📜

๑๘. กาลิกวินิจฺฉยกถา

๘๙. กาลิกานิปิจตฺตารีติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๕-๒๕๖) ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกนฺติ อิมานิ จตฺตาริ กาลิกานิ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ ยํ กิฺจิ ขาทนียโภชนียํ ยาว มชฺฌนฺหิกสงฺขโต กาโล, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวกาลิกํ. สทฺธึ อนุโลมปาเนหิ อฏฺวิธํ ปานํ ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามสงฺขาโต ยาโม, ตาว ปริภุฺชิตพฺพโต ยาโม กาโล อสฺสาติ ยามกาลิกํ. สปฺปิอาทิ ปฺจวิธํ เภสชฺชํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิเธตพฺพโต สตฺตาโห กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํ. เปตฺวา อุทกํ อวเสสํ สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภุฺชิตพฺพโต ยาวชีวิกนฺติ วุจฺจติ.

๙๐. ตตฺถ ยาวกาลิเกสุ โภชนียํ นาม โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ. ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นาม. เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๙) ปน ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ ขาทนียํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยมฺปิ วนมูลาทิปฺปเภทํ อามิสคติกํ โหติ. เสยฺยถิทํ – มูลขาทนียํ กนฺทขาทนียํ มุฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ ผลขาทนียํ อฏฺิขาทนียํ ปิฏฺขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ, อิทมฺปิ ขาทนียสงฺขฺยเมว คจฺฉติ.

ตตฺถ ปน อามิสคติกสลฺลกฺขณตฺถํ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – มูลขาทนีเย ตาว มูลกมูลํ ขารกมูลํ จจฺจุมูลํ ตมฺพกมูลํ ตณฺฑุเลยฺยกมูลํ วตฺถุเลยฺยกมูลํ วชกลิมูลํ ชชฺฌริมูลนฺติ เอวมาทีนิ สูเปยฺยปณฺณมูลานิ อามิสคติกานิ. เอตฺถ จ วชกลิมูเล ชรฏฺํ ฉินฺทิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ โหติ. อฺมฺปิ เอวรูปํ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. มูลกขารกชชฺฌริมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวาติ วุตฺตํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ หลิทฺทึ สิงฺคิเวรํ วจํ วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณึ อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ จูฬปฺจมูลํ มหาปฺจมูลนฺติอาทินา นเยน คณิยมานานํ คณนาย อนฺโต นตฺถิ, ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ อผรณภาโวเยว ปเนเตสํ ลกฺขณํ. ตสฺมา ยํ กิฺจิ มูลํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรติ, ตํ ยาวกาลิกํ, อิตรํ ยาวชีวิกนฺติ เวทิตพฺพํ . สุพหุํ วตฺวาปิ หิ อิมสฺมึเยว ลกฺขเณ าตพฺพํ. นามสฺาสุ ปน วุจฺจมานาสุ ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว โหติ, ตสฺมา นามสฺาย อาทรํ อกตฺวา ลกฺขณเมว ทสฺสิตํ. ยถา จ มูเล, เอวํ กนฺทาทีสุปิ ลกฺขณํ ทสฺสยิสฺสาม, ตสฺเสว วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยฺจ ตํ ปาฬิยํ หลิทฺทาทิ อฏฺวิธํ วุตฺตํ, ตสฺส ขนฺธตจปุปฺผผลาทิ สพฺพํ ยาวชีวิกนฺติ วุตฺตํ.

กนฺทขาทนีเย ทุวิโธ กนฺโท ทีโฆ จ ภิสกึสุกกนฺทาทิ, วฏฺโฏ จ อุปฺปลกเสรุกกนฺทาทิ, ยํ คณฺีติปิ วทนฺติ. ตตฺถ สพฺเพสํ กนฺทานํ ชิณฺณชรฏฺฏฺานฺจ ฉลฺลิ จ สุขุมมูลานิ จ ยาวชีวิกานิ, ตรุโณ ปน สุขขาทนีโย สาลกลฺยาณิโปตกกนฺโท กึสุกโปตกกนฺโท อมฺพาฏกกนฺโท เกตกกนฺโท มาลุวกนฺโท ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุอาทโย จ ขีรวลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท สิคฺคุกนฺโท ตาลกนฺโท นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ กนฺทา กทลิกนฺโท เวฬุกนฺโท กเสรุกกนฺโทติ เอวมาทโย เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกกนฺทา ยาวกาลิกา. ขีรวลฺลิกนฺโท อโธโต ยาวชีวิโก, โธโต ยาวกาลิโก. ขีรกาโกลิชีวิกอุสภกลสุณาทิกนฺทา ปน ยาวชีวิกา. เต ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ (มหาว. ๒๖๓) มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตา.

มุฬาลขาทนีเย ปทุมมุฬาลํ ปุณฺฑรีกมุฬาลํ มูลสทิสํเยว. เอรกมุฬาลํ กนฺทุลมุฬาลนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกมุฬาลํ ยาวกาลิกํ, หลิทฺทิสิงฺคิเวรมกจิจตุรสฺสวลฺลิเกตกตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรปูครุกฺขาทิมุฬาลํ ปน ยาวชีวิกํ. ตํ สพฺพมฺปิ ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตํ.

มตฺถกขาทนีเย ตาลหินฺตาลกุนฺตาลเกตกนาฬิเกรปูครุกฺขขชฺชูริเวตฺตเอรกกทลีนํ กฬีรสงฺขาตา มตฺถกา, เวณุกฬีโร นฬกฬีโร อุจฺฉุกฬีโร มูลกกฬีโร สาสปกฬีโร สตาวริกฬีโร สตฺตนฺนํ ธฺานํ กฬีราติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก รุกฺขวลฺลิอาทีนํ มตฺถโก ยาวกาลิโก, หลิทฺทิสิงฺคิเวรวจมกจิลสุณานํ กฬีรา, ตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรกฬีรานฺจ ฉินฺทิตฺวา ปาติโต ชรฏฺพุนฺโท ยาวชีวิโก.

ขนฺธขาทนีเย อนฺโตปถวีคโต สาลกลฺยาณีขนฺโธ อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ทณฺฑกขนฺธาติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณโก ขนฺโธ ยาวกาลิโก, อุปฺปลชาตีนํ ปณฺณทณฺฑโก ปทุมชาตีนํ สพฺโพปิ ทณฺฑโก กรวินฺททณฺฑาทโย จ อวเสสสพฺพขนฺธา ยาวชีวิกา.

ตจขาทนีเย อุจฺฉุตโจว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส, เสโส สพฺโพ ยาวชีวิโก. เตสํ ปน มตฺถกขนฺธตจานํ ติณฺณมฺปิ ปาฬิยํ กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ เภสชฺชานิ นิมฺพกสาวํ กุฏชกสาวํ ปโฏลกสาวํ ผคฺควกสาวํ นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓).

เอตฺถ หิ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิชฺฌติ. วุตฺตกสาวานิ จ สพฺพกปฺปิยานีติ เวทิตพฺพานิ.

ปตฺตขาทนีเย มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพโก ตณฺฑุเลยฺยโก ปปุนฺนาโค วตฺถุเลยฺยโก วชกลิ ชชฺฌริ เสลฺลุ สิคฺคุ กาสมทฺทโก อุมฺมาจีนมุคฺโค มาโส ราชมาโส เปตฺวา มหานิปฺผาวํ อวเสสนิปฺผาโว อคฺคิมนฺโถ สุนิสนฺนโก เสตวรโณ นาฬิกา ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอเตสํ ปตฺตานิ, อฺานิ จ เอวรูปานิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถฺจ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปตฺตานิ เอกํเสน ยาวกาลิกานิ , ยา ปนฺา มหานขปิฏฺิมตฺตปณฺณา โลณิรุกฺเข จ คจฺเฉ จ อาโรหติ, ตสฺสา ปตฺตํ ยาวชีวิกํ. พฺรหฺมิปตฺตฺจ ยาวกาลิกนฺติ ทีปวาสิโน วทนฺติ. อมฺพปลฺลวํ ยาวกาลิกํ, อโสกปลฺลวํ ปน ยาวชีวิกํ. ยานิ จฺานิ ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปณฺณานิ เภสชฺชานิ นิมฺพปณฺณํ กุฏชปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ สุลสิปณฺณํ กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิ. น เกวลฺจ ปณฺณานิ, เตสํ ปุปฺผผลานิปิ. ยาวชีวิกปณฺณานํ ปน ผคฺควปณฺณํ อชฺชุกปณฺณํ ผณิชฺชกปณฺณํ ตมฺพูลปณฺณํ ปทุมินิปณฺณนฺติ เอวํ คณนวเสน อนฺโต นตฺถิ.

ปุปฺผขาทนีเย มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพกปุปฺผํ วชกลิปุปฺผํ ชชฺฌริปุปฺผํ จูฬนิปฺผาวปุปฺผํ มหานิปฺผาวปุปฺผํ กเสรุกปุปฺผํ นาฬิเกรตาลเกตกานํ ตรุณปุปฺผานิ เสตวรณปุปฺผํ สิคฺคุปุปฺผํ อุปฺปลปทุมชาติกานํ ปุปฺผานํ กณฺณิกามตฺตํ อคนฺธิปุปฺผํ กรีรปุปฺผํ ชีวนฺตี ปุปฺผนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณปุปฺผํ ยาวกาลิกํ, อโสกพกุลกุยฺยกปุนฺนาคจมฺปกชาติกรวีรกณิการกุนฺทนวมาลิกมลฺลิกาทีนํ ปน ปุปฺผํ ยาวชีวิกํ, ตสฺส คณนาย อนฺโต นตฺถิ. ปาฬิยํ ปนสฺส กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ผลขาทนีเย ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพชมฺพุอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติมฺพรูสกติปุสวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานิ, ยานิ โลเก เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ ยาวกาลิกานิ, นามคณนวเสน เตสํ น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. ยานิ ปน ปาฬิยํ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ พิลงฺคํ ปิปฺปลึ มรีจํ หรีตกํ วิภีตกํ อามลกํ โคฏฺผลํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

วุตฺตานิ , ตานิ ยาวชีวิกานิ. เตสมฺปิ อปริปกฺกานิ อจฺฉิวพิมฺพวรณเกตกกาสฺมรีอาทีนํ ผลานิ ชาติผลํ กฏุกผลํ เอฬา ตกฺโกลนฺติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ.

อฏฺิขาทนีเย ลพุชฏฺิ ปนสฏฺิ อมฺพาฏกฏฺิ สาลฏฺิ ขชฺชูรีเกตกติมฺพรูสกานํ ตรุณผลฏฺิ ตินฺติณิกฏฺิ พิมฺพผลฏฺิ อุปฺปลปทุมชาตีนํ โปกฺขรฏฺีติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ ปกติอาหารวเสน ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ อฏฺีนิ ยาวกาลิกานิ, มธุกฏฺิ ปุนฺนาคฏฺิ หรีตกาทีนํ อฏฺีนิ สิทฺธตฺถกฏฺิ ราชิกฏฺีติ เอวมาทีนิ อฏฺีนิ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ ผลเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ปิฏฺขาทนีเย สตฺตนฺนํ ตาว ธฺานํ ธฺานุโลมานํ อปรณฺณานฺจ ปิฏฺํ ปนสปิฏฺํ ลพุชปิฏฺํ อมฺพาฏกปิฏฺํ สาลปิฏฺํ โธตกตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถฺจ ผรณกานิ ปิฏฺานิ ยาวกาลิกานิ, อโธตกํ ตาลปิฏฺํ ขีรวลฺลิปิฏฺํ อสฺสคนฺธาทิปิฏฺานิ จ ยาวชีวิกานิ. เตสํ ปาฬิยํ กสาเวหิ มูลผเลหิ จ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

นิยฺยาสขาทนีเย – เอโก อุจฺฉุนิยฺยาโสว สตฺตาหกาลิโก, เสสา –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ หิงฺคุํ หิงฺคุชตุํ หิงฺคุสิปาฏิกํ ตกํ ตกปตฺตึ ตกปณฺณึ สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนฺานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –

เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตา นิยฺยาสา ยาวชีวิกา. ตตฺถ เยวาปนกวเสน สงฺคหิตานํ อมฺพนิยฺยาโส กณิการนิยฺยาโสติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํ. เอวํ อิเมสุ มูลขาทนียาทีสุ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ, สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ อตฺเถ อวเสสํ ขาทนียํ นามาติ สงฺคหิตํ.

๙๑. ยามกาลิเกสุ ปน อฏฺ ปานานิ นาม อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานนฺติ อิมานิ อฏฺ ปานานิ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํ. ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน อมฺพตรุณานิ ภินฺทิตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อาตเป อาทิจฺจปาเกน ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ตทหุปฏิคฺคหิตเกหิ มธุสกฺการกปฺปูราทีหิ โยเชตฺวา กาตพฺพํ, เอวํ กตํ ปุเรภตฺตเมว กปฺปติ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ลภิตฺวา ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภเคนปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตํ นิรามิสปริโภเคน ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. เอส นโย สพฺพปาเนสุ. ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํ. โจจปานนฺติ อฏฺิกกทลิผเลหิ กตปานํ. โมจปานนฺติ อนฏฺิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํ. มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํ. ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติ. มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํ. สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํ. ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํ. อิมานิ อฏฺ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติ.

อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺปานคอกาเนว. ตานิ กิฺจาปิ ปาฬิยํ น วุตฺตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ เปตฺวา ธฺผลรส’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา เปตฺวา สานุโลมธฺผลรสํ อฺํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกเมว. ตตฺถ สานุโลมธฺผลรโส นาม สตฺตนฺนฺเจว ธฺานํ ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสเอฬาลุกาติ นวนฺนฺจ มหาผลานํ สพฺเพสฺจ ปุพฺพณฺณาปรณฺณานํ อนุโลมธฺานํ รโส ยาวกาลิโก, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ เปตฺวา ฑากรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ปกฺกฑากรสํ เปตฺวา ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ เปตฺวา มธุกปุปฺผรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา มธุกปุปฺผรสํ เปตฺวา สพฺโพปิ ปุปฺผรโส วฏฺฏติ.

๙๒. สตฺตาหกาลิกํ นาม สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตนฺติ อิมานิ ปฺจ เภสชฺชานิ. ตตฺถ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสํเยว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ (ปจิ. ๒๖๐). ยาวชีวิกํ ปน เหฏฺา ยาวกาลิเก มูลขาทนียาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๙๓. ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๖) อรุโณทเย ปฏิคฺคหิตํ ยาวกาลิกํ สตกฺขตฺตุมฺปิ นิทหิตฺวา ยาว กาโล นาติกฺกมติ, ตาว ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ยามกาลิกํ เอกํ อโหรตฺตํ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตรตฺตํ, อิตรํ สติ ปจฺจเย ยาวชีวมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกํ วา ยามกาลิกํ วา อชฺโฌหริตุกามตาย คณฺหนฺตสฺส ปฏิคฺคหเณ ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน เอกเมกสฺมึ อชฺโฌหาเร สนฺนิธิปจฺจยา ปาจิตฺติยํ. สเจปิ ปตฺโต ทุทฺโธโต โหติ, ยํ องฺคุลิยา ฆํสนฺตสฺส เลขา ปฺายติ, คณฺิกปตฺตสฺส วา คณฺิกนฺตเร สฺเนโห ปวิฏฺโ โหติ, โส อุณฺเห โอตาเปนฺตสฺส ปคฺฆรติ, อุณฺหยาคุยา วา คหิตาย สนฺทิสฺสติ, ตาทิเส ปตฺเตปิ ปุนทิวเส ภุฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, ตสฺมา ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ. สเจ หิ อุทเก วา สฺเนหภาโว, ปตฺเต วา องฺคุลิเลขา ปฺายติ, ทุทฺโธโต โหติ, เตลวณฺณปตฺเต ปน องฺคุลิเลขา ปฺายติ, สา อพฺโพหาริกา. ยมฺปิ ภิกฺขู นิรเปกฺขา สามเณรานํ ปริจฺจชนฺติ, ตฺเจ สามเณรา นิทหิตฺวา เทนฺติ, สพฺพํ วฏฺฏติ. สยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อปริจฺจตฺตเมว หิ ทุติยทิวเส น วฏฺฏติ. ตโต หิ เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยเมว. อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, อวเสเสสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ.

ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ, อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ปกติอามิเส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธึ ทฺเว, เสสอกปฺปิยมํเส ทุกฺกเฏน สทฺธึ. ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย สามิเสน มุเขน อชฺโฌหรโต ทฺเว, นิรามิเสน เอกเมว. อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต วิกปฺปทฺวเยปิ ทุกฺกฏํ วฑฺฒติ. สเจ วิกาเล อชฺโฌหรติ, ปกติโภชเน สนฺนิธิปจฺจยา จ วิกาลโภชนปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, อกปฺปิยมํเส ถุลฺลจฺจยํ ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. ยามกาลิเก วิกาลปจฺจยา อนาปตฺติ. อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺติ.

สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกฺจ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคณฺหนปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน สเจ นิรามิสํ โหติ, อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. อถ อามิสสํสฏฺํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ โหติ, ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยเมว.

๙๔. สตฺตาหกาลิเกสุ ปน สปฺปิอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) – สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภุฺชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตา. สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน เยน เกนจิ กตสปฺปิ สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตเกน กเต ปุพฺเพ วุตฺตสุทฺธสปฺปินเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ.

๙๕. นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จ น วฏฺฏติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตเกหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ, อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ. เอส นโย อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหิ. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ ปาฬิยํ อาคตสปฺปินา นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ อิมินา ทุกฺกฏํ. อนฺธกฏฺกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ สพฺพอฏฺกถาสุ อนุฺาตตฺตา. ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติ. ปาฬิยํ อาคตนวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ปิเต ภาชนคณนาย, เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยน เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุ. มหาสิวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนุฺาตกาลโต ปฏฺาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ อาห. ตสฺมา นวนีตํ ปริภุฺชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ. ปจิตฺวา สปฺปึ กตฺวา ปริภุฺชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา, ตํ ขยํ คมิสฺสติ. เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อามิเสน สทฺธึ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกา. อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ ปจฺฉาภตฺตํ ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ อุคฺคหิตเกหิ กตนวนีเต จ อกปฺปิยมํสนวนีเต จ สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตกฺกเมเนว คเหตพฺโพ. เตลภิกฺขาย ปวิฏฺานํ ปน ภิกฺขูนํ ตตฺเถว สปฺปิมฺปิ นวนีตมฺปิ ปกฺกเตลมฺปิ อปกฺกเตลมฺปิ อากิรนฺติ. ตตฺถ ตกฺกทธิพินฺทูนิปิ ภตฺตสิตฺถานิปิ ตณฺฑุลกณาปิ มกฺขิกาทโยปิ โหนฺติ, อาทิจฺจปากํ กตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ สตฺตาหกาลิกํ โหติ. ปฏิคฺคเหตฺวา จ ปิตเภสชฺเชหิ สทฺธึ ปจิตฺวา นตฺถุปานมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ วทฺทลิสมเย ลชฺชี สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏติ.

๙๖. เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺส ภาชนคณนาย นิสฺสคฺคิยภาโว เวทิตพฺโพ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียํ โหติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียเมว สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกติเลหิ กตเตเลปิ เอเสว นโย. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตติเล ภชฺชิตฺวา วา ติลปิฏฺํ วา เสเทตฺวา อุณฺโหทเกน วา เตเมตฺวา กตเตลํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, อตฺตนา กตํ นิพฺพฏฺฏิตตฺตา ปุเรภตฺตํ นิรามิสํ วฏฺฏติ, สามํปกฺกตฺตา สามิสํ น วฏฺฏติ. สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา ปน ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อุภยมฺปิ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ยทิ ปน อปฺปํ อุณฺโหทกํ โหติ อพฺภุกฺกิรณมตฺตํ, อพฺโพหาริกํ โหติ สามํปากคณนํ น คจฺฉติ. สาสปเตลาทีสุปิ อวตฺถุกปฏิคฺคหิเตสุ อวตฺถุกติลเตเล วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.

สเจ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณานิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เอเตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิ. อตฺตนา กตํ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว ปริภุฺชิตพฺพํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อนชฺโฌหรณียํ, พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เตลกรณตฺถาย สาสปมธุกเอรณฺฑกฏฺีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ สตฺตาหกาลิกํ, ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ, ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ วฏฺฏติ, จตุตฺถ, ปฺจม, ฉฏฺ, สตฺตมทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ, อฏฺมทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ, อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย คหิตสาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏเมว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ อฺานิปิ นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกรมนฺทาทีนํ เตลานิ อตฺถิ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ โหติ. อยเมเตสุ วิเสโส – เสสํ ยาวกาลิกวตฺถุํ ยาวชีวิกวตฺถุฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สามํปากสวตฺถุกปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตวตฺถุวิธานํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

วสาเตลํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ วสานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุฺาตวสานํ เตลํ. เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํ. มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนุฺาตา. มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ, วสาสุ เอกา มนุสฺสวสา. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตํ วสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ. นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคเหตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส . กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภุฺเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๒).

อุปติสฺสตฺเถรํ ปน อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, สปฺปินวนีตวสานิ เอกโต ปจิตฺวา นิพฺพฏฺฏิตานิ วฏฺฏนฺติ, น วฏฺฏนฺตี’’ติ? ‘‘น วฏฺฏนฺติ, อาวุโส’’ติ. เถโร กิเรตฺถ ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายติ. ตโต นํ อุตฺตริ ปุจฺฉึสุ ‘‘ภนฺเต, นวนีเต ทธิคุฬิกา วา ตกฺกพินฺทุ วา โหติ, เอตํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘ภนฺเต, เอกโต ปจิตฺวา เอกโต สํสฏฺานิ เตชวนฺตานิ โหนฺติ, โรคํ นิคฺคณฺหนฺตี’’ติ. ‘‘สาธาวุโส’’ติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสุมตฺเถโร ปนาห ‘‘กปฺปิยมํสวสาว สามิสปริโภเค วฏฺฏติ, อิตรา นิรามิสปริโภเค วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นนุ วาตาพาธิกา ภิกฺขู ปฺจมูลกสาวยาคุยํ อจฺฉสูกรเตลาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ยาคุํ ปิวนฺติ, สา เตชุสฺสทตฺตา โรคํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อาห.

๙๗. มธุ นาม มธุกรีหิ มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุ. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ กตฺวา ปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. มธุปฏลํ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ, มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมว. จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา ตุมฺพฬนามิกา จ อฏฺิปกฺขิกา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํ.

๙๘. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ. ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํ. พหู ปิณฺฑา จุณฺเณ กตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสน กตผาณิตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ อปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตมฺปิ อนชฺโฌหรณียเมว, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เอส นโย อุจฺฉุํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตผาณิเตปิ. ปุเรภตฺตํ ปน ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สยํกตํ ปุเรภตฺตมฺปิ นิรามิสเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ ปน นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกตํ วุตฺตนยเมว. ‘‘ฌามอุจฺฉุผาณิตํ วา โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตํ วา ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โน วฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. สีโตทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ, ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ.

๙๙. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตมฺปิ อลฺลํ วฏฺฏติ. ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ, ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. กทลีขชฺชูรีอมฺพลพุชปนสจิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมว. มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ. เอวํ ยถาวุตฺตานิ สตฺตาหกาลิกานิ สปฺปิอาทีนิ ปฺจ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐) เภสชฺชนาเมน อนุฺาตตฺตา เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยน สตฺตาหํ ปริภุฺชิตพฺพานิ, สตฺตาหาติกฺกเม ปน เภสชฺชสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ, สกึ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ, นิสฺสชฺชิตพฺพเมว ปาจิตฺติยฺจ เทเสตพฺพํ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวา น อชฺโฌหริตพฺพํ, น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ , กาโย วา กาเย อรุ วา น มกฺเขตพฺพํ. เตหิ มกฺขิตานิ กาสาวกตฺตรยฏฺิอุปาหนปาทกลิกมฺจปีาทีนิปิ อปริโภคานิ. ‘‘ทฺวารวาตปานกวาเฏสุปิ หตฺเถน คหณฏฺานํ น มกฺเขตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปทีเป วา กาฬวณฺเณ วา อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อฺเน ปน ภิกฺขุนา กายิเกน ปริโภเคน ปริภุฺชิตพฺพํ, น อชฺโฌหริตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วจนโต ปน สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา มธุํ อรุมกฺขนํ ผาณิตํ ฆรธูปนํ อธิฏฺเติ อนาปตฺติ, เนว นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ อธิฏฺิตเตลํ อนธิฏฺิตเตลภาชเน อากิริตุกาโม โหติ, ภาชเน เจ สุขุมํ ฉิทฺทํ, ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ เตลํ ปุราณเตเลน อชฺโฌตฺถรียติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มหามุขํ โหติ, สหสาว พหุ เตลํ ปวิสิตฺวา ปุราณเตลํ อชฺโฌตฺถรติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. อธิฏฺิตคติกเมว หิ ตํ โหติ. เอเตน นเยน อธิฏฺิตเตลภาชเน อนธิฏฺิตเตลอากิรณมฺปิ เวทิตพฺพํ.

สเจ ปน สตฺตาหาติกฺกนฺตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจชิตฺวา เทติ, ปุน เตน อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ หิ โส อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ เต สามเณร เตล’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. อาหร เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามาติ. เอวมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุฺชิตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ, โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิ. กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา.

๑๐๐. อิเมสุ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๕) ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกฺเจว สนฺนิธิการกฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกฺจ ยาวชีวิกฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น ชเนติ. ยาวกาลิกํ ปน อตฺตนา สทฺธึ สมฺภินฺนรสานิ ตีณิปิ ยามกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ. ยามกาลิกํ ทฺเวปิ สตฺตาหกาลิกาทีนิ อตฺตโน สภาวํ อุปเนติ, สตฺตาหกาลิกมฺปิ อตฺตนา สทฺธึ สํสฏฺํ ยาวชีวิกํ อตฺตโน สภาวฺเว อุปเนติ, ตสฺมา ยาวกาลิเกน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ สมฺภินฺนรสํ เสสกาลิกตฺตยํ ตทหุปุเรภตฺตเมว วฏฺฏติ. ยามกาลิเกน สํสฏฺํ ปน อิตรทฺวยํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ ยาว อรุณุคฺคมนา วฏฺฏติ. สตฺตาหกาลิเกน ปน ตทหุปฏิคฺคหิเตน สทฺธึ สํสฏฺํ ตทหุปฏิคฺคหิตํ วา ปุเรปฏิคฺคหิตํ วา ยาวชีวิกํ สตฺตาหํ กปฺปติ. ทฺวีหปฏิคฺคหิเตน ฉาหํ. ตีหปฏิคฺคหิเตน ปฺจาหํ…เป… สตฺตาหปฏิคฺคหิเตน ตทเหว กปฺปตีติ เวทิตพฺพํ. กาลยามสตฺตาหาติกฺกเมสุ เจตฺถ วิกาลโภชนสนฺนิธิเภสชฺชสิกฺขาปทานํ วเสน อาปตฺติโย เวทิตพฺพา.

สเจ ปน เอกโต ปฏิคฺคหิตานิปิ จตฺตาริ กาลิกานิ สมฺภินฺนรสานิ น โหนฺติ, ตสฺส ตสฺเสว กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. สเจ หิ ฉลฺลิมฺปิ อนปเนตฺวา สกเลเนว นาฬิเกรผเลน สทฺธึ อมฺพปานาทิปานกํ ปฏิคฺคหิตํ โหติ, นาฬิเกรํ อปเนตฺวา ตํ วิกาเลปิ กปฺปติ. อุปริ สปฺปิปิณฺฑํ เปตฺวา สีตลปายาสํ เทนฺติ, ยํ ปายาเสน อสํสฏฺํ สปฺปิ, ตํ อปเนตฺวา สตฺตาหํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ถทฺธมธุผาณิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตกฺโกลชาติผลาทีหิ อลงฺกริตฺวา ปิณฺฑปาตํ เทนฺติ, ตานิ อุทฺธริตฺวา โธวิตฺวา ยาวชีวํ ปริภุฺชิตพฺพานิ. ยาคุยํ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนสิงฺคิเวราทีสุปิ เตลาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ทินฺนลฏฺิมธุกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวํ ยํ ยํ อสมฺภินฺนรสํ โหติ, ตํ ตํ เอกโต ปฏิคฺคหิตมฺปิ ยถา สุทฺธํ โหติ, ตถา โธวิตฺวา ตจฺเฉตฺวา วา ตสฺส ตสฺส กาลสฺส วเสน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ สมฺภินฺนรสํ โหติ สํสฏฺํ, น วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กาลิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.