📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

สารตฺถทีปนี-ฏีกา (ตติโย ภาโค)

๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ

๑. มุสาวาทวคฺโค

๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

. มุสาวาทวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท ขุทฺทกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทก-สทฺโท พหุ-สทฺทปริยาโย . พหุภาวโต อิมานิ ขุทฺทกานิ นาม ชาตานี’’ติ วทนฺติ. ตตฺถาติ เตสุ นวสุ วคฺเคสุ, เตสุ วา ขุทฺทเกสุ. การเณน การณนฺตรปฏิจฺฉาทนเมว วิภาเวตุํ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทิมาห. รูปํ อนิจฺจนฺติ ปฏิชานิตฺวา ตตฺถ การณํ วทนฺโต ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ อาห. ‘‘ยทิ เอวํ นิพฺพานสฺสปิ อนิจฺจตา อาปชฺชตี’’ติ ปเรน วุตฺโต ตํ การณํ ปฏิจฺฉาเทตุํ ปุน ‘‘ชาติธมฺมโต’’ติ อฺํ การณํ วทติ.

‘‘สมฺปชานํ มุสา ภาสตี’’ติ วตฺตพฺเพ สมฺปชาน มุสา ภาสตีติ อนุนาสิกโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘ชานนฺโต มุสา ภาสตี’’ติ.

. ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสา ภณเนติ ปุพฺพภาเคปิ ชานิตฺวา วจนกฺขเณปิ ชานนฺตสฺส มุสา ภณเน. ภณนฺจ นาม อิธ อภูตสฺส วา ภูตตํ ภูตสฺส วา อภูตตํ กตฺวา กาเยน วา วาจาย วา วิฺาปนปโยโค. สมฺปชานมุสาวาเทติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺมา โย สมฺปชาน มุสา วทติ, ตสฺส ตํนิมิตฺตํ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ เอวเมตฺถ อฺเสุ จ อีทิเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

. วิสํวาเทนฺติ เอเตนาติ วิสํวาทนํ, วฺจนาธิปฺปายวสปฺปวตฺตํ จิตฺตํ. เตนาห ‘‘วิสํวาทนจิตฺตํ ปุรโต กตฺวา วทนฺตสฺสา’’ติ. วทติ เอตายาติ วาจา, วจนสมุฏฺาปิกา เจตนา. เตนาห ‘‘มิจฺฉาวาจา…เป… เจตนา’’ติ. ปเภทคตา วาจาติ อเนกเภทภินฺนา. เอวํ ปมปเทน สุทฺธเจตนา…เป… กถิตาติ เวทิตพฺพาติ อิมินา อิมํ ทีเปติ – สุทฺธเจตนา วา สุทฺธสทฺโท วา สุทฺธวิฺตฺติ วา มุสาวาโท นาม น โหติ, วิฺตฺติยา สทฺเทน จ สหิตา ตํสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโทติ. จกฺขุวเสน อคฺคหิตารมฺมณนฺติ จกฺขุสนฺนิสฺสิเตน วิฺาเณน อคฺคหิตมารมฺมณํ. ฆานาทีนํ ติณฺณํ อินฺทฺริยานํ สมฺปตฺตวิสยคฺคาหกตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตีหิ อินฺทฺริเยหิ เอกาพทฺธํ วิย กตฺวา’’ติ. ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘จกฺขุนา ทิฏฺ’’นฺติ อยํ โวหาโร โลเก ปากโฏติ อาห ‘‘โอฬาริเกเนว นเยนา’’ติ.

๑๑. อวีมํสิตฺวาติ อนุปปริกฺขิตฺวา. อนุปธาเรตฺวาติ อวินิจฺฉินิตฺวา. ชฬตฺตาติ อฺาณตาย. ทารุสกฏํ โยเชตฺวา คโตติ ทารุสกฏํ โยเชตฺวา ตตฺถ นิสีทิตฺวา คโตติ อธิปฺปาโย. คโต ภวิสฺสตีติ ตเถว สนฺนิฏฺานํ กตฺวา วุตฺตตฺตา มุสาวาโท ชาโต. เกจิ ปน ‘‘เกฬึ กุรุมาโนติ วุตฺตตฺตา เอวํ วทนฺโต ทุพฺภาสิตํ อาปชฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ . ชาติอาทีหิเยว หิ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ทวกมฺยตาย วทนฺตสฺส ทุพฺภาสิตํ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘หีนุกฺกฏฺเหิ อุกฺกฏฺํ, หีนํ วา ชาติอาทิหิ;

อุชุํ วาฺาปเทเสน, วเท ทุพฺภาสิตํ ทวา’’ติ.

จิตฺเตน โถกตรภาวํเยว อคฺคเหตฺวา พหุภาวํเยว คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘คาโม เอกเตโล’’ติอาทินาปิ มุสาวาโท ชาโต. จาเรสุนฺติ อุปเนสุํ. วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, วิสํวาทนจิตฺเตน ยมตฺถํ วตฺตุกาโม, ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิฺาปนปโยโค จาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ . อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ มุสา ภณนฺตสฺส ปาราชิกํ, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนตฺถํ สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนตฺถํ ปาจิตฺติยํ, อาจารวิปตฺติยา ทุกฺกฏํ, ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทิปริยาเยน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ ปฏิวิชานนฺตสฺส มุสา ภณิเต ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, เกวลํ มุสา ภณนฺตสฺส อิธ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.

มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒. ทุติเย กณฺณกฏุกตาย อมนาปํ วทนฺตา กณฺเณสุ วิชฺฌนฺตา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘โอมสนฺตีติ โอวิชฺฌนฺตี’’ติ. ปธํเสนฺตีติ อภิภวนฺติ.

๑๓. โพธิสตฺโต เตน สมเยน โหตีติ เตน สมเยน โพธิสตฺโต นนฺทิวิสาโล นาม อโหสีติ อตฺโถ. อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ, กิริยากาลวจนิจฺฉาย วา วตฺตมานปฺปโยโค สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน ภูตตาวคโม สิยาติ. ปจฺเจสีติ ‘‘อมนาปํ อิท’’นฺติ อฺาสิ. เหฏฺารุกฺเข ทตฺวาติ อุปตฺถมฺภเก ทตฺวา. ปุพฺเพ ปติฏฺิตารปฺปเทสํ ปุน อเร ปตฺเตติ ปุพฺเพ อุชุกํ เหฏฺามุขํ ปติฏฺิตอรสฺส ภูมิปฺปเทสํ ปุน ตสฺมึเยว อเร ปริวตฺเตตฺวา เหฏฺามุขภาเวน สมฺปตฺเต, ปมํ ภูมิยํ ปติฏฺิตเนมิปฺปเทเส ปริวตฺเตตฺวา ปุน ภูมิยํ ปติฏฺิเตติ วุตฺตํ โหติ. สิถิลกรณนฺติ สิถิลกิริยา.

๑๕. ปุพฺเพติ อฏฺุปฺปตฺติยํ. ตจฺฉกกมฺมนฺติ วฑฺฒกีกมฺมํ. โกฏฺฏกกมฺมนฺติ วา ปาสาณโกฏฺฏกกมฺมํ . หตฺถมุทฺทาคณนาติ องฺคุลิสงฺโกเจเนว คณนา. ปาทสิกมิลกฺขกาทโย วิย นวนฺตวเสน คณนา อจฺฉิทฺทกคณนา. อาทิ-สทฺเทน สงฺกลนปฏุปฺปาทนโวกฺลนภาคหาราทิวเสน ปวตฺตา ปิณฺฑคณนา คหิตา. ยสฺส สา ปคุณา โหติ, โส รุกฺขมฺปิ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกานิ เอตฺถ ปณฺณานี’’ติ ชานาติ. ยภ เมถุเนติ วจนโต -การ -กาเร เอกโต โยชิเต อสทฺธมฺมวจนํ โหติ.

๑๖-๒๖. อาปตฺติยากาเรตพฺโพติ ปาจิตฺติเยน กาเรตพฺโพ อุปสคฺคาทิมตฺตวิสิฏฺานํ อติจณฺฑาลาทิปทานํ ปาฬิยํ อาคเตสุเยว สงฺคหิตตฺตา. โจโรสีติอาทีนํ ปน เกนจิ ปริยาเยน ปาฬิยํ อนาคตตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. หสาธิปฺปายตาติ ปุริมปทสฺส อตฺถวิวรณํ. ปาฬิยํ อวุตฺเตปิ ‘‘ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ปรมฺมุขา อกฺโกสนฺตสฺส วตฺถูนํ อนฺภาวโต ยถา ทุกฺกฏํ, ตถา ทวกมฺยตาย ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสปิ ทุพฺภาสิตเมวา’’ติ อาจริยา วทนฺติ. สพฺพสตฺตาติ เอตฺถ วจนตฺถวิชานนปกติกา ติรจฺฉานคตาปิ คเหตพฺพา.

๓๕. อนุสาสนิปุเรกฺขารตาย ตฺวา วทนฺตสฺส จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติภาวโต อนฺตรา โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ. ยํ อกฺโกสติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อนฺาปเทเสน ชาติอาทีหิ อกฺโกสนํ, ‘‘มํ อกฺโกสตี’’ติ ชานนา, อตฺถปุเรกฺขารตาทีนํ อภาวตาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖. ตติเย ภณฺฑนํ ชาตํ เอเตสนฺติ ภณฺฑนชาตา. สมฺมนฺตนนฺติ รโห สํสนฺทนํ. หตฺถปรามาสาทิวเสน มตฺถกํ ปตฺโต กลโห ชาโต เอเตสนฺติ กลหชาตา. อนาปตฺติคามิกํ วิรุทฺธวาทภูตํ วิวาทํ อาปนฺนาติ วิวาทาปนฺนา. วิคฺคหสํวตฺตนิกา กถา วิคฺคาหิกกถา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา, สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรตีติ อตฺโถ. ปิสุณา เอว เปสุฺํ. ตาย วาจาย วา สมนฺนาคโต ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสุฺํ. ปิยภาวสฺส สุฺกรณวาจนฺติ อิมินา ปน ‘‘ปิยสุฺกรณโต ปิสุณา’’ติ นิรุตฺตินเยน อตฺถํ วทติ.

อิธาปิ ‘‘ทสหากาเรหิ เปสุฺํ อุปสํหรตี’’ติ วจนโต ทสวิธอกฺโกสวตฺถุวเสเนว เปสุฺํ อุปสํหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ปาฬิมุตฺตกานํ โจโรติอาทีนํ วเสน ปน ทุกฺกฏเมวาติ เวทิตพฺพํ . ‘‘อนกฺโกสวตฺถุภูตํ ปน เปสุฺกรํ ตสฺส กิริยํ วจนํ วา ปิยกมฺยตาย อุปสํหรนฺตสฺส กิฺจาปิ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ น ทิสฺสติ, ตถาปิ ทุกฺกเฏเนตฺถ ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ภิกฺขุสฺส อุปสํหรณํ, ปิยกมฺยตาเภทาธิปฺปาเยสุ อฺตรตา, ตสฺส วิชานนาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

เปสุฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕. จตุตฺเถ เอกโตติ อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ. ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชนนฺติ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺเทน สทิสํ ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ เอตฺถ อนิจฺจ-สทฺทํ วทติ. อกฺขรสมูโหติ อวิภตฺติโก อกฺขรสมูโห. อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทนฺติ วิภตฺติอนฺตํ ปทมาห. วิภตฺติอนฺตเมว ปทํ คเหตฺวา ‘‘ปมปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปท’’นฺติ วุตฺตํ.

เอกํ ปทนฺติ คาถาปทํ สนฺธาย วทติ. ปทคณนายาติ คาถาปทคณนาย. อปาปุณิตฺวาติ สทฺธึ อกเถตฺวา. รุนฺติ โอปาเตตีติ เอตฺถ อนุนาสิโก อาคมวเสน วุตฺโต, สํโยคปุพฺพสฺส รสฺสตฺตํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘รู-การมตฺตเมวา’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘รูปํ อนิจฺจนฺติ ภณ สามเณรา’’ติ วุจฺจมาโน สเจ รู-การํ อวตฺวา รุ-อิติ รสฺสํ กตฺวา วทติ, อฺํ ภณิตํ นาม โหติ, ตสฺมา อนาปตฺติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ เอตฺถาปิ อนิจฺจ-สทฺทมตฺเตเนว อาปตฺติ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เอส นโยติ เอกเมวกฺขรํ วตฺวา านํ. ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ วุจฺจมาโน หิ ม-การมตฺตเมว วตฺวา ติฏฺติ. ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิสุตฺตํ ภณาปิยมาโน เอ-การํ วตฺวา ติฏฺติ เจ, อนฺวกฺขเรน ปาจิตฺติยํ, อปริปุณฺณปทํ วตฺวา ิเต อนุพฺยฺชเนน. ปเทสุ เอกํ ปมปทํ วิรชฺฌติ, ทุติเยน อนุปเทน ปาจิตฺติยํ.

อนงฺคณสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๕๗ อาทโย) สมฺมาทิฏฺิสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๘๙ อาทโย) มหาเวทลฺลฺจ (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) ธมฺมเสนาปตินา ภาสิตํ, อนุมานสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘๑ อาทโย) มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรน, จูฬเวทลฺลสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๔๖๐ อาทโย) ธมฺมทินฺนาย เถริยา ภาสิตํ. ปจฺเจกพุทฺธภาสิตมฺปิ พุทฺธภาสิเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติ. อฏฺกถานิสฺสิโตติ ปุพฺเพ มคธภาสาย วุตฺตํ ธมฺมสงฺคหารุฬฺหํ อฏฺกถํ สนฺธาย วทติ. อิทานิปิ ‘‘ยถาปิ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต มิเค’’ติ (มิ. ป. ๖.๑.๕) เอวมาทิกํ สงฺคหารุฬฺหํ อฏฺกถาวจนํ คเหตพฺพนฺติ วทนฺติ. ปาฬินิสฺสิโตติ ‘‘มกฺกฏี วชฺชิปุตฺตา จา’’ติเอวมาทินา (ปารา. ๖๖) ปาฬิยํเยว อาคโต. วิวฏฺฏูปนิสฺสิตนฺติ นิพฺพานุปนิสฺสิตํ. วิวฏฺฏนิสฺสิตํ ปน สามฺโต คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. เถรสฺสาติ นาคเสนตฺเถรสฺส. มคฺคกถาทีนิ ปกรณานิ. ‘‘อกฺขเรน วาเจติ, อกฺขรกฺขเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อกฺขราย วาเจติ, อกฺขรกฺขราย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ.

๔๘. อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อนุปสมฺปนฺเนน สห นิสีทิตฺวา อุทฺเทสํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. ทหรภิกฺขุ นิสินฺโน…เป… ภณโต อนาปตฺตีติ เอตฺถ ทฺวีสุปิ ิเตสุ นิสินฺเนสุ วา อุปสมฺปนฺนสฺส ภณามีติ ภณนฺตสฺส อนาปตฺติเยว. อุปจารํ มุฺจิตฺวาติ ปริสปริยนฺตโต ทฺวาทสหตฺถํ มุฺจิตฺวา. ‘‘นิสินฺเน วาเจมี’’ติ ภณนฺตสฺสปิ อุปจารํ มุฺจิตฺวา นิสินฺนตฺตา อนาปตฺติ. สเจ ปน ทูเร นิสินฺนมฺปิ วาเจมีติ วิสุํ สลฺลกฺเขตฺวา ภณติ, อาปตฺติเยว. เอโก ปาโท น อาคจฺฉตีติ ปุพฺเพ ปคุโณเยว ปจฺฉา อสรนฺตสฺส น อาคจฺฉติ, ตํ ‘‘เอวํ ภณาหี’’ติ เอกโต ภณนฺตสฺส อนาปตฺติ. โอปาเตตีติ สทฺธึ กเถติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อนุปสมฺปนฺนตา, วุตฺตลกฺขณธมฺมํ ปทโส วาจนตา, เอกโต ภณนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙-๕๐. ปฺจเม วิกูชมานาติ นิตฺถุนนฺตา. กากจฺฉมานาติ โรทนฺตา. ตตฺริทํ วตฺถุนิทสฺสนํ วา. เตน นุ โข ปาติตนฺติ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา นตฺถิ มุสาวาโท. เกจิ ปน ‘‘สนฺเทหวเสน วจนํ มุสา นาม น โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. สนฺติกํ อคนฺตฺวาติ ‘‘ยํ เอเตสํ น กปฺปติ, ตํ เตสมฺปิ น กปฺปตี’’ติ อธิปฺปาเยน อคนฺตฺวา.

๕๑. ทิรตฺตติรตฺตนฺติ เอตฺถ วจนสิลิฏฺตามตฺเตน ทิรตฺต-คฺคหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ติรตฺตฺหิ สหวาเส ลพฺภมาเน ทิรตฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทิรตฺตคฺคหณํ วิสุํ น โยเชติ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตนฺติ ภควา สามเณรานํ สงฺคหกรณตฺถาย ติรตฺตปริหารํ อทาสี’’ติ. นิรนฺตรํ ติรตฺตทสฺสนตฺถํ วา ทิรตฺตคฺคหณํ กตํ. เกวลฺหิ ติรตฺตนฺติ วุตฺเต อฺตฺถ วาเสน อนฺตริกมฺปิ ติรตฺตํ คณฺเหยฺย, ทิรตฺตวิสิฏฺํ ปน ติรตฺตํ วุจฺจมานํ เตน อนนฺตริกเมว ติรตฺตํ ทีเปติ. สยนํ เสยฺยา, สยนฺติ เอตฺถาติปิ เสยฺยาติ อาห ‘‘กายปฺปสารณสงฺขาต’’นฺติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา อุภยมฺปิ ปริคฺคหิตํ, ตสฺมา. ปฺจหิ ฉทเนหีติ อิฏฺกสิลาสุธาติณปณฺณสงฺขอาเตหิ ปฺจหิ ฉทเนหิ. วาจุคฺคตวเสนาติ ปคุณวเสน. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพโธ วฑฺฒกีหตฺเถน คเหตพฺโพ. เอกูปจาโรติ วฬฺชนทฺวารสฺส เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สตคพฺภํ วา จตุสฺสาลํ เอกูปจารํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.

อุปริมตเลน สทฺธึ อสมฺพทฺธภิตฺติกสฺสาติ อิทํ ตุลาย อพฺภนฺตเร สยิตฺวา ปุน เตเนว สุสิเรน นิกฺขมิตฺวา ภิตฺติอนฺตเรน เหฏฺิมตลํ ปวิสิตุํ โยคฺเคปิ อุปริมตเลน อสมฺพทฺธภิตฺติเก เสนาสเน อนาปตฺติยา วุตฺตาย ตถา ปวิสิตุํ อสกฺกุเณยฺเย สมฺพทฺธภิตฺติเก วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน สมฺพทฺธภิตฺติเก อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เหฏฺาปาสาเท สยิตภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ อิทมฺปิ ตาทิเส เสนาสเน เหฏฺิมตเล สยิตสฺเสว อาปตฺติปฺปสงฺกา สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ วุตฺตํ, น ปน อุปริมตเล สยิตสฺส อาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ. นานูปจาเรติ ยตฺถ พหิ นิสฺเสณึ กตฺวา อุปริมตลํ อาโรหนฺติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุปริมตเลปิ อากาสงฺคเณ นิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺติยา อภาวโต ‘‘ฉทนพฺภนฺตเร’’ติ วุตฺตํ.

สภาสงฺเขเปนาติ สภากาเรน. อฑฺฒกุฏฺฏเก เสนาสเนติ เอตฺถ ‘‘อฑฺฒกุฏฺฏกํ นาม ยตฺถ เอกํ ปสฺสํ มุฺจิตฺวา ตีสุ ปสฺเสสุ ภิตฺติโย พทฺธา โหนฺติ, ยตฺถ วา เอกสฺมึ ปสฺเส ภิตฺตึ อุฏฺาเปตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ อุปฑฺฒํ อุปฑฺฒํ กตฺวา ภิตฺติโย อุฏฺาเปนฺติ, ตาทิสํ เสนาสน’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. คณฺิปเท ปน ‘‘อฑฺฒกุฏฺฏเกติ ฉทนํ อฑฺเฒน อสมฺปตฺตกุฏฺฏเก’’ติ วุตฺตํ, ตมฺปิ โน น ยุตฺตํ. ‘‘วาฬสงฺฆาโฏ นาม ถมฺภานํ อุปริ วาฬรูเปหิ กตสงฺฆาโฏ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺเขปสฺส พหิคเตติ เอตฺถ ยสฺมึ ปสฺเส ปริกฺเขโป นตฺถิ, ตตฺถาปิ ปริกฺเขปารหปฺปเทสโต พหิคเต อนาปตฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเรติ เอตฺถ มชฺเฌ วิวฏงฺคณวนฺตาสุ ปมุขมหาจตุสฺสาลาสุ ยถา อากาสงฺคณํ อโนตริตฺวา ปมุเขเนว คนฺตฺวา สพฺพคพฺเภ ปวิสิตุํ น สกฺกา โหติ, เอวํ เอเกกคพฺภสฺส ทฺวีสุ ปสฺเสสุ กุฏฺฏํ นีหริตฺวา กตํ ปริจฺฉินฺนคพฺภูปจารํ นาม, อิทํ ปน ตาทิสํ น โหตีติ ‘‘อปริจฺฉินฺนคพฺภูปจาเร’’ติ วุตฺตํ. สพฺพคพฺเภ ปวิสนฺตีติ คพฺภูปจารสฺส อปริจฺฉินฺนตฺตา อากาสงฺคณํ อโนตริตฺวา ปมุเขเนว คนฺตฺวา ตํ ตํ คพฺภํ ปวิสนฺติ. อถ กุโต ตสฺส ปริกฺเขโปเยว สพฺพปริจฺฉนฺนตฺตาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘คพฺภปริกฺเขโปเยว หิสฺส ปริกฺเขโป’’ติ. อิทฺจ สมนฺตา คพฺภภิตฺติโย สนฺธาย วุตฺตํ. จตุสฺสาลวเสน สนฺนิวิฏฺเปิ เสนาสเน คพฺภปมุขํ วิสุํ อปริกฺขิตฺตมฺปิ สมนฺตา ิตคพฺภภิตฺตีนํ วเสน ปริกฺขิตฺตํ นาม โหติ.

‘‘นนุ จ ‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตี’ติ อนฺธกฏฺกถายํ อวิเสเสน วุตฺตํ, ตสฺมา จตุสฺสาลวเสน สนฺนิวิฏฺเปิ เสนาสเน วิสุํ อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺติเยวา’’ติ โย วเทยฺย, ตสฺส วาทปริโมจนตฺถํ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ยํ ปน…เป… ปาเฏกฺกสนฺนิเวสา เอกจฺฉทนา คพฺภปาฬิโย สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตีติ ยํ วุตฺตํ, ตํ น จตุสฺสาลวเสน สนฺนิวิฏฺา คพฺภปาฬิโย สนฺธาย วุตฺตํ, กิฺจรหิ วิสุํ สนฺนิวิฏฺํ เอกเมว คพฺภปาฬึ สนฺธาย. ตาทิสาย หิ คพฺภปาฬิยา อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺติ, น จตุสฺสาลวเสน สนฺนิวิฏฺายา’’ติ. เอกาย จ คพฺภปาฬิยา ตสฺส ตสฺส คพฺภสฺส อุปจารํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนฺตมโส อุโภสุ ปสฺเสสุ ขุทฺทกภิตฺตีนํ อุฏฺาปนมตฺเตนปิ ปมุขํ ปริกฺขิตฺตํ นาม โหติ, จตุสฺสาลวเสน สนฺนิวิฏฺาสุ ปน คพฺภปาฬีสุ อุโภสุ ปสฺเสสุ คพฺภภิตฺตีนํ วเสนปิ ปมุขํ ปริกฺขิตฺตํ นาม โหติ. ตสฺมา ยํ อิมินา ลกฺขเณน ปริกฺขิตฺตํ ปมุขํ, ตตฺถ อาปตฺติ, อิตรตฺถ อนาปตฺตีติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ.

อิทานิ ‘‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ตสฺเสว วจนสฺส อธิปฺปายํ ปกาเสนฺเตน ยํ วุตฺตํ ‘‘ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ, ตสฺส อยุตฺตตาวิภาวนตฺถํ ‘‘ยฺจ ตตฺถา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธาย กถิตนฺติ หิ อิมสฺส วจนสฺส อยมธิปฺปาโย – ‘‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ วินา วตฺถุํ ภูมิยํ กตเคหสฺส ปมุขํ สนฺธาย กถิตํ. สเจ ปน อุจฺจวตฺถุกํ ปมุขํ โหติ, ปริกฺขิตฺตสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ. เตเนวาห ‘‘ทสหตฺถุพฺเพธาปิ หิ ชคติ ปริกฺเขปสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ. เหฏฺาปิ อิทเมว มนสิ สนฺนิธาย วุตฺตํ ‘‘อุจฺจวตฺถุกํ เจปิ โหติ, ปมุเข สยิโต คพฺเภ สยิตานํ อาปตฺตึ น กโรตี’’ติ. ตตฺถาติ อนฺธกฏฺกถายํ. ชคติยา ปมาณํ วตฺวาติ ‘‘สเจ ชคติยา โอตริตฺวา ภูมิยํ สยิโต, ชคติยา อุปริ สยิตํ น ปสฺสตี’’ติ เอวํ ชคติยา อุพฺเพเธน ปมาณํ วตฺวา. เอกสาลาทีสุ อุชุกเมว ทีฆํ กตฺวา สนฺนิเวสิโต ปาสาโท เอกสาลสนฺนิเวโส. ทฺวิสาลสนฺนิเวสาทโยปิ วุตฺตานุสารโต เวทิตพฺพา. สาลปฺปเภททีปนเมว เจตฺถ เหฏฺา วุตฺตโต วิเสโส.

มชฺเฌปาการํ กโรนฺตีติ เอตฺถาปิ ปริกฺเขปสฺส เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพธตฺตา ทิยฑฺฒหตฺถํ เจปิ มชฺเฌ ปาการํ กโรนฺติ, นานูปจารเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. น หิ ฉิทฺเทน เคหํ เอกูปจารํ นาม โหตีติ เอตฺถ สเจ อุพฺเพเธน ทิยฑฺฒหตฺถพฺภนฺตเร มนุสฺสานํ สฺจารปฺปโหนกํ ฉิทฺทํ โหติ, ตมฺปิ ทฺวารเมวาติ เอกูปจารํ โหติ. กึ ปริกฺเขโปวิทฺธสฺโตติ ปมุขสฺส ปริกฺเขปํ สนฺธาย วทติ. สพฺพตฺถ ปฺจนฺนํเยว ฉทนานํ อาคตตฺตา วทติ ‘‘ปฺจนฺนํ อฺตเรน ฉทเนน ฉนฺนา’’ติ.

๕๓. ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา สพฺพปริจฺฉนฺนา เยภุยฺเยนจฺฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา’’ติ วทนฺเตน เยภุยฺเยนจฺฉนฺนเยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนเสนาสนํ ปาจิตฺติยสฺส อวสานํ วิย กตฺวา ทสฺสิตํ, ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วทนฺเตน จ อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนเสนาสนํ ทุกฺกฏสฺส อาทึ กตฺวา ทสฺสิตํ, อุภินฺนมนฺตรา เกน ภวิตพฺพํ ปาจิตฺติเยน, อุทาหุ ทุกฺกเฏนาติ? โลกวชฺชสิกฺขาปทสฺเสว อนวเสสํ กตฺวา ปฺาปนโต อิมสฺส จ ปณฺณตฺติวชฺชตฺตา เยภุยฺเยนจฺฉนฺนเยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนสฺส อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนสฺส จ อนฺตรา ปาจิตฺติยํ อนิวาริตเมว, ตสฺมา วินยวินิจฺฉเย จ ครุเกเยว าตพฺพตฺตา อฏฺกถายมฺปิ ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. สตฺต ปาจิตฺติยานีติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ. วิสุํ ปน คยฺหมาเน ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ อฏฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺติ.

เสนมฺพมณฺฑปวณฺณํ โหตีติ สีหฬทีเป กิร อุจฺจวตฺถุโก สพฺพจฺฉนฺโน สพฺพอปริจฺฉนฺโน เอวํนามโก สนฺนิปาตมณฺฑโป อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยทิ ชคติปริกฺเขปสงฺขฺยํ คจฺฉติ, อุจฺจวตฺถุกตฺตา มณฺฑปสฺส สพฺพอปริจฺฉนฺนตา น ยุชฺชตีติ อาห ‘‘อิมินาเปตํ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทิ. จูฬกจฺฉนฺนาทีนิ เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺพานิ – ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เสสา อจฺฉนฺนา, อิทํ จูฬกจฺฉนฺนํ. ยสฺส ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ฉนฺนา, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ เยภุยฺเยนจฺฉนฺนํ. ยสฺส ทฺวีสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ อุปฑฺฒจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. จูฬกปริจฺฉนฺนาทีนิปิ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพานิ. เสสํ อุตฺตานเมว. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ ตตฺถ อนุปสมฺปนฺเนน สห นิปชฺชนํ, จตุตฺถทิวเส สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

สหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๕. ฉฏฺเ ‘‘ปมสิกฺขาปเท ‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’ติ วุตฺตตฺตา ‘มาตุคาโมปิ อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน คหิโตเยวา’ติ จตุตฺถทิวเส มาตุคาเมน สทฺธึ สยนฺตสฺส ทฺวีหิ สิกฺขาปเทหิ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ‘‘อิมสฺมึ สิกฺขาปเท มาตุคามสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตา ปมสิกฺขาปเท ‘ภิกฺขุํ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน นามา’ติ ปุริสสฺเสว คหณํ อนุจฺฉวิก’’นฺติ วุตฺตํ, ตเทว จ ยุตฺตตรํ.

ยฺจ อิธ ‘‘ปมทิวเสปีติ ปิ-สทฺเทน จตุตฺถทิวเสปีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ การณํ วทนฺติ, ตมฺปิ อการณํ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถเยวาติ นิยมาภาวโต อวธารณตฺถสฺส จ สมฺภวโต. สมฺภาวเน วา ปิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. เตน อิธ ปมทิวเสปิ ตาว อาปตฺติ, ทุติยาทิทิวเส กิเมว วตฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. สมฺปิณฺฑนตฺเถปิ ปิ-สทฺเท คยฺหมาเน อิมินาว สิกฺขาปเทน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยา อฺสฺมิมฺปิ ทิวเส อาปชฺชนํ ทีเปติ, น ปมสิกฺขาปเทน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยาติ อการณเมว ตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘มติตฺถี ปาราชิกวตฺถุภูตาปิ อนุปาทินฺนปกฺเข ิตตฺตา สหเสยฺยาปตฺตึ น ชเนตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย มาตุคาเม นิปนฺเน ภิกฺขุ นิปชฺชตี’’ติ วจนโต ทิวา สยนฺตสฺส สหเสยฺยาปตฺติ น โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ มาตุคาเมน สห นิปชฺชนํ, สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๐-๖๔. สตฺตเม ฆรํ นยตีติ ฆรณี, ฆรนายิกา. เตนาห ‘‘ฆรสามินี’’ติ. สุณฺหาติ สุณิสา. น ยกฺเขนาติอาทีนํ ‘‘อฺตฺรา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปุริสวิคฺคหํ คเหตฺวา ิเตน ยกฺเขน วา เปเตน วา ติรจฺฉาเนน วา สทฺธึ ิตายปิ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. อกฺขราย เทเสตีติ เอตฺถ ‘‘ฉปฺปฺจวาจโต อุตฺตริ ‘อิมํ ปทํ ภาสิสฺสามี’ติ เอกมฺปิ อกฺขรํ วตฺวา ติฏฺติ, อาปตฺติเยวา’’ติ วทนฺติ.

๖๖. ‘‘เอโก คาถาปาโทติ อิทํ คาถาพนฺธเมว สนฺธาย วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วิภตฺติอนฺตปทเมว คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘อฏฺกถํ ธมฺมปทํ ชาตกาทิวตฺถุํ วาติ อิมินาปิ โปราณํ สงฺคีติอารุฬฺหเมว อฏฺกถาทิ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อฏฺกถาทิปาํ เปตฺวา ทมิฬาทิภาสนฺตเรน ยถารุจิ กเถตุํ วฏฺฏติ. ปทโสธมฺเม วุตฺตปฺปเภโทติ อิมินา อฺตฺถ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. อุฏฺหิตฺวา ปุน นิสีทิตฺวาติ อิริยาปถปริวตฺตนนเยน นานาอิริยาปเถนปิ อนาปตฺตีติ ทีเปติ. สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถตีติ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว ปุนทิวเสปิ กเถติ.

ทุติยสฺส วิฺูปุริสสฺส อคฺคหณํ อกิริยา. มาตุคาเมน สทฺธึ ิตสฺส จ วิฺูปุริสสฺส จ อุปจาโร อนิยเตสุ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว. วุตฺตลกฺขณสฺส ธมฺมสฺส ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ เทสนา, วุตฺตลกฺขโณ มาตุคาโม, อิริยาปถปอวตฺตนาภาโว, วิฺูปุริสาภาโว, อปฺหวิสฺสชฺชนาติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๗. อฏฺเม อนฺตราติ ปรินิพฺพานสมยโต อฺสฺมึ กาเล. อติกฑฺฒิยมาเนนาติ ‘‘วทถ, ภนฺเต, กึ ตุมฺเหหิ อธิคต’’นฺติ เอวํ นิปฺปีฬิยมาเนน. อนติกฑฺฒิยมาเนนปิ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ตถารูเป การเณ สติ อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยว. เตเนว อฺตเรน ทหรภิกฺขุนา อุปวทิโต อฺตโร เถโร ‘‘อาวุโส, อุปริมคฺคตฺถาย วายามํ มา อกาสิ, ขีณาสโว ตยา อุปวทิโต’’ติ อาห. เถเรน จ ‘‘อตฺถิ เต, อาวุโส, อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺา’’ติ วุตฺโต ทหรภิกฺขุ ‘‘อาม, ภนฺเต, โสตาปนฺโน อห’’นฺติ อโวจ. ‘‘การโก อย’’นฺติ ตฺวาปิ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสเนน สมุตฺเตชนาย สมฺปหํสนาย จ อริยา อตฺตานํ ปกาเสนฺติเยว. สุตปริยตฺติสีลคุณนฺติ สุตคุณํ ปริยตฺติคุณํ สีลคุณฺจ. อุมฺมตฺตกสฺส อิธ อวจเน การณํ วทนฺเตน ขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺฏานมฺปิ อวจเน การณํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อิติ-สทฺเทน วา อาทิอตฺเถน ขิตฺตจิตฺตเวทนฏฺเฏ สงฺคณฺหาติ. เตเนว วทติ ‘‘จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวา’’ติ. ทิฏฺิสมฺปนฺนานนฺติ มคฺคผลทิฏฺิยา สมนฺนาคตานํ. อริยานเมว หิ อุมฺมตฺตกาทิภาโว นตฺถิ. ฌานลาภิโน ปน ตสฺมึ สติ ฌานา ปริหายนฺติ, ตสฺมา เตสํ อภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ วตฺตพฺพา, น ภูตาโรจนปจฺจยา. เตเนวาห ‘‘ภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ น วตฺตพฺพา’’ติ.

ปุพฺเพ อวุตฺเตหีติ จตุตฺถปาราชิเก อวุตฺเตหิ. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชานนวเสน อจิตฺตกสมุฏฺานํ โหติ. อริยา เจตฺถ ปณฺณตฺตึ ชานนฺตา วีติกฺกมํ น กโรนฺติ, ปุถุชฺชนา ปน ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวาปิ วีติกฺกมํ กโรนฺติ, เต จ สตฺถุโน อาณาวีติกฺกมเจตนาย พลวอกุสลภาวโต ฌานา ปริหายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อริยปุคฺคเล เอว สนฺธาย ‘‘กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิ ทฺวิจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา ปน ฌานลาภี ปุถุชฺชนา วตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิตฺเตนปิ น อาโรเจนฺตีติ นตฺถิ. อิธ ทุกฺขเวทนาย อภาวโต ‘‘ทฺวิเวทน’’นฺติ อิมสฺส อนุรูปํ กตฺวา ทฺวิจิตฺตนฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ เอวํ วา เอตฺถ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ภูตตา, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ตงฺขณวิชานนา, อนฺปฺปเทโสติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

๗๘. นวเม ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถนฺติ ทุฏฺุลฺลสทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ. อตฺเถ หิ ทสฺสิเต สทฺโทปิ ‘‘อยํ เอเตสุ อตฺเถสุ วตฺตตี’’ติ ทสฺสิโตเยว โหติ. ‘‘ยํ ยํ ทุฏฺุลฺลสทฺเทน อภิธียติ, ตํ สพฺพํ ทสฺเสตุํ ปาราชิกานิ วุตฺตานี’’ติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. ตตฺรายํ วิจารณาติ ตตฺร ปาฬิยํ อยํ วิจารณา, ตตฺร ปาฬิอฏฺกถาสุ วา อยํ วิจารณา. ตตฺถ ภเวยฺยาติ ตตฺถ กสฺสจิ วิมติ เอวํ ภเวยฺย. อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลาโรจเน วิย ทุกฺกเฏน ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ. อกฺโกสนฺโตปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺเชยฺยาติ โอมสวาเทน ทุกฺกฏํ อาปชฺเชยฺย. อธิปฺปายํ อชานนฺเตนปิ อฏฺกถาจริยานํ วจเนเยว าตพฺพนฺติ ทีปนตฺถํ ‘‘อฏฺกถาจริยาว เอตฺถ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํ. ปุนปิ อฏฺกถาวจนเมว อุปปตฺติโต ทฬฺหํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโต ‘‘อิมินาปิ เจต’’นฺติอาทิมาห.

๘๐. ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา’’ติ วุตฺตตฺตา สมฺมุติ อตฺถีติ คเหตพฺพาติ อาห ‘‘อิธ วุตฺตตฺตาเยวา’’ติอาทิ.

๘๒. อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานีติ ปาณาติปาตาทีนิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ. ‘‘เสสานีติ วิกาลโภชนาทีนิ ปฺจา’’ติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อาทิโต ปฏฺาย ปฺจ สิกฺขาปทานีติ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ปฺจา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปาณาติปาตาทีนิ หิ ทเสว สิกฺขาปทานิ สามเณรานํ ปฺตฺตานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อถ โข สามเณรานํ เอตทโหสิ ‘กติ นุ โข อมฺหากํ สิกฺขาปทานิ, กตฺถ จ อมฺเหหิ สิกฺขิตพฺพ’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ, ปาณาติปาตา เวรมณี อทินฺนาทานา เวรมณี’’ติอาทิ (มหาว. ๑๐๖).

เตสํ ปฺตฺเตสุเยว สิกฺขาปเทสุ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลวิจารณา กาตพฺพา, น จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วิสุํ เตสํ ปฺตฺตานิ อตฺถีติ. อถ ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลสงฺขาตานิ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ อนุปสมฺปนฺนสฺส กึ นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ…เป… อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺต’’นฺติ. อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ ทุฏฺุลฺลํ นาม น โหตี’’ติ. อชฺฌาจาโร นามาติ หิ วทนฺโต อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ เกวลํ อชฺฌาจาโร นาม โหติ, น ปน ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโรติ ทีเปติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามาติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อกตฺตพฺพรูปตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ทณฺฑกมฺมวตฺถุปกฺขํ ภชนฺติ, ตานิ จ อฺสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อวณฺณกามตาย อาโรเจนฺโต ภิกฺขุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ วทนฺติ. อิธ ปน อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน สามเณรสามเณรีสิกฺขมานานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อนฺติมวตฺถุํ อนชฺฌาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน สวตฺถุโก สงฺฆาทิเสโส, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ภิกฺขุสมฺมุติยา อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๔-๘๖. ทสเม เอกินฺทฺริยนฺติ ‘‘กายินฺทฺริยํ อตฺถี’’ติ มฺมานา วทนฺติ. มุฏฺิปฺปมาณาติ มุฏฺินา สงฺคเหตพฺพปฺปมาณา. เอตฺถ กิฺจาปิ เยภุยฺยปํสุํ อปฺปปํสุฺจ ปถวึ วตฺวา อุปฑฺฒปํสุกา ปถวี น วุตฺตา, ตถาปิ ปณฺณตฺติวชฺชสิกฺขาปเทสุ สาวเสสปฺตฺติยาปิ สมฺภวโต อุปฑฺฒปํสุกายปิ ปถวิยา ปาจิตฺติยเมวาติ คเหตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘สพฺพจฺฉนฺนาทีสุ อุปฑฺเฒ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา อิธาปิ ทุกฺกฏํ ยุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ ปาจิตฺติยวตฺถุกฺจ อนาปตฺติวตฺถุกฺจ ทุวิธํ ปถวึ เปตฺวา อฺิสฺสา ทุกฺกฏวตฺถุกาย ตติยาย ปถวิยา อภาวโต. ทฺเวเยว หิ ปถวิโย วุตฺตา ‘‘ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวี’’ติ. ตสฺมา ทฺวีสุ อฺตราย ปถวิยา ภวิตพฺพํ, วินยวินิจฺฉเย จ สมฺปตฺเต ครุเกเยว าตพฺพตฺตา น สกฺกา เอตฺถ อนาปตฺติยา ภวิตุํ. สพฺพจฺฉนฺนาทีสุ ปน อุปฑฺเฒ ทุกฺกฏํ ยุตฺตํ ตตฺถ ตาทิสสฺส ทุกฺกฏวตฺถุโน สพฺภาวา.

‘‘โปกฺขรณึ ขณา’’ติ วทติ, วฏฺฏตีติ ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส’’ติ อนิยเมตฺวา วุตฺตตฺตา วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ วลฺลึ ขณา’’ติ วุตฺเตปิ ปถวีขณนํ สนฺธาย ปวตฺตโวหารตฺตา อิมินาว สิกฺขาปเทน อาปตฺติ, น ภูตคามปาตพฺยตาย. กุเฏหีติ ฆเฏหิ. ตนุกกทฺทโมติ อุทกมิสฺสกกทฺทโม. โส จ อุทกคติกตฺตา วฏฺฏติ. โอมกจาตุมาสนฺติ อูนจาตุมาสํ. โอวฏฺนฺติ เทเวน โอวฏฺํ. อกตปพฺภาเรติ อวฬฺชนฏฺานทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตาทิเส หิ วมฺมิกสฺส สพฺภาโวติ. มูสิกุกฺกุรํ นาม มูสิกาหิ ขณิตฺวา พหิ กตปํสุราสิ. เอเสว นโยติ โอมกจาตุมาสโอวฏฺโเยว วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

เอกทิวสมฺปิ น วฏฺฏตีติ โอวฏฺเอกทิวสาติกฺกนฺโตปิ วิโกเปตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘เหฏฺาภูมิสมฺพนฺเธปิ จ โคกณฺฏเก ภูมิโต ฉินฺทิตฺวา อุทฺธํ ิตตฺตา อจฺจุคฺคตมตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. สกฏฺาเน อติฏฺมานํ กตฺวา ปาเทหิ มทฺทิตฺวา ฉินฺทิตฺวา อาโลฬิตกทฺทมมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ตโตติ ตโต ปุราณเสนาสนโต. อิฏฺกํ คณฺหามีติอาทิ สุทฺธจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุทเกนาติ อุชุกํ อากาสโตเยว ปตนกอุทเกน. ‘‘สเจ ปน อฺตฺถ ปหริตฺวา ปติเตน อุทเกน เตมิตํ โหติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา. เตน อปเทเสนาติ เตน เลเสน.

๘๗-๘๘. อวิสยตฺตาอนาปตฺตีติ เอตฺถ สเจปิ นิพฺพาเปตุํ สกฺกา โหติ, ปมํ สุทฺธจิตฺเตน ทินฺนตฺตา ‘‘ทหตู’’ติ สลฺลกฺเขตฺวาปิ ติฏฺติ, อนาปตฺติ. โอวฏฺํ ฉนฺนนฺติ ปมํ โอวฏฺํ ปจฺฉา ฉนฺนํ. เสสํ อุตฺตานเมว. ชาตปถวี, ปถวีสฺิตา, ขณนขณาปนานํ อฺตรนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต มุสาวาทวคฺโค ปโม.

๒. ภูตคามวคฺโค

๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา

๘๙. เสนาสนวคฺคสฺส ปเม นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโตติ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต. อิมินา ปน วจเนน ทารกสฺส ตตฺถ อุปนีตภาโว เตน จ ทิฏฺภาโว วุตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เตน หิ ภิกฺขุนา ตํ รุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อารทฺเธ ตตฺถ นิพฺพตฺตา เอกา ตรุณปุตฺตา เทวธีตา ปุตฺตํ องฺเกนาทาย ิตา ตํ ยาจิ ‘‘มา เม สามิ วิมานํ ฉินฺทิ, น สกฺขิสฺสามิ ปุตฺตกํ อาทาย อนาวาสา วิจริตุ’’นฺติ. โส ‘‘อหํ อฺตฺถ อีทิสํ รุกฺขํ น ลภิสฺสามี’’ติ ตสฺสา วจนํ นาทิยิ. สา ‘‘อิมมฺปิ ตาว ทารกํ โอโลเกตฺวา โอรมิสฺสตี’’ติ ปุตฺตํ รุกฺขสาขาย เปสิ. โส ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตํ ผรสุํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ทารกสฺส พาหํ ฉินฺทิ. เอวฺจ สยิโต วิมาเน สยิโต นาม โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘รุกฺขฏฺกทิพฺพวิมาเน นิปนฺนสฺสา’’ติ.

รุกฺขฏฺกทิพฺพวิมาเนติ จ สาขฏฺกวิมานํ สนฺธาย วุตฺตํ. รุกฺขสฺส อุปริ นิพฺพตฺตฺหิ วิมานํ รุกฺขปฏิพทฺธตฺตา ‘‘รุกฺขฏฺกวิมาน’’นฺติ วุจฺจติ. สาขฏฺกวิมานํ ปน สพฺพสาขาสนฺนิสฺสิตํ หุตฺวา ติฏฺติ. ตตฺถ ยํ รุกฺขฏฺกวิมานํ โหติ, ตํ ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฏฺติ, ตาว น นสฺสติ. สาขฏฺกวิมานํ ปน สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติ, อิทมฺปิ จ วิมานํ สาขฏฺกํ, ตสฺมา รุกฺเข ฉินฺเน ตํ วิมานํ สพฺพโส วินฏฺํ, เตเนว สา เทวตา ภควโต สนฺติกา ลทฺเธ อฺสฺมึ วิมาเน วสิ. พาหุํ ถนมูเลเยว ฉินฺทีติ อํเสน สทฺธึ พาหํ ฉินฺทิ. อิมินา จ รุกฺขเทวตานํ คตฺตานิ ฉิชฺชนฺติ, น จาตุมหาราชิกาทีนํ วิย อจฺเฉชฺชานีติ ทฏฺพฺพํ. รุกฺขธมฺเมติ รุกฺขปกติยํ, รุกฺขสภาเวติ อตฺโถ. รุกฺขานํ วิย เฉทนาทีสุ อกุปฺปนฺหิ รุกฺขธมฺโม นาม.

อุปฺปติตนฺติ อุปฺปนฺนํ. ภนฺตนฺติ ธาวนฺตํ. วารเยติ นิคฺคณฺเหยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม เฉโก สารถิ อติเวเคน ธาวนฺตํ รถํ นิคฺคเหตฺวา ยถิจฺฉกํ เปเสติ, เอวํ โย ปุคฺคโล อุปฺปนฺนํ โกธํ วารเย นิคฺคณฺหิตุํ สกฺโกติ, ตมหํ สารถึ พฺรูมิ. อิตโร ปน ราชอุปราชาทีนํ รถสารถิชโน รสฺมิคฺคาโห นาม โหติ, น อุตฺตมสารถีติ.

ทุติยคาถาย ปน อยมตฺโถ – โยติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๑) โย ยาทิโส ขตฺติยกุลา วา ปพฺพชิโต พฺราหฺมณกุลา วา ปพฺพชิโต นโว วา มชฺฌิโม วา เถโร วา. อุปฺปติตนฺติ อุทฺธมุทฺธํ ปติตํ, คตํ ปวตฺตนฺติ อตฺโถ, อุปฺปนฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. โกธนฺติ ‘‘อนตฺถํ เม จรตีติ อาฆาโต ชายตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. ๙.๒๙) นเยน สุตฺเต วุตฺตานํ นวนฺนํ, ‘‘อตฺถํ เม น จรตี’’ติอาทีนฺจ ตปฺปฏิปกฺขโต สิทฺธานํ นวนฺนเมวาติ อฏฺารสนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทินา อฏฺาเนน สทฺธึ เอกูนวีสติยา อาฆาตวตฺถูนํ อฺตราฆาตวตฺถุสมฺภวํ อาฆาตํ. วิสฏนฺติ วิตฺถตํ. สปฺปวิสนฺติ สปฺปสฺส วิสํ. อิวาติ โอปมฺมวจนํ. อิ-การโลปํ กตฺวา ว-อิจฺเจว วุตฺตํ. โอสเธหีติ อคเทหิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา วิสติกิจฺฉโก เวชฺโช สปฺเปน ทฏฺโ สพฺพํ กายํ ผริตฺวา ิตํ วิสฏํ สปฺปวิสํ มูลขนฺธตจปตฺตปุปฺผาทีนํ อฺตเรหิ, นานาเภสชฺเชหิ ปโยเชตฺวา กเตหิ วา โอสเธหิ ขิปฺปเมว วิเนยฺย, เอวเมว โย ยถาวุตฺเตน อาฆาตวตฺถุนา อุปฺปติตํ จิตฺตสนฺตานํ พฺยาเปตฺวา ิตํ โกธํ วินยนุปาเยสุ ตทงฺควินยาทีสุ เยน เกนจิ อุปาเยน วิเนติ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตึ กโรติ, โส ภิกฺขุ ชหาติ โอรปารํ. โส เอวํ โกธํ วิเนนฺโต ภิกฺขุ ยสฺมา โกโธ ตติยมคฺเคน สพฺพโส ปหียติ, ตสฺมา โอรปารสฺิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ ชหาตีติ. อวิเสเสน หิ ปารนฺติ ตีรสฺส นามํ, ตสฺมา โอรานิ จ ตานิ สํสารสาครสฺส ปารภูตานิ จาติ กตฺวา ‘‘โอรปาร’’นฺติ วุจฺจติ.

อถ วา โย อุปฺปติตํ วิเนติ โกธํ วิสฏํ สปฺปวิสํว โอสเธหิ, โส ตติยมคฺเคน สพฺพโส โกธํ วิเนตฺวา อนาคามิผเล ิโต ภิกฺขุ ชหาติ โอรปารํ. ตตฺถ โอรนฺติ สกตฺตภาโว. ปารนฺติ ปรตฺตภาโว. โอรํ วา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ, ปารํ ฉ พาหิรายตนานิ. ตถา โอรํ มนุสฺสโลโก, ปารํ เทวโลโก. โอรํ กามธาตุ, ปารํ รูปารูปธาตุ. โอรํ กามรูปภโว, ปารํ อรูปภโว. โอรํ อตฺตภาโว, ปารํ อตฺตภาวสุขุปกรณานิ. เอวเมตสฺมึ โอรปาเร จตุตฺถมคฺเคน ฉนฺทราคํ ปชหนฺโต ‘‘ชหาติ โอรปาร’’นฺติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อนาคามิโน กามราคสฺส ปหีนตฺตา อิธตฺตภาวาทีสุ ฉนฺทราโค เอว นตฺถิ, อปิจ โข ปนสฺส วณฺณปฺปกาสนตฺถํ สพฺพเมตํ โอรปารเภทํ สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ‘‘ชหาติ โอรปาร’’นฺติ วุตฺตํ.

อิทานิ ตสฺสตฺถสฺส วิภาวนตฺถาย อุปมํ อาห ‘‘อุรโค ชิณฺณมิวตฺตจํ ปุราณ’’นฺติ. ตตฺถ อุเรน คจฺฉตีติ อุรโค, สปฺปสฺเสตํ อธิวจนํ. โส ทุวิโธ กามรูปี จ อกามรูปี จ. กามรูปีปิ ทุวิโธ ชลโช ถลโช จ. ชลโช ชเล เอว กามรูปํ ลภติ, น ถเล สงฺขปาลชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๔๓ อาทโย) สงฺขปาลนาคราชา วิย. ถลโช ถเล เอว, น ชเล. โส ชชฺชรภาเวน ชิณฺณํ, จิรกาลตาย ปุราณฺจาติ สงฺขํ คตํ ตจํ ชหนฺโต จตุพฺพิเธน ชหติ สชาติยํ ิโต ชิคุจฺฉนฺโต นิสฺสาย ถาเมนาติ. สชาติ นาม สปฺปชาติ ทีฆตฺตภาโว. อุรคา หิ ปฺจสุ าเนสุ สชาตึ นาติวตฺตนฺติ อุปปตฺติยํ จุติยํ วิสฺสฏฺนิทฺโทกฺกมเน สชาติยา เมถุนปฏิเสวเน ชิณฺณตจาปนยเน จาติ. ตสฺมา ยทา ตจํ ชหติ, ตทา สชาติยํเยว ตฺวา ชหติ. สชาติยํ ิโตปิ จ ชิคุจฺฉนฺโต ชหติ. ชิคุจฺฉนฺโต นาม ยทา อุปฑฺฒฏฺาเน มุตฺโต โหติ, อุปฑฺฒฏฺาเน อมุตฺโต โอลมฺพติ, ตทา นํ อฏฺฏียนฺโต ชหติ, เอวํ ชิคุจฺฉนฺโตปิ จ ทณฺฑนฺตรํ วา มูลนฺตรํ วา ปาสาณนฺตรํ วา นิสฺสาย ชหติ. นิสฺสาย ชหนฺโตปิ จ ถามํ ชเนตฺวา อุสฺสาหํ กริตฺวา วีริเยน วงฺกํ นงฺคุฏฺํ กตฺวา ปสฺสสนฺโตว ผณํ กริตฺวา ชหติ. เอวํ ชหิตฺวา เยนกามํ ปกฺกมติ.

เอวเมว อยมฺปิ ภิกฺขุ โอรปารํ ชหิตุกาโม จตุพฺพิเธน ชหติ สชาติยํ ิโต ชิคุจฺฉนฺโต นิสฺสาย ถาเมนาติ. สชาติ นาม ภิกฺขุโน ‘‘อริยาย ชาติยา ชาโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) วจนโต สีลํ. เตเนวาห ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒). เอวเมติสฺสํ สชาติยํ ิโต ภิกฺขุ ตํ สกตฺตภาวาทิเภทํ โอรปารํ ชิณฺณปุราณตฺตจมิว ตํ ทุกฺขํ ชเนนฺตํ ตตฺถ ตตฺถ อาทีนวทสฺสเนน ชิคุจฺฉนฺโต กลฺยาณมิตฺเต นิสฺสาย อธิมตฺตสมฺมาวายามสงฺขาตํ ถามํ ชเนตฺวา ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๖; ๔.๓๗) วุตฺตนเยน รตฺตินฺทิวํ ฉธา วิภชิตฺวา ฆเฏนฺโต วายมนฺโต อุรโค วิย วงฺกํ นงฺคุฏฺํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุรโค วิย ปสฺสสนฺโต อยมฺปิ อสิถิลปรกฺกมตาย วายมนฺโต อุรโคว ผณํ กริตฺวา อยมฺปิ าณวิปฺผารํ ชเนตฺวา อุรโคว ตจํ โอรปารํ ชหติ, ชหิตฺวา จ อุรโค วิย โอหิตตโจ เยนกามํ ปกฺกมติ, อยมฺปิ โอหิตภาโร อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุทิสํ ปกฺกมตีติ.

๙๐. ภวนฺตีติ อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคจฺเฉ ทสฺเสติ. อหุวุนฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ิเต มหนฺเต รุกฺขคจฺฉาทิเก ทสฺเสติ. ภวนฺตีติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชายนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, อหุวุนฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. ราสีติ สุทฺธฏฺกธมฺมสมูโห. ภูตานนฺติ ตถาลทฺธสมฺานํ อฏฺธมฺมานํ. ‘‘ภูตานํ คาโม’’ติ วุตฺเตปิ อวยววินิมุตฺตสฺส สมุทายสฺส อภาวโต ภูตสฺิตา เตเยว ติณรุกฺขลตาทโย คยฺหนฺติ. ‘‘ภูมิยํ ปติฏฺหิตฺวา หริตภาวมาปนฺนา รุกฺขคจฺฉาทโย เทวตาหิ ปริคฺคยฺหนฺติ, ตสฺมา ภูตานํ นิวาสฏฺานตาย ภูตานํ คาโม’’ติปิ วทนฺติ. รุกฺขาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอสธิคจฺฉลตาทโย เวทิตพฺพา.

นนุ จ รุกฺขาทโย จิตฺตรหิตตาย น ชีวา, จิตฺตรหิตตา จ ปริปฺผนฺทาภาวโต ฉินฺเนปิ รุหนโต วิสทิสชาติกภาวโต จตุโยนิอปริยาปนฺนโต จ เวทิตพฺพา, วุฑฺฒิ ปน ปวาฬสิลาลวณานมฺปิ วิชฺชตีติ น เตสํ ชีวภาเว การณํ, วิสยคฺคหณฺจ เนสํ ปริกปฺปนามตฺตํ สุปนํ วิย จิฺจาทีนํ, ตถา โทหฬาทโย, ตตฺถ กสฺมา ภูตคามสฺส เฉทนาทิปจฺจยา ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ? สมณสารุปฺปโต ตํนิวาสสตฺตานุรกฺขณโต จ. เตเนวาห ‘‘ชีวสฺิโน หิ โมฆปุริสา มนุสฺสา รุกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ.

๙๑. ‘‘มูเล ชายนฺตี’’ติอาทีสุ อตฺโถ อุปริ อตฺตนา วุจฺจมานปฺปกาเรน สีหฬฏฺกถายํ วุตฺโตติ อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปิ…เป… น สเมนฺตี’’ติ. วิชาต-สทฺโท อิธ วิ-สทฺทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘วิชาตานี’’ติ. วิชาต-สทฺโท จ ‘‘วิชาตา อิตฺถี’’ติอาทีสุ วิย ปสูตวจโนติ อาห ‘‘ปสูตานี’’ติ. ปสูติ จ นาเมตฺถ นิพฺพตฺตปณฺณมูลตาติ อาห ‘‘นิพฺพตฺตปณฺณมูลานี’’ติ. อิมินา อิมํ ทีเปติ ‘‘นิพฺพตฺตปณฺณมูลานิ พีชานิ ภูตคามสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, เตสุ จ วตฺตมาโน พีชชาต-สทฺโท รุฬฺหีวเสน รุกฺขาทีสุปิ วตฺตตี’’ติ. ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปน พีเชหิ ชาตานํ รุกฺขลตาทีนํเยว ภูตคามตา วุตฺตา.

ตานิ ทสฺเสนฺโตติ ตานิ พีชานิ ทสฺเสนฺโต. มูลพีชนฺติอาทีสุ มูลเมว พีชํ มูลพีชํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ผฬุพีชนฺติ ปพฺพพีชํ. ปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรุหนสมตฺเถ สารผเล นิรุฬฺโห พีช-สทฺโท. ตทตฺถสํสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ มูลาทิโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีชสทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘รูปรูปํ, ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ จ ยถา. พีชโต นิพฺพตฺเตน พีชํ ทสฺสิตนฺติ การิโยปจาเรน การณํ ทสฺสิตนฺติ ทีเปติ.

๙๒. พีเช พีชสฺีติ เอตฺถ การณูปจาเรน การิยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ยถา’’ติอาทิมาห. ภูตคามปริโมจนํ กตฺวาติ ภูตคามโต โมเจตฺวา, วิโยเชตฺวาติ อตฺโถ. ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหตีติ พีชานิ จ ตานิ ชาตานิ จาติ วุตฺตมตฺถํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ ยํ พีชนฺติ ยํ นิพฺพตฺตปณฺณมูลํ พีชํ. ตสฺมึ พีเชติ ตสฺมึ ภูตคามสฺิเต พีเช. เอตฺถ จ พีชชาต-สทฺทสฺส วิย รุฬฺหีวเสน รุกฺขาทีสุ พีช-สทฺทสฺสปิ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยถารุตนฺติ ยถาปาฬิ.

ยตฺถ กตฺถจีติ มูเล อคฺเค มชฺเฌ วา. สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ สเจปิ สรีเร ลคฺคภาวํ ชานนฺโตว อุทกโต อุฏฺหติ, ‘‘ตํ อุทฺธริสฺสามี’’ติ สฺาย อภาวโต วฏฺฏติ. อุปฺปาฏิตานีติ อุทฺธฏานิ. พีชคาเม สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ ภูตคามโต ปริโมจิตตฺตา วุตฺตํ. อนนฺตก-คฺคหเณน สาสปมตฺติกา คหิตา. นามฺเหตํ ตสฺสา เสวาลชาติยา . มูลปณฺณานํ อสมฺปุณฺณตฺตา ‘‘อสมฺปุณฺณภูตคาโม นามา’’ติ วุตฺตํ. อภูตคามมูลตฺตาติ เอตฺถ ภูตคาโม มูลํ การณํ เอตสฺสาติ ภูตคามมูโล, ภูตคามสฺส วา มูลํ การณนฺติ ภูตคามมูลํ. พีชคาโม หิ นาม ภูตคามโต สมฺภวติ, ภูตคามสฺส จ การณํ โหติ, อยํ ปน ตาทิโส น โหตีติ ‘‘อภูตคามมูลตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺรฏฺกตฺตา วุตฺตํ ‘‘โส พีชคาเมน สงฺคหิโต’’ติ. อิทฺจ ‘‘อภูตคามมูลตฺตา’’ติ เอตฺถ ปมํ วุตฺตอตฺถสมฺภวโต วุตฺตํ. กิฺจาปิ หิ ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ อวฑฺฒนโต ภูตคามสฺส การณํ น โหติ, ตถาปิ ภูตคามสงฺขฺยุปคตนิพฺพตฺตปณฺณมูลพีชโต สมฺภูตตฺตา ภูตคามโต อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ.

‘‘องฺกุเร หริเต’’ติ วตฺวา ตเมว วิภาเวติ ‘‘นีลปณฺณวณฺเณ ชาเต’’ติ, นีลปณฺณสฺส วณฺณสทิเส วณฺเณ ชาเตติ อตฺโถ. ‘‘นีลวณฺเณ ชาเต’’ติ วา ปาโ คเหตพฺโพ. อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตีติ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วทติ. ‘‘ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล อุทเก อฏฺิตตฺตา พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถู’’ติ วทนฺติ. กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมวาติ นีลวณฺณมฺปิ อพฺโพหาริกเมว. เสเลยฺยกํ นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา สุคนฺธชาติ. ‘‘รุกฺขตฺตจํ วิโกเปตีติ วุตฺตตฺตา รุกฺเข ชาตํ ยํ กิฺจิ ฉตฺตกํ รุกฺขตฺตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ติฏฺตีติ เอตฺถ ‘‘ยทิปิ กิฺจิมตฺตํ รุกฺเข อลฺลีนา หุตฺวา ติฏฺติ, รุกฺขโต คยฺหมาโน ปน รุกฺขจฺฉวึ น วิโกเปติ, วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏตีติ เอตฺถาปิ รุกฺขตฺตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ตจฺเฉตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. หตฺถกุกฺกุจฺเจนาติ หตฺถานํ อสํยตภาเวน, หตฺถจาปลฺเลนาติ วุตฺตํ โหติ. ปานียํ น วาเสตพฺพนฺติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย นามิตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกวลํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อตฺถาย นามิเต ปน ปจฺฉา ตโต ลภิตฺวา น วาเสตพฺพนฺติ นตฺถิ. ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ วุตฺตตฺตา เยสํ สาขา น รุหติ, ตตฺถ กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทนฺติ.

๙๓. ปฺจหิสมณกปฺเปหีติ ปฺจหิ สมณโวหาเรหิ. กิฺจาปิ หิ พีชานํ อคฺคินา ผุฏฺมตฺเตน นขาทีหิ วิลิขนมตฺเตน จ อวิรุฬฺหีธมฺมตา น โหติ, ตถาปิ เอวํ กเตเยว สมณานํ กปฺปตีติ อคฺคิปริชิตาทโย สมณโวหารา นาม ชาตา, ตสฺมา เตหิ สมณโวหาเรหิ กรณภูเตหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อนุชานามีติ อธิปฺปาโย. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิปิ สมณานํ กปฺปนฺตีติ ปฺตฺตปณฺณตฺติภาวโต สมณโวหาราอิจฺเจว สงฺขํ คตานิ. อถ วา อคฺคิปริชิตาทีนํ ปฺจนฺนํ กปฺปิยภาวโตเยว ปฺจหิ สมณกปฺปิยภาวสงฺขาเตหิ การเณหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อนุชานามีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อคฺคิปริชิตนฺติอาทีสุ ‘‘ปริจิต’’นฺติปิ ปนฺติ. อพีชํ นาม ตรุณมฺพผลาทิ. นิพฺพฏฺฏพีชํ นาม อมฺพปนสาทิ, ยํ พีชํ นิพฺพฏฺเฏตฺวา วิสุํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ สกฺกา โหติ. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพนฺติ โย กปฺปิยํ กโรติ, เตน กตฺตพฺพาการสฺเสว วุตฺตตฺตา ภิกฺขุนา อวุตฺเตปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ น คเหตพฺพํ. ปุน ‘‘กปฺปิยํ กาเรตพฺพ’’นฺติ การาปนสฺส ปมเมว กถิตตฺตา ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว อนุปสมฺปนฺเนน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา อคฺคิปริชิตาทิ กาตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘กปฺปิยนฺติ วจนํ ปน ยาย กายจิ ภาสาย วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาว กาตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปมํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา อคฺคิอาทินา ผุสนาทิ กาตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปมํ อคฺคึ นิกฺขิปิตฺวา นขาทินา วา วิชฺฌิตฺวา ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘กปฺปิย’นฺติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ.

เอกสฺมึ พีเช วาติอาทีสุ ‘‘เอกํเยว กาเรมีติ อธิปฺปาเย สติปิ เอกาพทฺธตฺตา สพฺพํ กตเมว โหตี’’ติ วทนฺติ. ทารุํ วิชฺฌตีติ เอตฺถ ‘‘ชานิตฺวาปิ วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยวา’’ติ วทนฺติ. ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏตีติ รชฺชุอาทีนํ ภาชนคติกตฺตา’’ติ วทนฺติ. มริจปกฺกาทีหิ มิสฺเสตฺวาติ เอตฺถ ภตฺตสิตฺถสมฺพนฺธวเสน เอกาพทฺธตา เวทิตพฺพา, น ผลานํเยว อฺมฺํ สมฺพนฺธวเสน. ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพนฺติ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ.

นิกฺขาเมตุนฺติ ตํ ภิกฺขุํ นิกฺขาเมตุํ. ‘‘สเจ เอตสฺส อนุโลม’’นฺติ เสนาสนรกฺขณตฺถาย อนุฺาตมฺปิ ปฏคฺคิทานาทึ อตฺตนาปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตเกเนว อิทมฺปิ เอตสฺส อนุโลมนฺติ เอวมธิปฺปาโย สิยา. ปฏคฺคิทานํ ปริตฺตกรณฺจ อตฺตโน ปรสฺส วา เสนาสนรกฺขณตฺถาย วฏฺฏติเยว. ตสฺมา สเจ ตสฺส สุตฺตสฺส เอตํ อนุโลมํ สิยา, อตฺตโน น วฏฺฏติ, อฺสฺส วฏฺฏตีติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ อาห ‘‘อตฺตโน น วฏฺฏติ…เป… น สกฺกา ลทฺธุ’’นฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ภูตคาโม, ภูตคามสฺิตา, วิโกปนํ วา วิโกปาปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา

๙๔-๙๘. ทุติเย อฺํ วจนนฺติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนวจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อฺเเนว วจเนน ปฏิจรติ. อถ วา อฺเนฺํ ปฏิจรตีติ อฺเน การเณน อฺํ การณํ ปฏิจรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนการณํ วุตฺตํ, ตโต อฺเน โจทนาย อมูลกภาวทีปเกน การเณน ปฏิจรตีติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิจรตีติ จ ปฏิจฺฉาทนวเสน จรติ, ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ปฏิจฺฉาทนตฺโถ เอว วา จรติ-สทฺโท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ. เตนาห ‘‘ปฏิจฺฉาเทตี’’ติ. โก อาปนฺโนติอาทินา ปาฬิยํ โจทนํ อวิสฺสชฺเชตฺวา วิกฺเขปาปชฺชนวเสน อฺเน อฺํ ปฏิจรณํ ทสฺสิตํ. อปรมฺปิ ปน โจทนํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา กถาอปนามวเสน ปวตฺตํ ปาฬิมุตฺตกํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปาฏลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฏลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺตึ ปุจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ตโต ราชคหํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณคหํ วา, อาปตฺตึ อาปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วตฺวาว กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปนฺโตปิ หิ ‘‘อฺเนฺํ ปฏิจรติ’’จฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.

ยเทตํ อฺเน อฺํ ปฏิจรณวเสน ปวตฺตวจนํ, ตเทว ปุจฺฉิตมตฺถํ เปตฺวา อฺํ วทตีติ อฺวาทกนฺติ อาห ‘‘อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นามนฺติ ตุณฺหีภาวสฺเสตํ นามํ, อยเมว วา ปาโ. อฺวาทกํ อาโรเปตูติ อฺวาทกกมฺมํ อาโรเปตุ, อฺวาทกตฺตํ วา อิทานิ กริยมาเนน กมฺเมน อาโรเปตูติ อตฺโถ. วิเหสกํ อาโรเปตูติ เอตฺถาปิ วิเหสกกมฺมํ วิเหสกภาวํ วา อาโรเปตูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อนาโรปิเต อฺวาทเก วุตฺตทุกฺกฏํ ปาฬิยํ อาคตอฺเนฺํปฏิจรณวเสน ยุชฺชติ . อฏฺกถายํ อาคเตน ปน ปาฬิมุตฺตกอฺเนฺํปฏิจรณวเสน อนาโรปิเต อฺวาทเก มุสาวาเทน ปาจิตฺติยํ, อาโรปิเต อิมินาว ปาจิตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ‘‘อาโรปิเต อฺวาทเก มุสาวาเทน อิมินา จ ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. ยา สา อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา, สาปิ ปาฬิยํ อาคตอฺเนฺํปฏิจรณวเสน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วา. เสสํ อุตฺตานเมว. ธมฺมกมฺเมน อาโรปิตตา, อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยุฺชิยมานตา, ฉาเทตุกามตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ วา ตุณฺหีภาโว วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๓. ตติเย ธาตุปาเ เฌ-สทฺโท จินฺตายํ ปิโตติ อาห ‘‘ลามกโต วา จินฺตาเปนฺตี’’ติอาทิ. อยเมว จ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ โอโลกนตฺโถปิ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อกฺขราย วาเจตี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๔๖) วิย ‘‘ฉนฺทายา’’ติ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ฉนฺเทนา’’ติ.

๑๐๕. เยน วจเนนาติ เยน ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทิวจเนน. เยน จ ขิยฺยนฺตีติ เยน ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม’’ติอาทิวจเนน ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขูนํ สวนูปจาเร ตฺวา อวณฺณํ ปกาเสนฺติ.

๑๐๖. อฺํ อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปตีติ อฺเน อนุปสมฺปนฺเนน อุชฺฌาเปติ. ตสฺส วา ตํ สนฺติเก ขิยฺยตีติ ตสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ตํ สงฺเฆน สมฺมตํ อุปสมฺปนฺนํ ขิยฺยติ, อวณฺณํ วทนฺโต วา ปกาเสติ. อนุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตนฺติ เอตฺถ สมฺมตปุพฺโพ สมฺมโตติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. ยสฺมา อุชฺฌาปนํ ขิยฺยนฺจ มุสาวาทวเสเนว ปวตฺตํ, ตสฺมา อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺตีติ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏฏฺาเน จ อิมินาว อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อุชฺฌาเปนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส จ เอกกฺขเณ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺตีติ อาปนฺนํ. อถ วา อีทิสํ สิกฺขาปทํ มุสาวาทโต ปมํ ปฺตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ธมฺมกมฺเมน สมฺมตตา, อุปสมฺปนฺนตา, อคติคมนาภาโว , ตสฺส อวณฺณกามตา, ยสฺส สนฺติเก วทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อุชฺฌาปนํ วา ขิยฺยนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ฉ องฺคานิ.

อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๐๘-๑๑๐. จตุตฺเถ หิมวสฺเสนาติ หิมเมว วุตฺตํ. อปฺาเตติ อปฺปตีเต, อปฺปสิทฺเธติ อตฺโถ. ‘‘มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วาติ วจนโต วิวฏงฺคเณปิ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. โคจรปฺปสุตาติ โคจรฏฺานํ ปฏิปนฺนา. ‘‘อฏฺ มาเส’’ติ อิมินา วสฺสานํ จาตุมาสํ เจปิ เทโว น วสฺสติ, ปฏิกฺขิตฺตเมวาติ อาห ‘‘อฏฺ มาเสติ วจนโต…เป… นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยวา’’ติ. ตตฺถ จตฺตาโร มาเสติ วสฺสานสฺส จตฺตาโร มาเส. อวสฺสิกสงฺเกเตติ อิมินา อนุฺาเตปิ อฏฺ มาเส ยตฺถ เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ อปเรปิ จตฺตาโร มาสา ปฏิกฺขิตฺตาติ อาห ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเตติ วจนโต’’ติอาทิ. อิมินา อิมํ ทีเปติ ‘‘ยสฺมึ เทเส เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ อฏฺ มาเส ปฏิกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มาสา อนุฺาตา. ยตฺถ ปน วสฺสาเนเยว วสฺสติ, ตตฺถ จตฺตาโร มาเส ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺ มาสา อนุฺาตา’’ติ.

อิมินาว นเยน มชฺฌิมปเทเส ยตฺถ เหมนฺเต หิมวสฺสํ วสฺสติ, ตตฺถาปิ อฏฺเว มาสา ปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา วสฺสานกาเล ปกติอชฺโฌกาเส โอวสฺสกมณฺฑเป รุกฺขมูเล จ สนฺถริตุํ น วฏฺฏติ, เหมนฺตกาเล ปกติอชฺโฌกาเส โอวสฺสกมณฺฑปาทีสุปิ วฏฺฏติ. ตฺจ โข ยตฺถ หิมวสฺเสน เสนาสนํ น เตมติ, คิมฺหกาเลปิ ปกติอชฺโฌกาสาทีสุ วฏฺฏติเยว, ตฺจ โข อกาลเมฆาทสฺสเน, กากาทีนํ นิพทฺธวาสรุกฺขมูเล ปน กทาจิปิ น วฏฺฏตีติ เอวเมตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

อิมฺจ ปน อตฺถวิเสสํ คเหตฺวา ภควตา ปมเมว สิกฺขาปทํ ปฺตฺตนฺติ วิสุํ อนุปฺตฺติ น วุตฺตา. เตเนว หิ มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘อิติ ยตฺถ จ ยทา จ สนฺถริตุํ น วฏฺฏติ, ตํ สพฺพมิธ อชฺโฌกาสสงฺขเมว คต’’นฺติ. อถ วา อวิเสเสน อชฺโฌกาเส สนฺถรณสนฺถราปนานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อีทิเส กาเล อีทิเส จ ปเทเส เปถา’’ติ อนุชานนมตฺเตเนว อลนฺติ น สิกฺขาปเท วิสุํ อนุปฺตฺติ อุทฺธฏาติ เวทิตพฺพา. ปริวาเร (ปริ. ๖๕-๖๗) ปน อิมสฺเสว สิกฺขาปทสฺส อนุรูปวเสน ปฺตฺตตฺตา ‘‘เอกา อนุปฺตฺตี’’ติ วุตฺตํ.

นววายิโม สีฆํ น นสฺสตีติ อาห ‘‘นววายิโม วา’’ติ. โอนทฺธโกติ จมฺเมน โอนทฺโธ. อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโกติ อิทํ ตสฺส ปริวิตกฺกทสฺสนมตฺตํ, อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิกสฺส ปน จีวรกุฏิ น วฏฺฏตีติ นตฺถิ. กายานุคติกตฺตาติ ภิกฺขุโน ตตฺเถว สนฺนิหิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิมินา จ ตสฺมึเยว กาเล อนาปตฺติ วุตฺตา, จีวรกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ปน อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส ปิณฺฑาย ปวิสนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว. ‘‘ยสฺมา ปน ทายเกหิ ทานกาเลเยว สหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ ‘ปาทปุฺฉนึ กตฺวา ปริภุฺชถา’ติ ทินฺนํ ตเถว ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘อิมํ มฺจปีาทิเสนาสนํ อพฺโภกาเสปิ ยถาสุขํ ปริภุฺชถา’ติ ทายเกหิ ทินฺนํ เจ, สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เปเสตฺวา คนฺตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ อิมํ านํ อาคนฺตฺวา วสติ, ตสฺส เทถา’’ติ วตฺวา เปเสตพฺพํ.

วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวาติ อิมินา จ คิมฺหาเนปิ เมเฆ อุฏฺิเต มฺจปีาทึ ยํกิฺจิ เสนาสนํ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปาทฏฺานาภิมุขาติ นิสีทนฺตานํ ปาทปตนฏฺานาภิมุข’’นฺติ เกจิ. ‘‘สมฺมชฺชนฺตสฺส ปาทฏฺานาภิมุข’’นฺติ อปเร. ‘‘พหิ วาลุกาย อคมนนิมิตฺตํ ปาทฏฺานาภิมุขา วาลิกา หริตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ เอเก . กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฏฺเฏตพฺพนฺติ อิมินา กจวรํ ฉฑฺเฑสฺสามีติ วาลิกา น ฉฑฺเฑตพฺพาติ ทีเปติ.

๑๑๑. อนฺโต สํเวเตฺวา พทฺธนฺติ เอรกปตฺตาทีหิ เวณึ กตฺวา ตาย เวณิยา อุโภสุ ปสฺเสสุ วิตฺถตฏฺาเนสุ พหุํ เวเตฺวา ตโต ปฏฺาย ยาว มชฺฌฏฺานํ, ตาว อนฺโต อากฑฺฒนวเสน เวเตฺวา มชฺเฌ สงฺขิปิตฺวา ติริยํ ตตฺถ ตตฺถ พนฺธิตฺวา กตํ. กปฺปํ ลภิตฺวาติ คจฺฉาติ วุตฺตวจเนน กปฺปํ ลภิตฺวา. เถรสฺส หิ อาณตฺติยา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปุริมนเยเนวาติ ‘‘นิสีทิตฺวา สยํ คจฺฉนฺโต’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว. อฺตฺถ คจฺฉตีติ ตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ. เลฑฺฑุปาตุปจารโต พหิ ิตตฺตา ‘‘ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส ปมปาทุทฺธาเร ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. ปากติกํ อกตฺวาติ อปฺปฏิสาเมตฺวา. อนฺตรสนฺนิปาเตติ อนฺตรนฺตรา สนฺนิปาเต.

อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธติ เอตฺถ อาคนฺตุเกหิ อาคนฺตฺวา กิฺจิ อวตฺวา ตตฺถ นิสินฺเนปิ อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธติ อธิปฺปาโย. มหาปจฺจริวาเท ปน ‘‘อฺเสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสู’’ติ อิทํ อมฺหากนฺติ วตฺวา วา อวตฺวา วา นิสินฺเนสูติ อธิปฺปาโย. มหาอฏฺกถาวาเท ‘‘อาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยเมว วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน สนฺถรณสนฺถราปเน สติ ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ อนาณตฺติยา ปฺตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ อุสฺสารกสฺส, อิทํ ธมฺมกถิกสฺสา’’ติ วิสุํ ปฺตฺตตฺตา อนาณตฺติยา ปฺตฺเตปิ ปาจิตฺติเยเนว ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘อนาณตฺติยา ปฺตฺเตปิ ธมฺมกถิกสฺส อนุฏฺาปนียตฺตา ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพํ, อาคนฺตุกสฺส ปน ปจฺฉา อาคเตหิ วุฑฺฒตเรหิ อุฏฺาเปตพฺพตฺตา ทุกฺกฏํ วุตฺต’’นฺติ.

๑๑๒. ภูมิยํ อตฺถริตพฺพาติ จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา. สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพติ อิมินา –

‘‘น , ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๕๕) –

เอวํ วุตฺตาย ขนฺธกปาฬิยา อธิปฺปายํ วิภาเวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา มฺจปีเสุ อตฺถริตฺวา ปริโภโคเยว ปฏิกฺขิตฺโต, ภูมตฺถรณวเสน ปริโภโค ปน อปฺปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยถา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปุคฺคลิเกปิ เสนาสเน เสนาสนปริโภควเสน นิยมิตํ สุวณฺณฆฏาทิกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ เกวลํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, เอวมิทํ ภูมตฺถรณวเสน ปริภุฺชิยมานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทารุมยปีนฺติ ผลกมยเมว ปีํ วุตฺตํ. ปาทกถลิกนฺติ อโธตปาทฏฺปนกํ. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา…เป… ปฏิสาเมตพฺพนฺติ เอตฺถ เถเว อสติ รชนกมฺเม นิฏฺิเต ปฏิสาเมตพฺพํ.

๑๑๓. ‘‘ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหตีติ วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. โอตาเปนฺโต คจฺฉตีติ เอตฺถ ‘‘กิฺจาปิ ‘เอตฺตกํ ทูรํ คนฺตพฺพ’นฺติ ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ตถาปิ เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺม นาติทูรํ คนฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. มฺจาทีนํ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ เทเส สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, เลฑฺฑุปาตาติกฺกโมติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺยาติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, ตถารูปํ อนาปุจฺฉิตฺวา ตํ เสนาสนํ ตสฺส อนิยฺยาเตตฺวา นิรเปกฺโข คจฺฉติ, ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกเมยฺย, เอเกน ปาเทน เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทาติกฺกเม ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺวา องฺเคสุปิ นิรเปกฺขตาย สทฺธึ ฉ องฺคานิ วุตฺตานิ. ปาฬิยํ ปน อฏฺกถายฺจ ‘‘นิรเปกฺโข คจฺฉตี’’ติ อยํ วิเสโส น ทิสฺสติ. ‘‘โอตาเปนฺโต คจฺฉตี’’ติ จ โอตาปนวิสเย เอว สาเปกฺขคมเน อนาปตฺติ วุตฺตา. ยทิ อฺตฺถาปิ สาเปกฺขคมเน อนาปตฺติ สิยา, ‘‘อนาปตฺติ สาเปกฺโข คจฺฉตี’’ติ อวิเสเสน วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตสฺมา วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพนฺติ.

ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๖. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปเท เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ‘‘อิทฺจ อฏฺกถาสุ ตถาวุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺมฺปิ ตาทิสํ มฺจปีเสุ อตฺถริตํ ปจฺจตฺถรณเมวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายํ ปน ‘‘ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมวา’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา คณฺิปเทสุ วุตฺตํ อิมินา น สเมติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. เสนาสนโตติ สพฺพปจฺฉิมเสนาสนโต. โย โกจีติ ตสฺส าตโก วา อฺาตโก วา โย โกจิ.

๑๑๗. ปริเวณนฺติ เอเกกสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปพฺภนฺตรํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตเมวตฺถํ สวิเสสํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจาปิ วุตฺโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ‘‘อปริจฺฉนฺเน มณฺฑเป’’ติ วิสุํ โยเชตพฺพํ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘อปริจฺฉนฺนมณฺฑเป วา ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตภูเต’’ติ วุตฺตํ. โภชนสาลายมฺปิ อยํ วิเสโส ลพฺภติเยว. วตฺตพฺพํ นตฺถีติ วิเสเสตฺวา กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. ปลุชฺชตีติ วินสฺสติ. นสฺเสยฺยาติ โจราทีหิ วินสฺเสยฺย.

๑๑๘. เยน มฺจํ วา ปีํ วา วินนฺติ, ตํ มฺจปีกวานํ. สิลุจฺจยเลณนฺติ สิลุจฺจเย เลณํ, ปพฺพตคุหาติ อตฺโถ. ‘‘เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิต’’นฺติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา วตฺถุอนุรูปวเสน อฏฺกถายํ อุปจิกาสงฺกาย อภาเว อนาปตฺติ วุตฺตา. วตฺตกฺขนฺธเก คมิกวตฺตํ ปฺเปนฺเตน ‘‘เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา เกวลํ อิติกตฺตพฺพาการมตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘อาปุจฺฉนํ ปน วตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน วตฺตเภเทน ทุกฺกฏนฺติ ทสฺสนตฺถํ. เตเนว อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘เสนาสนํ อาปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ยํ ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ ยตฺถ อุปจิกา นาโรหนฺติ, ตํ อนาปุจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺตี’’ติ วกฺขติ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ตาทิเส เสนาสเน อนาปุจฺฉา คจฺฉนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ นตฺถิ, คมิกวตฺตวเสน ปน อนาปุจฺฉา คจฺฉโต วตฺตเภโท โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏํ อาปชฺชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ.

ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถีติ ตสฺส ปจฺฉโต คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺส อภาวโต วุตฺตํ. เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ เอตฺถ คมนจิตฺตสฺส อุปฺปนฺนฏฺานโต อนาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉโต ทุติยปาทุทฺธาเร ปาจิตฺติยํ. กิฺจาปิ มฺจํ วา ปีํ วา อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อิธ วิสุํ อาปตฺติ น วุตฺตา, ตถาปิ อกาเล อชฺโฌกาเส มฺจปีานิ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ, ปริกฺเขปาติกฺกเม อิมินา ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา’’ติ อิมินา อชฺโฌกาโสปิ สงฺคหิโตเยวาติ ตตฺถาปิ ทุกฺกฏํ อิธ วุตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เสยฺยํ ปน อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อุภเยนปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘สงฺฆิเก วิหาเร สงฺฆิกํเยว เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ปกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ อุโภสุ เอเกกสฺมึ สงฺฆิเก ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. วุตฺตลกฺขณเสยฺยา, ตสฺสา สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ วิหาเร สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, อนเปกฺขสฺส ทิสาปกฺกมนํ, อุปจารสีมาติกฺกโมติ อิมานิ ปเนตฺถ สตฺต องฺคานิ.

ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๑๙-๑๒๑. ฉฏฺเ อนุปวิสิตฺวาติ สมีปํ ปวิสิตฺวา. พหูปการตํ คุณวิสิฏฺตฺจ สลฺลกฺเขนฺโตติ ภณฺฑาคาริกสฺส พหูปการตํ ธมฺมกถิกาทีนํ คุณวิสิฏฺตฺจ สลฺลกฺเขนฺโต. สมนฺตา ทิยฑฺโฒ หตฺโถติ มชฺเฌ ปฺตฺตมฺจปีํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๑๒๒. อุปจารํเปตฺวาติ วุตฺตลกฺขณํ อุปจารํ เปตฺวา. เอกวิหาเรติ เอกสฺมึ เสนาสเน. เอกปริเวเณติ ตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปพฺภนฺตเร. ‘‘คิลาโน ปวิสตีติอาทีสุ อนาปตฺติการณสพฺภาวโต คิลานาทิตาย ปวิสิสฺสามีติ อุปจารํ ปวิสนฺตสฺส สติปิ สมฺพาเธตุกามตาย อนาปตฺติ วุตฺตาเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เอวฺจ สติ อคิลานาทิภาโวปิ วิสุํ องฺเคสุ วตฺตพฺโพ สิยา, มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน ‘‘สงฺฆิกวิหารตา, อนุฏฺาปนียภาวชานนํ, สมฺพาเธตุกามตา, อุปจาเร นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตสฺมา วีมํสิตพฺพํ.

อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๖. สตฺตเม โกฏฺกานีติ ทฺวารโกฏฺกานิ. ‘‘นิกฺขมาติ วจนํ สุตฺวาปิ อตฺตโน รุจิยา นิกฺขมติ, อนาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.

๑๒๘. อลชฺชึ นิกฺกฑฺฒตีติอาทีสุ ปมํ อลชฺชีอาทิภาเวน นิกฺกฑฺฒิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สงฺฆิกวิหาโร, อุปสมฺปนฺนสฺส ภณฺฑนการกภาวาทิวินิมุตฺตตา, โกเปน นิกฺกฑฺฒนํ วา นิกฺกฑฺฒาปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๒๙-๑๓๑. อฏฺเม อุปริมตเล ปทรานํ อสนฺถริตตฺตา ‘‘อุปริอจฺฉนฺนตลายา’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนวาติ อนุปขชฺชสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. สงฺฆิโก วิหาโร , อสีสฆฏฺฏา เวหาสกุฏิ , เหฏฺา สปริโภคตา, อปฏาณิทินฺเน อาหจฺจปาทเก นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๓๕. นวเม ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสามิโก’’ติ วุตฺตตฺตา สฺาจิกาย กุฏิยา อนาปตฺติ. ‘‘อฑฺฒเตยฺยหตฺถมฺปี’’ติ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน วุตฺตวจนํ ปาฬิยา สเมตีติ อาห ‘‘ตํ สุวุตฺต’’นฺติ. ‘‘ปาฬิยํ อฏฺกถายฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณสฺส โอกาสสฺส ทสฺสิตตฺตา กวาฏํ อฑฺฒเตยฺยหตฺถวิตฺถารโต อูนกํ วา โหตุ อธิกํ วา, อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณํเยว โอกาโส’’ติ วทนฺติ.

ยสฺส เวมชฺเฌติ ยสฺส วิหารสฺส เวมชฺเฌ. สา อปริปูรอุปจาราปิ โหตีติ วิวริยมานํ กวาฏํ ยํ ภิตฺตึ อาหนติ, สา สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาณอุปจารรหิตาปิ โหตีติ อตฺโถ. อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิ. ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ, ปุนปฺปุนํ ลิมฺปาเปสีติ อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนโทเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา เลปํ อนุชานนฺเตน จ ทฺวารพนฺธสฺส สมนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณเยว ปเทเส ปุนปฺปุนํ เลปสฺส อนุฺาตตฺตา ตโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺเปนฺตสฺส วา ลิมฺปาเปนฺตสฺส วา ภิตฺติยํ มตฺติกาย กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทินฺเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ‘‘ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อฺตฺถ ปฏิกฺขิตฺตมตฺตํ เปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ อนุรูป’’นฺติ วุตฺตํ.

อธิฏฺาตพฺพนฺติ สํวิธาตพฺพํ. อปฺปหริเตติ เอตฺถ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ วิย อภาวตฺโถติ อาห ‘‘อหริเต’’ติ. ปตโนกาโสติ ปตโนกาสตฺตา ตตฺร ิตสฺส ภิกฺขุโน อุปริ ปเตยฺยาติ อธิปฺปาโย. สเจ หริเต ิโต อธิฏฺเติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ วจเนน อิมมตฺถํ ทีเปติ – สเจ วิหารสฺส สมนฺตา วุตฺตปฺปมาเณ ปริจฺเฉเท ปุพฺพณฺณาทีนิ น สนฺติ, ตตฺถ วิหาโร กาเรตพฺโพ. ยตฺถ ปน สนฺติ, ตตฺถ การาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ.

๑๓๖. เอเกกํ มคฺคํ อุชุกเมว อุฏฺเปตฺวา ฉาทนํ มคฺเคน ฉาทนํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อิมินา ปน นเยน สพฺพสฺมึ วิหาเร เอกวารํ ฉาทิเต ตํ ฉทนํ เอกมคฺคนฺติ คเหตฺวา ‘‘ทฺเว มคฺเค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปริยาเยน ฉาทเนปิ อิมินาว นเยน โยเชตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสี’’ติ อิมาย ปาฬิยา ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาวจเนน จ สเมติ, ตสฺมา ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยาย มคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ เอตฺถ ทฺเว ฉทนานิ อธิฏฺหิตฺวา ตติยํ ฉทนํ ‘‘เอวํ ฉาเทหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพนฺติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ.

เกจิ ปน ‘‘ปมํ ตาว เอกวารํ อปริเสสํ ฉาเทตฺวา ปุน ฉทนทณฺฑเก พนฺธิตฺวา ทุติยวารํ ตเถว ฉาเทตพฺพํ, ตติยวารจตุตฺถวาเร สมฺปตฺเต ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘ปมวาเรเยว ตโยปิ มคฺเค อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, จตุตฺถโต ปฏฺาย อาปตฺติ ปาจิตฺติย’’นฺติ วทนฺติ. ตทุภยมฺปิ ปาฬิยา อฏฺกถาย จ น สเมติ. ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. ติณฺณํ มคฺคานนฺติ มคฺควเสน ฉาทิตานํ ติณฺณํ ฉทนานํ. ติณฺณํ ปริยายานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. จตุตฺเถ มคฺเค วา ปริยาเย วาติ จ ตถา ฉาเทนฺตานํ จตุตฺถํ ฉาทนเมว วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว. มหลฺลกวิหารตา, อตฺตโน วาสาคารตา, อุตฺตริ อธิฏฺานนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๔๐. ทสเม อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ พาหิรปริโภควเสน ปมํ ปฺตฺตตฺตา ‘‘สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภุฺเชยฺยา’’ติ สิกฺขาปทํ อตฺตโน นหานปานาทิปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ วา ปมํ ปฺตฺเตปิ อตฺตโน ปริโภควเสเนว ปฺตฺตตฺตา ปุน อิมํ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภควเสเนว ปฺตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

สปฺปาณกสฺิสฺส ‘‘ปริโภเคน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ปุพฺพภาเค ชานนฺตสฺสปิ สิฺจนสิฺจาปนํ ‘‘ปทีเป นิปติตฺวา ปฏงฺคาทิปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺตสฺส ปทีปุชฺชลนํ วิย วินาปิ วธกเจตนาย โหตีติ อาห ‘‘ปณฺณตฺติวชฺช’’นฺติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว . อุทกสฺส สปฺปาณกตา, ‘‘สิฺจเนน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนํ, ตาทิสเมว จ อุทกํ, วินา วธกเจตนาย เกนจิเทว กรณีเยน ติณาทีนํ สิฺจนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต เสนาสนวคฺโค ทุติโย.

ภูตคามวคฺโคติปิ อิมสฺเสว นามํ.

๓. โอวาทวคฺโค

๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๔๔. ภิกฺขุนิวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท กถานุสาเรนาติ ‘‘โส เถโร กึสีโล กึสมาจาโร กตรกุลา ปพฺพชิโต’’ติอาทินา ปุจฺฉนฺตานํ ปุจฺฉากถานุสาเรน. กเถตุํ วฏฺฏนฺตีติ นิรามิเสเนว จิตฺเตน กเถตุํ วฏฺฏนฺติ. อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา กถา ติรจฺฉานกถาติ อาห ‘‘สคฺคมคฺคคมเนปี’’ติอาทิ. อปิ-สทฺเทน ปเคว โมกฺขมคฺคคมเนติ ทีเปติ. ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ, พาธิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ลทฺธาเสวนา หิ ติรจฺฉานกถา สคฺคโมกฺขานํ พาธิกาว โหติ. สมิทฺโธติ ปริปุณฺโณ. สหิตตฺโถติ ยุตฺตตฺโถ. อตฺถคมฺภีรตาทิโยคโต คมฺภีโร. พหุรโสติ อตฺถรสาทิพหุรโส. ลกฺขณปฏิเวธสํยุตฺโตติ อนิจฺจาทิลกฺขณปฏิเวธรสอาวหนโต ลกฺขณปฏิเวธสํยุตฺโต.

๑๔๕-๑๔๗. ปรโตติ ปรตฺถ, อุตฺตรินฺติ อตฺโถ. กโรนฺโตวาติ ปริพาหิเร กโรนฺโตเยว. ปาติโมกฺโขติ จาริตฺตวาริตฺตปฺปเภทํ สิกฺขาปทสีลํ . ตฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุจฺจติ. สํวรณํ สํวโร, กายวจีทฺวารานํ ปิทหนํ. เยน หิ เต สํวุตา ปิหิตา โหนฺติ, โส สํวโร, กายิกวาจสิกสฺส อวีติกฺกมสฺเสตํ นามํ. ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตกายวจีทฺวาโร. ตถาภูโต จ ยสฺมา เตน สมงฺคี นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ . วตฺตตีติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตติ. วิหรตีติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส ภิกฺขุโน อิริยาปถวิหาโร ทสฺสิโต.

สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ปาฬิยา วิภาเวตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค. สีลํ ปติฏฺาติอาทีนิ ปาติโมกฺขสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ (วิภ. อฏฺ. ๕๑๑) สีลนฺติ กามฺเจตํ สห กมฺมวาจาปริโยสาเนน อิชฺฌนกสฺส ปาติโมกฺขสฺเสว เววจนํ, เอวํ สนฺเตปิ ธมฺมโต เอตํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนาทโย ธมฺมา เวทิตพฺพา. ยสฺมา ปน ปาติโมกฺขสีเลน ภิกฺขุ สาสเน ปติฏฺาติ นาม, ตสฺมา ตํ ‘‘ปติฏฺา’’ติ วุตฺตํ. ปติฏฺหติ วา เอตฺถ ภิกฺขุ, กุสลธมฺมา เอว วา เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺา. อยมตฺโถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) จ ‘‘ปติฏฺา, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ ‘‘สีเล ปติฏฺิตสฺส โข, มหาราช, สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ จ อาทิสุตฺตวเสน เวทิตพฺโพ.

ตเทตํ ปุพฺพุปฺปตฺติอตฺเถน อาทิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อุตฺติย, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๒).

ยถา หิ นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวา นครํ มาเปติ, เอวเมว โยคาวจโร อาทิมฺหิ สีลํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ. ยถา วา ปน รชโก ปมํ ตีหิ ขาเรหิ วตฺถํ โธวิตฺวา ปริสุทฺเธ วตฺเถ ยทิจฺฉกํ รงฺคชาตํ อุปเนติ, ยถา วา ปน เฉโก จิตฺตกาโร รูปํ ลิขิตุกาโม อาทิโต ภิตฺติปริกมฺมํ กโรติ, ตโต อปรภาเค รูปํ สมุฏฺาเปติ, เอวเมว โยคาวจโร อาทิโตว สีลํ วิโสเธตฺวา อปรภาเค สมถวิปสฺสนาทโย ธมฺเม สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘อาที’’ติ วุตฺตํ.

ตเทตํ จรณสริกฺขตาย จรณํ. ‘‘จรณา’’ติ ปาทา วุจฺจนฺติ. ยถา หิ ฉินฺนจรณสฺส ปุริสสฺส ทิสํคมนาภิสงฺขาโร น ชายติ, ปริปุณฺณปาทสฺเสว ชายติ, เอวเมว ยสฺส สีลํ ภินฺนํ โหติ ขณฺฑํ อปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ น สมฺปชฺชติ. ยสฺส ปน ตํ อภินฺนํ โหติ อขณฺฑํ ปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตํ.

ตเทตํ สํยมนวเสน สํยโม, สํวรณวเสน สํวโรติ อุภเยนปิ สีลสํยโม เจว สีลสํวโร จ กถิโต. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สํยเมติ วีติกฺกมวิปฺผนฺทนํ, ปุคฺคลํ วา สํยเมติ วีติกฺกมวเสน ตสฺส วิปฺผนฺทิตุํ น เทตีติ สํยโม, วีติกฺกมสฺส ปเวสนทฺวารํ สํวรติ ปิทหตีติ สํวโร. โมกฺขนฺติ อุตฺตมํ มุขภูตํ วา. ยถา หิ สตฺตานํ จตุพฺพิโธ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จตุภูมกกุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โมกฺข’’นฺติ. ปมุเข สาธูติ ปโมกฺขํ, ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ อตฺโถ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาติ จตุภูมกกุสลานํ ปฏิลาภตฺถาย ปโมกฺขํ ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ.

กายิโก อวีติกฺกโมติ ติวิธํ กายสุจริตํ. วาจสิโกติ จตุพฺพิธํ วจีสุจริตํ. กายิกวาจสิโกติ ตทุภยํ. อิมินา อาชีวฏฺมกสีลํ ปริยาทาย ทสฺเสติ. สํวุโตติ ปิหิโต, สํวุตินฺทฺริโย ปิหิตินฺทฺริโยติ อตฺโถ. ยถา หิ สํวุตทฺวารํ เคหํ ‘‘สํวุตเคหํ ปิหิตเคห’’นฺติ วุจฺจติ, เอวมิธ สํวุตินฺทฺริโย ‘‘สํวุโต’’ติ วุตฺโต. ปาติโมกฺขสํวเรนาติ ปาติโมกฺขสงฺขาเตน สํวเรน. อุเปโตติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ.

อิริยตีติอาทีหิ สตฺตหิปิ ปเทหิ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส ภิกฺขุโน อิริยาปถวิหาโร กถิโต. ตตฺถ อิริยตีติ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อฺตรสมงฺคิภาวโต อิริยติ. เตหิ อิริยาปถจตุกฺเกหิ กายสกฏวตฺตเนน วตฺตติ. เอกํ อิริยาปถทุกฺขํ อปเรน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา จิรฏฺิติภาเวน สรีรรกฺขณโต ปาเลติ. เอกสฺมึ อิริยาปเถ อสณฺหิตฺวา สพฺพอิริยาปเถ วตฺตนโต ยเปติ. เตน เตน อิริยาปเถน ตถา ตถา กายสฺส ยาปนโต ยาเปติ. จิรกาลวตฺตาปนโต จรติ. อิริยาปเถน อิริยาปถํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ชีวิตหรณโต วิหรติ.

มิจฺฉาชีวปฏิเสธเกนาติ –

‘‘อิเธกจฺโจ เวฬุทาเนน วา ปตฺตทาเนน วา ปุปฺผ ผล สินานทนฺตกฏฺทาเนน วา จาฏุกมฺยตาย วา มุคฺคสูปฺยตาย วา ปาริภฏยตาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา อฺตรฺตเรน วา พุทฺธปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ วุจฺจติ อนาจาโร’’ติ (วิภ. ๕๑๓) –

เอวํ วุตฺตอนาจารสงฺขาตมิจฺฉาชีวปฏิปกฺเขน.

น เวฬุทานาทินา อาจาเรนาติ –

‘‘อิเธกจฺโจ น เวฬุทาเนน น ปตฺต น ปุปฺผ น ผล น สินาน น ทนฺตกฏฺ น จาฏุกมฺยตาย น มุคฺคสูปฺยตาย น ปาริภฏยตาย น ชงฺฆเปสนิเกน น อฺตรฺตเรน พุทฺธปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ วุจฺจติ อาจาโร’’ติ (วิภ. ๕๑๓) –

เอวํ วุตฺเตน น เวฬุทานาทินา อาจาเรน.

เวสิยาทิอโคจรํ ปหายาติ –

‘‘อิเธกจฺโจ เวสิยโคจโร วา โหติ วิธว ถุลฺลกุมาริ ปณฺฑก ภิกฺขุนิ ปานาคารโคจโร วา, สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน, ยานิ ปน ตานิ กุลานิ อสฺสทฺธานิ อปฺปสนฺนานิ อโนปานภูตานิ อกฺโกสกปริภาสกานิ อนตฺถกามานิ อหิตกามานิ อผาสุกกามานิ อโยคกฺเขมกามานิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ, ตถารูปานิ กุลานิ เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ, อยํ วุจฺจติ อโคจโร’’ติ (วิภ. ๕๑๔) –

เอวมาคตํ เวสิยาทิอโคจรํ ปหาย.

สทฺธาสมฺปนฺนกุลาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อุปนิสฺสยโคจราทึ สงฺคณฺหาติ. ติวิโธ หิ โคจโร อุปนิสฺสยโคจโร อารกฺขโคจโร อุปนิพนฺธโคจโรติ. กตโม อุปนิสฺสยโคจโร? ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต กลฺยาณมิตฺโต, ยํ นิสฺสาย อสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทเปติ, กงฺขํ วิตรติ, ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ, จิตฺตํ ปสาเทติ. ยสฺส วา ปน อนุสิกฺขมาโน สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย วฑฺฒติ, อยํ อุปนิสฺสยโคจโร. กตโม อารกฺขโคจโร? อิธ ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ วีถึ ปฏิปนฺโน โอกฺขิตฺตจกฺขุ ยุคมตฺตทสฺสาวี สํวุโต คจฺฉติ, น หตฺถึ โอโลเกนฺโต, น อสฺสํ, น รถํ, น ปตฺตึ, น อิตฺถึ, น ปุริสํ โอโลเกนฺโต, น อุทฺธํ โอโลเกนฺโต, น อโธ โอโลเกนฺโต, น ทิสาวิทิสํ วิเปกฺขมาโน คจฺฉติ, อยํ อารกฺขโคจโร. กตโม อุปนิพนฺธโคจโร? จตฺตาโร สติปฏฺานา, ยตฺถ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒), อยํ อุปนิพนฺธโคจโร. อิติ อยํ ติวิโธ โคจโร อิธ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ.

อปฺปมตฺตเกสุ วชฺเชสูติ อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสุ วชฺเชสุ. ภยโต ทสฺสนสีโลติ ปรมาณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว, สพฺพลหุกํ วา ทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว. สมฺมา อาทายาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ สพฺพโส วา อาทิยิตฺวา.

วฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณตฺถิเกหิ โสตพฺพโต สุตํ, ปริยตฺติธมฺโม. ตํ ธาเรตีติ สุตธโร, สุตสฺส อาธารภูโต. ยสฺส หิ อิโต คหิตํ เอตฺโต ปลายติ, ฉิทฺทฆเฏ อุทกํ วิย น ติฏฺติ, ปริสมชฺเฌ เอกํ สุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถตุํ วา วาเจตุํ วา น สกฺโกติ, อยํ น สุตธโร นาม. ยสฺส ปน อุคฺคหิตํ พุทฺธวจนํ อุคฺคหิตกาลสทิสเมว โหติ, ทสปิ วีสติปิ วสฺสานิ สชฺฌายํ อกโรนฺตสฺส น นสฺสติ, อยํ สุตธโร นาม. เตเนวาห ‘‘ยทสฺส ต’’นฺติอาทิ. เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อวินฏฺํ หุตฺวา สนฺนิจิยตีติ สนฺนิจโย, สุตํ สนฺนิจโย เอตสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโยติ อาห ‘‘สุตํ สนฺนิจิตํ อสฺมินฺติ สุตสนฺนิจโย’’ติ. ยสฺส หิ สุตํ หทยมฺชุสายํ สนฺนิจิตํ สิลาย เลขา วิย สุวณฺณฆเฏ ปกฺขิตฺตา สีหวสา วิย จ สาธุ ติฏฺติ, อยํ สุตสนฺนิจโย นาม. เตนาห ‘‘เอเตน…เป… อวินาสํ ทสฺเสตี’’ติ.

ธาตาติ ปคุณา วาจุคฺคตา. เอกสฺส หิ อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ นิจฺจกาลิกํ น โหติ, ‘‘อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สชฺฌายิตฺวา อฺเหิ สํสนฺทิตฺวา ปริปุจฺฉาวเสน อตฺถํ โอคาหิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ วทติ. เอกสฺส ปคุณํ ปพนฺธวิจฺเฉทาภาวโต คงฺคาโสตสทิสํ ภวงฺคโสตสทิสฺจ อกิตฺติมํ สุขปฺปวตฺติ โหติ, ‘‘อสุกสุตฺตํ วา ชาตกํ วา กเถหี’’ติ วุตฺเต อุทฺธริตฺวา ตเมว กเถติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ธาตา’’ติ. วาจาย ปคุณา กตาติ สุตฺตทสกวคฺคทสกปณฺณาสทสกวเสน วาจาย สชฺฌายิตา, ทส สุตฺตานิ คตานิ, ทส วคฺคานิ คตานีติอาทินา สลฺลกฺเขตฺวา วาจาย สชฺฌายิตาติ อตฺโถ. สุตฺเตกเทสสฺส หิ สุตฺตมตฺตสฺส จ วจสา ปริจโย อิธ นาธิปฺเปโต, อถ โข วคฺคาทิวเสเนว. มนสา อนุเปกฺขิตาติ มนสา อนุ อนุ เปกฺขิตา, ภาคโส นิชฺฌายิตา จินฺติตาติ อตฺโถ. อาวชฺชนฺตสฺสาติ วาจาย สชฺฌายิตุํ พุทฺธวจนํ มนสา จินฺเตนฺตสฺส. สุฏฺุ ปฏิวิทฺธาติ นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา สุฏฺุ ยาถาวโต ปฏิวิทฺธา.

ทฺเว มาติกาติ ภิกฺขุมาติกา ภิกฺขุนีมาติกา จ. วาจุคฺคตาติ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ติสฺโส อนุโมทนาติ สงฺฆภตฺเต ทานานิสํสปฏิสํยุตฺตอนุโมทนา, วิหาราทิมงฺคเล มงฺคลสุตฺตาทิอนุโมทนา, มตกภตฺตาทิอวมงฺคเล ติโรกุฏฺฏาทิอนุโมทนาติ อิมา ติสฺโส อนุโมทนา . กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ ปริวาราวสาเน กมฺมวคฺเค วุตฺตวินิจฺฉโย. ‘‘วิปสฺสนาวเสน อุคฺคณฺหนฺเตน จตุธาตุววตฺถานมุเขน อุคฺคเหตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตตฺตา จตสฺโส ทิสา เอตสฺสาติ จตุทฺทิโส, จตุทฺทิโสเยว จาตุทฺทิโส, จตสฺโส วา ทิสา อรหติ, จตูสุ วา ทิสาสุ สาธูติ จาตุทฺทิโส.

อภิวินเยติ สกเล วินยปิฏเก. วิเนตุนฺติ สิกฺขาเปตุํ. ‘‘ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพาติ อิทํ ปริปุจฺฉาวเสน อุคฺคหณมฺปิ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. เอกสฺส ปมุฏฺํ, อิตรสฺส ปคุณํ โหตีติ อาห ‘‘ตีหิ ชเนหิ สทฺธึ ปริวตฺตนกฺขมา กาตพฺพา’’ติ. อภิธมฺเมติ นามรูปปริจฺเฉเท. เหฏฺิมา วา ตโย วคฺคาติ มหาวคฺคโต เหฏฺา สคาถกวคฺโค นิทานวคฺโค ขนฺธกวคฺโคติ อิเม ตโย วคฺคา. ‘‘ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตตฺตา ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตฺวาปิ ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตพฺพเมว.

กลฺยาณา สุนฺทรา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา วาจา อสฺสาติ กลฺยาณวาโจ. เตนาห ‘‘สิถิลธนิตาทีนํ…เป… วาจาย สมนฺนาคโต’’ติ. ตตฺถ ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนายาติ านกรณสมฺปตฺติยา สิกฺขาสมฺปตฺติยา จ กตฺถจิปิ อนูนตาย ปริมณฺฑลปทานิ พฺยฺชนานิ อกฺขรานิ เอติสฺสาติ ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา, ปทเมว วา อตฺถสฺส พฺยฺชนโต ปทพฺยฺชนํ, ตํ อกฺขรปาริปูรึ กตฺวา สิถิลธนิตาทิทสวิธํ พฺยฺชนพุทฺธึ อปริหาเปตฺวา วุตฺตํ ปริมณฺฑลํ นาม โหติ. อกฺขรปาริปูริยา หิ ปทพฺยฺชนสฺส ปริมณฺฑลตา. เตน วุตฺตํ ‘‘สิถิลธนิตาทีนํยถาวิธานวจเนนา’’ติ, ปริมณฺฑลํ ปทพฺยฺชนํ เอติสฺสาติ ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา. อถ วา ปชฺชติ ายติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ, นามาทิ. ยถาธิปฺเปตมตฺถํ พฺยฺเชตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยํ. เตสํ ปริปุณฺณตาย ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา.

อปิจ โย ภิกฺขุ ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา อฺํ อุปารมฺภกรํ สุตฺตํ อาหรติ, ตสฺส อุปมํ กเถติ, ตทตฺถํ โอตาเรติ, เอวํ อิทํ คเหตฺวา เอตฺถ ขิปนฺโต เอกปสฺเสเนว ปริหรนฺโต กาลํ ตฺวา วุฏฺหติ, นิกฺขิตฺตสุตฺตํ ปน นิกฺขิตฺตมตฺตเมว โหติ, ตสฺส กถา อปริมณฺฑลา นาม โหติ อตฺถสฺส อปริปุณฺณภาวโต. โย ปน สุตฺตํ วา ชาตกํ วา นิกฺขิปิตฺวา พหิ เอกปทมฺปิ อคนฺตฺวา ยถานิกฺขิตฺตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนาวเสเนว สุตฺตนฺตรมฺปิ อาเนนฺโต ปาฬิยา อนุสนฺธิฺจ ปุพฺพาปรฺจ อเปกฺขนฺโต อาจริเยหิ ทินฺนนเย ตฺวา ตุลิกาย ปริจฺฉินฺทนฺโต วิย ตํ ตํ อตฺถํ สุววตฺถิตํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต คมฺภีรมาติกาย อุทกํ เปเสนฺโต วิย คมฺภีรมตฺถํ คเมนฺโต วคฺคิหาริคติยา ปเท ปทํ โกฏฺเฏนฺโต สินฺธวาชานีโย วิย เอกํเยว ปทํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ ปุนปฺปุนํ สํวณฺณนฺโต คจฺฉติ, ตสฺส กถา ปริมณฺฑลา นาม โหติ ธมฺมโต อตฺถโต อนุสนฺธิโต ปุพฺพาปรโต อาจริยุคฺคหโตติ สพฺพโส ปริปุณฺณภาวโต. เอวรูปมฺปิ กถํ สนฺธาย ‘‘ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนายา’’ติ วุตฺตํ.

คุณปริปุณฺณภาเวน ปุเร ภวาติ โปรี, ตสฺส ภิกฺขุโน เตเนตํ ภาสิตพฺพํ อตฺถสฺส คุณปริปุณฺณภาเวน ปุเร ปุณฺณภาเว ภวาติ อตฺโถ. ปุเร วา ภวตฺตา โปริยา นาคริกิตฺถิยา สุขุมาลตฺตเนน สทิสาติ โปรี, ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติ อตฺโถ. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี, ปุรสฺส เอสาติ นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ ปิติมตฺตํ ‘‘ปิตา’’ติ, ภาติมตฺตํ ‘‘ภาตา’’ติ วทนฺติ. เอวรูปี หิ กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหติ มนาปา, ตาย โปริยา.

วิสฺสฏฺายาติ ปิตฺตเสมฺหาทีหิ อปลิพุทฺธาย สนฺทิฏฺวิลมฺพิตาทิโทสรหิตาย. อถ วา นาติสีฆํ นาติสณิกํ นิรนฺตรํ เอกรสฺจ กตฺวา ปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ กเถนฺตสฺส วาจา วิสฺสฏฺา นาม. โย หิ ภิกฺขุ ธมฺมํ กเถนฺโต สุตฺตํ วา ชาตกํ วา อารภิตฺวา อารทฺธกาลโต ปฏฺาย ตุริตตุริโต อรณึ มนฺเถนฺโต วิย อุณฺหขาทนียํ ขาทนฺโต วิย ปาฬิยา อนุสนฺธิปุพฺพาปเรสุ คหิตํ คหิตเมว, อคฺคหิตํ อคฺคหิตเมว กตฺวา ปุราณปณฺณนฺตเรสุ จรมานํ โคธํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ตตฺถ ตตฺถ ปหรนฺโต โอสาเปตฺวา อุฏฺาย คจฺฉติ . ปุราณปณฺณนฺตเรสุ หิ ปริปาติยมานา โคธา กทาจิ ทิสฺสติ กทาจิ น ทิสฺสติ, เอวเมกจฺจสฺส อตฺถวณฺณนา กตฺถจิ ทิสฺสติ กตฺถจิ น ทิสฺสติ. โยปิ ธมฺมํ กเถนฺโต กาเลน สีฆํ, กาเลน สณิกํ, กาเลน มนฺทํ, กาเลน มหาสทฺทํ, กาเลน ขุทฺทกสทฺทํ กโรติ, ยถา นิชฺฌามตณฺหิกเปตสฺส มุขโต นิจฺฉรณกอคฺคิ กาเลน ชลติ กาเลน นิพฺพายติ, เอวํ เปตธมฺมกถิโก นาม โหติ, ปริสาย อุฏฺาตุกามาย ปุน อารภติ. โยปิ กเถนฺโต ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถายติ, อปฺปฏิภานตาย อาปชฺชติ, เกนจิ โรเคน นิตฺถุนนฺโต วิย กนฺทนฺโต วิย กเถติ, อิเมสํ สพฺเพสมฺปิ กถา วิสฺสฏฺา นาม น โหติ สุเขน อปฺปวตฺตภาวโต. โย ปน สุตฺตํ อาหริตฺวา อาจริเยหิ ทินฺนนเย ิโต อาจริยุคฺคหํ อมุฺจนฺโต ยถา จ อาจริยา ตํ ตํ สุตฺตํ สํวณฺเณสุํ, เตเนว นเยน สํวณฺเณนฺโต นาติสีฆํ นาติสณิกนฺติอาทินา วุตฺตนเยน กถาปพนฺธํ อวิจฺฉินฺนํ กตฺวา นทีโสโต วิย ปวตฺเตติ, อากาสคงฺคาโต ภสฺสมานอุทกํ วิย นิรนฺตรกถํ ปวตฺเตติ, ตสฺส กถา วิสฺสฏฺา นาม โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิสฺสฏฺายา’’ติ.

อเนลคฬายาติ เอลคฬวิรหิตาย. กสฺสจิ หิ กเถนฺตสฺส เอลํ คฬติ, ลาลา ปคฺฆรติ, เขฬผุสิตานิ วา นิกฺขมนฺติ, ตสฺส วาจา เอลคฬา นาม โหติ, ตพฺพิปรีตายาติ อตฺโถ. อตฺถสฺส วิฺาปนิยาติ อาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวา ภาสิตตฺถสฺส วิฺาปนสมตฺถตาย อตฺถาปเน สาธนาย.

วาจาว กรณนฺติ วากฺกรณํ, อุทาหารโฆโส. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณํ อสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. เตเนวาห ‘‘มธุรสฺสโร’’ติ. หีเฬตีติ อวชานาติ. มาตุคาโมติ สมฺพนฺโธ. มนํ อปายติ วฑฺเฒตีติ มนาโป. เตนาห ‘‘มนวฑฺฒนโก’’ติ. วฏฺฏภเยน ตชฺเชตฺวาติ โยพฺพนมทาทิมตฺตา ภิกฺขุนิโย สํสารภเยน ตาเสตฺวา. คิหิกาเลติ อตฺตโน คิหิกาเล. ภิกฺขุนิยา เมถุเนน ภิกฺขุนีทูสโก โหตีติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคเมว วทติ. สิกฺขมานาสามเณรีสุ ปน เมถุเนนปิ ภิกฺขุนีทูสโก น โหตีติ อาห ‘‘สิกฺขมานาสามเณรีสุ เมถุนธมฺม’’นฺติ. ‘‘กาสายวตฺถวสนายา’’ติ วจนโต ทุสฺสีลาสุ ภิกฺขุนีสิกฺขมานาสามเณรีสุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนปุพฺโพ ปฏิกฺขิตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺสา ภิกฺขุนิยา อภาเวปิ ยา ยา ตสฺสา วจนํ อสฺโสสุํ, ตา ตา ตเถว มฺนฺตีติ อาห ‘‘มาตุคาโม หี’’ติอาทิ.

อิทานิ อฏฺ องฺคานิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อิเมหิ ปน อฏฺหงฺเคหิ อสมนฺนาคตํ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน สมฺมนฺเนนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ภิกฺขุ ปน สมฺมโตเยว โหติ.

๑๔๘. ครุเกหีติ ครุกาตพฺเพหิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ. ‘‘โอวทตี’’ติ วา อิมสฺส ‘‘วทตี’’ติ อตฺเถ สติ สมฺปทานวจนมฺปิ ยุชฺชติ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปริวตฺตลิงฺคา วา ปฺจสตสากิยานิโย วา.

๑๔๙. อาสนํ ปฺเปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สเจ ภูมิ มนาปา โหติ, อาสนํ อปฺาเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มาตุคามคฺคหเณน ภิกฺขุนีปิ สงฺคหิตาติ อาห ‘‘ธมฺมเทสนาปตฺติโมจนตฺถ’’นฺติ. สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ ปาฏิปเท โอวาทตฺถาย สพฺพาหิ ภิกฺขุนีหิ อาคนฺตพฺพโต ‘‘สมคฺคาตฺถ ภคินิโย’’ติ อิมินา สพฺพาสํ อาคมนํ ปุจฺฉตีติ อาห ‘‘สพฺพา อาคตาตฺถา’’ติ. คิลานาสุ อนาคตาสุปิ คิลานานํ อนาคมนสฺส อนุฺาตตฺตา อาคนฺตุํ สมตฺถาหิ จ สพฺพาหิ อาคตตฺตา ‘‘สมคฺคามฺหยฺยา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อนฺโตคาเม วาติอาทีสุ ยตฺถ ปฺจ องฺคานิ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา วนฺทิตุํ น สกฺกา โหติ, ตตฺถ ิตาย เอว กายํ ปุรโต นาเมตฺวา ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห คนฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. อนฺตรฆรนฺติ กตฺถจิ นครทฺวารสฺส พหิอินฺทขีลโต ปฏฺาย อนฺโตคาโม วุจฺจติ, กตฺถจิ ฆรุมฺมารโต ปฏฺาย อนฺโตเคหํ. อิธ ปน ‘‘อนฺโตคาเม วา’’ติ วิสุํ วุตฺตตฺตา ‘‘อนฺตรฆเร วา’’ติ อนฺโตเคหํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจีติ อนฺโตคามาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ.

วฏฺฏตีติ ‘‘วสถ อยฺเย, มยํ ภิกฺขู อาเนสฺสามา’’ติ วุตฺตวจนํ สทฺทหนฺตีหิ วสิตุํ วฏฺฏติ. น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามาติ มนุสฺเสหิ นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามา น โหนฺตีติ อตฺโถ, ตตฺเถว วสฺสํ อุปคนฺตุกามา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ยโตติ ภิกฺขุนุปสฺสยโต. ยาจิตฺวาติ ‘‘ตุมฺเหหิ อานีตโอวาเทเนว มยมฺปิ วสิสฺสามา’’ติ ยาจิตฺวา. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภิกฺขุนุปสฺสเย. อาคตานํ สนฺติเก โอวาเทน วสิตพฺพนฺติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสํ วสิตพฺพํ. อภิกฺขุกาวาเส วสนฺติยา อาปตฺตีติ โจทนามุเขน สามฺโต อาปตฺติปฺปสงฺคํ วทติ, น ปน ตสฺสา อาปตฺติ. วสฺสจฺเฉทํ กตฺวา คจฺฉนฺติยาปิ อาปตฺตีติ วสฺสานุปคมมูลํ อาปตฺตึ วทติ. อิตราย อาปตฺติยา อนาปตฺติการณสพฺภาวโต ‘‘สา รกฺขิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, สา วสฺสานุปคมมูลา อาปตฺติ รกฺขิตพฺพาติ อตฺโถ, อภิกฺขุเกปิ อาวาเส อีทิสาสุ อาปทาสุ วสฺสํ อุปคนฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อาปทาสุ หิ…เป… อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ. อิตราย ปน อาปตฺติยา อนาปตฺติ, การเณ อสติ ปจฺฉิมิกายปิ วสฺสํ น อุปคนฺตพฺพํ. สนฺเตสุ หิ ภิกฺขูสุ วสฺสํ อนุปคจฺฉนฺติยา อาปตฺติ. ตตฺถ คนฺตฺวา ปวาเรตพฺพนฺติ เอตฺถ อปวาเรนฺตีนํ อาปตฺติสมฺภวโต. สเจ ทูเรปิ ภิกฺขูนํ วสนฏฺานํ โหติ, สกฺกา จ โหติ นวมิยํ คนฺตฺวา ปวาเรตุํ, ตตฺถ คนฺตฺวา ปวาเรตพฺพํ. สเจ ปน นวมิยํ นิกฺขมิตฺวา สมฺปาปุณิตุํ น สกฺกา โหติ, อคจฺฉนฺตีนํ อนาปตฺติ.

อุโปสถสฺส ปุจฺฉนํ อุโปสถปุจฺฉา, สาเยว -ปฺปจฺจยํ รสฺสตฺตฺจ กตฺวา อุโปสถปุจฺฉกนฺติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อุโปสถปุจฺฉน’’นฺติ. อุโปสโถ ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘กทา, อยฺย, อุโปสโถ’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. ภิกฺขุนาปิ ‘‘สฺเว, ภคินิ, อุโปสโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขู กทาจิ เกนจิ การเณน ปนฺนรสิกํ วา จาตุทฺทสีอุโปสถํ, จาตุทฺทสิกํ วา ปนฺนรสีอุโปสถํ กโรนฺติ, ยสฺมิฺจ ทิวเส ภิกฺขูหิ อุโปสโถ กโต, ตสฺมึเยว ภิกฺขุนีหิปิ อุโปสโถ กาตพฺโพติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปกฺขสฺส เตรสิยํเยว คนฺตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ ปุจฺฉิเตน ภิกฺขุนา สเจ จาตุทฺทสิยํ อุโปสถํ กโรนฺติ, ‘‘จาตุทฺทสิโก ภคินี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน ปนฺนรสิยํ กโรนฺติ, ‘‘ปนฺนรสิโก ภคินี’’ติ อาจิกฺขิตพฺพํ. โอวาทตฺถายาติ โอวาทยาจนตฺถาย. ปาฏิปททิวสโต ปน ปฏฺาย ธมฺมสวนตฺถาย คนฺตพฺพนฺติ ปาฏิปททิวเส โอวาทคฺคหณตฺถาย ทุติยทิวสโต ปฏฺาย อนฺตรนฺตรา ธมฺมสวนตฺถาย คนฺตพฺพํ. โอวาทคฺคหณมฺปิ หิ ‘‘ธมฺมสวนเมวา’’ติ อเภเทน วุตฺตํ. นิรนฺตรํ วิหารํ อุปสงฺกมึสูติ เยภุยฺเยน อุปสงฺกมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตนฺติอาทินา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชิสฺสามาติ สพฺพาสํเยว ภิกฺขุนีนํ อุปสงฺกมนทีปนตฺถํ ปาฬิ นิทสฺสิตา. โอวาทํ คจฺฉตีติ โอวาทํ ยาจิตุํ คจฺฉติ. ทฺเว ติสฺโสติ ทฺวีหิ ตีหิ. กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ.

ปาสาทิเกนาติ ปสาทชนเกน นิทฺโทเสน กายกมฺมาทินา. สมฺปาเทตูติ ติวิธํ สิกฺขํ สมฺปาเทตุ. สเจ ปาติโมกฺขุทฺเทสกํเยว ทิสฺวา ตาหิ ภิกฺขุนีหิ โอวาโท ยาจิโต ภเวยฺย, เตน กึ กาตพฺพนฺติ? อุโปสถคฺเค สนฺนิปติเต ภิกฺขุสงฺเฆ ปุพฺพกิจฺจวเสน ‘‘อตฺถิ กาจิ ภิกฺขุนิโย โอวาทํ ยาจมานา’’ติ ปุจฺฉิยมาเน ‘‘เอวํ วเทหี’’ติ โอวาทปฏิคฺคาหเกน วตฺตพฺพวจนํ อฺเน ภิกฺขุนา กถาเปตฺวา ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วตฺตพฺพวจนํ อตฺตนา วตฺวา ปุน สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ อาโรเจตพฺพํ, อฺเน วา ภิกฺขุนา ตสฺมึ ทิวเส ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสาเปตพฺพํ. เอตํ วุตฺตนฺติ ‘‘ตาหี’’ติ เอตํ พหุวจนํ วุตฺตํ.

เอกา ภิกฺขุนี วาติ อิทํ พหูหิ ภิกฺขุนุปสฺสเยหิ เอกาย เอว ภิกฺขุนิยา สาสนปฏิคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ทุติยิกาย อภาวํ สนฺธาย. พหูหิ ภิกฺขุนุปสฺสเยหีติ อนฺตรามคฺเค วา ตสฺมึเยว วา คาเม พหูหิ ภิกฺขุนุปสฺสเยหิ. ‘‘ภิกฺขุนิสงฺโฆ จ อยฺย ภิกฺขุนิโย จ ภิกฺขุนี จา’’ติ อิมินา นานาอุปสฺสเยหิ สาสนํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุนิยา วตฺตพฺพวจนํ ทสฺเสติ. อิทฺจ เอเกน ปกาเรน มุขมตฺตนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ ปน ภิกฺขุนุปสฺสเย ภิกฺขุนีนํ ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อยฺยานํ อยฺยสฺสาติ อิทํ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตํ.

ปาติโมกฺขุทฺเทสเกนปีติ อิทํ สงฺฆุโปสถวเสเนว ทสฺสิตํ. ยตฺถ ปน ติณฺณํ ทฺวินฺนํ วา วสนฏฺาเน ปาติโมกฺขุทฺเทโส นตฺถิ, ตตฺถาปิ ตฺติปนเกน อิตเรน วา ภิกฺขุนา อิมินาว นเยน วตฺตพฺพํ. เอกปุคฺคเลนปิ อุโปสถทิวเส โอวาทยาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปาฏิปเท อาคตานํ ภิกฺขุนีนํ ‘‘นตฺถิ โกจี’’ติอาทิ วตฺตพฺพเมว. สเจ สยเมว, ‘‘สมฺมโต อห’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิมํ วิธึ อชานนฺโต อิธ พาโลติ อธิปฺเปโต.

๑๕๐. อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติอาทีสุ วิชฺชมาเนสุปิ วคฺคาทิภาวนิมิตฺเตสุ ทุกฺกเฏสุ อธมฺมกมฺมมูลกํ ปาจิตฺติยเมว ปาฬิยํ สพฺพตฺถ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อธมฺมกมฺเม ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน อฏฺารส ปาจิตฺติยานี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมภณนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๕๓. ทุติเย กุสลานํ ธมฺมานํ สาตจฺจกิริยายาติ ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติวเสน วุตฺตํ. มุนาตีติ ชานาติ. เตน าเณนาติ เตน อรหตฺตผลปฺาสงฺขาเตน าเณน. ปเถสูติ อุปายมคฺเคสุ. อรหโต ปรินิฏฺิตสิกฺขตฺตา อาห ‘‘อิทฺจ…เป… วุตฺต’’นฺติ. อถ วา ‘‘อปฺปมชฺชโต สิกฺขโต’’ติ อิเมสํ ปทานํ เหตุอตฺถตา ทฏฺพฺพา, ตสฺมา อปฺปมชฺชนเหตุ สิกฺขนเหตุ จ อธิเจตโสติ อตฺโถ. โสกาติ จิตฺตสนฺตาปา. เอตฺถ จ อธิเจตโสติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขา, อปฺปมชฺชโตติ อิมินา อธิสีลสิกฺขา, มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโตติ เอเตหิ อธิปฺาสิกฺขา, มุนิโนติ วา เอเตน อธิปฺาสิกฺขา, โมนปเถสุ สิกฺขโตติ เอเตน ตาสํ โลกุตฺตรสิกฺขานํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา, โสกา น ภวนฺตีติอาทีหิ สิกฺขาปาริปูริยา อานิสํสา ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

โกกนุทนฺติ ปทุมวิเสสนํ ยถา ‘‘โกกาสย’’นฺติ, ตํ กิร พหุปตฺตํ วณฺณสมฺปนฺนํ อติวิย สุคนฺธฺจ โหติ. ‘‘โกกนุทํ นาม เสตปทุม’’นฺติปิ วทนฺติ. ปาโตติ ปเคว. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา โกกนุทสงฺขาตํ ปทุมํ ปาโต สูริยุคฺคมนเวลายํ ผุลฺลํ วิกสิตํ อวีตคนฺธํ สิยา วิโรจมานํ, เอวํ สรีรคนฺเธน คุณคนฺเธน จ สุคนฺธํ สรทกาเล อนฺตลิกฺเข อาทิจฺจมิว อตฺตโน เตชสา ตปนฺตํ องฺเคหิ นิจฺฉรณชุติตาย องฺคีรสํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสาติ.

อภพฺโพติ ปฏิปตฺติสารมิทํ สาสนํ, ปฏิปตฺติ จ ปริยตฺติมูลิกา, ตฺวฺจ ปริยตฺตึ อุคฺคเหตุํ อสมตฺโถ, ตสฺมา อภพฺโพติ อธิปฺปาโย. สุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑนฺติ อิทฺธิยา อภิสงฺขตํ ปริสุทฺธํ โจฬขณฺฑํ. ตทา กิร ภควา ‘‘น สชฺฌายํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต มม สาสเน อภพฺโพ นาม โหติ, มา โสจิ ภิกฺขู’’ติ ตํ พาหายํ คเหตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา อิทฺธิยา ปิโลติกขณฺฑํ อภินิมฺมินิตฺวา ‘‘หนฺท, ภิกฺขุ, อิมํ ปริมชฺชนฺโต ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ ปุนปฺปุนํ สชฺฌายํ กโรหี’’ติ วตฺวา อทาสิ ตตฺถ ปุพฺเพกตาธิการตฺตา.

โส กิร ปุพฺเพ ราชา หุตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต นลาฏโต เสเท มุจฺจนฺเต ปริสุทฺเธน สาฏเกน นลาฏํ ปุฺฉิ, สาฏโก กิลิฏฺโ อโหสิ . โส ‘‘อิมํ สรีรํ นิสฺสาย เอวรูโป ปริสุทฺธสาฏโก ปกตึ ชหิตฺวา กิลิฏฺโ ชาโต, อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ อนิจฺจสฺํ ปฏิลภติ, เตน การเณนสฺส รโชหรณเมว ปจฺจโย ชาโต. รชํ หรตีติ รโชหรณํ. สํเวคํ ปฏิลภิตฺวาติ อสุภสฺํ อนิจฺจสฺฺจ อุปฏฺเปนฺโต สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา. โส หิ โยนิโส อุมฺมชฺชนฺโต ‘‘ปริสุทฺธํ วตฺถํ, นตฺเถตฺถ โทโส, อตฺตภาวสฺส ปนายํ โทโส’’ติ อสุภสฺํ อนิจฺจสฺฺจ ปฏิลภิตฺวา นามรูปปริคฺคหาทินา ปฺจสุ ขนฺเธสุ าณํ โอตาเรตฺวา กลาปสมฺมสนาทิกฺกเมน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุทยพฺพยาณาทิปอปาฏิยา วิปสฺสนํ อนุโลมโคตฺรภุสมีปํ ปาเปสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิปสฺสนํ อารภี’’ติ. โอภาสคาถํ อภาสีติ โอภาสวิสฺสชฺชนปุพฺพกภาสิตคาถา โอภาสคาถา, ตํ อภาสีติ อตฺโถ.

เอตฺถ จ ‘‘อธิเจตโสติ อิมํ โอภาสคาถํ อภาสี’’ติ อิเธว วุตฺตํ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ปน ธมฺมปทฏฺกถายํ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.จูฬปนฺถกตฺเถรวตฺถุ) เถรคาถาสํวณฺณนายฺจ (เถรคา. อฏฺ. ๒.๕๖๖) –

‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ;

ราคสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ปณฺฑิตา;

วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเน.

‘‘โทโส…เป… สาสเน.

‘‘โมโห รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ;

โมหสฺเสตํ อธิวจนํ รโชติ;

เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ปณฺฑิตา;

วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเนติ. –

อิมา ติสฺโส โอภาสคาถา อภาสี’’ติ วุตฺตํ. อธิเจตโสติ จ อยํ จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส อุทานคาถาติ อิมิสฺสาเยว ปาฬิยา อาคตํ. เถรคาถายํ ปน จูฬปนฺถกตฺเถรสฺส อุทานคาถาสุ อยํ อนารุฬฺหา, ‘‘เอกุทานิยตฺเถรสฺส ปน อยํ อุทานคาถา’’ติ (เถรคา. อฏฺ. ๑.เอกุทานิยตฺเถรคาถาวณฺณนา) ตตฺถ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถาย จ เอวมาคตตฺตา จูฬปนฺถกตฺเถรสฺสปิ อยํ อุทานคาถา โอภาสคาถาวเสน จ ภควตา ภาสิตาติ คเหตพฺพํ. อรหตฺตํ ปาปุณีติ อภิฺาปฏิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปาปุณิ. อภพฺโพ ตฺวนฺติอาทิวจนโต อนุกมฺปาวเสน สทฺธิวิหาริกาทึ สงฺฆิกวิหารา นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ วิย ทิสฺสติ. อภพฺโพ หิ เถโร สฺจิจฺจ ตํ กาตุํ, นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเท วา อปฺตฺเต เถเรน เอวํ กตนฺติ คเหตพฺพํ.

๑๕๖. โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อตฺถงฺคเต สูริเย ครุธมฺเมหิ วา อฺเน วา ธมฺเมเนว โอวทนฺตสฺส สมฺมตสฺสปิ ปาจิตฺติยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อตฺถงฺคตสูริยตา, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๖๒. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสฺสยูปคมนํ, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, สมยาภาโว, ครุธมฺเมหิ โอวทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๖๔. จตุตฺเถ ‘‘อุปสมฺปนฺนํ…เป… ภิกฺขุโนวาทก’’นฺติ อิเมสํ ‘‘มงฺกุกตฺตุกาโม’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโม’’ติ อิเมสํ ปน วเสน ‘‘อุปสมฺปนฺน’’นฺติอาทีสุ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ วิภตฺติวิปริณาโม กาตพฺโพติ อิมมตฺถํ สนฺธาย ‘‘อุชฺฌาปนเก วุตฺตนเยเนวตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘จีวรเหตุ โอวทตี’’ติอาทินา ภณนฺตสฺส เอเกกสฺมึ วจเน นิฏฺิเต ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ‘‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน อสมฺมต’’นฺติ ปาฬิวจนโต ‘‘สมฺมเตน วา สงฺเฆน วา ภารํ กตฺวา ปิโต’’ติ อฏฺกถาวจนโต จ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต สมฺมเตน วา วิปฺปวสิตุกาเมน ‘‘ยาวาหํ อาคมิสฺสามิ, ตาว เต ภาโร โหตู’’ติ ยาจิตฺวา ปิโต ตสฺสาภาวโต สงฺเฆน วา ตเถว ภารํ กตฺวา ปิโต อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ อฺเน วา ธมฺเมน โอวทิตุํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘โย ปน, ภิกฺขุ, อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ อิทํ ปเคว ภารํ กตฺวา อฏฺปิตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

๑๖๘. อนาปตฺติ ปกติยา จีวรเหตุ…เป… โอวทนฺตํ ภณตีติ เอตฺถ อามิสเหตุ โอวทนฺตํ ‘‘อามิสเหตุ โอวทตี’’ติ สฺาย เอวํ ภณนฺตสฺส อนาปตฺติ, ‘‘น อามิสเหตุ โอวทตี’’ติ สฺิโน ปน ทุกฺกฏํ, น อามิสเหตุ โอวทนฺตํ ปน ‘‘อามิสเหตุ โอวทตี’’ติ สฺาย ภณนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, อนามิสนฺตรตา, อวณฺณกามตาย เอวํ ภณนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖๙. ปฺจมํ อุตฺตานตฺถเมว.

๖. จีวรสิพฺพาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๗๕. ฉฏฺเ สเจ สา ภิกฺขุนี ตํ จีวรํ อาทิโตว ปารุเปยฺย, อฺา ภิกฺขุนิโย ทิสฺวา อุชฺฌาเปยฺยุํ, ตโต มหาชโน ปสฺสิตุํ น ลภตีติ มฺมาโน ‘‘ยถาสํหฏํ หริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา’’ติอาทิมาห.

๑๗๖. นีหรตีติ สกึ นีหรติ. เยปิ เตสํ นิสฺสิตกาติ สมฺพนฺโธ. กถินวตฺตนฺติ ‘‘สพฺรหฺมจารีนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิติกตฺตพฺพตาวเสน สูจิกมฺมกรณํ. อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏนฺติ อกปฺปิยสมาทานวเสน ทุกฺกฏํ. วฺเจตฺวาติ ‘‘ตว าติกายา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺวา. ‘‘เอกิสฺสา ภิกฺขุนิยา’’ติ สุตฺวา เต อฺาติกสฺิโน ภเวยฺยุนฺติ อาห ‘‘อกปฺปิเย นิโยชิตตฺตา’’ติ . ‘‘อิทํ เต มาตุ จีวร’’นฺติอาทีนิ อวตฺวาปิ ‘‘อิทํ จีวรํ สิพฺเพหี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน สิพฺพาเปนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ.

๑๗๙. อุปาหนตฺถวิกาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ยํ จีวรํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา น สกฺกา โหติ, ตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกตา, นิวาสนปารุปนูปคตา, วุตฺตนเยน สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

จีวรสิพฺพาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สํวิทหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๘๑. สตฺตเม ‘‘ปจฺฉา คจฺฉนฺตีนํ โจรา อจฺฉินฺทึสู’’ติ เอตฺถ ‘‘ปตฺตจีวร’’นฺติ ปาเสโสติ อาห ‘‘ปจฺฉา คจฺฉนฺตีนํ ปตฺตจีวร’’นฺติ. ตา ภิกฺขุนิโยติ ปจฺฉา คจฺฉนฺติโย ภิกฺขุนิโย. ‘‘ปจฺฉา คจฺฉนฺตีน’’นฺติ จ วิภตฺติวิปริณาเมเนตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปาฬิยํ ‘‘คจฺฉาม ภคินิ, คจฺฉาม อยฺยา’’ติ ภิกฺขุปุพฺพกํ สํวิธานํ วุตฺตํ, ‘‘คจฺฉาม อยฺย, คจฺฉาม ภคินี’’ติ ภิกฺขุนีปุพฺพกํ. เอกทฺธานมคฺคนฺติ เอกํ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ, เอกโต วา อทฺธานมคฺคํ. หิยฺโยติ สุเว. ปเรติ ตติยทิวเส.

๑๘๒-๑๘๓. ทฺวิธา วุตฺตปฺปกาโรติ ปาทคมนวเสน ปกฺขคมนวเสน วาติ ทฺวิธา วุตฺตปฺปเภโท . จตุนฺนํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ จตุกฺกํ, ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ. ‘‘คามนฺตเร คามนฺตเร’’ติ เอตฺถ อฺโ คาโม คามนฺตรนฺติ อาห ‘‘นิกฺขมเน อนาปตฺติ…เป… ภิกฺขุโน ปาจิตฺติย’’นฺติ. ‘‘สํวิธายา’’ติ ปาฬิยํ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ‘‘เนว ปาฬิยา สเมตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘น เสสอฏฺกถาย สเมตี’’ติ วุตฺตํ. อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺสาติ อสติ คาเม อทฺธโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส. ยตฺถ หิ อทฺธโยชนพฺภนฺตเร อฺโ คาโม น โหติ, ตํ อิธ อคามกํ อรฺนฺติ อธิปฺเปตํ, อทฺธโยชนพฺภนฺตเร ปน คาเม สติ คามนฺตรคณนาย เอว อาปตฺติ.

๑๘๕. รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. เสสํ อุตฺตานเมว. ทฺวินฺนมฺปิ สํวิทหิตฺวา มคฺคปฺปฏิปตฺติ , อวิสงฺเกตํ, สมยาภาโว, อนาปทา, คามนฺตโรกฺกมนํ วา อทฺธโยชนาติกฺกโม วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนาทีหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺส ปน มาตุคามสิกฺขาปเทน อาปตฺติ.

สํวิทหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๘๘. อฏฺเม โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขารา สํวิทหิตฺวาติ อยํ วิเสโส ‘‘เอวมิเม…เป… ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ นาวาย กีฬนฺตี’’ติ อิมินา ‘‘อุทฺธํคามินึ วา อโธคามินึ วา’’ติ อิมินา จ สิทฺโธ.

๑๘๙. นทิยา กุโต คามนฺตรนฺติ อาห ‘‘ยสฺสา นทิยา’’ติอาทิ. ‘‘ตสฺสา สคามกตีรปสฺเสน…เป… อทฺธโยชนคณนายาติ เอเกกปสฺเสเนว คมนํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา ตาทิสิกาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉนฺตสฺส คามนฺตรคณนาย อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ. สพฺพอฏฺกถาสูติอาทินา อตฺตนา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. ‘‘กีฬาปุเรกฺขารตาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย นาวํ อภิรุหนฺตสฺส นทิยํเยว ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา วาปิสมุทฺทาทีสุ กีฬาปุเรกฺขารตาย ทุกฺกฏเมว, น ปาจิตฺติย’’นฺติ วทนฺติ. ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขารา สํวิทหิตฺวา’’ติ วจนโต เกจิ ‘‘อิมํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺช’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กีฬาปุเรกฺขารตาย หิ อภิรุหิตฺวาปิ คามนฺตโรกฺกมเน อทฺธโยชนาติกฺกเม วา กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคีปิ หุตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ . ยทิ หิ โส สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกเรยฺย, นิทฺทํ วา โอกฺกเมยฺย, กมฺมฏฺานํ วา มนสิ กโรนฺโต คจฺเฉยฺย, กุโต ตสฺส อกุสลจิตฺตสมงฺคิตา, เยนิทํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺชนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติวชฺชํ ติจิตฺตนฺติ สิทฺธํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๔. นวเม ปฏิยาทิตนฺติ ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิตํ. าตกา วา โหนฺติ ปวาริตา วาติ เอตฺถ สเจปิ ภิกฺขุโน อฺาตกา อปฺปวาริตา จ สิยุํ, ภิกฺขุนิยา าตกา ปวาริตา เจ, วฏฺฏติ.

๑๙๗. ปาปภิกฺขูนํ ปกฺขุปจฺเฉทาย อิทํ ปฺตฺตํ, ตสฺมา ปฺจโภชเนเยว อาปตฺติ วุตฺตา. ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตีติ อิทํ ปน อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. วิฺตฺติยา อุปฺปนฺนํ ปริภุฺชนฺตสฺส หิ อฺตฺถ วุตฺตนเยน ทุกฺกฏํ. เสสํ อุตฺตานเมว. ภิกฺขุนิปริปาจิตภาโว, ชานนํ, คิหิสมารมฺภาภาโว, โอทนาทีนํ อฺตรตา, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

๑๙๘. ทสเม อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทนาติ อปฺปฏิจฺฉนฺเน มาตุคาเมน สทฺธึ รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ สนฺธาย วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตํ อเจลกวคฺเค ปฺจมสิกฺขาปทํ โหติ, อุปนนฺทตฺเถรํ อารพฺภ ปฺตฺเตสุ ปน จตุตฺถภาวโต ‘‘อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทนา’’ติ วุตฺตํ. จตุตฺถสิกฺขาปทสฺส วตฺถุโต อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุโน ปมํ อุปฺปนฺนตฺตา อิทํ สิกฺขาปทํ ปมํ ปฺตฺตํ. อิมินา จ สิกฺขาปเทน เกวลํ ภิกฺขุนิยา เอว รโหนิสชฺชาย อาปตฺติ ปฺตฺตา, อุปริ มาตุคาเมน สทฺธึ รโหนิสชฺชาย อาปตฺติ วิสุํ ปฺตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.

รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต ภิกฺขุนิวคฺโค ตติโย.

๔. โภชนวคฺโค

๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๐๖. โภชนวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สกฺโกตีติ เอตฺถ ตตฺตกํ คนฺตุํ สกฺโกนฺตสฺสปิ ตาวตกํ คนฺตฺวา อลทฺธภิกฺขสฺส อิโต ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อิเมสํเยวาติ อิเมสํ ปาสณฺฑานํเยว. เอตฺตกานนฺติ อิมสฺมึ ปาสณฺเฑ เอตฺตกานํ. เอกทิวสํ ภุฺชิตพฺพนฺติ เอกทิวสํ สกึเยว ภุฺชิตพฺพํ. ‘‘เอกทิวสํ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปน เอกสฺมึ ทิวเส ปุนปฺปุนํ ภุฺชิตุํ วฏฺฏตีติ น คเหตพฺพํ. ปุน อาทิโต ปฏฺาย ภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ อิมินา ปมํ ภุตฺตฏฺาเนสุ ปุน เอกสฺมิมฺปิ าเน ภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.

๒๐๘. ‘‘คจฺฉนฺโต วา อาคจฺฉนฺโต วาติ อิทํ อทฺธโยชนวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. อนฺตรามคฺเค คตฏฺาเนติ เอกสฺเสว สนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อาคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘คนฺตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺโต’’ติอาทิมาห. อาปตฺติฏฺาเนเยว ปุน ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ วตฺตพฺพาติ คมเน อาคมเน จ ปมํ โภชนํ อวตฺวา อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ คตฏฺาเน จ เอกทิวสนฺติ ปุนปฺปุนํ โภชนเมว ทสฺสิตํ, คมนทิวเส ปน อาคมนทิวเส จ ‘‘คมิสฺสามิ อาคมิสฺสามี’’ติ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. สุทฺธจิตฺเตน ปุนปฺปุนํ ภุฺชนฺตสฺสปิ ปุนปฺปุนํ โภชเน อนาปตฺติ. อฺสฺสตฺถาย อุทฺทิสิตฺวา ปฺตฺตํ ภิกฺขุโน คเหตุเมว น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ภิกฺขูนํเยว อตฺถายา’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อาวสถปิณฺฑตา, อคิลานตา, อนุวสิตฺวา โภชนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๐๙. ทุติเย อภิมาเรติ อภิคนฺตฺวา ภควโต มารณตฺถาย นิโยชิเต ธนุทฺธเร. คุฬฺหปฏิจฺฉนฺโนติ อปากโฏ. ปวิชฺฌีติ วิสฺสชฺเชสิ. นนุ ราชานมฺปิ มาราเปสีติ วจนโต อิทํ สิกฺขาปทํ อชาตสตฺตุโน กาเล ปฺตฺตนฺติ สิทฺธํ, เอวฺจ สติ ปรโต อนุปฺตฺติยํ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน รฺโ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส าติสาโลหิโต อาชีวเกสุ ปพฺพชิโต โหติ. อถ โข โส อาชีวโก เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ…เป… กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺตี’’ติ –

อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? โส กิร อาชีวโก ตํ ทานํ เทนฺโต พิมฺพิสารกาลโต ปฏฺาย อทาสิ, ปจฺฉา อชาตสตฺตุกาเล สิกฺขาปทปฺตฺติโต ปฏฺาย ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา ตํ ทานํ น ปฏิคฺคณฺหึสุ, ตสฺมา อาทิโต ปฏฺาย ตํ วตฺถุ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อถ โข โส อาชีวโก ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปาเหสี’’ติ อิทฺจ ตโต ปภุติ โส อาชีวโก อนฺตรนฺตรา ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา ทานํ เทนฺโต อชาตสตฺตุกาเล สิกฺขาปเท ปฺตฺเต ยํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๑๕. อฺมฺวิสิฏฺตฺตา วิสทิสํ รชฺชํ วิรชฺชํ, ตโต อาคตา, ตตฺถ วา ชาตา, ภวาติ วา เวรชฺชา, เต เอว เวรชฺชกา. เต ปน ยสฺมา โคตฺตจรณาทิวิภาเคน นานปฺปการา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาเวรชฺชเก’’ติ. อฏฺกถายํ ปน นานาวิเธหิ อฺรชฺเชหิ อาคเตติ รชฺชานํเยว วเสน นานปฺปการตา วุตฺตา.

๒๑๗-๒๑๘. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส วิฺตฺตึ กตฺวา ภุฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตตฺตา วิฺตฺติโต คณโภชนํ วตฺถุวเสเนว ปากฏนฺติ ตํ อวตฺวา ‘‘คณโภชนํ นาม ยตฺถ…เป… นิมนฺติตา ภุฺชนฺตี’’ติ นิมนฺตนวเสเนว ปทภาชเน คณโภชนํ วุตฺตํ. ‘‘กิฺจิ ปน สิกฺขาปทํ วตฺถุอนนุรูปมฺปิ สิยาติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน นิมนฺตนวเสเนว คณโภชนํ โหตีติ เกสฺจิ อาสงฺกา ภเวยฺยา’’ติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ตํ ปเนตํ คณโภชนํ ทฺวีหากาเรหิ ปสวตี’’ติ วุตฺตํ. ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘โภชนํ คณฺหถาติ วุตฺเตปิ คณโภชนํ โหติเยวา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เหฏฺา อทฺธานคมนวตฺถุสฺมึ นาวาภิรุหนวตฺถุสฺมิฺจ ‘อิเธว, ภนฺเต, ภุฺชถา’ติ วุตฺเต ยสฺมา กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหึสุ, ตสฺมา ‘ภุฺชถา’ติ วุตฺเตปิ คณโภชนํ น โหติเยวา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปน ‘‘โอทนํ ภุฺชถา’’ติ วา ‘‘ภตฺตํ ภุฺชถา’’ติ วา โภชนนามํ คเหตฺวาว วุตฺเต คณโภชนํ โหติ, น อฺถา. ‘‘อิเธว, ภนฺเต, ภุฺชถา’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘โอทน’’นฺติ วา ‘‘ภตฺต’’นฺติ วา วตฺวาว เต เอวํ นิมนฺเตสุนฺติ คเหตพฺพํ. คณวเสน วา นิมนฺติตตฺตา เต ภิกฺขู อปกตฺุตาย กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหึสูติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

เอกโต คณฺหนฺตีติ เอตฺถ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมุฺจิตฺวา ิตา เอกโต คณฺหนฺติ นามาติ คเหตพฺพํ. ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหีติ วา วิฺาเปยฺยุ’’นฺติ วจนโต เหฏฺา ‘‘ตฺวํ เอกสฺส ภิกฺขุโน ภตฺตํ เทหิ, ตฺวํ ทฺวินฺนนฺติ เอวํ วิฺาเปตฺวา’’ติ วจนโต จ อตฺตโน อตฺถาย อฺเหิ วิฺตฺตมฺปิ สาทิยนฺตสฺส คณโภชนํ โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ วิฺตฺติโต ปสวตีติ เอตฺถ วิฺตฺติยา สติ คณฺหนฺตสฺส เอกโต หุตฺวา คหเณ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ, วิสุํ คหเณ ปณีตโภชนสูโปทนวิฺตฺตีหิ อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

วิจาเรตีติ ปฺจขณฺฑาทิวเสน สํวิทหติ. ฆฏฺเฏตีติ อนุวาตํ ฉินฺทิตฺวา หตฺเถน ทณฺฑเกน วา ฆฏฺเฏติ. สุตฺตํ กโรตีติ สุตฺตํ วฏฺเฏติ. วเลตีติ ทณฺฑเก วา หตฺเถ วา อาวฏฺเฏติ. ‘‘อภินวสฺเสว จีวรสฺส กรณํ อิธ จีวรกมฺมํ นาม, ปุราณจีวเร สูจิกมฺมํ นาม น โหตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘จตุตฺเถ อาคเต น ยาเปนฺตีติ วจนโต สเจ อฺโ โกจิ อาคจฺฉนฺโต นตฺถิ, จตฺตาโรเยว จ ตตฺถ นิสินฺนา ยาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ.

๒๒๐. คณโภชนาปตฺติชนกนิมนฺตนภาวโต ‘‘อกปฺปิยนิมนฺตน’’นฺติ วุตฺตํ. สมฺปเวเสตฺวาติ นิสีทาเปตฺวา. คโณ ภิชฺชตีติ คโณ อาปตฺตึ น อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู…เป… ภุฺชนฺตี’’ติ อิมาย ปาฬิยา สํสนฺทนโต ‘‘อิตเรสํ ปน คณปูรโก โหตี’’ติ วุตฺตํ. อวิเสเสนาติ ‘‘คิลาโน วา จีวรการโก วา’’ติ อวิเสเสตฺวา สพฺพสาธารณวจเนน. ตสฺมาติ อวิเสสิตตฺตา. ภุตฺวา คเตสูติ เอตฺถ อคเตสุปิ โภชนกิจฺเจ นิฏฺิเต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ . ตานิ จ เตหิ เอกโต น คหิตานีติ เยหิ โภชเนหิ วิสงฺเกโต นตฺถิ, ตานิ โภชนานิ เตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต น คหิตานิ เอเกน ปจฺฉา คหิตตฺตา. มหาเถเรติ ภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ. ทูตสฺส ปุน ปฏิปถํ อาคนฺตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วจนภเยน ‘‘คามทฺวาเร อฏฺตฺวาวา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวาติ อนฺตรวีถิอาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ ิตานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา. ภิกฺขูนํ อตฺถาย ฆรทฺวาเร เปตฺวา ทิยฺยมาเนปิ เอเสว นโย. นิวตฺตถาติ วุตฺตปเท นิวตฺติตุํ วฏฺฏตีติ ‘‘นิวตฺตถา’’ติ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตตฺตา วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. คณโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๒๑. ตติเย กุลปฏิปาฏิยา อพฺโพจฺฉินฺนํ กตฺวา นิรนฺตรํ ทิยฺยมานตฺตา ‘‘ภตฺตปฏิปาฏิ อฏฺิตา โหตี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, อนฺตรา อฏฺตฺวา นิรนฺตรํ ปวตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อุปจารวเสนาติ โวหารวเสน. น หิ โส พทรมตฺตเมว เทติ, อุปจารวเสน ปน เอวํ วทติ. พทรจุณฺณสกฺขราทีหิ ปโยชิตํ ‘‘พทรสาฬว’’นฺติ วุจฺจติ.

๒๒๖. วิกปฺปนาวเสเนว ตํ ภตฺตํ อสนฺตํ นาม โหตีติ อนุปฺตฺติวเสน วิกปฺปนํ อฏฺเปตฺวา ยถาปฺตฺตํ สิกฺขาปทเมว ปิตํ. ปริวาเร ปน วิกปฺปนาย อนุชานนมฺปิ อนุปฺตฺติสมานนฺติ กตฺวา ‘‘จตสฺโส อนุปฺตฺติโย’’ติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺตนยํ ปจฺฉา วทนฺโต ปาฬิยา สํสนฺทนโต ปรมฺมุขาวิกปฺปนเมว ปติฏฺาเปสิ. เกจิ ปน ‘‘ตทา อตฺตโน สนฺติเก เปตฺวา ภควนฺตํ อฺสฺส อภาวโต เถโร สมฺมุขาวิกปฺปนํ นากาสิ, ภควตา จ วิสุํ สมฺมุขาวิกปฺปนา น วุตฺตา, ตถาปิ สมฺมุขาวิกปฺปนาปิ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ. เตเนว มาติกาอฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ สมฺมุขา วา ‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’ติ วา ‘วิกปฺเปมี’ติ วา เอวํ ปรมฺมุขา วา ปมนิมนฺตนํ อวิกปฺเปตฺวา ปจฺฉา นิมนฺติตกุเล ลทฺธภิกฺขโต เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรติ, ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.

๒๒๙. ปฺจหิ โภชเนหิ นิมนฺติตสฺส เยน เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตสฺส ตสฺส โภชนโต อุปฺปฏิปาฏิยา อวิกปฺเปตฺวา วา ปรสฺส ปรสฺส โภชนํ ปรมฺปรโภชนนฺติ อาห ‘‘สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฏฺา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฏฺาย ภุฺชนฺตสฺส อาปตฺตี’’ติ. หตฺถํ อนฺโต ปเวเสตฺวา สพฺพเหฏฺิมํ คณฺหนฺตสฺส มชฺเฌ ิตมฺปิ อนฺโตหตฺถคตํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถํ ปน…เป… ยถา ตถา วา ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ. ขีรสฺส รสสฺส จ ภตฺเตน อมิสฺสํ หุตฺวา อุปริ ิตตฺตา ‘‘ขีรํ วา รสํ วา ปิวโต อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ.

มหาอุปาสโกติ เคหสามิโก. ‘‘มหาอฏฺกถายํ ‘อาปตฺตี’ติ วจเนน กุรุนฺทิยํ ‘วฏฺฏตี’ติ วจนํ วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ, ทฺวินฺนมฺปิ อธิปฺปาโย มหาปจฺจริยํ วิภาวิโต’’ติ มหาคณฺิปเทสุ วุตฺตํ. สพฺเพ นิมนฺเตนฺตีติ อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺเตนฺติ. ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน โภชเนน นิมนฺติโต, ตํ เปตฺวา อฺํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ภุฺชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามา’’ติ วุตฺตตฺตา สติปิ ภิกฺขาจริยาย ปมํ ลทฺธภาเว ‘‘ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธภตฺตํ ภุฺชติ, อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อวิกปฺปวเสน ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปรมฺปรโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๓๐-๒๓๑. จตุตฺเถ กาณาย มาตาติ กาณาติ ลทฺธนามาย ทาริกาย มาตา. กสฺมา ปเนสา กาณา นาม ชาตาติ อาห ‘‘สา กิรสฺสา’’ติอาทิ. อิมิสฺสา ทหรกาเล มาตาปิตโร สิเนหวเสน ‘‘อมฺม กาเณ, อมฺม กาเณ’’ติ โวหรึสุ, สา ตทุปาทาย กาณา นาม ชาตา, ตสฺสา จ มาตา ‘‘กาณมาตา’’ติ ปากฏา อโหสีติ เอวเมตฺถ การณํ วทนฺติ. ปฏิยาโลกนฺติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, ปจฺจาทิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๓๓. ปูวคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขโต อุปริฏฺิตปูวคณนาย ปาจิตฺติยํ. ‘‘ทฺวตฺติปตฺตปูรา ปฏิคฺคเหตพฺพา’’ติ หิ วจนโต มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขํ อนติกฺกนฺเต ทฺเว วา ตโย วา ปตฺตปูเร คเหตุํ วฏฺฏติ.

๒๓๕. อฏฺกถาสุ ปน…เป… วุตฺตนฺติ อิทํ อฏฺกถาสุ ตถา อาคตภาวมตฺตทีปนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน ตสฺส วาทสฺส ปติฏฺาปนตฺถํ. อฏฺกถาสุ วุตฺตฺหิ ปาฬิยา น สเมติ. ตตุตฺตริคหเณ อนาปตฺติทสฺสนตฺถฺหิ ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ วุตฺตํ. อฺถา ‘‘อนาปตฺติ ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ อิมินาว ปมาณยุตฺตคฺคหเณ อนาปตฺติสิทฺธิโต ‘‘าตกานํ ปวาริตาน’’นฺติ วิสุํ น วตฺตพฺพํ. ยทิ เอวํ ‘‘ตํ ปาฬิยา น สเมตี’’ติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? เหฏฺา ตตุตฺตริสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว สกฺกา วิฺาตุนฺติ น วุตฺตํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๖) ‘‘อฏฺกถาสุ ปน าตกปวาริตฏฺาเน ปกติยาว พหุมฺปิ วฏฺฏติ, อจฺฉินฺนการณา ปมาณเมว วฏฺฏตีติ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา น สเมตี’’ติ. ‘‘อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ปฏิยาทิต’’นฺติ สฺาย คณฺหนฺตสฺสปิ อาปตฺติเยว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโนเยว คหณตฺถํ ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนปิ อาปชฺชนโต ‘‘วจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว . วุตฺตลกฺขณปูวมนฺถตา, อเสสกตา, อปฏิปฺปสฺสทฺธคมนตา, น าตกาทิตา, อติเรกปฏิคฺคหณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๓๖. ปฺจเม ภุตฺตาวีติ ภุตฺตาวิโน ภุตฺตวนฺโต, กตภตฺตกิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. ปวาริตาติ เอตฺถ จตูสุ ปวารณาสุ ยาวทตฺถปวารณา ปฏิกฺเขปปวารณา จ ลพฺภตีติ อาห ‘‘พฺราหฺมเณน…เป… ปฏิกฺเขปปวารณาย ปวาริตา’’ติ. จตุพฺพิธา หิ ปวารณา วสฺสํวุตฺถปวารณา, ปจฺจยปวารณา , ปฏิกฺเขปปวารณา, ยาวทตฺถปวารณาติ. ตตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ ตีหิ าเนหิ ปวาเรตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๙) อยํ วสฺสํวุตฺถปวารณา. ปกาเรหิ ทิฏฺาทีหิ วาเรติ สงฺฆาทิเก ภชาเปติ ภตฺเต กโรติ เอตายาติ ปวารณา, อาปตฺติวิโสธนาย อตฺตโวสฺสคฺโคกาสทานํ. สา ปน ยสฺมา เยภุยฺเยน วสฺสํวุตฺเถหิ กาตพฺพา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘วสฺสํวุตฺถปวารณา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สงฺฆํ จาตุมาสํ เภสชฺเชน ปวาเรตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๐๓) จ, ‘‘อฺตฺร ปุน ปวารณาย อฺตฺร นิจฺจปวารณายา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๖) จ อยํ ปจฺจยปวารณา ปวาเรติ ปจฺจเย อิจฺฉาเปติ เอตายาติ กตฺวา, จีวราทีหิ อุปนิมนฺตนาเยตํ อธิวจนํ. ‘‘ปวาริโต นาม อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายติ, เอโส ปวาริโต นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) อยํ ปฏิกฺเขปปวารณา. วิปฺปกตโภชนตาทิปฺจงฺคสหิโต โภชนปฏิกฺเขโปเยว เหตฺถ ปการยุตฺตา วารณาติ ปวารณา. ‘‘ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๖๓) อยํ ยาวทตฺถปวารณา. ยาวทตฺถํ โภชนสฺส ปวารณา ยาวทตฺถปวารณา.

๒๓๗. ติ-การํ อวตฺวา…เป… วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อิทํ วตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ‘‘ติ-กาเร ปน วุตฺเตปิ อกตํ นาม น โหตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

๒๓๘-๒๓๙. ปวาริโตติ ปฏิกฺเขปิโต. โย หิ ภุฺชนฺโต ปริเวสเกน อุปนีตํ โภชนํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิกฺขิปติ, โส เตน ปวาริโต ปฏิกฺเขปิโต นาม โหติ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘กตปวารโณ กตปฏิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ‘‘อสน’’นฺติ อิมินาว ปเทน ‘‘ภุตฺตาวี’’ติ อิมสฺส อตฺโถ วุตฺโต, ตสฺมา น ตสฺส กิฺจิ ปโยชนํ วิสุํ อุปลพฺภติ. ยทิ หิ อุปลพฺเภยฺย, ปวารณา ฉฬงฺคสมนฺนาคตา อาปชฺเชยฺยาติ มนสิ กตฺวา ปฺจสมนฺนาคตตฺตํเยว ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทินา ปาฬึ อาหรติ. เกจิ ปน ‘‘หตฺถปาเส ิโต อภิหรตี’’ติ เอกเมว องฺคํ กตฺวา ‘‘จตุรงฺคสมนฺนาคตา ปวารณา’’ติปิ วทนฺติ.

อมฺพิลปายาสาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ขีรปายาสาทึ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ อมฺพิลปายาสคฺคหเณน ตกฺกาทิอมฺพิลสํยุตฺตา ฆนยาคุ วุตฺตา. ขีรปายาสคฺคหเณน ขีรสํยุตฺตา ยาคุ สงฺคยฺหติ. ปวารณํ น ชเนตีติ อนติริตฺตโภชนาปตฺตินิพนฺธนํ ปฏิกฺเขปํ น สาเธติ. กโตปิ ปฏิกฺเขโป อนติริตฺตโภชนาปตฺตินิพนฺธโน น โหตีติ อกตฏฺาเนเยว ติฏฺตีติ อาห ‘‘ปวารณํ น ชเนตี’’ติ. ‘‘ยาคุ-สทฺทสฺส ปวารณชนกยาคุยาปิ สาธารณตฺตา ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุตฺเตปิ ปวารณา โหตีติ ปวารณํ ชเนติเยวาติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ, ตํ ปรโต ตตฺเถว ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’’ติ เอตฺถ วุตฺตการเณน น สเมติ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘เหฏฺา อยาคุเก นิมนฺตเน อุทกกฺชิกขีราทีหิ สทฺธึ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหติ, ‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’ติ เอตฺถ ปน วิสุํ ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา ปวารณา น โหตี’’ติ. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ขีราทีหิ สํมทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตตฺตา ยาคุยา จ ตตฺถ อภาวโต ปวารณา โหตีติ เอวเมตฺถ การณํ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ปรโต ‘‘เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตายา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตการเณนปิ สํสนฺทติ, อฺถา คณฺิปเทสุเยว ปุพฺพาปรวิโรโธ อาปชฺชติ. อฏฺกถาวจเนน จ น สเมติ. สเจ…เป… ปฺายตีติ อิมินา วุตฺตปฺปมาณสฺส มจฺฉมํสขณฺฑสฺส นหารุโน วา สพฺภาวมตฺตํ ทสฺเสติ. ตาหีติ ปุถุกาหิ.

สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตูติ เยภุยฺยนเยน วุตฺตํ, สตฺต ธฺานิ ปน ภชฺชิตฺวา กโตปิ สตฺตุเยว. เตเนวาห ‘‘กงฺคุวรก…เป… สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉตี’’ติ. สตฺตุโมทโกติ สตฺตุโย ปิณฺเฑตฺวา กโต อปกฺโก สตฺตุคุโฬ. ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรวเสน วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘มุเข สาสปมตฺตมฺปิ…เป… น ปวาเรตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ วจนโต สเจ สงฺฆิกํ ลาภํ อตฺตโน อปาปุณนฺตํ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ ปฏิกฺขิปิตพฺพสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา. อลชฺชิสนฺตกํ ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรติ. อวตฺถุตายาติ อนติริตฺตาปตฺติสาธิกาย ปวารณาย อวตฺถุภาวโต. เอเตน ปฏิกฺขิปิตพฺพสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตภาวํ ทีเปติ . ยฺหิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โหติ, ตสฺส ปฏิกฺเขโป อาปตฺติองฺคํ น โหตีติ ตํ ‘‘ปวารณาย อวตฺถู’’ติ วุจฺจติ.

อุปนาเมตีติ อิมินา กายาภิหารํ ทสฺเสติ. หตฺถปาสโต พหิ ิตสฺส สติปิ ทาตุกามาภิหาเร ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ทูรภาเวเนว ปวารณาย อภาวโต เถรสฺสปิ ทูรภาวมตฺตํ คเหตฺวา ปวารณาย อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เถรสฺส ทูรภาวโต’’ติ อาห, น ปน เถรสฺส อภิหารสพฺภาวโต. สเจปิ คเหตฺวา คโต หตฺถปาเส ิโต โหติ, กิฺจิ ปน อวตฺวา อาธารกฏฺาเน ิตตฺตา อภิหาโร นาม น โหตีติ ‘‘ทูตสฺส จ อนภิหรณโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘คเหตฺวา คเตน ‘ภตฺตํ คณฺหถา’ติ วุตฺเต อภิหาโร นาม โหตีติ ‘สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ…เป… ปวารณา โหตี’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ปตฺตํ กิฺจิ อุปนาเมตฺวา ‘อิมํ ภตฺตํ คณฺหถา’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ วาจาภิหารสฺส อิธ อนธิปฺเปตตฺตา.

ปริเวสนายาติ ภตฺตคฺเค. อภิหฏาว โหตีติ ปริเวสเกเนว อภิหฏา โหติ. ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เอตฺถ อคณฺหนฺตมฺปิ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติเยว. กสฺมา? ทาตุกามตาย อภิหฏตฺตา. ‘‘ตสฺมา สา อภิหฏาว โหตี’’ติ หิ วุตฺตํ. เตเนว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ ‘‘ทาตุกามาภิหาเร สติ เกวลํ ‘ทสฺสามี’ติ คหณเมว อภิหาโร นาม น โหติ, ‘ทสฺสามี’ติ คณฺหนฺเตปิ อคณฺหนฺเตปิ ทาตุกามาภิหาโรว อภิหาโร นาม โหติ, ตสฺมา คหณสมเย วา อคฺคหณสมเย วา ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหตี’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ อสติ ตสฺส ทาตุกามาภิหาเร คหณสมเยปิ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ อปวารณชนกสฺส นามํ คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. มจฺฉรสํ มํสรสนฺติ เอตฺถ ปน น เกวลํ มจฺฉสฺส รสํ มจฺฉรสมิจฺเจว วิฺายติ, อถ โข มจฺโฉ จ มจฺฉรสฺจ มจฺฉรสนฺติ เอวํ ปวารณชนกสาธารณนามวเสนปิ วิฺายมานตฺตา ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาว โหติ. ปรโต มจฺฉสูปนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปีติ เอตฺถ เอวํ อวตฺวาปิ ปวารณปโหนกํ ยํกิฺจิ อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. กรมฺพโกติ มิสฺสกาธิวจนเมตํ. ยฺหิ อฺเนฺเน มิสฺเสตฺวา กโรนฺติ, โส ‘‘กรมฺพโก’’ติ วุจฺจติ. โส สเจปิ มํเสน มิสฺเสตฺวา กโตว โหติ, ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา น โหติ. ‘‘มํสกรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน มํสมิสฺสกํ คณฺหถาติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ปวารณาว โหติ.

‘‘อุทฺทิสฺสกต’’นฺติ มฺมาโนติ เอตฺถ ‘‘วตฺถุโน กปฺปิยตฺตา อกปฺปิยสฺาย ปฏิกฺขิปโตปิ อจิตฺตกตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปวารณา โหตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘เหฏฺา อยาคุเก นิมนฺตเน อุทกกฺชิกขีราทีหิ สทฺธึ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘ยาคุํ คณฺหถา’ติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหติ, ‘ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา’ติ เอตฺถ ปน วิสุํ ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา ปวารณา น โหตี’’ติ วทนฺติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ‘‘เยนาปุจฺฉิโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สนฺธาย วทติ. การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสนฺติ เอตฺถ เอเก ตาว วทนฺติ ‘‘ยสฺมา ยาคุมิสฺสกํ นาม ภตฺตเมว น โหติ, ขีราทิกมฺปิ โหติเยว, ตสฺมา กรมฺพเก วิย ปวารณาย น ภวิตพฺพํ. เอวฺจ สติ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. ‘ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรตี’ติ เอตฺถ การณํ ทุทฺทส’’นฺติ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘ยาคุมิสฺสกํ นาม ภตฺตํ, ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณาย เอว ภวิตพฺพํ. เอวฺจ สติ ‘อิธ ปวารณา โหติ น โหตี’ติ เอตฺถ การณํ ทุทฺทส’’นฺติ.

ยถา เจตฺถ การณํ ทุทฺทสํ, เอวํ ปรโต ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ เอตฺถาปิ การณํ ทุทฺทสเมวาติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปวารณปฺปโหนกสฺส อปฺปพหุภาโว ปวารณาย ภาวาภาวนิมิตฺตํ, กิฺจรหิ ปวารณชนกสฺส นามคฺคหณเมเวตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ‘‘อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพ’’นฺติอาทินา ยมฺปิ การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ ปุพฺเพ วุตฺเตน สํสนฺทิยมานํ น สเมติ. ยทิ หิ ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหํ สิยา, เอวํ สติ ยถา ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ภตฺตํ พหุตรํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว, เอวํ ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ อปฺปตเรปิ ภตฺเต ปวารณาย ภวิตพฺพํ มิสฺสกนฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหตฺตา. ตถา หิ ‘‘มิสฺสกนฺติ ภตฺตมิสฺสเกเยว รุฬฺหโวหารตฺตา อิทํ ปน ‘ภตฺตมิสฺสกเมวา’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อถ ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเก รุฬฺหํ น โหติ, มิสฺสกภตฺตํ ปน สนฺธาย ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตนฺติ. เอวมฺปิ ยถา อยาคุเก นิมนฺตเน ขีราทีหิ สทฺธึ มทฺทิตํ ภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวารณา โหติ, เอวมิธาปิ มิสฺสกภตฺตเมว สนฺธาย ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ภตฺตํ อปฺปํ วา โหตุ พหุ วา, ปวารณา เอว สิยา. ตสฺมา ‘‘มิสฺสก’’นฺติ ภตฺตมิสฺสเก รุฬฺหํ วา โหตุ สนฺธายภาสิตํ วา, อุภยตฺถาปิ ปุพฺเพนาปรํ น สเมตีติ กิเมตฺถ การณจินฺตาย, อีทิเสสุ ปน าเนสุ อฏฺกถาปมาเณเนว คนฺตพฺพนฺติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ.

‘‘วิสุํกตฺวา เทตีติ ภตฺตสฺส อุปริ ิตํ รสาทึ วิสุํ คเหตฺวา เทตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘ยถา ภตฺตสิตฺถํ น ปตติ, ตถา คาฬฺหํ หตฺเถน ปีเฬตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตํ. ตถาปิ การณํ น ทิสฺสติ. ยถา หิ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ยาคุมิสฺสกํ ภตฺตมฺปิ เทนฺตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา น โหติ, เอวมิธาปิ พหุขีรรสาทีสุ ภตฺเตสุ ‘‘ขีรํ คณฺหถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ขีราทีนิ วา เทตุ ขีราทิมิสฺสกภตฺตํ วา, อุภยถาปิ ปวารณาย น ภวิตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘วิสุํ กตฺวา เทตี’’ติ เตนากาเรน เทนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ปน ภตฺตมิสฺสกํ กตฺวา ทิยฺยมานํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหตีติ ทสฺสนตฺถนฺติ คเหตพฺพํ. ยทิ ปน ภตฺตมิสฺสกํ กตฺวา ทิยฺยมาเน ปวารณา โหตีติ อธิปฺปาเยน อฏฺกถายํ ‘‘วิสุํ กตฺวา เทตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สติ อฏฺกถาเยเวตฺถ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ, น ปน การณนฺตรํ คเวสิตพฺพํ.

สเจ อุกฺกุฏิกํ นิสินฺโน ปาเท อมุฺจิตฺวาปิ ภูมิยํ นิสีทติ, อิริยาปถํ วิโกเปนฺโต นาม โหตีติ อุกฺกุฏิกาสนํ อวิโกเปตฺวาว สุเขน นิสีทิตุํ ‘‘ตสฺส ปน เหฏฺา…เป… นิสีทนกํ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อาสนํ อจาเลตฺวาติ ปีเ ผุฏฺโกาสโต อานิสทมํสํ อโมเจตฺวา, อนุฏฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, อทินฺนาทาเน วิย านาจาวนํ น คเหตพฺพ’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

อกปฺปิยกตนฺติ เอตฺถ อกปฺปิยกตสฺเสว อนติริตฺตภาวโต กปฺปิยํ อการาเปตฺวา ตสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิตฺตมูลผลาทิเยว อติริตฺตํ น โหติ, เสสํ ปน ปตฺตปริยาปนฺนํ อติริตฺตเมว โหติ, ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ตํ ปน มูลผลาทึ ปริภุฺชิตุกาเมน ตโต นีหริตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อฺสฺมึ ภาชเน เปตฺวา อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุฺชิตพฺพํ.

โส ปุน กาตุํ น ลภตีติ ตสฺมึเยว ภาชเน กริยมานํ ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหตีติ ปุน โสเยว กาตุํ น ลภติ, อฺโ ลภติ. อฺสฺมึ ปน ภาชเน เตน วา อฺเน วา กาตุํ วฏฺฏติ. เตนาห ‘‘เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ. ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพ’’นฺติ. เตนปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท น เกวลํ อฺเน วาติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. เอวํ กตนฺติ อฺสฺมึ ภาชเน กตํ. เปเสตฺวาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ เปเสตฺวา. อิมสฺส วินยกมฺมภาวโต ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํ น กาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

สเจ ปน อามิสสํสฏฺานีติ เอตฺถ สเจ มุขคเตนปิ อนติริตฺเตน อามิเสน สํสฏฺานิ โหนฺติ , ปาจิตฺติยเมวาติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา ปวาริเตน โภชนํ อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุฺชนฺเตนปิ ยถา อกเตน มิสฺสํ น โหติ, เอวํ มุขฺจ หตฺถฺจ สุทฺธํ กตฺวา ภุฺชิตพฺพํ. กิฺจาปิ อปฺปวาริตสฺส ปุเรภตฺตํ ยามกาลิกาทีนิ อาหารตฺถาย ปริภุฺชโตปิ อนาปตฺติ, ปวาริตสฺส ปน ปวารณมูลกํ ทุกฺกฏํ โหติเยวาติ ‘‘ยามกาลิกํ…เป… อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ.

๒๔๑. กาเยน ภุฺชนโต วาจาย อาณาเปตฺวา อติริตฺตํ อการาปนโต จ อาปชฺชตีติ ‘‘กายวาจโต’’ติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปวาริตภาโว, อามิสสฺส อนติริตฺตตา, กาเล อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๔๓. ฉฏฺเ สาธารณเมวาติ ‘‘หนฺท ภิกฺขุ ขาท วา’’ติอาทินา วุตฺตปวารณาย สาธารณํ. ‘‘ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติ มาติกายํ วุตฺตตฺตา โภชนปริโยสาเน อาปตฺติ, น อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร. อภิหฏฺุํ ปวาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิทฺจ โภชนปริโยสานํเยว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปวาริตตา, ปวาริตสฺิตา, อาสาทนาเปกฺขตา, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณา, โภชนปริโยสานนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๔๗. สตฺตเม อคฺคสมชฺโชติ อุตฺตมํ นจฺจํ. ตํ กิร ปพฺพตมตฺถเก ตฺวา เอกํ เทวตํ อุทฺทิสฺส กโรนฺติ. นฏานํ นาฏกานิ นฏนาฏกานิ, สีตาหรณาทีนิ. อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปเท อปฺตฺเต. อทํสูติ ‘‘วิหารํ เนตฺวา ขาทิสฺสถา’’ติ อทํสุ.

๒๔๘-๒๔๙. มูลกมูลาทีนิ อุปเทสโตเยว เวทิตพฺพานิ. น หิ ตานิ ปริยายนฺตเรน วุจฺจมานานิปิ สกฺกา วิฺาตุํ. ปริยายนฺตเรปิ หิ วุจฺจมาเน ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว สิยา, ตสฺมา ตตฺถ น กิฺจิ วกฺขาม. ขาทนียตฺถนฺติ ขาทนีเยน กตฺตพฺพกิจฺจํ. เนว ผรนฺตีติ น นิปฺผาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ชนปเทสูติ เอตฺถ ‘‘เอกสฺมึ ชนปเท อาหารกิจฺจํ สาเธนฺตํ เสสชนปเทสุปิ น กปฺปตี’’ติ วทนฺติ. รุกฺขวลฺลิอาทีนนฺติ เหฏฺา วุตฺตเมว สมฺปิณฺเฑตฺวา วุตฺตํ. อนฺโตปถวีคโตติ สาลกลฺยาณีขนฺธํ สนฺธาย วุตฺตํ. สพฺพกปฺปิยานีติ มูลขนฺธตจปตฺตาทิวเสน สพฺพโส กปฺปิยานิ. เตสมฺปิ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุนฺติ สมฺพนฺโธ. อจฺฉิวาทีนํ อปริปกฺกาเนว ผลานิ ยาวชีวิกานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริปกฺกานี’’ติ วุตฺตํ.

หรีตกาทีนํ อฏฺีนีติ เอตฺถ มิฺชํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตกปาลานิ ยาวชีวิกานีติ อาจริยา. มิฺชมฺปิ ยาวชีวิกนฺติ เอเก. หิงฺคูติ หิงฺคุรุกฺขโต ปคฺฆริตนิยฺยาโส. หิงฺคุชตุอาทโยปิ หิงฺคุวิกติโย เอว. ตตฺถ หิงฺคุชตุ นาม หิงฺคุรุกฺขสฺส ทณฺฑปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส, หิงฺคุสิปาฏิกํ นาม หิงฺคุปตฺตานิ ปจิตฺวา กตนิยฺยาโส. ‘‘อฺเน มิสฺเสตฺวา กโต’’ติปิ วทนฺติ. ตกนฺติ อคฺคโกฏิยา นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปตฺตินฺติ ปตฺตโต นิกฺขนฺตสิเลโส. ตกปณฺณินฺติ ปลาเส ภชฺชิตฺวา กตสิเลโส. ‘‘ทณฺฑโต นิกฺขนฺตสิเลโส ติปิ วทนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. วิกาลตา, ยาวกาลิกตา, อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๕๒-๓. อฏฺเม ตาทิสนฺติ อสูปพฺยฺชนํ. ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วาติ เอตฺถ ‘‘ยามกาลิก’’นฺติ อิมินา น เกวลํ ยาวกาลิเก เอว สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติยํ, อถ โข ยามกาลิเกปีติ ทสฺเสติ. นนุ จ ยามกาลิกํ เนว ขาทนีเยสุ อนฺโตคธํ, น โภชนีเยสุ. เตเนว ปทภาชนีเย ‘‘ขาทนียํ นาม ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นาม. โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุฺเชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ จ วุตฺตํ, ตสฺมา ยามกาลิเก ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ กถํ วิฺายตีติ? วุจฺจเต – ปทภาชเน ขาทนีย-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘ยามกาลิกํ เปตฺวา’’ติ วุตฺตํ, น ปน สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ. ขาทิตพฺพฺหิ ยํกิฺจิ ขาทนียนฺติ อธิปฺเปตํ, น จ ยามกาลิเกสุ กิฺจิ ขาทิตพฺพํ อตฺถิ ปาตพฺยภาวโต. ตสฺมา กิฺจาปิ ยามกาลิกํ ขาทนียโภชนีเยหิ น สงฺคหิตํ, ตถาปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อนาปตฺติ ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภุฺชตี’’ติ วจนโต ยามาติกฺกเม สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ วิฺายติ. ‘‘ยามกาลิเกน, ภิกฺขเว, สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาเม กปฺปติ, ยามาติกฺกนฺเต น กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕) อิมินาปิ จายมตฺโถ สิทฺโธ. เตเนว ภควโต อธิปฺปายฺูหิ อฏฺกถาจริเยหิ ยามกาลิเก ปาจิตฺติยเมว วุตฺตํ.

ปฏิคฺคหเณติ คหณเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิคฺคหิตเมว หิ ตํ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. เตเนว ‘‘อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ’’ติ วุตฺตํ. มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา) ปน ‘‘อชฺโฌหริสฺสามีติ คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ’’อิจฺเจว วุตฺตํ. นฺติ ยํ ปตฺตํ. สนฺทิสฺสตีติ ยาคุยา อุปริ สนฺทิสฺสติ. เตลวณฺเณ ปตฺเต สติปิ นิสฺเนหภาเว องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส วณฺณวเสเนว เลขา ปฺายติ, ตสฺมา ตตฺถ อนาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘สา อพฺโพหาริกา’’ติ วุตฺตํ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส น วฏฺฏตีติ เอตฺถ ปฏิคฺคหเณ อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน อนุปสมฺปนฺนสฺส นิรเปกฺขทาเนน วา วิชหิตปฏิคฺคหณํ ปริจฺจตฺตเมว โหตีติ ‘‘อปริจฺจตฺต’’นฺติ อิมินา อุภยถาปิ อวิชหิตปฏิคฺคหณเมว วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ ปรสฺส ปริจฺจชิตฺวา อทินฺนมฺปิ สเจ ปฏิคฺคหเณ นิรเปกฺขวิสฺสชฺชเนน วิชหิตปฏิคฺคหณํ โหติ, ตมฺปิ ทุติยทิวเส วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ.

ยทิ เอวํ ‘‘ปตฺโต ทุทฺโธโต โหตี’’ติอาทีสุ กสฺมา อาปตฺติ วุตฺตาติ? ‘‘ปฏิคฺคหณํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยํ วา อฺเน วา ตุจฺฉํ กตฺวา น สมฺมา โธวิตฺวา นิฏฺาปิเต ปตฺเต ลคฺคมฺปิ อวิชหิตปฏิคฺคหณเมว โหตีติ ตตฺถ อาปตฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘สามเณรานํ ปริจฺจชนฺตีติ อิมสฺมึ อธิกาเร ตฺวา ‘อปริจฺจตฺตเมวา’ติ วุตฺตตฺตา อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจตฺตเมว วฏฺฏติ, อปริจฺจตฺตํ น วฏฺฏตีติ อาปนฺนํ, ตสฺมา นิราลยภาเวน ปฏิคฺคหเณ วิชหิเตปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส อปริจฺจตฺตํ น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ วิย น ทิสฺสติ. ยทคฺเคน หิ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ, ตทคฺเคน สนฺนิธิมฺปิ น กโรติ วิชหิตปฏิคฺคหณสฺส อปฺปฏิคฺคหิตสทิสตฺตา. ปฏิคฺคเหตฺวา นิทหิเตเยว จ สนฺนิธิปจฺจยา อาปตฺติ วุตฺตา. ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ หิ วุตฺตํ.

ปาฬิยํ ‘‘สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทินา สนฺนิหิเตสุ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกสุ ปุเรภตฺตมฺปิ อาหารตฺถาย อชฺโฌหรเณปิ ทุกฺกฏสฺส วุตฺตตฺตา ยามกาลิเกปิ อาหารตฺถาย อชฺโฌหรเณ วิสุํ ทุกฺกเฏนปิ ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ปกติอามิเสติ โอทนาทิกปฺปิยามิเส. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเวติ หิยฺโย ปฏิคฺคหิตยามกาลิกํ อชฺช ปุเรภตฺตํ สามิเสน มุเขน ภุฺชโต สนฺนิหิตยามกาลิกปจฺจยา เอกํ ปาจิตฺติยํ, สนฺนิหิเตน สํสฏฺอามิสปจฺจยา เอกนฺติ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. วิกปฺปทฺวเยปีติ สามิเสน นิรามิเสนาติ วุตฺตวิธานทฺวเย. ทุกฺกฏํ วฑฺฒตีติ อาหารตฺถาย อชฺโฌหรณปจฺจยา ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ. ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒตีติ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยํ, เสสอกปฺปิยมํเสสุ ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ.

๒๕๕. ปฏิคฺคหณปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ สนฺนิหิตตฺตา ปุเรภตฺตมฺปิ ทุกฺกฏเมว. สติ ปจฺจเย ปน สนฺนิหิตมฺปิ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เภสชฺชตฺถาย คณฺหนฺตสฺส ปริภุฺชนฺตสฺส จ อนาปตฺติเยว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ยาวกาลิกยามกาลิกตา, สนฺนิธิภาโว, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๕๗-๒๕๙. นวเม ปณีตสํสฏฺานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานิ. ยถา หิ อาชฺยุตฺโต รโถ ‘‘อาชฺรโถ’’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ ปณีตสํสฏฺานิ สตฺตธฺนิพฺพตฺตานิ โภชนานิ ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ วุตฺตานิ. เยหิ ปน ปณีเตหิ สํสฏฺานิ, ตานิ ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘เสยฺยถิทํ, สปฺปิ นวนีต’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปตี’’ติ อิทฺจ ปาจิตฺติยวตฺถุปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ปน กปฺปิยวตฺถุปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ. น หิ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ สปฺปิอาทีนิ น กปฺปนฺติ. เอกฺหิ มนุสฺสวสาเตลํ เปตฺวา สพฺเพสํ ขีรสปฺปินวนีตวสาเตเลสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ สปฺปิสํสฏฺํ ภตฺตํ สปฺปิภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจ สปฺปิภตฺตนฺติปิ วิฺายติ, อฏฺกถาสุ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติ การณํ วตฺวา ทุกฺกฏสฺเสว ทฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺตุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.

มูลนฺติ กปฺปิยภณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนาปตฺตีติ วิสงฺเกตตฺตา สพฺพาหิเยว อาปตฺตีหิ อนาปตฺติ. เกจิ ปน ‘‘ปาจิตฺติเยเนว อนาปตฺติ วุตฺตา, สูโปทนวิฺตฺติทุกฺกฏํ ปน โหติเยวา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กปฺปิยสปฺปินา อกปฺปิยสปฺปินาติ จ อิทํ กปฺปิยากปฺปิยมํสานํ วเสน วุตฺตํ, ตสฺมา กปฺปิยมํสสปฺปินา อกปฺปิยมํสสปฺปินาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. นานาวตฺถุกานีติ สปฺปินวนีตาทีนํ วเสน วุตฺตํ.

๒๖๑. มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพติ เอตฺถ –

‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา อฺตฺร ปุนปวารณาย อฺตฺร นิจฺจปวารณาย, ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๐๖) –

อิทํ มหานามสิกฺขาปทํ นาม. อิมินา จ สิกฺขาปเทน สงฺฆวเสน คิลานปจฺจยปวารณาย ปวาริตฏฺาเน สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสชฺเชหิ วา ปริจฺเฉโท กโต โหติ, เอตฺตกาเยว รตฺติโย เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิฺาเปตพฺพานีติ. อถ ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ น เภสชฺชกรณีเยน วา เภสชฺชํ อฺเภสชฺชกรณีเยน วา อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ตสฺมา อคิลาโน คิลานสฺี หุตฺวา ปฺจ เภสชฺชานิ วิฺาเปนฺโต น เภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิฺาเปนฺโต นาม โหตีติ ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เอตานิ ปาฏิเทสนียวตฺถูนีติ ปาฬิยํ อาคตสปฺปิอาทีนิ สนฺธาย วุตฺตํ. ปาฬิยํ อนาคตานิ ปน อกปฺปิยสปฺปิอาทีนิ ภิกฺขุนีนมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถูนีติ เวทิตพฺพํ. สูโปทนวิฺตฺติยนฺติ ภิกฺขูนํ ปาจิตฺติยวตฺถูนิ ภิกฺขุนีนํ ปาฏิเทสนียวตฺถูนิ จ เปตฺวา อวเสสวิฺตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปณีตโภชนตา, อคิลานตา, อกตวิฺตฺติยา ปฏิลาโภ, อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๓. ทสเม อยฺยโวสาฏิตกานีติ ปิตุปิณฺฑสฺเสตํ อธิวจนํ. อุมฺมาเรติ สุสาเน กตเคหสฺส อตฺตโน เคหสฺส วา อุมฺมาเร. ฆนพทฺโธติ ฆนมํเสน สมฺพทฺโธ, กถินสํหตสรีโรติ วุตฺตํ โหติ.

๒๖๔. มุขทฺวารนฺติ คลนาฬิกํ. อาหารนฺติ อชฺโฌหริตพฺพํ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกาทึ. อาหเรยฺยาติ มุขทฺวารํ ปเวเสยฺย. มุเขน วา ปวิฏฺํ โหตุ นาสิกาย วา, คเลน อชฺโฌหรณียตฺตา สพฺพมฺปิ ตํ มุขทฺวารํ ปเวสิตเมว โหติ. ยสฺมา ปน เต ภิกฺขู อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสฺาย ทนฺตโปเน จ มุขทฺวารํ อาหฏํ อิทนฺติ สฺาย กุกฺกุจฺจายึสุ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เต ภิกฺขู อทินฺนํ…เป… สมฺมา อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา กุกฺกุจฺจายึสู’’ติ. อุทกฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ ทนฺตกฏฺฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ทนฺตกฏฺรโส อชานนฺตสฺส อนฺโต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมว. อนชฺโฌหรนฺเตน ปน ทนฺตกฏฺํ วา โหตุ อฺํ วา, กิฺจิ มุเข ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ.

๒๖๕. อกลฺลโกติ คิลาโน สหตฺถา ปริภุฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ. อุจฺจารณมตฺตนฺติ อุกฺขิปนมตฺตํ. เอกเทเสนปีติ องฺคุลิยาปิ ผุฏฺมตฺเตน. ตํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ ปฏิคฺคหิตเมวาติ เวณุโกฏิยา พนฺธิตฺวา ปิตตฺตา. สเจปิ ภูมิยํ ิตเมว ฆฏํ ทายเกน หตฺถปาเส ตฺวา ฆฏํ ทสฺสามีติ ทินฺนเวณุโกฏิคฺคหณวเสน ปฏิคฺคณฺหาติ, อุภยโกฏิพทฺธํ สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ภิกฺขุสฺส อตฺถาย อปีเฬตฺวา ปกติยา ปีฬิยมานอุจฺฉุรสํ สนฺธาย ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อภิหาโร น ปฺายตี’’ติ วุตฺตํ. หตฺถปาเส ิตสฺส ปน ภิกฺขุสฺส อตฺถาย ปีฬิยมานา อุจฺฉุโต ปคฺฆรนฺตํ รสํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, โทณิกาย สยํ ปคฺฆรนฺตํ อุจฺฉุรสํ มชฺเฌ อาวริตฺวา อาวริตฺวา วิสฺสชฺชิตมฺปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. กตฺถจิ อฏฺกถาสุ.

อสํหาริเมติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อสํหาริเย. ‘‘ตินฺติณิกาทิปณฺเณสู’’ติ วจนโต สาขาสุ ปฏิคฺคหณํ รุหตีติ ทฏฺพฺพํ. ปุฺฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปุฺฉิเต ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ปุฺฉิตฺวา คเหตฺวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. ปุฺฉิตฺวา ปฏิคฺคเหตฺวา วาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปตฺเต ปติตรชนจุณฺณฺหิ อพฺภนฺตรปริโภคตฺถาย อปริหฏภาวโต ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูเปน ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา…เป… วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อฺสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปรสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตสฺส อทตฺวาปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

ภิกฺขุสฺส เทตีติ อฺสฺส ภิกฺขุสฺส เทติ. กฺชิกนฺติ ขีรรสาทึ ยํกิฺจิ ทฺรวํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺถโต โมเจตฺวา ปุน คณฺหาติ, อุคฺคหิตกํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถโต อโมเจนฺเตเนวา’’ติ. อาลุเลนฺตานนฺติ อาโลเลนฺตานํ, อยเมว วา ปาโ. อาหริตฺวา ภูมิยํ ปิตตฺตา อภิหาโร นตฺถีติ อาห ‘‘ปตฺโต ปฏิคฺคเหตพฺโพ’’ติ. ปมตรํ อุฬุงฺกโต เถวา ปตฺเต ปตนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ยถา ปมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปจฺฉา ปติตเถเวปิ อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส’’ติ วทนฺติ. จรุเกนาติ ขุทฺทกภาชเนน. มุขวฏฺฏิยาปิ คเหตุํ วฏฺฏตีติ มุขวฏฺฏึ อุกฺขิปิตฺวา หตฺเถ ผุสาปิเต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. เอส นโยติ กายปฏิพทฺธปฏิพทฺธมฺปิ กายปฏิพทฺธเมวาติ อยํ นโย. ตถา จ ตตฺถ กายปฏิพทฺเธ ตํปฏิพทฺเธ จ ถุลฺลจฺจยเมว วุตฺตํ.

เตนาติ ยสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คตํ, เตน. ตสฺมาติ ยสฺมา มูลฏฺสฺเสว ปริโภโค อนุฺาโต, ตสฺมา. ตํ ทิวสํ หตฺเถน คเหตฺวา ทุติยทิวเส ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตํ โหตีติ อาห ‘‘อนามสิตฺวา’’ติ. อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา ‘‘สนฺนิธิปจฺจยา อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา ปน ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘ตํ ทิวสํ…เป… น ตโต ปร’’นฺติ วจนโต ตํ ทิวสํ หตฺเถน คเหตฺวา วา อคฺคเหตฺวา วา ปิตํ ทุติยทิวเส อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหติ, หตฺเถน คเหตฺวา ปิตํ ทุติยทิวเส ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ปน อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตํ โหติ. อปฺปฏิคฺคหิตเมว หิ หตฺเถน คเหตฺวา ปิตํ. ‘‘สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุ’’นฺติ หิ วจนโต อปฺปฏิคฺคหิตสฺเสว ตสฺมึ ทิวเส ปริโภโค อนุฺาโต. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ตํ ทิยฺยมานํ ปตตีติ เอตฺถ ยถา คณโภชนาทีสุ คิลานาทีนํ กุกฺกุจฺจายนฺตานํ คณโภชนํ อนุฺาตํ, เอวมิธาปิ ภควตา ปฏิคฺคหิตเมว กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ อนุฺาต’’นฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ‘‘ตํ ทิยฺยมานํ ปตตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จตูสุปิ กาลิเกสุ อยํ นโย เวทิตพฺโพ.

สตฺถเกนาติ ปฏิคฺคหิตสตฺถเกน. กสฺมา ปเนตฺถ อุคฺคหิตปจฺจยา สนฺนิธิปจฺจยา วา โทโส น สิยาติ อาห ‘‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’’ติ. อิมินาว พาหิรปริโภคตฺถํ สามํ คเหตฺวา อนุปสมฺปนฺเนน ทินฺนํ วา คเหตฺวา ปริหริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ตสฺมา ปตฺตสมฺมกฺขนาทิอตฺถํ สามํ คเหตฺวา ปริหฏเตลาทึ สเจ ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ. อพฺภนฺตรปริโภคตฺถํ ปน สามํ คหิตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อทินฺนมุขทฺวาราปตฺติ โหติ, อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมว อนุปสมฺปนฺเนน ทินฺนํ คเหตฺวา ปริหรนฺตสฺส สิงฺคีโลณกปฺโป วิย สนฺนิธิปจฺจยา อาปตฺติ โหติ. เกจิ ปน ‘‘ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุจฺจารณมตฺตํ โหตีติอาทินา วุตฺตปฺจงฺคสมฺปตฺติยา ปฏิคฺคหณสฺส รุหนโต พาหิรปริโภคตฺถมฺปิ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน ทินฺนํ คณฺหาติ, ปฏิคฺคหิตเมวา’’ติ วทนฺติ. เอวํ สติ อิธ พาหิรปริโภคตฺถํ อนุปสมฺปนฺเนน ทินฺนํ คเหตฺวา ปริหรนฺตสฺส สนฺนิธิปจฺจยา อาปตฺติ วตฺตพฺพา สิยา, ‘‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’’ติ จ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมา พาหิรปริโภคตฺถํ คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ เวทิตพฺพํ. ยทิ เอวํ ปฺจสุ ปฏิคฺคหณงฺเคสุ ‘‘ปริโภคตฺถายา’’ติ วิเสสนํ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพํ. ปฏิคฺคหณฺหิ ปริโภคตฺถเมว โหตีติ ‘‘ปริโภคตฺถายา’’ติ วิสุํ อวตฺวา ‘‘ตฺเจ ภิกฺขุ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อปเร ปน ‘‘สติปิ ปฏิคฺคหเณ ‘น หิ ตํ ปริโภคตฺถาย ปริหรนฺตี’ติ อิธ อปริโภคตฺถาย ปริหรเณ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. อุทุกฺขลมุสลานิ ขิยฺยนฺตีติ เอตฺถ อุทุกฺขลมุสลานํ ขเยน ปิสิตโกฏฺฏิตเภสชฺเชสุ สเจ อาคนฺตุกวณฺโณ ปฺายติ, น วฏฺฏติ.

สุทฺธํ อุทกํ โหตีติ รุกฺขสาขาทีหิ คฬิตฺวา ปตนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปตฺโต วาสฺส ปฏิคฺคเหตพฺโพติ เอตฺถาปิ ปตฺตคตํ ฉุปิตฺวา เทนฺตสฺส หตฺถลคฺเคน อามิเสน โทสาภาวตฺถํ ปตฺตปฏิคฺคหณนฺติ อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมว ปฏิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ยํ สามเณรสฺส ปตฺเต ปตติ…เป… ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ เอตฺถ ปุนปฺปุนํ คณฺหนฺตสฺส อตฺตโน ปตฺเต ปกฺขิตฺตเมว ‘‘อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ สนฺนิฏฺานกรณโต หตฺถคตํ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ, ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ ปน คณฺหนฺตสฺส คหณสมเยเยว ‘‘อตฺตโน สนฺตก’’นฺติ สนฺนิฏฺานสฺส กตตฺตา หตฺถคตํ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. เกสฺจิ อตฺถาย โอทนํ ปกฺขิปตีติ เอตฺถ อนุปสมฺปนฺนสฺส อตฺถาย ปกฺขิปนฺเตปิ ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหิสฺสตี’’ติ สยเมว ปกฺขิปิตฺวา ปนโต ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ปกฺขิตฺตํ ปน อนุปสมฺปนฺเนเนว ปิตํ นาม โหตีติ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ ปริจฺจตฺตภาวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สามเณร…เป… ปริจฺจตฺตตฺตา’’ติ.

ปฏิคฺคหณูปคํ ภารํ นาม ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อุกฺเขปารหํ. กิฺจาปิ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อฺเน หตฺเถน ปิทหนฺตสฺส โทโส นตฺถิ, ตถาปิ น ปิทหิตพฺพนฺติ อฏฺกถาปมาเณเนว คเหตพฺพํ. มจฺฉิกวารณตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘สเจปิ สาขาย ลคฺครชํ ปตฺเต ปตติ, สุเขน ปริภุฺชิตุํ สกฺกาติ สาขาย ปฏิคฺคหิตตฺตา อพฺภนฺตรปริโภคตฺถเมวิธ ปฏิคฺคหณนฺติ มูลปฏิคฺคหณเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อปเร ปน ‘‘มจฺฉิกวารณตฺถนฺติ เอตฺถ วจนมตฺตํ คเหตฺวา พาหิรปริโภคตฺถํ คหิต’’นฺติ วทนฺติ. ตสฺมิมฺปิ อสตีติ จาฏิยา วา กุณฺฑเก วา อสติ. อนุปสมฺปนฺนํ คาหาเปตฺวาติ ตํเยว อชฺโฌหรณียภณฺฑํ อนุปสมฺปนฺเนน คาหาเปตฺวา. เถรสฺส ปตฺตํ อนุเถรสฺสาติ เถรสฺส ปตฺตํ อตฺตนา คเหตฺวา อนุเถรสฺส เทติ. ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหีติ เอตฺถ เอวํ วตฺวา สามเณรสฺส ปตฺตํ คเหตฺวา อตฺตโนปิ ปตฺตํ ตสฺส เทติ. เอตฺถ ปนาติ ปณฺฑิโต สามเณโรติอาทิปตฺตปริวตฺตนกถาย. การณํ อุปปริกฺขิตพฺพนฺติ ยถา มาตุอาทีนํ เตลาทีนิ หรนฺโต ตถารูเป กิจฺเจ อนุปสมฺปนฺเนน อปริวตฺเตตฺวาว ปริภุฺชิตุํ ลภติ, เอวมิธ ปตฺตปริวตฺตนํ อกตฺวา ปริภุฺชิตุํ น ลภตีติ เอตฺถ การณํ วีมํสิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

เอตฺถ ปน ‘‘สามเณเรหิ คหิตตณฺฑุเลสุ ปริกฺขีเณสุ อวสฺสํ อมฺหากํ สามเณรา สงฺคหํ กโรนฺตีติ วิตกฺกุปฺปตฺติ สมฺภวติ, ตสฺมา ตํ ปริวตฺเตตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. มาตาปิตูนํ อตฺถาย ปน ฉายตฺถาย วา คหเณ ปริโภคาสา นตฺถิ, ตสฺมา ตํ วฏฺฏตี’’ติ การณํ วทนฺติ. เตเนว อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรนปิ วุตฺตํ –

‘‘มาตาปิตูนมตฺถาย, เตลาทิหรโตปิ จ;

สาขํ ฉายาทิอตฺถาย, อิเมสํ น วิเสสติ.

‘‘ตสฺมา หิสฺส วิเสสสฺส, จินฺเตตพฺพํ ตุ การณํ;

ตสฺส สาลยภาวํ ตุ, วิเสสํ ตกฺกยาม ต’’นฺติ.

อิทเมเวตฺถ ยุตฺตตรํ อวสฺสํ ตถาวิธวิตกฺกุปฺปตฺติยา สมฺภวโต. น สกฺกา หิ เอตฺถ วิตกฺกํ โสเธตุนฺติ. มาตาทีนํ อตฺถาย หรเณ ปน นาวสฺสํ ตถาวิธวิตกฺกุปฺปตฺตีติ สกฺกา วิตกฺกํ โสเธตุํ. ยตฺถ หิ วิตกฺกํ โสเธตุํ สกฺกา, ตตฺถ เนวตฺถิ โทโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘สเจ ปน สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุํ, ตโต ลทฺธํ ขาทิตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ.

นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกตีติ นิจฺจาเลตฺวา สกฺขรา อปเนตุํ น สกฺโกติ. อาธารเก ปตฺโต ปิโตโหตีติ ปฏิคฺคเหตพฺพปตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. จาเลตีติ วินา การณํ จาเลติ. สติปิ การเณ ภิกฺขูนํ ปริโภคารหํ จาเลตุํ น วฏฺฏติ. กิฺจาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๔) ตาทิเส อาพาเธ อตฺตโน อตฺถาย อามกมํสปฏิคฺคหณํ อนุฺาตํ, ‘‘อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหตี’’ติ จ สามฺโต ปฏิกฺขิตฺตํ, ตถาปิ อตฺตโน อฺสฺส วา ภิกฺขุโน อตฺถาย อคฺคหิตตฺตา ‘‘สีหวิฆาสาทึ…เป… วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. สกฺโกติ วิตกฺกํ โสเธตุนฺติ มยฺหมฺปิ เทตีติ วิตกฺกสฺส อนุปฺปนฺนภาวํ สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกติ, สามเณรสฺส ทสฺสามีติ สุทฺธจิตฺเตน มยา คหิตนฺติ วา สลฺลกฺเขตุํ สกฺโกติ.

สเจ ปน มูเลปิ ปฏิคฺคหิตํ โหตีติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา คเต มยฺหมฺปิ ทเทยฺยุนฺติ สฺาย สเจ ปฏิคฺคหิตํ โหตี’’ติ วทนฺติ. โกฏฺาเส กโรตีติ ภิกฺขุสามเณรา จ อตฺตโน อตฺตโน อภิรุจิตํ โกฏฺาสํ คณฺหนฺตูติ สพฺเพสํ สมเก โกฏฺาเส กโรติ. คหิตาวเสสนฺติ สามเณเรหิ คหิตโกฏฺาสโต อวเสสํ. คณฺหิตฺวาติ ‘‘มยฺหํ อิทํ คณฺหิสฺสามี’’ติ คเหตฺวา. อิธ คหิตาวเสสํ นาม เตน คณฺหิตฺวา ปุน ปิตํ. ปฏิคฺคเหตฺวาติ ตทหุ ปฏิคฺคเหตฺวา. เตเนว ‘‘ยาวกาลิเกน ยาวชีวิกสํสคฺเค โทโส นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปุริมทิวเส ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตา โหติ, สามิเสน มุเขน ตสฺสา วฏฺฏิยา ธูมํ ปิวิตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโททเกนาติ อปฺปฏิคฺคหิตสมุทฺโททเกน. ยสฺมา กตกฏฺิ อุทกํ ปสาเทตฺวา วิสุํ ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘อพฺโพหาริก’’นฺติ วุตฺตํ. ลคฺคตีติ มุเข หตฺเถ จ อุทเก สุกฺเข เสตวณฺณํ ทสฺเสนฺตํ ลคฺคติ. ปานียํ คเหตฺวาติ อตฺตโนเยว อตฺถาย คเหตฺวา. สเจ ปน ปีตาวเสสํ ตตฺเถว อากิริสฺสามีติ คณฺหาติ, ปุน ปฏิคฺคหณกิจฺจํ นตฺถิ. วิกฺขมฺเภตฺวาติ วิยูหิตฺวา, อปเนตฺวาติ อตฺโถ.

มหาภูเตสูติ สรีรนิสฺสิเตสุ มหาภูเตสุ. ปตตีติ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปตติ. วิจฺฉินฺทิตฺวา ปติตเมว หิ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น อิตรํ. อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ มตฺติกตฺถาย ปถวึ ขณิตุมฺปิ วฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. สปฺปทฏฺกฺขเณเยว วฏฺฏตีติ อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อฺทา ปฏิคฺคหาเปตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อปฺปฏิคฺคหิตตา, อนนุฺาตตา, ธูมาทิอพฺโพหาริกาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.

๕. อเจลกวคฺโค

๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๗๓. อเจลกวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท เตสนฺติ ติตฺถิยานํ. ตตฺถาติ ภาชเน. อิโตติ ปตฺตโต. สเจ ติตฺถิโย วทตีติ ‘‘ปมเมว มํ สนฺธาย อภิหริตฺวา ปิตํ มยฺหํ สนฺตกํ โหติ, อิมสฺมึ ภาชเน อากิรถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อฺติตฺถิยตา, อชฺโฌหรณียตา , อชฺโฌหรณตฺถาย สหตฺถา อนิกฺขิตฺตภาชเน ทานนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๗๔. ทุติยํ อุตฺตานตฺถเมว. อนาจารํ อาจริตุกามตา, ตทตฺถเมว อุปสมฺปนฺนสฺส อุยฺโยชนา, เอวํ อุยฺโยเชนฺตสฺส อุปจาราติกฺกโมติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๐. ตติเย ปิฏฺสงฺฆาโฏติ ทฺวารพาหาเยตํ อธิวจนํ. ขุทฺทกํ นาม สยนิฆรํ วิตฺถารโต ปฺจหตฺถปฺปมาณํ โหติ, ตสฺส จ มชฺฌิมฏฺานํ ปิฏฺสงฺฆาฏโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิเส สยนิฆเร ปิฏฺสงฺฆาฏโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา นิสินฺโน ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา นิสินฺโน นาม โหติ. เอวํ นิสินฺโน จ มชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา นิสินฺโน นาม โหตีติ อาห ‘‘อิมินา มชฺฌาติกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ. ยถา วา ตถา วา กตสฺสาติ ปิฏฺิวํสํ อาโรเปตฺวา วา อนาโรเปตฺวา วา กตสฺส. สจิตฺตกนฺติ อนุปวิสิตฺวา นิสีทนจิตฺเตน สจิตฺตกํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปริยุฏฺิตราคชายมฺปติกานํ สนฺนิหิตตา, สยนิฆรตา, ทุติยสฺส ภิกฺขุโน อภาโว, อนุปขชฺช นิสีทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๘๔-๒๘๙. จตุตฺถปฺจเมสุ นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๘. ฉฏฺเ ปกติวจเนนาติ เอตฺถ ยํ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิเตน โสตุํ สกฺกา ภเวยฺย, ตํ ปกติวจนํ นาม. อาปุจฺฉิตพฺโพติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปชฺชามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อาปุจฺฉิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺตนสาทิยนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, ภตฺติยฆรโต อฺฆรปฺปเวสนํ, มชฺฌนฺหิกานติกฺกโม, สมยสฺส วา อาปทานํ วา อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๐๓. สตฺตเม มหานาโม นามาติ อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ภาตา ภควโต จูฬปิตุ ปุตฺโต. สุทฺโธทโน สกฺโกทโน สุกฺโกทโน โธโตทโน อมิโตทโนติ อิเม หิ ปฺจ ชนา ภาตโร. อมิตา นาม เทวี เตสํ ภคินี, ติสฺสตฺเถโร ตสฺสา ปุตฺโต. ตถาคโต จ นนฺทตฺเถโร จ สุทฺโธทนสฺส ปุตฺตา, มหานาโม จ อนุรุทฺธตฺเถโร จ สุกฺโกทนสฺส, อานนฺทตฺเถโร อมิโตทนสฺส. โส ภควโต กนิฏฺโ, มหานาโม มหลฺลกตโร สกทาคามี อริยสาวโก. เตน วุตฺตํ ‘‘มหานาโม นาม…เป… อริยสาวโก’’ติ.

๓๐๕-๓๐๖. ปาฬิยํ อชฺชณฺโหติ อชฺช เอกทิวสนฺติ อตฺโถ, ‘‘อชฺชโน’’ติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ, โน อมฺหากํ. กาลํ อาหริสฺสถาติ สฺเว หริสฺสถ. ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสชฺเชหิ วา ปริจฺเฉโท กโต โหติ ‘‘เอตฺตกาเยว วา รตฺติโย เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิฺาเปตพฺพานี’’ติ, ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ วิฺาเปนฺโต สาทิเยยฺย. ‘‘อิเมหิ ตยา เภสชฺเชหิ ปวาริตมฺห, อมฺหากฺจ อิมินาว เภสชฺเชน อตฺโถ’’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตุมฺปิ คิลาโนว ลภติ.

๓๑๐. ยสฺมา สงฺฆปวารณายเมวายํ วิธิ, ตสฺมา ‘‘เย อตฺตโน ปุคฺคลิกาย ปวารณาย ปวาริตา’’ติ วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานเมว. สงฺฆปวารณตา , เภสชฺชวิฺตฺติ, อคิลานตา, ปริยนฺตาติกฺกโมติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑๑. อฏฺมํ อุตฺตานตฺถเมว. อุยฺยุตฺตเสนา, ทสฺสนตฺถาย คมนํ, อนุฺาโตกาสโต อฺตฺร ทสฺสนํ, ตถารูปปจฺจยสฺส อาปทาย วา อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๑๗. นวมสิกฺขาปทมฺปิ อุตฺตานเมว. ติรตฺตาติกฺกโม, เสนาย สูริยสฺส อตฺถงฺคโม, คิลานตาทีนํ อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๒๒. ทสเม กติ เต ลกฺขานิ ลทฺธานีติ ตว สรปฺปหารสฺส ลกฺขณภูตา กิตฺตกา ชนา ตยา ลทฺธาติ อตฺโถ, กิตฺตกา ตยา วิทฺธาติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุยฺโยธิกาทิทสฺสนตฺถาย คมนํ, อนุฺาโตกาสโต อฺตฺร ทสฺสนํ, ตถารูปปจฺจยสฺส อาปทาย วา อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต อเจลกวคฺโค ปฺจโม.

๖. สุราปานวคฺโค

๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๒๖-๓๒๘. สุราปานวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วติยาติ คามปริกฺเขปวติยา. ปาฬิยํ ปิฏฺสุราทีสุ ปิฏฺํ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ปิฏฺสุรา. เอวํ ปูเว โอทเน จ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ปูวสุรา โอทนสุราติ จ วุจฺจติ. ‘‘กิณฺณา’’ติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ. เย สุราโมทกาติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกีสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.

มธุกตาลนาฬิเกราทิปุปฺผรโส จิรปริวาสิโต ปุปฺผาสโว. ปนสาทิผลรโส ผลาสโว. มุทฺทิการโส มธฺวาสโว. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. พีชโต ปฏฺายาติ สมฺภาเร ปฏิยาเทตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิตฺตกาลโต, ตาลนาฬิเกราทีนํ ปุปฺผรสสฺส คหิตอภินวกาลโตเยว จ ปฏฺาย.

๓๒๙. โลณโสวีรกํ สุตฺตฺจ อเนเกหิ เภสชฺเชหิ อภิสงฺขโต อมชฺชภูโต อาสววิเสโส. วาสคฺคาหาปนตฺถนฺติ สุคนฺธิภาวคฺคาหาปนตฺถํ. อจิตฺตกํ โลกวชฺชนฺติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. มชฺชภาโว, ตสฺส ปานฺจาติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๓๐. ทุติเย ภิกฺขุนีปิ อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตาติ เอตฺถ ภิกฺขุปิ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิโตติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. หสาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส กาเยน กายามสนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๓๕. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมว. อุปริโคปฺผกตา, หสาธิปฺปาเยน กีฬนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๔. จตุตฺเถ คารยฺโห อาจริยุคฺคโห น คเหตพฺโพติ ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีตกํ วิยาติ เอวมาทิโก คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ. โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏตีติ โลกวชฺชสิกฺขาปเท อาปตฺติฏฺาเน โย อาจริยวาโท, โส น คเหตพฺโพ, โลกวชฺชํ อติกฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’’ติ วทนฺตสฺส อุคฺคโห น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตานุโลมํ นาม อฏฺกถา. ปเวณิยา อาคตสโมธานํ คจฺฉตีติ ‘‘ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ’’ติ เอวํ วุตฺเต มหาอฏฺกถาวาเทเยว สงฺคหํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อนาทริยกรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๕. ปฺจมํ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสมฺปนฺนตา, ตสฺส ทสฺสนสวนวิสเย ภึสาเปตุกามตาย วายมนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๕๐. ฉฏฺเ ภคฺคา นาม ชนปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘ภคฺคา’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภคฺคาติ ชนปทสฺส นาม’’นฺติ. สุสุมารคิเรติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส กิร นครสฺส มาปนตฺถํ วตฺถุวิชฺชาจริเยน นครฏฺานสฺส ปริคฺคณฺหนทิวเส อวิทูเร สุสุมาโร สทฺทมกาสิ คิรํ นิจฺฉาเรสิ. อถ อนนฺตราเยน นคเร มาปิเต ตเมว สุสุมารคิรณํ สุภนิมิตฺตํ กตฺวา สุสุมารคิรํตฺเววสฺส นามํ อกํสุ. เกจิ ปน ‘‘สุสุมารสณฺานตฺตา สุสุมาโร นาม เอโก คิริ, โส ตสฺส นครสฺส สมีเป, ตสฺมา ตํ สุสุมารคิริ เอตสฺส อตฺถีติ ‘สุสุมารคิรี’ติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ. ตถา วา โหตุ อฺถา วา, นามเมตํ ตสฺส นครสฺสาติ อาห ‘‘สุสุมารคิรนฺติ นครสฺส นาม’’นฺติ. เภสกฬาติ ฆมฺปณฺฑนามโก คจฺฉวิเสโส. เกจิ ‘‘เสตรุกฺโข’’ติปิ วทนฺติ. เตสํ พหุลตาย ปน ตํ วนํ เภสกฬาวนนฺตฺเวว ปฺายิตฺถ. ‘‘เภสคฬาวเน’’ติปิ ปาโ. ‘‘เภโส นาม เอโก ยกฺโข อยุตฺตการี, ตสฺส ตโต คฬิตฏฺานตาย ตํ วนํ เภสคฬาวนํ นาม ชาต’’นฺติ หิ เกจิ.

๓๕๒. โชติกรเณติ อคฺคิกรเณ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อคิลานตา, อนุฺาตกรณาภาโว, วิสิพฺเพตุกามตา, สมาทหนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๕๗. สตฺตมสิกฺขาปทสฺส ปาฬิยํ อสมฺภินฺเนนาติ อมกฺขิเตน, อนฏฺเนาติ อตฺโถ. โอเรนทฺธมาสํ นหาเยยฺยาติ นหาตทิวสโต ปฏฺาย อทฺธมาเส อปริปุณฺเณ นหาเยยฺย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. มชฺฌิมเทโส, อูนกทฺธมาเส นหานํ, สมยานํ วา นทีปารคมนสฺส วา อาปทานํ วา อภาโวติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

นหานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๘. อฏฺเม ‘‘จมฺมการนีลํ นาม ปกตินีล’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. คณฺิปเท ปน ‘‘จมฺมการา อุทเก ติปุมลํ อยคูถฺจ ปกฺขิปิตฺวา จมฺมํ กาฬํ กโรนฺติ, ตํ จมฺมการนีล’’นฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. วุตฺตปฺปการสฺส จีวรสฺส อกตกปฺปตา, อนฏฺจีวราทิตา, นิวาสนํ วา ปารุปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๗๔. นวเม อปจฺจุทฺธารณนฺติ ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภุฺช วา วิสฺสชฺเชหิ วา’’ติอาทินา อกตปจฺจุทฺธารํ. เยน วินยกมฺมํ กตนฺติ เยน สทฺธึ วินยกมฺมํ กตํ. ตึสกวณฺณนายนฺติ นิสฺสคฺคิยวณฺณนายํ. ปริโภเคน กายกมฺมํ, อปจฺจุทฺธาราปเนน วจีกมฺมํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สามํ วิกปฺปิตสฺส อปจฺจุทฺธาโร, วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปริโภโคติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๗๗. ทสมํ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺตกานํ ปตฺตาทีนํ อปนิธานํ, วิเหเสตุกามตา วา หสาธิปฺปายตา วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

จีวรอปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.

๗. สปฺปาณกวคฺโค

๑. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๒. สปฺปาณกวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท อุสุํ สรํ อสฺสติ ขิปตีติ อิสฺสาโส, ธนุสิปฺปกุสโลติ อาห ‘‘ธนุคฺคหาจริโย’’ติ. ปฏิสตฺตุวิธมนตฺถํ ธนุํ คณฺหนฺตีติ ธนุคฺคหา, เตสํ อาจริโย ธนุคฺคหาจริโย. อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพนฺติ ยถา เต ปาณา น มรนฺติ, เอวํ สูปฏฺิตสฺสตินา เสนาสเน วตฺตํ กาตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. องฺคานิปิ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานีติ.

สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๗. ทุติเย อุทกสณฺานกปฺปเทเสติ ยตฺถ ภูมิภาเค อุทกํ นิกฺขิตฺตํ สนฺติฏฺติ, น สหสา ปริกฺขยํ คจฺฉติ, ตาทิเส ปเทเส. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. องฺคานิ สิฺจนสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนว.

สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๒. ตติเย ยถาปติฏฺิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น เทนฺตีติ เตสํ ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหตํ, ตํ สุนิหตเมว. สเจ วิปฺปกเต กมฺเม ปฏิกฺโกสติ, ตํ สฺาเปตฺวาว กาตพฺพํ. อิตรถา กมฺมฺจ กุปฺปติ, การกานฺจ อาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ยถาธมฺมํ นิหตภาโว, ชานนา, อุกฺโกฏนาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๙. จตุตฺเถ ตสฺเสวาติ โย อาปนฺโน, ตสฺเสว. อาโรเจตีติ ปฏิจฺฉาทนตฺถเมว มา กสฺสจิ อาโรเจสีติ วทติ. วตฺถุปุคฺคโลติ อาปนฺนปุคฺคโล. เยนสฺส อาโรจิตนฺติ เยน ทุติเยน อสฺส ตติยสฺส อาโรจิตํ. โกฏิ ฉินฺนา โหตีติ ยสฺมา ปฏิจฺฉาทนปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาว ทุติเยน ตติยสฺส อาโรจิตํ, ตสฺมา ตปฺปจฺจยา ปุน เตน อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยา อภาวโต อาปตฺติยา โกฏิ ฉินฺนา นาม โหติ.

๔๐๐. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ จ กายสํสคฺโค จาติ อยํ ทุฏฺุลฺลอชฺฌาจาโร นามา’’ติ อิทํ ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทฏฺกถาย น สเมติ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒) ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารนฺติ เอตฺถ อาทิโต ปฺจ สิกฺขาปทานิ ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโร, เสสานิ อทุฏฺุลฺโล, สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺคทุฏฺุลฺลอตฺตกามา ปนสฺส อชฺฌาจาโร นามา’’ติ. ‘‘อาโรจเน อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ อฺถา อธิปฺเปตํ, ปฏิจฺฉาทเน อฺถา’’ติ เอตฺถาปิ วิเสสการณํ น ทิสฺสติ, ตสฺมา อฏฺกถาย ปุพฺเพนาปรํ น สเมติ. อวิโรธํ อิจฺฉนฺเตน ปน วีมํสิตพฺพเมตฺถ การณํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลาปตฺติชานนํ, ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย นาโรเจสฺสามีติ ธุรนิกฺเขโปติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๒. ปฺจเม รูปสุตฺตนฺติ เหรฺิกานํ สุตฺตํ. ทุรุตฺตานนฺติ อกฺโกสวเสน ทุรุตฺตานํ, ทุรุตฺตตฺตาเยว ทุราคตานํ. วจนปถานนฺติ เอตฺถ วจนเมว ตทตฺถํ าตุกามานํ าเปตุกามานฺจ ปโถติ วจนปโถ. ทุกฺขมานนฺติ ทุกฺเขน ขมิตพฺพานํ.

๔๐๔. คพฺเภ สยิตกาเลน สทฺธึ วีสติมํ วสฺสํ อสฺสาติ คพฺภวีโส. หายนวฑฺฒนนฺติ คพฺภมาเสสุ อธิเกสุ อุตฺตริหายนํ, อูเนสุ วฑฺฒนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอกูนวีสติวสฺสนฺติ ทฺวาทสมาเส มาตุกุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาตกาลโต ปฏฺาย เอกูนวีสติวสฺสํ. ปาฏิปททิวเสติ ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคมนทิวเส. ‘‘ตึสรตฺติทิโว มาโส’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑; ๘.๔๓; วิภ. ๑๐๒๓) วจนโต ‘‘จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺตี’’ติ วุตฺตํ. วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺตีติ วสฺสํ อุทฺธํ กฑฺฒนฺติ, ตติเย สํวจฺฉเร เอกมาสํ อธิกมาสวเสน ปริจฺจชนฺตา วสฺสํ อุทฺธํ กฑฺฒนฺตีติ อตฺโถ, ตสฺมา ตติโย สํวจฺฉโร เตรสมาสิโก โหติ, สํวจฺฉรสฺส ปน ทฺวาทสมาสิกตฺตา อฏฺารสสุ วสฺเสสุ อธิกมาเส วิสุํ คเหตฺวา ‘‘ฉ มาสา วฑฺฒนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตโตติ ฉมาสโต. นิกฺกงฺขา หุตฺวาติ อธิกมาเสหิ สทฺธึ ปริปุณฺณวีสติวสฺสตฺตา นิพฺเพมติกา หุตฺวา. ยํ ปน วุตฺตํ ตีสุ คณฺิปเทสุ ‘‘อฏฺารสนฺนํเยว วสฺสานํ อธิกมาเส คเหตฺวา คณิตตฺตา เสสวสฺสทฺวยสฺสปิ อธิกานิ ทิวสานิ โหนฺเตว, ตานิ อธิกทิวสานิ สนฺธาย ‘นิกฺกงฺขา หุตฺวา’ติ วุตฺต’’นฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ ทฺวีสุ วสฺเสสุ อธิกทิวสานิ นาม วิสุํ อุปลพฺภนฺติ ตติเย วสฺเส วสฺสุกฺกฑฺฒนวเสน อธิกมาเส ปริจฺจตฺเตเยว อติเรกมาสสมฺภวโต. ตสฺมา ทฺวีสุ วสฺเสสุ อติเรกทิวสานิ นาม วิสุํ น สมฺภวนฺติ.

นนุ จ ‘‘เต ทฺเว มาเส คเหตฺวา วีสติวสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, เอกูนวีสติวสฺสมฺหิ ปุน อปรสฺมึ วสฺเส ปกฺขิตฺเต วีสติวสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘เอตฺถ ปน…เป… วุตฺต’’นฺติ. อเนกตฺถตฺตา นิปาตานํ ปน-สทฺโท หิ-สทฺทตฺเถ, เอตฺถ หีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺหิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส สมตฺถนวเสน วุตฺตํ. อิมินา จ อิมํ ทีเปติ ‘‘ยํ วุตฺตํ ‘เอกูนวีสติวสฺสํ สามเณรํ นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปททิวเส อุปสมฺปาเทนฺตี’ติ, ตตฺถ คพฺภมาเสปิ อคฺคเหตฺวา ทฺวีหิ มาเสหิ อปริปุณฺณวีสติวสฺสํ สนฺธาย ‘เอกูนวีสติวสฺส’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา อธิกมาเสสุ ทฺวีสุ คหิเตสุ วีสติวสฺสานิ ปริปุณฺณานิ นาม โหนฺตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา คพฺภมาสาปิ คณนูปคา โหนฺติ, ตสฺมา. เอกวีสติวสฺโส โหตีติ ชาตทิวสโต ปฏฺาย วีสติวสฺโส สมาโน คพฺภมาเสหิ สทฺธึ เอกวีสติวสฺโส โหติ.

๔๐๖. อฺํอุปสมฺปาเทตีติ อุปชฺฌาโย กมฺมวาจาจริโย วา หุตฺวา อุปสมฺปาเทติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อูนวีสติวสฺสตา, อูนกสฺิตา, อุปสมฺปาทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๗. ฉฏฺสิกฺขาปทํ อุตฺตานตฺถเมว. เถยฺยสตฺถกภาโว, ชานนํ, สํวิธานํ, อวิสงฺเกเตน คมนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔๑๒. สตฺตเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๗. อฏฺเม พาธยึสูติ หนึสุ. ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ. อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา. เตนาห ‘‘อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา’’ติ. อานนฺตริยธมฺมาติ อานนฺตริกสภาวา เจตนาธมฺมา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – จุติอนนฺตรผลํ อนนฺตรํ นาม, ตสฺมึ อนนฺตเร นิยุตฺตา, ตํนิพฺพตฺตเนน อนนฺตรกรณสีลา, อนนฺตรปฺปโยชนาติ วา อานนฺตริกา, เต เอว อานนฺตริยาติ วุตฺตา. กมฺมานิ เอว อนฺตรายิกาติ กมฺมนฺตรายิกา. โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺสาติ มิจฺฉาจารลกฺขณาภาวโต วุตฺตํ. น หิ ภิกฺขุนิยา ธมฺมรกฺขิตภาโว อตฺถิ. ปากติกภิกฺขุนีวเสน เจตํ วุตฺตํ. อริยาย ปน ปวตฺตํ อปายสํวตฺตนิกเมว, นนฺทมาณวโก เจตฺถ นิทสฺสนํ. อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาวเสน วา น สคฺคนฺตรายิกตา , โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โมกฺขตฺถาย ปฏิปตฺติยา วิทูสนโต. อภิภวิตฺวา ปน ปวตฺติยํ สคฺคนฺตรายิกตาปิ น สกฺกา นิวาเรตุนฺติ.

อเหตุกทิฏฺิอกิริยทิฏฺินตฺถิกทิฏฺิโยว นิยตภาวํ ปตฺตา นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา. ปฏิสนฺธิธมฺมาติ ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทมาห. ปณฺฑกาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ สพฺพายปิ อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิปากนฺตรายิกภาวโต. ยาหิ อริเย อุปวทติ, ตา เจตนา อริยูปวาทา ชาตา. ตโต ปรนฺติ ขมาปนโต อุปริ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ทิพฺพจกฺขุกถายํ วุตฺตเมว. สฺจิจฺจ อาปนฺนา อาปตฺติโยติ สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สตฺต อาปตฺติกฺขนฺธา. สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตฺหิ อนฺตมโส ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมฺปิ สคฺคมคฺคผลานํ อนฺตรายํ กโรติ. ยาว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานาติ ปาราชิกํ อาปนฺโน, น วุฏฺาติ เสสครุกาปตฺตึ อาปนฺโน, น เทเสติ ลหุกาปตฺตึ อาปนฺโน.

อยํ ภิกฺขูติ อริฏฺโ ภิกฺขุ. รเสน รสํ สํสนฺทิตฺวาติ อนวชฺเชน ปจฺจยปริภุฺชนรเสน สาวชฺชกามคุณปริโภครสํ สมาเนตฺวา. โยนิโส ปจฺจเวกฺขเณน นตฺถิ เอตฺถ ฉนฺทราโคติ นิจฺฉนฺทราโค, ปจฺจยปริโภโค. อุปเนนฺโต วิยาติ พนฺธนํ อุปเนนฺโต วิย. ‘‘ฆเฏนฺโต วิยา’’ติปิ ปาโ. อุปสํหรนฺโต วิยาติ สทิสตํ อุปสํหรนฺโต วิย เอกนฺตสาวชฺเช อนวชฺชภาวปกฺเขปนโต. ปาปกนฺติ ลามกฏฺเน ทุคฺคติสมฺปาปนฏฺเน จ ปาปกํ. มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิยาติ เสตุกรณวเสน มหาสาครํ พนฺธนฺเตน วิย. สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌนฺโตติ สพฺพฺุตฺาเณน ‘‘สาวชฺช’’นฺติ ทิฏฺํ ‘‘อนวชฺช’’นฺติ คหเณน เตน สห ปฏิวิรุชฺฌนฺโต. อาณาจกฺเกติ ปมปาราชิกสิกฺขาปทสงฺขาเต, ‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหายา’’ติอาทิเทสนาสงฺขาเต จ อาณาจกฺเก.

อฏฺิกงฺกลํ นาม อุรฏฺิ วา ปิฏฺิกณฺฏกํ วา สีสฏฺิ วา. ตฺหิ นิมฺมํสตฺตา ‘‘กงฺกล’’นฺติ วุจฺจติ. วิคตมํสาย หิ อฏฺิสงฺขลิกาย เอกฏฺิมฺหิ วา กงฺกล-สทฺโท นิรุฬฺโห. อนุทหนฏฺเนาติ อนุปายปฏิปตฺติยา สมฺปติ อายติฺจ อนุทหนฏฺเน. มหาภิตาปนฏฺเน อนวฏฺิตสภาวตาย, อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน มุหุตฺตกรณียตาย, ตาวกาลิกฏฺเน ปเรหิ อภิภวนตาย, สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน เภทนาทิอธิกรณภาเวน, อุคฺฆาฏสทิสตาย อธิกุฏฺฏนฏฺเน, อวเณ วณํ อุปฺปาเทตฺวา อนฺโต อนุปวิสนภาวตาย วินิวิชฺฌนฏฺเน, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกอนตฺถนิมิตฺตตาย สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน.

ปาฬิยํ ‘‘ถามสา ปรามาสา’’ติอาทีสุ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ถามสาติ ทิฏฺิถาเมน, ตสฺสา ทิฏฺิยา ถามคตภาเวนาติ อตฺโถ. ปรามาสาติ ทิฏฺิปรามาเสน, ทิฏฺิสงฺขาตปรามาเสนาติ อตฺโถ. ทิฏฺิเยว หิ ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสเนน ปรามาโส. อภินิวิสฺสาติ ตณฺหาภินิเวสปุพฺพงฺคเมน ทิฏฺาภินิเวเสน ‘‘อิทเมตฺถ สจฺจ’’นฺติ อภินิวิสิตฺวา. โวหรตีติ กเถติ. ยโต จ โข เต ภิกฺขูติ ยทา เต ภิกฺขู. เอวํพฺยาโข อหํ, ภนฺเต, ภควตาติ อิทํ เอส อตฺตโน ลทฺธึ นิคูหิตุกามตาย นตฺถีติ วตฺตุกาโมปิ ภควโต อานุภาเวน สมฺปฏิจฺฉติ. พุทฺธานํ กิร สมฺมุขา ทฺเว กถา กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. กสฺส นุ โข นาม ตฺวํ โมฆปุริสาติ ตฺวํ โมฆปุริส กสฺส ขตฺติยสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เวสฺสสฺส วา สุทฺทสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วา มยา เอวํ ธมฺมํ เทสิตํ อาชานาสิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ธมฺมกมฺมตา, สมนุภาสนา, อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๔. นวเม ปโยคคณนายาติ ทานคฺคหณปฺปโยคคณนาย. สํวาเส กมฺมปริโยสานวเสน, สหเสยฺยาย เอกสฺมึ นิปนฺเน อิตรสฺส นิปชฺชนปโยควเสน อาปตฺติปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปทภาชเน ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺติ. เตเนว มาติกาฏฺกถายํ (กงฺขา. อฏฺ. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สห วา เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺเชยฺยา’’ติ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺเตน อรหตาปิ กิริยาพฺยากตจิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพตฺตา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ปน เกนจิ วุตฺตํ ‘‘ติจิตฺตนฺติ เอตฺถ วิปากาพฺยากตจิตฺเตน สห วา เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อฺถา สจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส กิริยาพฺยากตํ สนฺธาย น ยุชฺชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ สจิตฺตกสิกฺขาปทวีติกฺกโม อรหโต น สมฺภวติ. เตเนว ปถวีขณนาทีสุ สจิตฺตกสิกฺขาปเทสุ ติจิตฺตเมว วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อกตานุธมฺมตา, ชานนา, สมฺโภคาทิกรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๘. ทสเม ปิเรติ นิปาตปทํ. สมฺโพธเน วตฺตมานํ ปร-สทฺเทน สมานตฺถํ วทนฺตีติ อาห ‘‘ปร อมามกา’’ติ, อมฺหากํ อนชฺฌตฺติกภูตาติ อตฺโถ. ปิเรติ วา ‘‘ปรโต’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ, ตสฺมา จร ปิเรติ ปรโต คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺาติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ ปุริมสิกฺขาปททฺวเย วุตฺตนยเมว.

กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.

๘. สหธมฺมิกวคฺโค

๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๔. สหธมฺมิกวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วาจาย วาจาย อาปตฺตีติ อนาทริยภยา เลเสน เอวํ วทนฺตสฺส อาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อสิกฺขิตุกามตาย เอวํ วจนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๘. ทุติเย วินยสฺส ปริยาปุณนํ วินยปริยตฺตีติ อาห ‘‘วินยํ ปริยาปุณนฺตาน’’นฺติอาทิ. สุคุตฺโตติ ยถา กรณฺฑเก ปกฺขิตฺตมณิกฺขนฺโธ วิย น นสฺสติ วิปตฺตึ น ปาปุณาติ, เอวํ สุฏฺุ โคปิโต. สุรกฺขิโตติ ตสฺเสว ปริยายวจนํ. ยถา หิ กิเลสโจเรหิ อวิลุมฺปนีโย โหติ, เอวํ สพฺพทา สูปฏฺิตสฺสติตาย สุฏฺุ รกฺขิโต. กุกฺกุจฺจปกตานนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺเจน อภิภูตานํ. สารชฺชนํ สารโท, พฺยาโมหภยํ. วิคโต สารโท เอตสฺสาติ วิสารโท. สหธมฺเมนาติ สการเณน วจเนน. สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ ยถา น ปุน สีสํ อุกฺขิปนฺติ, อถ โข อปฺปฏิภานา มงฺกุภูตาเยว โหนฺติ, เอวํ สุฏฺุ นิคฺคณฺหาติ.

อลชฺชิตาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโส, อลชฺชิตายาติ วุตฺตํ โหติ. อฺาณตาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. มนฺโท โมมูโหติ อฺาณภาเวน มนฺโท, อวิสยโต โมมูโห, มหามูฬฺโหติ อตฺโถ.

อตฺตปจฺจตฺถิกาติ อตฺตโน ปจฺจตฺถิกา. วชฺชิปุตฺตกา ทสวตฺถุทีปกา. ปรูปหารอฺาณกงฺขาปรวิตารณาทิวาทาติ เอตฺถ เย อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ อปฺปตฺเต ปตฺตสฺีนํ อธิมานิกานํ กุหกานํ วา อรหตฺตํ ปฏิชานนฺตานํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ ทิสฺวา มารกายิกา เทวตา ‘‘อรหโต อสุจึ อุปสํหรนฺตี’’ติ มฺนฺติ เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยา อปรเสลิยา จ, เต ปรูปหารวาทา. เยสํ ปน อรหโต อิตฺถิปุริสาทีนํ นามโคตฺตาทีสุ าณปฺปวตฺติยา อภาเวน อตฺถิ อรหโต อฺาณํ, ตตฺเถว สนฺนิฏฺานาภาเวน อตฺถิ อรหโต กงฺขา, ยสฺมา จสฺส ตานิ วตฺถูนิ ปเร วิตาเรนฺติ ปกาเสนฺติ อาจิกฺขนฺติ, ตสฺมา อตฺถิ อรหโต ปรวิตารณาติ อิมา ติสฺโส ลทฺธิโย เสยฺยถาปิ เอตรหิ ปุพฺพเสลิยานํ, เต อฺาณกงฺขาปรวิตารณวาทา. นิคฺคโห ปน เนสํ กถาวตฺถุปฺปกรเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

จตฺตาโร มคฺคา จ ผลานิ จาติ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน วุตฺตํ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺาติ อยมฺปิ อธิคมสทฺธมฺโมเยว. -กาโร วา อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ เถราติ ธมฺมกถิกา. อาหํสูติ ปํสุกูลิกตฺเถรา เอวํ อาหํสุ.

กทา ปนายํ กถา อุทปาทีติ? อยฺเหตฺถ อนุปุพฺพิกถา (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๐) – อิมสฺมึ กิร ทีเป จณฺฑาลติสฺสมหาภเย สกฺโก เทวราชา มหาอุฬุมฺปํ มาเปตฺวา ภิกฺขูนํ อาโรจาเปสิ ‘‘มหนฺตํ ภยํ ภวิสฺสติ, น สมฺมา เทโว วสฺสิสฺสติ, ภิกฺขู ปจฺจเยหิ กิลมนฺตา ปริยตฺตึ สนฺธาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, ปรตีรํ คนฺตฺวา อยฺเยหิ ชีวิตํ รกฺขิตุํ วฏฺฏติ. อิมํ มหาอุฬุมฺปํ อารุยฺห คจฺฉถ ภนฺเต, เยสํ เอตฺถ นิสชฺชฏฺานํ นปฺปโหติ, เต กฏฺขณฺเฑปิ อุรํ เปตฺวา คจฺฉนฺตุ, สพฺเพสํ ภยํ น ภวิสฺสตี’’ติ. ตทา สมุทฺทตีรํ ปตฺวา สฏฺิ ภิกฺขู กติกํ กตฺวา ‘‘อมฺหากํ เอตฺถ คมนกิจฺจํ นตฺถิ, มยํ อิเธว หุตฺวา เตปิฏกํ รกฺขิสฺสามา’’ติ ตโต นิวตฺติตฺวา ทกฺขิณมลยชนปทํ คนฺตฺวา กนฺทมูลปณฺเณหิ ชีวิกํ กปฺเปนฺตา วสึสุ, กาเย วหนฺเต นิสีทิตฺวา สชฺฌายํ กโรนฺติ, อวหนฺเต วาลิกํ อุสฺสาเรตฺวา ปริวาเรตฺวา สีสานิ เอกฏฺาเน กตฺวา ปริยตฺตึ สมฺมสนฺติ. อิมินา นิยาเมน ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ สาฏฺกถํ เตปิฏกํ ปริปุณฺณํ กตฺวา ธารยึสุ.

ภเย วูปสนฺเต สตฺตสตา ภิกฺขู อตฺตโน คตฏฺาเน สาฏฺกเถ เตปิฏเก เอกกฺขรมฺปิ เอกพฺยฺชนมฺปิ อวินาเสตฺวา อิมเมว ทีปมาคมฺม กลฺลคามชนปเท มณฺฑลารามวิหารํ ปวิสึสุ. เถรานํ อาคตปวตฺตึ สุตฺวา อิมสฺมึ ทีเป โอหีนา สฏฺิ ภิกฺขู ‘‘เถเร ปสฺสิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา เถเรหิ สทฺธึ เตปิฏกํ โสเธนฺตา เอกกฺขรมฺปิ เอกพฺยฺชนมฺปิ อสเมนฺตํ นาม น ปสฺสึสุ. ตสฺมึ าเน เถรานํ อยํ กถา อุทปาทิ ‘‘ปริยตฺติ นุ โข สาสนสฺส มูลํ, อุทาหุ ปฏิปตฺตี’’ติ. ปํสุกูลิกตฺเถรา ‘‘ปฏิปตฺติ มูล’’นฺติ อาหํสุ, ธมฺมกถิกา ‘‘ปริยตฺตี’’ติ . อถ เน เถรา ‘‘ตุมฺหากํ ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ วจนมตฺเตเนว น สกฺกา วิฺาตุํ, ชินภาสิตํ สุตฺตํ อาหรถา’’ติ อาหํสุ. สุตฺตํ อาหริตุํ น ภาโรติ –

‘‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔). ‘‘ปฏิปตฺติมูลกํ, มหาราช, สตฺถุสาสนํ , ปฏิปตฺติสารกํ, มหาราช, สตฺถุสาสนํ, ปฏิปตฺติ ติฏฺนฺตี ติฏฺตี’’ติ (มิ. ป. ๔.๑.๗) –

สุตฺตํ อาหรึสุ.

อิมํ สุตฺตํ สุตฺวา ธมฺมกถิกา อตฺตโน วาทฏฺปนตฺถาย อิมํ สุตฺตํ อาหรึสุ –

‘‘ยาว ติฏฺนฺติ สุตฺตนฺตา, วินโย ยาว ทิปฺปติ;

ตาว ทกฺขนฺติ อาโลกํ, สูริเย อพฺภุฏฺิเต ยถา.

‘‘สุตฺตนฺเตสุ อสนฺเตสุ, ปมุฏฺเ วินยมฺหิ จ;

ตโม ภวิสฺสติ โลเก, สูริเย อตฺถงฺคเต ยถา.

‘‘สุตฺตนฺเต รกฺขิเต สนฺเต, ปฏิปตฺติ โหติ รกฺขิตา;

ปฏิปตฺติยํ ิโต ธีโร, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ.

อิมสฺมึ สุตฺเต อาหเฏ ปํสุกูลิกตฺเถรา ตุณฺหี อเหสุํ. ธมฺมกถิกตฺเถรานํเยว วจนํ ปุรโต อโหสิ. ยถา หิ ควสตสฺส ควสหสฺสสฺส วา อนฺตเร ปเวณิปาลิกาย เธนุยา อสติ โส วํโส สา ปเวณี น ฆฏียติ, เอวเมว อารทฺธวิปสฺสกานํ ภิกฺขูนํ สเตปิ สหสฺเสปิ วิชฺชมาเน ปริยตฺติยา อสติ อริยมคฺคปฏิเวโธ นาม น โหติ. ยถา จ นิธิกุมฺภิยา ชานนตฺถาย ปาสาณปิฏฺเ อกฺขเรสุ อุปนิพทฺเธสุ ยาว อกฺขรานิ ธรนฺติ, ตาว นิธิกุมฺภี นฏฺา นาม น โหติ, เอวเมว ปริยตฺติยา ธรมานาย สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม น โหตีติ. ตสฺสาเธยฺโยติ ตสฺสายตฺโต.

๔๓๙. โสปนาติ โส ปาติโมกฺโข. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ครหิตุกามตา, อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทวิวณฺณนฺจาติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๔๓. ตติยํ อุตฺตานเมว. โมหาโรปนํ, โมเหตุกามตา, วุตฺตนเยน สุตภาโว, โมหนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๒. จตุตฺเถ รตฺตจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน รตฺตจิตฺโต. สเจ ปน เมถุนราเคน รตฺโต ปหารํ เทติ, ทุกฺกฏเมว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. กุปิตตา, น โมกฺขาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส ปหารทานนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๗. ปฺจเม น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ปหริตุกามตาย ปหเฏ ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ, อุจฺจาเรตุกามตาย เกวลํ อุคฺคิรณมตฺเต กเต อิมินา ปาจิตฺติยํ. อิมินา ปน วิรชฺฌิตฺวา ปหาโร ทินฺโน, ตสฺมา ทุกฺกฏํ. กิมิทํ ทุกฺกฏํ ปหารปจฺจยา, อุทาหุ อุคฺคิรณปจฺจยาติ? ตตฺถ เกจิ ตาว วทนฺติ ‘‘ปหารปจฺจยา เอว ทุกฺกฏํ, อุคฺคิรณปจฺจยา ปาจิตฺติยนฺติ สทุกฺกฏํ ปาจิตฺติยํ ยุชฺชติ. ปุริมฺหิ อุคฺคิรณํ, ปจฺฉา ปหาโร, น จ ปจฺฉา ปหารํ นิสฺสาย ปุริมํ อุคฺคิรณํ อนาปตฺติวตฺถุกํ ภวิตุมรหตี’’ติ.

มยํ ปเนตฺถ เอวํ ตกฺกยาม ‘‘อุคฺคิรณสฺส อตฺตโน สภาเวเนว อสณฺิตตฺตา ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติเยน น ภวิตพฺพํ, อสุทฺธจิตฺเตน กตปโยคตฺตา ปน น สกฺกา เอตฺถ อนาปตฺติยา ภวิตุนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ‘น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา’ติ อิมินา จ ปหารปจฺจยา ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยาสมฺภเว การณํ วุตฺตํ, น ปน ปหารปจฺจยา ทุกฺกฏสมฺภเว. น หิ อปหริตุกามตาย ปหาเร ทินฺเน ปุริมสิกฺขาปเทน ปหารปจฺจยา ปาจิตฺติเยน ทุกฺกเฏน วา ภวิตุํ ยุตฺต’’นฺติ. ‘‘ติรจฺฉานาทีนํ อสุจิกรณาทึ ทิสฺวา กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโย เอวา’’ติ วทนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. กุปิตตา, น โมกฺขาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส ตลสตฺติอุคฺคิรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๕๙. ฉฏฺํ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสมฺปนฺนตา, สงฺฆาทิเสสสฺส อมูลกตา, อนุทฺธํสนา, ตงฺขณวิชานนาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๖๔. สตฺตมมฺปิ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสมฺปนฺนตา, อผาสุกามตา, กุกฺกุจฺจุปฺปาทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๑. อฏฺเม สุติสมีปนฺติ สทฺทสมีปํ. สุยฺยตีติ หิ สุติ, สทฺทสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺส สมีปํ อุปสฺสุติ, สทฺทสมีปนฺติ วุตฺตํ โหติ. คณฺิปเทสุ จ สุยฺยตีติ สุตีติ สทฺโทว วุตฺโต. ยตฺถ ปน ิเตน สกฺกา โหติ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถ ติฏฺนฺโต สทฺทสมีเป ิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘ยตฺถ ตฺวา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘สุณาติ เอตฺถาติ สุติ. ยตฺถ ิโต สุณาติ, ตสฺส านสฺเสตํ นามํ. ตสฺส สมีปํ อุปสฺสุตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ ปน คยฺหมาเน ยสฺมึ าเน ิโต สุณาติ, ตสฺส อาสนฺเน อฺสฺมึ ปเทเส ติฏฺตีติ อาปชฺชติ. อฏฺกถายฺจ อุปสฺสุติ-สทฺทสฺเสว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ ตฺวา สกฺกา โหติ, เตสํ วจนํ โสตุ’’นฺติ วุตฺตํ, น สุติ-สทฺทสฺส. ตสฺมา ปุพฺพนโยเวตฺถ ปสตฺถตโร. อถ วา อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ อุปสฺสุติ, านํ. ยํ านํ อุปคเตน สกฺกา โหติ กเถนฺตานํ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. มนฺเตนฺตนฺติ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘มนฺตยมาเน’’ติ.

๔๗๓. เอกปริจฺเฉทานีติ ‘‘สิยา กิริยํ, สิยา อกิริย’’นฺติ อิมินา นเยน เอกปริจฺเฉทานิ. อิมานิ หิ ตีณิ สิกฺขาปทานิ กทาจิ กิริยโต สมุฏฺหนฺติ, กทาจิ อกิริยโต, น เอกกฺขเณเยว กิริยากิริยโต สมุฏฺหนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อุปสมฺปนฺนตา, โจทนาธิปฺปาโย, สวนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๔. นวมํ อุตฺตานตฺถเมว. ธมฺมกมฺมตา, ธมฺมกมฺมนฺติ สฺา, ฉนฺทํ ทตฺวา ขิยฺยนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

กมฺมปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ฉนฺทํ อทตฺวา คมนสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๗๙. ทสมํ อุตฺตานตฺถเมว. วินิจฺฉยกถาย ปวตฺตมานตา, ธมฺมกมฺมตา, ธมฺมกมฺมสฺิตา, สมานสีมายํ ิตตา, สมานสํวาสกตา, โกเปตุกามตาย หตฺถปาสวิชหนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ฉ องฺคานิ.

ฉนฺทํ อทตฺวา คมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๘๔. เอกาทสมมฺปิ อุตฺตานตฺถเมว. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, สงฺเฆน สทฺธึ วิกปฺปนุปคจีวรทานํ, ปจฺฉา ขียิตุกามตาย ขิยฺยนาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔๘๙. ทฺวาทสเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

นิฏฺิโต สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.

๙. ราชวคฺโค

๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๙๗-๔๙๙. ราชวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท อฏฺกถายํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว. ปาฬิยํ ปน อยมนุตฺตานปทตฺโถ. กตํ วา กริสฺสนฺติ วาติ เมถุนวีติกฺกมนํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา. อิเมสนฺติ ปทํ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา อุภยตฺถ โยเชตพฺพํ ‘‘อิเมหิ กตํ อิเม กริสฺสนฺตี’’ติ. รตนนฺติ มณิรตนาทีสุ ยํกิฺจิ. อุภโตติ ทฺวีหิ ปกฺเขหิ. ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต เยหิ เกหิจิ ทฺวีหิ ภาเคหิ สุชาตตา วิฺาเยยฺย, สุชาต-สทฺโท จ ‘‘สุชาโต จารุทสฺสโน’’ติอาทีสุ อาโรหสมฺปตฺติปริยาโยติ ชาติวเสเนว สุชาตตํ วิภาเวตุํ ‘‘มาติโต จ ปิติโต จา’’ติ วุตฺตํ. อโนรสปุตฺตวเสนปิ โลเก มาตุปิตุสมฺา ทิสฺสติ, อิธ ปน สา โอรสปุตฺตวเสเนว อิจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสุทฺธคหณิโก’’ติ วุตฺตํ. คพฺภํ คณฺหาติ ธาเรตีติ คหณี, คพฺภาสยสฺิโต มาตุกุจฺฉิปฺปเทโส. สํสุทฺธา คหณี อสฺสาติ สํสุทฺธคหณิโก, สํสุทฺธา ตสฺส มาตุกุจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สมเวปากินิยา คหณิยา’’ติ เอตฺถ ปน ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปาจนวเสน คณฺหนโต อฉฑฺฑนโต กมฺมชเตโชธาตุ ‘‘คหณี’’ติ วุจฺจติ.

ยาวสตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุ ปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ‘‘ยุค’’นฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ, อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร, ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา, เตสํ ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, ปิตามหทฺวนฺทาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณเนว มาตามโหปิ คหิโต โหติ. ยุค-สทฺโท เจตฺถ เอกเสเสน ทฏฺพฺโพ ยุโค จ ยุโค จ ยุโคติ. เอวฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวนฺทํ คหิตเมว โหติ, ตสฺมา ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหยุคคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปิตามหยุโค, ตาว สํสุทฺธคหณิโก.

อกฺขิตฺโตติ ‘‘อปเนถ เอตํ, กึ อิมินา’’ติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกุฏฺโติ น อุปกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ปตฺตปุพฺโพ. เกน การเณนาติ อาห ‘‘ชาติวาเทนา’’ติ. เอตฺถ จ ‘‘อุภโต…เป… ปิตามหยุคา’’ติ เอเตน ตสฺส โยนิโทสาภาโว ทสฺสิโต สํสุทฺธคหณิกภาวกิตฺตนโต, ‘‘อกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา กิริยาปราธาภาโว. กิริยาปราเธน หิ สตฺตา เขปํ ปาปุณนฺติ. ‘‘อนุปกุฏฺโ’’ติ อิมินา อยุตฺตสํสคฺคาภาโว. อยุตฺตสํสคฺคฺหิ ปฏิจฺจ สตฺตา อกฺโกสํ ลภนฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ขตฺติยตา, อภิสิตฺตตา, อุภินฺนมฺปิ สยนิฆรโต อนิกฺขนฺตตา, อปฺปฏิสํวิทิตตา, อินฺทขีลาติกฺกโมติ อิมานิ ปเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ.

อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๒. ทุติเย มหาลตํ นามาติ ปติกุลํ คจฺฉนฺติยา กิร ตสฺสา ปิตา มหาลตาปิฬนฺธนํ นาม การาเปสิ. ตสฺมึ ปิฬนฺธเน จตสฺโส วชิรนาฬิโย ตตฺถ ตตฺถ อปฺเปตพฺพฏฺาเน อปฺปนวเสน วินิโยคํ อคมํสุ, มุตฺตานํ เอกาทส นาฬิโย, ปวาฬสฺส ทฺวาวีสติ นาฬิโย, มณีนํ เตตฺตึส นาฬิโย. อิติ เอเตหิ จ อฺเหิ จ เวฬุริยโลหิตงฺกมสารคลฺลาทีหิ สตฺตวณฺเณหิ จ รตเนหิ นิฏฺานํ อคมาสิ . ตํ สีเส ปฏิมุกฺกํ ยาว ปาทปิฏฺิยา ภสฺสติ, ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธารยมานาว อิตฺถี นํ ธาเรตุํ สกฺโกติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

๕๐๖. อาวสถสฺส ปน สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา อุปจาโร นามาติ โยเชตพฺพํ. อาวสโถติ เจตฺถ อนฺโตอาราเม วา โหตุ อฺตฺถ วา, อตฺตโน วสนฏฺานํ วุจฺจติ. ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกีอาทีสุ ฉนฺเทน, ราชวลฺลเภสุ ภเยน. ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺตีติ วิสฺสริตฺวา คมนกาเล อตฺตโน ปจฺฉโต อฺสฺสาภาวา อาสงฺกนฺติ. ปติรูปํ นาม รตนสมฺมเต ปํสุกูลคฺคหณํ วา รตเน นิรุสฺสุกฺกคมนํ วา. ยทิ หิ ตํ รตนสมฺมตํ อามาสํ เจ, ‘‘นตฺถิ เอตสฺส สามี’’ติ ปํสุกูลํ คเหสฺสติ. อนามาสํ เจ, ‘‘นตฺถิ เอตสฺส สามี’’ติ ปํสุกูลฉินฺนปลิโพโธ นิรเปกฺโข คมิสฺสติ. สมาทเปตฺวาติ อฺํ สมาทเปตฺวา, ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยานยาจนา’’ติ (ชา. ๑.๗.๕๙) วุตฺตนเยน ยาจิตฺวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อนนุฺาตกรณํ, ปรสนฺตกตา, วิสฺสาสคฺคาหปํสุกูลสฺานํ อภาโว, อุคฺคหณํ วา อุคฺคหาปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ.

รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๐๘. ตติเย อริยมคฺคสฺสาติ เอตฺถ สคฺคมคฺโคปิ สงฺคเหตพฺโพ. อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา หิ กถา ติรจฺฉานกถา. ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ วิพนฺธนภูตํ. ราชปฏิสํยุตฺตํ กถนฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๗; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๐๘๐; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐.๖๙-๗๐) ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถํ. เอตฺถ จ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. ‘‘โสปิ นาม เอวํมหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตา กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภรตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา. ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว โหติ.

อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลาคนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติยปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ. าติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพํ. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโย.

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยํ คตา’’ติ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ อโหสิ, ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยํ คตา’’อิจฺเจว วฏฺฏติ.

กุมฺภฏฺานกถาติ กุฏฏฺานกถา อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ, กุมฺภทาสีกถา วา. สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ. ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโย.

นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ ‘‘อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน ปชาปตินา พฺรหฺมุนา อิสฺสเรน วา นิมฺมิโต, กาโก เสโต อฏฺีนํ เสตตฺตา, พกา รตฺตา โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา. อุปฺปตฺติิติสํหาราทิวเสน โลกํ อกฺขายตีติ โลกกฺขายิกา. สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโร, สาครสฺส รฺโ ปุตฺเตหิ ขตตฺตา สาคโร. ขโต อมฺเหหีติ หตฺถมุทฺทาย นิเวทิตตฺตา สมุทฺโทติ เอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายิกกถา.

อิติ ภโว อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา. เอตฺถ จ ภโวติ สสฺสตํ, อภโวติ อุจฺเฉทํ. ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ . ภโวติ กามสุขํ, อภโวติ อตฺตกิลมโถ. อิติ อิมาย ฉพฺพิธาย อิติภวาภวกถาย สทฺธึ พาตฺตึส ติรจฺฉานกถา นาม โหติ. อถ วา ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตาปิ อรฺปพฺพตนทีทีปกถา อิติ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา ฉตฺตึส ติรจฺฉานกถาติ วุจฺจติ. อิติ วาติ หิ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺเถ, วา-สทฺโท วิกปฺปตฺเถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํปการํ อิโต อฺํ วา ตาทิสํ นิรตฺถกกถํ กเถนฺตี’’ติ. อาทิอตฺเถ วา อิติ-สทฺโท ‘‘อิติ วา อิติ เอวรูปา นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๔) วิย, เอวมาทึ อฺมฺปิ ตาทิสํ กถํ กเถนฺตีติ อตฺโถ.

๕๑๒. อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ อิมินา ทุติยเลฑฺฑุปาโต อิธ อุปจาโรติ ทสฺเสติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, อนุฺาตการณาภาโว, วิกาเล คามปฺปวิสนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๑๗. จตุตฺเถ ตํ อสฺส อตฺถีติ ปมํ ภินฺทิตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา ตํ เภทนกํ ตสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปาจิตฺติยํ. อสฺสตฺถิอตฺเถ อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. สูจิฆรตา, อฏฺิมยาทิตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๒. ปฺจเม เฉทนกํ วุตฺตนยเมวาติ เฉทนเมว เฉทนกํ, ตํ ตสฺส อตฺถีติ เฉทนกนฺติ อิมมตฺถํ อติทิสฺสติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ปมาณาติกฺกนฺตมฺจปีตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๒๖. ฉฏฺเ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวาติ เหฏฺา จิมิลิกํ ปตฺถริตฺวา ตสฺส อุปริ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. โปฏกิตูลนฺติ เอรกตูลาทิ ยํกิฺจิ ติณชาตีนํ ตูลํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ตูโลนทฺธมฺจปีตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. อตฺตนา การาปิตสฺส หิ ปฏิลาภมตฺเตเนว ปาจิตฺติยํ. เตเนว ปทภาชเน ‘‘ปฏิลาเภน อุทฺทาเลตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘ปฏิลาเภน อุทฺทาเลตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ ปฏิลาภมตฺเตเนว ปาจิตฺติยํ วิย ทิสฺสติ, ปริโภเคเยว อาปตฺติ ทฏฺพฺพา. ‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ วจนํ เอตฺถ สาธก’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ตสฺส มติมตฺตํ. น หิ ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ อตฺตนา การาปิตํ สนฺธาย วุตฺตํ, กรณการาปนปจฺจยา จ อิมินา สิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, น ปริโภคปจฺจยา. ‘‘น, ภิกฺขเว, ตูโลนทฺธํ มฺจํ วา ปีํ วา ปริภุฺชิตพฺพํ, โย ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ หิ ขนฺธเก วุตฺตตฺตา อตฺตนา วา กตํ โหตุ อฺเน วา, ปริภุฺชนฺตสฺส ปริโภคปจฺจยา ทุกฺกฏเมว, น ปาจิตฺติยํ.

ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา

๕๓๑. สตฺตเม ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. นิสีทนสฺส ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมานิ ปเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ.

นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๓๗-๕๔๒. อฏฺมนวมทสเมสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ, องฺคานิปิ สตฺตเมว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

นิฏฺิโต ราชวคฺโค นวโม.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ขุทฺทกวณฺณนา สมตฺตา.

ปาจิตฺติยกณฺฑํ นิฏฺิตํ.