📜
๘. จีวรกฺขนฺธโก
๒๐๒. ชีวกวตฺถุ
๓๒๖. เตน ¶ ¶ ¶ ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. เตน โข ปน สมเยน เวสาลี อิทฺธา เจว โหติ ผิตา [ผีตา (พหูสุ)] จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ สตฺต จ ปาสาทสตานิ สตฺต จ ปาสาทา; สตฺต จ กูฏาคารสหสฺสานิ สตฺต จ กูฏาคารสตานิ สตฺต จ กูฏาคารานิ; สตฺต จ อารามสหสฺสานิ สตฺต จ อารามสตานิ สตฺต จ อารามา; สตฺต จ โปกฺขรณีสหสฺสานิ สตฺต จ โปกฺขรณีสตานิ สตฺต จ โปกฺขรณิโย; อมฺพปาลี จ คณิกา อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา, ปทกฺขิณา [ปทกฺขา (สฺยา.)] นจฺเจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฏา อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปฺาสาย จ รตฺตึ คจฺฉติ; ตาย จ เวสาลี ภิยฺโยโสมตฺตาย อุปโสภติ. อถ โข ราชคหโก เนคโม เวสาลึ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยน. อทฺทสา โข ราชคหโก เนคโม เวสาลึ อิทฺธฺเจว ผิตฺจ พหุชนฺจ อากิณฺณมนุสฺสฺจ สุภิกฺขฺจ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ สตฺต จ ปาสาทสตานิ สตฺต จ ปาสาเท; สตฺต จ กูฏาคารสหสฺสานิ สตฺต จ กูฏาคารสตานิ สตฺต จ กูฏาคารานิ; สตฺต จ อารามสหสฺสานิ สตฺต จ อารามสตานิ สตฺต จ อาราเม; สตฺต จ โปกฺขรณีสหสฺสานิ สตฺต จ โปกฺขรณีสตานิ สตฺต จ โปกฺขรณิโย ¶ ; อมฺพปาลิฺจ คณิกํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ, ปทกฺขิณํ [ปทกฺขํ (สฺยา.)] นจฺเจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฏํ อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปฺาสาย จ รตฺตึ คจฺฉนฺตึ, ตาย จ เวสาลึ ภิยฺโยโสมตฺตาย อุปโสภนฺตึ.
๓๒๗. อถ โข ราชคหโก เนคโม เวสาลิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคฺฉิ. เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ ¶ เสนิยํ พิมฺพิสารํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘เวสาลี, เทว, อิทฺธา เจว ผิตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ…เป… ตาย จ เวสาลี ภิยฺโยโสมตฺตาย อุปโสภติ. สาธุ, เทว, มยมฺปิ คณิกํ วุฏฺาเปสฺสามา’’ติ [วุฏฺาเปยฺยาม (ก.)]. ‘‘เตน หิ, ภเณ, ตาทิสึ กุมารึ ชานาถ ยํ ตุมฺเห คณิกํ วุฏฺาเปยฺยาถา’’ติ. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สาลวตี นาม ¶ กุมารี อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา. อถ โข ราชคหโก เนคโม สาลวตึ กุมารึ คณิกํ ¶ วุฏฺาเปสิ. อถ โข สาลวตี คณิกา นจิรสฺเสว ปทกฺขิณา อโหสิ นจฺเจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฏา อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปฏิสเตน จ รตฺตึ คจฺฉติ. อถ โข สาลวตี คณิกา นจิรสฺเสว คพฺภินี อโหสิ. อถ โข สาลวติยา คณิกาย เอตทโหสิ – ‘‘อิตฺถี โข คพฺภินี ปุริสานํ อมนาปา. สเจ มํ โกจิ ชานิสฺสติ สาลวตี คณิกา คพฺภินีติ, สพฺโพ เม สกฺกาโร ภฺชิสฺสติ [ ปริหายิสฺสติ (สี. สฺยา.)]. ยํนูนาหํ คิลานํ ปฏิเวเทยฺย’’นฺติ. อถ โข สาลวตี คณิกา โทวาริกํ อาณาเปสิ – ‘‘มา, ภเณ โทวาริก, โกจิ ปุริโส ปาวิสิ. โย จ มํ ปุจฺฉติ, ‘คิลานา’ติ ปฏิเวเทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส โทวาริโก สาลวติยา คณิกาย ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข สาลวตี คณิกา ตสฺส คพฺภสฺส ปริปากมนฺวาย ปุตฺตํ วิชายิ. อถ โข สาลวตี คณิกา ทาสึ อาณาเปสิ – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ ทารกํ กตฺตรสุปฺเป ปกฺขิปิตฺวา นีหริตฺวา สงฺการกูเฏ ฉฑฺเฑหี’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข สา ทาสี สาลวติยา คณิกาย ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ทารกํ กตฺตรสุปฺเป ปกฺขิปิตฺวา นีหริตฺวา สงฺการกูเฏ ฉฑฺเฑสิ.
๓๒๘. เตน โข ปน สมเยน อภโย นาม ราชกุมาโร กาลสฺเสว ราชุปฏฺานํ คจฺฉนฺโต อทฺทส ตํ ทารกํ กาเกหิ สมฺปริกิณฺณํ ¶ , ทิสฺวาน มนุสฺเส ปุจฺฉิ – ‘‘กึ เอตํ, ภเณ, กาเกหิ สมฺปริกิณฺณ’’นฺติ? ‘‘ทารโก, เทวา’’ติ. ‘‘ชีวติ, ภเณ’’ติ? ‘‘ชีวติ, เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ, ตํ ทารกํ อมฺหากํ อนฺเตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ เทถ โปเสตุ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข เต มนุสฺสา อภยสฺส ราชกุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ¶ ทารกํ อภยสฺส ราชกุมารสฺส อนฺเตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ อทํสุ – ‘‘โปเสถา’’ติ. ตสฺส ชีวตีติ ‘ชีวโก’ติ นามํ อกํสุ. กุมาเรน โปสาปิโตติ ‘โกมารภจฺโจ’ติ นามํ อกํสุ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ นจิรสฺเสว วิฺุตํ ปาปุณิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน อภโย ราชกุมาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อภยํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘กา เม, เทว, มาตา, โก ปิตา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข เต, ภเณ ชีวก, มาตรํ น ชานามิ; อปิ จาหํ เต ปิตา; มยาสิ [มยาปิ (ก.)] โปสาปิโต’’ติ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ ¶ โข ราชกุลานิ น สุกรานิ อสิปฺเปน อุปชีวิตุํ. ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิกฺเขยฺย’’นฺติ.
๓๒๙. เตน โข ปน สมเยน ตกฺกสิลายํ [ตกฺกสีลายํ (ก.)] ทิสาปาโมกฺโข เวชฺโช ปฏิวสติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ อภยํ ราชกุมารํ อนาปุจฺฉา เยน ตกฺกสิลา เตน ¶ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน ตกฺกสิลา, เยน เวชฺโช เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อาจริย, สิปฺปํ สิกฺขิตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ ¶ ชีวก, สิกฺขสฺสู’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ พหฺุจ คณฺหาติ ลหฺุจ คณฺหาติ สุฏฺุ จ อุปธาเรติ, คหิตฺจสฺส น สมฺมุสฺสติ [น ปมุสฺสติ (สี. สฺยา.)]. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน เอตทโหสิ – ‘‘อหํ, โข พหฺุจ คณฺหามิ ลหฺุจ คณฺหามิ สุฏฺุ จ อุปธาเรมิ, คหิตฺจ เม น สมฺมุสฺสติ, สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส, นยิมสฺส สิปฺปสฺส อนฺโต ปฺายติ. กทา อิมสฺส สิปฺปสฺส อนฺโต ปฺายิสฺสตี’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน โส เวชฺโช เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, อาจริย, พหฺุจ คณฺหามิ ลหฺุจ คณฺหามิ สุฏฺุ จ อุปธาเรมิ, คหิตฺจ เม น สมฺมุสฺสติ, สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส, นยิมสฺส สิปฺปสฺส อนฺโต ปฺายติ. กทา อิมสฺส สิปฺปสฺส อนฺโต ปฺายิสฺสตี’’ติ? ‘‘เตน หิ, ภเณ ชีวก, ขณิตฺตึ อาทาย ตกฺกสิลาย สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑิตฺวา ยํ กิฺจิ อเภสชฺชํ ปสฺเสยฺยาสิ ตํ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตสฺส เวชฺชสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ขณิตฺตึ อาทาย ตกฺกสิลาย ¶ สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑนฺโต น กิฺจิ อเภสชฺชํ อทฺทส. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน โส เวชฺโช เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อาหิณฺฑนฺโตมฺหิ, อาจริย, ตกฺกสิลาย สมนฺตา โยชนํ, น กิฺจิ [อาหิณฺฏนฺโต น กิฺจิ (ก.)] อเภสชฺชํ อทฺทส’’นฺติ. ‘‘สุสิกฺขิโตสิ ¶ , ภเณ ชีวก. อลํ เต เอตฺตกํ ชีวิกายา’’ติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ ปาทาสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ อาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ตํ ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ อนฺตรามคฺเค สาเกเต ปริกฺขยํ อคมาสิ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข มคฺคา กนฺตารา อปฺโปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถยฺเยน คนฺตุํ. ยํนูนาหํ ปาเถยฺยํ ปริเยเสยฺย’’นฺติ.
ชีวกวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๓. เสฏฺิภริยาวตฺถุ
๓๓๐. เตน ¶ โข ปน สมเยน สาเกเต เสฏฺิภริยาย สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ โหติ. พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. พหุํ หิรฺํ อาทาย อคมํสุ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ สาเกตํ ปวิสิตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ – ‘‘โก, ภเณ, คิลาโน, กํ ติกิจฺฉามี’’ติ? ‘‘เอติสฺสา, อาจริย, เสฏฺิภริยาย สตฺตวสฺสิโก ¶ สีสาพาโธ; คจฺฉ, อาจริย, เสฏฺิภริยํ ติกิจฺฉาหี’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน เสฏฺิสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โทวาริกํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ โทวาริก, เสฏฺิภริยาย ปาวท – ‘เวชฺโช, อยฺเย, อาคโต, โส ตํ ทฏฺุกาโม’’’ติ. ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติ โข โส โทวาริโก ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสฏฺิภริยา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺิภริยํ เอตทโวจ – ‘‘เวชฺโช ¶ , อยฺเย, อาคโต; โส ตํ ทฏฺุกาโม’’ติ. ‘‘กีทิโส, ภเณ โทวาริก, เวชฺโช’’ติ? ‘‘ทหรโก, อยฺเย’’ติ. ‘‘อลํ, ภเณ โทวาริก, กึ เม ทหรโก เวชฺโช กริสฺสติ? พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา ¶ นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. พหุํ หิรฺํ อาทาย อคมํสู’’ติ. อถ โข โส โทวาริโก เยน ชีวโก โกมารภจฺโจ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘เสฏฺิภริยา, อาจริย, เอวมาห – ‘อลํ, ภเณ โทวาริก, กึ เม ทหรโก เวชฺโช กริสฺสติ? พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. พหุํ หิรฺํ อาทาย อคมํสู’’’ติ. ‘‘คจฺฉ, ภเณ โทวาริก, เสฏฺิภริยาย ปาวท – ‘เวชฺโช, อยฺเย, เอวมาห – มา กิร, อยฺเย, ปุเร กิฺจิ อทาสิ. ยทา อโรคา อโหสิ ตทา ยํ อิจฺเฉยฺยาสิ ตํ ทชฺเชยฺยาสี’’’ติ. ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติ โข โส โทวาริโก ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสฏฺิภริยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺิภริยํ เอตทโวจ – ‘‘เวชฺโช, อยฺเย, เอวมาห – ‘มา กิร, อยฺเย, ปุเร กิฺจิ อทาสิ. ยทา อโรคา อโหสิ ตทา ยํ อิจฺเฉยฺยาสิ ตํ ทชฺเชยฺยาสี’’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ โทวาริก, เวชฺโช อาคจฺฉตู’’ติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส โทวาริโก เสฏฺิภริยาย ปฏิสฺสุตฺวา เยน ชีวโก โกมารภจฺโจ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘เสฏฺิภริยา ตํ, อาจริย, ปกฺโกสตี’’ติ ¶ .
อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน เสฏฺิภริยา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺิภริยาย วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา เสฏฺิภริยํ เอตทโวจ – ‘‘ปสเตน, อยฺเย, สปฺปินา อตฺโถ’’ติ ¶ . อถ โข เสฏฺิภริยา ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปสตํ สปฺปึ ทาเปสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ ปสตํ สปฺปึ นานาเภสชฺเชหิ นิปฺปจิตฺวา เสฏฺิภริยํ มฺจเก อุตฺตานํ นิปาเตตฺวา [นิปชฺชาเปตฺวา (สี. สฺยา.)] นตฺถุโต อทาสิ. อถ โข ตํ สปฺปึ นตฺถุโต ทินฺนํ มุขโต อุคฺคฺฉิ. อถ โข เสฏฺิภริยา ปฏิคฺคเห นิฏฺุภิตฺวา ทาสึ อาณาเปสิ – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ สปฺปึ ปิจุนา คณฺหาหี’’ติ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ [อจฺฉริยํ วต โภ (สฺยา.)] ยาว ลูขายํ ฆรณี, ยตฺร หิ นาม อิมํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ สปฺปึ ปิจุนา คาหาเปสฺสติ. พหุกานิ ¶ จ เม มหคฺฆานิ [มหคฺฆานิ มหคฺฆานิ (สี. สฺยา.)] เภสชฺชานิ อุปคตานิ. กิมฺปิ มายํ กิฺจิ [กฺจิ (สฺยา.)] เทยฺยธมฺมํ ทสฺสตี’’ติ. อถ โข เสฏฺิภริยา ชีวกสฺส ¶ โกมารภจฺจสฺส วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาจริย, วิมโนสี’’ติ? อิธ เม เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ ยาว ลูขายํ ธรณี, ยตฺร หิ นาม อิมํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ สปฺปึ ปิจุนา คาหาเปสฺสติ. พหุกานิ จ เม มหคฺฆานิ สชฺชานิ อุปคตานิ. กิมฺปิ มายํ กิฺจิ เทยฺยธมฺมํ ทสฺสตี’’ติ. ‘‘มยํ ¶ โข, อาจริย, อาคาริกา นาม อุปชานาเมตสฺส สํยมสฺส. วรเมตํ สปฺปิ ทาสานํ วา กมฺมกรานํ วา ปาทพฺภฺชนํ วา ปทีปกรเณ วา อาสิตฺตํ. มา โข ตฺวํ, อาจริย, วิมโน อโหสิ. น เต เทยฺยธมฺโม หายิสฺสตี’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เสฏฺิภริยาย สตฺตวสฺสิกํ สีสาพาธํ เอเกเนว นตฺถุกมฺเมน อปกฑฺฒิ. อถ โข เสฏฺิภริยา อโรคา สมานา ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส จตฺตาริ สหสฺสานิ ปาทาสิ. ปุตฺโต – มาตา เม อโรคา ิตาติ จตฺตาริ สหสฺสานิ ปาทาสิ. สุณิสา – สสฺสุ เม อโรคา ิตาติ จตฺตาริ สหสฺสานิ ปาทาสิ. เสฏฺิ คหปติ – ภริยา เม อโรคา ิตาติ จตฺตาริ สหสฺสานิ ปาทาสิ ทาสฺจ ทาสิฺจ อสฺสรถฺจ.
อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตานิ โสฬสสหสฺสานิ อาทาย ทาสฺจ ทาสิฺจ อสฺสรถฺจ เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน ราชคหํ เยน อภโย ราชกุมาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อภยํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ เม, เทว, ปมกมฺมํ โสฬสสหสฺสานิ ทาโส จ ทาสี จ อสฺสรโถ จ. ปฏิคฺคณฺหาตุ เม เทโว โปสาวนิก’’นฺติ. ‘‘อลํ, ภเณ ชีวก; ตุยฺหเมว โหตุ. อมฺหากฺเว อนฺเตปุเร นิเวสนํ มาเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ อภยสฺส ราชกุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อภยสฺส ราชกุมารสฺส อนฺเตปุเร นิเวสนํ มาเปสิ.
เสฏฺิภริยาวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๔. พิมฺพิสารราชวตฺถุ
๓๓๑. เตน ¶ ¶ โข ปน สมเยน รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ภคนฺทลาพาโธ โหติ. สาฏกา โลหิเตน มกฺขิยนฺติ. เทวิโย ทิสฺวา อุปฺปณฺเฑนฺติ – ‘‘อุตุนี ทานิ เทโว, ปุปฺผํ เทวสฺส อุปฺปนฺนํ, น จิรํ [นจิรสฺเสว (สฺยา.)] เทโว วิชายิสฺสตี’’ติ. เตน ราชา มงฺกุ โหติ ¶ . อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อภยํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, ภเณ อภย, ตาทิโส อาพาโธ, สาฏกา โลหิเตน มกฺขิยนฺติ, เทวิโย มํ ทิสฺวา อุปฺปณฺเฑนฺติ – ‘อุตุนี ทานิ เทโว, ปุปฺผํ เทวสฺส อุปฺปนฺนํ, น จิรํ เทโว วิชายิสฺสตี’ติ. อิงฺฆ, ภเณ อภย, ตาทิสํ เวชฺชํ ชานาหิ โย มํ ติกิจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘อยํ, เทว, อมฺหากํ ชีวโก เวชฺโช ตรุโณ ภทฺรโก. โส เทวํ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ อภย, ชีวกํ ¶ เวชฺชํ อาณาเปหิ; โส มํ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติ. อถ โข อภโย ราชกุมาโร ชีวกํ โกมารภจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชีวก, ราชานํ ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ อภยสฺส ราชกุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา นเขน เภสชฺชํ อาทาย เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘อาพาธํ เต, เทว, ปสฺสามา’’ติ [ปสฺสามีติ (สฺยา.)]. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ภคนฺทลาพาธํ เอเกเนว อาเลเปน อปกฑฺฒิ. อถ โข ราชา มาคโธ ¶ เสนิโย พิมฺพิสาโร อโรโค สมาโน ปฺจ อิตฺถิสตานิ สพฺพาลงฺการํ ภูสาเปตฺวา โอมฺุจาเปตฺวา ปฺุชํ การาเปตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘เอตํ, ภเณ ชีวก, ปฺจนฺนํ อิตฺถิสตานํ สพฺพาลงฺการํ ตุยฺหํ โหตู’’ติ. ‘‘อลํ, เทว, อธิการํ เม เทโว สรตู’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภเณ ชีวก, มํ อุปฏฺห, อิตฺถาคารฺจ, พุทฺธปฺปมุขฺจ ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปจฺจสฺโสสิ.
พิมฺพิสารราชวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๕. ราชคหเสฏฺิวตฺถุ
๓๓๒. เตน โข ปน สมเยน ราชคหกสฺส เสฏฺิสฺส สตฺตวสฺสิโก สีสาพาโธ โหติ. พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. พหุํ หิรฺํ อาทาย อคมํสุ. อปิ จ, เวชฺเชหิ ปจฺจกฺขาโต โหติ. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ – ‘‘ปฺจมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตี’’ติ. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ ¶ – ‘‘สตฺตมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตี’’ติ. อถ ¶ โข ราชคหกสฺส เนคมสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข เสฏฺิ คหปติ พหูปกาโร รฺโ เจว เนคมสฺส จ. อปิ จ, เวชฺเชหิ ปจฺจกฺขาโต. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ – ‘ปฺจมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตี’ติ. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ – ‘สตฺตมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตี’ติ. อยฺจ รฺโ ชีวโก เวชฺโช ตรุโณ ภทฺรโก. ยํนูน มยํ ราชานํ ชีวกํ เวชฺชํ ยาเจยฺยาม เสฏฺึ คหปตึ ¶ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. อถ โข ราชคหโก เนคโม เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, เทว, เสฏฺิ คหปติ พหูปกาโร เทวสฺส เจว เนคมสฺส จ; อปิ จ, เวชฺเชหิ ปจฺจกฺขาโต. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ – ปฺจมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตีติ. เอกจฺเจ เวชฺชา เอวมาหํสุ – สตฺตมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตีติ. สาธุ เทโว ชีวกํ เวชฺชํ อาณาเปตุ เสฏฺึ คหปตึ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ ¶ .
อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ชีวกํ โกมารภจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชีวก, เสฏฺึ คหปตึ ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสฏฺิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสฏฺิสฺส คหปติสฺส วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา เสฏฺึ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘สเจ ตฺวํ, คหปติ, อโรโค ภเวยฺยาสิ [สจาหํ ตํ คหปติ อโรคาเปยฺยํ (สี.), สจาหํ ตํ คหปติ อโรคํ กเรยฺยํ (สฺยา.)] กึ เม อสฺส เทยฺยธมฺโม’’ติ? ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยฺจ เต, อาจริย, โหตุ, อหฺจ เต ทาโส’’ติ. ‘‘สกฺขิสฺสสิ ปน ตฺวํ, คหปติ, เอเกน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺโกมหํ, อาจริย, เอเกน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘สกฺขิสฺสสิ ปน ตฺวํ, คหปติ, ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺโกมหํ, อาจริย, ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ ¶ . ‘‘สกฺขิสฺสสิ ปน ตฺวํ, คหปติ, อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺโกมหํ, อาจริย, อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ.
อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เสฏฺึ คหปตึ มฺจเก นิปาเตตฺวา [นิปชฺชาเปตฺวา (สี. สฺยา.)] มฺจเก [มฺจเกน (สี.)] สมฺพนฺธิตฺวา สีสจฺฉวึ อุปฺปาเฏตฺวา [ผาเลตฺวา (สี.)] สิพฺพินึ วินาเมตฺวา ทฺเว ¶ ปาณเก นีหริตฺวา มหาชนสฺส ทสฺเสสิ – ‘‘ปสฺสถยฺเย [ปสฺเสสฺยาถ (สี.), ปสฺสถ (สฺยา.), ปสฺสถยฺโย (ก.)], อิเม ทฺเว ปาณเก, เอกํ ขุทฺทกํ เอกํ มหลฺลกํ. เย เต อาจริยา เอวมาหํสุ – ปฺจมํ ทิวสํ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตีติ – เตหายํ มหลฺลโก ปาณโก ทิฏฺโ. ปฺจมํ ทิวสํ เสฏฺิสฺส คหปติสฺส มตฺถลุงฺคํ ปริยาทิยิสฺสติ. มตฺถลุงฺคสฺส ปริยาทานา เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสติ. สุทิฏฺโ เตหิ อาจริเยหิ. เย เต อาจริยา เอวมาหํสุ – สตฺตมํ ทิวสํ ¶ เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสตีติ – เตหายํ ขุทฺทโก ปาณโก ทิฏฺโ. สตฺตมํ ทิวสํ เสฏฺิสฺส คหปติสฺส มตฺถลุงฺคํ ปริยาทิยิสฺสติ. มตฺถลุงฺคสฺส ปริยาทานา เสฏฺิ คหปติ กาลํ กริสฺสติ. สุทิฏฺโ เตหิ อาจริเยหี’’ติ. สิพฺพินึ สมฺปฏิปาเฏตฺวา สีสจฺฉวึ สิพฺพิตฺวา อาเลปํ อทาสิ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘นาหํ, อาจริย, สกฺโกมิ เอเกน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘นนุ เม ตฺวํ, คหปติ, ปฏิสฺสุณิ – สกฺโกมหํ, อาจริย, เอเกน ปสฺเสน สตฺตมาเส ¶ นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สจฺจาหํ, อาจริย, ปฏิสฺสุณึ, อปาหํ มริสฺสามิ, นาหํ สกฺโกมิ เอเกน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชาหี’’ติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘นาหํ, อาจริย, สกฺโกมิ ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘นนุ เม ตฺวํ, คหปติ, ปฏิสฺสุณิ – สกฺโกมหํ, อาจริย, ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สจฺจาหํ, อาจริย, ปฏิสฺสุณึ, อปาหํ มริสฺสามิ, นาหํ, อาจริย, สกฺโกมิ ทุติเยน ปสฺเสน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชาหี’’ติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘นาหํ, อาจริย, สกฺโกมิ อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘นนุ เม ตฺวํ, คหปติ, ปฏิสฺสุณิ – สกฺโกมหํ, อาจริย, อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ? ‘‘สจฺจาหํ, อาจริย, ปฏิสฺสุณึ, อปาหํ มริสฺสามิ, นาหํ สกฺโกมิ อุตฺตาโน สตฺตมาเส นิปชฺชิตุ’’นฺติ. ‘‘อหํ เจ ตํ, คหปติ, น วเทยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ ตฺวํ น นิปชฺเชยฺยาสิ, อปิ จ ปฏิกจฺเจว มยา าโต – ตีหิ สตฺตาเหหิ เสฏฺิ คหปติ อโรโค ภวิสฺสตีติ. อุฏฺเหิ ¶ , คหปติ, อโรโคสิ. ชานาสิ กึ เม เทยฺยธมฺโม’’ติ? ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยฺจ เต, อาจริย, โหตุ, อหฺจ เต ทาโส’’ติ. ‘‘อลํ, คหปติ, มา เม ¶ ตฺวํ สพฺพํ สาปเตยฺยํ อทาสิ, มา จ เม ทาโส. รฺโ สตสหสฺสํ เทหิ, มยฺหํ สตสหสฺส’’นฺติ. อถ โข เสฏฺิ คหปติ อโรโค สมาโน รฺโ สตสหสฺสํ อทาสิ, ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส สตสหสฺสํ.
ราชคหเสฏฺิวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๖. เสฏฺิปุตฺตวตฺถุ
๓๓๓. เตน โข ปน สมเยน พาราณเสยฺยกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส โมกฺขจิกาย กีฬนฺตสฺส อนฺตคณฺาพาโธ โหติ, เยน ยาคุปิ ปีตา น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ น สมฺมา ¶ ปริณามํ คจฺฉติ, อุจฺจาโรปิ ปสฺสาโวปิ น ปคุโณ. โส เตน กิโส โหติ ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต. อถ โข พาราณเสยฺยกสฺส เสฏฺิสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยฺหํ โข ปุตฺตสฺส ตาทิโส อาพาโธ, เยน ยาคุปิ ปีตา น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อุจฺจาโรปิ ปสฺสาโวปิ น ปคุโณ. โส เตน กิโส ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต. ยํนูนาหํ ราชคหํ คนฺตฺวา ราชานํ ชีวกํ เวชฺชํ ยาเจยฺยํ ปุตฺตํ เม ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ. อถ โข พาราณเสยฺยโก เสฏฺิ ราชคหํ คนฺตฺวา เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, เทว, ปุตฺตสฺส ตาทิโส อาพาโธ, เยน ยาคุปิ ปีตา น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อุจฺจาโรปิ ปสฺสาโวปิ น ปคุโณ. โส เตน กิโส ลูโข ¶ ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต. สาธุ เทโว ชีวกํ เวชฺชํ ¶ อาณาเปตุ ปุตฺตํ เม ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ.
อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ชีวกํ โกมารภจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชีวก, พาราณสึ คนฺตฺวา พาราณเสยฺยกํ เสฏฺิปุตฺตํ ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา เยน พาราณเสยฺยโก เสฏฺิปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา พาราณเสยฺยกสฺส เสฏฺิปุตฺตสฺส วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา ชนํ อุสฺสาเรตฺวา ¶ ติโรกรณิยํ ปริกฺขิปิตฺวา ถมฺเภ อุพฺพนฺธิตฺวา [อุปนิพนฺธิตฺวา (สี. สฺยา.)] ภริยํ ปุรโต เปตฺวา อุทรจฺฉวึ อุปฺปาเฏตฺวา อนฺตคณฺึ นีหริตฺวา ภริยาย ทสฺเสสิ – ‘‘ปสฺส เต สามิกสฺส อาพาธํ, อิมินา ยาคุปิ ปีตา น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ น สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, อุจฺจาโรปิ ปสฺสาโวปิ น ปคุโณ; อิมินายํ กิโส ลูโข ทุพฺพณฺโณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนิสนฺถตคตฺโต’’ติ. อนฺตคณฺึ วินิเวเตฺวา อนฺตานิ ปฏิปเวเสตฺวา อุทรจฺฉวึ สิพฺพิตฺวา อาเลปํ อทาสิ. อถ โข พาราณเสยฺยโก เสฏฺิปุตฺโต นจิรสฺเสว อโรโค อโหสิ. อถ โข พาราณเสยฺยโก เสฏฺิ ‘ปุตฺโต เม อโรโค ิโต’ติ [อโรคาปิโตติ (สี.)] ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส โสฬสสหสฺสานิ ปาทาสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตานิ โสฬสสหสฺสานิ อาทาย ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคฺฉิ ¶ .
เสฏฺิปุตฺตวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๗. ปชฺโชตราชวตฺถุ
๓๓๔. เตน ¶ โข ปน สมเยน รฺโ [อุชฺเชนิยํ รฺโ (สฺยา.)] ปชฺโชตสฺส ปณฺฑุโรคาพาโธ โหติ. พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา นาสกฺขึสุ อโรคํ กาตุํ. พหุํ หิรฺํ อาทาย อคมํสุ. อถ โข ราชา ปชฺโชโต รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘มยฺหํ โข ตาทิโส อาพาโธ, สาธุ เทโว ชีวกํ เวชฺชํ อาณาเปตุ, โส มํ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ชีวกํ โกมารภจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชีวก; อุชฺเชนึ คนฺตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ ติกิจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุชฺเชนึ คนฺตฺวา เยน ราชา ปชฺโชโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ ปชฺโชตสฺส วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ เอตทโวจ – ‘‘สปฺปึ เทหิ [อิทํ ปททฺวยํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ], สปฺปึ เทว, นิปฺปจิสฺสามิ. ตํ เทโว ปิวิสฺสตี’’ติ. ‘‘อลํ, ภเณ ชีวก, ยํ เต สกฺกา วินา สปฺปินา อโรคํ กาตุํ ตํ กโรหิ. เชคุจฺฉํ เม สปฺปิ, ปฏิกูล’’นฺติ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ ¶ – ‘‘อิมสฺส โข รฺโ ตาทิโส อาพาโธ ¶ , น สกฺกา วินา สปฺปินา อโรคํ กาตุํ. ยํนูนาหํ สปฺปึ นิปฺปเจยฺยํ ¶ กสาววณฺณํ กสาวคนฺธํ กสาวรส’’นฺติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ นานาเภสชฺเชหิ สปฺปึ นิปฺปจิ กสาววณฺณํ กสาวคนฺธํ กสาวรสํ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส โข รฺโ สปฺปิ ปีตํ ปริณาเมนฺตํ อุทฺเทกํ ทสฺสติ. จณฺโฑยํ ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ มํ. ยํนูนาหํ ปฏิกจฺเจว อาปุจฺเฉยฺย’’นฺติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ราชา ปชฺโชโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, เทว, เวชฺชา นาม ตาทิเสน มุหุตฺเตน มูลานิ อุทฺธราม เภสชฺชานิ สํหราม. สาธุ เทโว วาหนาคาเรสุ จ ทฺวาเรสุ จ อาณาเปตุ – เยน วาหเนน ชีวโก อิจฺฉติ เตน วาหเนน คจฺฉตุ, เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ เตน ทฺวาเรน คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ ปวิสตู’’ติ. อถ โข ราชา ปชฺโชโต วาหนาคาเรสุ จ ทฺวาเรสุ จ อาณาเปสิ – ‘‘เยน วาหเนน ชีวโก อิจฺฉติ เตน วาหเนน คจฺฉตุ, เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ เตน ทฺวาเรน คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ ปวิสตู’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน รฺโ ปชฺโชตสฺส ภทฺทวติกา นาม หตฺถินิกา ปฺาสโยชนิกา โหติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ ปชฺโชตสฺส สปฺปึ [ตํ สปฺปึ (สฺยา.)] อุปนาเมสิ ¶ – ‘‘กสาวํ เทโว ปิวตู’’ติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ราชานํ ปชฺโชตํ สปฺปึ ปาเยตฺวา หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ภทฺทวติกาย หตฺถินิกาย นครมฺหา นิปฺปติ ¶ .
อถ โข รฺโ ปชฺโชตสฺส ตํ สปฺปิ ปีตํ ปริณาเมนฺตํ อุทฺเทกํ อทาสิ. อถ โข ราชา ปชฺโชโต มนุสฺเส เอตทโวจ – ‘‘ทุฏฺเน, ภเณ, ชีวเกน สปฺปึ ปายิโตมฺหิ. เตน หิ, ภเณ, ชีวกํ เวชฺชํ วิจินถา’’ติ. ‘‘ภทฺทวติกาย, เทว, หตฺถินิกาย นครมฺหา นิปฺปติโต’’ติ. เตน โข ปน สมเยน รฺโ ปชฺโชตสฺส กาโก นาม ทาโส สฏฺิโยชนิโก โหติ, อมนุสฺเสน ปฏิจฺจ ชาโต. อถ โข ราชา ปชฺโชโต กากํ ทาสํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ กาก, ชีวกํ เวชฺชํ ¶ นิวตฺเตหิ – ราชา ตํ, อาจริย, นิวตฺตาเปตีติ. เอเต โข, ภเณ กาก, เวชฺชา นาม พหุมายา. มา จสฺส กิฺจิ ปฏิคฺคเหสี’’ติ.
อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ อนฺตรามคฺเค โกสมฺพิยํ สมฺภาเวสิ
ปาตราสํ กโรนฺตํ. อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘ราชา ตํ, อาจริย, นิวตฺตาเปตี’’ติ. ‘‘อาคเมหิ, ภเณ กาก, ยาว ภฺุชาม [ภฺุชามิ (สี. สฺยา.)]. หนฺท, ภเณ กาก, ภฺุชสฺสู’’ติ. ‘‘อลํ, อาจริย, รฺามฺหิ อาณตฺโต – เอเต โข, ภเณ กาก, เวชฺชา นาม พหุมายา, มา จสฺส กิฺจิ ปฏิคฺคเหสี’’ติ. เตน โข ปน สมเยน ชีวโก โกมารภจฺโจ นเขน เภสชฺชํ โอลุมฺเปตฺวา อามลกฺจ ขาทติ ปานียฺจ ปิวติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ กากํ ทาสํ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, ภเณ กาก, อามลกฺจ ขาท ปานียฺจ ปิวสฺสู’’ติ. อถ โข กาโก ทาโส – อยํ โข เวชฺโช อามลกฺจ ¶ ขาทติ ปานียฺจ ปิวติ, น อรหติ กิฺจิ ปาปกํ โหตุนฺติ – อุปฑฺฒามลกฺจ ขาทิ ปานียฺจ อปายิ. ตสฺส ตํ อุปฑฺฒามลกํ ขาทิตํ ตตฺเถว นิจฺฉาเรสิ. อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ เม, อาจริย, ชีวิต’’นฺติ? ‘‘มา, ภเณ กาก, ภายิ, ตฺวํ เจว อโรโค ภวิสฺสสิ ราชา จ. จณฺโฑ โส ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ มํ, เตนาหํ น นิวตฺตามี’’ติ ภทฺทวติกํ หตฺถินิกํ กากสฺส นิยฺยาเทตฺวา เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ‘‘สุฏฺุ, ภเณ ชีวก, อกาสิ ยมฺปิ น นิวตฺโต, จณฺโฑ โส ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ ต’’นฺติ. อถ โข ราชา ปชฺโชโต อโรโค สมาโน ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อาคจฺฉตุ ชีวโก, วรํ ทสฺสามี’’ติ. ‘‘อลํ, อยฺโย [เทว (สฺยา.)], อธิการํ เม เทโว สรตู’’ติ.
ปชฺโชตราชวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๐๘. สิเวยฺยกทุสฺสยุคกถา
๓๓๕. เตน ¶ โข ปน สมเยน รฺโ ปชฺโชตสฺส สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ อุปฺปนฺนํ โหติ – พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา.)] ทุสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสหสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตสหสฺสานํ ¶ อคฺคฺจ เสฏฺฺจ โมกฺขฺจ อุตฺตมฺจ ปวรฺจ. อถ โข ราชา ปชฺโชโต ตํ สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปาเหสิ. อถ โข ชีวกสฺส ¶ โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข เม สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ รฺา ปชฺโชเตน ปหิตํ – พหูนํ ทุสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสหสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตสหสฺสานํ อคฺคฺจ เสฏฺฺจ โมกฺขฺจ อุตฺตมฺจ ปวรฺจ. นยิทํ อฺโ โกจิ ปจฺจารหติ อฺตฺร เตน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, รฺา วา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรนา’’ติ.
สิเวยฺยกทุสฺสยุคกถา นิฏฺิตา.
๒๐๙. สมตฺตึสวิเรจนกถา
๓๓๖. เตน โข ปน สมเยน ภควโต กาโย โทสาภิสนฺโน โหติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘โทสาภิสนฺโน ¶ โข, อานนฺท, ตถาคตสฺส กาโย. อิจฺฉติ ตถาคโต วิเรจนํ ปาตุ’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ชีวโก โกมารภจฺโจ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘โทสาภิสนฺโน โข, อาวุโส ชีวก, ตถาคตสฺส กาโย. อิจฺฉติ ตถาคโต วิเรจนํ ปาตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต อานนฺท, ภควโต กายํ กติปาหํ สิเนเหถา’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต กายํ กติปาหํ สิเนเหตฺวา เยน ชีวโก โกมารภจฺโจ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘สินิทฺโธ โข, อาวุโส ชีวก, ตถาคตสฺส กาโย. ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ โยหํ ภควโต โอฬาริกํ วิเรจนํ ทเทยฺย’’นฺติ. ตีณิ อุปฺปลหตฺถานิ นานาเภสชฺเชหิ ปริภาเวตฺวา เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกํ อุปฺปลหตฺถํ ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ภควา ปมํ อุปฺปลหตฺถํ อุปสิงฺฆตุ. อิทํ ภควนฺตํ ทสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสตี’’ติ. ทุติยํ อุปฺปลหตฺถํ ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ภควา ทุติยํ อุปฺปลหตฺถํ อุปสิงฺฆตุ. อิทํ ภควนฺตํ ทสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสตี’’ติ. ตติยํ อุปฺปลหตฺถํ ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘อิมํ, ภนฺเต ¶ , ภควา ตติยํ อุปฺปลหตฺถํ อุปสิงฺฆตุ. อิทํ ภควนฺตํ ทสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสตี’’ติ ¶ . เอวํ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ภวิสฺสตีติ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ทตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส พหิ ทฺวารโกฏฺกา นิกฺขนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยา โข ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ทินฺนํ. โทสาภิสนฺโน ตถาคตสฺส กาโย ¶ . น ภควนฺตํ สมตฺตึสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสติ, เอกูนตฺตึสกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ วิเรเจสฺสติ. อปิ จ, ภควา วิริตฺโต นหายิสฺสติ. นหาตํ ภควนฺตํ สกึ วิเรเจสฺสติ. เอวํ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ภวิสฺสตี’’ติ.
อถ โข ภควา ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิธานนฺท, ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส พหิ ทฺวารโกฏฺกา นิกฺขนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘มยา โข ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ทินฺนํ. โทสาภิสนฺโน ตถาคตสฺส กาโย. น ภควนฺตํ สมตึสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสติ, เอกูนตึสกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ วิเรเจสฺสติ. อปิ จ, ภควา วิริตฺโต นหายิสฺสติ. นหาตํ ภควนฺตํ สกึ วิเรเจสฺสติ. เอวํ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ภวิสฺสตี’ติ. เตน หานนฺท, อุณฺโหทกํ ปฏิยาเทหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา อุณฺโหทกํ ¶ ปฏิยาเทสิ.
อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วิริตฺโต, ภนฺเต, ภควา’’ติ? ‘‘วิริตฺโตมฺหิ, ชีวกา’’ติ. อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, พหิ ทฺวารโกฏฺกา นิกฺขนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยา โข ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ทินฺนํ. โทสาภิสนฺโน ตถาคตสฺส กาโย. น ภควนฺตํ สมตฺตึสกฺขตฺตุํ วิเรเจสฺสติ, เอกูนตฺตึสกฺขตฺตุํ ภควนฺตํ วิเรเจสฺสติ. อปิ จ, ภควา วิริตฺโต นหายิสฺสติ. นหาตํ ภควนฺตํ สกึ วิเรเจสฺสติ. เอวํ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ ภวิสฺสตี’’ติ. นหายตุ, ภนฺเต, ภควา, นหายตุ สุคโตติ. อถ โข ภควา อุณฺโหทกํ นหายิ. นหาตํ ภควนฺตํ สกึ วิเรเจสิ. เอวํ ภควโต สมตฺตึสาย วิเรจนํ อโหสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘ยาว, ภนฺเต, ภควโต กาโย ปกตตฺโต โหติ, อลํ [อหํ ตาว ยูสปิณฺฏปาเตนาติ (สี.), อลํ ยูสปิณฺฏเกนาติ (สฺยา.)] ยูสปิณฺฑปาเตนา’’ติ.
สมตฺตึสวิเรจนกถา นิฏฺิตา.
๒๑๐. วรยาจนากถา
๓๓๗. อถ ¶ โข ภควโต กาโย นจิรสฺเสว ปกตตฺโต อโหสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ¶ , อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรํ ยาจามี’’ติ. ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, ชีวก, ตถาคตา’’ติ. ‘‘ยฺจ, ภนฺเต, กปฺปติ ยฺจ อนวชฺช’’นฺติ. ‘‘วเทหิ, ชีวกา’’ติ. ‘‘ภควา, ภนฺเต, ปํสุกูลิโก, ภิกฺขุสงฺโฆ จ. อิทํ เม, ภนฺเต, สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ รฺา ปชฺโชเตน ปหิตํ – พหูนํ ทุสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสหสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตสหสฺสานํ อคฺคฺจ เสฏฺฺจ โมกฺขฺจ อุตฺตมฺจ ปวรฺจ. ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ; ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คหปติจีวรํ อนุชานาตู’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ. อถ โข ภควา ชีวกํ โกมารภจฺจํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คหปติจีวรํ. โย อิจฺฉติ, ปํสุกูลิโก โหตุ. โย อิจฺฉติ, คหปติจีวรํ สาทิยตุ. อิตรีตเรนปาหํ [ปหํ (สี.), จาหํ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, สนฺตุฏฺึ วณฺเณมี’’ติ.
อสฺโสสุํ โข ราชคเห มนุสฺสา – ‘‘ภควตา กิร ¶ ภิกฺขูนํ คหปติจีวรํ ¶ อนฺุาต’’นฺติ. เต จ มนุสฺสา หฏฺา อเหสุํ อุทคฺคา ‘‘อิทานิ โข มยํ ทานานิ ทสฺสาม ปฺุานิ กริสฺสาม, ยโต ภควตา ภิกฺขูนํ คหปติจีวรํ อนฺุาต’’นฺติ. เอกาเหเนว ราชคเห พหูนิ จีวรสหสฺสานิ อุปฺปชฺชึสุ.
อสฺโสสุํ ¶ โข ชานปทา มนุสฺสา – ‘‘ภควตา กิร ภิกฺขูนํ คหปติจีวรํ อนฺุาต’’นฺติ. เต จ มนุสฺสา หฏฺา อเหสุํ อุทคฺคา – ‘‘อิทานิ โข มยํ ทานานิ ทสฺสาม ปฺุานิ กริสฺสาม, ยโต ภควตา ภิกฺขูนํ คหปติจีวรํ อนฺุาต’’นฺติ. ชนปเทปิ เอกาเหเนว พหูนิ จีวรสหสฺสานิ อุปฺปชฺชึสุ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ปาวาโร อุปฺปนฺโน โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาวารนฺติ.
โกเสยฺยปาวาโร อุปฺปนฺโน โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกเสยฺยปาวารนฺติ.
โกชวํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกชวนฺติ.
วรยาจนากถา นิฏฺิตา.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
๒๑๑. กมฺพลานุชานนาทิกถา
๓๓๘. เตน โข ปน สมเยน กาสิราชา ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อฑฺฒกาสิกํ กมฺพลํ ปาเหสิ อุปฑฺฒกาสินํ ขมมานํ. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ตํ อฑฺฒกาสิกํ กมฺพลํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘อยํ เม, ภนฺเต, อฑฺฒกาสิโก กมฺพโล กาสิรฺา ปหิโต อุปฑฺฒกาสินํ ขมมาโน. ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา กมฺพลํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา กมฺพลํ. อถ โข ภควา ชีวกํ โกมารภจฺจํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ…เป… ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กมฺพล’’นฺติ.
๓๓๙. เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส อุจฺจาวจานิ จีวรานิ อุปฺปนฺนานิ โหนฺติ. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กึ นุ โข ภควตา จีวรํ อนฺุาตํ ¶ , กึ อนนฺุาต’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉ จีวรานิ – โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺคนฺติ.
๓๔๐. เตน โข ปน สมเยน เย เต ภิกฺขู คหปติจีวรํ ¶ สาทิยนฺติ เต กุกฺกุจฺจายนฺตา ¶ ปํสุกูลํ น สาทิยนฺติ – เอกํเยว ภควตา จีวรํ อนฺุาตํ, น ทฺเวติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คหปติจีวรํ สาทิยนฺเตน ปํสุกูลมฺปิ สาทิยิตุํ; ตทุภเยนปาหํ, ภิกฺขเว, สนฺตุฏฺึ วณฺเณมีติ.
กมฺพลานุชานนาทิกถา นิฏฺิตา.
๒๑๒. ปํสุกูลปริเยสนกถา
๓๔๑. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท ¶ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย, เอกจฺเจ ภิกฺขู นาคเมสุํ. เย เต ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภึสุ. เย เต ภิกฺขู นาคเมสุํ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสาม. กิสฺส ตุมฺเห นาคมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาคเมนฺตานํ นากามา ภาคํ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย, เอกจฺเจ ภิกฺขู อาคเมสุํ. เย เต ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภึสุ. เย เต ภิกฺขู อาคเมสุํ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสาม. กิสฺส ตุมฺเห น โอกฺกมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาคเมนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เอกจฺเจ ภิกฺขู ปมํ สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย, เอกจฺเจ ภิกฺขู ปจฺฉา โอกฺกมึสุ. เย เต ภิกฺขู ปมํ สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภึสุ. เย เต ภิกฺขู ¶ ปจฺฉา โอกฺกมึสุ เต น ลภึสุ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส ¶ , ภาคํ เทถา’’ติ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสาม. กิสฺส ตุมฺเห ปจฺฉา โอกฺกมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺฉา โอกฺกนฺตานํ นากามา ภาคํ ทาตุนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เต สทิสา สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย. เอกจฺเจ ภิกฺขู ปํสุกูลานิ ลภึสุ, เอกจฺเจ ภิกฺขู น ลภึสุ ¶ . เย เต ภิกฺขู น ลภึสุ, เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสาม. กิสฺส ตุมฺเห น ลภิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สทิสานํ โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เต กติกํ กตฺวา สุสานํ โอกฺกมึสุ ปํสุกูลาย. เอกจฺเจ ภิกฺขู ปํสุกูลานิ ลภึสุ, เอกจฺเจ ภิกฺขู น ลภึสุ. เย เต ภิกฺขู น ลภึสุ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสาม. กิสฺส ตุมฺเห น ลภิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กติกํ กตฺวา โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติ.
ปํสุกูลปริเยสนกถา นิฏฺิตา.
๒๑๓. จีวรปฏิคฺคาหกสมฺมุติกถา
๓๔๒. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา จีวรํ อาทาย อารามํ อาคจฺฉนฺติ. เต ปฏิคฺคาหกํ อลภมานา ปฏิหรนฺติ. จีวรํ ปริตฺตํ ¶ อุปฺปชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺนิตุํ – โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, คหิตาคหิตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ; ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺเนยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ¶ ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรปฏิคฺคาหกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรปฏิคฺคาหโก. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน จีวรปฏิคฺคาหกา ภิกฺขู จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺเถว อุชฺฌิตฺวา ปกฺกมนฺติ. จีวรํ นสฺสติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนิตุํ – โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, นิหิตานิหิตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ; ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ¶ ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺเนยฺย. เอสา ตฺติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรนิทหกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรนิทหโก. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
จีวรปฏิคฺคาหกสมฺมุติกถา นิฏฺิตา.
๒๑๔. ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถา
๓๔๓. เตน โข ปน สมเยน จีวรนิทหโก ภิกฺขุ มณฺฑเปปิ รุกฺขมูเลปิ นิพฺพโกเสปิ จีวรํ นิทหติ, อุนฺทูเรหิปิ อุปจิกาหิปิ ขชฺชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนิตุํ, ยํ สงฺโฆ อากงฺขติ วิหารํ วา อฑฺฒโยคํ วา ปาสาทํ วา หมฺมิยํ วา คุหํ วา. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺเนยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส วิหารสฺส ภณฺฑาคารสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส ¶ นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม วิหาโร ภณฺฑาคารํ. ขมติ สงฺฆสฺส ¶ , ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ภณฺฑาคาเร จีวรํ อคุตฺตํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ ภณฺฑาคาริกํ สมฺมนฺนิตุํ – โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, คุตฺตาคุตฺตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ; ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภณฺฑาคาริกํ สมฺมนฺเนยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภณฺฑาคาริกํ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ภณฺฑาคาริกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภณฺฑาคาริโก. ขมติ ¶ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภณฺฑาคาริกํ วุฏฺาเปนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, ภณฺฑาคาริโก วุฏฺาเปตพฺโพ. โย วุฏฺาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ภณฺฑาคาเร จีวรํ อุสฺสนฺนํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน สงฺโฆ จีวรํ ภาเชนฺโต โกลาหลํ อกาสิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺนิตุํ – โย น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย, น โทสาคตึ คจฺเฉยฺย, น โมหาคตึ คจฺเฉยฺย, น ภยาคตึ คจฺเฉยฺย, ภาชิตาภาชิตฺจ ชาเนยฺย. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ. ปมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ; ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺเนยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรภาชกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรภาชโก. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
อถ โข จีวรภาชกานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ภาเชตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ อุจฺจินิตฺวา ตุลยิตฺวา วณฺณาวณฺณํ กตฺวา ภิกฺขู คเณตฺวา วคฺคํ พนฺธิตฺวา จีวรปฏิวีสํ เปตุนฺติ.
อถ โข จีวรภาชกานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข สามเณรานํ จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสํ ¶ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ สเกน ภาเคน อุตฺตริตุกาโม โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตฺตรนฺตสฺส สกํ ภาคํ ทาตุนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อติเรกภาเคน อุตฺตริตุกาโม โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนุกฺเขเป ทินฺเน อติเรกภาคํ ทาตุนฺติ.
อถ โข จีวรภาชกานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพ, อาคตปฏิปาฏิยา [อาคตาคตปฏิปาฏิยา (ก.)] นุ โข อุทาหุ ยถาวุฑฺฒ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิกลเก โตเสตฺวา กุสปาตํ กาตุนฺติ.
ภณฺฑาคารสมฺมุติอาทิกถา นิฏฺิตา.
๒๑๕. จีวรรชนกถา
๓๔๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฉกเณนปิ ปณฺฑุมตฺติกายปิ ¶ จีวรํ รชนฺติ. จีวรํ ทุพฺพณฺณํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, ฉ รชนานิ – มูลรชนํ, ขนฺธรชนํ, ตจรชนํ, ปตฺตรชนํ, ปุปฺผรชนํ, ผลรชนนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สีตุทกาย [สีตุนฺทิกาย (สี.), สีตูทกาย (สฺยา.)] จีวรํ รชนฺติ. จีวรํ ทุคฺคนฺธํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, รชนํ ปจิตุํ จุลฺลํ รชนกุมฺภินฺติ. รชนํ อุตฺตริยติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตฺตราฬุมฺปํ [อุตฺตราฬุปํ (โยชนา), อุตฺตราฬุปํ (สฺยา.)] พนฺธิตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู น ชานนฺติ รชนํ ปกฺกํ วา อปกฺกํ วา. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทเก วา นขปิฏฺิกาย วา เถวกํ ¶ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู รชนํ โอโรเปนฺตา กุมฺภึ อาวิฺฉนฺติ [อาวิฺชนฺติ (สี.), อาวฏฺฏนฺติ (สฺยา.)]. กุมฺภี ภิชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, รชนุฬุงฺกํ [รชนาฬุงฺกํ (โยชนา)] ทณฺฑกถาลกนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ รชนภาชนํ น สํวิชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, รชนโกลมฺพํ รชนฆฏนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปาติยาปิ ปตฺเตปิ จีวรํ โอมทฺทนฺติ. จีวรํ ปริภิชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, รชนโทณิกนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฉมาย จีวรํ ปตฺถรนฺติ. จีวรํ ปํสุกิตํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณสนฺถารกนฺติ.
ติณสนฺถารโก อุปจิกาหิ ขชฺชติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรวํสํ จีวรรชฺชุนฺติ.
มชฺเฌน ลคฺเคนฺติ. รชนํ อุภโต คลติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺเณ พนฺธิตุนฺติ.
กณฺโณ ¶ ชีรติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตกนฺติ.
รชนํ เอกโต คลติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกํ รเชตุํ, น จ อจฺฉินฺเน เถเว ปกฺกมิตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน จีวรํ ปตฺถินฺนํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทเก โอสาเรตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน จีวรํ ผรุสํ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, ปาณินา อาโกเฏตุนฺติ ¶ .
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อจฺฉินฺนกานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ ทนฺตกาสาวานิ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ นาม [เสยฺยถาปิ (?)] คิหี กามโภคิโนติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, อจฺฉินฺนกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
จีวรรชนกถา นิฏฺิตา.
๒๑๖. ฉินฺนกจีวรานุชานนา
๓๔๕. อถ ¶ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ทกฺขิณาคิริ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อทฺทสา โข ภควา มคธเขตฺตํ อจฺฉิพทฺธํ [อจฺจิพทฺธํ (สี. สฺยา.), อจฺฉิพนฺธํ (ก.)] ปาฬิพทฺธํ มริยาทพทฺธํ สิงฺฆาฏกพทฺธํ, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, มคธเขตฺตํ อจฺฉิพทฺธํ ปาฬิพทฺธํ มริยาทพทฺธํ สิงฺฆาฏกพทฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อุสฺสหสิ ตฺวํ, อานนฺท, ภิกฺขูนํ เอวรูปานิ จีวรานิ สํวิทหิตุ’’นฺติ? ‘‘อุสฺสหามิ, ภควา’’ติ. อถ โข ภควา ทกฺขิณาคิริสฺมึ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคฺฉิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ จีวรานิ สํวิทหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปสฺสตุ เม [ปสฺสถ ตุมฺเห (ก.)], ภนฺเต, ภควา จีวรานิ สํวิทหิตานี’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ¶ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, อานนฺโท; มหาปฺโ, ภิกฺขเว, อานนฺโท; ยตฺร หิ นาม มยา สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานิสฺสติ, กุสิมฺปิ นาม กริสฺสติ, อฑฺฒกุสิมฺปิ นาม กริสฺสติ, มณฺฑลมฺปิ นาม กริสฺสติ ¶ , อฑฺฒมณฺฑลมฺปิ นาม กริสฺสติ, วิวฏฺฏมฺปิ นาม กริสฺสติ, อนุวิวฏฺฏมฺปิ นาม กริสฺสติ, คีเวยฺยกมฺปิ นาม กริสฺสติ, ชงฺเฆยฺยกมฺปิ นาม กริสฺสติ, พาหนฺตมฺปิ นาม กริสฺสติ, ฉินฺนกํ ภวิสฺสติ, สตฺถลูขํ สมณสารุปฺปํ ปจฺจตฺถิกานฺจ อนภิจฺฉิตํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉินฺนกํ สงฺฆาฏึ ฉินฺนกํ อุตฺตราสงฺคํ ฉินฺนกํ อนฺตรวาสก’’นฺติ.
ฉินฺนกจีวรานุชานนา นิฏฺิตา.
๒๑๗. ติจีวรานุชานนา
๓๔๖. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อทฺทส โข ภควา อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ เวสาลึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน สมฺพหุเล ภิกฺขู จีวเรหิ อุพฺภณฺฑิเต [อุพฺภณฺฑีกเต (สฺยา.)] สีเสปิ จีวรภิสึ กริตฺวา ขนฺเธปิ จีวรภิสึ กริตฺวา กฏิยาปิ จีวรภิสึ กริตฺวา อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติลหุํ โข อิเม โมฆปุริสา จีวเร พาหุลฺลาย อาวตฺตา ¶ . ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ เปยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ โคตมเก เจติเย. เตน โข ปน สมเยน ¶ ภควา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺกาสุ หิมปาตสมเย รตฺตึ อชฺโฌกาเส เอกจีวโร นิสีทิ. น ภควนฺตํ ¶ สีตํ อโหสิ. นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ. ทุติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิ. น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิ. นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ. ตติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิ. น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิ. นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ. จตุตฺถํ ภควา จีวรํ ปารุปิ. น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต กุลปุตฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สีตาลุกา สีตภีรุกา เตปิ สกฺโกนฺติ ติจีวเรน ยาเปตุํ. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ เปยฺยํ, ติจีวรํ อนุชาเนยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ เวสาลึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน อทฺทสํ สมฺพหุเล ภิกฺขู ¶ จีวเรหิ อุพฺภณฺฑิเต สีเสปิ จีวรภิสึ กริตฺวา ขนฺเธปิ จีวรภิสึ กริตฺวา กฏิยาปิ จีวรภิสึ กริตฺวา อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘อติลหุํ โข อิเม โมฆปุริสา จีวเร พาหุลฺลาย อาวตฺตา. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ เปยฺย’นฺติ. อิธาหํ, ภิกฺขเว, สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺกาสุ หิมปาตสมเย รตฺตึ อชฺโฌกาเส เอกจีวโร นิสีทึ. น มํ สีตํ อโหสิ. นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม สีตํ มํ อโหสิ. ทุติยาหํ จีวรํ ปารุปึ. น มํ สีตํ ¶ อโหสิ. นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม สีตํ มํ อโหสิ. ตติยาหํ จีวรํ ปารุปึ. น มํ สีตํ อโหสิ. นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา สีตํ มํ อโหสิ. จตุตฺถาหํ จีวรํ ปารุปึ. น มํ สีตํ อโหสิ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘‘เยปิ โข เต กุลปุตฺตา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สีตาลุกา สีตภีรุกา เตปิ สกฺโกนฺติ ติจีวเรน ยาเปตุํ. ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ จีวเร สีมํ พนฺเธยฺยํ, มริยาทํ เปยฺยํ ¶ , ติจีวรํ อนุชาเนยฺย’นฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ – ทิคุณํ สงฺฆาฏึ, เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ, เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสก’’นฺติ.
ติจีวรานุชานนา นิฏฺิตา.
๒๑๘. อติเรกจีวรกถา
๓๔๗. [ปารา. ๔๖๑] เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภควตา ติจีวรํ อนฺุาตนฺติ อฺเเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺติ, อฺเน ติจีวเรน อาราเม อจฺฉนฺติ, อฺเน ติจีวเรน ¶ นหานํ โอตรนฺติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติเรกจีวรํ ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํ. โย ธาเรยฺย, ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ.
[ปารา. ๔๖๑] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อายสฺมา จ อานนฺโท ตํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหติ. อายสฺมา จ ¶ สาริปุตฺโต สาเกเต วิหรติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ‘น อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ. อิทฺจ เม อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ ¶ . อหฺจิมํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม. อายสฺมา จ สาริปุตฺโต สาเกเต วิหรติ. กถํ นุ โข มยา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ‘‘กีวจิรํ ปนานนฺท, สาริปุตฺโต อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ? ‘‘นวมํ วา, ภควา, ทิวสํ, ทสมํ วา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตุ’’นฺติ.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติ. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อมฺเหหิ อติเรกจีวเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อติเรกจีวรํ วิกปฺเปตุนฺติ.
๓๔๘. อถ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรวาสโก ฉิทฺโท โหติ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ติจีวรํ อนฺุาตํ – ทิคุณา สงฺฆาฏิ, เอกจฺจิโย อุตฺตราสงฺโค ¶ ¶ , เอกจฺจิโย อนฺตรวาสโก. อยฺจ เม อนฺตรวาสโก ฉิทฺโท. ยํนูนาหํ อคฺคฬํ อจฺฉุเปยฺยํ, สมนฺตโต ทุปฏฺฏํ ภวิสฺสติ, มชฺเฌ เอกจฺจิย’’นฺติ. อถ โข โส ภิกฺขุ อคฺคฬํ อจฺฉุเปสิ. อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต ตํ ภิกฺขุํ อคฺคฬํ อจฺฉุเปนฺตํ [อจฺฉุปนฺตํ (ก.)], ทิสฺวาน เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ตฺวํ, ภิกฺขุ, กโรสี’’ติ? ‘‘อคฺคฬํ, ภควา, อจฺฉุเปมี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ; สาธุ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, อคฺคฬํ อจฺฉุเปสี’’ติ ¶ . อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ ทุสฺสานํ อหตกปฺปานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏึ, เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ, เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสกํ; อุตุทฺธฏานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ, ทิคุณํ อุตฺตราสงฺคํ, ทิคุณํ ¶ อนฺตรวาสกํ; ปํสุกูเล ยาวทตฺถํ; ปาปณิเก อุสฺสาโห กรณีโย. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคฺคฬํ ตุนฺนํ โอวฏฺฏิกํ กณฺฑุสกํ ทฬฺหีกมฺม’’นฺติ.
อติเรกจีวรกถา นิฏฺิตา.
๒๑๙. วิสาขาวตฺถุ
๓๔๙. อถ โข ภควา พาราณสิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา ¶ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา, ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา, ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
เตน โข ปน สมเยน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ ปาวสฺสิ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ยถา, ภิกฺขเว, เชตวเน วสฺสติ เอวํ จตูสุ ทีเปสุ วสฺสติ. โอวสฺสาเปถ, ภิกฺขเว, กายํ. อยํ ปจฺฉิมโก จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา ¶ นิกฺขิตฺตจีวรา กายํ โอวสฺสาเปนฺติ. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ทาสึ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เช. อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข สา ทาสี วิสาขาย มิคารมาตุยา ปฏิสฺสุณิตฺวา อารามํ คนฺตฺวา อทฺทส ภิกฺขู นิกฺขิตฺตจีวเร กายํ โอวสฺสาเปนฺเต, ทิสฺวาน ‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’ติ เยน วิสาขา มิคารมาตา เตนุปสงฺกมิ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา วิสาขํ มิคารมาตรํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถยฺเย, อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ. อถ โข วิสาขาย มิคารมาตุยา ¶ ปณฺฑิตาย วิยตฺตาย เมธาวินิยา เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข อยฺยา นิกฺขิตฺตจีวรา กายํ โอวสฺสาเปนฺติ. สายํ ¶ พาลา มฺิตฺถ – นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ, ปุน ทาสึ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เช. อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข เต ภิกฺขู คตฺตานิ สีตึ กริตฺวา [สีตีกริตฺวา (สฺยา.)] กลฺลกายา จีวรานิ คเหตฺวา ยถาวิหารํ ปวิสึสุ. อถ โข สา ทาสี อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู อปสฺสนฺตี ‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, สฺุโ อาราโม’ติ เยน วิสาขา มิคารมาตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วิสาขํ มิคารมาตรํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถยฺเย, อาราเม ภิกฺขู, สฺุโ อาราโม’’ติ. อถ โข วิสาขาย มิคารมาตุยา ปณฺฑิตาย วิยตฺตาย เมธาวินิยา เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข อยฺยา คตฺตานิ สีตึ กริตฺวา กลฺลกายา จีวรานิ คเหตฺวา ยถาวิหารํ ปวิฏฺา. สายํ พาลา มฺิตฺถ – นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, สฺุโ อาราโม’’ติ, ปุน ทาสึ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, เช. อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.
๓๕๐. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สนฺทหถ [สนฺนหถ (สี. สฺยา.)], ภิกฺขเว, ปตฺตจีวรํ; กาโล ภตฺตสฺสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – เชตวเน อนฺตรหิโต วิสาขาย มิคารมาตุยา โกฏฺเก ¶ ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ชณฺณุกมตฺเตสุปิ โอเฆสุ ปวตฺตมาเนสุ, กฏิมตฺเตสุปิ โอเฆสุ ปวตฺตมาเนสุ, น หิ นาม ¶ เอกภิกฺขุสฺสปิ [ปวตฺตมาเนสุ น เอกภิกฺขุสฺสปิ (?)] ปาทา วา จีวรานิ วา อลฺลานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ – หฏฺา อุทคฺคา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรานิ ยาจามี’’ติ. ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, วิสาเข, ตถาคตา’’ติ. ‘‘ยานิ จ, ภนฺเต, กปฺปิยานิ ¶ ยานิ จ อนวชฺชานี’’ติ. ‘‘วเทหิ, วิสาเข’’ติ. ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฏิกํ ทาตุํ, อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํ, คมิกภตฺตํ ทาตุํ, คิลานภตฺตํ ทาตุํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ ทาตุํ, คิลานเภสชฺชํ ทาตุํ, ธุวยาคุํ ทาตุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ¶ อุทกสาฏิกํ ทาตุ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ?
‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ทาสึ อาณาเปสึ – ‘คจฺฉ, เช. อารามํ คนฺตฺวา กาลํ อาโรเจหิ – กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’’นฺติ. อถ โข สา, ภนฺเต, ทาสี อารามํ คนฺตฺวา อทฺทส ภิกฺขู นิกฺขิตฺตจีวเร กายํ โอวสฺสาเปนฺเต, ทิสฺวาน ¶ ‘‘นตฺถิ อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถยฺเย, อาราเม ภิกฺขู, อาชีวกา กายํ โอวสฺสาเปนฺตี’’ติ. อสุจิ, ภนฺเต, นคฺคิยํ เชคุจฺฉํ ปฏิกูลํ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฏิกํ ทาตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, อาคนฺตุโก ภิกฺขุ น วีถิกุสโล น โคจรกุสโล กิลนฺโต ปิณฺฑาย จรติ. โส เม อาคนฺตุกภตฺตํ ภฺุชิตฺวา วีถิกุสโล โคจรกุสโล อกิลนฺโต ปิณฺฑาย จริสฺสติ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, คมิโก ภิกฺขุ อตฺตโน ภตฺตํ ปริเยสมาโน สตฺถา วา วิหายิสฺสติ, ยตฺถ วา วาสํ คนฺตุกาโม ภวิสฺสติ ตตฺถ วิกาเล อุปคจฺฉิสฺสติ, กิลนฺโต อทฺธานํ คมิสฺสติ. โส เม คมิกภตฺตํ ภฺุชิตฺวา สตฺถา น วิหายิสฺสติ, ยตฺถ วาสํ คนฺตุกาโม ภวิสฺสติ ตตฺถ กาเล อุปคจฺฉิสฺสติ, อกิลนฺโต อทฺธานํ คมิสฺสติ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คมิกภตฺตํ ทาตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สปฺปายานิ โภชนานิ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา วา ภวิสฺสติ. ตสฺส เม คิลานภตฺตํ ภุตฺตสฺส อาพาโธ ¶ น อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา น ภวิสฺสติ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานภตฺตํ ทาตุํ ¶ . ‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, คิลานุปฏฺาโก ภิกฺขุ อตฺตโน ภตฺตํ ปริเยสมาโน คิลานสฺส อุสฺสูเร ภตฺตํ นีหริสฺสติ, ภตฺตจฺเฉทํ กริสฺสติ. โส เม คิลานุปฏฺากภตฺตํ ภฺุชิตฺวา คิลานสฺส ¶ กาเลน ภตฺตํ นีหริสฺสติ, ภตฺตจฺเฉทํ น กริสฺสติ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ ทาตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา วา ภวิสฺสติ. ตสฺส เม คิลานเภสชฺชํ ปริภุตฺตสฺส อาพาโธ น อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลํกิริยา น ภวิสฺสติ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ คิลานเภสชฺชํ ทาตุํ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภควตา อนฺธกวินฺเท ทสานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน ยาคุ อนฺุาตา. ตฺยาหํ, ภนฺเต, อานิสํเส สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ สงฺฆสฺส ยาวชีวํ ธุวยาคุํ ทาตุํ.
‘‘อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย อจิรวติยา นทิยา เวสิยาหิ สทฺธึ นคฺคา เอกติตฺเถ นหายนฺติ. ตา, ภนฺเต, เวสิยา ภิกฺขุนิโย อุปฺปณฺเฑสุํ – ‘กึ นุ โข นาม ตุมฺหากํ, อยฺเย, ทหรานํ [ทหรานํ ทหรานํ (สี.)] พฺรหฺมจริยํ จิณฺเณน, นนุ นาม กามา ปริภฺุชิตพฺพา; ยทา ชิณฺณา ภวิสฺสถ ตทา พฺรหฺมจริยํ จริสฺสถ. เอวํ ตุมฺหากํ อุโภ อตฺถา ปริคฺคหิตา ภวิสฺสนฺตี’ติ. ตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย เวสิยาหิ อุปฺปณฺฑิยมานา มงฺกู อเหสุํ. อสุจิ, ภนฺเต, มาตุคามสฺส นคฺคิยํ เชคุจฺฉํ ปฏิกูลํ. อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา อิจฺฉามิ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ¶ ยาวชีวํ อุทกสาฏิกํ ทาตุ’’นฺติ.
๓๕๑. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, ทิสาสุ วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู สาวตฺถึ อาคจฺฉิสฺสนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสนฺติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ โก อภิสมฺปราโย’ติ? ตํ ภควา พฺยากริสฺสติ โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสามิ – ‘อาคตปุพฺพา นุ โข, ภนฺเต, เตน อยฺเยน สาวตฺถี’ติ? สเจ เม ¶ วกฺขนฺติ – ‘อาคตปุพฺพา เตน ภิกฺขุนา สาวตฺถี’ติ นิฏฺเมตฺถ ¶ คจฺฉิสฺสามิ – นิสฺสํสยํ เม ปริภุตฺตํ เตน อยฺเยน วสฺสิกสาฏิกา วา อาคนฺตุกภตฺตํ วา คมิกภตฺตํ วา คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา คิลานเภสชฺชํ วา ธุวยาคุ วาติ. ตสฺสา เม ตทนุสฺสรนฺติยา ปามุชฺชํ ชายิสฺสติ, ปมุทิตาย ปีติ ชายิสฺสติ, ปีติมนาย กาโย ปสฺสมฺภิสฺสติ, ปสฺสทฺธกายา สุขํ ¶ เวทิยิสฺสามิ, สุขินิยา จิตฺตํ สมาธิยิสฺสติ. สา เม ภวิสฺสติ อินฺทฺริยภาวนา พลภาวนา โพชฺฌงฺคภาวนา. อิมาหํ, ภนฺเต, อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจามี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาเข; สาธุ โข ตฺวํ, วิสาเข, อิมํ อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสิ. อนุชานามิ เต, วิสาเข, อฏฺ วรานี’’ติ. อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ อิมาหิ ¶ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘ยา อนฺนปานํ ททติปฺปโมทิตา;
สีลูปปนฺนา สุคตสฺส สาวิกา;
ททาติ ทานํ อภิภุยฺย มจฺฉรํ;
โสวคฺคิกํ โสกนุทํ สุขาวหํ.
‘‘ทิพฺพํ สา ลภเต อายุํ [ทิพฺพํ พลํ สา ลภเต จ อายุํ (สี. สฺยา.)];
อาคมฺม มคฺคํ วิรชํ อนงฺคณํ;
สา ปฺุกามา สุขินี อนามยา;
สคฺคมฺหิ กายมฺหิ จิรํ ปโมทตี’’ติ.
๓๕๒. อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฏิกํ, อาคนฺตุกภตฺตํ, คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ, คิลานเภสชฺชํ, ธุวยาคุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อุทกสาฏิก’’นฺติ.
วิสาขาวตฺถุ นิฏฺิตํ.
วิสาขาภาณวาโร นิฏฺิโต.
๒๒๐. นิสีทนาทิอนุชานนา
๓๕๓. เตน ¶ โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินนฺเตน อสุจิ มุจฺจติ, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิยติ. อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต อทฺทส เสนาสนํ ¶ อสุจินา มกฺขิตํ, ทิสฺวาน ¶ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กึ เอตํ, อานนฺท, เสนาสนํ มกฺขิต’’นฺติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ¶ ภฺุชิตฺวา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินนฺเตน อสุจิ มุจฺจติ; ตยิทํ, ภควา, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิต’’นฺติ. ‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท. มุจฺจติ หิ, อานนฺท, มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินนฺเตน อสุจิ. เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู อุปฏฺิตสฺสตี สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ, เตสํ อสุจิ น มุจฺจติ. เยปิ เต, อานนฺท, ปุถุชฺชนา กาเมสุ วีตราคา, เตสมฺปิ อสุจิ น มุจฺจติ. อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ อรหโต อสุจิ มุจฺเจยฺยา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, อานนฺเทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต อทฺทสํ เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิตํ, ทิสฺวาน อานนฺทํ อามนฺเตสึ ‘กึ เอตํ, อานนฺท, เสนาสนํ มกฺขิต’นฺติ? ‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา มุฏฺสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินนฺเตน อสุจิ มุจฺจติ; ตยิทํ, ภควา, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิต’นฺติ. ‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท, มุจฺจติ หิ, อานนฺท, มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินนฺเตน ¶ อสุจิ. เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู อุปฏฺิตสฺสตี สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ, เตสํ อสุจิ น มุจฺจติ. เยปิ เต, อานนฺท, ปุถุชฺชนา กาเมสุ วีตราคา เตสมฺปิ อสุจิ น มุจฺจติ. อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ อรหโต อสุจิ มุจฺเจยฺยา’’’ติ.
‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต – ทุกฺขํ สุปติ, ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌติ, ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, เทวตา น รกฺขนฺติ, อสุจิ มุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อาทีนวา มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต.
‘‘ปฺจิเม ¶ , ภิกฺขเว, อานิสํสา อุปฏฺิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต – สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, เทวตา รกฺขนฺติ, อสุจิ น มุจฺจติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ อานิสํสา อุปฏฺิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กายคุตฺติยา จีวรคุตฺติยา เสนาสนคุตฺติยา นิสีทน’’นฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อติขุทฺทกํ นิสีทนํ น สพฺพํ เสนาสนํ สํโคเปติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาวมหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ อากงฺขติ ตาวมหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ กาตุนฺติ.
๓๕๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปชฺฌายสฺส อายสฺมโต เพลฏฺสีสสฺส ถุลฺลกจฺฉาพาโธ โหติ. ตสฺส ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ. ตานิ ภิกฺขู อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺติ. อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต เต ¶ ภิกฺขู ตานิ จีวรานิ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺเต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กึ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, อายสฺมโต ¶ ถุลฺลกจฺฉาพาโธ. ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ. ตานิ มยํ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒามา’’ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กณฺฑุ วา ปิฬกา วา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ.
๓๕๕. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา มุขปฺุฉนโจฬํ [มุขปฺุชนโจฬํ (ก.)] อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา มุขปฺุฉนโจฬํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา มุขปฺุฉนโจฬํ. อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ภควตา ธมฺมิยา ¶ กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุขปฺุฉนโจฬก’’นฺติ [มุขปฺุฉนโจลนฺติ (สฺยา.)].
๓๕๖. เตน ¶ โข ปน สมเยน โรโช มลฺโล อายสฺมโต อานนฺทสฺส สหาโย โหติ. โรชสฺส มลฺลสฺส โขมปิโลติกา อายสฺมโต อานนฺทสฺส หตฺเถ นิกฺขิตฺตา โหติ. อายสฺมโต จ อานนฺทสฺส โขมปิโลติกาย อตฺโถ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ – สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต ¶ จ, ชีวติ จ, ชานาติ จ, คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตีติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุนฺติ.
๓๕๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ. อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขารโจฬกนฺติ.
นิสีทนาทิอนุชานนา นิฏฺิตา.
๒๒๑. ปจฺฉิมวิกปฺปนุปคจีวราทิกถา
๓๕๘. อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ยานิ ตานิ ภควตา อนฺุาตานิ ติจีวรนฺติ วา วสฺสิกสาฏิกาติ วา นิสีทนนฺติ วา ปจฺจตฺถรณนฺติ วา กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทีติ ¶ วา มุขปฺุฉนโจฬนฺติ วา ปริกฺขารโจฬนฺติ วา, สพฺพานิ ตานิ อธิฏฺาตพฺพานิ นุ โข, อุทาหุ, วิกปฺเปตพฺพานี’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ ¶ น วิกปฺเปตุํ; กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาวอาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; มุขปฺุฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุนฺติ.
อถ ¶ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิตฺตกํ ปจฺฉิมํ นุ โข จีวรํ วิกปฺเปตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุนฺติ.
๓๕๙. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปํสุกูลกโต ครุโก โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สุตฺตลูขํ กาตุนฺติ. วิกณฺโณ โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิกณฺณํ อุทฺธริตุนฺติ. สุตฺตา โอกิริยนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนุวาตํ ปริภณฺฑํ อาโรเปตุนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สงฺฆาฏิยา ปตฺตา ลุชฺชนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺปทกํ กาตุนฺติ.
๓๖๐. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเร กยิรมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกนฺติ.
ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกนฺติ.
ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ ¶ เอกํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุํ, น จ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อจฺฉินฺนกํ ธาเรตพฺพํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
๓๖๑. เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติ. โส จ ตํ จีวรํ มาตาปิตูนํ ทาตุกาโม โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. มาตาปิตโรติ [มาตาปิตูนํ โข (สี.)] โข, ภิกฺขเว, ททมาเน [วทมาโน (ก.), วทมาเน (?)] กึ วเทยฺยาม? อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ ทาตุํ. น จ, ภิกฺขเว, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตตพฺพํ. โย วินิปาเตยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
๓๖๒. เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อนฺธวเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. โจรา ตํ จีวรํ อวหรึสุ. โส ภิกฺขุ ทุจฺโจโฬ โหติ ลูขจีวโร. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, ทุจฺโจโฬ ลูขจีวโรสี’’ติ? ‘‘อิธาหํ [โส อหํ (กตฺถจิ)], อาวุโส, อนฺธวเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ. โจรา ตํ จีวรํ อวหรึสุ. เตนาหํ ทุจฺโจโฬ ลูขจีวโร’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. น, ภิกฺขเว, สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ. โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท อสฺสติยา สนฺตรุตฺตเรน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ – ‘‘นนุ ¶ , อาวุโส อานนฺท, ภควตา ปฺตฺตํ – ‘น สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ’ติ? กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, สนฺตรุตฺตเรน ¶ คามํ ปวิฏฺโ’’ติ? ‘‘สจฺจํ, อาวุโส, ภควตา ปฺตฺตํ – ‘น สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ’ติ. อปิ จาหํ อสฺสติยา ปวิฏฺโ’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.
ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปาย – คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตํ วา โหติ, นทีปารํ คนฺตุํ วา โหติ, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา โหติ, อตฺถตกถินํ วา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปาย.
ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา อุตฺตราสงฺคสฺส นิกฺเขปาย…เป… อนฺตรวาสกสฺส นิกฺเขปาย – คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตํ วา โหติ, นทีปารํ คนฺตุํ วา โหติ, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา โหติ, อตฺถตกถินํ วา โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺจยา อุตฺตราสงฺคสฺส อนฺตรวาสกสฺส นิกฺเขปาย.
ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา วสฺสิกสาฏิกาย นิกฺเขปาย – คิลาโน วา โหติ, นิสฺสีมํ คนฺตุํ วา โหติ, นทีปารํ คนฺตุํ วา โหติ, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา โหติ, วสฺสิกสาฏิกา อกตา วา โหติ วิปฺปกตา ¶ วา. อิเม โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ปจฺจยา วสฺสิกสาฏิกาย นิกฺเขปายาติ.
ปจฺฉิมวิกปฺปนุปคจีวราทิกถา นิฏฺิตา.
๒๒๒. สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา
๓๖๓. เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ เอโก วสฺสํ วสิ. ตตฺถ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ อทํสุ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘จตุวคฺโค ปจฺฉิโม สงฺโฆ’ติ. อหฺจมฺหิ เอกโก. อิเม จ มนุสฺสา ¶ สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ อทํสุ. ยํนูนาหํ อิมานิ สงฺฆิกานิ จีวรานิ สาวตฺถึ หเรยฺย’’นฺติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตานิ จีวรานิ อาทาย สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ‘‘ตุยฺเหว, ภิกฺขุ, ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอโก วสฺสํ วสติ. ตตฺถ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ เทนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารายาติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อุตุกาลํ เอโก วสิ. ตตฺถ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ อทํสุ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ‘จตุวคฺโค ปจฺฉิโม สงฺโฆ’ติ. อหฺจมฺหิ เอกโก. อิเม จ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ อทํสุ. ยํนูนาหํ อิมานิ สงฺฆิกานิ จีวรานิ สาวตฺถึ หเรยฺย’’นฺติ. อถ โข โส ภิกฺขุ ตานิ จีวรานิ อาทาย สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว ¶ , สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุํ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุตุกาลํ เอโก วสติ. ตตฺถ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ เทนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตน ภิกฺขุนา ตานิ จีวรานิ อธิฏฺาตุํ – ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานี’’ติ. ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตํ จีวรํ อนธิฏฺิเต อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, สมโก ทาตพฺโพ ภาโค. เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตํ จีวรํ ภาชิยมาเน, อปาติเต กุเส, อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, สมโก ทาตพฺโพ ภาโค. เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตํ จีวรํ ภาชิยมาเน, ปาติเต กุเส, อฺโ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, นากามา ทาตพฺโพ ภาโคติ.
เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ภาติกา เถรา, อายสฺมา จ อิสิทาโส อายสฺมา จ อิสิภโฏ, สาวตฺถิยํ วสฺสํวุฏฺา อฺตรํ คามกาวาสํ อคมํสุ. มนุสฺสา จิรสฺสาปิ เถรา อาคตาติ สจีวรานิ ภตฺตานิ ¶ อทํสุ. อาวาสิกา ภิกฺขู เถเร ปุจฺฉึสุ – ‘‘อิมานิ, ภนฺเต, สงฺฆิกานิ จีวรานิ เถเร อาคมฺม อุปฺปนฺนานิ, สาทิยิสฺสนฺติ เถรา ภาค’’นฺติ. เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘ยถา โข มยํ, อาวุโส, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาม, ตุมฺหากํเยว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน ตโย ภิกฺขู ราชคเห วสฺสํ วสนฺติ. ตตฺถ มนุสฺสา สงฺฆสฺส
เทมาติ จีวรานิ เทนฺติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ปฺตฺตํ ¶ ‘จตุวคฺโค ปจฺฉิโม สงฺโฆ’ติ. มยฺจมฺหา ตโย ชนา. อิเม จ มนุสฺสา สงฺฆสฺส เทมาติ จีวรานิ ¶ เทนฺติ. กถํ นุ โข อมฺเหหิ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา เถรา, อายสฺมา จ นิลวาสี อายสฺมา จ สาณวาสี อายสฺมา จ โคตโก อายสฺมา จ ภคุ อายสฺมา จ ผฬิกสนฺตาโน, ปาฏลิปุตฺเต วิหรนฺติ กุกฺกุฏาราเม. อถ โข เต ภิกฺขู ปาฏลิปุตฺตํ คนฺตฺวา เถเร ปุจฺฉึสุ. เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘ยถา โข มยํ อาวุโส ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาม, ตุมฺหากํเยว ตานิ จีวรานิ ยาว กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ.
สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถา นิฏฺิตา.
๒๒๓. อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุ
๓๖๔. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต สาวตฺถิยํ วสฺสํวุฏฺโ อฺตรํ คามกาวาสํ อคมาสิ. ตตฺถ จ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เต เอวมาหํสุ – ‘‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’’นฺติ? ‘‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’’ติ. ตโต จีวรภาคํ คเหตฺวา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ. ตตฺถปิ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เตปิ เอวมาหํสุ – ‘‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’’นฺติ? ‘‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’’ติ. ตโตปิ จีวรภาคํ คเหตฺวา อฺํ อาวาสํ อคมาสิ. ตตฺถปิ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เตปิ เอวมาหํสุ – ‘‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’’นฺติ? ‘‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’’ติ. ตโตปิ จีวรภาคํ คเหตฺวา มหนฺตํ จีวรภณฺฑิกํ อาทาย ปุนเทว สาวตฺถึ ปจฺจาคฺฉิ. ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘มหาปฺุโสิ ตฺวํ ¶ , อาวุโส อุปนนฺท, พหุํ เต จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ. ‘‘กุโต เม ¶ , อาวุโส, ปฺุํ? อิธาหํ, อาวุโส, สาวตฺถิยํ วสฺสํวุฏฺโ อฺตรํ คามกาวาสํ อคมาสึ. ตตฺถ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เต มํ เอวมาหํสุ – ‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’นฺติ? ‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’ติ. ตโต จีวรภาคํ คเหตฺวา อฺํ อาวาสํ อคมาสึ. ตตฺถปิ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เตปิ มํ เอวมาหํสุ – ‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’’’นฺติ? ‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’ติ. ตโตปิ จีวรภาคํ คเหตฺวา อฺํ อาวาสํ ¶ อคมาสึ. ตตฺถปิ ภิกฺขู จีวรํ ภาเชตุกามา สนฺนิปตึสุ. เตปิ มํ เอวมาหํสุ – ‘อิมานิ โข, อาวุโส, สงฺฆิกานิ จีวรานิ ภาชิยิสฺสนฺติ, สาทิยิสฺสสิ ภาค’นฺติ? ‘อามาวุโส, สาทิยิสฺสามี’ติ. ตโตปิ จีวรภาคํ อคฺคเหสึ. เอวํ เม พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺนนฺติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, อาวุโส อุปนนฺท, อฺตฺร วสฺสํวุฏฺโ อฺตฺร จีวรภาคํ สาทิยี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต อฺตฺร วสฺสํวุฏฺโ อฺตฺร จีวรภาคํ สาทิยิสฺสตี’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, อฺตฺร วสฺสํวุฏฺโ อฺตฺร จีวรภาคํ สาทิยี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป… กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อฺตฺร วสฺสํวุฏฺโ อฺตฺร ¶ จีวรภาคํ สาทิยิสฺสสิ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ ¶ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อฺตฺร วสฺสํวุฏฺเน อฺตฺร จีวรภาโค สาทิตพฺโพ. โย สาทิเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต เอโก ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสิ – ‘‘เอวํ เม พหุํ จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. เทถ, ภิกฺขเว, โมฆปุริสสฺส เอกาธิปฺปายํ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอโก ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสติ – ‘‘เอวํ เม พหุํ จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ. สเจ อมุตฺร อุปฑฺฒํ อมุตฺร อุปฑฺฒํ วสติ, อมุตฺร อุปฑฺโฒ อมุตฺร อุปฑฺโฒ จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพ. ยตฺถ วา ปน พหุตรํ วสติ, ตโต จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพติ.
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุ นิฏฺิตํ.
๒๒๔. คิลานวตฺถุกถา
๓๖๕. เตน ¶ โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน กุจฺฉิวิการาพาโธ โหติ. โส สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน เสติ. อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต เยน ตสฺส ภิกฺขุโน วิหาโร เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ สยมานํ, ทิสฺวาน เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กึ เต, ภิกฺขุ, อาพาโธ’’ติ? ‘‘กุจฺฉิวิกาโร เม, ภควา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ¶ ปน เต, ภิกฺขุ, อุปฏฺาโก’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภควา’’ติ ¶ . ‘‘กิสฺส ตํ ภิกฺขู น อุปฏฺเนฺตี’’ติ? ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อการโก; เตน มํ ภิกฺขู น อุปฏฺเนฺตี’’ติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉานนฺท, อุทกํ อาหร, อิมํ ภิกฺขุํ นหาเปสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา อุทกํ อาหริ. ภควา อุทกํ อาสิฺจิ. อายสฺมา อานนฺโท ปริโธวิ. ภควา สีสโต อคฺคเหสิ. อายสฺมา อานนฺโท ปาทโต อุจฺจาเรตฺวา มฺจเก นิปาเตสุํ. อถ โข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฏิปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อมุกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขุ คิลาโน’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภควา’’ติ. ‘‘กึ ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘ตสฺส, ภนฺเต, อายสฺมโต กุจฺฉิวิการาพาโธ’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน อุปฏฺาโก’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภควา’’ติ ¶ . ‘‘กิสฺส ตํ ภิกฺขู น อุปฏฺเนฺตี’’ติ? ‘‘เอโส, ภนฺเต, ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ อการโก; เตน ตํ ภิกฺขู น อุปฏฺเนฺตี’’ติ. ‘‘นตฺถิ โว, ภิกฺขเว, มาตา, นตฺถิ ปิตา, เย โว อุปฏฺเหยฺยุํ. ตุมฺเห เจ, ภิกฺขเว, อฺมฺํ น อุปฏฺหิสฺสถ, อถ โก จรหิ อุปฏฺหิสฺสติ? โย, ภิกฺขเว, มํ อุปฏฺเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺย. สเจ อุปชฺฌาโย โหติ, อุปชฺฌาเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อาจริโย โหติ, อาจริเยน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สทฺธิวิหาริโก โหติ ¶ , สทฺธิวิหาริเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ อนฺเตวาสิโก โหติ, อนฺเตวาสิเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานุปชฺฌายโก โหติ, สมานุปชฺฌายเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ ¶ ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ สมานาจริยโก โหติ, สมานาจริยเกน ยาวชีวํ อุปฏฺาตพฺโพ; วุฏฺานมสฺส อาคเมตพฺพํ. สเจ น โหติ อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก วา สมานุปชฺฌายโก วา สมานาจริยโก วา สงฺเฆน อุปฏฺาตพฺโพ. โน เจ อุปฏฺเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’.
๓๖๖. ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺโ โหติ – อสปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ น ชานาติ, เภสชฺชํ น ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ นาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺโ โหติ.
ปฺจหิ, ภิกฺขเว ¶ , องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺโ โหติ – สปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ ชานาติ, เภสชฺชํ ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ ‘อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ, ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ, ิตํ ¶ วา ิโต’ติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺโ โหติ.
ปฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ – น ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ น ชานาติ, อสปฺปายํ อุปนาเมติ สปฺปายํ อปนาเมติ, อามิสนฺตโร คิลานํ อุปฏฺาติ โน เมตฺตจิตฺโต, เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ ¶ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, น ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ.
ปฺจหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺาตุํ – ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ, สปฺปายาสปฺปายํ ชานาติ, อสปฺปายํ อปนาเมติ สปฺปายํ อุปนาเมติ, เมตฺตจิตฺโต คิลานํ อุปฏฺาติ โน อามิสนฺตโร, อเชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา เขฬํ วา วนฺตํ วา นีหาตุํ, ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺาตุนฺติ.
คิลานวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
๒๒๕. มตสนฺตกกถา
๓๖๗. เตน โข ปน สมเยน ทฺเว ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ. เต อฺตรํ อาวาสํ อุปคจฺฉึสุ. ตตฺถ ¶ อฺตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา โข, อาวุโส, คิลานุปฏฺานํ วณฺณิตํ. หนฺท, มยํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ อุปฏฺเหมา’’ติ. เต ตํ อุปฏฺหึสุ. โส เตหิ อุปฏฺหิยมาโน กาลมกาสิ. อถ โข เต ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลงฺกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิจ คิลานุปฏฺากา พหูปการา. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรฺจ ¶ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทาตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพํ. เตน คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต. อิทํ ตสฺส ติจีวรฺจ ปตฺโต จา’’’ติ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต. อิทํ ตสฺส ติจีวรฺจ ปตฺโต จ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทเทยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลงฺกโต. อิทํ ตสฺส ติจีวรฺจ ปตฺโต จ. สงฺโฆ อิมํ ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ เทติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส ติจีวรสฺส จ ปตฺตสฺส จ คิลานุปฏฺากานํ ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘ทินฺนํ ¶ อิทํ สงฺเฆน ติจีวรฺจ ปตฺโต จ คิลานุปฏฺากานํ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ ¶ .
๓๖๘. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร สามเณโร กาลงฺกโต โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สามเณรสฺส, ภิกฺขเว, กาลงฺกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิ จ คิลานุปฏฺากา พหูปการา. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน จีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทาตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพํ. เตน คิลานุปฏฺาเกน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, สามเณโร กาลงฺกโต, อิทํ ตสฺส จีวรฺจ ปตฺโต จา’’ติ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม สามเณโร กาลงฺกโต. อิทํ ตสฺส จีวรฺจ ปตฺโต จ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ ทเทยฺย. เอสา ตฺติ.
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม สามเณโร กาลงฺกโต. อิทํ ตสฺส จีวรฺจ ปตฺโต จ. สงฺโฆ อิมํ จีวรฺจ ปตฺตฺจ คิลานุปฏฺากานํ เทติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส จีวรสฺส จ ปตฺตสฺส จ คิลานุปฏฺากานํ ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน จีวรฺจ ปตฺโต จ คิลานุปฏฺากานํ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.
๓๖๙. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ จ สามเณโร จ คิลานํ อุปฏฺหึสุ. โส เตหิ อุปฏฺหิยมาโน กาลมกาสิ. อถ โข ตสฺส คิลานุปฏฺากสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ ¶ – ‘‘กถํ นุ โข คิลานุปฏฺากสฺส ¶ สามเณรสฺส จีวรปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ ¶ ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานุปฏฺากสฺส สามเณรสฺส สมกํ ปฏิวีสํ ทาตุนฺติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ พหุภณฺโฑ พหุปริกฺขาโร กาลงฺกโต โหติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลงฺกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิ จ คิลานุปฏฺากา พหูปการา. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรฺจ ปตฺตฺจ ¶ คิลานุปฏฺากานํ ทาตุํ. ยํ ตตฺถ ลหุภณฺฑํ ลหุปริกฺขารํ ตํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุํ. ยํ ตตฺถ ครุภณฺฑํ ครุปริกฺขารํ ตํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส อวิสฺสชฺชิกํ อเวภงฺคิกนฺติ.
มตสนฺตกกถา นิฏฺิตา.
๒๒๖. นคฺคิยปฏิกฺเขปกถา
๓๗๐. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ นคฺโค หุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควา, ภนฺเต, อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฏฺสฺส สลฺเลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส วณฺณวาที. อิทํ, ภนฺเต, นคฺคิยํ อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉตาย สนฺตุฏฺิตาย สลฺเลขาย ธุตตาย [ธุตตฺตาย (ก.)] ปาสาทิกตาย อปจยาย วีริยารมฺภาย สํวตฺตติ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ นคฺคิยํ อนุชานาตู’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, นคฺคิยํ ติตฺถิยสมาทานํ สมาทิยิสฺสสิ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป…’’ วิครหิตฺวา ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, นคฺคิยํ ¶ ติตฺถิยสมาทานํ สมาทิยิตพฺพํ. โย สมาทิเยยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ.
นคฺคิยปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๒๒๗. กุสจีราทิปฏิกฺเขปกถา
๓๗๑. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ กุสจีรํ นิวาเสตฺวา…เป… วากจีรํ ¶ นิวาเสตฺวา…เป… ผลกจีรํ นิวาเสตฺวา…เป… เกสกมฺพลํ นิวาเสตฺวา…เป… วาฬกมฺพลํ นิวาเสตฺวา…เป… อุลูกปกฺขํ นิวาเสตฺวา…เป… อชินกฺขิปํ นิวาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควา, ภนฺเต, อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฏฺสฺส สลฺเลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส วณฺณวาที. อิทํ, ภนฺเต, อชินกฺขิปํ อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉตาย สนฺตุฏฺิตาย สลฺเลขาย ธุตตาย ปาสาทิกตาย อปจยาย วีริยารมฺภาย สํวตฺตติ. สาธุ, ภนฺเต ¶ , ภควา ภิกฺขูนํ อชินกฺขิปํ อนุชานาตู’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ ¶ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อชินกฺขิปํ ติตฺถิยธชํ ธาเรสฺสสิ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อชินกฺขิปํ ติตฺถิยธชํ ธาเรตพฺพํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ.
เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ภิกฺขุ อกฺกนาฬํ นิวาเสตฺวา…เป… โปตฺถกํ นิวาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควา, ภนฺเต, อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉสฺส สนฺตุฏฺสฺส สลฺเลขสฺส ธุตสฺส ปาสาทิกสฺส อปจยสฺส วีริยารมฺภสฺส, วณฺณวาที. อยํ, ภนฺเต, โปตฺถโก อเนกปริยาเยน อปฺปิจฺฉตาย ¶ สนฺตุฏฺิตาย สลฺเลขาย ธุตตาย ปาสาทิกตาย อปจยาย วีริยารมฺภาย สํวตฺตติ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ โปตฺถกํ อนุชานาตู’’ติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํ. กถฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, โปตฺถกํ นิวาเสสฺสสิ. เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, โปตฺถโก นิวาเสตพฺโพ. โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ.
กุสจีราทิปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๒๒๘. สพฺพนีลกาทิปฏิกฺเขปกถา
๓๗๒. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… สพฺพปีตกานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… สพฺพโลหิตกานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… สพฺพมฺชิฏฺกานิ [สพฺพมฺเชฏฺกานิ (สี. สฺยา.)] จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… สพฺพกณฺหานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ ¶ …เป… สพฺพมหารงฺครตฺตานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… สพฺพมหานามรตฺตานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… อจฺฉินฺนทสานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… ทีฆทสานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… ปุปฺผทสานิ จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… ผณทสานิ [ผลทสานิ (ก.)] จีวรานิ ธาเรนฺติ…เป… กฺจุกํ ธาเรนฺติ…เป… ติรีฏกํ ธาเรนฺติ…เป… เวนํ ธาเรนฺติ. มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา เวนํ ธาเรสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ¶ . น, ภิกฺขเว, สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น สพฺพปีตกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น สพฺพโลหิตกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น สพฺพมฺชิฏฺกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น สพฺพกณฺหานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น สพฺพมหารงฺครตฺตานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น ¶ สพฺพมหานามรตฺตานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น อจฺฉินฺนทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น ทีฆทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น ปุปฺผทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น ผณทสานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานิ, น กฺจุกํ ธาเรตพฺพํ, น ติรีฏกํ ธาเรตพฺพํ, น เวนํ ธาเรตพฺพํ. โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ.
สพฺพนีลกาทิปฏิกฺเขปกถา นิฏฺิตา.
๒๒๙. วสฺสํวุฏฺานํ อนุปฺปนฺนจีวรกถา
๓๗๓. เตน โข ปน สมเยน วสฺสํวุฏฺา ภิกฺขู อนุปฺปนฺเน จีวเร ¶ ปกฺกมนฺติปิ, วิพฺภมนฺติปิ, กาลมฺปิ กโรนฺติ, สามเณราปิ ปฏิชานนฺติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกาปิ ปฏิชานนฺติ, อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนกาปิ ปฏิชานนฺติ, อุมฺมตฺตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ขิตฺตจิตฺตาปิ ปฏิชานนฺติ, เวทนาฏฺฏาปิ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตกาปิ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ปณฺฑกาปิ ปฏิชานนฺติ, เถยฺยสํวาสกาปิ ปฏิชานนฺติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ติรจฺฉานคตาปิ ปฏิชานนฺติ, มาตุฆาตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ปิตุฆาตกาปิ ปฏิชานนฺติ, อรหนฺตฆาตกาปิ ปฏิชานนฺติ, ภิกฺขุนิทูสกาปิ ปฏิชานนฺติ, สงฺฆเภทกาปิ ปฏิชานนฺติ, โลหิตุปฺปาทกาปิ ปฏิชานนฺติ, อุภโตพฺยฺชนกาปิ ปฏิชานนฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.
๓๗๔. อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺเน จีวเร ปกฺกมติ, สนฺเต ปติรูเป คาหเก ทาตพฺพํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺเน จีวเร วิพฺภมติ, กาลํ กโรติ, สามเณโร ปฏิชานาติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ปฏิชานาติ ¶ , อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก ปฏิชานาติ, สงฺโฆ สามี.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺเน จีวเร อุมฺมตฺตโก ปฏิชานาติ, ขิตฺตจิตฺโต ปฏิชานาติ, เวทนาฏฺโฏ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา ¶ อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, สนฺเต ปติรูเป คาหเก ทาตพฺพํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺเน จีวเร ปณฺฑโก ปฏิชานาติ, เถยฺยสํวาสโก ปฏิชานาติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ปฏิชานาติ, ติรจฺฉานคโต ปฏิชานาติ, มาตุฆาตโก ปฏิชานาติ, ปิตุฆาตโก ปฏิชานาติ, อรหนฺตฆาตโก ปฏิชานาติ, ภิกฺขุนิทูสโก ปฏิชานาติ, สงฺฆเภทโก ปฏิชานาติ, โลหิตุปฺปาทโก ปฏิชานาติ, อุภโตพฺยฺชนโก ปฏิชานาติ, สงฺโฆ สามี.
๓๗๕. อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต ปกฺกมติ, สนฺเต ปติรูเป คาหเก ทาตพฺพํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต วิพฺภมติ, กาลํ กโรติ, สามเณโร ปฏิชานาติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ปฏิชานาติ, อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนโก ปฏิชานาติ, สงฺโฆ สามี.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต อุมฺมตฺตโก ปฏิชานาติ. ขิตฺตจิตฺโต ปฏิชานาติ, เวทนาฏฺโฏ ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, อาปตฺติยา อปฺปฏิกมฺเม อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺขิตฺตโก ปฏิชานาติ, สนฺเต ปติรูเป คาหเก ทาตพฺพํ.
อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺโ ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต ปณฺฑโก ปฏิชานาติ, เถยฺยสํวาสโก ปฏิชานาติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ปฏิชานาติ, ติรจฺฉานคโต ปฏิชานาติ, มาตุฆาตโก ปฏิชานาติ, ปิตุฆาตโก ปฏิชานาติ, อรหนฺตฆาตโก ปฏิชานาติ, ภิกฺขุนิทูสโก ปฏิชานาติ, สงฺฆเภทโก ปฏิชานาติ, โลหิตุปฺปาทโก ปฏิชานาติ, อุภโตพฺยฺชนโก ปฏิชานาติ, สงฺโฆ สามี.
วสฺสํ วุฏฺานํ อนุปฺปนฺนจีวรกถา นิฏฺิตา.
๒๓๐. สงฺเฆ ภินฺเน จีวรุปฺปาทกถา
๓๗๖. อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ¶ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข อุทกํ เทนฺติ, เอกสฺมึ ปกฺเข จีวรํ เทนฺติ – สงฺฆสฺส เทมาติ. สงฺฆสฺเสเวตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข อุทกํ เทนฺติ, ตสฺมึเยว ปกฺเข จีวรํ เทนฺติ – สงฺฆสฺส ¶ เทมาติ. สงฺฆสฺเสเวตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข อุทกํ เทนฺติ, เอกสฺมึ ปกฺเข จีวรํ เทนฺติ – ปกฺขสฺส เทมาติ. ปกฺขสฺเสเวตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ. ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมึ ปกฺเข อุทกํ เทนฺติ, ตสฺมึเยว ปกฺเข จีวรํ เทนฺติ – ปกฺขสฺส เทมาติ. ปกฺขสฺเสเวตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, วสฺสํวุฏฺานํ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต สงฺโฆ ภิชฺชติ. สพฺเพสํ สมกํ ภาเชตพฺพนฺติ.
สงฺเฆ ภินฺเน จีวรุปฺปาทกถา นิฏฺิตา.
๒๓๑. ทุคฺคหิตสุคฺคหิตาทิกถา
๓๗๗. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา เรวโต อฺตรสฺส ภิกฺขุโน หตฺเถ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส จีวรํ ปาเหสิ – ‘‘อิมํ จีวรํ เถรสฺส เทหี’’ติ. อถ โข โส ภิกฺขุ อนฺตรามคฺเค อายสฺมโต เรวตสฺส วิสฺสาสา ตํ จีวรํ อคฺคเหสิ. อถ โข อายสฺมา เรวโต อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สมาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อหํ, ภนฺเต, เถรสฺส จีวรํ ปาเหสึ. สมฺปตฺตํ ตํ จีวร’’นฺติ? ‘‘นาหํ ตํ, อาวุโส, จีวรํ ปสฺสามี’’ติ. อถ โข อายสฺมา เรวโต ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ, อาวุโส ¶ , อายสฺมโต หตฺเถ เถรสฺส จีวรํ ปาเหสึ. กหํ ตํ จีวร’’นฺติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, อายสฺมโต วิสฺสาสา ตํ จีวรํ อคฺคเหสิ’’นฺติ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.
๓๗๘. อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ. โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ – โย ปหิณติ โส กาลงฺกโตติ. ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ – ยสฺส ปหิยฺยติ โส กาลงฺกโตติ. ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. ทฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทหี’’ติ. โส ¶ อนฺตรามคฺเค สุณาติ – อุโภ กาลงฺกตาติ. โย ปหิณติ ตสฺส มตกจีวรํ ¶ อธิฏฺาติ. สฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ¶ ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. ทฺวาธิฏฺิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ. โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ – ‘‘โย ปหิณติ โส ¶ กาลงฺกโต’’ติ. ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. สุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ – ‘‘ยสฺส ปหิยฺยติ โส กาลงฺกโต’’ติ. ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. สฺวาธิฏฺิตํ. โย ปหิณติ ตสฺส วิสฺสาสา คณฺหาติ. ทุคฺคหิตํ.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ จีวรํ ปหิณติ – ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ. โส อนฺตรามคฺเค สุณาติ ‘‘อุโภ กาลงฺกตา’’ติ. โย ปหิณติ ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. ทฺวาธิฏฺิตํ. ยสฺส ปหิยฺยติ ตสฺส มตกจีวรํ อธิฏฺาติ. สฺวาธิฏฺิตํ.
ทุคฺคหิตสุคฺคหิตาทิกถา นิฏฺิตา.
๒๓๒. อฏฺจีวรมาติกา
๓๗๙. อฏฺิมา ¶ , ภิกฺขเว, มาติกา จีวรสฺส อุปฺปาทาย – สีมาย เทติ ¶ , กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทติ.
สีมาย เทติ – ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตสีมคตา เตหิ ภาเชตพฺพํ. กติกาย เทติ – สมฺพหุลา อาวาสา สมานลาภา โหนฺติ เอกสฺมึ อาวาเส ทินฺเน สพฺพตฺถ ทินฺนํ โหติ. ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, ยตฺถ สงฺฆสฺส ธุวการา กริยฺยนฺติ, ตตฺถ เทติ. สงฺฆสฺส เทติ, สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตพฺพํ. อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, พหุกาปิ ภิกฺขู โหนฺติ, เอกา ภิกฺขุนี โหติ, อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ, พหุกาปิ ภิกฺขุนิโย โหนฺติ, เอโก ภิกฺขุ โหติ, อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํ. วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุฏฺา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. อาทิสฺส เทติ, ยาคุยา วา ภตฺเต วา ขาทนีเย วา จีวเร วา เสนาสเน วา เภสชฺเช วา ¶ . ปุคฺคลสฺส เทติ, ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ.
อฏฺจีวรมาติกา นิฏฺิตา.
จีวรกฺขนฺธโก อฏฺโม.
๒๓๓. ตสฺสุทฺทานํ
ราชคหโก ¶ เนคโม, ทิสฺวา เวสาลิยํ คณึ;
ปุน ราชคหํ คนฺตฺวา, รฺโ ตํ ปฏิเวทยิ.
ปุตฺโต ¶ สาลวติกาย, อภยสฺส หิ อตฺรโช;
ชีวตีติ กุมาเรน, สงฺขาโต ชีวโก อิติ.
โส หิ ตกฺกสีลํ คนฺตฺวา, อุคฺคเหตฺวา มหาภิโส;
สตฺตวสฺสิกอาพาธํ, นตฺถุกมฺเมน นาสยิ.
รฺโ ¶ ภคนฺทลาพาธํ, อาเลเปน อปากฑฺฒิ;
มมฺจ อิตฺถาคารฺจ, พุทฺธสงฺฆํ จุปฏฺหิ.
ราชคหโก จ เสฏฺิ, อนฺตคณฺิ ติกิจฺฉิตํ;
ปชฺโชตสฺส มหาโรคํ, ฆตปาเนน นาสยิ.
อธิการฺจ สิเวยฺยํ, อภิสนฺนํ สิเนหติ;
ตีหิ อุปฺปลหตฺเถหิ, สมตฺตึสวิเรจนํ.
ปกตตฺตํ วรํ ยาจิ, สิเวยฺยฺจ ปฏิคฺคหิ;
จีวรฺจ คิหิทานํ, อนฺุาสิ ตถาคโต.
ราชคเห ชนปเท พหุํ, อุปฺปชฺชิ จีวรํ;
ปาวาโร โกสิยฺเจว, โกชโว อฑฺฒกาสิกํ.
อุจฺจาวจา จ สนฺตุฏฺิ, นาคเมสาคเมสุํ จ;
ปมํ ปจฺฉา สทิสา, กติกา จ ปฏิหรุํ.
ภณฺฑาคารํ อคุตฺตฺจ, วุฏฺาเปนฺติ ตเถว จ;
อุสฺสนฺนํ โกลาหลฺจ, กถํ ภาเช กถํ ทเท.
สกาติเรกภาเคน, ปฏิวีโส กถํ ทเท;
ฉกเณน ¶ สีตุทกา [สีตุนฺที จ (สี.), สีตุณฺหิ จ (กตฺถจิ)], อุตฺตริตุ น ชานเร.
อาโรเปนฺตา ภาชนฺจ, ปาติยา จ ฉมาย จ;
อุปจิกามชฺเฌ ชีรนฺติ, เอกโต ปตฺถินฺเนน จ.
ผรุสาจฺฉินฺนจฺฉิพนฺธา ¶ , อทฺทสาสิ อุพฺภณฺฑิเต;
วีมํสิตฺวา สกฺยมุนิ, อนฺุาสิ ติจีวรํ.
อฺเน ¶ อติเรเกน, อุปฺปชฺชิ ฉิทฺทเมว จ;
จาตุทฺทีโป วรํ ยาจิ, ทาตุํ วสฺสิกสาฏิกํ.
อาคนฺตุคมิคิลานํ, อุปฏฺากฺจ เภสชฺชํ;
ธุวํ อุทกสาฏิฺจ, ปณีตํ อติขุทฺทกํ.
ถุลฺลกจฺฉุมุขํ โขมํ, ปริปุณฺณํ อธิฏฺานํ;
ปจฺฉิมํ กโต ครุโก, วิกณฺโณ สุตฺตโมกิริ.
ลุชฺชนฺติ ¶ นปฺปโหนฺติ, จ อนฺวาธิกํ พหูนิ จ;
อนฺธวเน อสฺสติยา, เอโก วสฺสํ อุตุมฺหิ จ.
ทฺเว ภาตุกา ราชคเห, อุปนนฺโท ปุน ทฺวิสุ;
กุจฺฉิวิกาโร คิลาโน, อุโภ เจว คิลานกา [คิลายนา (ก.)].
นคฺคา กุสา วากจีรํ, ผลโก เกสกมฺพลํ;
วาฬอุลูกปกฺขฺจ, อชินํ อกฺกนาฬกํ.
โปตฺถกํ นีลปีตฺจ, โลหิตํ มฺชิฏฺเน จ;
กณฺหา มหารงฺคนาม, อจฺฉินฺนทสิกา ตถา.
ทีฆปุปฺผผณทสา ¶ , กฺจุติรีฏเวนํ;
อนุปฺปนฺเน ปกฺกมติ, สงฺโฆ ภิชฺชติ ตาวเท.
ปกฺเข ททนฺติ สงฺฆสฺส, อายสฺมา เรวโต ปหิ;
วิสฺสาสคาหาธิฏฺาติ, อฏฺ จีวรมาติกาติ.
อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู ฉนฺนวุติ.
จีวรกฺขนฺธโก นิฏฺิโต.