📜

๑. ปาราชิกกณฺฑํ (ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา)

๑. ปมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๕๖. ภิกฺขุนีวิภงฺเค โยติ โย ภิกฺขุนีนํ วิภงฺโค. มิคารนตฺตาติ มชฺฌปทโลเปเนตํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘มิคารมาตุยา ปน นตฺตา โหตี’’ติ. มิคารมาตาติ วิสาขาเยตํ อธิวจนํ. นวกมฺมาธิฏฺายิกนฺติ นวกมฺมสํวิธายิกํ. พฺยฺชนานํ ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ อากาโร นาติคมฺภีโร, ยถาสุตํ ธารณเมว ตตฺถ กรณียนฺติ สติยา พฺยาปาโร อธิโก, ปฺา ตตฺถ คุณีภูตาติ วุตฺตํ ‘‘สติปุพฺพงฺคมาย ปฺายา’’ติ. สติ ปุพฺพงฺคมา เอติสฺสาติ สติปุพฺพงฺคมา. ปุพฺพงฺคมตา เจตฺถ ปธานภาโว ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทีสุ วิย. อตฺถคฺคหเณ ปน ปฺาย พฺยาปาโร อธิโก ปฏิวิชฺฌิตพฺพสฺส อตฺถสฺส อติคมฺภีรตฺตาติ อาห ‘‘ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา’’ติ. อาลสิยวิรหิตาติ โกสชฺชรหิตา. ยถา อฺา กุสีตา นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺนาว โหนฺติ, ิตฏฺาเน ิตาว, เอวํ อหุตฺวา วิปฺผาริเกน จิตฺเตน สพฺพกิจฺจํ นิปฺผาเทติ.

สพฺพา ภิกฺขุนิโย สตฺถุลทฺธูปสมฺปทา สงฺฆโต ลทฺธูปสมฺปทาติ ทุวิธา. ครุธมฺมปอคฺคหเณน หิ ลทฺธูปสมฺปทา มหาปชาปติโคตมี สตฺถุสนฺติกาว ลทฺธูปสมฺปทตฺตา สตฺถุลทฺธูปสมฺปทา นาม. เสสา สพฺพาปิ สงฺฆโต ลทฺธูปสมฺปทา. ตาปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนา อุภโตอุปสมฺปนฺนาติ ทุวิธา. ตตฺถ ยา ตา มหาปชาปติโคตมิยา สทฺธึ นิกฺขนฺตา ปฺจสตา สากิยานิโย, ตา เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุสงฺฆโต เอว ลทฺธูปสมฺปทตฺตา, อิตรา อุภโตอุปสมฺปนฺนา อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนตฺตา. เอหิภิกฺขุนีภาเวน อุปสมฺปนฺนา ปน ภิกฺขุนิโย น สนฺติ ตาสํ ตถา อุปสมฺปทาย อภาวโต. ยทิ เอวํ ‘‘เอหิ ภิกฺขุนี’’ติ อิธ กสฺมา วุตฺตนฺติ? เทสนาย โสตปติตภาวโต. อยฺหิ โสตปติตตา นาม กตฺถจิ ลพฺภมานสฺสปิ อคฺคหเณน โหติ, ยถา อภิธมฺเม มโนธาตุนิทฺเทเส (ธ. ส. ๑๖๐-๑๖๑) ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตาย น อุทฺธฏํ กตฺถจิ เทสนาย อสมฺภวโต, ยถา ตตฺเถว วตฺถุนิทฺเทเส (ธ. ส. ๙๘๔ อาทโย) หทยวตฺถุ. กตฺถจิ อลพฺภมานสฺสปิ คหณวเสน ยถาิตกปฺปีนิทฺเทเส. ยถาห –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล ิตกปฺปี? อยฺจ ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน อสฺส, กปฺปสฺส จ อุฑฺฑยฺหนเวลา อสฺส, เนว ตาว กปฺโป อุฑฺฑยฺเหยฺย, ยาวายํ ปุคฺคโล น โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกเรยฺยา’’ติ (ปุ. ป. ๑๗).

เอวมิธาปิ อลพฺภมานคหณวเสน เวทิตพฺพํ. ปริกปฺปวจนฺเหตํ ‘‘สเจ ภควา ภิกฺขุนีภาวโยคฺยํ กฺจิ มาตุคามํ ‘เอหิ ภิกฺขุนี’ติ วเทยฺย, เอวํ ภิกฺขุนีภาโว สิยา’’ติ.

กสฺมา ปน ภควา เอวํ น กเถสีติ? ตถา กตาธิการานํ อภาวโต. เย ปน ‘‘อนาสนฺนาสนฺนิหิตภาวโต’’ติ การณํ วตฺวา ‘‘ภิกฺขู เอว หิ สตฺถุ อาสนฺนจาริโน สทา สนฺนิหิตา จ โหนฺติ, ตสฺมา เต เอว ‘เอหิภิกฺขู’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, น ภิกฺขุนิโย’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ สตฺถุ อาสนฺนทูรภาวสฺส ภพฺพาภพฺพภาวสิทฺธตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘สงฺฆาฏิกณฺเณ เจปิ เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คเหตฺวา ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺโธ อสฺส ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺโต, โส จ โหติ อภิชฺฌาลุ กาเมสุ ติพฺพสาราโค พฺยาปนฺนจิตฺโต ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มุฏฺสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิตฺโต ปากตินฺทฺริโย, อถ โข โส อารกาว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปสฺสติ, ธมฺมํ อปสฺสนฺโต น มํ ปสฺสติ. โยชนสเต เจปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย, โส จ โหติ อนภิชฺฌาลุ กาเมสุ น ติพฺพสาราโค อพฺยาปนฺนจิตฺโต อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป อุปฏฺิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สํวุตินฺทฺริโย, อถ โข โส สนฺติเกว มยฺหํ, อหฺจ ตสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ธมฺมฺหิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปสฺสติ, ธมฺมํ ปสฺสนฺโต มํ ปสฺสตี’’ติ (อิติวุ. ๙๒).

ตสฺมา อการณํ เทสโต สตฺถุ อาสนฺนานาสนฺนตา. อกตาธิการตาย ปน ภิกฺขุนีนํ เอหิภิกฺขุนูปสมฺปทาย อโยคฺยตา เวทิตพฺพา.

ยทิ เอวํ ยํ ตํ เถรีคาถาสุ ภทฺทาย กุณฺฑลเกสาย วุตฺตํ –

‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อฺชลึ อกํ;

เอหิ ภทฺเทติ มํ อวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติ. (เถรีคา. ๑๐๙);

ตถา อปทาเนปิ

‘‘อายาจิโต ตทา อาห, เอหิ ภทฺเทติ นายโก;

ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทส’’นฺติ. (อป. เถรี ๒.๓.๔๔);

ตํ กถนฺติ? นยิทํ เอหิภิกฺขุนีภาเวน อุปสมฺปทํ สนฺธาย วุตฺตํ, อุปสมฺปทาย ปน เหตุภาวโต ‘‘ยา สตฺถุ อาณตฺติ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติ วุตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺกถายํ (เถรีคา. อฏฺ. ๑๑๑) ‘‘เอหิ ภทฺเท ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพช อุปสมฺปชฺชสฺสูติ มํ อวจ อาณาเปสิ, สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสี’’ติ. อปทานคาถายมฺปิ เอวเมว อตฺโถ คเหตพฺโพ. ตสฺมา ภิกฺขุนีนํ เอหิภิกฺขุนูปสมฺปทา นตฺถิเยวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. ยถา เจตํ โสตปติตวเสน ‘‘เอหิ ภิกฺขุนี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี’’ติ อิทมฺปิ โสตปติตวเสเนว วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ สรณคมนูปสมฺปทายปิ ภิกฺขุนีนํ อสมฺภวโต.

๖๕๙. ภิกฺขุวิภงฺเค ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมาปชฺเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภิกฺขุ อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ตพฺพหุลนเยนาติ กิริยาสมุฏฺานสฺเสว พหุลภาวโต. ทิสฺสติ หิ ตพฺพหุลนเยน ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘พฺราหฺมณคาโม’’ติ. พฺราหฺมณคาเมปิ หิ อนฺตมโส รชกาทีนิ ปฺจ กุลานิ สนฺติ. สาติ กิริยาสมุฏฺานตา.

๖๖๒. ตเถวาติ กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุโตเยวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ปมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๖๖. ทุติเย ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ อยฺเย ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺน’’นฺติ วจนโต ‘‘อุทฺทิฏฺา โข อยฺยาโย อฏฺ ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทิวจนโต จ ภิกฺขุนีวิภงฺคํ ปตฺวา สาธารณานิ สิกฺขาปทานิ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺนวตฺถุสฺมึเยว ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ, ปาราชิกา โหติ อสํวาสา’’ติอาทินา นเยน สวิเสสมฺปิ อวิเสสมฺปิ มาติกํ เปตฺวา อนุกฺกเมน ปทภาชนํ อาปตฺติเภทํ ติกจฺเฉทํ อนาปตฺติวารฺจ อนวเสสํ วตฺวา วิตฺถาเรสิ. สงฺคีติการเกหิ ปน อสาธารณปฺตฺติโยเยว อิธ วิตฺถาริตาติ เวทิตพฺพา.

อถ อุปริเมสุ ทฺวีสุ อปฺตฺเตสุ อฏฺนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตรนฺติ อิทํ วจนํ น ยุชฺชตีติ อาห ‘‘อิทฺจ ปาราชิกํ ปจฺฉา ปฺตฺต’’นฺติอาทิ. ยทิ เอวํ อิมสฺมึ โอกาเส กสฺมา ปิตนฺติ อาห ‘‘ปุริเมน ปน สทฺธึ ยุคฬตฺตา’’ติอาทิ, ปุริเมน สทฺธึ เอกสมฺพนฺธภาวโต อิธ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘อฏฺนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตร’’นฺติ วจนโต จ วชฺชปฏิจฺฉาทิกํ ยา ปฏิจฺฉาเทติ, สาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทิกาเยวาติ ทฏฺพฺพํ. กิฺจาปิ วชฺชปฏิจฺฉาทนํ เปมวเสน โหติ, ตถาปิ สิกฺขาปทวีติกฺกมจิตฺตํ โทมนสฺสิตเมว โหตีติ กตฺวา ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

ทุติยปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖๖๘. ตติยํ อุตฺตานตฺถเมว.

๔. จตุตฺถปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา

๖๗๕. จตุตฺเถ โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสนาติ โลกสฺสาทสงฺขาตสฺส มิตฺตสนฺถวสฺส วเสน. วุตฺตเมวตฺถํ ปริยายนฺตเรน วิภาเวตุํ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ วุตฺตํ.

ติสฺสิตฺถิโย เมถุนํ ตํ น เสเวติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๑) ยา ติสฺโส อิตฺถิโย วุตฺตา, ตาสุปิ ยํ ตํ เมถุนํ นาม, ตํ น เสวติ. ตโย ปุริเสติ ตโย ปุริเสปิ อุปคนฺตฺวา เมถุนํ น เสวติ. ตโย จ อนริยปณฺฑเกติ อุภโตพฺยฺชนสงฺขาเต ตโย อนริเย, ตโย จ ปณฺฑเกติ อิเมปิ ฉ ชเน อุปคนฺตฺวา เมถุนํ น เสวติ. น จาจเร เมถุนํ พฺยฺชนสฺมินฺติ อนุโลมปาราชิกวเสนปิ อตฺตโน นิมิตฺเต เมถุนํ นาจรติ. เฉชฺชํ สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยาติ สิยา เมถุนธมฺมปจฺจยา ปาราชิกนฺติ อยํ ปฺโห อฏฺวตฺถุกํว สนฺธาย วุตฺโต. ตสฺสา หิ เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคกายสํสคฺคํ อาปชฺชิตุํ วายมนฺติยา เมถุนธมฺมปจฺจยา เฉชฺชํ โหติ. เฉโทเยว เฉชฺชํ.

เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคตฺตาติ อิมินา เมถุนธมฺมสฺส ปุพฺพภาคภูโต กายสํสคฺโคเยว ตตฺถ เมถุนธมฺม-สทฺเทน วุตฺโต, น ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตีติ ทีเปติ. วณฺณาวณฺโณติ ทฺวีหิ สุกฺกวิสฺสฏฺิ วุตฺตา. คมนุปฺปาทนนฺติ สฺจริตฺตํ. สพฺพปเทสูติ ‘‘สงฺฆาฏิกณฺณคฺคหณํ สาทิเยยฺยา’’ติอาทีสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. กายสํสคฺคราโค, สอุสฺสาหตา, อฏฺมสฺส วตฺถุสฺส ปูรณนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ.

จตุตฺถปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ภิกฺขุนีวิภงฺเค ปาราชิกกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปาราชิกกณฺฑํ นิฏฺิตํ.