📜

นิสฺสคฺคิยกณฺโฑ

อิโต ปรํ ปน อิเม โข ปนาติอาทิ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑. จีวรวคฺโค

๑. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา

นิสฺสคฺคิเยสุ ปน จีวรวคฺคสฺส ตาว ปมสิกฺขาปเท นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ สูจิกมฺมปริโยสาเนน วา, ‘‘นฏฺํ วา วินฏฺํ วา ทฑฺฒํ วา จีวราสา วา อุปจฺฉินฺนา’’ติ (ปารา. ๔๖๓) อิเมสุ วา เยน เกนจิ อากาเรน นิฏฺิเต จีวรสฺมึ, จีวรสฺส กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนติ อตฺโถ. อตฺถตกถินสฺส หิ ภิกฺขุโน ยาว อิเมหากาเรหิ จีวรปลิโพโธ น ฉิชฺชติ, ตาว กถินานิสํสํ ลภติ. อุพฺภตสฺมึ กถิเนติ ยํ สงฺฆสฺส กถินํ อตฺถตํ, ตสฺมิฺจ อุพฺภเต. ตตฺเรวํ สงฺเขปโต กถินตฺถาโร จ อุพฺภาโร จ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ กถินตฺถาโร นาม ภควตา ปุริมวสฺสํวุฏฺานํ อนุฺาโต, โส สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ปฺจนฺนํ ชนานํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ยตฺถ จตฺตาโร วา ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา ปุริมวสฺสํ อุปคโต, ตตฺถ ปจฺฉิมวสฺสูปคเต คณปูรเก กตฺวา อตฺถริตพฺพํ, เต จ คณปูรกาว โหนฺติ, อานิสํเส น ลภนฺติ, ตสฺมา สเจ ปุริมวสฺสํวุฏฺานํ คหฏฺปพฺพชิเตสุ โย โกจิ ธมฺเมน สเมน จีวรํ เทติ ‘‘อิมินา กถินํ อตฺถรถา’’ติ (มหาว. ๓๐๖-๓๐๙), ตํ ขนฺธเก วุตฺตาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย กถินตฺถารารหสฺส ภิกฺขุโน ทาตพฺพํ. เตน ตทเหว ปฺจ วา อติเรกานิ วา ขณฺฑานิ ฉินฺทิตฺวา สงฺฆาฏิ วา อุตฺตราสงฺโค วา อนฺตรวาสโก วา กาตพฺโพ, เสสภิกฺขูหิปิ ตสฺส สหาเยหิ ภวิตพฺพํ, สเจ กตจีวรเมว อุปฺปชฺชติ, สุนฺทรเมว. อจฺฉินฺนาสิพฺพิตํ ปน น วฏฺฏติ. เตน ภิกฺขุนา สเจ สงฺฆาฏิยา อตฺถริตุกาโม โหติ, โปราณิกํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺหิตฺวา ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ อตฺถริตพฺพํ. อุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสเกสุปิ เอเสว นโย. ตโต เตน ปุริมวสฺสํวุฏฺเ อนฺโตสีมาคเต ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถา’’ติ (ปริ. ๔๑๓) วตฺตพฺพํ, เถรานฺจ นวานฺจ พหูนฺจ เอกสฺส จ อนุรูปํ สลฺลกฺเขตฺวา วตฺตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถิน’’นฺติ วา ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถิน’’นฺติ วา วตฺวา ‘‘ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ วา ‘‘อนุโมทามี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุริมวสฺสํวุฏฺเสุปิ เย อนุโมทนฺติ, เตสํเยว อตฺถตํ โหติ กถินํ. เต ตโต ปฏฺาย ยาว กถินสฺสุพฺภารา อนามนฺตจาโร, อสมาทานจาโร, ยาวทตฺถจีวรํ, คณโภชนํ, โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท, ตสฺมึ อาวาเส สงฺฆสฺส อุปฺปนฺนจีวรฺจาติ อิเม ปฺจานิสํเส ลภนฺติ, อยํ ตาว กถินตฺถาโร. ตํ ปเนตํ กถินํ ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺสุพฺภาราย ปกฺกมนนฺติกา นิฏฺานนฺติกา สนฺนิฏฺานนฺติกา นาสนนฺติกา สวนนฺติกา อาสาวจฺเฉทิกา สีมาติกฺกมนนฺติกา สหุพฺภารา’’ติ (มหาว. ๓๑๐) เอวํ วุตฺตาสุ อฏฺสุ มาติกาสุ อฺตรวเสน อุทฺธรียติ, ตตฺถ วิตฺถารวินิจฺฉโย สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๐) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อิติ ‘‘อุพฺภตสฺมึ กถิเน’’ติอิมินา เสสปลิโพธาภาวํ ทสฺเสติ.

ทสาหปรมนฺติ ทส อหานิ ปรโม ปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทสาหปรโม, ตํ ทสาหปรมํ กาลํ ธาเรตพฺพนฺติ อตฺโถ. อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา อติเรกํ จีวรนฺติ อติเรกจีวรํ, จีวรํ นาม โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺคนฺติ เอเตสํ วา ตทนุโลมานํ วา อฺตรํ อยมสฺส ชาติ, ปมาณโต ปน ตํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ อิธ อธิปฺเปตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายามโต อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘). ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา’’ติ, เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ, มุขปุฺฉนโจฬกํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ, ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) อิมินา นเยน อธิฏฺาตพฺพวิกปฺเปตพฺพตา ชานิตพฺพา. ตตฺถ ติจีวรํ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ, ตสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา ตาว อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ, ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ, อนฺตรวาสโก ทีฆโต มุฏฺิปฺจโก , ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกฺจ อูนกฺจ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานานิ กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺพา, วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ, ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺภาทีสุ สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค จ อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส. ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ ‘‘อิมํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อิทฺจ ปน ติจีวรํ สุขปริโภคตฺถํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ.

วสฺสิกสาฏิกา อนติริตฺตปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ, ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. นิสีทนํ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ เอกมฺปิ พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ, นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการมฺปิ วฏฺฏติ. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา, อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, สา เอกาว วฏฺฏติ. มุขปุฺฉนโจฬํ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน เอกมฺปิ พหูนิปิ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติเยว. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว, พหูนิปิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นเยน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติเยว. มฺจภิสิ ปีภิสิ พิพฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว. สพฺพฺจ ปเนตํ วุตฺตปฺปกาเรน อธิฏฺิตจีวรํ อฺสฺส ทาเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน, วิสฺสาสคฺคาเหน, หีนายาวตฺตเนน, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน, กาลงฺกิริยาย, ลิงฺคปริวตฺตเนน, ปจฺจุทฺธรเณนาติ อิเมหิ อฏฺหิ การเณหิ อธิฏฺานํ วิชหติ. ติจีวรํ ปน กนิฏฺงฺคุลินขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทนาปิ วิชหติ, ตฺจ โข วินิพฺเพเธเนว. สเจ หิ ฉิทฺทสฺส อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติเยว. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, อนฺตรวาสเกปิ ทีฆนฺตโต เอตเทว ปมาณํ, ติริยนฺเตน ปน จตุรงฺคุลตา เวทิตพฺพา. ติณฺณนฺนมฺปิ วุตฺโตกาสสฺส ปรโต น ภินฺทติ, ตสฺมา ฉิทฺเท ชาเต ติจีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. วสฺสิกสาฏิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ, กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฏฺานํ วิชหติ. ตสฺมา สา ตโต ปรํ วิกปฺเปตพฺพา. วิกปฺปนลกฺขณํ ปน สพฺพจีวรานํ วิกปฺปนสิกฺขาปเทเยว วณฺณยิสฺสาม. เกวลฺหิ อิมสฺมึ โอกาเส ยํ เอวํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตฺจ, ตํ ‘‘อติเรกจีวร’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ตํ ยถาวุตฺตชาติปฺปมาณํ จีวรํทสาหปรมํ กาลํ อติกฺกามยโต เอตฺถนฺตเร ยถา อติเรกจีวรํ น โหติ, ตถา อกฺรุพฺพโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตฺจ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ปาจิตฺติยํ อาปตฺติ จสฺส โหตีติ อตฺโถ. อถ วา นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺคิยํ, ปุพฺพภาเค กตฺตพฺพสฺส วินยกมฺมสฺเสตํ นามํ, นิสฺสคฺคิยมสฺส อตฺถีติ นิสฺสคฺคิยมิจฺเจว. กึ ตํ? ปาจิตฺติยํ. ตํ อติกฺกามยโต สห นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยวินยกมฺมํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตฺจ ปเนตํ จีวรํ ยํ ทิวสํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส โย อรุโณ, โส อุปฺปนฺนทิวสนิสฺสิโต, ตสฺมา จีวรุปฺปาททิวเสน สทฺธึ เอกาทเส อรุณุคฺคมเน ทสาหาติกฺกมิตํ โหติ, ตํ คเหตฺวา สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ตตฺรายํ นโย – สงฺฆสฺส ตาว เอวํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ทสหาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. สเจ ทฺเว โหนฺติ, ‘‘ทฺเว’’ติ วตฺตพฺพํ, สเจ ตทุตฺตริ, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตพฺพํ. นิสฺสชฺชเนปิ สเจ ทฺเว วา พหูนิ วา โหนฺติ, ‘‘อิมานิ เม, ภนฺเต, จีวรานิ ทสาหาติกฺกนฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ, อิมานาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ วตฺตพฺพํ, ปาฬึ วตฺตุํ อสกฺโกนฺเตน อฺถาปิ วตฺตพฺพํ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ (จูฬว. ๒๓๙), อิมินา ลกฺขเณน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ, ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ, ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ, ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ. ทฺวีสุ ปน สมฺพหุลาสุ วา ปุริมนเยเนว วจนเภโท กาตพฺโพ. เทสิตาย อาปตฺติยา ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ , สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๖๔) เอวํ นิสฺสฏฺจีวรํ ทาตพฺพํ, ทฺวีสุ พหูสุ วา วจนเภโท กาตพฺโพ.

คณสฺส ปน นิสฺสชฺชนฺเตน ‘‘อิมาห’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ อห’’นฺติ วา วตฺวา ‘‘อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามี’’ติ วตฺตพฺพํ, อาปตฺติปฺปฏิคฺคาหเกนาปิ ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ…เป… เทเสติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺล’’นฺติ วตฺตพฺพํ, จีวรทาเนปิ ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสฏฺํ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๖) วตฺตพฺพํ, เสสํ ปุริมสทิสเมว. ปุคฺคลสฺส ปน นิสฺสชฺชนฺเตน ‘‘อิมาห’’นฺติ วา ‘‘อิมานิ อห’’นฺติ วา วตฺวา ‘‘อายสฺมโต นิสฺสชฺชามี’’ติ วตฺตพฺพํ, นิสฺสชฺชิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’ติ เอวํ อาปตฺติ เทเสตพฺพา. สเจ ปน นวกตโร โหติ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺตพฺพํ, เตนาปิ ‘‘ปสฺสสี’’ติ วา ‘‘ปสฺสถา’’ติ วา วุตฺเต ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วา ‘‘อาม อาวุโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘ปสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ, ตโต ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ วา ‘‘สํวเรยฺยาถา’’ติ วา วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ สํวริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ เทสิตาย อาปตฺติยา ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ ทาตพฺพํ, ทฺวีสุ ตีสุ วา ปุพฺเพ วุตฺตานุสาเรเนว นโย เวทิตพฺโพ. ทฺวินฺนํ ปน ยถา คณสฺส, เอวํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ตโต อาปตฺติปฺปฏิคฺคหณฺจ นิสฺสฏฺจีวรทานฺจ เตสํ อฺตเรน ยถา เอเกน ปุคฺคเลน, ตถา กาตพฺพํ, อิทํ ปน สพฺพนิสฺสคฺคิเยสุ วิธานํ. จีวรํ ปตฺโต นิสีทนนฺติ วตฺถุมตฺตเมว หิ นานํ, ปรมฺมุขํ ปน วตฺถุ ‘‘เอต’’นฺติ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. สเจ พหูนิ โหนฺติ, ‘‘เอตานี’’ติ วตฺตพฺพํ. นิสฺสฏฺทาเนปิ เอเสว นโย. นิสฺสฏฺวตฺถุํ ‘‘ทินฺนมิทํ อิมินา มยฺห’’นฺติ สฺาย น ปฏิเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตสฺส สนฺตกภาวํ ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเปน ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.

เวสาลิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ อติเรกจีวรธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘ทสาหปรม’’นฺติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ, ตสฺมา นํ ปรโต น วกฺขาม. ทสาหํ อนติกฺกนฺเตปิ อติกฺกนฺตสฺิโน เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อติกฺกนฺเต อนติกฺกนฺตสฺิโนปิ เวมติกสฺสปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว, ตถา อนธิฏฺิตาวิกปฺปิตออสฺสชฺชิตอนฏฺาวินฏฺอทฑฺฒาวิลุตฺเตสุ อธิฏฺิตาทิสฺิโน. อนฺโตทสาหํ อธิฏฺิเต วิกปฺปิเต วิสฺสชฺชิเต นฏฺเ วินฏฺเ ทฑฺเฒ อจฺฉินฺเน วิสฺสาเสน คาหิเต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อาจารวิปตฺติ, ยถา จ อิทํ, เอวํ อิโต ปรานิปิ, อุภโตปาติโมกฺเขสุปิ หิ ปาราชิกานิ จ สงฺฆาทิเสสา จ สีลวิปตฺติ, เสสาปตฺติโย อาจารวิปตฺติ, อาชีววิปตฺติ วา ทิฏฺิวิปตฺติ วา กาจิ อาปตฺติ นาม นตฺถิ. อาชีววิปตฺติปจฺจยา ปน เปตฺวา ทุพฺภาสิตํ ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตา, ทิฏฺิวิปตฺติปจฺจยา ปาจิตฺติยทุกฺกฏวเสน ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ปฺตฺตาติ, อิทเมตฺถ ลกฺขณํ, อิติ วิปตฺติกถา อิเธว นิฏฺิตาติ, น นํ อิโต ปรํ วิจารยิสฺสาม. ชาติปฺปมาณสมฺปนฺนสฺส จีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา, คณนุปคตา, ฉินฺนปลิโพธภาโว, อติเรกจีวรตา, ทสาหาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. กถินสมุฏฺานํ, อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

กถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุติเย นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติเอตฺถ ปุริมสิกฺขาปเท วิย อตฺถํ อคฺคเหตฺวา นิฏฺิเต จีวรสฺมึ ภิกฺขุโนติ เอวํ สามิวเสน กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กรณวเสน หิ ภิกฺขุนา อิทํ นาม กมฺมํ กาตพฺพํ, ตํ นตฺถิ, สามิวเสน ปน ภิกฺขุโน จีวรสฺมึ นิฏฺิเต กถิเน จ อุพฺภเต เอวํ อิเมหิ จีวรนิฏฺานกถินุพฺภาเรหิ ฉินฺนปลิโพโธ เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยาติ เอวํ อตฺโถ ยุชฺชติ. ตตฺถ ติจีวเรนาติ ติจีวราธิฏฺานนเยน อธิฏฺิเตสุ สงฺฆาฏิอาทีสุ เยนเกนจิ. วิปฺปวเสยฺยาติ วิยุตฺโต วเสยฺย, ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๗) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตานํ คามนิคมนนิเวสนอุโทสิตอฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกรณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาสปฺปเภทานํ ปนฺนรสานํ นิกฺเขปฏฺานานํ ยตฺถกตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา เตสํ คามาทีนํ พหิ หตฺถปาสาติกฺกเมน อรุณํ อุฏฺาเปยฺยาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๓-๔๗๗-๘) วุตฺโต. อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยํ สงฺโฆ คิลานสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ เทติ, ตํ เปตฺวา อลทฺธสมฺมุติกสฺส ภิกฺขุโน เอกรตฺตมฺปิ วิปฺปวาสโต วุตฺตนเยเนว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํ, เกวลํ อิธ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ รตฺติวิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิย’’นฺติอาทินา นเยน วจนเภโท โหติ, อยํ ปน วิเสโส.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ สนฺตรุตฺตเรน ชนปทจาริกํ ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ

ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อวิปฺปวุตฺเถ วิปฺปวุตฺถสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. วิปฺปวุตฺเถ วิปฺปวุตฺถสฺิโนปิ อวิปฺปวุตฺถสฺิโนปิ เวมติกสฺสาปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตถา อปจฺจุทฺธฏอวิสฺสชฺชิตาทีสุ จ ปจฺจุทฺธฏวิสฺสชฺชิตาทิสฺิโน. อนฺโตอรุเณ ปจฺจุทฺธเฏ ปน ปมกถิเน วุตฺตวิสฺสชฺชิตาทิเภเท จ อนาปตฺติ, ตถา ลทฺธสมฺมุติกสฺส วิปฺปวาเส. อาพาเธ ปน วูปสนฺเต ปจฺจาคนฺตพฺพํ, ตตฺเถว วา ิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, อถาปิสฺส ปุน โส วา อฺโ วา อาพาโธ กุปฺปติ, ลทฺธกปฺปิยเมว. อธิฏฺิตจีวรตา , อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติกตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถิเน วุตฺตปฺปการาเนว. เกวลฺหิ ตตฺถ อนธิฏฺานํ อวิกปฺปนฺจ อกิริยา, อิธ อปฺปจฺจุทฺธรณํ, อยํ วิเสโสติ.

อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

ตติเย นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ สามิวเสเนว กรณตฺโถ เวทิตพฺโพ. อกาลจีวรํ นาม ยฺวายํ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ (ปารา. ๖๔๙) จีวรกาโล วุตฺโต, ตํ เปตฺวา อฺทา อุปฺปนฺนํ, ยฺจ กาเลปิ สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ อกาลจีวร’’นฺติ, ปุคฺคลสฺส วา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติอาทินา นเยน ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรํ นาม. อุปฺปชฺเชยฺยาติ เอวรูปํ จีวรํ อตฺตโน ภาคปฏิลาภวเสน สงฺฆโต วา สุตฺตนฺติกาทิคณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลํ วา อตฺตโน วา ธเนน (ปารา. ๕๐๐), อถ วา ปน ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา จีวรสฺส อุปฺปาทาย สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติกาย เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทตี’’ติ (มหาว. ๓๗๙) อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกานํ อฺตรโต อุปฺปชฺเชยฺย. เอตฺถ จ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ นาม, เอส นโย สพฺพตฺถ. เอตฺถ จ สีมาติ ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมาติ ปนฺนรสวิธา. ตตฺถ อุปจารสีมา นาม ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา. อปิ จ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต ‘‘อุปจารสีมา’’ติ เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเส วฑฺฒนฺเต วฑฺฒติ, หายนฺเต หายติ , โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ. ตตฺถ ทินฺนลาโภ สพฺเพสํ อนฺโตสีมคตานํ ปาปุณาติ, ภิกฺขุนีนํ อารามปเวสนเสนาสนาปุจฺฉนานิ ปริวาสมานตฺตาโรจนํ วสฺสจฺเฉทนิสฺสยเสนาสนคฺคาหาทิวิธานนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ อิมิสฺสาว สีมาย วเสน เวทิตพฺพํ. ลาภสีมาติ ยํ ราชราชมหามตฺตาทโย วิหารํ การาเปตฺวา คาวุตํ วา อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา, ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, ตํ สพฺพํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. กาสิโกสลาทีนํ ปน รฏฺานํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, ตตฺถ เอโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา, กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท รฏฺสีมา, เอกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ รชฺชสีมา, สมุทฺทนฺเตน ปริจฺฉินฺโน มหาทีโป วา อนฺตรทีโป วา ทีปสีมา, เอกจกฺกวาฬปพฺพตปริกฺเขปพฺภนฺตรํ จกฺกวาฬสีมา, เสสา นิทานกถายํ วุตฺตนยา เอว. ตตฺถ ‘‘ขณฺฑสีมาย เทมา’’ติ ทินฺนํ ขณฺฑสีมฏฺานํเยว ปาปุณาติ, ตโต พหิสีมาย สีมนฺตริกฏฺานมฺปิ น ปาปุณาติ. ‘‘อุปจารสีมาย เทมา’’ติ ทินฺนํ ปน อนฺโตปริจฺเฉเท ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ, สมานสํวาสสีมาย ทินฺนํ ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกฏฺานํ น ปาปุณาติ, อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสํ อนฺโตคธานํเยว ปาปุณาติ, คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมฏฺานมฺปิ ปาปุณาติ, อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคธานํเยว ปาปุณาติ, ชนปทสีมาทีสุ ทินฺนมฺปิ ตาสํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมฏฺานมฺปิ ปาปุณาติ, ตสฺมา ยํ ชมฺพุทีเป ตฺวา ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทียติ, ตํ ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ สงฺคณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเถว เอโก สภาโค ภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. โย ปน วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อสุกสีมายา’’ติ อวตฺวาว เกวลํ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วทติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สนฺธาย วทสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหเมตํ เภทํ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ คณฺหตู’’ติ, อุปจารสีมฏฺเหิ ภาเชตพฺพํ.

กติกายาติเอตฺถ กติกา นาม สมานลาภกติกา. สา ปน เอวํ กาตพฺพา, เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก อปฺปลาโภ’’ติ ยํ กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ, เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ, ตสฺมึ วิหาเรปิ เอวเมว กาตพฺพํ, เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ วิหาเร ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ภิกฺขาปฺตฺติยาติ เอตฺถ ภิกฺขาปฺตฺติ นาม ทายกสฺส ปริจฺจาคปฺตฺติฏฺานํ, ตสฺมา ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, ตตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา วุตฺเต ยตฺถ ตสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยโต วา ภิกฺขู นิจฺจํ โภเชติ, ยตฺถ วา เตน กิฺจิ เสนาสนํ กตํ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ. สเจ ปน เอกสฺมึ ธุวการฏฺาเน โถกตรา ภิกฺขู โหนฺติ, เอกเมว วา วตฺถํ โหติ, มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา โส วทติ, ตถา คเหตพฺพํ.

สงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ อุปจารสีมาคตานฺจ ตโต พหิทฺธาปิ เตหิ สทฺธึ เอกาพทฺธานฺจ ปาปุณาติ, ตสฺมา เตสํ คาหเก สติ อสมฺปตฺตานมฺปิ ภาโค ทาตพฺโพ. ยํ ปน พหิ อุปจารสีมาย ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ ทียติ, ตํ เอกาพทฺธปริสาย ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาติ.

อุภโตสงฺฆสฺสาติ เอตฺถ ปน ยํ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนํ, ตโต อุปฑฺฒํ ภิกฺขูนํ, อุปฑฺฒํ ภิกฺขุนีนํ ทาตพฺพํ. สเจปิ เอโก ภิกฺขุ โหติ, เอกา วา ภิกฺขุนี, อนฺตมโส อนุปสมฺปนฺนสฺสาปิ อุปฑฺฒเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน สเจ ทส ภิกฺขู จ ทส ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ, เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ, กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา, ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโม เอโก โกฏฺาโส โหติ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจา’’ติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณโกฏฺาสโต เอกเมว ลภติ . ‘‘เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส เอโก ปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจา’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ, เตหิ สทฺธึ ปุคฺคลเจติยปรามสนํ อนนฺตรนยสทิสเมว, ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ. ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ , เจติยสฺส ปน ลพฺภติ. ‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ, เจติยสฺส ปน ลพฺภติเยว.

วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺสาติ เอตฺถ สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, เย ตตฺถ วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺา, เตสํ พหิ สีมฏฺานมฺปิ ปาปุณาติ, น อฺเสํ. สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุฏฺสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ยตฺถกตฺถจิ วุฏฺวสฺสานํ สพฺเพสํ สมฺปตฺตานํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุฏฺสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺถ วสฺสํวุฏฺานํเยว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ, น อฺเสํ.

อาทิสฺส เทตีติ อาทิสิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทติ, กถํ? ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เต ฆเร ยาคุํ ปาเยตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณาติ, ภตฺตขชฺชกาทีหิ นิมนฺติเตสุปิ เอเสว นโย.

ปุคฺคลสฺส เทตีติ ‘‘อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา, ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหาก’’นฺติ เอวํ สมฺมุขา วา เทตีติ อยเมตฺถ สงฺเขปกถา, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต. อิติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกาปทานํ วเสน ยํ อกาลจีวรลกฺขเณน ปฏิลทฺธํ, ตํ สนฺธาย ‘‘อกาลจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ วุตฺตํ.

อากงฺขมาเนนาติ อิจฺฉมาเนน. ขิปฺปเมว กาเรตพฺพนฺติ สีฆํ อนฺโตทสาเหเยว กาเรตพฺพํ. โน จสฺส ปาริปูรีติ โน เจ ปาริปูรี ภเวยฺย, ยตฺตเกน กริยมานํ อธิฏฺานจีวรํ ปโหติ, ตํ จีวรํ ตตฺตกํ น ภเวยฺย, อูนกํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. สติยา ปจฺจาสายาติ ‘‘อสุกทิวสํ นาม สงฺโฆ จีวรานิ ลภิสฺสติ, ตโต เม จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติอิมินา นเยน สงฺฆคณาติมิตฺเตสุ วา อฺตรฏฺานโต, ‘‘ปํสุกูลํ วา ลจฺฉามี’’ติ, ‘‘อิมินา วา กปฺปิยภณฺเฑน จีวรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ วิชฺชมานาย จีวราสาย. ตโต เจ อุตฺตรีติ มาสปรมโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย, นิสฺสคฺคิยนฺติ อตฺโถ. ยทิ ปนสฺส มูลจีวรํ สณฺหํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ ถูลํ โหติ, น สกฺกา โยเชตุํ, รตฺติโย จ เสสา โหนฺติ, น ตาว มาโส ปูรติ, น อกามา จีวรํ กาเรตพฺพํ, อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวา เอว กาลพฺภนฺตเร กาเรตพฺพํ. สเจ น ลภติ, ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มูลจีวรํ ถูลํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ สณฺหํ, มูลจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปจฺจาสาจีวรเมว มูลจีวรํ กตฺวา เปตพฺพํ, ตํ ปุน มาสปริหารํ ลภติ, เอเตนุปาเยน ยาว น ลจฺฉติ, ตาว อฺํ มูลจีวรํ กตฺวา เปตุํ ลพฺภติ. อิมสฺส ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, อกาลจีวรํ มาสาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อกาลจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา มาสํ อติกฺกมนวตฺถุสฺมึ

ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อิโต ปรํ สพฺพํ ปมกถิเน วุตฺตสทิสเมว. เกวลฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโส. เสสํ ตาทิสเมวาติ.

อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุตฺเถ อฺาติกายาติ น าติกาย, มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมํ ยุคํ, ตาว เกนจิ อากาเรน อสมฺพทฺธายาติ อตฺโถ. ภิกฺขุนิยาติ สากิยานิโย วิย สุทฺธภิกฺขุสงฺเฆ วา อุภโตสงฺเฆ วา อุปสมฺปนฺนาย. ปุราณจีวรนฺติ รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา, ยํ อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมว. โธวาเปยฺย วาติ สเจ ‘‘โธวา’’ติวาจาย วทติ, กายวิการํ วา กโรติ, หตฺเถน วา หตฺเถ เทติ, ปาทมูเล วา เปติ, อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา อุปริ วา ขิปติ, อฺสฺส วา หตฺเถ เปเสติ, ตาย โธตํ, โธวาปิตเมว โหติ, รชาปนาโกฏาปเนสุปิ เอเสว นโย. สิกฺขมานาย วา สามเณริยา วา อุปาสิกาย วา หตฺเถ โธวนตฺถาย เทติ, สา สเจ อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, เอวมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อุปาสกสฺส วา สามเณรสฺส วา หตฺเถ ทินฺนํ โหติ, โส เจ ลิงฺเค ปริวตฺเต อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, ทหรสฺส ภิกฺขุสฺส วา ทินฺนํ โหติ, โสปิ ลิงฺเค ปริวตฺเต โธวติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว, รชาปนาโกฏาปเนสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ปุราณจีวรํ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา โธวาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๐๕) อิมินา ปเนตฺถ นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ ปุราณจีวรโธวาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ ‘‘โธวา’’ติอาทิกาย อาณตฺติยา, เอวํ อาณตฺตาย จ ภิกฺขุนิยา อุทฺธนสชฺชนาทีสุ สพฺพปฺปโยเคสุ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. โธวิตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺตํ ปน รตฺตมตฺตํ อาโกฏิตมตฺตฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, โธวนาทีนิ ตีณิปิ ทฺเว วา การาเปนฺตสฺส เอเกน วตฺถุนา นิสฺสคฺคิยํ, อิตเรหิ ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ‘‘โธวา’’ติ วุตฺตา สพฺพานิปิ กโรติ, โธวนปจฺจยาว อาปตฺติ. ‘‘อิมสฺมึ จีวเร ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ กโรหี’’ติ วทโต ปน เอกวาจาย ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทฺเว ทุกฺกฏานิ, ภิกฺขุนิสงฺฆวเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนาย โธวาเปนฺตสฺส อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส, อฺสฺส วา สนฺตกํ นิสีทนปจฺจตฺถรณํ วา โธวาเปนฺตสฺส, าติกาย อฺาติกสฺิโน เจว, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ, อฺาติกาย าติกสฺิโนปิ เวมติกสฺสาปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว. อิโต ปรํ ปน เอวรูเปสุ าเนสุ ‘‘ติกปาจิตฺติย’’นฺติ วกฺขาม, สเจ าติกาย สหายา อฺาติกา ‘‘โธวา’’ติ อวุตฺตา วา โธวติ, อปริภุตฺตํ วา อฺํ วา ปริกฺขารํ โธวติ, สิกฺขมานสามเณริโย วา โธวนฺติ, อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกาทีนํ อนาปตฺติเยว. ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ตฺวา อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สฺจริตฺตสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา

ปฺจเม อฺาติกายาติอิทํ วุตฺตนยเมว, ตสฺมา อิโต ปรํ กตฺถจิ น วิจารยิสฺสาม. จีวรนฺติ ฉนฺนํ อฺตรํ วิกปฺปนุปคํ, เอส นโย สพฺเพสุ จีวรปฺปฏิสํยุตฺตสิกฺขาปเทสุ. ยตฺถ ปน วิเสโส ภวิสฺสติ, ตตฺถ วกฺขาม. ปฏิคฺคณฺเหยฺยาติเอตฺถ หตฺเถน วา หตฺเถ เทตุ, ปาทมูเล วา เปตุ, ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส วตฺเถสุ ขิปิยมาเนสุ อุปจารํ มุฺจิตฺวาปิ อุปริ วา ขิปตุ, สเจ สาทิยติ, ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ยสฺส กสฺสจิ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ เปสิตํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหิสฺสตี’’ติ สงฺการกูฏาทีสุ ปิตมฺปิ ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติเยว. อฺตฺร ปาริวตฺตกาติ ยํ ‘‘อนฺตมโส หรีฏกกฺขณฺฑมฺปิ ทตฺวา วา ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปาริวตฺตกํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส วิกปฺปนุปคํ ปฏปริสฺสาวนมฺปิ คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตตฺร ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต ปฏิคฺคหิตํ อฺตฺร ปาริวตฺตกา นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๑๒) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

ราชคเห อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ จีวรปฺปฏิคฺคหณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ปาริวตฺตกา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, คหณตฺถาย หตฺถปฺปสารณาทิปฺปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ติกปาจิตฺติยํ, เอกโตอุปสมฺปนฺนาย าติกาย จ อฺาติกสฺิสฺส เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. วิสฺสาสคฺคาเห, ตาวกาลิเก, ปตฺตตฺถวิกาทิมฺหิ จ อนธิฏฺาตพฺพปริกฺขาเร, สิกฺขมานสามเณรีนํ หตฺถโต คหเณ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อฺาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สฺจริตฺตสมุฏฺานํ, กิริยากิริยํ, เสสํ จตุตฺถสทิสเมวาติ.

จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉฏฺเ คหปตินฺติ ภิกฺขูสุ อปพฺพชิตมนุสฺสํ. คหปตานินฺติ ภิกฺขุนีสุ อปพฺพชิติตฺถึ, เอส นโย สพฺเพสุ คหปติปฺปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ. วิฺาเปยฺยาติ ยาเจยฺย วา ยาจาเปยฺย วา. อฺตฺร สมยาติ โย อจฺฉินฺนจีวโร วา โหติ นฏฺจีวโร วา, ตสฺส ตํ สมยํ เปตฺวา อฺสฺมึ วิฺาปนปฺปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาตกํ คหปติกํ อฺตฺร สมยา วิฺาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ จีวรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ. ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, าตเก อฺาตกสฺิโน เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. สมเย วา าตกปฺปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺส, อฺสฺส วา าตกปฺปวาริเต ตสฺเสวตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน คณฺหนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วิกปฺปนุปคจีวรตา, สมยาภาโว, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ จตุตฺถสทิสาเนวาติ.

อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา

สตฺตเม ตฺเจติ ตํ อจฺฉินฺนจีวรํ วา นฏฺจีวรํ วา. อภิหฏฺุนฺติ อภีติ อุปสคฺโค, หริตุนฺติ อตฺโถ, คณฺหิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปวาเรยฺยาติ อิจฺฉาเปยฺย, อิจฺฉํ รุจึ อุปฺปาเทยฺย, ‘‘ยาวตฺตกํ อิจฺฉสิ, ตาวตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ เอวํ นิมนฺเตยฺยาติ อตฺโถ, ยถา วา ‘‘เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต’’ติ (สุ. นิ. ๔๒๖, ๑๑๐๔; จูฬนิ. ชตุกณฺณีมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๗) เอตฺถ ทิสฺวาติ อตฺโถ, เอวมิธาปิ ‘‘อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยา’’ติ อุปเนตฺวา ปุรโต เปนฺโต กาเยน วา, ‘‘อมฺหากํ ทุสฺสโกฏฺาคารโต ยตฺตกํ อิจฺฉถ, ตตฺตกํ คณฺหถา’’ติ วทนฺโต วาจาย วา อภิหริตฺวา นิมนฺเตยฺยาติ อตฺโถ. สนฺตรุตฺตรปรมนฺติ สอนฺตรํ อุตฺตรํ ปรมํ อสฺส จีวรสฺสาติ สนฺตรุตฺตรปรมํ, นิวาสเนน สทฺธึ ปารุปนํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต จีวรํ สาทิตพฺพนฺติ ตโต อภิหฏจีวรโต เอตฺตกํ จีวรํ คเหตพฺพํ, น ตโต ปรํ.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺส อธิฏฺิตจีวรสฺส ตีณิ นฏฺานิ, เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อฺํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิตพฺพํ. ยสฺส ทฺเว นฏฺานิ, เตน เอกํ สาทิตพฺพํ. สเจ ปน ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอวํ เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสติ. ยสฺส ตีสุ เอกํ นฏฺํ, กิฺจิ น สาทิตพฺพํ. ยสฺส ปน ทฺวีสุ เอกํ นฏฺํ, เอกํ สาทิตพฺพํ. ยสฺส เอกํเยว โหติ, ตฺจ นฏฺํ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ, จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ น กิฺจิ สาทิตพฺพํ, โก ปน วาโท ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา. เยน เกนจิ หิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ วิฺาปนปฺปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อฺาตกํ คหปติกํ ตตุตฺตริ วิฺาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ พหุจีวรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, าตเก อฺาตกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. ทฺเว จีวรานิ กตฺวา ‘‘เสสกํ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา คณฺหนฺตสฺส, ‘‘เสสกํ ตุยฺหํเยว โหตู’’ติ วุตฺตสฺส, น อจฺฉินฺนนฏฺการณา ทินฺนํ คณฺหนฺตสฺส, วุตฺตนเยน าตกปฺปวาริเต วิฺาเปนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน คณฺหนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ตตุตฺตริตา , อจฺฉินฺนาทิการณตา , อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ จตุตฺถสทิสาเนวาติ.

ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

อฏฺเม ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺสาติ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ เอวํ อปทิสิตฺวา. จีวรเจตาปนฺนนฺติ หิรฺาทิกํ จีวรมูลํ. อุปกฺขฏํ โหตีติ สชฺชิตํ โหติ, สํหริตฺวา ปิตํ. เจตาเปตฺวาติ ปริวตฺเตตฺวา, กาเรตฺวา วา กิณิตฺวา วาติ อตฺโถ. จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามีติ โวหารวจนเมตํ, อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามีติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. ตตฺร เจ โสติ ยตฺร โส คหปติ วา คหปตานี วา, ตตฺร โส ภิกฺขุ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺย เจติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺโธ. วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ วิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย. ยถา ปน ตมาปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ สาธุ วตาติอาทิมาห. ตตฺถ สาธูติ อายาจเน นิปาโต. วตาติ ปริวิตกฺเก. นฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. อายสฺมาติ ปรํ อาลปติ. เอวรูปํ วา เอวรูปํ วาติ อายตาทีสุ อฺตรํ. กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทายาติ สุนฺทรกามตํ วิสิฏฺกามตํ จิตฺเตน คเหตฺวา, ตสฺส ‘‘อาปชฺเชยฺย เจ’’ติอิมินา สมฺพนฺโธ, สเจ ปน เอวรูปํ อาปชฺชนฺตสฺส ตสฺส วจเนน โย ปมํ อธิปฺเปตโต มูลํ วฑฺเฒตฺวา สุนฺทรตรํ เจตาเปติ, ตสฺส ปโยเค ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. ตตฺถ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริตํ อฺาตกํ คหปติกํ อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๙) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, าตเก อฺาตกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. มหคฺฆํ เจตาเปตุกามํ อปฺปคฺฆํ วา, เอเตเนว มูเลน ‘‘อฺํ เอวรูปํ วา เทหี’’ติ วทนฺตสฺส, วุตฺตนเยน าตกปฺปวาริเต วิฺาเปนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน คณฺหนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. จีวเร ภิยฺโยกมฺยตา, อฺาตกวิฺตฺติ, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ จตุตฺถสทิสาเนวาติ.

อุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา

นวเม อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ ปุริมสฺส อนุปฺตฺติสทิสํ, เกวลํ ตตฺถ เอกสฺส ปีฬา กตา, อิธ ทฺวินฺนํ, อยเมตฺถ วิเสโส, เสสํ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว. ยถา จ ทฺวินฺนํ, เอวํ พหูนํ ปีฬํ กตฺวา คณฺหโตปิ อาปตฺติ เวทิตพฺพา. นิสฺสชฺชนวิธาเน จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต , จีวรํ ปุพฺเพ อปฺปวาริเต อฺาตเก คหปติเก อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปํ อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๓๔) อิมินา นเยน วจนเภโท าตพฺโพติ.

ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา

ทสเม ราชโภคฺโคติ ราชโต โภคฺคํ ภุฺชิตพฺพํ อสฺส อตฺถีติ ราชโภคฺโค, ‘‘ราชโภโค’’ติปิ ปาโ, ราชโต โภโค อสฺส อตฺถีติ อตฺโถ. จีวรเจตาปนฺนนฺติ หิรฺาทิกํ อกปฺปิยํ. ปหิเณยฺยาติ เปเสยฺย. อิมินาติอาทิ อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สเจ หิ ‘‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เปเสยฺย, อาคมนสฺส อสุทฺธตฺตา อกปฺปิยวตฺถุํ อารพฺภ ภิกฺขุนา กปฺปิยการโกปิ นิทฺทิสิตพฺโพ น ภเวยฺย. อาภตนฺติ อานีตํ. น โข มยนฺติอาทิ อิทํ กปฺปิยวเสน อาภตมฺปิ จีวรมูลํ อีทิเสน ทูตวจเนน อกปฺปิยํ โหติ, ตสฺมา ตํ ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สุวณฺณํ รชตํ กหาปโณ มาสโกติ อิมานิ หิ จตฺตาริ นิสฺสคฺคิยวตฺถูนิ, มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ สตฺต ธฺานิ ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิมานิ ทุกฺกฏวตฺถูนิ จ อตฺตโน วา เจติยสงฺฆคณปุคฺคลานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา ตํ สาทิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น โข มย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ อิทํ ปน อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อาภตตฺตา วตฺตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา วุตฺตํ. กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน, ยทา โน อตฺโถ โหติ, ตทา กปฺปิยํ จีวรํ ปฏิคฺคณฺหามาติ อตฺโถ. เวยฺยาวจฺจกโรติ กปฺปิยการโก. นิทฺทิสิตพฺโพติอิทํ ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ กปฺปิยวจเนน วุตฺตตฺตา อนุฺาตํ. สเจ ปน ทูโต ‘‘โก อิมํ คณฺหาตี’’ติ วา ‘‘กสฺส เทมี’’ติ วา วทติ, น นิทฺทิสิตพฺโพ. อารามิโก วา อุปาสโก วาติอิทํ สารุปฺปตาย วุตฺตํ, เปตฺวา ปน ปฺจ สหธมฺมิเก โย โกจิ กปฺปิยการโก วฏฺฏติ. เอโส โข, อาวุโสติอิทํ ภิกฺขุสฺส กปฺปิยวจนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เอวเมว หิ วตฺตพฺพํ, ‘‘เอตสฺส เทหี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพํ. สฺตฺโต โส มยาติ อาณตฺโต โส มยา, ยถา ตุมฺหากํ จีวเรน อตฺเถ สติ จีวรํ ทสฺสติ, เอวํ วุตฺโตติ อตฺโถ. ทูเตน หิ เอวํ อาโรจิเตเยว ตํ โจเทตุํ วฏฺฏติ, เนว ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา คตมตฺตการเณน. สเจ ปน ‘‘อยํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ สมฺมุขา นิทฺทิฏฺโ โหติ, ทูโต จ สมฺมุขา เอว ตสฺส หตฺเถ เจตาปนฺนํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, เอวํ ‘‘สฺตฺโต โส มยา’’ติ อวุตฺเตปิ โจเทตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน ทูโต คจฺฉนฺโตว ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ ภิกฺขุโน วตฺวา วา คจฺฉติ, อฺํ วา เปเสตฺวา อาโรจาเปติ, เอวํ สติ อิตรมฺปิ โจเทตุํ วฏฺฏติเยว. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘‘ทูเตนา’’ติ. โยปิ อตฺตนา อาหริตฺวา เอวํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺมิมฺปิ อิทเมว ลกฺขณํ. อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนาติ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนเมตํ. สเจ หิ วาจาย โจเทติ, อิทํ วา วจนํ ยาย กายจิ ภาสาย เอตสฺส อตฺโถ วา วตฺตพฺโพ, ‘‘เทหิ เม, อาหร เม’’ติอาทินา นเยน ปน วตฺตุํ น วฏฺฏติ. อภินิปฺผาเทยฺยาติ เอวํ วจีเภทํ กตฺวา ติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน ปฏิลาภวเสน สาเธยฺย. อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอตํ สุนฺทรํ.

ฉกฺขตฺตุปรมนฺติ ภาวนปุํสกวจนเมตํ. ฉกฺขตฺตุปรมฺหิ เตน จีวรํ อุทฺทิสฺส ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, น นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ. ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘ชานาหิ, อาวุโส’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ. สเจ นิสชฺชาทีนิ กโรติ, านํ ภฺชติ, อาคตการณํ วินาเสติ, อิทํ กาเยน โจทนาย ลกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ติสฺสนฺนํ โจทนานํ ฉนฺนฺจ านานํ อนุฺาตตฺตา โจทนาย ทิคุณํ านํ อนุฺาตํ โหติ, ตสฺมา สเจ โจเทติเยว, น ติฏฺติ, ฉ โจทนาโย ลพฺภนฺติ. สเจ ติฏฺติเยว, น โจเทติ, ทฺวาทส านานิ ลพฺภนฺติ. สเจ อุภยํ กโรติ, เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ หาเปตพฺพานิ. ตตฺถ โย เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ ฉกฺขตฺตุํ วทติ, ตถา เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ติฏฺติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺติ, โสปิ สพฺพโจทนาโย สพฺพฏฺานานิ จ ภฺชติ, โก ปน วาโท นานาทิวเสสุ เอวํ กโรนฺตสฺสาติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เย ปน กปฺปิยการเก ทายโก สยเมว คนฺตฺวา นิสีทติ เต สตกฺขตฺตุมฺปิ โจเทตุํ วฏฺฏติ. โย ปน อุโภหิ ปิ อนิทฺทิฏฺโ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก จ ปรมฺมุขกปฺปิยการโก จ, โส น กิฺจิ วตฺตพฺโพ, เอวํ อิธ ทสปิ กปฺปิยการกา ทสฺสิตา โหนฺติ.

ตโตเจ อุตฺตรีติ วุตฺตโจทนาานปริมาณโต อุตฺตริ. นิสฺสคฺคิยนฺติ อุตฺตริ วายามมานสฺส สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวรํ อติเรกติกฺขตฺตุํ โจทนาย อติเรกฉกฺขตฺตุํ าเนน อภินิปฺผาทิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ. ยตสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตนฺติ ยโต ราชโต วา ราชโภคฺคโต วา อสฺส ภิกฺขุโน จีวรเจตาปนฺนํ อานีตํ, ‘‘ยตฺวสฺสา’’ติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ. ตตฺถาติ ตสฺส รฺโ วา ราชโภคฺคสฺส วา สนฺติกํ, สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมวจนํ. น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภตีติ ตํ เจตาปนฺนํ ตสฺส ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตกมฺปิ กมฺมํ น นิปฺผาเทติ. ยุฺชนฺตายสฺมนฺโต สกนฺติ อายสฺมนฺโต อตฺตโน สนฺตกํ ธนํ ปาปุณนฺตุ. มา โว สกํวินสฺสาติ ตุมฺหากํ สนฺตกํ มา วินสฺสตุ. อยํ ตตฺถ สามีจีติ อยํ ตตฺถ อนุธมฺมตา โลกุตฺตรธมฺมํ อนุคตา, วตฺตธมฺมตาติ อตฺโถ, ตสฺมา เอวํ อกโรนฺโต วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ ‘‘อชฺชุณฺโห, ภนฺเต, อาคเมหี’’ติ (ปารา. ๕๓๗) วุจฺจมาโน นาคเมสิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนเกสุ โจทนาาเนสุ อติเรกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อโจทนาย ลทฺเธ, สามิเกหิ โจเทตฺวา ทินฺเน, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. กปฺปิยการกสฺส ภิกฺขุโน นิทฺทิฏฺภาโว, ทูเตน อปฺปิตตา, ตตุตฺตริวายาโม, เตน วายาเมน ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ จตุตฺถสทิสาเนวาติ.

ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

จีวรวคฺโค ปโม.

๒. เอฬกโลมวคฺโค

๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา

เอฬกโลมวคฺคสฺส ปเม โกสิยมิสฺสกนฺติ เอเกนาปิ โกสิยํสุนา อนฺตมโส ตสฺส กรณฏฺาเน วาตเวเคน นิปาติเตนาปิ มิสฺสีกตํ. สนฺถตนฺติ สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิยาทีหิ สิฺจิตฺวา กตฺตพฺพตาลกฺขณํ. การาเปยฺย นิสฺสคฺคิยนฺติ กรณการาปนปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอตฺถ จ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, โกสิยมิสฺสกํ สนฺถตํ การาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๔๔) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํ, อิมสฺเสว วจนสฺส อนุสาเรน อิโต ปรํ สพฺพสนฺถตํ เวทิตพฺพํ. สกฺกา หิ เอตฺตาวตา ชานิตุนฺติ น ตํ อิโต ปรํ ทสฺสยิสฺสาม.

อาฬวิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ โกสิยมิสฺสกํ สนฺถตํ การาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อตฺตโน อตฺถาย การาปนวเสน สาณตฺติกํ, อตฺตนา วิปฺปกตปอโยสาปนนเยน จตุกฺกปาจิตฺติยํ, อฺสฺสตฺถาย กรณการาปเนสุ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชเน จ ทุกฺกฏํ. วิตานาทิกรเณ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. โกสิยมิสฺสกภาโว, อตฺตโน อตฺถาย สนฺถตสฺส กรณการาปนํ, ปฏิลาโภ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ โธวาปนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนวาติ.

โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุติเย สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ อฺเหิ อมิสฺสีกตานํ. เวสาลิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ตาทิสํ สนฺถตํ กรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสํ ปมสทิสเมวาติ.

สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา

ตติเย ทฺเว ภาคาติ ทฺเว โกฏฺาสา. อาทาตพฺพาติ คเหตพฺพา. โคจริยานนฺติ กปิลวณฺณานํ. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – ยตฺตเกหิ กตฺตุกาโม โหติ, เตสุ ตุลยิตฺวา ทฺเว โกฏฺาสา กาฬกานํ คเหตพฺพา, เอโก โอทาตานํ, เอโก โคจริยานํ. เอกสฺสาปิ กาฬกโลมสฺส อติเรกภาเว นิสฺสคฺคิยํ โหติ, อูนกํ วฏฺฏติ.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ตาทิสํ สนฺถตํ กรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, กิริยากิริยํ, เสสํ ปมสทิสเมวาติ. อิมานิ ปน ตีณิ นิสฺสชฺชิตฺวา ปฏิลทฺธานิปิ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏนฺติ.

ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุตฺเถ โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานนฺติ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอริมภาเค, อนฺโตติ อตฺโถ. อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยํ สงฺโฆ คิลานสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุตึ เทติ, ตํ เปตฺวา อลทฺธสมฺมุติกสฺส ฉพฺพสฺสพฺภนฺตเร อฺํ สนฺถตํ กโรนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สา เยน ลทฺธา โหติ, ตสฺส ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, วูปสนฺโต วา ปุน กุปฺปติ, ตาว คตคตฏฺาเน อนุวสฺสมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ, อฺสฺสตฺถาย กาเรตุํ, กตฺจ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, เสสํ ปมสทิสเมวาติ.

ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา

ปฺจเม ปุราณสนฺถตํ นาม ยตฺถ สกิมฺปิ นิสินฺโน วา โหติ นิปนฺโน วา. สมนฺตาติ เอกปสฺสโต วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา คหิตฏฺานํ ยถา วิทตฺถิมตฺตํ โหติ, เอวํ คเหตพฺพํ. สนฺถรนฺเตน ปน เอกเทเส วา สนฺถริตพฺพํ, วิชเฏตฺวา วา มิสฺสกํ กตฺวา สนฺถริตพฺพํ, เอวํ ถิรตรํ โหติ. อนาทา เจติ สติ ปุราณสนฺถเต อคฺคเหตฺวา. อสติ ปน อคฺคเหตฺวาปิ วฏฺฏติ, อฺสฺสตฺถาย กาเรตุํ, กตฺจ ปฏิลภิตฺวา ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ สนฺถตวิสฺสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสํ ตติยสทิสเมวาติ.

นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉฏฺเ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาติ อทฺธานสงฺขาตํ ทีฆมคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส, สพฺพฺเจตํ วตฺถุมตฺตทีปนเมว, ยตฺถ กตฺถจิ ปน ธมฺเมน ลภิตฺวา คณฺหโต โทโส นตฺถิ. ติโยชนปรมนฺติ คหิตฏฺานโต ติโยชนปฺปมาณํ เทสํ. สหตฺถาติ สหตฺเถน, อตฺตนา หริตพฺพานีติ อตฺโถ. อสนฺเต หารเกติ อสนฺเตเยว อฺสฺมิมฺปิ หารเก. สเจ ปน อตฺถิ, ตํ คาเหตุํ วฏฺฏติ. อตฺตนา ปน อนฺตมโส วาตาพาธปฺปฏิการตฺถํ สุตฺตเกน อพนฺธิตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเท ปกฺขิตฺตานิปิ อาทาย ติโยชนํ เอกํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.

สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ ติโยชนาติกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกติโยชเน อติเรกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. ติโยชนํ หรณปจฺจาหรเณ, วาสาธิปฺปาเยน คนฺตฺวา ตโต ปรํ หรเณ, อจฺฉินฺนํ วา นิสฺสฏฺํ วา ปฏิลภิตฺวา หรเณ, อฺํ หราปเน, อนฺตมโส สุตฺตเกนปิ พทฺธกตภณฺฑหรเณ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. เอฬกโลมานํ อกตภณฺฑตา, ปมปฺปฏิลาโภ, อตฺตนา อาทาย วา อฺสฺส อชานนฺตสฺส ยาเน ปกฺขิปิตฺวา วา ติโยชนาติกฺกมนํ, อาหรณปจฺจาหรณํ, อวาสาธิปฺปายตาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. เอฬกโลมสมุฏฺานํ , กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา

สตฺตเม สกฺเกสุ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ เอฬกโลมโธวาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ. ตตฺถ ปุราณจีวรโธวาปเน วุตฺตนเยเนว สพฺโพปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ชาตรูปสิกฺขาปทวณฺณนา

อฏฺเม ชาตรูปรชตนฺติ สุวณฺณฺเจว รูปิยฺจ, อปิจ กหาปโณ โลหมาสกทารุมาสกชตุมาสกาทโยปิ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ, สพฺเพ เต อิธ รชตนฺตฺเวว วุตฺตา. อุคฺคณฺเหยฺย วาติ อตฺตโน อตฺถาย ทิยฺยมานํ วา ยตฺถกตฺถจิ ิตํ วา นิปฺปริคฺคหิตํ ทิสฺวา สยํ คณฺเหยฺย วา. อุคฺคณฺหาเปยฺย วาติ ตเทว อฺเน คาหาเปยฺย วา. อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺยาติ ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา, ‘‘อสุกสฺมึ นาม าเน มม หิรฺสุวณฺณํ, ตํ ตุยฺหํ โหตู’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา ิตํ วา เกวลํ วาจาย วา หตฺถมุทฺทาย วา ‘‘ตุยฺห’’นฺติ วตฺวา ปริจฺจตฺตํ โย กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสยฺย, อยํ ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ วุจฺจติ. สเจ ปน จิตฺเตน สาทิยติ, คณฺหิตุกาโม โหติ, กาเยน วา วาจาย วา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’’ติ น สาทิยติ, วฏฺฏติ. นิสฺสคฺคิยนฺติ อุคฺคหณาทีสุ ยํกิฺจิ กโรนฺตสฺส อฆนพทฺเธสุ วตฺถูสุ วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ตํ นิสฺสชฺชนฺเตน ‘‘อหํ, ภนฺเต, รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม, ภนฺเต, นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ (ปารา. ๕๘๔) เอวํ สงฺฆมชฺเฌเยว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ โกจิ คหฏฺโ อาคจฺฉติ , ‘‘อิทํ ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘อิมินา กึ อาหริยฺยตู’’ติ ภณนฺเต ปน ‘‘อิทํ นามา’’ติ อวตฺวา ‘‘สปฺปิอาทีนิ ภิกฺขูนํ กปฺปนฺตี’’ติ เอวํ กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ โส อาหรติ, รูปิยปฺปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. รูปิยปฺปฏิคฺคาหกสฺส ปน ยํ ตปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนํ, ตํ อฺเน ลภิตฺวา ทิยฺยมานมฺปิ อนฺตมโส ตโต นิพฺพตฺตรุกฺขจฺฉายาปิ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน โส กิฺจิ อาหริตุํ น อิจฺฉติ, ‘‘อิมํ ฉฏฺเฏหี’’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปติ, คเหตฺวา วา คจฺฉติ, น วาเรตพฺโพ. โน เจ ฉฏฺเฏติ, ปฺจงฺคสมนฺนาคโต ภิกฺขุ รูปิยฉฏฺฏโก สมฺมนฺนิตพฺโพ. เตน อนิมิตฺตํ กตฺวาว คูถํ วิย ฉฏฺเฏตพฺพํ. สเจ นิมิตฺตํ กโรติ, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

ราชคเห อุปนนฺทํ อารพฺภ รูปิยปฺปฏิคฺคหณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อรูปิเย รูปิยสฺิโน เวมติกสฺส วา, สงฺฆเจติยาทีนํ อตฺถาย คณฺหนฺตสฺส, มุตฺตามณิอาทิปฺปฏิคฺคหเณ จ ทุกฺกฏํ. รตนสิกฺขาปทนเยน นิกฺขิปนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, คหณาทีสุ อฺตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีสุ สิยา กิริยํ คหเณน อาปชฺชนโต, สิยา อกิริยํ ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต, เสสํ สฺจริตฺเต วุตฺตนยเมวาติ.

ชาตรูปสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

นวเม นานปฺปการกนฺติ กตาทิวเสน อเนกวิธํ. รูปิยสํโวหารนฺติ ชาตรูปรชตปริวตฺตนํ. ปุริมสิกฺขาปเทน หิ นิสฺสคฺคิยวตฺถุทุกฺกฏวตฺถูนํ ปฏิคฺคหณํ วาริตํ, อิมินา ปริวตฺตนํ. ตสฺมา ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูนิ, กปฺปิยวตฺถุนา จ ทุกฺกฏวตฺถุํ ปริวตฺเตนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ วา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา กปฺปิยวตฺถุํ วา, ทุกฺกฏวตฺถุกปฺปิยวตฺถูหิ จ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ปริวตฺเตนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ตํ ปุริมนยานุสาเรเนว สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, นิสฺสฏฺวตฺถุสฺมิฺจ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ รูปิยสํโวหารวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, ตสฺส วา ธนสฺส วา รูปิยภาโว เจว, ปริวตฺตนฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. กิริยํ, เสสํ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมวาติ.

รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา

ทสเม นานปฺปการกนฺติ จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธํ. กยวิกฺกยนฺติ กยฺเจว วิกฺกยฺจ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหิ, อิมํ อาหร, ปริวตฺเตหิ, เจตาเปหี’’ติ อิมินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํ สมาปชฺชติ. ตสฺมา เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก ยํ เอวํ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา มาตุ สนฺตกมฺปิ กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. วุตฺตลกฺขณวเสน สงฺฆคณปุคฺคเลสุ ยสฺส กสฺสจิ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ‘‘อิมํ ภุฺชิตฺวา วา คเหตฺวา วา อิทํ นาม อาหร วา กโรหิ วา’’ติ รชนาทึ อาหราเปตฺวา วา ธมกรณาทิปริกฺขารํ ภูมิโสธนาทิฺจ นวกมฺมํ กาเรตฺวา วา สนฺตํ วตฺถุ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, อสนฺเต ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพเมว.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ กยวิกฺกยวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อิทํ กึ อคฺฆตี’’ติ เอวํ อคฺฆํ ปุจฺฉนฺตสฺส, ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหิตุกาโม โหติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส ตสฺเสว ปุตฺตภาตุกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิทํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขนฺตสฺส, ‘‘อิทํ อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถ’’ติ เอวํ วตฺวา อตฺตโน ธเนน ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺส, สหธมฺมิเกหิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ยํ อตฺตโน ธเนน ปริวตฺเตติ, เยน จ ปริวตฺเตติ, เตสํ กปฺปิยวตฺถุตา, อสหธมฺมิกตา, กยวิกฺกยาปชฺชนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. เสสํ รูปิยสํโวหาเร วุตฺตนยเมวาติ.

กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอฬกโลมวคฺโค ทุติโย.

๓. ปตฺตวคฺโค

๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

ปตฺตวคฺคสฺส ปเม อติเรกปตฺโตติ อนธิฏฺิโต จ อวิกปฺปิโต จ, โส จ โข อุกฺกฏฺมชฺฌิโมมกานํ อฺตโร ปมาณยุตฺโตว, ตสฺส ปมาณํ ‘‘อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตี’’ติอาทินา (ปารา ๖๐๒) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลมกิลินฺนมปิณฺฑิกํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ, ตโต อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิยาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ. ตานิ หิ โอทนคติกาเนว, เนว หาเปตุํ, น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ, เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคธเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. อุกฺกฏฺโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ มชฺฌิโม. มชฺฌิมปตฺตโต อุปฑฺฒปฺปมาโณ โอมโก. เตสมฺปิ วุตฺตนเยเนว เภโท เวทิตพฺโพ. อิจฺเจเตสุ นวสุ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ จ โอมโกมโก จาติ ทฺเว อปตฺตา, เสสา สตฺต ปตฺตา ปมาณยุตฺตา นาม, อยเมตฺถสงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๘ อาทโย) วุตฺโต, ตสฺมา เอวํ ปมาณยุตฺตํ สมณสารุปฺเปน ปกฺกํ อโยปตฺตํ วา มตฺติกาปตฺตํ วา ลภิตฺวา ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺโพ. สเจ ปนสฺส มูลโต กากณิกมตฺตมฺปิ ทาตพฺพํ อวสิฏฺํ โหติ, อธิฏฺานุปโค น โหติ, อปฺปจฺจุทฺธรนฺเตน วิกปฺเปตพฺโพ. ตตฺถ ปจฺจุทฺธรณาธิฏฺานลกฺขณํ จีวรวคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, วิกปฺปนลกฺขณํ ปรโต วกฺขาม. สเจ ปน โกจิ อปตฺตโก ภิกฺขุ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพ อตฺตนาว ปริภุฺชิตุกาโม โหติ, เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุน ทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ อธิฏฺาตพฺโพ, เอเตนุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา. โย ปนสฺส ปตฺโต มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลมตฺโตกาสโต ปฏฺาย ยตฺถกตฺถจิ กงฺคุสิตฺถนิกฺขมนมตฺเตน ฉิทฺเทน ฉิทฺโท โหติ, โส อธิฏฺานุปโค น โหติ. ปุน ฉิทฺเท ปากติเก กเต อธิฏฺาตพฺโพ, เสสํ อธิฏฺานวิชหนํ ติจีวเร วุตฺตนยเมว.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อติเรกปตฺตธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, เสสวณฺณนากฺกโม จีวรวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.

ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุติเย อูนานิ ปฺจ พนฺธนานิ อสฺสาติ อูนปฺจพนฺธโน, นาสฺส ปฺจ พนฺธนานิ ปูเรนฺตีติ อตฺโถ, เตน อูนปฺจพนฺธเนน, อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ กรณวจนํ. ตตฺถ ยสฺมา อพนฺธนสฺสาปิ ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ สพฺพโส นตฺถิตาย, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อูนปฺจพนฺธโน นาม ปตฺโต อพนฺธโน วา เอกพนฺธโน วา’’ติอาทิ (ปารา. ๖๑๓) วุตฺตํ. ‘‘อูนปฺจพนฺธเนนา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ยสฺส ปฺจพนฺธโน ปตฺโต โหติ ปฺจพนฺธโนกาโส วา, ตสฺส โส อปตฺโต, ตสฺมา อฺํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปตฺเต มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ภฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา เอกาปิ ราชิ โหติ, ตํ ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุกมกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตฺวา ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺฏเกน วา เกนจิ พทฺธสิเลสาทินา วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ, โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภุฺชิตพฺโพ, สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ, ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย วา เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส วา เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส วา เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ วา เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ, เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.

อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ เจ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑเลน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปริภุฺชิตพฺโพ, อฺโ น วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑเลน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ อยํ ปตฺโต, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. โย ปน เอวํ ปตฺตสงฺเขปคเต วา อโยปตฺเต, อูนปฺจพนฺธเน วา มตฺติกาปตฺเต สติ อฺํ วิฺาเปติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิโย โหติ, นิสฺสชฺชิตพฺโพ. นิสฺสชฺชนฺเตน สงฺฆมชฺเฌ เอว นิสฺสชฺชิตพฺโพ, เตน วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขุปริสาย นิสฺสชฺชิตพฺโพ’’ติ. โย จ ตสฺสา ภิกฺขุปริสายาติเอตฺถ เตหิ ภิกฺขูหิ ปกติยา เอว อตฺตโน อตฺตโน อธิฏฺิตํ ปตฺตํ คเหตฺวา สนฺนิปติตพฺพํ, ตโต สมฺมเตน ปตฺตคฺคาหาปเกน ปตฺตสฺส วิชฺชมานคุณํ วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ คณฺหถา’’ติ เถโร วตฺตพฺโพ. สเจ เถรสฺส โส ปตฺโต น รุจฺจติ, อปฺปิจฺฉตาย วา น คณฺหาติ, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปน คณฺหาติ, เถรสฺส ปตฺตํ ทุติยตฺเถรํ คาหาเปตฺวา เอเตเนว อุปาเยน ยาว สงฺฆนวกา คาหาเปตพฺโพ, เตน ปริจฺจตฺตปตฺโต ปน ปตฺตปริยนฺโต นาม, โส ตสฺส ภิกฺขุโน ปทาตพฺโพ. เตนาปิ โส ยถา วิฺาเปตฺวา คหิตปตฺโต, เอวเมว สกฺกจฺจํ ปริภุฺชิตพฺโพ. สเจ ปน ตํ ชิคุจฺฉนฺโต อเทเส วา นิกฺขิปติ, อปริโภเคน วา ปริภุฺชติ, วิสฺสชฺเชติ วา, ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.

สกฺเกสุ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ พหู ปตฺเต วิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ , อพนฺธเนน อพนฺธนํ, เอกพนฺธนํ, ทุพนฺธนํ, ติพนฺธนํ, จตุพฺพนฺธนํ, อพนฺธโนกาสํ, เอกทฺวิติจตุพฺพนฺธโนกาสํ เจตาเปติ, เอวํ เอเกเกน ปตฺเตน ทสธา ทสวิธํ ปตฺตํ. เจตาปนวเสน ปน เอกํ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสตํ โหติ. นฏฺปตฺตสฺส, ภินฺนปตฺตสฺส, อตฺตโน าตกปฺปวาริเต, อฺสฺส จ าตกปฺปวาริเต, ตสฺเสวตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน คณฺหโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อธิฏฺานุปคปตฺตสฺส อูนปฺจพนฺธนตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกตวิฺตฺติ , ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ โธวาปนสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนวาติ.

อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา

ตติเย ปฏิสายนียานีติ ปฏิสายิตพฺพานิ, ปริภุฺชิตพฺพานีติ อตฺโถ. เอเตน สยํ อุคฺคเหตฺวา นิกฺขิตฺตานํ สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสติ, ตานิ หิ ปฏิสายิตุํ น วฏฺฏนฺติ. เภสชฺชานีติ เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา, มา วา, เอวํ ลทฺธโวหารานิ. สปฺปิ นาม ควาทีนํ สปฺปิ, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. ตถา นวนีตํ. เตลํ นาม ติลสาสปมธูกเอรณฺฑกวสาทีหิ นิพฺพตฺติตํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุเมว. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทาย ปน อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อุจฺฉุวิกติ ‘‘ผาณิต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวาติ ตานิ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา, น เตสํ วตฺถูนิ. เอเตน เปตฺวา วสาเตลํ ยาเนตฺถ ยาวกาลิกวตฺถุกานิ, เตสํ วตฺถูนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตานิ สปฺปิอาทีนิ สตฺตาหํ อติกฺกามยโตปิ อนาปตฺตึ ทสฺเสติ. วสาเตลํ ปน กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุํ อนุฺาตํ, ตสฺมา เปตฺวา มนุสฺสวสํ อฺํ ยํกฺจิ วสํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา สามํ ปจิตฺวา นิพฺพตฺติตเตลมฺปิ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน วฏฺฏติ. อนุปสมฺปนฺเนน ปจิตฺวา ทินฺนํ ปน ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, อฺเสํ ยาวกาลิกวตฺถูนํ วตฺถุํ ปจิตุํ น วฏฺฏติเยว. นิพฺพตฺติตสปฺปิ วา นวนีตํ วา ปจิตุํ วฏฺฏติ, ตํ ปน ตทหุปุเรภตฺตมฺปิ สามิสํ ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีราทิโต อนุปสมฺปนฺเนน ปจิตฺวา กตสปฺปิอาทีนิ ปน ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสานิปิ วฏฺฏนฺติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียานิ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. สนฺนิธิการกํ ปริภุฺชิตพฺพานีติ สนฺนิธึ กตฺวา นิทหิตฺวา ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานิ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนาปิ วฏฺฏนฺติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน ตานิ จ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานิ จ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพานีติ อตฺโถ. ‘‘ปริภุฺชิตพฺพานี’’ติ จ วจนโต อนฺโตสตฺตาเห อพฺภฺชนาทีนํ อตฺถาย อธิฏฺหิตฺวา ปิเตสุ อนาปตฺติ, ยาวชีวิกานิ สาสปมธูกเอรณฺฑกอฏฺีนิ เตลกรณตฺถํ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทเหว กตเตลํ สตฺตาหกาลิกํ, ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ, ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ, จตุตฺถปฺจมฉฏฺสตฺตมทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ โหติ, อฏฺมทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ, อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเคน วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย ปฏิคฺคหิตสาสปาทีนํ ปน ปาฬิยํ อนาคตสปฺปิอาทีนฺจ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สีตุทเกน กตมธูกปุปฺผผาณิตํ ปน ผาณิตคติกเมว, อมฺพผาณิตาทีนิ ยาวกาลิกานิ. ยํ ปเนตฺถ สตฺตาหกาลิกํ, ตํ นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาปิ อรุอาทีนิ วา มกฺเขตุํ, อชฺโฌหริตุํ วา น วฏฺฏติ. ปทีเป กาฬวณฺเณ วา อุปเนตพฺพํ, อฺสฺส ภิกฺขุโน กายิกปริโภคํ วฏฺฏติ. ยํ ปน นิรเปกฺโข ปริจฺจชิตฺวา ปุน ลภติ, ตํ อชฺโฌหริตุมฺปิ วฏฺฏติ. วิสุํ ปิตสปฺปิอาทีสุ, เอกภาชเน วา อมิสฺสิเตสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ สตฺตาหํ อติกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสํ จีวรวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุตฺเถ มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ จตุนฺนํ คิมฺหมาสานํ เอโก ปจฺฉิมมาโส เสโส. ปริเยสิตพฺพนฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกมาสสฺส ปจฺฉิมทิวโส, ตาว ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกายา’’ติอาทินา สตุปฺปาทกรเณน, สงฺฆสฺส ปวาริตฏฺานโต, อตฺตโน าตกปฺปวาริตฏฺานโต ปน ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทิกาย วิฺตฺติยาปิ ปริเยสิตพฺพํ. อฺาตกอปฺปวาริตฏฺาเน สตุปฺปาทํ กโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ, ยถา วา ตถา วา ‘‘เทถ เม’’ติอาทิวจเนน วิฺาเปนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. กตฺวา นิวาเสตพฺพนฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมทฺธมาสสฺส ปมทิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกมาสสฺส ปจฺฉิมทิวโส, ตาว สูจิกมฺมนิฏฺาเนน สกิมฺปิ วณฺณเภทมตฺตรชเนน กปฺปพินฺทุกรเณน จ กตฺวา ปริทหิตพฺพา. เอตฺตาวตา คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส ปริเยสนกฺเขตฺตํ , ปจฺฉิโม อทฺธมาโส กรณนิวาสนกฺเขตฺตมฺปิ, วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ สพฺพมฺปิ ตํ วฏฺฏตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. โย จายํ คิมฺหานํ ปจฺฉิโม มาโส อนุฺาโต, เอตฺถ กตปริเยสิตมฺปิ วสฺสิกสาฏิกํ อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ตสฺมึ มาเส อติกฺกนฺเต วสฺสํ อุกฺกฑฺฒิยติ, ปุน มาสปริหารํ ลภติ, โธวิตฺวา ปน นิกฺขิปิตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส อธิฏฺาตพฺพา. สเจ สติสมฺโมเสน วา อปฺปโหนกภาเวน วา อกตา โหติ. เต จ ทฺเว มาเส วสฺสานสฺส จตุมาสนฺติ ฉ มาเส ปริหารํ ลภติ. สเจ ปน กตฺติกมาเส กถินํ อตฺถริยติ, อปเรปิ จตฺตาโร มาเส ลภติ, เอวํ ทส มาสา โหนฺติ. ตโต ปรมฺปิ สติยา ปจฺจาสาย ตํ มูลจีวรํ กตฺวา เปนฺตสฺส เอกมาสนฺติ เอวํ เอกาทส มาเส ปริหารํ ลภติ, อิโต ปรํ เอกาหมฺปิ น ลภติ.

โอเรน เจ มาโสเสโส คิมฺหานนฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺส โอริมภาเค ยาว เหมนฺตสฺส ปมทิวโส, ตาวาติ อตฺโถ. ปริเยเสยฺยาติ เอเตสุ สตฺตสุ ปิฏฺิสมยมาเสสุ อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต สตุปฺปาทกรเณน ปริเยสนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, วิฺาเปนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, าตกปฺปวาริเต วิฺาเปนฺตสฺส เตน สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, สตุปฺปาทํ กโรนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติ. โอเรนทฺธมาโส เสโส คิมฺหานนฺติ คิมฺหานสฺส ปจฺฉิมทฺธมาสโต โอริมภาเค เอกสฺมึ อทฺธมาเส. กตฺวา นิวาเสยฺยาติ เอตฺถนฺตเร ธมฺเมน อุปฺปนฺนมฺปิ กตฺวา นิวาเสนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ วสฺสิกสาฏิกปริเยสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกมาสทฺธมาเสสุ อติเรกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ, ตถา สติยา วสฺสิกสาฏิกาย นคฺคสฺส กายํ โอวสฺสาปยโต. โปกฺขรณิยาทีสุ ปน นฺหายนฺตสฺส วา อจฺฉินฺนจีวรสฺส วา นฏฺจีวรสฺส วา ‘‘อนิวตฺถํ โจรา หรนฺตี’’ติ เอวํ อาปทาสุ วา นิวาสยโต อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. เอตฺถ จ วสฺสิกสาฏิกาย อตฺตุทฺเทสิกตา, อสมเย ปริเยสนตา, ตาย จ ปฏิลาโภติ อิมานิ ตาว ปริเยสนาปตฺติยา ตีณิ องฺคานิ . สจีวรตา, อาปทาภาโว, วสฺสิกสาฏิกาย สกภาโว, อสมเย นิวาสนนฺติ อิมานิ นิวาสนาปตฺติยา จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ โธวาปนสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนวาติ.

วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา

ปฺจเม สามํ จีวรํ ทตฺวาติ เวยฺยาวจฺจาทีนิ ปจฺจาสิสมาโน สยเมว ทตฺวา. อจฺฉินฺเทยฺยาติ เวยฺยาวจฺจาทีนิ อกโรนฺตํ ทิสฺวา สกสฺาย อจฺฉินฺทนฺตสฺส วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. อจฺฉินฺทาเปยฺยาติเอตฺถ ปน ‘‘อจฺฉินฺทา’’ติ อาณตฺติยา ทุกฺกฏํ, อจฺฉินฺเทสุ ยตฺตกานิ อาณตฺตานิ, เตสํ คณนาย อาปตฺติโย.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ จีวรอจฺฉินฺทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ. อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิโน, เวมติกสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺิโน วา, อุปสมฺปนฺนสฺสาปิ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรํ เปตฺวา อฺํ ปริกฺขารํ, อนุปสมฺปนฺนสฺส จ ยํกิฺจิ อจฺฉินฺทโต วา ทุกฺกฏํ. เตน ตุฏฺเน วา กุปิเตน วา ทินฺนํ ปน ตสฺส วิสฺสาสํ วา คณฺหนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรตา, สามํ ทินฺนตา, สกสฺิตา, อุปสมฺปนฺนตา, โกธวเสน อจฺฉินฺทนํ วา อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ อฺตฺร เวทนาย. เวทนา ปน อิธ ทุกฺขเวทนาเยวาติ.

จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

ฉฏฺเ สุตฺตนฺติ ฉพฺพิธํ โขมสุตฺตาทึ วา เตสํ อนุโลมํ วา. วิฺาเปตฺวาติ จีวรตฺถาย ยาจิตฺวา. วายาเปยฺยาติ ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถา’’ติ อกปฺปิยาย วิฺตฺติยา วายาเปยฺย. นิสฺสคฺคิยนฺติ เอวํ วายาเปนฺตสฺส โย ตนฺตวาโย จีวรวายนตฺถํ ตุริเวมสชฺชนาทิเก ปโยเค กโรติ, ตสฺส สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

ราชคเห ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ จีวรวายาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, วิฺาปิตสุตฺตํ วิฺาปิตตนฺตวาเยน วายาเปนฺตสฺส ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต ติริยฺจ หตฺถมตฺเต วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อิติ ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ. เตเนว ปน อวิฺตฺติยา ลทฺธสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ , เอวํ อิธ ทุกฺกฏํ. เตเนว วิฺตฺตฺจ อวิฺตฺตฺจ วายาเปนฺตสฺส สเจ วุตฺตปฺปมาเณน เกทารพทฺธํ วิย จีวรํ โหติ, อกปฺปิยสุตฺตมเย ปริจฺเฉเท ปาจิตฺติยํ, อิตรสฺมึ ตเถว ทุกฺกฏํ. ตโต เจ อูนตรา ปริจฺเฉทา, สพฺพปริจฺเฉเทสุ ทุกฺกฏาเนว. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ปุพฺเพ วุตฺตปฺปมาณคณนาย ทุกฺกฏานิ. เอเตเนว อุปาเยน กปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺเต, กปฺปิยากปฺปิเยหิ ตนฺตวาเยหิ สุตฺเตปิ กปฺปิเย อกปฺปิเย กปฺปิยากปฺปิเย จ อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. ติกปาจิตฺติยํ, อวายาปิเต วายาปิตสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. จีวรสิพฺพนอาโยคกายพนฺธนอํสพทฺธกปตฺตตฺถวิกปริสฺสาวนานํ อตฺถาย สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส, าตกปฺปวาริเตหิ กปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส, อฺสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ, จีวรตฺถาย วิฺาปิตสุตฺตํ, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิฺตฺติยา วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ โธวาปนสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนวาติ.

สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา

สตฺตเม ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร คาเม วา นิคเม วา ตนฺตวายา, ตตฺร. ปุพฺเพ อปฺปวาริโตติ จีวรสามิเกหิ อปฺปวาริโต หุตฺวา . วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ วิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย. อิทานิ เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปนฺโน โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ อิทํ โข, อาวุโสติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อายตนฺติ ทีฆํ. วิตฺถตนฺติ ปุถุลํ. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ, สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ, สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิเลขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุฏฺุ นิทฺโธตนฺติ อตฺโถ. ปิณฺฑปาตมตฺตมฺปีติ เอตฺถ จ น ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาตทานมตฺเตน ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, สเจ ปน เต ตสฺส วจเนน จีวรสามิกานํ หตฺถโต สุตฺตํ คเหตฺวา อีสกมฺปิ อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรนฺติ, อถ เตสํ ปโยเค ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, าตเก อฺาตกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. าตกปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเยหิ, อฺสฺส วา อตฺถาย, อตฺตโน วา ธเนน, มหคฺฆํ วายาเปตุกามํ อปฺปคฺฆํ วายาเปนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อฺาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรปฺปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ โธวาปนสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนวาติ.

มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

อฏฺเม ทสาหานาคตนฺติ ทส อหานิ ทสาหํ, เตน ทสาเหน อนาคตา ทสาหานาคตา, ทสาเหน อสมฺปตฺตาติ อตฺโถ, ตํ ทสาหานาคตํ, อจฺจนฺตสํโยควเสน ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมนฺติ ปมกตฺติกปุณฺณมํ, อิธาปิ ปมปทสฺส อนุปโยคตา ปุริมนเยเนว ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยโต ปฏฺาย ปมปฺปวารณา ‘‘ทสาหานาคตา’’ติ วุจฺจติ, สเจปิ ตานิ ทิวสานิ อจฺจนฺตเมว ภิกฺขุโน อจฺเจกจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺย, ‘‘อจฺเจกํ อิท’’นฺติ ชานมาเนน ภิกฺขุนา สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ. เตน ปวารณามาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหติ. กามฺเจส ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติอิมินาว สิทฺโธ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ปิตํ. อจฺเจกจีวรนฺติ คมิกคิลานคพฺภินิอภินวุปฺปนฺนสทฺธานํ ปุคฺคลานํ อฺตเรน ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ อาโรเจตฺวา ทินฺนํ. สเจ ตํ ปุเร ปวารณาย วิภชิตํ, เยน คหิตํ, เตน วสฺสจฺเฉโท น กาตพฺโพ, กโรติ เจ, ตํ จีวรํ สงฺฆิกํ โหติ. ยาว จีวรกาลสมยนฺติ อนตฺถเต กถิเน ยาว วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ยาว ปฺจ มาสา, ตาว นิกฺขิปิตพฺพํ.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อจฺเจกจีวรสฺส จีวรกาลสมยํ อติกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสเมตฺถ จีวรวคฺคสฺส ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา

นวเม อุปวสฺสํ โข ปนาติ เอตฺถ อุปวสฺสนฺติ อุปวสฺส, อุปวสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ, อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ (วิภ. ๕๗๐) วิย เหตฺถ อนุนาสิโก ทฏฺพฺโพ, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จาติ อตฺโถ. อิมสฺส จ ปทสฺส ‘‘ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติอิมินา สมฺพนฺโธ, อิทํ วุตฺตํ โหติ – วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จ ตโต ปรํ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมปริโยสานกาลํ ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ…เป… อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ. ตตฺถ อารฺกานีติ สพฺพปจฺฉิมานิ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา คามสฺส อินฺทขีลโต ปฏฺาย ปฺจธนุสตปฺปมาเณ ปเทเส กตเสนาสนานิ. สเจ ปน อปริกฺขิตฺโต คาโม โหติ, ปริกฺเขปารหฏฺานโต ปฏฺาย มิเนตพฺพํ. สเจ วิหารสฺส ปริกฺเขโป วา อปริกฺขิตฺตสฺส ยํ คามโต สพฺพปมํ เสนาสนํ วา เจติยํ วา โพธิ วา ธุวสนฺนิปาตฏฺานํ วา ยาว , ตํ ตาว ปกติมคฺเคน มิเนตพฺพํ, อฺํ มคฺคํ กาตุํ, อมคฺเคน วา มิเนตุํ น วฏฺฏติ. สาสงฺกสมฺมตานีติ โจราทีนํ นิวิฏฺโกาสาทิทสฺสเนน ‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานิ, เอวํ สฺาตานีติ อตฺโถ. สห ปฏิภเยน สปฺปฏิภยานิ, โจเรหิ มนุสฺสานํ หตวิลุตฺตาโกฏิตภาวทสฺสนโต สนฺนิหิตพลวภยานีติ อตฺโถ.

อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ อารฺกสฺส เสนาสนสฺส สมนฺตา สพฺพทิสาภาเคสุ อตฺตนา อภิรุจิเต โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺย. ตฺจ โข สติยา องฺคสมฺปตฺติยา, ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺติ – ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหติ, อิทเมกํ องฺคํ. กตฺติกมาโสเยว โหติ, อิทํ ทุติยํ องฺคํ. ปฺจธนุสติกปจฺฉิมปฺปมาณยุตฺตํ เสนาสนํ โหติ, อิทํ ตติยํ องฺคํ. อูนปฺปมาเณ วา คาวุตโต อติเรกปฺปมาเณ วา น ลภติ, ยตฺร หิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุตฺตเวลายเมว ปุน วิหารํ สกฺกา อาคนฺตุํ, ตเทว อิธาธิปฺเปตํ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมว โหติ, อิทํ จตุตฺถํ องฺคํ โหตีติ. โกจิเทว ปจฺจโยติ กิฺจิเทว การณํ. เตน จีวเรนาติ เตน อนฺตรฆเร นิกฺขิตฺตจีวเรน. วิปฺปวาสายาติ วิโยควาสาย. ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ ฉารตฺตโต อุตฺตริ ตสฺมึ เสนาสเน สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปยฺยาติ อตฺโถ, ตถา อสกฺโกนฺเตน ปน คามสีมํ โอกฺกมิตฺวา สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏติ. อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยํ สงฺโฆ คิลานสฺส ภิกฺขุโน จีวเรน วิปฺปวาสสมฺมุตึ เทติ, ตํ เปตฺวา อลทฺธสมฺมุติกสฺส อติเรกฉารตฺตํ วิปฺปวสโต นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ จีวรวิปฺปวาสวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสเมตฺถ จีวรวคฺคสฺส ทุติยสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา

ทสเม สงฺฆิกนฺติ สงฺฆสฺส สนฺตกํ. โส หิ สงฺฆสฺส ปริณตตฺตา หตฺเถ อนารุฬฺโหปิ เอเกน ปริยาเยน สงฺฆสนฺตโก โหติ. ลาภนฺติ ลภิตพฺพํ จีวราทิวตฺถุํ. ปริณตนฺติ ‘‘ทสฺสาม กริสฺสามา’’ติ วจีเภเทน วา หตฺถมุทฺทาย วา สงฺฆสฺส นินฺนํ หุตฺวา ิตํ. อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทถา’’ติอาทีนิ วทนฺโต อตฺตนินฺนํ กเรยฺย. สเจ ปน สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ, ตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพํ. ปริณตํ ปน สหธมฺมิกานํ วา คิหีนํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ อตฺตโน ปริณาเมนฺตสฺส ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติ.

สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ปริณามนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ปริณเต เวมติกสฺส, อปริณเต ปริณตสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ, สงฺฆเจติยปุคฺคเลสุ ยสฺส กสฺสจิ ปริณตํ อฺสงฺฆาทีนํ ปริณาเมนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. อปริณตสฺิโน, ‘‘กตฺถ เทมา’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘ยตฺถ ตุมฺหากํ จิตฺตํ ปสีทติ, ตตฺถ เทถ, ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺโม ปริโภคํ วา ลเภยฺยา’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สงฺเฆ ปริณตภาโว, ตํ ตฺวา อตฺตโน ปริณามนํ, ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติ.

ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปตฺตวคฺโค ตติโย.

อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย

นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.