา กงฺขาเรวโต อนฺตรามคฺเค วจฺเจ มุคฺคํ ชาตํ, ปสฺสิตฺวา ‘‘อกปฺปิยา มุคฺคา; ปกฺกาปิ มุคฺคา ชายนฺตีติ’’ กุกฺกุจฺจายนฺโต สปริโส มุคฺคํ น ปริภฺุชติ. เยปิสฺส โสตพฺพํ มฺนฺติ, เตปิ มุคฺคํ น ปริภฺุชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สเจ [สเจปิ (?)], ภิกฺขเว, ปกฺกาปิ มุคฺคา ชายนฺติ ¶ , อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยถาสุขํ มุคฺคํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
๒๗๓. เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อุทรวาตาพาโธ โหติ. โส โลณโสวีรกํ อปายิ. ตสฺส โส อุทรวาตาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส โลณโสวีรกํ; อคิลานสฺส อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคน ปริภฺุชิตุนฺติ.
คุฬาทิอนุชานนา นิฏฺิตา.
๑๖๔. อนฺโตวุฏฺาทิปฏิกฺเขปกถา
๒๗๔. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ภควโต อุทรวาตาพาโธ โหติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท – ‘ปุพฺเพปิ ภควโต อุทรวาตาพาโธ เตกฏุลยาคุยา ผาสุ โหตี’ติ – สามํ ติลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, มุคฺคมฺปิ วิฺาเปตฺวา, อนฺโต วาเสตฺวา, อนฺโต สามํ ปจิตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘ปิวตุ ภควา เตกฏุลยาคุ’’นฺติ. ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ชานนฺตาปิ น ปุจฺฉนฺติ; กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺติ, กาลํ วิทิตฺวา น ปุจฺฉนฺติ; อตฺถสํหิตํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, โน อนตฺถสํหิตํ. อนตฺถสํหิเต เสตุฆาโต ตถาคตานํ. ทฺวีหิ อากาเรหิ พุทฺธา ภควนฺโต ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉนฺติ – ธมฺมํ วา เทเสสฺสาม, สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามาติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ¶ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กุตายํ, อานนฺท ¶ , ยาคู’’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘อนนุจฺฉวิกํ, อานนฺท, อนนุโลมิกํ, อปฺปติรูปํ, อสฺสามณกํ, อกปฺปิยํ, อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, อานนฺท, เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตสฺสสิ. ยทปิ, อานนฺท, อนฺโต วุฏฺํ [วุตฺถํ (สี. สฺยา. ก.)] ตทปิ อกปฺปิยํ; ยทปิ อนฺโต ปกฺกํ ตทปิ อกปฺปิยํ; ยทปิ สามํ ปกฺกํ, ตทปิ อกปฺปิยํ. เนตํ, อานนฺท, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อนฺโต วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, สามํ ปกฺกํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนฺโต เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, สามํ ปกฺกํ ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. อนฺโต เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, อฺเหิ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. อนฺโต ¶ เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, พหิ ปกฺกํ, สามํ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. พหิ เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, สามํ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. อนฺโต เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, พหิ ปกฺกํ, อฺเหิ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. พหิ เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, อฺเหิ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. พหิ เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, พหิ ปกฺกํ, สามํ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. พหิ เจ, ภิกฺขเว, วุฏฺํ, พหิ ปกฺกํ ¶ ¶ , อฺเหิ ปกฺกํ, ตฺเจ ปริภฺุเชยฺย, อนาปตฺตี’’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ‘‘ภควตา สามํปาโก ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ ปุน ปาเก กุกฺกุจฺจายนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุน ปากํ ปจิตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ราชคหํ ทุพฺภิกฺขํ โหติ. มนุสฺสา โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ อารามํ อาหรนฺติ. ตานิ ภิกฺขู พหิ วาเสนฺติ; อุกฺกปิณฺฑกาปิ ขาทนฺติ, โจราปิ หรนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺโต วาเสตุนฺติ. อนฺโต วาเสตฺวา พหิ ปาเจนฺติ. ทมกา ปริวาเรนฺติ. ภิกฺขู อวิสฺสฏฺา ปริภฺุชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺโต ปจิตุนฺติ. ทุพฺภิกฺเข กปฺปิยการกา พหุตรํ หรนฺติ, อปฺปตรํ ภิกฺขูนํ เทนฺติ. ภควโต ¶ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามํ ปจิตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺโต วุฏฺํ, อนฺโต ปกฺกํ, สามํ ปกฺกนฺติ.
อนฺโตวุฏฺาทิปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๑๖๕. อุคฺคหิตปฏิคฺคหณา
๒๗๕. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู กาสีสุ วสฺสํวุฏฺา ราชคหํ คจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อนฺตรามคฺเค น ลภึสุ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ; พหฺุจ ผลขาทนียํ ¶ อโหสิ; กปฺปิยการโก จ น อโหสิ. อถ โข เต ภิกฺขู กิลนฺตรูปา เยน ราชคหํ เวฬุวนํ กลนฺทกนิวาโป, เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อาจิณฺณํ โข ปเนตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตุํ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ ¶ , ภิกฺขเว, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิตฺถ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคตา; กุโต จ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อาคจฺฉถา’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา. อิธ มยํ, ภนฺเต, กาสีสุ วสฺสํวุฏฺา ราชคหํ อาคจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อนฺตรามคฺเค น ลภิมฺหา ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ; พหฺุจ ผลขาทนียํ ¶ อโหสิ; กปฺปิยการโก จ น อโหสิ; เตน มยํ กิลนฺตรูปา อทฺธานํ อาคตา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ ผลขาทนียํ ปสฺสติ, กปฺปิยการโก จ น โหติ, สามํ คเหตฺวา, หริตฺวา, กปฺปิยการเก ปสฺสิตฺวา, ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา, ปฏิคฺคหาเปตฺวา ปริภฺุชิตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุคฺคหิตํ ปฏิคฺคหิตุ’’นฺติ.
๒๗๖. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส นวา จ ติลา นวฺจ มธุ อุปฺปนฺนา โหนฺติ. อถ โข ตสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ ¶ – ‘‘ยํนูนาหํ นเว จ ติเล นวฺจ มธุํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทเทยฺย’’นฺติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ, สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน ¶ . อถ โข โส พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ, สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข โส พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา, สมาทเปตฺวา, สมุตฺเตเชตฺวา, สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ ¶ โข ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘เยสํ โข มยา อตฺถาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ นิมนฺติโต, ‘นเว จ ติเล นวฺจ มธุํ ทสฺสามี’ติ ¶ , เต มยา ปมุฏฺา ทาตุํ. ยํนูนาหํ นเว จ ติเล นวฺจ มธุํ โกลมฺเพหิ จ ฆเฏหิ จ อารามํ หราเปยฺย’’นฺติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ นเว จ ติเล นวฺจ มธุํ โกลมฺเพหิ จ ฆเฏหิ จ อารามํ หราเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยสํ โข มยา, โภ โคตม, อตฺถาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ นิมนฺติโต, ‘นเว จ ติเล นวฺจ มธุํ ทสฺสามี’ติ, เต มยา ปมุฏฺา ทาตุํ. ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภวํ โคตโม นเว จ ติเล นวฺจ มธุ’’นฺติ. เตน หิ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขูนํ เทหีติ ¶ . เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิกฺเข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฏิสงฺขาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ, สพฺโพ จ สงฺโฆ ปวาริโต โหติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโต นีหฏํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
อุคฺคหิตปฏิคฺคหณา นิฏฺิตา.
๑๖๖. ปฏิคฺคหิตาทิอนุชานนา
๒๗๗. [ปาจิ. ๒๙๕] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส อุปฏฺากกุลํ สงฺฆสฺสตฺถาย ขาทนียํ ปาเหสิ – อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทสฺเสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต ¶ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ โหติ ¶ . อถ โข เต มนุสฺสา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉึสุ – ‘‘กหํ, ภนฺเต, อยฺโย อุปนนฺโท’’ติ? ‘‘เอสาวุโส, อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ’’ติ. ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ขาทนียํ อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทสฺเสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพ’’นฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เตน หิ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปถ ยาว อุปนนฺโท อาคจฺฉตีติ. อถ โข อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต ปุเรภตฺตํ กุลานิ ปยิรุปาสิตฺวา ทิวา อาคจฺฉติ. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิกฺเข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฏิสงฺขาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ, สพฺโพ จ สงฺโฆ ปวาริโต โหติ, ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
๒๗๘. อถ ¶ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส กายฑาหาพาโธ โหติ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุพฺเพ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, กายฑาหาพาโธ เกน ผาสุ โหตี’’ติ? ‘‘ภิเสหิ จ เม, อาวุโส ¶ , มุฬาลิกาหิ จา’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร ปาตุรโหสิ. อทฺทสา โข อฺตโร นาโค อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทูรโตว ¶ อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, อยฺโย มหาโมคฺคลฺลาโน. สฺวาคตํ, ภนฺเต, อยฺยสฺส มหาโมคฺคลฺลานสฺส. เกน, ภนฺเต, อยฺยสฺส อตฺโถ; กึ ทมฺมี’’ติ? ‘‘ภิเสหิ จ เม, อาวุโส, อตฺโถ, มุฬาลิกาหิ จา’’ติ. อถ โข โส นาโค อฺตรํ นาคํ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, อยฺยสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ ยาวทตฺถํ เทหี’’ติ. อถ โข โส นาโค มนฺทากินึ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา, โสณฺฑาย ภิสฺจ มุฬาลิกฺจ อพฺพาหิตฺวา, สุวิกฺขาลิตํ ¶ วิกฺขาเลตฺวา, ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิ. โสปิ โข นาโค มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิ. อถ โข โส นาโค อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย ¶ จ ปฏิคฺคหาเปตฺวา เชตวเน อนฺตรหิโต มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร ปาตุรโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ อุปนาเมสิ. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ ภุตฺตสฺส กายฑาหาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. พหู ภิสา จ ¶ มุฬาลิกาโย จ อวสิฏฺา โหนฺติ. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิกฺเข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฏิสงฺขาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ, สพฺโพ จ สงฺโฆ ปวาริโต โหติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วนฏฺํ โปกฺขรฏฺํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ พหุํ ผลขาทนียํ อุปฺปนฺนํ โหติ, กปฺปิยการโก จ น โหติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา ผลํ น ปริภฺุชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อพีชํ นิพฺพตฺตพีชํ [นิพฺพฏฺฏพีชํ (สี.), นิพฺพฏพีชํ (สฺยา.), นิปฺปฏฺฏพีชํ (ก.)] อกตกปฺปํ ผลํ ปริภฺุชิตุนฺติ.
ปฏิคฺคหิตาทิ อนุชานนา นิฏฺิตา.
๑๖๗. สตฺถกมฺมปฏิกฺเขปกถา
๒๗๙. อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภคนฺทลาพาโธ ¶ โหติ. อากาสโคตฺโต เวชฺโช สตฺถกมฺมํ ¶ กโรติ. อถ โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต เยน ตสฺส ภิกฺขุโน วิหาโร เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข อากาสโคตฺโต เวชฺโช ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาคจฺฉตุ ภวํ โคตโม, อิมสฺส ภิกฺขุโน วจฺจมคฺคํ ปสฺสตุ, เสยฺยถาปิ โคธามุข’’นฺติ ¶ . อถ โข ภควา – ‘‘โส มํ ขฺวายํ โมฆปุริโส อุปฺปณฺเฑตี’’ติ – ตโตว ปฏินิวตฺติตฺวา, เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา, ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ กิร, ภิกฺขเว, อมุกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขุ คิลาโน’’ติ? ‘‘อตฺถิ ภควา’’ติ. ‘‘กึ ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘ตสฺส, ภนฺเต, อายสฺมโต ภคนฺทลาพาโธ, อากาสโคตฺโต เวชฺโช สตฺถกมฺมํ กโรตี’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส, อนนุโลมิกํ, อปฺปติรูปํ, อสฺสามณกํ, อกปฺปิยํ, อกรณียํ. กถฺหิ นาม โส, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส สมฺพาเธ สตฺถกมฺมํ การาเปสฺสติ. สมฺพาเธ, ภิกฺขเว, สุขุมา ฉวิ, ทุโรปโย วโณ ¶ , ทุปฺปริหารํ สตฺถํ. เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาเธ สตฺถกมฺมํ การาเปตพฺพํ. โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู – ภควตา สตฺถกมฺมํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ – วตฺถิกมฺมํ การาเปนฺติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา, เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ¶ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วตฺถิกมฺมํ การาเปสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วตฺถิกมฺมํ การาเปนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺพาธสฺส สามนฺตา ทฺวงฺคุลา สตฺถกมฺมํ วา วตฺถิกมฺมํ วา การาเปตพฺพํ. โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ.
สตฺถกมฺมปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๑๖๘. มนุสฺสมํสปฏิกฺเขปกถา
๒๘๐. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน พาราณสิยํ สุปฺปิโย จ อุปาสโก สุปฺปิยา ¶ จ อุปาสิกา อุภโตปสนฺนา โหนฺติ, ทายกา, การกา, สงฺฆุปฏฺากา. อถ โข สุปฺปิยา อุปาสิกา อารามํ คนฺตฺวา วิหาเรน วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘โก, ภนฺเต, คิลาโน, กสฺส กึ อาหริยตู’’ติ? เตน โข ปน สมเยน อฺตเรน ภิกฺขุนา วิเรจนํ ¶ ปีตํ โหติ. อถ โข โส ภิกฺขุ สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘มยา โข, ภคินิ, วิเรจนํ ปีตํ. อตฺโถ เม ปฏิจฺฉาทนีเยนา’’ติ. ‘‘สุฏฺุ, อยฺย, อาหริยิสฺสตี’’ติ ฆรํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสึ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ปวตฺตมํสํ ชานาหี’’ติ. เอวํ, อยฺเยติ โข โส ปุริโส สุปฺปิยาย ¶ อุปาสิกาย ปฏิสฺสุณิตฺวา เกวลกปฺปํ พาราณสึ อาหิณฺฑนฺโต น อทฺทส ปวตฺตมํสํ. อถ โข โส ปุริโส เยน สุปฺปิยา อุปาสิกา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถยฺเย ปวตฺตมํสํ. มาฆาโต อชฺชา’’ติ. อถ โข สุปฺปิยาย อุปาสิกาย เอตทโหสิ – ‘‘ตสฺส โข คิลานสฺส ภิกฺขุโน ปฏิจฺฉาทนียํ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลงฺกิริยา ¶ วา ภวิสฺสติ. น โข เมตํ ปติรูปํ ยาหํ ปฏิสฺสุณิตฺวา น หราเปยฺย’’นฺติ. โปตฺถนิกํ คเหตฺวา อูรุมํสํ อุกฺกนฺติตฺวา ทาสิยา อทาสิ – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ มํสํ สมฺปาเทตฺวา อมุกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขุ คิลาโน, ตสฺส ทชฺชาหิ. โย จ มํ ปุจฺฉติ, ‘คิลานา’ติ ปฏิเวเทหี’’ติ. อุตฺตราสงฺเคน อูรุํ เวเตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ฆรํ คนฺตฺวา ทาสึ ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ สุปฺปิยา’’ติ? ‘‘เอสายฺย โอวรเก นิปนฺนา’’ติ. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก เยน สุปฺปิยา อุปาสิกา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส นิปนฺนาสี’’ติ? ‘‘คิลานามฺหี’’ติ. ‘‘กึ เต อาพาโธ’’ติ? อถ โข สุปฺปิยา อุปาสิกา สุปฺปิยสฺส อุปาสกสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก – อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! ยาว สทฺธายํ สุปฺปิยา ปสนฺนา, ยตฺร หิ นาม อตฺตโนปิ มํสานิ ปริจฺจตฺตานิ! กิมฺปิมาย [กึ ปนิมาย (สี. สฺยา.)] อฺํ กิฺจิ ¶ อเทยฺยํ ภวิสฺสตีติ – หฏฺโ อุทคฺโค เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุปฺปิโย อุปาสโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ, สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุปฺปิยสฺส ¶ อุปาสกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ, สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน ¶ . อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข สุปฺปิยํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กหํ สุปฺปิยา’’ติ? ‘‘คิลานา ภควา’’ติ. ‘‘เตน หิ อาคจฺฉตู’’ติ. ‘‘น ภควา อุสฺสหตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ปริคฺคเหตฺวาปิ อาเนถา’’ติ. อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก สุปฺปิยํ อุปาสิกํ ปริคฺคเหตฺวา ¶ อาเนสิ. ตสฺสา, สห ทสฺสเนน ภควโต, ตาว มหาวโณ รุฬโห อโหสิ, สุจฺฉวิโลมชาโต. อถ โข สุปฺปิโย จ อุปาสโก สุปฺปิยา จ อุปาสิกา – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา ¶ มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม สห ทสฺสเนน ภควโต ตาว มหาวโณ รุฬโห ภวิสฺสติ, สุจฺฉวิโลมชาโต’’ติ – หฏฺา อุทคฺคา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ โข ภควา สุปฺปิยฺจ อุปาสกํ สุปฺปิยฺจ อุปาสิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู
ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘โก, ภิกฺขเว, สุปฺปิยํ อุปาสิกํ มํสํ วิฺาเปสี’’ติ? เอวํ วุตฺเต โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, สุปฺปิยํ อุปาสิกํ มํสํ วิฺาเปสิ’’นฺติ. ‘‘อาหริยิตฺถ ภิกฺขู’’ติ? ‘‘อาหริยิตฺถ ภควา’’ติ. ‘‘ปริภฺุชิ ตฺวํ ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ปริภฺุชามหํ ภควา’’ติ. ‘‘ปฏิเวกฺขิ ตฺวํ ภิกฺขู’’ติ? ‘‘นาหํ ภควา ปฏิเวกฺขิ’’นฺติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา มํสํ ปริภฺุชิสฺสสิ. มนุสฺสมํสํ โข ตยา, โมฆปุริส, ปริภุตฺตํ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เตหิ อตฺตโนปิ มํสานิ ปริจฺจตฺตานิ. น, ภิกฺขเว, มนุสฺสมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. น จ, ภิกฺขเว, อปฺปฏิเวกฺขิตฺวา มํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ¶ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.
มนุสฺสมํสปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๑๖๙. หตฺถิมํสาทิปฏิกฺเขปกถา
๒๘๑. เตน โข ปน สมเยน รฺโ หตฺถี มรนฺติ ¶ . มนุสฺสา ทุพฺภิกฺเข หตฺถิมํสํ ปริภฺุชนฺติ ¶ , ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ หตฺถิมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู หตฺถิมํสํ ปริภฺุชนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา หตฺถิมํสํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ. ราชงฺคํ หตฺถี, สเจ ราชา ชาเนยฺย, น เนสํ อตฺตมโน อสฺสา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ ¶ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, หตฺถิมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน รฺโ อสฺสา มรนฺติ. มนุสฺสา ทุพฺภิกฺเข อสฺสมํสํ ปริภฺุชนฺติ, ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ อสฺสมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู อสฺสมํสํ ปริภฺุชนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อสฺสมํสํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ. ราชงฺคํ อสฺสา, สเจ ราชา ชาเนยฺย, น เนสํ อตฺตมโน อสฺสา’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อสฺสมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ทุพฺภิกฺเข สุนขมํสํ ปริภฺุชนฺติ, ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ สุนขมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู สุนขมํสํ ปริภฺุชนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา สุนขมํสํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ, เชคุจฺโฉ ¶ สุนโข ปฏิกูโล’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สุนขมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ทุพฺภิกฺเข อหิมํสํ ปริภฺุชนฺติ, ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ อหิมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู อหิมํสํ ปริภฺุชนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อหิมํสํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ, เชคุจฺโฉ อหิ ปฏิกูโล’’ติ. สุปสฺโสปิ [สุผสฺโส (สี.)] นาคราชา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข สุปสฺโส นาคราชา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภนฺเต, นาคา อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา. เต อปฺปมตฺตเกหิปิ ภิกฺขู วิเหเยฺยุํ. สาธุ, ภนฺเต, อยฺยา อหิมํสํ น ปริภฺุเชยฺยุ’’นฺติ. อถ โข ภควา สุปสฺสํ นาคราชานํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ…เป… ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ ¶ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อหิมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.
เตน ¶ ¶ โข ปน สมเยน ลุทฺทกา สีหํ หนฺตฺวา สีหมํสํ [มํสํ (ก.)] ปริภฺุชนฺติ, ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย ¶ จรนฺตานํ สีหมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู สีหมํสํ ปริภฺุชิตฺวา อรฺเ วิหรนฺติ. สีหา สีหมํสคนฺเธน ภิกฺขู ปริปาเตนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สีหมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน ลุทฺทกา พฺยคฺฆํ หนฺตฺวา…เป… ทีปึ หนฺตฺวา…เป… อจฺฉํ หนฺตฺวา…เป… ตรจฺฉํ หนฺตฺวา ตรจฺฉมํสํ ปริภฺุชนฺติ, ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ ¶ ตรจฺฉมํสํ เทนฺติ. ภิกฺขู ตรจฺฉมํสํ ปริภฺุชิตฺวา อรฺเ วิหรนฺติ. ตรจฺฉา ตรจฺฉมํสคนฺเธน ภิกฺขู ปริปาเตนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ตรจฺฉมํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
หตฺถิมํสาทิปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
สุปฺปิยภาณวาโร นิฏฺิโต ทุติโย.
๑๗๐. ยาคุมธุโคฬกานุชานนา
๒๘๒. อถ โข ภควา พาราณสิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน อนฺธกวินฺทํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ, มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ, อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. เตน โข ปน สมเยน ชานปทา มนุสฺสา พหุํ โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สกเฏสุ อาโรเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ยทา ปฏิปาฏึ ลภิสฺสาม ตทา ภตฺตํ กริสฺสามาติ, ปฺจมตฺตานิ จ วิฆาสาทสตานิ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน อนฺธกวินฺทํ ตทวสริ. อถ โข อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิปาฏึ อลภนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อตีตานิ [อธิกานิ (สี. สฺยา.)] โข เม ทฺเว มาสานิ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุพนฺธนฺตสฺส ‘ยทา ปฏิปาฏึ ลภิสฺสามิ ตทา ภตฺตํ กริสฺสามี’ติ, น จ เม ปฏิปาฏิ ลพฺภติ, อหฺจมฺหิ เอกตฺตโก [เอกโต (สี. สฺยา.)], พหุ จ เม ฆราวาสตฺโถ หายติ. ยํนูนาหํ ภตฺตคฺคํ โอโลเกยฺยํ; ยํ ภตฺตคฺเค นาสฺส, ตํ ปฏิยาเทยฺย’’นฺติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ภตฺตคฺคํ โอโลเกนฺโต ทฺเว นาทฺทส – ยาคฺุจ ¶ มธุโคฬกฺจ ¶ . อถ โข โส พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ เม, โภ อานนฺท, ปฏิปาฏึ อลภนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘อตีตานิ โข เม ¶ ทฺเว มาสานิ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุพนฺธนฺตสฺส, ยทา ปฏิปาฏึ ลภิสฺสามิ ตทา ภตฺตํ กริสฺสามีติ. น จ เม ปฏิปาฏิ ลพฺภติ ¶ , อหฺจมฺหิ เอกตฺตโก, พหุ จ เม ฆราวาสตฺโถ หายติ. ยํนูนาหํ ภตฺตคฺคํ โอโลเกยฺยํ; ยํ ภตฺตคฺเค นาสฺส, ตํ ปฏิยาเทยฺย’นฺติ. โส โข อหํ, โภ อานนฺท, ภตฺตคฺคํ โอโลเกนฺโต ทฺเว นาทฺทสํ – ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจ. สจาหํ, โภ อานนฺท, ปฏิยาเทยฺยํ ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจ, ปฏิคฺคณฺเหยฺย เม ภวํ โคตโม’’ติ? ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ภควนฺตํ ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. เตน หานนฺท, ปฏิยาเทตูติ. เตน หิ, พฺราหฺมณ, ปฏิยาเทหีติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปหูตํ ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ – ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภวํ โคตโม ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจาติ. เตน หิ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขูนํ เทหีติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถาติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปหูตาย ยาคุยา จ มธุโคฬเกน จ สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ โธตหตฺถํ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ พฺราหฺมณํ ¶ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ทสยิเม, พฺราหฺมณ, อานิสํสา ยาคุยา. กตเม ทส? ยาคุํ เทนฺโต อายุํ เทติ, วณฺณํ เทติ, สุขํ เทติ, พลํ เทติ, ปฏิภานํ เทติ, ยาคุ ปีตา ขุทฺทํ [ขุทํ (สี. สฺยา.)] ปฏิหนติ, ปิปาสํ วิเนติ, วาตํ อนุโลเมติ, วตฺถึ โสเธติ, อามาวเสสํ ปาเจติ – อิเม โข, พฺราหฺมณ, ทสานิสํสา ยาคุยา’’ติ [ปจฺฉิมา ปฺจ อานิสํสา อ. นิ. ๕.๒๐๗].
[อ. นิ. ๔.๕๘-๕๙ โถกํ วิสทิสํ] โย สฺตานํ ปรทตฺตโภชินํ;
กาเลน สกฺกจฺจ ททาติ ยาคุํ;
ทสสฺส านานิ อนุปฺปเวจฺฉติ;
อายฺุจ วณฺณฺจ สุขํ พลฺจ.
ปฏิภานมสฺส ¶ อุปชายเต ตโต;
ขุทฺทํ ปิปาสฺจ พฺยปเนติ วาตํ;
โสเธติ วตฺถึ ปริณาเมติ ภุตฺตํ;
เภสชฺชเมตํ สุคเตน วณฺณิตํ.
ตสฺมา หิ ยาคุํ อลเมว ทาตุํ;
นิจฺจํ มนุสฺเสน สุขตฺถิเกน;
ทิพฺพานิ ¶ วา ปตฺถยตา สุขานิ;
มนุสฺสโสภคฺยตมิจฺฉตา วาติ.
อถ ¶ โข ภควา ตํ พฺราหฺมณํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ¶ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาคฺุจ มธุโคฬกฺจา’’ติ.
ยาคุมธุโคฬกานุชานนา นิฏฺิตา.
๑๗๑. ตรุณปสนฺนมหามตฺตวตฺถุ
๒๘๓. อสฺโสสุํ โข มนุสฺสา ภควตา กิร ยาคุ อนฺุาตา มธุโคฬกฺจาติ. เต กาลสฺเสว, โภชฺชยาคุํ ปฏิยาเทนฺติ มธุโคฬกฺจ. ภิกฺขู กาลสฺเสว โภชฺชยาคุยา ธาตา มธุโคฬเกน จ ภตฺตคฺเค น จิตฺตรูปํ ปริภฺุชนฺติ. เตน โข ปน สมเยน อฺตเรน ตรุณปสนฺเนน มหามตฺเตน สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ นิมนฺติโต โหติ. อถ โข ตสฺส ตรุณปสนฺนสฺส มหามตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ อฑฺฒเตลสนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อฑฺฒเตลสานิ มํสปาติสตานิ ปฏิยาเทยฺยํ, เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอกเมกํ มํสปาตึ อุปนาเมยฺย’’นฺติ. อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา อฑฺฒเตลสานิ จ มํสปาติสตานิ, ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส ตรุณปสนฺนสฺส มหามตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ, สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต ภตฺตคฺเค ภิกฺขู ปริวิสติ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โถกํ, อาวุโส, เทหิ; โถกํ, อาวุโส, เทหี’’ติ. ‘‘มา โข ตุมฺเห, ภนฺเต, – ‘อยํ ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต’ติ ¶ ¶ – โถกํ โถกํ ปฏิคฺคณฺหถ. พหุํ เม ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ, อฑฺฒเตลสานิ จ มํสปาติสตานิ. เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอกเมกํ มํสปาตึ อุปนาเมสฺสามีติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภนฺเต, ยาวทตฺถ’’นฺติ. ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, เอตํการณา โถกํ โถกํ ปฏิคฺคณฺหาม, อปิ จ มยํ กาลสฺเสว โภชฺชยาคุยา ธาตา มธุโคฬเกน จ. เตน มยํ โถกํ โถกํ ปฏิคฺคณฺหามา’’ติ. อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถฺหิ นาม ภทนฺตา มยา นิมนฺติตา อฺสฺส โภชฺชยาคุํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ, น จาหํ ปฏิพโล ยาวทตฺถํ ทาตุ’’นฺติ ¶ กุปิโต อนตฺตมโน อาสาทนาเปกฺโข ภิกฺขูนํ ปตฺเต ปูเรนฺโต อคมาสิ – ภฺุชถ วา หรถ วาติ. อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ¶ ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ ตรุณปสนฺนํ มหามตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
อถ โข ตสฺส ตรุณปสนฺนสฺส มหามตฺตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อหุเทว กุกฺกุจฺจํ, อหุ วิปฺปฏิสาโร – ‘‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ; โยหํ กุปิโต อนตฺตมโน อาสาทนาเปกฺโข ภิกฺขูนํ ¶ ปตฺเต ปูเรนฺโต อคมาสึ – ‘ภฺุชถ วา หรถ วา’ติ. กึ นุ โข มยา พหุํ ปสุตํ ปฺุํ วา อปฺุํ วา’’ติ? อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อหุเทว กุกฺกุจฺจํ, อหุ วิปฺปฏิสาโร ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ; โยหํ กุปิโต อนตฺตมโน อาสาทนาเปกฺโข ภิกฺขูนํ ปตฺเต ปูเรนฺโต อคมาสึ – ภฺุชถ วา หรถ วาติ. กึ นุ โข มยา พหุํ ปสุตํ, ปฺุํ วา อปฺุํ วา’ติ. กึ นุ โข มยา, ภนฺเต, พหุํ ปสุตํ, ปฺุํ วา อปฺุํ วา’’ติ? ‘‘ยทคฺเคน ตยา, อาวุโส, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ นิมนฺติโต ตทคฺเคน เต พหุํ ปฺุํ ปสุตํ. ยทคฺเคน เต ¶ เอกเมเกน ภิกฺขุนา เอกเมกํ สิตฺถํ ปฏิคฺคหิตํ ตทคฺเคน เต พหุํ ปฺุํ ปสุตํ, สคฺคา เต อารทฺธา’’ติ. อถ โข โส ตรุณปสนฺโน มหามตฺโต – ‘‘ลาภา กิร เม, สุลทฺธํ กิร เม, พหุํ กิร มยา ปฺุํ ปสุตํ, สคฺคา กิร เม อารทฺธา’’ติ – หฏฺโ อุทคฺโค อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ¶ ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อฺตฺร นิมนฺติตา อฺสฺส โภชฺชยาคุํ ปริภฺุชนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… กถฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา อฺตฺร นิมนฺติตา อฺสฺส โภชฺชยาคุํ ปริภฺุชิสฺสนฺติ. เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ¶ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อฺตฺร นิมนฺติเตน อฺสฺส โภชฺชยาคุ ปริภฺุชิตพฺพา. โย ปริภฺุเชยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ.
ตรุณปสนฺนมหามตฺตวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๒. เพลฏฺกจฺจานวตฺถุ
๒๘๔. อถ ¶ โข ภควา อนฺธกวินฺเท ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ราชคหํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ, มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ, อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. เตน โข ปน สมเยน เพลฏฺโ กจฺจาโน ราชคหา อนฺธกวินฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ, ปฺจมตฺเตหิ สกฏสเตหิ, สพฺเพเหว คุฬกุมฺภปูเรหิ. อทฺทสา โข ภควา เพลฏฺํ กจฺจานํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. อถ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอกเมกํ คุฬกุมฺภํ ทาตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, เอกํเยว คุฬกุมฺภํ ¶ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา เอกํเยว คุฬกุมฺภํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อาภโต [อาหโฏ (สี. สฺยา. ก.)], ภนฺเต, คุฬกุมฺโภ; กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, ภิกฺขูนํ คุฬํ เทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ¶ ภิกฺขูนํ คุฬํ ทตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทินฺโน, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ คุโฬ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, ภิกฺขูนํ คุฬํ ยาวทตฺถํ เทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ภิกฺขูนํ คุฬํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทินฺโน, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ คุโฬ ยาวทตฺโถ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, ภิกฺขู คุเฬหิ สนฺตปฺเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ภิกฺขู คุเฬหิ สนฺตปฺเปสิ. เอกจฺเจ ภิกฺขู ปตฺเตปิ ปูเรสุํ ปริสฺสาวนานิปิ ถวิกาโยปิ ปูเรสุํ. อถ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภิกฺขู คุเฬหิ สนฺตปฺเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺตปฺปิตา, ภนฺเต, ภิกฺขู คุเฬหิ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ¶ ตฺวํ, กจฺจาน, วิฆาสาทานํ คุฬํ เทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา วิฆาสาทานํ คุฬํ ทตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทินฺโน, ภนฺเต ¶ , วิฆาสาทานํ คุโฬ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, วิฆาสาทานํ คุฬํ ยาวทตฺถํ เทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา วิฆาสาทานํ คุฬํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทินฺโน, ภนฺเต, วิฆาสาทานํ คุโฬ ยาวทตฺโถ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, วิฆาสาเท คุเฬหิ สนฺตปฺเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ ¶ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา วิฆาสาเท คุเฬหิ สนฺตปฺเปสิ. เอกจฺเจ วิฆาสาทา โกลมฺเพปิ ฆเฏปิ ปูเรสุํ, ปิฏกานิปิ อุจฺฉงฺเคปิ ปูเรสุํ. อถ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน วิฆาสาเท คุเฬหิ สนฺตปฺเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺตปฺปิตา, ภนฺเต, วิฆาสาทา คุเฬหิ, พหุ จายํ คุโฬ อวสิฏฺโ. กถาหํ, ภนฺเต, ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘นาหํ ตํ, กจฺจาน, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยสฺส โส คุโฬ ปริภุตฺโต สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย, อฺตฺร ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา. เตน หิ ตฺวํ, กจฺจาน, ตํ คุฬํ อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑหิ, อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ตํ คุฬํ อปฺปาณเก อุทเก ¶ โอปิลาเปติ. อถ โข โส คุโฬ อุทเก ปกฺขิตฺโต จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ ปธูปายติ ¶ [สนฺธูปายติ (สี. สฺยา.)] สมฺปธูปายติ. เสยฺยถาปิ นาม ผาโล ทิวสํสนฺตตฺโต อุทเก ปกฺขิตฺโต จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ ปธูปายติ สมฺปธูปายติ, เอวเมว โส คุโฬ อุทเก ปกฺขิตฺโต จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ ปธูปายติ สมฺปธูปายติ.
อถ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข เพลฏฺสฺส กจฺจานสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ‘‘ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ เพลฏฺํ กจฺจานํ กลฺลจิตฺตํ, มุทุจิตฺตํ, วินีวรณจิตฺตํ, อุทคฺคจิตฺตํ, ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ…เป… เอวเมว เพลฏฺสฺส ¶ กจฺจานสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ. อถ โข เพลฏฺโ กจฺจาโน ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย…เป… ¶ เอวเมวํ โข ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณคต’’นฺติ.
อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ราชคหํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห คุโฬ อุสฺสนฺโน โหติ. ภิกฺขู – คิลานสฺเสว ภควตา คุโฬ อนฺุาโต, โน อคิลานสฺสาติ – กุกฺกุจฺจายนฺตา ¶ คุฬํ น ภฺุชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส คุฬํ, อคิลานสฺส คุโฬทกนฺติ.
เพลฏฺกจฺจานวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๓. ปาฏลิคามวตฺถุ
๒๘๕. [อิโต ปรํ มหาว. ๒๘๖-๒๘๗ ‘ติณฺณา เมธาวิโน ชนา’ติ ปาโ ที. นิ. ๒.๑๔๘; อุทา. ๗๖ อาทโย] อถ ¶ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ปาฏลิคาโม เตน จาริกํ ปกฺกามิ, มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ, อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ปาฏลิคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา – ‘‘ภควา กิร ปาฏลิคามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข ปาฏลิคามิเก อุปาสเก ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ, สมาทเปสิ, สมุตฺเตเชสิ, สมฺปหํเสสิ. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควตา ธมฺมิยา ¶ กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อาวสถาคารํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ ¶ กตฺวา เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา, อาสนานิ ปฺเปตฺวา, อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา, เตลปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ, ภนฺเต, อาวสถาคารํ. อาสนานิ ปฺตฺตานิ. อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต. เตลปทีโป อาโรปิโต. ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ, ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. ปาฏลิคามิกาปิ โข อุปาสกา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา ¶ ¶ นิสีทึสุ, ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวา. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก อามนฺเตสิ –
¶ [ที. นิ. ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓ อาทโย], คหปตโย, อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ, ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ, อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลํกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.
[ที. นิ. ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓ อาทโย] ‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. กตเม ¶ ปฺจ? อิธ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย ¶ . ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ, ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ, วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลํกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายาติ.
อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ ¶ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, คหปตโย, รตฺติ. ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ, โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต ¶ ปฏิสฺสุณิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาฏลิคามิเกสุ อุปาสเกสุ สฺุาคารํ ปาวิสิ.
ปาฏลิคามวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๔. สุนิธวสฺสการวตฺถุ
๒๘๖. เตน ¶ โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อทฺทสา โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก นุ โข เต, อานนฺท, ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี’’ติ? ‘‘สุนิธวสฺสการา ¶ , ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา’’ติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา, เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ¶ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ, ยาวตา วณิปฺปโถ, อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ. ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ¶ ภวิสฺสนฺติ – อคฺคิโต วา อุทกโต วา อพฺภนฺตรโต วา มิถุเภทาติ.
อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา ¶ สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสุํ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ ปริเวสนา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน ¶ . อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ, วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;
สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา, สฺเต พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.)].
‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;
ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ, มานิตา มานยนฺติ นํ.
‘‘ตโต ¶ นํ อนุกมฺปนฺติ, มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;
เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.
อถ โข ภควา สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ, ‘‘เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม ภวิสฺสติ ¶ ; เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทึ อุตฺตริสฺสติ, ตํ โคตมติตฺถํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. มนุสฺสา อฺเ นาวํ ปริเยสนฺติ ¶ , อฺเ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อฺเ กุลฺลํ พนฺธนฺติ โอรา ปารํ คนฺตุกามา. อทฺทสา โข ภควา เต มนุสฺเส อฺเ นาวํ ปริเยสนฺเต, อฺเ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต, อฺเ กุลฺลํ พนฺธนฺเต โอรา ปารํ คนฺตุกาเม, ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ ¶ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว โข คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺาสิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ;
เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;
กุลฺลฺหิ ชโน พนฺธติ;
ติณฺณา เมธาวิโน ชนา’’ติ.
สุนิธวสฺสการวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๕. โกฏิคาเม สจฺจกถา
๒๘๗. อถ โข ภควา เยน โกฏิคาโม เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา โกฏิคาเม วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – [ที. นิ. ๒.๑๕๕] ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขสมุทยสฺส อริยสจฺจสฺส…เป… ทุกฺขนิโรธสฺส อริยสจฺจสฺส…เป… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส ¶ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ¶ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.
จตุนฺนํ ¶ อริยสจฺจานํ, ยถาภูตํ อทสฺสนา;
สํสิตํ ทีฆมทฺธานํ, ตาสุ ตาสฺเวว ชาติสุ.
ตานิ ¶ เอตานิ ทิฏฺานิ, ภวเนตฺติ สมูหตา;
อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ.
โกฏิคาเม สจฺจกถา นิฏฺิตา.
๑๗๖. อมฺพปาลีวตฺถุ
๒๘๘. [ที. นิ. ๒.๑๖๑ อาทโย] อสฺโสสิ โข อมฺพปาลี คณิกา – ภควา กิร โกฏิคามํ อนุปฺปตฺโตติ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยาสิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา, ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อมฺพปาลึ คณิกํ ภควา ธมฺมิยา กถาย ¶ สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อมฺพปาลีวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๗. ลิจฺฉวีวตฺถุ
๒๘๙. [ที. นิ. ๒.๑๖๑ อาทโย] อสฺโสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี – ภควา กิร โกฏิคามํ อนุปฺปตฺโตติ. อถ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยาสุํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี นีลา โหนฺติ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี ปีตา โหนฺติ ปีตวณฺณา ปีตวตฺถา ปีตาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี โลหิตา โหนฺติ โลหิตวณฺณา โลหิตวตฺถา โลหิตาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี โอทาตา โหนฺติ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อีสาย อีสํ ยุเคน ยุคํ จกฺเกน จกฺกํ อกฺเขน อกฺขํ ปฏิวฏฺเฏสิ [ปฏิวตฺเตสิ (ก.)]. อถ ¶ ¶ โข เต ลิจฺฉวี อมฺพปาลึ คณิกํ ¶ เอตทโวจุํ – ‘‘กิสฺส, เช อมฺพปาลิ, ทหรานํ ทหรานํ [อมฺหากํ ทหรานํ ทหรานํ (สี. สฺยา.)] ลิจฺฉวีนํ อีสาย อีสํ ยุเคน ยุคํ จกฺเกน จกฺกํ อกฺเขน อกฺขํ ปฏิวฏฺเฏสี’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน ¶ มยา, อยฺยปุตฺตา, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ นิมนฺติโต’’ติ. ‘‘เทหิ, เช อมฺพปาลิ, อมฺหากํ เอตํ ภตฺตํ สตสหสฺเสนา’’ติ. ‘‘สเจปิ เม, อยฺยปุตฺตา, เวสาลึ สาหารํ ทชฺเชยฺยาถ, เนว ทชฺชาหํ ตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺหา วต, โภ, อมฺพกาย, ปราชิตมฺห วต, โภ, อมฺพกายา’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ. อทฺทสา โข ภควา เต ลิจฺฉวี ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เทวา ตาวตึสา อทิฏฺปุพฺพา, โอโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ; อปโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ; อุปสํหรถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ ตาวตึสปริส’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เต ลิจฺฉวี, ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ‘‘อธิวุฏฺโมฺหิ, ลิจฺฉวี, สฺวาตนาย อมฺพปาลิยา คณิกาย ภตฺต’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺห วต, โภ, อมฺพกาย, ปราชิตมฺห วต ¶ , โภ, อมฺพกายา’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
อถ โข ภควา โกฏิคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา [มหาปรินิพฺพานสุตฺเต อนุสนฺธิ อฺถา อาคโต] เยน นาติกา [นาทิกา (สี. สฺยา.)] เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อาราเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ ¶ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อมฺพปาลิยา คณิกาย ปริเวสนา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน ¶ . อถ โข อมฺพปาลี คณิกา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมาหํ, ภนฺเต, อมฺพวนํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อารามํ. อถ โข ภควา อมฺพปาลึ คณิกํ ธมฺมิยา กถาย ¶ สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา เยน มหาวนํ เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ.
ลิจฺฉวีวตฺถุ นิฏฺิตํ.
ลิจฺฉวิภาณวาโร นิฏฺิโต ตติโย.
๑๗๘. สีหเสนาปติวตฺถุ
๒๙๐. [อ. นิ. ๘.๑๒ อาทโย] เตน ¶ โข ปน สมเยน อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺธาคาเร [สนฺถาคาเร (สี. สฺยา.)] สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. เตน โข ปน สมเยน สีโห เสนาปติ นิคณฺสาวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. อถ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิกาภิสงฺขาโร ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ¶ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ทุติยมฺปิ โข อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺธาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเนน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺธาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข สีโห เสนาปติ เยน ¶ นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ ¶ , เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิกาภิสงฺขาโร ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ตติยมฺปิ โข อภิฺาตา อภิฺาตา ¶ ลิจฺฉวี สนฺธาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ตติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺธาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. กิฺหิ เม กริสฺสนฺติ นิคณฺา อปโลกิตา วา อนปโลกิตา วา? ยํนูนาหํ อนปโลเกตฺวาว นิคณฺเ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.
อถ โข สีโห เสนาปติ ปฺจหิ รถสเตหิ ทิวา ทิวสฺส เวสาลิยา นิยฺยาสิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เม ตํ, ภนฺเต, ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ ‘อกิริยวาโท สมโณ ¶ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ. กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท ¶ คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ภควนฺต’’นฺติ.
๒๙๑. ‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – กิริยวาโท สมโณ โคตโม กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน ¶ จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ. อตฺถิ, สีห ¶ , ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อสฺสตฺโถ สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
๒๙๒. ‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ ¶ , เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, อกิริยํ วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย ¶ , เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, กิริยํ วทามิ กายสุจริตสฺส วจีสุจริตสฺส มโนสุจริตสฺส, อเนกวิหิตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ กิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, อุจฺเฉทํ วทามิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุจฺเฉทํ วทามิ. อยํ โข ¶ , สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, ชิคุจฺฉามิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา ชิคุจฺฉามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน ¶ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ¶ ธมฺมานํ วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? ตปนียาหํ, สีห, ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วทามิ – กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. ยสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ¶ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ตปสฺสีติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉีนฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย ‘‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม ¶ ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อปคพฺโภ สมโณ โคตโม อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? ยสฺส โข, สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ อปคพฺโภติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อสฺสตฺโถ สมโณ โคตโม อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตีติ? อหฺหิ, สีห, อสฺสตฺโถ ¶ ปรเมน อสฺสาเสน, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสมิ, เตน จ สาวเก วิเนมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา ¶ วทมาโน วเทยฺย – อสฺสตฺโถ สมโณ โคตโม อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ.
๒๙๓. เอวํ ¶ วุตฺเต สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ‘‘อนุวิจฺจการํ [อนุวิชฺชการํ (ก.)] โข, สีห, กโรหิ; อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ; อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. มมฺหิ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา สาวกํ ลภิตฺวา เกวลกปฺปํ เวสาลึ ปฏากํ ปริหเรยฺยุํ – ‘สีโห โข อมฺหากํ เสนาปติ สาวกตฺตํ อุปคโต’ติ. อถ จ ปน มํ ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ; อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ทุติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ¶ ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ‘‘ทีฆรตฺตํ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘ทีฆรตฺตํ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’ติ. สุตํ เม ตํ, ภนฺเต, สมโณ โคตโม เอวมาห – ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ ¶ ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ. อถ จ ปน มํ ภควา นิคณฺเสุปิ ทาเน สมาทเปติ. อปิ จ, ภนฺเต, มยเมตฺถ กาลํ ชานิสฺสาม. เอสาหํ, ภนฺเต, ตติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
อถ โข ภควา สีหสฺส เสนาปติสฺส อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ…เป… ¶ อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ ¶ โข สีโห เสนาปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
๒๙๔. อถ ¶ โข สีโห เสนาปติ อฺตรํ ปุริสํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ปวตฺตมํสํ ชานาหี’’ติ. อถ โข สีโห เสนาปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สีหสฺส เสนาปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ, ตํ สมโณ โคตโม ชานํ ¶ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภฺุชติ ปฏิจฺจกมฺม’’นฺติ. อถ โข อฺตโร ปุริโส เยน สีโห เสนาปติ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา สีหสฺส เสนาปติสฺส อุปกณฺณเก อาโรเจสิ ‘‘ยคฺเฆ, ภนฺเต, ชาเนยฺยาสิ, เอเต สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ, ตํ สมโณ โคตโม ชานํ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภฺุชติ ปฏิจฺจกมฺม’’’นฺติ. ‘‘อลํ อยฺโย, ทีฆรตฺตมฺปิ เต อายสฺมนฺตา อวณฺณกามา พุทฺธสฺส, อวณฺณกามา ธมฺมสฺส, อวณฺณกามา สงฺฆสฺส; น จ ปน เต อายสฺมนฺตา ชิริทนฺติ ตํ ภควนฺตํ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตา; น จ มยํ ชีวิตเหตุปิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺยามา’’ติ. อถ โข สีโห เสนาปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา ¶ สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สีหํ เสนาปตึ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ชา นํ อุทฺทิสฺสกตํ ¶ มํสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ¶ ปริภฺุเชยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติโกฏิปริสุทฺธํ มจฺฉมํสํ – อทิฏฺํ อสฺสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ.
สีหเสนาปติวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๗๙. กปฺปิยภูมิอนุชานนา
๒๙๕. เตน ¶ โข ปน สมเยน เวสาลี สุภิกฺขา โหติ สุสสฺสา สุลภปิณฺฑา, สุกรา อฺุเฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํ. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘ยานิ ตานิ มยา ภิกฺขูนํ อนฺุาตานิ ทุพฺภิกฺเข ทุสฺสสฺเส ทุลฺลภปิณฺเฑ อนฺโต วุฏฺํ อนฺโต ปกฺกํ สามํ ปกฺกํ อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตกํ ตโต นีหฏํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ วนฏฺํ โปกฺขรฏฺํ, อชฺชาปิ นุ โข ตานิ ภิกฺขู ปริภฺุชนฺตี’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยานิ ตานิ, อานนฺท, มยา ภิกฺขูนํ อนฺุาตานิ ทุพฺภิกฺเข ทุสฺสสฺเส ทุลฺลภปิณฺเฑ อนฺโต วุฏฺํ อนฺโต ปกฺกํ สามํ ปกฺกํ อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตกํ ตโต นีหฏํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ วนฏฺํ โปกฺขรฏฺํ, อชฺชาปิ นุ โข ตานิ ภิกฺขู ปริภฺุชนฺตี’’ติ? ‘‘ปริภฺุชนฺติ ภควา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ยานิ ตานิ, ภิกฺขเว, มยา ภิกฺขูนํ อนฺุาตานิ ทุพฺภิกฺเข ทุสฺสสฺเส ทุลฺลภปิณฺเฑ อนฺโต วุฏฺํ อนฺโต ปกฺกํ สามํ ปกฺกํ อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตกํ ตโต นีหฏํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ วนฏฺํ โปกฺขรฏฺํ, ตานาหํ อชฺชตคฺเค ปฏิกฺขิปามิ. น, ภิกฺขเว, อนฺโต วุฏฺํ อนฺโต ปกฺกํ สามํ ปกฺกํ ¶ อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตกํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, ตโต นีหฏํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ วนฏฺํ โปกฺขรฏฺํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพํ. โย ปริภฺุเชยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน ชานปทา มนุสฺสา พหุํ โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สกเฏสุ อาโรเปตฺวา พหารามโกฏฺเก สกฏปริวฏฺฏํ กริตฺวา อจฺฉนฺติ – ยทา ปฏิปาฏึ ลภิสฺสาม, ตทา ภตฺตํ กริสฺสามาติ. มหา จ เมโฆ ¶ อุคฺคโต โหติ. อถ โข เต มนุสฺสา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต อานนฺท, พหุํ โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สกเฏสุ อาโรปิตา ติฏฺนฺติ, มหา จ เมโฆ อุคฺคโต ¶ ; กถํ นุ โข, ภนฺเต อานนฺท, ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ‘‘เตน หานนฺท, สงฺโฆ ปจฺจนฺติมํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺนิตฺวา ตตฺถ วาเสตุ, ยํ สงฺโฆ อากงฺขติ วิหารํ วา อฑฺฒโยคํ วา ปาสาทํ วา หมฺมิยํ วา คุหํ วา. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพา. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ กปฺปิยภูมึ สมฺมนฺนติ ¶ . ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส วิหารสฺส กปฺปิยภูมิยา สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม วิหาโร กปฺปิยภูมิ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ตตฺเถว สมฺมุติยา [สมฺมติกาย (สฺยา.)] กปฺปิยภูมิยา ยาคุโย ปจนฺติ, ภตฺตานิ ปจนฺติ, สูปานิ สมฺปาเทนฺติ, มํสานิ โกฏฺเฏนฺติ, กฏฺานิ ผาเลนฺติ. อสฺโสสิ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ กาโกรวสทฺทํ, สุตฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ นุ โข โส, อานนฺท, อุจฺจาสทฺโท มหาสทฺโท กาโกรวสทฺโท’’ติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, มนุสฺสา ตตฺเถว สมฺมุติยา กปฺปิยภูมิยา ยาคุโย ปจนฺติ, ภตฺตานิ ปจนฺติ, สูปานิ สมฺปาเทนฺติ, มํสานิ โกฏฺเฏนฺติ, กฏฺานิ ผาเลนฺติ. โส เอโส, ภควา, อุจฺจาสทฺโท มหาสทฺโท กาโกรวสทฺโท’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, สมฺมุติ [สมฺมติกา (สฺยา.)] กปฺปิยภูมิ ปริภฺุชิตพฺพา. โย ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส กปฺปิยภูมิโย – อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปติ’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ยโสโช คิลาโน โหติ. ตสฺสตฺถาย เภสชฺชานิ อาหริยนฺติ. ตานิ ภิกฺขู พหิ วาเสนฺติ. อุกฺกปิณฺฑิกาปิ ¶ ขาทนฺติ, โจราปิ หรนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, สมฺมุตึ กปฺปิยภูมึ ปริภฺุชิตุํ ¶ . อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย – อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปตึ สมฺมุตินฺติ.
กปฺปิยภูมิอนุชานนา นิฏฺิตา.
สีหภาณวาโร นิฏฺิโต จตุตฺโถ.
๑๘๐. เมณฺฑกคหปติวตฺถุ
๒๙๖. เตน ¶ โข ปน สมเยน ภทฺทิยนคเร เมณฺฑโก คหปติ ปฏิวสติ. ตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว โหติ – สีสํ นหายิตฺวา ธฺาคารํ สมฺมชฺชาเปตฺวา พหิทฺวาเร นิสีทติ, อนฺตลิกฺขา ธฺสฺส ธารา โอปติตฺวา ธฺาคารํ ปูเรติ. ภริยาย เอวรูโป อิทฺธานุภาโว โหติ – เอกํเยว อาฬฺหกถาลิกํ อุปนิสีทิตฺวา เอกฺจ สูปภิฺชนกํ [สูปภิฺชรกํ (สี.)] ทาสกมฺมกรโปริสํ ภตฺเตน ปริวิสติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ [ขียติ (สี. สฺยา.)] ยาว สา น วุฏฺาติ. ปุตฺตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว โหติ – เอกํเยว สหสฺสถวิกํ คเหตฺวา ทาสกมฺมกรโปริสสฺส ฉมาสิกํ เวตนํ เทติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาวสฺส หตฺถคตา. สุณิสาย เอวรูโป อิทฺธานุภาโว โหติ – เอกํเยว จตุโทณิกํ ปิฏกํ อุปนิสีทิตฺวา ทาสกมฺมกรโปริสสฺส ฉมาสิกํ ภตฺตํ เทติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาว สา น วุฏฺาติ. ทาสสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว โหติ – เอเกน นงฺคเลน กสนฺตสฺส สตฺต สีตาโย คจฺฉนฺติ.
อสฺโสสิ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร – ‘‘อมฺหากํ ¶ กิร วิชิเต ภทฺทิยนคเร เมณฺฑโก คหปติ ปฏิวสติ. ตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว – สีสํ นหายิตฺวา ธฺาคารํ สมฺมชฺชาเปตฺวา พหิทฺวาเร นิสีทติ, อนฺตลิกฺขา ธฺสฺส ธารา โอปติตฺวา ธฺาคารํ ปูเรติ. ภริยาย เอวรูโป อิทฺธานุภาโว – เอกํเยว อาฬฺหกถาลิกํ อุปนิสีทิตฺวา เอกฺจ สูปภิฺชนกํ ทาสกมฺมกรโปริสํ ภตฺเตน ปริวิสติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาว สา น วุฏฺาติ. ปุตฺตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว – เอกํเยว สหสฺสถวิกํ คเหตฺวา ทาสกมฺมกรโปริสสฺส ฉมาสิกํ เวตนํ เทติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาวสฺส หตฺถคตา. สุณิสาย เอวรูโป ¶ อิทฺธานุภาโว – เอกํเยว จตุโทณิกํ ปิฏกํ อุปนิสีทิตฺวา ทาสกมฺมกรโปริสสฺส ฉมาสิกํ ภตฺตํ เทติ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาว สา น วุฏฺาติ. ทาสสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว – เอเกน นงฺคเลน กสนฺตสฺส สตฺต สีตาโย คจฺฉนฺตี’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อฺตรํ สพฺพตฺถกํ มหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘อมฺหากํ กิร, ภเณ, วิชิเต ภทฺทิยนคเร เมณฺฑโก คหปติ ปฏิวสติ. ตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว ¶ – สีสํ นหายิตฺวา ธฺาคารํ สมฺมชฺชาเปตฺวา พหิทฺวาเร นิสีทติ, อนฺตลิกฺขา ธฺสฺส ธารา โอปติตฺวา ธฺาคารํ ปูเรติ. ภริยาย…เป… ปุตฺตสฺส… สุณิสาย… ทาสสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว, เอเกน นงฺคเลน กสนฺตสฺส สตฺต สีตาโย คจฺฉนฺตีติ. คจฺฉ, ภเณ, ชานาหิ. ยถา มยา สามํ ทิฏฺโ, เอวํ ตว ทิฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ.
๒๙๗. เอวํ ¶ , เทวาติ ¶ โข โส มหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย เยน ภทฺทิยํ เตน ปายาสิ. อนุปุพฺเพน เยน ภทฺทิยํ เยน เมณฺฑโก คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เมณฺฑกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, คหปติ, รฺา อาณตฺโต ‘อมฺหากํ กิร, ภเณ, วิชิเต ภทฺทิยนคเร เมณฺฑโก คหปติ ปฏิวสติ, ตสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว, สีสํ นหายิตฺวา…เป… ภริยาย… ปุตฺตสฺส… สุณิสาย… ทาสสฺส เอวรูโป อิทฺธานุภาโว, เอเกน นงฺคเลน กสนฺตสฺส สตฺต สีตาโย คจฺฉนฺตี’ติ, คจฺฉ, ภเณ, ชานาหิ. ยถา มยา สามํ ทิฏฺโ, เอวํ ตว ทิฏฺโ ภวิสฺสตี’ติ. ปสฺสาม เต, คหปติ, อิทฺธานุภาว’’นฺติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ สีสํ นหายิตฺวา ธฺาคารํ สมฺมชฺชาเปตฺวา พหิทฺวาเร นิสีทิ, อนฺตลิกฺขา ธฺสฺส ธารา โอปติตฺวา ธฺาคารํ ปูเรสิ. ‘‘ทิฏฺโ เต, คหปติ, อิทฺธานุภาโว. ภริยาย เต อิทฺธานุภาวํ ¶ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ภริยํ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ จตุรงฺคินึ เสนํ ภตฺเตน ปริวิสา’’ติ. อถ โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ภริยา เอกํเยว อาฬฺหกถาลิกํ อุปนิสีทิตฺวา เอกฺจ สูปภิฺชนกํ จตุรงฺคินึ เสนํ ภตฺเตน ปริวิสิ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ, ยาว สา น วุฏฺาติ. ‘‘ทิฏฺโ เต, คหปติ, ภริยายปิ อิทฺธานุภาโว. ปุตฺตสฺส เต อิทฺธานุภาวํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ปุตฺตํ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ จตุรงฺคินิยา เสนาย ฉมาสิกํ เวตนํ เทหี’’ติ ¶ . อถ โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ปุตฺโต เอกํเยว สหสฺสถวิกํ คเหตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ฉมาสิกํ เวตนํ อทาสิ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ, ยาวสฺส หตฺถคตา. ‘‘ทิฏฺโ เต, คหปติ, ปุตฺตสฺสปิ อิทฺธานุภาโว. สุณิสาย เต อิทฺธานุภาวํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ สุณิสํ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ จตุรงฺคินิยา เสนาย ฉมาสิกํ ภตฺตํ เทหี’’ติ. อถ โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส สุณิสา เอกํเยว จตุโทณิกํ ปิฏกํ อุปนิสีทิตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ฉมาสิกํ ภตฺตํ อทาสิ, น ตาว ตํ ขิยฺยติ ยาว สา น วุฏฺาติ. ‘‘ทิฏฺโ เต, คหปติ, สุณิสายปิ อิทฺธานุภาโว. ทาสสฺส เต อิทฺธานุภาวํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ. ‘‘มยฺหํ โข, สามิ, ทาสสฺส อิทฺธานุภาโว เขตฺเต ปสฺสิตพฺโพ’’ติ. ‘‘อลํ, คหปติ, ทิฏฺโ เต ทาสสฺสปิ อิทฺธานุภาโว’’ติ. อถ โข โส มหามตฺโต จตุรงฺคินิยา เสนาย ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคฺฉิ. เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ.
๒๙๘. อถ ¶ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ภทฺทิยํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ ¶ จรมาโน เยน ¶ ภทฺทิยํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ภทฺทิเย วิหรติ ชาติยา วเน. อสฺโสสิ โข เมณฺฑโก คหปติ – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต ภทฺทิยํ อนุปฺปตฺโต ภทฺทิเย วิหรติ ชาติยา วเน. ตํ โข ปน ภควนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ [ภควาติ (ก.)]. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ ¶ ภทฺทิยา นิยฺยาสิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อทฺทสํสุ โข สมฺพหุลา ติตฺถิยา เมณฺฑกํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เมณฺฑกํ คหปตึ เอตทโวจุํ – ‘‘กหํ ตฺวํ, คหปติ, คจฺฉสี’’ติ? ‘‘คจฺฉามหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ [อิทํ ปทํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, คหปติ, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, คหปติ, โคตโม อกิริยวาโท อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. อถ โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ¶ เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ, โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ยถยิเม ติตฺถิยา อุสูยนฺตี’’ติ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ…เป… อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… ¶ อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ ¶ . อธิวาเสตุ จ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ภริยา จ ปุตฺโต จ สุณิสา จ ทาโส จ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ , อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เตสํ ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ…เป… ¶ อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ ¶ คเต’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เมณฺฑโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยาว, ภนฺเต, ภควา ภทฺทิเย วิหรติ ตาว อหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ธุวภตฺเตนา’’ติ. อถ โข ภควา เมณฺฑกํ คหปตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
เมณฺฑกคหปติวตฺถ นิฏฺิตํ.
๑๘๑. ปฺจโครสาทิอนุชานนา
๒๙๙. อถ โข ภควา ภทฺทิเย ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เมณฺฑกํ คหปตึ อนาปุจฺฉา เยน องฺคุตฺตราโป เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. อสฺโสสิ โข ¶ เมณฺฑโก คหปติ – ‘‘ภควา กิร เยน องฺคุตฺตราโป เตน จาริกํ ปกฺกนฺโต มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหี’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ทาเส จ กมฺมกเร จ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, พหุํ โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สกเฏสุ อาโรเปตฺวา อาคจฺฉถ, อฑฺฒเตลสานิ จ โคปาลกสตานิ อฑฺฒเตลสานิ จ เธนุสตานิ อาทาย อาคจฺฉนฺตุ, ยตฺถ ภควนฺตํ ปสฺสิสฺสาม ตตฺถ ตรุเณน [ธารุณฺเหน (สี. สฺยา.)] ขีเรน โภเชสฺสามา’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ¶ ภควนฺตํ อนฺตรามคฺเค กนฺตาเร สมฺภาเวสิ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข เมณฺฑโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข เมณฺฑโก คหปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ¶ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ปริเวสนา เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ อฑฺฒเตลสานิ โคปาลกสตานิ อาณาเปสิ ¶ – ‘‘เตนหิ, ภเณ, เอกเมกํ เธนุํ คเหตฺวา เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน อุปติฏฺถ ตรุเณน ขีเรน โภเชสฺสามา’’ติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ, ตรุเณน จ ขีเรน. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา ขีรํ น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถาติ. อถ โข เมณฺฑโก คหปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ตรุเณน จ ขีเรน ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เมณฺฑโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, ภนฺเต, มคฺคา กนฺตารา, อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาเถยฺยํ อนุชานาตู’’ติ. อถ โข ภควา เมณฺฑกํ คหปตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ โครเส – ขีรํ, ทธึ, ตกฺกํ, นวนีตํ, สปฺปึ. สนฺติ, ภิกฺขเว, มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาเถยฺยํ ปริเยสิตุํ ตณฺฑุโล ตณฺฑุลตฺถิเกน, มุคฺโค มุคฺคตฺถิเกน, มาโส มาสตฺถิเกน, โลณํ โลณตฺถิเกน ¶ ¶ , คุโฬ คุฬตฺถิเกน, เตลํ เตลตฺถิเกน, สปฺปิ สปฺปิตฺถิเกน. สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา, สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ – ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ ตํ สาทิตุํ; น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ.
ปฺจโครสาทิอนุชานนา นิฏฺิตา.
๑๘๒. เกณิยชฏิลวตฺถุ
๓๐๐. [ม. นิ. ๒.๓๙๖ อาทโย; สุ. นิ. เสลสุตฺตมฺปิ ปสฺสิตพฺพํ] อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน อาปณํ ตทวสริ. อสฺโสสิ โข เกณิโย ชฏิโล – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อาปณํ อนุปฺปตฺโต, ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต…เป… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติ. อถ โข เกณิยสฺส ¶ ¶ ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข อหํ สมณสฺส โคตมสฺส หราเปยฺย’’นฺติ. อถ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต ¶ พฺราหฺมณานํ [อยํ ปาโ ที. นิ. ๑.๒๘๕, ๕๒๖, ๕๓๖; ม. นิ. ๒.๔๒๗; อ. นิ. ๕.๑๙๑-๑๙๒ อาทโย] ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฏฺโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิตฺโต ยมตคฺคิ [ยมทคฺคิ (ก.)] องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสฏฺโ กสฺสโป ภคุ [อยํ ปาโ ที. นิ. ๑.๒๘๕, ๕๒๖, ๕๓๖; ม. นิ. ๒.๔๒๗; อ. นิ. ๕.๑๙๑-๑๙๒ อาทโย], รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา, เต เอวรูปานิ ปานานิ สาทิยึสุ. สมโณปิ โคตโม รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา, อรหติ สมโณปิ โคตโม เอวรูปานิ ปานานิ สาทิยิตุ’’นฺติ ปหูตํ ปานํ ปฏิยาทาเปตฺวา กาเชหิ คาหาเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภวํ โคตโม ปาน’’นฺติ. เตน หิ, เกณิย, ภิกฺขูนํ เทหีติ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภิกฺขูนํ เทติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถาติ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปหูเตหิ ปาเนหิ สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ โธตหตฺถํ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ¶ เกณิโย ชฏิโล ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ¶ ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโนติ. ทุติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโนติ ¶ . ตติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺ ปานานิ – อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธูกปานํ [มธุปานํ (สี. สฺยา.)] มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรสํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ เปตฺวา ¶ ฑากรสํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ เปตฺวา มธูกปุปฺผรสํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺฉุรส’’นฺติ.
อถ โข เกณิโย ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา ¶ อจฺจเยน สเก อสฺสเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา, สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ;
ราชา มุขํ มนุสฺสานํ, นทีนํ สาคโร มุขํ.
‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท, อาทิจฺโจ ตปตํ มุขํ;
ปฺุํ อากงฺขมานานํ สงฺโฆ, เว ยชตํ มุข’’นฺติ.
อถ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.
เกณิยชฏิลวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๘๓. โรชมลฺลวตฺถุ
๓๐๑. อถ ¶ ¶ โข ภควา อาปเณ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน กุสินารา เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. อสฺโสสุํ โข โกสินารกา มลฺลา – ‘‘ภควา กิร กุสินารํ อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหี’’ติ. เต สงฺครํ [สงฺกรํ (ก.)] อกํสุ – ‘‘โย ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ น ¶ กริสฺสติ, ปฺจสตานิสฺส ทณฺโฑ’’ติ. เตน โข ปน สมเยน โรโช มลฺโล อายสฺมโต อานนฺทสฺส สหาโย โหติ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน กุสินารา ตทวสริ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ อกํสุ. อถ โข โรโช มลฺโล ¶ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กริตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข โรชํ มลฺลํ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘อุฬารํ โข เต อิทํ, อาวุโส โรช, ยํ ตฺวํ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ อกาสี’’ติ. ‘‘นาหํ, ภนฺเต อานนฺท, พหุกโต พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา; อปิ จ าตีหิ สงฺคโร กโต – ‘โย ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ น กริสฺสติ, ปฺจสตานิสฺส ทณฺโฑ’’’ติ; โส โข อหํ, ภนฺเต อานนฺท, าตีนํ ทณฺฑภยา เอวาหํ ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ อกาสินฺติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อนตฺตมโน อโหสิ’ กถฺหิ นาม โรโช มลฺโล เอวํ วกฺขตี’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, โรโช มลฺโล อภิฺาโต าตมนุสฺโส. มหตฺถิโก โข ปน เอวรูปานํ าตมนุสฺสานํ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปสาโท. สาธุ, ภนฺเต, ภควา ตถา ¶ กโรตุ, ยถา โรโช มลฺโล อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปสีเทยฺยา’’ติ. ‘‘น โข ตํ, อานนฺท, ทุกฺกรํ ตถาคเตน, ยถา โรโช มลฺโล อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปสีเทยฺยา’’ติ.
อถ โข ภควา โรชํ มลฺลํ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ. อถ โข โรโช มลฺโล ภควโต เมตฺเตน จิตฺเตน ผุฏฺโ, เสยฺยถาปิ นาม คาวึ ตรุณวจฺโฉ, เอวเมว, วิหาเรน ¶ วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต, เอตรหิ โส ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ทสฺสนกามา หิ มยํ ตํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘เอสาวุโส โรช, วิหาโร ¶ สํวุตทฺวาโร, เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาฬินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏหิ, วิวริสฺสติ เต ภควา ทฺวาร’’นฺติ. อถ โข โรโช มลฺโล เยน โส วิหาโร สํวุตทฺวาโร, เตน อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา อตรมาโน อาฬินฺทํ ปวิสิตฺวา อุกฺกาสิตฺวา อคฺคฬํ อาโกเฏสิ. วิวริ ภควา ทฺวารํ. อถ โข โรโช มลฺโล วิหารํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข โรชสฺส มลฺลสฺส ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ…เป… ¶ อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อยฺยา มมฺเว ปฏิคฺคณฺเหยฺยุํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, โน อฺเส’’นฺติ. ‘‘เยสํ โข, โรช, เสกฺเขน าเณน เสกฺเขน ทสฺสเนน ธมฺโม ทิฏฺโ เสยฺยถาปิ ตยา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – ‘อโห นูน อยฺยา อมฺหากฺเว ปฏิคฺคณฺเหยฺยุํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, โน อฺเส’นฺติ. เตน หิ, โรช, ตว เจว ปฏิคฺคหิสฺสนฺติ อฺเสฺจา’’ติ.
๓๐๒. เตน ¶ โข ปน สมเยน กุสินารายํ ปณีตานํ ภตฺตานํ ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตา โหติ. อถ โข โรชสฺส มลฺลสฺส ปฏิปาฏึ อลภนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ภตฺตคฺคํ โอโลเกยฺยํ, ยํ ภตฺตคฺเค นาสฺส, ตํ ปฏิยาเทยฺย’’นฺติ. อถ โข โรโช มลฺโล ภตฺตคฺคํ โอโลเกนฺโต ทฺเว นาทฺทส – ฑากฺจ ปิฏฺขาทนียฺจ. อถ โข โรโช มลฺโล เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘อิธ เม, ภนฺเต อานนฺท, ปฏิปาฏึ อลภนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ภตฺตคฺคํ โอโลเกยฺยํ, ยํ ภตฺตคฺเค นาสฺส, ตํ ปฏิยาเทยฺย’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต อานนฺท, ภตฺตคฺคํ โอโลเกนฺโต ทฺเว นาทฺทสํ – ฑากฺจ ปิฏฺขาทนียฺจ. สจาหํ, ภนฺเต อานนฺท, ปฏิยาเทยฺยํ ฑากฺจ ปิฏฺขาทนียฺจ, ปฏิคฺคณฺเหยฺย เม ภควา’’ติ? ‘‘เตน หิ, โรช, ภควนฺตํ ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ‘‘เตน หานนฺท, ปฏิยาเทตู’’ติ. ‘‘เตน หิ, โรช, ปฏิยาเทหี’’ติ. อถ โข โรโช มลฺโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ¶ ปหูตํ ฑากฺจ ปิฏฺขาทนียฺจ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา ฑากฺจ ปิฏฺขาทนียฺจา’’ติ. ‘‘เตน หิ, โรช, ภิกฺขูนํ เทหี’’ติ. อถ โข โรโช มลฺโล ภิกฺขูนํ เทติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ ¶ . ‘‘ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภฺุชถา’’ติ. อถ โข โรโช มลฺโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปหูเตหิ ฑาเกหิ จ ปิฏฺขาทนีเยหิ จ สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ โธตหตฺถํ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โรชํ มลฺลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพฺจ ฑากํ สพฺพฺจ ปิฏฺขาทนีย’’นฺติ.
โรชมลฺลวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๘๔. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุ
๓๐๓. อถ ¶ โข ภควา กุสินารายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน อาตุมา เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร วุฑฺฒปพฺพชิโต อาตุมายํ ปฏิวสติ นหาปิตปุพฺโพ. ตสฺส ทฺเว ทารกา โหนฺติ, มฺชุกา ปฏิภาเนยฺยกา, ทกฺขา ปริโยทาตสิปฺปา สเก อาจริยเก นหาปิตกมฺเม. อสฺโสสิ โข โส วุฑฺฒปพฺพชิโต – ‘‘ภควา กิร อาตุมํ อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ¶ ภิกฺขุสเตหี’’ติ. อถ โข โส วุฑฺฒปพฺพชิโต เต ทารเก เอตทโวจ – ‘‘ภควา กิร, ตาตา, อาตุมํ อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตลเสหิ ภิกฺขุสเตหิ. คจฺฉถ ตุมฺเห, ตาตา, ขุรภณฺฑํ อาทาย นาฬิยาวาปเกน อนุฆรกํ อนุฆรกํ อาหิณฺฑถ, โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สํหรถ, ภควโต อาคตสฺส ยาคุปานํ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ตาตา’’ติ โข เต ทารกา ตสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา ขุรภณฺฑํ อาทาย นาฬิยาวาปเกน อนุฆรกํ อนุฆรกํ อาหิณฺฑนฺติ, โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สํหรนฺตา. มนุสฺสา เต ทารเก มฺชุเก ปฏิภาเนยฺยเก ปสฺสิตฺวา เยปิ น การาเปตุกามา เตปิ การาเปนฺติ, การาเปตฺวาปิ พหุํ เทนฺติ. อถ โข เต ทารกา พหุํ โลณมฺปิ, เตลมฺปิ, ตณฺฑุลมฺปิ, ขาทนียมฺปิ สํหรึสุ.
อถ ¶ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ¶ อาตุมา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อาตุมายํ วิหรติ ภุสาคาเร. อถ โข โส วุฑฺฒปพฺพชิโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปหูตํ ยาคุํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา ยาคุ’’นฺติ. ชานนฺตาปิ ¶ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ…เป… สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามาติ. อถ โข ภควา ตํ วุฑฺฒปพฺพชิตํ เอตทโวจ – ‘‘กุตายํ, ภิกฺขุ ยาคู’’ติ? อถ โข โส วุฑฺฒปพฺพชิโต ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา, ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ปพฺพชิโต อกปฺปิเย สมาทเปสฺสสิ [สมาทเปสิ (ก.)]. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘น, ภิกฺขเว, ปพฺพชิเตน อกปฺปิเย สมาทเปตพฺพํ, โย สมาทเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. น จ, ภิกฺขเว, นหาปิตปุพฺเพน ขุรภณฺฑํ ปริหริตพฺพํ. โย ปริหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’’ติ.
อถ โข ภควา อาตุมายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ ¶ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ พหุํ ผลขาทนียํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข ภควตา ผลขาทนียํ อนฺุาตํ, กึ อนนฺุาต’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลขาทนีย’’นฺติ.
๓๐๔. เตน ¶ โข ปน สมเยน สงฺฆิกานิ พีชานิ ปุคฺคลิกาย ภูมิยา โรปิยนฺติ, ปุคฺคลิกานิ พีชานิ สงฺฆิกาย ภูมิยา โรปิยนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สงฺฆิกานิ, ภิกฺขเว, พีชานิ ปุคฺคลิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานิ. ปุคฺคลิกานิ พีชานิ สงฺฆิกาย ภูมิยา โรปิตานิ ภาคํ ทตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานีติ.
วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๑๘๕. จตุมหาปเทสกถา
๓๐๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ กิสฺมิฺจิ กิสฺมิฺจิ าเน กุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชติ – ‘‘กึ นุ โข ภควตา อนฺุาตํ, กึ อนนฺุาต’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ ตฺเจ ¶ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ ¶ ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว ¶ น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติ.
อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กปฺปติ นุ โข ยาวกาลิเกน ยามกาลิกํ, น นุ โข กปฺปติ? กปฺปติ นุ โข ยาวกาลิเกน สตฺตาหกาลิกํ, น นุ โข กปฺปติ? กปฺปติ นุ โข ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกํ, น นุ โข กปฺปติ? กปฺปติ นุ โข ยามกาลิเกน สตฺตาหกาลิกํ, น นุ โข กปฺปติ? กปฺปติ นุ โข ยามกาลิเกน ยาวชีวิกํ, น นุ โข กปฺปติ? กปฺปติ นุ โข สตฺตาหกาลิเกน ยาวชีวิกํ, น นุ โข กปฺปตี’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยามกาลิกํ, ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปติ. ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ, ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปติ. ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ, ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปติ. ยามกาลิเกน, ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ, ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต น กปฺปติ. ยามกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ, ตทหุ ปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต ¶ น กปฺปติ. สตฺตาหกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยาวชีวิกํ ปฏิคฺคหิตํ, สตฺตาหํ กปฺปติ, สตฺตาหาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ.
จตุมหาปเทสกถา นิฏฺิตา.
เภสชฺชกฺขนฺธโก ฉฏฺโ.
๑๘๖. ตสฺสุทฺทานํ
สารทิเก ¶ วิกาเลปิ, วสํ มูเล ปิฏฺเหิ จ;
กสาเวหิ ปณฺณํ ผลํ, ชตุ โลณํ ฉกณฺจ.
จุณฺณํ จาลินิ มํสฺจ, อฺชนํ อุปปิสนี [อุปปึ สนี (สี.), อุปปึ สนํ (สฺยา.)];
อฺชนี อุจฺจาปารุตา, สลากา สลากานึ [สลาโกธนี (สี. สฺยา.)].
ถวิกํสพทฺธกํ ¶ สุตฺตํ, มุทฺธนิเตลนตฺถุ จ;
นตฺถุกรณี ธูมฺจ, เนตฺตฺจาปิธนตฺถวิ.
เตลปาเกสุ มชฺชฺจ, อติกฺขิตฺตํ อพฺภฺชนํ;
ตุมฺพํ เสทํ สมฺภารฺจ, มหา ภงฺโคทกํ ตถา.
ทกโกฏฺํ โลหิตฺจ, วิสาณํ ปาทพฺภฺชนํ;
ปชฺชํ สตฺถํ กสาวฺจ, ติลกกฺกํ กพฬิกํ.
โจฬํ ¶ สาสปกุฏฺฏฺจ, ธูม สกฺขริกาย จ;
วณเตลํ วิกาสิกํ, วิกฏฺจ ปฏิคฺคหํ.
คูถํ กโรนฺโต โลฬิฺจ, ขารํ มุตฺตหรีตกํ;
คนฺธา วิเรจนฺเจว, อจฺฉากฏํ กฏากฏํ.
ปฏิจฺฉาทนิ ¶ ¶ ปพฺภารา, อาราม สตฺตาเหน จ;
คุฬํ มุคฺคํ โสวีรฺจ, สามํปากา ปุนาปเจ.
ปุนานฺุาสิ ทุพฺภิกฺเข, ผลฺจ ติลขาทนี;
ปุเรภตฺตํ กายฑาโห, นิพฺพตฺตฺจ ภคนฺทลํ.
วตฺถิกมฺมฺจ สุปฺปิฺจ, มนุสฺสมํสเมว จ;
หตฺถิอสฺสา สุนโข จ, อหิ สีหฺจ ทีปิกํ [หตฺถิอสฺสสุนขาหิ, สีหพฺยคฺฆฺจ ทีปิกํ (สี.)].
อจฺฉตรจฺฉมํสฺจ, ปฏิปาฏิ จ ยาคุ จ;
ตรุณํ อฺตฺร คุฬํ, สุนิธาวสถาคารํ.
คงฺคา โกฏิสจฺจกถา, อมฺพปาลี จ ลิจฺฉวี;
อุทฺทิสฺส กตํ สุภิกฺขํ, ปุนเทว ปฏิกฺขิปิ.
เมโฆ ยโส เมณฺฑโก, จ โครสํ ปาเถยฺยเกน จ;
เกณิ อมฺโพ ชมฺพุ โจจ, โมจมธุมุทฺทิกสาลุกํ.
ผารุสกา ฑากปิฏฺํ, อาตุมายํ นหาปิโต;
สาวตฺถิยํ ผลํ พีชํ, กิสฺมึ าเน จ กาลิเกติ.
อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู เอกสตํ ฉวตฺถุ.
เภสชฺชกฺขนฺธโก นิฏฺิโต.