📜
๔. ปวารณกฺขนฺธกํ
อผาสุกวิหารกถาวณฺณนา
๒๐๙. ปวารณกฺขนฺธเก ¶ ¶ อาทิโต ลาโป อาลาโป, วจนปฏิวจนวเสน สมํ ลาโป สลฺลาโป. ปิณฺฑาย ปฏิกฺกเมยฺยาติ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. อวกฺการปาตึ โธวิตฺวา อุปฏฺาเปยฺยาติ อติเรกปิณฺฑปาตํ อปเนตฺวา ปนตฺถาย เอกํ สมุคฺคปาตึ โธวิตฺวา เปยฺย. สมุคฺคปาติ นาม สมุคฺคปุฏสทิสา ปาติ. อปฺปหริเตติ อปรูฬฺหหริเต, ยสฺมึ าเน ปิณฺฑปาตชฺโฌตฺถรเณน วินสฺสนธมฺมานิ ติณานิ นตฺถิ, ตสฺมินฺติ อตฺโถ. เตน นิตฺติณฺจ มหาติณคหนฺจ ยตฺถ สกเฏนปิ ฉฑฺฑิเต ปิณฺฑปาเต ติณานิ น วินสฺสนฺติ, ตฺจ านํ ปริคฺคหิตํ โหติ. ภูตคามสิกฺขาปทสฺส หิ อวิโกปนตฺถเมตํ วุตฺตํ. อปฺปาณเกติ นิปฺปาณเก, ปิณฺฑปาตชฺโฌตฺถรเณน มริตพฺพปาณกรหิเต วา มหาอุทกกฺขนฺเธ. ปริตฺโตทเก เอว หิ ภตฺตปกฺเขเปน อาลุฬิเต สุขุมปาณกา มรนฺติ, น มหาตฬากาทีสูติ. ปาณกานุรกฺขณตฺถฺหิ เอตํ วุตฺตํ. โอปิลาเปยฺยาติ นิมุชฺชาเปยฺย.
วจฺจฆฏนฺติ อาจมนกุมฺภี. ริตฺตนฺติ ริตฺตกํ. ตุจฺฉนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อวิสยฺหนฺติ อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อติภาริกํ. หตฺถวิกาเรนาติ หตฺถสฺาย. หตฺเถหิ อุกฺขิปนํ หตฺถวิลงฺฆนํ. เตนาห ‘‘หตฺถุกฺเขปเกนา’’ติ. อถ วา วิลงฺเฆติ เทสนฺตรํ ปาเปติ เอเตนาติ วิลงฺฆโก, หตฺโถ เอว วิลงฺฆโก หตฺถวิลงฺฆโก, เตน หตฺถวิลงฺฆเกน, อฺมฺํ สํสิพฺพิตหตฺเถนาติ วุตฺตํ โหติ. ทฺเว หิ ชนา หตฺเถน หตฺถํ สํสิพฺเพตฺวา ทฺวีสุ หตฺเถสุ เปตฺวา อุฏฺเปนฺตา หตฺถวิลงฺฆเกน อุฏฺเปนฺติ นาม. ติตฺถิยสมาทานนฺติ ติตฺถิเยหิ สมาทาตพฺพํ.
อผาสุกวิหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปวารณาเภทกถาวณฺณนา
๒๑๒. ทฺเวมา ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ปวารณา จาตุทฺทสิกา จ ปนฺนรสิกา จาติ เอตฺถ ปุริมวสฺสํวุตฺถานํ ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา, เตสํเยว สเจ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา ปวารณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนฺติ, อถ กตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขจาตุทฺทโส วา ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา วา, ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานฺจ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา เอว วาติ อิเม ตโย ปวารณทิวสาติ เวทิตพฺพา. อิทฺจ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ, ตถารูปปจฺจเย ปน สติ ทฺวินฺนํ กตฺติกปุณฺณมานํ ปุริเมสุ จาตุทฺทเสสุปิ ปวารณํ กาตุํ วฏฺฏติ, เตเนว มหาวิหาเร ภิกฺขู จาตุทฺทสิยา ปวาเรตฺวา ปนฺนรสิยา กายสามคฺคึ เทนฺติ, เจติยคิริมหทสฺสนตฺถมฺปิ อฏฺมิยา คจฺฉนฺติ, ตมฺปิ จาตุทฺทสิยํ ปวาเรตุกามานฺเว โหติ.
ปวารณาทานานุชานนกถาวณฺณนา
๒๑๓. สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหตีติ สเจ ปวารณทายโก ภิกฺขุ วุฑฺฒตโร โหติ. เตน จ ภิกฺขุนาติ ปวารณทายเกน ภิกฺขุนา.
อนาปตฺติปนฺนรสกกถาวณฺณนา
๒๒๒. ปนฺนรสเกสุ ปวาริตมตฺเตติ ปวาริตสมนนฺตรํ. อวุฏฺิตาย ปริสายาติ ปวาเรตฺวา ปจฺฉา อฺมฺํ กเถนฺติยา. เอกจฺจาย วุฏฺิตายาติ เอกจฺเจสุ ยถานิสินฺเนสุ เอกจฺเจสุ สกสกฏฺานํ คเตสุ. ปุน ปวาริตพฺพนฺติ ปุนปิ สพฺเพหิ สมาคนฺตฺวา ปวาเรตพฺพํ. อาคจฺฉนฺติ สมสมา, เตสํ สนฺติเก ปวาเรตพฺพนฺติ คเต อนาเนตฺวา นิสินฺนานฺเว สนฺติเก ปวาเรตพฺพํ. สพฺพาย วุฏฺิตาย ปริสาย อาคจฺฉนฺติ สมสมา, เตสํ สนฺติเก ปวาเรตพฺพนฺติ ยทิ สพฺเพ วุฏฺหิตฺวา คตา สนฺนิปาเตตฺุจ น สกฺกา, เอกจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ปวาเรตุํ วฏฺฏติ, ตฺตึ เปตฺวา กตฺตพฺพสงฺฆกมฺมาภาวา วคฺคํ น โหติ. อุโปสเถปิ เอเสว นโย.
ปวารณาปนกถาวณฺณนา
๒๓๗. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ. ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา ¶ , น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติอาทินา สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตํ อนฺตํ คณฺหาตีติ อนฺตคฺคาหิกา.
ภณฺฑนการกวตฺถุกถาวณฺณนา
๒๔๐. จตุตฺเถ ¶ กเต สุณนฺตีติ จตุตฺเถ ปนฺนรสิกุโปสเถ กเต อมฺหากํ ปวารณํ เปสฺสนฺตีติ สุณนฺติ. เอวมฺปิ ทฺเว จาตุทฺทสิกา โหนฺตีติ ตติเยน สทฺธึ ทฺเว จาตุทฺทสิกา โหนฺติ.
ปวารณาสงฺคหกถาวณฺณนา
๒๔๑. อยํ ปวารณาสงฺคโห เอกสฺส ทินฺโนปิ สพฺเพสํ ทินฺโนว โหตีติ อาห ‘‘เอกสฺสปิ วเสน ทาตพฺโพ’’ติ. อาคนฺตุกา เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺตีติ สเจปิ สฏฺิวสฺสภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตสํ เสนาสนํ คเหตุํ น ลภนฺติ. ปวาเรตฺวา ปน อนฺตราปิ จาริกํ ปกฺกมิตุํ ลภนฺตีติ ปวารณาสงฺคเห กเต อนฺตรา ปกฺกมิตุกามา สงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ปวาเรตุํ ลภนฺติ. เสสเมตฺถ ปาฬิโต อฏฺกถาโต จ สุวิฺเยฺยเมว.
ปวารณกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.