📜
๒๖. วสฺสูปนายิกวินิจฺฉยกถา
๑๗๙. วสฺสูปนายิกาติ ¶ เอตฺถ ปุริมิกา ปจฺฉิมิกาติ ทุเว วสฺสูปนายิกา. ตตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๘๔ อาทโย) อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส ปุริมิกา อุปคนฺตพฺพา, ปจฺฉิมิกา ปน อาสาฬฺหีปุณฺณมโต อปราย ปุณฺณมาย อนนฺตเร ปาฏิปททิวเส. อุปคจฺฉนฺเตน จ วิหารํ ปฏิชคฺคิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปตฺวา สพฺพํ เจติยวนฺทนาทิสามีจิกมฺมํ นิฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ สกึ วา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ วา วาจํ นิจฺฉาเรตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. สเจปิ ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลโย อตฺถิ, อสติยา ปน วสฺสํ น อุเปติ, คหิตเสนาสนํ สุคฺคหิตํ, ฉินฺนวสฺโส น โหติ, ปวาเรตุํ ลภติเยว. วินาปิ หิ วจีเภทํ อาลยกรณมตฺเตนปิ วสฺสํ อุปคตเมว โหติ. ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาโทเยเวตฺถ อาลโย นาม.
‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, ตทหุวสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อนุปคนฺตุกาเมน สฺจิจฺจ อาวาโส อติกฺกมิตพฺโพ, โย อติกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๖) วจนโต วสฺสูปนายิกทิวเส วสฺสํ อนุปคนฺตุกาโม วิหารสีมํ อติกฺกมติ, วิหารคณนาย ทุกฺกฏํ. สเจ หิ ตํ ทิวสํ วิหารสตสฺส อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อติกฺกมติ, สตํ อาปตฺติโย. สเจ ปน วิหารํ อติกฺกมิตฺวา อฺสฺส วิหารสฺส อุปจารํ อโนกฺกมิตฺวาว นิวตฺตติ, เอกาว อาปตฺติ. เกนจิ อนฺตราเยน ปุริมิกํ อนุปคเตน ปจฺฉิมิกา อุปคนฺตพฺพา.
‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต ยสฺส ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺนํ โยชิตทฺวารพนฺธนํ เสนาสนํ นตฺถิ, เตน น อุปคนฺตพฺพํ. ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉวกุฏิกาย วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ(มหาว. ๒๐๔) อาทิวจนโต ฉวกุฏิกายํ ฉตฺเต จาฏิยฺจ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ฉวกุฏิกา นาม ฏงฺกิตมฺจาทิเภทา กุฏิ. ตตฺเถว อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, สุสาเน ปน อฺํ กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺเตปิ จตูสุ ถมฺเภสุ ฉตฺตํ เปตฺวา อาวรณํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, ฉตฺตกุฏิ นาเมสา ¶ โหติ. จาฏิยาปิ มหนฺเตน กปลฺเลน ฉตฺเต วุตฺตนเยน กุฏิกํ กตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺขสุสิเร วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ, โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔) วจนโต สุทฺเธ รุกฺขสุสิเร อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหนฺตสฺส ปน รุกฺขสุสิรสฺส อนฺโต ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ปวิสนทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ, รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ขาณุกมตฺถเก ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวาปิ วฏฺฏติเยว. ‘‘น, ภิกฺขเว, รุกฺขวิฏภิยา’’ติ(มหาว. ๒๐๔) อาทิวจนโต สุทฺเธ วิฏภิมตฺเต อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ, มหาวิฏเป ปน อฏฺฏกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ ปทรจฺฉทนํ กุฏิกํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อุปคนฺตพฺพํ.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วเช วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติอาทิวจนโต วเช สตฺเถ นาวายฺจ อุปคนฺตุํ วฏฺฏติ. ตตฺถ วโชติ โคปาลกานํ นิวาสฏฺานํ. วเช วุฏฺิเต วเชน สทฺธึ คตสฺส วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เยน วโช, เตน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๐๓) วุตฺตตฺตา. สตฺเถ ¶ วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน ปน วสฺสูปนายิกทิวเส อุปาสกา วตฺตพฺพา ‘‘กุฏิกา ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. สเจ กริตฺวา เทนฺติ, ตตฺถ ปวิสิตฺวา ‘‘อิธ วสฺสํ อุเปมี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, สาลาสงฺเขเปน ิตสกฏสฺส เหฏฺา อุปคนฺตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ, สตฺเถ ปน วสฺสํ อุปคนฺตุํ น วฏฺฏติ. อาลโย นาม ‘‘อิธ วสฺสํ วสิสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺตํ. สเจ มคฺคปฺปฏิปนฺเนเยว สตฺเถ ปวารณาทิวโส โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว ภิกฺขุนา ปตฺถิตฏฺานํ ปตฺวา อติกฺกมติ, ปตฺถิตฏฺาเน วสิตฺวา ตตฺถ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อถาปิ สตฺโถ อนฺโตวสฺเสเยว อนฺตรา เอกสฺมึ คาเม ติฏฺติ วา วิปฺปกิรติ วา, ตสฺมึเยว คาเม ภิกฺขูหิ สทฺธึ วสิตฺวา ปวาเรตพฺพํ, อปฺปวาเรตฺวา ตโต ปรํ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. นาวาย วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตนปิ กุฏิยํเยว อุปคนฺตพฺพํ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺเตน อาลโย กาตพฺโพ. สเจ อนฺโตเตมาสํ นาวา สมุทฺเทเยว โหติ, ตตฺเถว ปวาเรตพฺพํ. อถ นาวา กูลํ ลภติ, อยฺจ ปรโต คนฺตุกาโม โหติ, คนฺตุํ น วฏฺฏติ, นาวาย ลทฺธคาเมเยว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. สเจปิ นาวา อนุตีรเมว อฺตฺถ คจฺฉติ, ภิกฺขุ จ ปมํ ลทฺธคาเมเยว วสิตุกาโม, นาวา คจฺฉตุ, ภิกฺขุนา ตตฺเถว วสิตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปวาเรตพฺพํ. อิติ วเช สตฺเถ นาวายนฺติ ตีสุ าเนสุ นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ, ปวาเรตฺุจ ลภติ.
‘‘น, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปุริมํ วา เตมาสํ ปจฺฉิมํ วา เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา ¶ ปกฺกมิตพฺพา, โย ปกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๘๖) วจนโต ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคเตน ปุริมํ เตมาสํ, ปจฺฉิมิกาย อุปคเตน ปจฺฉิมํ เตมาสํ อวสิตฺวา จาริกา น ปกฺกมิตพฺพา, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปน อรุณํ อนุฏฺาเปตฺวาปิ ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺสปิ อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส อนาปตฺติ, โก ปน วาโท ทฺวีหตีหํ วสิตฺวา สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกมนฺตสฺส อนฺโตสตฺตาเห นิวตฺตนฺตสฺส.
๑๘๐. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน ปหิเต คนฺตุํ, น ตฺเวว อปฺปหิเต. ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส ¶ สามเณริยา อุปาสกสฺส อุปาสิกายา’’ติ (มหาว. ๑๘๗) วจนโต ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อฺตเรน สงฺฆคณปุคฺคเล อุทฺทิสฺส อตฺตโน วา อตฺถาย วิหารํ อฑฺฒโยคํ ปาสาทํ หมฺมิยํ คุหํ ปริเวณํ โกฏฺกํ อุปฏฺานสาลํ อคฺคิสาลํ กปฺปิยกุฏึ วจฺจกุฏึ จงฺกมํ จงฺกมนสาลํ อุทปานํ อุทปานสาลํ ชนฺตาฆรํ ชนฺตาฆรสาลํ โปกฺขรณึ มณฺฑปํ อารามํ อารามวตฺถุํ วา กาเรตฺวา ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ เอวํ นิทฺทิสิตฺวา เปสิเต คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต. อุปาสโก วา อุปาสิกา วา ตเถว สงฺฆคณปุคฺคเล อุทฺทิสฺส วิหาราทีสุ อฺตรํ กาเรตฺวา อตฺตโน วา อตฺถาย นิเวสนสยนิฆราทีสุ อฺตรํ การาเปตฺวา อฺํ วา กิจฺจกรณียํ นิทฺทิสิตฺวา คิลาโน วา หุตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อาคจฺฉนฺตุ ภทนฺตา, อิจฺฉามิ ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ภิกฺขู จ ปสฺสิตุ’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตนฺนํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ คนฺตุํ, ปเคว ปหิเต. ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา มาตุยา จ ปิตุสฺส จา’’ติ (มหาว. ๑๙๘) วจนโต ‘‘คิลานานํ เอเตสํ ภิกฺขุอาทีนํ สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนฺจ คิลานานํเยว คิลานภตฺตํ วา คิลานุปฏฺากภตฺตํ วา เภสชฺชํ วา ปริเยสิสฺสามิ, ปุจฺฉิสฺสามิ วา อุปฏฺหิสฺสามิ วา’’ติ อิมินา การเณน อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘เย มาตาปิตูนํ อุปฏฺากา าตกา วา อฺาตกา วา, เตสมฺปิ อปฺปหิเต คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ เนว อฏฺกถายํ, น ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ.
สเจ ปน ภิกฺขุโน ภาตา วา อฺโ วา าตโก คิลาโน โหติ, โส เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อหํ คิลาโน, อาคจฺฉตุ ภทนฺโต, อิจฺฉามิ ภทนฺตสฺส อาคต’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต. สเจ เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธึ ¶ วสนฺโต ภิกฺขุภตฺติโก คิลาโน โหติ, โส เจ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปหิเณยฺย ‘‘อหํ คิลาโน, อาคจฺฉนฺตุ ภิกฺขู, อิจฺฉามิ ภิกฺขูนํ อาคต’’นฺติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน, น ตฺเวว อปฺปหิเต.
สเจ ¶ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยา อนภิรติ วา กุกฺกุจฺจํ วา ทิฏฺิคตํ วา อุปฺปนฺนํ โหติ, คนฺตพฺพํ สตฺตาหกรณีเยน อปฺปหิเตปิ ‘‘อนภิรตึ วูปกาเสสฺสามิ วา วูปกาสาเปสฺสามิ วา กุมฺกุจฺจํ วิโนเทสฺสามิ วา วิโนทาเปสฺสามิ วา ทิฏฺิคตํ วิเวเจสฺสามิ วา วิเวจาเปสฺสามิ วา ธมฺมกถํ วา กริสฺสามี’’ติ, ปเคว ปหิเต. สเจ โกจิ ภิกฺขุ ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺโน โหติ ปริวาสารโห มูลายปฏิกสฺสนารโห มานตฺตารโห อพฺภานารโห วา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ ‘‘ปริวาสทานาทีสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิสฺสามิ, อนุสฺสาเวสฺสามิ, คณปูรโก วา ภวิสฺสามี’’ติ, ปเคว ปหิเต. ภิกฺขุนิยาปิ มานตฺตารหาย มูลายปฏิกสฺสนารหาย อพฺภานารหาย วา เอเสว นโย. สเจ สามเณโร อุปสมฺปชฺชิตุกาโม โหติ, วสฺสํ วา ปุจฺฉิตุกาโม, สิกฺขมานา วา อุปสมฺปชฺชิตุกามา โหติ, สิกฺขา วาสฺสา กุปิตา, สามเณรี วา สิกฺขา สมาทิยิตุกามา โหติ, วสฺสํ วา ปุจฺฉิตุกามา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต.
สเจ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา วา สงฺโฆ กมฺมํ กาตุกาโม โหติ, ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา ปพฺพาชนียํ วา ปฏิสารณียํ วา อุกฺเขปนียํ วา, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ, ปเคว ปหิเต ‘‘กึ นุ โข สงฺโฆ กมฺมํ น กเรยฺย, ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยา’’ติ. สเจปิ กตํเยว โหติ กมฺมํ, อปฺปหิเตปิ คนฺตพฺพํ ‘‘กึ นุ โข สมฺมา วตฺเตยฺย, โลมํ ปาเตยฺย, เนตฺถารํ วตฺเตยฺย, สงฺโฆ ตํ กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภยฺยา’’ติ.
๑๘๑. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆกรณีเยน คนฺตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๙๙) วจนโต เสนาสนปฏิพทฺธสงฺฆกรณีเยนปิ คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ (มหาว. อฏฺ. ๑๙๙) หิ ยํ กิฺจิ อุโปสถาคาราทีสุ เสนาสเนสุ เจติยฉตฺตเวทิกาทีสุ วา กตฺตพฺพํ, อนฺตมโส ภิกฺขุโน ปุคฺคลิกเสนาสนมฺปิ สพฺพํ สงฺฆกรณียเมวาติ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ตสฺส นิปฺผาทนตฺถํ ทพฺพสมฺภาราทีนิ วา อาหริตุํ วฑฺฒกีปภุตีนํ ภตฺตเวตนาทีนิ วา ทาตุํ คนฺตพฺพํ. อปิเจตฺถ อยมฺปิ ปาฬิมุตฺตกนโย เวทิตพฺโพ – ธมฺมสฺสวนตฺถาย อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติ, สเจ เอกสฺมึ มหาวาเส ปมํเยว กติกา กตา โหติ ‘‘อสุกทิวสํ ¶ นาม สนฺนิปติตพฺพ’’นฺติ, นิมนฺติโตเยว นาม โหติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภณฺฑกํ โธวิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ น วฏฺฏติ. สเจ ปน ¶ อาจริยุปชฺฌายา ปหิณนฺติ, วฏฺฏติ. นาติทูเร วิหาโร โหติ, ‘‘ตตฺถ คนฺตฺวา อชฺเชว อาคมิสฺสามี’’ติ สมฺปาปุณิตุํ น สกฺโกติ, วฏฺฏติ. อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อตฺถายปิ คนฺตุํ น ลภติ, ‘‘อาจริยํ ปน ปสฺสิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ ลภติ. สเจ นํ อาจริโย ‘‘อชฺช มา คจฺฉา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ, อุปฏฺากกุลํ วา าติกุลํ วา ทสฺสนาย คนฺตุํ น ลภติ.
สเจ ภิกฺขูสุ วสฺสูปคเตสุ คาโม โจเรหิ วุฏฺาติ, ตตฺถ กึ กาตพฺพนฺติ? เยน คาโม, เตน คนฺตพฺพํ. สเจ คาโม ทฺวิธา ภิชฺชติ, ยตฺถ พหุตรา มนุสฺสา, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. สเจ พหุตรา อสฺสทฺธา โหนฺติ อปฺปสนฺนา, ยตฺถ สทฺธา ปสนฺนา, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. เอตฺถ จ สเจ คาโม อวิทูรคโต โหติ, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารเมว อาคนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ ทูรํ คโต, สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฏฺาเปตพฺโพ, น สกฺกา เจ โหติ, ตตฺเถว สภาคฏฺาเน วสิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ยถาปวตฺตานิ สลากภตฺตาทีนิ เทนฺติ, ‘‘น มยํ ตสฺมึ วิหาเร วสิมฺหา’’ติ วตฺตพฺพา. ‘‘มยํ วิหารสฺส วา ปาสาทสฺส วา น เทม, ตุมฺหากํ เทม, ยตฺถ กตฺถจิ วสิตฺวา ภฺุชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยถาสุขํ ภฺุชิตพฺพํ, เตสํเยว ตํ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺหากํ วสนฏฺาเน ปาปุณาเปตฺวา ภฺุชถา’’ติ วุตฺเต ปน ยตฺถ วสนฺติ, ตตฺถ เนตฺวา วสฺสคฺเคน ปาปุณาเปตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. สเจ ปวาริตกาเล วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ยทิ สตฺตาหวาเรน อรุณํ อุฏฺาปยึสุ, คเหตพฺพํ. ฉินฺนวสฺเสหิ ปน ‘‘น มยํ ตตฺถ วสิมฺห, ฉินฺนวสฺสา มย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ยทิ ‘‘เยสํ อมฺหากํ เสนาสนํ ปาปิตํ, เต คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, คเหตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘วิหาเร อุปนิกฺขิตฺตกํ มา วินสฺสี’’ติ อิธ อาหฏํ จีวราทิเวภงฺคิยภณฺฑํ, ตํ ตตฺเถว คนฺตฺวา อปโลเกตฺวา ภาเชตพฺพํ. ‘‘อิโต อยฺยานํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทถา’’ติ กปฺปิยการกานํ ทินฺเน เขตฺตวตฺถุอาทิเก ตตฺรุปฺปาเทปิ เอเสว นโย. สงฺฆิกฺหิ เวภงฺคิยภณฺฑํ อนฺโตวิหาเร วา พหิสีมาย วา โหตุ, พหิสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ น วฏฺฏติ. อุภยตฺถ ิตมฺปิ ปน อนฺโตสีมาย ิตานํ อปโลเกตฺวา ภาเชตุํ วฏฺฏติเยว.
สเจ ¶ ปน วสฺสูปคตา ภิกฺขู วาเฬหิ อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, คณฺหนฺติปิ ปริปาเตนฺติปิ, สรีสเปหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, ฑํสนฺติปิ ปริปาเตนฺติปิ, โจเรหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, วิลุมฺปนฺติปิ อาโกเฏนฺติปิ, ปิสาเจหิ วา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ, อาวิสนฺติปิ หนนฺติปิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ. สเจ คาโม อคฺคินา วา ทฑฺโฒ โหติ, อุทเกน วา วุฬฺโห. ภิกฺขู ปิณฺฑเกน กิลมนฺติ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ. เสนาสนํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วุฬฺหํ, ภิกฺขู เสนาสเนน กิลมนฺติ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ. สเจ ¶ วสฺสูปคตา ภิกฺขู น ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, น ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจปิ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, น ลภนฺติ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ. สเจ ลภนฺติ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูรึ, ลภนฺติ สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภนฺติ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, น ลภนฺติ ปติรูปํ อุปฏฺากํ, ‘‘เอเสว อนฺตราโย’’ติ ปกฺกมิตพฺพํ, สพฺพตฺถ วสฺสจฺเฉเท อนาปตฺติ.
สเจ ปน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ อิตฺถี นิมนฺเตติ ‘‘เอหิ, ภนฺเต, หิรฺํ วา เต เทมิ, สุวณฺณํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา คาวุํ วา คาวึ วา ทาสํ วา ทาสึ วา เต เทมิ, ธีตรํ วา เต เทมิ ภริยตฺถาย, อหํ วา เต ภริยา โหมิ, อฺํ วา เต ภริยํ อาเนมี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ลหุปริวตฺตํ โข จิตฺตํ วุตฺตํ ภควตา, สิยาปิเม พฺรหฺมจริยสฺส อนฺตราโย’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, นตฺถิ วสฺสจฺเฉเท อาปตฺติ. วุตฺตนเยเนว เวสี วา นิมนฺเตติ, ถุลฺลกุมารี วา นิมนฺเตติ, ปณฺฑโก วา นิมนฺเตติ, าตกา วา นิมนฺเตนฺติ, ราชาโน วา นิมนฺเตนฺติ, โจรา วา นิมนฺเตนฺติ, ธุตฺตา วา นิมนฺเตนฺติ, เอเสว นโย. สเจ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ ปสฺสติ อสามิกํ นิธึ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ลหุปริวตฺตํ โข จิตฺตํ วุตฺตํ ภควตา, สิยาปิ เม พฺรหฺมจริยสฺส อนฺตราโย’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท.
สเจ ¶ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ ปสฺสติ สมฺพหุเล ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺเต, สุณาติ วา ‘‘สมฺพหุลา ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘ครุโก โข สงฺฆเภโท วุตฺโต ภควตา, มา มยิ สมฺมุขีภูเต สงฺโฆ ภิชฺชี’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท. สเจ วสฺสูปคโต ภิกฺขุ สุณาติ ‘‘อสุกสฺมึ กิร อาวาเส สมฺพหุลา ภิกฺขู สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตี’’ติ, ตตฺร เจ ภิกฺขุโน เอวํ โหติ ‘‘เต จ โข เม ภิกฺขู มิตฺตา, ตฺยาหํ วกฺขามิ ‘ครุโก โข, อาวุโส, สงฺฆเภโท วุตฺโต ภควตา, มา อายสฺมนฺตานํ สงฺฆเภโท รุจฺจิตฺถา’ติ, กริสฺสนฺติ เม วจนํ สุสฺสูสิสฺสนฺติ, โสตํ โอทหิสฺสนฺตี’’ติ, ปกฺกมิตพฺพํ, อนาปตฺติ วสฺสจฺเฉเท, ภินฺเน ปน สงฺเฆ คนฺตฺวา กรณียํ นตฺถิ.
สเจ ¶ ปน โกจิ ภิกฺขุ ‘‘อิมํ เตมาสํ อิธ วสฺสํ วสถา’’ติ วุตฺเต ปฏิสฺสุณิตฺวา วิสํวาเทติ, ทุกฺกฏํ. น เกวลํ ตสฺเสว ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏํ, ‘‘อิมํ เตมาสํ ภิกฺขํ คณฺหถ, อุโภปิ มยํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสาม, เอกโต อุทฺทิสาเปสฺสามา’’ติ เอวมาทินาปิ ตสฺส ตสฺส ปฏิสฺสวสฺส วิสํวาเท ทุกฺกฏํ. ตฺจ โข ปมํ สุทฺธจิตฺตสฺส ปจฺฉา วิสํวาทนปจฺจยา, ปมมฺปิ อสุทฺธจิตฺตสฺส ปน ปฏิสฺสเว ปาจิตฺติยํ. วิสํวาเท ทุกฺกฏนฺติ ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ ยุชฺชติ.
๑๘๒. วสฺสูปคเตหิ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘) อนฺโตวสฺเส นิพทฺธวตฺตํ เปตฺวา วสฺสูปคตา ภิกฺขู ‘‘สมฺมฺุชนิโย พนฺธถา’’ติ วตฺตพฺพา. สุลภา เจ ทณฺฑกา เจว สลากาโย จ โหนฺติ, เอกเกน ฉ ปฺจ มุฏฺิสมฺมฺุชนิโย ทฺเว ติสฺโส ยฏฺิสมฺมฺุชนิโย วา พนฺธิตพฺพา. ทุลฺลภา โหนฺติ, ทฺเว ติสฺโส มุฏฺิสมฺมฺุชนิโย เอกา ยฏฺิสมฺมฺุชนี พนฺธิตพฺพา. สามเณเรหิ ปฺจ ปฺจ อุกฺกา วา โกฏฺเฏตพฺพา, วสนฏฺาเนสุ กสาวปริภณฺฑํ กาตพฺพํ. วตฺตํ กโรนฺเตหิ จ น อุทฺทิสิตพฺพํ น อุทฺทิสาเปตพฺพํ, น สชฺฌาโย กาตพฺโพ, น ปพฺพาเชตพฺพํ น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น ธมฺมสฺสวนํ กาตพฺพํ. สพฺเพว หิ เอเต ปปฺจา, นิปฺปปฺจา หุตฺวา สมณธมฺมเมว กริสฺสามาติ วา สพฺเพ เตรส ธุตงฺคานิ สมาทิยนฺตุ, เสยฺยํ อกปฺเปตฺวา านจงฺกเมหิ วีตินาเมนฺตุ, มูคพฺพตํ คณฺหนฺตุ, สตฺตาหกรณีเยน คตาปิ ¶ ภาชนียภณฺฑํ ลภนฺตูติ วา เอวรูปํ อธมฺมิกวตฺตํ น กาตพฺพํ. เอวํ ปน กาตพฺพํ – ปริยตฺติธมฺโม นาม ติวิธมฺปิ สทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปติ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ปธานฆเร วสนฺตานํ สงฺฆฏฺฏนํ อกตฺวา อนฺโตวิหาเร นิสีทิตฺวา อุทฺทิสถ อุทฺทิสาเปถ, สชฺฌายํ กโรถ, ธมฺมสฺสวนํ สมิทฺธํ กโรถ, ปพฺพาเชนฺตา โสเธตฺวา ปพฺพาเชถ, โสเธตฺวา อุปสมฺปาเทถ, โสเธตฺวา นิสฺสยํ เทถ. เอโกปิ หิ กุลปุตฺโต ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภิตฺวา สกลํ สาสนํ ปติฏฺาเปติ, อตฺตโน ถาเมน ยตฺตกานิ สกฺโกถ, ตตฺตกานิ ธุตงฺคานิ สมาทิยถ, อนฺโตวสฺสํ นาเมตํ สกลทิวสํ รตฺติยา จ ปมยามปจฺฉิมยาเมสุ อปฺปมตฺเตหิ ภวิตพฺพํ, วีริยํ อารภิตพฺพํ. โปราณกมหาเถราปิ สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา อนฺโตวสฺเส เอกจาริยวตฺตํ ปูรยึสุ, ภสฺเส มตฺตํ ชานิตฺวา ทสวตฺถุกถํ ทสอสุภทสานุสฺสติอฏฺตึสารมฺมณกถํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาคนฺตุกานํ วตฺตํ กาตุํ, สตฺตาหกรณีเยน คตานํ อปโลเกตฺวา ทาตุํ วฏฺฏตีติ เอวรูปํ วตฺตํ กาตพฺพํ.
อปิจ ภิกฺขู โอวทิตพฺพา ‘‘วิคฺคาหิกปิสุณผรุสวจนานิ มา วทถ, ทิวเส ทิวเส สีลานิ อาวชฺเชนฺตา จตุรารกฺขํ อหาเปนฺตา มนสิการพหุลา วิหรถา’’ติ. ทนฺตกฏฺขาทนวตฺตํ ¶ อาจิกฺขิตพฺพํ, เจติยํ วา โพธึ วา วนฺทนฺเตน คนฺธมาลํ วา ปูเชนฺเตน ปตฺตํ วา ถวิกาย ปกฺขิปนฺเตน น กเถตพฺพํ, ภิกฺขาจารวตฺตํ อาจิกฺขิตพฺพํ, อนฺโตคาเม มนุสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจยสฺุตฺตกถา วา วิสภาคกถา วา น กเถตพฺพา, รกฺขิตินฺทฺริเยหิ ภวิตพฺพํ, ขนฺธกวตฺตฺจ เสขิยวตฺตฺจ ปูเรตพฺพนฺติ เอวรูปา พหุกาปิ นิยฺยานิกกถา อาจิกฺขิตพฺพาติ.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
วสฺสูปนายิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.