📜

ปาราชิกกณฺโฑ

อิทานิ ยเทตํ นิทานานนฺตรํ ตตฺริเม จตฺตาโรติอาทิ ปาราชิกกณฺฑํ, ตตฺถ ตตฺราติ ตสฺมึ ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปาติโมกฺเข. อิเมติ อิทานิ วตฺตพฺพานํ อภิมุขีกรณํ. จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท. ปาราชิกาติ เอวํนามกา. ธมฺมาติ อาปตฺติโย. อุทฺเทสํ อาคจฺฉนฺตีติ สรูเปน อุทฺทิสิตพฺพตํ อาคจฺฉนฺติ, น นิทาเน วิย ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติ สาธารณวจนมตฺเตน.

๑. ปมปาราชิกวณฺณนา

โย ปนาติ รสฺสทีฆาทินา ลิงฺคาทิเภเทน โย โกจิ. ภิกฺขูติ เอหิภิกฺขุอุปสมฺปทา, สรณคมนูปสมฺปทา, โอวาทปฺปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ปฺหาพฺยากรณูปสมฺปทา, อฏฺครุธมฺมปฺปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ทูเตนูปสมฺปทา, อฏฺวาจิกูปสมฺปทา, ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาติ อิมาสุ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ตฺติจตุตฺเถน อุปสมฺปทากมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺโน. ตสฺส ปน กมฺมสฺส วตฺถุตฺติอนุสฺสาวน สีมา ปริสาสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปตา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ วตฺถูติ อุปสมฺปทาเปกฺโข ปุคฺคโล, โส เปตฺวา อูนวีสติวสฺสํ อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนปุพฺพํ, ปณฺฑกาทโย จ เอกาทส อภพฺพปุคฺคเล เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อูนวีสติวสฺโส นาม ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย อปริปุณฺณวีสติวสฺโส. อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนปุพฺโพ นาม จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อฺตรํ อชฺฌาปนฺนปุพฺโพ. ปณฺฑกาทโย วชฺชนียปุคฺคลกถายํ วุตฺตา. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกฺจ อุสูยปณฺฑกฺจ เปตฺวา โอปกฺกมิกปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโก ปณฺฑกภาวปกฺเข ิโต ปกฺขปณฺฑโก จ อิธ อธิปฺเปโต.

เถยฺยสํวาสโก ปน ติวิโธ ลิงฺคตฺเถนโก สํวาสตฺเถนโก อุภยตฺเถนโกติ. ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ ภิกฺขูนํ วา สามเณรานํ วา วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ อสุทฺธจิตฺตตาย ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม. โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพชิโต สามเณโร สมาโน กาสายานิ อปเนตฺวา เตสุ สอุสฺสาโหว เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน นิวาเสตฺวา สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา น ลิงฺคตฺเถนโก, น ลิงฺคานุรูปสฺส สํวาสสฺส สาทิตตฺตา นาปิ สํวาสตฺเถนโก. อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนเกปิ เอเสว นโย. โย จ โข สามเณโร สมาโน วิเทสํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ ปุน เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย. โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, อุโปสถาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. ธุรนิกฺเขปวเสน กาสายานิ อปเนตฺวา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปชฺชิตฺวา ปุน ตานิ อจฺฉาเทตฺวา เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย, อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อิธ อธิปฺเปโต. เปตฺวา ปน อิมํ ติวิธํ.

‘‘ราช ทุพฺภิกฺข กนฺตาร-โรค เวรี ภเยน วา;

จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.

‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;

เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐);

โย ปน อุปสมฺปนฺโน ติตฺถิยภาวํ ปตฺถยมาโน สยํ วา กุสจีราทิกํ ติตฺถิยลิงฺคํ อาทิยติ, เตสํ วา สนฺติเก ปพฺพชติ, นคฺโค วา หุตฺวา อาชีวกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตสํ วตานิ อาทิยติ, อยํ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม. เปตฺวา ปน มนุสฺสชาติกํ อวเสโส สพฺโพปิ ติรจฺฉานคโต นาม. เยน มนุสฺสชาติกา ชเนตฺติ สยมฺปิ มนุสฺสภูเตเนว สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ มาตุฆาตโก นาม. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. เยน อนฺตมโส คิหิลิงฺเค ิโตปิ มนุสฺสชาติโก ขีณาสโว สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิโต, อยํ อรหนฺตฆาตโก นาม. โย ปน ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค ทูเสติ , อยํ ภิกฺขุนิทูสโก นาม. โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. โย เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. ยสฺส อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโต ทุวิธมฺปิ พฺยฺชนํ อตฺถิ, อยํ อุภโตพฺยฺชนโก นาม. อิติ อิเม เตรส ปุคฺคลา อุปสมฺปทาย อวตฺถู, อิเม ปน เปตฺวา อฺสฺมึ อุปสมฺปทาเปกฺเข สติ อุปสมฺปทากมฺมํ วตฺถุสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ.

กถํ ตฺติสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ? วตฺถุสงฺฆปุคฺคลตฺตีนํ อปรามสนานิ, ปจฺฉา ตฺติฏฺปนฺจาติ อิเม ตาว ปฺจ ตฺติโทสา. ตตฺถ ‘‘อยํ อิตฺถนฺนาโม’’ติ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อกิตฺตนํ วตฺถุอปรามสนํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติเอตฺถ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต’’ติ วตฺวา ‘‘สงฺโฆ’’ติ อภณนํ สงฺฆอปรามสนํ นาม. ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ อุปชฺฌายสฺส อกิตฺตนํ ปุคฺคลอปรามสนํ นาม. สพฺเพน สพฺพํ ตฺติยา อนุจฺจารณํ ตฺติอปรามสนํ นาม. ปมํ กมฺมวาจํ นิฏฺาเปตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ ตฺติกิตฺตนํ ปจฺฉา ตฺติฏฺปนํ นาม. อิติ อิเมหิ โทเสหิ วิมุตฺตาย ตฺติยา สมฺปนฺนํ ตฺติสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ.

อนุสฺสาวนวเสน อกุปฺปตายปิ วตฺถุสงฺฆปุคฺคลานํ อปรามสนานิ, สาวนาย หาปนํ, อกาเล สาวนนฺติ อิเม ปฺจ อนุสฺสาวนโทสา. ตตฺถ วตฺถาทีนํ อปรามสนานิ ตฺติยํ วุตฺตสทิสาเนว. ตีสุ ปน อนุสฺสาวนาสุ ยตฺถ กตฺถจิ เอเตสํ อปรามสนํ อปรามสนเมว. สพฺเพน สพฺพํ ปน กมฺมวาจํ อวตฺวา จตุกฺขตฺตุํ ตฺติกิตฺตนเมว, อถ วา ปน กมฺมวาจาพฺภนฺตเร อกฺขรสฺส วา ปทสฺส วา อนุจฺจารณํ วา ทุรุจฺจารณํ วา สาวนาย หาปนํ นาม. สาวนาย อโนกาเส ปมํ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา อนุสฺสาวนกรณํ อกาเล สาวนํ นาม. อิติ อิเมหิ โทเสหิ วิมุตฺตาย อนุสฺสาวนาย สมฺปนฺนํ อนุสฺสาวนสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ.

ปุพฺเพ วุตฺตํ วิปตฺติสีมาลกฺขณํ สมติกฺกนฺตาย ปน สีมาย กตํ สีมาสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ. ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เตสํ อนาคมนํ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อนาหรณํ, สมฺมุขีภูตานํ ปฏิกฺโกสนนฺติ อิเม ปน ตโย ปริสาโทสา, เตหิ วิมุตฺตาย ปริสาย กตํ ปริสาสมฺปตฺติวเสน อกุปฺปํ โหติ. การณารหตฺตา ปน สตฺถุ สาสนารหตฺตา านารหํ นาม โหติ. อิติ โย อิมินา เอวํ อกุปฺเปน านารเหน ตฺติจตุตฺเถน อุปสมฺปทากมฺเมน อุปสมฺปนฺโน, อยํ อิธ ‘‘ภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. ปณฺณตฺติวชฺเชสุ ปน อฺเปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ.

ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ยา ภิกฺขูนํ อธิสีลสงฺขาตา สิกฺขา, ตฺจ, ยตฺถ เจเต สห ชีวนฺติ, เอกชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตํ ภควตา ปฺตฺตํ สิกฺขาปทสงฺขาตํ สาชีวฺจ, ตตฺถ สิกฺขนภาเวน สมาปนฺโนติ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมอาปนฺโน. สมาปนฺโนติ สิกฺขฺจ ปริปูเรนฺโต สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวา ตทุภยํ อุปคโตติ อตฺโถ. สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน, ตํ อปฏิกฺขิปิตฺวา, ยฺจ สาชีวํ สมาปนฺโน, ตสฺมึ ทุพฺพลภาวํ อปฺปกาเสตฺวา. ตตฺถ จิตฺตเขตฺตกาลปโยคปุคฺคลวิชานนวเสน สิกฺขาย ปจฺจกฺขานํ ตฺวา ตทภาเวน อปจฺจกฺขานํ เวทิตพฺพํ. กถํ? อุปสมฺปนฺนภาวโต จวิตุกามตาจิตฺเตเนว หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ทวา วา รวา วา ภณนฺตสฺส. เอวํ จิตฺตวเสน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. ตถา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ พุทฺธาทีนํ จุทฺทสนฺนํ, ‘‘คิหีติ มํ ธาเรหิ, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสมโณ, ‘อสกฺยปุตฺติโย’ติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ วุตฺตานํ คิหิอาทีนํ อฏฺนฺนฺจาติ อิเมสํ ทฺวาวีสติยา เขตฺตปทานํ ยสฺส กสฺสจิ สเววจนสฺส วเสน เตสุ ยํกิฺจิ วตฺตุกามสฺส ยํกิฺจิ วทโต สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, น รุกฺขาทีนํ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา ปจฺจาจิกฺขนฺตสฺส. เอวํ เขตฺตวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ตตฺถ ยเทตํ ‘‘ปจฺจกฺขามี’’ติ จ, ‘‘มํ ธาเรหี’’ติ (ปารา. ๕๑) จ วุตฺตํ วตฺตมานกาลวจนํ, ยานิ จ ‘‘อลํ เม พุทฺเธน, กึ นุ เม พุทฺเธน, น มมตฺโถ พุทฺเธน , สุมุตฺตาหํ พุทฺเธนา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๒) นเยน อาขฺยาตวเสน กาลํ อนามสิตฺวา ปุริเมหิ จุทฺทสหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ‘‘อลํ เม’’ติอาทีนิ จตฺตาริ ปทานิ, เตสํเยว จ สเววจนานํ วเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ‘‘ปจฺจกฺขาสิ’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจกฺขิสฺส’’นฺติ วา ‘‘มํ ธาเรสี’’ติ วา ‘‘มํ ธาเรสฺสตี’’ติ วา ‘‘ยํนูนาหํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ (ปารา. ๔๕) วาติอาทีนิ อตีตานาคตปริกปฺปวจนานิ ภณนฺตสฺส. เอวํ วตฺตมาน กาลวเสน เจว อนามฏฺกาลวเสน จ ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ปโยโค ปน ทุวิโธ กายิโก จ วาจสิโก จ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๑) นเยน ยาย กายจิ ภาสาย วจีเภทํ กตฺวา วาจสิกปฺปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น อกฺขรลิขนํ วา หตฺถมุทฺทาทิทสฺสนํ วา กายปฺปโยคํ กโรนฺตสฺส. เอวํ วาจสิกปฺปโยเคเนว ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

ปุคฺคโล ปน ทุวิโธ – โย จ ปจฺจกฺขาติ, ยสฺส จ ปจฺจกฺขาติ. ตตฺถ โย ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ อุมฺมตฺตกขิตฺตจิตฺตเวทนาฏฺฏานํ อฺตโร น โหติ. ยสฺส ปน ปจฺจกฺขาติ, โส สเจ มนุสฺสชาติโก โหติ, น จ อุมฺมตฺตกาทีนํ อฺตโร, สมฺมุขีภูโต จ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ. น หิ อสมฺมุขีภูตสฺส ทูเตน วา ปณฺเณน วา อาโรจนํ รุหติ. เอวํ ยถาวุตฺตปุคฺคลวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน.

วิชานนมฺปิ นิยมิตานิยมิตวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส เยสํ วา นิยเมตฺวา ‘‘อิมสฺส, อิเมสํ วา อาโรเจมี’’ติ วทติ, สเจ เต ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา อาวชฺชนสมเย ชานนฺติ, เอวํ ตสฺส วจนานนฺตรเมว ตสฺส ‘‘อยํ อุกฺกณฺิโต’’ติ วา ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยตี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สิกฺขาปจฺจกฺขานภาวํ ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ จินฺเตตฺวา ชานนฺติ, อฺเ วา ชานนฺติ, อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อนิยเมตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปน สเจ วุตฺตนเยน โย โกจิ มนุสฺสชาติโก วจนตฺถํ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ วิชานนวเสน ปจฺจกฺขานํ โหติ, น ตทภาเวน. โย ปน อนฺตมโส ทวายปิ ปจฺจกฺขาติ, เตน อปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. อิติ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ จิตฺตาทีนํ วา วเสน, สพฺพโส วา ปน อปจฺจกฺขาเนน สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺเสว จ อตฺถภูตํ เอกจฺจํ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา.

เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยาติ เอตฺถ เมถุนํ ธมฺมนฺติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสานํ อุภินฺนํ ธมฺมํ. ปฏิเสเวยฺยาติ ปฏิเสเวยฺย อชฺฌาปชฺเชยฺย. อนฺตมโสติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ติรจฺฉานคตายปีติ ปฏิสนฺธิวเสน ติรจฺฉาเนสุ คตายปิ, อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ. ปาราชิโก โหตีติ ปราชิโต โหติ, ปราชยํ อาปนฺโน. อสํวาโสติ ปกตตฺตา ภิกฺขู สห วสนฺติ เอตฺถาติ เอกกมฺมาทิโกว ติวิโธปิ วิธิ สํวาโส นาม, โส เตน สทฺธึ นตฺถีติ อสํวาโส. สงฺฆกมฺเมสุ หิ เอส คณปูรโกปิ น โหติ, อยํ ตาว ปทวณฺณนา.

อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตวเสน หิ ติสฺโส อิตฺถิโย, ตาสํ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคมุขมคฺควเสน ตโย ตโย กตฺวา นว มคฺคา, ตถา อุภโตพฺยฺชนกานํ. ปุริสานํ ปน วจฺจมคฺคมุขมคฺควเสน ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ มคฺคา, ตถา ปณฺฑกานนฺติ เอวํ ตึส มคฺคา. เตสุ อตฺตโน วา ปเรสํ วา ยสฺส กสฺสจิ มคฺคสฺส สนฺถตสฺส วา อสนฺถตสฺส วา, ปเรสํ ปน มตานมฺปิ อกฺขายิตสฺส วา เยภุยฺเยน อกฺขายิตสฺส วา ปกติวาเตน อสํผุฏฺเ อลฺโลกาเส โย ภิกฺขุ เอกติลพีชมตฺตมฺปิ อตฺตโน องฺคชาตํ สนฺถตํ วา อสนฺถตํ วา เสวนจิตฺเตน ปเวเสติ, ปเรน วา ปเวสิยมาเน ปเวสนปวิฏฺฏฺิตอุทฺธรเณสุ ยํกิฺจิ สาทิยติ, อยํ ปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน นาม โหติ, อยํ ตาเวตฺถ อสาธารณวินิจฺฉโย. สพฺพสิกฺขาปทานํ ปน สาธารณวินิจฺฉยตฺถํ อยํ มาติกา –

นิทานํ ปุคฺคลํ วตฺถุํ, ปฺตฺติวิธิเมว จ;

อาณตฺตาปตฺตินาปตฺติ-วิปตฺตึ องฺคเมว จ.

สมุฏฺานวิธึ กิริยา-สฺาจิตฺเตหิ นานตฺตํ;

วชฺชกมฺมปฺปเภทฺจ, ติกทฺวยวิธึ ตถา.

ลกฺขณํ สตฺตรสธา, ิตํ สาธารณํ อิทํ;

ตฺวา โยเชยฺย เมธาวี, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหนฺติ.

ตตฺถ นิทานํ นาม เวสาลิ-ราชคห-สาวตฺถิ-อาฬวิ-โกสมฺพิ-สคฺค-ภคฺคานํ วเสน สตฺตวิธํ ปฺตฺติฏฺานํ, อิทฺหิ สพฺพสิกฺขาปทานํ นิทานํ. ปุคฺคโล นาม ยํ ยํ อารพฺภ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. วตฺถุ นาม ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส อชฺฌาจาโร วุจฺจติ. ปฺตฺติวิธินฺติ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอนุปฺปนฺนปฺตฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติสาธารณปฺตฺติ อสาธารณปฺตฺติเอกโตปฺตฺติอุภโตปฺตฺติวเสน นววิธา ปฺตฺติ. ตตฺถ อนุปฺปนฺนปฺตฺติ นาม อนุปฺปนฺเน โทเส ปฺตฺตา, สา อฏฺครุธมฺมปฺปฏิคฺคหณวเสน (จูฬว. ๔๐๓) ภิกฺขุนีนํเยว อาคตา, อฺตฺร นตฺถิ. วินยธรปฺจเมน (มหาว. ๒๕๙) คเณน อุปสมฺปทา, คณงฺคณูปาหนา (มหาว. ๒๕๙) ธุวนฺหานํ จมฺมตฺถรณนฺติ เอเตสํ วเสน จตุพฺพิธา ปเทสปฺตฺติ นาม. มชฺฌิมเทเสเยว หิ เอเตหิ อาปตฺติ โหติ, เตสุปิ ธุวนฺหานํ ปฏิกฺเขปมตฺตเมว ปาติโมกฺเข อาคตํ, ตโต อฺา ปเทสปฺตฺติ นาม นตฺถิ. สพฺพานิ สพฺพตฺถปฺตฺติเยว โหนฺติ, สาธารณปฺตฺติทุกฺจ เอกโตปฺตฺติทุกฺจ อตฺถโต เอกํ, ตสฺมา อนุปฺปนฺนปฺตฺติฺจ สพฺพตฺถปฺตฺติทุกฺจ เอกโตปฺตฺติทุกฺจ เปตฺวา เสสานํ จตสฺสนฺนํ ปฺตฺตีนํ วเสน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อาณตฺตาปตฺตินาปตฺติวิปตฺตินฺติเอตฺถ อาณตฺตีติอาณาปนา วุจฺจติ. อาปตฺตีติ ปุพฺพปฺปโยคาทิวเสน อาปตฺติเภโท. อนาปตฺตีติ อชานนาทิวเสน อนาปตฺติ. วิปตฺตีติ สีลอาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺตีนํ อฺตรา. อิติ อิมาสํ อาณตฺตาทีนมฺปิ วเสน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. องฺคนฺติ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อาปตฺตีนํ องฺคํ เวทิตพฺพํ.

สมุฏฺานวิธินฺติ สพฺพาปตฺตีนํ กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ เอกงฺคิกทฺวงฺคิกติวงฺคิกานิ. ฉ สมุฏฺานานิ นาม ยานิ ‘‘สิกฺขาปทสมอุฏฺานานี’’ติปิ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิ. เตสุ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ฉหิ วา สมุฏฺาเนหิ อาปตฺติโย สมุฏฺหนฺติ, ปฺจสมุฏฺานา นาม นตฺถิ. ตตฺถ เอกสมุฏฺานา นาม จตุตฺเถน จ ปฺจเมน จ ฉฏฺเน จ สมุฏฺาเนน สมุฏฺาติ, น อฺเน. ทฺวิสมุฏฺานา นาม ปมจตุตฺเถหิ จ ทุติยปฺจเมหิ จ ตติยฉฏฺเหิ จ จตุตฺถฉฏฺเหิ จ ปฺจมฉฏฺเหิ จ สมุฏฺาเนหิ, สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. ติสมุฏฺานา นาม ปเมหิ จ ตีหิ, ปจฺฉิเมหิ จ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. จตุสมุฏฺานา นาม ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ จ ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ จ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, น อฺเหิ. ฉ สมุฏฺานา นาม ฉหิปิ สมุฏฺาติ.

เอวํ –

ติธา เอกสมุฏฺานา, ปฺจธา ทฺวิสมุฏฺิตา;

ทฺวิธา ติจตุโร านา, เอกธา ฉสมุฏฺิตาติ.

สมุฏฺานวเสน สพฺพาว เตรส อาปตฺติโย โหนฺติ (จูฬว. ๑๖๕ อาทโย), ตา ปมปฺตฺติสิกฺขาปทวเสน สมุฏฺานโต เตรส นามานิ ลภนฺติ ปมปาราชิกสมุฏฺานา, อทินฺนาทาน-สฺจริตฺต-สมนุภาสน-กถิน-เอฬกโลม-ปทโสธมฺม-อทฺธาน-เถยฺยสตฺถ-ธมฺมเทสนาภูตาโรจน-โจริวุฏฺาปน-อนนุฺาตสมุฏฺานาติ. ตตฺถ ยา กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, อยํ ปมปาราชิกสมุฏฺานา นาม. ยา สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, อยํ อทินฺนาทานสมุฏฺานา นาม. ยา ฉหิปิ สมุฏฺาติ, อยํ สฺจริตฺตสมุฏฺานา นาม. ยา ฉฏฺเเนว สมุฏฺาติ, อยํ สมนุภาสนสมุฏฺานา นาม. ยา ตติยฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อยํ กถินสมุฏฺานา นาม. ยา ปมจตุตฺเถหิ สมุฏฺาติ, อยํ เอฬกโลมสมุฏฺานา นาม. ยา ทุติยปฺจเมหิ สมุฏฺาติ , อยํ ปทโสธมฺมสมุฏฺานา นาม. ยา ปมตติยจตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อยํ อทฺธานสมุฏฺานา นาม. ยา จตุตฺถฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อยํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานา นาม. ยา ปฺจเมเนว สมุฏฺาติ, อยํ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานา นาม. ยา อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาติ, อยํ ภูตาโรจนสมุฏฺานา นาม. ยา ปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อยํ โจริวุฏฺาปนสมุฏฺานา นาม. ยา ทุติยตติยปฺจมฉฏฺเหิ สมุฏฺาติ, อยํ อนนุฺาตสมุฏฺานา นามาติ. อิติ อิมสฺส สมุฏฺานวิธิโนปิ วเสน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

กิริยาสฺาจิตฺเตหิ นานตฺตนฺติ เอเตหิ กิริยาทีหิ สพฺพาปตฺตีนํ นานาภาวํ ตฺวา สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สพฺพาปตฺติโย หิ กิริยาวเสน ปฺจวิธา โหนฺติ, เสยฺยถิทํ – อตฺถาปตฺติ กิริยโต สมุฏฺาติ , อตฺถิ อกิริยโต, อตฺถิ กิริยากิริยโต, อตฺถิ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต, อตฺถิ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโตติ. ตตฺถ ยา กาเยน วา วาจาย วา ปถวิขณนาทีสุ (ปจิ. ๘๔) วิย วีติกฺกมํ กโรนฺตสฺส โหติ, อยํ กิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา กายวาจาหิ กตฺตพฺพํ อกโรนฺตสฺส โหติ ปมกถินาปตฺติ (ปารา. ๔๕๙ อาทโย) วิย, อยํ อกิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา กโรนฺตสฺส จ อกโรนฺตสฺส จ โหติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฺปฏิคฺคหณาปตฺติ (ปารา. ๕๐๘-๕๑๑) วิย, อยํ กิริยากิริยโตสมุฏฺาติ นาม. ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ, สิยา อกโรนฺตสฺส จ โหติ รูปิยปฺปฏิคฺคหณาปตฺติ (ปารา. ๕๘๒) วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ นาม. ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ สิยา กโรนฺตากโรนฺตสฺส จ โหติ กุฏิการาปตฺติ (ปารา. ๓๔๒ อาทโย) วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ นาม.

สพฺพาปตฺติโย จ สฺาวเสน ทุวิธา โหนฺติ สฺาวิโมกฺขา โนสฺาวิโมกฺขาติ. ตตฺถ ยโต วีติกฺกมสฺาย อภาเวน มุจฺจติ, อยํ สฺาวิโมกฺขา, อิตรา โนสฺาวิโมกฺขา. ปุน จ สพฺพาปิ จิตฺตวเสน ทุวิธา โหนฺติ สจิตฺตกา อจิตฺตกา จาติ. ตตฺถ ยา สจิตฺตกสมุฏฺานวเสเนว สมุฏฺาติ อยํ สจิตฺตกา. ยา อจิตฺตเกน วา สจิตฺตกมิสฺสเกน วา สมุฏฺาติ อยํ อจิตฺตกา.

วชฺชกมฺมปฺปเภทนฺติ เอตฺถ สพฺพาปตฺติโย วชฺชวเสน ทุวิธา โหนฺติ โลกวชฺชา ปณฺณตฺติวชฺชา จาติ. ตตฺถ ยสฺสา สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา. สพฺพา จ กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺติ. ตตฺถ กายทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ, วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา วจีกมฺมนฺติ วุจฺจติ, อุภยตฺถ อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมํ วจีกมฺมฺจาติ, มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถิ. อิติ อิมินา วชฺชกมฺมปฺปเภเทนาปิ สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ติกทฺวยวิธินฺติ กุสลตฺติกเวทนาตฺติกวิธึ. อาปตฺตึ อาปชฺชมาโน หิ อกุสลจิตฺโต วา อาปชฺชติ กุสลาพฺยากตจิตฺโต วา, ตถา ทุกฺขเวทนาสมงฺคี วา อิตรเวทนาทฺวยสมงฺคี วา. เอวํ สนฺเตปิ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อกุสลจิตฺตวเสน เอกํ จิตฺตํ, กุสลาพฺยากตจิตฺตวเสน ทฺเว จิตฺตานิ, สพฺเพสํ วเสน ตีณิ จิตฺตานิ. ทุกฺขเวทนาวเสน เอกา เวทนา, สุขอุเปกฺขาวเสน ทฺเว, สพฺพาสํ วเสน ติสฺโส เวทนาติ. อยเมว ปเภโท ลพฺภติ, น อฺโ.

ลกฺขณํ สตฺตรสธา, ิตํ สาธารณํ อิทํ, ตฺวาติ อิทํ นิทานาทิเวทนาตฺติกปริโยสานํ สตฺตรสปฺปการํ ลกฺขณํ ชานิตฺวา โยเชยฺย เมธาวี. ตตฺถ ตตฺถ ยถารหนฺติ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท อิทํ ลกฺขณํ ยถานุรูปํ โยเชยฺยาติ อตฺโถ. ตํ ปน อโยชิตํ ทุพฺพิชานํ โหติ, ตสฺมา นํ สพฺพสิกฺขาปทานํ อสาธารณวินิจฺฉยปริโยสาเน อิมํ มาติกํ อนุทฺธริตฺวาว โยเชตฺวา ทสฺสยิสฺสาม.

อิธ ปนสฺส อยํ โยชนา – อิทํ เวสาลิยํ สุทินฺนตฺเถรํ อารพฺภ เมถุนวีติกฺกมวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ. ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ อยเมตฺถ ปฺตฺติ, ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขายา’’ติ จ ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’’ติ จ ทฺเว อนุปฺตฺติโย. อนุปฺตฺติ จ นาเมสา อาปตฺติกรา จ โหติ อฺวาทกสิกฺขาปทาทีสุ (ปาจิ. ๙๕ อาทโย) วิย, อนาปตฺติกรา จ อฺตฺร สุปินนฺตาติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๖-๒๓๗) วิย, อาปตฺติอุปตฺถมฺภกรา จ อทินฺนาทานาทีสุ (ปารา. ๙๑) วิย , อิธ ปน อุปตฺถมฺภกราติ เวทิตพฺพา. อิโต ปรํ ปน ยตฺถ อนุปฺตฺติ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘อยํ อนุปฺตฺตี’’ติ เอตฺตกเมว ทสฺสยิสฺสาม. เปตฺวา ปน อนุปฺตฺตึ อวเสสา ปฺตฺติเยวาติ สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ภิกฺขุํ อารพฺภ อุปฺปนฺนวตฺถุสฺมึเยว ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอวํ ภิกฺขุนีนมฺปิ ปฺตฺติโต สาธารณปฺตฺติ. อาณตฺติยา อนาปชฺชนโต อนาณตฺติกํ. ภิกฺขุํ ปน อาณาเปนฺโต อกปฺปิยสมาทานาปตฺติโต น มุจฺจติ, เมถุนราเคน กายสํสคฺเค ทุกฺกฏํ, ชีวมานกสรีรสฺส วุตฺตปฺปกาเร มคฺเค สเจปิ ตจาทีนิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส ฉินฺเน นิมิตฺตสณฺานมตฺตํ ปฺายติ, ตตฺถ อนฺตมโส องฺคชาเต อุฏฺิตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ ปีฬกํ วา จมฺมขิลํ วา ปเวเสนฺตสฺสาปิ เสวนจิตฺเต สติ ปาราชิกํ, นฏฺกายปฺปสาทํ สุกฺขปีฬกํ วา มตจมฺมํ วา โลมํ วา ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, สเจ นิมิตฺตสณฺานมตฺตมฺปิ อนวเสเสตฺวา สพฺพโส มคฺโค อุปฺปาฏิโต, ตตฺถ อุปกฺกมโต วณสงฺเขปวเสน ถุลฺลจฺจยํ, ตถา มนุสฺสานํ อกฺขินาสากณฺณจฺฉิทฺทวตฺถิโกเสสุ สตฺถเกน กตวเณ วา, หตฺถิอสฺสาทีนฺจ ติรจฺฉานานํ วตฺถิโกสนาสาปุเฏสุ ถุลฺลจฺจยํ. ติรจฺฉานานํ ปน อกฺขิกณฺณนาสาวเณสุ อหิมจฺฉาทีนํ ปเวสนปฺปมาณวิรหิเต อณุนิมิตฺเต สพฺเพสฺจ อุปกจฺฉกาทีสุ เสสสรีเรสุ ทุกฺกฏํ. มตสรีเร นิมิตฺเต อุปฑฺฒกฺขายิตโต ปฏฺาย ยาว น กุถิตํ โหติ, ตาว ถุลฺลจฺจยํ. กุถิเต ทุกฺกฏํ, ตถา วฏฺฏกเต มุเข อจฺฉุปนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอฏฺโต พหิ นิกฺขนฺตชิวฺหาย วา ทนฺเตสุ วา ถุลฺลจฺจยํ. นิมิตฺตโต พหิ ปติตมํสเปสิยํ ทุกฺกฏนฺติ อยเมตฺถ อาปตฺติเภโท.

อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส อาทิกมฺมิกานฺจ อนาปตฺติ. เอตฺถ ปน โย นิทฺทํ โอกฺกนฺตตฺตา ปเรน กตมฺปิ อุปกฺกมํ น ชานาติ, โส อชานนฺโต. โย ชานิตฺวาปิ น สาทิยติ, โส อสาทิยนฺโต. โย ปิตฺตวเสน อเตกิจฺฉํ อุมฺมาทํ ปตฺโต, โส อุมฺมตฺตโก. ยกฺเขหิ กตจิตฺตวิกฺเขโป ขิตฺตจิตฺโต. ทฺวินฺนมฺปิ จ เอเตสํ อคฺคิสุวณฺณคูถจนฺทนาทีสุ สมปฺปวตฺติภาเวน อชานนภาโวว ปมาณํ. โย อธิมตฺตเวทนาย อาตุรตฺตา กิฺจิ น ชานาติ, โส เวทนาฏฺโฏ. โย ตสฺมึ ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ อาทิภูโต, โส อาทิกมฺมิโก. อยํ ปน อนาปตฺติ. จตูสุ วิปตฺตีสุ สีลวิปตฺติ. ตสฺสา ทฺเว องฺคานิ เสวนจิตฺตฺจ มคฺเคน มคฺคปฏิปาทนฺจาติ. สมุฏฺานาทิโต อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ, อิมานิ จ สมุฏฺานาทีนิ นาม อาปตฺติยา โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส. โวหารสุขตฺถํ ปน สพฺพฏฺกถาสุ สิกฺขาปทสีเสน เทสนา อาคตา, ตสฺมา อฺเสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อธิปฺเปตเมว คเหตพฺพํ.

อตฺถฺหิ นาโถ สรณํ อโวจ;

น พฺยฺชนํ โลกหิโต มเหสี.

ตสฺมา อกตฺวา รติมกฺขเรสุ;

อตฺเถ นิเวเสยฺย มตึ มุตีมาติ.

ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยปาราชิกวณฺณนา

ทุติเย คามา วา อรฺาวาติ เอตฺถ สพฺโพปิ เอกกุฏิกาทิเภโท ปริกฺขิตฺโต วา อปริกฺขิตฺโต วา สมนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา อนฺตมโส อติเรกจาตุมาสนิวิฏฺโ โย โกจิ สตฺโถปิ ‘‘คาโม’’ติ เวทิตพฺโพ. เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อรฺํ นาม. ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ ฆรํ ฆรูปจาโร คาโม คามูปจาโรติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. นิพฺพโกสสฺส หิ อุทกปตนฏฺานพฺภนฺตรํ ฆรํ นาม. ยํ ปน ทฺวาเร ิโต มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑติ, ตสฺส ปตนฏฺานฺจ มาตุคาเมเนว อนฺโตเคเห ิเตน ปกติยา พหิ ขิตฺตสฺส สุปฺปสฺส วา สํมุฺชนิยา วา ปตนฏฺานฺจ ฆรสฺส ปุรโต ทฺวีสุ โกเณสุ สมฺพนฺธิตฺวา มชฺเฌ รุกฺขสูจิทฺวารํ เปตฺวา โครูปานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ กตปริกฺเขโป จ อยํ สพฺโพปิ ฆรูปจาโร นาม. ยํ ปน สพฺพนฺติมํ ฆรํ โหติ, ตสฺส ฆรสฺส ตาทิเส ฆรูปจาเร ิตสฺส ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ยถา ตรุณมนุสฺสา อตฺตโน พลํ ทสฺเสนฺโต พาหุํ ปสาเรตฺวา เลฑฺฑุํ ขิปนฺติ, เอวํ ขิตฺตสฺส เลฑฺฑุสฺส ปตนฏฺานพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นาม. ปติตสฺส ปน เลฑฺฑุโน ปวตฺติตฺวา คตฏฺานํ น คเหตพฺพํ. ปริกฺขิตฺตสฺส ปน คามสฺส ปริกฺเขโปเยว คามสฺส ปริจฺเฉโท, ตสฺส สเจ ทฺเว อินฺทขิลา โหนฺติ อพฺภนฺตริเม อินฺทขิเล ิตสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นาม. ปทภาชเนปิ (ปารา. ๙๒) หิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา. อิติ อิมํ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อรฺํ นาม. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘‘คามา วา อรฺาวา’’ติ. เย ปน อิเมสํ ปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ ฆรฆรูปจารคามูปจารา วุตฺตา, ตโตปิ ปาราชิกวตฺถุํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ โหติเยว.

อทินฺนนฺติ อฺสฺส มนุสฺสชาติกสฺส สนฺตกํ. เถยฺยสงฺขาตนฺติ เอตฺถ เถโนติ โจโร, เถนสฺส ภาโว เถยฺยํ, อวหรณจิตฺตสฺเสตํ นามํ. สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต เอกํ, โกฏฺาสสฺเสตํ นามํ ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐; มหานิ. ๑๐๙) วิย. เถยฺยฺจ ตํ สงฺขาตฺจาติ เถยฺยสงฺขาตํ, เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ. กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา เถยฺยสงฺขาเตนาติ อตฺถโต ทฏฺพฺพํ. โย จ เถยฺยสงฺขาเตน อาทิยติ, โส ยสฺมา เถยฺยจิตฺโต โหติ, ตสฺมา พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘เถยฺยจิตฺโต อวหรณจิตฺโต’’ติ (ปารา. ๙๒) เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อาทิเยยฺยาติ ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตรวเสน หเรยฺย. เต ปน อวหารา ปฺจ ปฺจกานิ สโมธาเนตฺวา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา. ปฺจ ปฺจกานิ นาม นานาภณฺฑปฺจกํ เอกภณฺฑปฺจกํ สาหตฺถิกปฺจกํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว ปฺจกานิ เอตสฺเสว ปทสฺส ปทภาชเน วุตฺตานํ ‘‘อาทิเยยฺย หเรยฺย อวหเรยฺย อิริยาปถํ วิโกเปยฺย านา จาเวยฺยา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ลพฺภนฺติ. ตตฺถ นานาภณฺฑปฺจกํ สวิฺาณกาวิฺาณกวเสน ทฏฺพฺพํ, อิตรํ สวิฺาณกวเสเนว. กถํ? อาทิเยยฺยาติ อารามํ อภิยุฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. หเรยฺยาติ อฺสฺส ภณฺฑํ หรนฺโต สีเส ภารํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. ขนฺธํ โอโรเปติ, ปาราชิกํ. อวหเรยฺยาติ อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, ทุกฺกฏํ. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, ถุลฺลจฺจยํ. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ปาราชิกํ. อิริยาปถํ วิโกเปยฺยาติ ‘‘สห ภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ถุลฺลจฺจยํ. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. านา จาเวยฺยาติ ถลฏฺํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. เอวํ ตาว นานาภณฺฑปฺจกํ เวทิตพฺพํ. สสามิกสฺส ปน ทาสสฺส วา ติรจฺฉานคตสฺส วา ยถาวุตฺเตน อภิโยคาทินา นเยน อาทิยนหรณอวหรณอิริยาปถวิโกปนานาจาวนวเสน เอกภณฺฑปฺจกํ เวทิตพฺพํ.

กตมํ สาหตฺถิกปฺจกํ? สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย อตฺถสาธโก ธุรนิกฺเขโปติ. ตตฺถ สาหตฺถิโก นาม ปรสฺส ภณฺฑํ สหตฺถา อวหรติ. อาณตฺติโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปติ. นิสฺสคฺคิโย นาม สุงฺกฆาตกปริกปฺปิโตกาสานํ อนฺโต ตฺวา พหิ ปาตนํ. อตฺถสาธโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สกฺโกติ, ตทา ตํ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํ. ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกเตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว ปาราชิกํ. ธุรนิกฺเขโป ปน อารามาภิโยคอุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพ. ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานิ อเทนฺตสฺสาปิ เอเสวนโยติ อิทํ สาหตฺถิกปฺจกํ.

กตมํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ? ปุพฺพปโยโค สหปโยโค สํวิธาวหาโร สงฺเกตกมฺมํ นิมิตฺตกมฺมนฺติ . ตตฺถ อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ. านา จาวนวเสน, ขิลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตพฺโพ. สํวิธาวหาโร นาม ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ อวหริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สํมนฺตยิตฺวา อวหรณํ. เอวํ สํวิทหิตฺวา คเตสุ หิ เอเกนาปิ ตสฺมึ ภณฺเฑ านา จาวิเต สพฺเพสํ อวหารา โหนฺติ. สงฺเกตกมฺมํ นาม สฺชานนกมฺมํ. สเจ หิ ปุเรภตฺตาทีสุ ยํกิฺจิ กาลํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ กาเล อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรา’’ติ วุตฺโต สงฺเกตโต อปจฺฉา อปุเร ตํ อวหรติ, สงฺเกตการกสฺส สงฺเกตกรณกฺขเณเยว อวหาโร. นิมิตฺตกมฺมํ นาม สฺุปฺปาทนตฺถํ อกฺขินิกฺขณาทินิมิตฺตกรณํ. สเจ หิ เอวํ กตนิมิตฺตโต อปจฺฉา อปุเร ‘‘ยํ อวหรา’’ติ วุตฺโต, ตํ อวหรติ, นิมิตฺตการกสฺส นิมิตฺตกรณกฺขเณเยว อวหาโรติ อิทํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ.

กตมํ เถยฺยาวหารปฺจกํ? เถยฺยาวหาโร ปสยฺหาวหาโร ปริกปฺปาวหาโร ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร กุสาวหาโรติ. ตตฺถ โย สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วา วฺเจตฺวา คณฺหาติ, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร เถยฺยาวหาโรติ เวทิตพฺโพ. โย ปน ปสยฺห พลกฺกาเรน ปเรสํ สนฺตกํ คณฺหาติ คามฆาตกาทโย วิย, อตฺตโน ปตฺตพลิโต วา วุตฺตนเยเนว อธิกํ คณฺหาติ ราชภฏาทโย วิย, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ปสยฺหาวหาโรติ เวทิตพฺโพ. ปริกปฺเปตฺวา คหณํ ปน ปริกปฺปาวหาโร นาม. โส ภณฺโฑกาสวเสน ทุวิโธ. ตตฺรายํ ภณฺฑปริกปฺโป – สาฏกตฺถิโก อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ, สเจ สุตฺตํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อนฺธกาเร ปสิพฺพกํ คณฺหาติ, ตตฺร เจ สาฏโก โหติ, อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. สุตฺตํ เจ โหติ, รกฺขติ. พหิ นีหริตฺวา มุฺจิตฺวา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา ปุน อาหริตฺวา เปติ, รกฺขติเยว. ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวาปิ ‘‘ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพ’’นฺติ คจฺฉติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ภูมิยํ เปตฺวา คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘โจโร โจโร’’ติ อนุพนฺโธ ฉฏฺเฏตฺวา ปลายติ, รกฺขติ. สามิกา ทิสฺวา คณฺหนฺติ, รกฺขติ เยว. อฺโ เจ โกจิ คณฺหาติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สามิเกสุ นิวตฺเตสุ สยํ ทิสฺวา ปํสุกูลสฺาย ‘‘ปเคเวตํ มยา คหิตํ, มม ทานิ สนฺตก’’นฺติ คณฺหนฺตสฺสาปิ ภณฺฑเทยฺยเมว. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ภณฺฑปริกปฺโป นาม.

โอกาสปริกปฺโป ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – เอกจฺโจ ปน ปรปริเวณาทีนิ ปวิฏฺโ กิฺจิ โลภเนยฺยํ ภณฺฑํ ทิสฺวา คพฺภทฺวารปมุขเหฏฺาปาสาททฺวารโกฏฺกรุกฺขมูลาทิวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา วิจรนฺโต วิย ทสฺสามิ, โน เจ ปสฺสิสฺสนฺติ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปติ, ตสฺส ตํ อาทาย ปริกปฺปิตปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตมตฺเต อวหาโร โหติ. อิติ ยฺวายํ วุตฺตนเยเนว ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ โอกาสปริกปฺโป นาม. เอวมิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ปริกปฺปานํ วเสน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหโต อวหาโร ‘‘ปริกปฺปาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.

ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปน อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร นาม. โส เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ อุยฺยานาทีสุ ปเรสํ โอมุฺจิตฺวา ปิตองฺคุลิมุทฺทิกาทีนิ ทิสฺวา ‘‘ปจฺฉา คณฺหิสฺสามี’’ติ ปํสุนา วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทติ, ตสฺส เอตฺตาวตา อุทฺธาโร นตฺถีติ น ตาว อวหาโร โหติ . ยทา ปน สามิกา วิจินนฺตา อปสฺสิตฺวา ‘‘สฺเว ชานิสฺสามา’’ติ สาลยาว คตา โหนฺติ, อถสฺส ตํ อุทฺธรโต อุทฺธาเร อวหาโร. ปฏิจฺฉนฺนกาเลเยว ‘‘เอตํ มม สนฺตก’’นฺติ สกสฺาย วา ‘‘คตา ทานิ เต, ฉฏฺฏิตภณฺฑํ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺตสฺส ปน ภณฺฑเทยฺยํ. เตสุ ทุติยตติยทิวเส อาคนฺตฺวา วิจินิตฺวา อทิสฺวา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คเตสุปิ คหิตํ ภณฺฑเทยฺยเมว. ปจฺฉา ตฺวา โจทิยมานสฺส อททโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเป อวหาโร โหติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺส ปโยเคน เตหิ น ทิฏฺํ. โย ปน ตถารูปํ ภณฺฑํ ยถาาเน ิตํเยว อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา เถยฺยจิตฺโต ปาเทน อกฺกมิตฺวา กทฺทเม วา วาลุกาย วา ปเวเสติ, ตสฺส ปเวสิตมตฺเตเยว อวหาโร.

กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปน อวหรณํ กุสาวหาโร นาม. โสปิ เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ วิลีวมยํ วา ตาลปณฺณมยํ วา กตสฺาณํ ยํกิฺจิ กุสํ ปาเตตฺวา จีวเร ภาชียมาเน อตฺตโน โกฏฺาสสฺส สมีเป ิตํ อปฺปคฺฆตรํ วา มหคฺฆตรํ วา สมสมํ วา อคฺเฆน ปรสฺส โกฏฺาสํ หริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสํ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตตุกามตาย อุทฺธรติ, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส โกฏฺาเส ปาติเต รกฺขเตว. ยทา ปน ตสฺมึ ปติเต ปรสฺส โกฏฺาสโต ปรสฺส กุสํ อุทฺธรติ, อุทฺธตมตฺเต อวหาโร. สเจ ปมตรํ ปรโกฏฺาสโต ปรสฺส กุสํ อุทฺธรติ, อตฺตโน โกฏฺาเส ปาเตตุกามตาย อุทฺธาเร รกฺขติ, ปาตเนปิ รกฺขติ, อตฺตโน โกฏฺาสโต ปน อตฺตโน กุสํ อุทฺธรโต อุทฺธาเรเยว รกฺขติ, ตํ อุทฺธริตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาเตนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต อวหาโร. อยํ กุสาวหาโร. อิติ ยํ วุตฺตํ ‘‘อาทิเยยฺยาติ ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตรวเสน หเรยฺยา’’ติ, ตสฺสตฺโถ ปกาสิโต โหติ.

ยถารูเปติ ยาทิเส. อทินฺนาทาเนติ อทินฺนสฺส ปรสนฺตกสฺส คหเณ. ราชาโนติอิทํ พิมฺพิสารํเยว สนฺธาย วุตฺตํ, อฺเ ปน ตถา กเรยฺยุํ วา น กเรยฺยุํ วาติ เต นปฺปมาณํ. หเนยฺยุํวาติ หตฺถาทีหิ วา โปเถยฺยุํ, สตฺเถน วา ฉินฺเทยฺยุํ. พนฺเธยฺยุํ วาติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺเธยฺยุํ วา. ปพฺพาเชยฺยุํ วาติ นีหเรยฺยุํ วา. โจโรสิ พาโลสิ มูฬฺโหสิ เถโนสีติ อิเมหิ วจเนหิ ปริภาเสยฺยุํ. กีทิสสฺส ปน อทินฺนสฺส อาทาเน ราชาโน เอวํ กโรนฺติ? ปาทสฺส วา ปาทารหสฺส วา. ตถารูปํ ภิกฺขุ อทินฺนํ อาทิยมาโนติ ตาทิสํ ภิกฺขุ โปราณกสฺส กหาปณสฺส ปาทํ วา ปาทารหํ วา ภณฺฑํ อทินฺนํ ภูมิอาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ ยํกิฺจิ สชีวนิชฺชีวํ วุตฺตปฺปการานํ อวหารานํ เยน เกนจิ อวหาเรน อวหรนฺโต ปาราชิโก โหติ, โก ปน วาโท ตโต อติเรกตรสฺมินฺติ.

ราชคเห ธนิยตฺเถรํ อารพฺภ รฺโ ทารูนิ อทินฺนํ อาทิยนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, หรณตฺถาย คมนาทิเก ปุพฺพปฺปโยเค ทุกฺกฏํ, อามสเน ทุกฺกฏํ, ปาราชิกวตฺถุโน ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ. อาทิยนฺตสฺส มาสเก วา อูนมาสเก วา ทุกฺกฏํ, อติเรกมาสเก วา อูนปฺจมาสเก วา ถุลฺลจฺจยํ, ปฺจมาสเก วา อติเรกปฺจมาสเก วา ปาราชิกํ. สพฺพตฺถ คหณกาลวเสน จ คหณเทสวเสน จ ปริโภคภาชนปริวตฺตนาทีหิ จ ปริหีนาปริหีนวเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สกสฺิสฺส, วิสฺสาสคฺคาเห, ตาวกาลิเก, เปตปริคฺคเห, ติรจฺฉานคตปริคฺคเห, ปํสุกูลสฺิสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, อฺสฺส มนุสฺสชาติกสฺส วเสน ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, ครุปริกฺขาโร, เถยฺยจิตฺตํ, วุตฺตปฺปการานํ อวหารานํ วเสน อวหรณฺจาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. อทินฺนาทานสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ทุติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยปาราชิกวณฺณนา

ตติเย สฺจิจฺจาติ สํเจเตตฺวา สทฺธึ เจเตตฺวา. ‘‘ปาโณ’’ติสฺาย สทฺธึเยว ‘‘วธามิ น’’นฺติ วธกเจตนาย เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. มนุสฺสวิคฺคหนฺติ กลลโต ปฏฺาย ชีวมานกมนุสฺสชาติกสรีรํ. ชีวิตาโวโรเปยฺยาติ กลลกาเลปิ ตาปนมทฺทเนหิ วา เภสชฺชสมฺปทาเนน วา ตโต วา อุทฺธมฺปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน ชีวิตา วิโยเชยฺย. อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ ปาโณ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาโต เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาตี เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาตสฺส ปโยโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ปาณาติปาโตติ ยาย เจตนาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปโยคํ สมุฏฺาเปติ, สา เจตนา. ปาณาติปาตีติ วุตฺตเจตนาย สมงฺคิปุคฺคโล. ปาณาติปาตสฺส ปโยโคติ ปาณาติปาตสฺส ฉ ปโยคา สาหตฺถิโก นิสฺสคฺคิโย อาณตฺติโก ถาวโร วิชฺชามโย อิทฺธิมโยติ . ตตฺถ สาหตฺถิโกติ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา ปหรณํ. นิสฺสคฺคิโยติ ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทีนํ นิสฺสชฺชนํ. ตตฺถ เอเกโก อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ อุทฺทิสฺสเก ยํ อุทฺทิสฺส ปหรติ, ตสฺเสว มรเณน กมฺมพทฺโธ. ‘‘โย โกจิ มรตู’’ติ เอวํ อนุทฺทิสฺสเก ปหารปฺปจฺจยา ยสฺส กสฺสจิ มรเณน กมฺมพทฺโธ. อุภยตฺถาปิ จ ปหริตมตฺเต วา มรตุ, ปจฺฉา วา เตเนว โรเคน, ปหริตกฺขเณเยว กมฺมพทฺโธ. อาณตฺติโกติ ‘‘อสุกํ นาม มาเรหี’’ติ อฺํ อาณาเปนฺตสฺส อาณาปนํ.

ตตฺถ –

วตฺถุ กาโล จ โอกาโส, อาวุธํ อิริยาปโถ;

กฺริยาวิเสโสติ อิเม, ฉ อาณตฺติ นิยามกา.

ตตฺถ วตฺถูติ ปุคฺคโล. ยฺหิ ปุคฺคลํ ‘‘มาเรหี’’ติ อาณตฺโต สเจ ตเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส อาปตฺติ. อถ อฺํ มาเรติ, ตํมฺมาโน วา อฺํ มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ. ‘‘อิมํ มาเรหี’’ติ อาณตฺเต ปน อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ. กาโลติ ปุเรภตฺตาทิกาโล. สเจ หิ ‘‘ปุเรภตฺตํ มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ปุเรภตฺตเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส อาปตฺติ. อถ ยํ ปุเรภตฺตํ นิยามิตํ, ตโต ปจฺฉา วา ปุเร วา มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ถาวโรติ อสํหาริเมน อุปกรเณน มาเรตุกามสฺส โอปาตกฺขณนํ อปสฺเสนสํวิธานํ อสิอาทีนํ อุปนิกฺขิปนํ ตฬากาทีสุ วิสสมฺปโยชนํ รูปูปหาโรติเอวมาทิ. วุตฺตนเยเนว เจตฺถาปิ อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสเภโท เวทิตพฺโพ. วิชฺชามโยติ มารณตฺถํ วิชฺชาปริชปฺปนํ. อิทฺธิมโยติ กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ.

สตฺถหารกํ วาสฺส ปริเยเสยฺยาติ เอตฺถ หรตีติ หารกํ, กึ หรติ? ชีวิตํ. อถ วา หริตพฺพนฺติ หารกํ, อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อสฺสาติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ปริเยเสยฺยาติ ยถา ลภติ, ตถา กเรยฺย, อุปนิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน ถาวรปโยคํ ทสฺเสติ. อิตรถา หิ ปริยิฏฺิมตฺเตเยว ปาราชิโก ภเวยฺย, น เจตํ ยุตฺตํ. ปทภาชเน ปนสฺส พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ เอตฺถ ถาวรปโยคสงฺคหิตํ สตฺถํ, ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘อสึ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณยฺยาติ วาจาย วา ตาลปณฺณาทีสุ ลิขิตฺวา วา ‘‘โย เอวํ มรติ, โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรเณ คุณํ ปกาเสยฺย. เอเตน ยถา ‘‘อทินฺนาทาเน อาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปริยายกถาย มุจฺจติ, นยิธ, เอวํ ‘‘สํวณฺเณยฺยา’’ติ วจนโต ปน อิธ ปริยายกถายปิ น มุจฺจตีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. มรณาย วา สมาทเปยฺยาติ ‘‘สตฺถํ วา อาหรา’’ติอาทินา (ปารา. ๑๗๒) นเยน มรณตฺถาย อุปายํ คาหาเปยฺย. เอเตน อาณตฺติกปฺปโยคํ ทสฺเสติ. อมฺโภ ปุริสาติ อาลปนเมตํ. กึ ตุยฺหิมินาติอาทิ สํวณฺณนาการนิทสฺสนํ. อิติ จิตฺตมโนติ อิติ จิตฺโต อิติ มโน. ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติเอตฺถ วุตฺตมรณจิตฺโต มรณมโนติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘มโน’’ติอิทํ จิตฺตสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺตํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ยํ จิตฺตํ ตํ มโน’’ติ (ปารา. ๑๗๒) อาห. จิตฺตสงฺกปฺโปติ วิจิตฺตสงฺกปฺโป. เอตฺถาปิ อิติ-สทฺโท อาหริตพฺโพ. ‘‘สงฺกปฺโป’’ติ จ สํวิทหนมตฺตสฺเสตํ นามํ, น วิตกฺกสฺเสว. ตฺจ สํวิทหนํ อิมสฺมึ อตฺเถ สฺาเจตนาธิปฺปาเยหิ สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺมา ‘‘อิติ จิตฺตสงฺกปฺโป’’ติ ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติเอตฺถ วุตฺตมรณสฺี มรณเจตโน มรณาธิปฺปาโยติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปทภาชเนปิ หิ อยเมว นโย ทสฺสิโต . เอเตน มรณจิตฺตาทีหิ วินา ‘‘เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย, วีริยมารภโต ทฬฺห’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๑๑๒) นเยน ธมฺมํ ภาสนฺตสฺส สํวณฺณนา นาม น โหตีติ ทสฺเสติ. อเนกปริยาเยนาติ นานปฺปกาเรน อุจฺจาวเจน การเณน. ปุน มรณวณฺณนฺติอาทิ นิคมนวจนํ. ปาราชิโก โหตีติ ตงฺขณูปปนฺนมฺปิ มนุสฺสวิคฺคหํ วุตฺตนเยน ชีวิตา โวโรเปนฺโต ปาราชิโก โหตีติ.

เวสาลิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘มรณวณฺณํ วา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, มารณตฺถาย โอปาตกฺขณนาทีสุ ทุกฺกฏํ, อโนทิสฺส ขเต โอปาเต ยสฺส กสฺสจิ ปตเนปิ ทุกฺกฏํ, ยกฺขเปตติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหานํ ติรจฺฉานคตสฺส จ ทุกฺขุปฺปตฺติยํ ทุกฺกฏเมว, มนุสฺสชาติกสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ ถุลฺลจฺจยํ, ตถา ยกฺขาทีนํ มรเณ, ติรจฺฉานคตมรเณ ปน ปาจิตฺติยํ, มนุสฺสมรเณ ปาราชิกนฺติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปโยคเภทวเสน อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. อสฺจิจฺจ มาเรนฺตสฺส อชานนฺตสฺส นมรณาธิปฺปายสฺส อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ตตฺถ อสฺจิจฺจาติ ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรมี’’ติ อเจเตตฺวา กเตน อุปกฺกเมน มุสลุสฺสาปนวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๑๘๐ อาทโย) วิย ปเร มเตปิ อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๑๘๑) วิย ปเร มเตปิ อนาปตฺติ. นมรณาธิปฺปายสฺสาติ มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺส อุปกฺกเมน เภสชฺชวตฺถุสฺมึ (ปารา. ๑๘๗) วิย ปเร มเตปิ อนาปตฺติ. เอวํ อสฺจิจฺจาติอาทีสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สีลวิปตฺติ, มนุสฺสชาติกปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. อทินฺนาทานสมอุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา

จตุตฺเถ อนภิชานนฺติ สกสนฺตาเน อนุปฺปนฺนตฺตา อตฺตนิ อตฺถิภาวํ อชานนฺโต. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ ‘‘มยิ อตฺถี’’ติ สมุทาจรนฺโต, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนติ ‘‘อหํ เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโตติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ. เอวํ กตฺวา สมุทาจเรยฺยาติ สมฺพนฺโธ. อลมริยาณทสฺสนนฺติเอตฺถ มหคฺคตโลกุตฺตรปฺา ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา จ ทิฏฺมิว ธมฺมํ ปจฺจกฺขกรณโต ทสฺสนตฺเถน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ, อริยํ วิสุทฺธํ อุตฺตมํ าณทสฺสนนฺติ อริยาณทสฺสนํ, อลํ ปริยตฺตํ กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ อริยาณทสฺสนเมตฺถ ฌานาทิเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม, อลํ วา อริยาณทสฺสนมสฺสาติ อลมริยาณทสฺสโน, ตํ อลมริยาณทสฺสนํ. สมุทาจเรยฺยาติ วุตฺตปฺปการเมตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา กาเยน วา วาจาย วา ตทุภเยน วา วิฺุสฺส มนุสฺสชาติกสฺส อาโรเจยฺย. อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามีติ สมุทาจรณาการทสฺสนเมตํ, อตฺตุปนายิกฺหิ กตฺวา วินา อฺาปเทเสน สมุทาจรนฺโต เอวํ สมุทาจรติ, ตสฺมา ยฺวายํ ปทภาชเน (ปารา. ๒๐๙) ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโน’’ติอาทิเภโท วุตฺโต, โส สพฺโพ อิเธว สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ. ‘‘อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามี’’ติ หิ วทนฺโต น ยิทํ วจนมตฺตเมว วทติ, อถ โข ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อยํ ธมฺโม มยิ อตฺถี’’ติ ทีเปติ, ‘‘สมาปชฺชิ’’นฺติอาทีนิ จ วทนฺเตน หิ สมาปชฺชนาทีหิ การเณหิ อตฺถิตา ทีปิตา โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘ยฺวายํ ปทภาชเน ปมํ ฌานํ สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโนติอาทิเภโท วุตฺโต, โส สพฺโพ อิเธว สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. ตโต อปเรน สมเยนาติ ตโต อาโรจิตกาลโต อฺตรสฺมึ กาเล. อิติ อาปตฺติปฏิชานนกาลทสฺสนเมตํ, อยํ ปน อาโรจิตกฺขเณว อาปตฺตึ อาปชฺชติ. อาปตฺตึ ปน อาปนฺโน ยสฺมา ปเรน โจทิโต วา อโจทิโต วา ปฏิชานาติ, ตสฺมา ‘‘สมนุคฺคาหียมาโน วา อสมนุคฺคาหียมาโน วา’’ติ วุตฺตํ. อาปนฺโนติ อาโรจิตกฺขเณเยว ปาราชิกํ อาปนฺโน. วิสุทฺธาเปกฺโขติ อตฺตโน คิหิภาวาทิกํ วิสุทฺธึ อเปกฺขมาโน อิจฺฉมาโน. อยฺหิ ยสฺมา ปาราชิกํ อาปนฺโน, ตสฺมา ภิกฺขุภาเว ตฺวา อภพฺโพ ฌานาทีนิ อธิคนฺตุํ, อิจฺจสฺส ภิกฺขุภาโว วิสุทฺธิ นาม น โหติ. ยสฺมา ปน คิหิ วา อุปาสการามิกสามเณรานํ วา อฺตโร หุตฺวา ทานาทีหิ สคฺคมคฺคํ วา ฌานาทีหิ โมกฺขมคฺคํ วา อาราเธตุํ ภพฺโพ โหติ, ตสฺมาสฺส คิหิอาทิภาโว วิสุทฺธิ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘คิหิภาวาทิกํ วิสุทฺธึ อเปกฺขมาโน’’ติ. เอวํ วเทยฺยาติ เอวํ ภเณยฺย, กถํ? ‘‘อชานเมวํ, อาวุโส’’ติอาทึ. ตตฺถ อชานนฺติ อชานนฺโต. อปสฺสนฺติ อปสฺสนฺโต. ตุจฺฉํ มุสา วิลปินฺติ อหํ วจนตฺถวิรหโต ตุจฺฉํ, วฺจนาธิปฺปายโต มุสา วิลปึ อภณินฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร อธิมานาติ ยฺวายํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อปตฺเต ปตฺตสฺิตาสงฺขาโต อธิมาโน อุปฺปชฺชติ, ตํ อธิมานํ เปตฺวา เกวลํ ปาปิจฺฉตาย โย สมุทาจเรยฺย, อยมฺปิ ปาราชิโก โหตีติ อตฺโถ.

เวสาลิยํ วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อารพฺภ เตสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร อธิมานา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตปฺปการํ อสนฺตํ ฌานาทิธมฺมํ อาโรเจนฺตสฺส สเจ ยสฺส กสฺสจิ อาโรเจติ, โส มนุสฺสชาติโก โหติ, อนนฺตรเมว ‘‘อยํ ฌานลาภี’’ติ วา ‘‘อริโย’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน ตมตฺถํ ชานาติ, ปาราชิกํ. สเจ น ชานาติ, ถุลฺลจฺจยํ. สเจ ปน ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) นเยน อฺาปเทเสน อาโรเจนฺตสฺส ชานาติ, ถุลฺลจฺจยํ. สเจ น ชานาติ, ทุกฺกฏํ. อธิมาเนน อาโรเจนฺตสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อตฺตนิ อสนฺตตา, ปาปิจฺฉตาย ตสฺส อาโรจนํ, อนฺาปเทโส, ยสฺส อาโรเจติ, ตสฺส มนุสฺสชาติกตา, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทาเน วุตฺตสทิสาเนวาติ.

จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุทฺทิฏฺาโข อายสฺมนฺโต จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมาติอิทํ อิธ อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนเมว. สโมธาเนตฺวา ปน สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ . กตมานิ จตุวีสติ? ปาฬิยํ อาคตานิ ตาว ภิกฺขูนํ จตฺตาริ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อฏฺ, ตานิ เอกาทสนฺนํ ปณฺฑกาทีนํ อภพฺพภาวสงฺขาเตหิ เอกาทสหิ ปาราชิเกหิ สทฺธึ เอกูนวีสติ, คิหิภาวํ ปตฺถยมานาย ภิกฺขุนิยา วิพฺภนฺตภาวปาราชิเกน สทฺธึ วีสติ, อปรานิปิ ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน ‘‘จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานี’’ติ วทนฺติ, อิติ อิมานิ จ จตฺตาริ, ปุริมานิ จ วีสตีติ สโมธาเนตฺวา สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ. น ลภติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสนฺติ อุโปสถาทิเภทํ สํวาสํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ น ลภติ. ยถา ปุเร, ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปุพฺเพ คิหิกาเล อนุปสมฺปนฺนกาเล จ, ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปนฺโนปิ ตเถว อสํวาโส โหติ, นตฺถิ ตสฺส ภิกฺขูหิ สทฺธึ อุโปสถาทิเภโท สํวาโสติ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามีติ เตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ อายสฺมนฺเต ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’ติ ปุจฺฉามิ. กจฺจิตฺถาติ กจฺจิ เอตฺถ, เอเตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ กจฺจิ ปริสุทฺธาติ อตฺโถ. อถ วา กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาติ กจฺจิ ปริสุทฺธา อตฺถ, ภวถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย

ปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.