📜

๖. เภสชฺชกฺขนฺธกํ

ปฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา

๒๖๑. เภสชฺชกฺขนฺธเก นจฺฉาเทนฺตีติ รุจึ น อุปฺปาเทนฺติ.

๒๖๒. สุสุกาติ สมุทฺเท ภวา เอกา มจฺฉชาติ. กุมฺภีลาติปิ วทนฺติ. สํสฏฺนฺติ ปริสฺสาวิตํ. เตลปริโภเคนาติ สตฺตาหกาลิกปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๖๓. ปิฏฺเหีติ ปิสิเตหิ. อุพฺภิทํ นาม อูสรปํสุมยํ.

๒๖๔. ฉกณนฺติ โคมยํ. ปากติกจุณฺณํ นาม อปกฺกกสาวจุณฺณํ. เตน เปตฺวา คนฺธจุณฺณํ สพฺพํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

๒๖๕. สุวณฺณเครุโกติ สุวณฺณตุตฺถาทิ. อฺชนูปปิสนนฺติ อฺชนตฺถาย อุปปิสิตพฺพํ ยํ กิฺจิ จุณฺณชาตํ.

๒๖๘. สามํ คเหตฺวาติ เอตฺถ สปฺปทฏฺสฺส อตฺถาย อฺเน ภิกฺขุนา คหิตมฺปิ สามํ คหิตสงฺขเมว คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๖๙. ฆรทินฺนกาพาโธ นาม วสีกรณตฺถาย ฆรณิยา ทินฺนเภสชฺชสมุฏฺิโต อาพาโธ. เตนาห ‘‘วสีกรณปาณกสมุฏฺิตโรโค’’ติ. ฆร-สทฺโท เจตฺถ อเภเทน ฆรณิยา วตฺตมาโน อธิปฺเปโต. ‘‘อกฏยูเสนาติ อนภิสงฺขเตน มุคฺคยูเสน. กฏากเฏนาติ มุคฺเค ปจิตฺวา อจาเลตฺวาว ปริสฺสาวิเตน มุคฺคสูเปนา’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.

คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา

๒๗๒. คุฬกรณนฺติ คุฬกรณฏฺานํ, อุจฺฉุสาลนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๒๗๔. อวิสฺสตฺถาติ สาสงฺกา.

๒๗๖. อปฺปมตฺตเกปิปวาเรนฺตีติ อปฺปมตฺตเกปิ คหิเต ปวาเรนฺติ, ‘‘พหุมฺหิ คหิเต อฺเสํ นปฺปโหตี’’ติ มฺมานา อปฺปมตฺตกํ คเหตฺวา ปวาเรนฺตีติ อธิปฺปาโย. ปฏิสงฺขาปิ ปฏิกฺขิปนฺตีติ ‘‘ทิวา โภชนตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ.

๒๗๙. สมฺพาเธ ทหนกมฺมํ ปฏิกฺเขปาภาโว วฏฺฏติ.

๒๘๐. อุภโตปสนฺนาติ อุภยโต ปสนฺนา. มาฆาโตติ ‘‘มา ฆาเตถ ปาณิโน’’ติ เอวํ มาฆาตโฆสิตทิวโส.

ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา

๒๘๒. มธุโคฬกนฺติ สกฺกราทิสํยุตฺตปูวํ. อายุํ เทตีติ อายุทานํ เทติ. วณฺณนฺติ สรีรวณฺณํ. สุขนฺติ กายิกเจตสิกสุขํ. พลนฺติ สรีรถามํ. ปฏิภานนฺติ ยุตฺตมุตฺตปฏิภานํ. วาตํ อนุโลเมตีติ วาตํ อนุโลเมตฺวา หรติ. วตฺถึ โสเธตีติ ธมนิโย สุทฺธํ กโรติ. อามาวเสสํ ปาเจตีติ สเจ อามาวเสสกํ โหติ, ตํ ปาเจติ. อนุปฺปเวจฺฉตีติ เทติ. วาตฺจ พฺยปเนตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ.

๒๘๓. นนุ จ ‘‘ปรมฺปรโภชเนน กาเรตพฺโพ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. ปรมฺปรโภชนฺหิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺติตสฺส ตํ เปตฺวา อฺํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภุฺชนฺตสฺส โหติ, อิเม จ ภิกฺขู โภชฺชยาคุํ ปริภุฺชึสุ, ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรนฺติ อาห ‘‘โภชฺชยาคุยา หิ ปวารณา โหตี’’ติ. ยสฺมา ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส วุตฺตา ปวารณา โภชฺชยาคุํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺสปิ โหติเยว, ตสฺมา โภชฺชยาคุปิ โอทนคติกาเยวาติ อธิปฺปาโย.

๒๘๔. สุขุโมชํปกฺขิปึสูติ ‘‘ภควา ปริภุฺชิสฺสตี’’ติ มฺมานา ปกฺขิปึสุ.

ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา

๒๘๕. ปาฏลิคาโมติ (อุทา. อฏฺ. ๗๖) เอวํนามโก มคธรฏฺเ เอโก คาโม. ตสฺส กิร คามสฺส มาปนทิวเส คามงฺคณฏฺาเน ทฺเว ตโย ปาฏลงฺกุรา ปถวิโต อุพฺภิชฺชิตฺวา นิกฺขมึสุ. เตน ตํ ‘‘ปาฏลิคาโม’’ ตฺเวว โวหรึสุ. ตทวสรีติ ตํ ปาฏลิคามํ อวสริ อนุปาปุณิ. ปาฏลิคามิกาติ ปาฏลิคามวาสิโน. อุปาสกาติ เต กิร ภควโต ปมทสฺสเนน เกจิ สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺิตา. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปาสกา’’ติ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ ปาฏลิคาเม กิร อชาตสตฺตุโน ลิจฺฉวิราชูนฺจ มนุสฺสา กาเลน กาลํ คนฺตฺวา เคหสามิเก เคหโต นีหริตฺวา มาสมฺปิ อฑฺฒมาสมฺปิ วสนฺติ. เตน ปาฏลิคามวาสิโน มนุสฺสา นิจฺจุปทฺทุตา ‘‘เอเตสฺเจว อาคตกาเล วสนฏฺานํ ภวิสฺสตีติ เอกปสฺเส อิสฺสรานํ ภณฺฑปฏิสามนฏฺานํ, เอกปสฺเส วสนฏฺานํ, เอกปสฺเส อาคนฺตุกานํ อทฺธิกมนุสฺสานํ, เอกปสฺเส ทลิทฺทานํ กปณมนุสฺสานํ, เอกปสฺเส คิลานานํ วสนฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ สพฺเพสํ อฺมฺํ อฆฏฺเฏตฺวา วสนปฺปโหนกํ นครมชฺเฌ มหตึ สาลํ กาเรสุํ, ตสฺส นามํ อาวสถาคารนฺติ. อาคนฺตฺวา วสนฺติ เอตฺถ อาคนฺตุกาติ อาวสโถ, ตเทว อาคารํ อาวสถาคารํ.

ตํ ทิวสฺจ ตํ นิฏฺานํ อคมาสิ. เต ตตฺถ คนฺตฺวา อิฏฺกกมฺมสุธากมฺมจิตฺตกมฺมาทิวเสน สุปรินิฏฺิตํ สุสชฺชิตํ เทววิมานสทิสํ ทฺวารโกฏฺกโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ อาวสถาคารํ อติวิย มโนรมํ สสฺสิริกํ, เกน นุ โข ปมํ ปริภุตฺตํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย อสฺสา’’ติ จินฺเตสุํ, ตสฺมึเยว จ ขเณ ‘‘ภควา ตํ คามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ อสฺโสสุํ, เตน เต อุปฺปนฺนปีติโสมนสฺสา ‘‘อมฺเหหิ ภควา คนฺตฺวาปิ อาเนตพฺโพ สิยา, โส สยเมว อมฺหากํ วสนฏฺานํ สมฺปตฺโต, อชฺช มยํ ภควนฺตํ อิธ วสาเปตฺวา ปมํ ปริภุฺชาเปสฺสาม, ตถา ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุสงฺเฆ อาคเต เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อาคตเมว ภวิสฺสติ, สตฺถารํ มงฺคลํ วทาเปสฺสาม, ธมฺมํ กถาเปสฺสาม, อิติ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺเต ปจฺฉา อมฺหากํ ปเรสฺจ ปริโภโค ภวิสฺสติ, เอวํ โน ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา เอตทตฺถเมว ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ. ตสฺมา เอวมาหํสุ ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควาอาวสถาคาร’’นฺติ. เตนุปสงฺกมึสูติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๒๙๗-๒๙๘; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒) กิฺจาปิ ตํ ทิวสเมว ปรินิฏฺิตตฺตา เทววิมานํ วิย สุสชฺชิตํ สุปฏิชคฺคิตํ, พุทฺธารหํ ปน กตฺวา น ปฺตฺตํ. พุทฺธา หิ นาม อรฺชฺฌาสยา อรฺารามา, อนฺโตคาเม วเสยฺยุํ วา โน วา, ตสฺมา ภควโต รุจึ ชานิตฺวาว ปฺเปสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมึสุ, อิทานิ ภควโต รุจึ ชานิตฺวา ตถา ปฺาเปตุกามา เยนาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ. สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวาติ เอตฺถ สนฺถรณํ สนฺถริ, สพฺโพ สกโล สนฺถริ เอตฺถาติ สพฺพสนฺถริ. อถ วา สนฺถตนฺติ สนฺถริ, สพฺพํ สนฺถริ สพฺพสนฺถริ, ตํ สพฺพสนฺถรึ. ภาวนปุํสกนิทฺเทโสวายํ, ยถา สพฺพเมว สนฺถตํ โหติ, เอวํ สนฺถริตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพปมํ ตาว ‘‘โคมยํ นาม สพฺพมงฺคเลสุ วฏฺฏตี’’ติ สุธาปริกมฺมกตมฺปิ ภูมึ อลฺลโคมเยน โอปุฺชาเปตฺวา ปริสุกฺขภาวํ ตฺวา ยถา อกฺกนฺตฏฺาเน ปทํ ปฺายติ, เอวํ จาตุชฺชาติยคนฺเธหิ ลิมฺเปตฺวา อุปริ นานาวณฺณกฏสารเก สนฺถริตฺวา เตสํ อุปริ มหาปิฏฺิกโกชเว อาทึ กตฺวา หตฺถตฺถรณาทีหิ นานาวณฺเณหิ อตฺถรเณหิ สนฺถริตพฺพยุตฺตกํ สพฺโพกาสํ สนฺถราเปสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพสนฺถรึ อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา’’ติ.

อาสนานีติ มชฺฌฏฺาเน ตาว มงฺคลตฺถมฺภํ นิสฺสาย มหารหํ พุทฺธาสนํ ปฺเปตฺวา ตตฺถ ยํ ยํ มุทุกฺจ มโนรมฺจ ปจฺจตฺถรณํ, ตํ ตํ อตฺถริตฺวา อุภโตโลหิตกํ มนุฺทสฺสนํ อุปธานํ อุปทหิตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกวิจิตฺตวิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธทามปุปฺผทามปตฺตาทามาทีหิ อลงฺกริตฺวา สมนฺตา ทฺวาทสหตฺเถ าเน ปุปฺผชาลํ กาเรตฺวา ตึสหตฺถมตฺตํ านํ ปฏสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา ปจฺฉิมภิตฺตึ นิสฺสาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปลฺลงฺกปีอปสฺสยปีมุณฺฑปีาทีนิ ปฺปาเปตฺวา อุปริ เสตปจฺจตฺถรเณหิ ปจฺจตฺถราเปตฺวา สาลาย ปาจีนปสฺสํ อตฺตโน นิสชฺชาโยคฺคํ กาเรสุํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาสนานิ ปฺเปตฺวา’’ติ.

อุทกมณิกนฺติ มหากุจฺฉิกํ สเมขลํ อุทกจาฏึ. เอวํ ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ จ ยถารุจิยา หตฺถปาเท โธวิสฺสนฺติ, มุขํ วิกฺขาเลสฺสนฺตีติ เตสุ เตสุ าเนสุ มณิวณฺณสฺส อุทกสฺส ปูเรตฺวา วาสตฺถาย นานาปุปฺผานิ เจว อุทกวาสจุณฺณานิ จ ปกฺขิปิตฺวา กทลิปณฺเณหิ ปิทหิตฺวา ปติฏฺเปสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ.

เตลปทีปํ อาโรเปตฺวาติ รชตสุวณฺณาทิมยทณฺฑาสุ ทณฺฑทีปิกาสุ โยนกรูปกาทีนํ หตฺเถ ปิตสุวณฺณรชตาทิมยกปลฺลิกาสุ จ เตลปทีเป ชลยิตฺวา. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ เอตฺถ ปน เต ปาฏลิคามิกอุปาสกา น เกวลํ อาวสถาคารเมว, อถ โข สกลสฺมิมฺปิ คาเม วีถิโย สชฺชาเปตฺวา ธเช อุสฺสาเปตฺวา เคหทฺวาเรสุ ปุณฺณฆเฏ จ กทลิอาทโย จ ปาเปตฺวา สกลคามํ ทีปมาลาหิ วิปฺปกิณฺณตารกํ วิย กตฺวา ‘‘ขีรปเก ทารเก ขีรํ ปาเยถ, ทหรกุมาเร ลหุํ ลหุํ โภเชตฺวา สยาเปถ, อุจฺจาสทฺทํ มา กริตฺถ, อชฺช เอกรตฺตึ สตฺถา อนฺโตคาเม วสิสฺสติ, พุทฺธา นาม อปฺปสทฺทกามา โหนฺตี’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สยํ ทณฺฑทีปิกา อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ.

อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมีติ ‘‘ยสฺส ทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ เอวํ กิร เตหิ กาเล อาโรจิเต ภควา ลาขารเสน ตินฺตรตฺตโกวิฬารปุปฺผวณฺณํ สุรตฺตํ ทุปฏฺฏํ กตฺตริยา ปทุมํ กนฺเตนฺโต วิย, สํวิธาย ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต นิวาเสตฺวา สุวณฺณปามงฺเคน ปทุมกลาปํ ปริกฺขิปนฺโต วิย, วิชฺชุลตาสสฺสิริกํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา รตฺตกมฺพเลน คชกุมฺภํ ปริโยนนฺธนฺโต วิย, รตนสตุพฺเพเธ สุวณฺณคฺฆิเก ปวาฬชาลํ ขิปมาโน วิย, มหติ สุวณฺณเจติเย รตฺตกมฺพลกฺจุกํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย, คจฺฉนฺตํ ปุณฺณจนฺทํ รตฺตวลาหเกน ปฏิจฺฉาทยมาโน วิย, กฺจนคิริมตฺถเก สุปกฺกลาขารสํ ปริสิฺจนฺโต วิย, จิตฺตกูฏปพฺพตมตฺถกํ วิชฺชุลตาชาเลน ปริกฺขิปนฺโต วิย จ สจกฺกวาฬสิเนรุยุคนฺธรมหาปถวึ จาเลตฺวา คหิตนิคฺโรธปลฺลวสมานวณฺณํ รตฺตวรปํสุกูลํ ปารุปิตฺวา วนคหนโต เกสรสีโห วิย, อุทยปพฺพตกูฏโต ปุณฺณจนฺโท วิย, พาลสูริโย วิย จ อตฺตนา นิสินฺนตรุสณฺฑโต นิกฺขมิ.

อถสฺส กายโต เมฆมุขโต วิชฺชุกลาปา วิย รสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสธาราปริเสกปิฺชรปตฺตปุปฺผผลสาขาวิฏเป วิย สมนฺตโต รุกฺเข กรึสุ. ตาวเทว อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย มหาภิกฺขุสงฺโฆ ภควนฺตํ ปริวาเรสิ. เต จ นํ ปริวาเรตฺวา ิตภิกฺขู เอวรูปา อเหสุํ อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา อารทฺธวีริยา วตฺตาโร วจนกฺขมา โจทกา ปาปครหิโน สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาสมฺปนฺนา วิมุตฺติสมฺปนฺนา วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺนา. เตหิ ปริวาริโต ภควา รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณกฺขนฺโธ, รตฺตปทุมสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา, ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย สุวณฺณปาสาโท วิโรจิตฺถ. มหากสฺสปปฺปมุขา ปน มหาเถรา เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ปารุปิตฺวา มณิวมฺมวมฺมิตา วิย มหานาคา ปริวารยึสุ วีตราคา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา.

อิติ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, วีตโทโส วีตโทเสหิ, วีตโมโห วีตโมเหหิ , นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺเหหิ, นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ อนุพุทฺเธหิ ปริวาริโต ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺตี, มรุคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริตมหาพฺรหฺมา, ตาราคณปริวุโต วิย ปุณฺณจนฺโท อสเมน พุทฺธเวเสน อปริมาเณน พุทฺธวิลาเสน ปาฏลิคามีนํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.

อถสฺส ปุรตฺถิมกายโต สุวณฺณวณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, ปจฺฉิมกายโต ทกฺขิณปสฺสโต วามปสฺสโต สุวณฺณวณฺณา ฆนรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, อุปริเกสนฺตโต ปฏฺาย สพฺพเกสาวตฺเตหิ โมรคีววณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา คคนตเล อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, เหฏฺาปาทตเลหิ ปวาฬวณฺณา รสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา ฆนปถวิยํ อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, ทนฺตโต อกฺขีนํ เสตฏฺานโต, นขานฺจ มํสวินิมุตฺตฏฺานโต โอทาตา ฆนพุทฺธรสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, รตฺตปีตวณฺณานํ สมฺภินฺนฏฺานโต มฺชิฏฺวณฺณา รสฺมิโย อุฏฺหิตฺวา อสีติหตฺถํ านํ อคฺคเหสุํ, สพฺพตฺถกเมว ปภสฺสรา รสฺมิโย อุฏฺหึสุ. เอวํ สมนฺตา อสีติหตฺถมตฺตํ านํ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย วิชฺโชตมานา วิปฺผนฺทมานา วิธาวมานา กฺจนทณฺฑทีปิกาหิ นิจฺฉริตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทมานา มหาปทีปชาลา วิย, จาตุทฺทีปิกมหาเมฆโต นิกฺขนฺตวิชฺชุลตา วิย จ ทิโสทิสํ ปกฺขนฺทึสุ. ยาหิ สพฺพทิสาภาคา สุวณฺณจมฺปกปุปฺเผหิ วิกิริยมานา วิย, สุวณฺณฆฏโต นิกฺขนฺตสุวณฺณรสธาราหิ อาสิฺจิยมานา วิย, ปสาริตสุวณฺณปฏฺฏปริกฺขิตฺตา วิย, เวรมฺภวาตสมุทฺธตกึสุกกณิการกิกิราตปุปฺผจุณฺณสโมกิณฺณา วิย จีนปิฏฺจุณฺณสมฺปริรฺชิตา วิย จ วิโรจึสุ.

ภควโตปิ อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาปริกฺเขปสมุชฺชลํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ สรีรํ อพฺภมหิกาทิอุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ สมุชฺชลตารกปภาสิตํ วิย คคนตลํ, วิกสิตํ วิย ปทุมวนํ, สพฺพปาลิผุลฺโล วิย โยชนสติโก ปาริจฺฉตฺตโก, ปฏิปาฏิยา ปิตานํ ทฺวตฺตึสจนฺทานํ ทฺวตฺตึสสูริยานํ ทฺวตฺตึสจกฺกวตฺตีนํ ทฺวตฺตึสเทวราชานํ ทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิริยา สิรึ อภิภวมานํ วิย วิโรจิตฺถ, ยถา ตํ ทสหิ ปารมีหิ ทสหิ อุปปารมีหิ ทสหิ ปรมตฺถปารมีหีติ สมฺมเทว ปริปูริตาหิ สมตึสาย ปารมีหิ อลงฺกตํ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทินฺเนน ทาเนน รกฺขิเตน สีเลน กเตน กลฺยาณกมฺเมน เอกสฺมึ อตฺตภาเว สโมสริตฺวา วิปากํ ทาตุํ โอกาสํ อลภมาเนน สมฺพาธปฺปตฺเตน วิย นิพฺพตฺติตํ นาวาสหสฺสสฺส ภณฺฑํ เอกํ นาวํ อาโรปนกาโล วิย, สกฏสหสฺสสฺส ภณฺฑํ เอกํ สกฏํ อาโรปนกาโล วิย, ปฺจวีสติยา คงฺคานํ สมฺภิชฺช มุขทฺวาเร เอกโต ราสีภูตกาโล วิย จ อโหสิ.

อิมาย พุทฺธรสฺมิยา โอภาสมานสฺสปิ ภควโต ปุรโต อเนกานิ ทณฺฑทีปิกาสหสฺสานิ อุกฺขิปึสุ, ตถา ปจฺฉโต วามปสฺเส ทกฺขิณปสฺเส. ชาติสุมนจมฺปกวนมาลิการตฺตุปฺปลนีลุปฺปลพกุลสินฺทุวาราทิปุปฺผานิ เจว นีลปีตาทิวณฺณสุคนฺธคนฺธจุณฺณานิ จ จาตุทฺทีปิกมหอาเมฆวิสฺสฏฺา สลิลวุฏฺิโย วิย วิปฺปกิรึสุ. ปฺจงฺคิกตูริยนิคฺโฆสา เจว พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณปฏิสํยุตฺตา ถุติโฆสา จ สพฺพา ทิสา ปูรยมานา มุขรา วิย อกํสุ. เทวสุปณฺณนาคยกฺขคนฺธพฺพมนุสฺสานํ อกฺขีนิ อมตปานํ วิย ลภึสุ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา ปทสหสฺเสหิ คมนวณฺณํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺริทํ มุขมตฺตํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒; อุทา. อฏฺ. ๗๖) –

‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺโน, กมฺปยนฺโต วสุนฺธรํ;

อเหยนฺโต ปาณานิ, ยาติ โลกวินายโก.

‘‘ทกฺขิณํ ปมํ ปาทํ, อุทฺธรนฺโต นราสโภ;

คจฺฉนฺโต สิริสมฺปนฺโน, โสภเต ทฺวิปทุตฺตโม.

‘‘คจฺฉโต พุทฺธเสฏฺสฺส, เหฏฺาปาทตลํ มุทุ;

สมํ สมฺผุสเต ภูมึ, รชสานุปลิมฺปติ.

‘‘นินฺนํ านํ อุนฺนมติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก;

อุนฺนตฺจ สมํ โหติ, ปถวี จ อเจตนา.

‘‘ปาสาณา สกฺขรา เจว, กถลา ขาณุกณฺฏกา;

สพฺเพ มคฺคา วิวชฺชนฺติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก.

‘‘นาติทูเร อุทฺธรติ, นาจฺจาสนฺเน จ นิกฺขิปํ;

อฆฏฺฏยนฺโต นิยฺยาติ, อุโภ ชาณู จ โคปฺผเก.

‘‘นาติสีฆํ ปกฺกมติ, สมฺปนฺนจรโณ มุนิ;

น จาติสณิกํ ยาติ, คจฺฉมาโน สมาหิโต.

‘‘อุทฺธํ อโธ ติริยฺจ, ทิสฺจ วิทิสํ ตถา;

น เปกฺขมาโน โส ยาติ, ยุคมตฺตฺหิ เปกฺขติ.

‘‘นาควิกฺกนฺตจาโร โส, คมเน โสภเต ชิโน;

จารุ คจฺฉติ โลกคฺโค, หาสยนฺโต สเทวเก.

‘‘อุสภราชาว โสภนฺโต, จาตุจารีว เกสรี;

โตสยนฺโต พหู สตฺเต, คามเสฏฺํ อุปาคมี’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒; อุทา. อฏฺ. ๗๖);

วณฺณกาโล นาม กิเรส. เอวํวิเธสุ กาเลสุ ภควโต สรีรวณฺเณ วา คุณวณฺเณ วา ธมฺมกถิกสฺส ถาโมเยว ปมาณํ. จุณฺณิยปเทหิ คาถาพนฺเธหิ วา ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ, ‘‘ทุกฺกถิต’’นฺติ วา ‘‘อติตฺเถน ปกฺขนฺโท’’ติ วา น วตฺตพฺโพ. อปริมาณวณฺณา หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เตสํ พุทฺธาปิ อนวเสสโต วณฺณํ วตฺตุํ อสมตฺถา. สกลมฺปิ หิ กปฺปํ วทนฺตา ปริโยสาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, ปเคว อิตรา ปชาติ. อิมินา สิริวิลาเสน อลงฺกตปฏิยตฺตํ ปาฏลิคามํ ปวิสิตฺวา ภควา ปสนฺนจิตฺเตน ชเนน ปุปฺผคนฺธธูมวาสจุณฺณาทีหิ ปูชิยมาโน อาวสถาคารํ ปาวิสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.

ปาเท ปกฺขาเลตฺวาติ ยทิปิ ภควโต ปาเท รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ, เตสํ ปน อุปาสกานํ กุสลาภิวุทฺธึ อากงฺขนฺโต ปเรสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนตฺถํ ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิ. อปิจ อุปาทินฺนกสรีรํ นาม สีติกาตพฺพมฺปิ โหตีติ ตทตฺถมฺปิ ภควา นหานปาทโธวนานิ กโรติเยว. ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาติ ภควนฺตํ ปุรโต กตฺวา. ตตฺถ ภควา ภิกฺขูนฺเจว อุปาสกานฺจ มชฺเฌ นิสินฺโน คนฺโธทเกน นหาเปตฺวา ทุกูลจุมฺพเฏน โวทกํ กตฺวา ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา รตฺตกมฺพลปลิเวิเต ปีเ ปิตา รตฺตสุวณฺณฆนปฏิมา วิย อติวิย วิโรจิตฺถ. อยํ ปเนตฺถ โปราณานํ วณฺณภณนมคฺโค –

‘‘คนฺตฺวาน มณฺฑลมาฬํ, นาควิกฺกนฺตจารโณ;

โอภาสยนฺโต โลกคฺโค, นิสีทิ วรมาสเน.

‘‘ตหึ นิสินฺโน นรทมฺมสารถิ,

เทวาติเทโว สตปุฺลกฺขโณ;

พุทฺธาสเน มชฺฌคโต วิโรจติ,

สุวณฺณเนกฺขํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล.

‘‘เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, นิกฺขิตฺตํ ปณฺฑุกมฺพเล;

วิโรจติ วีตมโล, มณิ เวโรจโน ยถา.

‘‘มหาสาโลว สมฺผุลฺโล, เมรุราชาวลงฺกโต;

สุวณฺณถูปสงฺกาโส, ปทุโม โกสโก ยถา.

‘‘ชลนฺโต ทีปรุกฺโขว, ปพฺพตคฺเค ยถา สิขี;

เทวานํ ปาริจฺฉตฺโตว, สพฺพผุลฺโล วิโรจถา’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒; อุทา. อฏฺ. ๗๖);

ปาฏลิคามิเก อุปาสเก อามนฺเตสีติ ยสฺมา เตสุ อุปาสเกสุ พหู ชนา สีเล ปติฏฺิตา, ตสฺมา ปมํ ตาว สีลวิปตฺติยา อาทีนวํ ปกาเสตฺวา ปจฺฉา สีลสมฺปทาย อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจิเม คหปตโย’’ติอาทินา ธมฺมเทสนตฺถํ อามนฺเตสิ. ตตฺถ ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโล (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๔๙; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๒๑๓; อุทา. อฏฺ. ๗๖). อภาวตฺโถ เหตฺถ ทุ-สทฺโท ‘‘ทุปฺปฺโ’’ติอาทีสุ วิย. สีลวิปนฺโนติ วิปนฺนสีโล ภินฺนสํวโร. เอตฺถ จ ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ ปเทน ปุคฺคลสฺส สีลาภาโว วุตฺโต. โส ปนสฺส สีลาภาโว ทุวิโธ อสมาทาเนน วา สมาทินฺนสฺส เภเทน วาติ. เตสุ ปุริโม น ตถา สาวชฺโช, ยถา ทุติโย สาวชฺชตโร. ยถาธิปฺเปตาทีนวนิมิตฺตํ สีลาภาวํ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ทสฺเสตุํ ‘‘สีลวิปนฺโน’’ติ วุตฺตํ, เตน ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ. ปมาทาธิกรณนฺติ ปมาทการณา. อิทฺจ สุตฺตํ คหฏฺานํ วเสน อาคตํ, ปพฺพชิตานมฺปิ ปน ลพฺภเตว. คหฏฺโ หิ เยน เยน สิปฺปฏฺาเนน ชีวิกํ กปฺเปติ ยทิ กสิยา ยทิ วณิชฺชาย ยทิ โครกฺเขน. ปาณาติปาตาทิวเสน ปมตฺโต ตํ ตํ ยถากาลํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, อถสฺส กมฺมํ วินสฺสติ. มาฆาตกาเล ปาณาติปาตํ ปน อทินฺนาทานาทีนิ จ กโรนฺโต ทณฺฑวเสน มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. ปพฺพชิโต ทุสฺสีโล ปมาทการณา สีลโต พุทฺธวจนโต ฌานโต สตฺตอริยธนโต จ ชานึ นิคจฺฉติ.

ปาปโก กิตฺติสทฺโทติ คหฏฺสฺส ‘‘อสุโก อสุกกุเล ชาโต ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม ปริจฺจตฺตอิธโลกปรโลโก สลากภตฺตมตฺตมฺปิ น เทตี’’ติ จตุปริสมชฺเฌ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. ปพฺพชิตสฺส ‘‘อสุโก นาม สตฺถุสาสเน ปพฺพชิตฺวา นาสกฺขิ สีลานิ รกฺขิตุํ, น พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตุํ, เวชฺชกมฺมาทีหิ ชีวติ, ฉหิ อคารเวหิ สมนฺนาคโต’’ติ เอวํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ.

อวิสารโทติ คหฏฺโ ตาว ‘‘อวสฺสํ พหูนํ สนฺนิปาตฏฺาเน โกจิ มม กมฺมํ ชานิสฺสติ, อถ มํ นิคฺคณฺหิสฺสนฺตี’’ติ วา, ‘‘ราชกุลสฺส วา ทสฺสนฺตี’’ติ สภโย อุปสงฺกมติ, มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข นิสีทติ, วิสารโท หุตฺวา กเถตุํ น สกฺโกติ. ปพฺพชิโตปิ ‘‘พหู ภิกฺขู สนฺนิปติตา, อวสฺสํ โกจิ มม กมฺมํ ชานิสฺสติ, อถ เม อุโปสถมฺปิ ปวารณมฺปิ เปตฺวา สามฺโต จาเวตฺวา นิกฺกฑฺฒิสฺสนฺตี’’ติ สภโย อุปสงฺกมติ, วิสารโท หุตฺวา กเถตุํ น สกฺโกติ. เอกจฺโจ ปน ทุสฺสีโลปิ สมาโน ทปฺปิโต วิย วทติ, โสปิ อชฺฌาสเยน มงฺกุ โหติเยว วิปฺปฏิสารีภาวโต.

สมฺมูฬฺโหกาลํ กโรตีติ ทุสฺสีลสฺส หิ มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ทุสฺสีลฺยกมฺมานํ สมาทาย วตฺติตฏฺานานิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ. โส อุมฺมีเลตฺวา อตฺตโน ปุตฺตทาราทิทสฺสนวเสน อิธโลกํ ปสฺสติ, นิมีเลตฺวา คตินิมิตฺตุปฏฺานวเสน ปรโลกํ ปสฺสติ, ตสฺส จตฺตาโร อปายา กมฺมานุรูปํ อุปฏฺหนฺติ. สตฺติสเตน ปหริยมาโน วิย อคฺคิชาลาย อาลิงฺคิยมาโน วิย จ โหติ. โส ‘‘วาเรถ วาเรถา’’ติ วิรวนฺโตว มรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตี’’ติ.

กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํ. อปายนฺติอาทิ สพฺพํ นิรยเววจนํ. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปุฺสงฺขาตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อาคมนสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ เอตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ นิปตนฺติ สํภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.

อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ ทีเปติ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. เปตมหิทฺธิกานํ วิมานานิปิ นิพฺพตฺตนฺติ. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ ทีเปติ. โส หิ ยถาวุตฺเตนตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมฺปตฺติสมุสฺสเยหิ วินิปาตตฺตา วินิปาโตติ จ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน ปน อวีจิอาทิกํ อเนกปฺปการํ นิรยเมว ทีเปติ. อุปปชฺชตีติ นิพฺพตฺตติ.

อานิสํสกถา วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส – สีลวาติ สมาทานวเสน สีลวา. สีลสมฺปนฺโนติ ปริสุทฺธํ ปริปุณฺณฺจ กตฺวา สีลสฺส สมฺปาทเนน สีลสมฺปนฺโน. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. สุคตึ สคฺคํ โลกนฺติ เอตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ, สคฺคคฺคหเณน เทวคติ เอว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ, รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค, โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ.

ปาฏลิคามิเก อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถายาติ อฺายปิ ปาฬิมุตฺตาย ธมฺมกถาย เจว อาวสถานุโมทนกถาย จ. ตทา หิ ภควา ยสฺมา อชาตสตฺตุนา ตตฺถ ปาฏลิปุตฺตนครํ มาเปนฺเตน อฺาสุ คามนิคมราชธานีสุ เย สีลาจารสมฺปนฺนา กุฏุมฺพิกา, เต อาเนตฺวา ธนธฺานิ ฆรวตฺถุเขตฺตวตฺถาทีนิ เจว ปริหารฺจ ทาเปตฺวา นิเวสิยนฺติ, ตสฺมา ปาฏลิคามิกา อุปาสกา อานิสํสทสฺสาวิตาย วิเสสโต สีลครุกาติ สพฺพคุณานฺจ สีลสฺส อธิฏฺานภาวโต เตสํ ปมํ สีลานิสํเส ปกาเสตฺวา ตโต ปรํ อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย ปถโวชํ อากฑฺฒนฺโต วิย มหาชมฺพุํ มตฺถเก คเหตฺวา จาเลนฺโต วิย โยชนปฺปมาณํ มหามธุํ จกฺกยนฺเตน ปีเฬตฺวา สุมธุรรสํ ปายมาโน วิย จ ปาฏลิคามิกานํ อุปาสกานํ หิตสุขาวหํ ปกิณฺณกกถํ กเถนฺโตปิ ‘‘อาวาสทานํ นาเมตํ คหปตโย มหนฺตํ ปุฺํ, ตุมฺหากํ อาวาโส มยา ปริภุตฺโต, ภิกฺขุสงฺเฆน ปริภุตฺโต, มยา จ ภิกฺขุสงฺเฆน จ ปริภุตฺเต ธมฺมรตเนนปิ ปริภุตฺโตเยว โหติ, เอวํ ตีหิ รตเนหิ ปริภุตฺเต อปริเมยฺโยว วิปาโก, อปิจ อาวาสทานสฺมึ ทินฺเน สพฺพทานํ ทินฺนเมว โหติ, ภูมฏฺกปณฺณสาลาย วา สาขามณฺฑปสฺส วา สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตสฺส อานิสํโส ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกา. อาวาสทานานุภาเวน หิ ภเว นิพฺพตฺตมานสฺสปิ สมฺปีฬิตคพฺภวาโส นาม น โหติ, ทฺวาทสหตฺโถ โอวรโก วิยสฺส มาตุกุจฺฉิ อสมฺพาโธว โหตี’’ติ เอวํ นานานยวิจิตฺตํ พหุํ ธมฺมกถํ กเถตฺวา –

‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ, ตโต วาฬมิคานิ จ;

สรีสเป จ มกเส, สิสิเร จาปิ วุฏฺิโย.

‘‘ตโต วาตาตโป โฆโร, สฺชาโต ปฏิหฺติ;

เลณตฺถฺจ สุขตฺถฺจ, ฌายิตุฺจ วิปสฺสิตุํ.

‘‘วิหารทานํ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ;

ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.

‘‘วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต;

เตสํ อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ.

‘‘ทเทยฺย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา;

เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;

ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. (จูฬว. ๒๙๕, ๓๑๕) –

เอวํ อยมฺปิ อาวาสทาเน อานิสํโส อยมฺปิ อาวาสทาเน อานิสํโสติ พหุเทว รตฺตึ อติเรกทิยฑฺฒยามํ อาวาสทานานิสํสํ กเถสิ. ตตฺถ อิมา คาถาว สงฺคหํ อารุฬฺหา, ปกิณฺณกธมฺมเทสนา ปน สงฺคหํ น อาโรหติ. สนฺทสฺเสตฺวาติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา ทฺเว ยามา คตา. ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถาติ ยสฺส คมนสฺส ตุมฺเห กาลํ มฺถ, คมนกาโล ตุมฺหากํ, คจฺฉถาติ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา ปน ภควา เต อุยฺโยเชสีติ? อนุกมฺปาย. ติยามรตฺติฺหิ นิสีทิตฺวา วีตินาเมนฺตานํ เตสํ สรีเร อาพาโธ อุปฺปชฺเชยฺย, ภิกฺขุสงฺโฆปิ จ มหา, ตสฺส สยนนิสชฺชานํ โอกาสํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, อิติ อุภยานุกมฺปาย อุยฺโยเชสิ.

สุฺาคารนฺติ ปาฏิเยกฺกํ สุฺาคารํ นาม ตตฺถ นตฺถิ. เต กิร คหปตโย ตสฺเสว อาวสถาคารสฺส เอกปสฺเส ปฏสาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา กปฺปิยมฺจํ ปฺเปตฺวา ตตฺถ กปฺปิยปจฺจตฺถรณานิ อตฺถริตฺวา อุปริ สุวณฺณรชตตารกคนฺธมาลาทิทามปฏิมณฺฑิตํ วิตานํ พนฺธิตฺวา คนฺธเตลปทีปํ อาโรปยึสุ ‘‘อปฺเปว นาม สตฺถา ธมฺมาสนโต วุฏฺาย โถกํ วิสฺสเมตุกาโม อิธ นิปชฺเชยฺย, เอวํ โน อิทํ อาวสถาคารํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ภวิสฺสตี’’ติ. สตฺถาปิ ตเทว สนฺธาย ตตฺถ สงฺฆาฏึ ปฺเปตฺวา สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สุฺาคารํ ปาวิสี’’ติ. ตตฺถ ปาทโธวนฏฺานโต ปฏฺาย ยาว ธมฺมาสนา อคมาสิ, เอตฺตเก าเน คมนํ นิปฺผนฺนํ. ธมฺมาสนํ ปตฺวา โถกํ อฏฺาสิ, อิทํ ตตฺถ านํ. ทฺเว ยาเม ธมฺมาสเน นิสีทิ, เอตฺตเก าเน นิสชฺชา นิปฺผนฺนา. อุปาสเก อุยฺโยเชตฺวา ธมฺมาสนโต โอรุยฺห ยถาวุตฺเต าเน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ . เอตํ านํ ภควตา จตูหิ อิริยาปเถหิ ปริภุตฺตํ อโหสีติ.

ปาฏลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุนิธวสฺสการวตฺถุกถาวณฺณนา

๒๘๖. สุนิธวสฺสการาติ (ที. นิ. ๒.๑๕๓; อุทา. อฏฺ. ๗๖) สุนิโธ จ วสฺสกาโร จ ทฺเว พฺราหฺมณา. มคธมหามตฺตาติ มคธรฺโ มหาอมจฺจา, มคธรฏฺเ วา มหามตฺตา, มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตาติ มคธมหามตฺตา. ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตีติ ปาฏลิคามนฺตสงฺขาเต ภูมิปฺปเทเส นครํ มาเปนฺติ, ปุพฺเพ ‘‘ปาฏลิคาโม’’ติ ลทฺธนามํ านํ อิทานิ นครํ กตฺวา มาเปนฺตีติ อตฺโถ. วชฺชีนํ ปฏิพาหายาติ ลิจฺฉวิราชูนํ อายมุขปจฺฉินฺทนตฺถํ. วตฺถูนีติ ฆรวตฺถูนิ ฆรปติฏฺาปนฏฺานานิ. จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุนฺติ รฺโ ราชมหามตฺตานฺจ นิเวสนานิ มาเปตุํ วตฺถุวิชฺชาปากานํ จิตฺตานิ นมนฺติ. เต กิร อตฺตโน สิปฺปานุภาเวน เหฏฺาปถวิยํ ตึสหตฺถมตฺเต าเน ‘‘อิธ นาคานํ นิวาสปริคฺคโห, อิธ ยกฺขานํ, อิธ ภูตานํ นิวาสปริคฺคโห, อิธ ปาสาโณ วา ขาณุโก วา อตฺถี’’ติ ชานนฺติ, เต ตทา สิปฺปํ ชปฺปิตฺวา ตาทิสํ สารมฺภฏฺานํ ปริหริตฺวา อนารมฺเภ าเน ตาหิ วตฺถุปริคฺคาหิกาหิ เทวตาหิ สทฺธึ มนฺตยมานา วิย ตํตํเคหานิ มาเปนฺติ.

อถ วา เนสํ สรีเร เทวตา อธิมุจฺจิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิเวสนานิ มาเปตุํ จิตฺตํ นาเมนฺติ. ตา จตูสุ โกเณสุ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา วตฺถุมฺหิ คหิตมตฺเต ปฏิวิคจฺฉนฺติ. สทฺธานํ กุลานํ สทฺธา เทวตา ตถา กโรนฺติ, อสฺสทฺธานํ กุลานํ อสฺสทฺธา เทวตา จ. กึ การณา? สทฺธานฺหิ เอวํ โหติ ‘‘อิธ มนุสฺสา นิเวสนํ มาเปนฺตา ปมํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา มงฺคลํ วทาเปสฺสนฺติ, อถ มยํ สีลวนฺตานํ ทสฺสนํ ธมฺมกถํ ปฺหวิสฺสชฺชนํ อนุโมทนฺจ โสตุํ ลภิสฺสาม, มนุสฺสาทานํ ทตฺวา อมฺหากํ ปตฺตึ ทสฺสนฺตี’’ติ. อสฺสทฺธา เทวตาปิ ‘‘อตฺตโน อิจฺฉานุรูปํ เตสํ ปฏิปตฺตึ ปสฺสิตุํ กถฺจ โสตุํ ลภิสฺสามา’’ติ ตถา กโรนฺติ.

ตาวตึเสหีติ ยถา หิ เอกสฺมึ กุเล เอกํ ปณฺฑิตํ มนุสฺสํ, เอกสฺมิฺจ วิหาเร เอกํ พหุสฺสุตํ ภิกฺขุํ อุปาทาย ‘‘อสุกกุเล มนุสฺสา ปณฺฑิตา, อสุกวิหาเร ภิกฺขู พหุสฺสุตา’’ติ สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, เอวเมวํ สกฺกํ เทวราชานํ วิสฺสกมฺมฺจ เทวปุตฺตํ อุปาทาย ‘‘ตาวตึสา ปณฺฑิตา’’ติ สทฺโท อพฺภุคฺคโต. เตนาห ‘‘ตาวตึเสหี’’ติ. เสยฺยถาปีติอาทินา เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา วิย สุนิธวสฺสการา นครํ มาเปนฺตีติ ทสฺเสติ.

ยาวตา อริยํ อายตนนฺติ ยตฺตกํ อริยมนุสฺสานํ โอสรณฏฺานํ นาม อตฺถิ. ยาวตา วณิปฺปโถติ ยตฺตกํ วาณิชานํ อาหฏภณฺฑสฺส ราสิวเสเนว กยวิกฺกยฏฺานํ นาม, วาณิชานํ วสนฏฺานํ วา อตฺถิ. อิทํ อคฺคนครนฺติ เตสํ อริยายตนวณิปฺปถานํ อิทํ นครํ อคฺคํ ภวิสฺสติ เชฏฺกํ ปาโมกฺขํ. ปุฏเภทนนฺติ ภณฺฑปุฏเภทนฏฺานํ, ภณฺฑคนฺถิกานํ โมจนฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สกลชมฺพุทีเป อลทฺธภณฺฑมฺปิ หิ อิเธว ลภิสฺสติ, อฺตฺถ วิกฺกยํ อคจฺฉนฺตมฺปิ อิธ วิกฺกยํ คจฺฉิสฺสติ, ตสฺมา อิเธว ปุฏํ ภินฺทิสฺสตีติ อตฺโถ. อายนฺติ ยานิ จตูสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาริ, สภายํ เอกนฺติ เอวํ ทิวเส ทิวเส ปฺจสตสหสฺสานิ ตตฺถ อุฏฺหิสฺสนฺติ, ตานิสฺส ภาวีนิ อายานิ ทสฺเสติ. อคฺคิโต วาติอาทีสุ จ-การตฺโถ วา-สทฺโท, อคฺคินา จ อุทเกน จ มิถุเภเทน จ นสฺสิสฺสตีติ อตฺโถ. ตสฺส หิ เอโก โกฏฺาโส อคฺคินา นสฺสิสฺสติ, นิพฺพาเปตุมฺปิ นํ น สกฺขิสฺสติ, เอกํ โกฏฺาสํ คงฺคา คเหตฺวา คมิสฺสติ, เอโก อิมินา อกถิตํ อมุสฺส, อมุนา อกถิตํ อิมสฺส วทนฺตานํ ปิสุณวาจานํ วเสน ภินฺนานํ มนุสฺสานํ อฺมฺเภเทน วินสฺสิสฺสติ.

เอวํ วตฺวา ภควา ปจฺจูสกาเล คงฺคาตีรํ คนฺตฺวา กตมุขโธวโน ภิกฺขาจารกาลํ อาคมยมาโน นิสีทิ. สุนิธวสฺสการาปิ ‘‘อมฺหากํ ราชา สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺาโก, โส อมฺเห อุปคเต ปุจฺฉิสฺสติ ‘สตฺถา กิร ปาฏลิคามํ อคมาสิ, กึ ตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺถ, น อุปสงฺกมิตฺถา’ติ, ‘อุปสงฺกมิมฺหา’ติ จ วุตฺเต ‘นิมนฺตยิตฺถ, น นิมนฺตยิตฺถา’ติ ปุจฺฉิสฺสติ, ‘น นิมนฺตยิมฺหา’ติ จ วุตฺเต อมฺหากํ โทสํ อาโรเปตฺวา นิคฺคณฺหิสฺสติ, อิทฺจาปิ มยํ อกตฏฺาเน นครํ มาเปม, สมณสฺส โข ปน โคตมสฺส คตคตฏฺาเน กาฬกณฺณิสตฺตา ปฏิกฺกมนฺติ, ตํ มยํ นครมงฺคลํ วาจาเปสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา นิมนฺตยึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข สุนิธวสฺสการา’’ติอาทิ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ปุพฺพณฺหกาเล. นิวาเสตฺวาติ คามปฺปเวสนนีหาเรน นิวาสนํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา. ปตฺตจีวรมาทายาติ ปตฺตฺจ จีวรฺจ อาทิยิตฺวา กายปฏิพทฺธํ กตฺวา, จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวาติ อตฺโถ.

สีลวนฺเตตฺถาติ สีลวนฺเต เอตฺถ อตฺตโน วสนฏฺาเน. สฺเตติ กายวาจาจิตฺเตหิ สฺเต. ตาสํ ทกฺขิณมาทิเสติ สงฺฆสฺส ทินฺเน จตฺตาโร ปจฺจเย ตาสํ ฆรเทวตานํ อาทิเสยฺยปตฺตึ ทเทยฺย. ปูชิตา ปูชยนฺตีติ ‘‘อิเม มนุสฺสา อมฺหากํ าตกาปิ น โหนฺติ, ตถาปิ โน ปตฺตึ เทนฺตีติ อารกฺขํ สุสํวิหิตํ กโรถา’’ติ สุฏฺุ อารกฺขํ กโรนฺติ. มานิตา มานยนฺตีติ กาลานุกาลํ พลิกมฺมกรเณน มานิตา ‘‘เอเต มนุสฺสา อมฺหากํ าตกาปิ น โหนฺติ, ตถาปิ จตุมาสฉมาสนฺตเร โน พลิกมฺมํ กโรนฺตี’’ติ มาเนนฺติ อุปฺปนฺนปริสฺสยํ หรนฺติ. ตโต นนฺติ ตโต นํ ปณฺฑิตชาติกํ มนุสฺสํ. โอรสนฺติ อุเร เปตฺวา สํวฑฺฒิตํ, ยถา มาตา โอรสํ ปุตฺตํ อนุกมฺปติ, อุปฺปนฺนปริสฺสยหรณตฺถเมวสฺส วายมติ, เอวํ อนุกมฺปนฺตีติ อตฺโถ. ภทฺรานิ ปสฺสตีติ สุนฺทรานิ ปสฺสติ.

อนุโมทิตฺวาติ เตหิ ตทา ปสุตปุฺสฺส อนุโมทนวเสน เตสํ ธมฺมกถํ กตฺวา. สุนิธวสฺสการาปิ ‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส’’ติ ภควโต วจนํ สุตฺวา เทวตานํ ปตฺตึ อทํสุ. ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสีติ ตสฺส นครสฺส เยน ทฺวาเรน ภควา นิกฺขมิ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. คงฺคาย ปน อุตฺตรณตฺถํ อโนติณฺณตฺตา โคตมติตฺถํ นาม นาโหสิ. ปูราติ ปุณฺณา. สมติตฺติกาติ ตีรสมํ อุทกสฺส ติตฺตา ภริตา. กากเปยฺยาติ ตีเร ิตกาเกหิ ปาตุํ สกฺกุเณยฺยอุทกา. ตีหิปิ ปเทหิ อุภโตกูลสมํ ปริปุณฺณภาวเมว วทติ. อุฬุมฺปนฺติ ปารคมนตฺถาย ลหุเก ทารุทณฺเฑ คเหตฺวา กวาฏผลเก วิย อฺมฺสมฺพนฺเธ กาตุํ อาณิโย โกฏฺเฏตฺวา นาวาสงฺเขเปน กตํ. กุลฺลนฺติ เวฬุนฬาทิเก สงฺฆริตฺวา วลฺลิอาทีหิ กลาปวเสน พนฺธิตฺวา กตํ.

เอตมตฺถํวิทิตฺวาติ เอตํ มหาชนสฺส คงฺคุทกมตฺตสฺสปิ เกวลํ ตริตุํ อสมตฺถตํ, อตฺตโน ปน ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อติคมฺภีรวิตฺถตํ สํสารมหณฺณวํ ตริตฺวา ิตภาวฺจ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถปริทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ. อุทานคาถาย อตฺโถ ปน อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว. ตตฺถ อุทกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถาวุตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ อุทกฏฺานสฺส เอตํ อณฺณวนฺติ อธิวจนํ, น สมุทฺทสฺเสวาติ อธิปฺปาโย. สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา สรติ สนฺทตีติ กตฺวา. คมฺภีรํ วิตฺถตนฺติ อคาธฏฺเน คมฺภีรํ, สกลโลกตฺตยพฺยาปิตาย วิตฺถตํ. วิสชฺชาติ อนาสชฺช อปฺปตฺวา เอว ปลฺลลานิ เตสํ อตรณโต. กุลฺลฺหิ ชโน พนฺธตีติ กุลฺลํ พนฺธิตุํ อายาสํ อาปชฺชติ. วินา เอว กุลฺเลนาติ อีทิสํ อุทกํ กุลฺเลน อีทิเสน วินา เอว. ติณฺณา เมธาวิโน ชนาติ อริยมคฺคาณสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคตตฺตา เมธาวิโน พุทฺธา จ พุทฺธสาวกา จ ติณฺณา ปรตีเร ปติฏฺิตา.

สุนิธวสฺสการวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โกฏิคาเม สจฺจกถาวณฺณนา

๒๘๗. โกฏิคาโมติ มหาปนาทสฺส รฺโ ปาสาทโกฏิยํ กตคาโม, ปติตสฺส ปาสาทสฺส ถุปิกาย ปติฏฺิตฏฺาเน นิวิฏฺคาโมติ อตฺโถ. อริยสจฺจานนฺติ เย ปฏิวิชฺฌนฺติ, เตสํ อริยภาวกรานํ สจฺจานํ. อนนุโพธาติ อพุชฺฌเนน อชานเนน. อปฺปฏิเวธาติ อปฺปฏิวิชฺฌเนน. อนุโพโธ เจตฺถ ปุพฺพภาคิยาณํ, ปฏิเวโธ มคฺคาเณน อภิสมโย. ตตฺถ ยสฺมา อนุโพธปุพฺพโก ปฏิเวโธ อนุโพเธน วินา น โหติ, อนุโพโธปิ เอกจฺโจ ปฏิเวธสมฺพนฺโธ ตทุภยาภาวเหตุกฺจ วฏฺเฏ สํสรณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนนุโพธา…เป… ตุมฺหากฺจา’’ติ. ตตฺถ สนฺธาวิตนฺติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ภวโต ภวนฺตรุปคมเนน สนฺธาวิตํ. สํสริตนฺติ อปราปรํ จวนุปปชฺชนวเสน สํสริตํ. มมฺเจว ตุมฺหากฺจาติ มยา จ ตุมฺเหหิ จ. อถ วา สนฺธาวิตํ สํสริตนฺติ สนฺธาวนํ สํสรณํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ อโหสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สํสิตนฺติ สํสริตํ. ภวเนตฺติ สมูหตาติ ทีฆรชฺชุยา พทฺธสกุณํ วิย รชฺชุหตฺโถ ปุริโส เทสนฺตรํ, ตณฺหารชฺชุยา พทฺธสตฺตสนฺตานํ อภิสงฺขาโร ภวนฺตรํ เนติ เอตายาติ ภวเนตฺติ, สา ภวโต ภวํ นยนสมตฺถา ตณฺหารชฺชุ อริยมคฺคสตฺเถน สุฏฺุ หตา ฉินฺนา อปฺปวตฺติกตาติ ภวเนตฺติ สมูหตา.

อมฺพปาลีวตฺถุกถาวณฺณนา

๒๘๘. ยานสฺสภูมีติ ยตฺถ สกฺกา โหติ ยานํ อารุยฺห ยาเนน คนฺตุํ, อยํ ยานสฺส ภูมิ นาม. ยานา ปจฺโจโรหิตฺวาติ วิหารสฺส พหิทฺวารโกฏฺเก ยานโต โอโรหิตฺวา.

ลิจฺฉวีวตฺถุกถาวณฺณนา

๒๘๙. นีลาติ อิทํ สพฺพสงฺคาหกวจนํ. นีลวณฺณาติอาทิ ตสฺเสว วิภาคทสฺสนตฺถํ. ตตฺถ น เตสํ ปกติวณฺโณ นีโล, นีลวิเลปนวิลิตฺตตฺตา ปเนตํ วุตฺตํ. นีลวตฺถาติ ปฏทุกูลโกเสยฺยาทีนิปิ เนสํ นีลาเนว โหนฺติ. นีลาลงฺการาติ นีลมณิอลงฺกาเรหิ นีลปุปฺเผหิ จ อลงฺกตา. เต กิร อลงฺการา สุวณฺณวิจิตฺตาปิ อินฺทนีลมณิโอภาเสหิ เอกนีลา วิย ขายนฺติ, รถาปิ เนสํ นีลมณิขจิตา นีลวตฺถปริกฺขิตฺตา นีลธชนีลวมฺมิเกหิ นีลาภรเณหิ นีลอสฺเสหิ ยุตฺตา, ปโตทยฏฺิโยปิ นีลาเยวาติ อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปฏิวฏฺเฏสีติ ปหริ. กิสฺส เช อมฺพปาลีติ เช-ติ อาลปนํ, โภติ อมฺพปาลิ กึการณาติ วุตฺตํ โหติ. สาหารนฺติ เอตฺถ อาหรนฺติ อิมสฺมา ราชปุริสา พลินฺติ อาหาโร, ตพฺภุตฺตชนปโท. เตน สหิตํ สาหารํ, สชนปทนฺติ อตฺโถ. องฺคุลึ โผเฏสุนฺติ องฺคุลึ จาเลสุํ. อมฺพกายาติ มาตุคาเมน. อุปจารวจนฺเหตํ, อิตฺถีสุ ยทิทํ อมฺพกา มาตุคาโม ชนนิกาติ. โอโลเกถาติ ปสฺสถ. อปโลเกถาติ อปวตฺติตฺวา โอโลเกถ, ปุนปฺปุนํ ปสฺสถาติ อตฺโถ. อุปสํหรถาติ อุปเนถ, อิมํ ลิจฺฉวีปริสํ ตุมฺหากํ จิตฺเตน ตาวตึสสทิสํ อุปสํหรถ อุปเนถ อลฺลียาเปถ. ยเถว ตาวตึสา อภิรูปา ปาสาทิกา นีลาทินานาวณฺณา, เอวมิเม ลิจฺฉวีราชาโนปีติ ตาวตึเสหิ สมเก กตฺวา ปสฺสถาติ อตฺโถ.

กสฺมา ปน ภควา อเนกสเตหิ สุตฺเตหิ จกฺขาทีนํ รูปาทีสุ นิมิตฺตคฺคาหํ ปฏิเสเธตฺวา อิธ มหนฺเตน อุสฺสาเหน นิมิตฺตคฺคาเห นิโยเชตีติ? หิตกามตาย เตสํ ภิกฺขูนํ ยถา อายสฺมโต นนฺทสฺส หิตกามตาย สคฺคสมฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. ตตฺร กิร เอกจฺเจ ภิกฺขู โอสนฺนวีริยา, เต สมฺปตฺติยา ปโลเภนฺโต ‘‘อปฺปมาเทน สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ เอวรูปา อิสฺสริยสมฺปตฺติ สุลภา’’ติ สมณธมฺเม อุสฺสาหชนนตฺถํ อาห. อถ วา นยิทํ นิมิตฺตคฺคาเห นิโยชนํ, เกวลํ ปน ‘‘ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสา เอเตสํ ราชูนํ อิสฺสริยสมฺปตฺตี’’ติ อนุปุพฺพิกถาย สมฺปตฺติกถนํ วิย ทฏฺพฺพํ. อนิจฺจลกฺขณวิภาวนตฺถฺจาปิ เอวมาห. น จิรสฺเสว หิ สพฺเพปิเม อชาตสตฺตุสฺส วเสน วินาสํ ปาปุณิสฺสนฺติ, อถ เนสํ รชฺชสิริสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ิตภิกฺขู ‘‘ตถารูปายปิ นาม สิริสมฺปตฺติยา วินาโส ปฺายิสฺสตี’’ติ อนิจฺจลกฺขณํ ภาเวตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺตีติ อนิจฺจลกฺขณวิภาวนตฺถํ อาห.

อธิวาเสตูติ อมฺพปาลิยา นิมนฺติตภาวํ ตฺวาปิ กสฺมา นิมนฺเตนฺตีติ? อสทฺทหนตาย จ วตฺตสีเสน จ. สา หิ ธุตฺตา อิตฺถี อนิมนฺเตตฺวาปิ ‘‘นิมนฺเตสิ’’นฺติ วเทยฺยาติ เตสํ อโหสิ. ธมฺมํ สุตฺวา คมนกาเล จ นิมนฺเตตฺวา คมนํ นาม มนุสฺสานํ วตฺตเมว.

ลิจฺฉวีวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สีหเสนาปติวตฺถุกถาวณฺณนา

๒๙๐. อภิฺาตาติ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๘.๑๒) าตา ปฺาตา ปากฏา. สนฺถาคาเรติ มหาชนสฺส สนฺถมฺภนาคาเร วิสฺสมนตฺถาย กเต อคาเร. สา กิร สนฺถาคารสาลา นครมชฺเฌ อโหสิ, จตูสุ ทฺวาเรสุ ิตานํ ปฺายติ, จตูหิ ทิสาหิ อาคตมนุสฺสา ปมํ ตตฺถ วิสฺสมิตฺวา ปจฺฉา อตฺตโน อตฺตโน ผาสุกฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ราชกุลานํ รชฺชกิจฺจสนฺถรณตฺถํ กตํ อคารนฺติปิ วทนฺติเยว. ตตฺถ หิ นิสีทิตฺวา ลิจฺฉวีราชาโน รชฺชกิจฺจํ สนฺถรนฺติ กโรนฺติ วิจาเรนฺติ. สนฺนิสินฺนาติ เตสํ นิสีทนตฺถํเยว ปฺตฺเตสุ มหารหปจฺจตฺถรเณสุ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเตสุ อาสเนสุ สนฺนิสินฺนา. อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺตีติ ราชกุลกิจฺจฺเจว โลกตฺถกิริยฺจ วิจาเรตฺวา อเนเกหิ การเณหิ พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ปณฺฑิตา หิ เต ราชาโน สทฺธาสมฺปนฺนา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ อริยสาวกา, เต สพฺเพปิ โลกิยชฏํ ภินฺทิตฺวา พุทฺธาทีนํ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ ภาสนฺติ.

ตตฺถ ติวิโธ พุทฺธวณฺโณ นาม จริยวณฺโณ สรีรวณฺโณ คุณวณฺโณติ. ตตฺริเม ราชาโน จริยาย วณฺณํ อารภึสุ – ‘‘ทุกฺกรํ วต กตํ สมฺมาสมฺพุทฺเธน กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึส ปารมิโย ปูเรนฺเตน าตตฺถจริยํ โลกตฺถจริยํ พุทฺธตฺถจริยํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชนฺเตนา’’ติ อฑฺฒจฺฉกฺเกหิ ชาตกสเตหิ พุทฺธวณฺณํ กเถนฺตา ตุสิตภวนํ ปาเปตฺวา ปยึสุ. ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ปเนเต ‘‘ภควตา ธมฺโม เทสิโต, นิกายโต ปฺจ นิกายา โหนฺติ, ปิฏกโต ตีณิ ปิฏกานิ, องฺคโต นว องฺคานิ, ขนฺธโต จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ โกฏฺาสวเสน ธมฺมคุณํ กถยึสุ. สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ‘‘สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา กุลปุตฺตา โภคกฺขนฺธฺเจว าติปริวฏฺฏฺจ ปหาย เสตจฺฉตฺตอุปรชฺชเสนาปติเสฏฺิภณฺฑาคาริกฏฺานนฺตราทีนิ อคณยิตฺวา นิกฺขมฺม สตฺถุ วรสาสเน ปพฺพชนฺติ, เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ปพฺพชิตานํ ภทฺทิยมหาราชมหากปฺปินปุกฺกุสาติอาทิราชปพฺพชิตานํเยว พุทฺธกาเล อสีติ สหสฺสานิ อเหสุํ, อเนกโกฏิธนํ ปหาย ปพฺพชิตานํ ปน ยสกุลปุตฺตโสณเสฏฺิปุตฺตรฏฺปาลปุตฺตาทีนํ ปริจฺเฉโท นตฺถิ, เอวรูปา จ เอวรูปา จ กุลปุตฺตา สตฺถุ สาสเน ปพฺพชนฺตี’’ติ ปพฺพชฺชาสงฺเขปวเสน สงฺฆคุณํ กถยึสุ.

สีโห เสนาปตีติ เอวํนามโก เสนาย อธิปติ. เวสาลิยฺหิ สตฺต สหสฺสานิ สตฺต สตานิ สตฺต จ ราชาโน, เต สพฺเพปิ สนฺนิปติตฺวา สพฺเพสํ มนํ คเหตฺวา ‘‘รฏฺํ วิจาเรตุํ สมตฺถํ เอกํ วิจินถา’’ติ วิจินนฺตา สีหราชกุมารํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สกฺขิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตสฺส รตฺตมณิวณฺณกมฺพลปริโยนทฺธํ เสนาปติจฺฉตฺตํ อทํสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สีโห เสนาปตี’’ติ. นิคณฺสาวโกติ นิคณฺสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปจฺจยทายโก อุปฏฺาโก. ชมฺพุทีปตลสฺมิฺหิ ตโย ชนา นิคณฺานํ อคฺคุปฏฺากา – นาฬนฺทายํ อุปาลิ คหปติ, กปิลปุเร วปฺโป สกฺโก, เวสาลิยํ อยํ สีโห เสนาปตีติ. นิสินฺโน โหตีติ เสสราชูนมฺปิ ปริสาย อนฺตเร อาสนานิ ปฺาปยึสุ, สีหสฺส ปน มชฺเฌ าเนติ ตสฺมึ ปฺตฺเต มหารเห ราชาสเน นิสินฺโน โหติ. นิสฺสํสยนฺติ นิพฺพิจิกิจฺฉํ อทฺธา เอกํเสน. น เหเต ยสฺส วา ตสฺส วา อปฺเปสกฺขสฺส เอวํ อเนกสเตหิ การเณหิ วณฺณํ ภาสนฺติ.

เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมีติ นิคณฺโ กิร นาฏปุตฺโต ‘‘สจายํ สีโห กสฺสจิเทว สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ กเถนฺตสฺส สุตฺวา สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, มยฺหํ ปริหานิ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปมตรํเยว สีหํ เสนาปตึ เอตทโวจ ‘‘เสนาปติ อิมสฺมึ โลเก ‘อหํ พุทฺโธ อหํ พุทฺโธ’ติ พหู วทนฺติ, สเจ ตฺวํ กฺจิ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม อโหสิ, มํ ปุจฺเฉยฺยาสิ, อหํ เต ยุตฺตฏฺานฺเว เปเสสฺสามิ, อยุตฺตฏฺานโต นิวาเรสฺสามี’’ติ. โส ตํ กถํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘สเจ มํ เปเสสฺสติ, คมิสฺสามิ. โน เจ, น คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ.

อถสฺส วจนํ สุตฺวา นิคณฺโ มหาปพฺพเตน วิย พลวโสเกน โอตฺถโฏ ‘‘ยตฺถ ทานิสฺสาหํ คมนํ น อิจฺฉามิ, ตตฺเถว คนฺตุกาโม ชาโต, หโตหมสฺมี’’ติ อนตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ปฏิพาหนุปายมสฺส กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ ปน ตฺว’’นฺติอาทิมาห. เอวํ วทนฺโต จรนฺตํ โคณํ ตุณฺเฑ ปหรนฺโต วิย ชลมานํ ปทีปํ นิพฺพาเปนฺโต วิย ภตฺตภริตํ ปตฺตํ นิกุชฺชนฺโต วิย จ สีหสฺส อุปฺปนฺนํ ปีตึ วินาเสสิ. คมิกาภิสงฺขาโรติ หตฺถิยานาทีนํ โยชาปนคนฺธมาลาทิคฺคหณวเสน ปวตฺโต ปโยโค. โส ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ โส วูปสนฺโต.

ทุติยมฺปิ โขติ ทุติยวารมฺปิ. อิมสฺมิฺจ วาเร พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ตุสิตภวนโต ปฏฺาย ยาว มหาโพธิปลฺลงฺกา ทสพลสฺส เหฏฺา ปาทตเลหิ อุปริ เกสคฺเคหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาวเสน สรีรวณฺณํ กถยึสุ. ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ‘‘เอกปเทปิ เอกพฺยฺชเนปิ อวกฺขลิตํ นาม นตฺถี’’ติ สุกถิตวเสเนว ธมฺมคุณํ กถยึสุ. สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺตา ‘‘เอวรูปํ ยสสิริวิภวํ ปหาย สตฺถุ สาสเน ปพฺพชิตา น โกสชฺชปกติกา โหนฺติ, เตรสสุ ปน ธุตคุเณสุ ปริปูรการิโน หุตฺวา สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมํ กโรนฺติ, อฏฺตึส อารมฺมณวิภตฺติโย วฬฺเชนฺตี’’ติ ปฏิปทาวเสน สงฺฆคุเณ กถยึสุ.

ตติยวาเร ปน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสมานา ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว พุทฺธคุเณ กถยึสุ, ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติอาทินา สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ธมฺมคุเณ, ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติอาทินา สุตฺตนฺตปริยาเยเนว สงฺฆคุเณ จ กถยึสุ. ตโต สีโห จินฺเตสิ ‘‘อิเมสํ ลิจฺฉวีราชกุลานํ ตติยทิวสโต ปฏฺาย พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ กเถนฺตานํ มุขํ นปฺปโหติ, อทฺธา อโนมคุณสมนฺนาคโต โส ภควา, อิมํ ทานิ อุปฺปนฺนํ ปีตึ อวิชหิตฺวาว อหํ อชฺช สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ. อถสฺส ‘‘กิฺหิ เม กริสฺสนฺติ นิคณฺา’’ติ วิตกฺโก อุทปาทิ. ตตฺถ กิฺหิ เม กริสฺสนฺตีติ กึ นาม มยฺหํ นิคณฺา กริสฺสนฺติ. อปโลกิตา วา อนปโลกิตา วาติ อาปุจฺฉิตา วา อนาปุจฺฉิตา วา. น หิ เม เต อาปุจฺฉิตา ยานวาหนสมฺปตฺติอิสฺสริยยสวิเสสํ ทสฺสนฺติ, นาปิ อนาปุจฺฉิตา มาเรสฺสนฺติ, อผลํ เอเตสํ อาปุจฺฉนนฺติ อธิปฺปาโย.

ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสฺส ทิวา มชฺฌนฺหิเก อติกฺกนฺตมตฺเต. เวสาลิยา นิยฺยาสีติ ยถา หิ คิมฺหกาเล เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา โถกเมว คนฺตฺวา ติฏฺติ นปฺปวตฺตติ, เอวํ สีหสฺส ปมทิวเส ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนาย ปีติยา นิคณฺเน ปฏิพาหิตกาโล, ยถา ทุติยทิวเส เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา โถกํ คนฺตฺวา วาลิกาปุฺชํ ปหริตฺวา อปฺปวตฺตํ โหติ, เอวํ สีหสฺส ทุติยทิวเส ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนาย ปีติยา นิคณฺเน ปฏิพาหิตกาโล, ยถา ตติยทิวเส เทเว วุฏฺเ อุทกํ สนฺทมานํ นทึ โอตริตฺวา ปุราณปณฺณสุกฺขทณฺฑกนฬกจวราทีนิ ปริกฑฺฒนฺตํ วาลิกาปุฺชํ ภินฺทิตฺวา สมุทฺทนินฺนเมว โหติ, เอวํ สีโห ตติยทิวเส ติณฺณํ วตฺถูนํ คุณกถํ สุตฺวา อุปฺปนฺเน ปีติปาโมชฺเช ‘‘อผลา นิคณฺา, นิปฺผลา นิคณฺา, กึ เม อิเม กริสฺสนฺติ, คมิสฺสามหํ สตฺถุ สนฺติก’’นฺติ คมนํ อภินีหริตฺวา เวสาลิยา นิยฺยาสิ. นิยฺยนฺโต จ ‘‘จิรสฺสาหํ ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม ชาโต, น โข ปน เม ยุตฺตํ อฺาตกเวเสน คนฺตุ’’นฺติ ‘‘เย เกจิ ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม, สพฺเพ นิกฺขมนฺตู’’ติ โฆสนํ กาเรตฺวา ปฺจ รถสตานิ โยชาเปตฺวา อุตฺตมรเถ ิโต เตหิ เจว ปฺจหิ รถสเตหิ มหติยา จ ปริสาย ปริวุโต คนฺธปุปฺผจุณฺณวาสาทีนิ คาหาเปตฺวา นิยฺยาสิ.

เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ อารามํ ปวิสนฺโต ทูรโตว อสีติอนุพฺยฺชนพฺยามปฺปภาทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานิ ฉพฺพณฺณา ฆนพุทฺธรสฺมิโย ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ นาม ปุริสํ เอวํ อาสนฺเน วสนฺตํ เอตฺตกํ กาลํ นาทฺทสํ, วฺจิโต วตมฺหิ, อลาภา วต เม’’ติ จินฺเตตฺวา มหานิธึ ทิสฺวา ทลิทฺทปุริโส วิย สฺชาตปีติปาโมชฺโช เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ โภตา โคตเมน วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. การณวจโน เหตฺถ ธมฺม-สทฺโท ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๐) วิย. การณนฺติ เจตฺถ ตถาปวตฺตสฺส สทฺทสฺส อตฺโถ อธิปฺเปโต ตสฺส ปวตฺติเหตุภาวโต. อตฺถปฺปยุตฺโต หิ สทฺทปฺปโยโค. อนุการณนฺติ จ โส เอวํ ปเรหิ ตถา วุจฺจมาโน. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา ตโต ปรํ ตสฺส อนุวาโท วา โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ วิฺูหิ ครหิตพฺพํ านํ การณํ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กึ สพฺพากาเรนปิ ตว วาเท คารยฺหการณํ นตฺถีติ. อนพฺภกฺขาตุกามาติ น อภูเตน วตฺตุกามา.

๒๙๑-๒๙๒. อตฺถิ สีห ปริยาโยติอาทีนํ อตฺโถ เวรฺชกณฺเฑ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ปรเมน อสฺสาเสนาติ จตุมคฺคจตุผลสงฺขาเตน อุตฺตมอสฺสาเสน. อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสตีติ อสฺสาสนตฺถาย สนฺถมฺภนตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ. อิติ ภควา อฏฺหงฺเคหิ สีหเสนาปติสฺส ธมฺมํ เทเสติ.

๒๙๓. อนุวิจฺจการนฺติ อนุวิทิตฺวา จินฺเตตฺวา ตุลยิตฺวา กาตพฺพํ กโรหีติ วุตฺต โหติ. สาธุ โหตีติ สุนฺทโร โหติ. ตุมฺหาทิสสฺมิฺหิ มํ ทิสฺวา มํ สรณํ คจฺฉนฺเต นิคณฺํ ทิสฺวา นิคณฺํ สรณํ คจฺฉนฺเต ‘‘กึ อยํ สีโห ทิฏฺทิฏฺเมว สรณํ คจฺฉตี’’ติ ครหา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ สาธูติ ทสฺเสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ เต กิร เอวรูปํ สาวกํ ลภิตฺวา ‘‘อสุโก นาม ราชา วา ราชมหามตฺโต วา เสฏฺิ วา อมฺหากํ สรณํ คโต สาวโก ชาโต’’ติ ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นคเร โฆเสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ. กสฺมา? ‘‘เอวํ โน มหนฺตภาโว อาวิ ภวิสฺสตี’’ติ จ, สเจ ปนสฺส ‘‘กิมหํ เอเต สรณํ คโต’’ติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺเชยฺย, ตมฺปิ โส ‘‘เอเตสํ เม สรณคตภาวํ พหู ชานนฺติ, ทุกฺกรํ ทานิ ปฏินิวตฺติตุ’’นฺติ วิโนเทตฺวา น ปฏิกฺกมิสฺสตีติ จ. เตนาห ‘‘ปฏากํ ปริหเรยฺยุ’’นฺติ. โอปานภูตนฺติ ปฏิยตฺตอุทปาโน วิย ิตํ. กุลนฺติ ตว นิเวสนํ. ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสีติ ปุพฺเพปิ ทสปิ วีสติปิ สฏฺิปิ ชเน อาคเต ทิสฺวา นตฺถีติ อวตฺวา เทสิ, อิทานิ มํ สรณํ คตการณมตฺเตเนว มา อิเมสํ เทยฺยธมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺถ, สมฺปตฺตานฺหิ ทาตพฺพเมวาติ โอวทติ. สุตํ เม ตํ ภนฺเตติ กุโต สุตํ? นิคณฺานํ สนฺติกา. เต กิร กุลฆเรสุ เอวํ ปกาเสนฺติ ‘‘มยํ ยสฺส กสฺสจิ สมฺปตฺตสฺส ทาตพฺพนฺติ วทาม, สมโณ ปน โคตโม ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ…เป… น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ เอวํ วทตี’’ติ. ตํ สนฺธาย อยํ ‘‘สุตํ เม ต’’นฺติอาทิมาห.

๒๙๔. ปวตฺตมํสนฺติ ปกติยา ปวตฺตํ กปฺปิยมํสํ, มูลํ คเหตฺวา อนฺตราปเณ ปริเยสาหีติ อธิปฺปาโย. สมฺพหุลา นิคณฺาติ ปฺจสตมตฺตา นิคณฺา. ถูลํ ปสุนฺติ ถูลํ มหาสรีรํ โคกณฺณมหึสสูกรสงฺขาตํ ปสุํ. อุทฺทิสฺสกตนฺติ อตฺตานํ อุทฺทิสิตฺวา กตํ, มาริตนฺติ อตฺโถ. ปฏิจฺจกมฺมนฺติ เอตฺถ กมฺม-สทฺโท กมฺมสาธโน อตีตกาลิโกติ อาห ‘‘อตฺตานํ ปฏิจฺจ กต’’นฺติ. นิมิตฺตกมฺมสฺเสตํ อธิวจนํ ‘‘ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตี’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๔.๗๕) วิย. นิมิตฺตกมฺมสฺสาติ นิมิตฺตภาเวน ลทฺธพฺพกมฺมสฺส, น กรณการาปนวเสน. ปฏิจฺจกมฺมํ เอตฺถ อตฺถีติ มํสํ ปฏิจฺจกมฺมํ ยถา ‘‘พุทฺธํ เอตสฺส อตฺถีติ พุทฺโธ’’ติ. อถ วา ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตีติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ, สฺวายํ เอตํ มํสํ ปฏิจฺจ ตํ ปาณวธกกมฺมํ ผุสตีติ อตฺโถ. ตฺหิ อกุสลํ อุปฑฺฒํ ทายกสฺส, อุปฑฺฒํ ปฏิคฺคาหกสฺส โหตีติ เนสํ ลทฺธิ. อุปกณฺณเกติ กณฺณมูเล. อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ, โหตุ กึ อิมินาติ อตฺโถ. น จ ปน เตติ เอเต อายสฺมนฺตา ทีฆรตฺตํ อวณฺณกามา หุตฺวา อวณฺณํ ภาสนฺตาปิ อพฺภาจิกฺขนฺตา น ชิริทนฺติ, อพฺภกฺขานสฺส อนฺตํ น คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ลชฺชนตฺเถ อิทํ ชิริทนฺตีติ ปทํ ทฏฺพฺพํ, น ลชฺชนฺตีติ อตฺโถ.

สีหเสนาปติวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา

๒๙๕. อภิลาปมตฺตนฺติ เทสนามตฺตํ. อามิสขาทนตฺถายาติ ตตฺถ ตตฺถ ฉฑฺฑิตสฺส อามิสสฺส ขาทนตฺถาย. อนุปฺปเคเยวาติ ปาโตเยว. โอรวสทฺทนฺติ มหาสทฺทํ. ตํ ปน อวตฺวาปีติ อนฺธกฏฺกถายํวุตฺตนเยน อวตฺวาปิ. ปิ-สทฺเทน ตถา วจนมฺปิ อนุชานาติ. อฏฺกถาสุ วุตฺตนเยนาติ เสสอฏฺกถาสุ วุตฺตนเยน. ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรมา’ติ วา, ‘กปฺปิยกุฏี’ติ วา วุตฺเต สาธารณลกฺขณ’’นฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตอุสฺสาวนนฺติกากุฏิกรณลกฺขณํ. จยนฺติ อธิฏฺานํ. ยโต ปฏฺายาติ ยโต อิฏฺกโต สิลโต มตฺติกาปิณฺฑโต วา ปฏฺาย. ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา น วฏฺฏนฺตีติ ภิตฺติยา ปมิฏฺกาทีนํ เหฏฺา ภูมิยํ ปติฏฺาปิยมานา อิฏฺกาทโย ภูมิคติกตฺตา ‘‘กปฺปิยกุฏึ กโรมา’’ติ วตฺวา ปติฏฺาเปตุํ น วฏฺฏนฺติ. ยทิ เอวํ ภูมิยํ นิขณิตฺวา ปติฏฺาปิยมานา ถมฺภา กสฺมา ตถา วตฺวา ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏนฺตีติ อาห ‘‘ถมฺภา ปน…เป… วฏฺฏนฺตี’’ติ. สงฺฆสนฺตกเมวาติ วาสตฺถาย กตํ สงฺฆิกเสนาสนํ สนฺธาย วทติ. ภิกฺขุสนฺตกนฺติ วาสตฺถาย เอว กตํ ภิกฺขุสฺส ปุคฺคลิกเสนาสนํ. มุขสนฺนิธีติ อิมินา อนฺโตวุตฺถทุกฺกฏเมว ทีปิตํ.

กปฺปิยภูมิอนุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๐๐. เยนอาปณํ ตทวสรีติอาทีสุ อาปณนฺติ เอกสฺส นิคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมึ กิร นิคเม วีสติ อาปณมุขสหสฺสานิ วิภตฺตานิ อเหสุํ. อิติ โส อาปณานํ อุสฺสนฺนตฺตา ‘‘อาปณ’’นฺตฺเวว สงฺขํ คโต. ตสฺส ปน นิคมสฺส อวิทูเร นทีตีเร ฆนจฺฉาโย รมณียภูมิภาโค มหาวนสณฺโฑ, ตสฺมึ ภควา วิหรติ. เกณิโยติ ตสฺส นามํ. ชฏิโลติ อาหริมชฏาธโร ตาปโส. โส กิร พฺราหฺมณมหาสาโล, ธนรกฺขณตฺถาย ปน ตาปสปพฺพชฺชํ สมาทาย รฺโ ปณฺณาการํ ทตฺวา ภูมิภาคํ คเหตฺวา ตตฺถ อสฺสมํ กาเรตฺวา ปฺจหิ สกฏสเตหิ วณิชฺชํ ปโยเชตฺวา กุลสหสฺสสฺส นิสฺสโย หุตฺวา วสติ. อสฺสเมปิ จสฺส เอโก ตาลรุกฺโข ทิวเส ทิวเส เอกํ โสวณฺณมยํ ผลํ มุฺจตีติ วทนฺติ. โส ทิวา กาสาวานิ ธาเรติ, ชฏา จ พนฺธติ, รตฺตึ กามสมฺปตฺตึ อนุภวติ.

ปวตฺตาโรติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๗; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๙๒) ปวตฺตยิตาโร , ปาวจนวเสน วตฺตาโรติ อตฺโถ. เยสนฺติ เยสํ สนฺตกํ. มนฺตปทนฺติ มนฺตสทฺเท พหิกตฺวา รโห ภาสิตพฺพฏฺเน มนฺตา เอว ตํตํอตฺถปฏิปตฺติเหตุตาย ปทนฺติ มนฺตปทํ, เวทวจนํ. คีตนฺติ อฏฺกาทีหิ ทสหิ โปราณพฺราหฺมเณหิ อุทาตฺตานุทาตฺตาทิสรสมฺปตฺติวเสน สชฺฌายิตํ. ปวุตฺตนฺติ ปาวจนวเสน อฺเสํ วุตฺตํ, วาจิตนฺติ อตฺโถ. สมิหิตนฺติ สมุปพฺยูฬฺหํ ราสิกตํ, อิรุเวทยชุเวทสามเวทาทิวเสน ตตฺถาปิ ปจฺเจกํ มนฺตพฺราหฺมณาทิวเสน สชฺฌายนวาจกาทิวเสน จ ปิณฺฑํ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ เอตรหิ พฺราหฺมณา ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ อนุสชฺฌายนฺติ. ตทนุภาสนฺตีติ ตํ อนุภาสนฺติ, อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ภาสิตมนุภาสนฺตีติ เตหิ ภาสิตํ สชฺฌายิตํ อนุสชฺฌายนฺติ. วาจิตมนุวาเจนฺตีติ เตหิ อฺเสํ วาจิตํ อนุวาเจนฺติ. เสยฺยถิทนฺติ เต กตเมติ อตฺโถ. อฏฺโกติอาทีนิ เตสํ นามานิ. เต กิร ทิพฺพจกฺขุปริภณฺเฑน ยถากมฺมูปคาเณน สตฺตานํ กมฺมสฺสกตาทึ ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตกปฺเป พฺราหฺมณานํ มนฺตชฺเฌนวิธิฺจ โอโลเกตฺวา ปรูปฆาตํ อกตฺวา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภควโต วฏฺฏสนฺนิสฺสิเตน วจเนน สห สํสนฺทิตฺวา มนฺเต คนฺเถสุํ. อปราปเร ปน โอกฺกากราชกาลาทีสุ อุปฺปนฺนพฺราหฺมณา ปาณาติปาตาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ตโย เวเท ภินฺทิตฺวา พุทฺธวจเนน สทฺธึ วิรุทฺเธ อกํสุ. รตฺติโภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรตาติ รตฺตูปรตา. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม, ตโต วิรตตฺตา วิรตา วิกาลโภชนา. ปฏิยาทาเปตฺวาติ สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ เจว มริเจหิ จ สุสงฺขตํ ปานํ ปฏิยาทาเปตฺวา.

‘‘มหา โข เกณิย ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ กสฺมา ภควา ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ? ติตฺถิยานํ ปฏิกฺเขปปสนฺนตาย. ติตฺถิยา หิ ‘‘อโห วตายํ อปฺปิจฺโฉ, โย นิมนฺติยมาโนปิ น สาทิยตี’’ติ อุปนิมนฺติยมานสฺส ปฏิกฺเขเป ปสีทนฺตีติ เกจิ, อการณฺเจตํ. นตฺถิ พุทฺธานํ ปจฺจยเหตุ เอวรูปํ โกหฺํ, อยํ ปน อฑฺฒเตลสานิ ภิกฺขุสตานิ ทิสฺวา เอตฺตกานํเยว ภิกฺขํ ปฏิยาเทสฺสติ, สฺเวว เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ ปุริสสเตหิ สทฺธึ ปพฺพชิสฺสติ, อยุตฺตํ โข ปน นวเก อฺโต เปเสตฺวา อิเมเหว สทฺธึ คนฺตุํ, อิเม วา อฺโต เปเสตฺวา นวเกหิ สทฺธึ คนฺตุํ. อถาปิ สพฺเพว คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ภิกฺขาหาโร นปฺปโหสฺสติ. ตโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย จรนฺเตสุ มนุสฺสา อุชฺฌายิสฺสนฺติ ‘‘จิรสฺสมฺปิ เกณิโย สมณํ โคตมํ นิมนฺเตตฺวา ยาปนมตฺตํ ทาตุํ นาสกฺขี’’ติ, สยฺจ วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสติ. ปฏิกฺเขเป ปน กเต ‘‘สมโณ โคตโม ปุนปฺปุนํ ‘ตฺวฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’ติ พฺราหฺมณานํ นามํ คณฺหาตี’’ติ จินฺเตตฺวา พฺราหฺมเณปิ นิมนฺเตตุกาโม ภวิสฺสติ, ตโต พฺราหฺมเณ ปาฏิเยกฺกํ นิมนฺเตสฺสติ, เต เตน นิมนฺติตา ภิกฺขู หุตฺวา ภุฺชิสฺสนฺติ, เอวมสฺส สทฺธา อนุรกฺขิตา ภวิสฺสตีติ ปุนปฺปุนํ ปฏิกฺขิปิ. กิฺจาปิ โข โภ โคตมาติ อิมินา อิทํ ทีเปติ ‘‘โภ โคตม, กึ ชาตํ, ยทิ อหํ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน, อธิวาเสตุ ภวํ โคตโม, อหํ พฺราหฺมณานมฺปิ ทาตุํ สกฺโกมิ ตุมฺหากมฺปี’’ติ. เปตฺวา ธฺผลรสนฺติ เอตฺถ ตณฺฑุลโธวโนทกมฺปิ ธฺรโสเยวาติ วทนฺติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺฉุรสนฺติ เอตฺถ นิกฺกสโฏ อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโกติ เวทิตพฺพํ.

อิมาหิคาถาหีติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๐๐) อิมาหิ เกณิยสฺส จิตฺตานุกูลาหิ คาถาหิ. ตตฺถ อคฺคิปริจริยํ วินา พฺราหฺมณานํ ยฺาภาวโต ‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยฺา’’ติ วุตฺตํ, อคฺคิหุตฺตเสฏฺา อคฺคิชุหนปฺปธานาติ อตฺโถ. พฺราหฺมณา หิ ‘‘อคฺคิมุขา เทวา’’ติ อคฺคิชุหนปุพฺพกํ ยฺํ วิทหนฺติ. เวเท สชฺฌายนฺเตหิ ปมํ สชฺฌายิตพฺพโต สาวิตฺตี ‘‘ฉนฺทโส มุข’’นฺติ วุตฺตา, สาวิตฺตี เวทสฺส ปุพฺพงฺคมาติ อตฺโถ ตํปุพฺพกตฺตา เวทสวนสฺส. มนุสฺสานํ เสฏฺภาวโต ราชา ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. โอคาหนฺตีนํ นทีนํ อาธารภาวโต คนฺตพฺพฏฺานภาเวน ปฏิสรณโต จ สาคโร ‘‘มุข’’นฺติ วุตฺโต. จนฺทสมาโยเคน ‘‘อชฺช กตฺติกา, อชฺช โรหิณี’’ติ สฺายนโต นกฺขตฺตานิ อภิภวิตฺวา อาโลกกรณโต นกฺขตฺเตหิ อติวิเสสโสมฺมภาวโต จ ‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทีปสิขา อคฺคิชาลา อสนิวิจกฺก’’นฺติ เอวมาทีนํ ตปนฺตานํ วิชฺชุลตานํ อคฺคตฺตา อาทิจฺโจ ‘‘ตปตํ มุข’’นฺติ วุตฺโต. ทกฺขิเณยฺยานํ ปน อคฺคตฺตา วิเสเสน ตสฺมึ สมเย พุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ สนฺธาย ‘‘ปุฺํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เว ยชตํ มุข’’นฺติ วุตฺตํ. เตน สงฺโฆ ปุฺสฺส อายมุขํ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวนาติ ทสฺเสติ.

เกณิยชฏิลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โรชมลฺลวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๐๑. โรชวตฺถุมฺหิ วิหาโรติ คนฺธกุฏึ สนฺธาย อาหํสุ. อตรมาโนติ อตุรนฺโต, สณิกํ ปทปฺปมาณฏฺาเน ปทํ นิกฺขิปนฺโต วตฺตํ กตฺวา สุสมฺมฏฺํ มุตฺตาทลสินฺทุวารสนฺถรสทิสํ วาลิกํ อวินาเสนฺโตติ อตฺโถ. อาฬินฺทนฺติ ปมุขํ. อุกฺกาสิตฺวาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา. อคฺคฬนฺติ กวาฏํ. อาโกเฏหีติ อคฺคนเขน อีสกํ กุฺจิกฉิทฺทสมีเป โกเฏหีติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวารํ กิร อติอุปริ อมนุสฺสา, อติเหฏฺา ติรจฺฉานชาติกา โกเฏนฺติ, ตถา อโกเฏตฺวา มชฺเฌ ฉิทฺทสมีเป มนุสฺสา โกเฏนฺติ, อิทํ ทฺวารโกฏกวตฺตนฺติ ทีเปนฺตา วทนฺติ. วิวริภควา ทฺวารนฺติ น ภควา อุฏฺาย ทฺวารํ วิวริ, วิวรตูติ ปน หตฺถํ ปสาเรสิ. ตโต ‘‘ภควา ตุมฺเหหิ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ ทานํ ททมาเนหิ น สหตฺถา ทฺวารวิวรณกมฺมํ กต’’นฺติ สยเมว ทฺวารํ วิวฏํ. ตํ ปน ยสฺมา ภควโต มเนน วิวฏํ, ตสฺมา ‘‘วิวริ ภควา ทฺวาร’’นฺติ วุตฺตํ.

โรชมลฺลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๐๓. อาตุมาวตฺถุมฺหิ อฺตโร วุฑฺฒปพฺพชิโตติ สุภทฺโท นาม อฺตโร ภิกฺขุ วุฑฺฒกาเล ปพฺพชิตตฺตา ‘‘วุฑฺฒปพฺพชิโต’’ติ วุตฺโต. ทฺเว ทารกาติ สามเณรภูมิยํ ิตา ทฺเว ปุตฺตา. นาฬิยาวาปเกนาติ นาฬิยา เจว ถวิกาย จ. สํหรึสูติ ยสฺมา มนุสฺสา เต ทารเก มฺชุภาณิเน ปฏิภานวนฺเต ทิสฺวา กาเรตุกามาปิ อกาเรตุกามาปิ กาเรนฺติเยว, กตกาเล จ ‘‘กึ คณฺหิสฺสถ ตาตา’’ติ ปุจฺฉนฺติ. เต วทนฺติ ‘‘น อมฺหากํ อฺเน เกนจิ อตฺโถ, ปิตา ปน โน ภควโต อาคตกาเล ยาคุทานํ กาตุกาโม’’ติ. ตํ สุตฺวา มนุสฺสา อปริคเณตฺวาว ยํ เต สกฺโกนฺติ หริตุํ, สพฺพํ เทนฺติ. ยมฺปิ น สกฺโกนฺติ, มนุสฺเสหิ เปเสนฺติ. ตสฺมา เต ทารกา พหุํ โลณมฺปิ เตลมฺปิ สปฺปิมฺปิ ตณฺฑุลมฺปิ ขาทนียมฺปิ สํหรึสุ.

อาตุมายํ วิหรตีติ อาตุมํ นิสฺสาย วิหรติ. ภุสาคาเรติ ภุสมเย อคารเก. ตตฺถ กิร มหนฺตํ ปลาลปุฺชํ อพฺภนฺตรโต ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา สาลาสทิสํ ปพฺพชิตานํ วสนโยคฺคฏฺานสทิสํ กตํ, ตทา ภควา ตตฺถ วสิ. อถ ภควติ อาตุมํ อาคนฺตฺวา ภุสาคารกํ ปวิฏฺเ สุภทฺโท สายนฺหสมยํ คามทฺวารํ คนฺตฺวา มนุสฺเส อามนฺเตสิ ‘‘อุปาสกา นาหํ ตุมฺหากํ สนฺติกา อฺํ กิฺจิ ปจฺจาสีสามิ, มยฺหํ ทารเกหิ อานีตเตลาทีนิเยว สงฺฆสฺส ปโหนฺติ, หตฺถกมฺมมตฺตํ เม เทถา’’ติ. กึ, ภนฺเต, กโรมาติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ คณฺหถา’’ติ สพฺพูปกรณานิ คาเหตฺวา วิหาเร อุทฺธนานิ กาเรตฺวา เอกํ กาฬกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา ตาทิสเมว ปารุปิตฺวา ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ กโรถา’’ติ สพฺพรตฺตึ วิจาเรนฺโต สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา โภชฺชยาคุฺจ มธุโคฬกฺจ ปฏิยาทาเปสิ. โภชฺชยาคุ นาม ปมํ ภุฺชิตฺวา ปาตพฺพยาคุ, ตตฺถ สปฺปิมธุผาณิตมจฺฉมํสปุปฺผผลรสาทิ ยํกิฺจิ ขาทนียํ นาม, สพฺพํ ปวิสติ, กีฬิตุกามานํ สีสมกฺขนโยคฺคา โหติ สุคนฺธคนฺธา.

อถ ภควา กาลสฺเสว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ปิณฺฑาย จริตุํ อาตุมคามนคราภิมุโข ปายาสิ. มนุสฺสา ตสฺส อาโรเจสุํ ‘‘ภควา ปิณฺฑาย คามํ ปวิสติ, ตยา กสฺส ยาคุ ปฏิยาทิตา’’ติ. โส ยถานิวตฺถปารุเตเหว เตหิ กาฬกกาสาเวหิ เอเกน หตฺเถน ทพฺพิฺจ กฏจฺฉุฺจ คเหตฺวา พฺรหฺมา วิย ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา ยาคุ’’นฺติ อาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข โส วุฑฺฒปพฺพชิโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน พหุตรํ ยาคุํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต อุปนาเมสี’’ติ. ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺตีติอาทิ วุตฺตนยเมว. กุตายนฺติ กุโต อยํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

๓๐๔. ทสภาคํ ทตฺวาติ ทสมภาคํ ทตฺวา. เตเนวาห ‘‘ทส โกฏฺาเส กตฺวา เอโก โกฏฺาโส ภูมิสามิกานํ ทาตพฺโพ’’ติ.

วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา

๓๐๕. ปริมทฺทนฺตาติ อุปปริกฺขนฺตา. ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ ปตฺตุณฺณํ. โกเสยฺยวิเสโสติ หิ อภิธานโกเส วุตฺตํ. จีนเทเส โสมารเทเส จ สฺชาตวตฺถานิ จีนโสมารปฏานิ. ปตฺตุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา. อิทฺธิมยิกํ เอหิภิกฺขูนํ ปุฺิทฺธิยา นิพฺพตฺตจีวรํ. ตํ โขมาทีนํ อฺตรํ โหตีติ เตสํเยว อนุโลมํ. เทวตาหิ ทินฺนจีวรํ เทวทตฺติยํ. ตํ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ ชาลินีเทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ. ตมฺปิ โขมาทีนฺเว อนุโลมํ โหติ เตสุ อฺตรภาวโต. ทฺเว ปฏา เทสนาเมเนว วุตฺตาติ เตสํ สรูปทสฺสนปรเมตํ, นาฺํ นิวตฺตนปรํ ปตฺตุณฺณปฏสฺสปิ เทสนาเมเนว วุตฺตตฺตา. ตุมฺพาติ ภาชนานิ . ผลตุมฺโพติ ลาพุอาทิ. อุทกตุมฺโพติ อุทกุกฺขิปนกกุฏโก. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ เวฬุวิลีเวหิ วายิตฺวา กตฉตฺตํ. สมฺภินฺนรสนฺติ สมฺมิสฺสิตรสํ. ปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหตีติ อมฺพปานาทิปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ อสมฺภินฺนรสตฺตา. เตน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธินฺติ เตน สตฺตาหกาลิเกน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

จตุมหาปเทสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เภสชฺชกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.