📜
เสขิยกณฺโฑ
๑. ปริมณฺฑลสิกฺขาปทวณฺณนา
เสขิเยสุ ¶ ¶ ปเม ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ. สิกฺขา กรณียาติ ‘‘เอวํ นิวาเสสฺสามี’’ติ อาราเมปิ อนฺตรฆเรปิ สพฺพตฺถ สิกฺขา ¶ กาตพฺพา, เอตฺถ จ ยสฺมา วตฺตกฺขนฺธเก วุตฺตวตฺตานิปิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เสขิยาเนว โหนฺติ, ตสฺมา ปาราชิกาทีสุ วิย ปริจฺเฉโท น กโต. จาริตฺตวินยทสฺสนตฺถฺจ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอลมฺเพนฺโต นิวาเสยฺย, ทุกฺกฏ’’นฺติ เอวํ อาปตฺตินาเมน อวตฺวา ‘‘สิกฺขา กรณียา’’ติ เอวํ สพฺพสิกฺขาปเทสุ ปาฬิ อาโรปิตา, ปทภาชเน (ปาจิ. ๕๗๖) ปน ‘‘อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา สพฺพตฺถ อนาทริยกรเณ ทุกฺกฏํ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ปริมณฺฑลนฺติ เอตฺถ นาภิมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ชาณุมณฺฑลสฺส เหฏฺา ชงฺฆฏฺิกโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ นิวาสนํ โอตาเรตฺวา นิวาเสนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวตฺถํ นาม โหติ, เอวํ อนิวาเสตฺวา อนาทริเยน ปุรโต วา ปจฺฉโต วา โอลมฺเพตฺวา นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. น เกวลฺจ ตสฺเสว, เย จฺเ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา คิหินิวตฺถํ นิวาเสนฺติ, หตฺถิโสณฺฑกํ มจฺฉวาลกํ จตุกฺกณฺณกํ ตาลวณฺฏกํ สตวลิกํ นิวาเสนฺติ, สํวลฺลิยํ นิวาเสนฺตี’’ติ ขนฺธเก (จูฬว. ๒๘๐) นิวาสนโทสา วุตฺตา, ตถา นิวาเสนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏเมว.
ตตฺถ หตฺถิโสณฺฑกํ นาม นาภิมูลโต หตฺถิโสณฺฑสณฺานํ โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ โจฬิกอิตฺถีนํ นิวาสนํ วิย. มจฺฉวาลกํ นาม เอกโตทสนฺตํ เอกโต ปาสนฺตํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. จตุกฺกณฺณกํ นาม อุปริ ทฺเว, เหฏฺโต ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร กณฺเณ ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. ตาลวณฺฏกํ นาม ตาลวณฺฏากาเรน สาฏกํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. สตวลิกํ นาม ทีฆสาฏกํ อเนกกฺขตฺตุํ ¶ โอภุชิตฺวา โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน นิวตฺถํ, วามทกฺขิณปสฺเสสุ วา นิรนฺตรํ วลิโย ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. สเจ ปน ชาณุโต ปฏฺาย เอกา วา ทฺเว วา วลิโย ปฺายนฺติ, วฏฺฏติ. สํวลฺลิยนฺติ ¶ มลฺลกมฺมการาทีหิ วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวตฺถํ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสาปิ มคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ น วฏฺฏติ. ยมฺปิ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา กณฺเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ.
คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ, อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ. อิติ อิมํ ขนฺธเก ปฏิกฺขิตฺตฺจ โอลมฺพกฺจ สพฺพํ วิวชฺเชตฺวา วุตฺตลกฺขณสมฺปนฺนํ นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพํ, ตถา อนิวาเสตฺวา ยํกิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
‘‘นิทานํ ปุคฺคลํ วตฺถุ’’นฺติอาทิเก (กงฺขา. อฏฺ. ปมปาราชิกวณฺณนา ) ปน วินิจฺฉเย สุรุสุรุการกํ โกสมฺพิยํ ปฺตฺตํ, สามิเสน หตฺเถน ปานียถาลกสสิตฺถกปตฺตโธวนปฏิสํยุตฺตทฺวยํ ภคฺเคสุ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ, เสสานิ สพฺพาเนว สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ โอลมฺเพตฺวา นิวาสนาทิวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตานิ. สูโปทนวิฺตฺติยํ ธมฺมเทสนาทีสุ จ คิลานวเสน เอกา อนุปฺตฺติ, สพฺพานิ สาธารณปฺตฺติโย, อนาณตฺติกานิ, สพฺเพสุ ทุกฺกฏเมว, อฺโ ¶ อาปตฺติเภโท นตฺถิ, วิปตฺติวิจารณา วุตฺตาเยว, สมุฏฺานาทีนิ สพฺเพสํ อวสาเน ทสฺสยิสฺสาม. อนาปตฺติมตฺตํ ปน องฺคฺจ สพฺพตฺถ วตฺตพฺพํ, ตยิทํ วุจฺจติ. อิมสฺมึ ตาว สิกฺขาปเท อสฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺส, คิลานสฺส, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ.
ตตฺถ อสฺจิจฺจาติ ‘‘อปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามี’’ติ เอวํ อสฺจิจฺจ, อถ โข ‘‘ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามี’’ติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสฺสติยาติ อฺาวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ, อปิจ นิวาสนวตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ. โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา โหติ มหาปิณฺฑิกมํโส วา, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏติ. คิลานสฺสาติ ยสฺส ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, ตสฺส อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสตุํ วฏฺฏติ. อาปทาสูติ วาฬา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ ¶ . อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตนยา เอว. อนาทริยํ, อนาปตฺติการณาภาโว, อปริมณฺฑลนิวาสนนฺติ ¶ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ ปุริมานิ ทฺเว ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปฺปฏิปกฺขกรณฺจาติ ตีณิเยว โหนฺติ, ตสฺมา อิโต ปรํ ตานิปิ อวตฺวา อนาปตฺติมตฺตเมว วกฺขามาติ.
๒. ทุติยปริมณฺฑลสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหิปารุตํ ปารุปิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๐) เอวํ ปฏิกฺขิตฺตํ คิหิปารุตํ อปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปารุปนํ ปริมณฺฑลปารุปนํ นาม, ตตฺถ ยํกิฺจิ เสตปฏปารุตํ ปริพฺพาชกปารุตํ เอกสาฏกปารุตํ สุราโสณฺฑปารุตํ อนฺเตปุริกปารุตํ มหาเชฏฺปารุตํ กุฏิปฺปเวสกปารุตํ พฺราหฺมณปารุตํ ปาฬิการกปารุตนฺติ เอวมาทิ ปริมณฺฑลลกฺขณโต อฺถา ปารุตํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตสฺมา ยถา เสตปฏา อฑฺฒปาลกนิคณฺา ปารุปนฺติ, ยถา จ เอกจฺเจ ปริพฺพาชกา อุรํ วิวริตฺวา ทฺวีสุ อํสกูเฏสุ ปาวุรณํ เปนฺติ, ยถา จ เอกสาฏกา มนุสฺสา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกน อนฺเตน ปิฏฺึ ปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ อุโภสุ อํสกูเฏสุ เปนฺติ, ยถา จ สุราโสณฺฑาทโย สาฏเกน คีวํ ปริกฺขิปิตฺวา อุโภ อนฺเต อุเร วา โอลมฺเพนฺติ, ปิฏฺิยํ วา ขิปนฺติ, ยถา จ อนฺเตปุริกาโย อกฺขิตารกมตฺตํ ทสฺเสตฺวา โอคุณฺิตํ ปารุปนฺติ, ยถา จ มหาเชฏฺา ทีฆสาฏกํ นิวาเสตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สกลสรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ กสฺสกา เขตฺตกุฏึ ปวิสนฺตา สาฏกํ ปลิเวเตฺวา อุปกจฺฉเก ปกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ พฺราหฺมณา อุภินฺนํ อุปกจฺฉกานํ อนฺตเร สาฏกํ ปเวเสตฺวา อํสกูเฏสุ ปกฺขิปนฺติ, ยถา จ ปาฬิการโก ภิกฺขุ เอกํสปารุปเนน ปารุตํ วามพาหุํ วิวริตฺวา จีวรํ อํสกูเฏ อาโรเปติ, เอวํ อปารุปิตฺวา ¶ สพฺเพปิ เอเต, อฺเ จ เอวรูเป ปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. ตถา อปารุปิตฺวา อาราเม วา อนฺตรฆเร วา อนาทเรน ยํกิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อนาปตฺติ ปุริมสทิสาเยว, ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ. ยตฺถ ปน วิเสโส ภวิสฺสติ, ตตฺถ วกฺขามาติ.
๓-๔. สุปฺปฏิจฺฉนฺนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ¶ สุปฺปฏิจฺฉนฺโนติ สุฏฺุ ปฏิจฺฉนฺโน, คณฺิกํ ปฏิมฺุจิตฺวา อนุวาตนฺเตน คีวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อุโภ กณฺเณ สมํ กตฺวา ปฏิสงฺฆริตฺวา ยาว มณิพนฺธํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรฆเร คมิสฺสามีติ อตฺโถ, ตถา อกตฺวา ปน ชาณุํ วา อุรํ วา วิวริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
จตุตฺเถ ¶ คลวาฏกโต ปฏฺาย สีสํ, มณิพนฺธโต ปฏฺาย หตฺเถ, ปิณฺฑิกมํสโต ปฏฺาย ปาเท วิวริตฺวา เสสํ ฉาเทตฺวา นิสินฺโน สุปฺปฏิจฺฉนฺโน นาม โหติ, เอตฺถ ปน วาสูปคตสฺส อนาปตฺติ.
๕-๖. สุสํวุตสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม สุสํวุโตติ หตฺถํ วา ปาทํ วา อกีฬาเปนฺโต สุวินีโตติ อตฺโถ. ฉฏฺเปิ เอเสว นโย.
๗-๘. โอกฺขิตฺตจกฺขุสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺา ขิตฺตจกฺขุ หุตฺวา ปุรโต ยุคมตฺตํ ภูมิภาคํ เปกฺขมาโน, เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวา หตฺถิอสฺสาทิปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ วฏฺฏติ. อฏฺเมปิ เอเสว นโย.
๙-๑๐. อุกฺขิตฺตกสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม อุกฺขิตฺตกายาติ อุกฺเขเปน, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, เอกโต วา อุภโต วา อุกฺขิตฺตจีวโร หุตฺวาติ อตฺโถ, อนฺโต อินฺทขีลโต ปฏฺาย เอวํ น คนฺตพฺพํ.
ทสเม นิสินฺนกาเล ธมกรณํ นีหรนฺเตนาปิ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวาว นีหริตพฺพํ, วาสูปคตสฺส ปน อนาปตฺติ.
๑๑-๑๒. อุชฺชคฺฆิกสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกาทสเม อุชฺชคฺฆิกายาติ มหาหสิตํ หสนฺโตติ อตฺโถ. อิธาปิ หิ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณเยว กรณวจนํ.
ทฺวาทสเมปิ เอเสว นโย. อุภยตฺถ หสนียสฺมึ วตฺถุสฺมึ มิหิตมตฺตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.
๑๓-๑๔. อุจฺจสทฺทสิกฺขาปทวณฺณนา
เตรสเม ¶ ¶ อปฺปสทฺโทติ น อุจฺจาสทฺทมหาสทฺโท หุตฺวา. จุทฺทสเมปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ อปฺปสทฺทตาปริจฺเฉโท – สเจ ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร ¶ , อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุ ยํ สงฺฆตฺเถโร ทุติยตฺเถเรน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร จ ตสฺส สทฺทํ สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ, เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถฺจ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหติ.
๑๕…เป…๒๐. กายปฺปจาลกาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อิโต ปเรสุ ฉสุ กายปฺปจาลกนฺติ กายํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา, เอส นโย สพฺพตฺถ. ตสฺมา กายาทีนิ ปคฺคเหตฺวา นิจฺจลานิ อุชุกานิ เปตฺวา คนฺตพฺพฺเจว นิสีทิตพฺพฺจ, นิสีทนปฺปฏิสํยุตฺเตสุ ตีสุ วาสูปคตสฺส อนาปตฺติ.
๒๑-๒๒. ขมฺภกตสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกวีสทฺวาวีเสสุ ขมฺภกโตติ กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ.
๒๓-๒๔. โอคุณฺิตสิกฺขาปทวณฺณนา
เตวีสจตุวีเสสุ โอคุณฺิโตติ สสีสํ ปารุโต.
๒๕. อุกฺกุฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจวีเส อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทเหว, อคฺคปาเท วา อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิเยว ภูมิยํ ผุสนฺตสฺส คมนํ, กรณวจนํ ปเนตฺถ วุตฺตลกฺขณเมว.
๒๖. ปลฺลตฺถิกสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉพฺพีเส ¶ ¶ น ปลฺลตฺถิกายาติ หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา น นิสีทิตพฺพํ. อนาทเรน นิสีทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, วาสูปคตสฺส ปน อิธาปิ ปุริเมสุ จ ทฺวาวีสจตุวีเสสุ อนาปตฺติ.
ฉพฺพีสติสารุปฺปสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๗. สกฺกจฺจปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
โภชนปฺปฏิสํยุตฺเตสุ ปเม สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺาเปตฺวา.
๒๘. ปตฺตสฺีปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ปตฺเต สฺา ปตฺตสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺี, อตฺตโน ภาชเน อุปนิพทฺธสฺี หุตฺวาติ อตฺโถ.
๒๙. สมสูปกปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย สมสูปโก นาม ยตฺถ มุคฺคมาเสหิ วา กุลตฺถาทีหิ วา กโต หตฺถหาริโย สูโป ภตฺตสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ โหติ, ตโต หิ อธิกํ คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. เปตฺวา ปน สูปํ อวเสสา สพฺพาปิ สูเปยฺยพฺยฺชนวิกติ รสรโส นาม โหติ, ตสฺมึ รสรเส, าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺสตฺถาย วา อตฺตโน ธเนน วา อิธ อนาปตฺติ.
๓๐…เป…๓๒. สมติตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ สมติตฺติกนฺติ สมปุณฺณํ สมภริตํ อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อนฺโตมุขวฏฺฏิเลขํ อนติกฺกมิตฺวา รจิตํ. ปิณฺฑปาตนฺติ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ. อนธิฏฺานุปเค ปน ยาวกาลิกํ ยามกาลิกาทีนิ จ ยตฺถกตฺถจิ ถูปีกตานิปิ วฏฺฏนฺติ, ยํ ปน ทฺวีสุ ปตฺเตสุ คเหตฺวา เอกํ ปูเรตฺวา วิหารํ หรติ, ยํ วา ปกฺขิปิยมานํ ปูวอุจฺฉุกฺขณฺฑผลาผลาทิ เหฏฺา โอโรหติ ¶ , ตกฺโกลวฏํสกาทโย วา อุปริ เปตฺวา ทิยฺยนฺติ, ยฺจ ปณฺเณ วา ถาลเก วา ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตมตฺถเก ปิตํ โหติ, น ตํ ถูปีกตํ นาม, ตสฺมา ตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. อิธ ปน คิลานสฺสาปิ อนาปตฺติ นตฺถิ, ตสฺมา เตนปิ สมติตฺติโกเยว ¶ คเหตพฺโพ. สพฺพตฺถ ปน ปฏิคฺคเหตุเมว ¶ น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคหิตํ ปน สุปฺปฏิคฺคหิตํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ปฺจมฉฏฺานิ วุตฺตนยาเนว.
๓๓-๓๔. สปทานสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม สปทานนฺติ ตตฺถ ตตฺถ โอธึ อกตฺวา อนุปฏิปาฏิยา. โย ปน อฺเสํ วา เทนฺโต, อฺภาชเน วา อากิรนฺโต ตโต ตโต โอมสติ, ตสฺส, อุตฺตริภงฺคฺจ อุปฺปฏิปาฏิยา คณฺหนฺตสฺสาปิ อิธ อนาปตฺติ. อฏฺมํ วุตฺตนยเมว.
๓๕. ถูปกตสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ถูปกโตติ มตฺถกโต เวมชฺฌโตติ อตฺโถ. โย ปน ปริตฺตเก เสเส เอกโต สงฺกฑฺฒิตฺวา โอมทฺทิตฺวา ภฺุชติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ.
๓๖. โอทนปฺปฏิจฺฉาทนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ยสฺส ภตฺตสามิกา มาฆาตสมยาทีสุ พฺยฺชนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา เทนฺติ, โย จ น ภิยฺโยกมฺยตาย ปฏิจฺฉาเทติ, เตสํ อนาปตฺติ, คิลานสฺส ปน อนาคตตฺตา อาปตฺติเยว.
๓๗. สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกาทสเม าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนนาติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ.
๓๘. อุชฺฌานสฺีสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวาทสเม อุชฺฌาเน สฺา อุชฺฌานสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ อุชฺฌานสฺี. อิธาปิ คิลาโน ¶ น มุจฺจติ, ‘‘ทสฺสามี’’ติ วา, ‘‘ทาเปสฺสามี’’ติ วา โอโลเกนฺตสฺส ปน, น อุชฺฌานสฺิสฺส จ อนาปตฺติ.
๓๙. กพฬสิกฺขาปทวณฺณนา
เตรสเม นาติมหนฺตนฺติ มยูรณฺฑํ อติมหนฺตํ, กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทกํ, เตสํ เวมชฺฌปฺปมาณํ. มูลขาทนียาทิเภเท ปน สพฺพขชฺชเก ผลาผเล จ อนาปตฺติ.
๔๐. อาโลปสิกฺขาปทวณฺณนา
จุทฺทสเม ¶ ปริมณฺฑลนฺติ อทีฆํ. อิธ ปน ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ.
๔๑-๔๒. อนาหฏสิกฺขาปทวณฺณนา
ปนฺนรสเม อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปตฺเตติ อตฺโถ. โสฬสเม สพฺพหตฺถนฺติ สกลํ หตฺถํ.
๔๓. สกพฬสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตรสเม สกพเฬนาติ เอตฺถ ยตฺตเกน วจนํ อปริปุณฺณํ โหติ, ตตฺตเก สติ กเถนฺตสฺส อาปตฺติ. โย ปน ธมฺมํ กเถนฺโต หริฏกาทีนิ มุเข ปกฺขิปิตฺวา กเถติ, ยตฺตเกน วจนํ อปริปุณฺณํ น โหติ, ตตฺตเก มุขมฺหิ สติ วฏฺฏติ.
๔๔. ปิณฺฑุกฺเขปกสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺารสเม ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา, อิธาปิ ขชฺชกผลาผเลสุ อนาปตฺติ.
๔๕. กพฬาวจฺเฉทกสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกูนวีสติเม กพฬาวจฺเฉทกนฺติ กพฬํ อวจฺฉินฺทิตฺวา อวจฺฉินฺทิตฺวา, อิธ ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ.
๔๖. อวคณฺฑการกสิกฺขาปทวณฺณนา
วีสติเม ¶ อวคณฺฑการกนฺติ มกฺกโฏ วิย คณฺเฑ กตฺวา กตฺวา, อิธ ผลาผลมตฺตเก อนาปตฺติ.
๔๗. หตฺถนิทฺธุนกสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกวีสติเม หตฺถนิทฺธุนกนฺติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา นิทฺธุนิตฺวา, อนาปตฺติยํ ปเนตฺถ ‘‘กจวรํ ฉฑฺเฑนฺโต หตฺถํ นิทฺธุนาตี’’ติ (ปาจิ. ๖๒๓) อิทํ อธิกํ.
๔๘. สิตฺถาวการกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวาวีสติเม ¶ สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา, อิธาปิ ‘‘กจวรํ ฉฑฺเฑนฺโต สิตฺถํ ฉฑฺฑยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๒๓) อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ.
๔๙. ชิวฺหานิจฺฉารกสิกฺขาปทวณฺณนา
เตวีสติเม ชิวฺหานิจฺฉารกนฺติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา.
๕๐-๕๑. จปุจปุการกสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุวีสติเม จปุจปุการกนฺติ จปุ จปูติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา กตฺวา. ปฺจวีสติเมปิ เอเสว นโย.
๕๒…เป…๕๔. หตฺถนิลฺเลหกาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉพฺพีสติเม หตฺถนิลฺเลหกนฺติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา. ภฺุชนฺเตน ¶ หิ องฺคุลิมตฺตมฺปิ นิลฺเลหิตุํ น วฏฺฏติ. ฆนยาคุผาณิตปายาสาทิเก ปน องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, สตฺตวีสติมอฏฺวีสติเมสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา เอกงฺคุลิยาปิ ปตฺโต น นิลฺเลหิตพฺโพ, เอกโอฏฺโปิ จ ชิวฺหาย น นิลฺเลหิตพฺโพ, โอฏฺมํเสหิ เอว ปน คเหตฺวา อนฺโต ปเวเสตุํ วฏฺฏติ.
๕๕. สามิสสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกูนตึสติเม ¶ น สามิเสนาติ เอตํ ปฏิกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตสฺมา สงฺฆิกมฺปิ ปุคฺคลิกมฺปิ คิหิสนฺตกมฺปิ อตฺตโน สนฺตกมฺปิ สงฺโขปิ สราวกมฺปิ ถาลกมฺปิ น คเหตพฺพเมว, คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปน หตฺถสฺส เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏติ, อิธ ‘‘โธวิสฺสามีติ วา, โธวาเปสฺสามีติ วา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๖๓๑) อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ.
๕๖. สสิตฺถกสิกฺขาปทวณฺณนา
ตึสติเม ‘‘อุทฺธริตฺวา วา ภินฺทิตฺวา วา ปฏิคฺคเห วา นีหริตฺวา วา ฉฑฺเฑตี’’ติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ. ตตฺถ อุทฺธริตฺวา วาติ สิตฺถานิ อุทกโต ¶ อุทฺธริตฺวา, เอกสฺมึ าเน ราสึ กตฺวา อุทกํ ฉฑฺเฑติ. ภินฺทิตฺวา วาติ สิตฺถานิ ภินฺทิตฺวา อุทกคติกานิ กตฺวา ฉฑฺเฑติ. ปฏิคฺคเห วาติ ปฏิคฺคเหน ปฏิจฺฉนฺตานํ ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑติ. นีหริตฺวาติ พหิ นีหริตฺวา ฉฑฺเฑติ, เอวํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ.
ตึสโภชนปฺปฏิสํยุตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๗. ฉตฺตปาณิสิกฺขาปทวณฺณนา
ธมฺมเทสนาปฏิสํยุตฺเตสุ ปเม ยํกิฺจิ ฉตฺตํ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ ฉตฺตปาณิ. โส ตํ ฉตฺตํ ยตฺถกตฺถจิ สรีราวยเว เปตฺวาปิ ยาว หตฺเถน น มฺุจติ, ตาวสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ธาเรติ, ปสฺเส วา ิตํ โหติ, หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ, ตสฺส เทเสตุํ วฏฺฏติ. ธมฺมปริจฺเฉโท เจตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๕๘-๕๙. ทณฺฑปาณิสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ทณฺโฑ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส จตุหตฺถปฺปมาโณ, ทณฺฑปาณิภาโว ปนสฺส ฉตฺตปาณิมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตติเยปิ เอเสว นโย. อสึ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ หิ สตฺถปาณิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ.
๖๐. อาวุธปาณิสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ¶ สพฺพาปิ ธนุวิกติ สทฺธึ สรวิกติยา อาวุธนฺติ เวทิตพฺพา, ตสฺมา สทฺธึ วา สเรน ธนุํ คเหตฺวา, สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยธนุํ วา นิชฺชิยธนุํ วา คเหตฺวา ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา ธมฺมํ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส ธนุ ขนฺเธปิ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว น คณฺหาติ, ตาว วฏฺฏติ.
๖๑-๖๒. ปาทุกสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม ปาทุการุฬฺหสฺสาติ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตริกํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ อกฺกนฺตสฺส วา, ปเวเสตฺวา านวเสน ปฏิมุกฺกสฺส วา. ฉฏฺเปิ เอเสว ¶ นโย. อิธ ปน ยฺวายํ ปณฺหิกพนฺธํ โอมฺุจิตฺวา านวเสน ‘‘โอมุกฺโก’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสาปิ น วฏฺฏติ.
๖๓. ยานสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ สเจปิ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเฏน คหิโต, สาฏเก วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน โหติ, ยานคโตตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. สเจ ปน ทฺเวปิ เอกยาเน นิสินฺนา โหนฺติ, วฏฺฏติ. วิสุํ นิสินฺเนสุปิ อุจฺเจ ยาเน นิสินฺเนน นีเจ นิสินฺนสฺส เทเสตุํ วฏฺฏติ, สมปฺปมาเณปิ วฏฺฏติ, ตถา ปุริเม นิสินฺเนน ปจฺฉิเม นิสินฺนสฺส. ปจฺฉิเม ปน อุจฺจตเรปิ นิสินฺเนน เทเสตุํ น วฏฺฏติ.
๖๔. สยนสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺส อุจฺเจปิ มฺเจ วา ปีเ วา ภูมิปฺปเทเส วา ิเตน นิสินฺเนน วา เทเสตุํ น วฏฺฏติ. สยนคเตน ปน สยนคตสฺส อุจฺจตเร วา สมปฺปมาเณ วา นิปนฺเนน เทเสตุํ วฏฺฏติ. นิปนฺเนน ปน ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา นิปนฺนสฺส วา, นิสินฺเนน จ ิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา, ิเตน ิตสฺเสว วฏฺฏติ.
๖๕. ปลฺลตฺถิกสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ¶ หตฺถปลฺลตฺถิกาทีสุ ยาย กายจิ นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏติ.
๖๖. เวิตสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเน วา โมฬิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ, เอวํ เวิตสีสสฺส, เตเนวสฺส อนาปตฺติยํ ‘‘เกสนฺตํ วิวราเปตฺวา เทเสตี’’ติ (ปาจิ. ๖๔๓) วุตฺตํ.
๖๗. โอคุณฺิตสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกาทสเม โอคุณฺิตสีสสฺสาติ สสีสํ ปารุตสฺส, อนาปตฺติยํ ปเนตฺถ ‘‘สีสํ วิวราเปตฺวา เทเสตี’’ติ (ปาจิ. ๖๔๔) อธิกํ.
๖๘. ฉมาสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวาทสเม ¶ ฉมายํ นิสีทิตฺวาติ ภูมิยํ นิสีทิตฺวา. อาสเนติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺส.
๖๙. นีจาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
เตรสเม อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺนสฺส.
๗๐. ิตสิกฺขาปทวณฺณนา
จุทฺทสเม น ิโต นิสินฺนสฺสาติ สเจ เถรสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา ิตํ ทหรํ อาสเน นิสินฺโน มหาเถโร ปฺหํ ปุจฺฉติ, น กเถตพฺพํ. คารเวน ปน เถรํ ‘‘อุฏฺหิตฺวา ปุจฺฉา’’ติ วตฺตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ‘‘ปสฺเส ิตสฺส ภิกฺขุโน กเถสฺสามี’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติ.
๗๑. ปจฺฉโตคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
ปนฺนรสเม ¶ สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตสฺส ตํ อกเถตฺวา ‘‘ปจฺฉิมสฺส ภิกฺขุโน กเถสฺสามี’’ติ กเถตพฺพํ. สทฺธึ อุคฺคหิตธมฺมํ ปน สชฺฌายิตุํ, สมธุเรน วา คจฺฉนฺตสฺส กเถตุํ วฏฺฏติ.
๗๒. อุปฺปเถนคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
โสฬสเม น อุปฺปเถนาติ เอตฺถ สเจ ทฺเวปิ สกฏมคฺคสฺมึ เอเกกจกฺกปเถน วา อุปฺปเถน วา สมธุรํ คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ.
๗๓. ิโตอุจฺจารสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตรสเม ‘‘อสฺจิจฺจา’’ติ อนาปตฺติยํ สเจ ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ กโต นาม โหติ.
๗๔. หริเตอุจฺจารสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺารสเม ยมฺปิ ชีวมานรุกฺขสฺส มูลํ ปถวิยํ ทิสฺสมานํ คจฺฉติ, สาขา วา ภูมิลคฺคา คจฺฉติ, สพฺพํ หริตสงฺขาตเมว. ขนฺเธ นิสีทิตฺวา ปน อปฺปหริตฏฺาเน ¶ ปาเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ อปฺปหริตฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺเสว สหสา นิกฺขมติ, คิลานฏฺาเน ¶ ิโต โหติ, ‘‘อปฺปหริเต กโต หริตํ โอตฺถรตี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๒) อิทเมตฺถ อนาปตฺติยํ อธิกํ. ตตฺถ สเจปิ อปฺปหริตํ อลภนฺเตน ติณณฺฑุปกํ วา ปลลณฺฑุปกํ วา เปตฺวา กโต ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏติเยว. เขเฬน เจตฺถ สิงฺฆาณิกาปิ สงฺคหิตา.
๗๕. อุทเกอุจฺจารสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกูนวีสติเม น อุทเกติ เอตํ ปริโภคอุทกเมว สนฺธาย วุตฺตํ, วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสุ ปน อปริโภเคสุ อนาปตฺติ. เทเว วสฺสนฺเต สมนฺตโต อุทโกเฆ ชาเต ¶ อนุทกฏฺานํ อลภนฺเตน อุทเก กาตุํ วฏฺฏติ, อิธาปิ ‘‘ถเล กโต อุทกํ โอตฺถรตี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๔) อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ, เสสํ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อุตฺตานเมว.
สมุฏฺานาทิทีปนตฺถาย ปเนตฺถ อิทํ ปกิณฺณกํ – อุชฺชคฺฆิกอุจฺจาสทฺทปฺปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ, สกพเฬน มุเขน พฺยาหรณํ เอกํ, ฉมานีจาสนนิสินฺนิตปจฺฉโตคมนอุปฺปถคมนปฺปฏิสํยุตฺตานิ ปฺจาติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ, เอเกกเมตฺถ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ. สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ. ฉตฺตปาณิทณฺฑปาณิสตฺถปาณิอาวุธปาณิปาทุกาอุปาหนยานสยนปลฺลตฺถิกเวิตโอคุณฺิตนามกานิ เอกาทส ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานิ. เสสานิ เตปณฺณาส ปมปาราชิกสมอุฏฺานาทิเภทานีติ.
เอกูนวีสติธมฺมเทสนาปฏิสํยุตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
เสขิยวณฺณนา นิฏฺิตา.
อธิกรณสมถวณฺณนา
อธิกรณสมเถสุ ¶ สตฺตาติ เตสํ คณนปริจฺเฉโท. อธิกรณานิ สเมนฺติ วูปสเมนฺตีติ อธิกรณสมถา. อุทฺเทสํ อาคจฺฉนฺตีติ อาปตฺตาธิกรณสงฺขาตาสุ จ อวเสสาธิกรณตฺตยปจฺจยาสุ จ อาปตฺตีสุ ปริสุทฺธภาวํ ปุจฺฉนตฺถํ อุทฺทิสิตพฺพตํ อาคจฺฉนฺติ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานนฺติ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานํ. อธิกรณานนฺติ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ. สมถาย วูปสมายาติ สมนตฺถฺเจว วูปสมนตฺถฺจ สมฺมุขาวินโย ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโกติ อิเม สตฺต สมถา ทาตพฺพา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อธิกรเณสุ ตาว ‘‘ธมฺโม’’ติ วา, ‘‘อธมฺโม’’ติ วา อฏฺารสหิ วตฺถูหิ วิวทนฺตานํ ภิกฺขูนํ โย วิวาโท, อิทํ วิวาทาธิกรณํ นาม. สีลวิปตฺติยา วา อาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติยา วา อนุวทนฺตานํ โย อนุวาโท อุปวทนา เจว โจทนา จ, อิทํ อนุวาทาธิกรณํ นาม. มาติกาย อาคตา ปฺจ, วิภงฺเค ทฺเวติ สตฺตปิ ¶ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ ¶ , นาม. ยํ สงฺฆสฺส อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ กรณํ, อิทํ กิจฺจาธิกรณํ นาม.
ตตฺถ วิวาทาธิกรณํ (จูฬว. ๒๒๘) ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ, สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ ยสฺมึ วิหาเร อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึเยว วา, อฺตฺถ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเค วา, ยตฺถ คนฺตฺวา สงฺฆสฺส นิยฺยาติตํ, ตตฺถ สงฺเฆน วา วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺเต ตตฺเถว อุพฺพาหิกาย สมฺมตปุคฺคเลหิ วา วินิจฺฉิตํ สมฺมติ, เอวํ สมฺมมาเน จ ปน ตสฺมึ ยา สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตา อยํ สมฺมุขาวินโย นาม. ตตฺถ จ การกสงฺฆสฺส สงฺฆสามคฺคิวเสน สมฺมุขีภาโว สงฺฆสมฺมุขตา, สเมตพฺพสฺส วตฺถุโน ภูตตา ธมฺมสมฺมุขตา, ยถา ตํ สเมตพฺพํ, ตเถวสฺส สมนํ วินยสมฺมุขตา, โย จ วิวทติ, เยน จ วิวทติ, เตสํ อุภินฺนํ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. อุพฺพาหิกาย วูปสมเน ปเนตฺถ สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ, เอวํ ตาว สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมติ.
สเจ ¶ ปเนวมฺปิ น สมฺมติ, อถ นํ อุพฺพาหิกาย สมฺมตา ภิกฺขู ‘‘น มยํ สกฺโกม วูปสเมตุ’’นฺติ สงฺฆสฺเสว นิยฺยาเตนฺติ, ตโต สงฺโฆ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ สลากคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตฺวา เตน คุฬฺหกวิวฏฺฏกสกณฺณชปฺปเกสุ ตีสุ สลากคฺคาเหสุ อฺตรวเสน สลากํ คาเหตฺวา สนฺนิปติตปริสาย ธมฺมวาทีนํ เยภุยฺยตาย ยถา เต ธมฺมวาทิโน วทนฺติ, เอวํ วูปสนฺตํ อธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ เยภุยฺยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินโย วุตฺตนโย เอว, ยํ ปน เยภุยฺยสิกกมฺมสฺส กรณํ. อยํ เยภุยฺยสิกา นาม, เอวํ วิวาทาธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อนุวาทาธิกรณํ (จูฬว. ๒๓๖) จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ. สมฺมุขาวินเยเนว สมฺมมานํ โย จ อนุวทติ, ยฺจ อนุวทติ, เตสํ วจนํ สุตฺวา สเจ กาจิ อาปตฺติ นตฺถิ, อุโภ ขมาเปตฺวา, สเจ อตฺถิ, ‘‘อยํ นาเมตฺถ อาปตฺตี’’ติ เอวํ วินิจฺฉิตํ วูปสมฺมติ, ตตฺถ สมฺมุขาวินยลกฺขณํ วุตฺตนยเมว. ยทา ปน ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํสิตสฺส สติวินยํ ยาจมานสฺส สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน สติวินยํ เทติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ สติวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ, ทินฺเน ปน สติวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ อนุวาโท น รุหติ. ยทา อุมฺมตฺตโก ภิกฺขุ อุมฺมาทวเสน คเต อสฺสามณเก ¶ อชฺฌาจาเร ‘‘สรตายสฺมา เอวรูปึ อาปตฺติ’’นฺติ ภิกฺขูหิ โจทิยมาโน ‘‘อุมฺมตฺตเกน เม, อาวุโส, เอตํ กตํ, นาหํ ตํ สรามี’’ติ ภณนฺโตปิ ภิกฺขูหิ โจทิยมาโนว ปุน อโจทนตฺถาย อมูฬฺหวินยํ ¶ ยาจติ, สงฺโฆ จสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อมูฬฺหวินยํ เทติ. ตทา สมฺมุขาวินเยน จ อมูฬฺหวินเยน จ วูปสนฺตํ โหติ, ทินฺเน ปน อมูฬฺหวินเย ปุน ตสฺมึ ปุคฺคเล กสฺสจิ ตปฺปจฺจยา อนุวาโท น รุหติ.
ยทา ปน ปาราชิเกน วา ปาราชิกสามนฺเตน วา โจทิยมานสฺส อฺเนฺํ ปฏิจรโต ปาปุสฺสนฺนตาย ปาปิยสฺส ปุคฺคลสฺส ‘‘สจายํ อจฺฉินฺนมูโล ภวิสฺสติ, สมฺมา วตฺติตฺวา โอสารณํ ลภิสฺสติ, สเจ ฉินฺนมูโล, สยเมวสฺส นาสนา ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน สงฺโฆ ตฺติจตุตฺเถน ¶ กมฺเมน ตสฺสปาปิยสิกํ กมฺมํ กโรติ, ตทา สมฺมุขาวินเยน จ ตสฺสปาปิยสิกาย จ วูปสนฺตํ โหติ, เอวํ อนุวาทาธิกรณํ จตูหิ สมเถหิ สมฺมติ.
อาปตฺตาธิกรณํ (จูฬว. ๒๓๙) ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ ติณวตฺถารเกน จ. ตสฺส สมฺมุขาวินเยเนว วูปสโม นตฺถิ, ยทา ปน เอกสฺส วา ภิกฺขุโน, นิสฺสคฺคิยวณฺณนายํ วุตฺตนเยน สงฺฆคณมชฺเฌสุ วา ภิกฺขุ ลหุกํ อาปตฺตึ เทเสติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ปฏิฺาตกรเณน จ วูปสมฺมติ. ตตฺถ สมฺมุขาวินเย ตาว โย จ เทเสติ, ยสฺส จ เทเสติ, เตสํ สมฺมุขีภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา, เสสํ วุตฺตนยเมว. ปุคฺคลสฺส จ คณสฺส จ เทสนากาเล สงฺฆสมฺมุขตา ปริหายติ.
ยา ปเนตฺถ ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ จ, ‘‘ปสฺสสี’’ติ, ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ จ ปฏิฺา, ตาย ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ กรณํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. สงฺฆาทิเสเส ปริวาสาทิยาจนา ปฏิฺา, ปริวาสาทีนํ ทานํ ปฏิฺาตกรณํ นาม. ทฺเวปกฺขชาตา ปน ภณฺฑนการกา ภิกฺขู พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจารํ จริตฺวา ปุน ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน ‘‘สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กริสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺถาย วาฬตฺถาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ อฺมฺํ อาปตฺติยา การาปเน โทสํ ทิสฺวา ยทา ติณวตฺถารกกมฺมํ กโรนฺติ, ตทา อาปตฺตาธิกรณํ สมฺมุขาวินเยน จ ติณวตฺถารเกน จ สมฺมติ. ตตฺร หิ ยตฺตกา หตฺถปาสูปคตา ‘‘น เมตํ ขมตี’’ติ เอวํ ทิฏฺาวิกมฺมํ ¶ อกตฺวา นิทฺทมฺปิ โอกฺกมนฺตา โหนฺติ, สพฺเพสํ เปตฺวา ถุลฺลวชฺชฺจ คิหิปฺปฏิสํยุตฺตฺจ สพฺพาปตฺติโย วุฏฺหนฺติ, เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ ตีหิ สมเถหิ สมฺมติ.
กิจฺจาธิกรณํ (จูฬว. ๒๔๒) เอเกน สมเถน สมฺมติ สมฺมุขาวินเยเนว. อิติ อิมานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ ยถานุรูปํ อิเมหิ สตฺตหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อธิกรณานํ สมถาย วูปสมาย สมฺมุขาวินโย ¶ ทาตพฺโพ…เป… ติณวตฺถารโก’’ติ. อยเมตฺถ วินิจฺฉยนโย, วิตฺถาโร ปน สมถกฺขนฺธเก อาคโตเยว, วินิจฺฉโยปิสฺส สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ, กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาติ ¶ เตสุ สตฺตสุ อธิกรณสมเถสุ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา, นตฺถิ โว กิฺจิ สมเถหิ วูปสเมตพฺพนฺติ ปุจฺฉามิ, เอเตน สพฺพาปตฺตีหิ ปริสุทฺธภาโว ปุจฺฉิโต โหติ.
อุทฺทิฏฺํ โข อายสฺมนฺโต นิทานนฺติอาทิ นิคมนวจนํ. ตตฺถ เอตฺตกนฺติ เอตฺตกํ สิกฺขาปทํ. สุตฺตาคตนฺติ สุตฺเต ปาติโมกฺเข อาคตํ. สุตฺตปริยาปนฺนนฺติ ตตฺเถว อนฺโตคธํ. อนฺวทฺธมาสํ อุทฺเทสํ อาคจฺฉตีติ อทฺธมาเส อทฺธมาเส อุโปสถวเสน อุทฺทิสิตพฺพตํ อาคจฺฉติ. สมคฺเคหีติ กายสามคฺคิวเสน สมคฺเคหิ. สมฺโมทมาเนหีติ จิตฺตสามคฺคิวเสน เอกชฺฌาสยตาย สุฏฺุ โมทมาเนหิ. อวิวทมาเนหีติ อฏฺารสสุ วิวาทวตฺถูสุ อฺตรวเสนาปิ อวิวทมาเนหิ. สิกฺขิตพฺพนฺติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ อวีติกฺกมนฺเตหิ อธิสีลสิกฺขา สมฺปาเทตพฺพา. อนฺตรนฺตรา ปน ยํ น วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปุริเม ปุริเม สิกฺขาปเท วุตฺตตฺตา เจว อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ.
อธิกรณสมถวณฺณนา นิฏฺิตา.
กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
ภิกฺขุปาติโมกฺขวณฺณนา นิฏฺิตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมสมฺพุทฺธสฺส