📜
๙. ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธกํ
๑. ปาติโมกฺขุทฺเทสยาจนา
๓๘๓. [อุทา. ๔๕; อ. นิ. ๘.๒๐] เตน ¶ ¶ ¶ ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุ ปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา ¶ , ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม, อุทฺธสฺตํ อรุณํ นนฺทิมุขิ รตฺติ, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ.
อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กํ นุ โข ภควา ปุคฺคลํ สนฺธาย เอวมาห – ‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สพฺพาวนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ อสุจิสงฺกสฺสรสมาจารํ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตํ อสฺสมณํ สมณปฏิฺํ อพฺรหฺมจารึ พฺรหฺมจาริปฏิฺํ อนฺโตปูตึ อวสฺสุตํ กสมฺพุชาตํ [กสมฺพุกชาตํ (ก.)] มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนํ. ทิสฺวาน เยน โส ปุคฺคโล ¶ เตนุปสงฺกมิ ¶ , อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ ¶ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. เอวํ วุตฺเต โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา; นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ตติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ พาหายํ คเหตฺวา ¶ พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขามิโต โส, ภนฺเต, ปุคฺคโล มยา; สุทฺธา ปริสา; อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, โมคฺคลฺลาน, ยาว พาหาคหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคเมสฺสตี’’ติ! อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –
๒. มหาสมุทฺเทอฏฺจฺฉริยํ
๓๘๔. [อุทา. ๔๕; อ. นิ. ๘.๑๙] ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร น อายตเกเนว ปปาโต – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ – อยํ [อยมฺปิ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ ¶ . ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปฺเว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปฺเว ตีรํ ¶ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺตา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, มหาสมุทฺโท ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ยากาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺตา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, มหาสมุทฺโท ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท จตุตฺโถ ¶ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ยา จ [ยากาจิ (สฺยา.)] โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ ¶ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน [พหูตรตโน (ก.)] อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตโก, มสารคลฺลํ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตโก ¶ , มสารคลฺลํ – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ, ติมิงฺคโล, ติมิติมิงฺคโล [ติมิรปิงฺคโล (สี.), ติมิติมิงฺคโล มหาติมิงฺคโล (สฺยา. กํ.)], อสุรา, นาคา, คนฺธพฺพา. สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ ¶ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ ¶ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ, ติมิงฺคโล, ติมิติมิงฺคโล, อสุรา, นาคา, คนฺธพฺพา; สนฺติ มหาสมุทฺเท, โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา – อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรม’’นฺติ.
๓. อิมสฺมึธมฺมวินเยอฏฺจฺฉริยํ
๓๘๕. ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ?
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ ¶ ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มยา มม สาวกานํ สิกฺขาปทํ ¶ ปฺตฺตํ, ตํ ¶ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ, ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ, กิฺจาปิ โข โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ นิสินฺโน. อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ, ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปูติตฺวา อุกฺขิปติ, กิฺจาปิ โข โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา, สงฺโฆ จ เตน – อยํ ¶ , ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺตา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, มหาสมุทฺโท ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา. เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา [ปพฺพชิตา (สี.)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, สมณา สกฺยปุตฺติยา ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม วณฺณา ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา, เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, สมณา สกฺยปุตฺติยา ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ, ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ ¶ , น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส วิมุตฺติรโส – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตโก, มสารคลฺลํ; เอวเมว ¶ โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน, ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – ติมิ, ติมิงฺคโล, ติมิติมิงฺคโล, อสุรา, นาคา, คนฺธพฺพา, สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; สกทาคามี, สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ¶ ปฏิปนฺโน; อนาคามี, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน; อรหา, อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส, ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน, โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา, อรหตผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน – อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. ‘‘อิเม โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
[อุทา. ๔๕] ‘‘ฉนฺนมติวสฺสติ [สุฉนฺนมติวสฺสติ (ก.)], วิวฏํ นาติวสฺสติ;
ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ.
๔. ปาติโมกฺขสวนารโห
๓๘๖. อถ ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘นทานาหํ, ภิกฺขเว, อิโต ¶ ปรํ อุโปสถํ กริสฺสามิ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ. ตุมฺเหวทานิ, ภิกฺขเว, อิโต ปรํ อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถํ กเรยฺย, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย. น จ, ภิกฺขเว [น จ ภิกฺขเว ภิกฺขุนา (สฺยา. กํ.)], สาปตฺติเกน ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ. โย สุเณยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โย สาปตฺติโก ปาติโมกฺขํ สุณาติ, ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปตุํ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, เปตพฺพํ. ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ ¶ อุทาหริตพฺพํ –
‘สุณาตุ เม ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล สาปตฺติโก, ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’นฺติ ปิตํ โหติ ปาติโมกฺข’’นฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ‘นามฺเห โกจิ ชานาตี’ติ สาปตฺติกาว ปาติโมกฺขํ สุณนฺติ. เถรา ภิกฺขู ปรจิตฺตวิทุโน ภิกฺขูนํ อาโรเจนฺติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ, อาวุโส, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ‘นามฺเห โกจิ ชานาตี’ติ สาปตฺติกาว ปาติโมกฺขํ สุณนฺตี’’ติ. อสฺโสสุํ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู – ‘‘เถรา กิร ภิกฺขู ปรจิตฺตวิทุโน อมฺเห ภิกฺขูนํ อาโรเจนฺติ – อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ, อาวุโส, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ‘นามฺเห โกจิ ¶ ชานาตี’ติ สาปตฺติกาว ปาติโมกฺขํ สุณนฺตี’’ติ.
เต – ปุรมฺหากํ เปสลา ภิกฺขู ปาติโมกฺขํ เปนฺตีติ – ปฏิกจฺเจว สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ ปาติโมกฺขํ เปนฺติ. เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ ปาติโมกฺขํ เปสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ ปาติโมกฺขํ เปนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป… วิครหิตฺวา…เป… ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, สุทฺธานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติกานํ อวตฺถุสฺมึ อการเณ ปาติโมกฺขํ เปตพฺพํ. โย เปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส’’.
๕. ธมฺมิกาธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนํ
๓๘๗. ‘‘เอกํ ¶ , ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ, เอกํ ธมฺมิกํ; ปาติโมกฺขฏฺปนํ [เอกํ ธมฺมิกํ (สี. สฺยา.)], ทฺเว อธมฺมิกานิ; ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ทฺเว ธมฺมิกานิ; ตีณิ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ตีณิ ธมฺมิกานิ, จตฺตาริ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, จตฺตาริ ธมฺมิกานิ; ปฺจ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ปฺจ ธมฺมิกานิ; ฉ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ฉ ธมฺมิกานิ; สตฺต อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, สตฺต ธมฺมิกานิ; อฏฺ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, อฏฺ ธมฺมิกานิ; นว อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ ¶ , นว ธมฺมิกานิ; ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ทส ธมฺมิกานิ.
‘‘กตมํ ¶ เอกํ อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิทํ เอกํ อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ. กตมํ เอกํ ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิทํ เอกํ ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
‘‘กตมานิ ทฺเว อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ¶ ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ ทฺเว อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ทฺเว ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ ทฺเว ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ ตีณิ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ ตีณิ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ตีณิ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย ¶ สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ ตีณิ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ จตฺตาริ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ¶ ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลิกาย อาชีววิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ จตฺตาริ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ จตฺตาริ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลิกาย อาชีววิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ จตฺตาริ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ ปฺจ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลเกน ปาราชิเกน ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน…เป… อมูลเกน ปาจิตฺติเยน… อมูลเกน ปาฏิเทสนีเยน… อมูลเกน ทุกฺกเฏน ปาติโมกฺขํ ¶ เปติ – อิมานิ ปฺจ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ปฺจ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลเกน ปาราชิเกน ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน…เป… ¶ ปาจิตฺติเยน… ปาฏิเทสนีเยน… ทุกฺกเฏน ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ ปฺจ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ ฉ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย; อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย; อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย – อิมานิ ฉ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ฉ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย; สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา…เป… ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย…เป… กตาย – อิมานิ ฉ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ สตฺต อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลเกน ปาราชิเกน ปาติโมกฺขํ เปติ, อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน…เป… ¶ ถุลฺลจฺจเยน ปาจิตฺติเยน ปาฏิเทสนีเยน ทุกฺกเฏน ทุพฺภาสิเตน ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ สตฺต อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ สตฺต ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลเกน ปาราชิเกน ปาติโมกฺขํ เปติ, สมูลเกน ¶ สงฺฆาทิเสเสน…เป… ถุลฺลจฺจเยน ปาจิตฺติเยน ปาฏิเทสนีเยน ทุกฺกเฏน ทุพฺภาสิเตน ปาติโมกฺขํ เปติ – อิมานิ สตฺต ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ อฏฺ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย; อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา ¶ …เป… ทิฏฺิวิปตฺติยา…เป… อาชีววิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย…เป… กตาย – อิมานิ อฏฺ อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ¶ อฏฺ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ ¶ กตาย; สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา…เป… ทิฏฺิวิปตฺติยา…เป… อาชีววิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย…เป… กตาย. อิมานิ อฏฺ ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ นว อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตาย, อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตากตาย; อมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา…เป… ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย…เป… กตาย…เป… กตากตาย อิมานิ นว อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ นว ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย, สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ ¶ เปติ กตาย, สมูลิกาย สีลวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ กตากตาย; สมูลิกาย อาจารวิปตฺติยา…เป… ทิฏฺิวิปตฺติยา ปาติโมกฺขํ เปติ อกตาย…เป… กตาย – กตากตาย…เป… อิมานิ นว ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
‘‘กตมานิ ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? น ปาราชิโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, น ปาราชิกกถา วิปฺปกตา โหติ; น สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, น สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกถา วิปฺปกตา โหติ; ธมฺมิกํ สามคฺคึ อุเปติ, น ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยติ, น ธมฺมิกาย สามคฺคิยา ปจฺจาทานกถา วิปฺปกตา โหติ; น สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, น อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, น ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ – อิมานิ ทส อธมฺมิกานิ ¶ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ. กตมานิ ทส ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ? ปาราชิโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ปาราชิกกถา วิปฺปกตา โหติ; สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกถา วิปฺปกตา โหติ; ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปติ, ธมฺมิกํ สามคฺคึ ¶ ปจฺจาทิยติ, ธมฺมิกาย สามคฺคิยา ปจฺจาทานกถา วิปฺปกตา โหติ; สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ – อิมานิ ทส ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ.
๖. ธมฺมิกปาติโมกฺขฏฺปนํ
๓๘๘. ‘‘กถํ ¶ ปาราชิโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ ปาราชิกสฺส ธมฺมสฺส อชฺฌาปตฺติ โหติ, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ปาราชิกํ ¶ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ, นาปิ [นาปิ จ (ก.)] อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน’ติ, อปิจ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน, ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ¶ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๘๙. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปาติโมกฺเข ปิเต ปริสา วุฏฺาติ, ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตเรน [อฺตเรน อนฺตราเยน (สฺยา. กํ.)] – ราชนฺตราเยน วา, โจรนฺตราเยน วา, อคฺยนฺตราเยน วา, อุทกนฺตราเยน วา, มนุสฺสนฺตราเยน วา, อมนุสฺสนฺตราเยน วา, วาฬนฺตราเยน วา, สรีสปนฺตราเยน วา, ชีวิตนฺตราเยน ¶ วา, พฺรหฺมจริยนฺตราเยน วา. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺมึ วา อาวาเส, อฺสฺมึ วา อาวาเส, ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส ปาราชิกกถา วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉิเนยฺยาติ.
‘‘เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหริตพฺพํ –
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส ปาราชิกกถา วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๐. ‘‘กถํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ? อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ ¶ นิมิตฺเตหิ สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตํ, อปิจ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาเมน, อาวุโส, ภิกฺขุนา สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตํ, นาปิ อฺโ ¶ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาเมน, อาวุโส, ภิกฺขุนา สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา’ติ, อปิจ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘มยา, อาวุโส, สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาเมน ปุคฺคเลน สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา, ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๑. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปาติโมกฺเข ปิเต ปริสา วุฏฺาติ, ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตเรน – ราชนฺตราเยน วา ¶ …เป… พฺรหฺมจริยนฺตราเยน วา, อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺมึ วา อาวาเส, อฺสฺมึ วา อาวาเส, ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกถา [สิกฺขาปจฺจกฺขาตกถา (สี.)] วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉิเนยฺยาติ.
‘‘เอวฺเจตํ ¶ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหริตพฺพํ –
‘‘สุณาตุ ¶ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกถา วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๒. ‘‘กถํ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปติ? อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ ธมฺมิกาย สามคฺคิยานุปคมนํ โหติ, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปนฺตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปนฺตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปตี’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปนฺตํ, นาปิ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปตี’ติ, อปิ จ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปมี’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ¶ ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล ธมฺมิกํ สามคฺคึ น อุเปติ ¶ , ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๓. ‘‘กถํ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ ธมฺมิกาย สามคฺคิยา ปจฺจาทานํ โหติ, เตหิ อากาเรหิ ¶ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยนฺตํ น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยนฺตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยตี’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยนฺตํ, นาปิ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยตี’ติ, อปิ จ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยามี’ติ ¶ . อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล ธมฺมิกํ สามคฺคึ ปจฺจาทิยติ, ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๔. ‘‘ภิกฺขุสฺส ปาติโมกฺเข ปิเต ปริสา วุฏฺาติ, ทสนฺนํ อนฺตรายานํ อฺตเรน – ราชนฺตราเยน วา…เป… พฺรหฺมจริยนฺตราเยน ¶ วา. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตสฺมึ วา อาวาเส, อฺสฺมึ วา อาวาเส, ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส ธมฺมิกาย สามคฺคิยา ปจฺจาทานกถา วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉิเนยฺยาติ.
‘‘เอวฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลเภถ, ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหริตพฺพํ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนามสฺส ปุคฺคลสฺส ธมฺมิกาย สามคฺคิยา ปจฺจาทานกถา วิปฺปกตา, ตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิตํ. ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๕. ‘‘กถํ ¶ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ? อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, นาปิ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ¶ ¶ สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ, อปิ จ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโตมฺหี’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล สีลวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต, [ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ (สฺยา. กํ.)] ตสฺส ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๖. ‘‘กถํ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ? อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, นาปิ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ, อปิ จ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโตมฺหี’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ¶ ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล อาจารวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต, ตสฺส ¶ ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
๓๙๗. ‘‘กถํ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ? อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เยหิ อากาเรหิ เยหิ ลิงฺเคหิ เยหิ นิมิตฺเตหิ ทิฏฺิวิปตฺติยา ¶ ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต โหติ, เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหิ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, อปิ จ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ. น เหว โข ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, นาปิ อฺโ ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อิตฺถนฺนาโม, อาวุโส, ภิกฺขุ ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต’ติ, อปิ จ โสว ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส อาโรเจติ – ‘อหํ, อาวุโส, ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโตมฺหี’ติ. อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เตน ทิฏฺเน เตน สุเตน ตาย ปริสงฺกาย ตทหุโปสเถ จาตุทฺทเส วา ปนฺนรเส วา ตสฺมึ ปุคฺคเล สมฺมุขีภูเต สงฺฆมชฺเฌ อุทาหเรยฺย –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ. อิตฺถนฺนาโม ปุคฺคโล ทิฏฺิวิปตฺติยา ทิฏฺสุตปริสงฺกิโต, ตสฺส ¶ ปาติโมกฺขํ เปมิ, น ตสฺมึ สมฺมุขีภูเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ – ธมฺมิกํ ¶ ปาติโมกฺขฏฺปนํ.
‘‘อิมานิ ทส ธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานี’’ติ.
ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.
๗. อตฺตาทานองฺคํ
๓๙๘. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา กตมงฺคสมนฺนาคตํ [กตงฺคสมนฺนาคตํ (ก.)] อตฺตาทานํ อาทาตพฺพ’’นฺติ?
[ปริ. ๔๔๐] ‘‘อตฺตาทานํ ¶ ¶ อาทาตุกาเมน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ. อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม, กาโล นุ โข อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ อุทาหุ โน’ติ? สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อกาโล อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ, โน กาโล’ติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ.
‘‘สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘กาโล อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุํ, โน อกาโล’ติ, เตนุปาลิ, ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม, ภูตํ นุ โข อิทํ อตฺตาทานํ อุทาหุ โน’ติ? สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อภูตํ อิทํ อตฺตาทานํ, โน ภูต’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ.
‘‘สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน ¶ เอวํ ชานาติ – ‘ภูตํ อิทํ อตฺตาทานํ, โน อภูต’นฺติ, เตนุปาลิ, ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ โข อหํ อิมํ อตฺตาทานํ อาทาตุกาโม, อตฺถสฺหิตํ นุ โข อิทํ อตฺตาทานํ อุทาหุ โน’ติ? สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อนตฺถสฺหิตํ อิทํ อตฺตาทานํ, โน อตฺถสฺหิต’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ.
‘‘สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อตฺถสฺหิตํ อิทํ อตฺตาทานํ, โน อนตฺถสฺหิต’นฺติ, เตนุปาลิ, ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อิมํ โข อหํ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข อุทาหุ โน’ติ? สเจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข อหํ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน น ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข’ติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ.
‘‘สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข อหํ ¶ อตฺตาทานํ อาทิยมาโน ลภิสฺสามิ สนฺทิฏฺเ สมฺภตฺเต ภิกฺขู ธมฺมโต วินยโต ปกฺเข’ติ, เตนุปาลิ, ภิกฺขุนา อุตฺตริ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ อาทิยโต ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ อุทาหุ โน’ติ? สเจ อุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ ¶ อาทิยโต ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ ¶ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, น ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทาตพฺพํ. สเจ ปนุปาลิ, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อิมํ โข เม อตฺตาทานํ อาทิยโต น ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห ¶ วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, อาทาตพฺพํ ตํ, อุปาลิ, อตฺตาทานํ. เอวํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โข, อุปาลิ, อตฺตาทานํ อาทินฺนํ, ปจฺฉาปิ อวิปฺปฏิสารกรํ ภวิสฺสตี’ติ.
๘. โจทเกนปจฺจเวกฺขิตพฺพธมฺมา
๓๙๙. [ปริ. ๔๓๖ (อ. นิ. ๑๐.๔๔ โถกํ วิสทิสํ)] ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ.
‘‘โจทเกน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต – อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน? สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺเธน กายสมาจาเรน สมนฺนาคโต – อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา กายิกํ สิกฺขสฺสู’ติ. อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘ปริสุทฺธวจีสมาจาโร นุ โขมฺหิ, ปริสุทฺเธนมฺหิ วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต – อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน? สํวิชฺชติ นุ ¶ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, ปริสุทฺเธน วจีสมาจาเรน สมนฺนาคโต – อจฺฉิทฺเทน อปฺปฏิมํเสน, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา วาจสิกํ สิกฺขสฺสู’ติ. อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘เมตฺตํ นุ โข เม จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ ¶ , สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุโน เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหติ สพฺรหฺมจารีสุ อนาฆาตํ ¶ , ตสฺส ¶ ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา สพฺรหฺมจารีสุ เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺาเปหี’ติ. อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘พหุสฺสุโต นุ โขมฺหิ, สุตธโร, สุตสนฺนิจฺจโย? เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา, สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปา เม ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา? สํวิชฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุ พหุสฺสุโต โหติ, สุตธโร, สุตสนฺนิจฺจโย; เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา, สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ¶ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปสฺส ธมฺมา น พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา อาคมํ ปริยาปุณสฺสู’ติ. อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, โจทเกน ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน เอวํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ – ‘อุภยานิ โข เม ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ, สุวิภตฺตานิ, สุปฺปวตฺตีนิ, สุวินิจฺฉิตานิ – สุตฺตโส, อนุพฺยฺชนโส? สํวิฺชติ นุ โข เม เอโส ธมฺโม อุทาหุ โน’ติ? โน เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ, สุวิภตฺตานิ, สุปฺปวตฺตีนิ, สุวินิจฺฉิตานิ – สุตฺตโส, อนุพฺยฺชนโส, ‘อิทํ ปนาวุโส, กตฺถ วุตฺตํ ภควตา’ติ, อิติ ปุฏฺโ น สมฺปายติ [น สมฺปาทยติ (ก.)], ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อิงฺฆ ตาว อายสฺมา, วินยํ ปริยาปุณสฺสู’ติ. อิติสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร. โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ.
๙. โจทเกนอุปฏฺาเปตพฺพธมฺมา
๔๐๐. ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ – กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน; ภูเตน วกฺขามิ, โน ¶ อภูเตน; สณฺเหน ¶ วกฺขามิ, โน ผรุเสน; อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสํหิเตน; เมตฺตจิตฺโต ¶ วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ. โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ.
๑๐. โจทกจุทิตกปฏิสํยุตฺตกถา
๔๐๑. ‘‘อธมฺมโจทกสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กตีหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร ¶ อุปทหาตพฺโพ’’ติ? ‘‘อธมฺมโจทกสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – อกาเลนายสฺมา โจเทสิ, โน กาเลน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อภูเตนายสฺมา โจเทสิ, โน ภูเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; ผรุเสนายสฺมา โจเทสิ, โน สณฺเหน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อนตฺถสํหิเตนายสฺมา โจเทสิ, โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; โทสนฺตโร อายสฺมา โจเทสิ, โน เมตฺตจิตฺโต, อลํ เต วิปฺปฏิสารายาติ. อธมฺมโจทกสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา น อฺโปิ ภิกฺขุ อภูเตน โจเทตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.
‘‘อธมฺมจุทิตสฺส ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กติหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ’’ติ? ‘‘อธมฺมจุทิตสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – อกาเลนายสฺมา จุทิโต, โน กาเลน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; อภูเตนายสฺมา จุทิโต, โน ภูเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; ผรุเสนายสฺมา จุทิโต ¶ , โน สณฺเหน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; อนตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต, โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; โทสนฺตเรนายสฺมา จุทิโต, โน เมตฺตจิตฺเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสารายาติ. อธมฺมจุทิตสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ’’ติ.
‘‘ธมฺมโจทกสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กติหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ’’ติ? ‘‘ธมฺมโจทกสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – กาเลนายสฺมา โจเทสิ, โน อกาเลน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; ภูเตนายสฺมา โจเทสิ, โน อภูเตน ¶ , อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; สณฺเหนายสฺมา โจเทสิ, โน ผรุเสน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; อตฺถสํหิเตนายสฺมา โจเทสิ, โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฏิสาราย; เมตฺตจิตฺโต อายสฺมา โจเทสิ, โน โทสนฺตโร, อลํ เต อวิปฺปฏิสารายาติ. ธมฺมโจทกสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อวิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา อฺโปิ ภิกฺขุ ภูเตน โจเทตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.
‘‘ธมฺมจุทิตสฺส ¶ ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุโน กติหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ’’ติ? ‘‘ธมฺมจุทิตสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ – กาเลนายสฺมา จุทิโต, โน อกาเลน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; ภูเตนายสฺมา จุทิโต, โน อภูเตน ¶ , อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; สณฺเหนายสฺมา จุทิโต, โน ผรุเสน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; อตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต, โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฏิสาราย; เมตฺตจิตฺเตนายสฺมา จุทิโต, โน โทสนฺตเรน, อลํ เต วิปฺปฏิสารายาติ. ธมฺมจุทิตสฺส, อุปาลิ, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ วิปฺปฏิสาโร อุปทหาตพฺโพ’’ติ.
[ปริ. ๔๓๘] ‘‘โจทเกน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ? ‘‘โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ – การฺุตา, หิเตสิตา, อนุกมฺปิตา, [อนุกมฺปตา (ก.)] อาปตฺติวุฏฺานตา, วินยปุเรกฺขารตาติ. โจทเกนุปาลิ, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน อิเม ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ¶ มนสิ กริตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ.
‘‘จุทิเตน ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา กติสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘จุทิเตนุปาลิ, ภิกฺขุนา ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ – สจฺเจ จ อกุปฺเป จา’’ติ.
ทุติยภาณวาโร นิฏฺิโต.
ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธโก นวโม.
อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู ตึส.
ตสฺสุทฺทานํ –
อุโปสเถ ¶ ¶ ยาวติกํ, ปาปภิกฺขุ น นิกฺขมิ;
โมคฺคลฺลาเนน นิจฺฉุทฺโธ, อจฺเฉรา ชินสาสเน.
นินฺโนนุปุพฺพสิกฺขา จ, ิตธมฺโม นาติกฺกมฺม;
กุณปุกฺขิปติ สงฺโฆ, สวนฺติโย ชหนฺติ จ.
สวนฺติ ปรินิพฺพนฺติ, เอกรส วิมุตฺติ จ;
พหุ ธมฺมวินโยปิ, ภูตฏฺาริยปุคฺคลา.
สมุทฺทํ ¶ อุปมํ กตฺวา, วาเจสิ [าเปสิ (ก.)] สาสเน คุณํ;
อุโปสเถ ปาติโมกฺขํ, น อมฺเห โกจิ ชานาติ.
ปฏิกจฺเจว อุชฺฌนฺติ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ;
ปฺจ ฉ สตฺต อฏฺานิ, นวา จ ทสมานิ จ.
สีล-อาจาร-ทิฏฺิ จ, อาชีวํ จตุภาคิเก;
ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิ, ปาจิตฺติ ปาฏิเทสนิ.
ทุกฺกฏํ ปฺจภาเคสุ, สีลาจารวิปตฺติ จ;
อกตาย กตาย จ, ฉภาเคสุ ยถาวิธิ.
ปาราชิกฺจ สงฺฆาทิ, ถุลฺลํ ปาจิตฺติเยน จ;
ปาฏิเทสนิยฺเจว ¶ , ทุกฺกฏฺจ ทุพฺภาสิตํ.
สีลาจารวิปตฺติ จ, ทิฏฺิอาชีววิปตฺติ;
ยา จ อฏฺา กตากเต, เตเนตา สีลาจารทิฏฺิยา.
อกตาย กตายาปิ, กตากตายเมว จ;
เอวํ นววิธา วุตฺตา, ยถาภูเตน ายโต.
ปาราชิโก วิปฺปกตา, ปจฺจกฺขาโต ตเถว จ;
อุเปติ ปจฺจาทิยติ, ปจฺจาทานกถา จ ยา.
สีลาจารวิปตฺติ จ, ตถา ทิฏฺิวิปตฺติยา;
ทิฏฺสุตปริสงฺกิตํ, ทสธา ตํ วิชานาถ.
ภิกฺขุ ¶ วิปสฺสติ ภิกฺขุํ, อฺโ จาโรจยาติ ตํ;
โส เยว ตสฺส อกฺขาติ [วิปสฺสฺโ จาโรจติ; ตํ สุทฺเธว ตสฺส อกฺขาติ (ก.)], ปาติโมกฺขํ เปติ โส.
วุฏฺาติ ¶ อนฺตราเยน, ราชโจรคฺคุทกา จ;
มนุสฺสอมนุสฺสา จ, วาฬสรีสปา ชีวิพฺรหฺมํ.
ทสนฺนมฺตเรน, ตสฺมึ อฺตเรสุ วา;
ธมฺมิกาธมฺมิกา ¶ เจว, ยถา มคฺเคน ชานาถ.
กาลภูตตฺถสํหิตํ ¶ , ลภิสฺสามิ ภวิสฺสติ;
กายวาจสิกา เมตฺตา, พาหุสจฺจํ อุภยานิ.
กาลภูเตน สณฺเหน, อตฺถเมตฺเตน โจทเย;
วิปฺปฏิสารธมฺเมน, ตถา วาจา [ตเถวาปิ (สฺยา.)] วิโนทเย.
ธมฺมโจทจุทิตสฺส, วิโนเทติ วิปฺปฏิสาโร;
กรุณา หิตานุกมฺปิ, วุฏฺานปุเรกฺขารโต.
โจทกสฺส ปฏิปตฺติ, สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา;
สจฺเจ เจว อกุปฺเป จ, จุทิตสฺเสว ธมฺมตาติ.
ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธกํ นิฏฺิตํ.