📜
๔. สมถกฺขนฺธกํ
สมฺมุขาวินยกถาวณฺณนา
๑๘๗. สมถกฺขนฺธเก ¶ ¶ สฺาเปตีติ เอตฺถ สํ-สทฺทูปปโท า-สทฺโท โตสนวิสิฏฺเ อวโพธเน วตฺตตีติ อาห ‘‘ปริโตเสตฺวา ชานาเปตี’’ติ.
สติวินยาทิกถาวณฺณนา
๑๙๕-๒๐๐. เทสนามตฺตเมเวตนฺติ ‘‘ปฺจิมานี’’ติ เอตํ เทสนามตฺตํ. สติเวปุลฺลปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส ทาตพฺโพ วินโย สติวินโย. อมูฬฺหสฺส ทาตพฺโพ วินโย อมูฬฺหวินโย. ปฏิฺาเตน กรณํ ปฏิฺาตกรณํ.
๒๑๒. ติณวตฺถารกสทิสตฺตาติ ตํสทิสตาย ตพฺโพหาโรติ ทสฺเสติ ยถา ‘‘เอส พฺรหฺมทตฺโต’’ติ.
อธิกรณกถาวณฺณนา
๒๑๖. วิวาทาธิกรณสฺส กึ มูลนฺติอาทีสุ วิวาทมูลานีติ วิวาทสฺส มูลานิ. โกธโนติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน สมนฺนาคโต. อุปนาหีติ เวรอปฺปฏินิสฺสคฺคลกฺขเณน อุปนาเหน สมนฺนาคโต. อคารโวติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๒๓; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๔) คารววิรหิโต. อปฺปติสฺโสติ อปฺปติสฺสโย อนีจวุตฺติ. เอตฺถ ปน โย ภิกฺขุ สตฺถริ ธรมาเน ตีสุ กาเลสุ อุปฏฺานํ น ยาติ, สตฺถริ อนุปาหเน จงฺกมนฺเต สอุปาหโน จงฺกมติ, นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺเต อุจฺเจ จงฺกมติ, เหฏฺา วสนฺเต อุปริ วสติ, สตฺถุ ทสฺสนฏฺาเน อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตํ ธาเรติ, อุปาหนํ ธาเรติ, นหายติ, อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กโรติ, ปรินิพฺพุเต ¶ วา ปน เจติยํ วนฺทิตุํ น คจฺฉติ, เจติยสฺส ปฺายนฏฺาเน สตฺถุทสฺสนฏฺาเน วุตฺตํ สพฺพํ กโรติ, อฺเหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘กสฺมา เอวํ กโรสิ, น อิทํ วฏฺฏติ, สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส นาม ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุณฺหี โหหิ, พุทฺโธ พุทฺโธติ วทสิ, กึ พุทฺโธ นามา’’ติ ภณติ, อยํ สตฺถริ อคารโว นาม.
โย ¶ ปน ธมฺมสวเน สงฺฆุฏฺเ สกฺกจฺจํ น คจฺฉติ, สกฺกจฺจํ ธมฺมํ น สุณาติ, นิทฺทายติ วา สลฺลปนฺโต วา นิสีทติ, สกฺกจฺจํ น คณฺหาติ น วาเจติ, ‘‘กึ ธมฺเม อคารวํ กโรสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุณฺหี โหหิ, ธมฺโม ธมฺโมติ วทสิ, กึ ธมฺโม นามา’’ติ วทติ, อยํ ธมฺเม อคารโว นาม. โย ปน เถเรน ภิกฺขุนา อนชฺฌิฏฺโ ธมฺมํ เทเสติ อุทฺทิสติ ปฺหํ กเถติ, วุฑฺเฒ ภิกฺขู ฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ ติฏฺติ นิสีทติ, ทุสฺสปลฺลตฺถิกํ วา หตฺถปลฺลตฺถิกํ วา กโรติ, สงฺฆมชฺเฌ อุโภ อํเส ปารุปติ, ฉตฺตุปาหนํ ธาเรติ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ลชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ตุณฺหี โหหิ, สงฺโฆ สงฺโฆติ วทสิ, กึ สงฺโฆ, มิคสงฺโฆ อชสงฺโฆ’’ติอาทีนิ วทติ, อยํ สงฺเฆ อคารโว นาม. เอกภิกฺขุสฺมิมฺปิ หิ อคารเว กเต สงฺเฆ กโตเยว โหติ. ติสฺโส สิกฺขา ปน อปูรยมาโน สิกฺขาย น ปริปูรการี นาม.
อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานนฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๒๕; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๒; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๖.๓๖) เอกสฺมึ วิหาเร ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺนวิวาโท กถํ เทวมนุสฺสานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตติ? โกสมฺพกกฺขนฺธเก วิย หิ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุ วิวาทํ อาปนฺเนสุ ตสฺมึ วิหาเร เตสํ อนฺเตวาสิกา วิวทนฺติ, เตสํ โอวาทํ คณฺหนฺโต ภิกฺขุนิสงฺโฆ วิวทติ, ตโต เตสํ อุปฏฺากา วิวทนฺติ, อถ มนุสฺสานํ อารกฺขเทวตา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ตตฺถ ธมฺมวาทีนํ อารกฺขเทวตา ธมฺมวาทินิโย โหนฺติ, อธมฺมวาทีนํ อธมฺมวาทินิโย. ตโต อารกฺขเทวตานํ มิตฺตา ภุมฺมเทวตา ภิชฺชนฺติ. เอวํ ปรมฺปราย ยาว พฺรหฺมโลกา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺเพ เทวมนุสฺสา ทฺเว โกฏฺาสา โหนฺติ. ธมฺมวาทีหิ ปน อธมฺมวาทิโนว พหุตรา โหนฺติ. ตโต ‘‘ยํ พหุเกหิ คหิตํ, ตํ ตจฺฉ’’นฺติ ธมฺมํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหุตรา อธมฺมํ คณฺหนฺติ. เต อธมฺมํ ปุรกฺขตฺวา วิหรนฺตา อปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ. เอวํ เอกสฺมึ วิหาเร ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺโน วิวาโท พหูนํ อหิตาย ทุกฺขาย โหติ. อชฺฌตฺตํ วาติ อตฺตนิ วา อตฺตโน ปริสาย วา. พหิทฺธา วาติ ปรสฺมึ วา ปรสฺส ปริสาย วา. อายตึ อนวสฺสวายาติ อายตึ อนุปฺปาทาย.
มกฺขีติ ¶ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน สมนฺนาคโต. ปฬาสีติ ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต. อิสฺสุกีติ ปรสกฺการาทีนํ อิสฺสายนลกฺขณาย ¶ อิสฺสาย สมนฺนาคโต. มจฺฉรีติ อาวาสมจฺฉริยาทีหิ สมนฺนาคโต. สโติ เกราฏิโก. มายาวีติ กตปาปปฏิจฺฉาทโก. ปาปิจฺโฉติ อสนฺตสมฺภาวนิจฺฉโก ทุสฺสีโล. มิจฺฉาทิฏฺีติ นตฺถิกวาที อเหตุกวาที อกิริยวาที. สนฺทิฏฺิปรามาสีติ สยํ ทิฏฺเมว ปรามสติ คณฺหาติ. อาธานคฺคาหีติ ทฬฺหคฺคาหี. ทุปฺปฏินิสฺสคฺคีติ น สกฺกา โหติ คหิตํ นิสฺสชฺชาเปตุํ. เอตฺถ จ โกธโน โหติ อุปนาหีติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺานนเยน โกธูปนาหาทโย อกุสลธมฺมา วิวาทมูลานีติ ทสฺสิตานิ, ตถา ทุฏฺจิตฺตา วิวทนฺตีติอาทินา โลภโทสโมหา. อทุฏฺจิตฺตา วิวทนฺตีติอาทินา จ อโลภาทโย วิวาทมูลานีติ ทสฺสิตานิ.
๒๑๗. ทุพฺพณฺโณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวณฺโณ. ทุทฺทสฺสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโน. โอโกฏิมโกติ ลกุณฺฑโก. กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา. กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา. ขฺโชติ เอกปาทขฺโช วา อุภยปาทขฺโช วา. ปกฺขหโตติ หตปกฺโข ปีสปฺปี.
๒๒๐. วิวาทาธิกรณํ กุสลํ อกุสลํ อพฺยากตนฺติ วิวาทาธิกรณํ กึ กุสลํ อกุสลํ อุทาหุ อพฺยากตนฺติ ปุจฺฉติ. วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลนฺติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. เอส นโย เสเสสุปิ. วิวทนฺติ เอเตนาติ วิวาโทติ อาห ‘‘เยน วิวทนฺติ, โส จิตฺตุปฺปาโท วิวาโท’’ติ. กถํ ปน โส จิตฺตุปฺปาโท อธิกรณํ นามาติ อาห ‘‘สมเถหิ จ อธิกรณียตาย อธิกรณ’’นฺติ, สมเถหิ สเมตพฺพตาย อธิกรณนฺติ อตฺโถ. วิวาทเหตุภูตสฺส หิ จิตฺตุปฺปาทสฺส วูปสเมน ตปฺปภวสฺส สทฺทสฺสปิ วูปสโม โหตีติ จิตฺตุปฺปาทสฺส สมเถหิ อธิกรณียตา ปริยาโย สมฺภวติ.
๒๒๒. อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตนฺติ อยํ วิกปฺโป ปฺตฺติวชฺชํเยว สนฺธาย วุตฺโต, น โลกวชฺชนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺธายภาสิตวเสนา’’ติอาทิมาห. กสฺมา ปเนตฺถ สนฺธายภาสิตวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘ยสฺมึ หี’’ติอาทิ. ปถวีขณนาทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ภูตคามปาตพฺยตาทิปฺตฺติวชฺชํ สิกฺขาปทํ ¶ สงฺคณฺหาติ. โย วินเย อปกตฺุตาย วตฺตสีเสน สมฺมฺุชนิอาทินา ปถวีขณนาทีนิ กโรติ, ตทา ตสฺสุปฺปนฺนจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กุสลจิตฺตํ องฺคํ โหตี’’ติ. องฺคํ โหตีติ จ วตฺตสีเสน กโรนฺตสฺสปิ ‘‘อิมํ ปถวึ ขณามี’’ติอาทินา วีติกฺกมชานนวเสน ¶ ปวตฺตตฺตา ตํ กุสลจิตฺตํ อาปตฺตาธิกรณํ, กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา การณํ โหตีติ อตฺโถ. น หิ วีติกฺกมํ อชานนฺตสฺส ปถวีขณนาทีสุ อาปตฺติ สมฺภวติ. ตสฺมึ สตีติ ตสฺมึ กุสลจิตฺเต อาปตฺติภาเวน คหิเต สตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา กุสลจิตฺเต อาปตฺติภาเวน คหิเต สติ ‘‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา. นยิทํ องฺคปฺปโหนกจิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ อิทํ อาปตฺติสมุฏฺาปกภาเวน องฺคปฺปโหนกํ อาปตฺติยา การณภูตํ จิตฺตํ สนฺธาย น วุตฺตํ. กึ ปน สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทิ. ภิกฺขุมฺหิ กมฺมฏฺานคตจิตฺเตน นิปนฺเน นิทฺทายนฺเต วา มาตุคาโม เจ เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺมึ ขเณ เสยฺยากาเรน วตฺตมานรูปเมว อาปตฺติ, น กุสลาทิวสปฺปวตฺตํ จิตฺตนฺติ อาห ‘‘อสฺจิจฺจ…เป… สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชโต (ปริ. ๓๒๓ อตฺถโต สมานํ) อพฺยากตํ โหตี’’ติ. ตสฺมิฺหิ ขเณ อุฏฺาตพฺเพ ชาเต อนุฏฺานโต ตทาการปวตฺโต รูปกฺขนฺโธว อาปตฺติ.
‘‘อาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต กุสลจิตฺโต วา อาปชฺชติ อกุสลาพฺยากตจิตฺโต วา’’ติ วจนโต กุสลมฺปิ อาปตฺตาธิกรณํ สิยาติ เจ? น. โย หิ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ วุจฺจติ, โส ตีสุ จิตฺเตสุ อฺตรจิตฺตสมงฺคี หุตฺวา อาปชฺชติ, น อฺถาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘กุสลจิตฺโต วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปถวีขณนาทีสุ กุสลจิตฺตกฺขเณ วีติกฺกมาทิวเสน ปวตฺตรูปสมฺภวโต กุสลจิตฺโต วา ตถาปวตฺตรูปสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตถา อพฺยากตจิตฺโต วา อพฺยากตรูปสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชติ. ปาณาติปาตาทึ อกุสลจิตฺโต วา อกุสลาปตฺตึ อาปชฺชติ, รูปํ ปเนตฺถ อพฺโพหาริกํ. สุปินนฺเต จ ปาณาติปาตาทึ กโรนฺโต สหเสยฺยาทิวเสน อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ อาปชฺชนฺโต อกุสลจิตฺโต อพฺยากตาปตฺตึ อาปชฺชตีติ.
กุสลจิตฺตํ ¶ อาปชฺเชยฺยาติ เอฬกโลมํ คเหตฺวา กมฺมฏฺานมนสิกาเรน ติโยชนํ อติกฺกมนฺตสฺส ปฺตฺตึ อชานิตฺวา ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส จ อาปชฺชิตพฺพาปตฺติยา กุสลจิตฺตํ อาปชฺเชยฺย. น จ ตตฺถ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคนฺติ ตสฺมึ วิชฺชมานมฺปิ กุสลจิตฺตํ อาปตฺติยา องฺคํ น โหติ, สยํ อาปตฺติ น โหตีติ อตฺโถ. จลิตปฺปวตฺตานนฺติ จลิตานํ ปวตฺตานฺจ. จลิโต กาโย, ปวตฺตา วาจา. อฺตรเมว องฺคนฺติ กายวาจานํ อฺตรเมว อาปตฺตีติ อตฺโถ. ตฺจ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา อพฺยากตนฺติ อิมินา อพฺยากตมาปตฺตาธิกรณํ, นาฺนฺติ ทสฺเสติ.
ยทิ ¶ เอวํ ‘‘สาปตฺติกสฺส, ภิกฺขเว, นิรยํ วา วทามิ ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติ วจนโต อพฺยากตสฺสปิ วิปากธมฺมตา อาปชฺเชยฺยาติ? นาปชฺเชยฺย. อสฺจิจฺจ อาปนฺนา หิ อาปตฺติโย ยาว โส น ชานาติ, ตาว อนนฺตรายกรา, ชานิตฺวา ฉาเทนฺโต ปน ฉาทนปฺปจฺจยา อฺํ ทุกฺกฏสงฺขาตํ อกุสลมาปตฺตาธิกรณมาปชฺชติ, ตฺจ อกุสลสภาวตฺตา สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกรณนฺติ สาปตฺติกสฺส อปายคามิตา วุตฺตา. อพฺยากตํ ปน อาปตฺตาธิกรณํ อวิปากธมฺมเมวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. เตเนว โปราณคณฺิปเทสุปิ ‘‘ปุถุชฺชโน กลฺยาณปุถุชฺชโน เสกฺโข อรหาติ จตฺตาโร ปุคฺคเล ทสฺเสตฺวา เตสุ อรหโต อาปตฺตาธิกรณํ อพฺยากตเมว, ตถา เสกฺขานํ, ตถา กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส อสฺจิจฺจ วีติกฺกมกาเล อพฺยากตเมว. อิตรสฺส อกุสลมฺปิ โหติ อพฺยากตมฺปิ. ยสฺมา จสฺส สฺจิจฺจ วีติกฺกมกาเล อกุสลเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’นฺติ. สพฺพตฺถ เอวํ อพฺยากตนฺติ วิปากาภาวมตฺตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํ. ยฺจ อาปตฺตาธิกรณํ อกุสลํ, ตมฺปิ เทสิตํ วุฏฺิตํ วา อนนฺตรายกรํ. ยถา หิ อริยูปวาทกมฺมํ อกุสลมฺปิ สมานํ อจฺจยํ เทเสตฺวา ขมาปเนน ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา อวิปากธมฺมตํ อาปนฺนํ อโหสิกมฺมํ โหติ, เอวมิทมฺปิ เทสิตํ วุฏฺิตํ วา ปโยคสมฺปตฺติปฏิพาหิตตฺตา อวิปากธมฺมตาย อโหสิกมฺมภาเวน อนนฺตรายกรํ ชาตํ. เตเนว ‘‘สาปตฺติกสฺส, ภิกฺขเว, นิรยํ วา วทามิ ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติ สาปตฺติกสฺเสว อปายคามิตา วุตฺตา.
อธิกรณวูปสมนสมถกถาวณฺณนา
๒๒๘. วิวาทสงฺขาเต ¶ อตฺเถ ปจฺจตฺถิกา อตฺถปจฺจตฺถิกา.
๒๒๙. สมฺมุขาวินยสฺมินฺติ สมฺมุขาวินยภาเว.
๒๓๑. อุพฺพาหิกาย ขียนเก ปาจิตฺติ น วุตฺตา ตตฺถ ฉนฺททานสฺส นตฺถิตาย.
๒๓๖. ตสฺส โข ตนฺติ เอตฺถ โข ตนฺติ นิปาตมตฺตํ.
๒๓๘. ‘‘กา ¶ จ ตตฺถ ตสฺสปาปิยสิกายา’’ติ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ. ‘‘กา จ ตสฺสปาปิยสิกา’’ติ เอวํ ปเนตฺถ ปาโ เวทิตพฺโพ.
๒๔๒. กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมตีติ เอตฺถ ‘‘กิจฺจเมว กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๘๖) วจนโต อปโลกนกมฺมาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตํ วิวาทาธิกรณาทีนิ วิย สมเถหิ สเมตพฺพํ น โหติ, กินฺตุ สมฺมุขาวินเยน สมฺปชฺชติ, ตสฺมา สมฺมตีติ เอตฺถ สมฺปชฺชตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
สมถกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.