📜
สงฺฆาทิเสสกณฺโฑ
อิเม ¶ ¶ โข ปนาติ อิทานิ วตฺตพฺพานํ อภิมุขีกรณํ. อายสฺมนฺโตติ สนฺนิปติตานํ ปิยวจเนน อาลปนํ. เตรสาติ คณนปริจฺเฉโท. สงฺฆาทิเสสาติ เอวํนามกา. ธมฺมาติ อาปตฺติโย. อุทฺเทสํ อาคจฺฉนฺตีติ สรูเปน อุทฺทิสิตพฺพตํ อาคจฺฉนฺติ, น นิทาเน วิย ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺตี’’ติ สาธารณวจนมตฺเตน.
๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา
สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ สฺเจตนา, สฺเจตนาว สฺเจตนิกา, สฺเจตนา วา อสฺส อตฺถีติ สฺเจตนิกา. สุกฺกวิสฺสฏฺีติ สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ, ราคูปตฺถมฺภาทีสุ เยน เกนจิ องฺคชาเต กมฺมฺตํ ปตฺเต อาโรคฺยาทีสุ ยํกิฺจิ อปทิสิตฺวา อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ โมจนสฺสาทเจตนาย นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺส อาสยธาตุนานตฺตโต นีลาทิวเสน (ปารา. ๒๓๙-๒๔๐) ทสวิเธสุ สุกฺเกสุ ยสฺส กสฺสจิ สุกฺกสฺส านา จาวนาติ อตฺโถ. อฺตฺร สุปินนฺตาติ ยา สุปิเน สุกฺกวิสฺสฏฺิ โหติ, ตํ เปตฺวา. สงฺฆาทิเสโสติ ยา อฺตฺร สุปินนฺตา สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ, อยํ สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโยติ อตฺโถ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส. กึ วุตฺตํ โหติ – อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วุฏฺาตุกามสฺส ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺานํ, ตสฺส อาทิมฺหิ เจว ปริวาสทานตฺถาย, อาทิโต เสเส มชฺเฌ มานตฺตทานตฺถาย มูลาย ปฏิกสฺสเนน วา สห มานตฺตทานตฺถาย, อวสาเน อพฺภานตฺถาย จ สงฺโฆ อิจฺฉิตพฺโพ, น เหตฺถ เอกมฺปิ กมฺมํ วินา สงฺเฆน สกฺกา กาตุํ. อิติ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโสติ.
สาวตฺถิยํ เสยฺยสกํ อารพฺภ อุปกฺกมิตฺวา อสุจิโมจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ ¶ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ. สเจ ปน ปเรน อตฺตโน องฺคชาเต อุปกฺกมํ กาเรตฺวา โมจาเปติ, อาปชฺชติเยว. เจเตตฺวา อนฺตมโส อากาเส กฏิกมฺปเนนปิ นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺส สเจ น มุจฺจติ, ถุลฺลจฺจยํ. สเจ ปน อนฺตมโส ¶ ยํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย, ตตฺตกมฺปิ านโต มุจฺจติ, ทกโสตํ อโนติณฺเณปิ สงฺฆาทิเสโส. านโต ปน จุตํ อวสฺสเมว ทกโสตํ โอตรติ, ตสฺมา ‘‘ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. อนุปกฺกมนฺตสฺส จ, อโมจนาธิปฺปายสฺส จ, สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ มุตฺเตปิ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, เจตนา, อุปกฺกโม ¶ , มุจฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.
สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย โอติณฺโณติ ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา อนฺโต อุปฺปชฺชนฺเตน ราเคน วา โอติณฺโณ, กูปาทีนิ วิย สตฺตา อสมเปกฺขิตฺวา รชฺชนีเย าเน รชฺชนฺโต สยํ วา ราคํ โอติณฺโณ, กายสํสคฺคราคสมงฺคิสฺเสตํ อธิวจนํ. วิปริณเตน จิตฺเตนาติ ปริสุทฺธภวงฺคสนฺตติสงฺขาตํ ปกตึ วิชหิตฺวา อฺถา ปวตฺเตน, วิรูปํ วา ปริณเตน ยถา ปริวตฺตมานํ วิรูปํ โหติ, เอวํ วุตฺตราควเสน ปริวตฺเตตฺวา ิเตน จิตฺเตนาติ อตฺโถ. มาตุคาเมน สทฺธินฺติ ตทหุชาตายปิ ชีวมานกมนุสฺสิตฺถิยา สทฺธึ. กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยาติ หตฺถคฺคหณาทิกอายสมฺปโยคํ กายมิสฺสีภาวํ สมาปชฺเชยฺย. หตฺถคฺคาหํ วาติอาทิ ปนสฺส วิตฺถาเรน อตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ หตฺโถ นาม กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา. เวณี นาม วินนฺธิตฺวา วา อวินนฺธิตฺวา วา สุทฺธเกเสหิ วา นีลาทิวณฺณสุตฺตกุสุมกหาปณมาลาสุวณฺณจีรกมุตฺตาวฬิอาทีสุ อฺตรมิสฺเสหิ วา กตเกสกลาปสฺเสตํ อธิวจนํ. เวณิคฺคหเณน เจตฺถ เกสาปิ คหิตาเยว สทฺธึ โลเมหิ. อิติ วุตฺตลกฺขณสฺส หตฺถสฺส คหณํ หตฺถคฺคาโห, เวณิยา คหณํ เวณิคฺคาโห. อวเสสสฺส สรีรสฺส ปรามสนํ อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ นาม. โย ตํ หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ สมาปชฺเชยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ.
สาวตฺถิยํ ¶ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ กายสํสคฺคสมาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ ¶ , อนาณตฺติกํ, อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อนฺตมโส โลเมน โลมํ ผุสนฺตสฺสาปิ, อิตฺถิยา วา ผุสิยมานสฺส เสวนาธิปฺปาเยน วายมิตฺวา ผสฺสํ ปฏิชานนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. เอเกน ปน หตฺเถน คเหตฺวา ทุติเยน หตฺเถน ทิวสมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ ผุสนฺตสฺส เอกาว อาปตฺติ, อคฺคเหตฺวา ผุสนฺโต ปน สเจ สีสโต ยาว ปาทา, ตาว กายโต หตฺถํ อโมเจนฺโตเยว ผุสติ, เอกาว อาปตฺติ, ปฺจนฺนํ องฺคุลีนํ เอกโต คหเณปิ เอกาเยว. สเจ ปน นานิตฺถีนํ ปฺจงฺคุลิโย เอกโต คณฺหาติ, ปฺจ อาปตฺติโย. อิตฺถิยา เวมติกสฺส, ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺิสฺส จ ถุลฺลจฺจยํ, ตถา กาเยน กายปฺปฏิพทฺเธน, อมนุสฺสิตฺถิปณฺฑเกหิ จ สทฺธึ กายสํสคฺเคปิ. มนุสฺสิตฺถิยา ปน กายปฺปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธาทีสุ, ปุริสกายผุสนาทีสุ จ ทุกฺกฏํ. อิตฺถิยา ผุสิยมานสฺส เสวนาธิปฺปายสฺสาปิ กาเยน อวายมิตฺวา ¶ ผสฺสํ ปฏิชานนฺตสฺส, โมกฺขาธิปฺปาเยน อิตฺถึ ผุสนฺตสฺส, อสฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺส, อสาทิยนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, กายสํสคฺคราโค, เตน ราเคน วายาโม, หตฺถคฺคาหาทิสมาปชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิเก วุตฺตสทิสาเนวาติ.
กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย โอติณฺณตา จ วิปริณตจิตฺตตา จ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราควเสน เวทิตพฺพา. มาตุคามนฺติ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลสํลกฺขณสมตฺถํ มนุสฺสิตฺถึ. ทุฏฺุลฺลาหิวาจาหีติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเคเมถุนธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตาหิ วาจาหิ. โอภาเสยฺยาติ อวภาเสยฺย, วณฺณาวณฺณยาจนอายาจนปุจฺฉนปฏิปุจฺฉนอาจิกฺขณานุสาสนอกฺโกสนวเสน นานปฺปการํ อสทฺธมฺมวจนํ วเทยฺย. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา ยุวา ยุวตินฺติ อตฺโถ. เอเตน โอภาสเน นิราสงฺกภาวํ ทสฺเสติ. เมถุนุปสํหิตาหีติอิทํ ¶ ทุฏฺุลฺลวาจาย สิขาปตฺตลกฺขณทสฺสนํ. สงฺฆาทิเสโสติ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วเสน วณฺณาวณฺเณหิ วา เมถุนยาจนาทีหิ วา ‘‘สิขรณีสิ, สํภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนกาสี’’ติ อิเมสุ ตีสุ อฺตเรน อกฺโกสวจเนน วา มาตุคามํ โอภาสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ.
สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ ทุฏฺุลฺลวาจาหิ โอภาสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ วุตฺตนเยน โอภาสนฺตสฺส ¶ สเจ สา ตมตฺถํ ตสฺมึเยว ขเณ ชานาติ, สงฺฆาทิเสโส. ปณฺฑเก ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺมึเยว อิตฺถิสฺิโน ทุกฺกฏํ. ปุนปฺปุนํ โอภาสนฺตสฺส, สมฺพหุลา จ อิตฺถิโย เอกวาจาย โอภาสนฺตสฺส วาจาคณนาย เจว อิตฺถิคณนาย จ อาปตฺติโย. สเจ ยํ อิตฺถึ โอภาสติ, สา น ชานาติ, ถุลฺลจฺจยํ. อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ อาทิสฺส วณฺณาทิภณเนปิ ถุลฺลจฺจยํ. ปณฺฑเก ทุกฺกฏํ, อุพฺภกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ กายปฺปฏิพทฺธฺจ อาทิสฺส วณฺณาทิภณเน สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารานํ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราโค, เตน ราเคน โอภาสนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. อทินฺนาทานสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.
ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ โอติณฺณตา จ วิปริณตจิตฺตตา จ อตฺตกามปาริจริยาวเสน เวทิตพฺพา. มาตุคามสฺส สนฺติเกติ ทุฏฺุลฺโลภาสเน วุตฺตปฺปการาย อิตฺถิยา สมีเป. อตฺตกามปาริจริยายาติ ¶ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา, อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตนา วา กามิตา อิจฺฉิตาติ อตฺตกามา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ, อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา ¶ จาติ อตฺตกามปาริจริยา, ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย. วณฺณํ ภาเสยฺยาติ คุณํ อานิสํสํ ปกาเสยฺย. เอตทคฺคนฺติอาทิ ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภาสนาการนิทสฺสนํ. ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺธวเสเนว สงฺเขปตฺโถ – ยา มาทิสํ ปาณาติปาตาทีหิ วิรหิตตฺตา สีลวนฺตํ เมถุนธมฺมา วิรหิตตฺตา พฺรหฺมจารึ ตทุภเยนาปิ กลฺยาณธมฺมํ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺย อภิรเมยฺย, ตสฺสา เอวํ มาทิสํ ปริจรนฺติยา ยา อยํ ปาริจริยา นาม, เอตทคฺคํ ปาริจริยานนฺติ. เมถุนุปสํหิเตน สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺโต จ ‘‘อรหสิ ตฺวํ มยฺหํ เมถุนธมฺมํ ทาตุ’’นฺติอาทินา เมถุนปฺปฏิสํยุตฺเตเนว วจเนน โย ภาเสยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโส.
สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภาสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ วุตฺตนเยเนว อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺตสฺส สเจ สา ตมตฺถํ ตสฺมึเยว ขเณ ชานาติ, สงฺฆาทิเสโส ¶ . โน เจ ชานาติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิโนปิ ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺมึเยว อิตฺถิสฺิโน ทุกฺกฏํ. จีวราทีหิ วตฺถุกาเมหิ ปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, มนุสฺสิตฺถี, อิตฺถิสฺิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโค, เตน ราเคน วณฺณภณนํ, ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ทุฏฺุลฺโลภาสเน วุตฺตสทิสาเนวาติ.
อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม สฺจริตฺตนฺติ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สํจรณภาวํ. สมาปชฺเชยฺยาติ สมฺมา ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณานิ กโรนฺโต อาปชฺเชยฺย. อิตฺถิยา วาติอาทิ สมาปชฺชนาการทสฺสนํ. ตตฺถ อิตฺถิยา วา ปุริสมตินฺติ ปุริเสน วา ตสฺส มาตาปิตาทีหิ วา เปสิโต ปุริสสฺส มตึ อธิปฺปายํ อิตฺถิยา อาโรเจยฺยาติ อตฺโถ. ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตินฺติ อิตฺถิยา วา ตสฺสา มาตาปิตาทีหิ วา เปสิโต อิตฺถิยา มตึ อธิปฺปายํ ปุริสสฺส ¶ อาโรเจยฺยาติ อตฺโถ. ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วาติ ชายภาเว วา ชารภาเว วา. ปุริสสฺส หิ มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ. อปิจ ปุริสสฺเสว มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน วา อาโรเจติ นิพทฺธภริยภาเว, ชารตฺตเน วา มิจฺฉาจารภาเว, เตเนวสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๓๐๒) ‘‘ชายตฺตเน วาติ ชายา ภวิสฺสสิ, ชารตฺตเน วาติ ชารี ภวิสฺสสี’’ติ วุตฺตํ. เอเตเนว อุปาเยน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจเนปิ ‘‘ปติ ภวิสฺสสิ, ชาโร ภวิสฺสสี’’ติ ¶ วตฺตพฺพตา เวทิตพฺพา. อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ยา อยํ ตงฺขเณ มุหุตฺตมตฺเต สํวสิตพฺพโต ‘‘ตงฺขณิกา’’ติ วุจฺจติ, มุหุตฺติกาติ อตฺโถ. ตสฺสาปิ ‘‘มุหุตฺติกา ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสสฺส มตึ อาโรเจนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, เอเตเนว อุปาเยน ‘‘มุหุตฺติโก ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสสฺส อิตฺถิมตึ อาโรเจนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ สฺจริตฺตสมาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสติ, อนฺเตวาสึ ปจฺจาหราเปตี’’ติอิมินา (ปารา. ๓๓๘) นเยน สาณตฺติกํ, อฺตฺร นาลํวจนียาย ¶ ยาย กายจิ อิตฺถิยา อนฺตมโส มาตุยาปิ ปุริสมตึ อาโรเจนฺโต ‘‘โหหิ กิร ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ วตฺตุกาโม สเจปิ ฉนฺทวาสินีอาทีสุ อฺตรากาเรน อาโรเจตฺวา ตาย ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเตปิ อสมฺปฏิจฺฉิเตปิ ปุน อาคนฺตฺวา เยน ปหิโต, ตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ, สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ. สา ปน ตสฺส ภริยา โหตุ วา, มา วา, อการณเมตํ. สเจปิ ยสฺสา สนฺติกํ เปสิโต, ตํ อทิสฺวา อฺตรสฺส อวสฺสาโรจนกสฺส ‘‘อาโรเจหี’’ติ วตฺวา ปจฺจาหรติ, อาปชฺชติเยว. ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ เปสิตสฺส ปน คนฺตฺวา อฺํ ปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ โหติ, ปุริสสฺส วา อิตฺถิยา วา วจนํ ‘‘สาธู’’ติ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา อาโรเจตฺวา วา อาโรจาเปตฺวา วา ปุน เยน เปสิโต, ตสฺส ตํ ปวตฺตึ สยํ อาโรเจนฺตสฺส วา อฺเน อาโรจาเปนฺตสฺส วา สงฺฆาทิเสโส ¶ . เอตฺตาวตา หิ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสติ, ปจฺจาหรตี’’ติอิทํ องฺคตฺตยํ สมฺปาทิตเมว โหติ, อิโต ปน เยหิ เกหิจิ ทฺวีหิ องฺเคหิ, ปณฺฑเก จ องฺคตฺตเยนาปิ ถุลฺลจฺจยํ. เอเกน ทุกฺกฏํ. สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กิจฺเจน คจฺฉนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ.
สีลวิปตฺติ, เยสุ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชติ, เตสํ มนุสฺสชาติกตา, น นาลํวจนียตา,
ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณานีติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. ฉสมุฏฺานํ, ปณฺณตฺตึ วา อลํวจนียภาวํ วา อชานนฺตสฺส กายวิกาเรน สาสนํ คเหตฺวา ตเถว วีมํสิตฺวา ตเถว ปจฺจาหรนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. ‘‘อิตฺถนฺนามา อาคมิสฺสติ, ตสฺสา จิตฺตํ ชาเนยฺยาถา’’ติ เกนจิ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อาคตํ วตฺวา ปุน ตสฺมึ ปุริเส อาคเต อาโรเจนฺตสฺส กาเยน กิฺจิ อกตตฺตา วาจโต สมุฏฺาติ. วาจาย ‘‘สาธู’’ติ สาสนํ คเหตฺวา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา ฆรํ คนฺตฺวา อฺตฺถ วา คมนกาเล ตํ ทิสฺวา วจีเภเทน วีมํสิตฺวา ปุนปิ อฺเเนว การเณน ตโต อปกฺกมฺม กทาจิเทว ตํ ปุริสํ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺสาปิ วาจโต สมุฏฺาติ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส ปน ขีณาสวสฺสาปิ ปิตุวจเนน คนฺตฺวา อลํวจนียํ มาตรมฺปิ ‘‘เอหิ เม ปิตรํ อุปฏฺาหี’’ติ วตฺวา ปจฺจาหรนฺตสฺส กายวาจโต สมุฏฺาติ. อิมานิ ตีณิ อจิตฺตกสมุฏฺานานิ. ตทุภยํ ¶ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สมาปชฺชนฺตสฺส ตาเนว ตีณิ ตทุภยชานนจิตฺเตน สจิตฺตกานิ โหนฺติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาทิวเสน เจตฺถ ตีณิ จิตฺตานิ, สุขาทิวเสน ติสฺโส เวทนาติ.
สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ ¶ สฺาจิกาย ปนาติ เอตฺถ สฺาจิกา นาม สยํ ปวตฺติตยาจนา วุจฺจติ, ตสฺมา สฺาจิกายาติ อตฺตโน ยาจนายาติ วุตฺตํ โหติ, สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ยํกิฺจิ ปรปริคฺคหิตกํ ¶ มูลจฺเฉทวเสน ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ ปน วฏฺฏติ. สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ปุริสตฺตกรมฺปิ ยาจิตุํ วฏฺฏติ, ปุริสตฺตกโร นาม วฑฺฒกิอาทินา ปุริเสน กาตพฺพํ หตฺถกมฺมํ. ตํ ‘‘ปุริสตฺตกรํ เทหี’’ติ วา ‘‘หตฺถกมฺมํ เทหี’’ติ วา วตฺวา ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมํ นาม กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ, มิคลุทฺทกาทโย ปน สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา. กุฏินฺติ อุลฺลิตฺตาทีสุ อฺตรํ. ตตฺถ อุลฺลิตฺตา นาม เปตฺวา ถมฺภตุลาปิฏฺสงฺฆาฏวาตปานธูมจฺฉิทฺทาทิเภทํ อเลโปกาสํ อวเสเส เลโปกาเส กุฏฺเฏหิ สทฺธึ ฆเฏตฺวา ฉทนสฺส อนฺโต สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิตฺตา. อวลิตฺตา นาม ตเถว วุตฺตนเยเนว ฉทนสฺส พหิ ลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา นาม ตเถว ฉทนสฺส อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตา. การยมาเนนาติ สยํ วา กโรนฺเตน, อาณตฺติยา วา การาเปนฺเตน. อสามิกนฺติ กาเรตา ทายเกน วิรหิตํ. อตฺตุทฺเทสนฺติ ‘‘มยฺหํ วาสาคารํ เอสา’’ติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ ปมาณยุตฺตา กาเรตพฺพา. ตตฺริทํ ปมาณนฺติ ตสฺสา กุฏิยา อิทํ ปมาณํ. ทีฆโสติ ทีฆโต. ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยาติเอตฺถ สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย, วฑฺฒกิหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหติ. มินนฺเตน ปน กุฏิยา พหิกุฏฺเฏ ปมํ ทินฺนํ มหามตฺติกปริยนฺตํ อคฺคเหตฺวา ถุสปิณฺฑปริยนฺเตน ทฺวาทส วิทตฺถิโย มิเนตพฺพา, สเจ ถุสปิณฺฑเกน อนตฺถิโก โหติ, มหามตฺติกเลเปเนว นิฏฺาเปติ, สฺเวว ปริจฺเฉโท. ติริยนฺติ วิตฺถารโต. สตฺตนฺตราติ กุฏฺฏสฺส พหิอนฺตํ อคฺคเหตฺวา อพฺภนฺตริเมน อนฺเตน สตฺต สุคตวิทตฺถิโย ปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทีฆโต หาเปตฺวา ติริยํ, ติริยโต วา หาเปตฺวา ทีฆํ วฑฺเฒตุํ น วฏฺฏติ, โก ปน วาโท อุภโตวฑฺฒเน. ยา ปน ทีฆโต สฏฺิหตฺถาปิ โหติ, ติริยโต ติหตฺถา วา อูนกจตุหตฺถา วา, ยตฺถ ¶ ปมาณยุตฺโต มฺโจ อิโต จิโต จ น ปริวฏฺฏติ, ปจฺฉิมโกฏิยา จตุหตฺถวิตฺถารา น โหติ, อยํ กุฏิสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. ภิกฺขู ¶ อภิเนตพฺพา วตฺถุเทสนายาติ ยสฺมึ ปเทเส กุฏึ กาเรตุกาโม โหติ, ตํ โสเธตฺวา ปทภาชเน (ปารา. ๓๔๙) วุตฺตนเยน สงฺฆํ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา สพฺเพ วา สงฺฆปริยาปนฺนา สงฺเฆน วา สมฺมตา ทฺเว ตโย ภิกฺขู ตตฺถ วตฺถุเทสนตฺถาย เนตพฺพา. เตหิ ภิกฺขูหิ วตฺถุ เทเสตพฺพํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนนฺติ เตหิ ภิกฺขูหิ ¶ กิปิลฺลิกาทีนํ อาสยาทีหิ เตรสหิ, ปุพฺพณฺณาปรณฺณนิสฺสิตาทีหิ โสฬสหิ อุปทฺทเวหิ วิรหิตตฺตา อนารมฺภํ, ทฺวีหิ วา จตูหิ วา พลิพทฺเธหิ ยุตฺเตน สกเฏน เอกํ จกฺกํ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน เอกํ พหิ กตฺวา อาวิชฺฌิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย สปริกฺกมนนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ สงฺฆปโหนกา โหนฺติ, ตตฺเถว, โน เจ, สงฺฆมชฺฌํ คนฺตฺวา เตน ภิกฺขุนา ยาจิเตหิ ตฺติทุติเยน กมฺเมน วตฺถุ เทเสตพฺพํ. สารมฺเภ เจติอาทิ ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.
อาฬวิยํ อาฬวิเก ภิกฺขู อารพฺภ สฺาจิกาย กุฏิกรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ‘‘อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ กาเรสฺสามี’’ติ อุปกรณตฺถํ อรฺํ คมนโต ปฏฺาย สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, ‘‘อิทานิ ทฺวีหิ ปิณฺเฑหิ นิฏฺานํ คมิสฺสตี’’ติ เตสุ ปมปิณฺฑทาเน ถุลฺลจฺจยํ, ทุติยทาเนน เลเป ฆฏิเต สเจ อเทสิตวตฺถุกา เอว วา ปมาณาติกฺกนฺตา เอว วา โหติ, เอโก สงฺฆาทิเสโส, ทฺเว จ ทุกฺกฏานิ. อุภยวิปฺปนฺนา, ทฺเว สงฺฆาทิเสสา, ทฺเว จ ทุกฺกฏานิ. สเจ ปน ทฺวารพนฺธํ วา วาตปานํ วา อฏฺเปตฺวาว มตฺติกาย ลิมฺปติ, ปิเต จ ตสฺมึ เลโป น ฆฏิยติ, รกฺขติ ตาว. ปุน ลิมฺปนฺตสฺส ปน ฆฏิตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ตํ ปิยมานํ ปมทินฺนเลเปน สทฺธึ นิรนฺตรเมว หุตฺวา ติฏฺติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโส. เกวลํ สารมฺภาย ทุกฺกฏํ, ตถา อปริกฺกมนาย. วิปฺปกตํ กุฏึ อฺสฺส ททโต จ, ภูมึ สมํ กตฺวา ภินฺทนฺตสฺส จ, เลณคุหาติณกุฏิปณฺณจฺฉทนเคเหสุ อฺตรํ กาเรนฺตสฺส, กุฏิมฺปิ อฺสฺส วาสตฺถาย, วาสาคารํ เปตฺวา อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรตฺถาย กาเรนฺตสฺส จ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, อุลฺลิตฺตาทีนํ อฺตรตา, เหฏฺิมปมาณสมฺภโว, อเทสิตวตฺถุกตา, ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, วาสาคารตา ¶ , เลปฆฏนาติ อิมาเนตฺถ ฉ วา สตฺต วา องฺคานิ. ฉสมุฏฺานํ, กิริยฺจ, กิริยากิริยฺจ. อิทฺหิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, อเทสาเปตฺวา กโรโต กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ. เสสเมตฺถ สฺจริตฺเต วุตฺตสทิสเมวาติ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ มหลฺลกนฺติ สสามิกภาเวน สฺาจิตกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก, ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ ¶ มหลฺลโก, ตํ มหลฺลกํ. ยสฺมา ปนสฺส ตํ ปมาณมหนฺตตฺตํ สสามิกตฺตาว ลพฺภติ, ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสามิโก วุจฺจตี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๓๖๗) วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ กุฏิการสิกฺขาปเท วุตฺตสทิสํ, สสามิกภาวมตฺตเมว หิ วิเสโส.
โกสมฺพิยํ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ เจติยรุกฺขํ เฉทาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตภาโว, อกิริยมตฺตโต สมุฏฺานภาโว, เอกสงฺฆาทิเสสตา จ เอตฺถ วิเสโส.
วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จ. อุปฺปนฺเน หิ โทเส ปุคฺคโล เตน โทเสน ทูสิโต โหติ, ปกติภาวํ ชหาปิโต, ตสฺมา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ปรฺจ ทูเสติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โทโส’’ติ วุจฺจติ. อิติ ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ เอกสฺเสเวตํ ปุคฺคลสฺส อาการนานตฺเตน นิทสฺสนํ. อปฺปตีโตติ นปฺปตีโต, ปีติสุขาทีหิ วิวชฺชิโต, น อภิสโฏติ อตฺโถ. อมูลเกนาติ ยํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ¶ ปุคฺคเล อทิฏฺํ อสฺสุตํ อปริสงฺกิตํ, อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ มูลานํ อภาวโต อมูลกํ นาม. ตํ ปน โส อาปนฺโน วา โหตุ, อนาปนฺโน วา, เอตํ อิธ อปฺปมาณํ. เอตฺถ จ อทิฏฺํ นาม อตฺตโน ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา อทิฏฺํ, อสฺสุตํ นาม ตเถว เกนจิ วุจฺจมานํ น สุตํ, อปริสงฺกิตํ นาม อตฺตโน วา ปรสฺส วา ทิฏฺสุตมุตวเสน เจตสา อปริสงฺกิตํ, อิติ เอวรูเปน อมูลเกน. ปาราชิเกนาติ ภิกฺขุโน อนุรูเปสุ เอกูนวีสติยา อฺตเรน, ปทภาชเน (ปารา. ๓๘๖) ปน ปาราชิกุทฺเทเส อาคตาเนว คเหตฺวา ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ วุตฺตํ. อนุทฺธํเสยฺยาติ ธํเสยฺย วิทฺธํเสยฺย ปธํเสยฺย อภิภเวยฺย. ตํ ปน อนุทฺธํสนํ ยสฺมา อตฺตนา โจเทนฺโตปิ ปเรน โจทาเปนฺโตปิ กโรติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา อาปตฺติสนฺทสฺสนา สํวาสปฺปฏิกฺเขโป สามีจิปฺปฏิกฺเขโปติ สงฺเขปโต จตสฺโส โจทนา. ตาสุ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา. สํวาสปฺปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺโต. เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอติ, ‘‘อสฺสมโณสี’’ติอาทีหิ วจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ ¶ เอติ. สามีจิปฺปฏิกฺเขโป นาม อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมพีชนิกมฺมาทีนํ อกรณํ, ตํ ปฏิปาติยา วนฺทนาทีนิ กโรโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ โจทนา นาม โหติ, อาปตฺติ ปน ¶ สีสํ น เอติ. ‘‘กสฺมา มม วนฺทนาทีนิ น กโรสี’’ติ ปุจฺฉิเต ปน ‘‘อสฺสมโณสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ, ตสฺมา โย ภิกฺขุ ภิกฺขุํ สมีเป ตฺวา ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวี’’ติ วา ‘‘อสฺสมโณสี’’ติ วา อาทีหิ วจเนหิ หตฺถมุทฺทาย เอว วา เอตมตฺถํ ทีเปนฺโต สยํ วา โจเทติ, คหฏฺปพฺพชิเตสุ วา อฺตเรน โจทาเปติ, อยํ อนุทฺธํเสติ นาม. อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺยนฺติ อปิ เอว นาม นํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา เสฏฺจริยา อปเนยฺยํ. ‘‘สาธุ วตสฺส สจาหํ อิมํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อนุทฺธํเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ¶ เอกํ จาวนาธิปฺปายํ คเหตฺวา อวเสสา อกฺโกสาธิปฺปาโย กมฺมาธิปฺปาโย วุฏฺานาธิปฺปาโย อุโปสถฏฺปนาธิปฺปาโย ปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ สตฺต อธิปฺปายา ปฏิกฺขิตฺตา โหนฺติ. ตโต อปเรน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย อนุทฺธํสิโต โหติ, ตโต อฺสฺมึ สมเย. สมนุคฺคาหียมาโน วาติ อนุวิชฺชเกน กึ เต ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน อนุวิชฺชิยมาโน อุปปริกฺขิยมาโน. อสมนุคฺคาหียมาโน วาติ ทิฏฺาทีสุ เกนจิ วตฺถุนาวา อนุวิชฺชกาทีสุ เยน เกนจิ ปุคฺคเลน วา อวุจฺจมาโน. อิเมสํ ปน ปทานํ ปรโต ‘‘ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – เอวํ สมนุคฺคาหียมาโน วา อสมนุคฺคาหียมาโน วา ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาติ ปฏิจฺจ ติฏฺติ ปฏิชานาติ, สงฺฆาทิเสโสติ. อิทฺจ อมูลกภาวสฺส ปากฏกาลทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อาปตฺตึ ปน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว อาปชฺชติ. อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตีติ เอตฺถ ปน ทิฏฺมูลาทีนํ อภาเวน อมูลกํ, สมเถหิ อธิกรณียภาเวน อธิกรณํ. ยฺหิ อธิกิจฺจ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย สมถา ปวตฺตนฺติ, ตํ อธิกรณํ. อิธ ปน ปาราชิกสงฺขาตํ อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. ยทิ หิ ตํ อธิกรณํ ทิฏฺาทีหิ มูเลหิ อมูลกฺเจว โหติ, อยํ โจเทตุํ อาคโต ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาติ ปฏิจฺจ ติฏฺติ, ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทีนิ (ปารา. ๓๘๖) วทนฺโต ปฏิชานาติ, ตสฺส ภิกฺขุโน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว สงฺฆาทิเสโสติ, อยํ สิกฺขาปทสฺส ปทานุกฺกเมน อตฺโถ.
ราชคเห เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู อารพฺภ อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, กตูปสมฺปทํ สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา ปุคฺคลํ เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตํ ‘‘อยํ อนชฺฌาปนฺโน’’ติ ตฺวา จาวนาธิปฺปาเยน ‘‘กโรตุ เม อายสฺมา ¶ โอกาสํ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ โอกาสํ อกาเรตฺวา โจเทนฺตสฺส สเจ โส ตงฺขเณเยว ชานาติ ‘‘มํ โจเทตี’’ติ, วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส เจว ทุกฺกฏฺจ. โอกาสํ กาเรตฺวา โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. หตฺถมุทฺทาย สมฺมุขา โจเทนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ปรมฺมุขา โจเทนฺตสฺส ปน สีสํ น เอติ ¶ . อตฺตนา สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุํ อาณาเปติ ¶ , โส ตสฺส วจเนน ตํ โจเทติ, โจทาปกสฺเสว วุตฺตนเยน อาปตฺติโย. อถ โสปิ ‘‘มยา ทิฏฺํ สุตํ อตฺถี’’ติ โจเทติ, ทฺวินฺนมฺปิ ชานานํ ตเถว อาปตฺติโย. อกฺโกสาธิปฺปาเยน ปน โอกาสํ อกาเรตฺวา วทนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ. โอกาสํ กาเรตฺวา วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. กมฺมาธิปฺปาเยน อสมฺมุขา สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิกโรหี’’ติ วทนฺตสฺส, อุโปสถํ วา ปวารณํ วา เปนฺตสฺส จ โอกาสกมฺมํ นตฺถิ, ปนกฺเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ, อนุวิชฺชกสฺสาปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ, ธมฺมกถิกสฺสาปิ ‘‘โย อิทฺจ อิทฺจ กโรติ, อยํ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสกํ ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, อาสนโต โอรุยฺห อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ, สีลวิปตฺติ, ยํ โจเทติ วา โจทาเปติ วา, ตสฺส ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ สงฺขฺยุปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขาโจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ. เวทนา ปเนตฺถ ทุกฺขาเยวาติ.
ทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อฺภาคิยสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม อฺภาคิยสฺสาติอาทีสุ อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถีติ อฺภาคิยํ. อธิกรณนฺติ อาธาโร เวทิตพฺโพ, วตฺถุ อธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ โส อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต. โส ยฺวายํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ภาโค โกฏฺาโส ปกฺโข มนุสฺสชาติ เจว ภิกฺขุภาโว จ, ตโต อฺสฺส ภาคสฺส โกฏฺาสสฺส ปกฺขสฺส โหติ ติรจฺฉานชาติยา ¶ เจว ฉคลกภาวสฺส จ, โส วา อฺภาโค อสฺส อตฺถิ, ตสฺมา อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภติ. ยสฺมา จ เตสํ ‘‘อิมํ มยํ ทพฺพํ ¶ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ วทนฺตานํ ตสฺส นามกรณสฺาย อาธาโร วตฺถุ อธิฏฺานํ, ตสฺมา ‘‘อธิกรณ’’นฺติ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติอาทิ (ปารา. ๓๙๑) วุตฺตํ. น วิวาทาธิกรณาทีสุ อฺตรํ, กสฺมา? อสมฺภวโต. น หิ เมตฺติยภูมชกา จตุนฺนํ อธิกรณานํ กสฺสจิ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปฺปาทิยึสุ, น จ จตุนฺนํ อธิกรณานํ เลโส นาม อตฺถิ. ชาติเลสาทโย หิ ปุคฺคลานํเยว เลสา วุตฺตา, น วิวาทาธิกรณาทีนํ. ตฺจ ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติ นามํ ตสฺส อฺภาคิยาธิกรณภาเว ิตสฺส ฉคลกสฺส ¶ โกจิ เทโส โหติ เถรํ ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสตุํ เลสมตฺโต, เอตฺถ จ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ ‘‘อสฺส อย’’นฺติ โวหรียตีติ เทโส, ชาติอาทีสุ อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส, ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ปทภาชเน (ปารา. ๓๙๓) ปน ยสฺส อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺย, ตํ ยสฺมา อฏฺุปฺปตฺติวเสเนว อาวิภูตํ, ตสฺมา ตํ อวิภชิตฺวา ยานิ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ, เตสํ อฺภาคิยตา จ ตพฺภาคิยตา จ ยสฺมา อปากฏา, ชานิตพฺพา จ วินยธเรหิ, ตสฺมา ตฺจ อวสาเน อาปตฺตฺภาคิเยน โจทนฺจ อาวิกาตุํ ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ อาปตฺตฺภาคิยํ วา โหติ อธิกรณฺภาคิยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เสสา วินิจฺฉยกถา อฏฺเม วุตฺตสทิสาเยว. อยํ ปน วิเสโส – อิทํ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อิธ จ อาปตฺตฺภาคิยโจทนาย ตถาสฺิโนปิ อนาปตฺติ. องฺเคสุ จ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยนตา อธิกาติ.
อฺภาคิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ¶ สมคฺคสฺส สงฺฆสฺสาติ สหิตสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, จิตฺเตน จ สรีเรน จ อวิยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. เตเนวสฺส ปทภาชเน (ปารา. ๔๑๒) ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ วุตฺตํ. สมานสํวาสโก หิ สมจิตฺตตาย จิตฺเตน อวิยุตฺโต โหติ, สมานสีมายํ ิโต กายสามคฺคิทานโต สรีเรน อวิยุตฺโต. เภทาย ปรกฺกเมยฺยาติ ¶ ‘‘กถํ นามายํ ภิชฺเชยฺยา’’ติ เภทนตฺถาย วายาเมยฺย. เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ เภทนสฺส สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ การณํ. อิมสฺมิฺหิ โอกาเส ‘‘กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณ’’นฺติ อาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๘, ๑๗๘) วิย การณํ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตํ เภทกรวตฺถุวเสน อฏฺารสวิธํ. สมาทายาติ คเหตฺวา. ปคฺคยฺห ติฏฺเยฺยาติ ตํ สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ สงฺฆเภทนิพฺพตฺติสมตฺถํ การณํ คเหตฺวา ทีเปยฺย เจว นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย จ. ภิกฺขูหิ เอวมสฺส วจนีโยติ เย ตํ ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตํ สมฺมุขา ปสฺสนฺติ, เย วา ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร’’ติ สุณนฺติ, เตหิ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน อฑฺฒโยชนมตฺตํ คนฺตฺวาปิ ยฺวายํ อนนฺตเร ‘‘มายสฺมา’’ติอาทิวจนกฺกโม วุตฺโต, เอวมสฺส วจนีโย. ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อวทนฺตานํ ทุกฺกฏํ. เอตฺถ จ มาอิติ ปทํ ¶ ‘‘ปรกฺกมี’’ติปเทน ‘‘อฏฺาสี’’ติปเทน จ สทฺธึ ‘‘มา ปรกฺกมิ, มา อฏฺาสี’’ติ โยเชตพฺพํ. สเมตายสฺมา สงฺเฆนาติ อายสฺมา สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ, เอกลทฺธิโก โหตูติ อตฺโถ. กึ การณา? สมคฺโค หิ สงฺโฆ…เป… วิหรตีติ. ตตฺถ สมฺโมทมาโนติ อฺมฺสมฺปตฺติยา สุฏฺุ โมทมาโน. อวิวทมาโนติ ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติ เอวํ น วิวทมาโน. เอโก อุทฺเทโส อสฺสาติ เอกุทฺเทโส, เอกโต ปวตฺตปาติโมกฺขุทฺเทโสติ อตฺโถ. ผาสุ วิหรตีติ สุขํ วิหรติ. เอวํ วิสุมฺปิ สงฺฆมชฺเฌปิ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏํ. เอวฺจ โสติอาทิมฺหิ สมนุภาสิตพฺโพติ สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพํ. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ อิติ เอตํ ปฏินิสฺสชฺชนํ กุสลํ เขมํ โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน. โน เจ ¶ ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, สงฺฆาทิเสโสติ เอตฺถ สมนุภาสนกมฺมปริโยสาเน อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. เสสํ อุตฺตานปทตฺถเมว.
ราชคเห เทวทตฺตํ อารพฺภ สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, สมนุภาสนกมฺเม กริยมาเน อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส ตฺติปริโยสาเน ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทฺเว ถุลฺลจฺจยา, ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ เอวํ ยฺย-การปตฺตาย ตติยกมฺมวาจาย ตฺจ ทุกฺกฏํ เต จ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สงฺฆาทิเสโสเยว ติฏฺติ. อสมนุภาสิยมานสฺส จ ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส จ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สีลวิปตฺติ, เภทาย ปรกฺกมนํ, ธมฺมกมฺเมน สมนุภาสนํ, กมฺมวาจาปริโยสานํ, อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมนุภาสนสมุฏฺานํ, อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
สงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. เภทานุวตฺตกสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกาทสเม ¶ ตสฺเสว โข ปนาติ โย สงฺฆเภทาย ปรกฺกมติ, ตสฺเสว. อนุวตฺตกาติ ตสฺส ทิฏฺึ ขนฺตึ รุจึ คหเณน อนุปฏิปชฺชนกา. วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตีติ วคฺควาทกา. ยสฺมา ปน ติณฺณํ อุทฺธํ กมฺมารหา น โหนฺติ. น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘เอโก วา ทฺเว วา ตโย วา’’ติ วุตฺตํ. ชานาติ โนติ อมฺหากํ ฉนฺทาทีนิ ชานาติ. ภาสตีติ ‘‘เอวํ กโรมา’’ติ อมฺเหหิ สทฺธึ ภาสติ. อมฺหากมฺเปตํ ขมตีติ ยํ โส กโรติ, เอตํ อมฺหากมฺปิ รุจฺจติ. สเมตายสฺมนฺตานํ สงฺเฆนาติ อายสฺมนฺตานํ จิตฺตํ สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ, เอกีภาวํ คจฺฉตูติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ ปทตฺถโต อุตฺตานเมว. วินิจฺฉยกถาเปตฺถ ทสเม วุตฺตสทิสาเยว.
อยํ ปน วิเสโส – อิทํ ราชคเห สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ เทวทตฺตสฺส ¶ สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส อนุวตฺตนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, องฺเคสุ จ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ อนุวตฺตนํ ทฏฺพฺพนฺติ.
เภทานุวตฺตกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวาทสเม ¶ ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว, วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ. อุทฺเทสปริยาปนฺเนสูติ อุทฺเทเส ปริยาปนฺเนสุ อนฺโตคเธสุ, ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา อนฺโต ปาติโมกฺขสฺส วตฺตมาเนสูติ อตฺโถ. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน, การณตฺเถ เจตํ อุปโยควจนํ. ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘‘สหธมฺมิก’’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อตฺโถ. วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายาติ เยน วจเนน มํ วทถ, ตโต มม วจนโต วิรมถ, มา มํ ตํ วจนํ วทถาติ วุตฺตํ โหติ. วทตุ สห ธมฺเมนาติ สหธมฺมิเกน สิกฺขาปเทน, สหธมฺเมน วา อฺเนปิ ปาสาทิกภาวสํวตฺตนิเกน วจเนน วเทตุ. ยทิทนฺติ วุทฺธิการณทสฺสนตฺเถ นิปาโต, เตน ยํ อิทํ อฺมฺสฺส หิตวจนํ, อาปตฺติโต จ วุฏฺาปนํ, เตน อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนน. เอวํ สํวทฺธาหิ ตสฺส ภควโต ปริสาติ เอวํ ปริสาย ¶ วุทฺธิการณํ ทสฺสิตํ โหติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. วินิจฺฉยกถาปิ ทสเม วุตฺตสทิสาเยว.
อยํ ปน วิเสโส – อิทํ โกสมฺพิยํ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ อตฺตานํ อวจนียกรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, องฺเคสุ จ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ อวจนียกรณตา ทฏฺพฺพาติ.
ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
เตรสเม คามํ วา นิคมํวาติ เอตฺถ นครมฺปิ คาเม อนฺโตคธเมว. อุปนิสฺสาย วิหรตีติตตฺถ ปฏิพทฺธจีวราทิปจฺจยตาย ตํ นิสฺสาย วสติ. ปุปฺผทานาทีหิ มนุสฺสานํ สทฺธํ วินาเสนฺโต กุลานิ ทูเสตีติ กุลทูสโก. มาลาวจฺฉโรปนาทโย ปาปกา สมาจารา อสฺสาติ ปาปสมาจาโร. โส ภิกฺขูติ โส กุลทูสโก ภิกฺขุ. อายสฺมา โข ¶ กุลทูสโก…เป… อลํ เต อิธ วาเสนาติ อิมินาสฺส ปพฺพาชนียกมฺมารหตํ ทสฺเสติ. ปพฺพาชนียกมฺมกโต ปเนส ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ยสฺมิฺจ วิหาเร วสติ, เนว ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา จริตุํ ลภติ, น วิหาเร วสิตุํ. เอวฺจ โส ภิกฺขูติเอตฺถ โสติ ปพฺพาชนียกมฺมกโต อธิปฺเปโต. ฉนฺเทน คจฺฉนฺตีติ ฉนฺทคามิโน, เอส นโย เสเสสุ. โส ภิกฺขูติ โส ‘‘ฉนฺทคามิโน’’ติอาทีนิ ¶ วทมาโน. ตสฺส วจนสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย เอวํ วจนีโย, น กุลทูสนนิวารณตฺถาย. กุลทูสนกมฺเมน หิ โส อาปชฺชิตพฺพา อาปตฺติโย ปุพฺเพว อาปนฺโน, เอวํ ปนสฺส วิสุมฺปิ สงฺฆมชฺเฌปิ วุจฺจมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต อปรํ ทุกฺกฏํ. เอวฺจ โสติอาทิ อิโต ปุพฺเพ วุตฺตฺจ อวุตฺตฺจ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว. วินิจฺฉยกถาปิ ทสเม วุตฺตสทิสาเยว.
อยํ ปน วิเสโส – อิทํ สาวตฺถิยํ อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู อารพฺภ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, องฺเคสุ จ ยถา ตตฺถ ปรกฺกมนํ, เอวํ อิธ ฉนฺทาทีหิ ปาปนํ ทฏฺพฺพนฺติ.
กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
อุทฺทิฏฺา ¶ โข…เป… เอวเมตํ ธารยามีติเอตฺถ ปมํ อาปตฺติ เอเตสนฺติ ปมาปตฺติกา, ปมํ วีติกฺกมนกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ. อิตเร ปน ยถา ตติเย จ จตุตฺเถ จ ทิวเส โหตีติ เอตฺถ ‘‘ตติยโก, จตุตฺถโก’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ยาวตติเย สมนุภาสนกมฺเม โหนฺตีติ ยาวตติยกาติ เวทิตพฺพา. ยาวตีหนฺติ ยตฺตกานิ อหานิ. ชานํ ปฏิจฺฉาเทตีติ ชานนฺโต ปฏิจฺฉาเทติ. ตตฺถายํ ปฏิจฺฉาทนลกฺขณสฺส มาติกา – อาปตฺติ จ โหติ, อาปตฺติสฺี จ, ปกตตฺโต จ โหติ, ปกตตฺตสฺี จ, อนนฺตรายิโก จ โหติ, อนนฺตรายิกสฺี จ, ปหุ จ โหติ, ปหุสฺี จ, ฉาเทตุกาโม จ โหติ, ฉาเทติ จาติ. ตตฺถ อาปตฺติ จ โหติ, อาปตฺติสฺี จาติ ยํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, สา เตรสนฺนํ อฺตรา โหติ, โสปิ จ ตตฺถ วตฺถุวเสน วา ‘‘อิทํ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏตี’’ติ ¶ นามมตฺตวเสน วา ‘‘อยํ อิตฺถนฺนามา อาปตฺตี’’ติ อาปตฺติสฺีเยว หุตฺวา ‘‘น ทานิ นํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ เอวํ ฉาเทตุกาโมว ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปติ, ฉนฺนา โหติ อาปตฺติ. สเจ ปเนตฺถ อนาปตฺติสฺี วา โหติ, อฺาปตฺติกฺขนฺธสฺี วา, เวมติโก วา, อจฺฉนฺนาว โหติ. ปกตตฺโตติ อนุกฺขิตฺโต สมานสํวาสโก. โส เจ ปกตตฺตสฺี หุตฺวา วุตฺตนเยเนว ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. อนนฺตรายิโกติ ยสฺส ทสสุ ราชโจรอคฺคิอุทกมนุสฺสอมนุสฺสวาฬสรีสปชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ เอโกปิ นตฺถิ, โส เจ อนนฺตรายิกสฺี ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. ปหูติ โย สกฺโกติ ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺุเจว อาโรเจตฺุจ, โส เจ ปหุสฺี หุตฺวา ฉาเทติ, ฉนฺนา โหติ. ฉาเทตุกาโม จ โหติ, ฉาเทติ จาติอิทํ อุตฺตานเมว. สเจปิ หิ โส สภาคํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เม อุปชฺฌาโย วา อาจริโย วา’’ติ ลชฺชาย นาโรเจติ, ฉนฺนาว โหติ. อุปชฺฌายาทิภาโว หิ อิธ อปฺปมาณํ, สภาคมตฺตเมว ปมาณํ. อยํ ‘‘ชานํ ปฏิจฺฉาเทตี’’ติปทสฺส สงฺเขปโต อตฺถวินิจฺฉโย.
ตาวตีหนฺติ ¶ ตตฺตกานิ อหานิ, ปฏิจฺฉาทิตทิวสโต ปฏฺาย ยาว อาโรจิตทิวโส, ตาว ทิวสปกฺขมาสสํวจฺฉรวเสน ยตฺตโก กาโล อติกฺกนฺโต, ตตฺตกํ กาลนฺติ อตฺโถ. อกามา ปริวตฺถพฺพนฺติ น กาเมน น วเสน, อถ โข อกาเมน อวเสน ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส สุทฺธนฺตปริวาโส สโมธานปริวาโส จาติ ติวิโธ ปริวาโส. ตตฺถ ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส ตาว ยถาปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ทาตพฺโพ. กสฺสจิ หิ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ โหติ, กสฺสจิ ทฺวีหาทิปฺปฏิจฺฉนฺนา. กสฺสจิ เอกา อาปตฺติ โหติ, กสฺสจิ ¶ ทฺเว วา ติสฺโส วา ตทุตฺตริ วา. ตสฺมา ปฏิจฺฉนฺนปริวาสํ เทนฺเตน ปมเมว วุตฺตนเยน ปฏิจฺฉนฺนภาวํ ตฺวา ตโต ปฏิจฺฉนฺนทิวเส จ อาปตฺติโย จ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ เอกา เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ เอวํ ปริวาสํ ยาจาเปตฺวา ขนฺธเก (จูฬว. ๙๘) อาคตนเยน กมฺมวาจํ วตฺวา ปริวาโส ทาตพฺโพ. อถ ทฺวีหตีหาทิปฺปฏิจฺฉนฺนา โหติ ¶ , ทฺวีหปฺปฏิจฺฉนฺนํ ตีหปฺปฏิจฺฉนฺนํ จตูหปฺปฏิจฺฉนฺนํ ปฺจาหปฺปฏิจฺฉนฺนํ…เป… จุทฺทสาหปฺปฏิจฺฉนฺนนฺติเอวํ ยาว จุทฺทสทิวสานิ ทิวสวเสน โยชนา กาตพฺพา, ปฺจทสทิวสปฺปฏิจฺฉนฺนายํ ‘‘ปกฺขปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ โยชนา กาตพฺพา. ตโต ยาว เอกูนตึสติโม ทิวโส, ตาว ‘‘อติเรกปกฺขปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ, ตโต มาสปฺปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกมาสปฺปฏิจฺฉนฺนํ ทฺเวมาสปฺปฏิจฺฉนฺนํ อติเรกทฺเวมาสปฺปฏิจฺฉนฺนํ เตมาสปฺปฏิจฺฉนฺนํ…เป… อติเรกเอกาทสมาสปฺปฏิจฺฉนฺนนฺติ เอวํ โยชนา กาตพฺพา. สํวจฺฉเร ปุณฺเณ ‘‘เอกสํวจฺฉรปฺปฏิจฺฉนฺน’’นฺติ, ตโต ปรํ อติเรกสํวจฺฉรํ ทฺเวสํวจฺฉรํ เอวํ ยาว สฏฺิสํวจฺฉรอติเรกสฏฺิสํวจฺฉรปฺปฏิจฺฉนฺนนฺติ, ตโต วา ภิยฺโยปิ วตฺวา โยชนา กาตพฺพา.
สเจ ปน ทฺเว ติสฺโส ตทุตฺตริ วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ยถา ‘‘เอกํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ทฺเว อาปตฺติโย, ติสฺโส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺพํ. ตโต ปรํ ปน สตํ วา โหตุ, สหสฺสํ วา, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นานาวตฺถุกาสุปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกํ กายสํสคฺคํ เอกํ ทุฏฺุลฺลวาจํ เอกํ อตฺตกามํ เอกํ สฺจริตฺตํ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ คณนวเสน วา, ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ นานาวตฺถุกาโย เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ วตฺถุกิตฺตนวเสน วา, ‘‘อหํ, ภนฺเต, สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา. ตตฺถ นามํ ทุวิธํ สชาติสาธารณํ สพฺพสาธารณฺจ, ตตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณํ, ตสฺมา ‘‘สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฺปฏิจฺฉนฺนาโย’’ติ เอวํ สพฺพสาธารณนามวเสนาปิ ¶ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทฺหิ ปริวาสาทิวินยกมฺมํ วตฺถุวเสน โคตฺตวเสน นามวเสน อาปตฺติวเสน จ กาตุํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ สุกฺกวิสฺสฏฺีติ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ, สงฺฆาทิเสโสติ นามฺเจว อาปตฺติ จ, ตตฺถ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’’นฺติอาทิวจเนนาปิ ‘‘นานาวตฺถุกาโย’’ติวจเนนาปิ วตฺถุ เจว โคตฺตฺจ คหิตํ โหติ, ‘‘สงฺฆาทิเสโส’’ติวจเนนาปิ ‘‘อาปตฺติโย’’ติวจเนนาปิ นามฺเจว อาปตฺติ จ คหิตา โหติ, ตสฺมา เอเตสุ ยสฺส กสฺสจิ วเสน กมฺมวาจา กาตพฺพา.
กมฺมวาจาปริโยสาเน ¶ ¶ จ สเจ อปฺปภิกฺขุโก อาวาโส โหติ, สกฺกา รตฺติจฺเฉทํ อนาปชฺชนฺเตน วสิตุํ, ตตฺเถว ‘‘ปริวาสํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตํ สมาทาตพฺพํ, สมาทิยิตฺวา ตตฺเถว สงฺฆสฺส อาโรเจตฺวา ปุน อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ อาโรเจนฺเตน วตฺตเภทฺจ รตฺติจฺเฉทฺจ อกตฺวา ปริวสิตพฺพํ. สเจ น สกฺกา โหติ ปริวาสํ โสเธตุํ, นิกฺขิตฺตวตฺเตน วสิตุกาโม โหติ, ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ, เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺติเก ‘‘ปริวาสํ นิกฺขิปามิ, วตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ ปริวาโส นิกฺขิปิตพฺโพ, เอกปเทนาปิ เจตฺถ นิกฺขิตฺโต โหติ ปริวาโส, ทฺวีหิ ปน สุนิกฺขิตฺโตเยว, สมาทาเนปิ เอเสว นโย. นิกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ปกตตฺตฏฺาเน ติฏฺติ, อถาเนน ปจฺจูสสมเย เอเกน ภิกฺขุนา สทฺธึ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุมฺเพน วา วติยา วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นิสีทิตฺวา อนฺโตอรุเณเยว วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํ. ยมฺปิ อฺํ ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺสาปิ อาโรเจตพฺพเมว. อรุเณ อุฏฺิเต ตสฺส สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา วิหารํ คนฺตพฺพํ. สเจ โส ปุเร อรุเณเยว เกนจิ กรณีเยน คโต, วิหารํ คนฺตฺวา ยํ สพฺพปมํ ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ. เอวํ สลฺลกฺเขตฺวา ยาว รตฺติโย ปูเรนฺติ, ตาว ปริวตฺถพฺพํ, อยํ สงฺเขปโต ปฏิจฺฉนฺนปริวาสวินิจฺฉโย, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย (จูฬว. อฏฺ. ๙๗) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อิตเรสุ ปน ทฺวีสุ ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ (จูฬว. ๑๕๗) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ ขนฺธเก อนฺุาโต สุทฺธนฺตปริวาโส นาม, โส ทุวิโธ จูฬสุทฺธนฺโต มหาสุทฺธนฺโตติ, ทุวิโธปิ เจส รตฺติปริจฺเฉทํ สกลํ วา เอกจฺจํ วา อชานนฺตสฺส จ อสฺสรนฺตสฺส จ ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทาตพฺโพ. อาปตฺติปริยนฺตํ ปน ‘‘เอตฺติกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’’ติ ชานาตุ วา, มา วา, อการณเมตํ. ตสฺส ทานวิธิ ขนฺธเก อาคโต, วินิจฺฉยกถา ปน วิตฺถารโต สมนฺตปาสาทิกายํ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตา. อิตโร ปน สโมธานปริวาโส นาม, โส ติวิโธ โหติ โอธานสโมธาโน ¶ อคฺฆสโมธาโน มิสฺสกสโมธาโนติ. ตตฺถ โอธานสโมธาโน นาม อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา ¶ มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา ทาตพฺพปริวาโส วุจฺจติ. อคฺฆสโมธาโน นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฺปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฺปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ทาตพฺพปริวาโส วุจฺจติ. มิสฺสกสโมธาโน นาม นานาวตฺถุกาโย อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทาตพฺพปริวาโส ¶ วุจฺจติ, อยํ ติวิเธปิ สโมธานปริวาเส สงฺเขปกถา, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺโต, อิทํ ‘‘ปริวตฺถพฺพ’’นฺติ ปทสฺส วินิจฺฉยกถามุขํ.
อุตฺตริ ฉารตฺตนฺติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย. ภิกฺขุมานตฺตายาติ ภิกฺขูนํ มานภาวาย, อาราธนตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ วตฺติตพฺพํ. ภิกฺขุมานตฺตฺจ ปเนตํ ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ ยสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนาปตฺติ โหติ, ตสฺส ปริวาสํ อทตฺวา มานตฺตเมว ทาตพฺพํ, อิทํ อปฺปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ. ยสฺส ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ตสฺส ปริวาสปริโยสาเน ทาตพฺพํ มานตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตนฺติ วุจฺจติ, อิทํ อิธ อธิปฺเปตํ. อุภินฺนมฺปิ ปเนเตสํ ทานวิธิ วินิจฺฉยกถา จ สมนฺตปาสาทิกายํ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา, อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป. สเจ อยํ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย สมาทาตุํ คจฺฉติ, สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริวาเส วุตฺตปฺปการํ ปเทสํ คนฺตฺวา ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ สมาทิยิตฺวา เนสํ อาโรเจตฺวา ตโต เตสุ คเตสุ วา อคเตสุ วา ปุริมนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. ยตฺถ สิยา วีสติคโณติ เอตฺถ วีสติสงฺโฆ คโณ อสฺสาติ วีสติคโณ. ตตฺราติ ยตฺร สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺถิ, ตตฺถ. อพฺเภตพฺโพติ อภิเอตพฺโพ, สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ, อพฺภานกมฺมวเสน โอสาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. อวฺหาตพฺโพติ วา อตฺโถ. อพฺภานกมฺมํ ปน ปาฬิวเสน ขนฺธเก (จูฬว. ๑๐๐ อาทโย) วินิจฺฉยวเสน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตํ. อนพฺภิโตติ น อพฺภิโต อสมฺปฏิจฺฉิโต, อกตพฺภานกมฺโมติ วุตฺตํ โหติ. อนวฺหาโตติ วา อตฺโถ. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ เย อูนภาวํ ตฺวา ¶ อพฺเภนฺติ, เต ภิกฺขู จ ครหิตพฺพา, สาติสารา สโทสา ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อยํ ตตฺถ สามีจีติ อยํ ตตฺถ อนุธมฺมตา โลกุตฺตรธมฺมํ อนุคตา โอวาทานุสาสนี สามีจิ ธมฺมตา. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมวาติ.
กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
สงฺฆาทิเสสวณฺณนา นิฏฺิตา.