📜

๓๓. กมฺมากมฺมวินิจฺฉยกถา

๒๔๙. กมฺมากมฺมนฺติ เอตฺถ (ปริ. ๔๘๒-๔๘๔) ปน กมฺมานิ จตฺตาริ – อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ. อิมานิ จตฺตาริ กมฺมานิ กติหากาเรหิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุโต วา ตฺติโต วา อนุสฺสาวนโต วา สีมโต วา ปริสโต วา.

กถํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิปุจฺฉากรณียํ กมฺมํ อปฏิปุจฺฉา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิฺาย กรณียํ กมฺมํ อปฏิฺาย กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. สติวินยารหสฺส อมูฬฺหวินยํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อมูฬฺหวินยารหสฺส ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ตสฺส ปาปิยสิกกมฺมารหสฺส ตชฺชนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ตชฺชนียกมฺมารหสฺส นิยสฺสกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. นิยสฺสกมฺมารหสฺส ปพฺพาชนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปพฺพาชนียกมฺมารหสฺส ปฏิสารณียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปฏิสารณียกมฺมารหสฺส อุกฺเขปนียกมฺมํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อุกฺเขปนียกมฺมารหสฺส ปริวาสํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปริวาสารหสฺส มูลาย ปฏิกสฺสติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. มูลายปฏิกสฺสนารหสฺส มานตฺตํ เทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. มานตฺตารหํ อพฺเภติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อพฺภานารหํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อนุโปสเถ อุโปสถํ กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. อปวารณาย ปวาเรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. ปณฺฑกํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. เถยฺยสํวาสกํ, ติตฺถิยปกฺกนฺตกํ, ติรจฺฉานคตํ, มาตุฆาตกํ, ปิตุฆาตกํ, อรหนฺตฆาตกํ, ภิกฺขุนิทูสกํ, สงฺฆเภทกํ, โลหิตุปฺปาทกํ, อุภโตพฺยฺชนกํ, อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ. เอวํ วตฺถุโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุํ น ปรามสติ, สงฺฆํ น ปรามสติ, ปุคฺคลํ น ปรามสติ, ตฺตึ น ปรามสติ, ปจฺฉา วา ตฺตึ เปติ. อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – วตฺถุํ น ปรามสติ, สงฺฆํ น ปรามสติ, ปุคฺคลํ น ปรามสติ, สาวนํ หาเปติ, อกาเล วา สาเวติ. อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – อติขุทฺทกํ สีมํ สมฺมนฺนติ, อติมหตึ สีมํ สมฺมนฺนติ, ขณฺฑนิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, ฉายานิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, อนิมิตฺตํ สีมํ สมฺมนฺนติ, พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ, นทิยา สีมํ สมฺมนฺนติ, สมุทฺเท สีมํ สมฺมนฺนติ, ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนติ, สีมาย สีมํ สมฺภินฺทติ, สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

กถํ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ? ทฺวาทสหิ อากาเรหิ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ – จตุวคฺคกรณีเย กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา เต อนาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, จตุวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, จตุวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ.

ปฺจวคฺคกรเณ กมฺเม…เป… ทสวคฺคกรเณ กมฺเม…เป… วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อนาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อนาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ, วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา ปฏิกฺโกสนฺติ. อิเมหิ ทฺวาทสหิ อากาเรหิ ปริสโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห. ปฺจวคฺคกรเณ กมฺเม ปฺจ ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห . ทสวคฺคกรเณ กมฺเม ทส ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห. วีสติวคฺคกรเณ กมฺเม วีสติ ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา, อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา. ยสฺส สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ กมฺมารโห.

๒๕๐. อปโลกนกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉติ? ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมํ กติ านานิ คจฺฉติ? อปโลกนกมฺมํ ปฺจ านานิ คจฺฉติ. ตฺติกมฺมํ นว านานิ คจฺฉติ. ตฺติทุติยกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

อปโลกนกมฺมํ กตมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ ภณฺฑุกมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.

ตฺติกมฺมํ กตมานิ นว านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ อุโปสถํ ปวารณํ สมฺมุตึ ทานํ ปฏิคฺคหณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนํ กมฺมลกฺขณฺเว นวมํ. ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.

ตฺติทุติยกมฺมํ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ อุทฺธรณํ เทสนํ กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

ตฺติจตุตฺถกมฺมํ กตมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ? โอสารณํ นิสฺสารณํ สมฺมุตึ ทานํ นิคฺคหํ สมนุภาสนํ กมฺมลกฺขณฺเว สตฺตมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. อยํ ตาว ปาฬินโย.

๒๕๑. อยํ ปเนตฺถ อาทิโต ปฏฺาย วินิจฺฉยกถา (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒) – อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺกสงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติทุติยกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา เอกาย จ อนุสฺสาวนายาติ เอวํ ตฺติทุติยาย อนุสฺสาวนาย กตฺตพฺพกมฺมํ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ นาม วุตฺตนเยเนว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา เอกาย ตฺติยา ตีหิ จ อนุสฺสาวนาหีติ เอวํ ตฺติจตุตฺถาหิ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ กตฺตพฺพกมฺมํ.

ตตฺร อปโลกนกมฺมํ อปโลเกตฺวาว กาตพฺพํ, ตฺติกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติกมฺมมฺปิ เอกํ ตฺตึ เปตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ. ตฺติทุติยกมฺมํ ปน อปโลเกตฺวา กาตพฺพมฺปิ อกาตพฺพมฺปิ อตฺถิ. ตตฺถ สีมาสมฺมุติ สีมาสมูหนํ กถินทานํ กถินุทฺธาโร กุฏิวตฺถุเทสนา วิหารวตฺถุเทสนาติ อิมานิ ฉกมฺมานิ ครุกานิ อปโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ, ตฺติทุติยกมฺมวาจํ สาเวตฺวาว กาตพฺพานิ. อวเสสา เตรส สมฺมุติโย เสนาสนคฺคาหกมตกจีวรทานาทิสมฺมุติโย จาติ เอตานิ ลหุกกมฺมานิ, อปโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏนฺติ, ตฺติกมฺมตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน ปน น กาตพฺพเมว. ‘‘ตฺติจตุตฺถกมฺมวเสน กยิรมานํ ทฬฺหตรํ โหติ, ตสฺมา กาตพฺพ’’นฺติ เอกจฺเจ วทนฺติ. เอวํ ปน สติ กมฺมสงฺกโร โหติ, ตสฺมา น กาตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตเมว. สเจ ปน อกฺขรปริหีนํ วา ปทปริหีนํ วา ทุรุตฺตปทํ วา โหติ, ตสฺส โสธนตฺถํ ปุนปฺปุนํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิทํ อกุปฺปกมฺมสฺส ทฬฺหีกมฺมํ โหติ, กุปฺปกมฺเม กมฺมํ หุตฺวา ติฏฺติ. ตฺติจตุตฺถกมฺมํ ตฺติฺจ ติสฺโส จ กมฺมวาจาโย สาเวตฺวาว กาตพฺพํ, อปโลกนกมฺมาทิวเสน น กาตพฺพํ.

สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมนฺติ เอตฺถ ปน อตฺถิ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ, อตฺถิ กมฺมํ อสมฺมุขากรณียํ. ตตฺถ อสมฺมุขากรณียํ นาม ทูเตนูปสมฺปทา, ปตฺตนิกฺกุชฺชนํ, ปตฺตุกฺกุชฺชนํ, อุมฺมตฺตกสฺส ภิกฺขุโน อุมฺมตฺตกสมฺมุติ, เสกฺขานํ กุลานํ เสกฺขสมฺมุติ, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺโฑ, เทวทตฺตสฺส ปกาสนียกมฺมํ, อปสาทนียํ ทสฺเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺพํ อวนฺทิยกมฺมนฺติ อฏฺวิธํ โหติ. อิทํ อฏฺวิธมฺปิ กมฺมํ อสมฺมุขา กตํ สุกตํ โหติ อกุปฺปํ, เสสานิ สพฺพกมฺมานิ สมฺมุขา เอว กาตพฺพานิ. สงฺฆสมฺมุขตา ธมฺมสมฺมุขตา วินยสมฺมุขตา ปุคฺคลสมฺมุขตาติ อิมํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวาว กาตพฺพานิ. เอวํ กตานิ หิ สุกตานิ โหนฺติ, เอวํ อกตานิ ปเนตานิ อิมํ สมฺมุขาวินยสงฺขาตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา วตฺถุวิปนฺนานิ นาม โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺมุขากรณียํ กมฺมํ อสมฺมุขา กโรติ, วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺม’’นฺติ. ปฏิปุจฺฉากรณียาทีสุปิ ปฏิปุจฺฉาทิกรณเมว วตฺถุ, ตํ วตฺถุํ วินา กตตฺตา เตสมฺปิ วตฺถุวิปนฺนตา เวทิตพฺพา. อปิจ อูนวีสติวสฺสํ วา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนปุพฺพํ วา เอกาทสสุ วา อภพฺพปุคฺคเลสุ อฺตรํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺสปิ วตฺถุวิปนฺนํ อธมฺมกมฺมํ โหติ. อยํ วตฺถุโต กมฺมวิปตฺติยํ วินิจฺฉโย.

ตฺติโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.

สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ. เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.

ปุคฺคลํ น ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ, ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.

ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ, ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.

ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ. เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ ตฺติโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

อนุสฺสาวนโต วิปตฺติยํ ปน วตฺถุอาทีนิ ตาว วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวนาย วา ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวนาสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.

สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ. เอวํ สาวนํ หาเปติ. โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ สาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.

๒๕๒. ‘‘ทุรุตฺตํ กโรตี’’ติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย. โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. –

วุตฺโต, อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ. เอตฺถ หิ สิถิลํ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ธนิตํ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ทีฆนฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพอาการาทิ. รสฺสนฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพอการาทิ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส ยสฺส น ขมตี’’ติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหิตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน สานุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ.

ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม, ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนํ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภ-การฆ-การานํ พ-การค-กาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สํโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน มุเขน อนนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม. อิติ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ.

อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ, ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ, สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ. ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ, ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.

อกาเล วา สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อโนกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ.

๒๕๓. สีมโตวิปตฺติยํ ปน อติขุทฺทกสีมา นาม ยา เอกวีสติ ภิกฺขู น คณฺหาติ . กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ยตฺถ เอกวีสติ ภิกฺขู นิสีทิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ยา เอวรูปา สีมา, อยํ สมฺมตาปิ อสมฺมตา คามเขตฺตสทิสาว โหติ, ตตฺถ กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เอส นโย เสสสีมาสุปิ. เอตฺถ ปน อติมหตี นาม ยา เกสคฺคมตฺเตนปิ ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา สมฺมตา โหติ. ขณฺฑนิมิตฺตา นาม อฆฏิตนิมิตฺตา วุจฺจติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา อนุกฺกเมเนว ทกฺขิณาย ปจฺฉิมาย อุตฺตราย ทิสาย กิตฺเตตฺวา ปุน ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปุพฺพกิตฺติตํ นิมิตฺตํ ปฏิกิตฺเตตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. สเจ ปน อนุกฺกเมน อาหริตฺวา อุตฺตราย ทิสาย นิมิตฺตํ กิตฺเตตฺวา ตตฺเถว เปติ, ขณฺฑนิมิตฺตา โหติ. อปราปิ ขณฺฑนิมิตฺตา นาม ยา อนิมิตฺตุปคํ ตจสารรุกฺขํ วา ขาณุกํ วา ปํสุปุฺชํ วา วาลุกปุฺชํ วา อฺตรํ อนฺตรา เอกํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. ฉายานิมิตฺตา นาม ยา ปพฺพตจฺฉายาทีนํ ยํ กิฺจิ ฉายํ นิมิตฺตํ กตฺวา สมฺมตา โหติ. อนิมิตฺตา นาม ยา สพฺเพน สพฺพํ นิมิตฺตานิ อกิตฺเตตฺวา สมฺมตา โหติ. พหิสีเม ิโต สีมํ สมฺมนฺนติ นาม นิมิตฺตานิ กิตฺเตตฺวา นิมิตฺตานํ พหิ ิโต สมฺมนฺนติ. นทิยา สมุทฺเท ชาตสฺสเร สีมํ สมฺมนฺนตีติ เอเตสุ นทีอาทีสุ ยํ สมฺมนฺนติ, สา เอวํ สมฺมตาปิ ‘‘สพฺพา, ภิกฺขเว, นที อสีมา, สพฺโพ สมุทฺโท อสีโม, สพฺโพ ชาตสฺสโร อสีโม’’ติ (มหาว. ๑๔๗) วจนโต อสมฺมตาว โหติ. สีมาย สีมํ สมฺภินฺทตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ สมฺภินฺทติ. สีมาย สีมํ อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺตโน สีมาย ปเรสํ สีมํ อชฺโฌตฺถรติ. ตตฺถ ยถา สมฺเภโท จ อชฺโฌตฺถรณฺจ โหติ, ตํ สพฺพํ สีมากถายํ วุตฺตเมว. อิติ อิมา เอกาทสปิ สีมา อสีมา คามเขตฺตสทิสา เอว, ตาสุ นิสีทิตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิเมหิ เอกาทสหิ อากาเรหิ สีมโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺตี’’ติ.

ปริสโต กมฺมวิปตฺติยํ ปน กิฺจิ อนุตฺตานํ นาม นตฺถิ. ยมฺปิ ตตฺถ กมฺมปฺปตฺตฉนฺทารหลกฺขณํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตมฺปิ ปรโต ‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตเมว. ตตฺถ ปกตตฺตา กมฺมปฺปตฺตาติ จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ปกตตฺตา อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กรียติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ, อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ, ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺติ. ยสฺส ปน สงฺโฆ ปริวาสาทิกมฺมํ กโรติ, โส เนว กมฺมปฺปตฺโต นาปิ ฉนฺทารโห, อปิจ ยสฺมา ตํ ปุคฺคลํ วตฺถุํ กตฺวา สงฺโฆ กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา กมฺมารโหติ วุจฺจติ. เสสกมฺเมสุปิ เอเสว นโย.

๒๕๔. อปโลกนกมฺมํ กตมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ, โอสารณํ นิสฺสารณํ ภณฺฑุกมฺมํ พฺรหฺมทณฺฑํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมนฺติ เอตฺถ ‘‘โอสารณํ นิสฺสารณ’’นฺติ ปทสิลิฏฺตาเยตํ วุตฺตํ, ปมํ ปน นิสฺสารณา โหติ, ปจฺฉา โอสารณา. ตตฺถ ยา สา กณฺฏกสฺส สามเณรสฺส ทณฺฑกมฺมนาสนา, สา นิสฺสารณาติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา เอตรหิ สเจปิ สามเณโร พุทฺธสฺส วา ธมฺมสฺส วา สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภณติ, อกปฺปิยํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ทีเปติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ, อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโต, โส ยาวตติยํ นิวาเรตฺวา ตํ ลทฺธึ วิสฺสชฺชาเปตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชหี’’ติ วตฺตพฺโพ. โน เจ วิสฺสชฺเชติ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา นิสฺสาเรตพฺโพ. เอวฺจ ปน กมฺมํ กาตพฺพํ –

‘‘สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺสา อลาภาย นิสฺสารณา รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ. ตติยมฺปิ ภนฺเต สงฺฆํ ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร…เป… รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ.

โส อปเรน สมเยน ‘‘อหํ, ภนฺเต, พาลตาย อาณตาย อลกฺขิกตาย เอวํ อกาสึ, สฺวาหํ สงฺฆํ ขมาเปมี’’ติ ขมาเปนฺโต ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว โอสาเรตพฺโพ, เอวฺจ ปน โอสาเรตพฺโพ. สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘สงฺฆํ , ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อยํ อิตฺถนฺนาโม สามเณโร พุทฺธสฺส ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อวณฺณวาที มิจฺฉาทิฏฺิโก, ยํ อฺเ สามเณรา ลภนฺติ ทิรตฺตติรตฺตํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สหเสยฺยํ, ตสฺสา อลาภาย นิสฺสาริโต, สฺวายํ อิทานิ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต กตทณฺฑกมฺโม อจฺจยํ เทเสติ, อิมสฺส สามเณรสฺส ยถา ปุเร กายสมฺโภคสามคฺคิทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺมํ โอสารณฺจ นิสฺสารณฺจ คจฺฉติ. ภณฺฑุกมฺมํ ปพฺพชฺชาวินิจฺฉยกถาย วุตฺตเมว.

พฺรหฺมทณฺโฑ ปน น เกวลํ ฉนฺนสฺเสว ปฺตฺโต, โย อฺโปิ ภิกฺขุ มุขโร โหติ, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, ตสฺสปิ ทาตพฺโพ, เอวฺจ ปน ทาตพฺโพ. สงฺฆมชฺเฌ พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ มุขโร, ภิกฺขู ทุรุตฺตวจเนหิ ฆฏฺเฏนฺโต ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต วิหรติ, โส ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย, ภิกฺขูหิ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ น อนุสาสิตพฺโพ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’ติ. ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป… ตติยมฺปิ ปุจฺฉามิ ‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ทานํ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

ตสฺส อปเรน สมเยน สมฺมา วตฺติตฺวา ขมาเปนฺตสฺส พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ, เอวฺจ ปน ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆมชฺเฌ สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ อสุกสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อทาสิ, โส ภิกฺขุ โสรโต นิวาตวุตฺติ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต หิโรตฺตปฺเป ปติฏฺิโต ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺติ, สงฺฆํ, ภนฺเต, ปุจฺฉามิ ‘ตสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิ รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’’ติ.

เอวํ ยาวตติยํ วตฺวา อปโลกนกมฺเมเนว พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺโพติ.

กมฺมลกฺขณฺเวปฺจมนฺติ ยํ ตํ ภควตา ภิกฺขุนิกฺขนฺธเก –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย กทฺทโมทเกน โอสิฺจนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’นฺติ, กายํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, อูรุํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ, องฺคชาตํ วิวริตฺวา ภิกฺขุนีนํ ทสฺเสนฺติ. ภิกฺขุนิโย โอภาเสนฺติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สมฺปโยเชนฺติ ‘อปฺเปว นาม อมฺเหสุ สารชฺเชยฺยุ’’’นฺติ (จูฬว. ๔๑๑) –

อิเมสุ วตฺถูสุ เยสํ ภิกฺขูนํ ทุกฺกฏํ ปฺเปตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑกมฺมํ กาตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘กึ นุ โข ทณฺฑกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ สํสเย อุปฺปนฺเน ‘‘อวนฺทิโย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ’’ติ เอวํ อวนฺทิยกมฺมํ อนุฺาตํ, ตํ กมฺมลกฺขณฺเว ปฺจมํ, อิมสฺส อปโลกนกมฺมสฺส านํ โหติ. ตสฺส หิ กมฺมฺเว ลกฺขณํ, น โอสารณาทีนิ, ตสฺมา กมฺมลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. ตสฺส กรณํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา สทฺธึ วิตฺถารโต ทสฺสยิสฺสาม. ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –

‘‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’’ติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามิ. ‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสติ, เอตสฺส อยฺยสฺส อวนฺทิยกรณํ รุจฺจตี’ติ ทุติยมฺปิ. ตติยมฺปิ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ.

เอวํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺเมน อวนฺทิยกมฺมํ กาตพฺพํ.

ตโต ปฏฺาย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนีหิ น วนฺทิตพฺโพ. สเจ อวนฺทิยมาโน หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมา วตฺตติ, เตน ภิกฺขุนิโย ขมาเปตพฺพา. ขมาเปนฺตน ภิกฺขุนุปสฺสยํ อคนฺตฺวา วิหาเรเยว สงฺฆํ วา คณํ วา เอกํ ภิกฺขุํ วา อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ติฏฺามิ, น ปุน อปาสาทิกํ ทสฺเสสฺสามิ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ มยฺหํ ขมตู’’ติ ขมาเปตพฺพํ. เตน สงฺเฆน วา คเณน วา เอกํ ภิกฺขุํ เปเสตฺวา เอกภิกฺขุนา วา สยเมว คนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา ‘‘อยํ ภิกฺขุ ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต, อิมินา อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺโฆ ขมาปิโต, ภิกฺขุนิสงฺโฆ อิมํ ภิกฺขุํ วนฺทิยํ กโรตู’’ติ. โส วนฺทิโย กาตพฺโพ, เอวฺจ ปน กาตพฺโพ. ภิกฺขุนุปสฺสเย สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อนุมติยา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา สาเวตพฺพํ –

‘‘อยฺเย, อสุโก นาม อยฺโย ภิกฺขุนีนํ อปาสาทิกํ ทสฺเสตีติ ภิกฺขุนิสงฺเฆน อวนฺทิโย กโต, โส ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปฏิสงฺขา อายตึ สํวเร ิโต, อจฺจยํ เทเสตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆํ ขมาเปสิ, ตสฺส อยฺยสฺส วนฺทิยกรณํ รุจฺจตีติ ภิกฺขุนิสงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. เอวํ อปโลกนกมฺเมเนว วนฺทิโย กาตพฺโพ.

๒๕๕. อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตโกปิ กมฺมลกฺขณวินิจฺฉโย (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖). อิทฺหิ กมฺมลกฺขณํ นาม ภิกฺขุนิสงฺฆมูลกํ ปฺตฺตํ, ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ ปเนตํ ลพฺภติเยว. ยฺหิ ภิกฺขุสงฺโฆ สลากภตฺตอุโปสถคฺเคสุ จ อปโลกนกมฺมํ กโรติ, เอตมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว. อจฺฉินฺนจีวรชิณฺณจีวรนฏฺจีวรานฺหิ สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวา จีวรํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ปน จีวรํ กโรนฺตสฺส ปจฺจยภาชนียกถายํ วุตฺตปฺปเภทานิ สูจิอาทีนิ อนปโลเกตฺวาปิ ทาตพฺพานิ. เตสํ ทาเน โสเยว อิสฺสโร, ตโต อติเรกํ เทนฺเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ตโต หิ อติเรกทาเน สงฺโฆ สามี. คิลานเภสชฺชมฺปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปการํ สยเมว ทาตพฺพํ, อติเรกํ อิจฺฉนฺตสฺส อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. โยปิ จ ทุพฺพโล วา ฉินฺนิริยาปโถ วา ปจฺฉินฺนภิกฺขาจารปโถ วา มหาคิลาโน, ตสฺส มหาวาเสสุ ตตฺรุปฺปาทโต เทวสิกํ นาฬิ วา อุปฑฺฒนาฬิ วา, เอกทิวสํเยว วา ปฺจ วา ทส วา ตณฺฑุลนาฬิโย เทนฺเตน อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพา. เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺรุปฺปาทโต อิณปลิโพธมฺปิ พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถรกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺาปนียเสนาสนมฺปิ สงฺฆกิจฺจํ กโรนฺตานํ กปฺปิยการกาทีนํ ภตฺตเวตนมฺปิ อปโลกนกมฺเมน ทาตุํ วฏฺฏติ.

จตุปจฺจยวเสน ทินฺนตตฺรุปฺปาทโต สงฺฆิกํ อาวาสํ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิสฺสรวตาย วิจาเรตี’’ติ กถาปจฺฉินฺทนตฺถํ ปน สลากคฺคาทีสุ วา อนฺตรสนฺนิปาเต วา สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคาเปตพฺโพ. จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺส ทินฺนตตฺรุปฺปาทโตปิ อปโลเกตฺวา อาวาโส ชคฺคาเปตพฺโพ, อนปโลเกตฺวาปิ วฏฺฏติ, ‘‘สูโร วตายํ ภิกฺขุ จีวรปิณฺฑปาตตฺถาย โอทิสฺส ทินฺนโต อาวาสํ ชคฺคาเปตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนกถาปจฺเฉทนตฺถํ ปน อปโลกนกมฺมเมว กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพ.

เจติเย ฉตฺตํ วา เวทิกํ วา โพธิฆรํ วา อาสนฆรํ วา อกตํ วา กโรนฺเตน ชิณฺณํ วา ปฏิสงฺขโรนฺเตน สุธากมฺมํ วา กโรนฺเตน มนุสฺเส สมาทเปตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ การโก นตฺถิ, เจติยสฺส อุปนิกฺเขปโต กาเรตพฺพํ. อุปนิกฺเขเปปิ อสติ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตตฺรุปฺปาทโต กาเรตพฺพํ, สงฺฆิเกนปิ อปโลเกตฺวา เจติยกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน อปโลเกตฺวาปิ สงฺฆิกกิจฺจํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ ปน คเหตฺวา ปฏิปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ. เจติเย สุธากมฺมาทีนิ กโรนฺเตหิ ปน ภิกฺขาจารโต วา สงฺฆโต วา ยาปนมตฺตํ อลภนฺเตหิ เจติยสนฺตกโต ยาปนมตฺตํ คเหตฺวา ปริภุฺชนฺเตหิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติ, ‘‘วตฺตํ กโรมา’’ติ มจฺฉมํสาทีหิ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ น วฏฺฏติ.

เย วิหาเร โรปิตา ผลรุกฺขา สงฺเฆน ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ชคฺคนกมฺมํ ลภนฺติ. เยสํ ผลานิ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภุฺชนฺติ, เตสุ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เย ปน อปริคฺคหิตา, เตสุ อปโลกนกมฺมํ กาตพฺพํ, ตํ ปน สลากคฺคยาคคฺคภตฺตคฺคอนฺตรสออาปาเตสุปิ กาตุํ วฏฺฏติ, อุโปสถคฺเค ปน วฏฺฏติเยว. ตตฺถ หิ อนาคตานมฺปิ ฉนฺทปาริสุทฺธิ อาหรียติ, ตสฺมา ตํ สุวิโสธิตํ โหติ. เอวฺจ ปน กาตพฺพํ, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘ภนฺเต, ยํ อิมสฺมึ วิหาเร อนฺโตสีมาย สงฺฆสนฺตกํ มูลตจปตฺตองฺกุรปุปฺผผลขาทนียาทิ อตฺถิ, ตํ สพฺพํ อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ ยถาสุขํ ปริภุฺชิตุํ รุจฺจตีติ สงฺฆํ ปุจฺฉามี’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิตพฺพํ.

จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ กตํ สุกตเมว. ยสฺมิมฺปิ วิหาเร ทฺเว ตโย ชนา วสนฺติ, เตหิ นิสีทิตฺวา กตมฺปิ สงฺเฆน กตสทิสเมว. ยสฺมึ ปน เอโก ภิกฺขุ โหติ, เตน ภิกฺขุนา อุโปสถทิวเส ปุพฺพกรณปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา นิสินฺเนน กตมฺปิ กติกวตฺตํ สงฺเฆน กตสทิสเมว โหติ. กโรนฺเตน ปน ผลวาเรน กาตุมฺปิ จตฺตาโร มาเส ฉ มาเส เอกสํวจฺฉรนฺติ เอวํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ อปริจฺฉินฺทิตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปริจฺฉินฺเน ยถาปริจฺเฉทํ ปริภุฺชิตฺวา ปุน กาตพฺพํ. อปริจฺฉินฺเน ยาว รุกฺขา ธรนฺติ, ตาว วฏฺฏติ. เยปิ เตสํ รุกฺขานํ พีเชหิ อฺเ รุกฺขา โรปิตา โหนฺติ, เตสมฺปิ สา เอว กติกา.

สเจ ปน อฺสฺมึ วิหาเร โรปิตา โหนฺติ, เตสํ ยตฺถ โรปิตา, ตสฺมึเยว วิหาเร สงฺโฆ สามี. เยปิ อฺโต พีชานิ อาหริตฺวา ปุริมวิหาเร ปจฺฉา โรปิตา, เตสุ อฺา กติกา กาตพฺพา, กติกาย กตาย ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, ยถาสุขํ ผลาทีนิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏนฺติ. สเจ ปเนตฺถ ตํ ตํ โอกาสํ ปริกฺขิปิตฺวา ปริเวณานิ กตฺวา ชคฺคนฺติ, เตสํ ภิกฺขูนํ ปุคฺคลิกฏฺาเน ติฏฺนฺติ, อฺเ ปริภุฺชิตุํ น ลภนฺติ. เตหิ ปน สงฺฆสฺส ทสมภาคํ ทตฺวา ปริภุฺชิตพฺพานิ. โยปิ มชฺเฌวิหาเร รุกฺขํ สาขาหิ ปริวาเรตฺวา รกฺขติ, ตสฺสปิ เอเสว นโย.

โปราณกวิหารํ คตสฺส สมฺภาวนียภิกฺขุโน ‘‘เถโร อาคโต’’ติ ผลาผลํ อาหรนฺติ, สเจ ตตฺถ มูเล สพฺพปริยตฺติธโร พหุสฺสุตภิกฺขุ วิหาสิ, ‘‘อทฺธา เอตฺถ ทีฆา กติกา กตา ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺกุกฺกุจฺเจน ปริภุฺชิตพฺพํ. วิหาเร ผลาผลํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติ, ธุตงฺคํ น โกเปติ. สามเณรา อตฺตโน อาจริยุปชฺฌายานํ พหูนิ ผลานิ เทนฺติ, อฺเ ภิกฺขู อลภนฺตา ขิยฺยนฺติ, ขิยฺยนมตฺตเมว ตํ โหติ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, เอกํ ปนสรุกฺขํ นิสฺสาย สฏฺิปิ ชนา ชีวนฺติ, ตาทิเส กาเล สพฺเพสํ สงฺคหกรณตฺถาย ภาเชตฺวา ขาทิตพฺพํ. อยํ สามีจิ. ยาว ปน กติกวตฺตํ น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ตาว เตหิ ขายิตํ สุขายิตเมว. กทา ปน กติกวตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ? ยทา สมคฺโค สงฺโฆ สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ภาเชตฺวา ขาทนฺตู’’ติ สาเวภิ, เอกภิกฺขุเก ปน วิหาเร เอเตน สาวิเตปิ ปุริมกติกา ปฏิปฺปสฺสมฺภติเยว . สเจ ปฏิปฺปสฺสทฺธาย กติกาย สามเณรา เนว รุกฺขโต ปาเตนฺติ, น ภูมิโต คเหตฺวา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, ปติตผลานิ ปาเทหิ ปหรนฺตา วิจรนฺติ, เตสํ ทสมภาคโต ปฏฺาย ยาว อุปฑฺฒผลภาเคน ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. อทฺธา ผาติกมฺมโลเภน อาหริตฺวา ทสฺเสนฺติ, ปุน สุภิกฺเข ชาเต กปฺปิยการเกสุ อาคนฺตฺวา สาขาปริวาราทีนิ กตฺวา รุกฺเข รกฺขนฺเตสุ สามเณรานํ ผาติกมฺมํ น กาตพฺพํ, ภาเชตฺวา ปริภุฺชิตพฺพํ.

‘‘วิหาเร ผลาผลํ อตฺถี’’ติ สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา คิลานานํ วา คพฺภินีนํ วา อตฺถาย อาคนฺตฺวา ‘‘เอกํ นาฬิเกรํ เทถ, อมฺพํ เทถ, ลพุชํ เทถา’’ติ ยาจนฺติ, ทาตพฺพํ, น ทาตพฺพนฺติ? ทาตพฺพํ. อทียมาเน หิ เต โทมนสฺสิกา โหนฺติ. เทนฺเตน ปน สงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ยาวตติยํ สาเวตฺวา อปโลกนกมฺมํ กตฺวาว ทาตพฺพํ, กติกวตฺตํ วา กตฺวา เปตพฺพํ, เอวฺจ ปน กาตพฺพํ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา สงฺฆสฺส อนุมติยา สาเวตพฺพํ –

‘‘สามนฺตคาเมหิ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา คิลานาทีนํ อตฺถาย ผลาผลํ ยาจนฺติ, ทฺเว นาฬิเกรานิ ทฺเว ตาลผลานิ ทฺเว ปนสานิ ปฺจ อมฺพานิ ปฺจ กทลิผลานิ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ, อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ รุจฺจติ ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ –

ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย คิลานาทีนํ นามํ คเหตฺวา ยาจนฺตา ‘‘คณฺหถา’’ติ น วตฺตพฺพา , วตฺตํ ปน อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘นาฬิเกราทีนิ อิมินา นาม ปริจฺเฉเทน คณฺหนฺตานํ อสุกรุกฺขโต จ อสุกรุกฺขโต จ ผลํ คณฺหนฺตานํ อนิวารณํ กต’’นฺติ. อนุวิจริตฺวา ปน ‘‘อยํ มธุรผโล อมฺโพ, อิโต คณฺหถา’’ติปิ น วตฺตพฺพา.

ผลภาชนกาเล ปน อาคตานํ สมฺมเตน อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพ, อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. ขีณปริพฺพโย วา มคฺคคมิยสตฺถวาโห วา อฺโ วา อิสฺสโร อาคนฺตฺวา ยาจติ, อปโลเกตฺวาว ทาตพฺพํ, พลกฺกาเรน คเหตฺวา ขาทนฺโต น วาเรตพฺโพ. กุทฺโธ หิ โส รุกฺเขปิ ฉินฺเทยฺย, อฺมฺปิ อนตฺถํ กเรยฺย. ปุคฺคลิกปริเวณํ อาคนฺตฺวา คิลานสฺส นาเมน ยาจนฺโต ‘‘อมฺเหหิ ฉายาทีนํ อตฺถาย โรปิตํ, สเจ อตฺถิ, ตุมฺเห ชานาถา’’ติ วตฺตพฺโพ. ยทิ ปน ผลภริตาว รุกฺขา โหนฺติ, กณฺฏเก พนฺธิตฺวา ผลวาเรน คณฺหนฺติ, อปจฺจาสีสนฺเตน หุตฺวา ทาตพฺพํ, พลกฺกาเรน คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. ปุพฺเพ วุตฺตเมเวตฺถ การณํ.

สงฺฆสฺส ผลาราโม โหติ, ปฏิชคฺคนํ น ลภติ. สเจ ตํ โกจิ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสว โหติ. อถาปิ กสฺสจิ ปฏิพลสฺส ภิกฺขุโน ‘‘อิมํ สปฺปุริส ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ สงฺโฆ ภารํ กโรติ, โส เจ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, เอวมฺปิ สงฺฆสฺเสว โหติ. ผาติกมฺมํ ปจฺจาสีสนฺตสฺส ปน ตติยภาเคน วา อุปฑฺฒภาเคน วา ผาติกมฺมํ กาตพฺพํ. ‘‘ภาริยํ กมฺม’’นฺติ วตฺวา เอตฺตเกน อนิจฺฉนฺโต ปน ‘‘สพฺพํ ตเวว สนฺตกํ กตฺวา มูลภาคํ ทสมภาคมตฺตํ ทตฺวา ชคฺคาหี’’ติปิ วตฺตพฺโพ, ครุภณฺฑตฺตา ปน น มูลจฺเฉชฺชวเสน ทาตพฺพํ. โส มูลภาคํ ทตฺวา ขาทนฺโต อกตาวาสํ วา กตฺวา กตาวาสํ วา ชคฺคิตฺวา นิสฺสิตกานํ อารามํ นิยฺยาเตติ, เตหิปิ มูลภาโค ทาตพฺโพว.

ยทา ปน ภิกฺขู สยํ ชคฺคิตุํ ปโหนฺติ, อถ เตสํ ชคฺคิตุํ น ทาตพฺพํ, ชคฺคิตกาเล ปน น วาเรตพฺพา, ชคฺคนกาเลเยว วาเรตพฺพา. ‘‘พหุ ตุมฺเหหิ ขายิตํ, อิทานิ มา ชคฺคิตฺถ, ภิกฺขุสงฺโฆเยว ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน เนว วตฺตสีเสน ชคฺคนฺโต อตฺถิ, น ผาติกมฺเมน, น สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, เอโก อนาปุจฺฉิตฺวาว ชคฺคิตฺวา ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺจาสีสติ, อปโลกนกมฺเมน ผาติกมฺมํ วฑฺเฒตฺวาว ทาตพฺพํ. อิติ อิมํ สพฺพมฺปิ กมฺมลกฺขณเมว โหติ. อปโลกนกมฺมํ อิมานิ ปฺจ านานิ คจฺฉติ.

๒๕๖. ตฺติกมฺมฏฺานเภเท ปน (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, อนุสิฏฺโ โส มยา, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อาคจฺเฉยฺย, ‘อาคจฺฉาหี’ติ วตฺตพฺโพ’’ติ –

เอวํ อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส โอสารณา โอสารณา นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคจฺฉติ, โน สุตฺตวิภงฺโค, โส อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหติ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฏฺาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติ –

เอวํ อุพฺพาหิกวินิจฺฉเย ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสารณา นิสฺสารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺยา’’ติ –

เอวํ อุโปสถกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ อุโปสโถ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ ปวาเรยฺยา’’ติ –

เอวํ ปวารณกมฺมวเสน ปิตา ตฺติ ปวารณา นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทาเปกฺโข, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธมฺเม ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ วินยํ ปุจฺเฉยฺยา’’ติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนาเมน วินยํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ –

เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา สมฺมนฺนิตุํ ปิตา ตฺติ สมฺมุติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ –

เอวํ นิสฺสฏฺจีวรปตฺตาทีนํ ทานํ ทานํ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’’นฺติ, เตน วตฺตพฺโพ ‘‘ปสฺสสี’’ติ. อาม, ปสฺสามีติ. ‘‘อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ –

เอวํ อาปตฺติปฏิคฺคโห ปฏิคฺคโห นาม.

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติ.

เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา ตํ กาฬํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยตฺเตน ปฏิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู าเปตพฺพา –

‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา อาวาสิกา, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุณฺเห ปวาเรยฺยามา’’ติ –

เอวํ กตา ปวารณาปจฺจุกฺกฑฺฒนา ปจฺจุกฺกฑฺฒนา นาม.

สพฺเพเหว เอกชฺฌํ สนฺนิปติตพฺพํ, สนฺนิปติตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อมฺหากํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ วิหรตํ พหุํ อสฺสามณกํ อชฺฌาจิณฺณํ ภาสิตปริกฺกนฺตํ, สเจ มยํ อิมาหิ อาปตฺตีหิ อฺมฺํ กาเรสฺสาม, สิยาปิ ตํ อธิกรณํ กกฺขฬตฺตาย วาฬตฺตาย เภทาย สํวตฺเตยฺย, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ อธิกรณํ ติณวตฺถารเกน วูปสเมยฺย เปตฺวา ถุลฺลวชฺชํ เปตฺวา คิหิปฺปฏิสํยุตฺต’’นฺติ –

เอวํ ติณวตฺถารกสมเถน กตฺวา สพฺพปมา สพฺพสงฺคาหิกตฺติ กมฺมลกฺขณํ นาม.

ตถา ตโต ปรา เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกํ กตฺวา ทฺเว ตฺติโย. อิติ ยถาวุตฺตปฺปเภทํ โอสารณํ นิสฺสารณํ…เป… กมฺมลกฺขณฺเว นวมนฺติ ตฺติกมฺมํ อิมานิ นว านานิ คจฺฉติ.

๒๕๗. ตฺติทุติยกมฺมฏฺานเภเท (ปริ. อฏฺ. ๔๙๕-๔๙๖) ปน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิโน ปตฺตนิกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา นิสฺสารณา, ตสฺเสว ปตฺตุกฺกุชฺชนวเสน ขนฺธเก วุตฺตา โอสารณา จ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ (จูฬว. ๒๖๕-๒๖๖) –

‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิตพฺโพ. ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชิตุํ.

เอวฺจ ปน ภิกฺขเว นิกฺกุชฺชิตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, วฑฺโฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺเชยฺย, อสมฺโภคํ สงฺเฆน กเรยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, วฑฺโฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชติ, อสมฺโภคํ สงฺเฆน กโรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส นิกฺกุชฺชนา อสมฺโภคํ สงฺเฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘นิกฺกุชฺชิโต สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต อสมฺโภโค สงฺเฆน, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

อฏฺหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺโต อุกฺกุชฺชิตพฺโพ. น ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ…เป… น สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชิตุํ.

เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อุกฺกุชฺชิตพฺโพ. เตน, ภิกฺขเว, วฑฺเฒน ลิจฺฉวินา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย –

‘‘สงฺเฆน เม, ภนฺเต, ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโคมฺหิ สงฺเฆน, โสหํ, ภนฺเต, สมฺมา วตฺตามิ, โลมํ ปาเตมิ, เนตฺถารํ วตฺตามิ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจามี’’ติ.

ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ. ตติยมฺปิ ยาจิตพฺโพ.

พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโค สงฺเฆน, โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, สมฺโภคํ สงฺเฆน กเรยฺย, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต นิกฺกุชฺชิโต, อสมฺโภโค สงฺเฆน, โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติ, สงฺโฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชติ, สมฺโภคํ สงฺเฆน กโรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส อุกฺกุชฺชนา สมฺโภคํ สงฺเฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘อุกฺกุชฺชิโต สงฺเฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺโต สมฺโภโค สงฺเฆน, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ.

เอตฺถ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๕) จ อฏฺสุ องฺเคสุ เอกเกนปิ องฺเคน สมนฺนาคตสฺส ปตฺตนิกฺกุชฺชนกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อนฺโตสีมาย วา นิสฺสีมํ คนฺตฺวา นทีอาทีสุ วา นิกฺกุชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. เอวํ นิกฺกุชฺชิเต ปน ปตฺเต ตสฺส เคเห โกจิ เทยฺยธมฺโม น คเหตพฺโพ, ‘‘อสุกสฺส เคเห ภิกฺขํ มา คณฺหิตฺถา’’ติ อฺวิหาเรสุปิ เปเสตพฺพํ. อุกฺกุชฺชนกาเล ปน ยาวตติยํ ยาจาเปตฺวา หตฺถปาสํ วิชหาเปตฺวา ตฺติทุติยกมฺเมน อุกฺกุชฺชิตพฺโพ.

สีมาสมฺมุติ, ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุติ, สนฺถตสมฺมุติ, ภตฺตุทฺเทสกเสนาสนคฺคาหาปกภณฺฑาคาริยจีวรปฏิคฺคาหกจีวรภาชกยาคุภาชกขชฺชภาชกผลภาชกอปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสาฏิยคฺคาหาปกปตฺตคฺคาหาปกอารามิกเปสกสามเณรเปสกสมฺมุตีติ เอตาสํ สมฺมุตีนํ วเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. กถินจีวรทานมตกจีวรทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. กถินุทฺธารวเสน อุทฺธาโร เวทิตพฺโพ. กุฏิวตฺถุวิหารวตฺถุเทสนาวเสน เทสนา เวทิตพฺพา. ยา ปน ติณวตฺถารกสมเถ สพฺพสงฺคาหิกตฺติฺจ เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกตฺติฺจาติ ติสฺโส ตฺติโย เปตฺวา ปุน เอเกกสฺมึ ปกฺเข เอเกกาติ ทฺเว ตฺติทุติยกมฺมวาจา วุตฺตา, ตาสํ วเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติทุติยกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ.

๒๕๘. ตฺติจตุตฺถกมฺมฏฺานเภเท ปน ตชฺชนียกมฺมาทีนํ สตฺตนฺนํ กมฺมานํ วเสน นิสฺสารณา, เตสํเยว จ กมฺมานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน โอสารณา เวทิตพฺพา. ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติวเสน สมฺมุติ เวทิตพฺพา. ปริวาสทานมานตฺตทานวเสน ทานํ เวทิตพฺพํ. มูลายปฏิกสฺสนกมฺมวเสน นิคฺคโห เวทิตพฺโพ. อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฏฺ ยาวตติยกา, อริฏฺโ, จณฺฑกาฬี จ อิเมเต ยาวตติยกาติ อิมาสํ เอกาทสนฺนํ สมนุภาสนานํ วเสน สมนุภาสนา เวทิตพฺพา. อุปสมฺปทกมฺมอพฺภานกมฺมวเสน กมฺมลกฺขณํ เวทิตพฺพํ. อิติ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ อิมานิ สตฺต านานิ คจฺฉติ. เอวํ กมฺมานิ จ กมฺมวิปตฺติ จ เตสํ กมฺมานํ การกสงฺฆปริจฺเฉโท จ วิปตฺติวิรหิตานํ กมฺมานํ านเภทคมนฺจ เวทิตพฺพํ.

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กมฺมากมฺมวินิจฺฉยกถา สมตฺตา.

ปกิณฺณกกณฺฑมาติกา

คณโภชํ ปรมฺปรํ, นาปุจฺฉา ปํสุกูลกํ;

อจฺฉินฺนํ ปฏิภานฺจ, วิปฺปกตอุทฺทิสนํ.

ติวสฺสนฺตํ ทีฆาสนํ, คิลานุปฏฺวณฺณนํ;

อตฺตปาตมนเวกฺขํ, สิลาปวิชฺฌลิมฺปนํ.

มิจฺฉาทิฏฺิโคปทานํ, ธมฺมิการกฺขุจฺจาราทิ;

นฺหานฆํสํ ปณฺฑกาทิ, ทีฆเกสาทฺยาทาสาทิ.

นจฺจาทงฺคเฉทนิทฺธิ, ปตฺโต สพฺพปํสุกูลํ;

ปริสฺสาวนํ นคฺโค จ, ปุปฺผคนฺธอาสิตฺตกํ.

มโฬริเกกภาชนํ, เจลปฏิ ปาทฆํสี;

พีชนี ฉตฺตนขาทิ, กายพนฺธนิวาสนํ.

กาชหรํ ทนฺตกฏฺํ, รุกฺขาโรโห ฉนฺทาโรโป;

โลกายตํ ขิปิตโก, ลสุณํ นกฺกมิตพฺพํ.

อวนฺทิโย ตูลภิสิ, พิมฺโพหนอาสนฺทาทิ;

อุจฺจาสนมหาสนํ, จีวรอธมฺโมกาโส.

สทฺธาเทยฺยํ สนฺตุตฺตรํ, นิกฺเขโป สตฺถกมฺมาทิ;

นหาปิโต ทสภาโค, ปาเถยฺยํ มหาปเทโส;

อานิสํโสติ มาติกา.