📜
๓๑. โจทนาทิวินิจฺฉยกถา
๒๓๐. โจทนาทิวินิจฺฉโยติ ¶ เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๖) ปน โจเทตุํ โก ลภติ, โก น ลภติ? ทุพฺพลโจทกวจนํ ตาว คเหตฺวา โกจิ น ลภติ. ทุพฺพลโจทโก นาม สมฺพหุเลสุ กถาสลฺลาเปน นิสินฺเนสุ เอโก เอกํ อารพฺภ อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปาราชิกวตฺถุํ กเถติ, อฺโ ตํ สุตฺวา อิตรสฺส คนฺตฺวา อาโรเจติ, โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร มํ อิทฺจิทฺจ วทสี’’ติ ภณติ, โส ‘‘นาหํ เอวรูปํ ชานามิ, กถาปวตฺติยํ ปน มยา อโนทิสฺสกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถิ. สเจ อหํ ตว อิมํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺย’’นฺติ. อยํ ทุพฺพลโจทโก. ตสฺเสตํ กถาสลฺลาปํ คเหตฺวา ตํ ภิกฺขุํ โกจิ โจเทตุํ น ลภติ, เอตํ ปน อคฺคเหตฺวา สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา, สีลสมฺปนฺนา จ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีเมว โจเทตุํ ลภตีติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ อาห. โคทตฺตตฺเถโร ‘‘น โกจิ น ลภตี’’ติ วตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทติ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา โจเทตี’’ติ อิทํ สุตฺตํ อาหริ. ติณฺณมฺปิ เถรานํ วาเท จุทิตกสฺเสว ปฏิฺาย กาเรตพฺโพ.
อยํ ปน โจทนา นาม ทิฏฺโจทนา สุตโจทนา ปริสงฺกิตโจทนาติ ติวิธา โหติ. อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ สีลวิปตฺติโจทนา อาจารวิปตฺติโจทนา ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา อาชีววิปตฺติโจทนาติ. ตตฺถ ครุกานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน สีลวิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา ¶ , อวเสสานํ วเสน อาจารวิปตฺติโจทนา, มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน อาชีววิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา.
อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ วตฺถุสนฺทสฺสนา อาปตฺติสนฺทสฺสนา สํวาสปฏิกฺเขโป สามีจิปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิ, อทินฺนํ อาทิยิ, มนุสฺสํ ฆาตยิตฺถ, อภูตํ อาโรจยิตฺถา’’ติ เอวํ ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติเอวมาทินยปฺปวตฺตา. สํวาสปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺโต. สามีจิปฏิกฺเขโป นาม ¶ อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลีกมฺมพีชนาทิกมฺมานํ อกรณํ. ตํ ปฏิปาฏิยา วนฺทนาทีนิ กโรนฺโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตาปิ โจทนา นาม โหติ. ยาคุภตฺตาทินา ปน ยํ อิจฺฉติ, ตํ อาปุจฺฉติ, น ตาวตา โจทนา โหติ.
อปรา ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๘๗) ‘‘เอกํ, ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ, เอกํ ธมฺมิก’’นฺติอาทึ กตฺวา ยาว ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ, ทส ธมฺมิกานีติ เอวํ อธมฺมิกา ปฺจปฺาส, ธมฺมิกา ปฺจปฺาสาติ ทสุตฺตรสตํ โจทนา วุตฺตา. ตา ทิฏฺเน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, สุเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, ปริสงฺกาย โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตนฺติ ตึสาธิกานิ ตีณิ สตานิ โหนฺติ. ตานิ กาเยน โจเทนฺตสฺส, วาจาย โจเทนฺตสฺส, กายวาจาย โจเทนฺตสฺสาติ ติคุณานิ กตานิ นวุตาธิกานิ นว สตานิ โหนฺติ. ตานิ อตฺตนา โจเทนฺตสฺสปิ ปเรน โจทาเปนฺตสฺสปิ ตตฺตกาเนวาติ วีสติอูนานิ ทฺเว สหสฺสานิ โหนฺติ. ปุน ทิฏฺาทิเภเท สมูลิกามูลิกวเสน อเนกสหสฺสา โจทนา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
๒๓๑. วุตฺตปฺปเภทาสุ ปน อิมาสุ โจทนาสุ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทกา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติ. สเจ ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ ¶ วทนฺติ, สงฺเฆน ตํ อธิกรณํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปน ‘‘วินิจฺฉินถ ตาว, ภนฺเต, สเจ อมฺหากํ ขมิสฺสติ, คณฺหิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ‘‘เจติยํ ตาว วนฺทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตํ กตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพํ. เต เจ จิรรตฺตํ กิลนฺตา ปกฺกนฺตปริสา อุปจฺฉินฺนปกฺขา หุตฺวา ปุน ยาจนฺติ, ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยทา นิมฺมทา โหนฺติ, ตทา เนสํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. วินิจฺฉินนฺเตหิ จ สเจ อลชฺชุสฺสนฺนา โหติ ปริสา, อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ พาลุสฺสนฺนา โหติ ปริสา, ‘‘ตุมฺหากํ สภาเค วินยธเร ปริเยสถา’’ติ วินยธเร ปริเยสาเปตฺวา เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมฺมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ.
ตตฺถ จ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา จ อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ตสฺมา โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ. เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย จ อนุสฺสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. ตตฺร เจ อลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, โส จ อลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, นาสฺส นโย ทาตพฺโพ, เอวํ ปน วตฺตพฺโพ ¶ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสี’’ติ. อทฺธา โส วกฺขติ ‘‘กิมิทํ, ภนฺเต, กิมฺหิ นํ นามา’’ติ. ‘‘ตฺวํ กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสิ, น ยุตฺตํ ตยา เอวรูเปน พาเลน ปรํ โจเทตุ’’นฺติ อุยฺโยเชตพฺโพ, นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน โส อลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ทิฏฺเน วา สุเตน วา อชฺโฌตฺถริตฺวา สมฺปาเทตุํ สกฺโกติ, เอตสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ลชฺชิสฺเสว ปฏิฺาย กมฺมํ กาตพฺพํ.
สเจ ลชฺชี อลชฺชึ โจเทติ, โส จ ลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น สกฺโกติ อนุโยคํ ทาตุํ, ตสฺส นโย ทาตพฺโพ ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสิ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติอาทีสุ วา เอกิสฺสา’’ติ. กสฺมา ปน อิมสฺเสว เอวํ นโย ทาตพฺโพ, น อิตรสฺสาติ, นนุ น ยุตฺตํ วินยธรานํ อคติคมนนฺติ? น ยุตฺตเมว. อิทํ ปน อคติคมนํ น โหติ, ธมฺมานุคฺคโห นาม เอโส. อลชฺชินิคฺคหตฺถาย หิ ลชฺชิปคฺคหตฺถาย จ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ตตฺร อลชฺชี นยํ ลภิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺโต เอหิติ, ลชฺชี ¶ ปน นยํ ลภิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺสนฺตาเนน สุเต สุตสนฺตาเนน ปติฏฺาย กเถสฺสติ, ตสฺมา ตสฺส ธมฺมานุคฺคโห วฏฺฏติ. สเจ ปน โส ลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปติฏฺาย กเถติ, อลชฺชี จ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพํ.
ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ – ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร โลหปาสาทสฺส เหฏฺา ภิกฺขูนํ วินยํ กเถตฺวา สายนฺหสมเย วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานสมเย ทฺเว อตฺตปจฺจตฺถิกา กถํ ปวตฺเตสุํ. เอโก ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อถ อปฺปาวเสเส ปมยาเม เถรสฺส ตสฺมึ ปุคฺคเล ‘‘อยํ ปติฏฺาย กเถติ, อยํ ปน ปฏิฺํ น เทติ, พหูนิ จ วตฺถูนิ โอสฏานิ, อทฺธา เอตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ อสุทฺธลทฺธิ อุปฺปนฺนา. ตโต พีชนีทณฺฑเกน ปาทกถลิกาย สฺํ ทตฺวา ‘‘อหํ, อาวุโส, วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโก, อฺเน วินิจฺฉินาเปหี’’ติ อาห. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต’’ติ? เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ. จุทิตกปุคฺคลสฺส กาเย ฑาโห อุฏฺิโต, ตโต โส เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, วินิจฺฉินิตุํ อนุรูเปน วินยธเรน นาม ตุมฺหาทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ, โจทเกน จ อีทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เสตกานิ นิวาเสตฺวา ‘‘จิรํ กิลมิตาตฺถ มยา’’ติ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ.
เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส เนว ‘‘สุทฺโธ’’ติ วตฺตพฺโพ, น ‘‘อสุทฺโธ’’ติ, ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส. สเจ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุ อุปฺปชฺชติ, น วินิจฺฉินิตพฺพํ, ตถา นาสิตโก ภวิสฺสติ ¶ . สเจ ปน อลชฺชีเยว อลชฺชึ โจเทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส, ตว วจเนนายํ กึ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ. อิตรมฺปิ ตเถว วตฺวา ‘‘อุโภปิ เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ อุยฺโยเชตพฺพา. สีลตฺถาย เนสํ วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ, ปตฺตจีวรปริเวณาทิอตฺถาย ปน ปติรูปํ สกฺขึ ลภิตฺวา กาตพฺโพติ.
อถ ลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, วิวาโท จ เนสํ กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตโก โหติ, สฺาเปตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรถา’’ติ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา ¶ . อถ ปเนตฺถ จุทิตเกน สหสา วิรทฺธํ โหติ, อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถิ. โส จ ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทติ, ‘‘มยํ สทฺทหาม, มยํ สทฺทหามา’’ติ พหู อุฏฺหนฺติ, โส เตสํ ปฏิฺาย เอกวารํ ทฺเววารํ สุทฺโธ โหตุ, อถ ปน วิรทฺธกาลโต ปฏฺาย าเน น ติฏฺติ, วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ.
๒๓๒. อทินฺนาทานวตฺถุํ วินิจฺฉินนฺเตน (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒) ปน ปฺจวีสติ อวหารา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา. เตสุ จ กุสเลน วินยธเรน โอติณฺณํ วตฺถุํ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ปฺจ านานิ โอโลเกตพฺพานิ, ยานิ สนฺธาย โปราณา อาหุ –
‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจ, อคฺฆํ ปริโภคปฺจมํ;
ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๒);
ตตฺถ วตฺถุนฺติ ภณฺฑํ. อวหารเกน หิ ‘‘มยา อิทํ นาม อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวาว ตํ ภณฺฑํ ‘‘สสามิกํ วา อสามิกํ วา’’ติ อุปปริกฺขิตพฺพํ. สสามิเกปิ สามิกานํ สาลยภาโว วา นิราลยภาโว วา อุปปริกฺขิตพฺโพ. สเจ เตสํ สาลยกาเล อวหฏํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติ กาตพฺพา. สเจ นิราลยกาเล, ปาราชิเกน น กาตพฺพา. ภณฺฑสามิเกสุ ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. อยเมตฺถ สามีจิ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – ภาติยราชกาเล กิร มหาเจติยปูชาย ทกฺขิณทิสโต เอโก ภิกฺขุ สตฺตหตฺถํ ปณฺฑุกาสาวํ อํเส กริตฺวา เจติยงฺคณํ ปาวิสิ. ตงฺขณเมว จ ราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ อาคโต. ตโต อุสฺสารณาย วตฺตมานาย มหาชนสมฺมทฺโท อโหสิ. อถ โส ภิกฺขุ ชนสมฺมทฺทปีฬิโต อํสโต ปตนฺตํ กาสาวํ อทิสฺวาว นิกฺขนฺโต, นิกฺขมิตฺวา ¶ กาสาวํ อปสฺสนฺโต ‘‘โก อีทิเส ชนสมฺมทฺเท กาสาวํ ลจฺฉติ, น ทานิ ตํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คโต. อถฺโ ภิกฺขุ ปจฺฉา อาคจฺฉนฺโต ตํ กาสาวํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘อสฺสมโณ ทานิมฺหิ, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน ‘‘วินยธเร ปุจฺฉิตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
เตน ¶ สมเยน จูฬสุมนตฺเถโร นาม สพฺพปริยตฺติธโร วินยาจริยปาโมกฺโข มหาวิหาเร ปฏิวสติ. โส ภิกฺขุ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิ. เถโร เตน ภฏฺเ ชนกาเย ปจฺฉา อาคนฺตฺวา คหิตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ ทานิ เอตฺถ โอกาโส’’ติ จินฺเตตฺวา อาห ‘‘สเจ กาสาวสามิกํ ภิกฺขุํ อาเนยฺยาสิ, สกฺกา ภเวยฺย ตว ปติฏฺา กาตุ’’นฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, ตํ ทกฺขิสฺสามีติ. ตหึ ตหึ คนฺตฺวา โอโลเกหีติ. โส ปฺจปิ มหาวิหาเร โอโลเกตฺวา เนว อทฺทกฺขิ. ตโต นํ เถโร ปุจฺฉิ ‘‘กตราย ทิสาย พหู ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘ทกฺขิณทิสาย, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ กาสาวํ ทีฆโต จ ติริยฺจ มินิตฺวา เปหิ, เปตฺวา ทกฺขิณทิสาย วิหารปฏิปาฏิยา วิจินิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อาเนหีติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อาเนสิ. เถโร ปุจฺฉิ ‘‘ตเวทํ กาสาว’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. กุหึ เต ปาติตนฺติ? โส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เถโร เตน กตํ ธุรนิกฺเขปํ สุตฺวา อิตรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตยา อิทํ กุหึ ทิสฺวา คหิต’’นฺติ? โสปิ สพฺพํ อาโรเจสิ. ตโต ตํ เถโร อาห ‘‘สเจ เต สุทฺธจิตฺเตน คหิตํ อภวิสฺส, อนาปตฺติเยว เต อสฺส, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปนฺโนสิ, ตํ เทเสตฺวา อนาปตฺติโก โหติ, อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ. โส ภิกฺขุ อมเตเนว อภิสิตฺโต วรมสฺสาสปฺปตฺโต อโหสิ. เอวํ วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ.
กาโลติ อวหารกาโล. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ อปฺปคฺฆํ โหติ, กทาจิ มหคฺฆํ. ตสฺมา ตํ ภณฺฑํ ยสฺมึ กาเล อวหฏํ, ตสฺมึเยว กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. เอวํ กาโล โอโลเกตพฺโพ.
เทโสติ อวหารเทโส. ตฺหิ ภณฺฑํ ยสฺมึ เทเส อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. ภณฺฑุฏฺานเทเส หิ ภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ.
อิมสฺสปิ ¶ จ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – อนฺตรสมุทฺเท กิร เอโก ภิกฺขุ สุสณฺานํ นาฬิเกรํ ลภิตฺวา ภมํ อาโรเปตฺวา สงฺขถาลกสทิสํ มโนรมํ ปานียถาลกํ กตฺวา ตตฺเถว เปตฺวา เจติยคิรึ อคมาสิ ¶ . อฺโ ภิกฺขุ อนฺตรสมุทฺทํ คนฺตฺวา ตสฺมึ วิหาเร ปฏิวสนฺโต ตํ ถาลกํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา เจติยคิริเมว อาคโต. ตสฺส ตตฺถ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ตํ ถาลกํ ทิสฺวา ถาลกสามิโก ภิกฺขุ อาห ‘‘กุโต เต อิทํ ลทฺธ’’นฺติ. อนฺตรสมุทฺทโต เม อานีตนฺติ. โส ตํ ‘‘เนตํ ตว สนฺตกํ, เถยฺยาย เต คหิต’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิ. ตตฺถ จ วินิจฺฉยํ อลภิตฺวา มหาวิหารํ อคมึสุ, ตตฺถ จ เภรึ ปหราเปตฺวา มหาเจติยสมีเป สนฺนิปาตํ กตฺวา วินิจฺฉยํ อารภึสุ. วินยธรตฺเถรา อวหารํ สฺาเปสุํ.
ตสฺมิฺจ สนฺนิปาเต อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร นาม วินยกุสโล โหติ, โส เอวมาห ‘‘อิมินา อิทํ ถาลกํ กุหึ อวหฏ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺเท อวหฏ’’นฺติ. ตตฺถ ตํ กึ อคฺฆตีติ. น กิฺจิ อคฺฆติ. ตตฺร หิ นาฬิเกรํ ภินฺทิตฺวา มิฺชํ ขาทิตฺวา กปาลํ ฉฑฺเฑติ, ทารุอตฺถํ ปน ผรตีติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน เอตฺถ หตฺถกมฺมํ กึ อคฺฆตีติ? มาสกํ วา อูนมาสกํ วาติ. อตฺถิ ปน กตฺถจิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มาสเก วา อูนมาสเก วา ปาราชิกํ ปฺตฺตนฺติ. เอวํ วุตฺเต ‘‘สาธุ สาธุ, สุกถิตํ สุวินิจฺฉิต’’นฺติ เอกสาธุกาโร อโหสิ. เตน จ สมเยน ภาติยราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ นครโต นิกฺขนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิปาฏิยา สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ ‘‘มยิ สนฺเต ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ คิหีนมฺปิ อธิกรณํ อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถเรน วินิจฺฉิตํ สุวินิจฺฉิตํ, ตสฺส วินิจฺฉเย อติฏฺมานํ ราชาณาย เปมี’’ติ. เอวํ เทโส โอโลเกตพฺโพ.
อคฺโฆติ ภณฺฑคฺโฆ. นวภณฺฑสฺส หิ โย อคฺโฆ โหติ, โส ปจฺฉา ปริหายติ. ยถา นวโธโต ปตฺโต อฏฺ วา ทส วา อคฺฆติ, โส ปจฺฉา ภินฺโน วา ฉิทฺโท วา อาณิคณฺิกาหโต วา อปฺปคฺโฆ โหติ, ตสฺมา น สพฺพทา ภณฺฑํ ปกติอคฺเฆเนว กาตพฺพนฺติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.
ปริโภโคติ ภณฺฑปริโภโค. ปริโภเคนปิ หิ วาสิอาทิภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ. ตสฺมา เอวํ อุปปริกฺขิตพฺพํ – สเจ โกจิ กสฺสจิ ปาทคฺฆนกํ วาสึ หรติ, ตตฺร วาสิสามิโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ตยา อยํ วาสิ กิตฺตเกน กีตา’’ติ? ‘‘ปาเทน, ภนฺเต’’ติ. กึ ปน เต กิณิตฺวาว ปิตา, อุทาหุ นํ วฬฺเชสีติ? สเจ วทติ ‘‘เอกทิวสํ เม ทนฺตกฏฺํ ¶ วา รชนฉลฺลิ วา ปตฺตปจนกทารุ วา ฉินฺนํ, ฆํสิตฺวา วา นิสิตา’’ติ, อถสฺส โปราณโก ¶ อคฺโฆ ภฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ วาสิยา, เอวํ อฺชนิยา วา อฺชนิสลากาย วา กฺุจิกาย วา ปลาเลน วา ถุเสหิ วา อิฏฺกจุณฺเณน วา เอกวารํ ฆํสิตฺวา โธวิตมตฺเตนปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ติปุมณฺฑลสฺส มกรทนฺตจฺเฉทเนนปิ ปริมชฺชนมตฺเตนปิ, อุทกสาฏกสฺส สกึ นิวาสนปารุปเนนปิ ปริโภคสีเสน อํเส วา สีเส วา ปนมตฺเตนปิ, ตณฺฑุลาทีนํ ปปฺโผฏเนนปิ ตโต เอกํ วา ทฺเว วา อปนยเนนปิ อนฺตมโส เอกํ ปาสาณสกฺขรํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนปิ, สปฺปิเตลาทีนํ ภาชนนฺตรปอวตฺตเนนปิ อนฺตมโส ตโต มกฺขิกํ วา กิปิลฺลิกํ วา อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนปิ, คุฬปิณฺฑกสฺส มธุรภาวชานนตฺถํ นเขน วิชฺฌิตฺวา อณุมตฺตํ คหิตมตฺเตนปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ตสฺมา ยํ กิฺจิ ปาทคฺฆนกํ วุตฺตนเยเนว สามิเกหิ ปริโภเคน อูนํ กตํ โหติ, น ตํ อวหโฏ ภิกฺขุ ปาราชิเกน กาตพฺโพติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.
เอวํ อิมานิ ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ ธาเรยฺย อตฺถํ วิจกฺขโณ, อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา ครุกํ วา ลหุกํ วา อาปตฺตึ ยถาาเน เปยฺยาติ. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา –
‘‘สิกฺขาปทํ สมํ เตน, อฺํ กิฺจิ น วิชฺชติ;
อเนกนยโวกิณฺณํ, คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ.
‘‘ตสฺมา วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ, ภิกฺขุนา วินยฺุนา;
วินยานุคฺคเหเนตฺถ, กโรนฺเตน วินิจฺฉยํ.
‘‘ปาฬึ อฏฺกถฺเจว, สาธิปฺปายมเสสโต;
โอคยฺห อปฺปมตฺเตน, กรณีโย วินิจฺฉโย.
‘‘อาปตฺติทสฺสนุสฺสาโห, น กตฺตพฺโพ กุทาจนํ;
ปสฺสิสฺสามิ อนาปตฺติ-มิติ กยิราถ มานสํ.
‘‘ปสฺสิตฺวาปิ จ อาปตฺตึ, อวตฺวาว ปุนปฺปุนํ;
วีมํสิตฺวาถ วิฺูหิ, สํสนฺทิตฺวา จ ตํ วเท.
‘‘กปฺปิเยปิ ¶ ¶ จ วตฺถุสฺมึ, จิตฺตสฺส ลหุวตฺติโน;
วเสน สามฺคุณา, จวนฺตีธ ปุถุชฺชนา.
‘‘ตสฺมา ปรปริกฺขารํ, อาสีวิสมิโวรคํ;
อคฺคึ วิย จ สมฺปสฺสํ, นามเสยฺย วิจกฺขโณ’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๖๐-๑ ตตฺรายํ อนุสาสนี);
๒๓๓. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ วินิจฺฉินนฺเตน (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๗) ปน ‘‘กึ เต อธิคตํ. กินฺติ เต อธิคตํ, กทา เต อธิคตํ, กตฺถ เต อธิคตํ, กตเม เต กิเลสา ปหีนา, กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ อิมานิ ฉ านานิ วิโสเธตพฺพานิ. สเจ หิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตา สกฺกาโร กาตพฺโพ, อิเมสํ ปน ฉนฺนํ านานํ โสธนตฺถํ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ. โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวา’’ติ. โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส, เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม กาเล อธิคก’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อมุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนา กิเลสา ปากฏา โหนฺติ.
สเจ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ. สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตธมฺโม ปากโฏ ¶ โหติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ. พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ, อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา ¶ โสเธตพฺพา. ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺโม นาม น ลพฺภตี’’ติ อปเนตพฺโพ. ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตีติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย สทฺธึ สํสนฺทติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ. อปิจ โข น เอตฺตเกนปิ สกฺกาโร กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสปิ สโต ขีณาสวสฺส ปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปตฺติ โหติ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ, ปุถุชฺชนสฺส อปฺปมตฺตเกนปิ โหติ.
ตตฺริมานิ วตฺถูนิ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๑๐๒) – ทีฆภาณกอภยตฺเถโร กิร เอกํ ปิณฺฑปาติกํ ปริคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺโต ทหรสฺส สฺํ อทาสิ. โส ตํ นหายมานํ กลฺยาณีนทีมุขทฺวาเร นิมุชฺชิตฺวา ปาเท อคฺคเหสิ. ปิณฺฑปาติโก ‘‘กุมฺภีโล’’ติ สฺาย มหาสทฺทมกาสิ, ตทา นํ ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ ชานึสุ.
จนฺทมุขติสฺสราชกาเล ปน มหาวิหาเร สงฺฆตฺเถโร ขีณาสโว ทุพฺพลจกฺขุโก วิหาเรเยว อจฺฉติ. ราชา ‘‘เถรํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ภิกฺขูสุ ภิกฺขาจารํ คเตสุ อปฺปสทฺโท อุปสงฺกมิตฺวา สปฺโป วิย ปาเท อคฺคเหสิ. เถโร สิลาถมฺโภ วิย นิจฺจโล หุตฺวา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อหํ, ภนฺเต, ติสฺโส’’ติ? ‘‘สุคนฺธํ วายสิ โน ติสฺสา’’ติ. เอวํ ขีณาสวสฺส ภยํ นาม นตฺถิ.
เอกจฺโจ ปน ปุถุชฺชโนปิ อติสูโร โหติ นิพฺภโย. โส รชนีเยน อารมฺมเณน ปริคฺคณฺหิตพฺโพ. วสภราชาปิ เอกํ เถรํ ปริคฺคณฺหมาโน ฆเร นิสีทาเปตฺวา ตสฺส สนฺติเก พทรสาฬวํ มทฺทมาโน ¶ นิสีทิ. มหาเถรสฺส เขโฬ จลิโต, เถรสฺส ปุถุชฺชนภาโว อาวิภูโต. ขีณาสวสฺส หิ รสตณฺหา นาม สุปฺปหีนา, ทิพฺเพสุปิ รเสสุ นิกนฺติ นาม น โหติ, ตสฺมา อิเมหิ อุปาเยหิ ปริคฺคเหตฺวา สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา รสตณฺหา วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น จ ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, ทิพฺพารมฺมเณปิ นิกนฺตึ น ชเนติ, อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ ¶ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ตาว อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ วินิจฺฉินิตพฺพํ.
๒๓๔. สกเล ปน วินยวินิจฺฉเย (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕) โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.
จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา มหิทฺธิกา;
นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ธมฺมสงฺคาหกา ปุรา.
กตมํ จตุพฺพิธํ? สุตฺตํ สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาทํ อตฺตโนมตินฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาหจฺจปเทน โข, มหาราช, รเสน อาจริยวํเสน อธิปฺปายา’’ติ (มิ. ป. ๔.๒.๓). เอตฺถ หิ อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปตํ. รโสติ สุตฺตานุโลมํ. อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท. อธิปฺปาโยติ อตฺตโนมติ.
ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลวินยปิฏเก ปาฬิ.
สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา. เย ภควตา เอวํ วุตฺตา –
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตฺเจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕).
อาจริยวาโท ¶ นาม ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฺจหิ อรหนฺตสเตหิ ปิตา ปาฬิวินิมุตฺตา โอกฺกนฺตวินิจฺฉยปฺปวตฺตา อฏฺกถาตนฺติ.
อตฺตโนมติ ¶ นาม สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มฺุจิตฺวา อนุมาเนน อตฺตโน อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถนํ.
อปิจ สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสุ อาคโต สพฺโพปิ เถรวาโท อตฺตโนมติ นาม. ตํ ปน อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถนฺเตน น ทฬฺหคฺคาหํ คเหตฺวา โวหริตพฺพํ, การณํ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺเถน ปาฬึ, ปาฬิยา จ อตฺถํ สํสนฺทิตฺวา กเถตพฺพํ, อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ ตตฺถ โอตรติ เจว สเมติ จ, คเหตพฺพา. สเจ เนว โอตรติ น สเมติ, น คเหตพฺพา. อยฺหิ อตฺตโนมติ นาม สพฺพทุพฺพลา, อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร.
อาจริยวาโทปิ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. ตตฺถ โอตรนฺโต สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ, อิตโร น คเหตพฺโพ. อาจริยวาทโต หิ สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ.
สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. ตตฺถ โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตรํ. สุตฺตฺหิ อปฺปฏิวตฺติยํ การกสงฺฆสทิสํ พุทฺธานํ ิตกาลสทิสํ. ตสฺมา ยทา ทฺเว ภิกฺขู สากจฺฉนฺติ, สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาที สุตฺตานุโลมํ. เตหิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา สุตฺตานุโลมํ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ, โน เจ, น คเหตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อโนตรนฺโต อสเมนฺโต จ คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อตฺตโนมติ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา, โน เจ, น คเหตพฺพา, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ.
อถายํ ¶ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ, สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพํ, โน เจ ตถา ปฺายติ, น โอตรติ น สเมติ, พาหิรกสุตฺตํ วา โหติ สิโลโก วา อฺํ วา คารยฺหสุตฺตํ คุฬฺหเวสฺสนฺตรคุฬฺหวินยเวทลฺลาทีนํ อฺตรโต อาภตํ, น คเหตพฺพํ, สุตฺตานุโลมสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท ¶ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. โน เจ, น คเหตพฺโพ, สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา, สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.
อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ. อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ. อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา, อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.
อถ ปนายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ, อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ, อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อิตโร คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ, อตฺตโนมติยเมว ¶ าตพฺพํ, อตฺตโน คหณเมว พลิยํ กาตพฺพํ. สพฺพฏฺาเนสุ จ เขโป วา ครหา วา น กาตพฺพาติ.
อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อกปฺปิยนฺติ, สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถายํ ตสฺส กปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, อเนน อตฺตโน คหณนฺติ กตฺวา ทฬฺหํ อาทาย น าตพฺพํ, ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเย เอว าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, ปฏิกฺขิตฺตภาโวเยว สาธุ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. วินยฺหิ ปตฺวา กปฺปิยากปฺปิยวิจารณํ อาคมฺม รุนฺธิตพฺพํ, คาฬฺหํ กตฺตพฺพํ, โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาเวเยว าตพฺพํ.
อถ ¶ ปนายํ อกปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร กปฺปิยนฺติ, สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถายํ พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ อกปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ปโร พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ กปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, อยํ การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถา จายํ กปฺปิยากปฺปิเย อกปฺปิยกปฺปิเย จ วินิจฺฉโย วุตฺโต, เอวํ อนาปตฺติอาปตฺติวาเท อาปตฺตานาปตฺติวาเท จ, ลหุกครุกาปตฺติวาเท ครุกลหุกาปตฺติวาเท จาปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. นามมตฺเตเยว หิ เอตฺถ นานํ, โยชนานเย นานํ นตฺถิ, ตสฺมา น วิตฺถาริตํ.
เอวํ กปฺปิยากปฺปิยาทิวินิจฺฉเย อุปฺปนฺเน โย สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ อติเรกการณํ ลภติ, ตสฺส วาเท าตพฺพํ, สพฺพโส ปน การณวินิจฺฉยํ อลภนฺเตน สุตฺตํ น ชหิตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ. เอวํ สกลวินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน อยํ จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.
อิมฺจ ปน จตุพฺพิธํ วินยํ ตฺวาปิ วินยธเรน ปุคฺคเลน ติลกฺขณสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตีณิ หิ วินยธรสฺส ลกฺขณานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. กตมานิ ¶ ตีณิ? สุตฺตฺจสฺส สฺวาคตํ โหติ สุปฺปวตฺติ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโสติ อิทเมกํ ลกฺขณํ. วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโรติ อิทํ ทุติยํ. อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหติ สุมนสิกตา สูปธาริตาติ อิทํ ตติยํ.
ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏกํ. ตทสฺส สฺวาคตํ โหตีติ สุฏฺุ อาคตํ. สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺตํ ปคุณํ วาจุคฺคตํ. สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโสติ ปาฬิโต จ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จ สุวินิจฺฉิตํ โหติ กงฺขาเฉทนํ กตฺวา อุคฺคหิตํ. วินเย โข ปน ิโต โหตีติ วินเย ลชฺชิภาเวน ปติฏฺิโต โหติ. อลชฺชี หิ พหุสฺสุโตปิ สมาโน ลาภครุกตาย ตนฺตึ วิสํวาเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปตฺวา สาสเน มหนฺตํ อุปทฺทวํ กโรติ, สงฺฆเภทมฺปิ สงฺฆราชิมฺปิ อุปฺปาเทติ. ลชฺชี ปน กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม ชีวิตเหตุปิ ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวา ธมฺมเมว วินยเมว ทีเปติ, สตฺถุสาสนํ ครุกํ กตฺวา เปติ. ตถา หิ ปุพฺเพ มหาเถรา ติกฺขตฺตุํ วาจํ นิจฺฉาเรสุํ ‘‘อนาคเต ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี ¶ รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕). เอวํ โย ลชฺชี, โส วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโต ลชฺชิภาเวเนว วินเย ิโต โหติ สุปฺปติฏฺิโตติ.
อสํหีโรติ สํหีโร นาม โย ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺโต วา อุปริโต วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน วิตฺถุนติ วิปฺผนฺทติ สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ, ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ, ตํ ตํ อนุชานาติ, สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรวาทํ คณฺหาติ. โย ปน ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺุปริเยน วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน น วิตฺถุนติ น วิปฺผนฺทติ, เอเกกโลมํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ‘‘เอวํ มยํ วทาม, เอวํ โน อาจริยา วทนฺตี’’ติ วิสฺสชฺเชติ, ยมฺหิ ปาฬิ จ ปาฬิวินิจฺฉโย จ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย ปริกฺขยํ ปริยาทานํ อคจฺฉนฺโต ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสํหีโร’’ติ.
อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เถรปรมฺปรา วํสปรมฺปรา อสฺส สุฏฺุ คหิตา โหติ. สุมนสิกตาติ สุฏฺุ มนสิกตา, อาวชฺชิตมตฺเต อุชฺชลิตปทีโป วิย โหติ. สูปธาริตาติ สุฏฺุ อุปธาริตา ปุพฺพาปรานุสนฺธิโต อตฺถโต การณโต จ อุปธาริตา ¶ . อตฺตโนมตึ ปหาย อาจริยสุทฺธิยา วตฺตา โหติ, ‘‘มยฺหํ อาจริโย อสุกาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, โส อสุกสฺสา’’ติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ หริตฺวา ยาว อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหีติ ปาเปตฺวา เปติ, ตโตปิ อาหริตฺวา อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, ทาสกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อุปาลิตฺเถรสฺส, โสณตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ทาสกตฺเถรสฺส, สิคฺควตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส โสณตฺเถรสฺส, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส สิคฺควตฺเถรสฺส จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส จาติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา อตฺตโน อาจริยํ ปาเปตฺวา เปติ. เอวํ อุคฺคหิตา หิ อาจริยปรมฺปรา สุคฺคหิตา โหติ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ปน อวสฺสํ ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏา อุคฺคเหตพฺพา. สพฺพปจฺฉิเมน หิ นเยน ยถา อาจริโย อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏติ.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเตน วินยธเรน วตฺถุวินิจฺฉยตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ฉ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. กตมานิ ฉ? วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ, มาติกา โอโลเกตพฺพา, ปทภาชนียํ โอโลเกตพฺพํ, ติกปริจฺเฉโท โอโลเกตพฺโพ, อนฺตราปตฺติ โอโลเกตพฺพา, อนาปตฺติ โอโลเกตพฺพาติ.
วตฺถุํ ¶ โอโลเกนฺโตปิ หิ ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ, โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) เอวํ เอกจฺจํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
มาติกํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๓) นเยน ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
ปทภาชนียํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อกฺขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. เยภุยฺเยน ขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ¶ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๙ อตฺถโต สมานํ) นเยน สตฺตนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ปทภาชนียโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
ติกปริจฺเฉทํ โอโลเกนฺโตปิ ติกสงฺฆาทิเสสํ วา ติกปาจิตฺติยํ วา ติกทุกฺกฏํ วา อฺตรํ วา อาปตฺตึ ติกปริจฺเฉเท ปสฺสติ, โส ตโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
อนฺตราปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘ปฏิลาตํ อุกฺขิปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๕) เอวํ ยา สิกฺขาปทนฺตเรสุ อนฺตราปตฺติ โหติ, ตํ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
อนาปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺส, อเถยฺยจิตฺตสฺส, น มรณาธิปฺปายสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, น โมจนาธิปฺปายสฺส อสฺจิจฺจ อสติยา อชานนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๗๒, ๑๓๖, ๑๘๐, ๒๒๕, ๒๖๓ โถกํ โถกํ วิสทิสํ) เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อนาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
โย หิ ภิกฺขุ จตุพฺพิธวินยโกวิโท ติลกฺขณสมฺปนฺโน อิมานิ ฉ านานิ โอโลเกตฺวา อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ, ตสฺส วินิจฺฉโย อปฺปฏิวตฺติโย พุทฺเธน สยํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉิตสทิโส โหติ. ตํ เจ เอวํ วินิจฺฉยกุสลํ ภิกฺขุํ โกจิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกโม ¶ ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺเฉยฺย, เตน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ อนาปตฺติ โหติ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน อาปตฺติ โหติ, สา เทสนาคามินี เจ, ‘‘เทสนาคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. วุฏฺานคามินี เจ, ‘‘วุฏฺานคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. อถสฺส ปาราชิกจฺฉายา ทิสฺสติ, ‘‘ปาราชิกาปตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวีติกฺกโม จ โอฬาริโก, อทินฺนาทานมนอุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา ปน สุขุมา จิตฺตลหุกา. เต สุขุเมเนว อาปชฺชติ, สุขุเมน รกฺขติ, ตสฺมา วิเสเสน ตํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาปตฺตี’’ติ อวตฺวา สจสฺส อาจริโย ธรติ, ตโต เตน โส ภิกฺขุ ‘‘อมฺหากํ อาจริยํ ปุจฺฉา’’ติ เปเสตพฺโพ. สเจ โส ¶ ปุน อาคนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อาจริโย สุตฺตโต นยโต โอโลเกตฺวา ‘สเตกิจฺโฉ’ติ มํ อาหา’’ติ วทติ, ตโต เตน โส ‘‘สาธุ สุฏฺุ ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ปนสฺส อาจริโย นตฺถิ, สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโร ปน อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ ‘‘อมฺเหหิ สห อุคฺคหิตตฺเถโร คณปาโมกฺโข, ตํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ตสฺส สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโรปิ นตฺถิ, อนฺเตวาสิโก ปณฺฑิโต อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ ‘‘อสุกทหรํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ทหรสฺสปิ ปาราชิกจฺฉายาว อุปฏฺาติ, เตนปิ ‘‘ปาราชิโกสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. ทุลฺลโภ หิ พุทฺธุปฺปาโท, ตโต ทุลฺลภตรา ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ วิโสเธตฺวา ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิกโรหี’’ติ. สเจ ตสฺส อโรคํ สีลํ, กมฺมฏฺานํ ฆฏยติ, สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อุปจารปฺปนาปฺปตฺตํ วิย จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ, โส ทิวสาติกฺกเม อุปฏฺานํ อาคโต เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘กีทิสา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ. อาโรจิตาย จ จิตฺตปวตฺติยา วตฺตพฺโพ ‘‘ปพฺพชฺชา นาม จิตฺตวิสุทฺธตฺถาย, อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรหี’’ติ.
ยสฺส ปน สีลํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ น ฆฏยติ, ปโตทาภิตุนฺนํ วิย จิตฺตํ วิกมฺปติ, วิปฺปฏิสารคฺคินา ฑยฺหติ, ตตฺตปาสาเณ นิสินฺโน วิย ตงฺขเณเยว วุฏฺาติ. โส อาคโต ‘‘กา เต จิตฺตปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อาโรจิตาย จิตฺตปวตฺติยา ‘‘นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมฺหิ ปาปํ กโรนฺโต อตฺตนา ชานาติ. อถสฺส อารกฺขเทวตา ปรจิตฺตวิทู สมณพฺราหฺมณา อฺา จ เทวตา ชานนฺติ, ตฺวํเยว ทานิ ตว โสตฺถึ ¶ ปริเยสาหี’’ติ วตฺตพฺโพ. เอวํ กตวีติกฺกเมเนว ภิกฺขุนา สยเมว อาคนฺตฺวา อาโรจิเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
๒๓๕. อิทานิ ยา สา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปเภทา โจทนา, ตสฺสาเยว สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ ¶ . เสยฺยถิทํ, โจทนาย โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? โจทนาย ‘‘อหํ ตํ วตฺตุกาโม, กโรตุ เม อายสฺมา โอกาส’’นฺติ เอวํ โอกาสกมฺมํ อาทิ. โอติณฺเณน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา วินิจฺฉโย มชฺเฌ. อาปตฺติยํ วา อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปเนน สมโถ ปริโยสานํ.
โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย? โจทนาย ทฺเว มูลานิ สมูลิกา วา อมูลิกา วา. ตีณิ วตฺถูนิ ทิฏฺํ สุตํ ปริสงฺกิตํ. ปฺจ ภูมิโย กาเลน วกฺขามิ, โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ, โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ, โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ, โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ, โน โทสนฺตโรติ. อิมาย จ ปน โจทนาย โจทเกน ปุคฺคเลน ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหี’’ติอาทินา (ปริ. ๔๓๖) นเยน อุปาลิปฺจเกสุ วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ. จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ.
อนุวิชฺชเกน (ปริ. ๓๖๐) จ โจทโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, กิมฺหิ นํ โจเทสิ, สีลวิปตฺติยา โจเทสิ, อาจารวิปตฺติยา โจเทสิ, ทิฏฺิวิปตฺติยา โจเทสี’’ติ. โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘สีลวิปตฺติยา วา โจเทมิ, อาจารวิปตฺติยา วา โจเทมิ, ทิฏฺิวิปตฺติยา วา โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ชานาสิ ปนายสฺมา สีลวิปตฺตึ, ชานาสิ อาจารวิปตฺตึ, ชานาสิ ทิฏฺิวิปตฺติ’’นฺติ. โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘ชานามิ โข อหํ, อาวุโส, สีลวิปตฺตึ, ชานามิ อาจารวิปตฺตึ, ชานามิ ทิฏฺิวิปตฺติ’’นฺติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘กตมา ปนาวุโส, สีลวิปตฺติ, กตมา อาจารวิปตฺติ, กตมา ทิฏฺิวิปตฺตี’’ติ? โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘จตฺตาริ ปาราชิกานิ เตรส สงฺฆาทิเสสา, อยํ สีลวิปตฺติ. ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ, อยํ อาจารวิปตฺติ. มิจฺฉาทิฏฺิ อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ, อยํ ทิฏฺิวิปตฺตี’’ติ.
โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ โจเทสิ, ทิฏฺเน วา โจเทสิ, สุเตน วา โจเทสิ, ปริสงฺกาย วา โจเทสี’’ติ ¶ . โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘ทิฏฺเน วา ¶ โจเทมิ, สุเตน วา โจเทมิ, ปริสงฺกาย วา โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ทิฏฺเน โจเทสิ, กึ เต ทิฏฺํ, กินฺติ เต ทิฏฺํ, กทา เต ทิฏฺํ, กตฺถ เต ทิฏฺํ, ปาราชิกํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ, กตฺถ จายํ ภิกฺขุ อโหสิ, กตฺถ จ ตฺวํ กโรสิ, กิฺจ ตฺวํ กโรสิ, กึ อยํ ภิกฺขุ กโรตี’’ติ?
โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ทิฏฺเน โจเทมิ, อปิจ สุเตน โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ สุเตน โจเทสิ, กึ เต สุตํ, กินฺติ เต สุตํ, กทา เต สุตํ, กตฺถ เต สุตํ, ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺโนติ สุตํ, ภิกฺขุสฺส สุตํ, ภิกฺขุนิยา สุตํ, สิกฺขมานาย สุตํ, สามเณรสฺส สุตํ, สามเณริยา สุตํ, อุปาสกสฺส สุตํ, อุปาสิกาย สุตํ, ราชูนํ สุตํ, ราชมหามตฺตานํ สุตํ, ติตฺถิยานํ สุตํ, ติตฺถิยสาวกานํ สุต’’นฺติ.
โส เจ เอวํ วเทยฺย ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ สุเตน โจเทมิ, อปิจ ปริสงฺกาย โจเทมี’’ติ. โส เอวมสฺส วจนีโย ‘‘ยํ โข ตฺวํ, อาวุโส, อิมํ ภิกฺขุํ ปริสงฺกาย โจเทสิ, กึ ปริสงฺกสิ, กินฺติ ปริสงฺกสิ, กทา ปริสงฺกสิ, กตฺถ ปริสงฺกสิ? ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนติ ปริสงฺกสิ, สงฺฆาทิเสสํ ถุลฺลจฺจยํ ปาจิตฺติยํ ปาฏิเทสนียํ ทุกฺกฏํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺโนติ ปริสงฺกสิ, ภิกฺขุสฺส สุตฺวา ปริสงฺกสิ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา ปริสงฺกสี’’ติ.
ทิฏฺํ ทิฏฺเน สเมติ, ทิฏฺเน สํสนฺทเต ทิฏฺํ;
ทิฏฺํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;
โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.
สุตํ สุเตน สเมติ, สุเตน สํสนฺทเต สุตํ;
สุตํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;
โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.
มุตํ ¶ ¶ มุเตน สเมติ, มุเตน สํสนฺทเต มุตํ;
มุตํ ปฏิจฺจ น อุเปติ, อสุทฺธปริสงฺกิโต;
โส ปุคฺคโล ปฏิฺาย, กาตพฺโพ เตนุโปสโถ.
ปฏิฺา ลชฺชีสุ กตา, อลชฺชีสุ เอวํ น วิชฺชติ;
พหุมฺปิ อลชฺชี ภาเสยฺย, วตฺตานุสนฺธิเตน การเยติ. (ปริ. ๓๕๙);
อปิเจตฺถ สงฺคามาวจเรน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมนฺเตน นีจจิตฺเตน สงฺโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ รโชหรณสเมน จิตฺเตน, อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ นิสชฺชกุสเลน, เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชนฺเตน นเว ภิกฺขู อาสเนน อปฺปฏิพาหนฺเตน ยถาปติรูเป อาสเน นิสีทิตพฺพํ, อนานากถิเกน ภวิตพฺพํ อติรจฺฉานกถิเกน, สามํ วา ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, ปโร วา อชฺเฌสิตพฺโพ, อริโย วา ตุณฺหีภาโว นาติมฺิตพฺโพ.
สงฺเฆน อนุมเตน ปุคฺคเลน อนุวิชฺชเกน อนุวิชฺชิตุกาเมน น อุปชฺฌาโย ปุจฺฉิตพฺโพ, น อาจริโย ปุจฺฉิตพฺโพ, น สทฺธิวิหาริโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น อนฺเตวาสิโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น สมานุปชฺฌายโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น สมานาจริยโก ปุจฺฉิตพฺโพ, น ชาติ ปุจฺฉิตพฺพา, น นามํ ปุจฺฉิตพฺพํ, น โคตฺตํ ปุจฺฉิตพฺพํ, น อาคโม ปุจฺฉิตพฺโพ, น กุลปเทโส ปุจฺฉิตพฺโพ, น ชาติภูมิ ปุจฺฉิตพฺพา. ตํ กึการณา? อตฺรสฺส เปมํ วา โทโส วา, เปเม วา สติ โทเส วา ฉนฺทาปิ คจฺเฉยฺย โทสาปิ คจฺเฉยฺย โมหาปิ คจฺเฉยฺย ภยาปิ คจฺเฉยฺยาติ.
สงฺเฆน อนุมเตน ปุคฺคเลน อนุวิชฺชเกน อนุวิชฺชิตุกาเมน สงฺฆครุเกน ภวิตพฺพํ, โน ปุคฺคลครุเกน, สทฺธมฺมครุเกน ภวิตพฺพํ, โน อามิสครุเกน, อตฺถวสิเกน ภวิตพฺพํ, โน ปริสกปฺปิเกน, กาเลน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อกาเลน, ภูเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อภูเตน, สณฺเหน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺเตน อนุวิชฺชิตพฺพํ, โน โทสนฺตเรน, น อุปกณฺณกชปฺปินา ภวิตพฺพํ, น ชิมฺหํ เปกฺขิตพฺพํ, น อกฺขิ นิขณิตพฺพํ, น ภมุกํ อุกฺขิปิตพฺพํ, น สีสํ อุกฺขิปิตพฺพํ, น หตฺถวิกาโร กาตพฺโพ, น หตฺถมุทฺทา ทสฺเสตพฺพา.
อาสนกุสเลน ¶ ภวิตพฺพํ นิสชฺชกุสเลน, ยุคมตฺตํ เปกฺขนฺเตน อตฺถํ อนุวิธิยนฺเตน สเก ¶ อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น จ อาสนา วุฏฺาตพฺพํ, น วีติหาตพฺพํ, น กุมฺมคฺโค เสวิตพฺโพ, น พาหาวิกฺเขปกํ ภณิตพฺพํ, อตุริเตน ภวิตพฺพํ อสาหสิเกน, อจณฺฑิกเตน ภวิตพฺพํ วจนกฺขเมน, เมตฺตจิตฺเตน ภวิตพฺพํ หิตานุกมฺปินา, การุณิเกน ภวิตพฺพํ หิตปริสกฺกินา, อสมฺผปฺปลาปินา ภวิตพฺพํ ปริยนฺตภาณินา, อเวรวสิเกน ภวิตพฺพํ อนสุรุตฺเตน, อตฺตา ปริคฺคเหตพฺโพ, ปโร ปริคฺคเหตพฺโพ, โจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, จุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, อธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, อธมฺมจุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, ธมฺมโจทโก ปริคฺคเหตพฺโพ, ธมฺมจุทิตโก ปริคฺคเหตพฺโพ, วุตฺตํ อหาเปนฺเตน อวุตฺตํ อปฺปกาเสนฺเตน โอติณฺณานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา ปโร ปริปุจฺฉิตฺวา ยถาปฏิฺาย กาเรตพฺโพ, มนฺโท หาเสตพฺโพ, ภีรุ อสฺสาเสตพฺโพ, จณฺโฑ นิเสเธตพฺโพ, อสุจิ วิภาเวตพฺโพ, อุชุมทฺทเวน น ฉนฺทาคติ คนฺตพฺพา, น โทสาคติ คนฺตพฺพา, น โมหาคติ คนฺตพฺพา, น ภยาคติ คนฺตพฺพา, มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพํ ธมฺเมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ, เอวฺจ ปน อนุวิชฺชโก อนุวิชฺชมาโน สตฺถุ เจว สาสนกโร โหติ, วิฺูนฺจ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จาติ.
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
โจทนาทิวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.