📜

๒๔. สีมาวินิจฺฉยกถา

๑๕๖. สีมาติ เอตฺถ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) สีมา นาเมสา พทฺธสีมา อพทฺธสีมาติ ทุวิธา โหติ. ตตฺถ เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ พนฺธิตฺวา สมฺมตา สีมา พทฺธสีมา นาม. อติขุทฺทกา, อติมหตี, ขณฺฑนิมิตฺตา, ฉายานิมิตฺตา, อนิมิตฺตา, พหิสีเม ิตสมฺมตา, นทิยา สมฺมตา, สมุทฺเท สมฺมตา, ชาตสฺสเร สมฺมตา, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตาติ อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตีติ วจนโต เอตา วิปตฺติสีมาโย นาม.

ตตฺถ อติขุทฺทกา นาม ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ทกฺขิณาย ทิสาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชํ วา วาลุกปุฺชํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกนิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. ฉายานิมิตฺตา นาม ปพฺพตฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา. อนิมิตฺตา นาม สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา. พหิสีเม ิตสมฺมตา นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยา, สมุทฺเท, ชาตสฺสเร สมฺมตา นาม เอเตสุ นทิอาทีสุ สมฺมตา. สา หิ เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา (มหาว. อฏฺ. ๑๔๘) นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ โปราณกสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อมฺโพ เจว ชมฺพุ จาติ ทฺเว รุกฺขา อฺมฺํ สํสฏฺวิฏปา โหนฺติ, เตสุ อมฺพสฺส ปจฺฉิมทิสาภาเค ชมฺพุ, วิหารสีมา จ ชมฺพุํ อนฺโตกตฺวา อมฺพํ กิตฺเตตฺวา พทฺธา โหติ. อถ ปจฺฉา ตสฺส วิหารสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย วิหาเร กเต สีมํ พนฺธนฺตา ภิกฺขู ตํ อมฺพํ อนฺโตกตฺวา ชมฺพุํ กิตฺเตตฺวา พนฺธนฺติ , สีมาย สีมํ สมฺภินฺนา โหติ. ตสฺมา สเจ ปมตรํ กตสฺส วิหารสฺส สีมา อสมฺมตา โหติ, สีมาย อุปจาโร เปตพฺโพ. สเจ สมฺมตา โหติ, ปจฺฉิมโกฏิยา หตฺถมตฺตา สีมนฺตริกา เปตพฺพา. กุรุนฺทิยํ ‘‘วิทตฺถิมตฺตมฺปิ’’, มหาปจฺจริยํ ‘‘จตุรงฺคุลมตฺตมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอกรุกฺโขปิ จ ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตํ โหติ. โส ปน วฑฺฒนฺโต สีมสงฺกรํ กโรติ, ตสฺมา น กาตพฺโพ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา นาม อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรนฺเตน สมฺมตา. สเจ หิ ปเรสํ พทฺธสีมํ สกลํ วา ตสฺสา ปเทสํ วา อนฺโตกตฺวา อตฺตโน สีมํ สมฺมนฺนนฺติ, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถริตา นาม โหติ. ภิกฺขุนีนํ ปน สีมํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อนฺโตปิ ภิกฺขูนํ สีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุนีนมฺปิ ภิกฺขูนํ สีมาย เอเสว นโย. น หิ เต อฺมฺสฺส กมฺเม คณปูรกา โหนฺติ, น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺติ. อิติ อิมา เอกาทส วิปตฺติสีมาโย อติกฺกมิตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา.

๑๕๗. ติวิธสมฺปตฺติยุตฺตา นาม นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ปริสสมฺปตฺติยา กมฺมวาจาสมฺปตฺติยา จ ยุตฺตา. ตตฺถ นิมิตฺตสมฺปตฺติยา ยุตฺตา นาม ปพฺพตนิมิตฺตํ ปาสาณนิมิตฺตํ วนนิมิตฺตํ รุกฺขนิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ วมฺมิกนิมิตฺตํ นทีนิมิตฺตํ อุทกนิมิตฺตนฺติ เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ นิมิตฺเตสุ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ยถาลทฺธานิ นิมิตฺตุปคานิ นิมิตฺตานิ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ. ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน สมฺมา กิตฺเตตฺวา สมฺมตา.

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) – วินยธเรน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺต’’นฺติ? ‘‘ปพฺพโต, ภนฺเต’’ติ. อิทํ ปน อุปสมฺปนฺโน วา อาจิกฺขตุ อนุปสมฺปนฺโน วา, วฏฺฏติเยว. ปุน วินยธเรน ‘‘เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ, ‘‘เอตํ ปพฺพตํ นิมิตฺตํ กโรม, กริสฺสาม, นิมิตฺตํ กโต, นิมิตฺตํ โหตุ, โหติ, ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปน กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. ปาสาณาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุรตฺถิมาย ทิสาย, ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ทกฺขิณาย ทิสาย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย ทิสาย, ปจฺฉิมาย อนุทิสาย, อุตฺตราย ทิสาย, อุตฺตราย อนุทิสาย กึ นิมิตฺตํ? อุทกํ, ภนฺเต. เอตํ อุทกํ นิมิตฺตนฺติ กิตฺเตตพฺพํ. เอตฺถ ปน อฏฺเปตฺวา ปุน ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กึ นิมิตฺตํ? ปพฺพโต, ภนฺเต. เอโส ปพฺพโต นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวาว เปตพฺพํ. เอวฺหิ นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฆฏิตํ โหติ, นิมิตฺตานิ สกึ กิตฺติตานิปิ กิตฺติตาเนว โหนฺติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘ติกฺขตฺตุํ สีมมณฺฑลํ พนฺธนฺเตน นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.

๑๕๘. อิทานิ นิมิตฺตุปคานิ ปพฺพตาทีนิ เวทิตพฺพานิ – ติวิโธ ปพฺพโต สุทฺธปํสุปพฺพโต สุทฺธปาสาณปพฺพโต อุภยมิสฺสโกติ. โส ติวิโธปิ วฏฺฏติ, วาลิกราสิ ปน น วฏฺฏติ. อิตโรปิ หตฺถิปฺปมาณโต โอมกตโร น วฏฺฏติ, หตฺถิปฺปมาณโต ปฏฺาย สิเนรุปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. สเจ จตูสุ ทิสาสุ จตฺตาโร ตีสุ วา ตโย ปพฺพตา โหนฺติ , จตูหิ วา ตีหิ วา ปพฺพตนิมิตฺเตหิ สมฺมนฺนิตุมฺปิ วฏฺฏติ, ทฺวีหิ ปน นิมิตฺเตหิ เอเกน วา สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติ. อิโต ปเรสุ ปาสาณนิมิตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ปพฺพตนิมิตฺตํ กโรนฺเตน ปุจฺฉิตพฺพํ ‘‘เอกาพทฺโธ, น เอกาพทฺโธ’’ติ. สเจ เอกาพทฺโธ โหติ, น กาตพฺโพ. ตฺหิ จตูสุ วา อฏฺสุ วา ทิสาสุ กิตฺเตนฺเตนปิ เอกเมว นิมิตฺตํ กิตฺติตํ โหติ, ตสฺมา โย เอวํ จกฺกสณฺาเนน วิหารมฺปิ ปริกฺขิปิตฺวา ิโต ปพฺพโต, ตํ เอกทิสาย กิตฺเตตฺวา อฺาสุ ทิสาสุ ตํ พหิทฺธา กตฺวา อนฺโต อฺานิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. สเจ ปพฺพตสฺส ตติยภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตํ อกิตฺเตตฺวา ยตฺตกํ ปเทสํ อนฺโต กตฺตุกามา, ตสฺส ปรโต ตสฺมึเยว ปพฺพเต ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีสุ อฺตรํ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. สเจ เอกโยชนทฺวิโยชนปฺปมาณํ สพฺพํ ปพฺพตํ อนฺโต กตฺตุกามา โหนฺติ, ปพฺพตสฺส ปรโต ภูมิยํ ชาตรุกฺขวมฺมิกาทีนิ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ.

ปาสาณนิมิตฺเต อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา โย โกจิ ปาสาโณ วฏฺฏติ. ปมาณโต ปน หตฺถิปฺปมาโณ ปพฺพตสงฺขฺยํ คโต, ตสฺมา โส น วฏฺฏติ, มหาโคณมหามหึสปฺปมาโณ ปน วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ทฺวตฺตึสปลคุฬปิณฺฑปฺปมาโณ วฏฺฏติ, ตโต ขุทฺทกตโร อิฏฺกา วา มหนฺตีปิ น วฏฺฏติ, อนิมิตฺตุปคปาสาณานํ ราสิปิ น วฏฺฏติ, ปเคว ปํสุวาลุกราสิ. ภูมิสโม ขลมณฺฑลสทิโส ปิฏฺิปาสาโณ วา ภูมิโต ขาณุโก วิย อุฏฺิตปาสาโณ วา โหติ, โสปิ ปมาณุปโค เจ, วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาโณ อติมหนฺโตปิ ปาสาณสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตสฺมา สเจ มหโต ปิฏฺิปาสาณสฺส เอกปฺปเทสํ อนฺโตสีมาย กตฺตุกามา โหนฺติ, ตํ อกิตฺเตตฺวา ตสฺสุปริ อฺโ ปาสาโณ กิตฺเตตพฺโพ. สเจ ปิฏฺิปาสาณุปริ วิหารํ กโรนฺติ, วิหารมชฺเฌน วา ปิฏฺิปาสาโณ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, เอวรูโป ปิฏฺิปาสาโณ น วฏฺฏติ. สเจ หิ ตํ กิตฺเตนฺติ, นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ, นิมิตฺตฺจ นาม พหิสีมาย โหติ, วิหาโรปิ พหิสีมายํ อาปชฺชติ. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตปิฏฺิปาสาโณ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺโพ.

วนนิมิตฺเต ติณวนํ วา ตจสารตาลนาฬิเกราทิรุกฺขวนํ วา น วฏฺฏติ, อนฺโตสารานํ ปน สากสาลาทีนํ อนฺโตสารมิสฺสกานํ วา รุกฺขานํ วนํ วฏฺฏติ, ตฺจ โข เหฏฺิมปริจฺเฉเทน จตุปฺจรุกฺขมตฺตมฺปิ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ โยชนสติกมฺปิ วฏฺฏติ. สเจ ปน วนมชฺเฌ วิหารํ กโรนฺติ, วนํ น กิตฺเตตพฺพํ. เอกเทสํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมหิปิ วนํ อกิตฺเตตฺวา ตตฺถ รุกฺขปาสาณาทโย กิตฺเตตพฺพา. วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตวนํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ น กิตฺเตตพฺพํ.

รุกฺขนิมิตฺเต ตจสาโร ตาลนาฬิเกราทิรุกฺโข น วฏฺฏติ, อนฺโตสาโร ชีวมานโก อนฺตมโส อุพฺเพธโต อฏฺงฺคุโล ปริณาหโต สูจิทณฺฑกปฺปมาโณปิ วฏฺฏติ. ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ทฺวาทสโยชโน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรโธปิ วฏฺฏติ. วํสนฬกสราวาทีสุ พีชํ โรเปตฺวา วฑฺฒาปิโต ปมาณุปโคปิ น วฏฺฏติ, ตโต อปเนตฺวา ปน ตํ ขณมฺปิ ภูมิยํ โรเปตฺวา โกฏฺกํ กตฺวา อุทกํ อาสิฺจิตฺวา กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. นวมูลสาขานิคฺคมนํ อการณํ, ขนฺธํ ฉินฺทิตฺวา โรปิเต ปน เอตํ ยุชฺชติ. กิตฺเตนฺเตน จ ‘‘รุกฺโข’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ ‘‘สากรุกฺโข’’ติปิ ‘‘สาลรุกฺโข’’ติปิ. เอกาพทฺธํ ปน สุปฺปติฏฺิตนิคฺโรธสทิสํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

มคฺคนิมิตฺเต อรฺเขตฺตนทีตฬากมคฺคาทโย น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆมคฺโค วา สกฏมคฺโค วา วฏฺฏติ. โย นิพฺพิชฺฌิตฺวา ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ, โย ปน ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคโต โอกฺกมิตฺวา ปุน สกฏมคฺคเมว โอตรติ, เย วา ชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคา อวฬฺชา, เต น วฏฺฏนฺติ, ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺเถหิ วฬฺชิยมานาเยว วฏฺฏนฺติ. สเจ ทฺเว มคฺคา นิกฺขมิตฺวา ปจฺฉา สกฏธุรมิว เอกีภวนฺติ, ทฺเวธา ภินฺนฏฺาเน วา สมฺพนฺธฏฺาเน วา สกึ กิตฺเตตฺวา ปุน น กิตฺเตตพฺพา. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ โหติ. สเจ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา จตฺตาโร มคฺคา จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺติ, มชฺเฌ เอกํ กิตฺเตตฺวา อปรํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. เอกาพทฺธนิมิตฺตฺเหตํ. โกณํ นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตํ ปน ปรภาเค กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. วิหารมชฺเฌน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตมคฺโค ปน น กิตฺเตตพฺโพ, กิตฺติเต นิมิตฺตสฺส อุปริ วิหาโร โหติ. สเจ สกฏมคฺคสฺส อนฺติมจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, มคฺโค พหิสีมาย โหติ, สเจ พาหิรจกฺกมคฺคํ นิมิตฺตํ กโรนฺติ, พาหิรจกฺกมคฺโค พหิสีมาย โหติ , เสสํ อนฺโตสีมํ ภชติ. มคฺคํ กิตฺเตนฺเตน ‘‘มคฺโค ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช’’ติอาทีสุ ทสสุ เยน เกนจิ นาเมน จ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ, ปริขาสณฺาเนน วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตมคฺโค เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

วมฺมิกนิมิตฺเต เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ตํ ทิวสํ ชาโต อฏฺงฺคุลุพฺเพโธ โควิสาณปฺปมาโณปิ วมฺมิโก วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ. ปรํ หิมวนฺตปพฺพตสทิโสปิ วฏฺฏติ, วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ ปน เอกาพทฺธํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ.

นทีนิมิตฺเต ยสฺสา ธมฺมิกานํ ราชูนํ กาเล อนฺวฑฺฒมาสํ อนุทสาหํ อนุปฺจาหนฺติ เอวํ เทเว วสฺสนฺเต วลาหเกสุ วิคตมตฺเตสุ โสตํ ปจฺฉิชฺชติ, อยํ นทีสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. ยสฺสา ปน อีทิเส สุวุฏฺิกาเล วสฺสานสฺส จาตุมาเส โสตํ น ปจฺฉิชฺชติ, ยตฺถ ติตฺเถน วา อติตฺเถน วา สิกฺขากรณีเย อาคตลกฺขเณน ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อนฺตรวาสกํ อนุกฺขิปิตฺวา อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ อนฺตรวาสโก เตมิยติ, อยํ นที สีมํ พนฺธนฺตานํ นิมิตฺตํ โหติ. ภิกฺขุนิยา นทีปารคมเนปิ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณปิ นทีปารสีมาสมฺมนฺนเนปิ อยเมว นที. ยา ปน มคฺโค วิย สกฏธุรสณฺาเนน วา ปริขาสณฺาเนน วา วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คตา, ตํ เอกตฺถ กิตฺเตตฺวา อฺตฺถ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ. วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุ อฺมฺํ วินิพฺพิชฺฌิตฺวา คเต นทีจตุกฺเกปิ เอเสว นโย. อสมฺมิสฺสา นทิโย ปน จตสฺโสปิ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. สเจ วตึ กโรนฺโต วิย รุกฺขปาเท นิขณิตฺวา วลฺลิปลาลาทีหิ นทีโสตํ รุนฺธนฺติ, อุทกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อาวรณํ ปวตฺตติเยว, นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยถา ปน อุทกํ น ปวตฺตติ, เอวํ เสตุมฺหิ กเต อปวตฺตมานา นทีนิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ, ปวตฺตนฏฺาเน นทีนิมิตฺตํ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน อุทกนิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยา ปน ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นิรุทกภาเวน น ปวตฺตติ, สา วฏฺฏติ. มหานทิโต อุทกมาติกํ นีหรนฺติ, สา กุนฺนทีสทิสา หุตฺวา ตีณิ สสฺสานิ สมฺปาเทนฺตี นิจฺจํ ปวตฺตติ, กิฺจาปิ ปวตฺตติ, นิมิตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยา ปน มูเล มหานทิโต นีหตาปิ กาลนฺตเรน เตเนว นีหตมคฺเคน นทึ ภินฺทิตฺวา สยํ คจฺฉติ, คจฺฉนฺตี ปรโต สุสุมาราทิสมากิณฺณา นาวาทีหิ สฺจริตพฺพา นที โหติ, ตํ นิมิตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ.

อุทกนิมิตฺเต นิรุทกฏฺาเน นาวาย วา จาฏิอาทีสุ วา อุทกํ ปูเรตฺวา อุทกนิมิตฺตํ กิตฺเตตุํ น วฏฺฏติ, ภูมิคตเมว วฏฺฏติ. ตฺจ โข อปฺปวตฺตนอุทกํ อาวาฏโปกฺขรณีตฬอากชาตสฺสรโลณิสมุทฺทาทีสุ ิตํ, อฏฺิตํ ปน โอฆนทีอุทกวาหกมาติกาทีสุ อุทกํ น วฏฺฏติ . อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘คมฺภีเรสุ อาวาฏาทีสุ อุกฺเขปิมํ อุทกํ นิมิตฺตํ น กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ทุวุตฺตํ, อตฺตโนมติมตฺตเมว. ิตํ ปน อนฺตมโส สูกรขตายปิ คามทารกานํ กีฬนวาปิยมฺปิ ตํ ขณฺเว ปถวิยํ อาวาฏํ กตฺวา กุเฏหิ อาหริตฺวา ปูริตอุทกมฺปิ สเจ ยาว กมฺมวาจาปริโยสานา ติฏฺติ, อปฺปํ วา โหตุ พหุํ วา, วฏฺฏติ. ตสฺมึ ปน าเน นิมิตฺตสฺากรณตฺถํ ปาสาณวาลิกาปํสุอาทิราสิ วา ปาสาณตฺถมฺโภ วา ทารุตฺถมฺโภ วา กาตพฺโพ. ตํ กาตุํ กาเรตุฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏติ, ลาภสีมายํ ปน น วฏฺฏติ. สมานสํวาสกสีมา กสฺสจิ ปีฬนํ น กโรติ, เกวลํ ภิกฺขูนํ วินยกมฺมเมว สาเธติ, ตสฺมา เอตฺถ วฏฺฏติ.

อิเมหิ จ อฏฺหิ นิมิตฺเตหิ อสมฺมิสฺเสหิปิ อฺมฺํ สมฺมิสฺเสหิปิ สีมา สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยว. สา เอวํ สมฺมนฺนิตฺวา พชฺฌมานา เอเกน ทฺวีหิ วา นิมิตฺเตหิ อพทฺธา โหติ, ตีณิ ปน อาทึ กตฺวา วุตฺตปฺปการานํ นิมิตฺตานํ สเตนปิ พทฺธา โหติ. สา ตีหิ สิงฺฆาฏกสณฺานา โหติ, จตูหิ จตุรสฺสา วา สิงฺฆาฏกอฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺานา วา, ตโต อธิเกหิ นานาสณฺานา. เอวํ วุตฺตนเยน นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา ‘‘นิมิตฺตสมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ เวทิตพฺพา.

๑๕๙. ปริสสมฺปตฺติยุตฺตา นาม สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตูหิ ภิกฺขูหิ สนฺนิปติตฺวา ยาวติกา ตสฺมึ คามเขตฺเต พทฺธสีมํ วา นทีสมุทฺทชาตสฺสเร วา อโนกฺกมิตฺวา ิตา ภิกฺขู, เต สพฺเพ หตฺถปาเส วา กตฺวา ฉนฺทํ วา อาหริตฺวา สมฺมตา.

๑๖๐. กมฺมวาจาสมฺปตฺติยุตฺตา นาม –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยาวตา สมนฺตา นิมิตฺตา กิตฺติตา, สงฺโฆ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมํ สมฺมนฺนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สีมาย สมฺมุติ สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สีมา สงฺเฆน เอเตหิ นิมิตฺเตหิ สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๓๙) –

เอวํ วุตฺตาย ปริสุทฺธาย ตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมตา. กมฺมวาจาปริโยสาเน นิมิตฺตานํ อนฺโต สีมา โหติ, นิมิตฺตานิ สีมโต พหิ โหนฺติ.

๑๖๑. เอวํ พทฺธาย จ สีมาย ติจีวเรน วิปฺปวาสสุขตฺถํ ทฬฺหีกมฺมตฺถฺจ อวิปฺปวาสสมฺมุติ กาตพฺพา. สา ปน เอวํ กตฺตพฺพา –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺเนยฺย เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย ติจีวเรน อวิปฺปวาสาย สมฺมุติ เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตา สา สีมา สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาสา เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๓).

เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) จ นิคมนครานมฺปิ คาเมเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพ. คามูปจาโรติ ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปกาโส. อิเมสุ ปน คามคามูปจาเรสุ อธิฏฺิตเตจีวริโก ภิกฺขุ ปริหารํ น ลภติ. อยฺหิ อวิปฺปวาสสีมา ‘‘เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา คามฺจ คามูปจารฺจ น โอตฺถรติ, สมานสํวาสกสีมาว โอตฺถรติ. สมานสํวาสกสีมา เจตฺถ อตฺตโน ธมฺมตาย คจฺฉติ, อวิปฺปวาสสีมา ปน ยตฺถ สมานสํวาสกสีมา, ตตฺเถว คจฺฉติ. น หิ ตสฺสา วิสุํ นิมิตฺตกิตฺตนํ อตฺถิ, ตตฺถ สเจ อวิปฺปวาสาย สมฺมุติกาเล คาโม อตฺถิ, ตํ สา น โอตฺถรติ . สเจ ปน สมฺมตาย สีมาย ปจฺฉา คาโม นิวิสติ, โสปิ สีมสงฺขฺยํเยว คจฺฉติ. ยถา จ ปจฺฉา นิวิฏฺโ, เอวํ ปมํ นิวิฏฺสฺส ปจฺฉา วฑฺฒิตปฺปเทโสปิ สีมสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ สีมาสมฺมุติกาเล เคหานิ กตานิ, ‘‘ปวิสิสฺสามา’’ติ อาลโยปิ อตฺถิ, มนุสฺสา ปน อปฺปวิฏฺา, โปราณกคามํ วา สเจ เคหเมว ฉฑฺเฑตฺวา อฺตฺถ คตา, อคาโมเยว เอส, สีมา โอตฺถรติ. สเจ ปน เอกมฺปิ กุลํ ปวิฏฺํ วา อคตํ วา อตฺถิ, คาโมเยว, สีมา น โอตฺถรติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.

๑๖๒. อยํ ปน วิตฺถาโร (มหาว. อฏฺ. ๑๓๘) สีมํ พนฺธิตุกาเมน หิ สามนฺตวิหาเรสุ ภิกฺขู ตสฺส ตสฺส วิหารสฺส สีมาปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา พทฺธสีมวิหารานํ สีมาย สีมนฺตริกํ, อพทฺธสีมวิหารานํ สีมาย อุปจารํ เปตฺวา ทิสาจาริกภิกฺขูนํ นิสฺสฺจารสมเย สเจ เอกสฺมึ คามเขตฺเต สีมํ พนฺธิตุกามา, เย ตตฺถ พทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขูนํ ‘‘มยํ อชฺช สีมํ พนฺธิสฺสาม, ตุมฺเห สกสีมาย ปริจฺเฉทโต มา นิกฺขมิตฺถา’’ติ เปเสตพฺพํ. เย อพทฺธสีมวิหารา, เตสุ ภิกฺขู เอกชฺฌํ สนฺนิปาเตตพฺพา, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหราเปตพฺโพ. ‘‘สเจ อฺานิปิ คามเขตฺตานิ อนฺโตกาตุกามา, เตสุ คาเมสุ เย ภิกฺขู วสนฺติ, เตหิปิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘นานาคามเขตฺตานิ นาม ปาฏิเยกฺกํ พทฺธสีมสทิสานิ, น ตโต ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาคจฺฉติ, อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ ปน ภิกฺขูหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปุน อาห ‘‘สมานสํวาสกสีมาสมฺมนฺนนกาเล อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฏฺฏติ, อวิปฺปวาสสีมาสมฺมนฺนนกาเล ปน อนฺโตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพํ, อนาคจฺฉนฺตานํ ฉนฺโท อาหริตพฺโพ’’ติ.

เอวํ สนฺนิปติเตสุ ภิกฺขูสุ ฉนฺทารหานํ ฉนฺเท อาหเฏ เตสุ เตสุ มคฺเคสุ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ จ อาคนฺตุกภิกฺขูนํ สีฆํ สีฆํ หตฺถปาสนยนตฺถฺเจว พหิสีมกรณตฺถฺจ อารามิเก เจว สมณุทฺเทเส จ เปตฺวา เภริสฺํ วา สงฺขสฺํ วา กตฺวา นิมิตฺตกิตฺตนานนฺตรํ วุตฺตาย ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติอาทิกาย กมฺมวาจาย สีมา พนฺธิตพฺพา. กมฺมวาจาปริโยสาเนเยว นิมิตฺตานิ พหิกตฺวา เหฏฺา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา สีมา คตา โหติ.

๑๖๓. อิมํ ปน สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนนฺเตหิ ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทีนํ สงฺฆกมฺมานํ สุขกรณตฺถํ ปมํ ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา. ตํ ปน พนฺธนฺเตหิ วตฺตํ ชานิตพฺพํ. สเจ หิ โพธิเจติยภตฺตสาลาทีนิ สพฺพวตฺถูนิ ปติฏฺาเปตฺวา กตวิหาเร พนฺธนฺติ, วิหารมชฺเฌ พหูนํ สโมสรณฏฺาเน อพนฺธิตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส พนฺธิตพฺพา. อกตวิหาเร พนฺธนฺเตหิ โพธิเจติยาทีนํ สพฺพวตฺถูนํ านํ สลฺลกฺเขตฺวา ยถา ปติฏฺิเตสุ วตฺถูสุ วิหารปจฺจนฺเต วิวิตฺโตกาเส โหติ, เอวํ พนฺธิตพฺพา. สา เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สเจ เอกวีสติ ภิกฺขู คณฺหาติ, วฏฺฏติ, ตโต โอรํ น วฏฺฏติ, ปรํ ภิกฺขุสหสฺสํ คณฺหนฺตีปิ วฏฺฏติ. ตํ พนฺธนฺเตหิ สีมมาฬกสฺส สมนฺตา นิมิตฺตุปคา ปาสาณา เปตพฺพา, น ขณฺฑสีมาย ิเตหิ มหาสีมา พนฺธิตพฺพา, น มหาสีมาย ิเตหิ ขณฺฑสีมา, ขณฺฑสีมายเมว ปน ตฺวา ขณฺฑสีมา พนฺธิตพฺพา.

ตตฺรายํ พนฺธนวิธิ – สมนฺตา ‘‘เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ เอวํ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. อถ ตสฺสา เอว ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สีมํ สมฺมนฺนิตฺวา พหิ สีมนฺตริกปาสาณา เปตพฺพา. สีมนฺตริกา ปจฺฉิมโกฏิยา เอกรตนปฺปมาณา วฏฺฏติ. ‘‘วิทตฺถิปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ กุรุนฺทิยํ, ‘‘จตุรงฺคุลปฺปมาณาปิ วฏฺฏตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สเจ ปน วิหาโร มหา โหติ, ทฺเวปิ ติสฺโสปิ ตตุตฺตริมฺปิ ขณฺฑสีมาโย พนฺธิตพฺพา.

เอวํ ขณฺฑสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา มหาสีมสมฺมุติกาเล ขณฺฑสีมโต นิกฺขมิตฺวา มหาสีมายํ ตฺวา สมนฺตา อนุปริยายนฺเตหิ สีมนฺตริกปาสาณา กิตฺเตตพฺพา, ตโต อวเสสนิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา หตฺถปาสํ อวิชหนฺเตหิ กมฺมวาจาย สมานสํวาสกสีมํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ทฬฺหีกมฺมตฺถํ อวิปฺปวาสกมฺมวาจาปิ กาตพฺพา. เอวฺหิ ‘‘สีมํ สมูหนิสฺสามา’’ติ อาคตา สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. สเจ ปน ขณฺฑสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ตโต สีมนฺตริกาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา มหาสีมาย นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺติ, เอวํ ตีสุ าเนสุ นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ยํ สีมํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ปมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺตนเยน ขณฺฑสีมโตว ปฏฺาย พนฺธิตพฺพา. เอวํ พทฺธาสุ ปน สีมาสุ ขณฺฑสีมาย ิตา ภิกฺขู มหาสีมาย กมฺมํ กโรนฺตานํ น โกเปนฺติ, มหาสีมาย วา ิตา ขณฺฑสีมาย กโรนฺตานํ, สีมนฺตริกาย ปน ิตา อุภินฺนมฺปิ น โกเปนฺติ. คามเขตฺเต ตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ ปน สีมนฺตริกาย ิตา โกเปนฺติ. สีมนฺตริกา หิ คามเขตฺตํ ภชติ.

สีมา จ นาเมสา น เกวลา ปถวีตเลเยว พทฺธา พทฺธา นาม โหติ, อถ โข ปิฏฺิปาสาเณปิ กุฏิเคเหปิ เลเณปิ ปาสาเทปิ ปพฺพตมตฺถเกปิ พทฺธา พทฺธาเยว โหติ. ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ พนฺธนฺเตหิ ปาสาณปิฏฺิยํ ราชึ วา โกฏฺเฏตฺวา อุทุกฺขลํ วา ขณิตฺวา นิมิตฺตํ น กาตพฺพํ, นิมิตฺตุปคปาสาเณ เปตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. กมฺมวาจาปริโยสาเน สีมา ปถวีสนฺธารกํ อุทกปริยนฺตํ กตฺวา โอตรติ. นิมิตฺตปาสาณา ยถาาเน น ติฏฺนฺติ, ตสฺมา สมนฺตโต ราชิ วา อุปฏฺาเปตพฺพา, จตูสุ วา โกเณสุ ปาสาณา วิชฺฌิตพฺพา, ‘‘อยํ สีมาปริจฺเฉโท’’ติ วตฺวา อกฺขรานิ วา ฉินฺทิตพฺพานิ. เกจิ อุสูยกา ‘‘สีมํ ฌาเปสฺสามา’’ติ อคฺคึ เทนฺติ, ปาสาณาว ฌายนฺติ, น สีมา.

กุฏิเคเหปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสฏฺานํ อนฺโตกริตฺวา ปาสาณนิมิตฺตานิ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, อนฺโตกุฏฺฏเมว สีมา โหติ. สเจ อนฺโตกุฏฺเฏ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส นตฺถิ, ปมุเข นิมิตฺตปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ เอวมฺปิ นปฺปโหติ, พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเนปิ นิมิตฺตานิ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตาย ปน สพฺพํ กุฏิเคหํ สีมฏฺเมว โหติ.

จตุภิตฺติยเลเณปิ พนฺธนฺเตหิ กุฏฺฏํ อกิตฺเตตฺวา ปาสาณาว กิตฺเตตพฺพา, อนฺโต โอกาเส อสติ ปมุเขปิ นิมิตฺตานิ เปตพฺพานิ, เอวํ เลณสฺส อนฺโต จ พหิ จ สีมา โหติ.

อุปริปาสาเทปิ ภิตฺตึ อกิตฺเตตฺวา อนฺโตปาสาเณ เปตฺวา สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ นปฺปโหติ, ปมุเขปิ ปาสาเณ เปตฺวา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอวํ สมฺมตา อุปริปาสาเทเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ปน พหูสุ ถมฺเภสุ ตุลานํ อุปริ กตปาสาทสฺส เหฏฺิมตเล กุฏฺโฏ ยถา นิมิตฺตานํ อนฺโต โหติ, เอวํ อุฏฺหิตฺวา ตุลารุกฺเขหิ เอกสมฺพนฺโธ ิโต, เหฏฺาปิ โอตรติ, เอกถมฺภปาสาทสฺส ปน อุปริตเล พทฺธา สีมา. สเจ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส โหติ, เหฏฺา โอตรติ. สเจ ปาสาทภิตฺติโต นิคฺคเตสุ นิยฺยูหกาทีสุ ปาสาเณ เปตฺวา สีมํ พนฺธนฺติ, ปาสาทภิตฺติ อนฺโตสีมาย โหติ. เหฏฺา ปนสฺสา โอตรณาโนตรณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

เหฏฺาปาสาเท กิตฺเตนฺเตหิปิ ภิตฺติ จ รุกฺขตฺถมฺภา จ น กิตฺเตตพฺพา, ภิตฺติลคฺเค ปน ปาสาณตฺถมฺเภ กิตฺเตตุํ วฏฺฏติ. เอวํ กิตฺติตา สีมา เหฏฺาปาสาทสฺส ปริยนฺตถมฺภานํ อนฺโตเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺาปาสาทสฺส กุฏฺโฏ อุปริมตเลน สมฺพทฺโธ โหติ, อุปริปาสาทมฺปิ อภิรุหติ. สเจ ปาสาทสฺส พหิ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน นิมิตฺตานิ กโรนฺติ, สพฺโพ ปาสาโท สีมฏฺโ โหติ.

ปพฺพตมตฺถเก ตลํ โหติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสารหํ, ตตฺถ ปิฏฺิปาสาเณ วิย สีมํ พนฺธนฺติ, เหฏฺาปพฺพเตปิ เตเนว ปริจฺเฉเทน สีมา โอตรติ. ตาลมูลกปพฺพเตปิ อุปริ สีมา พทฺธา เหฏฺา โอตรเตว. โย ปน วิตานสณฺาโน โหติ, อุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาโส อตฺถิ, เหฏฺา นตฺถิ, ตสฺสุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. เอวํ มุทิงฺคสณฺาโน วา โหตุ ปณวสณฺาโน วา, ยสฺส เหฏฺา วา มชฺเฌ วา สีมปฺปมาณํ นตฺถิ, ตสฺส อุปริ พทฺธา สีมา เหฏฺา น โอตรติ. ยสฺส ปน ทฺเว กูฏานิ อาสนฺเน ิตานิ, เอกสฺสปิ อุปริ สีมปฺปมาณํ นปฺปโหติ, ตสฺส กูฏนฺตรํ จินิตฺวา วา ปูเรตฺวา วา เอกาพทฺธํ กตฺวา อุปริ สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. เอโก สปฺปผณสทิโส ปพฺพโต, ตสฺส อุปริ สีมปฺปมาณสฺส อตฺถิตาย สีมํ พนฺธนฺติ, ตสฺส เจ เหฏฺา อากาสปพฺภารํ โหติ, สีมา น โอตรติ. สเจ ปนสฺส เวมชฺเฌ สีมปฺปมาโณ สุสิรปาสาโณ โหติ, โอตรติ, โส จ ปาสาโณ สีมฏฺโเยว โหติ. อถาปิสฺส เหฏฺาเลณสฺส กุฏฺโฏ อคฺคโกฏึ อาหจฺจ ติฏฺติ , โอตรติ, เหฏฺา จ อุปริ จ สีมาเยว โหติ. สเจ ปน เหฏฺา อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส ปารโต อนฺโตเลณํ โหติ, พหิ สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริมสฺส สีมาปริจฺเฉทสฺส โอรโต พหิ เลณํ โหติ, อนฺโต สีมา น โอตรติ. อถาปิ อุปริ สีมาปริจฺเฉโท ขุทฺทโก, เหฏฺา เลณํ มหนฺตํ สีมาปริจฺเฉทมติกฺกมิตฺวา ิตํ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. ยทิ ปน เลณํ ขุทฺทกํ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณํ, อุปริ สีมา มหตี นํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา, สีมา โอตรติ. อถ เลณํ อติขุทฺทกํ สีมปฺปมาณํ น โหติ, สีมา อุปริเยว โหติ, เหฏฺา น โอตรติ. สเจ ตโต อุปฑฺฒํ ภิชฺชิตฺวา ปตติ, สีมปฺปมาณํ เจปิ โหติ, พหิ ปติตํ อสีมา. อปติตํ ปน ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยว.

ขณฺฑสีมา จ นีจวตฺถุกา โหติ, ตํ ปูเรตฺวา อุจฺจวตฺถุกํ กโรนฺติ, สีมาเยว. สีมาย เคหํ กโรนฺติ, สีมฏฺกเมว โหติ. สีมาย โปกฺขรณึ ขณนฺติ, สีมาเยว. โอโฆ สีมามณฺฑลํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉติ, สีมามาฬเก อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สีมาย เหฏฺา อุมงฺคนที โหติ, อิทฺธิมา ภิกฺขุ ตตฺถ นิสีทติ. สเจ สา นที ปมํ คตา, สีมา ปจฺฉา พทฺธา, กมฺมํ น โกเปติ. อถ ปมํ สีมา พทฺธา, ปจฺฉา นที คตา, กมฺมํ โกเปติ, เหฏฺาปถวีตเล ิโต ปน โกเปติเยว.

สีมามาฬเก วฏรุกฺโข โหติ, ตสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา มหาสีมาย ปถวีตลํ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ติฏฺติ, มหาสีมํ วา โสเธตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. อนาหจฺจ ิตสาขาทีสุ อารุฬฺหภิกฺขู หตฺถปาสํ อาเนตพฺพา. เอวํ มหาสีมาย ชาตรุกฺขสฺส สาขา วา ปาโรโห วา วุตฺตนเยเนว สีมามาฬเก ปติฏฺาติ, วุตฺตนเยเนว สีมํ โสเธตฺวา วา กมฺมํ กาตพฺพํ, เต วา สาขาปาโรหา ฉินฺทิตฺวา พหิฏฺกา กาตพฺพา. สเจ มาฬเก กมฺเม กริยมาเน โกจิ ภิกฺขุ มาฬกสฺส อนฺโต ปวิสิตฺวา เวหาสํ ิตสาขาย นิสีทติ, ปาทา วาสฺส ภูมิคตา โหนฺติ, นิวาสนปารุปนํ วา ภูมึ ผุสติ, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ปาเท ปน นิวาสนปารุปนฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ กมฺมํ วฏฺฏติ, อิทฺจ ลกฺขณํ ปุริมนเยปิ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺร อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, หตฺถปาสเมว อาเนตพฺโพ. สเจ อนฺโตสีมโต ปพฺพโต อพฺภุคฺคจฺฉติ, ตตฺรฏฺโ ภิกฺขุ หตฺถปาสํ อาเนตพฺโพ. อิทฺธิยา อนฺโตปพฺพตํ ปวิฏฺเปิ เอเสว นโย. พชฺฌมานา เอว หิ สีมา ปมาณรหิตํ ปเทสํ น โอตรติ, พทฺธาย สีมาย ชาตํ ยํ กิฺจิ ยตฺถ กตฺถจิ เอกสมฺพนฺเธน คตํ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ.

ติโยชนปรมํ ปน สีมํ สมฺมนฺนนฺเตน มชฺเฌ ตฺวา ยถา จตูสุปิ ทิสาสุ ทิยฑฺฒทิยฑฺฒโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ ปน มชฺเฌ ตฺวา เอเกกทิสโต ติโยชนํ กโรนฺติ, ฉโยชนํ โหตีติ น วฏฺฏติ. จตุรสฺสํ วา ติโกณํ วา สมฺมนฺนนฺเตน ยถา โกณโต โกณํ ติโยชนํ โหติ, เอวํ สมฺมนฺนิตพฺพา. สเจ หิ เยน เกนจิ ปริยนฺเตน เกสคฺคมตฺตมฺปิ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ, สีมา จ อสีมา โหติ.

๑๖๔. ‘‘น, ภิกฺขเว, นทีปารสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, โย สมฺมนฺเนยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๔๐) วจนโต นทีปารสีมา น สมฺมนฺนิตพฺพา. ยตฺร ปน ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถเยว อตฺถิ, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถสฺส ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา, เอวรูปํ นทีปารสีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. สเจ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺเถ นตฺถิ, อีสกํ อุทฺธํ อภิรุหิตฺวา อโธ วา โอโรหิตฺวา อตฺถิ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. กรวิกติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรปิ วฏฺฏตี’’ติ อาห.

อิมฺจ ปน นทีปารสีมํ สมฺมนฺนนฺเตน เอกสฺมิฺจ ตีเร ตฺวา อุปริโสเต นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย อตฺตานํ ปริกฺขิปนฺเตน ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส ปริโยสาเน อโธโสเตปิ นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปรตีเร สมฺมุขฏฺาเน นทีตีเร นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย ยตฺตกํ ปริจฺเฉทํ อิจฺฉติ, ตสฺส วเสน ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นทีตีเร นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ สพฺพนิมิตฺตานํ อนฺโต ิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา. นทิยา ิตา อนาคตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ปรตีเร จ โอริมตีเร จ เอกสีมา โหติ, นที ปน พทฺธสีมาสงฺขฺยํ น คจฺฉติ. วิสุํ นทีสีมา เอว หิ สา.

สเจ อนฺโตนทิยํ ทีปโก โหติ, ตํ อนฺโตสีมาย กาตุกาเมน ปุริมนเยเนว อตฺตนา ิตตีเร นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา ทีปกสฺส โอริมนฺเต จ ปาริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. อถ ปรตีเร นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฏฺาเน นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ปุริมนเยเนว ยาว อุปริโสเต ปมํ กิตฺติตนิมิตฺตสฺส สมฺมุขา นิมิตฺตํ, ตาว กิตฺเตตพฺพํ. อถ ทีปกสฺส ปาริมนฺเต จ โอริมนฺเต จ นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ปจฺจาหริตฺวา ปมํ กิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆเฏตพฺพํ. อถ ทฺวีสุ ตีเรสุ ทีปเกสุ จ ภิกฺขู สพฺเพ หตฺถปาสคเต กตฺวา กมฺมวาจาย สีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, นทิยํ ิตา อนาคจฺฉนฺตาปิ กมฺมํ น โกเปนฺติ, สมฺมุติปริโยสาเน เปตฺวา นทึ นิมิตฺตานํ อนฺโต ตีรทฺวยฺจ ทีปโก จ เอกสีมา โหติ, นที ปน นทีสีมาเยว.

สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธํ วา อโธ วา อธิกตโร โหติ, อถ วิหารสีมาปริจฺเฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว สมฺมุขีภูเต ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ทีปกสิขรํ ปริกฺขิปนฺเตน ปุน ทีปกสฺส โอริมนฺเต นิมิตฺตสมฺมุเข ปาริมนฺเต นิมิตฺตํ กิตฺเตตพฺพํ. ตโต ปรํ ปุริมนเยเนว ปรตีเร สมฺมุขนิมิตฺตมาทึ กตฺวา ปรตีเร นิมิตฺตานิ จ ทีปกสฺส ปาริมนฺตโอริมนฺเต นิมิตฺตานิ จ กิตฺเตตฺวา ปมกิตฺติตนิมิตฺเตน สทฺธึ ฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปพฺพตสณฺานา โหติ. สเจ ปน ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทโต อุทฺธมฺปิ อโธปิ อธิกตโร โหติ, ปุริมนเยเนว ทีปกสฺส อุโภปิ สิขรานิ ปริกฺขิปิตฺวา นิมิตฺตานิ กิตฺเตนฺเตน นิมิตฺตฆฏนา กาตพฺพา. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา มุทิงฺคสณฺานา โหติ. สเจ ทีปโก วิหารสีมาปริจฺเฉทสฺส อนฺโต ขุทฺทโก โหติ, สพฺพปเมน นเยน ทีปเก นิมิตฺตานิ กิตฺเตตพฺพานิ. เอวํ กิตฺเตตฺวา สมฺมตา สีมา ปณวสณฺานา โหติ. เอวํ ตาว สีมาพนฺธนํ เวทิตพฺพํ.

๑๖๕. เอวํ พทฺธา ปน สีมา กทา อสีมา โหตีติ? ยทา สงฺโฆ สีมํ สมูหนติ, ตทา อสีมา โหติ. กถํ ปเนสา สมูหนิตพฺพาติ? ‘‘สีมํ , ภิกฺขเว, สมฺมนฺนนฺเตน ปมํ สมานสํวาสสีมา สมฺมนฺนิตพฺพา, ปจฺฉา ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมนฺนิตพฺโพ. สีมํ, ภิกฺขเว, สมูหนนฺเตน ปมํ ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมูหนฺตพฺโพ, ปจฺฉา สมานสํวาสสีมา สมูหนฺตพฺพา’’ติ วจนโต ปมํ อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ, ปจฺฉา สีมา สมูหนิตพฺพาติ. กถํ? พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสํ สมูหเนยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, โย โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส สมฺมโต, สงฺโฆ ตํ ติจีเรน อวิปฺปวาสํ สมูหนติ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอตสฺส ติจีวเรน อวิปฺปวาสสฺส สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหโต โส สงฺเฆน ติจีวเรน อวิปฺปวาโส, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๕) –

เอวํ ตาว อวิปฺปวาโส สมูหนิตพฺโพ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหเนยฺย สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยา สา สงฺเฆน สีมา สมฺมตา สมานสํวาสา เอกูโปสถา, สงฺโฆ ตํ สีมํ สมูหนติ สมานสํวาสํ เอกูโปสถํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมูหตา สา สีมา สงฺเฆน สมานสํวาสา เอกูโปสถา, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๑๔๖) –

เอวํ สีมา สมูหนิตพฺพา.

สมูหนนฺเตน ปน ภิกฺขุนา วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตตฺริทํ วตฺตํ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๔) – ขณฺฑสีมาย ตฺวา อวิปฺปวาสสีมา น สมูหนฺตพฺพา, ตถา อวิปฺปวาสสีมาย ตฺวา ขณฺฑสีมาปิ. ขณฺฑสีมาย ปน ิเตน ขณฺฑสีมาว สมูหนิตพฺพา, ตถา อิตราย ิเตน อิตรา. สีมํ นาม ทฺวีหิ การเณหิ สมูหนนฺติ ปกติยา ขุทฺทกํ ปุน อาวาสวฑฺฒนตฺถาย มหตึ วา กาตุํ, ปกติยา มหตึ ปุน อฺเสํ วิหาโรกาสทานตฺถาย ขุทฺทกํ วา กาตุํ. ตตฺถ สเจ ขณฺฑสีมฺจ อวิปฺปวาสสีมฺจ ชานนฺติ, สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ ปน ชานนฺตา อวิปฺปวาสํ อชานนฺตาปิ สมูหนิตุฺเจว พนฺธิตุฺจ สกฺขิสฺสนฺติ. ขณฺฑสีมํ อชานนฺตา อวิปฺปวาสํเยว ชานนฺตา เจติยงฺคณโพธิยงฺคณอุปโอสถาคาราทีสุ นิราสงฺกฏฺาเนสุ ตฺวา อปฺเปว นาม สมูหนิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, ปฏิพนฺธิตุํ ปน น สกฺขิสฺสนฺเตว. สเจ พนฺเธยฺยุํ, สีมาสมฺเภทํ กตฺวา วิหารํ อวิหารํ กเรยฺยุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา. เย ปน อุโภปิ น ชานนฺติ, เต เนว สมูหนิตุํ, น พนฺธิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ. อยฺหิ สีมา นาม กมฺมวาจาย วา อสีมา โหติ สาสนนฺตรธาเนน วา, น จ สกฺกา สีมํ อชานนฺเตหิ กมฺมวาจา กาตุํ, ตสฺมา น สมูหนิตพฺพา, สาธุกํ ปน ตฺวาเยว สมูหนิตพฺพา เจว พนฺธิตพฺพา จาติ. อยํ ตาว พทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

๑๖๖. อพทฺธสีมา ปน คามสีมา สตฺตพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมาติ ติวิธา. ตตฺถ ยาวตา เอกํ คามเขตฺตํ, อยํ คามสีมา นาม, คามคฺคหเณน เจตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๔๗) นครมฺปิ นิคมมฺปิ คหิตเมว โหติ. ตตฺถ ยตฺตเก ปเทเส ตสฺส ตสฺส คามสฺส คามโภชกา พลึ ลภนฺติ, โส ปเทโส อปฺโป วา โหตุ มหนฺโต วา, คามสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. นครนิคมสีมาสุปิ เอเสว นโย. ยมฺปิ เอกสฺมึเยว คามเขตฺเต เอกํ ปเทสํ ‘‘อยํ วิสุํคาโม โหตู’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ราชา กสฺสจิ เทติ, โสปิ วิสุํคามสีมา โหติเยว, ตสฺมา สา จ อิตรา จ ปกติคามนครนิคมสีมา พทฺธสีมาสทิสาเยว โหนฺติ, เกวลํ ปน ติจีวรวิปฺปวาสปริหารํ น ลภนฺติ.

อคามเก ปน อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา สตฺตพฺภนฺตรสีมา นาม. ตตฺถ อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ มชฺเฌ ิตานํ สพฺพทิสาสุ สตฺตพฺภนฺตรา วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. ตตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถปฺปมาณํ โหติ. อยฺจ สีมา ปริสวเสน วฑฺฒติ , ตสฺมา สมนฺตา ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย อพฺภนฺตรปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. สเจ ปน ทฺเว สงฺฆา วิสุํ อุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺวินฺนํ สตฺตพฺภนฺตรานํ อนฺตเร อฺเมกํ อพฺภนฺตรํ อุปจารตฺถาย เปตพฺพํ.

๑๖๗. ยา ปเนสา ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) เอวํ นทีอาทีนํ พทฺธสีมภาวํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุน ‘‘นทิยา วา, ภิกฺขเว, สมุทฺเท วา ชาตสฺสเร วา ยํ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตา อุทกุกฺเขปา, อยํ ตตฺถ สมานสํวาสา เอกูโปสถา’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วุตฺตา, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม. ตตฺถ นที นทีนิมิตฺเต วุตฺตลกฺขณาว, สมุทฺโทปิ ปากโฏเยว. โย ปน เยน เกนจิ ขณิตฺวา อกโต สยํชาโต โสพฺโภ สมนฺตโต อาคเตน อุทเกน ปูริโต ติฏฺติ, ยตฺถ นทิยํ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยํ ชาตสฺสโร นาม. โยปิ นทึ วา สมุทฺทํ วา ภินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทเกน ขโต โสพฺโภ เอตํ ลกฺขณํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ ชาตสฺสโรเยว. เอเตสุ นทีอาทีสุ ยํ านํ ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สมนฺตโต อุทกุกฺเขเปน ปริจฺฉินฺนํ, อยํ อุทกุกฺเขปสีมา นาม.

กถํ ปน อุทกุกฺเขโป กาตพฺโพติ? ยถา อกฺขธุตฺตา ทารุคุฬํ ขิปนฺติ, เอวํ อุทกํ วา วาลุกํ วา หตฺเถน คเหตฺวา ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน สพฺพถาเมน ขิปิตพฺพํ. ยตฺถ เอวํ ขิตฺตํ อุทกํ วา วาลุกา วา ปตติ, อยเมโก อุทกุกฺเขโป, ตสฺส อนฺโตหตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ิโต กมฺมํ โกเปติ. ยาว ปริสา วฑฺฒติ, ตาว สีมาปิ วฑฺฒติ, ปริสปริยนฺตโต อุทกุกฺเขโปเยว ปมาณํ, อยํ ปน เอเตสํ นทีอาทีนํ อนฺโตเยว ลพฺภติ, น พหิ. ตสฺมา นทิยา วา ชาตสฺสเร วา ยตฺตกํ ปเทสํ ปกติวสฺสกาเล จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, สมุทฺเท ยสฺมึ ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, ตโต ปฏฺาย กปฺปิยภูมิ, ตตฺถ ตฺวา อุโปสถาทิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, ทุพฺพุฏฺิกาเล วา คิมฺเห วา นทีชาตสฺสเรสุ สุกฺเขสุปิ สา เอว กปฺปิยภูมิ. สเจ ปน สุกฺเข ชาตสฺสเร วาปึ วา ขณนฺติ, วปฺปํ วา กโรนฺติ, ตํ านํ คามเขตฺตํ โหติ. ยา ปเนสา ‘‘กปฺปิยภูมี’’ติ วุตฺตา, ตโต พหิ อุทกุกฺเขปสีมา น คจฺฉติ, อนฺโต คจฺฉติ, ตสฺมา เตสํ อนฺโต ปริสปริยนฺตโต ปฏฺาย สมนฺตา อุทกุกฺเขปปริจฺเฉโท กาตพฺโพ, อยเมตฺถ สงฺเขโป.

อยํ ปน วิตฺถาโร – สเจ นที นาติทีฆา โหติ, ปภวโต ปฏฺาย ยาว มุขทฺวารา สพฺพตฺถ สงฺโฆ นิสีทติ, อุทกุกฺเขปสีมาย กมฺมํ นตฺถิ, สกลาปิ นที เอเตสํเยว ภิกฺขูนํ ปโหติ . ยํ ปน มหาสุมตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘โยชนํ ปวตฺตมานาเยว นที, ตตฺราปิ อุปริ อฑฺฒโยชนํ ปหาย เหฏฺา อฑฺฒโยชเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ตํ มหาปทุมตฺเถเรเนว ปฏิกฺขิตฺตํ. ภควตา หิ ‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อุตฺตรนฺติยา ภิกฺขุนิยา อนฺตรวาสโก เตมิยตี’’ติ (ปาจิ. ๖๙๒) อิทํ นทิยา ปมาณํ วุตฺตํ, น โยชนํ วา อฑฺฒโยชนํ วา, ตสฺมา ยา อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน ปุพฺเพ วุตฺตลกฺขณา นที, ตสฺสา ปภวโต ปฏฺาย สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปเนตฺถ พหู ภิกฺขู วิสุํ วิสุํ กมฺมํ กโรนฺติ, สพฺเพหิ อตฺตโน จ อฺเสฺจ อุทกุกฺเขปปริจฺเฉทสฺส อนฺตรา อฺโ อุทกุกฺเขโป สีมนฺตริกตฺถาย เปตพฺโพ, ตโต อธิกํ วฏฺฏติเยว, อูนํ ปน น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. ชาตสฺสรสมุทฺเทปิ เอเสว นโย.

นทิยา ปน ‘‘กมฺมํ กริสฺสามา’’ติ คเตหิ สเจ นที ปริปุณฺณา โหติ สมติตฺติกา, อุทกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา อนฺโตนทิยํเยว กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ น สกฺโกนฺติ, นาวายปิ ตฺวา กาตพฺพํ. คจฺฉนฺติยา ปน นาวาย กาตุํ น วฏฺฏติ. กสฺมา? อุทกุกฺเขปมตฺตเมว หิ สีมา. ตํ นาวา สีฆเมว อติกฺกมติ, เอวํ สติ อฺิสฺสา สีมาย ตฺติ, อฺิสฺสา อนุสาวนา โหติ, ตสฺมา นาวํ อริตฺเตน วา เปตฺวา ปาสาเณ วา ลมฺเพตฺวา อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเข วา พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. อนฺโตนทิยํ พทฺธอฏฺฏเกปิ อนฺโตนทิยํ ชาตรุกฺเขปิ ิเตหิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิกฺขนฺตปาโรโห วา พหินทีตีเร วิหารสีมาย วา คามสีมาย วา ปติฏฺิโต, สีมํ วา โสเธตฺวา สาขํ วา ฉินฺทิตฺวา กมฺมํ กาตพฺพํ. พหินทีตีเร ชาตรุกฺขสฺส อนฺโตนทิยํ ปวิฏฺสาขาย วา ปาโรเห วา นาวํ พนฺธิตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺเตหิ สีมา วา โสเธตพฺพา, ฉินฺทิตฺวา วาสฺส พหิปติฏฺิตภาโว นาเสตพฺโพ. นทีตีเร ปน ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ พทฺธนาวาย น วฏฺฏติเยว. นทิยํ เสตุํ กโรนฺติ, สเจ อนฺโตนทิยํเยว เสตุ จ เสตุปาทา จ โหนฺติ, เสตุมฺหิ ิเตหิ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เสตุ วา เสตุปาทา วา พหิตีเร ปติฏฺิตา, กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, สีมํ โสเธตฺวา กาตพฺพํ. อถ เสตุปาทา อนฺโต, เสตุ ปน อุภินฺนมฺปิ ตีรานํ อุปริอากาเส ิโต, วฏฺฏติ.

อนฺโตนทิยํ ปาสาโณ วา ทีปโก วา โหติ, ตตฺถ ยตฺตกํ ปเทสํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร ปกติวสฺสกาเล วสฺสานสฺส จตูสุ มาเสสุ อุทกํ โอตฺถรติ, โส นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. อติวุฏฺิกาเล โอเฆน โอตฺถโตกาโส น คเหตพฺโพ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทิโต มาติกํ นีหรนฺตา นทิยํ อาวรณํ กโรนฺติ, ตํ เจ โอตฺถริตฺวา วา วินิพฺพิชฺฌิตฺวา วา อุทกํ คจฺฉติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตนฏฺาเน กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน อาวรเณน วา โกฏฺฏกพนฺธเนน วา โสตํ ปจฺฉินฺทติ, อุทกํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตนฏฺาเน กาตุํ น วฏฺฏติ, อาวรณมตฺตเกปิ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ โกจิ อาวรณปฺปเทโส ปุพฺเพ วุตฺตปาสาณทีปกปฺปเทโส วิย อุทเกน อชฺโฌตฺถรียติ, ตตฺถ วฏฺฏติ. โส หิ นทีสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. นทึ วินาเสตฺวา ตฬากํ กโรนฺติ, เหฏฺา ปาฬิพทฺธา อุทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อุปริ ปวตฺตนฏฺาเน เหฏฺา จ ฉฑฺฑิโตทกํ นทึ โอตริตฺวา สนฺทนฏฺานโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. เทเว อวสฺสนฺเต เหมนฺตคิมฺเหสุ วา สุกฺขนทิยาปิ วฏฺฏติ, นทิโต นีหฏมาติกาย น วฏฺฏติ. สเจ สา กาลนฺตเรน ภิชฺชิตฺวา นที โหติ, วฏฺฏติ. กาจิ นที อุปฺปติตฺวา คามนิคมสีมํ โอตฺถริตฺวา ปวตฺตติ, นทีเยว โหติ, กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สมุทฺเทปิ กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยํ ปเทสํ อุทฺธํ วฑฺฒนอุทกํ วา ปกติวีจิ วา เวเคน อาคนฺตฺวา โอตฺถรติ, ตตฺถ กาตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ปกติวีจิโย โอสริตฺวา สณฺหนฺติ, โส อุทกนฺตโต ปฏฺาย อนฺโต สมุทฺโท นาม, ตตฺถ ิเตหิ กมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อูมิเวโค พาธติ, นาวาย วา อฏฺฏเก วา ตฺวา กาตพฺพํ. เตสุ วินิจฺฉโย นทิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สมุทฺเท ปิฏฺิปาสาโณ โหติ, ตํ กทาจิ อูมิโย อาคนฺตฺวา โอตฺถรนฺติ, กทาจิ น โอตฺถรนฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โส หิ คามสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. สเจ ปน วีจีสุ อาคตาสุปิ อนาคตาสุปิ ปกติอุทเกเนว โอตฺถรียติ, วฏฺฏติ. ทีปโก วา ปพฺพโต วา โหติ, โส เจ ทูเร โหติ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ, อรฺสีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. เตสํ คมนปริยนฺตสฺส โอรโต ปน คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตตฺถ คามสีมํ อโสเธตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สมุทฺโท คามสีมํ วา นิคมสีมํ วา โอตฺถริตฺวา ติฏฺติ, สมุทฺโทว โหติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน วิหารสีมํ โอตฺถรติ, วิหารสีมาตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

ชาตสฺสเร กมฺมํ กโรนฺเตหิ ยตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล วสฺเส ปจฺฉินฺนมตฺเต ปิวิตุํ วา หตฺถปาเท วา โธวิตุํ อุทกํ น โหติ, สุกฺขติ, อยํ น ชาตสฺสโร, คามเขตฺตสงฺขฺยเมว คจฺฉติ, ตตฺถ กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยตฺถ ปน วุตฺตปฺปกาเร วสฺสกาเล อุทกํ สนฺติฏฺติ, อยเมว ชาตสฺสโร. ตสฺส ยตฺตเก ปเทเส วสฺสานํ จาตุมาเส อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ คมฺภีรํ อุทกํ, อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ิเตหิปิ ชาตสฺสรสฺส อนฺโตชาตรุกฺขมฺหิ พทฺธอฏฺฏเกปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปิฏฺิปาสาณทีปเกสุ ปเนตฺถ นทิยํ วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. สมวสฺสเทวกาเล ปโหนกชาตสฺสโร ปน เจปิ ทุพฺพุฏฺิกกาเล วา คิมฺหเหมนฺเตสุ วา สุกฺขติ, นิรุทโก โหติ, ตตฺถ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ยํ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺโพ ชาตสฺสโร สุกฺโข อโนทโก คามเขตฺตํเยว ภชตี’’ติ, ตํ น คเหตพฺพํ. สเจ ปเนตฺถ อุทกตฺถาย อาวาฏํ วา โปกฺขรณีอาทีนิ วา ขณนฺติ, ตํ านํ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. ลาพุติปุสกาทิวปฺเป กเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน นํ ปูเรตฺวา ถลํ วา กโรนฺติ, เอกสฺมึ ทิสาภาเค ปาฬึ พนฺธิตฺวา สพฺพเมว นํ มหาตฬากํ วา กโรนฺติ, สพฺโพปิ อชาตสฺสโร โหติ, คามสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โลณีปิ ชาตสฺสรสงฺขฺยเมว คจฺฉติ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุทกฏฺาโนกาเส กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตีติ. อยํ อพทฺธสีมาย วินิจฺฉโย.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

สีมาวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.