📜
๗. กถินกฺขนฺธโก
๑๘๗. กถินานุชานนา
๓๐๖. เตน ¶ ¶ ¶ ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ตึสมตฺตา ปาเวยฺยกา [ปาเยฺยกา (สี. สฺยา.)] ภิกฺขู, สพฺเพ อารฺิกา สพฺเพ ปิณฺฑปาติกา สพฺเพ ปํสุกูลิกา สพฺเพ เตจีวริกา สาวตฺถึ อาคจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย นาสกฺขึสุ สาวตฺถิยํ วสฺสูปนายิกํ สมฺภาเวตุํ; อนฺตรามคฺเค สาเกเต วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ. เต อุกฺกณฺิตรูปา วสฺสํ วสึสุ – อาสนฺเนว โน ภควา วิหรติ อิโต ฉสุ โยชเนสุ, น จ มยํ ลภาม ภควนฺตํ ทสฺสนายาติ. อถ โข เต ภิกฺขู วสฺสํวุฏฺา, เตมาสจฺจเยน กตาย ปวารณาย, เทเว วสฺสนฺเต, อุทกสงฺคเห อุทกจิกฺขลฺเล โอกปุณฺเณหิ จีวเรหิ กิลนฺตรูปา เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม, เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อาจิณฺณํ โข ปเนตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตุํ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิตฺถ, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิตฺถา’’ติ? ‘‘ขมนียํ, ภควา; ยาปนียํ, ภควา; สมคฺคา จ มยํ, ภนฺเต, สมฺโมทมานา อวิวทมานา วสฺสํ วสิมฺหา, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิมฺหา ¶ . อิธ มยํ, ภนฺเต, ตึสมตฺตา ปาเวยฺยกา ภิกฺขู สาวตฺถึ อาคจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย นาสกฺขิมฺหา สาวตฺถิยํ วสฺสูปนายิกํ สมฺภาเวตุํ, อนฺตรามคฺเค สาเกเต วสฺสํ อุปคจฺฉิมฺหา. เต มยํ, ภนฺเต, อุกฺกณฺิตรูปา วสฺสํ วสิมฺหา ¶ – ‘อาสนฺเนว โน ภควา วิหรติ อิโต ฉสุ โยชเนสุ, น จ มยํ ลภาม ภควนฺตํ ทสฺสนายา’ติ. อถ โข มยํ, ภนฺเต, วสฺสํวุฏฺา, เตมาสจฺจเยน กตาย ปวารณาย, เทเว วสฺสนฺเต, อุทกสงฺคเห อุทกจิกฺขลฺเล โอกปุณฺเณหิ จีวเรหิ กิลนฺตรูปา อทฺธานํ อาคตาติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ ¶ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ ¶ กถินํ [กินํ (สี. สฺยา.)] อตฺถริตุํ. อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺติ – อนามนฺตจาโร, อสมาทานจาโร, คณโภชนํ, ยาวทตฺถจีวรํ, โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท โส เนสํ ภวิสฺสตีติ. อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, อิมานิ ปฺจ กปฺปิสฺสนฺติ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กถินํ อตฺถริตพฺพํ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
๓๐๗. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ. สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ ¶ อตฺถริตุํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
๓๐๘. ‘‘เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺถตํ โหติ กถินํ, เอวํ อนตฺถตํ. กถฺจ ปน, ภิกฺขเว, อนตฺถตํ โหติ กถินํ? น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น โธวนมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น จีวรวิจารณมตฺเตน [น คณฺฏุสกรณมตฺเตน (ก.)] อตฺถตํ โหติ กถินํ, น เฉทนมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น พนฺธนมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น โอวฏฺฏิยกรณมตฺเตน [น โอวฏฺเฏยฺยกรณมตฺเตน (สี. สฺยา.), น โอวเทยฺยกรณมตฺเตน (ก.)] อตฺถตํ โหติ กถินํ, น กณฺฑุสกรณมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น ทฬฺหีกมฺมกรณมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น อนุวาตกรณมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น ปริภณฺฑกรณมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น โอวทฺเธยฺยกรณมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น กมฺพลมทฺทนมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น นิมิตฺตกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น ปริกถากเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น กุกฺกุกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น สนฺนิธิกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น นิสฺสคฺคิเยน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น อกปฺปกเตน อตฺถตํ ¶ โหติ กถินํ ¶ , น อฺตฺร สงฺฆาฏิยา อตฺถตํ โหติ กถินํ, น ¶ อฺตฺร อุตฺตราสงฺเคน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น อฺตฺร อนฺตรวาสเกน อตฺถตํ โหติ กถินํ, น อฺตฺร ปฺจเกน วา อติเรกปฺจเกน วา ตทเหว สฺฉินฺเนน สมณฺฑลีกเตน ¶ อตฺถตํ โหติ กถินํ, น อฺตฺร ปุคฺคลสฺส อตฺถารา อตฺถตํ โหติ กถินํ; สมฺมา เจว อตฺถตํ โหติ กถินํ, ตฺเจ นิสฺสีมฏฺโ อนุโมทติ, เอวมฺปิ อนตฺถตํ โหติ กถินํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนตฺถตํ โหติ กถินํ.
๓๐๙. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อตฺถตํ โหติ กถินํ? อหเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อหตกปฺเปน อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปิโลติกาย อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปํสุกูเลน อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปาปณิเกน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อนิมิตฺตกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อปริกถากเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อกุกฺกุกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อสนฺนิธิกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อนิสฺสคฺคิเยน อตฺถตํ โหติ กถินํ, กปฺปกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, สงฺฆาฏิยา อตฺถตํ โหติ กถินํ, อุตฺตราสงฺเคน อตฺถตํ โหติ กถินํ, อนฺตรวาสเกน อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปฺจเกน วา อติเรกปฺจเกน วา ตทเหว สฺฉินฺเนน สมณฺฑลีกเตน อตฺถตํ โหติ กถินํ, ปุคฺคลสฺส อตฺถารา อตฺถตํ โหติ กถินํ; สมฺมา เจ อตฺถตํ โหติ กถินํ, ตฺเจ สีมฏฺโ อนุโมทติ, เอวมฺปิ อตฺถตํ โหติ กถินํ ¶ . เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตฺถตํ โหติ กถินํ.
๓๑๐. ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อุพฺภตํ โหติ กถินํ? อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภาราย – ปกฺกมนนฺติกา, นิฏฺานนฺติกา, สนฺนิฏฺานนฺติกา, นาสนนฺติกา, สวนนฺติกา, อาสาวจฺเฉทิกา, สีมาติกฺกนฺติกา, สหุพฺภารา’’ติ [สอุพฺภาราติ (ก.)].
กถินานุชานนา นิฏฺิตา.
๑๘๘. อาทายสตฺตกํ
๓๑๑. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน กตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ ‘‘อุพฺภตํ ¶ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ ¶ . โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
อาทายสตฺตกํ นิฏฺิตํ […ทุติยํ นิฏฺิตํ (ก.)].
๑๘๙. สมาทายสตฺตกํ
๓๑๒. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน กตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ ¶ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
สมาทายสตฺตกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๐. อาทายฉกฺกํ
๓๑๓. ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺสํ ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ ¶ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
อาทายฉกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๑. สมาทายฉกฺกํ
๓๑๔. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ ¶ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ ¶ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
สมาทายฉกฺกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๒. อาทายปนฺนรสกํ
๓๑๕. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ –
‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ ¶ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ ¶ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ ¶ . โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ¶ . ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ ¶ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวรํ อาทาย ¶ ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ สมฺภุณาติ ¶ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
ฉกฺกํ.
อาทายปนฺนรสกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๓. สมาทายปนฺนรสกาทิ
๓๑๖. ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ…เป….
(อาทายวารสทิสํ ¶ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ.)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ อาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร…เป….
(สมาทายวารสทิสํ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ.)
สมาทายปนฺนรสกาทิ นิฏฺิตา.
๑๙๔. วิปฺปกตสมาทายปนฺนรสกํ
๓๑๗. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ¶ ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส ¶ เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ ¶ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ติกํ.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ¶ . โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก ¶ กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน วิปฺปกตจีวรํ สมาทาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
ฉกฺกํ.
วิปฺปกตสมาทายปนฺนรสกํ นิฏฺิตํ.
อาทายภาณวาโร.
๑๙๕. อนาสาโทฬสกํ
๓๑๘. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ ¶ . ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส ¶ เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ ¶ . ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺสนฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ¶ ¶ ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
อนาสาโทฬสกํ [อนาสาทฺวาทสกํ (สี.)] นิฏฺิตํ.
๑๙๖. อาสาโทฬสกํ
๓๑๙. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ¶ พหิสีมคโต ¶ ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ¶ ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘ยโต ตสฺมึ อาวาเส อุพฺภตํ กถินํ, อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ ¶ , อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘ยโต ตสฺมึ อาวาเส อุพฺภตํ กถินํ, อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘ยโต ตสฺมึ อาวาเส อุพฺภตํ กถินํ, อิเธวิมํ จีวราสํ ¶ ปยิรุปาสิสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘ยโต ตสฺมึ อาวาเส อุพฺภตํ กถินํ, อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ¶ ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร สุณาติ – ‘‘อุพฺภตํ กิร ตสฺมึ อาวาเส กถิน’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สวนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน จีวราสาย ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อาสาย ลภติ, อนาสาย น ลภติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. โส ¶ กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ – สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
อาสาโทฬสกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๗. กรณียโทฬสกํ
๓๒๐. ภิกฺขุ ¶ ¶ ¶ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ ¶ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย ¶ น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ ¶ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ ¶ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก ¶ กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ ¶ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺิเตน; เนวสฺส โหติ – ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ, น ปนสฺส โหติ – ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร.
กรณียโทฬสกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๘. อปวิลายนนวกํ
๓๒๑. ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ จีวรปฏิวีสํ อปวิลายมาโน [อปวินยมาโน (สี.), อปจินยมาโน (ก.)]. ตเมนํ ทิสงฺคตํ ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘กหํ ตฺวํ, อาวุโส, วสฺสํวุฏฺโ, กตฺถ จ เต จีวรปฏิวีโส’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺโมฺหิ. ตตฺถ จ เม จีวรปฏิวีโส’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ จีวรํ อาหร, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. โส ตํ อาวาสํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘กหํ เม, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ? เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ เต, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส; กหํ คมิสฺสสี’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกํ นาม [อมุกฺจ (ก.)] อาวาสํ คมิสฺสามิ, ตตฺถ เม ภิกฺขู จีวรํ กริสฺสนฺตี’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา อคมาสิ. มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ…เป… ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ ¶ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ…เป… ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
๓๒๒. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ จีวรปฏิวีสํ อปวิลายมาโน. ตเมนํ ทิสํคตํ ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘กหํ ตฺวํ, อาวุโส, วสฺสํวุฏฺโ ¶ , กตฺถ จ เต จีวรปฏิวีโส’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺโมฺหิ, ตตฺถ จ เม จีวรปฏิวีโส’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ จีวรํ อาหร, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. โส ตํ อาวาสํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘กหํ เม, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ? เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ เต, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ. โส ตํ จีวรํ อาทาย ตํ อาวาสํ คจฺฉติ. ตเมนํ อนฺตรามคฺเค ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘อาวุโส, กหํ คมิสฺสสี’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ, ตตฺถ เม ภิกฺขู จีวรํ กริสฺสนฺตี’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา อคมาสิ, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ¶ ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ จีวรปฏิวีสํ อปวิลายมาโน. ตเมนํ ทิสํคตํ ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘กหํ ตฺวํ, อาวุโส, วสฺสํวุฏฺโ, กตฺถ จ เต จีวรปฏิวีโส’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺโมฺหิ, ตตฺถ จ เม จีวรปฏิวีโส’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ จีวรํ อาหร, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. โส ตํ อาวาสํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘กหํ เม, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ? เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ เต, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ. โส ตํ จีวรํ อาทาย ตํ อาวาสํ คจฺฉติ. ตเมนํ อนฺตรามคฺเค ภิกฺขู ¶ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘อาวุโส, กหํ คมิสฺสสี’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ, ตตฺถ เม ภิกฺขู จีวรํ กริสฺสนฺตี’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา อคมาสิ, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ…เป… ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ¶ . โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
๓๒๓. ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ จีวรปฏิวีสํ อปวิลายมาโน. ตเมนํ ทิสํคตํ ภิกฺขู ปุจฺฉนฺติ – ‘‘กหํ ตฺวํ, อาวุโส, วสฺสํวุฏฺโ, กตฺถ จ เต จีวรปฏิวีโส’’ติ? โส เอวํ วเทติ – ‘‘อมุกสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺโมฺหิ, ตตฺถ จ เม จีวรปฏิวีโส’’ติ. เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ จีวรํ อาหร, มยํ เต อิธ จีวรํ กริสฺสามา’’ติ. โส ตํ อาวาสํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘กหํ เม, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ? เต เอวํ วทนฺติ – ‘‘อยํ เต, อาวุโส, จีวรปฏิวีโส’’ติ. โส ตํ จีวรํ อาทาย ตํ อาวาสํ คจฺฉติ. ตสฺส ตํ อาวาสํ คตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ…เป… ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ทิสํคมิโก ปกฺกมติ…เป… ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
อปวิลายนนวกํ นิฏฺิตํ.
๑๙๙. ผาสุวิหารปฺจกํ
๓๒๔. ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ผาสุวิหาริโก จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ ¶ , โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ ¶ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ ¶ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ผาสุวิหาริโก จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺานนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ผาสุวิหาริโก จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน ¶ เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, ปจฺเจสฺส’’นฺติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน ผาสุวิหาริโก จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร – ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ พหิทฺธา กถินุทฺธารํ วีตินาเมติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สีมาติกฺกนฺติโก ¶ กถินุทฺธาโร.
ภิกฺขุ ¶ อตฺถตกถิโน ผาสุวิหาริโก จีวรํ อาทาย ปกฺกมติ – ‘‘อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, อมุกํ นาม อาวาสํ คมิสฺสามิ; ตตฺถ เม ผาสุ ภวิสฺสติ วสิสฺสามิ, โน เจ ¶ เม ผาสุ ภวิสฺสติ, ปจฺเจสฺส’’นฺติ. โส พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กาเรติ. โส กตจีวโร ‘‘ปจฺเจสฺสํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ สมฺภุณาติ กถินุทฺธารํ. ตสฺส ภิกฺขุโน สห ภิกฺขูหิ กถินุทฺธาโร.
ผาสุวิหารปฺจกํ นิฏฺิตํ.
๒๐๐. ปลิโพธาปลิโพธกถา
๓๒๕. ทฺเวเม ¶ , ภิกฺขเว, กถินสฺส ปลิโพธา, ทฺเว อปลิโพธา. กตเม จ, ภิกฺขเว, ทฺเว กถินสฺส ปลิโพธา? อาวาสปลิโพโธ จ จีวรปลิโพโธ จ. กถฺจ, ภิกฺขเว, อาวาสปลิโพโธ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วสติ วา ตสฺมึ อาวาเส, สาเปกฺโข วา ปกฺกมติ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อาวาสปลิโพโธ โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, จีวรปลิโพโธ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน จีวรํ อกตํ วา โหติ วิปฺปกตํ วา, จีวราสา วา อนุปจฺฉินฺนา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จีวรปลิโพโธ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว กถินสฺส ปลิโพธา.
กตเม จ, ภิกฺขเว, ทฺเว กถินสฺส อปลิโพธา? อาวาสอปลิโพโธ จ จีวรอปลิโพโธ จ. กถฺจ, ภิกฺขเว, อาวาสอปลิโพโธ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปกฺกมติ ตมฺหา อาวาสา จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข [อนเปกฺเขน (ก.)] ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, อาวาสอปลิโพโธ โหติ. กถฺจ, ภิกฺขเว, จีวรอปลิโพโธ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน จีวรํ กตํ วา โหติ, นฏฺํ วา วินฏฺํ วา ทฑฺฒํ ¶ วา, จีวราสา วา อุปจฺฉินฺนา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จีวรอปลิโพโธ โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว กถินสฺส อปลิโพธาติ.
ปลิโพธาปลิโพธกถา นิฏฺิตา.
กถินกฺขนฺธโก นิฏฺิโต สตฺตโม.
๒๐๑. ตสฺสุทฺทานํ
ตึส ¶ ¶ ปาเวยฺยกา ภิกฺขู, สาเกตุกฺกณฺิตา วสุํ;
วสฺสํวุฏฺโกปุณฺเณหิ, อคมุํ ชินทสฺสนํ.
อิทํ วตฺถุ กถินสฺส, กปฺปิสฺสนฺติ จ ปฺจกา;
อนามนฺตา อสมาจารา, ตเถว คณโภชนํ.
ยาวทตฺถฺจ อุปฺปาโท, อตฺถตานํ ภวิสฺสติ;
ตฺติ เอวตฺถตฺเจว, เอวฺเจว อนตฺถตํ.
อุลฺลิขิ โธวนา เจว, วิจารณฺจ เฉทนํ;
พนฺธโน วฏฺฏิ กณฺฑุส, ทฬฺหีกมฺมานุวาติกา.
ปริภณฺฑํ ¶ โอวทฺเธยฺยํ, มทฺทนา นิมิตฺตํ กถา;
กุกฺกุ สนฺนิธิ นิสฺสคฺคิ, น กปฺปฺตฺร เต ตโย.
อฺตฺร ปฺจาติเรเก, สฺฉินฺเนน สมณฺฑลี;
นาฺตฺร ปุคฺคลา สมฺมา, นิสฺสีมฏฺโนุโมทติ.
กถินานตฺถตํ โหติ, เอวํ พุทฺเธน เทสิตํ;
อหตากปฺปปิโลติ, ปํสุ ปาปณิกาย จ.
อนิมิตฺตาปริกถา, อกุกฺกุ จ อสนฺนิธิ;
อนิสฺสคฺคิ กปฺปกเต, ตถา ติจีวเรน จ.
ปฺจเก วาติเรเก วา, ฉินฺเน สมณฺฑลีกเต;
ปุคฺคลสฺสตฺถารา ¶ สมฺมา, สีมฏฺโ อนุโมทติ.
เอวํ ¶ กถินตฺถรณํ, อุพฺภารสฺสฏฺมาติกา;
ปกฺกมนนฺติ นิฏฺานํ, สนฺนิฏฺานฺจ นาสนํ.
สวนํ ¶ อาสาวจฺเฉทิ, สีมา สหุพฺภารฏฺมี;
กตจีวรมาทาย, ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ คจฺฉติ.
ตสฺส ตํ กถินุทฺธารา,เอ โหติ ปกฺกมนนฺติโก;
อาทาย จีวรํ ยาติ, นิสฺสีเม อิทํ จินฺตยิ.
‘‘กาเรสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ, นิฏฺาเน กถินุทฺธาโร;
อาทาย นิสฺสีมํ เนว, ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ มานโส.
ตสฺส ตํ กถินุทฺธาโร, สนฺนิฏฺานนฺติโก ภเว;
อาทาย จีวรํ ยาติ, นิสฺสีเม อิทํ จินฺตยิ.
‘‘กาเรสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ, กยิรํ ตสฺส นสฺสติ;
ตสฺส ตํ กถินุทฺธาโร, ภวติ นาสนนฺติโก.
อาทาย ยาติ ‘‘ปจฺเจสฺสํ’’, พหิ กาเรติ จีวรํ;
กตจีวโร สุณาติ, อุพฺภตํ กถินํ ตหึ.
ตสฺส ตํ กถินุทฺธาโร, ภวติ สวนนฺติโก;
อาทาย ยาติ ‘‘ปจฺเจสฺสํ’’, พหิ กาเรติ จีวรํ.
กตจีวโร พหิทฺธา, นาเมติ กถินุทฺธารํ;
ตสฺส ตํ กถินุทฺธาโร, สีมาติกฺกนฺติโก ภเว.
อาทาย ยาติ ‘‘ปจฺเจสฺสํ’’, พหิ กาเรติ จีวรํ;
กตจีวโร ¶ ปจฺเจสฺสํ, สมฺโภติ กถินุทฺธารํ.
ตสฺส ¶ ตํ กถินุทฺธาโร, สห ภิกฺขูหิ ชายติ;
อาทาย จ สมาทาย, สตฺต-สตฺตวิธา คติ.
ปกฺกมนนฺติกา นตฺถิ, ฉกฺเก วิปฺปกเต [ฉฏฺเ วิปฺปกตา (สี.), ฉจฺจา วิปฺปกถา (ก.)] คติ;
อาทาย นิสฺสีมคตํ, กาเรสฺสํ อิติ ชายติ.
นิฏฺานํ สนฺนิฏฺานฺจ, นาสนฺจ อิเม ตโย;
อาทาย ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ, พหิสีเม กโรมิติ.
นิฏฺานํ สนฺนิฏฺานมฺปิ, นาสนมฺปิ อิทํ ตโย;
อนธิฏฺิเตน เนวสฺส, เหฏฺา ตีณิ นยาวิธิ.
อาทาย ¶ ¶ ยาติ ปจฺเจสฺสํ, พหิสีเม กโรมิติ;
‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ กาเรติ, นิฏฺาเน กถินุทฺธาโร.
สนฺนิฏฺานํ นาสนฺจ, สวนสีมาติกฺกมา;
สห ภิกฺขูหิ ชาเยถ, เอวํ ปนฺนรสํ คติ.
สมาทาย วิปฺปกตา, สมาทาย ปุนา ตถา;
อิเม เต จตุโร วารา, สพฺเพ ปนฺนรสวิธิ.
อนาสาย จ อาสาย, กรณีโย จ เต ตโย;
นยโต ตํ วิชาเนยฺย, ตโย ทฺวาทส ทฺวาทส.
อปวิลานา นเวตฺถ [อปวิลายมาเนว (สฺยา.), อปวินา นว เจตฺถ (สี.)], ผาสุ ปฺจวิธา ตหึ;
ปลิโพธาปลิโพธา, อุทฺทานํ นยโต กตนฺติ.
อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู โทฬสกเปยฺยาลมุขานิ เอกสตํ อฏฺารส.
กถินกฺขนฺธโก นิฏฺิโต.