📜
๒๑. ปวารณาวินิจฺฉยกถา
๑๑๖. ปฏิกฺเขปปวารณาติ ¶ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ ภฺุชมาเนน ยสฺส กสฺสจิ อภิหฏโภชนสฺส ปฏิกฺเขปสงฺขาตา ปวารณา. สา จ น เกวลํ ปฏิกฺเขปมตฺเตน โหติ, อถ โข ปฺจงฺควเสน. ตตฺริมานิ ¶ ปฺจงฺคานิ – อสนํ, โภชนํ, ทายกสฺส หตฺถปาเส านํ, อภิหาโร, อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ อสนนฺติ วิปฺปกตโภชนํ, ภฺุชมาโน เจส ปุคฺคโล โหตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ, โอทนาทีนฺจ อฺตรํ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ โภชนํ โหตีติ อตฺโถ. ทายกสฺส หตฺถปาเส านนฺติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนํ คณฺหิตฺวา ทายกสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส อวฏฺานํ. อภิหาโรติ หตฺถปาเส ิตสฺส ทายกสฺส กาเยน อภิหาโร. อภิหฏสฺส ปฏิกฺเขโปติ เอวํ อภิหฏสฺส กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺเขโป. อิติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ องฺคานํ วเสน ปวารณา โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ ปวารณา ปฺายติ, อสนํ ปฺายติ, โภชนํ ปฺายติ, หตฺถปาเส ิโต, อภิหรติ, ปฏิกฺเขโป ปฺายตี’’ติ (ปริ. ๔๒๘).
๑๑๗. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๙) – ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ตาว ยํ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติ อิเมสํ อฺตรเมว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ โอทโน นาม สาลิ วีหิ ยโว โคธุโม กงฺคุ วรโก กุทฺรูสโกติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเลหิ นิพฺพตฺโต. ตตฺร สาลีติ อนฺตมโส นีวารํ อุปาทาย สพฺพาปิ สาลิชาติ. วีหีติ สพฺพาปิ วีหิชาติ. ยวโคธุเมสุ เภโท นตฺถิ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติ. วรโกติ อนฺตมโส วรกโจรกํ อุปาทาย สพฺพาปิ เสตวณฺณา วรกชาติ. กุทฺรูสโกติ กาฬกุทฺรูสโก เจว สามากาทิเภทา จ สพฺพาปิ ติณธฺชาติ. นีวารวรกโจรกา เจตฺถ ธฺานุโลมาติ วทนฺติ, ธฺานิ โหนฺตุ ธฺานุโลมานิ วา, เอเตสํ วุตฺตปฺปเภทานํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อมฺพิลปายาสาทีสุ อฺตรํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํ กิฺจิ สนฺธาย ปจนฺตุ, สเจ อุณฺหํ สีตลํ วา ภฺุชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฏฺาเน โอธิ ปฺายติ, โอทนสงฺคหเมว คจฺฉติ, ปวารณํ ชเนติ. สเจ โอธิ น ปฺายติ, ยาคุสงฺคหํ คจฺฉติ, ปวารณํ น ชเนติ.
โยปิ ¶ ¶ ปายาโส วา ปณฺณผลกฬีรมิสฺสกา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา โหติ อาวชฺชิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, หตฺเถน คหิโตกาเสปิ โอธึ น ทสฺเสติ, ปวารณํ น ชเนติ. สเจ ปน อุสุมาย วิคตาย สีตลภูตา ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธึ ทสฺเสติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุพฺเพ ตนุภาโว น รกฺขติ. สเจปิ ทธิตกฺกาทีนิ อาโรเปตฺวา พหู ปณฺณผลกฬีเร ปกฺขิปิตฺวา มุฏฺิมตฺตาปิ ตณฺฑุลา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ, โภชนกาเล เจ โอธิ ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ. อยาคุเก นิมนฺตเน ‘‘ยาคุํ ทสฺสามา’’ติ ภตฺเต อุทกกฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ. กิฺจาปิ ตนุโก โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว. สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ยาคุสงฺคหํ คเตปิ ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, สเจ สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปฺายติ, ปวารณํ ชเนติ, สุทฺธรสโก ปน รสกยาคุ วา น ชเนติ. เปตฺวา วุตฺตธฺตณฺฑุเล อฺเหิ เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กณฺฑมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตํ ภตฺตมฺปิ ปวารณํ น ชเนติ, ปเคว ฆนยาคุ. สเจ ปเนตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺติ, ชเนติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตมฺปิ ปวารณํ ชเนตี’’ติ วุตฺตํ. ปุปฺผิอตฺถาย ภตฺตํ นาม ปุปฺผิขชฺชกตฺถาย กุถิตุทเก ปกฺขิปิตฺวา เสทิตตณฺฑุลา วุจฺจนฺติ. สเจ ปน เต ตณฺฑุเล สุกฺขาเปตฺวา ขาทนฺติ, วฏฺฏติ, เนว สตฺตุสงฺขฺยํ, น ภตฺตสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. ปุน เตหิ กตภตฺตํ ปวาเรติเยว. เต ตณฺฑุเล สปฺปิเตลาทีสุ วา ปจนฺติ, ปูวํ วา กโรนฺติ, น ปวาเรนฺติ. ปุถุกา วา ตาหิ กตสตฺตุภตฺตาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ.
กุมฺมาโส นาม ยเวหิ กตกุมฺมาโส. อฺเหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส ปวารณํ น ชเนติ.
สตฺตุ นาม สาลิวีหิยเวหิ กตสตฺตุ. กงฺคุวรกกุทฺรูสกสีสานิปิ ภชฺชิตฺวา อีสกํ โกฏฺเฏตฺวา ถุเส ปลาเปตฺวา ปุน ทฬฺหํ โกฏฺเฏตฺวา จุณฺณํ กโรนฺติ. สเจปิ ตํ อลฺลตฺตา เอกพทฺธํ โหติ, สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ ตณฺฑุเล โกฏฺเฏตฺวา เทนฺติ, ตมฺปิ จุณฺณํ สตฺตุสงฺคหเมว คจฺฉติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน วีหีนํ วา วีหิปลาสานํ วา ตณฺฑุลา ภชฺชิตตณฺฑุลา เอว วา น ปวาเรนฺติ. เตสํ ¶ ปน ตณฺฑุลานํ จุณฺณํ ปวาเรติ, ขรปากภชฺชิตานํ วีหีนํ กุณฺฑกมฺปิ ปวาเรติ. สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา กุณฺฑกํ น ปวาเรติ. ลาชา วา เตหิ กตภตฺตสตฺตุอาทีนิ วา น ปวาเรนฺติ, ภชฺชิตปิฏฺํ วา ¶ ยํ กิฺจิ สุทฺธขชฺชกํ วา น ปวาเรติ. มจฺฉมํสปูริตขชฺชกํ ปน สตฺตุโมทโก วา ปวาเรติ. มจฺโฉ มํสฺจ ปากฏเมว.
อยํ ปน วิเสโส – สเจ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมตฺตาเนว ทฺเว มจฺฉขณฺฑานิ วา มํสขณฺฑานิ วา เอกภาชเน วา นานาภาชเน วา เทนฺติ, ตานิ เจ อขาทนฺโต อฺํ ยํ กิฺจิ ปวารณปฺปโหนกํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. ตโต เอกํ ขาทิตํ, เอกํ หตฺเถ วา ปตฺเต วา โหติ, โส เจ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. ทฺเวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นตฺถิ, สเจปิ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? อวตฺถุตาย. ยฺหิ ภิกฺขุโน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, ตํเยว ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. อิทํ ปน ชานนฺโต อกปฺปิยตฺตา ปฏิกฺขิปติ, อชานนฺโตปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตเมว ปฏิกฺขิปติ นาม, ตสฺมา น ปวาเรติ. สเจ ปน อกปฺปิยมํสํ ขาทนฺโต กปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กสฺมา? วตฺถุตาย. ยฺหิ เตน ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ปวารณาย วตฺถุ, ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหติ, ตสฺมา ปวาเรติ. อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต อกปฺปิยมํสํ ปฏิกฺขิปติ, ปุริมนเยเนว น ปวาเรติ. กปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยมํสํ วา ขาทนฺโต ปฺจนฺนํ โภชนานํ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กุลทูสกเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กปฺปิยโภชนํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา ภฺุชนฺโตปิ กปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตีติ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํ.
๑๑๘. เอวํ ‘‘อสน’’นฺติอาทีสุ ยฺจ อสฺนาติ, ยฺจ โภชนํ หตฺถปาเส ิเตน อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวารณํ อาปชฺชติ, ตํ อุตฺวา อิทานิ ยถา อาปชฺชติ, ตสฺส ชานนตฺถํ อยํ วินิจฺฉโย – อสนํ โภชนนฺติ เอตฺถ ตาว เยน เอกสิตฺถมฺปิ อชฺโฌหฏํ โหติ โส ¶ สเจ ปตฺตมุขหตฺถานํ ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกสฺมิมฺปิ สติ อฺํ ปฺจสุ โภชเนสุ เอกมฺปิ ปฏิกฺขิปติ, ปวาเรติ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถิ, อามิสคนฺธมตฺตํ ปฺายติ, น ปวาเรติ. มุเข จ หตฺเถ จ โภชนํ นตฺถิ, ปตฺเต อตฺถิ, ตสฺมึ ปน อาสเน อภฺุชิตุกาโม, วิหารํ วา ปวิสิตฺวา ภฺุชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม ตสฺมึ เจ อนฺตเร ¶ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? วิปฺปกตโภชนภาวสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภฺุชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ อาทาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อฺํ โภชนํ ปฏิกฺขิปติ, ตสฺสปิ ปวารณา น โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ ปตฺเต, เอวํ หตฺเถปิ. มุเขปิ วา วิชฺชมานํ โภชนํ สเจ อนชฺโฌหริตุกาโม โหติ, ตสฺมิฺจ ขเณ อฺํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. เอกสฺมิฺหิ ปเท วุตฺตํ ลกฺขณํ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพํ โหติ. อปิจ กุรุนฺทิยํ เอส นโย ทสฺสิโตเยว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.
หตฺถปาเส ิโตติ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสินฺโน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฏฺาย, สเจ ิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฏฺาย, สเจ นิปนฺโน, เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฏฺาย, ทายกสฺส นิสินฺนสฺส วา ิตสฺส วา นิปนฺนสฺส วา เปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมนฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺโถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. ตสฺมึ ตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺเสว ปวารณา โหติ, น ตโต ปรํ.
อภิหรตีติ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ิโต คหณตฺถํ อุปนาเมติ. สเจ ปน อนนฺตรนิสินฺโนปิ ภิกฺขุ หตฺเถ วา อูรูสุ วา อาธารเก วา ิตํ ปตฺตํ อนภิหริตฺวา ‘‘ภตฺตํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ภตฺตปจฺฉึ อาเนตฺวา ปุรโต ภูมิยํ เปตฺวา ‘‘คณฺหาหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อีสกํ ปน อุทฺธริตฺวา วา อปนาเมตฺวา วา ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. เถราสเน นิสินฺโน เถโร ทูเร นิสินฺนสฺส ทหรภิกฺขุสฺส ปตฺตํ เปเสตฺวา ‘‘อิโต โอทนํ คณฺหาหี’’ติ วทติ, คณฺหิตฺวา ปน คโต ตุณฺหี ติฏฺติ, ทหโร ‘‘อลํ มยฺห’’นฺติ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรติ. กสฺมา? เถรสฺส ทูรภาวโต ทูตสฺส ¶ จ อนภิหรณโต. สเจ ปน คเหตฺวา อาคโต ภิกฺขุ ‘‘อิทํ ภตฺตํ คณฺหา’’ติ วทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. ปริเวสนายเอโก เอเกน หตฺเถน โอทนปจฺฉึ, เอเกน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา ภิกฺขุํ ปริวิสติ, ตตฺร เจ อฺโ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ ปจฺฉึ ธาเรสฺสามิ, ตฺวํ โอทนํ เทหี’’ติ วตฺวา คหิตมตฺตเมว กโรติ, ปริเวสโก เอว ปน ตํ ธาเรติ, ตสฺมา สา อภิหฏาว โหติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริเวสเกน ผุฏฺมตฺตาว โหติ, อิตโรว นํ ธาเรติ, ตโต ทาตุกามตาย คณฺหนฺตํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา น โหติ, กฏจฺฉุนา อุทฺธฏภตฺเต ปน โหติ. กฏจฺฉุนา อภิหาโรเยว หิ ตสฺส อภิหาโร. ‘‘ทฺวินฺนํ สมภาเรปิ ปฏิกฺขิปนฺโต ปวาเรติเยวา’’ติ มหาปจฺจริยํ ¶ วุตฺตํ. อนนฺตรสฺส ภิกฺขุโน ภตฺเต ทียมาเน อิตโร ปตฺตํ หตฺเถน ปิทหติ, ปวารณา นตฺถิ. กสฺมา? อฺสฺส อภิหเฏ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา.
ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ เอตฺถ วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ, กาเยน อภิหฏํ ปน เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปวารณา โหตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺร กาเยน ปฏิกฺเขโป นาม องฺคุลึ วา หตฺถํ วา มกฺขิกาพีชนึ วา จีวรกณฺณํ วา จาเลติ, ภมุกาย วา อาการํ กโรติ, กุทฺโธ วา โอโลเกติ. วาจาย ปฏิกฺเขโป นาม ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา วทติ. เอวํ เยน เกนจิ อากาเรน กาเยน วา วาจาย วา ปฏิกฺขิตฺเต ปวารณา โหติ.
๑๑๙. เอโก อภิหเฏ ภตฺเต ปวารณาย ภีโต หตฺเถ อปเนตฺวา ปุนปฺปุนํ ปตฺเต โอทนํ อากิรนฺตํ ‘‘อากิร อากิร, โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปูเรหี’’ติ วทติ, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อนากิรณตฺถาย วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อากิร ปูเรหีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.
อปโร ภตฺตํ อภิหรนฺตํ ภิกฺขุํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กึ, อาวุโส, อิโตปิ กิฺจิ คณฺหิสฺสสิ, ทมฺมิ เต กิฺจี’’ติ อาห, ตตฺราปิ ‘‘เอวํ นาคมิสฺสตีติ วุตฺตตฺตา ปวารณา โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ¶ ปน ‘‘คณฺหิสฺสสีติ วทนฺตสฺส นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.
เอโก สมํสกํ รสํ อภิหริตฺวา ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ สุตฺวา ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ. ‘‘มจฺฉมํสรส’’นฺติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ, ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเตปิ โหติเยว. มํสํ วิสุํ กตฺวา ‘‘มํสรสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ‘‘ตตฺถ เจ สาสปมตฺตมฺปิ มํสขณฺฑํ อตฺถิ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา โหติ. สเจ ปน ปริสฺสาวิโต โหติ, วฏฺฏตี’’ติ อภยตฺเถโร อาห.
มํสรเสน อาปุจฺฉนฺตํ มหาเถโร ‘‘มุหุตฺตํ อาคเมหี’’ติ วตฺวา ‘‘ถาลกํ, อาวุโส, อาหรา’’ติ อาห, เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘อภิหารกสฺส คมนํ อุปจฺฉินฺนํ, ตสฺมา ¶ ปวาเรตี’’ติ อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อยํ กุหึ คจฺฉติ, กีทิสํ เอตสฺส คมนํ, คณฺหนฺตสฺสปิ นาม กสฺสจิ ปวารณา อตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปวาเรตี’’ติ อาห.
กฬีรปนสาทีหิ มิสฺเสตฺวา มํสํ ปจนฺติ, ตํ คเหตฺวา ‘‘กฬีรสูปํ คณฺหถ, ปนสพฺยฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ น ปวาเรติ. กสฺมา? อปวารณารหสฺส นาเมน วุตฺตตฺตา. สเจ ปน ‘‘มจฺฉสูปํ มํสสูป’’นฺติ วา ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ วา วทนฺติ, ปวาเรติ, มํสกรมฺพโก นาม โหติ. ตํ ทาตุกาโมปิ ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, น ปวาเรติ, ‘‘มํสกรมฺพก’’นฺติ วา ‘‘อิท’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ปวาเรติ. เอส นโย สพฺเพสุ มจฺฉมํสมิสฺสเกสุ.
๑๒๐. ‘‘โย ปน นิมนฺตเน ภฺุชมาโน มํสํ อภิหฏํ ‘อุทฺทิสฺสกต’นฺติ มฺมาโน ปฏิกฺขิปติ, ปวาริโตว โหตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. มิสฺสกกถา ปน กุรุนฺทิยํ สุฏฺุ วุตฺตา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ ภตฺตมิสฺสกํ ยาคุํ อาหริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทติ, น ปวาเรติ, ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปวาเรติ. กสฺมา? เยนาปุจฺฉิโต, ตสฺส อตฺถิตาย. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ยาคุ พหุตรา วา โหติ สมสมา วา, น ปวาเรติ. ยาคุ มนฺทา, ภตฺตํ พหุตรํ, ปวาเรติ. อิทฺจ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ, การณํ ปเนตฺถ ทุทฺทสํ. ‘‘ภตฺตมิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตํ พหุตรํ วา สมํ วา อปฺปตรํ วา โหติ, ปวาเรติเยว ¶ . ภตฺตํ วา ยาคุํ วา อนามสิตฺวา ‘‘มิสฺสกํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตตฺร เจ ภตฺตํ พหุตรํ วา สมกํ วา โหติ, ปวาเรติ, อปฺปตรํ น ปวาเรติ, อิทฺจ กรมฺพเกน น สมาเนตพฺพํ. กรมฺพโก หิ มํสมิสฺสโกปิ โหติ อมํสมิสฺสโกปิ, ตสฺมา กรมฺพกนฺติ วุตฺเต ปวารณา นตฺถิ, อิทํ ปน ภตฺตมิสฺสกเมว. เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ปวารณา โหติ. พหุรเส ภตฺเต รสํ, พหุขีเร ขีรํ, พหุสปฺปิมฺหิ จ ปายาเส สปฺปึ คณฺหถาติ วิสุํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถิ.
โย ปน คจฺฉนฺโต ปวาเรติ, โส คจฺฉนฺโตว ภฺุชิตุํ ลภติ. กทฺทมํ วา อุทกํ วา ปตฺวา ิเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. สเจ อนฺตรา นที ปูรา โหติ, นทีตีเร คุมฺพํ อนุปริยายนฺเตน ภฺุชิตพฺพํ. อถ นาวา วา เสตุ วา อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวาปิ จงฺกมนฺเตเนว ภฺุชิตพฺพํ, คมนํ น อุปจฺฉินฺทิตพฺพํ. ยาเน วา หตฺถิอสฺสปิฏฺเ วา จนฺทมณฺฑเล วา สูริยมณฺฑเล วา นิสีทิตฺวา ปวาริเตน ยาว มชฺฌนฺหิกํ, ตาว เตสุ คจฺฉนฺเตสุปิ นิสินฺเนเนว ¶ ภฺุชิตพฺพํ. โย ิโต ปวาเรติ, ิเตเนว, โย นิสินฺโน ปวาเรติ, นิสินฺเนเนว ปริภฺุชิตพฺพํ, ตํ ตํ อิริยาปถํ วิโกเปนฺเตน อติริตฺตํ กาเรตพฺพํ. โย อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ปวาเรติ, เตน อุกฺกุฏิเกเนว ภฺุชิตพฺพํ. ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพํ. ปีเก นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อาสนํ อจาเลตฺวาว จตสฺโส ทิสา ปริวตฺตนฺเตน ภฺุชิตุํ ลพฺภติ. มฺเจ นิสีทิตฺวา ปวาริเตน อิโต วา เอตฺโต วา สฺจริตุํ น ลพฺภติ. สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏติ. นิปชฺชิตฺวา ปวาริเตน นิปนฺเนเนว ปริภฺุชิตพฺพํ. ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพํ.
๑๒๑. ปวาริเตน ปน กึกาตพฺพนฺติ? เยน อิริยาปเถน ปวาริโต โหติ, ตํ วิโกเปตฺวา อฺเน อิริยาปเถน เจ ภฺุชติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. อนติริตฺตํ ปน ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกสงฺคหิตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภฺุชติ วา, อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ปาจิตฺติยํ.
ตตฺถ อนติริตฺตํ นาม นาติริตฺตํ, น อธิกนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน ยสฺมา กปฺปิยกตาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อกตํ วา คิลานสฺส อนธิกํ วา โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน วุตฺตํ –
‘‘อนติริตฺตํ ¶ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหติ, น คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อนติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).
ตตฺถ อกปฺปิยกตนฺติ ยํ ตตฺถ ผลํ วา กนฺทมูลาทึ วา ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ อกปฺปิยมํสํ วา อกปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ อกปฺปิยํ นาม. ตํ อกปฺปิยํ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตํ กตมฺปิ ‘‘อกปฺปิยกต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อปฺปฏิคฺคหิตกตนฺติ ภิกฺขุนา อปฺปฏิคฺคหิตํเยว ปุริมนเยน อติริตฺตํ กตํ. อนุจฺจาริตกตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อนุกฺขิตฺตํ วา อนปนามิตํ วา กตํ. อหตฺถปาเส กตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคตสฺส หตฺถปาสโต พหิ ิเตน กตํ. อภุตฺตาวินา กตนฺติ โย ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ กโรติ, เตน ปวารณปฺปโหนกโภชนํ ¶ อภุตฺเตน กตํ. ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตนฺติ อิทํ อุตฺตานเมว. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อวุตฺตนฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ อวุตฺตํ โหติ. อิติ อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ กปฺปิยํ อกตํ, ยฺจ น คิลานาติริตฺตํ, ตทุภยมฺปิ ‘‘อนติริตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๒๒. อติริตฺตํ ปน ตสฺเสว ปฏิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํ. เตเนว วุตฺตํ ปทภาชเน –
‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหติ, เอตํ อติริตฺตํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙).
อปิเจตฺถ ภุตฺตาวินา กตํ โหตีติ อนนฺตรนิสินฺนสฺส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ปตฺตโต เอกมฺปิ สิตฺถํ วา มํสหีรํ วา ขาทิตฺวา กตมฺปิ ‘‘ภุตฺตาวินาว กตํ โหตี’’ติ เวทิตพฺพํ. อาสนา อวุฏฺิเตนาติ เอตฺถ ปน อสมฺโมหตฺถํ ¶ อยํ วินิจฺฉโย – ทฺเว ภิกฺขู ปาโตเยว ภฺุชมานา ปวาริตา โหนฺติ, เอเกน ตตฺเถว นิสีทิตพฺพํ, อิตเรน นิจฺจภตฺตํ วา สลากภตฺตํ วา อาเนตฺวา อุปฑฺฒํ ตสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต อากิริตฺวา หตฺถํ โธวิตฺวา เสสํ เตน ภิกฺขุนา กปฺปิยํ การาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. กสฺมา? ยฺหิ ตสฺส หตฺเถ ลคฺคํ, ตํ อกปฺปิยํ โหติ. สเจ ปน ปมํ นิสินฺโน ภิกฺขุ สยเมว ตสฺส ปตฺตโต หตฺเถน คณฺหาติ, หตฺถโธวนกิจฺจํ นตฺถิ. สเจ ปน เอวํ ‘กปฺปิยํ กาเรตฺวา ภฺุชนฺตสฺส ปุน กิฺจิ พฺยฺชนํ วา ขาทนียํ วา ปตฺเต อากิร’นฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ โหติ, โส ปุน กาตุํ น ลภติ. เยน อกตํ, เตน กาตพฺพํ, ยฺจ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพํ. ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมาเน ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ ปน เตน ภิกฺขุนา ปมํ กเตน สทฺธึ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
กปฺปิยํ กโรนฺเตน จ น เกวลํ ปตฺเตเยว, กุณฺเฑปิ ปจฺฉิยมฺปิ ยตฺถ กตฺถจิ ปุรโต เปตฺวา โอนามิตภาชเน กาตพฺพํ. ตํ สเจ ภิกฺขุสตํ ปวาริตํ โหติ, สพฺเพสํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, อปฺปวาริตานมฺปิ วฏฺฏติ. เยน ปน กปฺปิยํ กตํ, ตสฺส น วฏฺฏติ. สเจปิ ปวาเรตฺวา ¶ ปิณฺฑาย ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ ปตฺตํ คเหตฺวา อวสฺสํ ภฺุชนเก มงฺคลนิมนฺตเน นิสีทาเปนฺติ, อติริตฺตํ การาเปตฺวาว ภฺุชิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ อฺโ ภิกฺขุ นตฺถิ, อาสนสาลํ วา วิหารํ วา ปตฺตํ เปเสตฺวา กาเรตพฺพํ, กปฺปิยํ กโรนฺเตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หตฺเถ ิตํ น กาตพฺพํ. สเจ อาสนสาลายํ อพฺยตฺโต ภิกฺขุ โหติ, สยํ คนฺตฺวา กปฺปิยํ การาเปตฺวา อาเนตฺวา ภฺุชิตพฺพํ.
คิลานาติริตฺตนฺติ เอตฺถ น เกวลํ ยํ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสํ โหติ, ตํ คิลานาติริตฺตํ, อถ โข ยํ กิฺจิ คิลานํ อุทฺทิสฺส ‘‘อชฺช วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฏํ, ตํ สพฺพํ คิลานาติริตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยามกาลิกํ ปน สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ วา ยํ ¶ กิฺจิ อนติริตฺตํ อาหารตฺถาย ปริภฺุชนฺตสฺส อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ยามกาลิกาทีนิ อามิสสํสฏฺานิ โหนฺติ, อาหารตฺถายปิ อนาหารตฺถายปิ ปฏิคฺคเหตฺวา อชฺโฌหรนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมว, อสํสฏฺานิ ปน สติ ปจฺจเย ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
ปวารณาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.