📜

๑๗. มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา

๘๒. วิหาเรสงฺฆิเก เสยฺยํ, สนฺถริตฺวาน ปกฺกโมติ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวาน อฺตฺถ วสิตุกามตาย วิหารโต ปกฺกมนํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย –

‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๕) –

วจนโต สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สยํ สนฺถริตฺวา อฺเน วา สนฺถราเปตฺวา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส ปริกฺเขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ.

ตตฺถ เสยฺยา นาม ภิสิ จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฏฺฏิกา จมฺมขณฺโฑ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ ทสวิธา. ตตฺถ ภิสีติ มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา. จิมิลิกา นาม สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วณฺณานุรกฺขณตฺถํ กตา, ตํ เหฏฺา ปตฺถริตฺวา อุปริ กฏสารกํ ปตฺถรนฺติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม มฺจปีานํ อุปริ อตฺถริตพฺพกปจฺจตฺถรณํ. ภูมตฺถรณํ นาม ภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺเณหิ วา วาเกหิ วา กตตฏฺฏิกา. จมฺมขณฺโฑ นาม สีหพฺยคฺฆทีปิตรจฺฉจมฺมาทีสุปิ ยํ กิฺจิ จมฺมํ. อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ น ทิสฺสติ, ตสฺมา สีหพฺยคฺฆจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. นิสีทนนฺติ สทสํ เวทิตพฺพํ. ปจฺจตฺถรณนฺติ ปาวาโร โกชโวติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ติณสนฺถาโรติ เยสํ เกสฺจิ ติณานํ สนฺถาโร. เอส นโย ปณฺณสนฺถาเรปิ. เอวํ ปน อิมํ ทสวิธํ เสยฺยํ สงฺฆิเก วิหาเร สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ปกฺกมนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ, อาปุจฺฉนฺเตน จ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ สามเณโร, ตสฺมึ อสติ อารามิโก, ตสฺมึ อสติ เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมิมฺปิ อสติ จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ เปตฺวา มฺเจ อวเสสมฺจปีานิ อาโรเปตฺวา อุปริ ภิสิอาทิกํ ทสวิธมฺปิ เสยฺยํ ราสึ กตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํ.

สเจ ปน เสนาสนํ โอวสฺสติ, ฉทนตฺถฺจ ติณํ วา อิฏฺกา วา อานีตา โหนฺติ, สเจ อุสฺสหติ, ฉาเทตพฺพํ. โน เจ สกฺโกติ, โย โอกาโส อโนวสฺสโก, ตตฺถ มฺจปีาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ สพฺพมฺปิ โอวสฺสติ, อุสฺสหนฺเตน อนฺโตคาเม อุปาสกานํ ฆเร เปตพฺพํ. สเจ เตปิ ‘‘สงฺฆิกํ นาม, ภนฺเต, ภาริยํ, อคฺคิทาหาทีนํ ภายามา’’ติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อพฺโภกาเสปิ ปาสาณานํ อุปริ มฺจํ เปตฺวา เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นิกฺขิปิตฺวา ติเณหิ จ ปณฺเณหิ จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. ยฺหิ ตตฺถ องฺคมตฺตมฺปิ อวสิสฺสติ, ตํ อฺเสํ ตตฺถ อาคตภิกฺขูนํ อุปการํ ภวิสฺสตีติ. อุทฺธริตฺวา คจฺฉนฺเตน ปน มฺจปีกวาฏํ สพฺพํ อปเนตฺวา สํหริตฺวา จีวรวํเส ลคฺเคตฺวาว คนฺตพฺพํ. ปจฺฉา อาคนฺตฺวา วสนกภิกฺขุนาปิ ปุน มฺจปีํ ปยิตฺวา คจฺฉนฺเตน ตเถว กาตพฺพํ. อนฺโตกุฏฺฏโต เสยฺยํ พหิกุฏฺเฏ ปฺเปตฺวา วสนฺเตน คมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว ปฏิสาเมตพฺพํ. อุปริปาสาทโต โอโรเปตฺวา เหฏฺาปาสาเท วสนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. รตฺติฏฺานทิวาฏฺาเนสุ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา พหิคมนกาเล ปุน คหิตฏฺาเนเยว เปตพฺพํ.

๘๓. เสนาสเนสุ ปน อยํ อาปุจฺฉิตพฺพานาปุจฺฉิตพฺพวินิจฺฉโย – ยา ตาว ภูมิยํ ทีฆสาลา วา ปณฺณสาลา วา โหติ, ยํ วา รุกฺขตฺถมฺเภสุ กตเคหํ อุปจิกานํ อุฏฺานฏฺานํ โหติ, ตโต ปกฺกมนฺเตน ตาว อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ กติปยานิ ทิวสานิ อชคฺคิยมาเน วมฺมิกาว สนฺติฏฺนฺติ. ยํ ปน ปาสาณปิฏฺิยํ วา ปาสาณตฺถมฺเภสุ วา กตเสนาสนํ สิลุจฺจยเลณํ วา สุธาลิตฺตเสนาสนํ วา, ยตฺถ ยตฺถ อุปจิกาสงฺกา นตฺถิ, ตโต ปกฺกมนฺตสฺส อาปุจฺฉิตฺวาปิ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาปุจฺฉนํ ปน วตฺตํ. สเจ ตาทิเสปิ เสนาสเน เอเกน ปสฺเสน อุปจิกา อาโรหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. โย ปน อาคนฺตุโก ภิกฺขุ สงฺฆิกเสนาสนํ คเหตฺวาว สนฺตํ ภิกฺขุํ อนุวตฺตนฺโต อตฺตโน เสนาสนํ อคฺคเหตฺวา วสติ, ยาว โส น คณฺหาติ, ตาว ตํ เสนาสนํ ปุริมภิกฺขุสฺเสว ปลิโพโธ. ยทา ปน โส เสนาสนํ คเหตฺวา อตฺตโน อิสฺสริเยน วสติ, ตโต ปฏฺาย อาคนฺตุกสฺเสว ปลิโพโธ. สเจ อุโภปิ วิภชิตฺวา คณฺหนฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปลิโพโธ.

มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – สเจ ทฺเว ตโย เอกโต หุตฺวา ปฺเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ อาปุจฺฉิตพฺพํ. เตสุ เจ ปมํ คจฺฉนฺโต ‘‘ปจฺฉิโม ชคฺคิสฺสตี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ , ปจฺฉิมสฺส อาโภเคน มุตฺติ นตฺถิ. พหู เอกํ เปเสตฺวา สนฺถราเปนฺติ, คมนกาเล สพฺเพหิ วา อาปุจฺฉิตพฺพํ, เอกํ วา เปเสตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ. อฺโต มฺจปีาทีนิ อาเนตฺวา อฺตฺร วสิตฺวา คมนกาเล ตตฺเถว เนตพฺพานิ. สเจ อฺโต อาเนตฺวา วสมานสฺส อฺโ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, น ปฏิพาหิตพฺโพ , ‘‘มยา, ภนฺเต, อฺาวาสโต อานีตํ, ปากติกํ กเรยฺยาถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน ‘‘เอวํ กริสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิเต อิตรสฺส คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อฺตฺถ หริตฺวาปิ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส หิ นฏฺํ วา ชิณฺณํ วา โจเรหิ วา หฏํ คีวา เนว โหติ, ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชนฺตสฺส ปน คีวา โหติ. อฺสฺส มฺจปีํ ปน สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา ปริภุฺชนฺตสฺส นฏฺํ คีวาเยว. อนฺโตวิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉติ, นทีปูรราชโจราทีสุ วา เกนจิ ปลิโพโธ โหติ อุปทฺทุโต, น สกฺโกติ ปจฺจาคนฺตุํ, เอวํภูตสฺส อนาปตฺติ.

วิหารสฺส อุปจาเร ปน อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. วุตฺตปฺปการฺหิ ทสวิธํ เสยฺยํ อนฺโตคพฺภาทิมฺหิ คุตฺตฏฺาเน ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ยสฺมา เสยฺยาปิ เสนาสนมฺปิ อุปจิกาหิ ปลุชฺชติ, วมฺมิกราสิเยว โหติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. พหิ ปน อุปฏฺานสาลาทีสุ ปฺเปตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เสยฺยามตฺตเมว นสฺเสยฺย านสฺส อคุตฺตตาย, น เสนาสนํ, ตสฺมา เอตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. มฺจปีํ ปน ยสฺมา น สกฺกา สหสา อุปจิกาหิ ขายิตุํ, ตสฺมา ตํ วิหาเรปิ สนฺถริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. วิหารสฺสูปจาเร อุปฏฺานสาลายํ มณฺฑเป รุกฺขมูเลปิ สนฺถริตฺวา ปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

๘๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คจฺเฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๙) วจนโต สงฺฆิกานิ ปน มฺจปีาทีนิ จตฺตาริ อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา อุทฺธรณาทีนิ อกตฺวา ‘‘อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺสปิ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. เอตฺถ โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มุฺชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สํขิตฺตํ ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ. ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ, อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถิ. เสนาสนฺหิ โสวณฺณมยมฺปิ วฏฺฏติ, ตสฺมา ตํ มหคฺฆํ โหติ.

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฏฺ มาเส อวสฺสิกสงฺเกเต มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺติ, ตตฺถ เสนาสนํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๑๐) วจนโต ปน วสฺสิกวสฺสานมาสาติ เอวํ อปฺาเต จตฺตาโร เหมนฺติเก, จตฺตาโร คิมฺหิเกติ อฏฺ มาเส สาขามณฺฑเป วา ปทรมณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน กากา วา กุลลา วา อฺเ วา สกุนฺตา ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺติ, ตสฺส รุกฺขสฺส มูเล น นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘อฏฺ มาเส’’ติ วจนโต เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยว. ‘‘อวสฺสิกสงฺเกเต’’ติ วจนโต ยตฺถ เหมนฺเต เทโว วสฺสติ, ตตฺถ เหมนฺเตปิ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. คิมฺเห ปน สพฺพตฺถ วิคตวลาหกํ วิสุทฺธํ นตํ โหติ, เอวรูเป กาเล เกนจิเทว กรณีเยน อชฺโฌกาเส มฺจปีํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ.

๘๕. อพฺโภกาสิเกนปิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตสฺส หิ สเจ ปุคฺคลิกมฺจโก อตฺถิ, ตตฺเถว สยิตพฺพํ. สงฺฆิกํ คณฺหนฺเตน เวตฺเตน วา วาเกน วา วีตมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ ปุราณมฺจโก คเหตพฺโพ, ตสฺมึ อสติ นววายิโม วา โอนทฺธโก วา คเหตพฺโพ. คเหตฺวา ปน ‘‘อหํ อุกฺกฏฺรุกฺขมูลิโก อุกฺกฏฺอพฺโภกาสิโก’’ติ จีวรกุฏิมฺปิ อกตฺวา อสมเย อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา ปฺเปตฺวา นิปชฺชิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน จตุคฺคุเณนปิ จีวเรน กตา กุฏิ อเตเมนฺตํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ, สตฺตาหวทฺทลิกาทีนิ ภวนฺติ, ภิกฺขุโน กายานุคติกตฺตา วฏฺฏติ. อรฺเ ปณฺณกุฏีสุ วสนฺตานํ สีลสมฺปทาย ปสนฺนจิตฺตา มนุสฺสา นวํ มฺจปีํ เทนฺติ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภุฺชถา’’ติ, วสิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ สามนฺตวิหาเร สภาคภิกฺขูนํ เปเสตฺวา คนฺตพฺพํ, สภาคานํ อภาเวน อโนวสฺสเก นิกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพํ, อโนวสฺสเก อสติ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา คนฺตพฺพํ. เจติยงฺคเณ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา โภชนสาลงฺคณํ วา อุโปสถาคารงฺคณํ วา ปริเวณทิวาฏฺานอคฺคิสาลาทีสุ วา อฺตรํ สมฺมชฺชิตฺวา โธวิตฺวา ปุน สมฺมชฺชนิมาฬเกเยว เปตพฺพา. อุโปสถาคาราทีสุ อฺตรสฺมึ คเหตฺวา อวเสสานิ สมฺมชฺชนฺตสฺสปิ เอเสว นโย.

โย ปน ภิกฺขาจารมคฺคํ สมฺมชฺชนฺโต คนฺตุกาโม โหติ, เตน สมฺมชฺชิตฺวา สเจ อนฺตรามคฺเค สาลา อตฺถิ, ตตฺถ เปตพฺพา. สเจ นตฺถิ, วลาหกานํ อนุฏฺิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ยาวาหํ คามโต นิกฺขมามิ, ตาว น วสฺสิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉนฺเตน ปากติกฏฺาเน เปตพฺพา. ‘‘สเจ วสฺสิสฺสตีติ ชานนฺโต อชฺโฌกาเส เปติ, ทุกฺกฏ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน ตตฺร ตตฺเรว สมฺมชฺชนตฺถาย สมฺมชฺชนี นิกฺขิตฺตา โหติ, ตํ ตํ านํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺร ตตฺเรว นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏติ, อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ – มชฺฌโต ปฏฺาย ปาทฏฺานาภิมุขา วาลิกา หริตพฺพา, กจวรํ หตฺเถหิ คเหตฺวา พหิ ฉฑฺเฑตพฺพํ.

๘๖. สเจ วุตฺตปฺปการํ จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆิกํ เสนาสนํ อชฺโฌกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา อนุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถราปิตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. สเจ ปน อุปสมฺปนฺเนน สนฺถราเปติ, เยน สนฺถตํ, ตสฺส ปลิโพโธ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑) – เถโร โภชนสาลายํ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา ทหรํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ ทิวาฏฺาเน มฺจปีํ ปฺเปหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา นิสินฺโน, เถโร ยถารุจิ วิจริตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา เปติ, ตโต ปฏฺาย เถรสฺส ปลิโพโธ. นิสีทิตฺวา สยํ คจฺฉนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน เถโร ตตฺถ ถวิกํ วา อุตฺตราสงฺคํ วา อฏฺเปตฺวา จงฺกมนฺโตว ทหรํ ‘‘คจฺฉ ตฺว’’นฺติ ภณติ, เตน ‘‘อิทํ, ภนฺเต, มฺจปี’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ เถโร วตฺตํ ชานาติ, ‘‘ตฺวํ คจฺฉ, อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ อนุคฺคหิตวตฺโต, ‘‘คจฺฉ, มา อิธ ติฏฺ, เนว นิสีทิตุํ น นิปชฺชิตุํ เทมี’’ติ ทหรํ ตชฺเชติเยว. ทหเรน ‘‘ภนฺเต, สุขํ สยถา’’ติ กปฺปํ ลภิตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. ตสฺมึ คเต เถรสฺเสว ปลิโพโธ, ปุริมนเยเนว จสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

อถ ปน อาณตฺติกฺขเณเยว ทหโร ‘‘มยฺหํ ภณฺเฑ ภณฺฑโธวนาทิ กิฺจิ กรณียํ อตฺถี’’ติ วทติ, เถโร ปน ตํ ‘‘ปฺเปตฺวา คจฺฉาหี’’ติ วตฺวา โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉติ, ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ . สเจ ตตฺเถว คนฺตฺวา นิสีทติ, ปุริมนเยเนว จสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ. สเจ ปน เถโร สามเณรํ อาณาเปติ, สามเณเร ตตฺถ มฺจปีํ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนปิ โภชนสาลโต อฺตฺถ คจฺฉนฺโต ปาทุทฺธาเรน กาเรตพฺโพ. คนฺตฺวา นิสินฺโน ปุน คมนกาเล เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อาณาเปนฺโต ‘‘มฺจปีํ ปฺเปตฺวา ตตฺเถว นิสีทา’’ติ อาณาเปติ, ยตฺริจฺฉติ, ตตฺร คนฺตฺวา อาคนฺตุํ ลภติ. สยํ ปน ปากติกํ อกตฺวา คจฺฉนฺตสฺส เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปาจิตฺติยํ. อนฺตรสนฺนิปาเต มฺจปีาทีนิ ปฺเปตฺวา นิสินฺเนหิ คมนกาเล อารามิกานํ ‘‘อิทํ ปฏิสาเมถา’’ติ วตฺตพฺพํ, อวตฺวา คจฺฉนฺตานํ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม อาปตฺติ.

๘๗. มหาธมฺมสฺสวนํ นาม โหติ, ตตฺถ อุโปสถาคารโตปิ โภชนสาลโตปิ อาหริตฺวา มฺจปีานิ ปฺเปนฺติ, อาวาสิกานํเยว ปลิโพโธ. สเจ อาคนฺตุกา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส, อิทํ อาจริยสฺสา’’ติ คณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย เตสํ ปลิโพโธ. คมนกาเล ปากติกํ อกตฺวา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตานํ อาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยาว อฺเ น นิสีทนฺติ, ตาว เยหิ ปฺตฺตํ, เตสํ ภาโร, อฺเสุ อาคนฺตฺวา นิสินฺเนสุ นิสินฺนกานํ ภาโร. สเจ เต อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คจฺฉนฺติ, ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา ปฺปิตตฺตา’’ติ. ธมฺมาสเน ปฺตฺเต ยาว อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา นาคจฺฉติ, ตาว ปฺาปกานํ ปลิโพโธ. ตสฺมึ อาคนฺตฺวา นิสินฺเน ตสฺส ปลิโพโธ. สกลํ อโหรตฺตํ ธมฺมสฺสวนํ โหติ, อฺโ อุสฺสารโก วา ธมฺมกถิโก วา อุฏฺาติ, อฺโ นิสีทติ, โย โย อาคนฺตฺวา นิสีทติ, ตสฺส ตสฺเสว ภาโร. อุฏฺหนฺเตน ปน ‘‘อิทมาสนํ ตุมฺหากํ ภาโร’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจปิ อิตรสฺมึ อนาคเต ปมํ นิสินฺโน อุฏฺาย คจฺฉติ, ตสฺมิฺจ อนฺโตอุปจารฏฺเเยว อิตโร อาคนฺตฺวา นิสีทติ, อุฏฺาย คโต อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. สเจ ปน อิตรสฺมึ อนาคเตเยว ปมํ นิสินฺโน อุฏฺายาสนา เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมติ, อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. ‘‘สพฺพตฺถ เลฑฺฑุปาตาติกฺกเม ปมปาเท ทุกฺกฏํ, ทุติยปาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ อยํ นโย มหาปจฺจริยํ วุตฺโตติ.

๘๘. สเจ ปน วุตฺตปฺปการเสนาสนโต อฺํ สงฺฆิกํ จิมิลิกํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ตฏฺฏิกํ วา จมฺมขณฺฑํ วา ปาทปุฺฉนึ วา ผลกปีํ วา อชฺโฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมนฺโต เนว อุทฺธรติ น อุทฺธราเปติ อนาปุจฺฉํ วา คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. อาธารกํ ปตฺตปิธานกํ ปาทกลิกํ ตาลวณฺฏํ พีชนิปตฺตกํ ยํ กิฺจิ ทารุภณฺฑํ อนฺตมโส ปานียอุฬุงฺกํ ปานียสงฺขํ อชฺโฌกาเส นิกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ ทุกฺกฏํ. อชฺโฌกาเส รชนํ ปจิตฺวา รชนภาชนํ รชนอุฬุงฺโก รชนโทณิกาติ สพฺพํ อคฺคิสาลาย ปฏิสาเมตพฺพํ. สเจ อคฺคิสาลา นตฺถิ, อโนวสฺสเก ปพฺภาเร นิกฺขิปิตพฺพํ. ตสฺมิมฺปิ อสติ ยตฺถ โอโลเกนฺตา ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, ตาทิเส าเน เปตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติ. อฺปุคฺคลิเก ปน มฺจปีาทิเสนาสเนปิ ทุกฺกฏเมว. เอตฺถ ปน ‘‘ยสฺมึ วิสฺสาสคฺคาโห น รุหติ, ตสฺส สนฺตเก ทุกฺกฏํ. ยสฺมึ ปน วิสฺสาสคฺคาโห รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกเมว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. อตฺตโน ปุคฺคลิเก ปน อนาปตฺติเยว. โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺติ, ตถารูปํ อนาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ. โย ปน อาตเป โอตาเปนฺโต ‘‘อาคนฺตฺวา อุทฺธริสฺสามี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

มฺจปีาทิสงฺฆิกเสนาสเนสุ

ปฏิปชฺชิตพฺพวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.