📜

เอกุตฺตริกนโย

เอกกวารวณฺณนา

๓๒๑. มูลวิสุทฺธิยาอนฺตราปตฺตีติ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา มูลายปฏิกสฺสนํ กตฺวา ิเตน อาปนฺนา. ‘‘อคฺฆวิสุทฺธิยา อนฺตราปตฺตีติ สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชิตฺวา ตาสุ สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนวเสน อคฺฆสโมธานํ คเหตฺวา วสนฺเตน อาปนฺนาปตฺตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. สอุสฺสาเหเนว จิตฺเตนาติ ‘‘ปุนปิ อาปชฺชิสฺสามี’’ติ สอุสฺสาเหเนว จิตฺเตน. ภิกฺขุนีนํ อฏฺวตฺถุกาย วเสน เจตํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อฏฺเม วตฺถุสฺมึ ภิกฺขุนิยา ปาราชิกเมว โหตี’’ติ. ‘‘ธมฺมิกสฺส ปฏิสฺสวสฺส อสจฺจาปเน’’ติ วุตฺตตฺตา อธมฺมิกปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏํ น โหติ. ‘‘ตุมฺเห วิพฺภมถา’’ติ หิ วุตฺเต สุทฺธจิตฺโต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา สเจ น วิพฺภมติ, อนาปตฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ. ปฺจทสสุ ธมฺเมสูติ ‘‘กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลนา’’ติอาทินา วุตฺตปฺจทสธมฺเมสุ. อาปตฺตึ อาปชฺชิตุํ ภพฺพตาย ภพฺพาปตฺติกา.

เอกกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกวารวณฺณนา

๓๒๒. ทุเกสุ นิทหเนติ อาตเป อติจิรํ เปตฺวา นิทหเน. วตฺถุสภาคํ เทเสนฺโต เทเสนฺโต อาปชฺชติ, อาปนฺนํ อาปตฺตึ น เทเสสฺสามีติ ธุรํ นิกฺขิปนฺโต น เทเสนฺโต อาปชฺชติ. โรมชนปเท ชาตํ โรมกํ. ปกฺกาลกนฺติ ยวกฺขารํ. อนุฺาตโลณตฺตา โลณานิปิ ทุเกสุ วุตฺตานิ.

ทุกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ติกวารวณฺณนา

๓๒๓. ติเกสุ วจีสมฺปยุตฺตํ กายกิริยํ กตฺวาติ กาเยน นิปจฺจการํ กตฺวา. มุขาลมฺพรกรณาทิเภโทติ มุขเภริวาทนาทิปฺปเภโท. ยสฺส สิกฺขาปทสฺส วีติกฺกเม กายสมุฏฺานา อาปตฺติโย, ตํ กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทํ. อุปฆาเตตีติ วินาเสติ. น อาทาตพฺพนฺติ ‘‘อิมสฺมา วิหารา ปรมฺปิ มา นิกฺขม, วินยธรานํ วา สนฺติกํ อาคจฺฉ วินิจฺฉยํ ทาตุ’’นฺติ วุตฺเต ตสฺส วจนํ น คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ.

อกุสลานิ เจว มูลานิ จาติ อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน เอกนฺตากุสลภาวโต อกุสลานิ, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนโต มูลานิ, น อกุสลภาวสาธนโต. น หิ มูลโต อกุสลานํ อกุสลภาโว, กุสลาทีนํ วา กุสลาทิภาโว. ตถา จ สติ โมมูหจิตฺตทฺวยโมหสฺส อกุสลภาโว น สิยา.

ทุฏฺุ จริตานีติ ปจฺจยโต สมฺปยุตฺตธมฺมโต ปวตฺติอาการโต จ น สุฏฺุ อสมฺมาปวตฺติตานิ. วิรูปานีติ พีภจฺฉานิ สมฺปติ อายติฺจ อนิฏฺรูปตฺตา. สุฏฺุ จริตานีติอาทีสุ วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ทฺเวปิ เจเต ติกา ปณฺณตฺติยา วา กมฺมปเถหิ วา กเถตพฺพา. ปณฺณตฺติยา ตาว กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม กายทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม กายสุจริตํ. วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม วจีทุจฺจริตํ, อวีติกฺกโม วจีสุจริตํ. อุภยตฺถ ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส วีติกฺกโม มโนทุจฺจริตํ มโนทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทสฺส อภาวโต. ตยิทํ ทฺวารทฺวเย อกิริยสมุฏฺานาย อาปตฺติยา วเสน เวทิตพฺพํ. ยถาวุตฺตาย อาปตฺติยา อวีติกฺกโมว มโนสุจริตํ. อยํ ปณฺณตฺติกถา.

ปาณาติปาตาทโย ปน ติสฺโส เจตนา กายทฺวาเร วจีทฺวาเรปิ อุปฺปนฺนา กายทุจฺจริตํ ทฺวารนฺตเร อุปฺปนฺนสฺสปิ กมฺมสฺส สนามาปริจฺจาคโต เยภุยฺยวุตฺติยา ตพฺพหุลวุตฺติยา จ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –

‘‘ทฺวาเร จรนฺติ กมฺมานิ, น ทฺวารา ทฺวารจาริโน;

ตสฺมา ทฺวาเรหิ กมฺมานิ, อฺมฺํ ววตฺถิตา’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. กามาวจรกุสล ทฺวารกถา, กายกมฺมทฺวาร);

ตถา จตสฺโส มุสาวาทาทิเจตนา กายทฺวาเรปิ วจีทฺวาเรปิ อุปฺปนฺนา วจีทุจฺจริตํ, อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ ตโย มโนกมฺมภูตาย เจตนาย สมฺปยุตฺตธมฺมา มโนทุจฺจริตํ, กายวจีกมฺมภูตาย ปน เจตนาย สมฺปยุตฺตา อภิชฺฌาทโย ตํตํปกฺขิกา วา โหนฺติ อพฺโพหาริกา วา. ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส อุปฺปนฺนา ติสฺโส เจตนาปิ วิรติโยปิ กายสุจริตํ กายิกสฺส วีติกฺกมสฺส อกรณวเสน ปวตฺตนโต. กาเยน ปน สิกฺขาปทานํ สมาทิยมาเน สีลสฺส กายสุจริตภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. มุสาวาทาทีหิ วิรมนฺตสฺส จตสฺโส เจตนาปิ วิรติโยปิ วจีสุจริตํ วาจสิกสฺส วีติกฺกมสฺส อกรณวเสน ปวตฺตนโต. อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาทิฏฺีติ ตโย เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มโนสุจริตนฺติ อยํ กมฺมปถกถา.

ติกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุกฺกวารวณฺณนา

๓๒๔. จตุกฺเกสุ อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหารา สํโวหารา อภิลาปวาจา. อริยโวหาราติ อริยานํ สปฺปุริสานํ โวหารา. ทิฏฺวาทิตาติ ‘‘ทิฏฺํ มยา’’ติ เอวํวาทิตา. เอตฺถ จ ตํตํสมุฏฺาปกเจตนาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปมกปฺปิเกสุ ปมํ ปุริสลิงฺคเมว อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘ปมํ อุปฺปนฺนวเสนา’’ติ. ปุริมํ ปุริสลิงฺคํ ปชหตีติ ยถาวุตฺเตนตฺเถน ปุพฺพงฺคมภาวโต ปุริมสงฺขาตํ ปุริสลิงฺคํ ชหติ. สตํ ตึสฺจ สิกฺขาปทานีติ ตึสาธิกานิ สตํ สิกฺขาปทานิ.

ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ จตูสุ ปาราชิเกสูติ สาธารเณสุเยว จตูสุ ปาราชิเกสุ. ปโม ปฺโหติ ‘‘อตฺถิ วตฺถุนานตฺตตา, โน อาปตฺตินานตฺตตา’’ติ อยํ ปฺโห. ‘‘อตฺถิ อาปตฺติสภาคตา, โน วตฺถุสภาคตา’’ติ อยํ อิธ ทุติโย นาม.

อนาปตฺติวสฺสจฺเฉทสฺสาติ นตฺถิ เอตสฺมึ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺตีติ อนาปตฺติวสฺสจฺเฉโท, ตสฺส, อนาปตฺติกสฺส วสฺสจฺเฉทสฺสาติ อตฺโถ. มนฺตาภาสาติ มติยา อุปปริกฺขิตฺวา ภาสนโต อสมฺผปฺปลาปวาจา อิธ ‘‘มนฺตาภาสา’’ติ วุตฺตา.

นวมภิกฺขุนิโตปฏฺาย อุปชฺฌายาปิ อภิวาทนารหา โน ปจฺจุฏฺานารหาติ ยสฺมา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตคฺเค อฏฺนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ อวเสสานํ ยถาคติก’’นฺติ วทนฺเตน ภควตา ภตฺตคฺเค อาทิโต ปฏฺาย อฏฺนฺนํเยว ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ อนุฺาตํ, อวเสสานํ อาคตปฏิปาฏิยา, ตสฺมา นวมภิกฺขุนิโต ปฏฺาย สเจ อุปชฺฌายาปิ ภิกฺขุนี ปจฺฉา อาคจฺฉติ, น ปจฺจุฏฺานารหา, ยถานิสินฺนาหิเยว สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อภิวาเทตพฺพตฺตา อภิวาทนารหา. อาทิโต นิสินฺนาสุ ปน อฏฺสุ ยา อพฺภนฺตริมา อฺา วุฑฺฒตรา อาคจฺฉติ, สา อตฺตโน นวกตรํ วุฏฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ ลภติ. ตสฺมา สา ตาหิ อฏฺหิ ภิกฺขุนีหิ ปจฺจุฏฺานารหา. ยา ปน อฏฺหิปิ นวกตรา, สา สเจปิ สฏฺิวสฺสา โหติ, อาคตปฏิปาฏิยาว นิสีทิตุํ ลภติ.

อิธ น กปฺปนฺตีติ วทนฺโตติ ปจฺจนฺติมชนปเทสุ ตฺวา ‘‘อิธ น กปฺปนฺตี’’ติ วทนฺโต วินยาติสารทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กปฺปิยฺหิ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วทนฺโต ปฺตฺตํ สมุจฺฉินฺทติ นาม. อิธ กปฺปนฺตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

จตุกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจกวารวณฺณนา

๓๒๕. ปฺจเกสุ ‘‘นิมนฺติโต สภตฺโต สมาโน สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา’’ติ (ปาจิ. ๒๙๔-๒๙๗) วจนโต อกปฺปิยนิมนฺตนํ สาทิยนฺตสฺเสว อนามนฺตจาโร น วฏฺฏตีติ ‘‘ปิณฺฑปาติกสฺส กปฺปนฺตี’’ติ วุตฺตํ. คณโภชนาทีสุปิ เอเสว นโย. อธิฏฺหิตฺวา โภชนนฺติ ‘‘คิลานสมโย’’ติอาทินา อาโภคํ กตฺวา โภชนํ. อวิกปฺปนาติ ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ อวิกปฺปนา.

อยสโต วา ครหโต วาติ เอตฺถ ปรมฺมุขา อคุณวจนํ อยโส. สมฺมุขา ครหา. วิยสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติวินาโสติ อตฺโถ. โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. าติสมฺปทาติ าตีนํ สมฺปทา ปาริปูริ พหุภาโว . โภคสมฺปทายปิ เอเสว นโย. อาโรคฺยสฺส สมฺปทา อาโรคฺยสมฺปทา. ปาริปูริ ทีฆรตฺตํ อโรคตา. สีลทิฏฺิสมฺปทาสุปิ เอเสว นโย.

วตฺตํ ปริจฺฉินฺทีติ ตสฺมึ ทิวเส กาตพฺพวตฺตํ นิฏฺาเปสิ. อฏฺ กปฺเป อนุสฺสรีติอาทินา ตสฺมึ ขเณ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปุพฺเพนิวาสาณํ นิพฺพตฺเตสีติ ทีเปติ. ตฺติยา กมฺมปฺปตฺโต หุตฺวาติ ตฺติยา ปิตาย อนุสฺสาวนกมฺมปฺปตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

มนฺทตฺตา โมมูหตฺตาติ เนว สมาทานํ ชานาติ, น อานิสํสํ, อตฺตโน ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อฺาเณเนว อารฺิโก โหติ. ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโตติ ‘‘อรฺเ เม วิหรนฺตสฺส ‘อยํ อารฺิโก’ติ จตุปฺปจฺจยสกฺการํ กริสฺสนฺติ, ‘อยํ ภิกฺขุ ลชฺชี ปวิวิตฺโต’ติอาทีหิ จ คุเณหิ สมฺภาเวสฺสนฺตี’’ติ เอวํ ปาปิกาย อิจฺฉาย ตฺวา ตาย เอว อิจฺฉาย อภิภูโต หุตฺวา อารฺิโก โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อรฺวาเสน ปจฺจยลาภํ ปตฺถยมาโน’’ติ. อุมฺมาทวเสน อรฺํ ปวิสิตฺวา วิหรนฺโต อุมฺมาทา จิตฺตกฺเขปา อารฺิโก นาม โหติ. วณฺณิตนฺติ อิทํ อารฺิกงฺคํ นาม พุทฺเธหิ พุทฺธสาวเกหิ จ วณฺณิตํ ปสตฺถนฺติ อารฺิโก โหติ.

ปฺจกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉกฺกวารวณฺณนา

๓๒๖. ฉกฺเกสุ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพนฺติ ปทภาชนํ ทสฺสิตํ. เสสํ อุตฺตานเมว.

ฉกฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตกวารวณฺณนา

๓๒๗. สตฺตเกสุ ฉกฺเก วุตฺตานิเยว สตฺตกวเสน โยเชตพฺพานีติ ฉกฺเก วุตฺตจุทฺทสปรมานิ ทฺวิธา กตฺวา ทฺวินฺนํ สตฺตกานํ วเสน โยเชตพฺพานิ.

อาปตฺตึ ชานาตีติ อาปตฺตึเยว ‘‘อาปตฺตี’’ติ ชานาติ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. อาภิเจตสิกานนฺติ เอตฺถ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๖๖) อภิเจโตติ ปากติกกามาวจรจิตฺเตหิ สุนฺทรตาย ปฏิปกฺขโต วิสุทฺธตฺตา จ อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธจิตฺตํ วุจฺจติ, อุปจารชฺฌานจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. อภิเจตสิ ชาตานิ อาภิเจตสิกานิ, อภิเจโตสนฺนิสฺสิตานีติ วา อาภิเจตสิกานิ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารานํ. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว วุจฺจติ, ตตฺถ สุขวิหารภูตานนฺติ อตฺโถ. รูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํ. ตานิ หิ อปฺเปตฺวา นิสินฺนา ฌายิโน อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อสํกิลิฏฺํ เนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานี’’ติ วุจฺจนฺติ. นิกามลาภีติ นิกาเมน ลาภี, อตฺตโน อิจฺฉาวเสน ลาภี, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกิจฺฉลาภีติ สุเขเนว ปจฺจนีกธมฺเม วิกฺขมฺเภตฺวา สมาปชฺชิตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. อกสิรลาภีติ อกสิรานํ ลาภี วิปุลานํ, ยถาปริจฺเฉเทเนว วุฏฺาตุํ สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ลาภีเยว โหติ, น ปน สกฺโกติ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปชฺชิตุํ. เอกจฺโจ สกฺโกติ ตถา สมาปชฺชิตุํ, ปาริปนฺถิเก ปน กิจฺเฉน วิกฺขมฺเภติ. เอกจฺโจ ตถา จ สมาปชฺชติ, ปาริปนฺถิเก จ อกิจฺเฉเนว วิกฺขมฺเภติ, น สกฺโกติ กาลมานนาฬิกยนฺตํ วิย ยถาปริจฺเฉเทเยว วุฏฺาตุํ.

อาสวานํ ขยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสานํ ขยา. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ เอตฺถ เจโต-วจเนน อรหตฺตผลสมฺปยุตฺโต สมาธิ, ปฺา-วจเนน ตํสมฺปยุตฺตา จ ปฺา วุตฺตา. ตตฺถ จ สมาธิ ราคโต วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺติ, ปฺา อวิชฺชาย วิมุตฺตตฺตา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘โย หิสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริยํ (สํ. นิ. ๕.๕๒๐). ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖). อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๓๒). อปิเจตฺถ สมถผลํ เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนาผลํ ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพาติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจเยน ตฺวาติ อตฺโถ. สุตมยาณาทินา วิย ปรปฺปจฺจยตํ นยคฺคาหฺจ มุฺจิตฺวา ปรโตโฆสานุคตภาวนาธิคมภูตาย อตฺตโนเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ กตฺวา, น สยมฺภูาณภูตายาติ อธิปฺปาโย. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ปาปุณิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหรติ.

สตฺตกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺกวารวณฺณนา

๓๒๘. อฏฺเกสุ อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนนาติ –

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหติ, อฺเ ภิกฺขู ตสฺสา อาปตฺติยา อาปตฺติทิฏฺิโน โหนฺติ, เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ เอวํ ชานนฺติ ‘อยํ โข อายสฺมา พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม, สเจ มยํ อิมํ ภิกฺขุํ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปิสฺสาม, น มยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ อุโปสถํ กริสฺสาม, วินา อิมินา ภิกฺขุนา อุโปสถํ กริสฺสาม, ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, เภทครุเกหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ น โส ภิกฺขุ อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปิตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๔๕๓) –

อาทินา วุตฺตอฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน. เตน หิ สทฺธึ อุโปสถาทิอกรณํ อาทีนโว เภทาย สํวตฺตนโต, กรณํ อานิสํโส สามคฺคิยา สํวตฺตนโต. ตสฺมา เอเต อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนน น โส ภิกฺขุ อุกฺขิปิตพฺโพติ อตฺโถ.

ทุติยอฏฺเกปิ อฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนนาติ –

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาปตฺตึ อาปนฺโน โหติ, โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ โหติ, อฺเ ภิกฺขู ตสฺสา อาปตฺติยา อาปตฺติทิฏฺิโน โหนฺติ, โส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เต ภิกฺขู เอวํ ชานาติ ‘อิเม โข อายสฺมนฺโต พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวิโน ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา, นาลํ มมํ วา การณา อฺเสํ วา การณา ฉนฺทา โทสา โมหา ภยา อคตึ คนฺตุํ, สเจ มํ อิเม ภิกฺขู อาปตฺติยา อทสฺสเน อุกฺขิปิสฺสนฺติ, น มยา สทฺธึ อุโปสถํ กริสฺสนฺติ, วินา มยา อุโปสถํ กริสฺสนฺติ, ภวิสฺสติ สงฺฆสฺส ตโตนิทานํ ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณ’นฺติ, เภทครุเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปเรสมฺปิ สทฺธาย สา อาปตฺติ เทเสตพฺพา’’ติ (มหาว. ๔๕๓) –

อาทินา วุตฺตอฏฺานิสํเส สมฺปสฺสมาเนนาติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ อาคเตหิ สตฺตหีติ ‘‘ปุพฺเพวสฺส โหติ ‘มุสา ภณิสฺส’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘มุสา ภณามี’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘มุสา มยา ภณิต’นฺติ วินิธาย ทิฏฺึ, วินิธาย ขนฺตึ, วินิธาย รุจึ, วินิธาย ภาว’’นฺติ (ปารา. ๒๒๐) เอวมาคเตหิ สตฺตหิ.

อพฺรหฺมจริยาติ อเสฏฺจริยโต. รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวุตฺโถ รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภุฺเชยฺย. มฺเจ ฉมายํว สเยถ สนฺถเตติ กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยํ วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตฺหิ อฏฺงฺคีกมาหุโปสถนฺติ เอตํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถอุโปสถํ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคิก’’นฺติ วทนฺติ.

‘‘อกปฺปิยกตํ โหติ อปฺปฏิคฺคหิตก’’นฺติอาทโย อฏฺ อนติริตฺตา นาม. สปฺปิอาทิ อฏฺเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. อฏฺกวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺพานีติ ปุริมานิ อฏฺ เอกํ อฏฺกํ, ตโต เอกํ อปเนตฺวา เสเสสุปิ เอเกกํ ปกฺขิปิตฺวาติ เอวมาทินา นเยน อฺานิปิ อฏฺกานิ กาตพฺพานีติ อตฺโถ.

อฏฺกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวกวารวณฺณนา

๓๒๙. นวเกสุ อาฆาตวตฺถูนีติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๙.๒๙) อาฆาตการณานิ. อาฆาตปฏิวินยานีติ อาฆาตสฺส ปฏิวินยการณานิ. ตํ กุเตตฺถ ลพฺภาติ ‘‘ตํ อนตฺถจรณํ มา อโหสี’’ติ เอตสฺมึ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ. ‘‘ปโร นาม ปรสฺส อตฺตโน จิตฺตรุจิยา อนตฺถํ กโรตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา อาฆาตํ ปฏิวิโนเทติ. อถ วา สจาหํ ปฏิกฺโกปํ กเรยฺยํ, ตํ โกปกรณํ เอตฺถ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน ลทฺธพฺพํ นิรตฺถกภาวโตติ อตฺโถ. กมฺมสฺสกา หิ สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา ทุกฺขิตา สุขิตา วา ภวนฺติ, ตสฺมา เกวลํ ตสฺมึ มยฺหํ กุชฺฌนมตฺตเมวาติ อธิปฺปาโย. อถ วา ตํ โกปกรณํ เอตฺถ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา ปรมตฺถโต กุชฺฌิตพฺพสฺส กุชฺฌนกสฺส จ อภาวโต. สงฺขารมตฺตฺเหตํ ยทิทํ ขนฺธปฺจกํ ยํ ‘‘สตฺโต’’ติ วุจฺจติ, เต จ สงฺขารา อิตฺตรกาลา ขณิกา, กสฺส โก กุชฺฌตีติ อตฺโถ. ‘‘กุโต ลาภา’’ติปิ ปาโ, สจาหํ เอตฺถ โกปํ กเรยฺยํ, ตสฺมึ เม โกปกรเณ กุโต ลาภา, ลาภา นาม เก สิยุํ อฺตฺร อนตฺถุปฺปตฺติโตติ อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ นฺติ นิปาตมตฺตเมว โหติ.

ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๙.๒๓) ทฺเว ตณฺหา เอสนตณฺหา เอสิตตณฺหา จ. ยาย ตณฺหาย อชปถสงฺกุปถาทีนิ ปฏิปชฺชิตฺวา โภเค เอสติ คเวสติ, อยํ เอสนตณฺหา นาม. ยา เตสุ เอสิเตสุ คเวสิเตสุ ปฏิลทฺเธสุ ตณฺหา, อยํ เอสิตตณฺหา นาม. อิธ เอสิตตณฺหา ทฏฺพฺพา. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ เอสนตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฺปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ. วินิจฺฉโย ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยุฺเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย. ‘‘วินิจฺฉโยติ ทฺเว วินิจฺฉยา ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรฺจ วิตกฺเกน วินิจฺฉินาติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ.

ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. อชฺโฌสานนฺติ ‘‘อหํ, มม’’นฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺเหว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชูสาโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขณํ. อธิ กโรตีติ อธิกรณํ, การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ, อารกฺขเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโตธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม ปุริโม วิโรโธ วิคฺคโห, ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม วิวาโท. ตุวํ ตุวนฺติ อคารววเสน ‘‘ตุวํ ตุว’’นฺติ วจนํ.

อธิฏฺิตกาลโตปฏฺาย น วิกปฺเปตพฺพานีติ วิกปฺเปนฺเตน อธิฏฺานโต ปุพฺเพ วา

วิกปฺเปตพฺพํ, วิชหิตาธิฏฺานํ วา ปจฺฉาวิกปฺเปตพฺพํ. อวิชหิตาธิฏฺานํ ปน น วิกปฺเปตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ทุกฺกฏวเสน วุตฺตานีติ ‘‘วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๕๐) นเยน อธมฺมกมฺเม ทฺเว นวกานิ ทุกฺกฏวเสน วุตฺตานิ.

นวกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสกวารวณฺณนา

๓๓๐. ทสเกสุ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิวเสน เวทิตพฺพาติ ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา, เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๙๔, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐) เอวมาคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. สสฺสโต โลโกติอาทิวเสนาติ ‘‘สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๙) เอวมาคตํ สงฺคณฺหาติ.

มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย มิจฺฉาวิมุตฺติปริโยสานาติ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺโต มิจฺฉาอาชีโว มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธิ มิจฺฉาาณํ มิจฺฉาวิมุตฺตี’’ติ (วิภ. ๙๗๐) เอวมาคตํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ มิจฺฉาาณนฺติ ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตาวเสน ปาปกํ กตฺวา ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปจฺจเวกฺขณากาเรน จ อุปฺปนฺโน โมโห. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺติสฺิตา. สมถกฺขนฺธเก นิทฺทิฏฺาติ ‘‘โอรมตฺตกํ อธิกรณํ โหติ, น จ คติคตํ, น จ สริตสาริต’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๒๐๔) นิทฺทิฏฺา. สมถกฺขนฺธเก วุตฺเตหิ สมนฺนาคโต โหตีติ สมฺพนฺโธ. มาตุรกฺขิตาทโย ทส อิตฺถิโย. ธนกฺกีตาทโย ทส ภริยาโย.

ทสกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสกวารวณฺณนา

๓๓๑. เอกาทสเกสุ น โวทายนฺตีติ น ปกาสนฺติ. สุยุตฺตยานสทิสาย กตายาติ อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล สุเขน ปวตฺเตตพฺพตฺตา ยุตฺตยานํ วิย กตาย. ยถา ปติฏฺา โหตีติ สมฺปตฺตีนํ ยถา ปติฏฺา โหติ. อนุ อนุ ปวตฺติตายาติ ภาวนาพหุลีกาเรหิ อนุ อนุ ปวตฺติตาย.

สุขํ สุปตีติอาทีสุ (อ. นิ. อฏฺ. ๓.๑๑.๑๕; วิสุทฺธิ ๑.๒๕๘) ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ, นิทฺทํ โอกฺกนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฺปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ สุขํ นิพฺพิการํ ปฏิพุชฺฌติ. อนุภูตปุพฺพวเสน เทวตูปสํหารวเสน จสฺส ภทฺทกเมว สุปินํ โหติ, น ปาปกนฺติ อาห ‘‘ปาปกเมว น ปสฺสตี’’ติอาทิ. ธาตุกฺโขภเหตุกมฺปิ จสฺส พหุลํ ภทฺทกเมว สิยา เยภุยฺเยน จิตฺตชรูปานุคุณตาย อุตุอาหารชรูปานํ. ตตฺถ ปาปกเมว น ปสฺสตีติ ยถา อฺเ อตฺตานํ โจเรหิ สมฺปริวาริตํ วิย, วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย, ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, เอวํ ปาปกเมว สุปินํ น ปสฺสติ. ภทฺรกํ ปน วุฑฺฒิการณภูตํ ปสฺสตีติ เจติยํ วนฺทนฺโต วิย, ปูชํ กโรนฺโต วิย, ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ.

มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุกฺกมุตฺตาหาโร วิย, สีเส ปิฬนฺธมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ ยเถว จ มนุสฺสานํ ปิโย, เอวํ อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ วิสาขตฺเถโร วิย. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อุตฺตราย อุปาสิกาย วิย อคฺคิ วา, สํยุตฺตภาณกจูฬสีวตฺเถรสฺเสว วิสํ วา, สํกิจฺจสามเณรสฺเสว สตฺถํ วา น กมติ น ปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เธนุวตฺถุมฺปิ เจตฺถ กถยนฺติ, เอกา กิร เธนุ วจฺฉกสฺส ขีรธารํ มุฺจมานา อฏฺาสิ. เอโก ลุทฺทโก ‘‘ตํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ หตฺเถน สมฺปริวตฺเตตฺวา ทีฆทณฺฑกํ สตฺตึ มุฺจิ. สา ตสฺสา สรีรํ อาหจฺจ ตาลปณฺณํ วิย วิวฏฺฏมานา คตา, เนว อุปจารพเลน น อปฺปนาพเลน, เกวลํ ปน วจฺฉเก พลวหิตจิตฺตตาย. เอวํ มหานุภาวา เมตฺตา. ขิปฺปํ สมาธิยตีติ เกนจิ ปริปนฺเถน ปริหีนชฺฌานสฺส พฺยาปาทสฺส ทูรสมนุสฺสริตภาวโต ขิปฺปเมว สมาธิยติ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปมุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํกโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโหว นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ.

เอกาทสกวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกุตฺตริกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.