📜

๘. จีวรกฺขนฺธกํ

ชีวกวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๒๙-๓๓๐. จีวรกฺขนฺธเก กมฺมวิปากนฺติ กมฺมชโรคํ. สํยมสฺสาติ อานิสํสสฺส, อุปโยคตฺเถ เจตํ สามิวจนํ.

ปชฺโชตราชวตฺถุกถาทิวณฺณนา

๓๓๔-๓๓๖. วิจฺฉิกสฺส ชาโตติ ตสฺส กิร มาตุยา อุตุสมเย สยนคตาย วิจฺฉิโก นาภิปฺปเทสํ อารุฬฺโห, สา ตสฺส สมฺผสฺเสน คพฺภํ คณฺหิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิจฺฉิกสฺส ชาโต’’ติ. อุสฺสนฺนโทโสติ สฺจิตปิตฺตาทิโทโส.

วรยาจนกถาวณฺณนา

๓๓๗. อิตรีตเรนาติ อิตเรน อิตเรน. อิตร-สทฺโท ปน อนิยมวจโน ทฺวิกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโน ยํกิฺจิ-สทฺเทหิ สมานตฺโถ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปคฺเฆนปิ มหคฺเฆนปิ เยน เกนจี’’ติ. มหาปิฏฺิยโกชวนฺติ หตฺถิปิฏฺีสุ อตฺถริตพฺพตาย มหาปิฏฺิยนฺติ ลทฺธสมฺํ จตุรงฺคุลปุปฺผํ โกชวํ.

กมฺพลานุชานนาทิกถาวณฺณนา

๓๔๐. อุปจาเรติ สุสานสฺส อาสนฺเน ปเทเส. ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ กิฺจิ อวตฺวาเยว ฉฑฺเฑตฺวา คตา. โส เอว สามีติ อกตาย กติกาย เยน คหิตํ, โสว สามี.

จีวรปฏิคฺคาหกสมฺมุติอาทิกถาวณฺณนา

๓๔๒-๓๔๓. ธุรวิหารฏฺาเนติ วิหารทฺวารสฺส สมฺมุขฏฺาเน. วิหารมชฺเฌเยว สมฺมนฺนิตพฺพนฺติ สพฺเพสํ ชานนตฺถาย วิหารมชฺเฌเยว นิสินฺเนหิ สมฺมนฺนิตพฺพํ. ตุลาภูโตติ ตุลาสทิโส. วณฺณาวณฺณํ กตฺวาติ สพฺพโกฏฺาเส อคฺฆโต สมเก กตฺวา. เตเนวาห ‘‘สเม ปฏิวีเส เปตฺวา’’ติ. อิทนฺติ สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสสฺส ทานํ. ผาติกมฺมนฺติ สมฺมุฺชนีพนฺธนาทิหตฺถกมฺมํ . อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตีติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. สมปฏิวีโส ทาตพฺโพติ กริสฺสามาติ ยาจนฺตานํ ปฏิฺามตฺเตนปิ สมโกฏฺาโส ทาตพฺโพ.

จีวรรชนกถาวณฺณนา

๓๔๔. รชนกุมฺภิยา มชฺเฌ เปตฺวาติ อนฺโตรชนกุมฺภิยา มชฺเฌ เปตฺวา เอวํ วฏฺฏาธารเก อนฺโตรชนกุมฺภิยา ปกฺขิตฺเต มชฺเฌ อุทกํ ติฏฺติ, วฏฺฏาธารกโต พหิ สมนฺตา อนฺโตกุมฺภิยํ รชนจฺฉลฺลิ. รชนํ ปกฺขิปิตุนฺติ รชนจฺฉลฺลึ ปกฺขิปิตุํ.

ติจีวรานุชานนกถาวณฺณนา

๓๔๖. อุทฺธสฺเต อรุเณติ อุคฺคเต อรุณสีเส. นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺมุขิยา.

อติเรกจีวราทิกถาวณฺณนา

๓๔๘. อจฺฉุเปยฺยนฺติ ปติฏฺเปยฺยํ. หตวตฺถกานนฺติ กาลาตีตวตฺถานํ. อุทฺธริตฺวา อลฺลียาปนขณฺฑนฺติ ทุพฺพลฏฺานํ อปเนตฺวา อลฺลียาปนวตฺถขณฺฑํ.

วิสาขาวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๔๙-๓๕๑. วิสาขาวตฺถุมฺหิ กลฺลกายาติ อกิลนฺตกายา ปีติโสมนสฺเสหิ ผุฏสรีรา. คตีติ าณคติ าณาธิคโม. อภิสมฺปราโยติ าณาภิสมฺปราโย าณสหิโต เปจฺจภาโว.

ตํภควา พฺยากริสฺสตีติ ‘‘โส ภิกฺขุ โสตาปนฺโน สกทาคามี’’ติอาทินา ตสฺส ตํ าณคตึ, ตโต ปรํ ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๐๔) าณาภิสมฺปรายฺจ อาวิ กริสฺสติ. โสวคฺคิกนฺติ สคฺคสํวตฺตนิกํ. โสกํ นุทติ วิโนเทตีติ โสกนุทํ.

นิสีทนาทิอนุชานนกถาวณฺณนา

๓๕๓. ทุกฺขํสุปตีติ นานาวิธสุปินํ ปสฺสนฺโต ทุกฺขํ สุปติ. ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ปฏิพุชฺฌนฺโตปิ อุตฺตสิตฺวา สโลมหํโส ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌติ.

ปจฺฉิมวิกปฺปนุปคจีวราทิกถาวณฺณนา

๓๕๙-๓๖๒. อฏฺปทกจฺฉนฺเนน ปตฺตมุขํ สิพฺพิตุนฺติ อฏฺปทผลกากาเรน ปตฺตมุเข ตตฺถ ตตฺถ คพฺภํ ทสฺเสตฺวา สิพฺพิตุํ. อคฺคฬคุตฺติเยว ปมาณนฺติ อิเมหิ จตูหิ นิกฺเขปการเณหิ เปนฺเตนปิ อคฺคฬคุตฺติวิหาเรเยว เปตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย.

สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา

๓๖๓. ปฺจ มาเสติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโตติ วสฺสาวาสิกตฺถาย เวยฺยาวจฺจกเรหิ วฑฺฒึ ปโยเชตฺวา ปิตอุปนิกฺเขปโต. ตตฺรุปฺปาทโตติ นาฬิเกรอารามาทิตตฺรุปฺปาทโต. ‘‘วสฺสาวาสิกลาภวเสน วา มตกจีวรวเสน วา ตตฺรุปฺปาทวเสน วา อฺเน วา เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส อุปฺปนฺนจีวรํ, สพฺพํ ตสฺเสว อตฺถตกถินสฺส ปฺจ มาเส, อนตฺถตกถินสฺส เอกํ จีวรมาสํ ปาปุณาตี’’ติ อวิเสสโต วตฺวาปิ ปุน วสฺสาวาสิกลาภวเสน อุปฺปนฺเน ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปน อิท’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อิธาติ อภิลาปมตฺตเมตํ. ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วุตฺเตปิ โสเยว นโย. อนตฺถตกถินสฺสปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตีติ วสฺสาวาสิกลาภวเสน อุปฺปนฺนตฺตา อนตฺถตกถินสฺสปิ วุตฺถวสฺสสฺส ปฺจ มาเส ปาปุณาติ. เกนจิ ปน ‘‘อิธ-สทฺเทน นิยมิตตฺตา’’ติ การณํ วุตฺตํ, ตํ อการณํ. ตถา หิ อิธ-สทฺเทน อนิยเมตฺวาปิ ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วา อนฺโตเหมนฺเต วสฺสาวาสิกลาภวเสน ทินฺนํ จีวรํ อนตฺถตกถินสฺสปิ วุตฺถวสฺสสฺส ปฺจ มาเส ปาปุณาติ, เตเนว ปรโต อฏฺสุ มาติกาสุ ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทตี’’ติ อิมสฺส มาติกาปทสฺส วินิจฺฉเย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) ‘‘จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปรนฺติ ปฺจมาสโต ปรํ, คิมฺหานสฺส ปมทิวสโต ปฏฺายาติ อตฺโถ.

‘‘กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ‘‘อุทาหุ อนาคตวสฺเส’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ทฏฺพฺพํ. คิมฺหานสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนเมว หิ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘กึ อตีตวสฺเส อิทํ วสฺสาวาสิก’’นฺติอาทินา ปุจฺฉิตพฺพํ, เตเนว ปรโตปิ วกฺขติ ‘‘คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อติกฺกนฺตา, อนาคโต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’ติ. สเจ ‘อตีตวสฺสํวุตฺถานํ ทมฺมี’ติ วทติ, ตํอนฺโตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). โปตฺถเกสุ ปน ‘‘อนตฺถตกถินสฺสปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตี’’ติ อิมสฺสานนฺตรํ ‘‘กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ อิทํ ลิขนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. น หิ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘อนตฺถตกถินสฺสปิ ปฺจ มาเส ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ, น จ ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนํ วุตฺถวสฺสสฺเสว ปาปุณาติ, สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ, เตเนว ปรโต วกฺขติ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสาติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุตฺถานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙).

ิติกา ปน น ติฏฺตีติ เอตฺถ อฏฺิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ปน ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา คจฺฉติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธมาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ. ทุคฺคหิตานิ โหนฺตีติ เอตฺถ สงฺฆิกาเนว โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. คหิตเมว นามาติ ‘‘อิมสฺส อิทํ ปตฺต’’นฺติ กิฺจาปิ น วิทิตํ, เต ปน ภาคา อตฺถโต เตสํ ปตฺตาเยวาติ อธิปฺปาโย. อิโตวาติ เถรานํ ทาตพฺพโตเยว.

สงฺฆิกจีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุปนนฺทสกฺยปุตฺตวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๖๔. สตฺตาหวาเรนอรุณเมว อุฏฺาเปตีติ เอตํ วจนมตฺตเมว เอกสฺมึ วิหาเร สตฺตาหกิจฺจาภาวโต. อิทนฺติ เอกาธิปฺปายทานํ. นานาลาเภหีติอาทีสุ นานา วิสุํ วิสุํ ลาโภ เอเตสูติ นานาลาภา, ทฺเว วิหารา, เตหิ นานาลาเภหิ. นานา วิสุํ วิสุํ ปาการาทีหิ ปริจฺฉินฺโน อุปจาโร เอเตสนฺติ นานูปจารา, เตหิ นานูปจาเรหิ. เอกสีมวิหาเรหีติ เอกูปจารสีมายํ ทฺวีหิ วิหาเรหิ.

คิลานวตฺถุกถาวณฺณนา

๓๖๕. ปลิปนฺโนติ นิมุคฺโค, มกฺขิโตติ อตฺโถ. อุจฺจาเรตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา. สมานาจริยโกติ เอตฺถ สเจปิ เอกสฺส อาจริยสฺส เอโก อนฺเตวาสิโก โหติ, เอโก สทฺธิวิหาริโก, เอเตปิ อฺมฺํ สมานาจริยกา เอวาติ วทนฺติ.

๓๖๖. เภสชฺชํ โยเชตุํ อสมตฺโถ โหตีติ เวชฺเชน ‘‘อิทฺจิทฺจ เภสชฺชํ คเหตฺวา อิมินา โยเชตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ตถา กาตุํ อสมตฺโถติ อตฺโถ. นีหาตุนฺติ นีหริตุํ, ฉฑฺเฑตุนฺติ อตฺโถ.

มตสนฺตกกถาวณฺณนา

๓๖๗-๓๖๙. ภิกฺขุสฺส กาลกเตติ เอตฺถ กาลกต-สทฺโท ภาวสาธโนติ อาห ‘‘กาลกิริยายา’’ติ. ตตฺถ ตตฺถ สงฺฆสฺสาติ ตสฺมึ ตสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส.

สงฺเฆ ภินฺเน จีวรุปฺปาทกถาวณฺณนา

๓๗๖. ยตฺถ ปน ทกฺขิโณทกํ ปมาณนฺติ ภิกฺขู ยสฺมึ รฏฺเ ทกฺขิโณทกปอคฺคหณมตฺเตนปิ เทยฺยธมฺมสฺส สามิโน โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ปรสมุทฺเทติ ชมฺพุทีเป.

๓๗๘. มตกจีวรํ อธิฏฺาตีติ เอตฺถ มคฺคํ คจฺฉนฺโต ตสฺส กาลกิริยํ สุตฺวา อวิหารฏฺาเน เจ ทฺวาทสรตนพฺภนฺตเร อฺเสํ ภิกฺขูนํ อภาวํ ตฺวา ‘‘อิทํ จีวรํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ อธิฏฺาติ, สฺวาธิฏฺิตํ.

อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา

๓๗๙. ปุคฺคลาธิฏฺานนเยนวุตฺตนฺติ ‘‘สีมายทาน’’นฺติอาทินา วตฺตพฺเพ ‘‘สีมาย เทตี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน วุตฺตํ. ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนาติ อิมินา อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ธุวสนฺนิปาตฏฺานาทิโต ปมเลฑฺฑุปาตสฺส อนฺโต อุปจารสีมาติ ทสฺเสติ. อิทานิ ทุติยเลฑฺฑุปาตสฺส อนฺโตปิ อุปจารสีมาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ธุวสนฺนิปาตฏฺานมฺปิ ปริยนฺตคตเมว คเหตพฺพํ. ภิกฺขุนีนํ อารามปฺปเวสนเสนาสนาปุจฺฉนาทิ ปริวาสมานตฺตาโรจนวสฺสจฺเฉทนิสฺสยเสนาสนคฺคาหาทิ วิธานนฺติ อิทํ สพฺพํ อิมิสฺสาเยว อุปจารสีมาย วเสน เวทิตพฺพํ. ลาภตฺถาย ปิตสีมา ลาภสีมา. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาสุ ทินฺนสฺส อิทํ นานตฺตํ – ‘‘อวิปฺปวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ คามฏฺานํ น ปาปุณาติ. กสฺมา? ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา. ‘‘สมานสํวาสกสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน คาเม ิตานมฺปิ ปาปุณาตีติ.

พุทฺธาธิวุตฺโถติ พุทฺเธน ภควตา อธิวุตฺโถ. เอกสฺมินฺติ เอกสฺมึ วิหาเร. ปากวฏฺฏนฺติ ทานวฏฺฏํ. วตฺตตีติ ปวตฺตติ. ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏตีติ ‘‘ตุยฺหํ เทมา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺตตฺตา ปํสุกูลิกานํ วฏฺฏติ. วิจาริตเมวาติ อุปาหนตฺถวิกาทีนมตฺถาย วิจาริตเมว.

อุปฑฺฒํ ทาตพฺพนฺติ ยํ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนํ, ตโต อุปฑฺฒํ ภิกฺขูนํ, อุปฑฺฒํ ภิกฺขุนีนํ ทาตพฺพํ. สเจปิ เอโก ภิกฺขุ โหติ เอกา วา ภิกฺขุนี, อนฺตมโส อนุปสมฺปนฺนสฺสปิ อุปฑฺฒเมว ทาตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ น ลภตีติ อิทํ อฏฺกถาปมาเณเนว คเหตพฺพํ. น เหตฺถ วิเสสการณํ อุปลพฺภติ. ตถา หิ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สามฺวิเสสวจเนหิ สงฺคหิตตฺตา ยถา ปุคฺคโล วิสุํ ลภติ, เอวมิธาปิ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ สามฺวิเสสวจนสพฺภาวโต ภวิตพฺพเมว วิสุํ ปุคฺคลปฏิวีเสนาติ วิฺายติ, ตสฺมา อฏฺกถาวจนเมเวตฺถ ปมาณํ. ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภตีติ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺานโต เอกเมว โกฏฺาสํ ลภติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา’’ติ, ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณเนว ปุคฺคลสฺสปิ คหิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ภิกฺขุสงฺฆสฺส หราติ วุตฺเตปิ หริตพฺพนฺติ อีทิสํ คิหิเวยฺยาวจฺจํ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

ลกฺขณฺู วทนฺตีติ อิทํ สนฺนิฏฺานวจนํ, อฏฺกถาสุ อนาคตตฺตา ปน เอวํ วุตฺตํ. พหิอุปจารสีมายํ…เป… สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ ยตฺถ กตฺถจิ วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. เตเนว มาติกาฏฺกถายมฺปิ (กงฺขา. อฏฺ. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ ิโต ‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’ติ วทติ, ยตฺถ กตฺถจิ วุตฺถวสฺสานํ สพฺเพสํ สมฺปตฺตานํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ. คณฺิปเทสุ ปน ‘‘วสฺสาวาสสฺส อนนุรูเป ปเทเส ตฺวา วุตฺตตฺตา วสฺสํวุตฺถานํ อวุตฺถานฺจ สพฺเพสํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. น หิ ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อวุตฺถวสฺสานํ ปาปุณาติ. เอวํ วทตีติ ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโตติ ตสฺส สนฺติเก อุทฺเทสํ อคหิตปุพฺพสฺสปิ อุทฺเทสํ คณฺหิสฺสามีติ อาคตกาลโต ปฏฺาย อนฺเตวาสิกภาวูปคมนโต วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

อฏฺจีวรมาติกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จีวรกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.