📜
๗. กถินกฺขนฺธกํ
กถินานุชานนกถาวณฺณนา
๓๐๖. กถินกฺขนฺธเก ¶ ¶ สีสวเสนาติ ปธานงฺควเสน. ‘‘กถินนฺติ ปฺจานิสํเส อนฺโตกรณสมตฺถตาย ถิรนฺติ อตฺโถ’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ‘‘โส เนสํ ภวิสฺสตี’’ติ ยุชฺชตีติ ‘‘โส ตุมฺหาก’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เนส’’นฺติ วจนํ ยุชฺชติ. เย อตฺถตกถินาติ น เกวลํ ตุมฺหากเมว, เย อฺเปิ อตฺถตกถินา, เตสมฺปิ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อนามนฺเตตฺวา จรณนฺติ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน อนาปุจฺฉิตฺวา กุเลสุ จรณํ. มตกจีวรนฺติ มตสฺส สนฺตกํ จีวรํ. ตตฺรุปฺปาเทน อาภตนฺติ วิหารสนฺตเกน เขตฺตวตฺถุอาทินา อานีตํ.
ปมปวารณาย ปวาริตาติ อิทํ วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา วสฺสํวุตฺถภาวสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ อนฺตราเยน อปฺปวาริตานมฺปิ วุตฺถวสฺสานํ กถินตฺถารสมฺภวโต. เตเนว ‘‘อปฺปวาริตา วา’’ติ อวตฺวา ‘‘ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ นานาสีมาย อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสา อิมสฺมึ วิหาเร กถินตฺถารํ น ลภนฺตีติ อตฺโถ. ขลิมกฺขิตสาฏโกติ อหตวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทานกมฺมวาจาติ กถินทุสฺสทานกมฺมวาจา. อกาตุํ น ลพฺภตีติ อิมินา อนาทริเยน อกโรนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทีเปติ. กมฺมวาจา ปน เอกาเยว วฏฺฏตีติ กถินตฺถารสาฏกสฺส ทานกาเล วุตฺตา เอกาเยว กมฺมวาจา วฏฺฏติ. ปุน ตสฺส อฺสฺมึ วตฺเถ ทิยฺยมาเน กมฺมวาจาย ทาตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อปโลกนเมว อลนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๐๘. มหาภูมิกนฺติ มหาวิสยํ, จตุวีสติอาการวนฺตตาย มหาวิตฺถาริกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฺจกนฺติ ปฺจขณฺฑํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปมจิมิลิกาติ กถินวตฺถโต อฺา อตฺตโน ปกติจิมิลิกา. ‘‘กุจฺฉิจิมิลิกํ กตฺวา สิพฺพิตมตฺเตนาติ ถิรชิณฺณานํ จิมิลิกานํ เอกโต กตฺวา สิพฺพนสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ กุรุนฺทิยฺจ ¶ ¶ ‘‘วุตฺตวจนนิทสฺสนํ พฺยฺชเน เอว เภโท, อตฺเถ นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ กต’’นฺติ วทนฺติ. ปิฏฺิอนุวาตาโรปนมตฺเตนาติ ทีฆโต อนุวาตสฺส อาโรปนมตฺเตน. กุจฺฉิอนุวาตาโรปนมตฺเตนาติ ปุถุลโต อนุวาตสฺส อาโรปนมตฺเตน. สารุปฺปํ โหตีติ สมณสารุปฺปํ โหติ. รตฺตินิสฺสคฺคิเยนาติ รตฺติอติกฺกนฺเตน.
กถินานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาทายสตฺตกาทิกถาวณฺณนา
๓๑๑. อยนฺติ อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร. อิธ น วุตฺโตติ ปาฬิยํ มาติกาปทภาชเน สวนนฺติกานนฺตรํ น วุตฺโต. ตตฺถาติ ตสฺมึ สีมาติกฺกนฺติเก กถินุทฺธาเร. ‘‘สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโก’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. ‘‘พหิสีมายํ จีวรกาลสมยสฺส อติกฺกนฺตตฺตา สีมาติกฺกนฺติโก’’ติ อยํ อมฺหากํ ขนฺติ. สหุพฺภาเร ‘‘โส กตจีวโร’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, เอวฺจ สติ จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชตีติ วิฺายติ, อิธ ปน ปริวารปาฬิยฺจ ‘‘ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺตี’’ติ (ปริ. ๔๑๕) วจนโต ตํ น สเมติ, ตสฺมา วีมํสิตพฺพเมตฺถ การณํ.
๓๑๒. ‘‘สมาทายวาโร อาทายวารสทิโส, อุปสคฺคมตฺตเมตฺถ วิเสโส’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ อนวเสเสตฺวา ปกฺกมนฺโต ‘สมาทาย ปกฺกมตี’ติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ. ปุน สมาทายวาเรปิ เตเยว ทสฺสิตาติ สมฺพนฺโธ. วิปฺปกตจีวเร ปกฺกมนนฺติกสฺส กถินุทฺธารสฺส อสมฺภวโต ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ วุตฺตํ. ปกฺกมนนฺติโก หิ กถินุทฺธาโร นิฏฺิตจีวรสฺเสว วเสน วุตฺโต ‘‘ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน กตจีวรํ อาทาย ปกฺกมตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตสฺมา โส วิปฺปกตจีวโร น สมฺภวตีติ ฉเฬว อุพฺภารา ตตฺถ ทสฺสิตา.
ตตฺรายํ อาทิโต ปฏฺาย วารวิภาวนา – อาทายวารา สตฺต, ตถา สมาทายวาราติ ทฺเว สตฺตกวารา, ตโต ปกฺกมนนฺติกํ วชฺเชตฺวา วิปฺปกตจีวรสฺส อาทายสมาทายวารวเสน ทฺเว ฉกฺกวารา, ตโต ปรํ ¶ นิฏฺานสนฺนิฏฺานนาสนนฺติกานํ วเสน ตีณิ ติกานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ ปมตฺติกํ อนฺโตสีมายํ ‘‘ปจฺเจสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมํ วิธึ อนามสิตฺวา พหิสีมายเมว ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ปวตฺตํ, ตสฺมา ปกฺกมนนฺติกสีมาติกฺกนฺติกสอุพฺภารา ตตฺถ ¶ น ยุชฺชนฺติ. ทุติยตฺติกํ อนฺโตสีมายํ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ ปวตฺตํ. ตติยตฺติกํ อนธิฏฺิต-ปเทน วิเสเสตฺวา ปวตฺตํ, อตฺถโต ปมตฺติเกน สเมติ. อนธิฏฺิเตนาติ จ ‘‘ปจฺเจสฺสํ น ปจฺเจสฺส’’นฺติ เอวํ อนธิฏฺิเตน, อนิยมิเตนาติ อตฺโถ. ตติยตฺติกานนฺตรํ จตุตฺถตฺติกํ สมฺภวนฺตํ อนฺโตสีมายํ ‘‘ปจฺเจสฺส’’นฺติ วจนวิเสเสน สมฺภวติ. ตถา จ โยชิยมานํ อิตเรหิ สวนนฺติกาทีหิ อวิรุทฺธํ โหตีติ จตุตฺถตฺติกํ อหุตฺวา ฉกฺกํ ชาตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ตีณิ ติกานิ เอกํ ฉกฺกฺจาติ ปมํ ปนฺนรสกํ เวทิตพฺพํ.
๓๑๖-๓๒๐. ตโต อิทเมว ปนฺนรสกํ อุปสคฺควิเสเสน ทุติยํ สมาทายปนฺนรสกํ นาม กตํ. ปุน ‘‘วิปฺปกตจีวรํ อาทายา’’ติ ตติยํ ปนฺนรสกํ, ‘‘สมาทายา’’ติ จตุตฺถํ ปนฺนรสกํ ทสฺสิตนฺติ เอวํ จตฺตาริ ปนฺนรสกานิ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ปมทุติเยสุ ปนฺนรสเกสุ สพฺเพน สพฺพํ อกตจีวรํ อธิปฺเปตํ, อิตเรสุ ทฺวีสุ วิปฺปกตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตโต ปรํ ‘‘จีวราสาย ปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน นิฏฺานสนฺนิฏฺานนาสนอาสาวจฺเฉทิกวเสน เอโก วาโรติ อิทเมกํ จตุกฺกํ ชาตํ, ตสฺมา ปุพฺเพ วุตฺตานิ ติกานิ อาสาวจฺเฉทิกานิ ตีณิ จ ติกานีติ เอตํ อนาสายทฺวาทสกนฺติ เวทิตพฺพํ. ตทนนฺตเร อาสายทฺวาทสเก กิฺจาปิ ปมํ ทฺวาทสกํ ลพฺภติ, ตถาปิ ตํ นิพฺพิเสสนฺติ ตเมกํ ทฺวาทสกํ อวุตฺตสิทฺธํ กตฺวา วิเสสโต ทสฺเสตุํ อาทิโต ปฏฺาย ‘‘อนฺโตสีมายํ ปจฺเจสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ทุติยจตุกฺเก ‘‘โส พหิสีมคโต สุณาตี’’ติอาทิวจนสฺส ตติยจตุกฺเก สวนนฺติกาทีนฺจ โอกาสกรณตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน ทฺวาทสกํ อนาสายวเสนปิ ลพฺภมานํ อิมินา อวุตฺตสิทฺธํ กตฺวา น ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวเมตฺถ ทฺเว ทฺวาทสกานิ อุทฺธริตพฺพานิ. กรณียทฺวาทสเกปิ ยถาทสฺสิตํ อนาสายทฺวาทสกํ อวุตฺตสิทฺธํ อาสายทฺวาทสกฺจาติ ทฺเว ทฺวาทสกานิ อุทฺธริตพฺพานิ.
๓๒๑-๓๒๒. ยสฺมา ทิสํคมิกนวเก ‘‘ทิสํคมิโก ปกฺกมตี’’ติ วจเนเนว ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิทํ อวุตฺตสิทฺธเมว, ตสฺมา ตํ น วุตฺตํ. เอตฺตาวตา ¶ จ อาวาสปลิโพธาภาโว ทสฺสิโต. จีวรปฏิวีสํ อปวิลายมาโนติ อิมินา จีวรปลิโพธสมงฺคิตมสฺส ทสฺเสติ. ตตฺถ จีวรปฏิวีสนฺติ อตฺตโน ปตฺตพฺพจีวรภาคํ. อปวิลายมาโนติ อากงฺขมาโน. ตสฺส จีวรลาเภ สติ วสฺสํวุตฺถาวาเส นิฏฺานสนฺนิฏฺานนาสนนฺติกานํ วเสน เอกํ ติกํ, เตสํเยว วเสน อนฺตรามคฺเค เอกํ, คตฏฺาเน เอกนฺติ ติณฺณํ ติกานํ วเสน เอกํ นวกํ เวทิตพฺพํ.
๓๒๔. ตโต ¶ ปรํ นิฏฺานสนฺนิฏฺานนาสนนฺติกสีมาติกฺกนฺติกสอุพฺภารานํ วเสน ผาสุวิหารปฺจกํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ ปาฬิโต อฏฺกถาโต จ สุวิฺเยฺยเมว.
อาทายสตฺตกาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กถินกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.