📜

๑๑. ปฺจสติกกฺขนฺธกํ

๑. สงฺคีตินิทานํ

๔๓๗. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทึ.

[ที. นิ. ๒.๒๓๑] ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อาชีวโก กุสินาราย มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวา ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. อทฺทสํ โข อหํ, อาวุโส, ตํ อาชีวกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ตํ อาชีวกํ เอตทโวจํ – ‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’ติ? ‘อามาวุโส, ชานามิ. อชฺช สตฺตาหปรินิพฺพุโต สมโณ โคตโม. ตโต เม อิทํ มนฺทารวปุปฺผํ คหิต’นฺติ. ตตฺราวุโส, เย เต ภิกฺขู อวีตราคา อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิตนฺติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ.

‘‘อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, เต ภิกฺขู เอตทโวจํ – ‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ; มา ปริเทวิตฺถ. นนฺเวตํ, อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว. ตํ กุเตตฺถ อาวุโส ลพฺภา, ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ – เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ.

‘‘เตน โข ปนาวุโส, สมเยน สุภทฺโท นาม วุฑฺฒปพฺพชิโต ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ . อถ โข, อาวุโส, สุภทฺโท วุฑฺฒปพฺพชิโต เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ; มา ปริเทวิตฺถ. สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน ; อุปทฺทุตา จ มยํ โหม – อิทํ โว กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตีติ. อิทานิ ปน มยํ ยํ อิจฺฉิสฺสาม ตํ กริสฺสาม, ยํ น อิจฺฉิสฺสาม น ตํ กริสฺสามา’ติ. หนฺท มยํ, อาวุโส, ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายาม. ปุเร อธมฺโม ทิปฺปติ [ทิพฺพติ (ก.)], ธมฺโม ปฏิพาหิยฺยติ; ปุเร อวินโย ทิปฺปติ วินโย ปฏิพาหิยฺยติ; ปุเร อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺติ; ปุเร อวินยวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, วินยวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ.

‘‘เตน หิ, ภนฺเต, เถโร ภิกฺขู อุจฺจินตู’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เอเกนูนปฺจอรหนฺตสตานิ อุจฺจินิ. ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท กิฺจาปิ เสกฺโข, อภพฺโพ ฉนฺทา โทสา โมหา ภยา อคตึ คนฺตุํ. พหุ จ อเนน ภควโต สนฺติเก ธมฺโม จ วินโย จ ปริยตฺโต. เตน หิ, ภนฺเต, เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’’ติ . อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินิ.

อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กตฺถ นุ โข มยํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยามา’’ติ? อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ราชคหํ โข มหาโคจรํ ปหูตเสนาสนํ, ยํนูน มยํ ราชคเห วสฺสํ วสนฺตา ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยาม. น อฺเ ภิกฺขู ราชคเห วสฺสํ อุปคจฺเฉยฺยุ’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

๔๓๘. ‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สมฺมนฺเนยฺย – ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สมฺมนฺนติ – ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สมฺมุติ – ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ – โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตานิ สงฺเฆน อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพนฺติ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

อถ โข เถรา ภิกฺขู ราชคหํ อคมํสุ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ. อถ โข เถรานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา โข, อาวุโส, ขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณํ วณฺณิตํ. หนฺท มยํ, อาวุโส, ปมํ มาสํ ขณฺฑผุลฺลํ ปฏิสงฺขโรม; มชฺฌิมํ มาสํ สนฺนิปติตฺวา ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิสฺสามา’’ติ.

อถ โข เถรา ภิกฺขู ปมํ มาสํ ขณฺฑผุลฺลํ ปฏิสงฺขรึสุ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท – สฺเว สนฺนิปาโต [สนฺนิปาโตติ (ก.)] น โข เมตํ ปติรูปํ, โยหํ เสกฺโข สมาโน สนฺนิปาตํ คจฺเฉยฺยนฺติ – พหุเทว รตฺตึ กายคตาย สติยา วีตินาเมตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ‘นิปชฺชิสฺสามี’ติ กายํ อาวชฺเชสิ. อปฺปตฺตฺจ สีสํ พิพฺโพหนํ, ภูมิโต จ ปาทา มุตฺตา. เอตสฺมึ อนฺตเร อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ.

๔๓๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อรหา สมาโน สนฺนิปาตํ อคมาสิ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อุปาลึ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

อายสฺมา อุปาลิ สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อายสฺมตา มหากสฺสเปน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ เอตทโวจ – ‘‘ปมํ, อาวุโส อุปาลิ , ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ? ‘‘เวสาลิยํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘เมถุนธมฺเม’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ ปมสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, ปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนุปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ. ‘‘ทุติยํ ปนาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ? ‘‘ราชคเห ภนฺเต’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘ธนิยํ กุมฺภการปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘อทินฺนาทาเน’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ ทุติยสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, ปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนุปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ. ‘‘ตติยํ ปนาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ? ‘‘เวสาลิยํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘มนุสฺสวิคฺคเห’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ ตติยสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, ปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนุปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ. ‘‘จตุตฺถํ ปนาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ? ‘‘เวสาลิยํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อารพฺภา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อุปาลึ จตุตฺถสฺส ปาราชิกสฺส วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉิ, นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ, ปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนุปฺตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ, อนาปตฺติมฺปิ ปุจฺฉิ. เอเตเนว อุปาเยน อุภโตวิภงฺเค ปุจฺฉิ. ปุฏฺโ ปุฏฺโ อายสฺมา อุปาลิ วิสฺสชฺเชสิ.

๔๔๐. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อานนฺทํ ธมฺมํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ.

อายสฺมา อานนฺโท สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อายสฺมตา มหากสฺสเปน ธมฺมํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘พฺรหฺมชาลํ, อาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ? ‘‘อนฺตรา จ, ภนฺเต, ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ ราชาคารเก อมฺพลฏฺิกายา’’ติ. ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ? ‘‘สุปฺปิยฺจ ปริพฺพาชกํ พฺรหฺมทตฺตฺจ มาณว’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ พฺรหฺมชาลสฺส นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ. ‘‘สามฺผลํ ปนาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ? ‘‘ราชคเห, ภนฺเต, ชีวกมฺพวเน’’ติ. ‘‘เกน สทฺธิ’’นฺติ? ‘‘อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน สทฺธิ’’นฺติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สามฺผลสฺส นิทานมฺปิ ปุจฺฉิ, ปุคฺคลมฺปิ ปุจฺฉิ. เอเตเนว อุปาเยน ปฺจปิ นิกาเย ปุจฺฉิ. ปุฏฺโ ปุฏฺโ อายสฺมา อานนฺโท วิสฺสชฺเชสิ.

๒. ขุทฺทานุขุทฺทกสิกฺขาปทกถา

๔๔๑. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ภควา มํ, ภนฺเต, ปรินิพฺพานกาเล เอวมาห – ‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหเนยฺยา’’’ติ. ‘‘ปุจฺฉิ ปน ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, ภควนฺตํ – ‘กตมานิ ปน, ภนฺเต, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’’ติ? ‘‘น โขหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ปุจฺฉึ – ‘กตมานิ ปน, ภนฺเต, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา , เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา, เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา, ทฺเว อนิยเต เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา, เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา, ทฺเว อนิยเต เปตฺวา, ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา, เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา, ทฺเว อนิยเต เปตฺวา, ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา, ทฺเวนวุติ ปาจิตฺติเย เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ. เอกจฺเจ เถรา เอวมาหํสุ – ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เปตฺวา, เตรส สงฺฆาทิเสเส เปตฺวา, ทฺเว อนิยเต เปตฺวา, ตึส นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติเย เปตฺวา, ทฺเวนวุติ ปาจิตฺติเย เปตฺวา, จตฺตาโร ปาฏิเทสนีเย เปตฺวา, อวเสสานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’’ติ.

๔๔๒. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป สงฺฆํ าเปสิ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. สนฺตมฺหากํ สิกฺขาปทานิ คิหิคตานิ. คิหิโนปิ ชานนฺติ – ‘อิทํ โว สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ. สเจ มยํ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนิสฺสาม, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร – ‘ธูมกาลิกํ สมเณน โคตเมน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ยาวิเมสํ สตฺถา อฏฺาสิ ตาวิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขึสุ. ยโต อิเมสํ สตฺถา ปรินิพฺพุโต, น ทานิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขนฺตี’ติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อปฺปฺตฺตํ นปฺปฺเปยฺย, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺเทยฺย, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺเตยฺย. เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ. สนฺตมฺหากํ สิกฺขาปทานิ คิหิคตานิ. คิหิโนปิ ชานนฺติ – ‘อิทํ โว สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ. สเจ มยํ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนิสฺสาม, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร – ‘ธูมกาลิกํ สมเณน โคตเมน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ . ยาวิเมสํ สตฺถา อฏฺาสิ ตาวิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขึสุ. ยโต อิเมสํ สตฺถา ปรินิพฺพุโต, น ทานิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขนฺตี’ติ. สงฺโฆ อปฺปฺตฺตํ นปฺปฺเปติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ อปฺปฺตฺตสฺส อปฺปฺาปนา, ปฺตฺตสฺส อสมุจฺเฉโท, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตนา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สงฺโฆ อปฺปฺตฺตํ นปฺปฺเปติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตติ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

๔๔๓. อถ โข เถรา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิทํ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ, ยํ ตฺวํ ภควนฺตํ น ปุจฺฉิ – ‘กตมานิ ปน, ภนฺเต, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, อสฺสติยา ภควนฺตํ น ปุจฺฉึ – ‘กตมานิ ปน, ภนฺเต, ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานี’ติ. นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามิ, อปิ จายสฺมนฺตานํ สทฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อิทมฺปิ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ, ยํ ตฺวํ ภควโต วสฺสิกสาฏิกํ อกฺกมิตฺวา สิพฺเพสิ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, น อคารเวน ภควโต วสฺสิกสาฏิกํ อกฺกมิตฺวา สิพฺเพสึ. นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามิ, อปิ จายสฺมนฺตานํ สทฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อิทมฺปิ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ, ยํ ตฺวํ มาตุคาเมหิ ภควโต สรีรํ ปมํ วนฺทาเปสิ, ตาสํ โรทนฺตีนํ ภควโต สรีรํ อสฺสุเกน มกฺขิตํ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. อหํ โข, ภนฺเต – มายิมาสํ [มายิมา (สี. สฺยา.)] วิกาเล อเหสุนฺติ – มาตุคาเมหิ ภควโต สรีรํ ปมํ วนฺทาเปสึ. นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามิ, อปิ จายสฺมนฺตานํ สทฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อิทมฺปิ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ, ยํ ตฺวํ ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน, โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน, น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ, พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต น ภควนฺตํ ยาจึ – ‘ติฏฺตุ ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ, พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามิ, อปิ จายสฺมนฺตานํ สทฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อิทมฺปิ เต, อาวุโส อานนฺท, ทุกฺกฏํ ยํ ตฺวํ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ อุสฺสุกฺกํ อกาสิ. เทเสหิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, อยํ มหาปชาปติ โคตมี ภควโต มาตุจฺฉา อาปาทิกา โปสิกา ขีรสฺส ทายิกา ภควนฺตํ ชเนตฺติยา กาลงฺกตาย ถฺํ ปาเยสีติ มาตุคามสฺส ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปพฺพชฺชํ อุสฺสุกฺกํ อกาสึ. นาหํ ตํ ทุกฺกฏํ ปสฺสามิ, อปิ จายสฺมนฺตานํ สทฺธาย เทเสมิ ตํ ทุกฺกฏ’’นฺติ.

๔๔๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปุราโณ ทกฺขิณาคิริสฺมึ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ โข อายสฺมา ปุราโณ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ธมฺเม จ วินเย จ สงฺคีเต ทกฺขิณาคิริสฺมึ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ราชคหํ เยน เวฬุวนํ กลนฺทกนิวาโป เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เถเรหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ปุราณํ เถรา ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘เถเรหิ, อาวุโส ปุราณ, ธมฺโม จ วินโย จ สงฺคีโต. อุเปหิ ตํ สงฺคีติ’’นฺติ. ‘‘สุสงฺคีตาวุโส, เถเรหิ ธมฺโม จ วินโย จ. อปิจ ยเถว มยา ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, ตเถวาหํ ธาเรสฺสามี’’ติ.

๓. พฺรหฺมทณฺฑกถา

๔๔๕. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ภควา มํ, ภนฺเต, ปรินิพฺพานกาเล เอวมาห – ‘เตน หานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปตู’’’ติ . ‘‘ปุจฺฉิ ปน ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, ภควนฺตํ – ‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’’’ติ? ‘‘ปุจฺฉึ โขหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ – ‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’’’ติ? ‘‘ฉนฺโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ ฉนฺโน ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ’’ติ. ‘‘เตน หาวุโส อานนฺท, ตฺวํเยว ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปหี’’ติ. ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปมิ, จณฺโฑ โส ภิกฺขุ ผรุโส’’ติ? ‘เตน หาวุโส อานนฺท, พหุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คจฺฉาหี’’ติ. ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ นาวาย อุชฺชวนิกาย โกสมฺพึ อุชฺชวิ, นาวาย ปจฺโจโรหิตฺวา รฺโ อุเทนสฺส [อุเตนสฺส (ก.)] อุยฺยานสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน ราชา อุเทโน อุยฺยาเน ปริจาเรสิ สทฺธึ โอโรเธน. อสฺโสสิ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ – ‘‘อมฺหากํ กิร อาจริโย อยฺโย อานนฺโท อุยฺยานสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺโน’’ติ. อถ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ ราชานํ อุเทนํ เอตทโวจ – ‘‘อมฺหากํ กิร, เทว, อาจริโย อยฺโย อานนฺโท อุยฺยานสฺส อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺโน. อิจฺฉาม มยํ, เทว, อยฺยํ อานนฺทํ ปสฺสิตุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ตุมฺเห สมณํ อานนฺทํ ปสฺสถา’’ติ.

อถ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรธํ อายสฺมา อานนฺโท ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ . อถ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ อายสฺมตา อานนฺเทน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฺจ อุตฺตราสงฺคสตานิ ปาทาสิ. อถ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ราชา อุเทโน เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ราชา อุเทโน โอโรธํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน โอโรธํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ นุ โข ตุมฺเห สมณํ อานนฺทํ ปสฺสิตฺถา’’ติ? ‘‘อปสฺสิมฺหา โข มยํ, เทว, อยฺยํ อานนฺท’’นฺติ. ‘‘อปิ นุ ตุมฺเห สมณสฺส อานนฺทสฺส กิฺจิ อทตฺถา’’ติ? ‘‘อทมฺหา โข มยํ, เทว, อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปฺจ อุตฺตราสงฺคสตานี’’ติ. ราชา อุเทโน อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถฺหิ นาม สมโณ อานนฺโท ตาว พหุํ จีวรํ ปฏิคฺคเหสฺสติ! ทุสฺสวาณิชฺชํ วา สมโณ อานนฺโท กริสฺสติ, ปคฺคาหิกสาลํ วา ปสาเรสฺสตี’’ติ!

อถ โข ราชา อุเทโน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา อุเทโน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อาคมา นุ ขฺวิธ, โภ อานนฺท, อมฺหากํ โอโรโธ’’ติ? ‘‘อาคมาสิ โข เต อิธ, มหาราช, โอโรโธ’’ติ. ‘‘อปิ ปน โภโต อานนฺทสฺส กิฺจิ อทาสี’’ติ? ‘‘อทาสิ โข เม, มหาราช, ปฺจ อุตฺตราสงฺคสตานี’’ติ. ‘‘กึ ปน ภวํ อานนฺโท ตาว พหุํ จีวรํ กริสฺสตี’’ติ? ‘‘เย [เย ปน (ก.)] เต, มหาราช, ภิกฺขู ทุพฺพลจีวรา เตหิ สทฺธึ สํวิภชิสฺสามี’’ติ. ‘‘ยานิ โข ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ ทุพฺพลจีวรานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตานิ, มหาราช, อุตฺตรตฺถรณํ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ อุตฺตรตฺถรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตานิ, มหาราช, ภิสิจฺฉวิโย กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ยา ปน, โภ อานนฺท, โปราณกา ภิสิจฺฉวิโย ตา กถํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตา, มหาราช, ภูมตฺถรณํ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ ภูมตฺถรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตานิ, มหาราช, ปาทปุฺฉนิโย กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ยา ปน, โภ อานนฺท, โปราณกา ปาทปุฺฉนิโย ตา กถํ กริสฺสถา’’ติ?. ‘‘ตา, มหาราช, รโชหรณํ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ รโชหรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตานิ, มหาราช, โกฏฺเฏตฺวา จิกฺขลฺเลน มทฺทิตฺวา ปริภณฺฑํ ลิมฺปิสฺสามา’’ติ.

อถ โข ราชา อุเทโน – สพฺเพวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา โยนิโส อุปเนนฺติ, น กุลวํ คเมนฺตีติ – อายสฺมโต อานนฺทสฺส อฺานิปิ ปฺจ ทุสฺสสตานิ ปาทาสิ. อยฺจรหิ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปมํ จีวรภิกฺขา อุปฺปชฺชิ จีวรสหสฺสํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โฆสิตาราโม เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘สงฺเฆน เต, อาวุโส ฉนฺน, พฺรหฺมทณฺโฑ อาณาปิโต’’ติ.

‘‘กตโม ปน, ภนฺเต อานนฺท, พฺรหฺมทณฺโฑ อาณาปิโต’’ติ? ‘‘ตฺวํ, อาวุโส ฉนฺน, ภิกฺขู ยํ อิจฺเฉยฺยาสิ ตํ วเทยฺยาสิ. ภิกฺขูหิ ตฺวํ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ’’ติ. ‘‘นนฺวาหํ, ภนฺเต อานนฺท, หโต เอตฺตาวตา, ยโตหํ ภิกฺขูหิ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ’’ติ ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปปโต. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน พฺรหฺมทณฺเฑน อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา ฉนฺโน อรหตํ อโหสิ. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน อรหตฺตํ ปตฺโต เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ปฏิปฺปสฺสมฺเภหิ ทานิ เม, ภนฺเต อานนฺท, พฺรหฺมทณฺฑ’’นฺติ. ‘‘ยทคฺเคน ตยา, อาวุโส ฉนฺน, อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ ตทคฺเคน เต พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ’’ติ. อิมาย โข ปน วินยสงฺคีติยา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อนูนานิ อนธิกานิ อเหสุํ. ตสฺมา อยํ วินยสงฺคีติ ‘‘ปฺจสติกา’’ติ วุจฺจตีติ.

ปฺจสติกกฺขนฺธโก เอกาทสโม.

อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู เตวีสติ.

ตสฺสุทฺทานํ –

ปรินิพฺพุเต สมฺพุทฺเธ, เถโร กสฺสปสวฺหโย;

อามนฺตยิ ภิกฺขุคณํ, สทฺธมฺมมนุปาลโก;

ปาวายทฺธานมคฺคมฺหิ, สุภทฺเทน ปเวทิตํ;

สงฺคายิสฺสาม สทฺธมฺมํ, อธมฺโม ปุเร ทิปฺปติ.

เอเกนูน ปฺจสตํ, อานนฺทมฺปิ จ อุจฺจินิ;

ธมฺมวินยสงฺคีตึ, วสนฺโต คุหมุตฺตเม.

อุปาลึ วินยํ ปุจฺฉิ, สุตฺตนฺตานนฺทปณฺฑิตํ;

ปิฏกํ ตีณิ สงฺคีตึ, อกํสุ ชินสาวกา.

น ปุจฺฉิ อกฺกมิตฺวาน, วนฺทาเปสิ น ยาจิ จ.

ปพฺพชฺชํ มาตุคามสฺส, สทฺธาย ทุกฺกฏานิ เม;

ปุราโณ พฺรหฺมทณฺฑฺจ, โอโรโธ อุเทเนน สห.

ตาว พหุ ทุพฺพลฺจ, อุตฺตรตฺถรณา ภิสิ;

ภูมตฺถรณา ปุฺฉนิโย, รโช จิกฺขลฺลมทฺทนา.

สหสฺสจีวรํ อุปฺปชฺชิ, ปมานนฺทสวฺหโย;

ตชฺชิโต พฺรหฺมทณฺเฑน, จตุสฺสจฺจํ อปาปุณิ;

วสีภูตา ปฺจสตา, ตสฺมา ปฺจสตี อิติ.

ปฺจสติกกฺขนฺธกํ นิฏฺิตํ.