📜
๓. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกํ
วสฺสูปนายิกานุชานนกถาวณฺณนา
๑๘๔. วสฺสูปนายิกกฺขนฺธเก ¶ ¶ อิธ-สทฺโท นิปาตมตฺโตติ โอกาสปริทีปนสฺสปิ อสมฺภวโต อตฺถนฺตรสฺส อโพธนโต วุตฺตํ. อปรชฺชุคตาย อสฺสาติ อิมินา อสมานาธิกรณวิสโย พาหิรตฺถสมาโสยนฺติ ทสฺเสติ. อปรชฺชูติ อาสาฬฺหีปุณฺณมิโต อปรํ ทินํ, ปาฏิปทนฺติ อตฺโถ. อสฺสาติ อาสาฬฺหีปุณฺณมิยา.
วสฺสาเน จาริกาปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา
๑๘๕. อนเปกฺขคมเนน วา อฺตฺถ อรุณํ อุฏฺาปเนน วา อาปตฺติ เวทิตพฺพาติ เอตฺถ อนเปกฺขคมเนน อุปจาราติกฺกเม อาปตฺติ เวทิตพฺพา, สาเปกฺขคมเนน อฺตฺถ อรุณุฏฺาปเนน อาปตฺติ เวทิตพฺพา.
สตฺตาหกรณียานุชานนกถาวณฺณนา
๑๘๗-๑๘๙. ตีณิ ปริหีนานีติ ภิกฺขุนีนํ วจฺจกุฏิอาทีนํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปหีนานิ. วาเรยฺยนฺติ อาวาหวิวาหมงฺคลํ. สุตฺตนฺโตติ อตฺตโน ปคุณสุตฺตนฺโต. น ปลุชฺชตีติ น วินสฺสติ น อนฺตรธายติ.
ปหิเตเยว อนุชานนกถาวณฺณนา
๑๙๙. ภิกฺขุคติโกติ ภิกฺขุนิสฺสิตโก. โส ปน ยสฺมา ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสนกปุริโส’’ติ. สตฺตาหกรณีเยน คนฺตฺวา พหิทฺธา อรุณุฏฺาปนํ ¶ รตฺติจฺเฉโท. อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ เอตฺถ อนิมนฺติตตฺตา สตฺตาหกิจฺจํ อธิฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ วสฺสจฺเฉโท เจว ทุกฺกฏฺจ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ยถาวุตฺตฺหิ รตฺติจฺเฉทการณํ วินา ติโรวิหาเร วสิตฺวา อาคจฺฉิสฺสามีติ คจฺฉโตปิ วสฺสจฺเฉทํ วทนฺติ. คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ คจฺฉนฺเตน จ อนฺโตอุปจารสีมายํ ิเตเนว ‘‘อนฺโตสตฺตาเห อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาโภคํ อกตฺวา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ฉินฺนวสฺโสว โหตีติ วทนฺติ. ภณฺฑกนฺติ จีวรํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปหิณนฺตีติ จีวรโธวนาทิกมฺเมน ปหิณนฺติ. สมฺปาปุณิตุํ ¶ น สกฺโกติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ปุน อาคจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามคฺเค สเจ อรุณุคฺคมนํ โหติ, วสฺสจฺเฉโทปิ น โหติ, รตฺติจฺเฉททุกฺกฏฺจ นตฺถีติ วทนฺติ. ‘‘อาจริยํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปน คนฺตุํ ลภตีติ ‘‘อคิลานมฺปิ อาจริยํ อุปชฺฌายํ วา ปสฺสิสฺสามี’’ติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ ลภติ. สเจ ปน นํ อาจริโย ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, วฏฺฏตีติ เอวํ สตฺตาหกรณีเยน คตํ อนฺโตสตฺตาเหเยว ปุน อาคจฺฉนฺตํ สเจ อาจริโย อุปชฺฌาโย วา ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย, วสฺสจฺเฉโท ปน โหติเยวาติ ทฏฺพฺพํ สตฺตาหสฺส พหิทฺธา วีตินามิตตฺตา.
อนฺตราเย อนาปตฺติวสฺสจฺเฉทกถาวณฺณนา
๒๐๑. สเจ ทูรํ คโต โหติ, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพติ อิมินา วสฺสจฺเฉทการเณ สติ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.
วชาทีสุ วสฺสูปคมนกถาวณฺณนา
๒๐๓. ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพนฺติ สตฺถสฺสาวิหารตฺตา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร’’ติ อวตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏตีติ กุฏิกาทีนํ อภาเว ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภทํ กตฺวา อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, อาลยกรณมตฺเตเนว วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. วิปฺปกิรตีติ วิสุํ วิสุํ คจฺฉติ. ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺตีติ เตหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺเสว นตฺถิ อาปตฺติ, เตหิ วิยุชฺชิตฺวา คมเน ปน อาปตฺติเยว, ปวาเรตฺุจ น ลภติ.
วสฺสํ อนุปคนฺตพฺพฏฺานกถาวณฺณนา
๒๐๔. เสยฺยถาปิ ¶ ปิสาจิลฺลิกาติ เอตฺถ ปิสาจา เอว ปิสาจิลฺลิกา, ปิสาจทารกาติปิ วทนฺติ. ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวาติ สกวาฏพทฺธเมว โยเชตฺวา. ปฺจนฺนํ ฉทนานนฺติ ติณปณฺณอิฏฺกสิลาสุธาสงฺขาตานํ ปฺจนฺนํ ฉทนานํ. อิทฺจ เยภุยฺเยน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ รุกฺขาทีสุ ¶ ปทรจฺฉทนายปิ กุฏิกาย วสฺสูปคมนสฺส วุตฺตตฺตา. น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพนฺติ วจีเภทํ กตฺวา วสฺสูปคมนํ สนฺธาเยว ปฏิกฺเขโป, น อาลยกรณวเสน อุปคมนํ สนฺธายาติ วทนฺติ. ปาฬิยํ ปน อวิเสเสน วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ทุติยปาราชิกสํวณฺณนายํ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๔) ‘‘วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน หิ นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนปิ ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺเนเยว สทฺวารพนฺเธ เสนาสเน อุปคนฺตพฺพํ. ตสฺมา วสฺสกาเล สเจ เสนาสนํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ลภติ, หตฺถกมฺมํ ปริเยสิตฺวาปิ กาตพฺพํ. หตฺถกมฺมํ อลภนฺเตน สามมฺปิ กาตพฺพํ, น ตฺเวว อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา อเสนาสนิกสฺส นาวาทึ วินา อฺตฺถ อาลโย น วฏฺฏตีติ อมฺหากํ ขนฺติ. นาวาสตฺถวเชสุเยว หิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวาย วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทินา สติ อสติ วา เสนาสเน วสฺสูปคมนสฺส วิสุํ อนฺุาตตฺตา ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพ’’นฺติ อยํ ปฏิกฺเขโป ตตฺถ น ลพฺภตีติ อสติ เสนาสเน อาลยวเสนปิ นาวาทีสุ อุปคมนํ วุตฺตํ. ฏงฺกิตมฺโจ นาม ทีเฆ มฺจปาเท มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อฏนิโย ปเวเสตฺวา กโต มฺโจ. ตสฺส อิทํ อุปริ อิทํ เหฏฺาติ นตฺถิ, ปริวตฺเตตฺวา อตฺถโตปิ ตาทิโสว โหติ, ตํ สุสาเน เทวฏฺาเน จ เปนฺติ, จตุนฺนํ ปาสาณานํ อุปริ ปาสาณํ อตฺถริตฺวา กตํ เคหมฺปิ ‘‘ฏงฺกิตมฺโจ’’ติ วุจฺจติ.
วสฺสํ อนุปคนฺตพฺพฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธมฺมิกกติกกถาวณฺณนา
๒๐๕. ตสฺสา ลกฺขณํ มหาวิภงฺเค วุตฺตนฺติ จตุตฺถปาราชิกสํวณฺณนายํ ‘‘โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสติ, ตํ มยํ อรหาติ ชานิสฺสามา’’ติ (ปารา. ๒๒๘) เอตฺถ ทสฺสิตํ อธมฺมิกกติกวตฺตลกฺขณํ สนฺธาย วทติ, ปรโตปิ เสนาสนกฺขนฺธกวณฺณนายํ อธมฺมิกํ กติกวตฺตํ อาวิ ภวิสฺสติเยว.
ปฏิสฺสวทุกฺกฏาปตฺติกถาวณฺณนา
๒๐๗. ยสฺมา ¶ ¶ นานาสีมายํ ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสนฺตสฺส ทุติเย ‘‘วสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ปมเสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปุน ปเมเยว ‘‘วสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ทุติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายตี’’ติ วุตฺตํ. ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาทนปจฺจยา โหนฺตมฺปิ ทุกฺกฏํ สติเยว ปฏิสฺสเว โหตีติ อาห ‘‘ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสเว ทุกฺกฏ’’นฺติ. เตเนวาห ‘‘ตฺจ โข…เป… ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา’’ติ.
อกรณีโยติ สตฺตาหกรณีเยน อกรณีโย. สกรณีโยติ สตฺตาหกรณีเยเนว สกรณีโย. ยทิ เอวํ ‘‘สตฺตาหกรณีเยน อกรณีโย สกรณีโย’’ติ จ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ‘‘อกรณีโย’’ติ วุตฺเตปิ สตฺตาหกรณีเยน สกรณียากรณียตา วิฺายตีติ กตฺวา น วุตฺตํ. ยทิ เอวํ ปรโต ‘‘สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมตี’’ติ วารทฺวเยปิ ‘‘สกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ เอตฺตกเมว กสฺมา น วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ตตฺถ ‘‘สตฺตาหกรณีเยนา’’ติ อวตฺวา ‘‘สกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ วุตฺเต โส ตํ สตฺตาหํ พหิทฺธา วีตินาเมตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ ‘‘สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมตี’’ติ วุตฺตํ. เอวฺหิ วุตฺเต สตฺตาหสฺส อธิกตตฺตา โส ตํ สตฺตาหํ พหิ วีตินาเมตีติ สกฺกา วตฺตุํ.
เอตฺถ จ อาทิมฺหิ จตฺตาโร วารา นิรเปกฺขคมนํ สนฺธาย วุตฺตา, ตตฺถาปิ ปุริมา ทฺเว วารา วสฺสํ อนุปคตสฺส วเสน วุตฺตา, ปจฺฉิมา ปน ทฺเว วารา วสฺสํ อุปคตสฺส วเสน, ตโต ปรํ ทฺเว วารา สาเปกฺขคมนํ สนฺธาย วุตฺตา, ตตฺถาปิ ปมวาโร สาเปกฺขสฺสปิ สตฺตาหกรณีเยน คนฺตฺวา ตํ สตฺตาหํ พหิทฺธา วีตินาเมนฺตสฺส วสฺสจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺโต, อิตโร วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส วสฺสจฺเฉทาภาวทสฺสนตฺถํ. ‘‘โส สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณาย สกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ อยํ ปน วาโร นวมิโต ปฏฺาย คนฺตฺวา สตฺตาหํ พหิทฺธา วีตินาเมนฺตสฺสปิ วสฺสจฺเฉทาภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. เอตฺถ จ ‘‘อกรณีโย ปกฺกมตี’’ติ ทุติยวารสฺส อนาคตตฺตา นวมิโต ปฏฺาย คจฺฉนฺเตนปิ สติเยว กรณีเย คนฺตพฺพํ, นาสตีติ ทฏฺพฺพํ. อิเม จ สตฺต วารา พหิทฺธา กตอุโปสถิกสฺส วเสน อาคตา, อปเร ¶ สตฺต อนฺโตวิหารํ คนฺตฺวา กตอุโปสถสฺส วเสนาติ เอวํ ปุริมิกาย วเสน จุทฺทส วารา วุตฺตา, ตโต ปรํ ปจฺฉิมิกาย วเสน เตเยว จุทฺทส วารา วุตฺตาติ เอวเมเตสํ นานากรณํ เวทิตพฺพํ.
อิเมหิ ¶ ปน สพฺพวาเรหิ วุตฺตมตฺถํ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โส ตทเหว อกรณีโยติอาทีสู’’ติอาทิ อารทฺธํ. โก ปน วาโท ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺสาติ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา สตฺตาหกรณีเยน คนฺตฺวา อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส โก ปน วาโท, กถา เอว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อสติยา ปน วสฺสํ น อุเปตีติ ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วจีเภทํ กตฺวา น อุเปติ.
โกมุทิยา จาตุมาสินิยาติ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมายํ. สา หิ กุมุทานํ อตฺถิตาย โกมุที, จตุนฺนํ วสฺสิกานํ มาสานํ ปริโยสานตฺตา ‘‘จาตุมาสินี’’ติ วุจฺจติ. ตทา หิ กุมุทานิ สุปุปฺผิตานิ โหนฺติ, ตสฺมา กุมุทานํ สมูโห, กุมุทานิ เอว วา โกมุทา, เต เอตฺถ อตฺถีติ ‘‘โกมุที’’ติ วุจฺจติ, กุมุทวตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ปฏิสฺสวทุกฺกฏาปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วสฺสูปนายิกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.