📜
๘. วตฺตกฺขนฺธกํ
อาคนฺตุกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๕๖-๓๕๗. วตฺตกฺขนฺธเก ¶ ¶ อุปริปิฏฺิโตติ ปิฏฺิสงฺฆาฏสฺส อุปริภาคโต, ทฺวารพาหสฺส อุปริปเทสโตติ อตฺโถ. วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ สุกฺขาปนตฺถํ อาตเป วิสฺสชฺชิตพฺพํ. อภิวาทาเปตพฺโพติ ตสฺส วสฺเส ปุจฺฉิเต ยทิ ทหโร โหติ, สยเมว วนฺทิสฺสติ, ตทา อิมินาว วนฺทาปิโต นาม โหติ. นิลฺโลเกตพฺโพติ โอโลเกตพฺโพ. ยถาภาคนฺติ ปุพฺเพ ปฺตฺตํ ปเทสภาคํ อนติกฺกมิตฺวา. สนฺตานกนฺติ อุณฺณนาภิสุตฺตํ. อุลฺโลกาติ เคหสฺส อุปริภาคโต ปฏฺาย, ปมํ อุปริภาโค สมฺมชฺชิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
อาวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๕๙. มหาอาวาเสติ มหาวิหารสทิเส มหาอาวาเส.
อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๒. ปฺจเม นิสินฺเนติ อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน. อุปนิสินฺนกถา นาม พหูสุ สนฺนิปติเตสุ ปริกถากถนํ.
ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๔. มนุสฺสานํ ปริวิสนฏฺานนฺติ ยตฺถ มนุสฺสา สปุตฺตทารา อาวสิตฺวา เทนฺติ. หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธายาติ ภุตฺตาวิสฺส โภชนาวสาเน หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย. เตเนวาห ‘‘อนฺตรา ปิปาสิเตน ปน…เป… หตฺถา น โธวิตพฺพา’’ติ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ปานียํ ปิวิตฺวา ¶ หตฺถา น โธวิตพฺพา’’ติ ลิขนฺติ, ‘‘หตฺถา โธวิตพฺพา’’ติ ปาเน ภวิตพฺพนฺติ อมฺหากํ ขนฺติ. อฺถา ‘‘น ตาว อุทกนฺติ อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อนฺตรา ปิปาสิเตน ปนา’’ติอาทินา วุตฺตวิเสโส น อุปลพฺภติ. อถ มตํ ‘‘น ตาว เถเรน อุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อิทํ กึ ปานียปฏิคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ, อุทาหุ หตฺถโธวนอุทกคฺคหณํ สนฺธายาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ ‘อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย ¶ วุตฺต’นฺติอาทิ กถิต’’นฺติ, ตฺจ น, ตตฺถ อาสงฺกาย เอว อสมฺภวโต. น หิ ภควา ‘‘ยาว อฺเ น ภุตฺตาวิโน โหนฺติ, ตาว ปานียํ น ปาตพฺพ’’นฺติ วกฺขตีติ สกฺกา วิฺาตุํ. ยทิ เจตํ ปานียปฏิคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘น ตาว เถเรน อุทกํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ อุทกสทฺทปฺปโยโค จ น กตฺตพฺโพ สิยา, อฏฺกถายฺจ ‘‘อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วตฺวา เตน นิวตฺติตพฺพมตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อนฺตรา ปิปาสิเตน ปน คเล วิลคฺคามิเสน วา ปานียํ ปิวิตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, ‘‘ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา น โธวิตพฺพา’’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพนฺติ. ธุเร นิสินฺนา โหนฺตีติ ทฺวารสมีเป นิสินฺนา โหนฺติ.
ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๖. ปรามสตีติ คณฺหาติ. เปติ วาติ ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ วทนฺตี เปติ นาม.
อารฺิกวตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๗. เกนชฺช, ภนฺเต, ยุตฺตนฺติ เกน นกฺขตฺเตน อชฺช จนฺโท ยุตฺโตติ เอวํ วทนฺเตน นกฺขตฺตํ ปุจฺฉิตํ โหติ.
เสนาสนวตฺตกถาวณฺณนา
๓๖๙-๓๗๐. องฺคเณติ อพฺโภกาเส. น วุฑฺฒํ อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ตสฺส โอวรเก ตทุปจาเร จ อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ วทนฺติ. โภชนสาลาทีสุปิ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ โภชนสาลาทีสุปิ อุทฺเทสทานาทิ อาปุจฺฉิตฺวาว กาตพฺพนฺติ อตฺโถ.
วจฺจกุฏิวตฺตกถาวณฺณนา
๓๗๓-๓๗๔. อิทํ ¶ อติวิวฏนฺติ อิทํ านํ คุมฺพาทีหิ อปฺปฏิจฺฉนฺนตฺตา อติวิย ปกาสนํ. นิพทฺธคมนตฺถายาติ อตฺตโน นิพทฺธคมนตฺถาย. ปุคฺคลิกฏฺานํ วาติ อตฺตโน วิหารํ สนฺธาย วุตฺตํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
อิมสฺมึ ¶ วตฺตกฺขนฺธเก อาคตานิ อาคนฺตุกาวาสิกคมิยานุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริการฺิก เสนาสน ชนฺตาฆร วจฺจกุฏิ อุปชฺฌาจริย สทฺธิวิหาริก อนฺเตวาสิกวตฺตานิ จุทฺทส มหาวตฺตานิ นาม, อิโต อฺานิ ปน กทาจิ ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ อสีติ ขนฺธกวตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. คณฺิปเทสุ ปน ‘‘อิมานิเยว จุทฺทส มหาวตฺตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน คหิยมานานิ อสีติ ขนฺธกวตฺตาอานี’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.
วตฺตกฺขนฺธกวณฺณนา นิฏฺิตา.