📜

๒๒. ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา

๑๒๓. ปพฺพชฺชาติ เอตฺถ ปน ปพฺพชฺชาเปกฺขํ กุลปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺเตน เย ปาฬิยํ ‘‘น ภิกฺขเว ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติอาทินา (มหาว. ๘๙) ปฏิกฺขิตฺตา ปุคฺคลา, เต วชฺเชตฺวา ปพฺพชฺชาโทสวิรหิโต ปุคฺคโล ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๘๘) – กุฏฺํ คณฺโฑ กิลาโส โสโส อปมาโรติ อิเมหิ ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปพฺพาเชนฺโต ปน ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กุฏฺนฺติ รตฺตกุฏฺํ วา โหตุ กาฬกุฏฺํ วา, ยํ กิฺจิ กิฏิภททฺทอุกจฺฉุอาทิปฺปเภทมฺปิ สพฺพํ กุฏฺเมวาติ วุตฺตํ. ตฺเจ นขปิฏฺิปฺปมาณมฺปิ วฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน นิวาสนปาวุรเณหิ ปกติปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน นขปิฏฺิปฺปมาณํ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ โหติ, วฏฺฏติ. ‘‘มุเข ปน หตฺถปาทปิฏฺีสุ วา สเจปิ อวฑฺฒนกปกฺเข ิตํ, นขปิฏฺิโต จ ขุทฺทกตรมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ ปกติวณฺเณ ชาเตเยว ปพฺพาเชตพฺโพ, โคธาปิฏฺิสทิสจุณฺณโอกิรณสรีรมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คณฺโฑติ เมทคณฺโฑ วา โหตุ อฺโ วา, โย โกจิ โกลฏฺิมตฺตโกปิ เจ วฑฺฒนกปกฺเข ิโต คณฺโฑ โหติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปน โกลฏฺิมตฺเต อวฑฺฒนกปกฺเข ิเต วฏฺฏติ, มุขาทิเก อปฺปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน อวฑฺฒนกปกฺเข ิเตปิ น วฏฺฏติ. ติกิจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชนฺเตนปิ สรีรํ สจฺฉวึ การาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อุณฺณิคณฺฑา นาม โหนฺติ โคถนกา วิย องฺคุลิกา วิย จ ตตฺถ ตตฺถ ลมฺพนฺติ, เอเตปิ คณฺฑาเยว, เตสุ สติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ทหรกาเล ขีรปีฬกา โยพฺพนฺนกาเล จ มุเข ขรปีฬกา นาม โหนฺติ, มหลฺลกกาเล นสฺสนฺติ, น ตา คณฺฑสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, ตาสุ สติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฺา ปน สรีเร ขรปีฬกา นาม, อปรา ปทุมกณฺณิกา นาม โหนฺติ, อฺา สาสปพีชกา นาม สาสปมตฺตาเยว สกลสรีรํ ผรนฺติ, สพฺพา กุฏฺชาติกาว, ตาสุ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

กิลาโสติ น ภิชฺชนกํ น ปคฺฆรณกํ ปทุมปุณฺฑรีกปตฺตวณฺณํ กุฏฺํ. เยน คุนฺนํ วิย สพลํ สรีรํ โหติ, ตสฺมึ กุฏฺเ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โสโสติ โสสพฺยาธิ. ตสฺมึ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. อปมาโรติ ปิตฺตุมฺมาโท วา ยกฺขุมฺมาโท วา. ตตฺถ ปุพฺพเวริเกน อมนุสฺเสน คหิโต ทุตฺติกิจฺโฉ โหติ, อปฺปมตฺตเกปิ ปน อปมาเร สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๐) วจนโต ราชภโฏปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. เอตฺถ จ อมจฺโจ วา โหตุ มหามตฺโต วา เสวโก วา กิฺจิ านนฺตรํ ปตฺโต วา อปฺปตฺโต วา, โย โกจิ รฺโ ภตฺตเวตนภโฏ, สพฺโพ ราชภโฏติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตสฺส ปน ปุตฺตนตฺตภาตุกา เย ราชโต ภตฺตเวตนํ น คณฺหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. โย ปน ราชโต ลทฺธํ นิพทฺธโภคํ วา มาสสํวจฺฉรปริพฺพยํ วา รฺโเยว นิยฺยาเทติ, ปุตฺตภาตุเก วา ตํ านํ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา ราชานํ ‘‘น ทานาหํ เทวสฺส ภโฏ’’ติ อาปุจฺฉติ, เยน วา ยํการณา เวตนํ คหิตํ, ตํ กมฺมํ กตํ โหติ, โย วา ‘‘ปพฺพชสฺสู’’ติ รฺา อนุฺาโต โหติ, ตมฺปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๕. โจโรปิ ธชพนฺโธ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ธชพนฺโธ โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๑) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ ธชํ พนฺธิตฺวา วิย วิจรตีติ ธชพนฺโธ, มูลเทวาทโย วิย โลเก ปากโฏติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา โย คามฆาตํ วา ปนฺถทุหนํ วา นคเร สนฺธิจฺเฉทาทิกมฺมํ วา กโรนฺโต วิจรติ, ปฺายติ จ ‘‘อสุโก นาม อิทํ อิทํ กโรตี’’ติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน ราชปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถนฺโต คามฆาตาทีนิ กโรติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. ราชาโน หิ ตสฺมึ ปพฺพชิเต ตุสฺสนฺติ, สเจ ปน น ตุสฺสนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ. ปุพฺเพ มหาชเน ปากโฏ โจโร ปจฺฉา โจรกมฺมํ ปหาย ปฺจ สีลานิ สมาทิยติ, ตฺเจ มนุสฺสา เอวํ ชานนฺติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. เย ปน อมฺพลพุชาทิโจรกา สนฺธิจฺเฉทาทิโจรา เอว วา อทิสฺสมานา เถยฺยํ กโรนฺติ, ปจฺฉาปิ ‘‘อิมินา นาม อิทํ กต’’นฺติ น ปฺายนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๖. การเภทโก ปน โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, การเภทโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๒) วุตฺตตฺตา. ตตฺถ กาโร วุจฺจติ พนฺธนาคารํ. อิธ ปน อนฺทุพนฺธนํ วา โหตุ สงฺขลิกพนฺธนํ วา รชฺชุพนฺธนํ วา คามพนฺธนํ วา นิคมพนฺธนํ วา นครพนฺธนํ วา ปุริสคุตฺติ วา ชนปทพนฺธนํ วา ทีปพนฺธนํ วา, โย เอเตสุ ยํ กิฺจิ พนฺธนํ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา มุฺจิตฺวา วา วิวริตฺวา วา อปสฺสมานานํ วา ปลายติ, โส การเภทโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺมา อีทิโส การเภทโก โจโร ทีปพนฺธนํ ภินฺทิตฺวา ทีปนฺตรํ คโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน น โจโร, เกวลํ หตฺถกมฺมํ อกโรนฺโต ‘‘เอวํ โน อปลายนฺโต กริสฺสตี’’ติ ราชยุตฺตาทีหิ พทฺโธ, โส การํ ภินฺทิตฺวา ปลาโตปิ ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน คามนิคมปฏฺฏนาทีนิ เกณิยา คเหตฺวา ตํ อสมฺปาเทนฺโต พนฺธนาคารํ ปเวสิโต โหติ, โสปิ ปลายิตฺวา อาคโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. โยปิ กสิกมฺมาทีหิ ธนํ สมฺปาเทตฺวา ชีวนฺโต ‘‘นิธานํ อิมินา ลทฺธ’’นฺติ เปสุฺํ อุปสํหริตฺวา เกนจิ พนฺธาปิโต โหติ, ตํ ตตฺเถว ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ปลายิตฺวา คตํ ปน คตฏฺาเน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

๑๒๗. ‘‘น, ภิกฺขเว, ลิขิตโก โจโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๓) วจนโต ปน ลิขิตโก โจโร น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ ลิขิตโก นาม โย โกจิ โจริกํ วา อฺํ วา ครุํ ราชาปราธํ กตฺวา ปลาโต, ราชา จ นํ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา ‘‘อิตฺถนฺนาโม ยตฺถ ทิสฺสติ, ตตฺถ คเหตฺวา มาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘หตฺถปาทาทีนิ อสฺส ฉินฺทิตพฺพานี’’ติ วา ‘‘เอตฺตกํ นาม ทณฺฑํ อาหราเปตพฺโพ’’ติ วา ลิขาเปติ, อยํ ลิขิตโก นาม, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๘. กสาหโต กตทณฺฑกมฺโมปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๔) วจนโต. เอตฺถ ปน โย วจนเปสนาทีนิ อกโรนฺโต หฺติ, น โส กตทณฺฑกมฺโม. โย ปน เกณิยา วา อฺถา วา กิฺจิ คเหตฺวา ขาทิตฺวา ปุน ทาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยเมว เต ทณฺโฑ โหตู’’ติ กสาหิ หฺติ, อยเมว กสาหโต กตทณฺฑกมฺโม. โส จ กสาหิ วา หโต โหตุ อฑฺฒทณฺฑกาทีนํ วา อฺตเรน, ยาว อลฺลวโณ โหติ, น ตาว ปพฺพาเชตพฺโพ, วเณ ปน ปากติเก กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ชาณูหิ วา กปฺปเรหิ วา นาฬิเกรปาสาณาทีหิ วา ฆาเตตฺวา มุตฺโต โหติ, สรีเร จสฺส คณฺิโย ปฺายนฺติ, น ปพฺพาเชตพฺโพ, ผาสุกํ กตฺวา เอว คณฺีสุ สนฺนิสินฺนาสุ ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๒๙. ลกฺขณาหโต ปน กตทณฺฑกมฺโม น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ลกฺขณหโต กตทณฺฑกมฺโม ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๕) วจนโต. เอตฺถปิ กตทณฺฑกมฺมภาโว ปุริมนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยสฺส ปน นลาเฏ วา อูรุอาทีสุ วา ตตฺเตน โลเหน ลกฺขณํ อาหตํ โหติ, โส สเจ ภุชิสฺโส, ยาว อลฺลวโณ โหติ , ตาว น ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิสฺส วณา รุฬฺหา โหนฺติ ฉวิยา สมปริจฺเฉทา, ลกฺขณํ น ปฺายติ, ติมณฺฑลํ นิวตฺถสฺส อุตฺตราสงฺเค กเต ปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ โหติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อปฺปฏิจฺฉนฺโนกาเส เจ, น วฏฺฏติ.

๑๓๐. ‘‘น, ภิกฺขเว, อิณายิโก ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๖) วจนโต อิณายิโกปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ อิณายิโก นาม ยสฺส ปิติปิตามเหหิ วา อิณํ คหิตํ โหติ , สยํ วา อิณํ คหิตํ โหติ, ยํ วา อาเปตฺวา มาตาปิตูหิ กิฺจิ คหิตํ โหติ, โส ตํ อิณํ ปเรสํ ธาเรตีติ อิณายิโก. ยํ ปน อฺเ าตกา อาเปตฺวา กิฺจิ คณฺหนฺติ, โส น อิณายิโก. น หิ เต ตํ อาเปตุํ อิสฺสรา, ตสฺมา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, อิตรํ น วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส าติสาโลหิตา ‘‘มยํ ทสฺสาม, ปพฺพาเชถ น’’นฺติ อิณํ อตฺตโน ภารํ กโรนฺติ, อฺโ วา โกจิ ตสฺส อาจารสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ นํ, อหํ อิณํ ทสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. เตสุ อสติ ภิกฺขุนา ตถารูปสฺส อุปฏฺากสฺสปิ อาโรเจตพฺพํ ‘‘สเหตุโก สตฺโต อิณปลิโพเธน น ปพฺพชตี’’ติ. สเจ โส ปฏิปชฺชติ, ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ อตฺถิ, ‘‘เอตํ ทสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน เนว าตกาทโย ปฏิปชฺชนฺติ, น อตฺตโน ธนํ อตฺถิ, ‘‘ปพฺพาเชตฺวา ภิกฺขาย จริตฺวา โมเจสฺสามี’’ติ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปพฺพาเชติ, ทุกฺกฏํ. ปลาโตปิ อาเนตฺวา ทาตพฺโพ. โน เจ เทติ, สพฺพํ อิณํ คีวา โหติ. อชานิตฺวา ปพฺพาชยโต อนาปตฺติ, ปสฺสนฺเตน ปน อาเนตฺวา อิณสามิกานํ ทสฺเสตพฺโพ, อปสฺสนฺตสฺส คีวา น โหติ.

สเจ อิณายิโก อฺํ เทสํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิยมาโนปิ ‘‘นาหํ กสฺสจิ กิฺจิ ธาเรมี’’ติ วตฺวา ปพฺพชติ, อิณสามิโก จ ตํ ปริเยสนฺโต ตตฺถ คจฺฉติ, ทหโร ตํ ทิสฺวา ปลายติ, โส เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, เกน ปพฺพาชิโต, มม เอตฺตกํ นาม ธนํ คเหตฺวา ปลาโต’’ติ วทติ, เถเรน วตฺตพฺพํ ‘‘มยา, อุปาสก, ‘อณโณ อห’นฺติ วทนฺโต ปพฺพาชิโต, กึ ทานิ กโรมิ, ปสฺส เม ปตฺตจีวร’’นฺติ. อยํ ตตฺถ สามีจิ. ปลาเต ปน คีวา น โหติ. สเจ ปน นํ เถรสฺส สมฺมุขาว ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อิณายิโก’’ติ วทติ, ‘‘ตว อิณายิกํ ตฺวเมว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เอวมฺปิ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘ปพฺพชิโต อยํ ทานิ กุหึ คมิสฺสตี’’ติ วทติ, เถเรน ‘‘ตฺวํเยว ชานาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวมฺปิสฺส ปลาเต คีวา น โหติ. สเจ ปน เถโร ‘‘กุหึ ทานิ อยํ คมิสฺสติ, อิเธว อจฺฉตู’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, คีวา โหติ. สเจ โส สเหตุโก สตฺโต โหติ วตฺตสมฺปนฺโน , เถเรน ‘‘อีทิโส อย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิณสามิโก เจ ‘‘สาธู’’ติ วิสฺสชฺเชติ, อิจฺเจตํ กุสลํ, ‘‘อุปฑฺฒุปฑฺฒํ เทถา’’ติ วทติ, ทาตพฺพํ. อปเรน สมเยน อติอาราธโก โหติ, ‘‘สพฺพํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ทาตพฺพเมว. สเจ ปน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ กุสโล โหติ พหูปกาโร ภิกฺขูนํ, ภิกฺขาจารวตฺเตน ปริเยสิตฺวาปิ อิณํ ทาตพฺพเมว.

๑๓๑. ทาโสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโส ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๙๗) วจนโต. ตตฺถ จตฺตาโร ทาสา อนฺโตชาโต ธนกฺกีโต กรมรานีโต สามํ ทาสพฺยํ อุปคโตติ. ตตฺถ อนฺโตชาโต นาม ชาติยา ทาโส ฆรทาสิยา ปุตฺโต. ธนกฺกีโต นาม มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปุตฺโต วา สามิกานํ สนฺติกา ทาโส วา ธนํ ทตฺวา ทาสจาริตฺตํ อาโรเปตฺวา กีโต. เอเต ทฺเวปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ปพฺพาเชนฺเตน ตตฺถ ตตฺถ จาริตฺตวเสน อทาเส กตฺวา ปพฺพาเชตพฺพา. กรมรานีโต นาม ติโรรฏฺํ วิโลปํ วา กตฺวา อุปลาเปตฺวา วา ติโรรฏฺโต ภุชิสฺสมานุสกานิ อาหรนฺติ, อนฺโตรฏฺเเยว วา กตาปราธํ กิฺจิ คามํ ราชา ‘‘วิลุมฺปถา’’ติ จ อาณาเปติ, ตโต มานุสกานิปิ อาหรนฺติ, ตตฺถ สพฺเพ ปุริสา ทาสา, อิตฺถิโย ทาสิโย. เอวรูโป กรมรานีโต ทาโส เยหิ อานีโต, เตสํ สนฺติเก วสนฺโต วา พนฺธนาคาเร พทฺโธ วา ปุริเสหิ รกฺขิยมาโน วา น ปพฺพาเชตพฺโพ, ปลายิตฺวา ปน คโต คตฏฺาเน ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺา ตุฏฺเน ‘‘กรมรานีตเก มุฺจถา’’ติ วตฺวา วา สพฺพสาธารเณน วา นเยน พนฺธนโมกฺเข กเต ปพฺพาเชตพฺโพว.

สามํ ทาสพฺยํ อุปคโต นาม ชีวิตเหตุ วา อารกฺขเหตุ วา ‘‘อหํ เต ทาโส’’ติ สยเมว ทาสภาวํ อุปคโต ราชูนํ หตฺถิอสฺสโคมหึสโคปกาทโย วิย. ตาทิโส ทาโส น ปพฺพาเชตพฺโพ. รฺโ วณฺณทาสีนํ ปุตฺตา โหนฺติ อมจฺจปุตฺตสทิสา, เตปิ น ปพฺพาเชตพฺพา. ภุชิสฺสิตฺถิโย อสฺตา วณฺณทาสีหิ สทฺธึ วิจรนฺติ, ตาสํ ปุตฺเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ สยเมว ปณฺณํ อาโรเปนฺติ, น วฏฺฏติ. ภฏิปุตฺตคณาทีนํ ทาสาปิ เตหิ อทินฺนา น ปพฺพาเชตพฺพา. วิหาเรสุ ราชูหิ อารามิกทาสา นาม ทินฺนา โหนฺติ, เตปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ, ภุชิสฺเส กตฺวา ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺโตชาตธนกฺกีตเก อาเนตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ‘อารามิเก เทมา’ติ เทนฺติ, ตกฺกํ สีเส อาสิตฺตกสทิสาว โหนฺติ, เต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อารามิกํ เทมาติ กปฺปิยโวหาเรน เทนฺติ, เยน เกนจิ โวหาเรน ทินฺโน โหตุ, เนว ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. ทุคฺคตมนุสฺสา ‘‘สงฺฆํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ วิหาเร กปฺปิยการกา โหนฺติ, เอเต ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ยสฺส มาตาปิตโร ทาสา , มาตา เอว วา ทาสี, ปิตา อทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส ปน มาตา อทาสี, ปิตา ทาโส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสฺส าตกา วา อุปฏฺากา วา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, ตุมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กริสฺสตี’’ติ, อตฺตโน วาสฺส ทาโส อตฺถิ, ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. สามิกา ทาสํ เทนฺติ ‘‘อิมํ ปพฺพาเชถ, สเจ อภิรมิสฺสติ, อทาโส. วิพฺภมิสฺสติ เจ, อมฺหากํ ทาโสว ภวิสฺสตี’’ติ, อยํ ตาวกาลิโก นาม, ตํ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. นิสฺสามิกทาโส โหติ, โสปิ ภุชิสฺโส กโตว ปพฺพาเชตพฺโพ. อชานนฺโต ปพฺพาเชตฺวา อุปสมฺปาเทตฺวา วา ปจฺฉา ชานนฺติ, ภุชิสฺสํ กาตุเมว วฏฺฏติ.

อิมสฺส จ อตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อิทํ วตฺถุํ วทนฺติ – เอกา กิร กุลทาสี เอเกน สทฺธึ อนุราธปุรา ปลายิตฺวา โรหเณ วสมานา ปุตฺตํ ปฏิลภิ, โส ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก อโหสิ. อเถกทิวสํ มาตรํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ อุปาสิเก ตุมฺหากํ ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, น กิฺจิ าตกํ ปสฺสามี’’ติ. ตาต, อหํ อนุราธปุเร กุลทาสี, ตว ปิตรา สทฺธึ ปลายิตฺวา อิธ วสามีติ. สีลวา ภิกฺขุ ‘‘อสุทฺธา กิร เม ปพฺพชฺชา’’ติ สํเวคํ ลภิตฺวา มาตรํ ตสฺส กุลสฺส นามโคตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา อนุราธปุรํ อาคมฺม ตสฺส กุลสฺส ฆรทฺวาเร อฏฺาสิ, ‘‘อติจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเตปิ นาติกฺกมิ. เต อาคนฺตฺวา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘ตุมฺหากํ อิตฺถนฺนามา ทาสี ปลาตา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’. อหํ ตสฺสา ปุตฺโต, สเจ มํ ตุมฺเห อนุชานาถ, ปพฺพชฺชํ ลภามิ, ตุมฺเห มยฺหํ สามิกาติ. เต หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘สุทฺธา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ ตํ ภุชิสฺสํ กตฺวา มหาวิหาเร วสาเปสุํ จตูหิ ปจฺจเยหิ ปฏิชคฺคนฺตา. เถโร ตํ กุลํ นิสฺสาย วสมาโนเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ.

๑๓๒. ‘‘น, ภิกฺขเว, หตฺถจฺฉินฺโน ปพฺพาเชตพฺโพ. น ปาทจฺฉินฺโน, น หตฺถปาทจฺฉินฺโน, น กณฺณจฺฉินฺโน, น กณฺณนาสจฺฉินฺโน, น องฺคุลิจฺฉินฺโน, น อฬจฺฉินฺโน, น กณฺฑรจฺฉินฺโน, น ผณหตฺถโก, น ขุชฺโช, น วามโน น คลคณฺฑี, น ลกฺขณาหโต, น กสาหโต, น ลิขิตโก, น สีปที, น ปาปโรคี, น ปริสทูสโก, น กาโณ, น กุณี, น ขฺโช, น ปกฺขหโต, น ฉินฺนิริยาปโถ, น ชราทุพฺพโล, น อนฺโธ, น มูโค, น พธิโร, น อนฺธมูโค, น อนฺธพธิโร, น มูคพธิโร, น อนฺธมูคพธิโร ปพฺพาเชตพฺโพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๙) วจนโต ปน หตฺถจฺฉินฺนาทโยปิ น ปพฺพาเชตพฺพา.

ตตฺถ หตฺถจฺฉินฺโนติ ยสฺส หตฺถตเล วา มณิพนฺเธ วา กปฺปเร วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา หตฺถา ฉินฺนา โหนฺติ. ปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส อคฺคปาเท วา โคปฺผเกสุ วา ชงฺฆาย วา ยตฺถ กตฺถจิ เอโก วา ทฺเว วา ปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. หตฺถปาทจฺฉินฺโนติ ยสฺส วุตฺตปฺปกาเรเนว จตูสุ หตฺถปาเทสุ ทฺเว วา ตโย วา สพฺเพ วา หตฺถปาทา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺณจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺณมูเล วา กณฺณสกฺขลิกาย วา เอโก วา ทฺเว วา กณฺณา ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน กณฺณาวฏฺเฏ ฉิชฺชนฺติ, สกฺกา จ โหติ สงฺฆาเฏตุํ, โส กณฺณํ สงฺฆาเฏตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. นาสจฺฉินฺโนติ ยสฺส อชปทเก วา อคฺเค วา เอกปุเฏ วา ยตฺถ กตฺถจิ นาสา ฉินฺนา โหติ. ยสฺส ปน นาสิกา สกฺกา โหติ สนฺเธตุํ, โส ตํ ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. กณฺณนาสจฺฉินฺโน อุภยวเสน เวทิตพฺโพ. องฺคุลิจฺฉินฺโนติ ยสฺส นขเสสํ อทสฺเสตฺวา เอกา วา พหู วา องฺคุลิโย ฉินฺนา โหนฺติ. ยสฺส ปน สุตฺตตนฺตุมตฺตมฺปิ นขเสสํ ปฺายติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อฬจฺฉินฺโนติ ยสฺส จตูสุ องฺคุฏฺเกสุ องฺคุลิยํ วุตฺตนเยเนว เอโก วา พหู วา องฺคุฏฺกา ฉินฺนา โหนฺติ. กณฺฑรจฺฉินฺโนติ ยสฺส กณฺฑรนามกา มหานฺหารู ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ฉินฺนา โหนฺติ, เยสุ เอกสฺสปิ ฉินฺนตฺตา อคฺคปาเทน วา จงฺกมติ, มูเลน วา จงฺกมติ, น ปาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺโกติ.

ผณหตฺถโกติ ยสฺส วคฺคุลิปกฺขกา วิย องฺคุลิโย สมฺพทฺธา โหนฺติ, เอตํ ปพฺพาเชตุกาเมน องฺคุลนฺตริกาโย ผาเลตฺวา สพฺพํ อนฺตรจมฺมํ อปเนตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺสปิ ฉ องฺคุลิโย โหนฺติ, ตํ ปพฺพาเชตุกาเมน อธิกํ องฺคุลึ ฉินฺทิตฺวา ผาสุกํ กตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. ขุชฺโชติ โย อุรสฺส วา ปิฏฺิยา วา ปสฺสสฺส วา นิกฺขนฺตตฺตา ขุชฺชสรีโร. ยสฺส ปน กิฺจิ กิฺจิ องฺคปจฺจงฺคํ อีสกํ วงฺกํ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มหาปุริโส เอว หิ พฺรหฺมุชุคตฺโต, อวเสโส สตฺโต อขุชฺโช นาม นตฺถิ. วามโนติ ชงฺฆวามโน วา กฏิวามโน วา อุภยวามโน วา. ชงฺฆวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย เหฏฺิมกาโย รสฺโส โหติ, อุปริมกาโย ปริปุณฺโณ. กฏิวามนสฺส กฏิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย รสฺโส โหติ, เหฏฺิมกาโย ปริปุณฺโณ. อุภยวามนสฺส อุโภปิ กายา รสฺสา โหนฺติ, เยสํ รสฺสตฺตา ภูตานํ วิย ปริวฏุโม มหากุจฺฉิฆฏสทิโส อตฺตภาโว โหติ, ตํ ติวิธมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ.

คลคณฺฑีติ ยสฺส กุมฺภณฺฑํ วิย คเล คณฺโฑ โหติ. เทสนามตฺตเมว เจตํ, ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ปน ปเทเส คณฺเฑ สติ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ วินิจฺฉโย ‘‘น, ภิกฺขเว, ปฺจหิ อาพาเธหิ ผุฏฺโ ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๘๙) เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ลกฺขณาหตกสาหตลิขิตเกสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. สีปทีติ ภารปาโท วุจฺจติ. ยสฺส ปาโท ถูโล โหติ สฺชาตปีฬโก ขโร, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. ยสฺส ปน น ตาว ขรภาวํ คณฺหาติ, สกฺกา โหติ อุปนาหํ พนฺธิตฺวา อุทกอาวาเฏ ปเวเสตฺวา อุทกวาลิกาย ปูเรตฺวา ยถา สิรา ปฺายนฺติ, ชงฺฆา จ เตลนาฬิกา วิย โหติ, เอวํ มิลาเปตุํ, ตสฺส ปาทํ อีทิสํ กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปุน วฑฺฒติ, อุปสมฺปาเทนฺเตนปิ ตถา กตฺวาว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. ปาปโรคีติ อริสภคนฺทรปิตฺตเสมฺหกาสโสสาทีสุ เยน เกนจิ โรเคน นิจฺจาตุโร อเตกิจฺฉโรโค เชคุจฺโฉ อมนาโป, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๓. ปริสทูสโกติ โย อตฺตโน วิรูปตาย ปริสํ ทูเสติ, อติทีโฆ วา โหติ อฺเสํ สีสปฺปมาณนาภิปฺปเทโส, อติรสฺโส วา อุภยวามนภูตรูปํ วิย, อติกาโฬ วา ฌาปิตกฺเขตฺเต ขาณุโก วิย, อจฺโจทาโต วา ทธิตกฺกาทีหิ ปมชฺชิตตมฺพโลหวณฺโณ, อติกิโส วา มนฺทมํสโลหิโต อฏฺิสิราจมฺมสรีโร วิย, อติถูโล วา ภาริยมํโส มโหทโร มหาภูตสทิโส, อภิมหนฺตสีโส วา ปจฺฉึ สีเส กตฺวา ิโต วิย, อติขุทฺทกสีโส วา สรีรสฺส อนนุรูเปน อติขุทฺทเกน สีเสน สมนฺนาคโต, กูฏกูฏสีโส วา ตาลผลปิณฺฑิสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, สิขรสีโส วา อุทฺธํ อนุปุพฺพตนุเกน สีเสน สมนฺนาคโต, นาฬิสีโส วา มหาเวณุปพฺพสทิเสน สีเสน สมนฺนาคโต, กปฺปสีโส วา ปพฺภารสีโส วา จตูสุ ปสฺเสสุ เยน เกนจิ ปสฺเสน โอนเตน สีเสน สมนฺนาคโต, วณสีโส วา ปูติสีโส วา กณฺณิกเกโส วา ปาณเกหิ ขายิตเกทาเร สสฺสสทิเสหิ ตหึ ตหึ อุฏฺิเตหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, นิลฺโลมสีโส วา ถูลถทฺธเกโส วา ตาลหีรสทิเสหิ เกเสหิ สมนฺนาคโต, ชาติปลิเตหิ ปณฺฑรเกโส วา ปกติตมฺพเกโส วา อาทิตฺเตหิ วิย เกเสหิ สมนฺนาคโต, อาวฏฺฏสีโส วา คุนฺนํ สรีเร อาวฏฺฏสทิเสหิ อุทฺธคฺเคหิ เกสาวฏฺเฏหิ สมนฺนาคโต, สีสโลเมหิ สทฺธึ เอกาพทฺธภมุกโลโม วา ชาลพทฺเธน วิย นลาเฏน สมนฺนาคโต.

สมฺพทฺธภมุโก วา นิลฺโลมภมุโก วา มกฺกฏภมุโก วา อติมหนฺตกฺขิ วา อติขุทฺทกกฺขิ วา มหึสจมฺเม วาสิโกเณน ปหริตฺวา กตฉิทฺทสทิเสหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคโต, วิสมกฺขิ วา เอเกน มหนฺเตน, เอเกน ขุทฺทเกน อกฺขินา สมนฺนาคโต, วิสมจกฺกโล วา เอเกน อุทฺธํ, เอเกน อโธติ เอวํ วิสมชาเตหิ อกฺขิจกฺเกหิ สมนฺนาคโต, เกกโร วา คมฺภีรกฺขิ วา ยสฺส คมฺภีเร อุทปาเน อุทกตารกา วิย อกฺขิตารกา ปฺายนฺติ, นิกฺขนฺตกฺขิ วา ยสฺส กกฺกฏสฺเสว อกฺขิตารกา นิกฺขนฺตา โหนฺติ, หตฺถิกณฺโณ วา มหนฺตาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, มูสิกกณฺโณ วา ชตุกกณฺโณ วา ขุทฺทกาหิ กณฺณสกฺขลีหิ สมนฺนาคโต, ฉิทฺทมตฺตกณฺโณ วา ยสฺส วินา กณฺณสกฺขลีหิ กณฺณจฺฉิทฺทมตฺตเมว โหติ, อวิทฺธกณฺโณ วา, โยนกชาติโก ปน ปริสทูสโก น โหติ, สภาโวเยว หิ โส ตสฺส. กณฺณภคนฺทริโก วา นิจฺจปูตินา กณฺเณน สมนฺนาคโต, คณฺฑกณฺโณ วา สทา ปคฺฆริตปุพฺเพน กณฺเณน สมนฺนาคโต, ฏงฺกิตกณฺโณ วา โคภตฺตนาฬิกาย อคฺคสทิเสหิ กณฺเณหิ สมนฺนาคโต, อติปิงฺคลกฺขิ วา, มธุปิงฺคลํ ปน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. นิปฺปขุมกฺขิ วา อสฺสุปคฺฆรณกฺขิ วา ปุปฺผิตกฺขิ วา อกฺขิปาเกน สมนฺนาคตกฺขิ วา.

อติมหนฺตนาสิโก วา อติขุทฺทกนาสิโก วา จิปิฏนาสิโก วา มชฺเฌ อปฺปติฏฺหิตฺวา เอกปสฺเส ิตวงฺกนาสิโก วา ทีฆนาสิโก วา สุกตุณฺฑสทิสาย ชิวฺหาย เลหิตุํ สกฺกุเณยฺยาย นาสิกาย สมนฺนาคโต, นิจฺจํ ปคฺฆริตสิงฺฆาณิกนาโส วา, มหามุโข วา ยสฺส ปฏงฺคมณฺฑูกสฺเสว มุขนิมิตฺตํเยว มหนฺตํ โหติ, มุขํ ปน ลาพุสทิสํ อติขุทฺทกํ, ภินฺนมุโข วา วงฺกมุโข วา มหาโอฏฺโ วา อุกฺขลิมุขวฏฺฏิสทิเสหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ตนุกโอฏฺโ วา เภริจมฺมสทิเสหิ ทนฺเต ปิทหิตุํ อสมตฺเถหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, มหาธโรฏฺโ วา ตนุกอุตฺตโรฏฺโ วา ตนุกอธโรฏฺโ วา มหาอุตฺตโรฏฺโ วา โอฏฺฉินฺนโก วา เอฬมุโข วา อุปฺปกฺกมุโข วา สงฺขตุณฺฑโก วา พหิ เสเตหิ อนฺโต อติรตฺเตหิ โอฏฺเหิ สมนฺนาคโต, ทุคฺคนฺธกุณปมุโข วา, มหาทนฺโต วา อฏฺกทนฺตสทิเสหิ ทนฺเตหิ สมนฺนาคโต, อสุรทนฺโต วา เหฏฺา วา อุปริ วา พหิ นิกฺขนฺตทนฺโต, ยสฺส ปน สกฺกา โหติ โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ, กเถนฺตสฺเสว ปฺายติ, โน อกเถนฺตสฺส, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ปูติทนฺโต วา นิทฺทนฺโต วา อติขุทฺทกทนฺโต วา ยสฺส ปน ทนฺตนฺตเร กลนฺทกทนฺโต วิย สุขุมทนฺโต โหติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

มหาหนุโก วา โคหนุสทิเสน หนุนา สมนฺนาคโต, ทีฆหนุโก วา จิปิฏหนุโก วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย อติรสฺเสน หนุเกน สมนฺนาคโต, ภินฺนหนุโก วา วงฺกหนุโก วา นิมฺมสฺสุทาิโก วา ภิกฺขุนีสทิสมุโข, ทีฆคโล วา พกคลสทิเสน คเลน สมนฺนาคโต, รสฺสคโล วา อนฺโตปวิฏฺเน วิย คเลน สมนฺนาคโต, ภินฺนคโล วา ภฏฺอํสกูโฏ วา อหตฺโถ วา เอกหตฺโถ วา อติรสฺสหตฺโถ วา อติทีฆหตฺโถ วา ภินฺนอุโร วา ภินฺนปิฏฺิ วา กจฺฉุคตฺโต วา กณฺฑุคตฺโต วา ททฺทุคตฺโต วา โคธาคตฺโต วา ยสฺส โคธาย วิย คตฺตโต จุณฺณานิ ปตนฺติ. สพฺพฺเจตํ วิรูปกรณํ สนฺธาย วิตฺถาริตวเสน วุตฺตํ, วินิจฺฉโย ปเนตฺถ ปฺจาพาเธสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ภฏฺกฏิโก วา มหาอานิสโท วา อุทฺธนกูฏสทิเสหิ อานิสทมํเสหิ อจฺจุคฺคเตหิ สมนฺนาคโต, มหาอูรุโก วา วาตณฺฑิโก วา มหาชาณุโก วา สงฺฆฏฺฏนชาณุโก วา ทีฆชงฺโฆ วา ยฏฺิสทิสชงฺโฆ, วิกโฏ วา สงฺฆฏฺโฏ วา อุพฺพทฺธปิณฺฑิโก วา, โส ทุวิโธ เหฏฺา โอรุฬฺหาหิ วา อุปริ อารุฬฺหาหิ วา มหตีหิ ชงฺฆปิณฺฑิกาหิ สมนฺนาคโต, มหาชงฺโฆ วา ถูลชงฺฆปิณฺฑิโก วา มหาปาโท วา มหาปณฺหิ วา ปิฏฺิกปาโท วา ปาทเวมชฺฌโต อุฏฺิตชงฺโฆ, วงฺกปาโท วา, โส ทุวิโธ อนฺโต วา พหิ วา ปริวตฺตปาโท, คณฺิกงฺคุลิ วา สิงฺคิเวรผณสทิสาหิ องฺคุลีหิ สมนฺนาคโต, อนฺธนโข วา กาฬวณฺเณหิ ปูตินเขหิ สมนฺนาคโต, สพฺโพปิ เอส ปริสทูสโก. เอวรูโป ปริสทูสโก น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๔. กาโณติ ปสนฺนนฺโธ วา โหตุ ปุปฺผาทีหิ วา อุปหตปสาโท, ทฺวีหิ วา เอเกน วา อกฺขินา น ปสฺสติ, โส น ปพฺพาเชตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน เอกกฺขิกาโณ ‘‘กาโณ’’ติ วุตฺโต, ทฺวิอกฺขิกาโณ อนฺเธน สงฺคหิโต. มหาอฏฺกถายํ ชจฺจนฺโธ ‘‘อนฺโธ’’ติ วุตฺโต. ตสฺมา อุภยมฺปิ ปริยาเยน ยุชฺชติ. กุณีติ หตฺถกุณี วา ปาทกุณี วา องฺคุลิกุณี วา, ยสฺส เอเตสุ หตฺถาทีสุ ยํ กิฺจิ วงฺกํ ปฺายติ. ขฺโชติ นตชาณุโก วา ภินฺนชงฺโฆ วา มชฺเฌ สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทมชฺเฌน จงฺกมนฺโต, อคฺเค สํกุฏิตปาทตฺตา กุณฺปาทโก วา ปิฏฺิปาทคฺเคน จงฺกมนฺโต, อคฺคปาเทเนว จงฺกมนขฺโช วา ปณฺหิกาย จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส พาหิรนฺเตน จงฺกมนขฺโช วา ปาทสฺส อพฺภนฺตเรน จงฺกมนขฺโช วา โคปฺผกานํ อุปริ ภคฺคตฺตา สกเลน ปิฏฺิปาเทน จงฺกมนขฺโช วา. สพฺโพเปส ขฺโชเยว, น ปพฺพาเชตพฺโพ.

ปกฺขหโตติ ยสฺส เอโก หตฺโถ วา ปาโท วา อทฺธสรีรํ วา สุขํ น วหติ. ฉินฺนิริยาปโถติ ปีสปฺปี วุจฺจติ. ชราทุพฺพโลติ ชิณฺณภาเวน ทุพฺพโล อตฺตโน จีวรรชนาทิกมฺมมฺปิ กาตุํ อสมตฺโถ. โย ปน มหลฺลโกปิ พลวา โหติ, อตฺตานํ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. อนฺโธติ ชจฺจนฺโธ วุจฺจติ. มูโคติ ยสฺส วจีเภโท น ปวตฺตติ, ยสฺสปิ ปวตฺตติ, สรณคมนํ ปน ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ น สกฺโกติ, ตาทิสํ มมฺมนมฺปิ ปพฺพาเชตุํ น วฏฺฏติ. โย ปน สรณคมนมตฺตํ ปริปุณฺณํ ภาสิตุํ สกฺโกติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. พธิโรติ โย สพฺเพน สพฺพํ น สุณาติ. โย ปน มหาสทฺทํ สุณาติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. อนฺธมูคาทโย อุภยโทสวเสน วุตฺตา. เยสฺจ ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา, อุปสมฺปทาปิ เตสํ ปฏิกฺขิตฺตาว. สเจ ปน เน สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, สพฺเพปิ สูปสมฺปนฺนา, การกสงฺโฆ ปน อาจริยุปชฺฌายา จ อาปตฺติโต น มุจฺจนฺติ.

๑๓๕. ปณฺฑโก อุภโตพฺยฺชนโก เถยฺยสํวาสโก ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ติรจฺฉานคโต มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก โลหิตุปฺปาทโก สงฺฆเภทโก ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเม ปน เอกาทส ปุคฺคลา ‘‘ปณฺฑโก, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๙) อาทิวจนโต อภพฺพา, เนว เนสํ ปพฺพชฺชา, น อุปสมฺปทา จ รุหติ, ตสฺมา น ปพฺพาเชตพฺพา น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ชานิตฺวา ปพฺพาเชนฺโต อุปสมฺปาเทนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อชานิตฺวาปิ ปพฺพาชิตา อุปสมฺปาทิตา จ ชานิตฺวา ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺพา.

ตตฺถ ปณฺฑโกติ อาสิตฺตปณฺฑโก อุสูยปณฺฑโก โอปกฺกมิกปณฺฑโก ปกฺขปณฺฑโก นปุํสกปณฺฑโกติ ปฺจ ปณฺฑกา. เตสุ ยสฺส ปเรสํ องฺคชาตํ มุเขน คเหตฺวา อสุจินา อาสิตฺตสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อาสิตฺตปณฺฑโก. ยสฺส ปเรสํ อชฺฌาจารํ ปสฺสโต อุสูยาย อุปฺปนฺนาย ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ อุสูยปณฺฑโก. ยสฺส อุปกฺกเมน พีชานิ อปนีตานิ, อยํ โอปกฺกมิกปณฺฑโก. เอกจฺโจ ปน อกุสลวิปากานุภาเวน กาฬปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ชุณฺหปกฺเข ปนสฺส ปริฬาโห วูปสมฺมติ, อยํ ปกฺขปณฺฑโก. โย ปน ปฏิสนฺธิยํเยว อภาวโก อุปฺปนฺโน, อยํ น ปุํสกปณฺฑโก. เตสุ อาสิตฺตปณฺฑกสฺส จ อุสูยปณฺฑกสฺส จ ปพฺพชฺชา น วาริตา, อิตเรสํ ติณฺณํ วาริตา. ‘‘เตสุปิ ปกฺขปณฺฑกสฺส ยสฺมึ ปกฺเข ปณฺฑโก โหติ, ตสฺมึเยวสฺส ปกฺเข ปพฺพชฺชา วาริตา’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

๑๓๖. อุภโตพฺยฺชนโกติ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๖) อิตฺถินิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ ปุริสนิมิตฺตุปฺปาทนกมฺมโต จ อุภโตพฺยฺชนมสฺส อตฺถีติ อุภโตพฺยฺชนโก. โส ทุวิโธ โหติ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก ปุริสอุภโตพฺยฺชนโกติ. ตตฺถ อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนกสฺส อิตฺถีสุ ปุริสตฺตํ กโรนฺตสฺส อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ปุริสนิมิตฺตํ ปากฏํ. ปุริสอุภโตพฺยฺชนกสฺส ปุริสานํ อิตฺถิภาวํ อุปคจฺฉนฺตสฺส ปุริสนิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, อิตฺถินิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ. อิตฺถิอุภโตพฺยฺชนโก สยฺจ คพฺภํ คณฺหาติ, ปรฺจ คณฺหาเปติ, ปุริสอุภโตพฺยฺชนโก ปน สยํ น คณฺหาติ, ปรํ ปน คณฺหาเปตีติ อิทเมเตสํ นานากรณํ. อิมสฺส ปน ทุวิธสฺสปิ อุภโตพฺยฺชนกสฺส เนว ปพฺพชฺชา อตฺถิ, น อุปสมฺปทา.

๑๓๗. เถยฺยสํวาสโกติ ตโย เถยฺยสํวาสกา ลิงฺคตฺเถนโก สํวาสตฺเถนโก อุภยตฺเถนโกติ . ตตฺถ โย สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา น ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, น อาสเนน ปฏิพาหติ, น อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา ลิงฺคตฺเถนโก นาม. โย ปน ภิกฺขูหิ ปพฺพาชิโต สามเณโร สมาโน วิเทสํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ ทสวสฺโส วา วีสติวสฺโส วา’’ติ มุสา วตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวอารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ สํวาสมตฺตสฺเสว เถนิตตฺตา สํวาสตฺเถนโก นาม. ภิกฺขุวสฺสคณนาทิโก หิ สพฺโพปิ กิริยเภโท อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘สํวาโส’’ติ เวทิตพฺโพ. สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ‘‘น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ ปุน เอวํ ปฏิปชฺชนฺเตปิ เอเสว นโย. โย ปน สยํ ปพฺพชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขุวสฺสานิ คเณติ, ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนํ สาทิยติ, อาสเนน ปฏิพาหติ, อุโปสถปวารณาทีสุ สนฺทิสฺสติ, อยํ ลิงฺคสฺส เจว สํวาสสฺส จ เถนิตตฺตา อุภยตฺเถนโก นาม. อยํ ติวิโธปิ เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโน นาเสตพฺโพ, ปุน ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโตปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๓๘. เอตฺถ จ อสมฺโมหตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ –

‘‘ราชทุพฺภิกฺขกนฺตาร, โรคเวริภเยน วา;

จีวราหรณตฺถํ วา, ลิงฺคํ อาทิยตีธ โย.

‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ, ยาว โส สุทฺธมานโส;

เถยฺยสํวาสโก นาม, ตาว เอส น วุจฺจตี’’ติ. (มหาว. อฏฺ. ๑๑๐);

ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – อิเธกจฺจสฺส ราชา กุทฺโธ โหติ, โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจนฺติ, ราชา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม ราชภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโต ปพฺพาเชตพฺโพ. อถาปิ ‘‘สาสนํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, หนฺท ทานิ อหํ ปพฺพชามี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เตเนว ลิงฺเคน อาคนฺตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ น สาทิยติ, ภิกฺขูหิ ปุฏฺโ วา อปุฏฺโ วา ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, ลิงฺคํ อปเนตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน โส วตฺตํ สาทิยติ, ปพฺพชิตาลยํ ทสฺเสติ, สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อิธ ปเนกจฺโจ ทุพฺภิกฺเข ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต ทุพฺภิกฺเข วีติวตฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร มหากนฺตารํ นิตฺถริตุกาโม โหติ, สตฺถวาโห จ ปพฺพชิเต คเหตฺวา คจฺฉติ. โส ‘‘เอวํ มํ สตฺถวาโห คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สตฺถวาเหน สทฺธึ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร โรคภเย อุปฺปนฺเน ชีวิตุํ อสกฺโกนฺโต สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานิ ภุฺชนฺโต โรคภเย วูปสนฺเต สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปรสฺส เอโก เวริโก กุทฺโธ โหติ, ฆาเตตุกาโม นํ วิจรติ. โส ‘‘เอวํ เม โสตฺถิ ภวิสฺสตี’’ติ สยเมว ลิงฺคํ คเหตฺวา ปลายติ. เวริโก ‘‘กุหึ โส’’ติ ปริเยสนฺโต ‘‘ปพฺพชิตฺวา ปลาโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, น ตํ ลพฺภา กิฺจิ กาตุ’’นฺติ ตสฺมึ โกธํ ปฏิวิเนติ. โส ‘‘วูปสนฺตํ เม เวริภย’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อโนสริตฺวาว คิหิลิงฺคํ คเหตฺวา อาคโตติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว.

อปโร าติกุลํ คนฺตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย คิหี หุตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ อิธ นสฺสิสฺสนฺติ, สเจปิ อิมานิ คเหตฺวา วิหารํ คมิสฺสามิ, อนฺตรามคฺเค มํ ‘โจโร’ติ คเหสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ กายปริหาริยานิ กตฺวา คจฺเฉยฺย’’นฺติ จีวราหรณตฺถํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิหารํ คจฺฉติ. ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สามเณรา จ ทหรา จ อพฺภุคฺคจฺฉนฺติ, วตฺตํ ทสฺเสนฺติ. โส น สาทิยติ, ยถาภูตมตฺตานํ อาวิกโรติ. สเจ ภิกฺขู ‘‘น ทานิ มยํ ตํ มุฺจิสฺสามา’’ติ พลกฺกาเรน ปพฺพาเชตุกามา โหนฺติ, กาสายานิ อปเนตฺวา ปุน ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘นยิเม มํ หีนายาวตฺตภาวํ ชานนฺตี’’ติ ตํเยว ภิกฺขุภาวํ ปฏิชานิตฺวา สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, อยํ น ปพฺพาเชตพฺโพ.

อปโร มหาสามเณโร าติกุลํ คนฺตฺวา อุปฺปพฺพชิตฺวา กมฺมนฺตานุฏฺาเนน อุพฺพาฬฺโห ปุน ‘‘ทานิ อหํ สามเณโร ภวิสฺสามิ, เถโรปิ เม อุปฺปพฺพชิตภาวํ น ชานาตี’’ติ ตเทว ปตฺตจีวรํ อาทาย วิหารํ คจฺฉติ, ตมตฺถํ ภิกฺขูนํ น อาโรเจติ, สามเณรภาวํ ปฏิชานาติ, อยํ เถยฺยสํวาสโกเยว, ปพฺพชฺชํ น ลภติ. สเจปิสฺส ลิงฺคคฺคหณกาเล เอวํ โหติ ‘‘นาหํ กสฺสจิ อาโรเจสฺสามี’’ติ, วิหารฺจ คโต อาโรเจติ, คหเณเนว เถยฺยสํวาสโก. อถาปิสฺส คหณกาเล ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, วิหารฺจ คนฺตฺวา ‘‘กุหึ ตฺวํ, อาวุโส, คโต’’ติ วุตฺโต ‘‘น ทานิ มํ อิเม ชานนฺตี’’ติ วฺเจตฺวา นาจิกฺขติ, ‘‘นาจิกฺขิสฺสามี’’ติ สห ธุรนิกฺเขเปน อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโกว. สเจ ปนสฺส คหณกาเลปิ ‘‘อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวาปิ อาจิกฺขติ, อยํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ.

อปโร ทหรสามเณโร มหนฺโต วา ปน อพฺยตฺโต. โส ปุริมนเยเนว อุปฺปพฺพชิตฺวา ฆเร วจฺฉกโครกฺขณาทีนิ กมฺมานิ กาตุํ น อิจฺฉติ. ตเมนํ าตกา ตานิเยว กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา ถาลกํ วา ปตฺตํ วา หตฺเถ ทตฺวา ‘‘คจฺฉ, สมโณว โหหี’’ติ ฆรา นีหรนฺติ. โส วิหารํ คจฺฉติ, เนว นํ ภิกฺขู ชานนฺติ ‘‘อยํ อุปฺปพฺพชิตฺวา ปุน สยเมว ปพฺพชิโต’’ติ, นาปิ สยํ ชานาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ. สเจ ปน ตํ ปริปุณฺณวสฺสํ อุปสมฺปาเทนฺติ, สูปสมฺปนฺโน. สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว วินยวินิจฺฉเย วตฺตมาเน สุณาติ ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ, เตน ‘‘มยา เอวํ กต’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาจิกฺขิตพฺพํ. เอวํ ปุน ปพฺพชฺชํ ลภติ. สเจ ปน ‘‘ทานิ น มํ โกจิ ชานาตี’’ติ นาโรเจติ, ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเตเยว เถยฺยสํวาสโก.

ภิกฺขุ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ลิงฺคํ อนปเนตฺวา ทุสฺสีลกมฺมํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ปุน สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ ปฏิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย สลิงฺเค ิโต เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เอโส เถยฺยสํวาสโก’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ.

เอโก ภิกฺขุ กาสาเย สอุสฺสาโหว โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา โอทาตํ นิวาเสตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสตฺวา วสฺสคณนาทิเภทํ วิธึ อาปชฺชติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ. สามเณโร สลิงฺเค ิโต เมถุนาทิอสฺสมณกรณธมฺมํ อาปชฺชิตฺวาปิเถยฺยสํวาสโก น โหติ. สเจปิ กาสาเย สอุสฺสาโหว กาสายานิ อปเนตฺวา เมถุนํ ปฏิเสวิตฺวา ปุน กาสายานิ นิวาเสติ, เนว เถยฺยสํวาสโก โหติ. สเจ ปน กาสาเย ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา นคฺโค วา โอทาตวตฺโถ วา เมถุนเสวนาทีหิ อสฺสมโณ หุตฺวา กาสายํ นิวาเสติ, เถยฺยสํวาสโก โหติ.

สเจ คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน กาสายํ โอวฏฺฏิกํ กตฺวา อฺเน วา อากาเรน คิหินิวาสเนน นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติ ตาว. ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปน ปุน ลิงฺคํ สาทิยนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นิวตฺถกาสาวสฺส อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสติ วา สมฺปฏิจฺฉติ วา, รกฺขติเยว. ภิกฺขุนิยาปิ เอเสว นโย. สาปิ คิหิภาวํ ปตฺถยมานา สเจ กาสายํ คิหินิวาสนํ นิวาเสติ ‘‘โสภติ นุ โข เม คิหิลิงฺคํ, น โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ, รกฺขติเยว. สเจ ‘‘โสภตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, น รกฺขติ. โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสนสมฺปฏิจฺฉเนสุปิ เอเสว นโย. นิวตฺถกาสายสฺส ปน อุปริ โอทาตํ นิวาเสตฺวา วีมํสตุ วา สมฺปฏิจฺฉตุ วา, รกฺขติเยว.

สเจ โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโต วสฺสานิ อคเณตฺวา ปาฬิยมฺปิ อฏฺตฺวา เอกปสฺเสน คนฺตฺวา มหาเปฬาทีสุ กฏจฺฉุนา อุกฺขิตฺเต ภตฺตปิณฺเฑ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา เสโน วิย มํสเปสึ คเหตฺวา คจฺฉติ, เถยฺยสํวาสโก น โหติ, ภิกฺขุวสฺสานิ ปน คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก โหติ. สยํ สามเณโรว สามเณรปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต เถยฺยสํวาสโก น โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุปฏิปาฏิยา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.

๑๓๙. ติตฺถิยปกฺกนฺตโกติ ติตฺถิเยสุ ปกฺกนฺโต ปวิฏฺโติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, โสปิ น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สลิงฺเคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ, เตสํ ลิงฺเค อาทินฺนมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. โยปิ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺส’’นฺติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยว. โย ปน นคฺโค นหายนฺโต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺส’’นฺติ กาสายานิ อนาทาย นคฺโค อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปนสฺส อนฺตรามคฺเค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฏานิ เทเสตฺวา มุจฺจติ. เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ ทิสฺวา นิวตฺตนฺโตปิ มุจฺจติเยว. สเจ ปน ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฏฺ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลุฺจนาทีนี’’ติ วุตฺโต เอกเกสมฺปิ ลุฺจาเปติ, อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฏฺา’’ติ เสฏฺภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฏํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฏิจฺฉติ ลทฺธึ, ตาว รกฺขติ, สมฺปฏิจฺฉิตมตฺเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสนฺโต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหนฺโต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ. ‘‘อยฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิงฺเคน ติตฺถิยายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภตี’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปนฺเนน กถิโต, ตสฺมา อุปสมฺปนฺโน กูฏวสฺสํ คเณนฺโตปิ อสฺสมโณ น โหติ. ลิงฺเค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คณฺหนฺโตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ.

๑๔๐. ติรจฺฉานคโตติ นาโค วา โหตุ สุปณฺณมาณวกาทีนํ วา อฺตโร อนฺตมโส สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย โย โกจิ อมนุสฺสชาติโย, สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ติรจฺฉานคโต’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ เนว อุปสมฺปาเทตพฺโพ น ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปนฺโนปิ นาเสตพฺโพ.

๑๔๑. มาตุฆาตกาทีสุ ปน เยน มนุสฺสิตฺถิภูตา ชนิกา มาตา สยมฺปิ มนุสฺสชาติเกเนว สภา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรปิตา, อยํ อานนฺตริเยน มาตุฆาตกกมฺเมน มาตุฆาตโก. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ ปฏิกฺขิตฺตา. เยน ปน มนุสฺสิตฺถิภูตาปิ อชนิกา โปสาวนิกา มาตา วา จูฬมาตา วา ชนิกาปิ วา น มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, ตสฺส ปพฺพชฺชา น วาริตา, น จ อานนฺตริโก โหติ. เยน สยํ ติรจฺฉานภูเตน มนุสฺสิตฺถิภูตา มาตา ฆาติตา, โสปิ อานนฺตริโก น โหติ, ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา ปฏิกฺขิตฺตา. ปิตุฆาตเกปิ เอเสว นโย. สเจปิ หิ เวสิยา ปุตฺโต โหติ, ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ น ชานาติ, ยสฺส สมฺภเวน นิพฺพตฺโต, โส เจ อเนน ฆาติโต, ปิตุฆาตโกตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ.

อรหนฺตฆาตโกปิ มนุสฺสอรหนฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. มนุสฺสชาติยฺหิ อนฺตมโส อปพฺพชิตมฺปิ ขีณาสวํ ทารกํ วา ทาริกํ วา สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปนฺโต อรหนฺตฆาตโกว โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปพฺพชฺชา จสฺส วาริตา. อมนุสฺสชาติกํ ปน อรหนฺตํ มนุสฺสชาติกํ วา อวเสสํ อริยปุคฺคลํ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, ปพฺพชฺชาปิสฺส น วาริตา, กมฺมํ ปน พลวํ โหติ. ติรจฺฉาโน มนุสฺสอรหนฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อานนฺตริโก น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

โย ปน เทวทตฺโต วิย ทุฏฺจิตฺเตน วธกจิตฺเตน ตถาคตสฺส ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทติ, อยํ โลหิตุปฺปาทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน โรควูปสมตฺถํ ชีวโก วิย สตฺเถน ผาเลตฺวา ปูติมํสโลหิตํ หริตฺวา ผาสุกํ กโรติ, พหุํ โส ปุฺํ ปสวตีติ.

โย เทวทตฺโต วิย สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กตฺวา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฺตรวเสน สงฺฆํ ภินฺทติ, อยํ สงฺฆเภทโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา.

โย ปน ปกตตฺตํ ภิกฺขุนึ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ ทูเสติ, อยํ ภิกฺขุนีทูสโก นาม. เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา. โย ปน กายสํสคฺเคน สีลวินาสํ ปาเปติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตา. พลกฺกาเรน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อนิจฺฉมานํเยว ทูเสนฺโตปิ ภิกฺขุนีทูสโกเยว, พลกฺกาเรน ปน โอทาตวตฺถวสนํ กตฺวา อิจฺฉมานํ ทูเสนฺโต ภิกฺขุนีทูสโก น โหติ. กสฺมา? ยสฺมา คิหิภาเว สมฺปฏิจฺฉิ ตมตฺเตเยว สา อภิกฺขุนี โหติ. สกึสีลวิปนฺนํ ปจฺฉา ทูเสนฺโต สิกฺขมานสามเณรีสุ จ วิปฺปฏิปชฺชนฺโต เนว ภิกฺขุนีทูสโก โหติ, ปพฺพชฺชมฺปิ อุปสมฺปทมฺปิ ลภติ. อิติ อิเม เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา เวทิตพฺพา.

๑๔๒. อูนวีสติวสฺสสฺส ปน อุปสมฺปทาเยว ปฏิกฺขิตฺตา, น ปพฺพชฺชา, ตสฺมา ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺาย ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อุปสมฺปาเทตพฺโพ. คพฺภวีโสปิ หิ ปริปุณฺณวีสติวสฺโสตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยถาห ภควา –

‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตํ, ตทุปาทาย สาวสฺส ชาติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คพฺภวีสํ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๒๔).

ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๐๔) โย ทฺวาทส มาเส มาตุกุจฺฉิสฺมึ วสิตฺวา มหาปวารณาย ชาโต, โส ตโต ปฏฺาย ยาว เอกูนวีสติเม วสฺเส มหาปวารณา, ตํ อติกฺกมิตฺวา ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทตพฺโพ. เอเตนุปาเยน หายนวฑฺฒนํ เวทิตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน เอกูนวีสติวสฺสํ สามเณรํ นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปททิวเส อุปสมฺปาเทนฺติ. กสฺมา? เอกสฺมึ วสฺเส ฉ จาตุทฺทสิกอุโปสถา โหนฺติ, อิติ วีสติยา วสฺเสสุ จตฺตาโร มาสา ปริหายนฺติ, ราชาโน ตติเย ตติเย คสฺเส วสฺสํ อุกฺกฑฺฒนฺติ, อิติ อฏฺารสวสฺเสสุ ฉ มาสา วฑฺฒนฺติ, ตโต อุโปสถวเสน ปริหีเน จตฺตาโร มาเส อปเนตฺวา ทฺเว มาสา อวเสสา โหนฺติ, เต ทฺเว มาเส คเหตฺวา วีสติ วสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺตีติ นิกฺกงฺขา หุตฺวา นิกฺขมนียปุณฺณมาสึ อติกฺกมฺม ปาฏิปเท อุปสมฺปาเทนฺติ.

เอตฺถ ปน โย ปวาเรตฺวา วีสติวสฺโส ภวิสฺสติ, ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนวีสติวสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺมา โย มาตุกุจฺฉิสฺมึ ทฺวาทส มาเส วสิ, โส เอกวีสติวสฺโส โหติ. โย สตฺต มาเส วสิ, โส สตฺตมาสาธิกวีสติวสฺโส. ฉมาสชาโต ปน น ชีวติ, อูนวีสติวสฺสํ ปน ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ สฺาย อุปสมฺปาเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, ปุคฺคโล ปน อนุปสมฺปนฺโนว โหติ. สเจ ปน โส ทสวสฺสจฺจเยน อฺํ อุปสมฺปาเทติ, ตฺเจ มุฺจิตฺวา คโณ ปูรติ, สูปสมฺปนฺโน. โสปิ จ ยาว น ชานาติ, ตาวสฺส เนว สคฺคนฺตราโย น โมกฺขนฺตราโย, ตฺวา ปน ปุน อุปสมฺปชฺชิตพฺพํ.

๑๔๓. อิติ อิเมหิ ปพฺพชฺชาโทเสหิ วิรหิโตปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, อนนุฺาโต มาตาปิตูหิ ปุตฺโต ปพฺพาเชตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๐๕) วจนโต มาตาปิตูหิ อนนุฺาโต น ปพฺพาเชตพฺโพ. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๕) มาตาปิตูหีติ ชนเก สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ทฺเวปิ อตฺถิ, ทฺเวปิ อาปุจฺฉิตพฺพา. สเจ ปิตา มโต โหติ มาตา วา, โย ชีวติ, โส อาปุจฺฉิ ตพฺโพ, ปพฺพชิตาปิ อาปุจฺฉิตพฺพาว. อาปุจฺฉนฺเตน สยํ วา คนฺตฺวา อาปุจฺฉิตพฺพํ, อฺโ วา เปเสตพฺโพ. โส เอว วา เปเสตพฺโพ ‘‘คจฺฉ มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ. สเจ ‘‘อนุฺาโตมฺหี’’ติ วทติ, สทฺทหนฺเตน ปพฺพาเชตพฺโพ. ปิตา สยํ ปพฺพชิโต ปุตฺตมฺปิ ปพฺพาเชตุกาโม โหติ, มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตุ. มาตา วา ธีตรํ ปพฺพาเชตุกามา ปิตรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตุ. ปิตา ปุตฺตทาเรน อนตฺถิโก ปลายิ, มาตา ‘‘อิมํ ปพฺพเชถา’’ติ ปุตฺตํ ภิกฺขูนํ เทติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘จิตฺตเกฬึ กีฬิตุํ ปลาโต’’ติ วทติ, ตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. มาตา เกนจิ ปุริเสน สทฺธึ ปลาตา โหติ, ปิตา ปน ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ วทติ, เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิตา วิปฺปวุตฺโถ โหติ, มาตา ปุตฺตํ ‘‘ปพฺพาเชถา’’ติ อนุชานาติ, ‘‘ปิตาสฺส กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กึ ตุมฺหากํ ปิตรา, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วทติ, ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.

มาตาปิตโร มตา, ทารโก จูฬมาตาทีนํ สนฺติเก สํวทฺโธ, ตสฺมึ ปพฺพาชิยมาเน าตกา กลหํ วา กโรนฺติ ขิยฺยนฺติ วา, ตสฺมา วิวาทุปจฺเฉทนตฺถํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ, อนาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺตสฺส ปน อาปตฺติ นตฺถิ. ทหรกาเล คเหตฺวา โปสกา มาตาปิตโร นาม โหนฺติ, เตสุปิ เอเสว นโย. ปุตฺโต อตฺตานํ นิสฺสาย ชีวติ, น มาตาปิตโร. สเจปิ ราชา โหติ, อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. มาตาปิตูหิ อนุฺาโต ปพฺพชิตฺวา ปุน วิพฺภมติ, สเจปิ สตกฺขตฺตุํ ปพฺพชิตฺวา วิพฺภมติ, อาคตาคตกาเล ปุนปฺปุนํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ เอวํ วทนฺติ ‘‘อยํ วิพฺภมิตฺวา เคหํ อาคโต, อมฺหากํ กมฺมํ น กโรติ, ปพฺพชิตฺวา ตุมฺหากํ วตฺตํ น ปูเรติ, นตฺถิ อิมสฺส อาปุจฺฉนกิจฺจํ , อาคตาคตํ นํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, เอวํ นิสฺสฏฺํ ปุน อนาปุจฺฉาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ.

โยปิ ทหรกาเลเยว ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ทินฺโน, ยทา อิจฺฉถ, ตทา ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ เอวํ ทินฺโน โหติ, โสปิ อาคตาคโต ปุน อนาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ. ยํ ปน ทหรกาเลเยว ‘‘อิมํ, ภนฺเต, ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ อนุชานิตฺวา ปจฺฉา วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล นานุชานนฺติ, อยํ น อนาปุจฺฉา ปพฺพาเชตพฺโพ. เอโก มาตาปิตูหิ สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาคจฺฉติ, ‘‘อาปุจฺฉิตฺวา เอหี’’ติ จ วุตฺโต ‘‘นาหํ คจฺฉามิ, สเจ มํ น ปพฺพาเชถ, วิหารํ วา ฌาเปมิ, สตฺเถน วา ตุมฺเห ปหรามิ, ตุมฺหากํ าตกานํ วา อุปฏฺากานํ วา อารามจฺเฉทนาทีหิ อนตฺถํ อุปฺปาเทมิ, รุกฺขา วา ปติตฺวา มรามิ, โจรมชฺฌํ วา ปวิสามิ, เทสนฺตรํ วา คจฺฉามี’’ติ วทติ, ตํ ตสฺเสว รกฺขณตฺถาย ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปนสฺส มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺมา อมฺหากํ ปุตฺตํ ปพฺพาชยิตฺถา’’ติ วทนฺติ, เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘รกฺขณตฺถาย นํ ปพฺพาชยิมฺห, ปฺายถ ตุมฺเห ปุตฺเตนา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘รุกฺขา ปติสฺสามี’’ติ อภิรุหิตฺวา ปน หตฺถปาเท มุฺจนฺตํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติเยว.

เอโก วิเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ, อาปุจฺฉิตฺวา เจ คโต, ปพฺพาเชตพฺโพ. โน เจ, ทหรภิกฺขุํ เปเสตฺวา อาปุจฺฉาเปตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. อติทูรฺเจ โหติ, ปพฺพาเชตฺวาปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เปเสตฺวา ทสฺเสตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สเจ ทูรํ โหติ, มคฺโค จ มหากนฺตาโร, ‘คนฺตฺวา อาปุจฺฉิสฺสามี’ติ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ ปน มาตาปิตูนํ พหู ปุตฺตา โหนฺติ, เอวฺจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, เอเตสํ ทารกานํ ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ทารเก วีมํสิตฺวา ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจปิ สกเลน กุเลน วา คาเมน วา อนุฺาโต โหติ ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ กุเล วา คาเม วา ยํ อิจฺฉถ, ตํ ปพฺพาเชยฺยาถา’’ติ, ยํ อิจฺฉติ, โส ปพฺพาเชตพฺโพติ.

๑๔๔. เอวํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพชฺชาโทสวิรหิตํ มาตาปิตูหิ อนุฺาตํ ปพฺพาเชนฺเตนปิ จ สเจ อจฺฉินฺนเกโส โหติ, เอกสีมายฺจ อฺเปิ ภิกฺขู อตฺถิ, เกสจฺเฉทนตฺถาย ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตพฺพํ. ตตฺรายํ อาปุจฺฉนวิธิ (มหาว. อฏฺ. ๙๘) – สีมาปริยาปนฺเน ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา ปพฺพชฺชาเปกฺขํ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา วตฺตพฺพํ. เอตฺถ จ ‘‘อิมสฺส ทารกสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อิมสฺส สมณกรณํ อาปุจฺฉามี’’ติปิ ‘‘อยํ สมโณ โหตุกาโม’’ติปิ ‘‘อยํ ปพฺพชิตุกาโม’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ สภาคฏฺานํ โหติ, ทส วา วีสติ วา ตึสํ วา ภิกฺขู วสนฺตีติ ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เตสํ ิโตกาสํ วา นิสินฺโนกาสํ วา คนฺตฺวาปิ ปุริมนเยเนว อาปุจฺฉิตพฺพํ. ปพฺพชฺชาเปกฺขํ วินาว ทหรภิกฺขู วา สามเณเร วา เปเสตฺวาปิ ‘‘เอโก, ภนฺเต, ปพฺพชฺชาเปกฺโข อตฺถิ, ตสฺส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉามา’’ติอาทินา นเยน อาปุจฺฉาเปตุํ วฏฺฏติ. สเจ เกจิ ภิกฺขู เสนาสนํ วา คุมฺพาทีนิ วา ปวิสิตฺวา นิทฺทายนฺติ วา สมณธมฺมํ วา กโรนฺติ, อาปุจฺฉกา จ ปริเยสนฺตาปิ อทิสฺวา ‘‘สพฺเพ อาปุจฺฉิตา อมฺเหหี’’ติ สฺิโน โหนฺติ, ปพฺพชฺชา นาม ลหุกกมฺมํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต สุปพฺพชิโต, ปพฺพาเชนฺตสฺสปิ อนาปตฺติ.

สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ อเนกภิกฺขุสหสฺสาวาโส, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตุมฺปิ ทุกฺกรํ, ปเคว ปฏิปาฏิยา อาปุจฺฉิตุํ, ขณฺฑสีมาย วา ตฺวา นทีสมุทฺทาทีนิ วา คนฺตฺวา ปพฺพาเชตพฺโพ. โย ปน นวมุณฺโฑ วา โหติ วิพฺภนฺตโก วา นิคณฺาทีสุ อฺตโร วา ทฺวงฺคุลเกโส วา อูนทฺวงฺคุลเกโส วา, ตสฺส เกสจฺเฉทนกิจฺจํ นตฺถิ, ตสฺมา ภณฺฑุกมฺมํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ ตาทิสํ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. ทฺวงฺคุลาติริตฺตเกโส ปน โย โหติ อนฺตมโส เอกสิขามตฺตธโรปิ, โส ภณฺฑุกมฺมํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปพฺพาเชตพฺโพ.

๑๔๕. เอวํ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพาเชนฺเตน จ ปริปุณฺณปตฺตจีวโรว ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, ยาจิตเกนปิ ปตฺตจีวเรน ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ, สภาคฏฺาเน วิสฺสาเสน คเหตฺวาปิ ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏติ. สเจ (มหาว. อฏฺ. ๑๑๘) ปน อปกฺกํ ปตฺตํ จีวรูปคานิ จ วตฺถานิ คเหตฺวา อาคโต โหติ, ยาว ปตฺโต ปจฺจติ, จีวรานิ จ กรียนฺติ, ตาว วิหาเร วสนฺตสฺส อนามฏฺปิณฺฑปาตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, ถาลเกสุ ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ สามเณรภาคสมโก อามิสภาโค ทาตุํ วฏฺฏติ, เสนาสนคฺคาโห ปน สลากภตฺตอุทฺเทสภตฺตนิมนฺตนาทีนิ จ น วฏฺฏนฺติ. ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สามเณรภาคสโม เตลตณฺฑุลมธุผาณิตาทิเภสชฺชภาโค วฏฺฏติ. สเจ คิลาโน โหติ, เภสชฺชมสฺส กาตุํ วฏฺฏติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ ปฏิชคฺคนกมฺมํ. อุปสมฺปทาเปกฺขํ ปน ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ยาจิตเกน ปตฺตจีวเรน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๑๘) วุตฺตํ. ตสฺมา โส ปริปุณฺณปตฺตจีวโรเยว อุปสมฺปาเทตพฺโพ. สเจ ตสฺส นตฺถิ, อาจริยุปชฺฌายา จสฺส ทาตุกามา โหนฺติ, อฺเ วา ภิกฺขู นิรเปกฺเขหิ นิสฺสชฺชิตฺวา อธิฏฺานุปคํ ปตฺตจีวรํ ทาตพฺพํ. ยาจิตเกน ปน ปตฺเตน วา จีวเรน วา อุปสมฺปาเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ, กมฺมํ ปน น กุปฺปติ.

๑๔๖. ปริปุณฺณปตฺตจีวรํ (มหาว. อฏฺ. ๓๔) ปพฺพาเชนฺเตนปิ สเจ โอกาโส โหติ, สยํ ปพฺพาเชตพฺโพ. สเจ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พฺยาวโฏ โหติ, โอกาสํ น ลภติ, เอโก ทหรภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ปพฺพาเชหี’’ติ. อวุตฺโตปิ เจ ทหรภิกฺขุ อุปชฺฌายํ อุทฺทิสฺส ปพฺพาเชติ, วฏฺฏติ. สเจ ทหรภิกฺขุ นตฺถิ, สามเณโรปิ วตฺตพฺโพ ‘‘เอตํ ขณฺฑสีมํ เนตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กาสายานิ อจฺฉาเทตฺวา เอหี’’ติ. สรณานิ ปน สยํ ทาตพฺพานิ. เอวํ ภิกฺขุนาว ปพฺพาชิโต โหติ. ปุริสฺหิ ภิกฺขุโต อฺโ ปพฺพาเชตุํ น ลภติ, มาตุคามํ ภิกฺขุนีโต อฺโ, สามเณโร ปน สามเณรี วา อาณตฺติยา กาสายานิ ทาตุํ ลภนฺติ, เกโสโรปนํ เยน เกนจิ กตํ สุกตํ.

สเจ ปน ภพฺพรูโป โหติ สเหตุโก าโต ยสสฺสี กุลปุตฺโต, โอกาสํ กตฺวาปิ สยเมว ปพฺพาเชตพฺโพ, ‘‘มตฺติกามุฏฺึ คเหตฺวา นหายิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติ จ น ปน วิสฺสชฺเชตพฺโพ . ปพฺพชิตุกามานฺหิ ปมํ พลวอุสฺสาโห โหติ, ปจฺฉา ปน กาสายานิ จ เกสหรณสตฺถกฺจ ทิสฺวา อุตฺรสนฺติ, เอตฺโตเยว ปลายนฺติ, ตสฺมา สยเมว นหานติตฺถํ เนตฺวา สเจ นาติทหโร, ‘‘นหาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, เกสา ปนสฺส สยเมว มตฺติกํ คเหตฺวา โธวิตพฺพา . ทหรกุมารโก ปน สยํ อุทกํ โอตริตฺวา โคมยมตฺติกาหิ ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. สเจปิสฺส กจฺฉุ วา ปิฬกา วา โหนฺติ, ยถา มาตา ปุตฺตํ น ชิคุจฺฉติ, เอวเมวํ อชิคุจฺฉนฺเตน สาธุกํ หตฺถปาทโต จ สีสโต จ ปฏฺาย ฆํสิตฺวา ฆํสิตฺวา นหาเปตพฺโพ. กสฺมา? เอตฺตเกน หิ อุปกาเรน กุลปุตฺตา อาจริยุปชฺฌาเยสุ จ สาสเน จ พลวสิเนหา ติพฺพคารวา อนิวตฺติธมฺมา โหนฺติ, อุปฺปนฺนํ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เถรภาวํ ปาปุณนฺติ, กตฺุกตเวทิโน โหนฺติ.

เอวํ นหาปนกาเล ปน เกสมสฺสุํ โอโรปนกาเล วา ‘‘ตฺวํ าโต ยสสฺสี, อิทานิ มยํ ตํ นิสฺสาย ปจฺจเยหิ น กิลมิสฺสามา’’ติ น วตฺตพฺโพ, อฺาปิ อนิยฺยานิกกถา น วตฺตพฺพา, อถ ขฺวสฺส ‘‘อาวุโส, สุฏฺุ อุปธาเรหิ, สตึ อุปฏฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. อาจิกฺขนฺเตน จ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน อสุจิเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาวํ นิชฺชีวนิสฺสตฺตภาวํ วา ปากฏํ กโรนฺเตน อาจิกฺขิตพฺพํ. สเจ หิ โส ปุพฺเพ มทฺทิตสงฺขาโร โหติ ภาวิตภาวโน กณฺฏกเวธาเปกฺโข วิย ปริปกฺกคณฺโฑ สูริยุคฺคมนาเปกฺขํ วิย จ ปริณตปทุมํ, อถสฺส อารทฺธมตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกาเร อินฺทาสนิ วิย ปพฺพเต กิเลสปพฺพเต จุณฺณยมานํเยว าณํ ปวตฺตติ, ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เย หิ เกจิ ขุรคฺเค อรหตฺตํ ปตฺตา, สพฺเพ เต เอวรูปํ สวนํ ลภิตฺวา กลฺยาณมิตฺเตน อาจริเยน ทินฺนนยํ นิสฺสาย, โน อนิสฺสาย. ตสฺมาสฺส อาทิโตว เอวรูปี กถา กเถตพฺพาติ.

เกเสสุ ปน โอโรปิเตสุ หลิทฺทิจุณฺเณน วา คนฺธจุณฺเณน วา สีสฺจ สรีรฺจ อุพฺพฏฺเฏตฺวา คิหิคนฺธํ อปเนตฺวา กาสายานิ ติกฺขตฺตุํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สกึ วา ปฏิคฺคาหาเปตพฺโพ. อถาปิสฺส หตฺเถ อทตฺวา อาจริโย วา อุปชฺฌาโย วา สยเมว อจฺฉาเทติ, วฏฺฏติ. สเจ อฺํ ทหรํ วา สามเณรํ วา อุปาสกํ วา อาณาเปติ ‘‘อาวุโส, เอตานิ กาสายานิ คเหตฺวา เอตํ อจฺฉาเทหี’’ติ, ตฺเว วา อาณาเปติ ‘‘เอตานิ คเหตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ, สพฺพํ ตํ วฏฺฏติ, สพฺพํ เตน ภิกฺขุนาว ทินฺนํ โหติ. ยํ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา อนาณตฺติยา นิวาเสติ วา ปารุปติ วา, ตํ อปเนตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. ภิกฺขุนา หิ สหตฺเถน วา อาณตฺติยา วา ทินฺนเมว กาสายํ วฏฺฏติ, อทินฺนํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ตสฺเสว สนฺตกํ โหติ, โก ปน วาโท อุปชฺฌายมูลเก.

๑๔๗. เอวํ ปน ทินฺนานิ กาสายานิ อจฺฉาทาเปตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา เย ตตฺถ สนฺนิปติตา ภิกฺขู, เตสํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อถ สรณคหณตฺถํ อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘เอวํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘ยมหํ วทามิ, ตํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถสฺส อุปชฺฌาเยน วา อาจริเยน วา ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน สรณานิ ทาตพฺพานิ ยถาวุตฺตปฏิปาฏิยาว, น อุปฺปฏิปาฏิยา. สเจ หิ เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา เทติ, พุทฺธํ สรณํเยว วา ติกฺขตฺตุํ ทตฺวา ปุน อิตเรสุ เอเกกํ ติกฺขตฺตุํ เทติ, อทินฺนานิ โหนฺติ สรณานิ.

อิมฺจ ปน สรณคมนุปสมฺปทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนุฺาตอุปสมฺปทา เอกโตสุทฺธิยา วฏฺฏติ, สามเณรปพฺพชฺชา ปน อุภโตสุทฺธิยาว วฏฺฏติ, โน เอกโตสุทฺธิยา. ตสฺมา อุปสมฺปทาย สเจ อาจริโย ตฺติโทสฺเจว กมฺมวาจาโทสฺจ วชฺเชตฺวา กมฺมํ กโรติ, สุกตํ โหติ. ปพฺพชฺชาย ปน อิมานิ ตีณิ สรณานิ พุ-การ ธ-การาทีนํ พฺยฺชนานํ านกรณสมฺปทํ อหาเปนฺเตน อาจริเยนปิ อนฺเตวาสิเกนปิ วตฺตพฺพานิ. สเจ อาจริโย วตฺตุํ สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก น สกฺโกติ, อนฺเตวาสิโก วา สกฺโกติ, อาจริโย น สกฺโกติ, อุโภปิ วา น สกฺโกนฺติ, น วฏฺฏติ. สเจ ปน อุโภปิ สกฺโกนฺติ, วฏฺฏติ. อิมานิ จ ปน ททมาเนน ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอวํ เอกสมฺพนฺธานิ อนุนาสิกนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ, ‘‘พุทฺธม สรณม คจฺฉามี’’ติ เอวํ วิจฺฉินฺทิตฺวา มการนฺตานิ วา กตฺวา ทาตพฺพานิ. อนฺธกฏฺกถายํ ‘‘นามํ สาเวตฺวา ‘อหํ, ภนฺเต, พุทฺธรกฺขิโต ยาวชีวํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เอกฏฺกถายมฺปิ นตฺถิ, ปาฬิยมฺปิ น วุตฺตํ, เตสํ รุจิมตฺตเมว, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. น หิ ตถา อวทนฺตสฺส สรณํ กุปฺปติ. เอตฺตาวตา จ สามเณรภูมิยํ ปติฏฺิโต โหติ.

๑๔๘. สเจ ปเนส คติมา โหติ ปณฺฑิตชาติโก, อถสฺส ตสฺมึเยว าเน สิกฺขาปทานิ อุทฺทิสิตพฺพานิ. กถํ? ยถา ภควตา อุทฺทิฏฺานิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, สามเณรานํ ทส สิกฺขาปทานิ, เตสุ จ สามเณเรหิ สิกฺขิตุํ. ปาณาติปาตา เวรมณิ, อทินฺนาทานา เวรมณิ, อพฺรหฺมจริยา เวรมณิ, มุสาวาทา เวรมณิ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา เวรมณิ, วิกาลโภชนา เวรมณิ, นจฺจคีตวาทิต วิสูกทสฺสนา เวรมณิ, มาลาคนฺธ วิเลปน ธารณ มณฺฑน วิภูสนฏฺานา เวรมณิ, อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณิ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี’’ติ (มหาว. ๑๐๖).

อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ยาวชีวํ ปาณาติปาตา เวรมณิสิกฺขาปทํ สมาทิยามี’’ติ เอวํ สรณทานํ วิย สิกฺขาปททานมฺปิ วุตฺตํ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ อตฺถิ, ตสฺมา ยถาปาฬิยาว อุทฺทิสิตพฺพานิ. ปพฺพชฺชา หิ สรณคมเนเหว สิทฺธา, สิกฺขาปทานิ ปน เกวลํ สิกฺขาปทปูรณตฺถํ ชานิตพฺพานิ, ตสฺมา ปาฬิยา อาคตนเยเนว อุคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ยาย กายจิ ภาสาย อตฺถวเสนปิ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ. ยาว ปน อตฺตนา สิกฺขิตพฺพสิกฺขาปทานิ น ชานาติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารณฏฺานนิสชฺชาทีสุ ปานโภชนาทิวิธิมฺหิ จ น กุสโล โหติ, ตาว โภชนสาลํ วา สลากภาชนฏฺานํ วา อฺํ วา ตถารูปฏฺานํ น เปเสตพฺโพ, สนฺติกาวจโรเยว กาตพฺโพ, พาลทารโก วิย ปฏิปชฺชิตพฺโพ, สพฺพมสฺส กปฺปิยากปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ, นิวาสนปารุปนาทีสุ อภิสมาจาริเกสุ วิเนตพฺโพ. เตนปิ –

‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ สามเณรํ นาเสตุํ. ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, อพฺรหฺมจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, มชฺชปายี โหติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, ภิกฺขุนีทูสโก โหตี’’ติ (มหาว. ๑๐๘) –

เอวํ วุตฺตานิ ทส นาสนงฺคานิ อารกา ปริวชฺเชตฺวา อาภิสมาจาริกํ ปริปูเรนฺเตน ทสวิเธ สีเล สาธุกํ สิกฺขิตพฺพํ.

๑๔๙. โย ปน (มหาว. อฏฺ. ๑๐๘) ปาณาติปาตาทีสุ ทสสุ นาสนงฺเคสุ เอกมฺปิ กมฺมํ กโรติ, โส ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ. ตีสุ หิ นาสนาสุ ลิงฺคนาสนาเยว อิธาธิปฺเปตา. ยถา จ ภิกฺขูนํ ปาณาติปาตาทีสุ ตา ตา อาปตฺติโย โหนฺติ, น ตถา สามเณรานํ. สามเณโร หิ กุนฺถ กิปิลฺลิกมฺปิ มาเรตฺวา มงฺคุลณฺฑกมฺปิ ภินฺทิตฺวา นาเสตพฺพตํเยว ปาปุณาติ, ตาวเทวสฺส สรณคมนานิ จ อุปชฺฌายคฺคหณฺจ เสนาสนคฺคาโห จ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, สงฺฆลาภํ น ลภติ, ลิงฺคมตฺตเมว เอกํ อวสิฏฺํ โหติ. โส สเจ อากิณฺณโทโสว โหติ, อายตึ สํวเร น ติฏฺติ, นิกฺกฑฺฒิตพฺโพ. อถ สหสา วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุฏฺุ มยา กต’’นฺติ ปุน สํวเร าตุกาโม โหติ, ลิงฺคนาสนกิจฺจํ นตฺถิ, ยถานิวตฺถปารุตสฺเสว สรณานิ ทาตพฺพานิ, อุปชฺฌาโย ทาตพฺโพ. สิกฺขาปทานิ ปน สรณคมเนเนว อิชฺฌนฺติ. สามเณรานฺหิ สรณคมนํ ภิกฺขูนํ อุปสมฺปทกมฺมวาจาสทิสํ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ วิย จตุปาริสุทฺธิสีลํ อิมินาปิ ทส สีลานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ทฬฺหีกรณตฺถํ อายตึ สํวเร ปติฏฺาปนตฺถํ ปุน ทาตพฺพานิ. สเจ ปุริมิกาย ปุน สรณานิ คหิตานิ, ปจฺฉิมิกาย วสฺสาวาสิกํ ลจฺฉติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย คหิตานิ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา ลาโภ ทาตพฺโพ. อทินฺนาทาเน ติณสลากมตฺเตนปิ วตฺถุนา, อพฺรหฺมจริเย ตีสุ มคฺเคสุ ยตฺถ กตฺถจิ วิปฺปฏิปตฺติยา, มุสาวาเท หสาธิปฺปายตายปิ มุสา ภณิเต อสฺสมโณ โหติ, นาเสตพฺพตํ อาปชฺชติ, มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฏฺาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณโร ชานิตฺวา ปิวนฺโตว สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา. ยานิ ปนสฺส อิตรานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ, เอเตสุ ภินฺเนสุ น นาเสตพฺโพ, ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพํ. สิกฺขาปเท ปน ปุน ทินฺเนปิ อทินฺเนปิ วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺเมน ปน ปีเฬตฺวา อายตึ สํวเร ปนตฺถาย ทาตพฺพเมว.

อวณฺณภาสเน ปน ‘‘อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน พุทฺธสฺส วา ‘‘สฺวากฺขาโต’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน ธมฺมสฺส วา ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีนํ ปฏิปกฺขวเสน สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาสนฺโต รตนตฺตยํ นินฺทนฺโต ครหนฺโต อาจริยุปชฺฌายาทีหิ ‘‘มา เอวํ อวจา’’ติ อวณฺณภาสเน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา นิวาเรตพฺโพ. ‘‘สเจ ยาวตติยํ วุจฺจมาโน น โอรมติ, กณฺฏกนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ เอวํ วุจฺจมาโน ตํ ลทฺธึ นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ. สเจ น นิสฺสชฺชติ, ตเถว อาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺติ, ลิงฺคนาสนาย นาเสตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. อยเมว หิ นาสนา อิธาธิปฺเปตาติ. มิจฺฉาทิฏฺิเกปิ เอเสว นโย. สสฺสตุจฺเฉทานฺหิ อฺตรทิฏฺิโก สเจ อาจริยาทีหิ โอวทิยมาโน นิสฺสชฺชติ, ทณฺฑกมฺมํ กาเรตฺวา อจฺจยํ เทสาเปตพฺโพ, อปฏินิสฺสชฺชนฺโตว นาเสตพฺโพ. ภิกฺขุนีทูสโก เจตฺถ กามํ อพฺรหฺมจาริคฺคหเณน คหิโตว, อพฺรหฺมจารึ ปน อายตึ สํวเร าตุกามํ สรณานิ ทตฺวา อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีทูสโก อายตึ สํวเร าตุกาโมปิ ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติ, ปเคว อุปสมฺปทนฺติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุนีทูสโก’’ติ อิทํ วิสุํ ทสมํ องฺคํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๕๐. ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ, ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทตี’’ติ (มหาว. ๑๐๗) ‘‘วจนโต ปน อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, สิกฺขาปเทสุ จ ปจฺฉิมานิ วิกาลโภชนาทีนิ ปฺจาติ ทส ทณฺฑกมฺมวตฺถูนิ. กึปเนตฺถ ทณฺฑกมฺมํ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ วา วสติ, ยตฺถ วา ปฏิกฺกมติ, ตตฺถ อาวรณํ กาตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๐๗) วจนโต ยตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๐๗) วสติ วา ปวิสติ วา, ตตฺถ อาวรณํ กาตพฺพํ ‘‘มา อิธ ปวิสา’’ติ. อุภเยนปิ อตฺตโน ปริเวณฺจ วสฺสคฺเคน ปตฺตเสนาสนฺจ วุตฺตํ. ตสฺมา น สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, สพฺโพ สงฺฆาราโม อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. น จ มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, กโรนฺโต จ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, มุขทฺวาริโก อาหาโร อาวรณํ กาตพฺโพ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ตสฺมา ‘‘อชฺช มา ขาท มา ภุฺชา’’ติ วทโตปิ ‘‘อาหารมฺปิ นิวาเรสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ อนฺโต นิกฺขิปโตปิ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. อนาจารสฺส ปน ทุพฺพจสามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมํ กตฺวา ยาคุํ วา ภตฺตํ วา ปตฺตจีวรํ วา ทสฺเสตฺวา ‘‘เอตฺตเก นาม ทณฺฑกมฺเม อาหเฏ อิทํ ลจฺฉสี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ภควตา หิ อาวรณเมว ทณฺฑกมฺมํ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปน ‘‘อปราธานุรูปํ อุทกทารุวาลิกาทีนํ อาหราปนมฺปิ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ กาตพฺพํ, ตฺจ โข ‘‘โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ อนุกมฺปาย, น ‘‘นสฺสิสฺสติ วิพฺภมิสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺเตน ปาปชฺฌาสเยน. ‘‘ทณฺฑกมฺมํ กโรมี’’ติ จ อุณฺหปาสาเณ วา นิปชฺชาเปตุํ ปาสาณิฏฺกาทีนิ วา สีเส นิกฺขิปาเปตุํ อุทกํ วา ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ.

อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉาปิ ทณฺฑกมฺมํ น กาเรตพฺพํ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา อาวรณํ กาตพฺพํ, โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต. เอตฺถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ สามเณรสฺส อยํ นาม อปราโธ, ทณฺฑกมฺมมสฺส กโรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต สเจ โส อุปชฺฌาโย ทณฺฑกมฺมํ น กโรติ, สยํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ อาทิโต อุปชฺฌาโย วทติ ‘‘มยฺหํ สามเณรานํ โทเส สติ ตุมฺเห ทณฺฑกมฺมํ กโรถา’’ติ, กาตุํ วฏฺฏติเยว. ยถา จ สามเณรานํ, เอวํ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิกานมฺปิ ทณฺฑกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อฺเสํ ปน ปริสา น อปลาเฬตพฺพา, อปลาเฬนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ‘‘น, ภิกฺขเว, อฺสฺส ปริสา อปลาเฬตพฺพา, โย อปลาเฬยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๐๘) วจนโต . ตสฺมา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ เทม, จีวรํ เทมา’’ติ อตฺตโน อุปฏฺานกรณตฺถํ สงฺคณฺหิตฺวา สามเณรา วา โหนฺตุ อุปสมฺปนฺนา วา, อนฺตมโส ทุสฺสีลภิกฺขุสฺสปิ ปรสฺส ปริสภูเต ภินฺทิตฺวา คณฺหิตุํ น วฏฺฏติ, อาทีนวํ ปน วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘ตยา นหายิตุํ อาคเตน คูถมกฺขนํ วิย กตํ ทุสฺสีลํ นิสฺสาย วิหรนฺเตนา’’ติ. สเจ โส สยเมว ชานิตฺวา อุปชฺฌํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ทาตุํ วฏฺฏติ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.