📜
ปาจิตฺติยกณฺโฑ
๑. มุสาวาทวคฺโค
๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
ปาจิตฺติเยสุ ¶ ¶ มุสาวาทวคฺคสฺส ปเม สมฺปชานมุสาวาเทติ ปุพฺเพปิ ชานิตฺวา วจนกฺขเณปิ ชานนฺตสฺเสว มุสาวาทภณเน. ภณนฺจ นาม อิธ อภูตสฺส วา ภูตตํ, ภูตสฺส วา อภูตตํ กตฺวา กาเยน วา วาจาย วา วิฺาปนปฺปโยโค, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. ตสฺมา โย สมฺปชานมุสาวาทํ วทติ, ตสฺส ตํนิมิตฺตํ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ เอวเมตฺถ อฺเสุ จ อีทิเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ หตฺถกํ สกฺยปุตฺตํ อารพฺภ อวชานิตฺวา ปฏิชานนาทิวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ มุสา ภณนฺตสฺส ปาราชิกํ, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนตฺถํ สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนตฺถํ ปาจิตฺติยํ, อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํสนตฺถํ ทุกฺกฏํ, ‘‘โย เต วิหาเร วสี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๐) ปริยาเยน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ ปฏิวิชานนฺตสฺส มุสา ภณิเต ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, เกวลํ มุสา ภณนฺตสฺส อิธ ปาจิตฺติยํ. อนุปธาเรตฺวา สหสา ภณนฺตสฺส, ‘‘อฺํ ¶ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, วิสํวาทนจิตฺเตน ยมตฺถํ วตฺตุกาโม, ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิฺาปนปโยโค จาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติ.
มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ¶ โอมสวาเทติ โอวิชฺฌนวจเน, ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติอกฺโกเสสุ ภูเตน วา อภูเตน วา เยน เกนจิ ปาราชิกํ อาปนฺนํ วา อนาปนฺนํ วา ยํกิฺจิ ภิกฺขุํ ยาย กายจิ ¶ วาจาย วา หตฺถมุทฺทาย วา อนฺาปเทเสน อกฺโกสนวจเน ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ โอมสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, เตหิเยว ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๖) นเยน อฺาปเทสํ กตฺวา อกฺโกสนฺตสฺส, ‘‘โจโรสิ คณฺิเภทโกสี’’ติอาทีหิ ปาฬิมุตฺตกปเทหิ อกฺโกสนฺตสฺส, ยถา ตถา วา อนุปสมฺปนฺนํ อกฺโกสนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. อิธ ภิกฺขุนีปิ อนุปสมฺปนฺนสงฺขฺยํ คจฺฉติ. อนกฺโกสิตุกามสฺส เกวลํ ทวกมฺยตาย วทโต สพฺพตฺถ ทุพฺภาสิตํ. อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารานํ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ยํ อกฺโกสติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อนฺาปเทเสน ชาติอาทีหิ อกฺโกสนํ, ‘‘มํ อกฺโกสตี’’ติ ชานนา, อตฺถปุเรกฺขารตาทีนํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, เวทนา ปน อิธ ทุกฺขาติ.
โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ภิกฺขุเปสฺุเติ ภิกฺขุสฺส เปสฺุเ, ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูหิ ภิกฺขู อกฺโกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา วจนํ ภิกฺขุโน ปิยกมฺยตาย วา เภทาธิปฺปาเยน วา โย อกฺกุทฺโธ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส กาเยน วา วาจาย วา อุปสํหเฏ ตสฺมึ เปสฺุกรณวจเน ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ เปสฺุอุปสํหรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, วุตฺตนเยเนว อฺาปเทเสน อกฺโกสนฺตสฺส วจนูปสํหาเร วา ปาฬิมุตฺตกอกฺโกสูปสํหาเร วา อนุปสมฺปนฺนสฺส จ อุปสํหาเร ทุกฺกฏํ. อิธาปิ ภิกฺขุนี อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ¶ ิตา. น ปิยกมฺยตาย, น เภทาธิปฺปาเยน เกวลํ ปาปครหิตาย วทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ชาติอาทีหิ อนฺาปเทเสน อกฺโกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา วจนํ ภิกฺขุสฺส อุปสํหรณํ, ปิยกมฺยตาเภทาธิปฺปาเยสุ ¶ อฺตรตา ¶ , ตสฺส วิชานนาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสาเนวาติ.
เปสฺุสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ปทโส ธมฺมํ วาเจยฺยาติ สงฺคีติตฺตยํ อนารุฬฺหมฺปิ ราโชวาทติกฺขินฺทฺริยจตุปริวตฺตนนนฺโทปนนฺทกุลุมฺปสุตฺตมคฺคกถาทิธมฺมฺจ สงฺคีติตฺตยมารุฬฺหํ ติปิฏกธมฺมฺจ ปทํ ปทํ วาเจยฺย, ปทานุปทอนฺวกฺขรอนุพฺยฺชเนสุ เอเกกํ โกฏฺาสนฺติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยนฺติ เอเตสุ ปทาทีสุ ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา ยํกฺจิ โกฏฺาสํ อวเสสปุคฺคเลหิ สทฺธึ เอกโต ภณนฺตสฺส ปทาทิคณนาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ปทโส ธมฺมวาจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ. อุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ เอกโต อุทฺเทสคฺคหเณ, สชฺฌายกรเณ, ตสฺส สนฺติเก อุทฺเทสคฺคหเณ, เยภุยฺเยน ปคุณคนฺถํ ภณนฺตสฺส, โอสาเรนฺตสฺส จ ขลิตฏฺาเน ‘‘เอวํ ภณาหี’’ติ วจเน จ เอกโต ภณนฺตสฺสาปิ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อนุปสมฺปนฺนตา, วุตฺตลกฺขณํ ธมฺมํ ปทโส วาจนตา, เอกโต โอสาปนฺจาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. ปทโสธมฺมสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม อนุปสมฺปนฺเนนาติ ภิกฺขุํ เปตฺวา อนฺตมโส ปาราชิกวตฺถุภูเตน ติรจฺฉานคเตนาปิ. อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตนฺติ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา รตฺตีนํ อุปริ. สหเสยฺยนฺติ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยน ฉนฺนปริจฺฉนฺเน วา เสนาสเน ปุพฺพาปริเยน วา เอกกฺขเณน วา เอกโต ¶ นิปชฺชนํ. กปฺเปยฺยาติ ¶ วิทเหยฺย สมฺปาเทยฺย. ตตฺถ ฉทนํ อนาหจฺจ ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริจฺฉินฺนมฺปิ สพฺพปริจฺฉนฺนมิจฺเจว เวทิตพฺพํ, ตสฺมา อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจปิ สตฺตภูมิโก ปาสาโท เอกูปจาโร โหติ, สตคพฺภํ วา จตุสาลํ, โย ตตฺถ วา อฺตฺถ วา ตาทิเส เตน วา อฺเน วา อนุปสมฺปนฺเนน สห ติสฺโส รตฺติโย สยิตฺวา จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย อนุปสมฺปนฺเน นิปนฺเน คพฺภทฺวารํ ปิธาย วา อปิธาย วา นิปชฺชติ, ปมนิปนฺโน วา ตสฺมึ นิปชฺชนฺเต น วุฏฺาติ, ตสฺส อุภินฺนํ อุฏฺหิตฺวา นิปชฺชนปฺปโยคคณนาย อนุปสมฺปนฺนคณนาย จ ปาจิตฺติยํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) สพฺพปฺปการโต วุตฺโต.
อาฬวิยํ ¶ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อนุปสมฺปนฺเนน สหเสยฺยวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อุตฺตริทิรตฺตติรตฺต’’นฺติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิโน เวมติกสฺส วา อุปทฺธจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทีสุ จ ทุกฺกฏํ. อูนกทิรตฺตติรตฺตํ วสนฺตสฺส, ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสนฺตสฺส, สพฺพจฺฉนฺนสพฺพาปริจฺฉนฺนาทีสุ วสนฺตสฺส, อิตรสฺมึ นิสินฺเน นิปชฺชนฺตสฺส, นิปนฺเน วา นิสีทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปาจิตฺติยวตฺถุกเสนาสนํ, ตตฺถ อนุปสมฺปนฺเนน สห นิปชฺชนํ, จตุตฺถทิวเส สูริยตฺถงฺคมนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติ.
ปมสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ มาตุคาเมนาติ อนฺตมโส ตทหุชาตายปิ มนุสฺสิตฺถิยา. ทิสฺสมานรูปา ปน ยกฺขิเปติโย ปณฺฑโก เมถุนวตฺถุภูตา จ ติรจฺฉานิตฺถิโย อิธ ทุกฺกฏวตฺถุกา โหนฺติ.
สาวตฺถิยํ อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธตฺเถรํ อารพฺภ มาตุคาเมน สหเสยฺยวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสํ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ อฺตฺร ¶ รตฺติปริจฺเฉทา, ตตฺร หิ จตุตฺถทิวเส อาปตฺติ, อิธ ปน ปมทิวเสปีติ.
ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาหีติเอตฺถ เอโก คาถาปาโท เอกา วาจาติ เอวํ สพฺพตฺถ วาจาปมาณํ เวทิตพฺพํ. ธมฺมํ เทเสยฺยาติ ปทโสธมฺมสิกฺขาปเท วุตฺตลกฺขณํ ธมฺมํ วา อฏฺกถาธมฺมํ วา ภาเสยฺย. อฺตฺร วิฺุนา ปุริสวิคฺคเหนาติ วินา วิฺุนา ปุริเสน. มนุสฺสวิคฺคหํ คเหตฺวา ิเตน ปน ยกฺเขน วา เปเตน วา ติรจฺฉาเนน วา สทฺธึ ิตายปิ ธมฺมํ เทเสตุํ น วฏฺฏติ. ปาจิตฺติยนฺติ ทุติยานิยเต วุตฺตลกฺขเณน มนุสฺเสน วินา วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ ปทาทิวเสน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ปทาทิคณนาย, พหูนํ เทสยโต มาตุคามคณนาย จ ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ มาตุคามสฺส ธมฺมเทสนาวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร วิฺุนา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อมาตุคาเม มาตุคามสฺิโน เวมติกสฺส วา ยกฺขิเปติปณฺฑกมนุสฺสวิคฺคหติรจฺฉานิตฺถีนํ เทเสนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. ฉหิ วาจาหิ, ตโต วา โอรํ เทเสนฺตสฺส, วุตฺตลกฺขเณ วา ปุริเส สติ, สยํ วา อุฏฺาย, ปุน นิสีทิตฺวา มาตุคามสฺส วา อุฏฺหิตฺวา ปุน นิสินฺนสฺส, อฺสฺส วา มาตุคามสฺส เทสยโต, ‘‘ทีฆนิกาโย นาม ภนฺเต กิมตฺถิโย’’ติ ¶ เอวํ ปน ปุฏฺเ สพฺพมฺปิ ทีฆนิกายํ เทเสนฺตสฺส, อฺสฺสตฺถาย วุจฺจมานํ มาตุคาเม สุณนฺเต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วุตฺตลกฺขณสฺส ธมฺมสฺส ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ เทสนา, วุตฺตลกฺขโณ มาตุคาโม, อิริยาปถปริวตฺตาภาโว, กปฺปิยการกสฺสาภาโว, อปฺหาวิสฺสชฺชนาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปทโสธมฺมสทิสาเนว, เกวลํ อิธ กิริยากิริยํ โหตีติ.
ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ¶ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ จตุตฺถปาราชิเก วุตฺตลกฺขณํ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ. ภูตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ อตฺตนิ ฌานาทิธมฺเม สติ ตํ ภิกฺขฺุจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อฺสฺส อาโรจยโต ปาจิตฺติยํ.
เวสาลิยํ วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อารพฺภ เตสํ ภูตาโรจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ ¶ , อนาณตฺติกํ, นิปฺปริยาเยน อตฺตนิ วิชฺชมานํ ฌานาทิธมฺมํ อาโรเจนฺตสฺส สเจ ยสฺส อาโรเจติ, โส อนนฺตรเมว ‘‘อยํ ฌานลาภี’’ติ วา ‘‘อริโย’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน ตมตฺถํ ชานาติ, ปาจิตฺติยํ. โน เจ ชานาติ, ทุกฺกฏํ. ปริยาเยน อาโรจิตํ ปน ชานาตุ วา, มา วา, ทุกฺกฏเมว. ตถารูเป การเณ สติ อุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจยโต, อาทิกมฺมิกสฺส จ อนาปตฺติ. ยสฺมา ปน อริยานํ อุมฺมตฺตกาทิภาโว นตฺถิ, ฌานลาภิโน ปน ตสฺมึ สติ ฌานา ปริหายนฺติ, ตสฺมา เต อิธ น คหิตา. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ภูตตา, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ตงฺขณวิชานนา, อนฺาปเทโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. ภูตาโรจนสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาพฺยากตจิตฺเตหิ ทฺวิจิตฺตํ, สุขมชฺฌตฺตเวทนาหิ ทฺวิเวทนนฺติ.
ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ภิกฺขุสฺสาติ ปาราชิกํ อนชฺฌาปนฺนสฺส. ทุฏฺุลฺลนฺติ กิฺจาปิ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานเมตํ อธิวจนํ, อิธ ปน สงฺฆาทิเสสเมว อธิปฺเปตํ. อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยํ สงฺโฆ อภิณฺหาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน อายตึ สํวรตฺถาย อาปตฺตีนฺจ กุลานฺจ ปริยนฺตํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา กติกํ กโรติ, ตํ เปตฺวา, อยถากติกาย ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺถุนา สทฺธึ อาปตฺตึ ฆเฏตฺวา อาโรเจนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ¶ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ทุฏฺุลฺลาปตฺติอาโรจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ ¶ , อทุฏฺุลฺลาย ทุฏฺุลฺลสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ, อวเสเส ฉ อาปตฺติกฺขนฺเธ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ปุริมปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมสงฺขาตํ ทุฏฺุลฺลํ วา อิตรํ อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจารํ อาโรเจนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. วตฺถุมตฺตํ วา อาปตฺติมตฺตํ วา อาโรเจนฺตสฺส, ภิกฺขุสมฺมุติปริจฺเฉทํ อนติกฺกมิตฺวา อาโรเจนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วุตฺตลกฺขณสฺส ภิกฺขุโน สวตฺถุโก สงฺฆาทิเสโส, อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจนํ, ภิกฺขุสมฺมุติยา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, เวทนา ปน อิธ ทุกฺขาเยวาติ.
ทุฏฺุลฺลาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ¶ ปถวินฺติ ทุวิธา ปถวี ชาตปถวี อชาตปถวีติ. ตตฺถ ชาตปถวี สุทฺธมิสฺสปฺุชวเสน ติวิธา, ตตฺถ สุทฺธปถวี นาม ปกติยา สุทฺธปํสุ วา สุทฺธมตฺติกา วา. มิสฺสปถวี นาม ยตฺถ ปํสุโต วา มตฺติกาโต วา ปาสาณสกฺขรกถลมรุมฺพวาลุกาสุ อฺตรสฺส ตติยภาโค โหติ. ปฺุชปถวี นาม ‘‘อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา’’ติ (ปาจิ. ๘๖) วุตฺตํ, วุตฺตลกฺขเณน ปน มิสฺสกปฺุโชปิ ปิฏฺิปาสาเณ ิตสุขุมรชมฺปิ จ เทเว ผุสายนฺเต สกึ ตินฺตํ จตุมาสจฺจเยน ตินฺโตกาโส ปฺุชปถวิสงฺขเมว คจฺฉติ. ติวิธาปิ เจสา ปถวี อุทฺธนปตฺตปจนาทิวเสน วา ยถา ตถา วา อทฑฺฒา ‘ชาตปถวี’ติ วุจฺจติ, ทฑฺฒา ปน วุตฺตปฺปมาณโต อธิกตรปาสาณาทิมิสฺสา วา อชาตปถวี นาม โหติ, โก ปน วาโท สุทฺธปาสาณาทิเภทาย. ตตฺถ ยา ‘ชาตปถวี’ติ วุตฺตา, อยํ อกปฺปิยปถวี. โย ภิกฺขุ ตํ เอวรูปํ ปถวึ สยํ ขณติ, ขณนเภทนวิเลขนปจนาทีหิ วิโกเปติ, ตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ. โย ปน ขณาเปติ, วุตฺตนเยเนว วิโกปาเปติ, ตสฺส ‘‘อิมํ ปเทส’’นฺติ วา ‘‘อิมํ ปถวิ’’นฺติ วา เอวํ นิยเมตฺวา ‘‘ขณ, ภินฺทา’’ติอาทินา นเยน อาณาเปนฺตสฺส อาณตฺติยา ¶ ทุกฺกฏํ, สกึ อาณตฺเต ทิวสมฺปิ ขณนฺเต อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ, สเจ อิตโร ปุนปฺปุนํ อาณาเปติ, วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ.
อาฬวิยํ อาฬวเก ภิกฺขู อารพฺภ ปถวิขณนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ปถวิยา เวมติกสฺส, อปถวิยา ปถวิสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. โอกาสํ อนิยเมตฺวา ‘‘โปกฺขรณึ ขณ, อาวาฏํ ขณ, กนฺทํ ขณา’’ติอาทีนิ ภณนฺตสฺส, อาตเปน สุสฺสิตฺวา ผลิตกทฺทมํ วา โคกณฺฏกํ วา เหฏฺา ปถวิยา อสมฺพทฺธํ ภิชฺชิตฺวา ปติตนทิตฏํ วา มหนฺตมฺปิ นงฺคลจฺฉินฺนมตฺติกาปิณฺฑนฺติเอวมาทีนิ สพฺพฺจ อชาตปถวึ วิโกเปนฺตสฺส, ‘‘อิมสฺส ถมฺภสฺส อาวาฏํ ชาน ¶ , มตฺติกํ เทหิ, มตฺติกํ อาหร, ปํสุนา เม อตฺโถ, มตฺติกํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ภณนฺตสฺส, อสฺจิจฺจ รุกฺขาทิปวฏฺฏเนน ภินฺทนฺตสฺส, อสติยา ปาทงฺคุฏฺกาทีหิ วิเลขนฺตสฺส, ชาตปถวิภาวํ วา, ‘‘ขณามิ วา อห’’นฺติ อชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ชาตปถวี, ปถวิสฺิตา, ขณนขณาปนานํ อฺตรนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปถวีขณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
มุสาวาทวคฺโค ปโม.
๒. ภูตคามวคฺโค
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
ภูตคามวคฺคสฺส ¶ ปเม ภูตคามปาตพฺยตายาติ เอตฺถ ภวนฺติ อเหสฺุจาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ ชาตา วฑฺฒิตา จาติ อตฺโถ. คาโมติ ราสิ, ภูตานํ คาโม, ภูตา เอว วา คาโมติ ภูตคาโม, ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจนํ. ปาตพฺยสฺส ภาโว ปาตพฺยตา, เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภฺุชิตพฺพตาติ อตฺโถ, ตสฺสํ ภูตคามปาตพฺยตาย, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ, ภูตคามปาตพฺยตาเหตุ ภูตคามสฺส เฉทนาทิปจฺจยา ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. ตสฺมา โย ภิกฺขุ ¶ ปถวิอุทกปาการาทีสุ ยตฺถกตฺถจิ ชาตํ อสุกฺขํ อนฺตมโส อติสุขุมติณมฺปิ สาสปพีชกเสวาลมฺปิ อุทฺธรณจฺเฉทนวิชฺฌนาทีหิ วิโกเปติ วา ปถวิขณเน วุตฺตนเยน วิโกปาเปติ วา ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ.
อาฬวิยํ อาฬวเก ภิกฺขู อารพฺภ รุกฺขฉินฺทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ภูตคามโต วิโยชิตมูลพีชขนฺธพีชผลุพีชอคฺคพีชพีชพีชานํ อฺตรํ ภาชนคตํ วา ราสิกตํ วา ภูมิยํ โรปิตมฺปิ นิกฺขนฺตมูลมตฺตํ วา นิกฺขนฺตองฺกุรมตฺตํ วา สเจปิสฺส วิทตฺถิมตฺตา ปตฺตวฏฺฏิ นิคฺคจฺฉติ, อนิกฺขนฺเต วา มูเล นิกฺขนฺเต วา มูเล ยาว องฺกุโร หริโต น โหติ, ตาว ตํ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา ภูตคามพีชคาเม เวมติกสฺส, อภูตคามพีชคาเม ภูตคามพีชคามสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ. อุภยตฺถ ปน อตถาสฺิสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ, อสฺจิจฺจ อสติยา อชานิตฺวา วา วิโกเปนฺตสฺส, ‘อิมํ รุกฺข’นฺติ เอวํ อนิยเมตฺวา ‘‘รุกฺขํ ฉินฺท, วลฺลึ ฉินฺทา’’ติอาทีนิ ภณนฺตสฺส, ‘‘อิมํ ปุปฺผํ วา ผลํ วา ชาน, อิมํ เทหิ, อิมํ อาหร, อิมินา เม อตฺโถ, อิมํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ภณนฺตสฺส จ อนาปตฺติ. เอวํ กปฺปิยวจเนน ภูตคามโต วิโยชิตํ ปน พีชชาตํ ปุน ปิ ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ กาเรตฺวาว ปริภฺุชิตพฺพํ. เอวฺหิสฺส พีชคามปริโมจนมฺปิ กตํ โหติ.
กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อคฺคินา วา นเขน วา สตฺเถน วา กตฺตพฺพํ, อคฺคินา กโรนฺเตน จ เยน เกนจิ อคฺคินา เอกเทเส ผุสนฺเตน ‘กปฺปิย’นฺติ ¶ วตฺวาว กาตพฺพํ. สตฺเถน ¶ กโรนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ ติขิณสตฺถสฺส อนฺตมโส สูจินขจฺเฉทนาทีนมฺปิ ตุณฺเฑน วา ธาราย วา เวธํ วา เฉทํ วา ทสฺเสนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. นเขน กโรนฺเตน เปตฺวา โคมหึสาทีนํ ขุเร เยน เกนจิ อปูตินา มนุสฺสานํ วา ติรจฺฉานานํ วา นเขน อนฺตมโส ฉินฺทิตฺวา อาหเฏนาปิ สตฺเถ วุตฺตนเยเนว กาตพฺพํ. ตตฺถ สเจปิ พีชานํ ปพฺพตมตฺโต ราสิ, รุกฺขสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺธํ, อุจฺฉูนํ วา มหาภาโร พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, เอกสฺมึ พีเช วา รุกฺขสาขาย วา อุจฺฉุมฺหิ วา กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหติ. อุจฺฉุํ ‘‘กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ เตหิ สทฺธึ พทฺธํ ทารุกํ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. สเจ ปน ยาย วลฺลิยา ภาโร พทฺโธ, ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏติ. มริจปกฺกาทีหิ มิสฺเสตฺวา ¶ ภตฺตํ อาหรนฺติ, ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต สเจปิ ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว, ติลตณฺฑุเลสุปิ เอเสว นโย. ยาคุยา ปกฺขิตฺตานิ ปน เอกาพทฺธานิ หุตฺวา น สนฺติฏฺนฺติ, ตตฺถ เอเกกํ วิชฺฌิตฺวาว กาตพฺพํ. กปิฏฺผลาทีนํ อนฺโต มิฺชํ กฏาหํ มฺุจิตฺวา สฺจรติ, ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ กาเรตพฺพํ. เอกาพทฺธา เจ, กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน ผลํ ตรุณํ โหติ อพีชํ ยฺจ นิพฺพตฺตพีชํ พีชํ อปเนตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ, ตตฺถ กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถิ. ภูตคาโม, ภูตคามสฺิตา, วิโกปนํ วา วิโกปาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปถวิขณนสทิสาเนวาติ.
ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ยมตฺถํ สงฺฆมชฺเฌ วินยธโร ปุจฺฉติ, ตโต อฺํ วทตีติ อฺวาทโก, อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นามํ. วิเหสตีติ วิเหสโก, ตุณฺหีภาวสฺเสตํ นามํ, ตสฺมึ อฺวาทเก วิเหสเก. ปาจิตฺติยนฺติ วตฺถุทฺวเย ปาจิตฺติยทฺวยํ วุตฺตํ. ตสฺมา โย ภิกฺขุ สาวเสสํ อาปตฺตึ อาปนฺโน สงฺฆมชฺเฌ อนุยฺุชิยมาโน ตํ น กเถตุกาโม อฺเน วจเนน อฺํ ฉาเทนฺโต ตถา ตถา วิกฺขิปติ, โย จ ตุณฺหีภาเวน วิเหเสติ, เตสํ ยํ ภควตา อฺวาทกกมฺมฺเจว วิเหสกกมฺมฺจ อนฺุาตํ, ตสฺมึ สงฺเฆน กเต ปุน ตถา กโรนฺตานํ ปาจิตฺติยํ.
โกสมฺพิยํ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ อฺเนฺํ ปฏิจรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม ติกปาจิตฺติยํ, อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ, อนาโรปิเต ปน อฺวาทเก ¶ วา วิเหสเก วา ตถา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ วา อชานนฺตสฺส ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถา’’ติ ปุจฺฉโต, เคลฺเน วา, ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ วา ภวิสฺสนฺติ, อธมฺเมน วา วคฺเคน วา นกมฺมารหสฺส วา กมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ ¶ อิมินา อธิปฺปาเยน น กเถนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ธมฺมกมฺเมน อาโรปิตตา, อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยฺุชิยมานตา, ฉาเทตุกามตาย ¶ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ วา ตุณฺหีภาโว วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน สิยา กิริยํ, สิยา อกิริยํ, ทุกฺขเวทนฺจ โหตีติ.
อฺวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย เยน วจเนน อุชฺฌาเปนฺติ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วทนฺตา อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมตํ เสนาสนปฺาปกาทิเภทํ ตสฺส อยสกามา หุตฺวา ภิกฺขูหิ อวชานาเปนฺติ, อวฺาย โอโลกาเปนฺติ, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺติ, ตํ วจนํ อุชฺฌาปนกํ. เยน จ ตเถว วทนฺตา ขิยฺยนฺติ, สพฺพตฺถ ตสฺส อวณฺณํ ปกาเสนฺติ, ตํ ขิยฺยนกํ, ตสฺมึ อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก. ปาจิตฺติยนฺติ วตฺถุทฺวเย ปาจิตฺติยทฺวยํ วุตฺตํ. ตสฺมา โย สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน อยสกามตาย อุปสมฺปนฺนสฺส วทนฺโต อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, ตสฺส ปาจิตฺติยํ โหติ.
ราชคเห เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู อารพฺภ อุชฺฌาปนขิยฺยนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ยํ ตสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมุติกมฺมํ กตํ, ตสฺมึ ธมฺมกมฺเม ติกปาจิตฺติยํ, อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ปน สนฺติเก ตถา ภณนฺตสฺส, อสมฺมตสฺส จ อวณฺณํ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ภณนฺตสฺส, อนุปสมฺปนฺนสฺส ปน สมฺมตสฺส วา อสมฺมตสฺส วา อวณฺณํ ยสฺส กสฺสจิเทว สนฺติเก ภณนฺตสฺส จ ทุกฺกฏเมว. ปกติยาว ฉนฺทาทิวเสน กโรนฺตํ อุชฺฌาเปนฺตสฺส วา ขิยฺยนฺตสฺส วา, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ธมฺมกมฺเมน สมฺมตตา, อุปสมฺปนฺนตา, อคติคมนาภาโว, ตสฺส อวณฺณกามตา, ยสฺส สนฺติเก วทติ, ตสฺส อุปสมฺปนฺนตา, อุชฺฌาปนํ วา ขิยฺยนํ วาติ อิมาเนตฺถ ฉ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนเมวาติ.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ¶ ¶ สงฺฆิกนฺติ สงฺฆสฺส สนฺตกํ. มฺจาทีสุ โยโกจิ มฺจสงฺเขเปน กโต สพฺโพปิ มฺโจเยว, ปีเปิ เอเสว นโย. เยน เกนจิ ปน โจเฬน วา กปฺปิยจมฺเมน วา ฉวึ กตฺวา เปตฺวา มนุสฺสโลมํ ตาลีสปตฺตฺจ เยหิ เกหิจิ โลมปณฺณติณวากโจเฬหิ ปูเรตฺวา กตเสนาสนํ ภิสีติ วุจฺจติ. ตตฺถ นิสีทิตุมฺปิ นิปชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปมาณปริจฺเฉโทปิ เจตฺถ นตฺถิ. โกจฺฉํ ปน วากอุสีรมฺุชปพฺพชาทีนํ อฺตรมยํ อนฺโต สํเวลฺลิตฺวา พทฺธํ เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ ปณวสณฺานํ มชฺเฌ สีหจมฺมาทิปริกฺขิตฺตํ โหติ, อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถิ. เสนาสนฺหิ โสวณฺณมยมฺปิ วฏฺฏติ. อชฺโฌกาเสติ ¶ เอตฺถ เย อวสฺสิกสงฺเกตา วสฺสานมาสาติ เอวํ อสฺิตา อฏฺ มาสา, เต เปตฺวา อิตเรสุ จตูสุ มาเสสุ สเจปิ เทโว น วสฺสติ. ตถาปิ ปกติอชฺโฌกาเส จ โอวสฺสกมณฺฑเป จ สนฺถริตุํ น วฏฺฏติ. ยตฺถ ปน เหมนฺเต วสฺสติ, ตตฺถ อปเรปิ จตฺตาโร มาเส น วฏฺฏติ. คิมฺเห ปน สพฺพตฺถ วิคตวลาหกํ วิสุทฺธํ นภํ โหติ, ตสฺมา ตทา เกนจิเทว กรณีเยน คจฺฉติ, วฏฺฏติ. กากาทีนํ นิพทฺธวาสรุกฺขมูเล ปน กทาจิปิ น วฏฺฏติ. อิติ ยตฺถ จ ยทา จ สนฺถริตุํ น วฏฺฏติ, ตํ สพฺพมิธ อชฺโฌกาสสงฺขเมว คตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สนฺถริตฺวาติ ตถารูเป าเน อตฺตโน วา ปรสฺส วา อตฺถาย สนฺถริตฺวา. อฺสฺสตฺถาย สนฺถตมฺปิ หิ ยาว โส ตตฺถ น นิสีทติ, ‘คจฺฉ ตฺว’นฺติ วา น ภณติ, ตาว สนฺถารกสฺเสว ภาโร. สนฺถราเปตฺวาติ อนุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปตฺวา. เอตเทว หิ ตสฺส ปลิโพโธ โหติ, อุปสมฺปนฺเนน สนฺถตํ สนฺถารกสฺเสว ภาโร, ตฺจ โข ยาว อาณาปโก ตตฺถ น นิสีทติ, ‘คจฺฉ ตฺว’นฺติ วา น ภณติ. ยสฺมิฺหิ อตฺตนา สนฺถราปิเต วา ปกติสนฺถเต วา อุปสมฺปนฺโน นิสีทติ, สพฺพํ ตํ นิสินฺนสฺเสว ภาโร, ตสฺมา สนฺถราปิตนฺตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย, น อุทฺธราเปยฺยาติ อตฺตนา วา อุทฺธริตฺวา ปติรูเป าเน น เปยฺย, ปเรน วา ตถา น การาเปยฺย. อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺยาติ โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี ¶ โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, ตถารูปํ อนาปุจฺฉิตฺวา ตํ เสนาสนํ ตสฺส อนิยฺยาเตตฺวา นิรเปกฺโข คจฺฉติ, ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส เอเกน ปาเทน เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ทุกฺกฏํ, ทุติยปาทาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. โภชนสาลาย ิโต ปน ‘‘อสุกสฺมึ นาม ทิวาวิหารฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉาหี’’ติ เปเสตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉนฺโต ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ ¶ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ สนฺถตํ อนุทฺธริตฺวา อนาปุจฺฉํ ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปุคฺคลิเก ติกทุกฺกฏํ, จิมิลิกํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ตฏฺฏิกํ วา จมฺมกฺขณฺฑํ วา ปาทปฺุฉนํ วา ผลกปีํ วา ยํ วา ปนฺํ กฺจิ ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ อนฺตมโส ปตฺตาธารกมฺปิ วุตฺตลกฺขเณ อชฺโฌกาเส เปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อารฺเกน ปน อสติ อโนวสฺสเก สพฺพํ รุกฺเข ลคฺเคตฺวาปิ ยถา วา อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, เอวํ กตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อพฺโภกาสิเกน ปน จีวรกุฏิกํ กตฺวาปิ รกฺขิตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตเก, วิสฺสาสิกปุคฺคลิเก, อุทฺธรณาทีนิ กตฺวา คมเน, โอตาเปนฺตสฺส, ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ คจฺฉโต, วุฑฺฒตรา อุฏฺาเปนฺติ, อมนุสฺโส ตตฺถ นิสีทติ, โกจิ อิสฺสโร คณฺหาติ, สีหาทโย ตํ านํ อาคนฺตฺวา ติฏฺนฺติ, เอวํ เสนาสนํ ปลิพุทฺธํ โหติ, ตถา ปลิพุทฺเธ วา เสนาสเน, ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายกราสุ ¶ อาปทาสุ วา คจฺฉนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. มฺจาทีนํ สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ เทเส สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, นิรเปกฺขตา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ฉ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
ปมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม วิหาเรติ คพฺเภ วา อฺตรสฺมึ วา สพฺพปริจฺฉนฺเน วุตฺตเสนาสเน. เสยฺยนฺติ เสยฺยา นาม ภิสี จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฏฺฏิกา ¶ จมฺมกฺขณฺโฑ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ วุตฺตํ. ตตฺถ จิมิลิกา นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตา. อุตฺตรตฺถรณํ นาม มฺจปีาทีนํ อุปริ อตฺถริตพฺพยุตฺตกํ ปจฺจตฺถรณํ. ภูมตฺถรณํ นาม จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิ วิกติ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกา. จมฺมกฺขณฺโฑ นาม ยํกิฺจิ จมฺมํ, สีหจมฺมาทีนฺหิ ปริหรเณเยว ปริกฺเขโป, เสนาสนปริโภเค ปน อกปฺปิยจมฺมํ นาม นตฺถิ. ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมว, เสสํ ปากฏเมว. อิติ อิมาสุ ทสสุ เสยฺยาสุ เอกมฺปิ เสยฺยํ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตฺวา วุตฺตลกฺขเณ วิหาเร สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา โย ภิกฺขุ ทิสํคมิโก ยถา ปิตํ อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, ตถา ปนวเสน เนว อุทฺธเรยฺย, น อุทฺธราเปยฺย, ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน อนาปุจฺฉํ ¶ วา คจฺเฉยฺย, ตสฺส ปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ. ยตฺถ ปน อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต อนาปุจฺฉาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ.
สาวตฺถิยํ สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา อนุทฺธริตฺวา อนาปุจฺฉา ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปุคฺคลิเก ติกทุกฺกฏํ, วุตฺตลกฺขณสฺส ปน วิหารสฺส อุปจาเร พหิ อาสนฺเน อุปฏฺานสาลาย วา อปริจฺฉนฺนมณฺฑเป วา ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตภูเต รุกฺขมูเล วา สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา, มฺจปีฺจ วิหาเร วา วุตฺตปฺปกาเร วิหารูปจาเร วา สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อตฺตโน สนฺตเก, วิสฺสาสิกปุคฺคลิเก, อุทฺธรณาทีนิ กตฺวา, ปุริมนเยเนว ปลิพุทฺธํ ฉฑฺเฑตฺวา คมเน, โย จ ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทิปารํ วา คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต กฺจิ เปเสตฺวา วา อาปุจฺฉติ, นทิปูรราชโจราทีสุ วา เกนจิ ปลิพุทฺโธ น สกฺโกติ ปจฺจาคนฺตุํ, ตสฺส จ, อาปทาสุ จ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วุตฺตลกฺขณเสยฺยา ¶ , ตสฺสา สงฺฆิกตา, วุตฺตลกฺขเณ วิหาเร สนฺถรณํ วา สนฺถราปนํ วา, อปลิพุทฺธตา, อาปทาย อภาโว, อนเปกฺขสฺส ทิสาปกฺกมนํ ¶ , อุปจารสีมาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ สตฺต องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยาเนวาติ.
ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ ชานนฺติ ‘‘อนุฏฺาปนีโย อย’’นฺติ ชานนฺโต, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘วุฑฺโฒ’ติ ชานาติ, ‘คิลาโน’ติ ชานาติ, ‘สงฺเฆน ทินฺโน’ติ ชานาตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑) วุตฺตํ. วุฑฺโฒ หิ อตฺตโน วุฑฺฒตาย อนุฏฺาปนีโย, คิลาโน คิลานตาย, สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธรคณวาจกาจริยานํ วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺตฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ธุววาสตฺถาย วิหารํ สลฺลกฺเขตฺวา สมฺมนฺนิตฺวา เทติ, ตสฺมา ยสฺส สงฺเฆน ทินฺโน, โสปิ อนุฏฺาปนีโย. ปุพฺพุปคตนฺติ ปุพฺพํ อุปคตํ. อนุปขชฺชาติ มฺจปีานํ วา ตสฺส วา ภิกฺขุโน ปวิสนฺตสฺส วา นิกฺขมนฺตสฺส วา อุปจารํ อนุปวิสิตฺวา. ตตฺถ มฺจปีานํ ตาว มหลฺลเก วิหาเร สมนฺตา ทิยฑฺโฒ หตฺโถ อุปจาโร, ขุทฺทเก ยโต ปโหติ, ตโต ทิยฑฺโฒ หตฺโถ ¶ , ตสฺส ปน ปวิสนฺตสฺส ปาทโธวนปาสาณโต ยาว มฺจปีํ, นิกฺขมนฺตสฺส มฺจปีโต ยาว ปสฺสาวฏฺานํ, ตาว อุปจาโร. เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ ตสฺส สมฺพาธํ กตฺตุกามตาย ตสฺมึ อุปจาเร ทสสุ เสยฺยาสุ เอกมฺปิ สนฺถรนฺตสฺส วา สนฺถราเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏํ, ตตฺถ นิสีทนฺตสฺส วา นิปชฺชนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, ทฺเวปิ กโรนฺตสฺส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, ปุนปฺปุนํ กโรนฺตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ อนุปขชฺช เสยฺยกปฺปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปุคฺคลิเก ติกทุกฺกฏํ, วุตฺตูปจารโต วา พหิ, อุปฏฺานสาลาทิเก วา, วิหารสฺส อุปจาเร วา, สนฺถรณสนฺถราปเนสุปิ นิสชฺชสยเนสุปิ ทุกฺกฏเมว. อตฺตโน วา, วิสฺสาสิกสฺส วา สนฺตเก ปน วิหาเร สนฺถรนฺตสฺส, โย จ คิลาโน วา สีตุณฺหปีฬิโต วา ปวิสติ, ตสฺส จ, อาปทาสุ จ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สงฺฆิกวิหารตา, อนุฏฺาปนียภาวชานนํ, สมฺพาเธตุกามตา, อุปจาเร นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ ¶ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสาเนว, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนเมวาติ.
อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม กุปิโตติ กุทฺโธ. อนตฺตมโนติ อตุฏฺจิตฺโต. นิกฺกฑฺเฒยฺย วา นิกฺกฑฺฒาเปยฺย วา ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ เย อเนกภูมกา ¶ ปาสาทา, อเนกโกฏฺกานิ วา จตุสฺสาลานิ, ตาทิเสสุ เสนาสเนสุ คเหตฺวา อนฺตรา อฏฺเปตฺวา เอเกเนว ปโยเคน อติกฺกาเมนฺตสฺส เอกํ ปาจิตฺติยํ, เปตฺวา เปตฺวา นานาปโยเคหิ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานิ, หตฺเถน อนามสิตฺวา ‘นิกฺขมา’ติ วตฺวา วาจาย นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส ปน ‘นิกฺกฑฺฒา’ติ อาณตฺตมตฺเต ทุกฺกฏํ, สกึ อาณตฺเต ปน ตสฺมึ พหุเกปิ ทฺวาเร นิกฺขมนฺเต อิตรสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ‘‘เอตฺตกานิ ทฺวารานิ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ วา, ‘‘ยาว มหาทฺวารํ, ตาว นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ วา เอวํ นิยเมตฺวา อาณตฺโต โหติ, ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานิ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ภิกฺขุํ สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒนวตฺถุสฺมึ
ปฺตฺตํ ¶ , สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปุคฺคลิเก ติกทุกฺกฏํ, ตสฺส ปริกฺขารนิกฺกฑฺฒเน, อุปฏฺานสาลาทิกา วิหารูปจารา ตสฺส วา ตสฺส ปริกฺขารสฺส วา นิกฺกฑฺฒเน, อนุปสมฺปนฺนสฺส ปน อนุปสมฺปนฺนปริกฺขารสฺส วา วิหารา วา วิหารูปจารา วา นิกฺกฑฺฒเน นิกฺกฑฺฒาปเน จ ทุกฺกฏเมว. ตฺจ โข อสมฺพทฺเธสุ ปริกฺขาเรสุ ปริกฺขารคณนาย เวทิตพฺพํ. อตฺตโน วา, วิสฺสาสิกสฺส วา สนฺตกา วิหารา นิกฺกฑฺฒเน, สกลสงฺฆารามโตปิ ภณฺฑนการกสฺส วา ตสฺส ปริกฺขารสฺส วา นิกฺกฑฺฒเน นิกฺกฑฺฒาปเน วา, อตฺตโน วสนฏฺานโต อลชฺชิสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, น สมฺมาวตฺตนฺตานํ อนฺเตวาสิกสอวิหาริกานํ, เตสํ ปริกฺขารสฺส วา นิกฺกฑฺฒเน จ, สยํ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สงฺฆิกวิหาโร ¶ , อุปสมฺปนฺนสฺส ภณฺฑนการกภาวาทิวินิมุตฺตตา, โกเปน นิกฺกฑฺฒนํ วา นิกฺกฑฺฒาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม อุปริเวหาสกุฏิยาติ อุปริ อจฺฉนฺนตลาย ทฺวิภูมิกกุฏิยา วา ติภูมิกกุฏิยา วา, ปทภาชเน ปน อิธ อธิปฺเปตํ กุฏึ ทสฺเสตุํ ‘‘มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อสีสฆฏฺฏา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๑) วุตฺตํ. อาหจฺจปาทกนฺติ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ปเวสิตปาทกํ. อภินิสีเทยฺยาติ อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา นิสีเทยฺย, ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ, มฺเจ วา ปีเ วา นิสีเทยฺย วา นิปชฺเชยฺย วาติ อตฺโถ. อภีติ อิทํ ปน ปทโสภณตฺเถ อุปสคฺคมตฺตเมว, ตสฺมา โย ภิกฺขุ วุตฺตลกฺขณาย เวหาสกุฏิยา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ยาว ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สพฺพโส เหฏฺิมาหิ ตุลาหิ สีสํ น ฆฏฺเฏติ, เอตฺตกํ อุจฺจาย ตุลานํ อุปริ ปิเต อาหจฺจปาทเก มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา, ตสฺส อนุปขชฺชสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ¶ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ อุปริเวหาสกุฏิยา อาหจฺจปาทกํ มฺจํ ปีํ สหสา อภินิสีทนอภินิปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปุคฺคลิเก ติกทุกฺกฏํ, อตฺตโน วา, วิสฺสาสิกสฺส วา สนฺตเก วิหาเร, อเวหาสกุฏิยา, สีสฆฏฺฏาย, ยสฺส วา เหฏฺา ทพฺพสมฺภาราทีนํ นิกฺขิตฺตตฺตา อปริโภคํ โหติ, อุปริตลํ วา ปทรสฺจิตํ สุธาทิปริกมฺมกตํ วา, ตตฺถ อาหจฺจปาทเก นิสีทนฺตสฺส, โย ¶ เจ ตสฺมึ เวหาสฏฺเปิ อาหจฺจปาทเก ิโต กิฺจิ คณฺหาติ วา ลคฺคติ วา, ยสฺส จ ปฏาณี ทินฺนา โหติ, ปาทสีสานํ อุปริ อาณี ปเวสิตา, ตตฺถ นิสีทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สงฺฆิโก วิหาโร, อสีสฆฏฺฏา เวหาสกุฏิ, เหฏฺา สปริโภคํ ¶ , อปฏาณิทินฺเน อาหจฺจปาทเก นิสีทนํ วา นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ.
เวหาสกุฏิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกํ. วิหารนฺติ อุลฺลิตฺตาวลฺลิตฺตํ. ยาว ทฺวารโกสาติเอตฺถ ทฺวารโกโส นาม อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ปเทโส. อคฺคฬฏฺปนายาติ สกวาฏกสฺส ทฺวารพนฺธสฺส นิจฺจลภาวตฺถาย. กวาฏฺหิ ลหุปริวตฺตกํ วิวรณกาเล ภิตฺตึ อาหนติ, ปิทหนกาเล ทฺวารพนฺธํ. เตน อาหเนน ภิตฺติ กมฺปติ, ตโต มตฺติกา จลติ, จลิตฺวา สิถิลา วา โหติ ปตติ วา, เตนาห ภควา ‘‘ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนายา’’ติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘อิทํ นาม กตฺตพฺพ’’นฺติ เนว มาติกายํ, น ปทภาชเน วุตฺตํ, อฏฺุปฺปตฺติยํ ปน ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ, ปุนปฺปุนํ เลปาเปสี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๔) อธิการโต ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฏฺปนาย ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อาโลกสนฺธิปริกมฺมายาติเอตฺถ อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺติ. เต วิวรณกาเล วิทตฺถิมตฺตมฺปิ อติเรกมฺปิ ภิตฺติปฺปเทสํ ปหรนฺติ, อุปจาโร ปเนตฺถ สพฺพทิสาสุ ลพฺภติ, ตสฺมา สพฺพทิสาสุ กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส อาโลกสนฺธิปริกมฺมตฺถาย ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
เอวํ เลปกมฺเม ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ฉทเน กตฺตพฺพํ ทสฺเสตุํ ทฺวตฺติจฺฉทนสฺสาติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺวตฺติจฺฉทนสฺส ปริยายนฺติ ฉทนสฺส ทฺวตฺติปริยายํ, ปริยายํ วุจฺจติ ปริกฺเขโป, ปริกฺเขปทฺวยํ วา ปริกฺเขปตฺตยํ วา อธิฏฺาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อปฺปหริเต ิเตนาติ อหริเต ิเตน. หริตนฺติ เจตฺถ สตฺตธฺาทิเภทํ ¶ ปุพฺพณฺณํ, มุคฺคมาสติลกุลตฺถอลาพุกุมฺภณฺฑาทิเภทฺจ อปรณฺณํ อธิปฺเปตํ. ยํ ตสฺมึ เขตฺเต วุตฺตํ ¶ น ตาว สมฺปชฺชติ, วสฺเส ปน ปติเต สมฺปชฺชิสฺสติ, ตมฺปิ หริตสงฺขเมว คจฺฉติ. ตสฺมา ตสฺมึ ตฺวา อธิฏฺหนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อปฺปหริเต ตฺวา อธิฏฺหนฺตสฺสาปิ อยํ ปริจฺเฉโท, ปิฏฺิวํสสฺส ¶ วา กูฏาคารถูปิกาย วา ปสฺเส นิสินฺโน ปุริโส ฉทนมุขวฏฺฏิอนฺเตน โอโลเกนฺโต ยสฺมึ ภูมิภาเค ิตํ ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ยสฺมิฺจ ิโต ตํ อุปริ นิสินฺนกํ ตเถว อุลฺโลเกนฺโต ปสฺสติ, ตสฺมึ าตพฺพํ, ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ าตุํ น ลภติ. ตโต เจ อุตฺตรีติ มคฺเคน ฉาทิยมาเน ติณฺณํ มคฺคานํ, ปริยาเยน ฉาทิยมาเน ติณฺณํ ปริยายานํ อุปริ อิฏฺกสิลาสุธาหิ ฉาทิยมาเน อิฏฺกสิลาสุธาปิณฺฑคณนาย, ติณปณฺเณหิ ฉาทิยมาเน ปณฺณคณนาย เจว ติณมุฏฺิคณนาย จ ปาจิตฺติยํ.
โกสมฺพิยํ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ ปุนปฺปุนํ ฉาทาปนเลปาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนทฺวตฺติปริยาเย อติเรกสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. เสตวณฺณาทิกรเณ, ทฺวตฺติปริยาเย วา อูนกทฺวตฺติปริยาเย วา, เลณคุหาติณกุฏิกาทีสุ, อฺสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน กาเรนฺตสฺส, วาสาคารํ เปตฺวา เสสานิ อธิฏฺหนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. มหลฺลกวิหารตา, อตฺตโน วาสาคารตา, อุตฺตริ อธิฏฺานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺเต วุตฺตนยาเนวาติ.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ชานํ สปฺปาณกนฺติ ‘‘สปฺปาณกํ เอต’’นฺติ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา เยน เกนจิ อากาเรน ชานนฺโต. สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วาติ เตน อุทเกน สยํ วา สิฺเจยฺย, อฺํ วา อาณาเปตฺวา สิฺจาเปยฺย. ตตฺถ ธารํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา สิฺจนฺตสฺส เอกสฺมึ ฆเฏ เอกาว อาปตฺติ, วิจฺฉินฺทนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติโย. มาติกํ ปมุขํ กโรติ, ทิวสมฺปิ สนฺทตุ, เอกาว อาปตฺติ. ตตฺถ ตตฺถ พนฺธิตฺวา อฺโต เนนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติโย. พหุกมฺปิ ติณปณฺณสาขาทึ เอกปฺปโยเคน ¶ อุทเก ปกฺขิปนฺตสฺส เอกาว อาปตฺติ, เอเกกํ ปกฺขิปนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติโย. อิทฺจ ยํ เอวํ ปกฺขิปิยมาเน ปริยาทานํ คจฺฉติ, อาวิลํ วา โหติ, ยถา ปาณกา มรนฺติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ, น มหาอุทกํ. สิฺจาปเน อาณตฺติยา ทุกฺกฏํ, เอกาณตฺติยา พหุกมฺปิ สิฺจตุ, อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ.
อาฬวิยํ อาฬวเก ภิกฺขู อารพฺภ สิฺจนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ ¶ , อปฺปาณเก สปฺปาณกสฺิโน, อุโภสุ ¶ เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ. อปฺปาณกสฺิโน, อสฺจิจฺจ อสฺสติยา วา สิฺจนฺตสฺส, อชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุทกสฺส สปฺปาณกตา, ‘‘สิฺจเนน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนํ, ตฺจ อุทกํ ตาทิสเมว, วินา วธกเจตนาย เยน เกนจิ กรณีเยน ติณาทีนํ สิฺจนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ภูตคามวคฺโค ทุติโย.
๓. โอวาทวคฺโค
๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา
โอวาทวคฺคสฺส ปเม อสมฺมโตติ ยา อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภควตา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน (ปาจิ. ๑๔๖) ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ อนฺุาตา, ตาย อสมฺมโต. โอวเทยฺยาติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วา สมฺพหุลา วา เอกํ ภิกฺขุนึ วา ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อาทิเก (จูฬว. ๔๐๓) อฏฺ ครุธมฺเม โอวาทวเสน โอสาเรนฺโต โอวเทยฺย. ปาจิตฺติยนฺติ โอวาทปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ โอวทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อฺเน วา ธมฺเมน ภิกฺขุนีสุ อุปสมฺปนฺนมตฺตํ วา โอวทโต ทุกฺกฏํ. สมฺมตสฺสาปิ ตฺเจ สมฺมุติกมฺมํ อธมฺมกมฺมํ โหติ, ตสฺมึ อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺิโน วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺเฆ โอวทโต ¶ ติกปาจิตฺติยํ, ตถา เวมติกสฺส ธมฺมกมฺมสฺิโน จาติ นว ปาจิตฺติยานิ, สมคฺเคปิ ภิกฺขุนิสงฺเฆน วาติ อธมฺมกมฺมวเสน อฏฺารส. สเจ ปน ตํ ธมฺมกมฺมํ โหติ, ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสฺี โอวทตี’’ติ (ปาจิ. ๑๕๑) อิทํ อวสานปทํ เปตฺวา เตเนว นเยน สตฺตรส ทุกฺกฏานิ, ‘‘สมคฺคมฺหายฺยา’’ติ ¶ จ วุตฺเต อฺํ ธมฺมํ, ‘‘วคฺคมฺหายฺยา’’ติ จ วุตฺเต อฏฺ ครุธมฺเม ภณนฺตสฺส, โอวาทฺจ อนิยฺยาเตตฺวา อฺํ ธมฺมํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. โย ปน ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสฺี โอวทติ, ครุธมฺมปาฬึ อุทฺเทสํ เทติ, ปริปุจฺฉํ เทติ, ‘‘โอสาเรหิ อยฺยา’’ติ วุจฺจมาโน โอสาเรติ, ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ, ภิกฺขุนีนํ สุณมานานํ อฺสฺสตฺถาย ภณติ, สิกฺขมานาย วา สามเณริยา วา ภณติ, ตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมภณนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปทโสธมฺมสทิสาเนวาติ.
โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ¶ โอวเทยฺยาติ อฏฺครุธมฺเมหิ วา อฺเน วา ธมฺเมน โอวทนฺตสฺส สมฺมตสฺสาปิ ปาจิตฺติยเมว.
สาวตฺถิยํ อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อารพฺภ อตฺถงฺคเต สูริเย โอวทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, สูริเย อตฺถงฺคเต อตฺถงฺคตสฺิโน เวมติกสฺส วา, เอกโตอุปสมฺปนฺนํ โอวทนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. ปุริมสิกฺขาปเท วิย อุทฺเทสาทินเยน อนาปตฺติ. อตฺถงฺคตสูริยตา, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปทโสธมฺมสทิสาเนวาติ.
อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ¶ ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิยา เอกรตฺตํ วสนฏฺานมฺปิ. โอวเทยฺยาติ อิธ ครุธมฺเมหิ โอวทนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน อสมฺมโต โหติ, ทฺเว ปาจิตฺติยานิ. สเจ ปน สูริเยปิ อตฺถงฺคเต โอวทติ, ตีณิ โหนฺติ. สมฺมตสฺส ปน รตฺตึ โอวทนฺตสฺสปิ ทฺเว เอว โหนฺติ. สมฺมตตฺตา หิ ภิกฺขุสฺส ครุธมฺโมวาทมูลกํ ปาจิตฺติยํ นตฺถิ. คิลานาติ น สกฺโกติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุํ.
สกฺเกสุ ¶ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา โอวทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺิโน เวมติกสฺส วา, เอกโตอุปสมฺปนฺนํ เยน เกนจิ, อิตรํ อฺเน ธมฺเมน โอวทนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. สมเย, อนุปสมฺปนฺนาย, ปุริมสิกฺขาปเท วิย อุทฺเทสาทินเยน จ อนาปตฺติ. อุปสฺสยูปคมนํ, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, สมยาภาโว, ครุธมฺเมหิ โอวทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยํ โหตีติ.
ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ อามิสเหตูติ จีวราทีนํ อฺตรเหตุ. ภิกฺขูติ สมฺมตา ภิกฺขู อิธาธิปฺเปตา. ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูเป ภิกฺขู อวณฺณกามตาย เอวํ ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ‘‘อามิสเหตุ โอวทนฺตี’’ติ ภณนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม ติกปาจิตฺติยํ, อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ, อสมฺมตํ อุปสมฺปนฺนฺจ, อนุปสมฺปนฺนฺจ สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วา เอวํ ภณนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ตตฺถ โย ภิกฺขุ กาเล สมฺมุตึ ลภิตฺวา สามเณรภูมิยํ สณฺิโต, อยํ สมฺมโต นาม อนุปสมฺปนฺโน. ปกติยา จีวราทิเหตุ โอวทนฺตํ ปน เอวํ ¶ ภณนฺตสฺส ¶ , อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, อนามิสนฺตรตา, อวณฺณกามตาย เอวํ ภณนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนเมวาติ.
อามิสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ จีวรทานวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสกถามคฺโค ปเนตฺถ ¶ จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺร หิ ภิกฺขุ ปฏิคฺคาหโก, อิธ ภิกฺขุนี, อยํ วิเสโส, เสสํ ตาทิสเมวาติ.
จีวรทานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ จีวรนฺติ นิวาสนปารุปนุปคํ. สิพฺเพยฺย วา สิพฺพาเปยฺยา วาติ เอตฺถ สยํ สิพฺพนฺตสฺส สูจึ ปเวเสตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรเณ ปาจิตฺติยํ, สตกฺขตฺตุมฺปิ วิชฺฌิตฺวา สกึ นีหรนฺตสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ. ‘สิพฺพา’ติ วุตฺโต ปน สเจปิ สพฺพํ สูจิกมฺมํ นิฏฺาเปติ, อาณาปกสฺส เอกเมว ปาจิตฺติยํ. อถ ‘‘ยํ เอตฺถ จีวเร กตฺตพฺพํ, สพฺพํ ตํ ตว ภาโร’’ติ วุตฺโต นิฏฺาเปติ, ตสฺส อาราปเถ อาราปเถ ปาจิตฺติยํ. อาณาปกสฺส เอกวาจาย สมฺพหุลานิปิ, ปุนปฺปุนํ อาณตฺติยํ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ จีวรสิพฺพนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, าติกาย อฺาติกสฺิโน วา เวมติกสฺส วา, เอกโตอุปสมฺปนฺนาย สิพฺพนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ. อฺํ ถวิกาทิปริกฺขารํ สิพฺพนฺตสฺส, าติกาย, สิกฺขมานสามเณรีนฺจ จีวรมฺปิ สิพฺพนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกตา ¶ , นิวาสนปารุปนุปคตา, วุตฺตลกฺขณํ สิพฺพนํ วา สิพฺพาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺตสทิสาเนวาติ.
จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม สํวิธายาติ สํวิทหิตฺวา, คมนกาเล สงฺเกตํ กตฺวาติ อตฺโถ. เอกทฺธานมคฺคนฺติ เอกํ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ, เอกโต วา อทฺธานมคฺคํ. สตฺถคมนีโยติ สตฺเถน สทฺธึ คนฺตพฺโพ, เสสํ อุตฺตานปทตฺถเมว. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – อกปฺปิยภูมิยํ สํวิทหนฺตสฺส สํวิทหนปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ. ตตฺถ เปตฺวา ภิกฺขุนุปสฺสยํ อนฺตรารามํ อาสนสาลํ ติตฺถิยเสยฺยฺจ เสสา อกปฺปิยภูมิ, ตตฺถ ตฺวา สํวิทหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. สํวิทหิตฺวา ปน ‘‘อชฺช วา สฺเว วา’’ติ นิยมิตํ กาลํ วิสงฺเกตํ อกตฺวา, ทฺวารวิสงฺเกตํ ปน มคฺควิสงฺเกตํ วา กตฺวาปิ ภิกฺขุนิยา ¶ สทฺธึ คจฺฉนฺตสฺส ยาว ¶ อาสนฺนสฺสาปิ อฺสฺส คามสฺส ‘‘อยํ อิมสฺส อุปจาโร’’ติ มนุสฺเสหิ ปิตํ อุปจารํ น โอกฺกมติ, ตาว อนาปตฺติ. ตํ โอกฺกมนฺตสฺส ปน ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ, อิติ คามูปจาโรกฺกมนคณนาย ปาจิตฺติยานิ. อทฺธโยชนาติกฺกเม ปน คาเม อสติ อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ เอกทฺธานมคฺคปฺปฏิปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อสํวิทหิเต สํวิทหิตสฺิโน เวมติกสฺส วา, โย จ ภิกฺขุนิยา อสํวิทหนฺติยา เกวลํ อตฺตนาว สํวิทหติ, ตสฺส ทุกฺกฏํ. สมเย สํวิทหิตฺวาปิ คจฺฉนฺตสฺส, อตฺตนา อสํวิทหนฺตสฺส, วิสงฺเกเตน วา, อาปทาสุ คจฺฉนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ทฺวินฺนมฺปิ สํวิทหิตฺวา มคฺคปฺปฏิปตฺติ, อวิสงฺเกตตา, สมยาภาโว, อนาปทา, คามนฺตโรกฺกมนํ วา อทฺธโยชนาติกฺกโม วาติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. เอกโตอุปสมฺปนฺนาทีหิ ปน สทฺธึ มาตุคามสิกฺขาปเทน อาปตฺติ, อทฺธานสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ¶ สํวิธายาติ กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา, อภิรุหนกาเล สงฺเกตํ กตฺวาติ อตฺโถ. อุทฺธํคามินินฺติ กีฬาวเสน อุทฺธํ นทิยา ปฏิโสตํ คจฺฉนฺตึ. อโธคามินินฺติ ตเถว อโธ อนุโสตํ คจฺฉนฺตึ. ยํ ปน ติตฺถปฺปฏิปาทนตฺถํ อุทฺธํ วา อโธ วา หรนฺติ, เอตฺถ อนาปตฺติ. อฺตฺร ติริยํ ตรณายาติ อุปโยคตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ยา ติริยํ ตรณา, ตํ เปตฺวาติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยนฺติ สคามกตีรปสฺเสน คมนกาเล คามนฺตรคณนาย, อคามกตีรปสฺเสน วา โยชนวิตฺถตาย นทิยา มชฺเฌน วา คมนกาเล อทฺธโยชนคณนาย ปาจิตฺติยํ, สมุทฺเท ปน ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ นาวาภิรุหนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ติริยํ ตรณายา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, เสสํ อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
นาวาภิรุหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ¶ ภิกฺขุนิปริปาจิตนฺติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ, เนว ตสฺส นาตฺตโน าตกปฺปวาริตานํ คิหีนํ สนฺติเก ภิกฺขุสฺส คุณํ ปกาเสตฺวา ‘‘เทถ อยฺยสฺส, กโรถ อยฺยสฺสา’’ติ เอวํ นิปฺผาทิตํ ลทฺธพฺพํ กตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพ คิหิสมารมฺภาติ เอตฺถ สมารมฺโภติ สมารทฺธํ, ปฏิยาทิตสฺเสตํ นามํ. คิหีนํ สมารมฺโภ ¶ คิหิสมารมฺโภ, ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปุพฺเพ ปมตรํเยว ยํ ภิกฺขูนํ อตฺถาย คิหีนํ ปฏิยาทิตภตฺตํ, าตกปฺปวาริตานํ วา สนฺตกํ, ตํ เปตฺวา อฺํ ชานํ ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. ตฺจ โข อชฺโฌหรณคณนาย, ปฏิคฺคหเณ ปนสฺส ทุกฺกฏํ.
ราชคเห เทวทตฺตํ อารพฺภ ภิกฺขุนิปริปาจิตปิณฺฑปาตภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ปุพฺเพ คิหิสมารมฺภา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, เอกโตอุปสมฺปนฺนาย ปริปาจิตํ ภฺุชนฺตสฺส ¶ , อปริปาจิเต ปริปาจิตสฺิโน, อุภยตฺถ เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อุภยตฺถ อปริปาจิตสฺิโน, คิหิสมารมฺเภ, สิกฺขมานสามเณราทีหิ ปริปาจิเต, ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา อวเสเส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตตา, ปริปาจิตภาวชานนํ, คิหิสมารมฺภาภาโว, โอทนาทีนํ อฺตรตา, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสอสานิ, อิทํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปริปาจิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม สพฺโพปิ กถามคฺโค ทุติยอนิยเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ ทุติยอนิยเตน จ อุปริ อุปนนฺทสฺส จตุตฺถสิกฺขาปเทน จ เอกปริจฺเฉทํ, อฏฺุปฺปตฺติวเสน ปน วิสุํ ปฺตฺตนฺติ.
รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
โอวาทวคฺโค ตติโย.
๔. โภชนวคฺโค
๑. อาวสถสิกฺขาปทวณฺณนา
โภชนวคฺคสฺส ¶ ปเม อคิลาเนนาติ อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุํ สมตฺเถน. เอโกติ เอกทิวสิโก. อาวสถปิณฺโฑติ ‘‘อิเมสํ วา เอตฺตกานํ วา’’ติ เอกํ ปาสณฺฑํ วา, ‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ เอวํ ภตฺตํ วา อโนทิสฺส สาลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปฺุกาเมหิ ปฺตฺตํ โภชนํ. ภฺุชิตพฺโพติ เอกกุเลน วา นานากุเลหิ วา เอกโต หุตฺวา เอกสฺมึ วา าเน, นานาาเนสุ วา ‘‘อชฺช เอกสฺมึ, สฺเว เอกสฺมิ’’นฺติ เอวํ อนิยตฏฺาเน วา ปฺตฺโต เอกสฺมึ าเน เอกทิวสเมว ภฺุชิตพฺโพ. ตโต เจ อุตฺตรีติ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย ตสฺมึ วา าเน อฺสฺมึ วา าเน เตสํ สนฺตกสฺส ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ¶ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อคิลาเนนา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, คิลานสฺส อคิลานสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. คิลานสฺส คิลานสฺิโน, โย จ สกึ ภฺุชติ, คจฺฉนฺโต วา อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ ¶ , คตฏฺาเน เอกทิวสํ, ปจฺจาคนฺโตปิ อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ, อาคตฏฺาเน เอกทิวสํ, คมิสฺสามี’ติ จ ภฺุชิตฺวา นิกฺขนฺโต เกนจิ อุปทฺทเวน นิวตฺติตฺวา เขมภาวํ ตฺวา คจฺฉนฺโต ปุน เอกทิวสํ ภฺุชติ, ยสฺส วา สามิกา นิมนฺเตตฺวา เทนฺติ, โย วา ภิกฺขูนํเยว อุทฺทิสฺส ปฺตฺตํ, น ยาวทตฺถํ ปฺตฺตํ, เปตฺวา วา ปฺจ โภชนานิ อฺํ ภฺุชติ, ตสฺส จ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อาวสถปิณฺฑตา, อคิลานตา, อนุวสิตฺวา ปริโภชนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสิกฺขาปทสทิสานีติ.
อาวสถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย คณโภชเนติ คณสฺส โภชเน. อิธ จ คโณติ จตฺตาโร วา ตตุตฺตริ วา ภิกฺขู ¶ , เตสํ นิมนฺตนโต วา วิฺตฺติโต วา ลทฺเธ โอทนาทีนํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรโภชเนติ อตฺโถ. ตตฺถายํ วินิจฺฉโย – สเจ หิ โกจิ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปฺจนฺนํ โภชนานํ นามํ คเหตฺวา ‘‘โอทเนน นิมนฺเตมิ, โอทนํ เม คณฺหถา’’ติอาทินา นเยน นิมนฺเตติ, เต เจ เอวํ เอกโต วา นานาโต วา นิมนฺติตา เอกโต วา นานาโต วา คนฺตฺวา เอกโต คณฺหนฺติ, ปจฺฉา เอกโต วา นานาโต วา ภฺุชนฺติ, คณโภชนํ โหติ. ปฏิคฺคหณเมว เหตฺถ ปมาณํ. สเจ โอทนาทีนํ นามํ คเหตฺวา เอกโต วา นานาโต วา วิฺาเปตฺวา จ คนฺตฺวา จ เอกโต คณฺหนฺติ, เอวมฺปิ คณโภชนเมว. ตสฺส ทุวิธสฺสาปิ เอวํ ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ. คิลานสมยาทีสุ ยทา ปาทานมฺปิ ผลิตตฺตา น สกฺกา ปิณฺฑาย จริตุํ, อยํ ¶ คิลานสมโย. อตฺถตกถินานํ ปฺจ มาสา, อิตเรสํ กตฺติกมาโสติ อยํ จีวรทานสมโย. ยทา โย จีวเร กริยมาเน กิฺจิเทว จีวเร กตฺตพฺพํ กมฺมํ กโรติ, อยํ จีวรการสมโย. ยทา อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุกาโม วา โหติ คจฺฉติ วา คโต วา, อยํ อทฺธานคมนสมโย. นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย. ยทา โคจรคาเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยทา โยโกจิ ปพฺพชิโต ภตฺเตน นิมนฺเตติ, อยํ สมณภตฺตสมโย, เอเตสุ สมเยสุ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
ราชคเห เทวทตฺตํ อารพฺภ วิฺาเปตฺวา ภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ สตฺตวิธา อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, นคณโภชเน คณโภชนสฺิสฺส เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. นคณโภชนสฺิสฺส ปน, เย จ ทฺเว ตโย เอกโต คณฺหนฺติ, พหูนํ ปิณฺฑาย ¶ จริตฺวา เอกโต ภฺุชนฺตานํ, นิจฺจภตฺติกาทีสุ, ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. คณโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติ.
คณโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ปรมฺปรโภชเนติ คณโภชเน วุตฺตนเยเนว ปฺจหิ โภชเนหิ นิมนฺติตสฺส เยน เยน ปมํ นิมนฺติโต, ตสฺส ตสฺส โภชนโต อุปฺปฏิปาฏิยา วา อวิกปฺเปตฺวา วา ปรสฺส ปรสฺส โภชเน. ตสฺมา โย ภิกฺขุ ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ¶ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘วิกปฺเปมี’’ติ วา เอวํ สมฺมุขา วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ (ปาจิ. ๒๒๖) วา ‘‘วิกปฺเปมี’’ติ วา เอวํ ปรมฺมุขาวา ปมนิมนฺตนํ อวิกปฺเปตฺวา ปจฺฉา นิมนฺติตกุเล ลทฺธภิกฺขโต เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรติ, ปาจิตฺติยํ. สมยา วุตฺตนยา เอว.
เวสาลิยํ ¶ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อฺตฺร นิมนฺติตโภชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ ติวิธา อนุปฺตฺติ, ปริวาเร ปน วิกปฺปนมฺปิ คเหตฺวา ‘‘จตสฺโส อนุปฺตฺติโย’’ติ (ปริ. ๘๖) วุตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, นปรมฺปรโภชเน ปรมฺปรโภชนสฺิโน เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. นปรมฺปรโภชนสฺิสฺส ปน, โย จ สมเย วา วิกปฺเปตฺวา วา เอกสํสฏฺานิ วา ทฺเว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกโต วา กตฺวา ภฺุชติ, นิมนฺตนปฺปฏิปาฏิยา ภฺุชติ, สกเลน คาเมน วา ปูเคน วา นิมนฺติโต เตสุ ยตฺถกตฺถจิ ภฺุชติ, นิมนฺติยมาโน วา ‘‘ภิกฺขํ คเหสฺสามี’’ติ วทติ, ตสฺส, นิจฺจภตฺติกาทีสุ, ปฺจ โภชนานิ เปตฺวา สพฺพตฺถ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปรมฺปรโภชนตา, สมยาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ปูเวหีติ ปเหณกตฺถาย ปฏิยตฺเตหิ อติรสกโมทกสกฺขลิกาทีหิ เยหิ เกหิจิ ขชฺชเกหิ. มนฺเถหีติ ปาเถยฺยตฺถาย ปฏิยตฺเตหิ เยหิ เกหิจิ สตฺตุติลตณฺฑุลาทีหิ. ทฺวตฺติปตฺตปูราติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขํ อนติกฺกนฺตา ทฺเว วา ตโย วา ปตฺตปูรา. ตโต เจ อุตฺตรีติ สเจปิ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขโต อุปริฏฺิตปูวคณนาย ปาจิตฺติยํ. ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคเหตฺวาติ เอตฺถ เยน ทฺเว คหิตา โหนฺติ, เตน พหิ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ มยา ทฺเว ปตฺตปูรา คหิตา, ตฺวํ เอกํ คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺพํ, เตนาปิ อฺํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ปมํ อาคเตน ทฺเว ปตฺตปูรา คหิตา, มยา เอโก คหิโต, ตฺวํ มา คณฺหี’’ติ วตฺตพฺพํ. เยน ปมํ เอโก คหิโต ¶ , ตสฺสาปิ ปรมฺปราโรจเน เอเสว นโย. เยน ปน สยเมว ตโย คหิตา, เตน อฺํ ทิสฺวา ‘‘มา โข ตฺวํ เอตฺถ ปฏิคฺคณฺหีติ วตฺตพฺพํ, อวทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตํ สุตฺวา คณฺหนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวิภชิตพฺพนฺติ ¶ ลทฺธฏฺานโต สพฺพาสนฺนํ อาสนสาลํ วา วิหารํ วา ยตฺถ วา ปน นิพทฺธํ ¶ ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ คนฺตฺวา เอกํ ปตฺตปูรํ อตฺตโน เปตฺวา เสสํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาตพฺพํ. ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภติ. เยน เอโก คหิโต, น เตน กิฺจิ อกามา ทาตพฺพํ, ยถารุจิ กาตพฺพํ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ น มตฺตํ ชานิตฺวา ปฏิคฺคหณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร อติเรกสฺิสฺส เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อูนกสฺิสฺส ปน, น ปเหณกตฺถาย น ปาเถยฺยตฺถาย วา ปฏิยตฺตํ, ตทตฺถาย ปฏิยตฺตเสสกํ วา, คมเน วา ปฏิปฺปสฺสทฺเธ, าตกปฺปวาริตานํ วา เทนฺตานํ, อตฺตโน ธเนน คณฺหนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วุตฺตลกฺขณปูวมนฺถตา, อเสสกตา, อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธคมนตา, อนฺาตกาทิตา, อติเรกปฺปฏิคฺคหณนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ, สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺตสทิสาเนวาติ.
กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม ภุตฺตาวีติ ภุตฺตวา, เยน ปฺจนฺนํ โภชนานํ สาสปมตฺตมฺปิ อชฺโฌหริตํ, โส เอวํ วุจฺจติ. ปวาริโตติ ‘‘อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตปฺจงฺควเสน กตปฺปวารโณ, กตปฺปฏิกฺเขโปติ อตฺโถ. ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อสนํ ปฺายตี’’ติ อิมินา วิปฺปกตโภชโน ‘ปวาริโต’ติ วุตฺโต. โย จ วิปฺปกตโภชโน, เตน กิฺจิ ภุตฺตํ, กิฺจิ อภุตฺตํ, ยฺจ ภุตฺตํ, ตํ สนฺธาย ‘ภุตฺตาวี’ติปิ สงฺขํ คจฺฉติ. ตสฺมา ‘ภุตฺตาวี’ติวจเนน วิสุํ กิฺจิ อตฺถสิทฺธึ น ปสฺสาม, ‘‘ทิรตฺตติรตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๒) ปน ทิรตฺตาทิวจนํ วิย ปวาริตปทสฺส ปริวารภาเวน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปวารณงฺเคสุ ปน อสนํ ปฺายตีติ วิปฺปกตโภชนํ ทิสฺสติ, ตํ ภฺุชมาโน เจส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนํ ปฺายตีติ ปวารณปฺปโหนกํ ¶ โภชนํ ทิสฺสติ, โอทนาทีนํ เจ อฺตรํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โภชนํ โหตีติ อตฺโถ. หตฺถปาเส ิโตติ ปวารณปฺปโหนกํ เจ โภชนํ คณฺหิตฺวา ทายโก อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส ิโต โหตีติ อตฺโถ ¶ . อภิหรตีติ ¶ โส เจ ทายโก ตสฺส ตํ โภชนํ กาเยน อภิสํหรตีติ อตฺโถ. ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ ปฏิกฺเขโป ทิสฺสติ, ตํ เจ อภิหฏํ โส ภิกฺขุ กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิปตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ วเสน ปวาริโต โหติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘อสน’นฺติอาทีสุ ตาว ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ อิเมสํ อฺตรเมว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โอทโน นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโกติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ภตฺตํ ปจามา’’ติ วา ‘‘ยาคุํ ปจามา’’ติ วา ยํกิฺจิ สนฺธาย ปจนฺตุ, สเจ อุณฺหํ วา สีตลํ วา ภฺุชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, โอทโน โหติ, ปวารณํ ชเนติ. โย ปน ปายาโส วา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา สกฺกา โหติ อาวิชฺฌิตฺวา ปิวิตุํ, สา ยสฺส หตฺเถน คหิโตกาเสปิ โอธิ น ปฺายติ, ปวารณํ น ชเนติ. สเจ ปน อุสุมาย วิคตาย ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธึ ทสฺเสติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุพฺเพ ตนุกภาโว น รกฺขติ. สเจปิ พหู ปณฺณผลกฬีเร ปกฺขิปิตฺวา มุฏฺิมตฺตาปิ ตณฺฑุลา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, โภชนกาเล เจ โอธิ ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ. อยาคุเก นิมนฺตเน ‘‘ยาคุํ ทสฺสามา’’ติ ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ, กิฺจาปิ ตนุกา โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว. สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สเจ ยาคุยาปิ สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสกฺขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปกฺขิตฺตํ โหติ, ปวารณํ ชเนติ. เปตฺวา สานุโลมานํ วุตฺตธฺานํ ตณฺฑุเล อฺเหิ เวฬุตณฺฑุลาทีหิ วา กนฺทมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตภตฺตํ ปวารณํ น ชเนติ. กุมฺมาโส นาม ยเวหิ กโต. อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส ปวารณํ น ชเนติ. สตฺตุ นาม สตฺต ธฺานิ ภชฺชิตฺวา กโต. อนฺตมโส ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ตณฺฑุเล ¶ โกฏฺเฏตฺวา กตจุณฺณมฺปิ กุณฺฑกมฺปิ สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ กุณฺฑกํ วา, เย เกจิ ตณฺฑุลา วา ลาชา วา, ลาเชหิ กตภตฺตสตฺตุอาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ. มจฺฉมํเสสุ สเจ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว มจฺฉกฺขณฺฑานิ วา มํสกฺขณฺฑานิ วา เอกภาชเน วา นานาภาชเน วา เทนฺติ, ตานิ เจ อขาทนฺโต อฺํ ปวารณปฺปโหนกํ ยํกิฺจิ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. ตโต เอกํ ขาทิตํ, เอกํ หตฺเถ วา ปตฺเต วา โหติ, สเจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ ปวาเรติ. ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สเจปิ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. โย ปน อกปฺปิยมํสํ กุลทูสนเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ ¶ ¶ นิพฺพตฺตํ อกปฺปิยโภชนฺจ อฺํ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ขาทนฺโต ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ.
เอวํ ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวารณํ ชเนติ, ตํ ตฺวา อิทานิ ยถา อาปชฺชติ, ตสฺส ชานนตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – ‘‘อสนํ โภชน’’นฺติ เอตฺถ ตาว เยน เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหฏํ โหติ, โส สเจ ปตฺตมุขหตฺเถสุ ยตฺถกตฺถจิ โภชเน สติ สาเปกฺโขว อฺํ วุตฺตลกฺขณํ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. สเจ ปน นิรเปกฺโข โหติ, ยํ ปตฺตาทีสุ อวสิฏฺํ, ตํ น จ อชฺโฌหริตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม, อฺตฺร วา คนฺตฺวา ภฺุชิตุกาโม, โส ปฏิกฺขิปนฺโตปิ น ปวาเรติ. ‘‘หตฺถปาเส ิโต’’ติ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อานิสทสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหีนํ อนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ‘หตฺถปาโส’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺเสว ปวารณา โหติ, น ตโต ปรํ. ‘อภิหรตี’ติ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ิโต คหณตฺถํ อุปนาเมติ. สเจ ปน อนนฺตรนิสินฺโนปิ ภิกฺขุ หตฺเถ วา อาธารเก วา ิตํ ปตฺตํ อนภิหริตฺวาว ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ภตฺตปจฺฉึ อาเนตฺวา ปุรโต ภูมิยํ เปตฺวา เอวํ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อีสกํ ปน อุทฺธริตฺวา วา อปนาเมตฺวา วา ‘คณฺหถา’ติ วุตฺเต ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา ¶ โหติ. ภตฺตปจฺฉึ คเหตฺวา ปริวิสนฺตสฺส อฺโ ‘‘อหํ ธาเรสฺสามี’’ติ คหิตมตฺตเมว กโรติ, ปริเวสโกเยว ปน ตํ ธาเรติ, ตสฺมา สา อภิหฏาว โหติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริเวสเกน ผุฏฺมตฺตาว โหติ, อิตโรว นํ ธาเรติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา น โหติ. กฏจฺฉุนา อุทฺธเฏ ปน โหติ, ทฺวินฺนํ สมภาเรปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวาเรติเยว. อนนฺตรสฺส ทิยฺยมาเน อิตโร ปตฺตํ ปิทหติ, อฺสฺส อภิหฏํ นาม ปฏิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมา ปวารณา นตฺถิ. ‘ปฏิกฺเขโป’ติ เอตฺถ วาจาย อภิหเฏ ปฏิกฺเขโป น รุหติ, กาเยน อภิหฏํ ปน องฺคุลิจลนาทินา กายวิกาเรน วา ‘‘อลํ, มา เทหี’’ติอาทินา วจีวิกาเรน วา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ.
เอโก สมํสกํ รสํ อภิหรติ, ‘‘รสํ ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ‘มํสรส’นฺติ วุตฺเต ปน ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ ¶ วุตฺเตปิ โหติเยว. มํสํ วิสุํ กตฺวา ‘มํสรส’นฺติ วุตฺเตปิ สเจ สาสปมตฺตมฺปิ ขณฺฑํ ¶ อตฺถิ, ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ นตฺถิ, วฏฺฏติ. กฬีรปนสาทีหิ มิสฺเสตฺวา มจฺฉมํสํ ปจนฺติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘กฬีรสูปํ คณฺหถ, ปนสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา. ‘‘มจฺฉมํสํ พฺยฺชน’’นฺติ วา ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ วา วุตฺเต ปน ปวาเรติ, อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต. คมนาทีสุ ปน ยสฺมึ อิริยาปเถ ปวาเรติ, ตํ อวิโกเปนฺเตเนว ภฺุชิตพฺพํ.
อนติริตฺตนฺติ น อติริตฺตํ, น อธิกนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน กปฺปิยกตาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อกตํ วา คิลานสฺส อนธิกํ วา โหติ. ตสฺมา ปทภาชเน (ปาจิ. ๒๓๙) ‘อกปฺปิยกต’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ ยํ ผลํ วา กนฺทมูลาทิ วา ปฺจหิ สมณกปฺปิเยหิ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ อกปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ อกปฺปิยํ นาม, ตํ อกปฺปิยํ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตํ กตํ อกปฺปิยกตนฺติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติ ภิกฺขุนา อปฺปฏิคฺคหิตํเยว ปุริมนเยน อติริตฺตํ กตํ. อนุจฺจาริตกตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อนุกฺขิตฺตํ ¶ วา อนปนามิตํ วา กตํ. อหตฺถปาเส กตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคตสฺส หตฺถปาสโต พหิ ิเตน กตํ. อภุตฺตาวินา กตนฺติ โย อติริตฺตํ กโรติ, เตน ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ อภุตฺเตน กตํ. ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตนฺติ อิทํ อุตฺตานเมว. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อวุตฺตนฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ อวุตฺตํ โหติ. อิติ อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ ปน น คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ อนติริตฺตํ. อติริตฺตํ ปน ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ.
อปิเจตฺถ ภุตฺตาวินา กตํ โหตีติ (ปาจิ. ๒๓๙) อนฺตมโส อนนฺตรนิสินฺนสฺส ปตฺตโต เอกมฺปิ สิตฺถํ วา มํสหีรํ วา ขาทิตฺวา กตมฺปิ ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, โย ปาโตว เอวํ ภุตฺตาวี ปวาริโต นิสีทติเยว, โส อุปกฏฺเปิ กาเล อภิหฏํ ปิณฺฑํ ภิกฺขุนา อุปนีตํ กปฺปิยํ กาตุํ ลภติ. สเจ ปน ตสฺมึ กปฺปิเย กเต ภฺุชนฺตสฺส อฺํ อามิสํ อากิรนฺติ, ตํ โส ปุน กาตุํ น ลภติ. ยฺหิ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. เยน จ อกตํ, เตน จ กาตพฺพนฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๙) วุตฺตํ, ตสฺมา ตสฺมึ ภาชเน กริยมาเน ปมกเตน สทฺธึ กตํ โหตีติ ตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. อฺสฺมึ ปน ภาชเน เตน วา อฺเน วา กาตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กตํ ปมกเตน มิสฺเสตฺวาปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, น เกวลฺจ ตสฺส ¶ เยน ปน กตํ, ตํ เปตฺวา อฺเสํ ปวาริตานมฺปิ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อกเตน มิสฺสํ น โหติ, เอวํ มุขฺจ หตฺถฺจ สุทฺธํ กตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. คิลานาติริตฺตํ ปน น เกวลํ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสเมว, อถ โข ยํกิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อชฺช วา สฺเว ¶ วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฏํ, ตํ สพฺพํ ‘คิลานาติริตฺต’นฺติ เวทิตพฺพํ. ขาทนียํ วา โภชนียํ วาติ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ. ขาเทยฺย วา ภฺุเชยฺย วา ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน ปวาริตสฺส อนติริตฺตํ ยํกิฺจิ อามิสํ อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต คหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อฺตฺร ภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อนติริตฺต’’นฺติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ยามกาลิกาทีนิ อาหารตฺถาย คณฺหโต, นิรามิสานิ อชฺโฌหรโต จ ทุกฺกฏํ, ตถา อติริตฺเต อนติริตฺตสฺิโน เจว เวมติกสฺส ¶ จ. อติริตฺตสฺิโน ปน, ‘‘อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภฺุชิสฺสามี’’ติ คณฺหนฺตสฺส, อฺสฺสตฺถาย คณฺหนฺตสฺส, ยามกาลิกาทีนิ เตสํ อนฺุาตปริโภควเสน นิรามิสานิ ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปวาริตภาโว, อามิสสฺส อนติริตฺตตา, กาเลน อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
ปมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยาติ อภิหริตฺวา ‘‘หนฺท, ภิกฺขุ ขาท วา ภฺุช วา’’ติ เอวํ ปวาเรยฺย. ชานนฺติ สุตฺวา วา ทิสฺวา วา ตสฺส ปวาริตภาวํ ชานนฺโต. อาสาทนาเปกฺโขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโน. ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ อภิหาเร ตาว ทุกฺกฏํ, สเจ โส ตํ คณฺหาติ, ปุน อภิหารกสฺส ทุกฺกฏํ, ตสฺมึ ปน ภฺุชนฺเต อภิหารกสฺส ตสฺส อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ, โภชนปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ อนติริตฺเตน โภชเนน อภิหฏฺุํ ปวารณาวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ปวาริเต ปวาริตสฺิโน ปาจิตฺติยํ. เวมติกสฺส, ยามกาลิกาทีนิ อาหารตฺถาย อภิหรนฺตสฺส, เตสฺจ ปฏิคฺคหณอชฺโฌหาเรสุ, อปฺปวาริเต ¶ จ ปวาริตสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อปฺปวาริตสฺิสฺส ปน, โย จ อติริตฺตํ การาเปตฺวา เทติ, ‘‘การาเปตฺวา วา ภฺุชาหี’’ติ เทติ, โย วา ‘‘อฺสฺสตฺถาย หรนฺโต คจฺฉาหี’’ติ เทติ, โย จ ยามกาลิกาทีนิ ‘‘สติ ปจฺจเย ปริภฺุชาหี’’ติ เทติ, ตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปวาริตตา, ปวาริตสฺิตา, อาสาทนาเปกฺขตา, อนติริตฺเตน อภิหฏฺุํ ปวารณตา, โภชนปริโยสานนฺติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุติยปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ ¶ วิกาเลติ วิคเต กาเล, มชฺฌนฺหิกาติกฺกมนโต ยาว อรุณุคฺคมนาติ อธิปฺปาโย. ตสฺมา โย ภิกฺขุ เอตสฺมึ อนฺตเร ยํกิฺจิ วนมูลผลํ อุปาทาย อามํ วา ปกฺกํ วา อามิสสงฺเขปคตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา อชฺโฌหรณตฺถาย ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺส ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.
ราชคเห สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ วิกาเล โภชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ยามกาลิกาทีนิ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคหณอชฺโฌหาเรสุ, กาเล วิกาลสฺิสฺส, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ, กาเล กาลสฺิสฺส ยามกาลิกาทีนิ สติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมฏฺกสฺส โรมฏฺํ, น จ ภิกฺขเว พหิมุขทฺวารา นีหริตฺวา อชฺโฌหริตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๓) อนฺุาตนเยน โรมฏฺกสฺสาปิ อนาปตฺติ. วิกาลตา, ยาวกาลิกตา, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ.
วิกาลโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม สนฺนิธิการกนฺติ กาโร กรณํ กิริยาติ อตฺถโต เอกํ, สนฺนิธิ กาโร อสฺสาติ สนฺนิธิการํ ¶ , สนฺนิธิการเมว สนฺนิธิการกํ, ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตึ วีตินามิตสฺเสตํ นามํ. ตสฺมา เอวํ สนฺนิธิกตํ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา ‘อชฺโฌหริสฺสามี’ติ คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ, ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายติ, คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ, โย อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, อุณฺหยาคุยา วา คหิตาย สนฺทิสฺสติ, ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ยํ ปน ภิกฺขุ นิรเปกฺโข สามเณรานํ ปริจฺจชิตฺวา เตหิ นิหิตํ ลภิตฺวา ภฺุชติ, ตํ วฏฺฏติ ¶ . สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส กปฺปิยโภชนํ ภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อกปฺปิเยสุ ปน มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, เสเสสุ ปน ทุกฺกเฏน สทฺธึ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ, อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ. โย ปน ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ตสฺส สพฺพวิกปฺเปสุ อปรมฺปิ ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติ. สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, อนติริตฺตปจฺจยา สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺติ, สติ ปจฺจเย วิกาลปจฺจยา ยามกาลิกาทีสุ จ อนาปตฺติ. อวเสเสสุ วิกาลปจฺจยา ปาจิตฺติยํ วฑฺฒติเยว. ภิกฺขุสฺส ปน สนฺนิธิ ภิกฺขุนิยา วฏฺฏติ, ภิกฺขุนิยา จ สนฺนิธิ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๒๑-๔๒๒) อนฺุาตตฺตา วฏฺฏตีติ.
สาวตฺถิยํ อายสฺมนฺตํ เพลฏฺสีสํ อารพฺภ สนฺนิธิการกโภชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ ¶ , สตฺตาหกาลิก ยาวชีวิกานํ ปน อาหารตฺถาย ปฏิคฺคหเณ อชฺโฌหาเร จ ทุกฺกฏํ. ยถา เจตานิ อาหารตฺถาย น กปฺปนฺติ, เอวํ ยาวกาลิกาทีหิ สํสฏฺานิปิ, วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยาวกาลิเกน, ภิกฺขเว, ยามกาลิกํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ กาเล กปฺปติ, วิกาเล น กปฺปตี’’ติอาทิ (มหาว. ๓๐๕). ตสฺมา สเจปิ ตํ ตํ เตน เตน สทฺธึ สํสฏฺํ ลภติ, สเจ อสมฺภินฺนรสํ วา โหติ สุโธตํ วา, ยถา อิตเรน สํสคฺโค น ปฺายติ, อตฺตโน กาลานุรูเปน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ปน สมฺภินฺนรสํ วา โหติ ทุทฺโธตํ วา, น วฏฺฏติ. ยาวกาลิกฺหิ อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกเมว อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ. ตสฺมา เตน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเร ปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ, ทฺวีหปฺปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ, ตีหปฺปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฺปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมาเยว หิ ‘‘สตฺตาหกาลิเกน, ภิกฺขเว ¶ , ยาวชีวิกํ ตทหุปฏิคฺคหิต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ กปฺปตี’’ติ วุตฺตํ. กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชน สนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา, อิเมสุ ปน จตูสุ กาลิเกสุ ¶ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิมเมว ทฺวยํ อนฺโตวุฏฺฺเจว สนฺนิธิการกฺจ, สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนติ. อกปฺปิยกุฏิยํ อนฺโตวุฏฺเน ปน เตน สทฺธึ อิตรทฺวยํ ตทหุปฏิคฺคหิตมฺปิ น วฏฺฏติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ, มหาปจฺจริยํ ปน อนฺโตวุฏฺํ โหตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณํ, อาปตฺติ ปน ทุกฺกฏเมว. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิ นาม สงฺฆสฺส วา อุปสมฺปนฺนปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ วสนตฺถาย กตเคหํ, ตตฺถ สหเสยฺยปฺปโหนเก ปเทเส วุฏฺํ ยาวกาลิกฺจ ยามกาลิกฺจ สงฺฆิกํ วา อุปสมฺปนฺนปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ อนฺโตวุฏฺํ นาม โหติ, ตตฺถ ปกฺกํ อนฺโตปกฺกํ นาม, ยตฺถ กตฺถจิ ปน สยํ ปกฺกํ สามํ ปกฺกํ นาม, ตํ สพฺพํ อนชฺโฌหรณียํ. เตน เตน สทฺธึ สํสฏฺมฺปิ ตํคติกเมว, สพฺพํ อชฺโฌหรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺมา อนฺโตวุฏฺอนฺโตปกฺกโมจนตฺถํ ภควตา จตสฺโส กปฺปิยภูมิโย (มหาว. ๒๙๕) อนฺุาตา, ตาสํ วินิจฺฉโย สมนฺตปาสาทิกายํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕) วุตฺโต. ยตฺถ ปเนตา น สนฺติ, ตตฺถ อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺตกํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สามํ ปากมฺปิ ปุนปากํ วฏฺฏติ, อสนฺนิธิการเก สนฺนิธิการกสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อสนฺนิธิการกสฺิโน, ยาวกาลิกาทีนิ ตีณิ นิทหิตฺวา ¶ สกํ สกํ กาลํ อนติกฺกมิตฺวา, ยาวชีวิกํ สทาปิ สติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อามิสํ, สนฺนิธิภาโว, ตสฺส อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติ.
สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ปณีตโภชนานีติ ปณีตสํสฏฺานิ สตฺตธฺนิพฺพตฺตานิ โภชนานิ. ยถา หิ อาชฺยุตฺโต รโถ ‘อาชฺรโถ’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ ปณีตสํสฏฺานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานีติ. เยหิ ปน ปณีเตหิ สํสฏฺานิ, ตานิ ‘ปณีตโภชนานี’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปเภททสฺสนตฺถํ เสยฺยถิทํ สปฺปิ นวนีตนฺติอาทิมาห, ตตฺถ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชสิกฺขาปเท ¶ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตลกฺขเณเนว เวทิตพฺพานิ. มจฺฉาทีสุ ปน สพฺโพปิ ‘โอทโก’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺตลกฺขโณ มจฺโฉ มจฺโฉเยว. เยสํ ปน ¶ มํสํ กปฺปติ, เตสํ มํสฺจ ขีรทธีนิ จ อิธาธิปฺเปตานิ. เอวรูปานิ ปณีตโภชนานีติ ยานิ เอเตหิ สปฺปิอาทีหิ สํสฏฺตฺตา ‘ปณีตโภชนานี’ติ วุจฺจนฺติ, ตถารูปานิ ปณีตโภชนานิ. อคิลาโนติ ยสฺส เตหิ วินาปิ ผาสุ โหติ. อตฺตโน อตฺถาย วิฺาเปตฺวาติ เอตฺถ ปน โย อคิลาโน สุทฺธานิ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชตฺถาย วิฺาเปติ, โส มหานามสิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๓๐๓) กาเรตพฺโพ, มจฺฉาทีนิ จตฺตาริ วิฺาเปนฺโต สูโปทนวิฺตฺติยา (ปาจิ. ๖๑๒-๖๑๓) กาเรตพฺโพ, สปฺปิอาทีหิ สํสฏฺโภชนานิ วิฺาเปนฺโต อิมินา กาเรตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหิ, สปฺปึ อากิริตฺวา เทหิ, สปฺปิมิสฺสกํ กตฺวา เทหิ, สห สปฺปินา เทหิ, สปฺปิฺจ ภตฺตฺจ เทหี’’ติ เอวํ วิฺาเปนฺตสฺส ตาว วิฺตฺติยา ทุกฺกฏํ, ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรเณ อชฺโฌหรเณ ปาจิตฺติยํ. ‘‘สปฺปิภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ปน ยสฺมา สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สูโปทนวิฺตฺติยา ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ภตฺตํ ทตฺวา ‘‘สปฺปึ กตฺวา ภฺุชาหี’’ติ นวนีตขีราทีนิ วา กปฺปิยภณฺฑํ วา เทติ ‘‘อิมินา สปฺปึ คเหตฺวา ภฺุชาหี’’ติ, ยถาวตฺถุกเมว. ‘‘โคสปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วุตฺเต ปน โคสปฺปึ วา เทตุ, ตสฺมึ อสติ ปุริมนเยน นวนีตาทีนิ วา, คาวึเยว วา เทตุ ‘‘อิโต สปฺปินา ภฺุชาหี’’ติ, ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน ‘‘โคสปฺปินา เทหี’’ติ ยาจิโต อชิกาสปฺปิอาทีหิ เทติ, วิสงฺเกตํ. เอวฺหิ สติ อฺํ ยาจิเตน อฺํ ทินฺนํ นาม โหติ, ตสฺมา อนาปตฺติ, เอส นโย ‘‘อชิกาสปฺปินา เทหี’’ติอาทีสุปิ. ‘‘กปฺปิยสปฺปินา เทหี’’ติ วุตฺเต อกปฺปิยสปฺปินา เทติ, วิสงฺเกตเมว. ‘‘อกปฺปิยสปฺปินา เทหี’’ติ วุตฺเต อกปฺปิยสปฺปินาว เทติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ ทุกฺกฏเมว. อิมินา นเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. สเจ ปน สพฺเพหิปิ สปฺปิอาทีหิ เอกฏฺาเน วา นานาฏฺาเน วา วิฺาเปตฺวา ปฏิลทฺธํ เอกโต สมฺภินฺนรสํ กตฺวา ตโต กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปิ อชฺโฌหรติ, นว ปาจิตฺติยานิ.
สาวตฺถิยํ ¶ ¶ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ปณีตโภชนวิฺตฺติวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อคิลาโน’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, คิลานสฺส อคิลานสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. คิลานสฺิสฺส, คิลานกาเล วิฺาเปตฺวา อคิลานสฺส ภฺุชโต, คิลานสฺส เสสเก, าตกปฺปวาริตฏฺานโต, อฺสฺสตฺถาย วิฺตฺเต, อตฺตโน ธเนน คหิเต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปณีตโภชนตา, อคิลานตา, กตวิฺตฺติยา ปฏิลาโภ, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. อทฺธานสมุฏฺานํ, กิริยํ ¶ , โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม อทินฺนนฺติ กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา คณฺหนฺตสฺส หตฺถปาเส ตฺวา กายกายปฺปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน น ทินฺนํ, อปฺปฏิคฺคหิตกสฺเสตํ นามํ. อปฺปฏิคฺคหิตกฺหิ ภิกฺขุโน อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ. ปฏิคฺคหิตํ อนฺตมโส วิสฺสาสิกสนฺตกมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺส ลกฺขณํ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺพํ. สเจ หิ โย โกจิ อนุปสมฺปนฺโน อนฺตมโส ติรจฺฉาโนปิ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา หตฺถปาเส ิโต กายาทีนํ อฺตเรน เทติ, ตฺเจ ภิกฺขุนา เยน เกนจิ สรีราวยเวน วา, ตปฺปฏิพทฺเธน วา, สํหาริเมน จ อนฺตมโส มฺเจนาปิ, ธาเรตุํ สมตฺเถน จ อนฺตมโส อตตฺถชาตกรุกฺขปณฺเณนาปิ, สูจิยา ปรามฏฺมตฺเตนาปิ ปฏิคฺคหิตํ, ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธํ นาม อิธ นตฺถิ, ยมฺปิ นตฺถุกรณิยา ทิยฺยมานํ นาสิกาย, อกลฺลโก วา มุเขน ปฏิคฺคณฺหาติ, สพฺพํ วฏฺฏติ, อาโภคมตฺตเมว เหตฺถ ปมาณํ. ปุพฺพาโภเค จ สติ ปจฺฉา นิทฺทายนฺตสฺส ปตฺเต ทินฺนมฺปิ หตฺถปาเส สติ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ยมฺปิ ‘‘ปตฺเตน ปฏิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ นิสินฺนสฺเสว หตฺเถ ปตติ, ตํ วฏฺฏติเยว. อภิหฏภาชนโต ¶ ปติตรชมฺปิ วฏฺฏติ, ตตฺถ ิตนิสินฺนนิปนฺนานํ ปวารณาสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว หตฺถปาโส เวทิตพฺโพ.
สเจ ปน ทายกปฺปฏิคฺคาหเกสุ เอโก อากาเส โหติ, เอโก ภูมิยํ, ภูมฏฺสฺส สีเสน อากาสฏฺสฺส จ เปตฺวา ทาตุํ วา คเหตุํ วา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. สเจปิ เอโก กูเป โหติ, เอโก กูปตเฏ, เอโก วา รุกฺเข, เอโก ปถวิยํ, วุตฺตนเยเนว หตฺถปาสปฺปมาณํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. ตสฺมึ ตฺวา สเจปิ ทฺเว ตโย วา สามเณรา ยํ มชฺฌิโม ปุริโส อุกฺขิปิตุํ สกฺโกติ, เอวรูปํ ภารํ ปวฏฺเฏนฺตา ภิกฺขุโน ภูมิยํ ปิตหตฺถํ ¶ อาโรเปนฺติ, อุกฺขิปิตฺวา วา ภิกฺขุโน ปสาริตหตฺเถ เอกเทเสนาปิ เปนฺติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. ยํ ปน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปตฺเต รชํ ปตติ, ตํ อปฺปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ตสฺมา ปฏิคฺคเหตฺวาว ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา. อปฺปฏิคฺคเหตฺวา คณฺหนฺตสฺส วินยทุกฺกฏํ, ตํ ปน ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. สเจ ¶ ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเต วจนํ อสฺสุตฺวา วา อนาทิยิตฺวา วา ภิกฺขํ เทนฺติเยว, วินยทุกฺกฏา มุจฺจติ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา อฺา ภิกฺขา ปฏิคฺคเหตพฺพา. สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทตฺวา ปุน เตน ทินฺนํ วา ตสฺส วิสฺสาเสน วา ปฏิคฺคเหตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อสฺสุเขฬสิงฺฆาณิกาทีสุ ยํ านโต จวิตฺวา หตฺเถ วา ปตฺเต วา ปตติ, ตํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, องฺคลคฺคํ ปฏิคฺคหิตเมว. ปตนฺตมฺปิ โวจฺฉินฺนฺเจ อนฺตรา น คเหตพฺพํ, อุคฺคหิตกํ นาม โหติ, ตํ ปจฺฉา ปฏิคฺคหิตมฺปิ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เภสชฺชํ วา มูลผลํ วา มาตาทีนํ อตฺถาย คเหตฺวา ฉายตฺถาย วา ผลินิสาขํ อุกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ, ตโต ยํ อิจฺฉติ, ตํ ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ตตฺถ ชาตกผลินิสาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาเลติ. ตสฺส ตโต ลทฺธํ ผลํ น วฏฺฏติ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ, อฺสฺส ตํ วฏฺฏติ, ผลิรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา อาลมฺพิตุํ วา วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปิเต ยํ อฺํ องฺกุราทิ อุปฺปชฺชติ, ปฏิคฺคหิตเมว ตํ. ยาว หิ หตฺถโต มุตฺเต นิรเปกฺโข น โหติ, นิรเปกฺขตาย วา หตฺถโต น ¶ มุจฺจติ, ตาว น ปฏิคฺคหณํ วิชหติ, อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
มุขทฺวารนฺติ คลนาฬิกํ. มุเขน วา หิ ปวิฏฺํ โหตุ, นาสิกาย วา, คเลน อชฺโฌหรณียตาย สพฺพมฺปิ ตํ มุขทฺวารํ ปเวสิตเมว โหติ. อาหารนฺติ ยํกิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา สตฺตาหกาลิกํ วา ยาวชีวิกํ วา. สพฺพฺเหตํ อชฺโฌหรณียตฺตา ‘อาหาโร’ติ วุจฺจติ, ตตฺถ สพฺพมฺปิ ธฺํ วา ธฺานุโลมํ วา ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสผลเอฬาลุกสงฺขาตํ นววิธํ มหาผลฺเจว อปรณฺณฺจ, ยฺจฺํ วนมูลปตฺตปุปฺผผลาทิ อาหารตฺถํ ผรติ, ตํ สพฺพํ ยาว มชฺฌนฺหิกกาโล, ตาว ปริภฺุชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ นาม. อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานนฺติ อิมานิ อฏฺ ปานานิ, ยานิ จ เตสํ อนุโลมานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิฏฺโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ, เอตานิ สพฺพานิ อนุปสมฺปนฺเนหิ ¶ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตานิ อาทิจฺจปากานิ วา ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามํ นิทหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพโต ยามกาลิกานิ นาม. อวเสเสสุ อนฺุาตผลปตฺตปุปฺผรเสสุปิ เอเสว นโย. สปฺปิอาทีนิ ปฺจ เภสชฺชานิ สตฺตาหํ นิทหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพโต สตฺตาหกาลิกานิ นาม. อิทํ ปน ยาวกาลิกาทิตฺตยํ กาลวิมุตฺตฺจ อุทกํ เปตฺวา อวเสสมูลผลาผลาทิ ยํ เนว ขาทนียตฺถํ น โภชนียตฺถํ ผรติ ¶ , ตํ ยาวชีวํ นิทหิตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภฺุชิตพฺพโต ยาวชีวิกํ นาม. อาหเรยฺยาติ ปเวเสยฺย. อฺตฺร อุทกทนฺตโปนาติ อิทํ อนาหาเรปิ อุทเก อาหารสฺาย, ทนฺตโปเน จ ‘‘มุขทฺวารํ อาหฏํ อิท’’นฺติ สฺาย กุกฺกุจฺจายนฺตานํ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ วุตฺตํ. อุทกฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ, ทนฺตกฏฺฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. เปตฺวา ปน อิทํ ทฺวยํ อวเสสํ อชฺโฌหรณตฺถาย คณฺหโต คหเณ ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ, สเจปิ ทนฺตกฏฺรโส อชานนฺตสฺส อนฺโต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมว.
เวสาลิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ อทินฺนํ อาหารํ อาหรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร อุทกทนฺตโปนา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ ¶ , อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปฏิคฺคหิตเก อปฺปฏิคฺคหิตสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคหิตสฺิสฺส, อุทกทนฺตโปเน, จตฺตาริ มหาวิกฏานิ สติ ปจฺจเย อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. เอตฺถ ทุพฺพโจปิ อสมตฺโถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปกฺเขเยว ติฏฺติ, ฉาริกาย อสติ สุกฺขทารุํ ฌาเปตฺวา, ตสฺมิฺจ อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ, มตฺติกตฺถาย จ ปถวึ ขณิตุมฺปิ วฏฺฏติ, อิทํ ปน จตุพฺพิธมฺปิ มหาวิกฏํ กาโลทิสฺสํ นาม สปฺปทฏฺกฺขเณเยว สามํ คเหตุํ วฏฺฏติ, อฺทา ปฏิคฺคาหาเปตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตา, อนนฺุาตตา, ธูมาทิอพฺโพหาริกาภาโว, อชฺโฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ.
ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.
๕. อเจลกวคฺโค
๑. อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา
อเจลกวคฺคสฺส ปเม เอเตสํ อเจลกาทีนํ อฺติตฺถิยานํ ยํกิฺจิ อามิสํ เอกปฺปโยเคน ¶ เทนฺตสฺส เอกํ ปาจิตฺติยํ, อวจฺฉินฺทิตฺวา อวจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
เวสาลิยํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อารพฺภ ปริพฺพาชิกาย ทฺเว ปูเว ทานวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อุทกทนฺตโปนํ เทนฺตสฺส, อติตฺถิเย ติตฺถิยสฺิสฺส, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อติตฺถิเย อติตฺถิยสฺิสฺส, อนุปสมฺปนฺเนน ทาเปนฺตสฺส, เตสํ สนฺติเก ภาชนํ นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ภณนฺตสฺส, เตสํ วา นิกฺขิตฺตภาชเน เทนฺตสฺส, พาหิรเลปํ ¶ เทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อฺติตฺถิยตา, อนนฺุาตตา, อชฺโฌหรณียํ อชฺโฌหรณตฺถาย สหตฺถา อนิกฺขิตฺตภาชเน ทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ.
อเจลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ¶ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ ยํกิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา น ทาเปตฺวา วา. อุยฺโยเชยฺยาติ มาตุคาเมน สทฺธึ หสนกีฬนรโหนิสชฺชาทีนิ กตฺตุกาโม ‘คจฺฉา’ติอาทีนิ วตฺวา อุยฺโยเชยฺย. เอตเทวาติ เอตํ อนาจารเมว ปจฺจยํ กริตฺวา, น อฺํ ปติรูปํ การณํ. ปาจิตฺติยนฺติ อุยฺโยชนมตฺเต ตาว ทุกฺกฏํ, ยทา ปนสฺส โส ทสฺสนูปจารํ วา สวนูปจารํ วา เอเกน ปาเทน วิชหติ, อปรํ ทุกฺกฏํ, ทุติเยน วิชหิเต ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ จ ทสฺสนูปจารสฺส อชฺโฌกาเส ตฺวา ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณํ, ตถา สวนูปจารสฺส. สเจ ปน อนฺตรา กุฏฺฏทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโวเยว อุปจาราติกฺกโม.
สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ อุยฺโยชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อุยฺโยชนาณตฺติกาย สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, อุภินฺนมฺปิ กลิสาสนาโรปเน ทุกฺกฏเมว, ‘‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’’ติ เอวมาทีหิ ปติรูปการเณหิ อุยฺโยเชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อนาจารํ อาจริตุกามตา, ตทตฺถเมว อุปสมฺปนฺนสฺส อุยฺโยชนํ, เอวํ อุยฺโยชิตสฺส อุปจาราติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติ.
อุยฺโยชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ¶ สห อุโภหิ ชเนหีติ สโภชนํ, ตสฺมึ สโภชเน. อถ วา สโภชเนติ สโภเค, ราคปริยุฏฺิตปุริสสฺส หิ อิตฺถี โภโค, อิตฺถิยา จ ปุริโส, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘อิตฺถี เจว โหติ, ปุริโส จา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๘๑) วุตฺตํ. อนุปขชฺช นิสชฺชํ กปฺเปยฺยาติ อนุปวิสิตฺวา นิสีเทยฺย, ยํ ตสฺมึ กุเล สยนิฆรํ, ตสฺส มหาจตุสฺสาลาทีสุ กตสฺส มหลฺลกสฺส ปิฏฺสงฺฆาฏโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา อนฺโตสยนสฺส อาสนฺเน าเน, ขุทฺทกสฺส วา เวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา นิสีเทยฺยาติ อตฺโถ, เอวํ นิสินฺนสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ¶ อุปนนฺทํ อารพฺภ อนุปขชฺช นิสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อสยนิฆเร สยนิฆรสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. นสยนิฆรสฺิสฺส, วุตฺตลกฺขณํ ปเทสํ อนติกฺกมิตฺวา นิสินฺนสฺส, ภิกฺขุสฺมึ ทุติยเก สติ, อุโภสุ นิกฺขนฺเตสุ วา, วีตราเคสุ วา นิสีทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อวีตราคชายมฺปติกานํ ¶ สนฺนิหิตตา, สยนิฆรตา, ทุติยสฺส ภิกฺขุโน อภาโว, อนุปขชฺช นิสีทนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสานีติ.
สโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๕. รโหปฏิจฺฉนฺน-รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺถปฺจมานิ สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ ปฏิจฺฉนฺนาสเน จ, รโห จ นิสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตานิ, สาธารณปฺตฺติโย, เอเตสมฺปิ สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสาเนว. เสโส กถานโย อนิยตทฺวเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
รโหปฏิจฺฉนฺน-รโหนิสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ นิมนฺติโตติ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺติโต. สภตฺโต สมาโนติ เตเนว นิมนฺตนภตฺเตน สภตฺโต สมาโน. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉาติ อนฺโตอุปจารสีมาย ทสฺสนูปจาเร ภิกฺขุํ ¶ ทิสฺวา ยํ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาปุจฺฉิตุํ, ตาทิสํ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปชฺชามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วาติ เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตสฺมึ ภุตฺเต วา อภุตฺเต วา. กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺยาติ ยสฺมึ กุเล นิมนฺติโต, ตโต อฺานิ กุลานิ ปวิเสยฺย. อฺตฺร สมยา ปาจิตฺติยนฺติ สเจ โส ภิกฺขุ วุตฺตลกฺขณํ ทุวิธมฺปิ สมยํ เปตฺวา อวีติวตฺเต ¶ มชฺฌนฺหิเก อฺํ กุลํ ปวิสติ, อถสฺส ฆรูปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏํ, ปมปาเทน อุมฺมารํ อติกฺกมนฺตสฺส อปรมฺปิ ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเทน อติกฺกเม ปาจิตฺติยํ.
ราชคเห อุปนนฺทํ อารพฺภ จาริตฺตาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุํ, อนาปุจฺฉา, ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ, อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ จตุพฺพิธา อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนิมนฺติเต นิมนฺติตสฺิสฺส, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. ตสฺมึ อนิมนฺติตสฺิสฺส, สมเย สนฺตํ ภิกฺขุํ อาปุจฺฉิตฺวา, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉิตฺวา ปวิสโต, อฺสฺส ฆเรน วา ฆรูปจาเรน วา มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉโต, อนฺตรารามภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยปฏิกฺกมนภตฺติยฆรานิ คจฺฉโต, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตเรน นิมนฺตนสาทิยนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉนา, ภตฺติยฆรโต อฺฆรปฺปวิสนํ, มชฺฌนฺหิกานติกฺกโม, สมยสฺส วา อาปทานํ วา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
จาริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ จตุมาสปฺปจฺจยปวารณาติ จตฺตาโร มาเส คิลานปฺปจฺจยปวารณา, สพฺพฺเจตํ วตฺถุวเสน วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – จตุมาสปวารณา วา โหตุ, ปุนปวารณา วา, นิจฺจปวารณา วา, สพฺพาปิ สาทิตพฺพา, ‘‘อิทานิ มม โรโค นตฺถี’’ติ น ปฏิกฺขิปิตพฺพา, ‘‘โรเค ปน สติ วิฺาเปสฺสามี’’ติ อธิวาเสตพฺพาติ. ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ เอตฺถ สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสชฺเชหิ วา ปริจฺเฉโท กโต โหติ ‘‘เอตฺตกาเยว รตฺติโย, เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิฺาเปตพฺพานี’’ติ, อถ ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ, น เภสชฺชกรณีเยน วา เภสชฺชํ, อฺเภสชฺชกรณีเยน วา อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
สกฺเกสุ ¶ ¶ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ เภสชฺชวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, นตตุตฺตริ ตตุตฺตริสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. นตตุตฺตริ นตตุตฺตริสฺิสฺส, เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ตโต อฺเหิ วา อธิกตเรหิ วา อตฺเถ สติ, ยาสุ จ รตฺตีสุ ปวาริโต, ตา อติกฺกมิตฺวาปิ อตฺเถ สติ ยถาภูตํ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปนฺตสฺส, เย จ าตเก วา ปุคฺคลิกปฺปวารณาย ปวาริเต วา อปริยนฺตปวารณาย วา ปวาริเต, อฺสฺส วา อตฺถาย, อตฺตโน วา ธเนน วิฺาเปนฺติ, เตสํ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สงฺฆปวารณตา, ตโต เภสชฺชวิฺตฺติ, อคิลานตา, ปริยนฺตาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺตสทิสานีติ.
มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม อุยฺยุตฺตนฺติ กตอุยฺโยคํ, คามโต นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ. เสนนฺติ จตุรงฺคินึ. อฺตฺร ตถารูปปฺปจฺจยาติ ตถารูเป การเณ อสติ เกวลํ เสนํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฏํ, ทสฺสนูปจาเร ตฺวา ปสฺสโต ปาจิตฺติยํ. ทสฺสนูปจาโร นาม ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, ตํ ปน วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ เสนาทสฺสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, หตฺถิอาทีสุ เอกเมกํ ทสฺสนาย คมเน วุตฺตนเยเนว ทุกฺกฏํ, ตถา อนุยฺยุตฺเต อุยฺยุตฺตสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อนุยฺยุตฺตสฺิโน ปน, อาราเม ตฺวา อตฺตโน ิโตกาสํ อาคตํ, ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตฺจ ปสฺสโต, ตถารูปปฺปจฺจเย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุยฺยุตฺตเสนํ ทสฺสนตฺถาย คมนํ, อนฺุาโตกาสโต อฺตฺร ทสฺสนํ, ตถารูปปฺปจฺจยสฺส อาปทาย วา อภาโวติ ¶ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ¶ ¶ ตโต เจ อุตฺตรีติ ติรตฺตโต อุตฺตริ จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย เสนาย ติฏฺตุ วา นิสีทตุ วา สยตุ วา, สเจปิ อากาเส อิทฺธิยา กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปติ, ปาจิตฺติยเมว.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อติเรกติรตฺตํ เสนาย วสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกติรตฺเต อติเรกสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อูนกสฺิสฺส, ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสโต, คิลานสฺส วา คิลานกรณีเยน วา วสโต, ปฏิเสนารุทฺธาย เสนาย, เกนจิ ปลิพุทฺธสฺส, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ติรตฺตาติกฺกโม, เสนาย สูริยสฺส อตฺถงฺคโม, คิลานตาทีนํ อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติ.
เสนาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุยฺโยธิกํ, สมฺปหารฏฺานสฺเสตํ นามํ. พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ, พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ. เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ, เสนานิเวสสฺเสตํ นามํ. อนีกสฺส ทสฺสนํ อนีกทสฺสนํ. อนีกํ นาม ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี, ติปุริโส อสฺโส, จตุปฺปุริโส รโถ’’ติอิมินา (ปาจิ. ๓๑๔) ลกฺขเณน ตโย หตฺถี ปจฺฉิมกํ หตฺถานีกํ, อสฺสานีกรถานีเกสุปิ เอเสว นโย. จตฺตาโร ปน อาวุธหตฺถา ปุริสา ปจฺฉิมกํ ปตฺตานีกํ. เอเตสุ ยํกิฺจิ ทสฺสนาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฏํ, ทสฺสนูปจาเร ตฺวา ปสฺสโต ปาจิตฺติยํ, อุปจารํ ปน วิชหิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. เสสํ อุยฺยุตฺตเสนาสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อาปตฺติเภโท ปเนตฺถ นตฺเถวาติ.
อุยฺโยธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อเจลกวคฺโค ปฺจโม.
๖. สุราปานวคฺโค
๑. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา
สุราปานวคฺคสฺส ¶ ¶ ปเม สุราเมรยปาเนติ เอตฺถ ปิฏฺาทีหิ กตํ มชฺชํ สุรา, ปุปฺผาทีหิ กโต อาสโว เมรยํ, ตทุภยมฺปิ พีชโต ปฏฺาย กุสคฺเคนาปิ ปิวโต ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
โกสมฺพิยํ สาคตตฺเถรํ อารพฺภ มชฺชปิวนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อมชฺเช มชฺชสฺิสฺส, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อมชฺชสฺิสฺส, อมชฺชํ มชฺชวณฺณคนฺธรสํ โลณโสวีรกํ วา สุตฺตํ วา ปิวโต, วาสคฺคาหาปนตฺถํ อีสกํ มชฺชํ ปกฺขิปิตฺวา สูปาทีนิ ปจนฺติ, เตสุ สูปสมฺปากาทีสุ ¶ , อามลกรสาทีหิ อมชฺชํ มชฺชสทิสํ อริฏฺํ กโรนฺติ, ตํ ปิวโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. มชฺชภาโว, ตสฺส ปานฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย องฺคุลิปโตทเกติ องฺคุลีหิ อุปกจฺฉกาทิฆฏฺฏนํ วุจฺจติ, อปิจ เยน เกนจิ สรีราวยเวน หสาธิปฺปายสฺส อุปสมฺปนฺนํ ผุสโต ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ องฺคุลิปโตทเกน หสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, อิธ ปน ภิกฺขุนีปิ ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขุ จ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺโน เอว, กายปฺปฏิพทฺธาทีสุ สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว. น หสนาธิปฺปายสฺส, สติ กรณีเย อามสโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. หสาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส ¶ กาเยน กายามสนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสาเนวาติ.
องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ¶ อุทเก หสธมฺเมติ อุทกกีฬา วุจฺจติ. ตสฺมา โย ภิกฺขุ อุปริโคปฺผเก อุทเกเยว คจฺฉนฺโต หสาธิปฺปาโย นิมุชฺชติ วา อุมฺมุชฺชติ วา, ตสฺส นิมุชฺชนาทีนํ อตฺถาย โอตรนฺตสฺส หตฺถวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุ ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ, นิมุชฺชิตฺวา อนฺโตอุทเกเยว คจฺฉนฺตสฺส หตฺถวารปทวาเรสุ, ตรนฺตสฺส วา เยน เยน องฺเคน ตรติ, ตสฺส ตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ อุทเก กีฬนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อุทเก อหสธมฺเม หสธมฺมสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ, ตถา นาวาย กีฬโต หตฺเถน วา ปาเทน วา กฏฺเน วา กถลาย วา อุทกํ ปหรโต, ภาชนคตํ อุทกํ วา กฺชิกาทีนิ วา จิกฺขลฺลํ วา ขิปนกีฬาย กีฬโต ทุกฺกฏํ. อตฺถโชตกํ ปน อกฺขรํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. น หสาธิปฺปายสฺส, สติ กรณีเย โอตริตฺวา นิมุชฺชนาทีนิ กโรนฺตสฺส, ปารํ คจฺฉโต, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปริโคปฺผกตา, หสาธิปฺปาเยน กีฬนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสานีติ.
หสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ¶ อนาทริเยติ ปุคฺคลสฺส วา ธมฺมสฺส วา อนาทรกรเณ. ตสฺมา โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ตสฺส วา วจนํ อกตฺตุกามตาย, ตํ วา ธมฺมํ อสิกฺขิตุกามตาย อนาทริยํ กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยํ.
โกสมฺพิยํ ¶ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ อนาทริยกรณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, อุปสมฺปนฺเนน วา อนุปสมฺปนฺเนน วา ‘‘อิทํ น สลฺเลขาย สํวตฺตตี’’ติอาทินา ¶ นเยน อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส อนาทริเยปิ ทุกฺกฏเมว. ปเวณิอาคตํ ปน อุคฺคหํ คเหตฺวา ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๔) ภณนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อนาทริยกรณนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
อนาทริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม ภึสาเปยฺยาติ ภึสาปนตฺถํ รูปาทีนิ อุปสํหเรยฺย, ภยานกกถํ วา กเถยฺย. โส ปน ภายตุ วา, มา วา, อิตรสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ ภึสาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ. อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, น ภึสาเปตุกามสฺส ตถา กโรโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, ตสฺส ทสฺสนสวนวิสเย ภึสาเปตุกามตาย วายามนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
ภึสาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โชติสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ วิสิพฺพนาเปกฺโขติ ตปฺปิตุกาโม. สมาทเหยฺยาติ ชาเลยฺย, อฺตฺร ตถารูปปฺปจฺจยาติ ปทีปุชฺชาลนํ วา ปตฺตปจนาทีสุ โชติกรณํ วาติ เอวรูปํ ปจฺจยํ วินา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สยํ สมาทหนฺตสฺส อรณิสณฺาปนโต ปฏฺาย ยาว ชาลา น อุฏฺหติ, ตาว สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, ชาลุฏฺาเน ปาจิตฺติยํ. สมาทหาเปนฺตสฺส อาณตฺติยา ทุกฺกฏํ, สกึ อาณตฺเตน พหุมฺปิ สมาทหิเต เอกเมว ปาจิตฺติยํ.
ภคฺเคสุ ¶ ¶ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ โชตึ สมาทหิตฺวา วิสิพฺพนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อคิลาโน, อฺตฺร ตถารูปปฺปจฺจยา’’ติ อิมาเนตฺถ ทฺเว อนุปฺตฺติโย, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, คิลานสฺส อคิลานสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ, ตถา ปฏิลาตํ อุกฺขิปนฺตสฺส, ตฺจ อวิชฺฌาตํ อุกฺขิปิตฺวา ยถาาเน เปนฺตสฺส. วิชฺฌาตํ ปน ชาลยโต ปาจิตฺติยเมว. คิลานสฺส คิลานสฺิสฺส ¶ , อฺเน กตํ วา วีตจฺจิตงฺคารํ วา วิสิพฺเพนฺตสฺส, ปทีปโชติกชนฺตาฆราทิเก ตถารูปปฺปจฺจเย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อคิลานตา, อนฺุาตการณาภาโว, วิสิพฺเพตุกามตา, สมาทหนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติ.
โชติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นหานสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม นหาเยยฺยาติ โย ภิกฺขุ มชฺฌิมเทเส นหานทิวสโต ปฏฺาย อทฺธมาเส อปุณฺเณ อฺตฺร สมยา ‘‘นหายิสฺสามี’’ติ จุณฺณํ วา มตฺติกํ วา อภิสงฺขโรติ, ตสฺส ตโต ปฏฺาย สพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฏํ, นหานปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ. สมเยสุ ปริเวณสมฺมชฺชนมตฺตมฺปิ กมฺมสมโย, อทฺธโยชนํ คนฺตุกามสฺส, คจฺฉโต, คตสฺส วา อทฺธานคมนสมโย, สรเชน วาเตน โอกิณฺณสฺส ทฺวีสุ วา ตีสุ วา อุทกผุสิเตสุ กาเย ปติเตสุ วาตวุฏฺิสมโยติ เวทิตพฺโพ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ราชคเห สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ น มตฺตํ ชานิตฺวา นหายนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร สมยา’’ติ อยเมตฺถ ฉพฺพิธา อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อติเรกทฺธมาเส อูนกสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อติเรกสฺิสฺส, สมเย วา นหายนฺตสฺส, โย วา นทีปารํ คจฺฉนฺโต วาลุกํ อุกฺกิริตฺวา กตอาวาเฏสุปิ นหายติ, ตสฺส, ปจฺจนฺติเม ชนปเท สพฺเพสํ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. มชฺฌิมเทโส, อูนกทฺธมาเส นหานํ, สมยานํ วา นทีปารคมนสฺส วา ¶ อาปทานํ วา อภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติ.
นหานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ¶ อลภีติ ลโภ, ลโภ เอว ลาโภ, กึ อลภิ? จีวรํ, กีทิสํ? นวํ, อิติ ‘‘นวจีวรลาเภนา’’ติ วตฺตพฺเพ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา นวํจีวรลาเภนาติ วุตฺตํ, ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ อตฺโถ. มชฺเฌ ิตปททฺวเย ปนาติ นิปาตมตฺตํ. ภิกฺขุนาติ เยน ลทฺธํ, ตสฺส นิทสฺสนํ, เสสํ ปทตฺถโต อุตฺตานเมว. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – นิวาสนปารุปนุปคํ จีวรํ ลภิตฺวา ตสฺส นิฏฺิตรชนสฺส ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ปเทเส กํสนีเลน วา ปตฺตนีเลน วา กทฺทเมน วา เยน เกนจิ กาฬเกน วา โมรกฺขิมณฺฑลมงฺคุลปิฏฺีนํ อฺตรปฺปมาณํ กปฺปพินฺทุํ อาทิยิตฺวา ตํ จีวรํ ปริภฺุชิตพฺพํ, อนาทิยิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อตฺตโน จีวรอชานนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อาทินฺเน อนาทินฺนสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อาทินฺนสฺิสฺส ¶ , กปฺเป นฏฺเ, กปฺปกโตกาเส ชิณฺเณ, กปฺปกเตน อกปฺปกเต สํสิพฺพิเต, ปจฺฉา อาโรปิเตสุ อคฺคฬอนุวาตปริภณฺเฑสุ ตํ ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วุตฺตปฺปการสฺส จีวรสฺส อกตกปฺปกตา, น นฏฺจีวราทิตา, นิวาสนํ วา ปารุปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม วิกปฺเปตฺวาติ เอตฺถ ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ¶ ตฺวา ‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา วตฺวา ‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ กโรหี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ. อปโร นโย, ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ ¶ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ. ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘ติสฺโส ภิกฺขู’ติ วา…เป… ‘ติสฺสา สามเณรี’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ ¶ , อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโต ปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺตีติ. ปตฺตวิกปฺปนายมฺปิ เอเสว นโย. อิติ อิมาสุ ทฺวีสุ วิกปฺปนาสุ ยาย กายจิ วิกปฺปนาย ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจิ จีวรํ วิกปฺเปตฺวา วุตฺตนเยน ¶ อกตปฺปจฺจุทฺธารํ วา เยน วินยกมฺมํ กตํ, ตสฺส วา วิสฺสาเสน อคฺคเหตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ อปฺปจฺจุทฺธารณํ ปริภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ตํ ปน อธิฏฺหนฺตสฺส วา วิสฺสชฺเชนฺตสฺส วา ทุกฺกฏํ, ตถา ปจฺจุทฺธารเณ อปฺปจฺจุทฺธารณสฺิสฺส เวมติกสฺส วา. ปจฺจุทฺธารณสฺิสฺส ปน วิสฺสาเสน ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สามํ วิกปฺปิตสฺส อปฺปจฺจุทฺธาโร, วิกปฺปนุปคจีวรตา, ปริโภโคติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ¶ ปตฺตนฺติ อธิฏฺานุปคํ. จีวรนฺติ วิกปฺปนุปคํ. นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจติ. สูจิฆรํ นาม สสูจิกํ วา อสูจิกํ วา. กายพนฺธนํ นาม ปฏฺฏิกา วา สูกรนฺตกํ วา. อปนิเธยฺยาติ อปเนตฺวา นิทเหยฺย. หสาเปกฺโขติ หสาธิปฺปาโย. ปาจิตฺติยนฺติ สยํ อปนิเธนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อฺํ อาณาเปนฺตสฺส อาณตฺติยา ทุกฺกฏํ, เตน อปนิหิเต อิตรสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อปนิธานวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, วุตฺตปฺปการานิ ปน ปตฺตาทีนิ เปตฺวา อฺํ ปริกฺขารํ อุปสมฺปนฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส วา สนฺตกํ อปนิเธนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ปฏิสาเมนฺตสฺส, ‘‘ธมฺมกถํ กตฺวา ทสฺสามี’’ติ ปฏิสาเมนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺตกานํ ปตฺตาทีนํ อปนิธานํ, วิเหเสตุกามตา วา หสาธิปฺปายตา วาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติ.
อปนิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.
๗. สปฺปาณกวคฺโค
๑. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
สปฺปาณกวคฺคสฺส ¶ ปเม ปาโณติ ติรจฺฉานคตปาโณ อธิปฺเปโต. ตํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ มาเรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว, มหนฺเต ปน อุปกฺกมมหนฺตตาย อกุสลํ มหนฺตํ โหติ.
สาวตฺถิยํ ¶ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ ปาณํ ชีวิตา โวโรปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ปาเณ เวมติกสฺส, อปาเณ ปาณสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ ¶ . อปาณสฺิสฺส, อสฺจิจฺจ, อชานนฺตสฺส, นมรณาธิปฺปายสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. เสสํ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนยเมวาติ.
สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย สปฺปาณกนฺติ เย ปาณกา ปริโภเคน มรนฺติ, เตหิ สปฺปาณกํ, ตาทิสฺหิ ชานํ ปริภฺุชนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสเมตฺถ สิฺจนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ยถาธมฺมนฺติ โย ยสฺส อธิกรณสฺส วูปสมาย ธมฺโม วุตฺโต, เตเนว ธมฺเมน. นิหตาธิกรณนฺติ นิหตํ อธิกรณํ, สมถกฺขนฺธเก (จูฬว. ๑๘๕ อาทโย) สตฺถารา วุตฺตธมฺเมเนว วูปสมิตนฺติ อตฺโถ, วูปสมนนยํ ปนสฺส อธิกรณสมเถสุ ทสฺสยิสฺสาม. ปุนกมฺมาย อุกฺโกเฏยฺยาติ ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ (ปาจิ. ๓๙๔) วทนฺโต ปุนกรณตฺถาย อุจฺจาเลยฺย. ยถาิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น ทเทยฺย, ตสฺเสวํ กโรนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหตํ ¶ , ตํ สุนิหตเมว. สเจ วิปฺปกเต กมฺเม ปฏิกฺโกสติ, ตํ สฺาเปตฺวา กาตพฺพํ. อิตรถา กมฺมฺจ กุปฺปติ, การกานฺจ อาปตฺติ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ อุกฺโกฏนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม เวมติกสฺส, อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิโน, เวมติกสฺส วา ทุกฺกฏํ. อุภเยสุ อธมฺมกมฺมสฺิสฺส, ‘‘อธมฺเมน วา วคฺเคน วา อกมฺมารหสฺส วา กมฺมํ กต’’นฺติ ชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ยถาธมฺมํ นิหตภาโว, ชานนา, อุกฺโกฏนาติ ¶ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
อุกฺโกฏนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ทุฏฺุลฺลนฺติ สงฺฆาทิเสสํ อธิปฺเปตํ, ตํ เยน เกนจิ อุปาเยน ตฺวา ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ‘‘น ทานิ นํ ¶ กสฺสจิ ภิกฺขุโน อาโรเจสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา อาโรเจติ, ปาจิตฺติยํ, อาปชฺชิตฺวาว อาโรเจสฺสติ. สเจ ปน เอวํ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาทนตฺถเมว อฺสฺส อาโรเจติ, โสปิ อฺสฺสาติ เอเตนุปาเยน สมณสตมฺปิ อาปชฺชติเยว ตาว, ยาว โกฏิ น ฉิชฺชติ. กถํ ปน โกฏิ ฉิชฺชติ? สเจ หิ อาปนฺโน เอกสฺส อาโรเจติ, โสปิ อฺสฺส อาโรเจติ, โส นิวตฺติตฺวา เยนสฺส อาโรจิตํ, ตสฺเสว อาโรเจติ, เอวํ ตติเยน ปุคฺคเลน ทุติยสฺส อาโรจิเต โกฏิ ฉินฺนา โหติ.
สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ ทุฏฺุลฺลาปตฺติปฏิจฺฉาทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ทุฏฺุลฺลาย อาปตฺติยา อาทิปเท ปาจิตฺติยํ, อิตเรสุ ทฺวีสุ ทุกฺกฏํ, อทุฏฺุลฺลาย ติกทุกฺกฏํ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺเล วา อทุฏฺุลฺเล วา อชฺฌาจาเร ทุกฺกฏเมว. ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๔๐๑) วา ‘‘อยํ กกฺขโฬ ผรุโส ชีวิตนฺตรายํ วา พฺรหฺมจริยนฺตรายํ วา กริสฺสตี’’ติ วา อนาโรเจนฺตสฺส, ปติรูปํ ภิกฺขุํ อปสฺสโต ¶ , น ฉาเทตุกามสฺส, ‘‘ปฺายิสฺสติ สเกน กมฺเมนา’’ติ อนาโรเจนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลาปตฺติชานนํ, ‘‘ปฏิจฺฉาเทตุกามตาย นาโรเจสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขโปติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สมนุภาสนสอสาเนวาติ.
ทุฏฺุลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม อูนวีสติวสฺสนฺติ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย อปริปุณฺณวีสติวสฺสํ. อุปสมฺปาเทยฺยาติ อุปชฺฌาโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทยฺย. โส จ ปุคฺคโล อนุปสมฺปนฺโนติ ชานนฺเตนาปิ อชานนฺเตนาปิ ¶ อุปสมฺปาทิโต อนุปสมฺปนฺโนว. สเจ ปน โส ทสวสฺสจฺจเยน อฺํ อุปสมฺปาเทติ, ตฺเจ มฺุจิตฺวา คโณ ปูรติ, สูปสมฺปนฺโน. โสปิ ยาว น ชานาติ, ตาว ตสฺส เนว สคฺคนฺตราโย น โมกฺขนฺตราโย, ตฺวา ปน ปุน อุปสมฺปชฺชิตพฺพํ. เต จ ภิกฺขู คารยฺหาติ เปตฺวา อุปชฺฌายํ อวเสสา คารยฺหา โหนฺติ, สพฺเพ ทุกฺกฏํ อาปชฺชนฺติ. อิทํ ตสฺมึ ปาจิตฺติยนฺติ โย ปน อุปชฺฌาโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทติ, ตสฺมึเยว ปุคฺคเล อิทํ ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา โย ‘‘เอวํ อุปสมฺปาเทสฺสามี’’ติ คณํ วา อาจริยํ วา ปตฺตํ วา จีวรํ วา ปริเยสติ, สีมํ วา สมฺมนฺนติ (ปาจิ. ๔๐๔), อุทกุกฺเขปํ วา ปริจฺฉินฺทติ, โส เอเตสุ สพฺพกิจฺเจสุ ตฺติยา, ทฺวีสุ จ กมฺมวาจาสุ ทุกฺกฏานิ อาปชฺชิตฺวา กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ.
ราชคเห สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อูนวีสติวสฺสํ อุปสมฺปาทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อูนวีสติวสฺเส เวมติกสฺส, ปริปุณฺณวีสติวสฺเส อูนกสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อุภยตฺถ ปริปุณฺณสฺิสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อูนวีสติวสฺสตา, อูนกสฺิตา, อุปสมฺปาทนนฺติ ¶ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อูนวีสติวสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ ¶ เย ราชานํ วา วฺเจตฺวา สุงฺกํ วา ปริหริตุกามา โจรา กตกมฺมา เจว อกตกมฺมา จ มคฺคปฺปฏิปนฺนา, เตสุ อิธ เถยฺยสตฺถสฺิโน ตสฺส เถยฺยสตฺถภาวํ ตฺวา เตน สทฺธึ สํวิธาย คจฺฉนฺตสฺส สํวิธาเน จ คมเน จ โอวาทวคฺเค วุตฺตนเยน อาปตฺติวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, มนุสฺเสสุ อสํวิทหนฺเตสุ สยเมว สํวิทหิตฺวา คจฺฉนฺตสฺส, เถยฺยสตฺเถ เวมติกสฺส, อเถยฺยสตฺเถ เถยฺยสตฺถสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อเถยฺยสตฺถสฺิสฺส, อสํวิทหิตฺวา วา กาลวิสงฺเกเตน วา, อาปทาสุ วา, คจฺฉนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. เถยฺยสตฺถภาโว, ชานนํ, สํวิธานํ, อวิสงฺเกเตน คมนนฺติ ¶ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เถยฺยสตฺถสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ มาตุคาเมน สทฺธึ เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสเมตฺถ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธานสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
สํวิธานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายํ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา, เต กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทปฺตฺติวีติกฺกมนวเสน ปฺจวิธา. เตสุ มุทุกานํ ¶ อตฺถรณาทีนํ ผสฺโส วิย อิตฺถิสมฺผสฺโสปิ วฏฺฏตีติ เมถุนวีติกฺกมเน โทสํ อทิสฺวา ปฺตฺติวีติกฺกมนฺตรายิเก สนฺธาย ‘‘เยเม อนฺตรายิกา ธมฺมา วุตฺตา ภควตา, เต ปฏิเสวโต นาลํ อนฺตรายายา’’ติ วุตฺตํ. อเนกปริยาเยนาติ ‘‘อฏฺิกงฺกลูปมา กามา’’ติอาทีหิ (ม. นิ. ๒.๔๒; ปาจิ. ๔๑๗; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๔๗) เนเกหิ การเณหิ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหีติ เย ปสฺสนฺติ วา สุณนฺติ วา, เตหิ ติกฺขตฺตุํ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘มา อายสฺมา เอวํ อวจ…เป… อลฺจ ปน เต ปฏิเสวโต อนฺตรายายา’’ติ. เอวํ วุตฺเต อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, สุตฺวา อวทนฺตานมฺปิ ¶ ทุกฺกฏํ. ปุน สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา ตเถว วตฺตพฺโพ, ตตฺราปิ ตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชเน, อิตเรสฺจ อวจเน ทุกฺกฏเมว. เอวมฺปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต ปุน ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพ, อถสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ปุน ตฺติยา จ ทฺวีหิ จ กมฺมวาจาหิ ทุกฺกฏํ, กมฺมวาจาปริโยสาเน ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อริฏฺํ อารพฺภ ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ. อสมนุภาสิยมานสฺส ¶ , ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ธมฺมกมฺมตา, สมนุภาสนา, อปฺปฏินิสฺสชฺชนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สมนุภาสนสทิสาเนวาติ.
อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ตถาวาทินาติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺม’’นฺติอาทิวาทินา. อกตานุธมฺเมนาติ อนุธมฺโม วุจฺจติ อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา ธมฺเมน วินเยน อุกฺขิตฺตกสฺส อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวา กตโอสารณา, โส โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส น กโต, อยํ อกตานุธมฺโม นาม, ตาทิเสน สทฺธินฺติ อตฺโถ. สมฺภฺุเชยฺย วาติ อามิสสมฺโภคํ วา ธมฺมสมฺโภคํ วา กเรยฺย. สํวเสยฺย วาติ อุโปสถาทิกํ สงฺฆกมฺมํ กเรยฺย ¶ . สห วา เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺเชยฺย. ตตฺถ อามิสปริโภเค เอกปฺปโยเคน พหูปิ ททโต วา คณฺหโต วา เอกํ ปาจิตฺติยํ, วิจฺฉินฺทเน สติ ปโยเค ปโยเค ปาจิตฺติยํ. ธมฺมสมฺโภเค ปทาทีหิ อุทฺทิสนฺตสฺส วา อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วา ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยน, สํวาเส กมฺมปริโยสานวเสน, สหเสยฺยาย เอกสฺมึ นิปนฺเน อิตรสฺส นิปชฺชนปฺปโยควเสน อาปตฺติปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อริฏฺเน ภิกฺขุนา สทฺธึ สมฺภฺุชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, อุกฺขิตฺตเก เวมติกสฺส, อนุกฺขิตฺตเก อุกฺขิตฺตกสฺิโน เจว เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อุโภสุ อนุกฺขิตฺตกสฺิสฺส, ‘‘โอสาริโต’’ติ วา ‘‘ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสฏฺโ’’ติ วา ชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อกตานุธมฺมตา, ชานนา, สมฺโภคาทิกรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อุกฺขิตฺตสมฺโภคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม สมณุทฺเทโสติ สามเณโร. จราติ คจฺฉ. ปิเรติ ปร อมามก. วินสฺสาติ นสฺส ¶ , ยตฺถ ตํ น ปสฺสาม, ตตฺถ คจฺฉาติ วุตฺตํ โหติ. ตถานาสิตนฺติเอตฺถ สํวาสนาสนา ¶ ลิงฺคนาสนา ทณฺฑกมฺมนาสนาติ ติสฺโส นาสนา. ตตฺถ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนา สํวาสนาสนา นาม. ทูสโก นาเสตพฺโพ (ปารา. ๖๖), เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ (จูฬว. ๑๙๓; ปารา. ๓๘๔) อยํ ลิงฺคนาสนา นาม. ‘‘อชฺชตคฺเค เต, อาวุโส สมณุทฺเทส, น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) อยํ ทณฺฑกมฺมนาสนา นาม, อยํ อิธาธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ตถานาสิต’’นฺติ. อุปลาเปยฺยาติ ‘‘ปตฺตํ วา จีวรํ วา อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา ทสฺสามี’’ติ สงฺคณฺเหยฺย. อุปฏฺาเปยฺยาติ จุณฺณมตฺติกาทีนิ สาทิยนฺโต เตน ¶ อตฺตโน อุปฏฺานํ การาเปยฺย. สมฺโภคสหเสยฺยา อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยา เอว, ตสฺมา อาปตฺติปริจฺเฉโทเปตฺถ ตสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ กณฺฏกสมณุทฺเทสอุปลาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสํ อริฏฺสิกฺขาปเท วุตฺตสทิสเมวาติ.
กณฺฏกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.
๘. สหธมฺมิกวคฺโค
๑. สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา
สหธมฺมิกวคฺคสฺส ปเม สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ อิมสฺสตฺโถ ทุพฺพจสิกฺขาปเท วุตฺโต. เอตสฺมึ สิกฺขาปเทติ เอตสฺมึ สิกฺขาปเท ยํ วุตฺตํ, ตํ น ตาว สิกฺขิสฺสามีติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ ปน อนาทริยภยา เลเสน เอวํ วทนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. สิกฺขมาเนนาติ โอวาทํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สิกฺขิตุกาเมเนว หุตฺวา. อฺาตพฺพนฺติ อาชานิตพฺพํ. ปริปุจฺฉิตพฺพนฺติ ‘‘อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ปริปุจฺฉิตพฺพํ. ปริปฺหิตพฺพนฺติ จินฺเตตพฺพํ ตุลยิตพฺพํ.
โกสมฺพิยํ ฉนฺนตฺเถรํ อารพฺภ เอวํ ภณนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ ¶ , ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, อุโภหิปิ ‘‘อิทํ น สลฺเลขายา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๓๖) นเยเนว อปฺปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺสาปิ เอวํ วทโต ทุกฺกฏเมว. ‘‘ชานิสฺสามิ สิกฺขิสฺสามี’’ติ ภณนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนสฺส ปฺตฺเตน วจนํ, อสิกฺขิตุกามตาย เอวํ วจนนฺติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
สหธมฺมิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย ¶ อุทฺทิสฺสมาเนติ อาจริเยน อนฺเตวาสิกสฺส วุจฺจมาเน วา สชฺฌายวเสน ปริวตฺติยมาเน วา. ขุทฺทานุขุทฺทเกหีติ ขุทฺทเกหิ จ อนุขุทฺทเกหิ จ. ยาวเทวาติ เตสํ สํวตฺตนมริยาทปริจฺเฉทวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตานิ หิ เย อุทฺทิสนฺติ วา อุทฺทิสาเปนฺติ วา สชฺฌายนฺติ วา, เตสํ ตาว สํวตฺตนฺติ, ยาว ‘‘กปฺปติ นุ ¶ โข, น กปฺปติ นุ โข’’ติ กุกฺกุจฺจวิปฺปฏิสาโร, วิเหสา, วิจิกิจฺฉา มโนวิเลขา จ อุปฺปชฺชนฺติเยว. อถ วา ยาวเทวาติ อติสยววตฺถาปนํ. ตสฺส ‘สํวตฺตนฺตี’ติอิมินา สมฺพนฺโธ, กุกฺกุจฺจาย วิเหสาย วิเลขาย อติวิย สํวตฺตนฺติเยวาติ วุตฺตํ โหติ. สิกฺขาปทวิวณฺณเกติ เอวํ สิกฺขาปทานํ วิวณฺณเก ครหเณ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ วินยวิวณฺณนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺนสฺส วิวณฺณเน ติกทุกฺกฏํ, อุภินฺนมฺปิ อฺธมฺมวิวณฺณเน ทุกฺกฏเมว. น วิวณฺเณตุกามสฺส, ‘‘อิงฺฆ ตาว สุตฺตนฺเต วา คาถาโย วา อภิธมฺมํ วา ปริยาปุณสฺสุ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสี’’ติ ภณโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ครหิตุกามตา จ, อุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก สิกฺขาปทวิวณฺณนฺจาติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
วิเลขนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย อนฺวฑฺฒมาสนฺติ อนุปฏิปาฏิยา อทฺธมาเส อทฺธมาเส. อุทฺทิสฺสมาเนติ อุโปสถวเสน ¶ อุทฺทิสิยมาเน. ยฺจ ตตฺถ อาปตฺตึ อาปนฺโนติ ยํ โส อนาจารํ อาจริตฺวา อฺาณเกน อาปนฺนภาวํ ชานาเปตุกาโม เอวมาห, ตสฺมึ อนาจาเร ยํ อาปตฺตึ อาปนฺโน. ตฺจ ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพติ อฺาณเกน อาปนฺนตฺตา โมกฺโข นตฺถิ, ยถา ปน ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ตํ อาปตฺตึ กาเรตพฺโพ, เทสนาคามินิยา เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินิยา วุฏฺาเปตพฺโพติ ¶ อตฺโถ. อุตฺตริ จสฺส โมโห อาโรเปตพฺโพติ ยถาธมฺมกรณโต จ อุตฺตริ ‘‘ตสฺส เต, อาวุโส’’ติอาทิวจเนหิ นินฺทิตฺวา ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตฺติทุติยกมฺเมน โมโห อาโรเปตพฺโพ. อิทํ ตสฺมึ โมหนเก ปาจิตฺติยนฺติ โย เอวํ อาโรปิเต โมเห ปุน โมเหติ, ตสฺมึ โมหนเก ปุคฺคเล อิทํ ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ, น อนาโรปิเต โมเหติ อตฺโถ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ โมหนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อธมฺมกมฺเม ติกทุกฺกฏํ, อนาโรปิเต โมเห ทุกฺกฏเมว. เยน น วิตฺถาเรน สุตํ, อูนกทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วิตฺถาเรน สุตํ, เย จ น โมเหตุกามา เตสํ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. โมหาโรปนํ, โมเหตุกามตา, วุตฺตนเยน สุตภาโว, โมหนนฺติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
โมหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ปหารํ ทเทยฺยาติ เอตฺถ ปหริตุกามตาย ปหาเร ทินฺเน สเจปิ มรติ, ปาจิตฺติยเมว.
สาวตฺถิยํ ¶ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ปหารทานวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, วิรูปกรณาธิปฺปาเยน ปน อุปสมฺปนฺนสฺสปิ กณฺณาทิจฺเฉทเน ทุกฺกฏเมว. เกนจิ วิเหิยมานสฺส ปน โมกฺขาธิปฺปายสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. กุปิตตา, น โมกฺขาธิปฺปายตา, อุปสมฺปนฺนสฺส ปหารทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมปาราชิกสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
ปหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม ¶ ตลสตฺติกํ อุคฺคิเรยฺยาติ ปหารทานาการํ ทสฺเสนฺโต กายํ วา กายปฺปฏิพทฺธํ วา อุจฺจาเรยฺย. เอตฺถ จ อุคฺคิรณปจฺจยา ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ¶ อุคฺคิริตฺวา วิรทฺโธ ปหารํ เทติ, น ปหริตุกามตาย ทินฺนตฺตา ทุกฺกฏเมว, เตน ปหาเรน หตฺถาทีสุ ยํกิฺจิ ภิชฺชติ, ทุกฺกฏเมว. เสสเมตฺถ สพฺพํ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ตลสตฺติกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ อมูลเกนาติ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตน. อนุทฺธํเสยฺยาติ โจเทยฺย วา โจทาเปยฺย วา. ปาจิตฺติยนฺติ สเจ จุทิตโก ตงฺขณฺเว ‘‘โจเทติ ม’’นฺติ ชานาติ, โจทกสฺส ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อาจารวิปตฺติยา วา ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อนุทฺธํสเน ทุกฺกฏํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ. ตถาสฺิสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, สงฺฆาทิเสสสฺส อมูลกตา, อนุทฺธํสนา, ตงฺขณวิชานนาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
อมูลกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม กุกฺกุจฺจํ อุปทเหยฺยาติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ’’ติอาทีนิ (ปาจิ. ๔๖๖) ภณนฺโต อุปฺปาเทยฺย. เอวํ อฺสฺมึ อุปฺปาทนปจฺจเย อสติ สฺจิจฺจ อุปฺปาเทนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ กุกฺกุจฺจอุปฺปาทนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ. นอุปฺปาเทตุกามสฺส, เกวลํ หิเตสิตาย ¶ ตถา วทนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, อผาสุกามตา ¶ , กุกฺกุจฺจุปฺปาทนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อนนฺตรสทิสาเนวาติ.
สฺจิจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ¶ วิวาทาปนฺนานนฺติ ภณฺฑนกลเหหิ วิวฑฺฒิตํ วิวาทาธิกรณํ อาปนฺนานํ. อุปสฺสุตินฺติ สุติสมีปํ, ยตฺถ ตฺวา สกฺกา โหติ เตสํ วจนํ โสตุํ, ตตฺถ ติฏฺเยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถ โสสฺสามี’’ติ โจเทตุกามตาย คจฺฉโต ปเท ปเท ทุกฺกฏํ, ตุริตคมเนปิ โอหียมาเนปิ เอเสว นโย. ยตฺถ ปน ิโต สุณาติ, ตตฺถ ิตสฺส ปาจิตฺติยํ, อตฺตโน ิโตกาสํ อาคนฺตฺวา เตสุ มนฺตยมาเนสุปิ อุกฺกาสิตฺวา, ‘‘อหํ เอตฺถา’’ติ วา วตฺวา ชานาเปตพฺพํ, เอวํ อกโรนฺตสฺสาปิ สวเน ปาจิตฺติยเมว.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อุปสฺสุติฏฺานวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ, ‘‘อิเมสํ สุตฺวา โอรมิสฺสามิ วิรมิสฺสามิ วูปสมิสฺสามิ อตฺตานํ ปริโมเจสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๔๗๓) คจฺฉโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, โจทนาธิปฺปาโย, สวนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ อิทํ ปน สิยา กิริยํ, สิยา อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
อุปสฺสุติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม ธมฺมิกานํ กมฺมานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ตตฺรายํ สงฺเขปโต กมฺมวินิจฺฉโย – ตตฺร อปโลกนกมฺมํ นาม สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ตํ ตํ วตฺถุํ กิตฺเตตฺวา ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺมํ วุจฺจติ. สมคฺคสฺเสว ปน สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพํ กมฺมํ ตฺติกมฺมํ นาม. เอกาย ตฺติยา เจว อนุสฺสาวนาย ¶ จ กตฺตพฺพํ กมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ นาม. เอกาย ¶ ปน ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม.
เตสุ อปโลกนกมฺมํ (ปริ. ๔๙๖; ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) ปฺจ านานิ คจฺฉติ โอสารณํ นิสฺสารณํ ภณฺฑุกมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ กมฺมลกฺขณนฺติ. ตตฺถ กณฺฏกสามเณรสฺส นาสนา วิย นิสฺสารณา, ตาทิสํเยว สมฺมาวตฺตนฺตํ ทิสฺวา ปเวสนา ‘โอสารณา’ติ เวทิตพฺพา. ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส เกสจฺเฉทนาปุจฺฉนํ ภณฺฑุกมฺมํ (มหาว. ๙๘) นาม. มุขรสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ‘‘อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต วิหรติ, โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย, ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวาทานุสาสนึ กตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ’’ติ ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต ¶ , ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ, ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส, ภนฺเต, ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ เอวํ กตฺตพฺพํ กมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ (จูฬว. ๔๔๕) นาม. ยํ ปน ภควตา ภิกฺขุนีนํ อูรุํ วิวริตฺวา ทสฺสนาทิวตฺถูสุ ‘‘อวนฺทิโย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๔๑๑) เอวํ อวนฺทิยกมฺมํ อนฺุาตํ, ยํ ภิกฺขุนีหิ ‘‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปฺปสาทนียํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ ‘รุจฺจติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺสา’’’ติ เอวํ อุปสฺสเย นิสินฺนาเหว ภิกฺขุนีหิ กตฺตพฺพํ, เอวรูปํ กมฺมํ ยสฺมา ตสฺส กมฺมํเยว ลกฺขณํ น โอสารณาทีนิ, ตสฺมา กมฺมลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ กมฺมลกฺขณํ นาม ภิกฺขุนิมูลกํ ปฺตฺตํ, อปิจ ภิกฺขูนมฺปิ ลพฺภติ, ตสฺมา ภิกฺขูหิปิ อจฺฉินฺนจีวรกาทีนํ จีวราทีนิ วา เทนฺเตหิ, ปริภฺุชิตพฺพานิ อปเนตพฺพานิปิ วตฺถูนิ ปริภฺุชนฺเตหิ วา, อปเนนฺเตหิ วา, ตถารูปํ วา ธมฺมิกํ กติกํ กโรนฺเตหิ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ, สพฺพฺเหตํ กมฺมลกฺขณเมว ปวิสติ, อิติ อปโลกนกมฺมํ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.
ตฺติกมฺมํ ปน นว านานิ คจฺฉติ โอสารณํ นิสฺสารณํ อุโปสถํ ปวารณํ สมฺมุตึ ทานํ ปฏิคฺคหํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนํ กมฺมลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺย ¶ , ‘อาคจฺฉาหี’ติ วตฺตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๒๖) เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม. ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา ¶ พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ เอวํ อุพฺภาหิกวินิจฺฉเย (จูฬว. ๒๓๓) ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ…เป… อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ (มหาว. ๒๑๐) เอวํ ปวารณากมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ (มหาว. ๑๒๖) เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ ¶ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๖๔) เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ, ‘อาม, ปสฺสามี’ติ, ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ (จูฬว. ๒๓๙) เอวํ อาปตฺติปฺปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม. ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเล ปวาเรยฺยามา’’ติ (มหาว. ๒๔๐) เอวํ กตปฺปวารณปฺปจฺจุกฺกฑฺฒนา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม. ติณวตฺตารกสมเถ (จูฬว. ๒๑๒) สพฺพสงฺคาหิกตฺติ, เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกา ตฺติ จาติ ติสฺโสปิ ตฺติโย กมฺมลกฺขณํ นาม. อิติ ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉติ.
ตฺติทุติยกมฺมํ ¶ สตฺต านานิ คจฺฉติ โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ อุทฺธารํ เทสนํ กมฺมลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกนาทิเกหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส สงฺเฆน อสมฺโภคกรณตฺถํ ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม. ตสฺเสว สมฺมาวตฺตนฺตสฺส ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน โอสารณา จ เวทิตพฺพา, สา ขุทฺทกกฺขนฺธเก วฑฺฒลิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ (จูฬว. ๒๖๕-๒๖๖) วุตฺตา. สีมาสมฺมุติ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติสนฺถตสมฺมุติภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริกจีวรปฺปฏิคฺคาหกยาคุภาชกผลภาชกขชฺชภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กถินจีวรมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. กถินุทฺธารวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน ¶ เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ปน ติณวตฺถารกสมเถ (จูฬว. ๒๑๒ อาทโย) เอกสฺมึ ปกฺเข เอกา, เอกสฺมึ ปกฺเข เอกาติ ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา, ยา จ โมหาโรปนาทีสุ กมฺมวาจา (ปาจิ. ๔๔๖) วุตฺตา, ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ, อิติ ตฺติทุติยกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
ตฺติจตุตฺถกมฺมมฺปิ สตฺเตว านานิ คจฺฉติ โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ นิคฺคหํ สมนุภาสนํ กมฺมลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ตชฺชนียกมฺมาทีนํ (จูฬว. ๑ อาทโย) สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา จ เวทิตพฺพา, ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน (ปาจิ. ๑๔๖-๑๔๗) สมฺมุติ, ปริวาสทาน(จอูฬว. ๑๐๒) มานตฺตทานวเสน (จูฬว. ๑๐๕) ทานํ, มูลายปฏิกสฺสนวเสน (จูฬว. ๑๑๐) นิคฺคโห, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา ¶ , อฏฺ ยาวตติยกา, อริฏฺโ (ปาจิ. ๔๑๗), จณฺฑกาฬี (ปาจิ. ๗๐๙) จาติ อิเม เต ยาวตติยกาติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา, อุปสมฺปทากมฺมอพฺภานกมฺมวเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ.
อิเมสุ ปน จตูสุ กมฺเมสุ อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา ¶ กาตพฺพมฺปิ อตฺถิ อกาตพฺพมฺปิ, ตตฺถ สีมาสมฺมุติ สีมาสมูหนนํ (มหาว. ๑๓๙-๑๔๐, ๑๔๔ อาทโย) กถินจีวรทานํ กถินุทฺธาโร กุฏิวตฺถุเทสนา วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉ กมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏนฺติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหาปกมตกจีวรทานสมฺมุติโย จาติ เอตานิ ลหุกมฺมานิ อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ, ตฺติกมฺมาทิวเสน ปน น กาตพฺพาเนว. ตฺติจตุตฺถกมฺมมฺปิ สกลกฺขเณเนว กาตพฺพํ, น เสสกมฺมวเสน. เอวํ อตฺตโน อตฺตโน ลกฺขเณเนว วตฺถุตฺติอนุสฺสาวนาสีมาปริสาสมฺปตฺติยา กตานิ เอตานิ กมฺมานิ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตตฺตา ธมฺโม เอเตสุ อตฺถีติ ธมฺมิกานิ นาม โหนฺติ, อิติ เอเตสํ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนธมฺมํ อาปชฺชนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ขียนธมฺมาปชฺชนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม เวมติกสฺส, อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อธมฺมกมฺมสฺิสฺส ¶ , ‘‘อธมฺเมน วา วคฺเคน วา นกมฺมารหสฺส วา กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ ตฺวา ขียนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ธมฺมกมฺมตา, ธมฺมกมฺมสฺิตา, ฉนฺทํ ทตฺวา ขียนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสาเนว, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
กมฺมปฺปฏิพาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม วินิจฺฉยกถายาติ ยาว อาโรจิตํ วตฺถุ อวินิจฺฉิกํ, ตฺตึ วา เปตฺวา กมฺมวาจา อนิฏฺาปิตา, ตาว วินิจฺฉยกถา วตฺตมานา นาม โหติ. โย ภิกฺขุ เอตสฺมึ อนฺตเร กมฺมํ โกเปตุกามตาย ปริสาย หตฺถปาสํ วิชหติ, ตสฺส วิชหเน ทุกฺกฏํ, วิชหิเต ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ ฉนฺทํ อทตฺวา ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม เวมติกสฺส, อธมฺมกมฺเม ¶ ธมฺมกมฺมสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. อธมฺมกมฺมสฺิสฺส ปน, โย จ ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ วา ภวิสฺสนฺติ, อธมฺเมน ¶ วา วคฺเคน วา นกมฺมารหสฺส วา กมฺมํ กริสฺสนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๔๘๓) ตฺวา, คิลาโน วา หุตฺวา, คิลานสฺส วา กรณีเยน, อุจฺจาราทีหิ วา ปีฬิโต, น จ กมฺมํ โกเปตุกาโม ‘‘ปุน ปจฺจาคมิสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. วินิจฺฉยกถาย วตฺตมานตา, ธมฺมกมฺมตา, ธมฺมกมฺมสฺิตา, สมานสีมายํ ิตตา, สมานสํวาสกตา, โกเปตุกามตาย หตฺถปาสวิชหนนฺติ อิมาเนตฺถ ฉ องฺคานิ. สมนุภาสนสมุฏฺานํ, กิริยากิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
ฉนฺทํอทตฺวาคมนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา
เอกาทสเม สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน สทฺธึ จีวรํ ทตฺวา. ยถาสนฺถุตนฺติ โย โย มิตฺตสนฺทิฏฺสมฺภตฺตวเสน สนฺถุโต, ตสฺส ตสฺสาติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยนฺติ ¶ เอวํ สงฺเฆน สทฺธึ สยเมว เสนาสนปฺาปนาทิวเสน สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน จีวรํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนฺตสฺส วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยํ.
ราชคเห ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ จีวรํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ธมฺมกมฺเม ติกปาจิตฺติยํ, จีวรํ เปตฺวา อฺํ วิสฺสชฺชิยเวภงฺคิยํ ปริกฺขารํ ทตฺวา ปจฺฉาขียนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, วิสฺสชฺชิยเวภงฺคิโย นาม เปตฺวา ปฺจ ครุภณฺฑานิ อวเสโส. ราสิวเสน หิ ปฺจ ครุภณฺฑานิ วุตฺตานิ, ตตฺถ อาราโม อารามวตฺถูติ เอกํ, วิหาโร วิหารวตฺถูติ ทุติยํ, มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนนฺติ ตติยํ, โลหกุมฺภี โลหภาณกํ โลหวารโก โลหกฏาหํ วาสิ ปรสุ กุารี กุทาโล นิขาทนนฺติ จตุตฺถํ, วลฺลิ เวฬุ มฺุชํ ปพฺพชํ ติณํ มตฺติกา ¶ ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑนฺติ ปฺจมํ. เอตานิ หิ ปฺจ สงฺฆสนฺตกานิ เนว สงฺฆสฺส, น คณปุคฺคลานํ วิสฺสชฺเชตุํ วา วิภชิตุํ วา วฏฺฏนฺติ, วิสฺสชฺชิตวิภตฺตานิปิ สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. ถาวเรน ปน ถาวรํ, อิตเรน จ อกปฺปิเยน มหคฺฆกปฺปิเยน วา อิตรํ สงฺฆสฺส อุปการํ สลฺลกฺเขตฺวา กปฺปิยปริวตฺตเนน ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏติ, วรเสนาสนาทีนํ สํรกฺขณตฺถํ ลามกานิ วิสฺสชฺเชตุํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปริภฺุชิตฺุจ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ ปุริเมสุ ตีสุ ราสีสุ อครุภณฺฑํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, จตุตฺเถ โลหกุมฺภี อรฺชรสณฺานํ โลหภาณกํ โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคฺคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิ. โลหวารโก ปน กาฬโลหตมฺพโลหกํสโลหวฏฺฏโลหานํ เยน เกนจิ กโต สีหฬทีเป ปาทคฺคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ, ปาโท จ นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตํ ¶ คณฺหาติ, ตโต อติเรกํ ครุภณฺฑํ, อิมานิ ตาว ปาฬิยํ อาคตานิ โลหภาชนานิ.
ปาฬิยํ ปน อนาคตานิปิ ภิงฺคารปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติ ตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิปิ ครุภณฺฑาเนว, อยปตฺโต อยถาลกํ ตมฺพโลหถาลกนฺติ อิมานิ ปน ภาชนียานิ, กํสโลหวฏฺฏโลหภาชนวิกติ สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏา วา วฏฺฏติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน น วฏฺฏติ. เปตฺวา ปน ตํ ภาชนวิกตึ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ อฺชนี อฺชนิสลากา นตฺถุทานํ กณฺณมลหรณี สูจิ ขุทฺทโก ปิปฺผลิโก ขุทฺทกํ อารกณฺฏกํ กฺุจิกา ตาฬํ กตฺตรยฏฺิ เวธโก ภินฺทิวาลโก ยถาตถาฆนกตโลหํวิปฺปกตโลหภณฺฑฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. ธูมเนตฺตผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลิกโอลมฺพกทีปอิตฺถิปุริสติรจฺฉานรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ, อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิปิ โลหภณฺฑานิ ¶ ครุภณฺฑานิเยว, อตฺตนา ลทฺธานิ ปริหริตฺวาปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน น ปริภฺุชิตพฺพานิ, สงฺฆิกปริโภเคน วา คิหิวิกฏานิ วา วฏฺฏนฺติ, ติปุภณฺเฑปิ เอเสว นโย. ขีรปาสาณมยานิ ตฏฺฏกสรกาทีนิ ครุภณฺฑานิเยว.
ฆฏโก ¶ ปน เตลภาชนํ วา ปาทคฺคณฺหนกโต อติเรกเมว ครุภณฺฑํ, สุวณฺณรชตอารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกฏานิปิ น วฏฺฏนฺติ. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.
วาสิยาทีสุ ปน ยาย วาสิยา ทนฺตกฏฺจฺเฉทนอุจฺฉุตจฺฉนมตฺตโต อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, อยํ ภาชนียา. เสสา เยน เกนจิ อากาเรน กตา ครุภณฺฑํ, ปรสุ ปน อนฺตมโส เวชฺชานํ สิราเวธโกปิ ครุภณฺฑเมว, ตถา กุารี. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา, กุทาโล ทณฺฑพนฺธนิขาทนํ วา อครุภณฺฑํ นาม นตฺถิ. สมฺมฺุชนิทณฺฑขณนกํ ปน อทณฺฑกํ ผลมตฺตกเมว, ยํ สกฺกา สิปาฏิกาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ, ตํ ภาชนียํ. สิขรมฺปิ นิขาทเนเนว สงฺคหิตํ, เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต เจ ฆเร ทฑฺเฒ วา วิลุตฺเต วา ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกฺขเร, ปุน อาหริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ หรนฺติ, น วาเรตพฺพา, อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.
กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยานิ อุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส, ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุ ติปุจฺเฉทนกสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนกสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมจฺเฉทนขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ ภาชนียานิ. นฺหาปิตตุนฺนการอุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ ¶ มหาสณฺฑาสํ มหาปิปฺผลิกฺจ สพฺพํ วฏฺฏติ, อิตรานิ ครุภณฺฑานิ.
วลฺลิอาทีสุ เวตฺตวลฺลิอาทิกา ยา กาจิ อฑฺฒพาหุปฺปมาณา วลฺลิ สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถชาตกา วา รกฺขิตโคปิตาว ครุภณฺฑํ, สา สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต สเจ อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ, สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส สนฺตกา ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา ¶ . เยหิ ปเนตานิ ¶ รชฺชุกาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.
โย โกจิ อฏฺงฺคุลสูจิทณฺฑกมตฺโตปิ เวฬุ สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ, โสปิ สงฺฆสฺส กมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ปาทคฺคณฺหนกเตลนาฬิ ปน กตฺตรยฏฺิ อุปาหนทณฺฑโก ฉตฺตทณฺโฑ ฉตฺตสลากาติ อิทเมตฺถ ภาชนียภณฺฑํ, ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา.
มฺุชฺจ ปพฺพชฺจ อวเสสฺจ ฉทนติณํ มุฏฺิปฺปมาณมฺปิ ฉทนติณสงฺเขปคเตสุ ตาลปณฺณาทีสุ ยํกิฺจิ เอกปณฺณมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถชาตกํ วา พหิอาราเม สงฺฆิเก ติณวตฺถุสฺมึ ชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ครุภณฺฑํ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา, อฏฺงฺคุลปฺปมาโณปิ ริตฺตกโปตฺถโก ครุภณฺฑเมว.
มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํกิฺจิ ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหติ, ตมฺปิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. หิงฺคุหิงฺคุลกหริตาลมโนสิลฺชนาทีนิ ปน ภาชนียานิ.
ทารุภณฺเฑ โย โกจิ เวฬุมฺหิ วุตฺตปฺปมาโณ ทารุภณฺฑโก สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ, อปิ จ สพฺพาปิ ทารุเวฬุจมฺมปาสาณาทิวิกติ ทารุภณฺเฑน สงฺคหิตา, ตตฺถ มฺจปีเหิ อสงฺคหิตานิ อาสนฺทิกาทีนิ อนฺตมโส โจเฬน วา ปลาเลหิ วา ปณฺเณหิ วา กตปีํ อุปาทาย สพฺพานิ อาสนานิ.
วงฺกผลกํ ทีฆผลกํ จีวรโธวนผลกํ ฆฏฺฏนผลกํ ฆฏฺฏนมุคฺคโร ทนฺตกฏฺจฺเฉทนคณฺิกา ทณฺฑมุคฺคโร นาวา อมฺพณํ รชนโทณิ อุทกปฏิจฺฉโก ทารุมโย วา ทนฺตมโย วา เวฬุมโย วา สปาทโกปิ อปาทโกปิ สมุคฺโค มฺชูสา ปาทคฺคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ กรณฺโฑ อุทกโทณิ อุทกกฏาหํ อุฬุงฺโก กฏจฺฉุปานียสราวํ ปานียสงฺโขติ ¶ เอเตสุ ยํกิฺจิ สงฺเฆ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ. สงฺขถาลกํ ปน ภาชนียํ, ตถา ¶ ทารุมโย อุทกตุมฺโพ.
ปาทกถลิกมณฺฑลํ ¶ ทารุมยํ วา โหตุ โจฬปณฺณาทิมยํ วา สพฺพํ ครุภณฺฑํ. อาธารโก ปตฺตปิธานํ ตาลวณฺฏํ พีชนี จงฺโกฏกํ ปจฺฉิ ยฏฺิสมฺมฺุชนี มุฏฺิสมฺมฺุชนีติ เอเตสุปิ ยํกิฺจิ ขุทฺทกํ วา มหนฺตํ วา ทารุเวฬุปณฺณจมฺมาทีสุ เยน เกนจิ กตํ ครุภณฺฑเมว.
ถมฺภตุลาโสปานผลกาทีสุ ยํกิฺจิ ทารุมยํ วา ปาสาณมยํ วา เคหสมฺภารูปคํ โย โกจิ กฏสารโก ยํกิฺจิ ภูมตฺถรณํ ยํกิฺจิ อกปฺปิยจมฺมํ, สพฺพํ สงฺฆิกํ ครุภณฺฑํ, ภูมตฺถรณํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกํ โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมว, กปฺปิยจมฺมานิ ภาชนียานิ, กุรุนฺทิยํ ปน สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑนฺติ วุตฺตํ.
อุทุกฺขลํ มุสลํ สุปฺปํ นิสทํ นิสทโปโต ปาสาณโทณิ ปาสาณกฏาหํ สพฺพํ กสิภณฺฑมฺปิ ครุภณฺฑํ, สพฺพํ จกฺกยุตฺตยานํ ครุภณฺฑเมว. มฺจปีานํ ปาทา จ อฏนิโย จ วาสิปรสุอาทีนํ ทณฺฑา จาติ เอเตสุ ยํกิฺจิ อนิฏฺิตํ ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ, อนฺุาตวาสิยา ทณฺโฑ ฉตฺตํ มุฏฺิปณฺณํ กตฺตรยฏฺิ อุปาหนา อรณิสหิตํ ธมฺมกรโณ ปาทคฺคณฺหนกโต อนติริตฺตํ อามลกตุมฺพํ อามลกฆโฏ ลาพุกตุมฺพํ ลาพุกฆโฏ วิสาณตุมฺพนฺติ สพฺพเมตํ ภาชนียํ, ตโต ปรํ ครุภณฺฑํ.
หตฺถิทนฺโต วา ยํกิฺจิ วิสาณํ วา อตจฺฉิตํ ยถาคตเมว ภาชนียํ, เตหิ กตมฺจปีปาทาทีสุ ปุริมสทิโสว วินิจฺฉโย. ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ หิงฺคุกรณฺฑโก อฺชนิกรณฺฑโก คณฺิกา วิโธ อฺชนี อฺชนิสลากา อุทกปฺุฉนีติ อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.
มตฺติกาภณฺเฑ สพฺพํ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ ฆฏปิราทิกุลาลภาชนํ, ปตฺตกฏาหํ องฺคารกฏาหํ ธูมทานกํ ทีปรุกฺขโก ทีปกปลฺลิกา จยนิฏฺกา ฉทนิฏฺกา ถุปิกาติ สพฺพํ ครุภณฺฑํ, เอเตสุ ปน วุตฺตนเยสุ ครุภณฺเฑสุ ยํกิฺจิ เวฬุอาทึ อตฺตโน อตฺถาย คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺพํ. ปาทคฺคณฺหนกโต ¶ อนติริตฺตปฺปมาโณ ปน ฆฏโก ปตฺโต ถาลกํ กฺจนโก กุณฺฑิกาติ อิทเมตฺถ ภาชนียํ, ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชติ. อิติ ยํ ภาชนียํ วิสฺสชฺชนียมฺปิ ตํ เอวํ วิสฺสชฺชิยเวภงฺคิยสงฺขาตํ อฺํ ปริกฺขารํ ทตฺวา ขียนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, อิตรํ ปน ทาตุเมว น วฏฺฏติ. อิสฺสรวตาย เทนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ, เถยฺยจิตฺเตน ¶ คณฺหนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. ยถา จ อฺํ ปริกฺขารํ ทตฺวา ขียนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ตถา สงฺเฆน อสมฺมตสฺส จีวรํ วา อฺํ วา ปริกฺขารํ ทตฺวา ขียนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว, อนุปสมฺปนฺเน สพฺพตฺถ ติกทุกฺกฏํ. ปกติยา ปน ฉนฺทาทิวเสน (ปาจิ. ๔๘๘) กโรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘โก ¶ อตฺโถ ตสฺส ทินฺเนน, ลทฺธาปิ วินิปาเตสฺสติ, น สมฺมา อุปเนสฺสตี’’ติ ขียนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อุปสมฺปนฺนตา, ธมฺเมน ลทฺธสมฺมุติตา, สงฺเฆน สทฺธึ วิกปฺปนุปคจีวรทานํ, ปจฺฉา ขียิตุกามตาย ขียนาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติ.
ทุพฺพลสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทฺวาทสเม สพฺพํ ตึสกกณฺเฑ ปริณามนสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. อยเมว หิ วิเสโส, ตตฺถ อตฺตโน ปริณามิตตฺตา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อิธ ปุคฺคลสฺส ปริณามิตตฺตา สุทฺธิกปาจิตฺติยนฺติ.
ปริณามนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.
๙. รตนวคฺโค
๑. อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา
รตนวคฺคสฺส ปเม ขตฺติยสฺสาติ ขตฺติยชาติกสฺส, มุทฺธาภิสิตฺตสฺสาติ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺตสฺส. อนิกฺขนฺโต ราชา อิโตติ ¶ อนิกฺขนฺตราชกํ, ตสฺมึ อนิกฺขนฺตราชเก, สยนิฆเรติ อตฺโถ. รตนํ วุจฺจติ มเหสี, นิคฺคตนฺติ นิกฺขนฺตํ, อนิคฺคตํ รตนํ อิโตติ อนิคฺคตรตนกํ, ตสฺมึ อนิคฺคตรตนเก, สยนิฆเรติ อตฺโถ. อินฺทขีลํ ¶ อติกฺกเมยฺยาติ เอตฺถ อตฺตโน อาคตภาวํ อชานาเปตฺวา สยนิฆรสฺส อุมฺมารํ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ทุติยํ ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อารพฺภ รฺโ อนฺเตปุรปฺปวิสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ปฏิสํวิทิเต อปฺปฏิสํวิทิตสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. ปฏิสํวิทิตสฺิสฺส, น ขตฺติยสฺส วา, น ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส วา, อุโภสุ วา, อุภินฺนํ วา อฺตรสฺมึ นิกฺขนฺเต สยนิฆรํ ปวิสนฺตสฺส, อสยนิฆเร, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ขตฺติยตา, อภิสิตฺตตา, อุภินฺนมฺปิ สยนิฆรโต อนิกฺขนฺตตา, อปฺปฏิสํวิทิตตา, อินฺทขีลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ ปฺจ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
อนฺเตปุรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา
ทุติเย รตนนฺติ มุตฺตาทิทสวิธํ. รตนสมฺมตนฺติ ยํกิฺจิ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ. อชฺฌาราเม วาติ ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปฏิกฺเขเป อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต. อชฺฌาวสเถติ ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปฏิกฺเขเป, อปริกฺขิตฺตสฺส มุสลปาตพฺภนฺตเร. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – ชาตรูปรชตํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ¶ . สงฺฆคณปุคฺคลเจติยนวกมฺมานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ, อวเสเส มุตฺตาทิรตเน สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย ทุกฺกฏเมว. กปฺปิยวตฺถุํ วา อกปฺปิยวตฺถุํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตาทิสํ ปน อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปฏิสาเมตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ ปฏิสาเมถา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘น ¶ วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สเจ กุปิตา ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, ปลิโพโธ นาม โหติ, ปฏิสาเมตพฺพํ. วิหาเร กมฺมํ กโรนฺตา วฑฺฒกีอาทโย วา ราชวลฺลภา วา ‘‘ยํกิฺจิ อุปกรณํ วา สยนภณฺฑํ วา ปฏิสาเมตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, ฉนฺเทนปิ ภเยนปิ น กาตพฺพเมว, คุตฺตฏฺานํ ปน ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ.
อชฺฌารามอชฺฌาวสเถสุปิ ยาทิเส าเน ‘‘ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา คหิตํ ภวิสฺสตี’’ติ อาสงฺกา อุปฺปชฺชติ, ตาทิเสเยว าเน อุคฺคเหตฺวา วา อุคฺคหาเปตฺวา วา สฺาณํ ¶ กตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ, ‘‘ยสฺส ภณฺฑํ นฏฺํ, โส อาคจฺฉตู’’ติ จ อาจิกฺขิตพฺพํ. อถ โย อาคจฺฉติ, โส ‘‘กีทิสํ เต ภณฺฑํ นฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, สเจ สฺาเณน สมฺปาเทติ, ทาตพฺพํ. โน เจ, ‘วิจินาหี’ติ วตฺตพฺโพ. ตมฺหา อาวาสา ปกฺกมนฺเตน ปติรูปานํ ภิกฺขูนํ หตฺเถ, เตสุ อสติ ปติรูปานํ คหปติกานํ หตฺเถ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. โย ปน เนว ปกฺกมติ, น สามิกํ ปสฺสติ, เตน ถาวรํ เสนาสนํ วา เจติยํ วา โปกฺขรณึ วา กาเรตพฺโพ. สเจ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สามิโก อาคจฺฉติ, ตํ ทสฺเสตฺวา ‘อนุโมทาหี’ติ วตฺตพฺโพ. สเจ นานุโมทติ, ‘‘เทหิ เม ธน’’นฺติ โจเทติ, สมาทเปตฺวา ทาตพฺพํ.
สาวตฺถิยํ อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ รตนอุคฺคณฺหนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘อฺตฺร อชฺฌารามา วา, อชฺฌาวสถา วา’’ติ อยเมตฺถ ทุวิธา อนุปฺตฺติ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, อนฺุาตฏฺาเน อนาทริเยน อุคฺคเหตฺวา อนิกฺขิปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อนฺุาตฏฺาเน คเหตฺวา นิกฺขิปนฺตสฺส, ยํ โหติ อามาสํ รตนสมฺมตํ, ตํ วิสฺสาสํ วา ตาวกาลิกํ วา อุคฺคณฺหนฺตสฺส, ปํสุกูลสฺาย คณฺหโต, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. อนนฺุาตกรณํ, ปรสนฺตกตา, วิสฺสาสคฺคาหปํสุกูลสฺานํ อภาโว, อุคฺคหณํ วา อุคฺคหาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺตสทิสานีติ.
รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา
ตติเย ¶ สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉาติ อิทํ จาริตฺเต วุตฺตนยเมว. วิกาเลติ มชฺฌนฺหิกาติกฺกมโต ปฏฺาย อนฺโตอรุเณ, เอตสฺมึ อนฺตเร ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ วา, ‘‘คามํ ปวิสิสฺสามี’’ติ วา อนาปุจฺฉิตฺวา อสติ ตถารูเป อจฺจายิเก กรณีเย ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส ¶ ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติยํ. สเจปิ สมฺพหุลา เกนจิ กมฺเมน คามํ ปวิสนฺติ, สพฺเพหิ อฺมฺํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ‘‘ตสฺมึ คาเม ตํ กมฺมํ น สมฺปชฺชตี’’ติ อฺํ คามํ คจฺฉนฺตานํ ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน อุสฺสาหํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา วิหารํ คจฺฉนฺตา อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสิตุกามา โหนฺติ, อาปุจฺฉิตพฺพเมว. กุลฆเร วา อาสนสาลายํ วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา เตลภิกฺขาย วา สปฺปิภิกฺขาย ¶ วา จริตุกาเมน สเจ ปสฺเส ภิกฺขุ อตฺถิ, อาปุจฺฉิตพฺโพ, อสนฺเต ‘นตฺถี’ติ คนฺตพฺพํ. วีถึ โอตริตฺวา ปน ภิกฺขุํ ทิสฺวาปิ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ. โย ปน คามมชฺเฌน มคฺโค โหติ, สเจ เตน คจฺฉนฺตสฺส ‘‘เตลาทีนํ อตฺถาย จริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ปสฺเส ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ. มคฺคา อโนกฺกมฺม จรนฺตสฺส ปน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิ, โอกฺกมนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว ปาจิตฺติยํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ วิกาเล คามปฺปเวสนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘สนฺตํ ภิกฺขุ’’นฺติ จ ‘‘อนาปุจฺฉา’’ติ จ ‘‘อฺตฺร ตถารูปา อจฺจายิกา กรณียา’’ติ จ อิมา ปเนตฺถ ติสฺโส อนุปฺตฺติโย, อสาธารณปฺตฺติ, อนาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, กาเล วิกาลสฺิโน, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ. กาลสฺิโน ปน, โย จ อจฺจายิเก วา กรณีเย, สนฺตํ วา อาปุจฺฉิตฺวา, อสนฺตํ วา อนาปุจฺฉิตฺวา ปวิสติ, อนฺตรารามภิกฺขุนุปสฺสยติตฺถิยเสยฺยปฏิกฺกมเนสุ วา อฺตรํ คจฺฉติ, ตสฺส, คาเมน มคฺโค โหติ, เตน คจฺฉโต, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉตา, อนฺุาตการณาภาโว, วิกาเล คามปฺปวิสนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ กถินสทิสาเนว, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติ.
วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา
จตุตฺเถ ¶ เภทนเมว เภทนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เภทนกํ. ตสฺมา เอวรูเป สูจิฆเร กรณการาปเนสุ ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน ปน ตํ ภินฺทิตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพํ.
สกฺเกสุ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ พหุสูจิฆรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, สาณตฺติกํ, อตฺตนา วิปฺปกตํ อตฺตนา วา, ปเรหิ วา, ปเรหิ วิปฺปกตมฺปิ อตฺตนา วา, ปเรหิ วา ปริโยสาเปตฺวา ลภนฺตสฺส จตุกฺกปาจิตฺติยํ. อฺสฺสตฺถาย กรณการาปเนสุ, อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชเน ทุกฺกฏํ. คณฺิเก อรณิเก วิเธ อฺชนิยา อฺชนิสลากาย วาสิชเฏ อุทกปฺุฉนิยาติ เอเตสุ ยํกิฺจิ อฏฺิอาทีหิ กโรนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. สูจิฆรตา, อฏฺิมยาทิตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา ¶ การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิ. สมุฏฺานาทีนิ สฺจริตฺตสทิสานีติ.
สูจิฆรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา
ปฺจเม ¶ มฺจนฺติ มสารกาทีสุ อฺตรํ. ปีมฺปิ ตาทิสเมว, ตํ ปน มฺโจ วิย อติทีฆํ, อาสนฺทิโก วิย จ สมํ จตุรสฺสํ น โหติ. เฉทนกํ เภทนกสทิสเมว.
สาวตฺถิยํ อุปนนฺทํ อารพฺภ อุจฺเจ มฺเจ สยนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ปมาณิกํ กโรนฺตสฺส, ปมาณาติกฺกนฺตํ ลภิตฺวา ฉินฺทิตฺวา ยถา ปมาณเมว อุปริ ทิสฺสติ, เอวํ นิขณิตฺวา วา, อุตฺตานํ วา กตฺวา, อฏฺฏกํ วา พนฺธิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. ปมาณาติกฺกนฺตมฺจปีตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. เสสํ สพฺพํ สูจิฆรสิกฺขาปทสทิสเมวาติ.
มฺจปีสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา
ฉฏฺเ ¶ ตูลํ โอนทฺธเมตฺถาติ ตูโลนทฺธํ, จิมิลิกํ ปตฺถริตฺวา ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ จิมิลิกาย โอนทฺธนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุทฺทาลนกํ เภทนกสทิสเมว.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ ตูโลนทฺธการาปนวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, อาโยเค กายพนฺธเน อํสพทฺธเก ปตฺตตฺถวิกาย ปริสฺสาวเน พิมฺโพหเน, อฺเน กตํ ตูโลนทฺธํ ปฏิลภิตฺวา อุทฺทาเลตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. พิมฺโพหนฺเจตฺถ สีสปฺปมาณเมว วฏฺฏติ, สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ โกเณสุ ทฺวินฺนํ อนฺตรํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, มชฺเฌ มุฏฺิรตนํ, ทีฆโต ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วา. ตูโลนทฺธมฺจปีตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
ตูโลนทฺธสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา
สตฺตเม ¶ นิสีทนนฺติ สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมึ อนฺเต สุคตวิทตฺถิปฺปมาณํ ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา กตาหิ ตีหิ ทสาหิ ยุตฺตสฺส ปริกฺขารสฺเสตํ นามํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อปฺปมาณิกานิ นิสีทนานิ ธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, ‘‘ทสา วิทตฺถี’’ติ อยเมตฺถ อนุปฺตฺติ, อสาธารณปฺตฺติ, ปมาณิกํ วา อูนกํ วา กโรนฺตสฺส, อฺเน กตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ ปฏิลภิตฺวา ฉินฺทิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส, วิตานาทีสุ ยํกิฺจิ กโรนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกาทีนฺจ อนาปตฺติ. นิสีทนสฺส ปมาณาติกฺกนฺตตา, อตฺตโน อตฺถาย กรณํ วา การาเปตฺวา วา ปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ ทฺเว องฺคานิ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
นิสีทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
อฏฺเม ¶ ¶ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทินฺติ อโธนาภิอุพฺภชาณุมณฺฑลํ กณฺฑุปีฬกอสฺสาวถุลฺลกจฺฉาพาธานํ ปฏิจฺฉาทนตฺถํ อนฺุาตํ จีวรํ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อปฺปมาณิกาโย กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิกาโย ธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, เสสํ นิสีทเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
นวเม สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิเย อารพฺภ อปฺปมาณิกาโย วสฺสิกสาฏิกาโย ธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ นิสีทเน วุตฺตนยเมวาติ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นนฺทสิกฺขาปทวณฺณนา
ทสเม ¶ สาวตฺถิยํ อายสฺมนฺตํ นนฺทํ อารพฺภ สุคตจีวรปฺปมาณํ จีวรํ ธารณวตฺถุสฺมึ ปฺตฺตํ, สาธารณปฺตฺติ, เสสํ นิสีทเน วุตฺตนยเมวาติ.
นนฺทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
รตนวคฺโค นวโม.
กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
สุทฺธปาจิตฺติยวณฺณนา นิฏฺิตา.