📜

๑๕. ภูตคามวินิจฺฉยกถา

๗๕. ภูตคาโมติ ปฺจหิ พีเชหิ ชาตานํ รุกฺขลตาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตตฺริมานิ ปฺจ พีชานิ – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ. ตตฺถ มูลพีชํ นาม หลิทฺทิ สิงฺคิเวรํ วจา วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณี อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ มูเล สฺชายนฺติ, เอตํ มูลพีชํ นาม. ขนฺธพีชํ นาม อสฺสตฺโถ นิคฺโรโธ ปิลกฺโข อุทุมฺพโร กจฺฉโก กปิตฺถโน, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ขนฺเธ ชายนฺติ ขนฺเธ สฺชายนฺติ, เอตํ ขนฺธพีชํ นาม. ผฬุพีชํ นาม อุจฺฉุ เวฬุ นโฬ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปพฺเพ ชายนฺติ ปพฺเพ สฺชายนฺติ, เอตํ ผฬุพีชํ นาม. อคฺคพีชํ นาม อชฺชุกํ ผณิชฺชกํ หิริเวรํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ อคฺเค ชายนฺติ อคฺเค สฺชายนฺติ, เอตํ อคฺคพีชํ นาม. พีชพีชํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ พีเช ชายนฺติ พีเช สฺชายนฺติ, เอตํ พีชพีชํ นาม (ปาจิ. ๙๑). ตตฺถ ภูตคาเม ภูตคามสฺี ฉินฺทติ วา ฉินฺทาเปติ วา ภินฺทติ วา ภินฺทาเปติ วา ปจติ วา ปจาเปติ วา, ปาจิตฺติยํ. ภูตคามฺหิ วิโกเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ภูตคามปริโมจิตํ ปฺจวิธมฺปิ พีชคามํ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.

๗๖. พีชคามภูตคาโม (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒๒) นาเมส อตฺถิ อุทกฏฺโ, อตฺถิ ถลฏฺโ. ตตฺถ อุทกฏฺโ สาสปมตฺติกติลพีชกาทิเภทา สปณฺณิกา จ อปณฺณิกา จ สพฺพา เสวาลชาติ, อนฺตมโส อุทกปปฺปฏกํ อุปาทาย ‘‘ภูตคาโม’’ติ เวทิตพฺโพ. อุทกปปฺปฏโก นาม อุปริ ถทฺโธ ผรุสวณฺโณ เหฏฺา มุทุ นีลวณฺโณ โหติ. ตตฺถ ยสฺส เสวาลสฺส มูลํ โอรุหิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิตํ, ตสฺส ปถวี านํ. โย อุทเก สฺจรติ, ตสฺส อุทกํ. ปถวิยํ ปติฏฺิตํ ยตฺถ กตฺถจิ วิโกเปนฺตสฺส, อุทฺธริตฺวา วา านนฺตรํ สงฺกาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อุทเก สฺจรนฺตํ วิโกเปนฺตสฺเสว ปาจิตฺติยํ. หตฺเถหิ ปน อิโต จิโต จ วิยูหิตฺวา นหายิตุํ วฏฺฏติ. สกลฺหิ อุทกํ ตสฺส านํ, ตสฺมา น โส เอตฺตาวตา านนฺตรํ สงฺกามิโต โหติ. อุทกโต ปน อุทเกน วินา สฺจิจฺจ อุกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, อุทเกน สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา ปุน อุทเก ปกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปลินิปทุมินิอาทีนิ ชลชวลฺลิติณานิ อุทกโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ตตฺเถว วิโกเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, ปเรหิ อุปฺปาฏิตานิ วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตานิ หิ พีชคาเม สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ติลพีชกสาสปมตฺติกเสวาโลปิ อุทกโต อุทฺธโฏ อมิลาโต อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. มหาปจฺจริยาทีสุ ‘‘อนนฺตกติลพีชกอุทกปปฺปฏกาทีนิ ทุกฺกฏวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ น ทิสฺสติ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘สมฺปุณฺณภูตคามํ น โหติ, ตสฺมา ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ น สเมติ. ภูตคาเม หิ ปาจิตฺติยํ พีชคาเม ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อสมฺปุณฺณภูตคาโม นาม ตติโย โกฏฺาโส เนว ปาฬิยํ, อฏฺกถาสุ อาคโต, อเถตํ พีชคามสงฺคหํ คมิสฺสตีติ, ตมฺปิ น ยุตฺตํ อภูตคามมูลตฺตา ตาทิสสฺส พีชคามสฺสาติ. อปิจ ‘‘ครุกลหุเกสุ ครุเก าตพฺพ’’นฺติ เอตํ วินยลกฺขณํ.

ถลฏฺเ ฉินฺนรุกฺขานํ อวสิฏฺโ หริตขาณุ นาม โหติ, ตตฺถ กกุธกรฺชปิยงฺคุปนสาทีนํ ขาณุ อุทฺธํ วฑฺฒติ, โส ภูตคาเมน สงฺคหิโต. ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ น วฑฺฒติ, โส พีชคาเมน สงฺคหิโต. กทลิยา ปน อผลิตาย ขาณุ ภูตคาเมน สงฺคหิโต, ผลิตาย พีชคาเมน. กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา, ตถา ผลิโต เวฬุ. ยทา ปน อคฺคโต ปฏฺาย สุสฺสติ, ตทา พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ. กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมน. กึ ตโต นิพฺพตฺตติ? น กิฺจิ. ยทิ หิ นิพฺพตฺเตยฺย, ภูตคาเมน สงฺคหํ คจฺเฉยฺย. อินฺทสาลาทิรุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ราสึ กโรนฺติ, กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺติ, พีชคาเมเนว ปน สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. มณฺฑปตฺถาย วา วติอตฺถาย วา วลฺลิอาโรปนตฺถาย วา ภูมิยํ นิขณนฺติ, มูเลสุ เจว ปณฺเณสุ จ นิคฺคเตสุ ปุน ภูตคามสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, มูลมตฺเตสุ ปน ปณฺณมตฺเตสุ วา นิคฺคเตสุปิ พีชคาเมน สงฺคหิตา เอว.

ยานิ กานิจิ พีชานิ ปถวิยํ วา อุทเกน สิฺจิตฺวา ปิตานิ, กปาลาทีสุ วา อลฺลปํสุํ ปกฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตานิ โหนฺติ, สพฺพานิ มูลมตฺเต วา ปณฺณมตฺเต วา นิคฺคเตปิ พีชานิเยว. สเจปิ มูลานิ จ อุปริ องฺกุโร จ นิคฺคจฺฉติ, ยาว องฺกุโร หริโต น โหติ, ตาว พีชานิเยว. มุคฺคาทีนํ ปน ปณฺเณสุ อุฏฺิเตสุ, วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต นีลวณฺเณ ชาเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ตาลฏฺีนํ ปมํ สูกรทาา วิย มูลํ นิคฺคจฺฉติ, นิคฺคเตปิ ยาว อุปริ ปตฺตวฏฺฏิ น นิคฺคจฺฉติ, ตาว พีชคาโม นามเยว. นาฬิเกรสฺส ตจํ ภินฺทิตฺวา ทนฺตสูจิ วิย องฺกุโร นิคฺคจฺฉติ, ยาว มิคสิงฺคสทิสา นีลปตฺตวฏฺฏิ น โหติ, ตาว พีชคาโมเยว. มูเล อนิคฺคเตปิ ตาทิสาย ปตฺตวฏฺฏิยา ชาตาย อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉติ.

อมฺพฏฺิอาทีนิ วีหิอาทีหิ วินิจฺฉินิตพฺพานิ. วนฺทากา วา อฺา วา ยา กาจิ รุกฺเข ชายิตฺวา รุกฺขํ โอตฺถรติ, รุกฺโขว ตสฺสา านํ, ตํ วิโกเปนฺตสฺส วา ตโต อุทฺธรนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. เอกา อมูลิกา ลตา โหติ, องฺคุลิเวโก วิย วนปฺปคุมฺพทณฺฑเก เวเติ, ตสฺสาปิ อยเมว วินิจฺฉโย. เคหปมุขปาการเวทิกา เจติยาทีสุ นีลวณฺโณ เสวาโล โหติ, ยาว ทฺเว ตีณิ ปตฺตานิ น สฺชายนฺติ, ตาว อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉติ. ปตฺเตสุ ชาเตสุ ปาจิตฺติยวตฺถุ, ตสฺมา ตาทิเสสุ าเนสุ สุธาเลปมฺปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ, อนุปสมฺปนฺเนน ลิตฺตสฺส อุปริ สิเนหเลโป ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ นิทาฆสมเย สุกฺขเสวาโล ติฏฺติ, ตํ สมฺมุฺชนีอาทีหิ ฆํสิตฺวา อปเนตุํ วฏฺฏติ. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล ทุกฺกฏวตฺถุ, อนฺโต อพฺโพหาริโก, ทนฺตกฏฺปูวาทีสุ กณฺณกมฺปิ อพฺโพหาริกเมว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สเจ เครุกปริกมฺมกตา ภิตฺติ กณฺณกิตา โหติ, โจฬกํ เตเมตฺวา ปีเฬตฺวา ปมชฺชิตพฺพา’’ติ (มหาว. ๖๖).

๗๗. ปาสาณชาติ ปาสาณททฺทุเสวาลเสเลยฺยกาทีนิ อหริตวณฺณานิ อปตฺตกานิ จ ทุกฺกฏวตฺถุกานิ. อหิจฺฉตฺตกํ ยาว มกุฏํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏวตฺถุ, ปุปฺผิตกาลโต ปฏฺาย อพฺโพหาริกํ, อลฺลรุกฺขโต ปน อหิจฺฉตฺตกํ คณฺหนฺโต รุกฺขตจํ วิโกเปติ, ตสฺมา ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. รุกฺขปปฏิกายปิ เอเสว นโย. ยา ปน อินฺทสาลกกุธาทีนํ ปปฏิกา รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ติฏฺติ, ตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิยฺยาสมฺปิ รุกฺขโต มุจฺจิตฺวา ิตํ สุกฺขรุกฺเข วา ลคฺคํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อลฺลรุกฺขโต น วฏฺฏติ. ลาขายปิ เอเสว นโย. รุกฺขํ จาเลตฺวา ปณฺฑุปลาสํ วา ปริณตกณิการาทิปุปฺผํ วา ปาเตนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว. หตฺถกุกฺกุจฺเจน มุทุเกสุ อินฺทสาลนุหีขนฺธาทีสุ วา ตตฺถชาตกตาลปณฺณาทีสุ วา อกฺขรํ ฉินฺทนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. สามเณรานํ ปุปฺผํ โอจินนฺตานํ สาขํ โอนาเมตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. เตหิ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ, ปานียวาสตฺถิเกน สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานิ. ผลสาขาปิ อตฺตนา ขาทิตุกาเมน น โอนาเมตพฺพา, สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา ผลํ คาหาเปตพฺพํ. กิฺจิ คจฺฉํ วาลตํ วา อุปฺปาเฏนฺเตหิ สามเณเรหิ สทฺธึ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ น วฏฺฏติ, เตสํ ปน อุสฺสาหชนนตฺถํ อนากฑฺฒนฺเตน กฑฺฒนาการํ ทสฺเสนฺเตน วิย อคฺเค คเหตุํ วฏฺฏติ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขํ มกฺขิกพีชนาทีนํ อตฺถาย กปฺปิยํ อการาเปตฺวา คหิตํ, ตเจ วา ปตฺเต วา อนฺตมโส นเขนปิ วิเลขนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อลฺลสิงฺคิเวราทีสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน กปฺปิยํ การาเปตฺวา สีตเล ปเทเส ปิตสฺส มูลํ สฺชายติ, อุปริภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. สเจ องฺกุโร ชายติ, เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, มูเล จ องฺกุเร จ ชาเต น วฏฺฏติ.

‘‘สมฺมุฺชนีสลากายปิ ติณานิ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ภูมิยํ สมฺมชฺชนฺโต สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. จงฺกมนฺโตปิ ‘‘ฉิชฺชนกํ ฉิชฺชตุ, ภิชฺชนกํ ภิชฺชตุ, จงฺกมิตฏฺานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ สฺจิจฺจ ปาเทหิ อกฺกมนฺโต ติณวลฺลิอาทีนิ สยํ วา ฉินฺทติ, อฺเน วา เฉทาเปติ, น วฏฺฏติ. สเจปิ หิ ติณํ วา ลตํ วา คนฺถึ กโรนฺตสฺส ภิชฺชติ, คนฺถิมฺปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตาลรุกฺขาทีสุ ปน โจรานํ อนารุหณตฺถาย ทารุมกฺกฏกํ อาโกเฏนฺติ, กณฺฏเก พนฺธนฺติ, ภิกฺขุสฺส เอวํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ทารุมกฺกฏโก รุกฺเข อลฺลีนมตฺโตว โหติ, รุกฺขํ น ปีเฬติ, วฏฺฏติ. ‘‘รุกฺขํ ฉินฺท, ลตํ ฉินฺท, กนฺทํ วา มูลํ วา อุปฺปาเฏหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ อนิยมิตตฺตา. นิยเมตฺวา ปน ‘‘อิมํ รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติอาทิ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. นามํ คเหตฺวาปิ ‘‘อมฺพรุกฺขํ จตุรํสวลฺลึ อาลุวกนฺทํ มุฺชติณํ อสุกรุกฺขจฺฉลฺลึ ฉินฺท ภินฺท อุปฺปาเฏหี’’ติอาทิวจนมฺปิ อนิยมิตเมว โหติ. ‘‘อิมํ อมฺพรุกฺข’’นฺติอาทิวจนเมว หิ นิยมิตํ นาม, ตํ น วฏฺฏติ. ปตฺตมฺปิ ปจิตุกาโม ติณาทีนํ อุปริ สฺจิจฺจ อคฺคึ กโรนฺโต สยํ วา ปจติ, อฺเน วา ปจาเปติ, น วฏฺฏติ. อนิยเมตฺวา ปน ‘‘มุคฺเค ปจ, มาเส ปจา’’ติอาทิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิเม มุคฺเค ปจา’’ติ เอวํ วตฺตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ มูลเภสชฺชํ ชาน, อิมํ มูลํ วา ปณฺณํ วา เทหิ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา อาหร, อิมินา ปุปฺเผน ผเลน วา อตฺโถ, อิมํ รุกฺขํ วา ลตํ วา ผลํ วา กปฺปิยํ กโรหี’’ติ เอวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตา ภูตคามปริโมจิตํ กตํ โหติ.

๗๘. ปริภุฺชนฺเตน ปน พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ. กปฺปิยกรณฺเจตฺถ อิมินา สุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชฺเว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐).

ตตฺถ อคฺคิปริชิตนฺติ อคฺคินา ปริชิตํ อธิภูตํ ทฑฺฒํ ผุฏฺนฺติ อตฺโถ. สตฺถปริชิตนฺติ สตฺเถน ปริชิตํ อธิภูตํ ฉินฺนํ วิทฺธํ วาติ อตฺโถ. เอส นโย นขปริชิเต. อพีชนิพฺพฏฺฏพีชานิ สยเมว กปฺปิยานิ. อคฺคินา กปฺปิยํ กโรนฺเตน กฏฺคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อนฺตมโส โลหขณฺเฑนปิ อาทิตฺเตน กปฺปิยํ กาตพฺพํ, ตฺจ โข เอกเทเส ผุสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. สตฺเถน กโรนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ โลหมยสตฺถสฺส อนฺตมโส สูจินขจฺเฉทนานมฺปิ ตุณฺเฑน วา ธาราย วา เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ. นเขน กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปูตินเขน น กาตพฺพํ, มนุสฺสานํ ปน สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฏานํ สกุนฺตานฺจ นขา ติขิณา โหนฺติ, เตหิ กาตพฺพํ. อสฺสมหึสสูกรมิคโครูปาทีนํ ขุรา อติขิณา, เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหติ. หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, เตหิ จ วฏฺฏติ. เยหิ ปน กาตุํ วฏฺฏติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิปิ อุทฺธริตฺวา คหิตเกปิ เฉทํ วา เวธํ วา ทสฺเสนฺเตน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาว กาตพฺพํ.

ตตฺถ สเจปิ พีชานํ ปพฺพตมตฺโต ราสิ, รุกฺขสหสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุจฺฉูนํ วา มหาภาโร พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, เอกสฺมึ พีเช วา รุกฺขสาขาย วา อุจฺฉุมฺหิ วา กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหติ. อุจฺฉู จ ทารูนิ จ เอกโต พทฺธานิ โหนฺติ, ‘‘อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ ทารุํ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. สเจ ปน ยาย รชฺชุยา วา วลฺลิยา วา พทฺธานิ, ตํ วิชฺฌติ, น วฏฺฏติ. อุจฺฉุขณฺฑานํ ปจฺฉึ ปูเรตฺวา อาหรนฺติ, เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตเมว. มรีจปกฺกาทีหิ จ มิสฺเสตฺวา ภตฺตํ อาหรนฺติ, ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเต สเจปิ ภตฺตสิตฺเถ วิชฺฌติ, วฏฺฏติเยว. ติลตณฺฑุลาทีสุปิ เอเสว นโย. ยาคุยา ปกฺขิตฺตานิ ปน เอกาพทฺธานิ หุตฺวา น สนฺติฏฺนฺติ, ตตฺถ เอกเมกํ วิชฺฌิตฺวา กปฺปิยํ กาตพฺพเมว. กปิตฺถผลาทีนํ อนฺโต มิฺชํ กฏาหํ มุฺจิตฺวา สฺจรติ, ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ การาเปตพฺพํ, เอกาพทฺธํ โหติ, กฏาเหปิ กาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ภูตคามวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.